ซะกาตฟตเราะฮฺ ความหมายของซะกาตฟตเราะฮฺ ซะกาตดานภาษาบงชี้ถึง การงอกเงย เพิ่มพูน ขัดเกลาใหสะอาด และความประเสริฐ (อันนิฮายะฮฺ เลม 2 หนา 307, ลิสานอัลอะร็อบ เลม 6 หนา 65, อัลกอมูส อัลมุหีฏ หนา 1667, อัตตะอฺรีฟาต หนา 152) สวนฟตรดานภาษาหมายถึง การเปดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือทําใหแตก และแยกออก (มะกอยีสลุเฆาะฮฺ เลม 4 หนา 510, ลิสานอัลอะร็อบ เลม 10 หนา 285) ซะกาตฟตริ หรือซะกาตฟตเราะฮฺ หมายถึง การบริจาคทานที่ที่ถูก กําหนดใหมุสลิมทุกคนตองจาย ไมวาจะเปนเด็กหรือผูใหญ เพศชายหรือ หญิง ไทหรือทาส อันเนื่องจากการสิ้นสุดของการถือศีลอดเดือนรอมฎอน เพื่อเปนการขัดเกลาผูถือศิลอดใหสะอาดบริสุทธิ์จากความหลงลืมและการ พูดที่โสมม เรียกชื่อเรียกอีกอยางหนึ่งวา “เศาะดะเกาะฮฺฟตเราะฮฺ” หุกมการจายซะกาตฟตเราะฮฺ ซะกาตฟตเราะฮฺไดถูกบัญญัติขึ้นในปทสี่ องแหงฮิจเราะฮฺศักราช พรอมๆกับการบัญญัตขิ องการถือศิลอดเดือนรอมฎอน อัลลอฮฺตรัสวา
เรียบเรียงโดย
อุษมาน อิดรีส
l Õ Ô Ó Ò Ñm “แน แท ผู ที่ ขั ดเกลาตนเอง (ดวยการจ ายซะกาต) ยอมบรรลุ ความสําเร็จ” (อัลอะอฺลา 14) อิกริมะฮฺกลาววา “หมายความวา ชายผูหนึ่ งที่จายซะกาต (ฟต เราะฮฺ) กอนที่เขาจะละหมาด (อีด)”
และมีอุละมาอสะลัฟอีกหลายทานที่มีความเห็นวา ความหมายของ “ซะกาต” ในอายะฮฺนี้คือ “ซะกาตฟตเราะฮฺ” วัลลอฮุอะอฺลัม สวนหุกมของการจายซะกาตฟตเราะฮฺนั้น อุละมาอสวนใหญ ถือวา เปนวาญิบ (อัลมัจญมูอฺ 6/61) อัลบัยอะกีย และอิบนุลมุนซิร กลาววา “อุละมาอมีมติเห็นพองวา ซะ กาตฟตเราะฮฺเปนสิ่งที่วาญิบ” (อัลมัจญมูอฺ 6/62, อัลอิจญมาอ หนา 55) อิบนุอุมัรเลาวา زﻛﺎة ﹾ ﹺ ﹾ ﹺ ﹺ أﻥ ﹶ ﹸ ﹶ ﻣﻦ ﹶ ﹶ ﹶ ﹶ )) ﹶ ﱠ رﻣﻀﺎﻥ ﹶ ﹶ ﻋﲆ ﻓﺮض ﹶ ﹶ ﹶ ﹶ ﹶ ﹶ رﺳﻮﻝ اﷲﹺ اﻟﻔﻄﺮ ﹾ رﺟﻞ ﹶأﻭ ﹶ ﹴ ﻤﲔ ﺣﺮ ﹶأﻭ ﹶ ﹴ ﹺﹺ ﻛﻞ ﹶ ﹾ ﹴ ﹺ ﹸﱢ اﻣﺮأة ﻣﻦ ﹸاﳌ ﹾﺴﻠ ﹶ ﹸ ﱟ ﹾ ﹾ ﻧﻔﺲ ﹾ ﻋﺒﺪ ﹶ ﹾأﻭ ﹶ ﹸ ﹴ ﹾ ﹾ ﹶ ﲤﺮ ﹶأﻭ ﹰ ﹺ ﻛﺒﲑ ﹰ ﹺ ﻣﻦ ﹶ ﹺ ﹴ ﹶ ﹺ ﹴ ((ﺷﻌﲑ ﺻﺎﻋﺎ ﹾ ﻣﻦ ﹶ ﹾ ﹴ ﹾ ﹶ ﺻﺎﻋﺎ ﹾ ﺻﻐﲑ ﹶ ﹾأﻭ ﹶ ﹺ ﹴ ﹶ “แทจริง ทานรสูลุลลอฮฺไดกําหนดใหมุสลิมทุกคนวาญิบตองจาย ซะกาตฟตเราะฮฺจาก (การถือศิลอดใน) เดือนรอมฎอน ไมวาจะเปนไท หรือทาส ชายหรือหญิง เด็กเล็กหรือผูใหญ จํานวนคนละหนึ่งศออฺจากผล อินทผลัมแหง หรือหนึ่งศออฺจากขาวบาเล” (มุสลิม เลขที่ 1639)
ทําไมตองบัญญัติใหจา ยซะกาตฟตเราะฮฺ? สวนหนึ่งของเหตุผลที่อิสลามมีบัญญัติใหชาวมุสลิมตองจายซะกาต ฟตเราะฮฺ คือ 1.เพื่อขัดเกลาผู ถือศิลอดให สะอาดบริสุ ทธิ์จากสิ่งโสโครกโสมม ทั้งหลาย ขจัดความตระหนี่ถี่เหนียว และความรูสึกที่ต่ําทรามอื่นๆออกจาก จากจิตใจ 2.เพื่อเติมเต็มและเสริมสรางสวนที่สึกหรอจากการปฏิบัติอิบาดะฮฺ การถือศิลอด -ซึ่งอาจเกิดจากความหลงลืม พูดจาไมสุภาพ และอื่นๆ- ให สมบูรณยิ่งขึ้น
3.เพื่ อ ทํ า ให ผ ลบุ ญ ของการถื อ ศิ ล อดครบสมบู ร ณ และทํ า นุ บํารุงอะมัลศอลิหฺ 4.เพื่อใหความชวยเหลือแกบรรดาผูที่ขัดสนและอนาถา และปกปอง พวกเขาจากความต่ําตอยในวันอีด และการขอบริจาคทานจากผูอื่น อิบนุอับบาสกลาววา ﻃﻬﺮة ﹺ ﹺ ﹺ ﹺ زﻛﺎة ﹾ ﹺ ﹾ ﹺ ﻓﺮض ﹶ ﹸ ﹸ ﹶ ﹶﷲ ﻣﻦ رﺳﻮﻝ ا ﹺ )) ﹶ ﹶ ﹶ ﻟﻠﺼﺎﺋﻢ ﹾ اﻟﻔﻄﺮ ﹸ ﹾ ﹶ ﹰ ﱠ ﹶ ﹺ ﻭﻃﻌﻤﺔ ﹺ ﹾ ﹶ ﹶ ﹺ ﹺ ﻭاﻟﺮﻓﺚ ﹶ ﹸ ﹾ ﹶ ﹰ ﱠﹾ ((ﻟﻠﻤﺴﺎﻛﲔ اﻟﻠﻐ ﹺﻮ ﹶ ﱠ
“รสูลุลลอฮฺไดกําหนด (ใหมุสลิม) จายซะกาตฟตเราะฮฺ เพื่อเปนการขัด เกลาใหผูถือศิลอดสะอาดบริสุทธิ์จากมลทินของการหลงลืม และการพูดจาที่ หยาบคาย และเพื่อเปนทานอาหารแกบรรดาผูยากไร” (อบูดาวูด 1317) 5.เพื่อแสดงความขอบคุณตอนิอฺมัตที่ของอัลลอฮฺที่ทําใหบาวของ พระองค สามารถปฏิบัติภารกิจการถื อศิลอดในเดือนรอมฎอนจนสําเร็ จ ลุลวงดวยดี รวมทั้งสิ่งอํานวยความสะดวกตางๆที่ลนเหลือ ทั้งอาหารการ กิน และความแข็งแกรงของรางกายจนสามารถละหมาดในชวงกลางคืนและ ปฏิบัติอิบาดะฮฺอื่นๆไดครบครัน 6.แผ ค วามรู สึ ก รั ก และผู ก พั น สู สั ง คมมุ ส ลิ ม ด ว ยวิ ธี ก ารให ค วาม ชวยเหลือและเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน เงื่อนไขของการจายซะกาตฟตเราะฮฺ อุ ล ะมาอมีม ติเ ปน เอกฉัน ท วา ซะกาตฟ ต เราะฮฺเ ปน ซะกาตทาง รางกาย และผูที่วาญิบตองจายซะกาตฟตเราะฮฺตองประกิบดวยเงื่อนไข ตางๆสามประการดังนี้ 1. เปนมุสลิม
มุสลิมทุกคนจําเปนตองจายซะกาตฟตเราะฮฺ ไมวาจะเปนชายหรือ หญิง เด็กเล็กหรือผูใหญ เปนไทหรือทาส และไมวาจะอาศัยอยูที่ชนบทหรือ ในเมือง อิบนุอุมัรกลาววา اﻟﻔﻄﺮ ﹰ ﹺ ﹶ ﹶ ﹶ ﹺ رﺳﻮﻝ اﷲﹺ ﻣﻦ ﹶ ﹾ ﹴ ﻓﺮض ﹶ ﹸ ﹸ ﺻﺎﻋﺎ ﲤﺮ ﹶ ﹾأﻭ ﹶ ﹰ )) ﹶ ﹶ ﹶ ﺻﺎﻋﺎ ﹾ زﻛﺎة ﹾ ﹾ ﹺ ﹶ ﻋﲆ ﹾ ﹺ ﹺ ﻣﻦ ﹶ ﹺ ﹴ ﻭاﻟﺬﻛﺮ ﹶﻭاﻷﹸ ﹾ ﹶﻧﺜﻰ ﹶ ﱠ ﹺ ﹺ ﻭاﳊﺮ ﹶ ﱠ ﹶ ﹺ ﺷﻌﲑ ﹶ ﹶ ﻭاﻟﺼﻐﲑ ﹶﹾ ﹾ اﻟﻌﺒﺪ ﹶ ﹾ ﹸ ﱢ ﹾ ﹶﹺ ﹺ ﹺ ((اﳌﺴﻠﻤﲔ ﻣﻦ ﹾﹸ ﹾ ﹺ ﹺ ﹶ ﻭاﻟﻜﺒﲑ ﹾ ﹶ
“ทานรสูลุลลอฮฺไดกําหนดใหชาวมุสลิมทุกคนจายซะกาตฟตเราะฮฺ จํานวนหนึ่งศออฺจากผลอินทผลัมแหง หรือหนึ่งศออฺจากขาวบาเล ไมวาจะเปน ทาสหรือไท ชายหรือหญิง และเด็กเล็กหรือผูใหญ” (อัลบุคอรีย 1407) อิบนุรุชดิ กลาววา “อุละมาอมีมติเปนเอกฉันทวามุสลิมทุกคนถูกสั่ง ใหจายซะกาตฟตเราะฮฺ ไมวาจะเปนชายหรือหญิง เด็กเล็กหรือผูใหญ ทาสหรือ ไท นอกจากทั ศนะที่ แปลกแยกเท านั้ น (ที่ มี ทั ศนะว าไม วาญิ บ)” (บิ ดายะ ตุลมุจญตะฮิด เลม 2 หนา 130) 2. มีความสามารถ หมายความว า มุ ส ลิ ม ที่ ว าญิ บ ต อ งจ า ยซะกาตฟ ต เราะฮฺ ต อ งมี ความสามารถด านทรั พย สิ นหรื ออาหารที่ เหลื อจากความจํ าเป นประจํ าวั น สําหรับตัวเองและผูอยูใตการดูแลเลี้ยงดูในคืนวันอีดและวันรุงขึ้นจํานวนหนึ่ง ศออฺ (อัลมุฆนีย เลม 4 หนา 307, มุฆนีย อัลมุหฺตาจญ เลม 1 หนา 403,) 3. ถึงกําหนดเวลา หมายความวา ซะกาตฟตเราะฮฺจะไมถือวาวาญิบตองจายจนกวาจะถึง กําหนดเวลาของมัน โดยจะเริ่มตั้งแตตะวันลับขอบฟาของวันสุดทายของเดือน รอมฎอน หรือคืนวันอีด จนถึงเวลากอนที่อิหมามจะเริ่มตักบีรเพื่อละหมาดอีด
ดังนั้น ผูใดแตงงาน หรือครอบครองทาส หรือเขารับอิสลาม หรือให กําเนิดบุตร กอนตะวันลับขอบฟาของวันสุดทายของเดือนรอมฎอน และมีชีวิต อยูจนถึงตะวันลับขอบฟาของคืนวันอีด ก็ถือวาญิบตองจายซะกาตฟตเราะฮฺ สําหรับตัวเขา และผูที่อยูภายใตการดูแลเลี้ยงดูของเขา แตถาเกิดขึ้นหลังจาก ตะวั นลั บขอบฟ าของคื นวั นอี ดไปแล วก็ ถื อว าไม วาญิ บ ขณะเดี ยวกั น ผู ที่ เสียชีวิตกอนตะวันลับขอบฟาของคืนวันอีด ถือวาไมวาญิบตองจายซะกาตฟต เราะฮฺ สํ าหรั บตั วเขา แต ถ าเสี ยชี วิ ตหลั งจากตะวั นลั บขอบฟ าไปแล ว ก็ จําเปนตองจายซะกาตฟตเราะฮฺสําหรับตัวเขา (อัลมุฆนีย เลม 4 หนา 298, อัล กาฟ เลม 2 หนา 170) เวลาสําหรับจายซะกาตฟตเราะฮฺ อุละมาอไดแบงเวลาสําหรับการจายซะกาตฟตเราะฮฺไวสามเวลา คือ 1. เวลาที่วาญิบ โดยจะเริ่ ม หลั ง จากตะวั น ลั บ ขอบฟ า ของวั น สุ ด ท า ยของเดื อ น รอมฎอน หรือคืนวันอีด ตามทัศนะใหมและถูกตองกวาในมัซฮับอัชชาฟอีย ไปจนถึงเวลาเริ่มละหมาดอีด (อัตตะฮฺซีบ ฟ ฟกฮฺ อัชชาฟอีย เลม 3 หนา 125, เราเฎาะฮฺ อัตฏอลิบีน 2 เลม หนา 153) โดยอางหลักฐานจากหะดีษ ของอิบนุอุมัรที่วา ﺻﺪﻗﺔ ﹾ ﹺ ﹾ ﹺ ﹺ ﻓﺮض ﹶ ﹶ ﹶ ﹶ ﻣﻦ ﹶ ﹶ ﹶ ﹶ ((رﻣﻀﺎﻥ )) ﹶ ﹶ ﹶ اﻟﻔﻄﺮ ﹾ “ท า นรสู ลุ ล ลอฮฺ ไ ด กํ า หนดให จ า ยซะกาตฟ ต เราะฮฺ จ ากเดื อ น รอมฎอน” อิหมามอันนะวะวียกลาววา “คําวา “จากเดือนรอมฎอน” เปนการ ใหสัญญาณถึงเวลาที่วาญิบตองจายซะกาตฟตเราะฮฺ ซึ่งอุละมาอมีทัศนะที่ ขัดแยงกัน แตทัศนะที่ถูกตองของอิหมามอัชชาฟอีย คือซะกาตฟตเราะฮฺวา
ญิบตองจายก็ตอเมื่อตะวันลับขอบฟาไปแลวและเริ่มเขาสวนหนึ่งของคืนวัน อีดฟตริ (ชัรหฺมุสลิม เลม 7 หนา 63 และดู อัตตะฮฺซีบ ฟ ฟกฮฺ อัชชาฟอีย เลม 3หนา /125, อัลมัจญมูอฺ 6 เลม หนา 84) 2. เวลาที่สงเสริม สวนเวลาที่สงเสริมและดีที่สุดสําหรับการจายซะกาตคือ เวลาเชาตรู ของวันอีด กอนที่จะออกเดินทางสูสนามละหมาดอีด หรือกอนละหมาดอีดเพียง เล็กนอย (อัลมัจญมูอฺ เลม 6หนา 88, อัลอิสติซการ เลม 9 หนา 365) เพราะท า นนบี ไ ด สั่ ง ให อ อกซะกาตฟ ต เราะฮฺ ก อ นเดิ น ทางไป ละหมาดอีดที่มุศ็อลลา ดังมีรายงานจากอิบนุอุมัร ทานเลาวา ﹺ ﺧﺮﻭج ﱠ ﹺ ﺗﺆد ﹶ ﹾ ﹶ أﻣﺮ ﹺ ﹶﲠﺎ ﹶ ﹾ ﻗﺒﻞ ﹸ ﹸ ﹺ ((اﻟﺼﻼة اﻟﻨﺎس ﹺ ﹶإﱃ ﱠ أﻥ ﹸ ﹶ ﱠ ﹶﻭ ﹶ ﹶ ﹶ...))
“และทานรสูลไดสั่งจายซะกาตฟตเราะฮฺกอนที่ประชาชนจะเดินทาง ออกไปละหมาดอีด (ยังสนามละหมาด)” (อัลบุคอรีย 1407) 3. เวลาที่อนุญาต หมายความวาอนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺกอนถึงกําหนดเวลา ที่วาญิบ นั่นคือ อนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺตลอดทั้งปโดยไมจําเปนตองรอให เขาเดือนรอมฎอนกอน ตามทัศนะของมัซฮับหะนะฟย (อัลบะนายะฮฺ เลม 3 หนา 504) อนุ ญ าตให จ า ยซะกาตฟ ต เราะฮฺ ต ลอดช ว งเดื อ นรอมฎอน ตาม ทัศนะของมัซฮับอัชชาฟอีย (อัลมัจญมูอฺ เลม 6 หนา 87, เราเฎาะตุลฏอลิ บีน เลม2 หนา154) สวนอุละมาอสวนมัซฮับมาลิกียและหันบะลีย มีทัศนะวา อนุญาต ใหจายซะกาตฟตเราะฮฺกอนถึงกําหนดเวลาที่วาญิบประมาณหนึ่งหรือสอง วันกอนวันอีดเทานั้น และไมอนุญาตใหจายซะกาตกอนหนานั้น (อัซซะคี
เระฮฺ เลม 3 หนา 158, อัชชัรหฺ อัลกะบีร เลม 7 หนา 117, อัลอินศอฟ เลม 7 หนา 116, อัลมุฆนีย เลม 4 หนา 300) เพราะมีรายงานจากอิบนุอุมัร ทานกลาววา ﻗﺒﻞ ﹾ ﹺ ﹾ ﹺ ﻳﻌﻄﻮﻥ ﹶ ﹾ ﹶ ﻛﺎﻧﻮا ﹸ ﹾ ﹸ ﹾ ﹶ اﻟﻔﻄﺮ ﹺ ﹶ ﹾ ﹴ ((ﻳﻮﻣﲔ ﺑﻴﻮﻡ ﹶﹾأﻭ ﹶ ﹾ ﹺ ﹾ ﹶ )) ﹶ ﹸ ﹾ
“บรรดาเศาะหาบะฮฺจะจายซะกาตฟตเราะฮฺกอนวันอีดหนึ่งหรือ สองวัน” (อัลบุคอรีย 1415) ทัศนะหลังนี้นาจะมีน้ําหนักมากกวาเพราะเปนทัศนะที่สอดคลองกับ แบบอยางการปฏิบัติจริงของบรรดาเศาะหาบะฮฺ และสอดคลองกับเปาหมายของ ซะกาตฟตเราะฮฺที่สงเสริมใหทานอาหารแกผูยากไร และทําใหพวกเขามีกินใน เชาวันอีด วัลลอฮุอะอฺลัม (ฟะตาวา อัลลัจญนะฮฺ อัดดาอิมะฮฺ เลม 9 หนา 373) อนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺหลังละหมาดอีดหรือไม ไมอนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺหลังจากเลยเวลาที่ถูกกําหนดไว หรื อหลังจากละหมาดอี ดเสร็จเรีย บรอยแลว ดังนั้ น ผูใ ดจา ยซะกาตฟต เราะฮฺหลังละหมาดอีด จะถือวาซะกาตที่ไดจายไปนั้นเปนซะกาตทั่วๆไป ไมใชซะกาตฟตเราะฮฺ เพราะทานรสูลุลลอฮฺไดกลาวไวในหะดีษที่รายงาน โดยอิบนุอับบาสวา ﹶﹺ أداﻫﺎ ﹶ ﹾ ﹶ زﻛﺎة ﹶ ﹾ ﹸ ﹶ ﹲ أداﻫﺎ ﻓﻬﻲ ﹶ ﹶ ﹲ ﻭﻣﻦ ﹶ ﱠ ﹶ ﻣﻦ ﹶ ﱠ ﹶ ﻣﻘﺒﻮﻟﺔ ﹶ ﹶ ﹾ ﻗﺒﻞ ﱠ ﹶ ﹾ...)) اﻟﺼﻼة ﹶ ﹺ ﹶ ﹶﹶ ﹺ ﻓﻬﻲ ﹶ ﹶ ﹲ ﹺ ﹶﹺ ((اﻟﺼﺪﻗﺎت ﹶﹾﹶ ﻣﻦ ﱠ ﺻﺪﻗﺔ ﹾ اﻟﺼﻼة ﹶ ﹺ ﹶ ﹶ ﺑﻌﺪ ﱠ
“...ผูใดจายซะกาตฟตเราะฮฺกอนละหมาดอีดมันก็จะเปนซะกาตที่ถูก รับ และผูใดจายซะกาตฟตเราะฮฺหลังจากละหมาดอีด มันก็จะเปนแคสวนหนึ่ง ของการบริจาคทานทั่วไปเทานั้น” (อบูดาวูด 1609, อิบนุมาญะฮฺ 1827)
เชคอุ ษั ยมี นได กล าวเกี่ ยวกั บผู ที่ จงใจจ ายซะกาตผิ ตเราะฮฺ หลั ง ละหมาดอีดวา “และที่ถูกตองคือ การจายซะกาตฟตเราะฮฺในเวลาดังกลาวเปน ที่ตองหาม (บาป) และเปนการจายที่ไมถูกรับ หลักฐานคือหะดีษของอิบนุอุมัร ที่วา “ทานนบีสั่งใหจายซะกาตฟตเราะฮฺกอนที่ประชาชนจะออกไปละหมาดอีด (ยังสนามละหมาด) ขณะเดียวกัน หะดีษอิบนุอับบาสก็ประกาศอยางชัดเจนวา “ผูใดจายซะกาตฟตเราะฮฺกอนละหมาด ดังนั้นมันคือซะกาตที่ถูกรับ และผูใด จายซะกาตหลังจากละหมาดัมันก็จะเปนเพียงสวนหนึ่งของการบริจาคทาน ทั่วๆไป” และนี่คือหลักฐานที่บงชี้วาการจายซะกาตฟตเราะฮิหลังละหมาดไม ถูกรับ (อัชชัรหฺ อัลมุมติอฺ เลม 6 หนา 171-172) ชนิดของซะกาตฟตเราะฮฺที่วาญิบตองจาย อุละมาอสวนใหญไดวางเงื่อนไขของสิ่งที่จะใชเปนซะกาตฟตเราะฮฺวา ตองเปนอาหารหลักที่สามารถประทังชีวิตได (อิ่ม) เชน ขาวสาร แปง ขาวบาเล เปนตน (อัลมัจญมูอฺ เลม 6 หนา 91-98) อบูสะอีด อัลคุดรียกลาววา اﻟﻔﻄﺮ ﹰ ﹺ ﹺ ﺨﺮج ﹺﰲ ﹶ ﹺ ﹺ ﻣﻦ رﺳﻮﻝ ا ﹺ )) ﹸ ﱠ ﺻﺎﻋﺎ ﹾ ﻳﻮﻡ ﹾ ﹾ ﹺ ﹶ ﹾ ﻛﻨﺎ ﹸﻧ ﹾ ﹺ ﹸ ﹶ ﹾ ﹶﷲ ﻋﻬﺪ ﹶ ﹸ ﹺ ﻭاﻟﺰﺑﻴﺐ ﹶ ﹾ ﹶ ﹺ ﹸ ﹶ ﹶ ﹶ,ﻃﻌﺎﻡ ﹶﹶ ﹴ ((ﻭاﻟﺘﻤﺮ ﻭﻛﺎﻥ ﹶ ﹶ ﹶ ﹶ اﻟﺸﻌﲑ ﹶ ﱠ ﹺ ﹸ ﻭاﻷﻗﻂ ﹶ ﱠ ﹾ ﹸ ﻃﻌﺎﻣﻨﺎ ﱠ ﹸ “พวกเราไดจาย (ซะกาตฟตเราะฮฺ) ในวันอีดฟตริสมัยของรสูลุลลอฮฺ จํานวนหนึ่งศออฺจากอาหาร และอาหารของเราในสมัยนั้นคือ ขาวบาเล องุน แหง นมเปรี้ยวแหง และอินทผลัมแหง” (อัลบุคอรีย 1414) อิบนุอุมัรเลาวา ทานนบีกลาววา ﹶأﻭ ﹰ ﹺ,ﺷﻌﲑ ﹺ اﻟﻔﻄﺮ ﹰ ﹺ )) ﹶ ﹶ ﹸ ﹺ ﻣﻦ ﹶ ﹾ ﹴ ﹶﹾأﻭ,ﲤﺮ ﺻﺎﻋﺎ ﹾ ﻣﻦ ﹶ ﹴ ﹾ ﹶ ﺻﺎﻋﺎ ﹾ ﺻﺪﻗﺔ ﹾ ﹾ ﹺ ﹶ ﹶ ﺻﺎﻋﺎ ﹺﻣﻦ ﺳ ﹾ ﹴ ((ﻠﺖﹴ ﹶ ﹰ ﹾ ﹸ
“ซะกาตฟตเราะฮฺตองจายจํานวนหนึ่งศออฺจากขาวบาเล หรือหนึ่งศออฺ จากผลอินทผลัมแหง หรือหนึงศออฺจากขาวบาเล (ชนิดหนึ่งมีสีขาวและไมมี เปลือก)” (อิบนุคุซัยมะฮฺ เลม 4 หนา 80, อัลหากิม เลม 1หนา 408) อุละมาอมีทัศนะที่ขัดแยงกันเกี่ยวกับความหมายของคําวา “อาหาร” ที่ มีรบุในหะดีษของอบูสะอีดอัลคุดรีย บางทานยืนยันวา คําวา “อาหาร” ในหะดีษ นี้หมายถึง เมล็ดขาวบาเล และอื่นๆ แตทัศนะที่คิดวานาจะมีน้ําหนักที่สุดคือ ทัศนะที่วา “อาหาร” ที่หมายถึงในหะดีษอบูสะอีดนี้ ครอบคลุมทุกๆประเภท อาหารหลักที่สามารถประทังชีวิตไดของแตละพื้นที่ วัลลอฮุอะอฺลัม ถึงแมวา “อาหาร” ในหะดีษขางตนจะครอบคลุมทุกๆอาหารหลักของแต ละพื้นที่ก็ตาม แตชนิดของอาหารที่ประเสริฐที่สุดที่จะนํามาจายเปนซะกาตฟต เราะฮฺคือชนิดของอาหารที่มีระบุในหะดีษตางๆ ตราบใดที่ยังสามารถหาอาหาร ประเภทเหลานั้นมาจายเปนซะกาตฟตเราะฮฺ และผูที่มีสิทธิรับซะกาต ประสงคที่ จะรับ อิหมามนะวะวียกลาววา “สิ่งที่ทุกคนจําเปนตองจายซะกาตฟตเราะฮฺ คือจํานวนหนึ่งศออฺจากชนิดใดขนิดหนึ่งของบรรดาอาหารหลัก ไมวาจะเปน แปงขาวบาเล ผลอินทผลัมแหง ผลองุนแหง เมล็ดขาวบาเล และอื่นๆที่อนุญาต ใหใชเปนซะกาตฟตเราะฮฺ (อัลมัจญมูอฺ เลม 6 หนา 110) อัตราที่ตองจายซะกาตฟตเราะฮฺ มีรายงานจากหะดีษเศาะหีหฺระบุวาอัตราอาหารที่ตองจายสําหรับซะ กาตฟตเราะฮฺคือจํานวนหนึ่งศออฺมะดานีย เพราะทานนบีกลาววา أﻫﻞ ﹾﹶ ﹺ ﹶ ﹺ ﻣﻜﻴﺎﻝ ﹶ ﹾ ﹺ ﻭزﻥ ﹶ ﹾ ﹺ ﻭاﳌﻜﻴﺎﻝ ﹺ ﹾ ﹶ ﹸ ﻣﻜﺔ ﹶ ﹾﹺ ﹾ ﹶ ﹸ أﻫﻞ ﹶ ﱠ ﹶ اﻟﻮزﻥ ﹶ ﹾ ﹸ ﹾﹶﹾ ﹸ اﳌﺪﻳﻨﺔ
“ตราชั่งตองใชตราชั่งชาวมักกะฮฺ และการตวงตองใชเครื่องตวงของ ชาวมะดีนะฮฺ” (อบูดาวูด 2899)
หนึ่งศออฺมะดานียปจจุบันตวงขาวสารไดประมาณสี่ลิตรบานเรา หรือ ชั่งไดประมาณสองกิโลกรัมครึ่ง เชคอุ ษั ยมี นกล าวว า “ฉั นได หาค าของศออฺ นะบะวี ย ปรากฏว ามี น้ําหนักเทากับสองกิโลกรัมกับอีกสี่สิบกรัมของน้ําหนักขาวสาลี และเปนที่ ทราบกันดีวา สิ่งตางๆจะมีความแตกตางดานความหนักและเบา ดังนั้น เมื่อสิ่ง ใดที่หนักเราก็ควรจะเผื่อไวดวยการเพิ่มน้ําหนักใหมากขึ้น และสิ่งใดที่เบาเราก็ ลดน้ําหนักใหนอยลง...สวนมุด (ลิตร) นะบะวีย เราพบวาหนึ่งลิตรมีน้ําหนัก ประมาณ 510 กรัม” (อัชชัรหฺอัลมุมติอฺ เลม 6 หนา 177) ผูใดบางที่ตองจายซะกาตฟตเราะฮฺ? มุสลิมทุกคนจําเปนตองจายซะกาตฟตเราะฮฺสําหรับตัวเอง และ ทุกๆคนที่อยูภายใตการดูแลของเขา ไมวาจะเปนเด็กเล็กหรือผูใหญ ผูชาย หรือผูหญิง ทาสหรือไท อิบนุอุมัรเลาวา ﹺ ﹺ اﻟﺼﹺﻐﹾﹺﲑ ﹶﻭﹾاﻟﹶﻜﺒﹺﹾﹺﲑ ﺑﹺﹶﺼﹶﺪﹶﻗﺔ ﹾاﻟﻔﹾﻄﹺﺮ ﹶﻋﹺﻦ ﱠ ))ﹶأﹶﻣﹶﺮ ﹶرﹸﺳﹾﻮﹸﻝ اﷲﹺ ((اﳊﱢﺮ ﹶﻭﹾاﻟﹶﻌﹾﺒﹺﺪ ﹺﳑ ﱠﹾﻦ ﹶﲤ ﹸﹾﻮﹸﻧﹾﻮﹶﻥ ﹶﻭ ﹾ ﹸ “ทานรสูลุลลอฮฺสั่งใหจายซะกาตฟตเราะฮฺแกเด็กเล็กและผูใหญ ผู เปนไทและทาส จากบรรดาผูที่อยูภายใตการดูแลของพวกทาน” (อัดดา เราะกุฏนีย 220, อัลบัยฮะกีย เลม 4 หนา 161) นาฟอฺเลาวา “อิบนุอุมัรจะจายซะกาตฟตเราะฮฺสําหรับครอบครัว ของทานทุกคน ไมวาจะเปนเด็กเล็ก หรือผูใหญ ทานจะจายซะกาตสําหรับ ผูที่อยูภายใตการดูแลของทาน และสําหรับทาสและทาสี” (อิบนุอะบีชัยบะฮฺ เลม 4 หนา 37)
จะจายซะกาตฟตเราะฮฺใหแกผูใด? อิบนุรุชดิ กลาววา “บรรดาอุละมาอมีมติเปนเอกฉันทวามีบัญญัติให จายซะกาตฟตเราะฮฺแกบรรดาผูยากไรและผูขัดสน (ฟุเกาะรออฺและมะสากีน) เพราะทานรสูลุลลอฮฺ ไดกลาวไววา ﻋﻦ ﹶ ﹺ اﻟﺴﺆاﻝ ﹺﰲ ﹶ ﹶ ﻫﺬا ﹾ ﹶ ﹾ ﹺ ((اﻟﻴﻮﻡ اﻏﻨﻮﻫﻢ ﹶ ﹺ ﱡ )) ﹾ ﹸ ﹾ ﹸ ﹾ
“พวกทานจงทําใหพวกเขา (บรรดาผูยากไร) ไมตองพึ่งพาการ ขอทานในวัน (อีด) นี้” (อัดดาเราะกุฏนีย 67, อัลบัยฮะกีย เลม 4 หนา 175 ดวยสายรายงานที่ออน) (บิดายะฮฺ อัลมุจญตะฮิด เลม 2 หนา 137) เพียงแต อุละมาอมีทัศนะที่ขัดแยงเกี่ยวกับบรรดาผูมีสิทธิ์รับซะกา ตอีกหกจําพวกอื่นจากนั้น วามีสิทธิ์รับซะกาตฟตเราะฮฺดวยหรือไม มัซฮับหะนะฟย และทัศนะที่ถูกตองของมัซฮับหันบะลีย มีทัศนะวา อนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺแกบรรดาผูที่มีสิทธิที่จะรับสวนแบงทั้งแปด ประเภท เพราะซะกาตฟตเราะฮฺเปนสวนหนึ่งของการบริจาคทานที่รวมอยู ในความหมายของอายะฮฺ w v u t s r qm
l¡ ~}|{zyx “แท จริ งทานทั้ งหลาย นั้ น สํ าหรั บบรรดาผู ที่ ยากจน ผู ที่ ขั ดสน เจาหนาที่ในการรวบรวมมัน ผูที่หัวใจไดรับการโนมนาว (สูอิสลาม) การไถทาส ผูมีหนี้สินลนตัว ในทางของอัลลอฮฺ และผูที่อยูในระหวางเดินทาง” (อัตเตาบะฮฺ 60) (ดู หะชิยะฮฺ อิบนุอาบิดีน เลม 2 หนา 79, อัลอินศอฟ เลม 7 หนา 137, อัลมุฆนีย เลม 4 หนา 314) มัซฮับอัชชาฟอีย มีทัศนะวา จําเปนตองแบงซะกาตฟตเราะฮฺใหแก บรรดาผู ที่ มี สิ ทธิ์ รั บซะกาตทั้ งแปดประเภท หรื อเท าที่ พบเจอ ในกรณี ที่
มอบหมายซะกาตใหอิหมามเปนผูแบงให แตถาประสงคจะจายซะกาตดวย ตนเอง เขาต องแบ งซะกาตออกเป นหกส วนสํ าหรั บผู มี สิ ทธิ์ รั บซะกาตหก ประเภท โดยตัดสวนของเจาหนาที่ผูรับผิดชอบดานซะกาต (อามิลีน) และผูที่ หัวใจไดรับการโนมนาว (มุอัลลัฟ กุลูบ) ออก และหากไมพบผูมิสิทธิ์ทั้งหก ประเภทก็ใหแจกจายแกบรรดาผูมีสิทธิ์เทาที่พบเจอ (อัลอุมมฺ เลม 2 หนา 69, อัลหาวีย อัลกะบีร เลม 4 หนา 430, อัลมุจญมูอฺ เลม 6 หนา 104) สวนมัซอับมาลิกียและรายงานหนึ่งจากอะหมัดระบุวา ซะกาตฟต เราะฮฺตองมอบใหแกผูที่ยากจนและผูที่ขัดสน (ฟุเกาะรออและมะสากีน) เทานั้น ไมอนุญาตใหจายแกอื่นจากทั้งสอง (อัตตัฟรีอฺ เลม 2 หนา 296, หา ชิยะฮฺ อัดดุสูกีย เลม 1 หนา 508, อัลฟุรูอฺ เลม 2 หนา 540) โดยตีความจากหะดีษอิบนุอับบาสที่กลาววา ﻃﻬﺮة ﹺ ﹺ ﹺ ﹺ زﻛﺎة ﹾ ﹺ ﹾ ﹺ ﻓﺮض ﹶ ﹸ ﹸ ﹶ ﹶﷲ ﻣﻦ رﺳﻮﻝ ا ﹺ )) ﹶ ﹶ ﹶ ﻟﻠﺼﺎﺋﻢ ﹾ اﻟﻔﻄﺮ ﹸ ﹾ ﹶ ﹰ ﱠ ﹶ ﹺ ﻭﻃﻌﻤﺔ ﹺ ﹾ ﹶ ﹶ ﹺ ﹺ ﱠﹾﹺ ﻭاﻟﺮﻓﺚ ﹶ ﹸ ﹾ ﹶ ﹰ ((ﻟﻠﻤﺴﺎﻛﲔ اﻟﻠﻐﻮ ﹶ ﱠ
“รสูลุลลอฮฺไดกําหนด (ใหมุสลิม) จายซะกาตฟตเราะฮฺ เพื่อเปนการขัด เกลาใหผูถือศิลอดสะอาดบริสุทธิ์จากมลทินของการหลงลืม และการพูดจาที่ หยาบคาย และเพื่อเปนทานอาหารแกบรรดาผูยากไร” (อบูดาวูด 1317) ดังนั้น คําวากลาวที่วา “เพื่อเปนทานอาหารแกบรรดาผูยากไร” ทําให เขาใจว าการจ ายซะกาตฟ ตเราะฮฺนั้น ถูกเจาะจงเฉพาะสําหรับผูยากไร อัน หมายถึงฟุเกาะรออและมะสากีนเทานั้น สวนบรรดาผูมีสิทธิ์รับซะกาตทั่วไปอีก หกประเภทจะไมมีสิทธิ์รับซะกาตฟตเราะฮฺตามทัศนะของอุละมาอกลุมนี้ ทัศนะนี้ ได รั บการเห็ นชอบและสนั บสนุ นจากอุ ละมาอ ชั้นแนวหน า หลายทาน เชน อิบนุตัยมิยะฮฺ (มัจญมูอฺอัลฟะตาวา เลม 25 หนา 71-78) อิบ นุก็อยยิม (ซาดุลมะอาด เลม 2 หนา 44) และในบรรดาอุละมาอปจจุบันที่เห็น ดวยกับทัศนะนี้คือ เชคอับดุลอะซีซ บิน บาซ (มัจญมูอฺฟะตาวาอิบนุบาซ เลม
14 หน า 202, 215), เชคอุ ษั ยมี น (อั ชชั รหฺ อั ลมุ มติ อฺ เล ม 6 หน า 184) และเชคอัลบานีย เปนตน จากทัศนะที่ขัดแยงขางตน ผูเขียนเห็นวา ควรใหความสําคัญกับ บรรดาผูยากไร (ฟุเกาะรออและมะสากีน) เปนอันดับแรก แตถาไมมีคน เหล า นั้ น ก็ อ นุ ญ าตให จ า ยซะกาตแก บ รรดาผู มี สิ ท ธิ์ รั บ ซะกาตทั้ ง หก ประเภทที่เหลือ วัลลอฮุอะอฺลัม อนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺดวยเงินหรือไม? อุ ล ะมาอ ส ว นใหญ (มั ซ ฮั บ มาลิ กี ย ชาฟ อี ย และหั น บะลี ย ) ไม อนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺดวยเงินแทนอาหาร และผูใดจายซะกาตฟต เราะฮฺดวยเงิน ซะกาตฟตเราะฮฺของเขาจะไมถูกรับ เพราะไมมีหลักฐาน บงชี้ถึงการอนุญาต (อัลอุมม เลม 3 หนา 174, อัลมุฆนีย เลม 4 หนา 295) สวนมัซฮับหะนะฟย มีทัศนะวาอนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺดวยเงิน (อัลเมาสุอะฮฺ อัลฟตฮิยะฮฺ เลม 23 หนา 344) มีคนเลาใหอิหมามอะหมัดฟงวา “ฉันไดจายซะกาตฟตเราะฮฺดวย เงินดิรฮัม” ทานตอบวา “ฉันกลัววาการจายซะกาตฟตเราะฮฺเชนนั้นจะไมถูก รับ เพราะคานกับสุนนะฮฺของทานรสูลุลลอฮฺ” มีคนถามทานวา “มีคนกลุมหนึ่งอางวา อุมัร บิน อับดุลอะซีซเคย รับซะกาตฟตเราะฮฺดวยราคาของอาหาร?” ทานตอบวา “พวกเขาละทิ้งคําพูดของทานรสูลุลลอฮฺ แลวอางวา คน นั้น คนนี้กลาวอยางนั้นอยางนี้ กระนั้นหรือ” (อัลมุฆนีย เลม 4 หนา 295) อิบนุกุดามะฮฺกลาววา “ไมอนุญาตใหจายเปนราคา เพราะเปนการ ละทิ้งจากสิ่งที่ไดถูกระบุไวแลว” (อัลมุฆนีย เลม 4 หนา 295)
อัช เชากานี ยก ลาววา “ผูที่ มีทั ศ นะวา จํา เปน ตอ งจา ยซะกาตฟ ต เราะฮฺดวยประเภท (ใดประเภทหนึ่ง) ของประเภทอาหารที่จําเพาะเจาะจง ได ย กหะดี ษ ของอิ บ นุ อุ มั ร เป น หลั ก ฐาน และพวกเขาจะไม อ นุ ญ าตให เปลี่ ย นไปจ า ยด ว ยราคาของอาหารเหล า นั้ น นอกจากเมื่ อ ไม มี อ าหาร เหลานั้น หรืออาหารประเภทเดียวกัน” (นัยลุลเอาฏอร เลม 4 หนา 171) ทานยังกลาวอีกวา “ที่มีหลักฐานถูกตอง (เกี่ยวกับการจายซะกาต ฟตเราะฮฺ) ในสมัยของทานรสูลุลลอฮฺ คือ ซะกาตฟตเราะฮฺจะถูกเก็บจาก ทรัพยสิน (ไมใชเงินตรา) ที่ถูกกําหนดไว และสิ่งเหลานั้นเปนที่ทราบกันดี อยางไมตองสงสัย…” (สัยลุลญัรรอร) เชคอับดุลอะซีซ บิน บาซ กลาววา “และไมอนุญาตใหจายซะกาต ฟตเราะฮฺดวยราคาตามทัศนะของนักวิชาการสวนใหญ และมันคือทัศนะที่มี หลักฐานที่ถูกตองกวา ยิ่งกวานั้น สิ่งที่วาญิบตองจายซะกาตฟตเราะฮฺตอง มาจากอาหารหลักเทานั้น ดังที่ทานนบีและบรรดาเศาะหาบะฮฺไดปฏิบัติ” (มัจญมูอฺอัลฟะตาวา เลม 14 หนา 202) ทานยังกลาวอีกวา “....ซะกาตฟตเราะฮฺเปนอิบาดะฮฺอยางหนึ่งดวย มติเปนเอกฉันทของชาวมุสลิม และหลักการดั้งเดิมของอิบาดะฮฺตางๆตอง ตะวักกุฟ (หมายความวาตองพึ่งพาหลักฐานเทานั้น) ดังนั้น จึงไมอนุญาต ให ผู ใ ดปฏิ บั ติ อิ บ าดะฮฺ ใ ดๆ เว น แต มี ห ลั ก ฐานที่ ถู ก ต อ งจากท า นน บีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม” (มัจญมูอฺอัลฟะตาวา เลม 14 หนา 208) คณะกรรมการถาวรเพื่ อ การวิ จั ย ทางวิ ช าการและการฟ ต วา ประเทศซาอุดีอาระเบียกลาววา “และไมอนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺ ดวยเงิน เพราะหลักฐานทางศาสนบัญญัติไดบงชี้ถึงความจําเปน (วาญิบ) ที่จะตองจายซะกาตฟตเราะฮฺดวยอาหาร และไมอนุญาตใหละทิ้งหลักฐาน
ทางศาสนบัญญัติดวยคําพูดของผูใดก็ตาม” (มัจญมูอฺฟะตาวาอัลลัจญนะฮฺ อัดดาอิมะฮฺ เลม 9 หนา 379) ที่กลาวเชนนั้นเพราะมีเหตุผลสําคัญดังนี้ 1. ซะกาตฟตเราะฮฺเปนอิบาดะฮฺที่ถูกเจาะจงใหจายจากอาหารหลัก บางประเภทเปนการเฉพาะ เพราะฉะนั้น จึงไมอนุญาตใหจายดวยสิ่งอื่นจาก ประเภทของอาหารที่ถูกกําหนดไวเหลานั้น เชนเดียวกับที่ไมอนุญาตใหจาย ซะกาตนอกเวลาที่ถูกกําหนดไว 2. การจายซะกาตดวยราคาของอาหารเปนการปฏิบัติ ที่คานกั บ คําสั่งและการปฏิบัติของทานรสูลุลลอฮฺและบรรดาเศาะหาบะฮฺ เชคอุษัยมีนกลาววา “เนื่องจากการจายซะกาตฟตเราะฮิดวยราคา เปนการปฏิบัติที่คานกับการปฏิบัติของบรรดาเศาะหาบะฮฺ ซึ่งพวกทานจะ จายเปนอาหารจํานวนหนึ่งศออฺเปนประจํา และทานนบีก็ไดกลาวไววา ﹺ اﳌﻬﺪﻳﲔ ﹺﻣﻦ ﹺ ﹺ اﳋﻠﻔﺎء ﹺ ﹺ ﺑﺴﻨﺘﻲ ﱠ ﹺ ﹺ ((ﺑﻌﺪﻱ اﻟﺮاﺷﺪﻳﻦ ﹾﹶ ﹾ ﱢ ﹶ ﹾ ﹶ ﹾ ﹶ ﻭﺳﻨﺔ ﹾ ﹸ ﹶ ﹶ ﱠ ﻋﻠﻴﻜﻢ ﹺ ﹸ ﱠ ﹶ ﹸ )) ﹶ ﹶ ﹾ ﹸ ﹾ
“พวกทานจงดําเนินตามสุนนะฮฺของฉันและสุนนะฮฺของบรรดาเคาะ ลีฟะฮฺผูทรงธรรมหลังจากฉัน” (อบูดาวูด 3991) เชคอบูบะกัร อัลญะซาอิรียกลาววา “สิ่งที่จําเปนตองจายซะกาตปต เราะฮฺคือประเภทตางๆของอาหาร และจะไม (อนุญาตให) เปลี่ยนเปนอยางอื่น นอกจากในกรณีที่สุดวิสัยเทานั้น เพราะไมมีรายงานที่ถุกตองจากทานนบีวา ทานจายซาตฟตเราะฮฺดวยเงินแทนอาหาร อีกทั้งไมเคยมีรายงานจากบรรดา เศาะหาบะฮฺแมแตคนเดียววาพวกเขาเคยจายวะกาตฟตเราะฮฺดวยเงิน” (มิน ฮาจญอัลมุสลิม หนา 259) 3. ทานนบีไดกําหนดอัตราสวนและประเภทของอาหารสําหรับใชจาย ซะกาตฟตเราะฮฺอยางชัดเจน ในขณะที่อาหารแตละประเภทมีราคาที่แตกตาง กัน ดังนั้น หากแมนวา ราคาอาหารหรือเงินสามารถใชจายเปนคาซะกาตฟต
เราะฮฺได แนนอนวาสิ่งที่วาญิบตองจายตองเปนหนึ่งสออฺจากอาหารประเภทใด ประเภทหนึ่ง หรือราคาของอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งเทานั้น อิหมามอันนะวะวียกล าววา “ทานนบีไดระบุถึงอาหารบางประเภท (สําหรับใชจายซะกาตฟตเราะฮฺ) ซึ่งมี่ราคาที่แตกตางกัน และทานไดกําหนดให จาย (ซะกาตฟตเราะฮฺ) จํานวนหนึ่งศออฺเทานั้นจากบรรดาอาหารเหลานั้น การ กําหนดเชนนั้นเปนการบงชี้สิ่งที่ตองคํานึงถึงคือ (อัตราของอาหาร นั่นคือหนึ่ง) ศออฺ โดยไมไดคํานึงถึงราคาของอาหาร (อัลมินฮาจญ ชัรหฺเศาะหีหมุสลิม เลม 7 หนา 60) อิ บนุ หะญั รกล าวว า “เสมื อนกั บว า (ได มี การเจาะจง) อาหารทุ ก ประเภทที่มีระบุในหะดีษของอบีสะอีด อัลคุดรีย (เปนการเฉพาะ) โดยที่ทุกๆ ประเภทของอาหารเหลานั้นมีอัตราสวน (ที่ตองจายซะกาตฟตเราะฮฺ) เทาๆกัน (นั่นคือหนึ่งศออฺ) พรอมกับความแตกตางดานราคาของอาหารเหลานั้น ดังนั้น จึงบงชี้วา ที่ (ทานนบี) ประสงค) คือจายซะกาตตามอัตราสวนดังกลาวจาก ประเภทใดประเภทหนึ่งของอาหาร (นั่นือหนึ่งสออฺ ถึงแมวาจะมีความแตกตาง ดานราคาของแตละประเภทก็ตาม)” (ฟตหุ ลบารี ย เล ม 4 หนา 437) วัลลอ ฮุอะอฺลัม สวนอบูหะนีฟะฮฺ อนุญาตใหจายซะกาตฟตเราะฮฺดวยเงินตราหรือราคา ของอาหารหลัก และถือวาการจายซะกาตดวยเงินตราประเสริฐกวา เพื่อใหผู ยากไรมีความสะดวกที่จะซื้อหาสิ่งตางๆที่พวกเขาตองการในวันอีด เพราะบางที พวกเขาอาจจะไมจําเปนตออาหารหลัก แตอาจจําเปนตอเสื้อผา หรือเนื้อ หรือ อื่ นๆ ดั งนั้ น การจ ายซะกาตด วยอาหารหลั กแก พวกเขาอาจทํ าให พวกเขา จําเปนตองเสาะหาคนที่จะรั บซื้ ออาหารหลักจากเขา และบางทีพวกเขาอาจ จํ าเป นต องขายอาหารเหล านั้ นด วยราคาที่ ต่ํ ากว าราคาจริ งตามท องตลาด ทั้งหมดนั้นจะพูดถึงในกรณีที่มีความสะดวก และอาหารหลักตามทองตลาดมี
จํานวนมากอยูแลว สวนเวลาที่ยากลําบากและตามทองตลาดมีอาหารหลักอยู นอย ในกรณีเชนนี้การจายซะกาตดวยอาหารหลักยอมประเสริฐกวาการจายดวย ราคาของอาหาร โดยคํานึงถึงประโยชนของผูยากไร (อัลมับสูฏ เลม 3 หนา 114, บะดาอิอฺ อัสเศาะนาอิอฺ เลม 2หนา 73, อัลบะนายะฮฺ เลม 3 หนา 494) จะอยางไรก็ตาม การปฏิบัติที่สอดคลองกับคําสั่งของทานนบีและการ ปฏิบัติของบรรดาเศาะหาบะฮฺยอมเปนการดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงทัศนะของอุ ละมาอสวนใหญที่ระบุวา การจายซะกาตดวยราคาอาหารจะไมถูกรับ วัลลอ ฮุอะอฺลัม