วิชาหลักศรัทธา หลักสูตร 01

Page 1


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

1

วิชาหลักศรัทธา

1. มาตรฐานการเรียนรูระดับชั้น และคุณลักษณะอันพึงประสงค มาตรฐานการเรียนรู ผูเรียนมีจรรยามารยาทที่ดีงาม มีความเปนมุสลิมเปนฐานหลัก ไมมี ความสัมพันธกับผูที่วางตัวเปนปรปกษกับศาสนาอิสลาม ระยะเวลาเรียน 1 ป (สองภาคเรียน)

คุณลักษณะอันพึงประสงค

มีความรูความเขาใจในหลักพื้นฐานของอิสลามโดยรวมทั้ง ทางดานหลักอะกีดะฮฺ (ความเชื่อ) ชะรีอะฮฺ (กฎหมายอิสลาม) คุณธรรมจริยธรรม และอื่นๆ 2.จุดประสงคปลายทาง มีความรูความเขาใจในขอเท็จจริงเกี่ยวกับหลักอะกีดะฮฺ(ความเชื่อ)ทางศาสนาที่ถูกตองมีแหลง อางอิงมาจากคัมภีรอัลกุรอานและซุนนะฮฺ อางอิงมาจากหลักฐานที่เปนตัวบทและหลักฐานทางสติปญญา โดยปลูกฝงเขาสูจิตใจอยางแทจริง เปนหลักความเชื่อที่ปราศจากขอสงสัยคลางแคลงใจ ปราศจากการอุตริ และเรื่องไรสาระทั้งมวล จุดประสงคนําทาง 1. บอกคําจํากัดความและขอบเขตของเตาฮีดได 2. เปรียบเทียบระดับความสําคัญกับวิชาอื่นได 3. บอกปรัชญาการเรียนรูวิชาเตาฮีดได 4. บอกที่มาของหลักการของวิชาเตาฮีดได 5. บอกผลที่จะเกิดขึ้นกับประชาชาติมุสลิมได 6. บอกความสัมพันธระหวางการศรัทธากับการปฏิบัติได 7. บอกเหตุผลทีต่ องมีการปฏิญาณตนกอนหลักการอื่น ๆ ได 8. บอกความสําคัญของวิชาเตาฮีดและผลกระทบที่จะเกิดขึน้ ในกรณีที่ไมมีความรูเกีย่ วกับเตาฮีดได 9. บอกหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮฺและหลักฐานตางๆที่ถุกสรางขึ้นตามธรรมชาติที่บงบอกถึง การมีอยูจริงและเอกานุภาพแหงอัลลอฮฺได 10. บอกพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการปฏิเสธความเชื่อในเอกานุภาพแหงอัลลอฮฺได 11. บอกปรัชญาการสงศาสนทูตและการประทานคัมภีรตางๆมายังมนุษยได 12. บอกความหมายของอัลกุรอานโดยภาพรวมและรายละเอียดตางๆของศาสนของทานนบี  ได 13. บอกผลความสําคัญจากการศรัทธาตอวันกียามะฮฺที่มีตอการดําเนินชีวติ ของมุสลิมบนโลกนี้ได 14. บอกลักษณะและหนาที่ของมลาอิกะฮฺและบทบัญญัติการศรัทธาตอมลาอิกะฮฺได 15. บอกความเขาใจเกีย่ วกับกําหนดการของอัลลอฮฺและการศรัทธาตอกําหนดการของพระองคได

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

2

วิชาหลักศรัทธา

4.จุดประสงคเชิงพฤติกรรม(ทักษะพิสัยและเจตพิสัย) 1.หางไกลจากการพึ่งพาหาความชวยเหลือจากการเสกเปา ยกเวนดวยอายะฮฺอัลกุรอานหรือวิธีการที่ มีปรากฏอยูในฮาดิษ 2.หางไกลจากการติดตอกับญิน ไชฏอนหรือผูที่ขอความชวยเหลือจากญินและไชฏอน 3. หางไกลจากการพึ่งพาพอมดหมอผี โหราจารย หมอดู 4. หางไกลจากการพึ่งพาการขอความชวยเหลือจากกุโบรและคนที่ตายไปแลว 5. หางไกลจากการบนบานสาบานดวยสิ่งอื่นนอกเหนือจากอัลลอฮฺ 6. หางไกลจากการพึ่งพาโชคลาง 7.มีความบริสุทธิ์ใจและมุงมั่นสูอัลลอฮฺ 8. มีการตั้งเจตนา(เพื่ออัลลอฮฺ)ทุกครั้งที่แสดงการกระทํา 9.มีความเชื่อมั่นตอการลงโทษและการตอบแทนความดีของอัลลอฮฺในกุโบร 10.มีความกตัญูตอความโปรดปรานของอัลลอฮฺ 11. ทําตามสิ่งที่ตนเองบนบานตออัลลอฮฺไว สาระการเรียนรู หนังสือ กิตาบอัตเตาฮีด ของเชคอัซซันดานีย (‫ )ﻛﺘﺎﺏ ﺍﻟﺘﻮﺣﻴﺪ ﺍﻟﺸﻴﺦ ﺍﻟﺰﻧﺪﺍﱐ‬เลม 1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

3

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 1 วิชาเตาฮีด คํานิยาม วิชาเตาฮีดคืออะไร ? วิชาเตาฮีด คือวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับการยืนยันหลักความเชื่อทางศาสนาใหปรากฏโดยใชหลักฐานที่ ชัดเจนจากสติปญญาและหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮฺ เพื่อลบล างความสงสัยคลางแคลงใจทุก ประเภทใหหมดไป เปนวิชาที่จะชวยเปดโปงโมฆะธรรม ความเคลือบแคลงใจ การกลาวรายรูปแบบตาง ๆ ของผูปฏิเสธศรัทธาใหประจักษ ดวยการเรียนรูวิชาเตาฮีดจะทําใหเกิดความมั่นใจและมีศรัทธาที่มั่งคง วิชานี้ เรียกวาวิชาเตาฮีด เพราะเปนวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับเอกานุภาพแหงอัลลอฮฺ ซึ่งพระองคไดตรัสไววา : * ⎯yϑsùr& ÞΟn=÷ètƒ !$yϑ¯Ρr& tΑÌ“Ρé& y7ø‹s9Î) ⎯ÏΒ y7Îi/¢‘ ‘,tp ø:$# ô⎯yϑx. uθèδ #‘yϑôãr& 4 $oÿ©ςÎ) ã©.x‹tGtƒ (#θä9'ρé& É=≈t6ø9F{$# ∩⊇®∪ แลวผูที่รูวา อันสิ่งที่ถูกประทานลงมาแกเจา (คือกุรอาน) จากองคอภิบาลของเจานั้นเปนเรื่องจริง จะ เหมือนกับบุคคลที่ตาบอด (ไมรูและไมศรัทธา) กระนั้นหรือ? ความเปนจริง ผูมีวิจารณญาณทั้งหลายยอมมี จิตสํานึกอยางแนนอน ขอบเขตของการศึกษาคนควาวิชาเตาฮีด ถาม วิชาเตาฮีดมีขอบเขตการศึกษาคนควาเกี่ยวกับเรื่องใด ? ตอบ วิชาเตาฮีดมีขอบเขตการศึกษาคนควาในหลายดาน ดังนี้ เรื่องเกี่ยวกับการศรัทธาตอเอกานุภาพแหงอัลลอฮฺ ความบริสุทธิ์ใจตอการอิบาดะฮตอพระองคโดย ปราศจากการตั้งภาคีใด ๆทัง้ สิ้น ศึกษาคนควาเกี่ยวกับการศรัทธาตอบรรดาศาสนทูตของอัลลอฮฺผูซึ่งนําพาทางนําแหงพระองคมา เผยแพร เรียนรูเกี่ยวกับคุณลักษณะที่จําเปนตองมีสําหรับบรรดาศาสนทูต เชน ความมีสัจจะ ความซื่อสัตย สุ จ ริ ต คุ ณ ลั ก ษณะที่ ไ ม ส มควรมี อ ยู กั บ พวกเขา เช น ความมดเท็ จ บิ ด พลิ้ ว เรี ย นรู เ กี่ ย วกั บ มุ อฺ ญิ ซ าต (อภินิหารย) และการเผยแพรสาระธรรม โดยเฉพาะอยางยิ่งมุอฺญิซาต(อภินิหารย)และหลักฐานตางๆของการ เผยแพรสาระธรรมของทานนบีมูฮําหมัด  ศึกษาคนควาเกี่ยวกับการศรัทธาตอคัมภีรของอัลลอฮฺที่ทรงประทานมาเพื่อเปนทางนําใหกับมวล บาวตลอดชวงประวัติศาสตรอันยาวนานของมนุษย คนควาศึกษาเกี่ยวกับการศรัทธาตอมวลมลาอิกะฮฺ และ หนาที่ของพวกเขา และความสัมพันธระหวางพวกเขากับพวกเราทั้งในโลกนี้และโลกหนา ศึกษาคนควา ความเรียนรูเกี่ยวกับการศรัทธาตอวันกียามะฮฺ และการตอบแทนที่อัลลอฮฺทรงเตรียมไวใหกับผูศรัทธาและผู ปฏิเสธศรัทธา นั่นคือความโปรดปรานของพระองคในสรวงสวรรคและการลงโทษในนรก นอกจากนี้ก็เปน ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

วิชาหลักศรัทธา

4

การศึกษาคนควาเรียนรูเกี่ยวกับการศรัทธาตอกําหนดการของอัลลอฮฺ ที่คอยกํากับดูแลโลกและจักรวาล ทั้งหมด ดังที่อัลลอฮฺไดตรัสไวในอัลกุรอานวา : ⎯ϵÏFs3Íׯ≈n=tΒuρ «!$$Î/ z⎯tΒ#u™ <≅ä. 4 tβθãΖÏΒ÷σßϑø9$#uρ ⎯ϵÎn/§‘ ⎯ÏΒ Ïµø‹s9Î) tΑÌ“Ρé& !$yϑÎ/ ãΑθß™§9$# z⎯tΒ#u™ y7tΡ#tøäî ( $oΨ÷èsÛr&uρ $uΖ÷èÏϑy™ (#θä9$s%uρ 4 ⎯Ï&Î#ß™•‘ ⎯ÏiΒ 7‰ymr& š⎥÷⎫t/ ä−ÌhxçΡ Ÿω ⎯Ï&Î#ß™â‘uρ ⎯ϵÎ7çFä.uρ çÅÁyϑø9$# šø‹s9Î)uρ $oΨ−/u‘ ศาสนทูตและมวลผูศรัทธายอมศรัทธาในสิ่ง (คัมภีร) ที่ถูกประทานมายังเขาจากองคอภิบาลของเขา ทุกคนตางมีศรัทธามั่นในอัลลอฮฺ ในมลาอิกะฮฺของพระองค ในบรรดาคัมภีรของพระองค และบรรดา ศาสนทูตของพระองค มีผูเรียนถามทานรอซูลุลลอฮ  เกี่ยวกับความศรัทธา ทานก็ตอบวา “ทานศรัทธาตออัลลอฮฺตอ มลาอิกะฮฺ ตอบรรดาคัมภีร ตอบรรดาศาสนทูตของอัลลอฮฺ และศรัทธาตอวันกียามะฮฺและกําหนดการดี รายของอัลลอฮฺ” สถานะของวิชาเตาฮีดเมื่อเปรียบเทียบกับวิชาอื่น ๆ ถาม จงบอกสถานะของวิชาเตาฮีดเมื่อเปรียบเทียบกับวิชาอื่น ? ตอบ ความสําคัญของแตละสาขาวิชาจะขึ้นอยูกับเรื่อง ขอบเขตของการศึกษา วิชาแพทยศาสตร จะมีเกียรติและศักดิ์ศรีมากวาวิชาชางไม เพราะวิชาชางไม จะเปนการศึกษาคนควาเกี่ยวกับไม แตวิชา แพทยศาสตร กลับศึกษาคนควาเกี่ยวกับรางกายของมนุษย สวนเกียรติและศักดิ์ศรีของวิชาเตาฮีดนับไดวา เปนวิชาที่มีความเปนเลิศกวาสาขาวิชาอื่นใด เพราะขอบเขตการศึกษาไมมีอะไรยิ่งใหญไปกวาการศึกษา เรียนรูเกี่ยวกับผูทรงสรางจักรวาล และยังมีมนุษยคนใดอีกหรือที่จะบริสุทธิ์ผุดผองมากไปกวาบรรดา ศาสนทูตแหงอัลลอฮฺ จะมีอะไรอีกหรือที่จะสําคัญไปกวาการเรียนเพื่อใหรูจักองคอภิบาล ผูทรงสราง เรียนรูเกี่ยวกับปรัชญาการบังเกิดขึ้นของมนุษยในโลกนี้ เพื่อจะหาคําตอบใหไดวา เพราะเหตุใดอัลลอฮฺจึง ทรงสรางมนุษยใหถือกําเนิดเกิดมา ? และที่คืนกลับของมนุษยอยูที่ไหน หลังจากความตายไดมาเยือน และ ทั้งหมดเหลานี้คือขอบเขตการศึกษาและเนื้อหาของวิชาเตาฮีดทั้งสิ้น วิชาเตาฮีดคือวิชาหลักของอิสลาม เปนวิชาที่ทรงคุณคาที่สุด เปนวิชาที่สําคัญที่สุด ความจําเปนทีจ่ ะตองเรียนรู ถาม การเรียนรูว ิชาเตาฮีดเปนฟฎอ ีนหรือฟรฎกฟิ ายะฮฺ ? ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

5

วิชาหลักศรัทธา

ตอบ การเรี ย นรู วิ ช าเตาฮี ด เป น ฟ ร ฎ อีน (จํ า เป น ต อ งเรี ย นรูทุ ก คน) ทั้ ง ชายและหญิ ง เพื่ อ ให สติปญญาและจิตใจของมุสลิมรูสึกพอใจและยอมรับวาเขาอยูในสัจธรรมแหงศาสนา นี่คือระดับที่เปนฟรฎ อีน นอกเหนือไปจากนั้นก็เปนฟรฎกีฟายะฮฺ หากมีมุสลิมบางคนศึกษาเรียนรูก็เปนอันเพียงพอแลว อัลลอฮฺ ไดตรัสไววา : óΟn=÷æ$$sù …絯Ρr& Iω tµ≈s9Î) ωÎ) ª!$# ดังนัน้ เจาจงทราบเถิดวาแทจริงไมมีพระเจาอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ อัลกุรอานคือหนังสือเตาฮีดที่สําคัญที่สุด ถาม อัลกุรอานไดใหความสําคัญกับวิชานี้มากที่สุดใชหรือไม ? ตอบ สาระหลักที่กลาวไวในอัลกุรอานคือสาระเกี่ยวกับวิชาเตาฮีด หากมีโอกาสไดศึกษาก็จะ พบวาทุกหนาของอัลกุรอาน ไมมีหนาใดที่ไมกลาวถึงเรื่องของเตาฮีด ทุกหนาจะตองกลาวถึงเรื่องราวของ การเชิญชวนสูการศรัทธาตออัลลอฮฺ ตอศาสนทูตของพระองค ตอวันกียามะฮฺ กลาวถึงการศรัทธาตอมลาอิ กะฮฺ ตอบรรดาคัมภีรของอัลลอฮฺที่ผานมา และจะกลาวถึงกฎกําหนดสภาวะการณที่คอยควบคุมจักรวาล ทั้งหมด อัลกุรอานที่ไดรับการประทานที่นครเมกกะซึ่งเปนการประทานมากอนที่ทานนบี จะอพยพไปยัง นครมาดีนะฮฺ ในชวงระยะเวลา 13 ป สาระสวนใหญจะเปนเรื่องของเตาฮีดและสาระที่เกี่ยวของกับเตาฮีด ทั้งหมด การใหความสําคัญของมุสลิมกับวิชาเตาฮีด ถาม มุสลิมจะตองเรียนรูทําความเขาใจกับวิชาเตาฮีดหรือไม ? ตอบ มุสลิมตองใสใจใหความสนใจตอวิชานี้ผานการเรียนรูจากอัลกุรอาน เพราะอัลกุรอานได ใหความสําคัญในการเรียกรองพวกเขาไปสูเรื่องนี้มากที่สุด นั่นคือการเรียกรองไปสูศาสนาของอัลลอฮฺดวย ฮิกมะฮฺ (วิทยญาณ) ดวยตัวอยางที่ดี ซึ่งวิชาเตาฮีดใหนําเสนอในเรื่องของหลักฐานยืนยันเพื่อใหเกิดความเชื่อ เรียกรองผูคนไปสูการศรัทธาและปกปองใหศรัทธาคงอยูตลอดไป มุสลิมที่ไมใสใจเรียนรูวิชาเตาฮีด ถาม หากมุสลิมไมใสใจที่จะศึกษาเรียนรู ไมใหความสําคัญตอวิชาเตาฮีด จะเกิดอะไรขึ้นกับ พวกเขา ? ตอบ หากเมื่อใดที่มุสลิมไมใสใจที่จะสรางเสริมโดยการเรียนรูหลักอะกีดะฮฺ (หลักความเชื่อ)ที่ ถูกตองผานหลักวิชาเตาฮีด ซึ่งเปนวิชาที่ดํารงอยูบนหลักการวิชาการที่เที่ยงตรงและมั่นใจ พวกเขาก็จะเริ่ม เอนเอียงไปสูหลักความเชื่อของคนทั่วไป การกระทําก็จะเริ่มลื่นไหลไปสูความเสื่อมเสีย และจะคอย ๆขยาย ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

6

วิชาหลักศรัทธา

วงกวางออกไปจนครอบคลุมยึดครองทั้งบานทั้งเมือง และจะทําใหพวกเขากลายเปนคนเสื่อทรามและตกต่ํา ไปในที่สุด

• •

• •

สรุปทายบท วิชาเตาฮีดจะนําเสนอหลักฐานยืนยันถึงความถูกตองเทีย่ งธรรมของหลักความเชื่อแหงอิสลามดวย หลักฐานทั้งจากอัลกุรอานและจากสติปญญา ขอบเขตการศึกษาของวิชาเตาฮีดมีหลายดาน นั่นคือ การศรัทธาตออัลลอฮฺ ตอคัมภีรตางๆของ พระองค ตอบรรดาศาสนทูต ตอบรรดามลาอิกะฮฺ ตอวันกียามะฮฺและกฎกําหนดสภาวะการณดีราย ของอัลลอฮฺ วิชาเตาฮีดเปนวิชาที่มีเกียรติมีคุณคามากทีส่ ุด เพราะเปนวิชาที่ศึกษาเกีย่ วกับอัลลอฮฺ ผูทรงอภิบาล สากลโลกทั้งมวล โดยศึกษาถึงความยิ่งใหญของผูทรงสราง การเรียนรูสวนหนึ่งที่เปนสิ่งที่จําเปนของวิชาเตาฮีดเปนฟรฎอีนสําหรับมุสลิมทุกคน เพื่อสราง ศรัทธาตออัลลอฮฺ ตอศาสนทูตของพระองค ตอคัมภีร ตอมลาอิกะฮ ตอวันกียามะฮฺ กําหนดการดี รายจากอัลลอฮฺ อัลกุรอานไดใหความสําคัญกับเนื้อหาวิชาเตาฮีด ซึ่งเกือบทั้งหมดของอัลกุรอานจะกลาวถึงเรื่องของ เตาฮีด โดยเฉพาะอยางยิ่งบทที่เปนมักกีย (ไดรับการประทานมากอนฮิจเราะฮฺ) และสิ่งที่เกี่ยวของ กับเตาฮีด มุสลิมในรุนแรก ๆ ตางใหความสําคัญกับวิชาเตาฮีด พวกเขาได และเมื่อพวกเขาไดละเลยโดยไมใส ใจศึกษา หลักความเชื่อของเขาก็จะเริ่มลักลั่นและไถล การกระทํา จริยธรรมของเขาก็จะเริ่มเสื่อม และในที่สุดผูปฏิเสธไรศรัทธาก็เขามาครอบงําผืนแผนดินและประเทศชาติของพวกเขา

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

7

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 2 ความสําคัญของวิชาเตาฮีดในอิสลาม การศรัทธาคือรากฐานของการกระทํา ถาม เพราะเหตุใดอัลลอฮฺจึงไมตอบรับการกระทําเวนแตของผูศรัทธา ? ตอบ แทจริงแลวผูที่ไมยอมศรัทธาตออัลลอฮฺ เขาไมไดหวังวาจะไดรับผลบุญจากพระองค ไมมี ความยําเกรงตอการลงโทษของพระองค การกระทําของพวกเขาทั้งหมดไมไดกระทํามุงหวังเพื่ออัลลอฮฺ ไมไดหวังวาพระองคจะทรงโปรดปราน พวกเขาจึงไมใสใจในการกระทําของพวกเขาที่กระทําออกไป ไม ใสใจวาจะฮาลาลหรือฮารอม พวกเขาไมสมควรที่จะไดรับผลบุญจากการกระทําแมวาการกระทําของพวก เขาจะเปนการทําที่ดีก็ตาม เพราะพวกเขาเปนพวกปฏิเสธศรัทธาที่ไมเคยมุงหวังที่จะไดรับผลบุญจากองค อภิบาลของพวกเขา และไมไดมุงหวังวาจะไดรับการตอบแทนจากผูทรงสรางของพวกเขา ผูไรศรัทธาจะถูก ลงโทษเพราะการปฏเสธศรัทธาและการหลงผิดของพวกเจาเอง เพราะเขาไมไดแสวงหาศาสนาของอัลลอฮฺ และไมเคยพยายามที่ จะแสวงหาหรื อรั บฟงการชี้ แจงของอัลลอฮฺที่บรรดาศาสนทูตแหงพระองค นํามา เผยแพร ยิ่งไปกวานั้นเมื่อพวกเขาไดรับฟงอายะฮฺแหงอัลลอฮฺที่นํามาอานใหกับพวกเขาพวกเขาก็จะนํามา เยาะเยยเลน ดวยเหตุนี้เองการกระทําของพวกเขาจึงไมไดรับการตอบรับและพวกเขาจะถูกลงโทษเพราะการ ปฏิเสธศรัทธาของพวกเขาเอง อัลลอฮฺไดตรัสไววา : 1

"∩⊄⊂∪ #·‘θèWΨ¨Β [™!$t6yδ çµ≈oΨù=yèyfsù 9≅yϑtã ô⎯ÏΒ (#θè=Ïϑtã $tΒ 4’n<Î) !$uΖøΒωs%uρ

และเราไดมุงสู (การพิจารณา) การงานที่พวกเขาไดประพฤติไว แลวเราก็บันดาลมันให (ไรผล ประดุจดัง) ฝุนที่ปลิววอน (ในอากาศ) และอีกอายะฮฺหนึ่งอัลลอฮฺไดตรัสไววา : ã≅sW¨Β š⎥⎪Ï%©!$# (#ρãxx. óΟÎγÎn/tÎ/ ( óΟßγè=≈yϑôãr& >Š$tΒtx. ôN£‰tFô©#$ ϵÎ/ ßw†Ìh9$# ’Îû BΘöθtƒ 7#Ϲ%tæ ( ω tβρâ‘ωø)tƒ $£ϑÏΒ (#θç7|¡Ÿ2 4’n?tã &™ó©x« 4 šÏ9≡sŒ uθèδ ã≅≈n=Ò9$# ߉‹Ïèt7ø9$# ∩⊇∇∪2 อุปมาบรรดาพวกที่ปฏิเสธศรัทธาตอองคอภิบาล อันผลงานของพวกเขานั้น ประดุจดังเถาถานที่ลม ไดพัดพามันไปอยางรุนแรงในวันพายุหนัก พวกเขาไมมีสามารถ (ครอบครอง) สิ่งที่พวกเขาไดพากเพียรไว สักประการเดียวก็ตาม นั้น! มันเปนความหลงผิดอันหางไกลที่สุด และในอีกอายะฮฺหนึ่งอัลลอฮฺไดตรัสไววา :

23 ‫ اﻟﻔﺮﻗﺎن‬1 18 ‫ إﺑﺮاهﻴﻢ‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

8

วิชาหลักศรัทธา

t⎦⎪Ï%©!$#uρ (#ÿρãxŸ2 öΝßγè=≈uΗùår& ¥>#uy£x. 7πyè‹É)Î/ çµç7|¡øts† ãβ$t↔ôϑ©à9$# ¹™!$tΒ #©¨Lym #sŒÎ) …çνu™!$y_ óΟs9 çνô‰Ågs† $\↔ø‹x© y‰y`uρuρ ©!$# …çνy‰ΖÏã çµ9©ùuθsù …çµt/$|¡Ïm 3 ª!$#uρ ßìƒÎ| É>$|¡Ïtø:$# ∩⊂®∪1 และบรรดาผูไรศรัทธาทั้งหลาย ผลงานของพวกเขาเปรียบประดุจดังภาพแสงลวงตาที่เห็นปรากฏ ณ ทุงราบกวาง ผูกระหายคิดวามันเปนน้ํา จนเมื่อเขาเขามาหามัน เขาก็ไมพบมันเปนสิ่งใดเลย (นอกจาก ความวางเปลา) และเขาไดพบวา (ประกาศิตแหง) อัลลอฮฺอยูที่ (ผลงานของ) เขาดังนั้นพระองคยอม สอบสวนมันอยางถี่ถวนและอัลลอฮฺทรงสอบสวนอยางรวดเร็วยิ่ง ตัวอยาง ชายคนหนึ่งไดเดินเขาไปในสวนที่กวางใหญ ซึ่งไมใชสวนของตัวเอง และเขาก็พบวามีผลหมากราก ไมเต็มไปหมด ในสวนเต็มไปดวยอาหารการกินมากมาย วาแลวเขาก็กินและดื่มจนอิ่ม จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น ทํางานในสวนนั้น โดยการเริ่มผสมเกสรตนไมที่มีอยูในสวน ขุดดินพรวนดินรดน้ํา ตอมาก็มีชายอีกคนหนึ่ง เดินเขามาในสวน และพูดกับตัวเองวา “ฉันเองจะไมยังไมทําอะไรในสวนนี้จนกวาฉันจะสามารถติดตอกับ เจาของสวนหรือผูดูแลเสียกอน วาแลวเขาก็เริ่มเดินหาเจาของสวน จนกระทั่งสองพบกับคนงานที่รับผิดชอบ แทนเจาของสวน เจาหนาที่ก็ปฏิเสธที่จะรับการกระทําของคนแรก แตเขาก็ไมไดใสใจตอคําพูดของผูแทน เจาของสวน เขาก็เริ่มทํางานตอไปโดยไมฟง ไมใสใจการอนุญาตหรือไมอนุญาตของผูเปนเจาของ สวนคนที่ สองเขาก็รับฟงการชี้นําการบอกเลาของผูแทนเจาของสวน จากนั้นก็เริ่มทํางานตามที่ไดรับคําแนะนํามาทุก อยางทุกประการ...เมื่อเปนเชนนี้ ใครคือผูที่สมควรจะไดรับคาจางจากเจาของสวน ? หรือผูที่เขามาโดยไมได รับอนุญาต อีกทั้งยังเยาะเยยไมใสใจตอการชี้นําของเจาของสวนที่ผูแทนนํามาบอก ? เขาควรที่จะไดรับ คาตอบแทนหรือไมหากเขาทํางานในสวนอยางดี ? ผูมีสติปญญาก็จะตองตอบวา ผูที่สมควรจะไดรับการตอบแทนก็คือผูที่ปฏิบัติตามแนวทางและ คําแนะนําเจาของสวน สวนผูที่เขามาในสวนแลวลงมือทํางานโดยไมใสใจวาเจาของสวนจะวาอยางไร แถม ยังมีการเตือนมาอีกตางหาก แนนอนที่สุดเขาไมสมควรไดรับคาตอบแทนเลย แมวาการกระทําของเขาจะดี สักเพียงใดก็ตาม เชนเดี่ยวกับผืนแผนดินนี้ทั้งหมด รวมทั้งสิ่งที่มีอยูบนผืนแผนดินลวนแลวแตเปนของอัลลอฮฺ และ บรรดาศาสนทู ต ของพระองค คื อ ตั ว แทนของพระองค ที่ ทํ า หน า ที่ ผู ดู แ ล และผู ศ รั ท ธาก็ คื อ ผู ที่ ทํ า งาน สอดคลองกับคําแนะนํา คําชี้นําจากองคอภิบาลของพวกเขา สวนคนกาเฟร คือผูที่ทําอะไรตามใจชอบของ ตัวเอง ทั้ง ๆที่สิ่งนั้นเปนของอัลลอฮฺ พวกเขากระทําไปโดยไมไดรับอนุญาตจากพระองค ปราศจากทางนํา ในเวลาเดียวกันพวกเขายังคัดคานตอตานบรรดาศาสนทูตขององคอภิบาลอีกตางหาก

39 ‫ اﻟﻨﻮر‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

9

วิชาหลักศรัทธา

การปฏิญาณตนคือ ประตูสูอิสลาม ถาม เพราะเหตุใดอิสลามจึงใหการปฏิบัติตนเปนหลักการอิสลามประการแรก ? ตอบ การปฏิญาณตนในอิสลามหมายความวา ผูปฏิญาณตนมีความพอใจมีความเชื่อมั่นยอมรับ วาโลกนี้มีพระเจาเปนผูสรางสรรค เปนผูจัดระบบ เปนผูคอยบังคับควบคุม และพระเจาผูนั้นเปนผูทรงเอกะ ไมมีภาคีใดกับพระองคทั้งสิ้น ผูปฏิญาณตนยอมรับวาตนเองเปนสิ่งถูกสรางของพระองค สวนในวรรคที่ สอง ก็มีความหมายวา ผูปฏิญานตนมีความเชื่อมั่นและยอมรับวามูฮําหมัดเปนศาสนทูตแหงอัลลอฮฺ ผูซึ่ง ไดรับการแตงตั้งมาพรอมกับทางนําและคําชี้แจงเกี่ยวกับสิ่งที่ผูทรงสรางทรงอนุมัติทรงพอพระทัย มาพรอม กับคําชี้แจงเกี่ยวกับสิ่งตองหามและสิ่งที่พระองคทรงกริ้วโกรธ เปนการยืนยันวาผูปฏิญาณตนพรอมที่จะ ปฏิบัติตามทานนบีมูฮําหมัด  เพื่อยืนยันถึงการยอมภักดีตออัลลอฮฺ ซึ่งแนนอนที่สุดหากไมมีความรูความ เขาใจเกี่ยวกับเตาฮีด การปฏิญาณตนของผูปฏิญาณก็จะเปนโมฆะ บกพรองไมผลใด ๆ เกิดขึ้น

(เมื่อเปนเชนนั้น) เพื่อใหการปฏิญาณตนของแตละคนมีความสมบูรณถูกตอง เพื่อใหอิสลามมีความสมบูรณ การ ปฏิบัติไดรับการตอบรับจากอัลลอฮฺจึงจําเปนที่จะตองมีความรูความเขาใจเกี่ยวกับหลักวิชาเตาฮีด ซึ่งอัลลอฮฺ ไดตรัสวา : óΟn=÷æ$$sù …絯Ρr& Iω tµ≈s9Î) ωÎ) ª!$# öÏøótGó™$#uρ šÎ7/Ρs%Î! t⎦⎫ÏΖÏΒ÷σßϑù=Ï9uρ ÏM≈oΨÏΒ÷σßϑø9$#uρ 3 ª!$#uρ ãΝn=÷ètƒ öΝä3t7¯=s)tGãΒ ö/ä31uθ÷WtΒuρ ∩⊇®∪1 ดังนั้นจงพึ่งทราบเถิดวา แทจริงไมมีพระเจาอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และเจาจงขออภัยแกโทษของเจา และแกบรรดาศรัทธาชนทั้งชายและหญิง และอัลลอฮฺทรงรอบรูความเคลื่อนไหวของพวกเจา (ในโลกนี้) และ ที่อยูของพวกเจา (ในโลกหนา) และอีกอายะฮฺหนึ่งอัลลอฮฺไดตรัสวา : y‰Îγx© ª!$# …絯Ρr& Iω tµ≈s9Î) ωÎ) uθèδ èπs3Íׯ≈n=yϑø9$#uρ (#θä9'ρé&uρ ÉΟù=Ïèø9$# $JϑÍ←!$s% ÅÝó¡É)ø9$$Î/ 4 Iω tµ≈s9Î) ωÎ) uθèδ Ⓝ͖yêø9$# ÞΟŠÅ6y⇔ø9$# ∩⊇∇∪

2

19 ‫ ﻣﺤﻤﺪ‬1 18 ‫ ﺁل ﻋﻤﺮان‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

10

วิชาหลักศรัทธา

อัลลอฮฺทรงยืนยันเปนสักขีพยานวา อันที่จริงพระองคนั้นไมมีพระเจาอื่นใด นอกจากพระองคและ (ไดยืนยันเชนนั้นโดย) มลาอิกะฮ. และบรรดาผูทรงคุณวุฒิทั้งหลาย โดยยืนอยูกับความเที่ยงธรรมแนนอน ที่สุดไมมีพระเจาอื่นใด นอกจากพระองคผูทรงอํานาจยิ่งอีกทั้งทรงปรีชายิ่ง ดวยเหตุนี้เอง วิชาเตาฮีดจึงนับไดวาเปนรากฐานแหงวิทยาการทางศาสนาและเปนวิชาที่ดีที่สุด

สรุปทายบท • อัลลอฮฺจะไมทรงตอบรับการกระทําของพวกไรศรัทธา(กาเฟร) อัลลอฮฺจะทรงตอบรับการ กระทําของผูที่มีใจศรัทธามั่นตออัลลอฮฺเทานั้น • ดวยเหตุเพราะวาการกระทําของผูไรศรัทธาไมไดกระทําเพื่อหวังในความโปรดปรานแหงผูทรง อํานาจ ผูทรงสราง ผูทรงเปนผูนํา เขาไมไดใสใจวาพระองคจะทรงยินดีกับการกระทําของเขา หรือพระองคจะทรงกริ้วโกรธ สิ่งที่พวกเขาควรจะไดรับคือการลงโทษ และถูกสกัดกั้นจากการ ไดรับผลบุญ • ประตูสูอิสลามคือการกลาวปฏิญาณตนและปฏิบัติตาม และจะไมถือวาการกลาวปฏิญาณตนที่ จะสมบูรณไดก็ตอเมื่อผูปฏิญานตนมีความรูความเขาใจเกี่ยวกับวิชาเตาฮีด ดวยเหตุนี้เองวิชาเตา ฮีดเปนวิชาที่สําคัญที่สุดในทัศนะของอิสลาม

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

11

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 3 ความสําคัญของวิชาเตาฮีดกับการดําเนินชีวิตในโลกนี้ ผลราย เมื่อไมมีความรูเกี่ยวกับวิชาเตาฮีด ถาม เมื่อไมมีความรูเกี่ยวกับวิชาเตาฮีดผลรายที่จะเกิดขึ้นกับการดําเนินชีวิตมนุษยคืออะไร ? ตอบ ประการแรกสุด เขาผูนั้นจะอยูอยางคนที่ไมรูจักพระผูทรงสราง อยูในโลกนี้เหมือนคนหู หนวกตาบอด ตอบตนเองไมไดวา ตนเองถูกสรางมาเพื่ออะไรและตอบไมไดวาปรัชญาของการสรางโลกนี้ มาคืออะไร เขาจะอยูกับความเขลาตลอดไปจนถึงวันสุดทายของชีวิต แมวันนั้นจะมาถึงเขาก็ยังตอบไมไดวา เขาเกิดมาเพื่ออะไร และจะไมมีโอกาสรูไปจนกระทั่งเขาเองตองจากโลกนี้ไป จากไปโดยไมรูวาเขาเองเขา มาในโลกนี้เพื่ออะไร อัลลอฮฺไดตรัสไววา : 1

"‫ﻢ‬ ‫ﻬ‬ ‫ﻯ ﱠﻟ‬‫ﺭ َﻣ ﹾﺜﻮ‬ ‫ﺎ‬‫ﻡ ﻭَﺍﻟﻨ‬ ‫ﻧﻌَﺎ‬‫ﻮ ﹶﻥ َﻭَﻳ ﹾﺄ ﹸﻛﻠﹸﻮ ﹶﻥ ﹶﻛﻤَﺎ َﺗ ﹾﺄﻛﹸﻞﹸ ﺍﹾﻟﹶﺄ‬‫ﺘﻌ‬‫ﻭﺍ َﻳَﺘ َﻤ‬‫"ﻭَﺍﱠﻟﺬِﻳ َﻦ ﹶﻛ ﹶﻔﺮ‬

และบรรดาจําพวกที่ไรศรัทธา พวกเขาก็จะเสพสุข (ในโลกนี้) และบริโภค (อยางตระกุมตะกราม) ประดุจเดียวกับปศุสัตวทั้งหลาย และนรกยอมเปนที่อยูของพวกเขา ประการที่สอง ผูที่ไมมีความเชื่อความศรัทธาตอวันกียามะฮฺ เขาก็จะทุมเทชีวิตทั้งหมดกอนที่ความ ตายจะมาถึงใหกับโลกนี้ จะกระทําเพื่อใหบรรลุกิจประโยชนทางโลกนี้ทั้งหมด เขาก็จะมีแตความโลภทาง โลกโดยจะรับทุกอยางไมวาจะเปนสิ่งฮาลาลหรือฮารอม และไมใสใจดวยวาการกระทําของเขาจะทําใหใคร เดือดรอนหรือไมอยางไร การกระทําทั้งหมดจะทุมเทเพื่อประโยชนของตัวเองแตเพียงอยางเดียว และนี่คือ จิตวิญญาณของความเห็นแกตัว ขาดความรับผิดชอบทางสังคม ไมมีจิตสาธารณะอยูในตัว การปฏิสัมพันธ ตาง ๆจะมีแตการบอนทําลาย มีแตการแกงแยงชิงดีชิงเดน ซึ่งจะตางไปจากสังคมมุสลิมผูศรัทธาซึ่งจะมี ความยึดมั่นผูกพันตอกันอยางเหนียวแนนตลอด ประการที่สาม เมื่อเขาไมมีความรูเกี่ยวกับหลักวิชาเตาฮีด หลักความเชื่อความศรัทธาของเขาก็ ลมเหลว เมื่อศรัทธาลมเหลวการกระทําทั้งหมดก็จะเปนโมฆะ สิ่งที่จะตามมาก็คือความเสื่อมทรามทาง จริยธรรม การทรยศตออัลลอฮฺก็จะยิ่งทวีมากขึ้น และโทษทัณฑแหงอัลลอฮฺก็จะประสบแกผูที่เพิกเฉยตอ ศาสนาของพระองค อัลลอฮฺไดตรัสวา : 2 "‫ﻮ ﹶﻥ‬‫ﺮ ِﺟﻌ‬ ‫ﻢ َﻳ‬ ‫ﺾ ﺍﱠﻟﺬِﻱ َﻋ ِﻤﻠﹸﻮﺍ ﹶﻟ َﻌ ﱠﻠﻬ‬ َ ‫ﻌ‬ ‫ﻢ َﺑ‬‫ﺬِﻳ ﹶﻘﻬ‬‫ﺱ ِﻟﻴ‬ ِ ‫ﺎ‬‫ﻳﺪِﻱ ﺍﻟﻨ‬‫ﺖ ﹶﺃ‬  ‫ﺴَﺒ‬ َ ‫ﺤ ِﺮ ِﺑﻤَﺎ ﹶﻛ‬  ‫ﺮ ﻭَﺍﹾﻟَﺒ‬ ‫ﺩ ﻓِﻲ ﺍﹾﻟَﺒ‬ ‫" ﹶﻇ َﻬ َﺮ ﺍﹾﻟ ﹶﻔﺴَﺎ‬

12 ‫ ﻣﺤﻤﺪ‬1 41 ‫ اﻟﺮوم‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

12

วิชาหลักศรัทธา

ความเสื่อมโทรมไดปรากฏขึ้นแลวในภาคพื้นดินและภาคพื้นทะเล เพราะการพากเพียรไวโดยฝมือ มนุษยเอง เพื่อพระองคจะไดใหพวกเขาลิ้มรส (ของการลงโทษจาก) สิ่งที่พวกเจาไดปฏิบัติไว เพื่อพวกเขาจะ ไดกลับคืน (สูพระองค) ผลดีของการเรียนรูวิชาเตาฮีดกับการดําเนินชีวิตประจําวัน ถาม ผลดีที่จะไดรับจากการเรียนรูวิชาเตาฮีดในการดําเนินชีวิตคืออะไร ? ตอบ ประการแรก ผูศรัทธาจะมีความเชื่อมั่นศรัทธาตอองคอภิบาลและศาสนทูตแตเพียงหนึ่ง เดียว พวกเขาจะไดรับคําตอบในทันทีวาเขาเองถูกสรางมาในโลกนี้เพื่ออะไร พวกเขาจะเดินไปในเสนทางที่ เที่ยงตรงแหงศาสนา เขาจะรูถึงที่มาและที่ไป การกาวเดินตลอดชีวิตจะไมมีวันหลงทาง ไมตองกาวเดินไป อยางมืดบอดอยางเด็ดขาด อัลลอฮฺไดตรัสวา : "‫ﺴَﺘﻘِﻴ ٍﻢ‬  ‫ﻣ‬ ‫ﻁ‬ ٍ ‫ﺻﺮَﺍ‬ ِ ‫ﺎ َﻋﻠﹶﻰ‬‫ﻤﺸِﻲ َﺳ ِﻮﻳ‬ ‫ﻦ َﻳ‬‫ﻫﺪَﻯ ﹶﺃﻣ‬ ‫ﺟ ِﻬ ِﻪ ﹶﺃ‬ ‫ﺎ َﻋﻠﹶﻰ َﻭ‬‫ﻣ ِﻜﺒ‬ ‫ﻤﺸِﻲ‬ ‫"ﹶﺃ ﹶﻓﻤَﻦ َﻳ‬ แลวผูที่เดินคว่าํ หนาของเขา (อยางไมสนใจสิ่งใด) จะอยูในทางชี้นํากระนั้นหรือ หรือวาผูที่เดินอยาง ตรงแนวบนหนทางอันเที่ยงตรง (จะอยูในทางชีน้ ํา)? : ประการที่สอง วิชาเตาฮีดจะหลอมรวมจิตใจของผูคนใหเปนหนึ่ง โดยหลอมรวมใหศรัทธาตอองค อภิบาลแตเพียงพระองคเดียว ศรัทธาตอศาสนทูตแหงองคอภิบาลแคเพียงผูเดียว มีทิศทาง(กิบลัต)เพียงหนึ่ง เดียว การศรัทธาจะทําใหผูคนรักใครกลมเกลียวซึ่งกันและกัน ดังที่อัลลอฮฺไดทรงใหคุณลักษณะไววา : 1

"‫ﺧ َﻮﺓﹲ‬ ‫ﻮ ﹶﻥ ِﺇ‬‫ﺆ ِﻣﻨ‬ ‫ﻤ‬ ‫ﻧﻤَﺎ ﺍﹾﻟ‬‫"ِﺇ‬ อันที่จริงมวลผูศรัทธา ยอมเปนพีน่ องกัน 2

ซึ่งทานรอซูลุลลอฮ  ไดกลาวไววา “เปรียบประหนึ่งความรักใครกลมเกลียวซึ่งกันและกันของผูมีศรัทธา เปรียบประหนึ่งวาเปนเรือนรางเดียวกันเมื่ออวัยวะสวนใดรองเรียนวาเจ็บปวด รางกายทั้งหมดก็จะพลอย เจ็บปวยไปดวยทั้งหมด” และสังคมของผูศรัทธาคือสังคมแหงความชวยเหลือซึ่งกันและกันในการทําความดี และการยําเกรงตออัลลอฮฺ สังคมจะหักหามสมาชิกของสังคมมิใหกระทําบาป มิใหเปนศัตรูซึ่งกันและกัน ทุกคนจะตองพยายามทุมเทเพื่อใหไดมาซึ่งความโปรดปรานจากองคอภิบาลแหงพวกเขา ตางหวาดเกรงวา จะเกิดการฉอฉลเอารัดเอาเปรียบ ลักขโมย ฉอโลง เขนฆาซึ่งกันและกัน โกหกหลอกลวง ผิดประเวณีที่ ตองหาม เกรงกลัวกันวาจะเกิดการฉอราษฎรบังหลวง กินสินบาทคาดสินบน อิจฉาริษยาซึ่งกันและกัน หวั่น เกรงวาจะเกิดการนินทาวารายซึ่งกันและกัน ทํารายซึ่งกันและกัน พวกเขาตางยําเกรงตออัลลอฮฺ เกรงวาวัน 22 ‫ اﻟﻤﻠﻚ‬1 10 ‫ اﻟﺤﺠﺮات‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

13

วิชาหลักศรัทธา

หนึ่งตองไปยืนอยูตอหนาพระพักตของพระองคเพื่อสอบสวนในการกระทํา และเมื่อมุสลิมมีความยึดมั่น เชื่อมั่นตอหลักวิชาเตาฮีด อัลลอฮฺก็จะไดตรัสกลาวถึงพวกเขาไววา : "‫ﻮ ﹶﻥ ﺑِﺎﻟ ﹼﻠ ِﻪ‬‫ﺆ ِﻣﻨ‬ ‫ﺗ‬‫ﻨ ﹶﻜ ِﺮ َﻭ‬‫ﻮ ﹶﻥ َﻋ ِﻦ ﺍﹾﻟﻤ‬ ‫ﻨ َﻬ‬ ‫ﻑ َﻭَﺗ‬ ِ ‫ﻭ‬‫ﻌﺮ‬ ‫ﻭ ﹶﻥ ﺑِﺎﹾﻟ َﻤ‬‫ﻣﺮ‬ ‫ﺱ َﺗ ﹾﺄ‬ ِ ‫ﺎ‬‫ﺖ ﻟِﻠﻨ‬  ‫ﺧ ِﺮ َﺟ‬ ‫ﻣ ٍﺔ ﺃﹸ‬ ‫ﻴ َﺮ ﺃﹸ‬ ‫ﻢ َﺧ‬ ‫ﺘ‬‫"ﻛﹸﻨ‬ พวกเจาเปนประชาชาติที่ดีทสี่ ุด ที่ถูกใหอุบัติมาเพื่อมนุษยชาติ พวกเจาใช (ใหกระทํา) แตคุณธรรม หาม (กระทํา) สิ่งตองหาม และพวกเจามีศรัทธามั่นในอัลลอฮฺ 1

ประการที่สาม การศรัทธาก็จะแผกระจายสูมวลมนุษย ผลที่จะตามมาก็คือการกระทําความดีเพื่อ แสดงหาความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ซึ่งพระองคก็จะเปดประตูแหงความจําเริญและจะทรงชวยเหลือพวก เขาใหประสบชัยจากศัตรูทั้งมวล อัลลอฮฺไดตรัสไววา : ‫ﻢ‬‫ﻮﹾﺍ ﹶﻓﹶﺄ َﺧ ﹾﺬﻧَﺎﻫ‬‫ﺽ َﻭﻟﹶـﻜِﻦ ﹶﻛ ﱠﺬﺑ‬ ِ ‫ﺭ‬ ‫ﺴﻤَﺎﺀ ﻭَﺍ َﻷ‬  ‫ﻣ َﻦ ﺍﻟ‬ ‫ﺕ‬ ٍ ‫ﻴﻬِﻢ َﺑ َﺮﻛﹶﺎ‬ ‫ﺤﻨَﺎ َﻋ ﹶﻠ‬  ‫ﺗﻘﹶﻮﹾﺍ ﹶﻟ ﹶﻔَﺘ‬‫ﻮﹾﺍ ﻭَﺍ‬‫ﻫ ﹶﻞ ﺍﹾﻟ ﹸﻘﺮَﻯ ﺁ َﻣﻨ‬ ‫ﻮ ﹶﺃ ﱠﻥ ﹶﺃ‬ ‫" َﻭﹶﻟ‬ "‫ﻮ ﹶﻥ‬‫ﺴﺒ‬ ِ ‫ﻮﹾﺍ َﻳ ﹾﻜ‬‫ِﺑﻤَﺎ ﻛﹶﺎﻧ‬ และมาดแมนชาวเมืองนั้น มีศรัทธาและมีความยําเกรง แนนอนเราก็จะเปดแกพวกเขาซึ่ง (ประตู แหง) ความจําเริญตางๆ จากฟากฟา และแผนดิน และแตทวาพวกเขาไดกลาวหา (ศาสนทูต) วามุสา ดังนั้น เราจึงลงโทษพวกเขา เพราะสิ่งที่พวกเขาไดขวนขวายไว

2

"‫ﻢ‬ ‫ﺖ ﹶﺃ ﹾﻗﺪَﺍ َﻣ ﹸﻜ‬  ‫ﺒ‬‫ﹶﺜ‬‫ﻢ َﻭﻳ‬ ‫ﺮ ﹸﻛ‬ ‫ﺼ‬  ‫ﻭﺍ ﺍﻟ ﱠﻠ َﻪ ﻳَﻨ‬‫ﺼﺮ‬  ‫"ﺇِﻥ ﺗَﻨ‬ หากพวกเจาชวยเหลือ (ศาสนาของ) อัลลอฮฺ พระองคจะทรงชวยเหลือพวกเจา และทรงย้ําจุดยืน ของพวกเจาใหมั่นคง (ในแนวทางของพระองค) และนี่คือรูปแบบการดําเนินชีวิตของมุสลิมในรุนแรก ๆ ซึ่งพวกเขาคือกลุมคนที่ออนแอ ยากจน อนาถา แตพวกเขาตางก็มีศรัทธามั่น พวกเขากระทําแตความดี อัลลอฮฺก็ทรงเปดประตูแหงความโปรดปราน ในทางโลกใหกับพวกเขา ใหพวกเขาประสบกับความร่ํารวยซึ่งมาจากความโปรดปรานแหงอัลลอฮฺ ทรง ประทานใหพวกเขามีชัยเหนือศัตรูคูอาฆาตไดทั้งหมด 3

สรุปทายบท

110 ‫ ﺁل ﻋﻤﺮان‬1 96 ‫ اﻷﻋﺮاف‬2 7 ‫ ﻣﺤﻤﺪ‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

14

วิชาหลักศรัทธา

• ผูใดที่ไมมีความรูความเขาใจเกี่ยวกับเตาฮีด (เอกานุภาพแหงอัลลอฮฺ) เขาจะใชชีวิตในโลกนี้อยาง คนตาบอด มีชีวิตอยูอยางสัตว หาคําตอบใหกับตัวเองไมไดวาเขาเองมาในโลกนี้เพื่ออะไร ไปจนกระทั่งถึง เวลาที่ตองจากโลกนี้ไปแลวก็ยังตอบตัวเองไมไดวาเขามายังโลกนี้เพื่ออะไร • ผูที่ไมมีความเชื่อความศรัทธาตอวันกียามะฮฺ จะมีแตความโลภความอยากไดในเรื่องของทางโลก ไมคําถึงวาสิ่งใดฮาลาล สิ่งใดฮารอม ซึ่งความรูสึกนี้คือตัวบอนทําลายทั้งชีวิตตัวเองและสรางความแตกแยก ใหเกิดขึ้นกับสังคม • เมื่อใดที่ความศรัทธาออนแรงลง สิ่งชั่วรายทั้งมวลก็จะเริ่มกําเริบเสิบสานเพิ่มขึ้น และเมื่อถึงวันนั้น สิ่งที่จะตามมาคือการลงโทษจากอัลลอฮฺที่จะสงลงมาใหกับผูกระทําบาป • สวนผูศรัทธาที่รูจักองคอภิบาล รูจักผูทรงสราง เขาก็จะรูไดวาเพราะเหตุใดอัลลอฮฺจึงทรงอุบัติให เขามาเกิดในโลกนี้ ชีวิตของเขาก็จะดําเนินไปตามทางนําแหงอัลลอฮฺทั้งหมด เขาก็จะเดินไปในเสนทางที่ เที่ยงตรง ผูศรัทธาจะไมฉอฉลเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ไมมีการลักขโมย ไมผิดประเวณี ไมกอกรรมทํา บาป ไมกระทําในสิ่งที่ตองหามในขณะที่เขาเองยังเปนผูศรัทธา ดวยสิ่งดังกลาวนี้เองมนุษยจะใชชีวิตอยางมี ความสุข สังคมของผูศรัทธาจะมีแตความเปนพี่นอง มีความสามัคคีกลมเกลียวซึ่งกันและกัน • การศรัทธาจะกอใหเกิดผลเปนการกระทําที่ดี และเปนที่โปรดปรานของอัลลอฮฺ และพระองคก็จะ ทรงเปดประตูแหงความเปนมงคลใหกับพวกเขา พระองคก็จะทรงหยิบยื่นชัยชนะเหนือศัตรูคูอาฆาตใหกับ พวกเขา ดังเชนที่เคยเกิดขึ้นมาแลวกับซะลัฟซอเลียะฮฺรุนเกากอนของประชาชาตินี้

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

15

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 4 จะรูจักอัลลอฮฺไดอยางไร รูวาอัลลอฮฺทรงมี ถาม เราจะรูไดอยาไรวาอัลลอฮฺทรงมีอยูจริง ตอบ เมื่อทานมองเห็นจากไกลวามีรถคันหนึ่งวิง่ ไปขางหนาทานไดอยางรวดเร็ว มองเห็น เครื่องบินบินทยานขึ้นสูทองฟา สิ่งแรกทีท่ านจะตองยอมรับและจะตองมั่นใจคือ ทัง้ รถและเครื่องบินจะตอง มีคนขับจะตองมีนักบินคอยบังคับทิศทางเพื่อใหทั้งเครื่องบินและรถยนตบินหรือวิ่งไปในทิศทางที่ตองการ ถาม เราจะมั่นใจไดอยางไรวาทั้งรถและเครื่องบินจะตองมีคนขับจะตองมีนักบินคอยขับคอย บังคับอยู ? ตอบ หากไมมีคนขับคอยบังคับทิศทางทั้งรถและเครื่องบินก็จะไมสามารถวิง่ หรือบินไปใน ทิศทางที่ตองการได เครื่องบินก็จะไมสามารถบินไปยังเมืองนั้นเมืองนี้ได ถาม เราจะรูไดอยางไรวาอัลลอฮฺทรงมีอยู ? ตอบ อัลลอฮฺก็คือผูบังคับทิศทางการโคจรของดวงอาทิตย ดวงจันทร ดวงดาวตางๆ พระองคคือผู ที่คอยบังคับสลับสับเปลี่ยนระหวางกลางวันและกลางคืน พระองคก็คือผูทรงสรางสิ่งถูกสรางทั้งหมด ทั้งหลายทั้งปวง จึงสามารถมั่นใจไดเลยวาพระองคจะตองมีอยูจริง ถาม ทําไมถึงเปนเชนนั้น ตอบ หากอัลลอฮฺไมมีอยู (‫ )اﺳﺘﻐﻔﺮ اﷲ‬แนนอนที่สุดทั้งดวงอาทิตยและดวงจันทร ดวงดาวตางๆ กลางวันกลางคืนก็จะหยุดโคจร หรือหลุดลอยออกไปจากระบบ สิ่งถูกสรางตางก็คงจะมลายหายไปหมด เพราะสิ่งถูกสรางเหลานี้ จะเกิดขึ้นไดอยางไร หากไมมีผูทรงสราง เมื่อไมมีผูทรงสรางสรรพสิ่งตางๆ ก็จะไม มีดวยเชนกัน อัลลอฮฺไดตรัสไววา : "‫ﻮ ﹶﻥ‬‫ﻮ ِﻗﻨ‬‫ﺽ ﺑَﻞ ﻟﱠﺎ ﻳ‬ َ ‫ﺭ‬ ‫ﺕ ﻭَﺍﹾﻟﹶﺄ‬ ِ ‫ﺴﻤَﺎﻭَﺍ‬  ‫ﻡ َﺧ ﹶﻠﻘﹸﻮﺍ ﺍﻟ‬ ‫ ﹶﺃ‬، ‫ﻢ ﺍﹾﻟﺨَﺎِﻟﻘﹸﻮ ﹶﻥ‬ ‫ﻫ‬ ‫ﻡ‬ ‫ﻲ ٍﺀ ﹶﺃ‬ ‫ﻴ ِﺮ َﺷ‬ ‫ﻦ ﹶﻏ‬ ‫ ِﻠﻘﹸﻮﺍ ِﻣ‬‫ﻡ ﺧ‬ ‫"ﹶﺃ‬ หรือวาพวกเขาถูกบันดาลขึน้ มาโดยไมมีผใู ด (บันดาล) หรือวาพวกเขาเปนผูบ ันดาลเสียเอง?หรือวา พวกเขาไดบนั ดาลฟากฟาและแผนดินไว (ความจริงก็เปลาทั้งสิ้น) ทวาพวกเขาก็ไมเชือ่ มั่นเอง 1

การรูจักคุณลักษณะของอัลลอฮฺ ถาม เราจะรูจักคุณลักษณะของอัลลอฮฺไดอยางไร ? ตอบ เราสามารถรูจักคุณลักษณะของอัลลอฮฺไดดวยการสังเกตบรรดาสิ่งถูกสรางทั้งหลายทั้งปวง แลวนํามาขบคิดพินิจพิเคราะห และสามารถรูจักคุณลักษณะของพระองคไดจากการเรียนรูผานศาสนทูตของ พระองคทั้งหมด อัลลอฮฺไดตรัสไววา : 36-35 ‫ اﻟﻄﻮر‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

16

วิชาหลักศรัทธา

"‫ﻮ ﹶﻥ‬‫ﻮ ِﻗﻨ‬‫ﻮ ٍﻡ ﻳ‬ ‫ ﱢﻟ ﹶﻘ‬‫ﺑ ٍﺔ ﺁﻳَﺎﺕ‬‫ﺚ ﻣِﻦ ﺩَﺍ‬ ‫ﺒ ﱡ‬‫ﻢ َﻭﻣَﺎ َﻳ‬ ‫ َﻭﻓِﻲ َﺧ ﹾﻠ ِﻘ ﹸﻜ‬، ‫ﲔ‬ َ ‫ﺆ ِﻣِﻨ‬ ‫ﺕ ﱢﻟ ﹾﻠﻤ‬ ٍ ‫ﺽ ﻟﹶﺂﻳَﺎ‬ ِ ‫ﺭ‬ ‫ﺕ ﻭَﺍﹾﻟﹶﺄ‬ ِ ‫ﺴﻤَﺎﻭَﺍ‬  ‫"ِﺇ ﱠﻥ ﻓِﻲ ﺍﻟ‬ แทจริงในฟากฟาและแผนดิน ยอมเปนสัญลักษณ (ชี้ถึงเอกานุภาพ และเดชานภาพแหงอัลลอฮฺ) สําหรับมวลศรัทธาชนและในการบันดาลพวกเจา รวมทั้งส่ําสัตวทงั้ หลายที่แยกยายกัน (อยูบนหนาแผนดิน) ก็เปนสัญลักษณสําหรับกลุมชนที่มีความเชือ่ มั่น 1

การสังเกตสรรพสิ่งตางๆ แลวนํามาขบคิดจะทําใหรูจกั คุณลักษณะของอัลลอฮฺไดอยางไร ? เมื่อทานขบคิดพินิจพิเคราะหเกี่ยวกับรถยนต ทานก็จะเห็นวา • รถยนต ถูกสร า งมาจากเหล็ก สิ่ง แรกที่ทานคิ ด ไดก็คือ ผู สรางรถยนตจ ะตองมี เ หล็ก ผูสรางรถยนตจะตองมีความสามารถในการคนคิดผลิตและสรางในรูปแบบรูปลักษณดังที่เห็น • กระจกที่มีอยูกับตัวรถที่ทานเห็น จะทําใหทานเขาใจไดในทันทีวา ผูผลิตรถยนตจะตอง มีกระจก มีความสามารถที่จะออกแบบกระจกใหออกมาในรูปของแผนกระจกที่แบนราบ ในรูปแบบที่ สามารถนํามาเปนฝาครอบดวงไฟไดดังที่เห็น • ผูผลิตจะตองมีสายไฟเพื่อนํากระแสไฟฟาจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งในตัวรถได • ผูผลิตจะตองมีความรูความเขาใจในการผลิตทุกชิ้นสวนของตัวรถ • ผูผลิตจะตองมีประสบการณทางดานการออกแบบในการสรางสรรคตัวรถ • ผูผลิตจะตองมีเจตนารมณในการสรางสรรครถจากวัตถุดิบที่จะนํามาผลิตและสราง ซึ่งจากการวิเคราะหในลักษณะนี้ทั้งหมดจะชวยใหเราสามารถรูไดถึงคุณลักษณะของผูผลิตรถยนต วามีคุณลักษณะอยางไร ถาม ตามตัวอยางที่ไดกลาวมามีความสัมพันธอยางไรกับการรูจักคุณลักษณะของอัลลอฮฺ ? ตอบ ดังที่ไดกลาวมาแลว การรูจักคุณลักษณะของผูสรางและผลิตรถยนตสามารถรับรูไดจาก การขบคิดพินิจพิเคราะหสังเกตจากตัวรถยนตที่ถูกผลิตมา (อัลลอฮฺทรงสูงสงกวาสิ่งอื่นใดทั้งมวล) เราก็จะ สามารถรูไดวา คุณลักษณะของอัลลอฮฺบางประการสามารถรับรูไดจากการขบคิดพินิจพิเคราะหมาจาก สรรพสิ่งที่ถูกสรางมาทั้งหมดของพระองค ซึ่งเราเองจะพบวา • สรรพสิ่งตางๆ ที่อัลลอฮฺทรงสรางสรรคขึ้นมาลวนแลวแตมีปรัชญาแฝงอยู และจะพบไดวา มันถูกสรางมาของผูทรงชาญฉลาดยิ่ง • และเราก็มองพบวาสิ่งถูกสรางของอัลลอฮฺถูกสรางสรรคมาดวยความเชี่ยวชาญเปนการ สรางสรรคของผูเชี่ยวชาญยิ่ง • เราจะไดเห็นถึงพลังแหงสรรพสิ่งซึ่งสามารถบอกไดวามันเปนการสรางสรรคของผูทรง พลังยิ่ง ถาม ตอบ

4-3 ‫ اﻟﺠﺎﺛﻴﺔ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

17

วิชาหลักศรัทธา

• เราจะพบวาสิ่งถูกสรางทั้งหมดลวนแลวแตมีรูปลักษณที่สวยสดงดงาม นั่นก็แสดงวาเปน การสรางสรรคของผูที่ทรงมีความสามารถในการออกแบบที่ชํานาญยิ่ง • สรรพสิ่งต าง ๆ ที่ ถูกสร างมาหลายสิ่งหลายอยางลว นแลว แตมีชีวิต นั่ น ก็ แสดงว า เปน ผลงานการสรางสรรคของผูที่ทรงเปนอยูอยางแนนอน • สรรพสิ่งหลายอยางสามารถเปนทางนําไดเปนอยางดี นั่นก็แสดงวาผูทรงสรางสรรคจะตอง เปนผูชี้นําทาง • ในสรรพสิ่งที่ถูกสรางทั้งหมดลวนแลวแตมีความรูแฝงอยู นั่นก็แสดงวาผูทรงสรางเปนที่ ทรงรอบรูยิ่ง • หลายสิ่งมีความปกปองแฝงอยูนั่นก็แสดงวาผูทรงสรางจะตองมีคุณลักษณะที่เปนผูปกปอง • สิ่ ง ถู ก สร า งหลายอย า งสามารถเป น ป จ จั ย ยั ง ชี พ ได นั่ น ก็ แ สดงว า ผู ท รงสร า งจะต อ งมี คุณลักษณะเปนผูทรงใหปจจัยยังชีพได • สรรพสิ่งทั้งหมดลวนแลวแตถูกจัดไวอยางมีเปนระบบและทุกอยางล วนแลวแตอยูใ น ระบบทั้งหมด นั่นก็แสดงวาเปนผลงานการสรางสรรคของผูทรงเอกะ คุณลักษณะเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตไดมาจากการขบคิด พินิจพิเคราะหจากสิ่งถูกสรางทั้งหลาย ทั้งมวลที่มีอยู จนสามารถเขาใจไดวา พระผูทรงสรางนั้นเปนผูทรง เชี่ยวชาญยิ่ง ทรงมีประสบการยิ่ง ทรง เดชานุภาพ เปนผูทรงสรางสรรค เปนผูทรงชี้นํา เปนผูทรงรอบรู ทรงเปนอยู ทรงปกปอง ทรงใหปจจัยยัง ชีพ ทรงเอกะ ถาม คุณลักษณะของอัลลอฮฺทั้งหมดสามารถรูไดดวยการขบคิดพินิจเคราะหไดทั้งหมดหรือไม อยางไร ? ตอบ เราไมสามารถเรียนรูคุณลักษณะของอัลลอฮฺไดดวยการขบคิดทั้งหมด ถาม เพราะเหตุใดเราจึงไมสามารถรับรูไดดวยการขบคิดทั้งหมด ? ตอบ การที่ เ ราพิ นิ จ พิ เ คราะห ใ นตั ว ของรถยนต เราก็ จ ะรู ไ ด แ ต เ พี ย งว า ผู ผ ลิ ต เป น ผู ท่ี มี ความสามารถ เปนผูที่มีความรู มีประสบการณ มีความเชี่ยวชาญ มีเจตนารมณในการสราง เขาจะตองมีเหล็ก เปนวัตถุดิบ มีแกว มีสายไฟและอื่น ๆ ที่เปนวัตถุดิบในการสราง แตเราไมอาจจะรูไดวา ผูสรางรถยนตเปน คนโอบออมอารีย มีน้ําใจ หรือเปนผูตระหนี่ขี้เหนียวหรือไมอยางไร เขาเปนคนสูงต่ําดําขาว อวนเตี้ย จะรัก เราชอบเราหรือไมอยางไร เปนผูที่ฉอฉลหรือเปนผูทรงธรรมหรือไมอยางไร ไมสามารถรูได มหาบริสุทธิ์แหงอัลลอฮฺก็เชนกัน คุณลักษณะแหงพระองคหลายประการเราสามารถรับรูไดดวยการ ขบคิดพินิจพิเคราะหจากสิ่งถูกสรางทั้งมวล แตก็ยังมีคุณลักษณะอีกหลายประการที่เราเองไมอาจจะรูได และเราไมรูวาอัลลอฮฺทรงสรางเรามาเพื่ออะไร ? เมื่อสรางมาแลวทําไมพระองคทรงใหเราตองตายจากไปอีก ? และคุณลักษณะของพระองคอีกหลายประการที่เราไมรู เชน การที่พระองคทรงเปนที่เคารพภักดี การที่

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

18

วิชาหลักศรัทธา

พระองคทรงสูงสง การที่พระองคทรงเปนผูสอบสวน การที่เปนผูอัปถัมภ ทรงเปนผูใหอภัย เราจะรูไดก็ ตอเมื่อเราไดเรียนรูจากพระองคเอง ถาม คุณลักษณะของอัลลอฮฺที่เราไมรูเราจะรับรูไดอยางไร ? ตอบ เราสามารถรับรูเรียนรูไดผานการบอกเลาของศาสนทูตของอัลลอฮฺที่ถูกแตงตั้งใหมาเสี้ยมสอน พวกเราตามพระประสงคขององคอภิบาล สิ่งที่เราไมอาจเรียนรูไดดวยตนเองเราก็สามารถเรียนรูไดจากการ สอนของศาสนทูตเหลานี้ทั้งหมด อัลลอฮฺไดตรัสไววา : "‫ﻦ ِﻋ ﹾﻠ ِﻤ ِﻪ ِﺇ ﱠﻻ ِﺑﻤَﺎ ﺷَﺎﺀ‬ ‫ﻣ‬ ‫ﻲ ٍﺀ‬ ‫ﺸ‬ َ ‫ﺤِﻴﻄﹸﻮ ﹶﻥ ِﺑ‬‫" َﻭ ﹶﻻ ﻳ‬ และพวกเขาไมครอบคลุมความรูสักเพียงเล็กนอยของพระองค นอกจากในสิ่งที่พระองคทรง ประสงค (จะใหพวกเขารู) เทานั้น สรุปทายบท • เมื่อเราสังเกตเห็นไดวารถยนตสามารถวิ่งไดเครื่องบินก็สามารถบินได เราก็จะตองรูว าทั้งสอง ตองมีคนขับคอยบังคับทิศทางอยู • เมื่อเราสังเกตเห็นวาดวงอาทิตยดวงจันทร ดวงดาวทุกดวงซึ่งโคจรตามเสนทางของมันอยางมี ระบบ รวมทั้งกลางคืนกลางวันที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราก็มั่นใจได วาจะตองมีผูทรงสรางคอยควบคุมอยู • หากไมมีผูทรงสรางสรรพสิ่งตางๆ ก็คงไมเกิดขึ้นอยางแนนอน • เมื่อเราพินิจพิเคราะหเกีย่ วกับรถ เราก็คิดไดวารถตองมีผูผลิตผูสราง ผูสรางก็จะตองมีเหล็ก มี กระจก มีสายไฟ มีวัตถุดิบอืน่ ๆทั้งหมด ทีจ่ ะมาประกอบเปนตัวรถ ผูผลิตจะตองมีความสามารถ มีความรูความเขาใจ มีประสบการณเกีย่ วกับการออกแบบ มีเจตนารมณที่จะสราง • เมื่อเรามาขบคิดเกี่ยวกับสิ่งถูกสรางของอัลลอฮฺทั้งหมด เราก็จะรูไดวาสิ่งเหลานี้ลวนแลวแต เกิด ขึ้น จากฝ มื อ ของผูทรงชาญฉลาด ผูมี ประสบการณ เปน สิ่ง ถูกสรา งที่มีพ ลั งที่ ไ ดรับ การ สรางสรรคจากผูทรงเดชานุภาพ เปนชิ้นงานที่สวยสดงดงามจากฝมือของผูทรงสรางสรรค ใน สิ่งถูกสรางจะมี ทางนําที่มาจากผูทรงชี้นํา มีความรูจากผูทรงรอบรู มีการปกปองจากผูทรง ปกปอง มีปจจัยยังชีพจากผูใหปจจัยยังชีพ มีระบบจากผูทรงจัดและควบคุมระบบที่เปนเอกภาพ แนนอน และจะตองมาจากผูทรงเอกะ • พระองค ทรงส งศาสนทู ตมายั งพวกเราเพื่อสั่ งสอนในสิ่งที่พวกเรายังเขลา ในเรื่อ งเกี่ย วกับ คุณลักษณะของอัลลอฮฺและบัญญัติตาง ๆ ของพระองค 1

255 ‫ اﻟﺒﻘﺮة‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

19

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 5 มนุษยควรคิดพินิจไตรตรองยังอาหารของพวกเขา ถาม ทําไมอัลลอฮฺจึงทรงใหพวกเราสังเกตและพินิจพิเคราะหถึงอาหารของพวกเรา ดังที่ พระองคไดตรัสไววา : 1 "‫" ﹶﻓ ﹾﻠﻴَﻨ ﹸﻈ ِﺮ ﺍﹾﻟﺈِﻧﺴَﺎﻥﹸ ِﺇﻟﹶﻰ ﹶﻃﻌَﺎ ِﻣ ِﻪ‬ ดังนัน้ มนุษยจงพินิจยังอาหารของเขาเถิด ตอบ อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ไดทรงใชใหพวกเราขบคิดพินิจพิเคราะหตอทุกสิ่งทุกอยาง และในอายะฮฺนี้พระองคไดทรงใชใหเราพินิจพิเคราะหถึงอาหารของพวกเรา เพราะอาหารการกินของพวก เราเปนสิ่งสรางสรรคของอัลลอฮฺดังที่ไดกลาวมาแลววาในสรรพสิ่งตาง ๆ ที่อัลลอฮฺทรงสรางสรรคมานั้น ลวนแลวแตมีสัญญาณสัญลักษณที่จะทําใหเราสามารถรูจักคุณลักษณะบางประการขององคอภิบาลของพวก เราได ถาม คุณลักษณะขององคอภิบาลคุณลักษณะใดบางที่เราสามารถเรียนรูไดจากการขบคิดพินิจ พิเคราะหจากอาหารการกินของพวกเรา ? ตอบ เราสามารถเรียนรูไดมากมายหลายคุณลักษณะ เชน เราจะไดรูวา พระองคคือผูทรงให ปจจัยยังชีพ ผูทรงรอบรู ผูทรงมีประสบการณ ผูทรงชาญฉลาดยิ่ง ผูทรงเมตตา ผูทรงเอื้ออารีย ผูทรงชี้นํา ผู ทรงเปนอยู ผูทรงสรางสรรคออกแบบ ถาม เราจะรูไดอยางไรวาอัลลอฮฺทรงเปนผูประทานปจจัยยังชีพให ? ตอบ อัลลอฮฺคือผูประทานปจจัยยังชีพใหกับมนุษยมาตั้งแตยังอยูในครรภมารดา ผูที่ใหปจจัยยัง ชีพไมใชบิดา มารดา ไมใชรัฐบาล ไมใชราษฏรษ และไมมีใครสามารถใหปจจัยยังชีพแกทารกในครรภ มารดาได แตอัลลอฮฺตางหากคือผูประทานปจจัยยังชีพใหผานทางสายสะดือที่ติดอยูในทองของทารก โดย เชื่อมตอไปยังมดลูกของมารดา และพระองคก็ทรงใหอาหารกับทารกผานทางสายสะดือเปนเวลานานถึง 9 เดือนจนกระทั่งถึงเวลาคลอดออกมาจากครรภมารดา และเมื่อทารกคลอดออกมาจากครรภมารดาแลว สาย สะดือก็จะตองถูกตัดออกไป การใหอาหารผานทางนี้ก็สิ้นสุดลง จากนั้นอัลลอฮฺก็จะทรงเปดทางใหมสําหรับ การใหอาหาร นั่นคือ ปาก กระเพาะอาหาร และสําไส มารดาของทานหรือคือผูที่ปดเสนทางการใหอาหารทางสายสะดือ แลวเปดเสนทางใหมผานทาง ปากแลวเตรียมความพรอมเครื่องมือการยอยอาหารตาง ๆ ใหกับทารก? หรือวาบิดาของทานเขามามีสวน รวมดวย ? หรือวารัฐบาลหรือประชาชนเขามามีสวนในการสรางหยาดเหงื่อและหยดเลือดใหกับทารกดวย? 1

สูเราะฮฺอะบะสะ : 24

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

20

วิชาหลักศรัทธา

หรือวาภูเขา ตนไม ดวงดาว ดวงเดือน หรือสวนหนึ่งสวนใดของธรรมชาติคือผูที่จัดระบบการให อาหารกับพวกทาน ? หลัง จากที่ ทา นออกมาจากครรภม ารดา ออกมาเป น ทารกตั ว น อย ๆ แลว ท า นไม สามารถที่ จ ะ รับประทานอาหารที่เปนเม็ดเปนกอน ไมผล เนื้อ และขนมปงได อาหารของทานที่เคยไดรับจากครรภมารดา ผานสายสะดือก็ถูกตัดออกไป แลวพระองคทรงตัดการใหอาหารของทานออกไปโดยไมใหอาหารเลยหรือ อยางไร ? เปลาเลย อัลลอฮฺทรงเปดทางใหอาหารใหมเพื่อที่จะใหอาหารแกพวกทาน โดยใหอาหารเปนน้ํานม จากทรวงอกของมารดา และพระองคก็ไดทรงดลใจใหทานดูดนมจากเตามารดา ซึ่งในขณะนั้นทานยังอยูใน ภาวะที่ไมรับรูอะไรเลย ? แลวธรรมชาติรูหรือเปลาวาทานไดออกมาจากครรภมารดาแลวอาหารการกินของทานก็ถูกตัดขาด ดังนั้นมันก็ไดอาหารจากทรวงอกของมารดา ? เปนไปไดอยางไรในเมื่อธรรมชาติที่เปนไบหูหนวกไมมีความรูอะไรเลย ไมมีปรัชญาอะไรแอบ แฝง? อยูเลย หรือวาจะมีใครบางคนเขามามีสวนในการกํากับดูแลการใหอาหารจากทรวงอกมารดาของ ทาน? แทจริงแลวมารดาของทานที่ทานไดดูดนมจากทรวงอกของนางไมใชผูผลิตน้ํานม แตนางเปนแคผู อํานวยความสะดวกตามบัญชาแหงองคอภิบาลเทานั้น. แตการพึ่งพามารดาเมื่อไรจะสิ้นสุด เพราะอีกไมนานนองของทานก็จะตามติดมาซึ่งเขาก็จะตองพึง พาน้ํานมจากมารดาของทานอีก ฉะนั้นทานจะตองแยกออกมาจากมารดาของทาน เมื่อเปนเชนนั้นทานก็ จะตองพึ่งพาแหลงอาหารใหม • ผูที่ประทานปจจัยยังชีพใหแกทานขณะที่ทานอยูในครรภมารดา • ผูที่ประทานปจจัยยังชีพใหกับทานขณะที่ทานยังเปนทารกนอย แทจริงพระองคไดเตรียมปจจัยยังชีพไวใหกับทานแลวในทุกที่ที่ทานเดินไปในผืนแผนดิน ทุกที่ทานก็ จะพบวามีผืนแผนดินลวนแลวแตเหมาะสมกําหรับการเพาะปลูก ทุกที่ไดมีการสรางน้ําที่พืชพันธตองการ เพื่อนําเอาสิ่งเหลานี้มาเปนอาหารใหกับมวลมนุษยทั้งหมด ทุกที่จะมีการเตรียมอากาศที่พืชผลตองการ เพื่อ การที่จะนํามาเปนอาหารใหกับมนุษยทั้งหมด มีการเตรียมความพรอมในเรื่องของแสงอาทิตยซึ่งเปนสิ่งที่ พืชผลตองการเพื่อนํามาเปนวัตถุดิบในการสรางอาหารใหกับมนุษย พืชผลที่มากมายจนสามารถออกดอก ออกผลที่เพียงพอกับจํานวนความตองการในการที่จะนํามาประกอบเปนอาหารใหกับทุกคน ทรงประทานมา ซึ่งพืชผลที่หลากหลายรูปแบบ บางก็เปนเมล็ดที่รวมกันเปนรวงอยางเชน ขาว ขาวโพด ขาวสาลี บางก็เปน ผลที่ออกมาเปนพวงใหญ อยางเชนองุน ลําไย ลิ้นจี่ ลองกองบางก็ออกมาเปนผลใหญ อยางเชน สม แอปเปล ทุเรียน แตงโม แตงไทย เปนตน

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

21

วิชาหลักศรัทธา

• ทรงตระเตรี ย มโรงงานย อ ยอาหารที่ เ พี ย บพร อ ม มี ฟ น ช ว ยในการบดเคี้ ย วอาหาร มี ลิ้ น คอย ปรับเปลี่ยนในการชวยยอย มีน้ําลายหลอเลี้ยงเพื่อใหการบดอาหารที่มาจากพืชผลเหลานี้และชวยในการกลืน ลงทองไดงายและสะดวกยิ่งขึ้น การที่เราไดขบคิดพินิจพิเคราะหในสิ่งเหลานี้ทั้งหมดจะชวยใหเรารูจักอัลลอ ฮฺและรูวาพระองคคือผูทรงใหปจจัยยังชีพแกเรา. ถาม: คุณลักษณะอื่น ๆ ของอัลลอฮฺที่เหลือนอกจากนั้น เราสามารถรูจักไดอยางไร ? ตอบ: การที่เราจะสามารถรับรูไดวาอัลลอฮฺทรงรอบรู เพราะการที่ผูที่จะประทานอาหารใหกับ ทานในขณะที่ทานยังอยูในครรภมารดา ขณะที่ทานจะตองรับประทานอาหารผานทางสายสะดือ ผูใหอาหาร จะตองรูวาเวลาไหนทานตองการอาหารเวลาไหนทานหิว และเมื่อทานออกจากครรภมารดามาแลว ผู ประทานอาหารจะตองรู เพื่อที่จะประทานน้ํานมผานทรวงอกมารดาใหกับทาน และจะตองรอบรูดวยวาใน ดินมีน้ําเพื่อที่จะสรางพืชใหหยั่งรากลึกลงไป และจะตองรูดวยวาสวนไหนมีแรธาตุที่เหมาะสมสําหรับ ตนไมแตละชนิด และจะตองรอบรูดวยวา ใบไมนั้นตองการแสงอาทิตยเพื่อการปรุงอาหาร ซึ่งจะตองสราง ใบไมใหเหมาะสมกับการรับแสงอาทิตยในปริมาณที่เหมาะสมกับความตองการ และจะตองรูดวยวาพืชผล ตาง ๆ ที่สรางขึ้นลวนแลวแตตองการน้ํา เมื่อเปนเชนนั้นแนนอนที่สุดอัลลอฮฺคือผูใหปจจัยยังชีพที่ทรงรอบรู ยิ่ง ถาม: เราจะรูไดอยางไรวาอัลลอฮฺทรงปรีชาญาญยิ่ง ? ตอบ : หากทานสังเกตระบบการเชื่อมตอสายสะดือที่เชื่อมตอระหวางทารกในครรภมารดา ซึ่ง เปนเสนทางการใหอาหารแกทารกซึ่งทารกก็จะพัฒนาใหเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่สายสะดือนี้จะไป เชื่อมตออยูกับมดลูกของมารดาไวอยางมั่นคง และหากสังเกตระบบการจัดการสารอาหารในน้ํานมของ มารดาที่เหมาะสมกับวัยของทารก หากสังเกตระบบของการจัดการเกี่ยวกับสวนประกอบของพืชในการ ใหผลผลิตออกมาเปนดอกเปนผล ในการสะสมสารอาหาร ซึ่งสิ่งเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตไดรับการจัด ออกมาอยางเหมาะสม สิ่งเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตเปนความปรีชาญาณของผูประทานปจจัยยังชีพที่ทรง รอบรูและทรงปรีชาญาณยิ่ง. ถาม: เราจะรูไดอยางไรวาอัลลอฮฺทรงรอบรูเชี่ยวชาญในเรื่องตาง ๆ? ตอบ: การถายเทอาหารที่ผานการยอยมาแลวผานเขาสูรางกายของทารกโดยใชเสนทางสายสะดือ ซึ่งการถายเทอาหารในระบบนี้จะตองเปนผูที่มีความเชี่ยวชาญยิ่งจึงจะสามารถกระทําได หากทานสังเกต เพียงแคการฉีดยาเขาสูเสนเลือด ก็ยังตองการผูที่มีความเชี่ยวชาญและมีความรู นับประสาอะไรกับการ สงผานอาหารที่จะตองใชเวลานานถึง 9 เดือน จากตัวของผูเปนมารดาไปสูลูกซึ่งเปนทารกอยูในครรภ การเปลี่ยนแปลงอาหารที่ผูเปนมารดารับประทานใหเปนน้ํานมก็เชนกันจะกระทําไดก็ตอเมื่อผูนั้น จะตองเปนผูเชี่ยวชาญมีประสบการณและมีความรอบรูในเรื่องนี้เทานั้นถึงจะกระทําได ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

22

วิชาหลักศรัทธา

การสรางเมล็ดพืช หรือผลไมที่มีรูปราง รส กลิ่นสีที่แตกตางกันออกไปก็เชนกัน หากสังเกตก็จะพบ แมวาผลไมเหลานี้จะมาจากพื้นดินเดียวกัน รดดวยน้ําจากแหลงเดียวกัน หายใจดวยอากาศจากแหลงเดียวกัน แสงอาทิตยที่นํามาสังเคราะหก็มาจากดวงอาทิตยดวงเดียวกัน แตปรากฎวา รูปราง รสชาติ กลิ่นสี กลับ แตกตางกัน ความมหัศจรรยเหลานี้ทั้งหมดก็เพียงพอแลวมิใชหรือที่จะเปนสิ่งชี้นําใหเขาใจไดวา ผูทรงสราง ซึ่งเปนผูใหปจจัยยังชีพ จะตองเปนผูที่รอบรู เปนผูที่ทรงปรีชาญาณ เปนผูที่เชี่ยวชาญยิ่ง. ถาม: เราจะรูไดอยางไรวาอัลลอฮฺคือผูทรงเมตตายิ่ง ? ตอบ: ในเมื่อทานรูแลววาทารกในครรภมารดานั้นไมสามารถที่จะจัดระบบปจจัยยังชีพใหกับ ตัวเองได และทานก็รูวาทารกตัวนอยหลังจากคลอดออกมาจากครรภมารดาแลวตัวเองก็ไมสามารถที่จะดูแล เรื่องอาหารการกินใหกับตัวเองได และมนุษยเองก็ไมสามารถที่จะผลิตเมล็ด ผลไมตาง ๆไดดวยตัวเอง ไม สามารถที่จะกําหนดใหฝนตกมาตามฤดูกาลได ไมสามารถที่ผลิตอากาศมาเพื่อหายใจได เมื่อเป นเชนนั้น เราก็รูจะรูไ ดวาอัลลอฮฺทรงดู แลบาวของพระองคดวยการสรางสรรคสิ่งที่พวกเขา ตองการทั้งหมดมาใหอยางเพียบพรอม ไมวาจะเปนอาหารในครรภมารดา หรือน้ํานมจากทรวงอกแม หรือ พืชผลที่จะนํามาเปนประกอบอาหาร เมื่อเปนเชนนั้นเราก็สามารถเขาใจไดในทันทีวา การกระทําทั้งหมดนั้น มาจากผูประทานปจจัยยังชีพที่ทรงปรีชาญาณยิ่ง พระองคคือผูทรงรอบรู ผูทรงชาญฉลาด ผูทรงยิ่งในความ กรุณา.. ถาม: เราจะรูไดอยางไรวา อัลลอฮฺทรงเอื้อเฟอเผื่อแผและอารียยิ่ง ? ตอบ: หากมี ใ ครคนใดคนหนึ่ ง รั บ ผิ ด ชอบดู แ ลให ค า ใช จ า ยต อ คนอื่ น ถึ ง 10 คน โดยไม มี ผลตอบแทน ผูคนจะเรียกเขาวาเปนผูน้ําใจ อื้อเฟอเผื่อแผยิ่ง อัลลอฮฺซึ่งเปนผูใหการรับรองเกี่ยวกับปจจัยยัง ชีพผูคนทั้งมวล เปนผูใหการดูแลปจจัยยังชีพสรรพสิ่งทั้งหมดที่มีชีวิตอยู ลักษณะเชนนี้เปนการยืนยันได ในทันทีวาพระองคคือผูทรงเอื้อเฟอเผื่อแผยิ่ง และพระองคเองก็ทรงยืนยันใหกับพระองคเองวา "‫ﲔ‬ ٍ ‫ﻣِﺒ‬ ‫ﺏ‬ ٍ ‫ﻮ َﺩ َﻋﻬَﺎ ﹸﻛ ﱞﻞ ﻓِﻲ ِﻛﺘَﺎ‬ ‫ﺴَﺘ‬  ‫ﻣ‬ ‫ﺮﻫَﺎ َﻭ‬ ‫ﺴَﺘ ﹶﻘ‬  ‫ﻣ‬ ‫ﻌ ﹶﻠﻢ‬ ‫ﺯ ﹸﻗﻬَﺎ َﻭَﻳ‬ ‫ﺽ ِﺇ ﱠﻻ َﻋﻠﹶﻰ ﺍﻟ ﹼﻠ ِﻪ ِﺭ‬ ِ ‫ﺭ‬ ‫ﺑ ٍﺔ ﻓِﻲ ﺍ َﻷ‬‫" َﻭﻣَﺎ ﻣِﻦ ﺩَﺁ‬1 และไมมีสัตวใดๆ ในหนาแผนดินนี้ทั้งสิ้น นอกจากเปนภาระของอัลลอฮฺที่จะทรงประทานปจจัยยัง ชีพแกมัน และพระองคทรงรอบรูถึงที่อยูถาวรของมัน (หลังจากคลอดมาจากทองแมแลว) และที่อยู ชั่วคราวของมัน (ในกระดูกสันหลังของพอ และในมดลูกของแมตามลําดับ) ทุกสิ่งนั้นมีปรากฏอยูใน บันทึกอันชัดแจง.

ถาม: เราจะรูไดอยางไรวาอัลลอฮฺคือผูทรงชี้นํา ? 6 ‫ هﻮد‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

23

วิชาหลักศรัทธา

ตอบ: เมื่อทานไดเห็นเตานมของผูเปนมารดาหลังจากการคลอดที่เต็มไปดวยน้ํานม แลวใครเลาที่ เปนผูชี้นําใหเปนเชนนั้น? แลวใครเลาคือผูที่คอยชี้นําทารกวาเจาจะตองดูดนมจากทรวงอกของแมที่เต็มไป ดวยน้ํานม สิ่งเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตเปนการชี้ใหเห็นวาพระองคคือผูทรงชี้นํา ไดเปนอยางดี ตนไม ใบไมซึ่งเรียงรายสลับกันอยางเปนระบบโดยที่ทุกใบพรอมที่จะรับแสงอาทิตย แลวใครกันเลาที่คอยชี้นําให ตนไมใบหญาจัดเรียงระบบใบใหอยูในตําแหนงที่ถูกตองเหมาะสมอยางนี้ ซึ่งก็ไมตองสงสัยเลยวาพระองค คือผูทรงชี้นํา ผูทรงปรีชาญาณยิ่ง ผูทรงรอบรู และเชี่ยวชาญ ผูทรงยิ่งในความเมตตาและมหาบริสุทธิ์แหง พระองคผูทรงเอื้ออารียยิ่ง อัลลอฮฺตรัสวา "‫ﺪ َﺭ ﹶﻓ َﻬﺪَﻯ‬ ‫ ﻭَﺍﱠﻟﺬِﻱ ﹶﻗ‬، ‫ﻯ‬‫ﺴﻮ‬ َ ‫ ﺍﱠﻟﺬِﻱ َﺧ ﹶﻠ َﻖ ﹶﻓ‬، ‫ﻋﻠﹶﻰ‬ ‫ﻚ ﺍﹾﻟﹶﺄ‬ َ ‫ﺑ‬‫ﺳ َﻢ َﺭ‬ ‫ﺢ ﺍ‬ ِ ‫ﺒ‬‫" َﺳ‬1 (โอมุฮํามัด) เจงจงสดุดีพระบพิตรธิคุณแหงองคอภิบาลของเจา ผูทรงสูงสงพระผูท รงบันดาล แลวทรงทําใหสมดุลและพระผูทรงกําหนด แลวทรงชีน้ าํ ถาม: เราจะรูไดอยางไรวาอัลลอฮฺคือผูที่ทําใหมีชีวิตฟน ? ตอบ: แทจริงแลวพื้นดิน น้ํา อากาศและแสงอาทิตย สิ่งทั้งหมดเหลานี้ลวนแลวแตเปนสิ่งที่ไมมี ชีวิต ไมมีการเจริญเติบโต ไมมีการขยับเขยื้อนเคลือนไหว ไมมีการหายใจ ไมมีการแตงงาน ไมตองการ อาหาร และเมื่อเราสังเกต ก็จะเห็นไดวา ผูทรงสรางไดทรงสรางพืชพันธ ตนไมตนหญามาจากสิ่งที่ไมมีชีวิต ใหมีการเจริญเติบโตได ใหมีการขยับเขยื้อน ใหมีการหายใจใหมีการจับคูขยายพันธและตองการอาหาร มี การผสมพันธและออกดอกออกผล เราก็สามารถรูไดในทันทีวาเมื่อผูทรงสรางทรงสรางสิ่งเหลานี้มาจากสิ่ง ไร ชี วิ ต ให ม าเป น ต น ไม ใ บหญ า ที่ มี ชี วิ ต ได มหาบริ สุ ท ธิ์ แ ห ง พระองค ก็ จ ะต อ งทรงเป น อยู ด ว ยเช น กั น พระองคจะตองเปนผูประทานปจจัยยังชีพ พระองคคือผูทรงปรีชาญาณ ทรงรอบรู ทรงยิ่งในความเมตตา ทรงเอื้ออารีย ทรงชี้นําอีกทั้งทรงทรงเกียรติและทรงสูงสงยิ่ง. ถาม: เราจะรูไดอยางไรวาอัลลอฮฺทรงเนรมิตสรรพสิ่งตาง ๆ ตอบ: หากทานสังเกตกอนดินที่เปลี่ยนรูปเปนตนไมที่มีดอกมีผล ทานก็จะตองแนใจในทันทีวา รูปแบบที่เกิดขึ้นนั้นจะเกิดขึ้นไดก็ตอเมื่อมีผูเนรมิตมันขึ้นมาเทานั้น เมื่อเราพบวาอัลลอฮฺทรงเนรมิตดินใหกลายเปนตนไมใบหญาที่ออกมาในหลากหลายรูปแบบ ให ออกมาในหลากหลายกลิ่นสี ใหมีผลที่มีรูปลักษณที่แตกตางกันออกไป และตนไมแตละตนตางก็มีรูปราง หนาตาเฉพาะ ใบไมแตละใบก็จะมีภาพ ลายเสน สวนประกอบ ดอก ผลที่เปนเอกลักษณของมันเอง แลวใคร กันเลาที่สรรสรางดิน น้ํา อากาศ แสงอาทิตยและเรือกสวนที่มีรูปแบบสวยงามขนาดนี้ และความสวยสด งดงามของเรือกสวนเหลานี้ทั้งหมดสามารถยืนยันไดในทันทีวามันเกิดจากการสรรสรางของมหาบริสุทธิ์ แหงอัลลอฮฺผูทรงเนรมิตสรรพสิ่งอยางแนนอน 3-1 ‫ اﻷﻋﻠﻰ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

24

วิชาหลักศรัทธา

ดวยผลที่เกิดจากการขบคิดจากการสรางสรรคของอัลลอฮฺ จากการพินิจพิเคราะหตออาหารการกิน ของเรา ทําใหเราสามารถรูจักคุณลักษณะขององคอภิบาลของพวกเราได การที่เราพินิจพิเคราะหอาหารทําให เรารูไดวามันมาจากการสรรสรางของผูประทานปจจัยยังชีพ เมื่อเราพินิจพิเคราะหระบบการควบคุมตางๆ ทําใหเรารูไดวามันถูกควบคุมโดยผูทรงปรีชาญาณยิ่ง เมื่อเราพินิจพิเคราะหถึงผลงานที่ปรากฏทําใหเรารูได ทันทีวามันมาจากการสรรสรางของผูทรงเชี่ยวชาญยิ่ง เมื่อเราขบคิดถึงความรูที่ใชในการสรางสรรคสรรพสิ่ง เราก็แนใจไดวามันจะตองมาจากผูทรงรอบรูยิ่ง เมื่อเรามองเห็นถึงความเมตตาที่ปรากฏอยูเราก็รูในทันทีวา มันเปนการกระทําของผูที่ทรงยิ่งในความเมตตา เมื่อเราเห็นถึงความเอื้ออารียที่มีมาอยางลนหลาม เราก็รู ในทันทีวามันเปนการกระทําของผูที่ทรงยิ่งในความเอื้ออารีย เมื่อเราสังเกตเห็นถึงการชี้นําตางๆ ที่ปรากฏ อยูในทุกที่เราก็แนใจในทันทีวามันมาจากผูทรงชี้นํา เมื่อเราเห็นวาในโลกนี้มีสิ่งมีชีวิตที่หลากหลาย เราก็รู ไดทันทีวามันจะตองมาจากผูสรางที่ทรงเปน เมื่อเราเห็นไดวาในโลกนี้มีสรรพสิ่งที่หลากหลายรูปแบบที่ แตกตางกันไป เราก็แนใจในทันทีวาจะตองเกิดจากการเนรมิตของอัลลอฮฺผูทรงเนรมิตสรรพสิ่งทั้งหมด. ถาม: การที่เราสามารถรูจักคุณลักษณะของอัลลอฮฺบางประการเราจะไดประโยชนอะไรจากสิ่งนี้ ตอบ: หากเรารูจักคุณลักษณะ เราก็จะตองรูจักเจาของ อยางเชน เมื่อเรารูจักผูที่ทรงสรางอาหาร คือผูที่ตองเปน ผูใหปจจัยยังชีพ ผูทรงปรีชาญาณ ผูที่ทรงเชี่ยวชาญ ผูที่ทรงรอบรู ผูทรงมีเมตตา ผูทรงเอื้อ อารีย ผูทรงชี้นํา ผูทรงเปน ผูทรงเนรมิตสรรพสิ่ง เมื่อเปนเชนนั้น เราก็รูไดในทันทีวา อัลลอฮฺคือผูที่ทรงเปน เจาของคุณลักษณะเหลานี้ทั้งหมด เพราะธรรมชาติที่บรรดาผูปฏิเสธศรัทธาเขาใจวาเปนผูสรางสรรพสิ่ง เหลานี้ ไมไดมีลักษณะดังที่ไดกลาวมาทั้งหมด อยาไดมองธรรมชาติแลวกลับกลาววา ธรรมชาติคือผูจัด บริหารจัดการปจจัยยังชีพ ก็ธรรมชาติไมไดมีเจตนารมณอันใด ไมไดมีความปรีชาญาณ ไมมีความเชี่ยวชาญ ไมไดมีความรอบรู ไมไดมีความเมตตา ไมไดมีความเอื้ออารีย ไมอาจจะชี้นําอะไรใครได ไมไดมีชีวิตที่จะ ใหชีวิตอะไรกับใครตอใครได ไมไดเปนผูเนรมิตที่จะทําใหเราเองเขาใจไดวามันสามารถเนรมิตคิดคน รูปแบบที่สวยสดงดงามออกมาได คุณลักษณะเหลานี้ทั้งหมด ไมไดมีอยูกับธรรมชาติ ไมไดมีอยูกับรูปเจว็ด รูปบูชาที่ ผูคนบางกลุมผู กพันกันมาทั้งในอดีตและปจจุบัน เมื่อเปนเชน นั้นเราก็รูไดในทันทีวา แทจริง แลวอัลลอฮฺคือผูทรงใหปจจัยยังชีพ ผูทรงสรรคสรางสัญลักษณตาง ๆมาเปนสิ่งชี้นําใหกับพวกเราผานสิ่งถูก สรางของพระองค และตรัสกับพวกเราผานอัลกุรอานของพระองควา ‫ﺎ‬‫ﻀﺒ‬  ‫ﺎ َﻭ ﹶﻗ‬‫ َﻭ ِﻋَﻨﺒ‬، ‫ﺎ‬‫ﺘﻨَﺎ ﻓِﻴﻬَﺎ َﺣﺒ‬ ‫ ﹶﻓﺄﹶﻧَﺒ‬، ‫ﺎ‬‫ﺽ َﺷﻘ‬ َ ‫ﺭ‬ ‫ﻢ َﺷ ﹶﻘ ﹾﻘﻨَﺎ ﺍﹾﻟﹶﺄ‬ ‫ ﹸﺛ‬، ‫ﺎ‬‫ﺻﺒ‬ َ ‫ﺒﻨَﺎ ﺍﹾﻟﻤَﺎﺀ‬ ‫ﺻَﺒ‬ َ ‫ﺎ‬‫" ﹶﻓ ﹾﻠﻴَﻨ ﹸﻈ ِﺮ ﺍﹾﻟﺈِﻧﺴَﺎﻥﹸ ِﺇﻟﹶﻰ ﹶﻃﻌَﺎ ِﻣ ِﻪ ﹶﺃﻧ‬

‫ﻢ َﻭ ِﻝ‬ ‫ﺎ ﱠﻟ ﹸﻜ‬‫ﻣﺘَﺎﻋ‬ ، ‫ﺎ‬‫ َﻭﻓﹶﺎ ِﻛ َﻬ ﹰﺔ َﻭﹶﺃﺑ‬، ‫ﺎ‬‫ َﻭ َﺣﺪَﺍِﺋ َﻖ ﹸﻏ ﹾﻠﺒ‬، ‫ﺨﻠﹰﺎ‬  ‫ﺎ َﻭَﻧ‬‫ﻮﻧ‬‫ﻳﺘ‬‫ َﻭ َﺯ‬،1"‫ﻢ‬ ‫ﻧﻌَﺎ ِﻣ ﹸﻜ‬‫ﹶﺃ‬ ดังนั้นมนุษยจงพินิจยังอาหารของเขาเถิดแทจริงเราไดหลั่งน้ําอันหลากไหลลงมา (ประพรมพื้นดิน ทําใหพืชพันธุงอกงามและเปนอาหารในที่สุด)หลังจากนั้น เราไดแยกแผนดินออกเปน (สัดสวนเพื่อการ เพาะปลูก)แลวเราก็ทําใหเมล็ดพืชไดงอกงามขึ้นในมันและ (โดยเฉพาะ) องุน ตลอดจนผักรวมทั้งมะกอก 32-24 ‫ ﻋﺒﺲ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

25

วิชาหลักศรัทธา

และอินทผลัมอีกทั้งบรรดาเรือกสวนอันหนาทึบและผลไม จนกระทั่งหญาทั้งนี้เพื่อปจจัยอํานวยสุขแกพวก เจาและแกปศุสัตวของพวกเจา

สรุปทายบท • อัลลอฮฺทรงบัญชาใหพวกเราพินิจพิเคราะหขบคิดไตรตรองไปยังอาหารการกิน เพราะสรรพสิ่งตาง ๆที่อัลลอฮฺทรงสรางมาทั้งหมดลวนแลวแตมีสัญญาณที่จะทําใหเรารูจกั คุณลักษณะบางประการของอัลลอฮฺ ได • เมื่อเราไดไตรตรองเราก็จะพบวา อัลลอฮฺไดทรงประทานปจจัยยังชีพใหกับทารกที่อยูในครรภ มารดาไดอยางไร พระองคทรงประทานน้ํานมจากทรวงอกของมารดาใหกับทารกไดอยางไร พระองคทรง ใหอาหารแกพืชพันธที่งอกเงยมาจากแผนดินไดอยางไร ซึ่งจะทําใหเรารูไดในทันทีวาพระองคคือผูทรงให ปจจัยยังชีพแกสรรพสิ่ง • เราจะไดรูวาพระองคคือผูทรงรอบรู เพราะพระองคทรงรูในความตองการของพวกเรา ขณะที่เรายัง อยูในครรภมารดา ซึ่งพระองคก็ยังคงใหอาหารแกเราได และพระองคทรงรูอีกวาเมื่อเราออกมาจากครรภ มารดา เราก็ตองการอาหาร พระองคก็ทรงใหอาหารผานน้ํานมจากทรวงอกของมารดา พระองคทรงรูวาใน ดินมีตาน้ํา พระองคก็ทรงสรางสรรคพืชผลใหหยั่งรากลึกลงไป พระองคทรงรูดวยวาใบไมใบหญามีครอโร ฟน และตองการแสงอาทิตยเพื่อการสังเคราะหแสง พระองคก็ทรงสรางใหใบไมมีพัฒนาการที่หันไปทาง แสงอาทิตย • และเราก็รูไดอีกวาพระองคทรงปรีชาญาณยิ่ง โดยสังเกตจากการควบคุมระบบตางๆ ที่แนนอนอยาง การสรางสายสะดือเพื่อเชื่อมตอระหวางทารกในครรภกับมารดา ดังจะเห็นไดจากระบบที่สมดุลยระหวาง น้ํานมของมารดากับพัฒนาการของทารก หรือแมแตระบบตาง ๆทุกซอกสวนของพืชผลที่งอกเงยขึ้นมาจาก ผืนแผนดิน • เราสามารถรูไดวาอัลลอฮฺทรงเชี่ยวชาญยิ่ง เมื่อเราไดสังเกตผลงานที่ปรากฏออกมาจากการขนถาย อาหารจากครรภมารดามาสูทารก ขณะที่ทารกยังอยูในครรภ ดังที่เราไดเห็นจากการผลิตน้ํานมจากอาหารที่ผู เปนแมรับประทานเขาไป เมื่อเราไดขบคิดจากผลไมหลากหลายสายพันธที่มีรูปรางแตกตางกันออกไป แมวา จะมาจากดิน จากน้ํา อากาศและแสงแดดอันเดียวกัน แตก็มีรูปลักษณที่แตกตางกัน • เราเองสามารถรับรูไดวาอัลลอฮฺคือผูทรงเมตตายิ่ง ขณะเมื่อเรารับรูไดวาหากพวกเราปราศจาก ปจจัยยังชีพ เราก็ไมอาจจะมีชีวิตอยูได แตพระองคทรงเมตตาตอพวกเรา พระองคจึงทรงประทานปจจัยยัง ชีพแกพวกเราดวยความเมตตาและดวยความโปรดปรานแหงพระองคเราจึงยังคงดํารงชีวิตอยูได • เราเองสามารถรูไดวาอัลลอฮฺทรงเอื้ออารยเพราะพระองคทรงประทานปจจัยยังชีพแกสิ่งถูกสราง ทั้งหมด ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

26

วิชาหลักศรัทธา

• เราเองสามารถรับรูไดวาพระองคคือผูทรงชี้นํา จากการที่เราไดเห็นการชี้นําทารกใหรับรูถึงเตานม ซึ่งเต็มเปยมไปดวยน้ํานมที่พรอมสําหรับทารก ที่เพิ่งออกมาจากครรภมารดา เมื่อทารกไดรับการดล ทารกก็ จะดูดนมของผูเปนแมในทันที ทั้งๆ ที่ทารกเองไมรูอะไรเลยในเวลานั้น เมื่อเราเห็นการชี้นําที่กําหนด ที่ กําหนดลักษณะอาหารไวไดอยางเหมาะสมกับพัฒนาการของทารก เราก็มั่นใจไดวาพระองคคือผูทรงชี้นํา • เราเองสามารถรูไดวาพระองคทรงเปนอยู เมื่อเรามองสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่คืบคลานขยับขยายมาจาก สิ่งที่ไรชีวิต • เราสามารถรูไดวาพระองคคือผูเนรมิตสรรพสิ่ง เราสามารถรับรูไดจากรูปลักษณของสรรพสิ่งที่สวย สดงดงามซึ่งประกอบมาจากธาตุดิน น้ําและอากาศ • เราสามารถรับรูไดวาพระองคคือผูใหปจจัยยังชีพ ที่ทรงรอบรู ทรงยิ่งในประสบการณ ทรงเมตตา ทรงเอื้ออาทร ผูทรงชี้นํา ผูทรงเปน ผูทรงเนรมิต เราสามารถรับรูไดในทันทีวานั่นคือมหาบริสุทธิ์แหงอัลลอ ฮฺ ไมใชธรรมชาติ ไมใชรูปเจว็ดทุกรูปแบบ ทั้งธรรมชาติและรูปเจว็ดไมไดประกอบดวยคุณลักษณะเหลานี้ แตอยางใด

บทที่ 6 สายน้ําบนฟากฟา เมฆฝนบนฟากฟา ถาม: เมฆคืออะไร ? ตอบ: เมฆก็คือละอองน้ํา ซึ่งควบตัวเปนหยดน้ําเล็กๆ ที่ลองลอยอยูในอากาศ เมื่อรวมตัวกันเปน กลุมเปนกอนในอากาศในรูปรางลักษณะที่ตางกันไดมาก ๆ ก็จะทําใหเกิดหยดน้ําเปนฝนลงมายังพื้นดิน ซึ่ง น้ําเหลานี้เปนน้ํ าที่มาจากแมน้ํ าลําคลอง ตาน้ํา แหลงน้ําที่เราใชสําหรับดื่มกิน และใช สําหรับรดตนไม ซึ่งอัลลอฮฺทรงประทานเปนความโปรดปรานมายังพวกเรา ซึ่งพระองคตรัสไววา "‫ﻪ‬ ‫ﻧ‬‫ﺍ‬‫ﺘِﻠﻔﹰﺎ ﹶﺃﹾﻟﻮ‬‫ﺨ‬  ‫ﻣ‬ ‫ﺎ‬‫ﺭﻋ‬ ‫ﺯ‬ ‫ ِﺑ ِﻪ‬‫ﺨ ِﺮﺝ‬  ‫ ﻳ‬‫ﺽ ﹸﺛﻢ‬ ِ ‫ﺭ‬ ‫ﻊ ﻓِﻲ ﺍﹾﻟﹶﺄ‬ ‫ﺎﺑِﻴ‬‫ﻳﻨ‬ ‫ﺴﹶﻠ ﹶﻜﻪ‬  ‫ﺎﺀ ﹶﻓ‬‫ﺎﺀ ﻣ‬‫ﺴﻤ‬  ‫ﻦ ﺍﻟ‬ ‫ﺰ ﹶﻝ ِﻣ‬ ‫ﻪ ﺃﹶﻧ‬ ‫ﺮ ﹶﺃﻥﱠ ﺍﻟﻠﱠ‬ ‫ﺗ‬ ‫ﻢ‬ ‫"ﹶﺃﹶﻟ‬1 เจาไมสังเกตบางหรือ? แทจริงอัลลอฮฺไดทรงหลั่งน้ําฝนลงมาจากฟากฟาแลวทรงใหมันไหลเปนตา น้ํากระจายอยูในแผนดิน หลังจากนั้นทรงทําใหพืชผลผลิออกมาเพราะน้ํานั้น มีสีสรรแตกตางกัน ถาม: เมฆเกิดขึ้นไดอยางไร ?

21 ‫ اﻟﺰﻣﺮ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

27

วิชาหลักศรัทธา

ตอบ: อัลลอฮฺไดทรงสงความรอนจากแสงอาทิตยมาทําใหน้ํากลายเปนไอแลวลองลอยขึ้นไปใน อากาศโดยไมมีรสเค็มผสมอยูและแตน้ําที่กลายเปนไอแลวลอยขึ้นไปในอากาศไมไดมั่นคงถาวรอยูใน อากาศและไมไดขึ้นไปสูดวงจันทร เพราะที่นั่นไมใชเปาหมายที่จะนําน้ําไปรด แตเปาหมายของการรดน้ําคือ มวลบาวของอัลลอฮฺ ซึ่งมีชีวิตอยูบนพื้นโลกในทั่วทวีป โดยสรรพสิ่งเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตมีความ ตองการน้ํา และอัลลอฮฺก็ทรงกําหนดระบบใหกับน้ําหลั่งรดมายังสิ่งถูกสรางที่อัลลอฮฺทรงสรางไวทั้งหมด. ถาม: ฝน(ตามแนวทางของอัลลอฮฺ)เกิดขึน้ ไดอยางไร ? ตอบ: อัลลอฮฺทรงใหความรอนและลมมาเปนตัวทําใหน้ําในทะเลหรือแหลงน้าํ ระเหยกลายเปน ไอและลอยขึน้ ไปในอากาศในระดับที่สูงกวาภูเขานั่นก็เพื่อที่จะใหเมฆฝนกระจายไดทั่วถึงทุกทวีป อัลลอฮฺ ทรงใหน้ําทะเลกลายเปนไอโดยที่ไมไดนําพาเอาเกลือที่มอี ยูในทะเลขึ้นไปดวย นั่นก็เพื่อมิใหเกลือที่ผสมอยู ในน้ํากอโทษตอมนุษย พืชและสัตวที่ตองการน้ํา ซึ่งอัลลอฮฺไดตรัสไววา ‫ﻮﻟﹶﺎ‬ ‫ﺎ ﹶﻓﹶﻠ‬‫ﺎﺟ‬‫ﻩ ﹸﺃﺟ‬ ‫ﺎ‬‫ﻌ ﹾﻠﻨ‬ ‫ﺟ‬ ‫ﺎﺀ‬‫ﻧﺸ‬ ‫ﻮ‬ ‫ ﹶﻟ‬، ‫ﻤ ِﱰﻟﹸﻮ ﹶﻥ‬ ‫ ﺍﹾﻟ‬‫ﺤﻦ‬  ‫ﻧ‬ ‫ﻡ‬ ‫ﺰ ِﻥ ﹶﺃ‬ ‫ﻤ‬ ‫ﻦ ﺍﹾﻟ‬ ‫ ِﻣ‬‫ﻮﻩ‬‫ﺘﻤ‬‫ﺰﹾﻟ‬ ‫ﻢ ﺃﹶﻧ‬ ‫ﺘ‬‫ ﹶﺃﺃﹶﻧ‬، ‫ﻮ ﹶﻥ‬‫ﺮﺑ‬ ‫ﺸ‬  ‫ﺗ‬ ‫ﺎﺀ ﺍﱠﻟﺬِﻱ‬‫ ﺍﹾﻟﻤ‬‫ﻢ‬‫ﻳﺘ‬‫ﺮﹶﺃ‬ ‫"ﹶﺃﹶﻓ‬ "‫ﻭ ﹶﻥ‬‫ﺸ ﹸﻜﺮ‬  ‫ﺗ‬1 แลวพวกเจาสังเกตน้ําที่พวกเจาดื่มบางไหม ?พวกเจาไดทําใหมันตกลงมาจากเมฆเองกระนั้นหรือ หรือวาเราเปนผูทําใหมันตกลงมา ?มาตรแมนเราประสงคเราก็ทรงอํานาจที่จะบันดาลใหมัน (ฝน) เค็มจัด (จนดื่มไมได) แลวไฉนพวกเจาจึงไมกตัญู ? และในอีกอายะฮฺหนึ่งอัลลอฮฺตรัสวา "‫ﺖ‬ ٍ ‫ﻴ‬‫ﻣ‬ ‫ﺒﹶﻠ ٍﺪ‬‫ﻩ ِﻟ‬ ‫ﺎ‬‫ﺳ ﹾﻘﻨ‬ ‫ﺎ ِﺛﻘﹶﺎ ﹰﻻ‬‫ﺎﺑ‬‫ﺳﺤ‬ ‫ﺖ‬  ‫ﻰ ِﺇﺫﹶﺍ ﹶﺃﹶﻗﻠﱠ‬‫ﺣﺘ‬ "2 จนกระทั่งเมื่อมันไดรําเพยพัดเมฆอันหนักอึ้ง (ไปดวยน้ําฝน) เราก็ใหมันหลั่งลงมาแกเมืองที่ตาย (แหงแลง) และเมื่อน้ํากลายเปนไอลอยขึ้นสูชั้นบรรยากาศ อัลลอฮฺก็ทรงบันดาลใหไอน้ําที่ลอยขึ้นไปกระทบ กับความเย็นในชั้นบรรยากาศ ซึ่งอยูในระดับความสูงประมาณ 80 ไมลจากระดับน้ําทะเลปานกลาง ความ เย็นก็จะหยุดยั้งมิใหลอยขึ้นสูงตอไป เมื่อรวมตัวกันไดมาก ๆ ก็จะตกลงมากลายเปนน้ําฝนหลนลงมาระดับ ภาคพื้นดินในที่สุด ถาม: เพราะเหตุใดเมื่อสูงขึ้นอุณหภูมิจึงยิ่งเย็นลง ? ตอบ: สิ่งที่ควรจะเปนคือเมื่อสูงขึ้นซึ่งหมายความวายิ่งจะเขาใกลดวงอาทิตยก็นาจะยิ่งรอนมาก ขึ้นอยางในระดับชั้นบรรยากาศชั้นสูง แตในทางตรงกันขามอุณหภูมิกลับยิ่งจะเย็นลง อัลลอฮฺไดทรงสราง ใหเปนไปในทางตรงกันขาม เมื่อยิ่งเพิ่มระดับความสูง อุณหภูมิก็จะยิ่งเย็นลง เพียงแคขึ้นไปเพียง 8 ไมล 70-68 ‫ اﻟﻮاﻗﻌﺔ‬1 57 ‫ اﻷﻋﺮاف‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

28

วิชาหลักศรัทธา

อุณหภูมิก็จะลดลงในทันที การที่อัลลอฮฺทรงกําหนดใหเปนเชนนั้นก็เพื่อสะกัดกั้นไอน้ําที่ที่ลอยขึ้นไปจาก ทะเลหรือแหลงน้ําอื่นๆ ไมใหลอยหายขึ้นในอากาศ ซึ่งอัลลอฮฺตรัสไววา "‫ﻭ ﹶﻥ‬‫ﺏ ِﺑ ِﻪ ﹶﻟﻘﹶﺎ ِﺩﺭ‬ ٍ ‫ﺎ‬‫ﻋﻠﹶﻰ ﹶﺫﻫ‬ ‫ﺎ‬‫ﻭِﺇﻧ‬ ‫ﺽ‬ ِ ‫ﺭ‬ ‫ﻩ ﻓِﻲ ﺍﹾﻟﹶﺄ‬ ‫ﺎ‬‫ﺳ ﹶﻜﻨ‬ ‫ﺪ ٍﺭ ﹶﻓﹶﺄ‬ ‫ﺎﺀ ِﺑ ﹶﻘ‬‫ﺎﺀ ﻣ‬‫ﺴﻤ‬  ‫ﻦ ﺍﻟ‬ ‫ﺎ ِﻣ‬‫ﺰﹾﻟﻨ‬ ‫ﻭﺃﹶﻧ‬ "1 และเราไดบันดาลใหมีน้ําฝนลงมาจากฟากฟา โดยมีกําหนดที่แนนอน แลวเราก็ใหมันคางอยูใน แผนดิน ทั้งๆ ที่ความเปนจริงนั้น เรามีอํานาจที่จะขจัดมันไป (จากแผนดินจนหมดสิ้น) ถาม: อัลลอฮฺทรงกําหนดแนวทางใหไอน้ํารวมตัวกันไดอยางไร ? ตอบ: ไอน้ําจากทะเลหรือแหลงน้าํ ทั่วไปซึ่งมีน้ําหนักเบา ก็จะลอยตัวขึ้นสูง จากนั้นอัลลอฮฺก็ทรง สงลมใหมาพัดพาเอาละอองน้ําเล็ก ๆที่อยูในรูปหมอกควันที่มีละอองน้ําผสมอยู เมื่อละอองน้ําเหลานี้มา รวมตัวกันดวยจํานวนมาก ๆ ก็จะกลายเปนกอนเมฆขนาดใหญอยางที่เราเห็น เมื่อรวมตัวกันมากๆ ก็จะมี น้ําหนักเพิ่มขึน้ มันก็จะตกลงมาเปนฝน อัลลอฮฺตรัสไววา  ‫ ِﻛ‬‫ﻌﻠﹸﻪ‬ ‫ﺠ‬  ‫ﻳ‬‫ﻭ‬ ‫ﺎﺀ‬‫ﻳﺸ‬ ‫ﻒ‬  ‫ﻴ‬‫ﺎﺀ ﹶﻛ‬‫ﺴﻤ‬  ‫ﻪ ﻓِﻲ ﺍﻟ‬ ‫ﺴ ﹸﻄ‬  ‫ﺒ‬‫ﻴ‬‫ﺎ ﹶﻓ‬‫ﺎﺑ‬‫ﺳﺤ‬ ‫ِﺜﲑ‬‫ﺡ ﹶﻓﺘ‬  ‫ﺎ‬‫ﺮﻳ‬ ‫ﺮ ِﺳﻞﹸ ﺍﻟ‬ ‫ﻪ ﺍﱠﻟﺬِﻱ ﻳ‬ ‫"ﺍﻟﱠﻠ‬ ‫ﻦ‬ ‫ ِﻣ‬‫ﺝ‬‫ﺨﺮ‬  ‫ﻳ‬ ‫ﻕ‬  ‫ﺩ‬ ‫ﻮ‬ ‫ﻯ ﺍﹾﻟ‬‫ﺘﺮ‬‫ﺴﻔﹰﺎ ﹶﻓ‬ "‫ﻭ ﹶﻥ‬‫ﺸﺮ‬ ِ ‫ﺒ‬‫ﺘ‬‫ﺴ‬  ‫ﻳ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﻫ‬ ‫ﺎ ِﺩ ِﻩ ِﺇﺫﹶﺍ‬‫ﻦ ِﻋﺒ‬ ‫ﺎﺀ ِﻣ‬‫ﻳﺸ‬ ‫ﻦ‬‫ﺏ ِﺑ ِﻪ ﻣ‬  ‫ﺎ‬‫ ِﺧﻠﹶﺎِﻟ ِﻪ ﹶﻓِﺈﺫﹶﺍ ﹶﺃﺻ‬2 อัลลอฮฺทรงสงลมใหพัดมา แลวมันก็จะกระจายกอนเมฆ แลวพระองคทรงแผขยายออกไปใน ฟากฟาตามที่พระองคทรงประสงค และทรงบันดาลใหมันเปนกลุมกอน แลวเจาก็เห็นน้ําฝนหลั่งไหล ออกมาจากซอกของมัน ดังนั้นเมื่อพระองคทรงใหมันประสบแกผูพระองคทรงประสงคจากมวลขาทาส ของพระองค พลันพวกเขาก็แสดงความปติยินดี. ถาม: ในการกอกําเนิดฝนมีระบบอื่นเขามามีสวนรวมอีกหรือไมอยางไร ? ตอบ: นอกจากระบบการเปลี่ยนน้ําเปนไอและใหลอยขึ้นไปกระทบกับความเย็นในชัน้ บรรยากาศ แลว ก็ยังมีระบบการพัดพาของลมมรสุมตางๆ ที่คอยพัดพาเมฆฝนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยไมคิด คาใชจายในการลําเลียง เพราะลมมรสุมเปนลมที่อัลลอฮฺทรงประทานมาเพื่ออํานวยความสะดวกแกมวล มนุษยตามบัญชาแหงองคอภิบาลของพวกเขา ซึ่งอัลลอฮฺไดตรัสไววา ‫ـﺎﺀ‬‫ﺎ ﺑِـ ِﻪ ﺍﹾﻟﻤ‬‫ﺰﹾﻟﻨ‬ ‫ﺖ ﹶﻓﺄﹶﻧ‬ ٍ ‫ﻴ‬‫ﻣ‬ ‫ﺒﹶﻠ ٍﺪ‬‫ﻩ ِﻟ‬ ‫ﺎ‬‫ﺳ ﹾﻘﻨ‬ ‫ﺎ ِﺛﻘﹶﺎ ﹰﻻ‬‫ﺎﺑ‬‫ﺳﺤ‬ ‫ﺖ‬  ‫ﻰ ِﺇﺫﹶﺍ ﹶﺃﹶﻗﻠﱠ‬‫ﺣﺘ‬ ‫ﻤِﺘ ِﻪ‬ ‫ﺣ‬ ‫ﺭ‬ ‫ﻱ‬  ‫ﺪ‬ ‫ﻳ‬ ‫ﻦ‬ ‫ﻴ‬‫ﺑ‬ ‫ﺍ‬‫ﺸﺮ‬  ‫ﺑ‬ ‫ﺡ‬  ‫ﺎ‬‫ﺮﻳ‬ ‫ﺮ ِﺳﻞﹸ ﺍﻟ‬ ‫ﻮ ﺍﱠﻟﺬِﻱ ﻳ‬ ‫ﻭﻫ‬ " "‫ﻭ ﹶﻥ‬‫ﺗ ﹶﺬ ﱠﻛﺮ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﻌﻠﱠﻜﹸ‬ ‫ﻰ ﹶﻟ‬‫ﻮﺗ‬ ‫ ﺍﻟﹾﻤ‬‫ﺨ ِﺮﺝ‬  ‫ﻚ ﻧ‬  ‫ﺕ ﹶﻛ ﹶﺬِﻟ‬ ِ ‫ﺍ‬‫ﻤﺮ‬ ‫ﺎ ِﺑ ِﻪ ﻣِﻦ ﹸﻛﻞﱢ ﺍﻟﱠﺜ‬‫ﺟﻨ‬ ‫ﺮ‬ ‫ﺧ‬ ‫ﹶﻓﹶﺄ‬3 และพระองคเปนผูสงลมมาเพื่อเปนขาวดีกอนหนา (ที่จะมีฝนจากซึ่งมาจาก) ความเมตตาของพระองค จนกระทั่งเมื่อมันไดรําเพยพัดเมฆอันหนักอึ้ง (ไปดวยน้ําฝน) เราก็ใหมันหลั่งลงมาแกเมืองที่ตาย (แหงแลง)

18 ‫ اﻟﻤﺆﻣﻨﻮن‬1 48 ‫ اﻟﺮوم‬2 57 ‫ اﻷﻋﺮاف‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

29

วิชาหลักศรัทธา

แลวจากนั้นเราไดใหน้ําฝนลงมาเพราะมัน (เมฆ) แลวเราก็ใหมีผลไมตางๆ ผลิออกมาเพราะมัน (น้ําฝน) เชนนั้นแหละ! ที่เราไดใหผูที่ตายไปแลว (ฟน) ออกมาอีก เพื่อวาพวกเจาทั้งหลายจะไดสํานึก หากสังเกตถึงปรัชญาการกําหนดลมมรสุม จะพบวาทั้งขนาดและความเร็ว ลวนแลวแตมีความ เหมาะสมกับการที่จะกระจายเมฆไปยังที่ตาง ๆ โดยไมไดทําลายใหเกิดความเสียหายแตอยางใด บางครั้ง อัลลอฮฺไดทรงประทานบทเรียนเพื่อใหเราไดมองเห็นวาลมพายุ ที่มีความเร็วขนาด 75 ตอชั่วโมง หรือที่ รายแรงกวาที่มีขนาดความเร็ว 200 ไมลตอชั่วโมง แนนอนที่สุดหากพายุประเภทนี้พัดผานบนผืนแผนดินก็ คงจะไมมีอะไรเหลือ มันจะทําลายใหพังยับเสียหายไปหมด หากเราพินิจพิเคราะหในสวนนี้เราก็จะมองเห็น พระเมตตาธิคุ ณแห งอัลลอฮฺที่ทรงประทานมายังพวกเราไดอยางชั ดเจน และพึ งรับรูไ วดวยวา ลมพายุ ประเภทนี้ยังคงมีอยู แคเพียงเหนือศีรษะของเราในระดับความสูงเพียง 5 ไมลจากระดับน้ําทะเลปานกลาง หากกระแสลมประเภทนี้พัดลงมาในระดับต่ํากวานี้อีกสักเล็กนอย แนนอนที่สุดระบบการดําเนินชีวิตก็จะ เสียหายหลังจากระบบการกําเนิดฝนลักลั่น สรรพสิ่งที่มีอยูบนหนาแผนดินก็จะตองเผชิญกับความหายนะ เพราะกระแสแรงลมหรือพายุหมุนประเภทนี้ ภูมิภาคที่มีระดับความสูงตางกัน ที่หนึ่งสูงที่หนึ่งต่ํา สลับเอา ภูมิภาคระดับต่ําไปไวในที่สูงกระแสลมแรงก็จะทําลายทุกสิ่งทุกอยางพังราบไปในพริบตา หรือหากนําอีก ภูมิภาคหนึ่งไปอยูในตําแหนงที่สูงน้ําก็จะไมไหลเขาสูพื้นดิน แนนอนที่สุดมนุษยก็จะดํารงชีวิตอยูไมได ปศุ สัตวก็จะกระหายตายกันหมด หากเราสังเกตก็จะพบวาการจัดระบบบนผืนแผนดินนี้ไดถูกจัดไวอยางชาญ ฉลาดยิ่ง การแผกระจายสายน้ํามายังโลกอัลลอฮฺทรงกําหนดไวดังนี้ 1.เปนระบบการกําหนดใหน้ําฝนหลั่งลงมายังพื้นดิน โดยใหทยอยหลั่งลงมาเปนหยดน้ําเล็กๆ ไมให ลงมาเปนสายน้ําขนาดใหญ เพราะหากใหหลั่งลงมาเปนสายน้ําขนาดใหญมันก็จะทําลายทุกสิ่งทุกอยางให เสียหายไปหมด 2.แนวทางของพระผูเปนเจาที่ทรงกําหนดใหสายน้ําในแมน้ําลําคลองไหลแผกระจายไปยังหนา แผนดินเหมือนกระแสโลหิตในเรือนรางของมนุษย 3. ระบบการกักเก็บน้ําสวนใหญใหอยูในรูปของแมน้ําลําคลองเพื่อเปนเสนทางในการคมนาคมที่ สะดวกและเหมาะสม 4. ระบบการกั ก เก็ บ หรื อ จั ด เก็ บ น้ํ า ไว ใ นดิ น เพื่ อ ให ผื น แผ น ดิ น เพื่ อ ให ม นุ ษ ย ส ามารถนํ า มาใช ประโยชน โดยเก็บไวในรูปของตาน้ํา โดยเก็บไวในแหลงกักเก็บของพระผูในลักษณะโพรงเพื่อไมใหเหือด หายไปในอากาศหรือซึมซับหายไปในดิน อัลลอฮฺตรัสไววา "‫ﲔ‬ ٍ ‫ﻣ ِﻌ‬ ‫ﺎﺀ‬‫ﻳ ﹾﺄﺗِﻴﻜﹸﻢ ِﺑﻤ‬ ‫ﻦ‬‫ﺍ ﹶﻓﻤ‬‫ﻮﺭ‬ ‫ﻢ ﹶﻏ‬ ‫ﺅ ﹸﻛ‬ ‫ﺎ‬‫ﺢ ﻣ‬ ‫ﺒ‬‫ﺻ‬  ‫ﻢ ِﺇ ﹾﻥ ﹶﺃ‬ ‫ﻳﺘ‬‫ﺭﹶﺃ‬ ‫"ﹸﻗ ﹾﻞ ﹶﺃ‬1 จงประกาศเถิด “พวกทานเห็นประการใด? หากน้ําของพวกทานไดเหือดหาย (ถูกซึมไวในแผนดิน จนไมเหลืออยูในลําคลองและแหลงน้ําตาง ๆ) แลว (จะมี) ใครอีกเลาที่จะนําน้ําอันอุดมสมบูรณมาใหพวก เจา?” 30 ‫ اﻟﻤﻠﻚ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

30

วิชาหลักศรัทธา

นั่นก็แสดงใหเห็นไดวา  โลกนี้มีระบบการดูแลเอาใจใสอยางดีเยี่ยม ทุกอยางลวนแลวแตอยูภายใตกฎการบัญชาการ ของผูทรงสรางซึ่งไดกําหนดระบบการกํากับดูแลไวอยางแนนอน  มีกฎมีระบบทีม ่ ั่นคงแนนอน กฎที่มีไดถูกกําหนดไวอยางประณีตเหมาะสม  อีกระบบหนึ่งซึ่งถูกกําหนดมาอยางประนีตมั่นคงเชนกัน นั่นคือระบบการเกิดฝน ซึ่งเริม ่ ตนมา จากการใหน้ําจากทะเลหรือแหลงน้ําระเหยกลายเปนไอแลวลอยขึ้นไปในอากาศในระดับที่สูงกวาภูเขา หลังจากที่ไดกลั่นกรองเกลือออกไปจากน้ําเปนที่เรียบรอยแลว หลังจากนั้นก็จะมีการเคลื่อนยายแผ กระจายไปยังสิ่งมีชีวิตตางๆ ที่ตองการน้ําเปนปจจัยยังชีพทั่วทุกภูมิภาค โดยใหหลั่งลงมาเปนหยาด น้ําฝนที่ละเอียดเพื่อยังประโยชนใหกับสิ่งมีชีวิต หลังจากที่ฝนตกลงสูพื้นแผนดิน ก็จะใหไหลลงสูแมน้ํา ลําคลองสวนหนึ่ง จนกลายเปนสายน้ําไหลเทเพื่อไมใหเกิดการเนาเสียซึ่งเปนสิ่งอํานวยความสะดวก ใหแกชีวิตทุกชีวิต อีกทั้งยังชวยปกปองหนาดินมิใหเกิดความแหงแลงเปนทะเลทราย ผูตอบรับคําขอ(ดุอาอ) ดวยพระเมตตาธิคุณแหงองคอภิบาลของทานผูทรงไดยินการวอนขอ ผูทรงตอบรับการวอนขอ ของผูที่ประสบกับความเดือดรอน ผูที่ตองการความชวยเหลือ อีกไมรูเทาไหรที่ผืนแผนดินตองประสบ กับความแหงแลง ขาดน้ําฝนรดหลั่ง ในภาวะเชนนี้บรรดามุสลิมก็จะออกมาเพื่อวอนขอตออัลลอฮฺ ตามที่ทานรอซูลุลลอฮ  ไดเสี้ยมสอนพวกเขาไว พวกเขาจะวอนขอตอองคอภิบาลของพวกเขาให พระองคประทานน้ําฝน ซึ่งหากใครวอนขอตอพระองคดวยความจริงใจ พระองคก็จะตอบรับการวอน ขอของพวกเขา และจะทรงประทานน้ําฝนใหกับพวกเขา ซึ่งในเรื่องนี้มุสลิมทั่วโลกที่มีจํานวนเปนลาน จากทั่วทุกสารทิศสามารถเปนพยานยืนยันได และการกระทําดังกลาวเปนการแสดงออกถึงภาคปฏิบัติซึ่งบงชี้ใหเห็นถึงความเชื่อมั่นวาผูทรง สรางน้ําฝนคือผูที่ทรงไดยิน คือผูที่ทรงตอบรับการวอนขอเสมอ อัลลอฮฺตรัสไววา ‫ﻢ‬ ‫ـ‬‫ﻌﱠﻠﻬ‬ ‫ﻮﹾﺍ ﺑِـﻲ ﹶﻟ‬‫ﺆ ِﻣﻨ‬ ‫ﻴ‬‫ﻭﹾﻟ‬ ‫ﻮﹾﺍ ﻟِﻲ‬‫ﺘﺠِﻴﺒ‬‫ﺴ‬  ‫ﻴ‬‫ﺎ ِﻥ ﹶﻓ ﹾﻠ‬‫ﺩﻋ‬ ‫ﻉ ِﺇﺫﹶﺍ‬ ِ ‫ﺍ‬‫ﻮ ﹶﺓ ﺍﻟﺪ‬ ‫ﻋ‬ ‫ﺩ‬ ‫ﺐ‬  ‫ﺐ ﹸﺃﺟِﻴ‬  ‫ﻲ ﹶﻗﺮِﻳ‬‫ﻲ ﹶﻓِﺈﻧ‬‫ﻋﻨ‬ ‫ﺎﺩِﻱ‬‫ﻚ ِﻋﺒ‬  ‫ﺳﹶﺄﹶﻟ‬ ‫ﻭِﺇ ﹶﺫﺍ‬ " "‫ﻭ ﹶﻥ‬‫ﺷﺪ‬ ‫ﺮ‬ ‫ﻳ‬1 และเมื่อมวลบาวของขาไดถามเจาถึงขา (เจาจงตอบไปเถิดวา) แทจริงขาเปนผูใกลชดิ (กับพวกเจา) ขาคอยสนองตอบคําวอนขอผูวอนขอ เมื่อเขาไดวอนขอตอขา ดังนัน้ พวกเขาจงขอการสนองตอบตอขาเถิด และพวกเขาจงมีศรัทธาในขาเถิด เพื่อพวกเขาจะไดรับการชี้นํา (ใหอยูในทางที่ถูกตอง)

186 ‫ اﻟﺒﻘﺮة‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

31

วิชาหลักศรัทธา

ประเด็นรวมอภิปราย  ใครคือผูตระเตรียมประกอบจัดระบบใหกับโลก  ใครคือผูกําหนดและดําเนินการใหสรรพสิ่งดําเนินไปตามระบบและกฎอันละเอียดออนเหลานี้ ทั้งหมด  ใครคือผูทรงไดยินการวอนขอและคอยตอบรับการวอนขอของพวกเขาดวยการสรางเมฆฝนให เกิดขึ้นจากนัน้ ก็ใหฝนหลั่งลงมารดแผนดิน  รูปเจว็ดไมมีความสามารถที่จะกระทําการใด ๆ ทั้งสิ้น  ธรรมชาตินั้นทั้งหูนวกและเปนใบไมสามารถที่จะควบคุมกฎใด ๆ ได  สิ่งที่ไมเคยมีมากอน จากนั้นก็มีการบันดาลใหเกิดขขึ้น ดวยการสราง จัดระบบ ประกอบ กําหนด สรางความเหมาะสมใหเกิดขึ้น ใหความประณีต รับฟง ตอบรับ สรรพสิ่งที่ยังไมมีถูกสรางใหมีขึ้น สิ่ง เหลานี้เกิดขึ้นไดอยางไร ?  สิ่งเหลานี้ทั้งหมดเหมือนเปนการบอกใหสติปญญาของมนุษยรับรูไดวา พวกเขามีองคอภิบาล ผู ทรงปรีชาญาณ ทรงเดชานุภาพ ทรงเชี่ยวชาญ ทรงไดยิน ทรงตอบรับการวอนขอ ทรงประทานปจจัยยัง ชีพ ทรงประทานน้ําฝนมายังปวงบาวของพระองค และแนวทางอันชาญฉลาดเหลานี้เปนแนวทางที่ถูก กําหนดใหมาเพื่อจัดระบบการกําเนิดฝน และกําหนดเสนทางใหแกมัน เปนการบอกเลาใหสติปญญา ของมนุษยไดรับรูถึงเดชานุภาพแหงองคอภิบาล ใหรูจักคุณลักษณะแหงพระองคผูทรงสราง ผูทรง บันดาลสรรพสิ่ง หากไมมีพระองค สิ่งที่เราสามารถมองเห็นไดดวยสายตาในขณะนี้ก็คงจะไมมีใหเรา ไดเห็นไดประจักษ ในระบบทั้งหมด

      

สรุปทายบท อัลลอฮฺคือผูทรงสรางและจัดระบบใหกับโลกทั้งหมด อัลลอฮฺคือผูทรงอํานวยความสะดวกดวยการประทานความรอนจากแสงอาทิตยเพื่อทําใหน้ํากลายเปน ไอลองลอยขึ้นไปในอากาศ ทรงประทานกระแสลมใหพัดพาเมฆฝน ผูทรงทําใหเกิดเมฆและตกลงมาเปนน้ําฝน ทรงทําใหกระแสน้ําไหลเปนแมน้ํา ลําคลอง ทรงทําใหเกิดตาน้ํา และแหลงกักเก็บน้าํ ใตพื้นดิน และคอย ปกปองมิใหเหือดหายไปจากดิน ผูทรงสราง มนุษย สัตว พืชพันธ และทรงใหอาหารน้ําดืม่ พรอมปจจัยในการดํารงชีวิตอยางครบถวน พระองคคือผูทรงไดยิน ผูทรงตอบรับการวอนขอ ผูทรงปลดเปลื้องทุกรอน ผูทรงประทานสายฝน ธรรมชาติ รูปเจว็ด ลวนแลวแตเปนสิ่งที่หนวกบอด เปนใบไมสามารถที่จะสรางหรือกําหนดจัดระเบียบ ไมสามารถที่จะรับฟงและตอบรับอะไรตอใครได

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

32

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 7 ทะเลลึก อากาศ และสิ่งมีชีวิต ถาม อากาศมีความสําคัญตอการดําเนินชีวิตอยางไร ? ตอบ หากลองปดปาก ปดจมูกสัก 2 -3 นาที ก็จะตอบไดในทันทีเลยวาอากาศมีความสําคัญตอ ชี วิ ต ของท า นอย า งไร เพราะอากาศที่ เ ราหายใจอยู ทุ ก วั น นี้ จ ะประกอบไปด ว ยออกซิ เ จนในปริ ม าณที่ เหมาะสมกับความตองการของรางกาย หากชวงเวลาใดที่ไมมีอากาศหายใจ แนนอนที่สุดมนุษยก็จะไมอาจมี ชีวิตอยูได สัตวและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ก็เชนกัน มันจะไมสามารถใชชีวิตอยูไดหากปราศจากอากาศที่อัลลอฮฺ ทรงประทานมาให เมื่อเปนเชนนั้นทานแสดงความกตัญูตอองคอภิบาลของทานหรือยัง ? ประโยชนอื่น ๆ ของอากาศ. ถาม: อากาศยังมีประโยชนอะไรอีกหรือไม ? ตอบ: อากาศยังมีประโยชนอื่น ๆอีกมากมาย เชน 1.อากาศยังชวยปกปองคุมครองโลก ซึ่งเปรียบเสมือนเกราะที่ชวยกําบังใหกับชาวโลกทั้งหมดมิให ไดรับอันตรายจากอุกาบาตที่ตกลงมายังโลกซึ่งมีเปนรอยเปนพันลานในแตละวันและยังจะชวยปกปองจาก รังสีอุนตราไวโอเล็ต หรือแสงอาทิตยที่แรงกลา ชั้นบรรยากาศที่ปกคลุมโลกอยูสามารถที่จะปกปองและ ทําลายอุกาบาตใหลุกไหมเปนจุลไปไดกอนที่จะถึงมายังโลก หากไมมีชั้นบรรยากาศคอยเปนตัวสกัดกั้น แนนอนที่สุดโลกก็จะพบกับภัยคุกคามจากอุกาบาตรซึ่งอาจจะถูกเผาไหมเปนจุลไปก็ได เชนเดียวกับชั้น โอโซน ที่ปกคลุมโลกอยู ในระดับสูงขึ้นไปหลายไมล เพื่อปกปองโลกและสิ่งมีชีวิตในโลกใหรอดพนจาก รังสีที่มุงมายังโลกได 2.นอกจากนั้นอากาศหรือกระแสลมยังมีประโยชนในการชวยผสมเกสรดอกไมเพื่อใหเกิดผลหาก ไมมีกระแสลมมาชวยพัดพาเกสรดอกหนึ่งไปยังอีกดอกหนึ่งตนไมก็จะไมสามารถออกผลได "‫ﺢ‬ ‫ﺍِﻗ‬‫ﺡ ﹶﻟﻮ‬  ‫ﺎ‬‫ﺮﻳ‬ ‫ﺎ ﺍﻟ‬‫ﺳ ﹾﻠﻨ‬ ‫ﺭ‬ ‫ﻭﹶﺃ‬ "1 และเราไดสงลมที่พัดพาเกสรดอกไม (ตัวผูต ัวเมียใหมาผสมพันธุกัน) 3. อากาศจะชวยพยุงใหนกและเครื่องบินสามารถบินอยูได ความกดอากาศ แรงดันอากาศที่อยู รอบตัวเราจะชวยเพิ่มความกดอากาศและความดันโลหิตเพื่อใหเกิดความสมดุลยแกรางกายเพื่อให รางกายสามารถดํารงอยูได หากขาดอากาศหรือขาดแรงดันอากาศในปริมาณที่เหมาะสมแนนอนที่สุด ตอมเหงื่อ เสนโลหิตในรางกายก็จะระเบิด เพราะขาดความกดอากาศสมดุลที่เหมาะสม 4. ลมมรสุมที่ชวยพัดพาเมฆฝนจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งโดยไมคิดคาคํานวณราคา ซึ่งมนุษยจะไดรับ ประโยชน อีกทั้งยังอํานวยความสะดวกในการเดินเรือผานยุคผานสมัยมาแลวในอดีต อัลลอฮฺตรัสไววา 22 ‫ اﻟﺤﺠﺮ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

33

วิชาหลักศรัทธา

‫ﻮﺍ‬‫ﺴﺒ‬  ‫ﺎ ﻛﹶـ‬‫ ِﺑﻤ‬‫ﻬﻦ‬ ‫ﻮِﺑ ﹾﻘ‬‫ﻭ ﻳ‬ ‫ ﹶﺃ‬،ٍ‫ﺷﻜﹸﻮﺭ‬ ‫ﺎ ٍﺭ‬‫ﺻﺒ‬  ‫ﺕ ﻟﱢ ﹸﻜﻞﱢ‬ ٍ ‫ﺎ‬‫ﻚ ﻟﹶﺂﻳ‬  ‫ﻬ ِﺮ ِﻩ ِﺇﻥﱠ ﻓِﻲ ﹶﺫِﻟ‬ ‫ﻋﻠﹶﻰ ﹶﻇ‬ ‫ﺪ‬ ‫ﺍ ِﻛ‬‫ﺭﻭ‬ ‫ﻦ‬ ‫ﻴ ﹾﻈﹶﻠ ﹾﻠ‬‫ﺢ ﹶﻓ‬ ‫ﻳ‬‫ﺴ ِﻜ ِﻦ ﺍﻟﺮ‬  ‫ﺸ ﹾﺄ ﻳ‬  ‫ﻳ‬ ‫"ﺇِﻥ‬ "‫ﻦ ﹶﻛِﺜ ٍﲑ‬‫ ﻋ‬‫ﻌﻒ‬ ‫ﻳ‬‫ﻭ‬ 1 แมนพระองคทรงประสงค แนนอนพระองคก็ (ทรงอํานาจที่จะ) หยุดลมไว (มิใหพัด) และเรือเหลานั้นก็ จะสงบนิ่ง อยูบนผิวทะเลตลอดไป แทจริงในนั้น เปนสัญลักษณตาง ๆ (ที่แสดงถึงเดชานุภาพของอัลลอฮฺ) สําหรับผูมีความอดทน ผูมีความกตัญูทุก ๆ คนหรือ (หากพระองคทรงประสงค) พระองคก็จะทําลายเรือ เหลานั้น เพราะ (ความผิด) ที่พวกเจาไดพากเพียรไว แตพระองคทรงอโหสิใหจาก (ความผิด) สวนมาก (ที่ พวกเขากระทํา พระองคจึงไมบันดาลใหเปนไปในทํานองที่กลาวมา) และตรัสไวอีกวา ٍ ‫ﺎ‬‫ﺽ ﻟﹶﺂﻳ‬ ِ ‫ﺭ‬ ‫ﺍﹾﻟﹶﺄ‬‫ﺕ ﻭ‬ ِ ‫ﺍ‬‫ﺎﻭ‬‫ﺴﻤ‬  ‫"ِﺇﻥﱠ ﻓِﻲ ﺍﻟ‬ ، ‫ـﻮ ﹶﻥ‬‫ﻮِﻗﻨ‬‫ﻮ ٍﻡ ﻳ‬ ‫ﺕ ﱢﻟﻘﹶـ‬  ‫ـﺎ‬‫ﺑ ٍﺔ ﺁﻳ‬‫ﺍ‬‫ﺒﺚﱡ ﻣِﻦ ﺩ‬‫ﻳ‬ ‫ﺎ‬‫ﻭﻣ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﺧ ﹾﻠ ِﻘ ﹸﻜ‬ ‫ﻭﻓِﻲ‬ ،‫ﺆ ِﻣِﻨﲔ‬ ‫ﻤ‬ ‫ﺕ ﱢﻟ ﹾﻠ‬ ‫ﻮ ٍﻡ‬ ‫ﺕ ﱢﻟ ﹶﻘ‬  ‫ﺎ‬‫ﺡ ﺁﻳ‬ ِ ‫ﺎ‬‫ﺮﻳ‬ ‫ﻒ ﺍﻟ‬ ِ ‫ﺼﺮِﻳ‬  ‫ﺗ‬‫ﻭ‬ ‫ﺎ‬‫ﻮِﺗﻬ‬ ‫ﻣ‬ ‫ﺪ‬ ‫ﻌ‬ ‫ﺑ‬ ‫ﺽ‬  ‫ﺭ‬ ‫ ﺍﹾﻟﹶﺄ‬، ‫ﺎ ِﺑ ِﻪ‬‫ﺣﻴ‬ ‫ﻕ ﹶﻓﹶﺄ‬ ٍ ‫ﺯ‬ ‫ﺭ‬ ‫ﺎﺀ ﻣِﻦ‬‫ﺴﻤ‬  ‫ﻦ ﺍﻟ‬ ‫ﻪ ِﻣ‬ ‫ﺰ ﹶﻝ ﺍﻟﱠﻠ‬ ‫ﺎ ﺃﹶﻧ‬‫ﻭﻣ‬ ‫ﺎ ِﺭ‬‫ﻨﻬ‬‫ﺍﻟ‬‫ﻴ ِﻞ ﻭ‬‫ﻑ ﺍﻟﻠﱠ‬ ِ ‫ﺧِﺘﻠﹶﺎ‬ ‫ﺍ‬‫ﻭ‬ "‫ﻮ ﹶﻥ‬‫ﺆ ِﻣﻨ‬ ‫ﻳ‬ ‫ﺎِﺗ ِﻪ‬‫ﺁﻳ‬‫ﺪ ﺍﻟﻠﱠ ِﻪ ﻭ‬ ‫ﻌ‬ ‫ﺑ‬ ‫ﺚ‬ ٍ ‫ﺣﺪِﻳ‬ ‫ﻱ‬  ‫ﻖ ﹶﻓِﺒﹶﺄ‬ ‫ﺤ‬  ‫ﻚ ﺑِﺎﹾﻟ‬  ‫ﻴ‬‫ﻋﹶﻠ‬ ‫ﺎ‬‫ﺘﻠﹸﻮﻫ‬‫ﻧ‬ ‫ﺕ ﺍﻟﻠﱠ ِﻪ‬  ‫ﺎ‬‫ﻚ ﺁﻳ‬  ‫ ِﺗ ﹾﻠ‬، ‫ﻌ ِﻘﻠﹸﻮ ﹶﻥ‬ ‫ﻳ‬2 แทจริงในฟากฟาและแผนดิน ยอมเปนสัญลักษณ (ชี้ถึงเอกานุภาพ และเดชานภาพแหงอัลลอฮฺ) สําหรับมวลศรัทธาชนและในการบันดาลพวกเจา รวมทั้งส่ําสัตวทงั้ หลายที่แยกยายกัน (อยูบนหนา แผนดิน) ก็เปนสัญลักษณสําหรับกลุมชนที่มีความเชื่อมั่นและในการเปลี่ยนสลับกลางคืนและกลางวัน รวมทั้งโชคผล (น้ํา) ที่อัลลอฮฺไดหลั่งลงมาจากฟา แลวทรงชุบชีวิตแกแผนดิน ภายหลังจากมันไดตายไป แลว และการผันแปรของลม (ในฤดูกาลตาง ๆ) ลวนเปนสัญลักษณสําหรับกลุมชนที่ใชปญญาทัง้ มวล เหลานั้นเปนโองการแหงอัลลอฮฺ ซึ่งเราไดอานใหเจาฟงโดยสัจจะ แลวยังจะมีถอยคําใดอีกเลา ภายหลัง จากอัลลอฮฺ (ไดตรัสแลว) และบรรดาสัญลักษณของพระองค (ที่ไดปรากฏขึ้นแลว) ที่พวกเจาพึง ศรัทธา? อากาศมีมากและสะดวกที่จะสูดมัน ถาม: นอกเหนือจากที่ไดกลาวมาแลวอากาศยังมีประโยชนอื่นอีกหรือไม ? ตอบ: สัญญาณตางๆ ของอัลลอฮฺซึ่งมีอยูกับสิ่งถูกสรางตาง ๆ นั้นมีอยูมากมายหลายชนิด หนึ่งใน นั้นก็คือ ความเพียงพอของอากาศซึ่งเปนที่ตองการของมนุษยทุกคน อัลลอฮฺผูทรงเมตตายิ่งไดทรงบันดาลให อากาศมี อ ยู ทั่ ว ไปในทุ ก ที่ บ นผื น แผ น ดิ น โดยไม ต อ งกํ า หนดว า จะต อ งรวมอยู ใ นที่ ใ ดที่ ห นึ่ ง จะต อ ง เคลื่อนยายไปยังที่ใดที่หนึ่ง จะตองรวมไวในที่ใดที่หนึ่ง หากเราพิเคราะหทําความเข าใจเราก็จะพบวา ในแตละวั นมนุษ ยและสัตวไ ดบริโภคอากาศอยู ตลอดเวลา และในอากาศก็มีออกซิเจนในปริมาณที่เหมาะสม และมันไดเปลี่ยนเปนคารบอนไดออกไซด แต 34-33 ‫ اﻟﺸﻮرى‬1 6-3 ‫ اﻟﺠﺎﺛﻴﺔ‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

34

วิชาหลักศรัทธา

ก็ไมไดสรางความเดือนรอนอะไรใหกับคนและสัตว จนกระทั่งตองพูดวา การที่เราบริโภคออกซิเยนทุกวัน อยางตอเนื่องอาจจะทําใหสักวันหนึ่งออกซิเยนอาจจะไมเพียงพอตอปริมาณความตองการ ซึ่งอาจจะทําให คนไมสามารถดํารงชีวิตอยูได ที่ทานไมไดพูดเชนนั้นก็เพราะทานมีองคอภิบาลที่ทรงยิ่งในความเมตตา ซึ่ง พระองค จ ะทรงทดแทนออกซิ เ จนในส ว นที่ ข าดหายไปด ว ยออกซิ เ จนใหม อ ย า งต อ เนื่ อ ง โดยผ า น กระบวนการของตนไมที่รับเอาคารบอนไดออกไซดเขาไปแลวเปลี่ยนออกมาเปนออกซิเจนใหมเพื่อใหคน และสัตวนําไปบริโภคอีกครั้งหนึ่งโดยไมมีความลักลั่นเกิดขึ้นกับการดําเนินชีวิต ถึงขนาดทานตองพูดวาการ ใชออกซิเยนทุกวันอยางตอเนื่องจะทําใหสักวันหนึ่งออกซิเจนหมดไปจากโลกแลวจะเสียชีวิตในที่สุด เหตุการณทํานองนี้ไมเคยเกิดขึ้น การปรับเปลี่ยนออกซิเจนเพื่อใหกลับมาใชใหมผานการฟอกอากาศของ ตนไมที่รับเอาคารบอนไดออกไซดแลวคายออกมาเปนออกซิเจนเพื่อใหคนและสัตวบริโภคตอไป อัลลอฮฺไดทรงสรางเครื่องฟอกอากาศใหกับมนุษยมาตั้งแตเมื่อครั้งที่เขายังอยูในครรภมารดา นั่นคือ อวัยวะสําหรับหายใจของมนุษย (ปอด หลอดลมและจมูก) และเครื่องฟอกอากาศในตัวของมนุษยไดทํางาน อยางตอเนื่องมาตลอด มาตั้งแตครั้งที่คลอดออกมาจากครรภมารดาไปจนกระทั่งมนุษยเสียชีวิตโดยไมลักลั่น ไมหยุดไมหยอน ไมวาเราจะอยูในสถานะใด จะหลับจะตื่น จะรูสึกตัวหรือไมรูสึกตัว ประหนึ่งวาองค อภิบาลของเราจะสื่อใหเราไดเขาใจไดวา พระองคทรงสรางอากาศไวใหเราในทุกหนทุกแหง เพื่อเราได หายใจไดอยางสะดวก ไมตองเหน็ดเหนื่อย ไมตองรูสึกยากลําบาก ไมตองทุมเทกําลังกายใหเหน็ดเหนื่อย เพื่อใหไดมาซึ่งอากาศแตอยางใด นั่นก็แสดงวา • อัลลอฮฺทรงสรางธรรมชาติใหเกิดขึน้ และทรงหยิบยืน่ อากาศซึ่งเปนสิ่งที่ชีวิตตองการใหอยาง ครบถวน • อัลลอฮฺคือผู ทรงอํ านวยความสะดวกใหกับสิ่งมีชีวิตดวยการประทานอากาศหายใจมาให และ พระองคปกปองมนุษยจากการถูกทําลายจากอุกาตนอกโลก ทรงใหลมชวยผสมเกสรใหแกพืชพันธ ตางๆ ใหลมมรสุมชวยพัดพาฝนมาใหกับพวกเขา ชวยในการบิน ชวยในการสรางความสมดุลของ ความดันโลหิตในรางกายของมนุษย ทานเห็นหรือไมวา • ปรัชญาอันล้ําลึกประการหนึ่งที่อัลลอฮฺทรงสรางมนุษยใหมีความตองการอากาศ ซึ่งอัลลอฮฺทรง สร า งมาให กั บ มนุ ษ ย ด ว ยปริ ม าณที่ เ พี ย งพอและเหมาะสมกั บ ความต อ งการของพวกเขาอย า ง พอเหมาะ • อัลลอฮฺทรงกําหนดปริมาณอากาศเพื่อหอหุมโลกไวในปริมาณที่พอเหมาะและดวยวิธีการที่ชาญ ฉลาดยิ่งเพื่อใหเกิดการเผาไหมอุกาบาตรกอนที่จะพุงถึงมายังโลก และดวยเหตุที่โลกถูกปกคลุมดวย ปริ มาณการกดดั นอากาศที่ เหมาะสมและละเอียดออน จนสามารถรักษาความสมดุลยของการ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

• • • •

• • • •

35

วิชาหลักศรัทธา

ไหลเวียนของของเหลวภายในรางกายไดอยางเหมาะสม นอกจากนี้อากาศยังชวยพยุงใหเครื่องบิน ใหสามารถบินอยูไดอยางงายดาย การพั ด เวี ย นของลมจะช ว ยในการผสมเกสรให กั บ พื ช พั น ธ ต า งๆ ช ว ยในการพั ด พาเมฆ ช ว ย แพรกระจายเมฆไปยังที่ตาง ๆ ชวยอํานวยความสะดวกในการเดินเรือสําเภา ความสะดวกตาง ๆ เหลานี้ทั้งหมดเปนการแสดงใหเห็นถึงความเพียงพอของปริมาณและความ เหมาะสมสําหรับการดําเนินชีวิตในทุกหนทุกแหงบนพื้นแผนดิน เปนการแสดงใหเห็นถึงความสมดุลยที่ละเอียดออนระหวางออกซิเยนซึ่งเปนอากาศบริสุทธิ์และ คารบอนไดออกไซด ที่เปนอากาศเสีย อวัยวะสําหรับเปนเครื่องหายใจที่ไดรับการควบคุมใหทํางานอยางตอเนื่องโดยไมหยุดหยอนและ ทํางานไดอยางละเอียดถี่ถวน ทํางานอยางอัตโนมัติโดยที่มนุษยไมตองออกแรงในการบังคับไมวา จะเปนชวงเวลานอนหรือเวลาตื่น เจาของวิทยปญญาอันสําคัญผูนี้คือใคร ใครคือผูสรรสราง บันดาล จัดระบบไวไดอยางชาญฉลาด เชนนี้ ใครคือผูที่จัดวางระบบไวไดอยางสมดุล มั่นคง เรียบเรียงสรรพสิ่งตาง ๆ ไวไดอยางเปน ระบบไดเชนนี้ ทานไมไดพิจารณาดอกหรือวาแทจริงแลวบรรดารูปเจว็ดตาง ๆ มองอะไรไมเห็น ฟงอะไรไมไดยิน ไมไดยังประโยชน ไมไดใหโทษ ไมไดมีพลังอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ธรรมชาติ เ ป น สิ่ ง ที่ ม องอะไรไม เ ห็ น ฟ ง อะไรไม ไ ด ยิ น ไม ไ ด มี อํ า นาจปกครอง และไม ไ ด มี เจตนารมณใดๆ อยูกับตัวเองเลยแมแตนอย สิ่งที่ไมมีตัวตนก็จะทําอะไรไมได มิใชหรือ ปรัชญาอันชาญฉลาดที่ทุกคนมองเห็น กําหนดการอันวิจิตงดงาม การจัดวางระบบที่ชาญฉลาดยิ่ง ความสมดุลที่มั่นคง การจัดระบบที่นาทึ่งทั้งหมดลวนแลวแตประจักษพยานอยูตอหนาของทุกคนที่ มีสติปญสัมปชัญญะแลวว า แทจริงแลวองคอภิบาลเปนผูที่ทรงชาญฉลาดยิ่ง เปนผู ทรงสรางที่ ยิ่งใหญ เปนผูมีเจตนารมณ ที่ทรงเชี่ยวชาญ ทรงมองเห็น ทรงไดยิน ทรงพัฒนา ทรงยิ่งในความ เมตตา พระองค คื อ ผู ท รงสร า งอากาศให ห อ หุ ม โลกของเราด ว ยกํ า หนดการที่ ช าญฉลาดและ ละเอียดออนเปนยิ่งนัก พระองคจะตองไมไดเปนประเภทเดียวกับสิ่งถูกสรางที่เรามองเห็นเหลานี้ ทั้งหมด มหาบริสุทธิ์แหงอัลลอฮฺ พระองคทรงบริสุทธิ์ยิ่ง บทที่ 8 ที่พักอาศัยและความปลอดภัยของบาน

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

36

วิชาหลักศรัทธา

ถาม พระดํารัสแหงอัลลอฮฺซึ่งตรัสไววา “"‫ﺎ‬‫ـ ﹶﻜﻨ‬‫ﻢ ﺳ‬ ‫ﻮِﺗ ﹸﻜ‬‫ﺑﻴ‬ ‫ﻦ‬‫ﻌ ﹶﻞ ﹶﻟﻜﹸﻢ ﻣ‬ ‫ﺟ‬ ‫ﻪ‬ ‫ﺍﻟﻠﹼ‬‫"ﻭ‬1 มีความหมายวา อยางไร ? ตอบ (และอัลลอฮฺไดบันดาลแดพวกเจาทั้งหลาย จากบานเรือนของพวกเจาใหเปนที่อยูอาศัย) คํา วาบานเรือนในที่นี้หมายถึงที่สําหรับพักผอนอาศัย ที่สําหรับพํานักพักเหนื่อยจากการทํางาน ที่สําหรับหลบ รอนผอนคลาย ที่สําหรับหลบฝนหลบหนาว ที่สําหรับหลบภัยจากธรรมชาติทุกชนิด บานจึงกลายเปนที่พัก อาศัยสําหรับพวกเรา ลูกหลานและครอบครัว ดวยพระเมตตาธิคุณแหงอัลลอฮฺที่ทรงบันดาลใหเราไดมีที่ สําหรับพักผอนที่แนนอน สามารถพักอาศัยไดอยางสงบ จนเราสามารถปกปองตนเองจากผองภัยตางๆ ได มากมาย หากพระองคไมประสงคจะใหบานของเราเปนที่พักอาศัย พระองคก็ทรงเดชานุภาพที่จะสงลมพายุ พัดพาเราไปยังขุมเขา หรือไมก็สงสายฟามาพรอมกับอุทุกภัย ดินถลมทะลายทะลักหลั่งมายังบานของพวก เรา ผูที่พักอาศัยอยูในบานก็จะพลอยไดรับอันตรายไปดวย มหาบริสุทธิ์แหงอัลลอฮฺพระองคทรงใหบานที่ พักอาศัยใหกับพวกเราเพื่อที่เราจะไดพักอยูอยางสงบสุข ซึ่งพระองคทรงอํานวยความสะดวกแกพวกเราดวย สิ่งตางๆ ที่เอื้ออํานวยสําหรับการสรางบานที่อยูอาศัย • พระองค ท รงประทานสติ ป ญ ญาเพื่ อ การขบคิ ด คิ ด ค น การออกแบบบ า นเรื อ นที่ อ ยู อ าศั ย ทรง ประทานสายตาเพื่อใหมองเห็น ทรงประทานหูเพื่อการรับฟง เรียนรู สรางสมประสบการณ ทดสอบทดลอง ทรงประทานมือมาใหกับพวกเราเพื่อการทํางานที่สะดวกงายดาย ทรงประทานเทาทั้งสองขางเพื่อการ เดินเหินที่สะดวก ทรงประทานการงานอาชีพเพื่อมิใหเกิดความยากลําบากแกเรา • ทรงอํานวยความสะดวกดวยการประทานวัสดุตาง ๆ สําหรับการกอสราง เชนหินจากภูเขาที่เปน กอน ๆ และภูเขาเลากาที่พรอมสําหรับการอํานวยประโยชนแกพวกเรา โดยที่เราสามารถนําเอาวัสดุหลายตอ หลายประการจากภูเขามาเปนวัสดุกอสราง ที่ตัด คัด เลือกเอาไดตามใจชอบ โดยที่ไมมีการปฏิเสธตอความ ตองการของพวกเราแตอยางใด ไมวาจะเปนไม ซึ่งเราสามารถเลือกตัดมาไดตามแตจะเลือก เชนเดียวกับดิน และหิน เหล็ก ปูนซีเมนต สําหรับการกอสราง ก็ลวนแลวแตมีแหลงที่มาจากภูเขา ซึ่งสิ่งเหลานี้ไดแสดงถึง การยอมจํานนตอบัญชาแหงองคอภิบาลของพวกมันแลวทั้งหมด • พระองคทรงสรางดินใหมีความสงบนิ่ง ไมสะทานสะเทื อน เพื่อใหเปนที่ที่เหมาะสําหรับการสราง เป น ที่ พั ก อาศั ย ทรงกํ า หนดให โ ลกอยู กั บ ที่ ข องมั น ไม ใ ห ล อยหมุ น คว า งออกไปในอาวกาศ และทรง กําหนดใหโลกนี้มีแรงดึงดูด คอยยึดเหนี่ยวมิใหสิ่งที่อยูบนพื้นผิวของมันหลุดลอยออกไปในหวงอาวกาศ ซึ่ง พระองคตรัสไววา 2 "‫ﺍ‬‫ﺍﺭ‬‫ﺽ ﹶﻗﺮ‬  ‫ﺭ‬ ‫ ﺍﹾﻟﹶﺄ‬‫ﻌ ﹶﻞ ﹶﻟﻜﹸﻢ‬ ‫ﺟ‬ ‫ﻪ ﺍﱠﻟﺬِﻱ‬ ‫" ﺍﻟﱠﻠ‬ อัลลอฮฺซึ่งพระองคทรงบันดาลแผนดินใหเปนที่อยูอาศัยสําหรับพวกเจา เครื่องอํานวยความสะดวกในครัวเรือนและเฟอนิเจอร 80 ‫ اﻟﻨﺤﻞ‬1 64 ‫ ﻏﺎﻓﺮ‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

37

วิชาหลักศรัทธา

ถาม: นอกเหนือจากการใหที่อยูอาศัยแลวยังมีสิ่งใดอีกที่เปนความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ตอบ: บานเรือนที่อยูอาศัยหากปราศจากเครื่องเรือนเครื่องตกแตงภายในแลวก็จะไมสมบูรณแบบ บา นที่ อ ยูอ าศั ย จะสมบู ร ณ ไ ด ก็ ต อ เมื่ อ มี เ ครื่ อ งประดั บ ภายในอย า งเชน พรมและเฟอนิ เ จอร ด ว ยเหตุ นี้ เองอัลลอฮฺจึงทรงสรางวัตถุดิบที่จะนํามาสรางเปนพรมปูพื้น ดวยการใหฝายงอกเงยขึ้นในสวน และทรงให ขนสัตวงอกเงยขึ้นบนผิวหนังของปศุสัตว และดวยวัตถุดิบดังกลาวเราสามารนํามาใชถักทอเปนผาหม เปน พรมปูพื้น เปนเครื่องนุงหมที่หลากหลาย นํามาสรางเปนเตนทที่อยูอาศัย หรือเสื้อผาขนสัตวหลากหลาย รูปแบบ เพื่อปกปองรางกายจากความหนาวเหน็บ สวนภูมิภาคที่เปนทะเลทรายตนไมและกอนหินอาจจะมีอยูนอย หนังสัตวและขนสัตวก็สามารถ นํามาชดเชยทดแทนทําเปนเครื่องนุงหม ทําเปนเตนทที่พัก เสื้อผา โดยเฉพาะอยางยิ่งผูที่จะตองเดินทาง อพยพหรือมีถิ่นฐานที่ไมมั่นคงก็สามารถนําสิ่งเหลานี้มาใชในชีวิตประจําวันไดซึ่งอัลลอฮฺตรัสวา ‫ﻡ‬ ‫ﻮ‬ ‫ـ‬‫ﻭﻳ‬ ‫ﻢ‬ ‫ـِﻨ ﹸﻜ‬‫ﻡ ﹶﻇﻌ‬ ‫ﻮ‬ ‫ـ‬‫ﺎ ﻳ‬‫ﻧﻬ‬‫ﺨﻔﱡﻮ‬ ِ ‫ﺘ‬‫ﺴ‬  ‫ﺗ‬ ‫ﺎ‬‫ﻮﺗ‬‫ﺑﻴ‬ ‫ﺎ ِﻡ‬‫ﻧﻌ‬‫ﺟﻠﹸﻮ ِﺩ ﺍ َﻷ‬ ‫ﻦ‬‫ﻌ ﹶﻞ ﹶﻟﻜﹸﻢ ﻣ‬ ‫ﺟ‬ ‫ﻭ‬ ‫ﺎ‬‫ﺳ ﹶﻜﻨ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﻮِﺗ ﹸﻜ‬‫ﺑﻴ‬ ‫ﻦ‬‫ﻌ ﹶﻞ ﹶﻟﻜﹸﻢ ﻣ‬ ‫ﺟ‬ ‫ﻪ‬ ‫ﺍﻟﻠﹼ‬‫"ﻭ‬ "‫ﲔ‬ ٍ ‫ﺎ ِﺇﻟﹶﻰ ِﺣ‬‫ﺎﻋ‬‫ﻣﺘ‬ ‫ﻭ‬ ‫ﺎ ﹶﺃﺛﹶﺎﺛﹰﺎ‬‫ﺎ ِﺭﻫ‬‫ﺷﻌ‬ ‫ﻭﹶﺃ‬ ‫ﺎ‬‫ﺎ ِﺭﻫ‬‫ﻭﺑ‬ ‫ﻭﹶﺃ‬ ‫ﺎ‬‫ﺍِﻓﻬ‬‫ﺻﻮ‬  ‫ﻦ ﹶﺃ‬ ‫ﻭ ِﻣ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﻣِﺘﻜﹸ‬ ‫ِﺇﻗﹶﺎ‬1 และอัลลอฮฺไดบันดาลแดพวกเจาทั้งหลาย จากบานเรือนของพวกเจาใหเปนที่อยูอาศัย และทรง บันดาลแดพวกเจา จากหนังของปศุสตั วให (นํามาจัดทํา) เปนบาน (คือกระโจม) ซึ่งพวกเจาใชมันอยางเบา แรง (สามารถพาไปไหนมาไหนไดโดยสะดวก) ในวาระแหงการเดินทาง และการพักแรมของพวกเจาและจาก ขนหยาบของมัน, ปุยขนของมัน และผมของมัน (ซึ่งนํามาทํา) เปนเครื่องใชและเปนเครื่องอํานวยสุข เพียง ชั่วระยะเวลาหนึ่งเทานั้น เครื่องอํานวยความสะดวกที่ครบถวนเพียบพรอม และผืนแผนดินที่ปูราบเหมาะสําหรับการเปนที่อยู อาศัยที่สงบมั่นนี่เองทําใหมนุษยไดรับรูไดถึงความโปรดปรานที่อัลลอฮฺทรงประทานมาใหเปนที่พักอาศัย แกพวกเขาไดอยางมั่นคงและปลอดภัย ทานประจักษหรือยังวา .... • ปรัชญาที่ชัดเจนที่สุดประการหนึ่งคือการที่อัลลอฮฺทรงตระเตรียมใหพื้นดินมีความเหมาะสม สําหรับสรางเปนบานที่อยูอาศัยที่มีความมัน่ คงไมพังทลายลงงาย ๆ • และปรัชญาอันยิ่งใหญนี้สามารถเปนประจักษพยานยืนยันไดวาเปนการสรางสรรคของผูทรงปรีชา และทรงยิ่งในความเมตตา • ความสามารถอันยิ่งใหญ คือความคิด ความสามารถในการกระทําซึ่งอัลลอฮฺไดทรงประทานใหกับ พวกเรา ทรงสรางสรรคใหกับพวกเรา เพื่อใหเราไดมาพัฒนาสรางสรรคพื้นแผนดิน เปนอาคาร บ า นเรื อ น เป น ที่ อ ยู อ าศั ย ทํ า ให เ ราซึ่ ง เป น เผ า พั น ธุ ม นุ ษ ย ส ามารถประจั ก ษ ไ ด ว า นั่ น คื อ การ สรางสรรคของผูทรงประทานให ผูทรงยิ่งในความเมตตา ผูทรงยิ่งในความกรุณา 80 ‫ اﻟﻨﺤﻞ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

38

วิชาหลักศรัทธา

• เปนที่ประจักษแลววา สิ่งที่ยอมจํานนเพื่อมาอํานวยความสะดวกใหกับพวกเราบนหนาแผนดินนี้ ลวนแลวแตเปนผลงานการสรางสรรคที่สามารถยืนยันใหประจักษได วาเปนผลงานของผูทรง อํานาจในการบริหารจัดการ ที่ทรงแตตั้งใหเผาพันธของอาดัมมาเปนผูสืบทอดบนพื้นแผนดินโดย ใหพวกเขาสามารถนําสิ่งอํานวยความสะดวกเหลานี้มาใชไดในทันที • การจัดระบบระเบียบที่เหมาะสมระหวางแรงดึงดูดของโลกกับแรงเหวี่ยงที่เกิดจากการหมุนรอบ ตัวเองของโลกที่สอดคลองและลงตัว จนสามารถทําใหโลกกลายเปนที่อยูอาศัยที่ไมสั่นคลอน กําหนดการเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตเปนประจักษพยานยืนยันใหกับพวกเราไดเปนอยางดีวา มัน เปนการจัดระบบของผูทรงสรางที่มีพระประสงคผูมีความชาญฉลาด ผูทรงเชี่ยวชาญและทรงเดชานุ ภาพยิ่ง • ทรงกําหนดใหวัสดุตาง ๆ มีความพรอมเพรียงครบถวนสอดคลองกับความตองการ ในการนําเอาสิ่ง เหลานี้มาเปนเครื่องอํานวยสุข โดยนํามาจากพืชพันธตาง ๆ ที่อัลลอฮฺทรงใหงอกเงยขึ้น นอกจากนี้ก็ ยังมีขนสัตวตาง ๆที่อัลลอฮฺทรงใหงอกออกมาจากผิวหนังของสัตวเลี้ยง เพื่อใหมนุษยพบกับความ สะดวกสบายในการนํ า มาเป น เครื่ อ งใช หรื อเครื่ อ งอํา นวยสุข ภายในบาน สิ่ ง เหล านี้ทั้ ง หมดก็ สามารถยืนยันไดวานั่นคือการสรางสรรคของผูทรงเอื้ออารียและผูทรงรักและเอ็นดูตอมวลบาวยิ่ง ประเด็นรวมอภิปราย 1. ใครคือผูทรงปรีชาญาณที่คอยอภิบาลเหนือปรัชญาเหลานี้ทั้งหมด 2. ใครคือผูใจบุญที่ใหความสามารถในดานตาง ๆ แกมวลมนุษย 3. ใครคือผูทรงอํานาจในการบริหารจัดการเหนือแผนดินที่ทรงกําหนดใหมีทั้ง ภูเขาเลากา ตนไมใบหญา และอื่น ๆ ซึ่งเปนสิ่งถูกสรางใหมาอํานวยความสะดวกแกมวลมนุษย 4. ใครคือผูจัดระบบที่ทรงชาญฉลาดยิ่งที่สามารถกํากับใหเกิดความสมดุลยระหวางแรงแรงดึงดูดของ โลกกับแรงเหวี่ยงที่เกิดจากการหมุนรอบตัวเองของโลก 5. ใครคือผูที่เรียกไดวาเปนผูมคี วามใจบุญทีม่ ีความรักความเอ็นดูตอมวลมนุษยดวยการสรางสิ่งตาง ๆ ใหมาเปนเสมือนวัตถุดิบสําหรับสรางเครื่องอํานวยสุขภายในบานใหกบั มนุษย 6. รูปเจว็ด รูปบูชาเปนสิ่งที่ไรซึ่งสติปญญาสําหรับขบคิด ไรซึ่งความสามารถในการเคลื่อนขยับเขยื้อน เคลื่อนไหวมิใชหรือ 7. ธรรมชาติเปนสิ่งที่ไรซึ่งอํานาจในการบริหารจัดการ ไมมแี มกระทั่งความประสงคซึ่งเปนเจตนารมณ ของตนเอง 8. หรือวาธรรมชาติไมมีอะไรอยูกับตัวมันเองเลยแมแตสักนิดเดียว 9. หรือวาปรัชญาเหลานั้นทั้งหมด สิ่งที่ไดรับการประทานใหทั้งหมด การบริหารจัดการ ระบบที่ถูกจัด ไวอยางชาญฉลาด ความใจบุญ ความเอื้ออารียเหลานี้ คือสิ่งที่เปนประจักษพยานยืนยันวาลวนแลวแต ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

39

วิชาหลักศรัทธา

มาจากการสรางสรรคของผูทรงสรางที่ทรงมี ทรงชาญฉลาด ทรงให ทรงอํานาจ ทรงบริหารจัดการ ทรงจัดระบบ ทรงเอื้ออารีย ทรงรักใคร ซึ่งก็คืออัลลอฮฺผูทรงบริสุทธิ์ยิ่ง

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

40

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 9 ศาสนทูตของอัลลอฮฺการเผยแพรและสาระธรรม วิทยะปญญาในการสงศาสนทูตของอัลลอฮฺมายังโลก ถาม ทําไมอัลลอฮฺจึงทรงสงศาสนทูตของพระองคมายังโลก ตอบ อัลลอฮฺทรงแตงตั้งและสงศาสนทูตมายังมวลมนุษยเพื่อสั่งสอนใหมนุษยรูจักองคอภิบาล และผูทรงสรางของพวกเขา มาเพื่อเรียกรองเชิญชวนใหมวลมนุษยนมัสการตออัลลอฮฺ ดังที่พระองคไดตรัส ไววา "‫ﻭ ِﻥ‬‫ﺒﺪ‬‫ﻋ‬ ‫ﺎ ﻓﹶﺎ‬‫ﻪ ِﺇﻟﱠﺎ ﹶﺃﻧ‬ ‫ﻪ ﻟﹶﺎ ِﺇﹶﻟ‬ ‫ﻴ ِﻪ ﹶﺃﻧ‬‫ﻮﺣِﻲ ِﺇﹶﻟ‬‫ﻮ ٍﻝ ِﺇﻟﱠﺎ ﻧ‬‫ﺭﺳ‬ ‫ﻚ ﻣِﻦ‬  ‫ﺒِﻠ‬‫ﺎ ﻣِﻦ ﹶﻗ‬‫ﺳ ﹾﻠﻨ‬ ‫ﺭ‬ ‫ﺎ ﹶﺃ‬‫ﻭﻣ‬ "1 และไมวาศาสนทูตคนใดก็ตามที่เราไดแตงตั้งมากอนหนาเจานอกจากเราไดดลโองการมายังเขาวา “แทจริง ไมมีพระเจาอื่นใด นอกจากขา ดังนั้นเจาทั้งหลายจงนมัสการขาเถิด” 1. พวกเราตางเปนที่รูกันอยูว า ทุกสิ่งทุกอยางที่อัลลอฮฺทรงสรางมานั้นลวนแลวแตมีปรัชญาอยูใน ตัวทั้งหมด ไมมีสิ่งใดที่อัลลอฮฺสรางมาโดยไรสาระประโยชน เชนเดียวกับ ปาก หู จมูก หรือแมกระทั่งสิ่ง เล็ก ๆนอย ๆ อยางหยดเหงือ่ ลวนแลวแตแฝงไวดว ยประโยชนทั้งสิ้น ไมมีสิ่งใดที่พระองคจะทรงสรางมา โดยไรสาระประโยชน ดังทีพ่ ระองคไดตรัสไววา. ‫ﺵ‬ ِ ‫ﺮ‬ ‫ﻌ‬ ‫ﺏ ﺍﹾﻟ‬  ‫ﺭ‬ ‫ﻮ‬ ‫ﻪ ِﺇﻟﱠﺎ ﻫ‬ ‫ﻖ ﻟﹶﺎ ِﺇﹶﻟ‬ ‫ﺤ‬  ‫ ﺍﹾﻟ‬‫ﻤِﻠﻚ‬ ‫ﻪ ﺍﹾﻟ‬ ‫ﺎﻟﹶﻰ ﺍﻟﱠﻠ‬‫ﺘﻌ‬‫ ﹶﻓ‬، ‫ﻮ ﹶﻥ‬‫ﺟﻌ‬ ‫ﺮ‬ ‫ﺗ‬ ‫ﺎ ﻟﹶﺎ‬‫ﻴﻨ‬‫ﻢ ِﺇﹶﻟ‬ ‫ﻧﻜﹸ‬‫ﻭﹶﺃ‬ ‫ﺒﺜﹰﺎ‬‫ﻋ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﺎ ﹸﻛ‬‫ﺧﹶﻠ ﹾﻘﻨ‬ ‫ﺎ‬‫ﻧﻤ‬‫ﻢ ﹶﺃ‬ ‫ﺒﺘ‬‫ﺴ‬ ِ‫ﺤ‬  ‫"ﹶﺃﹶﻓ‬ "‫ﺍﹾﻟ ﹶﻜ ِﺮ ِﱘ‬2 “แลวพวกเจาคิดหรือวา เราบันดาลพวกเจานั้นมาอยางไรสาระ? และ (พวกเจาคิดอีกหรือวา) แทจริง พวกเจานั้น จะไมถูกสงกลับคืนมายังเรา?”ที่จริงอัลลอฮฺทรงสูงสงนัก ทรงอํานาจปกครอง ทรงสัจจะ ไมมี พระเจาอื่นใด นอกจากพระองค ผูทรงอภิบาลแหงบัลลังกอันมีเกียรติ แตพวกเจาทั้งหลายไมอาจจะรับรูถึงปรัชญาแหงการสรางสรรคได ไมรูวาสิ่งที่อัลลอฮฺทรงสรางมามี ประโยชน อัน ใด จะรู ไ ด ก็จ ากการเสี้ ย มสอนหรือ การบอกกลา วจากอั ลลอฮฺโ ดยผา นทางศาสนทู ต ของ พระองค • ชาวโลกทั้งหมดกอนหนานี้มาเมื่อประมาณ 100 ป พวกเขายังอยูในโลกแหงความเรนลับ กอนที่ พวกเขาจะมามีชีวิตอยูในโลกนี้ และอีกสักประมาณ 100 ป ขางหนาพวกเขาก็จะจากโลกนี้ไป และมนุษยก็ ไมรูเสียดวยซ้ําวาตนเองมายังโลกนี้ทําไม ? และเมื่อถึงเวลาทําไมพวกเขาจึงตองจากโลกนี้ไป พวกเขาจะรูได ก็ดวยการเสี้ยมสอนขององคผูทรงสราง ที่ทรงสรางพวกเขาเหลานั้นมา ทั้งที่กอนหนานี้พวกเขายังไมมีรูปมี ราง ไมมีอะไรอยู หลังจากนั้นพวกเขาก็มามีชีวิตอยูบนโลกนี้ หลังจากนั้นพระองคก็ทรงใหพวกเขาเสียชีวิต และออกไปจากโลกนี้ แทจริงแลวอัลลอฮฺไดทรงแตงตั้งศาสนทูตของพระองคมาก็เพื่อที่จะสั่งสอนพวกเรา

25 ‫ اﻷﻧﺒﻴﺎء‬1 116-115 ‫ اﻟﻤﺆﻣﻨﻮن‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

41

วิชาหลักศรัทธา

ในเรื่องราวเหลานี้ ซึ่งเปนเรื่องที่มีความสําคัญที่สุดสําหรับการดําเนินชีวิต เปนเรื่องเรนลับที่เราเองไม สามารถรับรูได • องคอภิบาลของเราคือผูสั่งสอนบอกเลาใหเราไดรับรูถึงรูปแบบการดําเนินชีวิตที่เหมาะสมกับพวก เรา ทรงชําระจิตใจของพวกเราใหบริสุทธิ์ผุดผอง ทรงใหเรามีจริยธรรมอันดีงาม ทรงชี้นําพวกเราผานศาสน ทูตของพระองคใหรับไดรับรูทิศทางที่จะนําไปสูความผาสุกทั้งในโลกนี้และโลกหนา พระองคตรัสไววา ‫ﻢ‬ ‫ـﺎ ﻟﹶـ‬‫ﻤﻜﹸﻢ ﻣ‬ ‫ﻌﱢﻠ‬ ‫ﻳ‬‫ﻭ‬ ‫ﻤ ﹶﺔ‬ ‫ﺤ ﹾﻜ‬ ِ ‫ﺍﹾﻟ‬‫ﺏ ﻭ‬  ‫ﺎ‬‫ ﺍﹾﻟ ِﻜﺘ‬‫ﻜﹸﻢ‬‫ﻌﻠﱢﻤ‬ ‫ﻭﻳ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﺰﻛﱢﻴ ﹸﻜ‬ ‫ﻳ‬‫ﻭ‬ ‫ﺎ‬‫ﺎِﺗﻨ‬‫ﻢ ﺁﻳ‬ ‫ﻴ ﹸﻜ‬‫ﻋﹶﻠ‬ ‫ﺘﻠﹸﻮ‬‫ﻳ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﻨ ﹸﻜ‬‫ﻮ ﹰﻻ ﻣ‬‫ﺭﺳ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﺎ ﻓِﻴ ﹸﻜ‬‫ﺳ ﹾﻠﻨ‬ ‫ﺭ‬ ‫ﺎ ﹶﺃ‬‫" ﹶﻛﻤ‬ "‫ﻮ ﹶﻥ‬‫ﻌﹶﻠﻤ‬ ‫ﺗ‬ ‫ﻮﹾﺍ‬‫ﺗﻜﹸﻮﻧ‬1 ประดุจเดียวกับที่เราไดสงศาสนทูตหนึ่งจากพวกเจามาในหมูพวกเจาเอง ซึ่งเขาแถลงใหพวกเจา (ได รับรู) บรรดาโองการของเรา เขาชําระมลทิน (ความบาปโสมมตางๆ) แกพวกเขา เขาสอนพวกเจาใหรูจัก คัมภีรและวิทยญาน และเขาสอนพวกเจาใหรูในสิ่งที่พวกเจาไมเคยรูมากอน อัลลอฮฺไดทรงสงศาสนทูตมายังมวลมนุษยเพื่อปลดปลอยมวลมนุษยจากความขัดแยงในเรื่องที่เปน พื้นฐานของการดําเนินชีวิต มาเพื่อชี้นําพวกเขาไปสูสัจธรรมที่ผูทรงสรางทรงประสงค ดังที่พระองคตรัสไว วา "‫ﻮ ﹶﻥ‬‫ﺆ ِﻣﻨ‬ ‫ﻳ‬ ‫ﻮ ٍﻡ‬ ‫ﻤ ﹰﺔ ﱢﻟ ﹶﻘ‬ ‫ﺣ‬ ‫ﺭ‬ ‫ﻭ‬ ‫ﻯ‬‫ﻫﺪ‬ ‫ﻭ‬ ‫ﺘﹶﻠﻔﹸﻮﹾﺍ ﻓِﻴ ِﻪ‬‫ﺧ‬ ‫ ﺍﱠﻟﺬِﻱ ﺍ‬‫ﻢ‬‫ﻦ ﹶﻟﻬ‬ ‫ﻴ‬‫ﺒ‬‫ﺏ ِﺇﻻﱠ ِﻟﺘ‬  ‫ﺎ‬‫ﻚ ﺍﹾﻟ ِﻜﺘ‬  ‫ﻴ‬‫ﻋﹶﻠ‬ ‫ﺎ‬‫ﺰﹾﻟﻨ‬ ‫ﺎ ﺃﹶﻧ‬‫ﻭﻣ‬ "2 และเรามิไดสงคัมภีร (อัลกุรอาน) มายังเจา (เพื่อประสงคอื่นใดทั้งสิ้น) นอกจากเพื่อเจาไดชี้แจงแก พวกเขา ในสิ่งที่พวกเขาพิพาทกัน อีกทั้งเปนสิ่งนําทาง และเปนเมตตาธรรมแกกลุมชนที่มีศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺไดทรงสงศาสนทูตทั้งหลายมาเพื่อดํารงไวซึ่งศาสนา มาเพื่อปกปองคุมครองศาสนามิใหสูญ หาย มาเพื่อหามการแตกแยกในเรื่องศาสนา มาเพื่อใหการปกครองเปนไปตามหลักกฎหมายที่อัลลอฮฺ ทรงประทานมา ดังที่พระองคตรัสไววา ‫ـﻮﺍ‬‫ﻰ ﹶﺃ ﹾﻥ ﹶﺃﻗِﻴﻤ‬‫ﻭﻋِﻴﺴ‬ ‫ﻰ‬‫ﻮﺳ‬‫ﻭﻣ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﺍﻫِﻴ‬‫ﺑﺮ‬‫ﺎ ِﺑ ِﻪ ِﺇ‬‫ﻴﻨ‬‫ﺻ‬  ‫ﻭ‬ ‫ﺎ‬‫ﻭﻣ‬ ‫ﻚ‬  ‫ﻴ‬‫ﺎ ِﺇﹶﻟ‬‫ﻴﻨ‬‫ﺣ‬ ‫ﻭ‬ ‫ﺍﱠﻟﺬِﻱ ﹶﺃ‬‫ﺎ ﻭ‬‫ﻮﺣ‬‫ﻰ ِﺑ ِﻪ ﻧ‬‫ﻭﺻ‬ ‫ﺎ‬‫ﻳ ِﻦ ﻣ‬‫ﻦ ﺍﻟﺪ‬ ‫ﻣ‬ ‫ﻉ ﹶﻟﻜﹸﻢ‬  ‫ﺮ‬ ‫ﺷ‬ " "‫ﺮﻗﹸﻮﺍ ﻓِﻴ ِﻪ‬ ‫ﺘ ﹶﻔ‬‫ﺗ‬ ‫ﻭﻟﹶﺎ‬ ‫ﻦ‬ ‫ﻳ‬‫ﺍﻟﺪ‬3 พระองคทรงบัญญัติแกพวกเจาเกี่ยวกับศาสนา (อิสลาม) เหมือนที่ทรงสั่งไวแกนูหและที่เราไดดลโองการ มายังเจา และสิ่งที่เราไดสั่งไวแกอิบรอฮีม, แกมูซา และอีซา (ซึ่งทั้งหมดนั้น เปนแนวทางเดียวกันทั้งสิ้น นั่น คือ) “พวกเจาทั้งหลายจงธํารงไวซึ่งศาสนา และอยาไดแตกแยกกันในเรื่องนั้น อัลลอฮฺตรัสไวในอีกอายะฮฺหนึ่งวา "‫ﺎ‬‫ﺧﺼِﻴﻤ‬ ‫ﲔ‬  ‫ﺂِﺋِﻨ‬‫ﺗﻜﹸﻦ ﱢﻟ ﹾﻠﺨ‬ ‫ﻭ ﹶﻻ‬ ‫ﻪ‬ ‫ﻙ ﺍﻟﻠﹼ‬ ‫ﺍ‬‫ﺎ ﹶﺃﺭ‬‫ﺱ ِﺑﻤ‬ ِ ‫ﺎ‬‫ﻦ ﺍﻟﻨ‬ ‫ﻴ‬‫ﺑ‬ ‫ﻢ‬ ‫ﺤﻜﹸ‬  ‫ﺘ‬‫ﻖ ِﻟ‬ ‫ﺤ‬  ‫ﺏ ﺑِﺎﹾﻟ‬  ‫ﺎ‬‫ﻚ ﺍﹾﻟ ِﻜﺘ‬  ‫ﻴ‬‫ﺎ ِﺇﹶﻟ‬‫ﺰﹾﻟﻨ‬ ‫ﺎ ﺃﹶﻧ‬‫"ِﺇﻧ‬4 แทจริงเราไดลงคัมภีร (อัลกุรอาน) แกเจาโดยสัจจะ เพื่อเจาไดตัดสินระหวางมวลมนุษย ดวยสิ่งที่อัลลอ ฮฺทรงทําใหเจารูเห็น (โดยการดลใจเจา) และเจาอยาเปนผูโตเถียง (เพื่อแกขอกลาวหา) แกพวกที่บิดพริ้ว 151 ‫ اﻟﺒﻘﺮة‬1 64 ‫ اﻟﻨﺤﻞ‬2 13 ‫ اﻟﺸﻮرى‬3

105 ‫ ﺍﻟﻨﺴﺎﺀ‬4

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

42

วิชาหลักศรัทธา

อัลลอฮฺทรงสงศาสนทูตของพระองคมาเพื่อแจงขาวดีตอบรรดาผูมีศรัทธาตอสิ่งที่พระองคทรงสัญญา ไว กั บพวกเขาซึ่งความโปรดปรานที่ยั่งยืน เพื่อเปนการตอบแทนตอการเคารพภั กดีของพวกเขาที่ มี ตอ พระองค และมาเพื่อแจงขาวรายใหกับบรรดาผูไรศรัทธาดวยการลงโทษอันเนื่องมาจากการปฏิเสธศรัทธา ของพวกเขา เพื่อลบลางการโตเถียง การยกทุกขอกลาวอาง ทุกเหตุผล กับอัลลอฮฺภายหลังจากที่ศาสนทูตร แหงพระองคไดประกาศไปแลว ดังที่อัลลอฮฺไดตรัสไววา "‫ﺎ‬‫ﺣﻜِﻴﻤ‬ ‫ﺍ‬‫ﻋﺰِﻳﺰ‬ ‫ﻪ‬ ‫ﻭﻛﹶﺎ ﹶﻥ ﺍﻟﻠﹼ‬ ‫ ِﻞ‬‫ﺮﺳ‬ ‫ﺪ ﺍﻟ‬ ‫ﻌ‬ ‫ﺑ‬ ‫ﺠ ﹲﺔ‬  ‫ﺣ‬ ‫ﻋﻠﹶﻰ ﺍﻟﹼﻠ ِﻪ‬ ‫ﺱ‬ ِ ‫ﺎ‬‫ﻳﻜﹸﻮ ﹶﻥ ﻟِﻠﻨ‬ ‫ﻦ ِﻟﹶﺌﻼﱠ‬ ‫ﻨ ِﺬﺭِﻳ‬‫ﻭﻣ‬ ‫ﻦ‬ ‫ﺸﺮِﻳ‬  ‫ﺒ‬‫ﻣ‬ ‫ﻼ‬ ‫ ﹰ‬‫ﺭﺳ‬ "1 บรรดาศาสนทูต (ที่ถูกสงมา) ลวนเปนผูประกาศขาวประเสริฐ และตักเตือน (มวลประชากรใหรูผิด รูชอบ) เพื่อจะไดไมมีหลักฐานสําหรับมนุษย (ไดใชโตเถียง) กับอัลลอฮฺภายหลังจากบรรดาศาสนทูต (ได ถูกสงมา) และอัลลอฮฺทรงไวซึ่งอํานาจยิ่ง ทรงปรีชาญาณยิ่ง • อัลลอฮฺทรงสงศาสนทูตมาเพื่อเปนแบบอยางที่ดีใหกับมวลมนุษย ในเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม คานิยมตาง ๆ เปนแบบอยางในเรื่องของการอิบาดะฮฺที่ถูกตอง เรื่องของการยึดมั่นตอทางนําแหงอัลลอฮฺ ดังที่อัลลอฮฺไดตรัสไววา "‫ﺍ‬‫ﻪ ﹶﻛِﺜﲑ‬ ‫ﺮ ﺍﻟﻠﱠ‬ ‫ﻭ ﹶﺫ ﹶﻛ‬ ‫ﺮ‬ ‫ﻡ ﺍﻟﹾﺂ ِﺧ‬ ‫ﻮ‬ ‫ﻴ‬‫ﺍﹾﻟ‬‫ﻪ ﻭ‬ ‫ﻮ ﺍﻟﱠﻠ‬‫ﺮﺟ‬ ‫ﻳ‬ ‫ﻦ ﻛﹶﺎ ﹶﻥ‬‫ﻨ ﹲﺔ ﱢﻟﻤ‬‫ﺴ‬  ‫ﺣ‬ ‫ﻮ ﹲﺓ‬ ‫ﺳ‬ ‫ﻮ ِﻝ ﺍﻟﻠﱠ ِﻪ ﹸﺃ‬‫ﺭﺳ‬ ‫ﻢ ﻓِﻲ‬ ‫ﺪ ﻛﹶﺎ ﹶﻥ ﹶﻟ ﹸﻜ‬ ‫"ﹶﻟ ﹶﻘ‬2 อันที่จริงในศาสนทูตแหงอัลลอฮฺยอมมีแบบฉบับอันดีงามสําหรับพวกเจาเฉพาะแกบุคคลที่มุงหวัง ในอัลลอฮฺ และวันสุดทาย และที่ระลึกถึงอัลลอฮฺอยางมากมาย บทเรียนเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตเปนบทเรียนจากอัลลอฮฺซึ่งมนุษยจะไมสามารถรับรูไดดวยสติปญญา ตองตนเอง แตพวกเขาจะสามารถรับรูไดก็ตอเมื่อไดรับการสั่งสอนบอกเลาผานอัลวะหฺยูจากพระองคเทานั้น สัญญาณยืนยันในความสัจจริงของศาสนทูตและสาระธรรมของพวกเขา ถาม อะไรคือหลักฐานที่อัลลอฮฺทรงประทานใหมายืนยันในความสัจจริงของบรรดาศาสทูต เพื่อ มิใหผูคนกลาวหาวาศาสทูตเหลานี้มุสา ? ตอบ หลักฐานสิ่งบงชี้ยืนยันซึ่งในอัลกุรอานเรียกวา “‫ ”ﺁﻳﺎﺕ‬ซึ่งมีความหมายวา “สัญญาณ” ซึ่งก็ คือสิ่งบงชี้ หลักฐาน คําชี้แจงตาง ๆ ที่บงบอกถึงความสัจจริงของบรรดาศาสทูต ซึ่งผูคนมักจะเรียกกันวา “‫ ”ﻣﻌﺠﺰﺍﺕ‬หรือ “อภินิหาร” ถาม: คําวา “‫ ”ﻣﻌﺠﺰﺍﺕ‬หรือ “อภินิหาร” ในที่นี้หมายถึงอะไร ? ตอบ: คํ า ว า “‫ ”ﻣﻌﺠﺰﺍﺕ‬หรื อ “อภิ นิ ห าร” (หลั ก ฐาน สิ่ ง ยื น ยั น และสั ญ ญาณ) คื อ สิ่ ง ที่ เ กิ น ความสามารถของมนุษย สิ่งที่มนุษยไมสามารถนํามาใหเสมอเหมือนได เปนสิ่งที่อัลลอฮฺทรงกําหนดใหเกิด ขึ้นกับศาสนทูตซึ่งอัลลอฮฺทรงสงมาเพื่อยืนยันในความสัจจริงของความเปนศาสนทูตและสาระธรรมที่พวก 165 ‫ ﺍﻟﻨﺴﺎﺀ‬1 21 ‫ ﺍﻷﺣﺰﺍﺏ‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

43

วิชาหลักศรัทธา

เขานํามาเผยแพร ประหนึ่งวา บรรดานบีหรือศาสนทูตไดมากลาวกับมวลมนุษยวา โอมวลมนุษยทั้งหลาย แทจริงแลวอัลลอฮฺทรงแตงตั้งฉันมายังพวกทานทั้งหลาย และพระองคก็ทรงประทานสิ่งยืนยันที่มาจากเด ชานุภาพของพระองค เพื่อยืนยันในความถูกตองของสิ่งที่ฉันเองนํามาประกาศ และนี่คือสัญญาณ นี่คือสิ่งบง บอก ซึ่งสิ่งนี้เปนสิ่งที่มนุษยไมสามารถนํามาแสดงใหเสมอเหมือนได เพื่อมิใหพวกทานทั้งหลายเขาใจวาสิ่ง ที่ฉันนํามาบอกกลาวเปนสิ่งที่ฉันกุขึ้นมาเองเพื่อใสรายตออัลลอฮฺ ซึ่งพระองคตรัสไววา "‫ﻂ‬ ِ‫ﺴ‬  ‫ﺱ ﺑِﺎﹾﻟ ِﻘ‬  ‫ﺎ‬‫ﻡ ﺍﻟﻨ‬ ‫ﻴﻘﹸﻮ‬‫ﺍ ﹶﻥ ِﻟ‬‫ﺍﹾﻟﻤِﻴﺰ‬‫ﺏ ﻭ‬  ‫ﺎ‬‫ ﺍﹾﻟ ِﻜﺘ‬‫ﻢ‬‫ﻌﻬ‬ ‫ﻣ‬ ‫ﺎ‬‫ﺰﹾﻟﻨ‬ ‫ﻭﺃﹶﻧ‬ ‫ﺕ‬ ِ ‫ﺎ‬‫ﻴﻨ‬‫ﺒ‬‫ﺎ ﺑِﺎﹾﻟ‬‫ﺳﹶﻠﻨ‬ ‫ﺭ‬ ‫ﺎ‬‫ﺳ ﹾﻠﻨ‬ ‫ﺭ‬ ‫ﺪ ﹶﺃ‬ ‫"ﹶﻟ ﹶﻘ‬1 ขอยืนยัน! แทจริงเราไดแตงตั้งบรรดาศาสนทูตของเรา ใหนํามาซึ่งสัญลักษณตาง ๆ อันชัดแจง และเราได สงคัมภีรลงมาพรอมกับพวกเขา และ (บทบัญญัติอันเปน) ตราชู (แหงความยุติธรรม สําหรับใชปกครอง สังคมมนุษย) เพื่อมนุษยจะไดดํารงอยูดวยความยุติธรรม ถาม: อะไรบางที่เปนตัวอยางของอภินิหารที่อัลลอฮฺทรงประทานมาเพื่อสนับสนุนศาสนทูตของ พระองค ? ตอบ: ตัวอยางของอภินิหารบางประการที่ไดอัลลอฮฺทรงกลาวถึงไวในอัลกุรอาน เชน เรื่องราวที่ เกิดขึ้นระหวางทานนบีอิบรอฮีม  กับประชาชาติของทาน ซึ่งอัลลอฮฺไดตรัสเลาไววา "‫ﻢ‬ ‫ﺍﻫِﻴ‬‫ﺑﺮ‬‫ﻋﻠﹶﻰ ِﺇ‬ ‫ﺎ‬‫ﺳﻠﹶﺎﻣ‬ ‫ﻭ‬ ‫ﺍ‬‫ﺮﺩ‬ ‫ﺑ‬ ‫ﺭ ﻛﹸﻮﻧِﻲ‬ ‫ﺎ‬‫ﺎ ﻧ‬‫ﺎ ﻳ‬‫ ﹸﻗ ﹾﻠﻨ‬، ‫ﲔ‬  ‫ﻢ ﻓﹶﺎ ِﻋِﻠ‬ ‫ﺘ‬‫ﻢ ﺇِﻥ ﻛﹸﻨ‬ ‫ﺘﻜﹸ‬‫ﻬ‬ ‫ﻭﺍ ﺁِﻟ‬‫ﺮ‬‫ﺍﻧﺼ‬‫ﻩ ﻭ‬ ‫ﺮﻗﹸﻮ‬ ‫ﺣ‬ ‫"ﻗﹶﺎﻟﹸﻮﺍ‬2 (เมื่อพวกนั้นหมดหนทางโตตอบ หัวหนาของ) พวกเขาไดกลาววา “ทานทั้งหลายจงเผาเขาเสียเถิด และ พวกทานจงชวยพระเจาของพวกทานไว (ใหพนจากประนามของอิบรอฮีม) หากพวกทานมุงกระทํา (การ ชวยนั้น)”เราจึงรับสั่ง (แกไฟ) วา “โอไฟ เจาจงเย็นเถิด และจงใหความสงบสุขแกอิบรอฮีม” อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องราวของทานนบีมูซา  ซึ่งอัลลอฮฺไดตรัสเลาไวในอัลกุรอานวา "‫ﲔ‬  ‫ﺎ ﻓﹶﺎ ِﺳ ِﻘ‬‫ﻮﻣ‬ ‫ﻮﺍ ﹶﻗ‬‫ﻢ ﻛﹶﺎﻧ‬ ‫ﻬ‬ ‫ﻧ‬‫ﻮ ِﻣ ِﻪ ِﺇ‬ ‫ﻭﹶﻗ‬ ‫ﻮ ﹶﻥ‬ ‫ﻋ‬ ‫ﺮ‬ ‫ﺕ ِﺇﻟﹶﻰ ِﻓ‬ ٍ ‫ﺎ‬‫ﺴ ِﻊ ﺁﻳ‬  ‫ﻮ ٍﺀ ﻓِﻲ ِﺗ‬‫ﻴ ِﺮ ﺳ‬‫ﻦ ﹶﻏ‬ ‫ﺎﺀ ِﻣ‬‫ﻴﻀ‬‫ﺑ‬ ‫ﺝ‬  ‫ﺮ‬ ‫ﺨ‬  ‫ﺗ‬ ‫ﻚ‬  ‫ﻴِﺒ‬‫ﺟ‬ ‫ﻙ ﻓِﻲ‬ ‫ﺪ‬ ‫ﻳ‬ ‫ﺩ ِﺧ ﹾﻞ‬ ‫ﻭﹶﺃ‬ "3 และเจาจงสอดมือของเจาเขาไปในคอเสื้อของเจาเถิด แลวเจาจะชักมันออกมาในสภาพขาวประกาย โดยปราศจาก (ราคีแหง) ความเลวรายเลย (นี้เปนบางสวน) ในเกาสัญลักษณที่เจาพึงนําไปยังฟรเอาน และพรรคพวกของเขา เพราะแทจริงพวกนั้นเปนพวกที่เลวทราม และหลักฐาน 9 ประการซึ่งอัลลอฮฺไดใชเพื่อลงโทษตอพวกพองของฟรเอาน ในกรณีที่พวกเขาทนง ตนตอพระองคซึ่งพระองคไดตรัสเลาเรื่องราวของพวกเขาไววา ‫ﺳ َﺘ ْﻜ َﺒﺮُو ْا َو َآ ﺎﻧُﻮ ْا َﻗ ْﻮ ًﻣ ﺎ‬ ْ ‫ﺕ ﻓَﺎ‬ ٍ ‫ﻼ‬ ‫ﺼﹶ‬  ‫ﻣﻔﹶـ‬ ‫ﺕ‬ ٍ ‫ـﺎ‬‫ﻡ ﺁﻳ‬ ‫ﺪ‬ ‫ﺍﻟ‬‫ﻉ ﻭ‬  ‫ﻀﻔﹶﺎ ِﺩ‬  ‫ﺍﻟ‬‫ﻤ ﹶﻞ ﻭ‬ ‫ﺍﹾﻟﻘﹸ‬‫ﺩ ﻭ‬ ‫ﺍ‬‫ﺠﺮ‬  ‫ﺍﹾﻟ‬‫ ﺍﻟﻄﱡﻮﻓﹶﺎ ﹶﻥ ﻭ‬‫ﻴ ِﻬﻢ‬‫ﻋﹶﻠ‬ ‫ﺎ‬‫ﺳ ﹾﻠﻨ‬ ‫ﺭ‬ ‫"ﹶﻓﹶﺄ‬ "‫ﻦ‬ َ ‫ﺠ ِﺮﻣِﻴ‬ ْ ‫ ﱡﻣ‬4

25 ‫ اﻟﺤﺪﻳﺪ‬1 69-68 ‫ اﻷﻧﺒﻴﺎء‬2 12 ‫ اﻟﻨﻤﻞ‬3 133 ‫ اﻷﻋﺮاف‬4

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

44

วิชาหลักศรัทธา

ดังนั้น! เราจึงสงอุทกภัย, ฝูงตั๊กแตน, ฝูงเหา, ฝูงกบ, และเลือด ใหประสบแกพวกเขา ใหเปนสัญลักษณอัน ถูกแจกแจงอยางแจงชัด แตแลวพวกเขาก็ยังทนงตนและพวกเขาเปนกลุมชนผูกระทําบาป อีกเรื่องหนึ่งซึ่งอัลลอฮฺไดทรงนํามาเลาใหพวกเราไดรับรูนั่นคือราวของทานนบีอีซา  พระองค ไดทรงเลาเรื่องราวของทานไวในอัลกุรอานวา ‫س ُﺗ َﻜﱢﻠ ُﻢ‬ ِ ‫ح ا ْﻟ ُﻘ ُﺪ‬ ِ ‫ﻚ ِﺑ ﺮُو‬ َ ‫ﻚ ِإ ْذ َأ ﱠﻳ ﺪ ﱡﺗ‬ َ ‫ﻋَﻠ ﻰ وَاِﻟ َﺪ ِﺗ‬ َ ‫ﻚ َو‬ َ ‫ﻋَﻠ ْﻴ‬ َ ‫ﻦ َﻣ ْﺮ َﻳ َﻢ ا ْذ ُآ ْﺮ ِﻧ ْﻌ َﻤ ِﺘ ﻲ‬ َ ‫ل اﻟّﻠ ُﻪ ﻳَﺎ ﻋِﻴ ﺴﻰ ا ْﺑ‬ َ ‫"ِإ ْذ ﻗَﺎ‬ ‫ﻦ َآ َﻬ ْﻴ َﺌ ِﺔ‬ ِ ‫ﻄﻴ‬ ‫ﻦ اﻟ ﱢ‬ َ ‫ﻖ ِﻣ‬ ُ ‫ﺨُﻠ‬ ْ ‫ﻞ َوِإ ْذ َﺗ‬ َ ‫ﺤ ْﻜ َﻤ َﺔ وَاﻟ ﱠﺘ ْﻮرَا َة وَاﻹِﻧﺠِﻴ‬ ِ ‫ب وَا ْﻟ‬ َ ‫ﻚ ا ْﻟ ِﻜﺘَﺎ‬ َ ‫ﻋﱠﻠ ْﻤ ُﺘ‬ َ ‫ﻼ َوِإ ْذ‬ ً ‫س ﻓِﻲ ا ْﻟ َﻤ ْﻬ ِﺪ َو َآ ْﻬ‬ َ ‫اﻟﻨﱠﺎ‬ ‫ج ا ْﻟ َﻤ ﻮﺗَﻰ‬ ُ ‫ﺨ ِﺮ‬ ْ ‫ص ِﺑ ِﺈ ْذﻧِﻲ َوِإ ْذ ُﺗ‬ َ ‫ﻷ ْﺑ َﺮ‬ َ ‫ﻷ ْآ َﻤ َﻪ وَا‬ َ ‫ﻃ ْﻴ ﺮًا ِﺑ ِﺈ ْذﻧِﻲ َو ُﺗ ْﺒ ﺮِى ُء ا‬ َ ‫ن‬ ُ ‫ﺦ ﻓِﻴﻬَﺎ َﻓ َﺘﻜُﻮ‬ ُ ‫ﻄ ْﻴ ِﺮ ِﺑِﺈ ْذﻧِﻲ َﻓﺘَﻨ ُﻔ‬ ‫اﻟ ﱠ‬ ُ ‫ِﺑِﺈ ْذﻧِﻲ َوِإ ْذ َآ َﻔ ْﻔ‬ ‫ﺤ ٌﺮ‬ ْ ‫ﺳ‬ ِ ‫ﻻ‬ ‫ن َه ـﺬَا ِإ ﱠ‬ ْ ‫ﻦ َآ َﻔ ﺮُو ْا ِﻣ ْﻨ ُﻬ ْﻢ ِإ‬ َ ‫ل ا ﱠﻟ ﺬِﻳ‬ َ ‫ت َﻓ َﻘ ﺎ‬ ِ ‫ﺟ ْﺌ َﺘ ُﻬ ْﻢ ﺑِﺎ ْﻟ َﺒ ﱢﻴ َﻨ ﺎ‬ ِ ‫ﻚ ِإ ْذ‬ َ ‫ﻞ ﻋَﻨ‬ َ ‫ﺳ ﺮَاﺋِﻴ‬ ْ ‫ﺖ َﺑ ِﻨ ﻲ ِإ‬ 1 "‫ﻦ‬ ٌ ‫ﱡﻣﺒِﻴ‬ (จงระลึกเถิด) เมื่อครั้งอัลเลาะฮ.ไดตรัสแกอีซาบุตรของมัรยัมวา “เจาจงระลึกถึงความโปรดปราน ของขาที่ไดใหแกเจา และที่ใหแกมารดาของเจาเถิด เมื่อขาไดสนับสนุนเจาดวยวิญญาณอันบริสุทธิ์ (ยิบรีบ) เจาพูดคุยกับผูคนไดตั้งแตอยูในเปล (ยามเยาวัย) และในวัยฉกรรจ (อายุประมาณ 33 ป) และเมื่อขาไดสอน เจาใหรูการเขียน, วิทยญาน, คัมภีรเตารอฮ. และคัมภีรอินญีล และเมื่อเจาปนรูปเหมือนของนกมาจากดินโดย อนุมัติของขา แลวเจาก็เปาลงไปในนั้น แลวมันก็เปนนก (ที่มีชีวิต) โดยอนุมัติของขา เจาทําการบําบัดคนตา บอด และคนเปนโรคผิวดาง (ใหหายเปนปกติ) โดยอนุมัติของขาและเมื่อเจาใหคนที่ตายแลวคืนชีพไดโดย อนุมัติของขา และเมื่อขาไดยับยั้งบรรดาเผาพันธของอิสรออีล มิใหเปนอันตรายแกเจาไดในขณะที่เจาไดนํา บรรดา (สัญลักษณ) ที่ชัดแจงมายังพวกเขา แตแลวบรรดาผูเนรคุณจากพวกเขากลับกลาววา “สิ่งนี้มิใชอื่นใด เลย นอกจากเปนมายากลอันชัดแจงเทานั้น” แตผลจากการหันเหออกไปจากศาสนาของอิซา  ที่ถูกตอง ทําใหพวกเขาเขาใจแบบโง ๆ และ เขาใจเลยเถิดไปวาสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประทานมาเพื่อชี้แจงถึงความถูกตองแหงสาระธรรมของทานนบีอีซานั้น จะเกิดขึ้น กับอัลลอฮฺหรือพระบุตรของพระองคเทานั้น สวนอภินิหารของทานนบีมูฮําหมัด เราจะนํามากลาวถึงในรายละเอียดตอไป สรุป • อัลลอฮฺทรงแตงตั้งศาสนทูตมายังมนุษยชาติก็เพื่อที่จะใหสั่งสอนพวกเขาใหรูจักองคอภิบาลของ พวกเขา เพื่ อ ที่ จ ะเรี ย กร อ งพวกเขาไปสู ก ารนมั ส การต อ พระองค ส ง มาเพื่ อ ชี้ แ จงเกี่ ย วกั บ ปรั ช ญาการ ของอัลลอฮฺที่ไดทรงสรางพวกเขามายังโลก ทรงสงศาสนทูตแหงพระองคมาเพื่อปลดปลอยมนุษยใหหลุด พนจากความขัดแยง มาเพื่ออุปถัมภศาสนาใหดํารงอยูกับมวลมนุษย มาเพื่อปกครองมนุษยใหเปนไปตาม หลักการแหงศาสนาที่อัลลอฮฺทรงประทานมา มาเพื่อแจงขาวดีกับรรดาผูมีศรัทธา ตามที่พระองคไดทรง สัญญาไวกับพวกเขาวาจะประทานความผาสุกให มาเพื่อเตือนสําทับบรรดาผูไรศรัทธาวาวาระสุดทายของ

110 ‫ اﻟﻤﺎﺋﺪة‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

45

วิชาหลักศรัทธา

พวกเขาจะตองไดรับโทษเพราะความไรศรัทธาของพวกเขา เพื่อมาลบลางขออางของผูคนที่จะอางตออัลลอ ฮฺ และมาเพื่อเปนแบบอยางที่ดีตอบรรดาผูมีศรัทธา • อัลลอฮฺทรงสนับสนุนศาสนทูตแหงพระองคดวยหลักฐาน สิ่งบงชี้ถึงความสัจจริง ซึ่งในอัลกุร อานไดเรียกสิ่งนี้วา “‫”ﻣﻌﺠﺰات‬หรืออภินิหาร ที่จะมายืนยันในความเปนศาสนทูตของพวกเขาวาเปนความ สัจจริง ทั้งตัวเขาเองและสาระธรรม และยืนยันวาพวกเขาคือผูเผยแพรสาระธรรมจากองคอภิบาลที่แทจริง

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

46

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 10 ภาพรวมของอภินิหารและสิ่งบงชี้ของสาระธรรมแหงทานนบีมูฮาํ หมัด  สัญญาณแหงสาระธรรมของทานนบีมูฮําหมัด  ถาม: อะไรบางที่เปนอภินหิ ารหรือสัญญาณบงชี้ซึ่งอัลลอฮฺไดทรงประทานมาเปนสิ่งสนับสนุน สาระธรรมของทานนบีมูฮําหมัด  ตอบ: สัญญาณซึ่งเปนอภินหิ ารของทานนบีมูฮําหมัด  นั้นมีอยูมากมาย เชน คําพยากรณซึ่งมีอยู ในคัมภีรฉบับเกากอน ซึ่งไดพยากรณการมาปรากฏของทานนบี  ไวกอ นที่จะทรงสราง ในคัมภีรม ีการให รายละเอียดเกีย่ วกับรูปลักษณ คุณลักษณะตาง ๆ ของทาน สถานที่กําเนิด ประชาชาติและยุคสมัยที่ทานจะมา ปรากฏ ไวอยางชัดเจนแลวทัง้ หมด อัลลอฮฺตรัสไวในอัลกุรอานวา "‫ﻞ‬ ِ ‫ﻹ ْﻧﺠِﻴ‬ ِ ‫ﺠﺪُو َﻧ ُﻪ َﻣ ْﻜﺘُﻮﺑًﺎ ﻋِﻨ َﺪ ُه ْﻢ ﻓِﻲ اﻟ ﱠﺘ ْﻮرَا ِة وَا‬ ِ ‫ﻷﻣﱢﻲﱠ اﱠﻟﺬِي َﻳ‬ ُ ‫ﻲا‬ ‫ل اﻟ ﱠﻨ ِﺒ ﱠ‬ َ ‫ن اﻟ ﱠﺮﺳُﻮ‬ َ ‫ﻦ َﻳ ﱠﺘ ِﺒﻌُﻮ‬ َ ‫"اﱠﻟﺬِﻳ‬1 บรรดาผูเจริญรอยตามศาสนทูต (มุฮํามัด) ซึ่งเปนศาสดาที่อานเขียนไมเปน ซึ่งพวกเขาพบ (เรื่องราวของ) เขา ถูกบันทึกไว ณ พวกเขาใน (คัมภีร) เตารอฮฺ และอินญีล แทจริงแลวบรรดาพวกปุโรหิตและบาทหลวงของพวกยิวและพวกคริสตตางก็ออกมาแจงขาวดี เกี่ยวกับการมาปรากฏของทานนบีมูฮําหมัด  กอนที่ทานจะไดรับการแตงตั้งมาเสียดวยซ้ํา และอัลลอฮฺ ก็ไดทรงกลาวเปนหลักฐานยืนยันตอชาวอาหรับมุชริกีนที่ไดรับฟงขาวคราวเหลานี้มาจากชาวยิวและชาว คริสต (ยะฮูดีและนัศรอนีย) ไวในอัลกุรอานวา "‫ﻞ‬ َ ‫ﺳﺮَاﺋِﻴ‬ ْ ‫ﻋَﻠﻤَﺎء َﺑﻨِﻲ ِإ‬ ُ ‫ َأ َوَﻟ ْﻢ َﻳﻜُﻦ ﱠﻟ ُﻬ ْﻢ ﺁ َﻳ ًﺔ أَن َﻳ ْﻌَﻠ َﻤ ُﻪ‬، ‫ﻦ‬ َ ‫" َوِإ ﱠﻧ ُﻪ َﻟﻔِﻲ ُز ُﺑ ِﺮ ا ْﻟَﺄ ﱠوﻟِﻴ‬2 และแทจริงอัลกุรอานนั้น มีระบุอยูในคําภีรของบรรพชน (เมื่ออดีต)หรือวาพวกเขาไมมีสัญลักษณ ที่แสดงวาบรรดาผูรขู องบุตรหลานแหงอิสรออีลไดรูถึงคําภีรกุรอานเปนอันดี? ครั้นเมื่อทานนบีมูฮําหมัด  ไดรับการแตงตั้งมา ก็มีเพียงบางกลุมเทานั้นที่ศรัทธาแตอีกบางกลุม กลับปฏิเสธศรัทธา สําหรับผูที่ศรัทธา พวกเขาไดพบกับแรงผลักดันสนับสนุนที่มากมาย พวกเขาไดพบกับ สัญญาณตาง ๆอีกทั้งการแจงขาวดีซึ่งปรากฏอยูในคัมภีรของพวกเขากอนหนานี้ ซึ่งสัญญาณตาง ๆ ทั้งหมด ลวนแลวแตสอดคลองกับคุณลักษณะของทานนบีมูฮําหมัด  ทั้งหมด อัลลอฮฺไดตรัสไววา "‫ن‬ َ ‫ب ﻣِﻦ َﻗ ْﺒِﻠ ِﻪ هُﻢ ِﺑ ِﻪ ُﻳ ْﺆ ِﻣﻨُﻮ‬ َ ‫ﻦ ﺁ َﺗ ْﻴﻨَﺎ ُه ُﻢ ا ْﻟ ِﻜﺘَﺎ‬ َ ‫"اﱠﻟﺬِﻳ‬3 บรรดาผูซึ่งเราไดใหคัมภีรแกพวกเขามากอนอัลกุรอานนั้น พวกเขาก็มีศรัทธาตออัลกุรอานดวย (และเปนมุสลิมที่เครงครัด) และบรรดาชาวคริสตและชาวยิวก็ยังคงเขารับนับถืออิสลามอยางตอเนื่องมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะอยางยิ่งบรรดานักวิชาการจากทั้งสองฟากฝง 157 ‫ اﻷﻋﺮاف‬1 197-196 ‫ اﻟﺸﻌﺮاء‬2 52 ‫ اﻟﻘﺼﺺ‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

47

วิชาหลักศรัทธา

ความมหัศจรรยของอัลกุรอาน อัลลอฮฺไดทรงแตงตั้งทานนบีมูฮําหมัด  มาพรอมกับคัมภีรซึ่งมีความมหัศจรรยปรากฏอยู ซึ่ง ความมหัศจรรยเหลานี้มีทั้งที่เปน สัญญาณ เปนคําชี้แจง และเปนเครื่องหมายแสดงถึงความเปนพระเจาของ อัลลอฮฺ ซึ่งมีอยูมากมายหลายชนิด ทรงใหความมหัศจรรยแหงอัลกุรอานเปนจุดสุดทายของการยืนยันใน ความเปนพระเจา และในการยืนยันของความสัจจริงแหงสาระธรรมของทานรอซูลุลลอฮ  ซึ่งสัญญาณที่ ปรากฏอยูในอัลกุรอานนั้นมีอยูมากมาย เชน • อัลกุรอานดวยสํานวนภาษาของมันเองก็ทรงไวซึ่งความมหัศจรรยอยูในตัวแลว โดยเฉพาะอยางยิ่ง ความไพเราะเพราะพริ้งและความสละสลวยในอรรถรสทางภาษา การเรียบเรียงสํานวน และความทาทายที่ ทาทายตอมวลมนุษยและญินในการนํามาซึ่งสิ่งเสมอเหมือนอยูตลอดเวลา อัลลอฮฺไดทรงกลาวทาทายไว ในอัลกุรอานอยางชัดเจนวา ‫ﻀ ُﻬ ْﻢ‬ ُ ‫ن َﺑ ْﻌ‬ َ ‫ن ِﺑ ِﻤ ْﺜِﻠ ِﻪ َوَﻟ ْﻮ آَﺎ‬ َ ‫ﻻ َﻳ ْﺄﺗُﻮ‬ َ ‫ن‬ ِ ‫ﻞ هَـﺬَا ا ْﻟ ُﻘﺮْﺁ‬ ِ ‫ﻋﻠَﻰ أَن َﻳ ْﺄﺗُﻮ ْا ِﺑ ِﻤ ْﺜ‬ َ ‫ﻦ‬ ‫ﺠﱡ‬ ِ ‫ﺲ وَا ْﻟ‬ ُ ‫ﺖ اﻹِﻧ‬ ِ ‫ﺟ َﺘ َﻤ َﻌ‬ ْ ‫ﻦا‬ ِ ‫"ﻗُﻞ ﱠﻟ ِﺌ‬ 1 "‫ﻇﻬِﻴﺮًا‬ َ ‫ﺾ‬ ٍ ‫ِﻟ َﺒ ْﻌ‬ จงประกาศเถิด “มาตรแมนมนุษยและญิน รวมกันเพื่อจะนํามาซึ่งสิ่งที่เหมือนอัลกุรอานนี้ แนนอนพวก เขาจะไม (สามารถ) นํามาซึ่งสิ่งที่เหมือนนั้นไดเลย และมาตรแมนพวกเขาตางคนตางจะชวยเหลือซึ่งกันและ กันก็ตาม • ในอัลกุรอานประกอบดวยเรื่องราวที่เปนความเรนลับ มีการกลาวถึงเรื่องราวในอดีตที่มีความ เกี่ยวพันกับผูคนในสมัยที่มีการประทานสาระธรรมลงมา นอกจากนั้นก็มีการกลาวถึงเรื่องราวในอนาคตอัน ไกล และเมื่อถึงเวลาเหตุการณนั้นก็ยืนยันในความถูกตองตามคําพยากรณมาแลวจํานวนมาก และยังคงจะ ยืนยันในความถูกตองตอไปทุกครั้งที่กาลเวลาลวงเลยผานไป อัลลอฮฺตรัสไวววา ‫ن‬ ‫ﺻ ِﺒ ْﺮ ِإ ﱠ‬ ْ ‫ﻞ َه ـﺬَا ﻓَﺎ‬ ِ ‫ﻚ ِﻣ ﻦ َﻗ ْﺒ‬ َ ‫ﻻ َﻗ ْﻮ ُﻣ‬ َ ‫ﺖ َو‬ َ ‫ﺖ َﺗ ْﻌَﻠ ُﻤ َﻬ ﺎ أَﻧ‬ َ ‫ﻚ َﻣ ﺎ آُﻨ‬ َ ‫ﺐ ﻧُﻮﺣِﻴ َﻬ ﺎ ِإَﻟ ْﻴ‬ ِ ‫ﻦ أَﻧ َﺒ ﺎء ا ْﻟ َﻐ ْﻴ‬ ْ ‫ﻚ ِﻣ‬ َ ‫" ِﺗ ْﻠ‬ "‫ﻦ‬ َ ‫ا ْﻟﻌَﺎ ِﻗ َﺒ َﺔ ِﻟ ْﻠ ُﻤ ﱠﺘﻘِﻴ‬2 (บรรดาโองการ) เหลานั้น เปนสวนหนึ่งแหงเรื่องราวอันเรนลับ ซึ่งเราดลใหเจาไดรับรู ทั้ง ๆ ที่เจาและ กลุมชนของเจาไมเคยรูมากอนจาก (ที่มีอัลกุรอาน) นี้ ดังนั้นเจาจงอดทนเถิด แทจริงจุดจบที่ดียอมเปนของ พวกยําเกรงเสมอ อัลกุรอาน เปนสัญญาณที่ชัดแจง เปนความมหัศจรรยที่มีอิทธิพลตอจิตใจของผูคน ทุกครั้งที่ผูอานอาน ดวยความเขาใจ เขาก็จะรูสึกวาจะสงผลจงใจของพวกเขาเปนยิ่งนัก เขาเองจะรูสึกคลายกับวาผูที่กําลังพูดกับ พวกเขาคืออัลลอฮฺ ซึ่งพระองคตรัสไวในอัลกุรอานวา ‫ﻦ‬ ُ ‫ن َر ﱠﺑ ُﻬ ْﻢ ُﺛ ﱠﻢ َﺗِﻠ ﻴ‬ َ ‫ﺸ ْﻮ‬ َ ‫ﺨ‬ ْ ‫ﻦ َﻳ‬ َ ‫ﺟُﻠ ﻮ ُد اﱠﻟ ﺬِﻳ‬ ُ ‫ﺸ ِﻌ ﱡﺮ ِﻣ ْﻨ ُﻪ‬ َ ‫ﻲ َﺗ ْﻘ‬ َ ‫ﺚ ِآﺘَﺎﺑًﺎ ﱡﻣ َﺘ ﺸَﺎ ِﺑﻬًﺎ ﱠﻣ َﺜ ﺎ ِﻧ‬ ِ ‫ﺤﺪِﻳ‬ َ ‫ﻦ ا ْﻟ‬ َ‫ﺴ‬ َ‫ﺣ‬ ْ ‫ل َأ‬ َ ‫"اﻟﱠﻠ ُﻪ َﻧ ﱠﺰ‬ "‫ﻦ هَﺎ ٍد‬ ْ ‫ﻞ اﻟﱠﻠ ُﻪ َﻓﻤَﺎ َﻟ ُﻪ ِﻣ‬ ْ ‫ﻀِﻠ‬ ْ ‫ﻦ َﻳﺸَﺎء َوﻣَﻦ ُﻳ‬ ْ ‫ﻚ ُهﺪَى اﻟﱠﻠ ِﻪ َﻳ ْﻬﺪِي ِﺑ ِﻪ َﻣ‬ َ ‫ﺟﻠُﻮ ُد ُه ْﻢ َو ُﻗﻠُﻮ ُﺑ ُﻬ ْﻢ ِإﻟَﻰ ِذ ْآ ِﺮ اﻟﱠﻠ ِﻪ َذِﻟ‬ ُ3 88 ‫ اﻹﺳﺮاء‬1 49 ‫ هﻮد‬2 23 ‫ اﻟﺰﻣﺮ‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

48

วิชาหลักศรัทธา

อัลลอฮฺทรงประทานพระคัมภีรที่งดงามที่สุดใหลงมา นั่นคือคัมภีรที่มีความสอดคลองตองกันในเนื้อหา ถูกประทานซ้ํา ผิวหนังของบรรดาพวกที่เกรงกลัวองคอภิบาลของพวกเขาสั่นสะทาน หลังจากนั้นผิวหนัง และหัวใจของพวกเขาก็ออนนุมสูการระลึกถึงอัลลอฮฺ นั่นเปนสิ่งชี้นําของอัลลอฮฺ ซึ่งพระองคทรงชี้นํากับสิ่ง นั้นแกพวกที่พระองคทรงประสงคและผูใดที่อัลลอฮฺปลอยใหเขาหลงผิด แนนอนเขาก็จะไมมีผูใดชี้นําเขาได และยิ่งจะเพิ่มผลในการจูงใจมากขึ้นสําหรับผูที่ขบคิด พินิจพิเคราะหตอสัญญาณตาง ๆ ของพระองค • อัลกุรอานเปนความมหัศจรรยโดยเฉพาะในสาระตางๆ ซึ่งมีอยู ไมวาจะเปนเรื่องของการชี้นํา เรื่อง ของบัญญัติ ที่ทรงอุบัติประชาชาติที่ดีที่สุดขึ้นมาเพื่อมนุษยชาติ อัลลอฮฺตรัสไววา "‫ن ﺑِﺎﻟّﻠ ِﻪ‬ َ ‫ﻦ ا ْﻟﻤُﻨ َﻜ ِﺮ َو ُﺗ ْﺆ ِﻣﻨُﻮ‬ ِ‫ﻋ‬ َ ‫ن‬ َ ‫ف َو َﺗ ْﻨ َﻬ ْﻮ‬ ِ ‫ن ﺑِﺎ ْﻟ َﻤ ْﻌﺮُو‬ َ ‫س َﺗ ْﺄ ُﻣﺮُو‬ ِ ‫ﺖ ﻟِﻠﻨﱠﺎ‬ ْ ‫ﺟ‬ َ ‫ﺧ ِﺮ‬ ْ ‫ﺧ ْﻴ َﺮ ُأ ﱠﻣ ٍﺔ ُأ‬ َ ‫"آُﻨ ُﺘ ْﻢ‬1 พวกเจาเปนประชาชาติที่ดีที่สุด ที่ถูกใหอุบัติมาเพื่อมนุษยชาติ พวกเจาใช (ใหกระทํา) แตคุณธรรม หาม (กระทํา) สิ่งตองหาม และพวกเจามีศรัทธามั่นในอัลลอฮฺ เปนเรื่องที่เปนไปไมไดกับการที่คนคนหนึ่งซึ่งเกิดในทะเลทรายอานหนังสือไมออกเขียนหนังสือ ไมได ที่จะมาจัดวางระบบ ออกกฎหมายบังคับใช และชี้นําผูคนใหออกมาเปนประชาชาติที่ดีที่สุดสําหรับ มวลมนุษยชาติ และสามารถบังคับบัญชาหัวเมืองทุกหัวเมืองที่มีความแตกตางกันในฐานันดรและความ เจริญรุงเรืองใหยอมสยบได • อัลกุรอานมีความมหัศจรรยในเรื่องของเนื้อหาสาระซึ่งประกอบดวยวิทยาการที่เปนวิทยาศาสตร ซึ่งมีขอเท็จจริงปรากฏทุกครั้งที่วันเวลาผานพนไป ขอเท็จจริงทางวิทยาศาสตรเหลานี้ก็จะไดรับการเปดเผย ในรายละเอียดใหเห็นในขอเท็จจริงตามที่อัลกุรอานไดยืนยันไว อัลลอฮฺตรัสไววา "‫ﻖ‬ ‫ﺤﱡ‬ َ ‫ﻦ َﻟ ُﻬ ْﻢ َأﻧﱠ ُﻪ ا ْﻟ‬ َ ‫ﺣﺘﱠﻰ َﻳ َﺘ َﺒ ﱠﻴ‬ َ ‫ﺴ ِﻬ ْﻢ‬ ِ ‫ق َوﻓِﻲ أَﻧ ُﻔ‬ ِ ‫ﺳ ُﻨﺮِﻳ ِﻬ ْﻢ ﺁﻳَﺎ ِﺗﻨَﺎ ﻓِﻲ اﻟْﺂﻓَﺎ‬ َ "2 ตอไปเราจะทําใหพวกเขาไดมองเห็นสัญลักษณตาง ๆ ของเราซึ่งมีอยูในดานตาง ๆ (ของจักรวาลนี้) และในตัวของพวกเขาเองจนกระทั่งไดประจักษแจมชัดแกพวกเขาวาที่จริงแลว อัลกุรอานนั้นเปนสัจธรรม • อั ล กุ ร อานมี ค วามมหั ศ จรรย อ ยู ใ นตั ว ของมั น เพราะอั ล กุ ร อานได รั บ การประทานมาด ว ย ความสําคัญในหลายๆ ดานไดแมจะมาโดยผานศาสดาผูอานไมออกเขียนไมได ซึ่งอัลลอฮฺไดทรงกลาวถึง คุณลักษณะของทานรอซูลุลลอฮ  ไวตอหนาศัตรูและผูจําเริญรอยตามทานไววา "‫ن‬ َ ‫ﻄﻠُﻮ‬ ِ ‫ب ا ْﻟ ُﻤ ْﺒ‬ َ ‫ﻚ ِإذًا ﻟﱠﺎ ْرﺗَﺎ‬ َ ‫ﺨﻄﱡ ُﻪ ِﺑ َﻴﻤِﻴ ِﻨ‬ ُ ‫ب َوﻟَﺎ َﺗ‬ ٍ ‫ﺖ َﺗ ْﺘﻠُﻮ ﻣِﻦ َﻗ ْﺒِﻠ ِﻪ ﻣِﻦ ِآﺘَﺎ‬ َ ‫" َوﻣَﺎ آُﻨ‬3 และเจาไมเคยอานคัมภีรเลมใดมากอนคัมภีรกุรอาน และเจามิไดขีดเขียนขึ้นมาดวยมือของเจาเอง (แตถาเจาสามารถเขียนหนังสือไดและอานออก) พลันพวกไรสาระทั้งหลายก็จะยิ่งกังขาหนักขึ้นเปนแน

110 ‫ ﺁل ﻋﻤﺮان‬1 53 ‫ ﻓﺼﻠﺖ‬2 48 ‫ اﻟﻌﻨﻜﺒﻮت‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

49

วิชาหลักศรัทธา

การสนับสนุนชวยเหลือของอัลลอฮฺตอทานรอซูลุลลอฮ  : ผูคนไมยอมศรัทธาตอทานรอซูลุลลอฮ  มาตั้งแตตน จะมีบางก็เพียงชนกลุมนอย ๆเทานั้น สวน พวกมุชริกีนชาวอาหรับ นอกจากจะไมยอมเชื่อ ไมยอมศรัทธาแลวพวกเขายังจะคอยกลั่นแกลงสรางความ เดือดรอนใหกับทานรอซูลุลอฮอีกตางหาก พวกมุชรีกีนจะทรมาน กลั่นแกลงและกอกวนคนที่เขารับนับถือ ศาสนาอิสลามอยูตลอดเวลา คนพวกนี้หาทางทําศึกตอสูกับทุกคนที่เขารับนับถืออิสลาม และอัลลอฮฺก็คอย ชวยเหลือสนับสนุนชวยเหลือทานรอซูลุลลอฮ  ในการตอสูกับศัตรูของพวกเขาอยู ดวยการสงมลาอิกะฮฺ มาตอสูกับพวกไรศรัทธา พระองคทรงทําใหกองกําลังของมุสลิมไดพักผอนดวยการใหรูสึกงวงและไดนอน พัก สวนบรรดาพวกกาเฟรผูไรศรัทธาพระองคทรงสงลมพายุใหพัดกระหน่ําเขาไปอยางหนักจนกระทั่งคนที่ มองเห็นถึงขนาดอุทานออกมาวา สิ่งนี้จะตองมาจากอัลลอฮฺอยางแนนอน นอกจากนั้นอัลลอฮฺยังทรงสนับสนุนทานรอซูลุลลอฮ  ดวยการบันดาลใหน้ําออกมาจากระหวาง นิ้วมือของทานรอซูลุลลอฮ  จนกระทั่งทุกคนสามารถนํามาดื่มไดอยางทั่วถึง อาหารจํานวนนอยซึ่งไม เพียงพอตอจํานวนคน อัลลอฮฺก็ทรงบันดาลใหมีจํานวนมากขึ้นจนสามารถรับประทานไดอยางเพียงพอกับ จํานวนคน ผูปวยที่มีอาการปวยอยูก็หายจากอาการปวยดวยการขอดุอาของทานรอซูลุลลอฮ  ทรงบันดาล ใหตนไมพูดและกลาวปฏิญาณตนกับทานนบี และอีกหลายตอหลายประการที่นับวาเปนความมหัศจรรยที่ เกิดขึ้นกับทานนบี การตอบรับดุอาอของทานรอซูลุลลอฮ  ไมวาทานจะวอนขอดุอาอในสิ่งใด อัลลอฮฺก็จะทรงตอบรับและตอบสนองการวอนขอของทาน ทั้งหมด และเมื่อความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ปรากฏชัดขึ้น บรรดาพวกกาเฟรผูไรศรัทธาก็เริ่มวางตัวเปนศัตรูกับ อิสลามในทันที พวกเขาแสดงตัวตอตานผูศรัทธา ตอผูที่ยอมเชื่อ และผูที่อุทิศทรัพยสินเลือดเนื้อเพื่อเชิดชู ศาสนาแหงอัลลอฮฺในทันที อัลลอฮฺไดตรัสไววา "‫ن‬ َ ‫ﺳﻘُﻮ‬ ِ ‫ﻻ ا ْﻟﻔَﺎ‬ ‫ت َوﻣَﺎ َﻳ ْﻜ ُﻔ ُﺮ ِﺑﻬَﺎ ِإ ﱠ‬ ٍ ‫ت َﺑ ﱢﻴﻨَﺎ‬ ٍ ‫ﻚ ﺁﻳَﺎ‬ َ ‫" َوَﻟ َﻘ ْﺪ أَﻧ َﺰ ْﻟﻨَﺂ ِإَﻟ ْﻴ‬1 ขอยืนยัน แทจริงเราไดประทานลงมายังเจา ซึ่งบรรดาสัญลักษณอันแจงชัด และไม (มีผูใด) ปฏิเสธ สิ่งเหลานั้นเลย นอกจากบรรดาผูชั่วรายเทานั้น สรุปทายบท • อัลลอฮฺทรงใหการสนับสนุนทานนบีมูฮําหมัด  ดวยสัญญาณ และอภินิหารตาง ๆ เพื่อสกัดกั้นมิ ใหผูคนกลาวหาวาทานเปนเท็จ • คัมภีรเลมเกากอนไดเคยพยากรณการมาปรากฏของทานรอซูลุลลอฮ  ดวยการระบุถึงสัญญาณ เวลาและสถานที่ที่จะมาปรากฏ อีกทั้งยังบอกถึงลักษณะทาทีที่ประชาชาติของทานที่จะแสดงออก ตอทานเมื่อทานมาปรากฏ เมื่อทานมาปรากฏ คําพยากรณตาง ๆ ก็สอดคลองตองตามไวทั้งหมด ชาว 99 ‫ اﻟﺒﻘﺮة‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

50

วิชาหลักศรัทธา

คัมภีรบางกลุมก็ยอมศรัทธาตอทานนบีมูฮําหมัด  และยอมตามทาน อยางเชน ทานซัลมาล อัลฟาริ ซีย ทานอับดุลลอฮ บิน ซะลาม (ขอความโปรดปรานจากอัลลอฮฺจงมีแดทานทั้งสอง) • อัล ลอฮฺ ไ ด ท รงประทานคั ม ภี ร ม หั ศ จรรย ม ายั ง ท า นนบี มู ฮํา หมั ด ซึ่ ง มี ค วามมหั ศ จรรย อ ยู ใ นตั ว โดยเฉพาะอยางยิ่งในเรื่องของ ความไพเราะ การใชสํานวนภาษา และเนื้อหาสาระที่ประกอบไปดวย สาระที่เปนความเรนลับ และมีพลังในการดึงดูดความสนใจไดเปนอยางดี อีกทั้งยังประกอบไปดวย ขอเท็จจริงทางวิทยาการ ที่ความเจริญทางวิทยาการสามารถยืนยันได ในอัลกุรอานยังประกอบไป ดวยความเรนลับของจักรวาลที่เปนไปตามที่อัลกุรอานยืนยันไวทั้งหมด การประทานอัลกุรอาน มายังทานนบีมูฮําหมัด จะประกอบไปดวย ทางนําที่สามารถอุบัติประชาชาติที่ดีที่สุดใหเกิดขึ้นใน สังคมมนุษย จนเปนที่รูจัก และที่สําคัญอัลกุรอานถูกประทานมายังผูที่อานไมออกเขียนไมได • อัลลอฮฺทรงสนับสนุนศาสนทูตของพระองคในการตอสูกับศัตรู ดวยการใหการสนับสนุนผาน อภินิหารนานัปการ • ทานรอซูลุลลอฮ  เปนผูที่อัลลอฮฺทรงตอบรับดุอา ที่ทานวอนขอตอองคอภิบาลของทาน ทุกครั้งที่ ทานวอนขอ อัลลอฮฺก็จะทรงตอบรับการวอนขอของทานเสมอ

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

51

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 11 โวหารและวาทศิลปศาสตรในอัลกุรอาน พระดํารัสแหงอัลลอฮฺไดยืนยันในความสัจจริงแหงสาระธรรมของทานนบี  ถาม พระดํารัสแหงอัลลอฮฺเปนสิ่งยืนยันในความสัจจริงของสาระธรรมแหงทานนบีมูฮําหมัด  หรือไมอยางไร ? ตอบ แนนอนที่สดุ อัลกุรอานไดมกี ารกลาวยืนยันไววา ทานนบีมูฮําหมัดคือศาสนทูตแหงอัลลอ ฮฺ ซึ่งพระองคตรัสไววา "‫ﺣﻤَﺎء َﺑ ْﻴ َﻨ ُﻬ ْﻢ‬ َ ‫ﻋﻠَﻰ ا ْﻟ ُﻜﻔﱠﺎ ِر ُر‬ َ ‫ﺷﺪﱠاء‬ ِ ‫ﻦ َﻣ َﻌ ُﻪ َأ‬ َ ‫ل اﻟﱠﻠ ِﻪ وَاﱠﻟﺬِﻳ‬ ُ ‫ﺤ ﱠﻤ ٌﺪ ﱠرﺳُﻮ‬ َ ‫" ﱡﻣ‬1 มุฮําหมัดเปนศาสนทูตแหงอัลเลาะฮ และบรรดาผูรวม (อุดมการณเดียวกัน) กับเขา ลวนเปนผูมพี ลัง เขมแข็งเหนือพวกไรศรัทธา อีกทั้งเปนผูมีเมตตาในระหวางพวกเขากันเอง ถาม ความจริงแลวสําหรับผูมีศรัทธาพระดํารัสแหงอัลลอฮฺในอายะฮฺนี้ก็เพียงพอที่จะยืนยันใน ความสัจจริงของทานแลว แตทําไมผูไรศรัทธาจึงยังไมยอมเชื่อวาเปนพระคําของอัลลอฮฺ ? ตอบ ในอัลกุรอานเองก็เพียงพอแลวที่จะยืนยันวา อัลกุรอานคือพระคําแหงอัลลอฮฺ ถาม ทําไมถึงเปนเชนนั้น ? ตอบ พระดํารัสแหงผูทรงสรางจะตองแตกตางไปจากถอยคําของคนธรรมดาอยางแนนอน หาก มนุษยธรรมดาทั่วไปไตรตรอง รับฟงและทําความเขาใจพินิพิเคราะหในคําพูดของคนทั่วไป แลวหันไป ไตรตรองพินิจพิเคราะหพระดํารัสแหงอัลลอฮฺซึ่งปรากฏอยูในอัลกุรอาน ก็จะพบไดในทันทีวา พระ ดํารัสแหงพระผูเปนเจานั้นมีลักษณะพิเศษเฉพาะปรากฏอยูอยางชัดเจน และจะไดเห็นถึงขอแตกตางที่ ชัดเจนยิ่งระหวางคําของมนุษยกับพระดํารัสแหงอัลลอฮฺ เขาจะไดเห็นเปนประจักษวา อัลกุรอานเองจะ เปนสิ่งยืนยันในความสัจจริงแหงสาระธรรมของทานนบีมูฮําหมัด  วา มันไมใชอื่นใดแตเปนสิ่งที่ ไดรับการดลใจที่ทานไดรับมา(จากอัลลอฮฺ) มันไมใชคําพูดที่อุตริขึ้นมาเองโดยตัวทาน วาทศิลปศาสตรและโวหารแหงอัลกุรอาน ถาม ลักษณะพิเศษของอัลกุรอานที่แตกตางไปจากคําพูดของมนุษยทวั่ ไปคืออะไร ? ตอบ พระดํารัสแหงพระผูเปนเจาจะตองมีลัษณะพิเศษ แตกตางไปจากถอยคําของมนุษยอยาง แนนอน อยางเชน วาทศิลปศาสตรและโวหารแหงอัลกุรอานที่ผูคนทั้งในยุคแรกและยุคหลังๆ ที่เคยไดยินได ฟงอัลกุรอาน ไมสามารถที่ลอกเลือนแบบหรือทําใหเสมอเหมือนได แมกระทั่งผูเชี่ยวชาญในสํานวนโวหาร ของภาษาอาหรับ (ในยุคแหงสาระธรรม) เอง จนทําใหเขาเองตองยอมเขารับนับถือศาสนาอิสลาม และเมื่อมี 29 ‫ اﻟﻔﺘﺢ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

52

วิชาหลักศรัทธา

อิสลามเขาสูหัวใจของพวกเขา เขาก็รูในทันทีวานั่นคือพระดํารัสแหงอัลลอฮฺ ซึ่งเปนถอยคําที่ไมมีใคร สามารถนํามาซึ่งสิ่งเสมอเหมือนได ไมวาเขาผูนั้นจะมีความรูความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาษา มีความรูเกี่ยวกับ สํานวนโวหารสักมากนอยเพียงใดก็ตาม เขาก็สามารถรับรูดวยวา สิ่งนี้จะไมมีโอกาสเกิดขึ้นกับผูที่อานไม ออกเขียนไมไดอยางเด็ดขาด นอกเสียจากวาอัลลอฮฺจะประทานใหกับเขา ดวยเหตุนี้เองบรรดาผูปฏิเสธ ศรัทธาตางประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันวาจะลุกขึ้นตอตานอัลกุรอานไดอยางไร ?และใน ที่สุดพวกเขาตางก็มีมติรวมกันวา ใหเรียกความไพเราะและอรรถรสของอัลกุรอานวาเปนมายากล ผูใดฟง แลวจะหลงใหล จะถูกสะกด ซึ่งอัลลอฮฺไดตรัสเลาเรื่องราวของที่วาลิด บิน มุฆีเราะฮฺ ไดประชุมรวมกับแนว รวมกาเฟรของเขาไววา "‫ﺸ ِﺮ‬ َ ‫ل ا ْﻟ َﺒ‬ ُ ‫ن َهﺬَا ِإﻟﱠﺎ َﻗ ْﻮ‬ ْ ‫ ِإ‬،ُ‫ﺤ ٌﺮ ُﻳ ْﺆ َﺛﺮ‬ ْ‫ﺳ‬ ِ ‫ن َهﺬَا ِإﻟﱠﺎ‬ ْ ‫ل ِإ‬ َ ‫ َﻓﻘَﺎ‬، ‫ﺳ َﺘ ْﻜ َﺒ َﺮ‬ ْ ‫" ُﺛﻢﱠ َأ ْد َﺑ َﺮ وَا‬1 หลังจากนั้น เขาก็หันหลังให และหยิ่งผยองแลวเขาก็พูดวา “สิ่งนี้มิใชอะไรเลย นอกจากเปนมายากล ที่ถูกสืบทอดกันมา (จากนักมายากลอื่นๆ)“สิ่งนี้มิใชอื่นใด นอกจากเปนเพียงถอยคําของมนุษยธรรมดา (ที่ ประพันธขึ้น)” พวกเขาต า งออกมากลา วหาว า พระดํ า รั ส แหง อั ล ลอฮฺ คือ มายากล ซึ่ง เปน วิ ธีก ารแรกที่ พ วกเขา นํามาใชในการตอตานอิทธิพลของอัลกุรอานที่สงดึงดูดความสนใจของพวกเขาไปเปนอยางมาก สวนวิธีการ ที่สองคือการหามมิใหผูใดเขาไปรับฟงอัลกุรอาน ซึ่งอัลลอฮฺไดทรงเลาเรื่องราวของพวกเขาไววา "‫ن‬ َ ‫ن وَا ْﻟ َﻐﻮْا ﻓِﻴ ِﻪ َﻟ َﻌﱠﻠ ُﻜ ْﻢ َﺗ ْﻐِﻠﺒُﻮ‬ ِ ‫ﺴ َﻤﻌُﻮا ِﻟ َﻬﺬَا ا ْﻟ ُﻘﺮْﺁ‬ ْ ‫ﻦ َآ َﻔﺮُوا ﻟَﺎ َﺗ‬ َ ‫ل اﱠﻟﺬِﻳ‬ َ ‫" َوﻗَﺎ‬2 และบรรดาจําพวกไรศรัทธาไดกลาววา “พวกทานอยาฟงอัลกุรอานนี้ และพวกทานจงทําสิ่งไรสาระ ในขณะที่มีอานมัน (เชนการรองรําทําเพลงหรือปรบมือ กลบเสียงอัลกุรอาน) เพื่อพวกทานจะไดประสบชัย ชนะ” การที่พวกเขาออกมาสกัดกั้นเชนนั้นก็เพราะเกรงวาชาวอาหรับจะรับรูถึงความมหัศจรรยแหงอัลกุร อาน และเกรงวาวาทศิลปศาสตรซึ่งมีอยูในอัลกุรอานจะมามีอิทธิ์พลสงผลตอสติปญญาและการจูงใจพวก เขาใหหันมาศรัทธา และและยืนยันวามูฮําหมัดเปนศาสนทูตแหงอัลลอฮฺที่แทจริง แตถึงกระนั้นก็ยังมีพวกมุชรีกีนอาหรับที่มีโอกาสไดรับฟงถอยสํานวนแหงอัลกุรอาน พวกเขาก็เขา รับนับถืออิสลามอยางมากมาย สวนผูที่ยังคงปฏิเสธศรัทธา แตก็ไมไดปฏิเสธในความเปนเลิศแหงสํานวน โวหารและวาทศิลปศาสตรของอัลกุรอาน พวกเขาเองตางยอมรับวามนุษยไมสามารถนํามาซึ่งสิ่งเสมอ เหมือนได พวกเขาตางยอมรับวาสํานวนเหลานี้ตางไปจากสํานวนของผูคนทั่วไป แตพวกเขากลับเรียก สํานวนของอัลกุรอานวา เปนมายากล เปนไสยศาสตรที่สามารถสะกดจิตสะกดใจผูฟงใหคลอยตามได และ ในขณะเดียวกับพวกเขาตางก็ยอมรับวาอัลกุรอานเปนถอยสํานวนที่ยิ่งใหญและสูงสงกวาถอยคําอื่น ๆ ทั้งหมด

25-23 ‫ اﻟﻤﺪﺛﺮ‬1 26 ‫ ﻓﺼﻠﺖ‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

53

วิชาหลักศรัทธา

ถาม ทําไมพวกเราในยุคปจจุบนั กลับไมรูสึกรับรูถึงวาทศิลปศาสตรแหงอัลกุรอานเหมือน ดังเชนชาวอาหรับในยุคเกากอน ? ตอบ นั่นก็เปนเพราะวาอัลกุรอาน เมื่อมีการอาน ก็จะเปนที่เขาใจสําหรับพวกเขา เพราะอัลกุร อานไดรับการประทานลงมาดวยภาษาของพวกเขาเอง แตสําหรับพวกเขากลับหางเหินไปจากภาษาอาหรับที่ เปนสํานวนภาษากลาง ซึ่งเปนภาษาของอัลกุรอาน ทําใหเราไมสามารถเขาใจความหมายหลายตอหลายที่ ในอัลกุรอาน แตความจริงแลวมันไมไดยากจนเกินไป หากแตตองมีการศึกษาทําความเขาใจผานการเรียนรู วิชาภาษาอาหรับใหเกิดความช่ําชองในเรื่องของศิลปะแหงภาษา และจะตองอานพระคัมภีรแหงอัลลอฮฺอยู เสมอก็จะสามารถรูไดในทันทีวา วาทศิลปศาสตรแหงอัลกุรอานนั้นจะยากและตางไปจากวาทศิลปของ มนุษยเปนไหน ๆ วาทศิลปศาสตรในระดับนี้ผูที่สามารถสรางไดทําไดก็จะมีแตพระผูทรงสรางผูทรงพลัง ผู ทรงเดชานุภาพสูงสุดเทานั้น และพรอมกันนี้ก็ยังมีสิ่งยืนยันอีกประการหนึ่งซึ่งปรากฏเปนเครื่องหมายแหง พระผูเปนเจาอยูในทุกซูเราะฮฺ ซึ่งเครื่องหมายอันนี้ทุกคนตางเขาใจ ไมวาจะเปนผูรูหรือพวกโงเขลา ตางก็ ยอมรับวาอัลกุรอานเปนพระคําของอัลลอฮฺซึ่งแตกตางไปจากคําของสิ่งถูกสรางทั่วไปทั้งหมดอยางแนนอน อัลกุรอานเปนคัมภีรที่ไมเคยลาหลังลาสมัย ถาม ปาฏิหาริยของแหงพระผูเปนเจาซึ่งมีอยูในคัมภีรแหงพระองคสวนใดที่สามารถรับรูได ทั้งหมด ไมวาจะเปนผูรูหรือบุคคลทั่วไป ? ตอบ อัลกุรอานจะรูสึกถึงความใหมเสมอ ไมมีเสื่อม ทุกครั้งที่ผูอาน อานดวยความเขาใจก็จะ คนพบสิ่งใหม ๆ ปรากฏอยูเสมอ ซึ่งตรงกันขามกับบทประพันธหรือบทกวีของมนุษยที่แตงขึ้น หากอานไป แลวและกลับมาอานซ้ําอีกครั้งก็จะรูสึกเบื่อรูสึกถึงความซ้ําซาก และจะสามารถบอกไดทันทีวาเปนคําพูด ของมนุษย แมกระทั่งลํานําซึ่งเปนบทกลอนที่เปนที่ยอมรับและมีการนํามาใสดนตรีประกอบ ปรับเปลี่ยน ดนตรีใหมก็ยังรูสึกเบื่อ แมกระทั่งวานําไปเก็บไวนาน ๆ แลวนํามาเปดใหมก็ยังรูสึกวายังรูสึกซ้ําซากอยูดี ส ว นพระคํ า แห ง อั ล ลอฮฺ แม ว า จะเป น ถ อ ยคํ า ที่ ป ระกอบขึ้ น ด ว ยตั ว พยั ญ ชนะชนิ ด เดี ย วกั บ ตั ว พยัญชนะที่ใชในการพูดของมนุษย ใชคําคําเดียวกับที่มนุษยใช สําหรับมุสลิมแลวเขาก็จะรูในทันทีวาทุก ครั้งที่เขากลับมาอานบทฟาติหะฮฺทุกวัน เมื่อเขาตองละหมาดฟรฎ ซึ่งเขาจะตองอานวันละ 17 ครั้ง แตหาก เมื่อเขาทําการละหมาดซูนัตดวย เขาก็จะตองอานเพิ่มเปน 31 ครั้งตอวัน และไมใชแคเพียงหนึ่งเดือนเทานั้น แตจะตองอานตลอดชั่ว อายุ ซึ่งมุสลิมเองไมเ คยรูสึกเบื่อหนายที่จะอาน ไมรูสึก วาจะเปนความลาสมัย เหมือนความรูสึกที่มีตอการอานคําซึ่งเปนบทประพันธของมนุษยแตอยางใด เชนเดียวกับซูเราะฮฺอื่น ๆ ที่มี เนื้อความสั้น ๆ หรือแมแตซูเราะฮฺอื่น ๆ ในอัลกุรอาน แมวาเราจะอานซ้ําแลวซ้ําเลาหลายตอหลายครั้งใน หนึ่งวัน ก็ไมเคยรูสึกถึงความเบื่อหนายซ้ําซาก หรือลาสมัยแตอยางใด แตกลับรูสึกวาถอยสํานวนเหลานี้มี ความใหมมีความทันสมัยอยูตลอดเวลา

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

54

วิชาหลักศรัทธา

การเขารับนับถืออิสลามของชาวยุโรป ถาม คนตางศาสนามีจุดยืนเกีย่ วกับเรื่องนี้อยางไร ? ตอบ ผูใดก็ตามที่ไดมีโอกาสเรียนรูและทําความเขาใจอัลกุรอานดังที่เราเรียนรู เขาก็จะไดเห็นถึง สัญญาณขององคอภิบาลซึ่งปรากฏอยูอยางชัดเจนในคัมภีรของพระองค ที่ผานมานักบูรพาคดีศึกษาและคน อื่น ๆไดทําการศึกษาอัลกุรอาน โดยมีวัตถุประสงคเพื่อสกัดกัน้ และการทําลาย แตผลที่ไดรับก็คือพวกเขา หลายตอหลายคนถึงขนาดตองละทิ้งศาสนาเดิมของพวกเขาแลวยอมตนเขาสูศาสนาของอัลลอฮฺ หลังจากที่ พวกเขารับรูแลววาศาสนาของพระองคคือสัจธรรม และนี่คือคําพูดของคนจากสองฟากฝงชาวยุโรปที่ไดพูด ถึงอัลกุรอานไว นักบูรพาคดีทา นหนึ่งซึ่งมีชอื วา สีล (‫ )ﺳﻴﻞ‬ไดกลาวไววา “แทจริงแลวสํานวนแหงอัลกุรอานนั่นมี ความไพเราะเพราะพริ้งเปนยิ่งนัก เปนที่นา แปลกใจอยูทวี่ าสํานวนภาษาของอัลกุรอานเปนสํานวนที่สามารถ จูงใจชาวคริสตใหอยากอาน ไมวาจะเปนกลุมที่มีความศรัทธาหรือไมศรัทธาหรือกลุมที่มีจิตใจตอตาน ก็ตาม ที อีกทานหนึ่งคือทาน Herschepld (‫ )هﺮﺷﻔﻠﺪ‬ซึ่งไดกลาวไววา ในอัลกุรอานไมไดมีเพียงตัวอยางที่จะ ทําใหเกิดความพึงพอใจในเหตุผล ไมไดมเี พียงแควาทศิลปศาสตร การใชสํานวนภาษาเทานั้น แตเปนแหลง อางอิงถึงความรุงเรืองทางวิทยาการในสาขาวิชาตาง ๆ หลากหลายสาขาของโลกอิสลามอีกดวย ดร.โมริส บูคาย ชาวฝรั่งเศส ไดกลาวไววา “แทจริงแลวอัลกุรอานนั้นนับไดวาเปนคัมภีรที่ดีที่สุด ที่ ไดรับการประทานมาเพื่อเผาพันธุมนุษย มันเปนคัมภีรทปี่ ราศจากสิ่งคลางแคลงใจทัง้ หมด นักบูรพาคดีศึกษาอีกทานหนึ่งคือ ไลออน (lion)กลาวถึงอัลอัลกุรอานไววา “ดวยความยิ่งใหญและ เกรียงไกรของอัลกุรอานตลอดระยะเวลา 14 ศตวรรษที่ผานมา จนไมมีใครสามารถทําใหมันลดคาลงได แมกระทั่งแคเพียงบางสวนของสํานวนภาษาที่ใช อัลกุรอานยังเจริญงอกงามได ประหนึ่งวาเปนยุคทองของ มันตลอดมา ความทาทายของอัลกุรอานที่มีตอมวลมนุษย ถาม อัลกุรอานไดมกี ารทาทายใหมนุษยนํามาซึ่งสิ่งเสมอเหมือนอัลกุรอานบางหรือไมอยางไร ? ตอบ อัลกุรอานไดทาทายนักเรียบเรียงและผูที่มีความสังสัยในความสัจจริงของศาสนาอิสลาม ใหพวกเขาละทิ้งการสูรบกับอิสลาม ที่ตองทําใหเสียทั้งเลือดเนื้อและทรัพยสินโดยหันมาแตงหรือนํามาซึ่ง สักซูเราะฮฺหนึ่งที่เสมอเหมือนกับอัลกุรอาน หรือจะเรียกรองเชิญชวนใครก็ไดใหมาสนับสนุนชวยเหลือใน การแตง เรียบเรียง หากพวกเขาสามารถกระทําไดเสมอเหมือน นั่นก็สามารถบอกไดวาอัลกุรอานเปนสิ่งที่มา จากมูฮําหมัดซึ่งเปนมนุษย แตหากที่ผานมาพวกเขาไมสามารถกระทําได และตอไปในอนาคตก็จะไม สามารถกระทําได ก็จงพึงรับรูไวเสียเถิดวา อัลกุรอานนั้นมาจากอัลลอฮฺ ซึ่งทรงดลใจมายังศาสนทูตของ พระองคคือทานนบี มูฮําหมัด และขอใหพวกเขาพึงระวังถึงโทษที่พวกเขาจะไดรับไวดวย อัลลอฮฺไดตรัสไว ในอัลกุรอานวา ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

55

วิชาหลักศรัทธา

‫ن‬ ِ ‫ﺷ َﻬﺪَاءآُﻢ ﱢﻣ ﻦ دُو‬ ُ ‫ﻋ ﻮ ْا‬ ُ ‫ﻋ ْﺒ ِﺪﻧَﺎ َﻓ ْﺄﺗُﻮ ْا ِﺑﺴُﻮ َر ٍة ﱢﻣ ﻦ ﱢﻣ ْﺜِﻠ ِﻪ وَا ْد‬ َ ‫ﻋﻠَﻰ‬ َ ‫ﺐ ﱢﻣﻤﱠﺎ َﻧ ﱠﺰ ْﻟﻨَﺎ‬ ٍ ‫" َوإِن آُﻨ ُﺘ ْﻢ ﻓِﻲ َر ْﻳ‬ ‫ت‬ ْ ‫ﻋ ﱠﺪ‬ ِ ‫ﺠ ﺎ َر ُة ُأ‬ َ‫ﺤ‬ ِ ‫س وَا ْﻟ‬ ُ ‫ َﻓﺈِن ﱠﻟ ْﻢ َﺗ ْﻔ َﻌﻠُﻮ ْا َوﻟَﻦ َﺗ ْﻔ َﻌﻠُﻮ ْا ﻓَﺎ ﱠﺗﻘُﻮ ْا اﻟ ﱠﻨ ﺎ َر اﱠﻟ ِﺘ ﻲ َوﻗُﻮ ُد َه ﺎ اﻟ ﱠﻨ ﺎ‬، ‫ﻦ‬ َ ‫ن ُآ ْﻨ ُﺘ ْﻢ ﺻَﺎ ِدﻗِﻴ‬ ْ ‫اﻟّﻠ ِﻪ ِإ‬ 1 "‫ﻦ‬ َ ‫ِﻟ ْﻠﻜَﺎ ِﻓﺮِﻳ‬ และหากพวกเจาตกอยูในความสงสัยตอสิ่งที่เราไดประทานแกบาวของเรา (วามิใชเปนโองการของ เรา) พวกเจาก็จงนํามาสักหนึ่งซูเราะฮฺ ที่เหมือนกับมัน และพวกเจาจงเรียกบรรดาสักขีพยานของพวกเจา (ที่ พวกเจายึดเปนพระเจา และบรรดาแนวรวมของพวกเจา) อันนอกเหนือจากอัลลอฮฺ (มาชวยกันประพันธขึ้น) ซิ หากพวกเจาเปนผูสัจจริงดังนั้นหากพวกเจาทําไมได และจะทําได (อีกตลอดไป) พวกเจาก็จงกลัวไฟนรก เถิด ซึ่งเชื้อเพลิงของมันเปนมนุษยและหินมันถูกเตรียมไวสําหรับบรรดาผูปฏิเสธทั้งหลาย ถาม มนุษยมีทาทีและจุดยืนเกี่ยวกับการทาทายของอัลกุรอานอยางไร ? ตอบ พวกเขาไมสามารถที่จะตอบสนองการทาทายได (ดังที่อัลกุรอานไดแจงไว) แมกระทั้งคน ที่ตั้งตัวเปนศัตรูตัวฉกาจกับทานรอซูลุลลอฮ  ก็ไมสามารถนํามาซึ่งสิ่งเสมอเหมือนได จะมีก็แคการ ประกาศทําสงครามกับบรรดาผูศรัทธาในสนามรบ นั่นก็เปนเพราะวาพวกเขาไมสามารถนํามาแมกระทั่งสัก หนึ่งซูเราะฮฺที่เสมอเหมือนอัลกุรอานได

• •

สรุปทายบท อัลกุรอานคือพระคําแหงอัลลอฮฺที่มายืนยันวาทานนบีมฮู ําหมัดคือศาสนทูตแหงอัลลอฮฺ ในอัลกุรอานมีอภินิหารแหงพระผูเปนเจาประจักษอยูเพื่อยืนยันวา พระคําแหงอัลลอฮฺนั่นทรงไวซึ่ง โวหารและวาทศิลปศาสตรที่ไมมีใครสามารถที่จะลอกเลียนหรือเขียนขึ้นใหเสมอเหมือนไดไมวา จะเปนคนในยุคกอนหรือยุคหลัง ในอัลกุรอานจะไมมีคําวาลาหลังลาสมัย แตจะมีความใหมอยูเสมอแมวาจะอานซ้ําครั้งแลวครั้งเลา วันละหลายครั้งก็ตาม ซึ่งความจริงในขอนี้นักวิชาการชาวยุโรปตางยอมรับและเปนที่ประจักษถึง ความยิ่งใหญของอัลกุรอาน และยอมรับในความสูงสงของอัลกุรอานทุกถอยคํา แทจริ งแลว อัลกุรอานได มีการทาทายใหมวลมนุษ ยทั้งหมดประพัน ธมาสักซูเราะฮฺหนึ่ งซึ่ งเท า เทียมอัลกุรอาน หากพวกเขายังสงสัยในความเปนพระคําแหงอัลลอฮฺ แตแลวที่ผานมาพวกเขาก็ยัง ทําไมได และจะยังคงทําไมไดอีกตอไปจนกระทั่งถึงวันกียามะฮฺ

24-23 ‫ اﻟﺒﻘﺮة‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

56

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 12 อัลกุรอานกับความกาวหนาทางวิทยาการสมัยใหม อัลกุรอานคือคัมภีรแหงทางนํา ถาม: เพราะเหตุใดอัลลอฮฺจึงทรงประทานอัลกุรอานมา ? ตอบ: อัลลอฮฺทรงประทานอัลกุรอานมาเพื่อการชี้นําแกมนุษยชาติ และอัลกุรอานคือทางนํา แตอัลกุรอานไมใชตําราทางการแพทย ไมใชตําราทางวิศวกรรม ไมใชหนังสือดาราศาสตร ไมใชหนังสือทาง วิชาเคมี แตอัลกุรอานไดบนั ทึกไวซึ่งขอเท็จจริงที่เกีย่ วกับเรื่องนี้ไวทั้งหมด แตแทจริงแลวอัลกุรอานก็คือ คัมภีรที่เปนทางนําของพระผูเ ปนเจา ที่ประทานมาเพื่อเปนแนวทางและเพื่อการถือปฏิบัติของมวลมนุษย อัลกุรอานไดรบั การประทานลงมาดวยความรอบรูของอัลลอฮฺ ถาม: คําวา “อัลกุรอานมีความล้ําหนากวาวิทยาการสมัยใหม” หมายความวาอยางไร ? ตอบ: นั่นก็หมายความวา ทุกครั้งที่อัลกุรอานกลาวถึง มวลมนุษยชาติ กลาวถึงพืชพันธตางๆ หรือ กลาวถึงสรรพสิ่งที่ถูกสรางมา อัลกุรอานก็จะกลาวถึงลักษณะไปตามขอเท็จจริงทั้งหมด แตความรูของ มนุษยกลับมีอยูในขีดจํากัด ไมสามารถเขาถึงขอเท็จจริงตาง ๆ ไดทั้งหมด แตเมื่อวิทยาการตางๆ กาวหนาไป มีการคนควาวิจัยและขอเท็จจริงตางๆ ไดรับการเปดเผย ผานการใชเครื่องไมเครื่องมือสมัยใหม ขอเท็จจริง ตาง ๆ ก็เริ่มปรากฏ ซึ่งก็คือขอเท็จจริงเดียวกันกับที่อัลกุรอานไดกลาวถึงไว และจากการศึกษาคนควาทาง วิชาการทําใหเราสามารถรูไดวา แทจริงแลวอัลกุรอานไดกาวล้ํานําหนาวิทยาการสมัยใหมไปแลวทั้งหมด ซึ่งสิ่งเหลานี้ทั้งหมดสามารถยืนยันไดวา มันเปนความมหัศจรรยใหมที่ปรากฏอยูในอัลกุรอานในยุคสมัย แหงความกาวหนาทางวิทยาการ แทจริงแลวอัลกุรอานไดรับการประทานลงมาดวยความรอบรูแหงอัลลอฮฺ สิ่งที่พระองคทรงประทานมาไมมีสิ่งใดเปนขอเท็จ ไมวาจะมาจากดานหนาหรือดานหลัง. อัลกุรอานบอกวาเมื่อขึ้นไปในที่สูงจะรูสึกอึดอัดหายใจไมออก ถาม ตัวอยางเกี่ยวกับเรื่องนี้มีอะไรบาง ? ตอบ ตัวอยางที่ยืนยันเกี่ยวกับขอเท็จจริงขอนี้มีอยูมากมาย ดังที่ไดรับการเปดเผยจากนักบินวา เมื่อบินสูงขึ้นไปก็จะรูสึกอึดอัดหายใจไมสะดวก และทุกครั้งที่บินสูงขึ้นไปก็จะยิ่งรูสึกอึดอัดมากยิ่งขึ้น เทานั้น และเมื่อยิ่งจะบินสูงขึ้นไปมาก ๆ ก็อาจจะขาดหายใจก็เปนได นั่นก็เปนเพราะวาในระดับที่สูงขึ้นไป ออกซิเจนก็จะยิ่งนอยลง เมื่อปริมาณออกซิเจนที่รางกายตองการลดนอยลงก็จะรูสึกอึดอัดหายใจไมสะดวก มากยิ่งขึ้น ขอเท็จจริงขอนี้เปนขอเท็จจริงที่ไมมีใครเคยรูมากอน ผูคนทั้งหมดอาจจะเขาใจไปวาอากาศจะ ตอเนื่องสม่ําเสมอเทาเทียมกันไปจนกระทั่งถึงไปยังดวงดาว แตในอัลกุรอานกลับมีการกลาวถึงขอเท็จจริง ขอนี้ไวอยางชัดเจนแลวทั้งหมด และกลาวถึงมาตั้งแต 1400 ป มาแลว ซึ่งอัลลอฮฺไดทรงกลาวไวในอัลกุ รอานวา

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

57

วิชาหลักศรัทธา

‫ﺿ ﱢﻴﻘًﺎ‬ َ ‫ﺻ ْﺪ َر ُﻩ‬ َ ‫ﻞ‬ ْ ‫ﺠ َﻌ‬ ْ ‫ﻀﻠﱠ ُﻪ َﻳ‬ ِ ‫ﻼ ِم َو َﻣ ﻦ ُﻳ ِﺮ ْد أَن ُﻳ‬ َ ‫ﺳ‬ ْ‫ﻺ‬ ِ ‫ﺻ ْﺪ َر ُﻩ ِﻟ‬ َ ‫ح‬ ْ ‫ﺸ َﺮ‬ ْ ‫" َﻓ َﻤ ﻦ ُﻳ ِﺮ ِد اﻟّﻠ ُﻪ أَن َﻳ ْﻬ ِﺪ َﻳ ُﻪ َﻳ‬ "‫ن‬ َ ‫ﻻ ُﻳ ْﺆ ِﻣﻨُﻮ‬ َ ‫ﻦ‬ َ ‫ﻋﻠَﻰ اﱠﻟﺬِﻳ‬ َ ‫ﺲ‬ َ ‫ﺟ‬ ْ ‫ﻞ اﻟّﻠ ُﻪ اﻟ ﱢﺮ‬ ُ ‫ﺠ َﻌ‬ ْ ‫ﻚ َﻳ‬ َ ‫ﺴﻤَﺎء َآ َﺬِﻟ‬ ‫ﺣ َﺮﺟًﺎ َآَﺄ ﱠﻧﻤَﺎ َﻳﺼﱠﻌﱠ ُﺪ ﻓِﻲ اﻟ ﱠ‬ َ1 ดังนั้นผูใดที่อัลลอฮฺทรงปรารถนาที่จะชี้นําเขา แนนอนพระองคจะทรงเปดจิตใจของเขาเพื่อรับ อิสลาม และผูใดที่พระองคทรงปรารถนาที่จะยังความหลงผิดแกเขา พระองคก็จะทรงดลบันดาลใหจิตใจ ของเขาคับแคบ อีกทั้งตีบตันประดุจเขากําลังขึ้นไปบนฟากฟา (เพราะอากาศหายใจ “ออกซิเจน” คอน นอยลง) เชนนั้นแหละที่อัลลอฮฺทรงดลบันดาลความโสมม (การลงโทษ) แกบรรดาผูไมศรัทธา ผูใดสมควรที่อัลลอฮฺประสงคจะใหไดรับการหลงผิดเพราะการกระทําที่เลวราย หรือรบรากับ ศาสนา อัลลอฮฺก็จะทรงใหจิตใจของพวกเขาคับแคบรับฟงวิทยาทานอะไรไมเขาใจ อิสลามไดเปรียบเทียบ เขาไววา จะรูสึกคับแคบประดุจเขากําลังขึ้นไปยังฟากฟา ซึ่งมนุษยทั้งหมดตางไมมีความรูเกี่ยวกับขอเท็จจริง ในเรื่อง ที่เกี่ยวกับวาเมื่อขึ้นไปบนฟากฟาแลวจะรูสึกอึดอัดหายใจไมออก มารูไดก็ตอเมื่อมีคนขึ้นไปบน ฟากฟาดว ยเครื่องบิ น แลวถามวา ทา นนบีมูฮํา หมัด  มี เครื่ องบิน ส ว นตัวของท า นหรือไม จึง ได รูถึ ง ขอเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด หรือวาทานรูไดผานการรับอัลวะหฺยู ที่อัลลอฮฺทรงประทานลงมาดวยความ รอบรูของพระองค อัลกุรอานไดบอกเลาเกี่ยวกับศูนยกลางการรับความรูสึกวาอยูที่ผิวหนังกอนศัลยแพทยที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง นี้จะคนพบ ถาม: ยังมีตัวอยางอื่น ๆ อีกหรือไม ? ตอบ: ตัวอยางเกี่ยวกับเรื่องนี้มีอยูมากมาย ตัวอยางเชน ความเรนลับเกี่ยวกับองคประกอบของ ผิวหนังของมนุษย. ถาม แตกอนทุกคนอาจจะเขาใจกันไปวา การรับความรูสึกของรางกายมนุษยเปนคุณสัมบัติของ รางกายที่มีอยูในทุกสวนของรางกาย และมีระดับการรับความรูสึกที่เทาเทียมกัน แตวิทยาการทางศัลยแพทย สมัยใหมไดนําขอเท็จจริ งใหมซึ่งมนุษ ยไมเคยรูมากอนวา แทจริงแลวศูน ยกลางการรับความรูสึก เชน ความรูสึกเจ็บ ปวด หรือความรูสึกอื่น นั้นอยูที่ผิวหนังเสียเปนสวนใหญ มนุษยจะไมรูสึกเจ็บเมื่อมีการฉีดยา เขา เสน แต จ ะรู สึก เจ็ บ ก็ เ ฉพาะระยะที่ เ จาะผา นผิ ว หนั ง เท านั้น แต อัล กุร อานไดก ล าวถึง เรื่ อ งนี้ไ ว กอ น ศัลยแพทยมาตั้งกวา 20 ศตวรรษแลว อัลลอฮฺไดตรัสไวในอัลกุรอานวา ‫ﻏ ْﻴ َﺮهَﺎ‬ َ ‫ﺟﻠُﻮدًا‬ ُ ‫ﺟﻠُﻮ ُد ُه ْﻢ َﺑ ﱠﺪ ْﻟﻨَﺎ ُه ْﻢ‬ ُ ‫ﺖ‬ ْ ‫ﺠ‬ َ‫ﻀ‬ ِ ‫ﺼﻠِﻴ ِﻬ ْﻢ ﻧَﺎرًا ُآﱠﻠﻤَﺎ َﻧ‬ ْ ‫ف ُﻧ‬ َ ‫ﺳ ْﻮ‬ َ ‫ﻦ َآ َﻔﺮُو ْا ﺑِﺂﻳَﺎ ِﺗﻨَﺎ‬ َ ‫ن اﱠﻟﺬِﻳ‬ ‫"ِإ ﱠ‬ "‫ﺣﻜِﻴﻤًﺎ‬ َ ‫ﻋﺰِﻳﺰًا‬ َ ‫ن‬ َ ‫ن اﻟّﻠ َﻪ آَﺎ‬ ‫ب ِإ ﱠ‬ َ ‫ِﻟ َﻴﺬُوﻗُﻮ ْا ا ْﻟ َﻌﺬَا‬2

125 ‫ اﻷﻧﻌﺎم‬1 ‫ اﻟﻨﺴﺎء‬257

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

58

วิชาหลักศรัทธา

แทจริงบรรดาผูปฏิเสธโองการตางๆ ของเรา เราจะใหพวกเขาเขานรก ทุกครั้งที่ผิวหนังของพวกเขา ไดไหมเกรียมแลว เราก็ทดแทนพวกเขา ซึ่งผิวหนังใหม เพื่อพวกเขาไดลิ้มรสการลงโทษ แทจริงอัลลอฮฺทรง อํานาจยิ่ง อีกทั้งทรงปรีชาญาณยิ่ง นั่นก็หมายความวาความรูสึกเจ็บแสบ เจ็บปวดตอการลงโทษนั้นมีศูนยกลางอยูที่ผิวหนังของพวก เขา และเมื่อผิวหนังถูกเผาไหมโดยไฟนรก แมมนุษยจะไมรูแตอัลลอฮฺผูทรงรอบรูเกี่ยวกับสิ่งที่พระองคทรง สรางขึ้น ทรงรู ใ นข อเท็ จ จริงขอนี้ และพระองคก็ทรงนํามาบอกพวกเราก อนที่เราเองจะรับรูในเรื่ องนี้ พระองคตรั สไววา พระองค จ ะทรงทดแทนพวกเขา ซึ่งผิวหนัง ใหมเ พื่ อ ใหพวกเขาได ลิ้มรสของความ เจ็บปวดแหงการลงโทษตอไป หรือวาทานนบีมูฮําหมัด มีเครื่องมือเกี่ยวกับการศัลยกรรมเฉพาะเปนของตนเอง โดยที่คนอื่นไมมี หรือวาสัญลักษณเหลานี้เปนหนึ่งจากสัญญาณแหงอัลลอฮฺที่ยืนยันไดวา อัลกุรอานเปนพระคําแหงอัลลอฮฺซึ่ง พระองคไดประทานลงมาดวยความรอบรูของพระองค พระดํารัสแหงพระองคทรงสัจจริงเสมอ กับการที่ พระองคตรัสไววา "‫ﻖ‬ ‫ﺤﱡ‬ َ ‫ﻦ َﻟ ُﻬ ْﻢ َأﻧﱠ ُﻪ ا ْﻟ‬ َ ‫ﺣﺘﱠﻰ َﻳ َﺘ َﺒ ﱠﻴ‬ َ ‫ﺴ ِﻬ ْﻢ‬ ِ ‫ق َوﻓِﻲ أَﻧ ُﻔ‬ ِ ‫ﺳ ُﻨﺮِﻳ ِﻬ ْﻢ ﺁﻳَﺎ ِﺗﻨَﺎ ﻓِﻲ اﻟْﺂﻓَﺎ‬ َ "1 ตอไปเราจะทําใหพวกเขาไดมองเห็นสัญลักษณตาง ๆ ของเราซึ่งมีอยูในดานตาง ๆ (ของจักรวาลนี้) และในตัวของพวกเขาเองจนกระทั่งไดประจักษแจมชัดแกพวกเขาวาที่จริงแลว อัลกุรอานนั้นเปนสัจธรรม สรุปทายบท • อัลกุรอานไดรวมไวซึ่งขอเท็จจริงทางวิชาการที่ไมมีใครเคยรูมากอน แตเพิ่งมารูหลังจากการ ประทานอัลกุรอานมาหลายศตวรรษ • อัลกุรอานไดบอกใหรูวาเมื่อขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้นก็จะรูสึกอึดอัดหายใจไมออก และศูนยกลางการ รับบความรูสึกเจ็บปวดอยูที่ผิวหนัง ตอมาเมื่อวิทยาการสมัยศตวรรษที่ 20 มาถึงก็ไดยืนยันตาม ขอเท็จจริงซึ่งปรากฏอยูในคัมภีรของอัลลอฮฺทั้งหมด • ขอเท็จจริงที่วทิ ยาการสมัยใหมเปดเผยออกมาในยุคนี้เปนการยืนยันถึงความสัจจริงของอัลกุรอานวา เปนพระคําแหงอัลลอฮฺ ที่ทรงดลใจมาใหกบั ทานนบีมูฮําหมัดซึ่งเปนศาสนทูตของพระองค

53 ‫ ﻓﺼﻠﺖ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

59

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 13 การศรัทธาตอวันกิยามะฮฺ "‫ب‬ ِ ‫ﺤﺴَﺎ‬ ِ ‫ﻦ ِﺑ َﻴ ْﻮ ِم ا ْﻟ‬ ُ ‫ت ِﺑ َﺮﺑﱢﻲ َو َر ﱢﺑﻜُﻢ ﻣﱢﻦ ُآﻞﱢ ُﻣ َﺘ َﻜ ﱢﺒ ٍﺮ ﻟﱠﺎ ُﻳ ْﺆ ِﻣ‬ ُ ‫ﻋ ْﺬ‬ ُ ‫"ِإﻧﱢﻲ‬1 “แทจริงฉันไดขอตอองคอภิบาลของฉันและของพวกทานใหพระองคคุมครองฉันใหพนจาก อันตรายของผูท รนงตนที่ไมศรัทธาในวันสอบสวนทุก ๆ คน” ชีวิตมนุษยแบงออกเปน 2 สวน ถาม ชีวิตของมนุษยแบงออกเปนกี่สวน ตอบ ชีวิตของมนุษยแบงออกเปน 2 สวน คือชีวติ ที่สั้นคือที่อยูสําหรับการทําหนาที่(ดารุลอามัล) และชีวิตที่ถาวรนิรนั ดรกาล คือที่แหงการตอบแทน ดารุลอามัล ถาม คําวาดารุลอามัลหมายถึงอะไร ? ตอบ ดารุ ล อามั ล คื อ โลกนี้ โลกที่ เ ราอยู อ าศั ย ใช ชี วิ ต อยู ทุ ก วั น ในระยะเวลาสั้ น ๆเพี ย งช ว ง ระยะเวลาหนึ่ง เปนชวงระยะเวลาที่เปดไวสําหรับใหเรากระทําอะไรไดตามตองการ โดยใหเราพักอาศัยอยู ระยะเวลาที่จาํ กัด ดังที่ประชาชาติยุคสมัยกอน ๆ เคยอาศัยอยูมาแลว อัลลอฮฺตรัสไววา ‫ﺷ ﱠﺪ ِﻣ ْﻨ ُﻬ ْﻢ ُﻗ ﱠﻮ ًة‬ َ ‫ﻦ ِﻣ ﻦ َﻗ ْﺒِﻠ ِﻬ ْﻢ َو َآ ﺎﻧُﻮا َأ‬ َ ‫ن ﻋَﺎ ِﻗ َﺒ ُﺔ اﱠﻟ ﺬِﻳ‬ َ ‫ﻒ آَﺎ‬ َ ‫ﻈﺮُوا َآ ْﻴ‬ ُ ‫ض َﻓﻴَﻨ‬ ِ ‫"َأ َوَﻟ ْﻢ َﻳﺴِﻴﺮُوا ﻓِﻲ ا ْﻟَﺄ ْر‬ ‫ﺧ ُﺬ اﻟﱠﻠ ُﻪ‬ ِ ‫ َوَﻟ ْﻮ ُﻳﺆَا‬، ‫ﻋﻠِﻴﻤًﺎ َﻗﺪِﻳﺮًا‬ َ ‫ن‬ َ ‫ض ِإﻧﱠ ُﻪ آَﺎ‬ ِ ‫ت َوﻟَﺎ ﻓِﻲ ا ْﻟَﺄ ْر‬ ِ ‫ﺴﻤَﺎوَا‬ ‫ﻲ ٍء ﻓِﻲ اﻟ ﱠ‬ ْ ‫ﺷ‬ َ ‫ﺠ َﺰ ُﻩ ﻣِﻦ‬ ِ ‫ن اﻟﱠﻠ ُﻪ ِﻟ ُﻴ ْﻌ‬ َ ‫َوﻣَﺎ آَﺎ‬ ‫ن‬ ‫ﺟُﻠ ُﻬ ْﻢ َﻓ ِﺈ ﱠ‬ َ ‫ﺟ ﺎء َأ‬ َ ‫ﻰ َﻓِﺈذَا‬‫ﺴﻤ‬ َ ‫ﻞ ﱡﻣ‬ ٍ‫ﺟ‬ َ ‫ﻇ ْﻬ ِﺮهَﺎ ﻣِﻦ دَا ﱠﺑ ٍﺔ َوَﻟﻜِﻦ ُﻳ َﺆﺧﱢ ُﺮ ُه ْﻢ ِإﻟَﻰ َأ‬ َ ‫ﻋﻠَﻰ‬ َ ‫ك‬ َ ‫ﺴﺒُﻮا ﻣَﺎ َﺗ َﺮ‬ َ ‫س ِﺑﻤَﺎ َآ‬ َ ‫اﻟﻨﱠﺎ‬ 2 "‫ن ِﺑ ِﻌﺒَﺎ ِد ِﻩ َﺑﺼِﻴﺮًا‬ َ ‫اﻟﱠﻠ َﻪ آَﺎ‬ และพวกเขามิไดจาริกไปในแผนดินดอกหรือ แลวพวกเขาจะไดพิจารณาดูวา จุดจบของบรรดาปวง ชนกอนหนาของพวกเขานั้นเปนอยางไรบาง ทั้ง ๆ ที่พวกเหลานั้นเปนผูมีพลังเขมแข็งกวาพวกเขาเสียอีก และอัลลอฮฺนั้นยอมไมมีสิ่งใดในฟากฟาและแผนดิน เอาชนะพระองคได แทจริงพระองคทรงรอบรูยิ่ง ทรง เดชานุภาพยิ่งและหากพระองคทรงเอาผิดมนุษยทั้งหลาย ตามที่พวกเขาพากเพียรไว (อยางละเอียดทุก ประการ) แนนอน พระองคจะไมเวนสัตวสักตัวไวบนหนาแผนดิน แตทวาพระองคทรงประวิงพวกเขาไว จนถึง กํา หนดอัน แนนอน ดั ง นั้ นเมื่ อถึ ง กํ าหนดของพวกเขาแล ว (พระองคจักตอบสนองพวกเขาอยา ง ยุติธรรมยิ่ง) เพราะแทจริงอัลลอฮฺทรงมองเห็นในมวลขาทาสของพระองค

27 ‫ ﻏﺎﻓﺮ‬1 45-44 ‫ ﻓﺎﻃﺮ‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

60

วิชาหลักศรัทธา

ทุกวันที่ผานพนไปชวงเวลาสําหรับโลกนี้ก็จะหมดไปเรื่อยๆ เราก็จะเดินเขาใกลโลกแหงการตอบ แทน เมื่อวันเวลาที่จํากัดสําหรับโลกนี้หมดไป ชีวิตการเปนอยูของเราที่ผานมาในสายตาของเราก็จะไม เหมือนกับวันโลกหนา อัลลอฮฺตรัสไววา ‫ﻦ َآ ﱠﺬﺑُﻮ ْا‬ َ ‫ﺴ َﺮ اﱠﻟ ﺬِﻳ‬ ِ ‫ﺧ‬ َ ‫ن َﺑ ْﻴ َﻨ ُﻬ ْﻢ َﻗ ْﺪ‬ َ ‫ﻦ اﻟ ﱠﻨ َﻬ ﺎ ِر َﻳ َﺘ َﻌ ﺎ َرﻓُﻮ‬ َ ‫ﻋ ًﺔ ﱢﻣ‬ َ ‫ﺳﺎ‬ َ ‫ﻻ‬ ‫ﺸ ُﺮ ُه ْﻢ َآﺄَن ﱠﻟ ْﻢ َﻳ ْﻠ َﺒ ُﺜ ﻮ ْا ِإ ﱠ‬ ُ‫ﺤ‬ ْ ‫" َو َﻳ ْﻮ َم َﻳ‬ "‫ﻦ‬ َ ‫ ِﺑِﻠﻘَﺎء اﻟّﻠ ِﻪ َوﻣَﺎ آَﺎﻧُﻮ ْا ُﻣ ْﻬ َﺘﺪِﻳ‬1 และ (จงระลึกเถิดถึง) วัน (ชาติหนา) ซึ่งพระองคทรงรวบรวมพวกเขา (ในจุดรวมเดียวกัน) พวกเขา รูสึกดั่งวามิไดอาศัยอยู (ในโลกนี้) นอกจากเพียงชั่วยามเดียวเทานั้นจากเวลากลางวัน พวกเขาตางก็รูจักกัน ระหวางพวกเขา แทจริงบรรดาผูที่ยดึ ถือเรื่องการไดพบกับอัลลอฮฺ (ในวันชาติหนา) เปนความเท็จนั้น ยอม ประสบความขาดทุน และพวกเขามิไดรับการชี้นําอยางแนนอน โลกแหงการตอบแทน ถาม โลกแหงการตอบแทนคืออะไร ? ตอบ โลกแหงการตอบแทน คือโลกอาคิเราะฮฺ ซึ่งในวันนั้นผูคนทุกคนจะไดเห็นผลลัพธของการ กระทําของตัวเองทั้งหมดที่ไดกระทําไวในวันโลกนี้ และพวกเขาก็จะไดรับการตอบแทนในสิ่งที่ตนเอง ประพฤติปฏิบัติมา ในสิ่งที่ อัลลอฮฺทรงประทานให และความตาย จะเปนเสมือนตัวเคลื่อนยาย จากดา รุลอะมัล(โลกแหงการกระทํา)ไปสูโลกแหงการตอบแทน และอนุชนรุนที่เราอาศัยอยูจะเคลื่อนยายหลังจาก ที่เสียชีวิตไปแลวทั้งหมด และทานก็จะเปนคนหนึ่งในจํานวนนั้น ซึ่งในวันนั้นทุกคนตางก็จะไดรับการตอบ แทนในการกระทําของตนเอง ซึ่งอัลลอฮฺไดตรัสไววา ‫ن‬ َ ‫ﺠ ِﺮ ُﻣ ﻮ‬ ْ ‫ َوَﻟ ْﻮ َﺗ ﺮَى ِإ ِذ ا ْﻟ ُﻤ‬، ‫ن‬ َ ‫ﺟ ُﻌ ﻮ‬ َ ‫ﻞ ِﺑ ُﻜ ْﻢ ُﺛ ﱠﻢ ِإَﻟ ﻰ َر ﱢﺑ ُﻜ ْﻢ ُﺗ ْﺮ‬ َ ‫ت اﱠﻟ ﺬِي ُو ﱢآ‬ ِ ‫ﻚ ا ْﻟ َﻤ ْﻮ‬ ُ ‫ﻞ َﻳ َﺘ َﻮﻓﱠﺎآُﻢ ﻣﱠَﻠ‬ ْ ‫" ُﻗ‬ "‫ن‬ َ ‫ﻞ ﺻَﺎِﻟﺤًﺎ ِإﻧﱠﺎ ﻣُﻮ ِﻗﻨُﻮ‬ ْ ‫ﺟ ْﻌﻨَﺎ َﻧ ْﻌ َﻤ‬ ِ ‫ﺳ ِﻤ ْﻌﻨَﺎ ﻓَﺎ ْر‬ َ ‫ﺼ ْﺮﻧَﺎ َو‬ َ ‫ﺳ ِﻬ ْﻢ ﻋِﻨ َﺪ َر ﱢﺑ ِﻬ ْﻢ َر ﱠﺑﻨَﺎ َأ ْﺑ‬ ِ ‫ﻧَﺎ ِآﺴُﻮ ُر ُؤو‬2 จงประกาศเถิด “มละกัลเมาต ซึ่งไดรับมอบหมายเกี่ยวกับพวกเจา จะทําใหพวกเจาสิ้นชีวิต หลังจาก นั้น พวกเจาก็ตองคืนกลับสูองคอภิบาลของพวกเจา (เมื่อฟนขึ้นจากความตาย)”และมาตรแมนเจาเห็นใน ยามที่เหลาคนบาปไดกมศรีษะลงตอองคอภิบาลของพวกเขา (พรอมวอนขอวา) “โอองคอภิบาลของเรา เรา ไดมองเห็น และไดยินแลว (เหตุการณในวันนี้เปนความจริงเหมือนที่ศาสดาไดประกาศไวทุกประการ) ดังนัน้ ของพระองคไดโปรดสงตัวเราคืนกลับ (ไปยังโลกอีกครั้งหนึ่ง)เถิด เราจะประพฤติแตความดีงามเทานั้น (ณ บัดนี้) เรามีความเชื่อมั่นแลว และตรัสไวอีกวา ‫ﺣﺘﱠﻰ ِإذَا‬ َ ‫ﺟ َﻬ ﱠﻨ َﻢ ُز َﻣ ًﺮا‬ َ ‫ﻦ َآ َﻔﺮُوا ِإﻟَﻰ‬ َ ‫ﻖ اﱠﻟﺬِﻳ‬ َ ‫ َوﺳِﻴ‬، ‫ن‬ َ ‫ﻋَﻠ ُﻢ ِﺑﻤَﺎ َﻳ ْﻔ َﻌﻠُﻮ‬ ْ ‫ﺖ َو ُه َﻮ َأ‬ ْ ‫ﻋ ِﻤَﻠ‬ َ ‫ﺲ ﻣﱠﺎ‬ ٍ ‫ﺖ ُآﻞﱡ َﻧ ْﻔ‬ ْ ‫" َو ُو ﱢﻓ َﻴ‬ ‫ت َر ﱢﺑ ُﻜ ْﻢ َوﻳُﻨ ِﺬرُو َﻧ ُﻜ ْﻢ‬ ِ ‫ﻋَﻠ ْﻴ ُﻜ ْﻢ ﺁﻳَﺎ‬ َ ‫ن‬ َ ‫ﻞ ﻣﱢﻨ ُﻜ ْﻢ َﻳ ْﺘﻠُﻮ‬ ٌ‫ﺳ‬ ُ ‫ﺧ َﺰ َﻧ ُﺘﻬَﺎ َأَﻟ ْﻢ َﻳ ْﺄ ِﺗ ُﻜ ْﻢ ُر‬ َ ‫ل َﻟ ُﻬ ْﻢ‬ َ ‫ﺖ َأ ْﺑﻮَا ُﺑﻬَﺎ َوﻗَﺎ‬ ْ ‫ﺤ‬ َ ‫ﺟَﺎؤُوهَﺎ ُﻓ ِﺘ‬ 45 ‫ ﻳﻮﻧﺲ‬1 12-11 ‫ اﻟﺴﺠﺪة‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

61

วิชาหลักศรัทธา

‫ﻦ‬ َ ‫ﺟ َﻬ ﱠﻨ َﻢ ﺧَﺎِﻟﺪِﻳ‬ َ ‫ب‬ َ ‫ﺧﻠُﻮا َأ ْﺑﻮَا‬ ُ ‫ﻞ ا ْد‬ َ ‫ﻦ ﻗِﻴ‬ َ ‫ﻋﻠَﻰ ا ْﻟﻜَﺎ ِﻓﺮِﻳ‬ َ ‫ب‬ ِ ‫ﺖ َآِﻠ َﻤ ُﺔ ا ْﻟ َﻌﺬَا‬ ْ ‫ﺣ ﱠﻘ‬ َ ‫ﻦ‬ ْ ‫ِﻟﻘَﺎء َﻳ ْﻮ ِﻣ ُﻜ ْﻢ َهﺬَا ﻗَﺎﻟُﻮا َﺑﻠَﻰ َوَﻟ ِﻜ‬ ‫ﺖ‬ ْ ‫ﺤ‬ َ ‫ﺣﺘﱠﻰ ِإذَا ﺟَﺎؤُوهَﺎ َو ُﻓ ِﺘ‬ َ ‫ﺠ ﱠﻨ ِﺔ ُز َﻣﺮًا‬ َ ‫ﻦ ا ﱠﺗ َﻘﻮْا َر ﱠﺑ ُﻬ ْﻢ ِإﻟَﻰ ا ْﻟ‬ َ ‫ﻖ اﱠﻟﺬِﻳ‬ َ ‫ َوﺳِﻴ‬، ‫ﻦ‬ َ ‫ﺲ َﻣ ْﺜﻮَى ا ْﻟ ُﻤ َﺘ َﻜ ﱢﺒﺮِﻳ‬ َ ‫ﻓِﻴﻬَﺎ َﻓ ِﺒ ْﺌ‬ ‫ﻋ َﺪ ُﻩ‬ ْ ‫ﺻ َﺪ َﻗﻨَﺎ َو‬ َ ‫ﺤ ْﻤ ُﺪ ِﻟﱠﻠ ِﻪ اﱠﻟﺬِي‬ َ ‫ َوﻗَﺎﻟُﻮا ا ْﻟ‬،َ‫ﺧﻠُﻮهَﺎ ﺧَﺎِﻟﺪِﻳﻦ‬ ُ ‫ﻃ ْﺒ ُﺘ ْﻢ ﻓَﺎ ْد‬ ِ ‫ﻋَﻠ ْﻴ ُﻜ ْﻢ‬ َ ‫ﺳﻠَﺎ ٌم‬ َ ‫ﺧ َﺰ َﻧ ُﺘﻬَﺎ‬ َ ‫ل َﻟ ُﻬ ْﻢ‬ َ ‫َأ ْﺑﻮَا ُﺑﻬَﺎ َوﻗَﺎ‬ ‫ل‬ ِ ‫ﺣ ْﻮ‬ َ ‫ﻦ‬ ْ ‫ﻦ ِﻣ‬ َ ‫ َو َﺗﺮَى ا ْﻟ َﻤﻠَﺎ ِﺋ َﻜ َﺔ ﺣَﺎﻓﱢﻴ‬، ‫ﻦ‬ َ ‫ﺟ ُﺮ ا ْﻟﻌَﺎ ِﻣﻠِﻴ‬ ْ ‫ﺚ َﻧﺸَﺎء َﻓ ِﻨ ْﻌ َﻢ َأ‬ ُ ‫ﺣ ْﻴ‬ َ ‫ﺠ ﱠﻨ ِﺔ‬ َ ‫ﻦ ا ْﻟ‬ َ ‫ض َﻧ َﺘ َﺒ ﱠﻮُأ ِﻣ‬ َ ‫َوَأ ْو َر َﺛﻨَﺎ ا ْﻟَﺄ ْر‬ 1 "‫ﻦ‬ َ ‫ب ا ْﻟﻌَﺎَﻟﻤِﻴ‬ ‫ﺤ ْﻤ ُﺪ ِﻟﱠﻠ ِﻪ َر ﱢ‬ َ ‫ﻞ ا ْﻟ‬ َ ‫ﻖ َوﻗِﻴ‬ ‫ﺤﱢ‬ َ ‫ﻲ َﺑ ْﻴ َﻨﻬُﻢ ﺑِﺎ ْﻟ‬ َ‫ﻀ‬ ِ ‫ﺤ ْﻤ ِﺪ َر ﱢﺑ ِﻬ ْﻢ َو ُﻗ‬ َ ‫ن ِﺑ‬ َ ‫ﺴ ﱢﺒﺤُﻮ‬ َ ‫ش ُﻳ‬ ِ ‫ا ْﻟ َﻌ ْﺮ‬ และทุก ๆ ชีวิตยอมไดรับการตอบสนองผลงานที่เขาไดกระทําไวอยางครบถวนและพระองคทรง รอบรูยิ่งในสิ่งที่พวกเขาประพฤติไว และบรรดาพวกไรศรัทธาทั้งหลายถูกไลตอนเขาสูนรกญะฮันนัมเปน กลุม ๆ จนกระทั่งเมื่อพวกเขาไดมาถึงนรกแลว ประตูของมันก็ถูกเปดออก และบรรดาผูเฝานรกก็กลาวแก พวกเขาวา “(เมื่อกอนนั้น) มิไดมีศาสนทูตมาประกาศแกพวกเจาดอกหรือ ศาสนทูตเหลานั้นเขาแถลง โองการตาง ๆ ขององคอภิบาลของพวกเจา แกพวกเจา (เพื่อใหเชื่อถือและประพฤติตาม) และพวกเขา ประกาศเตือนพวกเจาไวแลวถึงการเผชิญกับวันนี้ของพวกเจา?” พวกเขาตอบวา “ถูกแลว! ศาสนทูตไดมา ประกาศจริง! แตทวาประกาศิตแหงการลงโทษไดอุบัติขึ้นแลวแกมวลผูไรศรัทธา” มีผูพูดกับพวกเขาวา “พวกเจาจงเขาประตูนรกญะฮันนัมเถิด โดยเขาประจําถาวรในนั้น แทจริงมันเปนที่พํานักอันชั่วรายที่สุด สําหรับบรรดาผูทรนงตนทั้งมวล” และบรรดาผูยําเกรงตอผูอภิบาลของพวกเขา ไดถูกเชิญตัวเขาสูสวรรค เปนกลุม ๆ จนกระทั่งเมื่อพวกเขาไดมาถึงสวรรคและประตูของมันถูกเปดแลว ผูเฝาสวรรคก็กลาวแกพวก เขาวา “สันติสุขจงประสบแกพวกทานเถิด! พวกทานประสบโชคดีแลว! ดังนั้นเชิญพวกทานเขาสวรรคโดย นิรันดรเถิด” และพวกเขากลาววา “มวลการสรรเสริญเปนของอัลลอฮฺซึ่งทรงบันดาลจริงตามสัญญาของ พระองค และพระองคทรงสืบทอดแผนดินนี้แกพวกเรา เราจะพํานักอยูในสวรรคตามที่เราประสงค แทจริง มันเปนรางวัลที่ดีที่สุดสําหรับมวลผูประพฤติความดีทั้งหลาย” และเจาจะเห็นมลาอิกะฮฺวนอยูรอบ ๆ บัลลังก ตางกลาวสดุดีพระบริสุทธิ์คุณแหงอัลลอฮฺ พรอมการสรรเสริญในองคอภิบาลของพวกเขา และไดทําการ ตัดสินในระหวางพวกเขาดวยสัจจะ และมีผูพูดวา “มวลการสรรเสริญยอมเปนของอัลลอฮฺ ผูทรงอภิบาลโลก ทั้งมวล” วันโลกหนาเปนวันที่อัลลอฮฺจะทรงดําเนินการตัดสินไปตามความยุติธรรมแหงพระองค ถาม: อะไรคือหลักฐานที่จะทําใหผูศรัทธามีความศรัทธาตอวันโลกหนา? ตอบ: หลักฐานที่สําคัญที่สุดคือ บรรดาศาสนทูตของอัลลอฮฺทุกคน ซึ่งพวกเขาไดนําเสนอตอมวล มนุษยเพื่อยืนยันถึงความสัจจริงของพวกเขา แทจริงแลวบรรดาศาสนทูตไดนําพระคําแหงผูทรงสรางมา เผยแพรยังพวกเรา และพระองคคือผูทรงสรางสวรรค ผูทรงสรางนรก และอัลลอฮฺก็ทรงแจงแกพวกเราดวย พระองคเองใหเราไดรับรูถึงขอเท็จจริงเกี่ยวกับวันโลกหนา นอกจากนั้นก็ยังมีหลักฐานทางสติปญญายืนถึง ความสัจจริงของวันโลกหนา

75 - 70 ‫ اﻟﺰﻣﺮ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

62

วิชาหลักศรัทธา

ถาม: หลักฐานทางสติปญญาที่ยืนยันถึงการมีอยูจริงของวันโลกหนาคืออะไร ? ตอบ: หลักฐานที่เปนเหตุผลทางสติปญญานั้นมีอยูมากมาย ตัวอยางเชน หลักฐานที่บงบอกถึง ความยุติธรรมแหงพระผูเปนเจาในการตอบแทนแกมวลบาวของพระองค ถาม: หลักฐานที่บงบอกถึงความยุติธรรมของพระผูเปนเจาคืออะไรบาง ? ตอบ: มนุษยทุกคนตางก็รักและพอใจกับความยุติธรรม และเกลียดชังความอธรรมทุกรูปแบบ และผูทรงสรางก็ทรงรักและพอใจที่จะใหเกิดความยุติธรรมแกมวลมนุษย และพระองคก็คือผูทรงสรางมวล มนุษย และแนนอนที่สุดผูทรงสรางจะตองมีความสมบูรณ และยิ่งใหญกวาสิ่งถูกสรางทั้งหมด ไมมีสิ่งใด สามารถเปรียบเทียบกับพระองคได เมื่อเปนเชนนัน้ • ความยุติธรรมของอัลลอฮฺยอมสมบูรณกวาความยุติธรรมของมนุษย • เมื่อความยุติธรรมที่มนุษยตอ งการ ปฏิเสธความเทาเทียมกันระหวางผูกลั่นแกลงกับผูท ี่ถูกกลั่น แกลง ระหวางผูฆากับผูที่ถูกฆา ระหวางผูภ ักดีกับผูทรยศ เมื่อเปนเชนนัน้ • จึงไมตองสงสัยเลยวาความยุติธรรมของพระผูเปนเจานั้น -ควรกวา- ที่จะตองปฏิเสธความเทาเทียม กันระหวางผูทกี่ ลั่นแกลงกับผูที่ถูกกลั่นแกลง ผูฆากับผูที่ถูกฆา ผูภักดีกบั ผูทรยศ ผูศรัทธากับผูไรศรัทธา ผูทําดีกับผูทําชั่ว อัลลอฮฺตรัสไววา ‫ﻦ اﻟ ﱠﻨ ﺎ ِر‬ َ ‫ﻦ َآ َﻔﺮُوا ِﻣ‬ َ ‫ﻞ ﱢﻟﱠﻠﺬِﻳ‬ ٌ ‫ﻦ َآ َﻔﺮُوا َﻓ َﻮ ْﻳ‬ َ ‫ﻦ اﱠﻟﺬِﻳ‬ ‫ﻇﱡ‬ َ ‫ﻚ‬ َ ‫ﻃﻠًﺎ َذِﻟ‬ ِ ‫ض َوﻣَﺎ َﺑ ْﻴ َﻨ ُﻬﻤَﺎ ﺑَﺎ‬ َ ‫ﺴﻤَﺎء وَا ْﻟَﺄ ْر‬ ‫ﺧَﻠ ْﻘﻨَﺎ اﻟ ﱠ‬ َ ‫" َوﻣَﺎ‬ "‫ﻦ آَﺎ ْﻟ ُﻔﺠﱠﺎ ِر‬ َ ‫ﻞ ا ْﻟ ُﻤ ﱠﺘﻘِﻴ‬ ُ ‫ﺠ َﻌ‬ ْ ‫ض َأ ْم َﻧ‬ ِ ‫ﻦ ﻓِﻲ ا ْﻟَﺄ ْر‬ َ ‫ﺴﺪِﻳ‬ ِ ‫ت آَﺎ ْﻟ ُﻤ ْﻔ‬ ِ ‫ﻋ ِﻤﻠُﻮا اﻟﺼﱠﺎِﻟﺤَﺎ‬ َ ‫ﻦ ﺁ َﻣﻨُﻮا َو‬ َ ‫ﻞ اﱠﻟﺬِﻳ‬ ُ ‫ﺠ َﻌ‬ ْ ‫ َأ ْم َﻧ‬،1 และเรามิไดสรางฟาและแผนดิน รวมทั้งสรรพสิ่งระหวางมันทั้งสองอยางไรสาระ นั้นเปนความ เขาใจของจําพวกที่ไรศรัทธา ดังนั้นความหายนะจึงประสบแกพวกไรศรัทธา จาก (การลงโทษของ) นรก สมควรหรือที่เราจะทําใหมวลผูมีศรัทธาและประพฤติความดีงามตาง ๆ เหมือนกับบรรดาจําพวกบอน ทําลายในพื้นดิน? หรือวาเราจะทําใหบรรดาผูยําเกรงเหมือนกับบรรดาผูชั่วชา แตเราเองไมสามารถไดรับความยุติธรรมทั้งหมดอยางสมบูรณแบบในโลกนี้ เราเองจะไมสามารถ ไดรับการตอบแทนการกระทําที่มนุษยไดกระทําขึ้นอยางครบถวนสมบูรณในโลกนี้ไดทั้งหมด แตเราเองก็มี ความมั่นใจในความยุติธรรมแหงอัลลอฮฺ ซึ่งมีหลักฐานยืนยันไวอยางชัดเจนเด็ดขาดวาพระองคทรงไวซึ่ง ความยุติธรรม เราเองตางมีความศรัทธามั่นวา การสืบสวนสอบสวนของอัลลอฮฺจะตองไมเกิดขึ้นบนโลกนี้ และพระองคจะทอดเวลาไปยังวันแหงการสอบสวน ดังที่บรรดาศาสนทูตแหงพระองคไดแจงไวอยาง แนนอน

28 - 27 ‫ ص‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

63

วิชาหลักศรัทธา

สรุปทายบท ชีวิตมนุษยแบงออกเปนสองสวน คือสวนที่เรียกวา ดารุลอะมัล(โลกแหงการกระทํา) ซึ่งเปนชวง ชีวิตสั้น ๆ และดารุลยะซะ(และโลกแหงการตอบแทน)ซึ่งเปนชวงชีวิตที่เปนอมตะนิรันดรกาล นั่นคือชีวิต ในโลกนี้คือโลกแหงการสรางการกระทําและชีวิตในโลกหนานั่นเองคือโลกแหงการสอบสวนและตอบแทน การกระทํา เมื่อเราจบชีวิตในโลกนี้ลง เราก็จะยายจากโลกแหงการกระทําไปสูโลกแหงการตอบแทน ผูใดที่กระทําแตความดีในโลกนี้ อัลลอฮฺก็จะทรงตอบแทนพวกเขาดวยกุศลผลบุญ แตหากผูใดทํา แตความชั่ว อัลลอฮฺก็จะทรงลงโทษพวกเขา อัลลอฮฺทรงแตงตั้งศาสนทูตของพระองคมายังมวลมนุษยเพื่อ นํามาซึ่งหลักฐานยืนยันในความสัจจริงของสาระธรรมของพวกเขา พวกเขานําเอาพระคําแหงองคอภิบาลมา เผยแพรยังมนุษย โดยบอกใหพวกเขารูจักวันโลกหนาและสัญญาที่อัลลอฮฺทรงใหไวกับพวกเขาในวันโลก หนาทั้งหมด ความยุติธรรมของอัลลอฮฺยอมสมบูรณและครบถวนกวาความยุติธรรมของมวลมนุษยทั้งหมด สวน หนึ่งของความเขาใจเกี่ยวกับความยุติธรรม คือ ความไมเทาเทียมกันระหวางผูที่กระทําสิ่งเลวรายกับผูที่ กระทําแตความดี และในโลกนี้ใชวาผูกระทําความดีจะไดรับการตอบแทนไดอยางสมบูรณครบถวน และผูที่ ทําชั่วก็ใชวาจะไดรับการตอบแทนความชั่วอยางครบถวนดวยเชนกัน อัลลอฮฺจึงทรงกําหนดวันแหงการตอบ แทนไวอยางสมบูรณแบบ เพื่อใหเปนวันแหงการตอบแทนรางวัลใหกับผูกระทําความดี และสําหรับลงโทษ บรรดาผูปฏิเสธศรัทธา

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

64

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 14 สภาพการณในวันโลกหนา ชีวิตในอาลัมบัรซัค (‫)اﻟﺒﺮزخ‬ ถาม คําวา “อัลบัรซัค”หมายถึงอะไร ? ตอบ คําวา “อัลบัรซัค”มีความหมายวา สกัดกั้น ถาม ชีวิตในอัลบัรซัค หมายถึงอะไร ? ตอบ คือชวงชีวิตในโลกแหงบัรซัค(ชีวิตหลังความตาย) ซึ่งจะตองใชเวลาอยูท ี่นั่นไปจนกระทั่ง ถึงวันกียามะฮฺ วันซึ่งอัลลอฮฺจะใหทุกคนทีต่ ายไปแลวฟน คืนชีพมาใหม เพื่อรับการสอบสวนอัลลอฮฺตรัสไว วา ‫ﺖ َآﱠﻠ ﺎ ِإ ﱠﻧ َﻬ ﺎ‬ ُ ‫ﺻ ﺎِﻟﺤًﺎ ﻓِﻴ َﻤ ﺎ َﺗ َﺮ ْآ‬ َ ‫ﻞ‬ ُ ‫ﻋ َﻤ‬ ْ ‫ َﻟ َﻌﱢﻠ ﻲ َأ‬، ‫ن‬ ِ ‫ﺟ ُﻌ ﻮ‬ ِ ‫ب ا ْر‬ ‫ل َر ﱢ‬ َ ‫ت ﻗَﺎ‬ ُ ‫ﺣ َﺪ ُه ُﻢ ا ْﻟ َﻤ ْﻮ‬ َ ‫ﺣﺘﱠﻰ ِإذَا ﺟَﺎء َأ‬ َ" "‫ن‬ َ ‫خ ِإﻟَﻰ َﻳ ْﻮ ِم ُﻳ ْﺒ َﻌﺜُﻮ‬ ٌ ‫ َآِﻠ َﻤ ٌﺔ ُه َﻮ ﻗَﺎ ِﺋُﻠﻬَﺎ َوﻣِﻦ َورَا ِﺋﻬِﻢ َﺑ ْﺮ َز‬1 จนเมื่อ ความตายได ม ายั ง คนหนึ่ ง คนใดของพวกเขา เขาก็กลา ววา “โออ งคอภิ บ าลขอได โ ปรด อนุญาตใหขาพเจาไดกลับคืน (สูโลกอีกครั้งเถิด)”“เพื่อขาพเจาจะไดประพฤติแตความดี (ชดเชย) ในสิ่งที่ ขาพเจาไดทอดทิ้งไป” เปนไปไมไดหรอก แทจริงคําพูดของพวกเขานั้น เปนเพียงคําพูดที่เขาไดกลาวไว (อยางเลื่อนลอยและสูญเปลา) และจากเบื้องหลังจองพวกเขานั้น มีฉากกําบังเขาไว (มิใหกลับคืนไปได) ตราบ ถึงวันที่พวกเขาจะถูกฟนขึ้นมา ถาม ในโลกแหงบัรซัคมีการใหตอบแทนดวยกุศลและมีการลงโทษอันเปนผลจากการกระทําใน โลกนี้ดวยหรือไมอยางไร? ตอบ แนนอนที่สุด การสืบสวนสอบสวนการกระทําจะเริ่มตั้งแตโลกแหงบัรซัค(หลังความตาย) ตั้งวันที่เริ่มเคลื่อนยายไปสูกุโบร การลงโทษสวนหนึ่งเปนโทษในกุโบร อัลลอฮฺไดตรัสไววา "‫ب‬ ِ ‫ﺷ ﱠﺪ ا ْﻟ َﻌﺬَا‬ َ ‫ن َأ‬ َ ‫ﻋ ْﻮ‬ َ ‫ل ِﻓ ْﺮ‬ َ ‫ﺧﻠُﻮا ﺁ‬ ِ ‫ﻋ ُﺔ َأ ْد‬ َ ‫ﺎ َو َﻳ ْﻮ َم َﺗﻘُﻮ ُم اﻟﺴﱠﺎ‬‫ﺸﻴ‬ ِ‫ﻋ‬ َ ‫ا َو‬‫ﻏ ُﺪو‬ ُ ‫ﻋَﻠ ْﻴﻬَﺎ‬ َ ‫ن‬ َ ‫"اﻟﻨﱠﺎ ُر ُﻳ ْﻌ َﺮﺿُﻮ‬2 พวกเขาถูกนําตัวมาลงบนไฟนรกทั้งเวลาเชาและเวลาเย็น (ในโลกบัรซัคหลังจากตายไปแลว) และใน วันที่กาลอวสานแหงโลกนี้ไดอุบัติขึ้น (มลาอิกะฮฺ ก็ไดรับบัญชาจากอัลลอฮฺวา) “พวกเจาจงนําตัววงศวาน ของฟรเอานเขาสูการลงโทษอันรายแรงเถิด!” และอัลลอฮฺไดกลาวถึงคุณลักษณะของบรรดาชุฮะดะอฺ(ผูที่ถูกฆาในหนทางของอัลลอฮฺ)ในโลก แหงบัรซัค(หลังความตาย) กอนวันกียามะฮฺไววา ‫ﻦ ِﺑ َﻤ ﺎ‬ َ ‫ َﻓ ِﺮﺣِﻴ‬، ‫ن‬ َ ‫ﺣ َﻴ ﺎء ﻋِﻨ َﺪ َر ﱢﺑ ِﻬ ْﻢ ُﻳ ْﺮ َز ُﻗ ﻮ‬ ْ ‫ﻞ َأ‬ ْ ‫ﻞ اﻟّﻠ ِﻪ َأ ْﻣﻮَا ًﺗ ﺎ َﺑ‬ ِ ‫ﺳ ﺒِﻴ‬ َ ‫ﻦ ُﻗ ِﺘُﻠ ﻮ ْا ِﻓ ﻲ‬ َ ‫ﻦ اﱠﻟﺬِﻳ‬ ‫ﺴ َﺒ ﱠ‬ َ‫ﺤ‬ ْ ‫ﻻ َﺗ‬ َ ‫" َو‬ "‫ن‬ َ ‫ﺤ َﺰﻧُﻮ‬ ْ ‫ﻻ ُه ْﻢ َﻳ‬ َ ‫ﻋَﻠ ْﻴ ِﻬ ْﻢ َو‬ َ ‫ف‬ ٌ ‫ﺧ ْﻮ‬ َ ‫ﻻ‬ ‫ﺧ ْﻠ ِﻔ ِﻬ ْﻢ َأ ﱠ‬ َ ‫ﻦ‬ ْ ‫ﺤﻘُﻮ ْا ِﺑﻬِﻢ ﱢﻣ‬ َ ‫ﻦ َﻟ ْﻢ َﻳ ْﻠ‬ َ ‫ن ﺑِﺎﱠﻟﺬِﻳ‬ َ ‫ﺸﺮُو‬ ِ ‫ﺴ َﺘ ْﺒ‬ ْ ‫ﻀِﻠ ِﻪ َو َﻳ‬ ْ ‫ﺁﺗَﺎ ُه ُﻢ اﻟّﻠ ُﻪ ﻣِﻦ َﻓ‬3

100-99 ‫ اﻟﻤﺆﻣﻨﻮن‬1 46 ‫ ﻏﺎﻓﺮ‬2 170-169 ‫ ﺁل ﻋﻤﺮان‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

65

วิชาหลักศรัทธา

และเจาอยาคิดวา บรรดาผูถูกฆาตายในทางของอัลลอฮฺนั้น เปนผูเสียชีวิต ความจริงพวกเขายังมี ชีวิตอยู ณ องคอภิบาลของพวกเขา โดยพวกเขาไดรับเครื่องยังชีพ (อยูตลอดเวลา)พวกเขามีความสุขกับสิ่ง ที่อัลลอฮฺไดทรงประทานแกพวกเขา จากความโปรดปรานของพระองค และพวกเขามีความปติยินดีตอ บรรดาผูที่ยังไมได (ตาย) ตามติดพวกเขาไปดวย โดยยังอยูเบื้องหลังของพวกเขา (ในโลกนี้) (นั้นคือ) จะไมมี ความหวั่นหลัวใดๆ ประสบแกพวกเขา และพวกเขาจะไมเศราโศก การฟนคืนชีพและการกลับคืนสูอัลลอฮฺ ถาม หลังจากผานพนโลกแหงบัรซัค(โลกหลังความตาย)ไปแลวจะเปนอยางไร ? ตอบ อัลลอฮฺก็จะใหมนุษยฟนคืนชีพและเขาสูวันกียามะฮฺ เพื่อรับการสอบสวน อัลลอฮฺตรัสไว วา "‫ن َأ ْﻓﻮَاﺟًﺎ‬ َ ‫ﺦ ﻓِﻲ اﻟﺼﱡﻮ ِر َﻓ َﺘ ْﺄﺗُﻮ‬ ُ ‫ َﻳ ْﻮ َم ﻳُﻨ َﻔ‬، ‫ن ﻣِﻴﻘَﺎﺗًﺎ‬ َ ‫ﻞ آَﺎ‬ ِ‫ﺼ‬ ْ ‫ن َﻳ ْﻮ َم ا ْﻟ َﻔ‬ ‫"ِإ ﱠ‬1 แทจริงวันแหงการตัดสินนั้น เปนกําหนดเวลาที่แนนอนแลวนั่นคือวันที่จะมีการเปาลงในสังข แลว พวกเจาก็จะ (ฟนจากสุสานออก) มากันเปนกลุม ๆ การนําการกระทําออกมาเสนอ ถาม หลังจากที่มนุษยทุกคนมารวมตัวกันในวันกียามะฮฺแลวหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ? ตอบ หลังจากนั้นก็จะเปนการนําเสนอการกระทําผานบัญชีบันทึกการกระทํา ดังที่อัลลอฮฺตรัสไว วา ‫ب َﻟ ﺎ‬ ِ ‫ل َه ﺬَا ا ْﻟ ِﻜ َﺘ ﺎ‬ ِ ‫ن َﻳ ﺎ َو ْﻳَﻠ َﺘ َﻨ ﺎ َﻣ ﺎ‬ َ ‫ﻦ ِﻣ ﱠﻤ ﺎ ﻓِﻴ ِﻪ َو َﻳﻘُﻮُﻟ ﻮ‬ َ ‫ﺸ ِﻔﻘِﻴ‬ ْ ‫ﻦ ُﻣ‬ َ ‫ﺠ ِﺮﻣِﻴ‬ ْ ‫ب َﻓ َﺘ ﺮَى ا ْﻟ ُﻤ‬ ُ ‫ﺿ َﻊ ا ْﻟ ِﻜﺘَﺎ‬ ِ ‫" َو ُو‬ 2 "‫ﺣﺪًا‬ َ ‫ﻚ َأ‬ َ ‫ﻈِﻠ ُﻢ َر ﱡﺑ‬ ْ ‫ﺿﺮًا َوﻟَﺎ َﻳ‬ ِ ‫ﻋ ِﻤﻠُﻮا ﺣَﺎ‬ َ ‫ﺟﺪُوا ﻣَﺎ‬ َ ‫ﺣﺼَﺎهَﺎ َو َو‬ ْ ‫ﺻﻐِﻴ َﺮ ًة َوﻟَﺎ َآﺒِﻴ َﺮ ًة ِإﻟﱠﺎ َأ‬ َ ‫ُﻳﻐَﺎ ِد ُر‬ และบันทึก (การกระทําของทุกคน) ถูกวางไว (ในมือของเจาตัว) แลวเจาก็จะเห็นคนบาปทั้งหลายมี ความประหวั่นกลัวเปนที่สุด ตอสิ่งที่มีอยูในนั้น และพวกเขาพูดวา “โอ! ความหายนะของเรา อะไรกันนี่ บันทึกนี้ไมละเลยแมสิ่งเล็กนอย และไม (ละเลย) สิ่งใหญโต นอกจากไดบันทึกไวอยางครบถวน และพวกเขา ไดพบสิ่งที่พวกเขาไดประพฤติไว มีปรากฏอยู (ในบันทึกนั้นทุกประการ) และองคอภิบาลของเจาไมอธรรม แกผูใดเลย ในวันนั้นแมกระทั่งลิ้น มือ เทาและผิวกายก็จะเปนพยานยืนยันบอกเลาถึงสิ่งที่เราไดกระทําไปแลว ในโลกดุลยา อัลลอฮฺตรัสไววา ‫ َو َﻗ ﺎﻟُﻮا‬، ‫ن‬ َ ‫ﺟُﻠ ﻮ ُد ُه ْﻢ ِﺑ َﻤ ﺎ َآ ﺎﻧُﻮا َﻳ ْﻌ َﻤُﻠ ﻮ‬ ُ ‫ﺳ ْﻤ ُﻌ ُﻬ ْﻢ َوَأ ْﺑ ﺼَﺎ ُر ُه ْﻢ َو‬ َ ‫ﻋَﻠ ْﻴ ِﻬ ْﻢ‬ َ ‫ﺷ ِﻬ َﺪ‬ َ ‫ﺣﺘﱠﻰ ِإذَا ﻣَﺎ ﺟَﺎؤُوهَﺎ‬ َ ‫ل َﻣ ﱠﺮ ٍة َوِإَﻟ ْﻴ ِﻪ‬ َ ‫ﺧَﻠ َﻘ ُﻜ ْﻢ َأ ﱠو‬ َ ‫ﻲ ٍء َو ُه َﻮ‬ ْ ‫ﺷ‬ َ ‫ﻖ ُآ ﻞﱠ‬ َ ‫ﻄ‬ َ ‫ﻄ َﻘ َﻨ ﺎ اﻟﱠﻠ ُﻪ اﱠﻟ ﺬِي أَﻧ‬ َ ‫ﻋَﻠ ْﻴ َﻨ ﺎ َﻗ ﺎﻟُﻮا أَﻧ‬ َ ‫ﺷ ﻬِﺪ ﱡﺗ ْﻢ‬ َ ‫ﺠُﻠ ﻮ ِد ِه ْﻢ ِﻟ َﻢ‬ ُ ‫ِﻟ‬ 1 "‫ن‬ َ ‫ﺟﻌُﻮ‬ َ ‫ُﺗ ْﺮ‬ 18 - 17 ‫ اﻟﻨﺒﺄ‬1 49 ‫ اﻟﻜﻬﻒ‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

66

วิชาหลักศรัทธา

จนเมื่อพวกเขาไดมาถึงนรกแลว หูของพวกเขา, ตาของพวกเขา, และผิวกายของพวกเขาก็เปนสักขี พยานแกพวกเขา ในสิ่งที่พวกเขาไดเคยประพฤติมาและพวกเขาไดกลาวแกผิวกายของพวกเขาวา “เหตุใด พวกเจาจึงเปนพยานทิ่มตําเรา?” ผิวกายเหลานั้นตอบวา “อัลลอฮฺผูทรงบันดาลใหทุก ๆ สิ่งพูดได บันดาลให เราพูดได! และพระองคทรงบันดาลพวกทานมาแตครั้งแรกเริ่ม และพวกทานถูกนําตัวกลับมายังพระองค” ตราชูวัดการกระทํา ถาม ตราชูในวันกียามะฮฺคืออะไร ? ตอบ อัลลอฮฺทรงจัดวางตราชูแหงความยุติธรรมไวในวันกียามะฮฺเพื่อวัดความดีความชั่วของ มนุษยเพื่อการตอบแทน อัลลอฮฺไดตรัสไววา ْ ‫ﻂ ِﻟ َﻴ ْﻮ ِم ا ْﻟ ِﻘﻴَﺎ َﻣ ِﺔ َﻓَﻠ ﺎ ُﺗ‬ َ‫ﺴ‬ ْ ‫ﻦ ا ْﻟ ِﻘ‬ َ ‫ﻀ ُﻊ ا ْﻟ َﻤﻮَازِﻳ‬ َ ‫" َو َﻧ‬ ‫ل‬ ٍ ‫ﺧ ْﺮ َد‬ َ ‫ﻦ‬ ْ ‫ﺣ ﱠﺒ ٍﺔ ﱢﻣ‬ َ ‫ل‬ َ ‫ن ِﻣ ْﺜ َﻘ ﺎ‬ َ ‫ﺷ ْﻴﺌًﺎ َوإِن َآ ﺎ‬ َ ‫ﺲ‬ ٌ ‫ﻈَﻠ ُﻢ َﻧ ْﻔ‬ "‫ﻦ‬ َ ‫ﺳﺒِﻴ‬ ِ ‫َأ َﺗ ْﻴﻨَﺎ ِﺑﻬَﺎ َو َآﻔَﻰ ِﺑﻨَﺎ ﺣَﺎ‬2 และเราจะวางตราชูแหงความเที่ยงธรรมไว เพื่อ (ชั่งความประพฤติของมวลมนุษยใน) วันชาติหนา แลวชีวิตใด ๆ จะไมถูกอธรรมเลยแมแตสักเล็กนอยก็ตาม และแมจะมีน้ําหนักสักเพียงเมล็ดผักกาด เราก็จะ นํามันมา (ชั่ง) และเราเพียงผูเ ดียวก็เพียงพอแลว ที่เปนผูส อบสวน และอัลลอฮฺไดตรัสไวอีกวา ‫ﺴ ُﻬ ْﻢ ِﻓ ﻲ‬ َ ‫ﺴﺮُوا أَﻧ ُﻔ‬ ِ ‫ﺧ‬ َ ‫ﻦ‬ َ ‫ﻚ اﱠﻟ ﺬِﻳ‬ َ ‫ﺖ َﻣﻮَازِﻳ ُﻨ ُﻪ َﻓُﺄ ْوَﻟ ِﺌ‬ ْ ‫ﺧ ﱠﻔ‬ َ ‫ﻦ‬ ْ ‫ َو َﻣ‬، ‫ن‬ َ ‫ﻚ ُه ُﻢ ا ْﻟ ُﻤ ْﻔِﻠﺤُﻮ‬ َ ‫ﺖ َﻣﻮَازِﻳ ُﻨ ُﻪ َﻓُﺄ ْوَﻟ ِﺌ‬ ْ ‫" َﻓﻤَﻦ َﺛ ُﻘَﻠ‬ "‫ن‬ َ ‫ﺟ َﻬ ﱠﻨ َﻢ ﺧَﺎِﻟﺪُو‬ َ3 ดังนัน้ ผูใดที่ตราชูของเขาหนัก (ความดี) แนนอนพวกเหลานั้น เปนพวกประสบชัยชนะโดยแทจริง และผูใดตราชูของเขาเบา (เพราะมีความดีนอย) แนนอนพวกเขาเหลานั้น เปนพวกที่ทําใหตัวเองขาดทุน ซึ่ง พวกเขาจะตองเขาประจําถาวรในนรกญะฮันนัม สระน้ําในสวรรค ถาม สระน้ําในสวรรคคืออะไร ? ตอบ ศาสนทูตทุกทานจะมีสระน้ําของตัวเองเพื่อเปนแหลงน้ําดื่มของทานและประชาชาติ กอน เขาสูสรวงสวรรค สําหรับทานนบีมูฮําหมัดของเรา ก็จะมีสระน้ํา ซึ่งมีน้ําเปนสีขาวกวาน้ํานมและมีความ หวานชื่นกวาน้ําผึ้ง มีกลิ่นหอมกวาชมดเชียง ผูใดมีโอกาสไดดื่มน้ําจากสระของทานเพียงครั้งเดียวก็จะไม รูสึกกระหายน้ําอีกเลยตลอดไป ศิรอฏ(‫)اﻟﺼﺮاط‬ 21 - 20 ‫ ﻓﺼﻠﺖ‬1 47 ‫ اﻷﻧﺒﻴﺎء‬2 103-102 ‫ اﻟﻤﺆﻣﻨﻮن‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

67

วิชาหลักศรัทธา

ถาม คําวา ศิรอฏ(‫ )اﻟﺼﺮاط‬หมายถึงอะไร ตอบ คํ า ว า ศิ ร อฏ ( ‫ )اﻟﺼﺮاط‬ในที่ นี้ ห มายถึ ง สะพานซึ่ ง เป น เส น ทางที่ พ าดผ า นเหนื อ ปาก นรกญะฮันนัม ซึ่งทุกคนทั้งคนรุนเกากอนและคนรุนหลังก็จะเดินออกไปจากจุดพักหยุดของพวกเขาเดิน ผานไปในเสนทางนี้ ผูที่จะเปนชาวสวรรคก็จะสามารถเดินผานไปไดอยางสะดวก โดยจะเดินมุงหนาไปยัง สวรรคซึ่งเปนที่พํานัก สวนชาวนรกก็จะตกลงสูนรก ดังที่อัลลอฮฺไดตรัสไวในอัลกุรอานวา ‫ﻦ‬ َ ‫ﻦ ا ﱠﺗﻘَﻮا ﱠو َﻧ َﺬ ُر اﻟﻈﱠﺎِﻟﻤِﻴ‬ َ ‫ ُﺛﻢﱠ ُﻧ َﻨﺠﱢﻲ اﱠﻟﺬِﻳ‬، ‫ﺎ‬‫ﻀﻴ‬ ِ ‫ﺣ ْﺘﻤًﺎ ﱠﻣ ْﻘ‬ َ ‫ﻚ‬ َ ‫ﻋﻠَﻰ َر ﱢﺑ‬ َ ‫ن‬ َ ‫" َوإِن ﻣﱢﻨ ُﻜ ْﻢ ِإﻟﱠﺎ وَا ِر ُدهَﺎ آَﺎ‬ 1 "‫ﻴﺎ‬ ‫ﺟ ِﺜ‬ ِ ‫ﻓِﻴﻬَﺎ‬ และไมมีใครจากพวกเจา (พนจากนรกได) นอกจากตองผานมันไปอยางแนนอน สิ่งนั้นเปนภาระที่ ถูกกําหนดไวแลว โดยองคอภิบาลของเจา(หมายถึงทุกคนตองผานนรก แมจะไดเขาสูสวรรคก็ตาม เพราะ จะตองขามสะพานที่ทอดอยูบนนรก)หลังจากนั้น เรายังความรอดพนแกบรรดาผูมีจิตยําเกรง และเราทิ้ง ทุจริตชนทั้งหลายไวใน(นรก) นั้นในอาการคุกเขา (ดวยความหวาดหวั่นและระทมทุกข) สรวงสวรรค ถาม สรวงสวรรคคืออะไร ? ตอบ สรวงสวรรคคือที่พํานักแหลงสุดทายของบรรดาผูมีศรัทธา ซึ่งเปนสถานที่ที่บรรดาผูมี ศรัทธาทุกคนคิดฝนอยากจะไดมาเปนสิ่งตอบแทนในความมีศรัทธา ความเชื่อและการปฏิบัติดีของตนเอง อัลลอฮฺไดตรัสไวในอัลกุรอานวา ‫ﻷ ْﻧﻬَﺎ ُر ُآﱠﻠﻤَﺎ ُر ِزﻗُﻮ ْا‬ َ ‫ﺤ ِﺘﻬَﺎ ا‬ ْ ‫ﺠﺮِي ﻣِﻦ َﺗ‬ ْ ‫ت َﺗ‬ ٍ ‫ﺟﻨﱠﺎ‬ َ ‫ن َﻟ ُﻬ ْﻢ‬ ‫ت َأ ﱠ‬ ِ ‫ﻋ ِﻤﻠُﻮ ْا اﻟﺼﱠﺎِﻟﺤَﺎ‬ َ ‫ﺸ ِﺮ اﱠﻟﺬِﻳﻦ ﺁ َﻣﻨُﻮ ْا َو‬ ‫" َو َﺑ ﱢ‬ ‫ﻄ ﱠﻬ َﺮ ٌة َو ُه ْﻢ‬ َ ‫ج ﱡﻣ‬ ٌ ‫ﻞ َوُأﺗُﻮ ْا ِﺑ ِﻪ ُﻣ َﺘﺸَﺎﺑِﻬًﺎ َوَﻟ ُﻬ ْﻢ ﻓِﻴﻬَﺎ َأ ْزوَا‬ ُ ‫ِﻣ ْﻨﻬَﺎ ﻣِﻦ َﺛ َﻤ َﺮ ٍة ﱢرزْﻗًﺎ ﻗَﺎﻟُﻮ ْا هَـﺬَا اﱠﻟﺬِي ُر ِز ْﻗﻨَﺎ ﻣِﻦ َﻗ ْﺒ‬ 2 "‫ن‬ َ ‫ﻓِﻴﻬَﺎ ﺧَﺎِﻟﺪُو‬ และ (โอนบีมุฮํามัด) จงแจงขาวดีแกบรรดาผูศรัทธา และปฏิบัติความดีเถิดวา พวกเขาจักไดรับ สวรรค ซึ่งมีธารน้ําไหลอยูขางใตของมัน (เปนสิ่งตอบแทน) ทุกครั้งที่พวกเขาไดรับโชคผลจากสวรรคเปน ผลไม (ซึ่งพวกเขาใชรับประทาน) พวกเขาก็รําพึงวา นี่เปนสิ่งที่พวกเราเคยไดรับโชคมากอน (เมื่อครั้งพวก เรายังใชชีวิตอยูในสากลโลก) และพวกไดรับสิ่งนั้นอยางละมายกัน (เปนประจําตลอดไป) และพวกเขามี คูครองอันบริสุทธิ์ในสวรรค และพวกเขาพํานักอยูในนั้นโดยนิรันดรกาล

72 - 71 ‫ ﻣﺮﻳﻢ‬1 25 ‫ اﻟﺒﻘﺮة‬2

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

68

วิชาหลักศรัทธา

นรก ถาม นรกคืออะไร ? ตอบ เมื่ออัลลอฮฺทรงตอบแทนผูกระทําความดีดวยความโปรดปราน พระองคก็จะทรงตอบแทน ผูประพฤติชั่วรายดวยนรกมาเปนการลงโทษตอการกระทําที่เปนบาปหนัก การกระทําที่ชั่วราย ซึ่งพวกเขากุ ขึ้นมาเปนอัลลอฮฺตรัสไวในอัลกุรอานวา َ ‫ َوﻣَﺎ َأ ْدرَا‬، ‫ َﻓُﺄﻣﱡ ُﻪ هَﺎ ِو َﻳ ٌﺔ‬، ‫ﺖ َﻣﻮَازِﻳ ُﻨ ُﻪ‬ ْ ‫ﺧ ﱠﻔ‬ َ ‫ﻦ‬ ْ ‫ َوَأﻣﱠﺎ َﻣ‬1 "‫ ﻧَﺎ ٌر ﺣَﺎ ِﻣ َﻴ ٌﺔ‬، ‫ك ﻣَﺎ ِه َﻴ ْﻪ‬ และสวนผูใดทีต่ ราชู (แหงความดี) ของเขาเบาแนนอนที่อยูของเขา ก็คือขุมนรกฮาวิยะฮฺและอันใดที่ ทําใหเจารูวา อะไรคือมัน (ฮาวียะฮฺ)มันเปนไฟนรกอันรอนแรง นรกก็คือที่คืนกลับของบรรดาผูที่ตราชูแหงความดีของเขาเบา เขาจึงมีที่กลับเปนนรกฮาวิยะฮฺอัน ไดแกขุมไฟทีล่ ุกโชนอยางรอนแรง

• • • • •

• •

สรุปทายบท หลังจากที่มนุษยตายไปแลวพวกเขาก็จะเปลี่ยนที่อยูไปเปนโลกแหงบัรซัค(หลังความตาย)ซึ่งในนั้น จะมีทั้งความยากลําบากจากการลงโทษและความผาสุก(ตามแตการกระทําของพวกเขา) หลังจากที่มนุษยไดใชชีวิตอยูบนโลกดุลยาแลวตายจากไป อัลลอฮฺก็จะใหฟนคืนชีพมาใหมในวัน แหงการสอบสวน ในวันแหงการสอบสวนพวกเขาจะถูกนําเสนอการกระทําจากโลกดุลยา ในวันนั้นจะมีการชั่งการกระทําของมนุษย ผูใดที่การกระทําดีเบาบางที่คืนกลับของเขาคือ นรกญะฮันนัม ศาสนทูตของอัลลอฮฺแตละทานจะมีสระน้ําเปนของตนเอง สระน้ําอันนี้จะใชสําหรับเปนแหลงน้ํา ดื่มของทานเองและประชาชาติของทานหลังจากที่ออกมาจากที่รวม และสําหรับทานนบีของเราก็จะ มีแหลงน้ําดวยเชนกัน สระน้ําของทานจะมีน้ําสีขาวสะอาดประดุจดังน้ํานมที่มีรสหวานกวาน้ําผึ้ง และหอมกวาชะมดเชียง สวรรคคือสถานที่อันสงบสุขสําหรับบรรดาผูมีศรัทธา สวนนรกคือสถานที่สําหรับลงโทษบรรดาพวกมุนาฟกนี และพวกผูไรศรัทธา

11- 8 ‫ اﻟﻘﺎرﻋﺔ‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

69

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 15 การศรัทธาตอมลาอิกะฮฺ ตอคัมภีรและศาสนทูตของอัลลอฮฺ การศรัทธาตอมลาอิกะฮฺ ถาม มลาอิกะฮฺคืออะไร ? ตอบ มลาอิกะฮฺคือสิ่งถูกสรางจากรัศมี พวกเขาจะมีความแตกตางไปจากมนุษย ไมกิน ไมดื่ม ไม หลับนอน ไมมีเพศชายเพศหญิง โลกของมลาอิกะฮฺเปนอีกโลกหนึ่งที่ตางออกไป พวกเขาดํารงอยูกับพวก เขาเอง ที่ตางออกไป คุณลักษณะตาง ๆ จะไมเหมือนลักษณะของมนุษยที่มีเรือนรางและความเปนรูปธรรม ถาม มลาอิกะฮฺถูกสรางมาจากสิ่งใด ? ตอบ มลาอิกะฮฺถูกสรางมาจากรัศมี ทานเราะสูลุลลอฮฺ  ไดกลาวไววา “มลาอิกะฮฺถูกสรางมา จากรัศมี1” ถาม พวกเขามีหนาที่ทําอะไร ? ตอบ พวกเขามีหนาที่ในการบริหารจัดการดูแลกิจการทางโลกภายใตการบริหารงานและความ ประสงคของอัลลอฮฺ ซึ่งพระองคไดทรงอํานวยความสะดวกใหกับพวกเขาเพื่อใหพวกเขาดําเนินการบริหาร จัดการการงานของพระองค มลาอิกะฮฺจะไมกระทําการสิ่งใดนอกจากที่เปนบัญชาของอัลอฮ ดังที่พระองค ไดตรัสไววา "‫ن‬ َ ‫ل َو ُهﻢ ِﺑَﺄ ْﻣ ِﺮ ِﻩ َﻳ ْﻌ َﻤﻠُﻮ‬ ِ ‫ﺴ ِﺒﻘُﻮ َﻧ ُﻪ ﺑِﺎ ْﻟ َﻘ ْﻮ‬ ْ ‫ ﻟَﺎ َﻳ‬، ‫ن‬ َ ‫ﻋﺒَﺎ ٌد ﱡﻣ ْﻜ َﺮﻣُﻮ‬ ِ ‫ﻞ‬ ْ ‫" َﺑ‬ หากทวาบรรดามลาอิกะฮฺนั้น เปนเพียงขาทาส (ของอัลลอฮฺ) ที่ถูกยกยองเทานั้น (หาใชบุตรของ พระองคไม)พวกเขา (เหลามลาอิกะฮฺ) ไมเคยพูดกาวลวงพระองคกอนเลย แตพวกเขาจะประพฤติตามคํา บัญชาของพระองค3 หนาที่บางประการของมลาอิกะฮฺ 1. กลาวตัสบีหฺและแสดงความนอบนอมตออัลลอฮฺ 2. เปนผูนําวะหฺยจู ากอัลลอฮฺมายังศาสนทูตของพระองค 3. เปนผูบันทึกการกระทําของมนุษย อัลลอฮฺไดตรัสไววา "‫ن‬ َ ‫ن ﻣَﺎ َﺗ ْﻔ َﻌﻠُﻮ‬ َ ‫ َﻳ ْﻌَﻠﻤُﻮ‬، ‫ﻦ‬ َ ‫ ِآﺮَاﻣًﺎ آَﺎ ِﺗﺒِﻴ‬،َ‫ﻋَﻠ ْﻴ ُﻜ ْﻢ َﻟﺤَﺎ ِﻓﻈِﻴﻦ‬ َ ‫ن‬ ‫" َوِإ ﱠ‬ และแทจริงสําหรับพวกเจานั้น มีคณะผูคอยพิทักษดูแลอันไดแก (บรรดามลาอิกะฮ.) ผูทรงเกียรติ ซึ่งเปนผูทําการบันทึกใหพวกเขารูในสิ่งที่พวกเจาประพฤติ (ทุกประการ)5 4.เปนผูเอาชีวิตและจัดเก็บดวงวิญญาณ 1

หะดีษบันทึกโดยมุสลิม อัล-อัมบิยาอ : 26-27. 5 อัล-อินฟฏอรฺ : 10-12. 3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

70

วิชาหลักศรัทธา

ถาม การศรัทธาตอมลาอิกะฮฺเปนสิ่งวาญิบหรือไม ? ตอบ การศรัทธาตอบรรดามลาอิกะฮฺเปนสิ่งวาญิบ ซึ่งองคอภิบาลของเราไดแจงแกเราในเรื่อง เกี่ยวกับมลาอิกะฮฺ โดยแจงไวในคัมภีรของพระองค การศรัทธาตอบรรดามลาอิกะฮฺจึงเปนเรื่องวาญิบ เปน หลักการหนึ่งของหลักการศรัทธา ซึ่งอัลลอฮฺไดตรัสไววา ‫ﻻ‬ َ ‫ﺳ ِﻠ ِﻪ‬ ُ ‫ﻦ ﺑِﺎﻟّﻠ ِﻪ َوﻣَﻶ ِﺋ َﻜ ِﺘ ِﻪ َو ُآ ُﺘ ِﺒ ِﻪ َو ُر‬ َ ‫ﻞ ﺁ َﻣ‬ ‫ن ُآ ﱞ‬ َ ‫ل ِإَﻟ ْﻴ ِﻪ ﻣِﻦ ﱠر ﱢﺑ ِﻪ وَا ْﻟ ُﻤ ْﺆ ِﻣ ُﻨ ﻮ‬ َ ‫ل ِﺑﻤَﺎ أُﻧ ِﺰ‬ ُ ‫ﻦ اﻟ ﱠﺮﺳُﻮ‬ َ ‫"ﺁ َﻣ‬ "‫ﻚ ا ْﻟ َﻤﺼِﻴ ُﺮ‬ َ ‫ﻚ َر ﱠﺑﻨَﺎ َوِإَﻟ ْﻴ‬ َ ‫ﻏ ْﻔﺮَا َﻧ‬ ُ ‫ﻃ ْﻌﻨَﺎ‬ َ ‫ﺳ ِﻤ ْﻌﻨَﺎ َوَأ‬ َ ‫ﺳِﻠ ِﻪ َوﻗَﺎﻟُﻮ ْا‬ ُ ‫ﺣ ٍﺪ ﻣﱢﻦ ﱡر‬ َ ‫ﻦ َأ‬ َ ‫ق َﺑ ْﻴ‬ ُ ‫ُﻧ َﻔﺮﱢ‬ ศาสนทูตและมวลผูศรัทธายอมศรัทธาในสิ่ง (คัมภีร) ที่ถูกประทานมายังเขาจากองคอภิบาลของเขา ทุกคนตางมีศรัทธามั่นในอัลลอฮฺ ในมลาอิกะฮฺของพระองค ในบรรดาคัมภีรของพระองค และบรรดาศาสน ทูตของพระองค เราจะไมจําแนกออกระหวางคนใดจากบรรดาศาสนทูตของพระองค และพวกเขากลาววา “เราไดยินและเราภักดี” ขอพระองคไดโปรดใหอภัยดวยเถิด โอองคอภิบาลของเรา และเปาหมาย (ของเรา) ยอมคืนสูพระองค2 การศรัทธาตอคัมภีรของอัลลอฮฺ ถาม บรรดาคัมภีรของอัลลอฮฺไดถูกประทานแกผูใด ? ตอบ คัมภีรถูกประทานมายังบรรดานบีและเราะสูล ดังที่อัลลอฮฺไดตรัสไววา ‫ﺧ َﺘَﻠ ُﻔ ﻮ ْا ﻓِﻴ ِﻪ‬ ْ ‫س ﻓِﻴﻤَﺎ ا‬ ِ ‫ﻦ اﻟﻨﱠﺎ‬ َ ‫ﺤ ُﻜ َﻢ َﺑ ْﻴ‬ ْ ‫ﻖ ِﻟ َﻴ‬ ‫ﺤﱢ‬ َ ‫ب ﺑِﺎ ْﻟ‬ َ ‫ل َﻣ َﻌ ُﻬ ُﻢ ا ْﻟ ِﻜﺘَﺎ‬ َ ‫ﻦ َوأَﻧ َﺰ‬ َ ‫ﻦ َوﻣُﻨ ِﺬرِﻳ‬ َ ‫ﺸﺮِﻳ‬ ‫ﻦ ُﻣ َﺒ ﱢ‬ َ ‫ﺚ اﻟّﻠ ُﻪ اﻟ ﱠﻨ ِﺒﻴﱢﻴ‬ َ ‫" َﻓ َﺒ َﻌ‬ " ครั้นตอมาอัลลอฮฺไดสงบรรดาศาสดาใหมาทําหนาที่ประกาศขาวดี และตักเตือน และพระองคทรง ประทานคัมภีรโดยสัจธรรม ใหลงมาพรอมกับพวกเขาเพื่อพระองคทรงพิพากษาระหวางมวลมนุษย ใน กรณีที่พวกเขาพิพาทกัน ถาม บรรดาคัมภีรเหลานี้ทั้งหมดไดรับการบันทึกใหคงอยูจนกระทั่งถึงทุกวันนี้หรือไม ? ตอบ คัมภีรที่มีการบันทึก คือศุหุฟของทานนบีอิบรอฮีม  คัมภีรเตารอฮฺ ของทานนบีมูซา  คัมภีรซะบูร ของทานนบีดาวูด  คัมภีรอัล-อินญีล ของทานนบีอีซา  และคัมภีรอัลกุรอาน ของทานนบี มูฮําหมัด  ถาม คัมภีรทุกเลมที่กลาวมาไดรับการบันทึกสอดคลองกับตนฉบับและยังคงความถูกตองอยู จนกระทั่งถึงทุกวันนี้หรือไม ? ตอบ คัมภีรบางเลมถูกดัดแปลงแตงเติมบิดเบือนใหผิดเพี้ยนไปอยางมากมาย ยกเวนคัมภีรอัลกุ รอาน ซึ่งอัลลอฮฺไดทรงพิทักษปกปองมิใหไดรับการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สวนคัมภีรเตารอฮฺ ซึ่งมีอยู ในมือของชาวยิว จะไมเหมือนกับคัมภีรเตารอฮฺซึ่งอยูในมือของชาวคริสต และคัมภีรซึ่งอยูในมือของคน 2

อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 285. 48 ‫ اﻟﻤﺎﺋﺪة‬4

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

71

วิชาหลักศรัทธา

เหลานี้ก็ไมไดมาสืบทอดสายรายงานมาดวยความถูกตองทั้งหมด ไมไดรับการยืนยันวาเปนเตารอฮฺของ ทานนบีมูซา  คัมภีรอัลอินญีลก็ถูกบิดเบือนไปจากเดิม ในมือของชาวคริสตมีอัลอินญีลอยูทั้งหมด 4 เลม ซึ่งยอมา จากคัมภีรทั้งหมด 7 เลม และมีคัมภีรเลมที่ 6 ปรากฏออกมา นั่นคืออินญีล บารนาบา ซึ่งสาระจะตางไปจาก อินญีลเลมอื่น ๆ ในหลายตอหลายเรื่อง คัมภีรเลมนี้พบจากบันทึกทางประวัติศาสตรในทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน จนทําใหนักวิชาการผูเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอินญีลหลายทานเกิดความสงสัยในความถูกตองสัจจริงของคัมภีร อินญีลหรือไบเบิลซึ่งมีอยูในมือของพวกเขาในเวลานี้ สวนซุฮุฟของทานนบีอิบรอฮีม และซะบูรของทาน นบีดาวุด ไดมีการบิดเบือนเปลี่ยนแปลงจนเกือบจะไมมีเคาโครงเดิมเหลืออยูเลยในปจจุบัน ซึ่งเรื่องราว เหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตมีปรากฏเปนสาระอยูในอัลกุรอานทั้งหมด ประดุจดังวาอัลกุรอานคือคัมภีรแหง พระผูเปนเจาเลมเดียวที่มาเพื่อยืนยันยอมรับในความถูกตองของคัมภีรที่ผานมาทั้งหมด อัลลอฮฺตรัสไวในอัล กุรอานวา َ ‫ﻖ ُﻣ‬ ‫ﺤﱢ‬ َ ‫ب ﺑِﺎ ْﻟ‬ َ ‫ﻚ ا ْﻟ ِﻜﺘَﺎ‬ َ ‫" َوأَﻧ َﺰ ْﻟﻨَﺎ ِإَﻟ ْﻴ‬4 "‫ﻋَﻠ ْﻴ ِﻪ‬ َ ‫ب َو ُﻣ َﻬ ْﻴ ِﻤﻨًﺎ‬ ِ ‫ﻦ ا ْﻟ ِﻜﺘَﺎ‬ َ ‫ﻦ َﻳ َﺪ ْﻳ ِﻪ ِﻣ‬ َ ‫ﺼ ﱢﺪﻗًﺎ ﱢﻟﻤَﺎ َﺑ ْﻴ‬ และเราไดลงคัมภีร (อัลกุรอาน) มาใหเจาดวยสัจธรรม เพื่อรับรองคัมภีรที่อยูตอหนาเจา (คือเตารอฮฺ และอินญีล เปนตน) และเพื่อเปนประจักษพยานใหแกสิ่งนั้น (คัมภีรดังกลาว) ถาม มุสลิมมีจุดยืนอยางไรตอคัมภีรที่ผานมาทั้งหมด ? ตอบ มุสลิมลิมจะตองศรัทธาตอคัมภีรของอัลลอฮฺทั้งหมด ทั้งที่มีบันทึกและที่ไมมีบันทึกตามที่ อัลลอฮฺไดทรงประทานลงมา โดยยอมรับและเชื่อศรัทธาวาเปนคัมภีรที่ไดรับการประทานมาจากอัลลอฮฺ และจะต อ งศรั ท ธาว า อั ล ลอฮฺ ไ ด ท รงชี้ นํ า ด ว ยพระมหาคั ม ภี ร อั ล กุ ร อาน ซึ่ ง มี ส าระเป น ทางนํ า และจะ ปราศจากการบิดเบือนสอดเสริมเพิ่มเติมโดยน้ํามือของมนุษยดังที่เคยเกิดขึ้นกับคัมภีรเกา ๆ ที่ผานมาทั้งหมด ผูใดที่ไมยอมศรัทธาตอคัมภีรที่อัลลอฮฺไดเคยประทานมา หลักการศรัทธาของเขาก็จะลักลั่นหรือเปนโมฆะ ในทันที เพราะเปนการกลาวหาวาอัลกุรอานซึ่งยืนยันในเรื่องนี้วาเปนเท็จ การศรัทธาตอบรรดาศาสนทูตของอัลลอฮฺ ถาม ในแตละประชาชาติอัลลอฮฺจะทรงแตงตั้งศาสนทูตมาเปนการเฉพาะหรือไมอยางไร ? ตอบ ในทุก ๆ ประชาชาติ อัลลอฮฺจะทรงแตงตั้งศาสนทูตของพระองคมา เพื่อที่จะใหศาสนทูต เหลานี้แจงขาวดีแกมวลผูศรัทธาและเตือนสําทับแกผูปฏิเสธศรัทธา เพื่อศาสนทูตเหลานี้จะไดชี้นําผูคนไปสู แนวทางของอัลลอฮฺ ดังที่พระองคตรัสไวในอัลกุรอานวา "‫ﻦ ُأ ﱠﻣ ٍﺔ ِإﻟﱠﺎ ﺧﻠَﺎ ﻓِﻴﻬَﺎ َﻧﺬِﻳ ٌﺮ‬ ْ ‫َوإِن ﱢﻣ‬ และไมประชาชาติใดทั้งสิน้ นอกจากจะตองมีศาสดาผูต ักเตือนลวงพนมาแลวในหมูพ วกเขา2 และไดตรัสไวอีกวา "‫ﻞ َﻗ ْﻮ ٍم هَﺎ ٍد‬ ‫" َوِﻟ ُﻜ ﱢ‬3 2

ฟาฏิร:ฺ 24 7 ‫ اﻟﺮﻋﺪ‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

72

วิชาหลักศรัทธา

และมวลชนทุกกลุมนั้นยอมมีผูชี้นาํ ถาม อัลกุรอานไดกลาวถึงศาสนทูตไวทั้งหมดหรือไม ? ตอบ อัลกุรอานไมไดกลาวถึงบรรดาศาสนทูตทัง้ หมด แตอัลกุรอาน จะนําเรื่องราวของศาสนทูต ของอัลลอฮฺมาเลาชีวิตการเปนอยูของศาสนทูตบางคนใหพวกเราฟงเพียงเพื่อเปนตัวอยาง เพื่อเปนขอคิด แต ไมไดเลาเรื่องราวทั้งหมด ดังที่อัลลอฮฺไดตรัสไวในอัลกุรอานวา ‫ﻞ‬ َ ‫ﺳ ﻤَﺎﻋِﻴ‬ ْ ‫ﺣ ْﻴ َﻨ ﺎ ِإَﻟ ﻰ ِإ ْﺑ ﺮَاهِﻴ َﻢ َوِإ‬ َ ‫ﻦ ِﻣ ﻦ َﺑ ْﻌ ِﺪ ِﻩ َوَأ ْو‬ َ ‫ح وَاﻟ ﱠﻨ ِﺒ ﱢﻴ ﻴ‬ ٍ ‫ﺣ ْﻴ َﻨ ﺎ ِإَﻟ ﻰ ُﻧ ﻮ‬ َ ‫ﻚ َآ َﻤ ﺎ َأ ْو‬ َ ‫ﺣ ْﻴﻨَﺎ ِإَﻟ ْﻴ‬ َ ‫"ِإﻧﱠﺎ َأ ْو‬ ، ‫ن وَﺁ َﺗ ْﻴ َﻨ ﺎ دَاوُو َد َز ُﺑ ﻮرًا‬ َ ‫ﺳ َﻠ ْﻴﻤَﺎ‬ ُ ‫ن َو‬ َ ‫ﺲ َو َه ﺎرُو‬ َ ‫ب َو ُﻳ ﻮ ُﻧ‬ َ ‫ط َوﻋِﻴ ﺴَﻰ َوَأ ﱡﻳ ﻮ‬ ِ ‫ﺳ ﺒَﺎ‬ ْ‫ﻷ‬ َ ‫ب وَا‬ َ ‫ﻖ َو َﻳ ْﻌ ُﻘ ﻮ‬ َ‫ﺤ‬ َ ‫ﺳ‬ ْ ‫َو ْإ‬ 1 "‫ﻚ َو َآﱠﻠ َﻢ اﻟّﻠ ُﻪ ﻣُﻮﺳَﻰ َﺗ ْﻜﻠِﻴﻤًﺎ‬ َ ‫ﻋَﻠ ْﻴ‬ َ ‫ﺼ ُﻬ ْﻢ‬ ْ ‫ﺼ‬ ُ ‫ﻼ ﱠﻟ ْﻢ َﻧ ْﻘ‬ ً‫ﺳ‬ ُ ‫ﻞ َو ُر‬ ُ ‫ﻚ ﻣِﻦ َﻗ ْﺒ‬ َ ‫ﻋَﻠ ْﻴ‬ َ ‫ﺼﻨَﺎ ُه ْﻢ‬ ْ ‫ﺼ‬ َ ‫ﻼ َﻗ ْﺪ َﻗ‬ ً‫ﺳ‬ ُ ‫َو ُر‬ แทจริงเราไดดลโองการแกเจา ประดุจเดียวกับที่เราไดดลแกนูห. และบรรดาศาสดาภายหลังจากเขา และ เราไดดลโองการแกอิบรอฮีม, อิสมาอีล, อิสหาก, ยะอกูบ, บรรดาเผาพันธ (ของเขา) อีซา, อัยยูบ, ยูนุส, ฮารูน , และสุไลมาน และเราไดประทาน (คัมภีร) ซะบูรแกนบีดาวุดและศาสนทูตบางคนที่เราไดแถลง (เรื่องราว ของพวกเขา) ใหเจา (รู) เมื่อกอนหนานี้ (โดยมีจํานวนที่แถลงในอัลกุรอาน 25 คน) และมีศาสนทูตบางคนที่ เรามิไดแถลง (เรื่องราวของ) พวกเขาใหเจา (รู) และอัลลอฮฺไดตรัสกับมูซาโดยตรง (ไมผานยิบรออีลเปนสื่อ) ถาม อัลลอฮฺทรงประทานศาสนทูตของพระองคมายังผูคนทั้งหมดหรือประทานมาเฉพาะกับคน บางกลุมเฉพาะเทานั้น ? ตอบ ในสมั ย ก อ นอั ล ลอฮฺ ท รงแต ง ตั้ ง ศาสนทู ต ของพระองค ม ายั ง ประชาชาติ เ ฉพาะกลุ ม จนกระทั่งมาถึงศาสนทูตทานสุดทาย นั่นคือทานนบีมูฮําหมัด  ซึ่งพระองคทรงแตงตั้งมาเพื่อมวลมนุษย ทั้งหมด อัลลอฮฺตรัสไววา "‫ض‬ ِ ‫ﻷ ْر‬ َ ‫ت وَا‬ ِ ‫ﺴﻤَﺎوَا‬ ‫ﻚ اﻟ ﱠ‬ ُ ‫ﺟﻤِﻴﻌًﺎ اﱠﻟﺬِي َﻟ ُﻪ ُﻣ ْﻠ‬ َ ‫ل اﻟّﻠ ِﻪ ِإَﻟ ْﻴ ُﻜ ْﻢ‬ ُ ‫س ِإﻧﱢﻲ َرﺳُﻮ‬ ُ ‫ﻞ ﻳَﺎ َأ ﱡﻳﻬَﺎ اﻟﻨﱠﺎ‬ ْ ‫" ُﻗ‬2 จงประกาศเถิด (มุฮํามัด)! โอมนุษยทั้งหลาย แทจริงฉันเปนทูตแหงอัลลอฮฺมาสูพวกทานทั้งมวล ซึง่ พระองคทรงอํานาจปกครองชั้นฟาและแผนดิน ถาม จํานวนศาสนทูตที่ไดรับการกลาวถึงในอัลกุรอานมีทั้งหมดกี่คน ? ตอบ ศาสนทูตที่ไดรับการกลาวถึงในอัลกุรอานมีทั้งหมด 25 คน ถาม เราจําเปนตองศรัทธาตอบรรดาศาสนทูตเหลานี้ทั้งหมดหรือไมอยางไร ? ตอบ ใช ...เราจําเปนที่จะตองศรัทธาวาแทจริงแลวอัลลอฮฺไดทรงแตงตั้งรอซูล และไดทรง สงศาส นทูตมายังมวลมนุษย โดยที่เราจะตองศรัทธาและยอมรับตามที่อัลกุรอานไดแจงแกเราไวทั้งหมด ดัง ที่อัลลอฮฺไดตรัสไวในอัลกุรอานวา "‫ﺳِﻠ ِﻪ‬ ُ ‫ﺣ ٍﺪ ﻣﱢﻦ ﱡر‬ َ ‫ﻦ َأ‬ َ ‫ق َﺑ ْﻴ‬ ُ ‫ﻻ ُﻧ َﻔﺮﱢ‬ َ ‫ﺳِﻠ ِﻪ‬ ُ ‫ﻦ ﺑِﺎﻟّﻠ ِﻪ َوﻣَﻶ ِﺋ َﻜ ِﺘ ِﻪ َو ُآ ُﺘ ِﺒ ِﻪ َو ُر‬ َ ‫ﻞ ﺁ َﻣ‬ ‫ن ُآ ﱞ‬ َ ‫"وَا ْﻟ ُﻤ ْﺆ ِﻣﻨُﻮ‬3

164-163 ‫ اﻟﻨﺴﺎء‬1 158 ‫ اﻷﻋﺮاف‬2 285 ‫ اﻟﺒﻘﺮة‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

73

วิชาหลักศรัทธา

และมวลผูศรัทธายอมศรัทธาในสิ่ง (คัมภีร) ที่ถูกประทานมายังเขาจากองคอภิบาลของเขาทุกคน ตางมีศรัทธามั่นในอัลลอฮฺ ในมลาอิกะฮฺของพระองค ในบรรดาคัมภีรของพระองค และบรรดาศาสนทูตของ พระองค เราจะไมจําแนกออกระหวางคนใดจากบรรดาศาสนทูตของพระองค ถาม คําวาทานนบีมูฮําหมัดคือศาสนทูตทานสุดทาย หมายความวาอยางไร ? ตอบ แทจริงแลวอัลลอฮฺทรงทําใหศาสนาของพระองคสมบูรณครบถวนแลวทั้งหมด บรรดา ความโปรดปรานที่ประสงคจะประทานใหกับมวลมนุษยทั้งหมดก็สมบูรณแลว และพระองคก็ทรงปกปอง คุมครองคัมภีรแหงพระองคมิใหไดรับการบิดเบือนไปจากตนฉบับเดิมที่ไดรับการประทานมาจากพระองค เมื่อเปนเชนนั้นก็ไมจําเปนที่จะตองแตงตั้งศาสนทูต ทั้งนบีและรอซูลลงมาอีกตอไปจนกระทั่งถึงวันกียามะฮฺ และทานนบีมูฮําหมัดก็คือศาสนทูตทานสุดทายที่ไดรับการแตงตั้งมา จากบรรดานบีและรอซูลทั้งหมด อัลลอฮฺตรัสไววา "‫ﻋﻠِﻴﻤًﺎ‬ َ ‫ﻲ ٍء‬ ْ ‫ﺷ‬ َ ‫ن اﻟﻠﱠ ُﻪ ِﺑ ُﻜﻞﱢ‬ َ ‫ﻦ َوآَﺎ‬ َ ‫ل اﻟﱠﻠ ِﻪ َوﺧَﺎ َﺗ َﻢ اﻟ ﱠﻨ ِﺒﻴﱢﻴ‬ َ ‫ﺣ ٍﺪ ﻣﱢﻦ ﱢرﺟَﺎِﻟ ُﻜ ْﻢ َوَﻟﻜِﻦ ﱠرﺳُﻮ‬ َ ‫ﺤ ﱠﻤ ٌﺪ َأﺑَﺎ َأ‬ َ ‫ن ُﻣ‬ َ ‫"ﻣﱠﺎ آَﺎ‬1 มุฮํามัดหาใชบดิ าของผูใดในบรรดาบุรุษของพวกเจาไม แตทวา เขาเปนทูตจากอัลลอฮฺ และเปนสิ่ง ที่สุดแหงบรรดาศาสดาและอัลลอฮฺทรงรอบรูยิ่งในทุก ๆ สิ่ง

สรุปทายบท อั ล ลอฮฺ ท รงสร า งมลาอิ ก ะฮฺ ม าจากรั ศ มี พวกเขามี ลั ก ษณะที่ แ ตกต า งไปจากมนุ ษ ย แต จ ะมี คุณลักษณะเฉพาะ อัลลอฮฺทรงสรางมาใหมีหนาที่ดําเนินการตามบัญชาของอัลลอฮฺ สวนหนึ่งที่เปนงานของ พวกเขาคือการกลาวตัสบิฮฺ และแสดงความนอบนอมตออัลลอฮฺ อยางสมบูรณแบบ ทําหนาที่นําวะหฺยู มายังศาสนทูตของอัลลอฮฺ เปนผูบันทึกการกระทําของมวลมนุษย และจัดเก็บดวงวิญญาณเมื่อมีคนเสียชีวิต อัลลอฮฺไดทรงประทานคัมภีรมายังศาสนทูตของพระองคทั้งนบีและรอซูล สวนหนึ่งของคัมภีรที่ ไดรับการประทานลงมาคือ ซูฮุฟของทานนบีอิบรอฮีม คัมภีรเตารอฮฺของทานนบีมูซา คัมภีรอินญีลของ ทานนบีอีซา และคัมภีรอัลกุรอาน คัมภีรเกาที่ผานมาถูกบิดเบือนไปจากตนฉบับเดิมในบางสวน แตคัมภีรอัล กุรอานเปนคัมภีรเลมเดียวที่ไดรับการปกปองมิใหถูกบิดเบือนไปจากตนฉบับเดิม อัลลอฮฺไดทรงแตงตั้งศาสนทูตมายังประชาชาติ และไดทรงเลาเรื่องราวของศาสนทูตบางสวนไว ในอัลกุรอาน แตศาสนทูตททั้งหมด ทั้งนบีและรอซูลที่อัลลอฮฺไดทรงแตงตั้งมายังโลกมีจํานวนถึง 124,000 โดยประมาณ และศาสนทูตทานสุดทายก็คือทานนบีมูฮําหมัด  ฉะนั้นการศรัทธาตอบรรดามลาอิกะฮฺ การ ศรัทธาตอคัมภีร และบรรดาศาสนทูตของอัลลอฮฺ ทั้ง 3 หลักการนี้ หากไมศรัทธาแลวการศรัทธาของมุสลิม จะไมสมบูรณ

40 ‫ اﻷﺣﺰاب‬1

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

74

วิชาหลักศรัทธา

บทที่ 16 การศรัทธาตอกําหนดการของอัลลอฮฺ (‫)اﻟﻘﺪر‬ กําหนดการของอัลลอฮฺ (‫)اﻟﻘﺪر‬ ถาม กําหนดการของอัลลอฮฺคืออะไร ? ตอบ คือเกณฑ หรือกรอบ ปริมาณตาง ๆ ที่อัลลอฮฺไดทรงกําหนดไวกับสรรพสิ่งโดยใหเปนไป ตามระบบที่ทรงประสงคจะใหเกิดขึ้น เพื่อใหระบบของจักรวาลทั้งหมดสามารถดําเนินไปได ดังที่อลั ลอฮฺ ไดตรัสไวในอัลกุรอานวา َ ‫ﻖ َﻓ‬ َ ‫ﺧَﻠ‬ َ ‫ اﱠﻟﺬِي‬، ‫ﻋﻠَﻰ‬ ْ ‫ﻚ ا ْﻟَﺄ‬ َ ‫ﺳ َﻢ َرﱢﺑ‬ ْ ‫ﺢا‬ ِ ‫ﺳ ﱢﺒ‬ َ "1 "‫ وَاﱠﻟﺬِي َﻗ ﱠﺪ َر َﻓ َﻬﺪَى‬، ‫ﺴﻮﱠى‬ (โอมุฮํามัด) เจงจงสดุดีพระบพิตรธิคุณแหงองคอภิบาลของเจา ผูทรงสูงสงพระผูทรงบันดาล แลว ทรงทําใหสมดุลและพระผูทรงกําหนด แลวทรงชี้นํา "‫ﻲ ٍء َﻓ َﻘ ﱠﺪ َر ُﻩ َﺗ ْﻘﺪِﻳﺮًا‬ ْ ‫ﺷ‬ َ ‫ﻖ ُآﻞﱠ‬ َ ‫ﺧَﻠ‬ َ ‫" َو‬2 พระองคทรงบันดาลทุกสิ่ง แลวทรงกําหนดสิ่งนัน้ ๆ ไวอยางสมบูรณแบบ "‫ﻲ ٍء ﻋِﻨ َﺪ ُﻩ ِﺑ ِﻤ ْﻘﺪَا ٍر‬ ْ ‫ﺷ‬ َ ‫" َو ُآﻞﱡ‬3 และทุกสิ่งนั้นยอมมีกําหนดการอยูที่พระองคแลว (ทั้งสิน้ ) กําหนดการดีกาํ หนดการราย ถาม ผูศรัทธาตอกําหนดการของอัลลอฮฺตองมีจุดยืนอยางไร ? ตอบ ผู ศรั ทธาจะต องศรั ท ธาว ากํา หนดการดีแ ละกํา หนดการรา ยลว นแลว แต ม าจากอั ลลอฮฺ ทั้งหมด เพราะผูทรัทธาตระหนักดีวา ผูที่ทรงกําหนดสิ่งตาง ๆ ใหกับมวลสรรพสิ่งทั้งหมดก็คืออัลลอฮฺผูทรง ปรี ชาชาญและผู ทรงรอบรูและเชี่ยวชาญยิ่ ง แทจริง แลว มนุษย เองจะไมรูถึงปรัชญาตาง ๆ ของอัลลอฮฺ เกี่ยวกับกําหนดการตาง ๆ ของพระองค เพราะความรูและสติปญญาของมนุษยไมสามารถเขาถึงสิ่งนี้ได แต ถึงกระนั้นในแตละวันความรูของมนุษยเกี่ยวกับกําหนดการอันชาญฉลาดของอัลลอฮฺก็จะไดรับการเพิ่มใหมี มากขึ้นเรื่อย ๆ ถาม ในสวนของกําหนดการรายมีปรัชญาอะไรแฝงอยูดวยหรือไมอยางไร? ตอบ ทานไมสังเกตดอกหรือวา รัฐบาลทุกรัฐบาลจะมีการกําหนดคาตอบแทนไวใหกับบรรดา เจาหนาที่ของรัฐ และไดกําหนดแนวทางปฏิบัติไวเปนการเฉพาะ ซึ่งแนวทางปฏิบัตินี้ลวนแลวแตจะยัง ประโยชนใหกับประชากรทั้งหมด และในขณะเดียวกันทางภาครัฐก็มีการกําหนดบทลงโทษและมีการนํา บทลงโทษนั้นมาดําเนินการ แมวาจะเปนบทลงโทษที่ไมดี แตก็มียังแฝงไวซึ่งประโยชนที่มากมายแตบาง คนอาจจะไมรูเพราะความเขลาหรือคิดไมถึง อยางเชนในกรณีที่นายแพทยตองผาตัดเอาบางสวนของรางกาย 3-1 ‫ ﺍﻷﻋﻠﻰ‬1 2 ‫ ﺍﻟﻔﺮﻗﺎﻥ‬2 8 ‫ ﺍﻟﺮﻋﺪ‬3

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

75

วิชาหลักศรัทธา

ของคนไขออกไป ผูที่ไมรูอาจเขาใจวานายแพทยกําลังทําลายผูปวย ทั้งๆ ที่นายแพทยผาตัดชิ้นเนื้อบางสวน ออกไปนั้นมีแตจะยังประโยชนแตบางคนดวยความเขลาของตัวเองอาจคิดไมถึงก็ได เชนเดียวกับที่อัลลอฮฺ ไดทรงกําหนดใหเกิดความหิวกระหายขึ้นในรางกายของมนุษย จึงทําใหมนุษยอยากจะทํางานหาเลี้ยงชีพ เพื่อใหไดมาซึ่งสิ่งที่จะมาประทังความหิว หรือหากไมมีโรคภัยไขเจ็บ ก็คงจะไมมีคนตาย และไมมีใครรูสึก ถึงความมีสุขภาพดีของตนเอง หากอัลลอฮฺไมทรงกําหนดใหมีชีวิตเกิดขึ้นแนนอนที่สุดจะไมมีใครมายังผืน แผนดินนี้ หากอัลลอฮฺไมทรงกําหนดใหมีการตายเกิดขึ้น แนนอนที่สุดในโลกนี้คงจะสับสนวุนวายและเต็ม ไปดวยคนรุนเกากอนที่เต็มไปหมด จนไมมีที่อยูบนผืนแผนดิน ถาม กําหนดการทีด่ ีคืออะไร และกําหนดการที่ไมดีคืออะไร ? ตอบ ทุกสิ่งที่ยังประโยชนใหกับมนุษย เชน อาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค วิชาความรู ลวน แลวแตเปนกําหนดการดีทั้งหมด สวนสิ่งใดที่ใหโทษตอเรา อยางเชน ความหิวกระหาย ความเจ็บไขไดปวย ความเขลา ก็เรียกกันวาเปนกําหนดการที่ไมพึงประสงคทั้งหมด ถาม มนุษยควรปฏิบัติและวางตัวอยางไรตอกําหนดการของอัลลอฮฺ ? ตอบ แทจริงแลวอัลลอฮฺไดทรงประทาน หูตากับการมองเห็นและการไดยิน อีกทั้งยังประทาน สติปญญา และทรงประทานคัมภีรของพระองคมายังมนุษยเพื่อเปนทางนํา ที่จะนําไปสูสิ่งดี ๆ ซึ่งสิ่งที่อัลลอ ฮฺทรงประทานใหเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตเปนรางวัลของพระผูเปนเจา เพื่อนํามาใชในการทําความรูจักกับ สิ่งดี ๆ และนําเอาสิ่งดี ๆ เหลานี้มาใชใหเกิดประโยชน และหากพบวามีสิ่งที่ไมดีอยูก็จะไดหลีกเลี่ยง นั่นก็ หมายความวามนุษยจะตองนําเอาสิ่งที่ดี ๆ มาใชประโยชนสวนสิ่งที่ไมดีก็ควรหลีกเลี่ยงเสีย ควรปกปองถอย หางออกมาจากสิ่งที่ไมดีทั้งหมด เชน ควรดับความหิวกระหาย ดวยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน ควรปกปองจากโรคภัยไขเจ็บดวยโอสถเพื่อปองกันและบรรเทา....และสิ่งเหลานี้ทั้งหมดอัลลอฮฺไดทรง บัญชาไวในคัมภีรของพระองค และผูใดที่ฝาฝนทางนําแหงองคอภิบาล เขาก็จะไมไดรับประโยชนจาก กําหนดการที่ดี ๆ ของอัลลอฮฺ แมกระทั่งการไดยิน การมองเห็น และสติปญญาของตัวเองก็สามารถเปนศัตรู ทํารายตัวของเขาเองได การศรัทธาตอกําหนดการของอัลลอฮฺ ถาม การศรัทธาตอกําหนดการของอัลลอฮฺเปนวาญิบหรือไมอยางไร ? ตอบ เปนวาญิบ(จําเปนตองศรัทธา) และเปนหลักการหนึ่ง จากหลักการศรัทธาทั้งหมด ถาม ผลที่จะไดรับจากการศรัทธาตอกําหนดการของอัลลอฮฺคืออะไร ? ตอบ ผูใดที่ มีความศรั ทธามั่ นวาอั ลลอฮฺคือผู ทรงสรางจักรวาลใหเปนไปตามที่พระองคทรง กําหนดไวดังที่ปรากฏ ก็จะทําใหเขาสามารถเขาใจในกําหนดการและแนวทางของพระผูเปนเจาซึ่งจะยัง ประโยชนใหกับตัวเขาเอง โดยที่เขาเองสามารถประพฤติปฏิบัติใหเปนไปตามแนวทางของการสรางสรรค เพื่อพัฒนาและสรางความเจริญรุงเรืองใหเกิดขึ้น ทําใหเขาเองสามารถดึงเอาทรัพยากรของโลกที่อัลลอฮฺได ทรงสรางไวนํามาใชใหเกิดประโยชนได ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

76

วิชาหลักศรัทธา

ผูที่มีความเชื่อและศรัทธาตอกําหนดการของอัลลอฮฺ เขาเองก็จะรูดวยวาทุกสิ่งทุกอยางที่มีอยูในโลก นี้ทั้งหมดลวนแลวแตจะดําเนินไปตามแนวทางที่สอดคลองกับปรัชญาอันสูงสงของผูทรงสราง เมื่อเขา ประสบกับเหตุรายเขาก็จะไมกระวนกระวายใจ และเมื่อเขาประสบกับความสําเร็จ เขาก็ไมแสดงความดีใจ จนเกินเหตุ สรุปทายบท คือเกณฑ หรือกรอบ ปริมาณตาง ๆ ที่อัลลอฮฺไดทรงกําหนดไวกับสรรพสิ่งโดยใหเปนไปตาม ระบบที่ทรงประสงคจะใหเกิดขึ้น เพื่อใหระบบของจักรวาลทั้งหมดสามารถดําเนินไปได กําหนดการบาง ประการเปนประสบการณที่มีประโยชน บางประการก็ใหโทษ ซึ่งแทจริงแลวอัลลอฮฺทรงประทานการไดยิน การมองเห็นและสติปญญาเพื่อใชสําหรับแบงแยกคัดกรองวาสิ่งไหนใหโทษจะไดหลีกเลี่ยง สิ่งไหนมี ประโยชน จะไดใชประโยชนจากมัน แตถึงกระนั้นปรัชญาแหงอัลลอฮฺนั้นทรงสูงสงเสมอ เพราะพระองค ทรงปรีชาญาณยิ่งในการงานและกําหนดการของพระองค การศรัทธาตอกําหนดการของอัลลอฮฺเปนหลักการหนึ่งของหลักการศรัทธา ซึ่งอัลลอฮฺทรงกําหนด มาเพื่อ ใหเ กิ ด ความกระตื อรื อรน เพื่อ ใหเ กิด ความพยายามในการที่ จ ะใหไ ด มาซึ่ งประโยชนจ ากความ ประสริฐในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงสรางสรรคไวทั้งหมดบนผืนแผนดิน และเพื่อใหมนุษยวางตัวไดถูกตองไมรูสึก โศกเศราเสียใจเมื่อผิดหวัง ไมรูสึกดีใจจนเกินเหตุเมื่อประสบชัย มหาบริสุทธิ์แหงพระองคจากคุณลักษณะที่ไมเหมาะสมตามที่พวกเขา(มุชริกีน)กลาวหา ขอความ สันติสุขจงมีแดบรรดาศาสนทูตของอัลลอฮฺ และการสรรเสริญทั้งมวลเปนสิทธิ์ของอัลลอฮฺผูอภิบาลแหง สากลโลกทั้ง .‫ﺳﺒﺤﺎن رﺑﻚ رب اﻟﻌﺰة ﻋﻤﺎ ﻳﺼﻔﻮن وﺳﻼم ﻋﻠﻰ اﻟﻤﺮﺳﻠﻴﻦ واﻟﺤﻤﺪ ﷲ رب اﻟﻌﺎﻟﻤﻴﻦ‬

1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.

กิจกรรมเสริม รวมกันใชสติปญญาฝกพินิจพิเคราะหสิ่งที่อัลลอฮฺทรงสรางซึ่งบงชี้ถึงผูทรงสราง ศึกษารวบรวมอายะฮฺตาง ๆในอัลกุรอานที่สนับสนุนการใชความคิดไตรตรอง ศึกษารวบรวมอายะฮฺที่บงบอกถึงเอกานุภาพแหงอัลลอฮฺ ศึกษารวบรวมฮาดิษที่สนับสนุนการใชความคิดไตรตรองและบงบอกถึงเอกานุภาพแหงอัลอฮ เขียนบทความหรือเรียงความที่มีหลักฐานแสดงที่กลาวถึงเอกานุภาพแหงอัลลอฮฺเปนองคประกอบ รวบรวมคําพูดของนักคิดนักเขียนมุสลิมหรือบุคลอื่น ๆ ที่กลาวถึงเอกานุภาพแหงอัลลอฮฺ วิเคราะหผลที่มุสลิมไดรับจากการมีความเชื่อมั่นวาอัลลอฮฺทรงเอกานุภาพ ศึกษาบทเรียนที่กลาวถึงความจําเปนที่จะตองมีความศรัทธาตอเอกานุภาพของอัลอฮและความ จําเปนที่จะตองแสดงออกถึงการยอมรับในเอกานุภาพแหงพระองค กําหนดหัวขอเรื่องเพื่อใหนกั เรียนรวมกันอภิปราย (เกีย่ วกับเรื่องกําหนดการของอัลลอฮฺ)

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

77

วิชาหลักศรัทธา

10. กําหนดหัวขอเรื่องเพื่อใหนกั เรียนฝกพูดบรรยายเกีย่ วในเรื่องหรือประเด็นที่มักจะมีความเขาใจที่ คลาดเคลื่อนไปจากขอเท็จจริง(เกี่ยวกับเรื่องกําหนดการของอัลลอฮฺ) 11. จัดทัศนศึกษา ภาคกลางวัน กลางคืน ภาคบนบกและในทะเล 12. รวบรวมตัวอยางรูปแบบทาทีของบรรดาซะลัฟ ซอลิฮฺที่บงบอกถึงความเชื่อในเกี่ยวกับกําหนดการ ของอัลลอฮฺ . การวัดผลประเมินผล 1. ทดสอบความเขาใจผูเรียนผานขอคําถามและการรวมอภิปราย 2. สังเกตพฤติกรรม 3. ใชแบบสํารวจ ประเมิน 4. แบบแสดงความคิดเห็น 5. ทดสอบความรู 6. สังเกตทักษะการแสดงออก 7. ใชแบบประเมินผล จุดประสงคการเรียนรูดวยตนเอง จุดประสงคปลายทาง 1. บอกความหมายของศาสนาและความตองการของมนุษยตอศาสนา 2. บอกวัตถุประสงคของการเรียนรูวิชาเตาฮีดได 3. บอกเหตุผลความตองการของมนุษยที่มีตอศาสนาของอัลลอฮฺได และสามารถบอกจุดยืนของ อิสลามตอศาสนาอื่นได 4. บอกขอเท็จจริงเกี่ยวกับศาสนาอิสลามและสาระของอิสลามโดยรวมได

1. 2. 3. 4. 5. 6. 7.

จุดประสงคนําทาง อธิบายเหตุผลความตองของมนุษยตอศาสนาของอัลลอฮฺ บอกความหมายของศาสนาได บอกปรัชญาและเหตุผลในความหลากหลายของสาระธรรมและกฎหมายของอัลลอฮฺได ใหรายละเอียดความเขาใจเกี่ยวกับสาระธรรมฉบับสุดทายได บอกหลักฐานที่แสดงใหเห็นวาอิสลามมีความเหมาะสมกับทุกยุคทุกสมัยได บอกหลักฐานที่แสดงใหเห็นวาอัลวะหฺยูของอัลลอฮฺคือแหลงอางอิงสูงสุดของมุสลิมในเรื่อง เกี่ยวกับหลักความเชื่อ นักเรียนแสดงเหตุผลทางสติปญญาที่ชี้ใหเห็นวาศาสนามีความจําเปนตอมนุษยชาติได ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

78

วิชาหลักศรัทธา

8. อธิบายความเขาใจเกี่ยวกับศาสนาอิสลามได 9. บอกรายละเอียดขององคประกอบสองประการ(หลักความเชื่อและกฎหมาย)ที่สําคัญของอิสลาม พรอมความสัมพันธระหวางทั้งสองได 10. บอกความแตกตางระหวาง คําวา อิสลาม กับ ศรัทธา พรอมอางอิงหลักฐานจากอัลกุรอานได 11. บอกหลักการศรัทธาตามลําดับได 12. บอกฮาดิษที่กลาวถึงหลักการศรัทธา และสามารถอานไดถูกตอง 13. ปกปองหลักความเชื่อของอิสลามได 14. บอกจุดเดนและความของหลักความเชื่อของอิสลามได 15. รูจักแสดงความกตัญูตอความโปรดปราณของอัลลอฮฺสม่ําเสมอ ทั้งทางวาจาและบทความ 16. บอกความแตกตางระหวางความเขาใจของอิสลามกับศาสนาอื่น ๆ ได 17. บอกผลดีที่จะไดรับจากการยึดมั่นตออัลกุรอานและผลเสียที่จะไดรับจากการละเลยอัลกุรอานของ มุสลิมได 18. สามารถเรียกรองเชิญชวนคําแนะนํา ใหผูอื่นสนใจการอานหรือรับฟงและทําความเขาใจการอัลกุร อานได สาระที่ตองศึกษาเพิ่มดวยตนเอง 1. ความตองการของมนุษยที่มีตอศาสนาของอัลลอฮฺ 2. ความหมายของศาสนา 3. ความหลากหลายของสาระธรรมและหลักกฎหมายตามสภาพความเปนอยูของมนุษย 4. สาระธรรมฉบับสุดทายของทานนบีมูฮําหมัด  และความสมบูรณที่เหมาะกับทุกยุคทุกสมัย 5. แหลงอางอิงสูงสุดของหลักความเชื่อแหงอิสลาม 6. หลักฐานทางสติปญญาและหลักฐานจากตัวบท(อัลกุรอานและฮาดิษ) 7. ความเขาใจอิสลามและองคประกอบหลักทั้ง 2 ประการ(หลักความเชื่อและกฎหมาย) 8. ความเขาใจเกี่ยวกับอิสลาม ความเขาใจเกี่ยวกับการศรัทธาและความสัมพันธระหวางทั้งสอง 9. องคประกอบของการศรัทธา 10. ความแตกตางระหวางอิสลามกับศาสนาอื่น ๆ หนังสืออางอิง . ‫ ﻟﺴﻴﺪ ﺳﺎﺑﻖ‬، ‫ اﻟﻌﻘﺎﺋﺪ اﻹﺳﻼﻣﻴﺔ‬-1 . ‫ ﻋﻘﻴﺪة اﻟﺘﻮﺣﻴﺪ ﻟﻠﻘﺮﺿﺎوي‬-2 . ‫ ﻋﻠﻰ ﻃﻨﻄﺎوي‬، ‫ ﺗﻌﺮﻳﻒ ﻋﺎم ﺑﺪﻳﻦ اﻹﺳﻼم‬-3 .‫ ﻋﻘﻴﺪة اﻟﻤﺴﻠﻢ ﻟﻠﻐﺰاﻟﻲ‬-4 ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

79

วิชาหลักศรัทธา

ขอเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อใหการจัดการเรียนการสอนวิชาเตาฮีดประสบความสําเร็จตามวัตถุประสงค ครูผูสอนควร คํานึงถึงขอเท็จจริงดังตอไปนี้ 1. หลักความเชื่อไมอาจจะสรางขึ้นไดอยางงาย ๆ เพราะหลักความเชื่อเปนการแสดงออกทาง มโนกรรม(เรือ่ งทางจิตใจ)ที่จะตองใหเกิดการยอมรับทางใจ 2. เพื่อใหเกิดการยอมรับยอมศรัทธาตองผานขั้นตอนดังนี้ 2.1 เริ่มตนดวยการคิดพิเคราะหทําความเขาใจจนพบทางสวาง 2.2 ยืนยันเพิ่มเติมดวยหลักฐานทั้งจากตัวบทและสติปญญาเพื่อใหความคลางแคลงที่มีอยูจางหายไป และเพิ่มความมั่นใจดวยการใชสติปญญาขบคิดเพิ่มเติม 2.3 เพิ่มเติมดวยรองรอย ตัวอยาง เรื่องราว จุดยืน เพื่อใหเกิดความรูสึกหนักแนนในความเชื่อ ฝงลึก เขาสูจิตใจ ความรูสึกนึกคิด เพื่อใหผูเปนเจาของรูสึกตระหนักและสามารถนํามายึดถือเปนหลักความเชื่อได 3. ครูผูสอนจะตองมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของหลักกฎหมาย ประสบการณสมัยใหม และจะตองรูจัก ผูเรียนเปนรายบุคคล จะตองเขาใจวิธีปฏิสัมพันธกับผูเรียน วิธีสรางแรงจูงใจ เพื่อนําความรูที่ใหเขาถึง สติปญญาและจิตใจของพวกเขา ซึ่งอาจจะตองใชลีลาทาทาง น้ําเสียง การแสดงออก ในการสรางความสนใจ จูงใจผูเรียนขณะทําการสอน ใหผูเรียนสนใจประหนึ่งวาพวกเขากําลังรับฟงเสียงเครื่องดีดสีตีเปาของดนตรี ที่สามารถเขาสูจิตใจและความรูสึก ผูสอนจะตองเปรียบประดุจดัง เกษตรกรที่มีความเชี่ยวชาญการเพาะปลูก พืชผลลงสูผืนแผนดิน ซึ่งจะตองใหมีการหยั่งรากลงลึก และปกปองดูแลใหอาหารตลอดเวลา 4. ในการปลูกฝงหลักความเชื่อ ผูสอนจะตองปลูกฝงใหผูเรียนเกิดความรักตออัลลอฮฺ คําวารักในที่นี้ หมายถึงใหมีจิตใจยําเกรงตอพระองค ดวยการสงเสริมสนับสนุน ฝกฝนใหผูเรียนรูจักอัลลอฮฺ วาพระองคคือ ผูทรงสราง คือผูใหปจจัยยังชีพ แนะนําใหรูถึงความโปรดปรานที่อัลลอฮฺทรงประทานให ใหผูเรียนไดเขาใจ ไดวา ความสะดวกสบายทั้งหมดลวนแลวแตมาจากอัลลอฮฺ หากสามารถกระทําสิ่งเหลานี้ได เราก็จะสามารถ ปลูกฝงความรักใหมีเกิดกับผูเรียนตออัลลอฮฺผูทรงสรางไดอยางเปนธรรมชาติ ควรสื่อความเมตตาใหเห็น กอนที่สื่อเรื่องการลงโทษ เพราะจิตใจของมนุษย โดยทั่วไปแลวจะเอนเอียงไปยังสิ่งที่ตนเองพอใจมากวาสิ่ง ที่ตนเองไมพอใจ ทานรอซูลุลลอฮ  ไดกลาวไววา “ จงใหความสะดวก อยาไดสรางความยากลําบาก จง แจงขาวดีๆ อยาไดแจงขาวราย” รายงานโดยบุคอรียและมุสลิม 5. ครูผูสอนควรเปนตัวอยางที่ดีใหกับผูเรียน เพื่อเปนแมแบบในเรื่องของหลักความเชื่อผานอิรยาบท และการปฏิสัมพันธ กริยาทาทางและคุณธรรมจริยธรรม การแสดงออกในลักษณะนี้จะเปนการชวยสราง บรรยากาศความเปนอิสลามใหเกิดขึ้น ซึ่งจะเอื้อตอการปลูกฝงหลักความเชื่อใหเกิดขึ้นกับจิตใจของผูเรียน 6. วิธีการสอนหลักความเชื่อและเรื่องที่จะนํามาสอนจะแตกตางกันไปตามแตละวัยและระดับความรู ของผูเรียน

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา


หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01

80

ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา

วิชาหลักศรัทธา


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.