หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-0-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
หลักสูตรสันติศึกษา
ระดับ ชั้น 01 วิชา อัลกุรอานและตัจวีด
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-1-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
1. มาตรฐานการเรียนรู ผูเรียนมีจรรยามารยาทที่ดีงาม มีความเปนมุสลิมเปนฐานหลัก ไมวางตัวเปนปรปกษกับหลักคําสอนของอิสลาม ระยะเวลาเรียน หนึ่งปการศึกษา (สองภาคเรียน) คุณลักษณะอันพึงประสงค มีความรูความเขาใจในอุดมการณของอิสลามโดยรวมทั้งทางดาน หลักความเชื่อ กฎหมายอิสลาม และคุณธรรมจริยธรรม. วิชา อัลกุรอาน 1 อรรถาธิบายอัลกุรอาน 2. จุดประสงคปลายทาง สรางความผูกพันระหวางคัมภีรของอัลลอฮกับผูเรียนใหเหนียวแนน บนพื้นฐานของ ความเขาใจที่ถูกตอง มีเจตคติที่ดีตอสาระธรรมในคัมภีร ดวยการนําหลักคําสอนของคัมภีรอัลกุ รอานมาสูการปฏิบัติ มีจิตผูกพันกับคําชี้นํา และปฏิบัติตามบัญญัติดวยความเขาใจที่ถูกตองไม ผิดเพี้ยน มีความบริสุทธิ์ใจตอวัตถุประสงคแหงทางนําที่ชี้นําไวในทุกยุคทุกสมัย ในทุกที่ทุกเวลา และยึดเปนที่อางอิง เปนที่คืนกลับทุกครั้งที่มีขอขัดแยงเกิดขึ้น โดยยึดหลักการเรียนรูที่ครบถวน สมบูรณเปนเกณฑ 3. จุดประสงคนําทาง 1.สามารถอธิบายจุดเดนหรือลักษณะพิเศษของภาคนี้ของอัลกุรอานที่มุงเนนนําเสนอเกี่ยวกับ เรื่องของการถือกําเนิดขึ้นมาของมนุษยในตอนแรก และการมีชีวิตอีกโลกหนึ่ง ซึ่งมีการชี้นําไว ผานการอรรถาธิบายภาคนี้ทั้งหมด 2.สามารถบอกความหมายของศัพทยากและความหมายในเชิงลึกที่แตละคําตองการสื่อ 3.สามารถบอกถึงมหาบริสุทธิ์แหงอัลลอฮจากลักษณะที่ไมเหมาะไมควรแกพระองค 4.สามารถบอกถึงเดชานุภาพแหงอัลลอฮในการสรางสรรและสามารถบอกถึงเมตตาธิคุณ แหงพระองคที่มีตอมวลมนุษยได 5.สามารถบอกลักษณะพิเศษหรือจุดเดนของวันกียามะฮฺซึ่งมีทั้งความสุขสบายและความ ยากลําบากเปนสิ่งตอบแทนตามแตการกระทําของแตละคนที่กระทําไว 6.สามารถบอกไดวาอัลลอฮสามารถสาบานดวยการเอยนามของสิ่งที่พระองคทรงสรางขึ้นมา ได แตสําหรับมนุษยไมมีสิทธิ์ที่จะสาบานดวยการเอยชื่อสิ่งเหลานี้ทั้งหมด
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-2-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
7.สามารถบอกบทลงโทษซึ่งเปนวาระสุดทายของพวกผูบอนทําลาย ผานการทําความเขาใจ เรื่องราวของ พวกอาด ซะมูด และฟรเอาน 8.สามารถบอกจุดยืนของการทดสอบซึ่งจะมีทั้งดีและรายและสภาพทาทีของมนุษยที่มีตอ การทดสอบของอัลลอฮได 9.สามารถบอกถึ ง ความโปรดปรานจากอั ล ลอฮที่ มี ต อ มวลมนุ ษ ย และเดชานุ ภ าพแห ง พระองค ที่ มี เ หนื อ พวกเขา และสามารถบอกวิ ธี ก ารแสดงความกตั ญ ู ต อ เมตตาธิ คุ ณ แห ง พระองคผานการเรียนรูซูเราะฮฺ อัลบะลัดได 10. สามารถบอกถึงความไพศาลแหงอัลลอฮและความโปรดปรานแหงพระองคที่มีตอผูที่ทํา การบริจาคในแนวทางแหงพระองค และความกริ้วโกรธของพระองคที่มีตอผูที่ตระหนี่ ผานการ เรียนรูซูเราะฮฺอัลลัยล 11. สามารถบอกถึ ง ความโปรดปรานและคํ า ชี้ นํ า แห ง อั ล ลอฮที่ ท รงมี ต อ ศาสนทู ต แห ง พระองค ผานการเรียนรูจากซูเราะฮฺ อัฎฎฮา 12. สามารถบอกความหมายศัพทยากซึ่งปรากฏอยูในแตละซูเราะฮฺ เชน.. . ﺨﻠﻕ ﺍﻹﻨﺴﺎﻥ ﻓﻲ ﺃﺤﺴﻥ ﺘﻘﻭﻴﻡ.1
. ﺭﺩﻩ ﺍﻟﻰ ﺃﺴﻔل ﺴﺎﻓﻠﻴﻥ.2
. ﻁﻐﻴﺎﻥ ﺍﻹﻨﺴﺎﻥ ﺒﺎﺴﺘﻐﻨﺎﺌﻪ.3 . ﺍﺨﺘﻼﻑ ﺍﻟﻤﺸﺭﻜﻴﻥ ﺒﻌﺩ ﻨﺯﻭل ﺍﻟﺒﻴﻨﺎﺕ.4
13. สามารถบอกความหมายของ “ลัยละตุลกัดรฺ” และสามารถบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน “ลัยละตุลกัดรฺ” เชน มลาอีกะฮฺจะลงมา ,การเพิ่มผลบุญแกผูทําความดีในเวลานั้นใหมากกวาเดิม 14. สามารถบอกสภาพการของวันกียามะฮฺผานการเรียนรูจากภาคนี้ได 15. สามารถบอกไดวาซูเราะฮฺใดเปนซูเราะที่ประทานมาเพื่อสดุดีตอทานรอซูลุลลอฮ 16. สามารถบอกไดวาซูเราะฮฺใดที่เรียกวาเปน 1 ใน 3 ของอัลกุรอานโดยที่สามารถอางอิง หลักฐานจากซุนนะฮฺสนับสนุนอยางชัดเจน 17. สามารถทําความรูจักซูเราะฮฺที่ขับไลไสสงมารรายและกลาวถึงการลมลางมายากล และ ปกปองมนุษยจากการกระซิบกระซาบของมารรายได
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-3-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
(4) จุดประสงคดานจิตพิสัยและทักษะพิสัย 1. มีความมุงมั่นที่จะเรียนรูการอานซูเราะฮฺและทองจําทําความเขาใจใหสอดคลองกับ วัตถุประสงคของซูเราะฮฺ 2. มี ค วามมุงมั่ น ที่ จะระลึ ก ถึง อั ล ลอฮผา นการพิ นิจพิ เ คราะหสิ่ งถูก สร า งและการชี้นํ า ของอัลลอฮที่มีอยู 3. มีความพยายามที่จะฝกหัดอานอัลกุรอานดวยเสียสําเนียงที่ไพเราะถูกตอง 4. มีความมุงมั่นที่จะนําเอาอัลกุรอานมาเปนอีบาดะฮฺอยางสม่ําเสมอ 5. มีความรูสึกวาจะไดรับความชวยเหลือจากอัลลอฮ ในการที่จะประทานชัยชนะมายัง บาวของพระองคผูภักดี และประทานความหายนะแกศัตรูของพระองค 6. มีความพยายามที่จะนําพาตนเองใหสามารถปฏิบัติตนใหถูกตองผานการเรียนรูคําชี้นํา จากซูเราะฮฺตาง ๆ 7. สามารถเรียนรูการสรางสรรคของอัลลอฮผานตัวเองและฟากฟาที่ไกลออกไป 8. มุงมั่นสั่งเสียซึ่งกันและกันในเรื่องของคุณธรรมและความอดทน 9. รักการพัฒนาดวยการรําลึกถึงอัลลอฮและความครบถวนของจักรวาล 10. ตรวจสอบคิดคํานวณสิ่งที่ตนเองประสบขณะทําการเรียกรองสูหนทางของอัลลอฮ 11. ตระหนักถึงความเมตตาแหงอัลลอฮที่มีตอมวลมนุษยผานการแตงตั้งทานนบี 12. มีความบริสุทธิ์ใจตออัลลอฮในทุกการงานที่กระทํา 13. มุงมั่นที่จะเรียนรูการชี้นําจากอายะฮฺอัลกุรอานผานการวิเคราะหวิจัยทางวิชาการ 14. ใหความสนใจตอการที่อัลลอฮทรงประทานความโปรดปรานมายังมวลบาว ดวยการ เคารพภักดีและตอสูในหนทางแหงพระองค 15. มีค วามกระตื อ รื อ ร น หนั ก แน น ต อ การนํ าค านิ ย มแห งองค อ ภิ บ าลไปต อ สู ล บล า ง คานิยมทางวัตถุ 16. มีความมุงมั่นตั้งใจที่จะขอกุลาโทษจากผลบาปหรือความผิดดวยการเตาบะฮฺกลับตัว กลับใจ 17. มุงมั่นที่จะประเมินผลงานและบุคคลดวยตราชูแหงอัลลอฮที่เที่ยงตรง 18. มีความพยายามที่จะตอสูปกปองจากกลุมชนผูศรัทธาที่ออนแอ 19. มีความพยายามที่จะแกไขความเขาใจที่ผิด ๆ ออกไปจากสังคม 20. ตั้งใจที่จะมอบหมายการงานทุกอยางใหกับอัลลอฮและยึดมั่นตอพระองค ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-4-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
21. มีความพรอมที่จะเขาพบอัลลอฮดวยการเพิ่มความยําเกรงตอพระองคใหกับตัวเอง 22. ขอความคุมครองปกปองจากอัลลอฮใหรอดพนจากความชั่วรายของสิ่งถูกสราง มายา กลและความชั่วรายของความริษยา 23. ละเวนหางไกลจากพวกประจบสอพลอ พวกที่ขายอารมณ พวกกลับกลอก และหมั่น ขอความคุมครองจากอัลลอฮ 5. สาระการเรียนรู ก.ทองจําและเรียนรูการอรรถาธิบายซูเราะฮฺอัลอะลา ถึงซูเราะฮฺอันนาส จากตัฟเซร “อัล วาฎิฮฺ” ของทาน ดร.มะฮฺมูด ฮิญาซีย เรียนรูหลักการอานมีมและนูนซากีนะฮฺ จากหนังสือ “ตัยซี รุต ตัจวิด” ของ อาจารย อับดุลวาริษ ซะอีด ในประเด็นดังตอไปนี้ 1.ความจําเปนในการยึดมั่นแนวทางเฉพาะในการอาน (อัลกุรอาน) และยึดมั่นอัลกุรอาน ใหเปนฐานหลักของขอกฎหมายและวิทยาการดานตาง ๆ 2. ความจําเปนที่จะตองทําความเขาใจตัวบทของอัลกุรอานและนําเสนอขอชี้นําโดยสรุป 3. หลักการในการอรรถาธิบายอัลกุรอานและการนํามาใชประโยชน 4. แนวทางซึ่งเปนแบบอยางในการปฏิสัมพันธกับอัลกุรอานเพื่อการนํามาใชประโยชน 5.คุณคาของการทองจําอัลกุรอาน และแนวทางเฉพาะในการทองจํา ข. คําอธิบายรายวิชา ฝกปฏิบัติจริง ดวยการฝกอานดวยวิธีการที่ถูกตองไปพรอม ๆ กับการสังเกต (เปนขั้นเปน ตอนแบบคอยเปนคอยไป) พรอมกับแสดงหลักการอานที่ปรากฏอยูในแตละซูเราะฮฺ) โดยใช วิธีการดังนี้ 1. ศึกษาการอรรถาธิบายซูเราะฮที่กําหนดตามแนวทางเฉพาะในบทนี้ พรอมอรรถาธิบาย รายละเอียดเพิ่มเติมจากผูสอนในตัวบทแตละวรรคแตละตอน (ในบางสวนของซูเราะฮฺหรือจากซู เราะฮฺทั้งหมด) โดยการศึกษาเรียนรู • ชื่อซูเราะฮฺ • สาเหตุการประทานซูเราะฮฺ (หากมี) • เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺหรือมะดะนียะฮฺ • เรื่อง,สาระ,ประเด็น • วัตถุประสงคหรือความมุงหมายของซูเราะฮฺ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-5-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ค. ศึกษาความหมายของอายะฮฺหรือกลุมอายะฮฺที่เกี่ยวของกับเรื่องหรือประเด็นตาม แนวทางดังตอไปนี้ 1. ความหมายของศัพทยาก ศัพทเฉพาะทางและความหมายโดยรวมของอายะฮฺ 2. ศึกษาความสัมพันธหรือความเชื่อมโยงระหวางอายะฮฺ 3. สรุปสาระสําคัญของอายะฮฺ พรอม ๆ กับการระมัดระวังในการตีความใหสอดคลองกับ ประเด็นซึ่งมีอิสลาม ผูคนและการเรียกรองเขามาเกี่ยวของ ซึ่งจะมีตัวบทปรากฏอยูในทุก ๆ ซู เราะฮฺเปนแกนกลาง 4. สรุปขอคิด บทเรียน ขอบัญญัติทางศาสนาที่มีอยูในซูเราะฮฺ 5. เชื่อมโยงประเด็น บทเรียนที่ไดรับและบทบัญญัติทางศาสนาที่มีอยูในแตละซูเราะฮฺเขา ดวยกันวามีความสัมพันธกันอยางไร 6.เรี ย นรูความหมายทางภาษา(เบื้องต น )ที่เกี่ ยวกั บ วิ ชาวาทศิ ล ป ศาสตร เพื่ อเชื่ อ มโยง บทเรียนเขากับตัวบทของอัลกุรอานโดยตรง เพื่อพินิจพิเคราะหความหมายของอัลกุรอานให ครบถวนในทุก ๆ ดาน 7. ทําความเขาใจ เรียนรู(โดยไมเนนในรายละเอียด) เกี่ยวกับความมหัศจรรยของอัลกุร อานที่เกี่ยวของกับวิทยาการดานตางๆ ที่ปรากฏอยูในตัวบทของซูเราะฮฺ
•
• • • • • •
ง. จุดเนนที่ควรแกการสรุปจากซูเราะฮฺเพื่อเนนย้ําขณะศึกษาทําความเขาใจ ประเด็นหลัก ๆ ที่เกี่ยวกับหลักการศรัทธา (เชน การศรัทธาตออัลลอฮ ตอศาสนทูต , สาระธรรมของศาสนทูต, มลาอีกะฮฺ ,คัมภีรของอัลลอฮ,วันกียามะฮฺและผลที่จะเกิดขึ้นใน การดําเนินชีวิต) หลักฐานยืนยันการเปนผูทรงสรางของอัลลอฮ จากสิ่งที่พระองคทรงตักเตือนไวใน จักรวาล พระนามแหงอัลลอฮอันไพจิตที่ไดรับจากอัลกุรอานและจากสติปญญา แบบอยางที่ดีของเหลาศาสนทูต(ทั้งนบีและรอซูล) พิธีกรรมทางศาสนาสัญลักษณความรับผิดชอบตอหนาอัลลอฮอยางครบถวน วิทยาศาสตร ความสําคัญของวิทยาการ ความถูกตองและบทบาทหนาที่ของวิทยาการแต ละแขนง การทําความดี ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-6-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
• การตอสูกับฝายอธรรม • ความรับผิดชอบของมนุษยที่มีตอความสุขและความทุกขที่จะไดรับในโลกนี้และโลก หนา • อันตราย ความยากลําบากที่จะไดรับในโลกหากไมมีทางนําจากอัลลอฮ • ภัยที่จะไดรับจากการทําบาป • อุดมการณของมารราย
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-7-
ซูเราะฮฺ อัลอะอฺลา เปนบท “มักกียะฮฺ” มีทั้งหมด 19 อายะฮฺ สาระสวนใหญเปนเรื่องเกี่ยวกับการกลาวสดุดี ตออัลลอฮและสรรเสริญตอพระองค จากนั้นก็เปนการกําชับใหเตือนซึ่งกันและกัน และการ ชี้แจงใหเขาใจวา แทจริงแลวชัยชนะหรือความสําเร็จนั้นยอมประสบแดผูที่ชําระตนเองจากการ ทําบาปและการชําระตนเองใหหลุดพนจากการหลงเรื่องทางโลก ÉΟŠÏm§9$# Ç≈uΗ÷q§9$# «!$# ÉΟó¡Î0 4tçöpRùQ$# ylt÷zr& ü“Ï%©!$#uρ ∩⊂∪ 3“y‰yγsù u‘£‰s% “Ï%©!$#uρ ∩⊄∪ 3“§θ|¡sù t,n=y{ “Ï%©!$# ∩⊇∪ ’n?ôãF{$# y7În/u‘ zΟó™$# ËxÎm7y™ 4’s∀÷‚tƒ $tΒuρ tôγyfø9$# ÞΟn=÷ètƒ …絯ΡÎ) 4 ª!$# u!$x© $tΒ ωÎ) ∩∉∪ #|¤Ψs? Ÿξsù šèÎø)ãΖy™ ∩∈∪ 3“uθômr& ¹!$sWäî …ã&s#yèy∨sù ∩⊆∪ ’s+ô©F{$# $pκâ:¨ΖyftGtƒuρ tx.sŒuρ
∩⊇⊃∪ 4y´øƒs† tΒ ã©.¤‹u‹y™
∩⊇⊆∪ 4’ª1t“s? tΒ yxn=øùr& ô‰s%
’Å∀s9 #x‹≈yδ ¨βÎ)
∩∪ 3“tø.Ïe%!$# ÏMyèx¯Ρ βÎ) öÏj.x‹sù
∩⊇⊂∪ 4zøts† Ÿωuρ $pκÏù ßNθßϑtƒ Ÿω §ΝèO
∩⊇∠∪ #’s+ö/r&uρ ×öyz äοtÅzFψ$#uρ
∩∇∪ 3“uô£ãù=Ï9 x8çÅc£uŠçΡuρ
∩∠∪
∩⊇⊄∪ 3“uö9ä3ø9$# u‘$¨Ζ9$# ’n?óÁtƒ “Ï%©!$#
∩⊇⊇∪
∩⊇∉∪ $u‹÷Ρ‘‰9$# nο4θuŠysø9$# tβρãÏO÷σè? ö≅t/
∩⊇∈∪ 4’©?|Ásù ϵÎn/u‘ zΟó™$#
∩⊇∪ 4y›θãΒuρ tΛÏδ≡tö/Î) É#çtྠ∩⊇∇∪ 4’n<ρW{$# É#ßsÁ9$#
ความหมาย ดวยพระนามแหงอัลลอฮผูท รงยิ่งในความเมตตาผูทรงยิ่งในความกรุณา (1) (โอมุฮํามัด) เจงจงสดุดีพระบพิตรธิคุณแหงองคอภิบาลของเจา ผูทรงสูงสง (2) พระผูทรง บันดาล แลวทรงทําใหสมดุล (3) และพระผูทรงกําหนด แลวทรงชี้นํา (4) และผูทรงบันดาลใหทุงหญางอก เงยเปนอาหารของสัตว (5) แลวทรงบันดาลมัน (หญาที่เคยเขียวขจีใหกลายเปนหญาแหงประดุจดัง) ขยะใน ฟองน้ํา ซึ่งมีสีดําคล้ํา (6) เราจะใหเจาอาน (อัลกุรอานจนจดจําขึ้นใจ) แลวเจาก็ไมลืม (อีกตลอดไป) (7) นอกจากสิ่งที่อัลเลาะฮฺ ทรงประสงค (ใหเจาลืม) แทจริงพระองคทรงรอบรูสิ่งที่เปดเผยและสิ่งที่ซอนเรน (8) และเราจักใหสัมฤทธิผลแกเจา เพื่อความงายดาย (ในการงานทั้งหลาย) (9) ดังนั้นเจาจงตักเตือนเถิด เพราะ แทจริงการตักเตือนยอมยังประโยชน (อันอเนกอนันต) (10) ผูที่เกรงกลัว (อัลเลาะฮฺ) จะไดมีความสํานึก (11) และผูที่อับโชค จะหางไกลตอมัน (คําเตือนนั้น) (12) (เขาเปน) ผูซึ่งจะตองเขานรกอันยิ่งใหญ (13) หลังจาก นั้นเขาก็ไมตาย และไมเปนในนั้น (14) แนแทผูชําระมลทินตนเอง ยอมประสบความสมหวัง (15) และเขาได กลาวรําลึกถึงพระนามแหงองคอภิบาลของเขา แลวเขาก็ทําละหมาด (16) ทวา พวกเขาเห็นชีวิตทางโลกนี้ สําคัญกวา (17) ทั้งๆ ที่ (ความเปนจริง) โลกหนานั้นประเสริฐกวาและจีรังกวา (18) แทจริงสิ่งนี้ มีปรากฏใน บรรดาคัมภีรบรรพกาล (19) นั่นคือ คัมภีรของอิบรอฮีม และของมูซา
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-8-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
คําอธิบายศัพท ( )ﺳﺒﺢการกลาวสดุดี ในพระบริสุทธิ์คุณแหงอัลลอฮจากคุณลักษณะที่ไมเหมาะสมตอพระองค ( )ﻓﺴﻮﱠﻯทําใหสมดุลในหลักการและความสวยงาม (َ )ﻗ ﱠﺪﺭกําหนดใหสรรพสิ่งเปนไปในปริมาณที่เหมาะสม
( )ﻓﻬﺪﻯทรงชี้ นํ า สิ่ ง ต า ง ๆ ไปในทิ ศ ทางที่ เ หมาะสม ( ) ﻏﹸﺜﺎ ًﺀขยะในฟองน้ํ า ( )ﺃﺣﻮﻯมี สี ค อ นข า งดํ า ( )ﻭﻧﻴﺴﺮﻙ ﻟﻠﻴﺴﺮﻯเราจะใหผลสัมฤทธิ์ไปในทางที่ดีแกเจา ( ) ﻓﺬﻛﱢﺮเจาจงเตือนดวยการนําสาระธรรมไป เผยแพรยังพวกเขา ( )ﳜﺸﻰจะไดมีความสํานึกกลัวตอองคอภิบาลของเขา ( )ﺍﻷﺷﻘﻰผูอับโชคซึ่งหมายถึงผู ปฏิ เสธศรั ทธา ( )ﺗﺰ ﹼﻛّﻰการชํ า ระมลทินตนเอง ( )ﻓﺼﻠﻰการทํา ละหมาดแสดงความนอบน อมถ อ มตน ตออัลลอฮ ( )ﺗﺆﺛﺮﻭﻥใหความสํ าคัญกวา ( )ﺍﻟﺼﺤﻒ ﺍﻷﻭﱃบรรดาคั มภีรในสมั ยบรรพกาลที่ไดรับการ ประทานลงมากอนอัลกุรอาน
อรรถาธิบายซูเราะฮฺ
เจาจงกลาวสดุดีตอพระบพิตรธิคุณในพระนามแหงองคอภิบาลของเจา วาพระองคทรง บริสุทธิ์จากความบกพรองทั้งปวง พระองคทรงบริสุทธิ์จากคุณลักษณะที่ไมเหมาะสม บริสุทธิ์ จากความคลายคลึงกับสิ่งถูกสรางทั้งหมด พระองคไมเคยยึดเอาสิ่งใดมาเปนภาคีรวมกับพระองค ไม มี สิ่ ง ใดที่ จ ะเที ย บเคี ย งเสมอเหมื อ นพระองค พระองค จ ะเป น ที่ รู จั ก ด ว ยคุ ณ ลั ก ษณะแห ง พระองคทั้งหมด สําหรับมหาบริสุทธิ์แหงพระองค พระองคทรงสูงสงกวาความเขาใจใด ๆทั้งหมด มวล มนุษยจะรูจักพระองควา พระองคคือผูทรงรอบรู ผูทรงเดชานุภาพ ทรงมีเจตนา ทรงเอกะ ทรง เปนที่พึ่งพา ทรงบริสุทธิ์จากความบกพรองทั้งมวล พระองคทรงสูงสงเกินกวาที่จะพึ่งพาบรรดา ภาคี ภริยาหรือบุตร ทรงเกรียงไกร ทรงบริสุทธิ์ในพระนามแหงพระองค และพระนามแหง พระองคเหลานี้ (หมายถึงคุณลักษณะที่เปนที่รูจัก) คือคุณลักษณะที่บงบอกใหรูวาพระองคทรง สูงสงและเกรียงไกรเปนยิ่งนัก และพระองคเองคือผูใหคุณลักษณะวาพระองคทรงเกรียงไกรและ ทรงเกียรติ์ และพระองคคือผูที่ทรงบัญญัติมายังพวกเราใหกลาวสดุดีสรรเสริญในบริสุทธิ์คุณ แหงพระองค เพราะพระองคคือผูทรงสรางสรรพสิ่ง และทรงใหเกิดความสมดุล ทรงจัดวาง ระบบต า งๆ ของสรรพสิ่ ง ไว อ ย า งเหมาะสม ด ว ยระบบการควบคุ ม ที่ ล งตั ว ไม มี ก ารลั ก ลั่ น สั่นคลอนเกิดขึ้นในระบบ แมกระทั่งระบบจักรวาลอันใหญโต หรือเชื้อโรคซึ่งเปนแบคทีเรียเล็ก ๆ ทุกสิ่งทุกอยางมีระบบควบคุมที่สมบูรณแบบสวยงามและมีความวิจิตบรรจงแนนอนเปนไป ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-9-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ตามกําหนดทั้งหมด พระองคคือผูกําหนดสภาพแวดลอมใหเกิดความเหมาะสมกับทุกสรรพสิ่ง และทรงชี้ นํา ไปในทางที่จ ะกอ เกิด ประโยชน ส ามารถดํ า รงอยู ไ ด ทรงชี้ นํ า ไปในแนวทางที่ เหมาะสมกับสภาพ และทรงใหสิ่งเหลานี้ดํารงอยูตามดวยสภาพที่เหมาะสมกับธรรมชาติและ ความตองการของมัน พระองคคือผู ทรงบันดาลใหทุ งหญ างอกเงย ใหพืชผลบั งเกิ ดขึ้ น ซึ่ งพื ช ผลเหล านี้จะ กลายเปนอาหารสําหรับคนและสัตว หลังจากที่พระองคทรงใหพืชหญางอกเงยเขียวขจีขึ้นมาแลว ก็ทรงใหมันแหงเหี่ยวเฉาและจนเกือบกลายเปนสีดีในที่สุด นั่นก็เพื่อเปนอาหารแกสัตวตอไป ซึ่ง สิ่งเหลานี้เปนสัญญาณยืนยันวา หลังจากมีชีวิตขึ้นมาแลวก็จะตองพบกับความตาย และพระองค คือผูทรงยิ่งในความเมตตาตอมวลมนุษยทั้งหมด ดวยการประทานอัลกุรอานมายังทานนบี และทรงสัญญาวาจะทรงใหอานอัลกุรอานจนจดจําขึ้นใจ และจะไมใหทานลืมมันอีกตอไป อัลลอฮทรงตรัสไววา ﺇﻥ ﻋﻠﻴﻨﺎ ﲨﻌﻪ ﻭﻗﺮﺁﻧﻪ นอกเสียจากวาพระองคจะทรงประสงคจะใหลืม อัลกุรอานทั้งหมดมาจากพระองคและมันก็จะตองกลับคืนสูพระองค ทุกอยางจะตองนอบนอม ตอบัญชาแหงพระองค พระองคเปนผูที่ทรงรูทั้งสิ่งที่เรนลับและเปดเผย ไมมีสิ่งใดที่สามารถ ปกปดจากพระองคได พระองคทรงใหความสัมฤทธิผลแกเจาดวยการประทานความสัมฤทธิ์ผล ในการงานโดยไมมีสิ่งใดยากลําบากแกเจาเลย ในเมื่อทุกอยางเปนไปดังที่กลาวมา จึงจําเปนที่จะตองกลาวสดุดีตอพระบริสุทธิ์คุณแหง พระองคจากความบกพรองทุกประการ เพราะพระองคคือผูทรงสรางสรรพสิ่งและทรงทําใหทุก สิ่งมีความสมดุล ทรงกําหนดใหทุกสิ่งเปนไปอยางเหมาะสม ทรงชี้นําไปสูธรรมชาติและความ ตอ งการของมั น พระองค ท รงประทานพื ช ผลและหญ าที่ เ ขี ย วขจี แ ละจากนั้ น ก็ จ ะแห ง เหี่ ย ว พระองคทรงประทานอัลกุรอานมาเพื่อเปนทางนําใหกับมวลมนุษย อัลลอฮทรงสัญญาวาจะให สามารถทองจําไดและประทานหลักกฎหมายที่งายตอการปฏิบัติ และเมื่อเปนเชนนั้น โอมูฮํา หมัด เจาจงตักเตือนมวลมนุษยดวยอัลกุรอานเถิด และทานพึงรูดวยวา แทจริงแลวมนุษยมีอยู 2 กลุม กลุมที่หนึ่งเขาจะไดรับประโยชนจากการตักเตือน กลุมที่สองจะไมไดรับประโยชนจากการ ตักเตือนเลย ผูที่มีความสํานึกเกรงกลัวตออัลลอฮ มีความศรัทธามั่นตอสิ่งเรนลับจะไดรับการ ตักเตือนจากอัลกุรอาน แตผูที่อับโชคที่หัวใจของเขาปดสนิทไมมีความศรัทธาตออัลลอฮ ไม ศรัทธาตอสิ่งเรนลับใจเขาจะหางไกลตอคําตักเตือนออกไป และเขาก็จะเปนผูซึ่งจะตองเขานรกที่ มีไฟที่ลุกโชน ไฟนรกในวันกียามะฮฺจะเปนไฟที่ยิ่งใหญ สวนไฟที่เห็นอยูในโลกนี้จะรอนสัก เพียงใดก็ยังเปนแคไฟเล็ก ๆ นอย ๆ เทานั้น และเมื่อถึงวันที่พวกเขาสูนรก พวกเขาก็จะไดรับ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-10-
โทษอยางหนักหนวงโดยที่ไมมีวันตายและไมมีวันพบกับความสุขอีกตอไป สิ่งเหลานี้ไมใชเรื่องที่นาประหลาดใจแตอยางใดวา แทจริงแลวผูที่ชําระมนทิลตนเองจาก ความสกปรกของสิ่งชั่วราย จากการนมัสการตออารมณและรูปเจว็ดยอมประสบกับความสมหวัง อัลลอฮทรงตรัสไววา Çtã öΝèδ tÏ%©!$#uρ
∩⊄∪ tβθãèϱ≈yz öΝÍκÍEŸξ|¹ ’Îû öΝèδ tÏ%©!$#
∩⊇∪ tβθãΖÏΒ÷σßϑø9$# yxn=øùr& ô‰s% ∩⊂∪ šχθàÊÌ÷èãΒ Èθøó¯=9$#
บรรดาศรัทธาชน ยอมประสบชัยชนะอยางแนนอนพวกเขาเปนผูที่มีความนอบนอมในการทํา ละหมาดของพวกเขาพวกเขาเปนผูที่หันเหออกจากสิ่งที่ไรสาระ (ทั้งคําพูดและการกระทํา)
ผูที่ชําระมลทินใหกับตนเองใหปราศจากความสกปรกของความชั่วราย ยอมประสบความ สมหวัง ผูนั้นจะรําลึกถึงองคอภิบาลของเขาดวยการละหมาดอยางนอบนอมถอมตน และเมื่อ ระลึกถึงองคอภิบาลจิตใจของพวกเขาก็จะสั่นสะทานอีกทั้งน้ําตาก็จะเออนองเพราะความยําเกรง ตออัลลอฮ และเขาประพฤติปฏิบัติแตสิ่งดี ๆ มีประโยชน แตสําหรับผูที่เห็นชีวิตทางโลกนี้สําคัญ กวาโลกหนา ซึ่งเปนการชี้ใหเห็นถึงตนสายปลายเหตุของการทําความชั่ว สาเหตุของการทรยศ ตออัลลอฮและการปฏิเสธศรัทธาของพวกกาเฟร ซึ่งสาเหตุหลักก็มาจากการเห็นชีวิตทางโลกนี้ สําคัญกวาโลกหนา เห็นสิ่งทางโลกซึ่งตองพินาศดีกวา การรักกับสิ่งทางโลกคือปจจัยหลักของ ความผิดทุกประเภท คําวารักตอสิ่งทางโลกหมายถึง ยอมสยบยอมจํานนยอมนมัสการบูชาตอมัน ทั้ง ๆ ที่โลกหนานั้นประเสริฐและจีรังกวาอย างไมตองสงสัย แตสิ่งที่ไดกระทําไปในโลกนี้ ทั้งหมดมิไดยังประโยชนใด ๆ แกเจาเลยนอกจากสิ่งที่เปนการกระทําที่ดีที่ไดกระทําไวเทานั้น อย า ได เ ข า ใจไปเลยว า มู ฮํ า หมั ด นั้ น ได นํ า มาซึ่ ง สาระธรรมใหม เพราะแท จ ริ ง แล ว ข อ บั ญ ญั ติ ต า งๆ ของมู ฮํ า หมั ด นั้ น มี ป รากฏในคั ม ภี ร ส มั ย บรรพกาลมาแล ว นั่ น คื อ คั ม ภี ร ของอิบรอมฮีมและคัมภีรของมูซา เพราะสาระธรรมทั้งหมดลวนแลวแตสอดคลองกับสาระ ธรรมที่ผานมาโดยเฉพาะเรื่องของการศรัทธาในเอกานุภาพแหงอัลลอฮ การสดุดีแดพระองค และการฟนคืนชีพและการยอมรับตอบรรดาศาสนทูตแหงอัลลอฮทั้งหมด
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-11-
ซูเราะฮฺอัลฆอซียะฮฺ ซูเราะฮฺ อัลฆอชียะฮฺ เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 26 อายะฮฺ เปนการกลาวถึงวันกียา มะฮฺที่ครอบคลุม และไดชี้แจงไววาในวันกียามะฮฺผูคนจะแบงออกเปน 2 กลุม กลุมหนึ่งจะเขา พํานักอยูในสรวงสวรรค อีกกลุมหนึ่งจะเขาพํานักอยูในนรก จากนั้นก็จะเปนการจูงใจใหพินิจ พิเคราะหรองรอยบางอยาง จากนั้นก็จะกลับมากลาวถึงทานนบีและย้ําเตือนทานเกี่ยวกับหนาที่ จากนั้นก็แจงใหทราบวาในที่สุดทุกคนก็จะคืนกลับไปสูอัลลอฮ ÉΟŠÏm§9$# Ç≈uΗ÷q§9$# «!$# ÉΟó¡Î0 #·‘$tΡ 4’n?óÁs?
∩⊂∪ ×πt6Ϲ$¯Ρ ×'s#ÏΒ%tæ
∩⊄∪ îπyèϱ≈yz >‹Í×tΒöθtƒ ×νθã_ãρ
∩⊇∪ Ïπu‹Ï±≈tóø9$# ß]ƒÏ‰ym y79s?r& ö≅yδ
8íθã_ ÏΒ Í_øóムŸωuρ ßÏϑó¡ç„ ω ∩∉∪ 8ìƒÎŸÑ ÏΒ ωÎ) îΠ$yèsÛ öΝçλm; }§øŠ©9 ∩∈∪ 7πu‹ÏΡ#u A÷tã ôÏΒ 4’s+ó¡è@ ∩⊆∪ Zπu‹ÏΒ%tn $pκÏù
∩⊇⊇∪ Zπu‹Éó≈s9 $pκÏù ßìyϑó¡n@ ω
îπrOθèVö7tΒ ’Î1#u‘y—uρ
∩⊇∈∪ ×πsùθàóÁtΒ ä−Í‘$oÿsςuρ
y#ø‹x. ÉΑ$t6Ågø:$# ’n<Î)uρ
∩∪ ×πu‹ÅÊ#u‘ $pκÈ÷è|¡Ïj9
∩⊇⊆∪ ×πtãθàÊöθ¨Β Ò>#uθø.r&uρ
∩⊇∇∪ ôMyèÏùâ‘ y#ø‹Ÿ2 Ï!$uΚ¡¡9$# ’n<Î)uρ
@ÏÜøŠ|ÁßϑÎ/ ΟÎγø‹n=tæ |Mó¡©9 $uΖøŠn=tã ¨βÎ) §ΝèO
∩⊇⊃∪ 7πu‹Ï9%tæ >π¨Ζy_ ’Îû
∩⊇⊂∪ ×πtãθèùö¨Β Ö‘çß $pκÏù
∩⊄⊃∪ ôMysÏÜß™ y#ø‹x. ÇÚö‘F{$# ’n<Î)uρ
∩⊄⊆∪ uy9ø.F{$# z>#x‹yèø9$# ª!$# çµç/Éj‹yèã‹sù
∩∠∪
∩⊇⊄∪ ×πtƒÍ‘%y` ×÷tã
∩⊇∠∪ ôMs)Î=äz y#ø‹Ÿ2 È≅Î/M}$# ’n<Î) tβρãÝàΨtƒ Ÿξsùr&
∩⊄⊇∪ ÖÅe2x‹ãΒ |MΡr& !$yϑ¯ΡÎ) öÏj.x‹sù
∩⊄∈∪ öΝåκu5$tƒÎ) !$uΖø‹s9Î) ¨βÎ)
∩∇∪ ×πuΗ¿å$¯Ρ 7‹Í×tΒöθtƒ ×νθã_ãρ
∩⊇∉∪
∩⊇∪ ôMt6ÅÁçΡ
∩⊄⊂∪ txx.uρ 4’¯<uθs? tΒ ωÎ)
∩⊄⊄∪
∩⊄∉∪ Νåκu5$|¡Ïm
ความหมาย ขาวคราวเกี่ยวกับ (วันกิยามะฮฺ อันเปนภาวะ ) ที่ครอบคลุมไปทั่ว ไดมาถึงเจาแลวมิใชหรือ? (1)ใน วันนั้น มีหลายใบหนาที่มีแตความอัปยศ (2) เปนใบหนาทีท่ ํางานหนัก (ลากโซตรวนอยูในนรก) อีกทั้ง ประสบกับความเหน็ดเหนื่อย (3) พวกเขาเขา (ไปรับโทษอันมหันตอยู) ในนรก อันรอนแรง (4) พวกเขาถูกให ดื่มน้ําจากตาน้ําอันรอนจัด (5) พวกเขาไมมีอาหารอื่นใด นอกจากตนหนามอันแหลมคม (6) มันไมทาํ ให อวน และไมทาํ ใหหายหิว (7) ในวันนั้น มีอีกหลายใบหนาทีม่ ีความสงางาม (8) พวกเขามีความพึงใจใน (ผลตอบแทนจาก) ความพากเพียร (ในอดีต) ของพวกเขา (9) ในสวรรคอันสูงสง (10) ในนัน้ พวกเขาจะ ไมไดยินสิ่งไรสาระใด ๆ ทัง้ สิ้น(11)ในนั้นมีตาน้าํ อันไหลริน(12) ในนัน้ มีบรรดาเตียงที่ถกู ยกขึ้นสูง(13) และมี ถวย (สําหรับดื่มน้ํา) ที่ถูกวางไว (14) และมีหมอนที่ถูกเรียงเปนแถวไว(15)และมีพรหมทีถ่ ูกแยกปูไว (ในที่ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-12-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ตาง ๆ) (16)พวกเขาไมพนิ จิ พิเคราะหอูฐดอกหรือวามันถูกสรางมาอยางไร ? (17) และ (ไมพินจิ พิเคราะห) ฟาดอกหรือวามันถูกยกไวสงู อยางไร ? (18) และ (ไมพนิ ิจพิเคราะห) ภูเขาตาง ๆ ดอกหรือวามันถูกตั้งไวสงู อยางไร ? (19) และ (ไมพินิจพิเคราะห) แผนดินดอกหรือวามันถูกแผลาดไวอยางไร? (20) ดังนั้น เจาจง ตักเตือนเถิด อันที่จริงเจานัน้ เปนเพียงผูม ีหนาที่ตักเตือน (เทานั้น) (21)แตเจาไมใชผูที่จะบังคับเหนือพวก เขา (ใหรับศรัทธา) (22)ยกเวนผูทหี่ ันหลังให และเนรคุณเทานัน้ (ที่ไมยอมรับศรัทธาในคําเตือนของจา) (23)แลวอัลเลาะฮฺ จะลงโทษอันมหันตแกเขา (24) แทจริงยังเราเทานัน้ การกลับคืนของพวกเขา(25) หลังจากนั้นก็เปนหนาที่ของเราที่จะทําการสอบสวนพวกเขา (26) คําอธิบายศัพท ( )ﺍﻟﻐﺎﺷﻴﺔวันกียามะฮฺที่มีภาวการณลงโทษปกคลุมมนุษยอยางถวนทั่ว ( )ﺧﺎﺷﻌﺔความอัปยศหดหู ( )ﺗﺼﻠﻰ ﻧﺎﺭﺍเขาสูไฟนรกที่รอนแรง ( )ﺁﻧﻴﺔความรอนที่รุนแรง ( )ﺿﺮﻳﻊตนหนามอันแหลมคม ( )ﻻﻏﻴﺔไรประโยชน ( )ﻋﲔ ﺟﺎﺭﻳﺔตาน้ําที่ไหลรินไมขาดสาย ( )ﺳﺮﺭเตียงนอน ( )ﺍﻛﻮﺍﺏถว ย สําหรับดื่มน้ํา ( )ﳕﺎﺭﻕหมอนอิง ( )ﻭﺯﺭﺍﰊพรมสําหรับปูพื้นหลากสีสวยงาม ( )ﲟﺼﻴﻄﺮผูบังคับบรรชา ( )ﺇﻳﺎﻬﺑﻢที่คืนกลับของพวกเขา อรรถาธิบายซูเราะฮฺ ทานไดเคยไดยินขาวคราวเกี่ยวกับวันกียามะฮฺซึ่งมีภาวะครอบคลุมอยางทั่วถึงแลวมิใชหรือ ? วันนั้น เปนวันที่การลงโทษไดครอบคลุมมนุษยอยางถวนทั่ว เปนวันที่มีการแยกมวลมนุษยออกเปนสองกลุมใหญ ๆ กลุมหนึ่งจะไดรับโทษอยางอัปยศ ซึ่งจะมองเห็นความอัปยศหดหูจากใบหนาของพวกเขาไดอยางชัดเจน ซึ่ง ในโลกดุลยาที่ผานมาพวกเขาไดพยายามทํางานอยางหนัก แตก็ไมสามารถที่จะนําอะไรไปพรอมกับพวกเขา ได อัลลอฮทรงตรัสไววา ∩⊄⊂∪ #·‘θèWΨ¨Β [!$t6yδ çµ≈oΨù=yèyfsù 9≅yϑtã ôÏΒ (#θè=Ïϑtã $tΒ 4’n<Î) !$uΖøΒωs%uρ
และเราไดมุงสู (การพิจารณา) การงานที่พวกเขาไดประพฤติไว แลวเราก็บันดาลมันให (ไรผล ประดุจดัง) ฝุนที่ปลิววอน (ในอากาศ) ในวันนั้นและที่นั่น (นรก) เปนที่ที่สุดแสนจะทรมารดวยความรอนซึ่งเปนผลมาจากการกระทําที่ได กระทําไป วันนั้นเมื่อพวกเขารูสึกกระหาย ก็จะไดรับการบริการดวยเครื่องดื่มที่รอนระอุ จนทําใหไสพุงทะลุ ทะลวงออกมา ครั้นเมื่อพวกเขารูสึกหิว ก็จะมีการนําเอาอาหารที่ทํามาจากตนไมหนามอันแหลมคมมาให รับประทาน อาหารประเภทนี้ไมไดทําใหเกิดเนื้อเกิดหนังแตอยางใด ไมสามารถทําใหหายหิวและไมมี ประโยชนอันใดเลย
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-13-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
และลักษณะสภาพเหลานี้ทั้งหมดคือสภาพที่พอจะสื่อออกมาใหเขาใจไดถึงของการลงโทษในวันกี ยามะฮฺ (ขอใหอัลลอฮจงปกปองพวกเราใหรอดพนจากความเลวรายของวันกียามะฮฺดวย) แตสภาพที่แทจริง นั้นเปนสิ่งที่เกินกวาสติปญญาจะเขาถึงได ในวันนั้นมีแตเปลวไฟที่เตรียมไวสําหรับลงโทษบรรดาผูปฏิเสธ เปนเปลวไฟทีม่ ีมนุษยและกอนหินเปนเชื้อเพลิง สวนคนกลุมที่สอง พวกเขาเปนชาวสวรรค ซึ่งใบหนาของพวกเขาในวันนั้นจะมีแตความสงางาม จนสามารถมองเห็นไดอยางเดนชัดเชนกัน การที่พวกเขาไดรับการตอบแทนเชนนี้ก็เพราะการกระทําของ พวกเขาที่ไดเพียรพยายามไวเมื่อครั้งอยูที่โลกดุลยา พวกเขาจึงเปยมไปดวยความสุขซึ่งเปนผลมาจากการ กระทําของพวกเขา และการทําหนาที่ที่ไดรับมอบหมายมา สิ่งที่พวกเขาไดรับคือสรวงสวรรคอันสูงสง และ สรวงสวรรค จะไมไดมีเสียงที่ไรสาระ ไมมีสิ่งที่เปนบาป แตจะไดยินเฉพาะสิ่งที่ไพเราะเพราะพริ้งนาฟง มี แตสิ่งที่จะทําใหมีแตรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่บงบอกถึงความสุข ไมมีใบหนาที่บึ้งตึงปรากฏอยูเลย ลองพินิจพิเคราะหถึงคุณลักษณะของชาวสวรรคซึ่งมีแตความสุขสําราญ มีแตความพึงพอใจตอการ กระทําที่พวกเขาไดกระทํามาในอดีตเมื่อครั้งที่ยังอยูในโลกดุลยา พวกเขาทุกคนเขามาพํานักอยูในสวรรคอัน สูงสง และในนั้นพวกเขาจะไมไดยินสิ่งที่ไรสาระ อยางเชนที่พวกคนร่ํารวยและพวกสุรุยสุรายเขากระทํากัน แตในสรวงสวรรค จะเต็มไปดวยสิ่งอํานวยสุข อยางเชนตาน้ําที่ไหลรินไมขาดสาย ในสรวงสวรรคมีการตั้ง เตียงไวใหสําหรับนั่งเอนกายและสําหรับนอน มีการเตรียมถวยสําหรับบริการเครื่องดื่ม มีการนําหมอนมาวาง ไวสําหรับเอนหลังนอนพักผอน มีพรมที่แยกปูไวอยางสวยงาม ซึ่งความจริงแลวสิ่งเหลานี้ทั้งหมดลวน แลวแตเปนสิ่งที่ทําใหดูจําเริญตา ซึ่งพวกเขาก็จะพํานักอยูในสรวงสวรรคอยางถาวรเปนนิจนิรันดร สิ่งเหลานี้ทั้งหมดไมใชเรื่องที่นาประหลาดใจอะไรนัก แต เจาทั้งหลายไมไดสังเกตไปยังตัวอูฐดอก หรือวามันถูกสรางสรรคมาอยางไร ? แทจริงแลวมันถูกสรางมาดวยรูปรางที่สงางามยิ่ง ซึ่งสามารถบงบอกได วาผูทรงสรางนั้นเปนผูที่ทรงรอบรูและทรงมองเห็นไดเปนอยางดี เจาไมสังเกตดูที่คอของมันอันยืดยาวดอก หรือ ? เจาไมไดสังเกตที่ความกระฉับกระเฉงวองไวของมันดอกหรือ ดูสิวามันเดินเหิรคลื่อนไหวอยางไรเมื่อ มันตองเดินทองไปในทะเลทราย ลองสังเกตที่ทองของมันสิวามีการเตรียมไวอยางไร จึงสามารถเก็บน้ําไวได นานหลายวัน แลวเจาไมไดพินิจพิเคราะหทองฟา(และดวงดาวตาง ๆ ) ดอกหรือวามันถูกยกขึ้นไปอยางไร มันถูกยกขึ้นไปใหอยูในอากาศไดอยางไร มันโคจรดวยความเร็วไดอยางไร มันมีแรงดึงดูดซึ่งกันและกันได อยางไร ไมสังเกตถึงภูเขาเลากาเหลานั้นดอกหรือวามันถูกตั้งไวอยางไร ดูเหมือนวาจะเปนการประกาศและ ชี้นําวาเปนที่หลบที่พึงพิงของผูที่มีความกลัว ทานทั้งหลายไมไดสังเกตผืนแผนดินดอกหรือวามันถูกปูใหดู ราบใหแผลาดออกไปอยางไร มันถูกทําใหพรอมสําหรับการดํารงชีวิตไดอยางไร ทั้งอูฐ ฟา ภูเขา และผืน แผนดิน ลวนแลวแตเปนสิ่งที่อยูในระดับเดียวกัน เปนสิ่งที่สําคัญที่สุดที่อัลกุรอานไดสื่อมายังชาวอาหรับ เพราะสิ่งเหลานี้เปนสิ่งที่คุนเคยสําหรับพวกเขา สิ่งเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตเปนการบงชี้ใหเห็นถึงเดชานุ ภาพแหงอัลลอฮผูทรงสรางสรรคพสิ่งทั้งหมด และเมื่อขอเท็จจริงเปนเชนนั้น โอมูฮําหมัด เจาจงเตือนมวลมนุษยทั้งหลายเถิด และจงนําพาพวกเขา ใหรูจักพินิจพิเคราะหถึงอํานาจอันยิ่งใหญแหงอัลลอฮ เพื่อพวกเขาจะไดคิดและเขาใจ เจาอยาไดบังคับพวก ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-14-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เขาเพราะแทจริงเจาเปนเพียงผูเตือนเทานั้น เจาไมใชผูที่จะมาบังคับจิตใจของพวกเขา แตผูที่มีอํานาจเหนือ จิตใจของพวกเขาก็คืออัลลอฮแตเพียงพระองคเดียว พระองคคือผูที่จะคอยกําหนดหรือนําพาพวกเขาไปสูการ ศรัทธา ผูที่มีอํานาจไมใชเจา (นบีมูฮําหมัด) เจาจงใหคําตักเตือนแดทุกคน ยกเวนผูที่หันหลังใหและเนรคุณ เทานั้น อัลลอฮจะทรงจัดการกับพวกนี้ดวยพระองคเอง ซึ่งก็หมายความวา เจาไมตองไปบีบบังคับพวกเขาแต อยางใด ผูที่คัดคานและหันหลังให อัลลอฮจะทรงลงโทษพวกเขาดวยบทลงโทษที่แสนสาหัส เพราะอยางไร เสียพวกเขาเหลานี้ก็จะกลับคืนไปสูอัลลอฮ และพระองคก็จะทรงสอบสวนพวกเขาเอง
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-15-
ซูเราะฮฺ อัลฟจรฺ ซูเราะฮฺ อัลฟจรฺ เปนซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มีทั้งหมด 30 อายะฮฺ ÉΟŠÏm§9$# Ç≈uΗ÷q§9$# «!$# ÉΟó¡Î0
’Îû ö≅yδ ÉL©9$#
∩⊆∪ Îô£o„ #sŒÎ) È≅ø‹©9$#uρ ∩∠∪ ÏŠ$yϑÏèø9$# ÏN#sŒ tΠu‘Î)
“ÏŒ tβöθtãöÏùuρ
∩⊂∪ Ìø?uθø9$#uρ Æìø¤±9$#uρ
∩⊄∪ 9ô³tã @Α$u‹s9uρ
∩∉∪ >Š$yèÎ/ y7•/u‘ Ÿ≅yèsù y#ø‹x. ts? öΝs9r&
∩∪ ÏŠ#uθø9$$Î/ t÷‚¢Á9$# (#θç/%y` tÏ%©!$# yŠθßϑrOuρ
y7•/u‘ óΟÎγøŠn=tæ ¡=|Ásù
∩⊇⊄∪ yŠ$|¡xø9$# $pκÏù (#ρãsVø.r'sù
∩⊇∪ Ìôfxø9$#uρ
∩∈∪ @øgÉo “Ï%Îk! ×Λ|s% y7Ï9≡sŒ
∩∇∪ ω≈n=Î6ø9$# ’Îû $yγè=÷WÏΒ ÷,n=øƒä† öΝs9
∩⊇⊇∪ ω≈n=Î6ø9$# ’Îû (#öθtósÛ tÏ%©!$#
∩⊇⊃∪ ÏŠ$s?÷ρF{$#
∩⊇⊆∪ ÏŠ$|¹öÏϑø9$$Î7s9 y7−/u‘ ¨βÎ) ∩⊇⊂∪ A>#x‹tã xÞöθy™
ความหมาย ขอยืนยันกับรุงอรุณ (1) รัตติกาลทั้งสิบ (ของตนเดือนซิลฮิจยะฮฺ) (2) และสิ่งคู และสิ่งคี่ (3) และ กลางคืน เมื่อมันผานไป (4) ใน (การยืนยันถึง) สิ่งนั้นๆ เปนการยืนยันเพื่อผูมีปญญา (ไดสนใจและใตรตรอง) มิใชหรือ? (5) เจามิไดพิจารณาดอกหรือ อัลเลาะฮฺทรงกระทํากับพวกอาด (ในอดีต) อยางไร? (6) เขาคือ อิ รอม ผูอาศัยกระโจมเปนที่อยู (7 ) ซึ่งยังไมมีการสรางเยี่ยงกระโจมนั้นในเมืองอื่นๆ (8) และ (อัลเลาะฮฺ ทํา อยางไรกับ) พวกสะมูด ซึ่งสกัดหินที่หุบเขา (9 ) และ (อัลเลาะฮฺ ทําอยางไรกับ) ฟรเอานผูมีอํานาจ (ประกอบดวยอาณาจักร และกองทัพอันมหึมา)(10) บรรดาผูทําการลวงละเมิดในเมืองตางๆ (11)โดยพวกเขา บอนทําลายอยางมากมายในเมืองนั้นๆ (12) ดังนั้นองคอภิบาลของเจาจึงทรงกระหน่ําแซแหงการลงโทษ ลง บนพวกเขา (13) แทจริงองคอภิบาลของเจานั้น ยอมทรงเฝาสอดสอง (ความประพฤติของทุกๆ คน เพื่อทํา การตอบแทน) (14) คําอธิบายศัพท ( )ﻭﺍﻟﻔﺠﺮเวลารุงอรุณ เวลาที่แสงสวางออกมาจากความมืด ( )ﻭﻟﻴﺎﻝ ﻋﺸﺮสิบคืนแรกของทุกเดือน
( )ﻭﺍﻟﺸﻔﻊ ﻭﺍﻟﻮﺗﺮคืนคู และคืนคี่ ( )ﻳﺴﺮมาและผานไป ( )ﺣﺠﺮสติปญญา ( )ﻋﺎﺩชื่อเผาอาหรับเผาหนึ่งซึ่ง เปนประชาติของนบีฮูด อาศัยอยูทางตอนใตของคาสมุทรอาหรับ ( )ﺇﺭﻡชื่ออิรอมที่พักอาศัยอยูตามกระโจม ซึ่งบงบอกถึงความมีฐานะและความเรียบงาย ( )ﲦﻮﺩเชื่อเผา เผาหนึ่งเรียกวา ซะมูด เปนชาวเบดุอิน อาศัย อยูที่เมืองฮิยาซ และวางซีเรียกับฮิยาซก็เปนถิ่นพํานักของนบีซอลิฮฺ ( )ﺟﺎﺑُﻮﺍพวกเขาสกัดและแกะสลักหินให เปนบานเปนรูปทรง ( )ﻓﺮﻋﻮﻥฟาโร กษัตริยปกครองอียิปต ( )ﺫﻱ ﺍﻷﻭﺗﺎﺩผูมีอํานาจ ซึ่งประกอบดวย อาณาจักรและกองทัพ ( )ﻃﻐَﻮﺍละเมิดขอบเขต (ﺐ ﺼ ﱠ َـ َ )ﻓกระหน่ําตี ( )ﺳﻮﻁ ﻋﺬﺍﺏแสหงการลงโทษอยาง ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-16-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ตอเนื่อง ( )ﻟﺒﺎﳌﺮﺻﺎﺩสถานที่ที่ใชควบคุมสอดสองดูแลพฤติกรรมวาเปนพฤติกรรมดีหรือราย คลายกับยาม รักษาการ อรรถาธิบายซูเราะฮฺ อัลลอฮทรงสาบานยืนยันตามสิทธิ์ของพระองคดวยเวลารุงอรุณ ซึ่งมีแสงสวางทอแสงออกมาจาก ความมืด เวลาซึ่งเปนการเริ่มตนของยามเชากอนที่เวลากลางวันจะแตกออกมา จากนั้นผูคน สัตวตาง ๆ ฝูงนก ฝูงกาก็จะกระจัดกระจายกันออกไปแสวงหาอาหาร ปจจัยยังชีพและความโปรดปรานจากอัลลอฮ จากนั้น พระองค ก็ ท รงสาบานกั บ ค่ํ า คื น ทั้ ง สิ บ ของทุ ก เดื อ น ซึ่ ง เป น ค่ํ า คื น ที่ ยั ง มื ด สนิ ท เพราะยั ง เป น ต น เดื อ นที่ พระจันทรยังไมสวางมากนัก จนกระทั่งเมื่อเวลาผานไปแสงสวางของดวงจันทรก็คอย ๆ แยกเอามานแหง ความมืดที่ปดบังโลกอยูออกไป จากนั้นพระองคก็ทรงสาบานยืนยันกับเวลากลางคืนที่ความมืดปกคลุม ปกปดโลกทั้งโลกจนกลางวันหดหายไป จากนั้นแสงสีแดงก็จะแตกออกมาจากฟากฟา การที่พระองคทรง สาบานกับสิ่งเหลานี้ทั้งหมด ก็เพื่อที่จะใหทุกคนหันมาใสใจในความวิจิตพิสดารของจักรวาล เพื่อพินิจ พิเคราะหรองรอยแหงเดชานุภาพแหงอัลลอฮ เพื่อพวกเขาจะไดเขาใจ,การที่พระองคทรงสาบานยืนยันเพือ่ ให บรรดาผูปฏิเสธทั้งหลายเกิดการยอมรับวาพวกเขาทั้งหมดลวนแลวแตอยูในภายใตการควบคุมดูแลของผูทรง อํานาจและทรงเดชานุภาพ และพระองคจะทรงลงโทษพวกเขาดวยโทษที่แสนสาหัส ดังที่พระองคไดทรง ลงโทษประชาชาติสมัยเกากอนพวกเจามาแลว และวาระสุดทายของพวกเขาก็คือความขาดทุน และนี่คือ เรื่องราวของพวกเขาที่ทรงนํามากลาวถึงไวโดยรวม ....เจาไมไดพิจารณาดอกหรือวาอัลลอฮไดทรงกระทํากับ พวกอาดอยางไร หลังจากที่พระองคไดทรงสงทานนบีฮูด มายังพวกเขา แตพวกเขากลับกลาวหาวาทาน นบี ฮูดนั้นเปนเท็จ พวกเขาปฏิเสธศรัทธาตออัลลอฮ อัลลอฮทรงเลาเรื่องราวของพวกเขา วามีการเรียกขานกันวา อิรอม ซึ่งพวกเขาเหลานี้พักอาศัยอยูในกระโจม สรางที่พักมาจากขนสัตว แตพวกเขาสรางเปนกระโจม มีฝา ผนังที่แข็งแรงซึ่งคนเหลานี้เปนพวกที่แข็งแรงไมมีใครเสมอเหมือนมากอน อัลลอฮไดทรงกลาวถึงเรื่องราว ของพวกอาด พวกซะมูดและฟรเอาน(ฟาโร) ไวอยางละเอียดดวยรูปแบบที่หลากหลายอยางเชนในซูเราะฮฺ อัลฮาคและอีกหลาย ๆ ซูเราะฮฺในอัลกุรอาน สวนพวกซะมูด พวกเขาแกะสลักกอนหินจากภูเขาใหเปนบานที่อยูอาศัย พวกเขามีความชํานาญและ ประนี ต เกี่ ย วกั บ เรื่ อ งนี้ พวกเขาสามารถที่ จ ะตั ด ก อ นหิ น ก อ นใหญ ๆ และนํ า มาแกะสลั ก เพื่ อ สร า งเป น บานเรือนที่อยูอาศัยของพวกเขา ซึ่งสิ่ง7เหลานี้เปนการบงชี้ใหเห็นถึงความแข็งแรงและมีความคิดที่กวางไกล สวนฟรเอานฺ(ฟาโร) ทานรูหรือไมวาฟรฺเอานฺนั้นเปนใคร ? เขาคือเจาผูครองอียิปตในสมัยโบราณ ผูมีประวัติ เลื่องลือยาวนาน และเขาคือผูที่กลาวกับพลพรรคของเขาวา “ฉันคือองคอภิบาลผูสูงสงของพวกเจา” และพล พรรคของเขาตางมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการสรางอาคาร ซึ่งพวกเขาไดเคยสรางประมิดอันยิ่งใหญ และได ทําการสรางรูปปนประดับประดาไวเปนทิวแถว อัลลอฮไดทรงกลาวถึงพวกเขาไววา “เปนผูมีอํานาจทั้ง อาณาจักรและกองกําลัง” ซึ่งอํานาจการปกครองของเขาประกฎใหเห็นบนผืนแผนดิน อยางเชนเมื่อเรา มองดูประมิดก็จะพบวามันมีลักษณะคลายกับภูเขาลูกใหญ ๆ ที่ถูกทําใหพลิกค่ําลง แตพวกเขาเหลานี้ทั้งหมด ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-17-
ลวนแลวแตเปนผูลวงละเมิดทั้งหมด พวกเขาละเมิดขอบเขตกฎกติกาของบานเมือง พวกเขาไดสรางความ เสื่อมเสียใหเกิดขึ้นแกสังคมมากมาย และอัลลอฮไดทรงลงโทษแกพวกเขาดวยการลงโทษทันทีในโลกนี้ เหมือนเปนการลงแซทฟี่ าดกระหน่าํ ลงบนพวกเขาครัง้ แลวครัง้ เลา ซึง่ อัลลอฮไดทรงตรัสไววา “ ﻓﺼﺐ ﻋﻠﻴﻬﻢ ”ﺭﺑﻚ ﺳﻮﻁ ﻋﺬﺍﺏซึ่งเปนการสื่อความหมายออกมาอยางละเอี ยด สิ่ งที่อัลลอฮทรงลงโทษพวกเขามัน เปรียบเสมือนเปนการประทานความหายนะทุกประเภท ทรงลงโทษดวยรูปแบบที่หลากหลาย เปนการลงแซ แหงการลงโทษที่รุนแรง และแทจริงแลวอัลลอฮจะทรงลงโทษไปตามพฤติกรรมและการกระทําของพวกเขา แทจริงองคอภิบาลของเจานั้นยอมทรงสอดสองดูแล เพื่อที่จะตอบแทนแกพวกเขาในสิ่งที่พวกเขากระทํา แต ละคนจะไมสามารถรอดพนไปจากการลงโทษของอัลลอฮไดแมแตสักคนเดียว และจะไมมีใครทั้งในฟากฟา และในแผนดินที่จะมาหักหามทัดทานการลงโทษของอัลลอฮได ฉะนั้นมุสลิมทุกทานควรจะมั่นใจเถิดวา ใน อนาคตทุกคนจะตองไดรับการตอบแทนกันอยางถวนทั่ว และสําหรับพวกมุชริกีน พวกเขาพึงสังวรเถอะวา พวกเขาเหลานั้น (ประชาชาติที่ผานมาในอดีต) แข็งแรงและเขมแข็งกวาพวกทานเปนไหน ๆ
ตอนที่ 2 !$¨Βr&uρ
∩⊇∈∪ ÇtΒtø.r& ú†În1u‘ ãΑθà)uŠsù …çµyϑ¨ètΡuρ …çµtΒtø.r'sù …絚/u‘ çµ9n=tGö/$# $tΒ #sŒÎ) ß≈|¡ΡM}$# $¨Βr'sù
∩⊇∠∪ zΟ‹ÏKu‹ø9$# tβθãΒÌõ3è? ω ≅t/ ( ξx.
∩⊇∉∪ ÇoΨ≈yδr& þ’În1u‘ ãΑθà)uŠsù …çµs%ø—Í‘ ϵø‹n=tã u‘y‰s)sù çµ9n=tGö/$# $tΒ #sŒÎ)
∩⊇∪ $tϑ©9 Wξò2r& y^#u—I9$# šχθè=à2ù's?uρ y7•/u‘ u!%y`uρ
∩⊇∇∪ ÈÅ3ó¡Ïϑø9$# ÏΘ$yèsÛ 4’n?tã šχθ‘Ò¯≈ptrB Ÿωuρ
∩⊄⊇∪ %y.yŠ %y.yŠ Ù⇓ö‘F{$# ÏM©.ߊ #sŒÎ) Hξx.
∩⊄⊃∪ $tϑy_ ${7ãm tΑ$yϑø9$# šχθ™7ÏtéBuρ
ã&s! 4’¯Τr&uρ ß≈|¡ΡM}$# ã2x‹tGtƒ 7‹Í×tΒöθtƒ 4 zΟ¨Ψyγpg¿2 ¥‹Í×tΒöθtƒ uü“(%É`uρ ∩⊄∈∪ Ó‰tnr& ÿ…çµt/#x‹tã Ü>Éj‹yèムω 7‹Í×tΒöθu‹sù ZπuŠÅÊ#u‘ Å7În/u‘ 4’n<Î) ûÉëÅ_ö‘$#
∩⊄⊄∪ $y|¹ $y|¹ à7n=yϑø9$#uρ
∩⊄⊆∪ ’ÎA$u‹ptÎ: àMøΒ£‰s% Í_tGøŠn=≈tƒ ãΑθà)tƒ
∩⊄∠∪ èπ¨ΖÍ×yϑôÜßϑø9$# ߧø¨Ζ9$# $pκçJ−ƒr'¯≈tƒ
∩⊄⊂∪ 2”tø.Ïe%!$#
∩⊄∉∪ Ó‰tnr& ÿ…çµs%$rOuρ ß,ÏOθムŸωuρ
∩⊂⊃∪ ÉL¨Ζy_ ’Í?ä{÷Š$#uρ ∩⊄∪ “ω≈t6Ïã ’Îû ’Í?ä{÷Š$$sù ∩⊄∇∪ Zπ¨ŠÅÊó£∆
ความหมาย ฝายมนุษย เมื่อองคอภิบาลของเขาไดทดสอบเขา โดยทรงยกยองแกเขา (ใหมีเกียรติยศในสังคม) และประทานความสุขแกเขา เขาก็จะกลาววา “องคอภิบาลของฉันไดยกยองฉันแลว” (15)และสวนเมื่อ พระองคไดทรงทดสอบเขา โดยจํากัดโชคผลแกเขา เขาก็จะกลาววาองคอภิบาลของฉันไดหยามฉันแลว(16) หามิได หากทวา พวกเจาไมยกยองเด็กกําพรา(17) และพวกเจาไมกําชับกันในการใหอาหารแกคนอนาถา (18) และพวกเจากินมรดกของผูหญิงและเด็กอยางนาประนาม (โดยฉวยโอกาสกีดกันสิทธิของทั้งสองพวก ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-18-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เพราะคนทั้งสองออนแอกวา) (19) และพวกเจารักทรัพยสินกันอยางมากมาย (20) หามิได เมื่อแผนดินถูกบด ใหราบครั้งแลวครั้งเลา (จนแปรสภาพเปนฝุน) (21) และองคอภิบาลของเจาก็มาพรอมดวยมลาอิกะฮฺ เปน แถวแถว (22) และในวันนั้นนรกยะฮันนัมจะถูกนํามาในวันนั้นแหละที่มนุษยืจะไดมีจิตสํานึกแตวา การสํานัก นั้นจะเกิดผลแกเขาไดอยางไร? (23) เขา (ผูเนรคุณ) จะกลาววา “โอ ฉันนาจะไดประกอบ (คุณงามความดี) ลวงหนาไวเพื่อชีวิตของฉัน”(24) ดังนั้นในวันนั้น ไมมีผูใดที่จะลงโทษ (ผูกระทําผิด) เทียบเทียมพระองคได (25) และไมมีผูใดทําการผูกมัด (และลามโซตรวนแกผูทําผิด) เทียบเทียมพระองคได (26) โอชีวิตอันสงบ บริสุทธิ์ (27) เจาจงคืนกลับสูองคอภิบาลของเจาโดยความยินดี อีกทั้งไดรับความยินดี (จากอัลเลาะฮฺ) (28) แลวเจาจงเขามาในกลุมขาทาสของขาเถิด (29) และเจาจงเขาสูสวรรคของขา (30) คําอธิบายศัพท ( )ﺍﺑﺘﻼﻩทําการทดสอบ ( )ﻭﻧﻌﻤﻪประทานความสุขแกเขา ( )ﻭﻻﲢﺎﺿﻮﻥไมกําชับซึ่งกันและกันใน
การใหอาหารแกคนยากไร ( )ﺍﻟﺘﺮﺍﺙมรดก ( )ﳌﱠﺎอยางรุนแรง ( ) َﺟﻤّـﹰﺎมากมายกายกอง ()ﺩﻛـﺖ ﺍﻷﺭﺽ แผนดินถูกบดใหเปนฝุน ( )ﻭﻻﻳﻮﺛﻖผูกมัดและลามโซไวอยางเหนียวแนน ( )ﺍﳌﻄﻤﺌﻨﺔสงบมั่นอยูกับสัจธรรม โดยไมลักลั่นสั่นคลอน อรรถาธิบายซูเราะฮฺ นี่คือทาทีขององคอภิบาลที่มีตอบรรดาสิ่งถูกสราง หากตองการรูจักมนุษย ก็จะพบวา เมื่ออัลลอฮทํา การทดสอบพวกเขาดวยการยกยองและประทานสิ่งดี ๆ ใหในโลกนี้ เขาก็จะถูกหลอกลวงดวยสิ่งนั้น แลวก็ จะกลาววาอัลลอฮทรงยกยองตัวฉัน และผูใดที่อัลลอฮทรงยกยองในโลกนี้แลว เขาก็จะไมถูกลงโทษในวัน โลกหนา ไมวาเขาจะปฏิบัติตนดีหรือราย แตเมื่อเขาถูกทดสอบดวยความยากลําบากหรือความอับโชค เขาก็ จะกลาววาองคอภิบาลของฉันไดหยามฉันแลว โดยเขาใจวาคนใดที่อัลลอฮทรงใหพบกับความยากลําบาก พระองคไ มสนใจพวกเขา ไมสนใจตอการกระทําของพวกเขา ก็จะพบว าพวกเขาก็จะหันไปกระทํ าแต ความผิด ไปอยูกับพวกที่ชอบกระทําผิด ความจริงแลวความร่ํารวยและความยากจนนั้นเปนการทดสอบที่ไม อาจจะหลีกเลี่ยงไดเลยแมแตนอย อัลลอฮไมไดทรงทดสอบมวลมนุษยโดยใชความร่ํารวยมาทดสอบเพื่อเปน การแสดงวาพระองคทรงใหเกียรติ์ ดังจะเห็นไดจากการที่บรรดาผูประเสริฐทั้งหลายทั้งปวงลวนแลวแตเปน คนยากจน ไมใชคนร่ําคนรวย แตสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ทั้งหมดเปนเพียงหลักฐานที่จะยืนยันวาเปนอยางนั้น อยางนี้ แตในสมัยกอนชาวอาหรับมักจะเขาใจในทางที่ผิดวา พวกเขาทั้งหมดลวนแลวแตเปนที่พอพระทัย ของอัลลอฮ โดยเขาใจวาพวกเขาอยูกับศาสนาของบรรพบุรุษคือทานนบีอิบรอฮีม อัลลอฮก็ทรงตอบโตพวก เขาดวยการชี้แจงวา พวกเขาไมมีอะไรเปนแกนสารที่แนนอน พวกเขาไมไดใหเกียรติ์ตอเด็กกําพรา มิหนําซ้ํา ยังยึดเอาทรัพยสินของเด็กกําพรามาเปนของตนเองอยางไมชอบธรรม พวกเขาไมไดปฏิบัติดีตอเด็กกําพรา เลย ไมไดกําชับซึ่งกันและกันในการที่จะใหอาหารแกคนยากจนอนาถา แตพวกเขากลับเปนกลุมคนที่มีแต ความยะโส โอหัง โออวด ไมมีความเปนมนุษยธรรม พวกเขากินมรดกของผูหญิงอยางนาประณาม มีความ รักในทรัพยสินอยางมากมาย หลักฐานเหลานี้ลวนแลวแตบงชี้ใหเห็นวาพวกเขาถูกหลอกลวงดวยทรัพยสิน ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-19-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ทางโลกนี้ ในวันโลกหนาพวกเขาจะไมมีอะไรที่เปนที่จะสรางความพอพระทัยแกอัลลอฮ ไมมีอะไรที่จะทํา ใหบรรดาศาสนทูตแหงอัลลอฮพอใจติดตัวพวกเขาไปเลย แนนอนที่สุดขอยืนยันสักรอยครั้งพันครั้งวา ใครก็ ตามที่มีลักษณะดังกลาว เมื่อแผนดินถูกบดใหกลายสภาพเปนฝุน เมื่อถึงเวลาที่วันกียามะฮฺมาถึง องคอภิบาล ของเจาก็จะมา (และพระองคเทานั้นที่จะทรงรูวาวิธีการมาของพระองคจะมาดวยรูปแบบใด แตเราก็เชื่อวา พระองคจะมาพรอมกับมลาอีกะฮฺเปนแถว ๆ โดยมายืนลอมรอบมนุษยไวทั้งหมด โดยเฉพาะอยางยิ่งบรรดา เฟรทั้งหลาย ในวันนั้นจะมีการนํามาซึ่งนรกยะฮันนัม ซึ่งอัลลอฮทรงตรัสไววา “”ﻭﺑﺮﺯﺕ ﺍﳉﺤﻴﻢ ﳌﻦ ﻳﺮﻯ ในวันนั้นมนุษยจะไดสํานึกวาตนเองกระทําผิด ตนเองไมมีอะไรติดตัวมา การที่พวกเขากลาวหาวาเปนเท็จ และทรยศตออัลลอฮ แตการที่เขาสํานึกในวันนั้นจะยังประโยชนอะไรใหกับใครหรือไม เปลาเลยเขาไมได รั บ ประโยชน อ ะไรจากการสํ า นึก เลย ผูที่ ท รยศตอ อั ล ลอฮในวัน โลกนี้ ไ ด ก ล า วออกมาว า โอ ฉั น น า จะ ประกอบคุณงามความดีลวงหนาไว เพื่อชีวิตของฉันในวันที่ตองมีชีวิตอยูอยางถาวร เหมือนกับวาชีวิตจะตอง อยูที่นี่เทานั้น อัลลอฮทรงตรัสไววา (Al-'Ankabut 064)
šχθßϑn=ôètƒ (#θçΡ$Ÿ2 öθs9 4 ãβ#uθu‹ptø:$# }‘Îγs9 nοtÅzFψ$# u‘#¤$!$# “χÎ)uρ
และแทจริงโลกหนายอมจีรังที่สุด หากพวกเขารู ในวันนั้นไมมีผูใดที่จะลงโทษ(ผูกระทําความผิด)เทียบเทียมองคอภิบาลของเจาไดเลยแมแตสักคน เดียว แตในวันนั้นพระองคคือผูทรงสิทธิ์ครอบครอง การลงโทษแตเพียงพระองคเดียว ไมมีผูใดที่จะมามี หุนสวน และไมมีผูใดสามารถที่จะทําการผูกมัดหรือลามโซตรวนแกผูกระทําผิดจากบรรดาสิ่งถูกสรางของ พระองค เพราะในวันนั้นการงานทั้งหมดเปนสิทธิ์ของพระองค และนี่คือทาทีของมนุษยที่นิยมวัตถุ และนี่คือ ผลตอบแทนและวาระสุดทายของพวกเขาในวันกียามะฮฺ สวนผูคนที่มีชีวิตที่สะอาดบริสุทธสะอาดปราศจากวัตถุนิยม วาระสุดทายของพวกเขาในวันกียามะฮฺ จะมีแตความผาสุก ชีวิตอันบริสุทธิ์ ที่มีความเชื่อมั่นตออัลลอฮและหวังเสมอวาจะไดพบกับพระองคและมี ความเชื่อมั่นตอรัศมีแหงสัจธรรมโดยไมรูสึกลักลั่นสั่นคลอนแตอยางใดเขาจะกลับคืนสูอัลลอฮ พระองค ตรัสตอพวกเขาวา “โอชีวิตอันบริสุทธิ์ เจาจงกลับคืนสูองคอภิบาลของเจา และจงเขาพบและรับความโปรด ปรานแหงพระองค จงกลับคืนสูองคอภิบาลของเจาดวยความยินดีกับการกระทําของเจาที่ไดกระทําไวในโลก ดุลยา ทุกคนที่อยูพรอมกับเจาจะรูสึกยินดีกับการกระทําของเจาทั้งหมด และอัลลอฮก็ทรงยินดีกับการกระทํา ของเจาดวยเชนกัน และนั่นคือชัยชนะอันยิ่งใหญ โอชีวิตอันสงบบริสุทธิ์เจาจงเขาสูจํานวนบาวของขาผู ประพฤติดีผูใกลชิดกับพระองค เพราะทานทั้งหลายประพฤติปฏิบัติตามพฤติกรรมของผูประพฤติดี ฉะนั้น เจาจงเขาสูสรวงสวรรคของขาเถิด และการกลับคืนสูอัลลอฮนั้นเปรียบเสมือนเปนการยกยองใหเกียรติ์ ของอัลลอฮที่มีตอบาวของพระองค พึงสังวร อัลลอฮนั้นจะอยูพรอมพวกเราเสมอไมวาเราจะอยูที่แหงหน ตําบลใด
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-20-
ซูเราะฮฺ อัลบะลัด ซูเราะฮฺ อัลบะลัด เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทงั้ หมด 20 อายะฮฺ สาระในซูเราะฮฺ อัลลอฮไดทรงยืนยันวา แทจริงแลวมนุษยนั้นอยูก ับความยากแคนลําเค็ญ คนที่ตกเปนเหยื่อของการถูกหลอก เขาเขาใจวาไมมีผูใดจะ มามีอํานาจเหนือเขาได แมแตสักคนเดียว จากนั้นก็จะเปนการชี้แจงเกีย่ วกับความโปรดปรานแหงอัลลอฮ บางสวนที่พระองคทรงประทานใหกับมนุษย จากนั้นก็เปนการเรียกรองใหพวกเขาเลือกแนวทางแหงการ บากบั่น และมีการชี้แจงเกี่ยวกับชาวขวาและชาวซายวาพวกเขาคือใครและเปนอยางไร ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
ô‰s)s9
∩⊂∪ t$s!uρ $tΒuρ 7$Î!#uρuρ
Zω$tΒ àMõ3n=÷δr& ãΑθà)tƒ É÷tGxx©uρ $ZΡ$|¡Ï9uρ ’7sù
∩⊄∪ Ï$s#t7ø9$# #x‹≈pκÍ5 B≅Ïn |MΡr&uρ
∩∈∪ Ó‰tnr& ϵø‹n=tã u‘ωø)tƒ ©9 βr& Ü=|¡øts†r& ∩∇∪ È÷uΖøŠtã …ã&©! ≅yèøgwΥ óΟs9r&
∩⊇⊄∪ èπt7s)yèø9$# $tΒ y71u‘÷Šr& !$tΒuρ
7πt/uøItΒ #sŒ $YΖŠÅ3ó¡ÏΒ ÷ρr& Ü=≈ptõ¾r& y7Íׯ≈s9'ρé&
∩⊇∪ Ï$s#t7ø9$# #x‹≈pκÍ5 ãΝÅ¡ø%é& Iω
∩∠∪ î‰tnr& ÿ…çνttƒ öΝ©9 βr& Ü=|¡øts†r&
∩⊇⊇∪ sπt7s)yèø9$# zΝystFø%$# Ÿξsù
∩⊇∈∪ >πt/tø)tΒ #sŒ $VϑŠÏKtƒ
∩⊆∪ >‰t6x. ’Îû z≈|¡ΣM}$# $uΖø)n=yz ∩∉∪ #´‰t7—9
∩⊇⊃∪ Èøy‰ô∨¨Ζ9$# çµ≈oΨ÷ƒy‰yδuρ
∩⊇⊆∪ 7πt7tóó¡tΒ “ÏŒ 5Θöθtƒ ’Îû ÒΟ≈yèôÛÎ) ÷ρr&
∩∪
∩⊇⊂∪ >πt6s%u‘
∩⊇∠∪ ÏπuΗxqöuΚø9$$Î/ (#öθ|¹#uθs?uρ Îö9¢Á9$$Î/ (#öθ|¹#uθs?uρ (#θãΖtΒ#u tÏ%©!$# zÏΒ tβ%x. ¢ΟèO
∩⊇∉∪
∩⊄⊃∪ 8οy‰|¹÷σ•Β Ö‘$tΡ öΝÍκön=tã ∩⊇∪ Ïπyϑt↔ô±yϑø9$# Ü=≈ysô¹r& öΝèδ $uΖÏG≈tƒ$t↔Î/ (#ρãxx. tÏ%©!$#uρ ∩⊇∇∪ ÏπuΖyϑø‹pRùQ$#
ความหมาย ขาขอยืนยันกับเมือง (มักกะฮฺ)นี้ (1) ในขณะที่เจาเปนผูอาศัยอยู ณ เมืองนี้ (2) ขอยืนยันกับสิ่งที่ให กําเนิด และสิ่งที่ถือกําเนิดมา(3) ขอยืนยันแทจริงเราไดบันดาลมนุษยมาในสภาพอันยากแคนลําเค็ญยิง่ ( 4) เขา คิดหรือวา ไมมีใครสักคนที่สามารถปกครองเขาได?( 5) เขากลาววา “ฉันไดลางผลาญทรัพยสินเปนจํานวน มากแลว(6) เขาคิดวา ไมมีผูใดเห็นเขาหรือ? ( 7) เรามิไดสรางดวงตาไวแกเขาดอกหรือ?( 8) และลิ้น พรอม กับริมฝปากทั้งสองดาน (ลาง-บน)(9) และเราไดชี้นําเขา (ใหเขาใจแจงใน) แนวทางทั้งสอง (ทั้งดีและชั่ว)(10) แทจริงเขามิได (เลือกแนวทางที่ดี) บุกบั่น (กระทําความดีอันเปรียบดัง) ชองทางอันยากลําบาก(11) และอัน ใดเลาที่ทําใหเจารูวา อะไรคือ “ชองทางอันยากลําบาก”? (12) (ทางที่ทําไดยากลําบากนั้น) คือ การปลดปลอย ทาสเปนอิสระ(13) หรือการใหอาหาร ในวันที่ (ผูคน) มีความอดอยาก( 14) แกเด็กกําพราที่มีฐานะเปนเครือ ญาติ ( 15) หรือแกคนอนาถาที่ (ยากไรจนมีชีวิตคลุก) อยูกับดิน (16) หลังจากนั้นเขาก็ตองเปนสวนหนึ่งจาก บรรดาผูมีศรัทธา และสนับสนุนกันในเรื่องความรักสมัครสมาน ( 17) ซึ่งพวกเหลานั้น (ชาวศรัทธา) เปนชาว
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-21-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ขวา( 18) และบรรดาผูคัดคานบรรดาโองการตางๆ ของเรา พวกเขาเปนชาวซาย(19) ซึ่งพวกเขาถูกลงโทษใน นรกที่ถูกปดสนิท( 20)
คําอธิบายศัพท ( )ﻛﺒﺪยากแคน ลําเค็ญ มีอุปสรรค ( )ﻟﺒﺪมากมาย ( )ﻭﻫﺪﻳﻨﺎﻩเราไดชี้นํา ชี้แจง ()ﺍﻟﻨﺠﺪﻳﻦ สองแนวทาง ชั่วและดี ( )ﺍﻗﺘﺤﻢจูโจม,บุกเขาดวยความยากลําบาก ( )ﺍﻟﻌﻘﺒﺔชองทางอัน ยากลําบาก ( )ﻓﻚ ﺭﻗﺒﺔการปลอยทาสใหเปนอิสระ( )ﺫﻱ ﻣﺴﻐﺒﺔผูที่อดอยาก ( )ﻣﻘﺮﺑﺔเครือญาติ ( )ﻣﺘﺮﺑﺔอยูกับดิน,มือติดดิน ( )ﺑﺎﳌﺮﲪﺔความรักสมัครสมาน ( )ﻣﺆﺻﺪﺓนรกที่ถูกปดสนิท การอรรถาธิบาย ซูเราะฮฺนี้อัลลอฮทรงเริ่มตนดวยการสาบานยืนยัน (ดังที่ไดกลาวมาแลวในซูเราะฮฺกียามะฮฺและซู เราะฮฺ อัลอินชิกอก) ในซูเราะฮฺนี้อัลลอฮทรงสาบานดวยเมืองเมกกะ ซึ่งพระองคทรงกําหนดใหเปนเมือง แหงความสงบสุข พระองคทรงกําหนดใหกะบะฮฺเปนที่พํานักสําหรับมนุษยและใหเปนที่ตองหามการทํา สงคราม กะบะฮฺเปนกิบัต(ชุมทิศ)สําหรับมุสลิมทั้งหมด และใกล ๆกับอัลกะบะฮฺก็มีมะกอมอิบรอฮีม และใน กะบะฮฺเปนที่ปรากฏของรัศมีแหงมุฮําหมัด และขอสาบานยืนยันดวยทุกสิ่งที่ใหกําเนิดและสิ่งที่ถือกําเนิดซึ่ง หมายถึงมนุษย สัตวและบรรดาพืชผลตาง ๆ ขอยืนยันดวยสิ่งเหลานี้ทั้งหมดวา แทจริงแลวมนุษยนั้นถูกให ถือกําเนิดมาในสภาพที่ยากแคนลําเค็ญยิ่ง บางครั้งทานอาจจะมีคําถามวามีความลับอะไรแฝงอยูกับการ ที่อัลลอฮทรงตรัสวา “ ”ﻭﺃﻧﺖ ﺣﻞ ﻬﺑﺬﺍ ﺍﻟﺒﻠﺪซึ่งมีความหมายวา “ ในขณะที่ทานอาศัยอยู ณ เมืองนี้” นั่นคือ เมืองเมกกะ ในซูเราะฮฺมีการแยกระหวางสิ่งที่อัลลอฮทรงสาบานยืนยัน นั่นคือระหวางเมืองเมกกะกับสิ่งที่ให กํา เนิ ด และถือกํ า เนิ ด จึ งใคร ขอชี้แ จงว า การที่ แ ยกเมือ งเมกกะออกจากสิ่ งอื่ น ๆ ก็ เ พื่อประสงค ที่ จ ะยก ฐานันดรและสถานะของเมืองเมกกะใหเหนือสิ่งอื่น ๆ นั่นคืออัลลอฮทรงยืนยันดวยเมืองนี้ในขณะที่ชาวเมือง ซึ่งอาศัยอยูในเมืองนี้ตางก็สรางความเจ็บช้ําน้ําใจใหแกเจา(หมายถึงทานนบีมูฮําหมัด) และนี่คือความหมาย ของคําวา “( ”ﻭﺃﻧﺖ ﺣﻞในขณะที่เจาเปนผูอาศัย ณ เมืองนี้) แตพวกเขาซึ่งอาศัยอยูในเมืองกลับไมไดให ความเคารพตอเมืองของพวกเขาเลย โดยเฉพาะในการปฏิสัมพันธกับเจา และจากจุดนี้คือจุดที่ชวยกระตุนให จิตใจของพวกเขาตื่นขึ้นมาคิด ในเรื่องเกี่ยวการที่พวกเขาหยาบคายและกระทําการรุนแรงตอทานรอซูลุลลอฮ ในขณะที่ทานอยูที่ เมกกะ จนทําใหทานตองพบกับความยากลํ าบาก และความยากลํ าบากที่ ทา นได ประสบมานี่เองทําใหทานสามารถเขาใจไดวามนุษยทุกคนลวนแลวแตตองพบกับความยากลําบาก จากนั้นก็ มีการกลาวยืนยันดวยสิ่งที่ใหกําเนิดและสิ่งที่ถือกําเนิดมานั้นเปนสวนหนึ่งของการแจงขาวดีวาที่เมกกะนั้น จะมีก ารให กํ า เนิ ด ผู ที่ จ ะทํ า ให มนุษยทั้ งหมดภาคภู มิใ จ รูสึก มี เ กีย รติ์มี ศั ก ดิ์ศรีแ มว า จะต องพบกับ ความ ยากลําบากและอุปสรรคบางก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้จะทําใหรูสึกผอนคลายความรูสึกยากลําบากลงบาง ซึ่งพวกเรา ทั้งหมดตางก็รู อยางเชนการเพาะปลูกหรือหวานดําเมล็ดพืชซึ่งตางก็ตองพบกับความเหน็ดเหนื่อย แตครั้ง ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-22-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็จะรูสึกผอนคลายหายเหนื่อยไปไดบาง มนุษยที่ตกเปนเหยื่อของการหลอกลวงจากความโลภอยางรุนแรง มีอยูสองกลุม กลุมหนึ่งคิดวาจะ ไมมีใครสามารถปกครองควบคุมเขาได กลุมที่สองกลาววาเราไดผลาญทรัพยสินของเราไปเปนจํานวนมาก แลวแมวาจะผลาญไปในเรื่องที่ไมดีก็ตาม และนี่คือคําพูดของพวกที่โดนทรัพยสินและความร่ํารวยเลนงาน ทั้งนั้น โดยคิดวาการกระทําของพวกเขาอัลลอฮไมทรงมองเห็น ทั้ง ๆ ที่แทจริงแลวอัลลอฮทรงรูในสิ่งที่พวก เขาใชจายไปทั้งหมด แตอัลลอฮจะรับเฉพาะในสวนที่เปนความดีงามเทานั้น ทานเชคมูฮําหมัดอับดุฮฺ (ขอความโปรดปราณจากอัลลอฮจงมีแดทาน) ไดกลาวไวในตัฟเซรของ ทานวา “หลังจากที่อัลลอฮไดทรงบอกเลาเกี่ยวกับทาทีของมนุษยวาพวกเขาถูกสรางมาในสภาพอันยากแคน ลําเค็ญยิ่ง กลุมคนที่โงเขลาและตกเปนเหยื่อของการหลอกลวงอยางหนัก ถึงขนาดเขาใจไปวาไมมีใคร สามารถที่จะปกครองหรือควบคุมเขาได” ทั้ง ๆ ที่ความจริงแลวความยากลําบากที่พวกเขาเผชิญอยูนั้น ตองการที่จะสื่อใหพวกเขาเขาใจและยอมรับในความออนแอของพวกเขานั่นเอง หลังจากที่ไดมีการตําหนิบรรดาผูที่ใชจายทรัพยสินของพวกเขาเพื่อชื่อเสียงเพื่อความร่ําลือบอก กลาวในความร่ํารวยของพวกเขา อัลลอฮก็ประสงคที่จะชี้แจงใหพวกเขาเขาใจไดวา ที่มาของบรรดาสิ่งที่พวก เขานํามาเสพสุขที่ประเสริฐสุดนั้นมาจากการเห็น มาจากการพูดการใชสติปญญาแยกแยะระหวางสิ่งดีและสิ่ง ไมดี สําหรับคุณคาของความเปนมนุษยนั้น อัลลอฮไดทรงสรางสายตา ทรงสรางลิ้น ทรงสรางริมฝปาก ทั้งสองดาน(บนและลาง)ใหมากับพวกเขาเพื่อพวกเขาจะใชพูดจาปราศรัย และพระองคก็ทรงชี้นําพวกเขาให เห็นแนวทางที่ดีและแนวทางที่ไมดี จากสิ่งที่พระองคทรงประทานใหกับพวกเขาโดยใชสติปญญาแยกแยะ แบงแยก นอกจากนั้นพระองคก็ทรงแตงตั้งศาสนทูตและประทานคัมภีรมาใหกับพวกเขา และเมื่อการชี้นํา เปนไปอยางครบถวนแลวตอไปพระองคก็จะทรงปลอยใหพวกเขาเปนอิสระในการเลือกทางเดิน เขาอาจจะ เลือกที่จะเดินไปในทางที่ดีหลีกเลี่ยงจากทางที่ไมดี เขาก็จะสามารถขยับขึ้นมาจากความลุมหลงทางโลกและ รอดพนมาจากความยากลําบากที่อยูในชองทางนั้นได สําหรับความลําบากยากแคนของมนุษยนั้นมีที่มาจาก ตัวเขาเอง มาจากพวกมารราย มาจากความลุมหลงทางโลกของพวกเขา ดวยเหตุนี้เองพวกเขาควรจะแสดง ความมีน้ําใจเพื่ออัลลอฮ ดวยการปลดปลอยทาสเปนอิสระหรือการกระทําในลักษณะเดียวกันเพื่อสงเสริมให มีการปลดปลอยทาสใหเปนอิสระ หรือการใหอาหารตอผูที่อดอยากหิวโหยหรือเด็กกําพรายากจน โดยให พิจารณาจากเครือญาติกอนเปนอันดับแรก หรือคนยากจนที่มือของเขาติดดินไมมีทรัพยสินอะไร สําหรับ บรรดาผูมีศรัทธาที่สมบูรณแบบพวกเขาควรจะสั่งเสียกันและกันในเรื่องของความอดทน ยอมแบกรับในสิ่ง ที่ไมพึงประสงคอันจะเกิดขึ้นไดเพื่อแนวทางของอัลลอฮ และสั่งเสียซึ่งกันและกันในเรื่องของความรักสมัคร สมานสามัคคีมีน้ําใจตอกัน สําหรับในซูเราะฮฺนี้สาระสวนใหญจะเปนการปลอบใจทานนบีเพื่อใหทานมี กําลังใจในการที่จะแบกรับเอาความยากลําบากที่ไดรับจากความเจ็บช้ําน้ําใจที่ไดรับจากประชาชาติของทาน บรรดาผูที่มีคุณลักษณะตามที่กลาวมาทั้งหมด พวกเขาเปนฝายขวาที่จะไดรับความผาสุกกอนใคร ๆ ในวันกียามะฮฺ สําหรับผูที่ปฏิเสธตออายะฮฺแหงองคอภิบาลของพวกเขา พวกเขาก็จะเปนฝายซาย เปนกลุมที่ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-23-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
จะพบกับการลงโทษที่แสนสาหัส และจะพํานักอยูในนรกยะฮันนัมอยางถาวร ดังที่อัลลอฮไดทรงกลาวไววา “ ”ﻋﻠﻴﻬﻢ ﻧﺎﺭ ﻣﺆﺻﺪﺓซึ่งพวกเขาถูกลงโทษในนรกที่ถูกปดสนิทจากทุกดาน จะไมมีวันหลุดพนออกมาไดอยาง เด็ดขาด
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-24-
ซูเราะฮฺอัชชัมซ ซูเราะฮฺ อัชชัมซ เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ ซึ่งมีความหมายวาดวงตะวัน ซึ่งมีระบุไวในอายะฮฺแรกของซู เราะฮฺ มี ทั้ ง หมด 15 อายะฮฺ สาระส ว นใหญ จ ะเป น เรื่ อ งของการชํ า ระล า งจิ ต ใจ และเป น การยื น ยั น ว า บทลงโทษของอัลลอฮที่จะมีตอบรรดาผูที่กลาวหาวาสาระธรรมเปนเท็จนั้นจะเกิดขึ้นจริง ดังที่ไดเคยเกิดขึ้น มาแลวกับพวกของสะมูดและพวกอาดในยุคเกากอน ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
#sŒÎ) È≅ø‹©9$#uρ
∩⊂∪ $yγ9¯=y_ #sŒÎ) Í‘$pκ¨]9$#uρ
∩∠∪ $yγ1§θy™ $tΒuρ <§øtΡuρ
∩∉∪ $yγ8yssÛ $tΒuρ ÇÚö‘F{$#uρ
∩⊇⊃∪ $yγ9¢™yŠ tΒ z>%s{ ô‰s%uρ
∩⊇∪ $yγ8ptéÏuρ ħ÷Κ¤±9$#uρ
∩∈∪ $yγ9t⊥t/ $tΒuρ Ï!$uΚ¡¡9$#uρ
∩∪ $yγ8©.y— tΒ yxn=øùr& ô‰s%
«!$# sπs%$tΡ «!$# ãΑθß™u‘ öΝçλm; tΑ$s)sù ß∃$sƒs† Ÿωuρ
∩⊄∪ $yγ9n=s? #sŒÎ) Ìyϑs)ø9$#uρ
∩⊇⊄∪ $yγ8s)ô©r& y]yèt7/Ρ$# ÏŒÎ)
∩⊆∪ $yγ8t±øótƒ
∩∇∪ $yγ1uθø)s?uρ $yδu‘θègé $yγyϑoλù;r'sù ∩⊇⊇∪ !$yγ1uθøósÜÎ/ ߊθßϑrO ôMt/¤‹x.
∩⊇⊆∪ $yγ1§θ|¡sù öΝÎγÎ6/Ρx‹Î/ Οßγš/u‘ óΟÎγøŠn=tæ tΠy‰øΒy‰sù $yδρãs)yèsù çνθç/¤‹s3sù
∩⊇⊂∪ $yγ≈uŠø)ß™uρ ∩⊇∈∪ $yγ≈t6ø)ãã
ความหมายของซูเราะฮฺ ขอยืนยันกับดวงตะวัน และแสงสวางของมัน( 1) และดวงจันทร เมื่อมันโคจรตามดวงตะวัน (2) และ ยามกลางวัน เมื่อมันทําใหดวงตะวันชัดเจนขึ้น (3) และยามกลางคืน เมื่อมันครอบคลุมดวงตะวันไว (มองไม เห็น) ( 4) และฟากฟา และผูที่บันดาลมันมา (5) และแผนดิน และผูทแี่ ผมันออก (เปนพื้นราบ) (6) และชีวิต (มนุษย) และผูที่จัดความสมดุลย (เทาเทียมกัน) แกมัน ( 7) และทรงดลแกมัน (ใหมี) ทั้งความดื้นรั้นและ ความยําเกรงของมัน (ระคนกันไป) ( 8) แนแท ผูชําระชีวิตจนสะอาด เขายอมประสบความสมหวัง( 9) และ ผูทําความหมกหมมแกมัน เขายอมขาดทุน (10) พวกสะมูดไดกลาวหาความเท็จ (แกศาสนทูตของพระองค) เพราะความดืน้ รั้นของพวกเขา ( 11) เมื่อคนเลยที่สุดของพวกนัน้ ไดรับการแตงตั้ง (ใหเปนผูฆาอูฐที่เปน ปาฏิหาริย) (12) ดังนัน้ ศาสนทูตแหงอัลเลาะฮฺ (นบีซอลิห) จึงกลาวแกพวกเขาวา “(พวกทานจงระมัดระวัง รักษา) อูฐตัวเมียแหงอัลเลาะฮฺ และจงใหน้ําดื่มแกมัน (โดยสมบูรณ) (13) แตตอมา พวกนัน้ ก็วาเขาพูดมุสา แลวพวกนัน้ ก็จัดการโดยเสมอภาคแกพวกเขา (ใหรับโทษนั้นโดยทัว่ ถวน) (14) และพระองคไมทรงทน พระทัยในผลลัพธปนปลายของพวกเขา(ไมวาจะเปนเชนใด) (15)
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-25-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
คําอธิบายศัพท ( )ﻭﺿﺤﺎﻫﺎแสงสวางแหงดวงอาทิตยหรือแสงสวางแหงกลางวันทั้งหมดที่สองมาจากดวงอาทิตย ( )ﺗﻼﻫﺎตามติดมา ,พึงพาแสงสวางจากดวงอาทิตย ( )ﺟﻼﻫﺎปรากฏชัดเจนขึ้นมาอยางสมบูรณ ()ﻳﻐﺸﺎﻫﺎ ปกคลุมจนแสงสวางหายไป ( )ﻃﺤﺎﻫﺎแผขยายกวางไกลออกไป ( )ﻭﻣﺎ ﺳﻮﺍﻫﺎสรางความสมดุลแกมัน โดย ใหความสมบู รณ ค รบถ ว นแกมั น ดว ยการบัน ดาลใหมั น มี รูปร างที่ แ ข็ ง แกร ง ที่ สามารถดํ า รงชี วิ ต อยู ไ ด ( )ﻓﺄﳍﻤﻬﺎทรงใหมันมีความเขาใจ มีความสามารถ ( )ﻓﺠﻮﺭﻫﺎความดื้อรั้น นํามาซึ่งสิ่งที่จะสรางความหายนะ และความขาดทุ น มาให ( ) ﻭﺗﻘﻮﺍﻫﺎความยํา เกรงตอ อั ล ลอฮที่ จ ะปกปอ งตนเองให พ น จากความหายนะ ()ﺯﻛﺎﻫﺎชําระและพัฒนาชีวิต ( )ﺩﺳﺎﻫﺎความหมกหมม ปกปด ซอนเรน และผูใดที่เดินไปในทางทีไ่ มดี เดิน ไปในเสนทางแหงการทรยศตออัลลอฮ เขาก็จะถูกใหลดนอยถอยลงมาจากความสมบูรณแบบ ()ﺑﻄﻐﻮﺍﻫﺎ ดวยเหตุเพราะความดื้อรั้น ( )ﺍﻧﺒﻌﺚทําใหรวดเร็ว ( )ﻭﺳﻘﻴﺎﻫﺎใหน้ําดื่มแกมันโดยเฉพาะ ( )ﻓﺪﻣﺪﻡทําลาย ลางพวกเขา ( )ﻓﺴﻮﺍﻫﺎโดยใหไดรับโทษอยางถวนหนาอยางเทาเทียมกันโดยไมแบงแยกวาใครเปนใคร คําอรรถาธิบายโดยรวม อัลลอฮไดทรงสาบานยืนยันดวยดวงอาทิตย วามันเปนดาวฤกษดวงใหญที่มีการโคจรและมีแสง สวางในตัวเองอยางเจิดจาและมีพลัง และดวยแสงสวางและพลังความรอนของมันคือแหลงกําเนิดของ สิ่งมีชีวิต และเปนแหลงพลังงานที่ชวยผลักดันใหเกิดการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวและเกิดแสงสวางของ จักรวาลทั้งกลางวันและกลางคืน พระองคทรงยืนยันดวยดวงจันทรที่ติดตามและพึ่งพาแสงสวางจากดวง อาทิตยในการที่จะอํานวยประโยชนแกมวลมนุษย เปนสิ่งที่จะชวยในการคิดคํานวณเวลาและฤดูกาลตาง ๆ และใหแสงสวางเรืองรองแกโลก และจากการโคจรของดวงจันทรและดวงอาทิตยทําใหสามารถคํานวณวัน เวลาไดทั้งแบบสุริยะคติและจันทรคติ ดวงจันทรจะพึ่งพาแสงจากดวงอาทิตย เพราะมันไมมีแสงสวางใน ตัวเอง ซึ่งก็เปนที่นาประหลาดใจอยูที่วา ทัศนะขอนี้เปนทัศนะของนักวิชาการสมัยกอนตอมาก็ไดรับการ สนับสนุนในทัศนะนี้จากวิทยาการสมัยใหม จากนั้นอัลลอฮก็ทรงสาบานดวยเวลากลางวันเมื่อมีดวงอาทิตย ปรากฏชัดเจนขึ้นดวยแสงของมัน ซึ่งกลางวันจะพึ่งพาแสงสวางจากดวงอาทิตย ทุกครั้งที่ดวงอาทิตยปรากฏ ออกมา พลังแสงที่ไดรับจากดวงอาทิตยเปนการบงบอกใหรูวาที่มาของมันนั้นมีพลังยิ่ง ซึ่งก็สอดคลองกับ พระดํารัสแหงอัลลอฮที่ไดทรงตรัสไววา “ ”ﻭﺍﻟﻨﻬﺎﺭ ﺍﺫﺍ ﺟﻼﻫﺎและกลางวันเมื่อมันทําใหดวงตะวันชัดเจนขึ้น ซึ่งเราก็จะไดประจักษชัดในทันทีวาอัลลอฮไดทรงประทานความโปรดปราณดวยพลังแสงที่ครอบคลุม จักรวาลทั้งหมด โดยให ไดรับแสงโดยตรงจากดวงอาทิตยและจากแหลงอื่น ๆ เชนจากดวงจันทร และ พระองคก็ทรงสาบานดวยเวลากลางวันและสาบานดวยเวลากลางคืนเมื่อดวงอาทิตยลับหายไปและแสงสวาง ก็ถูกปดใหหายไปจากเรา กลางวันจะปรากฏออกขึ้นมา สวนกลางคืนก็จะปดบังใหหายไป มหาบริสุทธิ์ แหงอัลลอฮผูทรงสรางโลกนี้ทั้งหมด ในเมื่อกลางวันทําใหเห็นดวงอาทิตยปรากฏชัดขึ้น และกลางคืนทําให ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-26-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ดวงอาทิตยปดบังลับหายไป แลวจะกราบไหวสิ่งเหลานี้มาเปนพระเจาไดกระนั้นหรือ ? จากนั้นอัลลอฮก็ทรงสาบานยืนยันดวยฟากฟาและโลกแหงฟากฟาอันกวางใหญ ซึ่งอัลลอฮไดทรง สร า งสรรค ขึ้ น มาและทรงควบคุ ม บั ญ ชาต อ มั น ให มั น มี พ ลั ง ดึ ง ดู ด ซึ่ ง กั น และกั น โดยไม เ ห็ น ว า จะมี ขอบกพรองใด ๆ เกิดขึ้นเลย นั่นก็เปนเพราะวามันเปนผลงานการสรางสรรคของผูทรงปรีชาสามารถยิ่ง จากนั้นพระองคก็ทรงสาบานยืนยันดวยผืนแผนดินที่ทรงใหมันแผออกเปนพื้นราบ เพื่อใหงายตอการดําเนิน ชีวิตและงายตอการมองเห็นถึงความกวางใหญของมัน จากนั้นอัลลอฮก็ทรงสาบานยืนยันดวยชีวิตมนุษยซึ่ง พระองคทรงประทานความสมดุลยและทรงควบคุมการงานของมัน และทรงประทานพลัง ลักษณะนิสัยหรือ ธรรมชาติใหสามารถดํารงชีวิตอยูได พระองคทรงประทานใหพวกเขามีสติปญญาที่สามารถแยกแยะสิ่งดีสิ่ง รายไดดวยตนเองและนั่นคือสวนหนึ่งของความสมบูรณแบบที่อัลลอฮทรงประทานให พวกเขาสามารถ กระทําในสิ่งที่เปนบาปที่จะมาสรางความหายนะใหกับตัวเขาเอง และสามารถที่จะเลือกทําสิ่งดี ๆ ที่จะทําให พวกเขาปลอดภัยและปกปองพวกเขาจากสิ่งชั่วรายได และแนนอนที่สุดผูที่ชําระชีวิตจนสะอาด พวกที่พัฒนา ตนเองเขายอมประสบความสมหวังและประสบกับความสูงสง สวนผูที่หมกหมมอยูกับความสกปรกแหง บาป เขาก็จะพบแตความขาดทุน จนชีวิตของเขาเองไมมีอะไรแตกตางไปจากสัตว แทจริงแลวมนุษยนั้น ได รับ การยกฐานัน ดรให สู งส งกวา สัต ว แ ล ว เปน ไหน ๆ โดยให พ วกเขาสามารถควบคุ ม ตนเองไดด ว ย สติปญญา ใหมีชีวิตที่สูงสงปราศจากการลื่นไถลไปเปนทาสของอารมณราย แตเมื่อเขาเผลอตกไปอยูกับการ ทรยศในสิ่งที่เปนบาป อารมณก็จะกลับกลายมาเปนผูบังคับบัญชา เขาก็จะกลายเปนสัตว มีคาเทาเทียมกับ สัตว เขาเองที่สรางมลทินใหกับตัวเอง ทําใหฐานันดรของเขาเองต่ําทรามลงไป กลายเปนชีวิตสัตวที่ตกเปน ทาสของอารมณ ที่สติปญญาเองไมสามารถควบคุมได แตอารมณกลับมีพลังอํานาจเหนือสติปญญา การที่อัลลอฮทรงสาบานตอสิ่งเหลานี้ทั้งหมด ก็เพื่อที่จะใหมาเปนขอคิด เปนสิ่งเตือนสติคนเลว ให คิดคํานวณการกระทําของตนเองที่ไดกระทําหรือกาวเดินไปในทางที่ไมดี หรือทําใหผูกระทําความดีได ตระหนั ก ถึ ง ความดี ข องเขา ซึ่ ง สิ่ ง เหล า นี้ ทั้ ง หมดน า จะเป น ความชั ด เจน เป น หลั ก ฐานชี้ นํ า พวกเขาได โดยเฉพาะอยางยิ่งเรื่องราวของพวกสะมูดในอดีต มีนักอรรถาธิบายอัลกุรอานบางทานกลาววา การที่มี คําตอบออกมาวา “แทจริงแลวผูชําระชีวิตจนสะอาด เขายอมประสบกับความสมหวัง” เปนการตอบถึงการ เลาเรื่องราวของพวกสะมูดที่กระทําตอนบีของพวกเขา คือทานนบีซอลิหฺ ที่ไดกลาวถึงมาแลวในตอนตน ของซูเราะฮฺ พวกสะมูดไดกลาวหาความเท็จตอศาสนทูตของอัลลอฮเพราะความดื้อรั้นของพวกเขา เมื่อคนเลว ที่สุดในหมูพวกเขาไดรับการแตงตั้งใหทําการฆาอูฐ เมื่อทานนบีซอลิหฺไดบอกกับพวกเขาวา จงชวยกันระวัง ดูแลอูฐของอัลลอฮและใหน้ําแกมัน แตพวกเขาก็ไมมีใครเชื่อ พวกเขากลับฆาอูฐนั้นเสีย ในที่สุดอัลลอฮก็ ทรงเอาโทษแกพวกเขาจากการกระทําบาปของพวกเขาเอง พระองคทรงทําลายลางพวกเขาบนผืนแผนดิน ดวยการปลอยการลงโทษลงมายังพวกเขา จนพวกเขาทั้งหมดถูกทําลายจนไมมีเหลือแมแตสักคนเดียว นั่นก็ เปนเพราะวาตางคนตางพอใจในการกระทําของพวกพองของพวกเขา แทจริงแลวอัลลอฮไมเคยสนใจไมเคย ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-27-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
แยแสตอสิ่งที่พวกเขาไดกระทําลงไปเลยแมแตสักนิดเดียว เพราะพระองคเปนผูที่ทรงยุติธรรมยิ่งในการ ตัดสิน พระองคทรงอํานาจและทรงเดชานุภาพยิ่ง
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-28-
ซูเราะฮฺ อัลลัยลฺ ซูเราะฮฺ อัลลัยลฺ ซึ่งมีความหมายวา เวลากลางคืน เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 21 อายะฮฺ สาระ ในซูเราะฮฺ ไดกลาวถึง การที่อัลลอฮทรงสาบานยืนยันวามนุษยนั้นมีความเห็นที่ขัดแยงกันในเรื่องของการ ประพฤติปฏิบัติและเรื่องของผลบุญ จากนั้นพระองคก็ทรงเตือนสําทับพวกเขาดวยไฟนรกที่เผาไหม ซึ่งทรง เตรียมไวสําหรับผูที่ทรยศตอพระองค และพระองคทรงปกปองมิใหไดรับอันตรายจากมัน สําหรับผูที่ภักดีตอ พระองค ในซูเราะฮฺนี้มีนักวิชาการบางทานกลาววา เปนซูเราะฮฺที่ประทานมายังทานอบีบักร แตบทเรียน ที่ไดรับจากซูเราะฮฺนั้นสําหรับคนทั่วไปไมเกี่ยวกับเหตุผลการประทาน ที่ประทานลงมาเฉพาะเรื่องแตอยาง ใด ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
¨βÎ)
∩⊂∪ #s\ΡW{$#uρ tx.©%!$# t,n=y{ $tΒuρ
3“uô£ãù=Ï9 …çνçÅc£uãΨ|¡sù $tΒuρ
∩⊄∪ 4’©?pgrB #sŒÎ) Í‘$pκ¨]9$#uρ
∩∉∪ 4o_ó¡çtø:$$Î/ s−£‰|¹uρ
∩⊇⊃∪ 3“uô£ãèù=Ï9 …çνçÅc£uãΨ|¡sù
∩⊇⊂∪ 4’n<ρW{$#uρ nοtÅzEζs9 $uΖs9 ¨βÎ)uρ ∩⊇∉∪ 4’¯<uθs?uρ z>¤‹x. “Ï%©!$#
∩∈∪ 4’s+¨?$#uρ 4‘sÜôãr& ôtΒ $¨Βr'sù
∩∪ 4o_ó¡çtø:$$Î/ z>¤‹x.uρ
∩⊆∪ 4®Lt±s9 ö/ä3u‹÷èy™
∩∇∪ 4o_øótGó™$#uρ Ÿ≅σr2 .tΒ $¨Βr&uρ
∩⊇⊄∪ 3“y‰ßγù=s9 $oΨø‹n=tã ¨βÎ) ∩⊇∈∪ ’s+ô©F{$# ωÎ) !$yγ9n=óÁtƒ Ÿω
#“t“øgéB 7πyϑ÷èÏoΡ ÏΒ …çνy‰ΨÏã >‰tnL{ $tΒuρ
∩⊇∪ 4y´øótƒ #sŒÎ) È≅ø‹©9$#uρ
∩∠∪
∩⊇⊇∪ #“¨Šts? #sŒÎ) ÿ…ã&è!$tΒ çµ÷Ζtã Í_øóム∩⊇⊆∪ 4‘©àn=s? #Y‘$tΡ ö/ä3è?ö‘x‹Ρr'sù
∩⊇∇∪ 4’ª1u”tItƒ …ã&s!$tΒ ’ÎA÷σム“Ï%©!$#
∩⊇∠∪ ’s+ø?F{$# $pκâ:¨Ζyfã‹y™uρ
∩⊄⊇∪ 4yÌötƒ t∃öθ|¡s9uρ ∩⊄⊃∪ 4’n?ôãF{$# ϵÎn/u‘ ϵô`uρ u!$tóÏGö/$# ωÎ) ∩⊇∪
ความหมายของซูเราะฮฺ ขอยืนยันกับกลางคือ เมื่อมันปกคลุม (ทุกๆ สิ่งไวดวยความมืด) (1)และเวลากลางวัน เมื่อมันสวาง แจง (2) และขอสาบานต อ พระผูท รงบัง เกิ ด เพศชายและเพศหญิ ง (3) แท จ ริ ง กิจ กรรมของพวกเจ านั้น มี แตกตางกัน (ออกไป) (4 ) กลาวคือ ผูที่ใหและยําเกรง(5 )และยอมรับจริงในสิ่งดีงาม(6) แนนอนเราจักใหเขา สัมฤทธิ ซึ่งความสุขสบาย (ในโลกหนา) (7) สวนผูตระหนี่ และถือวาตนพอแลว (ไมคิดพึ่งอัลเลาะฮฺ)(8 ) และกลาวหาสิ่งดีงามวาเปนความเท็จ(9 ) แนนอนเราจักใหเขาสัมฤทธิ ซึ่งความยากลําบาก(10)และทรัพยสิน ของเขาไมอาจปองกันเขาไวได ในเมื่อเขาเพลี่ยงพล้ําลงสูเหว (แหงหายนะในวันกิยามะฮฺ)(11 ) แทจริงเรามี หนาที่ชี้นํา(12)และแทจริงทั้งโลกหนาและโลกนี้ ลวนอยูในอํานาจของเรา (13) ดังนั้นขาไดเตือนพวกเจา (ถึง ภัยแหงนรกอันลุกโพลง)(14) ไมมีผูใดเขาไปในนั้น นอกจากผูที่อับโชค(15) ซึ่งเขากลาววา (สัจธรรม) เปน ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-29-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
สิ่งมุสาและเขาหันหลังให (16) และผูที่ยําเกรง จะหางไกลมัน(17) (เขาคือ) ผูซึ่งไดบริจาคทรัพยสินของเขา โดยมุงเปลื้องปลดมนทิล (ออกจากตัวและทรัพยสินนั้นใหเกิดความบริสุทธิ)(18) และไมมีผูใดมีบุญคุณที่ จะตองตอบแทนสําหรับเขา (19) นอกจาก (เขากระทําไปนั้น) เพื่อแสวงหาพระผูท รงอภิบาลอันสูงสงของเขา ดวยความบริสุทธิ์ใจ (20) และตอไป เขาจะมีความยินดีอยางแทจริง (เมื่อถึงวันกิยามะฮฺ โดยเขาจะไดทุกสิ่งที่ ปรารถนา) (21) คําอธิบายศัพท ( )ﻳﻐﺸﻰมือมิด ปกปด ครอบคลุม ( )ﲡﻠﻰสวางแจง ( )ﻟﺸﺘﱠﻰแตกตางกันออกไป ทั้งชนิดและ ผลตอบแทนที่จะไดรับ ( )ﺑﺎﳊﺴﲎสิ่งดีงาม ( )ﻟﻠﻴﺴﺮﻯความสุขสบายที่ใหผลในสิ่งที่ดีงาม ( )ﻟﻠﻌﺴﺮﻯความ ยากลําบากที่จะสงผลในทางที่ไมดี ( )ﺗﺮﺩﻯตกลงสูหวงเหวแหงความหายนะ ( )ﺗﻠﻈﻰไฟที่ลุกโชนเผาไหม ( )ﻻﻳﺼﻼﻫﺎไมเผาไหมแกผูใด ( )ﺍﻻ ﺍﻷﺷﻘﻰนอกจากผูที่อัปโชค ( )ﺳﻴﺠﻨﺒﻬﺎหางไกลออกไป ( )ﺍﻷﺗﻘﻰมี ความยําเกรงอยางมา ( )ﲡﺰﻯจะไดรับการตอบแทน คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ อัลลอฮทรงสาบานยืนยันดวยเวลากลางคืนที่ความมืดปกคลุมสิ่งตางๆ ไวทั้งหมด จนไมมีอะไร หลบหนีออกไปจากความมืดของมันได จากนั้นพระองคก็ทรงสาบานยืนยันดวยเวลากลางวันเมื่อมันสวาง แจงเพราะดวงอาทิตยขึ้นจนทุกสิ่งทุกอยางปรากฏออกมาใหเห็นอยางเดนชัด และชีวิตก็เริ่มที่คืบคลานขยับ เขยื้อนเคลื่อนไหว ออกทํามาหากิน หลังจากที่ไดหลับใหลพักผอนไปตลอดคืน มหาบริสุทธิ์แหงอัลลอฮองค อภิบาลผูทรงบันดาลกลางวันและกลางคืนใหเปนขอคิดสําหรับผูที่ระลึกไดและผูที่มีความกตัญูตอพระองค หากคิดตอไปวาอะไรจะเกิดขึ้นหากกลางวันหรือกลางคืนยืดยาวตลอดไปไมมีการสลับสับเปลี่ยน อัลลอฮทรงสาบานตอพระองคเอง ที่ไดทรงสรางสิ่งตาง ๆ ออกมาเปนเพศชายและเพศหญิงมาจาก อสุจิอันเดียวกัน สรางมาจากที่เดียวกัน แตมหาบริสุทธิ์แหงพระองค เมื่อพระองคประสงคก็จะเปนเพศหญิง และเมื่อพระองคประสงคก็จะเปนเพศชาย หรือใหเปนเพศชายและหญิงพรอม ๆ กัน และทรงบันดาลใหใคร บางคนเปนหมัน ไมมีบุตร มหาบริสุทธิ์แหงพระองคผูทรงสรางสรรคกลางวันและกลางคืน สรางแสงสวาง และความมืด สรางสิ่งตาง ๆ ใหเปนเพศชายและเพศหญิง โดยสรางมาจากวัตถุดิบชนิดเดียวกันทั้งหมด หลังจากนั้นพระองคก็ทรงสาบานยืนยันวา แทจริงแลวความพยายามของมวลมนุษยนั้นมีความแตกตางกัน ออกไปหลายรูปแบบหลายชนิด และผลตอบแทนที่จะไดรับก็แตกตางกันออกไป ทุกคนก็จะไดรับการตอบ แทนไปตามรูปแบบของแตละคนไป ÏM≈ysÎ=≈¢Á9$# (#θè=Ïϑtãuρ (#θãΖtΒ#u tÏ%©!$%x. óΟßγn=yèøgªΥ βr& ÏN$t↔ÍhŠ¡¡9$# (#θãmutIô_$# tÏ%©!$# |=Å¡ym ÷Πr&
หรือวาบรรดาจําพวกที่ประกอบการชั่วคิดวา เราจัดการพวกเขาใหเหมือนกันบรรดามวลชนผูมี ศรัทธา และประพฤติแตความดีงาม ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-30-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เปนไปไดหรือผูที่ประสงคในสิ่งเลวราย จะไดรับการตอบแทนเชนเดียวกับพวกที่กระทําความดี ? อัลลอฮทรงตรัสไววา “”ﻻﻳﺴﺘﻮﻱ ﺍﺻﺤﺎﺏ ﺍﻟﻨﺎﺭ ﻭﺃﺻﺤﺎﺏ ﺍﳉﻨﺔ ชาวนรกกับชาวสวรรคยอมจะไมมีวันที่เสมอเหมือนกันอยางแนนอน หรือที่อัลลอฮทรงตรัสไววา “”ﺃﻓﻤﻦ ﻛﺎﻥ ﻣﺆﻣﻨﺎ ﻛﻤﻦ ﻛﺎﻥ ﻓﺎﺳﻘﺎ ﻻﻳﺴﺘﻮﻭﻥ หรือวาผูที่มีศรัทธามั่นจะเสมอเหมือนกับผูที่กระทําในสิ่งเสื่อมเสีย แนนอนที่สุดไมเสมอเหมือนกัน อยางแนนอน สวนผูที่ยอมใหทรัพยสินบางสวนที่ตนเองมีอยู อีกทั้งมีจิตใจยําเกรงตออัลลอฮและยําเกรงตอการ กระทําในสิ่งที่พระองคทรงหาม และหักหามตนเองจากอารมณรายและยอมรับในสิ่งดีงาม ยอมรับในความมี คุณคาของความดีงามอยางจริงใจและตามติดมาดวยการถือปฏิบัติอยางบริสุทธิ์ใจตออัลลอฮ แนนอนที่สุด พระองคจะทรงตอบแทน ทรงชี้นําและทรงประทานความสัมฤทธิ์ผลแตสิ่งดี ๆ กระทําแตสิ่งดี ๆเพราะจิตใจ ของพวกเขาเต็มเปยมไปดวยรัศมีและประสบแตความสุข สวนผูที่ตระหนี่และคิดวาตนเองร่ํารวยไมตอง พึ่งพาใครอีก เขาเองไมเคยทําความดีและไมเคยคิดที่จะกระทํา เพราะเขาเองถูกหลอกดวยทรัพยสินที่เขามีอยู เขาเองไมยอมรับในคุณงามความดี อัลลอฮก็จะทรงตอบแทนแกเขาและไมทรงชี้นําเขา แตจะชวยใหเขาพบ แตความยากลําเค็ญ ที่จะนําพาเขาไปสูความหายนะและความพินาศ คนกลุมแรกเปนชาวสวรรค สวนคนกลุม ที่สองเปนชาวนรก สวนผูที่ยอมรับในสิ่งดีงามและปฏิบัติแตสิ่งดีงามอีกทั้งมีความยําเกรงตออัลลอฮ พระองคก็จะทรง ประทานความสัมฤทธิ์ผลใหแกเขา ซึ่งความสําเร็จที่พระองคจะประทานใหนั้นมีอยูสองขั้นตอน ขั้นตอนที่ หนึ่งคือที่มาของมนุษยคือขั้นตอนของการสรางความสมบูรณใหกับชีวิตใหเกิดความสมบูรณ และตามดวย การทําความดีเพื่อใหเกิดลักษณะพิเศษใหเห็นความแตกตางทั้งในโลกนี้และโลกหนา จึงเปนไปตามที่มีการ กลาวขานกันวา ในเมื่อธรรมชาติหรือที่มาวางอยูบนพื้นฐานแหงความดี ทานทําความดีจนกลายเปนเรื่องปกติ อัลลอฮก็จะทรงประทานสัมฤทธิ์ผลใหแกทาน และนี่คือความหมายของพระดํารัสแหงอัลลอฮที่ทรงตรัสไว วา “”ﻓﺴﻨﻴﺴﺮﻩ ﻟﻠﻴﺴﺮﻯในทางตรงกันขามหรือในทางกลับกันก็จะถูกตองดวยเชนกัน เพราะผูใดที่ทําตนให คุนเคยอยูกับความชั่วความเลวทราม อัลลอฮก็จะใหเขาพบกับความยากลําบาก(ตามแนวทางของอัลลอฮ) เขา ก็จะไดรับการอํานวยความสะดวกไปสูความยากลําบาก ซึ่งเปนทางที่มนุษยเปนผูเลือกมาเองดวยตัวของเขา เปนการนํามาตัวของพวกเขาเองไปสูฐานันดรความเปนสัตวเดรัชฉาน เมื่อเขาเพลี่ยงพล้ําลงสูหวงเหวแหง ความหายนะ หรือเขาสูหลุมฝงศพ ทรัพยสินสมบัติของเขาเองก็จะไมสามารถชวยเหลืออะไรเขาไดเลย ทรัพยสินที่พวกเขามีอยูจะชวยเหลืออะไรเขาไมไดเลย แลวอัลลอฮจะทรงสอบสวนบาวของพระองคที่ได กระทําบาป และเปนการกระทําที่พวกเขาเองเปนผูเลือกดวยตัวเองอยางไร อัลกุรอานไดใหคําตอบเกี่ยวกับ เรื่องนี้ไววา แทจริงแลวอัลลอฮเปนผูทรงสรางมนุษยเพื่อใหพวกเขานมัสการตอพระองค ใหกระทําในสิ่งที่
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-31-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เปนกุศลในโลกนี้และวันโลกหนาโดยที่พระองคจะเปนผูชี้นําชี้แนะพวกเขาใหสามารถแยกแยะวาเสนทางใด เปนทางรายทางใดเปนทางดี จากนั้นพระองคก็จะทรงปลอยใหพวกเขาเลือกทางเดินอยางเปนอิสระและให พวกเขาสามารถปฏิบัติตนไดอยางเปนอิสระ และเชนนี้คือลักษณะของการใหเกียรติ์ตอมวลมนุษย คนใด กระทําแตความดีพระองคก็จะทรงตอบแทนดวยความดี ผูใดที่เลือกกระทําในสิ่งที่เปนความชั่วก็จะตอบแทน เขาพวกเขาดวยการลงโทษ ดังจะเห็นไดจากที่อัลลอฮไดทรงตรัสไววา “ ”ﻭ َﻫﺪَﻳﻨﺎﻩ ﺍﻟﻨﺠﺪﻳﻦแทจริงแลวทั้ง โลกนี้และโลกหนาลวนแลวแตอยูในอํานาจของอัลลอฮ พระองคไดทรงเตือนสําทับมวลมนุษยดวยไฟนรกที่ มีพลังในการเผาไหมที่รุนแรง ใหพวกเขาพึงระวัง และจะไมมีผูใดเขาสูไฟนรกอันลุกโชน นอกจากผูที่อับ โชคที่ไรศรัทธา ที่กระทําแตการทรยศแลวไมรูจักกลับตัวกลับใจดวยการขอกุลาโทษตออัลลอฮ คนผูนี้คือ กลุมคนที่กลาวหาวาอัลลอฮเปนเท็จปฏิเสธศรัทธาตอพระองค และหันหางจากสัจธรรมอีกทั้งยังคัดคาน ตอตานสัจธรรมอีกดวย พวกเขาไมยอมกลับตัวกลับใจกลับคืนสูอัลลอฮแมแตเพียงสักวินาทีเดียว สําหรับผูที่ มียําเกรงตอัลลอฮผูที่อยูในทางนําจากพระองค ซึ่งพวกเขาจะบริจาคทรัพยสินของเขาโดยมุงปลดเปลื้อง มนทิลออกจากตัวเองเพื่ออัลลอฮอัลลอฮจะใหพวกเขาหางไกลออกไปจากการลงโทษดวยไฟนรก การ กระทําของเขาทั้งหมดไมไดกระทําเพราะตองการตอบแทนบุญคุณแกผูใด แตการกระทําและการบริจาค ทั้งหมดลวนแลวแตเปนการแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮ และดวยการกระทําของเขาเชนนี้ พระองค ก็จะทรงตอบแทนเขาดวยสิ่งตอบแทนที่ดีทั้งในโลกนี้และโลกหนาจนกระทั่งเขาเองมีความยินดีอยางแทจริง โดยที่เขาเองจะไดรับทุกสิ่งที่ปรารถนาในวันกียามะฮฺ โอมวลมนุษย อัลลอฮไดชี้นําทางที่ดีและทางที่ไมดีอีกทั้งผลตอบแทนที่จะไดรับในวันโลกหนาแก เจาไวอยางชัดเจนแลวมิใชหรือวา ใครที่กระทําความดีแมแตลักเทาเม็ดงาเขาก็จะไดเห็น และในทางตรงกัน ขามผูใดที่กระทําความชั่วแมแตเพียงเล็กนอยเขาก็จะไดเห็นเชนกัน ซึ่งสติปญญาอันปกติของมนุษยตางก็ สามารถแยกแยะไดดวยตนเองแลววา สิ่งใดคือสิ่งดีและสิ่งใดคือสิ่งที่ไมดี.
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-32-
ซูเราะฮฺอัฎฎฮา ชื่อซูเราะฮฺอัฎฎฮา (เวลาสาย ) เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 11 อายะฮฺ สาระในซูเราะฮฺเปนการ กลาวถึงการสาบานยืนยันของอัลลอฮวาพระองคจะไมทอดทิ้งทานนบีมูฮําหมัด และไมไดจงชังตอทาน ตามที่บรรดาผูตั้งภาคีตออัลลอฮกลาวหาแตอยางใด และพระองคก็ทรงยืนยันดวยวาแทจริงแลวชวงสุดทาย ของชีวิตนั้นยอมประเสริฐกวาชีวิตในเบื้องตนของการปฏิบัติภารกิจ พระองคจะทรงตอบแทนเขาจนกระทั่ง เขาเองพอใจ และทานไดขอความเมตตาจากอัลลอฮและใหพระองคชี้นําไปสูความโปรดปรานที่มั่นคง ตลอดไป ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
×öy{ äοtÅzEζs9uρ
∩⊂∪ 4’n?s% $tΒuρ y7•/u‘ y7t㨊uρ $tΒ
∩∉∪ 3“uρ$t↔sù $VϑŠÏKtƒ x8ô‰Égs† öΝs9r& $¨Βr&uρ
∩⊄∪ 4y√y™ #sŒÎ) È≅ø‹©9$#uρ
∩∈∪ #yÌ÷tIsù y7•/u‘ y‹ÏÜ÷èムt∃öθ|¡s9uρ
∩∪ öyγø)s? Ÿξsù zΟŠÏKuŠø9$# $¨Βr'sù
∩∇∪ 4o_øîr'sù WξÍ←!%tæ x8y‰y`uρuρ
∩⊇∪ 4y∏‘Ò9$#uρ ∩⊆∪ 4’n<ρW{$# zÏΒ y7©9
∩∠∪ 3“y‰yγsù ~ω!$|Ê x8y‰y`uρuρ
∩⊇⊇∪ ô^Ïd‰y⇔sù y7În/u‘ Ïπyϑ÷èÏΖÎ/ $¨Βr&uρ ∩⊇⊃∪ öpκ÷]s? Ÿξsù Ÿ≅Í←!$¡¡9$#
ความหมายของซูเราะฮฺ ขอยืนยันกับเวลาสาย( 1) และยามกลางคืน เมื่อมันเงียบสงัด ( 2)องคอภิบาลของเจามิไดทอดทิ้งเจา และ มิไดจงชัง (เจาเหมือนที่พวกตั้งภาคีกลาวหา) ( 3) และแทจริงชวงสุดทาย (แหงชีวิตการปฏิบัติภารกิจของเจา) นั้น ยอมจะประเสริฐสําหรับเจา ยิ่งกวาเบื้องตน (ของการปฏิบัติภารกิจ) ( 4) (หมายเหตุ : บางทานแปลวา “โลกหนายอมดีสําหรับเจายิ่งกวาโลกแรก (ดุนยา)”) และตอไปองคอภิบาลของเจาจะประทาน (ชัยชนะและ ความสําเร็จ) แกเจา จนเจาพึงพอใจ ( 5) พระองคมิไดพบวาเจาเปนเด็กกําพราดอกหรือ แลวพระองคก็ใหที่ พักพิง (แกเจาโดยไดอาศัยอับดุลมุตตอลิบ และอะบูตอลิบตามลําดับ) (6) และพระองคไดพบวา เจาเปนผู กําลังแสวงหาทาง (อันรอดพนและถูกตอง) แลวพระองคก็ทรงชี้นํา (เจาสูทางนั้น ดวยการประทานอัลกุรอาน ให)(7) และพระองคไดพบวาเจาเปนผูขัดสนและพระองคก็ประทานความมั่งคั่งแกเจา (ดวยการแตงงานกับ คอดียะฮฺ) (8) ดังนั้น เจาจงอยากดขี่ลูกกําพรา (เพราะเจาเองก็เคยอยูใ นสภาพเชนนัน้ มากอน) (9) และสวนผู ที่มาขอนั้น เจาก็จงอยาตวาดไล (10) และความโปรดปรานแหงองคอภิบาลของเจา (ที่ประทานแกเจา) นั้น เจาก็จงบอกกลาว (แกผูอื่นใหทราบโดยทัว่ กันเถิด) ( 11) คําอธิบายศัพท
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-33-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
( )ﻭﺍﻟﻀﺤﻰเวลาสาย ชวงเริ่มตนของตอนกลางวัน ( )ﺳﺠﻰเงียบสงัด ( )ﻭﺩﻋﻚทอดทิ้ง ()ﻭﻣﺎ ﻗﻠﻰ ชิงชัง ( )ﺁﻭﻯใหที่พักพิง เลี้ยงดู ( )ﺿﺎﻻผูแสวงหาแนวทางที่รอดพน ( )ﻓﻬـﺪﻯทรงชี้นําไปสูแนวทางที่ดี ( )ﻋﺎﺋﻼยากจนขัดสน ( )ﻓﻼﺗﻘﻬﺮอยาไดกดขี่รังแก ( )ﻻ ﺗﻨﻬﺮอยาไดตวาด คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ อัลลอฮทรงสาบานยืนยัน ดวยเวลาสาย ซึ่งเปนชวงเวลาที่ดวงอาทิตยและเวลากลางวัน กําลังจะ ตระหง า นชั ด เจน เป น ช ว งเวลาที่โ ลกและสิ่ ง มี ชี วิ ต กํ า ลั ง ได รั บ แสงสว า งและความร อ นอย า งเต็ ม เป ย ม พระองคทรงสาบานยืนยันดวยเวลากลางคืนที่เงียบสงัด ชวงเวลาที่ทุกชีวิตทุกการเคลื่อนไหวสงบนิ่งหลังจาก ที่ไดขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวมาตลอดทั้งวัน พระองคทรงยืนยันดวยสิ่งทั้งสองวาพระองคจะไมทอดทิ้งเจาและ ไมไดเกลียดชังเจา(ดังที่พวกตั้งภาคีกลาวหา) จะเปนไปไดอยางไรในเมื่อเจาเปนที่รักของอัลลอฮ เปนผูที่ พระองคทรงเลือกสรร เปนศาสนทูตผูซื่อตรง เปนศาสนทูตทานสุดทายจากบรรดาศาสนทูตทั้งหมด อัลลอฮได ทรงติ ดตอมายังทานนบี ผู ซื่อสัตยโดยสงมลาอี ก ะฮฺญิบรีลมาเปน ผู สื่อ การติ ด ตอ ระหวางนบีกับอัลลอฮจะตองติดตอผานมลาอีกะฮฺญิบรีล ซึ่งในบางครั้งทานนบีจะรูสึกกดดันอยางหนัก เมื่อมลาอีกะฮฺญิบรีลไมไดมาหาทาน ทานนบีเคยไดรับวะหฺยูจากอัลลอฮ เพื่อที่จะนําไปบอกแกประชาชาติวา “ฉันเองเปนแคเพียงมนุษยที่ไดรับการประทานวะหฺยูจากอัลลอฮ” แตมีอยูชวงหนึ่งการประทานวะหฺยูก็หยุด และขาดหายไป และเพื่อใหจิตใจของทานรอซูลุลลอฮมีความสงบและมั่นใจ มีความยําเกรงตออัลลอฮมาก ยิ่งขึ้นเมื่อไดพบกับญิบรีล ทานก็วอนขอ และเฝารอการมาหาของทานมลาอิกะฮฺญิบรีล และชวงที่มีการ ประทานวะหฺยูมายังทานจะเปนสิ่งที่จะชวยใหทานมีความมั่นใจและประสานใจใหกับทานได ดวยเหตุนี้เองจิตใจของทานจึงคิดถึงและอยากพบกับองคอภิบาลของทานผานทานมลาอีกะฮฺญิบรีล และอีกดานหนึ่งทานรูสึกวิตกกังวลกลัว และเพื่อใหความจริงปรากฏและทําใหจิตใจของทานรอซูลุลอฮสงบ มั่นและรูสึกสบายใจในสิ่งที่ทานวอนขอ จึงไดมีการนําเหตุการณทั้งหมดมากกลาวถึง และเพื่อเปนการแจงขาวดีตอทานนบีในอนาคตตอไปวา ในชวงระยะเวลาที่ผานมานั้นทานไมไดถูก ทอดทิ้ง และอัลลอฮก็ไมไดโกรธเคืองตอทานแตอยางใด โดยที่อัลลอฮทรงสาบานยืนยันดวยสิ่งเหลานี้ ทั้งหมด จากการสาบานของอัลลอฮตอสิ่งดังกลาว อาจจะมีคําถาม(จากทานทั้งหลาย)เกี่ยวกับความสัมพันธ ระหวางเวลาสายกับเวลากลางคืนและความสัมพันธที่อัลลอฮทรงนําสิ่งนี้มาสาบานยืนยันวามีความสําคัญ อยางไร ? คําตอบก็คือการที่อัลวะหฺยูขาดตอนไป ก็เพื่อเติมเต็ม เพื่อสรางความแข็งแกรงและสรางความมั่นใจ ใหเกิดขึ้นซึ่งเปรียบแลวเสมือนชวงเวลาสายและสิ่งที่ปรากฏในชวงเวลาสายไมวาจะเปนการเคลื่อนไหวของ สิ่งมีชีวิต จากนั้นก็จะเปนชวงเวลาที่ตามมานั่นก็คือเวลากลางคืนที่โลกและสิ่งมีชีวิตเงียบสงัดเพื่อเปนการ เตรียมความพรอมในการที่จะเริ่มตนชีวิตใหมในวันตอไปที่ดีกวา ขอยืนยันดวยเวลาสายและเวลากลางคืนที่เงียบสงัดวา แทจริงแลวองคอภิบาลของทานไมไดทอดทิ้ง เจาและมิไดจงชังหรือโกรธตอเจา ซึ่งพึงรับรูไวเถิดวาแทจริงแลววันหนา (ในอนาคตที่กําลังจะมาถึง)นั้นยอม ดีกวาเวลานี้ของเจาอยางไมตองสงสัย และจงมั่นใจเถิดวา การเผยแพรศาสนาของทาน ชีวิตของทานจะ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-34-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เปลี่ยนจากระดับหนึ่งไปสูอีกระดับหนึ่งที่ดีกวาอยางแนนอน แมวารูปแบบนั้นอาจจะเปนอีกรูปแบบหนึ่ง ของความยากลําบากของความเหนื่อยยาก แตตอไปในอนาคตองคอภิบาลของทานจะประทานวะหฺยูที่ทาน วอนขอ มายังทานอยางตอเนื่องเพื่อที่ทานจะไดนําเอาสาระไปชี้นําประชาติ ชี้นําโลกไปสูทางนําที่ทานพอใจ และใหเกิดความมั่นใจแกทาน ซึ่งเรื่องดังกลาวไมใชเรื่องแปลก พระองคมิไดพบวาเจาเปนเด็กกําพราดอก หรือ แลวพระองคก็ใหที่พึงพิง(แกเจาโดยไดอาศัยอับดุลมุตตอลิบและอะบูตอลิบตามลําดับ) โดยใหการ สนับสนุนและเลี้ยงดูเจา ซึ่งทานรอซูลุลลอฮ ไดถือกําเนิดมาเปนเด็กกําพราหลังจากที่ผูเปนบิดาเสียชีวิต ขณะที่ทานเองยังอยูในครรภมารดา และเมื่อทานถือกําเนิดมา อัลลอฮก็ทรงใหทานอับดุลมุตตาลิบ (ผูเปนปู) มาเปนผูเลี้ยงดูดวยความรักและหวงแหน เมื่อทานอับดุลมุตตอลิบเสียชีวิตลง ตอมาก็ใหมาอยูในการดูแลของ ลุงคืออาบูตอลิบ ซึ่งทานรักและเปนหวงทานนบีเปนอยางยิ่ง ทานจึงดูแลและปกปองทานนบีเปนอยางดี ทานนบี เปนผูที่มีจิตใจแข็งแกรง และสะอาดบริสุทธิ์ ในเมื่อทานเองเห็นวาประชาชาติของทาน อยูในภาวะที่หลงผิด เนื่องจากศาสนาที่หอมลอมพวกเขาอยูในเวลานั้นมีอยูหลายศาสนาอยางเชน ศาสนายู ดายและคริสต (ยะฮูดีและนัศรอนีย) ซึ่งในเวลานั้นศาสนาคริสตนั้นไดถูกบิดเบือนไปจากเดิมแลว หลักการ เดิมที่เคยมีอยูถูกเปลี่ยนแปลงไปแลว ทําใหทานรูสึกเปนหวงในเรื่องที่ประชาชาติของทานจะตองประสบ จึง หลีก ห า งออกไปจากสั ง คมเสี ย ด ว ยการออกไปหาที่พํ านั ก ที่ สงบ จนกว า อัล ลอฮจะทรงประทานความ ปลดปลอยใหหลุดพนออกมาจากความเปนหวงเปนใยตอสังคม ดวยการชี้นํารัฐธรรมนูญที่สูงสงและศาสนา ที่ยิ่งใหญใหกับทาน ความรูสึกของทานที่ทานกําลังมีอยูในขณะนี้คือสิ่งที่อัลกุรอานไดเรียกวา ทานเปนผูที่ กําลังแสวงหาทางรอดพนและถูกตอง ก็ชีวิตการเปนอยูของทานซึ่งเจริญเติบโตมาอยางบริสุทธิ์สะอาด ชีวิต ทานไมเคยเปรอะเปอนสิ่งโสโครก ทานไมเคยที่จะกราบตอรูปเจว็ด ไมเคยกระทําในสิ่งที่เปนความชั่วเลย แมแตนอย จะมีอยูก็แคครั้งหนึ่งทานไดออกไปเพื่อที่จะรวมงานเลี้ยงรื่นเริง ซึ่งจัดใหมีการรองรําทําเพลง แต ทานก็กลับหลับใหลเสียกอน มาตื่นอีกครั้งเมื่อดวงอาทิตยขึ้นแลว ดวยเหตุนี้เองทานจึงไดรับการขนานนาม วา “อัลอะมีน” ซึ่งมีความหมายวาผูซื่อสัตย ทานเองเปนคนอนาถาที่ไมมีทรัพยสินสมบัติที่เปนมรดกจากผู เปนบิดาเลยแมแตนอย จะมีก็แคอูฐหนึ่งตัวกับคนรับใชอีกหนึ่งคนเทานั้น แตอัลลอฮก็ทรงประทานความ พอเพียงใหกับทาน ใหทานเปนผูที่ละทิ้งสิ่งทางโลก และใหทานบริหารจัดการทรัพยสินบางสวนผานการคา ขายสินคาของทานหญิงคอดียะฮฺ เมื่อเปนเชนนั้นอัลลอฮก็ทรงประทานความมั่นคงใหกับทานดวยความ โปรดปรานที่มากมาย ดังนั้นเจาจงอยาขดขี่ลูกกําพรา และทานก็คือหัวหนาลูกกําพราและพวกพองของพวก เขา สวนผูที่มาขอนั้น เจาจงอยาตวาดไลเขา แทจริงแลวทานเปนผูที่ประสงคจะแสวงหาทางนํา อัลลอฮก็ทรง ชี้นําแกทาน สวนความโปรดปรานแหงองคอภิบาลนั้นทานจงบอกกลาวใหทําการแจกจายดูแล แทจริงทาน เคยเปนผูที่ยากจนมากอนและอัลลอฮก็ทรงใหทานร่ํารวยขึ้นมาภายหลัง
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-35-
ซูเราะฮฺ อะลัมนัชรอฮฺ ชื่อซูเราะฮฺ อะลัมนับรอฮฺ เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 8 อายะฮฺ เปนสาระที่เกี่ยวกับเรื่องของความ โปรดปรานของอัลลอฮที่ทรงประทานมายังทานนบี การสรางความมั่นใจใหกับทานนบีและสนับสนุนให ทานทําหนาทีท่ ี่ไดรับมอบหมายมา ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
∩⊂∪ x8tôγsß uÙs)Ρr& ü“Ï%©!$# |Møîtsù #sŒÎ*sù
∩⊄∪ x8u‘ø—Íρ šΖtã $uΖ÷è|Êuρuρ
∩∉∪ #Zô£ç„ Îô£ãèø9$# yìtΒ ¨βÎ)
∩⊇∪ x8u‘ô‰|¹ y7s9 ÷yuô³nΣ óΟs9r&
∩∈∪ #·ô£ç„ Îô£ãèø9$# yìtΒ ¨βÎ*sù
∩⊆∪ x8tø.ÏŒ y7s9 $uΖ÷èsùu‘uρ
∩∇∪ =xîö‘$$sù y7În/u‘ 4’n<Î)uρ ∩∠∪ ó=|ÁΡ$$sù
ความหมายของซูเราะฮฺ เรามิไดใหหัวอกของเจาปลอดโปรงแกเจาดอกหรือ (หลังจากเคยคับแคน เพราะการรังควาญของ เหลาศัตรู)(1) และเราไดผอนคลายภาระหนักของเจาใหออกไปจากเจา(2) อันทําใหหนักอึ้งแกหลังของเจา (ที่ตองแบกภาระนั้น)(3) และเราไดยกยองแกเจา ซึ่งเกียรติคุณของเจา( 4) แทจริงมีพรอมกับความลําบาก คือ ความสบาย(5) แทจริงมีพรอมกับความลําบาก คือ ความสบาย( 6) ดังนั้นเมื่อเจาเสร็จสิ้น (ภารกิจหนึ่ง แลว) เจาก็จง (เริ่ม) บากบั่น (กระทําภารกิจอื่นตอไป)( 7) และสูองคอภิบาลของเจาเทานั้น ที่เจาจงมุงหมาย (8)
คําอธิบายศัพท ( )ﻧﺸﺮﺡเราใหความปลอดโปรง ซึ่งหมายถึงการทําใหมีความสุข ( )ﻭﺯﺭﻙภาระอันหนักหนวง ( )ﺃﻧﻘﺾ ﻇﻬﺮﻙที่ทําใหหนักอึ้งแกหลังของเจา ( )ﺍﻟﻌﺴﺮความยากลําบาก ( )ﻳﺴﺮﺍความงายดาย ความ สะดวกสบาย ( )ﻓﺎﻧﺼﺐจงบากบั่นทําใหเสร็จสิ้น ( )ﻓﺎﺭﻏﺐจงมุงไปสูอัลลอฮแตเพียงพระองคเดียว ซูเราะฮฺนี้เสมือนวาจะเปนความตอเนื่องมาจากซูเราะฮฺที่ผานมา เพราะสาระสวนใหญเชื่อมตอกับซู เราะฮฺที่ผานมา จนนักวิชาการบางทานกลาววาเปนซูเราะฮฺเดียวกัน คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ โอมูฮําหมัด เจาจงยอมรับ (ในขอเท็จจริงที่ไมมีใครปฏิเสธ) วาอัลลอฮไดทรงทําใหหัวอกของทาน ปลอดโปรง และอัลลอฮไดทรงทําใหเจาผอนคลายจากความยากลําบากที่ทานประสบมา อัลลอฮทรงทําให หัวอกของทานปลอดโปรงเพื่อทําหนาที่การเรียกรองเชิญชวนใหดีที่สุด ใหจิตใจของทานผอนคลายคลายจาก ความยากลําบาก มีความมั่นใจในการปฏิบัติภารกิจ มีจิตใจที่มั่นคง ซึ่งกอนหนาที่ทานรอซูลเคยรูสึกคับอก ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-36-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
คับใจกับการกลั่นแกลงและการสรางความเดือดเนื้อรอนใจจากพวกมุนาฟกีนที่ตอตานทาน อัลลอฮไดทรง เลาเรื่องราวเหตุการณไววา ∩∉∪ šχθßϑn=ôètƒ t∃öθ|¡sù 4 tyz#u $·γ≈s9Î) «!$# yìtΒ tβθè=yèøgs† šÏ%©!$# ∩∈∪ šÏÌ“öκtJó¡ßϑø9$# y7≈oΨø‹xx. $¯ΡÎ) ∩∇∪ tωÉf≈¡¡9$# zÏiΒ ä.uρ y7În/u‘ ωôϑpt¿2 ôxÎm7|¡sù ∩∠∪ tβθä9θà)tƒ $yϑÎ/ x8â‘ô‰|¹ ß,ŠÅÒtƒ y7¯Ρr& ÞΟn=÷ètΡ ô‰s)s9uρ (Al-Hijr 095-098)
แทจริงเราไดทําความเพียงพอแกเจาแลว ดวยการลงโทษบรรดาพวกที่ทําการเยยหยัน ซึ่งพวกเขาทํา การอุปโลกน พระเจาอื่นขึ้นมารวมเปนภาคีกับอัลเลาะฮฺ แลวพวกเขาจะไดรู (วาพวกเขาตองรับโทษอยางไร ในการกระทํานั้น ๆ ของพวกเขา) ขอยืนยัน! แทจริง เรารูวาเจานั้นมีความคับแคนใจในสิ่งที่พวกเขาพูดไว (เกี่ยวกับการประกาศของเจาแบบดูถูกก เยยหยัน และใสรายตาง ๆ นานา) ดังนั้น เจาจงถวายสดุดีพระ บริ สุ ท ธิ คุณ พรอ มการสรรเสริ ญในองค อภิ บ าลของเจา เถิ ด และเจ า จงเป น ผูห นึ่ ง ในพวกที่ ทํ า การกราบ นมัสการ (พระองคแตเพียงพระองคเดียว) และการเรียกรองไปสูสัจธรรมที่ทานนบีทําการเรียกรองอยูนี้เปนการเรียกรองเชิญชวนผูคนทั้งหมด หมายรวมทั้งเปนการเรียกรองชาวอาหรับญาฮีลียะฮฺและผูคนทั้งหมด การเรียกรองในลักษณะนี้นับไดวาเปน ภาระที่หนักหนวง ไมใชงานเบา ๆ ที่ใครตอใครจะกระทําได แตถึงกระนั้นอัลลอฮก็ไดทรงใหความมั่นใจ แกศาสนทูตของพระองคที่พระองคทรงเลือก ผานอายะฮฺมาเปนคําชี้นําและการชี้แนะตางๆ ซึ่งอัลลอฮได ทรงแจงแกทานวาพระองคไดทรงยกเอาภาระหนักเหลานี้ออกไปจากทานแลวทั้งหมด และนี่คือความเมตตา ที่อัลลอฮทรงมีตอทาน อัลลอฮไดทรงยกยองแกทานนบีมูฮําหมัดซึ่งเกียรติ์คุณที่ทานมีอยู ไมมีการยกยองใดที่จะมีเกียรติ์ มากไปกวาการเอยชื่อของทานพรอม ๆ กับพระนามของพระองคในขณะอาซาน (เรียกรองสูการละหมาด) ขณะกลาวตักเบร ขณะอานดุอาขอพรและการละหมาด ทรงกําหนดใหการภักดีตอศาสนทูตของพระองค เปนการเคารพภักดีตอพระองค การแสดงความรักตอศาสนทูตของพระองคก็เปนการแสดงความรักตอ พระองค แลวจะมีฐานันดรใดที่ยิ่งใหญไปกวานี้ ? ฐานันดรของทานนบีสูงสงยิ่ง สูงสงกวาตําแหนงใด ๆ ใน โลกนี้ทั้งหมด ทานนบีจะมีผูปฏิบัติตามทาน ผูชวยเหลือทาน ผูนับถือศาสนาที่ทานนํามาเผยแพรมีอยูทั่วทุก มุมโลก ทุกคนเคารพและยกยองทานใหเปนผูนํา ทานทั้งหลายไม(สังเกต)เห็นดอกหรือวา บรรดาซอฮาบะฮฺ ซึ่งเปนสาวกของทานนบีนั้น ตางแกงแยง กันเพื่อเขารวมประชุมรับฟงการกลาวปราศรัยและถอยสํานวนอันหวานล้ําของทานนบี ใชแลวเรา(อัลลอฮ)ไดใหหัวอกของเจาปลอดโปรง(หลังจากที่เคยคับแคนเพราะการรังควาญของ เหลาศัตรู) และเราไดผอนคลายภาระที่เคยสรางความหนักอึ้งออกไปจากเจา และพระองคไดทรงยกยอง เกียรติของทานนบีมูฮําหมัดและไมใชเปนการยกยองเกียรติเฉพาะในโลกนี้เทานั้น แตพระองคทรงยกทานไป ยังสถานที่ที่เรียกกันวา “ซิดรอตุล มุลตะฮาอฺ” ยกไปยังสรวงสวรรคที่มีชื่อวา “อัลมะอฺวา”การยกยองเชิดชู เกียรติทานนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ทานไดประสบกับความยากลําบาก จากการกลั่นแกลงรังควาญจากบรรดา ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-37-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ศัตรู จนทานเองรูสึกอึดอัดใจ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไมใชเรื่องแปลก เพราะแทจริงแลวกับความยากลําบากนั้น จะมีความสบายผอนคลายอยู ดังจะสังเกตการณยืนยันจากอัลลอฮซึ่งพระองคไดทรงยืนยันไววา “ ﺇﻥ ﻣﻊ ”ﺍﻟﻌﺴﺮ ﻳﺴﺮﺍและท า นรอซู ลุ ล ลอฮเองก็ เ คยกล า วไว ว า “ความยากลํ า บากจะไม มี วั น ชนะเหนื อ ความ สะดวกสบายได” สําหรับความยากลําบากที่เคยเกิดขึ้นกับทานนบี และบรรดาซอฮาบะฮฺนั้นมีหลายตอ หลายประการ ไมวาจะเปนเรื่องของความยากแคน มีจํานวนสนับสนุ นที่มีจํานวนน อย ฝายฝงของศัตรู เขมแข็งกวา มีการตอตานออกมาอยางรุนแรง ตอมาอัลลอฮก็ทรงประทานความสะดวกสบายให ดวยการ ประทานทรัพยสิน ผูสนับสนุนที่มากมาย พระองคทรงทําใหฝายศัตรูออนกําลังลง ทรงบันดาลใหบรรดาผู ศรัทธามีความเขมแข็งขึ้น โดยที่พระองคทรงแลกเปลี่ยนทรัพยสินที่พวกเขามีอยู รางกายที่พวกเขามีอยู ดวย สรวงสวรรคโดยสัญญากับพวกเขาวาพวกเขาจะไดรับการตอบแทนดวยสรวงสวรรค เมื่อพวกเขาออกมา ตอสูในแนวทางของอัลลอฮ สัญญาที่อัลลอฮทรงใหกับพวกเขานั้นมีอิทธิพลตอพวกเขายิ่ง แมวาบางคนจะมี ขอจํากัด พวกเขาตางคนตางรักตอญาติพี่นองของพวกเขา แตสิ่งที่พวกเขากระทําไปไมไดสรางความคับแคน ใจใหแกเขาแตอยางใด เพราะหากวาเขาเองจะถูกสังหาร เขาก็จะเปน “ชะฮีด” หรือหากเขามีชีวิตอยูพวกเขา ก็จะมีชีวิตอยูอยางมีความสุข และจะมีความสุขตลอดไป ความยากลําบากที่เกิดขึ้นนั้นจะตามติดมาดวยความผอนคลาย สะดวกสบายดังที่มีปรากฏอยูในอัล กุร อานจริงหรือ ? คําตอบก็คือ อัลลอฮเทานั้นที่ทรงรอบรูยิ่ง เชนเดียวกัน เมื่อใดที่ผูประสบเหตุยังอยูใน แนวทางแหงอัลลอฮที่ทรงกําหนดใหมาเปนกฎแหงธรรมชาติ และตอสูดวยความอดทน และมีการเตรียม ความพรอมเพื่อตอสูดวยความอดทนอดกลั้นตอสิ่งที่ไมพึงประสงค ทําหนาที่ดวยความบริสุทธิ์ใจ พยายาม หาทางเพื่อใหหลุดพนจากความยากลําบาก อัลลอฮก็จะทรงประทานความสะดวกสบายให ซึ่งก็สอดคลอง กั บ ที่ พ ระองค ท รงตรั ส ไว ว า “ ”ﻛﻞ ﺷﻲﺀ ﻫﺎﻟﻚ ﺍﻻ ﻭﺟﻬﻪทุ ก ๆ สิ่ ง ย อ มพิ น าศย อ ยยั บ ไปสิ้ น นอกจาก พระองคเทานั้น” ทุกสิ่งทุกอยางที่เกิดขึ้นลวนแลวแตมีจุดเริ่มตนและมีจุดจบของมันอยูในตัว กับความ ยากลําบากก็จะมีความสะดวกสบายผอนคลายตามมา แตความสะดวกสบายนั้นจะแตกตางกันออกไป โดย จะดําเนินไปตามกฎที่อัลลอฮทรงกําหนดไวทั้งหมด ดังที่อัลกุรอานไดชี้นําไว ซึ่งเปนคําแนะนําที่อัลลอฮทรง ประทานใหกับทานนบีผูเปนที่รักแหงพระองค ที่พระองคทรงเลือกสรรมา ดวยเหตุนี้เองทุกคนจึงปรารถนา ที่จะไดรับรัศมีทางนําจากอัลกุรอานและอัลลอฮก็ทรงชี้นําตอไปวา เมื่อเจา (ทานนบีมูฮําหมัด) เสร็จสิ้น ภารกิจหนึ่งแลวเจาจงเริ่มบากบั่นภารกิจอื่นตอไป เพื่อยืนยันวาทุกคนมุงมั่นสูอัลลอฮแตเพียงพระองคเดียว และตอพระองคเทานั้นที่พวกเขามอบหมาย เพราะพระองคคือผูคุมครองที่ดีที่สุด และเปนผูชวยเหลือที่ดี ที่สุด
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-38-
ซูเราะฮฺอัตตีน ชื่อซูเราะฮฺ อัตตีน ซึ่งหมายถึงผลมะกอก เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 8 อายะฮฺ ซึ่งมีปรากฏอยูใน อายะฮฺที่ 1 ของอายะฮฺ สาระของซูเราะฮฺไดกลาวถึงการสาบานยืนยันของอัลลอฮตอผลมะกอก ซึ่งเปนสิทธิ์ ของพระองคในการที่จะใชสิ่งใดยืนยันก็ได และพระองคทรงยืนยันไววาพระองคคือผูทรงสรางมนุษยชาติ และทรงบันดาลใหมีรูปรางที่สวยสดงดงาม และพระองคคือผูที่จะใหพวกเขากลับคืนสูสภาพของความต่ํา ตอยที่สุด(อยางเชนยามชราภาพ) ยกเวนผูที่มีศรัทธา เพราะพวกเขาจะไดรับการตอบแทนดวยกุศลผลบุญที่ ยิ่งใหญ และอัลลอฮคือผูตัดสินที่เที่ยงธรรมที่สุด ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
$uΖø)n=y{ ô‰s)s9
∩⊂∪ ÂÏΒF{$# Ï$s#t7ø9$# #x‹≈yδuρ
(#θè=ÏΗxåuρ (#θãΖtΒ#u tÏ%©!$# ωÎ) È/s3ômr'Î/ ª!$# }§øŠs9r&
∩⊄∪ tÏΖÅ™ Í‘θèÛuρ
∩∈∪ t,Î#Ï≈y™ Ÿ≅xó™r& çµ≈tΡ÷ŠyŠu‘ ¢ΟèO
∩∠∪ ÈÏe$!$$Î/ ߉÷èt/ y7ç/Éj‹s3ム$yϑsù
∩⊇∪ ÈβθçG÷ƒ¨“9$#uρ ÈÏnG9$#uρ
∩⊆∪ 5ΟƒÈθø)s? Ç|¡ômr& þ’Îû z≈|¡ΣM}$#
∩∉∪ 5βθãΨøÿxΕ çöxî íô_r& óΟßγn=sù ÏM≈ysÎ=≈¢Á9$# ∩∇∪ tÉΚÅ3≈ptø:$#
ความหมายของซูเราะฮฺ ขอยืนยันกับตนมะเดื่อ และตนมะกอก(1) และภูเขาฏรซีนีน (ซีนาย) (2) และเมือง (มักกะฮฺ) อัน ปลอดภัยนี้ (3) แทจริงเราไดสรางมนุษยมาในรูปทรงอันงดงามยิ่ง (4) หลังจากนั้นเราไดสงเขากลับสูสภาพ ของผูที่ต่ําตอยที่สุด (ในยามชรา ซึ่งมีแตความรวงโรย และความสูญสิ้นในดานตาง)( 5) นอกจากบรรดาผู ศรัทธา และประพฤติแตสงิ่ ดีงาม แนนอนพวกเขาจะตองไดรับรางวัลอันไมขาดตอ(6) แลวอะไรหรือที่ทํา ใหเขาใสไครศาสนาวา เปนความสุสาในภายหลัง (จากที่หลักฐานตางๆ ประจักษแลว)( 7)อัลเลาะฮฺทรงเปน ผูตัดสินที่เที่ยงธรรมที่สุดมิใชหรือ ( 8) คําอธิบายศัพท ( )ﻭﺍﻟﺘﲔ ﻭﺍﻟﺰﻳﺘﻮﻥมะกอกและมะเดื่อ หรือชื่อสถานที่แหงหนึ่งในซีเรีย ( )ﻃﻮﺭ ﺳﻨﲔภูเขาฏรซีนีน (ซี นาย) ซึ่งเปนสถานที่ที่ทานนบีมูซาเขาเฝาองคอภิบาล ( )ﻫﺬﺍ ﺍﻟﺒﻠﺪ ﺍﻷﻣﲔหมายถึงนครเมกกะ ( )ﺗﻘﻮﱘรูปรางที่ สวยงามไดสัดสวน ( )ﺍﺳﻔﻞ ﺳﺎﻓﻠﲔสูสภาพที่ต่ําตอย หมายถึงใหเปนชาวนรก ( )ﻏﲑ ﳑﻨﻮﻥไมขาดตอน ()ﺑﺎﻟﺪﻳﻦ วันกียามะฮฺวันแหงการตอบแทน
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-39-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ อัลลอฮทรงสาบานยืนยันดวยตนมะกอกและตนมะเดื่อ และทรงสาบานดวยภูเขาซีนาซึ่งเปนสถานที่ ที่ทานนบีมูซาเขาเฝาองคอภิบาลของทาน และทรงสาบานดวยเมืองที่มีความปลอดภัยอันหมายถึงเมืองเมกกะ ซึ่งเปนที่ที่ทานนบีไดถูกกลั่นแกลงรังควาญจากพวกพองของทาน ทั้งๆ ที่เมืองนี้เปนเมืองที่สงบปลอดภัย เปนที่ที่บรรดาซอฮาบะฮฺใชเปนที่พึ่งพิงหาความปลอดภัย ผูใดที่เขามาในเมืองนี้เขาก็จะปลอดภัยจากการรัง ควาญตาง ๆ และไมใชเฉพาะมนุษยเทานั้นที่จะไดรับความปลอดภัย แมกระทั่งสัตวปา นก หรือผูที่มาขอพึง พิง ก็จะไดรับการคุมครองใหปลอดภัยดวย แตคําวา “ตีน ซัยตูน” ในที่นี้หมายถึงอะไร? หรือวาหมายถึงตน มะกอกและตนมะเดื่อ อัลลอฮทรงสาบานยืนยันดวยมะกอกและมะเดื่อ เพราะคุณคาของตนไมทั้งสองชนิดมี มากมาย เพราะไมชนิดนี้เปนไมที่เปนที่รูจัก แตคงจะไมใชความหมายในสํานวนอันล้ําลึกของอัลกุรอาน นักวิชาการบางทานกลาววา ความมุงหมายที่แทจริงของตีนและซัยตูนคือคุณคา ซึ่งไมชนิดนี้มีอยูมากมายใน ประเทศซีเรียซึ่งเปนเมืองของทานนบีอีซา การที่อัลลอฮทรงสาบานยืนยันตอสิ่งทั้งสองเพื่อชี้ใหระลึกถึง ทานนบีอีซาและภูเขาซีนาซึ่งเปนสถานที่ที่ทานนบีมูซาเขาเฝาองคอภิบาล และยืนยันดวยเมืองที่มีความ ปลอดภัย(หมายถึงเมืองเมกกะ)ของทานนบีมูฮําหมัด ผูเปนศาสดาทานสุดทายของประชาชาติ นักวิชาการบางทานไดคําอรรถาธิบายไววา คําวาตีนและซัยตูนเปนชื่อสถานที่แหงหนึ่งในประเทศ ซีเรีย (ชาม) การอรรถาธิบายดังกลาวจะตองไดรับการยืนยันถึงความถูกตอง ซึ่งอัลลอฮไดทรงสาบานยืนยัน ดวยชื่อสถานที่ดังกลาวเพื่อเปนการใหเกียรติตอผูที่พํานักอยู ณ ที่แหงนั้น นั่นคือนบีและรอซูลหลายตอหลาย ทาน แทจริงแลวอัลลอฮไดทรงสรางสรรคมนุษยมาในรูปลักษณที่ลงตัวสวยงาม เจาไมสังเกตดอกหรือ อัลลอฮทรงสรางใหออกมาในลักษณะทายืนหัวตั้งไดระดับ รับประทานอาหารดวยมือ และทรงประทาน สติปญญาใหสําหรับใชขบคิด สามารถนําเอาสิ่งตาง ๆ มาเปนเครื่องอํานวยความสะดวกใหกับตนเอง ไมวา จะเปนสัตวหรือพืชพันธตาง ๆ และอัลลอฮไดทรงประทานใหสติปญญาของพวกเขามีประโยชนไปมากกวา นั้น ถึงขนาดวาพวกเขาสามารถที่จะขบคิดวิเคราะหถึงขนาดสามารถนําเอาธรรมชาติตางๆ ที่อัลลอฮทรง สรางไวมาใชประโยชนไดนานับประการ หลักฐานตางๆ ไดปรากฏใหเห็นอยูทั่วไป อาจจะเปนไปไดวาการที่พระองคทรงยืนยันดวยสิ่งเหลานี้ทั้งหมดเพื่อที่จะใหมนุษยหันกลับมาพินิจ พิจารณาไตรตรองถึงตัวตนของพวกเขา ไตรตรองถึงองคประกอบไมวาจะเปนพลัง ความรูความเขาใจ สติปญญา เพื่อใหพวกเขาสามารถเขาถึงความเขาใจในเอกานุภาพแหงอัลลอฮผูทรงเดชานุภาพ และมนุษยซึ่ง เปนสิ่งถูกสรางที่องคอภิบาลไดทรงสรางทรงใหเกียรติ และประทานความโปรดปรานมากมายใหกับพวกเขา และทรงประทานใหพวกเขามีอํานาจปกครองสรรพสิ่งตาง ๆ ในโลกทั้งหมด แรกเริ่มเดิมทีมนุษยก็เริ่มที่จะออนขอใหกับความโลภ ธรรมชาติของความชั่วรายก็เขาครอบงําโดย ไมทันระวังตั้งตัว เมื่อธรรมชาติแหงความชั่วเขามาครอบงํา ความอิจฉาริษยา ความขัดแยงแคลงใจ ความคิดที่ จะบอนทําลายก็เริ่มปรากฏ สิ่งที่จะตามมาก็คือการรบราฆาฟน ทะเลาะเบาะแวงระหวางกันก็เกิดขึ้น ในที่สุด มนุษยก็ตกต่ําลงสูความเปนสัตว การแสดงความโหดรายตอเพื่อนมนุษยดวยกันก็กลายเปนความเคยชิน ซึ่งก็ สอดคลองกับพระดํารัสแหงอัลลอฮที่พระองคทรงตรัสไววา “หลังจากนั้นเราไดสงเขากลับสูสภาพของผูที่ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-40-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ต่ําตอยที่สุด”ทั้ง ๆ ที่ความจริงแลวธรรมชาติของมนุษยที่อัลลอฮทรงสรางมานั้นพระองคทรงสรางมาใหมี ความรั ก ใคร ก ลมเกลี ย วซึ่ ง กั น และกั น ให ช ว ยเหลื อเกื้ อ กู ลซึ่ งกั น และกั น ใหพ วกเขามี ค วามยุ ติธ รรมมี คุณธรรมจริยธรรมที่สูงสง แตแลวในบางครั้งมนุษยก็ถอดถอนตัวเองออกไปจากคุณลักษณะเหลานี้ออกไปสู ความเลวร า ยด ว ยเหตุห รือป จ จัย ภายนอกที่เ ขามามีอิทธิพลผลั ก ดั นไปสูความชั่ว ร า ยจนทํา ให มนุ ษ ย ลืม ธรรมชาติของตนเองจนตองกลับคืนสูความเปนเดรัชฉานและแสดงพฤติกรรมของชาวนรกออกมาจนพวก เขาตองตกลงสูความต่ําตอยลงสูฐานันดรที่ตําทรามกวาสัตว และนี่คือมนุษยนี่คือธรรมชาติของมนุษยและสิ่งเขามากองทับถมลงบนมนุษย มนุษยซึ่งมีธรรมชาติ ที่บริสุทธิ์แตครั้นเมื่อปจจัยแหงความเลวรายจากภายนอกเขามามนุษยก็เปลี่ยนตัวเองลงสูความต่ําทรามเสียยิ่ง กวาสัตว ยกเวนผูที่มีจิตใจที่เต็มเปยมไปดวยความศรัทธามั่นตออัลลอฮตอวันกียามะฮฺ เพราะพวกเขาจะยับยั้ง ปองกันการพยศของอารมณ สามารถที่จะนําพาตัวเองกลับคืนสูความดี กลับไปกระทําการในการกระทําที่ ประเสริฐเพื่อแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮ และพวกเขาก็จะไดรับการตอบแทนจากพระองคโดยไม ขาดตอน พวกเขาจะไดรับแตความผาสุกในโลกนี้และจะไดรับความสมบูรณสุขในโลกหนาเปนการตอบ แทน นาประหลาดใจเปนยิ่งนัก โอมวลมนุษย อะไรหรือที่ทําใหพวกเจาปฏิเสธตอวันแหงการตอบแทน หลังจากที่ทานไดรับรูถึงขอเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแลว อัลลอฮทรงเปนผูตัดสินที่เที่ยงธรรมที่สุด ทรงเปน ผูตัดสินที่ยุติธรรมที่สุดไมใชหรือ ? ซึ่งพระองคจะทรงตอบแทนผูที่ภักดีตอพระองคดวยกุศลผลบุญอยาง ตอเนื่องไมขาดตอน สวนผูที่ทรยศตอพระองคพระองคจะตอบแทนดวยการลงโทษที่แสนสาหัส
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-41-
ซูเราะฮฺ อัลอะลัก ชื่อซูเราะฮฺ อัลอะลัก (หมายถึง กอนเนื้อ) ซึ่งมีระบุอยูในอายะฮฺที่ 2 เปนซูเราะฮฺมัหกกียะฮฺ มีทั้งหมด 19 อายะฮฺ ในซูเราะฮฺอัลลอฮทรงบัญชามายังทานรอซูลุลลอฮ ใหอานไปพรอม ๆ กับการชี้แจงใหเห็นถึง ปรากฏการณตางๆ ที่แสดงใหเห็นถึงเดชานุภาพแหงพระองคที่มีเหนือมวลมนุษย และทรงแจงใหรับรูถึง คุณลักษณะบางประการของพระองค จากนั้นพระองคก็ทรงกลาวถึงตัวอยางการตอตานของมนุษยบางกลุม บางคนและแจงใหไดรับรูถึงผลตอบแทนที่พวกเขาจะไดรับวาเปนเชนไร ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
ãΠtø.F{$# y7š/u‘uρ ù&tø%$#
∩⊄∪ @,n=tã ôÏΒ z≈|¡ΣM}$# t,n=y{
∩∉∪ #xöôÜuŠs9 z≈|¡ΣM}$# ¨βÎ) Hξx. #sŒÎ) #´‰ö7tã
7πuŠÏ¹$tΡ
∩∈∪ ÷Λs>÷ètƒ óΟs9 $tΒ z≈|¡ΣM}$# zΟ¯=tæ
∩∪ 4‘sS÷Ζtƒ “Ï%©!$# |M÷ƒuu‘r&
z>¤‹x. βÎ) |M÷ƒuu‘r&
∩⊆∪ ÉΟn=s)ø9$$Î/ zΟ¯=tæ “Ï%©!$#
∩∇∪ #tëô_”9$# y7În/u‘ 4’n<Î) ¨βÎ)
∩⊇⊄∪ #“uθø)−G9$$Î/ ttΒr& ÷ρr&
∩⊇∇∪ sπu‹ÏΡ$t/¨“9$# äíô‰uΖy™
∩⊂∪
∩∠∪ #o_øótGó™$# çν#u§‘ βr&
∩⊇⊇∪ #“y‰çλù;$# ’n?tã tβ%x. βÎ) |M÷ƒuu‘r&
∩⊇∈∪ ÏπuŠÏ¹$¨Ζ9$$Î/ $Jèxó¡oΨs9 ϵtG⊥tƒ óΟ©9 Í.s! ξx.
ô‰ß∨ó™$#uρ çµ÷èÏÜè? Ÿω ξx.
∩⊇∪ t,n=y{ “Ï%©!$# y7În/u‘ ÉΟó™$$Î/ ù&tø%$#
∩⊇⊆∪ 3“ttƒ ©!$# ¨βr'Î/ Λs>÷ètƒ óΟs9r& ∩⊇∠∪ …çµtƒÏŠ$tΡ äíô‰u‹ù=sù
∩⊇⊃∪ #’©?|¹ ∩⊇⊂∪ #’¯<uθs?uρ
∩⊇∉∪ 7πy∞ÏÛ%s{ >πt/É‹≈x. ∩⊇∪ ) >ÎtIø%$#uρ
ความหมายของซูเราะฮฺ จงอานเถิด ในพระนามแหงองคอภิบาลของเจา ผูทรงบันดาล( 1) พระองคทรงบันดาลมนุษยมาจาก กอนเนื้อ (ที่วิวฒ ั นจากกอนเลือด จากอสุจิ เปนลําดับ)( 2) จงอานเถิด และองคอภิบาลของเจา ผูทรงเอือ้ เฟอยิ่ง นัก( 3) ซึ่งทรงสอนความรูดวยกับปากกา( 4) พระองคทรงสอนมนุษยในสิ่งที่เขาไมรู( 5) หามิได แทจริง มนุษยนั้น ทําการลวงละเมิด (ในบทบัญญัติแหงอัลเลาะฮฺ)( 6)เพราะเขาไดมองเห็นวาตัวเอง มีความพอเพียง แลว (ไมตองพึ่งพาอาศัยใคร)( 7) แทจริงยังองคอภิบาลของเจาเทานั้นเปนที่กลับคืน (เพื่อรับการตัดสิน)( 8) เจาเห็นไหม ผูท ี่คอยกีดกัน( 9) บาวคนหนึง่ (ของอัลเลาะฮฺ คือ นบีมุฮํามัด) เมื่อเขาทําการละหมาด(10)เจาเห็น แลวใชไหม (วาเขาจะไดรับความดีอยางไร) หากเขาตั้งมั่นอยูบนทางชี้นาํ ( 11)หรือเขาไดใช (ใหผูคน) มีความ ยําเกรง (ตออัลเลาะฮฺ)( 12)เจาเห็นแลวใชไหม (วาเขาจะมีสภาพเปนอยางไร) หากเขากลาวหาความเท็จและ ผินหลังให( 13)เขาไมรูหรือวา แทจริงอัลเลาะฮฺทรงมองเห็น( 14)หามิได ขอยืนยัน หากเขาไมยุติ แนนอนเรา จักตองกระชากกระจุกผมริมหนาผาก (ของเขา)(15)กระจุกผมริมหนาผากที่โกหก อีกทั้งกระทําความผิด ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-42-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
(16)แลวเขาก็จงเรียกสมาชิกรวมของเขาเถิด (เพื่อมาชวยเหลือเขา)(17)เราก็จะเรียก มลาอิกะฮฺซะบานิยะฮฺ (ผู เปนเจาหนาทีค่ ุมนรก) (18)หามิได เจาจงอยาเชื่อฟงเขาและเจาจงกราบกราน (ตออัลเลาะฮฺ) และจงเขาใกล (พระองค)เถิด(19) คําอธิบายศัพท ( )ﻋﻠﻖกอนเนื้อที่วิวัฒนาการที่มาจากเลือด ( )ﺍﻷﻛﺮﻡทรงเอื้อเฟอยิ่ง ( )ﻟﻨﺴﻔﻌﻦ ﺑﺎﻟﻨﺎﺻﻴﺔกระชาก กระจุกผมอยางรุนแรง เปนการแสดงออกถึงความไรเกียรติไรศักดิ์ศรี ( )ﻧﺎﺩﻳﺔสมาชิก เพื่อนรวมสมาคม ( )ﺍﻟﺰﺑﺎﻧﻴﺔชื่อมลาอีกะฮฺที่ไดรับการมอบหมายมาใหควบคุมดูแลพวกกาเฟรในนรก ( )ﻭﺍﻗﺘﺮﺏเขาใกลองค อภิบาลดวยการประกอบอีบาดะฮฺ คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ ในทานบุคอรียไดบันทึกไวในซอเหียะฮฺของทานจากรายงานของทานหญิงอาอีชะฮฺรายงานไววา วะหฺยูแรกที่ทานรอซูลุลลอฮไดรับคือการฝนที่เปนความจริง ซึ่งทานไดเห็นวามีแสงลักษณะคลายแสงสวาง ในยามรุงอรุณปรากฏออกมาใหทานเห็น หลังจากนั้นตอมาทานก็มักจะปลีกตัวออกไป ทานไดปลีกตัว ออกมาหาความสงบอยูในถ้ําหิรออฺ (ดวยการอีบาดะฮตออัลลอฮ) หลายตอหลายคืนติดตอกัน และตอมาทาน ก็เพิ่มจํานวนขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นทานก็กลับไปหาทานหญิงคอดีเยาะฮฺแลวก็กลับมาใหม จนกระทั่งอัลลอฮทรง ประทานวะหฺยูลงมายังทาน ขณะที่ทานอยูในถ้ําหิเราะมลาอิกะฮฺก็มายังทานและกลาวกับทานวา “ทานจง อาน” ทานรอซูลุลลอฮก็กลาววา “ฉันอานไมได” มลาอิกะฮฺก็เขามายังทานแลวกอดทานอยางแรง จนรูสึก แนน แลวก็คลายออก แลวสั่งทานอีกครั้งวา “จงอาน” ทานก็ตอบเชนเดิมวา ฉันอานไมได มลาอิกะฮฺก็เขามา กอดทานอีกครั้งหนึ่งจนรูสึกแนน จากทานก็คลายออกแลวก็กลาววา “จงอานดวยพระนามแหงองคอภิบาล แหงเจา....ไปจนจบ... จากฮาดิษที่กลาวมาจึงเปนหลักฐานยืนยันไดวา ซูเราะฮฺนี้เปนซูเราะฮฺแรกที่ไดรับการประทานมายัง ทาน เพื่อเปนทางนําและความเมตตาแหงอัลลอฮมายังมนุษยชาติ เปนสิ่งแรกบัญญัติแรกที่อัลลอฮทรงสื่อ มายังทาน คือการสั่งใหทานอาน และมีการกลาวถึงปากกา กลาวถึงวิชาความรู จากบัญญัติดังกลาว มุสลิม ทั้งหลายไมพินิจพิเคราะหดอกหรือ ไมคิดที่จะปฏิบัติในเรื่องเกี่ยวกับการเผยแพรความรู ศึกษาหาความรู เพราะศาสนทูตของพวกเขาซึ่งเปนผูที่อานไมออกเขียนไมได กลับไดรับการบัญชาใหทานอานและเผยแพร ความรู สวนสาระที่เหลือของซูเราะฮฺมีหลักฐานปรากฏวาเปนสวนที่ไดรับการประทานในเวลาตอมา และซู เราะฮฺแรกที่ไดรับการประทานลงมาครบทั้งหมดเลยในครั้งเดียวคือซูเราะฮฺ อัลฟาติหะฮฺ สําหรับความหมาย โดยสรุปของซูเราะฮฺก็คือ อัลลอฮไดทรงบัญชามายังทานนบีมูฮําหมัดใหทานเปนนักอาน โดยสั่งใหทานอาน ทั้ง ๆที่กอนหนานี้ทานยังอานไมได แตตอไปทานจะตองอานโองการแหงอัลลอฮที่ไดรับการประทานมายัง ทาน และอยาไดเขาใจวาเรื่องของการอานเปนเรื่องไกลตัว เพราะทานเปนผูที่อานเขียนไมได อยาไดเขาใจวา ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-43-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
การอานนั้นเปนเรื่องที่ทานทําไมได แทจริงแลวอัลลอฮคือผูทรงสรางจักรวาล ผูทรงทําใหจักรวาลทั้งหมด เกิดความสมดุล เปนผูทรงกําหนดและทรงชี้นํา พระองคทรงสรางมนุษยขึ้นมาดวยรูปรางที่สวยงาม และทรง สรางใหมนุษยเปนสิ่งถูกสรางที่มีเกียรติที่สุด เปนผูที่จะมาเปนผูควบคุมปกครองจักรวาล ทรงสรางใหมนุษย สามารถแยกแยะสิ่งตางๆ ไดดวยสติปญญา และสามารถที่จะควบคุมบังคับสิ่งตางๆ ไดหลังจากที่ไดพินิจ พิ เ คราะห พระองค ท รงสร า งมนุ ษ ย ม าจากก อ นเลื อ ดแข็ ง ๆ ที่ ไ ม มี ค วามรู สึ ก ไม ส ามารถขยั บ เขยื้ อ น เคลื่อนไหวได หลังจากนั้นก็จะกลับกลายมาเปนมนุษยที่มีความสมบูรณครบถวน ที่ถูกสรางใหออกมาใน รูปลักษณที่สวยสดงดงาม และพระองคทรงบันดาลใหทานมีความสามารถในการอาน และทรงประทาน ความรูใหกับทานไดรูในสิ่งที่ทานและประชาชาติของทานไมเคยรับรูมากอน พระองคทรงเดชานุภาพในการ ที่จะประทานอัลกุรอานมายังทาน เพื่อใหทานไดอานใหผูคนไดรับฟงอยางคอยเปนคอยไป ทั้งๆ ที่กอนหนา นี้ทานเองก็ยังไมเคยรูเลยวาคัมภีรคืออะไร การศรัทธาคืออะไร ? จงอาน...ดวยพระนามแหงองคอภิบาลของเจา ซึ่งหมายถึง ดวยเดชานุภาพแหงพระองค คําวาพระ นามของอัลลอฮ ดวยพระนามของพระองคทําใหเรารูจักพระองค และพระองคก็ทรงรอบรูถึงคุณลักษณะ แหงพระองคที่ไดทรงสรางสรรพสิ่งตางๆ และทรงกําหนดใหเกิดความสมดุล และทรงเปลี่ยนแปลงไปตาม รูปลักษณที่พระองคประสงค พระองคทรงสรางมนุษยจากกอนเลือด โอมูฮําหมัด ทานจงอาน แทจริงแลว องคอภิบาลของทานเปนผูที่เอื้อเฟอยิ่ง เพราะพระองคเปนผูใหที่มีความเอื้อเฟอยิ่ง พระองคทรงเดชานุภาพ เหนือสรรพสิ่งทั้งหมด ทรงสั่งใหทานนบีอานซ้ําหลายตอหลายครั้ง เพราะปกติแลวมนุษยทั่วไปจะเขาใจไดก็ ตอเมื่อมีการทําซ้ําหลาย ๆ ครั้ง ในเมื่อทานรอซูลุลลอฮเองอัลลอฮทรงบัญชาซ้ํามาหลายครั้ง เมื่ออัลลอฮเปน ผูทรงเอื้อเฟอยิ่ง และจะยากลําบากอะไรกับการที่จะประทานความสามารถในการอานในการทองจําอัลกุ รอานให กั บ ท า น(นบี ) โดยที่ ไ ม ต อ งผ า นการฝ ก ฝนตามปกติ ท า นจงอ า นหากท า นประสงค พระดํ า รั ส แหงอัลลอฮที่ทรงตรัสวา (Al-Qiyamat 018)
…çµtΡ#uöè% ôìÎ7¨?$$sù çµ≈tΡù&ts% #sŒÎ*sù
ดังนัน้ เมื่อเราไดสื่อคําอานของกุรอาน (แกเจาโดยมียิบรออีลเปนผูสื่อ) เจาก็จงตามระเบียบการอาน นั้น (ทุกประการ) เถิด และพระดํารัสที่วา (Al-A'la 006)
∩∉∪ #|¤Ψs? Ÿξsù šèÎø)ãΖy™
เราจะใหเจาอาน (อัลกุรอานจนจดจําขึ้นใจ) แลวเจาก็ไมลืม (อีกตลอดไป) จงอานเถิด และองคอภิบาลของเจา ผูทรงเอื้อเฟอยิ่งนัก พระองคทรงเสี้ยมสอนมนุษย พวกเขาทําการ เรียนรูดวยปากกาไดอยางไร ซึ่งเปนการเรียนรูที่ตองใชเวลาที่ยาวนาน ลักษณะดังกลาวเปนการแจงใหรูวาถึง ปรากฏการของวิทยาการ พระองคทรงสอนมนุษยในสิ่งที่พวกเขายังไมเคยรูมากอน พระองคทรงบันดาลให มนุษยมีธรรมชาติ มีสติ ปญญาที่สามารถขบคิดพินิจพิเคราะหสิ่งที่อัลลอฮทรงสรางสรรคมายังพวกเขา เพื่อใหพวกเขาคนควาศึกษาวิจัย ทดลองทดสอบเพื่อพวกเขาจะไดรูถึงความลับที่แฝงอยูในจักรวาล จะไดรถู งึ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-44-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ธรรมชาติของสรรพสิ่งตางๆ แลวนําเอาสิ่งเหลานี้มาใชประโยชน นํามาเปนสิ่งอํานวยความสะดวกใหกับ ตนเองตามความประสงคอัลลอฮทรงตรัสไววา “ ”ﺧﻠﻖ ﻟﻜﻢ ﻣﺎ ﰲ ﺍﻷﺭﺽ ﲨﻴﻌﺎซึ่งมีความหมายวาสรรพสิ่ง ทั้งหลายในโลกนี้อัลลอฮไดทรงสรางสรรคขึ้นมาเพื่อยังประโยชนแกพวกเจาทั้งหมด” อัลลอฮไดทรงตรัส ไววา “ ”ﻋﻠﻢ ﺁﺩﻡ ﺍﻷﲰﺎﺀ ﻛﻠﻬﺎอัลลอฮไดทรงสอนอาดัมใหรูชื่อของสรรพสิ่งทั้งหมด จะเห็นไดวา อัลลอฮทรงสอนนบีของพระองคใหอาน ซึ่งมีความหมายทั้งโดยรวมและเฉพาะเรื่อง โดยเฉพาะการอ า นอั ล กุ ร อาน จากนั้ น พระองค ก็ ท รงชี้ แ จงว า สํ า หรั บ อั ล ลอฮแล ว พระองค คื อ ผู ท รง สรางสรรคพสิ่งทั้งหมด ทรงสรางมนุษยจากกอนเนื้อ พระองคทรงเอื้อเฟอไมเคยตระหนี่โดยเฉพาะกับศาสน ทูตของพระองค พระองคทรงเสี้ยมสอนวิทยาการตาง ๆ ดวยปากกา ทรงสอนมนุษยใหไดรับรูในสิ่งที่พวก เขายังไมเคยรูมากอน #xöôÜuŠs9” z≈|¡ΣM}$# ¨βÎ) “ξ H x.
แมจริงมนุษยนั้นเปนผูลวงละเมิด #tëô_”9$#” y7În/u‘ 4’n<Î) ¨βÎ) ∩∠∪ #o_øótGó™$# çν#u§‘ “βr&
เพราะพวกเขาไดมองเห็นวาตัวเองมีความเพียงพอแลว ไมตองพึงพาใคร แทจริงยังองคอภิบาลของ พวกเขาเทานั้นเปนที่คืนกลับ(เพื่อรับการตัดสิน) ซึ่งก็เปนความจริง...แทจริงแลวมนุษยเปนผูละเมิดคลุกคลีอยูกับความบาป เพราะพวกเขามองเห็นวา ตัวเองเพียงพอแลว ไมตองพึ่งพาผูใดแลว ตนเองมีทรัพยสินสมบัติลูกหลานมากแลว เขาจะตองตระหนัก เสมอวายังองคอภิบาลแหงพวกเขาเทานั้นที่พวกเขาจะตองคืนกลับในวันกียามะฮฺ และในวันนั้นพระองคจะ ทรงสอบสวนพวกเขาอยางละเอียดและหนักหนวง บางคนอาจจะถามเกี่ยวกับความสอดคลองลงตัวกันระหวางที่อัลลอฮทรงกลาวถึงภาพของเดชานุ ภาพแห ง อั ล ลอฮ เรื่ อ งของวิ ช าความรู ห รื อ วิ ท ยาการต า งๆ และความครบถ ว นของความโปรดปราน แหงอัลลอฮที่ทรงประทานใหกับมวลมนุษย โดยหวังวาพวกเขาจะไดไมปฏิเสธศรัทธาตอพระองค แตแลว มนุษยก็ปฏิเสธศรัทธาอีกทั้งลวงละเมิด พระองคทรงประสงคจะชี้แจงสาเหตุของการปฏิเสธศรัทธ (กุฟรฺ)วา มีสาเหตุมาจากการที่พวกเขารักเรื่องทางโลกและถูกสิ่งทางโลกหลอกลวงเพราะความโลภจนกระทั่งตองไป ทุมเทใหกับเรื่องทางโลกจนไมยอมหันมาพิเคราะห ขบคิดสัญญาณที่สําคัญตาง ๆ ของอัลลอฮ หลังจากที่อัลลอฮไดทรงบัญชามายังทานนบีใหอานคัมภีรที่พระองคทรงประทานมายังทานผานอัล วะหฺยู และชี้แจงใหพวกเขาเขาใจวาสาเหตุของการปฏิเสธศรัทธาของมนุษยนั้นมาจากเหตุใด ดวยการยกอุทา หรเปรียบเทียบดวยผูนําของกาเฟร อยางเชน อาบูยะฮัล และอายะฮฺที่อัลลอฮทรงประทานมานั้นมีความหมาย ครอบคลุมทั้งหมด ไมใชจํากัดอยูเฉพาะเรื่องของอาบูยะฮัลเทานั้น โอมูฮําหมัดจงบอกเรามาสิวา อะไรหรือที่คอยหามปรามมนุษยมิใหพวกเขายอมนอบนอมถอมตน และยอมนมัสการแกขา...ทาทีของพวกเขาชางนาประหลาดใจยิ่ง โดยเฉพาะบางคนที่ปฏิเสธศรัทธาและ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-45-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ทรยศตอองคอภิบาลของพวกเขา สกัดกั้นการทําความดีโดยเฉพาะอยางยิ่งการละหมาด จงบอกเรามาสิวา หากพวกเขาเปนพวกฝายขวา หากพวกเขาเปนพวกยุคเริ่มแรกที่ไดรับทางนํา เมื่อพวกเขาสั่งใชกันใหมีความ ยําเกรงตออัลลอฮ ใหทําความดี เปนเรื่องนาประหลาดใจใหมกับการที่พวกเขาจะไดรับการตอบแทนดวย กุศลผลบุญที่ยิ่งใหญอยางสรวงสวรรคที่มีชื่อเรียกวา “อัลมะวา” จงบอกเรามาสิ ว า (ทํ า ไม)มนุ ษ ย ถึ ง ได คั ด ค า นต อ ต า นและหั น หลั ง ให กั บ สั จ ธรรม ด ว ยการไป สนองตอบอารมณความตองการของตนเองเสียทุกอยาง พวกเขาไมรูดอกหรือวา แทจริงแลวอัลลอฮทรง มองเห็นทั้งหมด พวกเขาควรจะยอมรับยอมจํานนเสียดวยวา แทจริงแลวอัลลอฮทรงรอบรูถึงสิ่งตางๆ ทั้งที่ เรนลับและเปดเผย และพระองคก็จะทรงตอบแทนการกระทําของพวกเขาทั้งหมด หากพวกเขาทําดี พวกเขา ก็จะไดรับการตอบแทนแตสิ่งดี ๆ แตหากทําชั่วเขาก็จะไดรับการตอบแทนดวยสิ่งเลวราย ฉะนั้นพวกทาน ทั้งหลายจงกลับคืนสูอัลลอฮ จงขอกุลาโทษตอพระองค และจงประพฤติปฏิบัติแตสิ่งที่พระองคโปรดปราน หามิได..คําคํานี้ใชสําหรับเตือนเพื่อใหหันมาใสใจ โดยเฉพาะอยางยิ่งผูที่ทรยศตออัลลอฮ การที่ พระองคทรงสาบานเชนนี้ ก็เพื่อที่จะใหพวกเขายุติ เพราะหากพวกเขาไมยอมยุติ จากการกกระทําที่เปนการ ทรยศอัลลอฮก็จะทรงลงโทษพวกเขาดวยโทษที่แสนสาหัส จะทรงทําใหพวกเขาพบกับความอัปยศที่สาสม กับความหยิ่งยะโสโอหังของพวกเขาขณะเมื่ออยูบนโลกดุลยา ซึ่งเรื่องดังกลาวไมใชเรื่องยากสําหรับอัลลอฮ และในวันกียามะฮฺ พระองคจะทรงกระชากกระจุกผมพวกเขาอยางรุนแรง อันหมายถึงกระจุกผมริมหนาผาก ของพวกทรยศ ที่กลาวหาวาสัจธรรมเปนเท็จ เพราะถูกสิ่งทางโลกหลอกลวงเอาวาจะสามารถชวยปกปองให รอดพนจากการลงโทษของอัลลอฮ ผูที่สิ่งที่มีอยูบนพื้นโลกและบนทองฟาไมสามารถที่จะสกัดกั้นพระองค ได ความเขาใจของพวกเขาเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตเปนเท็จโดยไมตองสงสัย พวกเขากระทําผิด เพราะ พวกเขาลวงละเมิดขอบเขต อีกทั้งยังไปลวงละเมิดผูอื่น โดยเฉพาะกับผูที่กระทําแตความดีผูมีแตความสัจจริง อัลลอฮจะทรงลงโทษเจาของกระจุกผมดวยโทษที่อัปยศอดสูที่สุด พวกเขาจงเรียกสมาชิกรวมของพวกเขา เพื่อใหมาชวยเหลือใหพวกเขารอดพนจากการลงโทษ ..แตหาเปนเชนนั้นไม เราเองจะเรียกมลาอิกะฮฺซาบานิ ยะฮฺผูทําหนาที่ควบคุมนรกยะฮันนัมใหมาชวยผลักพวกเขา ในวันที่มีการเรียกพวกเขาลงสูนรก ในวันนั้น พวกเขาจะไมมีผูชวยเหลือที่จะมาใหการสงเคราะหพวกเขาเลยแมแตสักคนเดียว หามิได....(ปลอยใหพวกกาเฟรกระทําอะไรที่พวกเขาอยากจะกระทําตอไปเถิด) อยาไดไปขัดขวาง พวกเขาเลย โอศาสนทูตแหงอัลลอฮ แตทานจงกราบนมัสการตออัลลอฮตลอดไปและจงเขาใกลพระองคเถิด ..
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-46-
ซูเราะฮฺอัลกอดัร ซูเราะฮฺอัลกอดัรเปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺมีความหมายวา คืนแหงเกียรติยศ มีทั้งหมด 5 อายะฮฺ สาระ ทั้งหมดเปนการกลาวถึงการเริ่มตนของการประทานอัลกุรอาน วาไดรับการประทานมาในคืนที่เรียกวา ลัยละ ตุลกอดัร คืนนั้นเปนคืนที่มลาอีกะฮฺและวิญญาณบริสุทธิ(มลาอิกะฮฺญิบรีล) ไดรับการบัญชาใหลงมายังโลก คืนนั้นเปนคืนที่สงบสันติปลอดภัยจากสิ่งชั่วรายทั้งหมด ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ ôÏiΒ ×öy{ Í‘ô‰s)ø9$# ä's#ø‹s9 4®Lym }‘Ïδ íΟ≈n=y™
∩⊄∪ Í‘ô‰s)ø9$# ä's#ø‹s9 $tΒ y71u‘÷Šr& !$tΒuρ
∩⊇∪ Í‘ô‰s)ø9$# Ï's#ø‹s9 ’Îû çµ≈oΨø9t“Ρr& !$¯ΡÎ)
∩⊆∪ 9ö∆r& Èe≅ä. ÏiΒ ΝÍκÍh5u‘ ÈβøŒÎ*Î/ $pκÏù ßyρ”9$#uρ èπs3Íׯ≈n=yϑø9$# ãΑ¨”t∴s?
∩⊂∪ 9öκy− É#ø9r&
∩∈∪ Ìôfxø9$# Æìn=ôÜtΒ
ความหมายของซูเราะฮฺ แทจริงเราไดลงอัลกรุอานมาให ในคืนแหงเกียรติยศ(หมายเหตุ คืนแหงเกียรติยศ “ลัยลาตุลกอดริ” เปนคืนที่ลงอัลกุรอานแกนบีมุฮําหมัด ซ.ล. คืนดังกลาวอยูในทุก ๆ เดือนรอมดอม สวนจะเปนคืนใดไมมีใคร ทราบได สวนมากคาดวานาจะเปนคืนคี่นับแต 21 เปนตนไป และเปนที่รูกันแพรหลายวา คืนที่ 27 เปนคืนทีม่ ี โอกาสมากวาคืนอื่นๆ จึงนิยมปฏิบัติ ศาสนกิจอยางจริงจังในคืนนั้น...แตความจริงแลวการทําอิบาดะฮฺใน เดือนรอมดอม ใหทํามากๆ ในทุก ๆ คืน และยิ่งเพิ่มมากขึ้นในครึ่งหลังของเดือนจนกระทั่งสิ้นเดือน(1) และ อันใดหรือที่ทําใหเจารูวา อะไรคือคืนแหงเกียรติยศ ?(2)คืนแหงเกียรติยศประเสริฐกวา (คืนธรรมดา) ถึงหนึ่ง พันเดือน(3) มลาอิกะฮฺและวิญญาณบริสุทธิ์ (ญิบรีล) จะลงกันมาในคืนนั้น โดยพระอนุมัติแหงองคอภิบาล ของพวกเขา เพื่อ (นํามาซึ่ง) ทุกๆ กิจการ(4)มันเปนคืนแหงศานติ (ที่มีความมงคลยิ่ง) ตราบถึงแสงอรุณขึ้น ) (5) คําอธิบายศัพท ( )ﻟﻴﻠﺔ ﺍﻟﻘﺮﺩคืนแหงเกียรติยศ คืนที่มีความสูงสง ( )ﺍﻟﺮﻭﺡหมายถึงมลาอิกะฮฺญิบรีล อรรถาธิบายซูเราะฮฺ อัลลอฮไดทรงประทานอัลกุรอาน (หมายถึงเริ่มประทานมายังทานนบี) ในคืนแหงเกียรติยศ ซึ่งเปน ค่ําคืนที่มีศิริมงคลมากมาย เพราะในคืนนั้นเปนคืนที่อัลลอฮทรงประทานอายะฮฺตางๆ ที่จะมาชี้แจง คืนนั้น เปนค่ําคืนของเดือนรอมฎอน เพราะอัลลอฮทรงตรัสไววา “ ”ﺷﻬﺮ ﺭﻣﻀﺎﻥ ﺍﻟﺬﻱ ﺍﻧﺰﻝ ﻓﻴﻪ ﺍﻟﻘﺮﺁﻥ เดือนรอมฎอนคือเดือนที่อลั ลอฮทรงประทานอัลกุรอานลงมา ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-47-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
และคืนลัยละตุลกัดรฺ คือค่ําคืนที่อัลลอฮเริ่มประทานอัลกุรอานลงมา เพื่อเปนการยกยองศาสนาอัน บริสุทธิ์ของพระองค เพื่อเปนขอกําหนดใหกับการเรียกรองเผยแพรศาสนาใหแกศาสนทูตของพระองคผูทรง เกียรติ มันคือคืนแหงเกียรติยศ คืนที่ทรงเกียรติสูงสง เพราะอัลลอฮทรงประทานคัมภีรมายังศาสนทูตของ พระองค อีกทั้งเปนการใหเกียรติตอมวลมนุษยดวยสาระธรรมแหงฟากฟา และเปนสาระธรรมฉบับสุดทาย คําชี้แจงถึงเกียรติและความสูงสงของค่ําคืนนี้อัลลอฮไดทรงตรัสไววา “ ”ﻭﻣﺎ ﺍﺩﺭﺍﻙ ﻣﺎ ﻟﻴﻠﺔ ﺍﻟﻘﺪﺭอันใดหรือ ที่ทําใหทานรูวา อะไรคือคืนแหงเกียรติยศ ? ไมมีใครรูได ไมมีใครรูถึงความล้ําเลิศของคืนวันนั้น จะรูไดก็ จากสิ่งที่จะนํามากลาวถึง ซึ่งพระองคทรงชี้แจงวา คืนวันนั้นจะดีกวาคืนอื่น ๆ เปนพันเดือน ก็ไมใชเรื่องที่นา ประหลาดใจอะไร ก็คืนนั้นเปนคืนที่อัลลอฮทรงเริ่มการประทานอัลกุรอาน คืนนั้นจึงเปนคืนที่เต็มไปดวย ความเปนศิริมงคล พระองคทรงใหคืนนั้นมีความแตกตาง มีความเปนเลิศในทุกเรื่องเพราะเปนบัญชาจากผู ทรงปรีชาญาณและทรงรอบรูยิ่ง คืนนี้มีความเปนเลิศกวาคืนอื่นถึงหนึ่งพันเดือน และเปนคืนที่ดีที่สุดเทาที่ เคยมีมา เปนคืนที่สูงสง การกระทําความดีในคืนนั้นจะดีกวาการกระทําที่กระทําในชวงเวลาอื่น ๆ เปนพัน เทา จากนั้นอัลลอฮก็ทรงเริ่มชี้แจงเกี่ยวกับคุณคาของคืนแหงเกียรติยศบางสวนโดยแจงวา ในคืนนั้น พระองคจะทรงบัญชาใหมลาอีกะฮฺลงมาโดยเฉพาะมลาอิกะฮฺญิบรีล ซึ่งรับหนาที่เปนผูนําพาวะหฺยู โดยการ อนุญาตขององคอภิบาลแหงพวกเขา เพื่อนํามาซึ่งทุกกิจการอันปรีชาญาณมายังทานนบี และทานเปนคน แรกที่ไดมองเห็นมลาอิกะฮฺญิบรีลและบรรดามลาอิกะฮฺคนอื่นๆ ที่มาพรอมกับทานในคืนนั้น คืนที่อัลลอฮ ทรงใหมลาอิกะฮฺลงมาจากโลกของพวกเขามาสูโลกดุลยา โดยนําอัลวะหฺยูมายังทานรอซูลุลลอฮ และคืนนี้ คือคืนที่มีแตความสงบปลอดภัย จึงไมใชเรื่องแปลก ที่อัลลอฮจะทรงเริ่มประทานอัลกุรอานมาในคืนนั้น อัล กุรอานซึ่งเปนที่มาแหงกฎหมายและอุดมการณแหงอิสลาม มีฮาดิษหนึ่งรายงานวา ทานนบี ไดออกมาเพือ่ จะบอกกลาวเรื่องราวเกี่ยวกับคืนแหงเกียรติยศบังเอินมาพบวามีชายสองคนทะเลาะกันอยู ทานก็ลืมเรื่องนั้น ไป” และคืนลัยละตุลกอดัรฺเปนคืนที่เปนที่มาแหงอิสลามเปนคืนที่มีแตความสงบปลอดภัยไปจนกระทั่งถึง เวลาเชาของวันใหม
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-48-
ซูเราะฮฺบัยยินะฮฺ มีเรียกอีกชื่อหนึ่งวา ซูเราะฮฺอัลบะรียะฮฺหรืออะลัมยะกุน มีทั้งหมด 8 อายะฮฺ สาระสวนใหญเปนการ ตอบโตตอพวกกาเฟรมุชริกีนและชาวคัมภีร และเปนการชี้แจงถึงความเปนสัจธรรมของสาระธรรมที่ทาน นบีมูฮําหมัดนํามาเผยแพร จากนั้นก็จะเปนการกลาวถึงกาเฟรอื่น ๆ และกลาวถึงผูที่มีความศรัทธามั่นตอ ทานนบี ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
∩⊇∪ èπuΖÉit7ø9$# ãΝåκuÏ?ù's? 4®Lym tÅj3xΖãΒ tÏ.Îô³ßϑø9$#uρ É=≈tGÅ3ø9$# È≅÷δr& ôÏΒ (#ρãxx. tÏ%©!$# Çä3tƒ óΟs9 (#θè?ρé& tÏ%©!$# s−§xs? $tΒuρ
∩⊂∪ ×πyϑÍh‹s% Ò=çGä. $pκÏù
tÏe$!$# ã&s! tÅÁÎ=øƒèΧ ©!$# (#ρ߉ç6÷èu‹Ï9 ωÎ) (#ÿρâÉ∆é& !$tΒuρ È≅÷δr& ôÏΒ (#ρãxx. tÏ%©!$# ¨βÎ) tÏ%©!$# χÎ)
∩⊄∪ Zοt£γsÜ•Β $Zçtྠ(#θè=÷Gtƒ «!$# zÏiΒ ×Αθß™u‘ ∩⊆∪ èπuΖÉit7ø9$# ãΝåκøEu!%y` $tΒ Ï‰÷èt/ .ÏΒ ωÎ) |=≈tGÅ3ø9$#
∩∈∪ ÏπyϑÍhŠs)ø9$# ߃ϊ y7Ï9≡sŒuρ 4 nο4θx.¨“9$# (#θè?÷σãƒuρ nο4θn=¢Á9$# (#θßϑ‹É)ãƒuρ u!$xuΖãm
∩∉∪ Ïπ−ƒÎy9ø9$# •Ÿ° öΝèδ y7Íׯ≈s9'ρé& 4 !$pκÏù tÏ$Î#≈yz zΟ¨Ψyγy_ Í‘$tΡ ’Îû tÏ.Îô³ßϑø9$#uρ É=≈tGÅ3ø9$#
5βô‰tã àM≈¨Ζy_ öΝÍκÍh5u‘ y‰ΖÏã ôΜèδäτ!#t“y_
∩∠∪ Ïπ−ƒÎy9ø9$# çöy{ ö/ãφ y7Íׯ≈s9'ρé& ÏM≈ysÎ=≈¢Á9$# (#θè=ÏΗxåuρ (#θãΖtΒ#u
zÅ´yz ôyϑÏ9 y7Ï9≡sŒ 4 çµ÷Ζtã (#θàÊu‘uρ öΝåκ÷]tã ª!$# zÅ̧‘ ( #Y‰t/r& !$pκÏù tÏ$Î#≈yz ã≈pκ÷ΞF{$# $uηÏGøtrB ÏΒ “ÌøgrB ∩∇∪ …çµ−/u‘
ความหมายของซูเราะฮฺ ไมปรากฏวาบรรดาพวกไรศรัทธา จากชาวคําภีรและบรรดาจําพวกตั้งภาคี จะหลุดพน (จากความเชือ่ อันงมงายในพระเจาหลายองค) จนกวาหลักฐานอันชัดแจงจะมาถึงพวกเขา(1) นั่นคือ ศาสนฑูตผูหนึ่งจากอัล เลาะฮฺที่อานคําภีรอันบริสุทธิ์ (ใหพวกนั้นฟง) (2)ในนั้นมีบทบัญญัติตางๆ อันเที่ยงตรง (3)และบรรดาผูไดรับ คําภีร (คือพวกยิว-คริสต) มิได(มีความเห็น) แตกแยกกันเลย นอกจากภายหลังจากหลักฐานอันชัดแจงไดมา ยังพวกเขาแลว (4) และพวกเขามิถูกบัญชามา (เพื่ออื่นใด) นอกจากเพื่อพวกเขาทําการนมัสการตออัลเลาะฮฺ โดยพวกเขามีความบริสุทธิ์ใจแทจริงตอพระองคในการนมัสการ อีกทั้งพวกเขาเปนผูทรงภูมิธรรม (ไมเอน เอียงไปจากหลักอิสลาม) และเพื่อพวกเขาทําการละหมาดและบริจาคทานซะกาต และนั้นแหละ คือ ศาสนา แหงความเที่ยงตรง (5) แทจริงบรรดาผูไรศรัทธาจากชาวคําภีรและพวกตั้งภาคี ยอมอยูในนรกยะฮันนัม โดย เขาประจําในนั้น (เปนนิรันดร) พวกเหลานั้นเปนมนุษยที่เลวรายยิ่ง ( 6) แทจริงบรรดาผูศรัทธา และประพฤติ สิ่งดีงามตางๆ พวกเหลานั้นเปนมนุษยที่ประเสริฐที่สุด( 7) สิ่งตอบแทนของพวกเขา ณ องคอภิบาลแหงพวก ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-49-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เขา คือ สวรรคอันอมตะ ซึ่งมีหลายธารน้ําไหลอยู ณ เบื้องใตของมัน พวกเขาอยูในนั้นโดยนิรันดร อัลเลาะฮฺ ทรงยินดีตอพวกเขา และพวกเขาก็ยินดีในอัลเลาะฮฺ นั่นแหละ (สิ่งตอบแทน) สําหรับผูที่เกรงกลัวองคอภิบาล ของเขา( 8) คําอธิบายศัพท ( )ﻣﻨﻔﻜﲔหลุด พนจากการเปน ผูปฏิเสธของพวกเขาจนสามารถละทิ้งความเชื่อของพวกเขาไป ทั้งหมด ( )ﺍﻟﺒﻴﻨﺔหลักฐานที่ชัดเจนกระจางแจงที่สามารถแยกแยะไดวาสิ่งใดเปนความจริงสิ่งใดเปนความเท็จ
( )ﻣﻄﻬﺮﺓสะอาดปราศจากสิ่งแปลกปลอม ( )ﻗﻴﻤﺔเที่ยงตรง ( )ﺣﻨﻔﺎﺀความบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งที่เปนโมฆะ ( )ﺍﻟﻘﻴﻤﺔเที่ยงตรง เที่ยงธรรมถูกตอง คัมภีรที่ถูกตอง ประชาชาติที่ถูกตองเที่ยงธรรม( )ﺍﻟﱪﻳﺔสิ่งถูกสราง หรือมนุษย ( )ﺟﻨﺎﺕ ﻋﺪﻥสวรรคอันอมตะ ที่ใชเปนที่พักพิง พํานัก คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ อัลลอฮทรงแตงตั้งทานนบีมูฮําหมัดมายังมนุษยชาติทั้งหมด ทรงแตงตั้งมาพรอมกับทางนําและ ศาสนาที่เที่ยงแท เพื่อนําพาพวกเขาออกไปจากความมืดมนของความเขลา นําพวกเขาออกมาจากความเสื่อม เสียของหลักความเชื่อ จากความอัปยศที่เกิดจากการเลียนแบบที่ตามแบบหูหนวกตาบอด สวนผูปฏิเสธที่มา จากกลุมของชาวคัมภีรหรือพวกมุชริกีน(บรรดาผูตั้งภาคี) ตางก็ยังอยูหางไกลจากสัจธรรมและศาสนาที่ ถูกตอง สําหรับชาวคัมภีร หลังจากที่พวกเขาหางไกลออกมาจากยุคสมัยของทานนบีมูซา ทานนบีอีซา พวก เขาไดบิดเบือนพระคําของทานจากความถูกตอง จนกระทั่งลืมความถูกตองเดิมที่เคยมีอยู พวกเขายึดเอา นักบวชและปุโรหิตของพวกเขามาเปนพระเจาอื่นนอกเหนือจากอัลลอฮ จนกระทั่งศาสนาของพวกเขาที่ แทจริงถูกทําใหสับสนปนเปความหลงผิดแมกระทั่งเรื่องราวงาย ๆ สวนบรรดาผูตั้งภาคีที่ไมศรัทธาตอเอกานุ ภาพ และไมยอมศรัทธาตอการฟนคืนชีพ อยางเชนพวกมุชริกีนเมกกะ พวกเขาตางถลําลึกอยูกับโมฆะธรรม จนถึงขีดสุด ทําใหศาสนาของพวกเขาเปนศาสนาที่ปลอมแปลงมาจากหลักความเชื่อของญาฮีลียะฮฺ โดยที่ พวกเขาเองเขาใจวาเปนศาสนาของทานนบีอิบรอฮีมซึ่งเปนที่รักของอัลลอฮ และอัลลอฮทรงรูดีวาทาน นบีอิบรอฮีมนั้นไมเกี่ยวของกับความเขาใจของพวกมุชริกีนเลย บรรดาผู ป ฏิ เ สธที่ เ ป น ชาวคั ม ภี ร พวกเขาไม ไ ด เ ป ด เผยให พ วกมุ ช รี กี น อาหรั บ ได รู ว า จะมี ก าร แตงตั้งศาสนทูตซึ่งเปนชาวอาหรับมายังพวกเขา โดยที่รายละเอียดเกี่ยวกับศาสดาทานนี้มีบันทึกปรากฏอยู ในคัมภีรของพวกเขาทั้งเตารอฮและอิลญีล ครั้นเมื่อนบีทานนี้มาปรากฏพวกเขาก็ไมรูจักวาเปนนบีที่ไดรับ การแตงตั้งมา (พวกเขาปฏิเสธศรัทธาตอทาน) ดวยเหตุนี้เองจึงมีการกลาวถึงพวกชาวคัมภีรไวกอนเปน อันดับแรกวา พวกเขานั้นมีความผิดรายแรงกวาพวกมุชรีกีนที่ไมเคยรูถึงความเปนจริง (ที่ปรากฏอยูในคัมภีร เกากอน) แตพวกเขาเหลานี้ (ชาวคัมภีร)รูจักเขาเปนอยางดี แตกลับปฏิเสธศรัทธาทั้งยังคัดคานตอตานทาน เพราะความริษยา พวกเขาไมเคยหลุดพนออกมาจากโมฆะธรรมของพวกเขา แมกระทั้งวาจะมีคําชี้แจงที่ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-50-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
กระจางชัดมาปรากฏแลวก็ตาม หลักฐานอันเดนชัดในรูปแบบตาง ๆ ไดปรากฏออกมาตอหนาแลว หลักฐาน ตาง ๆ ที่วานั้นคืออะไร หลักฐานที่วานั้นก็คือทานศาสนทูตที่มาจากอัลลอฮ ซึ่งในตัวของศาสนทูตเองก็มี หลักฐานปรากฏชัดที่แสดงใหเห็นวาศาสนาของทานนั้นเปนศาสนาที่เที่ยงแท และตัวทานเองคือผูที่ซื่อสัตย เปนตัวอยางแบบอยางแหงจริยธรรมอันดีงาม เที่ยงตรงเปนความมหัศจรรยหรืออภินิหารที่พูดไดดวยความ สัจจริง ทานเปนผูที่อัลลอฮทรงประทานอัลกุรอานมาใหโดยที่ทานสามารถทองจําไดอยางขึ้นใจ อานคัมภีร อันบริสุทธิ์ปราศจากขอบกพรอง ปราศจากสิ่งแปลกปลอมและความมุสา คัมภีรนั้นคือคัมภีรที่ถูกตองเที่ยง ธรรมไมมีสิ่งบิดพริ้วและไมมีขอบกพรองปรากฏอยูเลยแมแตนอย . สําหรับความมุงหมายของคําวาคัมภีรใน ที่นี้ นักวิชาการบางทานไดใหทัศนะไววาหมายถึงสาระธรรมตาง ๆ ที่เคยปรากฏอยูในคัมภีรของทานนบีมซู า และทานนบีอิบรอฮีมที่ถูกตองและแทจริง ซึ่งมีการนํามากลาวถึงไวในอัลกุรอานอีกครั้งหนึ่ง หรืออาจจะ หมายถึงซูเราะฮฺตาง ๆ ของอัลกุรอานทั้งหมด ซึ่งคลายกับวาในแตละซูเราะฮฺเปนคัมภีรเลมหนึ่งที่มีเอก ลักษณะเฉพาะในตัวของมันเอง หรือคําวาคัมภีรในที่นี้อาจจะหมายถึง หลักการ บัญญัติ ขอกฏหมายตาง ๆ ของอิสลาม ที่สิ่งเหลานี้ทั้งหมดคือคัมภีรที่ถูกตอง ไมมีขอผิดพลาดและไมมีสิ่งที่เปนโมฆะปรากฏอยูเลย แมแตนอย ในอัลกุรอานไมมีสิ่งใดที่เปนความเท็จและมุสา อัลลอฮไดทรงตรัสยืนยันไววา (Al-Kahf 001)
∩⊇∪ 2 %y`uθÏã …ã&©! ≅yèøgs† óΟs9uρ |=≈tGÅ3ø9$# Íνωö7tã 4’n?tã tΑt“Ρr& ü“Ï%©!$# ¬! ߉÷Κptø:$#
มวลการสรรเสริญเปนของอัลเลาะฮฺผูทรงลงคัมภีร (อัลกุรอาน) ใหแกบาวของพระองค และพระองค ไมทรงบันดาลใหอัลกุรอานนั้นถูกบิดเบือน เมื่อมีการแตงตั้งศาสนทูตมาเปนผูเผยวัจนและความไรศรัทธาของบรรดาชาวคัมภีรจะสิ้นสุดหรือไม กับพระดํารัสแหงอัลลอฮที่ทรงตรัสไววา “นอกจากภายหลังจากหลักฐานอันชัดแจงไดมายังพวกเขาแลว” คําตอบก็คือ การที่อัลลอฮทรงสงทานนบี มายังพวกเขานั้นคลาย ๆ กับวาทําใหเกิดการกระทบกระเทือน แกการตั้งภาคีตออัลลอฮอยางหนัก ทําใหหลักความเชื่อของบรรดาพวกมุชรีกีนสั่นสะทาน จิตใจของบรรดาผู โงเหลาทั้งหลายที่เคยปดสนิทก็จะเปดออก เสนทางเดินที่เคยมืดมิดก็จะไดรับการสองสวางจนสามารถรูได ในทันทีวาสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด ฉะนั้นการแตงตั้งนบีมายังโลกจึงเปนเสมือนการการมากําหนดขอบเขตที่ ชัดเจนระหวางสองยุคสองสมัยใหปรากฏ และนั่นคือความจริงที่อัลลอฮทรงตรัสใชคําวา “ ”ﺣﱴไวในอา ยะฮฺ แตหากจะถามวาพวกเขาทั้งหมดหันมาศรัทธาหรือไม เปลาเลยมีบางสวนเทานั้นที่ยอมศรัทธาตอทาน นบี แตบางกลุมบางคนกลับยืนยันคัดคานตอตานแนวทางของอัลลอฮ อีกทั้งยังพยายามหาทางหาวิธีที่จะ บิดเบือนเพื่อนําพามนุษยออกไปจากแนวทางของทานนบี ดวยเหตุนี้เองอัลลอฮจึงทรงปลอบใจทานศานทูต ของพระองควา การปฏิเสธ การตอตานของมนุษยนั้นเปนสันดานของพวกเขา เปนธรรมชาติที่มีอยูในตัวของ พวกเขา ซึ่งสถานการณเชนนี้พี่นองของทานที่เปนศาสนทูตมากอนทานลวนแลวแตไดประสบพบเจอปญหา ในลักษณะเดียวกันนี้มาแลวทั้งหมด เมื่อพวกเขามาเผยแพรสาระธรรมมนุษยก็จะแตกออกเปนฝกเปนฝาย มี สวนยอมรับยอมศรัทธา บางกลุมบางคนก็ไมยอมศรัทธา ทาน (ซึ่งหมายถึงนบีมูฮําหมัด)ก็ไมไดแตกตางไป จากบรรดานบีทานกอน ๆ และบรรดาชาวคัมภีรเองก็มีจุดยืนตอศาสดาของพวกเขาที่แตกตางกันออกไป จน ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-51-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
กระทั้งวามีหลักฐานที่ชัดแจงซึ่งหมายถึงหลักจากที่มีการแตตั้งศาสนทูตใหมาปรากฏยังพวกเขาแลวก็ยังมี การปฏิเสธตอตานอยูอีกมากมาย เปนเรื่องที่นาประหลาดใจยิ่งนักกับจุดยืนของพวกชาวคัมภีรที่มีตอเจา (นบีมูฮําหมัด) วาทําไมพวก เขาจึงมีจุดยืนตอเจาเชนนี้ หรือวาเจานําเรื่องใหมมาประกาศแกพวกเขา ? ก็เปลาเลย หรือวาทานไปสั่งใชพวก เขาใหกระทําสิ่งที่ไมดีแลวหามปรามในสิ่งที่ดี ไมไดใชใหพวกเขาอีบาดะฮฺตออัลลอฮแตเพียงพระองคเดียว ไมไดใชใหพวกเขาแสดงความบริสุทธิ์ใจตออัลลอฮ ไมไดใชใหพวกเขาละทิ้งการตั้งภาคีตอพระองค หรือวา ทานไดแนะนําพวกเขาใหหันเหไปสูการทําบาปทํากรรม ทําสิ่งที่เปนโมฆะ ก็ทานมีแตใชใหพวกเขาทําการ ละหมาดตออัลลอฮ ทําการบริจาคทาน แลวทําไมพวกเขาจึงไมยอมศรัทธา ? หากเมื่อพวกเขาเปนผูที่ยึดมั่น ศรัทธาตอศาสนาที่ถูกตอง ศาสนาที่ถูกตองของพวกเขาก็เรียกรองใหกระทําในเรื่องนี้ดวยเชนกัน มีการ เรียกรองใหพวกเขาศรัทธาตอทานนบีมูฮําหมัด ซึ่งมาเรียกรองเชิญชวนใหทําการอีบาดะฮฺและแสดงความ บริสุทธิ์ใจตออัลลอฮ และนั่นก็คือศาสนาที่เที่ยงธรรม ศาสนาที่ถูกตอง ศาสนาที่ไมไดบิดเบือนหรือหันเหไป จากศาสนาเดิมของประชาชาติเกากอนที่ยังคงอยูกับความดีความถูกตองแตอยางใด หรือวาพวกเขาเหลานี้ ไดรับการอนุ ญ าตให ผอนปรนไดรับการผอนผั น ใหละทิ้งอิ สลามได ?หรื อวา พวกเขาได รับอนุ ญาตให คัดคานศาสนทูตของอิสลามได ? แลวอะไรเลาคือสิ่งตอบแทนสําหรับผูที่ปฏิเสธตอบัญญัติซึ่งมีบทบัญญัติที่งาย ๆ ของอิสลามเหลานี้ อะไรเลาคือการตอบแทนที่จะตอบแทนใหกับผูที่ยอมรับตอบทบัญญัติ ยอมศรัทธายอมเชื่อตอศาสนทูตผู เผยแพรบทบัญญัติเหลานี้ ? สําหรับการตอบแทนที่จะตองแทนใหกับบรรดาชาวคัมภีรผูปฏิเสธทั้ง ๆที่พวก เขานาจะเปนชนกลุมแรกที่จะเขารับนับถืออิสลาม และการตอบแทนที่จะตอบแทนใหกับบรรดามุชริกีนที่ กราบไหวบูชารูปเจว็ด กราบไหวนมัสการตอเทวรูปบูชาที่ทํามาจากอนหิน คือ พวกเขาจะเจาสูนรกยะฮันนัม และจะพํานักอยูในนั้นอยางถาวร และการตอบแทนที่พวกเขาไดรับในลักษณะนี้ไมใชเรื่องแปลก ในเมื่อพวก เขาเปนสิ่งถูกสรางที่เลวรายที่สุด เปนพวกที่กลาวหาวาสาระธรรมของอัลลอฮเปนเท็จ อีกทั้งพยายามตอตาน คัดคานสกัดกั้นแนวทางของพระองค กลาวหาวาคัมภีรของพระองคเปนเท็จ ไมยอมศรัทธาตอศาสนทูตแหง พระองค อีกทั้งยังกลาวหาวาเปนเท็จ และยังจะกลั่นแกลงขับไลไสสงและยังทําสงครามกับทาน ก็สมควร แลวที่พวกเขาจะตองไดรับการลงโทษในลักษณะนี้ สวนผูที่ยอมรับยอมศรัทธาตออัลลอฮตอวันกียามะฮฺ ยอมเชื่อตอศาสนทูตของอัลลอฮ พวกเขาก็จะ ไดรับการตอบแทนที่ดีอยางแนนอน การตอบแทนของพวกเขาอยูที่อัลลอฮ (ซึ่งเปนการตอบแทนที่ดีที่สุด) นั่นคือสรวงสวรรคที่พวกเขาใชเปนที่พํานักอยูอยางถาวร เปนสรวงสวรรคที่มีน้ําไหลอยูภายใตของมันอยาง รมรื่น ไมมีสิ่งใดมารบกวนพวกเขาอีกเลย ซึ่งก็ไมใชเรื่องที่จะตองประหลาดใจดวยเชนกัน เพราะอัลลอฮทรง โปรดปรานทรงพอพระทัยตอพวกเขา ตอการกระทําของพวกเขาที่พวกเขาไดประพฤติปฏิบัติมา และเมื่อ พระองคทรงยินดีตอพวกเขา พระองคก็จะยกยองสรรเสริญพวกเขา ทรงประทานผลบุญใหกับพวกเขา พวก เขาก็ยินดีตอพระองค เพราะพวกเขามีความสุขดีใจกับพระเมตตาธิคุณแหงพระองคที่ทรงตอบแทนใหกับ พวกเขาดวยความโปรดปรานอันยิ่งใหญ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-52-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
และนั่นคือชัยชนะที่ยิ่งใหญสําหรับผูที่มีความยําเกรงตอองคอภิบาลของพวกเขา..โอมนุษยทั้งหลาย สูเจาพึงระวัง..และจงประพฤติปฏิบัติแตสิ่งดี ๆ เพื่อพวกเจาทั้งหลายจะไดรับการตอบแทนที่ยิ่งใหญในวัน โลกหนาตอไป....
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-53-
ซูเราะฮฺ อัซซัลซะละฮฺ เปนซูเราะฮฺมะดานียะฮฺ แตนกั วิชาการบางทานก็กลาววาเปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 8 อายะฮฺ สาระในซูเราะฮฺอัลลอฮทรงยืนยันวาคุณงามความดีที่ประพฤติปฏิบัตินนั้ ไมวาจะมากหรือจะนอยเพียงใดก็ จะไดรับการตอบแทนจากอัลลอฮ และการกระทําที่ไมดกี ็เชนกันไมวาจะมากนอยเพียงใด ผูกระทําก็จะไดรับ การตอบแทนจากอัลลอฮในวันกียามะฮฺดวยเชนกัน ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
$tΒ ß≈|¡ΡM}$# tΑ$s%uρ
∩⊄∪ $yγs9$s)øOr& ÞÚö‘F{$# ÏMy_t÷zr&uρ
â¨$¨Ψ9$# â‘߉óÁtƒ 7‹Í≥tΒöθtƒ tΑ$s)÷WÏΒ ö≅yϑ÷ètƒ tΒuρ
∩∈∪ $yγs9 4yr÷ρr& š−/u‘ ¨βr'Î/
∩⊇∪ $oλm;#t“ø9Η ÞÚö‘F{$# ÏMs9Ì“ø9ã— #sŒÎ) ∩⊆∪ $yδu‘$t7÷zr& ß^Ïd‰ptéB 7‹Í×tΒöθtƒ
∩∠∪ …çνttƒ #\ø‹yz >六sŒ tΑ$s)÷WÏΒ ö≅yϑ÷ètƒ yϑsù
∩⊂∪ $oλm;
∩∉∪ öΝßγn=≈yϑôãr& (#÷ρuãÏj9 $Y?$tGô©r& ∩∇∪ …çνttƒ #vx© ;六sŒ
ความหมายของซูเราะฮฺ เมื่อแผนดินถูกทําใหไหวอยางรุนแรง(1) และมันไดคายวัตถุธาตุอันหนักอึ้งของมันออกมา (ให ปรากฏบนหนาแผนดิน)( 2)และมนุษยพากันพูดวา “มีอะไรเกิดขึ้นแกมันหรือ?”(3)วันนั้น มันจะแจงขาว ตางๆ ของมัน( 4) ดวยเหตุวาแทจริงองคอภิบาลของเจาไดมีโองการแกมัน( 5) วันนั้น มนุษยจะพากันออกมา เปนกลุมๆ เพื่อทําใหพวกเขามองเห็นผลงานตางๆ ของพวกเขา (6) ดังนั้น ผูใดประพฤติความดีหนึ่ง มี ปริมาณเทาน้ําหนักของผงธุลี เขาก็จะไดมองเห็นมัน ( 7) และผูใดประพฤติความเลวหนึ่ง มีปริมาณน้ําหนัก ของผงธุลี เขาก็จะไดมองเห็นมัน( 8)
คําอธิบายศัพท ( )ﺯﻟﺰﻟﺖสั่นสะเทือนอยางรุนแรง ( )ﺃﺛﻘﺎﳍﺎเปนคําพหูพจนของคําวา “ ”ﺛﻘﻞในที่นหี้ มายถึงสิ่งที่มีอยู ในดินทั้งหมด สิ่งที่ฝงอยูในดินทั้งหมด ( )ﻳﺼﺪﺭ ﺍﻟﻨﺎﺱหมายถึงฟนคืนชีพและออกมาจากกุโบร ()ﺃﺷﺘﺎﺗﺎ แยกยายกันออกไปเปนกลุม กลุมหนึ่งไปสูสวรรค อีกกลุมหนึ่งไปลงนรก ( )ﻣﺜﻘﺎﻝ ﺫﺭﺓผงธุลีหนวยที่เล็ก ที่สุด (อยางเชน อะตอม ปรมาณู)
คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-54-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เมื่ออัลอฮประสงคจะใหโลกนี้สิ้นสุดลง และใหวันกียามะฮฺมาถึง พระองคก็ทรงบัญชาใหแผนดิน สั่นสะเทือน และแลวมันก็จะสั่นไหวอยางแรงอยางที่ไมเคยปรากฏมากอน สิ่งที่ฝงอยูในดินทั้งหมดไมวาจะ เปน ไฟเปนน้ํา แรธาตุหรืออื่น ๆ อยางเชนซากศพที่ฝงกลบอยูในดินตางก็จะหลุดลุยออกมาทั้งหมด ดวย ความรุนแรงของการสั่นสะเทือนทําใหมนุษยถึงกับถามออกมาวา มันเกิดอะไรขึ้น ? เพราะสถานการณ เชนนั้นไมเคยเกิดขึ้นมากอน ไมเปนที่รูวาที่มาที่ไปเปนอยางไร และแผนดินก็พูดออกมาดวยภาษาของมัน ตามสภาพที่เหมาะสม ดังที่ทานอัฏฏอบะรียไดอรรถาธิบายไวในหนังสือตัฟซีรของทานวา เหตุการณที่ เกิดขึ้นเปนการอุปมาอุปมัยใหเห็นวาเหตุการณที่เกิดขึ้นเปนเหตุการณที่แปลกประหลาดไมเคยเกิดขึน้ มากอน สวนสาเหตุก็เปนเพราะวาไดรับบัญชามาจากองคอภิบาล ที่ไดทรงวะหฺยูบัญชามายังแผนดินโดยตรง แลวสั่ง ใหมันแสดงอาการสั่นสะเทือนแลวคายสิ่งที่อยูในทองของมันออกมา และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับโลกนี้ทั้งหมด ลวนแลวแตเปนการสั่งการ เปนการบันดาลมาจากอัลลอฮ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติของโครงสราง หลาย เรื่องหลายเหตุการณที่เกิดขึ้นไมอาจที่จะระบุถึงสาเหตุที่แทจริงไดวามันเกิดขึ้นไดอยางไร เพราะมันเปนสิ่งที่ เกิดขึ้นจากการเนรมิตของอัลลอฮ มันไมไดเกิดขึ้นดวยธรรมชาติที่เปนภาวะปกติของมัน ในวันนั้นบรรดาผูที่ อยูใ นกุโ บร ก็ จ ะออกมาจากกุ โ บร เ พื่อรั บการสอบสวนในการกระทํ า ของพวกเขา เพื่อ ที่จ ะให พ วกเขา มองเห็นการกระทํ าที่พวกเขาได กระทําไว ผูใดที่ไ ดกระทําความดีไว แมว าจะมีน้ําหนักแคเทากับผงธุลี พระองคก็จะทรงตอบแทนดวยกุศลผลบุญให และผูใดที่กระทําสิ่งชั่วรายไวแมแตจะเทากับผงธุลีพระองคก็ จะทรงตอบแทนให ดวยเชนกัน ในวันกียามะฮฺตราชูของอัลลอฮจะเปนตราชูที่เที่ยงธรรมที่สุด จะไมมีการฉอ ฉลหรืออธรรมตอผูใด แมวาผลของการกระทําจะมีน้ําหนักแคเพียงผลธุลี ก็จะถูกมีการคิดคํานวณตอบแทน ไวอยางถูกตอง อัลลอฮทรงตรัสไววา (Al-Anbiyaa 047)
∩⊆∠∪ šÎ7Å¡≈ym $oΨÎ/ 4’s∀x.uρ 3 $pκÍ5 $oΨ÷s?r& @ΑyŠöyz ôÏiΒ 7π¬6ym tΑ$s)÷WÏΒ šχ%Ÿ2 βÎ)uρ
และแมจะมีน้ําหนักสักเพียงเมล็ดผักกาด เราก็จะนํามันมา (ชั่ง) และเราเพียงผูเดียวก็เพียงพอแลว ที่ เปนผูสอบสวน และ(ความใน)ซูเราะฮฺนี้ทั้งหมด ซึ่งเปนการกําชับและเปนการเตือนสําทับ(ที่นาเกรงขามยิ่ง)
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-55-
ซูเราะฮฺ อัลอาดิยาต ชื่อซูเราะฮฺ อัลอาดิยาต มีความหมายวา มาที่สงเสียงหอบ เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 11 อายะฮฺ สาระในซูเราะฮฺ อัลลอฮไดทรงสาบานยืนยันวา แทจริงแลวมนุษยผูซึ่งอัลลอฮไดทรงประทานความโปรด ปรานใหกับพวกเขามากมายนั้น พวกเขาเปนพวกที่ดื้อรั้นตอองคอภิบาล และพวกเขาเองก็เปนสักขีพยาน ยืนยันไดในเรื่องนั้น พวกเขาเปนกลุมที่รักทรัพยสินสมบัติและเปนพวกที่ขี้เหนียว ดวยความดื้อรั้นของพวก เขาอัลลอฮก็ทรงเตรียมการลงโทษที่แสนสาหัสไวใหพวกเขาในวันกียามะฮฺ ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
$\èø)tΡ ÏµÎ/ tβörOr'sù
∩⊂∪ $\⇔÷6ß¹ ÏN≡uÉóèRùQ$$sù
∩∠∪ Ó‰‹Íκy¶s9 y7Ï9≡sŒ 4’n?tã …çµ¯ΡÎ)uρ ’Îû $tΒ Ÿ≅Å_Áãmuρ
∩⊄∪ %Znô‰s% ÏM≈tƒÍ‘θßϑø9$$sù
∩∉∪ ׊θãΖs3s9 ϵÎn/tÏ9 z≈|¡ΣM}$# ¨βÎ)
∩∪ Í‘θç7à)ø9$# ’Îû $tΒ uÏY÷èç/ #sŒÎ) ãΝn=÷ètƒ Ÿξsùr& *
∩⊇∪ $\⇔÷6|Ê ÏM≈tƒÏ‰≈yèø9$#uρ
∩∈∪ $ºèøΗsd ϵÎ/ zôÜy™uθsù
∩⊆∪
∩∇∪ ωt±s9 Îösƒø:$# Éb=ßsÏ9 …絯ΡÎ)uρ
∩⊇⊇∪ 7Î6y‚©9 7‹Í×tΒöθtƒ öΝÍκÍ5 Νåκ®5u‘ ¨βÎ) ∩⊇⊃∪ Í‘ρ߉Á9$#
ความหมายของซูเราะฮฺ ขอยืนยันกับมวลมาที่สงเสียงหอบขณะวิ่ง(1)ตอมาก็มวลมาที่มีประกายไฟแลบจากกลีบเทาขณะวิ่ง (2)ตอมาก็มวลมาที่จูโจมขาศึกในยามเขาตรู(3)แลวมันก็ทําใหมีฝุนตลบฟุงขึ้นในขณะนั้น (4) แลวมันไดบุก เขาไปในทามกลางหมูขาศึกในยามนั้น(5)แทจริงอันมนุษยนั้น เปนผูดื้อรั้นอยางยิ่ง ตอองคอภิบาลของเขา (6)และแทจริงตัวเขาเอง ก็เปนสักขีพยาน (ยืนยัน) ไดในเรื่องนั้น (ที่เขาดื้อรั้น)(7)และแทจริงเขาหลงไหล ในความดี (แหงทรัพยสิน) อยางคลั่งไคล(8)แลวเขาไมรูหรือวา เมื่อสิ่งที่ถูกฝงในหลุมศพถูกขุดขึ้นมา (9)และสิ่งที่อยูในหัวอกถูกเผยออกมา(10) แทจริงในวันนั้น องคอภิบาลของพวกเขา ทรงตระหนักยิ่งนักใน พวกเขา(11) คําอธิบายศัพท ( )ﻭﺍﻟﻌﺎﺩﻳﺎﺕมาศึก มาที่ใชขับขี่เพื่อสูรบในการทําศึก ที่สามารถวิ่งไดอยางรวดเร็ว ( )ﺿﺒﺤﺎเสียง
หอบขณะวิ่ง ()ﻓﺎﳌﻮﺭﻳﺎﺕ ﻗﺪﺣﺎประกายไฟที่ออกมาจากการกระแทกสิ่งของสองอยางเขาดวยกัน ( )ﻓﺎﳌﻐﲑﺍﺕ มวลมาที่ทําการจูโจม ( )ﻓﺎﺛﺮﻥ ﺑﻪ ﻧﻘﻌﺎฝุนตลบ ฝุนที่ฟุงกระจาย ( )ﻓﻮﺳﻄﻦ ﺑﻪ ﲨﻌﺎบุกทะลวงเขาไปในหมู ขาศึก ( )ﻟﻜﻨﻮﺩเดิมทีมีความหมายวาแผนดินที่ไมมีตนไมงอกเงยอยูเลย แตในที่นี้เปนการเปรียบเทียบกับ ผูคนที่มักจะขัดขวางตอตานสัจธรรม ซึ่งหมายถึงผูปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย หรือผูที่ทรยศตออัลลอฮ ()ﺷﺪﻳﺪ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-56-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ตระหนี่ ขี้เหนียว ที่ชอบสะสมทรัพยสินสมบัติ ( )ﺑﻌﺜﺮถูกนําออกมา ( )ﻭﺣﺼﻞสิ่งที่อยูในใจถูกแสดง ออกมา คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ อัลลอฮทรงสาบานยืนยันดวยมาศึกที่วิ่งไดรวดเร็วดวยเสียงดัง ขณะที่จูโจมขาศึกในยามเชาจนเกิด เปนฝุนตลบขึ้นปกคลุมเปรอะเปอนไปดวยฝุน อัลลอฮทรงสาบานยืนยันดวยมาศึกที่มีความแข็งแรงขณะวิ่งเขาจูโจมศัตรูพรอมเสียงแผดรอง และมี ไฟออกมาขณะวิ่ง มาซึ่งจูโจมศัตรูในยามเชา จูโจมทะลุทวงเขาสูกองกําลังของศัตรู ซึ่งลักษณะของมาดังที่ กลาวมาทั้งหมด เปนลักษณะของมาที่เจาของนํามาใชในการตอสูในแนวทางของอัลลอฮ ดวยความเปนเลิศ ของมาตามลักษณะดังกลาวนี่เอง อัลลอฮจึงทรงใชเปนสิ่งสาบานยืนยัน ดวยเหตุที่มาเปนสัตวที่มีคา มียศมี ตําแหนง ซึ่งคนอาหรับเองไดเขียนไวเปนคําคมวา “แผนหลังปกปอง สวนทองเปนคลัง” ไมวาเครื่องมือใน การทําสงครามจะเกิด ขึ้นใหมมากมายสักเพียงใด แตมาก็ยังมีคุณค ามีราคาสํ าหรั บการทําสงคราม ดว ย คุณลักษณะดังที่กลาวมาแลวทั้งหมดเปนการสอนใหเรารูวามีการนํามามาใชในการศึกอยางไร จะไดไมเขาใจ แตเพียงวามาเปนแคเพียงสัตวที่มนุษยนําประดับบารมีของคน หรือใชสําหรับขับขี่เลนเทานั้น สวนสิ่งที่อัลลอฮจะยืนยันก็คือ การยืนยันวา แทจริงแลวมนุษยนั้นเปนพวกที่ดื้อรั้นตอองคอภิบาล ซึ่งพวกเขาสามารถยืนยันในความดื้อรั้นของพวกเขาเองไดทั้งหมด แทจริงเขาหลงใหลในความดี (แหง ทรัพยสิน) อยางคลั่งไคล อัลลอฮไดทรงใหคุณลักษณะของมนุษยไว 3 ลักษณะคือ มนุษยเปนผูที่ดื้อรั้น สกัด กั้นคัดคานคุณธรรมและความโปรดปรานของอัลลอฮ พวกเขามิไดแสดงความกตัญูตอพระองค ดว ย คุณลักษณะดังกลาวเปนลักษณะของผูที่ทรยศและเปนผูปฏิเสธศรัทธา ซึ่งก็สอดคลองกับคําพูดที่วา “คนดื้อ รั้นนั้นมักจะปฏิเสธการชวยเหลือเกื้อกูลผูอื่น กินอยูแตเพียงลําพังคนเดียว ชอบตําหนิลงโทษขาทาส” . ลักษณะประการที่สอง มนุษยเองจะเปนพยานยืนยันในความดื้อรั้นของตนเองไดเปนอยางดี โดยไมตองมี หลักฐานอันใดยืนยันอีก ซึ่งเขาเองจะไมสามารถที่จะปฏิเสธในสิ่งที่เขาแสดงออกมาไดเลย หากปากของเขา ปฏิเสธไมยอมรับ ขอเท็จจริงก็จะปรากฏออกมาเอง และความจริงเหลานั้นก็จะเปนพยานยืนยันวาเขาเปนผู ปฏิเสธตอความโปรดปรานแหงองคอภิบาลของพวกเขา และจะเปนพยายานยืนยันใหกับตัวเองในวันกียา มะฮฺ และนั่นคือการเปนพยายานยืนยันตอการกระทําของพวกเขาเอง ลักษณะประการที่สาม พวกเขาเปนผูที่ลุมหลงในคุณคาของทรัพยสินอยางคลั่งไคล ดวยเหตุที่เขามี ความหลงใหลตอทรัพยสินนี่เองทําใหพวกเขากลายเปนคนตระหนี่ขี้เหนียว ไมยอมนําทรัพยสินไปใชจาย จะ ใชบางก็เพียงเล็กนอยเทานั้น ทําใหเขากลายเปนคนโลภอยากได ไดมาแลวก็ไมยอมใชจาย มนุษยไมรูดอกหรือวา องคอภิบาลของพวกเขาทรงเห็น พวกเขาไมรูดอกหรือวา เมื่อสิ่งที่ถูกฝงใน หลุมศพถูกนําออกมา และสิ่งที่ถูกปกปดอยูในหัวอกถูกเผยออกมาใหเห็นแลว ในวันนั้น องคอภิบาลของ พวกเขา ทรงรอบรูยิ่งกับการกระทําของพวกเขา และพระองคก็จะทรงตอบแทนแกพวกเขาทั้งการกระทํา จากภายนอกและภายใน ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-57-
ซูเราะฮฺอัลกอริอะฮฺ ซื่อซูเราะฮฺ อัลกอริอะฮฺ มีความหมายวาสิ่งที่มีเสียงสั่นสะทาน มีระบุอยูใ นอายะฮฺแรกเปนซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มีทั้งหมด 11 อายะฮฺ สาระในซูเราะฮฺเปนการกลาวถึงลักษณะของวันกียามะฮฺ ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
â¨$¨Ψ9$# ãβθä3tƒ tΠöθtƒ ∅tΒ $¨Βr'sù …絕Βé'sù
∩⊂∪ èπtãÍ‘$s)ø9$# $tΒ y71u‘÷Šr& !$tΒuρ
∩⊄∪ èπtãÍ‘$s)ø9$# $tΒ
∩∈∪ Â\θàΖyϑø9$# ÇôγÏèø9$$Ÿ2 ãΑ$t6Éfø9$# ãβθä3s?uρ
∩∇∪ …çµãΖƒÎ—≡uθtΒ ôM¤yz ôtΒ $¨Βr&uρ
∩⊇∪ èπtãÍ‘$s)ø9$#
∩⊆∪ Ï^θèZ÷6yϑø9$# ĸ#txø9$$Ÿ2
∩∠∪ 7πuŠÅÊ#§‘ 7πt±ŠÏã ’Îû uθßγsù
∩∉∪ …çµãΖƒÎ—≡uθtΒ ôMn=à)rO
∩⊇⊇∪ 8πuŠÏΒ%tn î‘$tΡ ∩⊇⊃∪ ÷µu‹Ïδ $tΒ y71u‘÷Šr& !$tΒuρ ∩∪ ×πtƒÍρ$yδ
ความหมายของซูเราะฮฺ อัลกอริอะฮฺ( 1) อะไรคือ อัลกอริอะฮฺ?(2) และอันใดหรือที่ทําใหเจารูวา อะไรคืออัลกอริอะฮฺ?( 3) (นั่นคือ เปนเหตุการณที่เกิดขึ้น) ในวันที่มนุษยจะมีสภาพประดุจดังแมลงเมาที่ถูกกระจัดกระจาย( 4)และ บรรดาภูเขาจะมีสภาพประดุจดังขนสัตวที่ปลิววอน( 5) ดังนั้นผูใดที่ตราชู (แหงความดี) ของเขาหนัก( 6) แนนอนเขาก็จะไดอยูในความเปนอยูที่พึงพอใจ( 7)และสวนผูใดที่ตราชู (แหงความดี) ของเขาเบา(8) แนนอนที่อยูของเขา ก็คือขุมนรกฮาวิยะฮฺ(9) และอันใดที่ทําใหเจารูวา อะไรคือมัน (ฮาวียะฮฺ)(10) มันเปนไฟ นรกอันรอนแรง(11) คําอธิบายศัพท ( )ﺍﻟﻘﺎﺭﻋﺔการขวาง ,การตีอยางรุนแรง มีการเรียกสถานการณที่รุนแรงวา อัลกอรีอะฮฺ ในที่นี้ หมายถึงวันกียามะฮฺ เพราะวันนั้นมนุษยจะถูกฟาดดวยความอัปยศอดสูอยางรุนแรง ( )ﻛﺎﻟﻔﺮﺍﺵแมลงเมาที่ บินเขากองไฟ ( )ﺍﳌﺒﺜﻮﺙกระจัดกระจายออกไป ( )ﻛﺎﻟﻌﻬﻦเหมือนขนสัตวหลากสี ( )ﺍﳌﻨﻔﻮﺵที่ปลิววอน ออกไป ( )ﻓﺄﻣﻪที่พักพิง เหมือนเด็ก ๆ ที่พึ่งพิงผูเปนมารดา ( )ﻫﺎﻭﻳﺔนรก ( )ﺣﺎﻣﻴﺔเผาไหมรอนแรง คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ วันกียามะฮฺวันที่มนุษยถูกกระหน่ําดวยความอัปยศอดสู(ของการลงโทษ) วันที่พวกเขาถูกกระหน่ํา ดวยเสียงอันดัง วันที่มีแตความนากลัว วันที่มีแตความหดหู วันที่เรือนรางถูกกระหน่ําลงโทษทั้งจากเบื้องลาง และเบื้องบน ผูที่เปนศัตรูกับอัลลอฮก็จะถูกฟาดดวยการลงโทษที่หนักหนวงรุนแรง และสภาพการเหลานี้ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-58-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ทั้งหมดที่เรียกวา “อัลกอริอะฮฺ” อะไรหรืออัลกอริอะฮฺ ? คําถามนี้เปนคําถามที่แสดงใหเห็นถึงความอัปยศ ในดานหนึ่ง และอีกดานหนึ่งเปนการแสดงใหเห็นถึงความยิ่งใหญ ..คําถามจะมีความหมายวา เมื่อไรทานจะ ได รู จั ก อั ล กอริ อ ะอฺ เมื่ อ ไรท า นจะได รู ถึ ง ข อ เท็ จ จริ ง เกี่ ย วกั บ อั ล กอริ อ ะฮฺ ? จะไม มี ใ ครให ข อ เท็ จ จริ ง เกี่ยวกับอัลกอริอะฮฺไดนอกจากอัลลอฮ ทานจะไมมีวันรูเกี่ยวกับขอเท็จจริงของ อัลกอริอะฮฺไดวามันเปน อยางไร นอกเสียจากวาองคอภิบาลจะนํามาบอกเลาสูทาน ในวันนั้นวันทีม่ วลมนุษยจะสับสนอลหมานเหมือนแมลงเมาที่บินเขากองไฟ ภูเขาเลากาจะปลิววอน ไรน้ําหนักเหมือนขนสัตวที่ถกู ลมพัดใหปลิวออกไป ....โอ มหาบริสุทธิ์แหงอัลลอฮ สวนสภาพของผูที่อยูในวันนั้น ผูที่ตราชูแหงคุณงามความดีมีน้ําหนักมากกระทําความดีดวยความ บริสุทธิ์ใจ ในวันนั้นการเปนอยูของพวกเขาก็จะมีแตความพึงพอใจ พวกเขามีสภาพการเปนอยูที่มั่นคง มี จิตใจที่สงบมั่นจนรูสึกพึงพอใจ แตผูที่ตราชูแหงความชั่วรายที่เกิดจากการกระทําความชั่ว เกิดจาการเดินตาม โมฆะธรรม เพราะหางไกลจากสัจธรรม ที่พํานักของพวกเขาก็คือ อัลฮาวียะฮฺ สถานที่พํานักที่อัปยศสุด ๆ ที่ พํานักที่มีไฟลุกไหม เผาไหมชาวนรกอยางสุด ๆ...ทานรูหรือไมวามันคืออะไร มันคือไฟนรกที่หมกไหมทั้ง ใบหนาและผิวหนังใหไหมเกรียม...ขอใหอัลลอฮจงคุมครองพวกเราใหปลอดภัยจากความเลวรายแหงไฟ นรกดวยเทอญ..
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-59-
ซูเราะฮฺอัตตะกาซุร ชื่อซูเราะฮฺ อัตตะกาซุร มีความหมายวา “การแขงขัน” ซึ่งมีระบุอยูในอายะฮฺแรกของซูเราะฮฺ เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 8 อายะฮฺ สาระในซูเราะฮฺ อัลลอฮทรงเตือนสําทับพวกเราเกี่ยวกับวาระสุดทาย ของพวกที่แขงขันกันสะสมทรัพยสินเงินทอง โดยที่พระองคทรงแจงใหเราไดรับรูถึงการลงโทษที่จะไดรับ วา เป นเรื่อ งจริงที่จ ะตอ งเกิ ดขึ้นอยางแน น อน และแทจ ริงแลว นรกยะฮั นนัมนั้นเป น สั จธรรม พวกทาน ทั้งหลายจะถูกถามถึงความโปรดปรานตาง ๆ ทางโลกที่ผานมา ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
ξx. §ΝèO
∩⊂∪ tβθßϑn=÷ès? š’ôθy™ ξx.
$pκ¨ΞãρutIs9 ¢ΟèO
∩∉∪ zΟŠÅspgø:$# χãρutIs9
∩⊄∪ tÎ/$s)yϑø9$# ãΛänö‘ã— 4®Lym
∩⊇∪ ãèO%s3−G9$# ãΝä39yγø9r&
∩∈∪ ÈÉ)u‹ø9$# zΝù=Ïæ tβθßϑn=÷ès? öθs9 ξx.
∩⊆∪ tβθßϑn=÷ès? t∃ôθy™
∩∇∪ ÉΟŠÏè¨Ζ9$# Çtã >‹Í≥tΒöθtƒ £è=t↔ó¡çFs9 ¢ΟèO ∩∠∪ ÈÉ)u‹ø9$# š÷tã
คําอธิบายศัพท ( )ﺃﳍﺎﻛﻢความเพลิดเพลินของพวกทาน ( )ﺍﻟﺘﻜﺎﺛﺮแขงขันกันในเรืองการสะสมทรัพยสินเงินทอง และลูกหลาน ใครมีมากก็จะชนะเหนือชั้นกวาคนที่มีนอย ( )ﻋﻠﻢ ﺍﻟﻴﻘﲔเรื่องที่จะตองเกิดขึ้นอยางแนนอน เปนไปตามความเปนจริงไมคลาดเคลื่อน มีหลักฐานบงบอกไวอยางชัดเจน ( )ﻋﲔ ﺍﻟﻴﻘﲔจะไดพบเห็น ขอเท็จจริงอยางแนนอน จะไดพบเห็นดวยสายตา คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ พวกเจาเพลิดเพลินอยูกับการสะสมทรัพยสินเงินทองและกําลังคน ใชเวลาสวนใหญอยูกับสิ่งเหลานี้ จนทําใหเจาเผลอลืมในสิ่งที่จะยังประโยชนแกเจา สิ่งที่จะอยูกับเจาไปจนถึงวันกียามะฮฺ เจาเพลิดเพลินอยูกับ มันจนลืมการทําความดีไปจนกระทั่งความตายเขามาเยือน นั่ นก็หมายความวาตลอดชีวิตที่มีชีวิตอยูเจา ทั้งหลายเพลิดเพลินและยุงอยูกับการรวบรวมทรัพยสินสมบัติ มีรายงานเลาวา มีคนสองเผาที่แขงขันแกงแยงกันในเรื่องของการสะสมทรัพยสินเงินทอง ถึงขนาด วาเมื่อฝายหนึ่งเขาสูกุโบรไปแลวอีกฝายหนึ่งก็ยังตามไปเยาะเยยถากถางตอคนที่ตายไปแลว ดวยเหตุนี้ เองอัลลอฮก็ทรงประทานซูเราะฮฺนี้ลงมา เพื่อที่เปนการเตือนสําทับตอวาระสุดทายของคนเหลานี้ การกระทําเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตเปนสิ่งสกัดกั้นจากการขบคิดพินิจพิเคราะห เปนการกระทําที่ ทําใหผูเปนเจาของตองหันไปเพลิดเพลินกับสิ่งที่ไรประโยชน...อัลลอฮทรงเตือนไววา พึงสังวร ตอไปพวก เจาจะไดรูถึงวาระสุดทายหรือผลของการกระทําเหลานี้ และเมื่อวันนั้นมาถึงพวกเจาจะตองระทมใจ แตความ ระทมใจในวันนั้นจะไมยังประโยชนแกเขาอีก พึงสังวร... ตอไปพวกทานจะไดรับรู เปนการสําทับยืนยันอีก ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-60-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เปนครั้งที่สอง หากพวกทานทั้งหลายจะไดรับรูถึงวาระสุดทายที่จะตองเกิดขึ้นวาเปนเรื่องแนนอนไมมีขอ สงสัยคลางแคลงใจใด ๆ ทั้งสิ้น มันเปนขอเท็จจริงอยางมั่นใจ เปนความเชื่อมั่นที่ถูกตองดวยวา การที่พวก ทานทั้งหลายทะนงตนกันดวยทรัพยสินเงินทองหรือลูกหลาน กับการที่พวกทานทั้งหลายแขงขันกันสะสม รวบรวม ตางคนตางมุงมั่นที่จะไปหาในสิ่งที่ตนเองคิดวาเปนเลิศและยิ่งใหญกวาคนอื่น ทั้งๆ ที่เรื่องของการ แขงขันกันทําความดี นาจะเปนเรื่องที่ดีกวา .. ขอยืนยัน..ตอไปพวกเจาจะไดเห็นนรก (จะไดลิ้มรสของการลงโทษ) จะไดเห็นมัน จะไดลิ้มรสชาติ ของการลงโทษจากมัน เพราะพวกเจาแขงขันกันในเรื่องของการสะสมทรัพยสิน และโออวดซึ่งกันและกัน ตอไปเจาจะได เห็น ดวยสายตา ที่สามารถสัมผัสได รับรูได อยางมั่นใจ และหลังจากนั้นพวกเจาก็จะถู ก สอบถามถึงความสุขตาง ๆ (จากทรัพยสินเงินทองตางๆ) ที่พวกเจาโออวดกันแขงขันกันเพื่อใหไดมา...พึงระ สังวรโอมวลมนุษยทั้งหลาย เจาทั้งหลายพึงระวังและรับรูขอเท็จจริงเหลานี้ไวดวย..
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-61-
ซูเราะฮฺอัลอัสริ ซู เ ราะฮฺ อั ล อั ส ริ มี ค วามหมายว า กาลเวลา เป น ซู เ ราะฮฺ มั ก กี ย ะฮฺ มี ทั้ ง หมด 3 อายะฮฺ สาระในซู เราะฮฺอัลลอฮไดทรงสาบานยืนยันดวยกาลเวลาวา แทจริงแลวมนุษยอยูในภาวะขาดทุนและหลงผิด ยกเวนผู ศรัทธาอัลลอฮทรงปกปองคุมครอง พวกเขากระทําแตความดี สั่งเสียซึ่งกันและกันใหมีความอดทนและยึด มั่นอยูกับสัจธรรม ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
ÏM≈ysÎ=≈¢Á9$# (#θè=Ïϑtãuρ (#θãΖtΒ#u tÏ%©!$# ωÎ)
∩⊄∪ Aô£äz ’Å∀s9 z≈|¡ΣM}$# ¨βÎ)
∩⊇∪ ÎóÇyèø9$#uρ
∩⊂∪ Îö9¢Á9$$Î/ (#öθ|¹#uθs?uρ Èd,ysø9$$Î/ (#öθ|¹#uθs?uρ
ความหมาย ขอยืนยันกับกาลเวลา(1) แทจริงมนุษย อยูในความขาดทุน (2) ยกเวนบรรดาผูมีศรัทธา และ ประพฤติแตความดี และพวกเขาตักเตือนกันในสัจธรรมและพวกเขาตักเตือนกันในขันติธรรม (3) คําอธิบายศัพท ( )ﺍﻟﻌﺼﺮกาลเวลาทั้งหมด หรืออาจจะเปนกาลเวลาเฉพาะในตอนบาย ( )ﺧﺴﺮหลงผิด ,ขาดทุน ( )ﺗﻮﺍﺻﻮﺍสั่งเสียซึ่งกันและกัน ( )ﺑﺎﳊﻖคุณธรรม,ความดี ( )ﺑﺎﻟﺼﱪมานะอดทน กลาเผชิญกับความ ยากลําบาก คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ อัลลอฮทรงสาบานยืนยันดวยกาลเวลา และเหตุการณตาง ๆที่ผานพนไปกับกาลเวลา ซึ่งในแตละ ชวงเวลาเหตุการณตางๆ เกิดขึ้นมากมายในรูปแบบที่แตกตางกันออกไป เพื่อเปนการบงบอกใหเขาใจไดวา สําหรับกาลเวลาและโลกนี้มีผูบัญชาการที่ทรงเดชานุภาพคอยบริหารจัดการและควบคุมอยูเบื้องหลัง เจาไม สังเกตกลางวันกลางคืนดอกหรือ ซึ่งทั้งสองตางสลับสับเปลี่ยนกันไปมา ในเวลากลางวันและกลางคืนตางก็มี สัญญาณเฉพาะที่แตกตางกันออกไป ทานไมสังเกตถึงชวงเวลาที่มีความทุกขและชวงเวลาที่มีความสุข ขณะที่ สบายและป วยไข ยามศึ กและยามสงบ ผูคนบางครั้งก็ปว ยไขลมตายลงไปเพราะความหิ วกระหาย อีก บางสวนก็อิ่มหนําสําราญ บางกลุมบางคนก็ลมตายไปเพราะภัยธรรมชาติน้ําทวมน้ําขัง จมน้ําตาย อีกบางกลุม ตายเพราะความแหงแลง หรือไฟไหม ซึ่งสิ่งเหลานี้ทั้งหมดลวนแลวแตเปนเหตุการณที่เกิดขึ้นในแตละชวง ของกาลเวลา แตละชวงเวลาก็จะมีเหตุการณเกิดขึ้นที่แตกตางกันออกไป นั่นก็แสดงใหเห็นวาโลกนี้มีพระเจา ผูบังคับบัญชาคอยควบคุมอยู พระองคคือผูทรงสราง ผูทรงบริหารจัดการ และพระองคคือผูที่เหมาะสมเปน อยางยิ่งแกการนมัสการและขอความชวยเหลือ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-62-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
แทจริงแลวมนุษยอยูฐานะที่ขาดทุน หลงผิด เปนผูปฏิเสธศรัทธา เปนผูที่อยูกับความหายนะ จากการ ที่ พ วกเขาลุ ม หลงอยู กั บ การเป น ผู ท รยศ เป น ผู ไ ร ศ รั ท ธา กระทํ า บาปที่ เ ขาเองเป น ผู เ ลื อ ก มหาบริ สุ ท ธิ์ แหงอัลลอฮแทจริงแลวตลอดชวงอายุของพวกเขาลวนแลวแตอยูกับความขาดทุน ความขาดทุนทีห่ อ หุม หอม ลอมพวกเขาอยูรอบดาน พวกเขากระทําผิดกระทําบาปตออัลลอฮ ผูทรงเปนพระเจาของพวกเขา ผูทรง ประทานความโปรดปรานแกพวกเขาทุกเรื่องทุกประการ ดวยสิ่งดี ๆ ทุกรูปแบบ แทจริงแลวมนุษยทุกคน ลวนแลวแตอยูกับความผิด อยูกับการกระทําบาป ยกเวนผูที่อัลลอฮทรง ปกปองคุมครองและใหเขาอยูกับความดี และคนกลุมนี้ก็คือผูที่มีความศรัทธามั่นตออัลลอฮตอมลาอีกะ ฮฺ ตอบรรดาคัมภีรของอัลลอฮ ตอศาสนทูตของพระองค โดยมีศรัทธามั่นและบริสุทธิ์ใจ และเมื่อศรัทธามั่น แลวพวกเขาก็ตามติดมาดวยการทําความดี การกระทําที่ยังประโยชน การกระทําที่เปนที่ยินดีของอัลลอฮ เปน ยินดีของบรรดารซูลและบรรดาผูศรัทธา หากจะถามวาเพียงแคการกระทําดังที่กลาวมาเพียงพอสําหรับแตละ คนแลวหรือยัง ..ยังหรอก จําเปนที่จะตองมีประการที่สามเขามา นั่นคือการสั่งเสียซึ่งกันและกันในเรื่องของ สัจธรรม สั่งเสียกันใหมีความอดทนอดกลั้นตอสิ่งที่เปนสัจธรรมที่แนนอน สัจธรรมที่มีหลักฐานกลาวอางไว อยางชัดเจน ถูกตองสอดคลองกับบัญญัติที่ถูกตอง สั่งเสียซึ่งกันและกันใหอดทนตอสิ่งที่ไมพึงประสงค ยอม แบกรับความยากลําบากที่ตองเผชิญ ในเมื่อยึดมั่นตอหลักศาสนาแคเพียงกระทําความดีแตเพียงอยางเดียวนั้นไมเพียงพอ แตหลังจากที่ได ปรับปรุงตัวเองเปนที่เรียบรอยแลวจะตองเรียกรองคนอื่นไปสูสัจธรรมไปสูการทําความดีและไปสูเสนทางที่ เที่ยงตรงดวย และการกระทําดังกลาวแนนอนที่สุดผูเรียกรองจะตองเผชิญหนากับความยากลําบากอยางไม ตองสงสัย ฉะนั้นก็จงอดทนอดกลั้น และเรียกรองคนอื่นใหอดทนอดกลั้นดวย เพราะความมีมานะอดทนนั้น เปนสวนหนึ่งของการศรัทธา และอัลลอฮก็จะใหเราประสบความสําเร็จในการที่จะกาวเดินไปสูแนวทางที่ดี และสิ่งดี ๆ ตลอดไป
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-63-
ซูเราะฮฺอัลฮุมาซะฮฺ ชื่อซูเราะฮฺ อัลฮุมาซะฮฺ มีความหมายวา “ผูนินทา” เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 9 อายะฮฺ สาระ ในซูเราะฮฺ อัลลอฮไดกลาวถึงเรื่องของการนินทาวาราย การยุยงปลุกปน ซึ่งอัลลอฮจะทรงเตรียมนรกอัน รอนแรงไวมาหอมลอมพวกเขาไวในทุกทิศทาง ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
ÿ…ã&s!$tΒ ¨βr& Ü=|¡øts†
∩⊄∪ …çνyŠ£‰tãuρ Zω$tΒ yìuΗsd “Ï%©!$#
∩⊇∪ >οt“yϑ—9 ;οt“yϑèδ Èe≅à6Ïj9 ×≅÷ƒuρ
äοy‰s%θßϑø9$# «!$# â‘$tΡ ∩∈∪ èπyϑsÜçtø:$# $tΒ y71u‘÷Šr& !$tΒuρ ∩⊆∪ ÏπyϑsÜçtø:$# ’Îû ¨βx‹t6.⊥ãŠs9 ( ξx. ∩⊂∪ …çνt$s#÷{r& ∩∪ ¥οyŠ£‰yϑ•Β 7‰uΗxå ’Îû ∩∇∪ ×οy‰|¹÷σ•Β ΝÍκön=tã $pκ¨ΞÎ) ∩∠∪ Íοy‰Ï↔øùF{$# ’n?tã ßìÎ=©Üs? ÉL©9$# ∩∉∪
ความหมายของซูเราะฮฺ ความหายนะจักประสบแกผูนินทา( 1) ซึ่งเขาไดสะสมทรัพยสิน และเฝานับจํานวนของมัน( 2) เขา คิดวา อันทรัพยสินของเขา จักทําใหเขาอยูเปนนิรันดร( 3) หามิได ขอยืนยัน แนแทพวกเขาจะถูกโยนลงไป ใน “อัลหุฎอมะฮฺ”( 4) และอันใดหรือที่ทําใหเจารูวา อะไรคืออัลหุฎอมะฮฺ?(5) มันคือ ไฟของอัลเลาะฮฺที่ถูก จุดไว( 6) ซึ่งมันจะแลบเขาไปในหัวใจทั้งหลาย(7) แทจริงมัน (ไฟนั้น) ถูกปดครอบไวบนพวกเขา( 8) ซึ่งอยู ในเสาอันยาวเหยียด( 9) คําอธิบายศัพท ( )ﻭﻳﻞความหายนะ ความพินาศ ( )ﳘﺰﺓ ﳌﺰﺓการนินทาวาราย ยุยงปลุกปนใหทะเลาะกัน คําคํานี้ เปนคําที้ใชบงบอกถึงความรุนแรง มากมาย ( )ﻭﻋﺪﺩﻩนับจํานวนซ้ําแลวซ้ําเลา ( )ﺃﺧﻠﺪﻩทําใหเขาเปนอมตะ ถาวร ( )ﻛﻼหามิได หาเปนเชนนั้นไม ( )ﻟﻴﻨﺒﺬﻥขวางลง, โยนลง ( )ﺍﳊﻄﻤﺔนรกฮุฏอมะฮฺที่รอนแรง ที่ เรียกวา ฮุฏอมะฮฺ เพราะมันจะเผาไหมทําลายกระดูและเนื้อหนังไปพรอม ๆ กัน ( )ﺍﳌﻮﻗﺪﺓจุดไว ,เผาไหม ไว ( )ﺗﻄﻠﻊ ﻋﻠﻰ ﺍﻷﻓﺌﺪﺓการเผาไหมจะถึงไปยังทุกสวนที่มีความรูสึก เผาไหมไปยังศูนยกลางของรางกาย และจะมีความรูสึกที่เจ็บปวดที่แตกตางกัน ( )ﻣﺆﺻﺪﺓปกคลุม ปดไวเหนือพวกเขา ( )ﻋﻤﺪ ﳑﺪﺩﺓเสาสูง คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ ความหายนะ ความพินาศยอยยับ ที่ไมมีใครสามารถเขาใจขอเท็จจริงของมันได จะประสบแกผูที่ นินทาวารายผูอื่นทุกคน ใสรายใสความผูอื่นใหเสียหาย การที่เขากลาวรายใสความผูอื่นเพราะเขาเองรูสึก
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-64-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
หลงในตนเอง ถูกหลอกโดยทรัพยสินที่เขาเองนํามารวบรวมไวแลวคอยเฝานับจํานวนครั้งแลวครั้งเลา นับ แลวนับอีกอยางสนุกสนาน โดยเขาใจวาทรัพยสินที่เขามีอยูเหลานี้จะปกปองคุมครองใหพวกเขาเปนอมตะ อยูในโลกนี้ได เขาเองประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่คิดวาการกระทําของคนที่ไมคิดวาตนเองจะตองตายจากโลกนี้ ไป มีรายงานวา อัลอัคนัส บิน ชะรีค หรืออัลวะลีด บิน อัลมุฆีเราะฮฺ หรือ อุมัยยะฮฺ บิน คอลัฟ พวกเขากระทํา อยางนี้แสดงทาทีอยางนี้ตอทานรอซูลุลลอฮ อัลลอฮทรงกลาวถึงสิ่งที่พวกเขานํามานับจํานวนซ้ําแลวซ้ําเลา กลาวถึงกลุมคนที่ถูกทรัพยสินหลอก เหลานี้วา หามิได ขอเท็จจริงไมไดเปนไปอยางที่พวกเขาเขาใจ ไมไดเปนไปตามที่พวกเขาเขาใจอยางผิด ๆ การคิดคํานวณของพวกเขาลวนแลวแตเปนเรื่องโกหก แทจริงแลวในวันกียามะฮฺอัลลอฮจะทรงโยนพวกที่ กระทําเชนนั้นลงสูนรกอัลฮุฏอมะฮฺ ทั้งหมด และที่นั่นนับไดวาเปนที่พํานักที่จะเผาไหมทั้งผิวหนังและ กระดูก และลุกลามไปจนกระทั่งถึงหัวใจ ...มีอะไรหรือที่จะทําใหทานทราบไดวา อัลฮุฏอมะฮฺนั้นคืออะไร ? เปนคําถามที่แสดงใหเห็นวา ไมมีใครสามารถรูได เปนคําถามที่แสดงใหเห็นถึงความยิ่งใหญ ความสําคัญ และความรุนแรง ที่สติปญญาเองไมสามารถอธิบายได รับรูได ไมสามารถที่จะคาดคะเน คาดเดาไดวาเปน อยางไร ผูที่จะรูไดก็คือผูทรงสรางมันเทานั้น ไมมีใครสามารถรับรูในขอเท็จจริง สภาพที่แทจริงของอัลฮุฏอ มะฮฺไดนอกจากผูทรงสรางมันเทานั้นที่จะรูได ดวยเหตุนี้เอง จึงมีการอธิบายเพิ่มเติมวา มันไมใชไฟอยางเรา เคยเห็นเคยใชในโลกนี้ มันเปนไฟของอัลลอฮที่ถูกจุดใหติดขึ้น มันจะลุกไหม เผาไหมใหเจ็บปวดไปจนถึง หัวใจ มันจะลุกไหมขึ้นอยางรุนแรง จนสามารถเผาไหมเขาสูภายใน สามารถรูถึงความลับที่อยูภายในจิตใจ สามารถที่จะแยกแยะไดวาผูใดคือผูทรยศ ผูใครคือผูภักดี มันจะปดลอมปกคลุมพวกเขามิใหหลุดลอดออกมา จากอํานาจการเผาไหมของมันไดอยางเด็ดขาด ประตูของมันปดสนิทแนนดวยสลักที่ยาว จนไมสามารถเปด ออกได
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-65-
ซูเราะฮฺ อัลฟล ชื่ อ ซู เ ราะฮฺ อั ล ฟ ล มี ค วามหมายว า “ช า ง ” เป น ซู เ ราะฮฺ มั ก กี ย ะฮฺ มี ทั้ ง หมด 5 อายะฮฺ ในซู เราะฮฺอัลลอฮทรงกลาวถึงเรื่องราวของเจาของโขลงชาง และบทสรุปเกี่ยวกับเรื่องราวของเจาของชาง ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
∩⊄∪ 9≅‹Î=ôÒs? ’Îû ö/èφy‰øŠx. ö≅yèøgs† óΟs9r& 7#óÁyèx. öΝßγn=yèpgm
∩⊇∪ È≅‹Ïø9$# É=≈ptõ¾r'Î/ y7•/u‘ Ÿ≅yèsù y#ø‹x. ts? óΟs9r&
∩⊆∪ 9≅ŠÅd∨Å™ ÏiΒ ;οu‘$y∨Ït¿2 ΝÎγ‹ÏΒös?
∩⊂∪ Ÿ≅‹Î/$t/r& #·ösÛ öΝÍκön=tã Ÿ≅y™ö‘r&uρ ∩∈∪ ¥Αθà2ù'¨Β
ความหมายของซูเราะฮฺ เจาไมรูหรือ องคอภิบาลของเจาไดทรงกระทํากับบรรดาเจาของชางอยางไร ?(1) พระองคมิได บันดาลใหแผนการของพวกเขา อยูในความผิดพลาดดอกหรือ ? ( 2) และทรงสงนกเปนฝูงๆ ใหโจมตีพวก เขา( 3) มันนํากอนหินจากนรกสิจยีลมาขวางพวกเขา (4) และพระองคก็ทรงบันดาลพวกเขาใหมีสภาพ ประหนึ่งใบพืชที่ถูกกิน (เปนอาหารของสัตว) ( 5) คําอธิบายศัพท ( )ﻛﻴﺪﻫﻢแผนการของพวกเขา ( )ﺗﻀﻠﻴﻞพินาศ , ผิดพลาด ( )ﺃﺑﺎﺑﻴﻞเปนฝูง ๆ ( )ﺳﺠﻴﻞดินที่ กลายเปนหินจากนรก ( )ﻛﻌﺼﻒใบไมหลังเก็บเกีย่ ว และมีรองรอยของสัตวมากัดกิน คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ ทานรูเรื่องราวที่มีการเลาสืบตอกันมา จนเปนที่รูจัก เปนที่เลาขานเพราะความสําคัญของเรื่องหรือไม ซึ่งเปนการนําเอาเหตุการณที่เกิดขึ้นและสามารถมองเห็นกันดวยสายตามาเลาตอกัน ความหมาย จงเลา เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเจาของชาง จงบอกสิวาองคอภิบาลของเจาไดทํากับพวกเขาเหลานั้นอยางไร พระองค มิใชหรือที่บันดาลใหแผนการของพวกเขาพินาศยอยยับ ไมเปนไปตามแผนที่วางไววาจะทําลายกะบะฮฺให พินาศ แตแลววัตถุประสงคของพวกเขาก็ไมสําเร็จ ตามที่คาดหวังไว อัลลอฮทรงสงฝูงนกมายังพวกเขา เปนฝูง ๆมันบินมาพรอมกับกอนหินที่มีเชื้อโรคที่สามารถทําลาย กองกําลังทหารเหลานี้ถึงขนาดตองถอยกลับ ดวยความสิ้นหวัง ฝูงนกเหลานี้ไดใชกอนหินขวางลงใสเหลา ทหารทําใหพวกเขาตองพบกับความพินาศยอยยับ มองดูแลวคลายกับใบไมที่ถูกสัตวกัดกินจนเปนแผล เหวอะหวะ หลังการเก็บเกี่ยว ในสมัยกอนที่เมืองเยแมนมีกษัตริยปกปครองชื่ออับรอฮะตุลอัชรอม กษัตริยองคไดสรางโบสถหลัง ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-66-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ใหญขึ้นที่เมืองซัลอะอฺ เปนโบสถที่กวางใหญสูงตระหงาน โดยมีวัตถุประสงคเพื่อที่จะยายศูนยกลางการ ประกอบพิธีหัจญจากอัลกะอฺบะฮฺไปยังสถานที่แหงใหมคือโบสถของเขาที่สรางขึ้น จากนั้นเขาก็แจงใหนัจ ยาชียผูครองเมือง ฮาบะชะฮฺ (เอธิโอเปย)ใหทราบเรื่องและจุดประสงค ตามประวัติศาสตรไดรายงานวา ดวย เหตุที่มีอัลกะอฺบะฮฺเปนศูนยกลางทางศาสนาทําใหชาวอาหรับในสมัยนั้นมีความเปนอยูที่มั่งคั่งและมั่นคงมี รายไดที่เปนกอบเปนกําจากผูมาประกอบพิธีหัจญ ทําใหอับรอฮะตุลอัชรอม เกิดความริษยาขึ้น จึงสาบานวา จะหาทางทําลายอัลกะอบะฮฺเสียใหจงได ครั้นเมื่อไดโอกาสเขาก็จัดเตรียมจัดทัพเปนกองกําลังทหารชาง ขนาดใหญมุงหนาไปยังเมกกะ โดยมีทัพหนาที่เปนชางตัวใหญ เมื่อกองกําลังของเขาเดินทางมาถึงเมือง เมกกะ เขาก็บัญชาใหยึดทรัพยสินของชาวอาหรับทั้งหมด และหนึ่งในนั้นก็มีอูฐของทานอับดุลมุฏอลิบ บุตร ของฮาชิม ปูของทานรอซูลุลลอฮ รวมอยูดวย เมื่ออับดุลมุฏอลิบรูเขา เขาก็ขอเขาพบกษัตริยอับรอฮะฮฺ เมื่อ ไดมีโอกาสเขาพบเขาก็ขออูฐของเขาคืน โดยที่ไมไดพูดถึงเรื่องของอัลกะอฺบะฮฺแตอยางใด ทําใหกษัตริยอับ รอฮะฮฺ รูสึกแปลกใจถึงขนาดพูดออกมาวา “เราเองรูสึกประหลาดใจเปนยิ่งนัก เมื่อมาพบทาน และทานก็ พยายามที่จะมาพบเรา ตองการมาพูดกับเรา ครั้นเมื่อมาพบเราแลวทานกลับถามเรื่องอูฐของทานโดยไมพูด ถึงอัลกะอฺบะฮฺ ซึ่งเปนศาสนสถานของทานและบรรพบุรุษของทาน” ทานอับดุลมุฏอลิบก็ตอบไปวา “ก็อูฐ เปนอูฐของฉัน สวนอัลกะอฺบะฮฺเปนของอัลลอฮ พระองคก็จะดูแลปกปองมันเอง” วาแลวอับรอฮะฮฺ ก็คืนอูฐ ของอับดุลมุฏอลิบใหทั้งหมด ครั้นเมื่ออับรอฮะฮฺเตรียมชางเพื่อที่จะบุกเขาสูเมกกะ เขาก็สั่งใหทหารทําลายอัลกะบะฮฺและให เปลี่ยนสถานที่ไปเปนที่เยแมนแทน เมื่อพวกเขาบังคับชางใหมุงหนาไปยังเมกกะ ชางกับหยุดเดินและโนมตัว ลงนอน แตเมื่อใหหันหนาไปทางเมืองชามและเยแมนกันกลับลุกขึ้นและออกเดิน และขณะนั้นเองอัลลอฮก็ไดทรงสงนกฝูงใหญมาพรอมกับกอนหินซึ่งคาบไวที่จงอยปากและที่เทา เมื่อมาถึงที่ที่กองทัพชางหยุดอยูบันก็ทิ้งกอนหินที่คาบมาลงบนพวกมัน เชื้อโรคที่ติดมากับกอนหินก็แผ กระจายเขาสูพวกเขา จนทําใหพวกเขาทั้งหมดลมตายมีสภาพเหมือนใบไมที่ถูกสัตวกัดกินหลังการเก็บเกี่ยว แตคําถามอยูที่วา พวกเขาถูกทําลายดวยกอนหินที่ฝูงนกนํามาขวางใสหรือวาในกอนหินนั้นมีเชื้อโรคที่เปน เชื้อโรคระบาดติดอยู ขอเท็จจริงจะเปนอยางไร อัลลอฮเทานั้นที่ทรงรอบรู แตที่แนนอนก็คือพวกเขาเหลานั้น ถูกทําลายจนสวนใหญจากกองกําลังของพวกเขาเสียชีวิต จนทําใหอับรอฮะฮฺและกองกําลังที่เหลือตอง ตัดสินใจยกเลิกการบุกทําลายอัลกะบะฮฺ ตองเดินทางกลับแตอับรอฮะฮฺ ก็ตองจบชีวิตลงระหวางทาง
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-67-
ซูเราะฮฺ กุรอยช เปนซูเราะฮฺมกั กียะฮฺ มีทั้งหมด 4 อายะฮฺ สาระในซูเราะฮฺเปนเรื่องของการสั่งใหพวกกุรอยชทําอีบา ดะฮฺตอองคอภิบาลของพวกเขา ซึ่งเปนผูประทานความโปรดปรานมาใหพวกเขาทั้งหมด ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
#x‹≈yδ ¡>u‘ (#ρ߉ç6÷èu‹ù=sù
∩⊄∪ É#ø‹¢Á9$#uρ Ï!$tGÏe±9$# s's#ômÍ‘ öΝÎγÏ≈s9Î)
∩⊇∪ C·÷ƒtè% É#≈n=ƒ\}
∩⊆∪ ¤∃öθyz ôÏiΒ ΝßγoΨtΒ#uuρ 8íθã_ ÏiΒ ΟßγyϑyèôÛr& ü”Ï%©!$# ∩⊂∪ ÏMøt7ø9$#
ความหมายของซูเราะฮฺ เพื่อยังความอบอุนแกชาวกุรอยซฺ (ที่อยูในมักกะฮฺ) (หมายเหตุมุฟซซิรีนบางทานระบุวาซูเราะฮฺนี้ สัมพันธกับซูเราะฮฺที่พนมากลาวคือการที่อัลเลาะฮฺทําลากองทัพชางตามปรากฏในซูเราะหที่พนมา ก็เพื่อยัง ความอบอุนแกชาวกุรอยซฺ จนจบซูเราะฮฺ)(1)เพื่อยังความอบอุนแกพวกเขา ในการเดินทาง (เพื่อคาขาย) ทั้ง ในฤดูหนาวและฤดูรอน( 2) ดังนั้นพวกเขาจงนมัสการตอองคอภิบาลแหงบานหลังนี้ (กะบะฮฺ)( 3) ซึ่งทรง ประทานอาหารแกพวกเขาใหพนจากความหิว และประทานความปลอดภัยแกเขา จากความหวาดกลัว ( 4) คําอธิบายศัพท ( )ﻹﻳﻼﻑ ﻗﺮﻳﺶ ﺇﻳﻼﻓﻬﻢใหความอบอุน เพื่อเปนการยังความอบอุน นักอรรถาธิบายกุรอานบาง ทาน อธิบายวา เปนเรื่องการทําสัญญาคาขายระหวางชาวกุรอยชและคูส ัญญา ( )ﺭﺣﻠﺔ ﺍﻟﺸﺘﺎﺀ ﻭﺍﻟﺼﻴﻒความ ยากลําบากในการเดินทางไปคาขาย เดิมที่เปนชื่อของการเดินทาง (การเดินทางในฤดูหนาวและฤดูรอน) ( )ﻫﺬﺍ ﺍﻟﺒﻴﺖหมายถึง อัลกะบะฮฺ ( )ﺁﻣﻨﻬﻢประทานความปลอดภัยแกพวกเขา คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ พวกเราทุกคนตางก็รูกันวา เมกกะและเมืองตาง ๆ ในเขตใกลเคียงเปนพื้นที่แหงแลงไมมีตนไมไมมี พืชผัก ซึ่งทานนบีอิบรอฮีมไดเคยขอดุอาตอองคอภิบาลของทานไววา (Ibrahim 037)
ÇΠ§ysßϑø9$# y7ÏF÷t/ y‰ΨÏã ?íö‘y— “ÏŒ Îöxî >Š#uθÎ/ ÉL−ƒÍh‘èŒ ÏΒ àMΖs3ó™r& þ’ÎoΤÎ) !$uΖ−/§‘
โอองคอภิบาลของเรา! แทจริงขาพเจาไดใหที่อยูอาศัยแกผูสืบตระกูลบางคนของขาพเจา ณ หุบเขา (แหงนครมักกะฮฺ) ซึ่งปราศจากพืชพันธชิดกับบาน (บัยติลลาห) ตองหามของพระองค ผูที่อาศัย อยู ในบริเวณนี้สวนมากแลว จะคิด กันเฉพาะเรื่องของการทํามาหาเลี้ย งชีพ พวกเขาจะ ประกอบอาชีพคาขายกับเพื่อนบาน ทั้งทางทิศเหนือและทิศใต ในชวงฤดูหนาวก็จะไปคายังประเทศเยแมน สวนในฤดูรอนก็จะไปยังซีเรีย เพราะพวกเขาเปนชาวบัยติลละฮฺ เปนเพื่อนบานที่อยูรอบบัยติลละฮฺ พวกเขา ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-68-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เปนที่เคารพของผูคน ผูคนโดยทั่วไปจะปฏิสัมพันธกับพวกเขาดวยดีมาตลอด ทําใหผลประโยชนมหาศาล เกิดขึ้นกับพวกเขา รวมไปถึงการคาขายที่พวกเขาดําเนินการอยูก็พลอยขยายอาณาเขตออกไปดวย พวกเขาจะ ทําสัญญาคาขายกับเพื่อนบานตลอดมา สาระโดยรวมของซูเราะฮฺ เปนการกลาวถึงชนเผากุรอยช ซึ่งเปนลูกหลานของ นัฎรฺ บิน กะนานะฮฺ พวกเขาไมไดกราบนมัสการตอองคอภิบาลของพวกเขา อันมีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุ ดวยเหตุนี้เองในอา ยะฮฺจึงมีการบัญชามาวา ใหพวกเขานมัสการตอองคอภิบาลแหงบานหลังนี้ เพราะพระองคไดประทานความ อบอุน ความปลอดภัยมายังพวกเขาขณะเมื่อพวกเขาเดินทางออกไปคาขายเพื่อหาเลี้ยงชีพ ดวยเหตุนี้เองพวก เขาจึงมีฐานะร่ํารวย มีความซื่อสัตย จะไปไหนมาไหนไดตามตองการ และดวยความโปรดปรานแหงอัลลอฮ พระองคทรงบันดาลใหพวกเขาเปนเพื่อนบานใกลชิดกับบัยติลละฮฺ เปนผูที่คอยรับใช และอํานวยความ สะดวกใหกับบรรดาผูประกอบพิธีหัจญ พวกเขาจึงตองนมัสการตอองคอภิบาลแหงบานหลังนี้ (บัตติลละฮฺ) ซึ่งหมายถึงอัลลอฮแตเพียงพระองคเดียว พระองคทรงบันดาลใหบานของพระองคปลอดภัยจากการทําลาย ของอับรอฮะฮฺ เพื่อใหบานหลังนี้คงอยูและเปนแหลงศูนยการคาใหกับพวกเขา ที่จะทําการคากับเพื่อนบาน พวกเขาจะตองนมัสการตอองคอภิบาลแหงบานหลังนี้ เพราะพระองคคือผูที่ทรงประทานอาหารใหพวกเขา ประทังความหิวและรอดพนจากความยากจน และใหพวกเขาปลอดภัยจากความกลัวและความอัปยศอดสู ทั้งหมด อัลลอฮคือผูที่บันดาลใหพวกเขามีความสะดวกสะดวกสบายดวยปจจัยยังชีพ ประทานความสะดวก ปลอดภัย ใหเปนที่ยอมรับของผูคนเพราะพวกเขาเปนชาวบัยติลละฮฺ เปนผูที่คอยใหบริการแกบรรดาผูมา ประกอบพิธีหัจญในสมัยนั้น จนพวกเขาสามารถที่จะสรางความเขมแข็งและความปลอดภัยใหกับตัวของ พวกเขาเอง และการคาขายของพวกเขา ในเมื่ออัลลอฮคือผูเปนเจาของความโปรดปรานเหลานี้ทั้งหมด พวก เขาก็ควรที่จะนมัสการตอพระองคแตเพียงพระองคเดียว เพราะพระองคคือผูประทานอาหารมาประทังความ หิวโหยและประทานความปลอดภัยจากความกลัวที่มากมาย
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-69-
ซูเราะฮฺอัลมาอูน ซูเราะฮฺอัลมาอูน ซึ่งมีความหมายวา “ของใช” เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 7 อายะฮฺ สาระในซู เราะฮฺ อัลลอฮไดกลาวถึงลักษณะของผูที่กลาวหาศาสนาวาเปนเท็จวามีลักษณะอยางไร ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
Ùçts† Ÿωuρ ∩⊄∪ zΟŠÏKuŠø9$# ‘í߉tƒ ”Ï%©!$# šÏ9≡x‹sù ∩⊇∪ ÉÏe$!$$Î/ Ü>Éj‹s3ム“Ï%©!$# |M÷ƒuu‘r& ∩∈∪ tβθèδ$y™ öΝÍκÍEŸξ|¹ tã öΝèδ tÏ%©!$#
∩⊆∪ š,Íj#|Áßϑù=Ïj9 ×≅÷ƒuθsù
∩⊂∪ ÈÅ3ó¡Ïϑø9$# ÏΘ$yèsÛ 4’n?tã
∩∠∪ tβθãã$yϑø9$# tβθãèuΖôϑtƒuρ ∩∉∪ šχρâ!#tムöΝèδ tÏ%©!$#
ความหมาย เจาเห็นแลวใชไหม? ผูที่ใสไคลการตอบแทน (ในวันกิยามะฮฺ) วาเปนสิ่งมุสา( 1)แทจริงเขานั้น เปน ผูที่ผลักใสลูกกําพรา(2)และไมกําชับกันในการใหอาหารแกคนอนาถา(3)ดังนั้น ความหายนะจักประสบแก บรรดาผูทําละหมาด( 4)ซึ่งพวกเขาเปนผูเผลอเรอจากการละหมาดของพวกเขา( 5)ซึ่งพวกเขาทําการโออวด กัน( 6)และพวกเขาหวงหามของใช (แกผูอื่น)( 7) (หมายเหตุ มาอูน = ของใช หมายถึง ของใชในบาน เชน หมอ ขวาน เปนตน ใครยืมก็หวง, นักวิชาการบาง คน แปลวา “ทานซะกาต”)
คําอธิบายศัพท ( )ﺑﺎﻟﺪﻳﻦหมายถึ ง ศาสนาอิ ส ลาม ,วั น กี ย ามะฮฺ ( )ﻳﺪﻉ ﺍﻟﻴﺘﻴﻢผลั ก ไสไม ย อมรั บ ,ไล อ อกไป ( )ﻭﻻﳛﺾ ﻋﻠﻰ ﻃﻌﺎﻡ ﺍﳌﺴﻜﲔไมใหการสนับสนุนสงเสริมการใหอาหารตอคนอนาถา ( )ﻓﻮﻳﻞความหายนะ ( )ﺳﺎﻫﻮﻥเผลอไผล, ลืม ( )ﺍﳌﺎﻋﻮﻥของใช คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ เจาเห็นแลวมิใชหรือผูที่ใสไคลกลาวหาวาวันกียามะฮฺนั้นเปนเท็จ (มีลักษณะเปนอยางไร ?) ทานจง บอกเรามาสิวาพวกเขาคือใคร ซึ่งลักษณะของคนเหลานี้เปนสิ่งที่จะเปนที่จะตองรับรูเพื่อที่จะไดหางไกล ออกมาจากพวกเขา จะไดไมปฏิบัติตนตามลักษณะของพวกเขา การใชคําถามในที่นี้ก็เพื่อที่จะดึงดูดความ สนใจของผูฟงใหหันมาใสใจ และรับรูขอเท็จจริงทั้งหมด และเพื่อเปนการชี้ใหเห็นวาเรื่องนี้เปนเรื่องที่ไมได เปดเผย เพราะใครตอใครตางก็อางวาตนมีความเชื่อตอวันกียามะฮฺทั้งหมด ฉะนั้นเจารูหรือไมวา ใครคือผูที่ กลาวหาวาวันกียามะฮฺเปนเท็จ เปนเรื่องมุสา หากเจายังไมรู เราก็จะแจงใหทานทราบวา ผูที่ผลักไสเด็กกําพรา อยางรุนแรงดวยการขับไสไลสง ไมยอมใหสิทธิ์แกพวกเขาตามที่พวกเขาควรจะไดรับ หากเขามีทรัพยสิน ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-70-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
สมบัติ เขาก็ควรจะไดรับในสิ่งนั้น หรือหากเขาเปนคนอนาถา เขาก็ควรจะไดรับการบริจาคเปนทาน และคน ที่กลาวหาวาวันกียามะฮฺเปนเท็จ คือผูที่ไมกําชับกันในการใหอาหารแกคนอนาถา ในเมื่อไมมีแมกระทั่ง การชับ สนับสนุนก็ไมทํา การใหอาหารกับคนกลุมนี้โดยตรงก็ยิ่งกลายเปนเรื่องยาก เมื่อเปนเชนนั้นก็จง สังเกตดูเครื่องหมายที่แสดงออกถึงการปฏิเสธตอวันกียามะฮฺที่อัลลอฮทรงกลาวไวในอัลกุรอานไดเลย พวก เขาสกัดกั้นสิทธิ์ อีกทั้งยังขมเหงรังแกผูที่ออนแอกวา มีความตระหนี่ขี้เหนียว ที่จะใหสิทธิ์แกผูมีสิทธิ์ เมื่อเจา รูถึงขอเท็จจริงเหลานี้แลว เจาก็จงรูไวดวยวา พวกเขาเหลานี้จะตองประสบกับความหายนะ และความหายนะ ก็จะประสบแกผูที่ทําการละหมาดอยางเผอเรอ ทําการละหมาดโดยปราศจากความนอบนอมถอมตน ไมได รําลึกถึงความยิ่งใหญของอัลลอฮขณะละหมาด ละหมาดโดยที่จิตใจไมไดอยูกับเนื้อกับตัว ไมไดใสใจตอสิง่ ที่ตนเองอานขณะละหมาด ละหมาดโดยที่ผูละหมาดเองไมไดตระหนักวาเวลานั้นเปนเวลาที่ตนเองอยูตอ หนาอัลลอฮ กําลังเขาเฝาพระผูทรงสราง กระดุกกระดิก ขยับเขยื้อนเผลอเรอบางครั้งไมรูเสียดวยซ้ําไปวา ตนเองละหมาดไปแลวเทาไหร กี่รอคอะฮฺ การละหมาดในลักษณะเชนนี้คือการละหมาดของผูที่กลาวหาวา วันกียามะฮฺเปนเรื่องมุสา แนนอนที่สุดละหมาดในลักษณะเชนนี้ไมมีคาใด ๆ ไมสามารถปกปองสกัดกั้นจาก สิ่งลามกและสิ่งเลวรายไดเลย เพราะผูทําละหมาดเผอเรอจากการระลึกถึงอัลลอฮ และเปนการละหมาดเพื่อ โออวดตอผูคนเทานั้น ไมไดทําเพื่ออัลลอฮ ดวยความกระหนี่ขี้เหนียวของพวกเขา พวกเขาเองก็ไมยอมให ใครหยิบยืมของใชของพวกเขาเลย เจาเห็นแลวมิใชหรือสําหรับผูที่กลาวหาวาวันกียามะฮฺเปนเท็จนั้น คือผูที่แสดงความโหดรายตอลูก กําพรา คือผูที่ไมยอมใหสิทธิ์กับคนอนาถาม คือคนที่เผอเรอขณะทําละหมาด ละหมาดเพียงเพื่อโออวดตอ ผูคนเทานั้น พวกเขาไมยอมแบงปนความดีแกผูอื่น คนกลุมนี้จะประสบกับความหายนะ(จากการลงโทษใน นรกเวล )ครั้งแลวครั้งเลา แมวาพวกเขาจะทําการละหมาดหรือถือศีลอดอยูเสมอก็ตาม
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-71-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ซูเราะฮฺ อัลเกาซัร ซูเราะฮฺอัลเกาซัร มีความหมายวา ความดีอันลนเหลือ เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 3 อายะฮฺ สาระ ในซูเราะฮฺ อัลลอฮทรงกลาวถึงการประทานความดีตาง ๆ อันมากมายใหกับทานนบี หลังจากนั้นก็ทรงขอให ทานทําการละหมาดและทําการบริจาคทานเพื่อแสดงออกถึงการกตัญูตอพระองคที่พระองคทรงประทาน ความโปรดปรานอันมากมายให ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
∩⊂∪ çtIö/F{$# uθèδ št∞ÏΡ$x© χÎ) ∩⊄∪ öptùΥ$#uρ y7În/tÏ9 Èe≅|Ásù ∩⊇∪ trOöθs3ø9$# š≈oΨø‹sÜôãr& !$¯ΡÎ)
ความหมายของซูเราะฮฺ แทจริงเราไดใหความดีอนั ลนเหลือแกเจา( 1) ดังนั้น เจาจงละหมาด และจงเชือดสัตวพลีทาน เพื่อ องคอภิบาลของเจา( 2) แทจริงผูรังเกียจเจานั้น เปนผูขาดความดี( 3) “อัลเกาซัร” เปนบอหนึ่งอยูในสวรรค) มีระบุในหะดีษวา (หมายเหตุ
คําอธิบายศัพท ( )ﺍﻟﻜﻮﺛﺮสิ่งของตาง ๆ มากมาย (มีระบุในหะดีษวา “อัลเกาซัร” เปนสระน้ําในสวรรค) ( )ﺷﺎﻧﺌﻚรังเกียจ หรือขุนเคืองตอเจา ( )ﺍﻷﺑﺘﺮขาดความดี คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ บรรดาพวกมุชริกีนเมื่อพวกเขาเห็นทานนบีและคนมุสลิมมีจํานวนนอย เปนกลุมคนยากจนไมมี ทรัพยสินสมบัติ พวกเขาก็จะแสดงทาที่รังเกียจดูถูกเหยียดหยาม โดยเขาใจเอาวาสัจธรรมและความดีตางๆ นั้นจะตองอยูคูกับทรัพยและความร่ํารวย และจะตองอยูกับคนที่มีพวกพองที่มากมาย เมื่อพวกเขาเห็นวา ทานนบีมีลูกชายเพียงคนเดียว เมื่อเสียชีวิตลงพวกเขาก็กลาววาสิ้นสกุลแลว ไมมีใครระลึกถึงไดอีก พวกมุ นาฟกูนก็เชนกันเมื่อพวกเขาเห็นวามุสลิมมีจํานวนนอย และเปนอยูอยางยากลําบาก ฐานะไมดีพวกเขาก็คดิ วา จะตองเอาชนะไดอยางแนนอน ดวยเหตุที่พวกเขาตองอยูกับความยากลําบาก เกรงวาพวกเขาจะรูมีความรูสึก ที่ไมดี อัลลอฮจึงทรงประทานซูเราะฮฺนี้ลงมายังทานนบี เพื่อแจงวาแทจริงแลวอัลลอฮไดทรงประทาน ความดีอันมากมายใหแกทาน ทั้งในโลกนี้และโลกหนา ดวยพฤติกรรมของผูอิจฉาริษยา ผูที่รังเกียจเดียดฉัน ที่แสดงออกมานี้นี่เอง ที่จะกลับกลายมาเปนเรื่องดีที่เราพอใจเสียดวยซ้ํา โอมูฮําหมัด แทจริงแลวเราไดประทานความดีมันมากมาย ความดีอันลนเหลือแกเจา ทั้งศาสนาอัน เที่ยงธรรมและความเปนนบี พระองคทรงแตงตั้งเจาใหมาเปนศาสนทูตของมวลมนุษยทั้งหมด ใหศาสนา อิสลามเปนศาสนาสุดทายจากบรรดาศาสนาทั้งหมด สาระธรรมที่ประทานมายังเจาเปนสาระธรรมฉบับ สุดทาย มีการรวมไวซึ่งความดีทั้งในโลกนี้และโลกหนา มีการรวมไวซึ่งความดีและความสมบูรณในทุกดาน ไวอยางครบถวน อัลลอฮไดทรงประทานอัลกุรอาน ทรงประทานวิทยญาณและความรูแกเจา ทรงประทาน ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-72-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ความดีและความโปรดปรานอันมากมายใหกับเจา ทรงประทานรัศมีแหงทางนํา ความสงบสุขในโลกนี้และ โลกหนา ทรงประทานสาวกและประชาชาติที่มากมาย ไปจนถึงวันกียามะฮฺ ใชแลวพระองคทรงประทานสิ่งเหลานี้ทั้งหมดใหกับเจา (สวนหนึ่งคือสระน้ําในสรวงสวรรค) เมื่อ เปนเชนนั้น เจาจงทําการละหมาดเพื่อองคอภิบาลของเจาแต เพียงพระองคเดี ยว เจาจงมอบหมายสิ่งตอ พระองค เพราะพระองคคือผูที่ทรงประทานความโปรดปรานและทรงเปนผูชวยเหลือที่ดีที่สุด จงนมัสการ และจงเชือดสัตวพลีทาน ซึ่งการเชือดสัตวเปนสวนหนึ่งขององคพิธีกรรมในพิธีหัจญเพื่ออัลลอฮ ทุกสิ่งที่ ทานกระทําเหลานี้ก็เพื่อพระองค เพราะพระองคคือองคอภิบาลของเจา ผูทรงประทานสิ่งตาง ๆ ใหกับเจา ผู ทรงชี้นําเจาและประทานความสําเร็จแกเจาทั้งหมด สวนผูที่แสดงความรังเกียจเดียดฉันตอเจา อิจฉาริษยาตอเจา พวกเขาถูกตัดขาดจากการกลาวถึง ในทางที่ดี อัลลอฮทรงเปรียบเทียบเหมือนสวนหางของสัตวที่ถูดตัดขาด สวนหางเปนเสมือนสิ่งประดับ ใหกับมัน จึงมีการเปรียบเทียบกับการถูกตัดขาดปราศจากสิ่งดี ๆ สําหรับการละหมาดนักอรรถาธิบายอัลกุร อานบางทานใหทัศนะวาหมายถึงการละหมาดในวันอีด สวนการเชือดสัตวหมายถึงการเชื่อดสัตวพลีทาน (กุรบาน)
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-73-
ซูเราะฮฺอัลกาฟรูน ซูเราะฮฺ อัลกาฟรูน ซูเราะฮฺมกั กียะฮฺ มีทั้งหมด 6 อายะฮฺ สาระในซูเราะฮฺเปนการพูดถึงสิ่งที่พวกกา เฟรคาดคิดอยากจะทํา และกลาวถึงความแตกตางระหวางอีบาดะฮฺของพวกเขากับอีบาดะฮฺของทานนบี ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
!$tΒ tβρ߉Î7≈tã óΟçFΡr& Iωuρ u’Í<uρ ö/ä3ãΨƒÏŠ ö/ä3s9
∩⊄∪ tβρ߉ç7÷ès? $tΒ ß‰ç6ôãr& Iω
∩∈∪ ߉ç6ôãr& !$tΒ tβρ߉Î7≈tã óΟçFΡr& Iωuρ
∩⊇∪ šχρãÏ≈x6ø9$# $pκš‰r'¯≈tƒ ö≅è% ∩⊆∪ ÷Λ–n‰t6tã $¨Β Ó‰Î/%tæ O$tΡr& Iωuρ
∩⊂∪ ߉ç7ôãr& ∩∉∪ ÈÏŠ
ความหมาย จงประกาศเถิด โอบรรดาผูไรศรัทธาทั้งหลาย( 1)ฉันจะไมนมัสการ ในสิ่งที่พวกทานนมัสการ( 2) และพวกทานก็ไมตองมานมัสการในสิ่งที่ฉันนมัสการ( 3) และฉันมิใชผูทําการนมัสการ สิ่งที่พวกทาน นมัสการ( 4) และพวกทานก็มิใชผูทํานมัสการ สิ่งที่ฉันทําการนมัสการ( 5) สําหรับพวกทาน ก็คือศาสนา ของพวกทาน และสําหรับฉัน ก็คือศาสนาของฉัน (ไมเกี่ยวของกัน)( 6) มีรายงานว า แกนนํ า ของพวกมุชริ กีน ไดมาหาทา นนบี หลั ง จากที่ ไ ดพ ยายามเกลี้ ย กล อ มให เปลี่ยนแปลงการเรียกรองเชิญชวนของทาน แตยังหามพวกเขามิใหตามทานอยางหูหนวกตาบอด พวกเขาจึง มาหาทานแลวกลาวกับทานวา เราจะนมัสการตอพระเจาของทาน สักระยะเวลาหนึ่งและทานก็นมัสการตอ พระเจาของเราสักระยะหนึ่ง การกระทําเชนนี้จะชวยประสานรอยราวระหวางเราได ความเปนศัตรูระหวาง เราก็จะหายไป สิ่งใดที่เรามีดี ทานก็รับบางสวนไปจากเรา และหากสิ่งใดที่ทานมีดี เราก็จะรับบางสวนมาจาก ทาน ...ตอมาซูเราะฮฺนี้ก็ไดรับการประทานลงมา เพื่อที่จะตัดสินในสิ่งที่พวกเขาตองการใหเกิดขึ้น อรรถาธิบายซูเราะฮฺ จงประกาศเถิดโอมูฮําหมัด ..ตอบรรดาผูปฏิเสธศรัทธาทั้งหลายที่เคยชินอยูกับการปฏิเสธศรัทธา ไม เคยคํานึงคุณธรรมเลยแมแตนอย ไมหวังเลยวาคนหนึ่งคนใดจากพวกเขาจะมายอมเชื่อมั่นศรัทธา เจาจง ประกาศแกพวกเขาเถิดวา ฉันเองจะไมไปนมัสการตอสิ่งที่พวกทานทั้งหลายกราบไหวนมัสการ พวกทาน ทั้งหลายกราบไหวพระเจาที่ยังพึ่งพาตออัลลอฮผูทรงอํานาจแตเพียงพระองคเดียว พวกทานกราบไหวบูชา พระเจาที่มีมาในรูปของรูปบูชาหรือรูปเจว็ด แตฉันเองกราบไหวนมัสการตอพระเจาผูทรงเอกะ ผูที่ไมทรงพึง พาผูใด ไมมีภริยาและบุตร ไมมีสิ่งใดที่สามารถเปรียบเทียบใหเสมอเหมือนได ไมอยูลักษณะที่เปนรูปเปน ราง เปนลักษณะบุคคล ไมตองการความอนุเคราะหจากผูใด การเขาใกลพระองคไมตองผานสิ่งถูกสราง แต การเขาใกลพระองคเพียงผานการอีบาดะฮฺตอพระองคโดยตรง ฉะนั้นสิ่งที่ฉันกราบไหวนมัสการกับสิ่งที่ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-74-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
พวกทานกราบไหวนมัสการนั้นแตกตางหางไกลกันมาก ฉันจะไมกราบไหวนมัสการในสิ่งที่พวกทาน นมัสการ และพวกทานก็ไมตองมานมัสการในสิ่งที่ฉันนมัสการ โอบรรดาผูปฏิเสธทั้งหลายที่ยังยึดมั่นอยูกับการปฏิเสธศรัทธา ฉันเองจะไมเปนผูที่นมัสการใน รูปแบบการนมัสการของพวกทาน และพวกทานก็ไมใชผูนมัสการตามแบบการนมัสการของฉัน อายะฮฺที่ 2 และ 3 แสดงใหเห็นวา พระเจาที่ทานนบี กราบไหวนมัสการนั้นแตกตางไปจากที่พวกเขากราบไหว นมั ส การ ท า นกราบไหว อั ล ลอฮ แต พ วกเขากราบไหว รู ป เจว็ ด รู ป บู ช า ส ว นอายะฮฺ ที่ 4 และ 5 มี สื่ อ ความหมายออกมาในทํานองเดียวกัน นั่นคือรูปแบบการอีบาดะฮฺของทานนบีนั้นเปนการอีบาดะฮฺที่บริสุทธิ์ ใจตออัลลอฮ ไมไดปะปนกับการตั้งภาคี ระหวางสิ่งที่เปนพระเจากับผูที่กราบไหวนมัสการแตกตางกันอยาง สิ้นเชิง การอีบาดะฮฺของพวกทานทั้งหมดเปนการตั้งภาคีตออัลลอฮ จึงรวมกันไมได ไมมีจุดใดที่เชื่อมตอกัน กับการอีบาดะฮฺของเรา นักวิชาการบางทานกลาววา การใชสํานวนภาษาที่มีลักษณะความหมายคลายคลึงกัน แตความหมายตางกัน เพื่อเปนการหลีกเลี่ยงการกลาวซ้ําในเรื่องเดียวกัน ความหมายในสองอายะฮฺแรกเปน การกลาวถึง เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (ซึ่งมีความหมายวา จะไมทําการอีบาดะฮฺอยางทาน ) สวนสองอายะฮฺ หลัง เปนการกลาวถึงเรื่องในอดีต (ยังไมเคยปฏิบัติอยางที่พวกทานปฏิบัติ) ซึ่งเปนเรื่อง ๆ และมีวัตถุประสงค เดียวกัน ศาสนาของทานก็เปนไปตามศาสนาของทาน ศาสนาของฉันก็ปลอยใหเปนไปตามศาสนาของฉัน ซึ่งสองประโยคหลังจะเปนการยืนยันความหมายของอายะฮฺทั้งสองที่ผานมาทั้งหมด .
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-75-
ซูเราะฮฺอัลนัสรฺ ซูเราะฮฺอัลนัสรฺ ซึ่งมีความหมายวา การชวยเหลือ มีทั้งหมด 3 อายะฮฺ ในซูเราะฮฺเปนการแจงขาวดีตอ ทานนบี และบรรดาซอฮาบะฮฺ วาจะมีการประทานความชวยเหลือจากอัลลอฮมายังศาสนาของพวกเขา ดวย การเปดอกเปดใจใหผูคนใหเข ารับนับถือศาสนาอิสลาม จึงมีบั ญชามายั งทานให กล าวตัสบีฮฺ สดุดี พระ บริสุทธิ์คุณแหงอัลลอฮ เพราะพระองคคือผูประทานชัยชนะใหกับพวกเขา ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
∩⊄∪ %[`#uθøùr& «!$# ǃϊ ’Îû šχθè=ä{ô‰tƒ }¨$¨Ψ9$# |M÷ƒr&u‘uρ
∩⊇∪ ßx÷Gxø9$#uρ «!$# ãóÁtΡ u!$y_ #sŒÎ)
∩⊂∪ $R/#§θs? tβ%Ÿ2 …絯ΡÎ) 4 çνöÏøótGó™$#uρ y7În/u‘ ωôϑpt¿2 ôxÎm7|¡sù
ความหมาย เมื่อความชวยเหลือแหงอัลเลาะฮฺ และการพิชิตไดมาปรากฏแลว(1) และเจาไดเห็นมวลมนุษยพากัน เขามาสูศาสนาของอัลเลาะฮฺเปนกลุม ๆ ( 2) ดังนั้น เจาจงสดุดีพระบริสุทธิคุณ พรอมดวยการสรรเสริญ องคอภิบาลของเจาเถิด และจงขออภัยตอพระองค เพราะแทจริงพระองคทรงรับการสารภาพโทษยิ่ง( 3) คําอธิบายศัพท ( )ﻧﺼﺮ ﺍﷲความชวยเหลือจากอัลลอฮ ( )ﺍﻟﻔﺘﺢการเปดเมือง การพิชิต มีชัยเหนือศัตรูของอิสลาม ( )ﺍﻓﻮﺍﺟﺎเปนกลุม ๆ ( )ﻓﺴﺒﺢ ﲝﻤﺪ ﺭﺑﻚกลาวตัซบิฮฺ สดุดี กลาวตะฮฺมิด สรรเสริญตออัลลอฮ ดวยวิธีการ สรรเสริญสดุดี ที่เหมาะสม คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ กอนหนานี้ทานนบี มีความประสงคอยางแรงกลาที่จะใหผูคนเขามาศรัทธาตออิสลาม โดยเฉพาะ อยางยิ่งเผากุรอยชและชาวอาหรับ ซึ่งทานนบีก็เหมือนกับมนุษยทั่วไป ทานไมมีความรูเกี่ยวกับสิ่งเรนลับวา ในอนาคตอัลลอฮประสงคจะใหเกิดอะไรขึ้น ทานจึงมีความหวั่นวิตกอยูบางวาการเรียกรองเชิญชวนของ ทานนั้น จะเกิดอะไรขึ้น ตอมาอัลลอฮก็ทรงประทานซูเราะฮฺนี้ลงมาเพื่อเปนการแจงขาวดีตอทาน เปนการ แจงเตือนแกทานวา ทานไมควรจะรูสึกวิตกกังวลกับเรื่องนี้อีกตอไป เปนการแจงใหทราบวา เรื่องที่เกิดขึ้น เปนเรื่องของความดีสําหรับทานและเปนความเลวรายกับคนใกลชิด ซึ่งบางครั้งสิ่งนั้นเปนสิ่งที่ดีสําหรับทาน แตกับคนอื่น ๆ กับเปนเรื่องที่พวกเขาไมพึงประสงค ดวยความรูสึกที่ผานมา จึงควรขออภัยโทษจากอัลลอฮ เสีย เมื่อความชวยเหลือจากอัลลอฮมาถึง ซึ่งความชวยเหลือดังกลาวจากพระองคนั้นเปนเรื่องที่จะตอง เกิดขึ้นอยางแนนอน เมื่อการพิชิตเมืองตาง ๆ ที่ไมสามารถพิชิตไดประสบความสําเร็จ สามารถพิชิตได จิตใจ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-76-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ของผูคนที่เคยปดแนน ก็จะเริ่มคลี่คลายและเปดออก ทานก็จะไดเห็นผูคนเขาสูศาสนาของอัลลอฮเปนกลุม ๆ เมื่อสถานการณเปนเชนนี้แลว ทานก็จะตองแสดงความกตัญูของคุณตออัลลอฮ ดวยการกลาวสรรเสริญตอ พระองคดวยรูปแบบที่เหมาะที่ควรตอพระองค กลาวสดุดีตอองคอภิบาลของทาน ในพระบริสุทธิ์คุณแหง พระองคดวยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมแกพระองค สดุดีในพระบริสุทธิ์คุณ สรรเสริญตอความงดงาม แหงการดลบันดาล ดวยการกลาวถึงคุณลักษณะและพระนามแหงพระองคอันไพจิต กลาวขออภัยโทษตอ ความผิด วอนของใหพระองคทรงอภัยในความผิดพลาดที่เคยกระทําและลวงเกินตอพระองค (เชนการวิตก กังวล) ในสิ่งที่ไมเหมาะไมควรที่ผูเปนศาสนทูตทานสุดทายอยางทานจะรูสึก ขออภัยโทษจากพระองค แทจริงแลวพระองคทรงรับการขออภัยโทษของมวลบาวเสมอ พระองคจะทรงใหอภัยในความผิด พระองค ทรงรอบรูในสิ่งที่ทานไดกระทํา ในซูเราะฮฺเปนการสื่อมายังทานนบีและทุกคนที่มีความเหมาะสมที่จะไดรับ การสื่อมาดวยซูเราะฮฺนี้ทั้งหมด มีรายงานวา ซูเราะฮฺนี้เปรียบเสมือนเปนการสดุดีในเกียรติคุณของทานนบี เปนเสมือนการปลอบใจ วาเมื่อทานนบีไดรับซูเราะฮฺนี้ ก็แสดงวาทานนบีมูฮําหมัด ไดทําการเผยแพรสารธรรมของทานไดอยาง เสร็จสิ้นสมบูรณแลว เมื่อการเผยแพรเสร็จสิ้นแลวตอไปทานก็จะตองกลับคืนสูอัลลอฮ ทําใหซอฮาบะฮฺบาง ทานเขาใจในความหมายที่ซูเราะฮฺนี้สื่อออกมา ทําใหบางทานถึงขนาดตองรองไหตอสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับทาน นบี ในไมชา
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-77-
ซูเราะฮฺอัลมะซัด ซูเราะฮฺอัลมะซัด มีความหมายวา เสนใยจากตนอินทผาลัม เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺมีทั้งหมด 5 อายะฮฺ สาระในซูเราะฮฺเปนการกลาวถึงเรื่องราวของอาบีละฮับและภริยา ซึ่งเปนผูแบกไมฟน ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
#Y‘$tΡ 4’n?óÁu‹y™
∩⊄∪ |=|¡Ÿ2 $tΒuρ …ã&è!$tΒ çµ÷Ψtã 4o_øîr& !$tΒ
∩⊇∪ ¡=s?uρ 5=yγs9 ’Î1r& !#y‰tƒ ôM¬7s?
∩∈∪ ¤‰|¡¨Β ÏiΒ ×≅ö7ym $yδω‹Å_ ’Îû ∩⊆∪ É=sÜysø9$# s's!$£ϑym …çµè?r&tøΒ$#uρ ∩⊂∪ 5=oλm; |N#sŒ
ความหมาย สองมือของอบีล ะฮับจงพิน าศเถิด และเขาก็ได พิน าศแลว(1)ทรั พ ยสิน ของเขา และสิ่ง ที่ เขาได พากเพียรไว ไมอาจปองกันเขาไดเลย( 2)ตอไปเขาจะตองเขาไปในนรกที่มีเปลวเพลิง( 3) โดยมีภริยาของเขา เปนผูแบกไมฟน( 4) ซึ่งในตนคอของนางนั้น มีเชือก (ที่ทํามา) จากเสนใยของตนอินทผลัม( 5) คําอธิบายศัพท ( )ﺗﺒﺖ ﻳﺪﺍ ﺃﰊ ﳍﺐความพินาศ ความขาดทุน จงเกิดขึ้นกับสองมือของอาบีละฮับ ( )ﺳﻴﺼﻠﻰจะได ลิ้มรส จะไดเขาสู ( )ﲪﺎﻟﺔ ﺍﳊﻄﺐแบกไมฟน ไมฟนที่นางแบกนั้นเปนไมฟนจริง ๆ หรือไม ? อัรวา บินตฺ ฮัรบฺ บิน อุมัยยะฮฺ นองสาวของอาบีซุฟยาน ภริยาของอาบีละฮับนั้นแบกไมฟนจริง ๆ หรือหมายถึงนาง พยายามที่จะกอใหเกิดความเสื่อมเสียขึ้นกับผูคน ดวยเหตุนี้เองจึงมีการกลาวในเชิงเปรียบเปรยไวในงในอา ยะฮฺนี้ ( )ﻣﺴﺪเชือกซึ่งบิดควั่นไวอยางแนนหนาแข็งแรง คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ มีรายงานวาเมื่อทานนบี ไดรับบัญชาใหทําการเผยแพรศาสนาอยางเปดเผยแกผูคน โดยเฉพาะ อยางยิ่งกับบรรดาญาติพี่นองผูใกลชิด ทานไดออกไปยืนที่ลานกวางพรอมกับเรียกชาวกุรอยชใหมารวมกัน พรอมกับกลาววา “นี่พวกทานหากฉันจะบอกพวกทานวาศัตรูกําลังจะบุกมายังพวกทาน ทานจะเชื่อฉัน หรือไม ?” พวกเขาก็ตอบวา “เราเชื่อ” จากนั้นทานก็บอกกับพวกเขาวา “แทจริงแลวฉันขอเตือนพวกทานวา ขางหนาพวกทานนั้นมีการลงโทษที่รุนแรงรออยู” เมื่ออาบีละฮับไดยินก็พูดสวนออกมาวา “มีเรื่องแคนี้ดอก หรือที่เรียกพวกเราใหมารวมตัวกันในวันนี้” วาแลวอัลลอฮก็ทรงประทานซูเราะฮฺนี้ลงมา ความพินาศ ความขาดทุนอยางรุนแรงจงประสบแกอาบีละฮับ เปนการขอดุอาใหเกิดเหตุกับเขา และ แลวก็เกิดความพินาศยอยยับกับเขาจริงๆ ดังมีหลักฐานปรากฏที่วา “ ” َﻭﺗَﺐซึ่งมีความหมายวา “แลวเขาก็ พินาศลง” ทรัพยสินสมบัติของเขาไมสามารถที่จะชวยอะไรเขาไดเลย สิ่งที่เขาไดพยายามสรางมาไมสามารถ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-78-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ยังประโยชนอะไรใหกับเขาไดเลย ไมสามารถที่จะสรางความมั่นคงอะไรใหกับเขาได ในการเผยแพรศาสนา ของทา นนบี อาบี ละฮั บซึ่งเปน ลุ งของทานนบีเอง มีชื่อเรีย กอีก ชื่ อ หนึ่ งว า อั บดุ ลอุ ซซา เป น ผู ที่ คอย ขัดขวางตอตานและเปนศัตรูกับทานนบีอยางแรง เขาคอยที่จะเดินตามหลังทานนบี เมื่อนบีกลาวสิ่งใดออกมา เขาก็จะกลาววา โกหก ดวยเหตุนี้เองอัลลอฮจึงทรงกลาวถึงการตอบแทนที่จะตอบแทนใหกับเขาไววา “เขา จะเขาสูไฟนรก” ที่ไมสามารถรูไดวาปริมาณความรอนของมันจะขนาดไหน มีลักษณะเปนเชนไร อัลลอฮผู ทรงสรางเทานั้นที่ทรงรู อัลลอฮจึงทรงกลาววา “ ”ﻧﺎﺭﺍ ﺫﺍﺕ ﳍﺐที่นั่นตรงนั้นคือที่ที่เขาและภริยาของเขาจะ เขาไป ซึ่งภริยาของเขาจะเปนผูแบกฟน มีรายงานวานางเปนผูที่คอยหาทางสกัดกั้นผูคน ดวยการนําหนามมาวางไวในถนนหนทาง ตาม ตรอกซอกซอย ที่ทานนบีจะเดินผาน นางเปนผูที่พยายามยุยงปลุกปนใหเกิดความเขาใจผิดและแตกแยก ระหวางทานนบีกับผูคน นางเปนผูสรางเรื่องกอเรื่อง สรางความเปนศัตรูใหเกิดขึ้น อัลลอฮจึงทรงเสริมเติม เต็มใหกับนางไวในอีกอายะฮฺหนึ่งวา “ ”ﰲ ﺟﻴﺪﻫﺎ ﺣﺒﻞ ﻣﻦ ﻣﺴﺪแตเดิมทีในคอของนางมีสรอยคอ คลายกับวา เปนสิ่งที่จะนํามาขายนําเงินมาชวยสนับสนุนในการตอตานทานรอซูลุลลอฮ จากนั้นอัลลอฮก็ทรงเปลี่ยน สรอยคอมาเปนเชือกผูกคอนางเพื่อตัดสิน โดยใหนางลงสูนรก หรือความหมายอีกนัยหนึ่งอธิบายไววา เปน การแสดงใหเห็นถึงความอัปยศ แสดงใหเห็นภาพของความอดสู จากการที่นางเคยเปนผูหยิ่งยโสโอหังมา พรอมๆ กับสามีของนาง
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-79-
ซูเราะฮฺอัลอิคลาส ชื่อซูเราะฮฺ อัลอิคลาส ซึ่งมีความหมายวา “ความบริสุทธิ์ใจ” เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มีทั้งหมด 4 อา ยะฮฺ เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ ซูเราะฮฺนี้เปนการกลาวถึงเอกานุภาพแหงอัลลอฮ เปนการกลาวถึงพระบริสุทธิ์คุณ แหงอัลลอฮ ซึ่งเปนฐานหลักฐานแรก เปนหลักการขอแรกของอิสลาม มีฮาดิษรายงานวา คุณคาของมัน เทากับ 1 ใน 3 ของอัลกุรอาน เปนการกลาวถึงหลักการทั่วไป 3 ประการ คือเรื่องของ เตาฮีดหรือเอกานุภาพ แห งอั ลลอฮ การยอมรับในขอบเขตของพระองคแ ละการกระทําของมัคลุก (สิ่งถูกสรางทั้งหมด) มีก าร กลาวถึงสภาพของวันกียามะฮฺ ผูใดที่อานและทําความเขาใจวิเคราะหความหมายก็จะไดรับผลเทากับการ อานอัลกุรอานได 1 ใน 3 ของอัลกุรอานทั้งหมด ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
…ã&©! ä3tƒ öΝs9uρ
∩⊂∪ ô‰s9θムöΝs9uρ ô$Î#tƒ öΝs9
∩⊄∪ ߉yϑ¢Á9$# ª!$#
∩⊇∪ î‰ymr& ª!$# uθèδ ö≅è% ∩⊆∪ 7‰ymr& #·θàà2
ความหมาย จงประกาศเถิด อัลเลาะฮฺมีองคเดียว( 1) อัลเลาะฮฺ ทรงเปนที่พึ่ง ( 2) พระองคมิไดใหกําเนิด และ พระองคมิไดถูกกําเนิด (3) และไมมีสิ่งใดเทียบเทียมกับพระองค( 4) คําอธิบายศัพท ( )ﺍﺣﺪทรงเอกะ ทั้งในความเปนพระองคเอง คุณลักษณะ และการกระทํา ( )ﺍﻟﺼﻤﺪทรงกําหนด และดําเนินการดวยพระองคเองไมพึงพาผูใ ด ( )ﻛﻔﻮﺍﹰสิ่งเปรียบ สิ่งเสมอเหมือน คําอรรถาธิบายซูเราะฮฺ จงประกาศเถิดโอมูฮําหมัด ... ถึงขอเท็จจริง ที่สามารถยืนยันในความเปนสัจธรรม จงประกาศ หลั ก ฐานที่ ชั ด เจนเด็ ด ขาดว า อั ล ลอฮนั้ น ทรงเอกะ ทรงเอกะในความเป น พระองค เ อง ไม มี จํ า นวนที่ สลับซับซอน พระองคทรงเอกะในการกระทํา ไมมีใครตองคอยสนับสนุนชวยเหลือหรือมามีหุนสวนกับ พระองค ไมมีการกระทําใดที่เสมอเหมือน ในที่นี้มีการใชสรรพนามวา “ ”ﻫﻮเปนการกระตุนใหเขาใจไดวา เปนคําพูดที่สําคัญยิ่ง ควรแกการ ใสใจทําความเขาใจและคนควาหาขอเท็จจริง เปนสรรพนามที่นํามาใชเพื่อเรียกรองใหมีการติดตามทําความ เขาใจ ความที่จะนํามากลาวถึงตอไป เมื่อมีการอธิบายเพิ่มเติมก็จะไดเขาใจไดงายขึ้น หลายคนอาจจะมี คําถามวา ทําไมจึงไมใชภาษาวา “ ”ﺍﷲ ﺍﻷﺣﺪแตมาแทนดวยคําวา “ ”ﺃﺣﺪคําตอบก็คือ พระองคประสงค ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-80-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
จะชี้แจงใหปรากฏวาเอกานุภาพนั้นอยูที่พระองค ความสูงสงแหงพระองคนั้นดํารงอยูดวยเอกานุภาพในตัว ของพระองค ไมไดมีหลายองค หากมีการใชภาษาวา “ ”ﺍﷲ ﺍﻷﺣﺪสํานวนก็จะมีความหมายวา พวกเขามี ความเชื่อในเอกานุภาพ แตเปนเอกานุภาพที่อยูกับใคร ? ทั้งๆ ที่ความหมายที่ตองการก็คือการปฏิเสธความ หลากหลาย ซึ่งพวกเขา(อยางเชนพวกคริสต ซึ่งมีความเชื่อในพระเจาสามองค ที่เรียกวาตรีเอกานุภาพ ) มี ความเชื่อเชนนั้น ดวยเหตุนี้เองอัลลอฮจึงทรงตรัสวา “ ”ﺍﷲ ﺍﺣﺪ ﺍﷲ ﺍﻟﺼﻤﺪซึ่งมีความหมายวา อัลลอฮคือผู ทรงเอกะ ผูทรงเปนที่พึ่ง ไมมีใครมีอํานาจเหนือพระองคอีก พระองคไมประสงคที่จะพึงพาผูใด แตพระองค ทรงเอกะที่ใครตอใครตองพึ่งพาพระองค พระองคคือที่คืนกลับของเหลามัคลูก(สิ่งถูกสรางทั้งหมด) เมื่อถึง คราวคับขันมีปญหา พระองคคือผูทรงสูงสง ผูทรงยิ่งในความเปนศิริมงคล พระองคไมมีภริยาและบุตร เปนการประกาศถึงความบริสุทธิ์แหงพระองคจากการมีบุตร ไมวาจะ เปนชายหรือหญิง ไมมีใครใหกําเนิดพระองค หลักฐานเหลานี้ทั้งหมดเปนการตอบโตตอพวกมุชริกีนที่ กลาวหาวามลาอิกะฮฺเปนบุตรหญิงของอัลลอฮ และเปนการตอบโตตอพวกคริสตที่ก ลาวหาว า อัลอุซิรฺ และอัลมะซิฮฺเปนบุตรของอัลลอฮ จากนั้นพวกเขาก็ทําการนมัสการตออัลลอฮประหนึ่งวาพระองคคือพระ บิดา ซึ่งเปนไปไมไดวาพระองคจะทรงมีบุตร เพราะบุตรเปนสวนที่แยกสวนมาจากผูเปนบิดา หากเปน เชนนั้นก็หมายความวา พระเจาจะตองมีหลายองค กลายเปนสิ่งใหม ที่คลายคลึงกับสิ่งถูกสราง แตอัลลอฮ พระองคไมไดตองการที่จะตองมีลูก เพราะพระองคคือผูทรงสรางสรรคสรรพสิ่งทั้งหมด ผูทรงสรางชั้นฟา และแผนดิน ผูที่ทรงใหชั้นฟาและแผนดินกลายมาเปนมรดกตกทอดสืบสานตอกันมา สวนเหตุผลที่จะบอกวาเปนไปไมไดกับการที่พระองคจะเปนผูที่ถูกใหกําเนิดมา หากทําความเขาใจ ใหถองแทก็จะเปนเรื่องงายตอการทําความเขาใจ ลูกจะตองมีพอมีแม จะตองมีผูใหนม แตพระองคทรง สูงสงเกินกวาที่จะพึงพิงสิ่งเหลานี้ทั้งหมด “ ”ﱂ ﻳﻜﻦ ﻟﻪ ﻛﻔﻮﺍ ﺃﺣﺪในเมื่อพระองคทรงเอกะในตัวของ พระองคเอง อัลลอฮไมไดมีหลายองค ไมมีพอผูใหกําเนิด และพระองคก็ไมไดถูกใหกําเนิดมาโดยผูใด ไมมี ใครเสมอเหมือนหรือเทียบเทียมตอพระองค ไมมีพระเจาอื่นใด ไมมีภาคีใด ๆ พระองคทรงสูงสงจากสิ่งที่ พวกเขาตั้งภาคีทั้งหมด ซูเราะฮฺนี้เปนการตอบโตตอบรรดามุชริกีน (บรรดาผูตั้งภาคีตออัลลอฮ กลาวหาวาอัลลอฮมีบุตรมี ผูใหกําเนิด มีภาคีหุนสวน) ทั้งพวกยิวและพวกคริสต ดังที่ไดกลาวมาแลวขางตน พวกคริสตมีความเชื่อแบบ ตรีเอกานุภาพ เปนการตอบโตแกพวกที่นมัสการตอดวงดาวและทางชางเผือก เปนการตอบโตตอพวกมุช ริกีนอาหรับที่เขาใจวาอัลลอฮมีภาคี ซึ่งความจริงแลวอัลลอฮทรงบริสุทธิ์และสูงสงกวาสิ่งเหลานี้ทั้งหมด ซู เ ราะฮฺ นี้ มี ชื่ อ เรี ย กว า ซู เ ราะฮฺ อั ล อิ ค ลาส เพราะสาระในซู เ ราะฮฺ เ ป น การยื น ยั น ในเอกานุ ภ าพ แหงอัลลอฮ ว าพระองค ไ มมี ภ าคีใด ๆ และพระองคคือผูทรงเอกานุภ าพที่ แทจ ริง ทรงกํ าหนดและทรง ดําเนินการแตเพียงพระองคเดียว พระองคไมมีผูใหกําเนิด และไมเคยใหกําเนิดใคร พระองคไมมีสิ่งเสมอ เหมือนหรือเทียบเทียมพระองค เมื่อเปนเชนนี้ก็จะนําไปสูการอีบาดะฮฺตอพระองคแตเพียงพระองคเดียวดวย ความบริสุทธิ์ใจ มุงมั่นสูพระองคแตเพียงผูเดียว
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
-81-
ซูเราะฮฺอัลฟะลัค ชื่อซูเราะฮฺ อัลฟะลัค ซึ่งมีความหมายวา รุงอรุณ เปนซูเราะฮฺมักกียะฮฺ แตนักวิชาการบางทาน กลาว วาเปนซูเราะฮฺมาดานียะฮฺ มีทั้งหมด 5 อายะฮฺ เปนหนึ่งในซูเราะฮฺที่ เริม่ ตนดวยการขอความคุมครอง ที่เรียก กันวา “”ﻣﻌﻮﺫﺗﲔ ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
∩⊂∪ |=s%uρ #sŒÎ) @,Å™%yñ ÎhŸ° ÏΒuρ
∩⊄∪ t,n=y{ $tΒ ÎhŸ° ÏΒ
∩⊇∪ È,n=xø9$# Éb>tÎ/ èŒθããr& ö≅è%
∩∈∪ y‰|¡ym #sŒÎ) >‰Å™%tn Ìhx© ÏΒuρ ∩⊆∪ ωs)ãèø9$# †Îû ÏM≈sV≈¤¨Ζ9$# Ìhx© ÏΒuρ
ความหมาย จงกลาว (วอนขอ) เถิด ขาพเจาขอความคุมครองตอองคอภิบาลแหงรุงอรุณ (1) ใหพน จากความ เลวรายของสิ่งที่พระองคไดบันดาลไว (2) และใหพนจากความเลวรายแหงยามกลางคืน เมื่อมันแผคลุมความ มืดเขามา( 3) และใหพนจากความเลวรายของบรรดาผูเสกเปาในตระกรุด(4) และใหพนจากผูริษยา เมื่อเขา (แสดงความ) ริษยา(5) คําอธิบายศัพท ( )ﺍﻟﻔﻠﻖการทํ าให สวาง กระจาง แตก แยก ผาออกจากกัน และกัน ความหมายในที่ นี้ หมายถึง อั ล ลอฮทรงแยกแผ น ดิ น ออกมาด ว ยพื ช พั น ธ ด ว ยภู เ ขาเลากา ด ว ยตาน้ํ า และด ว ยสายฝนจากฟากฟ า ( )ﻏﺎﺳﻖความมืดมิด ( )ﺍﺫﺍ ﻭﻗﺐปกคลุมทุกสิ่งใหมืดมิด ( )ﺍﻟﻨﻔﺎﺛﺎﺕการเสกเปา เปามนต ( )ﰲ ﺍﻟﻌﻘﺪตระ กรุด (อยางที่เขาใจกัน) เงื่อนปม หรืออาจจะเปนการผูกมัดใหเกิดความรัก ความผูกพันระหวางชายหญิง มีรายงานบันทึกไววา พวกยิว (ยะฮุดีย) บางคนไดทําไสยศาสตรทําคุณไสยตอทานนบี ทําใหทานนบี มีอาการไมสบายถึงสามวันสามคืน จนกระทั่งบางครั้งอาการหนักถึงขนาดวาทานมีอาการเพอฝนวากระทํา อะไรสักอยางหนึ่ง ทั้ง ๆที่ยังไมไดกระทํา ตอมาทานมลาอิกะฮฺญิบรออีลก็มาหาทาน และแจงแกทานถึงเรือง ของมายากลหรือคุณไสย โดยชี้ใหทานวามันถูกวางไวที่ใด หลังจากนั้นทานก็อานซูเราะฮฺอัลฟะลัค หรือมะอู ซะตัยน เมื่อทานอานอาการก็ผอนคลายไปจากที่ตองคุณไสย อาการก็กลับเปนปกติ รายงานดังกลาวทั้งหมด ไมนาจะเปนเรื่องจริงนักวิชาการหลายทานไดพิสูจนทางวิชาการแลว แต เปนเรื่องที่พวกยะฮูดีย(ยิว)กุขึ้นเพื่อใหผูคนเกิดขอสงสัยเกี่ยวกับทานนบี เพื่อใหพวกเขาผูกพันอยูกับพิธี การทางไสยศาสตร ทั้ง ๆ ที่อัลลอฮทรงตรัสไวในอัลกุรอานแลววา (Al-Maidah 067)
Ĩ$¨Ζ9$# zÏΒ šßϑÅÁ÷ètƒ ª!$#uρ
และอัลลอฮทรงพิทักษเจาจาก (ความชั่วรายของ) มวลมนุษย ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-82-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
และทรงตรัสไวอีกวา (Al-Hijr 095)
∩∈∪ šÏÌ“öκtJó¡ßϑø9$# y7≈oΨø‹xx. $¯ΡÎ)
แทจริงเราไดทาํ ความเพียงพอแกเจาแลว ดวยการลงโทษบรรดาพวกทีท่ ําการเยยหยัน จงประกาศเถิด..โอ มูฮําหมัด แทจริงแลวขาขอความคุมครองจากองคอภิบาลแหงสรรพสิ่งทั้งมวล พระองคผูทรงสรางฟากฟาและแผนดิน ขาขอความคุมครองตอพระองคจากความชั่วรายทุกประเภท ขอ ความคุมครองจากพระองคใหรอดพนจากความทุกขยากลําบากที่จะมาประสบตอตัวขาเอง ตอครอบครัว ตอ วิถีก ารเรีย กรอ งเผยแพร ข องข า ขอความคุม ครองแก บ รรดาซอฮาบะฮฺ ข องข า ข า ขอความคุม ครองจาก พระองคใหรอดพนจากความชั่วรายในตอนกลางคืน ครั้นเมื่อความมืดมิดปกคลุมสรรพสิ่งทั้งหมด แทจริง แลวความมืดมิดของมันจะเปนเสมือนมานบังตาใหกับคนที่กระทําความชั่ว ขอขอความคุมครองจากพระองค ใหรอดพนจากการเสกเปาตะกรุด ที่พวกเขาผูกเปนเงื่อนปม ดังที่ไดกลาวมา แตความหมายที่นาจะถูกตอง ที่สุดคือการขอความคุมครองจากพระองคใหรอดพนจากความชั่วรายของพวกยุยงปลุกปน ที่คอยยุยงใหผูคน แตกแยกกัน ใหผูคนหางเหิรเมินหนาตัดขาดความรักความปรองดองตอกัน(คําวา ﺍﻟﻨﻔﺎﺛﺔซึ่งมีตัว ﺓในที่นี้ ใช สําหรับ ﻣﺒﺎﻟﻐﺔไมใช เพื่อแสดงความเปนเพศหญิง) ขอความคุมครองจากพระองคใหรอดพนจากคนที่คอยยุยง ปลุกปนใหเกิดใหคิดในสิ่งที่ไมพึงประสงค ซึ่งคนกลุมนี้จะพยายามทําในเรื่องดังกลาวอยางทุมเท ไมมีอะไร ที่จ ะทํ า ให พ วกเขาพอใจและละทิ้งพฤติกรรมได นอกเสี ย จากวาเราจะตองมุงสูอัลลอฮ ขอให พระองค คุมครองพวกเราใหรอดพนจากความชั่วรายของคนกลุมนี้ เพราะพระองคทรงเดชานุภาพเหนือสรรพสิ่ง ทั้งหมด
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-83-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ซูเราะฮฺ อัลนาส ซูเราะฮฺ อัลนาส ซึ่งมีความหมายวา “มนุษย” มีปรากฏอยูในอายะฮฺแรกของซูเราะฮฺ เปนซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มีทั้งหมด 6 อายะฮฺ เปนซูเราะฮฺทสี่ องที่เรียกกันวา “มะอูซะฮฺ” (กลาวถึงการขอความคุมครอง จากอัลลอฮใหรอดพนจากสิง่ เลวรายตาง ๆ ) ﺒﺴﻡ ﺍﷲ ﺍﻟﺭﺤﻤﻥ ﺍﻟﺭﺤﻴﻡ
Ĩ$¨Ψsƒø:$# Ĩ#uθó™uθø9$# Ìhx© ÏΒ ∩⊂∪ Ĩ$¨Ψ9$# ϵ≈s9Î) ∩⊄∪ Ĩ$¨Ψ9$# Å7Î=tΒ ∩⊇∪ Ĩ$¨Ψ9$# Éb>tÎ/ èŒθããr& ö≅è% ∩∉∪ Ĩ$¨Ψ9$#uρ Ïπ¨ΨÉfø9$# zÏΒ ∩∈∪ ÄZ$¨Ψ9$# Í‘ρ߉߹ †Îû â¨Èθó™uθム“Ï%©!$# ∩⊆∪
ความหมายของซูเราะฮฺ จงกลาว(วอนขอ) เถิด โอ..มูฮําหมัด ขาพเจาขอความคุมครองตอองคอภิบาลแหงมวลมนุษย (1) ผู ทรงอํานาจปกครองมนุษย (2) ผูทรงเปนพระเจาแหงมวลมนุษย (3) (ขอ)ใหรอดพนจากความเลวรายของผู กระซิบที่ซอนเรน (4) ซึ่งเปนผูทําการกระซิบในหัวอกของมนุษย (ซึ่งมา) จากญินและมนุษย คําอธิบายศัพท ( )ﺍﻟﻮﺳﻮﺍﺱกระซิบกระซาบในหัวอกของมนุษยในเรื่องทีไ่ มดีไมงาม ( )ﺍﳋﻨﺎﺱซอนเรน ,ลาหลัง ,
ถอยหลัง, รับฟงคําเตือนแลวกลับไปทําใหม ( )ﻣﻦ ﺍﳉﻨﺔเปนสิ่งถูกสรางประเภทหนึง่ ซึ่งไมมีใครสามารถรู รายละเอียดรูปลักษณของมันไดนอกจากอัลลอฮ อรรถาธิบายซูเราะฮฺ
จงกลาวประกาศเถิดโอมูฮําหมัดวา ขาเองไดมุงสูอัลลอฮและขอความคุมครองจากพระองค เพื่อให พระองคปกปองคุมครองขาพระองค จากความเลวรายของการกระซิบกระซาบ ขาขอความคุมครองจากองค อภิบาลแหงมนุษย ผูทรงคอยอภิบาลปกปองคุมครองรักษาพวกเขาอยูทุกเมื่อ แมในยามที่พวกเขายังออนแอ พระองคคือผูทรงอํานาจเหนือการงานของพวกเขาทั้งหมด ผูทรงคุมครองดูแลพวกเขา พระองคคือผูทรง อํานาจเหนือมวลมนุษย พระองคคือพระเจา พวกเขาคือมวลบาว พระองคทรงเหมาะสมยิ่งที่จะไดรับการ นมัสการ ไดรับการนอมคารวะและมุงไปหา อัลลอฮผูสูงสง เพราะพระองคคือผูทรงสรางมนุษย ผูทรงให การอภิบาลแกมวลมนุษย ผูทรงอํานาจเหนือการงานของมนุษยทั้งหมด พระองคคือผูคุมครองพวกเขา ที่ขอ ความคุมครอง ที่พึงพิง เปนที่ขอความชวยเหลือ ซึ่งมนุษยจะขอความคุมครองจากพระองคใหรอดพนจาก ความเลวรายของการกระซิบกระซาบ ที่เขามากระซิบในหัวอกของพวกเขา ใหคิดใหทําในสิ่งที่เปนความ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-84-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เลวราย สรางมโนภาพความเลวรายใหเห็นเปนเรื่องดี การกระซิบกระซาบมีอยูมากมายทั้งจากมนุษยและญิน สําหรับญินนั้นเปนสิ่งถูกสรางประเภทหนึ่งที่อัลลอฮทรงสรางขึ้นมา แตลักษณะที่แทจริงเปนเชนไร มีรูปราง ลักษณะแบบใดไมมีใครสามารถรูไดนอกจากอัลลอฮ พวกมันคือพลพรรคของอิบลิสและลูกหลานของมัน หรือพวกมวลมนุษยที่กระทําแตความชั่วชาสามาร ขอใหอัลลอฮทรงคุมครองปกปองพวกเราใหรอดพนจาก ความชั่วรายของพวกมารรายที่เปนมนุษยและญินทั้งหมด แทจริงแลวพระองคทรงไดยินและทรงตอบรับการ วอนขอและพระองคทรงเดชานุภาพยิ่ง อัลลอฮไดทรงชี้นําพวกเราถึงวิธีการขอความคุมครองจากความชั่ว ราย และสิ่งที่ไมพึงประสงคตางๆ ทั้งที่เปดเผยและที่ไมเปดเผย..และพระองคเทานั้นที่ทรงรอบรูยิ่งตอ ขอเท็จจริงตางๆ ทั้งหมด (6) กิจกรรมทายบท 1. ใหนักเรียนฝกอานและทองจําซูเราะฮฺใหจดจํา 2. บรรยายเรื่องของความมหัศจรรยของอัลกุรอานแลวบันทึกภาพและเสียงไวเปนสื่อเพื่อนําไปใชใน ครั้งตอ ๆ ไป 3. สรุปประเด็นสําคัญของแตละซูเราะฮฺแลวนํามาจัดทําเปนปายนิเทศ 4. เขียนเนื้อหาเปรียบเทียบการสืบสวนสอบสวนผูกระทําความดีและกระทําความชั่ว 5. ทําความเขาใจ วิเคราะหมุมมองตางๆ ของอายะฮฺที่ผานมาทั้งหมด 6. จัดการเรียนการสอนแบบกลุมในมัสยิด ( )ﺣﻠﻘـــﺔ ﻣـــﺴﺠﺪﻳﺔโดยรวมกันทําความเขาใจ การ อรรถาธิบาย ,หลักการอานอัลกุรอาน ในแตละซูเราะฮฺ 7. ศึกษาคนควา (วิจัย,จัดทําโครงงาน)เกี่ยวกับคุณคาทางโภชนาการเกี่ยวกับอาหารที่อัลลอฮทรงใชเปน สื่อยืนยันไวในซูเราะฮฺวามีอะไรเปนคุณคาพิเศษ 8. ทําการบันทึกเสียงการบรรยาย อรรถาธิบายซูเราะฮฺตางๆ อยางงายเพื่อนําไปใชในครั้งตอไป 9. จัดทํา จัดหาเทปบันทึกเสียงอัลกุรอาน เพื่อนํามาเปนสื่อในหองสมุดของมัสยิด โดยคัดเลือกนักอาน ที่มีชื่อเสียงและเปนที่รูจักเพื่องายตอการศึกษาเรียนรู 10. เยี่ยมเยียนกุโบร เพื่อนํามาเปนขอคิดในเรื่องตาง ๆ เกี่ยวกับการดําเนินชีวิตในโลกนี้และโลกหนา 11. จัดบรรยายหรือรวมอภิปรายทางวิชาการเกี่ยวกับธรรมชาติของความเปนมนุษย โดยเฉพาะกลุมที่ไม มีความศรัทธาตออัลลอฮอยูในใจ 12. ทบทวนไตรตรองตัวเองเกี่ยวกับความผิด ไมวาจะเปนเรื่องของบาปนอย หรือบาปหนัก ๆ 13. ฝกออกเสียงใหเกิดความชํานาญในการอานเพื่อไมใหเกิดความผิดพลาด 14. บรรยายทางวิชาการเกี่ยวกับเรื่องของเชื่อที่เกี่ยวของกับการขอความคุมครอง (ตออัลลอฮ) 15. เขียนบทความในเรื่องเกี่ยวกับจริธรรมของผูประสบชัยชนะในอิสลาม 16. อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธระหวางอัลกุรอานกับอัลฮาดิษ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-85-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
(7) การวัดผลประเมินผล 1. รับฟงและสังเกตการณอานและการอรรถาธิบายอายะฮฺของแตละซูเราะฮฺ 2. ทดสอบเปนรายบุคคลเกี่ยวกับการอาน (ที่ถูกตองตามหลักการอาน) ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ 3. สอบถามเกี่ยวกับมารยาทในการอานอัลกุรอาน 4. ทดสอบเกี่ยวกับความสามารถในการอรรถาธิบายอายะฮฺและความสัมพันธระหวางอายะฮฺกับชีวิต จริง(ที่เกิดขึ้น) 5. สังเกตพฤติกรรมของแตละคนเกี่ยวกับการทองจํา การยึดมั่นและนําบทเรียน คําชี้นําตาง ๆ ที่ไดรับ จากอายะฮฺของแตละซูเราะฮฺ (ในหลักสูตร) มาถือปฏิบัติ 6. สังเกตการณรวมกิจกรรมของผูเรียน ผานการสอบถามเพิ่มเติม กอนสอน ขณะทําการสอนและหลัง สอน (8) จุดประสงคการเรียนรูดวยตนเอง สาระทั้งหมดในสวนที่สองของยุซ อัมมฺ (ซูเราะฮฺ อัลอะอฺลา ถึง ซูเราะฮฺอัลนาส) 1. บอกความหมายศัพทยาก และความหมายเฉพาะที่ปรากฏในอายะฮฺ 2. บอก อธิบายความสอดคลองลงตัวระหวางสาระธรรมแหงอิสลามกับสรรพสิ่งที่อัลลอฮทรงสรางมา ในจักรวาลทั้งหมด 3. บอกหนาที่ของผูเปนศาสนทูต โดยศึกษาทําความเขาใจจากความหมายของซูเราะฮฺที่เรียนทั้งหมด 4. บอกอธิบายถึงธรรมชาติของการเรียกรองเชิญชวนสูการศรัทธาตออัลลอฮ และความสัมพันธระหวาง การเรียกรองเชิญชวนกับการญีฮาดในหนทางของอัลลอฮ 5. จงอธิบายผลกระทบจากการตอตานคัดคานของผูไรศรัทธาที่มีตอความสําเร็จในการเผยแพรอิสลาม ทั้งกับการเผยแพรและผูเผยแพร 6. จงอธิบายปรัชญาและผลของการทดสอบจากอัลลอฮ (ـﺒﻼﺀ )ﺍﻟـที่มีตอมวลบาว มุสลิมผูมีศรัทธาควรมี บทบาทอยางไรเกี่ยวกับการทดสอบของอัลลอฮ 7. จงอธิบายเกี่ยวกับคุณคาของการรีบเรงสูการทํารวามดี 8. ระหวางความศรัทธากับการปฏิบัติมีความสัมพันธเกี่ยวของกันอยางไร ? 9. จงอธิบายเกี่ยวกับบทบาทของนักเผยแพรศาสนากับการเปนแบบอยางที่ดีในดานจริยธรรมอิสลาม 10. จงบอกเกี่ยวกับลักษณะพิเศษของมนุษยที่อัลลอฮทรงประทานใหทั้งทางรางกายและจิตใจ 11. จงอธิบายเกี่ยวกับคุณคาของการมีศรัทธาและการประพฤติปฏิบัติดีในชีวิตการเปนอยูของมนุษย 12. จงอธิบายบทบาทคุณคาของวิชาความรูกับการพัฒนาอารยธรรมและความเจริญกาวหนาของการ เรียกรองสูอิสลาม (ดะวะฮฺ) 13.จงบอกเกี่ยวกับการตอบโตของนักเผยแพรศาสนาตอการตอตานของพวกผูลวงละเมิด
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
-86-
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
14. จงอธิบายความเปนเอกภาพของหลักการพื้นฐานของศาสนาที่มาจากอัลลอฮวา มีอะไรที่เหมือนกัน บาง และมีความสะดวกในการปฏิบัติอยางไร ? 15. จงอธิบายถึงความมหัศจรรยทางวิชาการและความละเอียดถี่ถวนของการตอบแทนจาก(การความ เขาใจของซูเราะฮฺที่ผานมา) วาเปนอยางไร ? 16. จากการที่ธรรมชาติของมนุษยที่มีแตความดื้อรั้น ดันทุรัง ซูเราะฮฺตาง ๆ ที่ไดเรียนมามีการแนะนํา วิธีการรักษาเยียวยาไวอยางไร ? และผลของการเยียวยาเปนอยางไร ? 17.จากการเรียนรูคําอรรถาธิบายในแตละซูเราะฮฺ ระหวางความศรัทธากับความรูสึกสํานึกทางดาน คุณธรรมจริยธรรมมีความสัมพันธกันอยางไร ? 18. ใหนักเรียนอธิบายหลักการพื้นฐานดานหลัก ๆ ที่ถูกตองซึ่งไดรับจากการทําความเขาใจตัวบท ของอัลกุรอาน 19.ใหนักเรียนแสดงหลักฐานสัญญาการตอบแทนที่อัลลอฮทรงใหไวกับศาสนทูต(ทานนบี)ของพระองค และสิ่งที่พระองคจะตอบแทนใหกับผูที่แสดงตนเปนศัตรูกับทาน (นบี) 20. ใหนักเรียนบอกเหตุผลที่แสดงวาความศรัทธากับความไรศรัทธานั้นจะตองแยกจากกัน 21.จงอธิบายผลของการยอมรับยอมจํานนตอแนวทางและการชี้นําของอัลลอฮแตเพียงพระองคเดียวใน การดําเนินชีวิต 22.ใหนักเรียนฝกอานซูเราะฮฺทั้งหมด(ที่กําหนด) พรอมกับทําความเขาใจหลักการอานและความหมาย 23.ใหนักเรียนอธิบายธรรมชาติหรือลักษณะของการเผชิญหนาระหวางอิบลิสและพลพรรคของมัน ไม วาจะเปนพวกญินกับบาวของอัลลอฮผูมีศรัทธา วาเปนอยางไร (9)หนังสืออางอิงเพื่อการเรียนรูเพิ่มเติมดวยตนเอง 1. ตัฟซีร อิบนุ กะซีร 2. ตัฟเซีร อัลกุรฏบีย 3. ซุบดะฮฺตุร ตะฟาซีร ดร.มุฮําหมัด สุไลมาน อัลอัชกอร 4. ซอฟวะตุล บะญาน ฟย ตัฟซีร มะอานีย อัลกุรอาน ของ ชัยค มุฮําหมัด ฮุสนัยน มัคลูฟ 5. อัตติบญาน ฟอาดาบ ฮัมละตุลกุรอาน ของ อีหมาม อัลนะวาวีย
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
87
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
2 : วิชา ตัจวีด (หลักการอานอัลกุรอาน) 1.มาตรฐานการเรียนรู ระยะเวลาเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ผูเรียนมีจรรยามารยาทที่ดีงาม มีความเปนมุสลิมเปนฐานหลัก ไม วางตัวเปนปรปกษกับหลักคําสอนของอิสลาม หนึ่งปการศึกษา (สองภาคเรียน) มีความรูความเขาใจในอุดมการณของอิสลามโดยรวมทั้งทางดาน หลักความเชื่อ กฎหมายอิสลาม และคุณธรรมจริยธรรม.
2.จุดประสงคปลายทาง ฝกฝนการอานพระคําแหงอัลลอฮใหปราศจากการออกเสียงที่ผิดเพี้ยน โดยอานไดถูกตองตาม หลักการตามที่ไดรับรายงานสืบทอดมาจากทานรอซูลุลลอฮ ซึ่งไดรับการถายทอดผานมลาอิกะฮฺญิบรออีล 3 จุดประสงคนําทาง 1) สามารถบอกคําจํากัดความของคําวา วิชาตัจวีดไดถูกตอง ทั้งดานภาษาและหลักวิชาการ 2) สามารถบอกคุณคาของการเรียนรูวิชาตัจวีดได 3) สามารถบอกบัญญัติ(หุกมฺ)เกี่ยวกับการเรียนวิชาตัจวีดได 4) สามารถบอกความหมายของคําวาผิดเพี้ยน(ตามหลักวิชาตัจวีด)ได 5) สามารถระบุระดับการอานและอธิบายความหมายแตละระดับการอานได 6) สามารถบอกบัญญัติ(หุกมฺ)เกี่ยวกับการอาน บิสมิลละฮฺและอะอูซุบิลละฮฺได 7) สามารถบอกหลักการเกี่ยวกับการหยุด(วักฟฺ)และการเริ่มตนอานใหมได 8) สามารถระบุแหลงกําเนิดเสียงและคุณลักษณะการอานออกเสียงของแตละพยัญชนะได 9) สามารถบอกหลักการอานนูนซากีนะฮฺและตันวีน (นูนที่เปนตัวสะกดและสระคู) ได 10) สามารถบอกหลักการอานออกเสียงมีมซากีนะฮฺได 11) สามารถบอกหลักการอานพยัญชนะลามซากีนะฮฺและลามในคํากริยา(ลามุลฟอฺลิ) ได 4 จุดประสงคเชิงพฤติกรรม (ทักษะพิสัยและจิตพิสัย) 1) ตระหนักและเห็นคุณคาของวิชาตัจวีด 2) สามารถอานออกเสียงพยัญชนะแตละตัวไดถูกตองตามแหลงกําเนิดเสียง 3) สามารถอานออกเสียงพยัญชนะแตละตัวไดถูกตองตามลักษณะการอาน(ออกเสียงหนักเบา) เฉพาะ ของแตละพยัญชนะได 4) สามารถนําหลักการอานตามหลักวิชาตัจวีดมาประยุกตใชในการอานไดถูกตอง ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
88
5) สามารถอานพระคําแหงอัลลอฮไดอยางถูกตองไมผิดเพี้ยน 6) สามารถอานอัลกุรอานดวยเสียงที่ไพเราะได 7) มีความนอบนอมถอมตนขณะอานอัลกุรอาน 8) สามารถดึงดูดใจใหผูฟงอยากฟงการอาน 9) ขณะอานสามารถเขาใจความหมายอายะฮฺที่อานไปพรอม ๆ กันได 10) สามารถอานอัลกุรอานอยางมีมารยาทได 5 สาระและเอกสารประกอบการเรียน หนังสือ ตัยซีรุตตัจวีด( )ﺗﻴﺴﲑ ﺍﻟﺘﺠﻮﻳﺪของ อับดุลวาริษ ซะอีด ﺑﺴﻢ ﺍﷲ ﺍﻟﺮﲪﻦ ﺍﻟﺮﺣﻴﻢ ดวยพระนามแหงอัลลอฮผูทรงยิ่งในความเมตตา ผูทรงยิ่งในความกรุณา อัลลอฮไดทรงตรัสไวในอัลกุอานวา (4 )اﻟﻤﺰﻣﻞ
∩⊆∪ ¸ξ‹Ï?ös? tβ#uöà)ø9$# È≅Ïo?u‘uρ
และเจาจงอานกุรอานใหถูกตองชัดเจน §ΝèO öΝåκ®5u‘ šχöθt±øƒs† tÏ%©!$# ߊθè=ã_ çµ÷ΖÏΒ ”Ïèt±ø)s? u’ÎΤ$sW¨Β $YγÎ6≈t±tF•Β $Y6≈tGÏ. Ï]ƒÏ‰ptø:$# z|¡ômr& tΑ¨“tΡ ª!$# 23 اﻟﺰﻣﺮ... 4 «!$# Ìø.ÏŒ 4’n<Î) öΝßγç/θè=è%uρ öΝèδߊθè=ã_ ß,Î#s?
อัลลอฮฺทรงประทานพระคัมภีรที่งดงามที่สุดใหลงมา นั่นคือคัมภีรที่มีความสอดคลองตองกันใน เนื้อหาถูกประทานซ้ํา ผิวหนังของบรรดาพวกที่เกรงกลัวองคอภิบาลของพวกเขาสั่นสะทาน หลังจากนั้น ผิวหนังและหัวใจของพวกเขาก็ออนนุมสูการระลึกถึงอัลลอฮฺ ทานรอซูลุลลอฮ ไดกลาวไววา .""ﺍﳌﺎﻫ ُﺮ ﺑﺎﻟﻘﺮﺁﻥ ﻣﻊ ﺍﻟﺴﻔﺮﺓ ﺍﻟﻜﺮﺍﻡ ﺍﻟﱪﺭﺓ ﻭﺍﻟﺬﻱ ﻳﻘﺮﺃ ﺍﻟﻘﺮﺁﻥ ﻭﻳﺘﻌﺘﻊ ﻓﻴﻪ ﻭﻫﻮ ﻋﻠﻴﻪ ﺷﺎﻕ ﻟﻪ ﺃﺟﺮﺍﻥ .()ﺭﻭﺍﻩ ﺍﻟﺒ ﺎﺭﻱ ﻭﻣﺴﻠﻢ .....ﺍﳊﻤﺪ ﷲ ﺭﺏ ﺍﻟﻌﺎﳌﲔ ﻭﺍﻟﺼﻼﺓ ﻭﺍﻟﺴﻼﻡ ﻋﻠﻰ ﺧﺎ ﺍﻷﻧﺒﻴﺎﺀ ﻭﺍﳌﺮﺳﻠﲔ พี่นองมุสลิมที่รักยิ่ง..... อัลลอฮไดทรงประทานอัลกุรอานเลมนี้ลงมาก็เพื่อที่จะใหเปนทางนําใหแก มวลมนุษยชาติซึ่งนับไดวาเปนพระมหาเมตตาธิคุณแหงอัลลอฮที่มีตอมวลมนุษยยิ่ง พระองคทรงใหอัลกุร ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
89
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
อานเปนสิ่งนําพามนุษยออกจากความมืดมิดไปสูรัศมีแหงทางนํา โดยมีซุนนะฮฺ (แนวทาง)ของทานรอซูลผู ทรงเกียรติ คอยสนับสนุนอยูเบื้องหลัง ทั้งอัลกุรอานและซุนนะฮฺจะชวยชี้นําผูคนไปสูแนวทางที่เที่ยงธรรม และอัลลอฮก็ทรงกําหนดใหคัมภีรแหงพระองคเปนแหลงกําเนิด(สาระธรรม) อันดับแรกของอิสลาม และให คงอยู เ ป น มรดกตกทอดรุ น แล ว รุ น เล า สื บ สานต อ ไปให กั บ ผู ที่ อ ยู บ นผื น แผ น ดิ น ตลอดไป ด ว ยเหตุ นี้ เองอัลลอฮจึงทรงสัญญาไววา (15:9) ∩∪ tβθÝàÏ≈ptm: …çµs9 $¯ΡÎ)uρ tø.Ïe%!$# $uΖø9¨“tΡ ßøtwΥ $¯ΡÎ) แทจริงเราไดมอบขอตักเตือน (คัมภีรอัลกุรอาน) ลงมา และแทจริงเราเปนผูพิทักษไว (มิใหถูก เปลี่ยนแปลงหรือถูกทําลาย) ในทุกยุคทุกสมัยอัลลอฮจะทรงประทานความสะดวกใหกับมวลมนุษยดวยสื่อนานับประการในการ ที่จะพิทักษปกปองอัลกุรอาน เพื่อยืนยันในสัญญาที่พระองคทรงใหไววาจะพิทักษปกปองคัมภีรที่สําคัญเลม นี้ไวแลวอยางสมบูรณ และที่ผานมาวิชาที่วาดวยอัลกุรอาน(อุลูมุลกุรอาน)นั้นมีอยูหลากหลายสาขา และที่ นับไดวาอยูในระดับตน ๆ ของวิชาที่เกี่ยวของกับอัลกุรอานก็คือวิชาตัจวีด ซึ่งเปนวิชาที่เปนหลักการในการ อานอัลกุรอาน ในหนึ่งในจํานวนนั้นก็คือหนังสือเลมเล็ก ๆ เลมนี้ ซึ่งขาพเจาผูเขียนเองใครขอกลาวถึงพี่นอง ผูทรงเกียรติอีกทานหนึ่งคือทานอาจารยอับดุลมาลิค อัชชาฟอีย ที่เสนอใหขาพเจารวบรวมศึกษาคนควา ขึ้นมาเปนตํารา ทานไดรวมกับขาพเจาในการตรวจสอบความถูกตอง จากขอแนะนําของทานหลายตอหลาย ขอที่ทานไดเสนอแนะไวทําใหเกิดประโยชนที่มากมายเหลือคณานับ และขอใหอัลลอฮทรงตอบแทนทาน ดวยความดีดวย และทานก็มีสวนในการชวยเหลือในการบันทึกเสียงเพื่อการนําไปใชที่สะดวกตอไป...
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
90
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
บทนํา 1. ความหมายของคําวา “ตัจวีด” คําวา “ตัจวีด” ตามรากคํามีความหมายวา ทําใหดี ทําใหสวยงาม แตตามหลักวิชาการ หมายถึงวิชาที่ ชี้แจงเกี่ยวกับหลักการ กฎหรือวิธีการที่จําเปนที่จะตองนํามาปฏิบัติขณะอานอัลกุรอาน โดยที่มุสลิมทุกคน จะตองยึดถือใหสอดคลองกันรุนแลวรุนเลา โดยมีหลักการมาจากทานนบี 1 ซึ่งหลักการและกฏเกณฑตาง ๆ จะเปนเรื่องเกี่ยวกับการออกเสียงของพยัญชนะใหถูกตองถี่ถวนครบครันตามหลักการอานออกเสียงของ แตละพยัญชนะ โดยระวังมิใหเ สียงของแตละพยัญชนะผิ ดเพี้ยนไปเปนอีกพยัญชนะหนึ่งซึ่งมีลักษณะ คุณสมบัติที่ใกลเคียงกัน (อยางเชน ซีน กับ ซ็อด เปนตน) ดวยการอานตามระบบเรียบเบียบการออกเสียง ของภาษาอาหรับซึ่งเปนภาษาที่ไดรับการประทานอัลกุรอานลงมา นอกจากเรื่องนี้แลวยังมีอีกหลายหัวขอ หลัก ๆ ที่จะตองศึกษาตามหลักวิชาตัจวีด เพิ่มเติมเขามา เพื่อใหการอานออกเสียงเปนไปดวยความถูกตอง และหนักแนนแนนอน เชน การเรียนรูเกี่ยวกับแหลงกําเนิดเสียงและคุณลักษณะของการออกเสียงของ พยัญชนะแตละตัว นอกจากนั้นก็ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับ การวกัฟ (หยุด) และมารยาทในการอานอัลกุรอาน ทั้งหมด 2 บัญญัติเกี่ยวกับการเรียนรูวิชาตัจวีด (หุกมฺ) ผูเชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิชาตัจวีดมีทัศนะที่เห็นพองตองกันวา มุสลิมทุกคนจะตองศึกษาเรียนรูเกี่ยวกับ หลักการอานอัลกุรอานและนํามาถือปฏิบัติอยางเครงครัด การละเลยไมเรียนรูโดยปราศจากเหตุอันควร(ตาม หลักการทางศาสนา) ถือวาเปนบาป จึงนับไดวาวิชาตัจวีดเปนวิชาที่มีความสําคัญยิ่ง เชนเดียวกับวิชาที่วาดวยอัลกุรอานวิชาอื่น ๆ เพราะ เปนสวนหนึ่งของวิธีการในการพิทักษอัลกุรอานมิใหถูกทําลาย เปนเครื่องมือในการที่จะชวยสนับสนุน สงเสริมใหเกิดความถูกตองในการทําความเขาใจในความหมาย และสามารถนําเอาอายะฮฺแตละอายะฮฺไปจัด วางหรือถือปฏิบัติในที่ที่เหมาะสมและถูกตอง และนั่นคือเปาหมายสูงสุดที่จะนําพาไปสูความโปรดปราน แหงอัลลอฮ ผูใดมุงหวังที่จะเอาดีทางการอานแตเพียงอยางเดียว โดยที่ไมไดมีเปาหมายวาจะทําความเขาใจ ไปดวย หรือตองการทําความเขาใจอยางเดียวแตไมมีความมุงมั่นที่จะนําไปถือปฏิบัติ ถือวาการอานนั้นเปน บาป อัลลอฮทรงตรัสไวในอัลกุรอานอายะฮฺหนึ่งวา
นี่ความหมายของวิชาตัจวีด โดยภาพรวม สําหรับวิชาตัจวีดแลว เปรียบเสมือนแนวทางที่จะตองนํามาประยุกใชขณะอานอัลกุรอาน โดยยึดถือ ตามหลักการและกฏเกณฑขณะอานอัลกุรอาน ดวยการอานออกเสียงพยัญชนะแตละตัวที่ปรากฏอยูในอัลกุรอานใหถูกตองตามลักษณะการอาน ออกเสียงหนักเบาหนาบาง ตามที่กําหนด 1
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
91
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
( 47:24) ∩⊄⊆∪ !$yγä9$xø%r& A>θè=è% 4’n?tã ôΘr& šχ#uöà)ø9$# tβρã−/y‰tGtƒ Ÿξsùr& แลวพวกเขาไมใครครวญอัลกุรอานดอกหรือ? หรือวาหัวใจ (ของพวกเขา) มีแตฝาปด (จนมืดบอด ไปแลว)? 3.การถือกําเนิดและพัฒนาการทางวิชาการของวิชาตัจวีด ทานรอซูลุลลอฮ ไดรับมหาคัมภีรอัลกุรอานมาจากองคอภิบาลของทานผานมลาอิกะฮฺญิบรีล จากนั้นบรรดาซอฮาบะฮฺของทานก็รับชวงตอมาจากทานสืบทอดมายังบรรดามุสลิมรุนตอ ๆ มาผาน การบอกเลาและทองจํากันมา จนกระทั่งถึงมายังยุคสมัยของพวกเรา ซึ่งคัมภีรอันเกรียงไกรนี้ไดรับการ ถายทอดสืบตอกันมาผานยุคผานสมัยจนกระทั่งมาถึงบัดนี้ แตเนื่องจากวาอิสลามไดรับการเผยแพรออกไปทั่วโลก ทําใหผูคนเขารับนับถืออิสลามมีมากมายหลายชาติ หลายภาษา บางคนไมมีความรูเกี่ยวกับภาษาอาหรับ และไมสามารถที่จะออกเสียงภาษาอาหรับใหถูกตอง และชัดเจนได ดวยเหตุนี้เองนักวิชาการมุสลิมผูเชี่ยวชาญก็เล็งเห็นความสําคัญในเรื่องนี้วา หากปลอยไปโดย ไมหาทางแกไข อาจจะกอใหเกิดความเสียหายขึ้นกับอัลกุรอานและภาษาอาหรับ นั่นคือเมื่อความผิดเพีย้ นใน การอานออกเสียงภาษาอาหรับแผกระจายออกไปก็จะมีการนํามาใชขณะอานอัลกุรอาน ความไมเหมาะสมก็ จะเกิดขึ้นกับพระคัมภีรแหงองคอภิบาลของพวกเขาและภาษาของคัมภีร ดวยเหตุนี้เองวิชาหลักภาษา วิชา หลักการอานและวิชาอื่น ๆ ที่เกี่ยวของจึงมีพัฒนาการเพื่อใหเกิดความสมบูรณและความละเอียดออนตอไป เรื่อย ๆ จนกระทั่งเขาสูความครบถวนสมบูรณและสามารถบรรลุวัตถุประสงคตามเปาหมายที่วางไวในที่สุด จนกระทั่งอัลกุรอาน วิชาที่เกี่ยวของกับอัลกุรอานและภาษาของอัลกุรอานก็ไดรับการพิทักษใหคงอยูคูกับเรา มาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ...อัลฮัมดุลิลละฮฺ ขอบคุณอัลลอฮ และวิชาตัจวีดก็เหมือนกับวิชาอื่น ๆ ทั่วไป ที่มีพัฒนาการในแตละยุคแตละสมัยและเจริญเติบโตมา เรื่อย ๆ จากระดับแรกที่มี การถื อกํ าเนิดมาจนกระทั่งเขาสูการศึกษาคน ควาวิจัย ไปสูความสมบูรณทาง วิชาการและเขาสูวัตถุประสงคที่ไดวางไวหจนทําใหขอบกพรองตางก็คอยนอยลงไปในที่สุด การศึกษา คนควาทางทฤษฎีและรายละเอียดทางวิชาการไดมีการศึกษาคนความาเรื่อย ๆ จนกระทั่งสามารถไดรับ รายละเอียดตาง ๆ ทั้งที่จําเปนและไมจําเปน แตครั้นตอมาเมื่อการศึกษาคนควาวิจัยเขาสูระดับที่เรียกไดวา ศิลปะและผลงานของผูสันทัดกรณีในการที่จะวิจัยศึกษาคนควา พวกเขาจึงไดทําการศึกษาในรายละเอียด และทฤษฎีตาง ๆจนกระทั่งผลงานการวิจัยไดปรากฏออกมามากมาย จนกลับกลายเปนวาเปนสิ่ง(ที่ดูเหมือน จะ)ไรประโยชนไปเสียอีก
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
92
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
และในยุคปจจุบันมีหนังสือที่เขียนขึ้นเกี่ยวกับวิชานี้มากมายหลายเลม แตสวนใหญจะใชวิธีการและ แนวทาง ที่ไมเนนในเรื่องของภาคปฏิบัติหรือการประยุคใช คลายกับวาผูเขียนหนังสือเหลานี้ไดแตเพียง ศึกษารวบรวมสาระเกี่ยวกับวิชาตัจวีดและแนวทางตาง ๆ ที่เกี่ยวกับวิชาตัจวีด เพียงเพื่อศึกษาสาระที่จําเปน สําหรับอัลกุรอาน แตแนวทางที่จะทําใหเกิดความงาย ความสะดวกในการอานการนําไปใชนั้นกลับไมบรรลุ วัตถุประสงคตามที่วางไวแตอยางใด 4. ความสัมพันธระหวางวิชาตัจวีด กับวิชาที่เกี่ยวกับการอาน ( )ﻗ ﺍ เกี่ยวกับอานอัลกุรอานนั้นมีสํานักคิด(มัซฮับ)ที่แสดงทัศนะเกี่ยวกับการอานออกเสียงคําในอัลกุร อานที่แตกตางกันออกไปเปนการเฉพาะ ซึ่งแตละคนลวนแลวแตมีการสืบสายรายงานมาจากทานรอซู ลุลลอฮ ทั้งหมด ซึ่งทานไดรับมาจากองคอภิบาล โดยมีความประสงคจะใหเกิดความสะดวกในการอาน แกมนุษย ดวยเหตุที่พวกเขามีสําเนียงภาษาอาหรับของแตละเผาที่แตกตางกันออกไป ในบันทึกของทานบุ คอรียและทานมุสลิมจากรายงานของทานอิบนุ อับบาสรายงานวา ครั้งหนึ่งทานนบี ไดกลาวไววา ﻓﻠﻢ ﺃﺯﻝ ﺃﺭﺍﺟﻌﻪ ﻭﻳﺰﻳﺪ ﺣﱴ ﺍﻧﺘﻬﻰ ﺇﱃ ﺳﺒﻌﺔ ﺃﺣﺮﻑ" ﻭﰲ ﺑﻌﺾ."ﺃﻗﺮﺃ ﺟﱪﻳﻞ ﻋﻠﻰ ﺣﺮﻑ ﻓﺮﺍﺟﻌﺘﻪ . ." ﻓﺄ ﺎ ﺣﺮﻑ ﻗﺮﺃﻭﺍ ﻋﻠﻴﻪ ﻓﻘﺪ ﺃﺻﺎﺑﻮﺍ..." :ﺍﻟﺮﻭﺍﻳﺎﺕ ซึ่งมีความหมายวา มลาอิกะฮฺญิบรีล ไดสอนวิธีอานใหกับฉันรูปแบบหนึ่ง และฉันก็ยังคงกลับมาหา ทาน โดยที่ทานก็ไดสอนวิธีการอานเพิ่มใหกับฉันตอไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งครบทั้ง 7 วิธี ในบางรายงาน กลาว เพิ่มเติมไววา “วิธีการอานใดก็ไดที่พวกทานทําการอานก็ถูกตองทั้งหมด” วิธีการอานดังกลาวกลายเปนที่รูจัก ที่เรียกกันวา “กุรรออฺทั้งเจ็ด” โดยแตละวิธีการอานก็จะเรียกขาน ตามชื่อของนักวิชาการ(อุลามะอฺ) ที่แตละคนเรียนมาเปนชื่อเรียก เชน อาบูอุมัร บิน อัลอะลาอฺ อัลบัซรีย (เสียชีวิตเมื่อป ฮศ. 154) และ อิบนุ กะซีร อัลมักกีย (เสียชีวิตเมื่อป ฮ.ศ. 120 ) ทานนาฟอฺ บิน อับดุรเราะฮฺ มาน อัลมะดานีย (เสียชีวิตเมื่อป ฮ.ศ.169) ทานอิบนุ อามิร อัชชามีย(เสียชีวิตเมื่อป ฮ.ศ.118) อาซิม บิน อา บีย อัลนัจวัด อัลกูฟย (เสียชีวิตเมื่อ ป. ฮ.ศ.128) และทานอาซิมก็มีสานุศิษยหลายทาน ไมวาจะเปน ทานฮิฟซฺ บิน สุไลมาน อัลกูฟย ซึ่งเสีย ชีวิตเมื่อป ฮ.ศ. 180 วิ ธีการอานของทานเปนวิธีการอานที่เปนที่รูจัก และ ประเทศมุสลิมไดมีการนํามาใชมากมายหลายที่ อีกทานหนึ่งคือทาน ฮัมซะฮฺ บิน ฮะบีบ อัลกูฟย (เสียชีวิต เมื่อป ฮ.ศ. 156 ) และทานสุดทายคือทานที่เจ็ด คือ ทานอาลี บิน ฮัมซะฮฺ อัลกิซาอีย อัลกูฟย (เสียชีวิตเมื่อป ฮ. ศ.189 ) นอกจากทั้งเจ็ดทานนี้แลวก็ยังมีอีก 3 ทานซึ่งก็ครบ 10 ทานพอดี นั่นคือ ทานอาบูยะฟร อัลมะดานีย (เสียชีวิตในราวป ฮ.ศ. 128 หรือ 132 ) และทานยะกูบ อัลบะซอรีย (เสียชีวิตเมื่อป ฮ.ศ. 205 ) ทานสุดทาย คือ ทานคอลัฟ บิน ฮิชชาม อัลบัฆดาดีย (เสียชีวิตเมื่อป ฮ.ศ. 229 ) ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
93
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ผูเชี่ยวชาญการอานอัลกุรอานทั้ง 10 ทานที่กลาวมาแลวทั้งหมดลวนแลวแตเปนนักวิชาการดานการ อานที่เปนที่ยอมรับและเปนที่เชื่อถือของผูคนทั้งหมด วิธีอานอื่นที่นอกเหนือไปจากวิธีการอานของทั้ง 10 ทานนับวาเปนวิธีอานที่ไมเปนที่ยอมรับ หรือนอกกฎ ( )ﺷﺎﺫﺍไมมีใครนํามาใชในการอาน และใครก็ตามที่ เลือกอานตามแบบฉบับของนักวิชาการเหลานี้ จะเปนจากทานหนึ่งทานใด หรือทั้งหมด ก็จะตองอานไปตาม กฎ วิธีการอานและหลักการของพวกเขาเหลานี้อยางครบถวนและสมบูรณในทุกเรื่องทุกวิธี จะนําวิธีการของ ทานนั้นมาปะปนกับทานนี้ดังที่พวกดาราตลกที่ประสงคจะบิดเบือนอัลกุรอานนํามาแสดงในงานรื่นเริงตาง ๆ เพื่ อ หาผลกํ า ไรกระทํ า นั้ น ไม ไ ด ซึ่ ง การกระทํ า ในลั ก ษณะดั ง กล า วยั ง เป น การกระทํ า ที่ ฮ ารอม ดั ง ที่ นักวิชาการไดยืนยันไว และนี่คือวิชาที่วาดวยการอาน ( )ﻋﻠﻢ ﺍﻟﻘﺮﺍﺀﺍﺕสวนวิชาตัจวีด ก็จะเปนวิชาที่วาดวยเรื่องของกฎ หลักการที่สําคัญ ๆ และวิธีการอานออกเสียงอัลกุรอาน(ดังที่ไดกลาวมาแลว) ที่ไดรับการถายทอดมาจาก ทานนบี โดยไมตองพิจารณาวาเปนการอานจากนักวิชาการ(จากสํานักคิดเกี่ยวกับการอาน)ทานใด ในขณะที่อานตามวิธีการเฉพาะของผูเชี่ยวชาญทานใดทานหนึ่ง(จากสิบทานที่กลาวมา) ก็อาจจะมีการ เปลี่ยนแปลงวิธีการอานในบางหลักการที่กําหนดไวในหลักวิชาตัจวีดบาง ซึ่งการอานในบางสวนก็จะมี ความแตกตางไปจากผูเชี่ยวชาญ(กุรฺรออฺ)ทานอื่น ๆ แตสําหรับวิชาตัจวีดทั่วไปแลวผูเชี่ยวชาญ(กุรฺรออฺ)ทุก คนก็จะยึดถือมาเปนหลัก สวนความเปลี่ยนแปลงเฉพาะในบางเรื่องจะสอดแทรกเขามาเมื่อมีการนําเอา วิธีการเฉพาะของผูเชี่ยวชาญทานใดทานหนึ่งมาใช ตัวอยางเชน หลักการอาน พยัญชนะลาม ซึ่งปกติแลวจะ อานดวยลักษณะที่เรียกวา มุรอกกอเกาะฮฺ (( )ﻣﺮﻗﻘﻪคืออานเปนเสียงสระอา) ยกเวนกับคําวา “ ”ﺍﷲที่มีเสียง ฎอมมะฮฺ และฟตฮะฮฺอยูกอนหนา ซึ่งจะอานเปนเสียง “สระออ” เชน ﻳﻘﻮ ﹸﻝ ﺍﷲ, ﻗﺎﻝ ﺍﷲแตในกรณีที่ผูอาน อานตามแบบของ วะรัช ( )ﻗﺮﺍﺀﺓ ﻭﺭﺵก็จะมีการเปลี่ยนแปลงออกไปเล็กนอย เมื่อต องอานแบบตั ฟคี ม ( ) ُﻣـﻔ ﱠﻤَﺔคืออานออกเสียง “สระออ” ในพยัญชนะ “ลาม” เมื่อมีกลุมพยัญชนะที่เรียกวา “”ﺣﺮﻑ ﺇﻃﺒﺎﻕที่ อานฟตหะฮฺ เชนคําวา “ ﻕ ُ ﺍﻟﻄﻼ, ﺍﻟﺼﱠﻼ ﹸﺓ, ”ﻇﻠﻤُﻮﺍ 5.คัมภีรมุเยาวัด (َ )ﺍﳌﺼﺤﻒ ﺍ ﱠﻮﺩไมใชวิชาตัจวีด ในชวงระยะหลังมีอยูคําหนึ่งซึ่งมักจะมีการเอยกันติดปากวา “ ”ﺍﳌﺼﺤﻒ ﺍ ﻮﱠﺩและคําวา “ ﺍﳋﺘﻤﺔ ”ﺍ ﱠﻮﺩَﺓโดยเฉพาะอยางยิ่งกับนักจัดรายการวิทยุรายการอัลกุรอานหลายสถานนี ซึ่งออกอากาศในประเทศ อาหรับหลายประเทศ โดยที่พวกเขาจะใชคําคํานี้แทนคําวา “”ﺍﳌﺼﺤﻒ ﺍﳌﺮﺗﻞหรือ “ ”ﺍﳋﺘﻤَـ ﹸﺔ ﺍﳌﺮﺗﱠﻠﺔซึ่งก็ สรางความสับสนใหกับพี่นองมุสลิมพอสมควร เพราะสิ่งที่ผูพูด พูดออกมามีความหมายอีกทางหนึ่ง แทจริง แลวสิ่งที่เรียกวา “”ﺍ ﹸﳌﺮَﺗﻞที่ถูกตองคือคําที่จําเปนที่จะตองอานใหถูกตองตามหลักการอานในหลักวิชาตัจวีด ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
94
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
สวนคําวา “”ﺍ ﻮﱠﺩที่พวกดารานักแสดง นําไปใชนั้น เปนการนําคําไปใชในที่ที่ไมถูกตองตามหลักวิชาตัจวีด แตเปนเรื่องของการขับรอง เรื่องของทวงทํานอง ซึ่งจะเปนไปตามทวงทํานองของเพลงแบบชาวตะวันออก เชน แบบอัลบะยาตีย อัซซอบะฮฺ อัลนะฮาวะนัด อัลฮุญาซ อัรรอมัล อัลยุรกา...และอื่น ๆ ซึ่งเปนทวงทํานอง ที่แขงขันกันนํามาใชในรูปของศิลปะการอาน(เปนทํานอง)เพื่อจูงใจผูฟง ซึ่งบางครั้งก็ผิดเพี้ยนไปจาก หลักการอานในวิชาตัจวีดก็มี การอานที่เปนทํานองในลักษณะนี้ เปนเรื่องของศิลปะของศิลปนแตละคน เพือ่ สนองความตองการของผูฟง โดยไมคํานึงถึงการทําความเขาใจความหมาย และมารยาทที่ควรปฏิบัติขณะ อานอัลกุรอาน
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
95
บทที่ 1 แหลงกําเนิดเสียงของพยัญชนะและลักษณะการอานออกเสียง เปนการศึกษาเรียนรูเกี่ยวกับแหลงกําเนิดเสียงของพยัญชนะภาษาอาหรับและลักษณะการอาน(หนัก เบา,หนาบาง)เปนเรื่องสําคัญที่จะยังประโยชนใหกับผูที่ศึกษาเรียนรูวิชาตัจวีดและทุกคนที่ตองการจะ อานอัลกุรอานใหถูกตองชัดเจน คําวา “พยัญชนะ”ในที่นี้หมายถึงเสียงขณะอาน ไมไดหมายถึงสัญลักษณ หรือรูปของพยัญชนะที่ใชเขียน สําหรับในบทนี้ผูเขียนจะนําเสนอเกี่ยวกับเรื่องของแหลงกําเนิดเสียง ลักษณะการอานเฉพาะของ พยั ญ ชนะแต ละตัว (เทา ที่ ส ามารถจะทํา ได ) โดยจะนํ า เสนอไปพร อ มกั บ ผลการศึก ษาของนั ก วิช าการ ผูเชี่ยวชาญดานวิชาตัจวีดและผูเชี่ยวชาญดานการอานออกเสียงทางภาษาในยุคปจจุบัน ดวยเหตุนี้เองการ บอกลักษณะของการอานออกเสียงในหนังสือเลมนี้จะตางไปจากที่เคยมีปรากฏในหนังสือตัจวีดอื่นๆ ที่ผาน มา แตจะพบวาแนวทางการเรียนรูจะเขาใจไดงายกวาสะดวกและชัดเจนกวา ระบบการออกเสียงภาษาอาหรับและภาษาอัลกุรอาน ในแตละภาษาจะมีระเบียบการจัดการเกี่ยวกับเสียงเฉพาะของแตละภาษา ซึ่งจํานวน ประเภทและ ลักษณะเฉพาะของเสียงอาจจะเปนเอกเทศหรืออาจจะรวมอยูเปนกลุมในคําหรือประโยคก็ได และระบบ ระเบียบการออกเสียงในสวนของภาษาอาหรับมีอยู 2 ประเภท คือ 1) เสียงพยัญชนะ (เสียงแท) ซึ่งมีอยูทั้งหมด 28 พยัญชนะ คือ ﻑ.
.ﻉ.
.ﻁ.ﺽ.
.ﺵ.ﺱ.ﺯ.ﺭ.ﺫ.ﺩ.
.ﺡ. .ﺙ.ﺕ.ﺏ.ﺀ . ﻱ. ﻭ. ﻫـ. ﻥ. ﻡ. ﻝ. ﻙ. ﻕ.
สําหรับพยัญชนะอาหรับสองตัวสุดทาย ( ي, )وจะนับวาเปนพยัญชนะไดก็ตอเมื่อ ทั้งสองเปน ตัวสะกด เชน คําวา “ ﺑَﻴﺖ, ”ﻳَﻮﻡหรือมีสระกํากับอยูเชน คําวา “ ﻳُﺴﺮ ﻭﺭﺩ ﺣَﻴ َﻲ, ّ ُﻭﺩ, ﻳَﻠﺪ, ”ﻭَﻟﺪเมื่อ พยัญชนะทั้งสองอยูในลักษณะเชนนี้ก็จะเรียกไดวา เมื่อเปนตัวสะกดก็จะเรียกวา “ ”ﻟﻴﻦการอานพยัญชนะ ในลักษณะนี้ อาจจะเพิ่มการอานในแบบที่เรียกวา “”ﺍﻟ ُﻐﻨﱠـﺔเขาไปได แตจะอานในลักษณะนี้ก็เฉพาะการ อานกุรอานเทานั้น 2) เสียงสระ (เสียงแปร) มีอยูทั้งหมด 3 เสียง ที่เปนเสียงสั้นคือ ( ـَـ ـِـ ـُـอะ ,อิ, อุ) และอีก 3 เสียง
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
96
เปนเสีย งยาว คือ ـﻮ, ــﻲ, ( ﺁอา,อี,อู) ทั้งสามเสียงนี้เ รีย กวา ฮุ รุฟ มัด ( )ﺣﺮﻭﻑ ﺍﳌﺪและจะนํามา กลาวถึงในรายละเอียดตอไป สําหรับแหลงกําเนิดเสียง ทั้งเสียงแท(เสียงพยัญชนะ) และเสียงแปร(เสียงสระ) จะมีอยูในสองดาน คือ แหลงกําเนิดเสียงและลักษณะการออกเสียง เราก็จะทําความเขาใจในเรื่องนี้ทั้งหมด โดยจะเริ่มจาก ความหมายของแหลงกําเนิดเสียงกอนเปนอันดับแรก ความหมายของแหลงกําเนิดเสียง แหลงกําเนิดเสียงหมายถึง จุดที่เปนที่กักเก็บและใหกําเนิดเสียง และเมื่อเปลงออกมาก็จะไดยินเสียง นั้น และจุ ด นั้ น ตํ า แหน งนั้ น อาจจะเกิ ด จากระยะห า งที่ อยู ระหว า งคอหอยกั บริ มฝ ป ากทั้ งสอง ด ว ยการ ประสานกันกับอวัยวะที่ใชในการพูด เชน ริมฝปากทั้งสอง ฟน ลิ้น และคอหอย ซึ่งจะทําหนาที่ในการกัก เก็บหรือปลอยลมออกมาในทางลม จึงทําใหเกิดเสียงตามตองการ และเมื่อพิจารณาถึงความยืดหยุนและ ความสามารถในการบิดงอ การกระดิกภายในปากของลิ้นที่สามารถบิดงอไปไดในทุกทิศทางจึงนับไดวาลิ้น เปนอวัยวะที่สําคัญที่สุดสําหรับการพูดและการออกเสียงใหไดตามที่ตองการจะพูด แหลงกําเนิดเสียงที่ชัดเจนที่สุด (ตามที่นักวิชาการไดกําหนดไวหลังจากที่ไดมีการศึกษาคนควา เรื่องของเสียงในยุคใหม) มีทั้งหมด 11 ตําแหนง 1 โดยจะกําหนดตําแหนงของแหลงกําเนิดเสียงพยัญชนะ จากเสียงที่เปลงออกมาทั้งหมด วิธีงาย ๆ ก็คือใหลองอานออกเสียงพยัญชนะ “ ”ﺀที่ประสมกับฟตหะฮฺแลว มีตัว “ ﺃﺏ (”ﺏ, ﺃﺏ, )ﺃﺏเปนตัวสะกดโดยเปลงเสียงหนัก ๆ หลาย ๆ ครั้งก็จะพบวา แหลงกําเนิดเสียง ของ “”ﺏนั้นเกิดมาจาก ริมฝปากทั้งสองขาง และเมื่อตองการเรียนรูแหลงกําเนิด “ ”ﻑก็ใหลองอาน “ ﺃﻑ, ﺃﻑ, ”ﺃﻑหลาย ๆครั้งก็จะพบวา แหลงกําเนิดเสียงของ “ ”ﻑจะอยูระหวางฟนหนาดานบนกับ ริมฝปากดานลาง จึงเรียกแหลงกําเนิดเสียง “ ”ﺏวา อัสนานีย ชะฟะวีย ( )ﺃﺳﻨﺎﻧﻴﺎ ﺷﻔﻮﻳﺎและเสียงอื่น ๆ ก็ สามารถเรียนรูไดดวยวิธีเดียวกัน ซึ่งแหลงกําเนิดเสียงบางตําแหนงจะมีเพียงเสียงเดียว แตบางตําแหนงกลับ มีหลายพยัญชนะ ดังจะนํามากลาวถึงในรายละเอียดตอไป แหลงกําเนิดเสียงและพยัญชนะ 1.ริมฝปากทั้งสอง ( ﻭ( )ﺷﻔﺘﺎﻥ. ُﻭ. ﻭ. َﻭ. ﻡ. )ﺏ
2.ฟนหนาบนกับริมฝปากลาง ()ﻑ
ในตําราเการะบุไววา แหลงกําเนิดเสียงหรือ ﺮ ﺍﳊﺮﻭﻑนั้นมีทั้งหมด 16 หรือ 17 ตําแหนง เพราะในบางตําแหนงมีการแยกยอยออกเปน หลายที่ แตในที่นี้จะนําเสนอในรูปแบบที่เรียนรูไดงายกวา 1
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
97
3.ระหวางฟนหนาบนกับฟนลาง ( . ﺫ. )ﺙ
4.ปลายลิ้นกับโคนฟนหนาบน (ﻥ. ﺽ ﻁ ﻝ.)ﺕ ﺩ
5. เหงือก(โคนฟน) ( . ﺱ. ﺯ. )ﺭ
6. โคนลิ้นกับขอบเพดานบน ( ﺵ. )
7.กลางเพดาน (ﻱ ُ .ﻱ.ﻱ َ . )ﻱ
8.โคนเพดาน ()ﻙ
9. เพดานบนสวนที่ออน ( . . )ﻕ
10.คอหอย ( ﺡ. )ﻋـ
11. ชองปาก(( ـ ـﻮ ـ ـﻲ. ) ـَ ـَﺎ. ﻫـ. ) ﺀ ลักษณะของเสียง ผลที่เกิดจากการกระทําของอวัยวะที่ใชสําหรับการพูดรวมกับการเปลงเสียงดวยรูปแบบเฉพาะ ซึ่ง บางครั้งในแหลงกําเนิดเสียงแหลงเดียวกันมีลักษณะการออกเสียงไดถึงสองเสียงหรือมากกวา ในแตละ เสียงจะมีลักษณะและเอกลักษณที่แตกตางกัน นั่นก็เปนเพราะวาวิธีการเปลงเสียงของแตละพยัญชนะที่ ตางกัน การวางอวัยวะขณะเปลงเสียงที่ตางกัน เชนการออกเสียง ﺩ/ ﺕทั้งสองพยัญชนะออกมาจาก แหลงเดียวกัน แตมีลักษณะการออกเสียงที่ตางกัน เชนเดียวกับ ﺱ/ ﺯ/ ดังจะกลาวถึงในรายละเอียด ตอไป เมื่อในบางครั้งพยัญชนะสองตัวหรือมากกวามีลักษณะการออกเสียงที่เหมือนกัน จึงจําเปนที่จะตองมี แหลงกําเนิดเสียงที่ตางกัน เพื่อใหเ ห็นความแตกตาง เชนพยัญชนะ ﺏ/ ﺩลักษณะเสีย งของพยั ญชนะ เหมือนกัน แตแหลงกําเนิดเสียงตางกัน พยัญชนะ ﻭ, ﻡ, ﺯ, ﺫ, ﻕ, ﻁก็เชนกัน แตพยัญชนะสองตัวมี ลักษณะของเสียงที่เหมือนกันและมีแหลงกําเนิดเสียงเดียวกันนั้นเปนไปไมได เพราะจะกลายเปนพยัญชนะ ตัวเดียวกัน ลักษณะหลัก ๆของเสียงมีอยู 2 ประเภทดังนี้ 1.ประเภทที่มีลักษณะเสียง(เฉพาะและมีลักษณะเสียง) ตรงกันขาม มีอยู 3 ลักษณะ คือ 1) ลักษณะเสียงแบบ ชิดดะฮฺ ( )ﺍﻟﺸﺪﱠﺓซึ่งตรงกันขามกับรุคอวะฮฺ()ﺍﻟﺮﺧﺎﻭﺓ 2) ลักษณะเสียงแบบ ยะฮฺร( )ﺍﳉﻬﺮตรงกันขามกับ ฮะมุส ( )ﺍﳍﻤ 3)ลักษณะเสียงแบบตัฟคีม ()ﺍﻟﺘﻔ ﻴﻢตรงกันขามกับ ตัรกีก()ﺍﻟﺘﺮﻗﻴﻖ1 2.ลักษณะเสียงที่ไมมีลักษณะตรงกันขาม คือ เสียงแบบ กอลลอเลาะฮฺ()ﺍﻟﻘﻠﻘﻠﺔ, ฆุนนะฮฺ()ﺍﻟﻐﻨﺔ,อินฮิ ตัฟคีม กับตัรกีก เปนลักษณะเสียงทีค่ ูกัน ในหนังสือตัจวีดเกา ๆ จะเรียกวา อิสติละอฺ ซึ่งตรงกันขามกับ อิสติฟาล ซึ่งมีความหมายเดียวกับ ตัฟ คีมกับตัรกีก สวนคําวา อิตบาก กับ อินฟตาฮฺ ในหนังสือสมัยกอนจะเรียกวา อิสมาต กับ อิซลาค แตในหนังสือเลมนี้จะไมนํามากลาวถึงอีก เพราะพิจารณาดูแลว ผูเรียนจะไดประโยชนนอยมาก
1
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
98
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
รอฟ()ﺍﻹ ﺮﺍﻑ,และตักรีร ( )ﺍﻟﺘﻜﺮﻳﺮตอไปก็จะกลาวถึงในรายละเอียดของลักษณะแตละแบบดังที่ไดกลาวมา ทั้งหมด ลักษณะเสียงที่มีลักษณะตรงกันขาม 1.เสียงที่มีลักษณะตรงกันขาม คือ ก.เสียงแบบชิดดะฮฺ( )ﺍﻟﺸﺪﱠﺓคือการสกัดกั้นเสียงมิใหมีลมออก(ไวชั่วระยะหนึ่ง)กอนที่จะเปดเปลง ออกมาอยางแรงในทันทีซึ่งจะเกิดการแตกกระจายของเสียงจึงเรียกวาอินฟยาร กลุมพยัญชนะที่มีลักษณะ การออกเสียงแบบนี้คือพยัญชนะชิดดะฮฺทั้งแปด คือ ﺀ,ﻕ,ﻙ,ﺕ,ﻁ,ﺩ, ﺏหากจะคิดตามแหลงกําเนิดเสียงก็ จะพบวาพยัญชนะเหลานี้มีแหลงกําเนิดเสียงอยูระหวาง ริมฝปากทั้งสองไปจนถึงวงปาก1 ข. อัรรอคอวะฮฺ คือลักษณะตรงกันขามกับชิดดะฮฺ ลักษณะคือขณะออกเสียงทางผานลมจะไมถูกปด ทั้งหมด แตทางลมจะถูกทําใหแคบลงในระดับที่แตกตางกันตามแตละพยัญชนะ เมื่อปลอยลมออกมาก็จะ เกิดเสียง (บางพยัญชนะก็จะปลอยลมออกมาเพียงเล็กนอย) หากจะคิดถึงการออกเสียงในภาษาอาหรับทีห่ นัก ที่สุดคือเสียงแบบชิดดะฮฺ รองลงมาคือแบบรุเคาวะฮฺ ยกเวนเสียง ซึ่งมีเสียงหนัก นักวิชาการบางทานให พยัญชนะ (เสียงที่เปนภาษากลาง) จัดอยูในกลุมของพยัญชนะที่มีเสียงซอนคือเริ่มดวยชิดดะฮฺและสิ้นสุด ลงดวยรุเคาวะฮฺ (เริ่มเสียงหนักแลวจบลงดวยเสียงเบา) 2. อัลยะฮฺรุ เกิดคลื่นเสียงในเสนเสียง(เหนือริมฝปากทั้งสองขางในวงปาก) สามารถพิสูจณไดดวย การสัมผัสวงปากหรือวางนิ้วทั้งสองขางในรูหูขณะพูด หากรูสึกวามีคลื่นเสียงในตอนแรกของการออกเสียง และรูสึกมีเสียงสั่น (เสียงดังหึ่ง)ในศีรษะ แสดงวาพยัญชนะตัวนั้นอยูในกลุมของ ยะฮฺรุ( ) ﻬﻮﺭหากไมมี ลักษณะดังกลาวก็จะอยูในอีกกลุมหนึ่งคือ กลุม มะฮฺมูซ ( )ﻣﻬﻤﻮﺱหากตองการพิสูจณความถูกตองให ทดลองอานออกเสียงใหเปนตัวสะกด( )ﺳﺎﻛﻨﺔหรือตัวที่อานมีตัชดี ( )ﻣﺸ ﱠﺪﺩَﺓเชน ﺃ ّﻡ ﺃ ﹼﻥ, ﺃ ّﺯ.... เสียงกลุมนี้ ( ) ﻬﻮﺭﺓนักวิชาการผูเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องเสียงมีความเห็นพองกันวาคือพยัญชนะ ﻉ/ / ﻱ/ / ﺭ, ﺯ/ ﻥ, ﻝ, ﺩ, ﺽ, ﺫ, , ﻭ, ﻡ,( ﺏใชสัญลักษณ / กั้นเพื่อแสดงถึงการแยกแหลงกําเนิด เสียง) นอกจากนั้นก็มีสระเสียงสั้นทั้งสามแบบ พยัญชนะแทนสระเสียงยาว ()ﺣﺮﻭﻑ ﺍﳌﺪทั้งสามตัว และมี เสียงของพยัญชนะ 3 เสียง คือ ﺀ.ﻕ. ﻁที่ลักษณะเสียงของพยัญชนะเหลานี้นักวิชาการตัจวีด(บางคน)กลาว 1
ในตําราเกาพยัญชนะในกลุมนี้มีทั้งหมด 8 พยัญชนะดวยกันโดยกลาวรวมไวในคําพูดที่วา “ ”ﺃﺟﺪ ﻗ ﺑَﻜﺖโดยที่มีพยัญชนะ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
มาแทน ﺽ
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
99
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
วาอยูในกลุมของมัจฮูเราะฮฺ ( ) ﻬﻮﺭﺓแตผูเชี่ยวชาญดานเสียงยุคใหมกลับเห็นวาจัดอยูในกลุม มะฮฺมูซะฮฺ ( )ﻣﻬﻤﻮﺳﺔซึ่งไดแสดงทัศนะไววานาจะถูกตองกวาและใกลเคียงกวา โดยวิเคราะหจากการออกเสียงของผูที่ อานออกเสียงไดดีที่สุดตามทัศนะของนักวิชาการในยุคปจจุบัน 3. อัตตัฟคีม1 ( )ﺍﻟﺘﻔ ﻴﻢซึ่งหมายถึงการยกปลายลิ้นขึ้นขณะออกเสียง ซึ่งระดับการยกขณะออก เสียงจะตางกันออกไป หากยกสูงขึ้นระดับเสียงก็จะยิ่งหนัก สวนพยัญชนะที่มีลักษณะการอานแบบนี้คือ ﻕ/ / / ﻁ. ﺽ/ พยั ญชนะ 4 ตั ว แรก ( ) ﺽเสีย งจะหนั ก กว าพยัญ ชนะตัว อื่น ๆ นักวิชาการตัจวีดจะรูจักกันในชื่อ “ฮุรุฟ อิฏฏิบาค”( )ﺣﺮﻭﻑ ﺍﻹﻃﺒﺎﻕปกติแลวลักษณะเสียงที่เรียกวาตัฟคีม ปกติแลวจะออกเสียงหนักไปพรอมกับเสียงฟตหะฮฺ ฎอมมะฮฺและซุกูน และเสียงจะผอนเบาเมื่อประสมกับ สระกัสเราะฮฺ โดยเฉพาะอยางยิ่งกับพยัญชนะสามตัวหลัง ( ﻕ/ ) อัต ตั รกี ก 2( )ﺍﻟﺘﺮﻗﻴﻖเป น ลั ก ษณะการอ า นที่ ต รงกั น ข า มกั บ อัต ตั ฟ คี ม ( )ﺍﻟﺘﻔ ﻴﻢคื อ เสีย งที่เ หลื อ ทั้งหมดที่ไมไดกลาวถึงขางตน เสียงในภาษาอาหรับที่เหลือจะอานออกเสียงแบบตัรกีกทั้งหมดยกเว น พยัญชนะดังนี้ 1. อลิฟที่ตองอานเสียงยาว( )ﺍﻟﻒ ﺍﳌﺪที่มีเสียงกอนหนาอานแบบตัฟคีมและตัรกีก 2. ลามจะอานแบบตัฟคีมเฉพาะในคําวา “ ”ﺍﷲที่มีพยัญชนะกอนหนาอานฟตหะฮฺหรือฎอมมะฮฺ เชน ﷲ َ ﺇﻥﱠ ﺍหรือ ( ﻓﻀﻞﹸ ﺍﷲคือจะอานเปนเสียงสระออ ไมใชสระอา) 3. พยัญชนะ “รออฺ” ( )رอานตัฟคีมและตัรกีก จะกลาวถึงรายละเอียดในภายหลัง เมื่อเขาสูเรื่องของ พยัญชนะรออฺ ( )رในบทตอไป โดยเฉพาะอยางยิ่งเมื่อตองเรียนเกี่ยวกับหลักการอานตามหลักวิชาตัจวีด เพราะเรื่องดังกลาวจําเปนที่จะตองเรียนรูอยางละเอียดเพื่อนําไปใชในการประยุคใชกับการอานอัลกุรอาน ลักษณะการออกเสียงที่ไมมีลักษณะตรงกันขาม 1. กอลกอลอฮฺ ( )ﺍﻟﻘﻠﻘﻠﺔคือการอานออกเสียงหนักแลวปลอยเสียงออกมาอีกครั้งหลังจากที่ไดกลั้นเสียงไว ฟงดูแลวคลายกับวาจะมีสระเสียงเบาประสมอยู พยัญชนะทีม่ ลี กั ษณะการอานเชนนีม้ ที งั้ หมด 5 ตัว คือ ﻕ ﻁ ﺏ ﺩเมื่อตองอานเปนตัวสะกดหรือซากินะฮฺ ( )ﺳﺎﻛﻨﺔการอานใหมีลักษณะแบบกอลกอลอฮฺจะยิ่งเพิ่ม เสียงหนัก เมื่อตองหยุดหรืออานวกัฟ ( )ﺍﻟﻮﻗﻒโดยเฉพาะอยางยิ่งเมื่อพยัญชนะเหลานี้มีเครื่องหมายชัดดะฮฺ ( )ـกํากับอยูดวย จุดหมายหลักของการอานอยูที่การรักษาไวซึ่งคุณคาทางเสียงและลักษณะพิเศษของ 1 2
นักวิชาการตัจวีด เรียกลักษณะนี้วา อิสติอฺละอฺ ()اﻹﺳﺘﻌﻼء นักวิชาการตัจวีด เรียกลักษณะนี้วา อิสติฟะอฺ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
100
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เสียง เพื่อจะไดไมสับสนกับเสียงของพยัญชนะอื่น ๆ ที่คลายกัน 2. อัลฆุนนะฮฺ ( )ﺍﻟﻐﻨﺔเปนลักษณะการอานที่มีเสียงขึ้นไปยังโพรงจมูก คือเสียงของ “นูน”และ “มีม” เพราะ เสียงจะขึ้นไปทางโพรงจมูก ไมใชทางปากเหมือนเสียงพยัญชนะตัวอื่นทั่วๆ ไป เมื่อออกเสียงพยัญชนะตัวนี้ ทุกครั้งที่อานอัลกุรอาน จะตองอานใหมีเสียงยืด(ยาว)ขณะอาน ซึ่งจะกลาวถึงในรายละเอียดตอไป เมื่อ กลาวถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยจะกลาวถึงเรื่องของหลักการอานตามหลักวิชาตัจวีดตอไป 3. อัลอินฮิรอฟ (( )ﺍﻹ ﺮﺍﻑเปลี่ยนทาง) เปนลักษณะของพยัญชนะ “ลาม” ( )لเพราะเมื่อตองอานออกเสียง ลาม เสียงก็จะเปลี่ยนไปทางดานใดดานหนึ่งหรือทั้งสองดานของลิ้น โดยไมออกมาตรง ๆ เหมือนพยัญชนะ ตัวอื่น ๆ 4. อัตตักรีร ( )ﺍﻟﺘﻜﺮﻳﺮเปนลักษณะการอานออกเสียงของ “รออฺ” ( )ﺭเพราะปลายลิ้นจะกระดิกสองหรือสาม ครั้งเมื่ออานออกเสียงรออฺ ทางที่ดีไมควรกระดิกมากกวานั้น และลักษณะการออกเสียงทั้งสองประเภททั้งลักษณะการอานที่มีลักษณะตรงกันขามและที่ไมมี ลักษณะตรงกันขาม (เหมือนประเภทแรกที่กลาวมา) กอนที่จะนําเสนอในรายละเอียดเกี่ยวกับเสียง ผูเขียน อยากจะเสนอภาพรวมของของพยัญชนะในสองเรื่องคือขอสรุปของระบบเสียงเพื่อแยกแยะรายละเอียด เกี่ยวกับเสียงพยัญชนะ ตามแหลงกําเนิดเสียง ( ) ﺎﺭและลักษณะการอาน ( )ﺻﻔﺎﺕและประการที่สองจะ นําใหรายละเอียดเรื่องลักษณะของพยัญชนะทุกตัว 1. ระบบเสียง สรุป พยัญชนะ “ลาม”( )ﻝในคําวา “ ”ﺍﷲจะอานแบบตัฟคีม (อานออกเสียงสระออ) หากพยัญชนะกอน หนาลามประสมดวยสระฟตหะฮฺและฏอมมะฮฺ พยัญชนะ “รอ” ( )ﺭจะตองอานแบบ “มุฟคคอมะฮฺ” ( )ﻣﻔ ﻤﺔหาก “รออฺ” ประสมดวยสระฟต หะฮฺ ฏอมมะฮฺ หรือซากินะฮฺ และพยัญชนะกอนหนาอานฟตหะฮฺ หรือฏอมมะฮฺ ลักษณะอื่นนอกเหนือจาก ที่กลาวมาก็ใหอานแบบมุรอกกอเกาะฮฺ ( )ﻣﺮﻗﻘـﺔซึ่งจะนําเสนอในรายละเอียดเรื่อง ﺭอีกครั้งหนึ่ง สระทั้งหมด ( ฟตหะฮฺ,ฏอมมะฮฺ,กัสเราะฮฺ,ที่ตองอานเสียงยาวหรือที่เรียกวา “ฮุรุฟมัด” แหลงกําเนิด จะรวมอยูกันระหวาง ริมฝปากทั้งสองกับชองปาก การกําหนดลักษณะเฉพาะของเสียง จะอานแบบตัฟคีม ตามพยัญชนะกอนหนา การเปลี่ยนแปลงของลักษณะเสียงจะเปนไปตามการอานคําหรือประโยคที่มากอน หนาคําที่จะอาน บางครั้งเสียงจะเปลี่ยนไปตามคํากอนหนา หรือในตัวมันเอง ซึ่งจะสงผลตอแหลงกําเนิด ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
101
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เสียงและลักษณะของเสียงหรือทั้งสองพรอมกัน ทั้งลักษณะและแหลงกําเนิดก็จะเปลี่ยนไปทั้งหมด ลักษณะ ดังกลาวเปนการยืนยันวาทั้งแหลงกําเนิดเสียงและลักษณะของเสียงนั้นมีผลตอกัน ซึ่งอาจจะเหมือนหรือ ใกลเคียงกัน ลักษณะดังกลาวเปนเรื่องปกติของภาษาทุกภาษา ซึ่งผูพูดสามารถพิสูจณไดงาย ๆ ขณะพยายาม ออกเสียงพูด ในบางคําบางที่ บางลักษณะการออกเสียง โดยจะเกิดเสียงใหมขึ้นมาในที่หรือคําเฉพาะ แตหาก นําคําไปวางในตําแหนงอื่น ลักษณะใหมที่กลาวมาก็จะหายไป บางครั้งลักษณะเฉพาะตัวของเสียง อยางเชน เสีย งแบบตัรกี ก ( )ﺍﻟﺘﺮﻗﻴﻖเชนเสียงของฟตหะฮฺ และอลิฟซึ่งเปนเสียงยาว ( )ﺣﺮﻑ ﺍﳌﺪเมื่อมาเชื่อมตอกับเสียงแบบมุฟคคอมะฮฺ ( )ﻣﻔ ﻤﺔก็จะกอใหเกิด ลักษณะเสียงใหมคือเสียงแบบตัฟคีม สวนแหลงกําเนิดเสียง( ) ﺮมีตัวอยางใหเห็นมากมายหลายที่ เชน การอานอิกลาบ ( )ﺍﻹﻗﻼﺏคือ เปลี่ยนพยัญชนะ ﻥซากินะฮฺ เปน ﻡเมื่อมีพยัญชนะ ﺏตามติดมาหลัง ﻥซากินะฮฺ เชนคําวา َﻧﺒَﺎﺀ เมื่อเปลี่ยนเปนพหูพจน จะเปน ﺃﻧﺒـَﺎﺀจะอานเปลี่ยนเปนเสียง ﻡอัมบาอฺ ( )ﺃﻣﺒﺎﺀการอานในลักษณะนี้ จะเปลี่ยนจากแหลงกําเนิดเสียง ﻥซึ่งอยูที่ปลายลิ้นกับโคนฟนหนามาเปน ﻡซึ่งมีแหลงกําเนิดเสียงอยูที่ ริมฝปากทั้งสอง (บนลาง) การเปลี่ยนแปลงดังกลาวเปนการเปลี่ยนมาเปนแหลงกําเนิดเสียงใหม เพื่อให ใกลเคียงกับเสียง ﺏซึ่งมีแหลงกําเนิดเสียงเดิมอยูที่ริมฝปากบนและลาง ดังจะไดนําเสนอตัวอยางและ รายละเอียดตาง ๆ ตอไป ในเรื่องของหลักการอาน อิดฆอม ,อิคฟะอฺ ,อิกลาบ,และอัตตัฟคีม สําหรับในบทนี้จะขอปดทายดวยขอควรระวังเล็ก ๆนอยที่มักจะอานผิดพลาดกันมาก เมื่อตองอาน ออกเสียง เพราะมักจะอานกันไปตามเสียงของคนสวนมาก ทั้งๆ ที่การอานในลักษณะดังกลาวนั้นไมถูกตอง ซึ่งหากปลอยไวจะลุกลามไปถึงการอานอัลกุรอาน จึงเปนเรื่องที่ควรระวังเปนอยางยิ่งและตองพยายามแกไข อยาใหมีขอผิดพลาดเกิดขึ้น สิ่งที่ควรระวังในการอานที่สําคัญคือความไมละเอียดลออในการอาน ไมใสใจเกี่ยวกับลักษณะการ อานของพยัญชนะแตละตัวที่มีความแตกตางไปจากพยัญชนะตัวอื่น ๆบางครั้งความผิดพลาดอาจจะเกิดจาก ความไมใสใจ ละเลย ไมเห็นความสําคัญ หรือไมมีความรูเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของเสียง หรือระบบเสียง ทวงทํานองของเสียงที่เปนเสียงพื้นเมือง (ภาษาพื้นเมือง) แมจะเปนที่ยอมรับ(ของชนพื้นเมือง) แตก็นับวา เปนการอานที่ไมถูกตอง สวนวิธีการแกปญหาในสวนนี้ก็ไมใชเรื่องยากนัก เพียงแคพยายามและมีความ ตั้งใจที่แนวแน พรอมกับทุมเทความพยายามอานใหถูกตองในขอควรระวังตาง ๆ ดังนี้ 1) การอ า นแบบ “ยะฮฺ รุ ล มะฮฺ มู ซ ” ( )ﺟﻬﺮﺍﳌﻬﻤﻮﺱเมื่ อ มี ซ ากิ น ะฮฺ ก อ นเสี ย งมั จ ฮู ร ( ) ﻬﻮﺭ ตัวอยางเชน ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
ـﺯ
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
102
. / ﻣﻀﺒﻌﺔ/ ﻣَﻄﺒﻌﺔ ـ: ﻁ ـ ﺽ./ ﺍﺯﺟﺪﻭﺍ/ ﺍﺳﺠﺪﻭﺍ ـ. / ﺍﻷﺯﺑﻮﻉ/ ﺍﻷﺳﺒﻮﻉ ـ: ﺱ ـ ﺯ
เสียงแบบตัฟคีม ()ﻣﻔ ﻤﺔ ./ ﺃﻓﻀَﻞ/ ﺃﻓﻀﻞ ـ: (v) ( ﻑ ــ ﻑ2) / ﺃﻛﱪ: (g) ﻗﺎﻫﺮﻳﺔ
ﻛـ
(1)
. ﻣَﺰﺩَﺭ/ ﻣَﺼﺪﺭ ـ
นักวิชาการผูเชี่ยวชาญดานตัจวีด ไดจัดวางกฎเพื่อปกปองความผิดพลาดในสวนนี้ไวภายใตชื่อกฎ วา “ ”ﺍﻟﺘﻬﻤﻴซึ่งมีความหมายวา การระมัดระวังจากลักษณะของ “ ”ﺍﳍﻤเมื่อตองอานพยัญชนะเหลานี้ใน รูปแบบเฉพาะ 2) ฮัมซุลมัจฮูร ( )ﳘ ﺍ ﻬﻮﺭเมื่อมีซากินะฮฺมากอนพยัญชนะมะฮฺมูซ ( )ﻣﻬﻤﻮﺱตัวอยางเชน . / ﻳَﺴﻜﹸﺮ/ ﻳَﺬﻛﹸﺮ ـ: ﺫ ـ ﺱ. / ﻣَﺘﻔﻮﻉ/ ﻣَﺪﻓﻮﻉ ـ: ﺩ ـ ﺕ วิธีระวังก็คือผูอานจะตองพยายามอานอยางรอบคอบเพื่อไมใหลักษณะการอานของพยัญชนะในคํา เหลานี้ผิดเพีย้ นไป 3) การอานโดยที่ปลายลิ้นไมโผลออกมาขณะอานพยัญชนะ “ .ﺫ. ”ﺙตัวอยางเชน . / ﺯَﺍﻟﻢ/ ﻇﺎﻟﻢ ـ: ـ ﺯ ﻣﻔ ﻤﺔ. / َﺯ ﹼﻝ/ ﹼﺫ ﹼﻝ ـ. / ﻫﺰﺍ/ ﻫﺬﺍ ـ: ﺫ ـ ﺯ. / ﺇﺳﻢ/ ﺇ ـ: ﺙ ـ ﺱ สวนวิธีปองกัน ก็ดังที่ไดกลาวมาแลวคือตองระมัดระวัง โดยพยายามใหปลายลิ้นยืน่ ออกมาระหวาง ฟนบนกับฟนลางขณะอานออกเสียงพยัญชนะทั้ง 3 ตัว 4) การอานพยัญชนะ “ ” ที่เปนภาษาพืน้ เมือง เชนการอานออกเสียงของชาวอิยิปต ซึ่งมักจะอาน “ ” เปนเสีย “g” สวนชาวซีเรียก็จะออกเสียงเปนเสียง “s” ในคําวา “Pleasure” ในภาษาอังกฤษ 5) การอานออกเสียงพยัญชนะ “ ”ﻕแบบภาษาพืน้ เมืองของบางภูมิภาค อยางเชนชาวซูดาน มักจะ อานออกเสียงเปน “ ” หรือชาวเยแมน จะอานออกเสียงคลาย “ ” ของชาวอียิปต 6) การอานออกเสียง “ ”ﺽเปนเสียง “ ” หรือเสียงทีใ่ กลเคียง เชนการอานของบางพื้นที่ ซึ่ง มักจะไดยินการอานคําวา “ ”ﺍﻟﻀ ﻟﲔเปน “ ”ﺍﻟﻈ ﻟﲔเปนตน
. ﻟﻜﻦ ﺑﺪون إﺥﺮاج اﻟﻠﺴﺎن ﺑﻴﻦ اﻷﺳﻨﺎن/ ظ/ ِز )زاي ﺕﺤﺘﻬﺎ ﺷﺮﻃﻪ( ﻳﻌﻨﻲ أﻧﻬﺎ ﻣﻔﺨﻤﺔ ﺕﻨﻄﻖ ﻣﺜﻞ اﻟـ .( Garden ) اﻻﻧﺠﻠﻴﺰﻳﺔ ﻓﻲ/ g / ك )آﺎف ﻣﻨﻘﻮﻃﺔ ﻣﻦ أﺳﻔﻞ( ﻳﻌﻨﻲ أﻧﻬﺎ ﻣﺠﻬﻮرة ﻣﺜﻞ اﻟـ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
(1) (2)
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
103
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
7) การอานเสียง “ ”ﻝเปนเสียง “ ”ﻥในกรณีที่มี “ ”ﻥหลัง “ ”ﻝเชนการอานคําวา “ ﻭﺟﻌﻠﻨﺎ ﺍﻟﻠﻴﻞ ”ﻟﺒﺎﺳﹰﺎเพี้ยนเปน “”ﻭﺟﻌّﻨﺎ ﺍﻟﻠﻴﻞ ﻟﺒﺎﺳﺎﹰ จึงอยากจะเชิญชวนพี่นองมุสลิมทุกคนใหใสใจตอการอานภาษาอาหรับดวยภาษาอาหรับกลาง เพือ่ ไมใหการอานออกเสียงผิดเพี้ยนไปจากความถูกตองขณะอาน โดยเฉพาะอยางยิ่งการอานอัลกุรอาน เพราะ หากอานผิดเพีย้ นไปจากเสียงที่ถูกตองซึ่งเปนเรื่องที่ควรระวัง แลวความหมายก็จะผิดเพี้ยนไปดวย แบบฝกหัด 1. ใหนักเรียนบอกชื่อแหลงกําเนิดเสียงของพยัญชนะตอไปนี้ ﻥ ﻫـ ﻱ ﻕ ﺍﻟﻀﻤﺔ ﺃﻟﻒ ﺍﳌﺪ
ﺏﻉ ﺩ
2. ใหนักเรียนบอกจํานวนและพยัญชนะที่มีเสียงออกมาจากแหลงกําเนิดเสียงตอไปนี้ 2.1 ริมฝปากทั้งสอง “”ﺍﻟﺸﻔﺘﲔ 2.2 คอหอย “”ﺍﳊﻠﻖ 2.3 กลางเพดาน “”ﻭﺳ ﺍﳊﻨﻚ 2.4 เหงือก ()ﺍﻟﻠﺜﺔ 3.ลักษณะการออกเสียงแบบ “มุจฮูร”( )ﺍ ﻬﻮﺭกับเสียงแบบ “มะฮฺมูส” ( )ﺍﳌﻬﻤﻮﺱตางกันอยางไร? 4. เมื่อใดที่ตอง “”ตัฟคีม” ในกลุมเสียง “มุฟคคอมะฮฺ” และมีพยัญชนะใดบาง ? 5. พยัญชนะใดบางที่ตองอานแบบ “อันฟยะฮฺ” และฟะมะวียะฮฺ ( ﻓﻤﻮﻳﺔ, )ﺃﻧﻔﻴﺔ 6. “เสียงอันฟยะฮฺ”หมายถึงการอานอยางไรและมีพยัญชนะที่ตองอานในลักษณะนี้กี่พยัญชนะ ? 7. เสียงแบบ “ชะดีดะฮฺ” ( )ﺍﻟﺸﺪﻳﺪﺓหมายถึงการอานอยางไร ? และมีวิธีการอานออกเสียงอยางไร มีมี พยัญชนะใดบางที่ตองอานแบบ “ชะดีดะฮฺ” และมีวิธีอานอยางไร ? 8. เพราะเหตุใดจึงพยัญชนะ “ ”ﺭวา “,มุกัรรอรฺ” (? )ﻣﻜﺮﺭﺍﹰ 9. เพราะเหตุใดจึงเรียนพยัญชนะ “ ”ﻝวาเปนเสียงแบบ “ยานิบียฺ” (? )ﺟﺎﻧﺒﻴﺎﹰ 10. คุณลักษณะเสียงใดบางที่มีเสียงตรงกันขาม ? 11.ใหนักเรียนอธิบายคุณลักษณะเสียงแบบไมมีเสียงตรงกันขามมา 3 ประเภท 12. การอานในลักษณะใดที่กอใหเกิดลักษณะเสียงใหม และเมื่อใดลักษณะเสียงใหมจะหายไป ? 13.ใหนักเรียนบอกคุณลักษณะของเสียงพยัญชนะตอไปนี้ใหถูกตอง “ ﻥ ﺽ ﻉ ﻁ ﻭ ﻙ, ”ﺙ 14. ใหนักเรียนยกตัวอยางเสียง “ ”ﺙรูเคาวะฮฺ มะมูซและ มูรอกกอเกาะฮฺ ()ﺭﺧﻮﺓ ﻣﻬﻤﻮﺱ ﻣﺮﻗﻘﺔ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
104
บทที่ 2 หลักการอาน ()ﺍﺣﻜﺎﻡ ﺍﻟﺘﺠﻮﻳﺪ หลังจากที่ไดกลาวถึงเรื่องของแหลงกําเนิดเสียงและคุณลักษณะการอานออกเสียงพยัญชนะไปแลว ในบทเรียนที่ผานมา ตอไปเราก็จะพูดถึงเรื่องของหลักการอาน ( )ﺍﺣﻜﺎﻡ ﺍﻟﺘﺠﻮﻳﺪหรือ ( )ﺍﺣﻜﺎﻡ ﺍﻟﺘﻼﻭﺓซึ่ง จะไมกลาวถึงการอานแบบปกติทั่วไปของภาษาอาหรับตามที่ปรากฏใหเห็น แตจะเปนการเรียนรูการอานอัล กุรอานเปนการเฉพาะ โดยจะเนนในสวนที่มักจะอานผิดเพี้ยนขณะอานอัลกุรอานเทานั้น การนําเสนอหลักการอานจะพยายามนําเสนอในรูปแบบที่เขาใจงาย โดยจะนําเสนอเฉพาะในสวนที่ จําเปนตองเรียนรูและนําไปใชกับการอานอัลกุรอานใหถูกตองเทานั้น สวนอื่น ๆ ที่ไมเกี่ยวของซึ่งเปนเรื่อง ของรายละเอียดปลีกยอย ใหผูที่ตองการศึกษาหาความรูเพิ่มเติมไดจากหนังสืออื่น ๆ สําหรับผูที่เริ่มเรียนรูก็ จะนําเสนอเฉพาะในสวนของหลักการงาย ๆ แบบชัด ๆ เปนขั้นเปนตอน จากงายไปหายากตามลําดับ การเรียนรูตัจวิดหรือหลักการอานในที่นี้จะไมเนนเกี่ยวกับเรื่องของทฤษฎี แตจะเนนเรื่องของการ ฝกปฏิบัติ ฟงการอานออกเสียงและแกไขใหการอานใหเปนไปอยางถูกตอง ฝกทั้งการอานและการฟงไป พรอม ๆกัน โดยจะใหฝกอาน และเมื่อถึงคําหรือประโยคที่เกี่ยวของก็จะอธิบายเพิ่มเติมในเรื่องของทฤษฎี และตามดวยการฝกอานและบันทึกเสียงไว เพื่อแกไข และหากนักเรียนสามารถปฏิบัติไดตามวิธีการนี้ การ เรียนรูก็จะมีความกาวหนาพัฒนาได และหวังเปนอยางยิ่งวานักเรียนจะประสบความสําเร็จ “อินชาอัลลอฮ” 1.กอลกอลอฮฺ(ﺔ
)ﺍﻟ
กอลกอลอฮฺ( )ﺍﻟﻘﻠﻘﻠﺔหมายถึงการอานออกเสียงพยัญชนะดวยเสียงหนัก การเปลงเสียงที่ออกแรงลม อยางหนัก ๆ พยัญชนะที่ตองอานออกเสียงกอลกอลอฮฺ( )ﺍﻟﻘﻠﻘﻠﺔมีทั้งหมด 5 พยัญชนะ คือ , ﻁ, ﺏ ﻕ ﺩ, , รวมไวในคําวา “ ”ﻗﻄﺐ ﺟﺪเสียงกอลกอลอฮฺ( )ﺍﻟﻘﻠﻘﻠﺔจะยิ่งหนักขึ้นหากพยัญชนะอยูทายคํา และ อานวกัฟที่พยัญชนะตัวนั้น โดยเฉพาะอยางยิ่งพยัญชนะที่มีเครื่องหมายตัชดีด ให นักเรี ยนสังเกตพยัญชนะกอลกอลอฮฺ( )ﺍﻟﻘﻠﻘﻠﺔทุ ก ตัว โดยการฟ งการอานออกเสียงจากเทป บันทึกเสียง พรอมสังเกตความแตกตางระหวางพยัญชนะที่อยูกลางคําที่มีตัชดีด และพยัญชนะที่อยูทายคํา พยัญชนะ “”ق .(1 ∪⊇∩ )ﺍﻟﻘﻴﺎﻣﺔ ـÏπyϑ≈uŠÉ)ø9$# ÏΘöθu‹Î/ ãΝÅ¡ø%é& Iω ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
105
∩⊄∠∪ 9,ŠÏϑtã ?dksù Èe≅ä. ÏΒ šÏ?ù'tƒ 9ÏΒ$|Ê Èe≅à2 4’n?tãuρ Zω%y`Í‘ š‚θè?ù'tƒ Ædkptø:$$Î/ Ĩ$¨Ψ9$# ’Îû βÏiŒr&uρ .(27 )اﻟﺤﺞ ـ
พยัญชนะ ﻁในอายะฮฺ ∩⊇⊂∪ AÏϑôÜÏ% ÏΒ šχθä3Î=÷Κtƒ $tΒ ÏµÏΡρߊ ÏΒ šχθããô‰s? tÏ%©!$#uρ 4 Ûù=ßϑø9$# çµs9 öΝä3š/u‘ ª!$# ãΝà6Ï9≡sŒ 4 .(13 )ﻓﺎﻃﺮ ـ .(20،19 )اﻟﺒﺮوج ـ
∩⊄⊃∪ 8ÝŠÏt’Χ ΝÍκÉ″!#u‘uρ ÏΒ ª!$#uρ ∩⊇∪ 5=ƒÉ‹õ3s? ’Îû (#ρãxx. tÏ%©!$# È≅t/
พยัญชนะ بในอายะฮฺ .(85 )ﺁل ﻋﻤﺮان ـ
∩∇∈∪ zƒÌÅ¡≈y‚ø9$# zÏΒ ÍοtÅzFψ$# ’Îû uθèδuρ çµ÷ΨÏΒ Ÿ≅t6ø)ムn=sù $YΨƒÏŠ ÄΝ≈n=ó™M}$# uöxî ÆtGö;tƒ tΒuρ
.(13 ∪⊂⊇∩ )اﻟﻔﺠﺮ ـA>#x‹tã xÞöθy™ y7•/u‘ óΟÎγøŠn=tæ ¡=|Ásù พยัญชนะ جในอายะฮฺ .(103 × ∪⊂⊃⊇∩ )هﻮد ـŠθßγô±¨Β ×Πöθtƒ y7Ï9≡sŒuρ â¨$¨Ψ9$# 絩9 ×íθßϑøg¤Χ ×Πöθtƒ y7Ï9≡sŒ .(1 ∪⊇∩ )اﻟﺒﺮوج ـÆlρçã9ø9$# ÏN#sŒ Ï!$uΚ¡¡9$#uρ พยัญชนะ دในอายะฮฺ .(117 ∪∠⊇⊇∩ " )اﻟﻤﺆﻣﻨﻮن ـ... …çµs9 z≈yδöç/ Ÿω tyz#u $·γ≈s9Î) «!$# yìtΒ äíô‰tƒ tΒuρ" ـ: د .(4 )اﻟﺒﺮوج ـÏŠρ߉÷{W{$# Ü=≈ptõ¾r& Ÿ≅ÏFè% ـ และตอไปใหนักเรียนฟงการอาน อายะฮฺ ในซูเราะฮฺ “ ”ﻕตั้งแตอายะฮฺที่ 6-8 จากนั้นใหนกั เรียน สังเกตใหไดวา คําใดเปนตัวอยางของการอาน “กอลกอเลาะฮฺ” ( )ﺍﻟﻘﻠﻘﻠﺔแลวใหลองอานออกเสียงใหถูกตอง ตามหลักการอาน
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
106
uÚö‘F{$#uρ ∩∉∪ 8lρãèù ÏΒ $oλm; $tΒuρ $yγ≈¨Ψ−ƒy—uρ $yγ≈oΨø‹t⊥t/ y#ø‹x. ôΜßγs%öθsù Ï!$yϑ¡¡9$# ’n<Î) (#ÿρãÝàΖtƒ óΟn=sùr& 7‰ö6tã Èe≅ä3Ï9 3“tø.ÏŒuρ ZοuÅÇö7s? ∩∠∪ 8kŠÎγt/ £l÷ρy— Èe≅ä. ÏΒ $pκÏù $uΖ÷Fu;/Ρr&uρ zÅ›≡uρu‘ $pκÏù $uΖøŠs)ø9r&uρ $yγ≈tΡ÷Šy‰tΒ
(8 -6 " ∪∇∩ ) ﺳﻮﺭﺓ "ﻕ5=ŠÏΨ•Β ตัวอยางการเฉลย “ ”ในคําวา “ ”ﹸﻓﺮُﻭเปนพยัญชนะหนึ่งของ กอลกอเลาะฮฺ ()ﺍﻟﻘﻠﻘﻠﺔ 2.หลักการอาน “ ”مและ “ ”نที่มีตัชดีด( )ﺍ ﱠﺪ َﺩ หลักการอาน วายิบตองอานแบบฆุนนะฮฺ ( )ﺍﻟﻐﻨﺔดังที่ไดแนะนํามาแลว โดยใหอานเสียงฆุนนะฮฺ แบบสองฮัรกะฮฺ ()ﺣﺮﻛﺘﺎﻥ1 ตัวอยาง “ ”نมุชัดดะดะฮฺ( )ﺍ ﱠﺪ َﺩ .(31 ∪⊇⊂∩ )اﻟﻨﺒﺄ ـ#·—$xtΒ tÉ)−Fßϑù=Ï9 ¨βÎ) Ĩ$¨Ψsƒø:$# Ĩ#uθó™uθø9$# Ìhx© ÏΒ ∩⊂∪ Ĩ$¨Ψ9$# ϵ≈s9Î) ∩⊄∪ Ĩ$¨Ψ9$# Å7Î=tΒ ∩⊇∪ Ĩ$¨Ψ9$# Éb>tÎ/ èŒθããr& ö≅è% .()اﻟﻨﺎس
∩∉∪ Ĩ$¨Ψ9$#uρ Ïπ¨ΨÉfø9$# zÏΒ ∩∈∪ ÄZ$¨Ψ9$# Í‘ρ߉߹ †Îû â¨Èθó™uθム“Ï%©!$# ∩⊆∪
ตัวอยาง “ ”مอัลมุชัดดะดะฮฺ ()اﻟﻤُﺸﺪﱠدة .(34 ∪⊆⊂∩ )اﻟﻨﺎزﻋﺎت ـ3“uö9ä3ø9$# èπ¨Β!$©Ü9$# ÏNu!%y` #sŒÎ*sù .(14 ∪⊆⊇∩ )اﻟﻤﺆﻣﻨﻮن ـtÉ)Î=≈sƒø:$# ß|¡ômr& ª!$# x8u‘$t7tFsù 4 tyz#u $¸)ù=yz çµ≈tΡù't±Σr& ¢ΟèO .(7،5 ∪∠∩ )اﻟﻠﻴﻞ ـ3“uô£ãù=Ï9 …çνçÅc£uãΨ|¡sù ∩∉∪ 4o_ó¡çtø:$$Î/ s−£‰|¹uρ ∩∈∪ 4’s+¨?$#uρ 4‘sÜôãr& ôtΒ $¨Βr'sù
1
คําวา “สองฮะรอกะฮฺ” ผูเชี่ยวชาญดานวิชาตัจวิด ใหทัศนะไววา เปนการอานใหเสียงยาว เหมือนอานฮูรุฟมัดชวงระยะเวลากระดิกนิ้วสองครั้ง
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
107
3. หลักการอาน “ ” ซากินะฮฺ มีม“”مซากะนะฮฺมีหลักการอานอยู 2 หลักการ อิซฮารฺ ( )ﺍﻹﻇﻬﺎﺭซึ่งเปนหลักการอานดั้งเดิม มีมซากินะฮฺจะตองอานอิซฮารฺ ( )ﺍﻹﻇﻬﺎﺭกอนทีจ่ ะ มารวมกับฟุซฮะอฺ นอกเหนือจากมีม 1. อิซฮารฺ ( )ﺍﻹﻇﻬﺎﺭหมายถึงการอานออกเสียงโดยออกเสียงของพยัญชนะออกมาอยางชัดเจน โดย ไมมีการเปลี่ยนแปลงเสียง ตัวอยางเชน (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(39 ⊂∩ )اﻟﺮﻋﺪ ـ∪ É=≈tGÅ6ø9$# ‘Πé& ÿ…çνy‰ΨÏãuρ ( àMÎ6÷Vãƒuρ â!$t±o„ $tΒ ª!$# (#θßsôϑtƒ .(3 ـ
∪⊂∩ )ﺍﻹﺧﻼô‰s9θムöΝs9uρ ô$Î#tƒ öΝs9
.(6 ∪∉∩ )اﻟﺒﻘﺮة ـtβθãΖÏΒ÷σムŸω öΝèδö‘É‹Ζè? öΝs9 ÷Πr& öΝßγs?ö‘x‹Ρr&u óΟÎγøŠn=tæ í!#uθy™ (#ρãxx. šÏ%©!$# ¨βÎ) ขอควรจํา พยัญชนะ “ ”ﻭ“ ”ﻡเปนพยัญชนะที่มีแหลงกําเนิดเสียงมาจากริมฝปากทั้งสอง สวน “ ”ﻑมี แหลงกําเนิดจาก ริมฝปากบนกับฟนลางหนา เมื่อมีมซากินะฮฺอยูหนา “วาว” ( )ﻭหรือ “ฟะอฺ” ( )ﻑงายตอ การที่จะอานออกเสียงรวมเขากับตัวหนึ่งตัวใดจากทั้งสองพยัญชนะ ดวยเหตุนี้เอง ผูอ านจะตองตั้งใจในการ อานออกเสียงใหชัดเจนแบบ “อิซฮารฺ” ( )ﺍﻹﻇﻬﺎﺭมีซากีนะฮฺ อยางชัดเจน กอนพยัญชนะทั้งสอง “”ﻭ ﻑ ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(47 )اﻟﻜﻬﻒ ـ
∩⊆∠∪ #Y‰tnr& öΝåκ÷]ÏΒ ö‘ÏŠ$tóçΡ öΝn=sù öΝßγ≈tΡ÷|³ymuρ Zοy—Í‘$t/ uÚö‘F{$# “ts?uρ tΑ$t6Ågø:$# çÉi|¡èΣ tΠöθtƒuρ
#Y‰àÒtã t,Íj#ÅÒßϑø9$# x‹Ï‚−GãΒ àMΖä. $tΒuρ öΝÍκŦàΡr& t,ù=yz Ÿωuρ ÇÚö‘F{$#uρ ÏN≡uθ≈yϑ¡¡9$# t,ù=yz öΝåκ–E‰uηô©r& !$¨Β * .(51 )ﺍﻟﻜﻬﻒ ـ
∩∈⊇∪
2. อัลอิดฆอม ( )ﺍﻹﺩﻏﺎﻡเมื่อมีมซากินะฮฺนาํ หนา “มีม” ( )ﻡตัวอืน่ เวลาอานก็จะอานเปนเสียงมีมตัว เดียว ฟงดูแลวเหมือนมีชัดดะฮฺ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
108
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) ∩⊇⊂⊆∪ tβθè=uΚ÷ètƒ (#θçΡ%x. $£ϑtã tβθè=t↔ó¡è? Ÿωuρ ( öΝçFö;|¡x. $¨Β Νä3s9uρ ôMt6|¡x. $tΒ $yγs9 ( ôMn=yz ô‰s% ×π¨Βé& y7ù=Ï? .(134 )اﻟﺒﻘﺮة ـ .(89 )ﻳﻮﺳﻒ ـ
∩∇∪ šχθè=Îγ≈y_ óΟçFΡr& øŒÎ) ϵ‹Åzr&uρ y#ß™θã‹Î/ Λäù=yèsù $¨Β ΛäôϑÎ=tæ ö≅yδ tΑ$s%
คัมภีร“อัลกุรอาน”ที่ตีพิมพในประเทศอียปิ ต จะพบวาพยัญชนะ “ ”ﻡจะไมมเี ครื่องหมายซูกนู (เครื่องหมายตาย) สวน “ ”ﻡตัวที่สองจะมีเครื่องหมาย “ชัดดะฮฺ” (ّ )ـเชนคําวา “ُ ”ﹸﻗﻠﹸـُﺒﻬُﻢ ﻣﱠﺮﺽแต เมื่อตองอาน “อิสฮารฺ” ( )ﺍﻹﻇﻬﺎﺭก็จะพบวาเครื่องหมายซุกูนปรากฏอยู ในกรณีที่มีมซากินะฮฺอยูหนาพยัญ ชะน “ ”ﺏจะไมมีเครื่องหมายซูกูนปรากฏอยู พยัญชนะที่ตามมาก็จะไมมีเครื่องหมายชัดดะฮฺดว ยเชนกัน แบบฝกหัด ใหนกั เรียนฟงเสียงจากอายะฮฺในซูเราะฮฺ อัซซุมัร อายะฮฺที่ 1 – 7 แลวใหสังเกตมีมซากินะฮฺ และ หลักการอานในทุกที่ที่พบแลวใหนักเรียนฝกอานซ้ําหลาย ๆ ครั้ง ωç7ôã$$sù Èd,ysø9$$Î/ |=≈tFÅ6ø9$# šø‹s9Î) !$uΖø9t“Ρr& !$¯ΡÎ) ∩⊇∪ ÉΟ‹Å3ptø:$# Í“ƒÍ“yèø9$# «!$# zÏΒ É=≈tGÅ3ø9$# ã≅ƒÍ”∴s? $tΒ u!$uŠÏ9÷ρr& ÿϵÏΡρߊ ∅ÏΒ (#ρä‹sƒªB$# šÏ%©!$#uρ 4 ßÈÏ9$sƒø:$# ߃Ïe$!$# ¬! Ÿωr& ∩⊄∪ šÏe$!$# 絩9 $TÁÎ=øƒèΧ ©!$# Ÿω ©!$# ¨βÎ) 3 šχθàÎ=tGøƒs† ϵ‹Ïù öΝèδ $tΒ ’Îû óΟßγoΨ÷t/ ãΝä3øts† ©!$# ¨βÎ) #’s∀ø9ã— «!$# ’n<Î) !$tΡθç/Ìhs)ã‹Ï9 ωÎ) öΝèδ߉ç6÷ètΡ 4 â!$t±o„ $tΒ ß,è=øƒs† $£ϑÏΒ 4’s∀sÜô¹^ω #V$s!uρ x‹Ï‚−Gtƒ βr& ª!$# yŠ#u‘r& öθ©9 ∩⊂∪ Ö‘$¤Ÿ2 Ò>É‹≈x. uθèδ ôtΒ “ωôγtƒ Í‘$pκ¨]9$# ’n?tã Ÿ≅øŠ©9$# â‘Èhθs3ム( Èd,ysø9$$Î/ uÚö‘F{$#uρ ÏN≡uθ≈yϑ¡¡9$# t,n=y{ ∩⊆∪ â‘$£γs)ø9$# ߉Ïm≡uθø9$# ª!$# uθèδ ( …çµoΨ≈ysö7ß™ Ⓝ͓yèø9$# uθèδ Ÿωr& 3 ‘‡Κ|¡•Β 9≅y_L{ “Ìøgs† @≅à2 ( tyϑs)ø9$#uρ }§ôϑ¤±9$# t¤‚y™uρ ( È≅øŠ©9$# †n?tã u‘$yγ¨Ψ9$# â‘Èhθs3ãƒuρ sπuŠÏΖ≈yϑrO ÉΟ≈yè÷ΡF{$# zÏiΒ /ä3s9 tΑt“Ρr&uρ $yγy_÷ρy— $pκ÷]ÏΒ Ÿ≅yèy_ §ΝèO ;οy‰Ïn≡uρ <§ø¯Ρ ÏiΒ /ä3s)n=s{ ∩∈∪ ã≈¤tóø9$# çµs9 öΝä3š/u‘ ª!$# ãΝä3Ï9≡sŒ 4 ;]≈n=rO ;M≈yϑè=àß ’Îû 9,ù=yz ω÷èt/ .ÏiΒ $Z)ù=yz öΝà6ÏG≈yγ¨Βé& ÈβθäÜç/ ’Îû öΝä3à)è=øƒs† 4 8l≡uρø—r&
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
109
ÍνÏŠ$t7ÏèÏ9 4yÌötƒ Ÿωuρ ( öΝä3Ζtã ;Í_xî ©!$# χÎ*sù (#ρãàõ3s? βÎ) ∩∉∪ tβθèùuóÇè? 4’¯Τr'sù ( uθèδ ωÎ) tµ≈s9Î) Iω ( à7ù=ßϑø9$# Νä3ã∞Îm7t⊥ã‹sù öΝà6ãèÅ_ö¨Β /ä3În/u‘ 4’n<Î) §ΝèO 3 3“t÷zé& u‘ø—Íρ ×οu‘Η#uρ â‘Ì“s? Ÿωuρ 3 öΝä3s9 çµ|Êötƒ (#ρãä3ô±n@ βÎ)uρ ( tøä3ø9$# ∩∠∪ Í‘ρ߉Á9$# ÏN#x‹Î/ 7ΟŠÎ=tæ …çµ¯ΡÎ) 4 tβθè=yϑ÷ès? ÷ΛäΖä. $yϑÎ/
4. หลักการอาน “ลาม ซากินะฮฺ” ลามซากินะฮฺ มีหลักการอานอยู 2 หลักการ 1. อิซฮารฺ ( )ﺍﻹﻇﻬﺎﺭคือเสียงดั้งเดิมของ “”ﻝ ก. พยัญชนะลามที่เรียกวา “ ”ﻻﻡ ﺍﻟﺘﻌﺮﻳـﻒหากเปนลามชนิดกอมะรียะฮฺ ( )ﺍﻟﻘﻤﺮﻳـﺔนั่นคือลามที่ นําหนาพยัญชนะ 14 ตัว ในคําวา “ُ ”ﺇﺑ ﺣﺠّﻚ ﻭَﺧﻒ ﻋَﻘﻴ َﻤﻪดังตัวอยางตอไปนี้ . ﺍﳍﻮَﻯ. ﺍﳌﺪّﺛﺮ. ﺍﻟﻴﻮﻡ. ﺍﻟﻘﺎﺩﺭ. ﺍﻟﻌﻠﻢ. ﺍﻟﻔﺼﻞ. ﺍﳋﻠﻖ. ﺍﻟﻮ. ﺍﻟﻜﻮﺛﺮ. ﺍﳉﻨﺔ. ﺍﳊﹸﻜﻢ. ﺍﻟﻐَﻨ ّﻲ. ﺍﻟﺒﻴﺖ. ﺍﻷﺑﺮﺍﺭ ข. พยัญชนะลามที่เรียกวา “ﻻﻡ ﺍﳊـﺮﻑ, ﻻﻡ ﺍﻟﻔﻌﻞ, ”ﻻﻡ ﺍﻹﺳﻢไมวาจะอยูตนคํา (หลังฮัมซะฮฺวะ ซอล) หรืออยูกลางคํา หรือทายคํา (ดูตัวอยางประกอบในตาราง) ทายคํา
กลางคํา
ตนคํา
ประเภทคํา
ﺍﻟﻌﺪﻝ
ﺍﳋﻠﻖ
ﺍﻟﺘﻔﺎﺕ
ﻗﺘﻞ
ﺍﺳﺘﻠ َﻬ َﻢ
ﺖ َ ﺍﻟﺘَﻔ
ﻻ ﺗﻘﹸﻞ
ُﻳﺴﺘﻠﻬﻢ
ُﻳَﻠﺘَﻔﺖ
: ﺎﺭ
ﻌ
ﻗﹸﻞ
ﺍﺳﺘﻠﻬﻢ
ﺍﻟﺘَﻔﺖ
:
ﻌ
ﻫَﻞ ﺑَﻞ
-
-
: ﺍ : ﺎ
:
ขอยกเวนไมอานอิซฮารฺ( )ﺍﻹﻇﻬﺎﺭในสองกรณี ในกรณีที่ “ ”ﻝอยูทายคํา หลังจาก ﻝเปนพยัญชนะ “ﺭ, ”ﻝในกรณีนี้ใหอาน “อิดฆอม” ()ﺇﺩﻏﺎﻡ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
ﻌ
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
110
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ฟงตัวอยางการอานจากเทป ÷ρr& !$yϑèδ߉tnr& uy9Å6ø9$# x8y‰ΨÏã £tóè=ö7tƒ $¨ΒÎ) 4 $·Ζ≈|¡ômÎ) Èøt$Î!≡uθø9$$Î/uρ çν$−ƒÎ) HωÎ) (#ÿρ߉ç7÷ès? ωr& y7•/u‘ 4|Ós%uρ * yy$uΖy_ $yϑßγs9 ôÙÏ÷z$#uρ ∩⊄⊂∪ $VϑƒÌŸ2 Zωöθs% $yϑßγ©9 ≅è%uρ $yϑèδöpκ÷]s? Ÿωuρ 7e∃é& !$yϑçλ°; ≅à)s? Ÿξsù $yϑèδŸξÏ.
.(24 ، 23 ∪⊆⊄∩ )اﻹﺳﺮاء ـ#ZÉó|¹ ’ÎΤ$u‹−/u‘ $yϑx. $yϑßγ÷Ηxqö‘$# Éb>§‘ ≅è%uρ Ïπyϑôm§9$# zÏΒ ÉeΑ—%!$# แตก็มียกเวนอยู 1 คําที่ไมตองอาน อิดฆอม ﻝเขากับ ﺭคือ คําวา “”ﺑَﻞ ﺭﺍﻥในอายะฮฺ " "ﺑَﻞ ﺭَﺍﻥ ﻋﻠﻰ ﹸﻗﻠﹸﻮﺑﻬﻢ ﻣﱠﺎ ﻛﺎﻧﻮﺍ ﻳَﻜﺴﺒُﻮﻥแตใหหยุดอานที่เรียกวา “ซักตะฮฺคอฟฟะฮฺ”( )ﺳﻜﺘﺔ ﺧﻔﻴﻔﺔหยุด อานโดยไมปลอยลม 2. อานอิดฆอม ( )ﺍﻹﺩﻏﺎﻡในสองที่ ก. ในกรณีที่หลังจาก لซากินะฮฺ เปนพยัญชนะ لหรือ رในทันทีดังที่ไดกลาวมาแลว ∩⊇⊆∪ tβθç6Å¡õ3tƒ (#θçΡ%x. $¨Β ΝÍκÍ5θè=è% 4’n?tã tβ#u‘ 2ö≅t/ ( ξx.
ข.ในกรณีทเี่ ปนลามชัมชียะฮฺ ()ﺍﻻﻡ ﺍﻟﺸﻤﺴﻴﺔในคําวา “ ”اﻟـคือ لที่อยูกอ นหนาพยัญชนะ .ﻥ.ﻝ.
.ﻁ.ﺽ.
.ﺵ.ﺱ.ﺯ.ﺭ.ﺫ.ﺩ.ﺙ.ﺕ
ตัวอยางเชน คําวา . ﺍﻟﻀّﺎﻟﲔ. ﺍﻟﺼّﻼﺓ. ﺍﻟﺸّﻤ. ﺍﻟﺴّﻤﺎﺀ. ﺍﻟﺮّﺯﺍﻕ. ﺍﻟﺬﹼﺍﻛﺮﺍﺕ. ﺍﻟﺪﻳﻦ. ﺍﻟﺜﻮﺍﺏ. ﺍﻟﺘﺎﺋﺒﻮﻥ .(1) ﺍﻟﻨّﻬﺎﺭ. ﺍﻟﻠﹼﻬﻮ. ﺍﻟﻈﹼﺎﳌﻮﻥ. ﺍﻟﻄﹼﻴﺒﻮﻥ แบบฝกหัด (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) 1.ใหนกั เรียนฟง(เสียงจากเทปบันทึกเสียง) ซูเราะฮฺ อัลฮุยุรอตอายะฮฺที่11-15 แลวบอกตําแหนง ลาม ซากินะฮฺและหลักการอานใหถูกตอง
(1) วิธีอานจะตองอาน อิดฆอม لเขากับพยัญชนะทั้ง 14 ตัว เพราะมีแหลงกําเนิดเสียงใกลเคียงกัน
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
111
>!$|¡ÎpΣ ÏiΒ Ö!$|¡ÎΣ Ÿωuρ öΝåκ÷]ÏiΒ #Zöyz (#θçΡθä3tƒ βr& #|¤tã BΘöθs% ÏiΒ ×Πöθs% öy‚ó¡o„ Ÿω (#θãΖtΒ#u tÏ%©!$# $pκš‰r'¯≈tƒ y‰÷èt/ ä−θÝ¡àø9$# ãΛôœeω$# }§ø♥Î/ ( É=≈s)ø9F{$$Î/ (#ρâ“t/$uΖs? Ÿωuρ ö/ä3|¡àΡr& (#ÿρâ“Ïϑù=s? Ÿωuρ ( £åκ÷]ÏiΒ #Zöyz £ä3tƒ βr& #|¤tã Çd©à9$# zÏiΒ #ZÏWx. (#θç7Ï⊥tGô_$# (#θãΖtΒ#u tÏ%©!$# $pκš‰r'¯≈tƒ ∩⊇⊇∪ tβθçΗÍ>≈©à9$# ãΝèδ y7Íׯ≈s9'ρé'sù ó=çGtƒ öΝ©9 tΒuρ 4 Ç≈yϑƒM}$# Ÿ≅à2ù'tƒ βr& óΟà2߉tnr& =Ïtä†r& 4 $³Ò÷èt/ Νä3àÒ÷è−/ =tGøótƒ Ÿωuρ (#θÝ¡¡¡pgrB Ÿωuρ ( ÒΟøOÎ) Çd©à9$# uÙ÷èt/ χÎ) ÏiΒ /ä3≈oΨø)n=yz $¯ΡÎ) â¨$¨Ζ9$# $pκš‰r'¯≈tƒ ∩⊇⊄∪ ×ΛÏm§‘ Ò>#§θs? ©!$# ¨βÎ) 4 ©!$# (#θà)¨?$#uρ 4 çνθßϑçF÷δÌs3sù $\GøŠtΒ ÏµŠÅzr& zΝóss9 îΛÎ=tã ©!$# ¨βÎ) 4 öΝä39s)ø?r& «!$# y‰ΨÏã ö/ä3tΒtò2r& ¨βÎ) 4 (#þθèùu‘$yètGÏ9 Ÿ≅Í←!$t7s%uρ $\/θãèä© öΝä3≈oΨù=yèy_uρ 4s\Ρé&uρ 9x.sŒ ß≈yϑƒM}$# È≅äzô‰tƒ $£ϑs9uρ $oΨôϑn=ó™r& (#þθä9θè% Å3≈s9uρ (#θãΖÏΒ÷σè? öΝ©9 ≅è% ( $¨ΨtΒ#u Ü>#{ôãF{$# ÏMs9$s% * ∩⊇⊂∪ ×Î7yz $yϑ¯ΡÎ) ∩⊇⊆∪ îΛÏm§‘ Ö‘θàxî ©!$# ¨βÎ) 4 $º↔ø‹x© öΝä3Î=≈yϑôãr& ôÏiΒ Νä3÷GÎ=tƒ Ÿω …ã&s!θß™u‘uρ ©!$# (#θãè‹ÏÜè? βÎ)uρ ( öΝä3Î/θè=è% ’Îû ’Îû óΟÎγÅ¡àΡr&uρ öΝÎγÏ9≡uθøΒr'Î/ (#ρ߉yγ≈y_uρ (#θç/$s?ötƒ öΝs9 §ΝèO Ï&Î!θß™u‘uρ «!$$Î/ (#θãΖtΒ#u tÏ%©!$# šχθãΨÏΒ÷σßϑø9$#
(15-11) ∪∈⊇∩ ﺳﻮرة اﻟﺤﺠﺮاتšχθè%ω≈¢Á9$# ãΝèδ y7Íׯ≈s9'ρé& 4 «!$# È≅‹Î6y™ 2. ใหนักเรียนฟง(เสียงจากเทปบันทึกเสียง) อายะฮฺที่ 7-15 ซูเราะฮฺ อัลฮะดีด แลวบอกตําแหนง ลาม ซากินะฮฺและหลักการอานดังตอไปนี้ใหถูกตอง .ـ ﺍﻟﻘﻠﻘﻠﺔ .ـ ﺃﺣﻜﺎﻡ ﺍﻟﻨﻮﻥ ﻭﺍﳌﻴﻢ ﺍﳌﺸﺪﺩﺗﲔ .ـ ﺃﺣﻜﺎﻡ ﺍﳌﻴﻢ ﺍﻟﺴﺎﻛﻨﺔ .ـ ﺃﺣﻜﺎﻡ ﺍﻟﻼﻡ ﺍﻟﺴﺎﻛﻨﺔ 5. หลักการอาน “นูนซากินะฮฺ” (ﺍﻟ ﺎ ﻨﺔ
)ﺍﻟﻨ
สระคูหรือตันวีน ( )ﺗﻨﻮﻳﻦก็คือ นูนซากินะฮฺที่อยูทายคํานามขณะอานออกเสียงเทานั้น แตไมมี ปรากฏใหเห็น แตเมื่ออานวกัฟ ก็จะไมมีปรากฏเสียงตันวีน ดวยเหตุนี้เอง หลักการอานตันวีนจึงเปน หลักการเดียวกับหลักการอาน “ ”ﻥซากินะฮฺ ตันวีนจะใชสัญลักษณ สระคูในภาษาอาหรับ คือ “ ـ ــ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
112
”ــในกรณีที่ตองอาน นซัฟ ( )ﺍﻟﻨﺼﺐจะมีอลิฟ เพิ่มมาในตอนทาย และเมื่อตองอานวกัฟ ( )ﺍﻟﻮﻗﻒก็จะ เปลี่ยนเปน “อลิฟมัด” ( )ﺍﻟﻒ ﻣﺪตัวอยางเชน .(ﻼ( ﻛﺒﲑﺍ )ﻭَﻗﻔﹰﺎ ﻛﺒﲑﹰﺍ )ﻭَﺻ ﹰ. ﻋﻠﻴﻢ. ﻏﻔﻮﺭ หลักการอาน นูนซากินะฮฺและตันวีน มีอยูท ั้งหมด 4 หลักการ คือ อิซฮารฺ ( )ﺍﻇﻬﺎﺭอิกลาบ ()ﺍﻗﻼﺏ อิดฆอม ( )ﺍﺩﻏﺎﻡและอิคฟะอฺ ()ﺍﺧﻔﺎﺀ 1. อิซฮารฺ ( )ﺍﻇﻬﺎﺭคือหลักการอานดั้งเดิมของการอาน นั่นก็หมายความวา จะตองอานเสียงนูนซากิ นะฮฺและตันวีนออกมาอยางชัด ๆ ตามลักษณะของการอานออกเสียงเฉพาะตัวของมัน โดยใหมีเสียงออกมา จากแหลงกําเนิดเสียงเดิมทั้งหมด นั่นคือใหปลายลิ้นแตะเหงือกในสวนของโคนฟนบน การอานนูนซากินะฮฺ หรือตันวีนจะตองอานแบบอิซฮารฺ เมื่อนูนซากินะฮฺหรือตันวีนนําหนาพยัญชนะ . . ﺡ. ﻉ. ﻫـ. ﺀ ไมวาจะอยูในคําเดียวกันหรืออยูในคําอื่น (เพราะตันวีนจะตองอยูทายคําเสมอ) ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) กรณีที่อยูในคําเดียวกัน เชน .(26 ﺃ ( )ﺍﻷﻧﻌﺎﻡ ـ+ ﻫـ ﻥ+ ـ " َﻭﻫُﻢ ﻳَﻨﻬَﻮﻥ ﻋَﻨﻪُ َﻭﻳَﻨﺄﻭﻥ ﻋَﻨﻪُ" ) ﻥ .(7 ﻉ ( )ﺍﻟﻔﺎﲢﺔ ـ+ ﺖ ﻋَﻠﻴﻬﻢ" )ﻥ َ ـ "ﺻﺮَﺍﻁ ﺍﱠﻟﺬﻳ َﻦ ﺃﻧﻌَﻤ .(149 ﺡ ( )ﺍﻟﺸﻌﺮﺍﺀ ـ+ ـ " َﻭﺗَﻨﺤﺘُﻮﻥ ﻣﻦ ﺍﳉﺒَﺎﻝ ﺑُﻴُﻮﺗﹰﺎ ﻓﺎﺭﻫﲔ" ) ﻥ .(51 ﻉ ( )ﺍﻹﺳﺮﺍﺀ ـ+ ﻚ ﺭُﺀﻭﺳَﻬﺜﻢ" ) ﻥ َ ﺴﻴُﻨﻐﻀُﻮﻥ ﺇﻟﻴ َ ـ "ﻓ .(3 ( )ﺍﳌﺎﺋﺪﺓ ـ
+ ـ "ﻭﺍﳌﹸﻨ َﻨﻘﺔﹸ ﻭﺍﻟﻤَﻮﻗﹸﻮﺫ ﹸﺓ" ) ﻥ
กรณีที่อยูตางคํากัน เชน .(62 ﺃ( )ﺍﻟﺒﻘﺮﺓ ـ+ ـ "ﻣﻦ ﺁ َﻣ َﻦ ﺑﺎﷲ ﻭﺍﻟﻴَﻮﻡ ﺍ ﺧﺮ ﻭﻋَﻤﻞ ﺻﺎﻟﺤﹰﺎ ﻓﻠﻬُﻢ ﺃﺟ َﺮﻫُﻢ ﻋﻨ َﺪ ﺭَﺑﻬﻢ" ) ﻥ .(33 ﻫـ ( )ﺍﻟﺮﻋﺪ ـ+ ـ " َﻭﻣَﻦ ﻳُﻀﻠﻞ ﺍﷲ ﻓﻤَﺎ ﻟﻪُ ﻣﻦ ﻫَﺎﺩ" )ﻥ .(14 ﻉ ( )ﺍﻷﻧﻌﺎﻡ ـ+ ـ "ﻫَﻞ ﻋﻨ َﺪﻛﹸﻢ ﻣﻦ ﻋﻠﻢ ﻓﺘُ ﺮﺟُﻮ ُﻩ ﻟﻨَﺎ" ) ﻥ .(79 ﺡ ( )ﺍﻟﻨﺴﺎﺀ ـ+ ﻚ ﻣﻦ َﺣﺴَﻨﺔ ﻓﻤ َﻦ ﺍﷲ" ) ﻥ َ ـ " َﻣ ﺃﺻَﺎَﺑ .(43 ( )ﺍﻷﻋﺮﺍﻑ ـ
+ ﺻﺪُﻭﺭﻫﻢ ﻣﻦ ﻏ ﹼﻞ" ) ﻥ ُ ـ " َﻭَﻧﺰَﻋﻨﺎ ﻣَﺎ ﰲ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
.(24 ـ
113
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
( )ﺍﻟﻘﺼ
+ ﺖ ﺇﻟ ﱠﻲ ﻣﻦ ﺧَﻴﺮ ﻓﻘﲑ" ) ﻥ َ ـ "ﺭَﺏ ﺇﻧﻲ ﻟ َﻤ ﺃﻧﺰَﻟ
หากสังเกตในคัมภีรอัลกุรอาน ก็จะพบวาจะมีเครื่องหมาย ـَـอยูเหนือนูน ที่ตองอานอิซฮารฺ แสดงไว ตัวอยางการอานตันวีน (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(5 ﺇ ( )ﺍﻟﻐﺎﺷﻴﺔ ـ+ ـ "ﺗُﺴﻘﻰ ﻣﻦ ﻋﲔ ﺁﻧﻴﺔ" ) ﺗﻨﻮﻳﻦ ﺑﺎﻟﻜﺴﺮ .(30 ﻫـ ﺡ ( )ﺍﻷﻋﺮﺍﻑ ـ+ ـ "ﻓﺮﻳﻘﹰﺎ ﻫﺪﻯ ﻭﻓﺮﻳﻘﹰﺎ ﺣﻖ ﻋﻠﻴﻬﻢ ﺍﻟﻀﻼﻟﺔ" ) ﺗﻨﻮﻳﻦ ﺑﺎﻟﻔﺘﺢ .(10 ﻉ ( )ﺍﻟﻐﺎﺷﻴﺔ ـ+ ـ "ﰲ َﺟﻨﱠﺔ ﻋَﺎﻟﻴَﺔ" ) ﺗﻨﻮﻳﻦ ﺑﺎﻟﻜﺴﺮ .(28 ( )ﻓﺎﻃﺮ ـ .(2 ( )ﺍﻟﻐﺎﺷﻴﺔ ـ
+ ـ "ﺇﻥ ﺍﷲ ﻋَﺰﻳﺰُ ﻏﻔﹸﻮﺭ" ) ﺗﻨﻮﻳﻦ ﺑﺎﻟﻀﻢ + ـ " ُﻭﺟُﻮ ُﻩ ﻳَﻮﻣَﺌﺬ ﺧَﺎﺷ َﻌﺔﹸ" ) ﺗﻨﻮﻳﻦ ﺑﺎﻟﻜﺴﺮ
ในคัมภีรอัลกุรอาน จะมีเครื่องหมาย (ٌ )ـًـ ـٍـ ــแสดงไวอยางชัดเจนในกรณีที่จะตองอานอิซฮารฺ 2. อิกลาบ ( )ﺍﻹﻗﻼﺏนั่นคือการเปลี่ยนเสียงนูนซากินะฮฺหรือตันวีนใหเปนเสียง “มีม” ( )ﻡกอนจาก พยัญชนะ ( ﺏหลังจากนูนซากินะฮฺหรือตันวีนมีพยัญชนะ ﺏตามมา) จะมีเสียงมีม ปรากฏออกมาเฉพาะ เวลาอานออกเสียงเทานั้น ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(4ـ "ﻭﻣﺎ ﺗﻔﺮﻕ ﺍﻟﺬﻳﻦ ﺃﹸﻭﺗﻮﺍ ﺍﻟﻜﺘﺎﺏ ﺇﻻ ﻣﻦ ﺑَﻌﺪ ﻣﺎ ﺟﺎﺀ ﻢ ﺍﻟﺒﻴﻨﺔ" )ﺍﻟﻨﻮﻥ( )ﺍﻟﺒﻴﻨﺔ ـ .(90 ﻚ َﺣﺘﱠﻰ ﺗَﻔﺠُﺮ ﻟﻨَﺎ ﻣ َﻦ ﺍﻷﺭﺽ ﻳَﻨﺒُﻮﻋﹰﺎ" )ﺍﻟﻨﻮﻥ( )ﺍﻹﺳﺮﺍﺀ ـ َ ـ "ﻭﻗﺎﻟﻮﺍ ﻟﻦ ﻧُﺆﻣ َﻦ ﻟ .(30 ـ "ﺇﻧﱠ ُﻪ ﻛﺎﻥ ﺑﻌﺒَﺎﺩﻩ ﺧَﺒﲑﺍ ﺑﺼﲑﹰﺍ" )ﺍﻟﺘﻨﻮﻳﻦ( )ﺍﻹﺳﺮﺍﺀ ـ .(41 ﻒ ﺇﺫﺍ ﺟﺌﻨﺎ ﻣﻦ ﹸﻛﻞﱢ ﺃﹸﻣﱠﺔ ﺑﺸﻬﻴﺪ" )ﺍﻟﻨﺴﺎﺀ ـ َ ـ "ﻓﻜﻴ ในคัมภีรอัลกุรอาน จะมีเครื่องหมายเปนตัว “”مเล็ก ๆ แสดงไวเหนือนูนซากินะฮฺ หรือเครื่องหมาย م
( ) ُـ ـหรือเครื่องหมาย ( ــ، ــ، ) ــซึ่งแสดงวาจะตองอานอิกลาบ 3. อิดฆอม ( )ﺍ ﺩ ﺎคือการเปลี่ยนเสียงจากเสียงของนูนซากินะฮฺและตันวีนไปเปนเสียงพยัญชนะ ที่ตามมา จึงฟงดูแลวคลายกับวาพยัญชนะตัวนั้นมีชัดดะฮฺ (ّ )ــอิดฆอมมี 2 ประเภท คือ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
114
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ก. อิดฆอมบิลาฆุนนะฮฺ ( )ﺇﺩﻏﺎﻡ ﺑﻼ ﻏﻨﺔในกรณีที่หลังจากนูนซากินะฮฺหรือตันวีนเปนพยัญชนะ ﻝ หรือ ﺭ ตัวอยางเชน (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) . (25 ﺭ( )ﺍﳌﻄﻔﻔﲔ ـ+ ـ "ﻳُﺴﻘﻮﻥ ﻣﻦ ﺭﱠﺣﻴﻖ ﱠﻣ ﺘُﻮﻡ" )ﻥ .(70 ﻝ( )ﺍﻟﺒﻠﺪ ـ+ ﺴﺐُ ﺃﻥ ﻟﱠﻢ َﻳ َﺮﻩُ ﺃﺣَﺪ " )ﻥ َ ـ "ﺃﻳَﺤ .(6 ﻝ( )ﺍﻟﺸﻤ ـ+ ﺖ ﻣَﺎ ﹰﻻ ﻟﺒَﺪﹰﺍ" )ﺗﻨﻮﻳﻦ ُ ـ "َﻳﻘﹸﻮ ﹸﻝ ﺃﻫﻠﻜ .(14 ﺭ( )ﺍﳊﺠﺮﺍﺕ ـ+ ـ "ﺇﻥ ﺍﷲ ﻏﻔﻮﺭ ﺭﺣﻴﻢ" )ﺗﻨﻮﻳﻦ ข. อิดฆอม บิฆุนนะฮฺ ( )ﺍﺩﻏﺎﻡ ﺑﻐﻨـﺔเมื่อนูนซากินะฮฺหรือตันวีนนําหนาพยัญชนะ . و. م. ن. ي ตัวอยางนูนซากินะฮฺ (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(7 ﻱ( )ﺍﻟﺰﻟﺰﻟﺔ ـ+ ـ "ﻓﻤَﻦ ﻳَﻌﻤَﻞ ﻣﺜﻘﺎﻝ ﺫﺭﱠﺓ ﺧَﲑﹰﺍ َﻳ َﺮﻩُ" )ﻥ .(53 ﻥ( )ﺍﻟﻨﺤﻞ ـ+ ـ " َﻭ َﻣﺎﺑﻜﹸﻢ ﻣﻦ ﻧّﻌﻤَﺔ ﻓﻤ َﻦ ﺍﷲ" )ﻥ .(20 ﻡ( )ﺍﳌﺮﺳﻼﺕ ـ+ ـ "ﺃﻟﻢ َﻧ ﻠﹸﻘﻜﻢ ﻣﻦ ﻣﱠﺎﺀ ﻣﱠﻬﲔ" )ﻥ .(11 ﻭ( )ﺍﻟﺮﻋﺪ ـ+ ـ " َﻭﻣَﺎ ﻟﻬُﻢ ﻣﻦ ﺩُﻭﻧﻪ ﻣﻦ ﻭَﺍﻝ" )ﻥ ตัวอยางตันวีน (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(8 ﻱ( ) ﺍﻟﺰﻟﺰﻟﺔ ـ+ ـ " َﻭﻣَﻦ ﻳَﻌﻤَﻞ ﻣﺜﻘﺎﻝ ﺫ ﱠﺭﺓ َﺷ ﱠﺮﹰﺍ َﻳﺮَﻩ" )ﺗﻨﻮﻳﻦ .(8 ﻥ( )ﺍﻟﻐﺎﺷﻴﺔ ـ+ ـ " ُﻭﺟُﻮﻩ ﻳَﻮﻣَﺌﺬ ﻧﱠﺎﻋﻤَﺔ" )ﺗﻨﻮﻳﻦ .(13 ﻡ( )ﺍﻟﻐﺎﺷﻴﺔ ـ+ ـ "ﻓﻴﻬَﺎ ُﺳ ُﺮ ُﺭ ﻣﱠﺮﻓﻮُ َﻋﺔﹸ" )ﺗﻨﻮﻳﻦ .( 255 : 2) ( ﻭ+ ) ﺗﻨﻮﻳﻦ. " ـ " ﱠﻻ ﺗَﺄ ُﺧ ﹸﺬ ُﻩ ﺳَﻨﺔﹸ ﻭَﻻ ﻧَﻮﻡ ขอควรจํา ในกรณีที่ ﻡ, ﻥ, ﺭ, ﻝการอานจะอานอิดฆอมแบบสมบูรณ หากสังเกตจะพบวาในคัมภีรอัลกุ รอาน “นูน” จะไมมีเครื่องหมายซุกูน พรอมกับมีการทําเครื่องหมาย ّ ـไวกับพยัญชนะที่ตามมา
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
115
ในกรณีที่เป นพยั ญชนะ و, يอยูหลัง การอานจะอานอิดฆอมแบบไมสมบูรณ พยัญชนะที่ ตามมาจะไมมีเครื่องหมายตัชดีด (ّ )ــอยูกับพยัญชนะตัวนั้น ๆ (ในคัมภีรอัลกุรอาน) ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียงเพื่อเปรียบเทียบระหวางอิดฆอมสมบูรณกับไมสมบูรณ) . ( 17 : 18 ) . (59 : 6 ) . ( 7 : 69 )
ﻧﺎﻗ. " ـ " ﻣﻦ ﻳَﻬﺪ ﺍﷲ ﻓﻬُ َﻮ ﺍﳌﹸﻬﺘَﺪ
ﻧﺎﻗ." ـ " ﻭﻣﺎ ﺗَﺴﻘﹸ ﹸ ﻣﻦ َﻭﺭَﻗﺔ ﺇ ﱠﻻ ﻳَﻌﻠ ُﻤﻬَﺎ
ﻧﺎﻗ. " ـ " َﺳ ﱠ َﺮﻫَﺎ ﻋَﻠﻴﻬﻢ ﺳَﺒ َﻊ ﻟﻴَﺎﻝ ﻭَﺛﻤَﺎﻧﻴَﺔ ﺃﻳﱠﺎﻡ . ( 33 : 79 ) ﻛﺎﻣﻞ. " ـ " َﻣﺘَﺎﻋﹰﺎ ﱠﻟﻜﹸﻢ َﻭ َﻷَﻧﻌَﺎﻣﻜﹸﻢ . ( 39 : 80) ﻛﺎﻣﻞ. " ـ " ﺿﺎﺣﻜ ﹸﺔ ﻣﺴﺘﺒﺸﺮﺓ
. ( 25 : 81 ) ﻛﺎﻣﻞ. " ـ " َﻭﻣَﺎ ﻫُ َﻮ ﺑﻘﻮﻝ ﺷَﻴﻄﺎﻥ ﺭﱠﺟﻴﻢ . ( 68 : 36 ) ﻛﺎﻣﻞ. " ـ " َﻭﻣَﻦ ﻧﻌﻤﺮ ُﻩ ﻧُﻨَﻜﺴﻪُ ﰲ ﺍﻟ َﻠﻖ . ( 65 : 18 ) (1) ﻛﺎﻣﻞ. " ـ " َﻭ َﻋﻠﱠﻤﻨَﺎﻩُ ﻣﻦ ﻟﺪﻧﱠﺎ ﻋﻠﻤﺎ 4.อิคฺฟะอฺ ( )ﺍﻹﺧﻔﺎﺀคือการอานออกเสียงนูนซากินะฮฺและตันวีน ซึ่งเสียงจะออกมาระหวางเสียง อิดฆอมกับเสียงอิซฮารฺ (ﲔ ﺍﻹﺩﻏﺎﻡ ﻭﺍﻹﻇﻬﺎﺭ َ )َﺑลิ้นจะเคลื่อนไหวอยูระหวางชองปากโดยไมไปแตะเหงือก เหมือนอิซฮารฺ การอานของอิคฟะอฺ จะมีเสียงฆุนนะฮฺ ( )ﺍﻟﻐﻨـﺔพรอมอยูดวย พยัญชนะที่จะตองอานอิคฟะอฺ มีทั้งหมด 15 พยัญชนะ คือ ﺱ. ﻕ. ﺵ. . ﻙ. ﺙ. ﺫ. และ . ﺽ. ﺕ. ﻑ. ﺯ. ﻁ.ﺩ ตัวอยาง นูน (ในคําเดียวกัน) . ﺃ ﻴﻨَﺎﻛﹸﻢ. ﻳﻨ ﹸﻜﺜﹸﻮﻥ. ﻣَﻨﺜﹸﻮﺭ. ﺃﺃﻧﺬﺭَﺗﻬُﻢ. ﻓﺎُﻧﺼُﺮﻧﺎ. ﻓﺎﻧﻄﻠﻘﻮﺍ. ﺃﻧﺪﺍﺩﹰﺍ. ﻓﻼ ﺗَﻨﺴَﻰ. َ ﺃﻧﻘ. ﺃﻧﺸَﺄ. ﺍﻧﻈﺮﻭﺍ. ﻣَﻨﻀُﻮﺩ. ﺖ َ ﺃﺃﻧ. ﺴﻜﹸﻢ َ ﺃﻧ ﹸﻔ. ُﻳ ﻓﹸﻮﻥ-
(1) ยกเวนการอานอิดฆอม نเขากับ رในอัลกุรอานมีเพียงที่เดียวในอัลกุรอาน คือ ق ٍ ﻦ را ْ ﻣในซูเราะฮฺ อัลกียามะฮฺ แตใหอานซักตะฮฺแทน หลักการอาน نกับ وก็เชนกัน มียกเวนอยู 2 ที่ คือ " واﻟﻘﻠﻢ وﻣﺎ ﻳﺴﻄﺮون. واﻟﻘﺮﺁن اﻟﺤﻜﻴﻢ " و " ن. ﻳﺲอนุญาตใหอานอิดฆอมกับ و หรือ อิซฮารฺ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
116
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ตัวอยาง นูน (ในสองคําแยกกัน) ﻣﻦ. ﺃﻥ َﺳَﻴﻜﹸﻮ ﹸﻥ. ﻭَﻟﺌﻦ ﻗﹸﻮﺗﻠﹸﻮﺍ. ﻣﻦ ﺷَﻲﺀ. ﻣﻦ َﺟﻨﱠﺎﺕ. ﻣﻦ ﻛﺄﺱ. ﻣﻦ ﺛ َﻤﺮَﺓ. ﻣﻦ ﺫﻛﺮ. ﻣﻦ ﺻﻴَﺎﻡ . ﻣﻦ ﻇﻬﲑ. ﺇﻥ ﺿَﻠﻠﺘُﻢ. ﻭَﺇﻥ ﺗُﺒﺘُﻢ. َﻭﻣَﻦ ﰲ ﺍﻷَﺭﺽ. ﻓ ﻥ ﺯَﻟﻠﺘُﻢ. ﻣﻦ ﻃﲔ. ﺩَﺁﺑَﺔ ตัวอยาง ตันวีนอิคฟะอฺ ﻋَﻠﻴﻤﹰﺎ. ﻏﻔﹸﻮ ُﺭ َﺷﻜﹸﻮ ُﺭ. ﻼ ﺻَﱪﹰﺍ ﲨﻴ ﹰ. ﻳَﻮﻣﹰﺎ ﻛﺎﻥ. ﺠﱠﺎﺟﹰﺎ َ ﻣَﺎ ًﺀ ﺛ. ﻛﹸﻞ ﻧَﻔ ﺫﺍﺋﻘﺔﹸ ﺍﳌﻮﺕ. ﻗﺎﻋﹰﺎ ﺻﻔﺼَﻔﹰﺎ . ُ َﺟﻨﱠﺎﺕ ﺗَﺠﺮﻱ ﻣﻦ ﺗَﺤﺘﻬﺎ ﺍﻷَﻧﻬَـﺎﺭ. ﺧَﺎﻟﺪﹰﺍ ﻓﻴﻬَﺎ. ﻳَﻮﻣﺌﺬ ﺯُﺭﻗﹰﺎ. ﲔ َ ﻗﻮﻣﹰﺎ ﻃﺎﻏ. ﻗﻨﻮﺍ ﹸﻥ ﺩَﺍﻧﻴَﺔ. ﻗﻮ ﹰﻻ ﺳَﺪﻳﺪﹰﺍ. ﻗﺪﻳﺮﹰﺍ .ﻼ ﻼ ﻇﻠﻴ ﹰ ﻇ ﹰ.ﲔ َ ﺿﻟ َ ﻗﻮﻣﹰﺎ ขอควรจํา ระดับการอานทั้งแบบตัรกีก ( )ﺍﻟﺘﺮﻗﻴﻖและตัฟคีม ( )ﺍﻟﺘﻔ ﻴﻢในเสียงอิคฟะอฺ จะขึ้นอยูกับพยัญชนะที่ ตามมา ใหนักเรียนฟงเสียงจากตัวอยางที่กลาวมา แบบฝกหัด 1. เมื่อใดที่นูนซากินะฮฺและตันวีนตองอานเปน “อิคลาบ” ( )اﻹﻗ ﻼبเพราะเหตุใดจึงเรียกการอานใน ลักษณะนี้วา “อิคลาบ” ? 2. นูนซากินะฮฺและตันวีนจะตองอานแบบอิดฆอมเมื่อใด ? และอิดฆอมมีกี่ประเภท ? 3. เพราะเหตุใดตองมีการกําหนดหลักเกณฑวา “นูนซากินะฮฺและพยัญชนะอิดฆอมจะตองไมอยูในคํา เดียวกัน” 4. คําวาอิคฟะอฺมีความหมายวาอยางไร ? พยัญชนะอิคฟะอฺมีอะไรบาง ? 5. หลักการอานแบบ ﺍﻹﺧﻔـﺎﺀ. ﺍﻹﻗﻼﺏ. ﺍﻹﺩﻏﺎﻡ ﺍﻟﻨﺎﻗ. ﺍﻹﺩﻏﺎﻡ ﺍﻟﻜﺎﻣﻞ. ﺍﻹﻇﻬﺎﺭในคัมภีรอัลกุร อาน มีการทําเครื่องหมายแสดงการอานไวอยางไร ? 6. อิสฮารฺ ฮะกีกียฺ ( )ﺍﻹﻇﻬﺎﺭ ﺍﳊﻘﻴﻘﻲและอิซฮารฺชะฟะวีย ( )ﺍﻹﻇﻬﺎﺭ ﺍﻟﺸﻔﻮﻱแตกตางกันอยางไร ? แบบฝกหัดฝกปฏิบัติ 1. ใหนักเรียนฟงและสังเกตการณอานจากซูเราะฮฺ อัลอะฮฺซาบ ตั้งแตอายะฮฺ 3 – 44 จากนั้นใหนักเรียน บอกหลักการอานของนูนซากินะฮฺและตันวีวาเปนหลักการใด ?
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
117
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
อายะฮฺ ﺍﷲ
" َﻭﻣَﺎ ﻛﺎﻥ ﻟﻤُﺆﻣﻦ ﻭَﻻ ﻣُﺆﻣﻨَﺔ ﺇﺫﺍ ﻗﻀَﻰ ﺍﷲ َﻭ َﺭﺳُﻮﹸﻟ ُﻪ ﺃﻣﺮﺍ ﺃﻥ َﻳﻜﹸﻮﻥ ﻟﻬُﻢُ ﺍﻟ َﻴ َﺮﺓﹸ ﻣﻦ ﺃﻣﺮﻫﻢ َﻭﻣَﻦ ﻳَﻌ .(36 ﺿﻞﱠ ﺿَﻼ ﹰﻻ ﻣﺒﻴﻨﹰﺎ" )ﺁﻳﺔ َ َﻭ َﺭﺳُﻮﻟﻪُ ﻓﻘﺪ
ตัวอยางการตอบ "ﳌﺆﻣﻦ ﻭَﻻ
อิดฆอม บิ ฆุนนะฮฺ หลังตันวีนมี “”و
"ﻭﻻ ﻣُﺆﻣﻨَﺔ ﺇﺫﺍ
อิซฮารฺ หลังตันวีนมี “”أ
"ﺃﻣﺮﹰﺍ ﺃﻥ َﻳﻜﹸﻮﻥ
อิซฮารฺ หลังตันวีนมี “”أ
" "ﺃﻥ َﻳﻜﹸﻮﻥ ﻟﻬُﻢُ ﺍﻟ َﲑﺓﹸอิดฆอม บิฆุนนะฮฺ ไมสมบูรณ หลังนูนซากินะฮฺ “”ي ﻣﻦ ﺃﻣﺮﻫﻢ
อิซฮารฺ หลังนูนซากินะฮฺ มี “”أ
ﷲ َﺍ
อิดฆอม บิฆุนนะฮฺ ไมสมบูรณ หลังนูนซากินะฮฺ มี “”ي
" َﻭﻣَﻦ ﻳَﻌ
""ﺿﻼ ﹰﻻ ﻣﺒﻴﻨﹰﺎ
อิดฆอมบิฆุนนะฮฺ สมบูรณ หลังตันวีน มี “”م
ตอไป...ใหนักเรียนรับฟงการอานอายะฮฺในสวนที่เหลือ จากนั้นใหนักเรียนระบุหลักการอานนูนซา กินะฮฺและตันวีนที่ไดฟงจากอายะฮฺ (บอกชื่อหลักการและสาเหตุใหชัดเจนตามตัวอยางที่ใหมา) 2. ใหนักเรียนฟงอายะฮฺ 1 – 5 ของซูเราะฮฺ อัลนูร จากนั้นใหนักเรียนบอกหลักการอานและบอก เหตุผลที่ตองอานตามหลักการอานนั้นใหชัดเจน ตัวอยางการตอบ 1. ตันวีนอิซฮารฺ (
)ﻨ ﻳ
" "ﺳُﻮﺭَﺓ ﺃﻧﺰَﻟﻨﺎﻫﺎอาน “อิซฮารฺ” เพราะมีพยัญชนะ “ ”أหลังจาก ตันวีน 2. อิคฟะอฺ นูนซากินะฮฺ " " ﺃﻧﺰَﻟﻨﺎﻫﺎอาน “อิคฟะอฺ” เพราะหลังนูนซากินะฮฺ มีพยัญชนะ “ ”زซึ่งเปนพยัญชนะในกลุมอิคฟะอฺ ใหนักเรียนฟงอายะฮฺในสวนที่เหลือแลวนําเสนอตัวอยางตามหัวขอพรอมระบุเหตุผลใหชัดเจน 1.ตันวีนอิคลาบ ()ﺗﻨﻮﻳﻦ ﺇﻗﻼﺏ 2. ตันวีนอิดฆอม บิลา ฆุนนะฮฺ ()ﺗﻨﻮﻳﻦ ﺍﺩﻏﺎﻡ ﺑﻼ ﻏﻨﺔ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
118
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
3. มีมซากินะฮฺ ที่ตองอานอิซฮารฺ 4. นูนซากินะฮฺที่ตองอานอิคฟะอฺ 5.ตันวีนที่ตองอานอิดฆอมแบบสมบูรณ 6. กอลกอลอฮฺ 7.นูนซากินะฮฺที่ตองอานอิคลาบ 8. ตันวีนที่ตองอานอิดฆอมแบบไมสมบูรณ 9.มีม ซากินะฮฺที่ตองอานอิซฮารฺพรอมฆุนนะฮฺ 10.ตันวีน ฎอมมะฮฺที่ตองอานอิคฟะอฺ 3. ใหนักเรียนฟงอายะฮฺในซูเราะฮฺ อัลนูร อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นใหนักเรียนบอกหลักการอานของอายะฮ ตอไปนี้ใหถูกตอง 1- ."ﻛﺮُﻭﻥ "ﻟ َﻌﱠﻠﻜﹸﻢ ﺗَﺬ ﱠ 2- .""ﻓﺎﺟﻠﺪُﻭﺍ 3- ."ﻞ ﻭَﺍﺣﺪ ﻣّﻨ ُﻬﻤَﺎ " ﹸﻛ ﱠ 4- .""ﻣﺌﺔ ﺟَﻠﺪَﺓ ﻭَﻻ 5- .""ﻭَﻻ ﺗَﺄﺧُﺬﻛﹸﻢ ﺑﻬﻤَﺎ 6- .""ﺭَﺃﻓﺔﹸ ﻓﻲ ﺩﻳﻦ ﺍﷲ 7- .""ﺍﻟﺰﱠﺍﻧَﻴﺔﹸ ﻭَﺍﻟﺰﱠﺍﻧﻲ 8- .""ﺯَﺍﻧَﻴ ﹰﺔ ﺃﻭ ﻣُﺸﺮﻛ ﹰﺔ 9- .""ﻭَﻻ ﺗَﻘَﺒﻠﹸﻮﺍ 10- ."ﺷﻬَﺎﺩَﺓ َ "ﻟﻬُﻢ ตัวอยางการตอบ 1 - "ﻟﻌﻠﻜﻢ ﺗَﺬ ﱠﻛﺮُﻭﻥอานอิซฮารฺชาฟะวียฺ ใน مของคําวา .""ﻟ َﻌﻠﱠﻜﹸﻢ 2- คําวา “ ”ﻓﺎﺟﻠﺪُﻭﺍอานกอลกอลอฮฺที่ “ ”جซากินะฮฺ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
119
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
6. หลักการอานมัด () ﺪ คําวา “มัด” ( )ﻣﺪหมายถึงการอานยืดเสียงใหยาวขึ้นเมื่อที่พยัญชนะมัดมาตอทาย พยัญชนะมัด ทั้ง สามตัวคือ:( )ـَ ﺍ ـ ﻭ ـ ﻱคือ ﺍที่อยูหลังฟตฮะฮฺ ﻭที่อยูหลังฎอมมะฮฺ และ ﻱที่อยูหลังกัสเราะฮฺ เชน ﻗﺎﻝ ﻳﻘﹸﻮ ﹸﻝ ﻗﻴﻞ ประเภทของมัด (การอานเสียงยาว) เราจะแบงประเภทของมัด(การอานเสียงยาว)ออกตามความยาวของการอาน แตนักวิชาการตัจวีดจะ แบงการอานมัด (เสียงยาว) ในอีกวิธีรูปแบบหนึ่ง มัดแบงออกตามความยาวของการอาน มีทั้งหมด 6 ประเภท 1. มัด(คําที่ตองอานเสียงยาว) คือมัดที่ตองอานเสียงยาว 2 ฮะรอกะฮฺ มัดประเภทนี้มีทั้งหมด 4 ชนิด 1) มัดฏอบิอียฺ ( )ﺍﳌﺪ ﺍﻟﻄﺒﻴﻌﻲหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งวา ( )ﺍﳌﺪ ﺍﻷﺻـﻠﻲคือการอานเปนสระเสียงยาวไป ตามพยัญชนะมัดที่ตามมา ตัวอยาง (ฟงจากเทป) .(77 ﻚ" )ﺍﻷﻟﻒ( )ﺍﻟﺰﺧﺮﻑ ـ َ ـ " َﻭﻧَﺎﺩﻭﺍ ﻳَﺎ ﻣَﺎﻟﻚُ ﻟﻴَﻘﺾ ﻋَﻠﻴﻨَﺎ ﺭَﺑ .(48 ﲔ" )ﺍﻟﻮﺍﻭ( )ﺍﻷﺣﺰﺍﺏ ـ َ ـ "ﻓﻜﺬﱠﺑُﻮ ُﻫﻤَﺎ ﻓﻜﺎﻧُﻮﺍ ﻣ َﻦ ﺍﻟﻤُﻬﻠﻜ .(7 6 ـ "ﻓﺄﻣﺎ ﻣﻦ ﺛﻘﹸﻠﺖ َﻣﻮَﺍﺯﻳﻨُﻪُ ﻓﻬُ َﻮ ﻓﻲ ﻋﻴﺸﺔ ﺭﱠﺍﺿﻴﺔ" )ﺍﻟﻴﺎﺀ( )ﺍﻟﻘﺎﺭﻋﺔ ـ 2) มัดบะดัล ( )ﺍﳌﺪ ﺍﻟﺒـﺪﻝคือพยัญชนะมัด ที่เปลี่ยนมาจาก “ ”ءซึ่งมีหลักการอยูวา เมื่อมี “ ”ءซอน กันสองตัวในตนคํา โดยที่ตัวที่สองอานซากินะฮฺ จึงเปลี่ยนตัวที่สองเปนพยัญชนะมัด ไปตามเสียงของสระ ของ “ ”ءตัวแรก ตัวอยาง เชน : ﺀﺍ َﻣ َﻦเปลี่ยนมาจากคําวา ﺃﺃ َﻣ َﻦ : ﺃﹸﻭเปลี่ยนมาจากคําวา ﺇ ﺎﻥ
ﺃ
เปลี่ยนมาจากคําวา ﺇﺋﻤﺎﻥ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
120
3) มัดซีลัดกอซีเราะฮฺ ( )ﺍﳌﺪ ﺍﻟﺼﻠﺔ ﺍﻟﻘﺼﲑﺓคําวา “ ”ﺍﻟﺼﻠﺔในที่นี้หมายถึงสรรพนามเอกพจนบุรุษที่ สามเพศชายที่เชื่อมตอกับคํานาม คือ คําวา ــ ُﻪ ــﻪซึ่งจะประสมดวยสระฎอมมะฮฺและกัสเราะฮฺ เวลาอานจะอานคลายกับการอานเสียงยาวขนาดมัดฏอบิอียฺ โดยมีหลักเกณฑอยูที่วา กอนหนาสรรพนาม จะตองเปนพยัญชนะที่มีสระ ( )ﺣﺮﻑ ﻣﺘﺤﺮﻙและหลังสรรพนาม ـﻪไมใชฮัมซะฮฺวะซาล ()ﳘﺰﺓ ﻭﺻﻞ ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(1 ـ "َﺗﺒَﺎ َﺭ َﻙ ﺍﻟﺬﻱ ﻧﺰﻝ ﺍﻟﻔﹸﺮﻗﺎﻥ ﻋﻠﻰ ﻋﺒﺪﻩ ﻟﻴﻜﻮﻥ ﻟﻠﻌﺎﳌﲔ ﻧَﺬﻳﺮﹰﺍ" )ﺍﻟﻔﺮﻗﺎﻥ ـ .(9 ـ "ﻓﺄﹸﻣ ُﻪ ﻫَﺎﻭَﻳﺔﹸ" )ﺍﻟﻘﺎﺭﻋﺔ ـ .(3 ـ "ﺇّﻧ ُﻪ ﻛﺎﻥ َﺗﻮﱠﺍﺑﹰﺎ" )ﺍﻟﻨﺼﺮ ـ ในกรณีที่พยัญชนะกอนหนาสรรพนาม ـ ُﻪหรือ ـ ِﻪเปนพยัญชนะอานซากินะฮฺ หรือกอนหนา สรรพนามทั้งสองเปน “มัด” ก็ใหอานเสียงตามปกติ (ไมอานยาวเปนเสียงมัด) เชน ﺧُﺬﻭ ُﻩ ﻓ ُﻐﻠﹸﻮ ُﻩ" ﻭﺍﺳﺘَﻐﻔﺮ ُﻩ "ﻟﻨَﻔﺘَﻨﻬُﻢ ﻓﻴﻪในคัมภีรอัลกุรอานจะมีการทําเครื่องหมาย “ ”ﻭตัวเล็ก ๆ ไวหลังสรรพนามที่อานฎอมมะฮฺ ـ ُﻪ و และมีสัญลักษณตัว “ ”ﻱเล็ก ๆ ไวหลังสรรพนามที่อานกัสเราะฮฺ ـ ِﻪ ي 4)มัดอิวัฎ ( )ﺍﳌﺪﺍﻟﻌﻮﺽเปนมัดหรือคําที่ตองอานออกเสียงยาว ขณะที่ตองอานวกัฟกับพยัญชนะที่ลง ทายดวยตันวีนฟตหะฮฺ เชน ﲔ ﻣَﻔﺎﺯﹰﺍ َ ﺇ ﱠﻥ ﻟﻠ ُﻤﺘﱠﻘ. ﻭَﻛﺎﻥ ﺍﷲ ﻏﻔﻮﺭﹰﺍ ﺭﱠﺣﻴﻤﹰﺎ. 2.มัด(คําที่ตองอานเสียงยาว) คือคําที่สามารถอานเสียงยาวได 2 ,4 หรือ 6 ฮะรอกะฮฺ มีอยูชนิดเดียวคือ มัดลีน ( )ﻣﺪ ﺍﻟﻠﲔที่เกิดกับพยัญชนะ يและ وซากินะฮฺ ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(12 ـ "ﻣﻦ ﺑَﻌﺪ ﻭَﺻﻴﱠﺔ ﻳُﻮﺻﻰ ﺑﻬَﺎ ﺃﻭ ﺩَﻳﻦ" )ﺍﻟﻨﺴﺎﺀ ـ .(9 ـ "ﻓﺎ ﺳﻌَﻮﺍ ﺇﻟﻰ ﺫﻛﺮ ﺍﷲ ﻭَﺫﺭُﻭﺍ ﺍﻟﺒﻴﻊ" )ﺍﳉﻤﻌﺔ ـ .(4 ـ "ﺃﻃ َﻌ َﻤﻬُﻢ ﻣﻦ ﺟُﻮﻉ ﻭَﺁ َﻣَﻨﻬُﻢ ﻣﻦ ﺧَﻮﻑ" )ﻗﺮﻳﺶ ـ .(6 ـ "ﻋَﻠﻴﻬﻢ ﺩَﺁﺋ َﺮﺓﹸ ﺍﻟﺴﱠﻮﺀ" )ﺍﻟﻔﺘﺢ ـ การเกิดมัดลีน นั้นมีกฏเกณฑอยูวาจะตองอานวกัฟ ( )ﻭﻗﻒที่พยัญชนะซึ่งตามพยัญชนะลีนมา แต หากผูอานไมอานวกัฟ มัดลีนก็จะหายไป เชน อานวา “"...”ﻭﺫﺭﻭﺍ ﺍﻟﺒﻴ َﻊ ﺫﻟ ﹸﻜﻢ َﺧﻴﺮ ﻟﻜﻢ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
121
3. มัด (คําที่ตองอานเสียงยาว) ซึ่งอนุญาตใหอานยาวได 2, 3 หรือ 5 ฮะรอกะฮฺ กลุมนี้จะมีอยู 2 ชนิด คือ 1.มัดฮัมซฺ มุนฟะซิล ( )ﺍﳌﺪ ﺍﳍﻤﺰ ﺍﳌﻨﻔﺼﻞคือการมัด (อานเสียงยาว)ที่เกิดกับพยัญชนะมัด ()ا و يที่ อยูทายคํา และหลังจากพยัญชนะมัดในคําตอไปจะเปน أ ตัวอยาง (ฟงจากเทป) .(1 ـ "ﺇﻧﱠﺎ ﺃﻋﻄﻴﻨَﺎ َﻙ ﺍﻟﻜﻮﺛ َﺮ" )ﺍﻟﻜﻮﺛﺮ ـ .(6 ﺴﻜﹸﻢ ﻭَﺃﻫﻠﻴﻜﹸﻢ ﻧﺎﺭﹰﺍ" )ﺍﻟﺘﺤﺮﱘ ـ َ ـ "ﻗﹸﻮﺁ ﺃﻧﻔﹸ .(35 ـ "ﺃﻓﻤَﻦ ﻳَﻬﺪﻱ ﺇﱃ ﺍﳊﻖ ﺃ َﺣ ّﻖ ﺃﻥ ﻳُﱠﺘَﺒ َﻊ ﺃﻡ ﻣﱠﻦ ﱠﻻ ﻳَﻬﺪﻱ ﺇ ﱠﻻ ﺃﻥ ﻳُﻬﺪَﻯ" )ﻳﻮﻧ ـ 2.มัดซิลัต ฏอวีละฮฺ (ـﺔ ـﺼﻠﺔ ﺍﻟﻄﻮﻳﻠـ )ﻣﺪﺍﻟـเปนมัด(การอานเสียงยาว)ที่เกิดกับสรรพนามบุรุษที่สาม เอกพจนเพศชาย ــ ِﻪ, ـ ُﻪซึ่งมีพยัญชนะที่มีสระ ( )ﺣﺮﻑ ﻣﺘﺤﺮﻙนําหนาและมี “ ”ءตามมาขางหลัง ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(126 ـ "ﹸﺛﻢﱠ ﺃﺿﻄﺮ ُﻩ ﺇﱃ ﻋَﺬﺍﺏ ﺍﻟﻨﱠﺎﺭ ﻭَﺑﺌ َ ﺍﻟﻤَﺼﲑُ" )ﺍﻟﺒﻘﺮﺓ ـ .(110 ـ "ﻭَﻻ ﻳُﺸﺮﻙ ﺑﻌﺒَﺎﺩَﺓ َﺭﺑّﻪ ﺃﺣَﺪﹰﺍ " )ﺍﻟﻜﻬﻒ ـ 4. คําที่ตองอานมัด (อานเสียงยาว) ถึงขนาด 4,5 หรือ 6 ฮะรอกะฮฺ มัดกลุมนี้มีอยูเพียงชนิดเดียวคือ มัดฮัมซฺ มุตตะซิล ( )ﻣﺪ ﺍﳍﻤﺰ ﺍﳌﺘﺼﻞนั่นคือคําที่มีพยัญชนะมัดและฮัมซะฮฺ “ ”ءอยูในคําเดียวกัน ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(47 ـ "ﻭَﺍﻟﺴﱠﻤ ﺀ ﺑَﻨﻴﻨﺎﻫﺎ " ) ﺍﻟﺬﺍﺭﻳﺎﺕ ـ .(157 ـ "ﺃﹸﻭﻟﺌﻚ ﻫُﻢ ﺍ ﹸﳌﻔﻠﺤُﻮﻥ " )ﺍﻷﻋﺮﺍﻑ ـ .(7 ـ "ﻟﻴﺴُﻮﺀﻭﺍ ُﻭﺟُﻮ َﻫﻜﹸﻢ " )ﺍﻹﺳﺮﺍﺀ ـ . (23 ﺠ َﻬﱠﻨ َﻢ ")ﺍﻟﻔﺠﺮ ـ َ ـ "ﻭَﺟ ﻳَﻮﻣﺌﺬ ﺑ มัดประเภทนี้หากอยูทายคํา และมีการอานวกัฟ(อานหยุดพัก) กับพยัญชนะมัด อนุญาตใหอานยาว ไดถึง 6 ฮะรอกะฮฺ แตหากไมวกัฟ(คืออานผานตอไปยังคําอื่น) ก็อนุญาตใหอานยาวไดแคเพียง 4 หรือ 5 ฮะ รอกะฮฺ เทานั้น
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
122
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
5. มัด(คําที่ตองอานเสียงยาว) 2 , 4 หรือ 5 ฮะรอกะฮฺ คือมัดที่อนุญาตใหอานเสียงยาวได 2 ,4 หรือ 6 ฮะรอกะฮฺ มัดประเภทนี้มีอยูเพียงชนิดเดียวคือ มัดอาริฎ ลิซซุกูน ()ﻣﺪ ﺍﻟﻌﺎﺭﺽ ﻟﻠﺴﻠﻜﻮﻥ มัดชนิดนี้จะเกิดขึ้นกับพยัญชนะมัด ( )ا و يที่อยูทายคํา มัดชนิดนี้เรียกวามัดเกิดใหมซึ่งเกิดขึ้น ใหมเพราะการอานวกัฟ (หยุดอานที่คําคํานั้น) ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) " ﻣَﺎﻟﻚ ﻳَﻮﻡ ﺍﻟﺪّﻳﻦ ﺍﻟﺮّﺣﻤﻦ ﺍﻟﺮﱠﺣﻴﻢ "ﺍﻟﺤَﻤ ُﺪ ﷲ ﺭَﺏ ﺍﻟﻌﺎﻟﻤﲔ การอานแลวมาหยุดลงที่คําสุดทายของทุกอายะฮฺ จะกอใหเกิดมัดอาริฏ ลิซซุกูน ขึ้น โดยสามารถ อานไดสามวิธี คือ อาน 2 , 4 หรือ 5 ฮะรอกะฮฺ แตในกรณีที่ผานหรืออานตอไปยังอายะฮฺอื่นโดยไมหยุดใน ตอนทายของแตละอายะฮฺ มัดชนิดนีก้ ็จะหายไปพรอม ๆ กับ ซุกูนของพยัญชนะตัวสุดทายของอายะฮฺ มัดที่มี อยูจะเปนแคมดั ฏอบิอียฺ( )ﻣﺪ ﻃﺒﻴﻌﻲเทานั้น กลุมที่ 6 คือมัดที่ตองอานเสียงยาว 6 ฮะรอกะฮฺ มัดกลุมนี้มีเพียงชนิดเดียว คือ มัดลาซิม ( )ﻣﺪ ﺍﻟﻼﺯﻡคือมัดที่เกิดกับคําที่มีพยัญชนะซากินะฮฺลาซิม ()ﺣﺮﻑ ﺳﺎﻛﻦ ﺳﻜﻮﻧﺎ ﻻﺯﻣـﹰﺎ คือพยัญชนะที่ใชอานซุกูนตลอดไป (อานอยางอื่นไมได) พยัญชนะซุกูนนี้อาจจะมีเพียงตัวเดียว (ไมมีตัชดีด) ในกรณีนี้จะเรียกวา มุคอฟฟฟ (อานเบา) ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) ""ﺀﺁ ﻥ มัดลักษณะนี้มีอยูเพียงคําเดียวในอัลกุรอาน ซึ่งมีกลาวไว 2 ครั้ง คือ อายะฮฺที่ 51 และอายะฮฺที่ 91 ของซูเราะฮฺ ยูนุส บางครั้งเราก็จะพบวา มีพยัญชนะซากินะฮฺที่มีตัชดีด (ّ )ـกํากับอยูดวย คําประเภทนี้มีชื่อเรียกวา “มุ ซักกอล” (( ) ُﻣﺜﻘﱠـﻞคําที่ตองอานเสียงหนัก) ตัวอยางเชน ﺤ ﺟﻮﻧّﻲ ﰲ ﺍﷲ َ ﺃُﺗ. ﺼ ﺧﱠﺔ ﺍﻟ ﱠ. ﻀ ﻟﱢﲔ ﺍﻟ ﱠ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
123
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
นอกจากนั้นมัดชนิดนี้จะพบไดในตนซูเราะฮฺที่มีการใชพยัญชนะมุกอฏฏออะฮฺ (ตัวยอ) เชน “ ” “ ”ﻥซึ่ง ตามหลักการอานจะนับวาพยัญชนะเหลานี้จะตองอานใหพยัญชนะตัวสุดทายของคําที่อยูหลังพยัญชนะที่ เปนมัด ใหเปนซากินะฮฺอยูตลอด ( )ﺳﺎﻛﻨﺎ ﻻﺯﻣﺎเชน พยัญชนะ “ ”ﻥก็จะอานวา “นูน” ( )ﻧُﻮﻥนูนซึ่งอยูหลัง วาวจะอานซากินะฮฺ พยัญชนะ “ ” ก็เชนกัน จะอานวา “ซอด” ( )ﺻﺎﺩพยัญชนะ “ ”دซึ่งอยูหลัง اจะอานซา กินะฮฺตลอด มัดชนิดนี้มีอยูทั้งหมด 8 พยัชนะ ซึ่งรวมอยูในคําวา “ ”ﻛﻢ َﻋﺴَﻞ ﻧَﻘคือ พยัญชนะ , ﻡ, ﻙ , ﻕ, ﻥ, ﻝ, ﺱ, ﻉนั่นเอง ในชื่อของพยัญชนะเหลานี้จะมี พยัญชนะมัดรวมอยู ยกเวน ( عอัยน) เพราะ ﻱในที่เปนพยัญชนะ “ลีน” ()ﻟﲔ ขอควรจํา 1. เครื่องหมายหรือสัญลักษณ “มัด” (~) ในคัมภีรอัลกุรอาน จะใชแทนคําอานมัดทุกประเภท ยกเวน มัดฏอบิอียฺ ( )ﺍﻟﻄﺒﻴﻌﻲจะไมมีเครื่องหมายนี้แสดงไว และมัดอื่น ๆที่อานลักษณะเดียวกับมัดฏอบิอียฺ เชนมัด ซีลัด กอซีเราะฮฺ มัดบะดัล มัดอิวัฎ ()ﺍﻟﺼﻠﺔ ﺍﻟﻘﺼﲑﺓ ﻭﺍﻟﺒﺪﻝ ﻭﺍﻟﻌﻮﺽ 2. หากมัด(คําที่ตองอานเสียงยาว)ใดที่อนุญาตใหเลือกอานได 3 ระดับ และเมื่อผูอานเลือกอานแบบสั้น แบบปานกลาง หรือแบบยาว แบบใดแบบหนึ่งก็ใหยึดตามลักษณะการอานเดียวกันนั้นไปจนสิ้นสุด การอาน หากเขายังคงอานตอไป แตหากเขาเริ่มตนอานใหมในเวลาอื่น ก็สามารถที่จะเลือกรูปแบบ การอาน รูปแบบอื่นได วาจะอานมัด (คําที่ตองอานเสียงยาว) ใหยาวขนาดไหน (ตามกฎหรือหลักการ อานที่ไดกลาวมาแลวในแตละประเภท) การแบงกลุมของมัด(คําที่ตองอานเสียงยาว)ตามสาเหตุ ﻓﺮﻋﻲ ฟรอีย (ยอย)
ﺒﺒ ﺍ ﺒﺎ
( أﺻﻠﻲ ) ﻃﺒﻴﻌﻲ มัดอัซลีย (หลัก)
ﻭ ﺍﻟ ﻗ ﺒﺒ ﺍﻟ การวกัฟ และ ซุกูน
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
ﻩ
ﺒﺒ ﺍ
เกิดจาก “”ء
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
124
ﺻﻠﺔ ﻗﺼﲑﺓ-1
ﻻﺯﻡ-1
ﻣﺘﺼﻞ-1
ﻋﺎﺭﺽ ﻟﻠﺴﻜﻮﻥ-2
ﻣﻨﻔﺼﻞ-2
ﻋﻮﺽ-3
ﺻﻠﺔ ﻃﻮﻳﻠﺔ-3
ﻟﲔ-4
ﺑﺪﻝ-4
ชนิดของมัด ตามลักษณะความยาวของการอาน ความยาว
ชนิดของมัด
บัญญัติเกี่ยวกับการอาน
ขอควรจํา
2
มัดฏอบิอียฺ ,มัดบะดัล,มัดซีลดั กอ ซีเราะฮฺ ,มัดอิวัฎ
วายิบ
จะมีเครื่องหมาย / เปน สัญลักษณระหวางระดับ การอานที่ใหเลือกอาน ได
2/4/6
มัดลีน()ﻟﲔ
ยาอิซ(เลือกได)
(เปนฮะรอกะฮฺ)
_
()ﺟﺎﺋﺰ 2/4/5 2/4/6 4/5/6
6
มัดมุนฟะซิล ซิลัต ฏอวีละฮฺ
ยาอิซ (เลือกได)
()ﻣﻨﻔﺼﻞ ﺻﻠﺔ ﻃﻮﻳﻠﺔ
()ﺟﺎﺋﺰ
มัดาอาริฎ ลิซซุกูน
ยาอิซ (เลือกได)
()ﻋﺎﺭﺽ ﻟﻠﺴﻜﻮﻥ
()ﺟﺎﺋﺰ
มัดมุตตะซิล
วายิบ
()ﻣﺘﺼﻞ
()ﻭﺍﺟﺐ
มัดลาซิม
วายิบ
()ﻣﺪ ﻻﺯﻡ
()ﻭﺍﺟﺐ
`
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
125
แบบฝกหัด ภาคทฤษฎี 1. มัดฟรอีย หมายถึงอะไร ? ระหวางมัดฟรอียกับมัดอัซลีย มัดใดอานยาวกวากัน ? 2. มัดที่เกิดจากซุกูนมีกี่ชนิด มัดใดบาง ? 3. ระหวางมัดมุตตะซิลกับมัดมุนฟะซิลตางกันอยางไร ? 4. ระหวางมัดมุตตะซิลฏอวียฺละกับมัดมุตตะซิลกอซีเราะฮแตกตางกันอยางไร ? 5. มัดตอไปนี้จะตองอานยาวกีฮะรอกะฮฺ - มัดบะดาล ()ﻣﺪ ﺑﺪﻝ
- มัดอาริฎ ลิซซุกูน ()ﻣﺪ ﻋﺎﺭﺽ ﻟﻠﺴﻜﻮﻥ
- มัดลาซิม ()ﻣﺪ ﻻﺯﻡ
- มัดฏอบิอียฺ ()ﻣﺪ ﻃﺒﻴﻌﻲ
- มัดอิวัฎ ()ﻣﺪ ﻋﻮﺽ
- มัดซิลัต ฏอวียฺละฮฺ ()ﻣﺪ ﺻﻠﺔ ﻃﻮﻳﻠﺔ
ภาคปฏิบัติ 1- ฟงและทําความเขาใจหลักการอาน (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) มัดมุตตะซิล ,มัดมุนฟะซิล และหลักการอานของแตละชนิดของมัด จากอายะฮฺตอไปนี้ .(62 ـ "ﺃ ﺇ ﱠﻥ ﺃﻭﻟﻴ ﺀ ﺍﷲ ﻻ ﺧَﻮﻑ ﻋَﻠﻴﻬﻢ ﻭَﻻ ﻫُﻢ ﻳَﺤ َﺰﻧُﻮ ﹸﻥ " )ﻳﻮﻧ ـ .(2 ـ "ﺍﱠﺗ ﺬﹸﻭﺍ ﺃ َﺎَﻧﻬُﻢ ﺟُﱠﻨ ﹰﺔ ﻓﺼَﺪﻭﺍ ﻋَﻦ ﺳَﺒﻴﻞ ﺍﷲ ﺇﱠﻧﻬُﻢ َﺳ َﺀ ﻣَﺎ ﻛﺎﻧُﻮﺍ ﻳَﻌ َﻤﻠﹸﻮﻥ" )ﺍﳌﻨﺎﻓﻘﻮﻥ ـ ـ " َﻭ َﻣ ﺃﺭﺳَﻠﻨَﺎ ﻣﻦ ﱠﺭﺳُﻮﻝ ﺇﻻﱠ ﺑﻠﺴَﺎﻥ ﻗﻮﻣﻪ ﻟﻴَُﺒّﻴ َﻦ ﻟﻬُﻢ ﻓﻴُﻀﻞ ﺍﷲ ﻣَﻦ َﻳﺸَﺎﺀ َﻭﻳَﻬﺪﻱ ﻣَﻦ ﻳَﺸ ﺀ َﻭﻫُ َﻮ ﺍﻟﻌَﺰﻳ ُﺰ ﺍﻟﺤَﻜﻴ ُﻢ .(4 " )ﺇﺑﺮﺍﻫﻴﻢ ـ .(36 ـ "ﻗﹸﻞ ﺇﻧﱠﻤﺎ ﺃﹸﻣﺮﺕُ ﺃﻥ ﺃﻋﺒُ َﺪ ﺍﷲ ﻭَﻻ ﺃﹸﺷﺮ َﻙ ﺑﻪ ﺇﻟﻴﻪ ﺃﺩﻋُﻮﺍ ﻭَﺇﻟﻴﻪ ﻣَﺌ ﺏ" )ﺍﻟﺮﻋﺪ ـ "ﺽ ﺧَﺎﺷ َﻌ ﹰﺔ ﻓ ﺫﺍ ﺃﻧﺰﻟﻨﺎ ﻋَﻠﻴﻬَﺎ ﺍﻟ َﻤ ﺀ ﺍﻫَﺘﺰﱠﺕ َﻭ َﺭﺑَﺖ َ ﻚ َﺗﺮَﻯ ﺍﻷَﺭ َ ـ "ﻭَﻣﻦ ﺀﺍﻳَﺎﺗﻪ ﺃﱠﻧ มัด ลาซิม มัดอาริฎ ลิสซุกูน (ฟงจากเทปบันทึกเสียง)จากอายะฮฺตอไปนี้ .(20 ﺖ ﻭَﺟﻬ َﻲ ﷲ َﻭﻣَﻦ ﺍﱠﺗَﺒﻌَﻦ" )ﺁﻝ ﻋﻤﺮﺍﻥ ـ ُ ـ "ﻓ ﻥ َﺣ ﺟﻮ َﻙ ﻓﻘﹸﻞ ﺃﺳﻠﻤ .(89 ـ "ﻗﺎﻝ ﻗﺪ ﺃﹸﺟﻴﺒَﺖ ﺩﱠﻋ َﻮُﺗ ﹸﻜﻤَﺎ ﻓﺎﺳﺘَﻘﻴﻤَﺎ ﻭَﻻ َﺗﺘﱠﺒ َﻌ ﻥ ﺳَﺒﻴﻞ ﺍﻟﱠﺬﻳ َﻦ ﻻ ﻳَﻌﻠﻤُﻮﻥ" )ﻳﻮﻧ ـ .(74 ـ "ﻟﻢ ﻳَﻄﻤﺜ ُﻬ ﱠﻦ ﺇﻧ ُ ﻗﺒﻠﻬُﻢ ﻭَﻻ َﺟ ﻥ" )ﺍﻟﺮﲪﻦ ـ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
126
.(64-63 ـ "ﺃﻓﺮَﺃﻳﺘُﻢ ﻣﱠﺎ ﺗَﺤﺮُﺛﹸﻮﻥ ﺃﺃﻧﺘُﻢ ﺗَﺰ َﺭﻋُﻮَﻧﻪُ ﺃﻡ ﻧَﺤﻦُ ﺍﻟﺰﱠﺍﺭﻋُﻮﻥ" )ﺍﻟﻮﺍﻗﻌﺔ ـ .(3 ـ "ﻓﺘَﺤﺮﻳ ُﺮ ﺭَﻗﺒَﺔ ﻣﻦ ﻗﺒﻞ ﺃﻥ َﻳَﺘ َﻤ ﺳﱠﺎ" )ﺍ ﺎﺩﻟﺔ ـ 2. ตอบคําถาม ก.ใหนักเรียนฟงเทปบันทึกเสียงอายะฮฺที่ 32 -38 จากนั้นใหนักเรียนระบุตัวอยาง “มัด” ดังตอไปนี้ ใหถูกตอง 1. มัดลาซิม ()ﻣﺪﺭ ﻻﺯﻡ 2. มัดบะดัล ()ﻣﺪ ﺑﺪﻝ 3. มัด มุนฟะซิล ()ﻣﺪ ﻣﻨﻔﺼﻞ 4. มัดมุตตะซิล ()ﻣﺪ ﻣﺘﺼﻞ 5. มัดฏอบีอียฺ ( )ﻣﺪ ﻃﺒﻴﻌﻲกับพยัญชนะ “”ﻭ 6. มัฏอบิอียฺกับพยัญชนะ “”ﻱ 7. มัฏอบิอียฺกับพยัญชนะ “”ﺍ 8. มัด ซิลัต กอซีเราะฮฺ ()ﻣﺪﺻﻠﺔ ﻗﺼﲑﺓ ตัวอยางการตอบ • มัดฏอบิอียฺ ดวย “ ”يคือคําวา “َ”ﺍﻟﺬﻳﻦ • มัดมุนฟะซิล คือ คําวา “”ﻭﺗﺪﻋُﻮﺁ ﺇﱃ ﺍﻟﺴﻠﻢ ข.ใหนักเรียนอานอายะฮฺที่ 5 ของซูเราะฮฺ อัลฮัจญ จากนั้นใหบอกตัวอยางคําในอายะฮฺตามหลักการอาน ดังตอไปนี้ใหถูกตอง • • • • • • • • •
มัดมุนฟะซิล ( )ﻣﺪ ﻣﻨﻔﺼﻞ, นูน มุชัดดะดะฮฺ ที่ตองอานฆุนนะฮฺ ()ﻧﻮﻥ ﺳﺎﻛﻨﺔ ﺫﺍﺕ ﹸﻏﻨﱠـﺔ, นูนซากินนะฮฺที่ตองอานแบบอิคฟะอฺ ()ﻧﻮﻥ ﺳﺎﻛﻨﺔ ﺃﺧﻔﺎﺀ, มีมซากินะฮฺที่ตองอาน อิซฮารฺ ()ﺍﻇﻬﺎﺭ อิดฆอม บิฆุนนะฮฺ สมบูรณแบบ ()ﺍﺩﻏﺎﻡ ﺑﻐُﻨـّﺔ ﻛﺎﻣﻠﺔ ลาม()اﻟـที่ตองอานอิซฮารฺ (หมายถึงลามกอมะรียะฮฺ), กอลกอเลาะฮฺ , มีมที่ตองอานอิดฆอมพรอมกับฆุนนะฮฺ()ﺍﺩﻏﺎﻡ ﻣﻊ ﺍﻟﻐﻨﺔ นูนที่ตองอานอิซฮารฺ , ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
• • • •
127
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
อิดฆอมตันวีนพรอมอานฆุนนะฮฺ , มัดมุตตะซิล, มัดมุนฟะซิล , อิลลาบ “นูน” และอิคลาบ “ตันวีน”
ค.ใหนักเรียนฟงอายะฮฺที่ 1-10 จากซูเราะฮฺ อัซซะยาดะฮฺ ( )ﺳﻮﺭﺓ ﺍﻟـﺴﺠﺪﺓจากนั้นใหระบุคําในอายะฮฺตาม หลักการในหัวขอตอไปนี้ใหถูกตอง 1. มัดลาซิม ()ﻣﺪ ﻻﺯﻡ 2. มัดอาริฎลิซซุกูน ()ﻣﺪ ﻋﺎﺭﺽ ﻟﻠﺴﻜﻮﻥ 3. มัดซิลัต ()ﻣﺪ ﺻﻠﺔ 4. มัดมุนฟะซิล ()ﻣﺪ ﻣﻨﻔﺼﻞ 5. มัดมุตตะซิล ()ﻣﺪ ﻣﺘﺼﻞ 6. มีมซากินะฮฺที่ตองอานอิดฆอม 7. นูนซากินะฮฺที่ตองอานอิดฆอม 8. นูนซากินะฮฺที่ตองอานอิคฟะอฺ 9. ตันวีนที่ตองอานอิซฮารฺ 10. กอลกอเลาะฮฺ 11. อิซฮารฺ ง. การอาน อิซฮารฺ (อิคฟะอฺ) พรอมฆุนนะฮฺ กับมีซากินะฮฺ ()ﺇﻇﻬﺎﺭ ) ﺇﺧﻔﺎﺀ ( ﻣﻊ ﺍﻟﻐﻨﺔ ﳌﻴﻢ ﺳﺎﻛﻨﺔ 1. 2. 3. 4.
การอานอิดฆอมลามซากินะฮฺ นูนซากินะฮฺที่ตองอานอิดฆอม พรอมฆุนนะฮฺ ตันวีนที่ตองอานอิดฆอมแบบไมสมบูรณ พรอมฆุนนะฮฺ (ﻣﻊ ﺍﻟﻐﻨﺔ ตันวีนที่ตองอานอิดฆอมแบบสมบูรณพรอมฆุนนะฮฺ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
)ﺍﺩﻏﺎﻡ ﻧﺎﻗ
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
128
7.หลักการอานแบบตัรกีกและตัฟคีม1 ()ﺍﺣﻜﺎﻡ ﺍﻟﺘﺮﻗﻴﻖ ﻭﺍﻟﺘﻔ ﻴﻢ เสียงที่เปนภาษากลางของภาษาอาหรับสวนใหญแลวจะเปนเสียงแบบ “มุรอกกอเกาะฮฺ”หรือเสียง ตัรกีก สวนพยัญชนะที่อยูใ นกลุมเสียง “ตัฟคีม” หรือมุฟคคอมะฮฺ มีทั้งหมด 7 ตัว โดยแบงออกเปน 2 ประเภท คือ 1. พยัญชนะที่จะตองอานแบบ “ตัฟคีม”ตลอดคือ , ﺽ, ﻁ, , , , ﻕพยัญชนะสี่ตัว แรก ( ﺽ, ﻁ, ) เสียงตัฟคีมจะหนักกวาพยัญชนะตัวอื่น ๆ ทั้งสี่พยัญชนะจะเรียกวา “อิฏฏิบาค” ()ﺍﻷﻃﺒﺎﻕ ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(3 ـ "ﺍﻟﱠﺬﻳَﻦ ﻳُﺆﻣﻨُﻮﻥ ﺑﺎﻟﻐَﻴﺐ َﻭﻳُﻘﻴﻤُﻮﻥ ﺍﻟﺼﱠﻼﺓ ﻭَﻣﻤﱠﺎ َﺭﺯَﻗﻨﺎﻫُﻢ ﻳُﻨﻔﻘﹸﻮﻥ" )ﺍﻟﺒﻘﺮﺓ ـ .(7 6 ﲔ" )ﺍﻟﻔﺎﲢﺔ َ ﻀ ﱢﻟ ﺖ ﻋَﻠﻴﻬﻢ ﻏﻴﺮ ﺍﳌﻐﻀُﻮﺏ ﻋَﻠﻴﻬﻢ ﻭَﻻ ﺍﻟ ﱠ َ ـ "ﺍﻫﺪﻧَﺎ ﺍﻟﺼﺮﺍﻁ ﺍﳌﹸﺴﺘَﻘﻴ َﻢ ﺻﺮَﺍﻁ ﺍﻟﱠﺬﻳ َﻦ ﺃﻧﻌَﻤ .(15 ـ "ﻗﺎﻝ ﺇﻧﱠﻚ ﻣ َﻦ ﺍﻟﻤُﻨﻈﺮﻳ َﻦ" )ﺍﻷﻋﺮﺍﻑ ـ .(23 )ﺍﻟﻨﺴﺎﺀ
"ﺕ ﺍﻷﺧﺖ ُ ﺕ ﺍ َﻷ َﻭَﺑﻨﺎ ُ ـ "ﺣُﺮﻣَﺖ ﻋَﻠﻴﻜﹸﻢ ﹸﺃ ﱠﻣﻬَﺎُﺗﻜﹸﻢ َﻭَﺑﻨَﺎُﺗﻜﹸﻢ ﻭَﺃ َﺧﻮَﺍﺗُﻜﹸﻢ َﻭ َﻋﻤﱠﺎُﺗﻜﹸﻢ َﻭﺧَﺎﻻﺗُﻜﹸﻢ َﻭَﺑﻨَﺎ .(3 )ﺍ ﺎﺩﻟﺔ ـ
"ـ "ﻭﺍﻟﱠﺬﻳ َﻦ ﻳُﻈﺎﻫﺮُﻭﻥ ﻣﻦ ﻧﺴﺎﺋﻬﻢ ﹸﺛﻢﱠ َﻳﻌُﻮﺩُﻭﻥ ﻟﻤَﺎ ﻗﺎﻟﻮﺍ ﻓﺘَﺤﺮﻳﺮُ ﺭَﻗﺒَﺔ
2. พยัญชนะที่บางกรณีตองอานตัฟคีม บางกรณีตองอานตัรกีก คือ “ ”رลักษณะการอานเดิมของ ر คือ ตัรกีก เพราะ رไมไดอยูในกลุมของพยัญชนะอิสติลาอฺ ( )ﺍﻹﺳﺘﻌﻼﺀคือกลุมพยัญชนะในคําวา “ ﺧ ”ﺿﻐ ﻗแตตองอานแบบตัฟคีมในกรณีดังตอไปนี้ ก.เมื่อ رประสมดวยสระ ฟตฮะฮฺ หรือฎอมมะฮฺ ( )ﻣﻔﺘﻮﺣﺔ ﺃﻭ ﻣﻀﻤﻮﻣﺔเชน ﺍﻟﺮﱠﺣﻤﻦ. ﺭَﺑﻜﹸﻢ . ﺭُﺩﻭﺍ ﻻ ﺭَﺁ ّﺩ. เปนตน ข. “ ”رซากินะฮฺ กอนจากรอเปนสระ ฟตหะฮฺหรือ ฎอมมะฮฺ เชน คําวา ﻳُﺮﺳﻞ. ﺗَﺮﻣﻲ ค. เมื่อ “ ”رซากินะฮฺ กอน “ ”رอานกัสเราะฮฺ หลัง “ ”رเปนพยัญชนะกลุม อิสติลาอฺ และประสม ดวยสระฟตหะฮฺ เชน คําวา ﻗﺮﻃﺎﺱ. ﻣﺮﺻَﺎﺩﹰﺍ. ﺇﺭﺻﺎﺩﹰﺍแตในกรณีที่พยัญชนะในกลุมอิสติลาอฺ ที่ตามหลังมา เสียงแบบตัฟคีม เปนเสียงที่เกิดจากการยกโคนลิ้นขึ้นไปจนกับเพดานดานบนขณะเปลงเสียง ซึง่ เสียงแบบตัฟคีมจะหนักเบาแตกตางกัน ออกไปตามชนิดของสระที่เขามาประสมกับพยัญชนะ ระดับเสียงที่แรงที่สดุ คือเสียงของพยัญชนะกอน اที่เปนพยัญชนะมัด ระดับรองลงมาก็ เปน เสียงกอนฟตหะฮฺ และกอนจาก وมัด กอนจาก “ฎอมมะฮฺ” ตามลําดับ 1
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
129
อานดวยสระกัสเราะฮฺ ก็ใหอานแบบ “ตัรกีก ( ”)ﺗﺮﻗﻴﻖแทน เชน คําวา ﹸﻛﻞ ﻓـﺮﻕแตมีนักวิชาการบางทานก็ อนุญาตใหอานแบบตัฟคีมได ง. เมื่อ “ ”رเปน رซากินะฮฺ ( )ﺳﺎﻛﻨﺔอยูในตนคํา และถูกวางไวหลัง “ ”ءวะซาล เชนคําวา ﺍﺭﺟـﻌﻲ. ﺃﻡ ﺍﺭﺗﺎﺑُﻮﺍ 2. ลาม ( ) لเดิมทีลามจะอานแบบ “ตัรกีก ( ”)ﺗﺮﻗﻴﻖจะอานแบบ “ตัฟคีม ( ”)ﺗﻔ ﻴﻢไดก็เฉพาะในคําวา “”ﺍﷲ เทานั้น แตตองมีขอแมวากอนจาก لจะตองเปนสระ ฟตหะฮฺ ( )ﻓﺘﺤــﺔหรือ ฎอมมะฮฺ ( )ﺿــﻤﺔเทานั้น ตัวอยาง เชน ﻗﺎﻝ ﺍﷲ. ﻳﻘﻮ ﹸﻝ ﺍﷲ 3. อลิฟมัด ( )ﺍﻟﻒ ﻣﺪเดิมที อลิฟมัด จะอานแบบ ตัรกีก ( )ﺗﺮﻗﻴﻖเชนเดียวกับ ﺭและ ﻝแตจะอาน ตัฟคีม ( )ﺗﻔ ﻴﻢไดก็ตอเมื่อ อลิฟมัด อยูหลังพยัญชนะในกลุมอิสติลาอฺ เชน ﺍﻟﻄـﺎﻏﹸﻮﺕ. ﺍﻟﺼﱠﺎﺑﺮﻳﻦ ﺍﳋﺎﻟـﺪﻳﻦ ﺍﻟﻘﺎﺭﻋَﺔ. ﺍﻟﻐَﺎﻓﻠﲔ. ﺍﻟﻈﹼﺎﻟﻤﲔ. ﻀ ﻟﲔ ﺍﻟ ﱠ. นักวิชาการบางทานกลาววา ฟตหะฮฺ ก็เชนเดียวกับ อลิฟมัด เพราะเปนชนิดเดียวกัน จึงจัดอยูใน กลุมที่ตองอานแบบ “ตัฟคีม ( ”)ﺗﻔ ﻴﻢหากฟตหะฮฺอยูห ลังพยัญชนะในกลุม “อิสติลาอฺ” เชน َﺧﺮَﺟﺘُﻢ. ﻕ َ ﺻ َﺪ َ ﻗﻀَﻰ. ﺿﻞﱠ ﻇﻠ َﻢ ﻏﻞﱠ َ . ﻃَﺒ َﻊ. แบบฝกหัด (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) ใหนักเรียนฟงการอานซูเราะฮฺ อัลฟจรฺ ( )ﺳﻮﺭﺓ ﺍﻟﻔﺠـﺮและทําความเขาใจการอานแบบ “ตัฟคีม ( )ﺗﻔ ﻴﻢและ ตัรกีก (”)ﺗﺮﻗﻴﻖในซูเราะฮฺนี้ทั้งหมด 8.หลักการเกี่ยวกับ “อิดฆอม ( ”)ﺍﺩ ﺎทั่วไป 1. เมื่ อ มี พ ยั ญ ชนะสองตั ว ที่ มี แ หล ง กํ า เนิ ด เสี ย งและลั ก ษณะการอ า นที่ ค ล า ยกั น หรื อ ใกล เ คี ย งกั น หาก พยัญชนะตัวแรกอานซากินะฮฺ ตัวที่สอบมีสระ ( )ﻣﺘﺤﺮﻛﺔวายิบตองอานอิดฆอมเขาดวยกัน ตัวอยาง (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) .(60 ﺠ َﺮ" )ﺍﻟﺒﻘﺮﺓ ـ َ ـ "ﺍﺿﺮﺏ ﺑ َﻌﺼَﺎ َﻙ ﺍﳊ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
130
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
ـ "ﻭَﻗﺪ ﱠﺩ َﺧﻠﹸﻮﺍ ﺑﺎﻟﻜﹸﻔﺮ َﻭﻫُﻢ ﻗﺪ َﺧ َﺮﺟُﻮﺍ ﺑﻪ" )ﺍﳌﺎﺋﺪﺓ ـ .(61 ـ " َﻭﻣَﻦ ﻳُﻜﺮﻫﻬ ﱠﻦ ﻓ ﱠﻥ ﺍﷲ ﻣﻦ ﺑَﻌﺪ ﺇﻛﺮَﺍﻫﻬ ﱠﻦ ﻏﻔ ُﻮ ُﺭ ﺭﱠﺣﻴ ُﻢ" )ﺍﻟﻨﻮﺭ ـ .(33 ﻚ ﻟﻦ ﺗَﺴﺘَﻄﻴ َﻊ ﻣَﻌ َﻲ ﺻَﺒﺮﹰﺍ")) (1ﺍﻟﻜﻬﻒ ـ .(75 ـ "ﻗﺎﻝ ﺃﻟﻢ ﺃﻗﹸﻞ ﺇﱠﻧ َ ) และﺻــــﻔﺔ( 2.เมื่อพยัญชนะสองตัวอยูในแหลงกําเนิดเสียงเดียวกัน แตแตกตางกันที่ลักษณะการอาน ) จะไมอานแบบอิดฆอมเขาดวยกัน ยกเวนﻣﺘﺤﺮﻛـﺔ( ) ตัวที่สองมีสระﺳﺎﻛﻨﺔ(ฺพยัญชนะตัวแรกอานซากินะฮ ้ีพยัญชนะดังตอไปน ﺩ /ﺕ " :ﻗﺪ ﱠﺗَﺒﱠﻴ َﻦ ﺍﻟﺮﺷ ُﺪ ﻣ َﻦ ﺍﻟﻐَﻲ" )ﺍﻟﺒﻘﺮﺓ ـ .(256 ﺕ /ﺩ " :ﻗﺎﻝ ﻗﺪ ﺃﹸﺟﻴﺒَﺖ ﺩﱠﻋ َﻮُﺗ ﹸﻜﻤَﺎ " )ﻳﻮﻧ ـ .(89 ﺕ /ﻁ " :ﻓ ﻣﻨﺖ ﻃ ﺋﻔ ﹸﺔ ﻣﻦ َﺑ ﺇﺳﺮﺁﺋﻴﻞ ﻭَﻛﻔﺮﺕ ﱠﻃ ﺋﻔ ﹸﺔ " )ﺍﻟﺼﻒ ـ .(14 /ﺕ " :ﻟﺌﻦ َﺑﺴَﻄ ﱠ ﻚ" ﻚ ﻟ ﻗﺘُﻠ َ ﻱ ﺇﻟﻴ َ ﺖ ) (2ﺇﻟ ﱠﻲ َﻳ َﺪ َﻙ ﻟﺘَﻘﺘُﻠﻨﻲ َﻣ ﺃﻧﺎ ﺑﺒَﺎﺳ ﻳَﺪ َ ﺫ/
" :ﻭَﻟﻦ ﻳَﻨﻔﻌﻜﹸﻢُ ﺍﻟﻴَﻮ َﻡ ﺇﺫ ﻇﱠﻠﻤﺘُﻢُ ﺃﱠﻧﻜﹸﻢ ﰲ ﺍﻟﻌَﺬﺍﺏ ﻣُﺸﺘﺮﻛﹸﻮﻥ" )ﺍﻟﺰﺧﺮﻑ ـ .(39
ﻕ /ﻙ " :ﺃﻟﻢ َﻧ ﻠﹸﻘﻜﻢ )(3ﻣﻦ ﱠﻣ ﺀ ﻣﱠﻬﲔ" )ﺍﳌﺮﺳﻼﺕ ـ .(20 ﻥ /ﻡ " :ﺃﻟﻢ َﻧ ﻠﹸﻘﻜﻢ ﻣﻦ ﱠﻣ ﺀ ﻣﱠﻬﲔ" ) ﺍﳌﺮﺳﻼﺕ ـ .(20 ﻝ /ﺭ " :ﺑَﻞ ﺭﱠﺑﻜﹸﻢ ﺭَﺏ ﺍﻟﺴ َﻤﻮَﺍﺕ ﻭَﺍﻷﺭﺽ ﺍﻟﱠﺬﻱ ﻓﻄ َﺮﻫُ ﱠﻦ " )ﺍﻷﻧﺒﻴﺎﺀ ـ .(56 ﺏ /ﻡ " :ﻳَﺎُﺑَﻨﻲﱠ ﺍﺭﻛﺐ ﱠﻣ َﻌﻨَﺎ" )ﻫﻮﺩ ـ .(42 ﻚ ﻣَﺜﻞﹸ ﺍﻟﻘﻮﻡ ﺍﻟﱠﺬﻳ َﻦ ﻛﺬﱠﺑُﻮﺍ ﺑ ﻳﺎﺗﻨﺎ" )ﺍﻷﻋﺮﺍﻑ ﺙ /ﺫ " :ﻛﻤَﺜﻞ ﺍﻟﻜﻠﺐ ﺇﻥ ﺗَﺤﻤﻞ ﻋَﻠﻴﻪ ﻳَﻠﻬَﺚ ﺃﻭ ﺗَﺘﺮُﻛﻪُ ﻳَﻠﻬَﺚ ﺫﻟ َ ـ .(176
)(1 )(2 )(3
ﺳﺒﻘﺖ ﳕﺎﺫ ﺃﺧﺮﻯ ﻹﺩﻏﺎﻡ ﺍﳌﺘﻤﺎﺛﻠﲔ ﻭﺫﻟﻚ ﰲ ﺃﺣﻜﺎﻡ ﺍﻟﻼﻡ ﺍﻟﺴﺎﻛﻨﺔ ﻭﺍﳌﻴﻢ ﺍﻟﺴﺎﻛﻨﺔ ﻭﺍﻟﻨﻮﻥ ﺍﻟﺴﺎﻛﻨﺔ ﻭﺍﻟﺘﻨﻮﻳﻦ. ﻳﻼﺣ ﰲ ﻧﻄﻖ ﺍﻟﻄﺎﺀ ﻗﺒﻞ ﺍﻟﺘﺎﺀ ﻭﺍﻟﻘﺎﻑ ﻗﺒﻞ ﺍﻟﻜﺎﻑ ﺃﻥ ﺍﻹﺩﻏﺎﻡ ﻟﻴ ﺧﺎﻟﺼﹰﺎ ﺃﻭ ﺗﺎﻣﹰﺎ ﻣﻌﻬﻤﺎ .ﻭﺇﳕﺎ ﺻﻔﺔ ﺍﻟﺘﻔ ﻴﻢ ﺍﳋﺎﺻﺔ ﺑﺎﻟﻄﺎﺀ ﻭﺍﻟﻘﺎﻑ ﻭﺍﺿﺤﺔ ﻣﻊ ﺍﻹﺩﻏﺎﻡ .ﺃﻣﺎ ﺻﻮﺭ ﺍﻹﺩﻏﺎﻡ ﺍﻷﺧﺮﻯ ﻓﻠﻴ ﻓﻴﻬﺎ ﻫﺬﺍ ﺍﻷﻣﺮ .ﻻﺣ ﺍﻟﻔﺮﻕ ﰲ ﺍﻟﻨﻄﻖ ﰲ ﺍﻟﺘﺴﺠﻴﻞ. ﺭﺍﺟﻊ ﺟﺪﻭﻝ ﺗﻮﺯﻳﻊ ﺍﻷﺻﻮﺍﺕ ﺣﺴﺐ ﺍﳌ ﺎﺭ ﻭﺍﻟﺼﻔﺎﺕ ) (13/ﻟﺘﺘﺤﻘﻖ ﻣﻦ ﺍ ﺎﺫ ﻛﻞ ﺯﻭ ﻣﻦ ﺍﻷﺻﻮﺍﺕ "ﺍﳌﺘﺠﺎﻧﺴﺔ" ﰲ ﺍﳌ ﺮ ﻭﺍﺧﺘﻼﻓﻪ ﰲ ﺍﻟﺼﻔﺔ.
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
131
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ในคัม ภีรอัล กุ ร อาน จะแสดงสั ญ ลัก ษณ การอ า นอิ ด ฆอมด ว ยการไมแ สดงเครื่ อ งหมายซุ กู น ใน พยัญชนะตัวแรก และในตัวที่สองจะแสดงเครื่องหมายตัชดีด (ّ)ـไว 9. หลัการอาน “วกัฟ”( )ﺍﻟ ﻗ หลักการอานที่สําคัญอีกประการหนึ่งที่ควรแกการเรียนรูขณะอานอัลกุรอาน คือหลักการเกี่ยวกับ การ อาน “วกัฟ (( ”)ﻭﻗــﻒหมายถึงการหยุดวรรค หรือหยุดพักเพื่อเริ่มตนใหม) การ “วกัฟ (”)ﻭﻗــﻒ จะวกัฟไดที่ไหน มีหลักการอยางไร ? เมื่อเราอานไปแลวตองการหยุด (เพื่อสูดลมหายใจ) กอนที่จะสิ้นสุด อายะฮฺ ควรปฏิบัติอยางไร ? การอานแลววกัฟ (หยุด) นั้นทําไดในทุกที่หรือไม หรือจะวกัฟ (หยุด) ไดกับ คําประเภทใด ? หากมีการอานวกัฟ คําคํานั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไมอยางไร ? 1.วกัฟซุนนะฮฺ คือการวกัฟในตนอายะฮฺหรือตอนทายของอายะฮฺ เปนรูปแบบการอานที่ไดรับการ สืบทอดมาจากทานรอซูลุลลอฮ ซึ่งทานเองรับมาจากมลาอิกะฮฺญิบรีล จึงไมตองสงสัยเลยวาการ อานวกัฟ ที่ไดรับการถายทอดมาจากทานรอซูลุลลอฮ นั้นจะตองมีปรัชญาหรือประโยชนแฝงอยูอยาง แน น อน การอ านโดยไมวกั ฟตามที่ท า นกํ าหนดไวจะทํ า ใหปรั ชญาหรื อประโยชน ห ายไป ทางที่ ดีค วร อานวกัฟในตอนทายของอายะฮฺ (ตามที่ทานสอนไว) แตในบางครั้ง หรือบางกรณี อยางเชนการอานอายะฮฺทวี่ า “ﺼﻠﱢﲔ ﺍﻟﱠﺬﻳ َﻦ ﻫُﻢ ﻋَﻦ ﺻَﻼﺗﻬﻢ ﺳَﺎﻫُﻮﻥ َ ”ﻓﻮَﻳﻞﹸ ﻟﻠ ُﻤ หากอานแลวมาวกัฟ (หยุด)ตรงคําวา “ﺼﻠﱢﲔ َ ”ﻟﻠ ُﻤอาจจะทําใหบางคนเขาใจไปวาความหมายของอายะฮฺจะ ผิดเพี้ยนไปจากขอเท็จจริง นั่นเปนความเขาใจที่ไมถูกตอง ในเมื่อเราเองมีเจตนาวาจะอานตอ (การหยุดตรงนี้ เพียงเพื่อพักเพื่อที่จะอานตอเทานั้น) ไมไดหยุดและยุติการอานแคนี้ แตหากอานแลวยุติอยูแคอายะฮฺนี้เปน การอานที่หามปฏิบัติ แตสําหรับการอานแลวมาหยุดเพื่อที่จะอานตอไปจนจบซูเราะฮฺนั้นสามารถกระทําได แตทางที่ดีควรอานและวกัฟ (หยุด)ในตําแหนงที่ถูกตอง (ทายอายะฮฺ) เพื่อเปนการปกปองและรักษาไวซึ่งซุน นะฮฺของทานรอซูลุลลอฮ 1.อนุญาตใหเราสามารถวกัฟ (หยุด) ไดที่ไหน ? อายะฮฺอัลกุรอานทั้งหมดลวนแลวแตมีความหมาย ฉะนั้นมุสลิมจะตองอานอายะฮฺและวกัฟ(หยุด) ในตําแหนงที่ไมทําใหความหมายของอายะฮฺผิดเพี้ยน หรือเสียหาย อยางเชนในตอนทายหรือจุดที่เปนที่ สิ้นสุดอายะฮฺดังที่ไดกลาวมาแลวขางตน เพราะตําแหนงนี้ทั้งหมดจะเปนตําแหนงที่สามารถรักษาไวซึ่ง ความหมายของอายะฮฺมิใหผิดเพี้ยน ซึ่งนักวิชาการไดกําหนดสัญลักษณการวกัฟ (หยุด)ไว เพื่อความสะดวก ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
132
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ต อ ผู อ า นอั ล กุ ร อานทุ ก คน ซึ่ ง มี ห ลายสถานะ เช น วกั ฟ ยั ย ยิ ด (ระดั บ ดี ) ( )ﻭﺍﻟﻮﻗﻒ ﺍﳉﻴﺪและมี ก ารทํ า เครื่องหมายเตือนเกี่ยวกับตําแหนงที่เรียกวา “วกัฟ กอบิฮฺ” (ไมควรวกัฟ) ดังจะนําเสนอในรายละเอียดของ สัญลักษณและความหมายในอันดับตอไป “ ”مเปนเครื่องหมายวกัฟ ที่เรียกวา “วกัฟลาซิม” (ـﻼﺯﻡ ـﻒ ﺍﻟـ )ﺍﻟﻮﻗـซึ่งหมายถึง จุดที่จําเปนตอง หยุดวกัฟ เพราะหากอานตอไปจะทําใหความหมายของอายะฮฺไมถูกตอง ตัวอยางเชน .(36 ﺐ ﺍﻟﱠﺬﻳ َﻦ ﻳَﺴ َﻤﻌُﻮﻥ ﻭَﺍﻟﻤﻮﺗَﻰ ﻳَﺒ َﻌﺜﹸﻬُﻢُ ﺍﷲ" )ﺍﻷﻧﻌﺎﻡ ـ ُ "ﺇﱠﻧﻤَﺎ ﻳَﺴﺘَﺠﻴ ซึ่งมีความหมายวา “อันที่จริง บรรดาผูรับฟง (ดวยใจจริง) ยอมสนองตอบ (คําประกาศของเจา) แตวา (คนที่ไมยอมศรัทธาที่เปรียบเหมือน) คนตายนั้น อัลลอฮฺจะทรงทําใหพวกเขาฟนขึ้น (มาอีก) ... ” หากอานแลวไมหยุดตรงคําวา “ ”ﻳﺴﻤﻌﻮﻥแลวมาหยุดอยูที่คําวา “ ”ﺍﳌ َﻮﺗَﻰความหมายของอายะฮฺ ก็จะ เพี้ ย นไปว า “คนตายจะสนองตอบ (คํ า ประกาศ) เหมื อ นบรรดาผู ที่ รั บ ฟ ง ด ว ย” ซึ่ ง แน น อนที่ สุ ด เป น ความหมายที่ไมถูกตอง ตัวอยางที่สอง .(65 ﺟَﻤﻴﻌﹰﺎ" )ﻳﻮﻧ ـ
َ "ﻭَﻻ َﻳﺤﺰُﻧ ﻚ ﻗﻮﻟﹸﻬُﻢ ﻡ ﺇ ﱠﻥ ﺍﻟﻌﺰﱠﺓ ﷲ
หากไมอานวกัฟที่คําวา “ ”ﻗﻮﻟﹸﻬُﻢแตมาหยุดที่คําวา “ ”ﺟَﻤﻴﻌﺎﹰก็จะมีความหมายผิดเพีย้ นไปเปนวา “ ”ﻡﺇ ﱠﻥ ﺍﻟﻌﺰﱠﺓ ﷲ ﺟَﻤﻴﻌﹰﺎนั้นเปนคําพูดของพวกมุชริกนี ทั้ง ๆ ที่ประโยคนี้เปนการเริ่มตนประโยคใหมซึ่งองค อภิบาลทรงตรัสกับศาสนทูตของพระองค “ ”ﻻเปนสัญลักษณทแี่ สดงใหเห็นวา เปนตําแหนงที่ “หาม” วกัฟ ( )ﻭﻗﻒเพราะหากวกัฟใน ตําแหนงนี้จะทําใหความหมายเดิมของอายะฮฺผิดเพี้ยนไปในทางอื่น ตัวอยาง เชน .(56 "ﻗﹸﻞ ﻻ ﺃﺗﱠﺒ ُﻊ ﺃﻫﻮَﺁ َﺀﻛﹸﻢ ﻻﻗﺪ ﺿَﻠﻠﺖُ ﺇﺫﹰﺍ َﻭ َﻣ ﺃﻧَﺎ ﻣ َﻦ ﺍﳌﹸﻬﺘَﺪﻳ َﻦ" )ﺍﻷﻧﻌﺎﻡ ـ ซึ่งมีความหมายวา “เจาจงประกาศอีกวา “ฉันไมขอตามอารมณของพวกทาน เพราะแทจริง (หาก ฉันตามอารมณพวกนั้น) ฉันก็ยอมหลงผิดโดยพลัน และตัวฉันก็จะมิใชผูหนึ่งจากบรรดาผูไดรับการชี้นํา อยางแนนอน” หากอานแลวมา วกัฟ ( )ﻭﻗﻒหยุดอยูที่คําวา “ ”ﺃﻫﻮَﺁ َﺀﻛﹸﻢจะทําใหความหมายของอายะฮฺแยกออกไป ระหวางประโยคกอนและประโยคหลังที่ตามมาที่วา “( ”ﻗﺪ ﺿَﻠﻠﺖُ ﺇﺫﹰﺍฉันยอมหลงผิด) จะมีความหมายวา ทานนบี ยอมรับวาตัวทานเองหลงผิด ซึ่งความหมายดังกลาวเปนการผิดเพี้ยนที่รับไมได เพราะประโยคที่วา
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
133
“ ”ﻗﺪ ﺿَﻠﻠﺖُ ﺇﺫﹰﺍนั้นเปนการตอบประโยคเงื่อนไขกอนหนาที่วา “หากฉันตามอารมณพวกนั้น”(การที่ทาน รอซูลุลลอฮเปนผูหลงผิดนั้นเปนเรื่องที่เปนไปไมไดเพราะมีการปฏิเสธไวแลวในตอนตนของอายะฮฺ) “ ”ﻗเปนเครื่องหมายที่แสดงวา อนุญาตใหวกัฟได และการอานวกัฟในตําแหนงนี้จะเปนการดี ตัวอยางเชน .(22 )ﺍﻟﻜﻬﻒ ـ
""ﻗﹸﻞ ﺭﱠﺑﻲ ﺃﻋﻠﻢُ ﺑﻌﺪﱠﺗﻬﻢ ﻣﱠﺎ ﻳَﻌﻠﻤُﻬُﻢ ﺇ ﱠﻻ ﻗﻠﻴ ﹸﻞ ﻗﻠﻰ ﻓﻼ ُﺗﻤَﺎﺭ ﻓﻴﻬﻢ ﺇﻻ ﻣﺮَﺍ ًﺀ ﻇﺎﻫﺮﹰﺍ
ประโยคที่สองคือคําวา “ ”ﻓﻼ ُﺗﻤَﺎﺭ ﻓﻴﻬﻢไมไดมีความหมายเชื่อมตอกับประโยคกอนหนา ดวยเหตุนี้ เองการวกัฟ(หยุด)ในตําแหนงนี้จะดีกวาการอานตอ ()ﻭﺻﻞ “ ” เปนเครื่องหมายที่แสดงใหเห็นวา อนุญาตใหอานวกัฟได แตการอานตอโดยไมหยุดจะ ดีกวา ตัวอยางเชน َ " ﻭﺍﻟﱠﺬﻳ َﻦ ﻳَﺒَﺘﻐُﻮﻥ ﺍﻟﻜﺘَﺎ ﺏ ﻣﻤﱠﺎ ﻣَﻠﻜﺖ ﺃ َﺎُﻧﻜﹸﻢ ﻓﻜﺎﺗﺒُﻮﻫُﻢ ﺇﻥ ﻋَﻠﻤﺘُﻢ ﻓﻴﻬﻢ ﺧَﻴﺮﹰﺍﺻـﻠﻲ ﻭ ﺁﺗُﻮﻫُﻢ ﻣﻦ ﻣﱠﺎﻝ ﺍﷲ . (33 : " )ﺍﻟﻨﻮﺭ. . ﺍﻟﱠﺬﻱ ﺁﺗَﺎﻛﹸﻢ ประโยคที่วา “ ”ﻭَﺁﺗُﻮﻫُﻢ ﻣـ ّﻦ ﻣﱠـﺎﻝ ﺍﷲมีความหมายเปนสาระสําคัญเชื่อมตอกับประโยคกอนหนา ฉะนั้นการอานวาซัล ( )ﻭﺻﻞอานเชื่อตอจะดีกวาอานวกัฟ (ความหมายจะไดไมผิดเพี้ยน) “ ” เปนเครื่องหมายที่แสดงใหเห็นวาสามารถอานวกัฟได แต ยังระบุไมไดวา การวกัฟ หรือการ วะฟล อยางไหนจะดีกวากัน . ( 13 : ")ﺍﻟﻜﻬﻒ.. ﻚ َﻧﺒَﺄﻫُﻢ ﺑﺎﳊﻖ ﺇ ﻢ ﻓﺘﻴَﺔ ﺁ َﻣﻨُﻮﺍ ﺑﺮﺑﻬّﻢ َ ﻋَﻠﻴ
" ﻧَﺤﻦُ َﻧ ﹸﻘ
∴∴ เปนเครื่องที่แสดงใหเห็นวา อนุญาตใหอานวกัฟในจุดหนึ่งจุดใดในตําแหนงนี้ได แตหามอานวกัฟทั้ง สองที่พรอมกัน หรือจะไมวกัฟเลยก็ได ตัวอยาง เชน .( 2 : " ) ﺍﻟﺒﻘﺮﺓ. . ﲔ َ ﺐ∴ ﻓﻴﻪ ∴ ُﻫﺪﱠﻯ ﻟﻠﻤُﺘﱠﻘ َ ﺏ ﻻ ﺭَﻳ ُ ﻚ ﺍﻟﻜﺘَﺎ َ " ﺫﺍﻟ อนุญาตให อานอายะฮฺทั้งหมดโดยไมตองวกัฟ และอนุญาตใหอานวกัฟที่คําวา “ ”ﺭﻳﺐแตเมื่อวกัฟ ที่นี่แลว หามอานหยุดที่ “ـﻪ ”ﻓﻴـและสามารถวกัฟที่ “ـﻪ ”ﻓﻴـหากไมอานวกัฟที่ “ـﺐ ”ﺭﻳـจะอยางไรก็ตาม เครื่องหมายหรือสัญลักษณเหลานี้ทั้งหมดเปนสิ่งที่บงบอกใหเห็นถึงความพยายามของนักวิชาการ แตไมใช เปนสิ่งที่ไดรับการถายทอดมาจากทานนบี จึงไมใชเรื่องจําเปนที่จะตองยึดถือเปนหลักนักแตใหพิจารณา เรื่องของความหมายในแตละอายะฮฺเปนสําคัญ ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
134
3. การวกัฟ อิฎติรอรียฺ (( )ﺍﻟﻮﻗﻒ ﺍﻹﺿﻄﺮﺍﺭﻱหมายถึงหยุดอานแบบฉุกเฉินเพราะผูอานตองการหยุดหายใจ) เมื่อผูอานตองการหยุดฉุกเฉินในที่ที่ไมเหมาะ เมื่อผูอานตองการเริ่มตนใหม ก็ใหยอนกลับไปอานคํากอน หนาเพื่อใหไดความหมายที่ไมผิดเพี้ยน ภาวะดังกลาวจะแตกตางกันไปตามสภาพของแตละคน 4. ผลของการวกัฟ (หยุดอาน) การวกัฟในบางกรณีอาจทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของเสียงบาง เล็กนอย ผูที่อานอัลกุรอานจะตองมีความเขาใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อปองกันมิใหเกิดความผิดเพี้ยนในเรื่องของ ความหมาย ขณะอาน ก.ตันวีนหรือเครื่องหมายอิอฺรอบ( )ﺣﺮﻛﺎﺕ ﺍﻹﻋﺮﺍﺏบางตัวจะตกไป ตัวอยางเชน (ฟงจากเทป บันทึกเสียง) ﺭﺣﻴﻢเมื่อตองวกัฟ ก็จะอานวา ﺭﺣﻴـﻢคําวา ُ ﺍﻟﻘ َﻤﺮอานเปน ﺍﻟﻘﻤَﺮ ข. การเปลี่ยนตันวีนมันซูฟ ()ﻣﻨﺼﻮﺑﺎﹰเปนอลิฟ ตัวอยางเชน (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) . ﺗَﺮﺗﻴﻼ.. . ﻼ َﻭﺭَﺗﻞ ﺍﻟﻘﹸﺮﺁﻥ ﺗَﺮﺗﻴ ﹰ ค. การเปลี่ยนตะอฺมัรบูเฏาะฮฺ ( )ﺗﺎﺀ ﻣﺮﺑﻮﻃﺔเปน “ ”ﻫﺎﺀขณะอาน (เทานั้น เขียนเหมือนเดิม) ตัวอยางเชน (ฟงจากเทปบันทึกเสียง) “ﺚ ﺍﻟﻐَﺎﺷﻴَﺔ ”ﻫَﻞ ﺃﺗﺎ َﻙ ﺣَﺪﻳ ﹸอานเปน “ ”ﺍﻟﻐﺎﺷﻴﻪแตยังเขียนเปน “”ﺍﻟﻐﺎﺷﻴﺔ เหมือนเดิม หลักการอาน “ฮัมซะฮฺวะซาล” ( )ﳘﺰﺓ ﺍﻟﻮﺻﻞนั่นคือ ฮัมซะฮฺที่ประสมดวยสระ ـَـ ـِـ ـُـเมื่อตองอาน เชื่อมตอกับพยัญชนะซากินะฮฺ เชน “ ﺿﺮﺏเปน ” ﺍﺿﺮﺏ ฮัมซะฮฺวะซาล จะมีอยูในคําดังตอไปนี้ 1. ในคํานาม เชน คําวา “ﺍﺑﻨﺔ, ﺍﺑﻦ, ﺍﻣﺮُﺀﺓ“ ”ﺍﺳﻢ, ﺍﻣﺮ, ﺍﺛﻨﺘﺎﻥ, ”ﺍﺛﻨﺎﻥกลุม “ ﺍ ُﻦ, ”ﺍﺳﺖ 2. อาการนาม()ﻣﺼﺪﺭของกิรยาในกลุมแมบท “ ﺍﺳﺘَـﻔﻌَﻞ, ﺍﻓ َﻌﻞﱠ, ﺍﻓَﺘﻌَﻞ, ”ﺍﻧﻔﻌَﻞและในกริยาที่ เปนคําสั่ง ( )ﻓﻌﻞ ﺍﻷﻣـﺮจาก กริยามุฎอริอฺ ( )ﻣـﻀﺎﺭﻉที่พยัญชนะที่สองของคําอานซากินะฮฺ เชน ﺍﺿﺮﺏ 3. อลิฟ,ลาม ( )اﻟــกอมะรียะฮฺหรือชัมชียะฮฺ . ﰲ ﺍﻟـ ﺍﻳﻤُﻦ . َ ﺍﺩﺧُﻞ ﺍﹸﻧُﺘ ﺐ ﺍﹸﺳﺘُ ﺮ: นอกเหนือจากคําที่กลาวมา
( )ﻓﺘﺤﺔฟตหะฮฺ ()ﺿﻤﺔฎอมมะฮฺ ()ﻛﺴﺮﺓกัสเราะฮฺ
: ﺣﺮﻛﺘﺎﻫﺎ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
135
หากเริ่มตนที่คํานั้นก็จะมีเสียงปรากฏ แตหากเปนการ -1 อานเชือมตอกับคําอื่น เสียงก็จะหายไป ไมปรากฏทั้งการอานและการเขียนในคําวา -2 .ﺑﺴﻢ ﺍﷲ ﺍﻟﺮﲪﻦ ﺍﻟﺮﺣﻴﻢ ( ) ﺍﺑﻦเมื่อถูกวางไวระหวาง ชื่อคน สองซื่อ (อลิฟก็จะ หายไป) เชน “”ﻋﺒﺪ ﺍﷲ ﺑﻦ ﻋﻤﺮ “ ”اหลังจาก “ ”ﻟـเชน ﻟﻠﺒَﻴﺖ เมื่อ “ ”اอานกัสเราะฮฺ หรือฎอมมะฮฺ หลัง “ ”أอิสติฟ ฮาม ( )ﺍﺳﺘﻔﻬﺎﻡเชน ﺕ َ ﺍﺳﺘَﻐﻔﺮ/ ﺍﺳﺘ ﺮ
หลักการอาน
เปลี่ยนเปน อลิฟมัด ( )ﺍﻟﻒ ﻣﺪหากฮัมซะฮฺอยูหลังฮัม -3 ซะฮฺ อิสติฟฮาม เชน “”ﺁﷲ ﺧﲑ ﺃﻣﺎ ﻳﺸﺮﻛﻮﻥ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
136
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ภาคผนวก ในภาคผนวกจะกลาวถึงในหลายเรื่อง บางเรื่องจะไมเกี่ยวกับหลักการอานในวิชาตัจวีดโดยตรง แต เปนเรื่องที่ผูอานจะไดประโยชน ขณะอานอัลกุรอาน เรื่องที่ 1 ระดับการอานทั้ง 4 ระดับ 1. การอานแบบตัรตีล (ـﻞ )ﺍﻟﺘﺮﺗﻴــเปนระดับการอานที่ดีที่สุด เปนการอานอยางตั้งใจ ชา ๆ อานไป พรอม ๆ กับการทําความเขาใจความหมาย 2. การอานแบบ ฮัดรฺ ( )ﺍﳊﺪﺭตรงกันขามกับการอานแบบ ตัรตีล อัลฮัดรฺ มีความหมายวา “รวมเร็ว” ในการอาน แตจะยังรักษาไวซึ่งระดับการอานที่ถูกตองสั้นยาวและหลักการอานตามหลักวิชาตัจวีด สวนการ อานที่ทําใหผิดหลักการอานนั้นถือวาเปนการอานที่ผิด จะตองพึงระวัง 3. อัตตัดวีร ( )ﺍﻟﺘﺪﻭﻳﺮเปนการอานในระดับปานกลางซึ่งอยูระหวางการอานแบบตัรตีนและอัลฮัดรฺ 4. อัลตะฮฺกีก( )ﺍﻟﺘﺤﻘﻴﻖเปนการอานที่ยาวและชาที่สุด โดยยึดหลักการอานที่เปนที่สุดทั้งหมด เปน การอานไปอยางชา ๆ การอานในระดับนี้มักจะใชสําหรับฝกปฏิบัติหรือออกเสียงใหถูกหลักการอานตาม หลักวิชาตัจวีดทั้งหมด เรื่องที่ 2 เรื่องของแบบอักษรในคัมภีรอัลกุรอาน ในสมัยกอนอาลักษณที่ทําการบันทึกอัลวะหฺยูซึ่งเปนอัลกุรอานที่อัลลอฮทรงประทานมายังทานนบี ซึ่งบันทึกลงในแผนบันทึกหลายชนิด เชน แผนไม แผนกระดูก แผนหิน เปนตน ในสมัยของทานอาบีย บักร ทานไดทําการรวบรวมอัลกุรอานทั้งหมดซึ่งกระจัดกระจายอยูตามแผนบันทึกตาง ๆ มาไวในที่เดียวกัน ตอมาในสมัยของทานอุสมาน ทานไดทําการคัดลอกอัลกุรอานจากแผนบันทึกตาง ๆ ซึ่งทานอาบียบักรได รวบรวมไว ออกมาเปนหลายเลม โดยใชรูปแบบการเขียนที่เปนแบบเดียวกันทั้งหมด จนที่เปนที่รูจักกันวา เปนคัมภีรอัลกุรอานตามแบบของอุสมาน ( )ﺭﺳﻢ ﻋﺜﻤﺎและการเขียนตามรูปแบบของทานก็ไดถูกถายทอด มายังพวกเราจนกระทั่งยังคงอยูจนถึงทุกวันนี้ และรูปแบบการเขียนของทานอุสมานนี่เองที่ใชสําหรับการ เขียนคัมภีรอัลกุรอานในปจจุบัน
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
137
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
และการเขียนตามแบบของอุสมานก็ขามยุคขามสมัยมาจนผานเลยศตวรรษที่สิบสี่ ขามเลยยุคของ โลกแหงอิสลามมาจนกระทั่งถึงปจจุบัน ยุคสมัยที่หลักการเขียนไดวิวัฒนาการในการเขียนอื่น ๆ ที่ไมใชอัล กุรอาน จากยุคหนึ่งไปยั งอีกยุคหนึ่ง จากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ ง และผลของวิวัฒนาการเหลานั้น กลายเปนวาเกิดขอแตกตางขึ้นมากมายระหวางการเขียนตามแบบของอุสมานและการเขียนตามแบบอื่นทั่วๆ ไปที่ไมใชอัลกุรอาน แตในที่นี้ไมไดมีจุดประสงคที่จะเปรียบเทียบระหวางสองรูปแบบแตประการใด และ ไมไดมีจุดประสงคที่จะใหเหตุผลของความแตกตางระหวางแบบการเขียนทั้งสอง แตที่สําคัญตองการที่จะ ใหนักอานทั้งหลายไดคิดและมองเห็นความแตกตางในบางจุด เพื่อจะไดไมกลายเปนเรื่องยาก(ในการอาน ตามรูปแบบการเขียนของอุสมาน) และจะไดไมเกิดขอผิดพลาดขณะอานอัลกุรอานตอไป 1.กลุมคําที่มีพยัญชนะบางตัวถูกตัดออกไป อยางเชน อลิฟมัด ในคําวา “ , ﺍﻟﺼﺮﺍﻁ, ﻣﺎﻟﻚ, ﺍﻟﻌﺎﳌﲔ ﺍﻟﺼﻮﻋﻖ, ”ﺍﻟﻜﺘﺎﺏ ﺭﺯﻗﻨﻬﻢและคําอื่น ๆ อีกหลายคํา ในคัมภีรอัลกุรอานจะพบวา จะมีพยัญชนะ “ ”اตัวเล็ก ๆ กํากับอยูในที่ที่มีเสียง “ ”اที่ขาดหายไป หากมีเครื่องหมายดังกลาวก็แสดงวาเวลาอานออกเสียงจะตองมี เสียงของ “ ”اอยูดวย และวายิบจะตองอานดวย “วาว มัด” ( )ﻭﺍﻭ ﺍﳌﺪที่ถูกตัดออกไปในบางคํา เชนคําวา “ ﻱ َ ﻭﻭﻭﺭ. ﻳَﻠﻮﻭﻭﻥ. ”ﺩّﺍ ُﻭﻭﺩซึ่งจะพบวาคํา เหลานี้ ในตําแหลง “วาว มัด”ที่ขาดไปนั้น จะมีสัญลักษณ “ ”ﻭตัวเล็กกํากับอยู โดยมีวัตถุประสงคเดียวกับที่ ไดกลาวมาแลว “ยะอฺมัด ” ( )ﻳﺎﺀ ﺍﳌﺪในคํ าวา “ ﻭَﻟـ َﻰ ﺍﳊﻮَﺍﺭﻳﻴـ َﻦ. ﻳُﺤﻴﻲ:” ก็จ ะพบว ามี “ ”ﻱตัว เล็ก แสดงเป น สัญลักษณเพื่องายตอการอานตอไป พยัญชนะตัวอื่น ๆ : คําวา “ ”ﻧُـﺠﻲเวลาอาน อานวา “”ﻧﻨﺠﻲ 2. กลุมคําที่มีพยัญชนะเพิ่มเขามาแตไมมีการอานออกเสียง เชน คําวา “ . ﺳَﻼﺳﻼ. ﻭَﺛﻤُﻮﺩَﺍ ﻓﻤَﺎ ﺃﺑﻘﻰ. ﻗﺎﻟﻮﺍ ﺑﺄﻳﻴﺪ. ﲔ َ ﺃﹸﻭﻟﻮﺍ ﺍﻟﻌﻠﻢ ﻣﻦ ﱠﻧﺒَﺄﻱ ﺍﳌﹸﺮﺳَﻠ. ”ﻷﺃﺫَﺑﺤﻨﱠ ُﻪหากสังเกต(ในคัมภีรอัลกุรอาน)จะมีสัญลักษณเปนวงกลม อยูเหนือพยัญชนะที่เพิ่มเขามา สัญลักษณเชนนี้แสดงใหเห็นวาไมตองอานออกเสียง 3. กลุมคําที่มีพยัญชนะที่ถูกตัดออกไปและมีพยัญชนะที่เปนตัวเพิ่มเขามาแตไมอานออกเสียง เชนคําวา “ ﺍﳊﻴـﻮﺓ. ﺍﻟﺰﻛـﻮﺓ. ﺍﻟﺼﻠـﻮﺓ. ”ﺃﻭﻟﺌﻚพยัญชนะที่เปนตัวเพิ่ม จะมีเครื่องหมายเปนวงกลมเล็ก ๆ “{” แสดงกํากับไว หากพยัญชนะที่เพิ่มเขามาไมไดอยูในตําแหนงของพยัญชนะที่ถูกตัดออก แตหากอยูใน
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
138
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ตําแหนงเดียวกันก็จะมีการทําสัญลักษณเปนพยัญชนะตัวเล็ก ๆ ไว เพื่อแสดงใหเห็นวามีการตัดพยัญชนะ บางตัวออกไปเหนือตําแหนงตัวที่เพิ่มเขามา เรื่องที่ 3 การสัมผัสคัมภีรอัลกุรอาน การจับตองหรือสัมผัสอัลกุรอานจําเปนตองมีน้ําละหมาดหรือไม อยางไร ? ในหนังสือฟกฮฺของมัซฮับ(สํานักคิด) มาลิก อัชชาฟอียและทานอะหมัด ไดใหทัศนะไววา วายิบตอง มีน้ํ า ละหมาด จึ ง จะสั ม ผั สหรือจั บต องอั ลกุร อานได แต มัซ ฮั บอื่ น ๆ ให ทั ศ นะไวว า ไม จํ า เป น ต อ งมีน้ํ า ละหมาด กลุมที่ใหทัศนะไววา “วายิบ”นั้น จากการศึกษาคนควาหลักฐานอางอิงและขอมูลสนับสนุนในเรื่อง นี้ไมหนักแนนพอ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมไดจากหนังสือฟกฮฺซุนนะฮฺ ของซัยยิดซาบิก เลมที่ 1 ) สวนนักวิชาการที่ใหทัศนะไววาการจับตองหรือสัมผัสอัลกุรอานไมตองมีน้ําละหมาดนั้นไดอางอิง หลักฐานไวดังนี้ 1.ในเมื่อการอานอัลกุรอานโดยไมมีน้ําละหมาดนั้นสามารถทําได และเปนทัศนะที่นักวิชาการ มุสลิมทุกคนเห็นพองตองกันทั้งหมด แมกระทั่งเจาของทัศนะที่เห็นวาการสัมผัสคัมภีรอัลกุรอานตองมีน้ํา ละหมาด นักวิชาการมุสลิมทุกคนตางเห็นพองตองกันวาการอานอัลกุรอานเปนอีบาดะฮฺ แตการสัมผัสและ การพกพาอัลกุรอานไมใชอีบาดะฮฺ แลวทําไมสิ่งที่ไมใชอีบาดะฮฺจึงจําเปนตองมีน้ําละหมาด แตสิ่งที่เปนอีบา ดะฮฺกลับตองใหมีน้ําละหมาดกอน 2.หลักฐานที่นักวิชาการบางทานยึดถือมาเปนขอตัดสินวาจําเปนตองมีน้ําละหมาด หากตองการ สัมผัสหรือหยิบฉวยอัลกุรอานคืออายะฮฺที่วา “ ”" ﻻ َﻳﻤَﺴﻪُ ﺇ ﱠﻻ ﺍﳌﹸﻄﻬﱠﺮﻭﻥซึ่งมีความหมายวา “ไม (มีผูใด) สัมผัสกุรอานได นอกจากบรรดาผูที่มีความสะอาดแลวเทานั้น” การอรรถาธิบายคําวา “( ”ﺍﳌﹸﻄﻬﱠﺮﻭﻥผูที่มี ความสะอาด) ไดอธิบายไววาหมายถึงมลาอิกะฮฺ ไมใชมนุษย ซึ่งมีอายะฮฺกอนหนาสนับสนุนความหมายให มีความหนักแนนยิ่งขึ้น โดยกลาวถึงที่มาของอัลกุรอานวาจะไมมีทางที่จะถูกเปลี่ยนแปลงอยางเด็ดขาดโดย ที่อัลลอฮทรงตรัสไววา ﱠﻻ َﻳﻤَﺴﻪُ ﺇ ﱠﻻ ﺍﳌﹸﻄ ﱠ. ﰲ ﻛﺘَﺎﺏ ﻣَﻜﻨُﻮﻥ. ُﺇﻧﱠ ُﻪ ﻟﻘﹸﺮﺁﻥ ﻛﺮﱘ (80-77 َﺗ ﻳﻞﹸ ﻣﻦ ﺭﱠﺏ ﺍﻟﻌﺎﳌﲔ” )ﺍﻟﻮﺍﻗﻌﺔ. ﻬﺮُﻭﻥ “แทจริงสิ่ง (ที่นบีมุฮํามัดนํามาอาน) นั้น เปนกรุอานที่มีเกียรติที่สุด(ซึ่งถูกบันทึก) ในคําภีรที่ถูกเก็บ รักษาไว (นั่นคือ เลาฮุลมะฮ. ฟูซ)ไม (มีผูใด) สัมผัสกุรอานได นอกจากบรรดาผูที่มีความสะอาดแลวอัลกุ รอานนั้น ถูกประทานลงมาจากองคอภิบาลแหงโลกทั้งหลาย”
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
139
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
การใชคําวา “ ”ﺍﳌﻄﻬﺮﻭﻥไมไดหมายถึง “ ”ﺍ ﹸﳌﺘَﻄﻬﺮﻭﻥซึ่งนักวิชาตางยืนยันแลววา หมายถึงมลาอิกะฮฺ เพราะผูที่มีความสะอาดแลวคือผูที่ไดรับการชําระใหสะอาดจากผูอื่น สวนผูที่มีน้ําละหมาดจะตองใชคําวา “ ”ﻣُﺘَﻄﻬﺮดังที่อัลลอฮไดทรงกลาวไวในอัลกุรอานวา “ﲔ ﻭﻳُﺤﺐ " ﺍ ﹸﳌﺘَﻄﻬﺮﻳ َﻦ َ ”ﺇ ﱠﻥ ﺍﷲ ﻳُﺤﺐ ﺍﻟﱠﺘﻮﱠﺍﺑอีกอายะฮฺ หนึ่งอัลลอฮทรงตรัสไววา .(222 : ﻭﻻ ﺗَﻘﺮَﺑﻮﺍ ﺍﻟﻨﺴﺎ َﺀ َﺣﺘﱠﻰ ﻳَﻄﻬُﺮﻥ ﻓ ﺫﺍ ﺗَﻄﻬﱠﺮﻥ ﻓﺄﺗُﻮ ُﻫ ﱠﻦ ﻣﻦ ﺣَﻴﺚﹸ ﺃ َﻣ َﺮﻛﹸﻢُ ﺍﷲ )ﺍﻟﺒﻘﺮﺓ ดังนัน้ เจาทั้งหลายจงแยกตัวออกจากสตรี (ผูเปนภริยา) ในชวงมีระดู และพวกเจาจงอยาเขาใกลพวก นางจนกวาพวกนางจะสะอาด(ในที่นี้หมายถึงการอาบน้ําชําระรางกาย) ดังนัน้ เมื่อพวกนามมีความสะอาด แลว พวกเจาก็จงเขาหานางเถิด ตามที่อัลเลาะฮฺไดทรงบัญชาแกพวกเจา นอกจากนั้นก็ยังมีฮาดิษทีเ่ ปนหลักฐานอางอิง ซึ่งทานรอซูลุลลอฮ ไดกลาวไวในสารของทานที่ เขียนถึงชาวเยแมนวา “ُ( ”ﻻ َﻳ َﻤ ﺍﻟﻘﹸﺮﺁﻥ ﺇ ﱠﻻ ﻃﺎﻫﺮอยาไดสัมผัสอัลกุรอานยกเวนผูที่มคี วามบริสุทธิ์สะอาด แลวเทานัน้ ) ซึง่ ก็ไมไดเปนหลักฐานยืนยันวาตองมีน้ําละหมาด เพราะในที่นี้คําวา “ ”ﻃﺎﻫﺮหมายถึง “มุสลิม” ซึ่งมีความหมายตรงกันขามกับคําวา “ ” ที่ใชสําหรับบอกลักษณะของกาเฟร ดังที่ไดมีการกลาวไวในอัล กุรอานวา “ُ ﺠ َ ”ﺇﳕﺎ ﺍﳌﹸﺸﺮﻛﻮﻥ َﻧ ขอควรจํา บรรดานักวิชาการที่รวมกันศึกษาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไมมีใครแมแตสักทานเดียวที่ เรียกรองให ไมตองเอาน้ําละหมาดขณะอานหรือสัมผัสอัลกุรอาน แตในที่นี้นักวิชาการเหลานี้ตองการยืนยัน เกี่ยวกับหลักการหรือขอบัญญัติทางศาสนา เกี่ยวกับหลักฐานอางอิงซึ่งเปนจิตวิญญาณของการสนับสนุน หลักการใหเปนที่กระจางชัดเทานั้น และที่สําคัญคือตองการที่จะแกปญหาความยากลําบากในการปฏิบัติแก มุสลิมเทานั้น ซึ่งหลายคนปฏิเสธ(ไมกลา)ที่จะอานหรือสัมผัสคัมภีรอัลกุรอาน (ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็รักที่จะอาน) ในขณะที่เขาเองไมมีน้ําละหมาด ซึ่งบางครั้งอาจจะยากลําบากสําหรับที่จะไปเอาน้ําละหมาดใหม การเอาน้ําละหมาดเพื่อที่จะอานอัลกุรอาน (ไมวาจะเปนการอานแบบทองจําหรืออานจากคัมภีร) เปนเพียงซูนัต ที่คิดวานาจะอยูในกรอบของหลักการสองประการ คือวายิบโดยที่ไมมีหลักฐานปรากฏยืนยัน ซึ่งก็สรางความยากลําบากในการปฏิบัติแกผูคนพอสมควร ซึ่งอัลลอฮเองไดทรงตรัสไวในอัลกุรอานวา . ( 78 :
)ﺍﳊ. "
ﻣَﺎ َﺟﻌَﻞ ﻋَﻠﻴﻜﹸﻢ ﰲ ﺍﻟﺪﻳﻦ ﻣﻦ َﺣ َﺮ
ในเรื่องของศาสนา (อัลลอฮ)จะไมทําใหพวกเจารูสึกยากลําบาก
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
140
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
เรื่องที่ 4 มารยาทในการอานอัลกุรอาน นักวิชการมุสลิมไดเขียนเกี่ยวกับมารยาทในการอานอัลกุรอานไวมากมายเพื่อใหมุสลิมยึดถือมา ปฏิบัติขณะอานอัลกุรอาน ซึ่งขอเขียนของนักวิชาการเหลานี้แตกตางกันออกไป บางก็เขียนไวอยางละเอียดถี่ ถวน บางก็เขียนไวพอสังเขป แตสําหรับในที่นี้จะขอนํามากลาวถึงแตเพียงสั้น ๆ เพื่อใหมุสลิมสามารถถือ ปฏิบัติได เพราะหากมุสลิมเองตระหนักวาตัวเขาเองกําลังอยูตอหนาองคอภิบาลของพวกเขา ขณะอานอัลกุร อาน เขาเองก็จะตองตระหนักอยูในตัวแลว ไมตองใหมีการสั่งสอนเพิ่มเติมในเรื่องของมารยาทที่จะตองถือ ปฏิบัติแตอยางใด เพื่อใหเขาสามารถยึดถือเอามารยาทขณะเขาเฝาองคอภิบาลแหงสากลโลก ก็ใหลอง เปรียบเทียบวา ขณะที่เขาเองเขาเฝาเขาพบผูหลักผูใหญ เขาเองจะตองมีการเตรียมตัว เตรียมพรอมใหดีที่สุด เทาที่จะสามารถกระทําได การเขาพบเขาเฝาจะตองเต็มเปยมไปดวยมารยาทที่เหมาะสม เพื่อแสดงออกถึง การแสดงความเคารพเทิดทูน นี่เปนแคผูใหญในบานเมืองเทานั้น กับองคอภิบาลผูทรงอุปถัมภฟากฟาและ แผนดิ น ผูทรงอํ านาจและพลัง ผูทรงเมตตาและทรงสู งสง พระองค คือผูทรงสรางชี วิต ผูทรงรอบรู ต อ ธรรมชาติของชีวิต ผูทรงบัญชาใหเราระลึกถึงพระองค เพราะการระลึกถึงอัลลอฮนั้นจะยังประโยชนใหกับ บรรดาผูศรัทธาทั้งมวล มารยาทในการอานอัลกุรอาน 1. มีเจตนาตออัลลอฮที่บริสุทธิ์ มีความตั้งใจที่จะอิบาดะฮฺตอพระองค ใหมีความรูสึกวาเปนการเขา เฝาอัลลอฮ ดวย(การอาน)อัลกุรอานเลมนี้ 2. เตรียมพรอมเพื่อการอานอัลกุรอานดวยการชําระลางรางกายใหสะอาดบริสุทธิ์ (ซุนัต) ใสเครื่อง หอม และนั่งในที่ที่สะอาด หันหนาไปทางกิบลัต ทําจิตใจใหปลอดโปรง 3. ขณะอาน ใหอานออกเสียงใหไพเราะถูกตอง (ตามหลักวิชาตัจวีด) นาฟง (โดยไมเนนทําลอง แบบเพลง) อานพรอม ๆ กับจิตใจที่แนวแน นอบนอมถอมตน 4. อานพรอม ๆ กับทําความเขาใจเนื้อหาสาระที่อาน เพื่อใหสามารถเขาใจความหมายในเรื่องของ ขาวดี ขาวราย พรอม ๆ กับการประเมินตนเองเกี่ยวกับการกระทําของตนเอง และที่ที่ตนเองจะคืนกลับในวัน โลกหนา โดยประเมินไปตามเรื่ องราวที่อานจากอายะฮฺ เ กี่ย วกับกุศลผลบุญหรือการลงโทษที่จะได รับ อัลลอฮทรงตรัสไวในอัลกุรอานวา ﺇﱠﻧﻤﺎ ﺍﳌﹸﺆﻣﻨُﻮﻥ ﺍﻟﱠﺬﻳ َﻦ ﺇﺫﺍ ﺫﹸﻛ َﺮ ﺍﷲ ﻭَﺟﻠﺖ ﻗﻠﹸﻮُﺑﻬُﻢ ﻭﺇﺫﺍ ﺗُﻠﻴَﺖ ﻋَﻠﻴﻬﻢ ﺀﺍﻳﺎُﺗ ُﻪ ﺯَﺍ َﺩﺗﻬُﻢ ﺇ ﺎﻧﹰﺎ َﻭﻋَﻠـﻰ ﺭَﺑﻬـﻢ ( 2 ") ﺍﻷﻧﻔﺎﻝ ـ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
َﻳَﺘ َﻮﻛﱠﻠﹸﻮﻥ
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
141
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
อันที่จริง บรรดาผูศรัทธาไดแกบรรดาผูซึ่งเมื่อมีการกลาวรําลึกถึงอัลเลาะฮฺ หัวใจของพวกเขาก็ สะทกสะทาน และเมื่อมีการอันเชิญโองการตางๆ ของพระองค โองการเหลานั้นก็เพิ่มพูนแกพวกเขาซึ่ง ศรัทธาภาพ และพวกเขามีจิตมอบหมายตอองคอภิบาลของพวกเขา ﻚ ﺍﻷﻣﺜﺎ ﹸﻝ ﻧﻀﺮﺑُﻬﺎ ﻟﻠﻨﱠﺎﺱ َ " ﻟﻮ ﺃﻧﺰﻟﻨﺎ ﻫﺬﺍ ﺍﻟﻘﹸﺮﺁﻥ ﻋﻠﻰ َﺟﺒَﻞ ﻟﺮَﺃﻳَﺘﻪُ ﺧَﺎﺷﻌﹰﺎ ﻣﺘﺼﺪﻋﹰﺎ ﻣﻦ ﺧَﺸﻴَﺔ ﺍﷲ ﻭَﺗﻠ .(21 ﻜﺮُﻭﻥ " )ﺍﳊﺸﺮ ـ ﻟ َﻌﱠﻠﻬُﻢ َﻳﺘَﻔ ﱠ มาดแมนเราไดลงอัลกุรอานนี้มายังภูเขา แนนอนเจาก็จะเห็นมันนอบนอม และแตกออกเปนเสี่ยงๆ เพราะความยําเกรงอัลเลาะฮฺ และอุทาหรณเหลานั้น เรายกมันมาแสดงแกมนุษยเพื่อพวกเขาจักไดตริตรอง 5. ออกเสียงอานใหเสียงดังฟงชัดเจนหากไมมีอะไรเปนอุปสรรคขัดขวาง เพราะการอานดวยเสียง อันดังฟงชัดนั้นจะชวยกระตุนใหจิตใจตื่นตัว และเหออกมาจากความยุงเหยิงตาง ๆ หรือบางครั้งอาจจะยัง ประโยชนกับผูที่ไดยินอีกดวย 6.ใหเริ่มตนการอานดวยการขอความคุมครองจากอัลลอฮใหรอดพนจากชัยฏอนมารราย (ดวยการ อาน... ﺃﻋﻮﺫ ﺑﺎﷲ ﻣﻦ ﺍﻟﺸﻴﻄﺎﻥ ﺍﻟﺮﺟﻴﻢจากนั้นก็ใหอาน “ ”ﺑﺴﻢ ﺍﷲในกรณีที่การอานเริ่มอานมาจากตนซู เราะฮฺ หรือทุกครั้งที่อานซูเราะฮฺใหม ยกเวนซูเราะฮฺ อัลบะรออะฮฺ หรือซูเราะฮฺ อัตเตาบะอฺ 7.เมื่ออานจบ หรือตองการยุติการอานใหกลาววา “”ﺻﺪﻕ ﺍﷲ ﺍﻟﻌﻈﻴﻢ ﻭَﺑﻠﱠ ﺭﺳﻮﻟﻪ ﺍﻟﻜﺮﱘ ﻭ ﻦ ﻋﻠﻰ ﺫﻟﻚ ﻣﻦ ﺍﻟﺸﺎﻫﺪﻳﻦ ﺍﻟﺸﺎﻛﺮﻳﻦ ซึ่งมีความหมายวา “พระดํารัสแหงอัลลอฮทรงสัจจริงเสมอ และศาสนทูตแหงพระองคไดทําการ เผยแพร (สาระแหงอัลกุรอานแลว) พวกเราขอเปนพยานในเรื่องดังกลาวและขอขอบคุณยิ่ง” 8. ไมควรใหมีคําพูดหรือการกระทําอยางอื่นมาสกัดกั้นหรือสอดแทรกเขามาขณะอานอัลกุร ยกเวน ในภาวะจําเปน 9. การอานอัลกุรอานเปนอิบาดะฮฺ (ศาสนกิจที่จะไดรับกุศลผลบุญ) ซึ่งอัลลอฮไดทรงสัญญากับผูที่ อานอัลกุรอานวาจะตอบแทนผลบุญใหสิบผลบุญตอหนึ่งตัวอักษรที่อาน ดวยเหตุนี้เองมุสลิมจึงควรที่จะอยู กับการอานอัลกุรอานทุกวันทุกเวลา ควรใหอานกุรอานใหไดหนึ่งจบ อยางนอยเดือนละครั้ง หรือทางที่ดี ควรจะตารางการอานการทองจําอัลกุรอานไวใหชัดเจน โดยกําหนดทองเทาที่ตนเองสามารถจะกระทําได เชนวันละหนึ่งหรือสองอายะฮฺ 10.สําหรับมุสลิมแลวเมื่ออานอัลกุรอานหมดเลมไปแลว ควรกลับมาอานใหมใหหลายอายะฮฺเพื่อ เปนการยืนยันวาจะอานตามติดตอไป เพื่อใหจบเลมในครั้งตอ ๆ ไป
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
142
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
11. สําหรับมุสลิมทุกคนทางที่ดีควรมีหองสมุดสวนตัว และในหองสมุดควรมีหนังสือเกี่ยวกับการ อรรถาธิบายอัลกุรอานฉบับงาย ๆ ที่สามารถเรียนรูไดดวยตนเอง (อยางเชน ตัฟซีร อิบนุล กะซิร , ตัฟซีร อัล วาฎิหฺ ของ ทานมุฮัมหมัด มะฮฺมูด ฮิญาซิย หรือ ฝซิลาลิลกุรอาน ของทานซัยยิด กุฏบ) และหนังสือเกี่ยวกับ ความรูที่วาดวยอัลกุรอาน (เชน วิชาที่วาดวยอัลกุรอานวิทยา ของทานชัยคฺ ซุบฮิ อัซซอลิฮฺ,มะบาฮิษ ฟยฺ อุลู มมุลกุรอาน ของ ชัยคฺ มันนาอฺ อัลกอฏฏอน หนังสือ อัลมุญัม อัลมุฟะรอซ ลิอัลฟาซุลกุรอานิลกะรีม ของ ทาน มุฮําหมัด ฟูอาด อับดุลบากีย) หนังสือเหลานี้ทั้งหมดจะชวยใหเราสามารถเขาใจความหมายของอัลกุ รานและสามารถนําบัญญัติตาง ๆ ที่มีอยูในอัลกุรอานออกมาใชไดดียิ่งขึ้น เมื่อคราวจําเปน เรื่องที่ 6 เครื่องหมายและสัญลักษณที่ใชในคัมภีรอัลกุรอาน การเขียนเลขศูนย ในลักษณะวงรีเหนือพยัญชนะอิลละฮฺ แสดงใหเห็นวาพยัญชนะตัวนั้นเปนตัวที่ เพิ่มเขามา ไมตองอานออกเสียงขณะอานวะซาลและอานวกัฟ เชน ในกลุมคําดังตอไปนี้ ﺃﹸﻭﻟﹸـﻮﺍ. ﻚ َ ﺃﹸﻭﻟﺌ. ﺇﱠﻧ ﺃﻋﺘَﺪﻧَﺎ ﻟﻠﻜﺎﻓﺮﻳ َﻦ ﺳَﻼﺳﻼ. ﻭَﺛﻤُﻮﺩﺍ ﻓﻤَﺎ ﺃﺑﻘﻰ. ُﺤﱠﻨﻪ َ ﻷﺍﺫَﺑ. ﺻﺤُﻔﺎ ُ ﻳﺘﻠﻮﺍ. ﻗﺎﻟﻮﺍ . َﺑﻨَﻴﻨَﺎﻫﺎ ﺑﺄﻳﻴﺪ. ﲔ َ ﻣﻦ ﻧﱠﺒ ﻱ ﺍﳌﹸﺮﺳَﻠ. ﺍﻟﻌﻠﻢ นอกจากนั้นก็ยังมีสัญลักษณวงกลมเหนือตัว اและหลังจาก “ ”اเปนพยัญชนะที่มีสระ ( )ﻣﺘﺤﺮﻙเปน การบงบอกใหเขาใจวา เปนตัวเพิ่ม (ตองอานออกเสียง) เมื่อตองอานวะซัล (อานตอไมหยุด) และเวลาวกัฟ จะไมมี(เสียงตัวนั้นดังออกมา) เชน คําตอไปนี้
. ﻛﺎﻧﺖ ﻗﻮَﺍﺭﻳﺮَﺍ ﻣﻦ ﻓﻀﱠﺔ. ﻚ َ َﻭَﺗﻈﹸﻨﻮﻥ ﺑﺎﷲ ﺍﻟﻈﻨُﻮﻧَﺎ ُﻫﻨَﺎﻟ. ﺃﻧَﺎ ﺧَﲑ ﻣﻨ ُﻪ ﻟﻜﻨﱠﺎ ﻫُ َﻮ ﺍﷲ ﺭَﰊ แตในกรณีที่มี “ ”اและหลังจาก “ ”اเปนพยัญชนะที่ไมมีสระ ( )ﺳﺎﻛﻨﺔเครื่องหมายนั้นก็จะไมมี เชน ในอายะฮฺที่วา “ُ ”ﺃﻧﺎ ﺍﻟﻨﱠﺬﻳﺮแมวาหลักการอานจะอานเหมือนกันก็ตาม สัญลักษณหวั ของพยัญชนะ “”حตัวเล็ก(ไมมีจุด)1 หากอยูเหนือพยัญชนะตัวใด ก็จะเปนการบงบอก ใหรูวาตัวนัน้ เปนตัวซากินะฮฺ และจะตองอานอิซฮารฺ เชน ในคําวา . ﻭﺇﺫ ﺯَﺍﻏﺖ. ﻭﺧُﻀﺘُﻢ. ﺖ َ ﺃ َﻭﻋَﻈ. ﻧﻀﺠﺖ ُﺟﻠﹸﻮ ُﺩﻫُﻢ. ﻓﻘﺪ ﺿﻞ. ﻗﺪ ﲰﻊ. ﺑﻌﺒﺪﻩ. ﻭَﻳﻨﺌـﻮﻋﻨﻪ. ﻣﻦ ﺧﲑ หากพบวาชนะตัวหนึ่งไมมเี ครื่องหมายซุกนู (ْ )ــปรากฏอยู แตพยัญชนะตัวหลังกลับมีตัชดีด นัน่ แสดงวาจะตองอานอิดฆอมตัวแรกเขากับตัวที่สองอยางสมบูรณแบบ เชนคําวา 1
ดูรายละเอียดและรูปแบบการเขียนจากคัมภีรอัลกุรอาน จะไดเห็นลักษณะของสัญลักษณที่แทจริง เพราะในที่นี้การพิมพสัญลักษณอาจจะจํากัด
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
143
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
ﺃﻟﻢ َﻧ ﻠﹸﻘﻜﻢ. ﻭﻣَﻦ ﻳُﻜﺮﻫﻬﻦ: ﻭﻗﺎﻟﺖ ﻃﱠﺎﺋﻔﺔﹸ. ﻚ َ ﻳَﻠﻬَﺚ ﺫﱠﻟ. ﺩﱠﻋ َﻮُﺗ ﹸﻜﻤَﺎ หากพบวาไมมีทั้งเครื่องหมายซุกูนและตัชดีดในพยัญชนะตัวถัดไป นั่นก็แสดงใหเห็นวาคํานั้น จะตองอานอิคฟะอฺ อยาไดอานแบบอิซฮารฺ และไมใชอิดฆอม เชนในคําดังตอไปนี้ เชน . ﺇ ﱠﻥ َﺭﱠﺑﻬُﻢ ﺑﻬﻢ. ﻣﻦ ﲦﺮﺓ. ﻣﻦ ﲢﺘﻬﺎ หรืออานอิดฆอมแบบไมสมบูรณ เชนคําวา “ﺖ َ َﺑﺴَﻄ. ﻓﺮﱠﻃﺘُﻢ. ﻣﻦ ﻭَﺍﻝ. ”ﻣَﻦ َﻳﻘﹸﻮ ﹸﻝ สัญลักษณ “ ”مตัวเล็ก แทนสระสองหรือตันวีน เหนือพยัญชนะที่ตองอานตันวีน หรือเหนือ พยัญชนะ “ ”نซากินะฮฺ ( )ﺳﺎﻛﻨﺔแทนสัญลักษณซุกูน (ْ )ـโดยไมมีเครื่องหมายตัชดีด (ّ )ـเหนือตัว “ ”بที่ ตามมา นั่นก็แสดงใหเขาใจไดวา จะตองเปลี่ยนตันวีนหรือนูน เปนเสียงมีม ( )مเชนคําวา
. ﻣﻨﺒﺜﹰﺎ. ﻣﻦﻡ ﺑﻌﺪ. ﻛﺮﺍﻡﻡ ﺑﺮﺭﺓ. ﺟﺰﺍﺀﻡ ﲟﺎ ﻛﺎﻧﻮﺍ. ﻋَﻠﻴ ُﻢﻡ ﺑﺬﺍﺕ ﺍﻟﺼﺪﻭﺭ สัญลักษณสระสองตัวซอนกัน (ٌ )ـًـ ـٍـ ــเปนการแสดงใหเห็นวาตองอานอิซฮารฺตันวีน เชน คําวา
ﻭَﻟﻜﹸﻞ ﻗﻮﻡ ﻫَﺎﺩ. ﻭﻻ َﺷﺮَﺍﺑﹰﺎ ﺇﻻ. ﲰﻴﻊ ﻋَﻠﻴﻢ ในกรณีที่มีสระสอง ( )ـ ًـ ـ ٍـ ـ ٌـแลวตามมาดวยพยัญชนะที่มีตัชดีด (ّ )ـแสดงวา พยัญชนะตัวนั้นตอง อานอิดฆอม เชนคําวา . ُﻭﺟُﻮﻩ ﻳﻮﻣﺌﺬ ﻧﱠﺎﻋﻤ ﹸﺔ. ﻏﻔﹸﻮﺭﹰﺍ ﺭﱠﺣﻴﻤﹰﺎ. ﺴﱠﻨ َﺪﺓﹸ َﺐﻣ ُ ﺸ ُ ُﺧ หากมีพยัญชนะที่มีสระสองแลวตามมาดวยพยัญชนะที่ไมมีตัชดีด แสดงวาจะตองอานอิคฟะอฺ เชน ﺑﺄﻳﺪﻱ ﺳَﻔﺮَﺓ ﻛﺮَﺍﻡ. ﺳﺮَﺍﻋﹰﺎ ﺫﻟﻚ. ُﺏ ﺛﺎﻗﺐ ُ ﺷﻬَﺎ: หรืออานอิดฆอมไมสมบูรณ เชน ُﻭﺟُﻮ ُﻩ ﻳَﻮﻣَﺌﺬ: ﺭَﺣﻴ ُﻢ َﻭﺩُﻭﺩจึงเขียนสระสองไวในที่ของซุกูน การเขียนสัญลักษณพยัญชนะตัวเล็ก เปนการบงบอกใหรูวา มีพยัญชนะตัวนั้นถูกตัดออกไป ใน คัมภีรฉบับอุสมานีย สัญลักษณในลักษณะนี้จะตองอานออกเสียง เชน ในคําวา ﺏ ُ ﻚ ﺍﻟﻜﺘَﺎ َ ﺫﻟคําวา ﺇﻟــﻔﻬﻢ. ﺇﻟﻰ ﺍﳊﻮَﺍﺭﻳــ َﻦ. ﺇ ﱠﻥ ﻭَﻟﻴـ َﻰ ﺍﷲ. ﺖ ﻭَﻟﻲ ﰲ ﺍﻟﺪﻧﻴَﺎ َ ﺃﻧ. ﺖ ُ ﻳُﺤﻲ ﻭﻳُﻤﻴ. ﻳَﻠ ُﻮﻭﻥ ﺃﻟﺴَﻨَﺘﻬُﻢ. ﺩَﺍ ُﻭﻭﺩ 1 .ﲔ َ ﻚ ﻧُـﺠﻲ ﺍﳌﹸﺆﻣﻨ َ ﻭَﻛﺬﻟ. ﻛﺘَـَﺒ ُﻪ ﺑﻴَﻤﻴﻨﻪ ﻓَﻴﻘﹸﻮ ﹸﻝ. ﺇﻥﱠ َﺭﺑﱠ ُﻪﻭ ﻛﺎﻥ ﺑﻪ ﺑَﺼﲑﹰﺍ. ﺭﺣﻠﺔ ﺍﻟﺸَﺘ ﺀ
สัญลักษณตาง ๆ ที่กลาวมาทั้งหมดบางครั้งจะพิมพออกมาใหเหมือนในคัมภีรอัลกุรอานไมได หากนักเรียนตองการดูสัญลักษณตามความเปน จริงวาแสดงไวอยางไร ก็ขอใหดูจากคัมภีรอัลกุรอานที่เขียนดวยแบบอักษรของอุสมานีย 1
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
144
เดิมทีนักวิชาการผูเชี่ยวชาญจะเขียนพยัญชนะเหลานี้ดวยสีแดง แตเนื่องจากจะเปนการยากในการ จัดพิมพจึงใชพยัญชนะตัวเล็กแทน เพื่อที่จะสื่อความหมายในทางที่ตองการ 1 เครื่องหมาย (~)ِ เหนือพยัญชนะตัวใดตัวหนึ่ง นั่นแสดงใหเห็นวาพยัญชนะตัวนั้นจะตองอานออก เสียงยาวกวามัดฏอบิอียฺ ( )ﻣﺪ ﻃﺒﻴﻌﻲเชน ในกลุมคําดังตอไปนี้ . ﺑ َﻤ ﺃﻧﺰَﻝ. ﺏ َ ﻻ ﻳَﺴﺘَﺤﻲ ﺃﻥ ﻳَﻀﺮ. ﺗﺄﻭﻳﻠﻪُ ﺇﻻ ﺍﷲ. ﺷُﻔ َﻌﺆُﺍ. ﺳﻲ َﺀ ﺑﻬﻢ. ﹸﻗﺮُﻭﺀ. ﺍﻟﻄ ﻣﺔ$Ο!9# : สําหรับผูที่มีความเขาใจเกีย่ วกับหลักการอานตามหลักวิชาตัจวีด จะไมใชสัญลักษณทบี่ งบอกวาเปน “ ”اที่ถูกตัดออกไป หลังจาก “ ”اที่เขียนไว เชนคําวา “ ”ﺁﻣﻨﻮاซึ่งมีการเขียนผิดกันอยางมากมาย โดยเขียนวา “ ”ءاﻣﻨﻮاเขียนโดยใช “ ”ءแลวตามมาดวย “”ا สัญลักษณรูปวงกลมและมีตัวเลขอยูขางใน $ ∩⊇∪ หมายเลขนั้น ๆ ของซูเราะฮฺ เชน
เปนการแสดงใหเห็นวา สิ้นสุดอายะฮฺตาม
∩⊂∪ çtIö/F{$# uθèδ št∞ÏΡ$x© χÎ) ∩⊄∪ öptùΥ$#uρ y7În/tÏ9 Èe≅|Ásù ∩⊇∪ trOöθs3ø9$# š≈oΨø‹sÜôãr& !$¯ΡÎ)
สัญลักษณนี้หามนํามาวางไวในตนซูเราะฮฺอยางเด็ดขาด สัญลักษณ (*) แสดงใหเห็นวาเปนหนึ่งในสี่ของซูเราะฮฺ จึงไมพบในสวนแรกของซูเราะฮฺ อีก เครื่องหมายหนึ่งมีสัญลักษณคลายเสนตรงชี้ขึ้น()) แสดงวาเมื่ออานมาถึงตําแหนงนี้ตองซูยุด โดยจะมี เครื่องหมาย ( ) แสดงตําแหนงซูยุด ( )ﺳﺠﺪﺓไว Ÿω öΝèδuρ öΝÎγÎn/u‘ ωôϑpt¿2 (#θßs¬7y™uρ #Y‰£∨ß™ (#ρ”yz $pκÍ5 (#ρãÅe2èŒ #sŒÎ) tÏ%©!$# $uΖÏG≈tƒ$t↔Î/ ßÏΒ÷σム$yϑ¯ΡÎ) ∩⊇∈∪ ) šχρçÉ9õ3tFó¡o„ (As-Sajda 015)
∩⊆∪ tβρçÉ9õ3tGó¡o„ Ÿω öΝèδuρ èπs3Íׯ≈n=yϑø9$#uρ 7π−/!#yŠ ÏΒ ÇÚö‘F{$# †Îû $tΒuρ ÏN≡uθ≈yϑ¡¡9$# ’Îû $tΒ ß‰àfó¡o„ ¬!uρ ∩∈⊃∪ ) tβρãtΒ÷σム$tΒ tβθè=yèøtƒuρ óΟÎγÏ%öθsù ÏiΒ Νåκ®5u‘ tβθèù$sƒs†
. ﺍﻟﺮﺑَـﻮﺍ. ﻛﻤﺸﻜﺎﻭﺓ. ﺍﻟﺼﻼﺓ: ﻮ
ﻑ ﺍﳌﺘﺮﻭ ُﻙ ﺑﺪﻝ ﰲ ﺍﻟﻜﺘﺎﺑﺔ ﺍﻷﺻﻠﻴﺔ ﻋُﻮﻝ ﰲ ﺍﻟﻨﻄﻖ ﻋﻠﻰ ﺍﳊﺮﻑ ﺍﳌﻠﺤَﻖ ﻻ ﻋﻠﻰ ﺍﻟﺒﺪﻝ ُ ﻭﺇﺫﺍ ﻛﺎﻥ ﺍﳊﺮ1
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
145
การเขียนจุดไวบนตัว “ ”مกอนตัว “ّ ”نทีม่ ีตัชดีดเล็กนอย อยางเชน อายะฮฺทวี่ า ﻒ َ ُﻚ ﻻ ﺗَﺄ َﻣﻨﱠﺎ ﻋَﻠﻰ ﻳُﻮﺳ َ ﻣَﺎﻟแสดงวาตองอานแบบอิชมาม ( )ﺍﻹ ﺎﻡคือการอานแบบเมมริมฝปากทั้งสองเขา ดวยกัน เหมือคนที่ตองการอานออกเสียงฎอมมะฮฺ เพื่อแสดงใหเห็นวา ตําแหนงนั้นมีการตัดฎอมมะฮฺออกไป สัญลักษณรูปวงกลม บนพยัญชนะ “ ”ءตัวที่สอง เชน ในคําวา “ أَﺍﻋﺠَﻤﻲ َﻭ َﻋﺮَﰊ:” เพื่องายตอการ แยกแยะระหวาง “ ”اกับ “”ء เครื่องหมายการ “วกัฟ ( ”)ﻭﻗ ﻣـแสดงวาการวกัฟ ในตําแหนงนีน้ ั้นจําเปน หามอานผาน เชน
. ﺇﱠﻧ َﻤﺎ ﻳَﺴﺘﺠﻴﺐُ ﺍﻟﺬﻳﻦ ﻳَﺴ َﻤﻌُﻮﻥ ﻣـ ﻭَﺍﳌﻮﺗﻰ ﻳﺒﻌﹸﺜﻬُﻢ ﺍﷲ ﻻแสดงวาเปนตําแหนงที่หา มวกัฟ เชน .(32 ﻣﻦ ﺍ ﻳﺔ:ﺍﻟﱠﺬﻳ َﻦ َﺗﺘَﻮﻓﱠﺎﻫُﻢُ ﺍﳌﻼﺋﻜﺔ ﻃﻴﺒﲔﻻ ﻳﻘﻮﻟﻮﻥ ﺳَﻼﻡ ﻋَﻠﻴﻜﹸﻢُ ﺍﺩﺧﻠﻮﺍ ﺍﳉﻨﱠﺔ ﺑﻤَﺎ ﻛﹸﻨﺘُﻢ ﺗَﻌ َﻤﻠﹸﻮﻥ()ﺍﻟﻨﺤﻞ جแสดงวาเปนตําแหนงที่อนุญาตใหวกัฟได เชนอายะฮฺที่วา َ ﻋَﻠﻴ . ﻚ َﻧﺒَﺄﻫُﻢ ﺑﺎﳊﻖ ﺇ ﻢ ﻓﺘَﻴ ﹸﺔ ﺀﺍﻣﻨﻮﺍ ﺑﺮَﺑﻬﻢ
ﻧَﺤ ُﻦ َﻧ ﹸﻘ:
แสดงใหเห็นวาตําแหนงดังกลาวอนุญาตใหวกัฟได แตการอานวะซัลจะดีกวา เชนในอายะฮฺ ที่วา .ﻚ ﺑ َﲑ ﻓﻬُ َﻮ ﻋﻠﻰ ﻛﹸﻞ ﺷﻲﺀ ﻗﺪﻳﺮ َ ( ﺇﻻ ﻫُ َﻮ ﻭﺇﻥ ﻳَﻤﺴَﺴ
)
ﻒ ﻟﻪ َ ﻭﺇﻥ َﻳﻤﺴﺴﻚ ﺍﷲ ﺑﻀُﺮ ﻓﻼ ﻛﺎﺷ:
ﻗเปนสัญลักษณที่แสดงใหเห็นวาตําแหนงดังกลาวอนุญาตใหอานวกัฟได และการอานวกัฟจะ ดีกวา การอานวซัล เชน อายะฮฺที่วา . ﻗﹸﻞ ﺭﱠﰊ ﺃﻋﻠﻢُ ﺑﻌﺪﱠﺗﻬﻢ ﻣﺎ ﻳَﻌﻠ ُﻤﻬُﻢ ﻏﻼ ﻗﻠﻴﻞﻗﻠﻲ ﻓﻼ ُﺗﻤَﺎﺭ ﻓﻴﻬﻢ ∴∴ เปนสัญลักษณที่แสดงใหเห็นวา ทัง้ สองตําแหนงสามารถอานวกัฟได แตหากวกัฟตําแหนงหนึ่ง ตําแหนงใดแลว ตําแหนงที่สองหามอานวกัฟอีก ดังอายะฮฺที่วา ∩⊄∪ zŠÉ)−Fßϑù=Ïj9 “W‰èδ ¡ ϵ‹Ïù ¡ |=÷ƒu‘ Ÿω Ü=≈tGÅ6ø9$# y7Ï9≡sŒ
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
หลักสูตรสันติศึกษา ระดับ 01
146
วิชาอัลกุรอานและตัจวีด
สัญลักษณตาง ๆ เหลานี้ทั้งหมด จะปรากฏอยูในคัภีรอัลกุรอานที่พิมพโดยรัฐบาลคูเวต สวนคัมภีรที่ จัดพิมพในประเทศอื่นอาจจะไมมีสัญลักษณเหลานี้ปรากฏอยูก็ได (ใหนักเรียนสังเกตและศึกษาเพิ่มเติมดวย ตนเองหรื อสอบถามไดจ ากผู ที่มี ความรู เ กี่ย วกับ เรื่องนี้ โดยตรง โดยเฉพาะอยางยิ่ งภู มิปญญาทองถิ่น ที่ นักเรียนรูจัก)
ฝายพัฒนาทรัพยากรมนุษย สถาบันอัสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา