1
สามสิ่งที่จำาเป็ นต้ องรู้เกี่ยวกับมนุษย์
“ความสนุก” สิ่งที่คนเราไม่เคยรู้ตวั เลย ว่าเราทุ่มเทไปกับมันมากมายมหาศาลเพียงไร ซึง่ มันคงไม่ เป็ นปั ญหาที่ต้องเอ่ยถึงเลย ถ้ ามันเป็ นการทุ่มเทเพื่อความสนุกทัว่ ๆไป เช่น ดูหนัง เดินห้ าง อ่าน หนังสือ ดูโทรทัศน์ เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ หรื อไปเที่ยวตามแหล่งสันทนาการต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี ้ ไม่เคยทำาให้ ใครล่มจม แต่เนื่องจากความสนุกส่วนหนึง่ นัน้ มันเกิดจากการพึง่ พาจำาพวก ศักดิ ์ศรี อำานาจ ความเด่นดัง ในการเข้ าถึงการมีเพื่อน หรื อมีสงั คม อันเป็ นแหล่งความสนุกที่สำาคัญ ซึง่ สิ่ง เหล่านี ้ ก็ไม่ได้ ชว่ ยอะไรนักในการทำาให้ เรามีเพื่อน นอกจากทำาให้ เรารู้สกึ มีตวั ตนมากขึ ้น และรู้สกึ ถึงความยอมรับในระดับหนึง่ อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่า มันกำาลังกลายเป็ นสิ่งจำาเป็ น ที่คนเรา จะต้ องพึง่ พาอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงเข้ าไปทุกที อันนี ้ดูจาก การบริ โภคสิ่งหรูหรา ราคาแพง ที่มี ตังแต่ ้ เด็กจนถึงผู้ใหญ่ และมันกำาลังก่อตัวเป็ นปั ญหาใหญ่ขึ ้นเรื่ อยๆ จนยากที่ใครจะคาดเดาได้ ศักดิ์ศรี อำานาจ ชื่อเสียง ความเด่นดัง ฯลฯ เราต่างรู้จากในตำารา ว่ามันเป็ นความต้ องการพื ้น ฐานของมนุษย์ตามทฤษฎีโน้ น ทฤษฎีนี ้ แต่น้อยคนนัก ที่จะรู้วา่ มันมีเบื ้องหลังมาจากความ ต้ องการความสนุกเป็ นหลัก ดังนัน้ มันจึงไม่แปลกเลย ที่เราทุกคนจะมีความต้ องการในวัตถุนิยม เหล่านัน้ แต่กระนันก็ ้ ตาม เราจะปล่อยให้ ผ้ คู นเข้ าใจเช่นนี ้ต่อไปไม่ได้ แล้ ว เพราะถ้ าเขาคิดว่า อำานาจ ความเด่นดัง คือสิ่งที่ทำาให้ คนเรามีความสุข เขาก็จะมุง่ มัน่ ที่จะทำาทุกสิ่งเพื่อให้ ได้ มนั มา และกว่าที่แต่ละคนในโลกจะได้ โอกาสสัมผัสและรู้ซึ ้งว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์ความต้ องการอย่าง แท้ จริง โลกก็คงถูกบริโภคย่อยยับจนเกินจะเยียวยาไปแล้ ว ถ้ าท่านได้ อา่ นสามสิ่งที่จำาเป็ นต้ องรู้เกี่ยวกับมนุษย์ ภาพหนึง่ ที่ทา่ นจะได้ เห็นจากความ เข้ าใจก็คือ ภาพของคนเราที่ตา่ งกำาลังแก่งแย่งกันมี ศักด์ศรี ความเด่นดัง อำานาจ ที่ไม่ตา่ งอะไร จากเด็กแย่งของเล่น และเมื่อไรที่เกิดเป็ นความไม่พอใจ เป็ นความขัดแย้ ง มันก็จะกลายเป็ นความ ชิงชัง อิจฉา ริษยากัน โกรธแค้ นกัน เกิดขึ ้นตามมา จะต่างกันก็ตรงที่ เมื่อมันเป็ นขัดแย้ งของผู้ใหญ่ แล้ ว ผลที่ตามมา มันมักจะเป็ นเรื่ องใหญ่เสมอ เพราะการแข่งขันแก่งแย่งนัน้ มันหมายถึงการแข่ง กันล้ างผลาญทรัพยากรธรรมชาติด้วย บางทีเกิดเป็ นความเห็นแก่ตวั ด้ วย บางทีก็เบียดเบียนกัน ด้ วย หรือแม้ แต่เกิดเป็ นสงคราม ซึง่ ที่จริ ง ความสนุก ควรทำาให้ คนเรารักกัน มากกว่าชิงชังกัน
สิ่งหนึง่ ที่พอจะสรุปเป็ นทฤษฎีได้ ก็คือ ถ้ าคนเรามีปัญญาหาความสนุกได้ อย่างเพียงพอ คน เราจะไม่มีทางเดือดร้ อน จนถึงกับมาอยากได้ ความเด่นดังศักดิ์ศรี ความยอมรับ หรื ออำานาจ ให้ เป็ นภาระกับตัวเองเลย แต่ด้วยความเป็ นมนุษย์ ที่ดนั มามีกลไกประหลาดในร่างกาย จนทำาให้ เรา ต้ องการความสนุกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้ องการอย่างไม่มีขีดจำากัด มันจึงจำาเป็ นอย่างยิ่งที่จะ ต้ องหาทางที่ดีที่สดุ ในการทำาให้ การมีความสนุก เป็ นเรื่ องง่ายขึ ้นสำาหรับทุกคน เพราะถ้ ามันเป็ น เรื่ องยาก เราทุกคนก็มีแนวโน้ มที่จะต้ องเป็ นสิ่งมีชีวิต ที่ต้องคอยพึง่ พา ความเด่นดังอย่างยากที่จะ หลีกเลี่ยง อันจะนำาซึง่ ปั ญหาที่ยากจะแก้ ไข และสิ่งที่จะช่วยให้ เกิดขึ ้นได้ มันก็ต้องเริ่ มมาจากการ บริ หารจัดการที่เกิดจากความเข้ าใจหรื อการศึกษาของแต่ละคน อีกส่วนหนึง่ ก็คือจากสังคมที่แข็ง แรง เปี่ ยมไปด้ วยความเข้ าใจ และความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขเกิดแก่เจ็บ ตาย ซึง่ ความเห็นใจนี ้ มันก็ไม่ได้ เป็ นภาระมากมากอะไรด้ วย เพียงแค่เรารู้จกั หยุดพูดคุยกันบ้ าง ทักทายกันบ้ าง คุยเล่นกันบ้ าน มีกิจกรรมกันบ้ าง เพื่อให้ เราได้ ระลึกถึงมิตรภาพ ว่าเราต่างยังคงมี มันอยู่ มันก็คงเป็ นเรื่องประมาณแค่นี ้เองที่เราต้ องทำาให้ กนั ให้ ได้ ยิ่งเป็ นสังคมที่มีมิตรภาพและ ความเป็ นกันเองมากเท่าไร ศักดิ์ศรี อำานาจ ความเด่นดัง มันก็ยิ่งหมดความหมาย ของมันไปเรื่ อย และนัน่ แหละ คือ เป้าหมายสำาคัญที่จะทำาให้ สงั คม เกิดความสงบสันติสขุ
ขอขอบคุณที่ได้ ติดตามอ่านมาถึงตรงนี ้ และขอให้ สนุกกับการอ่านช่วงต่อไปครับ
สิ่งที่1
มนุษย์ทกุ คนมีภาระที่จะต้ องอยูร่ อดจาก ความร้ อนหนาว จากความหิวกระหาย จาก
ความเหนื่อยล้ า จากความกำาหนัด จากความเบื่อ ความเซ็ง เราจะเรี ยกพฤติกรรมเชิงดิ ้นรนเหล่า นี ้ ว่าเป็ นการหาความสุข มันก็พอได้ อยู่ แต่ความจริ งแล้ ว “ความสุขสงบนันคื ้ อสถานะตังต้ ้ นของ มนุษย์อยูแ่ ล้ ว” ความทุกข์นาๆสารพัดต่างหาก คือสิ่งที่ผลัดกันมาเยี่ยมเยือนอนคนเรา และฉวย เอาความสุขสงบไปจากเราอยูต่ ลอดเวลา ซึง่ สิ่งที่เราทำา มันก็เป็ นแค่การพยายามดับความทุกข์ เหล่านัน้ เพื่อให้ ความสุขสงบกลับมาปรากฎขึ ้นอีกครัง้ เท่านันเอง ้ ดังนันถ้ ้ าจะเรี ยกกรรมวิธีเหล่านี ้ ว่าเป็ นการดับทุกข์ ก็อาจจะถูกต้ องกว่า แม้ กระนันก็ ้ ตาม จะเรี ยกอย่างไรก็คงไม่ผิด ขอแต่ให้ เรา เข้ าใจถึงกรรมวิธีที่แท้ จริงเป็ นใช้ ได้ เพราะทุกวันนี ้ คนเรามักเข้ าใจผิด และคิดแต่จะไข่วคว้ า หาความสุข ด้ วยจินตนาการที่สดุ ขัวกั ้ นเหลือเกิน ชนิดที่วา่ ขมนิดก็ไม่ได้ เปรีย้ วหน่อยก็ไม่ยอม ทุก
3
อย่างต้ องให้ ได้ ดงั่ ใจตลอดถึงจะพอใจ ซึง่ ถ้ าคิดอย่างนี ้ รับรองว่าชีวิตจะต้ องผจญอยูก่ บั ความ หงุดหงิดผิดหวังกันไม่เว้ นแต่ละวันอย่างแน่นอน และมันก็คงไม่ง่ายเลย ที่จะทำาให้ ชีวิตมีความสุข สงบ แต่ถ้าเราเข้ าใจขบวนการของการเกิดความสุข มันจะสร้ างความแตกต่างอย่างมากทีเดียว เนื่องจากคุณจะยอมรับความทุกข์ ที่เข้ ามามากขึ ้น เพราะคุณจะรู้ดีวา่ คนเรานันจะไม่ ้ มีทางได้ ซาบซึ ้งกับความสุขสงบในตัวเราเลย ถ้ าหากความสงบสุขนันไม่ ้ ถกู ทำาให้ หายไปเสียก่อน ซึง่ ที่จริ ง เราควรจะขอบคุณความทุกข์เหล่านันด้ ้ วยซ้ำ า ขอบคุณที่มีความหิว ขอบคุณที่มีความเหนื่อย ขอบคุณที่ทำาให้ เรารู้ร้อนรู้หนาว ... เพราะฉะนัน้ ถ้ าอยากยกระดับความสุขของคุณ อันดับแรก คุณก็ควรมองความทุกข์ให้ เป็ นมิตรมากกว่าเป็ นศัตรู เพื่อลดความหงุดหงิดผิดหวังต่างๆนาๆ เพราะความสุขต้ องแลกมาด้ วยการมีความทุกข์ก่อนเท่านัน้ มีเงินอย่างเดียวก็ซื ้อไม่ได้ แล้ วเราจะ ไปหงุดหงิดกับมันทำาไม และสอง พยายามทำาความรู้ จกั กับความทุกข์ให้ มากเข้ าไว้ เพราะมันจะ บอกรายละเอียด จนกลายเป็ นหนทางมากมายให้ เราได้ เลือกใช้ ตามความเหมาะสม ในการพาเรา กลับไปพบกับความสุขสงบ หลายต่อหลายคน มีพร้ อมทุกอย่าง แต่ก็ยงั งงๆว่าจะหาความสุขได้ อย่างไรดี ทังนี ้ ้ก็เพราะเขายังไม่ร้ ูจกั ความทุกข์ดีพอ บางครัง้ ก็หลงไปลองแม้ กระทัง่ ยาเสพติด ซึง่ มันน่าเสียดายเหลือเกินกับแต้ มต่อที่เขามี คนเราบางทีก็ลืมคิดไปว่า จะสุขจะทุกข์ ส่วนใหญ่มนั ขึ ้นอยูก่ บั ตัวเราทังนั ้ น้ และถ้ ารู้จกั หาความทุกข์ที่ปลอดภัยมาใส่ตวั เองซะบ้ าง เช่น ปล่อยตัวให้ หิว ปล่อยให้ เหนื่อย ให้ ลำาบากบ้ าง ให้ เหงาบ้ าง ฯลฯเราก็จะพบกับความรู้สกึ สุขที่เราปรารถนาอย่างแน่นอน เพราะบางทีเราอาจสบาย มากไป สะดวกสบายเสียจนความทุกข์ไม่ทนั ได้ ก่อตัวขึ ้นเป็ นกอบเป็ นกำา ความสุขที่เกิดขึ ้น ก็เลย พลอยเบาบางไปด้ วย นานเข้ ามันจึงรู้สกึ ว่าชีวิตไม่มีความสุข “ยิ่งรับทุกข์ไว้ มาก ความสุขที่ปรากฏก็จะยิ่งมีมาก” ขอให้ จดจำาสมการนี ้ไว้ และเลือกความ ทุกข์ที่ปลอดภัยในการแทนค่ามันเอาเองเลย อย่ารังเกียจมัน อย่ากลัวมัน เราควรปล่อยให้ มนั อยูก่ บั เราให้ นานที่สดุ ที่จะทนได้ เพราะเมื่อความทุกข์จากไป สิง่ ทังหมดที ้ ่เราอดทนมา มันก็จะเปลี่ยนเป็ นความสุข ให้ เราได้ ชื่นใจ
สิ่งที่2
ความสุขที่ได้ จากการมีตวั ตนเป็ นที่ยอมรับ เป็ นที่นา่ ชื่นชม เช่นการมีการงานอาชีพที่ดี
การมีชื่อเสียงโดดเด่น การมีหน้ าตาที่นา่ รัก และอื่นๆ สิ่งเหล่านี ้จัดว่าเป็ นลาภที่ประเสริ ฐ แต่ถ้าเรายึดติด กับสิ่งเหล่านี ้มากเกินไปจนกระทัง่ อายกับการไม่มีบางสิ่งที่คนอืน่ มี หรื อ อิจฉาที่คนอืน่ มีมากกว่าตัวเอง ก็ ถือว่าเป็ นเรื่ องเสียของอย่างมาก ด้ วยเหตุนี ้ และเพื่อให้ อยูใ่ นทางสายกลางได้ อย่างสงบสุข ไม่ว่าจะมีน้อย มีไม่มากพอหรือยังไม่มีก็ตาม เราก็ควรจะเรียนรู้ความทุกข์ที่เป็ นเบื ้องหลังของมันเสียก่อน เพราะหลังจากที่ ท่านได้ ร้ ูจกั กับมันแล้ ว เรื่องที่จะมากังวลกับตัวตนของเรานัน้ จะกลายเป็ นเรื่ องขี ้ประติ๋วไปทันที เรื่ องทังหมดนี ้ ้ มันเริ่ มมาจากสัญชาตญาณที่แอบทำางานเงียบๆในสมองของเราโดยที่คนเราไม่ได้ ร้ ูตวั เลย หน้ าที่ของมันก็คือการสังเกตุการณ์ภาวะแวดล้ อมที่เป็ นอันตรายต่อตัวเรา ซึง่ มีผลทำาให้ ตวั เรามีความ กระวนกระวายใจ ทุกครัง้ ที่มีการแจ้ งการเตือนภัยจากมัน ลักษณะของมันก็จะเป็ นแบบเดียวกับสัตว์ หลายๆชนิด ที่มกั จะทำาท่ากระวนกระวายใจ ก่อนที่จะมีภยั พิบตั ิทางธรรมชาติเกิดขึ ้น เหมือนเป็ นความ สามารถหยัง่ รู้ลว่ งหน้ าได้ แต่สำาหรับสัญชาตญาณในมนุษย์แล้ ว การเตือนภัยจะเกิดขึ ้นได้ ตลอดเวลา แค่ เราได้ สมั ผัสกลิ่น เสียง หรือบรรยากาศต่างๆรอบตัว ความรู้สกึ หลากหลายที่ไม่สามารถระบุได้ ก็จะเกิดขึ ้น ตามมาทันที มันเป็ นเหมือนสิ่งรอบตัวเรา สามารถเป็ นตัวกระตุ้นให้ เกิดการแจ้ งการเตือนภัย ได้ ตลอดเวลา เลยทีเดียว และมันก็ยากมากที่จะชี ้ชัดว่าอะไรคือสาเหตุของการเตือนภัย ซึง่ ทำาให้ มนั แทบไม่มีประโยชน์ ใดๆเลย จะมีก็แต่ความกระวนกระวายและความหดหู่เท่านันที ้ ่เราจะรู้สกึ ได้ และเราก็เรี ยกมันว่า ความเบื่อ ความเซ็ง ซึง่ มันเป็ นความทุกข์ทรมานชนิดเดียวที่เกิดขึ ้นจากร่างกายได้ อย่างไม่มีจำากัด เรี ยกได้ ว่า ตลอด เวลาที่เรารู้สกึ ตัว มันแทบไม่มีเวลาไหนเลย ที่สญ ั ชาตญาณจะไม่พยายามเข้ ามายุง่ ในหัวของเรา และก่อ ความทุกข์ ความหดหูใ่ ห้ กบั คนเรา วิธีที่คนเราทำาเพื่อให้ ดบั ทุกข์จากสัญชาตญาณนี ้ ก็คือการเมินเฉยต่อการแจ้ งการเตือนภัยจากมัน ซึง่ ทำาได้ โดยการหันเหความสนใจไปในทางอื่น เช่น การอ่านหนังสือ ดูทีวี ฟั งวิทยุ หางานอดิเรกทำา พูดคุย เล่นเกมส์ ฯลฯ เพราะเมื่อเราสามารถเมินเฉยจากการแจ้ งเตือนได้ แล้ ว ความสุขสงบก็จะคืนกลับมา และ นัน่ ก็คือเหตุผลที่ว่า ทำาไมความสนุกจากสิ่งเหล่านี ้ จึงสามารถทำาให้ คนเรามีความสุขได้ อย่างไม่มีอิ่มมีพอ เป็ นเหตุให้ เกิดการเสพติดของสนุก อย่างเช่น การติดเกมส์ ติดการพนัน ฯลฯ แต่เรื่ องมันไม่ได้ จบเพียงแค่นี ้ เพราะสิ่งที่มนุษย์ชื่นชอบมากที่สดุ กับการมีความสนุกก็คือ การได้ อยูก่ บั เพื่อน ได้ เล่น และพูดคุยกับเพื่อน มนุษย์ เพราะการมีเพื่อนมนุษย์อยูด่ ้ วยนัน้ คือเครื่ องมือที่ดีที่สดุ ในการเมินเฉยต่อสัญชาตญาณนัน่ เอง ซึง่
5
การชื่นชอบอย่างมากนี ้เอง ที่นำาคนเราไปสูค่ วามกลัวโดยไม่ร้ ูตวั อันเป็ นความทุกข์แอบแฝงระลอกที่สอง ซึง่ ก่อความยุง่ ยากให้ กบั คนเราอย่างมาก ความกลัวนี ้เป็ นผลมาจาก ความกังวลว่าตัวเองจะมีตวั ตนที่ไม่ดีพอที่จะได้ รับการยอมรับเป็ นเพื่อน ซึง่ ความกลัวความกังวลนี ้แหละที่แอบทำาให้ มนุษย์มีชีวิตที่ว่นุ วายมากที่สดุ และในทางตรงกันข้ าม มันก็ ทำาให้ มนุษย์มีความสุขมากด้ วยเช่นกัน จนเป็ นเหตุให้ คนเรายึดติด ในลาภ ยศ ชื่อเสียง ความเด่นดัง จน ยากที่จะละวาง ซึง่ มันก็สมควรเป็ นเช่นนันจริ ้ งๆเพราะความสัมพันธ์ฉนั ท์เพื่อนของมนุษย์นนั ้ นอกจากจะ เกิดได้ ยากแล้ ว มันยังเป็ นสิ่งเปราะบางอีกด้ วย และด้ วยความน่ากังวลเหล่านี ้ มันจึงเป็ นเรื่ องยากมากที่จะ มีใครทนอยูเ่ ฉยได้ โดยไม่พยายามพัฒนาตัวตนให้ มีความน่าคบหา ตัวอย่างเช่น การดื่มไวน์ขวดเป็ นหมื่น การหิ ้วกระเป๋ าใบละเป็ นแสน มันก็คือสิ่งประดิษฐ์ สว่ นหนึง่ ในการทำาให้ ดดู ี ดูนา่ คบหา ซึง่ แน่นอนว่ามันก็ คือการพยายามแก้ ปัญหาจากความกลัวของคนเราในเรื่ องเพื่อน และถึงแม้ ว่ามันได้ สร้ างความสุขความ สบายใจให้ กบั คนเราได้ ไม่มากก็น้อยอย่างไม่ต้องสงสัย แต่การดับความกลัวเพียงชัว่ ครู่ชวั่ ยามเช่นนี ้ มันใช่ หนทางที่ดีแล้ วหรือ ที่เราจะเลือกใช้ ในการหาดำาเนินชีวิต? เพราะไหนจะสิ ้นเปลือง ไหนจะทำาให้ ตวั เองลำาบาก ไหนจะก่อให้ เกิดความโลภ ไหนจะก่อให้ เป็ น ความเห็นแก่ตวั ตามมา ซึง่ ถ้ ามิตรภาพก่อเกิดได้ งา่ ยกว่านี ้ และไม่เปราะบางจนเกินไปนัก ความกังวล เหล่านี ้ก็คงมีไม่มากมายเหมือนเช่นนี ้ และคนเราก็คงไม่มาวุน่ วายกับการพัฒนาความน่าคบหาของตัวเอง จนต้ องพึง่ พาวัตถุนิยมกันอย่างหัวปรักหัวปรำ า และเพื่อให้ มิตรภาพเกิดขึ ้นได้ ง่าย และไม่เปราะบางจนเกินไป เราก็แค่ทำาความเข้ าใจกับมนุษย์ใหม่ เท่านันเอง ้ 1 มนุษย์นนพู ั ้ ดมาก เพราะการได้ พดู คุยนัน้ มันสนุก และมีความสุข 2 มนุษย์ขี ้อาย เพราะอะไรก็ตามที่สามารถบัน่ ทอนความน่าคบหาสมาคมของคนเรา จะสร้ างความหวาด กลัวหรื อความอายให้ กบั คนเราเสมอ 3 มนุษย์นนชอบโอ้ ั้ อวด คุยโม้ เพราะ รู้สกึ ว่าสิ่งเหล่านี ้จะทำาให้ เขาได้ รับความยอมรับจากเพื่อน
4 มนุษย์ขี ้อิจฉา เพราะมนุษย์ร้ ูสกึ ชอบที่จะให้ มีคนรัก คนชื่นชม ซึง่ ความอิจฉา มันก็คือความหวาดกลัวที่ จะมีสิ่งใดพรากความยอมรับนี ้ไปจากเขา ซึง่ มันก็คือเหตุผลง่ายๆ ที่ทำาไมคนเรารู้สกึ ไม่ดี เมื่อเห็นคนอื่นมีดี กว่า หรื อน่าคบหากว่า ทังหมดนี ้ ้ ล้ วนแล้ วแต่มีความต้ องการเพื่อนเป็ นสาเหตุ ก็ลองมองให้ ชดั ๆ แล้ วพิจารณาให้ ดี ว่า พฤติกรรมของมนุษย์เหล่านี ้นัน้ มันเลวร้ ายและน่ารังเกียจอย่างที่เราเคยรู้สกึ หรื อไม่ และเราควรจะถือสา หาความกับคนที่มีพฤติกรรมเหล่านี ้ด้ วยรึเปล่า อันที่จริงเราควรพร้ อมที่จะให้ อภัย และเห็นใจกันและกันให้ มากขึ ้นด้ วยซ้ำ า เพราะที่เราทุกคนต้ องเป็ น แบบนี ้ ก็เพราะเราต่างถูกทรมานจากการทำางานของสัญชาตญาณด้ วยกันทุกคน บางคนถึงกับติดการพนัน ติดเหล้ า ติดเกมส์ จนเสียผู้เสียคน เสียโอกาส เสียอนาคต แทบจะทุกอย่างที่เลวร้ าย ล้ วนเป็ นผลมาจาก การถูกทรมารให้ ดิ ้นรนหาทางแก้ กนั ตามเวรตามกรรม ที่ขาดหลักคิดและวิธีการ
คนเราเมื่อรวยแล้ ว มีเงินแล้ ว ก็ควรมีชีวิตที่สขุ สบาย ไม่นา่ เลยที่จะต้ องมาดิ ้นรนแสวงหาความ ยอมรับโดยอาศัยวัตถุนิยมต่างๆ เพราะการแสวงหาความยอมรับนันมั ้ นสิ ้นเปลือง มีความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ านำาตัวเองไปเปรี ยบเทียบกับผู้อื่นด้ วยแล้ ว มันก็จะกลายเป็ นการแข่งขัน ทะเยอทะยานกันอย่างไม่มีวนั จบสิ ้นไปเลย แต่ถ้าเราเข้ าใจและละได้ นัน่ ก็เท่ากับตัดกรรมไปแล้ ว ส่วนหนึง่ ซึง่ ข้ าพเจ้ ามัน่ ใจว่า ถ้ าเข้ าใจ คนเราจะละได้ อย่างแน่นอน เพราะการละในที่นี ้หมายถึง การเลี่ยงไปบริโภคสิ่งอื่น มันคือการมีทางเลือก จนสามารถละสิ่งที่เป็ นอันตราย เท่านันเอง ้
สองสิ่งที่ผมขอให้ เรียนรู้นี ้ ผมหวังว่าคุณจะเข้ าใจมันได้ เพราะมันคือสิ่งที่จะทำาให้ คณ ุ ยิ ้มได้ มากขึ ้น เมื่อ มองไปที่ผ้ คู น และมันคือสิ่งที่จะประสานความสัมพันธ์ของเราให้ ยงั่ ยืนและมัน่ คง เพราะรากฐานของความ รัก มันคือความชอบ มันคือความไม่โกรธเกลียด ซึง่ มันต้ องสร้ างขึ ้นด้ วยความรู้ ด้ วยความเข้ าใจ และความ เห็นอกเห็นใจ สุดท้ ายมันก็จะกลายเป็ นสิ่งที่จะทำาให้ เรามีความสงบสุข ที่ไม่ต้องมากังวลกับตัวตนของเรา และไม่ต้องมามีภาระในสิ่งที่ไม่จำาเป็ น และผจญกับสิ่งที่มีอนั ตรายต่อชีวิต
7
สิ่งที่3 หลักในการมีความสุขกับเพื่อน ผมก็ไม่คอ่ ยเก่งหรอกนะในการมีเพื่อน รู้แต่วา่ คนเราควรต้ อง ประสบความสำาเร็จในการมีความสุขกับการมีเพื่อนให้ ได้ เพราะถ้ าทำาไม่ได้ แนวโน้ มที่อยูอ่ ย่างมีความเป็ น ห่วงเป็ นกังวลในตัวตน และแนวโน้ มที่จะต้ องพึง่ พาวัตถุนิยมก็จะยิ่งมีสงู ก็ไม่ร้ ู เหมือนกันว่า เวลาเพื่อนอยู่ กับผมแล้ วมีความสุข สนุกกันรึเปล่า แต่ผมอ่านหนังสือ วิธีการเอาชนะใจเพื่อนมาก่อน ที่แต่งโดย เดล คาร์ เนกี ้ ก็ไม่ได้ จะเอาไปชนะใครหรอกนะ แต่มนั หมายถึงการทำาให้ คนชื่นชอบในตัวเรา ซึง่ มันก็คือการ ทำาให้ คนอื่นมีความสุขไปกับเรานัน่ แหละ และมันใช้ ได้ เลยนะ แนะนำาให้ หาอ่านได้ เลย อย่างหนึง่ ที่ผมสรุป เพิ่มเติมได้ ก็คือ เพื่อนและเรา ต้ องรู้จกั ต่างคนต่างอยูเ่ ป็ นเพื่อนกันได้ โดยไม่ให้ ร้ ูสกึ เป็ นภาระแก่กนั ในเวลา ที่อยูด่ ้ วยกัน เพราะการอยูก่ นั เพียงสองคนนัน้ บางครัง้ มันก็ทำาให้ เบื่อได้ เหมือนกัน และถ้ าเกิดขึ ้นบ่อย มันก็ อาจกลายเป็ นความล้ มเหลวขึ ้นมาได้ จริงๆแล้ ว การอยูด่ ้ วยกันสามคนชึ ้นไป จะสบายมากเลย เพราะ แต่ละคนจะไม่ต้องรู้สกึ รับผิดชอบเลย หากความน่าเบื่อเกิดขึ ้น สรุปโดยรวมก็คือ เมื่ออยู่รวมกันกับเพื่อน มันต้ องสนุก ถ้ ามันไม่สนุก ก็ต้องทำาให้ มนั สนุกให้ ได้ หากีฬามาเล่น หาเกมส์มาเล่น พากันไปเดินเล่น ชวน กันทำากับข้ าว แล้ วแต่คณ ุ จะคิดสรรค์เลย ซึง่ ถ้ าปราศจากอคติใดๆ ทุกเรื่ องสามารถเป็ นเรื่ องสนุกได้ หมด แม้ แต่การชวนกันไปเดินเล่น ที่อยากจะเน้ นก็คือ ปลายทางของความสำาเร็ จ ก็คือการมีเพื่อนที่มนั่ คง เพราะ เราทุกคน ถ้ าหมดห่วงเรื่องเพื่อนได้ คือไม่ต้องมากังวลว่าเพื่อนจะไม่รัก กลัวว่าเพื่อนจะไม่ชอบ เราก็จะหมด กังวลในตัวตนไปโดยอัตโนมัติ มนุษย์ ไม่ได้ เกิดมาเพื่อเสพสุข แต่ความสุขมันเกิดขึ ้นเองท่ามกลางการต่อสู้เพื่อความอยูร่ อด ซึง่ ถ้ า หากเรามีความรู้ไม่พอ ต่อให้ มีทกุ อย่างพร้ อมก็ตาม ก็ใช่ว่าจะเป็ นเรื่ องง่ายในการมีชีวิตที่สงบสุขในโลกใบนี ้ ได้ และนัน่ ก็คือสาเหตุที่ทำาให้ คนเราไม่เคยเลยที่จะเลิกเบียดเบียนกัน เลิกเบียดเบียนธรรมชาติ ไม่ว่าจะมี เงินทองมากมายยังไงก็ตาม มันยังคงเกิดขึ ้นอยูท่ กุ ยุคทุกสมัย ผมมองเห็นเรื่องหนึง่ ท่านอื่นอาจจะมองเห็นอะไรมากกว่านี ้ ก็ขอให้ ชว่ ยๆกัน เพราะถ้ าคิดถึงคนที่หลง ทาง คิดถึงเด็ก คิดถึงเยาวชนรุ่นใหม่ พวกเขานับวันก็จะมีโอกาสน้ อยลงที่ได้ ศกึ ษาสิ่งที่เขาต้ องการอย่าง แท้ จริ ง เพราะการเรียนรู้ ต่างมุง่ ไปที่เงินทองเสียหมด จนเงินกลายเป็ นคำาตอบสำาเร็ จรูปไปแล้ วในการตอบ โจทย์ความต้ องการของเขา เขาถูกสอนให้ ตามล่าหาเงิน และใช้ มนั ตามใจชอบ สุดท้ ายก็มกั ไม่เหลืออะไรที่ ยัง่ ยืนสำาหรับชีวิตที่สขุ สงบ และก็ต้องเผชิญความเสี่ยงต่อไปเรื่ อยในการพยายามทำาชีวิตให้ มีความสุข แล้ ว ถ้ าแต่ละชีวิต ยังหาหลักการและปั จจัยของความสุขสงบที่มนั่ คงไม่เจอ สังคมเราจะสุขสงบได้ อย่างไร