T
วารสารมหาวิทยาลัยเนชั่น ประจาปีการศึกษา 2556
–
Journal of Nation University
สารจากอธิการบดี มหาวิ ท ยาลั ย เนชั่ น ได้ ต ระหนั ก ถึ ง แนว ทางการบริ ห ารจั ด การมหาวิ ท ยาลั ย โดยคํ า นึ ง ถึ ง ป๎ จ จั ย หลั ก ที่ สํ า คั ญ คื อ นั ก ศึ ก ษาและบุ ค ลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรสายงานทางด้านวิชาการ โดยมุ่งการสนับสนุนพัฒนาการปรับปรุงด้านกายภาพ การปรั บปรุ งคุณ วุฒิ คณาจารย์ให้เ ป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐานคุ ณ ภาพ และการมุ่ ง เน้น การดํ า เนิน การ ทางด้าน Corporate University ที่เน้นกระบวนการ จัดการเรียนการสอนแบบ Work Integrated Learning : WIL พร้อมกับการเพิ่ม ทักษะ Professional Skill ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทําให้ผู้เรียนสามารถแข่งขันกับประชาคม อาเซียนและสังคมโลกในทศวรรษข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ การพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ความเป็นสากล ณ ป๎จจุบัน เป็นสิ่งสําคัญอย่างยิ่ง สําหรับประเทศที่เข้าสู่การเป็นสมาชิกใน “สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ (ASEAN) 2015” การผลักดันองค์กรให้ก้าวสู่ความเป็นสากลอย่างมี ประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับ โดยการเน้นการพัฒนาในด้า นวิจัย ด้านการฝึกอบรม ให้ ต อบรั บ การเปลี่ ย นแปลงและผลกระทบจากกระบวนการรวมตั ว เป็ น ภู มิ ภ าค เดี ย วกั น ภายใต้ โ ลกาภิ วั ต น์ ที่ ป รั บ เปลี่ ย นรวดเร็ ว เป็ น ป๎ จ จั ย ที่ สํ า คั ญ ยิ่ ง รวมทั้ ง เชื่อมโยงกับการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรต่าง ๆ ในโอกาสนี้ ผมขอเป็นกําลังใจให้ทุกท่านได้ยึดมั่นแนวคิดการเสริมสร้างในเรื่อง ความเป็ น สากล การดํ า เนิ น งานเพื่ อ ก้ า วสู่ ค วามสํ า เร็ จ ตามพั น ธกิ จ ของการเป็ น มหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 4 ด้าน ที่ส่งผลให้มหาวิทยาลัยสามารถผลิต บัณฑิตได้ตามคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม
111 ก
สารจากรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเนชั่น (ม.เนชั่น ) กําหนดวิสัยทัศน์ สําหรับ 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2557-2561) คือ “มุ่งสร้าง เสริ ม การเรี ย นรู้ ด้ ว ยมื อ อาชี พ และสนั บ สนุ น การใฝ่ เรียนรู้ต่อเนื่อง” ทั้งนี้โดยมุ่งหวังผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ และสนใจใฝุเรียนรู้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตตนเอง และสังคมที่เกี่ยวข้อง ม.เนชั่ น ศู น ย์ เ นชั่ น บางนา ซึ่ ง เปิ ด สอน 3 หลักสูตรคือ ปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ และบริหารธุรกิจ และปริญญาโทบริหารธุรกิจ ได้บริหารภายในกรอบวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัย และหลักธรรมาภิบาล และได้ดําเนินโครงการต่างๆ ในปีการศึกษา 2556 ที่ผ่าน มาร่วม 60 โครงการ โดยโครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการเพื่อพัฒนาและส่งเสริม ประสบการณ์ค วามรู้ให้นักศึกษา สะท้อ นให้เห็นถึงความมุ่งมั่ นของบุคลากร อาจารย์ของมหาวิทยาลัยที่จะสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพ และจะดําเนินโครงการที่ เป็นประโยชน์ดังกล่าวในปีการศึกษาหน้าเช่นกัน ในนามผู้บริหารระดับสูงของม.เนชั่น ขอแสดงความยินดีกับคณะผู้จัดทํา วารสารมหาวิทยาลัยเนชั่น ซึ่งจัดทําขึ้นเป็นเล่มที่ 2 และหวังว่าวารสารนี้จะเป็น แหล่งเผยแพร่กิจกรรมของมหาวิทยาลัยที่น่าสนใจต่อสาธารณชนสืบไป
ดร.ดวงพร อาภาศิลป์
ข
บทบรรณาธิการ วารสารมหาวิทยาลัยเนชั่น รายปี ฉบับที่ 2 มิถุนายน 2556 ถึง พฤษภาคม 2557 ได้นาเสนอกิจกรรมเด่น สารสนเทศที่น่าสนใจ และข่ าวสารจากคณะวิชาและศู นย์การศึก ษาที่ด าเนิ นการตลอด ช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนพัฒนาการจากปีสู่ปี มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ศิษย์เก่า นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือ บุคคลทั่วไปที่ต้องการติดตามพัฒนาการของมหาวิทยาลัยที่มีพันธกิจ 4 ด้านคือ การเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ และการ ทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งทั้งหมดสามารถสะท้อนผ่านกิจกรรม นักศึกษา และกิจกรรมคณะวิชาในทุกระดับได้อย่างชัดเจน โดยวารสารฉบับนี้เน้นการจัดทาเพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งเปิดให้ผู้สนใจได้เปิดอ่าน ดาวน์โหลดไปเก็บไว้ หรือแบ่งปันต่อโดยง่าย การจัดทาเป็นความร่วมมือของอาจารย์ผู้รับผิดชอบ กิจกรรม และผู้นานักศึกษาจากแต่ละคณะวิชาและศูนย์บางนา วารสารมีแผนจัดทาอย่างต่อเนื่องเป็นประจาทุกปี เพื่อสะท้อนคุณภาพการจัดกิจกรรมพัฒนา นักศึกษา และเป็นบทเรียนให้ได้เรียนรู้สาหรับการดาเนินการในช่วงต่อไป แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า
ค
สารบัญ สารจากอธิการบดี สารจากรองอธิการบดี บทบรรณาธิการ คณะบริหารธุรกิจ คณะนิเทศศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์เนชั่นบางนา สโมสรนักศึกษา หน้านี้มีรางวัล ศิษย์เก่าดาวเด่น งานดัง กิจกรรมเด่น องค์ความรู้ที่แบ่งปัน รวมภาพเก็บตก แนะนา เว็บไซต์ กองบรรณาธิการ
ก ข ค 1 6 9 13 15 17 22 24 27 30 36 52 56 64
ง
คณะบริหารธุรกิจ สารจากคณะ คณะบริหารธุรกิจ กับการส่งเสริมคุณลักษณะบัณฑิตตาม เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ ของมหาวิทยาลัย จากความรับผิดชอบในการบริหารจัดการหลักสูตรการสอน ให้เป็นไปตามกรอบมาตรฐานสถาบันอุดมศึกษา คณะบริหารธุรกิจ ได้ให้ความสํา คัญในการพัฒนานักศึกษาให้มี ลักษณะเป็นไปตาม คุณสมบัติของบัณฑิตที่พึ่งประสงค์ มีคุณลักษณะตามเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ของสถาบัน ทั้งนี้ในรอบปีการศึกษา 2556 ที่ผ่านมาคณะ ฯ ได้จัดกิจกรรมที่สําคัญๆ อาทิ 1. ภายใต้ความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ ในการผลิตบัณฑิต ที่มีความรอบรู้ในด้านการเงิน การธนาคาร คณะ ฯ ได้เชิญผู้จัดการฝุายตลาดสินเชื่อ และผู้จัดการฝุายลูกค้าสัมพันธ์ในการเดินทาง ร่วมบรรยายในรายวิชาการเงินส่วนบุคคลและรายวิชา การจัดการสินเชื่อ ให้แก่นักศึกษา 2. การจัดกิจกรรม เสริมทักษะนักศึกษา ในปีที่ผ่านมาคณะ ฯ ดําเนินการจัดงาน Business Day ซึ่งจัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 7 นอกจากนี้ คณะฯ ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ในโครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาว ภายใต้ ชื่ อ โครงการ บ้ า นไผ่ ร่ ว มใจพั ฒ นาสร้ า งคุ ณ ค่ า ให้ ยั่ ง ยื น ซึ่ ง ได้ รั บ รางวั ล โครงการดี เ ด่ น ระดับประเทศ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการนําเสนอ 3. กิ จ กรรมเสริ ม สร้ า งคุ ณ ลั ก ษณะด้ า นคุ ณ ธรรมจริ ย ธรรมและบั ณ ฑิ ต จิ ต อาสาในปี ที่ ผ่ า นมา นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ ได้รับรางวัลระดับประเทศจากการเข้าร่วมแข่งขัน ประกวดสุนทรพจน์และ เขียนเรียงความเรื่อง “การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ทางวิชาชีพบัญชี ” นอกจากนี้นักศึกษา คณะ บริหารธุรกิจยังได้รับเกียรติบัตรเนื่องในวันจิตอาสาแห่งชาติประจําปี 2556 จากการเข้าร่วมโครงการจิต อาสา ในการทําหน้าที่ช่วยคัดแยกผู้ปุวย ณ โรงพยาบาลลําปาง นอกจากกิจกรรมต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนักศึกษาและศิษย์เก่า สามารถติดตามการ ดําเนินงานของคณะฯ ผ่านทาง www.nation.ac.th ในส่วนของคณะบริหารธุรกิจ ได้มี การจัดการ เผยแพร่ข้อมูลกิจกรรมต่างๆ โดยสามารถเลือกดูได้จากข่าวสารคณะและกิจกรรมของคณะ
1
จุดเด่นของหลักสูตรการตลาด - เป็นหลักสูตรการจัดการการตลาด และกลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ ซึ่งบูรณาการองค์ความรู้ ใหม่ๆที่ทันสมัยในด้านการตลาดเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเลือกนํามาประยุกต์ใช้ให้ เหมาะสมกับองค์กรของตน - เป็นหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนมีความรู้ด้านทฤษฎีและปฏิบัติอย่างเข้มข้น โดยเน้นให้ผู้เรียน สามารถนําความรู้มาประยุกต์ปฏิบัติได้จริง ไม่ว่าจะเป็นด้านการวางแผน การตัดสินใจ การ กําหนดกลยุทธ์ยุทธวิธีการตลาด กรณีศึกษาการดําเนินธุรกิจ และการตลาดในสถานการณ์จริง - คณาจารย์ผู้สอนเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการตลาดของธุรกิจต่างๆ จุดเด่นของหลักสูตรการบัญชี มหาวิทยาลัยเนชั่น ได้ผลิตบัณฑิตด้านสาขาวิขาการบัญชีออกมาทํางานรับใช้สังคมทั้ง ในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน คือทํางานรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ธนาคารแห่ง ประเทศไทยและสถาบันการเงินของรัฐ ส่วนในภาคเอกชนก็ทํางานที่สํานักงานสอบบัญชี ธนาคาร พาณิชย์ และบริษัทห้างร้านเอกชนต่างๆ เป็นต้น
จุดเด่นอันเป็นปรัชญาที่สาคัญของหลักสูตรการบัญชี มี 6 ประการ ได้แก่ 1. การสร้างบัณฑิตทางบัญชีที่มีความรู้ทางวิชาชีพบัญชีในระดับสากล สอดคล้องกับความต้องการ ของตลาดแรงงาน 2.การสร้างบัณฑิตทางการบัญชีที่มีคุณลักษณะเป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ของสังคม คือ นอกจากมี ทักษะความรู้ ความสามารถด้านวิชาชีพบัญชี ทักษะการสื่อสารและทักษะด้านภาษาอังกฤษซึ่งเป็นอัตลักษณ์ ของมหาวิทยาลัยแล้ว จะต้องเป็นบัณฑิตที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความ ความรับผิดชอบและสามารถทํางาน ร่วมกับบุคคลอื่นได้เป็นอย่างดี 3.การสร้างบัณฑิตทางการบัญชี เพื่อรองรับสาขาวิชาชีพทางการเงินการธนาคาร อันเป็นสัญญา ข้อตกลงที่มหาวิทยาลัยได้ทํากับธนาคารไทยพาณิชย์ โดยธนาคารจะรับบัณฑิตที่เรียนกลุ่มวิชาโทการเงิน การธนาคารให้เข้ามาทํางานด้วย และธนาคารไทยพาณิชย์ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารมาเป็น วิทยากรอบรมให้ความรู้กับนักศึกษาร่วมกับอาจารย์ของมหาวิทยาลัย เป็นการเน้นกระบวนการเรียนการ สอนให้นักศึกษาได้เรียนกับมืออาชีพ นั่นคือ ทําให้นักศึกษานอกจากได้รับความรู้จากทฤษฎีในตําราเรียนแล้ว ยังได้รับความรู้จากประสบการณ์การทํางานที่เกิดขึ้นจริงจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก 4.ปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปตามมาตรฐานตาม สกอ.และสภาวิชาชีพบัญชี 5.พัฒนาอาจารย์ให้มีคุณภาพ สนับสนุนอาจารย์เข้ารับการอบรมสัมมนาเป็นประจําอย่างต่อเนี่อง 6.เสริมสร้างความรู้ทักษะวิชาชีพของนักศึกษาและบัณฑิต โดยกําหนดให้นักศึกษามีการฝึกงาน และติดตามผล มีการสอบถามการทํางานของบัณฑิตที่สําเร็จออกไป ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า บัณฑิตสาขาวิขาการบัญชีของมหาวิทยาลัยเนชั่น จะได้รับองค์ความรู้ด้านการ บัญชีในระดับสากล ได้รับการฝึกฝนอบรมจากคณาจารย์มืออาชีพ เมื่อสําเร็จออกไปทํางานแล้ว ก็มีสามารถ ทํางานได้ทั้งในภาครัฐและเอกชน สมกับปณิธานของมหาวิทยาลัยเนชั่น “เรียนกับมืออาชีพ จบแบบมืออาชีพ และทํางานอย่างมืออาชีพ”
2
“M.B.A. เตรียมความพร้อม 360 องศา สู่ความเป็นนักบริหาร” Master of Business Administration (M.B.A.) หรือบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต หลักสูตรที่เปิด โอกาสทางการศึกษาให้กับ “ผู้บริหาร” ให้ก้าวสู่การเป็น “นักบริหาร” ที่เก่ง ดี มีคุณธรรม สามารถ บูรณา การทางความคิ ด โดยการวิ เ คราะห์ สั ง เคราะห์ ไ ด้ อ ย่ า งสมเหตุ ส มผล และสามารถนํ า ไปปรั บ ใช้ กั บ สถานการณ์ทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ชัดเจน และลงตัว “ทางออกของผู้นา ต้องอย่าหลงทาง... ” ผู้นํา ที่ดี และ เก่ง ล้วนเคยผ่านความล้มเหลว หรืออุปสรรคมาด้วยกันทุกคน สําหรับมหาวิทยาลัยมี ตัวช่วยให้ผู้นําที่อาจเดินหลงทาง ด้วยทางลัดอย่างมีอาชีพ เริ่มต้นจากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น ที่ได้รับการคัดเลือก จากบุคคลหลากหลายสาขา อาชีพ หลาย Generation ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ในด้านของตน รวมถึง ครู อาจารย์ วิทยากรผู้เชีย่ วชาญที่ได้รับการคัดสรรจากทั่วประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยน เทคนิค วิธีการที่เป็นประโยชน์ตอ่ การทํางาน ที่สุดแห่งการผสานความรู้ที่หลากหลาย “โครงการศึกษาดูงาน” ในองค์กรหรือหน่วยงานทั้งในและ ต่างประเทศที่มีแนวปฏิบัติอันเป็นแบบอย่างที่ดี การได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์การ บริหารจัดการ ทําให้มองเห็นทางออกที่ไม่ต้องเสียเวลาไปหลงทางด้วยตัวคนเดียว “หลักสูตร M.B.A. จึงถือเป็นสังคมใหม่ที่เติมสีสันของนักบริหาร ต่อยอดธุรกิจให้เห็นผลอย่างยั่งยืน ...”
3
โครงการศึกษาดูงานในประเทศ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต รุ่นที่ 3 มหาวิทยาลัยเนชั่น ระหว่างวันที่ 19 – 23 มีนาคม 2557 บริษัท ปทุมธานี บริวเวอรี่ จากัด ศึกษาดูงานเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา, ผลิตภัณฑ์ภายในเครือของบริษัท และขั้นตอนการผลิตภายในโรงงาน
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ในเครือเนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป ศึกษาดูงานเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา, การบริหารต่างๆและเยี่ยมชมการทางานของกรุงเทพธุรกิจ
บริษัท สามร้อยยอด จากัด ศึกษาดูงานเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา, ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัท และขั้นตอนการผลิต
4
พระราชวังเคียงบก ณ กรุงโซล
ดิจิทัลพาวิเลี่ยน ณ กรุงโซล
5 111
คณะนิเทศศาสตร์ สารจากอาจารย์ถึงลูกศิษย์ เมื่อมีนาคมปี 2556 อาจารย์ได้เริ่มสร้าง Close group ขึ้นมาในสื่อ Face book โดยใช้ชื่อว่า “ศิษย์เก่านิเทศศาสตร์ ” ขณะนั้น มีสมาชิกประมาณ 30-40 คนเท่านั้น การพูดคุยกันจึงยัง ไม่มากเท่าที่ควร ครบ 1 ปีในป๎จจุบัน 2557 เรามีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นแล้ว นับ ได้ถึง 200 กว่าคน การพูดคุยภายในกลุ่มจึงเริ่มมีรสชาติและมีสีสัน มากขึ้น อาจารย์พบว่ามีรุ่นพี่บางคนใช้ Close group นี้เป็นสื่อกลางเพื่อรณรงค์โครงการรับบริจาค หนังสือเพื่อนําไปมอบแก่น้องๆนักเรียนในโรงเรียนตามชนบทต่างๆ เห็นว่าโครงการประสบความสําเร็จ เป็นอย่างดี มีผู้บริจาคหนังสือมากมายทีเดียว ปีนี้ติดใจจัดอีกเป็นปีที่ 2 แล้ว ได้บุญกันไปเต็มๆ
บางคนก็ใช้ Close group นี้โปรโมทผลงานภาพยนตร์ของตัวเอง เชิญชวนพี่ๆน้องๆไปดูไปชม ก็ เรียกว่า คนสนิทได้รับสิทธิ์ก่อนใครครับ เวลาอาจารย์ว่างๆ หรือมีอุปสรรคเรื่องงาน คิดอะไรไม่ออก ก็คลิ๊กเข้าไปดู Profile ของศิษย์เก่า เราแต่ละรุ่น ซึ่งก็เห็นว่า พวกเราไปได้ดิบได้ดีกันทุกคน รุ่นแรกๆก็เริ่มที่จะเป็นหัวหน้างานกันหมดแล้ว ส่วนรุ่นน้องก็เจริญตามกันมาติดๆ ทําให้อิ่มเอมจิตใจดีเหมือนกัน ตื้นตันใจครับ คิดไปคิดมา เรามีศิษย์ เก่าไปแล้ว 20 กว่ารุ่นทีเดียว (ส.ว.แล้วหรือยัง?)
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีพวกเราอีกหลายคนเลือกที่จะเดินทางมาเยี่ยมลําปางด้วยตัวเอง พาลูก พา ครอบครัวมาด้วย พบปะพูดคุยกันแบบเห็นหน้าค่าตากัน ก็มีความสุขไปอีกแบบครับ สิ่งที่อาจารย์จะพยายามทําต่อไปก็คือ แนะนําน้องๆให้มาเข้ากลุ่มนี้ให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ทาํ ความรู้จักกับพี่ๆรุ่นก่อนว่า มีใครบ้าง ใครทํางานอะไรประสบความสําเร็จแค่ไหน อาจารย์จึงขอฝากพีๆ่ ช่วยแนะนําน้องๆเหล่านี้ด้วยนะครับ ...Keep in touch ครับ
6
ศิษย์เก่ารุ่นแรกๆคงพอจะจํากันได้ว่า หลักสูตรที่เราเรียนจบไปนั้น ค่อนข้างที่จะเป็นเฉพาะทางมากทีเดียว ที่ว่า เฉพาะทางนั้นคือ จะมีวิชาเอกต่างๆแยกออกไป เช่น เอกการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ นอกจากนี้ เราก็ยังมีวิชาโทให้เลือกเรียนกันอีก เช่น วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือการสื่อสารการแสดง เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นศาสตร์เฉพาะทางทั้งสิ้น เหตุผลที่เราออกแบบหลักสูตรไว้แบบนั้น ก็เพราะว่า ช่วงเวลานั้นหน่วยงานต่างๆต้องการนักนิเทศศาสตร์ที่มี คุณสมบัติเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพราะฉะนั้น เวลาเรียนก็ต้องเรียนให้เก่งทางด้านใดด้านหนึ่ง จึงจะเป็นที่ต้องการของ ตลาดแรงงาน ซึ่งในความเป็นจริง บัณฑิตของเราหลายคนก็เก่งหลายด้านนะ เพราะทราบมาว่า สามารถทํางานได้หลาย อย่าง เปลี่ยนงานมาแล้วก็หลายแห่งด้วย (ฮา) แต่ในป๎จจุบัน บัณฑิตจะเก่งเพียงด้านใดด้านหนึ่งนั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะว่า องค์กรสื่อต่างๆเริ่มปรับตัวหันมา ประกอบการข้ามแพลตฟอร์ม (Platform) กันมากขึ้น ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่า มีผู้ประกอบการหนังสือพิมพ์หลายฉบับหันไปทํา ทีวีและสื่อออนไลน์ควบคู่ไปด้วย หรือบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์หลายแห่งเริ่มจะมีช่องทีวี วิทยุ และนิตยสารเป็นของตัวเอง ด้วย การประกอบการเช่นนี้ เราเรียกว่า Multi Platform ซึ่งก็ต้องการคนทํางานที่มีทักษะที่หลากหลาย 360 องศา หรือ เรียกว่า Multi Skills ด้วยเช่นกัน
คุณเทพชัย หย่อง บรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น ได้กล่าวเอาไว้ในการประชุมเครือข่ ายนักวิชาการและวิชาชีพ สื่อมวลชน ประจําปี 2556 “ยุทธศาสตร์เพื่ออนาคตวารสารศาสตร์ ” ครั้งที่ 4 ตอน “ทิศทางวารสารฯ ในยุคสงคราม แพลตฟอร์ม ” ที่จัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิ มพ์แห่งประเทศไทยร่วมกับสภาการหนัง สือพิมพ์แห่งชาติ และ สถาบันอิศรา ณ มหาวิทยาลัยเนชั่น ลําปางเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2556 ที่ผ่านมาว่า นักสื่อสารมวลชนในอนาคตจําเป็นที่ จะต้องมีทักษะที่หลากหลายและรอบด้านในการผลิตสื่อ ผู้สื่อข่าวคงจะต้องมีทักษะทั้งในการเขียนข่าวที่ดี ถ่ายภาพได้สวย บันทึกเสียงได้ ตัดต่อได้ บางครั้งอาจจําเป็นต้องอัพโหลดข่าวของตัวเองได้อีกด้ วย ทักษะที่หลากหลายแบบนี้ เราเรียกว่า Multi Skills ซึ่งนอกจากทักษะที่หลากหลายแล้ว ผู้สื่อข่าวรุ่นใหม่ยังต้องเข้าใจถึงอารมณ์และความสนใจของสังคมด้วยว่า ขณะนั้นสังคมต้องการข่าวสารอะไรอีกด้วย ซึ่งผมเองก็ยังมั่นใจว่า ศิษย์เก่าของเราทุกคน ถึงแม้จะจบจากหลักสูตรแบบใดก็ตาม จะสามารถดํารงตนอยู่ได้ใน สังคมป๎จจุบันและอนาคต จากการที่พวกเราเรียนรู้ที่จะปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผมเชื่อว่า “ทักษะในการเรียนรู้ ย่อมจะมี ค่ามากกว่าทักษะใดๆทั้งสิ้น” โดย อดิศักดิ์ จําปาทอง adisak_cha@nation.ac.th
7
ภาพกิจกรรม
8
คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ สารจากอาจารย์ถึงลูกศิษย์ สวัสดีคะ่ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เว็บไซต์ของคณะ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทุก ท่านซึ่งมีความประสงค์จะเข้ามาศึกษาต่อในหลักสูตรต่างๆ และ/หรือเพีอ่ รับรู้ขา่ วสารอื่นๆ ของคณะวิชา ในเว็บไซต์นี้เรามี รายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรต่างๆ ที่เปิดสอนในคณะ ซึ่งมี วัตถุประสงค์หลักๆ อยูส่ ามประการคือ 1) เพื่อสร้างและปลูกฝ๎ง นักศึกษาให้กลายเป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ตอบสนองต่อสังคม และประเทศชาติในอนาคต โดยมีความรูค้ วามสามารถใน วิชาการและวิชาชีพที่เกีย่ วข้อง 2) มีทักษะการใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ตลอดจนมีความสามารถในการสือ่ สารได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และ 3) มีคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมโดยรวม นอกจากนี้คณะวิชายังมีข่าวสารความเคลือ่ นไหวทางด้านวิชาการและกิจกรรมที่หลากหลายของ คณาจารย์และนักศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับวิสยั ทัศน์และพันธกิจของมหาวิทยาลัย ที่มุ่งเน้นส่งเสริมการ คิดการทํางานอย่างมืออาชีพ ปลูกฝ๎งให้ทุกคนมีจิตสํานึกสาธารณะ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ เรามุ่งมั่นสร้างความเจริญก้าวหน้าเพื่อก่อประโยชน์เชิง วิชาการให้กับคณาจารย์ นักศึกษา ชุมชนท้องถิ่น สังคมและประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง โดยมีการ ปรับปรุงหลักสูตรที่มีอยู่ และสร้างหลักสูตรขึ้นใหม่เพื่อให้ทันสมัยตอบสนองกับความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น ซึ่งจะสามารถผลิตบัณฑิตให้ทันกับความต้องการในยุคโลกาภิวตั น์ เราทุกคนยินดีน้อมรับฟ๎ง ความคิดเห็นและข้อแนะนําที่จะเป็นประโยชน์จากทุกท่าน ซึ่งจะช่วยให้เราบรรลุวัตถุประสงค์ของการ ดําเนินงาน ดิฉันในนามของคณาจารย์และนักศึกษาของคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ขอขอบคุณที่ทุกท่านได้ให้เกียรติเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูล ข่าวสารที่ได้จัดไว้บนเว็บไซต์ คงจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน สุดท้ายนีด้ ิฉันหวังว่าจะได้พบกับทุกท่าน โดยตรงในโอกาสต่อไป
9
งานดัง กิจกรรมเด่น ในปี การศึกษา 2556 คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ได้ดาเนินกิจกรรมในการพัฒนานักศึกษา ไม่ว่าจะเป็ นในด้านประสบการณ์ ด้านวิ ชาการ และอื่นๆ ที่เป็ นประโยชน์ต่อนักศึ กษาซึ่ งจะสามารถนาไปใช้ ประโยชน์ในด้านการศึ กษา การปฏิบัติงานเมื่อนักศึ กษาสาเร็ จการศึ กษา แล้ว อีกทั้งเป็ นการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาเอง สาหรับกิจกรรมที่จะ บอกเล่า และนาเสนอในครัง้ นี้ เป็ นกิจกรรมที่สง่ เสริมให้นกั ศึกษาได้ เรียนรู้ จากสถานที่จริง เพิ่มประสบการณ์จริง และกิจกรรมบริการวิชาการ การ ให้ความรู้ สาระดีๆ ที่เป็ นประโยชน์ตอ่ ผูอ้ ื่น นัน่ ก็คือ โครงการทัศนศึกษา เทียบหลักสูตรมัคค ุเทศก์ทวั่ ไป (ต่างประเทศ) เส้นทางที่ 1, 4 และ 5 ลพบรุ ี - พระนครศรีอยธุ ยา - กรงุ เทพมหานคร-นครราชสีมา – บรุ ีร มั ย์ และโครงการบริก ารวิ ชาการ “สังคมศาสตร์ส ญ ั จร ณ องค์ก ารบริหารส่วนตาบลบ้า นดง ตาบลบ้านดง อาเภอแม่เ มาะ จังหวัดลาปาง
โครงการทัศนศึกษา เทียบหลักสูตรมัคค ุเทศก์ทวั่ ไป (ต่างประเทศ) เส้นทางที่ 1, 4 และ 5 ลพบ ุรี - พระนครศรีอย ุธยา - กร ุงเทพมหานคร-นครราชสีมา – บ ุรีรมั ย์ เป็ นกิ จ กรรมเสริ ม หลัก สูต รและพัฒ นาประสบการณ์ท างวิ ช าการและวิ ช าชี พ ให้กับ นัก ศึ ก ษา ในสาขาวิชาการท่องเที่ยว เป็ นกิจกรรมที่ให้นกั ศึกษาได้ศึกษาฝึ กปฏิบัติการมัคคุเทศก์จากสถานที่ จริ ง ส าหรั บ สถานที่ ที่ เ ดิ น ทางไปเยี่ ย มชม ได้แ ก่ ศาลพระกาฬ พระปรางค์ ส ามยอด อุท ยานประวั ติศ าสตร์พ ระนครศรี อ ยุธ ยา พระบรมมหาราชวั ง วั ด พระศรี รัตนศาสดาราม (วัด พระแก้ว ) วั ด พระเชตุพ นวิ มลมัง คลาราม (วัด โพธิ์ ) วั ด อรุณ ราชวราราม (วั ด แจ้ง) วัดสุทศั น์เทพวราราม ฟาร์มโชคชัย แหล่งโบราณคดีบา้ นปราสาท อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อุทยานประวัตศิ าสตร์พนมรุง้ และปราสาทหินเมืองตา่
10
ภาพที่ปรากฏให้ทา่ นเห็นอยูน่ เี้ ป็ น แหล่งท่องเที่ยวทางประวัตศิ าสตร์ ของประเทศไทย คือ อุทยานประวัตศิ าสตร์ พ ร ะ น ค ร ศ รี อ ยุ ธ ย า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รบั การประกาศขึน้ ทะเบียน เป็ นมรดก จากการประชุมคณะ กรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ณ กรุงคาร์เธจ ประเทศตูซิเนีย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534
พ ร ะ ป ร า ง ค์ ส า ม ย อ ด จังหวัด ลพบุรี เป็ นโบราณสถานและแหล่ง ท่องเที่ยวทางประวัตศิ าสตร์และ โบราณคดี ลักษณะเป็ นปราสาท เขมรในศิลปะบายน ( พ.ศ. 1720 – 1773 ) โครงสร้างเป็ นศิลาแลง ประดับปูนปั้ น สร้างขึน้ ในรัชสมัย พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ( ครองราชย์ พ.ศ. 1724 - ประมาณ 1757 ) เพื่อเป็ นพุทธสถานในลัทธิวัชรยาน ประจาเมืองละโว้หรือลพบุรี
และป ร า ส า ท หิ น เ มื อ ง ตา่ จังหวัดบุรีรัมย์ ตามลาดับ เป็ นศาสนสถานที่สร้างตามคติ ความเชื่อทางศาสนาฮินดูสนั นิษฐาน ว่าคงสร้างขึน้ เพื่อถวายพระศิวะ มีลกั ษณะเป็ นศาสนสถานประจา เมืองหรือประจาชุมชน
11
โครงการบริการวิชาการ “สังคมศาสตร์สญ ั จร ณ องค์การบริหารส่วนตาบลบ้านดง ตาบล บ้านดง อาเภอแม่เมาะ จังหวัดลาปาง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2557 ภายใต้หัวข้อเรื่อง “ตานานเรื่องเล่าพื้นถิ่นที่แสดงอัตลักษณ์เพื่อสร้าง จุดเด่นแหล่งท่องเที่ยวของแม่เมาะ ณ องค์การ” ณ องค์การบริหารส่วนตาบลบ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ล าปาง โดยมี ค ณบดี คณาจารย์ค ณะสั ง คมศาสตร์แ ละมนุษ ยศาสตร์ นัก ศึ ก ษาสาขาวิ ช า ภาษาอัง กฤษธุรกิ จ และนัก ศึ ก ษาสาขาวิ ช ารัฐประศาสนศาสตร์ เข้า ร่ว มด าเนิน โครงการฯ เป็ น กิ จ กรรมที่ นัก ศึ ก ษาน าเอาความรู้ม าบูร ณาการกับ รายวิ ช า วรรณกรรมร่ ว มสมัย โดยศึ ก ษา เปรียบเทียบเนือ้ หาสาระกับตานานเรื่องเล่าด้านการท่องเที่ยว โดยโครงการนี้เป็ นการบูรณาการงาน 3 ด้านไว้ดว้ ยกันคือ (1) งานบริการวิชาการ (2) งานวิจัย และ (3) การเรียนการสอนในรายวิชา วรรณกรรมร่วมสมัย
12
คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ สารจากอาจารย์ถึงลูกศิษย์ จากวันวานที่ผา่ นมาจวบถึง ณ เวลาป๎จจุบัน ในรั้ว สถาบันการศึกษาแห่งนี้ .....จากมหาวิทยาลัยโยนก......สู่ มหาวิทยาลัยเนชั่น ในสถานที่ที่มคี วามสวยงามทางธรรมชาติ ร่ม รื่นและอบอุ่นเช่นเดิมทีไ่ ม่เปลี่ยนแปลง เชื่อมั่นว่าศิษย์เก่าทุกคน ยังคงจําวันวานทีผ่ ่านมาได้ดี ศาสตร์และศิลป์เฉพาะสาขาวิชาชีพที่ ได้รับการบ่มเพาะจากครูบาอาจารย์ในสถาบันการศึกษาแห่งนี้ ประสบการณ์ตรงในสถานะนักศึกษาในช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ใน มหาวิทยาลัยความพากเพียรความวิรยิ ะอุตสาหะในการเรียน ความสนุกสนานร่าเริงเบิกบานของวัยที่สดใสสวยงาม ความรักและความผูกพันระหว่างลูกศิษย์กับครูบาอาจารย์ ระหว่างพี่-น้อง-เพือ่ น ทุกสิ่งทุกอย่าง จากสถาบันการศึกษาแห่งนี้คงจะทําให้ศิษย์เก่าทุกคนรําลึกได้ว่า “กว่าจะมีวันนี้และวันพรุ่งนีข้ องชีวิตก็ เพราะว่ามีสิ่งเหล่านี้ในอดีตที่ผ่านมา” ณ เวลาป๎จจุบัน ศิษย์เก่าทุกคนต่างก็มีชีวิตของตนเองทั้งชีวิต ส่วนตัวชีวิตการทํางานและโลดแล่นอยู่ในมหาวิทยาลัยชีวิต เป็นมหาวิทยาลัยทีย่ ิ่งใหญ่ประกอบไปด้วย ความรู้ที่มากมายมหาศาลให้เรียนรู้และเลือกทีจ่ ะรับมาเป็นองค์ความรูเ้ พื่อสร้างสรรค์ป๎ญญาในการพัฒนา ชีวิต นอกจากนี้แล้วยังมีบุคคลอีกมากมายทีเ่ ป็นครูผสู้ อนให้เราได้เรียนรู้ มีตัวอย่างที่หลากหลายตัวอย่างที่ นับไม่ถ้วนให้เป็นกรณีศกึ ษาและให้ศิษย์เก่าทุกคนได้คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์อย่างมีวิจารญาณด้วย สติป๎ญญาและความรอบคอบของตนเองโดยทีไ่ ม่มีครูบาอาจารย์ได้อยูเ่ คียงข้างเฉกเช่นชีวิตในรั้ว มหาวิทยาลัย การมีอนาคตที่ดี หมายถึงความเจริญก้าวหน้าของชีวิตโดยการได้นําความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ชีวิตและสังคมอย่างมีคณ ุ ธรรมจริยธรรมและความกตัญํูแป็นเครือ่ งหมายแห่งความดีดังนั้นคนดีย่อมมี ความกตัญํูและให้ความสําคัญกับการไม่ลืมเลือนอดีตที่ผา่ นมาครูบาอาจารย์ทุกคนปรารถนาให้ศิษย์เก่า ทุกคนได้รําลึกถึงสถาบันที่ประสิทธิประสาทวิชาความรู้ให้เราได้เป็นบัณฑิตที่มคี ุณภาพ ปรารถนาให้ศิษย์ เก่าทุกคนได้ช่วยผดุงเกียรติภูมิของสถาบัน ให้การสนับสนุนและเกื้อกูลสถาบันเพื่อให้รุ่นน้องร่วมสถาบัน ได้เกิดความภาคภูมิใจ และเผยแพร่เกียรติภูมิของสถาบันโดยการกระทําในสิ่งที่ดีงาม จรรโลงสังคม ประเทศชาติ และเป็นผูส้ ร้างสันติสุขแก่ผคู้ นโดยรอบ ขอให้ศิษย์เก่าทุกคนจงมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทํางาน และอย่าทอดทิ้ง สถาบันการศึกษาและหวนกลับมาร่วมใจกันพัฒนาสถาบันการศึกษาของเราให้เจริญก้าวหน้าเมือ่ มีโอกาส และไม่รอโอกาสที่จะทําสิ่งที่ดีๆในแก่มหาวิทยาลัยอันเป็นที่รักของเรา....จากมหาวิทยาลัยโยนก....สู่........ มหาวิทยาลันเนชั่น 13
ภาพกิจกรรม
14
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สารจากอาจารย์ถึงลูกศิษย์ บัณฑิตที่สําเร็จการศึกษา มีศักยภาพในการทํางาน โดย ได้ รั บ เข้ า ทํ า งานกั บ หน่ ว ยงานต่ า งๆ เป็ น ที่ ย อมรั บ ของทุ ก หน่วยงาน เนื่องด้วยกระบวนการจัดการเรียนการสอนของเรา มุ่งเน้นให้นักศึกษาได้ทํางานจริ ง ฝึกปฏิบัติจริง ในการพัฒนา ระบบ ติดตั้งระบบให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ใน จังหวัดลําปาง ทั้ง ภาครัฐและเอกชน ทําให้นักศึกษาได้ทํางานจริง มีความสุข สร้าง ประสบการณ์ใหม่ๆ นอกจากนั้นในการสอนในห้องเรียนเราได้ฝึกให้นักศึกษาปฏิบัติ ตั้งแต่กรณีศึกษาเล็ก ๆ จนถึงได้ ทํางานจริง โดยมีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจากอาจารย์ในสาขาวิชา ที่ทุ่มเทความรู้ การเอาใจใส่ต่อ นักศึกษา ทําให้นักศึกษามีความกล้าในการทํางาน และมีความกระตือรือร้นในการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเพือ่ พัฒนาความรู้ของตนเอง อย่างต่อเนื่อง บัณฑิตที่สําเร็จการศึกษาสร้างความภาคภูมิใจต่ออาจารย์เป็นอย่างยิ่งทีเ่ ป็นส่วนหนึ่งของ ความสําเร็จ ที่บัณฑิตสามารถนําเอาความรูท้ ี่ได้ไปประกอบอาชีพ และศึกษาต่อในระดับสูงขึน้ บัณฑิตที่ สําเร็จการศึกษาจากคอมพิวเตอร์ทุกคนไม่มคี ําว่า “ตกงาน” บางคนไปทํางานแล้ว ยังมีการติดต่อกับ อาจารย์อย่างต่อเนื่อง มีอะไรก็ยังคุย ยังปรึกษากันได้เช่นเดิม ซึ่งในป๎จจุบันการติดต่อสื่อสารกันได้ง่าย สะดวกขึ้น และได้ทุกเวลา เพราะเราได้มีการจัดกลุ่ม FB ไว้ สําหรับอาจารย์และศิษย์เก่าเพือ่ ติดต่อกัน สําหรับบางคนมีความรู้ใหม่ ก็ มาแบ่งป๎นกัน บางคนมีประเด็น มีคําถามก็นํามาหารือกัน ทําให้ อาจารย์และศิษย์เก่าไม่ห่างหายกันไป
15
กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในรอบปี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นกั ศึกษาได้นาความรู้ทางวิชาการ สู่การปฏิบัตงิ าน โดย ให้มีการลง มือปฏิบัติจริง ในโครงการ 1) โครงการ IT_Shop ได้มีการดาเนินงานกิจกรรม 2 กิจกรรม คือ - การติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ “การยืนยันตัวตน เข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต” ณ สมนึกแมนชั่น - การติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ “ยืนยันตัวตนเข้า ใช้งานอินเทอร์เน็ต” ณ มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ลําปาง
2) การเรียนรู้กับมืออาชีพ - โครงการอบรม เรื่อง “เทคนิคการออกแบบ กราฟิก เพือ่ การสร้างแอพพิลเคชั่น และ/หรือแอพพิล เคชั่นโปรแกรม” ปีการศึกษา 2556 (ซึ่งใช้เวลาอบรม วัน ศุกร์ จํานวน 3 วัน) สําหรับนักศึกษา และศิษย์เก่า
3) นักศึกษาฝึกการถ่ายทอดความรู้ที่ได้จากการเรียน สู่ สังคม โดยมีส่วนร่วมใน - โครงการอบรม เรื่อง “การอบรมคอมพิวเตอร์ ให้เด็กนักเรียน” ในเขตองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านดง อําเภอแม่เมาะ ลําปาง - โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ "การประเมิน อาจารย์ที่ปรึกษา และการเรียนการสอน สําหรับนิสิต วิทยาลัยสงฆ์นครลําปาง" ที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์นครลําปาง 16
ศูนย์เนชั่นบางนา ชมรม Junior Investor ชวนบูรณาการเรียนให้เพลิน ชมรม Junior Investor กําเนิดมาจากความสามัคคีร่วมใจของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และ ชั้นปีที่ 2 ของคณะ บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเนชั่น ศูนย์เนชั่นบางนา เป็นชมรมที่บูรณาการกิจกรรม Play & Learn = เพลิน เพื่อตอบโจทย์ ได้ทุกรายวิชาที่ร่ําเรียนมา ของทุกชั้นปี ให้พี่น้องร่วมมือร่วมใจสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ในการหารายได้มาเสริมสร้าง ความสุขให้กับสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเต้น Cover Dance , การเปิดร้านขายสินค้า , การเดินสายเปิดหมวกร้องเพลง , การ เดินสายรับบริจาค ป๎้นฝ๎น ออกค่ายอาสาพัฒนาบริการวิชาการ ให้กับน้องๆ ชายแดน ชวนสมาชิกลุยโครงการออกค่ายอาสาพัฒนาบริการวิชาการ ให้กับน้องๆ ชายแดน เริ่มจากแบ่งงานกันทํา กลุ่มหา เงิน กลุ่มทํากิจกรรม กลุ่มประสานงาน ตั้งแต่เทอม 1 ออกค่ายจริงเทอม 2 เทอม1 ทดลอง ทดสอบ ล้มลุกคลุกคลาน ขาดทุนยับเยิน แต่สู้ไม่ถอย ย้อนกลับไปดูสาเหตุว่า คิดวิธีการเงินด้วยการ ขายสินค้าที่ตลาดนัด รายได้ดี แต่ขาดทุน เพราะมือใหม่ที่ยังวางแผนการทํางานไม่รอบคอบ อาจารย์ใจเด็ดปล่อยให้ลองเจ็บ เพื่อเก็บมาสู้ใหม่ สรุปแล้วเวลาสําหรับการหาทุนในเทอม 1 ผ่านไปอย่างเด็กหงอย เทอม 2 ฮึดสู้ วางแผนหาเงินกันใหม่ กระจายตัวออกไปเล่นดนตรีเปิดหมวกตามตลาดนัดรอบมหาวิทยาลัย ตลาด นัดรถไฟ ตลาดนัดราม 2 ตลาดนัดสมุทรปราการ เดินรับบริจาคตามสํานักงาน เห็นผลแล้ว เพราะผู้ใหญ่ใจดีเอ็นดู ร่วม ด้วยช่วยบริจาค รวบรวมมาได้ 5 หมื่นกว่าบาท กับสิ่งของอีกเพียบ 6-8 ธันวาคม 2556 ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวความสุขที่มอบโอกาสให้กับน้องๆ นักเรียน โรงเรียนตํารวจตระเวน ชายแดนตะโกปิดทอง สวนผึ้ง ราชบุรี ได้รับคําชื่นชมจากครูใหญ่ ว่า “ไม่เคยมีกลุ่มไหนที่มาทํากิจกรรมแล้วหยุดเด็ก นักเรียน ให้คิดให้ดี ก่อนลงมือทําให้ได้จริง” ความภาคภูมิใจจากการวางแผนฐานทั้ง 4 ฐาน การคํานวณ , ภาษาอังกฤษ , ภาษาไทย , การแก้ไขป๎ญหา ทุกฐานที่ ม.เนชั่น จัดไป เป็นประโยชน์ ช่วยให้น้องๆ ได้ Play & Learn = เพลิน ไปกับ นักศึกษา เรามามอบความสุข มอบความรู้ น้องๆ ได้รับความสุข สนุก เรียนรู้ได้เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีจุดบกพร่องกันบ้าง แต่ ครั้งแรกได้เท่านี้ก็สุดปลื้ม เพียง 3 วัน กับ 40 ชีวิต ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มี 7/Eleven ไม่มีห้องแอร์ ไม่มีเตียงนุ่มๆ ต้องไปกางเต้นท์นอนบน ลานเฮลิคอปเตอร์ กับไปนอนในห้องเรียนน้องๆ ตื่นเช้ามาช่วยกันทําอาหารเลี้ยงน้องๆ เล่นกีฬากับน้องๆ ทั้งเช้า-เย็น ยัง ไม่ได้ยินเสียงบ่นว่าลําบาก มีแต่ปีหน้าไปอีกนะ มีความสุขกับการให้นักศึกษา ม.เนชั่น ทําจริง เจ๋งจริง ตัวช่วยที่ทําให้ประสบความสําเร็จ Plan Do Check Action (PDCA) ช่วยให้คณะทํางานมองเห็นทะลุปรุโปร่ง สามารถปรับปรุงงานได้อย่างต่อเนื่องในแต่ ละวงรอบ ทําให้มีการพัฒนาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นําไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่ ว่าจะเป็นกิจกรรมที่เป็นทางการ หรือกิจกรรมส่วนตั๊วส่วนตัว ง่ายๆ แค่เริ่มด้วย Plan วางแผน Do ลงมือทํา Check ประเมินผล Act ปรับปรุง ตัวช่วยนี้ใช้งานไม่ ยาก แค่ต้องใส่ใจ และ ตั้งใจจริง แค่นั้น
17
18
19
“ครู” บริหารธุรกิจ ขอเล่า
ความสุวามสุ ขของครู อาจารย์ ม.เนชั่น ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นทีละนิด ขของครู อาจารย์ ม.เนชั่น ค่ อยๆ ชัดเจนขึน้ ทีละนิด เพราะ เพราะได้ ผลลัพพธ์ธ์ขของเมล็ องเมล็ดพัดนพัธุน์ ทธุ่ คี ์ทรูี่คใส่รูใใจบ่ ส่ใมจบ่เพาะได้ มเพาะได้ มาหลากหลายนธุ์ ได้ เเห็ ห็นนผลลั มาหลากหลายสายพั สายพันหวัธุ์ งเพีหวัยงให้ งเพีลยกู งให้ ที่เปรีอยนเมล็ บเสมืดพัอนนเมล็ ได้เติบโตออก แตก ศิษย์ลทูก่ เี ศิปรีษยย์บเสมื ธุ์ ได้ ดเติพับนโตธุ์ แตกดอก ผล แผ่ กแผ่ ่ งิ ก้กานิ่ง ก้และ เพียงแค่ ครูนยันงแค่ ้ ได้ สครู ังเกตเห็ ดอก ออกผล าน ใบและได้ อใบย่างสมบู ได้อย่ราณ์งสมบู รณ์ เพี นั้นได้น พัฒนนาการที ่ ดขี นึ ้ ของลู ศิษย์ อกันศิเป็ษนที แต่นลทีะคน ะเดือนแต่แต่ละละปี สังเกตเห็ พัฒนาการที ่ดีขึ้นกของลู ย์อ่ รันักเป็ ่รักแต่แต่ลละคน นกาลังใจให้ ลูกศิษย์ เป็ นคนดี ก้ าวสู่สังคมได้ อย่ างมั่นคง และ เดือน และคอยเป็ แต่ละปี และคอยเป็ นกําลังใจให้ลูกศิษย์เป็นคนดี ก้าวสู่สังคมได้ สง่ างาม อย่างมั่นคง และสง่างาม มหาวิทยาลัยชีวิต เตรียมความพร้อมสู่โลกความจริง ปริญญาบัตร สําหรับสังคมเราใช้เป็นตัวชี้วัด ว่าผู้นั้นเป็นผู้ที่มีวิชา ความรู้ ในด้านหนึ่งๆ ที่ได้ร่ําเรียนมา แต่ในความ เป็นจริง ปริญญาบัตร ไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดว่า ผู้นั้นจะอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้เท่าเทียมกันทุกคน ทําให้ ครู อาจารย์ ทุกคน ใน ม.เนชั่น หันมาร่วมกันวางวางแผน ด้วยการวางรากฐานที่มั่นคงให้ลูกศิษย์ ไม่ใช่แค่การสอนหลักวิชาการไปตามหนังสือ เฉพาะแต่ในห้องเรียนอย่างเดียว แต่ต้องหมั่นเสริมสร้าง สอดแทรก ประสบการณ์ที่อยู่นอกรั้วมหาวิทยาลัยให้อย่าง สม่ําเสมอ พร้อมกับ ชวนให้ลูกศิษย์รู้จักกับคําว่า “จิตอาสา” เผื่อแผ่ให้กับผู้ที่ด้อยโอกาสมากกว่า เข้าใจธุรกิจ หมั่นเสริมสร้างโอกาส สู่ความสาเร็จที่ยิ่งใหญ่ หลายคน ต่างความคิด ดําเนินชีวิตที่ต่างกัน ไม่ว่าจะจบมาจาก สายวิทย์ สายศิลป์ ได้เกียรตินิยม หรือ แค่สอบ ผ่านก็พอ แนวคิดขั้นต้นของทุกคน คือ การมีงานทํา มีเงินเดือนใช้ทุกเดือน แต่ถ้ามีใครที่คิดต่างไปบ้าง เช่น คนไหนอยากมี เกียรติ มีชื่อเสียง มีเงิน เหลือกินเหลือเก็บ ถ้าคิดเพิ่มมาขนาดนี้ควรที่จะมีความรู้ด้าน “บริหารธุรกิจ” ติดตัว เพื่อช่วย ส่งเสริม สนับสนุน ผลักดันให้หน้าที่การงาน การดํารงชีวิตประสบความสําเร็จได้อย่างสวยงาม คือ “บริหารธุรกิจ” ต้องบริหารจัดการเป็น เพราะการวางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง หาก ไม่มีการวางแผน หรือมี การ วางแผนแบบไม่รอบคอบแล้วนั้น อาจจะเป็นการสร้างความสูญเสียกลับมาได้อย่างมหาศาล “บริหารธุรกิจ” ต้องเข้าใจเศรษฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับในชีวิตประจําวัน การมองเห็นโอกาส หลีกเลี่ยงอุปสรรค ดึง จุดเด่น ลบจุดด้อย แค่เล็กๆ น้อยๆ ก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเราได้อีกมหาศาล “บริหารธุรกิจ” ต้องรู้จักการตลาด เพราะการตลาดจะบูรณาการเชื่อมต่อให้สามารถมองเห็นอนาคตได้ทุกธุรกิจ “บริหารธุรกิจ” ต้องรู้จักบัญชีการเงิน แค่มองให้เป็น ก้อชนะคู่แข่งไปหลายก้าว แต่ถ้าใช้ให้เป็น ก็จะก้าวสู่ ความสําเร็จอย่างใจหมาย
20
โอกาสรออยู่มากมายที่ “บริหารธุรกิจ”
ศูนย์เนชั่นบางนา รับนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ ในสาขาการตลาด แต่เพิ่มโอกาสให้ได้เลือกวิชาโทข้ามหลักสูตร คือ การเงินการธนาคาร ที่มีธนาคารไทยพาณิชย์เซ็นสัญญารองรับ หากได้ CGPA 2.75 และ วิชาโทคณะนิเทศศาสตร์ เพราะการตลาด กับ นิเทศศาสตร์ มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันเป็นอย่างมาก ปลื้มจากคําชื่นชมของผู้ปกครอง เพราะที่ ม.เนชั่น ส่งนักศึกษาให้ไปฝึกงานกับ พี่พี่ ตัวจริงในเครือเนชั่น ตั้งแต่จบ ปี 1 ไม่ว่าจะเป็น ฝุายจัดหาสมาชิก ฝุายการตลาด ฝุายงานข่าว นักศึกษาปรับตัวมาทํางานได้ทันเวลา ไปร่วมงานกิจกรรม การตลาดกับพี่พี่ ไม่ว่าจะงานเล็ก งานใหญ่ กลับมาพูดคุยเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ เพื่อนๆ ที่บ้าน ทําให้เห็นว่า นักศึกษารู้จักใช้ ความรู้ที่เรียนมาแค่ 1 ปี ไปผสมผสานกับความเป็นจริงได้เยอะบ้าง น้อยบ้าง อีกทั้งเห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่ ที่มีความคิด รอบคอบขึ้น พี่เลี้ยงที่ฝึกงานให้กับนักศึกษา ชั้นปีที่ 1 ตอนแรกก็มีอึ้งกันไปบ้าง ว่าแค่นักศึกษาปี 1 จะทําอะไรได้ เอามาวิ่งเล่น ซนไปวันวัน แต่ผ่านมา 2 รุ่นแล้ว อาจารย์ และ ลูกศิษย์ เตรียมความพร้อมมาดี นักศึกษาตั้งอกตั้งใจทํางาน ไม่เกี่ยงงอน ถึงจะมีงอแงบ้างตามประสาเด็ก แต่โดยรวมแล้ว เป็นส่วนในการช่วยเหลือได้มากทีเดียว ฝึกการนําเสนอ โอกาสที่มากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ห้องเรียนอบอุ่น ขึ้นนําเสนอบนเวที กิจกรรมกลุ่ม ให้นําเสนอต่อ หน้าเพื่อนๆ ต่อหน้าอาจารย์ หรือแม่กระทั่งต่อหน้าวิทยากรรับเชิญจากภายนอก เพื่อฝึกซ้อมให้รู้จักการใช้ภาษากาย ภาษาพูด ความกล้า จนเป็นความเคยชิน ไม่เขินอาย ไม่ประหม่า และมีสติในการนําเสนอจนเป็นที่น่าชื่นชม ความสุขของครู อาจารย์ ก็แค่นี้แหละ ได้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น ได้เป็นส่วนสนับสนุนให้ต้นกล้าแผ่กิ่งก้านสาขา ออกดอก ออกผล ให้ร่มเงา แค่นี้ก็ปลื้มแล้ว
21
สโมสรนักศึกษา สโมสรนักศึกษา คือ องค์กรที่นักศึกษารวมกลุ่มกันเพื่อดําเนินกิจกรรมทาง การศึกษา และเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระหว่างนักศึกษาและผู้บริหารแต่ละภาคส่วน ของมหาวิทยาลัยที่จะร่วมกันดําเนินกิจกรรมในการพัฒนาทางการศึกษาภายในและ ภายนอกมหาวิทยาลัย ความคิดของการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนักศึกษาการที่ดิฉันได้เป็นตัวแทน องค์กรนักศึกษาคิดว่า เป็นสิ่งที่ดีเพราะจะทําให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทํางานร่วมกับ ผู้อื่นและเรียนรู้การทํางานที่เป็นระบบที่จะสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลอื่นได้ หลายๆด้าน ซึ่งสามารถที่จะนําไปพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นําและผู้ตามที่ดีได้ นาย ฐิตินันท์ ดารงสิทธิ์ (ฟลุ๊ค) คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ปี 2 นายกสโมสรนักศึกษา ปี 2557 คติพจน์ประจาใจ Positive think and positive thing happen… อนาคตมุ่งหวังไว้ว่าอย่างไร สวัสดีครับตั้งแต่ผมเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ผมมาพร้อมกับความว่างเปล่า ความว่างเปล่านี้ หมายถึงความรู้และสติป๎ญญาที่เป็นศูนย์ แต่เมื่อผมได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีพร้อมด้วยโอกาส และมากด้วยประสบการณ์จากคณาจารย์หลายๆท่าน อีกทั้งเพื่อนพ้องที่มีความเป็นมิตร รุ่นพี่ที่รักและห่วงใยรุ่นน้อง ซึ่งสิ่ง เหล่านี้จะหาไม่ได้ถ้าผมไม่มาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ผมได้รับโอกาสมากมายตั้งแต่ผมเริ่มเข้ามาศึกษาที่นี่ เช่นผมได้รับ ทุนการศึกษาของ Bill Heinecke ของคณะบริหารธุรกิจ เป็นทุนเรียนตลอดระยะเวลา4ปีซึ่งโอกาสแบบนี้หาได้ยาก และ ครั้งล่าสุดเป็นการคัดเลือกตั้งสโมสรนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ผมก็ถูกผลักดันจากอาจารย์และรุ่นพี่ให้เข้ารับการเลือกตั้ง ในครั้งนี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาและเปลี่ยนแปลงมหาวิทยาลัยแห่งนี้ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม โดยผมและคณะมี นโยบายเพื่อการพัฒนาสู่ความยั่งยืนทั้งในป๎จจุบันและอนาคต 1.มหาวิทยาลัยเนชั่นจะเป็นมหาวิทยาลัยต้นแบบการพัฒนานักศึกษาสู่ความเป็นบัณฑิตจิตอาสาอย่างแท้จริงเพื่อ สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัย 2.มหาวิทยาลัยเนชั่นจะเข้าสู่ความเป็นยุคแห่งการปลอดสารเสพติดและอบายมุข ให้สอดคล้องกับวัยรุ่นยุคไฮเทค ห่างไกลจากอบายมุข 3.มหาวิทยาลัยเนชั่นเป็นมหาลัยที่เน้นการศึกษาด้านภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และเป็นการเตรียมความพร้อม การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี2558 ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยจึงตระหนักถึงความสําคัญโดยจะจัดการเรียนรู้ด้าน ภาษาอังกฤษและการฝึกสอนนอกสถานที่เพื่อเป็นประสบการณ์และเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ตัวนักศึกษาเองอีกทั้งยัง เป็นการบําเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม 4.มหาวิทยาลัยเนชั่นเป็นอุทยานธรรมชาติแห่งการศึกษาและเรียนรู้ ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยจะเป็นต้นแบบ มหาวิทยาลัยด้านการอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมของจังหวัดลําปาง สุดท้ายนี้การที่ผมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเนชั่นจังหวัดลําปาง โดยผ่าน กระบวนการประชาธิปไตย หรือผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมอยากจะเปลี่ยนแปลงในหลายๆสิ่งในมหาวิทยาลัย แห่งนี้และในตอนนี้ผมก็ได้รับโอกาสนั้นสําหรับการเปลี่ยนแปลงที่กําลังจะมาถึงในเร็ววัน ผมจะไม่ทําให้คนที่สนับสนุนผม ต้องผิดหวังครับ ขอบคุณครับ 22
นางสาวเอมอร เพชรบูรณ์ (กระต่าย) คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาสาธารณสุขศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 คติประจาใจ กําลังใจคือสิ่งสําคัญที่สุดเพราะจะทําให้เราก้าวต่อไปในทุกวันอย่างมีความหวัง ผลงาน เป็นนักพัฒนาที่เข้าร่วมการดําเนินงานร่วมกับโครงการรณรงค์ขับเคลื่อนการสร้าง พลเมืองเพื่อประเทศไทยที่น่าอยู่ร่วมกับเครือข่ายแนวคิดโครงการปิดทองหลังพระในพระ ราชดําริ เหตุผลที่เรียน คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาสาธารณสุขศาสตร์ สายนี้เป็นสายการให้ การบริการ การที่เราได้ดูแลช่วยคนที่เจ็บปุวยให้หายนั้นเป็นสิ่งดีและทําให้ตัวผู้ให้บริการเอง มีความสุข สําหรับวิชชาชีพสาธารณสุขนี้เป็นอาชีพที่ช่วยเหลื่อ อีกในหนึ่งคือเราก็ได้ประเมิน สุขภาวะของร่างกายเราด้วยว่าเป็นอย่างไรทําอย่างไรเราถึงจะมีสุขภาวะที่ดี ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ ตามมิติของสุขภาพ
23
หน้านี้ มีรางวัล โอกาสที่มากกว่า ในรั้ว ม.เนชั่น ม.เนชั่น เลือกนักศึกษา จากคณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาดชั้นปี ที่ 1 เข้าประกวดสุนทรพจน์และเขียนเรียงความของสาขาบัญชี ซึ่งต้องเข้า ร่วมการแข่งกับนักศึกษาสายตรงสาขาบัญชี เป็นพี่ ปี 3 และพี่ ปี 4 ที่เรียน วิชาการบัญชีมาไม่ต่ากว่า 3 หรือ 4 เล่ม แต่ นักศึกษา ม.เนชั่น สาขา การตลาด เพิ่งได้เรียนบัญชี มาแค่เล่มเดียวเท่านั้น กับการเข้าร่วมการประกวดสุนทรพจน์ และ เขียนเรียงความ ใน หัวข้อ“การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมทางวิชาชีพบัญชี” วันอังคารที่ 22 เมษายน 2557 โดย คณะอนุกรรมการสาขาวิชาการบัญชี คณะกรรมการฝ่ายวิชาการและประกันคุณภาพการศึกษาสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยเพราะ ม.เนชั่น เชื่อมั่นว่า การเรียนการ สอนได้ปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยแบบ Convergence ให้นักศึกษามีพัฒนาการขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น 1 Professional Skill ที่เสริฟถึงในห้องเรียน หรือส่งเข้าสู่สนามธุรกิจจริง 2 Presentation Skill นักศึกษาทุกคน ต้องมีโอกาสขึ้นน่าเสนอบนเวทีหน้าห้องเรียน นอกจากจะได้พัฒนาการของการใช้ภาษาใน การสื่อสารให้ถูกต้อง ยังต้องมีการใช้ Body Language อีกด้วย เห็นได้จากวันแรกที่ขึ้นเวที อาการขั้นต้น คือ ประหม่า มือสั่น เสียงสั่น พูดไม่ออกบอกไม่ถูก แต่เมื่อจบเทอม 1 แล้วลองยื่นไมโครโฟน ให้อีกครั้ง ถึงตอนนี้ นักศึกษาพร้อมเสมอที่จะน่าเสนอได้อย่างฉะฉาน และได้ รับค่าชื่นชมจากคนรอบข้าง 3 English Skill ที่เป็นจุดอ่อนของเด็กไทยหลายๆ คน แต่ที่ ม.เนชั่น นอกจากการเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่อาจารย์มีทักษะ ในการ เรียนการสอนให้รู้สึกว่าภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ง่ายขึ้นแล้ว ยังเพิ่มมูลค่าจัดให้มีการสอนในวิชา คณะอีก2-3 วิชาที่สอนเป็น ภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยให้นักศึกษาคุ้นชินกับการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริงได้อีกด้วย
ต้องกล้าไปคว้ารางวัลที่ 1
การประกวดการเขียนเรียงความ หัวข้อ “การเสริมสร้าง คุณธรรม จริยธรรมทางวิชาชีพบัญชี” เป็น โครงการที่ สร้าง ความกดดันสูงมาก เพราะกว่าทีจ่ ะได้รับรางวัลจนสร้างชื่อเสียงให้กับ ธัญวรัตม์ สุขสุด นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะบริหารธุรกิจ สาขา การตลาด มหาวิทยาลัยเนชั่น ศูนย์เนชั่นบางนา ต้องเป็น Team Work ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ท่างาน แข่งขันกับเวลาทีม่ ีให้ แค่ 1 ชั่วโมง รีบท่าความรู้จักกันและกัน เพื่อ หลอมรวมความคิดจากข้อมูลของทั้ง 3 มหาวิทยาลัยให้เป็นหนึ่ง เดียวกัน กับหัวข้อที่ได้รับก่อนการแข่งขันเพียงแค่ 5 นาที รีบกลั่นกรองประเด็นที่จะเข้าตากรรมการ รีบพิมพ์ รีบตรวจ แต่ต้องให้ประเด็นในการเขียนเรียงความสื่อสารออกมาให้ได้ว่า เรา ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในสายอาชีพไหน ก็ต้องเรียนรู้ และ พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ ซึ่งการ ประกอบวิชาชีพทางบัญชีก็เป็นสาขาหนึ่งที่ผู้ท่าบัญชีจะต้องเข้ารับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี โดยอาจไปเข้าร่วมอบรม หรือสัมมนาทางบัญชี เพื่อเพิ่มพูนความรู้ใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการท่าบัญชี ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ท้ายที่สุดต้องเป็นนักบัญชีที่มี จรรยาบรรณ มีความรับผิดชอบ มีความโปร่งใส มีความซื่อสัตย์ ในการปฏิบัติงานอย่างมีมาตรฐาน แล้วผลแห่งความส่าเร็จจะงอกเงย อย่างงดงาม 24
ต้องมั่นใจ เนื้อหา ลีลา ท่าทาง โดนใจคณะกรรมการ นอกจากการประกวดการเขียนเรียงความแล้ว ยังได้เข้าแข่งขัน ประกวดการกล่าวสุนทรพจน์ โดย กมลชนก บุญโสฬส นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเนชั่น ศูนย์เนชั่นบางนา ได้ ใจคณะกรรมการ ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย กมลชนก กล่าวว่า เป็นเพราะว่าที่ ม.เนชั่น ฝึกให้นักศึกษาทุกคนมีโอกาสใช้การสื่อสาร การน่าเสนอ ในทุก ชั่วโมงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้่าเสียง การใช้ภาษากาย หรือ การวิเคราะห์ ผู้ฟัง ว่าชอบที่จะฟังแบบไหน เพราะในวันที่เข้าประกวดต้องเน้นที่เนื้อหาของ บัญชี ผสมไปกับทุกสายอาชีพ ซึ่งการตัดสินของคณะกรรมการ มี 3 หัวข้อที่ต้องใส่ใจ คือ 1 เนื้อหาที่ตรงกับหัวข้อ และเข้าใจง่าย 2 การใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง 3 การน่าเสนอที่มองถึงการใช้น้่าเสียง การใช้ภาษากาย การใช้ลีลา ท่าทาง น้่าเสียง และ เนื้อหา ที่ ม. เนชั่น เรามีโอกาสได้ฝึกมากอยู่แล้ว ท่าให้กรรมการคัดเลือกให้ผ่านเข้าถึงรอบสุดท้าย แต่ที่ยังไม่ได้รับรางวัล 1 ใน 3 รางวัลสุดท้าย น่าจะเป็นเพราะการร้อยเรียงเรื่องราวภายในเวลา 3 นาที ยังไม่สละสลวย เท่ากับพี่ๆ อีก 3 คน
บ่มเพาะให้ต้นกล้าเติบโต แข่งขันได้ไม่อายใคร ทุกรายวิชาที่ ม.เนชั่น ใช้รูปแบบ Play and Learn = เพลิน หมายถึงการเรียนได้อย่างสนุก และ มีความสุข เพลิดเพลินกับการเรียน การสอน ในชั่วโมงเรียน ท่าให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้น มีการจดจ่าได้นาน ขึ้น น่าปรับใช้อย่างมีประสิทธิภาพได้ทันทีทันใด ตัวของอาจารย์จะต้อง เข้าใจ และต้องมีความคิดอย่างสร้างสรรค์ (Creativity) เพื่อสร้าง กระบวนการเพลินได้ ช่วยให้อาจารย์ได้เห็นพฤติกรรมของนักศึกษาแต่ ละคน แล้วพัฒนาให้ตรงกับความสามารถ หรือช่วยเสริมสร้าง ความสามารถให้กับนักศึกษาได้จริง เพราะในศตวรรษที่ 21 นี้เป็นยุคการเรียนการสอนที่เน้นให้ลูก ศิษย์ รู้จักวิธี “การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง” อาจารย์ ปรับเปลี่ยน บทบาทเป็น Coaching & Mentoring เป็นการสอนงานแบบพี่เลี้ยง ซึ่งจะช่วยพัฒนาให้นักศึกษา ได้ฝึกการใช้สมอง ด้วยการลงมือท่าจริง พัฒนาได้เต็มศักยภาพ พัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการให้ก่าลังใจ ชวนให้คิด เชียร์ให้ท่า จ่ามาปรับจากหลักวิชาการ ผลลัพธ์ของการ บ่มเพาะต้นกล้าได้เพียงแค่ 1 ปี คือรางวัลจากโครงการ การประกวด สุนทรพจน์ และ เขียนเรียงความ ในหัวข้อ“การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมทางวิชาชีพบัญชี” แล้วถ้าต้นกล้าเหล่านี้เติบโตเต็มที่จากการ
บ่มเพาะ 4 ปีเต็ม จะเป็นต้นกล้า ที่กล้าแกร่ง อย่างสมบูรณ์ 25
ศิษย์เก่าดาวเด่น ค ณ ะ สั ง ค ม ศ า ส ต ร์ แ ล ะ ม นุ ษ ย ศ า ส ต ร์
นายกองค์การบริหารส่วนตาบลบ้านดง อาเภอแม่เมาะ จังหวัดลาปาง ในการปฏิบตั หิ น้าที่ที่จะสามารถ ช่วยเหลือหรืออานวยความสะดวกให้กบั ประชาชนในท้องถิ่นที่ตนเองดูแล รับผิดชอบให้สามารถอยู่อย่างมีความสุข ด้วยกายและใจนัน้ ทาให้ท่านระลึกอยู่ เสมอว่า “ รั ก เ พื่ อ น บ้ า น เ ห มื อ น รั ก ต น เ อ ง ” ซึ่งถือเป็ น คติเตือนใจที่นา่ ยกย่องและชื่นชมเป็ น อย่างยิ่ง
มหาวิ ท ยาลัย เนชัน่ มี ค วามยิ น ดี เ ป็ นอย่ า งยิ่ ง ที่ จะขอแนะนาให้กับ ทุกท่า น ไม่ว่ า จะเป็ น นักศึ กษา ศิ ษย์เ ก่า ของมหาวิ ท ยาลัย หรื อแม้กระทัง่ บุคคล ทั ่ว ไปได้ร ู้จั ก กั บ บุ ค คลท่ า นหนึ่ งที่ มี ค วามรู้ ความสามารถและประสบการณ์ใ นการท างาน เป็ นอย่ า งดี ด ้า นการปกครองท้อ งถิ่ น ซึ่ ง ก็ คื อ น า ย ศุ ก ร์ ไ ท ย ธ น สุ ก า น ต์ ปั จจุบันท่านดารงตาแหน่ง นายกองค์การบริหาร ส่ ว นต าบลบ้า นดง ซึ่ ง ก่ อ นที่ ท่ า นจะมาด ารง ต าแหน่ ง ปั จจุบั น นั้ น ในอดี ต เคยเป็ น นายก องค์ก ารบริ ห ารส่ ว นต าบลบ้า นดง ปี 2552-ปี 2556 1 สมัย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน ตาบลบ้านดง 2 สมัย และประธานสภาองค์การ บริหารส่วนตาบลบ้านดง 1 สมัย สาหรับความรู้ ความสามารถด้า นการศึ ก ษาท่ า นจบการศึ ก ษา ระดับ ปริ ญญาตรี สาขาวิ ชารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโยนกซึ่งก็คือมหาวิทยาลัยเนชัน่ ในปั จจุบัน และระดับปริญญาโท หลักสูตรบริหาร ท้ อ งถิ่ น มหาวิ ทยาลั ย เนชั ่น ซึ่ ง ในระหว่ า ง การศึ ก ษาก็ ไ ด้รั บ ความไว้ ว างใจจากเพื่ อ นๆ นั ก ศึ ก ษ า ใ ห้ เ ป็ น ป ร ะ ธ า น นั ก ศึ ก ษ า ร ะ ดั บ บัณฑิตศึ กษา ทั้ง 3 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร บริ ห ารธุร กิจ มหาบัณ ฑิ ต รัฐประศาสนศาสตร์ มหาบั ณ ฑิ ต และบริ ห ารการศึ ก ษามหาบั ณ ฑิ ต ซึ่งนัน่ ก็เป็ นประวัติพอสังเขปที่จะทาให้เชื่อมัน่ ได้ว่า บุคคลผูน้ ี้จะสามารถนาพาความเจริญและพัฒนา ต าบลบ้า นดงให้มี ค วามผาสุก เป็ นพื้ น ที่ ที่ น่า อยู่ อาศัยทั้งผูอ้ ยู่แ ละผูม้ าเยือน สาหรับศิษย์ดาวเก่า เด่นในฉบับนี้คงต้องขอกล่าวลากันไปก่อน พบกัน ใหม่ในฉบับต่อไปซึ่งจะเป็ นอะไรนัน้ ต้องติดตามกัน ต่อไปกับ ศิษย์เก่าดาวเด่น คณะสังคมศาสตร์และ มนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเนชัน่
27
สวัสดีครับ ต้องขอบพระคุณ มหาวิทยาลัยเนชั่น (วิทยาลัยโยนก) และคณะ ผู้บริหาร คณะอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่านที่ได้ให้โอกาสกับเด็กบ้าน นอก อีกหนึ่งคน ได้โลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้อย่างมีทิศทางและเปูาหมาย กระผมชื่อ นายอนุรัก สารีแก้ว อายุ 36 ปี เป็นนักศึกษารุ่นที่ 10 รหัส 4001115 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการบริหารการจัดการ หลักสูตร 4 ปี นักศึกษาทุน วปรอ หลังจากเรียนที่โยนกปีที่ 4 จบ ก็ได้มีโอกาสไปเรียน แลกเปลี่ยนที่ มหาวิทยาลัยโอกินาว้า อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศญี่ปุน (ไม่เท่ หรอกคับ เกือบตาย) 555 อยู่ 2 ปี เศษๆ ก็เรียนภาษาเป็นหลัก ป๎จจุบันอยู่ประเทศไทยทํางาน กับบริษัท ญี่ปุน นี่แหละบริษัทในเครือนิปโป ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทุก ยี่ห้อ แบรน ญี่ปุน+ ชิ้นส่วนรถยนต์และชิ้นส่วนเครื่องมือแพทย์ครับ ตําแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป ซึ่งดูแล ฝุายบุคคล / บัญชี /ธุรการทั่วไป /IT / BOI / ISO & Safety ใช้ซะคุ้ม จริงๆๆครับ 555 พนักงานที่ดูแลก็ 45 คน พนักงาน ทั้งหมด 2,100 คน 85 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้หญิง 15 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ชาย เงินเดือน ก็.... อย่าไปรู้เลยครับ ถามว่า จะฝากอะไรถึงน้องๆ นศ บ้าง ??? เออออ..... 1.ให้น้องๆ ตั้งใจทํากิจกรรมในมหาลัย เท่าๆกับที่น้องตั้งใจเรียน คือ 50:50 2.พัฒนาความรู้ด้านภาษาให้ดี ให้เก่ง อย่าแบบปูๆ ปลาๆ เช่น อังกฤษ ญี่ปุน จีนเป็นต้น 3.จงเรียนรู้วิชาที่เป็นประโยชน์กับการดําเนินชีวิตจริงๆ มากๆ อย่ามุ่งเรียนแต่วิชาที่จะไปประกอบวิชาชีพอย่างเดียว 4.มีเปูาหมายที่ชัดเจนและหัดใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด 5.อย่าหยุดที่จะพัฒนาตนเอง อย่าหยุดเรียนรู้ ต้องพัฒนาตนเองทุกๆวัน 6.เล่นกีฬาและดนตรีให้เป็นไม่ว่าจะเป็นทีมหรือเดี่ยวต้องสามารถ (ถ้าเก่งยิ่งแจ๋ว) (อันนี้ ผมจํามาจาก ท่านดร.นิรันดร์ จิวะสันติการ ท่านอธิการบดีที่เคารพรักเสมอ) 7.ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ สุจริต และต้องมีจิตอาสา อย่าเอาเปรียบหรือดูถูกคนอื่น จงมองตนเอง รู้จักตนเอง เยอะๆๆ ถามว่า สภาวะเศรษฐกิจ+การศึกษา+AEC มีผลเกี่ยวพันอย่างไรกับ นศ จบใหม่บ้าง ? ปีพ.ศ 2557 ปีป๎จจุบันนี้ต้องบอกดังๆเลยว่า เศรษฐกิจทั่วโลกทรงตัวค่อนข้างตกต่ํากว่า 2 -3ปีที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุเกิด จากหลายป๎จจัย ถ้าประเทศไทยเองก็ ป๎ญหาการเมือง /ป๎ญหาคอรัปชั่น แต่สําหรับผู้เขียนเองโดยส่วนตัวแล้ว ป๎ญหา ที่ใหญ่ที่สุดน่ากลัวที่สุดและเป็นป๎ญหามานานและไม่มีใครโวยวาย เดือดร้อน ต้องเร่งหาทางแก้ด่วน นั้นคือ ป๎ญหา ศีลธรรมของคนในชาติตกต่ํามาก เห็นผิดเป็นถูก มือใครยาวสาว ได้สาวเอา คนอื่นจะเป็นอย่างไรช่างหัวมัน จริงๆ ต้องแก้จุดนี้ก่อน ไม่ใช่แก้เฉพาะเศรษฐกิจ.....หลังจากที่รัฐบาลปรับค่าแรง 300 บาทขึ้นมา ทําให้ผู้ประกอบการต้อง แบกรับภาระ ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เวลาปรับไม่ใช่ปรับแค่รายวัน ต้องปรับยกขบวน ไม่งั้นแย่จึงทําให้ งานที่ต้นทุนต่ําที่ เคยสามารถผลิตในไทยได้ต้องย้ายฐานการผลิตไปที่ต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย /ฟิลิปปินด์ เป็นต้น สาเหตุ อินโดนีเซีย ประชากรเขามากกว่าไทย ต้นทุนถูกกว่า นโยบายภาครัฐก็ดี ฟิลิปินด์ นั้น แน่นอนต้นทุนถูกกว่านโยบาย ภาครัฐก็ดี จึงไม่แปลกที่หลายบริษัท ย้ายไปที่นี่ แล้วถามว่าทําไมไม่ไป ลาว /กัมพูชา /พม่า เหรอ สําหรับลาว เขมร อยู่ใกล้บ้านเรา เดี๋ยวปี 59 ข้ามมาไทยหมดเพราะค่าแรงดีกว่า ส่วนพม่ารอความชัดเจนจากรัฐบาลและป๎ญหาเชื้อ ชาติ ยังเป็นป๎ญหาใหญ่ 28
สําหรับน้องๆ ที่กําลังจะจบหรือกําลังศึกษาอยุ่นั้น ต้องเตรียมตัวให้พร้อมต้องมีจุดขายของ ตนเอง ไม่งั้น AEC เมื่อไหร่คุณจะได้เป็นลูกน้อง พม่า /เวียดนาม /ลาว /เขมร แน่นอน เพราะคนพวกนี้เขาเก่ง ค่าแรงถูก ขยัน อดทน มาทํางานเช้า ภาษาดี ที่นี้ละใครที่ตื่นมาเรียน เรียนเสร็จ จีบสาว เล่นเกมส์ ตั้งวงกิน เหล้า ถ้าวนเวียนอยู่อย่างนี้ละก็......สู้เขาไม่ได้แน่นอน คุณต้องเปลี่ยนความคิด ตั้งแต่วันนี้ เตรียมตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ยังไม่สายเกินไป...แต่สําหรับผู้ที่มีความสามารถก็จะมีโอกาสไปทํางานต่างประเทศได้นะครับ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซียอื่นๆ ที่คุณชอบโดยเพาะ แพทย์ หรือวิศวะ อื่นๆๆ ที่เก่งๆๆๆ มีทางเลือกอีกเยอะก็ถือเป็นเรื่องดี เดิมที่ เราก็เป็นคนไทยต่อไปเราก็เป็นคนของอาเซียน ได้ทําอะไรๆ ที่ท้าทายอีก แล้วคุณๆๆจะเลือกเป็นกลุ่มใหน? สุดท้าย ต้องขอขอบพระคุณอีกครั้งสําหรับโอกาสในครั้งนี้ ในการแชร์ความรู้และประสบการณ์ของ ข้าพเจ้า แต่ฝากไว้ด้วยว่า อ่านแล้ว อย่าเชื่อเพียงแค่ได้อ่านหรือเชื่อจากการได้ฟ๎งสิ่งที่ล้ําค่ามากกว่านั้น คือ การ ก้าวผ่านความเชื่อไปสู่ การรู้เห็นด้วยตนเองให้ได้ ( ญาณทัศนะ ) ขอบพระคุณอย่างสุดซึ้ง นายอนุรัก สารีแก้ว
29
งานดัง กิจกรรมเด่น
กิจกรรมรับน้อง ประชุมเชียร์ สอนน้องร้องเพลง 56 ห้องประชุมใหญ่คณะนิเทศศาสตร์ 28 พฤษภาคม ถึง 31 กรกฏาคม 2556
30
กิจกรรมรับน้องจิตอาสา สร้างฝายชะลอน้ํา บ้านไร่ศิลาทอง ตําบลพิชัย อําเภอเมือง จังหวัดลําปาง วันที่ 13 กรกฏาคม 2556
31
FRESHY NIGHT HAT PARTY 2014 ห้องประชุมใหญ่อาคารคณะบริหารธุรกิจ คืนวันที่ 18 กรกฏาคม 2556
32
กิจกรรมโครงการนพน้อม บูชาครู (ไหว้ครู) ประจําปีการศึกษา 2556 11 กรกฎาคม 2556 ลานเพชรนิรันดร์
33
การแข่งขันกีฬา เนชั่นยูเกมส์ ครั้งที่ 2 วันที่ 4-7 กุมภาพันธ์ 2557 สนามกีฬามหาวิทยาลัยเนชั่น
34
รางวัลชนะเลิศระดับประเทศการแข่งขันการประกวด TO BE NUMBER ONE Teen Dancercise Thailand Championship 2014 รุ่น Teenage วันที่ 26 มกราคม 2557 เดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพฯ
35
องค์ความรู้ที่แบ่งปัน การบริหารภาครัฐ หรือรัฐกิจในปัจจุบันนี้ ดู จะเป็นสิ่งที่มีความยากลาบากมากเสียยิ่งกว่าในยุค ใด สมัยใด ดังจะสังเกตได้จากกระแสการต่อต้านแผนพัฒนา ด้านต่างๆ ของภาครัฐ โดยประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง ทางตรงและทางอ้ อ ม เช่ น การคั ด ค้ า นการก่ อ สร้ า ง โรงไฟฟูา การคัดค้านการสร้างเขื่อน การคัดค้านการสร้าง ถนน ทางด่วน ฯลฯ แผนพัฒนาด้านต่างๆ ของภาครัฐในวันนี้ เหมือนจะ ถูกคัดค้านไปเสียแทบจะทุกเรื่อง เพราะรูปแบบ และระบบ การบริหารรัฐกิจของไทยที่ผ่านมา มีลักษณะ Top Down จากผู้บริหารราชการในส่วนกลาง ไปสู่ประชาชนในภูมิภาค ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยบางแผนงาน บางโครงการ สามารถ ยกระดั บ คุ ณ ภาพชี วิ ต ประชาชนได้ อ ย่ า งดี แต่ ใ น ขณะเดียวกันหลายแผนงาน หลายโครงการ ของภาครัฐได้ ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งในเชิงคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และ สังคม แก่ประชาชนในภูมิภาคต่างๆ เช่นกัน มี คํ าเปรี ย บเที ย บที่ ว่ า ราชการเหมื อ นช่ างรองเท้ า ที่ ตั ด รองเท้ามาให้ชาวบ้านใส่ โดยไม่เคยมาวัดเท้าของชาวบ้าน อย่ างจริง จั ง เมื่ อ ตั ด รองเท้ าเสร็จ แล้ ว จะนํ ามาบั ง คั บ ให้ ชาวบ้านสวมใส่ หากเท้าชาวบ้านใหญ่กว่ารองเท้าที่ตัดมา จะใช้วิธี “ตัด” เท้าของชาวบ้านให้พอดีใส่กับรองเท้าของ ราชการที่ตัดมา จึงเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยาจากกลุ่มตัวแทน ประชาชน แสดงความคิด ความเห็น และการกระทํา ในเชิง คัดค้าน หรือเรียกร้องให้ภาครัฐแสดงข้อมูลและหลักฐาน ต่างๆ ก่อนการดําเนินงานตามนโยบายหรือแผนงานพัฒนา ใดๆ ให้เป็นที่รับทราบโดยทั่วถึง หรือหากประชาชนมีความ เชื่อว่าจะนํามาซึ่งผลกระทบด้านใด ด้านหนึ่งแก่ชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชน แผนพัฒนานั้น จะถูกต่อต้านอย่าง แข็ ง ขั น จากประชาชนกลุ่ ม ต่ างๆ ในสั ง คม ดั ง ตั ว อย่ า งที่ กําลังได้รับความสนใจอย่างมาก คือ โครงการก่อสร้างเขื่อน แม่วงก์
แม้ว่า การบริหารรัฐกิจของภาครัฐไทย ปรับเปลี่ยน และประยุกต์รูปแบบการดําเนินงาน สู่การบริหารรัฐกิจแนว ใหม่ (New Public Management : NPM) ในลักษณะ เดี ย วกั บ ภาคธุ ร กิ จ โดยประชาชนเป็ น เสมื อ นลู ก ค้ า (Customer) ผู้ใช้บริการในหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ที่ ประชาชนผู้ใช้บริการจะได้พบเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของ เจ้าหน้าที่รัฐมากกว่าในอดีต แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการสร้าง ความพึงพอใจแก่ประชาชนที่มีพัฒนาการ ทั้งทางการศึกษา เศรษฐกิ จ สั ง คม มากขึ้ น จึ ง เป็ น ที่ ม าของแนวทางการ พัฒนาการบริหารและจัดการ ภาครัฐที่ดี (Good Governance) หรือที่นิยมเรียกว่า ธรรมาภิบาล ซึ่งมีหลักการสําคัญโดยรวม คือ ความโปร่งใส ในการบริหารรัฐกิจ มีความรับผิดชอบต่อป๎ญหาต่างๆ ใน สังคม และการให้ความสําคัญกับประชาชนด้วยความเสมอ ภาค จาก NPM มาสู่ Good Governance ที่ภาครัฐได้ ยึดถือเป็นคัมภีร์การบริหารรัฐกิจ เพื่อสร้างความพึงพอใจ แก่ประชาชน หากแต่การปรับเปลี่ยนรูปแบบและแนวคิด ข้างต้นของภาครัฐ จะตามไม่ทันต่อความเปลี่ยนแปลงใน ภาคประชาชน ที่มีพลวัต (Dynamic) สูง ตามกระแส เทคโนโลยี ก ารสื่ อ สารและสารสนเทศที่ มี ค วามก้ าวหน้ า สามารถเข้ า ถึ ง ข้ อ มู ล ข่ า วสารได้ อ ย่ า งทั่ ว ถึ ง โดยเฉพาะ ข้อมูลด้านผลกระทบจากแผนพัฒนาด้านต่างๆ ของภาครัฐ ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือประชาชนกลุ่มใดกลุ่ม หนึ่ง ทั้งทางด้านชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ 36
ดั ง นั้ น จึ ง ไม่ น่ า แปลกใจที่ ก ารบริ ห ารรั ฐ กิ จ ใน ป๎ จ จุ บั น จะพบป๎ ญ หาและอุ ป สรรคในการดํ า เนิ น แผนพัฒนาด้านต่างๆ ในทุกๆ แผนงานและอย่างต่อเนื่อง จากประชาชนที่ภาครัฐถือเสมือนเป็นลูกค้าที่สําคัญของตน การตลาดวันนี้ ปรับตัวสู่ยุคของการตลาด ยุคที่ 3 ที่ภาคธุรกิจจะต้องใส่ใจต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้นในทุกๆ มิติ โดย จะไม่พิจารณาให้ลูกค้าเป็นเสมือนวัตถุหรือเปูาหมายที่ไร้ ชีวิ ต เพื่ อจะได้ป ระโคมสื่ อการตลาดต่างๆ ไปให้ แต่ จ ะ ขับเคลื่อนการตลาดด้วยคุณค่า พิจารณาลู กค้าในมุมมอง ของความเป็นมนุษย์ที่มีชีวิต จิตใจ และจิตวิญญาณ ที่ควร ได้รับการใส่ใจ และรับฟ๎งความต้องการของพวกเขาให้มาก ขึ้ น เพื่ อ การพั ฒ นาผลิ ต ภั ณ ฑ์ หรื อ แม้ แ ต่ ก ารใช้ สื่ อ การตลาดต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง ของลูกค้า และรวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดของธุรกิจ ในลั ก ษณะของการแสดงความรั บ ผิ ด ชอบต่ อ สั ง คม (Corporate Social Responsibility : CSR) ดังที่ Philip Kotler ได้ อรรถาธิบายไว้ใน Values Driven Marketing เมื่อช่วงต้น ปีที่ผ่านมา และใน Marketing 3.0 ของเขาด้วย ด้ ว ยความพยายามเข้ า ถึ ง ความเป็ น มนุ ษ ย์ ข อง ลูกค้าให้มากขึ้น Marketing 3.0 ของ Philip Kotler จึงให้ ความสําคัญกับสื่อสังคม Online หรือ Social Media อาทิ Facebook, Twitter, Line หรือ Youtube เป็นต้น ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ในสังคมป๎จจุบัน ที่ลูกค้าในกลุ่มต่างๆ จะใช้ เ ป็ น เครื่ อ งมื อ สื่ อ สารและค้ น หาข้ อ มู ล เพื่ อ ประกอบการตัด สิ นใจในทุ กๆ ด้านเกี่ ย วกั บ ผลิ ต ภัณฑ์ ที่ สนใจ โดยผู้ที่จะโน้มน้าว หรือชักนํา สร้างความเชื่อมั่นแก่ ลูกค้ าได้เป็ นอย่างดี เป็น กลุ่ มอ้ างอิ งต่ างๆ ในสัง คมของ ลู ก ค้ าแต่ ล ะคน โดยที่ ข้ อ มู ล การตลาดของธุ รกิ จ จะเป็ น เพียงข้อมูลมูลฐาน เพื่อการเปรียบเทียบของลูกค้ าเท่านั้น เช่น การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางหลาก ชนิด หลาย Brand แต่การตัดสินใจซื้อเครื่องสําอาง จะ อ้างอิงตามคําแนะนําและยืนยันจากกลุ่มเพื่อน หรือผู้เคย ใช้ในสื่อสังคม Online เป็นต้น
ดั ง นั้ น การตลาดสํ า หรั บ ภาคธุ ร กิ จ ในป๎ จ จุ บั น เป็นไปในลักษณะปากต่อปาก (Word of Mouth) ผ่านสื่อ สังคม Online ต่างๆ เพื่อใช้ข้อมูลข้างต้น ในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และ ปรับปรุงตําแหน่ง (Positioning) ของ Brand และ ภาพลักษณ์ของธุรกิจ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและสังคม อย่างยั่งยืน ประการสําคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ การควบคุม และแก้ ไ ขป๎ ญ หาเกี่ ย วกั บ ข้ อ มู ล ข่ า วสารที่ อ าจจะ คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงในสื่อสังคม Online ให้มี ความถู ก ต้ อ ง ไม่ ส่ ง ผลกระทบต่ อ ภาพลั ก ษณ์ ข อง ผลิตภัณฑ์ ของ Brand และธุรกิจ ภายในระยะเวลาอันสั้น การบริหารรัฐกิจในยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่านสู่โลกไร้ พรมแดน สู่ โ ลกที่ ป ระชาชนไม่ ใ ช่ ผู้ รั บ สาร หรือ ผู้ รอรั บ แผนพัฒนาด้านต่างๆ จากภาครัฐเพียงฝุายเดียว หากแต่ ประชาชนในวันนี้ ได้ยกระดับตนเองขึ้นมาเป็นผู้เล่นอีกคน หนึ่ ง ในกระบวนการบริ ห ารรั ฐ กิ จ อย่ า งมี นั ย สํ า คั ญ ซึ่ ง ภาครั ฐ ไม่ ส ามารถมองข้ า มความสํ า คั ญ ของประชาชน นับตั้งแต่กระบวนการกําหนดนโยบาย การจัดทําแผนงาน การดําเนินงานตามแผนงาน กระทั่งการดําเนินงานแล้ว เสร็จได้อีกต่อไป ผู้ บ ริ ห ารในรั ฐ บาลป๎ จ จุ บั น เริ่ ม เรี ย นรู้ ที่ จ ะนํ า Marketing 3.0 มาใช้ในการดําเนินแผนพัฒนางานด้าน ต่ า งๆ ของภาครั ฐบ้ า งแล้ ว เช่ น นายชั ช ชาติ สิ ทธิ พั น ธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งใช้ Facebook เป็น เครื่องมือรับฟ๎ง ให้รู้ถึงป๎ญหา อุปสรรค และความต้องการ ของประชาชน และผู้ มี ส่ ว นได้ ส่ ว นเสี ย ต่ า งๆ กั บ การ บริหารกิจการคมนาคมของประเทศไทยในป๎จจุบันนี้
37
หากย้อนประวัติของที่มาการแข่งขันที่เสมือนศึก สายเลือด อันมีที่มาจากต้นทางเดียวกันระหว่างโออิชิ และอิชิตัน ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อกลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) ซึ่งมีเบียร์ช้างเป็นเครื่องหมายการค้าสําคัญ ได้ เข้ าซื้ อ กิ จ การเครื่ อ งดื่ ม ชาเขี ย วพร้อ มดื่ ม โออิ ชิ ของตั น ภาสกรนที ในปี พ.ศ. 2549 ด้วยมูลค่า และข้อเสนอที่ตัน ภาสกรนที ยากที่จะปฏิเสธ แต่ ด้ ว ยวิ สั ย ความเป็ น ผู้ ป ระกอบการ ประเภท “เถ้าแก่” ที่กล้าได้ กล้าเสีย กอปรกับความคุ้นเคย และ เข้าใจในธุรกิจเครื่องดื่มพร้อมดื่มประเภทต่างๆ ในประเทศ ไทย จึงเป็นที่มาของการกลับสู่ตลาด พร้อมกับผลิตภัณฑ์ ใน Brand ใหม่ ชื่อ อิชิตัน แต่คงกลิ่นอายเดิม ทั้งรสชาติ ของเครื่องดื่มชาเขียว ที่ใช้สูตรในการปรุงรสชาติมาจาก บุคคลคนเดียวกันกับผู้ปรุงรสชาติชาเขียวให้กับโออิชิ และ รู ป แบบการสร้ า งปรากฏการณ์ ท างการตลาด ด้ ว ย Campaign ที่เป็นสีสันของสังคมแบบโดนใจผู้บริโภค ทั้ง การแจกเงิน แจกทอง เป็นต้น เพียงไม่นานนับจากการหวนเข้าสู่ตลาดเครื่องดื่ม ชาเขียวพร้อมดื่ม ในปี พ.ศ. 2554 ถึงป๎จจุบัน คือ พ.ศ. 2556 ตัน ภาสกรนที และอิชิตัน สามารถก้าวกระโดด ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของตลาด ด้วยสัดส่วนทางการตลาด ร้อยละ 44 ในขณะที่ผู้นําตลาดรายเดิม คือ โออิชิ ตามมา เป็นอันดับสอง สัดส่วนร้อยละ 37 ของตลาด และเป็นที่ คาดการณ์ว่าตลาด จะมีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 25 ในปีนี้ ซึ่งจะทําให้ตลาดเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่ม มีมูลค่า ตลาดสูงถึง 1.65 หมื่นล้านบาท
ความสํ า เร็ จ ของอิ ชิ ตั น ป๎ จ จั ย ด้ า นผลิ ต ภั ณ ฑ์ (Product) หรื อ รสชาติข องชาเขี ยวก็ยั งไม่ โดดเด่ น เพราะคงยากที่จะหาผู้ใดมาให้ความเห็นเกี่ยวกับรสชาติ ของชาเขียวพร้อมดื่ม 2 Brand นี้ ว่า Brand ใด จะ หวานหรือขมกว่ากัน หรือ Brand ใด จะมีรสชาติถูกปาก คนไทยมากกว่ากัน ป๎จ จั ย ด้ า นราคา (Price) ซึ่ ง ตั น ภาสกรนที เลือกใช้ในการเปิดตัวสู่ตลาดให้แก่อิชิตัน ด้วยราคาที่ถูก กว่าของคู่แข่งขัน ทุกรายในตลาด นับเป็นส่วนผลักดั น สําคัญให้อิชิตัน สามารถเบียดแย่งพื้นที่บนชั้นวาง และตู้ แช่ เครื่ องดื่ ม ในร้ า นค้ าต่ า งๆ จากคู่ แ ข่ง ขั น ได้ในระดั บ หนึง่ ดังนั้น Key Success ของการเข้าสู่ตลาดชาเขียว พร้ อ มดื่ ม ในระยะเปิ ด ตั ว ของอิ ชิ ตั น จึ ง หมายถึ ง ช่ อ ง ทางการจัดจําหน่าย (Place) ที่ครอบคุลมตลาด และ สอดรับกับ Life Style ของกลุ่มเปูาหมาย ซึ่งแน่นอนว่า ไทยเบฟฯ ย่อมต้องพยายามปกปูองการกระจายตัวของอิ ชิตันอย่างเข้มข้น กระทั่ง อาจจะนํากลยุทธ์เดียวกับที่ เคยใช้ได้ผลในอดีต มาประยุกต์หรือปรับใช้อีกครั้งในศึก ชาเขียวพร้อมดื่มครั้งนี้ ด้วยการใช้สายสัมพันธ์กับร้านค้า โชห่วย กว่า 300,000 แห่ง ทั่วประเทศ
38
แต่ ตัน ภาสกรนที รู้ดีถึงจุดอ่อนสําคัญของอิชิตัน ในเวลานั้ น ที่ อ าจจะถู ก โออิ ชิ ของไทยเบฟฯ ใช้ ค วาม พร้อมที่เหนือกว่า เบียดแย่งพื้นจนอาจจะไร้ที่ยืนในตลาด ชาเขียวพร้อมดื่มได้ จึงได้หาและสร้างพันธมิตรธุรกิจที่จะ ขจัดจุดอ่อนด้านช่องทางการจัดจําหน่ายให้กับอิชิตัน และ เป็น จุด เริ่ มต้ นของความสัม พัน ธ์ระหว่างอิ ชิตั น ของตั น ภาสกรนที กับกลุ่มบุญรอดฯ เจ้าของผลิตภัณฑ์เบียร์สิงห์ ที่มี Dealer กว่า 200 รายในตลาด และพร้อมที่จะเป็นผู้ จัดกระจายอิชิตัน สู่ร้านค้าโชห่วยกว่า 100,000 ราย ในขณะที่การเข้าสู่ร้านค้าประเภท Modern Trade ทั่ว ประเทศ เป็นหน้าที่ของดีทแฮล์ม การส่ ง เสริ ม การตลาด และส่ ง เสริ ม การขาย (Promotion) เป็นอีกหนึ่งป๎จจัยที่ผู้บริโภค และนักการ ตลาดทั่ ว ไป สามารถจั บ กระแสความรุ น แรงของการ แข่งขันระหว่างโออิชิ และอิชิตันได้อย่างชัดเจน มากกว่า การศึกษาจากป๎จจัยทางการตลาดด้านอื่นๆ ในลักษณะที่ ต่ างฝุายต่างไม่ยอมกัน ทั้งการแจก เงิ น แจกทอง แจกรถ หรื อ แม้ แ ต่ ก ารพาไปท่ อ งเที่ ย ว พร้อม Pocket Money อย่างจุใจ ฯลฯ ที่สําคัญ คือ ทั้ง โออิชิ และอิชิตัน ต่างใช้ Promotion อย่างต่อเนื่อง ด้วย ความถี่ระดับสูง จนไม่อาจจะนําแนวทางปฏิบัติดังกล่าวไป เปรียบเทียบในตําราการตลาดใดๆ ได้ อย่างไรก็ดี ดูเสมือนว่าการสร้างสรรค์ Campaign การ Promotion ของโออิชิ จะมีจังหวะที่ช้ากว่าอิชิตัน อย่างน้อย 1 จังหวะอยู่เสมอ จึงอาจจะกล่าวได้ว่า ใน ป๎จจัยด้านการ Promotion
ที่ทําให้สามารถก้าวแซงหน้าโออิชิได้อย่างเด่นชัด โดย มีส่วนการถือครองตลาดในป๎จจุบันเป็นเครื่องยืนยัน และยั งเป็ น สิ่ง ยื น ยัน ให้ ทราบถึ งความสํ าคั ญของอี ก หนึ่งป๎จจัย ที่อยู่นอกเหนือจากป๎จจัยการตลาดทั้ง 4 ในข้างต้น นั่นคือ P ตัวที่ 5 หรือ People รูปแบบการบริหารโออิชิ ของไทยเบฟ ฯ ที่อยู่ภายใต้โครงสร้างการบริหารขององค์กรใหญ่ จึง อาจจะขาดความคล่องตัวในการตัดสินใจปรับเปลี่ยน แผนงานการตลาด ให้สอดรับกับกลยุทธ์การแข่งขัน ของคู่แข่งขันในตลาด โดยเฉพาะกับคู่แข่งขัน เช่น ตัน ภาสกรนที ที่มีรูปแบบการบริหารในลักษณะของเถ้า แก่ ที่กล้าคิด กล้าตัดสินใจ และที่สําคัญ คือ รู้ ที่จะใช้ ประโยชน์ จ ากสายสั ม พั น ธ์ ที่ ส ร้ า งขึ้ น กั บ บรรดา Celebrity ในสังคม ทั้งอุดม แต้พานิช หรือสรยุทธ สุ ทัศนะจินดา ให้ช่วยผลักดัน Contents หรือ Story ต่างๆ ที่ตัน ภาสกรนที ได้สร้างขึ้นในแต่ละวาระ ให้ สอดรั บ กั บ สถานการณ์ ต่ า งๆ ในสั ง คมไทยอย่ า ง ต่อเนื่อง ซึ่งล้วน “โดน” ใจผู้บริโภคคนชั้นกลางเป็น อย่างมาก การก้าวสู่ตําแหน่งผู้นําตลาดในตลาดชาเขียว พร้อมดื่มของอิชิตันในวันนี้ เกิดขึ้นจาก P ตัวที่ 5 ซึ่ง เป็นความแตกต่างที่เด่นชัดระหว่างโออิชิ ของไทยเบฟ ฯ และอิชิตัน ของตัน ภาสกรนที และน่าคิดต่อไปว่า วันใดที่ตัน ภาสกรนที ถอนตัวจากอิชิตันไม่ว่าจะด้วย เหตุ ผลใด เสน่ห์ ข องอิ ชิ ตั น จะยั ง หลงเหลื อ ไว้ผู ก ใจ ผู้บริโภคได้อีกหรือไม่
39
ในประสบการณ์การเป็นนักบริหาร หรือนัก จัดการทุกๆ ระดับ ทั้งในองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้กับบทบาทหรือความรับผิดชอบ ในการพัฒนาแผนงานสําหรับหน่วยงานหรือองค์กร ของทุกท่าน การเขียนแผนงานใดๆ ทั้งแผนกลยุทธ์ระดับ นโยบาย ระดั บ องค์ ก ร ระดั บ หน่ ว ยงาน หรื อ แม้ แ ต่ ใ น แผนงานระดับปฏิบัติการของส่วนงานต่างๆ ในองค์กร หาก ผู้ เ ขี ย นแผนนั้ น ๆ มี ค วามรู้ ความเข้ า ใจถึ ง ความเป็ น มา บทบาท พันธกิจ (Mission) และเปูาหมาย (Goal) ของ หน่วยงานหรือองค์กรอย่างลึกซึ้ง การจะพัฒนาหรือเขียน แผนงานในแต่ละครั้ง ย่อมจะสามารถรังสรรค์ให้มีความ น่าเชื่อถือ เป็นไปได้ที่จะปฏิบัติให้สําเร็จ และถือเป็นคัมภีร์ หรื อ คู่ มื อ ประกอบการปฏิ บั ติ ง านของส่ ว นงานต่ า งๆ ที่ เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับบนหรือบริหาร ถึงระดับปฏิบัติการ แต่การมีเพียงแผนงานที่ผ่านการศึกษา การค้นคว้า การวิจัย และวิเคราะห์ และพัฒนาหรือเขียนขึ้นอย่างเป็น ระบบ มีความน่าจะเป็นในการปฏิบัติ ให้เกิด ผลสํา เร็จได้ ตามเปูาหมายที่กํา หนดในแผนงานนั้น ๆ ยังไม่ อาจจะถื อ เป็ นความสํา เร็จ ของหน่ ว ยงาน ขององค์ ก ร หรือ ของนั ก บริหาร และแม้แต่ผู้พัฒนาและเขียนแผนงานนั้นๆ หากแผนงานนั้นไม่สามารถที่จะนําไปประยุกต์สู่การ ปฏิบัติให้เกิดผลสําเร็จได้ตามที่กําหนดในแผนงานที่ดีนั้น สุดท้ายแผนงานนั้นจะมีคุณค่าเป็นเพียงเอกสารกองหนึ่งที่ ถูกจัดเก็บในลิ้นชัก หรือวางทิ้งให้เปื้อนฝุุนบนโต๊ะทํางาน ของผู้เกี่ยวข้อง แผนงานที่ ดี จึ ง ต้ อ งประกอบด้ ว ยความสามารถ และตั้งใจจริงที่จะปฏิบัติให้เกิดผลงานอย่างเป็นรูปธรรม หรือการ Execution ของนักบริหารและนักจัดการของ หน่วยงาน และองค์กร เป็นส่วนประกอบสําคัญ
Execution เป็นคําหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง ในองค์ ก รธุ ร กิ จ โดยเฉพาะในธุ ร กิ จ การโฆษณาและ ประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีถึงความหมายของการนํา แผนงานการตลาด การโฆษณา หรือการประชาสัมพันธ์ ไปสู่ การปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่ระบุในแผนงานที่พัฒนาขึ้น ในแต่ละวาระ และการ Execution ได้เริ่มส่งผ่านความสําคัญ มาสู่การบริหารในภาคส่วนต่างๆ ขององค์กร ทั้งในภาครัฐ และเอกชนเป็นจํานวนมากในระยะเวลาไม่ต่ํากว่า 10 ปีที่ ผ่านมา ความสําคัญของ Execution มีมาก และมีความหมาย ต่ อ หน่ ว ยงานหรื อ องค์ ก รอย่ า งมาก ดั ง จะพบได้ ใ นบท สั ม ภาษณ์ ห นึ่ ง ที่ ผู้ บ ริ ห ารสถาบั น การเงิ น แห่ ง หนึ่ ง ใน สหรัฐอเมริกา ได้เคยกล่าวว่า “เขาสามารถที่จะลืมทิ้งแผน กลยุทธ์ขององค์กรได้ โดยจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร เพราะ บริษั ทหรือ คู่แ ข่ง จะไม่ สามารถนํา แผนกลยุทธ์ข องเขาไป ปฏิ บั ติ ไ ด้ ด้ ว ยความสํ า เร็ จ ในแผนกลยุ ท ธ์ ข องเขา อยู่ ที่ ความสามารถในการ Execution แผนกลยุทธ์ มากกว่าตัว แผนกลยุทธ์นั้น”เชื่อว่าคํากล่าวข้างต้น คงเป็นความเห็นหนึ่ง ที่สอดคล้องกับประสบการณ์ตรงของนักบริหาร นักจัดการ ทุกๆ ระดับ ที่เป็นทั้งผู้พัฒนาแผนงาน และย่อมหลีกเลี่ยงไม่ พ้นในการเป็นผู้นําแผนงาน ทั้งที่พัฒนาขึ้นเอง หรือพัฒนาขึ้น โดยผู้อื่นไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลงานตามเปูาหมายที่กําหนด ในแผนงานและต้องประสบกับป๎ญหาที่ไม่สามารถดําเนินงาน ได้ตามแผนที่พัฒนาขึ้นมาอย่างสวยหรูนั้น 40
ทางออกหนึ่ ง เกี่ ย วกั บ การแก้ ไ ขป๎ ญ หาการ Execution แผนงาน ที่นักบริหาร และนักจัดการนิยมใช้ คือ การกําหนดเปูาหมายในแผนงานให้มีความสะดวกใน การปฏิบัติได้จริง หรือไม่ไกลเกินเอื้อมของผู้เกี่ยวข้อง เช่น การกําหนดเปูาหมายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย หรือการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเพียงเท่าเดิม หรือ การรั ก ษาศั ก ยภาพการดํ า เนิ น งานในระดั บ เดิ ม หรื อ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เป็นต้น ซึ่งจะทําให้ง่าย และสะดวก ต่อการ Execution แผนงานให้ประสบความสําเร็จ แต่ อาจจะเป็น แนวทางบ่อ นทํ าลายศั ก ยภาพที่ แ ท้ จ ริ ง ของ หน่ ว ยงานหรื อ องค์ ก รในเวลาเดี ย วกั น ดั ง จะเห็ น หรื อ พิจารณาได้จากองค์กรต่างๆ ในประเทศไทย ที่มีผลการ ดําเนินงานอันน่าเป็นห่วงอยู่ในป๎จจุบันนี้ และสั ง คมป๎ จ จุ บั น คงปราศจากความก้ า วหน้ า และความน่าตื่นตา ตื่นใจในเทคโนโลยีใหม่ต่างๆ ที่ได้เข้า มาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจําวันของเราในวันนี้ หากขาด นั ก บริ ห าร นั ก จั ด การ ที่ ก ล้ าท้ าทายความสามารถของ ตนเอง และ Execution ให้เกิดผลงานอันเป็นรูปธรรมให้ ปรากฏแก่โลกในทุกวันนี้ การ Execution จึงอาจจะเป็นสิ่งน่ากังวลสําหรับ นักบริหาร นักจัดการบางคน บางกลุ่ม หรือในบางองค์กร แต่สําหรับนักบริหาร นักจัดการที่มีความสามารถ จะเห็น เป็นกระบวนการหนึ่งของการพัฒนาองค์กรเท่านั้น และยิ่ง ในแผนงานมีความยากมากเพียงไร ยิ่งเป็นความท้าทาย ความสามารถของนักบริหาร นักจัดการ มากเสียกว่าจะ พิจารณาให้เป็นป๎ญหา หรืออุปสรรคในการดําเนินงาน ถึงอย่างไร ความสําเร็จเบื้องต้นขององค์กรต่างๆ ย่ อ มมี แ ผนการดํ า เนิ น งานที่ มี คุ ณ ภาพเป็ น คั ม ภี ร์ ก าร ดํ า เนิ น งานขององค์ ก ร ซึ่ ง แผนการดํ า เนิ น งานที่ ดี มี คุ ณ ภ าพเพี ย งไ ร ย่ อ มยาก ที่ จ ะ ปฏิ บั ติ ให้ ป ระ สบ ความสําเร็จได้ตามเปูาหมาย แต่หากนักบริหาร นักจัดการ ขององค์ ก ร มี ค วามรู้ ความเข้ า ใจ และสามารถในการ Execution แผนงาน ย่อมสร้างความได้เปรียบแก่องค์กร ในการดําเนินงานให้ประสบความสําเร็จได้
และการ Execution ในแต่ละแผนการดําเนินงาน ของสําหรับหน่วยงานหรือองค์กร ย่อมต้องประกอบด้วย องค์ประกอบสําคัญ 2 ส่วน คือ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน ในส่วนของผู้บริหาร ที่จะ Execution แผนงานได้ดี จะต้องมีคุณสมบัติสําคัญ คือ มีประสบการณ์ กล้าตัดสินใจ และสามารถสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานได้ ประสบการณ์ในการทํางาน หรือการบริหาร จะเป็น เครื่องมือสร้างจินตนาการถึงผลลัพธ์ของแผนงานนั้นๆ และ ส่งทอดเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ไปสู่กระบวนการ ตัดสินใจที่กล้า และถูกต้องของผู้บริหาร ก่อนจะสื่อสารให้ ผู้ปฏิ บัติ งานในแต่ล ะระดับ เกิ ดความเข้ าใจ เชื่อมั่ น และ มุ่งมั่นในแนวทางการดําเนินงานได้ในท้ายที่สุด ในส่วนของผู้ปฏิบัติงาน แม้จะเป็นเพียงฟ๎นเฟืองชิ้นเล็กของ องค์กรหรือหน่วยงาน แต่หากขาดความพยายามในการที่ จะปฏิ บั ติ ง านตามความรั บ ผิ ด ชอบของตนให้ ป ระสบ ความสําเร็จ ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปสู่ส่วนงานอื่นๆ ได้ เช่น ฝุายจัดซื้อ ซื้อวัตถุดิบไร้คุณภาพ ฝุายผลิตย่อมผลิตได้ แต่สินค้าด้อยคุณภาพ ยากที่ฝุายการตลาดจะแข่งขัน เพื่อ จําหน่ายหรือขายได้ เป็นต้น ถึงอย่างไร ในท้ายที่สุด ทั้งการจัดทําแผนงานที่ดี คุ ณสมบั ติ ข องผู้ บ ริ ห ารที่ เ หมาะสม ความเข้ าใจ เชื่ อ มั่ น และมุ่งมั่นของผู้ปฏิบัติ งาน ล้วนมีที่มาจากผู้บริหารทั้งสิ้น ดั ง นั้ น ความล้ ม เหลวของการดํ า เนิ น งานตามแผนธุ รกิ จ หรือแผนการดําเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ในองค์กร จึง เป็นความรับผิดชอบของบุคคลที่ดํารงสถานะผู้บริหารโดย ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
41
ปี 2546 ธุรกิจสายการบินในประเทศไทย เริ่มรู้จักกับชื่อสายการบิน Air Asia ซึ่งมาพร้อม กับ Know How และประสบการณ์ ในธุ รกิ จ สายการบิ น ต้ น ทุ น ต่ํ า จากประเทศมาเลเซี ย โดยเปิ ด ตั ว เป็ น ทางเลื อ กในการ เดิน ทางด้ว ยเครื่ องบิ นที่ มีค่ าโดยสารถู กกว่าสายการบิ น ปกติ และนํามาซึ่งการรู้จักกับคําว่า “สายการบินต้นทุนต่ํา (Low Cost Airline)” แก่นักเดินทางในประเทศไทยพร้อม กับกระแสที่กระตุ้นความรู้สึก Everyone Can Fly หรือ “ใครๆ ก็บินได้” ให้เกิดการตื่นตัวไปทั่วประเทศ เพราะ หมายถึง ทุกคนในสังคมไทย สามารถเลือกวิธีการเดินทาง ด้วยเครื่องบินไป ณ ที่แห่งใดในประเทศไทย ด้วยราคาที่ ถูก สะดวกและรวดเร็วได้ หลังจากนั้นไม่นาน การบินไทย ได้เปิดตัวสายการ บินต้นทุนต่ําขึ้นมา เพื่อเป็น Fighting Brand คือ Nok Air หรื อ นกแอร์ เด่ น ที่ สี สั น ฉู ด ฉาด กั บ มาตรฐานการบิ น เทียบเท่ากับสายการบินไทย ยังมีเอกลักษณ์ น่าสนุก ของ CEO พาที สารสิน จึงเป็นที่คาดหมายว่า การแข่งขันใน ธุรกิ จสายการบิ นต้ นทุน ต่ําในประเทศไทย จะระอุ และ ดุเดือด ไม่น้อยกว่าการแข่งขันของผู้ประกอบการในธุรกิจ อื่นๆ ที่มีคู่แข่งขันน้อยราย เช่น น้ําอัดลม หรือผู้ให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ Air Asia จึงเร่งเครื่องหนีคู่แข่งเช่น Nok Air ภายใต้ภาวะวิกฤติทางการเมือง ในปี 2549 ด้วยการ ขยายเส้ น ทางการบิ น ให้ ค รอบคลุ ม ความต้ อ งการการ เดินทางภายในประเทศมากขึ้น และยังขยายไปสู่การบิน ข้ า มประเทศ ด้ ว ยกลยุ ทธ์ ต่ า งๆ โดยเฉพาะการดํ า เนิ น กิจกรรมทางการตลาด ในการขยายฐานผู้โดยสารของสาย การบิ นไปยั งกลุ่ ม เปู า หมายทางการตลาดใหม่ ๆ ภายใต้ แนวคิด หรือคําขวัญ “ใครๆ ก็บินได้ หรือ Everyone Can Fly” อย่างต่อเนื่อง
เมื่อ Nok Air ซึ่งในเบื้องต้นได้ถูกจัดวางให้เป็น Fighting Brand ของการบินไทย แต่ในภายหลังได้ปรับ บทบาท สถานะ และตํ า แหน่ ง ทางการตลาด หรื อ Position ของ Nok Air ให้อยู่เหนือกว่าการเป็นสายการ บินต้นทุนต่ํา เช่น Air Asia หรืออื่นๆ แต่จะไม่สูงกว่าสาย การบินปกติ หรือการบินไทย ดังนั้น ในวันนี้ จึงปรากฏชื่อ ผู้ นํ า ในธุ ร กิ จ สายการบิ น ต้ น ทุ น ต่ํ า ที่ โ ดดเด่ น อยู่ ใ น ประเทศไทย คือ Air Asia การเป็ น สายการบิ น ต้ น ทุ น ต่ํ า ย่ อ มต้ อ งบริห าร ต้นทุนการดําเนินงานในทุกๆ มิติของธุรกิจสายการบินให้ ต่ํากว่าการดําเนินงานของสายการบินปกติ และ Air Asia สามารถที่จะดําเนินการ หรือ Execution ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ทั้งในป๎จจัยสําคัญๆ ของธุรกิจการบิน เช่น การเลือกใช้เครื่องบินเพียงรุ่นเดียว คือ Air Bus A320 เพื่ อ ลดภาระค่ า ใช้ จ่ า ยในฝึ กอบรมนั ก บิ น และ การบํ า รุ ง รั ก ษาเครื่ อ งบิ น หรื อ การใช้ ช่ อ งทางการจั ด จําหน่ายบัตรโดยสาร ผ่านช่องทาง Electronics ต่างๆ เช่น Internet หรือ Application บน Smart Phone แทนการใช้ตัวแทนจําหน่ายบัตรโดยสาร เช่นสายการบิน ปกติต่างๆ หรือแม้แต่การออกแบบและตกแต่งภายในตัว เครื่องบิน เพื่อลดภาระ และค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษา หรือทําความสะอาด โดยไม่ลดทอนความน่าใช้บริการลง ไป เช่น การใช้หนังสัตว์หุ้มเบาะที่นั่งโดยสาร แทนการใช้ วัสดุอื่นๆ ที่มีความยุ่งยากในการบํารุงรักษามากกว่า เป็น ต้น
42
โดยมีการประเมินถึงประสิทธิภาพการลดต้นทุน ของ Air Asia ทั้งต้นทุนคงที่ และผันแปรต่างๆ ที่ Air Asia สามารถลดได้เฉลี่ยถึง 1 ใน 3 ของสายการบินปกติ ซึ่ง ส่วนต่างของต้นทุนนี้ คือ ความได้เปรียบในการแข่งขันใน ธุรกิจสายการบิน ที่ Air Asia ใช้เป็นเครื่องมือหลักในการ ก้ า วสู่ ค วามเป็ น ผู้ นํ า ในธุ ร กิ จ สายการบิ น ต้ น ทุ น ต่ํ า ใน ประเทศไทย ด้ วยกลยุ ทธ์แ ละแผนการตลาดที่น่ า สนใจ และเป็นที่รอคอยของนักเดินทางชาวไทยในทุกๆ วาระ ด้ ว ยเอกลั ก ษณ์ ที่ ไ ม่ เ หมื อ นใครของพนั ก งาน ต้อนรับบนเครื่องบิน (Flight Attendants) โดยเฉพาะ Air Hostess ในชุดแดง ที่นอกจากจะให้บริการเช่นเดียวกับ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินต่างๆ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ คือ การเป็น Entertainer แก่ผู้โดยสาร ในทุกๆ เที่ยวบิน กระทั่ง เป็นที่ได้รับการยอมรับในกลุ่ม ผู้โดยสารและสังคมไทยอย่างกว้างขวาง และเป็นอีกหนึ่ง ป๎จ จั ย ในการตัด สิ น ใจเลื อ กเดิ น ทางโดยสายการบิ น Air Asia ของผู้โดยสารไทยจํานวนหนึ่ง ด้ ว ยความสามารถ ทั ศ นคติ ที่ ดี ความพร้ อ ม ให้บริการแก่ผู้โดยสารด้วยความจริงใจ ทั้งในสถานะของ พนักงานต้อนรับ และการเป็น Entertainer บนเครื่องบิน ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของ Air Asia ป๎จจุบันจึง มักได้พบ Air Hostess ในชุดแดง ของ Air Asia ปรากฏ ตัวเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สําคัญของ Air Asia ในทุกๆ สื่อ เสมือนเป็น Brand Ambassadors ของ Air Asia นอกจากความได้เปรียบด้านต้นทุน และทัศนคติ เชิงบวกของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และบุคลากร ส่วนต่างๆ ที่เกี่ ยวข้อง อีกป๎จจัยสําคัญในแรงขับเคลื่อน ของ Air Asia คือ กลยุทธ์การตลาดที่น่าตื่นเต้น และ น่ าสนใจ สํ า หรั บ นั ก เดิ น ทางรุ่น ใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่ ม Generation Y ที่กําลังมีบทบาทในระบบเศรษฐกิจ และ สังคมไทยในป๎จจุบัน
กลยุทธ์การตลาดของ Air Asia ที่น่าสนใจ คือ การสร้าง Brand ให้เป็นรับรู้ และยอมรับของตลาดอย่าง ต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการสร้าง และขยายฐานผู้ใช้บริการ การเดิ น ทางด้ ว ยเครื่ อ งบิ น ให้ เ พิ่ ม ขึ้ น ภายใต้ คํ า ขวั ญ “ใครๆ ก็บินได้ หรือ Everyone Can Fly” ที่ส่งผล สะเทือนไปถึงคู่แข่งขันในธุรกิจสายการบิน และคู่แข่งขัน ทางอ้อม ในธุรกิจการขนส่งและโดยสาร ทั้งทางถนน และ ระบบราง โดยอาศัยจุดแข็งด้านการบริหารต้นทุนในธุรกิจ ที่ต่ํากว่าคู่แข่งขัน จึงสามารถสร้างสรรค์ “ลูกเล่น” การ Promotion มาส่ ง เสริ ม การตลาดได้ อ ย่ างต่ อ เนื่ อ ง โดยเฉพาะ ค่าโดยสาร 0 บาท ทั้งหมดนี้ ต้องยอมรับถึงความสามารถด้านการ Execution ของคณะผู้บริหาร Air Asia ทั้งการจัดการ เพื่อลดต้นทุนของ Air Asia อย่างมีประสิทธิภาพ และ ความสามารถในชั้น เชิง การบริ หารด้านบุค ลากรให้ เกิ ด ทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ โดยเฉพาะด้านการ ให้บริการ และ Entertain แก่ผู้โดยสาร ที่ได้ช่วยสร้าง ภาพลักษณ์อันดีแก่ Air Asia ในธุรกิจสายการบิน รวมถึง ความสามารถสร้ า งสรรค์ รู ป แบบการตลาด และการ บริการใหม่ต่างๆ ที่น่าตื่นเต้น สอดรับกับพฤติกรรมของ ผู้โดยสารรุ่นใหม่ในตลาด Air Asia คือ ตัวอย่างของการบริหารธุรกิจที่ สามารถนํามาเป็นแบบอย่าง ที่ผู้บริหารรุ่นใหม่ในป๎จจุบัน จะสามารถเสาะหาข้อมูล เพื่อการศึกษา เรียนรู้ เกี่ยวกับ ความสามารถด้านการ Execution กลยุทธ์ และ แผนการ ดําเนินงานขององค์กรให้ประสบความสําเร็จได้
43
20 ปี ที่ผ่านมา ที่ผู้บริโภคในสังคมเมืองของ ไทยได้ รู้จักรูปแบบการค้าสมัยใหม่ หรือ Modern Trade ในกลุ่ม Discount Store ซึ่งมีจุดเด่นด้านราคาถูกและเป็นมากกว่า Super market แต่ไม่หลากหลายและหรูหราเท่า Department Store โดยมีผู้ประกอบการสําคัญในตลาดค้าปลีกไทย 3 ราย คือ Tesco Lotus, BigC และ Carrefour ก่อนจะ เหลือเพียง Tesco Lotus และ BigC ในระยะแรกของการเปิ ด ตั ว ให้ เ ป็ น ที่ รู้ จั ก และ ยอมรับของผู้บริโภคในเมืองไทย ต่างใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่ เข้ ม ข้ น และรุ น แรง ควบคู่ กั บ การขยายสาขาไปยั ง พื้ น ที่ ชุมชนขนาดใหญ่ต่างๆ ทั้งภายในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ จังหวัดใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ สร้างผลกระทบ เป็นวงกว้าง กั บผู้ผลิต ตัวกลางทางการตลาดดั้งเดิม หรือ Traditional Trade ทั้งค้าส่ง ค้าปลีก หรือแม้แต่โชห่วย รวมถึ ง การเปลี่ ย นแปลงในพฤติ ก รรมการบริ โ ภคของ ผู้บริโภคในตลาด ผลกระทบดังกล่าวเป็นช่องทางการจัดจําหน่ายที่มี ความสําคัญในทางการตลาด ที่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ อาจจะมองข้ามความสําคัญของ Discount Store ได้ ทั้ง ในด้านความครอบคลุมพื้นที่การจัดจําหน่าย และปริมาณ การจัดจําหน่ายที่สามารถสร้างความประหยัดจากขนาด หรือ Economy of Scale ที่ทําให้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์มีผล กําไรที่น่าพอใจ แม้จะต้องแลกมาด้วยเงื่อนไขนานัปการ ของ Discount Store แต่ละราย เพื่อสอดแทรกและเบียด ชิงพื้นที่บนชั้นจําหน่ายผลิตภัณฑ์ (Shelf) คู่กับผลิตภัณฑ์ คู่แข่งได้ อาทิ ค่าแรกเข้า ค่าจัดส่งและกระจายผลิตภัณฑ์ หรื อ การเข้ า ร่ ว มโครงการส่ ง เสริ ม การขายต่ า งๆ ที่ Discount Store จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังไม่นับรวมถึงการ ที่จะต้องแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ประเภท House Brand ของ Discount Store แต่ละรายเองที่มีราคาจําหน่ายที่ถูกกว่า
เพียงไม่นาน Discount Store จึงได้เข้าไปแทนที่ ตั ว กลางทางการตลาดดั้ ง เดิ ม ต่ า งๆ ที่ เ คยมี ส่ ง ผลให้ ตัวกลางเหล่านั้น จําเป็นต้องเลิกกิจการ หรือเลือกที่จะ ปรับตัว และต่อสู้กับ Discount Store ผู้มาใหม่ ด้วย มาตรการทางสังคม และการรณรงค์เรียกร้องให้ภาครัฐ เข้ามาจัดระเบียบการค้า การลงทุนของ Discount Store แต่ดูจะไร้ผลสัมฤทธิ์ที่จะกีดกัน Discount Store เพราะ ได้ขยายตัวเข้าไปครองใจผู้บริโภคซะแล้ว ด้ ว ยความหลากหลายในผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ พ ร้ อ มให้ ผู้บริโภคได้หยิบจับ และเลือกซื้อได้เอง ในบรรยากาศที่ เย็น สบาย สว่าง และกว้างขวาง ทั้งยังมีแผนส่งเสริมการ ขายด้ว ยการลดราคาทุ ก วั นอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ผสานกั บ กล ยุทธ์ทั้งรับ และรุก หรือ Defense and Offensive Strategy มาใช้ในการดําเนินกิจกรรมการตลาดด้วยกันทั้งหมด ผู้ประกอบการแต่ละราย จะพยายามช่วงชิงพื้นที่ ได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ในการขยายสาขาออกไปยังชุมชน หรือพื้นที่ต่างๆ อย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างความประหยัด จากขนาด หรือ Economy of Scale ก่อนหน้าคู่แข่งขัน แต่ในขณะเดียวกันคู่แข่งขัน จะพร้อมเข้าสู่การแข่งขัน ใน พื้นที่นั้นๆ ด้วยการเปิดสาขาของตนขึ้นมาทําการแข่งขัน กระทั่ ง ในทุ ก พื้ น ที่ ทุ ก ชุ ม ชน และถนนสายที่ มี จ ะพบ ความสําคัญเชิงเศรษฐกิจ Discount Store ที่เปิดแข่งขัน กันไม่น้อยกว่า 2 ราย 44
รวมถึ ง การวางตํ าแหน่ ง ทางการค้ า ในความเป็ น ผู้ นํ า ด้ า นราคาถู ก ถู ก ที่ สุ ด ถู ก ทุ ก วั น ฯลฯ หรื อ เมื่ อ ผู้ประกอบการรายใด กําหนดกิจกรรมส่งเสริมการขายชนิด ใดขึ้น คู่แข่งขันจะพร้อมจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกัน แต่ เพิ่ ม มู ล ค่ า หรื อ คื น ส่ ว นลดให้ แ ก่ ผู้ บ ริ โ ภคมากกว่ า หรื อ แม้กระทั่ง การนํากลยุทธ์ Guerrilla Attack มาใช้ในการ แข่งขันเพื่อช่วงชิงผู้บริโภค ทั้งการสร้างข่าวลือ การแจก Brochure ใกล้สาขาของคู่แข่งขัน เป็นต้น รู ป แบบการดํ า เนิ น ธุ ร กิ จ และการแข่ ง ขั น ใน ลักษณะดังกล่าว อาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยของผู้ประกอบการ และผู้บริโภคชาวไทย ที่แม้จะเป็นคู่แข่งขัน แต่จะมีความ ประ นี ป ระ นอมระ หว่ า งกั น มาโ ดยตลอด แต่ ด้ ว ย ผู้ประกอบการในธุรกิจ Discount Store ในป๎จจุบัน ได้มี การเปลี่ ย นผ่ า นการถื อ ครองธุ ร กิ จ และการบริ ห ารเป็ น ชาวต่ า งชาติ ทั้ ง หมด กอปรกั บ มู ล ค่ า การตลาดในธุ ร กิ จ Discount Store ของไทย มูลค่ากว่า 400,000 ล้านบาท ต่อปี และยังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดั้งนั้น Discount Store เหล่านี้ จึงพร้อมที่จะใช้ทุกกลยุทธ์ และ วิ ธี ก ารดํ า เนิ น ธุ ร กิ จ เพื่ อ ส่ ว นแบ่ ง ทางการตลาดมู ล ค่ า มหาศาลนี้ ในวันนี้ Discount Store ในเมืองไทย ได้ก้าวสู่การ เป็น Hard Discounter ที่ผู้ประกอบการต่างๆ พร้อมจะ ทุ่มสรรพกําลังเข้าสู่การแข่งขัน แย่งชิงผู้บริโภค และพื้นที่ ทางการตลาดอย่างเข้มข้น หากผู้ประกอบการรายใดขาด ความพร้ อ มด้ า นเงิ น ทุ น การบริ ห าร ระบบ Logistics ระบบสารสนเทศ และบุ ค ลากร ย่ อ มถู ก เบี ย ดชิ ง ฐาน ผู้บริโภค และส่วนแบ่งทางการตลาดได้โดยง่าย ดังจะพบได้ จากปรากฎการณ์การถอนตัวเองออกจากธุรกิจ Discount Store ของ Carrefour ในเมืองไทย โดยการขายกิจการ ให้แก่กลุ่มธุรกิจ Casino Group ผู้บริหาร BigC ด้วยมูลค่า กว่า 30,000 ล้านบาท ในปี 2011 หลังจากที่ได้เข้ามา ดําเนินธุรกิจ Discount Store ในประเทศไทย กว่า 15 ปี ซึ่ง Hard Discounter เป็นการขนามนามให้แก่ Discount Store สัญชาติเยอรมัน ชื่อ Aldi
ซึ่ ง เน้ น การจํ า หน่ า ยผลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ป โภค บริ โ ภค สํ า หรั บ ชีวิตประจําวัน ที่มีคุณภาพเป็ นหลัก ในราคาถูกที่สุด ด้ว ย หลักการบริหารและจัดการต่างๆ เช่น - การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ ที่จะต้องเชื่อมั่นได้ว่าจะ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จัดจําหน่ายได้เร็ว และมาก เพื่อ จะได้ไม่สิ้นเปลืองต้นทุนด้านผลิตภัณฑ์ เช่น มีผลิตภัณฑ์การ บริหาร Stock หรือการจัดส่งผลิตภัณฑ์ - พัฒนาผลิตภัณฑ์ ประเภท House Brand ให้ หลากหลายขึ้น เพื่อให้สามารถนําเสนอแก่ผู้บริโภคในราคา ต่ําที่สุดได้ - ไม่มีบริการ หรือสิ่งอํานวยความสะดวกบางด้าน เช่น รถเข็น (Cart) หรือถุงบรจุผลิตภัณฑ์ เพื่อควบคุมต้นทุน การดําเนินงานให้ต่ําที่สุด - พัฒนา หรือมีระบบบริหารและจัดการต่างๆ อาทิ การบริหารสาขา ระบบ Logistics และอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยแนวคิด และแนวทางการดําเนินงานในลักษณะ ดังกล่าวของ Aldi ที่ก่อตั้งมากว่า 50 ปี และสามารถสร้าง ผลประกอบการที่น่าทึ่ง ด้วยการขยายสาขาไปยังประเทศ ต่างๆ ทั่วทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา ได้กว่า 15,000 สาขา และมียอดขายที่มากกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในปี 2009 Aldi จึงเป็นธุรกิจ Hard Discounter ที่เป็นที่หวั่น เกรงของธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะในกลุ่ม Discount Store และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ Brand Name ต่างๆ ในทุกๆ ภูมิภาค และในเวลาไม่นานจากนี้ ทั้ง Lotus และ BigC อาจจะปรับ โฉ มต นเองในบางพื้ น ที่ บางสาขา เพื่ อ เป็ น Hard Discounter หรือการปรับตัวสู่การเป็น Hard Discounter ได้เกิด ขึ้น แล้ ว ดั งจะเห็น ได้จ ากรูป แบบสาขาของ Tesco Lotus Express ทีอ่ ยู่ใกล้บ้านคุณ
45
องค์ ก าร ถื อ เป็ น สิ่ ง ที่ มี ค วามเกี่ ย วข้ อ งและมี ความสําคัญต่อการดํารงชีวิตของมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะใน สถานะของสมาชิกในองค์การหนึ่งๆ หรือในสถานะผู้ซื้อ สินค้าหรือรับบริการจากองค์การใดๆ ในสังคม การศึ ก ษาถึ ง แนวคิ ด ทฤษฎี และการออกแบบ องค์การ จึงเป็นสิ่งสําคัญสําหรับบุคคลทุกคน โดยเฉพาะ อย่ า งยิ่ ง บุ ค คลในระดั บ บริ ห าร ซึ่ ง หากมี ค วามรู้ ความ เข้ าใจถึ ง แนวคิ ด และทฤษฎี อ งค์ ก าร เชื่ อ ว่ าจะสามารถ บริห ารและจัด การให้ อ งค์ ก าร มี ผ ลการดํ าเนิ น งานตาม วัตถุประสงค์ที่กําหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของทฤษฎีองค์การ “เป็นหลักการศึกษาถึง โครงสร้ า ง และการออกแบบองค์ ก าร โดยอธิ บ ายว่ า องค์การถูกจัดตั้งขึ้นมาได้อย่างไร และให้ข้อเสนอแนะ การสร้างองค์การในลักษณะใด ที่จะก่อให้เกิดประสิทธิผล แก่อ งค์ก ารเอง” (นิต ยา เงิน ประเสริฐศรี) และเพื่ อ ประโยชน์ต่อการศึกษาทฤษฎีองค์การ จึงจัดแบ่งทฤษฎี องค์การออกเป็น 3 สํานัก คือ
แนวคิดและทฤษฎีองค์การ มีผู้ศึกษาและให้นิยาม ขององค์การไว้อย่างหลากหลาย อาทิเช่น “องค์การ คือ การรวมตัวของคนตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อดําเนินกิจกรรม ใดๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้ ” (ดร.ทิพวรรณ หล่ อสุ ว รรณรัต น์ ) หรือ “สิ่ง ที่มี อ ยู่ในสัง คม มี การจัด ตั้ ง ขึ้นมาอย่ างมี เปูา หมาย มี การออกแบบระบบโครงสร้า ง และระบบกิ จ กรรมที่ มี ก ารประสานงานกั น และมี ก าร 1. สํานักทฤษฎีองค์การสมั ยดั้งเดิม จะมุ่งเน้น เชื่อมโยงสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมภายนอก” (Richard L. โครงสร้ า งองค์ ก ารที่ เ ป็ น ทางการ และการบรรลุ Daft) เป็นต้น วัตถุประสงค์เฉพาะที่กําหนดไว้เป็นหลัก 2. สํานักทฤษฎีองค์การเน้นมนุษยสัมพันธ์ จะมี ลั ก ษณะตรงข้ า มกั บ สํ า นั ก ทฤษฎี อ งค์ ก ารสมั ย ดั้ ง เดิ ม กล่าวคือ มีโครงสร้างองค์การอย่างไม่เป็นทางการ และให้ ความสําคัญกับความรูส้ ึกของคนมากขึ้น 3. สํานักระบบและสถานการณ์ จะให้ความสําคัญ กั บ การพิ จ ารณาถึ ง ลั ก ษณะของระบบต่ า งๆ ภายใน องค์ ก ารที่ มี ค วามสั ม พั น ธ์ กั น และสอดคล้ อ งกั บ สภาพแวดล้อมขององค์การนั้นๆ
46
จากทฤษฎีองค์การของแต่ละสํานักตามข้ างต้น จะ พบว่า ในการศึกษาทฤษฎีองค์การให้เกิดความเข้าใจขึ้นได้ นั้ น จํ า เป็ น จะต้ อ งทํ า ความเข้ า ใจหรื อ ศึ ก ษาพฤติ ก รรม องค์ ก ารประกอบด้ ว ย เพราะการบรรลุ ผ ลสํ า เร็ จ ของ องค์ ก ารได้ ห รื อ ไม่ นั้ น ขึ้ น อยู่ กั บ คนหรื อ สมาชิ ก ภายใน องค์การนั้นๆ เป็นสําคัญ การออกแบบองค์ ก าร โดยทั่ ว ไปองค์ ก ารจะ ประกอบด้วยองค์ประกอบ 5 ส่วน คือ ฝุายบริหารระดับสูง ฝุายบริห ารระดับ กลาง กลุ่ ม ผู้ป ฏิ บัติ ก าร ฝุ ายสนับ สนุ น ทางการบริหาร และฝุายสนับสนุนทางเทคนิค ซึ่งระดับของ บทบาทหน้ า ที่ แ ละความสํ า คั ญ ขององค์ ป ระกอบใดๆ ข้างต้น จะขึ้นอยู่กับรูปแบบขององค์การ ที่มี 5 รูปแบบ (มินซ์เบอร์ก) คือ องค์การแบบโครงสร้างอย่างง่าย องค์การ แบบเครื่ อ งจั ก รกล องค์ ก ารทางวิ ช าชี พ องค์ ก ารแบบ โครงสร้างแยกหน่วยงาน และองค์การแบบเฉพาะกิจ ทั้ ง นี้ มี แ นวคิ ด เกี่ ย วกั บ วิ ธี ก ารออกแบบองค์ ก าร โดยใช้ยุทธศาสตร์ 3Rs (ฐิติกร พูลภัทรชีวิน)
คื อ การปรั บ ความคิ ด ความเข้ า ใจ (Rethinking) การปรับกระบวนการทํางาน (Reengineering) และ การ ปรั บ โครงสร้ า ง (Restructuring) ซึ่ ง เป็ น การพั ฒ นา องค์การเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ในป๎ จ จุ บั น ผู้ อ อกแบบองค์ ก ารควร ตระหนั ก ถึ ง ลั ก ษณะขององค์ ก ารสมั ย ใหม่ หรื อ 5’s Model (รศ.ดร.เสน่ห์ จุ้ยโต) คื อ องค์การจิ๋วแต่แจ๋ ว คุณภาพ (Small) องค์การฉลาดทรงภูมิป๎ญญา (Smart) องค์การยิ้มแย้มเปี่ยมน้ําใจ (Smile) องค์การร่วมมือไร้ ความขัดแย้ง (Smooth) และ องค์การทําเรื่องยากให้ง่าย และเร็ว (Simplify) ซึ่งจะต้องอาศัยความรู้ความสามารถ ของผู้ บ ริ ห าร (Competency) การมี วิ นั ย และความ รับผิดชอบต่อตนเอง ของพนักงาน (Self-Control) การมี กระบวนการที่ดีมีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือ การมี ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ซึ่งลักษณะขององค์การตาม 5’s Model นี้ จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถให้แก่องค์การ สู่ความเป็นเลิศได้
47
เป็นข่าวอีกแล้วกรณีเงินบาทอ่อนค่าลง ล่าสุดเมื่อ วั น ที่ 22 สิ ง หาคม อยู่ ที่ระดั บ 32.12 บาทต่ อ ดอลลาร์ สหรัฐ เป็นการอ่อนค่าที่สุดในรอบ 3 ปีตามรายงานของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งๆที่ช่วงต้นปีวันที่ 19 เมษายน ค่าเงินบาทได้แข็งค่าสูงสุดที่ระดับ 28.66 บาทต่อดอลลาร์ สหรัฐ การแข็งค่าเงินบาทขณะนั้น เป็นเหตุให้เกิดวิวาทะ ระหว่างคลังกับแบงค์ชาติ โดยคลังต้องการให้แบงค์ชาติ ลดอัตราดอกเบี้ ยนโยบายเพื่อให้เงินบาทอ่อนค่ าลง แต่ แบงค์ ช าติ ใ ห้ เ หตุ ผ ลเป็ น เรื่ อ งของเงิ น ทุ น เคลื่ อ นย้ า ยที่ กดดันเงินบาทให้แข็งค่า จึงไม่ใช่เป็นเรื่องของประเทศไทย ตรงๆ เพราะอั ต ราดอกเบี้ ย ไทยก็ ยั ง ไม่ สู ง เมื่ อ เที ย บกั บ ประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน ผลของความไม่ ล งรอยดั ง กล่ า วยุ ติ ล งได้ เมื่ อ เงิ น บาท ปรับตัวอ่อนค่าลงในเวลาต่อมาตามภาวะตลาดอยู่ที่ระดับ 30 – 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกรณีที่มีผู้เสนอให้ แบงค์ ช าติ ก ลั บ ไปใช้ อั ต ราแลกเปลี่ ย นแบบคงที่ (Fixed Exchange rate System) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ ประกอบธุรกิจส่งออกนั้น คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากระบบ อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange rate System) แบบมีการจัดการ (Managed Float System) ที่ ใ ช้ อ ยู่ ใ นป๎ จ จุ บั น เหมาะสมกั บ การรั ก ษาเสถี ย รภาพ ค่ า เงิ น ของประเทศที่ มี ก ารเปิ ด เสรี ท างการเงิ น และใช้ นโยบายการเงินอย่างอิสระ ประกอบกับวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ที่ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ เป็นบทเรี ยน ทําให้แบงค์ชาติต้องตระหนัก
สํ า หรั บ ระบบอั ต ราแลกเปลี่ ย นลอยตั ว แบบมี การจัดการ เป็นระบบที่ปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน บาทเคลื่อนไหวตามกลไกตลาดโดยเสรี แต่ยังมีแบงค์ชาติ คอยดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้มีความผันผวนมากเกินไป มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจของ ประเทศเจ้าของเงิน โดยแบงค์ชาติจะเข้าแทรกแซงตลาด เพื่อดึงค่าเงินให้กลับมาสู่ระดับที่เหมาะสม ประเทศไทยได้ใช้ ระบบนี้ภายหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เป็นต้นมา จากการดําเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ QE1 และ QE2 (Quantitative Easing : QE) ของธนาคารกลาง สหรั ฐฯ (Fed.) โดยอัดฉี ดเงิน เข้ าสู่ ระบบเป็น จํานวน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในป๎จจุบัน เพื่อพยุงเศรษฐกิจและ เพิ่มสภาพคล่องในระบบเงินของตนเอง ส่งผลให้มีเงินทุน เคลื่อนย้ายเข้าไปหาผลตอบแทนในตลาดภูมิภาคเอเชียเป็น จํานวนมากรวมทั้งประเทศไทย ทําให้ค่าเงิ นบาทช่วงต้นปีที่ ผ่านมาแข็งค่าขึ้น เมื่อมีกระแสข่าวว่า Fed. อาจจะปรับลด ขนาดมาตรการผ่ อ นคลาย QE3 ในเดื อ นกั น ยายนนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเติบโตขึ้นในช่วงปีหลัง ทําให้ตลาดเงินและตลาดทุนเกิดความผันผวนจากแรงเทขาย ของนักลงทุนต่างชาติ กดดันให้ค่าเงินบาทอ่อ นค่าลงอย่าง รวดเร็ ว ตามกล่ า วข้ า งต้ น เป็ น การสะท้ อ นให้ เ ห็ น ว่ า การ แทรกแซงเพื่ อดู แลค่าเงิน บาทไม่ใ ห้เคลื่อ นไหวขึ้น ลงมาก เกินไปของแบงค์ชาติไม่อาจทําได้ง่ายนัก เนื่องจากปริมาณ เงินทุนเคลื่อนย้ายมีจํานวนมหาศาลเกินกําลังที่จะทัดทานได้ 48
อย่ างไรก็ดี เนื่ องจากกระแสเงิน ทุน เคลื่ อนย้ายที่ เกิ ด ขึ้ น ในเวลานี้ มี ค วามรุ น แรงและเป็ น ไปอย่ า งรวดเร็ ว สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจไทยซึ่งมีขนาดเล็กและ เป็นเศรษฐกิจเปิด ดังนั้น แบงค์ชาติจําเป็นต้องเตรียมพร้อม รั บ มื อ มิ ใ ห้ ค่ า เงิ น บาทผั น ผวนมากจนเกิ น ไป อั น ส่ ง ผล กระทบต่ อ เสถี ย รภาพทางเศรษฐกิ จ โดยจะต้ อ งมี แ ผน รองรับล่วงหน้าเพื่อลดความรุนแรงของผลกระทบ มีการ หารือผู้ประกอบการให้หาทางใช้ประโยชน์จากการขึ้นลง ของอัตราแลกเปลี่ยน โดยการนําเข้าสินค้าทุนเมื่อเงินบาท แข็งค่า เป็นการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อให้ ต้ น ทุ น การผลิ ต ต่ํ า ลง มี ก ารแนะนํ า ผู้ ป ระกอบการให้ ซื้ อ เครื่องมือปูองกันความเสี่ยงหรือทําประกันความเสี่ยงค่าเงิน อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการลดความ เสี่ ย งจากอั ต ราแลกเปลี่ ย น ขณะเดี ย วกั น คลั ง ก็ ต้ อ งไม่ กดดันและให้ความเป็นอิสระแก่แบงค์ชาติในการทําหน้าที่ ดูแลค่าเงินหรือแทรกแซงตลาด จะเห็นว่ามาตรการ QE เป็น Currency War ของ สหรัฐฯ เป็ นนโยบายที่ไ ม่เพีย งหวัง ผลเพิ่ม การจั บจ่ ายใช้ สอยในประเทศสหรัฐฯเท่านั้น แต่ยังมีเปูาหมายต้องการส่ง ผลกระทบต่อตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ จึง เปรียบเสมือนสหรัฐฯเข้าไปแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนสกุล เงินต่างๆทั่วโลก เพื่อให้ค่าเงินดอลลาร์ของตนเองเป็นไปใน ทิศ ทางที่ ต้อ งการ ภายหลัง ที่ มาตรการลดอัต ราดอกเบี้ ย นโยบายให้อยู่ในระดับต่ําไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ สหรัฐฯให้ ฟื้ นตั วได้ สํา หรับ แนวโน้ ม การไหลเข้ าออกของ เงิ น ทุ น ในป๎ จ จุ บั น ยั ง คงมี อ ยู่ อ ย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ตราบใดที่ ประเทศมหาอํานาจเลือกใช้วิธีแก้ไขป๎ญหาเศรษฐกิจด้วย การพิมพ์ธนบัตรเพิ่ม จึงเป็นความท้าทายของแบงค์ชาติใน ฐานะธนาคารกลางของประเทศว่าจะควบคุมดูแลค่าเงิน บาทอย่ า งไร ให้ อ ยู่ ใ นระดั บ ทํ า ให้ ผู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งได้ รั บ ผลกระทบน้อยที่สุด นั่นคือ “แข็งก็ชอบ อ่อนก็พอใจ”
49
การเป็นผู้บริหารธุรกิจวันนี้จะเก่ง “ในบ้าน” (ใน ประเทศ)อย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องรอบรู้ปัจจัยที่เกิดขึ้น “นอกบ้าน” (ต่างประเทศ) ทั้งเรื่องค่าเงิน ดอกเบี้ย กฎหมาย เทคโนโลยี รวมถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความ เป็นอยู่ของพลเมืองในแต่ละประเทศด้วย “ความรู้ลึก” และ “รู้รอบ” นี่เองเปรียบเป็น อาวุ ธ ที่ ผู้ บ ริ ห ารธุ รกิ จ ในยุ ค นี้ ต้ อ งมี ไว้ ก่ อ นออกไปโลด แล่นในเวทีการแข่งขันที่เข้มข้นและรุนแรง นอกจากประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจ และการลงทุ น ในภู มิ ภ าคอาเซี ย นแล้ ว ยั ง มี อี ก หลาย ประเทศเพื่อนบ้านที่เต็มไปด้วยโอกาสด้านค้าขายและ การลงทุน เวี ย ดนาม เป็ น หนึ่ ง ในประเทศที่ มี ก ารเติ บ โต อย่างมาทางเศรษฐกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งการเพิ่ม การลงทุ น ของนั ก ธุ ร กิ จ ต่ า งประเทศ การปรั บ ตั ว ของ ราคาอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ และการพั ฒ นาสาธารณูป โภค พื้นฐาน พม่า เป็นอีกประเทศที่เต็มไปด้วยธุรกิจเกิดใหม่ และยังคงมีลู่ทางการลงทุนอีกมากสาหรับนักธุรกิจจาก ต่างประเทศ จานวนประชากรที่รวมกันแล้วมากถึง 600 ล้าน คนจาก 10 ประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือราว 9 เท่าของจานวนประชากรไทยในปัจจุบัน ได้ กลายเป็ นทั้ง “โอกาส” และ “ความท้าทาย” ให้ ผู้บ ริหารองค์ ก รธุ ร กิจ และผู้ ประกอบการไทยต้ องเร่ ง เตรียมความพร้อมก่อนเดินเข้าสู่ “เกมธุรกิจ”อย่างเต็ม ตัว ในวันที่เออีซีเปิดฉาก “หลักสูตรและการเรียนการสอน MBA ของที่นี่ เราเน้นการเตรียมคนเพื่อเข้าสู่อาเซียนอย่างแท้จริง” ผศ. ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเน ชั่น กล่าว สะท้ อ นอย่ า งเห็ น ได้ ชั ด จากผู้ เ รี ย นหลั ก สู ต ร ปริญญาโท บริหารธุรกิจ ม.เนชั่น ในรุ่นที่ 1 ที่ศูนย์เนชั่น บางนา พบว่ามีผู้เรียนซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจกาลัง ต่อยอดธุรกิจจากไทยเข้าไปลงทุนในประเทศพม่า
ในขณะที่ อี ก จ านวนไม่ น้ อ ยอยู่ ร ะหว่ างศึ ก ษา ความเป็ น ไปได้ ใ นการเข้ า ไปลงทุ น ในประเทศแถบ อาเซียนเช่นกัน อธิ ก ารบดี บอกนี่ เ ป็ น จุ ด แข็ ง ส าคั ญ ของ หลักสูตร MBA ม.เนชั่น ที่เน้นการสร้างทักษะ สร้าง ประสบการณ์ และความรู้ ค วามเข้ า ใจในวั ฒ นธรรม องค์ ก ร และภาคธุ ร กิ จ ผ่ า นเครื อ ข่ า ยที่ เ ข้ ม แข็ ง ของ เครือเนชั่น “เรามีจุดแข็งของเครือข่ายผู้ประกอบการที่มี ประสบการณ์ทั้งในระดับอาเซียนและระดับสากลเข้า มาถ่ายทอดประสบการณ์ตรง และกรณีศึกษาในการทา ธุร กิ จที่ ผู้ เรีย นสามารถสอบถาม และน ากลั บ ไปปรับ ใช้ได้จริง” จาก MBA ม.เนชั่น ที่ศูนย์เนชั่นบางนาในรุ่นที่ 1 วันนี้ความน่าสนใจของหลักสูตรได้ถูกส่งต่อมายังรุ่นที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการเปิดรับสมัครผู้เรียนที่ศูนย์เนชั่น บางนา ตั้งแต่บัดนี้จนถึงต้นสิงหาคม และจะเริ่มสอน ปลายเดื อนสิงหาคม 2557 โดยมีเปิดสอนทั้งภาค กลางวัน และภาคนอกเวลาราชการ ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ บอกจะเพิ่มความเข้มข้นให้มากขึ้นสาหรับการเรียนการ สอนในรุ่นที่ 2 นี้ ทั้งในเนื้อหา และ การถ่ายทอด ประสบการณ์ จ ากกู รู ธุ ร กิ จ อาทิ สนั่ น อั ง อุ บ ลกุ ล ประธานกรรมการ บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ และ ตัน ภาสกรนที ประธานและซีอีโอ อิชิตัน กรุ๊ป เป็นต้น แล้ว ยังเสริมทักษะสาคัญ ด้านบุคลิกภาพและการสื่อสาร ให้กับผู้เรียนทุกคน 50
“รุ่ น นี้ จ ะมี ส อนพิ เ ศษให้ เ รื่ อ งศิ ล ปะในการ สื่อสารผ่านสื่อดิจิทัล เพื่อเตรียมพัฒนาบุคลิกภาพใน การเป็นผู้ประกอบการ จะอบรมให้เข้าใจเรื่องโซเชียล มีเดีย หลักการพีอาร์ และการสื่อสาร ซึ่งมีความสาคัญ อย่ า งมากส าหรั บ ผู้ บ ริ ห ารธุ ร กิ จ ในปั จ จุ บั น รวมถึ ง ประสบการณ์ที่ผู้ เรี ย นจะได้ เข้ ารับฟั ง กู รูระดั บโลกที่ เครือเนชั่น เชิญมาเป็นวิทยากรในงานสัมมนาสาคัญๆ” ด้านวิ ชาการเน้น หลัก การบู รณาการความรู้ ที่ จาเป็นสาหรับนักบริหารทั้ง การบัญชีเพื่อการจัดการ การจั ด การการตลาด การวิ จั ย เพื่ อ การวางแผนและ ตั ด สิ น ใ จ ท า ง ธุ ร กิ จ ก า ร จั ด ก า ร เ ชิ ง ก ล ยุ ท ธ์ เศรษฐศาสตร์เพื่อการจัดการ การจัดการการปฏิบัติการ การจัดการการเงิน และการจัดการทรัพยยากรมนุษย์ และพฤติกรรมองการ โดยในรายวิ ชาเลือ กจะมุ่ งสร้างความชานาญ เฉพาะด้ า นส าหรั บ นั ก บริ ห ารในสาขาหลั ก ๆ คื อ 1. การตลาด 2. การจัดการ 3. การบัญชีและการเงิน แต่ความแตกต่างสาคัญอยู่ที่การเปิดให้ผู้เรียน ได้เข้าถึงเนื้อหาภายใต้ 3 รายวิชาเลือก ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ สาคัญๆ ภายใต้บริบทอา เซียน และการบริหารธุรกิจ ในยุคใหม่นี้ ประกอบด้วยรายวิชาอาทิเช่น กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดด้วยสื่อสมัยใหม่ (Marketing Strategies Through New Media) เป็น การศึ ก ษาถึ ง วิ วั ฒ นาการของการตลาดสู่ ก ารตลาด สมัยใหม่ แนวทางในการจัดการส่งเสริมการตลาดด้วย สื่อสมัยใหม่ ประเภทของสื่อสมัยใหม่ที่ใช้กันแพร่หลาย กรณีศึกษาองค์การที่ใช้การส่งเสริมการตลาดสมัยใหม่ การจั ด การธุ ร กิ จ ในประเทศกลุ่ ม อาเซี ย น (Business Management in ASEAN countries) เ ป็ น ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ปั จ จั ย แ ล ะ สภาพแวดล้ อ มที่ มี ค วามส าคั ญ ต่ อ การด าเนิ น ธุ ร กิ จ ระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน การจัดตั้งธุรกิจ การ จ้างแรงงาน การแสวงหาวัตถุดิบ การเลือกทาเลที่ตั้ง ฐานการผลิ ต กฎระเบี ย บที่ เ กี่ ย วข้ อ ง การศึ ก ษา ผลกระทบของธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดย่อมในการ เข้าสู่ประชาคมอาเซียน
การจัดการธุรกิจในประเทศกลุ่มอาเซียนบวกหก (Business Management in ASEAN Plus Six Countries) คือ ประเทศจีน , เกาหลีใต้ , ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์และ อินเดีย ศึกษารูปแบบของ องค์กรธุรกิจ ระบบการแลกเปลี่ยนและแหล่งเงินทุนใน การประกอบธุรกิจ ระบบการดาเนินธุรกิจ ความสัมพันธ์ ระหว่างธุรกิจของประเทศไทยกับกลุ่มประเทศอาเซียน บวกหก การบริ ห ารองค์ ก รสื่ อ (Management in Media organizations) รูปแบบการบริหารจัดการ องค์กรสื่อ ทฤษฏี วิวัฒนาการและวัฒนธรรมองค์กรสื่อ นวั ต กรรมการบริ ห ารองค์ ก รสื่ อ สมั ย ใหม่ การศึ ก ษา ทิศทางการบริหารองค์กรสื่อในอนาคต โดยเน้นการใช้ กรณีศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ก า ร ป ร ะ ก อ บ ก า ร ธุ ร กิ จ สื่ อ ( Media Entrepreneurship) ศึกษาถึงการวางแผนและการ บริ หารธุ ร กิจ สื่อ ทั้ง ด้า นการบั ญ ชี การเงิ น การลงทุ น การตลาด กฎหมาย ภาษีอากร การบริหารความเสี่ยง; การวิเคราะห์และการเขียนแผนธุรกิจ และแนวทางการ เป็นผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความคิดริเริ่มที่จะประกอบ ธุรกิจของตนเอง ท่ามกลางโลกธุรกิจที่หมุนเร็วและเต็มไปด้วยการ แข่งขัน คนที่จะอยู่ท่ามกลางความท้าทาย และก้าวขึ้น ไปอยู่แถวหน้าได้ จาเป็นต้องทาความเข้าใจธุรกิจ เข้าใจ วั ฒ นธรรม และน าเทคโนโลยี ม าใช้ ป ระโยชน์ ใ ห้ เ กิ ด ประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่ ง ก็ เ ป็ น เป้ า หมายส าคั ญ ของ ม.เนชั่ น ใน แนวทางการสร้า งสุ ดยอดผู้นาธุร กิจ แถวหน้ าในระดั บ อาเซียน
51
รวมภาพเก็บตก
52
53
54
55
แนะนา เว็บไซต์
เว็บไซต์ข้อมูลข่าวสารมหาวิทยาลัย https://www.nation.ac.th
ระบบรายงานผลการเรียน https://grade.nation.ac.th
ระบบบล็อก (Blog) https://blog.nation.ac.th
ระบบฐานข้อมูลวิจัย https://it.nation.ac.th/studentresearch
56
ระบบสารสนเทศของนักศึกษา มหาวิทยาลัยเนชั่น https://it.nation.ac.th/std
ระบบสืบค้นห้องสมุด ออนไลน์ https://www.nation.ac.th/library
Facebook มหาวิทยาลัยเนชั่น https://www.facebook.com/NationUNews
ระบบอีเลินนิ่ง https://class.nation.ac.th
57
ข้อมูลการเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ ประจาปีการศึกษา 2557 1. คณะวิชาที่เปิดสอน คณะบริหารธุรกิจ - สาขาวิชาการตลาด - สาขาวิชาการบัญชี คณะนิเทศศาสตร์ - สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ - สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ - สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ - สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
2. ทุนการศึกษา ทุนเรียนดี 100% เป็นผู้สําเร็จการศึกษา ระดับมัธยมปลายโดยมีคะแนนเฉลี่ยรวม GPA 3.50-4.00 ทุนเด็กดีมที ี่เรียน (ทุน 20% ตลอดหลักสูตร) - เป็นผู้สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย หรือเทียบเท่า - เป็นบุคคลที่มีความประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรม ช่วยเหลือสังคม - เป็นบุคคลที่ทํากิจกรรมสร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียน - มีหนังสือรับรองจากทางโรงเรียน ทุนชายแดนใต้ (ทุน 100% ตลอดหลักสูตร) - เป็นผู้อาศัยอยู่ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ คือ ยะลา ป๎ตตานี นราธิวาส สตูล - เป็นผู้สําเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมปลาย หรือเทียบเท่าใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ คือ ยะลา ป๎ตตานี นราธิวาส สตูล โดยมีคะแนนเฉลี่ยรวม 2.50 ขึ้นไป
58
.. พี่น้องบุคลากรของมหาวิทยาลัย .. เรามีเรา หากจะเดินไปทางใด ไม่หวั่น .. จัดเรียงภาพตามอาเภอใจ
62
63
กองบรรณาธิการ ที่ปรึกษา บรรณาธิการ
อ.อดิศักดิ์ อ.ธวัชชัย อ.ภฏะ อ.วิเชพ อ.พัชรีภรณ์ อ.สกุลศักดิ์ อ.นงลักษณ์ อ.คนึงนิจ เผยแพร่ออนไลน์ นายเปรม ติดต่อประสานงาน นางรัชณี นายสาธิจติ ต์ นายเกรียงไกร นายฐิตนิ ันท์ นายนัฐกิจ นายจรัญยู นายราชศักดิ์ นางสาวเอมอร นางสาวศิริวารินทร์ ออกแบบปก นายณภัทร จัดหน้า นางสาวศัลณ์ษิกา
จาปาทอง แสนชมภู รองรัตน์ ใจบุญ หรพร้อม อินหล้า สุวรรณวิชิตกุล ติกะมาตย์ อุ่นเรือน พิศบุญ นกจันทร์ รัตนา ดารงสิทธิ์ มีกอง วรรณจักร หมั่นการ เพชรบูรณ์ปี้ ตามล เทพจันตา ไชยกุล
64
มหาวิทยาลัยเนชั่น ลาปาง 444 ถ.วชิราวุธดําเนิน ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลําปาง 52000 โทรศัพท์ : 0 5426 5170 ต่อ 112, 135, 208 ฝุายรับสมัคร : 0 5482 0099 มหาวิทยาลัยนชั่น ศูนย์เนชั่นบางนา 1854 ถ.บางนา-ตราด (กม.45) แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ : 0 2338 3757 ฝุายรับสมัคร : 0 2338 3777