พุทธวจน 10 สาธยายธรรม 6

Page 1

พุทธวจน สาธยายธรรม


อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมท�าการสาธยายธรรม ตามที่ได้ฟังมา ตามที่ได้เล่าเรียนมา แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร นี้เป็นธรรมข้อที่ ๔ ซึ่งท�าให้สัทธรรมตั้งมั่น ไม่ลบเลือนจนเสื่อมสูญไป อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย !    ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมตรึกตรอง เพ่งดูด้วยใจ ซึ่งธรรม  ตามที่ได้ฟังมา ตามที่ได้เล่าเรียนมา โดยพิสดาร   นี้เป็นธรรมข้อที่ ๕  ซึ่งท�าให้สัทธรรมตั้งมั่น ไม่ลบเลือนจนเสื่อมสูญไป  (ในที่นี้ยกมา ๒ ข้อ จาก ๕ ข้อ ของธรรม ๕ ประการ ซึ่งท�าให้สัทธรรมตั้งมั่น ไม่ลบเลือนจนเสื่อมสูญไป) -บาลี ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๙๗/๑๕๕.


พุทธวจน สาธยายธรรม


ธรรมเป็นรุง่ อรุณแห่งอริยมรรคมีองค์ ๘ ภิกษุทงั้ หลาย ! เมือ่ ดวงอาทิตย์กำ� ลังขึน้ สิง่ ทีม่ าก่อน เป็นนิมติ ให้เห็นก่อน คือการขึน้ มาแห่งอรุณ ฉันใด; ภิกษุทงั้ หลาย ! เมือ่ มีการเกิดขึน้ แห่งอริยมรรคมีองค์ ๘ ของภิกษุ สิง่ ทีม่ าก่อน เป็นนิมติ ให้เห็นก่อน คือความเป็นผูม้ กี ลั ยาณมิตร ฉันนัน้ เหมือนกัน. ภิกษุทงั้ หลาย ! นีค้ อื ความหวังของภิกษุผมู้ กี ลั ยาณมิตร คือเธอจักเจริญอริยมรรคมีองค์ ๘ ได้ จักกระท�ำให้มากซึง่ อริยมรรคมีองค์ ๘ ได้. -บาลี มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๖/๑๒๙.

“หิง่ ห้อยนัน้ ย่อมส่องแสงอยูไ่ ด้ชวั่ เวลาทีด่ วงอาทิตย์ยงั ไม่ขนึ้ มา ครัน้ อาทิตย์ขนึ้ มา หิง่ ห้อยก็หมดแสงไม่มสี ว่างอีก. เดียรถียท์ งั้ หลายก็เป็นเช่นนัน้ . โอกาสอยูไ่ ด้ชวั่ เวลาทีบ่ คุ คลผูต้ รัสรูช้ อบด้วยตนเองยังไม่เกิดขึน้ ในโลก. พวกทีไ่ ด้แต่นกึ ๆ เอา ย่อมบริสทุ ธิไ์ ม่ได้. ถึงแม้สาวกของเขาก็เหมือนกัน. ผูท้ มี่ คี วามเห็นผิด จะไม่พน้ ทุกข์ไปได้เลย”. -บาลี อุ. ขุ. ๒๕/๑๙๖/๑๔๖.


พุ ท ธ ว จ น ฉบับ ๑๐

สาธยายธรรม

พุทธวจนสถาบัน

ร่วมกันมุง่ มัน่ ศึกษา ปฏิบตั ิ เผยแผ่ค�ำ ของตถาคต


พุทธวจน

ฉบับ ๑๐

สาธยายธรรม

รวบรวมโดย

พระอาจารย์คกึ ฤทธิ์ โสตฺถิผโล (วัดนาป่าพง) ภิกขุชัยณรงค์ ถาวโร (วัดนาป่าพง) ข้อมูลธรรมะนี้ จัดท�ำเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาสู่สาธารณชน เป็นธรรมทาน ลิขสิทธิ์ในต้นฉบับนี้ได้รับการสงวนไว้ ไม่สงวนสิทธิ์ในการจัดท�ำจากต้นฉบับเพื่อเผยแผ่ในทุกกรณี ในการจัดท�ำหรือเผยแผ่ โปรดใช้ความละเอียดรอบคอบ เพื่อรักษาความถูกต้องของข้อมูล ขอค�ำปรึกษาด้านข้อมูลในการจัดท�ำเพื่อความสะดวกและประหยัด ติดต่อได้ที่ มูลนิธิพุทธโฆษณ์ โทรศัพท์ ๐๘ ๒๒๒๒ ๕๗๙๐-๙๔ พุทธวจนสมาคม โทรศัพท์ ๐๘ ๑๖๔๗ ๖๐๓๖ มูลนิธิพทุ ธวจน โทรศัพท์ ๐๘ ๑๔๕๗ ๒๓๕๒ คุณศรชา โทรศัพท์ ๐๘ ๑๕๑๓ ๑๖๑๑ คุณอารีวรรณ โทรศัพท์ ๐๘ ๕๐๕๘ ๖๘๘๘ ปีที่พิมพ์ ๒๕๕๗ ศิลปกรรม ปริญญา ปฐวินทรานนท์, วิชชุ เสริมสวัสดิ์ศรี, ณรงค์เดช เจริญปาละ

จัดท�ำโดย มูลนิธิพุทธโฆษณ์ (เว็บไซต์ www.buddhakos.org) ส�ำหรับผูต้ อ้ งการปฏิบตั ธิ รรรม ติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบตั พิ ทุ ธวจน (Buddhawajana Training Center) ซอยคลองสีต่ ะวันออก ๗๓ หมู่ ๑๕ คลองสี่ อ�ำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โทรศัพท์ ๐๙ ๒๙๑๒ ๓๖๕๗, ๐๙ ๒๙๑๒ ๓๗๒๑, ๐๙ ๒๙๑๒ ๓๔๗๑


สารบัญ ๔ ๖ ๑๐ ๑๔ ๑๖ ๑๙ ๒๒ ๒๙ ๔๔ ๔๖ ๕๑ ๕๒ ๖๓ ๘๑ ๘๕ ๘๘ ๙๒ ๙๕ ๙๗ ๙๙ ๑๐๐ ๑๐๕ ๑๐๖

อักษรย่อ  บทน�ำ บทสวด ระลึกถึงพระพุทธเจ้า บทสวด ระลึกถึงพระธรรม  บทสวด ระลึกถึงพระสงฆ์  บทสวด แก้ความหวาดกลัว บทสวด ปฏิจจสมุปบาท  บทสวด อริยมรรคมีองค์แปด บทสวด ความสิ้นสุดแห่งโลก บทสวด อธิษฐานความเพียร บทสวด ละนันทิ  บทสวด ข้อปฏิบตั อิ นั ไม่เสือ่ มเสีย  บทสวด อานาปานสติ  บทสวด เพื่อผู้เจ็บไข้  บทสวด ที่สุดแห่งทุกข์ บทสวด อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ  บทสวด ก่อนนอน  บทสวด ธรรมวินัยคือศาสดา  บทสวด พึ่งตนพึ่งธรรม บทสวด ปัจฉิมวาจา การเจริญเมตตา ค�ำชี้ชวนวิงวอน การสาธยายธรรม ที่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น


TITUTE


นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

Homage to the Blessed, Noble and Perfectly, Enlighten One. 

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

3


เพือ่ ความสะดวกแก่ผทู้ ย่ี งั ไม่เข้าใจเรือ่ งอักษรย่อ ทีใ่ ช้หมายแทนชือ่ คัมภีร์ ซึง่ มีอยูโ่ ดยมาก มหาวิ. วิ. มหาวิภังค์ ภิกฺขุนี. วิ. ภิกขุนีวิภังค์ มหา. วิ. มหาวรรค จุลฺล. วิ. จุลวรรค ปริวาร. วิ. ปริวารวรรค สี. ที. สีลขันธวรรค มหา. ที. มหาวรรค ปา. ที. ปาฏิกวรรค มู. ม. มูลปัณณาสก์ ม. ม. มัชฌิมปัณณาสก์ อุปริ. ม. อุปริปัณณาสก์ สคาถ. สํ. สคาถวรรค นิทาน. สํ. นิทานวรรค ขนฺธ. สํ. ขันธวารวรรค สฬา. สํ. สฬายตนวรรค มหาวาร. สํ. มหาวารวรรค เอก. อํ. เอกนิบาต ทุก. อํ. ทุกนิบาต ติก. อํ. ติกนิบาต จตุกฺก. อํ. จตุกกนิบาต LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

4

วินัยปิฎก. วินัยปิฎก. วินัยปิฎก. วินัยปิฎก. วินัยปิฎก. ทีฆนิกาย. ทีฆนิกาย. ทีฆนิกาย. มัชฌิมนิกาย. มัชฌิมนิกาย. มัชฌิมนิกาย. สังยุตตนิกาย. สังยุตตนิกาย. สังยุตตนิกาย. สังยุตตนิกาย. สังยุตตนิกาย. อังคุตตรนิกาย. อังคุตตรนิกาย. อังคุตตรนิกาย. อังคุตตรนิกาย.

สาธยายธรรม

อักษรย่อ


ปญฺจก. อํ. ฉกฺก. อํ. สตฺตก. อํ. อฏฺก. อํ. นวก. อํ. ทสก. อํ. เอกาทสก. อํ. ขุ. ขุ. ธ. ขุ. อุ. ขุ. อิติวุ. ขุ. สุตฺต. ขุ. วิมาน. ขุ. เปต. ขุ. เถร. ขุ. เถรี. ขุ. ชา. ขุ. มหานิ. ขุ. จูฬนิ. ขุ. ปฏิสมฺ. ขุ. อปท. ขุ. พุทฺธว. ขุ. จริยา. ขุ.

ปัญจกนิบาต ฉักกนิบาต สัตตกนิบาต อัฏฐกนิบาต นวกนิบาต ทสกนิบาต เอกาทสกนิบาต ขุททกปาฐะ ธรรมบท อุทาน อิติวุตตกะ สุตตนิบาต วิมานวัตถุ เปตวัตถุ เถรคาถา เถรีคาถา ชาดก มหานิทเทส จูฬนิทเทส ปฏิสัมภิทามรรค อปทาน พุทธวงส์ จริยาปิฎก

อังคุตตรนิกาย. อังคุตตรนิกาย. อังคุตตรนิกาย อังคุตตรนิกาย. อังคุตตรนิกาย. อังคุตตรนิกาย. อังคุตตรนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย. ขุททกนิกาย.

ตัวอย่าง : ๑๔/๑๗๑/๒๔๕ ให้อ่านว่า ไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ เล่ม ๑๔ หน้า ๑๗๑ ข้อที่ ๒๔๕ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

5


ประโยชน์ของการสาธยายธรรม ๑. เพื่อความตั้งมั่นของพระสัทธรรม

(หนึ่งในเหตุห้าประการเพื่อความตั้งมั่นของพระสัทธรรม)

ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๖๑/๑๕๕.

๒. เป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ

(หนึ่งในธรรมให้ถึงวิมุตติห้าประการ)

ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๓/๒๖.

๓. เป็นอาหารของความเป็นพหูสูต

ทสก. อํ. ๒๔/๑๒๐/๗๓.

๔. เป็นองค์ประกอบของการเป็นบริษัทที่เลิศ

ทุก. อํ. ๒๐/๖๘/๒๙๒.

๕. ท�ำให้ไม่เป็นมลทิน

อฎฺก. อํ. ๒๓/๑๔๙/๑๐๕.

๖. เป็นบริขารของจิตเพื่อความไม่มีเวรไม่เบียดเบียน (หนึ่งในห้าบริขารของจิต)

มู. ม. ๑๓/๕๐๐/๗๒๘.

๗. เป็นเหตุให้ละความง่วงได้ (หนึ่งในแปดวิธีละความง่วง) LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

6

สตฺตก. อํ. ๒๓/๗๓/๕๘.

สาธยายธรรม

บทนำ�


วิธีการสาธยายธรรมให้แจ่มแจ้งได้นาน

ไม่ฟงุ้ ซ่าน ไม่ถกู เหนีย่ วรัง้ ย่อมรูย้ อ่ มเห็นอุบายเป็นเครือ่ งสลัด

ออกซึ่งนิวรณ์ทั้งห้า (กามราคะ, พยาบาท, ถีนมิทธะ, อุทธัจจกุกกุจจะ, วิจิกิจฉา) ท�ำให้รู้เห็นประโยชน์ตามที่เป็นจริง มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๖๖/๖๐๓.

ข้อควรระวังและวิธปี อ้ งกันในการสาธยายธรรม

...อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุ ท�ำการสาธยายธรรม ตามที่ได้ฟัง

ได้เรียนมาโดยพิสดาร, แต่เธอไม่รทู้ วั่ ถึงความหมายอันยิง่ แห่งธรรมนัน้ ๆ ด้วยปัญญา. ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการสวด (นักสวด) ยังมิใช่ ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)...

...เธอไม่ ใ ช้ วั น ทั้ ง วั น ให้ เ ปลื อ งไปด้ ว ยการเรี ย นธรรมนั้ น ๆ

ไม่เริดร้างจากการหลีกเร้น, ประกอบตามซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบใจ ในภายในเนืองๆ. ภิกษุอย่างนี้แล ชื่อว่า ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)... ปญฺจก. อํ. ๒๒/๙๙-๑๐๐/๗๓-๗๔.

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

7


สาธยายธรรม LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

8


...ภิกษุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารี องค์ใดองค์หนึง่ ซึง่ ควรแก่ต�ำแหน่งครู หาได้แสดงธรรมแก่ภกิ ษุไม่เลย แต่เธอกระท�ำการ “สาธยายธรรม” ตามที่ได้ฟังได้เรียนไว้แล้วโดย พิสดาร ภิกษุนนั้ ย่อมรู้แจ้งอรรถรู้แจ้งธรรมในธรรมนัน้ โดยอาการที่ ตนกระท�ำการสาธยายนัน้  ความปราโมทย์ยอ่ มเกิดแก่เธอผูร้ แู้ จ้ง อรรถรูแ้ จ้งธรรม  ความอิม่ ใจ (ปีต)ิ ย่อมเกิดแก่เธอผูป้ ราโมทย์แล้ว กายของเธอผูม้ ใี จประกอบด้วยปีติ  ย่อมสงบระงับ เธอผูม้ กี ายสงบ ระงับแล้ว ย่อมเสวยความสุข จิตของเธอผูม้ คี วามสุข ย่อมตัง้ มัน่ นี้คือธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติข้อที่สาม... ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๓/๒๖.

...โมคคัลลานะ เพราะเหตุนั้นแหละ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างไรอยู่ ความง่วงนัน้ ย่อมครอบง�ำได้ เธอพึงท�ำไว้ในใจซึง่ สัญญานัน้ ให้มาก ข้อนีจ้ ะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนัน้ ได้ ถ้าเธอยังละไม่ได้ แต่นนั้ เธอพึง ตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามทีต่ นได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้วด้วยใจ ข้อนีจ้ ะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนัน้ ได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นนั้ เธอพึง “สาธยายธรรม” ตามทีต่ นได้สดับมาแล้วได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้... สตฺตก. อํ. ๒๓/๘๗/๕๘. LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

9


k

อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปัชชะติ ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้

อะระหัง

เป็นผู้ไกลจากกิเลส

สัมมาสัมพุทโธ

ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

วิชชาจะระณะสัมปันโน

เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ

สุคะโต

เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี

โลกะวิทู

เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

10

สาธยายธรรม

บทสวดระลึกถึงพระพุทธเจ้า


อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ เป็นผู้สามารถฝึกคนที่ควรฝึก อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า

สัตถา เทวะมะนุสสานัง

เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

พุทโธ

เป็นผู้รู้ ผู้ต่ืน ผู้เบิกบาน ด้วยธรรม

ภะคะวา

เป็นผูม้ คี วามจ�ำเริญ จ�ำแนกธรรมสัง่ สอนสัตว์

โส อิมัง โลกัง

ตถาคตนั้นท�ำให้แจ้งซึ่งโลกนี้

สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพ๎รัห๎มะกัง๎ สัสสะมะณะพ๎ราห๎มะณิง กับทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

11


เทวดาพร้อมทั้งมนุษย์

สะยัง อภิญญา

ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว

สัจฉิกัต๎วา ปะเวเทสิ

สอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตาม

โส ธัมมัง เทเสสิ

ตถาคตนั้นแสดงธรรม

อาทิกัล๎ยาณัง

ไพเราะในเบื้องต้น

มัชเฌกัล๎ยาณัง

ไพเราะในท่ามกลาง

ปะริโยสานะกัล๎ยาณัง ไพเราะในที่สุด

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

12

สาธยายธรรม

ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง


สาตถัง สะพ๎ยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พ๎รัห๎มะจะริยัง ปะกาเสติ ทรงประกาศพรหมจรรย์ คือ แบบแห่งการปฏิบัติอันประเสริฐ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ ดังนี้

อุปริ. ม. ๑๔/๑๗/๑๖.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

13


k

ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม

พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสไว้ดีแล้ว

สันทิฏฐิโก

เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง

อะกาลิโก

เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ ไม่จ�ำกัดกาล

เอหิปัสสิโก

เป็นสิง่ ทีค่ วรกล่าวกับผูอ้ นื่ ว่า ท่านจงมาดูเถิด

โอปะนะยิโก

เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

14

สาธยายธรรม

บทสวดระลึกถึงพระธรรม


ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ

เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้ มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๒๗/๑๔๑๒.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

15


k

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว

อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว

ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรม เป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

16

สาธยายธรรม

บทสวดระลึกถึงพระสงฆ์


สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติสมควรแล้ว

ยะทิทัง

ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ

จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงตัวได้แปดบุรุษ

เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ นั่นแหละ คือสงฆ์สาวก ของพระผู้มีพระภาคเจ้า

อาหุเนยโย

เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาน�ำมาบูชา

ปาหุเนยโย

เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

17


เป็นสงฆ์ควรรับทักษิณาทาน

อัญชะลิกะระณีโย

เป็นสงฆ์ที่บุคคลทั่วไปจะพึงท�ำอัญชลี

อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ เป็นสงฆ์ที่เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้

มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๒๗/๑๔๑๒.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

18

สาธยายธรรม

ทักขิเณยโย


บทสวดแก้ความหวาดกลัว k

อะรั ญ เญ รุ ก ขะมู เ ล วา สุ ญ ญาคาเรวะ ภิกขะโว ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอทั้งหลายอยู่ในป่า หรืออยู่โคนไม้ หรืออยู่ในเรือนว่างก็ตาม

อะนุสสะเรถะ สัมพุทธัง ภะยัง ตุมหากัง โน สิยา พึงระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถิด ความกลัวก็จะไม่พึงมีแก่พวกเธอทั้งหลาย

โน เจ พุทธัง สะเรยยาถะ โลกะเชฏฐัง นะราสะภัง

แต่ถ้าเธอทั้งหลาย ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นผู้เจริญแห่งโลก เป็นผู้ประเสริฐ แห่งนรชน มิได้ไซร้ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

19


ก็พึงระลึกถึงพระธรรม อันเป็นเครื่องน�ำออกจากทุกข์ ที่เราแสดงไว้ดีแล้วเถิด

โน เจ ธัมมัง สะเรยยาถะ นิยยานิกัง สุเทสิตัง แต่ถ้าเธอทั้งหลาย ระลึกถึงพระธรรม อันเป็นเครื่องน�ำออกจากทุกข์ ที่เราแสดงไว้ดีแล้ว มิได้ไซร้

อะถะ สังฆัง สะเรยยาถะ ปุ ญญั ก เขตตัง อะนุตตะรัง ก็พึงระลึกถึงพระสงฆ์ ผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่าเถิด

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

20

สาธยายธรรม

อะถะ ธัมมัง สะเรยยาถะ นิยยานิกัง สุเทสิตัง


เอวัง พุทธัง สะรันตานัง ธัมมัง สังฆัญจะ ภิกขะโว ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอทั้งหลาย ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์อยู่อย่างนี้

ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส นะ เหสสะตีติ ความกลัวก็ดี ความหวาดสะดุ้งก็ดี ความขนพองสยองเกล้าก็ดี จักไม่มีเลย ดังนี้.

สคาถ. สํ. ๑๕/๓๒๓/๘๖๖.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

21


k

อิธะ ภิกขะเว อะริยะสาวะโก ปะฏิจจะสะมุปปาทัญเญวะ สาธุกัง โยนิโส มะนะสิกะโรติ

ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมกระท�ำไว้ในใจโดยแยบคายเป็นอย่างดี ซึ่งปฏิจจสมุปบาทนั่นเทียว ดังนี้ว่า

อิมัส๎มิง สะติ อิทัง โหติ เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี

อิมัสสุปปาทา อิทัง อุปปัชชะติ

เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น

อิมัส๎มิง อะสะติ อิทัง นะ โหติ เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

22

สาธยายธรรม

บทสวด ปฏิจจสมุปบาท


อิมัส๎îสะ นิโรธา อิทัง นิรุชฌะติ

เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป

ยะทิทัง

ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ

อะวิชชาปัจจะยา สังขารา

เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย

สังขาระปัจจะยา วิญญาณัง

เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ

วิญญาณะปัจจะยา นามะรูปัง

เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป

นามะรูปะปัจจะยา สะฬายะตะนัง

เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

23


เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ

ผัสสะปัจจะยา เวทะนา

เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา

เวทะนาปัจจะยา ตัณหา

เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา

ตัณหาปัจจะยา อุปาทานัง

เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน

อุปาทานะปัจจะยา ภะโว

เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ

ภะวะปัจจะยา ชาติ

เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ

ชาติ ป ั จ จะยา ชะรามะระณั ง โสกะปะริ เทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา สัมภะวันติ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

24

สาธยายธรรม

สะฬายะตะนะปัจจะยา ผัสโส


เพราะมีชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสะทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน

เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ สะมุทะโย โหติ ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้

อะวิ ช ชายะเต๎ ว วะ อเสสะวิ ร าคะนิ โ รธา สังขาระนิโรโธ เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือ แห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว จึงมีความดับ แห่งสังขาร

สังขาระนิโรธา วิญญาณะนิโรโธ เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

25


เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป

นามะรูปะนิโรธา สะฬายะตะนะนิโรโธ เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ

สะฬายะตะนะนิโรธา ผัสสะนิโรโธ เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ

ผัสสะนิโรธา เวทะนานิโรโธ เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา

เวทะนานิโรธา ตัณหานิโรโธ เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

26

สาธยายธรรม

วิญญาณะนิโรธา นามะรูปะนิโรโธ


ตัณหานิโรธา อุปาทานะนิโรโธ เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน

อุปาทานะนิโรธา ภะวะนิโรโธ

เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ

ภะวะนิโรธา ชาตินิโรโธ

เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ

ชาตินิโรธา ชะรามะระณัง โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา นิรุชฌันติ

เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสะ ทั้งหลายจึงดับสิ้น LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

27


ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีิ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้

นิทาน. สํ. ๑๖/๘๕/๑๕๙.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

28

สาธยายธรรม

เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ นิโรโธ โหตีติ


บทสวด อริยมรรคมีองค์แปด k

กะตะมัญจะ ภิกขะเว ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจัง ภิกษุทั้งหลาย ก็อริยสัจ คือหนทาง เป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า

อะยะเมวะ อะริโย อัฏฐังคิโก มัคโค เสยยะถีทัง

คือ หนทางอันประกอบด้วยองค์แปด อันประเสริฐนี้เอง องค์แปด คือ

สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป

ความเห็นชอบ ความด�ำริชอบ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

29


วาจาชอบ การงานชอบ อาชีวะชอบ

สัมมาวายาโม สัมมาสะติ สัมมาสะมาธิ ความเพียรชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งใจมั่นชอบ

กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาทิฏฐิ

ภิกษุทั้งหลาย ความเห็นชอบเป็นอย่างไร

ยัง โข ภิกขะเว ทุกเข ญาณัง ภิกษุทั้งหลาย ความรู้ในทุกข์

ทุกขะสะมุทะเย ญาณัง

ความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์

ทุกขะนิโรเธ ญาณัง

ความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งทุกข์

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

30

สาธยายธรรม

สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว


ทุกขะนิโรธะคามินิยา ปะฏิปะทายะ ญาณัง

ความรู้ในหนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับ ไม่เหลือแห่งทุกข์

อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาทิฏฐิ

ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า ความเห็นชอบ

กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาสังกัปโป

ภิกษุทั้งหลาย ความด�ำริชอบ เป็นอย่างไร

เนกขัมมะสังกัปโป

ความด�ำริในการออกจากกาม

อัพ๎ยาปาทะสังกัปโป

ความด�ำริในการไม่พยาบาท

อะวิหิงสาสังกัปโป

ความด�ำริในการไม่เบียดเบียน

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

31


ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า ความด�ำริชอบ

กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาวาจา

ภิกษุทั้งหลาย วาจาชอบเป็นอย่างไร

มุสาวาทา เวระมะณี

เจตนาเป็นเหตุงดเว้น จากการพูดเท็จ

ปิสุณายะ วาจายะ เวระมะณี

เจตนาเป็นเหตุงดเว้น จากการพูดยุให้แตกกัน

ผะรุสายะ วาจายะ เวระมะณี

เจตนาเป็นเหตุงดเว้น จากการพูดหยาบ

สัมผัปปะลาปา เวระมะณี เจตนาเป็นเหตุงดเว้น จากการพูดเพ้อเจ้อ

อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาวาจา

ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า วาจาชอบ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

32

สาธยายธรรม

อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาสังกัปโป


กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมากัมมันโต

ภิกษุทั้งหลาย การงานชอบเป็นอย่างไร

ปาณาติปาตา เวระมะณี

เจตนาเป็นเหตุงดเว้น จากการฆ่าสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี

เจตนาเป็นเหตุงดเว้น จากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้

กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี

เจตนาเป็นเหตุงดเว้น จากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย

อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมากัมมันโต

ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า การงานชอบ

กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาอาชีโว

ภิกษุทั้งหลาย อาชีวะชอบเป็นอย่างไร LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

33


ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ละการหาเลี้ยงชีพที่ผิดเสีย

สัมมาอาชีเวนะ ชีวิกัง กัปเปติ

ส�ำเร็จความเป็นอยูด่ ว้ ยการหาเลีย้ งชีพทีช่ อบ

อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาอาชีโว

ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า อาชีวะชอบ

กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาวายาโม

ภิกษุทั้งหลาย ความเพียรชอบเป็นอย่างไร

อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ อะนุปปันนานัง ปาปะกานัง อะกุสะลานัง ธัมมานัง อะนุปปาทายะ ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

34

สาธยายธรรม

อิธะ ภิกขะเว อะริยะสาวะโก มิจฉาอาชีวัง ปะหายะ


ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความไม่บังเกิด แห่งอกุศลธรรมอันเป็นบาปทั้งหลาย ที่ยังไม่ได้บังเกิด

อุปปันนานัง ปาปะกานัง อะกุสะลานัง ธัมมานัง ปะหานายะ ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ

ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการละเสีย ซึ่งอกุศลธรรมอันเป็นบาปทั้งหลาย ที่บังเกิดขึ้นแล้ว LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

35


ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้เพื่อการบังเกิดขึ้น แห่งกุศลธรรมทั้งหลายที่ยังไม่ได้บังเกิด

อุปปันนานัง กุสะลานัง ธัมมานัง ฐิติยา อะสัมโมสายะ ภิยโยภาวายะ เวปุลลายะ ภาวะนายะ ปาริปูริยา ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความยั่งยืน ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

36

สาธยายธรรม

อะนุปปันนานัง กุสะลานัง ธัมมานัง อุปปาทายะ ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติจิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ


ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมทั้งหลายที่บังเกิดขึ้นแล้ว

อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาวายาโม

ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า ความเพียรชอบ

กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาสะติ

ภิกษุทั้งหลาย ความระลึกชอบเป็นอย่างไร

อิธ ะ ภิกขะเว ภิกขุ กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นกายในกายอยู่

อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ น�ำความพอใจ และความไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

37


เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นเวทนา ในเวทนาทั้งหลายอยู่

อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ น�ำความพอใจ และความไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้

จิตเต จิตตานุปัสสี วิหะระติ

เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่

อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ น�ำความพอใจ และความไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

38

สาธยายธรรม

เวทะนาสุ เวทะนานุปัสสี วิหะระติ


ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี วิหะระติ เป็นผูม้ ปี กติพจิ ารณาเห็นธรรม ในธรรมทัง้ หลายอยู่

อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ น�ำความพอใจ และความไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้

อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาสะติ ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า ความระลึกชอบ

กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาสะมาธิ ภิกษุทั้งหลาย ความตั้งใจมั่นชอบ เป็นอย่างไร

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

39


ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากอกุศลธรรมทั้งหลาย

สะวิตักกัง สะวิจารัง วิเวกะชัง ปีติสุขัง ปะฐะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ เข้าถึงฌานที่หนึ่ง อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่

วิตักกะวิจารานัง วูปะสะมา อัชฌัตตัง สัมปะสาทะนัง เจตะโส เอโกทิภาวัง อะวิตักกัง อะวิจารัง สะมาธิชัง ปีติสุขัง ทุติยัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ เพราะวิตกวิจารร�ำงับลง เธอเข้าถึงฌานที่สอง อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

40

สาธยายธรรม

อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ วิวิจเจวะ กาเมหิ วิวิจจะ อะกุสะเลหิ ธัมเมหิ


ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุข อันเกิดแต่สมาธิ แล้วแลอยู่

ปีติยา จะ วิราคา อุเปกขะโก จะ วิหะระติ สะโต จะ สัมปะชาโน สุขัญจะ กาเยนะ ปะฏิสังเวเทติ ยันตัง อะริยา อาจิกขันติ อุเปกขะโก สะติมา สุขะวิหารีติ ตะติยัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ เพราะปีติจางหายไป เธอเป็นผู้เพ่งเฉยอยู่ได้ มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม และได้เสวยสุข ด้วยนามกาย ย่อมเข้าถึงฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย กล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุว่า เป็นผู้เฉยอยู่ได้ มีสติ มีความเป็นอยู่เป็นปกติสุข แล้วแลอยู่ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

41


เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ และความดับหายแห่งโสมนัสและโทมนัส ในกาลก่อน เธอย่อมเข้าถึงฌานที่สี่ อั น ไม่ ทุ ก ข์ แ ละไม่ สุ ข มี แ ต่ ส ติ อั น บริ สุ ท ธิ์ เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่

อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาสะมาธิ

ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า สัมมาสมาธิ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

42

สาธยายธรรม

สุขัสสะ จะ ปะหานา ทุกขัสสะ จะ ปะหานา ปุพเพวะ โสมะนัสสะโทมะนัสสานัง อัตถังคะมา อะทุกขะมะสุขัง อุเปกขาสะติปาริสุทธิง จะตุตถัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ


อิทัง วุจจะติ ภิกขะเว ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา อะริยะสัจจัง ภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้แลเราเรียกว่า อริยสัจ คือ หนทางเป็นเครื่องให้ถึง ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์

มหา. ที. ๑๐/๓๔๓/๒๙๙.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

43


k

นิสสิตัสสะ จะลิตัง

ความหวั่นไหว ย่อมมีแก่บุคคล ผู้อันตัณหาและทิฏฐิอาศัยแล้ว

อะนิสสิตัสสะ จะลิตัง นัตถิ

ความหวั่นไหว ย่อมไม่มีแก่บุคคล ผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยแล้ว

จะลิเต อะสะติ ปัสสัทธิ

เมื่อความหวั่นไหวไม่มี ปัสสัทธิ ย่อมมี

ปัสสัทธิยา สะติ นะติ นะ โหติ

เมื่อปัสสัทธิมี ความน้อมไป ย่อมไม่มี

นะติยา อะสะติ อาคะติคะติ นะ โหติ เมื่อความน้อมไปไม่มี การมาและการไปย่อมไม่มี

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

44

สาธยายธรรม

บทสวด ความสิ้นสุดแห่งโลก


อาคะติคะติยา อะสะติ จุตูปะปาโต นะ โหติ

เมื่อการมาและการไปไม่มี การเคลื่อน และการเกิดขึ้น ย่อมไม่มี

จุตูปะปาเต อะสะติ เนวิธะ นะ หุรัง นะ อุภะยะมันตะเร เมื่อการเคลื่อนและการเกิดขึ้นไม่มี อะไรๆ ก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างแห่งโลกทั้งสอง

เอเสวันโต ทุกขัสสะ

นั่นแหละ คือ ที่สุดแห่งทุกข์ละ อุ. ขุ. ๒๕/๒๐๘/๑๖๑.

hhh LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

45


k

ท๎วินนาหัง ภิกขะเว ธัมมานัง อุปัญญาสิง ภิกษุทงั้ หลาย เรายังรูส้ กึ ได้อยู่ ซึ่งธรรมสองอย่าง คือ

ยา จะ อะสันตุฏฐิตา กุสะเลสุ ธัมเมสุ

ความไม่รจู้ กั อิม่ จักพอ ในกุศลธรรมทัง้ หลาย

ยา จะ อัปปะฏิวาณิตา ปะธานัส๎มิง

ความเป็นผูไ้ ม่ถอยกลับ ในการตัง้ ความเพียร

อัปปะฏิวาณัง สุทาหัง ภิกขะเว ปะทะหามิ เราย่อมตั้งไว้ ซึ่งความเพียร อันไม่ถอยกลับว่า

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

46

สาธยายธรรม

บทสวด อธิษฐานความเพียร


กามัง ตะโจ นะหารุ จะ อัฏฐิ จะ อะวะสิสสะตุ สะรีเร อุปะสุสสะตุ มังสะโลหิตัง

หนัง เอ็น กระดูกจักเหลืออยู่ เนือ้ และเลือด ในสรีระจักเหือดแห้งไปก็ตามที

ยันตัง ปุริสัตถาเมนะ ปุริสะวิริเยนะ ปุริสะปะรักกะเมนะ ปัตตัพพัง

ประโยชน์ใดอันบุคคลจะพึงลุได้ด้วยก�ำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบากบัน่ ของบุรษุ

นะ ตัง อะปาปุณิต๎วา วิริยัสสะ สัณฐานัง ภะวิสสะตีติ

หากยังไม่บรรลุถึงประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรนั้นเสียเป็นไม่มี ดังนี้

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

47


ภิกษุทั้งหลาย การตรัสรู้เป็นสิ่งที่เรา ถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาท อนุตตรโยคักเขมธรรม ก็เป็นสิ่งที่เรา ถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาท

ตุเม๎หะ เจปิ ภิกขะเว อัปปะฏิวาณัง ปะทะเหยยาถะ

ภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้พวกเธอ พึงตั้งไว้ ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับว่า

กามัง ตะโจ นะหารุ จะ อัฏฐิ จะ อะวะสิสสะตุ สะรีเร อุปะสุสสะตุ มังสะโลหิตัง

หนัง เอ็น กระดูกจักเหลืออยู่ เนือ้ และเลือดในสรีระจักเหือดแห้งไปก็ตามที

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

48

สาธยายธรรม

ตัสสะ มัยหัง ภิกขะเว อัปปะมาทาธิคะตา โพธิ อัปปะมาทาธิคะโต อะนุตตะโร โยคักเขโม


ยันตัง ปุรสิ ตั ถาเมนะ ปุรสิ ะวิรเิ ยนะ ปุริสะปะรักกะเมนะ ปัตตัพพัง

ประโยชน์ใดอันบุคคลจะพึงลุได้ด้วยก�ำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบากบั่นของบุรุษ

นะ ตัง อะปาปุณิตว๎ า วิริยัสสะ สัณฐานัง ภะวิสสะตีติ

หากยังไม่บรรลุถึงประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรเสียเป็นไม่มี ดังนี้แล้วไซร้

ตุเม๎หะปิ ภิกขะเว นะ จิรัสเสวะ ยัสสัตถายะ กุละปุตตา สัมมะเทวะ อะคารัส๎มา อะนะคาริยัง ปัพพะชันติ ตะทะนุตตะรัง พ๎รัหม๎ ะจะริยะปะริโยสานัง ทิฏเฐวะ ธัมเม สะยัง อะภิญญา สัจฉิกัต๎วา อุปะสัมปัชชะ วิหะริสสะถะ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

49


ทุก. อํ. ๒๐/๖๔/๒๕๑.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

50

สาธยายธรรม

ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอก็จักกระท�ำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิง่ เอง ซึง่ ทีส่ ดุ แห่งพรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรอื่นยิ่งกว่า อันเป็นประโยชน์ ที่ต้องการของกุลบุตร ผู้ออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ ได้ต่อกาลไม่นาน ในทิฏฐธรรม เข้าถึงแล้วแลอยู่ เป็นแน่นอน


บทสวด ละนันทิ k

สัมมา ปัสสัง นิพพินทะติ

เมื่อเห็นอยู่โดยถูกต้อง ย่อมเบื่อหน่าย

นันทิกขะยา ราคักขะโย

เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิ (คือความเพลิน) จึงมีความสิ้นไปแห่งราคะ

ราคักขะยา นันทิกขะโย

เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ จึงมีความสิ้นไปแห่งนันทิ

นันทิราคักขะยา จิตตัง สุวิมุตตันติ วุจจะติ เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิและราคะ กล่าวได้ว่า “จิตหลุดพ้นแล้วด้วยดี” ดังนี้ สฬา. สํ. ๑๘/๑๗๙/๒๔๕. LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

51


k

จะตูหิ ภิกขะเว ธัมเมหิ สะมันนาคะโต ภิกขุ อะภัพโพ ปะริหานายะ นิพพานัสเสวะ สันติเก

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อประกอบพร้อมด้วย ธรรมสี่อย่างแล้ว ย่อมไม่อาจที่จะเสื่อมเสีย มีแต่จะอยู่ใกล้นิพพานอย่างเดียว

กะตะเมหิ จะตูหิ อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ ธรรมสี่อย่าง อะไรบ้างเล่า สี่อย่างคือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้

สีละสัมปันโน โหติ

เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล

อินท๎ริเยสุ คุตตะท๎วาโร โหติ

เป็นผู้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

52

สาธยายธรรม

บทสวด ข้อปฏิบตั อิ นั ไม่เสือ่ มเสีย


โภชะเน มัตตัญญู โหติ

เป็นผู้รู้ประมาณในโภชนะ

ชาคะริยัง อะนุยุตโต โหติ

เป็นผู้ตามประกอบในชาคริยธรรม อยู่เป็นประจ�ำ

กะถัญจะ ภิกขะเว ภิกขุ สีละสัมปันโน โหติ

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล เป็นอย่างไรเล่า

อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ สีละวา โหติ ปาติโมกขะสังวะระสังวุโต วิหะระติ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล ส�ำรวมในปาติโมกข์

อาจาระโคจะระสัมปันโน

ถึงพร้อมด้วยมารยาทและโคจร LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

53


เป็นผู้เห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลาย แม้เพียงเล็กน้อย

สะมาทายะ สิกขะติ สิกขาปะเทสุ

สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย

เอวัง โข ภิกขะเว ภิกขุ สีละสัมปันโน โหติ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอย่างนี้ ชื่อว่า เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล

กะถัญจะ ภิกขะเว ภิกขุ อินท๎ริเยสุ คุตตะท๎วาโร โหติ

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้คุ้มครองทวาร ในอินทรีย์ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า

อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ จักขุนา รูปัง ทิส๎วา ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ได้เห็นรูปด้วยตา

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

54

สาธยายธรรม

อะณุมัตเตสุ วัชเชสุ ภะยะทัสสาวี


โสเตนะ สัททัง สุต๎วา ฟังเสียงด้วยหู

ฆาเนนะ คันธัง ฆายิต๎วา ดมกลิ่นด้วยจมูก

ชิวหายะ ระสัง สายิต๎วา ลิ้มรสด้วยลิ้น

กาเยนะ โผฏฐัพพัง ผุสิต๎วา สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกาย

มะนะสา ธัมมัง วิญญายะ

และได้รู้ธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว

นะ นิมิตตัคคาหี โหติ นานุพ๎ยัญชะนัคคาหี ก็ไม่รับถือเอาทั้งหมด และไม่แยกถือเอาเป็นส่วนๆ

ยัต๎วาธิกะระณะเมนัง จักขุนท๎ริยัง โสตินท๎ริยัง ฆานินท๎ริยัง ชิวหินท๎ริยัง LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

55


สิ่งที่เป็นอกุศลธรรมอันเป็นบาป คือ อภิชฌาและโทมนัส มักไหลไปตามภิกษุ ผู้ไม่ส�ำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะการไม่ส�ำรวมอินทรีย์เหล่าใดเป็นเหตุ

ตัสสะ สังวะรายะ ปะฏิปัชชะติ รักขะติ จักขุนท๎ริยัง จักขุนท๎ริเย โสตินท๎ริยัง โสตินท๎ริเย๎ ฆานินท๎ริยัง ฆานินท๎ริเย ชิวหินท๎ริยัง ชิวหินท๎ริเย กายินท๎ริยัง กายินท๎ริเย มะนินท๎ริยัง มะนินท๎ริเย สังวะรัง อาปัชชะติ เธอปฏิบัติเพื่อปิดกั้นอินทรีย์นั้นไว้ เธอรักษา... และถึงความส�ำรวมซึ่ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

56

สาธยายธรรม

กายินท๎ริยัง มะนินท๎ริยัง อะสังวุตัง วิหะรันตัง อะภิชฌาโทมะนัสสา ปาปะกา อะกุสะลา ธัมมา อันวาสสะเวยยุง


เอวัง โข ภิกขะเว ภิกขุ อินท๎ริเยสุ คุตตะท๎วาโร โหติ

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอย่างนี้ ชื่อว่า เป็นผู้คุ้มครองทวาร ในอินทรีย์ทั้งหลาย

กะถัญจะ ภิกขะเว ภิกขุ โภชะเน มัตตัญญู โหติ

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้รู้ประมาณ ในโภชนะเป็นอย่างไรเล่า

อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ ปะฏิสังขา โยนิโส อาหารัง อาหาเรติ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาโดยแยบคายแล้วจึงฉันอาหาร

เนวะ ทะวายะ นะ มะทายะ นะ มัณฑะนายะ นะ วิภูสะนายะ

ไม่ฉันเพื่อเล่น ไม่ฉันเพื่อมัวเมา ไม่ฉันเพื่อประดับ ไม่ฉันเพื่อตกแต่ง

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

57


แต่ฉันเพียงเพื่อให้กายนี้ตั้งอยู่ได้ เพื่อให้ชีวิตเป็นไป เพื่อป้องกันความล�ำบาก เพื่ออนุเคราะห์พรหมจรรย์

อิติ ปุราณัญจะ เวทะนัง ปะฏิหังขามิ นะวัญจะ เวทะนัง นะ อุปปาเทสสามิ

โดยก�ำหนดรู้ว่า เราจักก�ำจัดเวทนาเก่า (คือ ความหิว) เสีย แล้วไม่ท�ำเวทนาใหม่ (คือ อิ่มจนอึดอัด) ให้เกิดขึ้น

ยาต๎รา จะ เม ภะวิสสะติ อะนะวัชชะตา จะ ผาสุ วิหาโร จาติ ความที่อายุด�ำเนินไปได้ ความไม่มีโทษเพราะอาหาร และความอยู่ผาสุกส�ำราญจะมีแก่เรา ดังนี้

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

58

สาธยายธรรม

ยาวะเทวะ อิมัสสะ กายัสสะ ฐิติยา ยาปะนายะ วิหิงสุปะระติยา พ๎รัห๎มะจะริยานุคคะหายะ


เอวัง โข ภิกขะเว ภิกขุ โภชะเน มัตตัญญู โหติ

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอย่างนี้ ชื่อว่า เป็นผู้รู้ประมาณในโภชนะ

กะถัญจะ ภิกขะเว ภิกขุ ชาคะริยัง อะนุยุตโต โหติ

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ตามประกอบ ในชาคริยธรรมอยู่เนืองนิตย์ เป็นอย่างไรเล่า

อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ ทิวะสัง จังกะเมนะ นิสัชชายะ อาวะระณิเยหิ ธัมเมหิ จิตตัง ปะริโสเธติ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมช�ำระจิตให้หมดจดสิ้นเชิง จากกิเลสที่กั้นจิต ด้วยการเดินจงกรม ด้วยการนั่ง ตลอดวัน

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

59


ครั้นถึงยามแรกแห่งราตรี ก็ช�ำระจิตให้หมดจดสิน้ เชิง จากกิเลสทีก่ นั้ จิต ด้วยการเดินจงกรม และด้วยการนั่งอีก

รัตติยา มัชฌิมัง ยามัง ทักขิเณนะ ปัสเสนะ สีหะเสยยัง กัปเปติ ครั้นยามกลางแห่งราตรี ย่อมส�ำเร็จการนอนอย่างราชสีห์ คือตะแคงข้างขวา

ปาเทนะ ปาทัง อัจจาธายะ สะโต สัมปะชาโน อุฏฐานะสัญญัง มะนะสิกะริต๎วา เท้าเหลื่อมเท้า ตั้งสติสัมปชัญญะ ในการที่จะลุกขึ้น

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

60

สาธยายธรรม

รัตติยา ปะฐะมัง ยามัง จังกะเมนะ นิสัชชายะ อาวะระณิเยหิ ธัมเมหิ จิตตัง ปะริโสเธติ


รัตติยา ปัจฉิมัง ยามัง ปัจจุฏฐายะ จังกะเมนะ นิสัชชายะ อาวะระณิเยหิ ธัมเมหิ จิตตัง ปะริโสเธติ

ครั้นยามสุดท้ายแห่งราตรี กลับลุกขึ้นแล้ว ก็ช�ำระจิตให้หมดจดสิน้ เชิง จากกิเลสทีก่ นั้ จิต ด้วยการเดินจงกรม และด้วยการนั่งอีก

เอวัง โข ภิกขะเว ภิกขุ ชาคะริยัง อะนุยุตโต โหติ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอย่างนี้ชื่อว่า เป็นผู้ตามประกอบในชาคริยธรรม อยู่เนืองนิตย์

อิเมหิ โข ภิกขะเว จะตูหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะโต ภิกขุ อะภัพโพ ปะริหานายะ นิพพานัสเสวะ สันติเกติ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

61


จตุกฺก. อํ. ๒๑/๕๐/๓๗.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

62

สาธยายธรรม

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อประกอบพร้อม ด้วยธรรมสี่อย่างเหล่านี้แล้ว ย่อมไม่อาจที่จะเสื่อมเสีย มีแต่จะอยู่ใกล้นิพพานอย่างเดียวแล


บทสวด อานาปานสติ k

กะถัง ภาวิตา จะ ภิกขะเว อานาปานะสะติ ภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร

กะถัง พะหุลีกะตา จัตตาโร สะติปัฏฐาเน ปะริปูเรนติ

ท�ำให้มากแล้วอย่างไร จึงท�ำสติปัฏฐานทั้งสี่ให้บริบูรณ์ได้

(หมวดกายานุปัสสนา)

ยัส๎มิง สะมะเย ภิกขะเว ภิกขุ ทีฆัง วา อัสสะสันโต ทีฆัง อัสสะสามีติ ปะชานาติ ภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุ เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้ายาว

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

63


เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกยาว

รัสสัง วา อัสสะสันโต รัสสัง อัสสะสามีติ ปะชานาติ เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้าสั้น

รัสสัง วา ปัสสะสันโต รัสสัง ปัสสะสามีติ ปะชานาติ เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกสั้น

สัพพะกายะปะฏิสังเวที อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

64

ย่อมทําการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจเข้า

สาธยายธรรม

ทีฆัง วา ปัสสะสันโต ทีฆัง ปัสสะสามีติ ปะชานาติ


สัพพะกายะปะฏิสังเวที ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจออก

ปัสสัมภะยัง กายะสังขารัง อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้ทํากายสังขารให้รํางับ หายใจเข้า

ปัสสัมภะยัง กายะสังขารัง ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้ทํากายสังขารให้รํางับ หายใจออก

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

65


ภิกษุทั้งหลาย สมัยนั้น ภิกษุนั้นชื่อว่า เป็นผู้เห็นกายในกายอยู่เป็นประจํา

อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง

มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นําอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้

กาเยสุ กายัญญะตะราหัง ภิกขะเว เอตัง วะทามิ ยะทิทัง อัสสาสะปัสสาสัง

ภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าว ลมหายใจเข้า และลมหายใจออก ว่าเป็นกายอันหนึ่ง ๆ ในกายทั้งหลาย

ตัส๎มาติหะ ภิกขะเว กาเย กายานุปัสสี ตัส๎มิง สะมะเย ภิกขุ วิหะระติ อาตาปี LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

66

สาธยายธรรม

กาเย กายานุปัสสี ภิกขะเว ตัส๎มิง สะมะเย ภิกขุ วิหะระติ


สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง

ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้ ภิกษุนั้นย่อมชื่อว่า เป็นผู้เห็นกายในกาย อยู่เป็นประจ�ำ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ น�ำอภิชฌาและโทมนัส ในโลกออกเสียได้ ในสมัยนั้น

(หมวดเวทนานุปัสสนา)

ยัส๎มิง สะมะเย ภิกขะเว ภิกขุ ปีติปะฏิสังเวที อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ

ภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุย่อมท�ำการ ฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผูร้ พู้ ร้อมเฉพาะซึง่ ปีติ หายใจเข้า

ปีติปะฏิสังเวที ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ

ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งปีติ หายใจออก LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

67


ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อม เฉพาะซึ่งสุข หายใจเข้า

สุขะปะฏิสังเวที ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งสุข หายใจออก

จิตตะสังขาระปะฏิสังเวที อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิตตสังขาร หายใจเข้า

จิตตะสังขาระปะฏิสังเวที ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

68

ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิตตสังขาร หายใจออก

สาธยายธรรม

สุขะปะฏิสังเวที อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ


ปัสสัมภะยัง จิตตะสังขารัง อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้ท�ำ จิตตสังขารให้ร�ำงับ หายใจเข้า

ปัสสัมภะยัง จิตตะสังขารัง ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ

ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผูท้ �ำจิตตสังขารให้ร�ำงับอยู่ หายใจออก

เวทะนาสุ เวทะนานุปัสสี ภิกขะเว ตัส๎มิง สะมะเย ภิกขุ วิหะระติ ภิกษุทั้งหลาย สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้เห็น เวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจ�ำ

อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง

มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ น�ำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

69


ภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าว การท�ำในใจเป็นอย่างดีต่อลมหายใจเข้า และลมหายใจออกว่าเป็นเวทนาอันหนึ่ง ๆ ในเวทนาทั้งหลาย

ตัสม๎ าติหะ ภิกขะเว เวทะนาสุ เวทะนานุปสั สี ตัส๎มิง สะมะเย ภิกขุ วิหะระติ อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

70

ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้ ภิกษุนั้นย่อมชื่อว่า เป็นผู้เห็นเวทนา ในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจ�ำ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ น�ำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้ ในสมัยนั้น

สาธยายธรรม

เวทะนาสุ เวทะนาญญะตะราหัง ภิกขะเว เอตัง วะทามิ ยะทิทัง อัสสาสะปัสสาสานัง สาธุกัง มะนะสิการัง


(หมวดจิตตานุปัสสนา)

ยัส๎มิง สะมะเย ภิกขะเว ภิกขุ จิตตะปะฏิสังเวที อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ภิกษุทงั้ หลาย สมัยใด ภิกษุยอ่ มท�ำการ ฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิต หายใจเข้า

จิตตะปะฏิสังเวที ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิต หายใจออก

อะภิปปะโมทะยัง จิตตัง อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้ท�ำจิตให้ปราโมทย์ยิ่ง หายใจเข้า

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

71


ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้ท�ำจิตให้ปราโมทย์ยิ่ง หายใจออก

สะมาทะหัง จิตตัง อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผูท้ �ำจิตให้ตงั้ มัน่ หายใจเข้า

สะมาทะหัง จิตตัง ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้ท�ำจิตให้ตั้งมั่น หายใจออก

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

72

สาธยายธรรม

อะภิปปะโมทะยัง จิตตัง ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ


วิโมจะยัง จิตตัง อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้ท�ำจิตให้ปล่อยอยู่ หายใจเข้า

วิโมจะยัง จิตตัง ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้ท�ำจิตให้ปล่อยอยู่ หายใจออก

จิตเต จิตตานุปัสสี ภิกขะเว ตัส๎มิง สะมะเย ภิกขุ วิหะระติ ภิกษุทั้งหลาย สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้เห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจ�ำ

อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง

มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ น�ำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

73


ภิกษุทั้งหลาย เราไม่กล่าวอานาปานสติว่า เป็นสิ่งที่มีได้ แก่บุคคลผู้มีสติอันลืมหลงแล้ว ไม่มีสัมปชัญญะ

ตัส๎มาติหะ ภิกขะเว จิตเต จิตตานุปัสสี ตัส๎มิง สะมะเย ภิกขุ วิหะระติ อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง

ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุน้นั ในเรื่องนี้ ภิกษุนั้นย่อมชื่อว่า เป็นผู้เห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจ�ำ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ น�ำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้ ในสมัยนั้น

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

74

สาธยายธรรม

นาหัง ภิกขะเว มุฏฐะสะติสสะ อะสัมปะชานัสสะ อานาปานะสะติ วะทามิ


( หมวดธัมมานุปัสสนา )

ยัส๎มิง สะมะเย ภิกขะเว ภิกขุ อะนิจจานุปัสสี อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ

ภิกษุทงั้ หลาย สมัยใด ภิกษุยอ่ มท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจ�ำ หายใจเข้า

อะนิจจานุปัสสี ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ

ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจ�ำ หายใจออก

วิราคานุปัสสี อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ

ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้เห็นซึง่ ความจางคลายอยูเ่ ป็นประจ�ำ หายใจเข้า LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

75


ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความจางคลาย อยู่เป็นประจ�ำ หายใจออก

นิโรธานุปัสสี อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความดับไม่เหลือ อยู่เป็นประจ�ำ หายใจเข้า

นิโรธานุปัสสี ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความดับไม่เหลือ อยู่เป็นประจ�ำ หายใจออก

ปะฏินิสสัคคานุปัสสี อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

76

ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความสลัดคืนอยู่เป็นประจ�ำ หายใจเข้า

สาธยายธรรม

วิราคานุปัสสี ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ


ปะฏินิสสัคคานุปัสสี ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ ย่อมท�ำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความสลัดคืน อยู่เป็นประจ�ำ หายใจออก

ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี ภิกขะเว ตัส๎มิง สะมะเย ภิกขุ วิหะระติ ภิกษุทั้งหลาย สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้เห็นธรรมในธรรมทั้งหลาย อยู่เป็นประจ�ำ

อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง

มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ น�ำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

77


ภิกษุนั้น เป็นผู้เข้าไป เพ่งเฉพาะเป็นอย่างดีแล้ว เพราะเธอเห็น การละอภิชฌาและโทมนัสทัง้ หลาย ของเธอนั้นด้วยปัญญา

ตัสม๎ าติหะ ภิกขะเว ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี ตัสม๎ งิ สะมะเย ภิกขุ วิหะระติ อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้ ภิกษุนั้นย่อมชื่อว่า เป็นผู้เห็นธรรม ในธรรมทั้งหลายอยูเ่ ป็นประจ�ำ มีความเพียรเผากิเลส มีสมั ปชัญญะ มีสติ น�ำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

78

สาธยายธรรม

โส ยันตัง อะภิชฌาโทมะนัสสานัง ปะหานัง ปัญญายะ ทิส๎วา สาธุกัง อัชฌุเปกขิตา โหติ


เอวัง ภาวิตา โข ภิกขะเว อานาปานะสะติ ภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ อันบุคคลเจริญแล้วอย่างนี้

เอวัง พะหุลีกะตา จัตตาโร สะติปัฏฐาเน ปะริปูเรนติ ท�ำให้มากแล้วอย่างนี้แล ชื่อว่า ย่อมท�ำสติปัฏฐานทั้งสี่ให้บริบูรณ์ได้

เอวัง ภาวิตายะ โข ราหุละ อานาปานะสะติยา เอวัง พะหุลีกะตายะ ราหุล เมื่อบุคคลเจริญกระท�ำให้มาก ซึ่งอานาปานสติอย่างนี้แล้ว

เยปิ เต จะริมะกา อัสสาสะปัสสาสา

ลมหายใจเข้าและลมหายใจออก อันจะมีเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อจะดับจิตนั้น LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

79


จะเป็นสิ่งที่เขารู้แจ้งแล้วดับไป หาใช่เป็นสิ่งที่เขาไม่รู้แจ้งไม่ ดังนี้

อุปริ. ม. ๑๔/๑๙๕/๒๘๙. ม. ม. ๑๓/๑๔๒/๖๘๙.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

80

สาธยายธรรม

เตปิ วิทิตาวะ นิรุชฌันติ โน อะวิทิตาติ


บทสวด เพื่อผู้เจ็บไข้

๎î k ยังกัญจิ ภิกขะเว ทุพพะลัง คิลานะกัง ปัญจะ ธัมมา นะ วิชะหันติ ภิกษุทั้งหลาย ถ้าธรรมห้าประการ ไม่เว้นห่างไปเสีย จากคนเจ็บไข้ ทุพพลภาพคนใด

ตัสเสตัง ปาฏิกังขัง นะจิรัสเสวะ ข้อนี้เป็นสิ่งที่เขาผู้นั้นพึงหวังได้ ต่อการไม่นานเทียว คือ

อาสะวานัง ขะยา อะนาสะวัง เจโตวิมุตติง ปัญญาวิมุตติง เขาจักกระท�ำให้แจ้งได้ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

81


เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้ว แลอยู่ต่อกาลไม่นานเทียว

กะตะเม ปัญจะ อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ ธรรมห้าประการนั้นเป็นอย่างไรเล่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้

อะสุภานุปัสสี กาเย วิหะระติ

เป็นผู้มีปกติตามเห็นความไม่งามในกาย

อาหาเร ปฏิกกูละสัญญี

เป็นผู้มีปกติส�ำคัญว่า ปฏิกูลในอาหาร

สัพพะโลเก อะนะภิระตะสัญญี

เป็นผู้มีปกติส�ำคัญว่า ไม่น่ายินดี ในโลกทั้งปวง

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

82

สาธยายธรรม

ทิฏเฐวะ ธัมเม สะยัง อภิญญา สัจฉิกัต๎วา อุปะสัมปัชชะ วิหะริสสะติ


สัพพะสังขาเรสุ อะนิจจานุปัสสี

เป็นผู้มีปกติตามเห็นความไม่เที่ยง ในสังขารทั้งหลาย

มะระณะสัญญา โข ปะนัสสะ อัชฌัตตัง สุปัฏฐิตา โหติ มีสติอันตนเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในกาย แล้วเห็นการเกิดดับภายใน

ยังกัญจิ ภิกขะเว ทุพพะลัง คิลานะกัง อิเม ปัญจะ ธัมมา นะ วิชะหันติ ภิกษุทั้งหลาย ธรรมห้าประการ ไม่เว้นห่างไปเสียจากคนเจ็บไข้ ทุพพลภาพคนใด

ตัสเสตัง ปาฏิกังขัง นะจิรัสเสวะ ข้อนี้เป็นสิ่งที่เขาผู้นั้นพึงหวังได้ ต่อกาลไม่นานเทียว คือ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

83


เขาจักกระท�ำให้แจ้งได้ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้

ทิฏเฐวะ ธัมเม สะยัง อะภิญญา สัจฉิกัตว๎ า อุปะสัมปัชชะ วิหะริสสะตีติ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้ว แลอยู่

ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๖๐/๑๒๑.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

84

สาธยายธรรม

อาสะวานัง ขะยา อะนาสะวัง เจโตวิมุตติง ปัญญาวิมุตติง


บทสวด ที่สุดแห่งทุกข์ k

เอต๎î๎ ถะ จะ เต มาลุงก๎ยะปุตตะ ทิฏฐะสุตะมุตะวิญญาตัพเพสุ ธัมเมสุ

มาลุงก๎ยบุตร ในบรรดาสิ่งที่ท่านได้เห็น ได้ฟัง ได้รู้สึก ได้รู้แจ้งเหล่านั้น

ทิฏเฐ ทิฏฐะมัตตัง ภะวิสสะติ ในสิ่งที่ท่านเห็นแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าเห็น

สุเต สุตะมัตตัง ภะวิสสะติ ในสิ่งที่ท่านฟังแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าได้ยิน

มุเต มุตะมัตตัง ภะวิสสะติ ในสิ่งที่ท่านรู้สึกแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้สึก

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

85


ในสิ่งที่ท่านรู้แจ้งแล้ว ก็จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้แจ้ง

ยะโต โข เต มาลุงก๎ยะปุตตะ ทิฏฐะสุตะมุตะวิญญาตัพเพสุ ธัมเมสุ มาลุงก๎ยบุตร เมื่อใดแล ในบรรดาธรรมเหล่านั้น

ทิฏเฐ ทิฏฐะมัตตัง ภะวิสสะติ เมื่อสิ่งที่เห็นแล้ว สักว่าเห็น

สุเต สุตะมัตตัง ภะวิสสะติ สิ่งที่ฟังแล้ว สักว่าได้ยิน

มุเต มุตะมัตตัง ภะวิสสะติ สิ่งที่รู้สึกแล้ว สักว่ารู้สึก

วิญญาเต วิญญาตะมัตตัง ภะวิสสะติ สิ่งที่รู้แจ้งแล้ว สักว่ารู้แจ้ง ดังนี้แล้ว

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

86

สาธยายธรรม

วิญญาเต วิญญาตะมัตตัง ภะวิสสะติ


ตะโต ต๎วงั มาลุงก๎ยะปุตตะ นะ เตนะ มาลุงก๎ยบุตร เมื่อนั้น ตัวตนย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น

ยะโต ต๎วงั มาลุงก๎ยะปุตตะ นะ เตนะ ตะโต ต๎วงั มาลุงก๎ยะปุตตะ นะ ตัตถะ

มาลุงก๎ยบุตร เมื่อใดตัวตนไม่มี เพราะเหตุนั้น เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในที่นั้นๆ

ยะโต ต๎วงั มาลุงก๎ยะปุตตะ นะ ตัตถะ

มาลุงก๎ยบุตร เมื่อใดตัวท่านไม่มีในที่น้ันๆ

ตะโต มาลุงก๎ยะปุตตะ เนวิธะ นะ หุรัง นะ อุภะยะมันตะเรนะ

เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มใี นโลกอืน่ ไม่มใี นระหว่างแห่งโลกทัง้ สอง

เอเสวันโต ทุกขัสสาติ

นั่นแหละ คือ ที่สุดแห่งความทุกข์ ดังนี้ สฬา. สํ. ๑๘/๙๑/๑๓๓. LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

87


k

กะถัญจะ อานันทะ อะริยัสสะ วินะเย อะนุตตะรา อินท๎ริยะภาวะนา โหติ อานนท์ อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ ในอริยวินัย เป็นอย่างไรเล่า

อิธานันทะ ภิกขุโน จักขุนา รูปัง ทิส๎วา อุปปัชชะติ มะนาปัง

อานนท์ ภิกษุในกรณีนี้ เพราะเห็นรูปด้วยตา อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจก็เกิดขึ้น

อุปปัชชะติ อะมะนาปัง

ไม่เป็นที่ชอบใจ ก็เกิดขึ้น

อุปปัชชะติ มะนาปามะนาปัง

เป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ ก็เกิดขึ้น

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

88

สาธยายธรรม

บทสวด อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ


โส เอวัง ปะชานาติ อุปปันนัง โข เม อิทัง มะนาปัง

ภิกษุนั้นรู้ชัดอย่างนี้ว่า อารมณ์อนั เป็นทีช่ อบใจ ทีเ่ กิดขึน้ แล้วแก่เรานี้

อุปปันนัง อะมะนาปัง

ไม่เป็นที่ชอบใจ ที่เกิดขึ้นแล้ว

อุปปันนัง มะนาปามะนาปัง

เป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ ที่เกิดขึ้นแล้ว

ตัญจะ โข สังขะตัง โอฬาริกัง ปะฏิจจะ สะมุปปันนัง

เป็นสิ่งที่มีปัจจัยปรุงแต่ง เป็นของหยาบๆ เป็นสิ่งที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น

เอตัง สันตัง เอตัง ปะณีตัง

แต่มีสิ่งโน้นซึ่งร�ำงับและประณีต LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

89


กล่าวคือ อุเบกขา ดังนี้

ตัสสะ ตัง อุปปันนัง มะนาปัง

เมื่อรู้ชัดอย่างนี้ อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ ที่เกิดขึ้นแล้ว

อุปปันนัง อะมะนาปัง

ไม่เป็นที่ชอบใจ ที่เกิดขึ้นแล้ว

อุปปันนัง มะนาปามะนาปัง

เป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ ที่เกิดขึ้นแล้ว

นิรุชฌะติ อุเปกขา สัณฐาติ

นั้นย่อมดับไป ส่วนอุเบกขายังคงด�ำรงอยู่

เสยยะถาปิ อานันทะ จักขุมา ปุริโส อุมมิเลต๎วา วา นิมมิเลยยะ นิมมิเลต๎วา วา อุมมิเลยยะ เอวะเมวะ โข อานันทะ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

90

สาธยายธรรม

ยะทิทัง อุเปกขาติ


ยัสสะกัสสะจิ เอวัง สีฆัง เอวัง ตุวะฏัง เอวัง อัปปะกะสิเรนะ อุปปันนัง มะนาปัง อุปปันนัง อะมะนาปัง อุปปันนัง มะนาปามะนาปัง นิรุชฌะติ อุเปกขา สัณฐาติ

อานนท์ อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ ไม่เป็นที่ ชอบใจ เป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ อั น บั ง เกิ ด ขึ้ น แก่ ภิ ก ษุ น้ั น ย่ อ มดั บ ไปเร็ ว เหมือนการกระพริบตาของคน ส่วนอุเบกขา ยังคงด�ำรงอยู่

อะยัง วุจจะตานันทะ อริยัสสะ วินะเย อะนุตตะรา อินท๎ริยะภาวะนา จักขุวิญเญยเยสุ รูเปสุ

อานนท์ นีแ้ ล เราเรียกว่า อินทรียภ์ าวนาชัน้ เลิศ ในอริยวินัย ในกรณีแห่งรูป ที่รู้แจ้งด้วยจักษุ (ผู้สวดพึงพิจารณาอนุโลมตามในกรณีแห่งอินทรีย์ คือ โสตะ, ฆานะ, ชิวหา, กายะ และมโน) อุปริ. ม. ๑๔/๕๔๑/๘๕๖.

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

91


k

สะยานัสสะ เจปิ ภิกขะเว ภิกขุโน ชาคะรัสสะ ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุนอนตื่นอยู่

อุปปัชชะติ กามะวิตักโก วา พ๎ยาปาทะวิตักโก วา วิหิงสาวิตักโก วา ถ้ามีกามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหงิ สาวิตกเกิดขึน้

ตัญจะ ภิกขุ นาธิวาเสติ ปะชะหะติ วิโนเทติ พ๎ยันตีกะโรติ

และภิกษุนั้นก็ไม่รับเอาวิตกเหล่านั้นไว้

อะนะภาวัง คะเมติ

แต่สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ท�ำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

92

สาธยายธรรม

บทสวด ก่อนนอน


สะยาโนปิ ภิกขะเว ภิกขุ ชาคะโร เอวังภูโต อาตาปี โอตตัปปี สะตะตัง สะมิตัง อารัทธะวิริโย ปะหิตัตโตติ วุจจะตีติ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุที่เป็นอย่างนี้ แม้ก�ำลังนอนตื่นอยู่ ก็เรียกว่า เป็นผู้ปรารภความเพียร รู้สึกกลัว (ต่อบาปอกุศล) อุทิศตนในการเผากิเลสอยู่เนืองนิตย์

ตัสสะ เจ อานันทะ ภิกขุโน อิมินา วิหาเรนะ วิหะระโต

อานนท์ ถ้าเมื่อภิกษุนั้นอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้

สะยะนายะ จิตตัง นะมะติ จิตน้อมไปเพื่อการนอน

โส สะยะติ เอวัง มัง สะยันตัง นาภิชฌาโทมะนัสสา ปาปะกา อะกุสะลา ธัมมา อันวาสสะวิสสันตีติ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

93


อิติหะ ตัตถะ สัมปะชาโน โหติ ในกรณีอย่างนี้ ภิกษุน้ันชื่อว่า เป็นผู้มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ในกรณีแห่งการนอนนั้น

จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๘/๑๑. อุปริ. ม. ๑๔/๒๓๘/๒๔๘.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

94

สาธยายธรรม

ภิกษุนั้นก็นอนด้วยการตั้งจิตว่า อกุศลธรรมอันเป็นบาปทั้งหลาย คือ อภิชฌาและโทมนัส จักไม่ไหลไปตามเราผู้นอนอยู่ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้


บทสวด ธรรมวินัยคือศาสดา k

สิยา โข ปะนานันทะ ตุม๎หากัง

อานนท์ ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า

เอวะมัสสะ อะตีตะสัตถุกัง ปาวะจะนัง นัตถิ โน สัตถาติ ธรรมวินัยของพวกเรา มีพระศาสดา ล่วงลับไปแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดา ดังนี้

นะ โข ปะเนตัง อานันทะ เอวัง ทัฏฐัพพัง อานนท์ ข้อนี้ พวกเธออย่าคิดดังนั้น

โย โว อานันทะ มะยา ธัมโม จะ วินะโย จะ เทสิโต ปัญญัตโต อานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

95


ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเรา มหา. ที. ๑๐/๑๗๘/๑๔๑.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

96

สาธยายธรรม

โส โว มะมัจจะเยนะ สัตถา


บทสวด พึ่งตนพึ่งธรรม k

เย หิ เกจิ อานันทะ เอตะระหิ วา มะมัจจะเย วา

อานนท์ ในกาลบัดนี้ก็ดี ในกาลล่วงไปแห่งเราก็ดี ใครก็ตาม

อัตตะทีปา วิหะริสสันติ อัตตะสะระณา อะนัญญะสะระณา จักต้องมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ

ธัมมะทีปา ธัมมะสะระณา อะนัญญะสะระณา

มีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

97


อานนท์ ภิกษุพวกใด เป็นผู้ใคร่ในสิกขา ภิกษุพวกนัน้ จักเป็นผูอ้ ยูใ่ นสถานะอันเลิศทีส่ ดุ แล มหา. ที. ๑๐/๑๑๙/๙๓.

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

98

สาธยายธรรม

ตะมะตัคเคเมเต อานันทะ ภิกขุ ภะวิสสันติ เย เกจิ สิกขากามาติ


บทสวด ปัจฉิมวาจา k

หันทะ ทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว

ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า

วะยะธัมมา สังขารา

สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา

อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ

เธอทัง้ หลาย จงถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด... มหา. ที. ๑๐/๑๘๐/๑๔๓..

hhh

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

99


k

(หรือการเจริญพรหมวิหาร )

เธอพึ ง ศึ ก ษาอย่ า งนี้ ว ่ า จิ ต ของเราจั ก ตั้ ง มั่ น ด�ำรงอยู่ด้วยดีในภายใน และอกุศลธรรมอันเป็นบาป ที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบง�ำจิตได้ เมื่อใด จิตของเธอ เป็นจิตตั้งมั่น ด�ำรงอยู่ด้วยดีแล้วในภายใน และอกุศลธรรมอันเป็นบาปทีเ่ กิดขึน้ แล้ว ไม่ครอบง�ำจิตได้ เมือ่ นัน้ เธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเจริญ กระท�ำให้มากซึ่ง เมตตาเจโตวิมตุ ติ, กรุณาเจโตวิมตุ ติ, มุทติ าเจโตวิมตุ ติ, อุเบกขาเจโตวิมุตติ ท�ำให้เป็นดุจยาน ท�ำให้เป็นที่ตั้ง ให้มั่นคง สั่งสม ปรารภดีแล้ว เมื่อเธอพิจารณาเห็นตนบริสุทธิ์ พ้นแล้วจาก อกุ ศ ลธรรมอั น เป็ น บาปที่ เ กิ ด ขึ้ น ปราโมทย์ ก็ เ กิ ด เมื่ อ เธอเกิ ด ปราโมทย์ แ ล้ ว ปี ติ ก็ เ กิ ด เมื่ อ เธอมี ใ จ ประกอบด้วยปีตแิ ล้ว กายก็สงบร�ำงับ ผู้มกี ายสงบร�ำงับ ย่อมเสวยสุข จิตของผู้มีสุขย่อมตั้งมั่นเป็นสมาธิ

LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

100

สาธยายธรรม

การเจริญเมตตา


เธอมีจิตประกอบด้วยเมตตา แผ่ไปสู่ทิศที่ ๑ อยู่ แผ่ไปสู่ทิศที่ ๒ ก็อย่างนั้น แผ่ไปสู่ทิศที่ ๓ ก็อย่างนั้น แผ่ไปสู่ทิศที่ ๔ ก็อย่างนั้น และเธอมีจิตประกอบด้วย เมตตา อันกว้างขวาง เป็นส่วนใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มเี วร ไม่มพี ยาบาท แผ่ไปทัง้ เบือ้ งบน เบือ้ งต�ำ่ เบือ้ งขวาง ทั่วทุกทาง เสมอหน้ากันตลอดโลกทั้งปวงที่มีอยู่ มีจิตประกอบด้วยกรุณา แผ่ไปสู่ทิศที่ ๑ อยู่ แผ่ไปสู่ทิศที่ ๒ ก็อย่างนัน้ แผ่ไปสู่ทศิ ที่ ๓ ก็อย่างนัน้ แผ่ไปสูท่ ศิ ที่ ๔ ก็อย่างนั้น และเธอมีจิตประกอบด้วย กรุณา อันกว้างขวาง เป็นส่วนใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มเี วร ไม่มพี ยาบาท แผ่ไปทัง้ เบือ้ งบน เบือ้ งต�ำ่ เบือ้ งขวาง ทั่วทุกทาง เสมอหน้ากันตลอดโลกทั้งปวงที่มีอยู่ มีจิตประกอบด้วยมุทิตา แผ่ไปสู่ทิศที่ ๑ อยู่ แผ่ไปสู่ทิศที่ ๒ ก็อย่างนัน้ แผ่ไปสู่ทศิ ที่ ๓ ก็อย่างนัน้ แผ่ไปสูท่ ศิ ที่ ๔ ก็อย่างนั้น และเธอมีจิตประกอบด้วย มุทิตา อันกว้างขวาง เป็นส่วนใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มเี วร ไม่มพี ยาบาท แผ่ไปทัง้ เบือ้ งบน เบือ้ งต�ำ่ เบือ้ งขวาง ทั่วทุกทาง เสมอหน้ากันตลอดโลกทั้งปวงที่มีอยู่ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

101


LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

102

สาธยายธรรม

มีจิตประกอบด้วยอุเบกขา แผ่ไปสู่ทิศที่ ๑ อยู่ แผ่ไปสู่ทิศที่ ๒ ก็อย่างนั้น แผ่ไปสู่ทิศที่ ๓ ก็อย่างนั้น แผ่ไปสูท่ ศิ ที่ ๔ ก็อย่างนั้น และเธอมีจิตประกอบด้วย อุเบกขา อันกว้างขวาง เป็นส่วนใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มเี วร ไม่มพี ยาบาท แผ่ไปทัง้ เบือ้ งบน เบือ้ งต�ำ่ เบือ้ งขวาง ทั่วทุกทาง เสมอหน้ากันตลอดโลกทั้งปวงที่มีอยู่ สระโบกขรณี มีนำ�้ ใสจืด เย็น สะอาด มีทา่ อันดี น่ารื่นรมย์ ถ้าบุรุษมาแต่ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ และจากที่ไหนๆ อันความร้อนแผดเผา เร่ า ร้ อ น ล�ำบาก กระหาย อยากดื่ ม น�้ ำ เขามาถึ ง สระโบกขรณีนั้นแล้ว ก็บรรเทาความอยากดื่มน�้ำ และ ความกระวนกระวายเพราะความร้อนเสียได้ แม้ฉันใด เธอมาถึงธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว เจริญเมตตา กรุณา มุทติ า และอุเบกขาอย่างนัน้ ย่อมได้ความสงบจิต ณ ภายใน ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เรากล่าวว่าเป็นผู้ปฏิบัติ ข้อปฏิบัติอันดียิ่ง


เปรียบเหมือนคนเป่าสังข์ผู้มีก�ำลัง ย่อมเป่าสังข์ ให้ได้ยนิ ได้ทงั้ สีท่ ศิ โดยไม่ยากฉันใด ในเมตตาเจโตวิมตุ ติ (กรุณาเจโตวิมุตติ..., มุทิตาเจโตวิมุตติ..., อุเบกขาเจโตวิมุตติ...,) ที่เจริญแล้วอย่างนี้ กรรมชนิดที่ท�ำอย่างมี ขีดจ�ำกัดย่อมไม่มีเหลืออยู่ ไม่ตั้งอยู่ในนั้น ก็ฉันนั้น เมื่ อ ใดเธอเจริ ญ สมาธิ นี้ อ ย่ า งนี้ เจริ ญ ดี แ ล้ ว เมื่ อ นั้ น เธอจั ก เดิ น ไปในทางใดๆ ก็ จั ก เดิ น เป็ น สุ ข ในทางนั้นๆ ยืนอยู่ในที่ใดๆ ก็จักยืนเป็นสุขในที่นั้นๆ นั่งอยู่ในที่ใดๆ ก็จักนั่งเป็นสุขในที่นั้นๆ นอนอยู่ที่ใดๆ ก็จักนอนเป็นสุขในที่น้ันๆ เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติ อันบุคคลเสพมาแต่แรก ท�ำให้ เ จริ ญ แล้ ว ท�ำให้ ม ากแล้ ว ท�ำให้ เ ป็ น ดุ จ ยาน ที่เทียมดีแล้ว ท�ำให้เป็นที่ตั้ง ประพฤติสั่งสมเนืองๆ ปรารภสม�่ำเสมอดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ อย่าง คือ หลับเป็นสุข ๑ ตื่นเป็นสุข ๑ LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

103


สตฺตก. อํ. ๒๓/๓๐๘/๑๖๐. มู. ม. ๑๒/๕๑๘/๔๘๒. เอกาทสก. อํ. ๒๔/๓๗๖/๒๒๒. สี. ที. ๙/๓๑๐/๓๘๓-๔. LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

104

สาธยายธรรม

ไม่ฝันร้าย ๑ เป็นที่รักของพวกมนุษย์ ๑ เป็นที่รักของพวกอมนุ​ุษย์ ๑ เทพยดารักษา ๑ ไฟก็ดี ยาพิษก็ดี ศัสตราก็ดีไม่ต้องบุคคลนั้น ๑ จิตตั้งมั่นได้รวดเร็ว ๑ สีหน้าผุดผ่อง ๑ ไม่หลงท�ำกาละ ๑ เมื่อยังไม่บรรลุคุณวิเศษที่ยิ่งขึ้นไป ย่อมเกิดในพรหมโลก ๑ เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติ อันบุคคลเสพมาแต่แรก ท�ำให้ เ จริ ญ แล้ ว ท�ำให้ ม ากแล้ ว ท�ำให้ เ ป็ น ดุ จ ยาน ที่เทียมดีแล้ว ท�ำให้เป็นที่ตั้ง ประพฤติสั่งสมเนืองๆ ปรารภสม�่ำเสมอดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ อย่างนี้แล.


คำ�ชี้ชวนวิงวอน k

ภิกษุทั้งหลาย โยคกรรม อันเธอพึงกระท�ำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์” นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงท�ำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้กระท�ำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ วาจาเครื่องพร�่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย. มหาวาร. สํ. ๑๑/๔๑๓/๑๖๕๔. สฬา. สํ. ๑๘/๔๕๒/๗๔๑. LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

105


การสาธยายธรรม ที่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น k ...ภิกษุท้งั หลาย ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครู รูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภกิ ษุ; และเธอนั้น ก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดาร ตามที่เธอได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แต่เธอ กระท�ำการท่องบ่นซึ่งธรรม โดยพิสดาร ตามที่ตนฟังมา เล่าเรียนมา อยู่. เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น ตามที่เธอ ท�ำการท่องบ่นซึ่งธรรม โดยพิสดาร ตามที่ได้ฟังมา เล่าเรียนมาอย่างไร. LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

106


เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีตยิ ่อมเกิด; เมื่อใจปีติ กายย่อมร�ำงับ; ผู้มีกายร�ำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. ภิกษุท้งั หลาย ! นี้คือ ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้น ย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบ ย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามล�ำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า ที่ตนยังไม่บรรลุตามล�ำดับ. ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๓/๒๖. LOGO BUDDHAWAJANA INSTITUTE

107


ผูป้ ระสงค์การสาธยายธรรม หมายเหตุผรู้ วบรวม

สำ�หรับผูป้ ระสงค์การสาธยายธรรม (สชฺฌาย) คำ�ทีต่ รัสจากพระโอษฐ์ ของตถาคตนัน้ เป็นสิง่ ทีส่ มควรต่อการสาธยายได้ทง้ั หมด แต่บท ทีพ่ ระองค์สาธยายด้วยพระองค์เองเมือ่ อยูว่ เิ วกหลีกเร้นผูเ้ ดียวนัน้ คือ อิทปั ปัจจยตาและปฏิจจสมุปบาท อิทปั ปัจจยตาและปฏิจจสมุปบาท

-บาลี นิทาน. สํ. ๑๖/๘๕/๑๕๙.

ภิกษุทง้ั หลาย อริยสาวกในธรรมวินยั นี้ ย่อมกระทำ�ไว้ในใจ โดยแยบคายเป็นอย่างดี ซึง่ ปฏิจจสมุปบาทนัน่ เทียว ดังนีว้ า่ เมือ่ สิง่ นีม้ ี เพราะความเกิดขึน้ แห่งสิง่ นี้ เมือ่ สิง่ นีไ้ ม่ม ี เพราะความดับไปแห่งสิง่ นี ้

สิง่ นีย้ อ่ มมี สิง่ นีจ้ งึ เกิดขึน้ . สิง่ นีย้ อ่ มไม่มี สิง่ นีจ้ งึ ดับไป

ได้แก่สง่ิ เหล่านี้ คือ เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย เพราะมีสงั ขารเป็นปัจจัย เพราะมีวญ ิ ญาณเป็นปัจจัย เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย เพราะมีผสั สะเป็นปัจจัย

จึงมีสงั ขารทัง้ หลาย จึงมีวญ ิ ญาณ จึงมีนามรูป จึงมีสฬายตนะ จึงมีผสั สะ จึงมีเวทนา


เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตณ ั หา เพราะมีตณ ั หาเป็นปัจจัย จึงมีอปุ าทาน เพราะมีอปุ าทานปัจจัย จึงมีภพ เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ เพราะมีชาติ เป็นปัจจัย ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะ โทมนัสอุปายาสะทัง้ หลาย จึงเกิดขึน้ ครบถ้วน ความเกิดขึน้ พร้อมแห่งกองทุกข์ทง้ั สิน้ นี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี.้ เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานัน้ นัน่ เทียว จึงมีความดับแห่งสังขาร เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ เพราะมีความดับแห่งชาตินน่ั แล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะ โทมนัสอุปายาสะทัง้ หลาย จึงดับสิน้ ความดับลงแห่งกองทุกข์ทง้ั สิน้ นี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี.้



ขอนอบน้อมแด่

ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะ พระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

(สาวกตถาคต) คณะงานธัมมะ วัดนาปาพง (กลุ่มอาสาสมัครพุทธวจน-หมวดธรรม)


มูลนิธิพุทธโฆษณ์ มูลนิธิแห่งมหาชนชาวพุทธ ผู้ซึ่งชัดเจน และมั่นคงในพุทธวจน เริม่ จากชาวพุทธกลุม่ เล็กๆ กลุม่ หนึง่ ได้มโี อกาสมาฟังธรรมบรรยายจาก ท่านพระอาจารย์คกึ ฤทธิ์ โสตฺถผิ โล ทีเ่ น้นการน�าพุทธวจน (ธรรมวินยั จากพุทธโอษฐ์ ทีพ่ ระพุทธองค์ทรงยืนยันว่าทรงตรัสไว้ดแี ล้ว บริสทุ ธิบ์ ริบรู ณ์สนิ้ เชิง ทัง้ เนือ้ ความและ พยัญชนะ) มาใช้ในการถ่ายทอดบอกสอน ซึง่ เป็นรูปแบบการแสดงธรรมทีต่ รงตาม พุทธบัญญัติตามที่ ทรงรับสั่งแก่พระอรหันต์ ๖๐ รูปแรกที่ปาอิสิปตนมฤคทายวัน ในการประกาศพระสัท ธรรม และเป็นลักษณะเฉพาะทีภ่ กิ ษุในครัง้ พุทธกาลใช้เป็น มาตรฐานเดียว หลักพุทธวจนนี้ ได้เข้ามาตอบค�าถาม ต่อความลังเลสงสัย ได้เข้ามาสร้าง ความชัดเจน ต่อความพร่าเลือนสับสน ในข้อธรรมต่างๆ ที่มีอยู่ในสังคมชาวพุทธ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลจากสาเหตุเดียวคือ การไม่ใช้ค�าของพระพุทธเจ้าเป็นตัวตั้งต้น ในการศึกษาเล่าเรียน ด้วยศรัทธาอย่างไม่หวัน่ ไหวต่อองค์สมั มาสัมพุทธะ ในฐานะพระศาสดา ท่านพระอาจารย์คกึ ฤทธิ์ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า “อาตมาไม่มคี า� สอนของตัวเอง” และใช้เวลาที่มีอยู่ ไปกับการรับสนองพุทธประสงค์ ด้วยการโฆษณาพุทธวจน เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม และความประสานเป็นหนึ่งเดียวของชาวพุทธ เมือ่ กลับมาใช้หลักพุทธวจน เหมือนทีเ่ คยเป็นในครัง้ พุทธกาล สิง่ ทีเ่ กิดขึน้ คือ ความชัดเจนสอดคล้องลงตัว ในความรู้ความเข้าใจ ไม่ว่าในแง่ของหลักธรรม ตลอดจนมรรควิธที ตี่ รง และสามารถน�าไปใช้ปฏิบตั ใิ ห้เกิดผล รูเ้ ห็นประจักษ์ได้จริง ด้วยตนเองทันที ด้วยเหตุน้ี ชาวพุทธทีเ่ ห็นคุณค่าในค�าของพระพุทธเจ้าจึงขยายตัว มากขึ้นเรื่อยๆ เกิดเป็น “กระแสพุทธวจน” ซึ่งเป็นพลังเงียบที่ก�าลังจะกลายเป็น คลืน่ ลูกใหม่ ในการกลับไปใช้ระบบการเรียนรูพ้ ระสัทธรรม เหมือนดังครัง้ พุทธกาล


ด้วยการขยายตัวของกระแสพุทธวจนนี้ สื่อธรรมที่เป็นพุทธวจน ไม่ว่า จะเป็นหนังสือ หรือซีดี ซึ่งแจกฟรีแก่ญาติโยมเริ่มมีไม่พอเพียงในการแจก ทั้งนี้ เพราะจ�านวนของผู้ที่สนใจเห็นความส�าคัญของพุทธวจน ได้ขยายตัวมากขึ้นอย่าง รวดเร็ว ประกอบกับว่าท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เคร่งครัดในข้อวัตร ปฏิบัติที่พระศาสดาบัญญัติไว้ อันเป็นธรรมวินัยที่ออกจากพระโอษฐ์ของตถาคต โดยตรง การเผยแผ่พุทธวจนที่ผ่านมา จึงเป็นไปในลักษณะสันโดษตามมีตามได้ เมื่อมีโยมมาปวารณาเป็นเจ้าภาพในการจัดพิมพ์ ได้มาจ�านวนเท่าไหร่ ก็ทยอยแจก ไปตามทีม่ เี ท่านัน้ เมือ่ มีมา ก็แจกไป เมือ่ หมด ก็คอื หมด เนือ่ งจากว่า หน้าทีใ่ นการด�ารงพระสัทธรรมให้ตงั้ มัน่ สืบไป ไม่ได้ผกู จ�ากัด อยู่แต่เพียงพุทธสาวกในฐานะของสงฆ์เท่านั้น ฆราวาสกลุ่มหนึ่งซึ่งเห็นความส�าคัญ ของพุทธวจน จึงรวมตัวกันเข้ามาช่วยขยายผลในสิง่ ทีท่ า่ นพระอาจารย์คกึ ฤทธิ์ โสตฺถผิ โล ท�าอยูแ่ ล้ว นัน่ คือ การน�าพุทธวจนมาเผยแพร่โฆษณา โดยพิจารณาตัดสินใจจดทะเบียน จัดตั้งเป็นมูลนิธิอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เพื่อให้การด�าเนินการต่างๆ ทั้งหมด อยูใ่ นรูปแบบทีโ่ ปร่งใส เปิดเผย และเปิดกว้างต่อสาธารณชนชาวพุทธทัว่ ไป ส�าหรับผู้ที่เห็นความส�าคัญของพุทธวจน และมีความประสงค์ที่จะด�ารง พระสัทธรรมให้ตงั้ มัน่ ด้วยวิธขี องพระพุทธเจ้า สามารถสนับสนุนการด�าเนินการตรงนีไ้ ด้ ด้วยวิธีง่ายๆ นั่นคือ เข้ามาใส่ใจศึกษาพุทธวจน และน�าไปใช้ปฏิบัติด้วยตนเอง เมื่อรู้ประจักษ์ เห็นได้ด้วยตนแล้ว ว่ามรรควิธีที่ได้จากการท�าความเข้าใจ โดย ใช้ค�าของพระพุทธเจ้าเป็นตัวตั้งต้นนั้น น�าไปสู่ความเห็นที่ถูกต้อง ในหลักธรรม อันสอดคล้องเป็นเหตุเป็นผล และเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว กระทั่งได้ผลตามจริง ท�าให้เกิดมีจิตศรัทธา ในการช่วยเผยแพร่ขยายสื่อพุทธวจน เพียงเท่านี้ คุณก็คือ หนึง่ หน่วยในขบวน “พุทธโฆษณ์” แล้ว นี่คือเจตนารมณ์ของมูลนิธิพุทธโฆษณ์ นั่นคือเป็นมูลนิธิแห่งมหาชน ชาวพุทธ ซึง่ ชัดเจน และมัน่ คงในพุทธวจน


ผู้ที่สนใจรับสื่อธรรมที่เป็นพุทธวจน เพื่อไปใช้ศึกษาส่วนตัว หรือน�าไปแจกเป็นธรรมทาน แก่พ่อแม่พี่น้อง ญาติ หรือเพื่อน สามารถมารับได้ฟรี ที่วัดนาปาพง หรือตามที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์ได้รับนิมนต์ไปแสดงธรรมนอกสถานที่ ส�าหรับรายละเอียดกิจธรรมต่างๆ ภายใต้เครือข่ายพุทธวจนโดยวัดนาปาพง ค้นหา ข้อมูลได้จาก www.buddhakos.org หรือ www.watnapp.com หากมีความจ�านงที่จะรับไปแจกเป็นธรรมทานในจ�านวนหลายสิบชุด ขอความกรุณาแจ้งความจ�านงได้ที่ มูลนิธิพุทธโฆษณ์ ประสานงานและเผยแผ่ : เลขที่ ๒๙/๓ หมู่ที่ ๗ ถนนเลียบคลอง ๑๐ ฝั่งตะวันออก ต�าบลบึงทองหลาง อ�าเภอล�าลูกกา จังหวัดปทุมธานี ๑๒๑๕๐ โทรศัพท์ ๐๘ ๒๒๒๒ ๕๗๙๐-๙๔, ๐๘ ๕๐๕๘ ๖๘๘๘, ๐๘ ๑๕๑๓ ๑๖๑๑ โทรสาร ๐ ๒๑๕๙ ๐๕๒๕-๖ เว็บไซต์ : www.buddhakos.org อีเมล์ : buddhakos@hotmail.com สนับสนุนการเผยแผ่พุทธวจนได้ที่ ชือ่ บัญชี “มูลนิธพิ ทุ ธโฆษณ์” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา คลอง ๑๐ (ธัญบุร)ี ประเภท บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี ๓๑๘-๒-๔๗๔๖๑-๐


ขอกราบขอบพระคุณแด่

พระอาจารย์คกึ ฤทธิ์ โสตฺถผิ โล และคณะสงฆ์วดั นาป่าพง ที่กรุณาให้ค�าปรึกษาในการจัดท�าหนังสือเล่มนี้

ติดตามการเผยแผ่พระธรรมค�าสอนตามหลักพุทธวจน โดย พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ได้ที่

เว็บไซต์ • • • • • • • • • • •

http://www.watnapp.com : หนังสือ และสื่อธรรมะ บนอินเทอร์เน็ต http://media.watnapahpong.org : ศูนย์บริการมัลติมีเดียวัดนาปาพง http://www.buddha-net.com : เครือข่ายพุทธวจน http://etipitaka.com : โปรแกรมตรวจหาและเทียบเคียงพุทธวจน http://www.watnapahpong.com : เว็บไซต์วัดนาปาพง http://www.buddhakos.org : มูลนิธิพุทธโฆษณ์ http://www.buddhawajanafund.org : มูลนิธิพุทธวจน http://www.ratana5.com : พุทธวจนสมาคม http://www.buddhawajana-training.com : ศูนย์ปฏิบัติพุทธวจน http://www.buddhawaj.org : ฐานข้อมูลพระสูตรออนไลน์, เสียงอ่านพุทธวจน http://www.buddhaoat.org : กลุ่มผู้สนับสนุนการเผยแผ่พุทธวจน

ดาวน์โหลดโปรแกรมตรวจหาและเทียบเคียงพุทธวจน (E-Tipitaka) ส�าหรับคอมพิวเตอร์

• ระบบปฏิบัติการ Windows, Macintosh, Linux http://etipitaka.com/download หรือ รับแผ่นโปรแกรมได้ที่วัดนาปาพง

ส�าหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่และแท็บเล็ต

• ระบบปฏิบัติการ Android ดาวน์โหลดได้ที่ Play Store โดยพิมพ์ค�าว่า พุทธวจน หรือ e-tipitaka • ระบบปฏิบัติการ iOS (ส�าหรับ iPad, iPhone, iPod) ดาวน์โหลดได้ที่ App Store โดยพิมพ์ค�าว่า พุทธวจน หรือ e-tipitaka

ดาวน์โหลดโปรแกรมพุทธวจน (Buddhawajana) เฉพาะส�าหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่และแท็บเล็ต

• ระบบปฏิบัติการ Android ดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store โดยพิมพ์ค�าว่า พุทธวจน หรือ buddhawajana • ระบบปฏิบัติการ iOS (ส�าหรับ iPad, iPhone, iPod) ดาวน์โหลดได้ที่ App Store โดยพิมพ์ค�าว่า พุทธวจน หรือ buddhawajana

วิทยุ

• คลื่น ส.ว.พ. FM ๙๑.๐ MHz ทุกวันพระ เวลา ๑๗.๔๐ น.


ร่วมสนับสนุนการจัดทำ�โดย คณะงานธัมมะ วัดนาป่าพง (กลุ่มอาสาสมัครพุทธวจนหมวดธรรม), คณะศิษย์วัดนาป่าพง, กลุ่มศิษย์ตถาคต, กลุ่มสมณะศากยะปุตติยะ, กลุ่มธรรมะสีขาว, กลุ่มพุทธบริษัทศากยบุตร, กลุ่มพุทธโอษฐ์, กลุ่มชวนม่วนธรรม, กลุ่มละนันทิ, กลุ่มพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบริษัทการบินไทย, กลุ่มมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช สำ�นักงานการศึกษาต่อเนื่อง, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (องครักษ์) ชมรมวิศวกรความรู้เพื่อสังคม, ชมรมพุทธวจนอุดรธานี, ชมรมธรรมปรีดา, ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำ�นักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, บจก. สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น, บจก. ดาต้าโปรดักส์, บจก. 3M ประเทศไทย, บจก. บางไทรไฟเบอร์บอร์ด, บจก. เอ็นอีซี โทคิน อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย), บจก. สยามรักษ์, บจก. เซเว่นสเต็ปส์, บจก. เมคเทค, บจก. ไดเวอร์ส เคมีคอลส์, บจก. ห้างพระจันทร์โอสถ, บจก.สมสุข สหภัทรสตีลล์, บจก.ทองแป้น, บจก. สมาย คอนเทนเนอร์ อุตสาหกรรม, บจก. อี.ซี.ที. ซิสเต็ม, บจก. อี.ซี.ที. เอ็นจิเนียริง่ , บจก. อี.ซี.ที. ซัพพลาย, บจก. อี.ซี.ที อินเตอร์เนชั่นแนล, บจก. อี.ซี.ที. โปรเฟสชั่นแนล, บจก. คอร์โดมา อินเตอร์เนชั่นแนล, บมจ. ณุศาศิริ, หจก. อินเตอร์ คิด, สถานกายภาพบำ�บัด คิดดีคลินิค, ร้านต้นมะขามช่างทอง, ร้านเสบียงบุญ, บ้านเมตตาเรสซิเด้นท์, บ้านพุทธวัจน์


ลงสะพานคลอง ๑๐ ไปยูเทิร์นแรกมา แล้วเลี้ยวซ้ายก่อนขึ้นสะพาน

ลงสะพานคลอง ๑๐ เลี้ยวซ้ายคอสะพาน

โทรศัพท์ ๐๘ ๑๕๑๓ ๑๖๑๑, ๐๘ ๔๐๙๖ ๘๔๓๐, ๐๘ ๒๒๒๒ ๕๗๙๐-๔, ๐๘ ๖๕๕๒ ๒๔๕๙

แนวทิวสน วัดนาป่าพง

แผนที่วัดนาป่าพง


๑๐

พระสูตรของความส�าคัญ ทีช่ าวพุทธต้องศึกษา แต่คา� สอนจากพระพุทธเจ้า เท่านัน้

ผ่านมา ๒,๕๐๐ กว่าปี ค�าสอนทางพระพุทธศาสนาเกิดความหลากหลายมากขึน้ มีสา� นักต่างๆ มากมาย ซึง่ แต่ละหมูค่ ณะก็มคี วามเห็นของตน หามาตรฐานไม่ได้ แม้จะกล่าวในเรือ่ งเดียวกัน ทัง้ นีไ้ ม่ใช่เพราะค�าสอนของพระพุทธเจ้าไม่สมบูรณ์ แล้วเราควรเชือ่ และปฏิบตั ติ ามใคร ? ลองพิจารณาหาค�าตอบง่ายๆ ได้จาก ๑๐ พระสูตร ซึง่ พระตถาคตทรงเตือนเอาไว้ แล้วตรัสบอกวิธปี อ้ งกันและแก้ไขเหตุเสือ่ มแห่งธรรมเหล่านี.้ ขอเชิญมาตอบตัวเองกันเถอะว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง ? ทีพ่ ทุ ธบริษทั จะมีมาตรฐานเพียงหนึง่ เดียว คือ “พุทธวจน” ธรรมวินยั จากองค์พระสังฆบิดาอันวิญญูชนพึงปฏิบตั แิ ละรูต้ ามได้เฉพาะตน ดังนี.้ ๑. พระองค์ทรงสามารถก�าหนดสมาธิ เมือ่ จะพูด ทุกถ้อยค�าจึงไม่ผดิ พลาด -บาลี มู. ม. ๑๒/๔๕๘/๔๓๐.

อัคคิเวสนะ ! เรานัน้ หรือ จ�าเดิมแต่เริม่ แสดง กระทัง่ ค�าสุดท้ายแห่ง การกล่าวเรือ่ งนัน้ ๆ ย่อมตัง้ ไว้ซงึ่ จิตในสมาธินมิ ติ อันเป็นภายในโดยแท้ ให้จติ ด�ารงอยู ่ ให้จติ ตัง้ มัน่ อยู ่ กระท�าให้มจี ติ เป็นเอก ดังเช่นทีค่ นทัง้ หลาย เคยได้ยนิ ว่าเรากระท�าอยูเ่ ป็นประจ�า ดังนี.้


๒. แต่ละค�าพูดเป็นอกาลิโก คือ ถูกต้องตรงจริงไม่จา� กัดกาลเวลา -บาลี มู. ม. ๑๒/๔๘๕/๔๕๑.

ภิกษุทั้งหลาย ! พวกเธอทัง้ หลายเป็นผูท้ เี่ ราน�าไปแล้วด้วยธรรมนี้ อันเป็นธรรมทีบ่ คุ คลจะพึงเห็นได้ดว้ ยตนเอง (สนฺทฏิ ิโก) เป็นธรรมให้ ผลไม่จา� กัดกาล (อกาลิโก) เป็นธรรมทีค่ วรเรียกกันมาดู (เอหิปสฺสโิ ก) ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว (โอปนยิโก) อันวิญญูชนจะพึงรู้ได้เฉพาะตน (ปจฺจตฺต� เวทิตพฺโพ วิญญ ฺ หู )ิ . ๓. คา� พูดทีพ่ ดู มาทัง้ หมดนับแต่วนั ตรัสรูน้ นั้ สอดรับไม่ขดั แย้งกัน -บาลี อิติวุ. ขุ. ๒๕/๓๒๑/๒๙๓.

ภิกษุทั้งหลาย ! นับตั้งแต่ราตรี ที่ตถาคตได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ จนกระทั่งถึงราตรีที่ตถาคตปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสส นิพพานธาตุ ตลอดเวลาระหว่างนั้น ตถาคตได้กล่าวสอน พร�่าสอน แสดงออก ซึง่ ถ้อยค�าใด ถ้อยค�าเหล่านัน้ ทัง้ หมด ย่อมเข้ากันได้โดย ประการเดียวทัง้ สิน้ ไม่แย้งกันเป็นประการอืน่ เลย. วยกลองศึก อ๔. ทรงบอกเหตุแห่งความอันตรธานของค�าสอนเปรี-บาลียบด้ นิทาน. สํ. ๑๖/๓๑๑/๖๗๒-๓. ภิกษุทงั้ หลาย ! เรือ่ งนีเ้ คยมีมาแล้ว กลองศึกของกษัตริยพ์ วกทสารหะ เรียกว่า อานกะ มีอยู่ เมือ่ กลองอานกะนี้ มีแผลแตกหรือลิ พวกกษัตริย์ ทสารหะได้หาเนือ้ ไม้อนื่ ท�าเป็นลิม่ เสริมลงในรอยแตกของกลองนัน้ (ทุก คราวไป). ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อเชื่อมปะเข้าหลายครั้งหลายคราวเช่นนั้น นานเข้าก็ถงึ สมัยหนึง่ ซึง่ เนือ้ ไม้เดิมของตัวกลองหมดสิน้ ไป เหลืออยูแ่ ต่ เนือ้ ไม้ทที่ า� เสริมเข้าใหม่เท่านัน้ . ภิกษุทงั้ หลาย ! ฉันใดก็ฉนั นัน้ ในกาลยืดยาวฝ่ายอนาคต จักมีภกิ ษุ ทัง้ หลาย สุตตันตะเหล่าใด ทีเ่ ป็นค�าของตถาคต เป็นข้อความลึก มีความหมายซึง้ เป็นชัน้ โลกุตตระ ว่าเฉพาะด้วยเรือ่ งสุญญตา เมือ่ มีผนู้ า� สุตตันตะเหล่านัน้


มากล่าวอยู่ เธอจักไม่ฟังด้วยดี จักไม่เงี่ยหูฟัง จักไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และจักไม่สา� คัญว่าเป็นสิง่ ทีต่ นควรศึกษาเล่าเรียน ส่วนสุตตันตะเหล่าใดที่ นักกวีแต่งขึน้ ใหม่ เป็นค�าร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน มีอกั ษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจติ ร เป็นเรือ่ งนอกแนว เป็นค�ากล่าวของสาวก เมือ่ มีผนู้ า� สุตตันตะที่นักกวีแต่งขึ้นใหม่เหล่านั้นมากล่าวอยู่ เธอจักฟังด้วยดี จัก เงีย่ หูฟงั จักตัง้ จิต เพือ่ จะรูท้ วั่ ถึง และจักส�าคัญว่าเป็นสิง่ ทีต่ นควรศึกษา เล่าเรียนไป. ภิกษุทงั้ หลาย ! ความอันตรธานของสุตตันตะเหล่านัน้ ทีเ่ ป็นค�าของ ตถาคต เป็นข้อความลึก มีความหมายซึง้ เป็นชัน้ โลกุตตระ ว่าเฉพาะด้วย เรือ่ งสุญญตา จักมีได้ดว้ ยอาการอย่างนี้ แล. ๕. ทรงก�าชับให้ศึกษาปฏิบัติเฉพาะจากค�าของพระองค์เท่านั้น อย่าฟังคนอื่น -บาลี ทุก. อํ. ๒๐/๙๑-๙๒/๒๙๒.

ภิกษุทงั้ หลาย ! พวกภิกษุบริษทั ในกรณีนี้ สุตตันตะเหล่าใด ทีก่ วี แต่งขึน้ ใหม่ เป็นค�าร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน มีอกั ษรสละสลวย มี พยัญชนะอันวิจติ ร เป็นเรือ่ งนอกแนว เป็นค�ากล่าวของสาวก เมือ่ มีผนู้ า� สุตตันตะเหล่านัน้ มากล่าวอยู่ เธอจักไม่ฟงั ด้วยดี ไม่เงีย่ หูฟงั ไม่ตงั้ จิตเพือ่ จะรูท้ วั่ ถึง และจักไม่สา� คัญว่าเป็นสิง่ ทีต่ นควรศึกษาเล่าเรียน. ภิกษุทงั้ หลาย ! ส่วนสุตตันตะเหล่าใด ทีเ่ ป็นค�าของตถาคต เป็น ข้อความลึก มีความหมายซึง้ เป็นชัน้ โลกุตตระ ว่าเฉพาะด้วยเรือ่ งสุญญตา เมือ่ มีผนู้ า� สุตตันตะเหล่านัน้ มากล่าวอยู่ เธอย่อมฟังด้วยดี ย่อมเงีย่ หูฟงั ย่อมตัง้ จิตเพือ่ จะรูท้ วั่ ถึง และย่อมส�าคัญว่าเป็นสิง่ ทีต่ นควรศึกษาเล่าเรียน จึงพากันเล่าเรียน ไต่ถาม ทวนถามแก่กนั และกันอยูว่ า่ “ข้อนีเ้ ป็นอย่างไร มีความหมายกีน่ ยั ” ดังนี้ ด้วยการท�าดังนี้ เธอย่อมเปิดธรรมทีถ่ กู ปิดไว้ได้ ธรรมทีย่ งั ไม่ปรากฏ เธอก็ทา� ให้ปรากฏได้ ความสงสัยในธรรมหลายประการ ทีน่ า่ สงสัย เธอก็บรรเทาลงได้.


ภิกษุทงั้ หลาย ! บริษทั ชือ่ อุกกาจิตวินตี า ปริสา โน ปฏิปจุ ฉาวินตี า เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทงั้ หลาย ! ในกรณีนคี้ อื ภิกษุทงั้ หลายในบริษทั ใด เมือ่ สุตตันตะ ทัง้ หลาย อันเป็นตถาคตภาษิต (ตถาคตภาสิตา) อันลึกซึง้ (คมฺภรี า) มี อรรถอันลึกซึ้ง (คมฺภีรตฺถา) เป็นโลกุตตระ (โลกุตฺตรา) ประกอบด้วย เรือ่ งสุญญตา (สุญญ ฺ ตปฏิสย� ตุ ตฺ า) อันบุคคลน�ามากล่าวอยู่ ก็ไม่ฟงั ด้วยดี ไม่เงีย่ หูฟงั ไม่เข้าไปตัง้ จิตเพือ่ จะรูท้ วั่ ถึง และไม่สา� คัญว่าเป็นสิง่ ทีต่ นควร ศึกษาเล่าเรียน. ส่วนสุตตันตะเหล่าใด ทีก่ วีแต่งขึน้ ใหม่ เป็นค�าร้อยกรองประเภท กาพย์กลอน มีอกั ษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจติ ร เป็นเรือ่ งนอกแนว เป็นค�ากล่าวของสาวก เมือ่ มีผนู้ า� สุตตันตะเหล่านีม้ ากล่าวอยู่ พวกเธอย่อมฟังด้วยดี เงีย่ หูฟงั ตัง้ จิตเพือ่ จะรูท้ วั่ ถึง และส�าคัญไป ว่าเป็นสิง่ ทีต่ นควรศึกษาเล่าเรียน พวกเธอเล่าเรียนธรรมอันกวีแต่งใหม่ นั้นแล้ว ก็ไม่สอบถามซึ่งกันและกัน ไม่ท�าให้เปิดเผยแจ่มแจ้งออกมาว่า ข้อนีพ้ ยัญชนะเป็นอย่างไร อรรถเป็นอย่างไร ดังนี้ เธอเหล่านัน้ เปิดเผย สิง่ ทีย่ งั ไม่เปิดเผยไม่ได้ ไม่หงายของทีค่ ว�า่ อยูใ่ ห้หงายขึน้ ได้ ไม่บรรเทา ความสงสัยในธรรมทัง้ หลายอันเป็นทีต่ งั้ แห่งความสงสัยมีอย่างต่างๆ ได้. ภิกษุทงั้ หลาย ! นีเ้ ราเรียกว่า อุกกาจิตวินตี า ปริสา โน ปฏิปจุ ฉาวินตี า. ภิกษุทงั้ หลาย ! บริษทั ชือ่ ปฏิปจุ ฉาวินตี า ปริสา โน อุกกาจิตวินตี า เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทงั้ หลาย ! ในกรณีนคี้ อื ภิกษุทงั้ หลายในบริษทั ใด เมือ่ สุตตันตะ ทัง้ หลาย ทีก่ วีแต่งขึน้ ใหม่ เป็นค�าร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน มีอกั ษร สละสลวย มีพยัญชนะอันวิจติ ร เป็นเรือ่ งนอกแนว เป็นค�ากล่าวของสาวก อันบุคคลน�ามากล่าวอยู่ ก็ไม่ฟงั ด้วยดี ไม่เงีย่ หูฟงั ไม่เข้าไปตัง้ จิตเพือ่ จะ รูท้ วั่ ถึง และไม่สา� คัญว่าเป็นสิง่ ทีต่ นควรศึกษาเล่าเรียน ส่วน สุตตันตะ เหล่าใด อันเป็นตถาคตภาษิต อันลึกซึง้ มีอรรถอันลึกซึง้ เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยเรือ่ งสุญญตา เมือ่ มีผนู้ า� สุตตันตะเหล่านี ้ มากล่าวอยู ่ พวก


เธอย่อมฟังด้วยดี ย่อมเงีย่ หูฟงั ย่อมเข้าไปตัง้ จิตเพือ่ จะรูท้ วั่ ถึง และ ย่อมส�าคัญว่าเป็นสิง่ ทีค่ วรศึกษาเล่าเรียน พวกเธอเล่าเรียนธรรมทีเ่ ป็น ตถาคตภาษิตนัน้ แล้ว ก็สอบถามซึง่ กันและกัน ท�าให้เปิดเผยแจ่มแจ้งออก มาว่า ข้อนีพ้ ยัญชนะเป็นอย่างไร อรรถะเป็นอย่างไร ดังนี้ เธอเหล่านัน้ เปิดเผยสิง่ ทีย่ งั ไม่เปิดเผยได้ หงายของทีค่ ว�า่ อยูใ่ ห้หงายขึน้ ได้ บรรเทา ความสงสัยในธรรมทัง้ หลายอันเป็นทีต่ งั้ แห่งความสงสัยมีอย่างต่างๆ ได้. ภิกษุทงั้ หลาย ! นีเ้ ราเรียกว่า ปฏิปจุ ฉาวินตี า ปริสา โน อุกกาจิตวินตี า. ภิกษุทงั้ หลาย ! เหล่านีแ้ ลบริษทั ๒ จ�าพวกนัน้ . ภิกษุทงั้ หลาย ! บริษทั ทีเ่ ลิศในบรรดาบริษทั ทัง้ สองพวกนัน้ คือ บริษทั ปฏิปจุ ฉาวินตี า ปริสา โน อุกกาจิตวินตี า (บริษทั ทีอ่ าศัยการสอบสวนทบทวนกันเอาเอง เป็นเครือ่ งน�าไป ไม่อาศัยความเชือ่ จากบุคคลภายนอกเป็นเครือ่ งน�าไป) แล. ๖. ทรงห้ามบัญญัติเพิ่มหรือตัดทอนสิ่งที่บัญญัติไว้ -บาลี มหา. ที. ๑๐/๙๐/๗๐.

ภิกษุทงั้ หลาย ! ภิกษุทงั้ หลาย จักไม่บญ ั ญัตสิ งิ่ ทีไ่ ม่เคยบัญญัต ิ จัก ไม่เพิกถอนสิง่ ทีบ่ ญ ั ญัตไิ ว้แล้ว จักสมาทานศึกษาในสิกขาบททีบ่ ญ ั ญัตไิ ว้ แล้วอย่างเคร่งครัด อยูเ่ พียงใด ความเจริญก็เป็นสิง่ ทีภ่ กิ ษุทงั้ หลายหวังได้ ไม่มคี วามเสือ่ มเลย อยูเ่ พียงนัน้ . ๗. ส�านึกเสมอว่าตนเองเป็นเพียงผู้เดินตามพระองค์เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นอรหันต์ผู้เลิศทางปัญญาก็ตาม -บาลี ขนฺธ. สํ. ๑๗/๘๒/๑๒๖.

ภิกษุทงั้ หลาย ! ตถาคตผูอ้ รหันตสัมมาสัมพุทธะ ได้ทา� มรรคทีย่ งั ไม่เกิดให้เกิดขึน้ ได้ทา� มรรคทีย่ งั ไม่มใี ครรูใ้ ห้มคี นรู้ ได้ทา� มรรคทีย่ งั ไม่มี ใครกล่าวให้เป็นมรรคทีก่ ล่าวกันแล้ว ตถาคตเป็นผูร้ มู้ รรค (มคฺคญฺญ)ู เป็น ผูร้ แู้ จ้งมรรค (มคฺควิท)ู เป็นผูฉ้ ลาดในมรรค (มคฺคโกวิโท). ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนสาวกทัง้ หลายในกาลนี ้ เป็นผูเ้ ดินตามมรรค (มคฺคานุคา) เป็นผูต้ ามมา ในภายหลัง.


ภิกษุทงั้ หลาย ! นีแ้ ล เป็นความผิดแผกแตกต่างกัน เป็นความมุง่ หมาย ทีแ่ ตกต่างกัน เป็นเครือ่ งกระท�าให้แตกต่างกัน ระหว่างตถาคตผูอ้ รหันตสัมมาสัมพุทธะ กับภิกษุผู้ปัญญาวิมุตติ. ๘. ตรัสไว้ว่าให้ทรงจ�าบทพยัญชนะและค�าอธิบายอย่างถูกต้อง พร้อมขยันถ่ายทอดบอกสอนกันต่อไป -บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๙๗/๑๖๐.

ภิกษุทงั้ หลาย ! พวกภิกษุในธรรมวินยั นี ้ เล่าเรียนสูตรอันถือกัน มาถูก ด้วยบทพยัญชนะทีใ่ ช้กนั ถูก ความหมายแห่งบทพยัญชนะทีใ่ ช้กนั ก็ถกู ย่อมมีนยั อันถูกต้องเช่นนัน้ . ภิกษุทงั้ หลาย ! นีเ่ ป็น มูลกรณีทหี่ นึง่ ซึง่ ท�าให้พระสัทธรรมตัง้ อยูไ่ ด้ไม่เลอะเลือนจนเสือ่ มสูญไป... ภิกษุทงั้ หลาย ! พวกภิกษุเหล่าใด เป็นพหุสตู คล่องแคล่ว ในหลัก พระพุทธวจน ทรงธรรม ทรงวินยั ทรงมาติกา (แม่บท) พวกภิกษุเหล่านัน้ เอาใจใส่ บอกสอน เนือ้ ความแห่งสูตรทัง้ หลายแก่คนอืน่ ๆ เมือ่ ท่านเหล่านัน้ ล่วงลับไป สูตรทัง้ หลาย ก็ไม่ขาดผูเ้ ป็นมูลราก (อาจารย์) มีทอี่ าศัยสืบกันไป. ภิกษุทั้งหลาย ! นี่เป็น มูลกรณีที่สาม ซึ่งท�าให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้ ไม่เลอะเลือนจนเสือ่ มสูญไป... *** ในที่นี้ยกมา ๒ นัยยะ จาก ๔ นัยยะ ของมูลเหตุสี่ประการ ที่ท�าให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้ ไม่เลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป

๙. ทรงบอกวิธีแก้ไขความผิดเพี้ยนในค�าสอน -บาลี มหา. ที. ๑๐/๑๔๔/๑๑๓-๖.

๑. (หากมี) ภิกษุในธรรมวินยั นีก้ ล่าวอย่างนีว้ า่ ผูม้ อี ายุ ! ข้าพเจ้า ได้สดับรับมาเฉพาะพระพักตร์พระผูม้ พี ระภาคว่า “นีเ้ ป็นธรรม นีเ้ ป็นวินยั นีเ้ ป็นค�าสอนของพระศาสดา”... ๒. (หากมี) ภิกษุในธรรมวินยั นีก้ ล่าวอย่างนีว้ า่ ในอาวาสชือ่ โน้นมี สงฆ์อยูพ่ ร้อมด้วยพระเถระ พร้อมด้วยปาโมกข์ ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะ หน้าสงฆ์นนั้ ว่า “นีเ้ ป็นธรรม นีเ้ ป็นวินยั นีเ้ ป็นค�าสอนของพระศาสดา”...


๓. (หากมี) ภิกษุในธรรมวินยั นีก้ ล่าวอย่างนีว้ า่ ในอาวาสชือ่ โน้นมี ภิกษุผเู้ ป็นเถระอยูจ่ า� นวนมาก เป็นพหุสตู เรียนคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินยั ทรงมาติกา ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะหน้าพระเถระเหล่านัน้ ว่า “นีเ้ ป็นธรรม นีเ้ ป็นวินยั นีเ้ ป็นค�าสอนของพระศาสดา”... ๔. (หากมี) ภิกษุในธรรมวินยั นีก้ ล่าวอย่างนีว้ า่ ในอาวาสชือ่ โน้นมี ภิกษุผเู้ ป็นเถระอยูร่ ปู หนึง่ เป็นพหุสตู เรียนคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินยั ทรงมาติกา ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะหน้าพระเถระรูปนัน้ ว่า “นีเ้ ป็นธรรม นีเ้ ป็นวินยั นีเ้ ป็นค�าสอนของพระศาสดา”... เธอทัง้ หลายยังไม่พงึ ชืน่ ชม ยังไม่พงึ คัดค้านค�ากล่าวของผูน้ นั้ พึงเรียน บทและพยัญชนะเหล่านัน้ ให้ดี แล้วพึงสอบสวนลงในพระสูตร เทียบเคียง ดูในวินยั ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ไม่ได้ เทียบเข้าใน วินัยก็ไม่ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า “นี้มิใช่พระด�ารัสของพระผู้มีพระภาค พระองค์นนั้ แน่นอน และภิกษุนรี้ บั มาผิด” เธอทัง้ หลาย พึงทิง้ ค�านัน้ เสีย ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านัน้ สอบลงในสูตรก็ได้ เทียบเข้าในวินยั ก็ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า “นีเ้ ป็นพระด�ารัส ของพระผูม้ พี ระภาคพระองค์นนั้ แน่นอน และภิกษุนนั้ รับมาด้วยดี” เธอทัง้ หลาย พึงจ�ามหาปเทส... นีไ้ ว้. ๑๐. ทรงตรัสแก่พระอานนท์ ให้ใช้ธรรมวินัยที่ตรัสไว้เป็นศาสดาแทนต่อไป -บาลี มหา. ที. ๑๐/๑๗๘/๑๔๑. -บาลี ม. ม. ๑๓/๔๒๗/๔๖๓. -บาลี มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๑๗/๗๔๐.

อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า ‘ธรรมวินัยของ พวกเรามีพระศาสดาล่วงลับไปเสียแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดา’ ดังนี้. อานนท์ ! พวกเธออย่าคิดอย่างนั้น. อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เรา แสดงแล้ว บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็น ศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเรา.


อานนท์ ! ในกาลบัดนีก้ ด็ ี ในกาลล่วงไปแห่งเราก็ดี ใครก็ตาม จัก ต้องมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิง่ อืน่ เป็นสรณะ มีธรรมเป็น ประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่. อานนท์ ! ภิกษุพวกใด เป็นผู้ใคร่ในสิกขา ภิกษุพวกนั้น จักเป็นผู้อยู่ในสถานะ อันเลิศที่สุดแล. อานนท์ ! ความขาดสูญแห่งกัลยาณวัตรนี้ มีในยุคแห่งบุรุษใด บุรุษนั้นชื่อว่า เป็นบุรุษคนสุดท้ายแห่งบุรุษทั้งหลาย... เราขอกล่าวย�้ากะ เธอว่า... เธอทั้งหลายอย่าเป็นบุรุษคนสุดท้ายของเราเลย.

เธอทั้งหลายอย่าเป็น บุรุษคนสุดท้าย ของเราเลย -บาลี ม. ม. ๑๓/๔๒๗/๔๖๓.



¨n° µ ¹È  À ¨° oª¥ ¸ oª¥ ªµ¤¿®Æ

9Sþ*BTDb;`GRBTD;O$ MT- O*GCCVc6 CWI*$EO<OS;L;V9 CW<T;=ER7[ `GRM; T7 T*OS;= 6L;V96W b;_EĐO;DO6;Sþ; CW<SGGS*$ OS;GT66 ID> Ta$_-TI %;DTI GT66 ID_'EĐĕO*GT69lT6 ID%;`$RLW%TI GT66 ID%;_+WDC_= ;`> ;9X< CW_'EĐOĕ *GT6OD T*6W9Tl 6 IDM;S*-RC6 CW_@6T;$Sþ;b;_<YhO*<; CWMCO;`6*IT* 5 % T*9Sþ*LO*

¿ °¤¸­ ·®¨ ¨º¤ ¿¤ºÇ° ¦³ ̵ µ¨³ ¥n°¤¿ oµ ¹ ¿ ¡ · µ¥®¤¼n ®¤¼n® ¹Ç

­µ ¥µ¥ ¦¦¤ ­µ ¥µ¥ ¦¦¤

ïìĒĀŠÜíøøöìĆĚÜĀúć÷ ÷ŠĂöðøćÖäĒÖŠđíĂ ñĎšöĊÙüćöÿč×ĔîõóîĆĚî

ÿćøĊïčêø b đðøĊ÷ïđĀöČĂîLERa<$%E5W CW;Tlh OS;_Df; bLLROT6 CW9T OS;6W ; TEĐ;ĕ ECD

`GRb;9WgcC c$GLERa<$%E5W;Sþ; CW`;I= TOS;9X<

­ · ´ ¿ · ¹È oµ À n­´ ªr ´È ¥n°¤¿ } ¼o ¦¦¨» » ª·¿«¬¿¦Æª¡¨´

úĞćéĆïîĆĚî ïčøčþñĎšöĊêĆüĂĆîÙüćöøšĂîĒñéđñć đĀîĘéđĀîČęĂ÷ Āĉü øąĀć÷ öčŠÜöćÿĎŠìĊęîĆĚîė ēé÷öøøÙćÿć÷đéĊ÷ü ïčøčþñĎšöĊÝĆÖþčđĀĘîđ×ćĒúšü óċÜÖúŠćüĂ÷ŠćÜîĊĚüŠć ĶïčøčþñĎšđÝøĉâîĊĚ ðäĉïĆêĉĂ÷ŠćÜîĆĚî éĞćđîĉîĂ÷ŠćÜîĆĚî Ēúą×ċĚîÿĎŠĀîìćÜîĆĚî ÝĆÖöćëċÜìĊęîĆĚîė ìĊđéĊ÷üķ

čæò÷ĀíæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

ùûā ùĘ Ĝģ ĞĢĢ ĠģĤ éāôĄ éāôĄ ùûā ùĘ Ĝģ ĞĢĢ ĠģĤ

­µ ¥µ¥ ¦¦¤ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀüēãêòÿčñÙèŞ æĘāċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą øāùĈùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæèØéĀ çăĎė èäś ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùæÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘāċíĆ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈùŚ ÐāçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăĎė èäś éèĄèďĔ ØéĀ ãśòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă çăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ éċíĆüē ċëñČëŚ ĎèæćÐ ĎèÐāò×Ā Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüüÖÑüÖÑś üðĈāôêòą ÑüÓĘ āêòąāÐèÑś øāãś äśèØéĀäśéèċíĆØéĀ üē ċëñČëŚ ĎèæćÐÐò⥠ãæĘāúòĆãüæĘċëñČëŚ čêòãĎÙś čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś ðĈô ÑüÓĘ Ðøāãś üðĈāôèÑśüðĈô èăçíă æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ āċíĆüē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ôèăæç ēĄ íă ðĈæć ôçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ ĎèÐāò×ĀĎèÐāò×Ā ãæĘāċíĆãüē æĘÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚãü äă ďãśãæäŚ ēĄ ðĈüďãś

çăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć üāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ðĈôèăçăíðĈćæôèăçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöâòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ éëĈäś üś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă äĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéùĘëĈāäś úòĀüś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă ãäŚüďãśãæäŚ ēĄ ü ÷ĈďãśèæñŞê ēĄ ÷ĈÞăéèäĀñŞêíă Þăæć éçö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS íæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ čæò÷Āíčæò÷Ā æŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăåăëė čùäĉ åăëæčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓė ąÐčùäĉ čô ďãś Ąē æĄē XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

ØéĀé ĜĞ

&@ / !

&@ / !

XXX XBUOBQQ DPN ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX CVEEIBLPT PSH ÓôĆēè ù ö í '. .)[ æćÐöĀèíòÿ ċöôā è

æāè

éāôĄ èöÐ üĘ ĝĞ ğĞĤ ĝěĤ éāôĄ Ñć Ñć ĝĠ ĞěĠ ĝĢģ

äăãäāðÐāòċëñČëŚíòÿçòòðÓĘāùüèäāðúôĀÐíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞÓÐą óæçă ė čùäĉåëă čô ďãśæ ēĄ

13 13

14 14

15 15

16 16

ĄúĄ

ċãòĀ×ØāèöăÙā ċãòĀ×ØāèöăÙā

éāôĄ ×äćÐĉÐ üĘ ĝĜ ĝĠĜ ĜĤĜ

ðĈôèăāçùüèäāðúôĀ ăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ äăãäāðÐāòċëñČëŚíòÿçòòðÓĘ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăė čùäĉåăëčô ďãś æĄē Óćâ÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ ÓćâüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈÐèöĀñŞèêíòÿ ċöôā è ÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS

ùāçñāñçòòð

äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăå ė ăëčùäĉ åëă æčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓÐąė čùäĉ čô ďãś Ąē æ ēĄ XXX XBUOBQQ DPN ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX CVEEIBLPT PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ēè ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ÓôĆ ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

ïíïĈðă

ùāçñāñçòòð ùāçñāñçòòð

éāôĄ ðĈ ð Ĝĝ ĜğĢ ĜĠĞ ĜĢě ĜĢġ

üðĈôçòòðÿèĄ āċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą ùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ùăæèçăĎØéĀ ė èäśéèèĄØéĀ ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘāċíĆüē êòÿčñÙèŞæāÖÐāò÷ąÐøāùĈùŚ āçāòâÙèċêŢèçòòðæāè ôăÑùăæçăĎė èäśèØéĀéèĄďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùăæçăĎė èÐāò×ĀãæĘā×āÐ ÑśüðĈôÑśçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘā Ĕ ×ĀċíĆãüē æĘêòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈÐùŚ øāùĈ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăÑĎė èäś ďĔ ãśéòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚù Ööèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ØéĀüē éċëñČëŚ ċíĆüē ċëñČëŚ èæćÐ Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś üðĈôā ÑüÓĘ êòąÐāøāãś äśèØéĀäśéèċíĆ ĎèæćÐĎÐò⥠ĎèÐāò×Ā ãæĘāúòĆãæĘüċëñČëŚ čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś üðĈô ÑüÓĘ êòąÐāøāãś èÑśüāðĈèÑś ô üðĈôäśèØéĀéċíĆüē ċëñČëŚĎèæćÐÐò⥠ĎèÐāò×ĀãæĘāúòĆüċëñČëŚ čêòãĎÙśÓöāðôÿċüĄñãòüéÓüéċíĆüē òĀÐøāÓöāðåĈÐäśüÖÑüÖÑśüðĈô ÑüÓĘāêòąÐøāãśāèÑśüðĈô ĎèÐāò×Ā ã äăæãçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ äŚüďãśæĄē ôèăēçüíă ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć ĎèÐāò×ĀãæĘāċíĆüē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀã äăãäŚüďãśæ ēĄ ðĈôèăçíă æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íćæçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ ĎèÐāò×ĀãæĘāċíĆüē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚüãďãśæĘæā ēĄ ðĈċíĆ ðĈôèăçăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ ðĈôèăçăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ðĈôèăçăí Ĕ ×Āćæãçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć ÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć üāòĄèöØéĀ òòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ æĘāċíĆüē êòÿčñÙèŞæāÖÐāò÷ąÐøāùĈâùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôăÑùăæçăâĎė èäś éèĄďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùăæçăĎė èÐāò×ĀãæĘā×āÐ Óćâ÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ ÓćâüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ äśèØéĀéċíĆùĘüē āċëñČëŚ ÐÐò⥠ñãòüéÓüéċíĆüē òĀÐøāÓöāðåĈÐäśüÖÑüÖÑśüðĈô ÑüÓĘāêòąÐøāãśāèÑśüðĈô ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞăéäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS úòĀéëĈäś Ďüś èæć ÖÐāòêÞă éäĀ ĎèÐāò×Ā çă òòòð äăããæĘäŚāüúòĆďãśüæċëñČëŚ ēĄ ÷ĈèñŞ čêòãĎÙś êÞăéäĀ íă Óæć öāðôÿċüĄ çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞăéäĀ çă čæò ěģ ĤĢĤĜ ěĝĤĤ ěģ ĢĠĜĜ ģěĜě òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS čæò÷Ā íæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ ĎèÐāò×Ā ãæĘāċíĆēüÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀã äăãäŚüďãśæĄē čæò÷ĀíæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

&@&@ // !!

¦¦¤¿®¨n µ ´OS;È M;T CW ¿ } _*TM;T9X ¦¦¤°´< £· ¬» ´È ¢{ ¿ º° Å CWb<O O;`GRb<`$

ÿćøĊïčêø b đðøĊ÷ïđĀöČĂî=ETLT9 b;=ETLT9;Sþ;CW_EĐO;DO6 .Xą*,T<9T`G I

ØéĀé Ĝĝ ØéĀé Ĝĝ

éāôĄ ×äćÐĉÐ üĘ ĝĜ ĝĠĜ ĜĤĜ

ÿćøĊïčêø b đðøĊ÷ïđĀöČĂî7 ;cC _$V6b;@Y;h 9WO g ;S _LCO

&@& / / ! !

­ · ´ ¿ · ¹È oµ ´ ¿ · » ¹ª·È ¿«¬¿¦Æ oµ ª¡¨´ À n­´ ªr ´È ¥n°¤¿ }­ · ¼o ¦¦¨»

_7fCc=6 ID8 T;_@GV* =ETJ+T$_=GI =ETJ+T$'IS;

õĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b õĉÖþčĔîíøøöüĉîĆ÷îĊĚ ÷ŠĂöđúŠćđøĊ÷îíøøö ÙČĂ ÿčêêą đÙ÷÷ą đü÷÷ćÖøèą Ùćëć Ăčìćî ĂĉêĉüčêêÖą ßćéÖ ĂĆ êíøøö đüìĆ úúą CWb<O O;`GRb<`$ OS;_<T<T* CW_*TOSó;õĎa=E *

ÿćøĊïčêø b đðøĊ÷ïđĀöČĂîMGZC'[8 GX$DVý*$I T-SýI<ZEZK _7fCc=6 ID'[8 ÿćøĊïčêø b đðøĊ÷ïđĀöČĂî7 ;cC _$V6b;@Y;h 9WO g ;S cC _LCO

&& // !!

ïìĒĀŠÜíøøöìĆĚÜĀúć÷ ÷ŠĂöðøćÖäĒÖŠđíĂ ñĎšöĊÙüćöÿč×ĔîõóîĆĚî

ØéĀé Ĝě

¿ °¤¸ ¨ ¨º ¤ ¿¤º Ç° ¦³ Ì ¿ °¤¸­­ · ·®®¨ ¨º ¤ ¿¤º Ç° ¦³ Ì µ µ¨³µ µ¨³ ¤¿ oµµ ¹ ¹ ¿ ¡ · µ¥®¤¼ n ®¤¼nÂn® ®¤¼ ¹Ç n® ¹Ç ¥n¥n°°¤¿ o ¿ ¡ · µ¥®¤¼

ïăÐøćæĀĔÖúôāñ b çòòðæāè ċôă÷ÐöŚāæāèæĀĔÖúôāñ

ĎèÐāò×ĀãæĘāċíĆēüÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀã äăãäŚüďãśæĄē ðĈôèăçăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ

Óćâ÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ ÓćâüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞăéäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS čæò÷ĀíæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

óć Ô üċ êĄĘ Ú þ ø ą õ b Ā ą ì ą î ą ì ý èć ý ô ą ëć ìĈĘ Đ ø ĀĄìíċ××øďÛöćàĐøşú êĜąĒþşôąÔĐøşú õŞĀôďîŦìÕĀÚöĜąÚĄí ďóć ÔîŦ üċìêĄĘ ÚÕþ øĀ ą Úõ î ö ăb æĈ è Ā ąďì îŦą îìą ìÕý èćĀý Úô ąďëć õĖìĈĘ Đìø í ďĀĄîŦìíċì××øďÛöć ýċ Õ úć àþĐøşąúö Đ êĜø ąăĒþşõŞôąÔĐøş Ā ô õĄú Ú ĀõŞÔċĀôďîŦ û øìÕĀÚöĜ ë ö öąÚĄô Õ Ā Ú î ĀĄöìďÔć ă çæĈÕĉĘìèĐøşú ď îŦ ì ÕĐøăďÔć Ā ÚçÕĉďĘìõĖĐøşúì ĀĄď ìîŦďîŦììíąî ď îŦĀĄ ìì èöëąìēî ýċ Õ úć þ ą ö ĐĒþĘø öăĜ ą ÚĄõŞ íĀēî ô õĄ Ú đçõ×úöĐÔė Ā Ôċ û ø ë ãöąìă ö ô ĒþĘ ú óćĀĄìÔďîŦüċìêĄíąî Ę Ú þ ø ą õ ĀĄìďÔćçÕĉb Ęì Đøşú ď î öĈ õĐøăďÔć í ď þçÕĉôĊĘìĀĐøşì ðċĒþĘ ř ìĀëċĄ ìøĈèöëąìēî òċŚ Ú ÕĉĘ ì Đ þŞ ÚĒþĘ ď çĊöĜ Āą ÚĄìíýċēî ç êş ą đçõ×úöĐÔė õ Õ Ā Ú ÷ çČ ãöşąìă Āì ď î öĈìĄõ í ď þ ôĊ Ā Ôì ðóć Ô üċ êĄĘ Ú þ ìø ą õ þb êĈðċė ř ì ëċïćøĈ òċŚ Úç ÕĉĘ ì ÷Đ þŞ ÚçČď çĊ Āèì ýċ çÔ êş ą øõ Õ ĀÚÚ ÷ çČô öş Ā ąì Ô õŞð Ā ô êĜ ą ðċ ř ìì ëċ øĈ ď þ øŞ ą þìĄ Ę ì Ē þş ĀĄ ì ìĄè ö ë ą ì ē î ą ĒêĈþşė öĜ ïćą ÚĄ íçē î ÷ē çş đ çČ ç õè × Ôú ö øĐ Ôė Úã ąô ì ă ÕĘõŞ Ā ô êĜ Āą ðċ ř ì ëċ ìĈøĈĘ ď þ øŞ ąÜĄ ìĄ Ę ì Ē þşìĀĄ ì è öĒë ą ì ē çî ÚĄ í ē b î ēĀąìąîąìýèć çş đ ç õ ý×ôąëć ú ö ĀĄìĐíċ×Ôė×øďÛöć ã ąàìĐøşúă óćĒ ÔþşüċêöĜĄĘÚąþøąõ êĜÕĘ ą Ē þĘ ô ąĀÔ Đ øĘ ú ÔĖ ďìĈîĖĘ ì Õ Ā Ú ÜĄö ă ÚĄ í ìď îĖ ì Õ Ā ÚĒ î ö ă æĈ èç óćÔìüċÕĀÚďõĖ êĄĘÚþøąõ ýôąëć ĀĄìíċ××øďÛöć Đøşú ďîŦ ì ďîŦìýċb ÕúćĀąìąîąìýèć þąö ĐøăõŞĀôõĄ ÚĀÔċ ûøëööôĀĄ ìďîŦìàíąî êĜ ą Ē þĘ ô ą Ô Đ øĘ ú ÔĖ ď îĖ ì Õ Ā Ú ö ă ÚĄ í ď îĖ ì Õ Ā Ú î ö ă æĈ è êĈė ď Ôć ç ÕĉĘ ì Đ øş ú Đ ø ă ď Ôć ç ÕĉĘ ì Đ øş ú ĒďîŦìÕĀÚďõĖ þş ìĀĄ ďîŦìýċìÕúćþąö è ĐøăõŞ ö ĀôõĄëÚĀÔċûąøëööôĀĄ ì ìďîŦē ìíąî î ĒêĈþĘė öĜď ą ÔćÚĄ íçē îÕĉēĘ çĘì Đ øşđ çúõ ×Đú öøĐ Ôėă ã ďą ìÔćă ēççĘ ÕĉĘ ì ÜĄĐì ìĄøşĘ ì ú ĀĄ ì è b ö ë ÔĖ Ā ąìąîąìýèć ą ì ēý ôąëćî óćĒ Ô üċ êþşĄĘ Ú þøąõ ĀĄĒ þĘìöĜ íċą ÚĄ×í ×ē îøē çĘď Û öć àđ çĐõ ×øş úúö Đ ÔėêĜã ąąìĒă ēþşçĘ ô ą ÔÜĄĐì ìĄøş Ę ìú b Āóć Ô üċ êõŞĄĘ Ú þøąõ ą Ú ē ö ÔĖďĀ ąìąîąìýèć øŞ ą ý ôąëć ĀĄ ì íċ × × ø ď Û öć à Đ øş ú êĈė ď îŦ ì Õ Ā Ú öĜ ą ÚĄ í ď îŦ ìêĜ Õą ĀĒ þşÚ ôî ąö Ôă ĐæĈøş èú ďĀ îŦ ìõŞ Õ Āą Ú Úď õĖ ēì ď öîŦ ì ď ýċ ÕøŞ úć þą ą ö êĈė ď ĀîŦôõĄìÚĀÔċ Õ ûĀøëööôĀĄ Ú öĜ ąìďîŦÚĄ ìííąîêĈ ď îŦėďÔćìçÕĉÕĘìĐøşĀú ĐøăďÔć Ú î ö çăÕĉĘìæĈĐøşúè ĐøăõŞ ö Ēď îŦ þĘì ÕĀĄ Ā ìÚ ď èõĖ ì ö ď îŦë ì ąýċ Õ ì úć þē ą î ìďîŦìíąîêĈđėďÔćççõÕĉĘì×Đøş ĒĐøăõŞ þĘ öĜ ąĀôõĄ ÚĄ íÚēĀÔċîûēøëööôĀĄ çĘ ú öú ĐøăďÔć Đ Ôė ã ą çìÕĉăĘìēĐøşçĘ ú ĀĄ ìb óćèÔ üċ Ē ìÔöæĈ ö ëì Ĉ Ę ąēîĐøĘìú ýČŞîė ąēÔĖ è ąôî óćĒ Ô üċ êþĘĄ Ę Ú þøąõ ēĒîþĘĐöĜøĘąúÚĄýČíė đē×îìē ēçĘôĘ ÔĖ è ą ô ē î Đ đøĘçúõýČ×ė ď öĊú Āö ìĐ Ôėúė ãą Úą ÔĖì èă ēą çĘô ìĄóćė ÔÚüċ ê×ČĄ Ę ÚĘ þøąõ Õ ą ď b ÕĘ ąóć Ôôüċ ĒąìÔöæĈ đ çì Ĉ Ę õ öēîĐøĘ Ā úíýČŞîĐė ą ÔĖøĘè ąô ú ô èĄē Ę î ÚĐ øĘÔú ýČąė đ ×õì ēèôĘ ÔĖöè ąÚ ô ē î çĜĐ øĘ ąú ýČöė ď öĊ ÚĀ ìýúė ąèćÚ ÔĖôĄèė ąì óćìĄėÔ Úüċ ìĄ×ČĘ ìĘ Õ ôĈą ý ďèć þÕĘ ą ąõ ĒôÛ ď ąÕĘ ąđ çôĈ ýõèć öþ ąĀõ ĒíÛ ĀĐĀ ÔøĘ ú èĄ Ę í Ú ą ÔøĈ ą ôõ þè ąö Úúć Ġ çĜ Ġą Ģö ĠÚ ý Ġ èćĦ ôĄħė ì óć Ô üċ ìĄ Ę ì ôĈ ý èć þ ą õ Ē Û ď ÕĘ ą ôĈ ý èć þ ą õ Ē Û Ā Ā Ô í ą øĈ ô þ ą úć Ġ Ġ Ģ Ġ Ġ Ħ ħ

Óćâ÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ ÓćâüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ

äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăå ė ăëčùäĉ åëă æčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓÐąė čùäĉ čô ďãś Ąē æē Ą XXX XBUOBQQ DPN ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX CVEEIBLPT PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ēè ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ÓôĆ ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

ØéĀé ĜĜ

ĂĉêĉüčêêÖą ßćéÖ ĂĆóõĎêíøøö đüìĆúúą

¦¦¤¿®¨nµ ´È ¿ } ¦¦¤°´ £· ¬» ´È ¢{ ¿ º° Å ¦¦¤¿®¨nµ ´È ¿ } ¦¦¤°´ £· ¬» ´È ¢{ ¿ º° Å ¨n ¨n°° µ ¹ È Â À ¨° oª¥ ¸ oª¥ ªµ¤¿®Æ µ ¹È  À ¨° oª¥ ¸ oª¥ ªµ¤¿®Æ

ïìĒĀŠÜíøøöìĆĚÜĀúć÷ ÷ŠĂöðøćÖäĒÖŠđíĂ ñĎšöĊÙüćöÿč×ĔîõóîĆĚî

ØéĀé Ĝě ØéĀé Ĝě

äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăåăëė čùäĉ åăëæčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓė ąÐčùäĉ čô ďãś Ąē æĄē XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

êßðçòòð êßðçòòð

çăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć üāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ðĈôèăçăíðĈćæôèăçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöâòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ éëĈäś üś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă äĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéùĘëĈāäś úòĀüś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă ãäŚüďãśãæäŚ ēĄ ü ÷ĈďãśèæñŞê ēĄ ÷ĈÞăéèäĀñŞêíă Þăæć éçö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS íæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ čæò÷Āíčæò÷Ā æŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

ðĈôèăçăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ ðĈôèăçăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ

ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞăéäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS čæò÷Ā íæŞí æŞěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ čæò÷Ā ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăåăëė čùäĉ åăëæčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓė ąÐčùäĉ čô ďãś Ąē æĄē XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

ÿćøĊïčêø b đðøĊ÷ïđĀöČĂîMGZC8 T;_@GV* GX$DVý*$I T-SýI<ZEZK

õĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b õĉÖþčĔîíøøöüĉîĆ÷îĊĚ ÷ŠĂöđúŠćđøĊ÷îíøøö ÙČ Ă ÿčêêą đÙ÷÷ą đü÷÷ćÖøèą Ùćëć Ăč ìćî õĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b õĉÖþčĔîíøøöüĉîĆ÷îĊĚ ĂĉêĉüčêêÖą ßćéÖ ĂĆ óõĎêíøøö đüìĆúúąì ćî ÷ŠĂöđúŠćđøĊ÷îíøøö ÙČ Ă ÿčêêą đÙ÷÷ą đü÷÷ćÖøèą Ùćëć Ăč

À n­´ ªr ´È ¥n° éāôĄ¤¿ } ¼o ¦¦¨» » ª·¿«¬¿¦Æª¡¨´ ×äćÐĉÐ üĘ ĝĜ ĝĠĜ ĜĤĜ

Ů :) A :)H#ů Ů :) A ŧ H)ĉŧ H)ĉ :)H#ů

ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀüēãêòÿčñÙèŞ æĘāċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą øāùĈùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæèØéĀ çăĎė èäś ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùæÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘāċíĆ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈùŚ ÐāçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăĎė èäś éèĄèďĔ ØéĀ ãśòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă çăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ éċíĆüē ċëñČëŚ ĎèæćÐ ĎèÐāò×Ā Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüüÖÑüÖÑś üðĈāôêòą ÑüÓĘ āêòąāÐèÑś øāãś äśèØéĀäśéèċíĆØéĀ üē ċëñČëŚ ĎèæćÐÐò⥠ãæĘāúòĆãüæĘċëñČëŚ čêòãĎÙś čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś ðĈô ÑüÓĘ Ðøāãś üðĈāôèÑśüðĈô èăçíă æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ āċíĆüē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ôèăæç ēĄ íă ðĈæć ôçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ ĎèÐāò×ĀĎèÐāò×Ā ãæĘāċíĆãüē æĘÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚãü äă ďãśãæäŚ ēĄ ðĈüďãś

çăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć üāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ðĈôèăçăíðĈćæôèăçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöâòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ éëĈäś üś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă äĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéùĘëĈāäś úòĀüś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă ãäŚüďãśãæäŚ ēĄ ü ÷ĈďãśèæñŞê ēĄ ÷ĈÞăéèäĀñŞêíă Þăæć éçö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS čæò ěģ ĤĢĤĜ ěĝĤĤ ěģ ĢĠĜĜ ģěĜě čæò ěģ ĤĢĤĜ ěĝĤĤ ěģ ĢĠĜĜ ģěĜě

ÓôĆēè ù ö í '. .)[ æćÐöĀèíòÿ ċöôā è

ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘāċíĆüē êòÿčñÙèŞæāÖÐāò÷ąÐøāùĈùŚ āçāòâÙèċêŢèçòòðæāè ôăÑùăæçăĎė èäśèØéĀéèĄďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùăæçăĎė èÐāò×ĀãæĘā×āÐ äśèØéĀéċíĆüē ċëñČëŚĎèæćÐÐò⥠ĎèÐāò×ĀãæĘāúòĆüċëñČëŚ čêòãĎÙśÓöāðôÿċüĄñãòüéÓüéċíĆüē òĀÐøāÓöāðåĈÐäśüÖÑüÖÑśüðĈô ÑüÓĘāêòąÐøāãśāèÑśüðĈô

Ćċòċôċòăîč č Ćċòċôċòăî

éāôĄ üćêòă ð Ĝğ ĜĤĠ ĝģĤ éāôĄ ċüÐ üĘ ĝě ĠĤ ĝĞĠ ĝĞĤ éāôĄ üćêòă ð Ĝğ ĜĤĠ ĝģĤ éāôĄ ċüÐ üĘ ĝě ĠĤ ĝĞĠ ĝĞĤ

üðĈôçòòðÿèĄ āċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą ùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ùăæèçăĎØéĀ ė èäśéèèĄØéĀ ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôÑśçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘā Ĕ ×ĀċíĆãüē æĘêòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈÐùŚ øāùĈ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăÑĎė èäś ďĔ ãśéòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚù Ööèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ØéĀüē éċëñČëŚ ċíĆüē ċëñČëŚ èæćÐ Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś üðĈôā ÑüÓĘ êòąÐāøāãś äśèØéĀäśéèċíĆ ĎèæćÐĎÐò⥠ĎèÐāò×Ā ãæĘāúòĆãæĘüċëñČëŚ čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś üðĈô ÑüÓĘ êòąÐāøāãś èÑśüāðĈèÑś ô üðĈô ĎèÐāò×Ā ã äăãæçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ äŚüďãśæĄē ôèăçēüíă ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć ĎèÐāò×ĀãæĘāċíĆüē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚüãďãśæĘæ ēāĄ ðĈċíĆ

üāèāêāèùäă üāèāêāèùäă

ČÐśÐòòð ČÐśÐòòð

ðòòÓöăçĄæĄēÖŚāñ

ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀüēãêòÿčñÙèŞ æĘāċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą øāùĈùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæèØéĀ çăĎė èäś ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùæÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘāċíĆ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈùŚ ÐāçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăĎė èäś éèĄèďĔ ØéĀ ãśòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă çăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ éċíĆüē ċëñČëŚ ĎèæćÐ ĎèÐāò×Ā Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüüÖÑüÖÑś üðĈāôêòą ÑüÓĘ āêòąāÐèÑś øāãś äśèØéĀäśéèċíĆØéĀ üē ċëñČëŚ ĎèæćÐÐò⥠ãæĘāúòĆãüæĘċëñČëŚ čêòãĎÙś čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś ðĈô ÑüÓĘ Ðøāãś üðĈāôèÑśüðĈô èăçíă æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ āċíĆüē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ôèăæç ēĄ íă ðĈæć ôçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ ĎèÐāò×ĀĎèÐāò×Ā ãæĘāċíĆãüē æĘÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚãü äă ďãśãæäŚ ēĄ ðĈüďãś

čæò÷ĀíæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçă åëă æčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓė Ðą čùäĉ åăë ė čùäĉ čô ďãś Ąē æ ēĄ XXX XBUOBQQ DPN ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX CVEEIBLPT PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ēè ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ÓôĆ ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

XXX XBUOBQQ DPN ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX CVEEIBLPT PSH

ÐāòüèćċÓòāÿúŞãśöñçòòð ċêŢèċôă÷ ïăÐøćæĀĔÖúôāñ b æāè ĝ üñŚāÖċúôŚāèĄĔðĄüñĈŚ ÓĆü Ě üāðăùæāè Ě çòòðæāè ïăÐøćæĀĔÖúôāñ b éòòãāæāè ĝ üñŚāÖċúôŚāèĄĔ çòòðæāè ċêŢèċôă÷

&@&@ // !!

&@&@ // !!

&@&@ // !!

ØéĀé Ĥ &@ / ØéĀ!é Ĥ &@&@ // !! êßðçòòð

äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăå ė ăëčùäĉ åëă æčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓÐąė čùäĉ čô ďãś Ąē æ ēĄ XXX XBUOBQQ DPN ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX CVEEIBLPT PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ēè ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ÓôĆ ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

üăèæòĄñùĀÖöò üăèæòĄñùĀÖöò

ÕòāöāùÙèċôă÷ ÕòāöāùÙèċôă÷

üćêòă ð Ĝğ ĝğğ ĞĠġ Ģ éāôĄ éāôĄ üćêòă ð Ĝğ ĝğğ ĞĠġ Ģ

Óćâ÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ ÓćâüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ

ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞăéäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS čæò÷Ā íæŞí æŞěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ čæò÷Ā ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

5<5<!! += +=**2929 /+/+

Óćâ÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ ÓćâüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ

ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞăéäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞăéäĀ çă čæò ěģ ĤĢĤĜ ěĝĤĤ ěģ ĢĠĜĜ ģěĜě òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS

äăãäāðÐāòċëñČëŚíòÿçòòðÓĘāùüèäāðúôĀÐíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞÓÐą óæçă ė čùäĉåëă čô ďãśæē Ą

ïăÐøćæĀĔÖúôāñ b ÐāòüèćċÓòāÿúŞ ĝ üñŚāÖċúôŚāèĄĔðĄüñĈŚ ÓĆü Ě ÐāòüèćċÓòāÿúŞãśöñüāðăù Ě ÐāòüèćċÓòāÿúŞãśöñçòòð ïăÐøćæĀĔÖúôāñ b éòòãāÐāòüèćċÓòāÿúŞ ĝ üñŚāÖċúôŚāèĄĔ

ØéĀé ġ ØéĀé ġ

ØéĀé Ġ ØéĀé Ġ

ØéĀé ğ ØéĀé ğ

ùûā ùĘ Ĝģ ĜĢĤ ĝğĠ éāôĄ ðúā æĄ Ĝě ĜĢĠ ĜĞģ éāôĄ ð ð ĜĞ ğĝĢ ğġĞ éāôĄ éāôĄ ùûā ùĘ Ĝģ ĜĢĤ ĝğĠ éāôĄ ðúā æĄ Ĝě ĜĢĠ ĜĞģ éāôĄ ð ð ĜĞ ğĝĢ ğġĞ

ĎèÐāò×Ā ã äăæçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ ãäŚüďãśæĄē Ąē ðĈôēüèăçÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ģğĤğ ģěģĞ íć ĎèÐāò×ĀãæĘāċíĆēüÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚãüæĘ ďãśāæċíĆ ðĈôèăçăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ ðĈôèăçăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ

ČÐśõĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b Öć÷ÙêćÿêĉĂĆîßîđĀúŠćĔéĕöŠÿšĂÜđÿóĒúšü õĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b Öć÷Ùêćÿêĉ ĂĆîßîđĀúŠ ćĔéĕöŠ ÿšĂÜđÿóĒúš ĂöêąßČ ęĂüŠć ĂĆîßîđĀúŠ ćîĆĚîĕöŠ ÿšĂÜđÿóĒúš ü ü ęĂüŠć ĂĆ îÖć÷Ùêćÿêĉ ßîđĀúŠćîĆĚîĂĕöŠĆîßîđĀúŠ ÿšĂÜđÿóĒúš õĉÖĂöêąßČ þčìĆĚÜĀúć÷ b ćĔéÿšüĂ ÜđÿóĒúšü õĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b Öć÷Ùêćÿêĉ ĂĆîßîđĀúŠ ĂÜđÿóĒúš ĂöêąßČ ęĂüŠć ĂĆîßîđĀúŠ ćîĆĚîÿšćĔéÿš ĂÜđÿóĒúš ü ü ĂöêąßČ üŠć ĂĆîßîđĀúŠ ÿšĂÜđÿóĒúšü õĉÖþčìĆĚÜęĂĀúć÷ b ßîđĀúŠćîĆćĚîĔéðøąöćìÖć÷Ùêćÿêĉ õĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b ßîđĀúŠ ßîđĀúŠ ćîĆĚîßČćęĂĔéðøąöćìÖć÷Ùêćÿêĉ üŠć ðøąöćìĂöêą ćîĆĚî ßČßîđĀúŠ ęĂüŠć ðøąöćìĂöêą õĉÖþčßîđĀúŠ ìĆĚÜĀúć÷ b ćĔéĕöŠðøąöćìÖć÷Ùêćÿêĉ õĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b ßîđĀúŠ ćßîđĀúŠ îĆĚîßČęĂćüŠĔéĕöŠ ć ĕöŠððøąöćìÖć÷Ùêćÿêĉ øąöćìĂöêą ßîđĀúŠćîĆĚîßČęĂüŠć ĕöŠðøąöćìĂöêą

Úüüú Úüüú

ùÓā ùĘ ĜĠ ĜĞğ ĞĤĝ éāôĄ éāôĄ ùÓā ùĘ ĜĠ ĜĞğ ĞĤĝ

ÑśüðĈôçòòðÿèĄ ×Āãüē æĘêòÿčñÙèŞ āċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą øāùĈùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ùăæèçăØéĀ Ďė èäśéèèĄØéĀ ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘā Ĕ ċíĆ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈùŚ ÐāçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăĎė Ñèäś ďĔ ãśòééĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ċíĆüē ċëñČëŚ èæćÐ ĎèÐāò×Ā Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś üðĈôā ÑüÓĘ āêòąÐāèÑś øāãśüðĈāèÑś äśèØéĀäśéèċíĆØéĀüē éċëñČëŚ ĎèæćÐĎÐò⥠ãæĘāúòĆãüæĘċëñČëŚ čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś üðĈô ÑüÓĘ êòąÐøāãś ô üðĈô

õĉÖþčîĆĚî÷ŠĂößČęĂüŠć đðŨîñĎšêćöđĀĘîÖć÷ĔîÖć÷Ă÷ĎŠđðŨîðøąÝĞć õĉÖþčîĆĚî÷ŠĂößČęĂüŠć đðŨîñĎšêćöđĀĘîÖć÷ĔîÖć÷Ă÷ĎŠđðŨîðøąÝĞć õĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b ßîđĀúŠćĔéĕöŠïøĉēõÙÖć÷Ùêćÿêĉ õĉÖþčìĆĚÜĀúć÷ b ßîđĀúŠćĔéĕöŠïøĉēõÙÖć÷Ùêćÿêĉ ßîđĀúŠćîĆĚîßČęĂüŠć ÷ŠĂöĕöŠïøĉēõÙĂöêą ßîđĀúŠćîĆĚîßČęĂüŠć ÷ŠĂöĕöŠïøĉēõÙĂöêą

óćÔüċêĄĘÚþøąõ b ÝìďþøŞąĒçíöćđó×Ôąõ×èąýèć óćÔüċêĄĘÚþøąõ b ÝìďþøŞ đó×Ôąõ×èąýèć ÝìďþøŞ ąìĄĘìÝĊėĀúŞąąĒçíöć õŞĀôíöć đó×Āôèă ÝìďþøŞąìĄĘìÝĊėĀúŞąõŞĀôíöćđó×Āôèă ČÐś

Ĥ

!9M! 9 D#đ!H# D&? L5#+8F* !č M5 AL5- /:)2@ D&?L5 /:)2@

Ċ5!9 ĊM!5 9 D#đ! H# D&? L5#+8F* !č D ?M5 A-D ? D&?

5 9M 3-:*D5 -5 :-!:!Ŵ E ĉ&E ĉ / D&/ D 5 9M 3-:*D5 -5 :-!:!Ŵ

üðĈôçòòðÿèĄ āċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą ùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ùăæèçăĎØéĀ ė èäśéèèĄØéĀ ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôÑśçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘā Ĕ ×ĀċíĆãüē æĘêòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈÐùŚ øāùĈ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăÑĎė èäś ďĔ ãśéòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚù Ööèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ØéĀüē éċëñČëŚ ċíĆüē ċëñČëŚ èæćÐ Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś üðĈôā ÑüÓĘ êòąÐāøāãś äśèØéĀäśéèċíĆ ĎèæćÐĎÐò⥠ĎèÐāò×Ā ãæĘāúòĆãæĘüċëñČëŚ čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś üðĈô ÑüÓĘ êòąÐāøāãś èÑśüāðĈèÑś ô üðĈô ĎèÐāò×Ā ã äăæãçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ äŚüďãśæĄē ôèăēçüíă ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć ĎèÐāò×ĀãæĘāċíĆüē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚüãďãśæĘæā ēĄ ðĈċíĆ

ðĈôèăçăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ ðĈôèăçăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ

åĕöôčŸÃŸŸćĎĂęĂßõĀĀþŸ áĄďþßĖñęÞĂď

ØéĀé

5:!! č ŧ 2:/ 9 M 3-:*D+= +Ċ5 3:0:2 :D&? L5 /:)D#đ 5:!! č ŧ 2:/ 9 M 3-:*D+= * +Ċ5* 3:0:2 :D&? L5 /:)D#đ !)< + !)< + D+=*5 +Ċ L5 /:)D#đ D#đ:! H+D-ĉ 5*ĉ:: H+D-ĉ H)ĉD+=H)ĉ * +Ċ D&?5L5 D&?

/:)D#đ !09 +A! 09D#đ !+A5*ĉ ħ : ħ 5:!! č ŧ G! + = !=M 0:2 :$A ! A E2/ 3:#+8F* !č 5:!! č ŧ G! + = !=M 0:2 :$A ĊD5K! AĊD 5KE2/ 3:#+8F* !č D ?M5 A-D ?M5 A- * /:)D5K E-Ċ /E2 > E2 M 3-:*/ĉ 5:095:09 * /:)D5K ! AE!-Ċ A/ > ++)E ĉ++)E ĉ 2:/ 92:/ 9 M 3-:*/ĉ : : #đ!H#D&? L5#+8F* !č M5 A&-/ D E ĉ&5 9 / DM 3-:* 5 9M 3-:* ß2<L ß2< !=MD#đL !=!MDH#D&? L5#+8F* !č D ?M5 AD- ?E ĉ E-82< #đ!H#D&? L5 /:)2@ E ĉ&5 9 / DM 3-:*à 9 5 9M 3-:*à 9 E-82< L !=M L KD!=#đM !KDH#D&? L5 /:)2@

E ĉ& / D !=MD#đ! Ċ!=!MD #đ! Ċ!

5:!! č ŧ 2:/ 9 M 3-:*5*ĉ !=ME- 5:!! č ŧ 2:/ 9 M 3-:*5*ĉ : !=ME:- +=*5 +Ċ 3:0:2 :D&? 5 3:0:2 :D&? L5 /:)D#đ !)< D+ H)ĉ * +ĊL55 /:)D#đ D&?L5 /:)D#đ ?L5 ?/ĉL5:$A/ĉ:ĊD+=$A*ĊD +Ċ L5 /:)D#đ !)< + H)ĉ +=* +ĊD5+= D&? !09 +A !09 +A

Óćâ÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ ÓćâüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ

ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞăéäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéëĈäś üś ÖÐāòêÞăéäĀ çă òòòð äăãäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS čæò÷ĀíæŞ čæò ěģ ĤĢĤĜ ěĝĤĤ ěģ ĢĠĜĜ ģěĜě ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

đöČęĂñĎšĂČęîđðŨîñĎšđïĊ÷éđïĊ÷î đöČęĂñĎšĂČęîđðŨîñĎšêøąĀîĊę Ÿ ęĀďåĎÞęøŇöùĖŀĝþĿę÷Ēÿñę÷ĒÿöŸ ęĀďåĎÞęøŇöùĖŀĝþĿòĀčĈöĒġ đöČęĂñĎšĂČęîÖøąìĞćðćèćêĉïćê đöČęĂñšĎĂČęîđðŨîñĎšēĂšĂüé Ÿ ęĀďåĎÞęĄŀößďñåďÞøďðďòđ÷ďòŸ Ÿ ęĀďåĎÞęøŇöùĖŀĝþĿěĊŀĊĄñŸ đöČęĂñĎšĂČęîÖøąìĞćĂìĉîîćìćî đöČęĂñĎšĂČęîđðŨîñĎšöĊöćø÷ć Ÿ ęĀďåĎÞęĄŀößďñåďÞĊôđööďôďö Ÿ ęĀďåĎÞęøŇöùĖŀĝþĿþĒþďĀÿďŸ đöČęĂñĎšĂČęîóĎéđìĘÝ óĎéÿŠĂđÿĊ÷é đöČęĂñĎšĂČęîđðŨîñĎšÖøąéšćÜ åĕöôčŸÃŸŸćĎ ĂęĂßõĀĀþŸ áĄďþßĖ ęÞĂď ĂęĂßõĀĀþŸ áĄďþßĖ óĎéÙĞćĀ÷ćï óĎéđóšĂđÝšåĕĂöôčŸÃŸŸćĎ Ÿ ęĀďåĎÞęøŇöñùĖŀĝęÞĂď þĿÞñĀčñŀ ďäŸ ćđġäåôĒŸŸġęĢäõĊôĎ ĢäĈĂďÿûē Ÿ ęĀďåĎÞęĄŀößďñåďÞÞďĀûĖ ęôĠ đöČ ęĂñĎďšĂĜöõĀĀþôĎ ČęîđðŨîĢäñĎĈĂďÿęĈĂĿ šéĎĀĢäöĉĈĂďÿęĈĂĿ ęîìŠćďî öĒĢ ďöĒĢ ęøŇöćđęøŇ ġäôĒñöġęõĊôĎ ĈĂďÿûē äÞĀčôĦäÞĀčôĦ ďĜöõĀĀþôĎ Ÿ ûĖñćĿĊęćĒÿñŸŸûĖñáĦďĈÿď÷ŸûĖñęûŀĊęåŀĊŸ Ÿ ęĀďåĎÞęøŇöùĖŀĝþĿñĖĈþđġöôĿďö đöČęęĂĂñĎñĎđöČ öćÖéš đöČęęĂĂñĎñĎđöČ đðŨñĎšĂîîČęîñĎñĎđðŨ ñĎšĂîČęîñĎđðŨ î÷ñĎéđïĊ šđïĊß÷áć éđïĊ î÷ćÖ ñĎšêøąĀîĊ đöČ ššĂĂČČęęîîęĂđðŨ šđüïĊ÷Ăõĉ î ÷î đöČ ššĂĂČČęęîîęĂđðŨ ššêüŠćøąĀîĊ ę ę Ÿ ęĀďåĎ ęøŇ ŀŀĝĝþĿþĿöþę÷ĒùĖďÞñŀ ęĀďåĎ ęøŇööÞùĖùĖęøŇ Ÿ ÞÞęĀďåĎ ę÷ĒĄÿĊýđ ÿñę÷Ē öŸ ÞÞęĀďåĎ ŀĝÿŸþĿòĀčĈöĒ ęĀďåĎ ęøŇööÞùĖùĖęøŇ ÿŀĝþĿñę÷Ē öŸ çÿéďŸ Ÿ ęĀďåĎ ęøŇ ŀŀĝĄþĿĿďöòäĿùĖďĀčĈöĒ ġ ġ đöČ ššĂĂČČęęîîęĂöĊÖøąìĞ đöČęęĂĂñšñĎđöČ đðŨñšĎĂîîČęîñĎñĎđðŨ øßĆ ñĎÝšĂĉêČęîó÷ćïćì ÖøąìĞ ćðćèćêĉ šēĂšęüĂ üé đöČęęĂĂñĎñĎđöČ ćðćèćêĉ ïćê ïćê đöČ ĎšĂĂČČęęîîęĂđðŨ ššēöĂšĊöîĂĉêñĎüé Ÿ ęĀďåĎ ęøŇ ùĖęĄŀŀĝþĿöþßďñåďÞøďðďòđ Ēåđòûÿď÷ďôŸ ęøŇööÞùĖùĖęøŇ ŸěĊŀĊĄñŸ Ÿ ÞÞęĀďåĎ Ÿ ÞÞęĀďåĎ ŀĝĊþĿĄñŸ ęĀďåĎ ęĄŀööÞßďñåďÞøďðďòđ ÷ďòŸ÷ďòŸ ŸŸ ęĀďåĎ ęĀďåĎ ęøŇ ŀŀĝþþĿĒþöěđòùĖĊŀĀñĒ đöČ ššĂĂČČęęîîęĂđðŨ šôćĂìĉ čŜÜàŠćîćî đöČ ššĂĂČČęęîîęĂđðŨ ššðöĊøąöćì ñĎšĂîČęîñĎÖøąìĞ Ăìĉîîćìćî ñĎšöĊöćø÷ć đöČęęĂĂñĎñĎđöČ ÖøąìĞ îćìćî đöČęęĂĂñĎñĎđöČ đðŨñĎšĂîîČęîñĎñĎđðŨ öîćø÷ć Ÿ ęĀďåĎ ęøŇ ùĖęĄŀŀĝþĿöüßďñåďÞĊôđ ĕĻäèĿďöŸööďôďö Ÿ ęĀďåĎ ęøŇ ŀŀĝĝþĿþĿöøþùĖĒþĀčþďô Ÿ ÞÞęĀďåĎ ööďôďö Ÿ ÞÞęĀďåĎ ŀĝďĀÿďŸ þĿþĒþďĀÿďŸ ęĀďåĎ ęĄŀööÞßďñåďÞĊôđ ęĀďåĎ ęøŇööÞùĖùĖęøŇ đöČ ššĂĂČČęęîîęĂđðŨ ēÖøí ñĎ đöČ ššĂĂČČęęîîęĂđðŨ ššĕÖöŠøąéš ČęîñĎóĎšöÝéĆÖ óĎ đìĘéÝÿŠ óĎ ĂđÿĊ÷é îöñĎĊĀšÖćĉøøąéš ćÜ ððą đöČęęĂĂñĎñĎđöČ óĎñĎéšĂîđìĘ ĂđÿĊéÖÿŠ÷ēÖøí é đöČęęĂĂñĎñĎđöČ đðŨñĎšĂîîČęîñĎñĎđðŨ Ü ĉ ĒúąēĂêêĆ öùĖéŀĝđóšþĿĂþéđÝšĎÞđóšěÞĀõŸŸùĖ ęøŇ ŀŀþĝþĿĒĈöÞđĀùĖĀčñŀ đŸŀĝŸĚĂčěĊòòĎ óĎĀ÷ćï óĎ éÙĞÞćęøŇ Ā÷ćï óĎ Ÿ ÞÞęĀďåĎ þĿÞďĀčñŀ óĎ éÙĞćęĀďåĎ Ă Ăđݚà ÞěÞĀõŸ Ÿ ęĀďåĎ ęĀďåĎ ęøŇööÞùĖùĖęøŇ äŸ ďäŸøøčŸ îęĄŀñĎöšúÞßďñåďÞÞďĀûĖ ïĀúĎ čè ñęôĠåñŸŸęôĠ域 đöČęęĂĂñĎñĎđöČ đðŨñĎšĂîîČęîñĎñĎđðŨ ŸšĂČęîđðŨÞęĀďåĎ ęĄŀöŠÙßďñåďÞÞďĀûĖ ŸđöČęĂñĎęĀďåĎ đöČ ššĂĂČČęęîîęĂđðŨ ššéöĎĊĀÿîčêöĉñĎąîš ęîšéìŠĎĀĂćöĉ÷ î ęîìŠćî Ÿ ęĀďåĎ ŀĝŸûĖþĿÿĂññŸ÷ĈĂĖ Ÿ ñęûŀĊñęåŀęûŀĊĊŸ ęåŀĊŸ Ÿ ęĀďåĎ ęøŇ ŀŀþĝþĿĒćöñĕòùĖĖĈčþďÞŸ ñćĿöÿĊùĖñŸęćĒ ñĿááĦĕðďĈÿď÷ŸûĖ Ÿ ÞÞęĀďåĎ ŀĝþđþĿġöñôĿĖĈďþđöġöôĿďö ûĖŸ ñćĿÞĊûĖęøŇ ęćĒ áĦŸďûĖĈÿď÷ŸûĖ ęĀďåĎ ęøŇööÞùĖùĖęøŇ đöČ ššĂĂČČęęîîęĂđðŨ šĒü׊÷Ăõĉ ÜéĊ ü ß÷Ăõĉ đöČ ššĂĂČČęęîîęĂđðŨ šš×üŠćĊĚđîÖĊ÷ćÖ ñĎšĂîČęîñĎöćÖéš ñĎ÷Ý šüŠć÷ćÖ đöČęęĂĂñĎñĎđöČ öćÖéš áć ßáć đöČęęĂĂñĎñĎđöČ đðŨñĎšĂîîČęîñĎñĎđðŨ ęĀďåĎ ęøŇ ŀŀĝĝþĿþĿöĚþùĖßĿďÞñŀ Ÿ ęĀďåĎ ęøŇ ŀŀøĄĿďĀďĀýáĄďþęûĒ ÞÞęĀďåĎ ŀĝäþĿñĒþĄďÞñŀ Ÿ ÞÞęĀďåĎ öäĿùĖďŀĄÿŸĿďäĿďÿŸ ÿĀŸ ęĀďåĎ ęøŇööÞùĖùĖęøŇ ÿĊýđĄçÿĊýđ éďŸçéďŸ ęĀďåĎ ęøŇööÞùĖùĖęøŇ đöČęęĂĂñĎñĎđöČ öĊšøĉÝþĉê÷ć ó÷ćïćì šöĊöęüĉê øßĆęü đöČ ššĂĂČČęęîîęĂöĊđðŨñĎÝšĂîĉêČęîñĎó÷ćïćì đöČęĂñĎđöČ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîČęîñĎđðŨ šöĊöîĉêñĎøßĆ éāôĄ ðĈ ð Ĝĝ Ģģ Ĝěġ Ÿ ęĀďåĎ ęĀďåĎ Þ ęøŇ ö ùĖ ŀ ĝ þĿ Ā đ Ć ÿďŸ ÞęĀďåĎ þĒåđòûÿď÷ďôŸ Ÿ ÞęĀďåĎ ŀþĒþŸđòĀñĒŸ ęøŇöÞùĖęøŇ ŀĝþĿöþùĖĒåŀĝđòþĿûÿď÷ďôŸ Ÿ ęĀďåĎ ęøŇöÞùĖęøŇ ŀþĒþöđòùĖĀñĒ îñĎšðøąöćì đöČęĂñĎđöČ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîČęîñĎđðŨ šôčŜÜîàŠñĎćšôî čŜÜàŠćî đöČęĂñĎđöČ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîČęîñĎđðŨ šðøąöćì ęĀďåĎ èäśèØéĀÞęĀďåĎ ŀĝþĿøĀčþďô ęĀďåĎ ęøŇ öÞùĖęøŇ ŀĝþĿöüæùĖāÖÐāò÷ą ĕĻäŀĝèĿþĿďüöŸĕĻäÐèĿøāùĈďöŸ þĿöøùĖĀčþďô ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘāÞċíĆ üē êòÿčñÙèŞ ùŚ āçāòâÙèċêŢèçòòðæāè ôă ÑùăæçăĎė ęĀďåĎ éęøŇèĄďĔöãśÞùĖòęøŇ éĀ ŀĝÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùăæçăĎė èÐāò×ĀãæĘā×āÐ äśèØéĀđöČ éċíĆęĂüēñĎċëñČëŚ æĘāúòĆ ċëñČëŚ čêòãĎÙśÓöāðôÿċüĄđöČ ñãòüéÓüéċíĆ ÐšĕöŠøāÓöāðåĈ ÐĊĀäśĉøüĉ ÖÑüÖÑś üððĈðą ô ÑüÓĘðāðą êòąÐøāãśāèÑśüðĈô đöČ ČęîñĎđðŨ îēÖøí ñĎ ñĎšö ĎèÐāò×Ā ĆÖēÖøí ñĎ ÖüēÖøí îöñĎĊĀšĕĉøöŠĉ ö ĒúąēĂêêĆ ĒúąēĂêêĆ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîĎèæć šöÐĆÖÐò⥠ÖãēÖøí ęĂñĎđöČ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîüē ČęîñĎòĀđðŨ æĒĈçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ ĎèÐāò×ĀãæĘāċíĆ üē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ãäŚüďãśæ ēĄ ðĈÞôěÞĀõŸ þĿþãĎÞ äăěÞĀõŸŸùĖ ÞęĀďåĎ đĀđŸŸĚĂčěĊòòĎ ęĀďåĎ ÞęĀďåĎ ęøŇöÞùĖęøŇ ŀĝþĿöþùĖĎÞŀĝěÞĀõŸŸùĖ ÞěÞĀõŸèăçíă æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć ęĀďåĎ ęøŇöÞùĖęøŇ ŀþĒĈöđĀùĖđŸŀþŸĚĂčěĊòòĎ øøčŸøøčŸ ðĈôèăçăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óćâ÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ ÓćâüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ îñĎšúŠÙïĀúĎ šöĊÿĂčê÷ ąîšĂ÷ đöČęĂñĎđöČ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîČęîñĎđðŨ šúïĀúĎ čè ŠÙčè đöČęĂñĎđöČ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîČęîñĎđðŨ šöĊÿîčêñĎąîš āúòĀéëĈÞäś ęøŇ äĀ çă òòòð äă ùĘÞęĀďåĎ öĂùĖ÷ĈĂĖ ŀĝþĿĂéĿá÷ĈĂĖ ÞęĀďåĎ ŀþĒćĕòčþďÞŸ ęĀďåĎ ęøŇöùĖŀĝüś þĿÖÐāòêÞă ĕðŸ ĿáĕðãŸäŚüďãśæ ēĄ ÷ĈèñŞêÞăéäĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ęĀďåĎ ęøŇöÞùĖęøŇ ŀþĒćöĕòùĖčþďÞŸ čæò÷ĀíæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ š×ĊĚđÖĊ÷Ý đöČęĂñĎđöČ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîČęîñĎđðŨ šĒ׊îÜñĎéĊšĒ ׊ÜéĊ đöČęĂñĎđöČ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîČęîñĎđðŨ š×ĊĚđîÖĊñĎ÷Ý ÓąÐöóæçă åăëčô ďãśæĄē ÿĀŸ ÞęĀďåĎ ÞùĖęøŇ ñĒ āùüèäāðúôĀÐíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÞęĀďåĎ ùĖŀøė čùäĉ ĀďĀýáĄďþęûĒ ęĀďåĎ ęøŇäăãöäāðÐāòċëñČëŚ ŀĝþĿöĚùĖßĿŀĝäþĿñĒĚßĿíäòÿçòòðÓĘ ęĀďåĎ ęøŇöÞùĖęøŇ ŀøĀďĀýáĄďþęûĒ ÿĀŸ XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ñĎšøĉþ÷ć ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æćÐöĀèíòÿ ċöôā è đöČęĂñĎđöČ šĂČęîęĂđðŨñĎšĂîČęîñĎđðŨ šøĉþî÷ć ðĈ ð Ĝĝ Ģģ Ĝěġ Ÿ ÞęĀďåĎ þĿĀđĆÿďŸ éāôĄ éāôĄ ðĈ ð Ĝĝ Ģģ Ĝěġ Ÿ ęĀďåĎ ęøŇöÞùĖęøŇ ŀĝþĿöĀùĖđĆŀĝÿďŸ

&@&@ // !!

&@&@ // !!

äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăåăëė čùäĉ åăëæčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓė ąÐčùäĉ čô ďãś Ąē æĄē XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

+=*5 +Ċ 3:0:2 :D&? 5 3:0:2 :D&? L5 /:)D#đ $AĊD+=$A*ĊD +Ċ L5 /:)D#đ !)<! )<+ +

2:/ D3-ĉ !9M! 5 0:2 : *ĉ Ċ/ * = *ĉ5)D = 2:/ D3-ĉ :!9M!: 5 0:2 : *ĉ 5)'ď5)'ď Ċ/ * = *ĉ5 )D = L*3A'L*3Aď 'ď *ĉ5M ) 9 < L5D&? 8+A L5 8+A *ĉ5) 9 < M D&? Ċ 9L/ >Ċ 9L/ > E-8H)ĉ Q:$G3Ċ< : Q $< : Q 29L 25! 5 0:2 : E-8H)ĉ E -ĊE -Ċ Q: G3Ċ :29L :25! 5 0:2 :

ðĈôèăçăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ ðĈôèăçăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăå ė ăëčùäĉ åëă æčô ďãś íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ čô ďãś Ąē æē Ą ęøŇäăãöäāðÐāòċëñČëŚ ćđäăXXX XBUOBQQ DPN ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX CVEEIBLPT PSH ġäôĒġęõĊôĎĢäĈĂďÿûē äÞĀčôĦ ďĜöõĀĀþôĎ ĢäĈĂďÿęĈĂĿďöĒĢ ÓąÐóæçăÓÐė ą čùäĉ XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ēè ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ÓôĆ ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

5:!! č ŧ D&+:8 8!9 M! G!D+? M &/ D M 3-:* 5:!! č ŧ D&+:8 8!9 M! G!D+? L5 !=L5M != &/ D 5 9M 5 9 3-:* 5 3: : D&? L5 /:)D#đ )< +D < D+= D+= * +Ċ*5 +Ċ 3: : D&? L5 /:)D#đ !)< !+D < D+=*5 +Ċ D&?5 D&? L5 /:)D#đ 5*ĉ:5*ĉ D+=*: +Ċ L5 /:)D#đ !09 !+A09D -*+AD-*

æùÐ üĘ ĝğ Ĝģģ ĤĜ éāôĄ éāôĄ æùÐ üĘ ĝğ Ĝģģ ĤĜ

ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀüēãêòÿčñÙèŞ æĘāċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą øāùĈùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæèØéĀ çăĎė èäś ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùæÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘāċíĆ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈùŚ ÐāçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăĎė èäś éèĄèďĔ ØéĀ ãśòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă çăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ éċíĆüē ċëñČëŚ ĎèæćÐ ĎèÐāò×Ā Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüüÖÑüÖÑś üðĈāôêòą ÑüÓĘ āêòąāÐèÑś øāãś äśèØéĀäśéèċíĆØéĀ üē ċëñČëŚ ĎèæćÐÐò⥠ãæĘāúòĆãüæĘċëñČëŚ čêòãĎÙś čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś ðĈô ÑüÓĘ Ðøāãś üðĈāôèÑśüðĈô èăçíă æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ āċíĆüē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ôèăæç ēĄ íă ðĈæć ôçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ ĎèÐāò×ĀĎèÐāò×Ā ãæĘāċíĆãüē æĘÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚãü äă ďãśãæäŚ ēĄ ðĈüďãś

üðĈôçòòðÿèĄ ×Āãüē æĘêòÿčñÙèŞ āċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą ùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ùăæèçăØéĀ Ďė èäśéèèĄØéĀ ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôÑśçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘā Ĕ ċíĆ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈÐùŚ øāùĈ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăÑĎė èäś ďĔ ãśéòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ØéĀüē éċëñČëŚ ċíĆüē ċëñČëŚ èæćÐ Ðò⥠ĎèÐāò×ĀãæĘāúòĆüċëñČëŚ čêòãĎÙśÓöāðôÿċüĄñãòüéÓüéċíĆüē òĀÐøāÓöāðåĈÐäśüÖÑüÖÑśüðĈô ÑüÓĘāêòąÐøāãśāèÑśüðĈô ĎèÐāò×ĀãæĘāúòĆüċëñČëŚ čêòãĎÙśÓöāðôÿċüĄñãòüéÓüéċíĆüē òĀÐøāÓöāðåĈÐäśüÖÑüÖÑśüðĈô ÑüÓĘāêòąÐøāãśāèÑśüðĈô äśèØéĀäśéèċíĆ ĎèæćÐĎÐò⥠ĎèÐāò×Ā ã äăæãçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ äŚüďãśæĄē Ąē ðĈôēüèăÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ çăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ģğĤğ ģěģĞ íć ĎèÐāò×ĀãæĘāċíĆēüÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚãüæĘ ďãśāæċíĆ

Đĕüĕþĕüčøė Đĕüĕþĕüčøė âĕąåøĕčøė Ôąõ×èąýèć

êĄĘÚþøąõ b ďöąõŞ ĀôÔøŞ ąúøôþąõĒÛďÕş ąĐøăøôþąõĒÛĀĀÔ óćÔüċóćêÔüċĄĘÚþøąõ b ďöąõŞ ĀôÔøŞ ąúøôþąõĒÛďÕş ąĐøăøôþąõĒÛĀĀÔ úŞąďîŦìÔąõĀĄìþìĉėÚĕ ĒìíööçąÔąõêĄĘÚþøąõ úŞąďîŦìÔąõĀĄìþìĉėÚĕ ĒìíööçąÔąõêĄĘÚþøąõ

&@ / ! &&@ @ // !! &&@ @ // !! &&@ @ // !! &&@ @ // !! &&@ / !! &&@ @ // !! çăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć üāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ðĈôèăçăíðĈćæôèăçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöâòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ éëĈäś üś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă äĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéùĘëĈāäś úòĀüś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă ãäŚüďãśãæäŚ ēĄ ü ÷ĈďãśèæñŞê ēĄ ÷ĈÞăéèäĀñŞêíă Þăæć éçö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS íæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ čæò÷Āíčæò÷Ā æŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

ØéĀé ģ ØéĀé ģ

ØéĀé Ģ ØéĀé Ģ

ÙĀïéĊ b ÖćöēõÙĊ ÝĞćóüÖîĊ îÖćöēõÙĊ đúĉĚîýðøąđÿøĉ ßĆĚîðøąđÿøĉ ÙĀïéĊ b ÖćöēõÙĊ ÝĞćóüÖîĊ Ě đðŨîĚ đðŨ ÖćöēõÙĊ ßĆĚîđúĉßýĆĚî ßĆ å å ĀĆüćĀîš ßĆĚîïüø ÖüŠ ćÖćöēõÙĊ ìĆĚÜĀúć÷ đðøĊ ÷ïđÿöČ ßĆĚîĀĆßĆüĚîĀîš ßĆĚîćÿĎ ßĆÜĚîÿčÿĎéÜ ßĆÿčĚîéïüø ÖüŠ ćÖćöēõÙĊ ìĆĚÜĀúć÷ đðøĊ ÷ïđÿöČ Ăî Ăî îöÿéđÖĉ éÝćÖĒöŠ ēÙ îöÿš đÖĉéÝćÖîöÿé đî÷ך đÖĉéÝćÖîöÿš îöÿéđÖĉ éÝćÖĒöŠ ēÙ îöÿš öđÖĉéöÝćÖîöÿé đî÷ך îđÖĉéîÝćÖîöÿš ö ö đî÷ĔÿđÖĉ éÝćÖđî÷ך ĀĆüđî÷ĔÿđÖĉ éÝćÖđî÷Ĕÿ đî÷ĔÿđÖĉ éÝćÖđî÷ך î ĀĆîüđî÷ĔÿđÖĉ éÝćÖđî÷Ĕÿ ĀĆüđî÷ĔÿðøćÖäüŠ đúĉýćÖüŠ ćïøøéćøÿĂĆ đÖĉéÝćÖēÙìĆ ĚÜĀúć÷đĀúŠ îĆĚîî ÞĆ ĀĆüđî÷ĔÿðøćÖäüŠ ćđúĉýćÖüŠ ïøøéćøÿĂĆ îđÖĉéîÝćÖēÙìĆ ĚÜĀúć÷đĀúŠ ćîĆĚîć ÞĆ îĆĚîî îĆĚî

ÛļċĀĕôþĐ ĆÚ ðüĊ òðĆà ĄüĐ ÛļċĀÛĆà ... Ûļċ...ĀĕôþĐ ĆÚ ðüĊ ÷ûĿ ÷ ĕàčûĿò ĕàč ðĆà ĄüĐ ĆÛļċĆĀÛĆà ðĎĝĄĀàĖĄòĆûĻ ċàĘíĆûĻ ċàĄòď ðĎĝĄĀàĖĄòĆûĻ ċàĘíĆûĻ ċàĄòď ĝàúĎĆĝàûĒúĎĻ ĆûĒĻ ðċă ÚüüúÚü ÝòĘãļ ĖþĉõĒ ûÛĆàĕÛċ ðċă ÚüüúÚü ÝòĘãļ ĖþĉõĒ ļĆċāĊļĆûċāĊ ÛĆàĕÛċ ÷ďà÷ċĕĆċęôęúĻ ðĊĞàĄúí áĉîļ äďĝàÚċüþĉðč ðĊĞàĄúí ÷ďà÷ċĕĆċęôęúĻ ęíļðęĊĞàíļĄúí áĉîļ ĆàïďĆààïď äďĝààÚċüþĉðč ĞàęĀļĞàðęĀļ ĊĞàĄúí óđÝÝþðĢ ċÚüüúĘí íļ ĀûÚċû íļ ĀûĀċáċ ĄüĐ íļĀûĘá ÚĜóđÝÚĜÝþðĢ ċÚüüúĘí íļ ĀûÚċû íļ ĀûĀċáċ ĄüĐ ĆíļĀĆûĘá

ÚüüúòĊ ĞòĖĄþĉ ĕôŃ òÛĆàě ĕÛċ ĖþĉĕÛċûĻ Ćú÷ċĕĆċÚüüúòĊ ÚüüúòĊ ĞòĖĄþĉ ĕôŃ òÛĆàě ĕÛċ ĖþĉĕÛċûĻ Ćú÷ċĕĆċÚüüúòĊ ĞòęôĞòęô ĝà ÚüüúòĊ íîċúĕÛċęô ĕĄúĐ Ćòĕàċîč íîċúîòâĉòĊ ĆòďĝàĆòď ÚüüúòĊ Ğò ûĻĞòĆ ûĻ úîčĆíúîč îċúĕÛċęô ĕĄúĐ Ćòĕàċîč íîċúîòâĉòĊ Ğò Ğò ĕ÷üċĉâĉòĊ ÝÝþÝĀüðĢ ċÚüüúíĎ ăĊĝàăúęĀļ ăĢċóĄüĊ óù÷Ąòļ ĕ÷üċĉâĉòĊ Ğò óđĞòÝ óđ ÝþÝĀüðĢ ċÚüüúíĎ ăĊĝà ăúęĀļ ăĢċĄüĊ ù÷Ąòļ ċ ċ ðĊĞàĄþċû ûĻ ĝ÷ďĝàÛĆàăĊ ðĊĞàĄþċû ĘòėþÚĄòļ óđæðĊóđĞàæĄþċû ûĻ ĆúĕôŃĆòúĕôŃ ðĎĝ÷òďĝàðĎÛĆàăĊ îĀĿðîĊĞàĀĿĄþċû ĘòėþÚĄòļ ċ ċ

Ê ®¨µ¥°¥n µÁ Ȧ » ¦»¬¡ª ­» oµ¥ ° Á¦µÁ¨¥ Á ° ´Á ° ´ Ê ®¨µ¥°¥n µÁ È » »¬¡ª ­» oµ ¥ ° Á¦µÁ¨¥

éāôĄ ðúā æĄ Ĝě ĜĢģ ĜğĜ éāôĄ üć Ñć ĝĠ ģĞ ğĤ

äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăåăëė čùäĉ åăëæčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓė ąÐčùäĉ čô ďãś Ąē æĄē XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

ฆราวาสชั ้นศเลิศ ฆราวาสชั ้นเลิ

Úüüú Úüüú

đøć×ĂÖúŠ ü÷ĞĚćÖąđíĂüŠ ª x w h ·³ ćwݪ h ć

éāôĄ ðúā æĄ Ĝě ĜĢģ ĜğĜ éāôĄ üć Ñć ĝĠ ģĞ ğĤ

ÐśāöñŚāÖüñŚāÖíćæçÿ ÐśāöñŚāÖüñŚāÖíćæçÿ

ðúāöāò ùĘ ðúāöāò ùĘ ĜĤ ĠĠĠ ĜĢĝğ ĜĤ ĠĠĠ ĜĢĝğ éāôĄ éāôĄ éāôĄ ðúāöāò ùĘ éāôĄ ðúāöāò ùĘ ĜĤ ĠĠĠ ĜĢĝğ ĜĤ ĠĠĠ ĜĢĝğ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀüēãêòÿčñÙèŞ æĘāċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą øāùĈùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæèØéĀ çăĎė èäś ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùæÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘāċíĆ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈùŚ ÐāçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăĎė èäś éèĄèďĔ ØéĀ ãśòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă çăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ éċíĆüē ċëñČëŚ ĎèæćÐ ĎèÐāò×Ā Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüüÖÑüÖÑś üðĈāôêòą ÑüÓĘ āêòąāÐèÑś øāãś äśèØéĀäśéèċíĆØéĀ üē ċëñČëŚ ĎèæćÐÐò⥠ãæĘāúòĆãüæĘċëñČëŚ čêòãĎÙś čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś ðĈô ÑüÓĘ Ðøāãś üðĈāôèÑśüðĈô èăçíă æć çčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ āċíĆüē ÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ôèăæç ēĄ íă ðĈæć ôçčÕø⪠čæò ěģ ĝĝĝĝ ĠĢĤě - Ĥğ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ ĎèÐāò×ĀĎèÐāò×Ā ãæĘāċíĆãüē æĘÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚãü äă ďãśãæäŚ ēĄ ðĈüďãś

äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ óæçăåăëė čùäĉ åăëæčô ďãś äăãäāðÐāòċëñČëŚ íòÿçòòðÓĘ āùüèäāðúôĀ Ðíćæçö×è čãñíòÿüā×āòñŞ ÓąÐóæçăÓė ąÐčùäĉ čô ďãś Ąē æĄē XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH XXX CVEEIBLPT PSH ] NFEJB XBUOBQBIQPOH PSH ] XXX XBUOBQQ DPN ] XXX CVEEIBXBKBOBGVOE PSH ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è ÓôĆèē ù ö í '. .)[ æć ÐöĀèíòÿ ċöôā è

¤¦¦ Ù ´ ¨¥µ ª´ ¤¦¦ Ù ´ ¨¥µ ª´ ¦ ¦

üćìąđÙøČ ęĂÜÿĂî×ĂÜóüÖĂČ ęîüŠćÜÝćÖÿöèą×ĂÜóüÖĂČ Ýªz Þ ² | Ùx |Ü w Þ ²Ù h |} w ØÝx |Ü w Þ ²Ù ęî

³Ê í§² ¹¯ ·Ê¬º ím º q§²

ÓĈŚðĆüčùãāéĀè ÓĈŚðĆüčùãāéĀè

çăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć üāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ðĈôèăçăíðĈćæôèăçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöâòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ éëĈäś üś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă äĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéùĘëĈāäś úòĀüś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă ãäŚüďãśãæäŚ ēĄ ü ÷ĈďãśèæñŞê ēĄ ÷ĈÞăéèäĀñŞêíă Þăæć éçö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS čæò ěģ ĤĢĤĜ ěĝĤĤ ěģ ĢĠĜĜ ģěĜě čæò ěģ ĤĢĤĜ ěĝĤĤ ěģ ĢĠĜĜ ģěĜě

äāðòüñçòòð äāðòüñçòòð

ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀüēãêòÿčñÙèŞ æĘāċíĆüē êòÿčñÙèŞ æāÖÐāò÷ą øāùĈùŚ āçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæèØéĀ çăĎė èäś ďĔ ãśòéĀ ÐāòùÖöèďöś ďðŚùæÖöèùă æçăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ ÑśüðĈôçòòðÿèĄ Ĕ ×ĀãæĘāċíĆ æāÖÐāò÷ą ÐøāùĈùŚ ÐāçāòâÙèċêŢ èçòòðæāè ôă ÑùăæçăĎė èäś éèĄèďĔ ØéĀ ãśòéĀ èĄÐāòùÖöèďöś ďðŚùÖöèùă çăĎė èÐāò×Ā ãæĘā×āÐ éċíĆüē ċëñČëŚ ĎèæćÐ ĎèÐāò×Ā Ðò⥠ĎèÐāò×Ā āúòĆüċëñČëŚ ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüüÖÑüÖÑś üðĈāôêòą ÑüÓĘ āêòąāÐèÑś øāãś äśèØéĀäśéèċíĆØéĀ üē ċëñČëŚ ĎèæćÐÐò⥠ãæĘāúòĆãüæĘċëñČëŚ čêòãĎÙś čêòãĎÙś ÓöāðôÿċüĄ ñãòüéÓüéċíĆ üē òĀÐøāÓöāðåĈ ÐäśüÖÑüÖÑś ðĈô ÑüÓĘ Ðøāãś üðĈāôèÑśüðĈô çăíćæçčÕø⪠čæò ěģ ģğĤğ ģěģĞ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ āċíĆēüÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ôèăæç Ąē ăíðĈćæôèăçčÕø⪠čæò ěģ ģğĤğ ģěģĞ íć æçö×èùðāÓð čæò ěģ ĜġğĢ ġěĞġ ĎèÐāò×ĀĎèÐāò×Ā ãæĘāċíĆãēüæĘÓöāðùÿãöÐČôÿêòÿúñĀ ã äăãäŚãü äă ďãśãæäŚ Ąē üðĈďãś

ĉÖď×÷ćǰøćÙÖď ÙÙ¦îîď ¡w¦xì zw¦ x¬ ×ē÷ Á¡¦µ³ ªµ¤­· Ê Å Â®n ¤¸ ªµ¤­· Ê Å Â®n ¦µ ³ Á¡¦µ³ ªµ¤­· Ê Å Â®n ´ · ´ ¹ · ¤¸ ¹ ªµ¤­· Ê Å Â®n ¦µ ³ zw¦ x ÙÙ¦ ¡w¦x¬ ìĉÖď×ē÷ øćÙÖď ×÷ćǰîîď Á¡¦µ³ ªµ¤­· Ê Å Â®n ¦µ ³ ¹ ¤¸ ªµ¤­· Ê Å Â®n ´ · ´ · Á¡¦µ³ ªµ¤­· Ê Å Â®n ¦µ ³ ¹ ¤¸ ªµ¤­· Ê Å Â®n ÙÙ¦îîď ¡ zw¦ x }¡ ¦ · ¤ê ďê¡ Ğǰ¤ ÿč¦ üÙ¦ĉö čê¡ ¤ďê}îď¦}ê ¡ĉǰüčÝďÝêĉ ìĉøćÙÖď ×÷ćǰÝĉ Á¡¦µ³ ªµ¤­· Ê Å Â®n ´ · ´Â ¨³¦µ ³ ¨n µªÅ oµªÅ o ªnµ ªnµ Á¡¦µ³ ªµ¤­· Ê Å Â®n · ¨³¦µ ³ ¨n ¡o ªÂ¨o oªw¥ ¸ v · v · ®¨» ®¨» ¡o ¨o oªª¥ ¸ çĄÚw çĄ ìĈĘ ÚìĈĘ

£ ´ ³ °¦· ¥¤¦¦ ¤¸ r Ù ®µÅ o Ä ¦¦¤ª· ­»£ ­» ´ ³ °¦· ¥¤¦¦ ¤¸ ° r° Ù ®µÅ o Ä ¦¦¤ª· ¥´ ¸ Ê ¥´ ¸Ê É Ò ­¤ ³ ¸ É Ó ­¤ ³ ¸ É Ô ­¤ ³ ¸ ­¤ ³ ¸ Ä ¦¦¤ª· É Ò ­¤ ³ ¸ É Ó ­¤ ³ ¸ É Ô ­¤ ³ ¸ É Õ ÈÉ Õ È ­¤ ³ ¸ ®µÅ o®ÄµÅ o ¦¦¤ª· ¥´ ¸ Ê ¥´ ¸Ê °µ r ¨¥µ ª´ Ê Á È °¥n µ Ŧ " ¸ Ê º ° °¦· ¥¤¦¦ ¤¸ r Ù °µ r ´ ´ ¨¥µ ª´ ¦ ¸ Ê Á Ȧ ¸ °¥n µ Ŧ " ¸ Ê º ° °¦· ¥¤¦¦ ¤¸ ° r° Ù ªµ¤ µ ­¼ ´¨¥µ ª´ ¦ ¸ÄÊ ¤¸ ªµ¤ µ ­¼ ®n ®n ´¨ ¥µ ª´ ¦ ¸ Ê ¤¸ ¥»Ä ¥» ®n ®n »¦»¬ »Ä ¦»¬Ä ¦»¬ ­» oµ¥Â®n ´ Ê ®¨µ¥ »¦»¬ » ´¦ Ê »¬ º ´É ° Ê ªn ºµÉ »°ªn¦µ»¬ » ­» oµ ¥Â®n »¦»¬ » ´¦ Ê »¬®¨µ¥

ÓĈŚðĆü ÓĈŚðĆü

ĥĴĔĭŁăħġĮĞ ĸĚğĮĬĸħĒĴ ĖĭŁĖĻĖĄğĐı ĜİĄĥĴĜİĔĄĭŁăħġĮĞ ĸĚğĮĬĸħĒĴ ĖĭŁĖĻĖĄğĐı ĖıŁ ĖıŁ ĚģĄĸĕĩĚIJ ăĔŅĮĀģĮĝĸĚı ğĵşĒĮĝĸŶŦ ĚģĄĸĕĩĚIJ ăĔŅĮĀģĮĝĸĚı ĞğĸĚijĞŀĩğĸĚij ĻħşğŀĩĵşĒĻħş ĮĝĸŶŦ ĖąğİăĖģŞąğİ Į ăģŞĮ ŁĸŶŦĖĻĸħĒĴ đþIJŁĖăĔĴĹħŞ ŁĸŶŦĖĀģĮĝđĭ ļĝŞĩĸħġij ĖıŁĸŶŦ Ėı ĖĔĴŁĸŶŦĄĖþŢ ĔĴĖıĄŁĸŶŦþŢĖ ĖıĸħĒĴ ħşĸĄİĻđħşþIJĸŁĖĄİĹħŞ ĄþŢă ĔĴĖıĄŁĸŶŦþŢĖ ĖıĀģĮĝđĭ ėļĝŞĸėħġij ĹħŞăĩĔĴĹħŞ ĄþŢă ĔĴĄþŢ ŁĸŶŦĖĔĮăđŅ ĸĖİēĖIJăĻħş ēIJăĀģĮĝđĭ ļĝŞĩĸħġij ĖıŁĸŶŦĖĖıĔĮăđŅ ĮĸĖİĖĮĻħş ĀģĮĝđĭ ėļĝŞĸėħġij ĹħŞăĩĔĴĹħŞ ĄþŢă ĔĴ đĭĄþŢăĖı đĭ ŁĸēİăđĖı!Łĸēİđ!

ðúā öă ğ ĞĤ Ğĝ éāôĄ éāôĄ ðúā öă ğ ĞĤ Ğĝ

èÍã´“à¸Í” “à¸Í” àÁ×àÁ× èÍã´ äÁ‹ÁäÁ‹ Õ ÁÕ àÁ× äÁ‹»äÁ‹ÃÒ¡¯ã¹âÅ¡¹Õ é àÁ×èÍè͹ѹÑé¹é¹à¸Í¡ç à¸Í¡ç »ÃÒ¡¯ã¹âÅ¡¹Õ é äÁ‹äÁ‹»» ÃÒ¡¯ã¹âÅ¡Í× è¹ è¹ ÃÒ¡¯ã¹âÅ¡Í× äÁ‹ Ò§âÅ¡·Ñ é§Êͧé§Êͧ äÁ‹»»ÃÒ¡¯ã¹ÃÐËÇ‹ ÃÒ¡¯ã¹ÃÐËÇ‹ Ò§âÅ¡·Ñ ³Ê í§² ¹¯ ·Ê¬º ím º q§²

&@&@ // !!

¢¢ ¢¢

¨³ ´¨³ ´ · ·

àÁ×èÍ “à¸Í” äÁ‹ÁÕ !

àÁ×èÍîøĎ“à¸Í” óćĀĉ÷ą b đöČęĂĔé đíĂđĀĘ ðĒúšü ÿĆÖäÁ‹ üŠćÁđĀĘÕ !î ĕéšôŦÜđÿĊ÷ÜĒúšü ÿĆÖüŠćôŦÜ óćĀĉĕéš ÷ą b ÖúĉđöČęîęĂ úĉ Ĕé đíĂđĀĘ ü ÿĆÖüŠüćÖć÷ ÖĘ đĀĘî ĕéšôÿŦÜĆÖđÿĊüŠ÷ćÜĒúš ü ÿĆÖĚöüŠ ÿĆ ćôŦöÜñĆÿ Ěöøÿ ÿĆîöøĎðñĆĒúš ÿìćÜñĉ éö úĉ ĕéšÖúĉęî úĉ ñĆÿìćÜñĉüÖć÷ ÖĘ öñĆÿü ĕéšĚöøøÿ ÿĆ ĎšĒÝšÜöíøøöćøöèŤ ÖĘÿÿĆÖĆÖüŠüŠćć éö úĉ ĕéšøĎšĒĚöÝš ÿĆÜĒúš ĕéšøĎšĒÝšÜíøøöćøöèŤ ÖĘÿĆÖüŠćĕéšøĎšĒÝšÜĒúšü Ěî ĶđíĂķ ÝĆ đöČđöČ ęĂîĆęĂĚîîĆ ĶđíĂķ ÝĆ ÖĕöŠöÖĊ ĕöŠöĊ

ØéĀé Ğ ØéĀé Ğ

¸ ¥¥£ ³ Á m ¬³ ¬³©q »n¥©q»n ³È©»n¥ ¸»n ³È© ¥¥£ ³ £· À |£· À |Á m

çăíćæçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć üāòĄöòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ ðĈôèăçăíðĈćæôèăçö×è čæò ěģ ĜğĠĢ ĝĞĠĝ Óć â÷òÙā čæò ěģ ĜĠĜĞ ĜġĜĜ Óć âüāòĄöâòòâ čæò ěģ ĠěĠģ ġģģģ éëĈäś üś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă äĀ íă æć çö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS ùĘāúòĀéùĘëĈāäś úòĀüś ÖÐāòêÞă éäĀ çă òòòð äă ãäŚüďãśãæäŚ ēĄ ü ÷ĈďãśèæñŞê ēĄ ÷ĈÞăéèäĀñŞêíă Þăæć éçö×è #VEEIBXBKBOB 5SBJOJOH $FOUFS íæŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ čæò÷Āíčæò÷Ā æŞ ěĤ ĝĤĜĝ ĞġĠĢ ěĤ ĝĤĜĝ ĞĢĝĜ ěĤ ĝĤĜĝ ĞğĢĜ

ĥĴĔĭŁăħġĮĞ Ĝİ ĥĴğĵŶşĩĻđ ğĵ ĞĵŞĒĮĝĸŶŦ ĜİĄĥĴĜİĔĄĭŁăħġĮĞ Ĝİ ĄĥĴğĵŶĄĻđ ğĵ ĞĵŞĒşĩĮĝĸŶŦ ĖąğİăĖģŞąğİ Į ăģŞĮ ŁĸŶŦĖĻĸħĒĴ ŁĸŶŦĖĀģĮĝđĭ ļĝŞĩĸħġij ĩþĩăĔĴ ĖıŁĸŶŦ Ėı ĖĔĴŁĸŶŦĄĖþŢ ĔĴĖıĄŁĸŶŦþŢĖ ĖıĸħĒĴ ħşĸĄİĻđħşĔĴĸĄİĄđþŢ ĔĴĖıĄŁĸŶŦþŢĖ ĖıĀģĮĝđĭ ėļĝŞĸėħġij þĩăĔĴ ĄþŢ ĄþŢ ŁĸŶŦĖĔĮăđŅ ĸĖİēĖIJăĻħş ēIJăĀģĮĝđĭ ļĝŞĩĸħġij ĩþĩăĔĴ ĹġĬĖıĹġĬĖı ŁĸŶŦĖĔĮăđŅ ĮĸĖİĖĮĻħş ĀģĮĝđĭ ėļĝŞĸėħġij þĩăĔĴ ĄþŢ đĭĄþŢăĖı đĭ ŁĖĭŁĖăĖı ŁĖĭŁĖ ģŞĮăąĬĚIJ ėĴĀĀġĔı ŀĸŶŦĖĦĝĐĬħğij ĩĚğĮħĝĐŢ şĒşĩăĄĮğąĬĺĒş ĹĝşģŞĮĹĝş ąĬĚIJ ĝıėĴĀăĝıĀġĔı ŀĸŶŦĖĦĝĐĬħğij ĩĚğĮħĝĐŢ ĈIJŀăĸŶŦ ĈIJĖŀăĘĵĸŶŦşĒĖşĩĘĵăĄĮğąĬĺĒş ģĮĔĬ ģĮĔĬ ĸĔıŀĞģĹĦģăĀĵ ŞĺĒşģĮĔĬ ĝĮąĮĄĔİ ĖĩĩĄ ħğij ĔİĤĖĒĬģĭ ĖĒĄ ħğij ĔİĤĩĸħĖij ĄĿĒĮĝ ĸĔıŀĞģĹĦģăĀĵ ŞĺĒşģĮĔĬ ĝĮąĮĄĔİ ĤĒĬģĭĤĖĒĬģĭ ĩĩĄ ħğij ĩĔİĤĩĒĬģĭ ĒĄ ħğij ĩĔİĤĩĸħĖij ħğijĩ ħğij ĔİĤĩĻĒşĔİĄĤĿĒĻĒşĮĝ ĺđĞŶğĬĄĮĤģŞ Į ĸğĮąĭ ĄĞĄģĮĔĬþĩăĜİ ĸĦıĞăĖı đĭ ĺđĞŶğĬĄĮĤģŞ Į ĸğĮąĭ ĄĞĄģĮĔĬþĩăĜİ ĄĥĴğĵŶĄĖĭĥĴŁĖğĵŶĸĦıĖĭĞŁĖ đĭ Ł ăĖıŁ ĔıŀĦĝĐĬħğij ĩĚğĮħĝĐŢ ħģĭŀĖļħģĦĭ ŀĖĦĬĸĔij ĩĖ ħğij ĦĭŀĖģğĬğĭ þşĩĔıŀĦþşĩĝĐĬħğij ĩĚğĮħĝĐŢ ĖĭŁĖ ąĭĖĄĭŁĖĔŅ ąĭĮĜİĄĄĔŅĥĴĮĜİĖĄĭŁĖĥĴĻħşĖħĭŁĖģĭĻħşŀĖļħģĦĭ ŀĖĦĬĸĔij ĩĖ ħğij ĩĦĭŀĖĩğĬğĭ ļŶ ģļŶ ĄĕğğĝĖĭ ĸŶŦĖčĮĖĬĔı ĖļŶļđş ŁĸŶŦĖĸĚğĮĬĸħĒĴ ĺđĞēĵĺđĞēĵ ĄĕğğĝĖĭ ŁĖ ļĝŞŁĖĸŶŦ ļĝŞ ĖčĮĖĬĔı ŀąĬĸŶŦŀąĖĬĸŶŦ ļŶļđş ĸġĞ þşĸġĞ þş ĩĖıŁĸŶŦĩĖĖıĸĚğĮĬĸħĒĴ ļğĸġŞĮļğĸġŞ Į ĸĚğĮĬĸħĒĴ ĸŶŦĖĕğğĝĔı ĸħĿģĖđşĹġşģĞđı ģđş!ģĞđı! ĸĚğĮĬĸħĒĴ ĔıŀĩğİĞĔĦĭıŀĩąğİĦıĞŀĖĦĭĭŁĖąĦı ĸŶŦŀĖĖĭŁ ĕğğĝĔı ŀĜİĄĥĴŀĜĖİĄĭŁĖĥĴ ĸħĿĖĖĭŁ Ĺġş

êćöøĂ÷ êćöøĂ÷

ìĆĚÜĀúć÷ìĊ ðŨîóüÖöĊ íčúĊĔîéüÜêćĒêŠ îšĂö÷ÖĘ ÿĆêüŤÿĆìêĆĚÜüŤĀúć÷ìĊ ęđðŨîęđóüÖöĊ íčúĊĔîéüÜêćĒêŠ đúĘÖîšđúĘĂÖ÷ÖĘ ĊĂ÷ĎöŠ ĊĂ÷ĎŠ üŤóüÖîĊ Ě ÷ŠĂęĂöđÿČ ęĂöÝćÖÙč ìĊęÙüøĕéš đóøćąĕöŠ ôŦÜíøøö ÿĆêüŤÿĆóêüÖîĊ Ě ÷ŠĂöđÿČ öÝćÖÙč èìĊęÙèüøĕéš đóøćąĕöŠ ĕéšôĕŦÜéšíøøö

ÙĀïéĊ b ÖćöēõÙĊ Ûøćüćÿ

ÙĀïéĊ b ÖćöēõÙĊ Ûøćüćÿ

ñĎšĔé ñĎšĔé Ģ ĒÿüÜĀćēõÙìøĆ ÷Ťēé÷íøøö ēé÷ĕöŠ đÖĉîĕð Ýîìøöćîêî

Ģ ĒÿüÜĀćēõÙìøĆ ó÷Ťēóé÷íøøö ēé÷ĕöŠ đÙøĊ÷đÙøĊ éÙøĆ÷éÙøĆ é đÖĉéî ĕð Ýîìøöćîêî

ģ ìĞ ćêîĔĀš ÿč×Ă ĔĀš ĂĉęöćĀîĞ ģ ìĞ ćêîĔĀš đðŨîđÿčðŨ×î ĔĀš ĉęöĀîĞ ć Ĥ ĒïŠ ðŦîēõÙìøĆ ĞćđóĘ Ĥ ĒïŠ ÜðŦîÜēõÙìøĆ ó÷ŤïóĞć÷ŤđóĘïâ ïčâ ïčâ ĥ ĕöŠ ÖĞćéĀîĆ öĆüđöć ĕöŠ účŠöĀúÜ ĥ ĕöŠ ÖĞćĀîĆ ĕöŠéö ĕöŠ Ćüđöć ĕöŠ účŠöĀúÜ öĊðđĀĘÖêĉîēìþ öĊ đĀĘîēìþ öĊ ðŦââćđðŨ éĂĂÖ öĊðÖêĉ ðŦââćđðŨ îđÙøČîęĂđÙøČ ÜÿúĆęĂÜÿúĆ éĂĂÖ ïøĉēõÙēõÙìøĆ ó÷ŤćđĀúŠ îĆĚîŠ Ă÷ĎŠ ïøĉēõÙēõÙìøĆ ó÷ŤđĀúŠ îĆĚîćĂ÷Ď

&&@ @ // !! &&@ @ // !! &&@ @ // !! &&@ @ // !! &&@ @ // !! &&@ @ // !!

ĔăĭŁ ħġĮĞ ĜİĄĥĴĜİĔĄăĭŁ ĥĴħġĮĞ Ğėĸħĝij ĩĖĸĦĮħİ ĖĞĮģ ʼnŎ ĤĩĄ ęŤ Ė Ő ĤĩĄ ĺĘġŞ đİĖ Ő ĤĩĄ ĸŶğıĸŶğı Ğėĸħĝij ĩĖĸĦĮħİ ĖĞĮģ ʼnŎ ĤĩĄ ęŤ ăĩĞĵăĻŞ ĩĞĵ ĖđİĻŞ ĖĖđİ Ő ĤĩĄ ĺĘġŞ þĖIJŁ ĚşþĖIJŁ đİĚşĖ Ő ĤĩĄ ġĝĚĮĞĴ ęĖĩĞŞ ĮăĹğăĄġş ĹĝşąĹĝş ĬĝıąġĬĝı ĝĚĮĞĴ ęĖĩĞŞ ĮăĹğăĄġş Į Į ĝĮąĮĄĔİ ĤĒĬģĭ ĖĩĩĄ ħğij ĔİĤĒĬģĭ ĖĒĄ ħğij ĔİĤĸħĖij ĔİĤ ĄĿĻĒşĒ Įĝ ĄĿĒĮĝ ĝĮąĮĄĔİ ĤĒĬģĭ ĖĩĩĄ ħğij ĩĔİĤĩĒĬģĭ ĖĒĄ ħğij ĩĔİĤĩĸħĖij ĩ ħğijĩĩ ħğij ĔİĤĩĻĒş ĔŅĮĸĦĮħİ ĖĭĖŁ ħĻħş ģĭĖŀ ļħģ Ħĭ Ėŀ ĦĬĸĔij ĩĖ ħğij ĦĭĖŀ ğĬğĭ ģļŶļđş ļĝŞĚļĝŞ ăIJ ĔŅĚĮăIJ ĸĦĮħİ ĖĖĭĖŁ Ļħş ģĭĖŀ ħļħģ Ħĭ Ėŀ ĦĬĸĔij ĩĖ ħğij ĩĦĭĖŀ ĩğĬğĭ ģļŶļđş ĸġĞ ĸġĞ ŶŦĖĸĚğĮĬĸħĒĴ þşĩĖıþşĸŁ ĩŶŦĖıĖĸŁ ĸĚğĮĬĸħĒĴ ļğĸġŞļĮğĸġŞ Į ĸĚğĮĬĦŞ ġIJĄĹġĬęŤ ĆĭĖĻđĄĿ ĸĚğĮĬĦŞ ģĖĔıģęŀ ĖĔı ㍠Ėĭęŀ ĖŁ ㍠ġIJĖĭĄĖŁ ĹġĬęŤ ăĸŶŦĖăĸŶŦ ĩĞŞĖĮĩĞŞ ăđıĮ ĆĭăđıĖ ĻđĄĿ ĆĖĭ ĖĭĆĖŁ ĭ !ĖĭĖŁ !

&@&@ // !!

&@&@ // !!

Á¬ ¥¥£Ã­n ´£Ã À ¹ Á¬ ¥¥£Ã­n ´£Ã À ¹ ɯ nɯ n

ØéĀé ĝ ØéĀé ĝ

ØéĀé Ĝ ØéĀé Ĝ

© À ¯ ³ É ­§´¤ À · Ȥ© ´¥¶ © À ¯ ³ É ­§´¤ À · Ȥ© ´¥¶ Ä Ä È¯ ¥²Â¤ q ¬º £Á m £­´ À ¹È¯À ¹ ¥²Â¤ q ¬º Á m ­´ ęĂÙüćöđĂĘ ĒÖŠēúÖ đóČ ęĂðøąē÷ßîŤ ęĂÙüćöđÖČ đóČęĂđóČ ÙüćöđĂĘ îéĎĒîÖŠéĎēúÖ đóČ ęĂðøąē÷ßîŤ đóČęĂ đóČ ÙüćöđÖČ ĚĂÖĎúĚĂÖĎú ęĂÙüćöÿč ìĆĚÜđìüéć Ēúąöîč ĒÖŠđìüéć Ēúąöîč ìĆĚÜĀúć÷ đóČęĂđóČ Ùüćöÿč × ìĆĚÜ×ĒÖŠ þ÷ŤìþĆĚÜ÷ŤĀúć÷

´£Ã m ´£ §´ ´£Ã À ¹ ɯ §´¤ ´£Ã m ´£ §´ ´£Ã À ¹ ɯ §´¤ Ä ¥n ¯£ ³ É ¯¥¥ ² ¥n ¯£ ³ ² ín ín À | À |Ä ¥n ¯£ ³ É ¯¥¥ ² ¥n ¯£ ³ É ¤³É ¤³ ² »¥¬ q¶É ¬À ¶¶É À ¶ ín ín¥¶¬ º ¥¶¬ ¶º Ì ¥¶ ¶ Ì »¥¥¶ q


อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมท�าการสาธยายธรรม ตามที่ได้ฟังมา ตามที่ได้เล่าเรียนมา แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร นี้เป็นธรรมข้อที่ ๔ ซึ่งท�าให้สัทธรรมตั้งมั่น ไม่ลบเลือนจนเสื่อมสูญไป อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย !    ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมตรึกตรอง เพ่งดูด้วยใจ ซึ่งธรรม  ตามที่ได้ฟังมา ตามที่ได้เล่าเรียนมา โดยพิสดาร   นี้เป็นนธรรมข้ อที่ ง๕ ความไม่ตาย ประตู ครแห่ ซึ่งท�าให้สัทธรรมตั้งมั่น ดญโล่ไป งไว้แล้ว ไม่ลตถาคตเปิ บเลือนจนเสื่อมสู

เพื่อสัตว์ทั้งหลายเข้าถึงถิ่นอันเกษม.

(ในที่นี้ยกมา ๒ ข้อ จาก ๕ ข้อ ของธรรม ๕ ประการ ซึ่งท�าให้สัทธรรมตั้งมั่น ไม่ลบเลือนจนเสื่อมสูญไป)

กระแสแห่งมารผู้มีบาป ตถาคตปิดกั้นเสียแล้ว ก�ำจัดเสียแล้ว ท�ำให้หมดพิษสงแล้ว. ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มากมูนด้วยปราโมทย์ ปรารถนาธรรมอันเกษมจากโยคะเถิด. -บาลี ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๙๗/๑๕๕.

- บาลี ม. ม. ๑๓/๔๖๔/๕๑๑.


อานนท์ ! บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ทุศีล, เป็นผู้มีศีล, เป็นผู้มีราคะกล้า, เป็นผู้มักโกรธ, เป็นผู้ฟุ้งซ่าน และไม่รู้ชัด ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือ แห่งความเป็นผู้ทุศีล, เป็นผู้มีศีล, เป็นผู้มีราคะกล้า, เป็นผู้มักโกรธ, เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ของเขาตามความเป็นจริง

บุคคลนัน ้ ไม่กระท�ากิจแม้ดว้ ยการฟัง ไม่กระท�ากิจแม้ดว้ ยความเป็นพหูสตู

ไม่แทงตลอดแม้ดว้ ยความเห็น ย่อมไม่ได้วมิ ตุ ติแม้อนั เกิดในสมัย เมือ่ ตายไป เขาย่อมไปทางเสือ่ ม ไม่ไปทางเจริญ ย่อมถึงความเสือ่ ม ไม่ถงึ ความเจริญ...

อานนท์ ! ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผูท้ ศุ ลี , เป็นผูม้ ศี ลี , เป็นผูม้ รี าคะกล้า, เป็นผูม้ กั โกรธ, เป็นผูฟ้ งุ้ ซ่าน แต่รชู้ ดั ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือ แห่งความเป็นผู้ทุศีล, เป็นผู้มีศีล, เป็นผู้มีราคะกล้า, เป็นผู้มักโกรธ, เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ของเขาตามความเป็นจริง

บุคคลนั้น กระท�ากิจแม้ด้วยการฟัง กระท�ากิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยความเห็น ย่อมได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัย เมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม ย่อมถึงความเจริญอย่างเดียว ไม่ถึงความเสื่อม ... เพราะกระแสแห่งธรรมย่อมถูกต้องบุคคลนี้ ใครเล่าจะพึงรู้เหตุนั้นได้ นอกจากตถาคต

อานนท์ !    เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ชอบประมาณในบุคคล และอย่าได้ถือประมาณในบุคคล  เพราะผู้ถือประมาณในบุคคลย่อมท�าลายคุณวิเศษของตน

เราหรือผู้ที่เหมือนเราพึงถือประมาณในบุคคลได้ ... . -บาลี ทสก. อํ. ๒๔/๑๔๗/๗๕.


ภิกษุทั้งหลาย !    ภิกษุในธรรมวินัยนี้  ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ

ธรรมเหล่านั้น เป็นธรรมอันภิกษุนั้นฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดี ด้วยความเห็น

เธอมีสติหลงลืม เมื่อกระท�ากาละ ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง บทแห่งธรรมทั้งหลาย ย่อมปรากฏแก่เธอ ผู้มีความสุขในภพนั้น

สติบังเกิดขึ้นช้า แต่สัตว์นั้น ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน... . -บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๕๑/๑๙๑.

ข้อมูลธรรมะนี้ จัดทำ�เพือ่ ประโยชน์ท�งก�รศึกษ�สูส่ �ธ�รณชนเป็นธรรมท�น ลิขสิทธิใ์ นต้นฉบับนีไ้ ด้รบั ก�รสงวนไว้ ไม่สงวนสิทธิใ์ นก�รจัดทำ�จ�ก ต้นฉบับเพือ่ เผยแผ่ในทุกกรณี ในก�รจัดทำ�หรือเผยแผ่ โปรดใช้คว�มละเอียดรอบคอบเพือ่ รักษ�คว�มถูกต้องของข้อมูล ขอคำ�ปรึกษ�ด้�นข้อมูล

ในการจัดทำาเพื่อความสะดวกและประหยัด ติดต่อได้ที่ มูลนิธิพุทธโฆษณ์ โทร.๐๘ ๒๒๒๒ ๕๗๙๐ - ๙๔

คุณศรช� โทร.๐๘ ๑๕๑๓ ๑๖๑๑ คุณอ�รีวรรณ โทร.๐๘ ๕๐๕๘ ๖๘๘๘ สำ�หรับผูต้ อ้ งก�รปฏิบตั ธิ รรรม ติดต่อได้ท่ี ศูนย์ปฏิบตั พิ ทุ ธวจน (Buddhawajana Training Center) โทรศัพท์ ๐๙ ๒๙๑๒ ๓๖๕๗, ๐๙ ๒๙๑๒ ๓๗๒๑, ๐๙ ๒๙๑๒ ๓๔๗๑ ติดต�มก�รเผยแผ่พระธรรมคำ�สอนต�มหลักพุทธวจน โดยพระอ�จ�รย์คกึ ฤทธิ์ โสตฺถผิ โล ได้ท่ี

www.watnapp.com | media.watnapahpong.org | www.buddhakos.org คลื่น ส.ว.พ. FM 91.0 MHz ทุกวันพระ เวล� 17.40 น.


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.