วารสารมดคันไฟ 5

Page 1

1


2


Muslim Student Society King Mongkut’s University of Technology Thonburi

3


4


มดคันไฟ

5

วารสารชมรมนักศึกษามุสลิม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

5


FOREWORD สารจากใจ บก.

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ มวลการสรรเสริญเป็น สิทธิของพระองค์ และพระองค์นั้นเป็นผู้รับมอบหมายที่ดีที่สุด อัลฮัมดุลิลลาฮฺ ก่อนอื่นต้องขอชุกูรต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา หากไม่ใช่เพราะ ความช่วยเหลือของพระองค์หนังสือเล่มนี้คงไม่ได้ออกมาสู่สายตาผู้อ่านได้อย่างแน่นอนการกลับ มาอีกครั้งของวารสารมดคันไฟ ฉบับที่ 5 ตอน กาลครั้งหนึ่ง กาลครั้งหนึ่ง อาจจะไม่ใช่เพียงอดีต อาจจะไม่ใช่ปัจจุบัน อาจจะไม่ได้เป็นอนาคต หาก แต่ กาลครั้งหนึ่ง ณ ดุนยา แห่งนี้ ท่ามกลางความวุ่นวาย ความแตกแยก ความไม่สมบูรณ์แบบของ มนุษย์ ยังพอมีพื้นที่เล็กๆ ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ ด้วยกับตักดีรของอัลลอฮฺ ผู้ที่สภาพของพวก เขาผูกพันกับพระองค์และศาสนาไม่มากก็น้อย ผู้ที่พระองค์เลือกบุคคลเหล่านี้มารับใช้พระองค์ ผู้ ที่ต้องการจะเป็นที่รักของพระองค์ ร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ถึงแม้เรื่องราวในหนังสือเล่ม นี้ อาจไม่ใช่เรื่องราวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิชาการ อาจไม่ใช่เรื่องราวที่ตรงกับชื่อตอนของหนังสือ แต่ รับรองได้ว่า ทุกๆ ตัวอักษรทุกๆ เรื่องราว ได้ถูกเรียงร้อยจากหัวใจ ออกสู่สายตาผู้อ่านอีกครั้ง เพื่อ เป็นความรู้ เป็นข้อคิด เป็นสิ่งเตือนใจ ให้หัวใจเราได้ใกล้ชิดกับพระองค์ เพราะการยืนอยู่บนดุนยา ต้องสะสมมากมาย ทั้งความรู้ ความดี ของสะสมที่จะทำ�ให้เราแข็งแกร่ง ต่อสู้ทั้งนัฟซูของตนเอง ต่อสู้กับสิ่งเลวร้าย และท้ายที่สุดคือการกลับไปยังพระองค์ในสถานะของผู้ศรัทธาที่ศอลิหฺ ไม่ใช่เพียงบังเอิญกับการกลับมาของวารสารไม่ใช่เพียงบังเอิญกับการที่ท่านหยิบหนังสือ ขึ้นมาอ่าน และไม่ใช่เพียงบังเอิญเช่นกันที่ท่านอ่านมาถึงบรรทัดนี้ หวังเพียงว่าท่านจะได้รับสิ่งที่ ดีงาม ความรู้ที่ยังประโยชน์ทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ “โอ้อัลลอฮฺ ฉันขอวิงวอนขอต่อพระองค์ ได้โปรดประทานแก่ฉัน ให้มีความรู้ที่ยังประโยชน์ ปัจจัยยังชีพที่ถูกต้องดีงาม และการงานที่ถูกตอบรับ” สายนํ้ายังคงไหลเอื่อย เวลายังคงหมุนเวียน และเรายังมีลมหายใจ อย่าได้รีรออยู่เลย เรื่องราวมากมายกำ�ลังรอให้ท่านค้นหา .. “กาลครั้งหนึ่ง” ท่านกำ�ลังจะอ่านหนังสือเล่มนี้ ... บิสมิลลาฮฺ ... บก. วารสารมดคันไฟ 5 MODMUDLIM

6


CONTENTS สารบัญ

01

11

02

12

03

13

04

14

05

15

การสูญเสียเวลา เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย

หะดีษประทับใจ “จงบอกแก่เขา”

06

16

07

17

08

18

09

19

10

20

แค่กาลครั้งหนึ่ง

ก้าว.....ที่เลือกเดิน

การเรียนของผม กำ�ลังพรากอิสลามไปจากผม

สูญ...เสีย

…แตกต่าง

ตบหน้าผมทำ�ไม?

จงอย่าโกรธ

นิทานเรื่อง 3 สหาย เรื่องราวของใบไม้

ที่นี่..ที่ไหนหรือหนุ่มสาว

โลกที่ไม่อาจ ผูกพัน

เครื่องหมายก่อนสิ้นลมหายใจ

ความตายและอายุขัย ของประชากรยุคสุดท้าย

มหาบุรุษของโลก

ประโยชน์ของน�้ำผึ้ง สมุนไพรจากอัลกุรอาน

300 + 9 = 300

รักเราไม่ ERROR เหตุไฉนเล่า ดุอาอฺของฉันจึงไม่ถูกตอบรับ?

21

หนุ่มสาว

7


ถึงเยาวชน... พวกคุณกำ�ลังอยู่ในช่วงชีวิตที่ดีที่สุด นี่คือช่วงเวลาแห่งการทุ่มเท นี่คือช่วงเวลาแห่งการทำ�อิบาดะฮฺ นี่คือช่วงเวลาแห่งการดะอฺวะฮฺ นี่คือช่วงเวลาแห่งการเคลื่อนไหว และการทำ�งาน ดังนั้น... พวกคุณจะต้องหันมาสู่อิสลาม... หากช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไปแล้ว คุณก็จะไม่มีโอกาสทองเช่นนี้อีกต่อไป ชัยคฺอับดุลลอฮฺ อัซซาม

8


01

แค่กาลครั้งหนึ่ง

ไม่มีความบังเอิญ….. ทุกอย่างอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ก�ำหนดไว้แล้ว…… และมันย่อมสวยงามเสมอ ในชีวิตของเรา ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะไหนต่างก็พบบททดสอบ ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮู วะตะอาลา ทรงก�ำหนดไว้แล้วทั้งสิ้น เรื่องราวในชีวิตของเรา ผู้คนที่เดินผ่านเข้ามา ย่อมมีฮิกมะฮฺ ในรูปแบบต่างๆ เสมอ แต่เมื่อมองย้อนกลับไปบ่อยครั้งที่เราเป็นบ่าวที่หลงลืม ‘เชื่อเถอะทุกเรื่อง ผ่านมาได้เพราะมีเพือ่ น’ ค�ำพูดเหล่านี้ คือมันดีเวลาทีเ่ ราได้ฟงั รูส้ กึ ว่าทุกเรือ่ งทีผ่ า่ นเข้ามามีเพือ่ น คอยพยายามช่วยเรา คอยเป็นคนให้ก�ำลังใจเราเสมอ ในอดีตถ้อยค�ำพวกนี้ฮิตติดกระแสกันมากใน Social Network ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter แม้แต่ Instagram แต่มีค�ำพูดหนึ่งในวารสาร ฉบับเล็กๆ “ยอมรับเถอะนะทุกเรือ่ งผ่านมาได้เพราะอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา” เมือ่ ได้อา่ น แล้วความรู้สึกมันจุกที่ตรงหัวใจ ค�ำพูดนี้ท�ำให้กลับมาคิดได้ว่า อัลลอฮุอักบัร เราหลงลืมไปแล้ว หรือป่าว ว่า อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงก�ำหนดไว้แล้วทุกสิ่งทุกอย่างแก่เราและพระองค์ ทรงอยูก่ บั เราเสมอ อัลฮัมดุลลิ้ ลาฮฺ จนกระทัง่ ตัวเองเจอกับบททดสอบ ความท้อ ความเครียด ความ กังวลมากมายได้สุ่มเข้ามา มีพี่น้องคนหนึ่ง กล่าวไว้ว่า “ไม่ต้องกังวลหรอกนะ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮู วะตะอาลา จะส่งคนที่ช่วยเหลือเราให้เองแหละ” พระองค์ทรงประทานคนที่คอยดึงเราขึ้นมา คอยแนะเราให้เราอยู่ในแนวทางของพระองค์ นี่แหละความรักของพระองค์ที่มีแก่บ่าว พระองค์ ไม่เคยทอดทิ้งเราเลย ด้วยความที่เราเป็นมนุษย์เราเป็นผู้ที่อ่อนแอ 9


ของขวัญจากพระเจ้า 2 ประการ ที่คนเรามักละเลย คือ สุขภาพที่ดีและเวลาว่าง... นบีบอกไว้ วันนี้เราใช้มันทั้งสองเพื่อสิ่งที่เรารักหรือยัง? 06:50 PM - 01 Ramadhan 1435

10


02

ก้าว.....ที่เลือกเดิน / เด็กน้อย...ของอัลลอฮฺ

กาลครั้งหนึ่ง...เนิ่นนานมาพอสมควร มีเด็กน้อยคนนึง เธอกำาลังเข้าสู่ชีวิตในรั้ว

มหา’ลัย เธอเตรียมพร้อมทุก ๆ อย่าง ในการเป็นนักศึกษามุสลิมทีด่ ี ช่วงปิดเทอมทีแ่ สนจะยาวนาน ร่วม 6 เดือน ว้าว! ครึ่งปีเลยหรอเนี่ย เธอตัดสินใจศึกษาอิสลามอย่างจริงจัง แล้วเธอก็ตั้งใจอย่าง แน่วแน่วา่ เธอจะแสวงหาความรูเ้ พือ่ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แม้สาขาทีเ่ ธอเรียนอาจจะไม่ใช่ สาขาที่เธอวาดฝันเอาไว้ในอดีต แต่เธอจะทำามันให้ดี ให้สมกับที่พระองค์เลือกให้เธอ

เมื่อถึงวันเปิดเทอม...มีเรื่องราวถาโถมเข้ามาอย่างมากมายที่ทำาให้เธอต้องเข้มแข็ง

และอดทน แต่เธอพยายามคิดว่ามันเป็นเรือ่ งทีด่ ี ทีอ่ ย่างน้อยพระองค์กย็ งั รักเธอ จึงได้สง่ บททดสอบ อย่างมากมายเช่นนีใ้ ห้กบั เธอ เพือ่ แลกกับรางวัลทีเ่ ธอจะได้รบั เป็นการตอบแทน ทีส่ าำ คัญบททดสอบ เหล่านีย้ งั ทำาให้เธอไม่ลมื ตัวว่าชีวติ ของผูศ้ รัทธาจะสบายไปไม่ได้เลย เธอเริม่ ใคร่ครวญ ว่าเธอมาอยู่ ตรงนี้ทำาไม! ใช่แล้ว... เธอมาเพื่อฝกตนเองให้เป็นผู้ศรัทธาที่เข้มแข็ง ฝกความอดทน ฝกหัวใจให้มี อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และเธอจะไม่ทำาในสิ่งที่พระองค์ไม่พอใจเด็ดขาด

ในแต่ละวันที่มาเรียน...เธอเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เธอไม่มีเพื่อน เธอไม่มีใครเลยที่

เข้าใจ แต่เธอก็มอี ลั ลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทีค่ อยอยูเ่ คียงข้างกายเธอ ไม่วา่ เธอจะเจอเรือ่ งอะไร เธอจะใช้ดุอาอฺบอกเล่าเรื่องราวกับพระองค์เสมอ เธอจึงอยู่ได้ด้วยกับความรักที่เธอมีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 11


กว่าเทอมแรกของปี 1 จะผ่านไป...ความรู้สึกมันช่างยาวนานเหมือนสิบ สิบปี

เธอแทบหมดแรงที่จะก้าวต่อ...เธอร้องขอต่อพระองค์ออกมาดื้อๆ “พระองค์

หลังจากที่เธอร้องขอต่อเจ้าของชีวิต...เธอแทบไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใดเลย เธอ

พอถึงวันนี้...วันที่มองย้อนกลับมา เธอจึงพบว่ามันก็แค่แป๊บเดียวจริงๆ กับ

เธอต้องเผชิญกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาอย่างมากมาย ทั้งเพื่อนร่วมห้องที่ไม่เข้าใจบ้าง ทั้งรุ่นพี่บ้าง ไหนจะเรื่องเรียน เรื่องงาน แถมยังเรื่องสอบกลางภาคที่ก�ำลังใกล้เข้ามาอีก เฮ้ออ! “นี่เพิ่งปี 1 เอง นะ แถมเทอมแรกด้วย ท�ำไมเราต้องมาเจออะไรที่หนักหน่วงแบบนี้ อยากลาออกจัง เอาไงดี เอาไง ต่อดี งั้นขอเลือกที่จะท�ำให้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา พอใจล่ะกัน” จ๋า ขอให้หนูกา้ วต่อไปให้ไหว ในเมือ่ หนูไม่มที างเดินไหนแล้วนอกจากทางเดินทีเ่ ทีย่ งตรงนี้ หนูสละ ทางเดินตัง้ มากมายในชีวติ เพือ่ ทีจ่ ะให้ตวั หนูเองไปถึงเส้นชัย หนูจงึ ต้องเลือกเดินหนทางทีเ่ ทีย่ งตรง นี้ แม้หนูจะรู้ว่ามันยากล�ำบาก มีแต่ขวากหนาม แต่หนูเชื่อ... เชื่อว่าหนูต้องผ่านบททดสอบนี้ไปให้ ได้ ด้วยกับความช่วยเหลือทีม่ าจากพระองค์ เท้าทีห่ นูก�ำลังจะก้าวต่อไปนีข้ อให้มนั เป็นสิง่ ทีพ่ ระองค์ พอใจ และขอให้หนูก้าวผ่านมันไปได้ด้วยเถิด อามีน”

จึงมั่นใจว่าสิ่งที่เธอเลือกเดินอยู่นี้ คือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เธอมอบหมายต่อพระองค์ แม้ว่าผลลัพธ์จะ เป็นเช่นไร เธอจะอดทน เธอจะขบมันด้วยความย�ำเกรงและความรักที่เธอมีต่อพระองค์ และเธอ หวังว่าเธอจะพบบปลายทางของทางเดินที่เที่ยงตรงนี้ อินชาอัลลอฮฺ......

การถูกคัดเลือกให้เป็นที่รักของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตลอดระยะเวลา 1 เทอมที่ผ่านมา เธอท�ำมันได้จริงๆ แม้อาจจะท�ำไม่ 100% นักแต่เธอก็พยายามท�ำหน้าที่ ที่อย่างน้อยบ่าวคนหนึ่ง จะท�ำให้อลั ลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา พอใจได้บนทางเดินนีอ้ าจดูยาวไกล อาจดูยากเย็น อาจมีแต่ หนามคมคอยทิ่มต�ำ อาจเหนื่อย หนัก ไม่ค่อยมีใครเลือกเดิน “ แต่จงรู้ไว้เถิดว่ามันคือทางลัดที่....เธอมั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว ”

12


พวกคุณกำ�ลังอยู่ในช่วงชีวิตที่ดีที่สุด นี่คือช่วงเวลาแห่งการทุ่มเท นี่คือช่วงเวลาแห่งการทำ�อิบาดะฮฺ นี่คือช่วงเวลาแห่งการดะอฺวะฮฺ นี่คือช่วงเวลาแห่งการเคลื่อนไหว และการทำ�งาน ดังนั้น... พวกคุณจะต้องหันมาสู่อิสลาม... หากช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไปแล้ว คุณก็จะไม่มีโอกาสทองเช่นนี้อีกต่อไป ชัยคฺอับดุลลอฮฺ อัซซาม

13


หากเราเคยชินกับความสุขในการฝาฝน ก็ยากที่เราจะลิ้มรสความสุขแห่งการเชื่อฟง 06:50 PM - 02 Ramadhan 1435

14


03

การเรียนของผม

กำ�ลังพรากอิสลามไปจากผม

Q&A ถาม: ผมเป็นนักศึกษาแพทย์คนหนึง่ ซึง่ ก�ำลังคร�ำ่ เคร่งเรียนอย่างเต็มที่ และมันท�ำให้ผมรูส้ กึ ราวกับว่าจิตใจผมก�ำลังจะแข็งกระด้าง ดังนั้นผมจึงใคร่ขอค�ำแนะน�ำจากท่านชัยคฺ ว่าผมควรจะ ท�ำอย่างไรดี และผมจะประสานระหว่างการเรียนแพทย์กับการเรียนชะรีอฺะฮฺได้อย่างไร? ตอบ: น้องชายที่รัก ฉันไม่เห็นด้วยกับเธอที่ว่าการเรียนแพทย์จะน�ำไปสู่ความแข็งกระด้างของ จิตใจ ถ้าเธอหมายถึงช่วงเวลาใกล้สอบที่ต้องติวเข้มหรืออ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อเตรียมตัวสอบ มันก็เกิดขึ้นได้กับทุกแขนงวิชานั่นแหละไม่ใช่เฉพาะแพทย์อย่างเดียว แม้แต่จะเรียนวิชาตัฟซีร ฟิกฺฮฺ หะดีษ หรืออื่นๆ ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม คนที่เรียนในสาขาแพทย์ศาสตร์นี้ และเขาได้รู้เห็นถึงความน่าประหลาดใจในการสร้างสรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ความ ลี้ลับต่างที่พระองค์ได้ก�ำหนดไว้ในร่างกายมนุษย์ อันเป็นสิ่งที่ท�ำให้คนจ�ำนวนมากเข้ามาสู่การ ศรัทธาในอิสลาม และละทิ้งความเชื่อเดิมที่ไม่ศรัทธาในอิสลามไปเลย เมื่อพวกเขาได้รู้ ได้เห็นและ ใคร่ครวญเกี่ยวกับมัน เห็นหรือยังว่ามันมีความดีมากมายขนาดไหนส�ำหรับผู้ศรัทธาที่ถูกสั่งใช้ให้ รู้จักคิดและพินิจพิจารณา? ฉันเชื่อว่าถ้าเธอ-น้องชายที่รัก-อธิบายให้พวกเราได้เข้าใจเกี่ยวกับ กายวิภาควิทยาของลูกตา หน้าที่การท�ำงานของตับ ตับอ่อน ไต หรืออวัยวะต่างๆ ของร่างกาย มนุษย์ มันจะท�ำให้พวกเรามีอีหม่านต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ราวกับ ว่าพวกเราได้ยินอายะฮฺอัลกุรอานหรือหะดีษบางบทของท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม 15


อีหม่านสามารถเพิม่ พูนมากขึน้ ได้จากการใคร่ครวญความรูเ้ หล่านี้ และถ้าหากเราเข้มแข็ง ลึกซึ้งในวิชาความรู้และกฎเกณฑ์ต่างๆ ของศาสตร์เหล่านี้ และถ้าหากเราอิคลาศในเจตนา และ เป้าหมายของเราในการศึกษาเรียนรูศ้ าสตร์แขนงนี ้ เราสามารถทีจ่ ะอ้างอิงศาสตร์แขนงนัน้ เป็นวิชา เสริมเตาฮีดได้ ดังทีเ่ ราอ้างอิงถึงบางวิชาทีเ่ ป็นวิชาหลักเฉพาะทางและวิชาอืน่ เป็นวิชาเสริม ดังนัน้ วิชาเตาฮีดล้วนๆ เป็นวิชาหลักทีเ่ ราสอนกันเป็นพืน้ ฐานอยูแ่ ล้ว แต่กย็ งั มีวชิ าเสริมเตาฮีดอีก ซึง่ รวม ถึงวิชาทางด้านการแพทย์ กายวิภาควิทยา เคมี ฟิสิกส์ เป็นต้น วิชาเหล่านี้ทั้งหมด ล้วนเป็น ประโยชน์ที่ช่วยอ�ำนวยความสะดวกต่อการใคร่ครวญพิจารณาอาณาจักรของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮู วะตะอาลา ทั้งบนชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และในจิตวิญญาณของมนุษย์ ดังที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้กล่าวไว้ว่า “เราจะแสดงให้พวกเขาเห็นสัญญาณ ทัง้ หลายของเรา ทัง้ ในชัน้ ฟ้าทัง้ หลายและในตัวของพวกเขาเอง เพือ่ ว่ามันจะได้เป็นทีก่ ระจ่าง ชัดแก่พวกเขาว่า มันเป็นความจริง” (ซูเราะฮฺ อัล-ฟุศศิลัต : 53) ดังนั้นเป็นความจ�ำเป็นส�ำหรับพวกเราที่จะต้องพยายามมองดูและพิจารณาใคร่ครวญใน ชั้นฟ้าทั้งหลาย แผ่นดิน ภูเขา สัตว์ พืช น�้ำ แม้แต่สีและก�ำเนิดของมนุษย์ว่ามันมีกระบวนการใน การเกิดและเจริญเติบโตอย่างไร ตั้งแต่สเปิร์มกับรังไข่ จากก้อนเลือดเป็นก้อนเนื้อ การเจริญเติบโต ของตัวอ่อนในครรภ์มารดา ตลอดจนกระบวนการในการเรียนรู้ของมนุษย์หลังจากที่ได้คลอดออก มาแล้ว ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวมานี้รวมถึงความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์แขนงอื่นๆ ล้วนท�ำให้ อีหม่านเข้มแข็งขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าพี่น้องมองว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่จบการศึกษาไปแล้ว สิ่งที่ตามมา หลังจากจบแพทย์แล้วก็คือเธออาจจะท�ำงานวันละแปดชั่วโมงในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความ ชั่วร้าย เธออาจจะไม่มีโอกาสได้เชิญชวนผู้อื่นสู่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เธอจะยุ่งอยู่กับการ ผ่าตัดและการรักษาคนไข้เป็นประจ�ำ แถมยังมีนัดกับคนไข้มากมายทุกวัน แต่ฉันอยากจะบอกแก่ เธอว่า ทุกๆ คนจะต้องท�ำในสิ่งที่ตัวเองถนัดตามที่พวกเขาถูกสร้างมา อุมมะฮฺอิสลามนี้มิได้ถูกสร้าง มาให้ทกุ คนเป็นหมอกันหมด หรือเป็นนักวิชาการทางด้านฟิกฮฺ กฺ นั หมด หรือเป็นนักวิชาการทางด้าน หะดีษกันหมด หรือเป็นนักเทศนากันหมด อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา สร้างให้อุมมะฮฺอิสลาม มีความหลากหลายต่างความถนัดความสามารถกัน ดังนั้นคนๆ หนึ่งที่เป็นนักเทศนาเขาพูดเก่ง โน้มน้าวผู้คนได้อย่างน่าประทับใจยิ่ง แต่เขากลับท�ำอย่างอื่นไม่ค่อยดีนักคนๆหนึ่งมีความรู้ทางด้าน ฟิกฺฮฺ อัลกุรอาน และอ่านอัลกุรอานได้อย่างไพเราะและถูกต้องตามหลักตัจญฺวีด มีความรู้พิเศษ เกีย่ วกับศาสนา แต่เขาก็ไม่ควรหันเหออกไปท�ำอย่างอืน่ ทีไ่ ม่ช�ำนาญ เช่น เป็นวิศวกรเครือ่ งกล เป็นต้น 16


อย่างไรก็ตาม ฉันอยากจะบอกว่าทุกคนควรจะทำาในสิ่งที่ตัวเองรู้ มีความสามารถ และ ถนัดที่สุด เช่นนี้แหละอุมมะฮฺอิสลามจึงจะสมบูรณ์ เพราะเราทำาในสิ่งที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด ตามที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้สร้างเรามา และแม้ว่าเราจะมีความรู้ ความสามารถ ความ ชำานาญ ในสาขาอาชีพที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกันเราต่างก็เรียกร้องผู้คนสู่อิสลามด้วย ลักษณะ เช่นนี้จะทำาให้การดะอฺวะฮฺเกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ จากคลินิกหมอหรือโรง พยาบาล สถานีตำารวจ โรงเรียน ร้านอาหาร ตลาด สถานประกอบการต่างๆ เป็นต้น เธอเชื่อหรือ ไม่วา่ คนทีเ่ ข้ารับอิสลามจำานวนไม่นอ้ ยไม่ได้เข้ามาด้วยฝีมอื ของโต๊ะครู นักวิชาการศาสนา นักเทศฯ ทีส่ อนหรือบรรยายกันในมัสญิด แต่พวกเขาเข้ารับอิสลามด้วยฝีมอื ของหมอมุสลิม และพีน่ อ้ งมุสลิม ที่ทำางานในสาขาวิชาชีพอื่นๆ

นูรอัลฮูดา ถอดความและเรียบเรียง จาก http://goo.gl/GVr4Be

17


พยายามไปมากมายเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้รู้จักและ ใกล้ชิดกับคนๆ หนึ่ง แต่เคยสักครั้งไหม ที่จะพยายามรู้จักและใกล้ ชิดกับอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ผู้ทรงสร้างเรา 06:50 PM - 03 Ramadhan 1435

18


04 สูญ...เสีย / Abu Muhsin

เมื่อพูดถึงค�ำว่า “สูญเสีย” ผมเชื่อว่าสิ่งนี้คงเป็นสิ่งที่ใครหลายคน อาจเคยได้พบเจอกับ มันมาบ้างแล้ว ส่วนใหญ่สิ่งที่สูญเสียไปมักเป็นสิ่งที่มีค่ากับตัวเราเสมอเพราะจะเห็นได้ว่า หลังจาก ค�ำว่า “สูญเสีย” สิ่งที่จะตามมันมาติดๆ เลยก็คือ “ความเสียใจ” แน่นอนทั้งการสูญเสียและความ เสียใจคงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากพบเจอ แต่ด้วยกับการที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ เราคงหนี ไม่พ้นที่จะต้องพบเจอกับการสูญเสีย

[

[

กว่าจะรู้ว่าสิ่งไหนมีค่า ก็ต่อเมื่อเรา ได้สูญเสียสิ่งนั้นไปแล้ว

“สูญเสีย” บางครั้งมันมาโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่ได้ เตรียมตัวหรือแม้แต่เตรียมหัวใจไว้ส�ำหรับการทีจ่ ะพบเจอมัน และบางทีกว่าที่เราจะรู้ตัวว่านั่นคือ การสูญเสีย ก็ต่อเมื่อเรา ได้พลัดพรากจากสิ่งส�ำคัญนั้นไปแล้ว เพราะสิ่งส�ำคัญบางสิ่ง อยู่กับเรามาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน สิ่งส�ำคัญบางสิ่งอยู่กับเรา ทุกวัน ทุกเวลาจนคุ้นหูชินตาและเคยชิน จนละเลยไม่ได้ให้ ความส�ำคัญและไม่ได้คิดเผื่อใจไว้ว่าวันหนึ่ง สิ่งส�ำคัญสิ่งนั้น อาจไม่ได้อยู่กับเรา จนกระทั่งความเสียใจได้มาเยือนพร้อมๆ กับการสูญเสียสิ่งส�ำคัญ

ส�ำหรับผู้ศรัทธาต่อ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาและร่อซูลของพระองค์แล้ว จึงจ�ำเป็น อย่างยิ่งทีเ่ ราจะต้องยอมรับและอดทนต่อการสูญเสีย ดังโองการทีว่ า่ “และแน่นอน เราจะทดสอบ สูเจ้าโดยการให้สูเจ้าอยู่ในความกลัวและความหิว และโดยการให้สูญเสียทรัพย์สิน ชีวิตและ พืชผล และจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ที่อดทน” (ซูเราะฮฺ อัลบะกอเราะฮฺ1: อายะฮฺที่ 155) 19


ส�ำหรับผูศ้ รัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาแล้ว การอดทนจึงเป็นสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ เพราะ พระองค์สญ ั ญาไว้วา่ จะมีขา่ วดีส�ำหรับผูท้ อี่ ดทนการสูญเสียของใครหลายๆคน อาจเหลือทิง้ ไว้เพียง ร่องรอยแห่งความเสียใจและความสูญเปล่า แต่ส�ำหรับผูศ้ รัทธาคงไม่เป็นเช่นนัน้ หากเขาอดทนและ ยอมรับว่านั่นคือบททดสอบอย่างหนึ่งของพระองค์ ที่จะท�ำให้บ่าวของพระองค์มีระดับการศรัทธา ทีส่ งู ขึน้ และสิง่ ทีจ่ ะช่วยให้เราสามารถอดทนและผ่านบททดสอบไปได้กค็ อื การขอดุอาอฺจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ผู้ซึ่งที่การช่วยเหลือของพระองค์นั้น อยู่ใกล้กับบ่าวของพระองค์ยิ่งนัก โปรด! ใส่ใจ ดูแล และรักษา สิ่งส�ำคัญในชีวิตของเราไว้ให้ดีที่สุด เพราะหากว่าวันนึง เมื่อเราสูญเสียสิ่งส�ำคัญนั้นไปแล้ว เราจะได้ไม่เสียใจเลย “กว่าจะรู้ว่าสิ่งไหนมีค่า ก็ต่อเมื่อเราได้สูญเสียสิ่งนั้นไปแล้ว”

20


05

การสูญเสียเวลา

เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย

Q&A ถาม: ที่ท่านอิบนิ ก็อยยิม เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า “การสูญเสียเวลานั้น เลวร้ายยิ่งกว่า ความตายเสียอีก” มีความหมายว่าอย่างไร?

ตอบ: ท่านกล่าวเช่นนั้นก็เพราะว่า.... การสูญเสียเวลานั้นมันตัดขาดเราจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และวันอาคิเราะฮฺ ในขณะที่ความตายมันตัดขาดเราจากโลกนี้และทุกสิ่งทุกอย่างจากโลกนี้เท่านั้น ถ้ามนุษย์ตายใน ขณะที่เขายังเป็นผู้ศรัทธาที่มีความยำาเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เขาเพียงแค่ถูกตัดขาด จากโลกดุนยานี้และทุกสิ่งทุกอย่างจากโลกดุนยานี้เท่านั้น และเขาจะอยู่เคียงข้างกับบรรดาผู้ที่มี ระดับอันสูงส่ง ลักษณะเช่นนีไ้ ม่ถอื ว่าสูญเสียหรือขาดทุน ยิง่ กว่านัน้ มันยังเป็นความสำาเร็จอันสูงส่ง ยิ่งทีเดียว พวกเขาจากโลกอันชั่วคราวนี้ไปสู่โลกอันถาวรตลอดกาล สู่ความโปรดปรานและการ สรรเสริญของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 21


ปัญหาก็คือว่า ในการสูญเสียเวลาของคนๆ หนึ่งต่อสิ่งอื่นนอกเหนือไปจากการเชื่อฟัง ปฏิบัติตามอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มันเป็นการตัดขาดเขาออกจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะ อาลา และวันอาคิเราะฮฺ คุณจะพบว่าคนที่เสียเวลาของเขาไปกับการพูดคุยที่ไร้เป้าหมายและเพื่อ การสนุกสนานเพลิดเพลินนัน้ เป็นการเพิกเฉยต่อการเชือ่ ฟังปฏิบตั ติ ามอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา คุณจะพบว่าจิตใจของพวกเขาแข็งกระด้างและถูกปิดผนึก วันๆ หนึง่ พวกเขาจะท�ำตัวเหมือนลาใน ตอนกลางวันและเป็นซากศพในตอนกลางคืน หรือในทางกลับกัน บางทีคุณอาจจะพบเห็นพวก เขาท�ำตัวเยี่ยงลาในตอนกลางคืนและเป็นซากศพในตอนกลางวัน คือเมื่อพวกเขาดูตื่นตัวพวกเขาก็ ไม่ ต ่ า งอะไรกั บ ลาและพวกเขาดูเหมือนซากศพเมื่อพวกเขานอนหลั บ เราขอความคุ ้ มครอง จากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้พ้นจากสภาพดังกล่าวนี้ เพราะมันจะตัดขาดเขาจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มันจะตัดความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้ห่าง ออกจากกัน และสภาพเช่นนี้เขาก็คือคนตายที่ไร้ชีวิตจิตใจนี่เอง คนที่เสียชีวิตตายไปแล้วนั้น ไม่ใช่คนที่ตายด้านไร้ส�ำนึก คนที่ตายด้านไร้ส�ำนึก ก็คือคนตายทั้งเป็นดีๆ นี่เอง และการตายทั้งเป็นนี้คืออารมณ์ ความรู้สึก นึกคิดของเขายังมีชีวิตอยู่ แต่จิตใจและอีหม่านของเขาได้ตายและเน่าเปื่อยไปนานแล้ว เราขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้พ้นจากสภาพเช่นนี้

22


นูรอัลฮูดา ถอดความและเรียบเรียง จาก http://goo.gl/vYCm8d

23


ไม่มีอะไรที่น่าดีใจ มากไปกว่าการที่เราเห็นคนที่เรารัก รักอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มากยิ่งกว่าเรา 06:50 PM - 04 Ramadhan 1435

24


06 …แตกต่าง

/ อันนิซาอฺ

อัลฮัมดุลิลลาฮฺส�ำหรับ …เช้าวันใหม่ที่ดูสดใส เช้าวันใหม่ที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยก้อนเมฆ เช้าวันใหม่ที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝูงนกบิน เช้าวันใหม่ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ยังให้เรามีลมหายใจอยู่ แค่ลองหยุดคิดสักนิด.. ..หนึ่งวัน มี 24 ชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงมี 60 นาที หนึ่งนาทีมี 60 วินาที และในแต่ละวินาที มีกี่คนที่เกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก? มีกี่คนที่ต้องตายจากโลกนี้ไป? มีกี่คนที่ร่างกายแข็งแรง? และมีกี่คนกันที่เจ็บไข้ได้ป่วย? แต่ละคนเกิดมาในครอบครัวที่แตกต่างกันไป บางคนเกิดมาในครอบครัวที่ร�่ำรวย ใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทอง แต่ในทางกลับกันบางคนก็เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนไม่มีข้าวจะกิน บางคนเกิดมามีอวัยวะครบสามสิบสอง แต่ในทางกลับกันบางคนก็เกิดมาเป็นคนพิการ บางคนเกิดมามีหน้าตาสวยหล่อ แต่ในทางกลับกันบางคนก็เกิดมาหน้าตาขี้เหล่ แต่… … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … 25


จะมีสักกี่คนที่ขอบคุณและยอมรับในก�ำหนดการณ์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ดังพระด�ำรัสของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ตรัสไว้ว่า ความว่า “แล้วทรงท�ำให้เขามีสัดส่วนที่สมบูรณ์ และทรงเป่ารูหฺ (วิญญาณ) ของพระองค์ เข้าไปในเขาและทรงให้พวกเจ้าได้ยินและได้เห็นและให้มีจิตใจ (สติปัญญา) ส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าขอบคุณ” (ซูเราะฮฺอัซ ซัจญ์ดาอฺ32: อายะห์ที่ 9)

และท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “เรื่องของผู้ศรัทธานั้นช่างน่าแปลก ทุกสิ่ง ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องดีส�ำหรับเขา ซึ่งลักษณะ เช่นนี้ไม่มีในผู้ใดนอกจากผู้ศรัทธา เมื่อเขาประสบกับสิ่งที่ดี เขาชุกูร (ขอบคุณ) นั่นก็เป็นเรื่อง ดีส�ำหรับเขา และเมื่อเขาประสบสิ่งที่ไม่ดี เขาอดทน ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีส�ำหรับเขา” (บันทึกโดยมุสลิม)

ฝากไว้สักนิด ลองพิจารณาดูว่า... ถ้าอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ให้มีคนยากจนแล้วเราจะเข้าสวนสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้อย่างไร? ~ เพราะรัก…จึงตักเตือน ~

26


07

ตบหน้าผมทำ�ไม?

ชายหนุม่ ผูห้ นึง่ ข้ามนำ�้ ข้ามทะเลไปรำ�่ เรียนยังถิน่ แดนไกลเป็นเวลานาน เมือ่ เขากลับสูบ่ า้ น เกิดเมืองนอน เขาได้ขอร้องให้พอ่ แม่ชว่ ยหาโต๊ะครูทวี่ า่ แน่ๆ เพือ่ เขาจะถามปัญหา 3 ข้อ แก่โต๊ะครู ผู้นั้น ในที่สุดพ่อแม่ก็หาโต๊ะครูตามที่ลูกต้องการได้ ชายหนุ่ม: โต๊ะครู: ชายหนุ่ม: โต๊ะครู: ชายหนุ่ม: 27

ท่านเป็นใครกัน? ท่านสามารถตอบปัญหาฉันได้หรือนี่ ? ฉันเป็นบ่าวคนหนึ่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อินชาอัลลอฮฺ ฉันคง ตอบปัญหาของเธอได้ ท่านแน่ใจหรือ? ผู้รู้ระดับโพรเฟสเซอร์และผู้เชี่ยวชาญยังตอบปัญหาผมไม่ได้ เลย ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ ด้วยความช่วยเหลือ ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ปัญหา 3 ข้อ ของผมก็คือ 1. พระเจ้ามีจริงหรือ? ถ้ามีจริง ได้โปรดแสดงรูปร่างของพระเจ้าให้ฉันดู 2. ตักดีร (การก�ำหนดสภาวการณ์ต่างๆ ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) คืออะไร ? 3. ถ้าชัยฏอนถูกสร้างมาจากไฟ แล้วท�ำไมบั้นปลายของชัยฏอนจะถูกโยน ลงไปในนรก ซึ่งถูกสร้างมาจากไฟเช่นกัน แน่นอนเหลือเกินไฟนรกไม่ สามารถ ท�ำให้ชัยฏอนเจ็บปวดได้เลย แม้เพียงระคายผิว เนื่องจากทั้งชัยฏอน และนรกล้วนถูกสร้างมาจากไฟ พระเจ้าไม่ได้คิดถึงเรื่อง นี้หรอกหรือ ?


ทันใดนั้นเอง

(โต๊ะครูได้ตบหน้าชายหนุ่มผู้นั้นอย่างจัง ! )

ชายหนุ่ม: (รู้สึกเจ็บมาก) ท�ำไมท่านจึงโกรธฉันขนาดนี้ ? โต๊ะครู: เปล่าเลย ฉันไม่ได้โกรธเธอเลยแม้แต่น้อย ที่ตบหน้าเธอนั้น เป็นการตอบ ปัญหา 3 ข้อ ที่เธอถาม ชายหนุ่ม: ตอบยังไง ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ? โต๊ะครู: เธอรู้สึกยังไงล่ะ หลังจากที่โดนตบหน้า? ชายหนุ่ม: ก็เจ็บน่ะซิ ถามได้ โต๊ะครู: อ้าว อะไรกัน เธอเชื่อว่าความเจ็บปวดมีจริงหรือนี่ ? ชายหนุ่ม: ก็ใช่ซิครับ นี่ยังเจ็บอยู่เลย โต๊ะครู: ไหนเธอแสดงรูปร่างความเจ็บปวดให้ฉันดูหน่อยซิ ท�ำได้หรือเปล่าล่ะ ชายหนุ่ม: ผมท�ำไม่ได้หรอกครับ โต๊ะครู: นั่นคือค�ำตอบแรกของฉัน เราทุกคนสามารถรับรู้การมีอยู่จริงของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ได้ โดยไม่จ�ำเป็นต้องเห็นรูปร่างของ พระองค์ โต๊ะครู: เมื่อคืนนี้ เธอฝันว่าจะถูกฉันตบหน้าหรือเปล่า ? ชายหนุ่ม: เปล่าครับ โต๊ะครู: เธอคาดคิดหรือเปล่าว่า จะถูกฉันตบหน้าในวันนี้ ? ชายหนุ่ม: เปล่าครับ โต๊ะครู: นั่นแหละ คือ ตักดีร ....................................... โต๊ะครู: มือฉันที่ตบหน้าเธอนั้น ท�ำมาจากอะไร ? ชายหนุ่ม: มันท�ำมาจากเนื้อหนังมังสา โต๊ะครู: แล้วหน้าเธอล่ะ มันท�ำมาจากอะไร ? ชายหนุ่ม: มันก็ท�ำมาจากเนื้อหนังมังสาเช่นกันซิครับ โต๊ะครู: เธอรู้สึกอย่างไรล่ะ หลังจากถูกฉันตบ ? ชายหนุ่ม: ก็เจ็บซิครับ โต๊ะครู: แม้ว่าชัยฏอนกับนรกจะถูกสร้างมาจากไฟถ้าหากอัลลอฮฺประสงค์ อินชาอัลลอฮฺนรกจะเป็นสถานที่ที่เจ็บปวดทรมานยิ่งส�ำหรับชัยฏอน และนี่คือ...บทพิสูจน์ว่า...พระเจ้ามีจริง 28


นูรอัลฮูดา ถอดความและเรียบเรียง จาก http://goo.gl/s6hRIF

29


ใครหวังในมนุษย ย่อมมีผิดหวัง ใครหวังในอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ย่อม ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน 06:50 PM - 05 Ramadhan 1435

30


08

จงอย่าโกรธ

/อบูมุศลิหฺ อารี วะหฺยูดี เขียน

zunnur@islamicsibling แปล

รายงานจากท่ า นอบู ฮุ ร็ อ ยเราะฮฺ ร่ อ ฎิ ยั ล ลอฮุ อั น ฮุ มี ช ายผู ้ ห นึ่ ง กล่ า วกั บ ท่ า นนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า “ได้โปรดให้คำ� นะศีฮะฮฺแก่ฉนั ด้วย” ท่านกล่าวว่า “จงอย่าโกรธ” ชายคนดังกล่าวย�้ำถึงความต้องการของเขาซ�้ำ แต่ท่านร่อซูลก็ตอบเช่นเดิมว่า “จงอย่าโกรธ” (หะดีษบันทึกโดย บุคอรีย์)

อิหม่าม นะวะวีย์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า “จงอย่าโกรธนี้ หมายถึง ท่านจงอย่าแสดง ความโกรธออกมา ค�ำสั่งห้ามนี้มิได้มุ่งไปที่ (การมี) ความรู้สึกโกรธ เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ความโกรธเป็นสิ่งปกติของมนุษย์ ที่ไม่อาจจะหายสิ้นไปจากความรู้สึกของมนุษย์ได้” ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยกล่าวไว้อีกเช่นกันว่า “หากผู้หนึ่งผู้ใด จากหมู่พวกท่านโกรธในสภาพยืน ดังนั้นเขาจงนั่งลง หากว่าความโกรธยังไม่หายหมดไป เขาก็ จงนอนเสีย”(หะดีษบันทึกโดย อะหฺมัด : ซอเฮียะห์) และเช่นกัน มีชายคนหนึง่ มาหาท่านร่อซูลลุ ลอฮฺ และกล่าวกับท่านว่า “โอ้ทา่ นร่อซูลลุ ลอฮฺ ได้โปรดสอนความรู้หนึ่งแก่ฉัน ที่จะท�ำให้ฉันเข้าใกล้สวรรค์และห่างไกลจากนรก” ท่าน ร่อซูลลุ ลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวตอบว่า “จงอย่าแสดงความโกรธออกมา แล้วท่าน จะได้รับสรวงสวรรค์” (หะดีษบันทึกโดยฏ็อบรอนีย์ : ซอเฮียะห์) 31


ชัยคฺ มุหัมมัด บิน ศอลิหฺ อัลอุษัยมีน เราะหิมะฮุลลอฮ กล่าวเช่นกันว่า “ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มิได้หมายถึง มิให้มีอารมณ์ความรู้สึกโกรธ เพราะความรู้สึกโกรธ นั้นเป็นปกติธรรมชาติของมนุษย์ทั่วไป แต่ที่ท่านหมายถึงจงควบคุมตนเองให้ได้ เมื่อเกิดความ รูส้ กึ โกรธ เพือ่ ทีค่ วามโกรธของท่านจะไม่กอ่ ให้เกิดสิง่ ไม่พงึ ประสงค์ (สิง่ ไม่ด)ี แท้จริงความโกรธ คือ เชื้อเพลิงที่ชัยฏอนได้เขวี้ยงใส่ลงในจิตใจของลูกหลานอาดัม ดังนั้นท่านจะเห็นว่า เมื่อใดที่ คนๆ หนึ่งโกรธ นัยน์ตาของเขาจะกลายเป็นสีแดง และเส้นเลือด ของเขาจะตึงและชัดเจนขึ้น บางครั้งเส้นผมของเขาก็เกิด จงอย่าแสดง เสียและร่วงลง อันเนือ่ งจากความโกรธด้วย รวมถึงสิง่ อืน่ ๆ ที่ไม่น่ายินดีก็เกิดขึ้นภายหลัง (การแสดงความโกรธ) ด้วย ความโกรธออกมา เช่นกัน จนกระทั่ง ผู้กระท�ำอาจต้องเสียใจในภายหลังที่ได้ แล้วท่านจะได้รับ ลงมือกระท�ำมันลงไปแล้ว” สรวงสวรรค์

[

เคล็ดลับเอาชนะความโกรธ

[

ชัยคฺวะฮีด บาลี หะฟิเซาะฮุลลอฮ ได้กล่าวถึงเคล็ดลับต่างๆ เพื่อการเอาชนะความโกรธไว้ ส่วนหนึ่งนั้น ได้แก่ 1. กล่าวขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ว่า อะอูซุบิลลาฮิ มินัช ชัยฏอน นิรเราะญีม 2. นึกถึงผลบุญที่ใหญ่หลวงส�ำหรับผู้ที่สามารถต้านทานความโกรธได้ 3. จงนิ่งเงียบ อย่าเอ่ยกล่าว (หรือกระท�ำ) ใดๆ 4. นั่งลงหรือไม่ก็นอนเสีย 5. คิดไตร่ตรองถึงผลกระทบที่เลวร้ายจากการที่เขามีความโกรธ 6. นึกถึงผลบุญที่ยิ่งใหญ่ส�ำหรับผู้ที่ให้อภัยโทษในความผิดของคนเขลา (ที่สร้าง ความเดือดร้อน หรือความไม่สบายใจแก่เรา) 7. ละทิ้งจากการต่อว่า ประณาม ใส่ร้าย สาปแช่ง และการสร้างมลทิน เพราะทั้งหมด นั้นคือ นิสัยสันดานของคนโง่เขลา

32


มนุษย์ที่ดียิ่ง คือ ผู้ที่ความปราถนาของเขา โน้มเอียงไปตามคำ�สอนของท่านร่อซูลุลลอฮฺฯ ที่ทำ�ให้ความโกรธและการต่อสู้ของเขาเป็นไป เพื่อปกป้องสัจธรรมจากการรุกราน และทำ�ลายล้างของความเท็จ แต่ทว่า มนุษย์ที่เลวยิ่งนั้นคือผู้ที่ปล่อยปะละเลยต่ออารมณ์ใฝ่ต�่ำ (นัฟซู) และความโกรธของเขา ลาเหาละวะลากุววะตะอิลลาบิลลาฮฺ ชัยคฺอัสสะอฺดี เราะหิมะฮุลลอฮ(ดู ดุรเราะฮฺ สะละฟียะฮฺ)

33


ไม่ใช่ความกล้าหาญ การที่ท่านฝาฝนอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เมื่อท่านอยู่ลำพังกับพระองค 06:50 PM - 06 Ramadhan 1435

34


09

นิทานเรื่อง 3 สหาย / ISlammore.com

เรือใบล�าใหญ่ ก�าลังแล่นอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก คลื่นพายุลมแรงก�าลังเคลื่อนตัว เข้ามาใกล้ขึ้นทุกที...ภายในเรือลำานี้มี 3 สหาย ผู้ซึ่งกำาลังตกอยู่ในอันตราย ประกอบไปด้วย นาย อิสลาม นายความสุข และนายรุ่งเรือง ทั้งสามคนนี้เป็นสหายที่รักกันมาก แต่การเดินทางครั้งนี ้ จำาเป็นจะต้องมีใครสักคนเสียสละชีวิตลงจากเรือไป เพื่อให้เรือลอยลำาสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย... เมฆก้อนใหญ่รวมตัวปกคลุมท้องฟ้าจนมืดสนิท คลื่นทะเลยักษ์กำาลังถาโถมเข้ามาเกือบ ถึงเรือลำานีใ้ นอีกไม่กนี่ าทีขา้ งหน้า เป็นช่วงเวลาสำาคัญทีจ่ ะต้องมีใครบางคนอยู ่ และใครบางคนต้อง กระโดดลงจากเรือไป... นายอิสลามพูดขึน้ ว่า “เมือ่ ถึงสถานการณ์คบั ขันจริงๆ เราจะเป็นคนแรกทีก่ ระโดดจาก เรือไป เพื่อพวกนายทั้งสองจะได้มีชีวิตอยู่บนเรืออย่างปลอดภัย” นายความสุขได้ยินเช่นนั้นจึงรีบพูดขึ้นว่า “นายคิดดีแล้วหรอ? ถ้าเรือล�านี้ขาดเสาหลัก อย่างนายไป มันจะแล่นต่อไปได้อีกนานแค่ไหน เราอยู่ไม่ได้โดยไม่มีนายนะ ความสุขก็คงจะ ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง คงเป็นแค่ความสุขจอมปลอมอย่างแน่นอน” นายรุ่งเรืองได้ยินเช่นนั้นจึงรีบพูดขึ้นว่า “เราว่านายอิสลามคิดถูกต้องแล้วล่ะ เรือล�านี้ ต้องเดินทางอีกไกล ต้องเจริญก้าวหน้าอีกเยอะ นายเป็นพวกหัวโบราณ อยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น หรอก” 35


ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งไปกว่านี้ นายอิสลามจึงพูดขึ้นว่า “เราเข้าใจดีว่านายทั้ง สองต่างก็มีคุณค่ากับเรือล�ำนี้แตกต่างกันไป นายความสุขก็เติมเต็มรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ส่วน นายรุ่งเรืองก็สร้างความมั่งคั่งร�่ำรวยให้กับเรือล�ำนี้ได้กินดีอยู่ดีมาโดยตลอด ส่วนตัวเราเองนั้น คง เป็นแค่เสาหลักเก่าๆที่ไม่ค่อยมีใครเห็นคุณค่า หลายคนรู้จักแต่ไม่เคยเข้าใจ หลายคนเลื่อมใส แต่ ไม่เคยศรัทธา....” ไม่ทันที่นายอิสลามจะพูดจบ คลื่นยักษ์ก็โถมกระหน�่ำเข้าใส่เรือใบในชั่วพริบตา ล�ำเรือ ค่อยๆเอียงเกือบจมลงสู่ใต้ท้องน�้ำ นายรุ่งเรืองเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงตัดสินใจผลักนายอิสลามตกลงน�้ำ ทะเลไป… ด้วยน�ำ้ หนักทีน่ อ้ ยลงท�ำให้เรือใบค่อยๆเอียงล�ำเรือกลับสูส่ ภาพปกติอกี ครัง้ และสามารถ แล่นต่อไปได้...แต่กย็ งั โคลงเคลงหยุดจอดเป็นระยะๆ เพราะความไม่ลงรอยกันของนายความสุขกับ นายรุ่งเรือง นายความสุขก็มัวแต่เฮฮาไร้สาระ เพราะขาดหลักยึดเหนี่ยวอย่างนายอิสลาม ความสุข ทีเ่ กิดขึน้ จึงเป็นเพียงภาพลวงตา ทีห่ ามีคณ ุ ค่าไม่! ส่วนนายรุง่ เรืองก็เริม่ ขาดความซือ่ สัตย์และความ มีคณ ุ ธรรม โกงกินทุกวิถที าง กอบโกยผลประโยชน์อย่างไม่มที สี่ นิ้ สุด เรือล�ำนีก้ �ำลังแล่นออกจากจุด หมายไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าชะตากรรมข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ผ่านไปไม่นานความปั่นป่วนก็เกิดขึ้นบนเรืออย่างไม่หยุดหย่อน จนในที่สุดเรือล�ำนี้ก็ไม่ สามารถแล่นต่อไปได้ และอับปางลงในที่สุด ห่างจากกลางทะเลไปมีเกาะเล็กๆอยู่เกาะหนึ่ง ผู้คนที่นี่มีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปมาก จากทีเ่ คยเคารพบูชาผีสางเทวดา ก็เริม่ ใช้สติปญ ั ญาเรียนรูถ้ งึ การมีอยูข่ องพระเจ้า เชือ่ ว่าอัลลอฮฺ ซุบ ฮานะฮูวะตะอาลาคือพระเจ้าแห่งสากลโลก เลิกพิธีกรรมบูชาเจว็ด มาปฏิบัติละหมาดเพื่อขอบคุณ ต่อพระองค์ทไี่ ด้ให้แนวทางทีเ่ ทีย่ งแท้กบั พวกเขา...ตัง้ แต่นายอิสลามถูกพัดเข้ามาติดทีเ่ กาะแห่งนี.้ .. หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเปลี่ยนไป สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับคนบนเกาะเป็นอย่างมาก เมือ่ ความเป็นอิสลามไปอยู่ ณ แห่งหนต�ำบลใด ความศิวไิ ลซ์ยอ่ มเกิดขึน้ ผูค้ นอยูก่ นั อย่าง มีความสุข เป็นความสุขเพือ่ พระเจ้าทีจ่ รี งั ยัง่ ยืนจนไม่อาจประเมินค่าได้ และอีกไม่นานความรุง่ เรือง ก็จะตามมา โดยไร้ซึ่งความหายนะอย่างที่เคยประสบกับเรือใบในคราวที่ไร้ซึ่ง นายอิสลาม

36


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า......

“หากไม่มีอิสลาม เราคงอยู่ไม่ได้ เหมือนกับเรือใบที่สักวันหนึ่งต้องอับปางลง จงมีชีวิตอยู่เพื่ออิสลาม! อยู่เพราะอิสลาม! และอยู่อย่างอิสลาม อินชาอัลลอฮฺ เราจะพบความสุขและความรุ่งเรืองที่แท้จริง.......

37


ยิ่งเข้าใกล้เปาหมายเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องมอบหมายต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 06:50 PM - 07 Ramadhan 1435

38


10

เรื่องราวของใบไม้ / Ibnusabeel

ทุกๆ ครั้ง เราจะรู้สึกประหนึ่งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ รู้สึกดั่งเราเป็นหนึ่งในใบไม้จำานวนมากมายมหาศาลเหล่านั้น และทุกๆ ครั้ง ใบไม้ที่อยู่ร่วมต้นเดียวกัน ก็ร่วงหล่นไปทีละใบ..ทีละใบ จนเราแทบไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งใดเลย แค่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นจนชาชิน จนมาถึงขณะนี้ วันที่ใบไม้ในกิ่งเดียวกัน เริ่มปลิวไสวออกไปในสายลม และร่วงลงลิ่วสู่ผืนดินที่เบื้องใต้ มันทำาให้เราต้องหันกลับมามองตนเอง ว่าเมื่อไหร่หนอ..จะถึงคราเรา มิใช่ด้วยความรู้สึกที่อยากลงสู่ผืนดิน แต่เป็นเพราะความกลัวที่ไม่อยากนึกถึง

39

เพราะทุกครั้งที่เราแลเห็น ใบไม้เหล่านั้นที่ร่วงลงไป พวกเขาต่างสูญสลายไปกับผืนดิน ไม่มีสักใบที่จะกลับมายังต้นไม้อีกครั้ง . . . . .


แน่นอนมันคือโอกาสแค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้นที่เราจะได้อยู่บนกิ่งไม้กิ่งนี้ หากวันใดที่เราร่วงลงไป คงไม่มีวันที่เราจะได้สัมผัสกับแสงแดดลมฝนอีกครั้ง คิดๆไป ก็รู้สึกแปลกใจ ว่าเราเกิดมาบนกิ่งนี้ได้อย่างไร และเกิดมาทำาไม วันๆหนึ่งของเรา ได้แต่เพียงเอนกายพลิ้วไหวไปกับสายลมเองกระนั้นหรือ นั่นคือการคิดในมุมแคบที่เรามี แต่หากคิดในมุมกว้าง เราก็ไม่ได้อยู่บนต้นไม้นี้อย่างเดียวดายสักหน่อย เรารวมตัวกัน บนต้นไม้ต้นนี้ เพื่อสร้างร่มเงาให้แก่โลกมิใช่หรือ คิดไป หน้าที่ของเราก็ช่างยิ่งใหญ่เหมือนกันนะ ว่าแต่ ใบไม้ใบอื่น จะคิดเหมือนเราหรือเปล่าหนอ หรือเขาคิดเพียงแต่ว่า จะปล่อยตัวเองไปตามสายลมแค่เพียงความสนุกสนานเท่านั้น เขาไม่สังเกตใบไม้ที่ร่วงลงไปก่อนหน้านี้เลยหรือไงนะ ถึงได้ช่างกล้าหาญชาญชัยอะไรปานนั้น ... เฮ้อ...ลมช่างเย็นสบายอะไรเช่นนี้ มันช่างทำาให้เราเพลิดเพลินเหลือคณา จนไม่รู้สึกตัวเลยว่า Ibnusabeel “เราได้ร่วงลงสู่ผืนดิน เมื่อไรกัน?”

40


“และแน่นอนพวกเจ้า เคยปรารถนาความตาย ก่อนจากที่พวกเจ้าจะได้พบมัน แล้วแน่นอนพวกเจ้าก็ได้เห็นมันแล้ว ขณะที่พวกเจ้ามองดูกันอยู่” (ซูเราะฮฺอาลิอิมรอน 3 : 143)

41


คนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับสิ่งที่เรารัก วันนี้...ลองถามตัวเองดู ว่ามีความสุขในทุกๆ ครั้งที่ได้ละหมาดหรือเปล่า? 06:50 PM - 08 Ramadhan 1435

42


11

ที่นี่..ที่ไหนหรือหนุ่มสาว ที่นี่ที่ไหน แสวงหาสิ่งใดหรือหนุ่มสาว ค�ำยกยอสรรเสริญอันเยิ่นยาว หรือเรื่องราวหอมหวานแห่งวารวัย อัลกุรอานถูกขานดังที่นี่ แต่ความหมายแห่งคัมภีร์อยู่ที่ไหน กี่บทเรียนเพียรอ่านแล้วผ่านไป แต่หัวใจมิได้ซับรับมาท�ำ ท่านเรียนเพื่อเพียงรอเขียนข้อสอบ หรือเพื่อตอบส�ำนึกอันลึกล�้ำ “เจ้าจะเลือกดุนยาสีพร่าด�ำ ฤาทางน�ำสีทองอันทอดยาว?” ท่านโหยหาชั่วคราวแห่งความสุข เพื่อจะทุกข์ถาวรหรือหนุ่มสาว เสียงอัลกุรอานขานกรูอยู่ปาวๆ ใยผู้กล่าวกลับโยนตัวลงกลั้วไฟ ( ZAID. ที่นี่..ที่ไหนหรือหนุ่มสาว. Mir-at Vol.2 ) 43


44


ตื่ น ๆ อ่ า น ต่ อ ๆ . . .

45


จงเปนเพื่อนกับอัลกุรอานในโลกนี้ แล้วอัลกุรอานจะเปนเพื่อนของท่านในโลกหน้า 06:50 PM - 09 Ramadhan 1435

46


12

โลกที่ไม่อาจ ผูกพัน

/ Ibr@heem

เราใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มานานเท่าไหร่? 20 ปี ... 40 ปี ...หรือร่วมร้อย ในระยะเวลาเหล่านั้น...คงมีสถานที่หลายแห่งที่เราผูกพัน มีคนหลายคนที่เรารัก...และถูกรัก บางครั้ง...สายใยที่ผูกโยงเราไว้กับผู้คน และสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ก็ซับซ้อน และสวยงามเกินไป จนท�ำให้เราลืมไปว่า...ทุกอย่างที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเราในวันนี้ ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าเรื่องชั่วคราว แม้แต่ชีวิตของเราเอง -- วันหนึ่งมันก็ย่อมจะจากลาโลกนี้ไป ผู้คนที่ต�ำแหน่งหน้าที่ท�ำให้เราผูกพันกัน...ถึงวันนั้นก็สิ้นสายใย ผู้คนที่อิสลามท�ำให้เราผูกพันกันต่างหาก...คงอยู่ ทรัพย์สมบัติที่เรารับเข้ามา...ถึงวันนั้นก็ไร้ค่า ทรัพย์สมบัติที่เราให้ออกไปต่างหาก...คงอยู่ 47


ใบปริญญาที่เราขวนขวายมาประดับฝาบ้าน...ถึงวันนั้นก็มีค่าเพียงเศษกระดาษ ความรู้ที่เราได้ใช้มันไปในหนทางของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ต่างหาก...คงอยู่ มิตรภาพที่เรากลัวว่าจะสูญเสียไป...ถึงวันนั้นก็ไม่ยังประโยชน์ ค�ำตักเตือนที่เรากล่าวออกไปโดยบริสุทธิ์ใจต่างหาก...คงอยู่ ค�่ำคืนที่เราขดตัวหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่ม... ถึงวันนั้นก็ว่างเปล่า ค�่ำคืนที่เรายันสีข้างขึ้นมาเข้าเฝ้าอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ต่างหาก...คงอยู่ ความสวยงามที่เราเฝ้าดูแลรักษา...ถึงวันนั้นก็เน่าเปื่อย ความดีงามต่างหาก...คงอยู่ ดุนยาที่เราเฝ้าลุ่มหลง...ถึงวันนั้นก็ดับสูญ อาคิเราะฮฺต่างหาก...คงอยู่ ...อาคิเราะฮฺต่างหากเป็นนิรันดร์...

48


คุณค่าของชีวิตมนุษย์ไม่ใช่การหมกมุ่นแต่เรื่องตัวเอง ไม่สนใจชีวิตผู้อื่น คุณค่าและความหมายชีวิตถูกนิยามด้วยกับการค้นพบสัจธรรม และการมีชีวิตอยู่เพื่อนำ�สัจธรรมไปสู่คนอื่นๆ ชีวิตแห่งการดะอฺวะฮฺจึงเป็นชีวิตที่เปี่ยมด้วยความหมายอย่างแท้จริง อัลอัค อับดุลมะญีด

49


เราจะมีความสุขไหม? หากวันหนึ่ง เราต้องจากโลกใบนี้ไป... 06:50 PM - 10 Ramadhan 1435

50


13

เครื่องหมายก่อนสิ้นลมหายใจ

เครื่องหมายแรก 100 วัน เครื่องหมายนี้เป็นเครื่องหมายแรกจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ประทานให้บ่าว ของพระองค์และเครื่องหมายนี้ไม่ใช่ทุกคนจะรู้สึกแต่เป็นเพราะความประสงค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮา นะฮูวะตะอาลา แต่เพียงผูเ้ ดียว มุสลิมทุกคนจะได้รบั เครือ่ งหมายนีเ้ ว้นแต่วา่ เขาจะรูต้ วั หรือไม่เท่านัน้ เอง เครื่องหมายนี้จะเกิดขึ้นหลังจากฟัรฏูอัสริ ทุกส่วนของร่างกายนั้นจากปลายเส้นผมจรดเท้าจะ มี ค วามรู ้ สึ ก สั่ น ทั่ ว ร่ างกายเหมือนกับ ว่าเนื้อวัว ที่เพิ่งถูก เชือ ดถ้ า ดู ดี ๆ แล้ ว เนื้ อ นั้ น จะสั่ น และ เครือ่ งหมายนีก้ เ็ ช่นเดียวกัน เครือ่ งหมายนีจ้ ะมีความหมายอย่างมากส�ำหรับผูท้ ไี่ ด้รบั และจะมีความ รู้สึกว่า นี่แหละคือความหมายของความตายที่จะเยือนในไม่ช้า และเครื่องหมายนี้จะหยุดในเมื่อ เรารู้สึกตัวแล้ว (มาชาอัลลอฮฺ) ส�ำหรับผู้ที่ไม่ได้ฮิดายะฮฺหรือผู้ที่หลงใหลในนิอฺมัตของดุนยา โดยไม่ เคยคิดถึงความตายเครื่องหมายนี้จะหยุดโดยไร้ประโยชน์ ส�ำหรับผู้ที่รู้สึกตัวแล้ว เครื่องหมายนี้ แหละเป็นประโยชน์มากที่สุดเพราะจะได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าเพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะเดินทางไปใน โลกหน้าหลังจากความตาย 51


เครื่องหมาย 40 วัน เครือ่ งหมายนีจ้ ะเกิดขึน้ หลังจากอัสริเช่นเดียวกัน โดยทีส่ ว่ นของสะดือนัน้ จะสัน่ และเวลา นี้ใบไม้ที่ถูกเขียนชื่อเราจะผลิออกจากต้นไม้ที่อยู่บนอารัช หลังจากนั้นมะลิกุลเมาตฺจะน�ำใบนี้เพื่อที่ จะเตรียมพร้อมส�ำหรับเราและเริม่ ทีจ่ ะติดตามเราตลอด และบางครัง้ มะลิกลุ เมาตฺจะให้เห็นเรืองร่าง ของเขา ให้เราได้เห็นส�ำหรับผู้ที่ถูกเลือกแล้วเขาจะมีความรู้สึกมึนสับสนในชั่วขณะ เครื่องหมาย 7 วัน ส�ำหรับเครื่องหมายนี้พระองค์จะให้แต่บ่าวที่เจ็บไข้ได้ป่วย จะสังเกตเห็นได้ว่าผู้ป่วยที่ไม่ ค่อยกินอาหารจะเริ่มมีความอร่อยในการกิน เครื่องหมายนี้จะสังเกตเห็นได้ง่าย เครื่องหมาย 3 วัน ในเวลานี้จะรู้สึกสั่นในบริเวณหน้าผากขวาและซ้าย เมื่อรู้สึกเครื่องหมายนี้ก็จงถือศีลอด เพราะหลังจากนี้ท้องเราจะไม่มีนะยิสมากนักและจะเป็นการง่ายส�ำหรับ คนที่จะมาจัดการกับศพ ญะนาซะฮฺเรา และในช่วงนีเ้ หมือนกันตาด�ำของเราจะไม่มแี สงประกายออกจากดวงตาอีกแล้ว และ ส�ำหรับผูป้ ว่ ยจมูกจะเริม่ หย่อนลงถ้าเราสังเกตเคียงข้างแล้ว หูจะเริม่ เหีย่ ว ปลายหูจะเริม่ หด เข้าข้าง ใน ฝ่าเท้าจะเริ่มหดลงมาและยากที่จะตั้งตรงใหม่ เครื่องหมาย 1 วัน จะเกิดขึน้ หลังจากเวลาอัสริจะมีความรูส้ กึ สัน่ เหมือนกับชีพจรเต้นบริเวณด้านหลังคือศีรษะ และเครื่องหมายนี้เองจะบ่งบอกแก่เราว่าอัสริครั้งต่อไปจะไม่มีวันพบอีกต่อไป และเครื่องหมายสุดท้าย จะเกิดขึ้นโดยที่ตัวเราจะรู้สึกเย็นที่บริเวณสะดือลงมาถึงเอวและจะขึ้นถึงลูกกระเดือก และเวลานีใ้ ห้เรานัน้ กล่าวกาลีมะฮฺชาฮาดะฮฺและให้เราเงียบจนถึงการมาของมะลิกลุ เมาตฺ เพือ่ ทีจ่ ะ น�ำเรานั้นไปพบผู้ที่สร้างเรามาและสุดท้ายจะดับชีวิตเราอีกครั้ง 52


53


นาฬกาเรือนหมื่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร หากยังไม่เห็นค่าของเวลา 06:50 PM - 11 Ramadhan 1435

54


14

ความตายและอายุขัย ของประชากรยุคสุดท้าย

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก มุสลิมที่เปี่ยมล้นด้วยอิหม่าน เขาจะไม่มีความหวาดหวั่น และหวาดกลัวต่อก�ำหนดความ ตายที่เขาทราบดีว่า มนุษย์ทุกคนต้องกลับไปสู่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แต่ความเป็นมุอฺมิน คือ ความปรารถนาทีจ่ ะกลับสูค่ วามเมตตาของพระองค์ และไม่ปรารถนาทีจ่ ะอยูใ่ นโลกดุนยาอย่าง ถูกโกรธกริ้วและกลับไปสู่ความพิโรธของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงตรัสว่า ความว่า “ณ ที่ใดก็ตาม ที่พวกเจ้าปรากฏอยู่ ความตายก็ย่อมมาถึงพวกเจ้า และถึง แม้ว่าพวกเจ้าจะอยู่ในป้อมปราการอันสูงตระหง่านก็ตาม” (อัน-นิซาอฺ 4 : 78 ) อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงตรัสว่า ความว่า “และไม่มีชีวิตใดรู้สิ่งที่ขวนขวายให้ได้มาในวันรุ่งขึ้น และไม่มีชีวิตใดรู้ว่า ณ แผ่นดินใดที่จะตาย แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้และละเอียดถี่ถ้วน” (ลุกมาน 31 : 34) ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก ไม่มีบ่าวผู้ใดทราบว่าเขาจะตายเมื่อไหร่ และเขาจะตายที่ไหน ความตายจะชวนใครไป ด้วยก็หาไม่ได้ ไม่มีใครจะตามไปตายด้วย สิ่งที่จะตามบ่าวของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไปก็คืออามัลที่ศอลิหฺ 55


มีรายงานเล่าว่า มีข้าหลวงคนสนิทของนบีดาวุด อะลัยฮิสสลาม มีอายุยืนยาว หลังจาก นบีดาวุด อะลัยฮิสสลาม ได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ข้าหลวงผู้นี้ กลายมาเป็นข้าหลวงของท่านนบีสุลัยมาน อะลัยฮิสสลาม บุตรของนบีดาวุด อะลัยฮิสสลาม ใน วันหนึ่งท่านนบีสุลัยมาน อะลัยฮิสสลาม นั่งอยู่สถานที่พ�ำนักของท่าน ในช่วงสาย ข้าหลวงนั่งร่วม อยู่ด้วย ขณะนั้น มีชายผู้หนึ่งเข้าพบพร้อมให้สลามและร่วมสนทนากับท่านนบีสุลัยมาน อะลัยฮิส สลาม สายตาของชายผูน้ นั้ ได้มองไปยังข้าหลวง ท�ำให้ขา้ หลวงหวาดกลัวด้วยสายตาอันน่าเกรงขาม เมื่อชายผู้นั้นออกไป ข้าหลวงกล่าวถามท่านนบีสุลัยมาน อะลัยฮิสสลาม ความว่า “โอ้ท่านนบีแห่งอัลลอฮฺ ชายที่ออกไปสักครู่คือใคร ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ว่า ความจริงการมองของเขามายังข้าพเจ้าท�ำให้ขา้ พเจ้าหวาดกลัวเหลือ เกิน” ท่านนบีสุลัยมาน อะลัยฮิสสลาม ตอบว่า ความว่า “ชายผู้นั้นคือ มะลิกุลเมาตฺ จ�ำแลงร่างมาเพื่อเข้าพบข้าพเจ้า” ข้าหลวงเมื่อทราบดังนั้นด้วยความหวาดกลัวถึงกับร้องไห้ จึงกล่าวขอร้องให้ท่านนบี สุลัยมานอะลัยฮิสสลาม ใช้ลมแบกหามเขาให้ไปยังสถานที่ไกลที่สุด สถานที่นั้นคืออินเดีย ท่าน ก็ได้ท�ำตามค�ำขอร้อง ต่อมาในวันรุ่งขึ้น มะลิกุลเมาตฺ ก็มาพบท่านนบีสุลัยมานอะลัยฮิสสลาม พร้อมให้สลาม ท่านนบี ถามว่า “โอ้มะลิกุลเมาตฺ ท่านท�ำให้ข้าหลวงของข้าหวาดกลัวโดยการเชือดเขาด้วยสายตา เมื่อวานนี้เพราะเหตุใด? ” มะลิกุลเมาตฺตอบว่า “โอ้นบีแห่งอัลลอฮฺ แท้จริงข้าพเจ้าได้เข้าพบท่าน ในช่วงสายของเมื่อวาน และความจริงอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงใช้ให้ข้าพเจ้าชักวิญญาณ ของข้าหลวงท่าน หลังบ่ายที่อินเดีย ข้าพเจ้ายังแปลกใจอยู่เลย ” นบีสุลัยมาน อะลัยฮิสสลาม กล่าวว่า “ดังนั้นท่านท�ำอะไรต่อไป? ” มะลิกุลเมาตฺตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ไปยังสถานที่ซึ่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงใช้ให้ไปชักวิญญาณข้าหลวงของท่าน ข้าพเจ้าก็พบว่าเขารอข้าพเจ้าอยู่ แล้ว ข้าพเจ้าจึงชักวิญญาณเขา ”

56


อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงตรัส

[

ความว่า “จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) แท้จริงความตาย ซึ่งพวกท่านหลีกหนีจากมัน ไปนัน้ แท้จริงมันจะมาพบกับพวกท่าน แล้วพวกท่านก็จะถูกน�ำกลับคืนไปสูพ่ ระองค์ผทู้ รงรอบรู้ สิง่ เร้นลับและสิง่ เปิดเผย ดังนัน้ พระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกท่านตามทีพ่ วกท่านได้ประกอบกรรม ไว้ในโลกดุนยา” (อัลญุมุอะฮฺ 62:8)

ความว่า “แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ชีวิตอุมมะฮฺของข้าพเจ้าอยู่ระหว่าง 60 ปี ถึง 70 ปี และน้อยคนนักที่จะมีอายุเกินกว่าดังกล่าว”

[

ท่านพี่น้องที่รัก ชีวิตอุมมะฮฺของท่านนบีองค์สุดท้าย น้อยนักที่จะมีอายุขัยเกิน 70 ปี ดังมีรายงานจาก อบูฮุรอยเราะห์

มนุษย์ทกุ คน ต้องกลับไปสู่ อัลลอฮฺ

บ่าวมุสลิมจึงต้องขะมักเขม้นในการเสริมสร้างอิหม่าน และต้องละทิ้งความชั่ว เขาผู้นั้น จะได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในสภาพของบ่าวที่ได้รับการพักผ่อน อันยาวนานเหล่าซอฮาบะฮฺ ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า ความว่า “ ใครคือผู้ที่ตายแล้วได้รับการผ่อนคลาย ? ” ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่า ความว่า “ คือบ่าวที่เป็นมุอฺมิน เขาจะได้ผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยของโลกดุนยา ” เครดิต.. http://goo.gl/vQ8lLj

57


ตามหาความรักด้วยระบอบอิสลาม ครั้งเดียวก็เจอรักแท้ 06:50 PM - 12 Ramadhan 1435

58


15

หะดีษประทับใจ “จงบอกแก่เขา”

ความว่า: มีชายคนหนึ่งอยู่กับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วมีชายอีกคนเดิน ผ่านไปชายคนที่อยู่กับท่านนบีได้บอกว่ากับท่านว่า: “แท้จริงฉันรักชายคนเมื่อกี้” ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงถามเขาว่า: “ท่านบอกให้เขารู้หรือยัง?” ชายคนนั้นตอบว่า: “ยัง” ท่านนบีกล่าวว่า: “ท่านก็จงบอกให้เขารู้” แล้วเขาก็เดินตามชายคนเมื่อกี้ แล้วบอกกับเขาว่า : “แท้จริงฉันรักท่านเพื่ออัลลอฮฺ” ชายคนนั้นตอบว่า: “ขอให้อัลลอฮฺ ผู้ที่ท�าให้ท่านรักฉันเพื่อพระองค์ทรงรักท่านด้วยเถิด” (บันทึกโดยอบูดาวูด (5172), อะหฺมัด 12590), อิบนุลญะอฺดฺ (3193), อบูยะอฺลา (3442), อิบนุสสุนนีย์(197) ด้วยสายรายงานหะดีษที่ดี)

59


มนุษย์เป็นสิ่งที่ถูกสร้างให้มีความอ่อนโยน อ่อนไหว และโอนอ่อนไปตามอารมณ์แห่ง ความรูส้ กึ แน่นอนว่าเมือ่ คนๆ นึงอยูค่ นเดียวตามล�ำพัง ความรูส้ กึ แห่งความโดดเดีย่ วเดียวดายย่อม บังเกิดและไร้ซึ่งอารมณ์แห่งความรักความผูกพันกับใคร แต่เมื่อใดที่ได้อยู่ร่วมกันเป็นญะมาอะฮฺ อยู่ร่วมกับพี่น้องที่มีสายเชือกแห่งอิสลามเป็นที่ยึดเหนี่ยวและยึดมั่นให้มีความผูกพันและความ บริสุทธิ์ใจกันได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ความรู้สึกรักในตัวของพี่น้องก็ย่อมบังเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

[

[

เมื่อเรารู้สึกรักใครสักคน เราย่อมไม่ควรรักเพื่อสิ่งอื่น เรา จริง ควรตระหนักอยู่เสมอว่าใครคือผู้สร้างความรักความ แท้ ผูกพัน และใครคือผู้สร้างเรา ดังนั้นสิ่งส�ำคัญของความ ฉั น รั ก ท่ า น รักคือรักกันเพื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา รักกัน เพื ่ออัลลอฮฺ เพื่ออัรเราะฮฺมานที่ได้ทรงเมตตา บันดาลให้ความรัก บังเกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา ท�ำให้เราได้เกิดความรู้สึก แห่งรักและผูกพันแก่พี่น้อง และแน่นอนสิ่งส�ำคัญอีก ประการหนึง่ ในการท�ำให้ความรักของเราสร้างความมัน่ คงและแน่นแฟ้นมากยิง่ ขึน้ คือการแสดงออก ของความรักนั้น แต่เคล็ดลับง่ายๆ ที่ใครหลายๆ คนต่างมองข้าม และไม่ค่อยเห็นความส�ำคัญคือ การเอ่ยค�ำว่า “รัก” นั้นออกไป บอกแก่พี่น้องที่เรารักให้เขาได้รับรู้ว่าเรารักเขาเพื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างสีสันและสร้างความสัมพันธ์ได้ง่ายๆ แค่ค�ำพูดบางเบา สัน้ ๆ เพียงค�ำเดียวแต่กม็ นี ำ�้ หนักเหนือค�ำบรรยาย แต่กย็ ากนักทีใ่ ครหลายๆ คนจะกล้าเอ่ยมันออก มา “อุฮิบบุกุมฟิลลาฮฺ”

60


ไม่มีผู้ใดในหมู่พวกท่านจะเป็น “ผู้ศรัทธา” จนกว่าเขารักต่อพี่น้อง (มุสลิม) ของเขา เสมือนที่เขารักต่อตัวของเขาเอง เศาะเหียฮฺ มุสลิม

61


การลงโทษของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา บน โลกนั้นช่างน่ากลัว แต่ไม่เท่าเสี้ยวเดียวของการลงโทษในวันปรโลก 06:50 PM - 13 Ramadhan 1435

62


16

มหาบุรุษของโลก / บารอกัต

มนุษย์ทกุ คนที่อยู่บนโลกนี้ ล้วนอยากมีชีวติ ทีส่ มบูรณ์กนั ทั้งสิ้น ดิฉันเชื่อว่าเราทุกคนต่าง มีบุคคลสำาคัญอยู่ในใจของเรา โดยมีไว้เป็นแรงบันดาลใจและแรงผลักดันในการดำาเนินชีวิต เพื่อให้ บรรลุยังเป้าหมายที่เราตั้งไว้ บุคคลสำาคัญที่อยู่ในใจของดิฉันตลอดมาคือ ท่านศาสดามูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม ซึง่ เป็นศาสดาองค์สดุ ท้ายและเป็นบุคคลทีส่ าำ คัญยิง่ ของเรา ท่านได้ปฏิบตั ติ นตามแนวทาง ของพระมหาคัมภีรอ์ ลั กุรอานธรรมนูญแห่งชีวติ อย่างเคร่งครัด เพราะท่านทราบดีวา่ พระมหาคัมภีร์ อัลกุรอาน เป็นคัมภีร์ที่สมบูรณ์แบบและลำ้าสมัยที่สุด ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานนั้นมีความรู้อยู่ ทุกแขนงวิชา ในปัจจุบันมีผู้ศึกษาพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และนำาความรู้ที่ได้รับมาทำาการพิสูจน์ และวิจัยจนได้รับความสำาเร็จมากมาย ทั้งที่กำาลังพิสูจน์อยู่และเรื่องที่มนุษย์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ นี่ แหละคือคัมภีร์ที่ลำ้าค่าที่สุดและลำ้าสมัยที่สุด 63


ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นเด็กก�ำพร้า ท่านอาศัยอยู่กับลุงของ ท่านและลุงของท่านรักท่านมาก เพราะท่านเป็นเด็กก�ำพร้าทีม่ คี วามส�ำรวมตนเป็นทีส่ ดุ บุคลิกภาพ ของท่าน มีความสุภาพเรียบร้อย อ่อนโยน นอบน้อมถ่อมตน ให้อภัย มีความเมตตา อดทนอดกลั้น มีคุณธรรม มีจริยธรรม มีสัจธรรม เป็นที่ไว้วางใจได้ และฉลาดรอบรู้ ท่านไม่ได้เรียนหนังสือท่านจึง อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ และนีค่ อื เครือ่ งพิสจู น์วา่ ท่านไม่ได้กอ่ ตัง้ ศาสนาอิสลามขึน้ เอง แต่เป็นค�ำบัญชา ของพระองค์อลั ลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา การทีท่ า่ นอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้นนั้ ท�ำให้ชาวโลกอาหรับ โดยเฉพาะนักกวีทงั้ หลายต้องตกตะลึงกันเป็นอย่างมากกับเนือ้ บทของอัลกุรอานทีท่ า่ นได้น�ำมาเผย แพร่ เพราะแม้แต่นักกวีที่เก่งที่สุดก็ไม่สามารถเรียงร้อยถ้อยค�ำให้ไพเราะได้เช่นนี้เลย พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทรงประทานโองการของพระมหาคัมภีร์ อัลกุรอานลงมายังโลกนี้เป็นครั้งแรก เมื่อท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อายุ 40 ปี ณ ถ�้ำฮิรออฺ โดยมีญิบรีล (เทวทูต) เป็นผู้น�ำสารผ่านลงมายังท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม ได้อ่าน ต่อมาญิบรีล (เทวทูต) ได้สั่งสอนให้ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อ่านและเขียนพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานหมดทั้งเล่ม และให้น�ำไปเผยแพร่แก่มนุษยชาติได้รับรู้ รวม การเผยแพร่ศาสนาอิสลามทั้งสิ้น 23 ปี ท่านก็ได้เสียชีวิตลงเมื่ออายุ 63 ปี แต่การจากไปของท่าน มิได้สูญเปล่าเลย เพราะท่านได้ทิ้งมรดกอันล�้ำค่าไว้ให้แก่ชนรุ่นหลังจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ พระมหา คัมภีรอ์ ลั กุรอานธรรมนูญแห่งชีวติ และอัลหะดีษพระวจนะของท่านนบีมฮู มั หมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัย ฮิวะซัลลัม

[

ท่านเป็นนักการเมืองการปกครองที่ดีมีความยุติธรรมที่สุด และท่านยังได้เป็นนักวิชาการ ชั้นเลิศที่ถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะของโลกอีกด้วย อาทิเช่น นักการศาสนา นักธุรกิจ นักการเงิน การกองทุน (ธนาคาร) นักการตลาด นักการทหาร นักการเกษตร นักการแพทย์ นักการเภสัช นักวิทยาศาสตร์ นักฟิสิกส์ นักเคมี เรารักนบี นักชีววิทยา นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักโหราศาสตร์ เดินตามนบี นักภาษาศาสตร์ นักอักษรศาสตร์ และ อื่นๆ อีกมากมาย

[

......

64


สุดท้ายนี้ สิ่งที่ดิฉันอยากฝากไว้คือ การแสวงหาวิชาความรู้นั้นเป็นสิ่งส�ำคัญกับมนุษย์ทุก คน เพราะวิชาความรู้นั้นจะท�ำให้เราเก่ง มีความสามารถ มีประสบการณ์ มีความฉลาดรอบรู้ มี คุณธรรม มีจริยธรรม มีสัจธรรม มีความยุติธรรม และมีความเป็นผู้น�ำที่ดี ดังเช่น ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึง่ เราสามารถเรียนรูค้ ณ ุ ลักษณะทีด่ ขี องท่านได้จากอรรถาธิบายคัมภีร์ อั ล กุ ร อานธรรมนู ญ แห่ ง ชี วิ ต และอรรถาธิ บ ายอั ล หะดี ษ พระวจนะของท่ า นนบี มู ฮั ม หมั ด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานนั้นมิได้มีความรู้เพียงแค่ในยุคของท่านนบีมู ฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เท่านั้น แต่พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานนั้นมีความรู้ตั้งแต่การ เกิดของจักรวาล จนถึงการดับสูญของจักรวาล ดิฉันเชื่อว่าหากเราทุกคนเรียนรู้ทั้ง 2 สิ่งนี้และน�ำ มันมาปฏิบัติ ชีวิตของเรา ครอบครัวของเรา สังคมของเรา บ้านเมืองของเรา ประเทศชาติของเรา และโลกของเราจะมีแต่ความสันติและความสงบสุขอย่างแน่นอน

65


จงอดทนกับความลำบากในวันนี้ เพื่อรับรางวัล แห่งความสุขอันนิรันดรในโลกหน้า 06:50 PM - 14 Ramadhan 1435

66


17

ประโยชน์ของน�้าผึ้ง สมุนไพรจากอัลกุรอาน

อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงตรัสกับผึ้งไว้ใน ซูเราะฮฺ อัลนะฮฺลุ 16: 68 – 69 ว่า

“และพระผูท้ รงอภิบาลของเจ้าได้ชแี้ นะแก่ผงึ้ ว่า เจ้าจงท�ารังตามภูเขา ต้นไม้ และตามร้านต้นไม้ ที่พวกเขา (มนุษย์) ได้สร้างขึ้น หลังจากนั้นพวกเจ้าจงกินผลไม้ทุกชนิดและเจ้าจงบินไปตาม ทาง (ธรรมชาติ) ทีพ่ ระผูอ้ ภิบาลของเจ้าทีถ่ กู อ�านวยแก่เจ้า และเครือ่ งดืม่ (น�า้ ผึง้ ) มีตวั ยาบ�าบัด แก่มวลมนุษย์ แท้จริงนี่คือสัญญาณของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แก่กลุ่มชนที่มีความ ไตร่ตรอง” รายงานจากท่านอิบนิอบั บาส ร่อฎิยลั ลอฮุอนั ฮุ ได้กล่าวว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัย ฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “การบ�าบัดรักษาโรคมี 3 ประการคือ การดื่มน�้าผึ้ง การกรอกเลือด การนาบ ด้วยไฟ และเป็นที่ห้ามแก่ประชาชาติของฉัน คือ การจี้ด้วยเหล็กเผาไฟ” บันทึกโดย อัลบุคอรีย์

67


น�้ำผึ้งนั้นสามารถรักษาโรคดังนี้ (น�ำมาเพียงบางส่วน จากสมุนไพรจากอัลกุรอาน) 1. พิษต่างๆ ส่วนผสม น�้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ น�้ำผึ้ง 1 แก้วเล็ก ดื่มเช้า–เย็น ให้ดื่มน�้ำผึ้งผสมนมแล้ว กินอินทผลัม 7 เม็ด กินติดต่อกันทุกวันประมาณ 3 วัน 2 .กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ส่วนผสม น�้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ เปลือกทับทิมบดเป็นน�้ำ อินทผลัม 3 เม็ด น�ำมารับ ประทานทุกวัน เช้า – เย็น 3. โรคใจสั่น ส่วนผสม น�้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น�้ำแครอท 1 แก้ว ผสมรวมกันน�ำมาดื่มทุกวัน 4.โรคเกี่ยวกับตา เช่น ตาอักเสบหรือตาแดง ส่วนผสม น�้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น�้ำมันฮับบะตุสเซาดาอฺ 1 ช้อนชา ผสมรวมกันแล้วน�ำมาทา บริเวณตาที่อักเสบ ทาตอนเช้าและก่อนนอน พร้อมกับน�ำน�้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ละลายกับน�้ำอุ่นดื่ม ด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 5. ฆ่าเหาและไข่ของเหา ส่วนผสม น�ำน�้ำผึ้งมาชโลมให้ทั่วศีรษะ พร้อมทั้งขยี้ให้ถึงรากผม ท�ำก่อนนอนทิ้งไว้จน กระทั่งเช้าแล้วล้างออกด้วยน�้ำอุ่น ท�ำติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วท่านจะพบว่าเหาและไข่ เหาจะหลุดออกจนหมด

68


6.โรคถ่ายเป็นมูก (บิด) ส่วนผสม นมสด 1 แก้ว น�้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมรวมกัน แล้วน�ำมาดื่มเช้า–เย็น ดังนั้นจะ ท�ำให้กระเพาะอาหารสะอาดขึ้น 7.โรควิงเวียนศีรษะ ส่วนผสม กระเทียม 1 กลีบ นมสดผสมกับน�้ำผึ้ง 1 แก้ว แล้วน�ำมาดื่มติดต่อกันจนกระทั่ง หาย ด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 8.บาดแผลต่างๆ ส่วนผสม น�้ำผึ้งครึ่งแก้ว นมสด 1 แก้ว เปลือกกล้วยตากแห้งบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น�ำ มาผสมรวมกัน แล้วทาบริเวณบาดแผล ตอนเช้าและตอนเย็น ท่านจะพบว่ามันน่าประหลาดใจใน การบ�ำบัด ด้วยอนุมัติของ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 9.โรคเหงือกอักเสบและท�ำให้ฟันแข็งแรง ส่วนผสม น�้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น�้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา ผสมกับน�้ำอุ่นแล้วน�ำมากลั้วปาก เช้า–เย็น เพราะน�้ำผึ้งนั้นท�ำให้เหงือกและฟันแข็งแรง 10. โรคเจ็บอก ส่วนผสม น�้ำหัวไชเท้า 1 แก้ว น�้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมรวมกันแล้วน�ำมาดื่มตอนเช้าและ ตอนเย็น สามารถลดอาการเจ็บหน้าอกอย่างหายขาดด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะ อาลา

69


70


คุณค่าที่ได้รับจากน�้ำผึ้ง และฮับบะตุสเซาดาอฺและกระเทียม ส�ำหรับผู้ที่ต้องการให้สุขภาพดี และป้องกันโรคภัยไข้เจ็บควรปฏิบัติดังนี้ 1. ฮับบะตุสเซาดาอฺ 1 ช้อนโต๊ะ 2. น�้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ 3. กระเทียม 3 กลีบ 4. น�้ำอุ่นครึ่งแก้ว วิธีท�ำ น�ำทั้งหมดมาผสมรวมกัน แล้วน�ำมารับประทานเช้า–เย็น ท่านจะพบว่ามันท�ำให้ ร่างกายแข็งแรง ด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

**ยกมาเพียงบางส่วน จากหนังสือและบทความของอาจารย์ kn ที่เป็นผู้เขียนเรื่องสมุนไพรจากอัลกุรอาน และการรักษาตามแนวทางของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่มา http://goo.gl/YNNvOJ

71


การสอนผู้คนให้รู้จักซึ่งเอกภาพแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นั้น มิได้เปนเพียงแค่การพรํ่าตัวอักษรออกมาแค่นั้น หากแต่คือการแสดงให้เห็นทางวาจา และมารยาทที่งดงาม 06:50 PM - 15 Ramadhan 1435

72


18 300 + 9 = 300

วันนี้ได้อ่านอัลกุรอานซูเราะฮฺ อัลกะฮฺฟิ 18: อายะฮฺที่ 25 “พวกเขาได้อยู่ในถ�้าสามร้อยปีและเพิ่มอีกเก้า” เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยก่อน มีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งยอมเสียสละชีวิตที่ สนุกสนานบนโลกนี้ หาแนวทางที่ถูกต้องของพระเจ้าผู้ทรงกำาหนดแห่งสากลโลก เดินทางเข้าไป พำานักอยู่ในถำ้าและหลับอยู่ในนั้นเป็นเวลา 300+9 ปี เมือ่ ชาวนะศอรอ (คริสเตียน) ทีอ่ ยูบ่ ริเวณนัจรอน (ทางตอนใต้ของประเทศซาอุดอิ าราเบีย ในปัจจุบนั ) ได้ยนิ อายะฮฺน ี้ พวกเขาก็กล่าวว่า “เรารูจ้ กั สามร้อยปีด ี แต่เก้าปีทเี่ พิม่ ขึน้ นีม้ นั คืออะไร” อัลลอฮฺจึงได้ประทานอายะฮฺที่ 26 “จงกล่าวเถิด (มูฮัมมัด) อัลลอฮฺทรงรู้ดีที่สุดว่าพวกเขาเหล่านั้นพ�านักอยู่ (ในถ�้า) กี่ปี” 73


ตามที่เราทราบกันดีว่า 1 ปี หมายถึงการที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบหนึ่งรอบพอดี คิดเป็นวันก็ประมาณ 365 วัน หรือ 366 วัน เมื่อคำานวณอย่างละเอียดตามหลักวิทยาศาสตร์ 1 ปี เฉลี่ยเท่ากับ 365 วัน 5 ชั่วโมง 48 นาที 46 วินาที (ประมาณ 365.242199074 วัน) อัลบัตตานี (ค.ศ.858-929) นักวิทยาศาสตร์มุสลิมที่รู้จักกันดีในนาม อัลบักติเนียส (Albatignuis) ได้คำานวณเวลา 1 ปี (Solar Year) 365 วัน 5 ชั่วโมง 46 นาที 32 วินาที 1 ปีที่กล่าวมา นี้เป็น 1 ปีตามปฏิทินสุริยคติหรือเราเรียกว่าเป็นปฏิทินสากล เพราะคนส่วนใหญ่บนโลกนี้ปัจจุบัน จะใช้ปฏิทินนี้ ก่อนหน้านี้จะใช้ปฏิทินระบบจันทรคติ โดยใช้วิถีของดวงจันทร์เพื่อบอกข้างขึ้นข้าง แรมบอกเดือนและประเทศไทยเริ่มใช้ปฏิทินสุริยคติเมื่อปี พ.ศ. 2431 ในปฏิทินสุริยคติไทยใช้จำานวนเดือน 12 เดือน ตามปฏิทินเกรกอเรียน โดยจำานวนวันใน แต่ละเดือนได้อ้างอิงตามเช่นเดียวกันโดยในแต่ละเดือนจะมีจำานวนวันตั้งแต่ 28-31 วัน ว่า

อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัตเตาบะฮฺ 9: อายะฮฺที่ 36

“แท้จริงจ�านวนเดือน ณ อัลลอฮฺนั้นมีสิบสองเดือน” ดังนัน้ ใน 1 ปีทอี่ ลั ลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา กำาหนดมา มีทงั้ หมด 12 เดือน แต่ในอิสลาม จะนับเดือนทางจันทรคติ นับตั้งแต่เดือนที่ 1 คือ มุฮัรร็อม จนสิ้นสุดเดือน ซุลฮิจญะฮฺ โดยในแต่ละ เดือนจะมี 29 วัน และ 30 วันสลับกันไป บางทีมี 30 วันซ้อนกัน 2 ครั้ง แต่จะไม่มี 29 วัน ซ้อนกัน 2 เดือนเป็นอันขาด สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ดวงจันทร์โคจรรอบจุดศูนย์กลางของมูลร่วม (Bary center) โดยใช้ดวงอาทิตย์เป็นหลักนั้น ใช้เวลา 29 วัน 12 ชม. 44 นาที 2.82 วินาที (29.) หรือ 354 วัน 8 ชม. 48 นาที 33.6 วินาที ในหนึ่งปี หรือบางปีจะนับว่ามี 354 วัน และจะมีปีที่มี 355 วัน หนึ่งปีในทางสุริยคติจะมีมากกว่า 1 ปีทางจันทรคติ อยู่ 11 วันหรือ 12 วัน ดังนั้นในเวลา 300 ปี ทางสุริยคติก็จะเป็น 309 ปี ทางจันทรคติ ดังนั้น 300 ปี จะเท่ากับ 309 ปี แต่เป็นคนละชนิดปี ขอบคุณ : http://gotoknow.org/blog/ibm401/336530 74


ไม่มีชีวิตใดที่รู้ว่าตัวเองจะได้อะไรในวันพรุ่งนี้ ไม่มีชีวิตใดที่รู้ว่าตัวเองจะตายที่แผ่นดินไหน แท้จริงอัลลอฮฺเท่านั้น ที่เป็นผู้ทรงรอบรู้ ลุกมาน 31 : 34 75


คำตักเตือนที่มีอานุภาพร้ายแรงที่สุด คือ การเอา “คำตักเตือน” ที่เขาเคยตักเตือนคนอื่น ไปตักเตือนตัวของเขาเอง 06:50 PM - 16 Ramadhan 1435

76


19

รักเราไม่ ERROR / Shuhada

หลายครั้งที่การอยู่ร่วมกันเป็นญะมาอะฮฺของเรา มักจะมีปัญหาเล็กๆน้อยๆ กระทั่งหนัก ขึ้น หนักขึ้น จนอาจถึงขั้นมองหน้ากันไม่ติด แล้วเราจะยอมปล่อยให้มันคาราคาซังอยู่อย่างนี้รึป่าว ปัญหาเหล่านี้มันจะหมดไป เราขอแนะน�ำวิธีผูกสัมพันธ์ให้ญะมาอะฮฺของเรากลมเกลียว เหนียว แน่นกันเช่นเดิม ง่ายๆแค่ 3 Step เท่านั้น

3 STEP >> ขั้นแรก ต้องเปิดใจ เราต้องเปิดใจให้กว้าง อย่าเพิ่งตัดสินใครที่ภายนอก เรายังไม่ได้รู้จักเขาดี พอ เราจะตัดสินเขาเลยไม่ได้ บางทีถ้าเราไม่เปิดใจ เราอาจจะไม่รู้จักค�ำว่าญะมาอะฮฺเลยก็ได้ การ ปิดตัวเองไม่พร้อมจะท�ำความรู้จักกับใคร อาจจะได้ผลเสียกลับมาก็ได้นะ

77


>> ขั้นที่สอง ยอมรับ อย่างแรกต้องยอมรับถึงข้อดี-ข้อเสียของตัวเราก่อน แล้วต้องยอมรับข้อเสีย ของคนอื่นด้วย อย่าดูถูกข้อเสียของคนอื่น เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบทุกเรื่องหรอก และเราต้อง ยอมรับในความแตกต่างทั้งสองข้อนี้ให้ได้ เราถึงจะปรับตัวเข้าหากันได้ง่าย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในญะมาอะฮฺ เราต้องยอมรับต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันเป็นตักดีรของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่พระองค์ทรงก�ำหนดมาแล้ว

>> ขั้นสุดท้าย ให้อภัย การให้อภัยคือสิ่งส�ำคัญของการอยู่ร่วมกัน เพราะสิ่งนี้เป็นที่บรรจบของ ความรักและความเมตตา ผู้คนสมัยนี้ไม่ค่อยมีน�้ำอดน�้ำทนต่อเรื่องเล็กๆน้อยๆ เมื่อทับถมนานเข้า นานเข้า มันก็กลายเป็นภูเขาลูกโต แถมเป็นภูเขาไฟแบบรอระเบิดใหญ่เสียด้วย ถ้าเราเป็นฝ่ายโกรธ ก็พงึ ระงับอารมณ์นนั้ อย่างสุดก�ำลังและพยายามให้อภัยคนทีท่ �ำให้เราโกรธ ในทางกลับกันถ้าเราเป็น ฝ่ายทีต่ อ้ งรองรับอารมณ์คนโกรธ ก็พยายามนึกอยูเ่ สมอว่าเขาท�ำไปเพราะอารมณ์ ชัว่ วูบ วิธหี นึง่ ที่อาจช่วยให้เราให้อภัยผู้อื่นได้ดี คือ การมองหามุมดีๆที่น่ารักๆของเขา มองให้พ้นไปจากเรื่องที่เรา ก�ำลังโกรธเขา แล้วเราจะพบว่ามีเรื่องดีๆอีกมากมายในตัวเขาที่มันใหญ่กว่าเรื่องนี้อีกมากมาย ถ้า ทุกคนรูจ้ กั ให้อภัยกันเมือ่ มีความผิดพลาด ผิดใจ หรือเข้าใจกันผิด คนทีร่ จู้ กั ให้อภัยแก่ผอู้ นื่ ก็สมควร แล้วที่เขาจะได้รับการอภัยจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ดังอายะฮฺอัลกุรอานที่ว่า “พวกเจ้าจงให้อภัยและยกโทษ (ให้แก่พวกเขาเถิด) พวกเจ้าไม่ชอบหรือที่อัลลอฮฺจะทรงอภัย ให้แก่พวกเจ้า และอัลลอฮฺนั้นทรงเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” ( ซูเราะฮฺอันนูร 24 : 22 )

78


20

เหตุไฉนเล่า ดุอาอฺของฉันจึงไม่ถูกตอบรับ? / Hafizulhaq

ครั้งหนึ่งท่านอิบรอฮีม อิบนฺอัดฮัม เราะหิมะฮุลลอฮฺได้ถูกถามเกี่ยวกับพระด�ำรัส ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ว่า “และพระเจ้าของพวกเจ้าตรัสว่า จงวิงวอนขอต่อข้า ข้าจะตอบรับแก่พวกเจ้า” (ฆอฟิร 40 : 60)

“แล้วเหตุไฉนเล่า พวกเราขอดุอาอฺ แต่กลับไม่ถูกตอบรับ” ท่านจึงตอบว่า .. “เพราะพวกท่าน รู้จักอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แต่พวกท่านไม่เชื่อฟังพระองค์ พวกท่านอ่านอัลกุรอาน แต่พวกท่านมิได้ปฏิบัติตามมัน พวกท่านรู้จักชัยฏอน แต่พวกท่านก็ยังกระท�ำตามมันอยู่ พวกท่านป่าวประกาศว่าพวกท่านรักร่อซูลลุ ลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แต่พวก ท่านก็ยังละทิ้งซุนนะฮฺ พวกท่านป่าวประกาศว่า พวกท่านรักที่จะเข้าสวรรค์ แต่พวกท่านมิได้ปฏิบัติเพื่อให้ ได้มันมา พวกท่านป่าวประกาศว่า พวกท่านกลัวที่จะเข้าไฟนรก แต่พวกท่านก็มิได้ออกห่าง จากการกระท�ำบาป พวกท่านกล่าวว่า “แท้จริงความตายนั้นเป็นสัจธรรม” แต่พวกท่านก็มิได้เตรียม พร้อมส�ำหรับมัน พวกท่านหมกมุ่นอยู่กับการหาความผิดพลาดของผู้อื่น แต่พวกท่านกลับลืมดูความ ผิดพลาดของตนเอง พวกท่านรับประทานสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงประทานมา แต่พวก ท่านกลับลืมขอบคุณพระองค์ พวกท่านไปฝังศพที่สุสาน แต่พวกท่านกลับมิได้รับบทเรียนใดๆจากมันเลย” 79


บางทีเราก็มองหาสวรรคในที่ที่ห่างไกลเกินไป โดยลืมคิดไปว่า ประตูสวรรคที่อยู่ใกล้ที่สุด ก็คือ แม่ของเรานั่นเอง 06:50 PM - 17 Ramadhan 1435

80


21

หนุ่มสาว... หนุ่มสาว... ความทุกข์กังวลของเธอในวันนี้... คือผลการเรียนในกระดาษแผ่นหนึ่ง ซึ่งออกทุกท้ายเทอม หรือคือผลการกระท�ำในบัญชีด้านซ้าย-ขวาซึ่งออกครั้งเดียวในชีวิต คือบทเรียนที่หาความเข้าใจไม่เจอ หรือคือสุญูดที่หาความคุชูอฺไม่เจอ คือรายรับที่ไม่อาจให้ความพอเพียงกับรายจ่ายของเธอ หรือคือละหมาดที่ไม่อาจยับยั้งเธอจากการท�ำความชั่วได้ คือสิวเม็ดหนึ่งบนใบหน้า หรือคือรอยด�ำจุดหนึ่งในหัวใจ คือการพลาดโทรทัศน์รายการโปรด หรือคือการพลาดละหมาดไปเวลาหนี่ง คือความกลัวที่สังคมจะไม่นับเป็นพวก หรือคือความกลัวที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะไม่นับเป็นพวก คือความพ่ายแพ้ของทีมฟุตบอลโปรด หรือคือความทุกข์ยากที่พี่น้องดินแดนต่างๆ ต้องประสบ คือความสนุกสนานของช่วงวัยแห่งความมันส์ ที่เธอยังใช้ไม่เต็มอิ่ม หรือหน้าที่ของ “ประชาชาติตัวอย่าง” ที่เธอยังท�ำไม่สมบูรณ์ สภาพของประชาชาตินี้คือหนึ่งในความทุกข์ของเธอ หรือสภาพเธอคือหนึ่งในความทุกข์ของ ประชาชาตินี้? ไม่มีเวลาอีกแล้ว...ส�ำหรับเสียงหัวเราะและความสนุกอันฉาบฉวย “วารสาร มิรอาท” 81


มดคันไฟ เล่มที่ 5

วารสารชมรมนักศึกษามุสลิม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ปีการศึกษา 2557 บรรณาธิการ ฝ่ายคัดกรอง ฝ่ายพิสูจน์อักษร ฝ่ายศิลปกรรม ฝ่ายประสานงาน ติดต่อ

Fursanul Haq, AL’mas Jlz Abu Ansor Kolbunsaleem, ศุภวัฒน์ แซะอามา, Kah Rawikan, Pround To Be Muslimah Surat Nathong, ไฟซ้อล คับ Da Warinda, Reeniizz Nasreen, NatYa’ Wa Shbab Alif Korsem, Hafis Benhawan Futtie Fietus, Hatai’fd Kopiko Faruk Lortae, Jeh-oosmarn Benjamah, Rossblack Masor Amanee Ruangthong, Z’Asmee Jlz ชมรมนักศึกษามุสลิม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อาคารพระจอมเกล้าราชานุสรน์ 190 ปี มจธ. 126 ถ.ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม.10140 82


83


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.