รักฤๅลวง โดย…ญดา
พิมพ์ครั้งที่ ๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖ ราคา ๓๖๐ บาท ศิลปกรรม amany ออกแบบปก amany พิสูจน์อักษร amany
สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ เพื่อเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
เล่าสู่...กันฟัง สวัสดีค่ะ ผู่อ่านที่น่ารักทุกๆ ท่าน รักฤาลวง หมดสัญญากับทางสานักพิมพ์อีกเล่ม ป้าดาก็เลยเอา มาพิมพ์อีกรอบและก็ทาเป็น E-book ด้วย นิ ย ายเรื่ อ งนี้ เ ป็ น เรื่ อ งราวของความรั ก ที่ ไ ม่ เ ข้ า ใจกั น ที่ ถู ก กีดกัน ทาให้หัวใจสองดวงต้องเจ็บปวด จนอีกฝ่ายต้องหนีไปให้ไกล อยากทราบว่า ความรักของหนุ่มสาวคู่นี้จะเป็นอย่างไร ติดตาม ได้ในเล่มค่ะ ขอบคุณพี่นุช วรนุช ศรีปฐมสายชล สาหรับหน้าปกและรูปเล่ม สวยๆ ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ให้การสนับสนุนและอุดหนุนนิยายเรื่องนี้ ขอให้มีความสุขกับการอ่านกันทุกๆ ท่านค่ะ ผิดพลาดประการใด ป้าดาขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ด้วยรักและขอบคุณจากหัวใจ ป้าดา (ญดา)
สำหรับบำงคน…เมื่อรักมั่นไปแล้ว จะไม่ใส่ใจเลยว่ำอีกคนหนึ่งนั้น …รัก…หรือเพียงลวงกัน
๑
พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันนี้ “นางแบบ-นางเอกสาว ชื่อดัง ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เช ม็อค บินลัดฟ้าไปเรียนต่อที่อเมริกา” ใน รายละเอียดของข่าวบอกว่า “เกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เป็นนางแบบโฆษณาและเล่นละครได้ แค่เรื่องเดียว…จริงหรือที่มีข่าวออกมาว่า ใครบางคนต้องการเก็บเธอไว้ใน กรุของเขา…บ้างก็บอกว่า มีเสี่ยใหญ่รับเลี้ยงดู ส่งเสียให้เล่าเรียน…และ อีกหลายกระแส แต่เจ้าตัวไม่ต้องการที่จะเปิดเผย แค่บอกว่าเป็นอนาคต ของเธอที่ต้องตัดสินใจเอง” เชกระชั บ เสื้ อ โคตตั ว หนาให้ แ น่ น ขึ้ น เนื่ อ งจากลมหนาว ปลายเดือนมกราคมที่นี่หนาวจับใจ เท้าที่เหยียบไปบนหิมะ ให้ความรู้สึก ที่น่ากลัวมาก เพราะว่ามันเริ่มที่จะจับตัวกันเป็นน้าแข็งแล้วทาให้ลื่น แต่ ความหนาวที่สัมผัสได้จากภายนอกไม่เท่ากับความเหน็บหนาวภายในใจ เลย ที่ ต้ อ งจากคุ ณ แม่ แ ละเพื่ อ นๆ ที่ รั ก ใคร่ สนิ ท สนมด้ ว ยในเวลา กะทันหัน ทันทีที่ได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่คนหนึ่ง ที่คนในวงการบันเทิง ยกย่องเรียกว่า “ท่าน” ท่านผู้กว้างขวางในวงการที่สามารถชี้เป็นชี้ตาย ให้กับชีวิตของสาวๆ ในวงการ การติดต่อที่มาพร้อมกับข้อเสนอต่างๆ มากมายและชื่อเสียงที่ จะโด่งดังตามมา กับการเป็นผู้หญิงของเขา เชก็แทบจะบ้าตาย จาได้ว่า เคยพบปะพูดคุยกับ “ท่าน” คนนี้ ในงานการกุศลงานหนึ่งที่หล่อนไป
รักฤๅลวง ร่วม เพียงแค่นั้นเขาก็บอกผ่านมาถึงหล่อนว่าอยากดูแ ล จะให้ทุกอย่างที่ ต้องการ คน ไม่ใช่สิ่งของ ที่จะเอาเงินมาซื้อได้ง่ายๆ เชไม่ต้องการที่จะดัง หรื อ รวยทางนั้ น และก็ ไ ม่ ย อมให้ ใ ครเก็ บ หล่ อ นไว้ ใ ต้ อ านาจของเขา เด็ดขาด ไม่มีวัน ไม่มีทาง ชีวิตนี้เป็นของตัวเองและหล่อนจะบันดาลมัน เอง “กู๊ดมอร์นิ่ง” เสียงพนักงานต้อนรับของร้านอาหารไทย ที่เดิน ยิ้มแย้มออกมาต้อนรับถึงหน้าประตู ทักทายเป็นภาษาอังกฤษเมื่อเชผลัก ประตูเข้าไปข้างในร้าน “ไม่ทราบว่ามากี่คนคะ” เชยิ้มและยกนิ้วเป็นสัญญาณว่ามาแค่ คนเดียว พนักงานพาหล่อนไปนั่งที่โต๊ะสาหรับสองคน ถัดจากชายหนุ่ม ชาวเอเชียคู่หนึ่งที่กาลังทานอาหารกันเงียบๆ อย่างตั้งใจ เชเลือกที่จะใช้ ภาษาอังกฤษ กับพนักงานของร้านที่มารับออร์เดอร์ ถ้าอยู่เมืองไทย เชจะใช้ภาษาไทยตลอด ซึ่งบางครั้งก็ทาความ แปลกใจให้กับใครต่อใครเป็นอย่างมาก บางคนพูดว่า ฝรั่งพูดไทย เชก็ มักจะยิ้มรับเสมอ โดยไม่ได้แก้ตัวอะไร สยามวดี เช ม็อค เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณจริยาพร กับสามี ชาวอเมริกันที่เสียชีวิตไปแล้ว เพิ่งจะเรียนปี ๑ ที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อ ดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ด้ ว ยความที่ มี ห น้ า ตาสวยงามมี เ สน่ ห์ ลึ ก ซึ้ ง ตามแบบฉบั บ ลูกผสมที่เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดของบิดาและมารดามา ทาให้เชเด่นกว่า ใครๆ อีกทั้งรูปร่างที่สูงโปร่ง ผมยาวสลวยสีน้าตาลเข้ม ยาวถึงกลางหลัง ทาให้มีบ ริษัทโฆษณาติดต่อมาให้ไปถ่ายแบบโฆษณา นั่นคือจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่วงการของเช หลังจากนั้นก็ได้เล่นละคร ซึ่งก็เป็นเพียงเรื่อง แรกและเรื่องเดียวเท่านั้น พอมีเหตุการณ์นั้ นเข้ ามา เชก็เลือกที่จะมา เรียนต่อที่นี่…อเมริกา ยุติทุกอย่างในทางที่ไม่ต้องการ ในระหว่างที่รออาหาร เชก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเพื่อน ถึงชีวิตที่มี ความสุขในวัยเรียน ในรั้วมหาวิทยาลัย พนั กงานน าเครื่องดื่มมาเสิ ร์ ฟให้ แล้ ว ก็เดินจากไป ไม่นานนัก ๖
ญดา อาหารก็ถูกนามาเสิร์ฟ กลิ่นหอมของอาหารที่อยู่ตรงหน้า ดึงเชให้ออกมา จากความคิด กวาดตามองไปรอบๆ ร้านเล็กๆ แห่งนั้น เมื่อตอนที่หล่อน เข้ า มา ยั ง ไม่ ค่ อ ยมี ค นมากนั ก เวลาผ่ า นไปไม่ น านคนเกื อ บเต็ ม ร้ า น หลายคนมากับคนรัก มากับเพื่อน มากับครอบครัว ในขณะที่หล่อนมา โดดเดี่ยวตามลาพัง เชรีบก้มหน้าลงสนใจกับอาหาร น้าตาพานจะไหล ไม่เคยรู้สึก เดียวดายขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต พยายามสะกดกลั้นน้าตาอย่างเต็มที่ แล้วก็ตั้งใจกับอาหารตรงหน้าแทน อยากจะคิดว่า ถ้าหล่อนไม่เข้าสู่วงการก็คงจะไม่เป็นอย่างนี้ คงมี ชีวิตเหมือนกับจันทนา และจุฬาลักษณ์ เพื่อนสนิท นี่เป็นครั้งแรกที่เช ไม่ ช อบความสวยของตั ว เอง ในขณะที่ ค นอี ก หลายๆ คนอิ จ ฉา เนื่องจากว่าหล่อนผสมตะวันตกและตะวันออกได้อย่างสวยงามและลงตัว ที่สุด “ภาส นายว่าผู้หญิงที่นั่งโต๊ะถัดเรา สวยไหมวะ” จีรพงษ์ถาม เพื่อนรักเบาๆ หลังจากที่เห็นเพื่อนแอบมองหญิงสาวคนข้างโต๊ะไม่วางตา “แล้วนายคิดว่าไงล่ะ” ตอบกลับด้วยเสียงปกติ “สวยมากเลยว่ะ เป็นฝรั่งที่สวยหวานมากๆ เลย” “นั่ น นะเหรอสวยของนาย หน้ าตายังกับขอมดาดิน ” ภาสกร ตอบแบบเสีย งดังนิดๆ แกมโมโห ก็จ ะไม่ให้โ มโหได้อย่างไรกัน หล่อน ถลึงตาโตให้เขาทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากันโดยบังเอิญ อาจจะเป็น เพราะว่าเขาจ้องหล่อนนานเกินไปนั่นเอง ถ้าหล่อนไม่ทาหน้าดุเขาทางสายตา ภาสกรก็คงตอบว่า “สวย มาก ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนสวยอย่างนี้มาก่อนเลย” “อ๋อ แน่ล่ะสิ ไม่มีใครสวยเท่าคุณทิพย์ของนายเลยใช่ไหม” “แน่นอนอยู่แล้ว คุณทิพย์น่ะ ทั้งสวย หวาน ออดอ้อน น่ารักจะ ตายไป” ภาสกรตอบกลับพร้อมกับชาเลืองมองไปทางหล่อนผู้นั้น แต่ก็ ไม่ได้รับความสนใจ เพราะหล่อนมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทานอาหาร และเขา ก็คิดว่าหล่อนคงฟังภาษาไทยไม่ออกเป็นแน่ ๗
รักฤๅลวง “แต่ฉันว่าผู้หญิงคนนี้สวยมากๆ เลย ดูตา จมูก ปาก คาง และ ทรงผมของหล่อนสิรั บกัน ไปหมดเลย สวยกว่าดาราฝรั่งบางคนอีกนะ น่าจะอายุไม่เกิน ๑๘ ปีด้วยซ้าไปมั้ง” จีรพงษ์คาดคะเน “อยากรู้ ทาไมนายไม่ไปถามหล่อนล่ะว่าอายุเท่าไหร่ จะได้ไม่ ต้องเสียเวลามานั่งเดา” ภาสกรประชดเพื่อนรัก “อย่าเลยว่ะ แม่ฉันคงไม่ยอมให้มีสะใภ้แหม่มหรอก” “งั้นก็เลิกคิดได้แล้ว น้องครับเช็ กบิลด้ว ยครับ ” ภาสกรหันไป เรียกพนักงานของร้านที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักให้มาเก็บเงิน ในขณะที่เชก็ทาแบบเดียวกัน พอจ่ายเงินเสร็จ ก็รอจนสองหนุ่ม นั้นเดินออกจากร้าน และหล่อนก็เดินตามออกมาติดๆ พอเดินผ่านก็พูด ลอยๆ ขึ้นมาว่า “ฉันจะดาดินมา หรื อบิ นมาก็คงจะไม่หนักที่ใส่ หมวกของใคร ไม่ใช่หรือคะ” พร้อมกับหันไปยิ้มให้กับคนที่เดินข้างๆ ที่ทาหน้าตกใจตก ตะลึง เชโค้งศีรษะทักทายนิดๆ และก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว เปิดประตู รถเข้าไปนั่งพร้อมกับล็อกรถทันที ในขณะที่ทั้งสองหนุ่มพอหายตะลึงก็รีบเดิน จ้าตามมา คนหนึ่ง ใบหน้ายังไม่หายตะลึง แต่อีกคนใบหน้าบึ้งตึง พอมาถึงรถชายหนุ่มคนสูง ขาว ก็ก้มตัวลงเคาะกระจกรถอย่างแรง จนเชคิดว่ามันจะร้าวเสียให้ได้ ในขณะที่คนที่เตี้ย กว่าและใส่ แว่น ตาหน้ าใจดี ยืนเยื้องๆ ไปข้างหลั ง เล็กน้อย “ทาไม” เชไม่ยอมลดกระจกหน้าต่างลง แต่ตะโกนถามออกไป “เปิดสิ” คนข้างนอกออกคาสั่ง “ทาไมฉันต้องทาตามคาสั่งของคุณด้วยมิทราบ เป็นเจ้านายฉัน หรือไง” เชตะโกนตอบออกไป คนนอกรถก็แสดงความหงุดหงิดออกมา ทางใบหน้าและสายตาแต่หล่อนไม่กลัว ที่นี่อเมริกา ใครทาร้ายพลเมือง ของประเทศเป็นเรื่องใหญ่ ก็เลยยักคิ้วให้เขาแผล็บหนึ่งเป็นของแถม และ คนที่ใส่แว่นก็ดึงเพื่อนขี้โมโหของเขาออกไปห่างๆ พร้อมกับเคาะกระจก รถเบาๆ บอกอย่างสุภาพว่า “เปิ ด กระจกรถที เ ถอะครั บ ผมกั บ เพื่ อ นแค่ อ ยากจะขอโทษ ๘
ญดา ที่นินทาคุณต่อหน้า” เพื่อนเขาพยายามไกล่เกลี่ย และก็ได้ยินเสียงเพื่อน ของหนุ่มแว่นแย้งขึ้นทันทีว่า “ใครบอกว่าฉันจะขอโทษ” นั่นเองทาให้เชอดใจไม่ได้ก็เลยเปิด กระจกรถลงอย่างรวดเร็ว “ปากของคุณนี่ใช้แปรงสีฟันธรรมดาคงจะไม่ได้” “ทาไมจะไม่ได้ ผมก็ใช้ของผมปกติ” เขาเถียงกลับทันควัน “ฉันว่าคุณน่าจะใช้แปรงขัดส้ ว มพร้อมกับน้ายาขัดชนิดที่แรง ที่สุด เพราะว่าปากคุณมันไม่ดี เข้าใจไหม” คาตอบของหล่อนทาให้เพื่อน เขาหั ว เราะดั ง ก้ อ งลานจอดรถ แต่ ค นที่ ถู ก ว่ า โกรธจนพู ด ไม่ อ อกเลย ทีเดียว “หัวเราะอะไรของนายวะ” เขาหันไปถามเพื่อนชาย “เปล่า” แล้วก็หันมาทางหล่อน “ขอโทษจริงๆ นะครับ ไม่คิดว่า คุณเป็นคนไทย” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่โทษคุณหรอกเพราะว่าคุณไม่ได้ว่าร้าย ให้ฉันนี่คะ แต่สาหรับเพื่อนคุณ ฉันจะไม่ยกโทษให้เป็นอันขาด ถ้าเขาไม่ ขอโทษด้วยตัวเอง” ว่าแล้วเชก็เหลือบหางตาไปข้างหลัง แอบเห็นว่าคน หน้าบึ้งกาลังใช้ความคิดอย่างหนั ก รอยยิ้มก็เลยปรากฏอยู่บนใบหน้า เนียนใสนั้นทันที “เออ ผมชื่อจี ครับ เพื่อนผมชื่อ ภาสกร เรียกเขาว่า ภาส ก็ได้ ครับ” เพื่อนเขาแนะนาตัวอย่างเก้อๆ “ฉันไม่สนหรอกค่ะ ว่าเขาจะ พาส หรือ สต็อป” “อะไรของคุณ พาสหรือสต็อป” เสียงถามแทรกดังมาจากข้าง หลัง ฟังดูก็รู้ว่าโมโหจัดเพราะว่ามันทั้งห้วนทั้งสั้น เสียงแข็งยิ่งกว่าอะไร เสียอีก “อะไรกันคุณ มาถึงที่นี่ได้ไง ไม่รู้จักคาว่าพาสหรือสต็อป” และ หล่อนก็หัน ไปทางชายหนุ่ มที่แนะน าตัวเองว่า จี “พาเพื่อนคุณไปเช็ ก สมองบ้างก็ดีนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ” ว่าแล้วเชก็ออกรถทันที สีแ ดงของรถสปอร์ ต คัน นั้น บาดตานัก แต่ค าพูดของหล่อน ๙
รักฤๅลวง บาดหูมากกว่า ภาสกรได้แต่คิดกับตัวเอง เป็นน้องเป็นนุ่งเถียงคาไม่ตกฟากอย่างนี้ จับมาตีก้นซะให้เข็ด “ไง ตะลึงในความสวยของหล่อนเลยหรือเพื่อน” จีรพงษ์ตบบ่า เพื่อนชายที่ยังมองตามหลังรถสปอร์ตสีแดงคันนั้นอย่างไม่ยอมละสายตา “บ้าน่ะสิ ฉันอยากจะจับหล่อนมาตีสั่งสอนมากกว่า ปากคอเราะ ร้ายนัก” “แล้วนายล่ะ นายว่าหล่อนก่อนด้วยซ้า เป็นขอมดาดิน เออ ไม่ น่ า เชื่ อ ว่ า เป็ น คนไทย น่ า จะเป็ น ฝรั่ ง พู ด ไทย หรื อ อยู่ เ มื อ งไทยนาน มากกว่า แต่แหมเสียดายชะมัด ไม่รู้ว่าหล่อนชื่ออะไร ลืมถามเสียได้” “ฉันว่าหล่อนไม่กล้าแนะนาตัวเองมากกว่า” “หล่ อ นเหมาะกั บ นายนะ ต่ า งคนต่ า งทั น กั น สนุ ก ชะมั ด เลย ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเถียงนายเป็นไฟอย่างนี้เลย มีแต่หวานซะจนเลี่ยน เกื อ บทุ ก คนที่ รู้ จั ก ภาสกร ทวี ว งค์ ว รรณ ทายาทหนุ่ ม ตระกู ล มั่ ง คั่ ง เจ้าของอุตสาหกรรมผลิตนมรายใหญ่ของประเทศ แหมถ้าเจอเจ้าหล่อน อีกที จะต้องจับมาถามชื่อเสียงเรียงนามให้รู้ไปเลย” “เอ้า ยืนละเมออยู่นั่นแหละ จะกลับบ้านหรือเปล่า” ภาสกรที่ กาลังเปิดประตูรถทางด้านคนขับ ตะโกนถามเพื่อนชายที่ยังยืนนิ่งเฉยอยู่ ข้างนอกรถ “กลับสิแหม อยากจะนอนสัก ๒-๓ งีบให้สมกับความเหนื่อยกับ สกีและต้องนั่งรถ นอนขดอยู่บนรถ จากโคโรลาโด มาถึงนี่” “แล้วใครใช้ให้นายไปกันล่ะ” “เถอะน่า ฉันก็บ่นไปอย่างนั้นเอง ว่าแต่ไปแค่อาทิตย์เดียวเอง นะยังไม่หายอยากเลย สนุกจะตาย แล้วนายจะค้างหรือเปล่า คืนนี้” “ถามอย่างนี้ได้อย่างไรกันสาวๆ ได้ยินเสียหายกันหมด” “คิดมากจริงว่ะ ก็แค่ถาม เผื่อนายยังไม่อยากขับรถต่อไปอีกสอง ชั่วโมงไงล่ะ เห็นขับมาตั้งนาน” “เอาเถอะน่ า ไหนๆ ก็ ขั บ มาตั้ ง นาน ขั บ ต่ อ อี ก สองชั่ ว โมงจะ เป็นไรไป” “ตามใจนายละกัน” ๑๐
ญดา หลังจากที่แวะส่งจีรพงษ์แล้ว ภาสกรก็ขับรถกลั บที่พักในเย็น วันนั้นเลย แค่ห้าโมงเย็นแต่ว่ามองออกไปรอบๆ ตัวกลับมืดจนมองไม่เห็น ทาง เอื้อมมือไปเปิ ดเพลง แวบหนึ่ งของความคิด สมองของเขาก็ตวัด กลับไปคิดถึงผู้หญิงคนนั้น บ้าจริง ผู้หญิงอะไร ปากคอเชือดเฉือนเสียจริง ไม่เคยมีผู้หญิง คนไหนพูดกับเขาอย่างนี้มาก่อนเลย แต่ ห ล่ อ นก็ ส วย สวยมากๆ หวานสดใสไปทั้ ง ตั ว ทั้ ง รู ป ร่ า ง สูงโปร่ง สูงกว่าผู้หญิงไทยทั่วไป ใบหน้าเนียนใสนั้นไม่ได้แต่งแต้มอะไร เลย นอกจากลิปสติกสีหวานแต่เพียงบางๆ บนริมฝีปากบางนั้น ผมยาว ถึงกลางหลั ง สลวย สี น้ าตาลเข้ม แสกกลาง รั บกับจมู กที่โ ด่ง งามนั้ น ดวงตาของหล่ อนเหมื อนกั บ จะพู ด ได้ พอคิด ได้ เขาก็หั ว เราะออกมา คนเดียว หึหึ ว่าแต่เขาไปคิดถึงหล่อนทาไมกันนะ หล่อนด่าเขาได้เจ็บจริงๆ ถามเขาว่าโกรธหล่อนไหม ตอบไม่ได้ ขอให้เจออีกทีเถอะจะสั่งสอนให้รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ไปเลยคอยดู แล้วเขาจะไปเจอหล่อนที่ไหนกันล่ะ สาหรับเช พอกลับมาถึงโรงแรมก็จัดการเก็บของที่เกะกะอยู่ บนพื้นใส่กระเป๋า จัดให้เข้าที่เข้าทาง อยากจะโทรกลับเมืองไทย แต่ว่า ตอนนี้กรุงเทพฯ เป็นตอนกลางคืน มารดาและเพื่อนๆ คงจะกาลังหลับ กันอย่างมีความสุข ในขณะที่หล่อนเหงาอยู่ที่นี่คนเดียว มองออกไปนอกหน้าต่างห้อง หิมะข้างนอกยังขาวโพลน ที่ลาน จอดรถต้องขูดหิมะมากองไว้ตรงมุมๆ เป็นภูเขาน้าแข็ง ต้นไม้ที่เห็นตอนนี้ ก็เหลือแต่กิ่งก้านเท่านั้น เกล็ดหิมะเกาะจนขาวโพลนไปหมด จะมีบ้างก็ พวกต้นสนที่มีใบเขียวตลอดปี1 ใช่ว่าหล่อนจะไม่คุ้น หล่อนเกิดที่นี่ด้วยซ้า ไป ถึงจะไม่ใช่รัฐนี้ก็ตาม อากาศมืดลงอย่างรวดเร็ว ในฤดูหนาวบางวันไม่มีแสงอาทิตย์เลย 1
Ever Green
๑๑
รักฤๅลวง ก็จะมืดเร็วกว่าปกติ อย่างวันนี้ แค่ห้าโมงเย็น ข้างนอกมืดหมดแล้วยิ่งทา ให้รู้สึกเหงาเป็นทวีคูณ มีแต่ความอ้างว้างเกาะอยู่ในหัวใจดวงเล็กๆ เพราะผู้ชายบ้าคนนั้นคนเดียวที่ทาให้ชีวิตของหล่อนเปลี่ยนไป อย่ า งนี้ ผู้ ช ายที่ ช อบเห็ น ผู้ ห ญิ ง เป็ น ของเล่ น ที่ ต้ อ งเอาไปไว้ ใ ต้อ านาจ ผู้ชายจะเป็นเหมือนกันทุกคนหรือเปล่านะ แล้วความคิดของเชก็ไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายอีกคนที่หล่อนเพิ่งจะเจอ เขา ตัวสูงใหญ่ ผิวขาว หน้าตานิ่งๆ ออกจะดุ จมูกที่โด่งเป็นสัน รับกับ ริมฝีปากบางราวกับผู้หญิง นั่นไม่แปลกเลยที่เขาว่าหล่อน “เป็นขอมดา ดิน” ไม่มีผู้ชายคนไหนตาเสียถึงขนาดนั้นแน่นอน มีแต่คนชมหล่อนน่ะ ไม่ว่า เขาเป็นผู้ชายที่ทุเรศมาก อย่าให้เจออีกเชียว เชได้แต่หวังว่าหล่อนคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น เมืองนี้ออกกว้าง ใหญ่ ถ้ายังเจออีกก็แสดงว่าเวรกรรมจริงๆ ว่าแต่ห ล่ อนจะต้องอยู่ ที่โ รงแรมนี่ อีก นานแค่ ไหนกัน นะ แล้ ว เมื่อไหร่พี่ชายของเพื่อนจะกลับมาจากต่างรัฐ หวังว่าเขาจะกลับมาก่อนที่ หล่อนจะเช็กเอาท์ออกจากโรงแรม วันก่อนที่โทรไปคุยกับจันทนา ก็บอกว่าพี่ชายใกล้จะกลับแล้ว ให้หล่อนย้ายไปอยู่กับพี่ชายของเธอจนกว่าจะสิ้นเดือนแล้ว ถึงจะย้ายเข้า ไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ที่เขาจองไว้ให้ แต่เชก็เบื่อที่จะอยู่ในห้องแคบๆ อย่างนี้ ทุกๆ วัน หล่อนต้อง ออกไปข้างนอก ไปเดินตามช็อปปิ้งมอลล์ หรือไม่ก็ตามร้านต่างๆ ซื้อของ จนจะเต็มรถอยู่แล้ว โชคดีที่มาถึงก็รีบจัดการเกี่ยวกับเรื่องใบขับขี่ และ ซื้อรถทันที ไม่อย่างนั้นคงจะเบื่อกว่านี้มากๆ แน่เพราะว่าไปไหนไม่ได้ ที่นี่ไม่เหมือนกรุงเทพฯ ที่มีรถเมล์ให้บริการมากมาย ยิ่งออกมาอยู่นอกๆ เมืองอย่างนี้แล้วด้วย กว่ารถเมล์จะมีมาสักคัน ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง และก็ ต้องไปยืนตากความหนาวรอรถเมล์ด้วย
sss ๑๒
๒
กริ๊งๆๆๆ “ใครวะโทรมาปลุกแต่เช้าเลย” จีรพงษ์บ่นกับตัวเอง แต่ก็ต้อง เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มากรอกเสียงงัวเงียลงไป “ครับ ผมจีรพงษ์ครับ” “สวัสดีค่ะ คุณจีรพงษ์ ต้องขอโทษจริงๆ นะคะ ที่โทรมาปลุก ดิฉัน สยามวดี มาจากกรุงเทพฯ เป็นเพื่อนของจันทนา น้องสาวของคุณ ค่ะ” เสียงหวานที่มาตามสายทาให้จีรพงษ์ตาสว่างทันใด “โอ้ โอเค ครับ ผมเป็นพี่ชายของยายจัน เขาอีเมล์มาบอกแล้ว ครับ แต่พอดีว่าผมไปสกีที่ต่างรัฐ เพิ่งกลับมาและก็รอว่าเมื่อไหร่คุณจะ ติดต่อมา ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ ผมจะได้ไปรับ” “ตอนนี้ อยู่ ที่โ รงแรมแฟร์ ฟิล ด์ เซนทรีวิล ล์ จะเช็ กเอาท์พรุ่งนี้ ก่อนเที่ยงค่ะ” “ครับๆ ผมรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ผมจะไปรับคุณพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง รอ อยู่ที่ล็อบบีนะครับ อีกอย่างผมต้องขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้ไปรับคุณทันที ที่มาจากเมืองไทย” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณจริงๆ นะคะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ สวัสดีค่ะ” “ครับ ได้ครับ สวัสดีครับ” วางหูโทรศัพท์แล้วจีรพงษ์ก็ต้องเด้ง ตัวเองออกจากผ้าห่มทันใด มองไปทั่วห้องแล้วก็ต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้น กุมขมับของตัวเอง ทาไมห้องมันรกอย่างนี้วะเนี่ย แล้วเขาจะทาความสะอาดได้ทัน อย่างไรกัน พรุ่งนี้หล่อนก็จะมาแล้ว ตายแน่ๆ เลย แล้วทาไมหล่อนไม่มา
รักฤๅลวง ตอนสิ้นเดือนเลยทีเดียว จะได้ไปเข้าพักที่อพาร์ตเมนต์ของหล่อน ไม่ต้อง มาพักกับเขา เขาจะทาอย่างไรดี จีรพงษ์โทรไปปรึกษาบริษัทรับทาความสะอาดซึ่งเขาต้องจ่าย เป็นสองเท่า แต่เขาก็ต้องยอม คิดถึงเพื่อนรักขึ้นมาทันที เขาน่าจะคุยกับ ภาสกรบางทีอาจจะได้ข้อคิดอะไรบางอย่างก็เป็นได้ “โทรมาทาไมวะ ไก่ยังไม่ทันโห่เลย” เสี ยงจากทางปลายสาย บ่นมาอย่างงัวเงีย “ไก่มันไม่โห่ก็เพราะว่านี่มันจะเที่ยงแล้วโว้ย” “เออ นั่นแหละ เมื่อคืนฉันนอนดึก” “ทาอะไรวะ นอนดึก แสดงว่ามีคนมากวนล่ะสิ ใช่ไหม” “เฮ้ย บ้าน่า เมื่อคืนฉันไปเที่ยวกับคุณทิพย์ และเพื่อนๆ ของเขา ที่มาจากเมืองไทยก็เลยดึกไง ว่าแต่นายเถอะมีอะไรหรือเปล่า” “จาได้ไหม ที่ฉนั บอกนายเรื่องเพื่อนของยายจันจะมา ตอนนี้เขา มาแล้วโว้ย จริงๆ แล้วเขามาตอนก่อนที่เราจะไปสกีด้วยซ้าไป” “อ้าวแล้วน้องเขาไปพักที่ไหนล่ะ เป็นสาวเป็นแส้ตัวคนเดียว” “โรงแรมแถวๆ นี้แหละ อยู่มาตั้งเป็นสิบวันแล้ว และพรุ่งนี้ฉัน จะไปรับเขาที่โรงแรม กังวลจังเลยว่ะภาส ไม่รู้ว่าหล่อนจะเป็นคนอย่างไร แถมยังต้องมาร่วมห้องกันอีก ถึงแม้ว่าจะไม่นานก็เถอะ แกก็รู้ว่าฉันไม่ เคยอยู่กับใครแล้วก็ยังเป็นผู้หญิงเสียอีก และปัญหาใหญ่ตอนนี้ก็คือห้อง ฉันรกมาก ต้องทาความสะอาดให้เสร็จก่อนวันพรุ่งนี้ แต่ว่าเมื่อกี้ฉันได้ โทรติดต่อบริษัททาความสะอาดไปแล้ว เดี๋ยวก็คงจะมา” “ก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลยนี่ ก็ให้บริษัทเขาจัดการไป จริงๆ แล้วนายน่าจะหาคนที่มาทาความสะอาดเป็นประจาเหมือนกัน ห้องจะได้ ไม่ซกมกอย่างนั้น ช่างเถอะ ทาอะไรตอนนี้ก็คงจะไม่ทันแล้วล่ะ ถ้าน้อง เขามาอยู่ด้วย นายก็อยู่นอกห้องไปสิ โซฟาตัวนั้นไงดึงออกมาเป็นเตียงได้ นี่ แล้วก็ให้น้องไปอยู่ในห้องของนาย เขาเป็นผู้หญิงนะโว้ย และก็เป็น เพื่อนน้องสาว ท่องเอาไว้ในใจ ว่าแต่ว่าสวยหรือเปล่าวะ” “โธ่เอ๊ย ที่บรรยายมาทั้งหมด ท่าทางเป็นห่วงเป็นใยก็เพราะว่า ๑๔
ญดา ความสวยของหล่อนเหรอ เออ ไม่รู้ว่ะ แล้วถ้าสวยฉันจะทาอย่างไรวะ หัวใจยิ่งอ่อนไหวง่ายซะด้วย” ประโยคสุดท้ายทาเอาเพื่อนรักหัว เราะ เสียงดัง “เฮ้ย ไม่ได้ ไม่ได้ นายจะอ่อนไหวอะไรง่ายปานนั้น ท่องเอาไว้สิ ว่าเพื่อนน้องสาว ก็เหมือนน้องสาวเรา คิดอะไรสกปรก ลามกไม่ได้ เข้าใจ ไหม ที่บอกนี่เพราะว่าไม่อยากให้นายต้องตกที่นั่งลาบากทีหลัง” “ขอบใจที่สั่งสอน แค่นี้ก่อนนะ รู้สึกว่าบริษัทเขาคงจะส่งคนมา ทาความสะอาดแล้วว่ะ” “เออ แล้วอย่าลืมโทรมารายงานความคืบหน้าด้วยนะโว้ย เป็น ห่วง” ทางด้านภาสกรที่เพิ่งจะวางหูจากเพื่อนชาย ยังไม่ทันได้ลุกจาก เตียง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก เขายกหูขึ้นมาและกรอกเสียงลงไปทันที “อะไรอีกวะ เดี๋ยวโทรกลับ ขอเข้าห้องน้าก่อน” แต่แล้วเขาก็ ต้องเปลี่ยนโทนเสียงของตัวเองทันที เมื่อได้ยินเสียงของทางปลายสาย “อะไรคะ โมโหแต่เช้าเลยทีเดียว” เสียงหวานใสของเพื่อนสาว ชาวไทยนั่นเอง “อ้าว คุณทิพย์เองเหรอครับเนี่ย ผมนึกว่านายจี เพราะว่ามัน โทรมาปลุกผมก่อนที่คุณจะโทรนี่เอง” “เพิ่งตื่นหรอกหรือคะ คือทิพย์โทรมาถามว่าจะไปทานข้าวเที่ยง ด้วยกันไหมคะ ร้านแถวๆ หน้ามหาวิทยาลัยน่ะค่ะ พอดีเพื่อนของทิพย์ เขาอยากทานอาหารจีน ก็เลยโทรมาชวนคุณด้วย” “เออ ถ้าผมจะขอตัวจะได้ไหมครับ ผมมีงานต้องทาส่งน่ ะครับ คงต้องเอาไว้โอกาสหน้าละกัน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ” “ไม่เป็นไรค่ะ งั้นรบกวนแค่นี้นะคะ” “ครับ สวัสดีครับ แล้วเมื่อไหร่ที่ว่างผมจะโทรไปหานะครับ” “ค่ะ สวัสดีค่ะ” ทิพย์เป็นเพื่อนหญิงที่เรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ภาสกรรู้จัก หล่อนตั้งแต่เข้าเรียนเลยก็ว่าได้ หล่อนเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน เขาแทบ จะไม่เคยเห็นหล่อนโกรธใครด้วยซ้าไป หน้าตาน่ารัก มีหนุ่มๆ นักเรียน ๑๕
รักฤๅลวง ไทยตามจีบหลายคน แต่ ส าหรั บ ภาสกรแล้ ว เขาคบกั บ หล่ อ นแค่ เ พื่ อ นเท่ า นั้ น เอง เพราะไม่อยากให้เรื่องคบผู้หญิงของเขาไปถึงหูมารดา แล้วเรื่องเล็กๆ ก็ จะเป็นเรื่องใหญ่ทันที เนื่องจากว่ามารดาของเขาจริงจังในเรื่องของผู้หญิง ที่เขาจะคบหาเป็นอย่างมาก ท่านพยายามที่จะหาลูกสาวของเพื่อนหรื อ คนที่รู้จั กในสั งคมเดียวกัน มาให้ ทาความรู้จักกับเขาเสมอ แต่ภ าสกรก็ หาทางเลี่ยงมาได้ตลอดเวลา เขายังไม่ต้องการให้ใครมาผูกมัดด้วย แต่ถ้าจะผูกกับใคร เขาจะ เลือกด้วยตัวเอง อนาคตยังอีกไกล เขาอายุยังน้อย ควรที่จะใช้ชีวิตใน วันนี้ให้มีความสุข สนุกสนานกับเพื่อนๆ ก็น่าจะพอแล้ว ก่ อ นสิ บ เอ็ ด โมงเช้ า เล็ ก น้ อ ย เชขนของลงมาจากห้ อ งพั ก ทาการเช็กเอาท์และนั่งรออยู่ที่ล็อบบี อ่านนิตยสารเป็นการฆ่าเวลาไป เรื่อยๆ และพอเงยหน้าขึ้น ก็ต้องตกใจ “อ้าวคุณ ทาไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ” จีรพงษ์ถามทันทีเมื่อเห็นหน้า หล่อน “เอ้อ ฉันมารอพี่ชายของเพื่ อน เขาจะมารับไปที่อพาร์ตเมนต์ ของเขาน่ะค่ะ” คาตอบนั้นทาให้จีรพงษ์รีบแนะนาตัวเองทันที “ผมจีรพงษ์ครับ เป็นพี่ชายของยัยจัน ” จีรพงษ์แนะนาตัวเอง นั่นทาให้หญิงสาวรีบยกมือไหว้เขาทันที ทาเอาจีรพงษ์รับไหว้แทบไม่ทัน พลางคิดว่าเพื่อนของยัยจันสวยขนาดนี้เลยหรือเนี่ยแล้ วทาไมเขาไม่เคย เห็นมาก่อนเลยล่ะ “สวัสดีค่ะ ฉันเชค่ะ แสดงว่าทฤษฏีโลกกลมยังใช้ได้อยู่เสมอ” เชบอกเขายิ้มๆ จีรพงษ์เผลอมองหน้าที่สดใสนั้นอยู่เป็นนาน พอรู้สึกตัว เขาก็รีบชวนหล่อนขนของไปที่รถอย่างรวดเร็ว “มาเถอะครับ ผมช่วยขนของ” เขาเอื้อมมือไปดึงกระเป๋าสองใบ ใหญ่และลากนาหน้าออกจากโรงแรม “ผมเอากระเป๋าไปใส่ท้ายรถก่อน นะครับ คุณยืนรออยู่ตรงนี้ละกัน ผมจะวกรถมารับ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เพราะเชมีรถมาด้วย คือว่าเชซื้อรถแล้ว คันที่ ๑๖
ญดา คุณเห็นนั่นแหละค่ะ ขับตามกันไปดีไหม ว่าแต่ที่พักคุณอยู่ไกลจากที่นี่ หรือเปล่าคะ” เชบอกเขาพร้อมกับเดินตามไปที่ลานจอดรถ “ไม่ไกลหรอกครับ ขับรถไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ” “งั้นเชขับตามไปละกันนะคะ” “ได้ครับ” จีรพงษ์รับคา ในใจคิดว่า โลกแตกแน่ๆ ถ้านายภาสกร รู้ว่าคู่ปรับอยู่ตรงนี้เอง เขาขับรถไปเรื่อยๆ ตาก็มองกระจกหลังอยู่บ่อยๆ ให้แน่ใจว่ารถสีแดงคันนั้นยังตามมาไม่ห่าง กลับไปเห็นทีจะต้องโทรไปหา น้องสาว ต่อว่าสักหน่ อยโทษฐานที่ไม่บอกว่าเพื่อนของหล่ อนเป็นใคร สวยแค่ ไ หน ไม่ น านนั ก รถก็ เ ลี้ ย วมาจอดหน้ า อพาร์ ต เมนต์ เขาก็ ย ก กระเป๋าทั้งสองใบออกมาลากเข้าไปในตึก หญิงสาวเดินตามเขาเข้าไปใน ลิฟต์ “แถวนี้เขาเรียกว่าอะไรหรือคะ” “เกนสวิลล์ 2ครั บ ผมก็เพิ่งย้ ายมาอยู่ที่นี่ไม่นาน อยู่นอกเมือง ราคาถูกกว่ากันเยอะเลยและก็บรรยากาศก็ดีมากกว่าด้วย” “แล้วอพาร์ตเมนต์ของเชล่ะคะ อยู่ไกลจากนีไ่ หม” “ไม่หรอกครับ ห่างจากนี่ไม่ถึงสิบนาทีเอง เอาไว้ตอนทานข้าว กลางวันเราขับรถไปดูก็ได้ครับ” “ก็ดีค่ะ เออ จั น บอกว่าคุณไปสกีตั้งอาทิตย์ห นึ่งไม่ใช่ห รือคะ ทาไมกลับเร็วจังเลย” “อ๋อ พอดี ผมกับนายภาสไปกันก่อนเพื่อที่จะได้กลับมารับคุณ ทันไงครับ แต่ก็ไม่ทันอยู่ดี เลยทาให้คุณเชต้องพักที่โรงแรมตั้งหลายวัน ต้องขอโทษด้วยนะครับ” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แล้วคุณจีรพงษ์กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ คะ” “ก็วันที่ผมกับนายภาสเจอคุณนั่นแหละครับ ” ประตูลิฟต์เปิด ออก ทาให้การสนทนาหยุดชะงักลง จีรพงษ์เดินลากกระเป๋านาหน้าไป จนถึงห้องพักของเขา เปิดประตูห้อง ลากกระเป๋าเข้าไปในห้องให้ 2
Gainsville
๑๗
รักฤๅลวง “เชิญครั บ ห้องคนโสด คงจะไม่ค่อยสะอาดนัก แต่นี่ก็ดีที่สุ ด สาหรับผู้ชายตัวคนเดียวอย่างผมแล้วครับ” จีรพงษ์พูดออกตัวเมื่อเห็นว่า เพื่อนสาวคนสวยของน้องสาวยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับเขยื้อน แต่กลับ ชะเง้อคอยาวเข้าไปมองสารวจรอบๆ ห้อง “เออ ขอโทษค่ะ คุณไม่ได้อยู่กับเพื่อนคนนั้นหรือคะ” อ้อ ที่หล่อนชะเง้อนี่ก็เพราะว่ามองหาเพื่อนของเขานั่นเอง จีรพงษ์อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เสียจริงๆ แต่ที่ทาได้ก็แค่ยิ้ม “อ๋อ เปล่าครับ นายภาสไม่ได้อยู่ที่นี่ มันอยู่ไกลจากที่นี่สักสอง ชั่วโมงได้ครับ” เขาเห็นแววตาแสดงความโล่ง ใจของหล่อนในทันทีที่เขา บอก “ดีค่ะ ไม่งั้นเชคงจะเลือกอยู่โรงแรมดีกว่าอยู่ร่วมห้องกับเพื่อน ของคุณแน่” “จริงๆ แล้วนายภาสมันไม่มีอะไรหรอกนะครับ มันเป็นเพื่อนที่ดี ที่สุดของผม เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่มัธยมปลาย และก็เรียนปริญญาตรี ที่เมืองไทยด้วยกัน แล้วก็ชวนกันมาเรียนที่นี่ แต่ไม่ได้เรียนที่เดียวกัน ขอ ผมเปิดผ้าม่านก่อนนะครับ จะได้มีแสงสว่างเข้ามาบ้าง เชิญตามสบาย ครับ ห้องน้าอยู่ทางด้านขวามือ และกระเป๋าของคุณ ผมจะเอาไปไว้ใน ห้องให้ ห้องนอนเป็นของคุณนะครับ อยู่ให้สบายคิดว่าอยู่ห้องยายจันก็ แล้วกัน” “ขอบคุณค่ะ เชคงรบกวนคุณจีรพงษ์ไม่นานหรอกใช่ไหมคะ” เชยกมือ ไหว้พี่ช ายเพื่อนเป็ น การขอบคุณ ดูแล้ ว ก็ค งจะนิสั ย ดีเหมือ น เพื่อนรักของหล่อนนั่นเอง แต่ไม่น่าไปคบเพื่อนแบบนายคนนั้นเลย “ครับ” จีรพงษ์ยกมือขึ้นรับไหว้แทบไม่ทัน “อย่าไหว้ผมบ่อยนัก เลยครับ ยังไม่อยากแก่เท่าไหร่ และอีกอย่างอย่าคิดมาก ว่าแต่คุณเชหิว หรือยัง เราจะได้ออกไปทานอาหารกลางวันกัน” “รอให้เที่ย งก่อนก็ได้ค่ะ เออ คุณจี รพงษ์คะ เชขออะไรอย่าง หนึ่งได้ไหมคะ” “จริงๆ ก็รู้จักกันแล้ว เรียกพี่จีดีไหม เหมือนกับยัยจันไง นี่พี่ถาม จริงๆ เถอะ ทาไมพี่ถึงไม่เคยเห็นเชเลย” จีรพงษ์ถามด้วยใบหน้าที่สงสัย ๑๘
ญดา จริงๆ
“ถ้าพี่จีอนุญาตก็ขอบคุณค่ะ พี่จีจะเห็นเชได้อย่างไรกัน เวลาเช ไปที่บ้านพี่จีอยู่บ้านเสียที่ไหนล่ะคะ ปิดเทอมก็ไปเที่ยวเมืองนอก ไปโน่น ไปนี่ ไม่เห็ น เคยอยู่บ้ าน ก็เลยทาให้ไม่เคยได้เจอกัน อย่าสงสั ยเลยค่ะ เพื่อนของจันไม่เคยเห็นพี่จีกันสักคน เห็นแต่รูปแต่ก็ไม่เหมือนตัวจริง ใน รูปพี่จีไม่ใส่แว่นนี่คะ” “พี่เพิ่งจะใส่แว่นได้ไม่นานนี่เอง สายตาเริ่มจะไม่ดีก็เลยต้องใส่ ครับ แล้วคุณเชรู้จักกับยัยจันตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ” “ตั้งแต่เรียนไฮสคูลค่ะ พี่จีเรียก เช เฉยๆ ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเรียก คุณหรอกค่ะ” “เชเฉยๆ หรือว่า เช” จีรพงษ์ถามติดตลก “เช” หล่อนตอบเขาแค่ชื่อเพราะว่าถ้ามีอย่างอื่นต่อท้ายรับรอง คุยกันไม่จบ “ตกลงครับ เช ว่าแต่เชจะขออะไรพี่เหรอครับ พูดเรื่องอื่นเลย เกือบลืมไปเลย” “คือว่า พี่จีอย่าบอกเพื่อนคนนั้นของพี่จีได้ไหมว่าเชอยู่ที่นี่ และ ถ้าเป็นไปได้ เชไม่อยากพบเขาอีก ได้ไหมคะ” “ได้ ค รั บ เชไม่ ต้ อ งห่ ว งเรื่ อ งนี้ ห รอกนะครั บ ” จี ร พงษ์ รั บ ค า พลางคิดในใจว่า สงสัยหล่อนจะโกรธเพื่อนของเขาเอามากๆ แน่เลย มีที่ไหนกัน ผู้หญิงไม่อยากเจอหน้ านายภาส มีแต่คนอยากดึงมันเอาไว้กับตัว เฮ้อ แล้วเขาจะต้องทาอย่างไรดีนะ หวังว่าระยะเวลาแค่หนึ่งอาทิตย์นายภาสคงจะไม่มาหาเขาละกัน ไม่งั้นได้จบกันแน่ๆ พอเพื่อนน้องสาวเข้าไปในห้องปิดประตู เสียงโทรศัพท์มือถือ ของเขาก็ดังขึ้น จีรพงษ์กดดูพอรู้ว่าใครโทรมาเขาก็รีบออกไปนอกห้อง ทันที “มีอะไรหรือเปล่าวะ ภาส” ๑๙
รักฤๅลวง “โห นี่ น าย ทั กทายได้ป ระทั บ ใจมากเลยนะ ถ้ า ฉั น ไม่โ ทรมา นายก็จะว่า หายหัวไปไหนวะ” “เออ รู้แล้ว ว่าแต่มีอะไรก็ว่ามา” “นี่นายไปรับเพื่อนน้องสาวมาหรือยัง” “รับมาแล้ว ตอนนี้น้องเขาอยู่ในห้อง เดี๋ยวสักพักฉันว่าจะพาไป หาอาหารกลางวันทานกัน” “อ๋อ เหรอ แหมดูแลเป็นอย่างดีเชียวนะโว้ย ชักสงสัย ว่าแต่ว่า น้องเขาสวยหรือเปล่าวะ” “โอ๊ย อย่าให้พูด หน้าตาอย่างกับขอมดาดินมาจริงๆ เลยว่ะ” จีรพงษ์ส่งเสียงกลั้นหัวเราะลงไป แต่ทางปลายสายกลับคิดว่าเพื่อนของ เขาคงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเป็นแน่ “ขนาดนั้นเลยหรือเพื่อน เสียใจด้วยนะ แต่น้องเขาจะอยู่กับนาย แค่สิ้นเดือนนี้เองไม่ใช่เหรอ แค่แป๊บเดียวเองน่า” เสียงปลายสายปลอบ ประโลม แสดงความเห็นใจออกมาอย่างจริงใจ ทาให้จีรพงษ์แทบจะหลุด หัวเราะออกแต่เขาก็หยุดมันเอาไว้ได้ “เออ ก็แค่อาทิตย์เดียวเอง” “ฉันเสียใจกับนายด้วยนะที่ต้องทนอยู่กับสาวที่ไม่ส วยอย่างนั้น ทนเอาหน่อยละกัน ท่องเอาไว้โ ว้ย เพื่อนน้องสาว แค่นี้แหละ ขอให้ มี ความสุข” “เออ ขอบใจที่อวยพร แล้วค่อยคุยกัน” จีรพงษ์ ทันได้ยินเสียง เพื่อนสนิทหัวเราะเยาะก่อนที่จะวางหู เขาก็เลยหัวเราะตามหลังเสียงดัง ทีเดียว พร้อมกับพูดกับตัวเองว่า “หัวเราะทีหลังดังกว่าโว้ย” นี่ถ้าเพื่อนของเขารู้ว่าเพื่อนของยัยจัน คือ ยัยขอมดาดิน คนนั้น อยากรู้นักว่าภาสกรจะว่าอย่างไร “แค่คิดก็สนุกแล้ว” จีรพงษ์กลับเข้าไป ในห้องก็พบว่าหญิงสาวนั่งรออยู่ที่โซฟา พร้ อมกับของวางเต็มโต๊ะเลย ทีเดียว “อะไรหรือครับนี่ อย่าบอกนะว่า ทางบ้านฝากมา” จีรพงษ์ทา ตาโตกับของมากมายที่อยู่ตรงหน้า “ใช่ ค่ ะ คุ ณ ป้ า ฝากมา มี ห ลายอย่ า งเลยค่ ะ ขนม น้ าพริ ก ๒๐
ญดา ปลาทอดสารพัดชนิดค่ะ” “โอ้โห นี่ฝีมือคุณแม่แน่ๆ เลย ท่านจะเป็นอย่างนี้แหละครับ ใคร มาท่านก็จะฝากมาให้ตลอด แล้วยัยจันล่ะครับเป็นอย่างไรบ้าง พี่ไม่เห็น น้องตั้งแต่ซัมเมอร์ที่แล้ว” “ก็ดีค่ะ มีความสุข สนุ กสนาน” เสียงตอนท้ายออกจะเครือๆ นิดๆ จีรพงษ์คิดว่าหล่อนคงคิดถึงน้องสาวของเขามากกระมัง เขาก็เลย หันมาสนใจกับของที่อยู่ตรงหน้าแทน “ขอบคุณมากนะครับ ที่อุตส่าห์หิ้วของพวกนี้มาฝาก” เขาแกะ ถุงตรงหน้าดูของเกือบทุกถุงเลยก็ว่าได้ “แล้วนี่ถุงอะไรครับ ห่อมาอย่าง แน่นหนาทีเดียว” เขาแกะออกพร้อมกับดึงกระดาษที่แนบมาด้วยออกมา อ่าน “ฝากให้ภาสด้วยนะลูก” เขาปิดห่อไว้อย่างเดิม พร้อมเงยหน้าขึ้น บอกหล่อน “ของฝากนายภาสนั่นเอง” แล้วเขาก็เอาของไปเก็บไว้ในครั ว โดยแยกว่าอันไหนควรจะอยู่ในตู้เย็นหรือว่าอยู่ข้างนอกได้ เชมองตาม พลางคิดว่า “เขาก็ดูมีระเบียบเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่า เป็นเพื่อนกับผู้ชายคนนั้นได้อย่างไรกัน ” แล้วหล่อนก็ต้องหยุดความคิด ของตัวเองทันที เมื่อเจ้าของห้องเดินกลับเข้ามาที่ห้องรับแขก “ไปหาอะไรทานกัน ดีกว่านะครับ ใกล้ๆ แถวนี้มีร้านจีนอยู่ใน ช็ อ ปปิ้ ง เซนเตอร์ นี้ ตั้ ง สองร้ า นนะ หรื อ ว่ า จะกิ น อาหารไทย เกาหลี เวียดนามได้ทั้งนั้นครับ” “ก็ ไ ด้ ค่ ะ มื้ อ นี้ เ รากิ น อาหารเวี ย ดนามกั น ก่ อ นดี ไ หม แล้ ว หลังจากนั้นก็ไปซื้ออาหารสดกัน เผื่อว่าจะได้ทาอะไรกินเองไงคะ” เช บอกเขาอย่างนึ กสนุ กที่จะได้มีโอกาสทาอะไรกินเองบ้างหลั งจากที่กิน อาหารตามร้านมาหลายวัน “ดี ค รั บ นานๆ ที พี่ ก็ ท าอะไรกิ น เองเหมื อ นกั น ปากเดี ย ว ท้องเดียวไปตามเรื่อง ก็เลยไม่ค่อยห่วงตัวเองเท่าไหร่” “และก็ไม่ต้องห่วงเชด้วยนะคะ เช สบายๆ อะไรก็กินได้ค่ะ ไม่ ค่อยยึดติดกับการกินสักเท่าไหร่ ” หล่อนรีบบอกเขากลัวว่าตัวเองจะทา ให้เขาลาบากไปด้วย “ถึงว่าสิ หุ่นของเชถึงได้เหมือนกับนางแบบไงงั้นเลย” ๒๑
รักฤๅลวง “ก็แค่เหมือนแค่นั้นเองค่ะ เราไปกันตอนนี้เลยหรือเปล่าคะ” “ครับ” จีรพงษ์พาเชไปกินอาหารเวียดนาม ซึ่งก็คล้ายๆ กับอาหารไทย หลังจากนั้นก็ไปร้านขายของชาของเกาหลี ได้ของสดมามากมาย มีทั้งผัก ของทะเล เชเห็นชายหนุ่มหยิบผักอะไรไม่รู้ตั้งหลายอย่างที่หล่อนไม่รู้จัก จนต้องออกปากทักว่า “พี่จีซื้อผักพวกนี้ไปทาอะไรคะ” “ผัดหรือต้มจืดก็ได้ครับ พี่พอทาได้บ้าง แล้วจะแสดงฝีมือให้ชิม ขนาดนายภาสยังชมว่าอร่อยเลยครับ” “งั้นเชจะเป็นลูกมือให้ละกัน แต่เชก็ทาข้าวต้มเป็นนะคะ” อีก คนรีบออกตัวทาให้คนฟังต้องยิ้มออกมาน้อยๆ พลางคิดว่า “ก็ยังดีที่ทา ข้าวต้มเป็น” “เอาไว้เราทาข้าวต้มกินกันตอนเช้าๆ ดีไหมครับ” “ดีค่ะ”
sss
๒๒
๓
จีรพงษ์โทรไปหาภาสกรเพื่อบอกว่ามีของฝากจากมารดาของ เขามาให้ด้วย “แม่นายฝากอะไรมาให้อีกวะครั้งนี้” “ก็พวกอาหารนั่นแหละ ทุกชนิด เหมือนที่ฝากมาให้ ฉัน จะให้ ส่งไปให้หรือเปล่าล่ะ” “ไม่ต้องหรอกนายเก็บเอาไว้ก่อน ว่างเมื่อไหร่ฉันจะไปเอาเอง” คาบอกของทางปลายสายทาเอาจีรพงษ์สะดุ้งเล็กๆ “แต่ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่างนะโว้ย ต้องเทคแคร์น้องเขา ถ้านายจะ มาก็ต้องมาหลังต้นเดือนไปแล้วเข้าใจไหมภาส” จีรพงษ์รีบกาชับเพื่อนรัก ทันที “ทาไมล่ะ รู้ สึกว่ามันทะแม่งๆ อยู่นะโว้ย กีดกันจังนะ ไม่ต้อง ห่วงหรอก ก็ได้ ก็ได้ เอาไว้หลังต้นเดือนค่อยไป เพราะว่าฉันก็มีรายงาน ต้องทา ไปไหนกับเขาไม่ได้หรอก ขนาดคุณทิพย์โทรมาชวนไปทานข้าวยัง ไปไม่ได้เลย งั้นแค่นี้ละกัน อย่าลืมฝากขอบคุณคุณแม่นายด้วยนะจี” “เออ จะบอกให้ แล้วเจอกันหลังสิ้นเดือน” พอวางหูจากเพื่อนรัก ภาสกรก็นึกสงสัยยิ่งนัก ทาไมเพื่อนรัก ไม่ยอมให้เขาไปเอาของฝาก มัน จะต้องมี อะไรแน่ ย้ าอยู่ นั่ น แหละว่า เขาจะต้อ งไปหลั งสิ้ น เดือน ชักสงสัย แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า เกรงใจเพื่อนของน้องสาวก็ได้ ภาสกรคิ ด ว่ า เขาจะต้ อ งท ารายงานให้ เ สร็ จ แล้ ว จะแอบไป
รักฤๅลวง เซอร์ไพรส์เพื่อนรักดูซิจะว่าอย่างไร ถ้าเจอเขาแบบไม่ได้ตั้งตัว เพื่อนเขาอาจจะอายที่มีผู้หญิงขี้เหร่มาอยู่อาศัยร่วมห้องด้วยก็ได้ คิดแล้วก็น่าสงสารถึงขนาดปิดบัง ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนสนิทอย่างเขาด้วยนี่ ผู้หญิงคนนั้นคงจะหน้าตาอัปลักษณ์สุดๆ อย่างหาที่เปรียบไม่ได้เป็นแน่ คิดแล้วก็อยากจะสมน้าหน้า และก็อยากจะหัวเราะให้ฟันหลุด จริงๆ แต่พอคิดอีกทีก็ชักจะเห็นใจเพื่อนมากกว่าที่ต้องเจอกับภาวะกลืน ไม่เข้าคายไม่ออกอย่างนี้ ภายในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ไม่มีใครตามหาตัวภาสกรเจอเลย แม้แต่ทิพย์ เพื่อนสาวที่สนิทที่สุด เขา ปิ ด มื อ ถื อ นั่ ง อยู่ มุ ม หนึ่ ง ของห้ อ งสมุ ด ที่ ก ว้ า งใหญ่ นั้ น พร้ อ มกั บ คอมพิวเตอร์คู่ใจ เขาทางานตั้งแต่เช้าจนมืดทุกวัน เพื่อที่จะให้รายงาน เสร็จก่อนกาหนด แล้วเขาจะได้มีเวลาไปหาเพื่อนชาย กลั บ มาถึ ง ห้ อ งพั ก ยั ง ไม่ ไ ด้ ถ อดเสื้ อ โคตตั ว หนาก็ ไ ด้ ยิ น เสี ย ง โทรศัพท์กรีดร้องอยู่ที่มุมห้องรับแขก ทาให้เขาต้องรีบวิ่งเข้าไปรับ “ครับ ภาสกรครับ” กรอกเสียงลงไป พร้อมกับถอดเสื้อโคตและ ถอดรองเท้าบูทไปด้วย แล้วก็นาไปผึ่งไว้ใกล้ๆ กับช่องฮีทเตอร์ “ทิพย์เองนะคะ ขอโทษค่ะ ที่ต้องโทรมา เพราะว่าทิพย์โทรเข้า มือถือตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่มีสัญญาณรับ สายน่ะค่ะ ภาสปิดมือถือหรือ เปล่าคะ” “เปล่าครับ คิดว่าแบตหมดมากกว่า และช่วงนี้ผมก็ยุ่งมาก เร่ง ทางานให้เสร็จ ก็เลยไม่มีเวลาได้สนใจอะไรเลย ขอโทษด้วยนะครับ” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เห็นหายไป ก็เลยเป็นห่วงค่ะ” “ขอบคุณครับ ทิพย์ มีอะไรหรือเปล่าครับ” “ไม่ มี อ ะไรหรอกค่ ะ แค่ เ ป็ น ห่ ว ง งั้ น ทิ พ ย์ ร บกวนแค่ นี้ น ะคะ สวัสดีค่ะ” “ครับ ขอบคุณครับ” ภาสกรวางโทรศัพท์ลงกับตัวเครื่อง พลาง คิดถึงหน้าของเพื่อนสาวที่ชื่อทิพย์ หล่อนพยายามทาให้เขารู้ว่าหล่อน ห่วงใยเขา อาทรเขาเป็นพิเศษ แต่หล่อนก็ไม่รุก หรือตามตื๊อให้ราคาญ ๒๔
ญดา และเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษมากไปกว่าความเป็นเพื่อนเลย แต่ก็นับว่า หล่อนใกล้ชิดเขามากกว่าผู้หญิงคนอื่นในตอนนี้ และอีกด้านหนึ่งของความคิด ภาสกรกลับเห็นภาพของผู้หญิง หน้าสวยคนนั้น เจ้าของรถคันสีแดงเพลิง หล่อนตรึงอยู่ในใจ ในความคิด ของเขาเสมอ ตั้งแต่ได้เห็นหน้าแค่ครั้งเดียว แม้จะไม่นานนัก แต่เขากลับ จาทุกส่วนบนใบหน้าหวานนั้นได้อย่างละเอียดเลยทีเดียว เขาโมโหแทบ ตาย ที่หล่ อนแนะน าให้เขาใช้แปรงขัดส้ ว มกับน้ายาขัดอย่างแรงที่สุ ด ภาสกรยิ้มกับตัวเองพร้อมกับส่ายหน้านิดๆ เด็กบ้าเอ๊ย ปากจัดไม่สมกับหน้าหวานๆ นั้นเลย “ทาอะไรแต่ เ ช้า ครับ ” จีร พงษ์เ ยี่ยมหน้า เข้า ไปในครัวตาม กลิ่นอาหารที่อบอวลไปทั่วทั้งห้อง “ข้าวต้มค่ะ ข้าวต้มกุ้ง รอแป๊บหนึ่งนะคะ ยังไม่สุกเลย” คนที่อยู่ หน้าเตาหันมาบอก “ท่าทางจะอร่ อยนะครั บ ” จี ร พงษ์ คุยพร้ อมกับ มองไปรอบๆ ครัวเล็กๆ นั้นที่เต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆ วางเต็มเคาน์เตอร์ไปหมด ดูแล้ว รกกว่าตอนที่เขาอยู่คนเดียวเสียอีก “อย่าคาดหวังมากนักนะคะ ถ้าไม่อยากผิดหวัง” คนในครัวรีบ ออกตัว พร้อมกับตักของในหม้อขึ้นชิม “เกือบสุกแล้วค่ะ” “งั้นขอเวลาพี่อาบน้าก่อนแป๊บหนึ่งนะครับ” “เชิ ญ เลยค่ ะ เออ พี่ จี ค ะ ชอบแบบใส่ ไ ข่ ล งไปหรื อ ว่ า ไข่ ต้ ม ต่างหากคะ” “อย่างไหนก็ได้แล้วแต่เชก็แล้วกันครับ พี่กินได้อยู่แล้ว” จีรพงษ์ หมุ น ตั ว กลั บ ไปทางห้ อ งน้ า พลางคิ ด ว่ า โชคดี แ ค่ ไ หนที่ มี ส าวสวยมา ทากับข้าวให้กิน ทาให้คิดว่า ถ้าเขามีใครสักคนอยู่ร่วมห้องกันอย่างนี้ จะมีความสุขสักแค่ไหน กันนะ ยิ้มให้กับความคิดของตัวเองแล้วก็หันไปหยิบผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้า เข้าไปในห้องน้า ๒๕
รักฤๅลวง หลั งจากที่ทาอาหารเสร็ จแล้ว เชก็พยายามที่จะเก็บทาความ สะอาดเครื่องครัว และดูดฝุ่นพื้นห้องครัวให้ดูดีเหมือนเดิม ในชีวิตไม่ค่อยได้ทาอะไรอย่างนี้บ่อยนัก ที่มารดาให้ทาก็คือทา ความสะอาดห้องของตัวเอง แต่ก็แค่อาทิตย์ละครั้งแค่นั้น ไม่อยากเชื่อว่า มันจะทาให้เหนื่อยได้มากขนาดนี้ ข้างนอกหิมะตกหนาวจะตายแต่หล่อน กลับเหงื่อตกซิกๆ ทีเดียว เฮ้อ ใครจะรู้นางเอกคนสวยจะเป็นอย่างนี้ไปได้ ทาความสะอาดเสร็จ จัดโต๊ะอาหารเสร็จแล้ว ก็ยังได้ยินเสียงน้า ฝักบัวยังไหลไม่หยุด แสดงว่าเจ้าของห้องยังอาบน้าไม่เสร็จ หล่อนก็เลย ใช้เวลานั้นโทรศัพท์ไปหามารดาที่กรุงเทพฯ “คุณแม่คะ เชเองค่ะ” “เชเป็นอย่างไรบ้างลูก แม่เป็นห่วงนะ สบายดีหรือเปล่า แล้ว เจอพี่ชายของหนูจันแล้วหรือยัง” มารดาถามมายาวเหยียดด้วยความเป็น ห่วง “เชสบายดีค่ะ ตอนนี้เชก็พักอยู่กับพี่ชายของจัน คุณแม่ไม่ต้อง ห่วงเชนะคะ ต้นเดือนเชก็จะย้ายไปอยู่ที่ห้องของตัวเองแล้ว พี่จีดีมากๆ เหมือนจันเลยค่ะ แล้วทางโน้นเป็นอย่างไรบ้างคะ มีข่าวอะไรหรือเปล่า เชขอโทษที่ทาให้คุณแม่ลาบากใจไปด้วย แต่คุณแม่ก็ไม่ต้องให้ข่าวอะไร นะคะ ปล่อยให้เงียบไปเองจะดีกว่า” “แม่ไม่โทษหนูหรอก ข่าวมันก็มีนั่นแหละลูก ก็เขาต้องขายข่าว มัน ก็ต้องมีข่าว แต่แม่ไม่สนใจอยู่ แล้ ว จ้ ะ มีบ างคนพยายามโทรหาแม่ อยากสัมภาษณ์ แต่แม่ก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง หนูตัดสินใจถูก แล้ว ชีวิตเป็นของหนู เอาไว้ให้หนูอยู่ตัวก่อนแล้วแม่จะไปหานะลูก” “ค่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เชสบายดี วันนี้เชทาอาหารเช้าด้วยนะ คะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรเพราะว่ายังไม่ได้กินกันเลยค่ะ” “หัดทานะลูก แล้วเชจะรู้ว่ามันไม่ยากเลย มันจะสนุกด้วยซ้าไป ถ้าเรามีความสุขกับมัน” “ค่ะ เชจะพยายาม เอ้อ คุณแม่คะ เชโทรไปหาอาแชนนอลด้วย นะคะ อาบอกว่าถ้าเชอยากไปอยู่ที่โน่นก็ยินดี แต่เชไม่อยากไปรบกวนอา ๒๖
ญดา คงจะไปเยี่ยมได้ตอนที่ว่างๆ น่ะค่ะ” “ก็ดีลูก แล้วแต่หนูจะอยู่ที่ไหนก็ตามใจ ดูแลตัวเองนะลูก แม่ เป็นห่วงแต่ก็รู้ว่าหนูจะผ่านมันไปได้อย่างเข้มแข็ง” “ค่ะ คุณแม่ เชต้องทาให้ได้ค่ะ” “ดีมากลูก ดีมาก แม่รักหนูนะเช” “ค่ะ เชก็รักคุณแม่ค่ะ ฝากความคิดถึงไปยังป้าเบียบด้วยนะคะ บอกว่าเชคิดถึงฝีมือทาอาหารของป้าเบียบมากๆ เลยค่ะ” “ได้จ้ะลูก งั้นแค่นี้ละกัน หวัดดีจ้ะลูก” “ค่ะสวัสดีค่ะ คุณแม่” เชวางโทรศัพท์ลงด้วยความรู้สึกเหงาหงอย น้าตาจะไหลให้ได้ แต่หล่อนก็พยายามที่จะเข้มแข็งเพื่อให้มารดาสบายใจ วางหูจากมารดาแล้ว เชก็ปล่อยให้น้าตาไหลออกมาระบายความ จุกแน่นในอก พอได้ระบายออกมาบ้างก็รู้สึกดีขึ้น พร้อมกับบอกตัวเองว่า ต้องเข้มแข็ง จริ งๆ แล้ วหล่ อนก็ต้องมาเรียนต่อที่นี่อยู่ดี ในสั กวันหนึ่ง ข้างหน้า เพียงแต่ว่ามาก่อนเวลาแค่นั้นเอง เชพยายามที่จะหาเหตุผลมาปลอบใจตัวเอง แต่แล้วก็ต้องรีบเช็ด น้าตา ทาหน้าตาให้เป็นปกติเมื่อได้ยินเสียงเรียกมาจากทางห้องครัว “มาทานอาหารกันเถอะครับ ” จีรพงษ์เรียกเสียงดัง เนื่องจาก เห็นว่าคนที่เพิ่งวางโทรศัพท์ล งบนแป้น ทาท่าทางเซื่องซึม เหมือนกับว่า กาลังร้องไห้ และก็ทันได้เห็นหล่อนยกมือขึ้นเช็ดน้าตาก่อนที่หันกลับมา ทางเขา “ขอโทษนะคะ ที่ เชใช้โ ทรศัพท์โ ดยไม่ได้ข ออนุญาตก่อน แต่ ว่าเชใช้การ์ดที่จ่ายเงินแล้วโทรค่ะ” รีบออกตัวทันที เพราะเกรงว่าเขาจะ ไม่พอใจ “อย่าคิดมากเลยครั บ เชใช้ได้ตามสบาย คิดว่านี่เป็นบ้านของ ตัวเองก็แล้วกัน เชคงคิดถึงบ้าน ตอนพี่มาแรกๆ ก็เป็นแบบนี้ครับ” “ค่ะ เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เชห่างจากคุณแม่” เสียงตอนท้าย ออกจะเครือๆ “แต่เชก็เก่งมาก ผมคิดว่ายัย จั นคงทาอย่างนี้ไม่ได้ห รอกครับ มาเถอะครับ จะเย็นเสียหมด” จีรพงษ์ตักข้าวต้มใส่ถ้วยให้ตัวเองและถ้วย ๒๗
รักฤๅลวง ตรงข้ามด้วย “เติมเองนะคะ น้าปลาหรือเกลือก็ได้ เพราะว่าเชไม่รู้ว่าพี่จีทาน รสไหน แต่เชจะทานจืดมากๆ เลยค่ะ” “ครับ” จีรพงษ์ตักข้าวต้มเข้าปากและก็รู้รสชาติที่อีกคนว่าจืด มากๆ เป็นอย่างไร ข้าวต้มของหล่อนจืดสนิทจริงๆ อย่างที่บอกเอาไว้ “เป็นอย่างไรบ้างคะ” “อร่อยมากเลยครับเช ทานกับปลาทอดและเครื่องเคียงพวกนี้ รสชาติดีทีเดียว” คาตอบของเขาเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าสวยนั้นได้ทันที เขาจะติ ห ล่ อ นได้ อ ย่ า งไรกั น อุ ต ส่ า ห์ ตื่ น ขึ้ น มาท าตั้ ง แต่ เ ช้ า จีรพงษ์ก้มหน้าก้มตาจัดการกับข้าวต้มต่อจนหมดถ้วย ดีนะที่มีปลาทอด สารพัดชนิดของมารดาและยาผักกาดดองกระป๋อง ไม่อย่างนั้นข้าวต้มกุ้ง กับไข่ต้มคงกลืนลงคอฝืดกว่านี้เป็นแน่ เฮ้อ เขาคิดผิดหรือเปล่านะ ที่ได้หล่อนมาทาอาหารให้ทาน ไม่รู้ ว่าในชีวิตนี้หล่อนเคยเข้าครัวบ้างหรือเปล่า ถึงได้ทาอาหารออกมารสชาติ อย่างนี้ได้ “เชไปหัดทาอาหารมาจากไหนครับเนี่ย ” จีรพงษ์ เงยหน้าจาก ถ้วยข้าวต้มขึ้นมาถาม “เออ เชยังไม่เคยหัดหรอกค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ทาเลยนะคะเนี่ย แต่ก็ดีใจที่พี่จีบอกว่าอร่อยค่ะ จริงๆ แล้วเชเคยแต่ต้มมาม่า ” คาพูดของ หล่อนทาเอาจีรพงษ์ได้แต่ยิ้ม “เด็กเอ๋ย เด็กน้ อย” คิดในใจ “ตกลงวันนี้จะออกไปไหนหรือ เปล่าครับ” “ยังไม่ทราบเลยค่ะ อาจจะออกไปดูของ ช็อปปิ้ง หรือไม่ก็นอน อยู่กับบ้านก็ได้ค่ะ ทาไมเหรอคะ” “เปล่ าหรอกครั บ พอดีวั น นี้ พี่ มีเ รี ย นครับ และก็ มีง านกลุ่ ม ที่ จะต้องทา คงจะกลับบ้านตอนเย็นๆ แต่ว่าไม่ต้องห่วงเรื่องกับข้าวนะครับ ไม่ต้องทา พี่จะแวะสั่งมาจากร้านไทย อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษหรือ เปล่าครับ” “เชอยากทานเป็ ด กรอบผั ด กะเพราค่ ะ ” หล่ อ นบอกเขาด้ว ย ๒๘
ญดา น้าเสียงยินดี ถ้าหล่อนต้องทาอาหารเย็นอีกละก็ ตายแน่เลย เชรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกตั้งแต่ที่เขาบอกว่าไม่ต้องทาอาหาร เย็น เพราะหล่อนก็ไม่กล้ารับอาสา แค่ทาข้าวต้มหล่อนก็เหนื่อยจะแย่อยู่ แล้ว ถ้าทาอาหารจริงๆ คงเหนื่อยกว่านี้หลายเท่าแน่ๆ ภาสกรเก็บ เสื้อ ผ้า ใส่ใ นกระเป๋า ใบเล็ ก โยนใส่ไ ว้ใ นหลั งรถ SUV คัน เก่งของเขา ขับมุ่งหน้ าไปตามถนนสาย I 95 จากริช มอนด์4 เมืองหลวงของรัฐเวอร์จิเนีย อากาศข้างนอกหนาวจับใจ สองข้างทางเต็ม ไปด้วยน้าแข็ง เทอร์โมมิเตอร์ในรถบอกความเย็นที่ 19 องศาฟาเรนไฮต์ ข้างนอกจะหนาวแค่ไหนแต่ในรถก็ยังอุ่นด้วยฮีทเตอร์ เขาต้องขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเผลอ ได้มีโอกาสลงไปนั่งเล่นอยู่ข้างทางเป็นแน่ อากาศอย่างนี้ทาให้นึกถึงมารดาที่โทรมาบอกว่าท่านดูทีวี และรู้ว่า ที่นี่อากาศจะหนาวมากก็เลยโทรมาหาเขาด้วยความเป็นห่วง ตามประสา คุณแม่ที่มีลูกชายคนเดียว แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือเตือนเขาเรื่องผู้หญิง น่าแปลกนักว่ามารดาของเขารู้ เรื่องผู้หญิงได้อย่างไรกัน หรือ ท่านอาจจะเดาเอาก็เป็นได้ แล้วยังเปรยๆ ด้วยว่าจะมาหา จะพาใครบางคน มาให้รู้จัก ภาสกรต้องถอนหายใจออกมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ววันนี้ รู้สึกเหนื่อย แทนมารดาเหลือเกิน รู้ก็รู้ว่าเขาไม่เคยตอบรับ ไม่เคยเห็นด้วย แต่ท่านก็ ยังไม่ละความพยายาม ขั บ รถมานาน รู้ สึ ก หิ ว เขาก็ เ ลยแวะหาแซนด์ วิ ช ข้ า งทาง รับประทานแก้หิว นึกอยากโทรไปหาเพื่อนรัก แต่พอคิดอีกทีอย่าเลย ไป ให้ตกใจเล่นๆ ดีกว่า อีกแค่ไม่นานก็จะเจอกันแล้ว มองออกไปข้างนอกหิมะที่เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ สายสีขาวของ 3
3 Sport Utility Vehicle 4
Richmond
๒๙
รักฤๅลวง ปุย หิ ม ะที่ ต กลงมามองดู แล้ ว สวยงามมาก เขาชอบมองความสะอาด สวยงามของมั น เวลาที่ มั น ก าลั ง ตก แต่ ไ ม่ ใ ช่ ต อนที่ มี ร ถมาขู ด แล้ ว เพราะว่ามันจะสกปรกมากเป็นสีดา พอหิมะตกเขาก็ต้องขับรถช้าลง อากาศที่มืดมัวบวกกับถนนที่ ลื่น ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะโรยเกลือหรือทรายบนถนนแล้วก็ตาม เพื่อความ ปลอดภัย ยิ่งข้างนอกหิมะตกหนักมากเท่าไหร่ ความหนาวเย็นก็ลดลงไป ด้วย เขาต้องปรับระดับความอุ่นในรถให้เพิ่มขึ้นอีกนิด และก็ทาให้คิดถึง ตอนอยู่เมืองไทยที่ต้องปรับระดับความเย็นให้เย็นมากที่สุด ไม่งั้นเหงื่อก็ จะชุ่มตัวทีเดียว ภาสกรเพ่งสายตาไปที่ถนนอย่างจดจ่อ ตอนนี้แทบจะมองไม่เห็น ทางเลยก็ว่าได้ เพียงแค่ไม่นานหิมะก็ปกคลุมจนไม่เห็นถนนแล้ว จากที่เคย ใช้เวลาขับรถไม่เกิน 2 ชั่วโมงตอนนี้ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว มาถึงอพาร์ตเมนต์ของเพื่อนรัก ภาสกรก็ต้องถอนหายใจออกมา อย่างโล่งอก ออกจากรถโดยไม่ลืมที่จะดึงที่ปัดน้าฝนขึ้นค้างไว้ เปิดประตู หลังรถเอื้อมมือไปหยิบเค้กกับเบียร์ที่วางอยู่บนพื้นรถออกมา คิดว่าสอง สิ่งนี้คงทาให้เจ้าของวันเกิดเซอร์ไพรส์เป็นแน่ ก๊อกๆๆๆๆ เคาะประตูก็แล้ว กดกริ่งหน้าประตูก็แล้ว แต่ไม่มี สัญญาณตอบรับกลับมา เขาก็เลยไขกุญแจเข้าไปในห้องเอง มองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นว่ามีใครอยู่ เห็นแต่ห้องที่สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบน่าดูกว่า แต่ก่อน ฝีมือแม่บ้านของบริษัท หรือว่าเป็นเพราะว่าเพื่อนของน้องสาว นายจี ห้องถึงได้ดูเป็นระเบียบอย่างนี้ ภาสกรเดินเข้าไปในครัว เอาไอศกรีมเค้กใส่ในช่องแข็ง แต่ไม่มี ช่องว่างให้เขาได้แช่เบียร์ เพราะในตู้เย็นเต็มไปด้วยของสดจาพวกผักและ ผลไม้สารพัดชนิด เขาก็เลยเปิดประตูระเบียงเอาเบียร์ทั้งสองแพ็ กไปแช่ ไว้ในหิมะ
sss ๓๐
๔
เชเปิดประตู เข้าไปในห้อง ก็ต้องตกใจ เมื่อเห็น ใครคนหนึ่ง เปิดประตูระเบียงเข้ามาในห้อง ยิ่งเห็นหน้ายิ่งตกใจ “คุณ คุณเข้ามาในห้องนี้ได้อย่างไร ฮ้า ตอบมาเดี๋ยวนี้นะ” เชจา เขาได้ แต่ ไ ม่ คิ ด ว่ า เขาจะจ าหล่ อ นได้ ในชุ ด เต็ ม ยศอย่ า งนี้ หล่ อ น จาเป็นต้องขู่เขาไว้ก่อน ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรเจอผู้ชายคนนี้ทีไรหล่อนต้อง เปลี่ยนเป็นผู้หญิงกระด้างทุกที ไม่ใช่วิสัยของหล่อนสักนิดหนึ่ง “ก็ทาไมจะเข้ามาไม่ได้ ผมก็ไขกุญแจเข้ามาทางประตูเหมือนคุณ นั่ น แหละ” เขาเดิ น เข้ามาใกล้ ห ล่ อ นเรื่ อยๆ ทาให้ เ ชต้อ งเดินเลี่ ย งไป ถอดบู๊ท ถอดโคต รวมทั้งหมวก ถุงมือ และแว่นตาออก พอหล่อนถอดชุด กันหนาวออกแล้ว หันมาทางเขาก็พบว่าอีกฝ่ายยืนตาค้าง ตกตะลึง เชไม่แน่ใจว่าได้เห็นแววตายินดีในชั่ว ขณะที่สบตากับเขาหรือ เปล่า คงไม่หรอก หล่อนคงตาฝาดไปเองมากกว่า เขาจะมายินดีอะไรใน เมื่อเขาเกลียดหล่อนออกจะตายไป ก็ดูหน้าตาเขาออกจะบึ้งตึง “แล้วคุณล่ะ เข้ามาอยู่ในห้องเพื่อนผมได้อย่างไรกัน หวังว่าคง ไม่ได้ติดใจนายจี ตั้งแต่วันแรกที่เห็นหรอกนะ” ไม่เพียงแต่คาพูดของเขา เท่านั้นที่ดูถูกหล่อนแต่หน้าตาเขาก็กวนประสาทของหล่อนได้มากพอๆ กันเลยทีเดียว “ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหรอก” “ทาไมจะไม่เกี่ยว นายจีเป็นเพื่อนของผม จริงๆ แล้วผมก็แค่ไม่ อยากให้เพื่อนตกเป็นเหยื่อของคุณก็แค่นั้นเอง” “ฮึ ฉันจะหลอกใคร คุณคงไม่มีปัญญามาห้ามหรอก จะบอกให้”
รักฤๅลวง เชทาหน้าตากวนประสาทกลับไป ดีใจนักที่ได้เห็นเขาทาท่าโกรธขึ้นมา หล่อนก็เลยยิ้มหวานให้เป็นการตอบแทน “คุณกลับไปได้แล้ว พี่จีไม่อยู่ บ้าน ถ้าจะมาหาพี่จีก็ต้องเป็นตอนเย็นๆ เพราะว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ยู คุณ กลั บ ไปก่ อนก็ ได้ แล้ ว ค่อ ยมาใหม่ ตอนเย็ น ” เชพยายามบอกเขาด้ว ย น้าเสียงที่บังคับให้ดูราบเรียบมากๆ หล่อนไม่ชอบทะเลาะ โดยเฉพาะกับ คนขี้โมโหอย่างเขา แต่คาพูดของหล่อนกลับทาให้เขาโกรธขึ้นมาอีก “โอ้ โ ห มารยาทดี จั ง เลยนะคุ ณ ผมเป็ น เพื่ อ นนายจี จะเข้ า จะออกห้ องนี้เมื่อไหร่ ก็ได้ เพราะว่าผมมีกุญแจ ว่าแต่คุณเถอะ ไปหา เหยื่อที่อื่นไม่ได้แล้วหรือไง ถึงได้มาเกาะนายจีอยู่ที่นี่” เขายังพูดไม่ทันจบ ประโยคเลย ก็ รู้ สึ ก เหมื อ นกั บ ว่ า มี อ ะไรบางอย่ า งแล่ น เข้ า มากระทบ ปลายคางอย่างจังทีเดียว จนมีความรู้สึกว่ามันชาไปชั่วขณะ กว่าเขาจะรู้ตัว ว่าถูกชก ร่างบางก็วิ่งไปทางห้องนอน นั่นทาให้เขาวิ่งตามอย่างรวดเร็ว และก็ทันคว้าหล่อนไว้ได้ก่อนประตูจะปิด เขาดึงแขนของหล่อนไว้ทาให้ ประตูไม่สามารถปิดได้ และเขาก็ใช้แรงไม่มากนักผลักประตูให้เปิด พร้อม กับแทรกตัวตามเข้าไปในห้องได้ ใช้เท้าเขี่ยประตูให้ปิดอย่างรวดเร็ว มือที่ จับแขนของหล่อนไว้ออกแรงอีกนิด ดึงร่างบางเข้าหาอกกว้างของตัวเอง อย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทาให้เชรู้สึกตกใจมาก “นี่ปล่อยนะ คุณจะทาอะไร” เสียงของหล่อนอู้อี้อยู่กับอกของ เขา ในขณะที่คนกอดเผลอสูดความหอมจากเรือนผมของหล่อน เพิ่งจะ รู้สึกตัว พร้อมกับปรับสีหน้าและน้าเสียงของตัวเองก่อนที่จะตอบหล่อน “ไม่ทาอะไรหรอก ผมไม่ชอบซ้ารอยใคร ถึงแม้ว่าจะเป็นนายจีก็ เถอะ” แล้วเขาก็ปล่อยหล่อนให้เป็นอิสระ เชมองเขาด้วยดวงตาวาววับ โมโหสุดๆ เดินออกห่างราวกับว่าตัวเขาสกปรก น่าขยะแขยงยิ่งนัก “ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ ถ้าพี่จี มาเจอเข้าจะคิดอย่างไร และถ้าเป็นไปได้ ก็กรุณากลับบ้านของคุณไปเลย ฉันไม่ชอบเห็นหน้าคุณ คนดูถูกคน” ภาสกรบอกกับตัวเองว่าเขาชอบมองดูใบหน้าเนียนที่ตอนนี้ กาลังแดงด้วยความโกรธจัด หล่อนดูน่ารักนัก ขนาดตอนโกรธยังน่ าดู ขนาดนี้แล้วถ้าเป็นตอนออดอ้อนหล่อนจะน่ารักขนาดไหนกันนะ พอเห็น หน้าตาบึ้งๆ ของหล่อนแล้วก็ทาให้อดจะยั่วออกมาไม่ได้ ๓๒
ญดา “ผมไม่กลับจะทาไม และผมก็ไม่คิดว่านายจีจะโกรธผมหรอก ถ้าเราจะแชร์ผู้หญิงคนเดียวกัน” คาพูดของเขาทาให้คนฟังโกรธจี๊ดขึ้นมา ทันที เขาเห็นแววตาของหล่อนวาวโรจน์ทันใด มือทั้งสองข้างกาแน่น ตัว สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่ “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ก่อนที่ฉันจะชกคุณ” นิ้วเรียวชี้หน้าเขาด้วย ใบหน้าแดงก่า นั่นกลับทาให้อีกคนอยากจะแกล้งมากขึ้น “ก็ลองชกมาสิ อยากรู้เหมือนกันว่ากาปั้นของคุณจะหวานแค่ ไหน” เขาพู ด พร้ อ มกั บ เดิ น เข้ า ไปหาคนที่ ยื น ตั ว สั่ น อยู่ ต รงหน้ า ช้ า ๆ เรื่อยๆ ทาเอาหล่อนต้องก้าวถอยหลัง และสุดท้ายก็สะดุดนั่ง แปะลงบน เตียง พอสัมผัสกับเตียงหล่อนก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับเดินเลี่ยง ออกไปทางประตู เร็วเท่าความคิดหล่อนเอื้อมมือไปจับลูกบิด แต่ก็โดน มือแข็งแรงดึงบ่าทั้งสองข้างให้ห งายหลั งมาปะทะกับอกกว้างของเขา อย่างแรง จนหัวของหล่อนชนกับปลายคางของเขาอย่างจัง หล่อนต้องยก มือขึ้นคลาหัวตัวเองป้อยๆ ในขณะที่คนถูกชนเพียงแค่นิ่วหน้าเล็กน้อย “โอ๊ย คุณบ้าไปแล้วหรือไง” ร่างบางหมุนตัวหันหน้ามาตะคอก เขาเสียงดัง พอเห็นหน้ าตาเขานิ่งๆ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ หล่อนก็รู้สึก กลัวมาก ผู้ชายคนนี้คงจะเกลียดหล่อน เขาคงทาร้ายหล่อนได้แน่ ไม่น่า ไปชกเขาเลย แต่เขาก็ดูถูกหล่อนนี่นา “ผมบอกให้รู้ ไว้ก่อนนะว่านายจีเขาไม่จริงจังกับคุณหรอก ถ้า คุณแม่รู้เข้า ท่านจะเดินทางมาที่นี่ และก็เฉดหัวคุณออกไปจากห้องของ นายจีทันที” เขากระซิบข้างหูของหล่อนเสียงเบาอย่างน่ากลัว โอ๊ย ขนลุก แค่นี้เชก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว แค่แขนที่รัดร่าง แล้วยัง อยู่ในห้องนอนด้วยกันสองต่อสองอย่างนี้ หล่อนก็แทบแย่แล้ว แถมยัง เสียงเย็นๆ โหดร้ายนั่นอีก เชบอกตัวเองว่าหล่อนต้องเข้มแข็ง ไม่หวั่นไหว “หุบปากเสียๆ ของคุณได้แล้ว” “ทาไม ผมพูดถูกใจคุณล่ะสิ เฮอะ อย่าทาตัวเป็นผู้หญิงแผนสูง หน่อยเลย” และแล้วเขาก็ต้องหลบอย่างรวดเร็วเมื่อหล่อนส่งกาปั้นขึ้น เสยปลายคางของเขาอีกครั้งอย่างไม่ทันระวังตัว ๓๓
รักฤๅลวง ขนาดว่าหลบทัน ยั งโดนเข้าไปทาเอามึนได้เหมือนกัน แต่เขา ไม่ยอมให้หล่อนได้ชกฟรีๆ ภาสกรดันร่างของหล่อนให้หลังชนกับประตู ห้อง กดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากอ่อนนุ่มของหล่อน บดขยี้อย่างรุนแรง ตามอารมณ์โมโห เชใช้เท้าทั้งสองข้างของหล่อนทาร้ายเขาไปด้วย นั่นทาให้ ภาสกรรู้สึกตัว เขาผละออกจากหล่อนทันที เชได้โอกาสก็เลยวิ่งออกไป จากห้อง ภาสกรงงกับการกระทาของตัวเองยิ่งนัก เขาทาอย่างนั้นลงไปได้อย่างไรกัน เขาโมโหหล่อนอย่างนั้นเหรอ โมโหที่ถูกชกหรือว่าอะไรกันแน่ หรือว่าโมโหที่หล่อนเป็นของเพื่อนเขา ทาไมล่ะ เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เขาก็รู้สึกไม่พอใจที่ หล่อนว่าเขาแรงๆ มาพบกันอีกทีหล่อนอยู่ในห้องเพื่อนของเขา แค่รู้จัก กันวันนั้น หล่อนก็ตามเพื่อนเขามาเลยอย่างนั้นหรือ ภาสกรส่ายหัวรู้สึก ผิดหวังในตัวของหล่อนนัก แต่ว่า เอ๊ะ! หรือว่า เฮ้ย! หรือว่า หล่อนเป็นเพื่อนน้องสาวของ นายจีหรือเปล่านะ ยิ่งคิดถึงตอนที่หล่อนเรียกนายจีว่า “พี่จี” ฟังดูก็ออก จะสนิทสนมพอสมควร พอคิดได้แค่นั้นเขาก็วิ่งออกไปนอกห้อง เข้าไปหาในห้องน้า ข้าง นอกระเบียง ก็ไม่พบแม้แต่เงาของหล่อน ตายแน่ๆ เพื่อนรั กต้องเอาเขาตายแน่ แล้ วทาไมเขาไม่ฉุกคิด ก่อนหน้านี้นะ ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นในใจ ถ้าหล่อนเป็นเพื่อนของน้องสาวเพื่อน รักจริงๆ ก็คงเพิ่งจะมาถึง เขาไม่ควรทาเลย ไม่ควรจริงๆ มัน เกิ ด ขึ้ น ไปแล้ ว ไม่ รู้ ว่ า ท าไมเขาถึ ง ไม่ ห้ า มตัว เอง ท าไมถึ ง ปล่อยให้ความโกรธเข้ามาครอบงาตัวเอง แค่คิดว่าหล่อนมายุ่งกับเพื่อน เขา ก็ทาให้เขาโกรธจนลืมนึกถึงความผิดถูก ข่มเหงหล่อนได้ นึกอยากจะขอโทษ ไถ่โทษ แต่คงสายไปแล้ว หล่อนไปแล้ว ไปไหน ท่ามกลางหิมะที่ตกหนักอย่างนี้ หันกลับไปดูกระเป๋าถือที่หล่อนวางไว้ ตอนที่เข้ามาในห้องตอนแรก ๓๔
ญดา ก็ไม่เห็ น ไปเปิ ดตู้ดูเสื้ อโคตและทุกอย่ างก็ยังอยู่ครบแม้ แต่รองเท้าบู ต แล้ ว หล่ อนออกไปอย่ า งไรกัน ข้ างนอกหิ มะตกหนั กจะตาย หล่ อ นได้ หนาวตายอยู่ข้างนอกนั่นแน่ๆ ภาสกรรีบคว้าเสื้อโคตมาสวมวิ่งออกจากห้องไปทันที วิ่งตรงไปที่ ลิฟต์ แต่เขาคิดว่าคงยืนรอไม่ไหวก็เลยต้องวิ่งลงบันได พอลงมาถึงล็อบบี ถามพนักงานที่นั่น ก็รู้ว่าหล่อนออกไปจากอาคารแล้ว เขารู้สึกหัวเสีย จะไปไหนก็ ช่ า งหล่ อ นสิ แล้ ว เขาจะไปห่ ว งหล่ อ นท าไมกั น ปากร้ายและก็มือหนักออกอย่างนั้น แต่พอคิดถึงรอยจูบที่ผ่านมา เขาก็ยกมือขึ้นลูบริมฝีปากของตัวเอง เบาๆ ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มนั้นให้ความรู้สึกอะไรมากมาย แปลกๆ ดูหล่อน จะตกใจมากทีเดียว มันเกิดขึ้นโดยที่เขาก็ไม่คาดคิดมาก่อน ทาไมเขาถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาไม่เคยทาอย่างนี้กับผู้หญิง คนไหนมาก่อนเลยก็ว่าได้ ต้องโทษว่าเป็นเพราะหล่อนนั่นแหละ ที่ทาให้ เขาโมโห ว่าแต่ว่าตอนนี้หล่อนไปไหนนะ ภาสกรกลับขึ้นไปบนห้อง เข้าไปในห้องนอนของหล่อน นั่งลง บนเตียงอย่างคิดไม่ตกว่าเขาควรจะทาอย่างไรต่อไปดี มองไปรอบๆ ห้อง สะดุดเข้ากับ รูป ที่ตั้งอยู่ข้างหัว เตียง เขาหยิบมันขึ้นมาพิจารณาดูชัดๆ แล้วหล่อนสวยมากเลยทีเดียว ปาก ตา จมูก รูปหน้าเรียวนั้น เขายกมือ ขึ้นมาสัมผัสกับใบหน้าของหล่อนในรูป หล่อนจะตกใจแค่ไหนนะที่ถูกเขาจูบ นายจีรู้เข้ามีหวังเขาโดน สวดยับแน่ๆ เอื้อมมือไปดึงลิ้นชักให้เปิดออก มีพาสปอร์ตปกสีน้าเงิน เขาถือ วิส าสะเปิ ดออกดูทันที … สยามวดี เช ม็ อค…นี่ห ล่อนเป็นอเมริกันนี่นา อายุ 19 ปีเองหรือเนี่ย ถึงว่าสิหน้าตาถึงได้ดูเด็กมากๆ มีคาถามมากมาย เกิดขึ้นในหัวสมองของเขาตอนนี้ เขาหยิบอัล บั้มรูป ของหล่อนขึ้นมาเปิดดู รูปถ่ายสวยๆ ทั้งนั้น บางรูปน่ารัก ดูแก่นแก้ว บางรูปดูเป็นสาวเต็มตัว มีรูปเดินแบบด้วย ดูขา ที่ยาวเรียวนั่นสิ ๓๕
รักฤๅลวง หล่อนเดินแบบด้วยหรือเนี่ย มีรูปคู่ด้วย ผู้ชายคนนี้หน้าตาคุ้นๆ แต่คิดไม่ออกว่าเป็นใคร แล้วหล่อนล่ะเป็นใครกันแน่ เปิดไปเรื่อยๆ มีรูป สามสาว มองให้ชัดๆ นี่น้องสาวนายจีแน่ เพราะว่าหน้าตาเหมือนเพื่อน ของเขาอย่างกับ แกะเลยทีเดียว อีกคนคงจะเป็นเพื่อน มีรูปหล่ อนกับ ผู้หญิงคนหนึ่ง น่าจะเป็นมารดาเพราะว่าเค้าโครงหน้าคล้ายกันและรูป สุ ด ท้ า ยเป็ น รู ป ครอบครั ว พ่ อ แม่ ลู ก อ้ อ ลู ก ครึ่ ง นี่ เ อง แต่ ห ล่ อ น เหมือนกับบิดามากกว่ามารดาเลยดูออกจะเป็นฝรั่งมากกว่าคนไทย หล่อนเป็นใครกันแน่ มือหนาพลิกกลับไปดูรูปคู่ของหล่อนกับผู้ชายคนนั้น แฟนของหล่อนอย่างนั้ นหรือ ไม่มีคาตอบให้กับคาถามของตัวเอง ภาสกรปิดอัลบั้มและวาง กลับไปไว้ที่เดิมพร้อมกับพาสปอร์ตของหล่อน เดินออกมาจากห้องนอน กดโทรศัพท์ในห้องไปหาเพื่อนรัก “ว่าไงครับเช” ปลายสายรับด้วยน้าเสียงร่าเริง “ฉันเอง อะไรกันหายใจเข้าออกเป็นคนอื่นที่ฉันไม่รู้จักไปแล้ว หรือไง” ภาสกรแกล้งกรอกเสียงออกจะน้อยใจส่งไป “เฮ้ย ภาส นายไปอยู่ที่ห้องฉันได้อย่างไรกันวะ” เสียงของเพื่อนรัก บ่งบอกว่าตกใจมากๆ “ก็มาเยี่ยมนายไง แล้วคุณเชนี่เป็นใครกันหรือ ” ภาสกรแกล้ง ถามออกไป อยากจะรู้นักว่าเพื่อนของเขาจะตอบว่าอย่างไร “ก็เพื่อนของยัยจันไง” “อ๋อ เหรอ แล้วทาไมคิดว่าฉันเป็นคุณเชอะไรนั่น” “ว่าแต่น้องเขาไปไหน” “ไม่รู้สิ ที่ห้องไม่เห็นมีใครอยู่นะ” “คงออกไปช็อปปิ้งข้างนอกมั้ง แล้วนายมานานหรือยัง มาทา อะไร ไหนบอกว่าจะมาหลังสิ้นเดือนไงล่ะ แล้วเมื่อไหร่จะกลับ” “ปลื้มใจจริงๆ มายังไม่ทันได้เจอหน้านายเลย อะไร ไล่กลับซะแล้ว ก็คิดถึงน่ะสิถึงได้มาหา ไม่ได้หรือไงวะ และก็ยังไม่กลับด้วย ขับรถมาตั้ง หลายชั่วโมง ยิ่งหิมะลงหนักๆ อย่างนี้ด้วย อยู่กับนายนี่แหละ ว่าแต่ยังมี ๓๖
ญดา คลาสอีกหรือวะ หิมะตกไม่ลืมหูลืมตา กลับบ้านกลับช่องได้แล้ว รีบกลับ มานะมีเซอร์ไพรส์ รอนายอยู่” แล้ วเขาก็วางหูทันที เพราะรู้ว่าไม่นาน เพื่อนชายก็จะกลับมา ทางด้านเช พอออกมาจากอพาร์ตเมนต์ก็รู้สึกถึงความหนาว เย็น ก็หล่อนอยู่ในชุดเสื้อตัวเดียวแขนยาวกับกางเกงยีนขายาว ไม่มีเสื้อ โคต ไม่มีรองเท้า บูต แล้วก็นึกโมโหคนที่เป็นต้นเหตุที่ทาให้ห ล่อนเป็น อย่างนี้ และหิมะก็ตกจนมองแทบไม่เห็นอะไรเลย และถนนก็ลื่นๆ ด้วย พอรู้ว่าตัวเองโมโหและขับรถด้วยความเร็ว ด้วยความที่ตกใจ เช เหยียบเบรกทันที ทาให้รถไถลลงไปที่ไหล่ทางร่องเล็กๆ ข้างถนน พอรถ หยุดไถล เชรีบออกมาจากรถ ดีว่าไม่ไปชนกับรถคันอื่น ไม่อย่างนั้นได้ เป็นความอีกแน่ มองดูรถที่ขับผ่านมา ทุกคนขับรถแทบจะเป็นคลานเลย ก็ว่าได้ เชโบกมือขอความช่วยเหลือจากรถที่ผ่านมา และไม่นานนักก็มี ผู้ชายสูงอายุท่าทางใจดีคนหนึ่งจอดรถลงมาหา และสุดท้ายเขาก็ช่วยขับ รถขึ้นมาบนไหล่ถนนให้ โชคดีเป็นอย่างมากที่ไหล่ทางไม่ลึกนักเป็นแค่ ลาดเนินเล็กๆ เชขอบคุณเขาหลายต่อหลายครั้งในความช่วยเหลือครั้งนี้ หลังจากนั้นเชก็รู้ว่าควรที่จะขับรถให้ช้าที่สุด ระมัดระวังที่สุด ไม่ เหยียบเบรกทันทีทันใด หล่อนแวะเช็กอินที่โรงแรมเดิมที่เคยพัก คิดว่า หิมะตกอย่างนี้ ผู้ช ายคนนั้น คงจะค้างที่ห้องของเพื่อนเขา หล่ อนยังไม่ อยากเจอ ไม่อยากสร้างปัญหาให้กับพี่ชายของเพื่อน เขาคงจะไม่สบายใจ เป็นแน่ที่มีคนทะเลาะกันอยู่ในห้องของเขาและอี กอย่างเขาก็เป็นเพื่อน กัน แต่หล่อนเป็นคนอื่น เฮ้อ แล้วนี่หล่อนจะมาคิดมากทาไมกัน เชวิ่งกลับไปที่รถ ไปค้นหาของที่เคยซื้อๆ ไว้ และก็โชคดีที่มียาสี ฟั น กั บ แปรงสี ฟั น แค่ นี้ ก็ พ อแล้ ว จั ด การล็ อ กรถด้ ว ยมื อ ไม้ ที่ สั่ น เทา เนื่ องจากความเย็ น มองมือตัว เองก็เห็น ว่าแดงและแข็ง จนกามือแทบ ไม่ได้ วิ่งกลับเข้าไปในโรงแรมแต่คิดได้ว่าลืมดึงที่ปัดน้าฝนขึ้นค้างไว้ ทาให้ ต้องตัดสินใจวิ่งกลับไปที่รถอีกครั้ง หล่อนจาได้เมื่อตอนเด็กๆ มักจะเห็น ๓๗
รักฤๅลวง บิดาทาอย่ า งนี้ ทุกครั้ ง เพราะว่า มัน จะได้ไ ม่แช่ แข็ งในตอนกลางคืน ที่ อุณหภูมิลดต่าลง ขึ้นไปบนห้องพัก สิ่งแรกที่ทาคือ เปิดม่านให้กว้างที่สุด และปรับ อุณหภูมิในห้อง ลากเก้าอี้ไปนั่งที่หน้าต่าง ดึงผ้านวมที่คลุมเตียงมาพัน ตัวอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงฟันในปากของตัวเองกระทบกันกึกๆ หล่อน ต้องไม่สบายแน่ๆ ทาอย่างไรดี ยาก็ไม่มี คงไม่เป็นไรหรอกนะ ทาร่างกาย ให้อบอุ่นเข้าไว้ก็แล้วกัน ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ดื่มด่ากับ ธรรมชาติให้มากที่สุด ซึมซับเอาความสวยงามท่ามกลางความว่างเปล่า พยายามที่จะมีความสุขกับทุกๆ นาที ลืมความโกรธ ความอดสูที่มีอยู่ให้ หมดไป แต่บางสิ่งบางอย่างก็เข้ามารุมเร้าจิตใจของหล่อนจนได้ เชยกมือขึ้น แตะที่ริมฝีปากของตัวเอง เช็ดมันแรงๆ เหมือนกับว่ามันจะลบความรู้สึก ที่เกิดขึ้นออกไปให้หมด หรือไม่ก็หวังว่ามันคงถูกลบไปตั้งแต่ตอนที่หล่อน ออกจากรถไปตากหิมะ ขอความช่วยเหลืออยู่ข้างถนนแล้วกระมัง ทุกครั้งที่คิดก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ เขาเป็นใคร ทาไมถึงได้ดูถูกกัน ด้วยการกระทาอย่างนั้น น้าตาแห่งความอัดอั้นตันใจไหลลงสองข้างแก้ม เชไม่คิดที่จะหยุดมันไว้ พลางบอกกับตัวเองว่า ร้องออกมาให้หมดแล้วก็จะไม่ต้องร้องอีกต่อไป เขาเป็นใคร ทาไมต้องมาเกรี้ยวกราดเอากับหล่อนด้วย หยาบคาย ที่สุด มีอานาจอะไร มาทาอย่างนั้นกับหล่อน บ้าที่สุด มันดุดัน วาบหวามและแปลกใหม่ เขาเป็นคนแรกที่บังอาจมาจูบ หล่อน แม้แต่การแสดงละคร ก็ไม่ใช่การจูบจริง ผู้ชายคนนี้ตั้งหน้าตั้งตา เชือดเฉือนหล่อนเสียจริงๆ ดูถูกกันก็เท่านั้น นี่ถ้าเขารู้ว่าหล่อนเป็นดารานางแบบ เขาจะดูถูกหล่อนสักแค่ไหนหนอ เชยกฝ่ ามือขึ้น ปาดน้ าตาที่ข้างแก้ม และก็คิดได้ว่าหล่ อนต้อง โทรศัพท์ไปบอกพี่ชายของเพื่อนรักก่อนที่เขาจะเป็นห่วง มัวแต่คิดเรื่องไม่ เป็นเรื่องเลยทาให้หล่อนลืมไปเลย
sss ๓๘
๕
“พี่จีคะ นี่เชเองค่ะ” เชพยายามที่จะทาเสียงของตัวเองให้ดู ร่าเริงที่สุด “ครั บ ว่ า ไง แล้ ว อยู่ ที่ ไ หนครั บ เนี่ ย ท าไมเสี ย งเป็ น อย่ า งนั้ น มีอะไรหรือเปล่า ” เสี ย งถามมาอย่ างร้อนรนแฝงไว้ด้วยความเป็นห่ ว ง ทาเอาน้าตาที่กาลังจะเหือดแห้ง เอ่อซึมขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่หล่อนก็รีบ สะกดเอาไว้ “เชอยู่โรงแรมค่ะ” “อ้าวทาไมล่ะครับ” เสียงถามกลับมาในทานองตกใจ “อ๋อ เชขับรถออกมาเกือบถึงภูเขาเลยค่ะ แล้วตอนนี้หิมะมันตก หนั กมาก คงจะไม่ปลอดภัย นักถ้าเชพยายามที่จะขับรถกลับในตอนนี้ ก็เลยคิดว่าจะค้างแถวๆ นี้ค่ะ อยากจะนอนมองหิมะบนภูเขาด้วย พี่จี ไม่ต้องห่วงเชนะคะ เอาไว้วันหลังเชค่อยกินเป็ดทอดกรอบกะเพราก็แล้ว กันค่ะ” “ได้ครับ ไม่ต้องห่วง นอนดูหิมะให้มีความสุขไปเลยนะครับ ถ้ามี อะไรก็โทรมาละกัน แต่ถ้าอยากกลับตอนนี้ ให้พี่ไปรับก็ได้นะครับ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่จี เพราะว่าตอนนี้ถนนมันอันตรายมากๆ เลยค่ะ เชถึงต้องหาโรงแรมค้างคืนไงคะ” “ก็ดีแล้วครับ ที่ไม่พยายามขับรถกลับมา แต่น่าเสียดาย น่าจะ ได้มาแฮปปี้เบิร์ทเดย์กันสักหน่อย” “อะไรนะคะ วั น นี้ วั น เกิ ด พี่ จี ห รื อ คะ โอ้ งั้ น เชต้ อ งบอกว่ า แฮปปี้เบิร์ทเดย์ค่ะพี่จี ขอให้มีความสุขมากๆ แล้วเชค่อยพาไปเลี้ยงทีหลัง
…ผลงานหวานๆ…
จากญดา --------------สัญญา...หัวใจ รักฤาลวง ๑-๒ ตะวันฉายแสง แนนนี่ที่รัก มายาความรัก เผลอรัก คาสั่งรักจากหัวใจ ลุ้นรัก นักล่า เยื่อรัก...ใยสวาท ทุนรักดอกเบี้ยหัวใจ เก็บรักในวันหิมะโปรย ลุ้นรัก วิวาห์จาเป็น หัวใจอุ่นรักในวันหนาว หัวใจที่ถูกจอง พ่ายรัก แผนพลิกล็อก บอสตัน…วันฝันรัก Little Cupid กามเทพไร้เดียงสา