จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
1
In this issue: P3 --- ASEAN - UN COOPERATION P6 --- ASEAN and Dialogue Partners P9 --- Thai Attorney General’s visit to Lao PDR P13 --- Modern Extradition Procedure P17 --- Former Prosecutor Becomes President P22 --- ASEAN Prosecutor Family Member
(Prosecutor General of Vietnam)
(Deputy Attorney General of Thailand)
Terima Kasih เตอริมา กาสิห์ Terima Kasih เตอริมา กาสิห์
Terima Ka เตอริมา sih กาสิห์
P26 --- ASEAN Prosecutor Family Member P29 --- BAHASA Indonesia(3) P30 --- Exhibition: ASEAN and Dialogue Partners P34 --- ประมวลภาพกิจกรรม P37 --- ASEAN Prosecutor Community News
2
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
Salamat ซาลามัต
Khop khun ขอบคุณ
Aw khun ออ กุน
Khop jai ขอบใจ
chei-zu tin-bar-te เจซู ตินบาเด
Xie xie เซี่ย เซี่ย Cam on ก๋าม เออน
ASEAN - UN COOPERATION ASEAN first started a relation with the UN in the early 1970s through the United Nations Development Program (UNDP), the UN’s global development network, which assisted ASEAN in its economic cooperation activities. Nowadays, ASEAN has developed cooperations with the UN in many dimensions such as political, security, human rights, economic and socio - cultural. For political - security, ASEAN and the UN have promoted both regional and international levels in peacekeeping and postconflict peace - building. The UN has sponsored and arranged many workshops and conferences related to counterterrorism and foreign terrorist fighters, cybercrime, environmental crime, illicit drugs, and human trafficking. Toward Human Rights, ASEAN collaborates with relevant UN agencies, such as OHCHR and UN Women, in terms of information sharing as well as training.
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
3
In the perspective of economic, the UN, together with other external partners, has supported ASEAN in enhancing regional connectivity through the Regional Activities such as ICT Master Plan. Also, the UN continues to support the ASEAN Economic Community (AEC) to facilitate ASEAN’s participation into the global economy by focusing on improving operational and regulatory frameworks, enhancing the competitiveness of enterprises, especially SMEs, and narrowing the development gap within and among ASEAN Member States. Lastly, for a socio - cultural cooperation, the UN is working closely with ASEAN in addressing public health development concerns, including HIV, AIDS and other emerging communicable diseases as well as the gender equality and the advancement of women across different sectors of ASEAN - UN cooperation. In the field of labor, the cooperation has been strengthened, aiming to increase protection of the rights of migrant workers in the ASEAN region. As the result, ASEAN has established and developed in various dimensions through the UN’s support namely security, human rights, economy and social development in both regional and international level, which will be dedicated to ASEAN’s development, policies, strategies in the future. Cr. www.asean.org (by Mooksuda Tanwattanakul, Legal Officer)
4
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
ความร่วมมือระหว่างอาเซียนและสหประชาชาติ ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติเริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นปี ค.ศ. 1970 โดยโครงการพั ฒ นาแห่ ง สหประชาชาติ (UNDP) ซึ่ ง ให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ อาเซี ย น ทางด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาร่วมกันในอีกหลายมิติ เช่น การเมืองและ ความมั่นคง สิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมเป็นต้น ด้านการเมืองและความมั่นคงนั้น อาเซียนและสหประชาชาติร่วมมือกันทั้งใน ระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ เพื่อรักษาสันติภาพและฟื้นฟูเสริมสร้างสันติภาพ ภายหลังความขัดแย้ง นอกจากนี้สหประชาชาติยังได้ สนั บ สนุ น ให้ มี ก ารประชุ ม ต่ า งๆ เกี่ ย วกั บ การต่ อ ต้ า น การก่ อ การร้ า ยและองค์ ก รอาชญากรรมข้ า มชาติ , ยาเสพติด และการค้ามนุษย์ ด้านสิทธิมนุษยชน อาเซียนได้รว่ มมือกับหน่วยงาน ของสหประชาชาติ เช่น OHCHR และ UN Women ในการแบ่งปันข้อมูลและจัดการ ฝึกอบรมต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิจ สหประชาชาติร่วมกับหน่วยงานภายนอกอื่นๆ ให้การสนับสนุน เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยให้ความส�ำคัญกับการแข่งขันของผูป้ ระกอบการโดยเฉพาะ วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) และการลดช่องว่างการพัฒนาทั้งภายในและ ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ด้ า นสั ง คมและวั ฒ นธรรม สหประชาชาติ ไ ด้ ส นั บ สนุ น การการแก้ ไ ขปั ญ หา การพัฒนาสุขภาพของประชาชน ความเท่าเทียมกันทางเพศ และความก้าวหน้าของผูห้ ญิง นอกจากนี้ด้านแรงงาน สหประชาชาติได้สนับสนุนอาเซียนผ่านองค์การแรงงานระหว่าง ประเทศ โดยมีจดุ มุง่ หมายเพือ่ เพิม่ การป้องกันสิทธิของแรงงานข้ามชาติในภูมภิ าคอาเซียน จากความร่ ว มมื อ ระหว่ า งอาเซี ย นกั บ สหประชาชาติ ท� ำ ให้ อ าเซี ย นสามารถ วางรากฐานและพัฒนาในหลายมิติ ทั้งความมั่นคง สิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจและสังคม ทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศได้ ซึ่งส่งผลถึงการพัฒนา นโยบายกลยุทธ์ ของอาเซียนต่อไปในอนาคต (โดย มุกสุดา แท่นวัฒนากุล, นิติกรปฏิบัติการ ส�ำนักงานต่างประเทศ) จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
5
ASEAN and Dialogue Partners The bilateral relationship with the European Union (then known as the European Economic Community) in 1972 was marked as the first milestone in the international relationship of ASEAN with non - ASEAN member countries. Since then, ASEAN has gradually interacted with nine other dialogue partners besides the EU, namely, China, Japan, South Korea, India, the United States of America, Australia, New Zealand, Canada and Russia. Such international dialogue partnerships were initially aimed at enhancing the development of ASEAN. In light hereof, the cooperation between ASEAN and its dialogue partners was a “Giver - and - Taker Relationship”. Upon the progressive growth and the enhancing development of ASEAN, this “Giver - and - Taker - Relationship” has become more and more a partnership concentrating on development, strategy, economy, security and anti - terrorism. In order to maintain the partnerships with the dialogue partners, ASEAN organizes meetings or the so called “Summit” with the leaders or the responsible ministers from the dialogue partners with an aim to determine strategies and the direction of ASEAN’s future cooperation such as: 6
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
- ASEAN Summit with China, Japan, South Korea and India on an annual basis; - ASEAN Summit with China and the United States; - The Post Ministerial Conference (PMC+1) with the United States, Canada, China, Japan, South Korea, India, Australia, New Zealand and the European Union; - The Senior Officials Meeting (SOM) with the United States, Canada, China, Japan, South Korea, India, Australia, New Zealand, Russia and the European Union in order to discuss the political aspects of ASEAN and security concerns; - The Senior Economic Officials Meeting (SEOM) with a focus on the economic cooperation between ASEAN and its dialogue partner (+1). Furthermore, the “ASEAN Committee in Third Countries” was established with an aim to maintaining contacts and close relationships with ASEAN dialogue partners as well as other significant host countries. Such committee comprises the head of the diplomatic missions of the ASEAN member countries in the respective host countries. (English Translation by Sarinrat Jiruschamna, Legal Officer)
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
7
กลุ่มประเทศคู่เจรจาอาเซียน อาเซียนเริ่มความสัมพันธ์กับประเทศนอกกลุ่มเป็นครั้งแรกกับสหภาพยุโรป ในปี พ.ศ. 2515 จนถึงปัจจุบนั อาเซียนมีคเู่ จรจา 9 ประเทศ และ 1 องค์กร ได้แก่ “จีน ญีป่ นุ่ เกาหลีใต้ อินเดีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา รัสเซีย และ สหภาพยุโรป” เป้าหมายในตอนแรกทีอ่ าเซียนต้องการมีประเทศ คู่เจรจา คือการขอให้ประเทศคู่เจรจาที่มีสถานะที่ดีกว่า ให้ความช่วยเหลือทางด้านการพัฒนาแก่อาเซียน ดังนัน้ ความสัมพันธ์ ในช่วงแรกๆ จึงอยู่ในสถานะ “ผู้ ให้กับ ผู้รับ” เมื่ออาเซียนเติบโตและมีระดับการพัฒนาที่ดีขึ้น ความสัมพันธ์ ได้เปลี่ยนมาเป็นแบบ “หุ้นส่วน” ในด้านต่างๆ เช่น ด้านการพัฒนา ด้านยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ ด้านความมั่นคง ด้านการต่อต้านการก่อการร้าย ในการด�ำเนินความสัมพันธ์กับประเทศคู่เจรจานั้นในแต่ละปี อาเซียนจะจัด ประชุมระดับผู้น�ำหรือรัฐมนตรีคู่เจรจาเหล่านี้ เพื่อก�ำหนดนโยบายและทิศทางการผสาน ความร่วมมือ เช่น การประชุมสุดยอดจีน ญีป่ นุ่ เกาหลี อินเดีย (ทุกปี) สหรัฐฯและรัสเซีย (ไม่เป็นประจ�ำ) การประชุมระดับรัฐมนตรี และการประชุมระดับเจ้าหน้าทีอ่ าวุโส เป็นการ หารือด้านการเมืองความมัน่ คงเป็นหลัก โดยการประชุมทัง้ สองนีก้ บั สหรัฐฯ แคนาดา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รัสเซียและสหภาพยุโรป การประชุม ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจเป็นการหารือความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้า ระหว่างอาเซียนกับคู่เจรจารายประเทศ (+1) นอกจากนี้ อาเซี ย นยั ง ได้ จั ด ตั้ ง คณะกรรมการอาเซี ย นในประเทศที่ ส าม ซึง่ ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนทีป่ ระจ�ำอยู่ในประเทศคูเ่ จรจา ตลอดจนในประเทศอื่นๆ ที่อาเซียนเห็นสมควร เพื่อท�ำหน้าที่ให้ข้อมูลและวิเคราะห์ ท่าทีของประเทศที่คณะกรรมการอาเซียนเหล่านั้นตั้งอยู่ เพื่อประโยชน์ ในการพัฒนา ความสัมพันธ์ต่อไป Cr: www.asean.org 8
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
Thai Attorney General’s visit to Lao PDR On 12 July 2016, Mr. Pongniwat Yuthapanboriparn, Attorney General of Thailand, led a group of executive prosecutors of the Office of the Attorney General to visit the Office of the Supreme People’s Prosecutor of Lao PDR in Vientiane. Mr. Khamsane Souvong, Prosecutor General of Lao PDR invited the Thai prosecutor delegation for the visit based on the Memorandum of Understanding (MOU) between the Office of the Attorney General (OAG) of Thailand and the Office of the Supreme People’s Prosecutor (OSPP) of the Lao PDR dated 25 March 2004. The MOU provides the two parties of exchange visits by high - ranking officers for consultation and the sharing of experiences of their work and responsibilities. The MOU also guides the parties in encouraging and supporting their border local offices to communicate and cooperate in activities along the border. Thailand and Lao PDR share around a 1,810 - kilometer border which is mainly the Mekong River. The Thai and Lao prosecutor delegations held a bilateral meeting for the implementation of the MOU. The two parties agreed to conduct regular exchange visits of executive delegates from their headquarters. The cooperation จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
9
between the local offices along the border can also be strengthened through visits and joint seminars and workshops on topics of interest. Both parties agreed to invite the other party’s staff to attend the appropriate training courses of each party. Accordingly, the OAG invited the OSPP to select and send its staff and other Lao PDR criminal justice officers to participate in a seminar on the Elimination of Violence against Children in Criminal Justice Processorganized by the Office of the Affairs and Projects under Her Royal Highness Princess Bajrakitiyabha’s initiative of the OAG in Udonthani, Thailand, at the end of 2016. Apart from the bilateral meeting and visit to the OSPP, Mr. Yuthapanboriparn and the Thai delegation paid courtesy calls to Mrs. Pany Yathotou, President of the Lao National Assembly, Mr. Khamphan Sithidampha, Chief Justice of the People’s Supreme Court, and Mr. Xaysi Santivong, Minister of Justice. The Thai delegation and Lao dignitaries exchanged views and recognized the importance of the new ASEAN Community. The delegations also discussed further cooperation and strengthening the Thai - Lao relationship, in particular in the criminal justice field. The visit concluded smoothly with the creation of a brotherhood atmosphere between the Thai OAG and the Lao OSPP. (by Jumpon Phansumrit, Director of ASEAN Community Missions Centre) 10
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
อัยการสูงสุดไปเยือน ส�ำนักงานอัยการสูงสุดแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 ท่านพงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ได้น�ำคณะผู้บริหารของส�ำนักงานอัยการสูงสุดไปเยือน ส�ำ นัก งานอั ยการสู ง สุ ดแห่ง สปป.ลาว ตามค�ำเชิญ ของท่ า นค� ำ สาน สุ ว ง อั ย การประชาชนสู ง สุ ด แห่ ง สปป.ลาว ซึ่ ง เป็ น การปฏิ บั ติ ต ามบั น ทึ ก ความเข้ า ใจ ระหว่างส�ำนักงานอัยการสูงสุดแห่งราชอาณาจักรไทย และองค์การอัยการประชาชนสูงสุดแห่งสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว ลงวันที่ 25 มีนาคม 2547 บันทึกความเข้าใจดังกล่าวได้กำ� หนดให้สำ� นักงานอัยการ ทั้ ง สองฝ่ า ยส่ ง คณะผู ้ แ ทนไปเยื อ นอี ก ฝ่ า ยหนึ่ ง เพื่ อ ปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับงาน ที่สนใจร่วมกัน และผลักดันให้หน่วยงานอัยการระดับ ท้องถิ่นตามแนวชายแดนได้พบปะและประสานงานกัน ในพื้นที่ คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้ประชุมทวิภาคีเพื่อก�ำหนดการปฏิบัติการตามบันทึก ความเข้าใจ โดยเห็นร่วมกันว่าจะมีการส่งคณะผู้แทนระดับสูงจากส่วนกลางไปเยือน อีกฝ่ายเป็นประจ�ำ ความร่วมมือระหว่างส�ำนักงาน ท้องถิ่นตามแนวชายแดนสามารถด�ำเนินการได้ ด้วยการพบปะและประชุมสัมมนาในหัวข้อที่สนใจ ร่ ว มกั น จะมี ก ารแลกเปลี่ ย นบุ ค ลากรเข้ า ร่ ว ม ฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ และส�ำนักงานอัยการสูงสุด ได้ ข อให้ ส� ำ นั ก งานอั ย การสู ง สุ ด แห่ ง สปป.ลาว คั ด เลื อ กบุ ค ลากรและเจ้ า หน้ า ที่
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
11
ในกระบวนการยุติธรรมของ สปป.ลาว เข้าร่วมประชุมสัมมนาด้านการขจัดความรุนแรง ต่อเด็กในกระบวนการยุติธรรม โดยการเป็นเจ้าภาพของส�ำนักงานกิจการและโครงการ ในพระราชด�ำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ส�ำนักงานอัยการสูงสุด ที่จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทยในช่วงปลายปี 2559 นอกจากการประชุมทวิภาคีของคณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายแล้ว ท่านพงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร และคณะผูบ้ ริหารของส�ำนักงาน อั ย การสู ง สุ ด ได้ เ ยี่ ย มคารวะท่ า นปานี ยาทอตู ้ ประธานสภาแห่ ง ชาติ ท่ า นค� ำ พั น สิ ท ธิ ด� ำ พา ประธานศาลประชาชนสูงสุด และท่านไซสี สันติวง รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงยุตธิ รรม เพือ่ แลกเปลีย่ น ความคิดเห็น ในการพัฒนาความร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยกับลาวโดยเฉพาะด้าน กระบวนการยุติธรรม บทสรุปของการเยือนครั้งนี้ จบลงด้วยบรรยากาศภราดรภาพที่ใกล้ชิดระหว่าง อัยการไทยและลาว
(โดย จุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ ผู้อ�ำนวยการศูนย์พันธกิจประชาคมอาเซียน ส�ำนักงานต่างประเทศ) 12
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
Modern Extradition Procedure Historically, all extradition procedures around the globe were based on intergovernmental cooperative structure. Even though the ASEAN Member States have endeavoured to simplify the process of extradition by providing the designation of central authority of extradition procedure, they have remained on the basis of traditional extradition proceedings. For combating the proliferation of transnational organized crime, the European Council established a new legal apparatus which has streamlined the process of extradition among the EU Member States. The European Council Framework Decision on European Arrest Warrant and Surrender Procedure between the Member States (the EAW) was adopted in 2004. The EAW has been referred to as a “Modern Extradition Procedure”. Substantive changes from a traditional extradition procedure to a modern procedure consist of several issues, as follows; Firstly, the decision authority on extradition has already been transferred from the executive to the judicial authority. The EAW endeavours to eliminate the complexity of the traditional extradition proceedings by providing a system of free movement of judicial decision - making in criminal matters. Secondly, the relationship between countries which are involved in the extradition proceedings has been changed from the relationship between the Requesting and Requested States to the Issuing and Executing States. จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
13
The structure of the latter is similar to an internal criminal procedure of a single sovereign state. Lastly, the EAW facilitates surrender by abolishing numerous obstacles to the traditional extradition procedure. For example the double criminality requirement has been abolished to a list of 32 generic types of offences as promulgated in Article 2 (2) of the Framework Decision on the EAW. In practice, statistics of the number of EAWs issued and the number of people surrendered after the adoption of the EAW show a steady increase from 3,748 people in 2004 to 20,258 people in 2009. These figures affirmed that the European modern extradition procedure was more effective in supporting prosecutorial and judicial processes among the EU Member States than the traditional extradition procedure in ASEAN. It seems a modern extradition procedure is appropriate to fight transnational criminal activities. Notwithstanding, the abolition of traditional requirements of extradition proceedings may erode the effectiveness of legal mechanisms which have always been used to protect the human rights of the requested persons during the process. Currently, national legal apparatuses to protect the human rights of the ASEAN Member States are different. Currently, national legal apparatuses to protect the human rights of the ASEAN Member States are different, albeit the ASEAN Human Rights Declaration adopted in 2012, Hence, modern extradition procedures which terminated legal mechanisms to protect the human rights of the requested persons may not be suitable for the current circumstances of the ASEAN legal context. (by Mark Charoenwong, Public Prosecutor, LL.B, Barrister-at-Law, LL.M, PhDc)
14
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนยุคใหม่ ในประวัติศาสตร์ กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนทั่วโลกนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐาน โครงสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาล แม้ว่าประเทศสมาชิกในกลุ่มประชาคมอาเซียน จะมีความพยายามในการที่จะท�ำให้กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นง่ายขึ้นด้วยการ ก�ำหนดในมีการตั้งผู้ประสานงานกลางความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน แต่กระบวนการก็ยังคงเป็นกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในระบบดั้งเดิมอยู่ ในการต่อสู้กับการเพิ่มจ�ำนวนอย่างรวดเร็วขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สภาที่ปรึกษาของยุโรปได้มีการสร้างเครื่องมือชนิดใหม่ขึ้นเพื่อท�ำให้กระบวนการในการ ส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างประเทศสมาชิกในประชาคมยุโรปนั้นมีโครงสร้างที่เป็นการ ลดขั้ น ตอนกระบวนการลงเพื่ อ ให้ ง ่ า ยต่ อ การปฏิ บั ติ โดยในปี ค.ศ. 2004 กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการออกหมายจับ และการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของยุโรป (The EAW) ได้มี ผลบังคับใช้ ซึ่งกระบวนการดั งกล่ า วนี้ ถูกเรี ย กว่ า เป็ น “กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนยุคใหม่” กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนยุคใหม่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปจากกระบวนการส่ง ผู้ร้ายข้ามแดนแบบดั้งเดิมในประเด็นส�ำคัญหลายส่วนอันประกอบไปด้วย ประเด็นแรก อ�ำนาจในการตัดสินใจทีจ่ ะส่งผูร้ า้ ยข้ามแดนนัน้ ได้ถกู โอนจากอ�ำนาจ ของฝ่ายบริหารไปสู่อ�ำนาจของฝ่ายตุลาการอย่างเด็ดขาด The EAW พยายามที่จะ ขจัดความซับซ้อนของระบบดั้งเดิมโดยการท�ำให้ค�ำวินิจฉัยของศาลในเรื่องทางอาญา มีผลบังคับเป็นอิสระในระหว่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปด้วยกัน ประเด็นที่สอง ความสัมพันธ์ของประเทศที่อยู่ในกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ได้มีการเปลี่ ย นจากความสัมพัน ธ์ระหว่างประเทศผู ้ ร ้ องขอกั บ ประเทศผู ้ รับ ค� ำ ร้ อง ขอไปเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผู้ออกหมายและประเทศผู้ปฏิบัติตามหมาย
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
15
ความสัมพันธ์แบบหลังนี้ท�ำให้เห็นเหมือนกับว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นการด�ำเนิน กระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่อยู่ภายใต้อ�ำนาจอธิปไตยของประเทศเดียวกัน ประเด็นสุดท้าย The EAW ท�ำให้การส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นง่ายขึ้นเพราะได้มีการ ขจัดอุปสรรคของการส่งผูร้ า้ ยข้ามแดนในระบบดัง้ เดิมออกไปหลายอย่าง เช่น การยกเลิก ข้อก�ำหนดทีว่ า่ การส่งผูร้ า้ ยข้ามแดนจะท�ำได้เฉพาะแต่คดีทกี่ ารกระท�ำนัน้ ต้องเป็นความผิด ของทั้งสองรัฐ ซึ่งการยกเลิกนี้จะน�ำมาใช้กับเฉพาะ 32 ฐานความผิดที่ได้ก�ำหนดไว้ ใน มาตรา 2 (2) ของ The EAW ในทางปฏิบตั สิ ถิตขิ องการออกหมายและการส่งผูร้ า้ ยข้ามแดนหลังจากการบังคับใช้ The EAW แสดงให้เห็นว่ามีจ�ำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก จาก 3,748 คนในปี ค.ศ. 2004 เป็น 20,258 คนในปี ค.ศ. 2009 สถิตนิ เี้ ป็นเครือ่ งยืนยันว่ากระบวนการส่งผูร้ า้ ยข้ามแดน ยุคใหม่ที่ ใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการฟ้องและการพิจารณาคดี ในชั้นศาลของยุโรป มีประสิทธิภาพมากกว่ากระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในระบบดั้งเดิมของอาเซียน ดูเหมือนว่ากระบวนการการส่งผู้ร้ายข้ามแดนยุคใหม่เหมาะสมที่จะน�ำมาใช้ต่อสู้ กับปัญหาอาชญากรรมระหว่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตามการยกเลิกข้อก�ำหนดพื้นฐาน ของการส่งผู้ร้ายข้ามแดนแบบดั้งเดิมอาจส่งผลท�ำให้ประสิทธิภาพของเครื่องมือที่ใช้ ในการคุม้ ครองสิทธิมนุษยชนในกระบวนการการส่งผูร้ า้ ยข้ามแดน นัน้ ลดลง ซึง่ ในปัจจุบนั เครือ่ งมือทางกฎหมายในเรือ่ งการคุม้ ครอง สิทธิมนุษยชนของประเทศสมาชิกในอาเซียนยังมีความแตกต่าง กันอยู่ แม้ว่า ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชนจะได้มีการ บังคับใช้ระหว่างสมาชิกอาเซียนมาตั้งแต่ปี 2012 ดังนั้น ภายใต้ บริบทของประชาคมอาเซียนในปัจจุบัน กระบวนการส่งผู้ร้าย ข้ามแดนยุคใหม่ทมี่ กี ารยกเลิกเครือ่ งมือที่ใช้คมุ้ ครองสิทธิมนุษยชนจึงอาจยังไม่เหมาะสม ที่จะน�ำมาใช้ ในภูมิภาคอาเซียน (โดย มาร์ค เจริญวงศ์, อัยการประจ�ำส�ำนักงานอัยการสูงสุด)
16
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
Former Prosecutor Becomes President Rodrigo Roa Duterte was born on 28 March 1945 in Maasin, Southern Leyte. He is the son of the late Vicente Duterte, the last Governor of the still undivided Davao province (when what is now known individually as Davao del Sur, Davao del Norte, Davao Oriental, and Compostela Valley were all still collectively known as one Davao province), and Soledad Roa - Duterte, noted civic leader and philanthropist. He studied elementary at the Santa Ana Elementary School in Davao City, where he graduated in 1956. He finished his secondary education in then Holy Cross College of Digos (now CorJesu College) in today’s city of Digos in the now defunct Davao province. At the tertiary level, he graduated in 1968 with a Bachelor of Arts degree in Political Science at the Lyceum of the Philippines University in Manila. He also obtained a law degree from San Beda College of Law, Manila, in 1972. In the same year, he passed the bar examinations. In 1977, Duterte became Special Counsel at the City Prosecution Office in Davao City from 1977 - 1979; Fourth Assistant City Prosecutor from 1979 - 1981; Third Assistant City Prosecutor from 1981 - 1983; and Second Assistant City Prosecutor from 1983 - 1986. He was a star prosecutor of the Davao City จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
17
Prosecution Office, having handled high profile cases during the Martial Law days. Human rights lawyers in Davao City held in high regard the prosecution arm of the martial law government largely in part because of then prosecutor Duterte, who was very professional, fair in his dealings, dedicated and took a no non - sense approach when it comes to prosecutorial work. It was widely known then that Duterte’s career goal was to head the Davao City Prosecution Office. But fate would have him rise to higher office and to greater challenges. After the People Power revolution, Duterte was appointed Officer - InCharge Vice Mayor and in the first local elections after the restoration of Philippine Democracy in 1988, he was elected City Mayor of Davao City. Popularly known as “Mayor Rody”, he was confronted with lawlessness and instability of peace and order of the largest - land - area and third - most populous city in the country, when the city was still tagged as the “Nicaragua of Asia” - a virtual killing field during the height of the urban guerilla warfare of the communist New People’s Army and the rise of vigilantism manifested in rightist groups like the Alsa Masa. From this context of instability, uncertainly, and chaos - Mayor Rody embarked on the seemingly impossible journey of restoring law and order and promoting peace in this city of diverse peoples of different religions and ideological beliefs.
18
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
He was so successful in restoring order in the city during his first term, that the people of Davao re-elected him to serve another two consecutive terms. He came back as Mayor in 2001 effectively made it his fourth term (2001 - 2004). Under Mayor Rody’s leadership, Davao City has become the leading local government unit in the Philippines. In 2015, Davao City and Mayor Rody was awarded the National Literacy Hall of Fame Award for qualifying for the Outstanding Local Government Unit Highly Urbanized City category thrice. Also, Davao City was rated as the “Fourth Safest City in the World”1 setting the standards from the rest of the country to follow in terms of local governance and development initiatives. At seventy one (71), Mayor Rody was persuaded to run for the highest position in the country in the 2016 Presidential Election -- his first time participation in national elections. Known for his tough - talking and as “the punisher” of criminals and corrupts, he won, with a landslide victory garnering a total of 16,601,997 votes, as the 16th President of the Philippines -- making him the oldest person to ever assume the presidency and also the first candidate from the southern island of Mindanao to win the post. (by Severino H. Gana, Senior Deputy State Prosecutor, Philippines National Prosecution Service)
1
www.numbeo.com
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
19
จากอัยการสู่ประธานาธิบดี นายรอดิโก้ โรอา ดูเตอร์เต้ เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2488 ในเมื อ งมาซิ น ทางตอนใต้ ข องแคว้ น เลย์ เ ต้ เป็ น บุ ต รชายของ นายวินเซนต์ ดูเตอร์เต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดดาเวา (ซึ่งปัจจุบันนี้ ได้ถูกแบ่งแยกเป็น ดาเวาเหนือ ดาเวาใต้ ดาเวาตะวันออก และ คอมโพสเตล่า วาเล่ย์) และนางโซเลแดด โรอา ดูเตอร์เต้ ผู้ ใจบุญ และผู้น�ำชุมชนที่มีชื่อเสียง นายรอดิ โ ก้ เข้ าเรีย นชั้นประถมศึก ษาที่ โรงเรี ย นเซนต์ แ อน ที่ เ มื อ งดาเวา หลังจบการศึกษาในปี 2499 เขาได้เข้าเรียนชัน้ มัธยมศึกษาในวิทยาลัยคริสเตียนในเมือง เดียวกัน เขาศึกษาต่อระดับปริญญาตรีสาขาการเมืองที่มหาวิทยาลัยลีเซียม ในกรุง มะนิลา จนกระทัง่ จบการศึกษาในปี 2511 และได้ศกึ ษาต่อจนได้ปริญญานิตศิ าสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยซานเบด้าในกรุงมะนิลาในปี 2515 และผ่านการทดสอบเป็นเนติบณ ั ฑิตในปี เดียวกัน ต่อมาในปี 2520 นายดูเตอร์เต้ ได้รับต�ำแหน่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษแห่งส�ำนักงาน อัยการเมืองดาเวา ตั้งแต่ปี 2520 - 2522 และท�ำงานเป็น พนักงานอัยการที่ส�ำนักงานอัยการเมืองดาเวาตั้งแต่นั้น เรือ่ ยมา จนถึง 2529 และเขาได้เป็นพนักงานอัยการดีเด่น ของเมืองดาเวา ด้วยการท�ำคดีส�ำคัญหลายคดีในช่วง ประกาศกฎอัยการศึก กระทั่งนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ก็ยังยกย่องในดุลพินิจการสั่งคดีของรัฐบาลทหารเนื่องมาจากการสั่งคดีที่เป็นมืออาชีพ และเป็นธรรมของอัยการดูเตอร์เต้ ในขณะนั้นเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า อัยการดูเตอร์เต้ จะได้ด�ำรงต�ำแหน่งหัวหน้าพนักงานอัยการ ส�ำนักงานอัยการเมืองดาเวาในไม่ช้า แต่ โชคชะตาของนายดูเตอร์เต้กพ็ ลิกผันไปในทางทีด่ ขี นึ้ ทัง้ ในต�ำแหน่งทีส่ งู ขึน้ ซึง่ มาพร้อมกับ ความรับผิดชอบที่มากขึ้น หลังจากการปฏิวัติอ�ำนาจประชาชน นายดูเตอร์เต้ ได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติราชการ ในต�ำแหน่งรองนายกเทศมนตรี และในการเลือกตัง้ ครัง้ แรกหลังจากการได้ประชาธิปไตย 20
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
กลับมาสู่ประเทศฟิลิปปินส์ ในปี 2531 นายดูเตอร์เต้ก็ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายก เทศมนตรีแห่งเมืองดาเวา นายดูเตอร์เต้ หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนาม “นายกเทศมนตรีรอดี้” กลายเป็นผู้มี ชื่อเสียงและได้รับการยอมรับนับถือจากประชาชนในเมืองดาเวา ซึ่งเป็นเมืองที่มีพื้นที่ มากที่สุด และมีประชากรมากเป็นอันดับสามของประเทศฟิลิปปินส์ นายกเทศมนตรีรอดีป้ ระสบความส�ำเร็จในการสร้างความสงบเรียบร้อยในเมืองดาเวา จนกระทั่ ง ประชาชนดาเวาได้ ไ ว้ ว างใจเลื อ กให้ เ ขาได้ ท� ำ หน้ า ที่ น ายกเทศมนตรี ต่ออีกสองสมัยจนถึง ปี 2547 ภายใต้การปกครองของนายกเทศมนตรีรอดี้ เมืองดาเวา พัฒนาเรื่อยมาจนกระทั่งเมืองดาเวาและนายกเทศมนตรี รอดีได้รบั รางวัลประกาศเกียรติคณ ุ ส�ำหรับการเป็นรัฐบาล ท้องถิน่ ชัน้ น�ำ ในปี 2558 นอกจากนัน้ เมืองดาเวายังได้รบั การขนานนามให้ เ ป็ น “เมื อ งที่ ป ลอดภั ย ที่ สุ ด อั น ดั บ สี่ ของโลก” อั น เป็ น การสร้ า งมาตรฐานให้ เ มื อ งอื่ น ๆ ในประเทศฟิ ลิปปิ น ส์ ด�ำเนินรอยตาม ในเรื่อ งการปกครองและโครงการริ เริ่ มเพื่ อ การพัฒนา เมื่ออายุได้ 71 ปี นายกเทศมนตรีรอดี้ ได้รับการชักชวนให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ในต�ำแหน่งทีส่ งู ทีส่ ดุ ในประเทศ กล่าวคือ การสมัครรับเลือกตัง้ ประธานาธิบดีแห่งประเทศ ฟิลิปปินส์ ในปี 2559 อันเป็นการลงสมัครรับเลือกตั้งในต�ำแหน่งระดับประเทศครั้งแรก ของนายดูเตอร์เต้ และเนื่องมาจากการแถลงนโยบายอย่างตรงไปตรงมา และจาก ชื่อเสียงในการเป็น “ผู้รักษากฎหมาย” เพื่อก�ำจัดอาชญากรและพวกฉ้อราษฎร์บังหลวง นายรอดิโก้ โรอา ดูเตอร์เต้ ได้รบั การเลือกตัง้ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นกว่า 16 ล้านเสียง ให้ดำ� รงต�ำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 16 แห่งประเทศฟิลปิ ปินส์ เป็นประธานาธิบดีทมี่ อี ายุ มากที่สุด และเป็นผู้ท้าชิงคนแรกจากเกาะตอนใต้ มินดาเนา ซึ่งได้ชัยชนะและได้ด�ำรง ต�ำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ (แปลและเรียบเรียงโดย เสฏฐา เธียรพิรากุล อัยการจังหวัดผู้ช่วย สอจ.กาฬสินธุ์) จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
21
H.E. Mr. LE Minh Tri, Prosecutor General of Vietnam, graduated from the
University of People’s Security under the Ministry of Public Security of Vietnam in 1986. After graduation, Mr. LE Minh Tri was assigned to take over the burdensome tasks at the Police Department of Ho Chi Minh City, where was acknowledged as the economic motive force of the whole country. With his outstanding performance at the Police Department of Ho Chi Minh City, in the period between 1990 and 2000, Mr. LE Minh Tri was appointed as the positions of Secretary of Deputy Minister of Home Affairs (currently known as Minister of Public Security) and then Secretary of Chairman of People’s Committee of Ho Chi Minh City. He also kept broadening his knowledge by obtaining the Bachelor Degree of Law. In the following 9 years from 2000 to 2009, Mr. LE Minh Tri experienced many important positions in Ho Chi Minh City including Vice Head of Office of People’s Council, Vice Head of Office of People’s Committee, Chairman of People’s Committee of District 11, and Chairman of People’s Committee of District 1. At the beginning of 2010, Mr. LE Minh Tri was consensually elected by the People’s Council of Ho Chi Minh City to be the Deputy Chairman of People’s Committee of the City. Together with the leadership of Ho Chi Minh City, he devoted himself 22
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
to the construction and development of Ho Chi Minh City towards the objectives of “A wealthy people, a strong country, and an equal, democratic and civilised society”. In April of 2013, Mr. LE Minh Tri was honourably appointed by the Secretariat of the Central Committee of the Communist Party of Vietnam to be the Deputy Head of the Party Central Committee’s Commission for Internal Affairs, the advisory body of the Politburo and the Secretariat of the Party in prevention and fight against corruption. On 8 April, 2016, H.E. Mr. LE Minh Tri was elected with high confidence by the National Assembly, the most powerful agency of Vietnam, to become the Prosecutor General of the Supreme People’s Procuracy. As the top leader of the Supreme People’s Procuracy of Vietnam, H.E. Mr. LE Minh Tri has been leading the whole Prosecution system to effectively perform the two functions defined by the Constitution of the Socialist Republic of Vietnam, i.e., exercising the public prosecution power and supervision over judicial activities; focusing on prompt institution, investigation and adjudication of criminal cases, initiation of criminal proceedings against offenders for the correct offences in accordance with law, avoiding miscarriage of justice, wrongful conviction and omission of offences aiming at upholding the Constitution and law, protecting human rights and citizens rights, protecting the State interests and the legitimate benefits of organizations and individuals.
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
23
In the current context of deep and wide international integration and the official formation of ASEAN community, “Vietnam is willing to make friends and to be a reliable partner with all nations in the international community for the peace, independence and development”, among which ASEAN nations are viewed as the priority. The Supreme People’s Procuracy of Vietnam spares no effort to further strengthen the close cooperation with Prosecution Services of ASEAN nations for effectively combating crimes, contributing to the building of a peaceful, prosperous and developing ASEAN community with “one vision, one identity, one community”.
(by Department of International Cooperation and Mutual Legal Assistance in Criminal Matters, Supreme People’s Procuracy of Vietnam)
24
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
อัยการสูงสุดแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม หลังส�ำเร็จการศึกษาระดับชั้นอุดมศึกษาแล้ว นายเล มิน ทรี ได้รบั มอบหมายให้ไปประจ�ำการทีส่ ถานี ต�ำรวจประจ�ำนครโฮจิมินห์ ต่อมาได้รับการแต่งตั้ง ให้ ด� ำ รงต� ำ แหน่ ง เลขานุ ก ารรั ฐ มนตรี ช ่ ว ยว่ า การ กระทรวงกิ จ การภายในและเลขานุ ก ารประธาน คณะกรรมการประชาชนประจ�ำนครโฮจิมินห์ หลังจากนั้น นายเล มิน ทรี ส�ำเร็จการศึกษา ระดับนิตศิ าสตร์บณ ั ฑิตและได้รบั แต่งตัง้ ให้ดำ� รงต�ำแหน่งส�ำคัญมากมายในนครโฮจิมนิ ห์ ได้แก่ รองหัวหน้าส�ำนักงานสภาประชาชน รองหัวหน้าส�ำนักงานคณะกรรมการประชาชน ประธานคณะกรรมการประชาชนประจ�ำเขต 11 ประธานคณะกรรมการประชาชน ประจ�ำเขต 1 รองประธานคณะกรรมการประชาชนประจ�ำนครโฮจิมินห์ และรองหัวหน้า คณะกรรมการกลางด้านกิจการภายในแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ ต่อมาเมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2016 นายเล มิน ทรี ได้รับเลือกจากสภาแห่งชาติ ให้ด�ำรงต�ำแหน่งอัยการสูงสุดแห่งส�ำนักงานอัยการประชาชนสูงสุด ปัจจุบนั ส�ำนักงานอัยการประชาชนสูงสุดเวียดนามภายใต้การน�ำของนายเล มิน ทรี มีความมุ่งมั่นที่จะด�ำเนินการอย่างเต็มความสามารถในการให้ความร่วมมือกับส�ำนักงาน อัยการทัง้ หลายแห่งประเทศอาเซียนเพือ่ ต่อสูก้ บั อาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ และ เพื่อสร้างประชาคมอาเซียนที่สงบสุข รุ่งเรืองและพัฒนา ภายใต้ค�ำขวัญ “หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ หนึ่งประชาคม” (แปลและเรียบเรียงโดย ภัทรวดี ไวยภาษ, อัยการประจ�ำส�ำนักงานอัยการสูงสุด)
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
25
Professor (honourary) Khemchai Chutiwongse, Deputy Attorney General of Thailand, (born 27 September 1954) is undoubtedly one of the most prominent lawyers in Thailand, well - known in both the world of legal academia and practitioners. Not only having graduated with first - class honours from the top law school in Thailand, Chulalongkorn University, in 1972, Mr. Chutiwongse also passed the Thai Bar Examination in 1974 with an exceptionally high score, receiving an honourary degree; of which only three Thai barristers - at - law have ever obtained in over 50 years. He later earned his Master of Laws (LL.M.) degree from Harvard Law School in the United States in 1980. Having served as a public prosecutor at the Office of the Attorney General of Thailand for more than 30 years, Khemchai has utilized his expertise as a leading lawyer in the field of private law, particularly contract, corporate law and economic crimes, to the fullest extent. At the Department of Legal Counsel, he acted as legal advisor to the state, drafting and reviewing various kinds of government contracts and bidding 26
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
documents involving government projects worth a total of billions of Thai baht. In addition, Khemchai served on several corporate and state - enterprise boards such as the Electronic Government Agency (Public Organization - EGA), the Mass Communication Organization of Thailand (MCOT), the Electricity Generating Authority of Thailand (EGAT), and the Export - Import Bank of Thailand (EXIM Bank), thus allowing him to render legal advice to protect the interests of these state enterprises as well as public investors. Mr. Chutiwongse’s career as a public prosecutor prospered in no time due to his distinguished reputation for dedication and integrity. In 2006, he was promoted to Director General of the Bankruptcy Litigation Department, handling cases relating to bankruptcy, debt restructuring and debt rehabilitation plans. He then took on the more managerial position of Director General of the Department of Public Prosecutor Commission between 2007 - 2011, responsible for the supervision of over 3,000 Thai public prosecutors; including matters relating to their promotion, reshuffling and disciplinary action. Mr. Chutiwongse finally assumed his rightful position in the Department of Legal Counsel as the Director General from 2013 - 2015. Mr. Khemchai Chutiwongse became the Inspector General of the Office of the Attorney General of Thailand in 2013, and is currently the Deputy Attorney จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
27
General of Thailand, to which the work of the Department of Public Prosecutor Commission and the International Affairs Department, including cases concerning extradition, mutual legal assistance in criminal matters, as well as other international matters, for example international conferences and events, must be reported and be under his consideration and direct supervision. Also popularly known as “Arjarn Khemchai” (teacher Khemchai), he was a law lecturer at a number of prestigious educational institutions such as the Institute of Legal Education of the Thai Bar, Chulalongkorn University, Thammasat University and Kasem Bundit University. The popularity of his textbook “The Law of Evidence”, published by the Bar Association of Thailand for the 9th time in 2014, was so indisputable that he was bestowed the title of Honourary Professor at Law by Chulalongkorn University. All in all, Deputy Attorney General Professor (honourary) Khemchai Chutiwongse is an incomparably outstanding public prosecutor and legal scholar with considerable achievements throughout his legal career, and has devoted his life to public service as well as educating the younger generation of lawyers. (by Setha Tienpiragul, Kalasin Prosecutor Office)
28
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
ภาษาอินโดนีเซียแบบง่าย ๆ (3) หลายคนยังสับสนเรื่องการทักทายในภาษาอินโดนิเซียและประเทศอื่นๆ ที่มี รากศัพท์มาจากภาษามาลายู หลายประเทศในอาเซียน ที่ใช้ภาษาที่มาจากรากศัพท์ภาษามาลายูคือ มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย และชาวสิงคโปร์เชื้อสายมาลายู ค� ำ ทั ก ทายประจ� ำ วั น ของอิ น โดนี เ ซี ย คล้ า ยคลึ ง กั บ แถบยุโรปโดยแบ่งเป็นสี่เวลา เช้า กลางวัน เย็น และกลางคืน Selamat pagi เซอ ลา มัต ปา กี ตั้งแต่เช้าถึงประมาณ 10 โมงเช้า อรุณสวัสดิ์ Selamat siang เซอ ลา มัต เซียง หลัง 10 โมงเช้าเป็นต้นไป ทิวาสวัสดิ์ Selamat sore เซอ ลา มัต โซ เร หลัง 3 โมงเย็นเป็นต้นไป สายันต์สวัสดิ์ Selamat malam เซอ ลา มัต มา ล�ำ หลัง 6 โมงไปแล้วหรือมืดแล้ว ราตรีสวัสดิ์ คนมาเลเซียใช้แบบเดียวกัน ยกเว้นตอนเย็นจะเป็น selamat petang เซอลามัต เปอ ตัง สวัสดีตอนเย็น ส่วนเวลาอื่นใช้เหมือนกัน ทีม่ กั สับสนคือ selamat datang เซอ ลา มัต ดาตัง หมายถึง Welcome ส�ำหรับ เจ้าบ้านกล่าวต้อนรับแขกที่มาเยือน (ป้ายที่ติดอยู่หน้าลิฟต์ที่พบอยู่ในหลายส�ำนักงานและโรงเรียนในไทยใช้เป็น ค�ำทักทายนั้นไม่ถูกต้องนะคะ) ภาษามาเลเซี ย และอิ น โดนี เ ซี ย สามารถสื่ อ สารกั น รู ้ เรื่ อ งเหมื อ นไทยกั บ ลาว มีแค่บางค�ำทีแ่ ตกต่างโดยเฉพาะภาษาเขียน ภาษาอินโดนีเซียมี prefix และ suffix มากกว่า ซึ่งท�ำให้ความหมายเปลี่ยนไป ส่วนในการพูดนั้นเรียนภาษาใดก็สื่อสารกันได้ค่ะ (โดย มีนา ซาฟี สถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจ�ำประเทศไทย)
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
29
ASEAN and Dialogue Partners August 8, 2016 kicked off “ASEAN and Dialogue Partners” the second exhibition of the Road to ASEAN Community series hosted by the ASEAN Community Missions Center (ACMC) of the Office of the Attorney General of Thailand (OAG). ASEAN member and Dialogue Partners countries, including Cambodia, Indonesia, the Philippines, Vietnam, EU (France), India, Japan, Russia and the US, came together to celebrate “Unity in Diversity” in a showcase exhibition to further the ASEAN Community’s objective: to promote economic, social, and cultural cooperation, as well as peace and stability within the region. “ASEAN and Dialogue Partners” festivities were held in the reception lobby of the OAG at the Government Complex and guests included the Deputy Attorney General of Thailand, Inspector General of the OAG, public prosecutors, esteemed colleagues, and honorable guests from multiple foreign embassies such as Indonesia, India, the Philippines, Japan, Russia and the US. Before opening ceremony, guests had an opportunity to sample fresh, Indonesian coffee, taste authentic Indian rice dishes, or make purchases from an array of handmade, cultural gifts.
30
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
After a short reception, opening ceremony began with a brief history of ASEAN followed by opening remarks given by Mr. Khemchai Chutiwongse, the Deputy Attorney General of Thailand. August 8th 2016 marked the 49th anniversary of the first five founding ASEAN members signing the “ASEAN Declaration” also
known as the “Bangkok Declaration” and the Deputy Attorney General shared words reflecting the importance of such a milestone. He emphasized the need for continuing to foster and maintain relationships between members of the ASEAN and ASEAN Dialogue Partners countries, respectively, before cutting the ribbon to inaugurate the second half of the exhibition. Shortly thereafter, the audience enjoyed “Kathak” by Ms.Jitrawan Phakphun, an ICCR scholar, a solo dance performance of a traditional, Indian tap
dance focused on swift, rhythmic movements before the exhibition’s main event: a “Coffee Talk” discussion panel on “The Role of Attorney Attache” between the
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
31
Director of the ACMC, Mr.Jumpon Phansumrit and U.S. Attorney Attache, Ms. Catharine Hartzenbusch. The discussion began with a brief introduction of Ms. Hartzenbusch and an outline of her legal background which began at Harvard Law School. After graduation she clerked for a federal Judge, became a federal prosecutor in Washington, D.C., and then joined the Department of Justice where she eventually transferred to International Affairs to work as an attache at the U.S. Embassy in Bangkok, Thailand. As an attache, she plays a pivotal role in facilitating effective communication
between parties, prosecutors and high level officials and in personally representing the U.S Attorney General in Thailand for criminal matters. Her assignment and experience covering seven southeast Asian countries (Thailand, Cambodia, Laos, Vietnam, Myanmar, Malaysia and Brunei) also lends a unique perspective to the ASEAN community. After she expressed admiration for the plight of the ASEAN Community and ASEAN Dialogue Partners in continually working together to progress and enhance relationships, the Director of the ACMC concluded the discussion panel with a short question and answer period from the audience. The Inspector General of the OAG then presented Ms. Hartzenbusch with a gift before everyone joined them for photos to officially close the first day of “ASEAN and Dialogue Partners� exhibition on the ASEAN Day of 2016. (by Kimberly George, 2L J.D. Candidate, Chicago - Kent College of Law) 32
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
33
2 - 4 August 2016, Mr. Yury Chaika, Prosecutor General of Russia, led delegation of the Prosecutor General’s Office of the Russian Federation visited the Office of the Attorney General of Thailand pursuant to the Agreement on Cooperation between the parties dated 27 October 2012. ท่านพงษ์นวิ ฒ ั น์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ให้การต้อนรับคณะของอัยการสูงสุด รัสเซียเยือนส�ำนักงานอัยการสูงสุด ระหว่างวันที่ 2 - 4 สิงหาคม 2559
34
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
Mr. Pongniwat Yuthapanboriparn, Attorney General, received a courtesy call from Mr. Javad Ghavam Shahidi, Direcctor General for Department of Iranian Affairs Abroad and Iranian delegations and had a bilateral meeting on 25 August 2016. อัยการสูงสุดให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
Prof. Keisuke Senta, Director of UNAFEI and Japanese delegates paid a courtesy call to Mr. Khemchai Chutiwongse, Deputy Attorney General. Prof. Senta also gave a lecture on Japanese Criminal Justice System to trainees of the Justice Management for Executive Director Training Course, Class 6. 10 August 2016. ผู้อ�ำนวยการสถาบันยูนาเฟ่เยี่ยมคารวะรองอัยการสูงสุดและบรรยาย พิเศษหลักสูตรนักบริหารงานยุติธรรมระดับอัยการพิเศษฝ่าย รุ่นที่ 6
จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
35
Mr. Pongniwat Yuthapanboriparn, Attorney General, presided over ceremonies of Justice Management for Executive Directortraining course, Class 6. 11 July - 24 August 2016. กิจกรรมการฝึกอบรมนักบริหารการยุติธรรมระดับอัยการพิเศษฝ่าย รุ่นที่ 6
36
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
ASEAN Prosecutor Community News
The Attorney General received a courtesy call from Chief Judge of Melaka Syariah Court, Malaysia. 17 August 2016. Bandar Seri Begawan.
Mme. Chea Leang, Prosecutor General and National Co - Prosecutor, prosecuted Khieu Samphan, former President of Democratic Kampuchea (Khmer Rouge) in the Extraordinary Chambers in the Courts of Cambodia. Phnom Penh.
Attorney General H.M. Prasetyo presided over the 56th Anniversary ceremony of the Attorney General’s Office of Indonesia. 22 July 2016. Jakarta. จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
37
Introduction of Management System and Performance Evaluation. 30 August 2016. Putrajaya.
Mr. U Tun Tun Oo, Attorney General, received the delegation led by Dr. Daniel Aguirre, International Legal Adviser of International Commission of Jurists (ICJ). Nay Pyi Taw.
Mr. LE Minh Tri, Prosecutor General of Vietnam and Mr. Andre Vallini, Minister of State for Development and Francophonie of France concluded the Treaty on Mutual Legal Assistance in Criminal Matters between Vietnam and France in the witnesses of Mr. TRAN Dai Quang, President of Vietnam and Mr. Francois Hollande, President of France. 6 September 2016. Hanoi. 38
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY
This Thailand Edition of the ASEAN Prosecutor Community Newsletter (APC News) No. 4 will be distributed in October which is an auspicious month for the United Nations (UN). The 24th of October is UN Day which was the date of its establishment in 1945. The No. 4 Issue, therefore, will present a main article showing the partnership of ASEAN and the UN. The other partners of ASEAN will also be described in separate Dialogue Partners story. We are greatly honored to publish an article, “Former Prosecutor Becomes President”, sent from our Editorial Advisor, Atty. Gana, Deputy Senior State Prosecutor of the Philippines, about one of his senior colleagues, Mr. Duterte, who has become the President of the Philippines. This issue will be the last issue for this board of editors, since the editor himself will be transferred to be in charge of another assignment; not the ASEAN Community Missions Centre anymore. Hitherto, this board of editors has tried to cover news and stories of all ASEAN Prosecution Services as much as possible in order to make the APC News a fond publication and sharing forum for all ASEAN prosecutors. It is expected that the new board of editors will carry on the same mission. Lastly, we would like to thank all authors and staff who have contributed to creating this loving work of ASEAN prosecutors. We also thank Wiwat Pinmuangngam, Nan Appellate Prosecutor and Andrew Lobb, Lecturer of the Faculty of Arts, Chulalongkorn University, who have supported our work from the beginning. Editorial Advisors : Severino H. Gana, Amnat Chotchai, Intranee Sumawong, Chatchom Akapin Editor : Jumpon Phansumrit Editorial Board : Hai En Vu Thi, Phann Vanrath, Sila H. Pulungan, Pinthip L. Srisanit, Kulachai Thonglongya, Setha Tienpiragul, Kosin Dokbua, Sarinrat Jiruschamna, Pranee Thongkaew Tel: (+66)2 142 1630, Fax: (+66)2 143 7823, Email: asean.ago@gmail.com ส�ำหรับท่านที่ต้องการรับจุลสารเป็นประจ�ำสมัครเป็นสมาชิกประชาคมอัยการอาเซียน ศูนย์พันธกิจประชาคมอาเซียน ดาวน์ โหลดใบสมัครได้ที www.asean.ago.go.th จุลสารประชาคมอัยการอาเซียน
39
Mr. Pongniwat Yuthapanboriparn, Attorney General of Thailand, held meeting with Mr. Khamsane Souvong, Prosecutor General of Lao PDR, during a visit to the Office of the Supreme People’s Prosecutor of Lao PDR. Vientiane. 13 July 2016.
ASEAN Community Missions Centre, International Affairs Department, Office of the Attorney General, Government Complex, Building A, Chaengwattana Road, Lak Si, Bangkok 10210. Thailand E-mail: asean.ago@gmail.com
40
ASEAN PROSECUTOR COMMUNITY