01
baccazine says อะไรทําใหเมืองหลวงอยาง ปารีส ลอนดอน เบอรลนิ โรม และอัมสเตอรดมั ไดชอ่ื วาเปนเมืองศิลปะ
What makes Paris, London, Berlin, Rome and Amsterdam art cities?
คงเปนเพราะการมีอยูจ าํ นวนมากของพิพธิ ภัณฑ หอศิลป และโรงละคร การ เปนทีส่ ะสมผลงานระดับมาสเตอรพซี ไปจนถึงความงามทีเ่ ปนมนตขลังของ มรดกทางสถาปตยกรรม รานรวงและยานเกาทีป่ รับเปลีย่ นใหเปนพืน้ ทีแ่ สดง ศิลปะอยางกลมกลืน ประติมากรรมชิน้ เลิศพบไดในสวนสาธารณะทุกแหงหน การดีไซนทางเทาใหเดินเลนชมเมืองอยางสบายอารมณ และการมีกจิ กรรม ศิลปวัฒนธรรมกลอมเกลาผูส ญ ั จรอยางตอเนือ่ งตลอดป
It may be due to the countless numbers of theaters, museums and galleries which hold the world’s art masterpiece collections. The cities’ architecture imprints unforgettable memories in one’s mind. Shops and old towns become public art spaces where amazing sculptures can be found in each and every public park. Footpaths have been designed to accommodate city sightseeing activities. Art events are organized regularly throughout the whole year.
“เมืองศิลปะ” ในอีกมุมมองหนึง่ ก็คอื เมืองทีอ่ บอวลดวยสภาพแวดลอมทีม่ ี เสนห รืน่ รมย ชวนคนหา สรรคสรางจินตนาการไดไมรเู บือ่ บางเมืองอาจไม ไดมแี กลเลอรีม่ ากมายอยางปารีสก็สามารถปลูกสุนทรียะใหเมืองได ดวยการ สงเสริมการสรางศิลปะในชุมชนและพืน้ ทีส่ าธารณะใหมชี วี ติ ชีวา เชน อาคาร รกราง ทางเดิน ปายรถเมล สะพานลอย หรือแมแตถงั ขยะ
It can be stated then that “art cities” are places with a pleasant environment that encourages endless creation and creativity. They promote aesthetics through the support of community arts and lively public spaces. Every corner of the cities is full of art, even in the abandoned buildings, footpaths, bus stops, bridges and trashcans.
อะไรจะทําใหเมืองหลวงอยาง “กรุงเทพมหานคร” ไดชื่อวาเปนเมืองศิลปะ คําตอบคือความเปนไปไดของทั้งหมดขางตน โดยเริ่มจากเรื่องราวในหนา ถัดไปนับจากนี้….
What can make the capital city like Bangkok become an art city? Read on to find out…
บรรณาธิการบริหาร
Editor-in-chief
baccazine
บรรณาธิการอํานวยการ ลักขณา คุณาวิชยานนท์
Managing Editor Luckana Kunavichayanont
โดยหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นิตยสารศิลปะเพื่อประชาชน, แจกฟรีรายสามเดือน ฉบับที่ 6 / 2556
บรรณาธิการบริหาร รัชนีภรณ์ เรืองดิษยรัตน์
Editor-in-chief Rachaneeporn Rueangditsayarat
บรรณาธิการ ชนม์นิภา บัณฑิตพุฒ
Editor Chonnipa Banditput
บรรณาธิการฝ่ายศิลป์ อลิสา อนุกูลประเสริฐ
Art director Alisa Anugulprasert
กราฟิคดีไซน์ แอนดริว
Graphicdesigner Andrew
ดําเนินการจัดทําและจัดพิมพ์โดย บริษัท แจสมิน มีเดีย จํากัด โทรศัพท์ : 086 339 1181, 083 130 2744 โทรสาร : 02 254 6381
Producer Jazzmin Media Co.,Ltd. Tel : 086 339 1181, 083 130 2744 Fax : 02 254 6381
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ : 0 2214 6630 - 8 โทรสาร : 0 2214 6639 Website : www.bacc.or.th www.facebook.com/baccpage
Bangkok Art and Culture Centre Tel : 0 2214 6630 - 8 Fax : 0 2214 6639 Email : pr@bacc.or.th
หอศิ ล ปวั ฒ นธรรมแห่ ง กรุ ง เทพมหานครอยู่ ใ นความ ดูแลของมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ด้วยการจัดตั้งและสนับสนุนหลักจากกรุงเทพมหานคร By Bangkok Art and Culture Centre (bacc) Art Magazine for people, three - month free copy Issue 6 / 2556 Bangkok Art and Culture Centre (bacc) is under the supervision of Bangkok Art and Culture Centre Foundation, set up and tremendously supported by Bangkok Metropolitan Administration
BANGKOK,CITY OF ART
02
CONTENTS
CONTENTS Flash Light Theme Cover Did You Know World of Art World Artist In The Mood of Art The Sketch Artist Timeline My Studio Artist Hangout Exhibition Network Calendar Bacc Review Art Analyze Art Word Art Question
3 6 14 16 18 20 26 28 30 34 36 40 42 44 46 48
6
16
36
30 46 34
BACCAZINE | ISSUE 06
FLASH LIGHT
03
16 ตุลาคม 2555
อภิรักษ โกษะโยธิน ประธานกรรมการ มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแหงกรุงเทพ มหานคร (ที่ 3 จากซาย) ในงานเปด Dream Thailand นิ ท รรศการ จากผลงานและเสี ย งสะท อ นภาพฝ น
Apirak Kosayodhin (3rd person from left), Chairman of Bangkok Art and Culture Centre Foundation, in “Dream Thailand Exhibition” on 16 October 2012. 30 ตุลาคม 2555
อ.สุลักษณ ศิวรักษ เปนประธาน ในงานแถลงข า วการจั ด งาน แสดงของสถาบั น ละครใบ คนหนาขาว
30 ตุลาคม 2555
Sulak Sivaraksa as the press conference chairman for the performance of “Konnakhao Mime Academy” on 30 October 2012.
อ.จักรพันธุ โปษยกฤต ศิลปน แห ง ชาติ มาชมนิ ท รรศการ “ไทยเท…จากทองถิน่ สูอ นิ เตอร”
24 พฤศจิกายน 2555 bacc photo
Chakrabhand Posayakrit, a National Artist visited the exhibition “Thai Trends…from Localism to Internationalism” on 30 October 2012.
นิติกร กรัยวิเชียร อุปนายกสมาคม ถายภาพแหงประเทศไทยฯ เปน ประธานในงานเป ด นิ ท รรศการ สมบูรณแบบ : นิทรรศการภาพถาย ครั้งที่ 1 : 3 Women Nitikorn Kraivixien, the Vice President of the Royal Photographic Society of Thailand (RPST), as the chairman of the opening ceremony of “Picture Perfect: A Photography Series Exhibition Part I : 3” on 24 November 2012.
29 พฤศจิกายน 2555 bacc exhibition
ร.ศ.ปริญญา ตันติสุข คณบดีคณะ จิ ต ร ก ร รม ป ร ะ ติ ม า ก ร รม แ ล ะ ภาพพิมพ มหาวิ ท ยาลั ย ศิลปากร ประธานเปดนิทรรศการ“สยามแอพ” Siam Application / Appreciate / Apply Assoc. Prof. Parinya Tantisuk, Dean, Faculty of Painting Sculpture and Graphic Arts, Silpakorn University, as the chairman of the opening ceremony of the exhibition “Siam Application / Appreciate / Apply” on 29 November 2012.
8 ธันวาคม 2555 bacc exhibition
เพชร โอสถานุเคราะห กรรมการมูลนิธิหอศิลป วัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร เปนประธานใน งานเปดนิทรรศการ Hear Here เสียง เสียง
BANGKOK,CITY OF ART
Petch Osathanugrah, a committee of Bangkok Art and Culture Centre Foundation, as the chairman of the opening ceremony of the exhibition “Hear Here” on 8 December 2012.
04
FLASH LIGHT
19 มกราคม 2556 bacc exhibition
18 มีนาคม 2556
Atsuhiro Ito ศิลปนรับเชิญจากญี่ปุน ในการ แสดงสดทางแสงและเสียง ซึ่งเปนสวนหนึ่ง ของนิทรรศการ Hear Here เสียง เสียง
เจาหญิงมาทิลด แหง ราชอาณาจักรเบลเยียม เสด็จพระราชดําเนิน เป น ประธานในพิ ธี เ ป ด นิทรรศการศิลปะ “ไตรรงคแหงเบลเยียม”
Atsuhiro Ito, guest artist from Japan, in “Noise Performing”, which was a part of the “Hear Here Exhibition”, on 19 January 2013.
Princess Mathilde of Belgium presided over the opening ceremony of “Three Colours of Belgium” on 18 March 2013. 27 ตุลาคม 2555 bacc music
ครูมนัส ปติสานต ศิลปนเจาของ บทเพลงรักและเพลงผีอันโดงดังใน งาน Bangkok Music Forum ครั้งที่ 2 : เพลงรัก เพลงเด็ก เพลงผี เพลงดี ครูมนัส ปติสานต จินตนาการไมรูจบ Manus Pitisarn in “Bangkok Music Forum # 2: Love Songs, Nursery Rhymes, Ghost Songs and Other Great Songs by Manus Pitisarn: Never Ending Imagination”, 27 October 2012.
22 ธันวาคม 2555 bacc music
แหลม มอริ สั น (ที่ 3 จากซ า ย) ฉายา “กีตารคงิ ” และแขกรับเชิญดานดนตรีหลายทาน ในงาน Bangkok Music Forum ครั้งที่ 3 : ตํานานกีตารร็อค “แหลม มอริสัน”
Lam Morrison (3rd person from left) also known as “Guitar King” and other musician guests in “Bangkok Music Forum #3 : The Rock Legend Lam Morrison”, on 22 December 2012. 10 มกราคม 2556 bacc art network
ฮาน เนฟเกนส ผูกอตั้งมูลนิธิฮานเนฟเกนส ในงานแถลงขาว หอศิลปกรุงเทพฯ จับมือมูลนิธิฮานเนฟเกนส มอบรางวัล ศิลปะระดับนานาชาติแกศลิ ปนรุน ใหม ในเอเชีย Han Nefkens, founder of Han Nefkens Foundation, in the press conference on 10 January 2013 to announce its collaboration with BACC in Han Nefkens Foundation - BACC Award for Contemporary Art in Asia. BACCAZINE | ISSUE 06
15 ธันวาคม 2555 bacc cinema
สมบัติ เมทะนี (ซาย) อดีตพระเอกชื่อดัง และนักแสดงจาก ภาพยนตรเรือ่ งฟาทะลายโจร ในงานฉายภาพยนตรเรื่องสุดทาย ในเทศกาลภาพยนตรคัด สรร Cinema Diverse เรื่อง ฟาทะลายโจร Sombat Metanee (left) with other actors from the movie “Tear of the Black Tiger” in the movie event Cinema Diverse on 15 December 2012.
05
17 พฤศจิกายน 2555 bacc network
ง า น ห อ ศิ ล ป ก รุ ง เ ท พ ฯ The first BACC Artist Network Meeting พบเครือขายศิลปน ครั้งที่ 1 on 17 November 2012.
16-17 กุมภาพันธ์ 2556 bacc music
ศิลปนบนเวทีคอนเสิรตในงานเทศกาลดนตรี และศิลปะ ครั้งที่ 2 - MAB : Music & Art Fest at bacc #2
12 มกราคม 2556 bacc family
เด็ ก ๆ มาร ว มงานกั บ คั บ คั่ ง ในกิ จ กรรมวันเด็ ก ”เด็กศิลป @bacc 2556” Well received event for Children’s Day on 12 January 2013. BANGKOK,CITY OF ART
Artists on stage in the MAB: Music & Art Fest at bacc #2 on 16-17 February 2013.
06
THEME COVER
Bangkok, City of Art
จาก “รอยัล มิวเซียม” พิพิธภัณฑสวนพระองค ซึ่งเปนพิพิธภัณฑแหง แรกของประเทศไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ 4 มาจนถึงการกอเกิดของพิพิธภัณฑที่เปดสําหรับประชาชน คือ พิพิธภัณฑสถานแหงชาติ พระนคร และพิพิธภัณฑสถานแหงชาติ หอศิลป อันเปนที่เก็บรักษาและจัดแสดงผลงานศิลปะที่สืบเนื่องมาตั้งแต งานชางโบราณ มาจนถึงศิลปะรัตนโกสินทร หากนับรวมศิลปะงดงาม เกาแกนอกพิพิธภัณฑ ทั้งในรูปแบบของสถาปตยกรรม งานชางชุมชน และนาฏศิลปไทยในยานเกา เหลานี้ลวนสะทอนความเปนเมืองที่มีศิลปะ มายาวนานของกรุงเทพมหานคร
The evidence of art development could be traced from “Royal Museum”, a private museum of King Rama IV which was the origin of museum, descending to the present public museums such as the Bangkok National Museum and the National Art Gallery where collections and exhibitions of art works from the ancient times to the Rattanakosin period are on display. There are countless exterior exquisite old time arts be it in the form of architecture, community artisans and Thai classical dances in old neighborhoods vividly reflect that Bangkok has long been a city of art.
จวบจนปจจบันของวาระศิลปะรวมสมัยในเมืองทีเ่ ติบโตอยางไรขดี จํากัด แมศิลปะจะเปดกวาง แตดูเหมือนจะยังหางเหินจากการรับรูของคนเมือง สวนใหญ นอกเหนือจากพิพิธภัณฑของรัฐขางตน และหอศิลปรวมสมัย ขนาดใหญ 2-3 แหง หลายคนอาจยังไมรูวา เมืองหลวงของเรามีหอศิลป ทั้งของรัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา รวมทั้งแกลเลอรี่ทางเลือก หลายแหง และกลุมศิลปนรุนใหมที่รวมตัวกันสรางสรรคงานศิลปะอยาง มุงมั่น ขณะที่การเกิดขึ้นของหอศิลปวัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร ก็นับเปนหมุดหมายที่นายินดีในการเริ่มตนดึงคนกลุมใหมๆ เขามาดูงาน ศิลปะมากกวาแตกอน เพราะดวยที่ตั้งกลางเมือง การเปดพื้นที่สําหรับ ศิลปะทุกแขนง และการจัดสรรพืน้ ทีส่ าํ หรับรานรวงดานศิลปะตางๆ ขณะที่ ศิลปนจํานวนหนึ่งก็รวมกันผลักดันใหงานศิลปะเปนที่ยอมรับของคน หมูมาก
Presently, it is the time for contemporary art in the city that grows without limits. Today, even art is widely open but it seems that it is still far from the awareness of city dwellers. Apart from the above mentioned state run museums and some 2-3 contemporary art galleries, general public may not realize that our capital has many public, private and educational institute art galleries including many alternative art galleries. New generation of artists gather with determination to create artworks. The establishment of Bangkok Art and Culture Centre is a remarkable pinpoint drawing new generation of art enthusiasts to art appreciation. The Bangkok Art and Culture Centre located in the heart of city center with space for all branches of art display and exhibition including allotment of space for various art shops. A number of artists are working together in pushing art towards acceptance of the majority.
ดูเหมือนวาคุณคาและหนทางการเติบโตของงานศิลปะกําลังเริ่มตน แตจะเพียงพอหรือไมกบั การผลักดันใหกรุงเทพฯ ไดรบั การยอมรับวาเปน “เมืองศิลปะ”
It seems that value and path of growth for art is about to start but we have to see whether it is sufficient in driving Bangkok to be recognized as “City of Art”.
BACCAZINE | ISSUE 06
07
แหล่งเรียนรูด ้ า้ นศิลปะอย่างทัว่ ถึง
ศิลปะไมใชเพียงเรื่องสวยๆ งามๆ เพียงอยางเดียว จริงๆ แลวเปนเรื่องของ วัฒนธรรม ความรู และเปนเรื่องของการสงเสริมจินตนาการและความคิด สรางสรรค เพราะฉะนัน้ การทีก่ รุงเทพฯ จะเปนเมืองศิลปะไดนน้ั ผ.ศ.สรรเสริญ มิลินทสูต ประธานกรรมการบริหารหอศิลปวัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร และคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ใหความเห็นวา “อยางแรกคือ สรางพืน้ ที่ใหคนไดมีโอกาสเรียนรูใ นเรือ่ งตางๆ ผานงานดาน ศิลปวัฒนธรรมใหมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะเห็นไดวา ตอนนี้เราเริ่มดีกวาสมัยกอน เราเริ่มเห็นหอศิลป และมีหอศิลปขนาดที่ใหญมากขึ้น โดยการสนับสนุนของรัฐ เชน หอศิลปวัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร และหอศิลปอีกหลายแหงของ เอกชน แตอาจจะยังไมพอที่จะสรางการเรียนรูใหทั่วถึง เพราะกรุงเทพฯ มีอาณาเขตที่คอนขางใหญ หากมีหอศิลปกระจายตัวออกไปยังพื้นที่ตางๆ ให ทั่วถึงจะเปนเรื่องที่ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันหอศิลปของภาคเอกชนเองก็เปนสิ่งที่ ควรใหเกิดขึ้น การมีหอศิลปเปนภารกิจของภาครัฐที่ตองสนับสนุน และผมเห็น วาเปนโครงสรางพื้นฐานอยางหนึ่งในการใหการศึกษาแกสังคมของเรา”
แนวความคิด “กรุงเทพฯ เมืองศิลปะ” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร
“กรุงเทพมหานคร” เปนเมืองทีม่ มี รดกแหงศิลปวัฒนธรรมอันหลากหลาย เนือ่ งจาก มีผูคนหลายเชื้อชาติอาศัยอยูรวมกันมายาวนาน ตลอดจนมีการถายทอดวิถีชีวิต ความเปนอยูของผูคนจากรุนสูรุน ที่สืบตอกันมาหลายยุคหลายสมัย กอใหเกิด การผสมผสานทางวัฒนธรรมของชาติตางๆ ที่เขามามีปฏิสัมพันธตอกัน ทําให กรุงเทพมหานครมีศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ตลอดจนโบราณสถานอั น ควรค า แก ก ารอนุ รั ก ษ แ ละสามารถผสมผสานกลมกลื น กั บ ศิ ล ป วัฒนธรรมรวมสมัยไดอยางลงตัว หอศิลปวัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร นับเปนสถานทีเ่ กียรติยศอีกแหงหนึง่ ของ กรุงเทพมหานครที่ ไดจัดตั้งขึ้นเพื่อเสริมสรางศักยภาพในการเปนศูนยกลาง การแลกเปลีย่ นงานศิลปวัฒนธรรมในระดับอาเซียน อันแสดงถึงความพรอมทีจ่ ะ กาวสูค วามเปนมหานครแหงศิลปวัฒนธรรมระดับโลก จดเดนของหอศิลปวัฒนธรรม แหงกรุงเทพมหานคร คือการเปนสถานที่เรียนรูและเผยแพรผลงานดานศิลปวัฒนธรรมที่มิใชเพียงพื้นที่สําหรับศิลปน นักศึกษา หรือนักวิชาการเทานั้น แตยังเปนพื้นที่ที่พี่นองประชาชนทุกเพศ ทุกวัย และทุกอาชีพ สามารถเขาถึง เพื่อเรียนรูและชื่นชมผลงานดานศิลปวัฒนธรรมไดอยางเปดกวาง โดยสวนตัว ผมมีความชื่นชอบและสนใจในผลงานดานศิลปะเปนอยางมาก เนื่องจากเชื่อมั่น วาศิลปะทุกแขนงสามารถเสริมสรางจินตนาการและพัฒนาความคิดสรางสรรค ใหเกิดองคความรูที่หลากหลาย ซึ่งถือเปนพื้นฐานสําคัญของการพัฒนาบุคคล เพื่อนําไปสูการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเปนการสรางรากฐานที่มั่นคงใหแกเมือง มหานครทีจ่ ะตองใหความสําคัญกับการพัฒนาทุนมนุษยสคู วามเปนเลิศ ผมในฐานะ ผูวาราชการกรุงเทพมหานคร จึงมีความมุงมั่นที่จะขยายเครือขายงานดานศิลปวัฒนธรรม โดยใหพี่นองประชาชนเขามามีสวนรวมใหมากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให กรุงเทพฯ กาวสูความเปนเมืองมหานครแหงศิลปวัฒนธรรมอยางแทจริง
“Bangkok, City of Art” Concept A Thorough Art Learning Center
Art is not only the issue concerning beauty. In reality, it concerns cultures, knowledge and it is also the issue of creativity and imagination promotion. Assistant Professor Sansern Milindasuta, Chairman, Bangkok Art and Culture Centre’s Executive Commitee and Dean of School of Fine and Applied Arts, Bangkok University comments on the issue of Bangkok to become a “City of Art” as follows. “First, there should be space for people to learn more about various issues through works of art and culture. We can see that at present it is getting better. We start to see more art galleries and larger state supported art galleries such as the Bangkok Art and Culture Centre and many other private galleries. However, it may not be sufficient to create total awareness because Bangkok is quite extensive. It would be better if art galleries could spreadout. In the meantime, there should be more private galleries. It is the state duty and responsibility to support the set up of art galleries. In my opinion, I see it as a foundation for education of the society.”
BANGKOK,CITY OF ART
By BMA Governor MR Sukhumbhand Paribatra
Bangkok is the city with diverse art and culture heritage where people of different races have been living in for quite a long time. Their ways of life have been passed on from generation to generation which creates an interaction among diverse cultures. Henceforth, Bangkok has its own arts, cultures and traditions including valuable historic sites worth preservation that perfectly assimilated with the contemporary arts and cultures. Bangkok Art and Culture Centre is another place of honor in Bangkok that has been established to promote potentiality as an ASEAN Art and Culture Exchange Center. It is a move demonstrating our preparedness to become a world metropolis of art and culture. The distinction of Bangkok Art and Culture Centre is that it is not only the venue for students, artists and academic to learn and to propagate works of art and culture but it widely serves people from all walks of life to be able to access and to appreciate works of art and culture. Personally, I very much appreciate and am interested in arts because I believe that all branches of art can promote creative development to a wide range of knowledge. It is regarded as a vital foundation for personal development that could lead to a better quality of life which is essential in building strong foundation for the city that gives priority to human development capital for the excellence. In my capacity as the Governor of Bangkok, I determine to expand more art and culture networks with public participation in order to push forward Bangkok to become a genuine city of art.
08
THEME COVER
“ขณะเดียวกัน เราอาจเห็นวาหลายๆ ประเทศ มีการจัดเทศกาลใน ลักษณะตางๆ ซึง่ กรุงเทพฯ เองก็เปนพืน้ ทีท่ นี่ า จะสนับสนุนใหเกิดเทศกาลที่ หลากหลาย โดยเฉพาะเทศกาลดานศิลปวัฒนธรรม เราอาจมีเทศกาล ดานศิลปวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นอยูบาง แตอาจเปนเทศกาลที่ยังไมไดมีการ บูรณาการดานศิลปวัฒนธรรมอันหลากหลาย โดยเฉพาะอยางยิ่งการดึงให เกิดความเชื่อมโยงระหวางวัฒนธรรมของเราและวัฒนธรรมของชาติ ตางๆ โดยเฉพาะชาติเพื่อนบาน และเทศกาลนี้จะทําใหประสบความ สําเร็จได หรือไดประโยชนสูงสุดตอสาธารณชนนั้น จําเปนตองมีความตอ เนื่องและมีความชัดเจนในการดําเนินการ เชน เรารูวาทุกปมีงานมอเตอร โชว และมีคนเปนลานเขาไปดู แตเมื่อถามถึงเทศกาลดานศิลปวัฒนธรรม เราดูจะขาดแคลน โอเคเรามีงานสัปดาหหนังสือ ซึ่งเปนตัวอยางที่ดี แต การบูรณาการใหเห็นถึงความเชือ่ มโยงของศิลปวัฒนธรรมตางๆ โดยเฉพาะ ศิลปวัฒนธรรมรวมสมัยนั้น เปนสิ่งที่นาจะสนับสนุนใหเกิดขึ้น” “อีกดานหนึ่ง กรุงเทพฯ จะเปนเมืองศิลปะไมได ถาเราไมสงเสริมให นักสรางสรรคหรือศิลปนที่ทําหนาที่อยู สามารถดําเนินชีวิตดวยการทํางาน ศิลปะเปนอาชีพได เรามีคนเกงอยูมากมายในการที่จะสรางงานในลักษณะ สรางสรรคขึ้นมา แตหลายคนมีอายุงานที่สั้นมาก เพราะเขาตองตอสูตาม ลําพังหรือโอกาสเฉพาะหนา เมื่อไมมีโครงสรางทางดานอาชีพที่ยั่งยืน ก็ทําใหนักสรางสรรคเหลานี้ตองสูญเสียโอกาสและเวลา ซึ่งในการทํางาน สรางสรรคเหลานี้คงไมใชภาระหนาที่ของกรุงเทพมหานครเพียงอยางเดียว แตเปนภาระหนาที่ในระดับของนโยบายของรัฐ ที่จะวางแผนหรือสนับสนุน ใหนักสรางสรรคของเราสามารถดํารงชีวิตไดอยางยั่งยืน”
“At the same time, we may see that many countries regularly organize variety of festivals while Bangkok is also suitable for such promotion of diverse festivals particularly art and culture festivals. We might have some art and culture festivals but there is no integration of diverse of arts and culture especially the endeavor to link our culture with others particularly our neighboring countries. In order to make such festivals a success or beneficial to the public, it requires continuity and clear implementation. For example, every year we have the Motor Show where millions of people visit but when we ask about art and culture festival it seems that we lack festivals in this field. We have Book Fair which is a good example. However, it is necessary to support and promote the integration of various branches of arts and culture particularly contemporary arts and culture.” “On the other hand, Bangkok cannot become a “City of Art” if creators or artists cannot live by working on arts as a career. We have many talented people who work on creative works. However, some of them have short working life span because they have to fight alone or as when opportunity arises. When there is not permanent career structure, these artists lose their opportunities and times. It is not the responsibility of Bangkok Metropolitan Administration to provide such opportunity but it is the obligation of state at policy making level to plan and to support our artists to live sustainably.”
BACCAZINE | ISSUE 06
09
ศิลปะเข้าถึงประชาชน
เพราะงานศิลปะเขาถึงคนไดชากวาสิ่งอื่นๆ และระบบการศึกษาของไทยไมได ปลูกฝงกระบวนการเรียนรูดานศิลปะอยางจริงจัง เชน มุงสอนใหวาดรูปมากกวา สอนใหดูผลงานศิลปะ คนจํานวนมากจึงไมเกิดความสนุก และไมเกิดพฤติกรรม การดูงานศิลปะ คนดูงานศิลปะจึงคงยังเปนกลุมเดิมๆ อาจารยอาํ มฤทธิ์ ชูสวุ รรณ คณบดีคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ มหาวิทยาลัยศิลปากร แสดงทัศนะวา ศิลปะสะทอนสังคม สะทอนเมือง สะทอน วิถีชีวิต รวมทั้งอนาคตดวย ดังนั้น ศิลปะตองเขาไปมีสวนรวมกับประชาชนใหได ไมเชนนั้นจะกลายเปนวา “ทํากันเอง ดูกันเอง” ดังที่ผานๆ มา “ศิลปะสะทอนอนาคตมาหกสิบเจ็ดสิบป แตมนั ไมสอ งไมสะทอนอะไรสักที ศิลปน ตอนนี้กลายเปนชนกลุมนอยของประเทศ ทํากันเอง ดูกันเอง เวลาเราไปตาง ประเทศ เห็นประเทศที่กําลังพัฒนาเขาใชทุกชองทางในการสื่อ เชน รายการทีวี ชองฟรีทีวี อยางนอยที่สุดในครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงตองมีเรื่องศิลปะไปเกี่ยวของ แตเราไมมีสื่อพวกนี้ มันกลายเปนสื่อที่ไดรับความนิยมและมีราคาสูง ไมมีใครให เราฟรีๆ ฉะนั้นเราจะทํายังไง ผมวาเน็ตเวิรก เคเบิ้ลตางๆ เริ่มงายขึ้น อาจจะเปน อีกหนึ่งชองทาง แตก็จะมีประชาชนอีกกลุมหนึ่งซึ่งเสพพวกนี้ไมได เพราะเขาตอง ทํามาหากิน หาเชากินคํา เราจึงตองหาวิธีเขาไปอยูตรงนั้นใหได หลายอยางตอง ประกอบกัน” “การผลักดันเรื่องศิลปะเปนสิ่งสําคัญ ผมตอบเรื่องนี้ไดชัดเพราะผมเห็นมา ตั้งแตเด็กๆ ผมอยูตางจังหวัด วิชาศิลปะเปนวิชาที่ผมชอบมากที่สดุ แตเปนวิชาที่ ผมผิดหวังทีส่ ดุ เพราะครูสอนพละเปนครูทเ่ี ขียนรูปมะมวงและสอนใหเราเขียนตาม หอศิลปกรุงเทพฯ เปนหอศิลปที่ดี อยูในทําเลที่ดี ไมเคยเก็บเงินเลย เปดใหเขา ชมฟรี แตการศึกษาที่จะใหคนดูกลับไปพรอมๆ กันมันอาจจะยังนอยอยู นี่เปน เพียงความคิดเห็นสวนตัวของผมนะ เพราะผมเขาใจวาหอศิลปใหญๆ ในระดับสากล ก็เปนอยางนี้ บานเราอาจจะเพิง่ เริม่ ตัง้ ไข ก็ตอ งอาศัยวิธที เ่ี ขาถึงผูด มู ากขึน้ คุยกับ เขาไดมากขึ้น มีงานบางอยางที่ทําใหเขาอยากเขามารวมไดงาย ในขณะที่งาน บางอยางไมตองอยูในหอศิลปไดมั้ย เขาไปในชุมชนไดมั้ย คือเราตองเคาะประตู บานเหมือนกัน ตองสรางศิลปะนิสัยใหกับเขา ทําความเขาใจในเรื่องศิลปะกอน วาคืออะไร”
Art Accessible to the Public
As art can approach people slower than other things and Thai educational system does not embed serious art learning. It emphasizes on drawing rather than art appreciation. Therefore, many people do not enjoy and do not have art appreciation habit. The circle of people who appreciate arts is still in the same group. Amrit Choosuwan, Dean of Faculty of Painting, Sculpture and Graphic Arts, Silpakorn University, vouched his opinion that art reflects the society, city and way of life including future. Therefore, art needs to involve people otherwise it will become “done by themselves and seen by themselves” as it has been in the past. “For the past sixty or seventy years, art has been intended to reflect the future, however, it has not reflected anything at all. At present, artists become a minority in the country. We work among ourselves and see the works among ourselves. Whenever we visit other foreign countries, we see that developing countries use all the media such as free TV at least half an hour to one hour airing the art related subjects. But, we do not have such a media because it is a popular media and becomes costly and nobody would give us free air time. Then, what should we do? I think that those networks and cables become more and more available and might be another channel but there is still another group of people who cannot access this channel of media because they have to live hand to mouth. Therefore, we must find a means to be there. There are many factors indeed.” “It is important to push forward the issue of art. I can clearly respond this issue because I witnessed it since I was a little boy living upcountry. Art was the subject that I liked the best but it was also the most disappointed because it was physical education teacher who drew a mango and taught us to imitate his drawing. Bangkok Art and Culture Centre is actually a good art gallery, located in the good location. There is no charge, it opens free for public. However, what visitors will be able to take back with them might not be much. This is only my personal opinion because I understand that international standard art galleries should be like this. In Thailand, it might be that we are just starting. Thus, we have to find the means to approach more visitors and to find opportunity to talk with them. There are certain kinds of work that easily induce them to participate while some other works should not be in the art gallery. Could it just be in the community directly? I mean, we should knock on the doors to create the habit of art and make the public understand what art is.
BANGKOK,CITY OF ART
10
THEME COVER
”การทํางานศิลปะกับชุมชนนัน้ เราตองเขาใจวาความรูค วามเขาใจศิลปะ ของชุมชนตางกับเรา เขาอาจจะคุนเคยกับความเขาใจวาศิลปะอาจจะเปน อีกอยางหนึ่ง ฉะนั้นเราจึงไมไดเขาไปใหเขาอยางเดียว แตเราตองเรียนรู และเขาใจเขาดวย เมื่อเขาใจก็จะเกิดการแลกเปลี่ยน เขาจะยอมรับเรา เชื่อใจ ไววางใจ ศิลปะที่เราตองการนําเสนอก็จะงายขึ้น ฉะนั้นการยอมรับ ซึง่ กันและกันจึงเปนเรือ่ งสําคัญ คิดดูในกรุงเทพฯ มีประชากรในทะเบียนบาน และนอกทะเบียนบานรวมสิบสองสิบสามลานคน จํานวนประชากรเทานี้ ทํายังไงใหเขาสนใจศิลปะไดก็ไมใชเรื่องงาย แตถาเขาสนใจขึ้นมาเมื่อไหร ก็เปนเรื่องใหญ เราก็จะมีอิทธิพลลนหลาม ภาคภูมิใจในศิลปะของตัวเอง”
To create the work of art with the community, first we must realize that their understanding on the issue of art differs from ours. Their familiarity with art might be in another way. Therefore, we do not approach them only to give but we have to learn to understand them as well. Once mutually understood, there will be an exchange. They will accept and trust us. Hence, it will be easier to present them with the issue of art. Therefore, mutual recognition is important. You can imagine, population in Bangkok, with house registration or without, is around 12-13 million persons. With such a large number of populations, it is not easy to make them interested in the issue of art. However, it will become a big issue when they get interested. We will be overwhelmingly powerful and proud of our “การจะใหกรุงเทพฯ เปนเมืองศิลปะ ความเปนไปไดก็มีสงู เพียงแตมี own arts.” 2-3 องคประกอบที่จําเปนคือ 1) นโยบายดานศิลปวัฒนธรรมของประเทศ It is highly possible to make Bangkok a “City of Art”. There are only 2-3 2) นโยบายของเมือง คือ ผูว า ฯ กทม. 3) คือประชากรในเมือง ถาหากนโยบาย ทั้งสามอยางไปในทิศทางเดียวกันได เชน หากรัฐบาลมีเปาหมายหรือ necessary components i.e. (1) national policy on art and culture; (2) city policy ยุทธศาสตรทางดานศิลปวัฒนธรรมชัดเจน ผมเชือ่ วาประชาชนจะหันมาสนใจ – that is Bangkok Governor and (3) inhabitants in the city. If these 3 components ทางดานนี้ คนทีส่ นใจทํากิจกรรมทางดานศิลปะก็รวู า ตัวเองมีเปาหมายชัดเจน are in the same direction for example, if the government has clear objective or ในการทํากิจกรรมทางดานศิลปะ จะไดไมมีปญหาวาทํากันเอง ดูกันเอง strategy on art and culture and I believe that city dwellers will be more interested in this field. Then art enthusiasts will realize that they have clear goals in working อีกอยางคือตองการงบประมาณ ตองการผูสนับสนุน” on arts. There will be no further problem of “done by themselves and seen by themselves”. One more important factor is the budget. Arts need supporters.”
ศิลปะไม่จาํ กัดพืน ้ ที่
ศิลปะไมไดจํากัดอยูเฉพาะในหอศิลป พิพิธภัณฑ แกลเลอรี่ หากแตเปน ความสุนทรียที่แตงแตมใหทุกพื้นที่ภายนอก ไมวาจะเปน อาคาร ตึกราม Arts No Limit บานชอง และสวนสาธารณะ ใหเกิดความรื่นรมย มีชีวิตชีวา แลวศิลปะใน Arts are not limited only in art galleries or museums. It is the aesthetics that พื้นที่สาธารณะของกรุงเทพฯ นั้นเปนอยางไร glorify external space be it buildings, establishments and parks that make everywhere pleasant and lively. But, how is the art in public areas of Bangkok?
BACCAZINE | ISSUE 06
11
อ.อภิสิทธิ์ ไลสัตรูไกล รองผูอํานวยการสํานักงานบริหารและพัฒนาองคความรู และ ผูอํานวยการศูนยสรางสรรคงานออกแบบ TCDC ไดแสดงความคิดเห็นวา “ผมอาจ จะจํากัดความคําวาศิลปะไมใชเปนแคออปเจ็กต ศิลปะที่เปนเพนติ้ง ประติมากรรม สถาปตยกรรม ที่กองไวเพื่อความสวยงามอยางเดียว แลวก็นั่งดู นั่งชื่นชม ผมวามัน คับแคบและนอยเกินไปสําหรับคนทัว่ ไป เพราะฉะนัน้ ศิลปะของผมจึงมองถึงผูค น เหตุการณ สิ่งรอบๆ ตัวทั้งหลายในชีวิตที่มันเดินผาน ที่เราเดินเจอ กรุงเทพฯ นาคนหา นาตื่นเตน คือโดยตัวมันเองมันมีปจจัย เพียงแตไมถูกจัดการใหสมบูรณและมีความนาสนใจ เชน คิวมอเตอรไซคซึ่งเปนสวนหนึ่งของชีวิตคนในกรุงเทพฯ ถาเราจัดการกับคิวมอเตอรไซค ดวยวิธีการที่ดี เชน วิธีการจอดรถใหดูนาสนใจ มีวิธีบอกราคาที่ดูสวยและนาสนใจดวย หรือจะมีวิธีจัดการกับถนนที่เลอะเทอะ ผมวาคนสวนใหญใชชีวิตกับริมฟุตบาธ ริมถนน เรายุงเกี่ยวสัมผัสกับมันบอย แตในขณะหนึ่งเราก็ตะขิดตะขวงใจวาจะสะอาดรึเปลา ลางจานแลวมาวางกับพื้น หนูจะวิ่งผานมั้ย แตถาเราสามารถจัดการกับสิ่งเหลานี้ใหมี ระเบียบ ใหขบวนการมันดูดี นาเชื่อถือ และตอบกับชีวิตคนได ปลอดภัย กินก็อรอย ราคา ไมแพง มีคุณภาพดวย นาจะเปนสิ่งที่ดี”
Apisit Laistroograi, Deputy Director of the Office of Knowledge Management & Development and Managing Director of Thailand Creative & Design Center (TCDC), expressed his opinion as follows. “My definition of arts is not limited to objects only. Arts in the form of paintings, sculptures and architecture amass only for beauty and appreciation. In my opinion, I think it is too limited for general public. Arts in my opinion involve people, happenings and everything around us that we come across in Bangkok. By itself, it is an exciting discovery. In reality, they have their own factors that have not yet been perfectly managed and it is interesting. For example, motorcycle taxi stand which is a part of Bangkok’s way of life, if we have a better way to organize these motorcycle taxi stands such as attractive parking and beautiful and interesting fare information or how to deal with dirty roads. I believe the majority of the people frequent footpaths and roadsides stalls. However, we sometime are reluctant about hygiene such as after washing the dishes whether there is any rat running over those dishes, etc. If we could discipline this mess and make a good and reliable move in response to “สิ่งหนึ่งที่ผมรูสึกมากในกรุงเทพฯ คือเรื่องปายที่มีอยูทุกที่บนถนน เวลาดูหนังสือ people life and safety with delicious and quality food at affordable price, it would เวลาทํางานเรามักจะรูสึกดีกับงานกราฟกที่ดูดี สบายตา ยิ่งสวยยิ่งนาสนใจ แตทําไมเรา be a good move.” ไมมีกราฟกบนถนนที่ดูสวย ดูสนุก และใหขอมูลดวย เรามีปายจนรูสึกวามันกระแทกเรา “What hits me most in Bangkok is signage on the roads. When we read a ไปหมดเลย ผมวามันตองการคนที่มีหนาที่มาจัดการ ผมมักมีคําถามอยูในใจตลอดเวลาวา บางปายมีสิทธิ์มาตั้งมาวางตรงนี้เหรอ เชน ปายโฆษณาบนเสาเหล็กที่อยูบนหนาทางดวน book or when we work, we always feel good with good graphics that are eye คนขับรถบนทางดวนมีสมาธิอยูบนความเร็ว แตปายมาปะทะสายตาทําใหขัดกับความรูสึก pleasing. The more beautiful, it becomes more interesting. But, why we don’t have ในขณะที่ปายโฆษณาบางอันก็มีไฟแรงมากเกิน มันกระทบสายตา หรือแมกระทั่งปายที่ graphics on the roads that is beautiful, enjoyable and informative. We have too ซอนๆๆๆ กันริมถนน หรือรานคาที่มีปายยื่นออกมาจนเกินงาม ตางจากเมืองนอกนะ เชน many signage that hit us. I think it needs responsible body to handle the issue. I เยอรมนี ผมไมเห็นมีปายอะไรที่มันเปนทิศขวางกับตัวอาคารเลย แตปายจะอยูดานติดกับ always have questions in my mind do these signs have any right to be where they อาคาร เพราะเขาจะไมอนุญาตใหติดปายขวางอาคาร อยางนอยสุดก็ทําใหรูสึกวาสภาพ are. For example, the advertisement boards on the iron scaffolds by the express แวดลอมที่รบกวนเรามันลดลง ผมวามันตองมีความพอเหมาะพอดีกับความตื่นเตนในแง way attract the vision of the drivers who need to concentrate on speed. It is contrast to our feeling. Some advertisement boards use too high voltage lighting ของศิลปะกับชีวิตจริง” that also glare the vision. Even those overlapped signage by the roadsides or “สวนพืน้ ทีท่ น่ี า สนใจในกรุงเทพฯ ก็มอี ยู ผมวาสกายวอลกทีเ่ ขาปรับปรุงใหมตรงเกษรพลาซา shop houses with unusual extended signage are eye soaring. Here, it differs from ดีขึ้น เดินผานตรงจากสถานีชิดลมไปจนถึงเซ็นทรัลเวิลด เปลี่ยนแปลงสีสัน ทําเสาใหม other countries such as in Germany where I do not see any signage in transverse ดูดีขึ้น สะอาด ทําใหบรรยากาศสภาพแวดลอมดี นาเดิน ทําใหผมรูสึกวามันไมจําเปนจะ direction with the buildings. All the signage is attached to the buildings because ตองรีบเดินมาก ฉะนั้นถาเรามีอยางนี้และขยับขยายออกไป ไมตองบนสกายวอลกก็ได แต they do not permit to put the signs in traverse direction with the buildings. At least ขยายไปบนฟุตบาธและในซอยใหเรียบรอยกวานี้ไดมั้ย หรือแมกระทั่งพื้นที่รกรางวางเปลา it makes us feel that disturbing environment is reducing. I think that there should ที่มีอยูพอสมควรไมวาจะเปนของเอกชน หรือรัฐบาลก็ตาม บางพื้นที่รกรางมาหลายป be a sense of proportion between excitement in arts and real life.” เราสามารถนําพื้นที่รกรางนี้มาทําใหเปนสวนหยอมเพื่อใชประโยชนไดมั้ย อยางพื้นที่ “For me, interesting space in Bangkok is still available. I think the renovated เอกชนที่ยังไมไดใชงาน เชน เขาบอกยังไมใช 2 ปนี้ เราก็ทําอะไรใหรูสึกวากรุงเทพฯ ดูดี ขึ้นได 2 ป เขาไมใช 5 ป เราก็ทํา 5 ป ผมวามันเลือกได ในหลายๆ สี่แยกถาเราลองขาม skywalk at Gaysorn Plaza is much better. It directly links BTS Chidlom Station to ถนนตอนกลางวันมันรอนมาก รอรถกวาจะไดขามแยกหนึ่งประมาณ 4-5 นาที ถามีตนไม Central World. With change in color and new pillars, it looks much better and มีสวนหยอมอยูในแยก มันก็จะทําใหกรุงเทพฯ ดูนาอยู สิ่งเหลานี้ในความรูสึกผมมันเปน cleaner. The ambience is good and pleasant to walk. It makes me feel that we do not have to walk quickly. Therefore, if we can have something like this, not ศิลปะอยางหนึ่ง ที่จะทําใหคนในชุมชนที่อยูในนั้นอยางกลมกลืน” necessary to be on the skywalk, it could be on the footpaths or side roads. Could ”และทายสุดเราก็จะใชศลิ ปะไดกบั คนทัว่ ไป ศิลปะจะไมถกู ไปเก็บไวในหอศิลป ในพิพธิ ภัณฑ we make them more pleasant? Could we even turn some vacant pieces of land ในบานใคร แตเปนสิ่งที่เรามาแชรรวมกัน พื้นที่ไหน มุมไหนในกรุงเทพฯ ที่พรอมกอนก็ around Bangkok, either state or private property, into small parks? For example, ทําไปกอน ไมตองรอทั้งหมดทั้งเมืองก็ได สวนเล็กที่มนั มีโอกาสทําไดควรจะรีบทํา สายไฟ there is a piece of private land that the owner does not have the plan to make ระโยงระยางที่หอยระหัวทําไมไมทํา หรือเรานาจะทําแคมเปญ เชน ผมเคยคิดอยากแจก within the next 2 or 5 years, we could turn it into something that would make ปายที่เขียนวา “ฉันไมชอบที่นี่” “ฉันไมชอบสิ่งนี้” ใหกับคนกรุงเทพฯ แลวขอ กทม. Bangkok more beautiful for 2 or 5 years. I think we can choose to do. If we try to วา ภายใน 1 เดือน อนุญาตใหคนกรุงเทพฯ ไดติดปายเหลานี้ กทม.จะรูเลยวาคนไมชอบ cross the street at many intersections during the day when it is very hot and we อะไรบาง หรือจะทํา 2 ฝงก็ไดคือ “ชอบ” กับ “ไมชอบ” เราจะไดเห็นขอเท็จจริงวาอะไรที่ have to wait a long time, around 4-5 minutes, for crossing, it would be better if มันแย และถาสิ่งเหลานี้มันดีขึ้นๆ ผมก็เชื่อวาความตื่นเตนของกรุงเทพฯ มันจะผสมผสาน we have a small garden at the intersection. If at the intersections, there are trees and small gardens, it would surely make Bangkok a pleasant place to live. In my กันกับความสะดวกกาย สบายใจเพิ่มมากขึ้น” opinion, this is a form of arts that keeps harmony in the community.
BANGKOK,CITY OF ART
12
THEME COVER
“ผมมองวา เรายังขาดสะพานเชือ่ มตอระหวางสถาปนิกและอาชีพตางๆ อยางเชน นักออกแบบ กับศิลปน ก็เลยทําใหเราไมเห็นศิลปะบนถนน อาคาร ผนัง ฟุตบาธ แตในตางประเทศเนื่องจากขนบธรรมเนียมวิธีการ ตางๆ เขาถายทอดผานขบวนการทางสถาปตย และจึงนํานักออกแบบไป ทําใหหนาตาดูสวย มีเกาอี้นั่งหนาอาคาร แบงสเปซอยางดี แตเราไมได สืบทอดเรื่องแบบนี้ไว…ผมวาสถาปนิก นักออกแบบ และศิลปน สามารถ เจอกันไดนะ เพราะโดยอาชีพมันอยูบนพื้นฐานที่ใกลเคียงกัน เพียงแต การยอมรับระหวางคนสองคนมันตองมีซง่ึ กันและกัน ไมใชใครเปนพระเอก ผมคิดวาโลกวันนี้มันไมมีฮีโร ไมมีมาสเตอรพีซของคนนี้ ไมมีมาสเตอร ของศิลปนคนนี้ ไมตองมีศิลปนใหญ ไมตองมีนักออกแบบยิ่งใหญ แตทุก คนมีสวนรวมกับการออกแบบ โลกตองการคนหลายๆ คนรวมกันทํางาน ใหโอกาสซึ่งกันและกัน ใหโอกาสกับอาชีพเขา และคนในชุมชนตองมี สวนรวม เพราะคนในชุมชนเห็นผลประโยชนรวมกัน ถาเมื่อไหรมีผล ประโยชนรวมกันมันจะอยูในขนบที่ดี” “กรุงเทพฯ มีปจ จัยในการเปน (เมืองศิลปะ) แตมนั ไมเปน เพราะไมมกี าร จัดการใหเปนระบบระเบียบ ก็เลยทําใหเราไมเห็นคุณคาของศิลปะ ถาเรา จัดการใหมันอยูในแบบแผนที่ดี คือระเบียบไมไดหมายความวาเอาปายมา เรียงแถวนะ แตใหอยูในระบบของมัน ก็จะกลายเปนศิลปะที่อยูในชีวิตได กรุงเทพฯ เปนเมืองที่นาอยูได อะไรก็ตามที่ทําให 1) ประเทืองปญญา 2) ทําใหสุขภาพจิตดี ผมมองวามันเปนศิลปะ แตตองอาศัยเวลา คือเราตอง ยอมรับขอเท็จจริงวาลักษณะของกรุงเทพฯ โครงหลักใหญๆ เราเปลี่ยน อะไรไมไดเพราะเปนวัฒนธรรม แตทาํ ยังไงทีเ่ ราจะชวยทําใหนา อยู นาสนใจ อยูแบบเกื้อกูลกันได ผมวาไมตองจัดระเบียบถึงขนาดสิงคโปร นั่นมัน แหงแลง เราตองจัดความสมดุลเพื่อใหตอบโจทยคนไทย ชีวิตเรายังเปน อยางนี้ กินกวยเตี๋ยว 30 บาทขางถนน แตของขางถนนตองมีคุณภาพ มันตองรูสึกวาถาชีวิตผมไมไดกินกวยเตี๋ยวขางถนน ชีวิตผมตองไมถูก ลิดรอนสิทธิ์ในการที่จะเดินบนถนน มันตองอยูรวมกันได”
ทั้งหมดทั้งมวล นาจะเปนการฉาย ภาพสวนหนึ่งใหเห็นและขบคิดกัน ตอไดวา กรุงเทพฯ จะเปนมหานคร แหงศิลปะ...ไดจริง
ขอขอบคุณ อ.อภิสทิ ธิ์ ไลสตั รูไกล รองผูอ าํ นวยการสํานักงานบริหารและพัฒนาองคความรู ผูอ าํ นวยการ ศูนยสรางสรรคงานออกแบบ TCDC อ.อํามฤทธิ์ ชูสวุ รรณ คณบดีคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ มหาวิทยาลัยศิลปากร อ.สรรเสริญ มิลนิ ทสูต ประธานกรรมการบริหารหอศิลปวัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร และคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
Thanks to Apisit Laistroograi, Deputy Director, Office of Knowledge Management & Development and Managing Director of Thailand Creative & Design Center (TCDC) Amrit Choosuwan, Dean, Faculty of Painting, Sculpture and Graphic Arts Assistant Professor Sansern Milindasuta, Chairman, Bangkok Art and Culture Centre’s Executive Committee and Dean of School of Fine and Applied Arts, Bangkok University
Finally we can use arts with general public. Arts will not be kept in the art galleries, museums or private collections. But it is something that we can share. Any area in Bangkok that is ready can go ahead with the plan. It is not necessary to wait for the whole city to be ready. Small area that is ready, should do it right away. Why not anyone do anything about overhead mess of electricity wiring? I used to think of making signage that reads ‘I don’t like here’ or ‘I don’t like this’ and ask BMA’s permission to distribute to people in Bangkok who will stick it around Bangkok so BMA will know what people don’t like. Or else, it can be done on 2 sides ‘like’ and ‘don’t like’. We will be able to learn the truth that what is bad or what is good. If this could make thing getting better, I believe that the excitement of Bangkok will integrate with convenience and increasing contentment.” “I see that we lack linkage between architects and other professions such as designers and artists. Thus, we will not see art on the roads, buildings, walls and footpaths. But in other countries, they relay their culture through architecture that leads designers to beautify the project with benches in front of the building and proper spacing. However, we never have such an inheritance. …. I think that architects, designers and artists could work together because by profession they all have similar basis but they need to be mutually acceptable. It is not the subject of who is the leading actor. I think that the world today has no more heroes. There is no longer the masterpiece belonging to certain artist, no more great artists, no more great designers but everyone has to participate in designing. The world needs people of all professions to work together, providing opportunity to each other, providing opportunity to their profession. People in the community have to get involved because they could see mutual benefits. Wherever there is a mutual benefit, it is a good practice.” “Bangkok possesses the factors for being a “City of Art” but it could not be so because there is no organized management that makes dwellers aware of the art values. If we could manage it in a good scheme, in its own scheme, it will become art in the life of Bangkok. Good scheme is not just lining up all signage. Bangkok can be a pleasant inhabitable city. I see that anything that (1) enriches our minds and (2) gives mental health is art. It takes time. We have to accept the truth that we cannot change the major structure of Bangkok because it is the culture. But, how we can make it pleasantly livable, interesting, complementary living with each other. I think we should not strictly discipline as in Singapore, it is very dry. We have to compromise the balance in response to Thai people that our way of life have to be like this; eating 30 Baht noodle on the roadsides but roadside foods need to be quality foods. It should make us feel that though we do not eat roadside noodle, we are not deprived of our right to walk on the road. We should live together.”
All in all, the above is projecting a part of the picture and leaving us to ponder further whether Bangkok can really become a “City of Art”
BACCAZINE | ISSUE 06
13
+ นานาทัศนะของคนหลากอาชีพกับ ประเด็น “เราจะช่วยให้กรุงเทพฯ เป็น เมืองศิลปะได้อย่างไร?” ธีรวุฒิ สถิตภัทรกุล / ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ ด้านศิลปวัฒนธรรม
“เริ่มจากตัวเองนี่แหละงายที่สุด ชวยดวยการสรางศิลปะในตัวเองและ สิ่งแวดลอมรอบตัวเรา ดึงความชอบในศิลปะตางๆ ออกมาใหมีศิลปะอยู รอบตัว แคนี้กรุงเทพฯ ก็เปนเมืองศิลปะไดแลว” นิคม จันทร์ของแก่น / วิศวกร
“กรุงเทพฯ เปนเมืองแหงศิลปะอยูแลว เอางายๆ ก็แคไปเดินรอบๆ เกาะ รัตนโกสินทร เดินดูสถาปตยกรรมตางๆ เชน วัดพระแกว ฯลฯ สิ่งกอสราง ยานนั้นสวยมาก มันชัดเจนอยูแลววาเราเปนเมืองแหงศิลปะมานาน” วนันยา ปาลกะวงศ์ / นักเขียนอิสระ
“งายๆ คือมีสวนรวมกับกิจกรรมศิลปะที่จัดขึ้น เปนการเปดโลกทัศนตัวเอง เปนการสนับสนุนใหเกิดการรับรูไ ปในวงกวาง และเปนการสนับสนุนศิลปน อีกดวย รวมถึงเห็นความสําคัญชวยกันดูแลอาคาร สถาปตยกรรมตางๆ ในเมือง” วิภาวี วุฒิวัย / ครีเอทีฟ อีเวนท์ อะเดย์
“อยางแรกตองคิดวาศิลปะของเราคืออะไร หากเราเปนคนชอบถายรูป เราก็ถายรูปสถานที่ที่เราผาน ถายใหมันสวยๆ ในแบบที่เราชอบ แลวก็ อัพโหลดลงอินสตาแกรม หรือเฟซบุก แลวแชรใหเพือ่ นๆ ในโซเชียลเน็ตเวิรก ของเราไดดูกันไปเยอะๆ มันเปนเปนการสรางงานศิลปะอยางหนึ่ง” ตวงพร รุ่งเรือง (MISS INK) / ศิลปิน (Artist)
“เราควรตองมีพิพิธภัณฑศิลปะ หรือเเกลเลอรี่ใหมากขึ้น อยากใหสงเสริม ในเรื่องพื้นที่ในการเเสดงงาน เพราะคิดวามันนามีผลดีตอทุกคน ไมใชเเค เฉพาะตัวศิลปน แตมันเหมือนกับเปนการเปดทัศนศิลปใหแกคนในสังคม เปนการปรับพื้นฐานจิตใจ ทําใหผูคนไดเสพงานศิลปะ
+ Varied viewpoints on the issue “How we can help make Bangkok become “City of Art” from various professions Theerawut Stitpatrakul/television reporter on art and culture
“It is easier to start from ourselves. We can help by creating art for ourselves and the environment around us. Pull out variety of arts and put them around us. Bangkok can become “City of Art.” Nikom Chankongkaen/Engineer
“Bangkok is already a City of Art. Just take a walk around the Rattanakosin Island admiring magnificent architecture such as Emerald Buddha Temple, etc. Buildings in this area are all very beautiful. It is vivid that Bangkok has long been a City of Art.” Wananya Palakawong/ Freelance Writer
“Simply participate in the art activities. It expands our horizons and supports the learning in wide circle. It is a support to the artists. The endeavor includes recognition the importance of the maintenance of architectures in the city.” Vipavee Vuthivai/Creative A-Day Event
“First, we should think what our field of art is. For example, if we like photography, we take photographs of the places we visit. Take it beautifully in the style that we like and then upload those photographs on Instagram or Facebook and share with friends on social networks. It’s a means to create network of art.” Tuangporn Rungruang (MISS INK)/Artist
“We should have more art museums or art galleries. I would like to see the promotion on exhibition space because I think that it might be beneficial to everybody, not only the artists. It is like opening visual arts to people in the society. It is a means to improve your mind and make people appreciate arts more and more.”
BANGKOK,CITY OF ART
14
DID YOU KNOW
COLUMNIST : KARAYANAMIT / PHOTOGRAPHER : JEAB
ย้อนรอยศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร
พิพธ ิ ภัณฑ์แห่งแรกของไทยคือ?
พิพธ ิ ภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นรากเหง้าของกรุงเทพมหานครปัจจุบันยังคงดําเนินตาม ครรลองของมันเรื่อยมา เพียงแต่ว่าทุกวันนี้เราอาจไม่มีการกล่าวถึง คนรุ่นหลัง อาจไม่รู้กันว่าบุคคลที่เราได้ยิน สิ่งที่เดินผ่านหรือผ่านตากันอยู่ทุกวันในเมืองนี้มี ความเป็นมาที่สําคัญอย่างไร Many of us may take the historical background of Bangkok, the City of Angels, for granted. Let’s take a look at some of the interesting facts about this charming city.
ภาพอาจารยศลิ ป พีระศรี บนอาคารเรียน มหาวิทยาลัย ศิลปากร ทาชาง
บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทยคือ?
อาจารย์ศลิ ป์ พีระศรี ทุกวันที่ 15 กันยายน ของทุกป คนในแวดวงการศิลปะตางรูดีวาเปนวัน รําลึกถึงบิดาแหงศิลปะใหมของไทย “อาจารยศิลป” หรือศาสตราจารยศิลป พีระศรี (คอรราโด เฟโรชี) ผูกอตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร ครูสอนศิลปะ และปู ช นี ย บุ ค คลสํ า คั ญ ในวงการศิ ล ปะเมื อ งไทยที่ ส ร า งสรรค ผ ลงาน อันโดดเดนหลายชิน้ ใหกบั ประเทศ โดยเฉพาะงานประติมากรรมสําคัญของ กรุงเทพฯ อาทิ พระบรมราชานุสาวรียปฐมกษัตริยแหงราชวงศจักรี ขนาด 3 เทาคนจริง ที่ประดิษฐาน ณ เชิงสะพานพระพุทธยอดฟาจฬาโลก พระบรมราชานุสาวรียของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัวที่ สวนลุมพินี และพระบรมราชานุสาวรียสมเด็จพระเจาตากสินมหาราช ที่วงเวียนใหญ เปนตน Do you know the Father of Modern Arts in Thailand? Silpa Bhirasri Professor Silpa Bhirasri (Corrado Feroci) is the founder of Silpakorn University, renowned art teacher, and designer and sculptor of many master pieces in Thailand, including the Statue of King Rama I at the Memorial Bridge, the Statue of the King Rama VI in Lumphini Park, and King Taksin Monument at Wong Wien Yai. To commemorate his great contributions to Thailand’s modern arts, September 15th of every year is the day that Thai artists would especially remember and pay respect to this great artist and teacher. BACCAZINE | ISSUE 06
ตนกําเนิดพิพธิ ภัณฑแหงชาติในปจจบันมาจากในพระบรมมหาราชวัง ตัง้ แตสมัย รัชกาลที่ 4 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัวทรงจัดตั้งพิพิธภัณฑ สวนพระองคขน้ึ ทีพ่ ระทีน่ ง่ั ราชฤดีและพระทีน่ ง่ั ประพาสพิพธิ ภัณฑ จนถึงสมัย รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกลาฯ ใหจดั ตัง้ พิพธิ ภัณฑสถานสําหรับพระนครขึน้ ที่ หอคองคอเดีย ศาลาสหทัยสมาคมในปจจบัน ที่เรียกวา “มิวเซียม” หรือ “พิพิธภัณฑสถานหอคองคอเดีย” เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2417 ซึ่ง ถือเปนวันกําเนิดของพิพธิ ภัณฑสถานแหงชาติแหงแรกของประเทศไทย กอนที่ พิพธิ ภัณฑจะยายมาตัง้ ทีพ่ ระราชวังบวรสถานมงคลหรือวังหนา และเปลีย่ นมา เรียกวาพิพธิ ภัณฑสถานแหงชาติ พระนคร ในรัชกาลที่ 7 จนถึงปจจบัน Where is the first Thai National Museum? National Museum Bangkok The present National Museum had its origin in the royal Grand Palace when King Rama IV ordered to set up a private royal museum at Rajaruedee Palace and at Prapaspitpittapan Palace. Subsequently in the reign of King Rama V, he ordered to set up on September 19, 2417 B.E. (1874 A.D.) a museum for Bangkok called “Museum” or “Concordia Museum” at the Concordia Hall, presently is the Sahathai Samakom Pavilion. The date has since then been regarded as the foundation day of the first national museum in Thailand. Later on the museum was relocated to Bovorn Sathan Mongkol Palace, known by Thais as Wang Na or Front Palace. In the reign of King Rama VII, the name was changed to National Museum Bangkok which has been in use until nowadays.
15
โรงภาพยนตร์สําหรับฉายภาพยนตร์ เสียงแห่งแรกของพระนครคือ?
ศาลาเฉลิมกรุง ทีแ่ หงนีม้ ปี ระวัตคิ วามเปนมา เกีย่ วพันกับความรุง เรืองของกรุงเทพมหานคร รวมทัง้ ยังเปนตัวแทนความรุง เรืองของวงการภาพยนตรไทยในอดีต เนือ่ งจาก เมือ่ ป พ.ศ. 2475 ในรัชกาลที่ 7 มีการฉลองพระนครครบรอบ 150 ป พระองคทรงใหจัดสรางสะพานพระพุทธยอดฟา (สะพานพุทธ) เพื่อเชื่อม กรุงเทพมหานครกับกรุงธนบุรี และในโอกาสเดียวกันนัน้ ทรงเห็นวาสิง่ บันเทิงที่ เฟอ งฟูมากทีส่ ดุ ในยุคนัน้ คือ“ภาพยนตร”และในพระนครยังไมมีโรงภาพยนตร ทีม่ ลี กั ษณะสวยงามเปนหนาเปนตาแกเมือง จึงโปรดฯ ใหสรางโรงภาพยนตร สําหรับฉายภาพยนตรเสียงขึน้ เปนแหงแรก ออกแบบโดยหมอมเจาสมัยเฉลิม กฤดากร และไดพระราชทานนามโรงมหรสพเพือ่ เปนเกียรติแกผอู อกแบบ และเปนอนุสรณแหงงานฉลองพระนครครบ 150 ป วา “ศาลาเฉลิมกรุง”
ชุมชนนาฏศิลป์อน ั เก่าแก่ อยูท ่ ไ่ี หนของกรุงเทพฯ?
บ้านนราศิลป์
Do you know the first movie theater that showed motion pictures with synchronized sound in Thailand? Sala Chalermkrung Royal Theatre The theater was established in 1932 upon King Rama VII’s vision to celebrate the 150th year anniversary of Rattanakosin Era. In addition to the construction of Phra Phuttha Yodfa Bridge, also known as the Memorial Bridge, this theater was built to support the booming movie industry at that time. It was designed by Prince Samai Chalerm Kritdakorn.
ตั้งอยูที่ชุมชนวัดแคนางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) ซึ่งถือเปนแหลงรวม ศิลปะการแสดง โขน ละคร และนาฏศิลปไทยแขนงตางๆ ที่เกาแกที่สุด แหงหนึ่ง ทั้งยังเปนแหลงที่อยูอาศัยของบรรดานักแสดงโขน ลิเก ละคร และครูดนตรีไทย ตั้งแตยุคตนรัตนโกสินทรเรื่อยมา ถือเปนศูนยรวม วัฒนธรรมนาฏศิลปหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย มอญ ทวาย ที่มาตั้ง รกรากกันสองฝงถนนหลานหลวง คณะนราศิลปโดงดังอยางมากในยุค รัชกาลที่ 6 และปจจบันบานนราศิลปยังคงดําเนินการในดานนาฏศิลป โดยเป น แหล ง เรี ย นรู ศิ ล ปะการฟ อ นรํ า ของลู ก หลานในชุ ม ชนเรื่ อ ยมา จนถึงปจจบันนับเปนเวลากวา 100 ปแลว Do you know where the traditional dancing arts community is in Bangkok? Ban Nara Silpa For more than 100 years, Ban Nara Silpa has been the center of various Rattanakosin dancing styles, including the dancing arts of Thai, Mon and Tibet-Burmese communities who had settled along the Lan Luang Road. Ban Nara Silpa reached its peak during the reign of King Rama VI and still performs as the learning center until today. It is located at Wat Khae Community, Nang Loeng (Wat Sunthorn Thammathan).
ใครออกแบบสถานีหวั ลําโพง? มาริโอ ตามาญโญ สถาปตยกรรมที่ถือเปนเอกลักษณอันโดดเดนแหงหนึ่งของกรุงเทพมหานครอยาง “หัวลําโพง” นั้นไดรับกลาวขานวามีความคลายคลึงอยางนาประหลาดกับสถานี รถไฟแฟรงกเฟรต ในประเทศเยอรมนี โดยเฉพาะรูปลักษณของโครงสรางอาคาร ทรงโดมประดับนาฬกาเรือนใหญ ซึ่งคาดวาคงเปนไปตามแรงบันดาลใจของ “มาริโอ ตามาญโญ” สถาปนิกนักออกแบบชาวอิตาเลียน สวนชื่อหัวลําโพงนั้น สันนิษฐานกันวา ตั้งชื่อตามคลองและทุงที่มีฝูงวัววิ่งกันคึกคักสมัยกอนที่เรียกวา “ทุงวัวลําพอง” และไดเพี้ยนเสียงมาเปน “หัวลําโพง” บางก็สันนิษฐานวามาจากชื่อ ตนไมชนิดหนึ่งคือ “ตนลําโพง” ซึ่งเคยมีมากในบริเวณนี้
Do you know who designed the Hua Lamphong Railway Station? Mario Tamagno The appearance and layout of Hua Lamphong Railway Station is one of Bangkok’s most prominent architectural structures. It is famous for its half dome fac,ade and the giant clock on the front gable, which is very similar to the Frankfurt Train Station in Germany. The designer of this magnificent place is the Italian architect named Mario Tamagno.
BANGKOK,CITY OF ART
16
WORLD OF ART
COLUMNIST : YUNE & PED
NEW YORK, USA MoMA PS1’s VW Dome 2
Rijksmuseum
<<
Photo : CHARLES ROUSSEL / COURTESY MOMA PS1, ELK Studio
ชื่ออาจฟงดูยาวและจํายากไปนิดเหมือนจะเปนโคดลับของอะไรสัก อยาง แตจริงๆ แลว MoMa PS1 เปนโปรเจ็กตพื้นที่ศิลปะที่ Museum of Modern Art หรือ MoMa ในนิวยอรก ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดตั้ง ขึ้นโดยไมหวังผลกําไร คราวนี้ ไดรวมมือกับ Volkswagen บริษัทผลิต รถยนตสัญชาติเยอรมนี สราง MoMA PS1’s VW Dome ขึ้น โดยสวน หนึ่งเพื่อฟนฟูพื้นที่เสียหายจากพายุเฮอริเคน Sandy ที่พัดถลมทํา ความเสียหายจํานวนมากใหกับบริเวณรอบๆ Rockaway Peninsula ในนิวยอรก เมื่อป พ.ศ. 2555 โดมขาวเหมือนกับหลุดออกมาจากหนัง Sci-Fi นี้ สรางขึ้นเพื่อเปนศูนยรวมที่มีพื้นที่เพื่อการฟงบรรยาย แสดงงานศิลปะ ฉายหนัง และจัดงานสาธารณะอื่นๆ ถึ ง แม เ ราจะไม ส ามารถเก็ บ กวาดซากเสี ย หายออกไปทั้ ง หมดได ในเวลาอั น สั ้น แต่ เ ราก็ ส ามารถพูดได้ว ่าศิ ลปะมีส่วนช่วยฟื้ นฟูพื้ นที่ เสียหายก็ไดไมผิดนัก นอกจากนี้ MoMa PS1 ยังคาดหวังวาผูคนที่ มาใชพื้นที่บริเวณโดมนี้จะใชงานศิลปะเปนตัวชวยในการติดตอสื่อสารกับ คนอื่นและสรางเครือขายใหมๆ ไดอีกดวย
AMSTERDAM, NETHERLANDS
ภาพ The night watch ของ Rambrandt
หลังจากปดซอมไป 10 ป พิพิธภัณฑ Rijksmuseum แหงอัมสเตอรดัม เนเธอรแลนด ก็กลับมาเปดทําการอยางยิ่งใหญใหสมกับเปนพิพิธภัณฑ ศิลปะที่เก็บรวบรวมผลงานสําคัญของโลกไวหลายชิ้น หนึ่งในนั้นคือภาพ The night watch ของ Rambrandt ภาพนี้สําคัญขนาดที่วาเปนภาพ เดียวในพิพิธภัณฑที่มีทางเลื่อนหลบภัยเปนของตัวเอง สําหรับใชในยาม ฉุกเฉิน และเปนงานชิ้นเดียวใน 8,000 ชิ้นที่ยังคงปกหลักอยูที่เดิมไม ไดยายที่แสดงไปกับการจัดแผนผังใหมของพิพิธภัณฑ จากเดิมที่มี คนเขาชมปละลานคน ทางพิพิธภัณฑคาดวาคนจะเพิ่มเปนสองลานคน ตอป ในโอกาสนี้ก็มีโฆษณาที่กลายเปน Viral clip นั่นคือทางพิพิธภัณฑ ใหคนแตงตัวเปนบุคคลในภาพ The night watch บุกเขาไปในหางทองถิ่น แถวนั้น เรียกความสนใจจากคนรักศิลปะไดทั่วโลก
17
LENS, FRANCE Photo : Iwan Baan
Photo : Ped Yoon
Louvre Lens
วันนี้เมือง Lens เขตทําเหมืองทางเหนือของประเทศฝรัง่ เศสเรียกไดวา เปน ศูนยกลางของศิลปวัฒนธรรมใหมไปแลว จากเดิมทีเ่ มืองนี้ไมไดดงึ ดูดนักทองเทีย่ ว เทาไหร ทั้งที่มีประวัติศาสตรมาพอสมควร เมืองนี้เคยถูกถลมดวยระเบิดสมัย สงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกยึดโดยนาซี และกลายมาเปนเมืองขุดเหมืองที่ปดตัวไป แตเเลวสภาพเมืองก็ไดกลับฟนคืนมามีชีวิตชีวา เมื่อมีการแบงงานศิลปะ สวนหนึ่งของพิพิธภัณฑ Louvre มาแสดงที่นี่ โดยมีเปาหมายคือการฟนคืนชีวิตให กับเมือง เชนเดียวกับที่พิพิธภัณฑ Guggenheim จัดใหกับเมือง Bilbao ประเทศ สเปน และการที่ Lens ไดรับเลือกในโครงการนี้ เปนเพราะทําเล ซึ่งใชเวลา ไมนานในการเดินทางไป Lille แหลงทองเที่ยวสําคัญของฝรั่งเศส อีกทั้งอยู ใกลอุโมงคขามไปอังกฤษ และสามารถเดินทางไปเบลเยียมไดภายใน 30 นาที งานนี้ไดบริษัท SANAA ของสถาปนิกคูชาวญี่ปุนผูไดรับรางวัล Pritzker Prize ที่ผานการออกแบบหอศิลปและพิพิธภัณฑมาแลวมากมาย มารวมทํางานกับ นักวางแผนภูมิทัศน เพื่อสรางพิพิธภัณฑ Louvre Lens ซึ่งพวกเขาออกแบบ เปนอาคารเตี้ยที่สามารถเขาถึงไดงาย ตัวอาคารมีโครงสรางเปนกลองแกว ทําใหสามารถกลมกลืนและมองเห็นภูมิทัศนของเมืองไดโดยรอบ และเปน ความตั้งใจของสถาปนิกที่เปดทางเขาไวหลายทางเพื่อดึงดูดคนและทําใหตั ว ตึกมีสภาพเปน Public Space โดยมีแกลเลอรี่หลักที่จัดแสดงงานกวา 200 ชิ้น ในพื้นที่ โลงไรซึ่งผนังกั้น ขนาดใหญกวา 3,000 ตารางเมตร ใชเงนลงทุ ใชเงินลงทุนไป 150 ลานยู ลานยูโร และใชเวลากอสราง 3 ป พิพิธภัณฑ Louvre Lens เปดตัวไปเมื่อปลายป 2555 โดยมีภาพเขียนดัง พพธภณฑ อยาง Liberty Leading the Peo People ของ Delacroix เปนตัวเรียกผูชม โดยคาดวา จะมีคนมาเยี่ยมชมที่นี่ประมาณ 5 แสนคนตอป
TOKYO, JAPAN Design Ah! Design Ah! เปนชื่อรายการเพื่อการศึกษาของสถานี โทรทัศน NHK ของประเทศญี่ปุน ซึ่งไดสรางสรรคเพื่อเด็กโดยเฉพาะ มีการ ศึกษาจิตวิทยาเด็กอยางละเอียด ใชงานออกแบบสิง่ ของในชีวติ ประจําวัน นําเสนอสิ่งเล็กๆ นอยๆ ที่เราสัมผัสอยางไมรูตัว เลาการทํางาน ของสิ่งที่เรามองไมเห็น จึงทําใหรายการนี้เปนรายการที่ไดรับความ นิยมอยางสูงและเปนรายการที่ทั้งเด็กๆ และผูใหญเฝาคอย จนถึงขนาด ไดกลายมาเปนนิทรรศการ นิทรรศการนี้เนนเรื่องของการออกแบบจากจิตใตสํานึก นั่นก็คือ การสังเกตอะไรเล็กๆ นอยๆ ในชีวิตประจําวันที่จะเชื่อมโยงไปสูการ เขาใจรายละเอียดที่สําคัญกวา นับวาเปนการสรางพื้นฐานทางศิลปะ และการออกแบบใหกับเด็กและคนทั่วไปไดอยางดี นอกจากนี้นิทรรศการนี้ยังเปดโอกาสใหคนที่มาชมไดสัมผัสลง ลึ ก กั บ งานออกแบบที่ ซ อ นอยู ใ นสิ่ ง ที่ เ ราจั บ ต อ งทุ ก วั น ทั้ ง ทางภาพ เสียง และสัมผัส ในงานนี้ไดวงดนตรีสุดล้ํา Cornelius และดีไซเนอร ชื่อดัง Yugo Nakamura มารวมมือกันสรางภาพและแสงสีเสียง ในงาน นับวาเปนงานที่รวมหัวกะทิของวงการออกแบบของญี่ปุนเอาไว อยางคับคั่งเลยทีเดียว
18
WORLD ARTIST
COLUMNIST : YUNE
JAPAN
Yamaguchi Akira (born 1969 in Tokyo, Japan) ยามางุ จ ิ อากิ ร ะ เป็ น ที ่ ร ู้ จั ก ไปทั ่วโลกจากการผสมผสานเทคนิ คของงาน จิตรกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับเนื้อหาวัฒนธรรมและสังคมสมัยใหม่ ที่เห็น แล้วชวนให้นึกไปถึงงานของปรมาจารย์ศิลปินภาพพิมพ์สมัยก่อนของญี่ป่น ุ อย่าง Hokusai หรือ Hiroshige PHOTO : TSUSHI NAKAMICHI / NACASA & PARTNERS INC.
BACCAZINE | ISSUE 06
19
// มิตค ิ วามลึกของภาพทีเ่ กิดจากการ ใช้ เ ส้ น ซั บ ซ้ อ นหลากหลายปะปน อยูใ่ นงานชิน ้ เดียวกัน //
อารมณจิกกัดปนขําในเรื่องของวัฒนธรรมตะวันตกที่ครอบครองสังคมญี่ปุนมาตั้งแต สมัยเมจิ ในภาพของเขาก็ปรากฏใหเห็นไดอยางชัดเจน นอกจากนี้ เสนหสําคัญที่เรา สามารถสังเกตเห็นไดนั้นก็คือ มิติความลึกของภาพที่เกิดจากการใชเสนซับซอน หลากหลายปะปนอยูในงานชิ้นเดียวกัน อยางที่เห็นลายเสนพูกันคมกริบตวัดไปมา ผสมกับเทคนิคเสนที่มักจะปรากฏอยูในการตูนญี่ปุนไดอยางแนบเนียน รวมถึง เนื้อหาของงานที่ยอนแยงไปมาระหวางความเกาและใหม อยางเครื่องจักรหรือ เครื่องใชไฟฟา รวมถึงซาลารี่แมน (การตูนมนุษยเงินเดือน) ตางๆ เดินปะปนอยูในตึก หรืออาคารที่ดูโบราณหรือตึกสมัยใหม ที่ดูรายละเอียดแลวมีลักษณะของสิ่งกอสรางสมัยโบราณปะปนอยู รวมทั้งซามูไรที่ขี่หุนยนตหรือเครื่องจักร ในสมัย ที่เขาเรียนอยูที่ Tokyo University of Art and Music ยามางุจิเริ่มจาก การวาดเลียนแบบภาพวาดวิวทิวทัศนสมัยกอน กอนที่จะแตงเติมเครื่องจักรและ หุนยนตเขาไปในนั้น จวบจนพัฒนามาเปนผลงานในทุกวันนี้
BANGKOK,CITY OF ART
20
IN THE MOOD OF ART
COLUMNIST : SANSKY / PHOTOGRAPHER : JEAB
BACCAZINE | ISSUE 06
21
FROM HOF ART TO HOF COMMUNITY ชุมชนของคนรักศิลปะในฝนของ “จารุวัชร วงศคําจันทร” ย้อนกลั บไปเมื่ อ 10 ปี ก่อ น ในกรุง เทพมหานคร ยัง ไม่มีแ กลเลอรี่ ห รือ พื้น ที่ ใ ห้ ศิ ล ปิ น รุ ่น ใหม่ ๆ ได้มีโ อกาสแสดง ผลงานมากนั ก “จารุ วัช ร วงศ์ คําจันทร์ ” ได้ ยุติ บ ทบาทของตั วเอง จากที่ เคยใช้ ชีวิ ต แบบคนที่ วนเวีย นอยู่ ใ นกระแส ของธุรกิ จ หลัง จากที่ ทุ่ ม เทเวลา 10 กว่าปี ไปกั บ งานด้ า นครีเอที ฟ จนถึ ง จุ ด อิ่ มตั ว จึ ง อยากกลับ มาสานฝัน ของ สายเลื อด “ศิ ล ป์ พีร ะศรี” ที่เ ต็ม เปี่ ย มอยู่ ใ นตั วของเด็ ก จิ ต รกรรม ศิ ล ปากร รุ ่ น 38 จารุ วั ชร หรื อ ที่ ค นในวงการศิ ล ปะเรียกเขาว่ า “พี่ ตั๋ น HOF ART” มั ก จะบอกกั บ ตัวเองเสมอว่ า เมื่ อ ถึง จุ ด หนึ่ ง ของ ชี วิ ตการทํ างาน เขาจะเลือ กอาชีพ ที่เ ขาสามารถทํ า ได้ อ ย่ า งสบายๆ ไปตลอดชี วิ ต เมื่อ คิด ได้ แ บบนั้ น พี่ตั๋ น จึ ง ตั ด สิ น ใจ เปิ ดแกลเลอรี่ ทางเลื อ กใหม่ ซึ่ง เรียกเสียงฮือ ฮาและเป็ น ที่ น่ า จับ ตามากๆ ในช่ วงปี พ.ศ. 2548 ตึ ก แถว 4 ชั้ น ถู ก ดั ดแปลงเป็นแกลเลอรี่ทางเลื อ กใหม่ สไตล์ Loft เรี ย บง่ า ย ดิ บ ๆ เน้ น การตกแต่ ง ให้ น้ อ ยที่สุ ด เพื่ อ จะได้มี พื้ น ที่ สําหรับแสดงงานมากที่สุด นับว่า HOF ART เป็นแกลเลอรี่ทางเลือกที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการแกลเลอรี่ ของกรุง เทพฯ ในยุ ค นั้ น และเป็ นต้ นแบบของอิ น ดี้ แ กลเลอรี่ใ นทุ ก วั น นี้ เลยก็ ว่ า ได้
“ผมเปนเด็กจิตรกรรม ศิลปากร รุน 38 พอเรียนจบออกมา เราโชคดีที่มี ฝรั่งคนหนึ่งที่เรารูจักสมัยเรียน เคาชอบในงานของ “ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี” ที่เปนเพื่อนในกลุมเดียวกัน ตอนนั้นเรามีกัน 4 คน เรียนจบ ฝรั่งก็ชวน เราไปทํางานเปน จูเนียร อารตไดเร็กเตอร ที่เอเจนซี่ของเขาเลย ในยุค เมื่อ 30 ปที่แลว คนที่ทํางานโฆษณานี่คือเจงมาก เราก็แบบภูมิใจนะ ทําได อยูไมนานก็ลาออก แลวเปลี่ยนงานเวียนวายอยูในวงการธุรกิจ จนวันหนึ่งเริ่ม รูสึกวา ถึงเวลาแลวมั้งที่เราตองมาทํางานที่เราอยากทําจริงๆ อยากเริ่มตน ชีวิตใหม ตอนนั้นเราคิดไปไกลถึงตอนเราแก วาเรายังทําตรงนี้อยูแลวมัน เหนื่อยแบบนี้ อายุ 50-60 ปเราจะยังทําไหวอยูเหรอ แนนอนมันไมไหว หรอก ก็กลับมาคิดแลวเราจะทําอะไรดีละ ที่มันจะทําแลวมันทําไดไปจนเรา แกก็ยังสามารถทําได แลวคําตอบที่ไดคอื “ศิลปะ” “ผมหางหายจากวงการศิลปะไปนานมาก ตอนนั้นบอกตัวเองวาถึงเวลา แลวที่เราจะทําในสิ่งที่เราอยากทํา ซึ่งกวาจะตั้งหลักไดก็ตอนอายุมากเกือบ จะ 40 ปแลว ในสมัยนั้นดวยความที่เราชอบไปเดินสวนจตุจักร ในยุคสมัยเมื่อ 10 กวาปที่แลว มี Section 7 เปนโซนศิลปะ เราไปเจอกลุมศิลปนที่เขารวมตัว กันอยู เราก็ตัดสินใจเขาไปทํารานขายงานศิลปะ ของตกแตงบานตางๆ ทํา อยูไดปกวาๆ เราไดสรางใหโซนนั้นเปนเหมือน Community Art เราก็โอเคนะ
แตมันมีความรูสึกวาการที่เรามาเปดราน แลวกลับบาน ทํางาน วาดรูป ชีวิต วนๆ อยูแบบนี้ มันคงไมโตไปไดมากกวานี้ ตอนนั้นเรามีเงินเก็บประมาณ 3-4 แสนได ประจวบกับเปนชวงขาลงของโซนศิลปะที่จตุจักรในยุคนั้นดวย เราเลยมานั่งคิดหาชองทางใหมๆ ตอนนั้นคิดเยอะเหมือนกันวาจะทําอะไรดี” “ดวยความที่เรารักศิลปะ มีความฝนอยากทําแกลเลอรี่มาตลอด เลย เปนจดเริ่มตนของ HOF ART ตอนนั้น พ.ศ. 2548 เริ่มแรกมันเกิดจาก ความคิดที่เราบอกก็คือ อยากสราง Community Art ขึ้นมา แลวเรามองวา ตองหาจดแตกตาง อะไรที่แกลเลอรี่ทั่วๆ ไปมีอยูแลว เราจะตองทําใหได มากกวา ในยุคนั้นแกลเลอรี่มันมีไมมาก โอกาสที่ศิลปนจะไดแสดงงานมันก็ ยาก เพราะพื้นที่มันนอย เราเลยมองวาในเมื่อมันเปนแบบนี้ ไหนๆ เวลาเปด งานคนก็มาแลว เราไมกลับไมไดเหรอ อยูกันยาวๆ ไปยันงานเลิกเลยไดไหม ใหคนมีโอกาสไดพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องศิลปะกัน นั่นหมายความวา เราตอง มีพื้นที่ที่ใหญมากพอสมควร ไมอยางนั้นคนจะมาชุมนุมแลวสนุกกันไดยังไง” “สองคือเราไมไดมีเงินทุนมากมาย เราจะสามารถทําแกลเลอรี่ไดไหม นั่นเปนคําถามที่เราตองหาคําตอบใหได กอนที่จะทําตรงนี้ขึ้นมา เรามองที่ จดเดนของเราคือ เรามีคอนเน็กชั่นเยอะ เปนคนมีเพื่อนเยอะ เพื่อนที่ศิลปากร เองจบออกมาก็ยัง ติด ต่ อ กันเยอะ HOF ART เลยเกิด ขึ้ น มาเพื่อเปน
BANGKOK,CITY OF ART
22
IN THE MOOD OF ART
แกลเลอรี่ทางเลือก เปนพื้นที่ที่เปดกวางใหคนเขามาแสดงงาน โดย ทีเ่ ราเปนคนทีค่ อยดูแลในเรือ่ งของการขายงานให โดยเปนการแชรกนั เราเลือกเคา เคาเลือกเรา ถอยทีถอยอาศัยกัน” “ความตั้งใจของเราคืออยากให HOF ART เปนสังคมใหคนไดมา พบปะพูดคุยเรื่องงานศิลปะ โดยที่ไมจํากัดแขนง ชวง 2 ปแรก เรา มีจัดแสดงงานทุกเดือนเลย เรียกวารุงมากๆ และที่สําคัญ ตอนนั้น เราเปนพื้นที่ ใหมที่ ใหโอกาสนักศึกษาที่จบใหมไดมีพื้นที่มาแสดงงาน เพราะเรามี 4 ชั้น เราเชาตึก 3 ชั้นที่มีชั้นดาดฟาดวย เราทําดาดฟาเปน โดมๆ มุงจากเพื่อใหเปนพื้นที่แสดงงานไดดวย สวนอื่นๆ ก็จะสรางให มันดูดิบๆ เรียบๆ งายๆ สามารถเดินเชื่อมตอกันไปไดเรื่อยๆ เปนรูป ตัว U คือดวยเงินทุนเราไมมาก ตอนที่ออกแบบเราก็ตองคิดเยอะ การ ที่เราเลือกที่จะเนนความดิบๆ เรียบๆ ก็เพื่อเวลาที่เราเอางานศิลปะ ไปแขวน ไปวาง มันจะชวยสงใหผลงานเหลานั้นโดดเดนขึ้นมาดวย เราดึงความเรียบงายดิบๆ ของสไตล Loft มาใช เพราะเราเอาตึก เกามาสราง อาศัยโครงสรางเดิม เรียบงาย เนนการใชพื้นที่ใหเกิด ประโยชนสูงสุด เวลาจัดงานทีเราสามารถรองรับศิลปนที่จะมาเจอกัน ไดเปนรอยๆ คน มันคือแหลงชุมนุมงายๆ ที่ไมสมบูรณแบบมากนัก
แตฟงกชั่นก็ได เนนดิบๆ สไตลนิวยอรกแกลเลอรี่ มันเปนทางเลือกใหมที่เกิดที่ทําให เราไดรับความสนใจ ตอนนั้นคิดแควาทําไมเราจะตองมีพื้นที่ที่สมบูรณแบบมากๆ ดวย ถาเราทําดิบๆ แตเอางานศิลปะดีๆ เขาไปวาง มันตองเดน เราใชความคอนทราสต ของพืน้ ทีม่ าสรางความโดดเดนใหงานศิลปะ สมัยนัน้ ยังไมมีใครทําแกลเลอรีแ่ ปลกใหม แบบนี้ เราจึงเกิดไดรวดเร็วมาก มาถึงสมัยนี้ แกลเลอรี่ทางเลือกแบบนี้ ก็มีเกิดตาม มาอีกเยอะเลย ซึ่งเราก็มองวา มันก็คงเกิดมาจากไอเดียเดียวกันคือ เด็กรุนใหมๆ อยากมีพื้นที่แสดงงานเปนของตัวเอง แตทุนไมไดมีมากนัก” “เรารุงสุดๆ อยู 4 ป ดวยความที่เราไมเนนขายงานมากนัก เพราะเราไมไดมี ความรูเรื่องการขายงานศิลปะมากเทาไหร รายไดมันก็ไมคอยเกิด จนกระทั่งหลังๆ เราเริ่มรูจดดอยแลว ก็เลยอาศัยคอนเน็กชั่นที่มีอยูไปของานของศิลปนที่ดังๆ มาแสดง คราวนี้ Collector พวกนักสะสมงานศิลปะเริ่มเขามาหาเรามากขึ้น พอชื่อเสียงของ HOF มันดังออกไป คนก็เขามาดูมาจัดงานกันเยอะ แตไมคอยมีคนซื้องานเราก็ เริ่มมีปญหาเรื่องของรายไดไมพอรายจายตามมาอีก” “แตปญหานี้นี่แหละ ที่ทําใหเราเกิดความคิดขึ้นมาวา เราตองหาอะไรเขามาชวย ใหเกิดรายไดมากขึ้น ก็เลยเกิดไอเดียการจัดกิจกรรมขึ้นมา เราก็พยายามคุยกับ Collector เยอะๆ วางานของใครเปนที่ตองการ เราไปติดตอศิลปนมาและจัดหาพื้นที่ ขางนอก เพื่อเอางานเหลานี้ไปแสดงตามพื้นที่นอกแกลเลอรี่ เชน ที่ Cicada Market
BACCAZINE | ISSUE 06
23
/ / เ มื่ อ คิ ด จ ะ พั ฒ น า แ ล้ ว พี่ ต๋ั น ก็ มุ่ ง จะพั ฒ นาให้ ถึ ง ทีส่ ด ุ ดังนัน ้ จึงเกิดไอเดียใหม่ ที่ได้เริ่มลงมือทําไปบ้างแล้ว กับ HOF Community ชุมชนของคนรักงานศิลปะ //
หัวหิน หรือตามหางสรรพสินคาตางๆ ฯลฯ คือการเอางานศิลปะไปแสดงควบคูกับการ จัดกิจกรรมทางศิลปะ ทําใหเรามีรายไดเขามาและอยูได พอเรามีพื้นที่ขางนอกเยอะ พื้นที่ขางในตึก HOF ART เองเราก็ตัดแบงใหศิลปนมาเชาทําสตูดิโอตางๆ พอเราไดคน มาแชรพื้นที่ เราก็ไมตองแบกภาระเรื่องคาเชามากนัก แลวยังเหลือพื้นที่ทําแกลเลอรี่ ไดอยูเหมือนเดิม เพียงแคมันเล็กลง แลวเนนออกไปจัดงานและกิจกรรมที่ดานนอก แตในอนาคตอันใกลนี้ เราจะเรียกพื้นที่คืนจากฝรั่งที่มาเชาพื้นที่ชั้นลางคืน เพื่อที่เรา จะไดมา Reborn HOF ART ใหกลับมามีพื้นที่แสดงงานเยอะๆ กันจริงจังอีกครั้ง” จากความทุมเทกับ HOF ART ทั้งชีวิตทําใหพี่ตั๋น มองเห็นจดออนของตัวเอง และแกลเลอรี่สวนใหญในเมืองไทย นั่นทําใหเขาเล็งเห็นแลววา ตองถึงคราวที่ HOF ART ตองปรับตัวตามยุคสมัยอีกครั้ง “พอเราอยูในวงการนี้นานๆ ก็เริ่มมองเห็นจดออนของแกลเลอรี่ที่เปนอยูในบาน เราทุกวันนี้ คือเราเนนแสดงงาน แตเราขายไมคอยได ตอนนี้เรามี Collector เกงๆ ที่ รูจักเยอะขึ้น เลยเกิดความคิดที่อยากสราง Community Art ที่ใหญๆ กลับมาอีกครั้ง เพราะโดยสวนตัวเอง พี่ยังมองวางานศิลปะ มันตองอาศัยการสงเสริมซึ่งกันและกัน หากเรามีสตูดิโอและพื้นที่แสดงงานของศิลปนที่เกงๆ เปนที่ตองการของนักสะสมงาน ศิลปมารวมตัวอยูในที่เดียวกัน มันเปนการเรียกใหคนที่อยากซื้อจริงๆ เดินเขามาหาเรา ณ วันนี้ที่เราอยูไดแลว ก็อยากจะถอยทัพกลับมารวมกลุมศิลปนใหมันใหญๆ เหมือนสมัย BANGKOK,CITY OF ART
24
IN THE MOOD OF ART
//คิดว่าอะไรทีจ่ ะขายได้ตลอด คําตอบทีไ่ ด้คอื ของกิน เพราะคอนเซ็ปต์ทเ่ี รา คิดไว้กค ็ อื “ศิลปะ” ทีท ่ ง้ั รูจ้ ก ั และไม่รจู้ ก ั สามารถเสพได้ // HOF ART ยุคแรก ตอนนี้พื้นที่หลักๆ ของเรามีที่ Cicada หัวหิน และราน ที่ชั้น 2 หอศิลปกรุงเทพฯ ปหนาเราเลยวางแผนวา เราจะมารวมกลุมศิลปน ใหญๆ อีกครั้ง และหาคนเขามาชวยทําเรื่องการตลาดให ตั้งใจจะให งานแสดงศิลปะของเราเติบโตควบคูไปกับการตลาด ศิลปนจะไดอยูรอด เพราะทํางานออกมาแลวขายได เลยเกิดเปน HOF Eat & Art ก็คือ รานอาหารญี่ปุนที่ชั้น 2 หอศิลปกรุงเทพฯ ตอนนั้นพอไดพื้นที่นี้มา เราก็มาคิดวาแกลเลอรี่อยางเดียว ก็อาจจะเกิดปญหาเกาอีก ทีนี้ก็มานั่งคิด เลยวาอะไรที่จะขายไดตลอด คําตอบที่ ไดคือของกิน เพราะคอนเซ็ปต ที่เราคิดไวก็คือ “ศิลปะ” ที่ทั้งรูจักและไมรูจัก สามารถเสพได เลยมาลง ที่รานอาหาร เพราะอาหารยังไงคนก็ตองกิน แลวก็ไดเจอกับ “จั้ง” หนุมลูกครึ่งไทย-ญี่ปุน ซึ่งเคาเองเปนศิลปนใน กลุม “ยอนแยงสุนทรียะและสหาย” ที่ทํารานอาหารที่เชียงใหมอยูแลว จังหวะมันดีมาก ตอนนั้นเขาปดรานอาหารที่เชียงใหม เราคุยกันวา อยากใหเขาเขามาแชรไอเดียศิลปะที่ครบ รูป รส กลิ่น เสียง กับเรา แลวเขาก็ขนของมาจากเชียงใหม มาลงที่รานตรงนี้เลย ที่นี่เปนทั้งราน อาหารและแกลเลอรี่ เปน HOF Eat & Art เรียกวาเปน Aesthetic Business Art Project No.1 ของเราเลย ทุกๆ อยางในรานคืองานศิลปะ ลูกคาที่ เขามาในรานเราสามารถเสพรูป รส กลิ่น เสียง แลวกลับบาน ซึ่งทํามา ไดเกือบปแลว ถือวาประสบความสําเร็จดีทีเดียว” BACCAZINE | ISSUE 06
เมื่อคิดจะพัฒนาแลว พี่ตั๋นก็มุงจะพัฒนาใหถึงที่สุด ดังนั้นจึงเกิดไอเดีย ใหมที่ ไดเริ่มลงมือทําไปบางแลวกับ HOF Community ชุมชนของ คนรักงานศิลปะ “ตอนนี้เราเพิ่งไดพื้นที่ชั้น 2 ของหอศิลปกรุงเทพฯ ติดกับราน HOF Eat & Art เพิ่มมา เราจะเปดพื้นที่ใหมดวยคอนเซ็ปตเดิม คือการเสิรฟงาน ศิลปะเพื่อใหคนเสพสุนทรียะ แตรานใหมนี้เราจะขายขนม และจัด แสดงงาน ควบคูไปกับการจัดกิจกรรม พื้นที่ ใหมนี้ เราจะทําเปนเหมือน โตะใหญๆ ขึ้นมาเพื่อรองรับการจัดกิจกรรมทางศิลปะที่เราตั้งใจจะใหเกิดขึ้น คูไปกับรานใหมของเราเลย อาจจะใหศิลปนมาทําอาหารใหคนทานไป แลว นั่งพูดคุยกันเรื่องงานศิลปะ ก็กําลังมองหาศิลปนที่ทําอาหารไดไวเยอะๆ สวนวันปกติมีขายขนมกับน้ํา ซึ่งใครๆ สามารถมากินได เปนที่แฮงกเอาท ของคนอารต มานั่งพูดคุยเรื่องงานศิลปะกันไดอยางมีสุนทรียะ สบายใจ เพราะรอบๆ รานเราจะมีติดแสดงงานศิลปะ คุณมานั่งทานขนมก็สามารถ มองงานศิลปะและพูดคุยกันได นั่งนานแคไหนก็ได ไมมีใครวา เพราะเรา ตั้งใจทําขึ้นมาเพื่อใหคนมาเสพงานศิลปอยูแลว” “จากนั้นก็คิดวาเมื่อสานฝน Aesthetic Business Art Project จนอยูนิ่ง ได และกาวที่สองของ HOF ART ที่จะพัฒนาขึ้นไปเปน HOF Community ชุมชุมของคนรักศิลปะสําเร็จลงตัว พีจ่ ะไดกลับไปใชชวี ติ ศิลปนทีต่ งั้ ใจทํางาน ศิลปะของตัวเองอยางเดียวเลย เพราะเราหาคนมาบริหารแทนเราหมด
25
From HOF Art to HOF Community
แลวนี่ (หัวเราะ) ก็อยากกลับไปวาดรูปให เต็มที่ เพราะทุกวันนี้เราวาดตามออรเดอร ที่มีลูกคามาจอง แตเราก็อยากจะมุงสราง งานดีๆ เพื่อที่จะแสดงนิทรรศการของตัวเอง บาง ซึง่ มันตองทุม เทเวลาใหเต็มทีม่ ากๆ เลย” สายเลื อ ดศิ ล ป น ไม เ คยยอมแพ ข อง พี่ตั๋น กําลังเต็มเปยมไปดวยพลังแหงความ ฝน ที่จะชวยผลักดันใหวงการศิลปะในบาน เราสามารถเติบโตไดอยางมั่นคง เพราะ สําหรับพี่ตั๋นแลว เมื่อศิลปนสามารถขาย งานศิลปะได ศิลปนก็สามารถเลี้ยงตัวเอง ได เมื่อทองอิ่ม สมองและสองแขนมีพลัง แน น อนว า ศิ ล ป น ทั้ ง รุ น เก า และรุ น ใหม ใ น บานเรา จะมีพลังมาสรรคสรางงานศิลปทม่ี ี คุณคาออกมาใหประจักษแกสายตาชาวโลก… ถ า พี่ ตั๋ น ทํ า สํ า เร็ จ ดั ง ตั้ ง ใจในเร็ ว วั น วงการศิลปะคงครึกครื้นตื่นตัว และอาจ มี ง านศิ ล ปะแฝงซ อ นอยู ใ นทุ ก มุ ม เมื อ ง กรุงเทพฯ ศิลปะนคร !!!!
Ten years ago, there were hardly any places for young artists to exhibit their work in Bangkok. Jaruwat Wongkumchan ended his 10-year long career as a creative artist to open his dream art gallery that would forever change the way people look at art. In 2005, Jaruwat converted a 4-storey shophouse into a new style of gallery with minimal decoration to maximize areas for exhibition. It has set a new standard in the art industry and become a model for modern galleries. “After graduating from Silpakorn University, my friends and I were invited to work as junior art directors in one of the advertising agencies. Thirty years ago, working in an advertising agency was considered as a privilege. I was so proud of myself but then one day I started to wonder about my future. Would I be able to continue this job until old? I wanted to do something more stable and secure. Then I realized that art was the answer.” “I was 40 years old at that time. I opened a small art and home de,cor shop in Chatuchak Market and turned it into an art community. Then in 2005, I noticed that there weren’t many galleries in Bangkok, making it hard for new or young artists to exhibit their work. So I thought that there should be some kind of space for people to gather and freely share ideas and work of art. That gave rise to the HOF Art Gallery. In addition to being an art community where people gather to talk about art, HOF Art also BANGKOK,CITY OF ART
provided young artists and graduates opportunities to display their work. It became an instant success.” “Because I had only a limited budget, the interior of the building was very simple and basic, almost like a crude loft as I placed more focus on function rather than design. It turned out that its distinctive style caught a lot of attention from the public and placed its name on top of the list.” “After four years of success as an art community, I realized that we also needed to generate some income. So we arranged some exhibitions outside our galleries, such as department stores and Cicada Market in Hua Hin. With art activities, we are able to earn some income and sustain ourselves.” “One of the weaknesses of galleries in Thailand is that they emphasize too much on art exhibition and too little on revenue management. Therefore, we would like to create large art communities to attract art lovers and collectors. Our main sites are Cicada Hua Hin and Bangkok Art and Culture Centre. We also plan to establish art gallery and restaurants called HOF Eat & Art, and Yon Yang where people can enjoy food and art exhibition at the same time.” “After this restaurant project, which I called ‘Aesthetic Business Art Project’, is complete, I would like to further develop HOF Art into HOF Community. Then after that, I would return to focus on my job as a painter.”
26
THE SKETCH
<<
P7
COLUMNIST : KARAYANAMIT / PHOTOGRAPHER : JEAB
ดิบ มันส์ เซอร์
เมือ่ เอ่ยถึงศิลปินสตรีทอาร์ตอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ต้องมีชอ่ื ของ P7 รวมอยูด ่ ว้ ย ที่เราคุ้นเคยกันดีกับงานสตรีทอาร์ตและประติมากรรม รู ป สั ต ว์ ที่ มี เ อกลั ก ษณ์ เ ฉพาะในความโหดปนความน่ า รั ก สดใส ซึ่งผลงานที่ได้อวดโฉมต่อสาธารณะหลายชิ้นก็มีเรื่องราวมาจากสมุด สเก็ตซ์ของเขา
สมุดสเก็ตซที่มีความเปน มายาวนาน 3-4 ป แตงดวย สติกเกอรที่ชอบ จนไดที่ถึงเริ่มวาดงาน จะเห็นความเปนมา ตัง้ แตคาแรกเตอรยงั เปนลายเสนดินสอ จนคอยๆ ใชหมึกดํา ที่แสดงความเปนตัวตนของสไตล P7
Graffiti Sketch Book สมุดสเก็ตซ์เล่มล่าสุด
รายละเอียดของอารมณ์ความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับสมุดสเก็ตซ์ของ P7 คือความดิบ มันส์ เซอร์...อิสระ หรือที่เจ้าตัวใช้คําอธิบายกับเราว่า “ปล่อยไหล” ทุกสิ่งที่รังสรรค์ออกมาไม่มีแรงบันดาลใจ หรือปัจจัย ภายนอกใดมากระตุ้น ทุกลายเส้นทุกจังหวะที่ประกอบร่างออกมาล้วน มาจาก “ข้างใน” ตัวเขาล้วนๆ บวกกับความต้องการให้ “แตกต่าง” เพราะเขาชอบสร้างคาแรกเตอร์ใหม่ๆ เทคนิคใหม่ๆ ที่ในความเซอร์กลับ พบความพิถีพิถัน...ในความโหดกับแฝงความน่ารัก สมุดสเก็ตซ์แต่ละเล่มของ P7 ล้วนมีเรื่องราวที่แตกต่างกันไป แม้กระทั่ง รายละเอียดของการดีไซน์หน้าปกแต่ละเล่ม
BACCAZINE | ISSUE 06
Concept: ตัง้ ใจใหสมุดสเก็ตซอารต เลมนี้เปนเหมือนแกลเลอรี่เคลือ่ นที่ โดย 1 หนา 1 คาแรกเตอร กับเทคนิค ทีแ่ ตกตางไมเหมือนกันเลย เปนงาน คาแรกเตอร ท ดลองที่ เ ข ม ข น มากกวาแคเปนแบบราง Tools : ฉาบฉวย งายๆ หาไดทั่วไป เชน ดินสอกด สีไมถูกๆ ปากกา ลูกลื่น ปากกาเมจิก หรือ ลิควิด เปนตน
27
“ผมจะเขียนไปเรือ่ ย วาดไมซาํ้ ไมยดึ ติด กับรูปแบบ และชอบความไมสมบูรณ ทุกผลงานในสเก็ตซบุก ผมตั้งใจทํา ใหมันเปนที่สุดของมัน และมีเสนหที่ แตกตางกันออกไป คาแรกเตอรตัวไหน อยากตัดไปใชงานก็ตดั ใชเสร็จก็เอา สก็อตเทปแปะกลับลงไป จะวาดจน เต็มถึงเปลี่ยนเลม” “I will continue making sketches, trying new ideas and formats. I like imperfection. I try to make each of my sketches its best and unique. I cut out characters that I want to use and paste them back when I’m done. Only when my sketchbook is full do I start a new one.” Tools : ปากกาเมจิก Posca มารกเกอร แลวขูด << สีออกเปนลวดลาย “ทําใหดเู หมือนทาสีไมสมบูรณ ตัง้ ใจใหมสี เี ลอะๆ รอบๆ กระดาษ ไดอารมณสเก็ตซบุก”
Tools : ปากกาหมึกดําธรรมดา “อยากทดลองเขียนหนาตาแบบนี้ แลวอยากไดเทคนิคขาวดําก็เลย หยิบปากกาหมึกแหง Posca มา เขียน”
สม ส สมด มด ุ ส สเเก ก็็
ของ อง P7
Previous sketchbooks of P7
ทําเทคนิคสีไหล ถือกระปองสเปรย Concept : คาแรกเตอรเปดทั้งเลม ตองการ แนวนอน กดลง ให มี ค วามสร า งสรรค แ ละคาแรกเตอร ฉี ก ฉีดแลวสะบัด จากเดิมๆ ในสไตลภาพแอบสแตรก
Tools : ดินสอกด สีไมกลอง 20 บาท “ใชสีไมท่ใี หเสนที่ไมคมเกินไป ฝนรอย ตอระหวางชัน้ ใหซอ นกัน บางจดก็เกลีย่ ใหเรียบใหไดอารมณเนียนผสมกับ ความดิบ”
<<
BANGKOK,CITY OF ART
P7 is one of Thailand’s top street artist renowned for his paradoxical art style portraying wild yet playful characters. Many of his works on public display originated from his sketchbooks where he unleashed his imagination and creativity. His artworks are unique in the way that they are innovative, meticulously created with new experimental ideas and techniques. Each of P7’s sketchbooks tells different interesting stories. By just looking at their cover designs is already amusing!
28
ARTIST TIMELINE
COLUMNIST : DEAR
Lolay’s Route
การเดินทางของ โลเล - ทวีศก ั ดิ์ ศรีทองดี เส้นทางแห่งโลกศิลปะของ ทวีศก ั ดิ์ ศรีทองดี หรือ โลเล เริม ่ ต้น ด้วยความสนใจในเรือ่ งของมนุษยชาติ ศาสนา ความขัดแย้ง ความ เชือ่ และความสูญเสีย เรือ่ งราวทีเ่ ขาสร้างถูกถ่ายทอดออกมาผ่าน ทางภาพวาด ประติมากรรม งานดนตรี รวมถึงงานวิดโี อ และด้วย ความที่เป็นคนที่ไม่เคยหยุดที่จะสงสัย เขาจึงตั้งหน้าตั้งตาค้นหา ศึกษา ตีความความเป็นมนุษย์ตอ่ ไปในแง่มม ุ และรูปแบบต่างๆ จนได้ ผลึกความคิดในแต่ละวาระ แต่ละช่วงเวลา นําเสนอออกมาเป็นผลงาน อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นที่รู้จักต่อสาธารณชนคนเสพศิลป์
2536 Bonnie and Clyde’ mixed 120x140 cm.
“ไดแรงบันดาลใจมาจากฆาตรกรหนุม สาว Bonnie Parker และ Clyde Barrow เปนคูท ต่ี อ ตานสังคม มีความอยาก เรียนรูเ หมือนกัน ทัง้ คูก ลายเปนโจรปลนธนาคารทีต่ าํ รวจ ตามลาทัว่ สหรัฐฯและไดถกู นํามาสรางเปนภาพยนตร ดูแลว รูส กึ ประทับใจ และเกิดความคิดวาคนวัยหนุม สาวมักทํา อะไรรุนแรง และเลือกเดินทางผิด แตในอีกมุมหนึง่ ทัง้ คูก ็ มีความเปนโรบินฮูด อยูด ว ย คือปลนแลวเอาเงินมาใหคนจน งานชิ้นนี้ก็เลยเปนการนําเอาเศษขยะ พวกเพชรปลอม มาทําในเทคนิคมิกซและทําใหมี ความลึก นูน ตาํ่ ” 1993: ‘Bonnie and Clyde’ mixed 120x140 cm. “This mixed media artwork was inspired by the real story of Bonnie Parker and Clyde Barrow – an anti-social couple who were wanted for murder and robbery in the States. After I saw the movie, I used some rubbish and fake gemstones to create this piece.”
โลเล มีผลงานแสดงเดีย่ วและกลุม ทัง้ ในและ นอกประเทศ แตทเ่ี ปนทอลก ออฟ เดอะ ทาวน คือ งานประติมากรรม ‘Dollar’ เด็กหญิง รูปรางคลายมนุษยตา งดาว ทีเ่ ปนตัวแทนของ มนุ ษ ย ท่ี ต อ งปรั บ ตั ว และเตรี ย มพร อ ม กับความเปนไปของโลก โดยเปดตัวครัง้ แรกที่ สยามพารากอน หลังจากนัน้ ก็เดินทางไปยัง สถานทีต่ า งๆ อาทิ หอศิลปกรุงเทพ ราชบุรีหัวหิน หรือแมแตบนชายหาดในปูซานประเทศเกาหลีใต เมือ่ ไมนานมานี้ เขาก็ไดพบกับจดเปลีย่ น ทีม่ อี ทิ ธิพลกับงานของเขาอยูไ มนอ ย นัน่ ก็คอื “ครอบครัว” ซึง่ กําลังมีตวั เล็กๆ เพิม่ เขามา เปนสาม สงผลใหเขาลุกขึน้ มาจริงจังมากขึน้
2539 ‘New life’ acrylic on canvas 175x185 cm.
“ในชวงเวลานั้นกําลังสนใจ เกี่ ย วกั บ เรื่ อ งของโลกที่ กํ า ลั ง ตกอยู ใ นสภาวะล ม ส ล า ย ท า ง วั ฒ น ธ ร ร ม อิ น ในเรื่ อ งของศาสนา ความเสื่อมที่ถูกเทคโนโลยี เขาครอบงํา เลยทํางาน ออกมาใหมีทอมีสายเชื่อม ตอเขากับตัวเรา แตเวลา ผานไป ความคิดก็เปลี่ยน แตก็ยังเคารพความคิดตัวเอง ณ ตอนนัน้ อยู” 1996: ‘New life’ acrylic on canvas 175x185 cm. “At that time, I was kind of obsessed with questions about the predominance of technology and modernization in our world. Cultures and religions were threatened by these advancements. As time passed by, my mind has changed, but I still respect my ideas and the person that I was.” BACCAZINE | ISSUE 06
มีความลึกซึ้งและเขาใจในความเปนมนุษย เพิม่ ขึน้ จากกาวแรกที่ลงมือเขียนภาพอยาง จริงจัง เมือ่ ป 2533 จวบจนวันนีผ้ า นมากวา 23 ป เขาเติบโตขึน้ ในฐานะศิลปนทีม่ ผี ลงาน สะท อ นประเด็ น ส ว นตั ว ออกมาอย า ง เปนเอกลักษณ เขาจึงเปรียบเสมือนตัวแทน จากฝงศิลปะที่สามารถเขาถึงชนชั้นกลาง ในวัฒนธรรมปอปของเมืองใหญ เสนทาง ในการค น หาคํ า ตอบให กั บ คํ า ถามที่ ต้ั ง ไวของ ‘โลเล’ จะเปนเชนไร ทีผ่ า นมา เขามองชีวิตในแตละชวงแตกตางกันมาก แคไหน อยากรู… ตองติดตาม
2547 ‘BABA’ acrylic on fabric 80x110 cm.
“ซีรีสนี้เปนเรื่องของความคิดคํานึงถึงชีวิต ความเศรา ในวัยที่เห็นเพื่อนๆ แตงงาน บางคนก็แยกกัน เดินตาม วิถีความเปนมนุษย เลยทําออกมาเปนงานเพนทิ้งภาพ ผูหญิง คลายๆ กับตุกตาที่นั่งคิดลองลอย คิดถึงอนาคต และหาทางออกใหกับชีวิต ผูหญิงคนนี้ก็เหมือนกับ ตัวผมในชวงนั้นที่นั่งตั้งคําถามวา เสนทางของชีวิตจะ ตองมีครอบครัวดวยหรือ? คือเราคิดวา ความรักก็เหมือน กับการที่เราชอบตุกตาอยูตัวหนึ่งซึ่งก็ไมรูวาจะชอบได นานแคไหน ไมเชื่อในเรื่องของความแนนอน” 2004: ‘BABA’ acrylic on fabric 80x110 cm. “This series portrays my past insecurity and questions about marriage and family. I asked myself, ‘Do we really need to have a family? What if love is short-living?’ So I painted a woman who contemplated about her future and relationship.”
29
Thaweesak Srithongdee’s observation of humanity, faith, religions, conflicts and losses is reflected through his drawings, sculptures, films and music. works have continued to receive high critical acclaim at both national and international levels. “Dollar” and her observant eyes and half-alien looks, for example, have attracted passersby in busy cities such as Bangkok, Ratchaburi, and Hua Hin in Thailand, and Pusan in South Korea, to stop and spend a moment watching her. Recently “family” has been added into Lolay’s list of inspiration sources. His perception towards humanity has deepened as he contemplates upon childhood stories. It’s been 23 years ago since he started making his first drawing. Today he is recognized as one of the most successful creators of pop art. Let’s take a look at some of his proudest works.
2548 ‘HERO’ project at Fukuoka, Japan
“เปนเรื่องราวเกี่ยวกับการมีตัวตนของ ฮีโร ในโลกในจินตนาการ และโลกแหง ความเปนจริง เปนงาน conceptual installation และมีการจัดเวิรก ช็อปใหเด็ก ตอบคําถามเกีย่ วกับฮีโร นอกจากนัน้ ก็จะมีรถยนต ซึง่ เปรียบ เสมือนพาหนะของฮีโร มีอนุสาวรียตั้งอยู เปนตัวแทน ของสัญลักษณแหงความทรงจําของโลก มีการฉายวิดโี อภาพ บุคคลสําคัญๆ ทั้งหมดตั้งอยูบนแบ็กกราวนดของแผนที่ โลก ทีม่ คี นเยอะมาก อาจจะมีคนขางเรา ทีเ่ ปนคนธรรมดา แต วัน หนึ่ง เขาอาจจะกลายเป น คนที่เ ปลี่ย นโลกก็ ไ ด ” 2005: ‘HERO’ project at Fukuoka, Japan “The theme of the project was heroes in both imagination and reality. It was a conceptual installation that combined all the things that I wanted to do. There was a workshop with children, installation arts and a slideshow video of famous people’s pictures, including Hitler. When he was young, he was singing in a choir and dreamed of becoming an artist. Who knew he would become something else.”
+ Lolay’s interests + ความสนใจของโลเล สนใจในเรือ่ งของมนุษย สงคราม อดีต ความขัดแยง Humanity, wars, history, conflict, religions and faith ศาสนา และความเชือ่ + ผลงานในปจจบัน เปนรูปแบบของเพนทิง้ มีอยู 3 ซีรสี ซีรสี แ รกมี เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของการเสียดสีเชิงวัฒนธรรม ความเชือ่ ประวัตศิ าสตรทางการเมือง และบุคคล สําคัญ เปนเรือ่ งซีเรียส แตทาํ ใหมนั ดูเพีย้ นๆ หนอย สวนซีรสี ท ส่ี อง จะเกีย่ วกับเรือ่ งของความตาย และ ซีรสี ส ดุ ทาย เปนความโรแมนติกทีเ่ จ็บปวด ซึง่ ทัง้ หมด จะเปนเรือ่ ง dark เศรา สวย และโหด
2549
+ Present projects There are 3 series of painting projects. The first one is a mocking art to portray culture, belief, political history and important people in a sarcastic way. The second one is about death and the third painful romances. All are dark, melancholy yet beautiful.
2553
‘X’ acrylic on canvas 80x110 cm.
‘Dollar’ sculpture, Gwangalli Beach, Busan Biennale
“X พูดเรื่องคลายๆ กับ Hero Project แตนําเสนอ ในรูปแบบของเพนทิ้ง ภายในภาพจะมีบุคคลสําคัญ มากมาย ไมวาจะเปน มหาตมะ คานธี, จอรจ บุช, ชาลส ดารวิน, อัลเบิรต ไอนสไตน ซึ่ง X ก็มีหลาย ความหมาย แตสําหรับนิทรรศการครั้งนี้คือการมารค ทีห่ มายไว คนพวกนี้ไดบรรจเรือ่ งราวลงในความทรงจํา ของโลก ไดตอกหมุดลงในบันทึกของโลก สําหรับเรา เองคือผูส งั เกตการณ ซึง่ โลกมีหลายดาน อะไรเปนตัว กําหนดความดีหรือเลว เราตองมีความเขาใจ”
“Dollar คือคาเงินของสหรัฐอเมริกา ซึ่ ง เป น ประเทศที่ มี จํ า นวนไม ถึ ง 5% ของโลก แตกลับกุมเศรษฐกิจโลก เอาไวไดถงึ 25% คาเงินของดอลลาร สงผลตอเศรษฐกิจและการเมือง ตอ ประชากรมนุษยท่ัวโลก เราสราง ดอลลาร อ อกมาในรู ป หุ น ผู ห ญิ ง ขนาดใหญกวาคน ตั้งอยูทามกลางผูคนที่เดินผานไปมา ทํ าให เ ห็ น ความเคลื่อ นไหวกั บ ไม เ คลื่อ นไหวระหว า ง คนทีเ่ ดินกับคนทีน่ ง่ิ ในภาวะที่โลกเคลือ่ นไปตามกระแส”
2006: ‘X’ acrylic on canvas 80x110 cm. “X is very similar to the Hero Project but it’s presented in paintings. You can see many important persons such as Mahatma Gandhi George W. Bush, Charles Darwin and Albert Einstein in these paintings. As readers and observers of the world, we need to study and understand these influential people.” BANGKOK,CITY OF ART
2010: ‘Dollar’ sculpture, Gwangalli Beach, Busan Biennale “Dollar” is the currency of USA – a country with a population less than 5% of the world’s total population. Yet it is holding 25% of the global economy. Therefore, US Dollar has a great influence on the world’s economy and peoples. I created this giant white female sculpture to represent Dollar. She’s quietly sitting and observing passersby, relaying a message that mindfulness can help us see things more clearly in the fast-paced world.”
30
MY STUDIO
COLUMNIST : KARAYANAMIT / PHOTOGRAPHER : AMNAT KETCHUEN
BACCAZINE | ISSUE 06
31
MINIMAL CREATIVE SPACE
/ / ง า น ท ด ล อ ง ข อ ง ผ ม มี ค ว า ม เ ป็ น กบฏอยู่ในตัว แต่ถูกแสดงออกมาในมุมบวก //
โดยมากใครๆ มั ก มี มุ ม ทํ า งานมุ ม เด่ น มุ ม โปรดมุ ม หนึ่ง แต่สําหรับคุณเหนือ จักรกฤษณ์ อนันตกุล ศิลปิน นักออกแบบกราฟิก ที่เพิ่งฝากผลงานการออกแบบกราฟิก ให้กับนิทรรศการ Hear Here เสียง เสียง ซึ่งจัดโดย ฝ่ายนิทรรศการ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่ อ ช่ ว งสิ้ น ปี ที่ ผ ่ า นมา และกํ า ลั ง เตรี ย มโปรเจ็ ก ต์ ง าน นิทรรศการส่วนตัวในชื่อ “Welcome Home Project” ในปีหน้า บอกว่า “มุมทํางานของผมมีหลากหลายเหมือน สมุ ด สเก็ ต ช์ ห ลายหลากเล่ ม ” ที่ ช่ า งเหมื อ นกั บ บุ ค ลิ ก และ นิสัยการทํางาน ซึ่งชอบทดลองและไม่เคยหยุดสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ที่แตกต่างอยู่เสมอ
ขึ้ น ชื่ อ ว า ศิ ล ป น …จะใช ชี วิ ต อยู ใ นห อ งแบบไหนก็ มั ก สร า งความไม ธ รรมดาให เกิดขึ้น มุมทํางานของคุณเหนือผสมผสานกลมกลืนไปกับการใชชีวิตประจําวัน ภายในคอนโดมิเนียมขนาดกะทัดรัดที่เต็มไปดวยบรรยากาศของความสงบเรียบงาย กับของตกแตง ทั้งของสะสมและผลงานศิลปะสว นตัว ในสไตลความขัดแยง ที่มีทั้งอารมณดิบๆ เทๆ แต แฝงไปด ว ยความสดใสนารั ก อันเปนบุคลิกเฉพาะ สวนตัวเขาเปนคนไมชอบดูทีวี ภายในหองไมมีทีวีตั้งอยู ชอบแตใหเ สียงเพลง ขับกล่อ มบรรยากาศการทํางาน และมักใชเวลาอยูตามมุมตางๆ ตามแตอารมณ ความรูสึกและงานที่เหมาะสม ณ ขณะนั้น มุมทํางานห้องนั่งเล่น มุมโซฟานั่งเลนตกแตงใหเปนมุมแหงความคิดสรางสรรค การสํารวจตัวเองและ วิเคราะหงานที่ทําสําเร็จเพื่อชื่นชม หาขอผิดพลาดและไอเดียพัฒนาผลงานใหดี ยิ่งขึ้น ดานขางจะติดบอรดแปะผลงานเอาไววางเคียงกับกีตารคูใจที่เขามักนั่ง ผอนคลายความคิดหลังกลับจากทํางานประจําในแตละวัน “กลับจากงานผมมักจะนั่ง ผอนคลายที่มุมนี้พรอมกับดูงานที่แปะไววา เราพอใจหรือไมพอใจอะไรกับมัน เพราะขณะที่เราดีไซนงานเสร็จกับชวงเวลาที่เราออกไปขางนอก กลับมาเราจะมอง งานเปลี่ยนไป ก็จะเอาสิ่งที่เรายังไมพอใจไปทําเปนงานชิ้นใหมที่โตะคอมพิวเตอร BANGKOK,CITY OF ART
32
MY STUDIO
//ขณะที่ เ ราดี ไ ซน์ ง านเสร็ จ กั บ ช่ ว งเวลาที่ เ ราออกไปข้ า งนอก กลั บ มาเราจะมองงานเปลี่ ย นไป//
พอทํ า เสร็ จ ก็ เ อามาแปะใหม เ พิ่ ม ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเปนมุมสํารวจตัวเอง ในมุมมองเกาๆ แลวก็จะใชมุมนี้นั่งเลน กี ต า ร แ ล ะ อ า น ห นั ง สื อ ไ ป ด ว ย ” นิตยสารที่อยูในมุมนี้ โดยมากเปนแนว สตรีทแฟชั่นญี่ปุนที่ดูมีความขัดแยงกับ สิ่งที่ทํา แตพอถามถึงแรงบันดาลใจที่ได คุณเหนือบอกวา “ผมไมไดดูที่ภาพรวม แตดูเขาไป ในรายละเอี ย ดว า มี อ ะไรน า สนใจ เชนวา เราสนใจวาเขาทํารอยเปรอะบน เสื้อจากอะไร ก็ดูรายละเอียดตรงนั้น แลวเอามาขยายความคิดตอ นี่คือวิธี การคิดงานของผมซึ่งไอเดียดิบที่ ไดมัก มาจากอี ก รู ป แบบหนึ ่ ง ก่ อ นจะถู ก กลั่ น กรองพั ฒ นาจนกลายเป น ผลงาน
สมบูรณ ซึ่งถาคนมารูกระบวนการ ตั้งแตตนจะเห็นวามันกลายมาเปนอีก รู ป แบบเลย ผมชอบทํางานทดลอง ที่ มี ค วามเป น กบฏอยู ใ นตั ว แต ใ ห มั น แสดงออกมาในมุมบวก” มุมทํางานห้องนอน ถั ด จากมุ ม นั่ ง เล น ที่ เ อาไว คิ ด ไอเดี ย คุ ณ เหนื อ มั ก เข า มาทํ า งานต อ ที่ โต ะ ทํ า งานในห อ งนอนเพื่ อ สเก็ ต ช ไอเดียในหัวใหเปนรูปเปนราง เพราะ ที่ แ ห ง นี้ ทํ า ให เ ขารู สึ ก เหมื อ นเป น ถ้ํ า อั น แสนสงบที่ มี เ สี ย งดนตรี ค ลอ ไปดวย “มุมนี้ผมจะมานั่งสเก็ตชงานเวลา ทีต่ องการใชส มาธิเงียบๆ และรูสึกวา
อยากอยูในหองที่มีไฟสีเหลือง พออยูใน หองนี้จะรูสึกวาไดอยูกับตัวเองเต็มที่ ดวยสเปซที่คอนขางเล็ก ยิ่งชวยใหเรา รูสึกสงบ เหมือนพอเราคิดงานไดไอเดีย จากขางนอกก็กลับเขามาในถ้ําเพื่อเพง สมาธิรางแบบออกมา” บริเวณมุมนี้เต็มไปดวยของสะสม จําพวกงานศิลปะ โปสการด ตุกตา โมเดล รูปถายสมัยเด็ก และหนังสือ ความรู เ กี่ ย วกั บ การออกแบบกราฟ ก ที่ ดู จ ริ ง จั ง กว า หนั ง สื อ ในมุ ม นั่ ง เล น แ ต ก็ ยั ง ค ง แ ฝ ง ส ไ ต ล ก ร า ฟ ก หนักๆ และการ์ตูนสดใสโทนสีสั น พาสเทลปะปนกั น บ่งบอกถึง บุ คลิก ลั ก ษณะนิ สั ย ของเจ า ของที่ มี ส อง บุคลิกแฝง
BACCAZINE | ISSUE 06
มุมโต๊ะคอมพิวเตอร์ มุ ม โต ะ คอมพิ ว เตอร ตั้ ง อยู ติ ด กั บ ทางออกสูระเบียงที่ยามกลางวันจะรับ แสงธรรมชาติ ไ ด เ ต็ ม ที่ ด ว ยประตู บ าน เลื่อนกระจก เปนอีกอารมณบรรยากาศ ของการทํางานที่รอบๆ บริเวณก็ยังคง เต็มไปดวยผลงานศิลปะที่ออกสูสายตา สาธารณชนมาแล ว ผสมผสานกั บ ผลงานอดิเรก “ผมมักนั่งทํางานกับคอมพิวเตอร ในช ว งกลางวั น ซึ่ ง ได อี ก อารมณ หนึ่ง พอนั่งตรงนี้จะรูสึกปลอดโปรง และผ อ น ค ล า ย ม า ก ก ว า มุ ม อื่ น ๆ ทั้ ง เวลาที่ ก ลั่ น กรองไอเดี ย จากภาพ สเก็ ต ช หรื อ บางที ก็ ม านั่ ง เขี ย นรู ป เล น ตรงนี้ ผมชอบทํ า งานหลายๆ
33
มุ ม แล ว แต อ ารมณ รู สึ ก มั นเป นเหมือนสมุดสเก็ต ชห ลายเลม” สตูดิ โอทํ า งาน ของศิลปนกราฟกคนนี้ ดูไปชางสัมพันธกับระบบการคิดและการถายทอดผลงานของ เขาที่มีหลากหลายบุคลิกอารมณ และความขัดแยงที่ลงตัวจริงๆ
My experimental artworks are rebellious, but they are portrayed in an optimistic way. Many people have their favorite working station at a specific place, but for the graphic designer Chakkrit Anantakul, who has worked for “ Hear Here Exhibition”, every corner of his condominium is his favorite
//พอเราคิ ด งานได้ ไ อเดี ย จากข้างนอกก็กลับเข้ามา ในถ้ํ า เพื่ อ เพ่ ง สมาธิ ร่ า ง แบบออกมา//
workplace. Decorated with personal art and object collections, his room is surely lively and colorful. He despises watching television; therefore his room is always filled up with music during work. Living room he often evaluates his work in the living room where he places them
on the board next to his guitar. “When I arrive home from work, I like to sit at this corner to look at my work and evaluate it with a fresh mind. I also like to read books and play guitar here. Most of the magazines I collect are Japanese street fashion magazines because their details are very interesting. For example, I look at the stains on their clothes and further expand that into my work’s concept. I like to experiment around with various styles and ideas. They are rebellious, yet positive.” Bedroom The bedroom is his perfect place to transform his ideas into sketches because of its serenity. “When I need to focus, the small space of this room and its warm BANGKOK,CITY OF ART
light help me to fully concentrate on my work.” Its interior is decorated with artworks, poscards, figures, childhood photos and graphic design books. The duo tone of vibrant and pastel colors reflects the personality of the owner. Computer table His working table is near to the balcony. During the daytime, this corner is lit with natural sunlight. “Working on my computer during the day produces a different kind of emotion. It’s more relaxing and peaceful than other corners. I like to work at different places depending on my mood.” This graphic designer’s studio style is indeed interesting and a reflection of his complex emotions and characters – just like his works.
34
ARTIST HANGOUT
COLUMNIST : DEAR
JOURNEY OF INSPIRATION Tawan Wattuya ไมวาจะเปนผลงานที่นําเครื่องแบบมาสรางงานศิลปะ เสียดสี เยยหยัน ประชันสังคม อยาง ‘Uniform/ Uniformity’ ที่ไดวิพากษวิจารณสัณฐาน ทางสังคมที่ผูคนตางนํามาหอหุมตัวเองไดอยางเผ็ดรอน หรือผลงานที่สราง ความฮื อ ฮาจนกลายเป น ประเด็ น ที่ ถู ก วิ พ ากษ กั น อย า งหนั ก ด ว ยการ เหน็บแนมความเจาระเบียบแบบลวงๆ ของสังคมในเรื่องเพศอยาง ‘Story of the Eye’ ซึ่งทํารวมกับชางภาพระดับแนวหนาของไทยอยาง ธาดา วาริช รวมถึงผลงานชุด Siamese Freaks ที่ไดหยิบยกเอาเรื่องราวของ ความเปนแฝดมานําเสนอไดอยางแสบสันต เลนลอกับความเจายศเจาอยาง ของสังคมไทย และอีกหลายๆ ผลงานที่กระตุกตอมสังคมไดเปนอยางดี จนทําใหชื่อของ ตะวัน วัตุยา ศิลปนผูสรางสรรคผลงานเหลานั้นกลายเปน ที่รูจักกันในโลกของศิลปะรวมสมัยไดไมยากนัก เบื้องหนาเขาเปนศิลปนผูยั่วยุและวิพากษสังคมไดอยางลึกถึงแกน แตเบื้องหลังเขากลับเปนชายหนุมนักทองโลก ที่ใชเวลาวางเสาะแสวงหา สิ่งใหมๆ ในตางแดน มาทําความรูจักกับเขาในอีกดานของชวงเวลายามวาง ที่หลายๆ คนมักจะไมคอยมีโอกาสไดสัมผัสกันสักเทาไหรนัก
+ Aces Riders จุดนัดพบ หากถามวา เวลาวางชอบไปไหนมากและบอยที่สุด ก็เห็นจะเปน ที่นี่แหละ ราน Aces Riders สยามสเเควร ซอย 1 ซึ่งเปนรานของ เพื่อนเราเอง ขายพวกอุปกรณสเก็ตช แลวก็มี โปรดักตอื่นๆ อยางเสื้อที่มีดี ไซนเปนลิมิเต็ดของศิลปน กระเปา แวน ฯลฯ แต ก อ นเราไม ค อ ยจะรู จั ก คนที่ อ ยู ใ นแวดวงสเก็ ต ช สั ก เท าไหร หลังจาก P7 มาชวนไปเพนทกําแพงที่ BACC รวมกับกลุม FOR ก็เริ่มรูจักกับ TRK, MMFK, Rukkit และอีกหลายๆ คน จนมา เจอกับพี่บอบ เจาของราน เราก็เริ่มแวะเวียนมาที่นี่บอยๆ เวลานัดกัน ก็มักจะนัดมาเจอกันที่รานนี้กอนแลวจะไปไหนตอ คอยวากัน ที่แหงนี้จึงกลายเปนพื้นที่สําหรับพบปะสังสรรคกัน ในกลุมเพื่อนๆ ไปโดยปริยาย
+ ปักกิ่ง ประเทศจีน ศูนย์รวมอุปกรณ์ วาดภาพ สําหรับพวกอุปกรณการวาดภาพ เราชอบไปซื้อที่เมืองจีน เพราะมี ของเยอะ และถูก เคยไปรานสมใจที่ดิโอลดสยามมั้ย ที่จีนมีราน แบบนั้นเกือบ 15 ราน และขายของเหมือนๆ กัน อยูตึกเดียวกัน และก็เปนแบบนี้อีกหลายๆ ตึก แสดงวา อารทิสตที่นี่มีเยอะมาก แต สีน้ําจะหาซื้อยากหนอยเพราะไมนิยมเขียน สวนใหญจะนิยมเขียน แบบสี Pigment ของจีนทีเ่ ขียนลงกระดาษสาดวยพูก นั และสีนาํ้ มัน BACCAZINE | ISSUE 06
35
Tawan Wattuya
+ ประเพณีแปลก ที่เดนมาร์ก
+ โอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น การเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจ สวนใหญเราจะคิดงานออกตอนเดินทาง นั่งในรถ ในเรือ หรือนั่งรถไฟยาวๆ ตอนอยูในตางประเทศ การที่เรายายไป ไหนมาไหนบอยๆ มันทําใหเราไดเห็นอะไรที่แตกตางและ ใหมเสมอ เราจึงพยายามไปแบบไมมีอะไรในสมอง คอยๆ ปะติดปะตอ คอยๆ จับ แลวมันก็จะออกมาเปนผลงานได เอง อยางเชนตอนที่ไปอยูที่โอกินาวา ประเทศญี่ปุน ซึ่ง เปนที่ที่เราคิดงานออกไดหลายชุดเหมือนกัน ชวงนั้นไปอยู ประมาณเดือนหนึ่ง ก็จะสนิทกับกลุมเพื่อนที่เปนชาวประมง และชาวไร ไดเห็นวิถีชีวิตที่มันแตกตางออกไป พอกลับ มาเราก็คิดงานชุด Siamese Freaks ออกมา หลังจากนั้น ก็ไดมีโอกาสกลับไปอีก คราวนี้ไปอยูนานหนอยประมาณ 3 เดือน เพราะตองไปทํางานโซโลและดูโอรวมกับศิลปนชาว ญี่ปุน การที่เราไดไปอาศัยอยูนานๆ มันก็ทําใหเราเก็บเกี่ยว ประสบการณใหมๆ แลวนํามาสรางสรรคผลงานของตัวเอง
อีกหนึ่งสถานที่ที่ชอบไปก็คือ โคเปนเฮเกน เดนมารก ตอนนั้นไปเทศกาลดนตรี Roskilde เทศกาลดนตรีที่ใหญเปนอันดับ 2 ของโลก มีมา ตั้งแตยุค 70 ที่นี่เราไดแรงบันดาลใจในการ ทํางานเยอะมาก ซึ่งกอนที่จะเริ่มงาน จะมีผูชาย 10 คน ผูหญิง 10 คน แกผาวิ่งแขงกัน ใส เพียงรองเทาผาใบเทานั้น สวนเบอรก็เขียนไว บนตัว ซึ่งมันเปนประเพณีมาตั้งแตยุค 70 จาก เหตุการณตรงนี้ ทําใหเราคิดชุดผลงาน Naked Run ออก นอกจากนี้ เรายังไดไปแสดงงานที่ ยุโรปเรื่อยๆ ทั้งเบลเยียมและฝรั่งเศส โดย เฉพาะที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่นั่น นอกจากจะเป น ประเทศในฝ น ของเราแล ว คนที่โนนยังรักงานศิลปะมากดวย เห็นไดจาก นักสะสมที่ซื้องานเราเกือบ 50 เปอรเซ็นต เปนชาวฝรั่งเศส ป นี้ ตั้ ง ใจจะไปเที่ ย วประเทศเพื่ อ นบ า น ที่ยังไมเจริญมาก อยาง พมา ลาว และ กั ม พู ช าบ้ า ง เหมื อ นเวลาที ่ เ ราวาดรู ป จะมี จั ง หวะหนึ่ ง ที่ เ ราวางพู กั น หรื อ ดิ น สอแล ว ถอยออกมาดู การเดินทางก็เชนเดียวกัน มัน ทําใหเราไดถอยออกมาดูวา ประเทศเรานั้น แทจริงเปนอยางไร BANGKOK,CITY OF ART
Known for his provocative style, Tawan Wattuya’s artworks quickly become well-known in the world of contemporary art. His work “Uniform/Uniformity” attempt to make sarcastic comments on Thai society’s social rankings. “Story of the Eye” is the result of his collaboration with Thailand’s top photographer, Tara Varich, in portraying sexuality in the falsely conservativeperceptionofsomeThaipeople. “Siamese Freaks” is another work which he mocks the Thais’ obsession with social rankings and honor. Behind the scene, Tawan is a traveler who loves to explore new things in new lands. + Aces Riders – the meeting point When I’m free, I like to hang around with friends at this shop. It sells skate equipment in addition to artists’ limited products. I got introduced into the skating group by P7. We met one other at one of the wall painting soi 1 projects by BACC. This shop then has become our group meeting place. + China – center for drawing equipment I like to buy drawing equipment in China because they are cheap and there are so many choices and shops over there. However, watercolors may be a little hard to find because they’re not as popular as the traditional pigments used in Chinese drawings. + Okinawa, Japan – land of inspiration Most of my ideas would come during my trips to foreign countries. Travelling allows me to see new and different things. During my one-month stay with fishermen and farmers in Okinawa, their ways of life have inspired me to create “Siamese Freaks”. I went back and stayed there for another 3 months to work on solo and duo exhibitions with other Japanese artists. I have gained a lot of interesting experiences. + Unusual festival in Denmark Another favorite place is Copenhagen in Denmark. I attended the Roskilde Music Festival and got so inspired. Before the festival began, 20 naked men and women, wearing only their sneakers and writing their numbers on their bodies, would participate in a race. That event led to my idea for “Naken Run”. I also got to exhibit my work quite regularly in Europe, especially in Paris, where my work is highly supported. I’ve been to many foreign countries far away from Thailand, so this year I intend to travel to neighbour countries like Burma, Laos, and Cambodia. Visiting the countries, relatively to the above places, might give me a different perspective and inspiration for my work.
36
EXHIBITION@BACC
COLUMNIST : DEAR / PHOTOGRAPHER : JEAB
ปัดฝุ่นอดีต ค้นหาคําตอบ สร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัย กับสองศิลปินต่างวัย
นิ ท รรศการการ์ ตู น และ ศิลปะร่วมสมัย ราช เลอ สรวง และเด็กชายสมบูรณ์ หอมเทียนทอง ‘ความฝัน’ นับเป็นสิ่งสําคัญสําหรับมนุษย์ หากแม้เราไร้ซึ่งความฝันแล้ว ก็เปรียบเสมือน walking dead ที่มีแต่ร่างกาย แต่ไร้ซึ่ง จิตวิญญาณในการใช้ชีวิต... BACCAZINE | ISSUE 06
37
เฉกเชนเดียวกับ เด็กชายสมบูรณ หอมเทียนทอง ที่คนพบความฝนในวัยเด็ก จากการอานหนังสือการตูนเลมละบาท ของ ราช เลอสรวง เรื่อง สิงหดํา จนเกิด ความประทับใจในลายเสนวาดหนักเบา ของรูปภาพ รอยเรียงสูเรื่องราวใหได ติดตามอยางไมอาจหยุด จดประกาย ใหเด็กชายสมบูรณลงมือวาดรูป และ สรางสรรคผลงานกลายเปนศิลปนภาพ เขียนชาวไทยที่มีชื่อเสียงโดงดังในระดับ ประเทศ โดยเฉพาะอยางยิ่งที่เยอรมนี หากใครที่กําลังมีความฝน และอยากจะ ป น ความฝ น นั้ น ให เ ป น จริ ง ขึ้ น มา ไดอยางเด็กชายสมบูรณ หอมเทียนทอง ลองมาสั ม ผั ส กั บ ความฝ น และเจ า ของ แรงบั น ดาลใจในวั ย เด็ ก ของเขาผ า น ผลงานนิ ท รรศการการ ตู น และศิ ล ปะ รวมสมัย ราช เลอสรวง และเด็กชาย
สมบูรณ หอมเทียนทอง ซึ่งเปนการ ทํ า งานร ว มกั น ของสองศิ ล ป น ที่ ต า งวั ย ตางวาระ ณ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรม แหงกรุงเทพมหานคร นิทรรศการนี้เปนการพูดถึงแนวทางการ สร า งสรรค ข องคนยุ ค ป จ จบั น ที่ เ ล า ล อ กันไปมาตั้งแตอดีต โดยผูจัดงาน สมบูรณ หอมเที ย นทอง และอภิ ศ ั ก ดิ ์ สนจด มองเห็นวา ปจจบันลายเสนการตูนไทย แทๆ หาดูไดยากมาก หากไมลุกขึ้นมาทํา อะไร ลายเสนที่คงความเปนเอกลักษณ แบบไทยๆ นี้ อาจสูญหายไปตามกาลเวลา สองศิลปินต่างวัยอย่าง สมบูรณ์ หอมเทียนทองและ ราช เลอสรวง จึงตัดสินใจ นํ า ลายเส น การ ตู น ไทยกลั บ มามี ชี วิ ต ขึ้นอีกครั้ง ดวยฝมืเจาของผลงานการตูน สิ ง ห ดํ า คนเดิ ม ที่ ล งมื อ เขี ย นภาพขึ้ น มา
BANGKOK,CITY OF ART
ใหม อี ก ชุ ด หนึ่ ง โดยเริ่ ม เขี ย นเมื่ อ ตอน ป 2551 พรอมทั้งผลงานการตูนแบบ นามธรรมของสมบูรณ รวมกับภาพเขียน สีนํ้ามัน วาดเสน ประติมากรรม และ การจัดวาง กวา 400 ชิ้น และสนุกไป กั บ การตี ค วามแบบไร ก รอบจากภาพ วาดแบบนามธรรมที่ติดเรียงรายอยูบน ผนังของหองจัดนิทรรศการ อันเปนจุด ดึงดูดสายตาแห ง แรกทั น ที ที่ เ ข า ไปถึ ง ซึ่ ง จุ ด เด น ของภาพเหล า นั้ น อยู ที่ การตี ค วามอย า งมี อิ ส ระเพราะไม มี ชื่องาน หรื อ แนวคิด ของภาพมาเปนตัว สกัดกั้นความคิด นับเปนการทดสอบสติ ปญญาและสมาธิ วามีความเขาใจงาน ในแบบไหน ซึ่งแตละงานมีทั้งการใส อารมณ ความรูสึก และความคิดใหมๆ เขาไปอยูเสมอ บางทีมาดวยกัน อาจมอง เห็นตางกันก็เปนได
38
EXHIBITION@BACC
Raj Loesuang and The Boy Somboon Hormtientong Dreams are what make us human. The Boy Somboon Hormtientong discovered his dream when he was reading a one-baht cartoon book named “the Black Tiger” by Raj Loesuang. He was impressed with the drawing lines and addictive plots that he started drawing himself. Nowadays he is a famous painter in Thailand and Germany. Recalling his childhood memories, Somboon Hormtientong is collaborating with his childhood hero, Raj Loesuang, in their exhibition at the 9th Fl., BACC to revive Thai cartoons once again. This exhibition houses Raj Loesuang’s new cartoons which he started drawing in 2008 and Somboon Hormtientong’s abstract cartoons, oil paintings, sketches, sculptures and installation arts. Another highlight is the teddy bear set which has reflected the soft and gentle side of Somboon Hormtientong. Visitors can also enjoy the Thai cartoons by the old man, Raj Loesuang. Though today he can no longer draw because of his age, he still wants to pass on the Thai art legacy to the younger generations as well as to create a nostalgic memory for the previous ones. นิทรรศการนี้จัดโดย สมบูรณ หอมเทียทอง และอภิศักดิ์ สนจด รวมกับ ฝายนิทรรศการ หอศิลปวัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร This exhibition is arranged by Somboon Hormtientong and Apisak Sonjod in cooperation with Exhibition Department, BACC tell stories about the two men of different ages.
BACCAZINE | ISSUE 06
สรางบรรยากาศในการชมงานศิลปะใหครึกครื้น ไปกับมุมมองอัน หลากหลายที่เกิดขึ้นไดดวยตัวคุณเอง หนึ่งในบรรดาภาพวาดที่นา สนใจ คือเซตตุกตาหมี เพราะเปนงานที่ถือเปนจดเปลี่ยนหรือจดที่ แสดงออกถึงความเปนตัวตนของ “สมบูรณ หอมเทียนทอง” มาก ที่สุดก็วาได เปนการแสดงออกถึงความซื่อตรงของตัวเขาเอง ซึ่ง คนที่ทํางานแบบ abstract ที่เรียบและเนี้ยบนั้น ลึกๆ แลวกลับมีมุมที่ดู นารักซอนอยู สื่อใหเห็นวาไมจําเปนที่คนเราจะตองแข็งกระดาง หรือวาเนี้ยบอยูเพียงดานเดียว ลึกๆ แลว ในตัวเรายังมีอีกดานหนึ่ง ที่รอใหเขาไปสัมผัสเสมอ งานชิ้นนี้จึงเปรียบเสมือนตัวตนของเขา เลยทีเดียว นอกจากภาพวาดและงานศิลปะแบบนามธรรมแลว ภายในหอง นิทรรศการยังมีการตูนลายเสนไทยใหไดอานกันเพลินๆ อีกดวย ซึ่งเกิดจากการรื้อฟนความฝนที่เก็บซุกซอนเอาไวในหีบเกาของชาย วัยเกษียณ ราช เลอสรวง ที่มิอาจจะจับปากกาเขียนการตูนไดอีก แตดวยความทาทายจึงปลุกเราความรูสึกของนักเขียนการตูนรุน ใหญใหกลับมารวมสรางสรรค คนหาความหมาย และสรางความ ประทับใจใหกับเด็กและเยาวชนใหมองเห็นคุณคา และความหมาย ของการตูนกันอีกครั้ง ผานงานศิลปะลายเสนแบบไทยๆ ที่ดูมี เสนหและเปนเอกลักษณที่คนไทยทุกคนควรจะอนุรักษไว
BACC CALENDAR
COLUMNIST : DEAR
39
นิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 2 13 มิถุนายน - 11 สิงหาคม 2556 ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 8
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) รวมกับหอศิลป วัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร เชิญชมนิทรรศการ ศิลปกรรมชางเผือก ครั้งที่ 2 หัวขอ “นําแหงชีวิต” โดย มีผลงานแนว Realistic และ Figurative รวมแสดงรวม 60 ผลงาน bacc exhibition นิทรรศการ Cross_Stitch : ข้าม_ตะเข็บ ส่วนหนึ่งของโครงการนําร่อง Y.A.N. (Young Artist Network) by BACC ริเริ่มและดําเนิน การโดย ฝ่ายนิทรรศการ หอศิลปวัฒนธรรมแห่ง กรุงเทพมหานคร
2 สิงหาคม - 1 กันยายน 2556 ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (พิธีเปิด 1 สิงหาคม 2556 เวลา 18.30 น.)
นําเสนอผลงานของศิลปนรุน ใหม ผานมุมมองของศิลปน รุนใหญและรุนกลางที่ผานประสบการณของความเปน ศิลปน และผลงานที่ไดรับการยอมรับในระดับสากล จดประสงคของนิทรรศการ คือการนําเสนอมุมมองของ ศิลปนที่มีตอศิลปน เพื่อขยายพื้นที่และมุมมองในการ ประเมินคุณคาศิลปน และรองรับการสนับสนุนที่มี ความหลากหลาย ทั้งตอรุนปจจบันและอนาคต และ เพื่ อ สร า งเครื อ ข า ยความสั ม พั น ธ ใ นการทํ า งานที่ สามารถขามและเกื้อหนุนจากมุมมองตางๆ ทางศิลปะ Cross_Stitch Exhibition As part of the pilot project, Y.A.N (young artist network), this exhibition is initiated and operated by Bangkok Art and Culture Centre (BACC). 2 August – 1 September 2013 7th Floor, BACC (Opening ceremony at 18:30 on 1 August 2013) Cross_Stitch presents works of young artists through the perception of experienced and internationally-acclaimed artists. The objective of the exhibition is to share the perception of artists toward their fellow artists’ work as well as to promote intergenerational diversity in art and support artist network.
The White Elephant Art Award Art Exhibition Date : 13 June - 11 August 2013 Location : Main Gallery, 8th floor By : Thai Beverage Public Company Limited Thai Beverage Public Company Limited and Bangkok Art and Culture Centre proudly present the 2nd White Elephant Art Award Art Exhibition “Water of Life” with more than 60 pieces of realistic and figurative art works on display.
bacc music Bangkok Music Forum ครั้งที่ 5 “ฉันก็เป็น...ผู้หญิงคนหนึ่ง” 15 มิถุนายน 2556 เวลา 14.00-16.30 น. ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
รวมเสวนาเรื่องบทบาทของดนตรีที่สะทอนเรื่องเพศ (gender) ในสังคมไทย โดยนักวิชาการดานดนตรี คุณศรุพงษ สุดประเสริฐ, ศิลปน “เจินเจิน บุญสูงเนิน” และนักปนแดนเซอรมือทอง ครูเทียม ชุติเดช ทองอยู The 5th Bangkok Music Forum “I Am…Who I Am” Saturday 15 June 2013 at 14.00-16.30 hrs. Multifunction Room, 1st Floor, Bangkok Art and Culture Centre Bangkok Art and Culture Centre presents a special talk on “Music as the Reflection of the Third Gender in Thai Society” by Mr. Sarupong Sutprasert, a music and gender scholar with “Jern Jern Boonsoongnern”, the veteran folk music choreographer, Ajarn Thiam Chutidej Thongyu and a solo performance by Wannasak Sirilar BANGKOK,CITY OF ART
bacc exhibition นิทรรศการ “จิตรกรรมฝาผนังของ อาจารย์ชลูด และผลงานย้อนหลัง” “Chalood’s mural painting and retrospective” ดําเนินงานโดย ฝ่ายนิทรรศการ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร 31 พฤษภาคม - 18 สิงหาคม 2556 ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร
นิทรรศการรวบรวมผลงานของศาสตราจารยชลูด นิม่ เสมอ ศิลปนแหงชาติ สาขาประติมากรรม ซึ่งนิทรรศการ ครั้งนี้มิไดจัดขึ้นเพื่อยกยองหรือเชิดชูเกียรติทานเนื่อง ในวาระพิเศษใด หากทวาตองการนําเสนอและเผยแพร ผลงานศิลปะอันทรงคุณคาตลอดเสนทางการสรางสรรค ที่ยาวนานกวา 60 ป เพื่อใหผูชมไดซึมซับสุนทรียภาพ และเรี ย นรู ผ ลงานศิ ล ปะของศิ ล ป น คนสํ า คั ญ ที่ สุ ด คนหนึ่งในประวัติศาสตรศิลปะรวมสมัยไทย “Chalood’s Mural Paintings and Retrospective” By Exhibition Department, Bangkok Art and Culture Centre 31 May – 18 August 2013 Main Gallery, 9th Floor, Bangkok Art and Culture Centre The exhibition presents masterpieces of Chalood Nimsamer, the National Artist in Visual Arts (Sculpture). Through the master’s display of valuable works created during the past six decades, visitors may learn more about one of the most significant artists in the Thai contemporary art history.
40
NETWORK CALENDAR
COLUMNIST : DEAR
รฦก - Remembrance 21 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2556
<< 21 May – 30 June 2013 Ardel’s Third Place Gallery
Ardel’s Third Place Gallery
หากหัวใจคุณ ยังมีความรักผืนแผนดินผูใหกําเนิดอยางเต็มเปยม นิทรรศการ “รฦก” นาจะถูกใจไมนอย ดวยการนําเสนอผลงานภาพถายของ ชฤต ภูศิริ ที่ไดจําลองสถานการณและเหตุการณสําคัญในประวัติศาสตร การกอรางสราง ชาติไทย ภายใตแนวความคิดเกี่ยวกับอุดมการณ ความกลาหาญ และความ เสียสละของเหลาบรรพชนชาวไทยที่ยอมสูญสิ้นเลือดเนื้อและชีวิต อุทิศใหกับ การปกปองคุมครองแผนดินเกิด ซึ่งภาพใบหนาและวีรกรรมของผูคนเหลานั้น ตางกําลังตัง้ คําถามใหกบั เยาวชนคนรุน หลังไววา เราไดทาํ สิง่ ทีด่ งี ามเพือ่ ประเทศ ชาติ เฉกเชนบรรพบุรุษของเราหรือไม
Charit Pusiri, though his photographs of simulated events, reflect significant historical events and situations in Thailand under the patriotic theme of ideology, bravery and sacrifices for the motherland. The purpose of his works is to raise the awareness among the younger generations to fulfill their duty for their nation as well as to honor their ancestors’ heroism. For more information, please visit www.ardelgallery.com.
ขอมูลเพิ่มเติมคลิก www.ardelgallery.com รักออกไป - Being in Love 21 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2556 Galerie N
อัลเบิรต ไอนสไตน กลาวไววา “ประสบการณ คือ แหลงขอมูลของการ เรียนรู” ในความรักก็เชนเดียวกัน เพื่อคนหาคําตอบประสบการณรักแหง การเรียนรู ในใจเรา เราจําเปนตองไดลองเอง ไดเรียนรูเอง คําตอบของ คําถามในสิ่งตางๆ เหลานั้นจะเกิดขึ้นภายในใจก็ตอเมื่อได “รักออกไป” ผลงานการแสดงเดี่ยวครั้งแรกดวยคําถามเรื่อง “ความรัก” โดย ขวัญชัย สินปรุ งานจิตรกรรมแนวพืน้ บานอีสานรวมสมัย โดดเดนของรูปทรงตัวละคร ที่เรียบงาย ตรงไปตรงมา ดวยทีแปรงแบบฉับพลัน ทิ้งรองรอยของการ กระทําบนผืนผาใบ และสีนํ้ามันแบบดิบๆ อันเปนเอกลักษณของเขา ขอมูลเพิ่มเติมคลิก www.galerienbangkok.com นิทรรศการ “Keisei Kobayashi: Wood engraving 1978 - 2009”
<< Being in Love
21 May – 30 June 2013 Galerie N
TAlbert Einstein once said, “The only source of knowledge is experience.” Just like love, we need to experience love in order to fully understand it. To be able to answer questions in our hearts, we have to be in love. Therefore this exhibition, which is the first solo exhibition of Kwanchai Sinpru, attempts to explore the questions about love through contemporary-folk paintings. His signature lies in the simple shapes of characters and swift brushstrokes on canvases. For more information, please visit www.galerienbangkok.com.
<< “Keisei Kobayashi: Wood 30 พ.ค. – 7 ก.ค. 2556 หอศิลปรวมสมัยอารเดล (ถนนบรมราชชนนี)
ผลงานของศิลปนชั้นครูชาวญี่ปุน เคเซ โคบายาชิ กับการเสนองานภาพพิมพ แกะไม (wood engraving) ในนิทรรศการ “Keisei Kobayashi : Wood engraving 1978 - 2009” ซึ่งไดแรงบันดาลใจมาจากความเจริญกาวหนา ทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีในยุคปจจบัน ที่ทําใหผูคนหยิ่งผยองอยูใน มายาคติอันมืดหมน หลงลืมความออนโยนและความรูสึกทางผัสสะที่ดีงาม ตอธรรมชาติแวดลอม โดยใชภาพเมืองใหญและสรรพสัตวกับพืชพรรณใน ธรรมชาติ เปนสัญลักษณสื่อถึงความยิ่งใหญอันจริงแทของโลก ขอมูลเพิ่มเติมคลิก www.ardelgallery.com
BACCAZINE | ISSUE 06
engraving 1978 - 2009” 30 May – 7 July 2013 Ardell Gallery (Borommaratchachonnani Road)
Wood engravings by the Japanese master, Keisei Kobayashi in the exhibition “Keisei Kobayashi: Wood engraving 1978 - 2009” were inspired by the humanity degradation due to the technological and scientific advancements in the present era. They may neglect the beautiful and tender connection with the natural environment. His works used cityscapes, animals and plants to symbolize the earth’s greatness. For more information, please visit www. ardelgallery.com.
41
Anthropos – Bangkok
R.C.A. (Ratchaburi Construction Worker Open AIR Portraits)
นิทรรศการศิลปะ BIG - BACK
2 - 30 มิ.ย. 2556
วันนี้ – 30 ก.ค. 2556
15 - 30 มิ.ย. 2556
วันนี้ – 30 มิ.ย. 2556
นําทอง แกลเลอรี่ ซอยอารีย
เถาฮงไถ หอศิลปดีคุนสท จ. ราชบุรี
หองนิทรรศการหมุนเวียน 6 - 8 พิพิธภัณฑสถานแหงชาติ หอศิลป ถนนเจาฟา
ศูนยสรางสรรคงานออกแบบ (TCDC) เชียงใหม
ไมวาจะเปนภาพถาย จิตรกรรม วาดเสน กราฟฟตี้ และผลงานสื่อประสมจัดวาง นิทรรศการ Anthropos ไดนําผูชมเขาสู การสํารวจถึงความสนใจที่เรามีรวมกัน : หลื บ ของความลึ ก ในนิ ย ามความเป น มนุษย ที่ซึ่งอาณาจักรอภิปรัชญาแหง จิตใจ ไดเผชิญหนากับพื้นที่ทางกายภาพ ของรางกาย ดวยการรอยเรียงเรื่องราว ทางโลก พลังงานที่จับตองไมได หรือ การกล า วอ า งที่ มี พ ลวั ต ด ว ยผลงานที่ โดดเดนในนิทรรศการ Anthropos ได นํ าไปสู รู ป แบบเฉพาะทางวั ฒ นธรรม พิธีกรรมทางสังคมและรางกายในฐานะ แมแบบของความสมบูรณทางสุนทรียะ ขอมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2617 2794
นิทรรศการ R.C.A. นิทรรศการกลางแจง ศิ ล ปกรรมภาพถ า ยอั ด บนไวนิ ล และ กระดาษโดยนักถายภาพ ราลฟ โทเทน ผลงานตอเนื่องของภาพถายพอรเทรท ชุด A.W.C. ระหวางป 2550-2553 โดยครั้งนี้ ราลฟ โทเทน ไดจับมือกับ ภัณฑารักษ วศินบุรี สุพานิชวรภาชน พร อ มด ว ยความร ว มมื อ จากจั ง หวั ด ราชบุรี นําเสนอผลงานศิลปะภาพถาย พอรเทรทกรรมกรผูใชแรงงานนับรอย คนในราชบุรี กอใหเกิดการรับรูที่สดใหม และเต็มไปดวยชีวิตชีวา โดยนําเสนอ ผลงานภาพถ า ยพอร เ ทรทในหลายๆ พื้ น ที่ ส าธารณะหลายแห ง เพื่ อ ให ผู ค นสามารถสั ม ผั ส ถึ ง ความงดงาม เหลานี้ ไดโดยทั่วถึงกัน ขอมูลเพิ่มเติม โทร.0 2287 0942-4
นิทรรศการศิลปะ BIG - BACK ตองการ แสดงถึงนัยแหงการสรางศิลปะที่เกิด การรับรูของผูสรางผลงานที่ ใชชีวิตอยู กับสังคมในปจจบัน ซึ่งบางครั้งอาจจะ หาความแนนอนไมไดในสถานการณ ตางๆ เหตุการณตางๆอันไมคาดคิดวา จะเกิดขึ้นนั้นเปนไปไดแลวในปจจบัน นี้ เสนทางของมนุษยจึงเหมือนกําลัง เดินวนไปสูจดจบเดิม บางสิ่งบางอยาง ที่เราไมคาดคิดกําลังจะกลับมา ขอมูล เพิ่มเติมโทร 0 2282 2640
เป ด อี ก หนึ่ ง โลกทั ศ น ข องเมื อ งแห ง ป า ใหญ แ ละทิ ว เขาสู ง ใหญ ใ นม า นหมอก อันหนาวเย็น วัดวาอาราม และวิถีชีวิต อันเนิบนาบ “เชียงใหม” ในกรอบความ คิ ด ของเมื อ งที่ ถู ก ขั บ เคลื่ อ นจากพื้ น ที่ ภายใน โดยมีงานออกแบบและการ จั ด วางเป น สื่ อในการถ า ยทอดเพื่ อ นํ า เสนอผลการสํารวจ การเสาะหาโอกาส และอุปสรรคในการพัฒนาเมืองที่ซอน อยูในยานสําคัญตางๆ มารวมสํารวจ เมืองเชียงใหมในฐานะบานหลังที่สอง ของ TCDC ผานการศึกษาพลวัต ของเมื อ งอั น ซั บ ซ อ นและกลุ ม คนอั น หลากหลาย ในขณะที่คนทองถิ่นเอง ก็จะไดทาํ ความรูจ กั กับตัวเองผานมุมมอง ใหมๆ ขอมูลเพิ่มเติมคลิก www.tcdc.or.th
<<
<<
<<
<<
Anthropos – Bangkok 2-30 June 2013 Numthong Gallery at Aree
R.C.A. (Ratchaburi Construction Worker Open AIR Portraits) Today – 30 July 2013 Tao Hong Tai: d Kunst Gallery, Ratchaburi province.
From photography to painting, drawings, graffiti and mixed-media installations, Anthropos investigates a subject of collective concern: the recesses of human depth where the metaphysical realm of the mind encounters the physical space of the body. Combining sensual, ghostly or otherwise dynamic allusions, the works featured in Anthropos-Bangkok tackle themes of cultural belonging, social rituals and the body as archetype of aesthetic perfection.
The photographer, Ralf Tooten, in collaborating with the artist and curator, Wasinburee Supanishvorapach presents his photo series A.W.C., comprising of portraits of a hundred labor workers in Ratchaburi.
Exhibition of Art BIG – BACK 15-30 June 2012 Exhibition Room 6-8, The National Art Gallery, Chao Fah Road
Exhibition of Art BIG - BACK is to portray the meaning of art creation through the recognition by artists who live in the contemporary society where sometimes there are uncertainties. Presently, unexpected situations or circumstances are becoming possible. The path of humanity seems to be going in a circle and back to the starting point. Something beyond our expectation will be coming back. For more information call 0 2282 2640
BANGKOK,CITY OF ART
เล่าเรือ ่ ง เมืองใหม่
Chiang Mai Revisited Today – 30 June 2013 TCDC, Chiang Mai
“Chiang Mai Revisited” opens up a new perspective of Chiang Mai through its installation arts and designs to reflect the uncommon scenes and activities that very much define the city’s complex dynamics. The diverse ways of life of the local communities are explored in this exhibition.
42
BACC REVIEW
Music reviews Artist : Daft Punk Single : Get Lucky แนวเพลง : Electronic/Funk
ลือลั่นสนั่นวงการ สําหรับ Electronic Duo รุนใหญชาวฝรั่งเศส อยาง Daft Punk ที่ปลอย Single ใหม อยาง Get Lucky ออกมา โดยมี Pharrell Williams โปรดิวเซอร - นักรอง ชาวอเมริกันเขา มาช่ ว ย Featuring ด้ วยน้ ําเสีย งที่ เ ป็น เอกลัก ษณ์ผ สมผสาน จังหวะดนตรีกลิ่น Funk ที่เปนรากของ Daft Punk รวมอยู ยิ่งเปนเสนหใหชวนขยับตามจนถึงบีทสุดทาย พูดถึง Daft Punk แลว แฟนเพลงดนตรีแนว Electronic House นอยคนนักที่จะไมรูจักสองศิลปนชาวฝรั่งเศสประกอบดวย Thomas Bangalter และ Guy-Manuel de Homem-Christo ที่พบกันในชวงเรียนอยูที่ปารีส ซึ่งกอนจะมาเปน Daft Punk ทั้งสองเริ่มเลนดนตรีดวยเครื่องดนตรีพื้นฐานอยางกีตาร โดยมี เพื่อนรวมวงเหมือนวงดนตรีทั่วไป แตทั้งสองเริ่มมีความคิดที่ แตกตาง โดยเริ่มเอาเครื่องเลนเสียงสังเคราะหมาประกอบ ในการทําเพลง และก็เริ่มอัดเดโมและออกอัลบั้มตั้งแตนั้นมา Daft Punk เปนศิลปนที่มีชื่อเสียงที่สุดในชวงปลายป 2553 มีเพลงฮิตที่เราไดฟงกันอยางคุนหู เชน Around the world, One more time และ Da funk…จนถึงวันนี้พวกเขาทําเพลงออก มาแลว 5 อัลบัั้ม โดยอัลบั้มลาสุด “Random Access Memories” พวกเขาไดเริ่มทํามาตั้งแตป 2553 ไดศิลปนชื่อดังอยาง Giorgio Moroder, Nile Rogers, Todd Edwards, Pharrell Williams มารวมงาน ซึ่งอัลบั้มนี้มีกําหนดออกวางจําหนายในวัน ที่ 21 พฤษภาคม นี้ หรือในชวงฤดูใบไมผลิของทางยุโรป
Sound Cloud Artist Sound Cloud พืน้ ทีส่ รางสรรคในโลกไซเบอร สําหรับใหศลิ ปนอิสระ มาโชวฝม อื ฝากผลงานดนตรีใหคนทัว่ โลกไดรบั ฟง Artist : Distantstarr แนวเพลง : Electro/Hiphop/Funk
Distantstarr คือกลุมศิลปนและโปรดิวเซอรที่มา รวมตัวกันในนิวยอรก แตมีชื่อเสียงโดงดังมาจาก ฟลาเดลเฟย ตัง้ แตชว งป 2526 พวกเคาออกมาทํา เพลงในสไตลของตัวเอง ในฐานะศิลปน Underground Hiphop และไดรบั การยอมรับในวงกวาง ตัง้ แตป 2545 เปนตนมา BACCAZINE | ISSUE 06
Artist : Dj Crosswalk แนวเพลง : Instrumental/Turntablism /Hiphop/
สมัยนี้มีทางเลือกใหแฟนเพลงที่นิยมฟงเพลงในแนวทางที่ แตกตางใหไดฟงกันมากมายหลายชองทาง ศิลปนอิสระ อยาง Dj Crosswalk เลือกที่จะสงเพลงของพวกเขาผาน Sound Cloud มาถึงหูแฟนเพลงรุนใหมในยุคศตวรรษ ที่ 21 ยอนกลับไปในป 2548 Dj Crosswalk เริ่มมิกซ เพลงดวยความชอบ หลังจากนั้นเขาเริ่มรูวาสิ่งที่ทําอยูมัน สนุกสนาน และพุงทยานไปไกล เกินกวาที่จะควบคุมได
43
Movie reviews
Book reviews
KATHMANDU/A mirror in the skya ผูกํากับ : Icíar Bollaín
เรื่องราวของหญิงสาวชาวสเปน ที่ อ าสามาเป น ครู ส อนศิ ล ปะ ในกรุ ง กาฐมาณฑุ ประเทศ เนปาล ไดตกอยูในสถานการณ ลําบาก เมื่อเธอตองการทํางาน ที่รักเพื่อชวยเหลือเด็กๆ ที่ขาด โอกาส แตติดที่วีซาของเธอไม สามารถอยูตอไปได เธอจึงตัด สินใจแตงงานกับคนพื้นถิ่น แม
ชีวติ คูจ ะไม ไดเริม่ ตน ดวยความรัก แตสถานการณเฉพาะหนาตางๆ ที่เกิดขึ้น ก็ ไดนําพามาซึ่งเรื่อง ราวของความรัก ความสําเร็จ และแฝงไปดวยความละเอียดออน ทางวั ฒ นธรรมที่ ค นสองทวี ป ไดถายทอดรวมกัน เปนเรื่องราว อันงดงาม รอยเรียงเรื่องดวยภาพ ในมุ ม มองของบุ ค คลภายนอก
ที่ ม อ ง เ ห็ น ค ว า ม ง ด ง า ม ใ น ธรรมชาติ ข องประเทศเนปาลที่ ผูกํากับตองการถายทอดความงาม ผสมเรื่องราวไวไดอยางกลมกลืน การันตีไดจากชือ่ Icíar Bollaín ผูกํากับชาวสเปนที่มีฝมือกํากับหนัง นอกกระแสอันโดงดัง มีผลงานการ เขาชิงรางวัล Academy Award ใน ประเทศสเปน
Osho Intelligence การตอบสนองอยางสรางสรรค กับปจจุบันขณะ เขียน : OSHO แปล : ดร.ประพนธ ผาสุขยืน
Persepolis เขียนบทและกํากับ : Vincent Paronnaud
แอนิเมชั่นขาว-ดําที่โดงดังไปทั่วโลก และมีการแปลเสียง ในหลายภาษา Persepolis เปนเรื่องของเด็กสาวชาวอิหราน ที่ เ ติ บ โตในช ว งการปฏิ วั ติ ภ ายในประเทศอิ ห ร า น ในกลุมชนชั้นกลาง ซึ่งหนึ่งในวิธีการปกปองครอบครัว ก็คือ การสงลูกไปเรียนตอตางประเทศ เพื่อใหพนจาก อันตรายตางๆ ที่เกิดขึ้นในภาวะสงคราม รวมทั้งสะทอน เรื่องราว ปญหาภายในประเทศ และการกดขี่ทางเพศใน กลุมสตรีชาวอาหรับ เรื่องเลาของ ‘Marji’ ทําใหเราเขาใจ ชีวิตของครอบครัวชาวมุสลิม และการปฏิวัติในสังคม มุสลิมดวยกันเอง BANGKOK,CITY OF ART
สํ า หรั บ ผู ท่ี ช่ื น ชอบหนั ง สื อ ปรั ช ญาที่ มี เนือ้ หากระชับ ตีแผแกนแทในการดําเนินชีวติ ที่ เ รี ย บ ง า ย แ ล ะ เ น น พ ลั ง ส ร า ง ส ร ร ค ภายในจิตใจผานการปฏิบัติสมาธิดวยตัวเอง Osho คือผูนําทางความคิดที่กาวขาม คําวา “ศาสนา” เพื่อนําพลังการหยั่งรู ทั้ ง หมดกลับมาสูการใชชีวิตอยางมีความสุข Osho เปนนักปรัชญาชาวอินเดียทีส่ รางความ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ ใหกับประเทศอินเดีย หลักการใชชวี ติ งายๆ ของ Osho นัน้ คือการ พยายามก อ กวนความเป น มนุ ษ ย ข องผูอ่ืน โดยถายทอดความคิดผานเรื่องเลาที่แสดง ความขัดแยงตอกรอบสังคมและศาสนา โดย ไมมีอคติที่เลวราย แตเนนมุมมองที่ชัดเจน จากความเปนปจเจกของแตละบุคคล Osho เสียชีวิตในวัย 59 ป แตสิ่งที่ Osho ฝากไวเปนประวัติศาสตร คือหนังสือมาก กวา 600 เล่ม นอกจากนี้ ยั งมีบทความ บทสัมภาษณ ที่ไมมีวันเสื่อมสลาย มีคําพูดที่วา Osho เปลี่ยนอินเดีย ใหเปน อินเดีย โดยสิ่งที่ Osho ไดสรางไวคือการ สร า งพลั ง ทางความคิ ด ที่ เ กิ ด จากแก น ของ สมาธิในแตละบุคคลนั่นเอง ฉบับแปลเปนภาษาไทยโดย ดร.ประพนธ ผาสุขยืน ทําใหเราเขาใจถึงการสื่อสารของ Osho ไดลึกซึ้ง แตถาคุณเปนนักอานภาษา อังกฤษ Osho ในภาคตนฉบับใชภาษาที่ เรียบงาย และสือ่ สารไดอยางชัดเจนโดยทีค่ ณ ุ สามารถทําความเขาใจ และมีอารมณรวมไป ดวยอยางไมขดั เขิน
44
ART ANALYZE
COLUMNIST : NARISSARA
IN BETWEEN REALITY AND DREAM Spring Sakura Collection
Ob
for Shu Uemura //การเปลี่ยนสินค้าเชิงพาณิชย์ให้มีคุณค่าทาง ศิลปะ ได้อย่างมีศิลปะ ทําให้เรามีโอกาสได้เห็น และครอบครองงานศิ ล ปะที่ ท อดกายอยู่ บ น ผลิตภัณฑ์ชน ้ั เลิศ // BACCAZINE | ISSUE 06
ขอบคุณกระป๋องซุปและลังใส่สบู่ของแอนดี้ วอร์โฮล (1) แนวคิดเชิง ประชดประชันและอารมณ์ขันของศิลปะ POP ART รวมถึงพลัง อันไม่อาจต้านทานของวัฒนธรรมสมัยนิยม (Pop Culture) ที่ ร่วมกันทําลายขนบบางอย่างของศิลปกรรมชั้นสูง (High Art) ด้วยการเปลี่ยนสินค้าเชิงพาณิชย์ให้มีคุณค่าทางศิลปะได้อย่าง มีศิลปะ ทําให้ทุกวันนี้เรามีโอกาสได้เห็นและครอบครองงานศิลปะ ที่ทอดกายอยู่บนผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศจํานวนมาก ตั้งแต่แก้วกาแฟ เสื้อผ้า กระเป๋าหรู รวมไปถึงเครื่องสําอางยี่ห้อดัง
หนึ่ ง ในนั้ น คื อ บริ ษั ท ผลิ ต เครื่ อ งสํ า อางและครี ม บํ า รุ ง ผิ ว จากประเทศ ญี่ปุน ซึ่งดําเนินงานตามปรัชญาของ Mr. Shu Uemura ผูก อ ตัง้ แบรนด วาดวยการรวมตัวกันของ ธรรมชาติ วิทยาการ และศิลปะ พวกเขา เริ่มสรางความเชื่อมโยงระหวางหลักปรัชญาดังกลาว ดวยการเชิญศิลปน มารวมออกแบบแนวคิดหลัก (concept) และออกแบบลวดลายใหกับ ผลิตภัณฑที่เปนคอลเล็กชั่นพิเศษประจํ าป นับตั้ง แตป 2549 เปนตนมา พวกเขารวมงานกับศิลปนรวมสมัยชื่อดังมาแลวนับสิบคน รวมทั้งแฟชั่น ดีไซเนอร นักวาดการตูน และผูกํากับภาพยนตรลาสุดในป 2556 Spring Sakura Collection นี้ ศิลปนที่มารวมออกแบบคือ OB (โอ-บี)
45
// เป็นการผสมการ์ตน ู ตาโตแบบญีป ่ น ุ่ เข้ากับเทคนิค การวาดภาพแบบตะวันตก โดยเกลี่ยทุกอย่างใน ภาพให้กลมกลืนจนแทบละลายเป็นเนือ้ เดียวกัน // สาวนอยชาวญีป่ นุ จากกลุม Kaikai Kiki (2) ที่กอตั้งโดย Takashi Murakami ศิลปน POP ART ผูเปรียบเสมือนแอนดี้ วอรโฮล ของแดนอาทิ ต ย์ อ ุท ั ย เขาชื ่ นชมผลงาน ของศิลปนวัยเพียง21 ป ผูน ว้ี า เปนมุมมองใหม ที่แ ตกต า งโดยสิ้น เชิ ง จากงานศิ ล ปกรรม รวมสมัยอื่นๆ ในเวลานี้เลยทีเดียว ความแตกต า งที่ ว า นี้ คื อ การผสมการ ตู น ตาโตแบบญี่ปุน เขากับเทคนิคการวาดภาพ แบบตะวันตก โดยเกลี่ยทุกอยางในภาพ ให ก ลมกลื น จนแทบละลายเป น เนื้ อ เดียวกัน บวกกับแรงบันดาลใจจากผลงาน ข อง K limt, De gas, R e do n แล ะ Henry Darger ผลที่ ไ ด คื อ บรรยากาศ ชวนฝนอันคลุมเครือ ลองลอยและไรกาลเวลา แม บ างครั้ง เธอจะแอบใสเนื้อหาที่ มืดหมนลงไปบาง แตนั่นไมใชสําหรับ Sakura Collection เพราะมั น เป็ น งานที่เต็มไปดวยจินตนาการและความสุข “สํ า หรั บ ฉั น ความเป น จริ ง อยู ใ นโลก ของความคลุ ม เครื อ ระหว า งโลกแหง ความฝ น อั น ไร เ ดี ย งสากั บ โลกแห ง ความจริง นี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะถายทอดใน คอลเล็กชั่นนี้” OB ยั ง กระตุ น จิ น ตนาการของเราด ว ย
เรือ่ งราว ทีม่ เี จาหญิงทั้ง 4 เปนตัวแทน ผู ห ญิ ง ในแบบต า งๆ เริ่ ม จากเจ า หญิง ซากุ ระผู เต็ มไปด วยพลังชีวิต เมื่ อ เธอ เต น รํ า ดอกซากุ ร ะจะพากั น บานสะพรั่ ง เ จ า ห ญิ ง ด ว ง จั น ท ร ผู ท อ ง ไ ป ทั่ ว จั ก รวาล เพื ่ อ เก็ บ เศษของดวงจันทรที่ แตกสลาย จากจรวดมิสไซสของมนุษย เจ าหญิงปาไม ผู งดงามตามธรรมชาติ เธอจะคอยชวยเหลือคนหลงทางในปาให กลับบ านอย างปลอดภั ย โดยไม ลืม ลบ ความทรงจํ า เกี่ ย วกั บ ตั ว เธอเสี ย ก อ น และเพื่ อ นสนิ ท คื อ เจ า หญิ ง มหาสมุ ท ร ผูอุทิศตัวใหกับการปกปองทุกชีวิตใตทอง ทะเล แตขณะนี้ตอ งเผชิญกับสถานการณ เลวรายจากพายุที่กอตัวมากผิดปกติในชวง สองสามปที่ผานมา “ไม ว า จะเป น การเต น รํ า ท า มกลางกลี บ ดอกไม หรือตอสูกับพายุ เจาหญิงทุกคน อธิษฐานถึงความสุขสงบของโลกที่งดงาม ใบนี้ ขณะเดียวกันพวกเธอก็เปนเด็กสาว ที่ ใ ช เ ครื่ อ งสํ า อางได เ หมาะสม และ อิ น ไปกั บ จิ น ตนาการอั น ล้ํ า เลิ ศ ของ ตั ว เองฉั น หวั ง ว า ผู ค นจะได พ บกั บ สิ่ ง ที่ เข า ถึ ง ประสบการณ ข องพวกเขาเอง” …คําถามคือ นานแคไหนแลว ที่เรามัว แต ใ ช ชี วิ ต ใ น โ ล ก ข อ ง ค ว า ม เ ป น จ ริ ง จนลืมจินตนาการวัยเด็กเหลานี้ไปหมดสิ้น?
Thanks to Andy Warhol’s Campbell’s Soup Cans and Brillo Soap Pads Box, pop art and culture has taken a step closer to consumers. Commercial products are now vehicles for art. Shu Uemura is one of the Japanese cosmetics brands that illustrate this philosophy of combining nature, technology and art to create great products with both functional and aesthetic values. Since 2004, it has been collaborating with various contemporary artists, fashion designers and movie directors for their limited collection design. The most recent collection is the 2013 Spring Sakura Collection, designed by OB – a 21-year-old Japanese artist from Kaikai Kiki which is an art agency established by the pop artist, Takashi Murakami. Her work is compared to Andy Warhol’s by some people. Her signature lies in her technique of diffusing edges in her paintings. They are inspired by works of Klimt, Degas, Redon and Henry Darger – depicting dreamy and timeless themese. Her Sakura Collection for Shu Uemura is filled with fantasy and delight. The four princesses in this collection Sakura Hime, the cherry blossom princess; Umi Hime, the ocean princess; Midori Hime, the forest princess; and Tsuki Hime, the moon princess. All of them pray for peace and happiness for this world. These dream like designs remind us of our childhood memories and imagination.
(1) 32 Campbell’s Soup Cans (1962) ภาพพิมพรูปกระปองซุปเรียงกัน 32 กระปอง และ Brillo Soap Pads Box (1968) ประติ ม ากรรมทรงสี ่ เ หลี ่ ย ม ที่ เ ลี ย นแบบลัง ใสสบู เปนหนึ่งในผลงานที่สรางชื่อเสียงใหกับ แอนดี้ วอรโ ฮล เจ าพ อ POP ART (2) Kaikai Kiki Co., Ltd ตั้งขึ้นในป 2544 เปนองคกรบริหารจัดการ ทุกอยางเกี่ยวกับศิลปะ ตั้งแตการผลิต การประชาสัมพันธนิทรรศการ และการจัด จําหน าย รวมถึ ง การสนับ สนุ น ศิ ล ป น หน า ใหม ที่ ถู ก คั ด เลื อ กเข า มาด ว ย BANGKOK,CITY OF ART
46
ART WORD
COLUMNIST : DEAR
ALL ABOUT STREET ART
01 Graffiti
02 Tag
04 03 Throw-ups Fill-in
คือ การเซ็นลายเซ็นหรือนามแฝง ของแต ล ะคนโดยสเปรย ก ระป อ ง หรือปากกา สวนมากใชสีเดียว คือ ภาพวาดที่เกิดจากการขีดเขียน บางคนอาจพนเปนตัวอักษรธรรมดา หรือการขูดขีดไปบนผนัง เปนศัพทที่ ขณะที่บางคนดีไซนใหเปนตัวอักษร มาจากภาษากรีก คือคําวา graphein ที่เกาะเกี่ยวกันจนอานไมออก เนน ใหดูแปลกและสะดุดตา ที่แปลวาการเขียน
พั ฒ นาการอี ก ขั ้ น หนึ ่ ง ของ Tag คือการเขียนเร็วๆ ดวยสีพื้นฐาน จํ า นวนน อ ยสี นิ ย มใช ส ี ข าวดํา แสดงให เ ห็ น เส น สายที่ ร วดเร็ ว เป น การเขี ย นตั ว อั ก ษรน อ ยตั ว มีเสนตัดขอบเพื่อใหดูมีมิติ ไมเนน ความสวยงามเพราะตองแขงกับเวลา
BACCAZINE | ISSUE 06
หรือ Piece มีการใชตัวอักษรและ ประดิดประดอยมากกวา Throw-ups อี ก ทั้ ง ยั ง มี ก ารนํ า เอาเทคโนโลยี ที่ เรียกวา Fat Cap มาชวยสรางความ งดงาม ซึ่งสามารถครอบคลุมพื้นที่การ ทํางานไดอยางรวดเร็ว ขนาดใหญ และ ประณีต
47
05 06 Blockbuster Wildstyle
07 Character
08 Production
คือ Fill-in ที่ตั้งใจเขียนทั้งผนัง
คื อ การพ น เป น รู ป คน หรื อ คาแร็กเตอรตางๆ ไมวาจะเปน ตัวการตูน หรือเปนภาพเสมือน จริงของดารา-นักรองในดวงใจ หรืออาจเปนตัวการตูนที่ไรเตอร ออกแบบเองเพื่อเปนสัญลักษณ ประจําตัวของไรเตอรคนนั้นๆ
คือ การรวมรอยขูดขีดเขียนทุกรูปแบบ ไวดวยกัน เกิดจากการรวมที่ไรเตอร หลายคนหรื อ หลายกลุ ม นั ด กั น สร า ง ผลงานรวมกัน โดยมีธีมไปในทิศทาง เดียวกันหรือสอดคลองกัน เชน นัดกัน พ น คาแร็ ก เตอร ป ระจํ า ตั ว ของแต ล ะ คนหรือพนชื่อกลุม
หรือ Wickedstyle เปนสไตลที่ ซับซอนขึ้น มีการเกาะเกี่ยวกันของ ตั ว ห นั ง สื อ แ ล ะ มี ทิ ศ ท า ง ที่ ไ ม สามารถกําหนดได ลักษณะการเขียน ประเภทนี้ จึ ง อ า นค อ นข า งยาก เพื่อแสดงใหเห็นถึงความเหนือชั้น ของการดีไซน
BANGKOK,CITY OF ART
48
Art Question
Q
COLUMNIST : BACCAZINE TEAM
ศิลปะบนกําแพงหรือบนผนังห้องน้ํา ที่มี ลักษณะก้ํากึ่งว่าจะเป็นศิลปะหรือความสกปรก อย่างนี้ถือว่าเป็น “อาร์ต” หรือเปล่า? Are paintings on walls or restroom walls considered as “arts”?
A
การขีดเขียนบนกําแพงถือว่าเป็นอาร์ตหรือศิลปะถ้าหากอยู่ ในทีเ่ หมาะและควร หากบริเวณนัน ้ เป็นกําแพงบ้านเรือนคน วัด หรือโบราณสถาน รวมถึงผนังห้องน้าํ และเป็นการขีด เขียนถ้อยคําทีห ่ ยาบคาย เหล่านีถ ้ อื ว่า ไม่ใช่ “อาร์ต” แน่นอน ตอบโดย P7, street artist Drawings on walls are considered as arts only if they are made at appropriate places. Sketching and writing bad words on people’s houses, temples, schools or restrooms are clearly rude and not art. Answer by P7, street artist
A
ศิลปะบนกําแพง ถ้ามีธม ี และความสวยงามอยูด ่ ว้ ย ก็สามารถ มองเป็นศิลปะได้ แต่จะเป็นศิลปะทีด ่ ค ี อื อย่าไปทําบนพืน ้ ทีค ่ นอืน ่ มันอาจทําให้เจ้าของเดือดร้อน ส่วนในห้องน้าํ คือความสกปรก ไม่ชอบเลย เพราะในห้องน้าํ มีแต่คาํ สารภาพรักและขายของ รวมถึงคํากลอนทีไ่ ว้ดา่ คนอืน ่ มันไม่มห ี รอกทีจ่ ะมาเนรมิตเป็น ศิลปะ ดังนัน ้ มันคือความสกปรก และทําให้คนอืน ่ เดือดร้อน ตอบโดย พิมพ์พร พฤกษถานนท์ ธุรกิจส่วนตัว Good arts don’t intrude other people’s private spaces. Graffiti is art if it is created with a theme and possesses aesthetic elements. Answer by Pimporn Phruksathanon, business owner
Q
กราฟฟิตี้ (Graffiti) กับ สตรีทอาร์ต (Street Art) แตกต่างกันอย่างไร?
A
กราฟฟิตี้ คือ การพ่นชื่อ หรือ Tag (ลายเซ็น) ตัวเอง เป็นทรงตัว หนังสือหลายสไตล์ ส่วนสตรีทอาร์ต คือ การพ่น เพ้นท์ หรือใช้ เทคนิคอื่นๆ สร้างเป็นรูปทรงคน สัตว์ หรือสิ่งของ ตอบโดย P7, street artist
How is graffiti different from street art?
Graffiti is spraying or tagging yourself in various alphabet styles. Street art is painting or spraying to create shapes of human, animals or objects.
Answer by P7, street artist BACCAZINE | ISSUE 06
A
สําหรับเรามันแล้วแต่กรณี อย่างเช่น ถ้าพ่นๆ เขียนๆ แค่ ชือ่ สถาบันนัน ้ ไม่นบ ั ว่าเป็นงานศิลปะ แต่ถา้ หมายถึงงานบน ถนน บนกําแพง พืน ้ ทีท ่ ไ่ี ด้รบ ั การอนุญาต อันนีถ ้ อื ว่าเป็น อาร์ตนะ เพราะช่วยเปลีย ่ นทัศนียภาพของทีร่ กร้างให้ดขี น ้ึ และทําด้วยความตัง้ ใจ มีแรงบันดาลใจ เช่น งานทีก ่ าํ แพง หอศิลป์ ทีก ่ าํ แพงบ้านตรงราชเทวี หรือทีส่ กายวอล์ค ระหว่างชิดลม สยาม เซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงการโฆษณา สินค้าก็นาํ มาใช้เป็นคอมเมอร์เชียลอาร์ตด้วย แต่สาํ หรับ งานบนผนังห้องน้าํ ทีเ่ ป็นพวกขีดเขียนคําด่า หรือ วาดเขียนแบบเลอะๆ คิดว่าไม่อาร์ต เพราะไม่กอ่ ให้เกิด ความงามทางอารมณ์ และไม่ทาํ ให้ใจสดชืน ่ เบิกบาน ตอบโดย Miney, style advisor In my opinion, it depends. Spraying your institute’s names on public walls is not an art, but doing it in authorized areas is. It gives you inspiration and can become commercial arts, too. I think writing curses on restroom walls is not an art because it does not create any constructivism. Answer by Miney, style advisor
49
bacc map
ทีต ่ ง้ั และการเดินทาง
How to go to bacc
WHERE TO FIND baccazine
bacc ตั้งอยู่หัวมุมสี่แยกปทุมวัน ตรงข้าม ห้างมาบุญครอง และสยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 3 ของหอศิลปกรุงเทพฯ มีทางเดินเชื่อมต่อ กับทางยกระดับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสนาม กีฬาแห่งชาติ และมีบริการที่จอดรถบริเวณ ชั้นใต้ดินของอาคาร รถประจําทางสาย : สาย 15, 16, 21, 25, 29, 34, 36, 40, 47, 50, 54, 73, 73 ก, 79, 93, 141, 159, 204, ปอ. 508 และ ปอ. 529 เรือโดยสาร : เรือสายคลองแสนแสบ เส้นทาง สะพานผ่านฟ้า - ประตูน้ํา ขึ้นที่ท่าเรือสะพาน หัวช้าง เดิน 300 เมตร ถึงหอศิลปกรุงเทพฯ สี่แยกปทุมวัน เวลาเปิดบริการ : วังอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น. (หยุดวันจันทร์) ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม ยกเว้นการจัด กิจกรรมและการแสดงที่เป็นกรณีพิเศษ
bacc is located at the Pathumwan Itersection, facing the MBK and Siam Discovery Center. The 3rd floor entrance is connected to the BTS, the National Stadium Station. Limited parking is available at level B1 and B2. Buses : 15, 16, 21, 25, 29, 34, 36, 40, 47, 50, 54, 73, 73 ก, 79, 93, 141, 159, 204, air-con 508 และ air-con 529 Boats : Saen-saeb canel route (Panfa Bridge-Pratunam), use the Sapan Hua-Chang landing, 300 m. to the Art Centre Opening hours : 10 a.m. - 9 p.m. (closed Monday) Addmission : Free entry to exhibitions, except for special events. Charges to concerts and play will vary
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7.
BANGKOK,CITY OF ART
นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ หอศิลป์จามจุรีแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย TK park อุทยานการเรียนรู้ ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาสยามสแควร์ 8. Coffee & Bakery อาทิ ทรูคอฟฟี่ สตาร์บัคส์ ไอเบอร์รี่ โฮมเมด โอ บอง แปง ขนม แฟชั่น เบเกอรี่ ฯลฯ 1. 2. 3. 4. 5.
Rattanakosin Exhibition Hall Museum Siam: Discovery Museum National Museum Bangkok The Queen’s Gallery Jamjuree Art Gallery of Chulalongkorn University 6. Thailand Knowledge Park: TK park 7. Chulalongkorn University Book Center (Siam Square branch) 8. Coffee & Bakery TrueCoffee Starbucks Iberry homemade Au Bon Pain Kanom Fasion Bakery Other
50
¹éÓáË‹§ªÕÇÔμ
m m vô s¨ ¢ mp ±s ° ª ¬ ¨ ¨ ¨ t tµ m v
£ s p v ± } © ósm £s¨ p
Water of Life
7KH nd :KLWH (OHSKDQW $UW $ZDUG ([KLELWLRQ %\ 7KDL %HYHUDJH 3XEOLF &RPSDQ\ /LPLWHG -XQH $XJXVW WK )ORRU %DQJNRN $UW DQG &XOWXUH &HQWUH 7HO
BACCAZINE | ISSUE 06