Canon EOS 600D by Byul Blur

เรื่อง/ภาพ : พิเชฎฐ์ จันทรถาวรพงศ์

OS 600D เป็นกล้อง DSLR จาก Canon ที่ใช้รหัส ตัวเลข 3 ตัวรุ่นล่าสุด ออกวางตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว และเป็นกล้องที่ได้รับความนิยมสูงพอตัวทีเดียวเพราะราคาไม่แพง แต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานให้ครบครัน เป็นรุ่นที่ออกมาแทน EOS 550D ระดับความละเอียดของเซ็นเซอร์ภาพ 18 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่สเป็ คหลายอย่างได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยเช่นเดียวกับหลายๆระบบ ที่ใช้ในรุ่น EOS7D และ EOS 60D การวางระดับของกล้องอยู่ที่ระดับ Mid-End คือเน้นไปกลุ่มที่เป็นมือใหม่และมือสมัครเล่นที่ต้องการ กล้องที่สูงกว่ารุ่น EOS1100D เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าคือ EOS 550D มีจุดเด่นหลาย อย่างในรุ่นนี้ทั้งจอ LCD มอนิเตอร์ปรับพลิกได้ ช่วยให้การถ่ายภาพ หรือบันทึกภาพวิดีโอทำ�ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น การดีไซน์แม้จะยังคล้าย รุ่นก่อนหน้าแต่ขนาดของตัวกล้องที่กว้างขึ้นช่วยเสริมให้กล้องรุ่นนี้ดู เป็นโปรมากขึ้น สามารถถ่ายภาพไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงถึง Full HD 1920 x 1080 พร้อมระบบดิจิตอลซูม ความไวแสงสูงสุด ISO 6400 และปรับได้อีก 1 สตอปที่ H หรือเทียบเท่า ISO 12800 จอแส ดงข้อมูลแบบ Quick Control Screen สั่งงานได้ง่ายด้วยปุ่ม DISP. จอ LCD มีความละเอียดถึง 1,040,000 จุด ขนาด 3 นิ้ว อัตราส่วน 3 :2 มีจ�ำ หน่ายพร้อมเลนส์ Kit ตัวใหม่คือ EF-S 18-135 มม. F/3.5-5.6 IS นอกเหนือจากชุดเลนส์ Kit EF-S 18-55 มม. F/3.5-5.6 IS II

การออกแบบภายนอก

EOS 600D มีรูปร่างหน้าตาแทบไม่แตกต่างจากรุ่น EOS 550Dเท่าใดนักลักษณะโดยรวมเหมือนกันเกือบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น การออกแบบ การวางปุ่มและรูปแบบการหุ้มยางกันลื่น มองเผินๆ อาจคิดว่าเป็นรุ่นเดียวกัน มีเพียงความกว้างของกล้องที่กว้างกว่าพอ สังเกตุได้ซึ่งรวมไปถึงส่วนหัวกะโหลกที่กว้างกว่าด้วย ส่วนนี้ทำ�ให้ กล้องดูดีมากขึ้นอย่างมากทีเดียว การออกแบบโดยรวมยังคงเน้นไปที่ ความกะทัดรัด นำ�้หนักเบาเพื่อการพกพาที่สะดวก กริปจับมีขนาดพอ เหมาะกับตัวกล้อง ด้านในตัดชันจับได้ถนัดมือ พร้อมหุ้มยางกันลื่น มาเต็มส่วนของกริป และมีร่องพักนิ้วที่ออกแบบมาอย่างลงตัว แป้น โหมดเปลี่ยนลายรอบแป้นแบบใหม่เป็นลายแบบละเอียดดูดีกว่าเดิม มาก และไม่ได้วางลาดเอียงมากเหมือนรุ่นก่อน กลไกการหมุนแป้น โหมดออกแบบมาได้นุ่มนวล โดยมีสวิทช์เปิดปิดแบบแกนผลักอยู่ใต้ แป้นโหมด แป้นคอมมานด์ด้านหน้า (กล้องรุ่นนี้มีแป้นคอมมานด์มา

แป้นเดียว) มีขนาดเล็กตามตัวกล้อง กลไลการปรับหมุนดี และมีปุ่ม ปรับ ISO อยู่ใกล้ๆ กัน ใช้งานสะดวก ปุ่มที่เพิ่มมาคือปุ่ม DISP. ใช้ แสดงข้อมูลแบบ Quick control ด้านบนตรงกลางเป็นแฟลชป๊อปอัพ ในตัวยกตัวได้สูงพอประมาณ ควบคุมด้วยปุ่มเปิดแฟลชแบบไฟฟ้า อยู่ทางด้านข้างของแปลนเมาท์ ต่�ำ ลงมาเป็นปุ่มเช็คระยะชัดลึกและ มีฮอทชูแฟลชสำ�หรับใช้แฟลชภายนอก สามารถใช้ร่วมกับแฟลชซีรี่ส์ EX ได้ทุกรุ่นตั้งแต่รุ่นใหญ่จนถึงรุ่นเล็กพร้อมระบบแฟลชไร้สาย แปลนเมาท์เป็นโลหะใช้ร่วมกับเลนส์ได้ทั้งเลนส์ EF และ EF-S โดยมีมาร์คมาให้ 2 ตำ�แหน่ง 2 สี สีขาวสำ�หรับเลนส์ EF-S และสีแดงสำ�หรับเลนส์ EF

ด้านหลังมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก รูปทรงของปุ่มเกือบ ทุกปุ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ส่วนมากจะจัดวางอยู่ในตำ�แหน่งเดิม ทำ�ให้ผู้ที่ใช้กล้องรุ่นก่อนหน้าหรือผู้ที่ใช้กล้อง Canon สามารถใช้ กล้องรุ่นนี้ได้อย่างคล่องตัวเพราะไม่มีการเปลี่ยนตำ�แหน่งของการ ควบคุมมากเท่าใดนัก การออกแบบดูสวยงามและแนบเนียนกับบอดี้ ดีกว่าแบบเดิม ใช้งานง่ายเพราะสกรีนตัวอักษรและรูปสัญลักษณ์การ ทำ�งานของแต่ละปุ่มไว้อย่างชัดเจน แยกสีขาวในโหมดถ่ายภาพกับสี ฟ้าในโหมด Playback จอ LCD มีขนาดใหญ่ 3 นิ้ว ความละเอียดถึง 1,040,000 จุด ขนาด 3 นิ้ว อัตราส่วน 3 :2 ให้ภาพที่ชัดเจนครอบคลุม ภาพ 100 % มีมุมมองกว้าง 160 องศาทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง มี ปุ่ม Q หรือ Quick control screen แยกต่างหากออกมาเพื่อความ สะดวกและรวดเร็วในการปรับตั้งค่าต่างๆ ผ่านจอสกรีน ปุ่ม Live view อยู่ทางด้านบนข้างช่องมองภาพโดยปุ่มนี้จะใช้เป็นปุ่มบันทึก ไฟล์วิดีโอด้วย และทุกปุ่มของแป้น 4 ทิศทางใช้ปรับเลือกบางโหมด ได้โดยตรง ซึ่งล้วนแต่เป็นโหมดที่ต้องปรับเปลี่ยนบ่อยคือ โหมด AF, โหมด Drive, WB และ Picture Style ช่องมองภาพเห็นภาพ 95% ปรับแก้สายตาได้ -3 ถึง +1 dpt โดยใช้ปุ่มหมุนขนาดเล็กข้างช่องมองภาพในการปรับ ยางรอง ตาสามารถถอดออกและเปลี่ยนได้ มีช่วงอายพอยท์ประมาณ 19 มม. อัตราขยาย 0.87x ช่องใส่การ์ด SD (รองรับการ์ด SDHC และ SDXC) อยู่ทางด้านข้างกริปจับใช้ฝาปิดล็อคแบบสไลด์เปิดธรรมดา ส่วนช่องเชื่อมต่อต่างๆ อยู่ทางด้านข้างฝั่งซ้ายแยกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกเป็นช่องต่อสายรีโมทและไมโครโฟนภายนอกขนาด 3.5 มม. สำ�หรับบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ ส่วนที่ 2 เป็นช่องต่อ USB (A/V Out

Digital) และ HDMI สามารถต่อแบตเตอรี่กริปได้ ช่องใส่แบตเตอรี่อยู่ ด้านล่างบริเวณกริปจับ ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน รุ่น LP-E8 (7.2 V 1120mAh) รุ่นเดียวกับที่ใช้กับ EOS 550D หากเทียบกับรุ่นก่อน การออกแบบโดยรวมของ EOS 600D ทำ�ได้ดีกว่า สวยงามกว่า ใช้วัสดุคุณภาพดี งานการประกอบปราณีต ตัวกล้องมีขนาดใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อยช่วยให้จับถือได้เต็มมือขึ้นและ ที่สำ�คัญคือดูเป็นโปรมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

คุณสมบัติเด่นหลักที่น่าสนใจของ Canon EOS 600D

- เซ็นเซอร์ภาพ CMOS 18 ล้านพิกเซล (Effective) - ระบบประมวลผล DIGIC 4 - ความไวแสง ISO 100-6400 และสามารถปรับให้สูงขึ้นได้เป็น ISO 12800 และตั้ง Auto ISO ได้ - ระบบวัดแสง 63 โซน iFCL - กรอบหา AF 9 จุด แบบกากบาท (9 Points Cross Type AF) - ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็ว 3.7 เฟรมต่อวินาที - บันทึกภาพเคลื่อนไหว(Movie) ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1920 x 1080) พร้อมดิจิตอลซูฒ 3x-10x - จอ LCD มอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 3 นิ้ว (ความละเอียด 1,040,000 จุด) - Quick Control Screen - โหมด CA (Creative Auto) - Highlight tone priority - Copyright information

ระบบการทำ�งาน

1. เซ็นเซอร์ภาพ ขนาดไฟล์ภาพ ไฟล์ฟอร์แมท EOS 600D ใช้เซ็นเซอร์ภาพ CMOS ขนาด APS-C (22.3 x 14.9 มม.) ให้ขนาดมุมรับภาพเป็น 1.6x เมื่อเทียบกับทางยาวโฟกัส ของเลนส์กล้องฟิล์ม 35 มม. ความละเอียดเท่ากับรุ่น EOS 550D คือ 18.0 ล้านพิกเซล (Effective) อัตราส่วนภาพ 3 : 2 ให้ขนาดไฟล์ ภาพใหญ่สุดที่ 5184 x 3456 พิกเซล (ขนาด L) และมีขนาดไฟล์ ภาพรองลงมาให้เลือกใช้งานได้อีก 4 ขนาด (M,S1,S2,S3) บันทึก ภาพในฟอร์แมทได้ทั้ง RAW (14-bit), JPEG 3 ระดับคุณภาพ และ RAW+JPEG(Large/Fine ) ความไวแสงเริ่มต้นที่ ISO 100 และ ปรับสูงสุดได้ถึง ISO 6400 และปรับให้สูงขึ้นได้อีก 1 สตอปคือ ISO 12800 (เทียบเท่า) เมื่อเปิด ISO expansion ใน C.Fn รวมทั้งมี Auto ISO ให้ใช้โดยสามารถกำ�หนดความไวแสงสูงสุดได้จาก ISO 400 6400 ตั ว กล้ อ งมี ร ะบบกำ � จั ด ฝุ่ น ละอองในตั ว สามารถเลื อ กให้ ทำ�งานอัตโนมัติทั้งการเปิดและปิดกล้อง หรือสั่งให้ทำ�ความสะอาด ทันทีหรือสั่งล็อคกระจกสะท้อนภาพและเปิดม่านขัตเตอร์ทำ�ความ สะอาดแบบแมนนวลก็ได้ รวมทั้งสามารถใช้ร่วมกับซอฟท์แวร์เพื่อ ลบรอยฝุ่นบนภาพได้ในแบบ Dust delete data

ระบบประมวลผลไฟล์ภาพยังคงเป็น DIGIC 4 เหมือนรุ่น ก่อน ทำ�งานร่วมกับการประมวลผลแบบ 14 บิท A/D Conversion ให้ ความละเอียดและความชัดเจนของสีสันที่ดีเทียบเท่ากล้องระดับโปร 2. ระบบวัดแสงใหม่ด้วยเซ็นเซอร์วัดแสงแบบ Dual-layer iFCL 63 โซน

ระบบวัดแสงเป็นระบบ iFCL 63-zone Dual-layer Metering Sensor ซึ่งเป็นระบบล่าสุดของกล้อง EOS มีใช้ในรุ่น EOS 7D และรุ่นก่อนหน้าคือ EOS 550D ให้การวัดแสงที่แม่นยำ�กับทุก สีของวัตถุ ซึ่งกล้องจะวัดแสงโดยคำ�นวณทั้งจากสี ความสว่าง และ ระยะโฟกัสหรือจุดโฟกัส จึงทำ�ให้ค่าการวัดแสงมีความเที่ยงตรง แม่นยำ�แม้แต่ในสถานการณ์ที่ยากต่อการวัดแสง โหมดวัดแสงมี 4 โหมดคือ แบ่งพื้นที่หรือ Evaluative (ลิงค์ กับจุดโฟกัส), เฉพาะส่วนหรือ Partial, เฉลี่ยหนักกลาง และเฉพาะ จุด ช่วงการวัดแสง EV1-20 การชดเชยแสงสามารถชดเชยได้ +/- 5 สตอป แต่กล้องจะแสดงสเกล 3 สตอป เมื่อชดเชยแสงมากกว่า 3 ส ตอป จะมีลูกศรปรากฎให้ทราบในสเกลของช่องมองภาพ 3. การถ่ายวิดีโอ EOS 600D สามารถถ่ายภาพวิดีโอได้ในความละเอียด ระดับ Full HD 1920 x 1080 สามารถเลือกอัตราความเร็วในการ บันทึกภาพได้ (25/24/50 เฟรมต่อวินาที) ให้ความเคลื่อนไหวและ ฟอร์แมทภาพแบบซีเนม่า ให้การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลเป็นธรรมชาติ ส่วนขนาด 1280 x 720(HD) และ 640 x 480(SD) อัตราความเร็วกำ�หนดเป็น 50 และ 25 เฟรมต่อวินาทีตามลำ�ดับ และได้ตัดฟอร์แมท Crop SD ออกไปโดยเปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิตอลซูมแทนซึ่งสามารถเลือกใช้ งานได้กับทุกขนาดภาพ ซูมแบบดิจิตอลได้จาก 3x-10x บันทึกเป็นไฟล์ MOV MPEG4 พร้อมเสียงจากไมโครโฟนในตัวกล้องและสามารถต่อ ไมโครโฟนภายนอกบันทึกเสียงในระบบสเตอริโอได้ ในการถ่ายภาพไฟล์ Movie หรือวิดีโอนี้สามารถเลือก การหาโฟกัสได้ถึง 3 แบบคือ Live mode, Live Mode with Face detection (Contrast detection) และ Quick mode หรือจะปรับ โฟกัสแมนนวลก็ได้ โดยในขณะบันทึกไฟล์วิดีโอนั้นสามารถที่จะถ่าย ภาพนิ่ ง ไปพร้ อ มกั น ได้ โ ดยการกดปุ่ ม ชั ต เตอร์ แ ต่ เ มื่ อ เปิ ด ใช้ ร ะบบ ดิจิตอลซูมจะไม่สามารถถ่ายภาพนิ่งได้ เมนูของการถ่ายภาพวิดีโอ แยกต่างหากจากเมนูรวม ซึ่งจะแสดงเมื่อปรับแป้นโหมดมาที่โหมด วิดีโอเท่านั้น สามารถปรับชดเชยแสงได้และเลือกการเปิดรับแสง แบบออโต้ หรือแมนนวลได้ 4. โหมดและฟังก์ชั่นการทำ�งานภาพนิ่ง โหมดถ่ายภาพของ EOS 600D เหมือนรุ่น EOS 550D โดย มีทั้งโหมดการถ่ายภาพแบบสร้างสรรค์คือ P, Tv, Av, M, A-DEP และ การถ่ายภาพแบบง่ายๆ หรือ Basic คือ Full Auto, โปรแกรมรูปภาพ ต่างๆ และ CA (Creative Auto) ที่สามารถปรับเลือกระยะชัดลึกได้ แบบง่ายๆ รวมทั้งเลือกโหมดแฟลช และการถ่ายภาพต่อเนื่องได้ ระบบ AF มีกรอบ AF มากถึง 9 กรอบแบบกากบาทที่กรอบกลาง กระจายในพื้นที่กว้างช่วยให้การหาโฟกัสและการจัดองค์ประกอบ

ที่ความไวแสงสูง ISO 3200 กับภาพกลางคืน ให้ความคมชัดที่ดี การเกิด Noise ต่ำ� Canon EOS 600D, เลนส์ EF-S 18-135 มม. F/3.5-5.6 IS, M, 1/25 วินาที, F/5.6, ISO 3200, WB Daylight, Large JPEG/Fine ภาพทำ�ไปพร้อมกันแม้ว่าจะไม่ได้โฟกัสหรือวางภาพจุดเด่นไว้กลาง ภาพ ช่วยลดขั้นตอนของการโฟกัสและลํอคโฟกัส ช่วงการหาโฟกัส EV 0.5-18 มีโหมด AF ให้เลือก 3 โหมดคือ One-Shot, AI Servo และ AI Focus พร้อมแสงช่วยหาโฟกัสในตัวจากตัวแฟลชทั้งจากแฟลชใน ตัวหรือแฟลชภายนอก เมื่อใช้ Live View โหมด AF จะมีให้เลือกอีก 3 โหมด คือ Live mode หาโฟกัสแบบ Contrast detection หรือการโฟกัส แบบหาความเปรียบต่าง ช่วยให้การมองเห็นภาพอย่างต่อเนื่องและ สะดวกต่อการใช้งาน อีกโหมดหนึ่งคือ Quick mode ใช้การหาโฟกัส แบบ Phase-difference detection เพื่อการหาโฟกัสที่รวดเร็วกว่า โดยใช้ร่วมกับจุดหาออโตโฟกัสทั้ง 9 จุด แต่ในโหมดโฟกัสนี้กระจก สะท้อนภาพจะยกตัวทำ�ให้ระหว่างที่กล้องหาโฟกัสจะมองไม่เห็นการ แสดงภาพ Live View และโหมดสุดท้ายคือแมนนวล โฟกัส สามารถ ขยายภาพบนจอ LCD เพื่อตรวจสอบจุดโฟกัสได้ 5X และ10X โดย การกดปุ่มซูมขยายภาพ WB มีให้ครบตั้งแต่ออโต้และตามชนิดแสงที่ตั้งมาจากค่า ของโรงงาน (บอกอุณหภูมิแสงโดยประมาณให้ทราบด้วยยกเว้น WB แฟลช) ไปจนถึงคัสตอมหรือแมนนวล แต่การเซ็ทคัสตอม WB ต้อง เข้าไปเซ็ทจากเมนู ไม่สามารถเซ็ทจากการเลือกที่หน้าจอ Quick Control Screen ได้ โดยทุก WB สามารถปรับชดเชยและถ่ายภาพ คร่อม WB แบบคู่สี M-G, B-A ได้ การทำ�งานของแฟลชเป็นระบบ E-TTL II แฟลชในตัวมีค่า

ไกด์นัมเบอร์ 13 ISO 100 / เมตร ใช้ร่วมกับแฟลชภายนอกในซีรี่ส์ EX ได้ทุกรุ่น มี Flash control สามารถควบคุมแสงแฟลชได้จากตัว กล้องทั้งการเลือกให้แฟลชทำ�งานสัมพันธ์กับม่านชัตเตอร์ชุดที่ 1 หรือ 2 มีระบบแฟลชไร้สายที่เลือกให้ท�ำ งานเฉพาะแฟลชภายนอกหรือ ทำ�งานร่วมกับแฟลชในตัวได้ เลือกช่องสัญญาณได้ 4 ช่องและเลือก อัตราส่วนแสงแฟลชภายนอกกับแฟลชในตัวได้จาก 8 :1 ไปจนถึง 1 :2 ชดเชยแสงแฟลชได้ +/- 2.0 สตอป เลือกระบบวัดแสงให้ท�ำ งานกับ ระบบแฟลช E-TTL II ได้ทั้งแบบ Evaluative และแบบเฉลี่ย สามารถ ล็อคความจำ�แสงแฟลชได้และมีแฟลชลดจุดแดงในดวงตา ระบบอื่นๆ ที่จ�ำ เป็นมีให้ครบไม่ว่าจะเป็น Picture Style, Peripheral illumination correct หรือแก้ขอบภาพมืด (มีข้อมูลในตัว กล้อง 25 เลนส์), ระบบถ่ายภาพคร่อม, Auto Lighting Optimizer หรือปรับแสงมืดอัตโนมัติ, ระบบกำ�จัดฝุ่นแบบอัตโนมัติและแมนนวล 5. คัสตอม ฟังก์ชั่น (C.Fn) EOS 600D มีคัสตอมฟังก์ชั่นมาให้ทั้งหมด 11 ฟังก์ชั่น น้อย กว่ารุ่น EOS 550D 1 ฟังก์ชั่น แต่ยังคงแบ่งเป็น 4 หมวดจาก C.Fn I ถึง C.Fn IV เหมือนเดิม ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจมีอยู่หลายฟังก์ชั่นคือ C.Fn I : Exposure มี 3 ฟังก์ชั่นย่อยเกี่ยวกับการเปิดรับ แสง ที่น่าสนใจคือ ISO expansion ใช้เพื่อขยายช่วง ISO ให้สูงขึ้นได้ ถึง ISO 12800 Flash sync. speed in Av mode เลือกความเร็วชัตเตอร์ สัมพันธ์แฟลชเมื่อใช้โหมด Av เลือกได้ทั้ง Auto, 1/200-1/60 วินาที

ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงความสดใสของภาพและความแม่นยำ�ของการวัดแสงแม้ในภาพจะมีพื้นสีดำ�และแสงเงาแต่การวัดแสงก็ไม่พลาด Canon EOS 600D, เลนส์ EF-S 18-135 มม. F/3.5-5.6 IS, M, 1/125 วินาที, F/11, ISO 100, WB Daylight, Large JPEG/Fine Auto และ 1/200 วินาทีคงที่ C.Fn II : Image เกี่ยวกับภาพ มี 3 ฟังก์ชั่นย่อย ที่น่าสนใจ คือ Long exp. noise reduction ลดการเกิด Noise เมื่อเปิดรับแสง นาน สามารถเลือกให้ทำ�งานแบบออโต้หรือปิดก็ได้ ซึ่งจะทำ�งานกับ การเปิดชัตเตอร์นานตั้งแต่ 1 วินาทีขึ้นไป High ISO speed noise reduction ลดการเกิด Noise เมื่อ ใช้ความไวแสงสูง เลือกได้ 4 ระดับคือ Standard, Low, Strong, Disable (ไม่ใช้การลด Noise) Highlight tone priority เป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ภาพที่มีโทนสี อ่อนหรือโทนสว่างยังคงมีรายละเอียดครบถ้วน โดยช่วงไดนามิกจะ ถูกปรับให้กว้างขึ้นจากค่าสีเทากลาง 18 % เมื่อเลือกฟังก์ชั่นนี้ ISO จะปรับได้จาก 200-6400 C.Fn III : Autofocus/Drive มี 2 ฟังก์ชั่น เกี่ยวกับการ ทำ�งานของแสงช่วยหา AF และการล็อคกระจกสะท้อนภาพ C.Fn IV : Operation/Others มี 3 ฟังก์ชั่นย่อย เกี่ยวกับ การปรับตั้งการทำ�งาน ที่น่าสนใจคือ Shutter / AE lock button ใช้ เพื่อกำ�หนดการทำ�งานของปุ่มชัตเตอร์ กับ ปุ่มล็อคความจำ�แสง มีให้ เลือก 4 รูปแบบ (0-3) Assign SET button เป็นฟังก์ชั่นสำ�หรับกำ�หนดการทำ�งาน ให้กับปุ่ม SET ว่าจะให้เป็น Shortcut สำ�หรับเข้าโหมดหรือฟังก์ชั่น ใด มีให้เลือก 6 การทำ�งาน (0-5) โดยค่า Default จะเป็น 0: Normal (Disable)

5. เมนูอื่นๆ นอกจากนี้ EOS 600D ยังมีเมนู Playback และเมนู Set up มาให้เหมือนกล้องรุ่นอื่นของแคนนอน ใช้งานไม่ยาก มีระบบ Jump 1, 10, 100 ภาพ หรือไปที่ไฟล์ Moviesหรือกลับไปที่ภาพนิ่ง (Stills) โดยกดเลือกจากเมนู เมื่อเข้าโหมด Playback แล้วเลือก Jump ที่ ต้องการ แล้วใช้แป้นปรับข้อมูลในการ Jump มีฟังก์ชั่นสงวนลิขสิทธิ์ ภาพ สำ�หรับการแสดงข้อมูลทำ�ได้ละเอียดดีพอสมควรมีทั้งข้อมูลการ เปิดรับแสงและแสดง Histogram รวมทั้งมี My Menuให้ใช้ด้วย

ผลการทดลองใช้งาน

ต้องเรียนตามตรงว่ากล้องรุ่นที่ผมเล็งไว้ใช้เองส่วนตัวคือรุ่น EOS 60D เพราะประทับใจกล้องในซีรี่ส์นี้มาตั้งแต่รุ่น EOS 30D แต่ เมื่อได้ลองเล่นรุ่น EOS 600D ตัวนี้แล้ว...ต้องบอกกับท่านผู้อ่านเลย ว่า...ห้ามมองข้ามกล้องรุ่นนี้อย่างเด็ดขาดแม้จะเป็นกล้องรุ่นเล็กใน ระดับมือใหม่ถึงมือสมัครเล่นแต่ให้คุณภาพเกินตัวและเกินราคาจริงๆ แถมไม่ใช่เกินราคาในแบบมือสมัครเล่นน่ะครับ คุณภาพนั้นน้องๆ กล้องโปรเลยทีเดียว กล้องรุ่นนี้มีดีอย่างไร ผมโม้เกินจริงหรือเปล่า หรือว่าเขียนเชียร์หรือเปล่า บอกตรงนี้ก่อนเลยว่าไม่ได้เชียร์และไม่ได้ โม้เกินจริง ลองแล้วได้ผลอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้น ชอบตรงไหน ไม่ ชอบตรงไหนก็รายงานกันแบบตรงๆ หลายคนอาจคิดว่าแค่ลองเล่น ระยะสั้นๆ จะเชื่อผลได้มากน้อยแค่ไหน แต่กับ EOS 600D ตัวนี้ผม มีโอกาสได้ใช้นานพอสมควรครับเพราะติดสถานการณ์นำ�้ท่วมจึงมี เวลาเล่นราว 1 เดือน ถ่ายภาพด้วยกล้องตัวนี้ทุกวันและก็ได้กล้องรุ่น

นี้มาเก็บภาพประวัติศาสตร์ของ “มหาอุทกภัยถล่มมหานคร 2554” ไว้ จนลืมกล้องส่วนตัวของผมไปเลย กล้องรุ่นนี้มาพร้อมกับเลนส์ชุดคิท EF-S 18-135 มม. F/3.55.6 IS ซึ่งเป็นชุดคิทใหญ่ของ EOS 600D ทางยาวโฟกัสของเลนส์ เทียบเท่าเลนส์ประมาณ 28.8-216 มม.(X1.6) และผมแนะนำ�ให้ซื้อ หาพร้อมเลนส์ตัวนี้เป็นพิเศษเพราะเลนส์คุณภาพดีมาก ช่วงทางยาว โฟกัสใช้งานได้ดีครอบคลุมเกือบทุกรูปแบบของการถ่ายภาพ มีระบบ IS ช่วยลดการสั่นไหวในตัวช่วยให้มั่นใจในการถ่ายภาพได้อีกมากที เดียว ด้วยขนาดตัวกล้องที่กว้างขึ้นจากรุ่นเดิมส่งผลให้การจับ ถือสำ�หรับเฉพาะตัวกล้องโดยไม่ได้ติดแบตเตอรี่กริป จับได้ถนัดมือ มากๆ กระชับและมีนำ�้หนักพร้อมเลนส์ที่ถือแล้วมั่นใจมากๆ สันกริป ที่ตัดชันช่วยให้การเกี่ยวนิ้วกับตัวกล้องเข้าร่องนิ้วมือพอดี ประกอบ กั บ ยางกั น ลื่ น ที่ ติ ด มาเต็ม กริปช่วยให้ก ารเกาะนิ้วดีม ากไม่ ลื่น เลย แม้แต่น้อย ปุ่มต่างๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังควบคุมได้ง่าย การ ตอบสนองเร็ว แป้นคอมมานด์อาจมีขนาดเล็กและไม่ Smooth เหมือนกล้องรุ่นใหญ่กว่าแต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะการปรับแต่ละคลิ๊ก ยังให้ผลที่แน่นอนเหมือนกัน จุดที่น่าจะเพิ่มคือแป้นQCD ด้านหลัง เพราะจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งนี่คือจุดเดียว ของการออกแบบภายนอกที่ผมเห็นว่ายังขาดไปแต่ถ้าไม่ซีเรียสก็ ไม่ใช่เรื่องสำ�คัญนักเพียงแต่ว่าถ้ามีมาให้แบบกล้องรุ่นสูงกว่าก็จะดี มากๆ

การแสดงผลด้วยจอแบบ Quick Control Screen ช่วย ให้การปรับเปลี่ยนค่าต่างๆ ทำ�ได้สะดวกและง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วย ยกตัวอย่างตัวผมเอง ชอบใช้การ แสดงข้อมูลในช่องมองภาพมากกว่า และบางส่วนก็เข้าเมนูไปเลย เพราะเมนูของ Canon ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน การค้นหาง่ายเพราะ แบ่งเป็นเมนูย่อยต่างๆ ไว้แล้ว ขนาดของจอ LCD 3 นิ้ว ให้ภาพคมชัด ดีสีสวยมาก ยำ�้ครับว่าจอรุ่นนี้ให้สีสวยและคมชัดมาก (ความละเอียด ถึง 1,040,000 จุด) ช่องมองภาพใสสว่าง การแสดงข้อมูลต่างๆ ใน ช่องมองทำ�ได้ดี หากต้องการปรับเปลี่ยนค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ISO ความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง ชดเชยแสง ทำ�ได้โดยไม่ต้องละสายตาจาก ช่องมองภาพ แต่การแสดงข้อมูลยังคงมีช่วงเวลาที่สั้นไปหน่อย เมื่อ ปล่อยนิ้วจากปุ่มชัตเตอร์ น่าจะมีออปชั่นให้ผู้ใช้ปรับเลือกเวลาของ การแสดงข้อมูล ระบบออโตโฟกัสทำ�งานได้รวดเร็ว หาโฟกัสได้แม่นยำ�ทั้ง 9 กรอบ จับโฟกัสได้นิ่งและฉับไวแม้ในที่แสงสว่างไม่มากนักอย่างใน เวลากลางคืนก็ยังจับโฟกัสได้ไม่พลาด หรือแม้แต่พื้นที่เล็กๆ ก็ยังจับ โฟกัสได้อย่างแม่นยำ� โดยแทบไม่มีภาพที่โฟกัสพลาดเลย และเมื่อ ลองใช้ Live View การหาโฟกัสก็ท�ำ ได้รวดเร็วดีพอสมควรในที่แสง สว่างกลางวันแต่ในร่มหรือเวลากลางคืนการโฟกัสจะช้าลงพอสมควร ต้องเปลี่ยนโหมดมาใช้แบบ Quick จะโฟกัสได้เร็วกว่า การวัดแสงเที่ยงตรงไม่ว่าจะใช้โหมดใดก็ตามตั้งวัดแสงให้ พอดีภาพจะใสแจ่มชัดอย่างน่าทึ่ง ภาพที่แสดงบนจอ LCD ใกล้เคียง

การเก็บรายละเอียดดีมาก โหมด Av ให้การวัดแสงได้แม่นยำ�แม้เป็นการถ่ายภาพที่มีความต่างของแสงมากๆ Canon EOS 600D, เลนส์ EF-S 18-135 มม. F/3.5-5.6 IS, Av, 1/1250 วินาที, F/6.3, ISO 100, WB Daylight, Large JPEG/Fine

ไดนามิกเรนจ์ ดีเยี่ยม การเก็บรายละเอียดดีทั้งในส่วนสว่างและส่วนเงา Canon EOS 600D, เลนส์ EF-S 18-135 มม. F/3.5-5.6 IS, M, 1/125 วินาที, F/9, ISO 100, WB Daylight, Large JPEG/Fine ภาพจริงและภาพปรินท์มาก การแสดงภาพเหมือนรุ่น EOS 550D แต่ ดูเหมือนว่าภาพจะใสกว่า WB ไม่มีปัญหาเลยครับ แม่นยำ�เที่ยงตรงที่สุดแล้ว ให้สีตรง เชื่อใจได้เมื่อเลือกใช้ WB ตรงกับแหล่งชนิดของแสง เมื่อลองใช้ Auto WB สีที่ได้จากหลายๆ สถานการณ์ในหลายๆ ชนิดแสง ภาพที่ได้ให้สี ของภาพที่น่าพอใจ สีสันสดเข้มเป็นธรรมชาติ ไม่จัดจ้านเกินจริง รวม ทั้งมี Picture style ให้เลือกใช้เช่นเดียวกับกล้องรุ่นสูงและสามารถ ปรับค่าพารามิเตอร์ได้ตามที่ต้องการ ต้องการภาพโทนแบบใดก็ปรับ เลือกเอาได้ตามชอบ อยากได้สีสด คอนทราสต์จัดก็ทำ�ได้ อยากได้ ภาพสีอ่อนๆ นุ่มนวลก็ทำ�ได้ไม่ยากเช่นกัน ยอมรับว่าผมประทับใจ ตรงจุดนี้มากครับ ไฟล์ภาพที่ได้ทั้งไฟล์ RAW และ JPEG (Large/Fine) ให้ ความคมชัดดีทีเดียว แต่ในการทดลองใช้งานในครั้งนี้ผมถ่ายภาพ เป็นฟอร์แมท JPEG มากกว่า เพราะน่าจะสะดวกและน่าจะตรงกับ การใช้งานของผู้ใช้กล้องระดับนี้มากกว่า เพื่อที่จะดูว่าไฟล์ JPEG ที่ ขนาดไฟล์ภาพ Large/Fine นั้นให้คุณภาพที่สามารถนำ�ไปใช้งาน ได้เลยหรือไม่ ส่วนไฟล์ RAW ก็ถ่ายมาแบบ RAW+JPEG แล้วนำ� ไฟล์ RAW มาลองปรับผ่านซอฟท์แวร์ดู แล้วลองเปรียบเทียบกับไฟล์ JPEG ปรากฏว่าไม่ต่างกันเลยครับ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องยอมรับว่าไฟล์ RAW ของ Canon นั้น ปรับง่าย มีความยืดหยุ่นของไฟล์สูงมาก ปรับ มากๆ ภาพก็ยังไม่เสีย ไม่ว่าจะปรับสว่างหรือเพิ่มความคมชัดก็ตาม เมื่อนำ�ไฟล์ภาพมาดูบนจอคอมพิวเตอร์ พบว่าไฟล์ JPEG ให้ความคมชัดดีมาก การเก็บรายละเอียดทำ�ได้ดีทั้งในส่วนสว่างและ ส่วนมืด แม้แต่ภาพที่มีรายละเอียดมากๆ ก็สามารถเก็บรายละเอียด ได้ครบ ช่วงไดนามิกจะทำ�ได้ดี ส่วนสว่างไม่โอเวอร์แบบขาดราย

ละเอียดโดยไม่ได้เปิดฟังก์ชั่น Highlight Tone Priority การไล่ระดับ โทนสีและความสว่างทำ�ได้ดีจนต้องชมล่ะครับ ผมว่าจุดนี้ Canon ทำ�ได้ดีจริงๆ การใช้งานที่ ISO 100-800 ให้คุณภาพไฟล์ดีมาก การเกิด Noise อยากบอกว่าไม่มีเลย โดยเฉพาะที่ ISO 100-400 ส่วนที่ ISO 400-800 มี Noise บ้างเพียงเล็กน้อยจนแทบสังเกตุไม่เห็น ซึ่งขึ้นอยู่ กับสภาพแสงและความเร็วชัตเตอร์ที่ได้ด้วย หากชัตเตอร์ต�ำ ่และแสง น้อยมาก Noise ก็จะมีให้เห็นมากกว่า แต่หากเป็นการถ่ายภาพโดย ใช้ความเร็วชัตเตอร์ไม่ต�ำ ่มาก ก็แทบจะไม่เห็นความต่างจากการใช้ งานที่ ISO 200 เลย ที่ ISO สูงกว่านี้คือ 1600-3200 การเกิด Noise มีจริง ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเสียเลยเพราะเป็นการใช้ความไวแสงที่สูง แต่ ถือว่าค่อนข้างตำ�่มาก โดยเฉพาะที่ ISO 1600 นั้นผมว่าเนียนใช้ได้ และใช้งานได้โดยไม่ต้องพะวงเรื่อง Noise ส่วนที่ ISO 6400 มี Noise เป็นเรื่องปกติ และที่ ISO 12800 ก็มี Noise มากขึ้นตามความไวแสง ที่เพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ภาพที่ได้ยังมีความคมชัดใช้ได้และ สีสันยังดีอยู่ แนะนำ�ว่าหากจะใช้ ISO 6400-12800 ควรเปิดระบบลด Noise จะช่วยให้ภาพเนียนขึ้นพอสมควร จุดที่น่าจะทำ�ให้ละเอียด กว่านี้อีกนิดคือการปรับ ISO เป็นแบบเต็ม 1 สตอปอย่างเดียว ไม่มี 1/2 หรือ 1/3 แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นข้อติ เพียงแต่บางครั้งเท่านั้นที่อยากจะ ใช้ ISO ที่แบ่ง 1/2 สตอป โดยเฉพาะในช่วงความไวแสงสูงจาก ISO 800 ขึ้นไป ไฟล์วิดีโอให้ภาพที่คมชัดดีเยี่ยม เมื่อเลือกขนาดภาพ Full HD (1920 x 1080) การเคลื่อนไหวนุ่มนวล ไม่มีปัญหากับการถ่าย ภาพที่เคลื่อนไหวเร็วมากๆ ให้ภาพในแบบที่เรียกว่าซีเนม่า สามารถ ต่อไมโครโฟนภายนอกได้การบันทึกเสียงจากไมโครโฟนในตัวก็ให้

เสียงที่คมชัดไม่ใช่น้อยแล้วแต่ขาดออปชั่นเรื่องการตัดเสียงลม แต่ก็ ถือว่าใช้งานได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว หลังจากที่ได้ลองใช้ EOS 600D มาช่วงระยะราว 1 เดือน (ถ่ายภาพทุกวัน มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่โอกาส) ยอมรับครับว่าเป็น กล้องที่ผมคงต้องหามาเป็นกล้องส่วนตัวแน่นอนเพราะราคาก็รับได้ ใช้แล้วลืมกล้องรุ่นก่อนๆ ไปเลย มีฟังก์ชั่นและระบบต่างๆ รองรับการ ใช้งานที่เพียงพอ ใช้งานไม่ยาก จุดที่ผมชอบคือจอ LCD ที่มีความ คมชัดสูงมาก ขนาดจอ 3 : 2 ดูภาพสบายตา ปรับพลิกมุมได้ ถ่าย วิดีโอได้ในระดับความละเอียด Full HD มีช่องต่อไมโครโฟนภายนอก คุณภาพไฟล์ดีทั้งสีสันและความคมชัด การทำ�งานของระบบโดยรวม เร็ว การประมวลผลเร็วมาก แม้จะเลือกใช้ไฟล์ RAW + JPEG(Large/ Fine) แบตเตอรี่ทนทานใช้งานถ่ายภาพได้นานมากต่อการชาร์จ แบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง

สรุปว่าแนะนำ�ครับสำ�หรับ EOS 600D ตัวนี้และแนะนำ�เป็น พิเศษถ้าหากจะซื้อหามาใช้กันจริงๆ ต้องพร้อมกับชุดเลนส์ EF-S 18-135 มม.F/3.5-5.6 IS ราคาอาจจะต้องจ่ายเพิ่มอีกพอประมาณ จากเลนส์ชุดคิทเล็ก แต่คุ้มค่ากว่าเยอะอย่างมากมายครับ

คะแนนการออกแบบภายนอก : 9.0/10 คะแนนระบบการทำ�งาน : 8.5/10 คะแนนคุณภาพไฟล์ : 9/10 คะแนนโดยรวม : 8.83/10

ข้อมูลจำ�เพาะ : Canon EOS 600D เซ็นเซอร์ : CMOS ขนาด 22.3 X 4.9 มม. 18 ล้านพิกเซล (Effective) อัตราส่วน 3 : 2 เมาท์เลนส์ : Canon EF และ EF-S ทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น 1.6X การ์ดบันทึกข้อมูล : SD, SDHC และ SDXC ไฟล์ ฟอร์แมท : RAW (14-bit), JPEG, RAW+JPEG ช่องมองภาพ : ระดับตา เห็นภาพ 95 % อัตราขยาย 0.87X ช่วง อายพอยท์ 19 มม. ปรับแก้สายตาได้ -3.0 ถึง +1.0 dpt ชัตเตอร์ : 1/4000-30 วินาที และ Bulb สัมพันธ์แฟลชสูงสุด 1/200 วินาที ถ่ายภาพต่อเนื่อง : ความเร็วสูงสุด 3.7 ภาพ/วินาที (34 JPEG / 6 RAW) ระบบวัดแสง : วัดแสงผ่านเลนส์63-Zone มี 4 โหมดคือ Evaluative, เฉพาะส่วนกลาง 9 %, เฉลี่ยหนักกลาง และเฉพาะจุด วงกลม 4 % ช่วงการวัดแสง : EV 1-20 ชดเชยแสง : +/- 5.0 สตอป ความไวแสง : ISO 100-6400 และปรับให้สูงขึ้นถึง ISO 12800 ได้ ออโตโฟกัส : ผ่านเลนส์แบบ Phase detection 9 จุด เซ็นเซอร์ กลางวางเป็นรูปกากบาท ช่วงการหาโฟกัส EV -0.5 -18 มี 3 โหมดคือ ทีละภาพ (One-Shot AF), ต่อเนื่อง (AI Servo AF) และ อัตโนมัติ (AI Focus AF) แสงช่วยหา โฟกัสจากแฟลช

แฟลช : ในตัว (Gn 13) และฮอทชูแฟลชภายนอกทำ�งานใน ระบบ E-TTL II WB : ออโต้, ตามชนิดแสง 6 ชนิด พร้อมปรับละเอียดหรือ ชดเชยสี WB และ คัสตอม ถ่ายภาพคร่อม WB Picture Style : Standard, Portrait, Landscape, Neutral, Faithful, Monochrome, User Def. 1-3 Live View : หา AF แบบ Contrast detect (Live mode) และ Quick mode(Phase-diference detection) และ แมนนวลโฟกัส Movie : ขนาดภาพ Full HD 1920 x 1080 (50/25/24 P), 1,280 X 720 (50 P), 640 X 480 (25 P) จอมอนิเตอร์ : LCD 3.0 นิ้ว 1.04 ล้านจุด เห็นภาพ 100% ตัสตอม ฟังก์ชั่น : 11 ฟังก์ชั่น อินเทอร์เฟส : USB Hi-speed, HDMI (Type C), รีโมท สำ�หรับรุ่น RS-60E3 และ รีโมทไร้สาย รุ่น RC-6 พลั งงาน : แบตเตอรี่ Li-ion LP-E8 หรือ AC อะแดปเตอร์ ACK-E8 หรือ แบตเตอรี่ กริป BG-E8 ขนาดตัวกล้อง : 128.8 x 97.5 x 75.3 มม.(W x H xD) นำ�้หนัก : 530 กรัม