การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ กับกลุ่มตัวอย่าง

Page 1

วิชานวัฒนกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ผุ้สอน ดร.ประกอบ ใจมั่น

การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการเรียนรู้ กับกลุ่มตัวอย่าง

โดย นายชานุ จีนแก้วเปี่ยม รหัส146 นางสาวคนธรส เมฆาธร รหัส 148


ประเภทของนวัตกรรมการศึกษาพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้มีบทบัญญัตทิ เี่ กีย่ วข้องกับเทคโนโลยีการศึกษาและ นวัตกรรมการศึกษาไว้หลายมาตรา แต่มีมาตราทีส่ าคัญ คือ........


มาตรา 67 รัฐต้องส่งเสริมให้มีการวิจัย และพัฒนาการผลิตและการพัฒนา เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา รวมทั้งการ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการใช้ เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพื่อให้เกิดการ ใช้ที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับกระบวนการ เรียนรู้ของคนไทย มาตรา 22 “การจัดการศึกษาต้องยึด หลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่า ผู้เรียนมีความสาคัญที่สุด กระบวนการ จัดการศึกษาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมี ความสาคัญที่สุด กระบวนการจัดการ ศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถ พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตาม ศักยภาพ”สามารถพัฒนาตามธรรมชาติ และเต็มตามศักยภาพ”


ประเภทของการใช้นวัตกรรมและ เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การศึกษา ควรให้ความสาคัญนวัตกรรมฯ ประเภทใด เพราะเหตุใด


การดาเนินการปฏิรูปการศึกษาให้สาเร็จได้ตามที่ระบุไว้ ในพระราชบั ญ ญั ติ ก ารศึ ก ษาแห่ ง ชาติ พ.ศ. 2542 ดั ง กล่ า ว จ าเป็ น ต้ อ งท าการศึ ก ษาวิ จั ย และพั ฒ นา นวัตกรรมการศึกษาใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา ทางการศึกษาทั้งในรูปแบบของการศึกษาวิจัย การ ทดลองและการประเมินผลนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่ นามาใช้ว่ามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับ การประยุกต์ใช้นวัตกรรมในด้านต่างๆ มี 5 ประเภท คือ....


1. นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร เป็นการใช้วิธีการใหม่ๆ ในการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นและตอบสนองความ ต้องการสอนบุคคลให้มากขึ้น เนื่องจากหลักสูตรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพื่อให้สอดคล้องกับ ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลก นอกจากนี้การพัฒนาหลักสูตรยังมี ความจาเป็นที่จะต้องอยู่บนฐานของแนวคิดทฤษฎีและปรัชญาทางการจัดการสัมมนาอีกด้วย การพัฒนาหลักสูตร ตามหลักการและวิธีการดังกล่าวต้องอาศัยแนวคิดและวิธกี ารใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมการศึกษาเข้ามาช่วยเหลือ จัดการให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ


2. นวัตกรรมการเรียนการสอน เ ป็ น ก าร ใ ช้ วิ ธี ร ะ บ บ ใ น ก า ร ปรั บ ปรุ ง และคิ ด ค้ น พั ฒ นาวิ ธี ส อน แบบใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองการ เรียนรายบุคคล การสอนแบบผู้เรียน เป็ น ศู น ย์ กลาง การเรี ยนแบบมี ส่วน ร่ วม การเรี ยนรู้ แบบแก้ ปั ญหา การ พั ฒ นาวิ ธี ส อนจ าเป็ น ต้ อ งอาศั ย วิ ธี ก ารและเทคโนโลยี ใ หม่ ๆ เข้ า มา จั ด การและสนั บ สนุ น การเรี ย นการ สอน


3. นวัตกรรมสื่อการสอน เนื่องจากมีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครือข่ายและเทคโนโลยี โทรคมนาคม ทาให้นักการ ศึกษาพยายามนาศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในการผลิตสื่อการเรียนการสอนใหม่ๆ จานวนมากมาย ทั้งการเรียน ด้วยตนเองการเรียนเป็นกลุ่มและการเรียนแบบมวลชน ตลอดจนสื่อที่ใช้เพื่อสนับสนุนการฝึกอบรม ผ่านเครือข่าย คอมพิวเตอร์ตัวอย่าง นวัตกรรมสื่อการสอน ได้แก่ - คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) - มัลติมีเดีย (Multimedia) - การประชุมทางไกล (Teleconference) - ชุดการสอน (Instructional Module) - วีดิทัศน์แบบมีปฎิสัมพันธ์ (Interactive Video)


4. นวัตกรรมทางด้านการประเมินผล เป็นนวัตกรรมที่ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการวัดผลและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและทาได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการวิจัยทางการศึกษา ด้วยการประยุกต์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาสนับสนุนการวัดผล


5. นวัตกรรมการบริหารจัดการ เ ป็ น ก า ร ใ ช้ น วั ต ก ร ร ม ที่ เกี่ยวข้องกับการใช้สารสนเทศมาช่วย ในการบริหารจัดการ เพื่อการตัดสินใจ ของผู้ บ ริ ห ารการศึ ก ษาให้ มี ค วาม รวดเร็ ว ทั น เหตุ ก ารณ์ ทั น ต่ อ การ เปลี่ ย นแปลงของโลก นวั ต กรรม การศึ ก ษาที่ น ามาใช้ ท างด้ า นการ บริหารจะเกี่ยวข้องกับระบบการจัดการ ฐานข้ อ มู ล ในหน่ ว ยงานสถานศึ ก ษา เช่ น ฐานข้ อ มู ล นั ก เรี ย น นั ก ศึ ก ษา ฐานข้อมูล คณะอาจารย์และบุคลากร ในสถานศึกษา


รูปแบบการใช้นวัตกรรมและ เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การศึกษา แบ่งได้กี่แบบ แต่ละรูปแบบมีข้อดีและ ข้อจากัดอย่างไร


น วั ต ก ร ร ม ก า ร ศึ ก ษ า นวัตกรรมการศึกษา หมายถึง การน าสิ่ งใหม่ ๆที่ ไม่ ซ้าของเดิ ม เข้ามาเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม จากวิธีการสอนที่ทาอยู่ เพื่อการ พั ฒ นาการเรี ย นการสอนให้ มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


นวัตกรรมจัดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ได้แก่วิธีจัดการเรียนรู้ เทคนิคการสอนแบบต่างๆ เช่น การสอนแบบร่วมมือร่วมใจ การสอนแบบเกม การสอนโดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ การสอนแบบโครงงาน เป็นต้น กลุ่มที่ 2 ได้แก่สื่อการสอน หรือสื่อการเรียนรู้ สื่อสิ่งตีพิมพ์ เอกสารประกอบการสอน บทเรียนสาเร็จรูป ชุดการ สอน บทเรียนการ์ตูน แบบฝึก วีดิทัศน์ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) E-learning


ลักษณะรูปแบบของนวัตกรรม 1.หนังสืออ่านเพิ่มเติม เป็นเอกสารทางวิชาการที่ยึดหลักวิชาการที่มั่นคง ถูกต้อง สะท้อนความคิด ทัศนะและภูมิ ปัญญาของผู้เขียนลงไปด้วย ใช้สาหรับนักเรียนอ่านเพิ่มเติม 2.บทเรียนสาเร็จรูป เป็นบทเรียนที่สร้างขึ้นโดยกาหนดเนื้อหา วัตถุประสงค์วิธีการไว้ชัดเจนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้าและประเมินผลด้วยตนเอง 3.บทเรียนการ์ตูน มีลักษณะเช่นเดียวกับบทเรียนสาเร็จรูป แต่มีการ์ตูนเป็นตัวเดินเรื่อง อาจใส่สีสันสวยงาม น่า อ่านยิ่งขึ้น


4.คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) มีส่วนคล้ายกับบทเรียนสาเร็จรูป แต่แตกต่างตรงที่บทเรียนสาเร็จรูปเป็นเอกสาร สิ่งตีพิมพ์ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เป็นบทเรียนที่ทาขึ้นโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 5 .E-learning เป็นเทคโนโลยีการศึกษาแบบใหม่ เป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตโดยใช้คอมพิวเตอร์ เป็นหลัก ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้สอนใช้ E-learning นาเสนอข้อมูล เนื้อหาโดยใช้บทเรียน คอมพิวเตอร์ในรูปสื่อมัลติมีเดีย


ทาไมครู...จึงต้องเรียนรู้เรื่องการใช้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การศึกษาเพราะเหตุใด


1.เพื่อนานวัตกรรมมาใช้แก้ปัญหาในเรื่องการเรียนการสอน เช่น 1.1 ปัญหาเรื่องวิธีการสอน ปัญหาที่มักพบอยู่เสมอ คือ ครูส่วนใหญ่ยังคง ยึดรูปแบบการสอนแบบบรรยาย โดยมีครูเป็นศูนย์กลางมากกว่าการสอนในรูปแบบ อื่น การสอนด้วยวิธีการแบบนี้เป็นการสอนที่ขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผล 1.2 ปัญหาด้านเนื้อหาวิชา บางวิชาเนื้อหามาก และบางวิชามีเนื้อหาเป็น นามธรรมยากแก่การเข้าใจ จึงจาเป็นจะต้องนาเทคนิคการสอนและสื่อมาช่วย


2.เพื่อนานวัตกรรมไปใช้ใน การพั ฒ นาการเรี ย นการ สอน ให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ยิ่ ง ขึ้ น และเป็ น ประโยชน์ ต่ อ การศึ ก ษา โดยการน า สิ่งประดิษฐ์หรือแนวความคิด ใหม่ ๆ ในการเรียนการสอน นั้นเผยแพร่ไปสู่คุณครู หรือ อ า จ า ร ย์ ท่ า น อื่ น ไ ด้ น า แนวความคิ ด ไปปรั บ ปรุ ง ใช้ หรื อผลิ ตสื่ อการสอนใหม่ ๆ เพื่อนามาใช้ในการพัฒนาการ เรียนการสอนต่อไป


การใช้นวัตกรรมการและเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการเรียนรู้


การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการจัดการศึกษา คือใช้ในการเรียนการสอนถ้าใช้ทั้ง 2 อย่างร่วมกัน ด้วยการนาเอาเทคนิคและสิ่งประดิษฐ์ ใหม่ ๆ ทาง วิทยาศาสตร์มาใช้เรียก“INNOTECH”ซึ่งมาจากคา เต็ม ว่า“InnovationTechnology” ปัจจุบันถือว่า เป็นความจาเป็นที่โรงเรียนจะต้อง นาเอาหลักวิชา ใหม่ ๆ ประดิ ษฐ์ สิ่งใหม่ ขึ้น ใช้ และใช้ เทคนิ คใหม่ ๆ ที่ เป็น Innovation มาใช้ร่วมกันไปกับสิ่งประดิษฐ์ที่ เป็นอุปกรณ์สาเร็จรูปเป็นเครื่องช่วยสอน ซึ่งเป็น Technology นามาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ไปว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้อง นา INNOTECH เข้ามาใช้ ในโรงเรียนหรือสถานศึกษาได้รึยัง


สิ่ ง ที่ ต้ อ งค านึ ง ถึ ง เมื่ อ น านวั ต กรรมและ เท คโน โลยี ม าใช้ ใน การศึ กษาการน า นวัตกรรม และเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษา และใช้ ในการเรี ย นการสอน ต้ อ งค านึ งถึ ง ความสาคัญ 3 ประการ คือ.....


1. ประสิทธิภาพ (Efficiency) ในการเรียนการสอนต้องให้ผู้เรียนผู้สอนได้เรียนและได้สอนเต็มความสามารถเต็ม หลักสูตรเต็มเวลาด้วยความพึงพอใจ เกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์เต็มความสามารถ (Full Energy) และเกิด ความพอใจ (Satisfaction) เป็นที่ได้ใช้สื่อนั้น 2. ประสิทธิผล (Productivity)ในการจัดการเรียนการสอนให้บรรลุจุดประสงค์ตามที่กาหนดจุดประสงค์ไว้ซึ่ง นักเรียนเกิดการเรียนรู้บรรลุจุดประสงค์ได้ดีกว่า สูงกว่าไม่ใช้สื่อนั้น 3. ประหยัด (Economy) ในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการเรียนการสอน ต้องคานึงถึง สภาพความเหมาะสมตามฐานะแล้ว จะต้องประหยัด นั่นคือ ประหยัดทั้งเงินประหยัดเวลา และประหยัดแรงงาน


การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้มาใช้ใน เทคโนโลยีทางการศึกษาและการสอน


การเรียนรู้ได้ตามจุดประสงค์ของบทเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ 1.ให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างแข็งขันด้วยความพึงพอใจและเต็มใจที่จะเรียนรู้ 2.ให้ผู้เรียนได้รับข้อมูลย้อนกลับอย่างฉับพลันช่วยกระตุ้นผู้เรียนต้องการจะเรียนรู้ต่อไป 3.ให้ผู้เรียนได้รับการเสริมแรงด้วยการให้ประสบการณ์แห่งความสาเร็จเรียนรู้ด้วยความพอใจ 4.ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เป็นขั้นตอนทีละน้อย ไม่เกิดความดับข้องใจ เรียนด้วยความสนใจ พอใจ


บทบาทของคอมพิวเตอร์ที่จาเป็นต้องนามาใช้ในการศึกษา จึงแบ่งเป็น 3 ประเภท 1. คอมพิวเตอร์เพื่อการบริหาร (computer Applications into Administration) 2. คอมพิวเตอร์เพื่อการจัดการเรียนการสอน (Computer -Managed Instruction) 3. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer -Assisted Instruction : CAI)


การใช้เทคโนโลยีในการจัดการ ฐานข้อมูลขององค์การทางการศึกษา


การใช้เทคโนโลยีในการจัดการฐานข้อมูล ขององค์การทางการศึกษาจะก่อให้เกิดผลดีหลายประการ เช่น ได้ ฐานข้อมูลที่มีความเบ็ดเสร็จในตัวเอง มีการแยกการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ โดยผู้ใช้ไม่ต้องทาการใด ๆ ที่เกี่ยวกับ การบรรจุรวบรวมข้อมูลอีก ใช้ได้กับผู้ใช้บริการหลายกลุ่มและลดความซ้าซ้อนของข้อมูลเพราะสามารถใช้ร่วมกัน ได้ ขจัดความไม่ตรงกันของข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้ข้อมูลและควบคุมการใช้ข้อมูลได้ในเวลาเดียวกัน สามารถกาหนด มาตรการในการควบคุมและเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลได้ มีการกาหนดมาตรฐานข้อมูลไว้ตายตัวเป็นแนวเดียวกัน และทาให้ข้อมูลทุกด้านมีความสัมพันธ์กัน


การนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน การจัดการศึกษา สามารถแบ่งเป็นหัวข้อต่าง ๆ ได้ดังนี้ เช่น การศึกษารายบุคคล การศึกษาเป็นกลุ่ม การศึกษา มวลชน การศึกษาทางไกล การศึกษาระบบเปิด การศึกษาต่อเนื่อง การศึกษาผู้ใหญ่


การใช้เทคโนโลยีช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารองค์การทางการศึกษา เทคโนโลยีช่วยการตัดสินใจเป็นสิ่งสาคัญและจาเป็น เพราะกระบวนการตัดสินใจ จาเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายด้าน มี ข้อมูลที่เกี่ยวข้องจานวนมาก มีการดาเนินงานหลายขั้นตอน แต่มีเวลาจากัด นักเทคโนโลยีสารสนเทศจึงพยายาม พัฒนาระบบที่เอื้อต่อกระบวนการตัดสินใจเพือ่ ให้เกิดผลกระทบกับงานด้านต่าง ๆ อันเป็นผลจากการตัดสินใจนั้น ๆ


การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการ บริหารองค์การทางการศึกษา ผู้บริหารองค์การทางการศึกษามีหน้าที่ เกี่ยวข้องกับงานสาขาต่าง ๆ หลาย ด้าน เช่น งานด้านงบประมาณและ การเงิน งานบุคลากร งานอาคาร สถานที่ งานโปรแกรมการศึกษาและ งานนิสิตนักศึกษา เป็นต้น งานเหล่านี้ ยังแบ่งเป็นระบบงานย่อย ๆ อีก มากมาย ผู้บริหารจึงจาเป็นต้องมีระบบ สารสนเทศหรือข่าวสารข้อมูลที่ดี กล่าวคือ เป็นข้อมูลที่ทันต่อเวลาและ การใช้ประโยชน์ตรงตามความต้องการ ในขณะนั้น มีความถูกต้องแม่นยา ความสมบูรณ์ ครอบคลุมทุกเรื่องที่ ผู้บริหารต้องการ


การใช้ เ ทคโนโลยี เ สริ ม สร้ า ง คุณภาพองค์การทางการศึกษา ก ารเสริ ม สร้ างคุ ณ ภาพขอ ง องค์ ก ารทางการศึ ก ษา เป็ น งาน พั ฒ น า ส ถ า บั น ที่ เ พิ่ ม ขึ้ น น อ ก เ ห นื อ จ า ก ก า ร จั ด ก า ร ฐานข้ อ มู ล การใช้ เ ทคโนโลยี ส นั บ ส นุ น ก า ร ตั ด สิ น ใ จ ใ ช้ เทคโนโลยีเพื่อการบริหารที่กล่าว ม า แ ล้ ว เ ป็ น ก า ร เ สริ ม สร้ า ง คุ ณ ภาพภายในการตรวจสอบ คุณภาพ และการประเมิน


ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในนั้นจาเป็นอย่างยิ่งที่ครู จะต้องพยายามค้นคว้า วิธีการใหม่ ๆ ที่ครู คิดค้นขึ้นในรูปแบบต่าง ๆ นั้น คือ นวัตกรรมทางการศึกษาและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ การศึกษา ครูต้องเรียนรู้เรื่องการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การศึกษาเพื่อสามารถนามาใช้ให้เกิด ประโยชน์ในวงการศึกษา ดังนี้....


จบการนาเสนอ


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.