ถอดบทเรียนแหล่งเรียนรู้ วาสนา.

Page 1

บันทึกองค์ความรู้ ชื่อ นางวาสนา นามสกุล ซาตะนัย ตาแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชานาญการ สังกัด สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 12160 โทรศัพท์ 089-1188032 / 089-982-5035 ชื่อเรื่อง แหล่งเรียนรู้ที่ไม่ธรรมดา เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ การถ่ายทอดแหล่งเรียนรู้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 4 มีนาคม 2554 สถานที่เกิดเหตุการณ์ 67 หมู่ที่ 3 ตาบลบ้านงิ้ว อาเภอ สามโคก จังหวัดปทุมธานี

เนื้อเรื่อง ในชุมชนไทยมีการเรียนรู้เกิดขึ้นมากมาย เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้ที่จะอยู่รอด ไปสู่การทามาหากินเพื่อ เลี้ ย งชี พ จนพั ฒ นาเป็ น วิ ถี ชี วิ ต ที่ เ กิ ด จากประสบการณ์ ที่ สั่ ง สมภู มิ ปั ญ ญาของผู้ ค นในชุ ม ชน จนเป็ น แบบอย่างสามารถให้คนอื่นเข้ามาค้นคว้าหาความรู้ เพื่อนาไปเป็นแนวทางการดาเนินชีวิตของเขาได้ การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกแห่ง ทุกสถานที่ ไม่ใช่แต่ห้องเรียน การเรียนรู้ ที่เกิดจากการ ที่คนได้พูดคุย กัน เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน ความรู้ที่เกิดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ที่หลากหลาย ซึ่งเรียกว่าแหล่งเรียนรู้ สิ่ง ที่อยู่ในสังคมรอบๆ ตัวเรา ที่เป็นทั้งสิ่งมีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น วัฒนธรรม ประเพณี พิพิธภัณฑ์ หรือแม้นกระทั่งภูมิปัญญาท้องถิ่น ในที่นี้ข้าพเจ้าได้พบกับแหล่งเรี ยนรู้ที่ไม่ธรรมดา ที่จะนามา ถ่ายทอดให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษา และเป็นแบบอย่างที่ดีในการดารงชีวิต นั่นก็คือแหล่งเรียนรู้ด้านภูมิปัญญา ท้องถิ่น กับชีวิตจริงของ


นายสนิท พวงผกา อายุ 78 ปี อาชีพ รับจ้าง และลูกผักสวนครัวขาย พิธีกรทางด้านศาสนา ผู้ซึ่งเป็นที่ รู้จักของคนบ้านงิ้ว อาศัย อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ที่ 3 ตาบลบ้านงิ้ว อาเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เป็น บุตรคนเล็กในบรรดาพี่น้อง 4 คน ของคุณพ่อเอียง และคุณแม่ห่วง พวงผกา ปัจจุบันเสียชีวิตหมดแล้ว เหลือแต่คุณลุงสนิท เพียงคนเดียว สมัยวัยเด็ก จวบเข้าสู่วัยหนุ่ม อาศัยอยู่กับคุณพ่อและคุณแม่ มีอาชีพ ทานา แต่ ชี วิต ล าเค็ ญ ไม่ร่ าไม่ ร วย ท าให้ ชี วิ ต หั กเห มี อั น ต้ อ งขายที่ ท านา เหลื อ แต่ ที่ อาศั ย ติ ด แม่ น้ า เจ้าพระยาบนเนื้อที่ประมาณ ๑ งาน ในหมู่ที่ 3 ตาบลบ้านงิ้ว อาเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี สมัยวัย หนุ่มได้สมรสกับนางจวน ช่างเหล็ก สาวราชบุรี คุณลุงบอกว่าคนสวยโพธาราม คนงามบ้านโปร่ง ภรรยาแกก็เป็นคนสวย มีบุตรด้วยกัน 4 คน ชาย ๑ หญิ ง ๓ ปั จ จุ บั น แยกครอบครั ว ไป หมดแล้ ว เหลื อ แต่ นางสาวจาเนียร พวงผกา บุตรคน เล็ ก ของคุ ณ ลุ ง ที อาศัยอยู่ด้วยกัน ชี วิ ต ของคุ ณ ลุ ง สนิ ท มี ภู มิ ห ลั ง และ ความเป็นมาที่น่า ศึกษา แฝงไปด้วยแง่คิด คติสอนใจทุก ค า พู ด ที่ คุ ณ ลุ ง สนิท เล่าให้ฟัง จนกระทั่งข้าพเจ้าอดไม่ ไ ห ว ที่ จ ะ ต้ อ ง ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้ศึกษา และนาไปเป็นแบบอย่างในชีวิตของตน ชีวิตที่ลาเค็ญ สมัยวัยเด็กสู่วัยหนุ่ม ลาบากมาตลอด จวบจนกระทั่งแต่งงานมีครอบครัว มีอาชีพ ค้าขาย แต่ไม่ประสบผลสาเร็จ ขาดทุน ลูกค้าซื้อเชื่อ จ่ายทีหลัง ทาให้ต้องเลิกอาชีพค้าขาย แต่ก่อนจะเลิก อาชีพ ได้ยกหนี้สินให้ลูกค้าหมด ไม่เก็บเงินจากลูกค้าซักบาทเดียว คุณลุงบอกว่าเพื่อที่จะได้ส่งผลให้คุณลุง และครอบครัวมีอันจะกิน ร่ารวย เหมือนคนอื่นเขาบ้าง หลังจากนั้นก็ปฎิญาณตนว่า จะหันมาประกอบ อาชีพ รั บจ้ า งทุ กอย่ า งไม่เ ลื อก รั บจ้ า งท านา ขุด ดิน ขุ ดร่ อ งสวน พร้ อ มกับ ภรรยา เพื่อ เลี้ย งชีพ และ ครอบครัว จนกระทั่งลูกๆ โต ต่างมีครอบครัว คุณลุงบอกว่า ได้เห็น ฟัง และดูข่าว เกี่ยวกับเศรษฐกิจ พอเพียง ตนเองมีที่บริเวณรอบๆ บ้าน ก็มีความคิดที่จะปลูกผักสวนครัวไว้กินและเหลือขาย บริเวณบ้าน คุณลุง ได้ปลูกถั่วฝักยาวหวาน ผักบุ้งจีน ใบกระเจี๊ยบ ยอดฟักทอง นอกจากนี้คุณลุงยังเป็นที่รู้จักของคน ในตาบลบ้านงิ้ว ในฐานะคนเก่าคนแก่ที่รู้เรื่องราวตานานประวัติศาสตร์ของตาบลบ้านงิ้ว เป็นอย่างดี และ ยังเป็นที่รู้จักของทุกคนในฐานะพิธีกรทางศาสนา (มัคทายกวัด) งานแต่ง งานบวช งานทาบุญขึ้นบ้านใหม่ งานศพ ฯลฯ คุ ณ ลุ ง จะเป็ น พิ ธี ก รทางศาสนา ประจาหมู่บ้าน เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่เด็ก เยาวชน ผู้สนใจใน ของคุณลุง เคยประกวด มัคทายกวัด ได้รับรางวัล ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปบ้านคุณลุงสนิท สิ่งแรกที่ข้าพเจ้า เห็นและอยากจะนามาบันทึกเป็นความรู้ให้ผู้สนใจได้ศึกษา ก็คือ

-3-

ก า ร ด า ร ง ชี วิ ต ดีเด่นด้วย


ถังหมักเศษพืชผักไว้ใต้ถุนบ้าน ชี ว ภาพซึ่ ง คุ ณ ลุ ง ท าเองตามประสา ส่วนประกอบไปด้วยเศษพืชผัก สะเดา ขี้เหล็ก ฯลฯ เป็นสารใส่แมลง เพื่อนาไป รดผักสวนครัว เป็นการทุ่นค่าปุ๋ย /ยาไล่ กินก็ปลอดภัย

เป็ น ถั ง น้ าห มั ก ช า ว บ้ า น มี หนอนตายหยาก หมักใส่น้า เก็บไว้ แมลง และคน

หันไปเห็นเครื่องมือทาฝนเทียม ของคุณลุง สงสัยใช่ไหมล่ะ? คุณลุงบอกว่ามันเป็นเครื่องมือทามาหากินของคุณลุง กว่า ๔๘ ใบ ได้ถูก ตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีน้าเต็มทุกใบ (บัวรดน้า) บริเวณใต้ถุนบ้าน คุณลุงสนิท บอกว่าน้าขึ้นให้รีบตัก เพราะบริเวณบ้านติดกับแม่น้าเจ้าพระยา พอน้าขึ้นก็ต้องรีบตักเก็บไว้เพื่อใช้รดน้า ผักที่ปลูกไว้ ถ้าน้าลงแกก็จะตักน้าไม่ถึง วิธีรดน้าผัก จะนาบัวรดน้าไปวางไว้ตามร่องผัก ก่อน ถึงเวลาก็จะ รดน้าผักไปพร้อมกันทุกร่องผักจนหมดน้า เป็นการออกกาลังกายไปด้วย


สายตาของข้าพเจ้ามองไปรอบๆ บ้าน ยังพบสิ่งที่ไม่คาดฝันอีก นั่นก็คือ พลั่ว วางเรียงเป็นระเบียบผูกมัด ติดกันกว่า ๑๐๐ อัน ด้วยความสงสัย ก็ถามอีกว่า มีไว้ทาไมมากมาย ได้รับคาตอบว่า เป็นเครื่องมือทามา หากินสมัยก่อน ที่มีอาชีพรับจ้างขุดดินเลี้ยงชีวิตและครอบครัว เก็บไว้เป็นอนุสรณ์ให้ลู กหลานได้รู้ว่า คุณ ลุงมีอาชีพอะไรในอดีต ที่มีมากก็เพราะว่าสมัยก่อนลาบาก ไม่มีเงินซื้อพลั่ว มี ๒ อัน ภรรยา อัน ตนเองอัน ก็เลยปฏิญาน ตนว่า ถ้าเสร็จงานแรกจะซื้อพลั่ว ๒๐ อัน หลังจากนั้นก็ให้สัญญากับตนเอง ว่าถ้ารับจ้าง เสร็จงานหนึ่งก็จะซื้อพลั่วเก็บไว้ ๑ อัน ไว้เป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ ก็เลยมี พลั่วมากมายเต็มบ้านตามที่ เห็น (พลั่วทุกอันคุณลุงใช้ทุกอันไม่มีอันไหนไม่ใช้) ไม่หมดเท่านี้สาหรับแหล่งเรียนรู้ที่บ้านคุณลุง

ข้าพเจ้าได้มีโอกาสขึ้นไปบนบ้าน สิ่งที่เห็นคือนาฬิกาติดฝาผนัง จานวนมากมายเต็มบ้านกว่า ๑๐๐ เรือน ทุกเรือนเดินตรงกันหมด ตามปกติแล้วบ้านหนึ่งจะมีนาฬิกาเพียง 4-5 เรือนเท่านั้น คุณลุง สนิท บอกว่า มีโรคประจาตัวอยู่ ๕ โรค คือ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหอบ และโรคเก๊า พอโรคใดโรคหนึ่งกาเริบ คุณลุงก็จะเข้าห้องพระนั่งสมาธิฟังเสียง นาฬิกาเดิน ติ๊กๆๆๆๆ โรคที่กาเริบของคุณลุงก็จะทุเราลง นี่ก็คือสาเหตุที่นาฬิกาเต็มบ้าน

เป็นไงบ้างค่ะสาหรับแหล่งเรียนรู้ที่ไม่ธรรมดา ที่ข้าพเจ้าได้รวบรวมจากชีวิตและประสบการณ์ที่สั่ง สมภูมิ ปัญญาของคุณ ลุ งสนิ ท พวงผกา มาบอกกล่า วเล่า สู่กัน ฟัง น่ า จะมีค ติ แง่คิ ด และสามารถเป็ น แบบอย่างในการดาเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี


บันทึกขุมความรู้ (Knowledge Assets) 1. แหล่งเรียนรู้มีอยู่ทั่วไป ไม่ใช่แต่ห้องเรียน ในสังคมรอบๆ ตัวเรา ก็เป็นแหล่งเรียนรู้ได้ 2. แหล่งเรียนรู้เกิดจากการทามาหากินเพื่อเลี้ยงชีพ 3. แหล่งเรียนรู้เกิดจากประสบการณ์ที่สั่งสมภูมิปัญญาของคนในชุมชน 4. แหล่งเรียนรู้แฝงไปด้วยแง่คิด และภูมิหลังของที่มาในแหล่งเรียนรู้นั้นๆ แก่นความรู้ (Core Compretency) 1. การสืบค้นหาแหล่งเรียนรู้ ในหมู่บ้าน/ตาบล 2. การพูดคุย สอบถาม สัมภาษณ์ เก็บภาพ จดบันทึก 3. การจัดเก็บองค์ความรู้ รวบรวมเป็นหมวดหมู่ บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร 4. เผยแพร่ ประชาสั มพั น ธ์ อ งค์ค วามรู้ ที่ไ ด้ บัน ทึ ก เป็ น ลายลัก ษณ์ อั ก ษร ให้ ผู้ สนใจน าไปเป็ น แนวทางในการดาเนินชีวิต กลยุทธ์ในการทางาน 1. ค้นหาแหล่งเรียนรู้ที่ไม่ได้รับการถ่ายทอด 2. ความต้องกาที่จะสืบค้นหาภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อจัดทาทะเบียนฐานข้อมูลในการทางาน 3. ค้นหาแหล่งเรียนรู้จากเวทีประชาคมในหมู่ บ้าน/ตาบล ด้วยการสอบถามผู้ที่ชาวบ้านให้การ นับถือ และเป็นแบบอย่างที่ดีของชุมชน 4. ประสานภาคีพัฒนาเพื่อให้ได้แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย 5. จัดเก็บองค์ค วามรู้ บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อไม่ให้แหล่งเรียนรู้ได้สูญหายไปจาก ปัจจุบัน 6. เผยแพร่ประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ที่ได้แก่สาธารณะชน กฎระเบียบ แนวคิด ทฤษฏี ที่เกี่ยวข้อง ฐานข้อมูลผู้นาชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ตามทะเบียนระบบข้อมูลกลางเพื่อการบริหารการจัดเก็บ และใช้ประโยชน์ กรมการพัฒนาชุมชน สาหนังสือสั่งการจังหวัด ที่ ปท 0018/ว2820 โครงการยุทธ ศาตร์จังหวัดปทุมธานี ปี 2554 โครงการปราชญ์ชุมชน เพื่อทาฐานข้อมูลปราชญ์ชุมชน จัดเก็บ และ จัดการเผยแพร่ ผ่านระบบสารสนเทศ รวมทั้งส่งเสริมการถ่า ยทอดภูมิปัญญาของปราชญ์ชุมชนเพื่อให้ ผู้สนใจสามารถเข้าถึงความรู้ได้ตลอดเวลา และหนังสือสั่งการจังหวัดปทุมธานี ที่ ปท 0018/ว4552 ลง วันที่ 17 มีนาคม 2554 ให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน จัดการความรู้ในงานพัฒนาชุมชน คนละ 1 เรื่อง

***********


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.