ฉบับที่ 1
คูมือการระบุความหมาย และคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา โดย
ยงยุทธ ไตรสุรัตน John Howes
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
1-1
1-2
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
คูมือการระบุความหมาย และคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชมุ น้ํา
พื้นที่ชุมน้ําใหประโยชนทางดานผลผลิต บทบาททางนิเวศ และ คุณลักษณะพิเศษ การจัดการพื้นที่ ชุมน้ําอย างชาญฉลาดเพื่ ออํานวย ประโยชนอยางยั่งยืนนั้น หนวยงานหรือเจาหนาที่ที่รับผิดชอบและผูมี สวนได -สวนเสีย ต องมีค วามเขาใจคุ ณลักษณะทางนิเวศที่สําคัญ ของ พื้นที่ชุมน้ํา ซึ่งประกอบดวยดานกายภาพ ชีวภาพ และเคมีเปนอยางดี เสียกอน รวมทั้งควรศึกษาปจจัยทางดานเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และนโยบายตางๆ ที่จะมีผลตอความยั่งยืนของการใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ํา ด ว ย เพื่ อ จะได ว างแผนการจั ด การพื้ น ที่ ชุ ม น้ํ า อย า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ สามารถระบุไดวาพื้นที่ใดมีความเปราะบางควรอนุรักษ พื้นที่ใดใหใชประโยชนได และพื้นที่ใดควรตองมี การปรับปรุง ฟนฟู
คุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา หมายถึง องคประกอบดานชีววิทยา ดานกายภาพ ดานฟสิกส-เคมี ของระบบนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา และการปฏิสัมพันธซึ่งกันและกันขององคประกอบทั้งสาม ซึ่งมีความสําคัญในการรักษาผลผลิต ความ บริ บู ร ณ และบทบาทหน า ที่ ข องพื้ น ที่ ชุ ม น้ํ า ให ดํ า เนิ น ไปอย า งประสิ ท ธิ ภ าพดั ง เดิ ม รวมทั้ ง การใช ประโยชนอยางยั่งยืนดวย
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
1-3
ภาพ 1 การปฏิสัมพันธขององคประกอบคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
คุณลักษณะทางนิเวศมีอยู 4 ประเภท คือ • ลักษณะทางชีววิทยา แบงออกเปน 3 ประเภทยอย o พืช ประกอบดวย ชนิดพืชหลัก ชนิดเดน พืชหรือวัชพืชตางถิ่น แหลงที่อยูอาศัยของ พืชที่สําคัญตอการอนุรักษ ชนิดของปา o สัตว ประกอบดวย สัตวชนิดเดนในพื้นที่ ชนิดสัตวที่สําคัญตอการอนุรักษ จํานวน ประชากร ชนิดตางถิ่นและเปนภัยคุกคาม o ถิ่นที่อยูอ าศัยของสัตว รวมทั้งพื้นที่ที่มีความสําคัญ • ลักษณะทางกายภาพ ประกอบดวยที่ตั้งทางภูมิศาสตร ความสูง-ต่ําจากระดับน้ําทะเลปานกลาง ลักษณะพื้นที่ สัณฐานของทองน้ํา ชนิดดิน ตะกอน ระดับการขึ้นลงของน้ําผิวดินและน้ําใตดิน • ลักษณะทางฟสิกส-เคมี ของน้ําผิวดินและน้ําใตดิน ประกอบดวยอุณภูมิของน้ํา ความเปน กรด-ดาง ความเค็ม ความโปรงแสง และปริมาณธาตุอาหาร • การใช ป ระโยชน โ ดยมนุ ษ ย ประกอบด ว ยผลิ ต ภั ณ ฑ แ ละคุ ณ ค า ของพื้ น ที่ ชุ ม น้ํ า การใช ประโยชนที่ดินและน้ํา ประเด็นปญหาการจัดการ ภัยคุกคาม แผนการจัดการและติดตาม ประเมินผล เปนตน
1-4
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
ตาราง 1 ตัวอยางการจําแนกคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ําในแตละองคประกอบ ชื่อขอมูล ลักษณะดานกายภาพ • ลักษณะภูมิประเทศของ พื้นที่ชุมน้ํา • ชวงระดับความสูง
• ขอบเขตพื้นที่
คุณลักษณะดานเคมี น้ําผิวดิน • อุณหภูมิ
คําอธิบาย
แหลงขอมูล
เชน ลุมน้ํา รองน้ํา ที่ราบ ที่ชัน เนิน/ที่ราบ ระดับความสูงจากน้ํา ทะเลปานกลาง
แผนที่ภูมิประเทศ มาตราสวน 1: 50,000 แผนที่ภูมิประเทศ มาตราสวน 1: 50,000 การจําลอง digital elevation model (DEM) แผนที่ภูมิประเทศ มาตราสวน 1: 50,000 หรือฐานขอมูล GIS พื้นที่ลุมน้ํา
ขนาดพื้นที่ของพื้นที่ ชุมน้ํา
วิธีการ
จุดสูงสุด-จุดต่ําสุด
ลากขอบเขตบนแผนที่ ภูมิประเทศ ใช dot grid วางทาบนับจํานวนจุด และคํานวณพื้นที่
อุณหภูมิเฉลี่ย ชวงระดับ การเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิ ประเภทของ อุณหภูมิ และรหัสจุด สํารวจ ชวงของความเค็ม ประเภทของน้ํา (จืด กรอย เค็ม) และรหัส จุดสํารวจ
ขอมูลจากกรมควบคุม มลพิษ กรมประมง กรมอนามัย ขอมูลการ ศึกษาวิจัย
เทอรโมมิเตอรจุมน้ํา ประมาณ 20 วินาที
ขอมูลจากกรมควบคุม มลพิษ กรมประมง กรมอนามัย ขอมูลการ ศึกษาวิจัย
• ระดับความเปนกรดดาง ชวงของ pH รายป ประเภทของความเปน (pH) กรด-ดาง และรหัสจุด สํารวจ น้ําใตดิน อุณหภูมิเฉลี่ย ชวงระดับ • อุณหภูมิ การเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิ ประเภทของ อุณหภูมิ และรหัสจุด สํารวจ
ขอมูลจากกรมควบคุม มลพิษ กรมประมง กรมอนามัย ขอมูลการ ศึกษาวิจัย
เก็บขอมูลน้ําที่ระดับ ความลึก 20 ซม. จาก ผิวน้ํา แลวนําไปวิเคราะห ในหองปฏิบัติการ หรือ เครื่องมือวัดในภาคสนาม เทอรโมมิเตอรจุมน้ํา ประมาณ 20 วินาที
• ระดับความเค็ม
ขอมูลจากกรมควบคุม มลพิษ กรมประมง กรมอนามัย ขอมูลการ ศึกษาวิจัย
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
เทอรโมมิเตอรจุมน้ํา ประมาณ 20 วินาที
1-5
ตาราง 1 (ตอ) ชื่อขอมูล • ระดับความเค็ม
แหลงขอมูล ขอมูลจากกรมควบคุม มลพิษ กรมประมง กรมอนามัย ขอมูลการ ศึกษาวิจัย
• ระดับความเปนกรดดาง ชวงของ pH รายป ประเภทของความเปน (pH) กรด-ดาง และรหัสจุด สํารวจ พืชพรรณ • ชนิดเดนในแตละสังคม ชื่อชนิดพืชเดนที่พบใน แตละจุด พืช
ขอมูลจากกรมควบคุม มลพิษ กรมประมง กรมอนามัย ขอมูลการ ศึกษาวิจัย
• ชนิดพืชตางถิ่น
ขนาดพื้นที่ และชื่อ ชนิดพืชตางถิ่นที่พบใน แตละจุด สถานภาพการอนุรักษ ชนิดพืช ตามทะเบียน รายการของ IUCN Red List และของ สผ.
ขอมูลการศึกษาวิจัย ภาพถายทางอากาศ สผ. ขอมูลการศึกษาวิจัย สผ. ขอมูลจากสวน ราชการ
ชื่อชนิดสัตว และระดับ ความชุกชุม
ขอมูลการศึกษาวิจัย สผ. ขอมูลจากสวน ราชการ
สถานภาพการอนุรักษ ชนิดสัตว ตามทะเบียน รายการของ IUCN Red List และของ สผ.
ขอมูลการศึกษาวิจัย สผ. ขอมูลจากสวน ราชการ
• สถานภาพการอนุรักษ
สัตว • ชนิดสัตวเดน
• สถานภาพการอนุรักษ
• จํานวนประชากร
1-6
คําอธิบาย ชวงของความเค็ม ประเภทของน้ํา (จืด กรอย เค็ม) และรหัส จุดสํารวจ
ขอมูลการศึกษาวิจัย
ขอมูลจากรายงาน
วิธีการ เก็บขอมูลน้ําที่ระดับ ความลึก 20 ซม. จาก ผิวน้ํา แลวนําไปวิเคราะห ในหองปฏิบัติการ หรือ เครื่องมือวัดในภาคสนาม เทอรโมมิเตอรจุมน้ํา ประมาณ 20 วินาที
การสํารวจสังคมพืชใน ภาคสนาม วิเคราะห ดัชนีความสําคัญของ พันธุไม และดัชนีความ มากมาย เปนตน การสํารวจภาคสนาม เปรียบเทียบกับรายงาน นําขอมูลที่ได เปรียบเทียบกับทะเบียน รายการที่ไดจัดทําไวโดย สผ. การสํารวจภาคสนาม เชน การวางแนวสํารวจ จุดสํารวจ เปนตน ทุกฤดูกาล นําขอมูลที่ได เปรียบเทียบกับทะเบียน รายการที่ไดจัดทําไวโดย สผ. การนับโดยตรง การ ประเมินเทียบกับขนาด พื้นที่ ฯลฯ
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
ตาราง 1 (ตอ) ชื่อขอมูล • ชนิดสัตวตางถิ่น
ถิ่นที่อยูอาศัย • ประเภทถิ่นที่อยูอาศัย
คําอธิบาย ขนาดพื้นที่ และชื่อชนิด สัตวตางถิ่นที่พบ
แหลงขอมูล ขอมูลการศึกษาวิจัย
ประเภทถิ่นที่อยูอาศัย ตามการจําแนกของ แรมซาร
• ความสําคัญของถิ่น ที่อยูอาศัยตอพื้นที่ ชุมน้ํา ลักษณะการใชประโยชนโดยมนุษย ผลิตภัณฑ และ บทบาทของพื้นที่ชุมน้ํา การใชประโยชนที่ดิน และน้ํา ชนิด ปริมาณที่เก็บ • พื้นที่จับปลา ชนิด ปริมาณที่เก็บ • พื้นที่เก็บหาของปา ชนิดสัตว ชวงเวลา • พื้นที่เลี้ยงสัตว ชื่อสถานที่ ประเภท • พื้นที่นันทนาการ กิจกรรม ปญหาการจัดการและ ไมใชขอมูลเชิงพื้นที่ ภัยคุกคาม ไมใชขอมูลเชิงพื้นที่ แผนงานติดตาม ประเมินผลและการจัดการ ขอบเขตการปกครอง (administration boundary) ชื่อจังหวัด • จังหวัด ชื่ออําเภอ • อําเภอ ชื่อตําบล จํานวน • ตําบล ประชากร จํานวนผูหญิงชาย ชื่อหมูบาน จํานวน • หมูบาน ประชากร จํานวนผูหญิงชาย รายไดตอครัวเรือน
ขอมูลการประกาศพื้นที่ แรมซาร (ถามี)
ขอมูลจากสวนราชการ ขอมูลจากสวนราชการ แผนที่การใชประโยชน ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน สศก. และกรมอุทยานฯ
วิธีการ การสํารวจ ภาคสนาม และเปรียบเทียบกับ บัญชีรายการที่ไดจัดทํา ไวโดย สผ. ขอมูลจากสังคมพืชเดน เปรียบเทียบกับประเภท พื้นที่ชุมน้ําของแรมซาร (http://www.ramsar.org /key_ris_types.htm) ขอมูลจากสังคมพืชดีเดน เปรียบเทียบกับตาราง 3 หรือภาคผนวก 2 การประเมินชุมชนอยาง มีสวนรวม (PRA) การประเมินชุมชนอยาง มีสวนรวม (PRA) การแปลภาพถายทาง อากาศและภาพถาย ดาวเทียม
ขอมูลจากสวนราชการ หรือองคกรที่มีกิจกรรม แผนที่ภูมิประเทศ แผนที่ภูมิประเทศ กรมการปกครอง สํานักงานสถิติแหงชาติ อบต. กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน อบต.
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
การสํารวจโดย PRA และ GPS
1-7
ความสําคัญของคุณลักษณะทางนิเวศตอการจัดการพื้นที่ชุมน้ํา การสํารวจและศึกษาคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํามีความสําคัญเปนลําดับแรกตอการ จัดการพื้นที่ชุมน้ําอยางมีประสิทธิภาพ ตามหลักการใชประโยชนอยางยั่งยืนและใชประโยชนอยางชาญฉลาด เพราะจะทําใหผูที่รับผิดชอบในการจัดการพื้นที่ชุมน้ําและผูมีสวนได-สวนเสีย ทราบและมีความเขาใจใน ประเด็นตางๆ ดังนี้ • สามารถระบุหนาที่และคุณคาของพื้นที่ชุมน้ํา • จัดทําฐานขอมูลเพื่อใชในการติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในอนาคต • กําหนดขอบเขตพื้นที่ชุมน้ํา คุณลักษณะทางนิเวศที่สําคัญ และลําดับความสําคัญของพื้นที่ ในการอนุรักษ • เปนเครื่องมือในการวางแผนการจัดการพื้นที่ชุมน้ํา ทั้งในระดับปฏิบัติการและในระดับการ ตัดสินใจ • ใชในการเปรียบเทียบสถานภาพพื้นที่ชุมน้ํา และการจัดการทั้งในระดับพื้นที่ ระดับชาติ และระดับนานาชาติ
ภาพ 2 ความเชือ่ มโยงระหวางคุณลักษณะทางนิเวศและการใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ําอยางยั่งยืน
1-8
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
คุณคาของพื้นที่ชุมน้ํา แบงออกไดเปน 3 ดานกวางๆ คือ • การใหผลผลิตตามธรรมชาติแกสังคม ทั้งใชประโยชนโดยตรงเพื่อบริโภค และใชเปนปจจัย การผลิตเพื่อสรางผลผลิตในรูปสินคาสูตลาด เชน ทรัพยากรปาไม ทรัพยากรสัตวปา ทรัพยากรประมง ทรัพยากรพืชอาหารสัตว ทรัพยากรเกษตร ทรัพยากรน้ํา และพลังงาน เปนตน • การทําหนาที่ทางระบบนิเวศ เปนประโยชนโดยทางออมที่ชุมชนหรือสังคมไดรับ เชน การ ปองกันน้ําทวม การรักษาสมดุลของชายฝงและการปองกันการชะลางพังทลายของดิน การ ปอ งกั น พายุ แ ละการลดความรุ น แรงของลม การคมนาคมทางน้ํ า นั น ทนาการและการ ทองเที่ยว เปนตน • การมีคุณสมบัติพิเศษ ไดแก ความหลากหลายทางชีวภาพ และการเปนมรดกทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม ซึ่งทั้งสองอยางเปนคุณคาที่มีอยูในตัวพื้นที่ชุมน้ําเอง แตจําเปนตองไดรับ การคุมครอง หรือสงวนไวใหมีความอุดมสมบูรณ พื้นที่ชุมน้ําแตละประเภทและแตละแหง จะใหคุณคาแตกตางกัน ขึ้นอยูกับความสัมพันธระหวาง คุณลักษณะทางนิเวศ ระดับความคงอยู และความบริบูรณขององคประกอบทางนิเวศ ทางดานกายภาพ เคมี และชีวภาพของพื้นที่ชุมน้ํา ยกตัวอยางพื้นที่ชุมน้ําประเภททะเลสาบจะมีคุณคามากในการเปนแหลงน้ํา เพื่อการใชสอย ชลประทาน แหลงที่อยูอาศัยของสัตวน้ํา การประมง บรรเทาความรุนแรงของน้ําทวม และกักเก็บตะกอนและธาตุอาหาร เปนตน ในขณะที่พื้นที่ชุมน้ําที่เปนปาชายเลนจะมีคุณคาดานทรัพยากร ปาไม แหลงอนุบาลสัตว รักษาสมดุลของชายฝง ปองกันการพายุและความรุนแรงของคลื่น และความ หลากหลายทางชีวภาพ เปนตน มูลคาของทรัพยากรพื้นที่ชุมน้ําในทางเศรษฐศาสตร แบงออกเปน 3 ประเภท คือ • มูลคาที่ไดรับประโยชนจากการใชโดยตรงของผลผลิตของพื้นที่ชุมน้ํา คือการไดรับประโยชน ที่เกิดจากบทบาทหนาที่ทางระบบนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา เชน การกํากับควบคุมภัยทางธรรมชาติ หรือการเปนแหลงที่อยูอาศัยของปลาและนกน้ํา • มูลคาจากการใชประโยชนทางออม และ • มูลคาจากการไมไดใช เชน ความหลากหลายทางชีวภาพ เปนตน
ขั้นตอนการศึกษาคุณลักษณะทางนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา แบงเปน 6 ขั้นตอนกวางๆ คือ • การจําแนกประเภทพื้นที่ชุมน้ําและขอบเขตพื้นที่ชุมน้ํา • การคัดเลือกผูม ีสวนได-สวนเสีย ที่ใชประโยชนพนื้ ที่ชุมน้ํา • การจําแนกการใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ําและสถานภาพของทรัพยากร • การวิเคราะหระบบและรวบรวมขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา • การประเมินความคงอยูและความบริบูรณของคุณลักษณะทางนิเวศ สถานภาพในปจจุบัน และสถานภาพในอนาคตที่ตองการ และ • การวิเคราะหภัยคุกคามที่มีผลกระทบตอระบบนิเวศพื้นทีช่ ุมน้ํา
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
1-9
การจําแนกประเภทพื้นที่ชุมน้ําและขอบเขตพื้นที่ชุมน้ํา พื้นที่ชุมน้ําในทวีปเอเชียแบงออกเปน 8 ประเภทหลัก คือ พื้นที่ปากแมน้ํา/น้ํากรอย, ปาชายเลน, พื้นที่ชายฝงและทะเล, พื้นที่ราบน้ําทวมถึง, พื้นที่ลุมชื้นแฉะน้ําจืด, ทะเลสาบ อางเก็บน้ํา, พื้นที่พรุ และ ปาที่ลุมน้ําขัง หรือ 13 ประเภทตามลักษณะภูมิประเทศและการทวมขังของน้ํา (ภาคผนวก I) ขอบเขตของพื้นที่ชุมน้ําที่จะศึกษาคุณลักษณะทางนิเวศ กําหนดจากแผนที่ภูมิประเทศ และ สอบถามจากผูมีสวนได-สวนเสีย ไมใชการครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่ประกาศเปนแรมซารไซต (Ramsar Site) หรือขอบเขตตามกฎหมายเทานั้น แตควรครอบคลุมขอบเขตทางนิเวศทั้งฤดูฝนและฤดูแลง เชน ขอบเขตลุ ม น้ํ า ที่ น้ํ า ไหลลงสู พื้ น ที่ ชุ ม น้ํ า การกระจายของปลาและนกน้ํ า พื้ น ที่ ที่ มี ก ารใช ป ระโยชน ทรัพยากรในพื้นที่ชุมน้ําโดยสอดคลองกับการบริหารงาน และเหมาะสมในทางปฏิบัติ เชน พื้นที่ชุมน้ํา หนองบงคาย มีขอบเขตครอบคลุมระบบนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา และพื้นที่ของ 2 ตําบลที่คาบเกี่ยวและมี ประชาชนเขามาใชประโยชน (ภาพ 3) ผลที่คาดวาจะไดรับในขั้นตอนนี้ คือ • ประเภทและขอบเขตพื้นที่ชม ุ น้ํา • ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ชุมน้ําเบื้องตน
พื้นที่ชุมน้ําหนองบงคายมีขนาดพื้นที่ประมาณ 4 กม2 มีขนาดพื้นที่รับน้ําประมาณ 16 กม2 คาบเกี่ยวตําบลปาสักและตําบลโยนก อําเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จึงกําหนดใหพื้นที่วางแผนครอบคลุมทั้ง 2 ตําบล
ภาพ 3 การวางแผนขอบเขตพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย
1-10
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
การคัดเลือกผูมีสวนได-สวนเสีย ที่ใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ํา ผูมีสวนได-สวนเสียในการจัดการพื้นที่ชุมน้ํา หมายถึง บุคคล กลุมบุคคล ชุมชน หรือองคกร ที่มี สวนเกี่ยวของโดยตรงกับการจัดการระบบนิเวศหรือเปนผูรับผิดชอบโดยตรง เชน ผูจัดการพื้นที่ชุมน้ํา (หัวหนาเขตหามลาสัตวปา) ผูที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติในการดํารงชีพ (ผูใชน้ํา เกษตรกร ชาวประมง เปนตน) ผูที่สนับสนุนการทํางาน (องคการบริหารสวนตําบล องคการบริหารสวนจังหวัด ชลประทาน กลุมอนุรักษนก เปนตน) รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยูใกลเคียงกับทรัพยากร แตไมไดดํารงชีวิตอยูกับ ทรัพยากรนั้นๆ หรืออาจจะเปนองคกรที่สนับสนุนการทํางานของหนวยงานระดับชาติหรือระดับนานาชาติ เชน IUCN, DANIDA, WWF ในขั้นตอนนี้จะใหความสําคัญกับผูมีสวนได-สวนเสียที่มีความสัมพันธโดยตรงกับพื้นที่ชุมน้ํา ผลที่คาดวาจะไดรับ คือ • กลุมผูใชประโยชนจากทรัพยากรในพื้นที่ชุมน้ําทางตรงและทางออม • หนวยงานทีร่ ับผิดชอบโดยตรง และสนับสนุนการจัดการพืน้ ที่ชุมน้ํา
การจําแนกการใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ําและสถานภาพของทรัพยากร พื้นที่ชุมน้ําแตละประเภทและแตละแหงมีบทบาทหนาที่ คุณสมบัติพิเศษ และผลผลิตแตกตาง กัน ดังนั้น ในขั้นตอนนี้จะจัดประชุมประเมินชุมชนอยางมีสวนรวม เพื่อรวบรวมขอมูลทรัพยากรในพื้นที่ ชุมน้ํา บทบาทหนาที่ ความคิด/ความเชื่อของบุคคล กลุม/องคกร ที่เกี่ยวของกับพื้นที่ชุมน้ํา การใช ประโยชนทรัพยากร (ประเภทและชวงเวลา) และพื้นที่ใชประโยชน (ภาพ 4) ประเด็นปญหาการจัดการ และปญหาที่เกิดขึ้นจากการใชประโยชนทรัพยากร (ตาราง 2) รวมทั้งการประเมินมูลคาทางเศรษฐศาสตร ของการใชทรัพยากร ผลที่คาดวาจะไดรับในขั้นตอนนี้ คือ • ชนิดและปริมาณของทรัพยากรในพืน้ ที่ชุมน้ําที่นํามาใชประโยชน ผูใชประโยชน และพืน้ ที่ที่ ใชประโยชน • มูลคาทางเศรษฐศาสตรที่เกิดจากการใชและไมใชประโยชนทรัพยากรในพื้นที่ชุมน้ํา • สภาพปญหาและผลกระทบที่เกิดจากการใชประโยชนและการจัดการพื้นที่ชุมน้ําเบื้องตน
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
1-11
เก็บพืชน้า ํ เก็บของปา
200 ครัวเรือน
จับปลา
150
เลีย ้ งหมู ไก
100
เลีย ้ งปลา เลีย ้ งสัตว
50
สวนผลไม โค ง ง าม ดอ ยง าม สน ัต น เ ปา
ปา งห มอ หล วง ปา ส กั น อ ดอ ย ยศ รแี กว ปา แ สด หน อง บว ัส ด ดอ ยจ าํ ป ดอ ยค าํ รอ งบ ง
กเ ู ต า
พืชไร
0
ชลประทาน
ชือห ่ มูบ าน
ราษฎรจํานวน 12 หมูบาน จากทั้งหมด 21 หมูบานของตําบลปาสักและตําบลโยนก รวมประมาณ 500 ครัวเรือน เขามาใช ประโยชนจากพื้นที่ชุมน้ํา ในการเพาะปลูก การจับปลา และการใชน้ําเพื่อการเกษตร การอุปโภคและบริโภค ฯลฯ กอใหเกิดรายได ทางตรงประมาณ 15 ลานบาทตอป
ภาพ 4 กรณีศึกษาการใชประโยชนทรัพยากรพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย
ตาราง 2 ตัวอยางประเด็นปญหาการใชทรัพยากรและการจัดการพื้นที่ชุมน้ําที่สําคัญของหนองบงคาย จากการประเมินชุมชนอยางมีสวนรวม พื้นที่หนองน้ํา 1/ • ความขัดแยงในการรักษาระดับน้ําในหนอง โดย ชาวบานตําบลปาสักตองการกักเก็บน้ําเพื่อจับปลา สวนตําบลโยนกตองการน้ําเพื่อทํานา • คุณภาพน้ําเสื่อมโทรมจากการใชสารเคมี ในสวน สม และน้ําเสียจากรีสอรต พืชลอยน้ํา (ปง) เนาเสีย • การบุกรุกหนองน้ําของนายทุนรอบหนองน้ํา โดย การทําเขื่อนกั้น “จอ” และถมที่ • ความตองการใชน้ําในอนาคต จากการขยายตัวของ เมืองเชียงแสน และการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม • ปริมาณน้ําในอางไมเพียงพอกับความตองการ เพื่อ การบริโภค อุปโภค และการทํานา (ตําบลโยนก) และสวนสมและพืชไร
พื้นที่เนินเขา (เขตลุมน้ํา)2/ และพื้นที่รอบหนองน้ํา3/ • การซื้อขายที่ดินโดยนายทุนและผูมีอิทธิพล ระดับชาติ รอบหนองน้ํา และความกังวลในการเปลี่ยนมือเปน ของตางชาติ • การสรางบาน ฟารมเลี้ยงสัตว ในหรือติดหนองน้ํา • ไมมีการควบคุมการสรางรีสอรตรอบหนองน้ํา รวมทั้งการจัดการขยะและน้ําเสีย • เกษตรกรทําสวนสม สวนขาวโพด ใชปุยเคมี และ เปดหนาดินมากขึ้น ทําใหเกิดการกัดชะหนาดิน และตะกอนดินไหลลงหนองน้ํา • การจัดการพื้นที่ชุมน้ําไมมีประสิทธิภาพ ไมมีการ รังวัดหมายแนวเขตหามลาฯ บุคคลทั่วไปเขาใจวา ขอบหนองน้ําคือแนวเขต แตระดับน้ําเปนแปลง ประมาณ 1-2 เมตร จึงเปนชองวางในการบุกรุก พื้นที่
• ปลาชะโดซึ่งเปนปลากินสัตวเปนอาหาร รบกวนนก น้ํา และกินปลาพันธุพื้นเมืองในหนอง จนปริมาณ ลดลง รวมทั้งการช็อตปลาดวยไฟฟา หมายเหตุ: 1/: พื้นที่หนองน้ํา (4 กม2); 2/ พื้นที่เนินเขา ครอบคลุมขอบเขตลุมน้ํารอบหนอง (16 กม2); 3/ พื้นที่ที่เหลือของ 2 ตําบล (100-16 = 84 กม2)
1-12
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
การวิเคราะหระบบและรวบรวมขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา ผลจากการประเมินชุมชนอยางมีสวนรวม จะทําใหหนวยงานรับผิดชอบและผูมีสวนได-สวนเสีย ซึ่งทําหนาที่เปนทีมวางแผนพื้นที่ชุมน้ํา มีความเขาใจเกี่ยวกับระบบพื้นที่ชุมน้ําที่ตองการวางแผนมากขึ้น กอนจะลงมติคัดเลือกคุณลักษณะทางนิเวศที่มีความสําคัญ (ตาราง 1) ที่สามารถบงชี้ความสําคัญของ พื้นที่ชุมน้ําในการเปนแรมซารไซต (กรณีไดรับการประกาศ) (ตาราง 3) และ/หรือผลผลิต รวมทั้งบทบาท หนาที่ของพื้นที่ชุมน้ําที่ใหประโยชนตอประชาชนและสังคม ตลอดจนประเด็นปญหาสําคัญที่ตองแกไข ซึ่งเปรียบเสมือนการกําหนดเปาหมายและวัตถุประสงคในการวางแผนการจัดการพื้นที่ชุมน้ํา และติดตาม ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงตอไป ตาราง 3 ความสําคัญทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ําในการเปนแรมซารไซต กรณีศึกษาหนองบงคาย เกณฑแรมซารไซต • เปนตัวแทนที่ดีของระบบนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา หายาก และมีความเปนเอกลักษณ และยังมี สภาพเปนธรรมชาติ ในเขตชีวภูมิศาสตร • เปนแหลงที่อยูอาศัยของสิ่งมีชีวิต ที่ใกลสูญ พันธุ หรือเสี่ยงตอการสูญพันธุ หรือเปน ระบบนิเวศที่ ถูกรบกวน
• •
• •
•
การประเมินเชิงปริมาณ: ใชหรือไมใช ไมใช: พื้นที่ทะเลสาบเชียงแสนมีขนาดเล็ก เกิดจากการ สรางของมนุษย และพบทั่วไปในภาคเหนือของประเทศไทย
ใช: ทะเลสาบเชียงแสน เปนที่อยูอาศัยของนกน้ําอพยพใน ฤดูหนาวที่อยูในสถานภาพถูกคุกคามในระดับโลก 2 ชนิด และใกลถูกคุกคาม 3 ชนิด ในระดับชาติ มีนกน้ําที่อยูในสถานภาพใกลสูญพันธุจํานวน 5 ชนิด ถูกคุกคาม 9 ชนิด ซึ่งปลาที่ถูกคุกคาม 3 ชนิด และ ปลา 1 ชนิด เปนปลาชนิดประจําถิ่น พบเฉพาะในแมน้ําโขง เทานั้น เปนพื้นที่รองรับประชากรพืชและสัตว ชนิดที่ ไมใช: จํานวนประชากรของชนิดสําคัญที่มาอยูอาศัยหรือใช สําคัญ เอื้ออํานวยตอการรักษาความหลาย พื้นที่ชุมน้ําหนองบงคายคอนขางนอย ทางชีวภาพในแตละเขตชีวภูมิศาสตร เปนแหลงที่อยูอาศัยของพืชหรือสัตว ในชวง ใช: พื้นที่ทะเลสาบเชียงแสนเปนที่พักพิงของนกอพยพใน ระยะเวลาที่สําคัญของวงจรชีวิต หรือที่แหลง ฤดูหนาว มากกวา 70 ชนิด พักพิงในสถานภาพที่แหลงอาศัยเดิมถูก รบกวน ในสภาพปกติมีนกน้ําอาศัยอยูได 20,000 ตัว ไมใช: จํานวนนกน้ําในฤดูหนาวที่นับสูงสุด รวมกัน ประมาณ 3,500 ตัว สวนมากเปนชนิดที่พบทั่วไป หรือ หรือมากกวา ชนิดประจําถิ่น ในสภาพปกติมีนกน้ําอาศัยอยูรอยละ 1 ของ ไมใช: จํานวนนกน้ําที่อาศัยในพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคายมี คอนขางนอย จํานวนเปดดําหัวดําที่นับไดมากสุดเทากับ จํานวนนกน้ําที่พบทั้งหมด 15 ตัว ซึ่งนอยกวารอยละ 1 ของเปดดําหัวดําที่พบทั้งหมด ในโลก เปนแหลงที่อยูอาศัยของปลาชนิดประจําถิ่น ใช: ถึงแมวาทะเลสาบเชียงแสน จะมีปลาไมกชี่ นิด แตมี หรือชนิดที่ตองใชพื้นที่น้ําในชวงระยะเวลาที่ ปลาหลายชนิดเปนปลาประจําถิ่น และมีปลาตางถิ่นหลาย สําคัญของวงจรชีวิต หรือการปฏิสัมพันธของ ชนิดดวย ชนิด หรือประชากร บงบอกถึงคุณคาและ ประโยชนของพื้นที่ชุมน้ําตอความ หลากหลายทางชีวภาพของโลก
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
1-13
ตาราง 3 (ตอ) เกณฑแรมซารไซต
การประเมินเชิงปริมาณ: ใชหรือไมใช • เปนแหลงอาหารที่สําคัญ ที่วางไขและพักพิง ใช: ทะเลสาบเชียงแสนเปนแหลงจับปลาที่สําคัญของชุมชน ของลูกปลา หรือเปนเสนทางอพยพของปลา ในทองถิ่น พืชน้ําที่เกาะกลุมเปนกอน หรือปง และพืชชายน้ํามีความ สําคัญตอการผสมพันธุ วางไข และเปนที่อาศัยของตัวออน
หลังจากนั้น เจาหนาที่รับผิดชอบ นักนิเวศวิทยาและประชาชนในพื้นที่ จะรวมกันเก็บรวบรวม ขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศตามความถนัดและความสามารถของแตละบุคคล ทั้งนี้เพื่อใหเกิดความรูสึก การเปนเจาของพื้นที่ เกิดความเขาใจที่ตรงกัน และยอมรับผลการศึกษาขอมูล ซึ่งสามารถดําเนินการได หลายวิธี เชน การรวบรวมรายงานที่เกี่ยวของจากสวนราชการตางๆ การใชแผนที่ภูมิประเทศ ภาพถาย ทางอากาศ ภาพถายดาวเทียม การสํารวจภาคสนามโดยเครื่องหาพิกัดดวยดาวเทียม การวางแปลงสํารวจ พันธุไม การสํารวจนก ปลา เปนตน การเก็บขอมูลขางตนจะดําเนินการตามแนวทางของการสํารวจพื้นที่ชุมน้ําในทวีปเอเชีย (Asian Wetland Inventory: AWI) โดยยังคงจําแนกขอมูลออกเปน 3 คุณลักษณะทางนิเวศตามที่กลาวไวขางตน แลว คือ • ขอมูลดานกายภาพ • ขอมูลดานชีวภาพ และ • ขอมูลดานฟสิกส-เคมี รวมทั้งการใชประโยชนทรัพยากรของประชาชน สภาพเศรษฐกิจ-สังคม และภัยคุกคามตางๆ พรอมทั้งศึกษาความเชื่อมโยงทางระบบนิเวศ จัดทํารายงานและสรางฐานขอมูล GIS คุณลักษณะทาง นิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา เพื่อนําไปใชประโยชนในการวางแผนการจัดการพื้นที่ชุมน้ําตอไป ผลที่คาดวาจะไดรับในขั้นตอนนี้ คือ • คุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ําที่สําคัญ ที่บงชี้สถานภาพผลผลิต บทบาทหนาที่ และ คุณลักษณะพิเศษของพื้นที่ชุมน้ํา • รายงานและแผนที่กระดาษ หรือขอมูล GIS แสดงขอบเขตพื้นที่ชุมน้ํา พื้นวางแผน คุณลักษณะ ทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ําและพื้นที่ใกลเคียง (ดานกายภาพ ชีวภาพ และฟสิกส-เคมี และ การใชประโยชน)
1-14
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
สังคมพืชลอยน้ํา
สังคมพืชชายน้ํา
สังคมพืชโผลผิวน้ํา 3
2
1
สังคมพืชใตน้ํา
เขตยอยพืชลมลุก 4.1
เขตยอยไมพุม 4.2
เขตยอยไมไผ ไมพุม และไมตน 4.3
จากภาพถายดาวเทียมเมื่อป พ.ศ. 2546 สามารถแบงการใชประโยชนที่ดินได 11 ประเภท คือ พืชไร, สวนผลไม, ไรราง หรือไรเลื่อนลอย, ปาเบญจพรรณ ปาเสื่อมโทรม หรือปาไผ, นาขาว, พื้นที่ชุมน้ําผสมไมไมลมลุก, พื้นที่ชุมน้ําผสมไมพุม (ไมยราบ ยักษ), สิ่งกอสราง, หมูบาน, แหลงน้ํา และสันทราย ลักษณะพรรณพืชของพื้นที่ชุมน้ําที่พบในหนองบงคาย ประกอบดวยสังคมพืชลอยน้ํา พืชใตน้ํา พืชโผลผิวน้ํา พืชชายน้ํา และไมพุม พันธุไมที่พบในสังคมพืชลอยน้ํา ไดแก ผักตบชวา จอกหูหนู ที่เกาะรวมกันเปนกอน เรียกวา “ปง” สวนบริเวณสังคมพืช ชายน้ําสามารถแบงออกเปน 3 เขตยอยดังภาพ อนึ่งในชวง 20-30 ปที่ผานมา ไมยราบยักษซึ่งเปนไมตางถิ่นไดเขามายึดครอง พื้นที่บางสวน โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ชุมน้ํา บริเวณขอบอางน้ํา และเจริญเติบโตไดดี ขยายตัวไดอยางรวดเร็วและกําจัดไดยากมาก พบปลาอยางนอย 46 ชนิด โดยปลา 17 ชนิดเปนชนิดที่มีคุณคาทางเศรษฐกิจ มีปลาที่มีความสําคัญควรแกการอนุรักษ และอยูในสถานภาพถูกคุกคาม 5 ชนิด สํารวจพบนก 225 ชนิด เปนสัตวปาคุมครอง 219 ชนิด นกอพยพ 19 ชนิด อยูใน สถานภาพถูกคุกคามในระดับประเทศและระดับนานาชาติ จํานวน 19 ชนิด และ 5 ชนิด ตามลําดับ
ภาพ 6 กรณีศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย
พื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย เดิมเปนหนองน้ําธรรมชาติ ในป พ.ศ. 2528 มีการสรางฝายน้ําลน จนกลายเปนทะเลสาบ มีพื้นที่รวม ประมาณ 2,700 ไร มีความลึกเฉลี่ย 2.0 เมตร สามารถกักเก็บน้ําไดสูงสุด 4.9 ลานลูกบาศกเมตร จากการคาดคะเนการสูญเสีย หนาดิน พบวาอีก 500 ปขางหนาจะมีปริมาณตะกอนทับถมเต็มพื้นที่ทะเลสาบ หากไมมีมาตรการอนุรักษดินและน้ําที่เหมาะสม
ภาพ 7 แผนที่สัณฐานของทะเลสาบเชียงแสน
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
1-15
ตัวอยางการศึกษาความเชื่อมโยงทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย ระบบพื้นที่ชุมน้ําแตละแหงสวนมากจะไมอยูโดดเดี่ยว แตจะเชื่อมโยงกับพื้นที่อื่นในระดับที่ใหญกวา ใน กรณีพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย มีความเชื่อมโยงใน 3 ระดับ คือ • ความเชื่อมโยงในระดับนานาชาติ : - การอพยพของนกน้ําในฤดูหนาว ระหวางไซบีเรีย ประเทศจีนตอน ใต และประเทศไทย • ความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค : - การอพยพเคลื่อนยายของนก ปลา และความเชื่อมโยงของระบบน้ํา กับแมน้ําโขง • ความเชื่อมโยงในระดับทองถิ่น : - การอพยพเคลื่อนยายของนก ปลา และน้ําใตดิน ระหวางหนองบงคาย กับหนองหลวง ซึ่งตั้งอยูในลุมน้ําลั๊วะเหมือนกัน ความเชื่อมโยงระบบนิเวศดังกลาว จะมีผลตอการจัดการพื้นที่ชุมน้ําในระดับตางๆ ดังนี้ • ความเชื่อมโยงในระดับนานาชาติ : - การจัดการแหลงที่อยูอาศัยของนกน้ํา และประกาศเปนพื้นที่ แรมซาร เพื่ออนุรักษประชากรและแหลงที่อยูอาศัย • ความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค : - ติดตาม ตรวจสอบโครงการพัฒนาตางๆ (ทาเรือ และนิคมอุตสาหกรรม) และวางแผนการจัดการพื้นที่ เพื่อไมใหมีผลกระทบตอการอพยพ เคลื่อนยายของนก ปลา และความ เชื่อมโยงของระบบน้ํา • ความเชื่อมโยงในระดับทองถิ่น : - การจัดการแหลงน้ําเพื่อการประมง การเกษตร และที่อยูอาศัยของ นกน้ําในพื้นที่ชุมน้ําใหเหมาะสม จากการเก็บขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย และวิเคราะหความเชื่อมโยงทางนิเวศ ในระดับลุมน้ําในทองถิ่น พบวาหนองบงคายไดรับน้ําจากน้ําฝนเทานั้น ปละประมาณ 27 ลานลูกบาศกเมตร แต ไมสามารถกักเก็บน้ําได เนื่องจากระบบเหมืองฝายชํารุด และสูญเสียน้ําใตดิน ระบบน้ําจากหนองหลวงและ หนองบงคายถูกตัดขาด และมีการทับถมของตะกอน นกน้ําสวนมากอาศัยและพักผอนในบริเวณจอทองดํา หนองบงคาย และหนองแฉลบ แหลงน้ําที่อื่นใชเปนที่อาศัยนอย เพราะถูกรบกวนจากคนและสัตวเลี้ยง
การประเมินความคงอยูและความบริบูรณของคุณลักษณะทางนิเวศ จะทําใหเราทราบสถานภาพในปจจุบันวาพื้นที่ชุมน้ํานั้นๆ เปนอยางไร รวมทั้งสถานภาพที่ ตองการในอนาคตดวย ซึ่งพื้นที่ชุมน้ําจะสามารถเอื้ออํานวยประโยชนในรูปแบบผลผลิต บทบาทหนาที่ และคุณลักษณะพิเศษของพื้นที่ชุมน้ํา ตอมนุษยและสิ่งแวดลอมไดอยางยั่งยืนได ก็ตอเมื่อคุณลักษณะที่ สําคัญทางระบบนิเวศของพื้นที่ชุมน้ําคงอยูไดในระยะยาว หรืออยูในสถานภาพที่ดี หรือมีความบริบูรณ ถาหากมีการเปลี่ยนแปลง ตองเปนการเปลี่ยนแปลงตามสภาพธรรมชาติและอยูในชวงที่สามารถยอมรับได หรือสามารถฟนฟูไดเอง เพราะหากคุณลักษณะเหลานี้ถูกทําลายหรือถูกทําใหเปลี่ยนแปลงเกินชวงที่สามารถ ยอมรับได จะกอใหเกิดความสูญหายหรือความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศในระยะยาว ขั้นตอนการประเมินมี 3 ขั้นตอนยอย ดังนี้ การเลือกคุณลักษณะที่สําคัญทางนิเวศและตัวชี้วัด พื้นที่ชุมน้ําแตละประเภทจะมีลักษณะเฉพาะหรือที่เรียกวาคุณลักษณะที่สําคัญทางนิเวศวิทยา ซึ่งประกอบดวย ขนาด สถานภาพ และลักษณะพื้นที่โดยรอบ สามารถนํามาใชในการประเมินความคงอยู หรือความบริบูรณทางนิเวศได
1-16
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
ผลที่คาดวาจะไดรับจากการดําเนินงานในขั้นตอนนี้ คือ • เลือกคุณลักษณะทางนิเวศที่สําคัญอยางนอย 1 อยางของแตละผลผลิต บทบาทหนาที่ หรือ คุณลักษณะพิเศษของพื้นที่ชุมน้ํา • ตัวชี้วัดเชิงปริมาณที่ใชในการบงชี้คุณลักษณะที่สําคัญทางนิเวศวิทยา เกณฑที่ใชประเมินความคงอยูและความบริบูรณของระบบนิเวศ • ขนาด เปน การวัด เชิ งปริ ม าณของพื้น ที่ ความชุ ก ชุม ของการปรากฏของคุ ณ ลัก ษณะทางนิ เ วศ ความ หนาแนนประชากร หรือขนาดพื้นที่ถิ่นที่อยูอาศัยที่เหมาะสม เปนตน • สถานภาพ เป น การวั ด เชิ ง สั ม พั ท ธ เ กี่ ย วกั บ คุ ณ ภาพของป จ จั ย ทางกายภาพ ชี ว ภาพ โครงสร า ง องคประกอบ และกระบวนการทางนิเวศ ในพื้นที่ที่มีการปรากฏของคุณลักษณะทางนิเวศ เชน คุณภาพของ น้ํา รอยละของพืชตางถิ่นในสังคม องคประกอบทางชีวภาพ และคุณภาพ เปนตน • ลักษณะพื้นที่โดยรอบ เปนการวัดเชิงสัมพัทธเกี่ยวกับคุณภาพของพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งสถานภาพของ ภูมิทัศน และความเชื่อมโยงของพื้นที่ที่ปรากฏกับพื้นที่ใกลเคียง ซึ่งมีผลตอการดํารงชีพ เชน การแบงแยก ของถิ่นที่อยูอาศัย การขัดขวางการแพรกระจาย การอพยพ เปนตน
การกําหนดระดับของคุณลักษณะทางนิเวศ โดยทั่วไปคุณลักษณะทางนิเวศวิทยาจะมีการเปลี่ยนแปลงในสภาพธรรมชาติตามชวงระยะเวลา ตางๆ กัน ซึ่งระดับของการเปลี่ยนแปลงของแตละคุณลักษณะทางนิเวศแบงเปน 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช และเลว ดังนั้น เจาหนาที่รับผิดชอบ ผูมีสวนได-สวนเสีย รวมทั้งนักวิชาการ จะตองรวมกันนํา ขอมูลจากการประเมินชุมชนอยางมีสวนรวม การรวบรวมขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศ หรือเอกสารทาง วิชาการตางๆ ที่เกี่ยวของ มาประมวลผล และแบงระดับการเปลี่ยนแปลงของคุณลักษณะพิเศษที่สําคัญ ผลที่คาดวาจะไดรับจากการดําเนินงานในขั้นตอนนี้ คือ • ชวงระดับของการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะทางนิเวศ ดีมาก-เลว ที่สามารถยอมรับไดของแต ละคุณลักษณะ การแบงระดับของคุณลักษณะทางนิเวศ เพื่อประเมินความคงอยูของคุณลักษณะทางนิเวศ 4 ระดับ ดังนี้ ดีมาก : คุณลักษณะทางนิเวศที่สมบูรณ มีสภาพตามธรรมชาติ สามารถทําหนาที่ไดอยางปกติ ในระบบนิเวศ การที่จะรักษาความคงอยูไดในระยะยาว (50-100 ป) อาจตองการการจัดการจากมนุษยเพียงเล็กนอย หรือไมตองการเลย ดี : คุณลักษณะทางนิเวศสามารถทําหนาที่ของมันได และอยูในชวงการเปลี่ยนแปลงที่ยอมรับได เพื่อดํารง ความคงอยูไดในระยะยาว (50-100 ป) อาจตองการการจัดการจากมนุษยบาง พอใช : คุณลักษณะทางนิเวศอยูนอกชวงการเปลี่ยนแปลงที่ยอมรับได และตองการการจัดการจากมนุษย ถา ไมดําเนินการ คุณลักษณะทางนิเวศจะมีสภาพเสื่อมโทรมลงมาก ต่ํา : คุณลักษณะทางนิเวศอยูเลยชวงการยอมรับไดไปมาก หรืออันตรายขั้นรุนแรง ถาไมมีการจัดการ ปลอยใหอยูในสภาพแบบนี้เปนระยะเวลานาน จะไมสามารถทําการฟนฟูหรือปองกันการสูญพันธุได เลย
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
1-17
การกําหนดสถานภาพของคุณลักษณะทางนิเวศพื้นที่ชุมน้ําในปจจุบันและที่ตองการ ในอนาคต การประเมินสถานภาพในปจจุบัน และสถานภาพที่ตองการในอนาคตของแตละคุณลักษณะทางนิเวศ ที่ผูมีสวนได-สวนเสียมีความเห็นรวมกัน จะพิจารณาจากแนวโนมของคุณลักษณะทางนิเวศ แรงกดดัน และมาตรการจัดการที่จะดําเนินการ ในชวงระยะของแผนที่สามารถเปนไปไดในทางปฏิบัติ ผลที่คาดวาจะไดรับ คือ • สถานภาพปจจุบันของแตละคุณลักษณะ • สถานภาพที่ตองการของแตละคุณลักษณะ
ตัวอยางการประเมินความคงอยูทางนิเวศ กรณีศึกษาพื้นที่ชุมน้ํา หนองบงคาย ผลผลิตและบทบาทหนาที่ที่สําคัญของพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย คือ การเปนแหลงน้ําเพื่อการเกษตร เปนที่อยูอาศัยของนกเปดน้ํา และมีระบบนิเวศที่หลากหลาย ดังนั้น พื้นที่นี้จึงไดรับการประกาศเปนพื้นที่ แรมซาร คุณลักษณะทางนิเวศที่บงชี้ความบริบูรณของระบบนิเวศคือ “พืชน้ํา” ตัวชี้วัดที่นํามาใชในการ ประเมินความบริบูรณของพืชน้ํา คือ รอยละการครอบครองของไมยราบยักษ สวน “น้ําผิวดิน” ใชปริมาณ น้ําผิวดินในฤดูแลง และความตองการออกซิเจน เปนตัวชี้วัดดานปริมาณและคุณภาพ ตามลําดับ หรือเราอาจจะเลือกนกเปดน้ําเปนคุณลักษณะที่สําคัญทางนิเวศ และตัวชี้วัดที่นํามาใชในการ ประเมินความคงอยูไดเชนกัน คือ แบงระดับสถานภาพของจํานวนของนกเปดน้ําที่อพยพมาในฤดูหนาว ประเมินสถานภาพความคงอยูและความบริบูรณในปจจุบัน และความตองการในอนาคตหลังการเสร็จสิ้น แผน ระยะ 20 ป หรือเปาหมายระยะยาวในการอนุรักษ ตาราง 4 การประเมินความคงอยูและความบริบูรณ โดยใชเกณฑขนาดและคุณภาพ คุณลักษณะ พืชน้ํา
คุณสมบัติ ที่สําคัญ สถานภาพ
นกน้ํา
จํานวน ประชากร
น้ําผิวดิน
ปริมาณน้ํา คุณภาพน้ํา
ตัวชี้วัด %การครอบครอง พื้นที่ชุมน้ํา จํานวนนกน้ํา ที่อาศัยใน ฤดูหนาว ปริมาณน้ําใน ฤดูแลง (ลบม) ปริมาณออกซิเจน ละลายน้ํา (DO) mg/l
การแบงระดับตามตัวชี้วัด ต่ํา ปานกลาง ดี ดีมาก >30 20-30 0-10 0 <5,000
5,000 10,000
<2.0 <26.0
สถานภาพ สถานภาพ ปจจุบนั ที่ตองการ ดี ดี
20,000 ต่ํา
ปานกลาง
2.0-3.0
10,000 20,000 3.0-4.0
> 4.0
ปานกลาง
ดี
2.0-4.0
4.0-6.0
> 6.0
ดี
ดี
อนึ่ง การประเมินความคงอยูและความบริบูรณของพื้นที่ชุมน้ําอาจใชภูมิปญญาทองถิ่นโดยการ สังเกตชนิดแมลงน้ําหรือพืชน้ําที่เปนตัวชี้วัดคุณภาพน้ํา เชน โครงการนักสืบสายน้ํา นักสืบชายหาด ที่ ดําเนินการโดยมูลนิธิโลกสีเขียว เปนตน
1-18
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
ตาราง 5 การประเมินความคงอยูและความบริบูรณ โดยประยุกตใชดัชนีในคูมือนักสืบสายน้ํา ความมั่นคง ชายฝง
คุณสมบัติ ตัวชี้วัด ที่สําคัญ ต่ํา สถานภาพ การปกคลุมของ ไมมีพืช พืช ขึ้นริมฝง
การแบงระดับตามตัวชี้วัด ปานกลาง ดี พงหญา หญาถูกตัด มีพืชขนสูงต่ําไม เรียบ เทากันอยูบาง
ปลา
สถานภาพ
ชนิดปลา
ปลากาง ปลาไหล ปลาเข็ม
น้ําผิวดิน
ปริมาณน้ํา (ขนาด) คุณภาพ น้ํา คุณภาพ น้ํา
การไหลของน้ํา ในฤดูแลง สาหรายตาม ผิวน้ํา สัตวริมน้ํา
ปลาเทศบาล ปลากินยุง ปลานิล น้ําแหง ผิดปกติ มีเยอะมาก นกเอี้ยง
คุณภาพ น้ํา
ชนิดสัตวน้ํา ขนาดเล็ก
นกกางเขนบาน นกอี นกกางเขนน้ํา แพรดคอขาว นกอุมบาตร นกจับแมลงจุกดํา นกเดาลมหลัง เทา นกกวัก ชีปะขาวกลุม 2 แมลงชางกราม แมลงหนอนไมอยูใน โต กุงน้ําตก ปลอกน้ํา กลุม 2 แมลงปอ กุงฝอย หอยกาบ กลุม 1 หอยฝาเดียว กลุม 2 หอยฝาเดียว หอยกาบ กลุม 2 กลุม 1
คุณลักษณะ
หนอนริ้น น้ําจืดแดง ไสเดือนดิน
น้ําแหงหนาแลงเปน ปกติ มีมาก
ปลาแกมช้ํา ปลามะไฟ ปลากระสูบขีด น้ําไหลเอื่อยๆ มีบาง
ดีมาก พืชขึ้นสูงต่ํา หนาแนนเปน ธรรมชาติ ปลาผีเสื้อ ปลาจิ้งจก ปลาคอ น้ําไหลดีทั้งป ไมมี นาก นกกินปลา เชน นกกาน้ํา นกยางไฟ นกเปดน้ํา ชีปะขาวกลุม 1 แมลงเหาะหิน แมลงหนอนปลอก น้ํา กลุม 1
หมายเหตุ: ปรับปรุงจากคูมือนักสืบสายน้ํา
การวิเคราะหภัยคุกคามที่มีผลกระทบตอระบบนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา เจาหนาที่รับผิดชอบและผูมีสวนได-สวนเสีย จะรวมกันวิเคราะหประเด็นปญหา หรือภัยคุกคาม ที่รายแรง หรืออาการของคุณลักษณะทางนิเวศวามีสถานภาพเสื่อมโทรมลง หรือมีโอกาสเสื่อมโทรมลง ในอนาคตหรื อ ไม เช น ถิ่ น ที่ อยู อ าศั ย ของนกน้ํ าถู ก คุ ก คาม ปริ ม าณปลาในทะเลสาบมี จํ า นวนลดลง คุณภาพน้ํามีแนวโนมลดต่ํากวามาตรฐานน้ําใช หรือสาเหตุทั้งทางตรงและทางออมที่จะมีผลกระทบตอ ความสมบูรณของคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา และการใชประโยชนอยางยั่งยืน เชน ความเสื่อม โทรมของถิ่นที่อยูอาศัยของนกน้ํา เกิดจากการเลี้ยงควายของชาวบาน และการยึดครองของพืชตางถิ่น เปนตน และใครเปนผูมีสวนได-สวนเสียกับภัยคุกคามดังกลาว พรอมทั้งวิเคราะหความเชื่อมโยงระหวาง ภัยคุกคามและสาเหตุที่มีผลตอคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา เพื่อจัดลําดับความเรงดวนในการ แกไขปญหาในขั้นตอนการทําแผนตอไป
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา
1-19
ผลที่คาดวาจะไดรับในขั้นตอนนี้ คือ • ภัยคุกคามหรือประเด็นปญหาที่สําคัญ ที่มีผลตอระบบนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา • สาเหตุของภัยคุกคาม ที่มีผลตอลักษณะทางนิเวศของพืน้ ที่ชุมน้ํา • แผนภูมิแสดงความสัมพันธระหวางคุณลักษณะทางนิเวศ ภัยคุกคามรายแรง สาเหตุ และ ปจจัยคุกคามทางออมและโอกาสที่เกี่ยวของ
ขอควรทราบ คุณ ลั ก ษณะทางนิ เ วศที่ ไ ม ใ ช ข อมู ล เชิ ง พื้ นที่ จ ะรวบรวมในรู ป แบบของรายงานเพื่อ นํ า ไปใช ประโยชนในการวางแผนการจัดการแบบมีสวนรวม การกํากับติดตามและประเมินผล และการสราง จิตสํานึกในการอนุรักษพื้นที่ชุมน้ําของคนในชุมชน อันจะนําไปสูการจัดการทรัพยากรในพื้นที่ชุมน้ําอยาง ยั่งยืนตอไป ดังนั้น การใชคูมือฉบับนี้ตองใชรวมกับคูมือฉบับอื่นๆ โดยเฉพาะอยางยิ่งคูมือการประเมิน ชุมชนอยางมีสวนรวม และคูมือการจัดทําฐานขอมูลระบบสารสนเทศภูมิศาสตร (GIS) ทั้งนี้ เพราะผลการ ประเมินชุมชนอยางมีสวนรวมจะเปนกรอบในการดําเนินงานการรวบรวมขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศ และขอมูลที่รวบรวมไดเกือบทั้งหมด (ขอมูลเชิงพื้นที่) จะถูกจัดเก็บในระบบ GIS
1-20
คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 1 คูมอื การระบุความหมายและคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา