2_1

Page 1

ฉบับที่ 2

คูมือการสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและ การจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร โดย

ยงยุทธ ไตรสุรัตน

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-1


2-2

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


คูมือการสํารวจขอมูลพื้นที่ชมุ น้ําและ การจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

ขอมติจากการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาวาดว ย พื้นที่ชุมน้ําในป ค.ศ. 1999 เรียกรองใหนักวิทยาศาสตร คณะกรรมการวิชาการ และองคกรพื้นที่ชุมน้ํานานาชาติ (Wetlands International) พัฒนาแนวทางหรือเครื่องมือ ที่มี ศักยภาพในการสํารวจและรวบรวมขอมูลพื้นที่ชุมน้ํา เพื่อให เปนมาตรฐานสากล และใชเปนขอมูลในการประเมินผลและ ติดตามตรวจสอบ สถานภาพของพื้นที่ชุมน้ําที่มีความสําคัญ ระดั บ นานาชาติ ซึ่ ง ต อ มาองค ก รพื้ น ที่ ชุ ม น้ํ า นานาชาติ (Wetlands International) รวมกับหนวยงานที่เกี่ยวของ โดย การสนับสนุนทุนจากกระทรวงสิ่งแวดลอม ประเทศญี่ปุน ไดจัดทําคูมือการสํารวจพื้นที่ชุมน้ําในทวีป เอเชีย (Asian Wetland Inventory or AWI) โดยไดกําหนดฐานขอมูลหลักของคุณลักษณะทางนิเวศของ พื้นที่ชุมน้ํา ออกเปน 3 องคประกอบ คือ ลักษณะทางกายภาพ ลักษณะทางชีวภาพ และลักษณะทาง ฟสิกส-เคมี รวมทั้งการใชประโยชนของมนุษย พรอมทั้งไดนําการสํารวจจากระยะไกล (remote sensing) และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร (GIS) มาใชเปนเครื่องมือในการจัดทําแผนที่คุณลักษณะทางนิเวศและ การใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ํา แนวทางนี้ไดรับความเห็นชอบจากสมัชชาภาคีอนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ํา ในป ค.ศ. 2002

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-3


GIS คืออะไร GIS เปนเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพใชในการสํารวจ ติดตามการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะของ พื้นที่ชุมน้ํา และการวางแผนการจัดการพื้นที่ชุมน้ํา GIS ยอมาจาก Geographic Information System หรือระบบสารสนเทศภูมิศาสตร หมายถึง เครื่องมือที่ใชระบบคอมพิวเตอรในการนําเขา จัดเก็บ จัดเตรียม ดัดแปลง แกไข จัดการ วิเคราะหและ แสดงผลขอมูลเชิงพื้นที่ (spatial data) และขอมูลอธิบาย (non-spatial data or attribute data) ตาม วัตถุประสงคที่ตองการ โดยมีองคประกอบที่สําคัญ 4 สวน คือ • ขอมูลและสารสนเทศ (data/information) • เครื่องคอมพิวเตอรและอุปกรณตางๆ (hardware) • โปรแกรม (software) และ • บุคลากร (user/people)

ขอมูลและสารสนเทศ (data/information) ขอมูลที่จะนําเขาสูระบบ GIS แบงออกไดเปน 2 ประเภท คือ ขอมูลเชิงพื้นที่ และขอมูลอธิบาย พื้นที่ • ขอมูลเชิงพื้นที่หรือขอมูลแผนที่จะมีการจัดเก็บเปนชั้นขอมูล (theme/layer) โดยแบงตาม รูปลักษณะของพื้นที่ (feature) และเนื้อหาของขอมูล (theme) และสามารถจัดเก็บขอมูลได 2 แบบ คือ ขอมูลที่เชิงเสน (vector data) และขอมูลเชิงภาพ (raster data) โดยขอมูลเชิงเสนจะใชรูปลักษณะ 3 ประเภท คือ จุด (point) เสน (arc or line) และพื้นที่ (polygon) แทนรูปลักษณะตางๆ ของขอมูล เชน ตําแหนงเก็บตัวอยางน้ําใชขอมูลจุด ลําธารหรือแมน้ําพื้นที่ปาไมใชขอมูลเสน และขอบเขตการปกครองที่ คาบเกี่ยวพื้นที่ชุมน้ําใชขอมูลพื้นที่ เปนตน ขอมูลเชิงภาพ ใชตารางกริดหรือรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก (grid cell or pixel) ที่มีขนาดเทากันและตอเนื่องกัน เชน ภาพถายดาวเทียม และขอมูลระดับคาความสูง (digital elevation model: DEM) • ขอมูลอธิบาย จะบรรยายคุณลักษณะของขอมูลเชิงพื้นที่ เชน จุดสํารวจที่ 1 มีคา pH เทากับ 7 จุดสํารวจที่ 2 มีคา pH เทากับ 6.5 เปนตน ในกรณีที่มีขอมูลจํานวนมาก ควรจําแนกประเภท และจัดทําตารางฐานขอมูล (attribute table) เพื่อความสะดวกในการเรียกคนและจัดการขอมูล เชน pH ความขุนของน้ํา ความลึก เปนตน ซึ่งขอมูลเชิงพื้นที่และขอมูลอธิบาย จะมีความสัมพันธกันซึ่งกันและกัน โดยจะถูกควบคุมดวยโปรแกรม GIS

2-4

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ภาพ 2 การจัดเก็บขอมูลโดยระบบ GIS

เครื่องคอมพิวเตอร และอุปกรณตางๆ (hardware) เครื่องคอมพิวเตอร รวมกันเรียกวาระบบฮารดแวร (hardware) ประกอบดวย คอมพิวเตอร อุปกรณการนําเขาขอมูล อุปกรณอานขอมูล เก็บรักษาขอมูลและแสดงผลขอมูล ซึ่งอุปกรณแตละชนิดจะ มีหนาที่และคุณภาพแตกตางกันออกไป

โปรแกรม หรือระบบซอฟแวร (software) software หมายถึง โปรแกรมที่ใชในการจัดการระบบและสั่งงานตางๆ เพื่อใหระบบฮารดแวร ทํางาน หรือเรียกใชขอมูลที่จัดเก็บในระบบฐานขอมูล ทํางานตามวัตถุประสงค โดยทั่วไปชุดคําสั่งหรือ โปรแกรมของสารสนเทศทางภูมิศาสตร ประกอบดวยหนวยนําเขาขอมูล หนวยเก็บขอมูลและการจัดการ ขอมูล หนวยวิเคราะห แสดงผลหนวยแปลงขอมูล และหนวยโตตอบกับผูใช ในปจจุบันมีโปรแกรม GIS มากมาย ควรเลือกใชใหเหมาะสมกับการใชงาน ตรงตามวัตถุประสงค และสนองตอบความตองการของ หนวยงาน

บุคลากร (human resources) บุคลากร ประกอบดวยผูใชระบบ ผูใชสารสนเทศ หรือผูชํานาญการ GIS ที่มีความชํานาญใน หนาที่ และไดรับการฝกฝนมาแลวเปนอยางดี พรอมที่จะทํางานไดเต็มความสามารถ และสามารถนําเสนอ ขอมูลใหนักวางแผน หรือผูมีอํานาจตัดสินใจ นําขอมูลมาใชในการแกไขปญหาตางๆ อยางเหมาะสม

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-5


นอกจากองคประกอบที่สําคัญทั้ง 4 สวนแลว องคกรที่รองรับ (organization) นับวามีความสําคัญ ตอการดําเนินงานระบบสารสนเทศภูมิศาสตร และความยั่งยืนของโครงการ เพราะองคกรที่เหมาะสมและ มีความสนใจจะสามารถรองรับและใหการสนับสนุนการนําระบบสารสนเทศภูมิศาสตรมาใชในแผนงาน ขององคกรไดอยางมีประสิทธิภาพ โดยไดรับการสนับสนุนงบประมาณ อุปกรณ และบุคลากรที่มีความรู องคกรที่เหมาะสม

ขั้นตอนการจัดทําฐานขอมูล GIS คุณลักษณะทางนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา

การจัดทําฐานขอมูล GIS คุณลักษณะทางนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา สามารถแบงขั้นตอนการปฏิบัติงาน กวางๆ ได 5 ขั้นตอน ดังนี้

การจัดองคกร และการติดตั้งระบบ GIS

บุคคลากรเปนองคประกอบที่สําคัญมากที่สุดในการดําเนินงาน GIS หากจําเปนก็ตองมีการ ฝกอบรมใหความรูเพิ่มเติมตามความตองการ โครงการ MPW ไดฝกอบรมเจาหนาที่ที่เกี่ยวของและทีม วางแผนหลักบางคน เพื่อใหมีความรูดาน GIS 2 หลักสูตร คือ 1) ความรูเบื้องตน GIS โดยใชโปรแกรม ArcExplorer และ GPS และ 2) การใชโปรแกรม ArcView 3.2 ในระหวางการจัดเก็บขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศ และการวางแผนการจัดการพื้นที่ชุมน้ํา ควร จัดหาอุปกรณตางๆ ความจําเปน เชน ฮารดแวร และโปรแกรม GIS ที่เหมาะสมตอการใชงาน นอกจากนี้ ควรกําหนดองคกรที่เหมาะสมในการดูแลและรับผิดชอบ GIS เชน องคการบริหารสวนจังหวัด องคการ บริหารสวนตําบล และเขตหามลาสัตวปา เปนตน ผลที่คาดวาจะไดรับในขั้นตอนนี้ คือ • รายชื่อเจาหนาที่รับผิดชอบดาน GIS และการฝกอบรม (ถาจําเปน) • หนวยงานทีร่ ับผิดชอบในการจัดทําและดูแลรักษาระบบ GIS (ถาจําเปน) • อุปกรณตางๆ เชน ฮารดแวร และโปรแกรม GIS ที่เหมาะสมตอการใชงาน ตาราง 1 โปรแกรม GIS ประสิทธิภาพ และระดับความรูของผูอบรมหรือผูใช

2-6

โปรแกรม • ArcExplorer 1

ประสิทธิภาพ เรียกคนขอมูล แสดงผลขอมูล และจัดทําแผนที่เบื้องตน

ขอมูลเชิงภาพ

ArcGIS/Arc Info

ERDAS Imagine

จัดทําขอมูล (ปานกลาง) เรียกคนขอมูล แสดงผลขอมูล จัดทําแผนที่ และวิเคราะห ขอมูลเชิงพื้นที่ จัดทําขอมูล (ดี) เรียกคน ขอมูล แสดงผลขอมูล จัดทํา แผนที่ และวิเคราะหขอมูลเชิง พื้นที่ แปลภาพถายดาวเทียม เรียก คนขอมูล แสดงผลขอมูล จัดทําแผนที่ และวิเคราะห ขอมูลเชิงพื้นที่ และ ประมวลผลขอมูลที่ซับซอน

ประเภทขอมูล ขอมูลที่เชิงเสน

ขอมูลเชิงภาพ

ขอมูลเชิงภาพ (ดีมาก) ขอมูลเชิงเสน (ปานกลาง)

บุคลากร ผูใชขอมูล: อานคําสั่งภาษา อังกฤษได ใชโปรแกรม Windows ได มีความรู เบื้องตนเรื่องแผนที่ ผูใชขอมูล/นักจัดการและวางแผน: อานคําสั่งภาษาอังกฤษได ใชโปรแกรม Windows ได มีความรูเรื่องแผนที่ คา พิกัดภูมิศาสตร และสถิติวิจัย ผูใชขอมูล/นักจัดการและวางแผน: อานคําสั่งภาษา อังกฤษได ใชโปรแกรม Windows ได มีความรูเรื่องแผนที่ คา พิกัดภูมิศาสตร และสถิติวิจัย ผูผลิตขอมูล/ผูชํานาญการ GIS&RS: อานคําสั่งภาษาอังกฤษไดดี ใช โปรแกรม Windows ได มีความรูเรื่อง คาพิกัดภูมิศาสตร ภาพถายดาวเทียม และสถิติเชิงปริมาณ

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


การกําหนดขอบเขตพื้นที่วางแผน ทีมวางแผนหลักและเจาหนาที่ GIS จะรวมกันวิเคราะหขนาดพื้นที่วางแผน วาควรจะมีขอบเขต เทาไร โดยพิจารณาจากคุณลักษณะทางนิเวศและความเชื่อมโยงทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา ความเหมาะสม กับการบริหารงาน โดยพื้นที่วางแผนควรครอบคลุมพื้นที่ชุมน้ําที่ไดประกาศตามกฎหมาย และขอบเขต การปกครอง (อบต. หรืออําเภอ) ที่คาบเกี่ยว ผลที่คาดวาจะไดรับจากในขั้นตอนนี้ คือ • ขอบเขตและขนาดของพื้นที่วางแผน เพื่อจัดทําฐานขอมูล

การกําหนดฐานขอมูลหลักคุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ํา เจาหนาที่ GIS ทีมวางแผนหลักและบุคลากรที่เกี่ยวของ จะนําผลที่ไดจากการประเมินชุมชน อยางมีสวนรวม มาวิเคราะหและคัดเลือกคุณลักษณะทางนิเวศตามแนวทางของ AWI ที่มีความจําเปนตอง เก็บขอมูลและจัดทําเปนขอมูล GIS โดยสามารถจําแนกขอมูลได ดังนี้ ขอมูลดานกายภาพ ขอมูลดาน ชีวภาพ ขอมูลดานฟสิกส-เคมี และขอมูลการใชประโยชนทรัพยากร และเศรษฐกิจ-สังคมที่จําเปน ผลที่ คาดวาจะไดรับในขั้นตอนนี้ คือ • รายชื่อขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศ และเศรษฐกิจ-สังคม ที่จะจัดทํา GIS ตาราง 2 ชื่อขอมูลและรูปลักษณะของขอมูล GIS พื้นที่ชุมน้ํา ชื่อขอมูล รูปลักษณะ ลักษณะดานกายภาพ (physical features) พื้นที่ • ลักษณะภูมิประเทศของ พื้นที่ชุมน้ํา

คําอธิบาย 1/

แหลงขอมูล/วิธีการ แผนที่ภูมิประเทศ มาตรา สวน 1: 50,000

ชวงระดับความสูง

พื้นที่ (100-ม.) หรือ เสน (20-ม) หรือ ขอมูล เชิงภาพ (ขนาด กริด 30 ม.)

ลักษณะภูมิประเทศใน พื้นที่ชุมน้ํา เชน ลุมน้ํา รองน้ํา ที่ราบ ที่ชัน เนิน/ที่ราบ ระดับความสูงจากน้ําทะเล ปานกลาง

ขอบเขตพื้นที่

พื้นที่

ความมั่นคงของชายฝง ทะเล 1/

พื้นที่

สัณฐานทองน้ํา

พื้นที่ หรือขอมูลเชิงภาพ (ขนาด กริด 30 ม.)

กระแสลม คลื่น และการ เคลื่อนยายของตะกอน 1/ 2/ ชนิดดิน (บนดิน)

ไมใชขอมูลเชิงพื้นที่ (non-spatial data) 2/ พื้นที่

แผนที่ภูมิประเทศ มาตรา สวน 1: 50,000 การจําลอง digital elevation model (DEM) ขนาดพื้นที่ของพื้นที่ชุมน้ํา แผนที่ภูมิประเทศ มาตรา สวน 1: 50,000 หรือ ฐานขอมูล GIS พื้นที่ลุมน้ํา ประเภทความมั่นคงของ แผนที่ภูมิประเทศ ชายฝงทะเล หรือปาก ภาพถายทางอากาศ แมน้ํา ภาพถายดาวเทียม ความลึกเฉลีย่ ของน้ํา และ ขอมูลของกรมชลประทาน ชวงระดับความลึกในรอบ กรมทรัพยากรน้ํา หรือการ ป สํารวจในพื้นที่ และสราง จําลอง DEM โดย GIS ขอมูลของกรมอุทกศาสตร เนื้อดิน (บนดิน)

แผนที่ดินของกรมพัฒนา ที่ดิน หรือการสํารวจดิน ภาคสนาม

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-7


ตาราง 2 (ตอ) ชื่อขอมูล • ลักษณะของสัณฐานทองน้ํา

รูปลักษณะ พื้นที่

พื้นที่ หรือ ขอมูลเชิงภาพ (ขนาด กริด 30 ม.)

การเปลี่ยนแปลงระดับน้ํา ผิวดินและน้ําใตดิน

คําอธิบาย 1/ ลักษณะของสัณฐานทอง น้ํา (ธรณีและดิน) ประเภท และการ เปลี่ยนแปลงระดับน้ําผิว ดินและน้ําใตดิน

แหลงขอมูล/วิธีการ แผนที่ธรณีวิทยา การสํารวจ ธรณี รายงาน EIA ขอมูลการวัดน้ําของกรม ชลประทาน กรมเจาทา ระดับน้ําขึ้น น้ําลง ของกรม อุทกศาสตร

คุณลักษณะดานเคมี (chemical features) จุด น้ําผิวดิน ตารางฐานขอมูล • อุณหภูมิ (เชื่อมตอโดยรหัสจุดสํารวจ)

ขอมูลของสวนราชการ อุณหภูมิเฉลีย่ ชวงระดับ เชน กรมควบคุมมลพิษ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ กรมประมง ขอมูลการ ประเภทของอุณหภูมิ และ ศึกษาวิจัย การสํารวจภาคสนาม และ รหัสจุดสํารวจ การวิเคราะหใน หองปฏิบัติการ ตารางฐานขอมูล ชวงของความเค็ม วัดที่ระดับ 20 ซม. จาก • ระดับความเค็ม (เชื่อมตอโดยรหัสจุดสํารวจ) ประเภทของน้ํา (จืด กรอย ผิวน้ํา เค็ม) และรหัสจุดสํารวจ ตารางฐานขอมูล ชวงของ pH รายป • ระดับความเปนกรดดาง (เชื่อมตอโดยรหัสจุดสํารวจ) ประเภทของความเปน (pH) กรด-ดาง และรหัสจุด สํารวจ ตารางฐานข อ มู ล ชวงของความขุน-ใส • ความโปรงแสง (Secchi (เชื่อมตอโดยรหัสจุดสํารวจ) รายป ประเภทของความ depth) ขุน-ใส และรหัสจุดสํารวจ ชวงปริมาณธาตุอาหาร • ปริมาณธาตุอาหาร ที่สําคัญ ตารางฐานขอมูล (เชื่อมตอโดยรหัสจุดสํารวจ) รายป ประเภทของระดับ (N, NO3, P) การปนเปอนของธาตุ อาหาร และรหัสจุดสํารวจ (รายละเอียดเหมือนน้ําผิวดิน) เหมือนกับน้ําผิวดิน น้ําใตดิน (ถามี) พืชพรรณ (vegetation) พื้นที่ ขนาดพื้นที่ สัดสวนพื้นที่ ขอมูลจากกรมปาไม กรม • สังคมพืชเดน ครอบครอง ประเภทของ อุทยานฯ กรมพัฒนาที่ดิน สังคมพืช หรือการแปลภาพถายทาง อากาศและภาพถายดาว เทียมการสํารวจภาคสนาม ชื่อชนิดพืชเดนที่พบในแต ขอมูลการศึกษาวิจัย การ • ชนิดเดนในแตละสังคมพืช จุด ละจุด สํารวจสังคมพืชในภาคสนาม และวิเคราะหดัชนีความ สําคัญของพันธุไม และดัชนี ความมากมาย เปนตน พื้นที่ หรือ จุด ขนาดพื้นที่ (polygon) ขอมูลการศึกษาวิจัย • ชนิดพืชตางถิ่น ภาพถายทางอากาศ และชื่อชนิดพืชตางถิ่นที่ พบในแตละจุด การสํารวจภาคสนาม

2-8

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ตาราง 2 (ตอ) ชื่อขอมูล • สถานภาพการอนุรักษ

สัตว (fauna) • ชนิดสัตวเดน

รูปลักษณะ ตารางฐานขอมูล (เชื่อมตอโดยรหัสจุดสํารวจ)

คําอธิบาย 1/ สถานภาพการอนุรักษ ชนิดพืช ตามทะเบียน รายการของ IUCN Red List ทั้งในระดับนานาชาติ และระดับชาติ

แหลงขอมูล/วิธีการ นําขอมูลชนิดเดนในแตละ สังคมพืชกับชนิดพืชตางถิ่น เปรียบเทียบกับทะเบียน รายการที่ไดจัดทําไวโดย สผ.

จุด

ชื่อชนิดสัตว และระดับ ความชุกชุม

สถานภาพการอนุรักษ ชนิดสัตว ตามทะเบียน รายการของ IUCN Red List สผ.

ขอมูลการศึกษาวิจัย การสํารวจภาคสนาม เชน การวางแนวสํารวจ จุดสํารวจ เปนตน นําขอมูลชนิดสัตวเดน เปรียบเทียบกับทะเบียน รายการที่ไดจัดทําไว

สถานภาพการอนุรักษ

ตารางฐานขอมูล (เชื่อมตอโดยรหัสจุดสํารวจ)

จํานวนประชากร 2/

ไมใชขอมูลเชิงพื้นที่ (Non-spatial data) 2/

ชนิดสัตวตางถิ่น

พื้นที่ หรือ จุด

ความเหมาะสมของถิ่นที่อยู อาศัย 3/

พื้นที่ หรือ ขอมูลเชิงภาพ (ขนาด กริด 30 ม.)

แหลงที่อยูอาศัย (habitat) • ประเภทแหลงที่อยูอ าศัย

ความสําคัญของแหลงที่อยู อาศัยตอพื้นที่ชุมน้ํา 2/

พื้นที่

ขนาดพื้นที่ (polygon) และชื่อชนิดสัตวตางถิ่นที่ พบ (point) ระดับความเหมาะสมของ ถิ่นที่อยูอาศัย

ประเภทแหลงที่อยูอ าศัย ตามการจําแนกของ อนุสัญญาพื้นที่ชุมน้ํา

ไมใชขอมูลเชิงพื้นที่ (non-spatial data) 2/

ลักษณะการใชประโยชนโดยมนุษย (anthropomorphic features) • ผลิตภัณฑ และบทบาทของ ไมใชขอมูลเชิงพื้นที่ (non-spatial data) 2/ พื้นที่ชุมน้ํา 2/ • • • • •

การใชประโยชนที่ดินและน้ํา พื้นที่จับปลา พื้นที่เก็บหาของปา พื้นที่เลี้ยงสัตว พื้นที่นันทนาการ

พื้นที่ หรือ จุด พื้นที่ หรือ จุด พื้นที่ หรือ จุด พื้นที่ หรือ จุด

ชนิด ปริมาณที่เก็บ ชนิด ปริมาณที่เก็บ ชนิดสัตว ชวงเวลา ชื่อสถานที่ ประเภท กิจกรรม

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

ขอมูลจากรายงาน หรือการ นับโดยตรง การประเมิน เทียบกับขนาดพื้นที่ ฯลฯ ขอมูลการศึกษา วิจัย การสํารวจภาคสนาม ขอมูลการศึกษาวิจัย การสํารวจภาคสนาม และ การวิเคราะหโดย GIS ขอมูลจากสังคมพืชเดน เปรียบเทียบกับประเภท พื้นที่ชุมน้ําของแรมซาร (http://www.ramsar.org /key_ris_types.htm) ขอมูลจากประเภทแหลงที่ อยูอาศัย เปรียบเทียบกับ ตาราง 3 หรือภาคผนวกที่ 2 ขอมูลจาก PRA ขอมูลจาก PRA ขอมูลจากสวนราชการ และ PRA

2-9


ตาราง 2 (ตอ) ชื่อขอมูล รูปลักษณะ ไมใชขอมูลเชิงพื้นที่ • ปญหาการจัดการและภัย 2/ (non-spatial data) 2/ คุกคาม • แผนงานติดตามประเมินผล ไมใชขอมูลเชิงพื้นที่ (non-spatial data) 2/ และการจัดการ ขอบเขตการปกครอง (administration boundary) พื้นที่ • จังหวัด (province) 3/ 3/ พื้นที่ • อําเภอ (district) พื้นที่ • ตําบล (sub-district) 3/ •

หมูบาน (village) 3/

จุด

คําอธิบาย 1/

แหลงขอมูล/วิธีการ ขอมูลจาก PRA รายงานจากพื้นที่ชุมน้ํา

ชื่อจังหวัด ชื่ออําเภอ ชื่อตําบล จํานวนประชากร จํานวนผูหญิง-ชาย ชื่อหมูบาน จํานวน ประชากร จํานวนผูหญิงชาย รายไดตอครัวเรือน

แผนที่ภูมิประเทศ แผนที่ภูมิประเทศ กรมการปกครอง สํานักงานสถิติแหงชาติ อบต. กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน อบต. การสํารวจโดย PRA และ GPS

หมายเหตุ : 1/ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในภาคผนวก 2/ ไมใชขอมูลเชิงพื้นที่ บันทึกขอมูลในรูปแบบของรายงาน 3/ เพิ่มเติมจาก AWI เดิม

รวบรวมขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศและการใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ํา เจาหนาที่ GIS ทีมวางแผนหลัก และผูมีสวนได-สวนเสีย จะรวมกันรวบรวมขอมูลคุณลักษณะ ทางนิเวศ และการใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ําที่ไดระบุไวในตาราง 2 จากแหลงขอมูลตางๆ เชน แผนที่ภูมิ ประเทศ มาตราสวน 1: 50,000 แผนที่การใชประโยชนที่ดิน แผนที่ดิน ราชกิจจานุเบกษาประกาศพื้นที่ ชุมน้ํา รายงานราชการ ผลการศึกษาวิจัย ขอมูล GIS และตารางขอมูลที่ไดจัดทําไวแลว รวมทั้งการสํารวจ ขอมูลเพิ่มเติมในพื้นที่ โดยใชภาพถายดาวเทียม ภาพถายทางอากาศ การสํารวจโดย GPS การสุมตัวอยาง และการวิเคราะหตัวอยางในหองปฏิบัติการ สวนขอมูลการใชประโยชนทรัพยากรในพื้นที่ชุมน้ําอาจใช วิธีการประเมินในระดับชุมชนอยางมีสวนรวม (PRA) ทั้งนี้ การเก็บรวบรวมขอมูลอาจดําเนินการเอง หรือ วาจางผูที่มีความรู และประสบการณเปนผูดําเนินการ ผลที่คาดวาจะไดรับในขั้นตอนนี้ คือ • ขอมูลทุติยภูมิ เชน แผนที่กระดาษ รายงานทางราชการ ผลการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวของ • รายงานการสํารวจขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศ และการใชประโยชนทรัพยากรของประชาชน ในพื้นที่ชุมน้ําและพื้นที่วางแผน

2-10

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ตาราง 3 แหลงขอมูล GIS ที่สําคัญ หนวยงาน กรมสงเสริมคุณภาพสิ่งแวดลอม

มาตราสวน 1:50,000 1:250,000

กรมแผนที่ทหาร

1:50,000

กรมพัฒนาที่ดิน

1:50,000 1:100,000 1:250,000 1:50,000 1:250,000 1: 50,000

กรมปาไม และกรมอุทยานแหงชาติ สัตว ปา และพรรณพืช สํานักนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กรมโยธาธิการและผังเมือง องคการบริหารสวนตําบล

1:50,000 1:10,000

รายลเอียดขอมูล ฐานขอมูลหลักสิ่งแวดลอมจังหวัด 9 กลุม ประกอบดวย การ ปกครอง เกษตร สิ่งแวดลอม ปาไม ธรณี สิ่งกอสราง ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ น้ํา ขอมูลในแผนที่ภูมิประเทศ ประกอบดวย เสนระดับความสูง ลําธารและแมน้ํา ถนน พืชพรรณหลัก การใชประโยชนทดี่ ิน ดิน และความเหมาะสม การชะลางพังทลายหนาดิน ชนิดปา ขอบเขตอุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา และ ปาสงวนแหงชาติ ชั้นคุณภาพสิ่งแวดลอม ขอบเขตลุมน้ํา ความเหมาะสมทาง การเกษตร เสนทางคมนาคม ลําธารและแมน้ํา ชุมชน ผังเมืองจังหวัด หมูบาน ขอบเขตตําบล เสนระดับความสูง ถนน

การออกแบบขอมูล GIS หลังจากนําเขาขอมูลหรือไดรับความอนุเคราะหจากหนวยงานอื่น ตองนําขอมูลดังกลาวมาดัดแปลง หรือปรับปรุงโครงสรางฐานขอมูลใหสอดคลองกับโครงสรางมาตรฐานที่ไดกําหนดไวแลว โดย การศึกษาหรือออกแบบโครงสรางฐานขอมูล การศึกษาและออกแบบโครงสรางฐานขอมูล GIS (ขอมูลเชิงพื้นที่และขอมูลอธิบาย) เปนสิ่งที่ จําเปนลําดับแรก เพื่อใหฐานขอมูลที่จะจัดทําเปนมาตรฐานเดียวกัน ผูใชขอมูลมีความเขาใจที่เหมือนกัน และสงเสริมการแลกเปลี่ยนขอมูล ในขั้นตอนนี้เจาหนาที่ GIS ตองจําแนกขอมูลวามีรูปลักษณะใด และการออกแบบโครงสราง ฐานขอมูล GIS ใหเปนมาตรฐานเดียวกับที่โครงการ MPW ไดจัดทําไวสําหรับพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย และพื้นที่ชุมน้ําปากแมน้ํากระบี่ ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการใชงานและแลกเปลี่ยนขอมูลในโอกาสตอไป ผลที่คาดวาจะไดรับในขั้นตอนนี้ คือ y ประเภทรูปลักษณะขอมูลเชิงพื้นที่ของคุณลักษณะทางนิเวศ ที่จะจัดทําขอมูล GIS y โครงสรางฐานขอมูล GIS ทั้งขอมูลเชิงพื้นที่และขอมูลอธิบาย

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-11


Column System Unique ID รหัสเฉพาะของระบบ Habitat Unique ID รหัสเฉพาะของความ เหมาะสมของนก Area พื้นที่ Perimeter

Description System Unique ID รหัสเฉพาะของระบบ Habitat Unique ID รหัสเฉพาะของระบบความเหมาะสม ของถิ่นที่อยูอาศัยของนก Area in square meters ขนาดพื้นที่ หนวยเปนตารางเมตร Perimeter in meters

Physical Name HABIT_

Data Type I (5)

HABIT_ID

I (5)

AREA

F (12,2)

PERIMETER

F (12,2)

Remark

ภาพ 3 ตัวอยางการออกแบบโครงสรางฐานขอมูล GIS ของถิ่นที่อยูอาศัยนกน้ํา

ระบบคาพิกัดทางภูมศิ าสตร เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยูคาบเกี่ยวระหวาง 2 เขต UTM (Universal Transverse Marcator) คือ UTM โซน 47 ระหวางเสนแวง 96˚ - 102˚ ตะวันออก (East-E) และ UTM โซน 48 ระหวางเสนแวง 102˚ - 108˚ E โดยเสนแวง (longitude) ที่ 102˚ E จะลากผานจังหวัดขอนแกนลงมาที่จังหวัดจันทบุรี ดังนั้น พื้นที่ชุมน้ําใดที่ตั้งอยูทางซายมือของเสนแวงที่102˚ E เชน ปากแมน้ํากระบี่ ใหอางอิงคาพิกัดทาง ภูมิศาสตร UTM โซนที่ 47 แตถาพื้นที่ชุมน้ําใดที่ตั้งอยูทางขวามือของเสนแวงที่ 102˚ E เชน หนองบงคาย ใหอางอิงคาพิกัดทางภูมิศาสตร UTM โซนที่ 48 ในการบันทึกขอมูล ในกรณีที่พื้นที่ชุมน้ําครอบคลุม 2 เขต ใหเลือกใชระบบคาพิกัดที่มีพื้นที่ชุมน้ําครอบคลุมมากที่สุด แตถาเปนพื้นที่ใหญมาก และมีเปาหมายหลัก ในการแลกเปลี่ยนขอมูลกับประเทศอื่นๆ ใหเลือกใชระบบคาพิกัดเสนรุง เสนแวง ผลที่คาดวาจะไดรับ ในขั้นตอนนี้ คือ y ระบบคาพิกัดที่เหมาะสม ในการบันทึกขอมูลเชิงพื้นที่ของคุณลักษณะทางนิเวศ ที่จะจัดทํา ขอมูล GIS

2-12

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ตาราง 4 ระบบคาพิกัดทางภูมิศาสตรที่เหมาะสมในการบันทึกขอมูล GIS พื้นที่ชุมน้ํา ระดับพื้นที่ชุมน้ํา 1/ ระดับ 1: พื้นที่ลุมน้ําหลัก (river basin) ระดับ 2: พื้นที่ลุมน้ําสาขายอย ระดับ 3: พื้นที่ชุมน้ําและลุมน้ําขนาดเล็ก (wetland complex) ระดับ 4: ระบบนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา (wetland habitat)

ระบบคาพิกัดที่นิยมใช เสนรุง – เสนแวง (latitude/longitude) Universal Transverse Mercator (UTM) Zone 47: ตั้งอยูระหวางเสนแวง 96˚ – 102˚ E Zone 48: ตั้งอยูระหวางเสนแวง 102˚ – 108˚ E 1/ ดูรายเละเอียดคูม ือ A Manual for an Inventory of Asian Wetlands: Version 1.0

เหตุผล พื้นที่ขนาดใหญ คาบเกี่ยวหลายโซน มี ขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศไมละเอียด พื้นที่ขนาดเล็ก สวนมากตั้งอยูในโซน เดียว มีขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศ ละเอียด

การนําเขาขอมูล GIS การนําเขาขอมูล GIS (data input) สามารถดําเนินการไดหลายวิธี ประกอบดวย 1) digitizing or scanning 2) การนําเขาโดยคียบอรด 3) การแปลภาพถายดาวเทียม 4) การนําเขาขอมูล (import) และ/หรือแปลงระบบการบันทึกขอมูล (vector/raster) และ 5) การจําลองขอมูลเพื่อสรางขอมูล GIS ใหม (derived GIS) เชน การสราง DEM (interpolate surface) ทิศดานลาด (aspect) ความลาดชัน (slope) เสนชั้นความสูง (contour) เปนตน พรอมทั้งจัดทําขอมูลอธิบาย และตารางฐานขอมูล ใหสอดคลองกับ มาตรฐานที่ไดกําหนดไว ผลที่คาดวาจะไดรับในขั้นตอนนี้ คือ y ขอมูล GIS (ขอมูลเชิงพื้นที่ และขอมูลอธิบาย) คุณลักษณะทางนิเวศของพื้นที่ชุมน้ําและ พื้นที่ใกลเคียง (ดานกายภาพ ชีวภาพ และฟสิกส-เคมี) ที่ครอบคุลมพื้นที่วางแผน

การวิเคราะหขอมูล GIS ขอมูล GIS ที่ไดจัดทําเรียบรอยแลว สามารถนํามาวิเคราะหขอมูลหาคาสถิติเบื้องตน เชน พื้นที่รวม ระยะเสนรอบรูป การกระจายของขอมูลในแตละกลุม เปนตน สวนการวิเคราะหขอมูลเชิงพื้นที่ สามารถ เลือกใชคําสั่งในการวิเคราะหไดหลายอยาง ขึ้นอยูกับลักษณะของขอมูลและความตองการ ซึ่งชุดคําสั่ง ตางๆ เหลานี้ บางคําสั่งมากับโปรแกรมที่จัดซื้อ (Geo-procession) และบางคําสั่งสามารถดาวนโหลดได จากอินเตอรเน็ต (http://www.ian-ko.com/ free/free_extensions.htm) ดังตัวอยางคําสั่งในตาราง 5 ตาราง 5 คําสั่งการวิเคราะหขอมูลเชิงพื้นที่ของ GIS ชั้นขอมูลเดียว การทําแนวกันชน (buffer) ระยะใกลที่สุด (near) การยุบรวม (dissolve) การขจัด (eliminate)

การวิเคราะหเชิงพื้นที่ของขอมูล vector การวิเคราะหเชิงพื้นที่ของขอมูล raster การซอนทับแบบ intersect การหาระยะ (find distance) การซอนทับแบบ identity การจําลองพื้นทีผิว (interpolate surface) การซอนทับแบบ union พื้นที่ในอาณาเขต (proximity) การเชื่อมแผนที่ (map join) การคํานวณ (calculate) การลบ (erase) การสรางชั้นความลาดชัน (derive slope) การตัด (clip) การสรางทิศดานลาด (derive aspect) ปรับปรุงขอมูล (Update) หมายเหตุ ดูรายละเอียดคําอธิบายคําสั่งไดจาก คูมือ GIS ArcView 3x เพื่อการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ (โครงการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม, 2540)

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-13


ตัวอยาง การประยุกตใชขอมูล AWI และ GIS ในการจัดการพื้นที่ชุมน้ํา โครงการ MPW ไดจัดทําฐานขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา และ GIS และไดนําไปใช ในการจัดการพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย และปากแมน้ํากระบี่ ดังนี้

การจัดทําแผนที่และติดตามการเปลี่ยนแปลงการใชประโยชนที่ดนิ โครงการ MPW ไดแปลภาพถายดาวเทียม Landsat 5 -TM ในป พ.ศ. 2534 และภาพถายดาวเทียม Landsat 7- ETM+ ในป พ.ศ. 2547 เพื่อจัดทําแผนที่และติดตามการใชประโยชนที่ดิน ครอบคลุมพืน้ ทีช่ มุ น้าํ หนองบงคายและพื้นที่ใกลเคียง (ตําบลปาสัก และตําบลโยนก อําเภอเชียงแสน) โดยแบงการใชประโยชน ที่ดินออกเปน 11 ประเภท ผลการวิเคราะหขอมูลพบวาปาเบญจพรรณ พื้นที่ชุมน้ําที่มีไมยราบยักษ สวนผลไม และแหลงน้ํามีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เชน ปาเบญจพรรณเดิมมีพื้นที่ประมาณ 5.02 กม2 แตป พ.ศ. 2547 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 8.63 กม2 ทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่ไรรางมีการทดแทนของสังคมพืช และ สวนผลไมมีขนาดพื้นที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.03 กม2 และพื้นที่ชุมน้ําที่มีไมยราบยักษ มีขนาดเพิ่มขึ้นประมาณ 1.47 กม2 โดยเฉพาะขอบทะเลสาบ และพื้นที่นาขาวมีขนาดใกลเคียงกันระหวาง 2 ชวงเวลา เปนตน สวนพื้นที่การใชประโยชนที่ดินอื่นมีขนาดเล็กลง ตาราง 6 การใชประโยชนที่ดิน พื้นที่ตําบลปาสักและตําบลโยนก อําเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย การใชที่ดิน พืชไร สวนผลไม ไรเลื่อนลอย/ไรราง ปาเบญจพรรณ ปาเสื่อมโทรม/ ปาไผ นาขาว พื้นที่ชุมน้ํามีไมยราบยักษ พื้นที่ชุมน้ํามีหญา หมูบาน ชุมชน แหลงน้ํา สันทรายโคงน้ํา รวม

2-14

2

กม 7.61 0.59 21.39 5.02 0 46.06 2.34 3.77 8.09 5.83 100.70

2534 ไร 4,753 367 13,370 3,135 28,472 1,460 2356 5,055 3,641 62938

% 7.56 0.59 21.24 4.99 0.00 45.74 2.32 3.74 8.03 5.79 0.00 100.00

2

กม 6.58 3.31 15.66 8.63 1.12 46.81 4.81 2.17 5.21 6.39 0.005 100.70

2547 ไร 4,113 2,069 9,788 5,394 700 29,256 3,006 1,356 3,256 3,994 3 62934

% 6.53 3.29 15.55 8.57 1.11 46.49 4.78 2.16 5.17 6.35 0.00 100.00

เปลี่ยนแปลง +/-644 1,700 -3,581 2,256 700 469 1,544 -1,000 -1,800 350 3 -3

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


การรังวัดแนวเขตโดยกระบวนการมีสว นรวมของประชาชน พื้นที่ชุมน้ําหนองบงคายไดรับการประกาศใหเปนเขตหามลาสัตวปาในป พ.ศ. 2518 แตไมเคยมี การรังวัดหมายแนวเขตในพื้นที่ ดังนั้นเจาหนาที่และประชานทั่วไปเขาใจวาขอบเขตของพื้นที่ชุมน้ําคือ แนวระดับของน้ําในอาง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงระหวางฤดูฝนและฤดูแลงประมาณ 1-1.5 เมตร ดังนั้น โครงการ MPW ไดจัดฝกอบรมเรื่องการอานแผนที่ คาพิกัดภูมิศาสตร และระบบ GPS แกเจาหนาที่และ ประชาชนที่สนใจ พรอมทั้งออกสํารวจรังวัดหมายแนวเขต ผลการสํารวจพบวา พื้นที่รอบขอบอางหลายแหง ถูกบุกรุกโดยการถมพื้นที่ และพื้นที่แหลงน้ําหลายแหงนอกเขตหามลาฯ หลังการสํารวจเจาหนาที่และผูมี สวนได-สวนเสีย ไดรวมกันนําเสนอใหหนวยงานที่รับผิดชอบปรับปรุงแนวเขตฯ ใหเหมาะสม และสํารวจ การถือครองพื้นที่ที่รุกล้ําแนวเขตฯ ตอไป

ภาพ 4 การรังวัดหมายแนวเขตพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคายโดยกระบวนการมีสวนรวม

การจําลองคุณภาพของน้ําผิวดิน โครงการ MPW ไดสนับสนุนทุนการศึกษาวิจัย ให น.ส. นันทิดา สุธรรมวงศ นักศึกษาปริญญาโท คณะวนศาสตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร เก็บตัวอยางและศึกษาคุณภาพน้ํา ในหองปฏิบัติการ (อุณหภูมิ ความโปรงแสง ความเปนกรด-ดาง แคลเซี่ยมคารบอเนต (CaCo3) ปริมาณออกซิเจนละลายน้ํา (DO) และ ปริมาณฟอสฟอรัส (PO4) พรอมทั้งบันทึกคาพิกัดทางภูมิศาสตรจุดสํารวจ และใช GIS ในการจําลองคุณภาพ ครอบคลุมพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย ผลการวิเคราะหขอมูลพบวา โดยทั่วไปคุณภาพน้ํายังอยูในเกณฑ มาตรฐานน้ําใชและไมเปนอันตรายตอสิ่งมีชีวิตในน้ํา แตคุณภาพในบางพื้นที่ เชน บริเวณที่ติดกับชุมชน

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-15


รีสอรท และฟารมเลี้ยงหมู ไก และพื้นที่สวนสม มีคุณภาพต่ํากวามาตรฐานน้ําดื่ม และมีแนวโนมมากขึ้น ถาไมมีมาตรการที่เหมาะสมในการจัดการ คุณภาพน้ํา แองเชียงแสน (WATER QUALITY)

ภาพ 5 ตัวอยางคุณภาพน้ําผิวดิน จากการจําลองโดย GIS

การจําลองแหลงที่อยูอาศัยของเปดดําหัวดํา น.ส. นันทิดา สุธรรมวงศ ไดใชเทคโนโลยี GIS, GPS และสมการ logistic regression เพื่อสราง แบบจําลองและแผนที่แหลงที่อยูอาศัยที่เหมาะสมของเปดดําหัวดํา (Baer’s Pochard, Aythya baeri) ใน พื้นที่ชุมน้ําหนองบงคายและพื้นที่ใกลเคียง โดยเก็บขอมูลจุดที่พบนกเปดน้ํา สังคมพืช สัตวผิวดินใตทองน้าํ ความลึกของน้ํา ตาขายจับปลา จุดที่พบนกชนิดอื่น และคุณภาพน้ํา พรอมทั้งสรางขอมูลเพิ่มเติมจาก GIS ประกอบดวย ระยะหางจากขอบอาง ระยะหางจากตาขายจับปลา และความหนาแนนของสัตวผิวดิน ใต ทอ งน้ํ า ผลจากการวิเ คราะหท างสถิ ติพ บว า ระยะหางจากขอบอ าง ระยะห างจากตาข ายจับ ปลา คุณภาพน้ํา ความลึกของน้ํา และความหนาแนนของสัตวผิวดินใตทองน้ํา เปนปจจัยที่มีความสําคัญตอ การกระจายของนกเปดน้ํา และแหลงที่อยูอาศัยที่เหมาะสมของนกเปดดําหัวดําจะอยูบริเวณตอนกลาง ของอางเก็บน้ํา ทั้งนี้ เพราะถูกรบกวนจากคนและควายนอย และนกเปดดําหัวดําชอบดําน้ําเพื่อหาอาหาร ซึ่งแผนที่การกระจายของน้ําเปดน้ํา เปนประโยชนอยางมากตอการอนุรักษพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย

2-16

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ภาพ 6 แผนที่แหลงที่อยูอาศัยที่เหมาะสมของเปดดําหัวดํา ในพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย

การแกไขปญหาความขัดแยงและเขตการจัดการ พื้นที่ชุมน้ําหนองบงคายมีปญหาความขัดแยงการใชประโยชนพื้นที่ 2 ประเด็น ประเด็นแรกถิ่น ที่อยูอาศัยของนกน้ําถูกรบกวนจากการเลี้ยงควาย ซึ่งเปนปญหาระหวางกลุมผูเลี้ยงควายกับเขตหามลา สัตวปาและกลุมอนุรักษนก โครงการ MPW ไดจัดประชุมระหวางผูมีสวนได-สวนเสีย และนําเสนอขอมูล GIS เกี่ยวกับแหลงที่อยูอาศัยของนก พื้นที่เลี้ยงสัตว และปญหาที่จะเกิดขึ้นจากกิจกรรมปศุสัตว ในชวง ฤดูนกอพยพระหวางเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ หลังจากการประชุมหลายครั้ง กลุมผูเลี้ยงปศุสัตว ยินดีที่จะนําควายไปเลี้ยงในพื้นที่อื่นในชวงฤดูนกอพยพ และไดจัดทําขอตกลงรวมกัน ประเด็นที่สอง เปนความขัดแยงระหวางกลุมประมงกับเจาหนาที่ ที่มาจับปลาในพื้นที่ที่ปลาทํารัง วางไข หลังจากการ เจรจา กลุมประมงยอมรับขอตกลงเกี่ยวกับเครื่องมือจับปลา และไมจับปลาในพื้นที่หวงหาม พรอมทั้ง ไดรวมกับปกหมายแนวเขตโดยใชไมไผ และเห็นชอบกับเขตการจัดการพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย และ มาตรการที่กําหนด ดังภาพขางลางนี้

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-17


ภาพ 7 เขตการจัดการพื้นที่ชุมน้ําหนองบงคาย

การกระจายชนิดพันธุที่สาํ คัญในปาชายเลน โครงการ MPW ไดสอบถามขอมูลจากชาวประมงพื้นบาน และสํารวจขอมูลการกระจายของ พื้นที่เลี้ยงหอยที่สําคัญ ประกอบดวย หอยแมลงภู (green mussel culture) หอยกาบ (mangrove clam) เปนตน

ภาพ 8 พื้นที่จับสัตวน้ําที่สําคัญและปาโกงกาง ปากแมน้ํากระบี่

2-18

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ขอจํากัดของการใชคูมือ คูมือฉบับนี้ไดจัดทําขึ้นภายใตสมมติฐานวา ผูใชคูมือมีความรูดาน AWI และระบบสารสนเทศ ภูมิศาสตร หรือไดรับการฝกอบรมแลว พรอมทั้งมีองคประกอบอื่นที่เกี่ยวของกับ GIS เชน ขอมูลและ สารสนเทศ เครื่องคอมพิวเตอรและอุปกรณตางๆ และโปรแกรม หากไมมีองคประกอบดังกลาว ตองไดรับ ความรวมมือดวยดีจากหนวยงานที่เกี่ยวของในพื้นที่ เชน สํานักโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด อบจ. หรือ อบต. และไดรับการฝกฝนอยางสม่ําเสมอ คูมือฉบับนี้ใหแนวทางกวางๆ ในการนํา GIS ไปใชจัดทําฐานขอมูลและสนับสนุนการจัดการ พื้นที่ชุมน้ํา ไมใชเปนคูมือใชโปรแกรม GIS ดังนั้น ผูใชคูมือควรศึกษาคูมืออื่นเพิ่มเติมดวย ในกรณีที่ไม สามารถหาเครื่องมือ GIS ได แนะนําใหจัดนําขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศมาทําแผนที่กระดาษ หรือ แผนใส แลวดําเนินการวิเคราะหหรือซอนทับขอมูลโดยคน (manual GIS)

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-19


บรรณานุกรม โครงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม. 2540. คูมือ GIS ArcView 3x เพื่อการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติ. สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพฯ. ESRI (Inc). 1994. Environmental Systems Research Institute, Inc. 1995. Understanding GIS: The Arc/Info Method. John Wiley & Sons, Inc. New York. Finlayson, C.M., G.W. Begg, J. Howes, J. Davies, K. Tagi, and J. Lowry. 2002. A Manual for an Inventory of Asian Wetlands: Version 1.0. Wetlands International Global Series 10. Kuala Lumpur, Malaysia. Trisurat, Y. 2004. Wetland GIS Database: Nong Bong Kai Non-hunting Area, Chiang Rai Province. Implementation of the Ramsar Convention in Thailand: Management and Protection of Wetland Area Project (MPW-DANIDA Project), Office of Environmental Policy and Planning, Bangkok. 106 pp. Trisurat, Y. 2004. Wetland GIS Database: Nong Bong Kai - Nong Luang Wetland Complex, Chiang Rai Province. Implementation of the Ramsar Convention in Thailand: Management and Protection of Wetland Area Project (MPW-DANIDA Project), Office of Environmental Policy and Planning, Bangkok. 143 pp.

2-20

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ภาคผนวก รายละเอียดคําอธิบายขอมูล GIS พื้นที่ชุมน้าํ ตามแนวทางของ AWI (A Manual for an Inventory of Asian Wetlands: Version 1.0) ลักษณะภูมิประเทศในพื้นที่ชุมน้ํา ลักษณะภูมิประเทศ คําจํากัดความ ลุมน้ํา (basin) ลุมน้ําคือพื้นที่ซึ่งมีลักษณะคลายอางน้ําแบนและไมมีการไหลออกของน้ํามีขอบเขต ที่ชัดเจนอาจตื้นหรือลึกและมีกนพื้นแบนเรียบหรือเวาเขาก็ได รองน้ํา (channels) ชองแคบหมายถึงบริเวณที่มีน้ําไหลผานอาจตื้นหรือลึกก็ได และมีขอบเขตชัดเจน พื้นที่ราบ (flats) พื้นที่ราบตองมีความชันนอยกวา 1% ไมมีขอบเขตที่ชัดเจน อาจมีลําคลองน้ําไหล ทําใหเกิดชื่อใหมคือ “พื้นที่ราบน้ําไหลผาน” (channeled flats) ที่ชัน (slopes) บริเวณที่มีความชันมากกวา 1% ซึ่งอาจจะโคงเขาหรือออกก็ได เนิน/ที่ราบสูง สวนใหญเปนพื้นที่บริเวณยอดเขา เนินเขา (hill/highlands) รูปแบบภูมิประเทศของพื้นที่ชุมน้ําบริเวณแนวชายฝง ภูมิประเทศ คําจํากัดความ พื้นที่ราบต่ําแนวฝง (low lying) บริเวณอาวริมฝง แนวชายหาด หนองน้ําเค็ม ปาชายเลน สามเหลี่ยม ปากแมน้ํา ทะเลสาบน้ําเค็ม และปากแมน้ํา โดยทั่วไปอยูใกลกับไหล ทวีปที่มีลักษณะกวาง ที่ชัน/ภูเขาแนวฝง หาดหินชัน อาวที่มีความชันสูง และหนาผาติดทะเล หาดกรวด (steep/mountainous) โดยทั่วไปอยูใกลกับไหลทวีปที่มีลักษณะแคบ ขนาดพื้นที่ในพื้นที่ชุมน้ํา ขนาด ขนาดอางอิงสําหรับพื้นที่ทั้งหมด ยกเวนชองแคบ ใหญมาก มากกวา 10×10 กิโลเมตร ใหญ 1000×1000 เมตร - 10×10 กิโลเมตร กลาง 500×500 เมตร - 1000×1000 เมตร เล็ก 100×100 เมตร - 500×500 เมตร เล็กมาก นอยกวา 100×100 เมตร

ขนาดอางอิงสําหรับพื้นที่ที่เปนชองแคบ (ความสัมพันธระหวางความกวางและความยาว) กวางหลายกิโลเมตร ; ยาวหลายรอยกิโลเมตร กวางหลายรอยเมตร; ยาวหลายสิบกิโลเมตร กวางหลายรอยเมตร; ยาวหลายพันเมตร กวางหลายสิบเมตร ; ยาวหลายรอยเมตร กวางหลายเมตร; ยาวหลายสิบเมตร

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-21


การจําแนกขนาดของตะกอนดิน ขนาดตะกอน กอนหิน (stone) ทรายหยาบ (coarse sand) ทรายละเอียด (fine sand) ทรายปนโคลน (muddy sand) โคลนปนทราย (sandy mud) โคลนหรือทรายแปง (silt or mud) ดินเหนียวปนทราย แปง (silty clay) ดินเหนียว (clay) ถานพีท (peat) อูซ (ooze)

ลักษณะทั่วไป

รอยละขององคประกอบ รอยละ ของดินเหนียว

รอยละ ของทราย

โครงสรางหยาบเปนกอนหินหรือกรวดเล็กๆ เมล็ดทรายหยาบแยกออกจากกันชัดเจนและรูสึกได

n/a n/a

n/a 80

ทรายแนน สะอาด เมล็ดทรายยากที่จะแยกออกจากกัน

10

90

เม็ดทรายสังเกตไดมีสีของโคลนผสม

20

80

ทรายและโคลนผสมในอัตราสวนที่เทากัน

50

50

โคลนหรือทรายแปง มีชองวางระหวางเม็ดโคลนเมื่อมี ความชื้น, มีทรายเปนองคประกอบอยูเล็กนอย แทบไมมีทรายเปนองคประกอบมีสีเทา มีธาตุเหล็ก เขมขน ไมมีทรายเปนองคประกอบมีความเหนียว เปนมันเมื่อมี ความชื้น มีสีน้ําตาลเขมถึงน้ําตาลปนน้ําเงิน มีสารประกอบอินทรียและมีซากพืชยอยสลายอยู มี ลักษณะคลายฟองน้ําเมื่อเปยก มีสีดําสนิท มีลักษณะเปนตะกอนน้ํามันมีสารประกอบ อินทรียสูงมีกลิ่นไฮโดรเจนซัลไฟล

70

30

90

10

100

n/a

n/a

n/a

n/a

n/a

หมายเหตุ: n/a คือไมมี ประเภทของระบบน้ําในพื้นที่ชุมน้ําที่ไมไดรับอิทธิพลจากน้ําขึ้นน้ําลง ระบบน้ํา คําจํากัดความ มีน้ําตลอดเวลา บริเวณที่มีน้ําทวมถึงขอบอยูตลอดเวลา (ยกเวนปที่แลงมาก) (permanently inundated) มีน้ําตามฤดูกาล บริเวณที่กึ่งน้ําทวมตลอดเวลา แตเมื่อน้ําลดลงก็ยังคงอยูเกือบเต็มขอบ (seasonally inundated) มีน้ําเปนชวงๆ บริเวณที่น้ําทวมชั่วคราว มีน้ําถึงขอบเปนระยะเวลาสั้นๆ (intermittently inundated) น้ําทวมเปนกรณีพิเศษ บริเวณที่มีน้ําทวมถึงในชวงเวลาหนึ่งๆ แตโดยปกติแลวไมมีน้ํา (seasonally waterlogged)

2-22

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ลักษณะของอุณหภูมิโดยแบงตามการผสมของน้ํา ประเภท คําจํากัดความ ไมมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ (amictic) ไมมีการผสมของน้ํา (มีน้ําแข็งปกคลุมตลอดเวลา) มีการเปลี่ยนแปลงนอย (oligomictic) แทบไมมีการผสมของน้ํา (มีอุณหภูมิเกือบเทากัน ตลอดทุกความลึก) มีการเปลี่ยนแปลง 1 ครั้ง (monomictic) มีการผสมของน้ําเพียง 1 ครั้งตอป มีการเปลี่ยนแปลง 2 ครั้ง (dimictic) มีการผสมของน้ําเพียง 2 ครั้งตอป มีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง (polymictic) มีการผสมของน้ําหลายครั้งตอป การจัดระดับความเค็ม ประเภท น้ําจืด (fresh) น้ํากรอย (brackish) กึ่งน้ําเค็ม (semi-saline) น้ําเค็ม (saline) น้ํามีความเค็มสูง (hypersaline) น้ําเค็มสูงจัด (hltrasaline)

ปริมาณเกลือ (กรัมตอลิตร) นอยกวา 0.5 0.5-18.0 18.0-30.0 30.0-40.0 40-100 มากกวา 100

ความเปนกรด-ดาง ของน้ํา ประเภท กรดแกมาก (very strongly acidic) กรดแก (strongly acidic) กรด (acidic) กรดออน (weakly acidic) กลาง (neutral) ดางออน (weakly alkaline) ดาง (alkaline) ดางแก (strong alkaline) ดางแกมาก (very strong alkaline)

ชวงความเปนกรด-ดาง (pH) 1.0-2.9 3.0-3.9 4.0-4.9 5.0-6.5 6.6-7.5 7.6-8.5 8.6-9.9 10.0-11.5 มากกวา 11.5

คาความโปรงใสของน้ําวัดไดโดยใช Secchi disc ประเภท ขุนทึบ (opaque) ขุนมาก (very turbid) ขุน (turbid) ใส (clear) ใสมาก (very clear)

ความลึกของน้ํา (เมตร) นอยกวา 0.05 0.05-0.25 0.25-2.50 2.5-25.0 มากกวา 25

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-23


ความสัมพันธของผลผลิตในพื้นที่ชุมน้ําตอปริมาณฟอสฟอรัสทั้งหมด ประเภท ปริมาณฟอสฟอรัส (ugm/l) สารอาหารเบาบาง (ultra-oligotrophic) นอยกวา 5 สารอาหารนอย (oligo-trophic) 5-10 สารอาหารปานกลาง (meso-eutrophic) 10-30 สารอาหารมาก (eutrophic) 30-100 สารอาหารสูงมาก (hyper-eutrophic) มากกวา 100 ตัวอยางการแบงสังคมพืช กลุมพรรณพืช พื้นที่รวม (เฮกแตร) ปาพรุน้ําจืด

4100

รอยละของพื้นที่ ครอบคลุม 67

หนอง/บึง pandanus/lepironia แหลงน้ําเปด

2050

32

100 รวม : 6250

1

ลักษณะทางกายภาพ และระบบน้ํา มีน้ําทวมเปนฤดู ดินมีแร ธาตุ และถานหินพีท มีขอบนอกติดกับแหลง น้ําเปด นอยมากที่จะแหง

ตัวอยางการจําแนกชนิดพืช (แสดงการเจริญเติบโต, รูปแบบการเจริญเติบโต และชนิดของโครงสราง) ชื่อวิทยาศาสตรและชื่อสามัญ การเจริญเติบโต รูปแบบการเจริญเติบโต พืชยืนตน (perennial) อยูเหนือน้ํา (aquatic emergent Eleocharis sphacelata Cyperus platystylis sedge) Fimbristylis denudate Eleocharis indica พืชมีเหงายืนตน (geophytic อยูเหนือน้ํา (aquatic emergent perennial) sedge) Nymphoides indica พืชยืนตน (perennial) ไมลมลุกใบลอยปริ่มน้ํา (aquatic floating leaved herb) พืชลมลุก (annual) ไมลมลุกอยูเหนือน้ํา (aquatic Myriophyllum dicoccum Dysophylla stellata emergent herb) Limnophila gratoloides Oryza meridionalis พืชลมลุก (annual) หญาน้ํา (aquatic emergent grass) Sesbania cannabina พืชลมลุก (annual) ไมพุมน้ํา (aquatic emergent shrub) Melaleuca cajuputi พืชยืนตน (perennial) ไมยืนตนน้ํา/บก (aquatic/terrestrial tree) หมายเหตุ : รายชื่อชนิดพืชอาจไมพบในทวีปเอเชีย

2-24

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ตัวอยางการบันทึกชนิดพืชและกลุมที่ควรอนุรักษ หนวยของการ วงศ (Family) การแพรกระจาย จัดหมวดหมู Crytocoryne purpurea Araceae พบเฉพาะถิ่นใน Tasek Bera

สถานภาพ ไมไดกําหนด

ตัวอยางการบันทึกชนิดพันธุสัตวและกลุมที่ควรอนุรักษ หนวยของการ วงศ (Family) การแพรกระจาย สถานภาพ จัดหมวดหมู Scleropages formosus ครอบครัวปลาตะพัด เอเชียตะวันออกเฉียงใต ใกลสูญพันธุ ครอบครัวปลา ตะเพียน

Balantiocheilos melanopterus

ลําดับ

เอเชียตะวันออกเฉียงใต ใกลสูญพันธุ

ตัวอยางตารางของ (ก) ความหนาแนนของประชากร (ข) การสืบพันธุ (ก) ความหนาแนนของประชากร ชนิด สถานภาพ จํานวนตัว จํานวนสูงสุด โดยเฉลี่ย

ลําดับ ระดับโลก (IUCN2000) ระดับโลก (IUCN2000)

วันที่ทําการ สํารวจ (เดือน/ป)

(ข) การสืบพันธุ ชนิด

จํานวนลูก

ตัวอยางการจดบันทึกกลุมสัตวที่สําคัญในแตละถิ่นที่อยูอาศัยพรอมรายละเอียดของแตละชนิด ลักษณะของถิ่นที่อยูอาศัย กลุมของสัตว ขอมูลที่มี แหลงน้ําเปด สัตวไมมีกระดูกสันหลัง กันยายน พ.ศ. 2535; ธันวาคม พ.ศ. 2539 นอยมาก มีการสํารวจหลายครั้ง) มากกวา สัตวสะเทินน้ําสะเทินบก 50 ครั้ง) ตั้งแตป พ.ศ. 2538-ปจจุบัน นกน้ํา แนวชายปาไมรวก นกน้ํา มีการสํารวจหลายครั้ง (มากกวา 50 ครั้ง) ตั้งแตป พ.ศ. 2538-ปจจุบัน ชองแคบแมน้ํา นกน้ํา สิงหาคม พ.ศ. 2537

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-25


ประเภทพื้นที่ชุมน้ํา 13 ประเภทที่พิจารณาจากลักษณะภูมิประเทศและชวงระยะเวลาของน้ํา ระยะเวลาของการมีน้ํา/ลักษณะภูมิประเทศ ลุมน้ําที่มีน้ําทวมถาวร (permanently inundated basin) ลุมน้ําที่มีน้ําทวมเปนฤดูกาล (seasonally inundated basin) ลุมน้ําที่มีน้ําทวมเปนชวงๆ (intermittently inundated basin ) ลุมน้ําที่มีน้ําเปนฤดูกาล (seasonally waterlogged basin) ชองแคบที่มีน้ําทวมถาวร (permanently inundated channel) ชองแคบที่มีน้ําทวมเปนฤดูกาล (seasonally inundated channel) ชองแคบที่มีน้ําทวมชวงๆ (intermittently inundated channel) ชองแคบที่มีน้ําเปนฤดูกาล (seasonally waterlogged channel) ที่ราบที่มีน้ําทวมถาวร (permanently inundated flat) ที่ราบที่มีน้ําทวมเปนฤดูกาล (seasonally inundated flat) ที่ราบที่มีน้ําเปนฤดูกาล (seasonally waterlogged flat) เนินที่มีน้ําเปนฤดูกาล (seasonally waterlogged slope) บริเวณที่ราบสูงที่มีน้ําเปนฤดูกาล (seasonally waterlogged highland)

2-26

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ภาคผนวก 1 รายละเอียดคําอธิบายขอมูลคุณลักษณะทางนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา ตามแนวทางของ Asian Wetland Inventory (AWI) ของพื้นทีช่ ุมน้ําในระดับที่ 4: ระดับระบบนิเวศพื้นที่ชุมน้ํา (Wetland Habitat) ชื่อและรหัสของพื้นที่ชุมน้ํา (name and code of wetland habitat) ชื่อพื้นที่ชุมน้ํา: รหัสพื้นที่ชุมน้ํา: (แมน้ําโขง - Me) ตําแหนงทางภูมิศาสตร (geographic location) • เสนรุง: มุมซายบนและมุมขวาลาง: • เสนแวง: ตะวันออกสุดและตะวันตกสุด: • จุดกึ่งกลาง: • ระบบคาพิกัดทางภูมิศาสตรและโซน UTM: แหลงขอมูลและวันบันทึกขอมูล: ลักษณะทางภูมิอากาศ (climatic characteristics) ชื่อสถานีอุตุนิยมวิทยา และที่ต้ังสถานี: • ชวงเวลาในการันทึกขอมูล (ป): • ปริมาณน้ําฝนเฉลี่ยรายป (mm) และจํานวนวันที่ฝนตก: • อุณหภูมิสูงสุด อุณหภูมิต่ําสุดรายเดือน (˚C): • ชวงของความชื้นสัมพัทธ (ระหวางเวลา 9.00 น. และ 15.00 น.): • การระเหยของน้ํารายปที่วัดจากถาดระเหย (Class A pan) (mm): • ทิศทางลม: คําอธิบายลักษณะภูมิอากาศ: แหลงขอมูล: ลักษณะทางนิเวศวิทยา (ecological character) • ลักษณะทางกายภาพ (physical features) o ลักษณะทางธรณีวิทยา (geomorphic setting) • พื้นที่ชุมน้ําในแผนดิน: (ลุมน้ํา รองน้ํา พื้นที่ราบน้ําทวมถึง ที่ลาดชัน เนิน/ที่สูง) • พื้นที่ชุมน้ําตามชายฝงทะเล: (ที่ลาดต่ําแนวฝง; ที่ลาดชัน) คําอธิบาย: แหลงขอมูล: o ชวงของความสูง (altitudinal range) • สูงสุด – ต่ําสุด (m) เหนือระดับน้ําทะเลปานกลาง: คําอธิบาย: แหลงขอมูล:

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-27


o พื้นที่ (spatial) • ขนาดพื้นที่ (ha/km2): • ชั้นขนาดพื้นที่: (เล็กมาก เล็ก ปานกลาง ใหญ ใหญมาก) • ความยาว (m/km): • ความกวาง (m/km): คําอธิบาย: แหลงขอมูล: o ลักษณะของภูมิสัณฐาน (basin morphology) • ความลึก (bathymetry): (ความลึกเฉลี่ยและชวงของระดับความลึก) คําอธิบาย: แหลงขอมูล: • เสถียรภาพของปากน้ํา (inlet stability): (สภาพของปากน้ํา ตําแหนง ความกวาง; การสะสมตะกอนปากแมน้ํา) คําอธิบาย: แหลงขอมูล: o กระแสน้ํา, คลื่น และการเคลื่อนที่ของตะกอนบริเวณชายฝง (current, waves and sediment movement): (ความสูงของคลื่น ความเร็วลม ทิศทางลม ตําแหนงและรูปรางของ แองน้ํา หินโสโครก และสันทราย: คําอธิบาย: แหลงขอมูล: • สถานภาพการกัดเซาะ: การถูกกัดเซาะจากคลื่น เสถียร มีความมั่นคง o ชนิดของดิน (soil types) ชนิดของดินที่พบ: คําอธิบาย: แหลงขอมูล o ลักษณะของตะกอนดินของพื้น (bottom sediments / substrata) ประเภทของวัตถุทองน้ํา: (หิน > 10 cm; หินกอนเล็ก – 2.5-10 cm; กรวด – 0.2-2.5 cm; ทราย < 0.2 cm; ทรายแปง < 0.06 cm ดินแปง และดินเหนียว ดินพรุ) คําอธิบาย: แหลงขอมูล:

2-28

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


o ระบบน้ํา (water regime) • พื้นที่ชุมน้ําบริเวณชายฝง: การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ํา ชวงน้ําขึ้น-น้ําลง น้ําเปน-น้ําตาย • พื้นที่ชุมน้ําในแผนดิน: ชวงระยะการทวมขังของน้ํา (น้ําทวมตลอดเวลา; น้ําทวมตาม ฤดูกาล; น้ําทวมบางชวงเวลา; น้ําขังบางฤดูกาล) น้ําไหลเขาระบบ: (ลําธาร น้ําไหลบาหนาดิน น้ําฝน น้ําใตดิน น้ําขึ้น-น้ําลง) น้ําไหลออกระบบ: (ลําธาร น้ําไหลบาหนาดิน น้ําฝน น้ําใตดิน น้ําขึ้น-น้ําลง) คําอธิบาย: แหลงขอมูล: o น้ําใตดิน (groundwater) • ระดับน้ําดินลึกมากสุด-นอยสุด: • แหลงของน้ําที่ไหลเขาระบบ: (บอบาดาล น้ําใตดิน) คําอธิบาย: แหลงขอมูล • ลักษณะทางเคมี-ฟสิกส (physico-chemical features) o น้ําผิวน้ํา (surface waters) • อุณหภูมิ (temperature) ชวงของอุณหภูมิของน้ําผิวดินในรอบป และอุณหภูมิเฉลี่ย: (˚C) สถานตรวจวัด, ความลึก และจํานวนครั้งที่ตรวจวัด: ประเภทของอุณหภูมิ: (amictic; oligomictic; monomictic; dimictic; polymictic) คําอธิบาย: แหลงขอมูล: • ความเค็ม (salinity) สูงสุด – ต่ําสุด และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล: การจัดระดับความเค็ม: (น้ําจืด น้ํากรอย กึ่งน้ําเค็ม น้ําเค็ม เค็มมาก และเค็มจัด) สถานที่ตรวจวัด, ความลึก และจํานวนครั้งที่ตรวจวัด: คําอธิบาย: แหลงขอมูล: • ความเปนกรด-ดาง (pH) การเปลี่ยนแปลงในรอบป: สถานที่ตรวจวัด, ความลึก และจํานวนครั้งที่ตรวจวัด: ระดับความเปนกรด - ดาง: (กรดจัด กรด กรดออน เปนกลาง ดางออน ดาง ดางจัด คําอธิบาย: แหลงขอมูล:

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-29


• ความโปรงใส (transparency) การเปลี่ยนแปลงในรอบป: สถานที่ตรวจวัด, ความลึก และจํานวนครั้งที่ตรวจวัด: ระดับความโปรงใสของน้ํา: (ขุนทึบ ขุนมาก ขุน ใส ใสมาก) คําอธิบาย: แหลงขอมูล: • สารอาหาร (nutrients) ชวงของไนโตรเจน (N) ในรอบป (ไนเตรตและไนโตรเจนทั้งหมด): (μ gm/l) ชวงของฟอสฟอรัส (P) ในรอบป (ออโธฟอสเฟต และฟอสเฟตทั้งหมด): (μ gm/l) สถานที่ตรวจวัด, ความลึก และจํานวนครั้งที่ตรวจวัด: ระดับของสารไนโตรเจน: (สารอาหารเบาบาง สารอาหารนอย สารอาหารปานกลาง สารอาหารมาก และสารอาหารสูงมาก). คําอธิบาย: แหลงขอมูล: o น้ําใตดิน (groundwater) คําอธิบายองคประกอบทางเคมี: แหลงขอมูล: • ลักษณะทางชีวภาพ (biological features) o พรรณพืช (vegetation) • สังคมพืชเดน (dominant assemblages) รายชื่อสังคมพืชหรือหมูไมเดน: คําอธิบายสังคมพืชหรือหมูไมเดน: (ขนาดพื้นที่ สัดสวนของสังคมพืชตอพื้นที่ชุมน้ํา (%); ลักษณะทางกายภาพ และการทวมขังของน้ํา สถานภาพ) แหลงขอมูล: • ชนิดพืชเดน (dominant species) รายชื่อพรรณไม: (ระยะการเจริญเติบโต ชีพลักษณ และลักษณะโครงสราง) คําอธิบายลักษณะเดน: แหลงขอมูล: • ชนิดพันธุตางถิ่นรุกรานและวัชพืช (alien invasive species and environmental weeds) รายชื่อพันธุตางถิ่นรุกราน และวัชพืช: คําอธิบาย (ขนาดการครอบครองพื้นที่โดยประมาณ): แหลงขอมูล:

2-30

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


• ชนิดและกลุมสิ่งมีชีวิตที่ควรอนุรักษ (species and assemblages of conservation significance รายชื่อและกลุมสิ่งมีชีวิตที่ควรอนุรักษ (สถานภาพการอนุรักษ สถานภาพทางกฎหมาย ระดับความหายาก): คําอธิบาย: แหลงขอมูล: • สังคมพืช (vegetation cover) สัดสวนของพื้นที่สังคมพืชเทียบกับพื้นที่ทั้งหมด (พบแนวขอบ -peripheral, กระจัดกระจาย -mosaic, ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมด -complete): % คําอธิบาย: แหลงขอมูล: o สัตว (fauna) • กลุมและชนิดสัตวเดน (dominant assemblages and species) รายชื่อกลุมและชนิดของสัตวที่สําคัญ: คําอธิบายลักษณะที่สําคัญ: (องคประกอบของชนิด ความมากมาย ของสัตวมีกระดูกสันหลัง และสัตวไมมีกระดูกสันหลัง). แหลงขอมูล: • ชนิดของสัตวที่ควรอนุรักษ (species of conservation significance) รายชื่อชนิดของสัตวที่ควรอนุรักษ: (พรอมทั้งระบุสถานภาพการถูกคุกคาม ระดับความ หายาก และสถานภาพทางกฎหมาย) คําอธิบาย: แหลงขอมูล: • ประชากร (populations) ระดับความชุกชุมของประชากร: คําอธิบาย: (ชนิดที่สําคัญ บริเวณพื้นที่ชุกชุมมากสุด จํานวนประชากรในวัยเจริญพันธุ ชวงเวลาการอพยพ) แหลงขอมูล: • ชนิดพันธุสัตวตางถิ่นที่รุกรานและศัตรูพืช (alien invasive and vermin/pest species) รายชื่อชนิดพันธุสัตวตางถิ่นที่รุกรานและศัตรูพืช: คําอธิบาย: แหลงขอมูล:

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-31


o ถิ่นที่อยูอาศัย (habitats) ประเภทถิ่นที่อยูอาศัย: (ชนิดสัตวที่สําคัญในแตละถิ่นที่อยูอาศัย ขอมูลที่มี) คําอธิบาย: แหลงขอมูล: o ความสําคัญดานชีววิทยาของถิ่นที่อยูอาศัย (biological significance of habitat ) การประเมินความสําคัญดานชีววิทยาที่สําคัญของถิ่นที่อยูอาศัย ตามเกณฑของแรมซาร: คําอธิบาย: แหลงขอมูล: การแบงประเภทของถิ่นที่อยูอาศัย (habitat classification) ประเภทของพื้นที่ชุมน้ํา โดยแบงตามระยะการทวมขังของน้ําและภูมิประเทศ 13 แบบ ระยะเวลาของการมีน้ํา/ภูมิประเทศ ลุมน้ําที่มีน้ําทวมถาวร (permanently inundated basin) ลุมน้ําที่มีน้ําทวมเปนฤดูกาล (seasonally inundated basin) ลุมน้ําที่มีน้ําทวมเปนชวงๆ (intermittently inundated basin) ลุมน้ําที่มีน้ําเปนฤดูกาล (seasonally waterlogged basin) ชองแคบที่มีน้ําทวมถาวร (permanently inundated channel) ชองแคบที่มีน้ําทวมเปนฤดูกาล (seasonally inundated channel) ชองแคบที่มีน้ําทวมชวงๆ (intermittently inundated channel) ชองแคบที่มีน้ําเปนฤดูกาล (seasonally waterlogged channel) ที่ราบที่มีน้ําทวมถาวร (permanently inundated flat) ที่ราบที่มีน้ําทวมเปนฤดูกาล (seasonally inundated flat) ที่ราบที่มีน้ําเปนฤดูกาล (seasonally waterlogged flat) เนินที่มีน้ําเปนฤดูกาล (seasonally waterlogged slope) คําอธิบาย: แหลงขอมูล: สินคาและบริการที่ไดจากพื้นที่ชุมน้ํา (wetland goods and services) ประเภทสินคาและบริการ: คําอธิบายสินคาหรือผลิตภัณฑและบริการที่ไดรับจากพื้นที่ชุมน้ํา: แหลงขอมูล: การใชประโยชนที่ดินและน้ํา (land and water use) ประเภทการใชประโยชนที่ดินและน้ํา ในพื้นที่ชุมน้ําแตละประเภท: คําอธิบายประเภทการใชประโยชนที่ดินและน้ํา: แหลงขอมูล:

2-32

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ประเด็นปญหาการจัดการและภัยคุกคาม (management issues and threats) รายการประเด็นปญหาและภัยคุกคาม: คําอธิบายประเด็นปญหาและภัยคุกคาม: แหลงขอมูล: แผนการจัดการและการติดตามตรวจสอบ (monitoring and management programmes) แผนการติดตาม: คําอธิบายเกี่ยวกับองคกร หนวยงาน โครงการ และบุคคลที่รับผิดชอบ: แหลงขอมูล: แบบฟอรมบันทึกขอมูล (data sheet completion) • ชื่อและที่อยูของผูบันทึกขอมูล: • วันที่เก็บขอมูล และวันที่ปรับปรุงขอมูล:

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-33


ภาคผนวก 2 สรุปหลักเกณฑในการกําหนดพื้นที่ชุมน้ําทีม่ ีความสําคัญระหวางประเทศ ตามหลัก อนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ํา หลักเกณฑ 1

2 3 4 5 6 7

8

2-34

ลักษณะ พื้นที่ชุมน้ําหนึ่งควรไดรับการพิจารณาวามีความสําคัญระหวางประเทศ หากพื้นที่ชุมน้ํานั้น ประกอบดวยประเภทของพื้นที่ชุมน้ําที่เปนตัวแทน หายาก หรือมีลักษณะพิเศษเฉพาะ ซึ่ง พบในเขตชีวภูมิศาสตรที่เหมาะสม เกื้อกูล ชนิดพันธุที่อยูในสถานภาพมีแนวโนมใกลสูญพันธุ ใกลสูญพันธุ หรือใกลสูญพันธุ อยางยิ่ง หรือชุมนุมประชากรทีถ่ ูกคุกคาม เกื้อกูล ประชากรของชนิดพันธุพืชหรือสัตวที่สําคัญ สําหรับการธํารงรักษาความหลากหลาย ทางชีวภาพของเขตชีวภูมิศาสตรหนึ่งโดยเฉพาะ เกื้อกูล ชนิดพันธุพืชหรือสัตวที่อยูในระยะวิกฤตหนึ่งของวงจรชีวิตของชนิดพันธุนั้นหรือเปน ที่อพยพในระหวางสภาวะเสื่อมโทรม ตามปกติเกื้อกูล นกน้ํา 20,000 ตัวหรือมากกวา ตามปกติเกื้อกูล รอยละ 1 ของประชากรในชนิดพันธุหรือสายพันธุหนึ่งของนกน้ํา เกื้อกูล สัดสวนที่สําคัญของสายพันธุ ชนิดพันธุ หรือวงศของปลาพื้นเมือง ระยะหนึ่งของ วงจรชีวิต ปฏิสัมพันธของชนิดพันธุ และ/หรือ ประชากรที่เปนตัวแทนของผลประโยชน และ/หรือ คุณคาของพื้นที่ชุมน้ํา และดังนั้นมีคุณูปการตอความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งโลก เปนแหลงสําคัญของอาหารสําหรับปลา วางไข ฟูมฟกตัวออน และ/หรือ เสนทางอพยพซึ่ง ปริมาณสํารองของปลาไมวาภายในพื้นที่ชุมน้ําหรือที่อื่นพึ่งพาอาศัยอยู

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ภาคผนวก 3 รายชื่อสัตวริมน้ํา ปลา และสัตวขนาดเล็ก ที่เปนดัชนีวัดคุณภาพน้ํา คุณภาพน้ําดีมาก สัตวริมน้ํา กลุมนาก นากเล็กเล็บสั้น นากใหญธรรมดา กลุมนกกินปลา นกกะเต็นนอยธรรมดา นกกะเต็นอกขาว

คุณภาพน้ําดี

คุณภาพพอใช

กลุมนกริมน้ํา นกกางเขนน้ําหลังเทา นกอุมบาตร นกเดาลมหลังเทา นกกวัก นกอีล้ํา

นกกาน้ําเล็ก

นกเดาดิน

กลุมนกอื่นๆ นกกางเขนบาน นกอีแพรดคอขาว นกจับแมลงจุกดํา นกจาบคาหัวสีสม นกพญาปากกวางอกสี เงิน นกพญาปากกวางหาง ยาว นกแซงแซวหางปลา นกตะขาบทุง นกกะปูดใหญ นกเคาแมว นกอีเสือสีน้ําตาล

นกยางเขียว นกกระแตแตแวด นกยางไฟหัวดํา นกยางเปย นกยางควาย นกกระสาแดง นกยางกรอกพันธุจีน นกทึดทือพันธุเหนือ สัตวสะเทินน้ําสะเทินบก จิ้งจกน้ํา เขียดออง แมลงริมน้ํา แมลงปอ แมลงปอเข็ม ปลา ปลาผีเสื้อ ปลามะไฟ ปลาจิ้งจก ปลาแกมช้ํา ปลาแค ปลาซิวแถบ ปลาคอ ปลาหมูลาย ปลาน้ําหมึก ปลาจาด ปลาพลวง ปลาเลียหิน

ปลากระสูบขีด ปลาซิวหนวด ปลาขี้ยอก ปลากระทิง ปลาสลาด

คุณภาพไมดี

เขียดบัว

ปลากาง ปลากริม ปลาไหล

ปลานิล ปลากินยุง ปลาอีดูดหรือปลา เทศบาล

ปลาเข็ม ปลาหมอ ปลานิล

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-35


คุณภาพน้ําดีมาก สัตวขนาดเล็กน้ําจืด ตัวออนชีปะขาวตัวแบน ตัวออนชีปะขาวเหงือก แฉก ตัวออนชีปะขาวเหงือก บนหลัง ตัวออนชีปะขาวขุดรู

คุณภาพน้ําดี

คุณภาพไมดี

ตัวออนแมลงชางกรามโต ตัวออนชีปะขาวเหงือก หนอนริ้นน้ําจืดแดง กระโปรง กุงน้ําตก ตัวออนแมลงหนอนปลอก ไสเดือนน้าํ เสีย น้ําซิโก ตัวออนแมลงปอธรรมดา กุงฝอย ไสเดือนปลอกแดง

ตัวออนแมลงปอเสือหาง เดียว ตัวออนชีปะขาวเหงือก ตัวออนแมลงปอเข็ม ขนนก ธรรมดา ตัวออนแมลงเกาะ ตัวออนแมลงปอเข็มหาง หินจั๊กแรฟู โปง ตัวออนแมลงเกาะหิน ตัวออนแมลงปอน้ําตก ตัวปอม ธรรมดา ตัวออนแมลงหนอนปลอก ตัวออนแมลงปอน้ําตก น้ําปลอกแตร เขียว ตัวออนแมลงหนอนปลอก หอยกาบน้ําจืด น้ําปลอกกรวดขาง ตัวออนแมลงหนอนปลอก หอยหมวกเจ็ก น้ําซองใบไม ตัวออนแมลงหนอนปลอก หอยเจดีย น้ําตัวออนแมลงหนอน ปลอกน้ําหัวหลิม ตัวออนแมลงหนอนปลอก น้ําทอปลอกนิ้ว ที่มา: คูมือนักสืบสายน้ํา มูลนิธิโลกสีเขียว

2-36

คุณภาพพอใช

หอยกาบเมล็ดถั่ว หอยฝาเดียว

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


ภาคผนวก 4 มาตรฐานคุณภาพในแหลงน้าํ ผิวดิน ประเภทที่ 1 (ดีมาก)

ประเภทที่ 2 (ดี) ประเภทที่ 3 (พอใช) ประเภทที่ 4 (เลว) ประเภทที่ 5 (เลวมาก)

แหลงน้ําผิวดินไดแบงการใชประโยชนออกเปน 5 ประเภท ดังนี้ ไดแกแหลงน้ําที่คุณภาพน้ํามีสภาพตามธรรมชาติโดยปราศจากน้ําทิ้งจากกิจกรรมทุกประเภท และสามารถเปนประโยชนเพื่อ (1) การอุปโภคและบริโภคโดยตองผานการฆาเชื้อโรคตามปกติ กอน (2) การขยายพันธุตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตระดับพื้นฐาน (3) การอนุรักษระบบนิเวศ ของแหลงน้ํา ไดแก แหลงน้ําที่ไดรับน้ําทิ้งจากกิจกรรมบางประเภท และสามารถเปนประโยชนเพื่อ (1) การอุปโภคและบริโภคโดยตองผานการฆาเชื้อโรคตามปกติและผานกระบวนการปรับปรุง คุณภาพน้ําทั่วไปกอน (2) การอนุรักษสัตวน้ํา (3) การประมง (4) การวายน้ําและกีฬาทางน้ํา ไดแก แหลงน้ําที่ไดรับน้ําทิ้งจากกิจกรรมบางประเภท และสามารถเปนประโยชนเพื่อ (1) การอุปโภคและบริโภคโดยตองผานการฆาเชื้อโรคตามปกติและผานกระบวนการปรับปรุง คุณภาพน้ําทั่วไปกอน (2) การเกษตร ไดแก แหลงน้ําที่ไดรับน้ําทิ้งจากกิจกรรมบางประเภท และสามารถเปนประโยชนเพื่อ (1) การอุปโภคและบริโภคโดยตองผานการฆาเชื้อโรคตามปกติและผานกระบวนการปรับปรุง คุณภาพน้ําเปนพิเศษกอน (2) การอุตสาหกรรม ไดแก แหลงน้ําที่ไดรับน้ําทิ้งจากกิจกรรมบางประเภท และสามารถเปนประโยชนเพื่อการ คมนาคม

ดัชนีคุณภาพน้ํา1/ อุณหภูมิ (Temperature)

มาตรฐานคุณภาพน้ําในแหลงน้ําผิวดิน คา เกณฑกําหนดสูงสุด2/ ตามการแบง หนวย ทาง ประเภทคุณภาพน้ําตามการใชประโยชน สถิติ ประเภท1 ประเภท 2 ประเภท 3 ประเภท 4 ประเภท5 o

-

ธ’

ธ’

ธ’

-

-

-

5-9

5-9

5-9

-

ออกซิเจนละลาย (DO)2/ มก./ล. P20 บีโอดี (BOD) มก./ล. P80

ธ ธ

6.0 1.5

4.0 2.0

2.0 4.0

-

ไนเตรต (NO3) ใน หนวยไนโตรเจน แอมโมเนีย (NH3) ใน หนวยไนโตรเจน แมงกานีส (Mn)

ความเปนกรดและดาง (pH)

วิธีการตรวจสอบ

มก./ล.

-

5.0

-

เครื่องวัดอุณหภูมิ (Thermometer) วัดขณะทําการ เก็บตัวอยาง เครื่องวัดความเปนกรดและดาง ของน้ํา (pH meter) ตามวิธีหา คาแบบ Electrometric Azide Modification Azide Modificationที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียสเปนเวลา 5 วันติดตอกัน Cadmium Reduction

มก./ล.

-

0.5

-

Distillation Nesslerization

มก./ล.

-

1.0

-

Atomic Absorption-Direct Aspiration

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร

2-37


หมายเหตุ 1/

กําหนดคามาตรฐานเฉพาะในแหลงน้าํ ประเภทที่ 2-4 สําหรับแหลงน้ําประเภทที่ 1 ใหเปนไปตาม ธรรมชาติ และแหลงน้ําประเภทที่ 5 ไมกําหนดคา 2/ คา DO เปนเกณฑมาตรฐานต่ําสุด ธ เปนไปตามธรรมชาติ ธ อุณหภูมิของน้ําจะตองไมสูงกวาอุณหภูมิตามธรรมชาติเกิน 3 องศาเซลเซียส P 20 คาเปอรเซ็นไทลที่ 20 จากจํานวนตัวอยางน้ําทั้งหมดที่เก็บมาตรวจสอบอยางตอเนื่อง P 80 คาเปอรเซ็นไทลที่ 80 จากจํานวนตัวอยางน้ําทั้งหมดที่เก็บมาตรวจสอบอยางตอเนื่อง มก./ล. มิลลิกรัมตอลิตร แหลงที่มา: ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดลอมแหงชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงเสริมและ รักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมแหงชาติ พ.ศ. 2535 เรื่อง กําหนดมาตรฐานคุณภาพน้ําในแหลงน้าํ ผิวดิน

เกณฑคุณภาพน้ําที่เหมาะสมตอการดํารงชีวิตของสัตวน้ํา ดัชนีคุณภาพน้ํา หนวย ระดับความเขมขน หมายเหตุ ที่เหมาะสม อุณหภูมิ (Temperature) ํซ 23-32 โดยมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ และไม มีการเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็ว ความเปนกรด-ดาง (pH) 5-9 โดยมีการเปลี่ยนแปลงในรอบวัน ไมควร เกินกวา 2.0 หนวย ออกซิเจนละลาย (DO) มก./ล. ต่ําสุด 3 คารบอนไดออกไซด (CO2) มก./ล. สูงสุด 30 และมีออกซิเจนละลายอยูอยางเพียงพอ ความขุน (Turbidity) วัดดวย Secchi disc ซม. 30 - 60 - ความโปรงใส (Transparency) สูงสุด 25 - สารแขวนลอย (Suspended solids) ที่มา: เอกสารวิชาการ สถาบันประมงน้ําจืดแหงประเทศไทย ฉบับที่ 75/2530 เรื่อง เกณฑคุณภาพน้ําเพื่อการ คุมครองทรัพยากรสัตวน้ําจืด

2-38

คูมือการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา : ฉบับที่ 2 คูมอื การสํารวจขอมูลพื้นที่ชุมน้ําและการจัดทําฐานขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตร


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.