Creative Thailand Magazine

Page 1

กรกฎาคม 2559 ปีที่ 7 I ฉบับที่ 10 แจกฟรี

Insight ก่อนจะฮิต คิดอย่างไร Creative Startup มี่ป๋อง… ไหนเล่าซิ The Creative จอห์น วิญญู ตลกร้ายของสังคมไทย CREATIVE THAILAND I 1


CREATIVE THAILAND I 2


“HUMOR TELLS YOU WHERE THE TROUBLE IS.”

จากหนังสือเรื่อง Alone in America: The Search for Companionship (1986) โดย Louise Bernikow​ CREATIVE THAILAND I 3

gratisography.com

อารมณ์ขันจะชี้ให้เห็นว่าปัญหาอยู่ที่ไหน


Contents : สารบัญ

The Subject

6

พลังยิง่ ใหญ่ในความน่ารัก / แปะรอยยิม้ ลงบนหน้า แปะรอยรักลงบนโลก / Smile Mirror กระจกรักยิม้ / เสียงหัวเราะสาธารณะ

Creative Resource Featured Book / Documentary / Movie / Book

8

Matter 10 วัสดุยางซิลิโคนกับอุตสาหกรรมบันเทิง

Local Wisdom

12

Cover Story

14

ตะลุง ตลก ตลาด

LOL: Large Opportunity of Laughing “ทำ�ฮาหากิน”

Insight 20 ก่อนจะฮิต คิดอย่างไร

Creative Startup

22

Creative City

24

The Creative

28

Creative Will

34

มี่ป๋อง… ไหนเล่าซิ

Reykjavik ความสุขไม่มีวันหยุด

จอห์น วิญญู ตลกร้ายของสังคมไทย

Laughter is the Best Medicine

บรรณาธิการอำ�นวยการ l อภิสทิ ธิ์ ไล่สตั รูไกล ทีป่ รึกษา l ชมพูนทุ วีรกิตติ, พิชติ วีรงั คบุตร, จรินทร์ทพิ ย์ ลียะวณิช, พจน์ องค์ทวีเกียรติ บรรณาธิการ l พัชรินทร์ พัฒนาบุญไพบูลย์ กองบรรณาธิการ l ศิริอร หริ่มปราณี, มนฑิณี ยงวิกุล, เลอชาติ ธรรมธีรเสถียร, ชลดา เจริญรักษ์ปัญญา, อําภา น้อยศรี, ปิยวรรณ กลิ่นศรีสุข, นันท์นรี พานิชกุล เลขากองบรรณาธิการ l วรรณเพ็ญ บุญเพ็ญ ศิลปกรรม l ชิดชน นินนาทนนท์ สมาชิกสัมพันธ์ l ปิยะพร สวัสดิ์สิงห์ ประสานงานกองบรรณาธิการ l ณัฏฐนิช ตัณมานะศิริ ช่างภาพและมัลติมีเดีย l ชาคริต นิลศาสตร์ จัดทำ�โดย l ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 24 อาคารเอ็มโพเรียมทาวเวอร์ 622 สุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทร. 02 664 7667 แฟกซ์. 02 664 7670 ติดต่อลงโฆษณาได้ที่ creativethailand@tcdc.or.th พิมพ์ที่ l บริษัท สยามพริ้นท์ จำ�กัด โทร. 02-509-0068 แฟกซ์. 02-509-2971-2 จำ�นวน 30,000 เล่ม นิตยสารฉบับนีใ้ ช้หมึกพิมพ์จากนา้ํ มันถัว่ เหลืองทีไ่ ม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทัง้ ยังเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม และใช้กระดาษ รีไซเคิล ซึ่งเป็นผลผลิตของผู้ประกอบการไทย จัดทำ�ภายใต้โครงการ “Creative Thailand สร้างเศรษฐกิจไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์” โดยศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ สำ�นักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ซึง่ มีเป้าหมายในการเผยแพร่ความรูเ้ กีย่ วกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) และผลักดันการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

อนุญาตใหใชไดตามสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส CREATIVE THAILAND I 4 แสดงที่มา-ไมใชเพื่อการคา-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย


gratisography.com

Editor’s Note : บทบรรณาธิการ

ความเบิกบานใจเป็นอารมณ์ที่ผู้คนมองหาในทุกโอกาส ทุกช่วงเวลา บ่อยครั้ง ที่เกิดจากบทสนทนา และเหตุการณ์ในชีวิตประจำ�วัน แต่มนุษย์เราก็แยบยล พอที่จะไม่ปล่อยผ่านความสุขนั้น แต่เลือกที่จะสร้าง กักเก็บ และถ่ายทอดให้ เกิดความสุขทีเ่ ปล่งเป็นเสียงหัวเราะได้อย่างน่าทึง่ ความแยบยลนีเ้ อง ได้น�ำ ไป สู่การสร้างสรรค์ผลผลิตที่เป็นจุดกำ�เนิดความขบขันของยุคสมัยซึ่งสะท้อนถึง ความเป็นไปของสังคม ประเพณี และเรื่องราวของวิถีชีวิต จอร์จ เมเรดิธ (George Meredith) นักเขียนชาวอังกฤษยุควิกตอเรียน เจ้าของรางวัลโนเบล ได้เขียนบทความคลาสสิก “An Essay on Comedy” ที่ แบ่งความขำ�ขันออกเป็นสีป่ ระเภท การประชดประชัน (Satire) คือความขบขัน จากการได้ท�ำ ร้ายด้วยคำ�พูด การย้อนแย้ง (Irony) ถ้อยคำ�เสมือนปกติแต่แท้จริง คือการเชือดเฉือน ตลก (Humour) การล้อเล่น หยอกเย้า ล้อเลียน และ สุขนาฏกรรม (Comedy) ความเบิกบานจากความเข้าใจสถานการณ์อย่าง ถ่องแท้ ซึ่งเมเรดิธจัดว่าเป็นความขบขันขั้นสูงสุดที่ก่อให้เกิดความปีติทาง อารมณ์ นับเป็นความน่าสนใจอย่างยิ่งที่เบื้องหลังรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของ คนเรานั้นมีความซับซ้อน แม้กระทั่งเจ้าของเสียงหัวเราะเองก็ยังนึกไม่ถึง ความขบขันมีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับประสบการณ์ พืน้ เพ หยัง่ ลึก ไปถึงเชื้อชาติ ความเชื่อในแต่ละสังคม นั่นทำ�ให้เราต้องเรียนรู้ว่า แม้เสียง หัวเราะจะเป็นภาษาสากล แต่ความขบขันนั้นไม่ใช่ จึงไม่แปลกเมื่อมุกตลก

เสียดสีระหว่างชาวอังกฤษกับชาวฝรั่งเศส ทำ�ให้คนเอเชียงุนงง หรือความช่าง ล้อเลียนแบบไทยๆ กลับเป็นเรื่องอ่อนไหวของชาวตะวันตก ดังนั้นหากมอง ความสุขจากเสียงหัวเราะในรูปของการถ่ายทอดสูง่ านศิลปะและงานสร้างสรรค์ แล้ว ความเข้าอกเข้าใจความแตกต่างและทัศนคติของผูค้ น ย่อมเป็นปัจจัยสำ�คัญ ที่จะขัดเกลาให้งานสร้างสรรค์นั้นสื่อสารในระดับสากลได้อย่างกลมกล่อม สำ�หรับสังคมไทยแล้ว ผลผลิตแห่งเสียงหัวเราะนั้น มีรากฐานจากความ เป็นท้องถิ่นและประเพณีที่ต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค เรานับว่าโชคดี เพราะ หากเรามองเห็นความเจ็บชํ้าและโศกเศร้าจากเพลงบลูส์ที่มาจากแรงงานทาส ไร่ฝา้ ยในเขตใต้ของอเมริกา แต่ในงานสร้างสรรค์ของไทย เราจะมองเห็นความ สุขฉาบเสียงหัวเราะจากเพลงเกี่ยวข้าว เพลงฉ่อย ลำ�ตัด หรือเพลงแหล่ของ แต่ละท้องถิ่นด้วยซํ้าไป ผู้คนของเราจึงมีความสามารถในการสร้างความสุข จากความบันเทิงใจและความขบขันได้อย่างไม่เคอะเขิน ซึ่งสะท้อนออกมาใน รูปแบบของผลผลิตทางความคิด และถ่ายทอดสู่งานบริการอื่นๆ คุณลักษณะ ของการแสดงออกซึง่ ความสบายใจเหล่านีน้ นั้ นับเป็นธรรมชาติทคี่ นไทยไม่ตอ้ ง ปรุงแต่งหรือประดิษฐ์ เพียงแต่ถ้าสามารถสร้างสรรค์ “ความขบขัน” และ “ความสบายใจ” ให้มีชั้นเชิง เป็นอรรถรสที่เข้าถึงสังคมอื่นได้อย่างกว้างขวาง ก็จะทำ�ให้ธรรมชาติของตัวตนเรานั้น มีปฏิสัมพันธ์และสื่อสารกับผู้คนของโลก ได้กลมกลืนยิ่งขึ้น อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล บรรณาธิการอํานวยการ Apisit.L@tcdc.or.th

CREATIVE THAILAND I 5


The Subject : ลงมือคิด เรื่อง: ชาคริต นิลศาสตร์ และ วิชัย สว่างพงศ์เกษม

คุมะมง เป็นคาแรกเตอร์ท่ถี กู สร้างขึน้ เพื่อเป็นมาสคอตประจำ�เมืองในปี 2010 โดยมีหน้าทีโ่ ปรโมตการท่องเทีย่ วภายใต้โครงการ Kumamoto Surprise ของ จังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดทางผ่านที่ไม่ค่อย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเท่าที่ควร โดยชื่อคุมะมงนั้น มีที่มาจาก ชื่อจังหวัดคุมาโมโตะ ที่พ้องกับคำ�ว่า คุมะ ซึ่งแปลว่า หมี ทั้งๆ ที่เมืองนี้ ไม่มีหมีเลยแม้แต่ตัวเดียว มานาบุ มิซูโน (Manabu Mizuno) ได้ออกแบบคุมะมง โดยใช้เส้น โค้งเว้าทำ�ให้ดูเป็นมิตร อ่อนโยน โดยมีสีประจำ�ตัวคือ ดำ� ขาว และแก้มที่ แดง ซึ่งทำ�ให้เด็กๆ วาดตามได้ง่าย โดยแก้มของคุมะมงที่เป็นสีแดงนั้นสื่อ ถึงการเป็น “ดินแดนแห่งไฟ” ซึง่ เป็นฉายาของจังหวัดคุมะโมโตะในอดีต ทว่า หากมีใครก็ตามถามคุมะมงว่า ทำ�ไมถึงแก้มแดง คุมะมงก็จะตอบว่า “เพราะ ฉันกินมะเขือเทศและออกกำ�ลังกายเป็นประจำ�” นอกจากนั้น มิซูโนยังได้ สร้างให้เจ้าหมีตวั นีม้ บี คุ ลิกและลักษณะนิสยั ทีแ่ ตกต่างจากมาสคอตตัวอืน่ ๆ เพื่อให้คุมะมงมีชีวิตมากกว่าการเป็นเพียงมาสคอตธรรมดา ครั้งแรกที่เจ้าหมีคุมะมงปรากฏตัวออกมาได้สร้างความฮือฮาและ ประหลาดใจไว้มากมาย เริม่ จากการใส่ชดุ คุมะมงยืนแจกนามบัตรแนะนำ�ตัว และต่อมาได้มีข่าวประกาศตามหาเจ้าหมีตัวนี้ ทำ�ให้คนญี่ปุ่นล้วนให้ความ สนใจเจ้าหมีคมุ ะมงและจังหวัดคุมาโมโตะมากขึน้ เรือ่ ยๆ โดยเหตุผลสำ�คัญ ที่ทำ�ให้ชาวญี่ปุ่นหลงรักคุมะมงนั้น นอกจากคาแรกเตอร์เฉพาะตัวที่มีความ ตลกขบขัน น่ารัก สนุกสนาน มีชีวิตชีวา และสามารถทำ�อะไรหลายอย่าง ได้เหมือนคนทีม่ ีชีวิตจริงๆ แล้ว การทำ�ให้คุมะมงสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ และความรู้สึกต่างๆ ได้เทียบเคียงกับมนุษย์ก็ยังสร้างความผูกพันให้กับผู้ที่ พบเห็นมันได้มากขึ้นอีกด้วย

pbs.twimg.com

syncmusic.jp

sinaimg.cn

พลังยิ่งใหญ่ในความน่ารัก

ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นประมาณการรายได้ของจังหวัดคุมาโมโตะ ในระยะเวลา 2 ปี ตัง้ แต่พฤศจิกายน 2011 ถึง ตุลาคม 2013 พบว่า มีการสร้าง รายได้จากสินค้าที่ใช้คุมะมงเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้มากถึง 1.2 แสนล้านเยน (ราว 4 หมื่นล้านบาท) และในปี 2015 เพียงปีเดียว ก็ทำ�รายได้ได้อย่างน้อย 100,780 ล้านเยน (ประมาณ 3.1 หมืน่ ล้านบาท) โดยความสำ�เร็จของคุมะมง เกิดจากการทีไ่ ม่ได้มกี ารเรียกเก็บค่าลิขสิทธิใ์ นการนำ�ตัวละครไปใช้ คุมะมง จึงถูกนำ�ไปผลิตเป็นสินค้าต่างๆ มากมาย จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปทั้งใน ประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ยิ่งคุมะมงเป็นที่รู้จักมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เป็นเสมือนการช่วยโฆษณาจังหวัดคุมาโมโตะไปพร้อมๆ กัน เมื่อเดือนเมษายน 2016 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้ง ใหญ่ขึ้นที่จังหวัดคุมาโมโตะ โดยมีผู้คนจำ�นวนมากบนโลกออนไลน์ได้ออก มาให้กำ�ลังใจประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ ด้วยการเผยแพร่รูปภาพของ คุมะมง และเขียนข้อความให้กำ�ลังใจ พร้อมๆ กับอธิษฐานให้เหตุการณ์ ร้ายๆ ผ่านไปได้ด้วยดี พร้อมติดแฮชแท็ก #PrayforKumamoto เพื่อช่วย ลดทอนความเศร้าโศกของผู้ประสบภัยที่เกิดขึ้น คุมะมง จึงไม่ใช่แค่ตวั ละครธรรมดา แต่เปรียบเสมือนโฆษกและตัวแทน ที่ทำ�หน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดคุมาโมโตะได้เป็นอย่างดี เป็นการสร้าง มูลค่าเพิ่มอย่างมหาศาลให้แก่ภูมิภาคและประเทศ ผ่านการออกแบบ คาแรกเตอร์ที่ดูเป็นมิตรกับผู้คนทุกเพศทุกวัย และคุมะมงยังถือเป็นแบบ อย่างของคาแรกเตอร์ที่ออกแบบได้อย่างทรงพลังเป็นอย่างมากด้วยการ สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับทุกๆ คนที่พบเห็น ที่มา: บทความ “คุมะมง สร้างรายได้ทะลุแสนล้านเยนครั้งแรก” (9 มีนาคม 2016) จาก bangkokbiznews.com / บทความ “มารู้จักคุณพ่อหมี Kumamon กัน” (22 กรกฎาคม 2016) จาก gademaru.wordpress.com / บทความ “Kumamon, the Japanese Bear Character of the Kumamoto Prefecture” จาก deepjapan.org / บทความ “Where are my cheeks?! Mouth-watering, cheek-dropping delicious Kumamoto produce” จาก dentsu-pr.com

CREATIVE THAILAND I 6


hu2.com

ที่มา: hu2.com

Smile Mirror กระจกรักยิ้ม ด้วยความเชือ่ ว่าการออกแบบสามารถสร้างความสุขได้ ซาลิห์ เบิรก์ อิลฮาน (Salih Berk Ilhan) นักออกแบบชาวตุรกีจึงออกแบบ Smile Mirror กระจก รักยิม้ ซึง่ เป็นส่วนหนึง่ ของโครงการ Uplift ทีม่ งุ่ พัฒนาคุณภาพชีวติ ให้ก�ำ ลังใจ และสร้างช่วงเวลาดีๆ ให้กบั ผูป้ ว่ ยโรคมะเร็ง โดยกระจกวิเศษ Smile Mirror นี้ พัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีตรวจจับการเคลื่อนไหวของใบหน้าและจะสะท้อน ภาพให้เห็นก็ตอ่ เมือ่ ผูส้ อ่ งยิม้ ให้กระจกเท่านัน้ เพือ่ กระตุน้ ให้ผใู้ ช้งานได้เห็น ใบหน้าเปี่ยมสุขของตัวเอง เบิร์กได้แรงบันดาลใจในการออกแบบกระจกนี้มาจากผู้รอดชีวิตจาก โรคมะเร็งคนหนึ่ง ที่บอกเขาว่าในขณะที่เธอเป็นมะเร็ง เธอรู้สึกแย่ทุกครั้งที่

ส่องกระจก แล้วรู้สึกว่ามีมะเร็งอยู่ในร่างกายของเธอ เขาจึงพยายามพัฒนา กระจกที่จะทำ�ให้ผู้ป่วยมีรอยยิ้มทุกครั้งที่ส่องมัน โดยกระจก Smile Mirror จะออกจำ�หน่ายให้กับโรงพยาบาลและบุคคลทั่วไปในช่วงปลายปีนี้ เพื่อเป็น ตัวช่วยสำ�คัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถผ่านช่วงเวลาร้ายๆ ไปได้ด้วยรอยยิ้ม ของตัวเอง ที่มา: berkilhan.com

improveverywhere.com

เสียงหัวเราะสาธารณะ improveverywhere.com

หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะแปะรอยยิ้มลงบนใบหน้า เมื่อเห็นสติกเกอร์ เจ้าปีศาจน้อยที่แอบส่งสายตามองมาจากชักโครก แต่สิ่งหนึ่งที่อาจมองไม่ เห็นด้วยตา คือความห่วงใยต่อธรรมชาติของ Hu2 Design ที่อยู่เบื้องหลัง สติกเกอร์ชวนอมยิ้มนี้ Hu2 Design เป็นบริษัทผลิตสติกเกอร์แฮนด์เมดที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการคิดไปจนถึงผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทผลิตสติกเกอร์ที่มี สำ�นักงานใหญ่อยูใ่ นเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมีฐานการออกแบบ และผลิตในฝรั่งเศสนี้ ล้วนผลิตโดยปราศจากส่วนประกอบของพีวีซีและ สารเคมีทเี่ ป็นอันตราย บรรจุมาในบรรจุภณั ฑ์ทยี่ อ่ ยสลายได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และนอกจากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ลวดลายของ สติกเกอร์จำ�นวนไม่น้อยยังช่วยสื่อสารให้ผู้คนตระหนักถึงผลกระทบต่อ ธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสติกเกอร์แปะสวิตซ์ไฟลายช้างนํ้าขั้วโลกที่ร้อนจน ละลายเพราะหลอดไฟทีอ่ าจเปิดนานเกินไป หรือสติกเกอร์แปะก๊อกนํา้ ทีเ่ ตือน ให้ระลึกถึงค่าใช้จ่ายจากการเปิดนํ้าทิ้งไว้ เพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้งานร่วม กันลดการใช้พลังงาน เพราะ Hu2 ในชื่อ Hu2 Design นั้นหมายถึง Human Factor หรือปัจจัยมนุษย์ทเี่ ตือนให้ตระหนักว่าเราทุกคนล้วนเป็นองค์ประกอบ สำ�คัญในการอนุรักษ์ธรรมชาติ การออกแบบด้วยความคิดสร้างสรรค์ ของ Hu2 Design จึงเป็นตัวอย่างหนึ่งที่บอกเราว่า อารมณ์ขัน ธุรกิจ และ สิ่งแวดล้อม สามารถไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน

berkilhan.com

แปะรอยยิ้มลงบนหน้า แปะรอยรักลงบนโลก

ปลอมตัวเป็นหุ่นลองเสื้อ หยุดเวลาหมู่ในที่สาธารณะ แสดงโชว์เต้นรำ�จาก บานหน้าต่างห้างสรรพสินค้า พากันขึน้ รถไฟใต้ดนิ โดยไม่สวมกางเกง จัดวง ออร์เคสตรากลางแจ้งที่เปิดให้ใครก็ได้มาเป็นวาทยกร และการแสดงอื่นๆ อีกกว่า 150 โครงการ คือผลงานของกลุ่ม Improv Everywhere ในระยะ เวลาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา Improv Everywhere คือกลุม่ ผูส้ ร้างเสียงหัวเราะในทีส่ าธารณะทีก่ อ่ ตัง้ โดยชาร์ลี ท็อดด์ (Charlie Todd) ที่มีอาสาสมัครเคยมาร่วมกัน “สร้าง สถานการณ์” กว่าหมื่นคน โดยความคิดแรกเริ่มนั้นมาจากการเล่นแผลงๆ ในหมู่เพื่อนเท่านั้น ทว่าท็อดด์พบในเวลาต่อมาว่า อินเทอร์เน็ตช่วยให้เขา กระจายเสียงหัวเราะได้ เขาจึงบันทึกภาพและคำ�บรรยายพร้อมเผยแพร่ผา่ น บล็อกก่อนที่จะมีเว็บไซต์วิดีโออย่างยูทูบเสียอีก ในปัจจุบัน แม้คลิปบันทึกเหตุการณ์การแสดงต่างๆ ของ Improv Everywhere จะเผยแพร่ผ่านยูทูบแล้วกว่า 100 คลิป มีผู้ติดตามแชนแนล เกือบ 2 ล้านคน และมียอดเข้าชมกว่า 400 ล้านครั้ง กระนั้นท็อดด์ยังคง ยืนยันความตั้งใจเดิมว่า Improv Everywhere จะสร้างเสียงหัวเราะและ สังเกตปฏิกิริยาของผู้คนโดยไม่แสวงหากำ�ไรและไม่พยายามจะเปลี่ยนโลก แต่สิ่งสำ�คัญมีเพียงความสนุกของผู้เข้าร่วม และเสียงหัวเราะของผู้รับชม ที่น่าจะเป็นส่วนประกอบสำ�คัญมากกว่าที่จะทำ�ให้โลกนี้น่าอยู่ ด้วยการช่วย ให้ทุกคนสามารถหัวเราะได้โดยที่ไม่ต้องกังวลกับอะไร ที่มา: improveverywhere.com / บทสัมภาษณ์ “Improv Everywhere: An Interview with Charlie Todd” จาก personalbrandingblog.com / บทสัมภาษณ์ “Prankster Charlie Todd On YouTube & The Success Of Improv Everywhere” จาก adweek.com

CREATIVE THAILAND I 7


Creative Resource : วัตถุดิบทางความคิด เรื่อง: ชลดา เจริญรักษ์ปัญญา และ อำ�ภา น้อยศรี

CREATIVE THAILAND I 8


F EAT U RED BOOK 1) Design Funny: A Graphic Designer’s Guide to Humor โดย Heather Bradley จากหลักฐานทีว่ า่ เด็กทารกจะเริม่ รูจ้ กั อารมณ์ขนั เมือ่ มีอายุประมาณ 18 เดือน และนักประวัตศิ าสตร์ ค้นพบภาพวาดของมนุษย์ถํ้าที่เชื่อว่าเป็นการ ล้อเลียนชายคนหนึง่ ทำ�ให้เห็นภาพการอยูร่ ว่ มกัน มานานหลายหมืน่ ปีของของมนุษย์กบั อารมณ์ขนั แม้วา่ ความตลกจะเป็นเรือ่ งปัจเจกบุคคล และมุก ตลกหนึ่งที่ส่งผลให้บางคนขำ�จนหายใจไม่ทัน อาจทำ�ให้อีกคนงุนงงสงสัยว่ามันตลกตรงไหน แต่ความตลกก็ยังคงถูกใช้เป็นเครื่องมือในการ เชือ่ มโยงสิง่ ต่างๆ เข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี หาก รู้จักใช้มันอย่างแยบยล

หนังสือเล่มนีก้ ล่าวถึงการสร้างงานกราฟิกที่ ทัง้ ตลกขบขันและยังสามารถขายได้ดว้ ย เริม่ จาก ขั้ น ตอนการคิ ด ทฤษฎี ข องอารมณ์ ขั น ที่ แ บ่ ง อารมณ์ขันออกเป็นรูปแบบต่างๆ ทั้งตลกแบบ เสียดสี หรือตลกแบบผู้มีการศึกษา เพื่อช่วยให้ นักออกแบบเข้าใจและสร้างงานที่เข้าถึงกลุ่ม เป้าหมายได้ตรงจุด, 42 เทคนิคการสร้างงาน กราฟิกแบบตลกขบขัน พร้อมเหตุผลสนับสนุน เช่น การเปลีย่ นวัตถุให้ท�ำ หน้าตลก เพราะมนุษย์ มักมองสิง่ ของต่างๆ เป็นใบหน้า เนือ่ งจากสมอง ของเรามีสว่ นทีท่ �ำ หน้าทีเ่ ฉพาะในการรูจ้ �ำ ใบหน้า เมื่อเรามองเห็นใบหน้า สมองจะหลั่งฮอร์โมนที่ สร้างความเพลิดเพลินเพือ่ ช่วยให้เรารูส้ กึ เชือ่ มโยง กับสิ่งที่เห็น, ความตลกของการอยู่ผิดที่ผิดทาง (แต่ถูกเวลา) ไปจนถึงความตลกที่เข้าใจเฉพาะ กลุ่ม พร้อมตัวอย่างประกอบจากนักออกแบบ

ทั่วโลก รวมถึงเทคนิคการขายงานและนำ�เสนอ ต่อลูกค้าให้เชื่อมั่น เพื่อนำ�ความคิด (ที่ดูเหมือน จะเป็นเรื่องตลกไร้สาระ) ไปใช้จริง โดยชี้ให้เห็น ถึงความคุม้ ค่าในการลงทุน และสามารถตอบสนอง ในสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังได้ หลายครัง้ ทีแ่ บรนด์หนั ไปเชือ่ มัน่ กับบางสิง่ ที่ จริงจัง และมองข้ามความตลกหรืออารมณ์ขนั ไป แต่ส�ำ หรับนักออกแบบทีร่ กั จะทำ�งานล้อเลียนแล้ว ผู้เขียนได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ไม่มีใครที่จะหยุด คุณจากความสนุกได้ ไม่มีใครสามารถบังคับให้ คุณทำ�เรื่องน่าเบื่อ ถ้าคุณต้องการจะออกแบบ งานเสียดสี บ้าบอ ไร้สาระ จงทำ� และจำ�ไว้ให้ดี ว่า ไม่มีใครที่จะตลกได้เท่าคุณ”

BOOK

D OCU M E N TA R Y

2) Emotionomics: Leveraging Emotions for Business Success โดย Dan Hill

4) Misery Loves Comedy กํากับโดย Kevin Pollak

เมือ่ อารมณ์ความรูส้ กึ ของผูบ้ ริโภคเป็นส่วนสำ�คัญในการเลือกซือ้ สินค้าเพือ่ สนองความพึงพอใจ ผูข้ าย สินค้าหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์จำ�เป็นต้องเข้าใจ ‘อารมณ์’ ที่มีผลต่อยอดขายสินค้านั้นด้วย ยิ่งในยุค Commoditization หรือสินค้าทีแ่ ตกต่างกันแต่การทีผ่ บู้ ริโภคเห็นว่าสินค้าทีแ่ ตกต่างกันนัน้ แทบจะไม่มี ความต่างกันเลย ตลอดจนการแข่งขันทางการค้าที่สูงขึ้น และอำ�นาจการต่อรองซึ่งถ่ายเทไปอยู่ที่ผู้ซื้อ มากขึ้น ทำ�ให้เทคนิคด้านการขายเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ อีก หนังสือเล่มนี้ได้เปิดเผยการสร้างความสัมพันธ์ด้านอารมณ์ของผู้บริโภคต่อสินค้า การรักษาคุณค่า และภาพลักษณ์สินค้า รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้โดนใจ และอีกหลายด้านที่เกิดจากการใช้ ประโยชน์ด้านอารมณ์สำ�หรับการดำ�เนินธุรกิจ

เมื่อมองจากภายนอก นักแสดงตลกคือผู้สร้าง ความสุขและเสียงหัวเราะให้ผู้อื่น แต่จะมีกี่คนที่ รู้จักและเข้าใจความรู้สึกของนักแสดงตลก ว่า พวกเขานั้นมีความรู้สึกเศร้า เหงา และทุกข์ไม่ ต่างจากใครๆ แต่สิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่ทั้งหมด ทว่ า เป็ น เพี ย งส่ ว นหนึ่ ง ของอาชี พ และหน้ า ที่ สารคดีเรื่อง Misery Loves Comedy พาคุณไป พบปะพู ด คุ ย กั บ นั ก แสดงตลกที่ บ อกเล่ า ถึ ง ประสบการณ์ชีวิตและแรงบันดาลใจ ที่ทำ�ให้ พวกเขาสนใจและใผ่ฝันอยากเป็นตลก เบือ้ งหลัง ความสำ�เร็จอันยิง่ ใหญ่ในฐานะนักแสดงตลกทีย่ งั คงต้องต่อสูก้ บั ความสิน้ หวังในชีวติ และเรือ่ งราว ในอีกหลายแง่มมุ ทีพ่ วกเขาไม่สามารถแสดงออก ได้ในฐานะนักแสดงตลกเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง หรือบนเวทีการแสดง

MOVIE 3) Jackass Presents Bad Grandpa กำ�กับโดย Jeff Tremaine หนังตลกจัดฉากแกล้งคนทีเ่ ปลีย่ นวิธกี ารเล่าเรือ่ งใหม่ให้เป็นการเดินทางของคุณตาทีพ่ าหลานชายข้าม อเมริกามาส่งให้กับพ่อของเด็กพร้อมกับศพของคุณยายที่นอนอยู่ท้ายกระโปรงรถ ความสนุกของสอง ตาหลานเกิดขึน้ ตามสถานทีท่ พี่ วกเขาแวะผ่าน เรือ่ งฮาๆ ผสมเรือ่ งแหวะ เรือ่ งโจ๊กใต้สะดือ รวมถึงเรือ่ ง ผิดศีลธรรมทีถ่ กู เขียนอยูใ่ นบท ถูกถ่ายทอดผ่านการแสดงของเหล่านักแสดงหลักและนักแสดงจำ�เป็นที่ ไม่ได้รู้ตัวล่วงหน้าว่าได้เป็นหนึ่งในนักแสดงหน้าใหม่โดยไม่ตั้งใจผ่านกล้องแบบแคนดิดที่ซ่อนอยู่ตาม จุดต่างๆ คุณตาแบบหลอกๆ และหลานปลอมๆ ที่สวมบทสุดเกรียนและใสซื่อได้อย่างน่าเอ็นดู ช่วย ให้บางมุกดูตลกลื่นไหล และดาราจำ�เป็นก็ดูสนุกสนานในเหตุการณ์สมมุติ ขณะที่บางคนก็ดูตกใจอยู่ ไม่น้อย แต่ก็เรียกเสียงฮาจากคนดูไปได้มากทีเดียว พบกับวัตถุดิบทางความคิดเหล่านี้ได้ที่ TCDC Resource Center CREATIVE THAILAND I 9


Matter : วัสดุต้นคิด

เรื่อง: ชมพูนุท วีรกิตติ และ ปิยวรรณ กลิ่นศรีสุข

ท่ามกลางวัสดุหลากหลายทีเ่ ข้ามาอยูร่ อบตัวผูบ้ ริโภคมากยิง่ ขึน้ ยางซิลโิ คน เป็นวัสดุอิลาสโตเมอร์ (คล้ายยางธรรมชาติ) ประกอบด้วยสารซิลิโคน โดย มีซิลิกอนอยู่รวมกับคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน มีคุณสมบัติที่เสถียร ไม่ท�ำ ปฏิกริ ยิ าเคมี โดยยังมีคณุ สมบัตทิ ดี่ แี ละใช้ประโยชน์ได้เหมือนเดิม จาก คุณสมบัตทิ ด่ี แี ละการขึน้ รูปเป็นผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ ได้งา่ ย แถมมีอายุการใช้งาน นานกว่าในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น ฝน หิมะ ความชื้น โอโซน หรือรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ ทนทานต่อสภาพอากาศได้นานปี และยังเป็น ฉนวนไฟฟ้าที่ดีด้วย ที่สำ�คัญยังคงคุณสมบัติความยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดีใน ช่วงอุณหภูมิที่กว้างตั้งแต่ -55 ถึง 300 องศาเซลเซียส และทนต่อสภาวะ แวดล้อมทีร่ นุ แรง ให้สมั ผัสทีด่ แี ก่ตวั ผลิตภัณฑ์ มีความแข็งให้เลือกได้หลาย แบบ ตั้งแต่นิ่มมากจนถึงแข็ง ไม่มีกลิ่นหรือรสชาติ และมีสีจากใสไปจนสี สดใสต่างๆ คุณสมบัติมากมายเหล่านี้ทำ�ให้มีการใช้ยางซิลิโคนในหลาย อุตสาหกรรมและหลากรูปแบบ เช่น อุปกรณ์ในรถยนต์ อุปกรณ์ทำ�อาหาร และอบขนม กล่องบรรจุอาหาร ใช้ในเสื้อผ้าชุดกีฬา รองเท้า อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์และอวัยวะเทียม อุปกรณ์การซ่อมแซมบ้าน ต่างๆ และที่กำ�ลังมาแรงคือในอุตสาหกรรมบันเทิง อย่างการทำ�หน้ากาก แฟนซีแทนการแต่งหน้าเอฟเฟกต์ สำ�หรับงานหน้ากากในอุตสาหกรรมบันเทิง บริษทั Composite Effects (CFX Artists) สหรัฐอเมริกา ได้ทำ�หน้ากากจากซิลิโคนด้วยเทคโนโลยีพิเศษ เฉพาะ เรียกว่า DuraFlex™ ที่กำ�ลังรอจดสิทธิบัตรอยู่ มีคุณสมบัติสวมใส่ได้ สบายเสมือนเป็นผิวชั้นที่สอง ใส่ได้ง่ายและคงทน จากการออกแบบให้มี

นวัตกรรมด้วยซิลิโคนยางคุณภาพสูง เพื่อสวมครอบศีรษะได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมส่วนคลุมไหล่และหน้าอกส่วนบนได้พอดี หน้ากากซิลิโคนให้ความ เสมือนจริง สามารถเห็นถึงรายละเอียดต่างๆ ได้เหมือนฝีมือของช่างแต่ง หน้ามืออาชีพโดยไม่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการแต่งหน้า ระยะแรกมี การนำ�หน้ากากซิลโิ คนมาใช้ทดแทนหน้ากากทีท่ �ำ จากนํา้ ยางคุณภาพตํา่ และ ราคาถูกในอุตสาหกรรมหนังสยองขวัญ แต่ดว้ ยคุณสมบัตทิ หี่ ลากหลายและ คุณภาพที่ดีกว่า ทำ�ให้มีการนำ�วัสดุซิลิโคนไปใช้ในการทำ�หน้ากากในงาน ประเภทอื่นๆ มากขึ้น โดยบริษัท Composite Effects (CFX Artists) ยังได้ เพิม่ เทคนิคพิเศษโดยใช้ผา้ ตาข่ายเต็มผืนติดอยูด่ า้ นในเพือ่ เพิม่ ความแข็งแรง และทำ�ให้เข้ากับส่วนโค้งเว้าของหน้ากากได้ดีขึ้น รวมทั้งใช้ความรู้และ เทคโนโลยีด้านวัสดุที่สั่งสมมาหลายปี นำ�ยางซิลิโคนมาวางเรียงเป็นชั้นๆ ช่วยเสริมความแข็งแรงทนทานต่อการฉีกขาดเพิม่ ขึน้ ถึงร้อยละ 15-17 ทัง้ ยัง ผ่านการทดสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมจนได้รับเลือกให้ทำ�งานร่วมกับ ภาพยนตร์เรื่อง 2 Guns ได้ผลิตหน้ากากในซีรีส์เรื่อง Game of Thrones และหน้ากากซูเปอร์ฮีโร่ของค่าย Marvel รวมทั้งค่ายบริษัทผลิตภาพยนตร์ อิสระ Troma Entertainment นับเป็นการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับ อุตสาหกรรมบันเทิงด้วยการเลือกใช้วสั ดุและเทคนิคทีเ่ หมาะสมควบคูก่ นั ไป อย่างแท้จริง ที่มา: compositeeffects.com / dowcorning.com

CREATIVE THAILAND I 10


พบกับนิตยสาร “คิด” Creative Thailand ได้ที่ ร้านหนังสือ ห้องสมุด สมาคม อาคารสำ�นักงาน และร้านกาแฟใกล้บ้าน ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หัวหิน และจังหวัดอื่นๆ รวมถึง miniTCDC ดูสถานที่จัดวางทั้งหมดได้ที่: www.tcdc.or.th/creativethailand/magazine/place กรุงเทพฯ ร้านหนังสือ • Asia Books • Kinokuniya • B2S • แพร่พิทยา ร้านกาแฟ/ร้านอาหาร • Au Bon Pain • Starbucks • TOM N TOM’S COFFEE • True Coffee • Auntie Anne’s • Baskin Robbins • Coffee World • Mister Donut • Black Canyon • McCafe’ • ดอยตุง • Ninety four coffee • Puff & Pie • Red Mango • Iberry • Greyhound Cafe’ • Amazon Cafe’ • Chester’s Grill • Luv minibar โรงแรม/ที่พัก • NOVOTEL • Dusit Thani Princess Hotel • Sofitel Silom Bangkok • Grand Millenium Sukhumvit พิพิธภัณฑ์/หอศิลป์ • หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร • มิวเซียม สยาม • อุทยานการเรียนรู้ (TK park) • นำ�ทอง แกลเลอรี่ สมาคม/ห้องสมุด • ศูนย์ศิลปะนานาชาติ สมาคมฝรั่งเศส • ห้องสมุดเนลสัน เฮลส์ The Neilson Hays Library • ห้องสมุด - นิด้า • สมาคมโฆษณา แห่งประเทศไทย • สมาคมธนาคารไทย • สมาคมสโมสรนักลงทุน • ห้องสมุด สสวท. • สมาคมหอการค้าไทย • สถาบัน • Wall Street Institute • Raffle Design Institute • Vision Swimming Academy เชียงใหม่ ร้านหนังสือ • ดวงกมล • ร้านเล่า • ร้าน Book Re:public • ร้านหนังสืออุดมลายเซ็นต์ ร้านกาแฟ/ร้านอาหาร/ ร้านขายของที่ระลึก • Happy Hut (ถ.นิมมานเหมินทร์ ระหว่างซอย 9-10) • 94 Coffee (ถ.นิมมานเหมินทร์) • Starbucks (ถ.นิมมานเหมินทร์) • เวียงจุมออน ทีเฮาส์ • Fern Forest Cafe’ • October • เชียงใหม่กาแฟ • IMPRESSO espresso bar • กาแฟวาวี • Love at First Bite • ร้านกาแฟดอยช้าง • ร้านกาแฟดอยตุง

• ร้านฝ้ายเบเกอรี่ (หอสมุดในมหาวิทยาลัย เชียงใหม่) • Things Called Art • minimal • ร้านยังไว้ลาย • ร้านรสนิยม • ร้านภคมน • ร้านโครงการหลวง • จัส ข้าวซอย (Just Kao Soy) • Ginger (The House Restaurant ) • หอมปากหอมคอ • ทีเฮาส์ สยามศิลาดล • Rabbithood studio • The Meeting Room Art Cafe’ • HuB 53 Bed&Breakfast • ร้าน Charcoa Cafe’ • ร้าน Akha Ama coffee • ร้านกาแฟพาคามาร่า • เดอะ สลัด คอนเซปท์ (Salad Concept) • Gallery Seescape • ร้านขนม (Kanom) • ร้าน Chin Ngan • ร้าน Mood Mellow โรงแรม/ที่พัก • สุริยันจันทรา ถ.นิมมานเหมินทร์ ซอย 1 • บรรทมสถาน เกสเฮาท์อารมณ์บ้าน • yesterday Hotel • โรงแรมดุสิต ดีทู (Dusit D2) • โรงแรมเชดี • ฮาโหล บาร์ (Hallo Bar Hotel) • โรงแรม At Nimman • โรงแรม Tamarind Village • โรงแรม The Rim • 9wboutique hotel • พิงค์ภูเพลส เชียงใหม่ • โรงแรม Casa 2511 พิพิธภัณฑ์/หอศิลป์ • หอศิลปวัฒนธรรม เมืองเชียงใหม่ • หอนิทรรศการ ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หัวหิน ร้านกาแฟ/ร้านอาหาร • ร้านกาแฟ ชุบชีวา หัวหิน • อยู่เย็น หัวหิน บัลโคนี่ • บ้านใกล้วัง • ภัตตาคารมีกรุณา • บ้านถั่วเย็น @ แนบเคหาสน์ • ร้านอาหารหัวหิน (โกทิ) • กาแฟข้างบ้าน • IL GELATO ITALIANO • Together Bakery & Cafe’ โรงแรม/ที่พัก • โรงแรม วรบุระหัวหิน • Let’s Sea • โรมแรม ดูน หัวหิน • เดอะร็อค หัวหิน • บ้านจันทร์ฉาย • หัวหิน มันตรา รีสอร์ท • ลูน่าฮัท รีสอร์ท กระบี่ • Nakamanda Resort & Spa • Rawee Warin Resort & Spa • A little Handmade Shop ขอนแก่น • Hug School of Creative Arts • ร้านสืบสาน • ร้านกาแฟ คอฟฟี่ เด้อ หล่า (Coffee Der La)

เชียงราย • ร้านหนังสือ herebookafe • ร้าน Coffee Dad นครราชสีมา • Hug station resort นครปฐม • ร้าน Dipchoc Cafe นครสวรรค์ • ร้าน Bitter Sweet น่าน • ร้าน Runway Coffee • ร้านคลาสสิค โมเดล น่าน • ร้านกาแฟปากซอย • ร้าน Nan Coffee Bean ปาย/แม่ฮ่องสอน • ร้านคอฟฟี่อินเลิฟ • ร้าน all about coffee • ร้านปายหวานบ้านนมสด • ร้านเล็กเล็ก • ปายวิมานรีสอร์ท พังงา • Niramaya Villa and Willness Resort • Ranyatavi Resort Phang Nga • The Sarojin เพชรบุรี • Grand Pacific Sovereign • Resort & Spa • DevaSom Hua Hin Resort ภูเก็ต • ร้านหนัง(สือ) ๒๕๒๑ ภูเก็ต • The oddy Apartment & Hotel • At Panta Phuket • Banyan Tree Phuket • Le Meridien Phuket • Millienium Ressort Patong Phuket • Novotel Phuket Resort • Patong Paragon Resort & Spa Phuket • Sheraton grand Lagana Phuket • Sri wanwa Phuket Villa • Thanyapura ระยอง • Le Vimarn Cottage ลำ�ปาง • อาลัมภางค์ เกสท์เฮ้าส์ แอนด์ มอร์ ลำ�ปาง • ร้านเอกาลิเต้ Egalite Bookshop • Lampang Art Center เลย • บ้านชานเคียง • มาเลยเด้ เกสต์เฮาท์ ลพบุรี • ซนดิคอฟฟี่ สมุทรสงคราม/อัมพวา • Baan Amphawa Resort and Spa สุโขทัย • Ananda Co.,Ltd. สุราษฎร์ธานี • Muang Samui Spa Resort • Pavilion Samui Boutique Resort • The Sunset Beach Resort and Spa Taling ngam • Nora Beach Resort Samui หาดใหญ่/สงขลา • ร้าน NIQOLO อุทัยธานี • ร้านบุ๊คโทเปีย Booktopia • Avatar Miracles

หมดปญหาหยิบนิตยสารไมทัน สมัครสมาชิกรายป คาใชจายในการจัดสง 200 บาท (12 เลม) หรือสมัครออนไลนไดที่ tcdc.or.th/creative_thailand

ขอมูลผูสมัครสมาชิก สมาชิกใหม ชื่อ นามสกุล เพศ โทรศัพท

สมาชิกเกา (ตองการตออายุสมาชิก) หญิง อายุ

ชาย

อีเมล

โทรศัพทมือถือ

อาชีพ นักเรียน ครู/อาจารย

นิสิต/นักศึกษา พนักงานบริษัท

นักออกแบบ/ครีเอทีฟ ผูประกอบการ

อาชีพอิสระ อื่นๆ โปรดระบุ

ขาราชการ/รัฐวิสาหกิจ

สาขา/อุตสาหกรรมที่เกี่ยวของกับอาชีพของทาน โฆษณา สถาปตยกรรม แฟชั่น ศิลปะการแสดง ดนตรี ภาพยนตร โทรทัศน/วิทยุการกระจายเสียง

ทองเที่ยว/โรงแรม/สายการบิน วรรณกรรม/การพิมพ/สื่อสิ่งพิมพ พิพิธภัณฑ/หองแสดงงาน ซอฟตแวร/แอนิเมชัน/วิดีโอเกม

หัตถกรรม/งานฝมือ การเงิน/ธนาคาร ทัศนศิลป/การถายภาพ อื่นๆ โปรดระบุ

อาหาร การแพทย การออกแบบ

คาปลีก/คาสง โทรคมนาคม

ที่อยูในการจัดสง หมูบาน/บริษัท เลขที่ จังหวัด

ซอย

ถนน รหัสไปรษณีย

หนวยงาน/แผนก ตำบล/แขวง

อำเภอ/เขต

หนวยงาน/แผนก ตำบล/แขวง

อำเภอ/เขต

ที่อยูในการออกใบเสร็จ เหมือนที่อยูในการจัดสง หมูบาน/บริษัท เลขที่ ซอย จังหวัด

ถนน รหัสไปรษณีย

ตองการสมัครสมาชิกนิตยสาร Creative Thailand ระยะเวลา 1 ป จำนวน 12 เลม เริ่มตั้งแตฉบับเดือน โดยยินดีเสียคาใชจายในการจัดสงเปนจำนวนเงิน 200 บาท

วิธีการชำระเงิน เช็คสั่งจายศูนยสรางสรรคงานออกแบบ พรอมใบสมัครสมาชิก โอนเงินเขาบัญชีออมทรัพย ศูนยสรางสรรคงานออกแบบ เลขที่บัญชี 101-808967-0 ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงานใหญสีลม • แฟกซใบสมัครพรอมหลักฐานการโอนเงินมาที่ 02-664-7670 • หรือสงไปรษณียมาที่ ศูนยสรางสรรคงานออกแบบ (Creative Thailand) 622 อาคารเอ็มโพเรียมทาวเวอรชั้น 24 ถนนสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 • หรือแนบไฟลใบสมัครพรอมหลักฐานการโอนเงินมาที่อีเมล creativethailand@tcdc.or.th CREATIVE THAILAND I 11 สอบถามขอมูลเพิ่มเติมไดที่ 02-664-7667 ตอ 122


hu.ac.th

Local Wisdom : ภูมิความคิด

เรื่อง: ศรัณยู นกแก้ว ในยุคทีศ่ ลิ ปะวัฒนธรรมดัง้ เดิมกลายเป็นยาขมทีย่ ากจะดึงดูดให้คนรุน่ ใหม่เข้ามาลิม้ ลอง การนำ�เสียงตลกขบขันมาแปรเปลีย่ นเป็นนาํ้ ตาลเคลือบศิลปะพืน้ บ้านทีใ่ กล้ถกู ลืมเลือน ให้กลายเป็นความหอมหวาน คืออีกทางรอดที่ชุบชีวิตการละเล่นพื้นถิ่นให้เป็นสิ่งสากล ที่ทุกคน ทุกวัยอยากเข้ามาสัมผัส และความตลกขบขันนี่เองที่ส่งให้คณะหนังตะลุง เมืองนครฯ “หนังน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม” กลายเป็นหนังตะลุงคิวทองที่มียอดผู้ชม นับล้านทั่วไทย

CREATIVE THAILAND I 12


ศิลปะแห่งแสงเงา กับนายหนังที่ไร้แสง

ย้อนไปในวัย 5 ขวบ โลกแห่งความมืดของ “น้องเดียว - บัญญัติ สุวรรณแว่นทอง” กลับสว่างไสวด้วยความเพลิดเพลิน ของบทเพลงลูกทุง่ และเสียงพากย์หนัง ตะลุ ง ที่ แ ว่ ว มาจากฉากหลั ง สี ข าว ครั้ ง นั้ น แม้ น้ อ งเดี ย วจะชื่ น ชอบใน อรรถรสของเสียงพากษ์หนังตะลุงแค่ไหน ทว่ าด้ ว ยความบกพร่ อ งทางสายตา ทำ�ให้เด็กชายเพิง่ มีโอกาสสัมผัสกับตัว หนังตะลุงครั้งแรกเมื่ออายุล่วงสู่ 15 ปี จากสัมผัสที่รับรู้ได้ถึงความประณีต ของการแกะสลักบนผืนหนัง บวกด้วย มุกขำ�ขันอันเป็นเอกลักษณ์ของหนัง ตะลุง ได้เปลี่ยนความหลงใหลเป็น แรงบันดาลใจให้นอ้ งเดียวในวัยเยาว์มี ความฝันทีจ่ ะเป็นนายหนังตะลุงชือ่ ดัง แห่งภาคใต้ แม้ในความจริงสิ่งเดียวที่ ทำ�ได้คือการเจียดเงินรายได้จากการ ร้ อ งเพลงลู ก ทุ่ ง มาซื้ อ ตั ว หนั ง ตะลุ ง สะสมไว้ พร้ อ มกั บ แอบฝึ ก ฝนการ เชิดหนังเงียบๆ จนเกิดความมั่นใจ สุดท้ายน้องเดียวจึงได้ลองเปิดม่าน เชิดหนังตะลุงครั้งแรกที่หน้าบ้านของ ตัวเองเมื่ออายุราว 17 ปี แม้จะไม่ใช่การแสดงหนังตะลุงที่ เปิดฉากอลังการ แต่ดว้ ยบทหนังทีเ่ ข้า กั บ ยุ ค สมั ย และความคมคายของ มุกตลก จึงทำ�ให้ชื่อของนายหนังผู้ บกพร่องทางสายตาถูกบอกเล่าแบบ ปากต่อปากจนกลายเป็นที่รู้จักของ ชาวนครศรีธรรมราช และไม่นานหลัง จากทีค่ ลิปวิดโี อตะลุงวิพากษ์การเมือง และเสียงพากษ์ตะลุงล้อเลียนนายก รัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถู ก เผยแพร่ ขึ้ น สู่ ยู ทู ป ชื่ อ ของหนั ง น้องเดียวก็ขึ้นมาเป็นคณะหนังตะลุง อั น ดั บ หนึ่ ง ในโลกโซเชี ย ลที่ มี ผู้ ช ม เรือนแสนต่อคลิป

“ตะลุง” กับตลกร้ายทีเ่ ข้าถึงใจผูช้ ม

“เมื่ อ ยุ ค สมั ย เปลี่ ย น คนดู เ ปลี่ ย น หนังตะลุงก็ต้องเปลี่ยน เมื่อก่อนตอน ที่ยังไม่มีทีวี โรงหนัง หรือยูทูป ผู้ชมมี เวลาให้กบั หนังตะลุงทัง้ คืน เล่นแต่ละ ครัง้ กว่าจะเลิกก็เช้า แต่สมัยนีท้ กุ คนมี โทรศัพท์มือถือที่ดูอะไรก็ได้ เราเลย ต้องปรับเรือ่ งให้กระชับ อย่างวรรณคดี เก่าๆ เช่น รามเกียรติ์ คนรุ่นใหม่อาจ จะไม่รจู้ กั ก็ตอ้ งปรับมาเป็นเหตุการณ์ บ้านเมือง เรื่องใกล้ตัว หรือแม้แต่ โดเรมอน นายกฯ บุคคลสำ�คัญก็เอา มาทำ�เป็นตัวหนัง ใส่มุกตลกขำ�ขัน เข้าไปให้มากขึน้ เป็นเรือ่ งตลกทีใ่ กล้ตวั ให้ ค นดู รู้ สึ ก ว่ า นี่ คื อ ทอล์ ก โชว์ ที่ เ ขา เข้ า ถึ ง ได้ ” น้ อ งเดี ย วนายหนั ง แห่ ง “หนั ง น้ อ งเดี ย ว ลู ก ทุ่ ง วั ฒ นธรรม” ถ่ายทอดถึงเหตุผลแห่งการเปลีย่ นแปลง บทหนังจากแบบแผนดัง้ เดิมสูบ่ ทตลก ร้ายที่เสียดสีความแร้นแค้นของปาก ท้องที่เข้าถึงผู้ชม และทำ�ให้คนทุกวัย กลับมาสนใจหนังตะลุงอีกครั้ง ส่วนเคล็ดลับการทำ�บทหนังให้ เข้ า ถึ ง ใจผู้ ช มก็ คื อ “ในหนึ่ ง ปี ห นั ง ตะลุงคณะเราจะคิดบทใหม่เพียงหนึ่ง เรื่อง แต่กว่าจะได้บทมา ก็ต้องซ้อม เปลี่ยนแก้บทอยู่นาน เวลาจะเอาบท ลงไปเล่นจังหวัดไหน พืน้ ทีไ่ หน ก็ตอ้ ง ศึกษาข้อมูล วิถีชิวิต ละครพื้นบ้าน หรื อ ปั ญ หาปากท้ อ งของพื้ น ที่ นั้ น ๆ เพือ่ เอามาปรับบทให้เข้าถึงคนดูจริงๆ ต้ อ งฟั ง ข่ า ว เพราะเรื่ อ งอะไรที่ ทั น เหตุการณ์จะเป็นเรื่องที่ทำ�ให้คนฟัง สนุกและขำ�ไปกับเรา”

จากตะลุงแก้บน สู่ความอลังการ ตะลุงคอนเสิร์ต

นอกจากมุกตลกที่กลายเป็นโลโก้ของ หนังตะลุงคณะน้องเดียวแล้ว อีกสิ่งที่ สร้างมิตใิ หม่ให้แก่วงการศิลปะพืน้ บ้าน ไทยก็ คื อ การผสมผสานบทเพลง ลูกทุง่ เข้ากับการฉายหนังตะลุงจนเป็น ที่มาของ “ตะลุงคอนเสิร์ต” ที่นำ�หนัง ตะลุงมาฉายบนเวทีคอนเสิร์ตขนาด ใหญ่ มีการกางจอความยาว 16 เมตร สูง 3 เมตร เป็นจุดดึงดูดสายตา พร้อม เพิ่มรายละเอียดของฉาก ลงทุนระบบ แสงสี เ สี ย ง เพื่ อ สะกดผู้ ช มนั บ พั น พร้อมยกระดับหนังตะลุงพืน้ บ้านทีเ่ คย ได้คุณค่าเพียงละครแก้บน ให้กลาย มาเป็นการแสดงศิลปะวัฒนธรรมที่ คนนับพันยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อบัตรเข้า มาชม “ขึ้นชื่อว่าหนังตะลุง คนรุ่นใหม่ จะรูส้ กึ ว่าเป็นยาขม ไม่มใี ครอยากเข้า มาดู แต่พอเราเพิ่มแสงสี มีการผสม มุกตลก ใส่เพลงลูกทุง่ ฉายฉากเข้าไป ให้ดูต่ืนตา มันก็ไม่ต่างจากการเอา นํ้าตาลมาเคลือบยาขม ทำ�ให้หนัง ตะลุงกลายเป็นเรื่องสากลที่ทุกคนเข้า ถึงได้ มีการทำ�ตัวหนังใหม่ๆ ออกมา ตลอด ในแต่ละครั้งที่แสดง ผมจะ มีหนังตะลุงไม่ตํ่ากว่า 40-50 ตัว มี ทีมงาน 30 กว่าคน มีซดี หี นังตะลุงขาย หน้างาน ซึ่งถ้าเราคิดเหมือนคนอื่น ทำ � แค่ ห นั ง ตะลุ ง แบบดั้ ง เดิ ม เรื่ อ ง เดิมๆ ร้องแบบเดิมๆ หนังตะลุงก็คง ก้าวข้ามจากละครแก้บนมาไม่ได้ แต่ ถ้ า เราคิ ด อะไรใหม่ ๆ ผสมทั้ ง ของ ดั้ ง เดิ ม และความทั น สมั ย ที่ เ ข้ า ถึ ง ทุกคนลงไป หนังตะลุงก็จะกลายเป็น ศิลปะสากล ทีไ่ ม่วา่ ภาคไหนก็สามารถ เข้าถึงได้”

ที่มา: บทสัมภาษณ์ น้องเดียว - บัญญัติ สุวรรณแว่นทอง

CREATIVE THAILAND I 13


Cover Story : เรื่องจากปก

เรื่อง: มนฑิณี ยงวิกุล

มีงานวิจยั มากมายพูดถึงประโยชน์ของอารมณ์ขนั และเสียงหัวเราะ แต่ทมี่ าของ เสียงหัวเราะมาจากการนำ�ความคิดสร้างสรรค์ ไปเชื่อมโยงกับบริบททาง วัฒนธรรมและเหตุการณ์ร่วมสมัย ก่อนจะดัดแปลงเป็นมุกตลกที่สามารถ สร้างรอยยิ้ม การเปิดใจ และจินตนาการ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำ�คัญของการ สร้างสรรค์ที่ทรงประสิทธิผลเพื่อการคลี่คลายปัญหาและการต่อยอดไปสู่ สิ่งใหม่ CREATIVE THAILAND I 14


hema.nl

สร้างความแตกต่างให้กบั สินค้าและแบรนด์ ด้วย ความตลกที่จูงใจให้ลูกค้ายอมใช้เวลาด้วยและ เปิดใจรับข้อความที่ถูกส่งออกมามากขึ้น อี ก ตั ว อย่ า งที่ แ สดงให้ เ ห็ น ว่ า ความตลก ขบขันเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลในยุคนี้ นั่นคือการ แจ้งเกิดเว็บไซต์หรือคอมมูนติ อี้ อนไลน์ทรี่ วบรวม มุกตลกจากที่ต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ ตลอดจนสร้างความขำ�ขันด้วยเนื้อหา วิธีการใช้ ภาษา ไปจนถึงการใช้กราฟิก สร้างความขำ�ขัน ซึ่งทำ�ให้มีผู้ติดตามชมเป็นหลักล้าน มีการส่งต่อ และนำ�ไปต่อยอดไม่สิ้นสุด อย่ า งไรก็ ดี ความขำ � จากสื่ อ ออนไลน์ ที่ ดัดแปลงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจจะใช้ได้ใน บริบทของสังคมหนึง่ แต่อาจจะไม่ตลกสำ�หรับอีก สังคมหนึ่ง เพราะการผลิตมุกตลกนั้นอยู่บนพื้น ฐานของการเติมความขบขันลงบนความเข้าใจ ร่วมกันของผู้รับ ทั้งในแง่ของเหตุการณ์ ภาษา ต่างๆ รวมถึงการเล่นคำ�หลายความหมายและ คำ�พ้องเสียง ในการผลิตมุกตลกนอกจากควร คำ�นึงถึงบริบททางวัฒนธรรมแล้ว หากนำ�ไปใช้ ผสมกับข้อมูลเจาะลึกของผู้ชมและผู้ฟังอย่าง ชาญฉลาด ก็จะสามารถผลิตชิ้นงานสร้างสรรค์ ต่างๆ ได้มากมาย

hema.nl

gratisography.com

ตัง้ แต่ปี 2000 เป็นต้นมา อินเทอร์เน็ตได้รบั ความ นิยมอย่างกว้างขวางและพัฒนาทัง้ ด้านเทคโนโลยี และจำ�นวนผู้ใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง ทำ�ให้ สื่อการตลาดออนไลน์เข้ามายึดพื้นที่สื่อสิ่งพิมพ์ และสือ่ โทรทัศน์แทบจะสิน้ เชิง เพราะสามารถเข้า ถึ ง ผู้ ช มโดยตรงได้ เ ป็ น จำ � นวนมาก แต่ ข ณะ เดี ย วกั น ก็ ทำ � ให้ พื้ น ที่ ใ นโลกออนไลน์ ท่ ว มท้ น ไปด้วยเนื้อหามากมายจนทำ�ให้ถูกมองข้ามไป เว็ บ ไซต์ ข ายของออนไลน์ ข องร้ า นเฮมา (HEMA) ร้านค้าปลีกสัญชาติดัตช์ มองเผินๆ มี การจัดหน้าตาของร้านและสินค้าทีด่ สู วยงามและ น่าเชือ่ ถือ เว็บไซต์รา้ นขายของธรรมดาท่ามกลาง ร้ า นค้ า ออนไลน์ ม ากมายและไม่ มี ใ ครพู ด ถึ ง หากแต่การทำ�หน้าเพจให้สินค้าวางเรียงเป็น แนวตั้ง และมีความเคลื่อนไหวจากแก้วนํ้าที่อยู่ แถวบนหล่นลงมาด้านล่างจนกระทบสินค้าตัวอืน่ เป็นโดมิโน ก่อให้เกิดความเสียหายและท้ายทีส่ ดุ ทำ�ให้ตัวอักษรหล่นลงมาจนเพจพังไม่เป็นท่า กลั บ ทำ � ให้ ผู้ ค นจดจำ � ร้ า นค้ า ออนไลน์ แ ห่ ง นี้ ได้ขึ้นใจ และยินดีที่จะส่งต่อให้ผู้อื่นรับรู้อย่าง เต็มใจ อารมณ์ขันตั้งแต่การสร้างรอยยิ้มไปจนถึง เสียงหัวเราะจึงกลายเป็นอาวุธสำ�คัญในการสร้าง ไวรัลของสื่อออนไลน์ในปัจจุบัน เพราะมันช่วย

CREATIVE THAILAND I 15


มุกตลกไม่รู้จบ

ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำ�หมายค้นไปยังวัดพระธรรมกาย เพื่อขอตรวจค้นและ ตามจับกุมพระธัมมชโย จากนั้นกลุ่มศิษยานุศิษย์ได้ออกแถลงการณ์ว่าจะให้พระธัมมชโยมอบตัวสู้คดี ทำ�ให้ #รอบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยก่อน กลายเป็นแฮชแท็กดังวลีเด็ดที่แพร่ระบาด และทำ�ให้ครีเอทีฟเพจดังในโลก ออนไลน์นำ�ข้อความดังกล่าวมาปรับใช้กับเหตุการณ์และชีวิตประจำ�วันในรูปแบบต่างๆ มากมาย

ทีม่ า: มติชนออนไลน์

CREATIVE THAILAND I 16


a.fastcompany.net

ฮาสร้างแบรนด์

company.unipack.ru

cdn.business2community.com

hypebeast.com

“โอลด์ สไปซ์” (Old Spice) คือแบรนด์โคโลญ นาํ้ หอมหลังโกนหนวด และนํา้ หอมระงับกลิน่ กาย ทีก่ อ่ ตัง้ มาตัง้ แต่ปี 1934 ด้วยหน้าตาแพ็กเกจและ ความยาวนานของสินค้า ทำ�ให้แบรนด์นี้ถูกมอง ว่าเป็นผลิตภัณฑ์สำ�หรับคนรุ่นปู่รุ่นพ่อ จึงทำ�ให้ ยอดขายจำ�กัดอยู่เฉพาะกลุ่ม แต่เมื่อพรอคเตอร์ แอนด์แกมเบิล (Procter and Gamble: P&G) ตั ด สิ น ใจซื้ อ แบรนด์ นี้ ม าปรั บ โฉมใหม่ เ พื่ อ บุกตลาดผลิตภัณฑ์สำ�หรับชายหนุ่มในปี 1990 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

โอลด์ สไปซ์ ในภาพลักษณ์เก่าและใหม่ นับเป็นแบรนด์ที่มาไกลมากจริงๆ CREATIVE THAILAND I 17

แคมเปญใหม่เพื่อการรีแบรนด์ออกมาอวด โฉมตั้งแต่การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งครีมอาบนํ้า และสเปรย์หอม การคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่รักษา ความเป็ น ลู ก ผู้ ช ายของแบรนด์ ที่ สื บ ทอดมา ทั้งนักกีฬาและดาราเอ็มทีวี ทำ�ให้ยอดขายและ ส่วนแบ่งตลาดรวมของโอลด์ สไปซ์ เพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 20 ของส่วนแบ่งตลาดทั้งหมด จนกระทั่ง คู่แข่งอย่างแอ๊กซ์ (AXE) เข้ามาแย่งส่วนแบ่งด้วย การขายผลลัพธ์จากการใช้สเปรย์ว่าจะทำ�ให้ สาวๆ ติดใจ ในปี 2010 พรอคเตอร์แอนด์ แกมเบิ ล ได้ จั บ มื อ ร่ ว มกั บ เอเจนซี่ ไ วเดนและ เคนเนดี้ (Weiden and Kennedy) ผลิตซีรีส์ โฆษณาที่สามารถสื่อสารได้ทั้งหญิงและชายด้วย คำ�พูดทีว่ า่ “ผูช้ ายทีผ่ ชู้ ายของคุณมีกลิน่ เหมือนได้” (The Man Your Man Could Smell Like) โดย เลือกอดีตนักอเมริกันฟุตบอลอิสยาห์ มุสตาฟา (Isaiah Mustafa) ผู้มีภาพลักษณ์เปี่ยมเสน่ห์ของ ชายชาตรีเหมือนแบรนด์ดง้ั เดิมมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งเมื่อประกอบกับฉากและบทสนทนาจึงทำ�ให้ ภาพที่ ป รากฏในโฆษณาดู เ กิ น จริ ง และน่ า ขำ � จนทำ�ให้มีผู้ชมผ่านยูทูบมากกว่า 40 ล้านครั้ง และยอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ขึ้นแท่น แบรนด์ที่ประสบความสำ�เร็จในการพลิกฟื้นจาก สมบัตเิ ก่า มาผสมกับอารมณ์ขนั อย่างชาญฉลาด ภายใต้บริบทของอเมริกัน เมื่อความขบขันมีส่วนทำ�ให้ยอดขายทะลุ เป้า แคมเปญต่อๆ มาของโอลด์ สไปซ์ จึงยังคง รักษาความขำ�แบบเหนือจริงนี้ ผ่านโปสเตอร์และ สื่อออนไลน์อย่างทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กที่ปรากฏ ข้อความขำ�ขันทีท่ �ำ ให้คนนำ�ไปแชร์ตอ่ ทำ�ให้ผคู้ น รู้จักผลิตภัณฑ์มากขึ้นแม้ว่าจะยังไม่ได้ซื้อก็ตาม


blogs-images.forbes.com

ตลกแห่งชาติ (National Comedy School) ใน มอนทรีออล ประเทศแคนาดา ที่นำ�เสนอคอร์ส ฝึกอบรมพนักงานด้วยการใช้อารมณ์ขันมาช่วย ในการกระตุ้นการสื่อสาร ผลงาน และความคิด สร้างสรรค์ของพนักงาน พร้อมๆ กับการช่วยให้ ผู้บริหารพัฒนาการพูดในที่สาธารณะและทักษะ ในการนำ�เสนอ การฝึกอบรมไม่ใช่การสอนให้พนักงานเล่า เรือ่ งโจ๊ก แต่ทว่าให้พนักงานฝึกทำ�อะไรผิดพลาด บ้าง เช่น เดินชนสิ่งต่างๆ หรือแกล้งทำ�เป็น

สาวน้อยโทนี่ เซ

i.ytimg.com

ความขำ�ขันของซีรสี โ์ ฆษณาโอลด์ สไปซ์ ช่วยเพิม่ ยอดขาย เช่นเดียวกับกรณีศกึ ษายอดนิยมในการ ใช้ความสนุกและความเพี้ยนเล็กๆ มาเป็นหนึ่ง ในคุณค่าหลักขององค์กร (Core Value) ที่ทำ�ให้ บริษทั แซปโปส (Zappos) ก้าวขึน้ มาเป็นร้านขาย รองเท้าและเสื้อผ้าออนไลน์ที่สร้างยอดขายถึง 35,000 ล้านบาท (1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ไม่ใช่เรือ่ งแปลกทีจ่ ะเห็นซีอโี อโทนี่ เซ (Tony Hsieh) แต่งตัวประหลาดเพื่อสร้างบรรยากาศ แห่งความสนุกสนานในบริษัท วาเนสซ่า ลอว์สัน (Vanessa Lawson) ผูฝ้ กึ อบรมอาวุโสของแซปโปส ผูม้ งี านพาร์ตไทม์เป็นนักแสดงตลกแบบสแตนอัพ คอมเมดี กล่าวว่าการละจากงานประจำ�มาทำ� เรื่องตลกช่วยให้เธอทำ�งานอย่างสนุกสนาน และ เมื่องานสนุกทุกอย่างก็เสร็จอย่างรวดเร็ว การบริหารและสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ มีความตลกเป็นศูนย์กลาง (Humour-Centric) ของแซปโปส จึงเปิดโอกาสให้พนักงานที่เป็น คอลล์เซ็นเตอร์ (Call Center) ซึ่งเป็นคนที่ต้อง พูดคุยกับลูกค้าโดยตรงและเป็นหัวใจของการ ให้บริการ ใช้เวลาส่วนหนึ่งมาร่วมเดินพาเหรด หรืออัพโหลดคลิปบนยูทูบ “มันสัมพันธ์กันโดยตรงกับการให้พนักงาน มีอิสระในการสร้างความสนุกและผลผลิต และ นั่ น ทำ � ให้ พ นั ก งานไม่ จ ากไปและกลั บ มาด้ ว ย ไอเดียใหม่ๆ” วาเนสซ่ากล่าว การสร้างอารมณ์ขันในที่ทำ�งาน มีผู้บริหาร จำ�นวนมากที่ไม่ได้เป็นอย่างซีอีโอของแซปโปส แต่สามารถสร้างได้ดว้ ยบริการของโรงเรียนความ

media.licdn.com

ประสิทธิภาพจากความสนุก

CREATIVE THAILAND I 18

ตบหน้าเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้พวกเขาหลุดออก มาจากตัวเอง มาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่ให้พวก เขาพูดอะไรที่อยากพูดโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูก มองหรือตัดสิน กระตุน้ ให้พวกเขาดึงสิง่ ทีเ่ รียกว่า จินตนาการกลับมา “วิธีที่เราใช้เป็นวิธีและเครื่องมือเดียวกันที่ นักแสดงตลกใช้ เพื่อทำ�ให้ธุรกิจและพนักงานมี ความคิดสร้างสรรค์ การสือ่ สารทีไ่ หลลืน่ ความคิด นอกกรอบ และการละทิ้งพฤติกรรมเดิม” หลุยส์ ริชเชอร์ (Louise Richer) ผู้ก่อตั้งโรงเรียนกล่าว


at-risk.com

facebook.com/Michael Pritchard michaelpritchard.com i.ytimg.com

ลีลาการบรรยายของไมเคิล พริตชาร์ด

นอกจากการใช้อารมณ์ขันในการพัฒนา ธุรกิจและพนักงาน ไมเคิล พริตชาร์ด (Michael Pritchard) นักแสดงตลก ยังใช้อารมณ์ขันของ เขาช่วยแนะแนวการใช้ชีวิตให้กับเยาวชน แต่ละ ปีเขาจะเดินสายบรรยายกว่า 200 ครั้งให้กับ ชุมชนและโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ และเขายัง เป็ น เจ้ า ของซี รี ส์ เ พื่ อ การศึ ก ษาสำ � หรั บ วั ย รุ่ น Saving Our Schools ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการ สร้างความปลอดภัยและการดูแลโรงเรียนที่เพิ่ง ออกอากาศทางช่องซีเอ็นเอ็น และอีกหนึ่งซีรีส์ Peace Talks ทีเ่ กีย่ วกับการใช้ความรุนแรงในวัยรุน่ ความขัดแย้ง การแก้ปัญหา และการเคารพผู้อื่น ไมเคิล เบรูบ (Michael Berube) นายหน้า ค้ า อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ซึ่ ง พบกั บ พริ ต ชาร์ ด ที่ ม า บรรยายในงานสโมสรโรตารีคลับกล่าวว่า “เหตุผล ที่พริตชาร์ดใช้อารมณ์ขัน เพราะมันเป็นเรื่อง น่าอายเวลาพูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจ เขาจะเต้นไป รอบๆ หัวใจของเด็กๆ และการฟังเขาทำ�ให้ผม ขนลุกทุกครั้ง” ในทางวิทยาศาสตร์ อารมณ์ขันมีบทบาท มากกว่าการให้เสียงหัวเราะ แต่เป็นปฏิกิริยาที่

ส่ ง ผลต่ อ การทำ � งานของสมองและร่ า งกายที่ เป็ น พื้ น ฐานหนึ่ ง ของการอยู่ ร อดของมนุ ษ ย์ กระบวนการรั บ รู้ แ ละอารมณ์ ขั น นั้ น มี ค วาม สัมพันธ์กับส่วนของสมองที่เรียกว่า Anterior Cingulate Cortex (ACC) ซึ่งเป็นส่วนสำ�คัญต่อ การคาดการณ์ การตัดสินใจ การควบคุมและ ตอบสนองต่อความเครียด ซึ่งเกี่ยวพันกับระบบ ลิมบิก (Limbic System) หรือระบบสมองที่ เกี่ยวกับอารมณ์ เป็นสมองชั้นในที่อยู่ระหว่าง ก้านสมองและสมองชั้นนอก รองรับการทำ�งาน สำ�หรับคำ�สั่งที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ระบบ ลิมบิกทำ�หน้าที่ในการรักษาสมดุลของร่างกาย ระดับฮอร์โมนในร่างกาย และอารมณ์ความรู้สึก สอดคล้ อ งกั บ สิ่ ง ที่ พ ริ ต ชาร์ ด นำ � มาใช้ ใ นการ บรรยายของเขา เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดหรือ สร้างแสงสว่างในจิตใจของเด็กๆ เพราะเขาเชื่อ ว่า “เด็กๆ นั้นฉลาด พวกเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร ประเด็นทีผ่ มพูดกับเด็กๆ คือการหยุดใช้สมองมา ใช้หัวใจ อารมณ์ขันเป็นเครื่องมือมหัศจรรย์ใน การทำ�ให้เขาคิดนอกกรอบ มีความคิดสร้างสรรค์ และทำ�ให้ทุกอย่างดำ�เนินไปได้ด้วยดี”

ที่มา: บทความ “Funny Business: Why Humour on the Job Matters” โดย Eric Barton จาก bbc.com / บทความ “Humor and Humanity / Funny Man Michael Pritchard Cautions Teens about Intolerance” จาก sfgate.com / บทความ “Michael Pritchard, Comedian and Educator, Explains How to Combat Bullying in Incredible Speech” จาก huffingtonpost.com / บทความ “No Joke: Why the Business World Is Embracing Comedy” โดย Andreane Williams จาก bbc.com / บทความ “Old Spice’s Extreme Makeover” จาก bloomberg.com / บทความ “Old Spice: The Epic Tale of a Company Rebranded” จาก themerzgroup.com / บทความ “Old Spice: The Man Your Man Could Smell Like” โดย Andrew Tarvin จาก humorthatworks.com / บทความ “The Secret to Using Humour in Business” โดย Greg Quinton จาก managementtoday.co.uk / michaelpritchard.com CREATIVE THAILAND I 19


Insight : อินไซต์

เรื่อง: กมลกานต์ โกศลกาญจน์

ท่ามกลางผลผลิตของอุตสาหกรรมบันเทิงประเทศไทยที่มีความตลกเรียกเสียงฮาเป็นแกนนำ�ของทุกช่วงการออนแอร์ ความสำ�เร็จจากความตลกนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะก่อนที่รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ หรือโฆษณาต่างๆ จะสามารถคว้า เม็ดเงินจากกระเป๋าผู้บริโภคได้ในระดับร้อยล้านจนถึงพันล้านบาทผ่านกลยุทธ์สร้างเสียงหัวเราะอันทรงพลังได้นั้น สิ่งหนึ่งที่ เป็นแรงผลักสำ�คัญคือความสามารถของทีมงานเบื้องหลัง พวกเขาไม่เพียงแต่จะต้องคิดเนื้อหาหรือจังหวะยิงมุกเพื่อเรียก เสียงฮาจากผู้ชมในห้องส่ง หากสิ่งเหล่านั้นยังต้องโดนใจและน่าสนใจมากพอที่จะทำ�ให้ผู้ชมทางบ้านอยากติดตามและไม่กด รีโมทเปลี่ยนช่องไปไหน CREATIVE THAILAND I 20


เราพาไปเจาะลึกเบื้องหลังของ 3 สื่อที่เน้นการ ดึงอารมณ์ขันมาเป็นจุดเด่น ว่าหลังบ้านพวกเขา มีวิธีการคิดและตัดสินใจอย่างไร “มุกตลกแบบ (ไท้ย) ไทย” นั้นเป็นแบบไหนและทิศทางใดที่น่า จับตามอง

ซิทคอม: ตลกได้ สะท้อนสังคมด้วย

เมื่อมองละครซิทคอม หรือ Situation Comedy มากคุณภาพของบ้านเรา หนึง่ ในผูผ้ ลิตทีค่ รองใจ คนดูมายาวนานคือ บริษัท ซีเนริโอ ที่ผลิตละคร ซิทคอมซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี อย่าง บ้านนี้มีรัก เป็นต่อ ผูก้ องเจ้าเสน่ห์ และเฮงเฮงเฮง ทีล่ ว้ นเป็น ละครซิทคอมที่ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและ มีบทละครที่มักสอดแทรกข้อคิดดีๆ ไว้เสมอ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล ผู้กำ�กับและผู้เขียนบทละคร กล่าวว่าหัวใจของความตลกในซิทคอมอยูท่ คี่ วาม ถูกต้องกับคาแรกเตอร์ของตัวละคร ซึ่งมีพื้นฐาน สำ�คัญทีส่ ดุ อย่าง “ความเป็นมนุษย์” ทีมเขียนบท ไม่ ใ ช่ แ ค่ คิ ด มุ ก ให้ ตั ว ละครสร้ า งเสี ย งหั ว เราะ เท่านั้น แต่จะต้องพิจารณาเสน่ห์ของตัวละคร เป็นสำ�คัญ กิ ต ติ ก ล่ า วว่ า ละครซิ ท คอมนั้ น สามารถ แบ่งได้เป็นซิทคอมเพื่อสังคมและสะท้อนสังคม ซิทคอมเพื่อสังคมคือการสร้างให้เห็นสังคมใน อุดมคติ แสดงให้เห็นว่าสังคมที่ดีและที่ควรจะ เป็ น นั้ น มี ลั ก ษณะแบบไหน สำ � หรั บ ซิ ท คอม สะท้อนสังคมคือการทำ�ให้รู้ว่าสังคมในปัจจุบัน นั้นเป็นแบบไหน ผู้ชมต้องอาศัยวุฒิภาวะใน การรับชม โดยผู้ผลิตจะสร้างเนื้อหาที่กระตุก ความคิด และตั้งคำ�ถามบางอย่างเพื่อให้ผู้ชมได้

พิจารณาถึงความเป็นจริง ซิทคอมจึงเปรียบ เหมือนยารสหวาน กินง่าย และมีประโยชน์ มุก ตลกที่ มี อ ยู่ จึ ง ต้ อ งมี บ ทบาทในการให้ ข้ อ คิ ด หรือสะท้อนสังคมได้จริง โดยสิ่งที่เปรียบเหมือน ข้ อ ห้ า มของการเล่ น มุ ก ตลกในซิ ท คอม คื อ ศาสนา การเมือง สีผวิ เชือ้ ชาติ และการล้อเลียน ปมด้อย

ควิซโชว์: ปริศนาฟ้าแลบ ถามมา ตอบไว เล่นร่วมกันได้ทุกคน

ปริศนาฟ้าแลบ คือหนึ่งในรายการที่จัดได้ว่ามี เรตติ้งกระฉูดและเรียกเสียงฮากระจาย โดยมี ท่ ว งท่ า การดำ� เนิ น รายการที่ เ ป็ น ลายเซ็ น ของ ปัญญา นิรันดร์กุล ซึ่งต้องรับมือกับท่าทางการ ตอบคำ�ถามของแขกรับเชิญที่สนุกจนครองใจ ผู้ ช มได้ ทุ ก รุ่ น ทุ ก วั ย เบื้ อ งหลั ง ความตลกของ รายการปริศนาฟ้าแลบ มีหัวใจอยู่ที่ “คำ�ถาม” เพราะทุกคำ�ถามล้วนเกี่ยวกับเรื่องรอบตัว หาใช่ ข้อมูลเชิงลึก เป็นคำ�ถามที่ไล่ไปตั้งแต่ข้าวของ เครื่องใช้ ชื่อจังหวัด อาหาร จนถึงนามสกุลของ คนดัง คำ�ตอบจึงเป็นเส้นผมบังภูเขาและต้อง ตอบคำ�ถาม 10 ข้อให้ได้ภายในเวลา 2 นาที คำ�ถามจากเรือ่ งรอบตัวเหล่านีท้ �ำ ให้ผชู้ มทางบ้าน หรือชานชาลารถไฟฟ้าก็สามารถเป็นส่วนหนึ่ง กับรายการ และรู้สึกลุ้นไปด้วยราวกับนั่งอยู่ใน ห้องส่งได้ ธนธัช ไตรรัตน์วงศ์ ครีเอทีฟประจำ�รายการ เปิดเผยเบื้องหลังการคิดคำ�ถามในรายการว่า เกิดจากการรู้จักสังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัว โดยหา ข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือหรือนิตยสาร เพื่อ CREATIVE THAILAND I 21

ติดตามและอัพเดตข้อมูลให้ร่วมสมัย โดยมีบาง ส่วนที่ดูจากความฮิตของเหตุการณ์ต่างๆ อย่าง เช่น วอลเลย์บอลทีมชาติไทยหรือฟุตบอลโลก นำ�มาจดเป็นหัวข้อที่รอทวิสต์คำ�ตอบให้ได้หลาก หลาย และแม้จะเป็นรายการควิซโชว์ที่เล่นกับ เวลา แต่นนั่ ไม่ได้หมายความว่าจะเน้นเรียกเสียง ฮาจนลืมความถูกต้อง ทีมงานทั้งหมดจะต้องมา ร่วมเล่นคำ�ถามทีค่ ดิ กันขึน้ มาก่อน เพือ่ ตรวจสอบ ความถูกต้องของข้อมูล และเพื่อต่อยอดมุกให้ ถู ก จั ง หวะและทำ � ให้ เ สี ย งฮานั้ น ดั ง กว่ า เดิ ม นอกเหนือจากคำ�ถามที่ “คิดได้ไง” จึงต้องมา พร้อมคำ�ตอบที่ “รู้ได้ไง” ด้วยเช่นกัน

สำ�นักข่าวออนไลน์: เมือ่ ข่าวขมก็ตอ้ งเคลือบด้วยรสหวาน

The Matter คือสำ�นักข่าวออนไลน์ที่เปิดตัวมา เพียงเดือนเศษ แต่มีผู้คนติดตาม กดไลค์ และ แชร์กันจนเป็นกระแส ด้วยท่วงท่า การเลือกใช้ ภาษา และกลยุทธ์การสื่อสารที่เปลี่ยนเนื้อข่าว เข้ า ใจยากจากทั้ ง ในไทยและต่ า งประเทศ มาเขย่าและเล่าใหม่ด้วยนํ้าเสียงประชดประชัน ที่ เ รี ย กรอยยิ้ ม มุ ม ปากจากผู้ อ่ า น พร้ อ มกด แบ่งปันให้เพื่อนในโซเชียลได้ร่วมเห็นข่าวหรือ ข้อมูลเหล่านี้ เมื่อวิธีการสื่อสารแบบเสียดสีที่ได้ เห็นอาจเป็นค่ามาตรฐานอารมณ์ขันแบบใหม่ ของผู้รับสารชาวไทย ทีปกร วุฒิพิทยามงคล ผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวว่าวิธีคิดของ The Matter คือ การทำ�ข่าวที่ดูเข้าใจยาก เข้าถึงยาก ให้ดูน่า คบหามากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการห่อหุ้มด้วย อารมณ์ต่างๆ โดยเลือกใช้อารมณ์ขันเข้ามาเป็น รสหวาน เคลือบสารหนักๆ ไว้เพื่อให้สามารถ เข้าถึงผู้อ่านได้มากที่สุด ความน่ า สนใจของ The Matter อยู่ ที่ ความตั้งใจในการให้ความรู้ ทีปกรกล่าวว่า เขา มองสารเรือ่ งหนึง่ ๆ ว่าประกอบด้วยองค์ประกอบ 2 ส่วนที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ คือเนื้อหา และการนำ�เสนอ โดยการเลือกนำ�เสนอแบบ ตลก ขำ� หรือเข้าถึงง่ายนั้น ไม่ได้หมายความว่า จะสูญเสียความแข็งแรงของเนื้อหาไป แต่การ เลื อ กนำ � เสนอในรู ป แบบที่ แ ตกต่ า งจากที่ เ คย เป็นมา จะเป็นหนึ่งในวิธีการที่ทำ�ให้ผู้รับสาร ได้มีโอกาสฉุกคิดกับประเด็นนั้นๆ ในมุมมอง ใหม่ได้


Creative Startup : เริ่มต้นคิด

มี่ป๋อง…ไหนเล่าซิ เรื่อง: วรรณเพ็ญ บุญเพ็ญ

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยผ่านตากับการแชร์ข้อความ เรื่องราว ไปจนถึงความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ชื่อว่า “มี่ป๋อง” ตัวการ์ตูน ตัวขาว พุงโต ใส่แว่นดำ� และไม่เคยเปิดเผยช่วงล่างให้ได้เห็น เริ่มเป็นที่รู้จักบนโลกหน้าฟีดเฟซบุ๊กมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนรูจ้ กั มานาน บางคนรูส้ กึ กับมีป่ อ๋ งไม่ตา่ งจากเพือ่ นสนิท มาลองทำ�ความรูจ้ กั มีป่ อ๋ ง “นักเล่าประสบการณ์ ผ่านลายเส้น ยุกยิก” ผ่านเบื้องหลังความรู้สึกของคนธรรมดาที่สามารถหยิบยกเรื่องราวธรรมดาให้กลายเป็นเรื่องขบขัน ซาบซึ้ง จุกอก จนบางครั้งก็เคล้านํ้าตาได้ในคราวเดียวกัน

CREATIVE THAILAND I 22


มี่ป๋อง (ไม่) เปิดเผยตัว เมือ่ เราไม่ได้รบั อนุญาตให้เปิดเผยตัวตนของมีป่ อ๋ ง สิง่ ทีบ่ อกได้กค็ อื รูปร่าง เหมือนมี่ป๋อง (แต่มีช่วงล่างครบถ้วน) แต่งตัวสบายๆ ไม่ได้ใส่แว่นดำ�หรือ ทัดดอกไม้มาให้สัมภาษณ์ มี่ป๋องจบปริญญาโทด้านศิลปะการแสดงศึกษา ทำ�งานเบือ้ งหลังวงการบันเทิง และยังเป็นอาจารย์พเิ ศษที่ มศว ไม่มพี นื้ ฐาน การวาดการ์ตูนแต่อย่างใด แต่รักการเล่าเรื่อง มีป่ อ๋ งได้เล่าให้ฟงั ถึงจุดเริม่ ต้นของการเกิดเฟซบุก๊ แฟนเพจว่า เกิดจาก การได้ไปเห็นการ์ตูนช่องของฝรั่งที่มีกลวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เลยอยาก ลองเล่าเรื่องของตัวเองดูบ้าง แต่เขาวาดการ์ตูนไม่เป็น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ ทำ�ให้มี่ป๋องมีแค่ครึ่งตัวและเป็นเพียงเส้นโค้งเส้นเดียว โดยมี่ป๋องได้เล่าเรื่อง ตัวเองเรื่องแรก “อ้วนไงจะใครล่ะ” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวและลองเปิด public เป็นครั้งแรก ในครั้งนั้นเองที่มีคนแชร์ไปกว่า 20,000 ครั้ง จนเพื่อนแนะนำ� ให้ลองสร้างแฟนเพจ มี่ป๋องจึงเกิดความคิดว่า “ถ้ามันจะใช้เป็นโอกาสทำ� เงินได้ แม้จะทำ�เงินจากลูกค้าอื่นไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยงานส่วนตัว นั่นคืองานโปรโมตของเราเองก็เลยทำ�เพจขึ้นมา วันแรกที่ทำ�เพจก็คิดชื่อไม่ ออก คำ�ว่า ‘มี่ป๋อง’ มันเป็นคำ�ที่ไม่ได้มีความหมาย ช่วงนั้นมันติดคำ�พูดนี้ ถ้าเราคิดจะทำ�จริงจังเป็นธุรกิจมันคงเป็นคำ�ที่ดีกว่านี้ แต่ตอนนั้นก็เอาอันนี้ แหละ วันแรกไม่สามารถเสิร์ชแล้วเจอด้วยซํ้า แต่แก้ปัญหาคือเข้าไปบอกว่า ติดตามเพจมี่ป๋องได้นะ สุดท้ายปิดยอดไลค์วันแรกประมาณ 3,000 คน”

ขายจริง ก็บอกว่าขายจริง แน่นอนว่า เมื่อเพจมี่ป๋องเริ่มมีคนติดตามจำ�นวนมากขึ้น เอเจนซี่โฆษณาก็ เริ่มติดต่อให้เขาไทน์อินสินค้าให้ ซึ่งมี่ป๋องเลือกใช้วิธีการขายแบบตรงๆ ลักษณะคล้ายการทำ�หนังโฆษณาสั้นๆ สิ่งที่ส่งให้ลูกค้าเหมือนการส่ง สตอรีบ่ อร์ดของหนังโฆษณาเรือ่ งหนึง่ ในขณะเดียวกันก็เลือกใช้วธิ สี อื่ สารกับ ฝัง่ ลูกเพจด้วยการเล่าเรือ่ งอย่างตรงไปตรงมาผ่านเรือ่ งสัน้ “ทำ�ไมมีป่ อ๋ งต้อง มีโฆษณา” แทนที่จะแอบแฝงการไทน์อินแบบ (ไม่) แนบเนียนลงไป “เราบอกเขาชัดเจนว่าทำ�ไมมี่ป๋องต้องมีโฆษณา ส่วนใหญ่ยอมรับได้ บางคนบอกว่ามีป่ อ๋ งมันละทิง้ อุดมการณ์ แต่จริงๆ อันนีแ่ หละคืออุดมการณ์ (ฮ่า) แต่ประเด็นคือ เราไม่มียูสเซอร์ที่เข้ามาขายของ ทุกคนมาเพื่อพูดคุย บางทีไม่ได้มาคุยกับเรา มาคุยกันเอง นี่คือสิ่งที่เราแฮปปี้มากกว่า และด้วย ที่เราไม่ได้เปิดเผยตัวว่าเป็นใคร อายุเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเราจะมีเพื่อน ทุกประเภท เราว่ามันมีเสน่หต์ รงนี้ พอได้แลกเปลีย่ นเรือ่ งราวกัน เราเลยเห็น ว่าสิง่ ทีเ่ ราพบเจอมาพอเปรียบเทียบกับของคนอืน่ มันเล็กน้อยมาก แล้วเราก็ ไม่แชร์ข่าว ไม่พูดเรื่องการเมือง ศาสนา หรือเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะคุณ สามารถหาคอนเทนต์เหล่านั้นได้จากที่อื่น แต่ถ้าคุณมาที่นี่ไม่ว่าเรื่องดีหรือ ร้ายอย่างน้อยมันต้องให้เขายิ้มได้ อาจจะมาแล้วไม่ได้อะไรกลับไปก็ได้ แต่ อย่างน้อยได้อ่านหรือได้สัมผัสอะไรขึ้นมาบ้างในชีวิต มันต้องสะกิดอะไรได้ สักอย่าง นี่คือสิ่งที่เราพยายามจะมอบให้กับเขาทุกคน”

กดไลค์ส่อที่มา แชร์มาส่อสกุล หากจะเปรียบ “มี่ป๋อง” เป็นเพื่อนสักคนในกลุ่ม เขาคงเป็นคนที่ภายนอก ดูตลก เฮฮา สนุกสนาน แต่ลึกๆ เราต่างก็รู้ว่าเพื่อนคนนี้ก็มีมุมอ่อนไหว และให้ความสำ�คัญต่อสิ่งต่างๆ ไม่น้อย แน่นอนว่าเราทั้งอยากที่จะฟัง และแชร์เรื่องราวให้เพื่อนคนนี้ได้รับรู้ อาจจะเป็นเพราะเขามีทั้งความ น่ารัก อบอุ่น และความสบายใจที่น่าอยู่ใกล้ แถมด้วยอารมณ์ขันที่แอบ จิกกัดความจริงอันน่าขมขื่นในชีวิตให้กลายเป็นเรื่องขำ�ขันขึ้นมาได้บ้าง มี่ป๋องเองก็น่าจะจัดอยู่ในเพื่อนลักษณะนี้ ในขณะที่ฝั่งธุรกิจเอง แบรนด์ คาแรกเตอร์ของมี่ป๋องก็ไม่น่าต่างไปจากเพื่อนตัวฮาของกลุ่มที่สามารถ แชร์เรื่องราวหรือบอกต่อสิ่งดีๆ จากเพื่อนสู่เพื่อนได้อย่างไม่ขัดเขิน ส่วน ทาร์เก็ตกรุ๊ปของเขาก็คือ เพื่อนที่ไม่จำ�กัดเพศและวัย “วิธกี ารอยูข่ องเราคือเป็นเพือ่ น เพราะฉะนัน้ เราจะพูดได้ทกุ เรือ่ ง มีความ หลากหลายในเรือ่ งทีจ่ ะพูด คือเป็นคนๆ หนึง่ วันนีเ้ ราอาจจะบ่นแท็กซี่ ตอน ดึกพรํา่ เพ้อเรือ่ งความรัก ตอนเช้าบ่นเรือ่ งทำ�งาน ฝนตกเก็บผ้าหรือยังนะ อะไร แบบนี้ ช่วงแรกถ้ากลับไปดู มีป่ อ๋ งจะเป็นคนพูดมาก เป็นตัวเอง กู มึง คำ�หยาบ เรายังพูดอยูน่ ะ จนกระทัง่ เราค่อยๆ ปรับให้นมุ่ นวลขึน้ เราเคยเกิดความรูส้ กึ อย่างหนึง่ ว่า คนทีแ่ ชร์ไปเขามีหลายระดับ เขาต้องรูส้ กึ ว่าแชร์แล้วไม่อาย บางที เราใช้ค�ำ หยาบมาก ซึง่ มันคงโดนใจใครหลายๆ คน แต่ค�ำ หยาบพวกนัน้ เวลา มันไปแปะหน้าวอล มันสะท้อนไปถึงว่าเขามีรสนิยมยังไง คนทีท่ �ำ ให้เปลี่ยนคือ คุณจูนจูน (พัชชา พูนพิรยิ ะ) ตอนทีแ่ ชร์บอกว่าชอบหมดทุกคำ�เลย ยกเว้นคำ� ว่า ‘ผัว’ ซึง่ จูนเป็นน้องของรุน่ พี่มหา’ลัย เราเลยทำ�ใหม่แปะไปให้เขา ตอนนัน้ เลย อ๋อ บางทีมนั มีเรือ่ งภาพลักษณ์ คนทีจ่ ะแชร์และเหตุผลทีจ่ ะแชร์ตอ้ งทำ�ให้ เขาไม่อายด้วย นีค่ อื เหตุผลทีค่ อ่ ยๆ ปรับคาแรกเตอร์มาเรือ่ ยๆ แต่เนือ้ ความก็ ยังเหมือนเดิม”

มี่ป๋องสอนให้รู้ว่า... “เราว่าทุกคนมีสทิ ธิท์ จี่ ะสร้างเรือ่ งราวของตัวเอง เราเชือ่ อยูอ่ ย่างหนึง่ ว่า ไม่มี ใครทีจ่ ะเล่าเรือ่ งได้อย่างทีเ่ ราเล่า แล้วเราก็ไม่ได้เล่าอย่างเขา คนทีช่ อบแบบนัน้ ก็มี คนที่ชอบแบบเราก็มี ฉะนั้นมันไม่จำ�เป็นเลยว่าวันนี้ไม่มีคนกดไลค์ แค่ มันอาจจะไม่ได้ตอ่ ยอดให้ธรุ กิจไปได้ไกลขึน้ ซึง่ ไม่ใช่แนวคิดหลักเราอยูแ่ ล้ว แต่สงิ่ ทีไ่ ด้จากมีป่ อ๋ งจะกลายเป็นจุดเริม่ ต้นของธุรกิจใหม่ทจี่ ะเกิดขึน้ พอถึง จุดหนึ่งที่มี่ป๋องจบตัวลงไปก็ไม่มปี ญั หา เพราะฉะนัน้ มุมมองที่เราได้จากมี่ป๋อง มันจะทำ�ให้เรามีพัฒนาการในการแก้ปัญหา เช่น รับมือกับลูกค้ายังไง เรา ไม่เข้าใจระบบการเงินตรงไหน สิง่ เหล่านีจ้ ะถูกพัฒนาไปเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ทุกวันนี้มันไม่ได้ทำ�แล้วรู้สึกว่าต้องได้เงิน เพราะวันแรกที่ทำ�ไม่ได้หวัง ว่าจะได้เงิน มันก็คอื ความสุขทีเ่ พิม่ ขึน้ มา คือเราไม่เคยคาดหวังอะไรจากเขา ไม่ได้คาดหวังให้เขามากดไลค์หรือแชร์ สิ่งที่เราคาดหวังคือจากเอเจนซี่ (ฮ่าๆ) จากยูสเซอร์เราให้เปล่า นั่นคือความสุขอย่างหนึ่ง แล้วมันไม่ได้กวน เวลาชีวติ โชคดีทมี่ ปี่ อ๋ งมันง่าย ถ้าต้องมานัง่ วาดให้เหมือนการ์ตนู มันอาจจะ ยากล่ะ มันอาจจะเครียด เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่เราเล่าได้มากขึ้น บางอย่าง มันได้เปลีย่ นชีวติ คนอืน่ และบางอย่างมันเปลีย่ นชีวติ เราเอง เรารูส้ กึ ว่าอย่าง น้อยมันทำ�ให้เขาได้อะไรกลับไปแค่นั้นเอง ถามว่าขายอารมณ์ขันมั้ย บางที เราก็ไม่ตลกนะ แล้วเราก็ไม่ใช่ประเภทพูดแต่คำ�คม เราก็เป็นคนธรรมดา แต่สิ่งสำ�คัญที่จะอยู่ตรงนี้ได้คือ คุณต้องเป็นตัวเองที่สุด ไม่อย่างนั้นคุณจะ อยู่ไม่ได้ เพราะต้องมานั่งประดิษฐ์ทุกวัน” Facebook: meepongstory

CREATIVE THAILAND I 23


flickr.com/photos/didierjansen

Creative City : จับกระแสเมืองสร้างสรรค์

เรื่อง: ณัฏฐนิช ตัณมานะศิริ

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไอซ์แลนด์ ประเทศเล็กๆ ท่ามกลางภูมิประเทศสวยงามที่มีประชากรเพียง 300,000 คนแห่งนี้ จะได้ครอง ตำ�แหน่งหนึ่งในประเทศที่สงบสุขที่สุดของโลกมาตลอด แต่เรื่องเหลือเชื่อก็คือ เมื่อเกิดวิกฤติการเงินยุโรปในปี 2008 ซึ่ ง ทำ � ให้ ร ะบบการเงิ น การธนาคารของไอซ์ แ ลนด์ พั ง ทลาย งานวิ จั ย กลั บ พบว่ า ระดั บ ความสุ ข ของผู้ ค นในประเทศ แทบไม่ได้ลดลงเลย ยิง่ ไปกว่านัน้ คือความเชือ่ มัน่ ในการเมืองและจิตวิญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงของชาวเมืองกลับฟืน้ คืน มาได้ ด้วยการก้าวเข้ามาสู่แวดวงการเมืองของนักแสดงตลกที่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเมืองเรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงซึ่งมีประชากรถึงหนึ่งในสามของประเทศอาศัยอยู่

CREATIVE THAILAND I 24


wikipedia.org

เมื่อครั้งเกิดวิกฤติเศรษฐกิจยุโรปในปี 2008 ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนัก และฉับพลันทีส่ ดุ เนือ่ งจากขนาดเศรษฐกิจทีค่ อ่ น ข้างเล็ก ประกอบกับในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ไอซ์แลนด์ได้มีการขายสัมปทานการธนาคารแก่ เอกชน แต่ด้วยวินัยทางการคลังที่หละหลวม ธนาคารหลัก 3 แห่งของไอซ์แลนด์ใช้นโยบาย เสนอดอกเบี้ ย เงิ น ฝากสู ง กว่ า ธนาคารอื่ น เพื่ อ ดึ ง ดู ด เงิ น ทุ น เข้ า มาชดเชยการขาดดุ ล บั ญ ชี เดินสะพัด ทำ�ให้เกิดเป็นภาระหนี้สินสะสมรวม กันสูงถึง 12 เท่าของจีดีพี หรือ 6.1 หมื่นล้าน เหรียญเหรียญสหรัฐฯ (สำ�นักข่าวบลูมเบิร์ก) ธนาคารทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ คอปธิง (Kaupthing) แลนด์สแบงกี (Landsbanki) และกลิทนีร์ (Glitnir) จึ ง ตกอยู่ ใ นสภาพล้ ม ละลายและถู ก รั ฐ บาล ไอซ์แลนด์เข้ายึดกิจการในเดือนตุลาคม 2008 การล่มสลายของระบบธนาคาร ส่งผลกระทบ โดยตรงถึงบัญชีเงินฝากและเงินบำ�นาญของชาว ไอซ์แลนด์ อัตราการว่างงานในประเทศเพิม่ สูงขึน้ 8 เท่า หนุ่มสาวไอซ์แลนด์ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น และได้รับสวัสดิการสังคมน้อยลง รายงานที่ เปิดเผยถึงความละโมบและประมาทเลินเล่อ ของนักธนาคาร รวมถึงการเอื้อผลประโยชน์แก่ พวกพ้องของนักการเมืองทำ�ให้ชาวไอซ์แลนด์ไม่ พอใจอย่างมาก ประชาชนออกมาประท้วงบน ท้องถนนและปิดล้อมรัฐสภาจนเกิดการปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าทีต่ �ำ รวจและประชาชนในช่วงต้น

ปี 2009 ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน ประเทศที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่น่า อยู่ที่สุดในโลกแห่งนี้ หลังผ่านพ้นช่วงเวลาคุกรุ่น ไอซ์แลนด์เอง ต้องทนพิษหลังจากเกิดวิกฤติเป็นเวลาหลายปี ในระหว่างนั้น ชื่อของบุคคลที่ได้รับการกล่าวถึง บ่อยครั้งในฐานะผู้จุดประกายความหวังใหม่ ให้แก่เรคยาวิก เมืองหลวงแห่งไอซ์แลนด์คือ “ยอน นาร์ (Jon Gnarr)” นักแสดงตลกชื่อดังที่ ได้ก่อตั้งพรรคการเมืองในชื่อ “พรรคที่ดีที่สุด” หรือ “Best Party” (โดยปกติแล้วชาวไอซ์แลนด์ จะไม่พดู ว่าอะไร “ดีทสี่ ดุ ”) เพือ่ เสียดสีการทำ�งาน ของนักการเมืองที่ทำ�ให้ทั้งประเทศต้องตกที่นั่ง ลำ�บาก เขาลงสมัครเลือกตัง้ เป็นนายกเทศมนตรี เมืองเรคยาวิกในปี 2010 โดยสมาชิกพรรคของ เขาส่วนใหญ่เป็นเพื่อนศิลปินและสถาปนิกที่ไม่มี ประสบการณ์ด้านการเมืองมาก่อน การหาเสียงของ Best Party สร้างความ ขบขันด้วยการล้อเลียนเสียดสีความจริงที่เกิดขึ้น ในแวดวงการเมือง วิดีโอหาเสียงของพวกเขาซึ่ง อัพโหลดขึน้ ยูทบู เรียกความสนใจจากสาธารณชน หลายแสนคนด้วยการสอดแทรกอารมณ์ขนั อย่าง ชาญฉลาด ทำ�นองเพลง Simply the Best ของ ทีนา เทอร์เนอร์ (Tina Turner) ศิลปินร็อกแอนด์ โรลชื่อดังถูกนำ�มาเรียบเรียงเนื้อร้องใหม่ เพื่อใช้ เป็นเพลงประกอบที่สื่อถึงการเปลี่ยนแปลงครั้ง ใหม่และอนาคตที่สดใส โดยมีเพื่อนศิลปินและ สมาชิกพรรคมาร่วมร้อง ภาพบรรดาศิลปินในห้อง อัดเสียงตัดสลับกับภาพของยอน นาร์ ที่ล้อเลียน อากัปกิรยิ าต่างๆ ของนักการเมืองระหว่างเดินทาง CREATIVE THAILAND I 25

wikipedia.org

flickr.com/photos/alessandrogrussu

เศรษฐกิจ การเมือง และนักแสดงตลก

พบปะประชาชน ท่าทางการปราศัยของเขาทีแ่ ลดู ขึงขังจนดูเหมือนจริงจังเกินเหตุในบางช่วง การ วาดมือไม้อย่างรุนแรง ลูกโป่งสีชมพู และการ กอดจูบเด็กๆ คือมุกตลกเสียดสีที่โดนใจชาว ไอซ์แลนด์อย่างจัง นโยบายหาเสียงที่ยอนป่าวประกาศอย่าง ขึงขังในตอนท้ายของวิดโี อ เช่น การนำ�หมีขวั้ โลก เข้ามาไว้ในสวนสัตว์ สร้างดิสนีย์แลนด์บริเวณ สนามบิน หรือบริการผ้าเช็ดตัวฟรีในสระว่ายนํ้า สาธารณะในเรคยาวิก แม้จะฟังดูแปลกประหลาด สำ�หรับคนนอก แต่แท้จริงแล้วส่วนใหญ่เป็นการ อ้างถึงปัญหาสังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม อย่างมีที่มาที่ไป เช่น กฎหมายไอซ์แลนด์ที่เพิ่ง จะอนุญาตให้สามารถยิงหมีขั้วโลกที่อพยพหนี นํ้ า แข็ ง ละลายมาขึ้ น ฝั่ ง ในเขตที่ พั ก อาศั ย ได้ ขณะที่นโยบายผ้าเช็ดตัวฟรีก็มีจุดประสงค์เพื่อ ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวยุโรปให้เข้ามาแช่นํ้าร้อน ในสระว่ายนํ้าซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำ�คัญของ ไอซ์แลนด์มากขึน้ โดยอ้างถึงกฎระเบียบทีค่ ลุมเครือ ของสหภาพยุโรปที่กำ�หนดว่า การที่สระว่ายนํ้า จะได้รับการจัดอยู่ในกลุ่ม “สปา” ได้ ก็ต่อเมื่อมี ผ้าเช็ดตัวให้บริการฟรีเท่านัน้ ฯลฯ แต่ไม่วา่ นโยบาย ที่เขาพูดถึงจะได้ทำ�จริงหรือเป็นเพียงมุกตลก ก็ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องสำ�คัญอีกต่อไป เพราะ ในช่วงท้ายของการหาเสียง ยอน นาร์ยังได้ให้ คำ�สัญญาสุดท้ายไว้กับชาวเมืองเรคยาวิก เป็น คำ�สัญญาทีท่ งั้ จริงใจและเจ็บแสบในเวลาเดียวกัน นั่นคือ “สัญญาว่าจะไม่ทำ�ตามสัญญา”


สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของหลายฝ่ายคือ Best Party คว้าชัยชนะจากการเลือกตั้ง ด้วย คะแนน 34.7 เปอร์เซ็นต์ นำ�หน้าพรรคอนุรักษ์ นิยมฝ่ายขวาไปอย่างฉิวเฉียดที่ 33.6 เปอร์เซ็นต์ Best Party มีที่นั่งในสภาเทศบาลเมืองเรคยาวิก 6 จากทั้งหมด 15 ที่นั่ง ไม่กี่วันต่อมา ยอน นาร์ ในฐานะนายกเทศมนตรีเมืองเรคยาวิก จึงได้จัด ตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคสังคมนิยม Social Democrats เพือ่ เริม่ ต้นบริหารเมือง ศาสตราจารย์ กุนนาร์ เฮนกิ คริสตินส์สัน (Gunnar Helgi Kristinsson) ผูเ้ ชีย่ วชาญด้านรัฐศาสตร์การปกครอง มหาวิทยาลัยไอซ์แลนด์เห็นว่า เหตุผลหนึ่งที่ ยอน นาร์ ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีน้ัน ก็เพราะว่าหลังจากการพังทลายของเศรษฐกิจ ประชาชนต่างก็รู้สึกเบื่อหน่ายและสูญเสียความ เชื่อมั่นในสถาบันการเมือง และแม้ว่าจะไม่มีใคร รู้จักพื้นเพด้านการเมืองของยอนเลย แต่สำ�หรับ ประชาชนจำ�นวนมาก นี่อาจเป็นทางเลือกใหม่ที่ น่าลองเสี่ยง และแล้วยอนก็ท�ำ ตามคำ�สัญญาทีใ่ ห้ไว้ ด้วย สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยํ่าแย่ ทำ�ให้หลาย นโยบายที่เคยเสนอไว้ถูกตัดออก แน่นอนว่าชาว เรคยาวิกหลายคนรู้สึกไม่พอใจ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ตอ้ งยอมรับความจริง “ผมต้องขึน้ ราคาทุกอย่าง

facebook.com/bestiflokkurinn

ล้อเล่นจนได้เรื่อง

ทีจ่ ะขึน้ ได้ ค่าบริการต่างๆ ไม่มผี า้ เช็ดตัวฟรี จริงๆ คือเราขึ้นค่าบริการเป็น 2 เท่าด้วยซํ้า” ยอนเล่า ย้อนถึงช่วงเวลาระหว่างดำ�รงตำ�แหน่งของเขา จำ�นวนนักเรียนทีล่ ดลงทำ�ให้ตอ้ งตัดสินใจควบรวม กิ จ การโรงเรี ย นเพื่ อ ลดค่ า ใช้ จ่ า ย เจ้ า หน้ า ที่ ภาครัฐจำ�นวนมากต้องถูกเลิกจ้าง “มันเป็นการ ตัดสินใจที่ยากมาก แต่ทุกคนก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ ต้องทำ�” แต่หากจะมีเหตุผลใดที่ชาวเรคยาวิกรู้สึก ชืน่ ชมยอน นาร์ เหตุผลนัน้ ก็คงจะเป็นความตรงไป ตรงมาและจริงใจของเขา ในเดือนธันวาคม 2010 เขารายงานงบประมาณของเทศบาลเมืองด้วย ท่าทีที่อ่อนน้อม พร้อมกับแสดงความขอโทษที่

จำ�เป็นต้องตัดงบประมาณของเมืองลงอีกต่อเนือ่ ง จากปีกอ่ นหน้า อย่างไรก็ตาม การปราศัยของเขา ก็ ยั ง เปี่ ย มด้ ว ยความหวั ง และการให้ กำ � ลั ง ใจ “Best Party เป็นพรรคแบบไหน ผมเองก็ไม่รจู้ ริงๆ พวกเราไม่ใช่พรรคการเมืองที่สมบูรณ์ พวกเรา เป็นเหมือนองค์กรที่ช่วยเหลือตนเอง (Self-help Organization) มากกว่า เราพยายามทีจ่ ะทำ�แต่ละ วันให้ดี และจะไม่ท�ำ เกินขอบเขตของเรา...เราจะไม่ ทำ�ในสิง่ ทีเ่ ราอยากทำ� แต่เราจะทำ�สิง่ ทีเ่ ราต้องทำ�... เรามีประเทศทีย่ อดเยีย่ มและยังมีโอกาสมากมาย ทีร่ ออยูข่ า้ งหน้า เรายังมีกนั และกัน เรายังหัวเราะ และเล่นมุกตลกด้วยกันได้ ทุกอย่างเรียบร้อยดี และทุกคนจะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยกัน”

เมืองเล็กๆ สุขล้นๆ แม้จะได้รบั ผลกระทบจากวิกฤติการเงินอย่างจัง แต่ไอซ์แลนด์กลับหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในเวลาไม่กป่ี เี ท่านัน้ ปัจจุบนั ไอซ์แลนด์ถกู จัดอันดับให้ เป็นหนึ่งในประเทศที่น่าอยู่ที่สุดของโลก เนื่องจากมีอัตราการจ้างงานสูง รายได้ดี และมีความมั่นคงในการทำ�งาน นอกจากนี้ประชากรยังได้รับการศึกษา ระบบสุขภาพ และความพึงพอใจในชีวิตสูง โดยนิตยสารฟอร์บส์ วิเคราะห์ว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำ�ให้เศรษฐกิจและสังคมไอซ์แลนด์ฟื้นฟูและกลับมาเติบโตได้ อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในยุโรป คือความเข้มงวดในการลงโทษนายธนาคารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะล้มละลายทาง เศรษฐกิจ แทนที่จะปล่อยให้หนีไปอย่างลอยนวลโดยไม่ต้องรับผิดชอบเหมือนอย่างประเทศอื่นๆ เช่นสหรัฐฯ ที่ประกันตัวนายธนาคาร มากไปกว่านั้น การมีเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็ง มีความผูกพันแน่นแฟ้น และพร้อมจะช่วยเหลือกันเสมอ ยังทำ�ให้ระดับความสุขของพวกเขาแทบไม่ ลดลงเลย เมื่อต้องเผชิญกับวิกฤติ ผลการสำ�รวจของ Gallup World Poll ในปี 2013 - 2015 พบว่าไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีผู้ตอบแบบสำ�รวจว่าตนเองมีคน ที่พึ่งพาและไว้วางใจได้ในยามทุกข์ยากสูงที่สุด คือ 95 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นๆ อยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น “แม้ว่าชาวไอซ์แลนด์จำ�นวน มากจะได้รบั ผลกระทบจากวิกฤติ แต่สง่ิ หนึง่ ทีเ่ กิดขึน้ เมือ่ คุณอาศัยในประเทศทีอ่ ยูก่ นั เป็นชุมชนเล็กๆ ก็คอื คุณมีทกุ คนทีค่ ณุ รูจ้ กั อยูใ่ กล้ๆ ใครที่ตกงานหรือ ต้องเจอกับโชคร้ายจะไม่รสู้ กึ โดดเดีย่ ว โอกาสทีจ่ ะรูส้ กึ ว่าเหินห่างจากสังคมก็จะต่�ำ กว่าเมืองใหญ่ในประเทศอืน่ ๆ” คาร์ล บลอนดอล (Karl Blondal) บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ชาวไอซ์แลนด์อธิบาย นอกจากนี้ จากรายงานขององค์การสหประชาชาติ ไอซ์แลนด์ยังเป็นประเทศที่ระดับความสุขของคนในชาติใกล้เคียงกัน (Equality of Happiness) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำ�ให้คนเรามีความสุขมากกว่าการอยู่ในสังคมที่มีความเหลื่อมลํ้าสูง เช่นในแถบตะวันออกกลางและละติน อเมริกาอีกด้วย CREATIVE THAILAND I 26


flickr.com/photos/maitreyoda

wikipedia.org

ผลงานสำ�คัญของสภาเมืองในยุคของยอน นาร์ คือการกอบกู้บริษัทพลังงาน Reykjavík Energy ซึ่ ง เมื อ งเรคยาวิ ก ถื อ หุ้ น ในบริ ษั ท อยู่ ถึ ง 94 เปอร์เซ็นต์ สถานะทางเงินของบริษัทขณะนั้นอยู่ ในจุดที่ยํ่าแย่ ทั้งๆ ที่ไอซ์แลนด์มีทรัพยากร พลังงานล้นเหลือและมีความต้องการในตลาด พลังงานมาก แต่เนื่องจากบริษัทกำ�ลังอยู่ใน ระหว่างขยายกิจการและมีการกู้ยืมเงินจำ�นวน มาก เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หนี้ก้อนใหญ่จึง สู ง ขึ้ น เกื อ บเท่ า ตั ว ภายในเวลาข้ า มคื น โดย Reykjavík Energy มีหนี้สินสูงถึง 2 พันล้าน เหรี ย ญสหรั ฐ ฯ ซึ่ ง คิ ด เป็ น เกื อ บสี่ เ ท่ า ของงบ ประมาณรายปีของเมือง นอกจากนี้ หนี้จำ�นวน 1.7 พันล้านยังอยู่ในรูปของเงินกู้เงินตราต่าง ประเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงเพราะในขณะนั้น เงินโครนาอยู่ในภาวะผันผวนขึ้นลงตลอดเวลา สภาเมืองพยายามกอบกูส้ ถานการณ์โดยให้ เงินกู้จำ�นวน 114 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมอบ หมายให้ฮารัลเดอร์ โฟลซี ทริกก์วาสัน (Haraldur Flosi Tryggvason) หนึ่งในคณะกรรมการไม่กี่ คนในประวัติศาสตร์ของ Reykjavík Energy ที่มี พื้นฐานด้านธุรกิจ เข้ามาเป็นผู้บริหารของคณะ ทำ�งาน “เราพยายามจะเลือกคนทำ�งานตาม ประสบการณ์และความรูค้ วามสามารถ มากกว่า เรือ่ งของพวกพ้องทางการเมือง” ยอนให้สมั ภาษณ์ กับนิตยสาร The Reykjavik Grapevine พวกเขา ปลดพนักงานออกมากกว่า 60 อัตราในเดือน

ตุลาคม 2010 และขึ้นราคาไฟฟ้าและพลังงาน ความร้อนถึง 27 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาเพียงสาม เดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิดว่าถ้าหากไม่ใช่สภา เมืองในยุคของคนนอกวงการอย่างยอน นาร์ จะ มีใครยอมเสีย่ งทำ�ในสิง่ ทีอ่ าจได้รบั ความนิยมจาก ประชาชนน้อยลงเช่นนีห้ รือไม่ “นักการเมืองส่วน ใหญ่มีหลายอย่างที่อาจจะต้องเสียไปจากการ ตัดสินใจบางอย่าง แต่ผมไม่แคร์ ผมไม่ได้ตั้งใจ ว่าจะต้องได้รับเลือกอีกในสมัยหน้า” เขากล่าว ศาสตราจารย์กุนนาร์ เฮนกิ คริสตินส์สัน วิเคราะห์ว่า ในฐานะนายกเทศมนตรีมือใหม่ การทีย่ อนไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการทำ�งานรายวัน ของเทศบาลเมืองมากนักนัน้ อาจจะเป็นเรือ่ งทีด่ ี เพราะเท่ากับว่าเจ้าหน้าทีท่ มี่ คี วามเชีย่ วชาญก็จะ มีพื้นที่ในการทำ�งาน ในขณะที่เขาให้ความสนใจ ในเรื่องที่เขาเรียกว่า ‘ปัญหาเกี่ยวกับแนวคิด หลังสมัยใหม่ (Postmodern Issues)’ เช่น เส้นทาง จักรยาน พื้นที่สาธารณะ และการเรียกร้องสิทธิ ของกลุ่มคนที่ไม่ได้รับโอกาสในสังคมมากเป็น พิ เ ศษ โดยหนึ่ ง ในภาพการทำ � งานของเขาที่ ติดตรึงใจคนส่วนใหญ่มากที่สุด คือการที่เขามา ปรากฏตัวในขบวนพาเหรดของกลุม่ คนรักร่วมเพศ (Pride Parade) ในปี 2010 ในชุดกระโปรง พร้อม กับเล่นมุกว่า “วันนี้ยอนคงจะมาร่วมงานตามที่ สัญญาวันนี้ไว้ไม่ได้ นี่แหละคือสิ่งที่พวกเราได้ จากการเลือกตัวตลกเข้ามาเป็นนายกฯ” แน่นอนว่ามีทงั้ ชาวเรคยาวิกทีส่ นับสนุนและ ไม่เห็นด้วยกับการทีอ่ �ำ นาจในการบริหารตกอยูใ่ น มือของอดีตนักแสดงตลก แต่ Best Party ก็ได้

flickr.com/photos/8058853@N06

ตลกได้ จริงจังเป็น

เปิดมุมมองใหม่ให้วงการการเมืองในไอซ์แลนด์ อย่างมาก รูปแบบการทำ�งานทีเ่ ปิดรับการร่วมมือ จากหลายฝ่ายทำ�ให้คนส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์ และยอมรับได้เมื่อสภาเมืองจำ�เป็นต้องตัดสินใจ ในเรื่องที่ยาก มีการริเริ่มโครงการทดลองที่น่า สนใจเพือ่ ให้ประชาชนมีสว่ นร่วมในประชาธิปไตย โดยตรง เช่น การร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหา ผลกำ�ไร Citizens Foundation เพื่อเปิดเว็บไซต์ Better Reykjavik เป็นช่องทางให้ประชาชนเข้า มาเสนอนโยบายและโหวตให้ ค ะแนนเพื่ อ จั ด ลำ�ดับความสำ�คัญว่างบประมาณของเมืองควรจะ แบ่งไปใช้ในโครงการใดก่อน “สิง่ สำ�คัญทีส่ ดุ ของ Best Party คือการแสดงให้เห็นว่าประชาชนทัว่ ไป สามารถที่จะควบคุมการเมืองได้โดยที่ไม่มีอะไร เลวร้ายเกิดขึ้นตามมา” ยอนกล่าว หลังครบวาระการดำ�รงตำ�แหน่งในปี 2013 แม้ว่าผลโพลจะชี้ว่า Best Party จะได้รับชัยชนะ อีกครั้งแน่นอนหากลงสมัครเลือกตั้งต่อในสมัย หน้า แต่ยอนประกาศยุบพรรคและเดินออกจาก วงการการเมือง แม้จะบอกว่ายังไม่แน่ใจว่าจะทำ� อะไรต่อ “ถ้าผมลงสมัครเลือกตั้งต่ออีกครั้ง ผม ก็จะกลายเป็นนักการเมืองคนหนึ่ง ซึ่งผมไม่ใช่ ผมเป็นนักแสดงตลก เป็นศิลปินมาตลอดชีวิต ของผม” อย่างน้อยๆ ทีส่ ดุ นายกเทศมนตรีคนนีก้ ไ็ ด้ แสดงให้เราเห็นแล้วว่า หลายครั้งการลุกขึ้นมา เปลี่ยนแปลงสิ่งรอบตัวไปในทางที่ดีขึ้น ไม่เพียง ต้องอาศัยความพยายามอย่างจริงจัง แต่ยังต้อง เติมความสนุก อารมณ์ขัน และความจริงใจลง ไปด้วย

ที่มา: บทความ “Did politics ruin ‘the world’s coolest mayor’?” (2014) โดย Jennifer Yang จาก thestar.com / บทความ “Have you heard the one about Jon Gnarr, the comedian who saved Iceland from political and financial catastrophe?” (2014) จาก independent.co.uk / บทความ “How to Build Community Spirit Through Public Nudity” (2014) จาก citylab.com / บทความ “Icelander’s campaign is a joke, until he’s elected” (2010) จาก nytimes.com / บทความ “Reykjavik Energy in Deep Water” (2011) โดย Anna Andersen จาก grapevine.is / บทความ “The Joker: Jón Gnarr, The Comedian Who Became Mayor” (2014) จาก theguardian.com / บทความ “The Truth About Icelandic Happiness” (2016) โดย Eric Weiner จาก bbc.com / บทความ “ไอซ์แลนด์-IMF ใกล้บรรลุขอ้ ตกลงกอบกูศ้ ก. เตรียมเดินหน้าขอความช่วยเหลือจากญีป่ นุ่ ” (2008) จาก ryt9.com / งานวิจยั “On Happiness and Politics: Jón Gnarr’s Best Party (2009-2013)” โดย Dominic Boyer, Rice University จากวารสารออนไลน์ Perspectives on Europe (Autumn 2013) councilforeuropeanstudies.org / รายงาน “World Happiness Report 2016” จาก worldhappiness.report / สารคดี “Meltdown: The Secret History of the Global Financial Collapse” กำ�กับโดย Terence Mckenna CREATIVE THAILAND I 27


The Creative : มุมมองของนักคิด

จอห์น วิญญู เรื่อง: พัชรินทร์ พัฒนาบุญไพบูลย์ / ภาพ: สุรพัศ เคียงคู่ และ ชาคริต นิลศาสตร์

การเรียกเสียงฮานั้นมีอยู่หลายวิธี นี่คือสิ่งที่ จอห์น - วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ บอกกับเรา แต่การเรียกเสียงฮาที่ท�ำได้พร้อมๆ กับเรียกสติให้คนในสังคมได้ฉุกคิดถึงปัญหาในมิติอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขนั้น อาจจะไม่ได้เรียกว่าเป็น “ความตลก” ที่ เบาสมองเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งการแค่นหัวเราะในล�ำคอก็อาจน�ำมาซึ่งการแก้ปัญหาที่จริงจังในภายหลังได้

CREATIVE THAILAND I 28


นิยามของความตลกและอารมณ์ขนั ทีเ่ ราได้พดู คุยกับ จอห์น วิญญู ผูบ้ ริหาร Spokedark TV และไอคอนของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ทักษะการนำ�เสนอแบบที่เขา เรียกว่าตลกร้ายมาเสียดสีและตีแผ่ความจริงของสังคมในวันนี้ จึงไม่เพียง สร้างความขำ�ขันแบบเลี่ยงไม่ได้ให้กับผู้ที่ได้ยินได้ฟังเท่านั้น แต่ยังเป็นการ เปิดประเด็นคำ�ถามอย่างแนบเนียนให้สังคมได้เกิดความคิดหรือการลงมือ ทำ�สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบหลายๆ คำ�ถามที่อาจยังไม่ได้ถูกตอบหรือถูกแสร้งทำ� เป็นไม่รู้ไม่เห็นมาตลอด เพื่อให้เรื่องเหล่านั้นไม่อาจเป็นเรื่องที่ผิดเพี้ยนหรือ บิดเบี้ยวไปจากหลักการที่ถูกต้องได้อีกต่อไปด้วย กว่ า จะกลายมาเป็ น จอห์ น -วิ ญ ญู แบบนี้ คุ ณ ต้ อ งผ่ า น ประสบการณ์แบบไหนมาบ้าง ผมคิดว่าผมถูกหล่อหลอมมาให้เป็นคนแบบนี้ คือตลก แต่แบบตลกร้ายกับ การมองสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา ที่บ้านผมวันเสาร์วันอาทิตย์เรามักจะนั่ง กินข้าวกันตอนกลางวัน คุณพ่อผมสอนรัฐศาสตร์ สอนประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครองไทย แล้วก็เรื่องเกี่ยวกับสังคม สอนตั้งแต่ปริญญาตรี จนถึงปริญญาเอก เขาก็จะเจอลูกศิษย์มากมาย แล้วกลุ่มหนึ่งที่เขาเจอ เยอะมากๆ ก็คือข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำ� ทหาร ตำ�รวจ นักการเมืองก็เจอ แล้วก็ดว้ ยเหตุอะไรก็ไม่รู้ ลูกศิษย์พวกนีด้ ว้ ยความทีอ่ ยาก จะได้คะแนนสูงๆ เข้าใจว่าการตีซี้กับอาจารย์จะทำ�ให้ได้คะแนนพิศวาส แต่อ.โกวิทไม่ใช่แบบนั้น แต่ในเมื่อมาคุยดีๆ ท่านก็คุยได้ จะได้แซะนู่น ถามนี่ แล้วคนพวกนีก้ จ็ ะพรัง่ พรูสงิ่ ต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ทัง้ เรือ่ งของการคอร์รปั ชัน่ ในหน่วยงานราชการและองค์กรต่างๆ การใช้เส้นสาย ระบบอุปถัมภ์ การใช้อ�ำ นาจในทางทีฟ่ งั แล้วก็รสู้ กึ ว่า ทำ�แบบนีก้ ไ็ ด้เหรอ มันขนาดนีเ้ ลยเหรอ หลายครัง้ คุณพ่อก็จะมาเล่าด้วยความไม่ได้รสู้ กึ อะไร อาจจะด้วยความ เคยชิน เหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติของบ้านเมืองเรา ก็จะมาแชร์ให้ฟังบน โต๊ะอาหาร ซึ่งถ้าคุณแม่ผมฟังด้วยนี่ คุณแม่จะเป็นคนอเมริกันที่ย้ายมาอยู่ เมืองไทยจะ 50 ปีแล้ว แต่แน่นอนว่าเขาเกิดมาในสังคมที่มันค่อนข้าง เปิดกว้าง ตรวจสอบได้ ตั้งคำ�ถามต่างๆ ได้ พอเขามาฟังเรื่องที่เกิดขึ้นใน เมืองไทยจากคุณพ่อ เขาก็จะเกิดอาการแบบเส้นเลือดในสมองจะแตกเอา จะเครียด หน้าแดง แล้วก็สงสัยว่าพวกยูคนไทยทนกับเรื่องแบบนี้ได้ไง ซึ่ง คุณพ่อมาเล่าให้เราฟังในเชิงที่ว่ามันขำ� มันเป็นเรื่องตลกร้ายเนอะ คือสิ่งที่ เขากำ�ลังสอนมันเป็นเรื่องหลักการทางกฎหมาย ความเป็นประชาธิปไตย เรื่องของความโปร่งใส การถ่วงดุลอำ�นาจ แต่มันกลับกลายเป็นว่า สิ่งที่เจอ มามันขัดแย้งกัน แล้วคุณพ่อก็พยายามจะสอนให้คนพวกนี้มองโลกตาม หลักการทีม่ นั ถูกต้อง แต่คนพวกนีก้ ด็ จู ะไม่แยแสอะไรเท่าไหร่ ขอให้ได้เกรด เท่านั้นก็พอ แต่คุณแม่ก็จะเครียดแทบเป็นแทบตาย งงมากกับลักษณะ ความคิดของคนไทยว่าทำ�ไมถึงไม่ลกุ ขึน้ มาทำ�อะไรบ้าง คุณพ่อผมก็จะบอก ว่า เฮ้ยยู ถ้ายูไม่ตลกกับเรื่องนี้ ยูกลายเป็นบ้าแน่ๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิด ขึ้นในสังคมไทยทุกวัน เดินไปข้างถนนเจอคนขายของบนฟุตบาท นั่นมันก็ ผิดกฎแล้ว การที่มันตั้งอยู่ตรงนั้นมันทำ�ได้ยังไงล่ะ คือคุณสามารถมองเห็น ความผิดปกติได้ทวั่ ไป มองไปทางไหนก็เจอ เรือ่ งของการหารายได้ตามพืน้ ที่ สาธารณะหรืออะไรก็ตาม การใช้อำ�นาจของเจ้าหน้าที่ คุณเปิดหนังสือพิมพ์ อ่าน คุณก็เห็นความแปลกประหลาด ความพิสดารที่มันเกิดขึ้นในสังคม ถ้า

ถ้าคุณเครียดไปกับทุกรายละเอียด ตรงนัน้ คุณก็เครียดตายพอดี ไม่ใช่ ว่าไม่ควรลุกขึ้นมาท�ำอะไรนะ เพียง แต่ว่าคุ ณ อาจจะต้ อ งข�ำไปกั บ มั น ต้ อ งมองมั น เป็ น เรื่ อ งตลก แล้ ว ก็ ค่อยๆ ปรับมันไป

คุณเครียดไปกับทุกรายละเอียดตรงนัน้ คุณก็เครียดตายพอดี ไม่ใช่วา่ ไม่ควร ลุกขึน้ มาทำ�อะไรนะ เพียงแต่วา่ คุณอาจจะต้องขำ�ไปกับมัน ต้องมองมันเป็น เรื่องตลก แล้วก็ค่อยๆ ปรับมันไป หรือว่าอาจจะใช้ความตลกแบบนี้ไป เล่าต่อ ไปแชร์ต่อก็ได้ เพื่อให้คนเกิดการตื่นตัวกัน เพราะสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ คุณพ่อทำ� คุณพ่อจะไปเล่าให้ลกู ศิษย์ปริญญาตรีฟงั ให้เขาฉุกคิด ว่าจะเอะใจ อะไรกันขึน้ มาหรือเปล่า มันก็เป็นเรือ่ งตลก และก็เป็นเรือ่ งทีเ่ ศร้าด้วยในเวลา เดียวกัน แต่มันจะทำ�ให้พวกเขาจดจำ�แล้วก็ฉุกคิดอะไรได้เรื่อยๆ เป็นการหยิบความขำ�ขันมาใช้ตงั้ เป็นคำ�ถามเพือ่ ทำ�ให้เกิดการ ลงมือทำ�สิ่งใหม่ๆ ที่ดีขึ้น ใช่ครับ ผมคิดว่ามันคือการเอาเรื่องที่เป็นเรื่องซีเรียสในสังคมมาบิดให้มัน เป็นเรือ่ งตลก เผือ่ ว่ามันจะส่งผลให้เกิดการลงมือทำ�อะไรขึน้ มา ไม่วา่ จะเริม่ จากตัวเรา หรือการไปผลักดันให้คนอื่นเกิดการตื่นตัวและลงมือทำ�อะไร บางอย่าง ก็คิดว่ามาจากคุณพ่อนี่แหละ ตอนเด็กๆ เราเป็นทีมคุณพ่อหรือทีมคุณแม่ ก็สลับไปสลับมา แต่ตอนเด็กผมก็ยอมรับว่ายังไม่ค่อยเก็ตเรื่องแบบนี้หรอก เพราะผมไม่ได้ร้สู ึกว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัว ผมฟังเรื่องนี้มาตั้งแต่ 3-4 ขวบ ได้ยนิ เรือ่ งแบบนีม้ าตลอดแล้วก็ไม่คอ่ ยเก็ต คือก็จะแค่ข�ำ ตามว่าเออมันมีอะไร แบบนีด้ ว้ ยเหรอ แล้วก็ฟงั จนมันเป็นเรือ่ งปกติ แต่ไม่ได้รสู้ กึ ว่ามันกระทบตัวเรา บางทีกจ็ ะเครียดเวลาเห็นแม่เครียด บางทีกจ็ ะขำ�เวลาพ่อบอกว่ามันตลกตรงนี้ ไง แต่ผมเพิง่ จะมาเก็ตจริงๆ ก็ตอนทีเ่ ราโตขึน้ เริม่ ทำ�งานหาเงิน แล้วเหตุการณ์ เหล่านั้นมันเริ่มกระทบกับเรา เราเริ่มเสียภาษี เราเริ่มรู้สึกถึงคลื่นที่มันเริ่ม มากระทบเรา ซึง่ ผมโดนเรือ่ งภาษีมาตัง้ แต่อายุ 17-18 ในขณะทีเ่ พือ่ นเพิง่ เข้า มหาวิทยาลัยแล้วก็ถามเราว่า อะไรอ่ะ ไม่เห็นเก็ตเลย แต่ตอนนี้มัน 28-29 มันก็เริม่ ตืน่ ตัวกันใหญ่ คือเรารูต้ วั ก่อนเพือ่ นเกือบสิบปี ก็ถอื ว่าเราโชคดีดว้ ยที่ ได้รบั การเตรียมตัวจากคุณพ่อมาก่อน

CREATIVE THAILAND I 29


แล้ววัตถุดิบเหล่านี้ ณ วันหนึ่งมันกลายมาเป็นรายการอย่าง ที่ทำ�อยู่ได้อย่างไร เริ่มเล่าจากครอบครัวก่อนแล้วกันนะครับ คือจริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ผมก็ ต่อต้านมาตลอด คือหมายความว่าสิง่ ทีพ่ อ่ พยายามจะสอนเรา บางครัง้ อาจ จะเรียกว่าบังคับให้เราเรียนรู้ เขาจะบอกว่า เฮ้ย! มันมีประโยชน์จริงๆ กับ การให้เราเขียนเรียงความ ให้อ่านหนังสือให้เขาฟัง นั่งฟังข่าวไปกับเขา ฟัง เขาวิเคราะห์ข่าวว่าอะไรยังไง โดนให้คัดรัฐธรรมนูญ อะไรอย่างนี้ ผมก็ พยายามจะหนีมาตลอด เข้ามหาวิทยาลัยผมก็ไปเรียนการแสดง อยู่มัธยม ผมก็ถ่ายโฆษณา ถ่ายเอ็มวี พยายามจะหนีไปให้ไกลที่สุด แล้วพ่อก็จะงอน มากว่าทำ�ไมไปทำ�อะไรพวกนี้ ทำ�ไมไม่เรียนกฎหมายล่ะ เผื่อจะเป็นอัยการ เผื่อจะเป็นผู้พิพากษา รับราชการ แต่ก็กลับกลายเป็นว่าเราถูกปลูกฝังโดยที่ เราไม่รู้ตัว แล้วผมก็คิดว่าลูกๆ คนอื่นก็เหมือนกัน ผมเปิดบริษัทนี้ เริ่มแรก มาเป็น iHereTV กับพี่สาวคนโตคุณโรซี่ แล้วก็หุ้นส่วนคนอื่นๆ จนตอนหลัง ก็ออกมาเปิด SpokeDark TV กันเอง พีอ่ กี สองคนก็เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ผมกับพี่โรซี่ตอนแรกก็เหมือนจะพยายามหนี แต่สุดท้ายแล้วก็หนีไม่พ้นสิ่งที่ เราถูกปลูกฝังมาตลอด เลยกลายเป็นทักษะพิเศษที่เรามีมากกว่าคนอื่นๆ คือหลายคนเวลาฟังเรื่องการเมืองหรือฟังข่าว ก็จะรู้สึกเบื่อหรืออึดอัด รู้สึก ว่าไม่เห็นอยากฟังเลย มันเครียด แต่เราฟังมาตั้งแต่เด็กจนรู้สึกว่าสามารถ จับความตลกร้ายของมันได้ จับเรื่องราวในเนื้อข่าวที่คนทั่วๆ ไปอาจจะไม่ เห็น จนเราไม่รู้สึกว่ามันยากหรือไกลตัว มันกลายเป็นเรื่องถนัดด้วยซํ้า เพราะฉะนั้นเราก็เลยเอาเรื่องที่เราถนัด เรื่องที่เราเคยชินกับมันมาทำ�เป็น ธุรกิจ เป็นสิ่งที่เราสามารถหารายได้จากมันได้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำ�ให้เรา เริ่มต้นทำ�อินเทอร์เน็ตทีวี

ตอนที่เริ่มทำ�รายการ นอกจากคิดว่าจะนำ�เรื่องที่เราถนัด มาทำ�ธุรกิจแล้ว มีจุดประสงค์อื่นๆ อีกไหม จริงๆ แล้วมันมี 2 ประเด็น หนึ่งคือ ที่ผมเปิดอินเทอร์เน็ตทีวี เพราะผมรู้สึก ว่ารายการของผมไม่สามารถที่จะเข้าถึงสื่อช่องหลักได้ เพราะมันมีเรื่องของ ระบบเส้นสาย ระบบอุปถัมภ์ หรืออะไรก็ตามที่มันจะต้องเกิดขึ้น มันเป็น ช่องทางที่ถูกตีกรอบไว้จำ�กัดมาก เราก็รู้สึกเบื่อ เซ็ง และก็หงุดหงิด จนรู้สึก ว่าต้องหาช่องทางอื่น ซึ่งอินเทอร์เน็ตมันก็เป็นช่องทางที่เปิดกว้างช่องทาง หนึ่ง แล้วมันก็กำ�ลังแทรกซึมเข้ามาในสังคมไทย ณ เวลานั้น ประมาณ สิบปีทแี่ ล้ว อินเทอร์เน็ตยังไม่ได้เปิดกว้างขนาดนี้ ยังไม่มไี ฮสปีดอินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์มอะไรต่างๆ มันยังไม่มากขนาดนี้ ตอนนั้นมันเป็นเหมือนช่วง เวลาของการหาพื้นที่ใหม่ๆ ในการแสดงออก เพราะหลังจากที่ผมเองโดน เรื่องภาษีและปัญหาในเรื่องการเงินต่างๆ เข้ามา ก็รู้สึกว่าเราต้องมีอะไรที่ จะมาเป็นอาชีพรองรับเราได้ เรื่องที่สองคือตอนนั้นผมอายุประมาณยี่สิบ รายการทีวีของแกรมมี่ที่ เราเคยเป็นพิธกี ร พอมีปญั หากับช่องนูน้ ช่องนี้ รายการก็ถกู ถอด พิธกี รก็เคว้ง ไม่มีงานทำ� ก็กระทบกับรายได้ที่เคยได้ในแต่ละเดือนของเราแล้ว สมมติมี สองรายการ หายไปหนึ่งรายการ รายได้ก็ลดฮวบไปครึ่งหนึ่ง แล้วตอนนั้น เราเป็นหนีอ้ กี เป็นล้าน หนีก้ ด็ อกเบีย้ เยอะมาก ก็เลยคิดว่าไม่ได้แล้ว เราต้อง มีอะไรมารองรับในวันที่เราไม่มีงานในวงการ ก็เลยตัดสินใจเปิดบริษัทกับ พี่สาว แล้วมันก็นำ�มาสู่เหตุการณ์ต่างๆ ที่เราเริ่มเห็นสิ่งต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น รอบตัว การใช้เงินภาษี ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่พ่อเคยพูดกับเรา เลยรู้สึกว่า เฮ้ย ทำ�ไมเราเพิ่งมาเก็ตตอนนี้วะ เพราะแต่ก่อนพ่อก็เคยถามว่าเราไม่รู้สึกอะไร เลยเหรอ วันที่เราเริ่มขับรถไป เจอถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือแม้กระทั่งคน ใกล้ตัวที่ได้รับการบริการจากคนที่เรียกว่า Civil Servant คือข้าราชการที่ ต้องรับใช้ประชาชน แต่กลายเป็นเราเหมือนต้องคลานเข่าเข้าไปหา ตอนนัน้ เราก็เลยรู้สึกว่าคนรุ่นเดียวกับเรายังไม่ตื่นตัวเลย รู้สึกว่าต้องทำ�อะไรให้คน เริ่มตื่นตัวหรือเปล่า แล้วเราทำ�รายการเปิดเอ็มวีให้เด็กฟัง รายการวาไรตี้ วัยรุน่ มันแคนดีเ้ หลือเกิน เราก็รสู้ กึ ว่าเราเชือ่ มโยงกับคนรุน่ ใหม่ คนรุน่ เดียว กับเราได้ดี เพราะฉะนั้นก็น่าจะลองทำ�รายการเล่าเรื่องพวกนี้ให้วัยรุ่น ฟังได้ ก็มาคุยกันว่าถ้าเล่าแบบปกติคนดูจะต้องเบื่อแน่ น่าจะเล่าด้วยภาษา เกรียนๆ กวนๆ อาจจะมีคำ�หยาบติดเข้าไปบ้าง เหมือนเวลาเราพูดคุยกัน ปกติแบบนี้ดีไหม ใส่มุกตลกเสียดสีประชดประชันเข้าไปไหม อะไรแบบนี้ มันก็เลยทำ�ให้เกิดเป็นรายการเจาะข่าวตื้นขึ้นมา ซึ่งตอนแรกกลุ่มเป้าหมาย เราจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น เด็กมัธยม เด็กมหาวิทยาลัย แต่ไปๆ มาๆ มันกว้าง กว่านั้น กลายเป็นว่ารุ่น 70-80 ก็ยังดู พ่อแม่ก็เปิดและลูกก็มาดูด้วย ครู อาจารย์ก็เอาไปเปิดให้นักเรียนดู เพราะเราเอาเรื่องที่ยากๆ อย่างเรื่อง ISIS ประวัติศาสตร์ หรือภาวะเศรษฐกิจต่างๆ มาย่อยให้เข้าใจง่าย แล้วมันก็ ต่อยอดให้เด็กเข้ามาดูรายการอื่นๆ ของเราด้วย ซึ่งก็เจ๋งดีเหมือนกัน

CREATIVE THAILAND I 30


ว่ากันว่าคนไทยเป็นคนหยวนๆ การทำ�รายการแบบนี้คือ เราตั้งใจจะไม่ให้เขาหยวนแล้วหรือเปล่า ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ เท่าที่ผมเห็น คนไทยที่ออกมาเคลื่อนไหว มา แสดงออก มาเรียกร้องอย่างจริงจัง มักเป็นคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น อาจจะโดนลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ไม่ว่าจะโดยรัฐหรือเอกชนก็ตาม หรือ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม คือเขาได้ผลกระทบจริงๆ ก็เหมือนผมที่ออกมาทำ� รายการเพราะผมรู้สึกว่าได้รับผลกระทบโดยตรงเหมือนกัน และรายการก็ มักจะพูดเสมอว่า ถ้าคุณไม่โดนเอง คุณไม่รู้ใช่ไหม ลองจินตนาการดูสิ ว่า ถ้าคุณโดนเหมือนเรา หรือเหมือนคนอื่นๆ ที่โดนอยู่ตอนนี้ โดนจับ โดนอุ้ม หรือโดนอะไรก็ตาม หรือคนใกล้ตัวคุณโดนบ้าง คุณจะรู้สึกยังไง แล้วคุณจะ เรียกร้องไหม คือเราอยากจะให้คนลองจินตนาการกันดู ว่าถ้าตัวเองโดนเอง บ้างมันจะเป็นยังไง เพราะนี่คือสิ่งที่กำ�ลังเกิดขึ้นในสังคมเราตอนนี้ แล้วคุณ โอเคกับการทีค่ นอืน่ กำ�ลังโดนอยูเ่ หรอ นีก่ เ็ ป็นจุดมุง่ หมายหนึง่ ทีร่ ายการของ เราพยายามจะทำ� ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง มันก็โอเคครับ ถ้าถามผมมันก็ไม่ได้แมสขนาดนั้น จริงๆ แล้วบ้านผมไม่ได้ เป็นคนตลก เล่นมุกบางทีก็ฝืด แต่ตลกแบบเราที่ใส่ลงไปจริงๆ ในรายการ มันอาจจะเป็นตลกร้ายหรือตลกทีท่ �ำ ให้คณุ อึดอัด ทำ�ให้คณุ ไม่กล้าดูตอ่ หรือ แบบเออมันตลกเนอะ แต่พอจบรายการแล้วอาจจะรู้สึกสิ้นหวังอะไรแบบนี้ ผมว่ามันคงเป็นตลกอีกแบบที่ไม่ใช่ตลกแบบแฮ่! แต่เป็นตลกสไตล์เรา ถ้า ถามว่ามันเข้าถึงกลุม่ คนไหม มันก็เข้าถึงกลุม่ คนได้ประมาณหนึง่ เอาจริงๆ ช่วงแรกมันไม่ได้ท�ำ เงินเลยนะครับ คอมเมดีเ้ ป็นสิง่ ทีท่ �ำ เงินได้ยาก โดยเฉพาะ Political Comedy / Political Satire การประชดประชันเสียดสีทางการเมือง ต่างๆ เหล่านี้ ยิ่งในสังคมนี้ที่บอกว่าการเมืองเป็นเรื่องเครียด เป็นเรื่องที่ไม่ พูดๆ ไม่เอาๆ เครียดๆๆ เราไปเรื่องอื่นกันเถอะ มันก็ยาก ผมทำ�รายการนี้ มา 7-8 ปีแล้ว 2-3 ปีแรกนีไ่ ม่มโี ฆษณาเลยนะครับ แต่พอมาช่วงปีท่ี 3 ปีท่ี 4 เจาะข่าวตื้นคนดูเยอะขึ้น เจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็เริ่มเข้าใจธรรมชาติ ของรายการนี้ เข้าใจกลุม่ เป้าหมายของเรามากขึน้ ถ้าถามผม ผมก็อยากให้ มันไปไกลได้มากกว่านี้ แต่โอกาสที่จะได้ไปไกลกว่านี้ มันก็อยู่ที่การตื่นตัว ของคนในสังคมด้วย ว่าอยากจะรับฟังเรื่องราวเหล่านี้มากแค่ไหน เพราะ ข่าวสารทุกวันนี้ ผมก็เข้าใจว่ามันมีแต่เรือ่ งเครียดๆ หรือเรือ่ งไกลตัวทีบ่ างคน รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่ผมยืนยันและการันตีว่า สักวันคุณก็ต้องรู้สึก แหละว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวคุณ ทำ�งานกันหนักแค่ไหนกว่าจะมาเป็นเจาะข่าวตื้นหนึ่งตอน หนักครับ ต้องทำ�รีเสิร์ชกันเยอะ แต่เพราะเราก็อยู่ในแวดวงวิชาการอยู่แล้ว ก็ถือว่าโชคดี คือในครอบครัวเราก็ค่อนข้างกว้าง คุณพ่อสอนประวัติศาสตร์ การเมือง รัฐศาสตร์ สังคม พี่สาวก็สอนประวัติศาสตร์ในเอเชีย พี่ชายสอน เศรษฐศาสตร์ มันก็เลยได้ในเครือญาติก่อน แล้วก็มีคอนเน็กชั่นในแวดวง อาจารย์และนักวิชาการเฉพาะทาง ข้อมูลเลยไม่ได้หายากขนาดนั้น แต่การ จะทำ�เป็นรายการก็มีเรื่องวิธีการต่างๆ ที่อาจต้องปรับแก้ให้ไม่ยากหรือง่าย เกินไป หรือบางทีข้อมูลถ้ามันไม่ได้ถูกยืนยันข้อเท็จจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็

ตอนใส่แว่นอัดรายการ มันก็เป็นอีก คาแรกเตอร์ หนึง่ ทีเ่ ราสวมล่ ะครับ แต่มั น ก็ ใ กล้ เ คี ย งกั บ สิ่ ง ที่ เ ราชอบ มากที่ สุด แล้ ว มั น เหมื อนเป็ นงาน หนึง่ ทีท่ �ำแล้วไม่ได้ตงั ค์กจ็ ะท�ำ และก็ จะท�ำไปเรือ่ ยๆ และรอคอยทีจ่ ะได้ท�ำ มากกว่างานอืน่ ๆ คือจะรูส้ กึ เสมอว่า เฮ่! อาทิตย์หน้าจะถ่ายแล้ว ท�ำอะไร กันดี ประชุมกันดีกว่า อย่าเพิ่งดีกว่า ซึ่งพี่สาวจอห์นก็จะเป็น Head Writer (หัวหน้าทีมนักเขียน) และ Director (ผู้กำ�กับรายการ) ด้วย เพราะฉะนั้นเราก็มาแชร์กันอยู่เรื่อยๆ แล้วก็จะคุยขยายกันต่อว่าแต่ละประเด็นที่เราสนใจมันพอจะเป็นประเด็นที่ สามารถลงไปในรายการได้ไหม หรือเราจะเชือ่ มโยงเพือ่ จะอธิบายเรือ่ งอะไร คือหลายๆ ครั้งข่าวมันก็เดิมๆ เช่น การคอร์รัปชั่นหรือการดำ�เนินนโยบาย หรือการแสดงออกของผูน้ �ำ มันก็วนมาลูปเดิมจนแบบจะเล่นเรือ่ งอะไรดี แต่ สุดท้ายมันก็ต้องหาประเด็นเชื่อมโยงให้ได้ ว่ามันต้องเป็นเรื่องที่เราอิน แล้ว เราก็จะมีอารมณ์แบบแพสชั่นว่าทำ�ไมเราถึงอยากจะสื่อสารหัวข้อนี้ประเด็น นี้ออกไป คือตอนใส่แว่นอัดรายการ มันก็เป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งที่เราสวม ล่ะครับ แต่มันก็ใกล้เคียงกับสิ่งที่เราชอบมากที่สุดแล้ว มันเหมือนเป็นงาน หนึ่งที่ทำ�แล้วไม่ได้ตังค์ก็จะทำ� และก็จะทำ�ไปเรื่อยๆ และรอคอยที่จะได้ทำ� มากกว่างานอืน่ ๆ คือจะรูส้ กึ เสมอว่าเฮ่! อาทิตย์หน้าจะถ่ายแล้ว ทำ�อะไรกัน ดี ประชุมกันดีกว่า การขึน้ มาเป็นคนจุดประเด็นต่างๆ แบบนีม้ ผี ลกระทบบ้างไหม ผมก็แสดงออกชัดเจนนะว่าผมต้องการประชาธิปไตย อย่างตอนที่เกิด รัฐประหาร ผมก็ออกมาบอกว่าผมไม่โอเค แล้วคุณจะจับผมใส่เสือ้ สีไหนเลย มันก็ง่ายไป ถ้าคุณจับแบบนั้น แสดงว่าคุณก็เข้าใจประเด็นแบบผิวเผินมาก เพราะสิ่งที่มันเบสิกมากเลยคือประชาธิปไตยไม่มีการยึดอำ�นาจ ไม่มีการ รัฐประหาร มันคือหลักการล้วนๆ แต่บางทีกม็ คี นมาบอกว่าจอห์น วิญญูเป็น สีนั้นสีนี้ ซึ่งผมโดนมาครบทุกสีแล้ว หลังๆ เลยรู้สึกว่าให้เวลาเป็นตัวตัดสิน ดีกว่า เพราะเบื่อจะพูดแล้วว่า คุณไปดูตอนเก่าๆ ของผมมั่งสิ ผมก็พูดครบ ทุกสีเลยนะ แต่ตอนนี้ก็ทำ�มาเกือบจะ 200 ตอนแล้ว จะไปอ้อนวอนให้เขาดู ก็คงไม่ใช่ ก็แล้วแต่คณุ แล้วกัน โอเคถ้ารายการผมจะมีไปอีก 10 ปี มันเปลีย่ น รัฐบาลไปเรื่อยๆ คุณคงจะเห็นว่า เออ มันก็แซว ประชดประชัน แดกดัน ทุกคน ซึ่งผมก็ชินแล้วครับ

CREATIVE THAILAND I 31


อนาคตของรายการจะเป็นอย่างไร ผมก็ยังจะทำ�ต่อไป ถึงจะไม่ได้ตังค์ก็จะทำ� เพราะยังสนุกกับมันเลยยัง นึกไม่ออกว่าจะเลิกเมื่อไหร่ คือผมอาจจะเลิกเมื่อถึงวันที่ผมรู้สึกว่ามัน อันตรายกับชีวติ ของตัวเองและครอบครัวมากๆ ผมอาจจะหยุดเมือ่ ถึงจุดนัน้ แต่ในบ้านเราก็ยังถือว่าโชคดีที่เราใช้ความตลกมากลบอะไรเหล่านี้แล้วก็ยัง มีคนที่เก็ตกันอยู่ ซึ่งผมก็ถือว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ทำ�ให้เรายังสามารถดำ�เนิน รายการต่อไปได้ ส่วนอนาคต ผมคิดจะขยายให้เป็นอินเตอร์ฯ มากขึ้น ทำ� เนือ้ หารายการทีเ่ ป็นภาษาอังกฤษเพิม่ เพราะคอนเทนต์ทเี่ ป็นออริจนิ ลั สำ�หรับ คนในประเทศนั้นๆ ภูมิภาคนั้นๆ มีความน่าสนใจ แล้วก็มีโอกาสไปได้อีก เยอะ อย่างในต่างประเทศเขาก็ลํ้าหน้าเราไปหลายสเต็ปแล้วเรื่องการหา รายได้ออนไลน์ การทำ�รายการที่ได้รับการสนับสนุนจากสินค้าต่างๆ ให้มัน เลี้ยงชีพของคนที่ผลิตได้ ธุรกิจเราก็ยังสามารถเติบโตไปได้อีกเยอะ ถ้าเรา ลองไปเล่นในพื้นที่ที่เราอาจจะยังไม่คุ้นเคยหรือออกจากคอมฟอร์ตโซนของ ตัวเองบ้าง ก็น่าสนุกดี

ในความคิดของคุณ ความตลกมันมีคุณค่าอย่างไร มันเคยมีคำ�พูดที่เขามักจะเปรียบเทียบเสมอว่า ในราชสำ�นักสมัยก่อนของ อังกฤษยุคกลางหรือสมัยอัศวิน ทำ�ไมถึงต้องมีโจ๊กเกอร์ เพราะจริงๆ แล้ว โจ๊กเกอร์ก็คือตัวที่คอยแสดงตลกแล้วก็สะท้อนให้เห็นว่าบ้านเมืองมันกำ�ลัง เป็นยังไง เพื่อสะท้อนให้ผู้มีอำ�นาจได้เห็น ซี่งผมมองว่าความตลกเหล่านี้ที่ เราพยายามจะใส่เข้าไปในรายการ มันก็พยายามสะท้อนให้ผู้มีอำ�นาจใน สังคมของบ้านเราได้เห็นเหมือนกัน ซึ่งผู้มีอำ�นาจในสังคมเรามันก็มี 2 แบบ คือคนที่อยู่ในอำ�นาจตอนนี้จริงๆ ไม่ว่าจะมาด้วยอำ�นาจพิเศษหรืออะไร ให้ เขารู้ว่ามีคนจับจ้อง สังเกต ติดตามอยู่ แม้ว่ามันจะถูกแซวออกมาเป็น อารมณ์ขัน ความตลกขบขันอะไรอย่างงี้ เพื่อให้เขารู้สึกได้ถึงการถูกจับจ้อง ผ่านอารมณ์ขนั ของเรา ในขณะทีผ่ มู้ อี �ำ นาจอีกคนหนึง่ ก็คอื คนทัว่ ๆ ไป เพราะ ถ้าเราอยู่ในสังคมประชาธิปไตย อำ�นาจอธิปไตยมันเป็นของประชาชนด้วย ฉะนั้นคุณทุกคนก็เป็นผู้มีอำ�นาจ เราก็พยายามจะสะท้อนให้พวกคุณเห็น แล้วก็ตื่นตัว ฉุกคิด หรือว่าแบบเอ๊ะขึ้นมานิดหนึ่งว่าสิ่งที่มันกำ�ลังเกิดขึ้น ในสังคมมันมีอะไรบ้างที่มันแปลกไป ที่มันผิดหลักการ ที่มันไม่ปกติบ้าง สิ่งเหล่านี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่พอช่วยทำ�ให้ผู้มีอำ�นาจในสังคมไม่ว่าจะ ฝั่งไหนก็ตาม ด้านไหนก็ตาม ให้เขาได้ฉุกคิดอะไรพวกนี้ขึ้นมาบ้างผ่าน อารมณ์ขันของเราครับ

ที่มาของแรงบันดาลใจ น่าจะเป็นสือ่ ทีช่ อบและดูเป็นประจ�ำคือพวกรายการข่าวทีเ่ ป็นแรงบันดาลใจให้ เราท�ำงานนี้อย่างรายการของจอน สจ๊วต (Jon Stewart - The Daily Show) สตีเฟน โคลแบร์ (Stephen Colbert - The Late Show) รายการข่าวแบบเสียดสี ของฝรั่งเศสหรือของตะวันออกกลางผมก็ดู เพราะสถานการณ์การเมืองแต่ละ ประเทศก็แตกต่างกัน ดูเพื่อให้ก�ำลังใจตัวเองด้วยว่าในแต่ละประเทศเป็นยังไง ว่าดูสิเขายังพูดได้เลย เราก็ต้องพยายามผลักดันให้พูดได้สิ วิธีรับมือกับเรื่องเครียดๆ ส่วนตัว พูดถึงการรับข่าวสารก่อนดีกว่า ผมเป็นคนอ่านข่าวตลอดเวลา บางทีก็ Information Overload จนเครียด ไม่หลับไม่นอน แต่ท้ายที่สุดก็ต้องหยุด มันเป็นการรู้ตัวมากกว่าว่าตอนนี้มันเกินไปแล้ว แล้วบางช่วงเวลามันก็ยังท�ำ อะไรไม่ได้ ก็ต้องหยุดกันไว้ซักแป๊บก่อน ถึงจะอยากพูด อยากจะท�ำเทปออก มาแค่ไหนก็ตาม ถ้าคุณถูกสั่งไม่ให้พูด จะมีวิธีไหนในการใช้ชีวิต ถ้าคุณไม่ให้ผมพูด ผมก็อาจจะใช้อย่างอื่นพูดแทน อาจจะเป็นการ์ตูน ตุ๊กตา มือ หรือเอาหมาสองตัวมาพากย์เสียงก็ได้ จะเขียนไหม หรือสัมภาษณ์โดยที่ เราไม่ได้พูดเองก็ได้ เราถามค�ำถามที่เราอยากรู้แล้วคุณพูดไป ผมว่ามันมีวิธี การแสดงออกเยอะครับ

CREATIVE THAILAND I 32


CREATIVE THAILAND I 33


facebook.com/sacict

Creative Will : คิด ทํา ดี

LAUGHTER IS THE BEST MEDICIN E เรื่อง: ปิยะพร สวัสดิ์สิงห์

ว่ากันว่าเสียงหัวเราะคือยาชัน้ เลิศทีช่ ว่ ยให้เราห่างไกลจากโรคภัย เพราะเมือ่ ใดก็ตามทีเ่ ราหัวเราะ ร่างกายก็จะหลัง่ สารเคมีดๆี ในสมองออกมาช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด สมองปลอดโปร่ง เกิดความคิดสร้างสรรค์ ยิง่ ไปกว่านัน้ การหัวเราะยังเป็นการ ออกกำ�ลังกายทีช่ ว่ ยบริหารปอดและกระบังลมให้แข็งแรง เพิม่ ภูมติ า้ นทานโรคได้เป็นอย่างดี เสียงหัวเราะจึงเป็นเสมือนเพือ่ น ที่คอยเตือนให้เราหันกลับมาใส่ใจ เข้าใจความคิด ความรู้สึก พร้อมดูแลร่างกายและจิตใจของตัวเองเมื่อเจอกับอุปสรรค ทั้ง ยังช่วยให้เรามีสติและพลังใจพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาได้ดียิ่งขึ้น ในปี 1995 ที่ประเทศอินเดีย ดร.มาดาน คาตาเรีย (Dr. Madan Kataria) ได้รเิ ริม่ โยคะหัวเราะขึน้ โดยแรกเริม่ มีสมาชิกเพียง 5 คน จัดเป็นกลุม่ หัวเราะ กันที่สวนสาธารณะ โดยเริ่มต้นการหัวเราะด้วยการเล่าเรื่องตลกเพื่อช่วยให้ ขำ�และหัวเราะออกมา จากนั้นจึงพัฒนารูปแบบเป็นการออกกำ�ลังกายด้วย เสียงหัวเราะโดยไม่จำ�เป็นต้องมีมุกตลกอีกต่อไป น่าสนใจว่ามีคนไทยและ ชาวต่างชาติได้สนใจไปศึกษาโยคะหัวเราะนี้แล้วนำ�กลับถ่ายทอดให้แก่คน ไทย จนกลายเป็นที่มาของ The Bangkok Love “n” Laughter Yoga Club หนึง่ ในคลับโยคะหัวเราะในประเทศไทยทีก่ อ่ ตัง้ มากว่า 4 ปีแล้ว โดยมีสมาชิก ผู้ร่วมก่อตั้งด้วยกันหลายคนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีจุดประสงค์หลัก คือการสร้างความสุขผ่านการหัวเราะโดยไม่มเี งือ่ นไข ข้อจำ�กัด หรือค่าใช้จา่ ย ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมในคลับ จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป มี ทั้งกลุ่มคนไทย และชาวต่างชาติที่เข้ามาทำ�งานหรือมาท่องเที่ยวในไทย ทั้ง จากแถบยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย คลับหัวเราะซึง่ ตัง้ อยูท่ ี่ Prem Yog and Prana: Yoga Center สุขุมวิท 26 แห่งนี้เคยต้อนรับผู้เข้าร่วม หัวเราะมากถึง 35 คนต่อครัง้ โดยปกติจะมีกจิ กรรมแบบนีท้ กุ วันเสาร์แรกของ เดือน ในช่วงเวลาสบาย 4-5 โมงเย็นหลังทุกคนเสร็จสิ้นภารกิจส่วนตัวแล้ว คอนเซ็ปต์หลักของโยคะหัวเราะ มีอยู่ด้วยกัน 4 ข้อ คือ 1. การ ออกกำ�ลังกาย 2. การฝึกลมหายใจเข้า-ออก 3. การเล่นสนุกสนานแบบ เด็กๆ โดยอาศัยการมองตากัน พร้อมเปล่งเสียงหัวเราะร่วมกัน และ 4. การ

ปรบมือ ส่วนรูปแบบของกิจกรรมในคลับนัน้ มีความหลากหลายและยืดหยุน่ ขึน้ อยูก่ บั การออกแบบของผูน้ �ำ คลาสแต่ละครัง้ โดยแต่ละคนจะผลัดเปลีย่ น หมุนเวียนกันมาสอนครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง นอกเหนือจากคอนเซ็ปต์ หลักๆ 4 ข้อแล้ว คลับหัวเราะแห่งนีย้ งั เป็นคอมมูนติ ที้ ใี่ ห้ความสำ�คัญกับการ อยู่ร่วมกัน การให้เกียรติ และการรู้จักเคารพผู้อื่น รวมถึงสนับสนุนให้ผู้ เข้าร่วมกิจกรรมภายในคลับได้มีการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ นอกจากการรวมกลุ่มทำ�กิจกรรมที่คลับโยคะหัวเราะในทุกๆ เสาร์ ต้นเดือนแล้ว The Bangkok Love “n” Laughter Yoga Club ก็ยังมีกิจกรรม เพื่อสังคมอื่นๆ ด้วย เช่น การนำ�เอาโยคะหัวเราะไปช่วยบำ�บัดผู้ป่วยและ ญาติในโรงพยาบาล ไปจนถึงการนำ�ไปผสมผสานกับการเรียนการสอน ช่วยเพิ่มความจำ� เสริมสร้างจินตนาการและพัฒนาการเรียนรู้ให้แก่เด็กๆ ความประทับใจที่ผู้เข้าร่วมมีต่อโยคะหัวเราะนี้ นอกไปจากความสุข ก็คือการที่แต่ละคนได้มอบพลังบวกให้แก่กันและกัน แบ่งปันเรื่องราวและ ประสบการณ์ระหว่างกัน เพื่อให้เพื่อนร่วมคลาสเกิดแรงบันดาลใจในการ ดำ�เนินชีวิต เป็นการช่วยเติมพลังวิตามินดีๆ ให้กับร่างกายและจิตใจได้อีก ทางหนึ่งด้วยเช่นกัน ขอขอบคุณ: คุณดวงกมล ลาภกาญจนพงษ์ ผูน้ าํ โยคะหัวเราะและหนึง่ ในสมาชิก The Bangkok Love “n” Laughter Yoga Club เฟซบุ๊ก: TheBangkokLoveNLaughterYogaClub

CREATIVE THAILAND I 34




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.