¢Í§Ç‹Ò§ ขอเขียนสะดวกอานทั้งกอนและหลังอาหาร
à»ÊâÅÀÔ¡¢Ø
พระหนุมนักเขียนลูกอีสานรวมสมัย
ของว่าง
เล่าเรื่อง เปสโลภิกขุ วาดภาพปก นีโอจารวาท พิสูจน์อักษร มานี มีตา ออกแบบปกและรูปเล่ม Dhamma Design Club คอมพิวเตอร์กราฟิก ibeepdesign@gmail.com เวคเตอร์ www.flaticon.com อัพโหลดครั้งแรก กรกฎาคม 2558 อัพเดตข้อมูล www.facebook.com/pesalocation ติดตามผลงาน www.issuu.com/pesalocation Copyright 2015 © Dhamma Design Club
3
ค�ำน�ำ
ญาติโยมท่านหนึ่งปรารภว่าหนังสือธรรมะของฉันช่างมีรสชาติที่ "Soft" ซึง่ ฉันเองก็ยอมรับเพราะตัง้ ใจให้เป็นอย่างนัน้ นับตัง้ แต่ปลุกปั้นโครงการหนังสือ ธรรมะแนวทดลองเมื่อราวสิบปีที่แล้ว ทั้งนี้ก็เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของเราคือ นักเรียน นักศึกษา และคนหนุ่มสาววัยท�ำงานที่เพิ่งเริ่มสนใจธรรมะ เมื่อไม่นาน มานี้ฉันมีโอกาสรับหน้าที่วิทยากรอบรมการปฏิบัติธรรมให้กับนักศึกษาและ บุคคลากรของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งด้วยความจ�ำเป็น ฉันสังเกตว่าในขณะที่ แสดงธรรมนั้นมีทั้งนักศึกษาที่นั่งตัวตรงตั้งใจฟัง สีหน้าตื่นเต้นสนุกสนานไปกับ ธรรมบรรยาย และนักศึกษาทีง่ ว่ งเหงาหาวนอนถึงขนาดกรนให้ได้ยนิ ซึง่ ๆหู หลัง จากเหตุการณ์ระทึกขวัญฉันพิจารณาว่าไม่ต้องเอื้อมไปถึงอริยสัจจ์สี่หรือมรรค มีองค์แปดหรอก แค่เลียบๆเคียงๆให้เหมาะกับวัยของเขาก็เพียงพอแล้ว นอกจากนั้นฉันยังได้ความรู้อีกว่า พวกเราส่วนใหญ่ไม่ชอบให้คนอื่นสอน ไม่ชอบให้ใครมาวางตัวเหนือกว่า หนังสือธรรมะของคณะสหายธรรมหนุ่ม (Dhamma Design Club) จึงน�ำเสนอท่าทีของเพื่อนหรือพี่มากกว่าอาจารย์ อนึ่งหนังสือธรรมะระดับ Hard Core ก็มีเต็มตู้หนังสืออยู่แล้ว บางบ้านยังทะลัก เข้าไปอยู่ในชั้นวางของใกล้ชักโครก คณะสหายธรรมหนุ่มคงไม่จ�ำเป็นต้องผลิต ออกมาอีก เดี๋ยวมันหล่นลงไปในนั้นแล้วจะสร้างความไม่สบายกายไม่สบายใจ ให้แก่ผู้อ่านเปล่าๆ เอาเป็นว่าเรายังยืนยันที่จะเสกสรรหนังสือธรรมะระดับ "ของว่าง" อย่างนี้จนกว่าจะแก่เฒ่ากันไปข้างหนึ่ง เปสโลภิกขุ
5
สารบัญ
ขบปัญหาโลกร้อนค่อนคืนหนาว.....................................................................๘ กรุณาอย่าให้อาหารสุนัข.............................................................................๑๒ พี่เลี้ยงเสี่ยงภัย.............................................................................................๑๖ เดี่ยวธุดงค์จ�ำจงดี (1/3)...............................................................................๒๐ เดี่ยวธุดงค์จ�ำจงดี (2/3)...............................................................................๒๔ เดี่ยวธุดงค์จ�ำจงดี (3/3)...............................................................................๓๐ อินเดียเพลียไหม?........................................................................................๓๔ โลกสวยด้วยแยบคาย...................................................................................๔๐ ผ่าศพครบเครื่อง (ใน)..................................................................................๔๔ มรณสติในนิยายวิทยาศาสตร์......................................................................๔๘ ฟุตบอลสอนอะไร.........................................................................................๕๒ แด่…ผลไม้พิษ..............................................................................................๕๖ แด่...ผู้กล้าต่อกรกับความฉ้อฉล...................................................................๕๘ ปฏิรูปศาสนากันสักทีดีไหม?........................................................................๖๒ เดินเล่นเห็นทะเลภู......................................................................................๖๘ Talaypu – กิน อยู่ ดู เพลิน.......................................................................๗๒ พันพรรณหรรษา..........................................................................................๗๖ ก่อนเที่ยงวันกับพันพรรณ............................................................................๘๐ ดอยดินแดงแอ่งเซน.....................................................................................๘๔ แด่...ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย........................................................................๘๘
ขบปัญหาโลกร้อนค่อนคืนหนาว ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง"
หลายปีมาแล้วที่นายอัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา เดินสายจุดประกายปัญหา Global Warming ให้มวลมหาประชาคม โลกได้ตื่นตระหนักจนได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ทว่า โลกอบอ้าวใบนี้ก็หาได้มีท่าทีว่าจะประสบสันติสุขสันติภาพสุขภาพพลานามัย สมบูรณ์แต่ประการใด นับวันปัญหากลับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ขบวนการรียูส รีดิวซ์ รีไซเคิล ตลอดจนการควาญหาพลังงานทดแทนและสารพัดวิธีขจัด ปัดเป่าปัญหาโลกร้อน ดูเหมือนยังห่างไกลจากค�ำตอบที่เหล่ามนุษย์ผู้พรั่นพรึง ต่อมหันตภัยแสวงหา ณ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดินแดนซึ่งพุทธศาสนาเถรวาทเบ่งบาน ฉันแอบภูมิใจลึกๆที่วิถีความเป็นอยู่แบบพระป่าช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้โดย ละม่อม พระป่ายังต้องพึ่งพาปัจจัยสี่เช่นเดียวกับมนุษย์อื่น ต่างกันก็เพียงแต่ ปัจจัยเครือ่ งอาศัยดังกล่าวน้อมน�ำมาถวายโดยญาติโยมผูม้ จี ติ ศรัทธา ซึง่ พระไม่มี หน้าทีไ่ ปจูจ้ เี้ รียกร้อง แต่เรามีหน้าทีฝ่ กึ ตนให้ยนิ ดีตามมีตามได้ในปัจจัยทัง้ หลาย เหล่านั้น โบราณจารย์แถบถิ่นอีสานเล่าให้พระรุ่นลูกหลานฟังว่า บิณฑบาตทาง ภาคนีไ้ ด้แต่ขา้ วเหนียว วันดีคนื ดีมญ ี าติโยมน�ำกล้วยน�ำ้ ว้ามาใส่บาตรลูกหนึง่ แต่ พระในวัดมีแปดรูปจึงต้องเอากล้วยน�้ำว้ามาหั่นเป็นแว่นแบ่งกันให้ได้ฉันอย่าง ทั่วถึง กันดารเห็นปานนั้นแต่พระภิกษุสามเณรก็รักใคร่สมัครสามัคคีและตั้งใจ ประพฤติวัตรปฏิบัติธรรม จนกลายมาเป็นครูบาอาจารย์ผู้น่าศรัทธาเลื่อมใสให้ เราได้เคารพกราบไหว้ ว่ากันตามจริงวัตถุประสงค์ของการสันโดษยินดีในปัจจัยสี่ก็เพื่อให้นักบวช พุ่งความสนใจไปยังการบ�ำเพ็ญเพียรทางจิตมิให้เอาเวลาไปหมุกมุ่นวุ่นวายกับ 9
การแสวงหาลาภสักการะ เมื่อด�ำเนินชีวิตอย่างพอเหมาะพอดีจึงไม่จ�ำเป็นต้อง ไปบีบบังคับเอาจากธรรมชาติ และยังหลีกไกลจากการประชันขันแข่งแย่งชิง ทรัพยากรกับมนุษย์อื่นไปโดยปริยาย เนื่องจากความสุขเชิงคุณภาพที่นักบวช แสวงหากับความสุขเชิงปริมาณที่ผู้บ�ำเรอตนด้วยกามขวนขวาย อาศัยปัจจัย สนับสนุนในปริมาณที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ความสันโดษยังน�ำมาซึ่งความปลอดโปร่งเป็นอิสระ ผู้ผ่านการ ฝึกตนมาแล้วเท่านั้นจึงจะสัมผัสได้ หนุ่มเหน้าผู้หนึ่งเคยบวชที่วัดป่า ๓ พรรษา เมื่ออยู่ที่บ้านก็รับประทาน ๓ มื้อ แต่พอถึงวันพระก็มาวัดสมาทานศีล ๘ ซึ่งต้อง งดอาหารหลังเทีย่ งวัน พ่อหนุม่ จะอยูช่ ว่ ยกิจกรรมต่างๆและปฏิบตั ธิ รรมจนถึงรุง่ เช้าจึงลากลับบ้าน เขาบอกว่า "จะมือ้ เดียวหรือสามมือ้ ก็สบายมาก" อีกประการที่ น่าสังเกตก็คอื ผูท้ พี่ ฒ ั นาตนไปบนหนทางสูค่ วามสุขเชิงคุณภาพจะเข้าไปเกีย่ วข้อง กับปัจจัยยังชีพอย่างรูจ้ กั ประมาณ จึงเป็นเหตุให้สามารถน�ำเอาเวลาและความรู้ มาก่อร่างสร้างประโยชน์ตนประโยชน์ผู้อื่นได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แม้เห็นประจักษ์ในเหตุผลกลไกที่มาที่ไปถึงเพียงนี้ แต่การพัฒนาชีวิตของ มนุษย์ไปบนหนทางสูค่ วามสุขเชิงคุณภาพ (ซึง่ ฉันมัน่ ใจสุดๆว่าจะสามารถแก้ปญั หา โลกร้อนทีพ่ วกเราก�ำลังเผชิญอยูไ่ ด้อย่างชะงัด) ก็ไม่ใช่เรือ่ งกล้วยเหมือนปอกกล้วย ให้ลิงกิน เพราะมันช่างขัดกับนิสัยความเคยชินที่เราๆท่านๆสั่งสมกันมานมนาน จะมีสกั กีใ่ ครทีห่ าญกล้าละทิง้ การบริโภคอาหารวันละหลายมือ้ ความสะดวกสบาย จากเครือ่ งนอนหนานุม่ ความบันเทิงเริงรมย์หรือโซเชียลมีเดียตลอดยีส่ บิ สีช่ วั่ โมง มาเข็นครกขึน้ ภูเขาหิมาลัย เมือ่ สถานการณ์ดำ� เนินไปเช่นนีอ้ ารยธรรมของมนุษย์ จึงกระเด้งกระดอนไปสู่ความล่มสบายอย่างไม่มีสิ่งใดมาต้านทาน 10
ก่อนสมาคมโลกสวยแห่งประเทศไทยจะปรักปร�ำฉันว่ามองโลกในแง่ร้าย ก็ ขอให้สำ� รวจตรวจดูพฤติกรรมของตนเองและคนรอบข้างให้ถว้ นถีว่ า่ มีแนวโน้มไป ในทิศทางใด หากสอดรับกับสิ่งที่ฉันยกมาข้างต้น ท่านๆเราๆก็สมควรพิจารณา ถ้อยธรรมค�ำสอนของพระเดชพระคุณพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภฺทโท) แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อจะได้รับมือกับมหันตภัยทยอย มาเยือนไม่ขาดสาย "ถ้าน�้ำจะท่วม เราป้องกันเต็มทีแ่ ล้วมันเอาไม่อยู่ ก็ตอ้ งปล่อย ให้มันท่วม แต่อย่าให้มันท่วมใจเรา เพราะถ้าใจของเรายังอยู่ดีมีสุข เราสามารถ สร้างบ้านหลังใหม่ให้สวยงามกว่าเดิมได้"
11
กรุณาอย่าให้อาหารสุนัข ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 12
ประชาชีทไี่ ม่คน ุ้ เคยกับวิถค ี วามเป็นอยูข ่ องพระป่า หากผ่านมาเจอป้ายประกาศข้างต้นคงนึกขุ่นเคืองจนถึงกับค�ำรามออกมาว่า "พระวัดนี้ไม่มีเมตตา" แต่ถ้าเฉลียวใจสักนิดหยุดพิจารณาสักหน่อยก็จะได้แง่ สังเกตุบางประการว่า วัดป่าเป็นสถานที่บ่มเพาะคุณธรรมอันมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาเป็นอาทิ เหตุใดพระภิกษุสามเณรตลอดตนอุบาสกอุบาสิกาจึง ปฏิเสธโอกาสทีจ่ ะบ�ำเพ็ญคุณธรรมดังกล่าว เมือ่ ใดทีไ่ ด้ยนิ ญาติโยมซึง่ แวะเวียนมา วัดชัว่ ครัง้ ชัว่ คราวกล่าวหาพระเณรเถรชีอย่างนี้ หลวงพ่ออันเป็นทีเ่ คารพรักของ ฉันก็มกั จะเปรยขึน้ ว่า "ถ้าโยมอยากได้บญ ุ กับหมา จะเอากลับไปเลีย้ งทีบ่ า้ นก็ได้" (ฮา) แต่ก็มีไม่บ่อยนักที่จะมีใครเก็บสุนัขจากวัดไปเลี้ยง เนื่องจากนานทีปีหนจึง จะมีลูกสุนัขน่ารักน่ากอดมาให้เชยชมดมเล่น ส่วนใหญ่ที่เห็นมักจะเป็นประเภท ผอมแห้งบักโกรกซี่โครงเรียงเป็นลูกระนาด ขี้เรื้อนเกาะกินเต็มตัวน่าอุจาด หรือ ไม่ก็ขาดขาบาดแผลเน่าเฟะส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งฟุ้งกระจายไปหลายช่วงกุฏิ วัดป่าบางแห่งตั้งปณิธานในการบ�ำเพ็ญเมตตากรุณาอย่างเข้มข้น ด้วยการ รับเลีย้ งสุนขั ทีช่ าวบ้านน�ำมาทิง้ ชนิดไม่อนั้ ผ่านไปนานวันก็ตงั้ ครรภ์ออกลูกออก หลานเกินร้อยชีวติ จากนัน้ ก็แบ่งพรรคแบ่งพวกแบ่งเขตการปกครองฮึม่ แฮ่เข้าใส่ กันเสียงดังสนัน่ หวัน่ ไหวท�ำลายวิเวกวังเวงของวัดป่าไปโดยปริยาย และจะอึกทึก คึกคักคึกโครมโถมกระหน�ำ่ เป็นเท่าทวีในฤดูผสมพันธุแ์ ถมภาพการเสพสังวาสให้ ทัศนาเป็นบาปตา หากไม่มธี รุ ะจ�ำเป็นเข็ญใจนักปฏิบตั ธิ รรมผูใ้ ฝ่หา ความสงบสันติ คงไม่เฉียดเข้าไปใกล้วดั ทีม่ บี รรยากาศเยีย่ งนีเ้ ป็นแน่ ฉันขอเอาหัวสุนขั เป็นประกัน วิธีตรงไปตรงมาที่ทางวัดใช้แจ้งข่าวชาวบ้านไม่ให้น�ำสุนัขมาปล่อยก็คือการ ติดป้ายประกาศ แต่มักจะไม่ได้ผลกับคนที่ดื้อด้าน เคยมีชายฉกรรจ์สองคนอุ้ม 13
สุนัขรุ่นๆขึ้นมอเตอร์ไซค์มาปล่อยถึงหน้าศาลา พระบังเอิญผ่านมาเห็นเข้าจึง ร้องบอกไปว่า "โยม! ที่วัดไม่ได้รับเลี้ยงหมานะ" ชายคนหนึ่งตะโกนกลับมาว่า "ไม่เป็นไรครับหลวงพี!่ เอาไว้เตะเล่นก็ได้” จากนัน้ ก็ควบยานพาหนะหลบหนีไป อย่างลอยนวล เดชะบุญทีส่ ุนัขตัวนี้คงเคยสั่งสมบารมีมาแต่ชาติปางก่อน เทวดา จึงดลใจให้ทา่ นเจ้าอาวาสรับไว้ในอุปการะ พระภิกษุสามเณรจึงได้อาศัยเตะเล่น แก้เหงาจวบจนมันสิ้นอายุขัย สมดังเจตนารมณ์ของเจ้าของเดิม อันที่จริงแล้วการให้อาหารสุนัขมีหลายทางเลือกที่แยบคายเช่น ญาติโยม รวบรวมเศษอาหารใส่ถุงหรือภาชนะมิดชิดน�ำกลับไปให้สุนัขที่บ้านหรือสุนัข ของเพื่อนบ้านก็ได้ วิธีนี้นับว่าเป็นการแสดงความเมตตากรุณาทั้งต่อสุนัขและ พระภิกษุสามเณรตลอดจนอุบาสกอุบาสิกาที่อยู่ในอาวาสแห่งนั้น ซึ่งจะส�ำเร็จ ประโยชน์ดว้ ยกันทัง้ สองฝ่าย ส่วนภายในบริเวณวัดขอสงวนไว้เป็นเขตปลอดการ ให้อาหารสุนัข ด้วยเหตุผลด้านสุขอนามัยและคงไว้ซึ่งบรรยากาศอันเงียบสงบ แต่ถงึ แม้จะเห็นป้ายประกาศชัดเจนว่า "กรุณาอย่าให้อาหารสุนขั ภายในบริเวณวัด" ญาติโยมบางท่านก็ยังกวักมือเรียกสุนัขออกไปหน้าวัดแล้วเทเศษอาหารกองไว้ ข้างประตู คงจะติดนิสัยศรีธนญชัยมาจากนักการเมืองแถบตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากสุนขั แล้วแมวก็เป็นสัตว์อกี ประเภทหนึง่ ทีช่ าวบ้านนิยมน�ำมาปล่อย ทีว่ ดั แต่ขอ้ ได้เปรียบก็คอื แมวมีขนาดเล็กและตีสนิทได้งา่ ยกว่า เอาข้าวคลุกปลาทู ให้กินไม่กี่วันก็จับยัดใส่กระสอบเอาไปปล่อยที่ตลาดได้สบายๆ แต่บางตัวก็ดุ เอาเรื่อง กัดพระที่ไปล้อมจับมันจนเป็นแผลเหอะหวะ แม้พระจะเจริญขันติ ไม่กัดตอบแต่ก็ต้องไปเพิ่มขันติโรงพยาบาลอีกหลายเข็ม ก็ได้แต่ให้ก�ำลังใจกัน ว่าถือเป็นการสร้างบารมี เพราะเป็นกิจที่ต้องจัดท�ำเพื่อความผาสุกของชุมชน 14
จะหลีกเลี่ยงอย่างไรก็ไม่พ้น ถ้ามีชาวบ้านเอามาปล่อยอีกก็ต้องไล่จับกันอีก ไม่มีที่สิ้นสุด หลวงพ่อเจ้าอาวาสเอือมระอาถึงกับประกาศกร้าวกลางศาลาว่า "เบื่อมากๆจะสะพายบาตรหนีไปไกลๆ" โดยส่วนตัวแล้วฉันไม่ถนัดทีจ่ ะท�ำความสนิทสนมกับสัตว์เลีย้ งสองประเภทนี้ เท่าใดนัก เคยเห็นพระลงไปเกลือกกลิ้งบนพื้นศาลาเล่นกับลูกสุนัขแล้วนึกเอ็นดู จนอยากจัดหามาสคอตสนูปี้มาถวาย บางครั้งได้ยินพระพูดกับสุนัขเป็นคุ้งเป็น แควฉันก็ได้แต่อมยิ้ม แม้จะไม่รู้สึกพิศวาสแมวและสุนัขแต่ก็ไม่ถึงขนาดอยู่ร่วม โลกกันไม่ได้ ครั้งหลังสุดที่ฉันน�ำสุนัขไปปล่อยเป็นช่วงกลางคืน เนื่องจากมีผู้รู้ แนะน�ำว่าถ้าไปกลางวันสุนขั จะจ�ำทางกลับได้ ทุกครัง้ ทีป่ ฏิบตั ภิ ารกิจนีฉ้ นั จะบอก กับลูกทีมว่า "ปล่อยนกปล่อยปลาตัวเล็กๆก็ยังได้บุญ เราปล่อยสุนัขตัวเบ้อเร่อ ก็ควรจะได้บุญใหญ่" และเมื่อเปิดปากกรงหรือกระสอบปล่อยสุนัขให้เป็นอิสระ ฉันมักจะอธิษฐานจิตว่า "ขอให้ฉนั เป็นอิสระจากกองทุกข์เช่นเดียวกับสุนขั ทีเ่ ป็น อิสระจากที่คุมขัง และขอให้พลังจงอยู่กับพวกท่านทั้งหลาย สู้ต่อไปนะหลังอาน หูตูบ หูตั้ง หางดาบ"
15
พี่เล้ียงเสี่ยงภัย ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 16
ญาติโยมช่างสงสัยผู้หนึ่งถามฉันว่า "ช่วงฉันน�้ำปานะ (Tea Time คือเวลาประมาณ 16:30 น.) พระคุยเรื่องอะไรกัน?” ฉันตอบว่า "พระใหม่จะคุยเรือ่ งเก่า ส่วนพระเก่าจะคุยเรือ่ งใหม่" เหตุทฉี่ นั กล้าฟันธงถึงขนาด นีเ้ พราะได้พสิ จู น์มาแล้วเกือบยี่สบิ ปีว่าเป็นความจริงโดยอิงอาศัยข้อมูลจากการ สังเกตทัง้ ตัวเองและผูอ้ นื่ บรรดาหัวข้อทีพ่ ระใหม่นำ� มาพูดคุยกันมักจะหนีไม่พน้ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ยานยนต์ ภาพยนตร์ ดนตรี กีฬา ดารา อาชีพ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ สถานบันเทิง เลยเถิดไปถึงเพศตรงข้าม นอกจากนี้ยังมี เรือ่ งปลีกย่อยอืน่ ๆเช่นอัตราแลกเปลีย่ นเงินตราในตลาดหลักทรัพย์ ความเสถียร ของอุณหภูมิและระดับน�้ำทะเลในมหาสมุทร ตลอดจนหมวกเบเรต์สุดเท่แบบ เช เกวาร่าจะหาซื้อได้จากที่ไหน ซึ่งล้วนม้วนลงใน "เรื่องเก่า" ทั้งสิ้น เหตุจากย่อหน้าข้างต้นจึงเป็นที่รู้กันในกลุ่มพระเก่าว่า ถ้าไม่อยากถูกความ ฟุ้งซ่านร�ำคาญครอบง�ำก็อย่าไปคลุกคลีกับพระใหม่เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นสมาธิ ทีเ่ คยสัง่ สมมาจะหดหาย หากใครทีส่ มาธิเกิดยากก็ยากขึน้ หลายเท่าทวีคณ ู อ่าน มาถึงตรงนี้บางใครคงปรักปร�ำพระเก่าว่าช่างใจไม้ไส้ระก�ำ ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็หา ได้เป็นเช่นนัน้ แม้พระเก่าจะระแวดระวังในการเกีย่ วข้องกับพระใหม่เพียงใด แต่ ความเอื้อความเอ็นดูก็ยังด�ำเนินควบคู่ไปอยู่เสมอ เพราะเราเคยลิ้มรสความยาก ล�ำบากมาก่อน ฉันยังจ�ำห้วงเวลาออกบิณฑบาตในวันฝนตกได้เป็นอย่างดี ขณะที่ มือหนึง่ ประคองบาตร อีกมือหนึง่ ก็กางร่ม จีวรชืน้ แฉะก็ลนื่ ไหลคล้ายจะหลุด แล้ว ยังต้องระวังสุนัขหน้าดุที่มาด้อมๆมองๆ แต่เหมือนฟ้าดินจะกลั่นแกล้ง เอี้ยวตัว เพียงเล็กน้อยฝาบาตรเจ้ากรรมก็ดันหล่นลงกลางถนนเสียงดังโครม! นอกจากการบิณฑบาตแล้วยังมีเรือ่ งการขบฉัน การดูแลบริขาร การรับประเคน 17
อาหาร การท่องบ่นสาธยายมนต์ การอุปัฏฐากครูบาอาจารย์ การนุ่งห่ม การ ถ่ายอุจจาระปัสสาวะ ระเรื่อยไปถึงการจ�ำวัด เรียกว่าต้องเรียนรู้กันใหม่ตั้งแต่ ตื่นยันหลับเลยทีเดียว นี่แค่พื้นๆยังไปไม่ถึงเรื่องละเอียดอ่อนอื่นๆเช่นการเจริญ อานาปานสติ พรหมวิหารสี่ อินทรีย์ห้า โพชฌงค์เจ็ด มรรคมีองค์แปด รวมทั้ง การแก้ไขนิวรณ์หรือเครื่องกีดขวางกุศลธรรม และศึกษาพระวินัยทั้งอาบัติหนัก อาบัติเบา เมื่อมีเรื่องให้ต้องเรียนรู้มากมายถึงปานนี้ เวลาเพียงเจ็ดวัน สิบห้าวัน หรือหนึง่ เดือนคงไม่เพียงพอ วัดป่าบางแห่งจึงไม่รบั พิจารณาพระทีบ่ วชชัว่ คราว มีนักธุรกิจคนหนึ่งลาบวชหนึ่งเดือน เมื่อฉันได้เห็นข้อวัตรปฏิบัติ อัธยาศัย ไมตรี ความเสียสละ ความอ่อนน้อมถ่อมตัว ความขยันหมั่นเพียร ตลอดจน กิริยามารยาทในการเข้าหาครูบาอาจารย์แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะถวายท่านทันที สี่ดาวครึ่ง จากคะแนนไก่อย่างห้าดาวพริกไทยด�ำ ครั้นถึงวันเวลาที่ก�ำหนด พระนักธุรกิจก็ลาสิกขา ก่อนเดินทางกลับส�ำนักงานทิดใหม่สารภาพกับฉันว่า "ผมบวชหนึง่ เดือนไม่ได้อะไรเลย" ฉันปลอบใจเขาไปตามความจริงว่า "คนกินข้าว หนึ่งช้อนกับคนกินก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามแถมปิดท้ายด้วยชาเย็นมะนาวก็ย่อมได้รับ ความอิ่มที่ต่างกันเป็นธรรมดา" เมื่อฉันเจริญวัยได้เก้าพรรษา ครูบาอาจารย์ก็มอบหมายให้ท�ำหน้าที่พระ พี่เลี้ยงอย่างเต็มตัว ซึ่งท�ำให้ฉันกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กก่อนปฐมวัยไปโดยปริยาย ต่างกันก็เพียงพระพี่เลี้ยงไม่ได้ล้างก้นให้พระใหม่เท่านั้นเอง ฉันทุ่มเทแนะน�ำ พร�ำ่ สอนในสิ่งที่พระใหม่ควรรู้จนสุดความสามารถ รวมทั้งต้องรับมือกับสารพัน ปัญหาที่ประเดประดังเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน ข้อเด่นก็คือเป็นโอกาสได้ลับสติ ปัญญาให้แหลมคมและได้ศึกษาพระวินัยเพิ่มเติมในส่วนที่เป็นรายละเอียดปลีก 18
ย่อย ทว่าข้อด้อยก็ก้อนใหญ่ไม่ใช่เล่น เมื่อกลับมาตรวจเช็คสภาพจิตของตัวเอง แล้วท�ำให้พบว่าแทบจะอยู่ในระดับเดียวกับพระใหม่ เพราะเกิดความอ่อนไหว ต่ออารมณ์เหมือนคนไม่เคยฝึกจิตมาก่อน บ่อยครั้งที่ระงับไม่อยู่จนถึงกับระเบิด ออกมา พระเก่ากลายเป็นพระใหม่มนั น่าสังเวชใจกว่าพระใหม่เป็นพระใหม่หลาย เท่านัก ฉันพยายามหาจังหวะปลีกวิเวกอยูเ่ หมือนกัน แต่กท็ ำ� ได้ไม่นานเนือ่ งจาก มีกิจการงานของคณะสงฆ์รอให้สะสางอยู่อักโข ทุกวันนีพ้ ระใหม่รนุ่ ทีฉ่ นั ท�ำหน้าทีเ่ ป็นพระพีเ่ ลีย้ งได้ทยอยลาสิกขากันอย่าง ครบถ้วนโดยสวัสดิภาพ เรามีโอกาสพบกันเฉลี่ยปีละ ๑-๒ ครั้งช่วงงานกฐินหรือ ท�ำบุญขึ้นปีใหม่ ในวาระมงคลอย่างนี้ฉันเองก็อยากถามบรรดาทิดทั้งหลายว่า "เป็นยังไงบ้าง สึกออกไปแล้วยังมีใครรักษาศีลห้าหรือฝึกสมาธิกันอยู่ไหม?” แต่อันที่จริงไม่จ�ำเป็นต้องถามก็ได้ แค่มองตาก็รู้กันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร
19
เดี่ยวธุดงค์จำ� จงดี (1/3) ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 20
ตามพระวินัยบัญญัติ พระที่มีพรรษาหย่อนห้าจะต้องอยู่ฝึกฝน สรรพวิชากับครูบาอาจารย์ซึ่งเรียกว่า "การถือนิสัย" เนื่องจากกาย วาจา ใจ ของพระใหม่แทบไม่ต่างจากเด็กน้อยแม้จะบวชเมื่อแก่แล้วก็ตาม พระใหม่ยัง ไม่รวู้ า่ สิง่ ใดควร สิง่ ใดไม่ควรแก่บรรพชิต สถานการณ์ใดปลอดภัยหรือล่อแหลมเป็น อันตรายแก่พรหมจรรย์ แต่ถา้ มีเหตุจำ� เป็นให้เดินทางสูแ่ ห่งหนต�ำบลใด พระใหม่ รูปนั้นก็ต้องมีครูบาอาจารย์หรือพระพี่เลี้ยงผู้สมควรตามติดไปเพื่อให้ค�ำปรึกษา หรือช่วยผ่อนหนักผ่อนเบาเมือ่ ถึงคราวคับขัน ด้วยเหตุนเี้ มือ่ พ้นนิสยั คือมีพรรษา ครบห้าแล้ว พระหนุม่ ทีม่ นั่ ใจว่าตัวเองปีกกล้าขาแข็งจึงอยากลิม้ ลองรสชาติของ การเดี่ยวธุดงค์ ซึึ่งเรามักจะเลือกฤดูที่อากาศหนาวสบายช่วงปลายปี ฉันออกเดี่ยวธุดงค์ครั้งแรกเมื่อบวชได้หกพรรษา แต่ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาส ติดสอยห้อยติ่งครูบาอาจารย์ออกเดินธุดงค์ทั้งระยะใกล้และระยะไกลราวๆ ๒-๓ ครั้ง การไปธุดงค์กับครูบาอาจารย์พร้อมหมู่คณะพระภิกษุสามเณรนั้น ให้ความอบอุ่นเอื้อเฟื้อและสนุกอย่างสมบุกสมบัน บางครั้งหลังจากท�ำภัตกิจ เสร็จสรรพ เราก็ชวนกันหอบเสื่อผืนหมอนใบไปเอนกายนวดแข้งขาใต้แดดสวย ริมอ่างเก็บน�้ำอันเงียบสงบ นับเป็นช่วงเวลาที่ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจ เกินบรรยาย ทว่าการเดินธุดงค์แบบโดดเดี่ยวเปลี่ยวปลอดกับให้บรรยากาศที่ แตกต่างออกไป เส้นทางที่ฉันเลือกเดี่ยวธุดงค์ครั้งแรกกินอาณาเขตของจังหวัด พะเยาและจังหวัดน่าน เหตุที่ฉันเลือกเส้นทางนี้เนื่องจากสงสัยมานานแล้วว่า ท�ำไมพระหนุ่มเณรน้อยจึงไม่นิยมมาเดินธุดงค์ในท้องถิ่นนี้ ซึ่งต่างจากละแวก เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอนที่จัดว่าคึกคักเข้าขั้นครึกโครม ฉันก�ำหนด เพียงจุดหมายปลายทางโดยเริ่มต้นจากจังหวัดพะเยาไปสิ้นสุดที่จังหวัดน่าน แต่ไม่ก�ำหนดระยะเวลา 21
ฉันนั่งรถโดยสารประจ�ำทางจากจังหวัดเชียงใหม่มากับพระป่ารูปหนึ่งซึ่ง ท่านก�ำลังจะกลับไปเยี่ยมบ้านที่จังหวัดพะเยา เราเดินทางมาถึงสถานีขนส่ง ใจกลางเมืองในเวลาประมาณยี่สิบสองนาฬิกา พระเจ้าถิ่นเสนอว่าเราน่าจะไป พักค้างคืนที่วัดใกล้ๆ แต่เมื่อไปขออนุญาตเข้าพักกลับถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลคือ กุฏิเต็มแล้ว เราจึงมองหาต�ำแหน่งใหม่ซึ่งได้แก่ป่าช้าที่อยู่ห่างออกไปราวหนึ่ง กิโลเมตรเศษๆ นับว่าเป็นระยะทางทีพ่ อเหมาะแก่การเดินยืดเส้นยืดสายหลังจาก นั่งน่ิงๆมานานหลายชั่วโมง เมื่อผละออกจากประตูวัดได้ครู่ใหญ่เราก็ปะทะกับ บรรยากาศซึ่งน่าสยดสยองกว่าตัวป่าช้าหลายเท่าตัวนัก เนื่องจากสองข้างทาง อุดมไปด้วยห้องแถวยาวเหยียด อาบไล้ด้วยแสงไฟเขียวส้มชมพูวูบวาบละลาน ตาดึงดูดประดาชายหนุ่มกลัดมันให้ถลาเข้าไปเริงเล่นเริงรมย์--ถนนโลกีย์! ฉัน ตะโกนก้องอยู่ภายในด้วยอารามตกใจปนประหม่า แต่จะหลบเลี่ยงอย่างไรก็ ไม่ทนั เสียแล้วและนีก่ เ็ ป็นเพียงเส้นทางเดียวทีจ่ ะน�ำเราไปสูจ่ ดุ พักแรม สิง่ ทีท่ ำ� ได้ ก็คือก้มหน้าดุ่มเดินพุทโธๆไปเรื่อยๆ ในระหว่างนั้นฉันแอบสังเกตเห็นแม่หญิง นุ่งน้อยห่มนิดส่งสายตากระทุ้งมาเป็นค�ำถามว่า ดึกดื่นแล้วพระสองรูปมาท�ำ อะไรแถวนี้ เอ๊ะ! หรือว่า...ทะลึ่ง!! รุง่ เช้าเราออกไปบิณฑบาตยังตลาดในตัวเมือง เมือ่ กลับมาถึงป่าช้าพระทีม่ า ด้วยกันสังเกตเห็นสัปเหร่อไปด้อมๆมองๆอยูบ่ ริเวณทีพ่ กั ปักกลดของฉัน แต่ไม่มี อะไรให้ตอ้ งกังวล เพราะก่อนออกธุดงค์ฉนั ท�ำการบ้านมาอย่างดีดว้ ยการจัดเตรียม บริขารเท่าที่จ�ำเป็นต้องใช้ ปราศจากอุปกรณ์หรือสิ่งของมากมูลค่า ฉันอนุมาน ว่าเหตุการณ์นี้คงจะสืบเนื่องมาจากในระยะนั้นยาเสพติดที่ชื่อว่า YABA ก�ำลัง ระบาดอย่างหนัก โด่งดังถึงขนาดฝรั่งบรรจุศัพท์ค�ำนี้ลงในพจนานุกรมของเขา เลยทีเดียว หน�ำซ�ำ้ ยังอ้างอิงด้วยว่าเป็นค�ำศัพท์ทมี่ ตี น้ ก�ำเนิดมาจากประเทศไทย 22
น่าอดสูสงั เวชใจระดับเดียวกับความวอดวายของโครงการรับจ�ำน�ำข้าวเพือ่ น�ำมา ท�ำเป็นอาหารมอด (ฮาไม่ออก) นอกจากนี้ยังปรากฏข่าวตามสื่อต่างๆให้ได้เห็น กันอยูบ่ อ่ ยๆว่า ต�ำรวจตรวจพบพระธุดงค์ซกุ ซ่อนยาบ้าหลายร้อยเม็ดไว้ในบาตร เลยเถิดเปิดเปิงกันถึงขนาดนี้จะไม่ให้ชาวบ้านหวาดระแวงได้อย่างไร หลังจากฉันภัตตาหารแล้วล้างบาตรเสร็จเราก็เก็บบริขารออกเดินทาง บังเอิญฉันนึกขึ้นมาได้ว่าในตัวจังหวัดพะเยา มีวัดแห่งหนึ่งชื่อ "วัดศรีโคมค�ำ" ภายในบริเวณวัดมีพระอุโบสถซึ่งประดับด้วยจิตรกรรมฝาผนังสุดพิสดารของ คุณตาอังคาร กัลยาณพงศ์ ผู้ได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ กวีซีไรต์ และเป็นหนึ่งในนักเขียนที่ฉันสะท้านไหวในพลังวรรณศิลป์ ไหนๆก็ ดัน้ ด้นมาถึงทีน่ แี่ ล้ว อนาคตก็ไม่แน่วา่ จะได้มาเยือนอีก ฉันจึงชักชวนเพือ่ นร่วมทาง ไปทัศนาความลือลั่นให้เห็นกับสองตา เมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในพระอุโบสถ สิ่งแรกที่ฉันท�ำคือก้มกราบพระพุทธปฏิมาลงรักปิดทองงดงามอิ่มเอิบทั่วทั้งองค์ เพ่งมองพระพักตร์คราใดก็ให้รู้สึกสงบเย็นใจ เบื้องหลังองค์ปฏิมาปรากฏห้วง จักรวาลเวิ้งว้างสีแดงชาด ขับเน้นโพธิพฤกษ์ทองประไพแผ่กิ้งก้านระบัดใบ ชดช้อยดารดาษด้วยดวงดาวน้อยใหญ่ แสดงกาลจักรอันด�ำเนินไปในท่ามกลาง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
23
เดี่ยวธุดงค์จำ� จงดี (2/3) ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 24
หลังจากฉันได้ชน ื่ ชมพระอุโบสถวัดศรีโคมค�ำสมใจ พระเจ้าถิน่ ก็ให้ญาติของท่านไปส่งฉันทีว่ ดั ป่าแห่งหนึง่ ฉันพักอยูท่ นี่ สี่ ามคืนจึงได้ พบกับพระอาจารย์ทเี่ คยรูจ้ กั กันท่านหนึง่ โดยบังเอิญ ท่านชักชวนไปเยีย่ มวัดใหม่ ทีท่ า่ นเพิง่ บุกเบิกได้ไม่นาน ฉันจึงเก็บบริขารแล้วอาศัยรถไปกับท่าน วัดใหม่ทวี่ า่ นี้ ตัง้ อยูบ่ นภูเขาและมีพระธาตุเจดียส์ งู เด่น มองจากลานพระธาตุจะเห็นถนนลาดยาง ตัดผ่านหมูบ่ า้ นตรงดิง่ มายังวัด เมือ่ ยามโพล้เพล้มาเยือนดวงตะวันจึงอัสดงตรงสุด ปลายถนน ฉันพักอยู่ที่นี่สามวันจึงเริ่มออกเดินธุดงค์อย่างเป็นทางการ อากาศยามเช้าของเดือนกุมภาพันธ์จดั ว่าหนาวเหน็บ แต่อณ ุ หภูมชิ ว่ งกลางวัน กลับร้อนแทบคลัง่ ฉันผ่อนหนักเป็นเบาด้วยการใช้ผา้ ขนหนูขนาดกลางคลุมศีรษะ ไปพลางๆ พืน้ ทีเ่ ดินอยูเ่ ป็นถนนลาดยางรูส้ กึ ได้เลยว่ากระไอแดดฉ่าร้อนพุง่ ขึน้ มา ปะทะอวัยวะในร่มผ้าอยู่ตลอดเวลา ร้อนนักเหนื่อยนักฉันก็อาศัยพักตามร่มไม้ และศาลาริมทาง หมูบ่ า้ นในท้องถิน่ ชนบททีไ่ หนๆก็คล้ายๆกันคือมีสภาพความเป็น อยูแ่ บบเนิบๆเรียบง่ายสบายๆ ค�ำ่ นีฉ้ นั เข้าไปขอพักทีส่ ำ� นักสงฆ์เล็กๆแห่งหนึง่ ซึง่ มีพระอยูเ่ พียงรูปเดียว ภายในบริเวณส�ำนักสงฆ์มแี อ่งน�ำ้ ซับเล็กๆใต้หน้าผาพอได้ อาศัยช�ำระร่างกายคลายเหนอะหนะ เมือ่ เดินกลับไปทีก่ ฏุ มิ งุ หญ้าเด็กๆเอากาแฟ บรรจุกระป๋องมาถวาย ฉันรับแล้ววางไว้แต่ไม่ได้ฉันเพราะเดินเหนื่อยมาทั้งวัน คืนนีจ้ งึ อยากจะหลับให้เต็มที่ ตกกลางดึกอากาศหนาวจัดฉันเอาผ้าทุกชิน้ ทีม่ อี ยู่ มาห่มซ้อนกันหลายๆชั้นก็แทบไม่ช่วยอะไรมากนัก รู้สึกราวกับเอาแผ่นน�้ำแข็ง มาห่ม ฉันพลิกไปพลิกมาหลายตลบเพื่อหาท่าจ�ำวัดที่อุ่นที่สุดแต่ก็ไม่พบ หลับๆ ตื่นๆอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งคืน...รู้อย่างนี้ฉันกาแฟซะก็ดี รุ่งเช้าฉันติดตามเจ้าอาวาสออกบิณฑบาต หมูบ่ า้ นแห่งนีม้ ีความเจริญรุกล�้ำ 25
เข้ามาพอสมควร สังเกตได้จากกล่องโฟมบรรจุข้าวผัดที่ชาวบ้านน�ำมาใส่บาตร เมื่อฉันภัตตาหารเสร็จฉันก็เก็บบริขารล�่ำลาเจ้าอาวาสแล้วออกเดินทางต่อไปใน การเดินธุดงค์วันที่ ๒-๓-๔-๕ ก็คล้ายๆกับวันแรกเพียงแต่เพิ่มการจ�ำวัดในช่วง กลางวัน ระหว่างเที่ยงวันถึงบ่ายแก่ๆฉันต้องหลบพักอยู่ตามร่มไม้รายทางหรือ เข้าไปเอนกายในป่าช้าเพราะอากาศร้อนจัด ส่วนกลางคืนก็หนาวจัดจนหลับไม่ลง บางคืนต้องลุกขึ้นมานั่งต่อสู้กับความหนาว แต่สภาพร่างกายของพระหนุ่มยัง พร้อมรับสถานการณ์สุดขั้วเช่นนี้ ฉันจึงแทบไม่ป่วยไข้เลยตลอดการเดินทาง ห้าวันที่ผ่านมาฉันได้ความรู้จากการสังเกตอย่างหนึ่งว่า ระยะทาง ๒ เซนติเมตรในแผนที่จะเท่ากับระยะทางเดินเท้าประมาณ ๒ วัน ในแต่ละวันฉัน เดินทางประมาณ ๑๖-๑๘ กิโลเมตร เคยมีพระเล่าให้ฟังว่าบางช่วงของการเดิน ธุดงค์ท่านเดินไกลถึง ๔๐ กิโลเมตร! ในวันที่ ๖ ฉันประเมินว่าตัวเองคงจะเดิน ไกลกว่าทุกวันที่ผ่านมา เพราะเดินตั้งแต่เวลาแปดนาฬิกาเศษๆจนล่วงเลยมาถึง ยีส่ บิ นาฬิกา แต่กย็ งั ต้องดุม่ เดินต่อไปเพราะยังไปไม่ถงึ หมูบ่ า้ นทีป่ รากฏในแผนที่ อุปกรณ์ทฉี่ นั ใช้สอ่ งสว่างยามค�ำ่ คืนคือโคมไฟแบบพับเก็บได้ซงึ่ ภายในจุดเทียนไข เหตุที่ต้องใช้โคมไฟก็เพื่อความประหยัด ส่วนไฟฉายเก็บไว้ใช้ในยามฉุุกเฉิน เพราะถ้ากระหน�่ำใช้ไฟฉายแล้วถ่านหมดก็ไม่รู้ว่าจะไปขอกับใคร (วัตรปฏิบัติ ของวัดหนองป่าพงและส�ำนักสาขาข้อที่ ๑ ห้ามพระภิกษุสามเณรขอของจาก คนไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ปวารณา) ฉันสาวเท้าไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งคาดว่าจะเป็นสถานที่ราชการเพราะมีเสา ธงปักไว้ในที่โล่ง ถัดไปไม่ไกลฉันเห็นคนกลุ่มหนึ่งก�ำลังนั่งจับกลุ่มคุยกัน ขณะที่ ฉันก�ำลังปรึกษาตัวเองว่าจะเข้าไปถามทางดีไหมก็ได้ยินเสียงสุนัขค�ำราม คะเน 26
จากน�ำ้ เสียงคงจะเป็นสุนขั ทีใ่ ช้ในราชการทหาร เมือ่ เห็นสุนขั กระโจนคนกลุม่ นัน้ ก็ลกุ ฮือขึน้ พร้อมกัน ชายคนหนึง่ ก้าวออกมายืนอยูด่ า้ นหน้า ฉันได้ยนิ เสียงกระสุน บรรจุเข้าในรังเพลิงพร้อมลั่นไกล ชายคนนั้นยกปืนขึ้นประทับไหล่เล็งตรงมาที่ ฉันแล้วตะโกนขึ้นว่า ไผยืนอยู่นั่น? ฉันยิ้มในความมืดแล้วตอบกลับไปว่า ตุ๊เจ้า! ทันทีทรี่ วู้ า่ เป็นพระเขาก็ลดปืนลงแล้ววิง่ เข้ามาหา จากนัน้ ก็นมิ นต์ฉนั เข้าไป ในเขตรั้วจึงท�ำให้รู้ว่าที่นี่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ระหว่างที่เดินอยู่นั้นเขา แนะน�ำตัวเองว่าเป็นหัวหน้าของที่นี่พร้อมกับกล่าวค�ำขอโทษเป็นการใหญ่ เขา น�ำฉันไปยังกระท่อมหลังหนึ่งและนิมนต์ให้พักค้างคืน โดยให้เหตุผลว่าต้องเดิน อีกไกลว่าจะถึงหมู่บ้าน อีกอย่างคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นชาวม้งคงไม่รู้จักใส่ บาตร ที่สำ� คัญก็คือพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะได้มีโอกาสท�ำบุญด้วย เราไม่ได้เจอ พระมานานแล้ว ฉันรับนิมนต์แล้วขอตัวไปสรงน�้ำเพราะหนืดเหนียวตั้งแต่หัว จรดเท้า เมื่อกลับมายังกระท่อมพร้อมความสดชื่น หัวหน้าป่าไม้ก็นำ� น�้ำร้อนมา ถวายแล้วเล่าเหตุการณ์หนึ่งให้ฟัง ที่ท�ำการเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าตั้งอยู่ระหว่างหมู่บ้านชาวม้งสองหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ป่าไม้มักจะมีเรื่องระหองระแหงกับชาวบ้านที่ลักลอบเข้ามาตัดต้นไม้ อยู่เป็นประจ�ำ ลูกน้องของเขาคนหนึ่งมีนิสัยดุร้าย ครั้งหนึ่งเมื่อจับชาวบ้านที่ท�ำ ผิดกฎหมายได้ก็ส�ำเร็จโทษ ด้วยการเอาปืนจ่อหัวบังคับให้ชาวบ้านติดเครื่องรถ จักรยานยนต์แล้วใช้สองมือเปล่าจับท่อไอเสียที่กำ� ลังร้อนจัด บางครั้งลูกน้องนี้ก็ ท�ำร้ายหญิงสาวในหมูบ่ า้ นด้วยความคึกคะนอง พฤติกรรมเหล่านีส้ ร้างความโกรธ แค้นให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ราวหนึง่ เดือนทีผ่ า่ นมาชาวบ้านทัง้ สองหมูบ่ า้ นจึง ร่วมมือกันลอบสังหารเจ้าหน้าทีค่ นนี้ หลังจากเกิดเหตุฆาตกรรม เจ้าหน้าทีป่ า่ ไม้ 27
ก็จดั เวรยามอย่างเข้มงวด ในบางค�่ำคืนจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดเช่นรถยนต์ที่ จอดอยูใ่ นโรงรถติดเครือ่ งและเปิดไฟหน้ารถได้เอง รวมทัง้ เจ้าหน้าทีเ่ วรยามเห็น เพื่อนที่เพิ่งตายมาปรากฏตัว เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าเล่าเรื่องนี้จบเขาก็บอก ฉันว่า เป็นโอกาสดีที่มีพระมาโปรดพรุ่งนี้จะได้ทำ� บุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกน้องที่ เสียชีวิต คืนนั้นฉันนอนห่มแผ่นน�้ำแข็งพลิกซ้ายป่ายขวาเช่นเดียวกับคืนก่อนๆ
28
เดี่ยวธุดงค์จำ� จงดี (3/3) ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 30
ประมาณแปดโมงเช้าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ซึ่งมีด้วยกัน ทัง ้ หมดแปดคนจัดอาหารมาถวาย พวกเขารับพรพร้อมกรวดน�ำ้ อุทิศส่วนบุญไปให้เพื่อนที่ล่วงลับ เมื่อท�ำภัตกิจเสร็จเราก็เซย์กู้ดบาย ช่วงเช้า อากาศน่าเดินเล่นแต่ใกล้เทีย่ งวันแดดกลับแผดร้อนเผาไหม้ เมือ่ เดินมาถึงสระน�ำ้ ใสสะอาดน่ารื่นรมย์แห่งหนึ่งจึงแวะพักจ�ำวัดด้วยความอ่อนเพลีย เนื่องจากเมื่อ คืนหนาวจัดจนหลับไม่ลง บ่ายแก่ๆฉันเดินทางต่อจนมาถึงสถูปโบราณตั้งอยู่บน เนินเขาเล็กๆ เมื่อสอบถามชาวบ้านแถบนั้นจึงทราบว่ามีพระประจ�ำอยู่สองรูป ฉันนึกขึน้ มาได้วา่ วันนีเ้ ป็นวันโกนต้องปลงผมโกนหนวดตัดเล็บจึงเข้าไปขออนุญาต จากเจ้าอาวาสพักที่นี่สักหนึ่งคืนซึ่งท่านก็ยินดี ช่วงหัวค�่ำมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งมา ร่วมสวดมนต์ ฉันจึงเข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วย หลังจากชาวบ้านแยกย้ายกันกลับ ไปฉันรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ เมื่อท่านเจ้าอาวาสทราบจึงน�ำยา กับผ้าห่มผืนหนามาให้ คืนนี้ฉันพักอยู่ในกระท่อมใบตองตึงหลังน้อยซึ่งก�ำจาย กลิ่นหอมอ่อนๆ ท�ำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย นี่เป็นคืนแรกที่ฉันหลับสนิทนับ ตั้งแต่ออกเดินธุดงค์ รุง่ เช้าอาการป่วยไข้หายเป็นปลิดทิง้ เมือ่ ได้เวลาพอสมควรท่านเจ้าอาวาสก็ น�ำออกบิณฑบาต ผูค้ นในชนบทไม่วา่ ทีไ่ หนก็ให้ความเคารพพระและมีศรัทธาใน การท�ำบุญ วันนีต้ รงกับวันพระเมือ่ กลับมาถึงวัดจึงมีญาติโยมมาถวายอาหารและ สมาทานศีล ท่านเจ้าอาวาสนิมนต์ให้ฉนั แสดงธรรมโปรดญาติโยม ฉันจึงขอโอกาส เล่าประสบการณ์เดีย่ วธุดงค์ในช่วงหนึง่ สัปดาห์ทผี่ า่ นมาโดยย่นให้เหลือเพียง ๒๐ นาที เมือ่ ฉันภัตตาหารเสร็จฉันก็เก็บบริขารกราบลาท่านเจ้าอาวาสออกเดินทาง เวลาประมาณเที่ยงเศษๆฉันยังเดินตากแดดเปรี้ยงอยู่ในเขตจังหวัดพะเยา 31
มีรถยนต์แล่นผ่านไปเป็นระยะๆ รถยนต์คันหนึ่งวิ่งผ่านไปแล้วย้อนกลับมาถาม ฉันว่า เราก�ำลังจะไปเมืองน่าน ตุเ๊ จ้าจะไปด้วยกันไหม? ฉันตอบตกลง เจ้าของรถ เป็นสองสามีภรรยาวัยกลางคน ทั้งสองเล่าว่าเพิ่งกลับจากการเดินทางไปไหว้ พระธาตุดอยสุเทพที่เชียงใหม่ หลังจากสนทนาปราศรัยกันครู่ใหญ่ก็ท�ำให้ ทราบว่า สามีภรรยาคูน่ มี้ คี วามสนใจในเรือ่ งเครือ่ งรางของขลังดูมดดูหมอต่อชะตา ซึ่งฉันแทบไม่มีข้อมูลระดับอนุบาลเหล่านี้เลย (วัตรปฏิบัติส�ำหรับพระภิกษุ สามเณรที่เข้ามาศึกษายังวัดหนองป่าพงและส�ำนักสาขาข้อที่ ๒ ห้ามบอกและ เรียนเดรัจฉานวิชา บอกเลข ท�ำน�้ำมนต์ หมอยา หมอดู และท�ำมัตถุมงคล) จึง เป็นเหตุให้ตา่ งฝ่ายต่างนัง่ ชมพยับแดดแกล้มความเงียบราวกับอยูก่ นั คนละขัว้ โลก ตลอดระยะทางที่ผ่านมา ถนนล้วนแล้วแต่โค้งๆเว้าๆขึ้นๆลงๆเลาะๆเลี้ยวๆ ไปตามความลาดชันของภูเขา น้อยครัง้ ทีร่ ถจะวิง่ อยูบ่ นถนนทีเ่ ป็นเส้นตรง มองไป ทิศใดก็พบแต่ภเู ขาโล้นเลีย่ นเตียนโล่งสุดสายตาพานอรามา (เมือ่ ดูแผนทีใ่ นภาย หลังพบว่าจากจุดทีค่ ่สู ามีภรรยาจอดรถรับฉันจนถึงเข้าสู่เขตอ�ำเภอเมืองจังหวัด น่านมีระยะทางทั้งสิ้น ๑๔๐ กิโลเมตร) แล้วฉันก็ได้รับค�ำตอบว่าเหตุใดพระน้อย เณรหนุ่มจึงไม่นิยมมาจาริกธุดงค์ในท้องถิ่นนี้ เมื่อรถผ่านเข้าสู่เขตจังหวัดน่าน ได้สักครู่ใหญ่ๆ กระไอเย็นชื่นใจจากพันธุ์ไม้ร่มครึ้มสองข้างทางก็โรยตัวลงมาให้ สัมผัส สองสามีภรรยาจอดรถแวะรับประทานอาหารทีต่ ลาดแห่งหนึง่ ผูเ้ ป็นสามีนำ� น�้ำอัดลมกับบุหรี่มาถวาย ฉันรับน�ำ้ อัดลมไว้แล้วบอกว่าไม่ได้สูบบุหรี่ เขาอุทาน ทันทีว่าสุดยอด! เมื่ออิ่มหน�ำกันดีแล้วสามีภรรยาใจบุญก็ขับรถมาส่งฉันที่ส�ำนัก สาขาของวัดหนองป่าพงซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดน่านประมาณ ๑๐ กิโลเมตร และนี่คือจุดหมายปลายทางในการเดี่ยวธุดงค์ของฉันครั้งนี้
32
การเดีย่ วธุดงค์เป็นการฝึกความรับผิดชอบต่อตัวเอง การสังเกต การตัดสินใจ การใช้ไหวพริบปฏิภานในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หากตัดสินใจผิดพลาดใน สถานการณ์หนึ่งสถานการณ์ใดอาจหมายถึงต้องอดอาหารในวันถัดไป หรือต้อง เผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย ภัยธรรมชาติ คุกตะราง กระทั่งเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆปลี้ๆ นอกจากนีย้ งั มีเหตุปจั จัยอืน่ ๆทีจ่ ะมาบัน่ ทอนความละอายและเกรงกลัวต่อบาป อยูต่ ลอดเส้นทาง อารมณ์โดดเด่นในระหว่างการเดินธุดงค์ไม่วา่ จะเดินเดีย่ ว เดินคู่ หรือเดินเป็นหมู่คณะก็คือความหิวกระหาย เผ็ดร้อน ขมขื่น ไม่เป็นที่เจริญใจ แต่เมื่อแลกกับความรู้สึกเป็นอิสระดังที่นักปราชญ์อุปมาว่า "เหมือนนกที่มีเพียง ปีกและจะงอยปากบินไปในอากาศ" ก็นับว่าคุ้มค่า ถึงขนาดส่งผลให้พระหนุ่ม จ�ำนวนหนึง่ ตัดสินใจไม่กลับเข้าไปอยูใ่ นกรง แม้วา่ กรงนัน้ จะสร้างขึน้ จากทองค�ำ ประดับอัญมณีอลังการเพียงใดก็ตาม
33
อินเดียเพลียไหม? ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 34
ถ้าไม่นับเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ กับชายแดนไทย-พม่า อ�ำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ก็พอจะจัดได้ว่าทริป อินเดียคราวนี้เป็นการไป เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของฉัน พระฝรั่งที่พ�ำนักอยู่ในวัดเดียวกันถาม แล้วถามอีกว่าตื่นเต้นไหม? ฉันจึงตอบไปตามความรู้สึกสมจริงว่า "เฉยๆ" แต่ ถึงกระนัน้ พระฝรัง่ ก็ยงั แวะเวียนมาถามซ�ำ้ อีกหลายหน แถมยังนับถอยหลังราวกับ จะปล่อยกระสวยขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 วินาทีที่รถเคลื่อนออก จากประตูวัดความรู้สึกของฉันก็ยังคงเส้นคงวา อุณหภูมิปลายเดือนพฤศจิกายนที่สนามบินเมืองคยาตามเวลาท้องถิ่นคือ 14:00 น. อยู่ที่ 29 องศาเซลเซียส (กัปตันวิษณุพงศ์ประกาศเสียงทุ้ม) คณะ เดินทางของเราประกอบด้วยพระภิกษุ 3 รูป ญาติโยมชาววัด 32 ท่าน ไกด์ชาวไทย 2 ท่าน ไกด์ชาวอินเดีย 1 ท่าน คนขับรถ 1 ท่าน และผูช้ ว่ ยชาติเดียวกันอีก 2 ท่าน รวมเบ็ดเสร็จ 41 ชีวติ ทีต่ อ้ งร่วมชะตากรรมบนถนนวิบากในภาคอีสานของอินเดีย เป็นเวลา 8 วัน โดยมีรถโดยสารปรับอากาศโอ่โถงปราศจากห้องน�ำ้ เป็นพาหนะคูย่ าก พุทธคยา-สถานทีต่ รัสรูพ้ ระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณดารดาษไปด้วยฝ่นุ ละออง และคนเข็ญใจสารพัดวัยร้องกระจองอแงระงมอยู่ทั่วบริเวณ ฉันเสียบอุปกรณ์ กรองฝุ่นใส่สองรูจมูกเพื่อทดสอบผลงานวิจัยล่าสุดจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี จากนั้นก็สาวเท้าทะลวงฝ่าฝูงขอทานและพ่อค้าที่พุ่งมาจาก ทั่วสารทิศ โดยตั้งปณิธานไว้ว่าเป็นตายอย่างไรก็ต้องกระเสือกกระสนไปจนถึง พระมหาเจดีย์ให้จงได้ ในระยะเวลาระทึกระคนกลิ่นคลื่นเหียนนั้นฉันพลัน กระหวัดถึงภาพยนตร์เกี่ยวกับซอมบี้! ท้ายที่สุดสิ่งมีชีวิตเชื้อชาติไทยก็ดั้นด้น มาถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ เราสวดมนต์ร่วมกันใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เดินท�ำ 35
ประทักษิณรอบพระมหาเจดีย์ กราบพระพุทธเมตตาที่ประดิษฐานอยู่ภายใน และอุทิศส่วนบุญให้แก่บรรดาซอมบี้ทั้งหลาย ไม่ต้องสังเกตก็เห็นชัดเจนว่ามี ชาวพุทธจากนานาชาติก�ำลังเจริญพุทธานุสติในอิริยาบถต่างๆอยู่ทั่วบริเวณ เราผละจากความขวักไขว่ไปเช็คอินที่โรงแรมระดับสี่ดาว หัวหน้าไกด์ปล่อยมุก ไม่เกรงใจแขกว่าถ้าเป็นเมืองไทยดาวจะร่วงไปหนึ่งดวง หลังจากช�ำระร่างกาย และดื่มน�้ำชากาแฟ ฉันก็ยืนไว้อาลัยให้กับเตียงนุ่มกับผ้าห่มหนา เนื่องจาก คืนนีเ้ ราจะไปกางเต๊นท์ปฏิบตั ธิ รรมด้วยสามอิรยิ าบถคือยืน เดิน นัง่ ภายในบริเวณ พระมหาเจดีย์จนถึงรุ่งเช้า ถึงจุดนี้ต้องอนุโมทนากับญาติโยมที่เตรียมกระโจม ชนิดนัง่ มาถวายพระ เพราะถ้าจัดชนิดนอนมาให้คงได้ยนิ เสียงกรนสนัน่ หวัน่ ไหว ครัน้ รุง่ อรุณมาเยือนเราก็กลับไปช�ำระร่างกายแล้วรับประทานอาหารทีโ่ รงแรม เมื่อ Chai Latte หรือชานมผสมเครื่องเทศลงไปฟรุ้งฟริ้งปิดท้ายมื้อเช้าในพุง น้อยๆเราก็เดินทางต่อทันที! และนี่คือส่วนหนึ่งของรายการในอีกเจ็ดวันที่เหลือ ถ�้ำดงคสิริ - สถานที่ทรงบ�ำเพ็ญทุกรกิริยา แม่น�้ำเนรัญชรา - สถานที่ทรงอธิษฐานจิตลอยถาด เขาคิชกูฏ - พระคันธกุฎีของพระพุทธองค์ สาลวโนทยาน - สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน มกุฏพันธนเจดีย์ - สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ลุมพินีวัน - สถานที่ซึ่งพระนางสิริมหามายาประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ เชตวันมหาวิหาร - สถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงประทับจ�ำพรรษานานที่สุด ถึงสิบเก้าพรรษา ธัมเมกขสถูป - สถานทีซ่ งึ่ พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ฯลฯ 36
แม้สถานทีข่ า้ งต้นจะมีอาณาเขตอยูใ่ นอินเดียและเนปาล แต่แปลกทีฉ่ นั กลับ รู้สึกประหนึ่งว่าก�ำลังเดินอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยหรือวัดโบราณใน อยุธยา ต่างกันก็เพียงอินเดียกับเนปาลสกปรกว่าและต้องใช้ความระแวดระวัง มากกว่า ส่วนอีกหนึ่งบริเวณที่น่าตื่นตาตื่นใจและได้ยินเสียงชัตเตอร์รัวถี่เป็น พิเศษก็คอื ระหว่างล่องเรือในแม่นำ�้ คงคา ท่าน�ำ้ คึกคักไปด้วยฤาษีชไี พร ชาวบ้าน ท้องถิน่ และผูม้ าเยือน สิง่ ปลูกสร้างทัง้ เก่าทัง้ ใหม่ทงั้ โมเดิรน์ ทัง้ ขรึมขลังสอดสลับ เรียงรายอยู่ตลอดฝั่งแม่น�้ำ บรรดาเรือพ่อค้ากรูกันเข้าประกบเรือนักท่องเที่ยว ชาวไทยอย่างผิดสังเกต เนือ่ งจากเป็นทีล่ อื ชาหนาหูวา่ ชาวสยามประเทศกระเป๋า หนักและจับจ่ายได้ในทุกสถานการณ์ แม้ขณะที่เรือโดยสารลอยล�ำอยู่ใกล้ท่าน�้ำ ที่สัปเหรือเพิ่งย่อนศพลงไป ก็มิอาจท�ำให้วิญญาณนักช้อปหวาดสะดุ้งสั่นคลอน แล้วก็มาถึงวันทีช่ าวคณะเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทยด้วยเทีย่ วบิน TG 8821 ใครเลยจะคาดคิดว่ามาอยูไ่ กลถึงขนาดนีย้ งั ได้รบั ผลกระทบจากเหตุการณ์ อลหม่านทีก่ รุงเทพฯ เนือ่ งจากมีฝงู ชนยกโขยงเข้าไปยึดสนามบินสุวรรณภูมเิ ป็น ที่พักผ่อนหลับนอน สายการบินต่างๆจึงงดเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก เป็น เหตุให้เราต้องเลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทยอันเป็นที่รักออกไปอย่างไม่มีรู้ ชะตากรรม หลังจากชาวคณะทราบเรือ่ งนีไ้ ม่นานนาทีฉนั ก็ได้ยนิ เสียงค�ำรามจาก บางใคร แต่ก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามใหญ่โต ฉันก็กระวีกระวาดแผ่เมตตาให้ ตัวเอง ไม่ว่าจะอยู่ในแดนพุทธภูมิหรือแดนเนรมิต ความโกรธก็ไม่สมควรแก่เรา สืบเนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าว ชาวคณะจึงได้ไป Hang out อยู่ ในเมืองสารนาถเป็นเวลากว่าครึง่ ค่อนวัน หลังจากฉุกละหุกสมบุกสมบันมาตลอด หนึ่งสัปดาห์ เราได้ไปเยือนพิพิธภัณฑ์ประจ�ำเมืองเพื่อทัศนาศิลปะโบราณ ชิ้นที่ 37
ลือลั่นสุดๆก็คือพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาซึ่งชนะใจกรรมการมาแล้วทุกสนาม จนถูกสั่งห้ามเข้าประกวด หลายท่านในคณะที่เคยมาเยือนอินเดียก่อนหน้านี้ ไม่มีโอกาสได้เห็น เนื่องจากพิพิธภัณฑ์่ทั่วโลกนิยมมายืมไปจัดแสดง ส่วนสิงโต แลบลิ้นบนเสาพระเจ้าอโศกก็ดีไซน์ได้มุ้งมิ้งน่ารักน่าชัง นอกจากนั้นช่วงหัวค�่ำ ตลาดผ้าเมืองพาราณาสียังได้ลูกค้าชั้นดีกลุ่มใหญ่ ฉันเองก็พลอยได้รับอานิสงส์ ด้วยเนือ่ งจากมีญาติโยมใจดีถวายผ้าพัชมีนาสีแก่นขนุนมาหนึง่ ผืน ฉันบรรจงพับ ผ้าลื่นๆอุ่นๆลงในกระเป๋า ถ้ากัปตันวิษณุพงศ์รู้เรื่องนี้เข้าคงตาร้อนผ่าวเป็นแน่
38
โลกสวยด้วยแยบคาย ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 40
ฤดูร้อนเอาเรื่องปีหนึ่งที่วัดป่านานาชาติ จังหวัด อุบลราชธานี จู่ๆฉันก็โคจรไปพบป้ายธรรมะจากต้นไม้แผ่นหนึ่งโดยบังเอิญ ลายมือเขียนด้วยอะครีลิกสีขาวบนพื้นโลหะสีน�้ำตาลเข้มขรึมขลังอ่านได้คมชัด ทุกตัวอักษรว่า "If you can learn to make the mind still, it will be the greatest help to the world” ฉันล้วงย่ามหยิบปากกากับสมุดบันทึกมาจด ไว้ในทันที ด้วยสะดุดใจในความเรียบง่ายของถ้อยค�ำ และความจริงที่ฉายพลัง ผ่านความง่ายงามนั้น เราๆท่านๆอาจไม่ทนั สังเกตว่า ปฐมเหตุทที่ ำ� ให้โลกเดือดร้อนวุน่ วายประลัยกัลป์ หาได้มาจากสิง่ อืน่ ใดไกลตัว แต่เป็นเพราะจิตของท่านๆเราๆถูกท�ำให้เคลือ่ นไหว ด้วยอ�ำนาจของกิเลสคือความโลภ โกรธ หลง นั่นเอง ส่วนการที่จิตจะยอมสยบ สงบนิ่งได้นั้นก็ต้องอาศัยอ�ำนาจของศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งสามารถฝึกฝนได้จาก กิจกรรมที่แสนจะธรรมดาในชีวิตประจ�ำวันเช่นการล้างส้วม เมือ่ เราตัง้ ความปรารถนาดีในขณะทีล่ า้ งส้วมไว้วา่ "ใครก็ตามทีถ่ กู ความทุกข์ บีบคั้นอัดอั้นทวารเดินโซเซผ่านมา ขอให้เขาหรือหล่อนได้ใช้ส้วมสะอาดและ ความสุข" ซึ่งความปรารถนาดังว่านี้สอดคล้องกับหลักสัมมาวายามะหรือความ พากเพียรชอบอย่างมีนัยยะส�ำคัญมากเลยทีเดียว ซึ่งสามารถอัตถาธิบายได้ ๔ แนวทางว่า (๑) เพียรป้องกันอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น (๒) เพียรละ อกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้หมดไป (๓) เพียรประกอบกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้ เกิดขึน้ และ (๔) เพียรพอกพูนกุศลธรรมทีเ่ กิดขึน้ แล้วให้เจริญงอกงามยิง่ ๆขึน้ ไป เพียงเท่านี้เราก็สามารถพลิกโฉมหน้าของโลกภายนอกและโลกภายใน จากโลก ที่โสโครกน่ารังเกียจเป็นโลกที่หอมสะอาดน่ารื่นรมย์ 41
ฉันเห็นแจ้งแจ่มชัดกับตัวเองมาตลอดระยะเวลาเกือบยี่สิบปีในเพศนักบวช ว่า เมือ่ ปรับเปลีย่ นมุมมองและพฤติกรรมของตนให้สอดคล้องกับประโยค "If you can learn to make the mind still, it will be the greatest help to the world” แม้โลกภายนอกจะยังรกรุงรังเพียงใด แต่โลกภายในกลับสดใสสว่าง ขึ้นทีละเล็กทีละน้อย นี่คือทางด�ำเนินไปสู่โลกที่จะไม่กลับมาสกปรกอีก แม้เป็น งานหนักแต่ก็คุ้มค่าที่จะทุ่มเทกระท�ำ
42
ผ่าศพครบเครื่อง (ใน) ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 44
ครัง ้ ทีเ่ ท่าไหร่กจ ็ ำ� ได้ไม่ถนัดทีฉ ่ น ั จูงมือตัวเองเข้าไป เป็นส่วนหนึ่งของชั่วโมงระทึกขวัญ ภายในห้องอันเยียบเย็น อบอวลด้วยกลิน่ น�ำ้ ยาฟอร์มาลีน ปรากฏร่างชายไทยไม่ทราบชือ่ นอนแน่นงิ่ อยูบ่ น เตียงโลหะมันวาว เสียงเลือ่ ยช�ำแรกผ่านกระโหลกศีรษะดังเป็นจังหวะสม�ำ่ เสมอ ชัว่ เคีย้ วหมากแหลกก้อนสมองขุน่ ครีมก็ถกู ควักออกมาชัง่ น�ำ้ หนัก พินจิ จากเข็มที่ แกว่งกวัดอยูบ่ นหน้าปัดฉันไม่อาจหยัง่ รูไ้ ด้วา่ ชายผูน้ โี้ ง่หรือฉลาด แต่สงิ่ ทีช่ ดั เจน ในนาทีนี้ก็คือร่างของเขาท�ำให้สติปัญญาของฉันเพิ่มพูนขึ้นมไม่น้อยมิลลิกรัม ระหว่างก�ำลังเพลิดเพลินกับอวัยวะน้อยใหญ่ทกี่ องพะเนินอยูต่ รงหน้า ฉันก็ได้ยนิ พระรูปหนึง่ กระเซ้าคุณหมอว่า "คุณหมอผ่าศพทุกวัน คงไม่ชอบทานเนือ้ " คุณหมอ ช�ำเลืองดูนาฬิกาบนผนังซึ่งทั้งเข็มยาวและสั้นก�ำลังกระดิกเข้าใกล้เลขสิบสอง ก่อนกลืนน�้ำลายอึกใหญ่แล้วตอบว่า "ทานเหมือนกันครับ แต่ไม่ทานเครื่องใน" เมื่อกลับมาถึงวัดฉันกลายเป็นนักมังสวิรัติผู้เคร่งขรึมเคร่งครัดอยู่หลายวัน เหตุเพราะภาพชั้นไขมันเหลืองละออ ล�ำไส้น้อย ล�ำไส้ใหญ่ หัวใจ ปอด ตับ ม้าม กระเพาะ และอืน่ อวัยวะตามมาหลอกหลอนจนไม่เป็นอันฉันแกงมัสมัน่ นอกจาก นั้นกลิ่นคาวคละคลุ้งยังสิงสนิทติดจีวร เนื่องจากพระป่านิยมใช้จีวรที่ท�ำจาก ผ้าฝ้ายร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วย้อมด้วยน�ำ้ ฝาดแก่นขนุน ซึง่ มีคณ ุ สมบัตใิ นการดูดซับ กลิ่นเป็นเลิศ และเพื่อเป็นการลดภาระในการดูแลข้าวของบริขาร ฉันจึงน�ำจีวร มาพับเป็นสองชัน้ เพือ่ ห่มกันหนาว ในคืนนัน้ สารพันกลิน่ จากห้องผ่าศพจึงอบอวล อยู่ที่ปลายจมูกชวนให้กระหวัดถึงบรรยากาศระทึกใจเมื่อช่วงกลางวันมิวางวาย พระอาจารย์ทา่ นหนึง่ เล่าว่า เคยไปพิจารณาซากศพทีเ่ กิดจากอุบตั เิ หตุเน่าเละไป ทั้งตัวซึ่งกลิ่นรุนแรงกว่าศพธรรมดาหลายเท่านัก เมื่อกลับมาถึงวัดท่านก็ช�ำระ ร่างกายแล้วเดินจงกรมตามปรกติ ครั้นได้เวลาพอสมควรจึงขึ้นไปบนกุฏิกราบ 45
พระแล้วนัง่ สมาธิ สักครูใ่ หญ่กไ็ ด้ยนิ เสียงคนเดินกลับไปกลับมาอยูบ่ นทางจงกรม ท่านจึงลุกออกไปดู ปรากฏศพเละๆเน่าเฟะก�ำลังเดินจงกรมอยูอ่ ย่างขะมักเขม้น! เมื่อครั้งที่ฉันจ�ำพรรษาอยู่ในอ�ำเภอชนบทชายแดนของจังหวัดจันทบุรี มีพอ่ บ้านจากกรุงเทพฯ ๓-๔ ท่านเดินทางมาปฏิบตั ธิ รรมในวันหยุดปลายสัปดาห์ ตกค�ำ่ เมือ่ สวดมนต์และสนทนาธรรมกันพอสมควร เราก็แยกย้ายกันกลับทีพ่ กั ซึง่ เป็นกุฏิหลังเล็กๆบนเนินเขาตั้งอยู่ห่างกัน รุ่งเช้าแต่ละคนต่างก็มีประสบการณ์ มาเล่าสู่กันฟัง ส่วนใหญ่จะได้ยินเสียงแปลกๆตามประสาชาวกรุงเทพฯที่ไม่คอ่ ย ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จึงเป็นเหตุให้จินตนาการไปต่างๆนานาท้ายที่สุดก็มา สรุปลงที่ค�ำว่า "กลัวผี" ฉันพิจารณาเรื่องนี้อย่างถ้วนถี่ว่าถ้าผีจะหลอกมันจะมา ไม้ไหน ท่าพื้นฐานที่เคยเห็นในหนังก็คงจะเป็นถอดหัวกับแหกอก ถ้าถอดหัวเรา ก็เคยเห็นมาแล้วทีโ่ รงพยาบาล ยิง่ กว่าถอดหัวเสียอีกเพราะถอดสมองออกมาเป็น ก้อนๆกันเลยทีเดียว แต่ถา้ จะมาแหกอกหลอกกัน เราก็เคยเห็นมาแล้วว่าอวัยวะ ภายในของมนุษย์ประกอบด้วยอะไรบ้าง แล้วผีจะสรรหาวิธใี ดมาหลอกกันได้อกี ตัดภาพกลับมาที่กรุงเทพมหานคร...ห้องชันสูตรศพของโรงพยาบาลแต่ละ แห่งจะมีบรรยากาศที่แตกต่างกัน ห้องซึ่งเป็นทั้งสถานที่ชันสูตรศพและที่เรียนรู้ ของนักศึกษาแพทย์จะสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบ ส่วนห้องในโรงพยาบาล ทีท่ ำ� การชันสูตรศพเพียงอย่างเดียว จะเกลือ่ นไปด้วยเสือ้ ผ้าเปือ้ นเลือด กระดาษ หนังสือพิมพ์ เปลือกส้ม ชามก๋วยเตีย๋ ว ขวดเครือ่ งดืม่ ชูกำ� ลังยีห่ อ้ ทุนนิยมเพือ่ ชีวติ รวมทั้งศพถูกไฟคลอกที่กองเกรียมอยู่แทบเท้า แม้จะรุงรังชวนรากเหียนแต่ ก็สนองเสี้ยวอารมณ์ของป่าช้าทิ้งศพในครั้งพุทธกาล ครั้งหนึ่งที่โรงพยาบาล ประเภทหลังนี้ เมือ่ ได้ชมเจ้าหน้าทีช่ ำ� แหละศพจนอิม่ หน�ำแล้ว ฉันก็เดินไถลออก 46
ไปทางประตูดา้ นหลัง จึงเป็นเหตุให้ปะทะกับห้องซึง่ เต็มไปด้วยลิน้ ชักขนาดใหญ่ ไล่เรียงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ภายในบรรจุอะไรคงไม่จ�ำเป็นต้องเปิดดู รู้แต่เพียง ว่าไม่มลี นิ้ ชักใดว่างเลย เนือ่ งจากปรากฏสองร่างไหม้เกรียมกองอยูบ่ นพืน้ ซีเมนต์ ฉันเดินเข้าไปพิจารณาใกล้ๆเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง ทั้งสองร่างแสดงอิริยาบถ เดียวกันคือหัวเข่าชูชัน อวัยวะสืบพันธุ์บวมเป่ง แขนทั้งสองข้างกางออกคล้าย จะโผเข้ากอด ปากเผลออ้าเกร็งราวกับก�ำลังร้องขอความช่วยเหลือ แต่สายเกินไป ไม่วา่ ฉันหรือใครก็ไม่อาจช่วยได้ พวกเขาจากไปแล้วตามทางของพวกเขา...เสียง ไซเรนค�ำรามช�ำแรกอากาศขุ่นยะเยือก ฉันเดินกลับไปที่รถแล้วจากไปตามทาง ของตัวเอง
47
มรณสติในนิยายวิทยาศาสตร์ ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 48
แม้ภาษาอังกฤษของฉันจะถูกจัดอยู่ในเผ่าพันธุ์ งูๆปลาๆ แต่เมื่อมีเหตุคับขันให้ต้องไปจ�ำพรรษาที่วัดป่านานาชาติ จังหวัด อุบลราชธานี จึงมีความจ�ำเป็นที่ฉันต้องตะเกียกตะกายพาตัวเองไปให้รอด พระสารพันสัญชาติที่พ�ำนักอยู่ในสถานที่แห่งนี้ต้องปฏิสัมพันธ์กับภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ตื่นยันหลับ เข้าส้วมก็พบป้ายข้อวัตรปฏิบัติในการดูแลรักษาส้วมเป็น ภาษาอังกฤษ สวดมนต์แปลก็ใช้บาลี-อังกฤษ ฟังเทศน์ก็ภาษาอังกฤษ แม้แต่ ฉันน�้ำชาก็เป็นชาจากอังกฤษ (ต้องอ่านฉลากภาษาอังกฤษ) จากสถานการณ์ นี้ท�ำให้ฉันได้พบกับหนังสือเรียนภาษาอังกฤษระดับ Intermidiate เล่มหนึ่ง ซึ่งช่วยเพิ่มพูนทักษะทางภาษาและท�ำให้ฉันได้ส�ำรวจโลกด้านในไปพร้อมๆกัน หนังสือสองประโยชน์เล่มนั้นมีชื่อว่า On the Beach จินตนาการสั่นสะเทือน วงการวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมโดย Navil Shute อดีตนักบินชาวอังกฤษ สมัยสงครามโลกครัง้ ทีห่ นึง่ ผูผ้ นั ตัวมาเอาดีดา้ นการเขียนนิยายซึง่ ถูกน�ำไปสร้าง เป็นภาพยนตร์ชื่อเดียวกันตั้งแต่ปี ค.ศ.1959 จากประสบการณ์ช่วงวัยรุ่นของฉันเกี่ยวกับนิยายวิทยาศาสตร์ ผู้อ่านมัก จะได้เผชิญหน้ากับการเดินทางทะลุมิติจานบิน ยานอวกาศ สัตว์ประหลาดคลั่ง ประชาธิปไตย มนุษย์กลายพันธุ์หมิ่นเจ้า หุ่นยนต์สองเขาชูสามนิ้วฯ ทว่า On the Beach ปราศจากสิ่งน่าขยะแขยงและตื่นเต้นเร้าใจเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง อารมณ์โดยรวมที่แต่ละหน้ากระดาษพรั่งพรูสู่ผู้อ่านก็คือความตื่นตระหนก หม่นเทา เศร้าสร้อย สิน้ หวัง ไร้ทางออก ส่งผลให้ตวั ละครเป็นจ�ำนวนมากฆ่าตัวตาย เป็นว่าเล่น! หดหู่ปานนั้นแต่น่าท�ำความเข้าใจ เผื่อวันหนึ่งข้างหน้านิยายอาจจะ กลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาก็ได้
49
เรือ่ งย่นของ On the Beach มีอยูว่ า่ ประเทศมหาอ�ำนาจซึง่ อยูท่ างตอนเหนือ ของโลกระดมยิงระเบิดนิวเคลียร์ถล่มกันเฉียด 5,000 ลูก สิ่งมีชีวิตถูกท�ำลาย ภายในพริบตา ผลต่อเนื่องตามมาก็คือลมพัดหมอกกัมมันตรังสีสู่ประเทศที่อยู่ ทางตอนใต้ของโลก ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์เป็นสองประเทศสุดท้ายที่ผู้คน ยังด�ำเนินชีวิตได้ตามปรกติ แต่ความปรกติมีเวลาจ�ำกัดเพียงหกเดือน เนื่องจาก หมอกกัมมันตรังสีก�ำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆลงมาสู่ทั้งสองประเทศโดยไม่มีทาง แก้ไข นักวิทยาศาสตร์ออสซีค่ นหนึง่ จึงสรุปในทีป่ ระชุมว่า "เราทุกคนรูว้ า่ วันหนึง่ จะต้องตาย เป็นเรื่องน่ายินดีที่เรารู้วันตายของเราคือในอีกหกเดือนข้างหน้า ท�ำทุกอย่างที่อยากท�ำก่อนเวลานั้นจะมาถึง" ความน่าสนใจของ On the Beach หาใช่ความเป็นไปได้ของการเกิดสงคราม ตามสมติฐานของผูเ้ ขียน กลุม่ อาการ และวิธปี ฐมพยาบาลผูท้ ไี่ ด้รบั สารกัมมันตรังสี หรือกลวิธปี ระพันธ์วรรณกรรมให้นา่ เอาไปท�ำเป็นภาพยนตร์ฯ ประเด็นทีค่ วรให้ ความสนใจเป็นพิเศษคือตัวละครในเรือ่ ง ใช้เวลาทีเ่ หลือเพียงหกเดือนด�ำเนินชีวติ อย่างไรก่อนมหันตภัยจะมาถึง กัปตันเรือด�ำน�้ำใช้เวลาส่วนใหญ่น�ำลูกเรือออก เดินทางค้นหาภูมปิ ระเทศทีส่ ะอาดปลอดสารกัมมันตรังสี แต่เมือ่ พบความจริงว่า โลกถูกปกคลุมด้วยเถ้าละอองแห่งความตายทุกหย่อมหญ้า เขาก็กลับมายัง ฐานทัพแล้วขับรถไปตกปลาบนภูเขากับหญิงคนรัก นักวิทยาศาสตร์ผู้หลงใหล ความเร็วตัดสินใจลงสนามแข่งรถฟอร์มูล่าวันที่จัดขึ้นเป็นนัดสุดท้าย นายทหาร หนุ่มอยู่ดูแลครอบครัว แม่บ้านจอมขยันซื้อเก้าอี้มานั่งหย่อนใจในสวนดอกไม้ที่ เพิ่งปลูกได้ไม่กี่วัน ทุกตัวละครล้วนลงมือท�ำกิจกรรมที่เห็นว่าจะน�ำความสุขมา สู่ชีวิตของตนและผู้คนเคียงข้าง เนื่องจากยังไม่ได้ให้เวลากับกิจกรรมเหล่านั้น อย่างเต็มที่ ในขณะยังมีเวลาเหลือเฟือก่อนหน้านี้ 50
The End of It All แล้วก็มาถึงบทส่งท้ายของนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องนี้ กัปตันเรือด�ำน�ำ้ ล�ำ่ ลาหญิงคนรักแล้วน�ำลูกเรือที่เริ่มมีอาการเจ็บป่วย ขับเคลื่อน เรือด�ำน�ำ้ ออกสูท่ ะเลลึกแล้วจมมันเพือ่ รักษาข้อมูลลับทางการทหาร เภสัชการแจก จ่ายยาแก่ผทู้ ตี่ อ้ งการแต่มนั ไม่ใช่ยาเพือ่ รักษาอาการทุรนทุรายจากพิษกัมมันตรังสี หญิงสาวคนหนึง่ ขับรถขึน้ ไปบนยอดเขา จ้องมองเรือด�ำน�ำ้ จนลับสายตาแล้วกลืน เม็ดยาปลิดชีวติ ตัวเอง นักวิทยาศาสตร์คำ� นวณว่าเมือ่ สารกัมมันตรังสีสลายตัวใน อีกห้าปีข้างหน้าโลกจะกลับเข้าสู่ภาวะปรกติ ฉันถามตัวเองว่าขณะที่อากาศยังพอใช้หายใจได้ ร่างกายยังทนข้าวปลา อาหารผสมสารกันบูดเจือสีแต่งกลิน่ สังเคราะห์ไหว ป่าละเมาะพอเหมาะแก่การ บ�ำเพ็ญสมณธรรมก็ยังมี อีกทั้งผู้คนจ�ำนวนหนึ่งก็ยังศรัทธาในพระพุทธศาสนา ถ้าเหลือเวลาหกเดือนเท่าตัวละครในนิยายฉันจะเอาไปท�ำอะไร? สารภาพกัน ตามตรงเวลาตั้ง ๑๘๐ วันส�ำหรับฉันแล้วมันช่างมากมายเหลือเกิน ฉันจึงน�ำมา ใช้อย่างฟุ่มเฟือยด้วยการเขียนความเรียงชิ้นนี้ สายเมเก น ทิสฺสนฺติ ปาโย ทิฏฐา พหู ชนา ปาโต เอเก น ทิสฺสนฺติ สายํ ทิฏฐา พหู ชนา ตอนเช้ายังเห็นกันอยู่มากคน พอตกเย็นบางคนก็ไม่เห็น เมื่อเย็นยังเห็นกันอยู่มากคน ตกถึงเช้าบางคนก็ไม่เห็น อย่ากระนั้นเลย เราพึงเป็นอยู่ด้วยความไม่ประมาท เลิกเขียนความเรียง ชิ้นนี้แล้วไปเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิจะดีกว่า
51
ฟุตบอลสอนอะไร ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 52
แม้ช่วงวัยรุ่นฉันจะชอบเล่นฟุตบอลแต่กลับไม่ได้ สนใจติดตามการแข่งขันรายการต่างๆทั้งทางทีวี และนิตยสาร เมื่อบวชเป็นพระยิ่งห่างไกลจากข่าวสารวงการกีฬาราวกับ อยู่กันคนละฟากฝั่งมหาสมุทร ทว่าในเดือนธันวา'มหามงคลนี้ข่าวการชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติไทย กลับสร้างกระแสลุกล�ำ้ เข้ามาในเขตวัดอย่าง มีนัยส�ำคัญไม่ใช่เล่น ข่าวแรกทีแ่ ว่วมาเข้าโสตประสาทของฉันคือ พระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงรับสั่งให้รองราชเลขาธิการโทรศัพท์ไปให้ก�ำลังใจแก่ นักฟุตบอลทีมชาติไทย "เราติดตามฟุตบอลอยู่ ขอส่งก�ำลังใจไปให้" จากนั้นเกม การแข่งขันในครึง่ แรกทีท่ มี ช้างศึกเกิดความท้อแท้ถอดใจเพราะถูกทีมเสือเหลือง มาเลเซียน�ำอยู่ ๒ ประตูต่อ ๐ ก็กลับมาฮึกเหิมเพิ่มพูนสมาธิพอกพูนก�ำลังใจ จนได้รับชัยชนะในที่สุด เหตุการณ์นี้สอดคล้องกับคติธรรมในนิทานชาดกเรื่อง โคนันทวิสาลที่ว่า "บุคคลควรพูดแต่ค�ำที่น่าชื่นใจเท่านั้น ไม่ควรพูดค�ำที่ไม่น่า ชื่นใจในกาลใดๆ" ซึ่งเราก็ได้เห็นเน้นๆกันแล้วว่าถ้อยค�ำน่าชื่นใจถูกจังหวะย่อม ส่งผลอันน่าชื่นใจในบั้นปลาย หลังจากชัยชนะของนักฟุตบอลทีมชาติไทย บุคคลากรระดับรองศาสตราจารย์ ก็โพสความเห็นของตัวเองลงในเฟซบุ๊คว่า "ซิโก้พูดภาษาอังกฤษส�ำเนียงเมียเช่า ฝรัง่ " ตามด้วยหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ฉบับหนึง่ พิมพ์หน้าปกรูปโค้ชทีมชาติไทย พร้อมข้อความใต้ภาพว่า "บักห�ำโต้น 'ซิโก้' แต้งกิ้ว เลิฟยู้" ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็น รูปนักเตะหนุ่มลูกครึ่งไทย-สวิสพร้อมข้อความ "สมบัติชาติ 'ผัว' ทั้งแผ่นดิน" สามเหตุการณ์สืบเนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ท�ำให้ฉันกระหวัดถึง 53
ธรรมนิพนธ์ของพระเดชพระคุณพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ดังว่า "หลายคนบ่นว่าสังคมไทยไม่ค่อยมีมุทิตา พบเห็นคนที่ประสบความส�ำเร็จหรือ ท�ำสิ่งดีงามก็ไม่ค่อยให้การสนับสนุน" เพราะไม่อาจทนเห็นมนุษย์อื่นประสบ ความส�ำเร็จล�้ำหน้าตน จึงคุ้ยเขี่ยเสาะหาแง่ง่ามมาบั่นทอนก�ำลังใจและความ ภาคภูมิใจของท่านเหล่านั้น อย่างไรก็ตามพระพุทธศาสนาแสดงค�ำสอนเกี่ยว กับเรื่องดังกล่าวไว้เนิ่นนานมาแล้วว่า บุคคลที่ดำ� เนินชีวิตอยู่ในโลกไม่ว่าจะเป็น ผูค้ รองนครหรือยาจกเข็ญใจต้องเผชิญกับถ้อยค�ำห้าคูต่ อ่ ไปนีอ้ ย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ (๑) ถ้อยค�ำจริง-ถ้อยค�ำโกหก (๒) ถ้อยค�ำประกอบด้วยเมตตา-ถ้อยค�ำปรารถนา ร้าย (๓) ถ้อยค�ำไพเราะ-ถ้อยค�ำหยาบคาย (๔) ถ้อยค�ำมีสาระ-ถ้อยค�ำไร้สาระ (๕) ถ้อยค�ำถูกกาลเทศะ-ถ้อยค�ำไม่ถูกกาลเทศะ ข้อคิดสะกิดต่อมอีกประการที่น่าพิจารณาในสถานการณ์นี้คือ ความเชื่อ หนึ่งซึ่งมีพื้นฐานจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมาช้านานคือค�ำกล่าว ที่ว่า "คนไทยท�ำงานเป็นทีมไม่ได้" ถูกโค้ชและนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดแชมป์ AFF SUZUKI CUP 2014 ท�ำลายลงอย่างย่อยยับ ชัยชนะครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็น เป็นประจักษ์ว่า คนไทยท�ำงานเป็นทีมได้และท�ำได้ดีหากฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง หนักหน่วง นอกจากนี้การมีผู้น�ำที่เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม ประสบการณ์ และ ความชาญฉลาดก็เป็นองค์ประกอบส�ำคัญอย่างยิ่งยวด สมดังพุทธศาสนสุภาษิต ที่มาในราโชวาทชาดกความว่า "เมื่อโคทั้งหลายว่ายข้ามน�้ำไป โคหัวหน้าฝูง ว่ายข้ามตรง เมื่อมีโคผู้น�ำฝูงว่ายข้ามตรงอย่างนั้น โคทั้งหมดก็ว่ายข้ามตรง ไปตามกัน ในหมู่มนุษย์ทั้งหลายก็เช่นกัน ผู้ใดได้รับสมมติแต่งตั้งให้เป็นใหญ่ ถ้าผู้นั้นประพฤติเป็นธรรม ประชาชนนอกนี้ก็ย่อมประพฤติเป็นธรรมไปตาม โดยแท้ ถ้าพระราชาผู้เป็นใหญ่ตั้งอยู่ในธรรม รัฐก็ย่อมอยู่เป็นสุขทั่วกัน" 54
แด่…ผลไม้พิษ ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 56
หนูเอยหนูน้อย... พวกเธอช่างด้อยการศึกษา ร้องขอประชาธิปไตยไม่ดูตาเรือตาม้า เมินซอมบี้ผีห่าคลั่งฆ่าเผาปล้นพลเมือง อวดฉลาดปรารถนาดีไร้เดียงสา สติปัญญาหล่นหายไม่รู้เรื่อง บริโภคทรัพยากรแผ่นดินสิ้นเปลือง วางกล้ามเขื่องคุยโวโชว์โลกสวย ฤ ๅจัญไรผู้ใหญ่บ้าซ่าหนุนหลัง งั่งเลียก้นอเมริกาโปรดมาช่วย กระทืบกระท�ำสยามไหม้ม้วย ฉกฉวยผลประโยชน์เพื่อโคตรตน ผองเพื่อนไทยจงกล้าท้ายืนหยัด ขจัดอธรรมต�่ำช้าสัตว์หน้าขน "พูดจริง ท�ำจริง จริงใจ" ในทุกคน มุ่งหลุดพ้นวังวนอุบาทว์ชาติเจริญ
57
แด่...ผู้กล้าต่อกรกับความฉ้อฉล ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 58
ตั้งแต่รู้จักมักจี่กับหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ฉัน ก็ได้อ่านข่าวการคอรัปชั่นของนักการเมืองหลากยุคหลายสมัยมาอย่างโชกโชน จนเกิดความความเอือมระอาถึงกับอาเจียน เมือ่ หมดไส้หมดพุงฉันก็แก้คลืน่ เหียน ด้วยการบ่ายหน้าเข้าหาคอลัมน์ประโลมโลกย์ สิบกว่าปีผา่ นไปจนกระทัง่ วันหนึง่ เกิดเหตุการณ์โศกสลดชวนสังเวชถึงขนาดท�ำให้คำ� ขวัญของจังหวัดอุบลราชธานี ถิ่นเกิดของฉันผิดเพี้ยน...แม่น�้ำสองสี มีปลาแซ่บหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล�ำ้ เผาศาลากลาง...นั่นแหละจึงเป็น เหตุให้ฉันหันกลับมาสนใจเหตุการณ์บ้านเมืองอย่างจริงจังอีกครั้ง นอกจาก กิจวัตรประจ�ำวันปรกติคือสวดมนต์นั่งสมาธิตอนเช้าตรู่ บิณฑบาต ขบเคี้ยว ภัตตาหาร ท�ำกิจวัตรปัดกวาดเช็ดถู สวดมนต์ทำ� สมาธิในตอนเย็น ฉันใช้เวลาตลอด ทัง้ วันติดต่อกันหลายสัปดาห์เพือ่ ค้นคว้าเกีย่ วกับเหตุบา้ นการเมืองทัง้ ในประเทศ และต่างประเทศ จนสามารถเชือ่ มโยงเหตุการณ์ตา่ งๆได้อย่างเข้ารูปเข้ารอย แต่ ทั้งนี้ทั้งนั้นฉันก็มิได้เพิกเฉยต่อกระแสธรรมที่เกิดขึ้นระหว่างรับรู้ข้อมูลเหล่านั้น ฉันยอมรับอย่างจริงใจว่าเมือ่ ได้ทราบเบือ้ งลึกเบือ้ งหลังของเหตุการณ์นา่ อดสู อารมณ์ที่โผล่พ้นจนเห็นได้ชัดคือความโกรธเกลียด เคียดแค้น ชิงชัง และไอ้พวก เดนนรกมาเกิด!! แต่เนื่องจากสั่งสมธรรมะมาหลายกาลฝนจึงพอจะผ่อนหนัก เป็นเบาได้บา้ ง จากเร่าร้อนท้นหัวจิตก็เปลีย่ นมาเป็นกรุณาจับหัวใจ ด้วยนึกย้อน กลับไปดูวถิ คี วามเป็นอยูข่ องตัวเองทีผ่ า่ นมาแล้วท�ำให้เห็นว่า "กิเลส" ช่างมีกำ� ลัง มหาศาลราวกับยักษ์สูงใหญ่เท่าตึกแอมไพร์สเตท มันจึงสามารถบีบบังคับให้ฉัน หันซ้ายหันขวา ก้าวหลังถอยหน้าเอาตามอ�ำเภอใจ แต่บุญยังเกื้อหนุนอยู่บ้าง ฉันจึงได้มาด�ำเนินชีวติ ในวัดป่าทีห่ า่ งไกลจากสิง่ กระตุน้ เร้ากิเลสและมีบรรยากาศ เอือ้ ต่อการปฏิบตั ขิ ดั เกลาสันดานดิบ ตลอดจนได้คบหากับบัณฑิตซึง่ คอยกระตุก 59
ให้ตื่นเต้นในธรรมอย่างสม�่ำเสมอ แต่ถึงกระนั้นบางครั้งก็ยังพลาด บ่อยครั้งก็ยัง เผลอ จึงถูกยักษ์กระทืบจมดินแทบม้วยมรณา แลัวนักโกงเมืองพวกนั้นเล่า เขา คลุกคลีอยู่กับสิ่งยั่วเย้าทุกลมหายใจเข้า-ออก หน�ำซ�ำ้ยังแวดล้อมไปด้วยบริวาร หว่านเครือที่ล้วนสั่งสมกิเลสหนาหนักในปริมาณที่ไม่แตกต่างกัน ยาทิสํ กุรุเต มิตฺตํ ยาทิสญจูปเสวติ โสปิ ตาทิสโก โหติ สหวาโส หิ ตาทิโส คบคนเช่นใดเป็นมิตร และสมคบคนเช่นใด เขาก็เป็นคนเช่นนั้น เพราะการอยู่ร่วมกันย่อมเป็นเช่นนั้น (ขุทฺทกนิกาย ชาดก วีสตินิบาต) ด้วยเหตุผลกลกรรมดังย่อหน้าข้างต้น ฉันจึงแทบกลั้นหยาดน�ำ้ ตาฟรุ้งฟริ้ง เอาไว้ไม่ไหว เพราะเมื่อใดก็ตามที่นักโกงเมืองเหล่านั้นหลบฉากอยู่เพียงล�ำพัง ความรู้ผิดชอบชั่วดีถี่ห่างก็เข้าไปซ่องสุมรุมเร้าพวกเขาจนไม่เป็นอันกินอันกาม เขาๆหล่อนๆจึงหลบเลีย่ งการเผชิญหน้ากับสภาวะธรรมทีเ่ กิดขึน้ ด้วยบริโภคนิยม กล่อมประสาท แล้วหย่อนตัวเองลงในวรรคสุดท้ายของพุทธศาสนภาษิตบทนี้ โย พาโล มญญตี พาลฺยํ ปณฺฑิโต วาปิ เตนโส พาโล จ ปณฺฑิตมานี ส เว พาโล ติ วุจฺจต คนพาลที่รู้ตัวว่าเป็นพาล ยังเป็นบัณฑิตได้บ้าง แต่คนพาลที่ส�ำคัญตนว่าเป็นบัณฑิต นั่นแหละเรียกว่าคนพาลแท้
60
(ขุทฺทกนิกาย ธรรมบท พาลวรรค) พระเดชพระคุณพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี เคยปรารภถึงการเมืองอย่างอารมณ์ดวี า่ "มันล�ำบากเพราะ ไม่ได้พระอรหันต์มาเป็นผู้แทน" ฉันพิจารณาเรื่องนี้แล้วเกิดความรู้เฉพาะตัวว่า ประโยคในโคเทชัน่ มิได้หมายถึงความซือ่ สัตย์สจุ ริตเพียงอย่างเดียว แต่รวมความ ไปถึงว่าเมื่อมีเหตุให้ต้องตัดสินใจ ตัวแทนเหล่านั้นไม่รู้ว่าจะใช้สิ่งใดมาเป็นหลัก ในการตัดสินใจ จึงด�ำเนินการตัดสินใจไปตามความเคยชินเก่าๆของตัวเอง ด้วย เหตุนี้การปฏิบัติธรรมจึงจ�ำเป็นกับบุคคลทุกสาขาอาชีพ ซึ่งเราควรท�ำความ เข้าใจกันให้กระจ่างมานมนานแล้วว่า การปฏิบัติธรรมมิใช่การเดินจงกรมหรือ นั่งสมาธิเพียงเท่านั้น แต่ยังโยงใยไปถึงการน้อมน�ำ "ธรรม" มา "ปฏิบัติ" ให้ทัน ต่อสถานการณ์ทงั้ หน้าสิว่ หน้าขวานและหน้าไหว้หลังหลอก เพือ่ ทีเ่ ราและคนรุน่ ถัดไปจะได้หลุดพ้นจากวังวนของความอัปมงคล
61
ปฏิรูปศาสนากันสักทีดีไหม? ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 62
ถามความคิดเห็นชาวพุทธ (สักว่าชาวพุทธ) แบบจารีตและ สมัยใหม่ ชาวพุทธตามทะเบียนบ้านกับชาวพุทธสุดโต่ง ต่อกรณีการปฏิรูป ศาสนาดังต่อไปนี้ ถาม: ท่านเห็นด้วยกับการปฏิรูปศาสนาหรือไม่ ตอบ: เห็นด้วยสุดๆ ถาม: ท่านเข้าใจระหว่างการปฏิรูปศาสนากับคนที่เลือกมาปฏิรูปแค่ไหน? อย่างไร? แยกกันออกไหม? ปฏิรูปศาสนาส่วนหนึ่ง คนที่เลือกมาส่วนหนึ่ง ตอบ: การปฏิรูปศาสนาคือการท�ำให้ศาสนาเจริญขึ้น คนที่จะมาปฏิรูป ศาสนาต้องมองเห็นเป้าหมายคือความเจริญของพระพุทธศาสนาอย่างชัดเจน แล้วด�ำเนินการด้วยสัจจะคือพูดจริง ท�ำจริง จริงใจ คุณสมบัติของฆราวาสที่จะ มาปฏิรูปศาสนาคือต้องมีศีลห้า ปัญญา และความปรารถนาดี ถาม: การปฏิรูปกับคนที่มาปฏิรูปเหมาะสมเพียงใด (กลุ่มคนที่ฝักฝ่ายกลุ่ม ขั้วอ�ำนาจทางการเมือง สุดโต่งทางการเมืองหรือไม่)? ตอบ: กลับไปอ่านข้อ 2 ถาม: การปฏิรปู อะไรควรมีคนในองค์กรนัน้ มาปฏิรปู ด้วยหรือไม่ เช่น ปฏิรปู องค์กรต�ำรวจ ต้องมีตำ� รวจหรือไม่ ปฏิรปู องค์กรทหาร ต้องมีทหารหรือไม่ ปฏิรปู องค์กรศาสนาต้องมีคนในศาสนาตามสัดส่วนหรือไม่? ตอบ: ถ้าต้องการปฏิรูปกันอย่างจริงจังต้องมีคนในองค์กรนั้นๆเข้าร่วมด้วย เพราะเขาจะเห็นปัญหาขององค์กรในระดับลึก ปัญหาเกีย่ วกับแฮคเกอร์กย็ งั ต้อง 63
ใช้แฮคเกอร์ด้วยกันเองจัดการ แต่ก็ควรจะมีคนนอกองค์กรมาร่วมด้วยช่วยกัน เช่นเมื่อแฮกเกอร์ที่ท�ำงานให้ฝ่ายต่อต้านการจารกรรมข้อมูล สืบทราบว่าใคร คือแฮคเกอร์ฝ่ายตรงข้ามแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เป็นงานของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ถาม: ท่านคิดว่าควรปฏิรูปในยุคเผด็จการทหาร หรือว่ายุคประชาธิปไตย แบบมีส่วนร่วม? (พรบ. สงฆ์ 2505 และแก้ไข 2535) ล้วนมาจากรบ.เผด็จการ ทหาร และปีนี้ (2558 ปฏิรูปอีกภายใต้ รบ.เผด็จการทหาร) ตอบ: ยุคใดก็ได้ทบี่ คุ คลากรทีม่ าร่วมกันปฏิรปู เป็นผูม้ ศี ลี ปัญญา และความ ปรารถนาดี ถาม: ท่านคิดว่าคนทีเ่ ลือกมาปฏิรปู ครัง้ นีจ้ ะส�ำเร็จหรือไม่ และการได้อำ� นาจ (วิธกี ารมา) ชอบธรรมหรือไม่? ใครแต่งตัง้ อ�ำนาจมาจากไหน (วิธกี ารได้อำ� นาจมา วิธกี ารคัดเลือกคณะปฏิรปู และวิธกี ารปฏิรปู การตรวจสอบและมีสว่ นร่วมแค่ไหน มีเกณฑ์อย่างไร?) ตอบ: ถ้าประกอบด้วยศีล ปัญญาและความปรารถนาดี ไม่ว่าใครก็ท�ำได้ ส�ำเร็จ ส่วนค�ำถามอื่นนอกนั้นกลับไปอ่านทบทวนทุกข้อที่ผ่านมาและติดตาม อ่านทุกข้อต่อไป ถาม: การปฏิรูปครั้งนี้มีวาระซ่อนเร้นอะไร จริงจังหรือแค่ตามกระแส จาก เจตนาดีหรือความอาฆาตพยาบาท จองล้างจองพลาญ? ตอบ: เท่าที่ติดตามข้อมูลข่าวสาร ข้าฯพิจารณาเห็นว่าการปฏิรูปครั้งนี้มิได้ มีวาระซ่อนเร้น แต่อาจมีอุบายที่เรียกกันเก๋ๆว่า "ลับ ลวง พราง" พอหอมปาก หอมคอเพื่อลดทอนอุปสรรค ข้าฯพิจารณาเห็นว่าการปฏิรูปครั้งนี้จริงจังและ 64
มีเจตนาดี แต่การน�ำเสนออาจจะขาดความแยบคาย ต้องเพิ่มเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม และเมตตามโนกรรมอีกสักหน่อย ทว่าพวกเราทั้งหลายก็ไม่พึง ประมาท สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่มาในขุทฺทกนิกาย ชาดก เอกนิบาต ความว่า "น วิสฺสเส อวิสฺสฏฺฐ วิสฺสฏฺเฐปิ น วิสฺสเส - ไม่ควรไว้ใจในคนไม่คุ้นเคย แม้ใน คนคุ้นเคยก็ไม่ควรไว้ใจ" อนึ่งในระหว่างที่เกิดกระแสปฏิรูปศาสนา ได้เกิด กระแสคูข่ นานคือการต่อต้านพระสงฆ์ทปี่ ระพฤติวปิ ริตจากพระธรรมวินยั และท�ำ พระธรรมวินยั ให้วปิ ริตอย่างเข้มข้น จึงส่งผลให้กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ของผู้คนในสังคมเต็มไปด้วยอารมณ์รุนแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสงสาร ถาม: การปฏิรปู ครัง้ นี้ ท่านคิดว่า จะยัง่ ยืน สมดุลและได้รบั ความเห็นชอบจาก ทุกฝ่ายหรือไม่ หรือเป็นเพียงเอาใจคนบางกลุ่มเท่านั้น เข้าท�ำนองคนท�ำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ท�ำ? ตอบ: ถ้ามีศลี ปัญญา และความปรารถนาดี การปฏิรปู ศาสนาครัง้ นีจ้ ะยัง่ ยืน และสมดุล แต่คงไม่ได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายที่สูญเสีย ผลประโยชน์ทไี่ ม่สอดคล้องกับหลักพระธรรมวินยั ส่วนพุทธศาสนิกชนทีย่ ดึ ตาม หลักพระธรรมวินัยจะลงใจกันได้เอง ถาม: ท่านคิดว่า การปฏิรปู ครัง้ นีม้ าจากกลุม่ การเมืองเกลียดชังฝ่ายตรงข้าม ด้านการเมือง โดยมีพระสงฆ์เป็นเครือ่ งมือ เป็นเหยือ่ ทางการเมืองเพือ่ การปฏิรปู ครั้งนี้? ท่านคิดว่ามีใครคอยบังคับหรือมีใบสั่งอยู่เบื้องหลังหรือไม่? ตอบ: ข้าฯพิจารณาเห็นว่าการปฏิรูปครั้งนี้พระสงฆ์มิได้ตกเป็นเครื่องมือ หรือเหยือ่ ทางการเมือง ถ้าพระสงฆ์ไม่ตอ้ งการตกเป็นเครือ่ งมือหรือเหยือ่ ทางการ เมืองก็ตอ้ งขวนขวายศึกษาหาความรูด้ า้ นเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองเพิม่ เติม 65
ซึง่ ไม่ใช่เรือ่ งเหลือบ่ากว่าแรง ข้าฯแนะน�ำให้เริม่ ต้นง่ายๆด้วยผลงานธรรมนิพนธ์ หรือธรรมบรรยายของพระเดชพระคุณพระพรหมคุณาถรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) การ ประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัยและการท�ำพระธรรมวินัยให้วิปริตอย่างหน้า ด้านๆของพระสงฆ์ รวมทั้งการไม่เอาใจใส่ศึกษาฝึกฝนอบรมตนให้เข้าถึงเนื้อ ตัวพระพุทธศาสนาของญาติโยม เหตุปจั จัยทัง้ หลายเหล่านีเ้ ป็นผูค้ อยบังคับหรือ เป็นใบสั่งที่อยู่เบื้องหลังการปฏิรูปศาสนาในครั้งนี้ ถาม: ขอให้ท่านน�ำเสนอการปฏิรูปที่สร้างสรรค์ (creative reform) ไม่ใช่ ปฏิรูปที่มุ่งท�ำลาย ท�ำร้ายกัน (destructive reform) ปฏิรูปเริ่มต้น ตรงกลาง และปลาย ควรเป็นอย่างไร จึงจะน�ำไปสู่ความสงบสุขต่อไป ตอบ: การปฏิรูปที่สร้างสรรค์ซึ่งจะน�ำไปสู่ความสงบสุขต่อไป คือการปฏิรูป อันประกอบด้วย ศีล ปัญญา และความปรารถนาดี ทั้งเริ่มต้น ท่ามกลาง และ บั้นปลาย *ค�ำถามจาก https://www.facebook.com/alittlebuddha?fref=nf
66
เดินเล่นเห็นทะเลภู ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 68
ขณะที่อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์แบนบางที่ฉันพก ติดย่ามมาจากวัด ก�ำลังอัพเดตซอฟท์แวร์อยู่ในส�ำนักงานของรีสอร์ท "เขาค้อทะเลภู" คุก้ กีโ้ ฮมเมด ไอศกรีมเสาวรส และกาแฟสด จากห้องอาหารของ รีสอร์ทก็ทยอยม้วนตัวลงไปปรับทัศนคติกับซิกซ์แพ็คของฉันอย่างเป็นกันเอง ฉันควักกระดาษประดับลายมือขยุกขยุยออกจากย่ามมากางบนโต๊ะแล้วจัดการ ช�ำระธุระผ่านโลกออนไลน์ ระหว่างนัน้ ฟ้าฝนก็คกึ คะนองประลองเดชอย่างไม่เกรง อินทร์พรหมยมยักษ์ จนหลายชีวิตในส�ำนักงานถึงกับสะดุ้งโหยง ฉันกางร่มฝ่าสายฝนไปเยี่ยมห้องน�้ำซึ่งอยู่ติดกับร้านอาหารและร้านค้า ระหว่างทีเ่ สียงชักโครกบรรเลงสอดรับกับเสียงฝนฉันก็รำ� พันกับตัวเองเบาๆว่า... ห้องน�้ำไม่ต้องเลิศหรูอลังการก็ได้แต่ขอให้สะอาดและหอมชื่นใจ ฉันกลับเข้าใน ส�ำนักงานอีกครัง้ โดยไม่ลมื ล้างมือด้วยสบูเ่ หลวซึง่ เป็นผลิตภัณฑ์ของรีสอร์ทแห่งนี้ อันที่จริงเขาค้อทะเลภูมิได่้เป็นเพียงรีสอร์ทเท่านั้น แต่ยังประกอบด้วยขอบเขต ของหมู่บ้าน-ที่ดินจัดสรร ศูนย์สุขภาพองค์รวม แปลงนา-แปลงผักอินทรีย์ ร้าน อาหาร โรงงานผลิตและร้านจ�ำหน่ายข้าวของเครือ่ งใช้ปจั จัยสี่ เรียกได้วา่ เป็นสวรรค์ ของคนรักสุขภาพเลยทีเดียว และองค์ประกอบที่ว่ามานี้ล้วนเป็นสิ่งดึงดูดความ สนใจของฉันมาเนิ่นนาน (ติดตามเรื่องราวการเดินทางไปเยือนสวนออร์แกนิค ของฉัน ทัง้ ในจังหวัดอุบลราชธานีและมลรัฐแคลิฟอร์เนียได้ที่ http://issuu.com/ pesalocation/docs/orga_carrot ) เมือ่ ฝนหยุดกระหน�ำ่ ฉันก็ลำ�่ ลาพระฝรัง่ ทีม่ าด้วยกันด้วยประโยค "I'm gonna go for a walk" แล้วพกกล้องดิจิทัลกึ่งมืออาชีพรุ่นลายครามประดุจกระเบื้อง ราชวงศ์ถัง ออกไปเดินชมอาณาบริเวณกว่า ๒๐๐ ไร่ของพื้นที่หลากกิจกรรม 69
แห่งนี้ อากาศชุ่มชื่นเย็นสบาย ฝนและแดดเม็ดเล็กสลับกันโปรยปราย บึงขนาด ใหญ่ดารดาษด้วยดอกบัวสีครามท�ำให้ฉันนึกถึงภาพเขียนของโมเน่ต์ขึ้นมาเก๋ๆ อย่างช่วยไม่ได้ ฤดูกาลนี้อเมริกันคันทรีเลคโฮมดูเหมือนจะว่างเปล่า เพราะเดิน จงกรมจนรอบแล้วก็ยังไม่เห็นใครโผล่หน้ามาทักทาย ฉันกางแผนที่ออกดูด้วย หมายจะแวะเข้าไปชมสวนผักออร์แกนิค แต่หลังจากเดินขึ้นเนินลงห้วยกว่า ครึ่งชั่วโมงก็พลัดหลงเข้าไปในเขตหมู่บ้านจัดสรรซึ่งร้างไร้ผู้คน เมื่อเจอทางตัน ก็จ�ำเป็นต้องหันหลังกลับ ฉันขึ้นห้วยลงเนินไปตามเส้นทางเดิมจนเหงื่อชุ่ม เดชะบุญที่พลังงานจาก คุ้กกี้ ไอกรีม และกาแฟยังส่งกระแสออกมาไม่ขาดสาย ในที่สุดฉันก็กลับมาเดิน อยู่บนลานคอนกรีตซึ่งขนานไปกับร้านอาหาร เมื่อมาถึงส�ำนักงานของรีสอร์ทก็ พบว่าญาติโยมที่ขันอาสาจะขับรถพาพระไปส่งที่วัดนั่งรออยู่ ใช่แล้ว ฉันมาช้า กว่าเวลานัดหมายราวครึ่งชั่วโมง "Sorry, I got lost” ฉันเดินเข้าไปในส�ำนักงาน แล้วบอกพระฝรั่งอย่างนั้น เขาหัวเราะเพราะรู้ว่าสถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่และ มีเส้นทางซับซ้อนจนท�ำให้ผู้มาใหม่สับสน "หลงทางหมายถึงการได้เรียนรู้ เส้นทางใหม่" ฉันกระหวัดถึงโคเทชั่นของบางใครขึ้นมาดุ่ยๆ
70
Talaypu – กิน อยู่ ดู เพลิน ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 72
หลังจากจัดแจงธุระทีอ ่ ำ� เภอหล่มสัก ฉันก็ดงิ่ กลับทีพ่ กั สงฆ์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว ๑ ชั่วโมง ระหว่างที่รถวิ่งเลียบหน้าผาสูงชัน ฉันตงิดๆถึง ค�ำเปรียบเปรยจากประโยคโฆษณาทีว่ า่ "เพชรบูรณ์คอื สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" ฉันยอมรับในนาทีถัดมาว่ามีส่วนถูกอยู่บ้าง เนื่องจากเคยใช้ชีวิตอยู่ในประเทศ อันอุดมไปด้วยภูเขา หิมะ ความตรงต่อเวลา และประชาธิปไตยแห่งนั้นเป็น เวลา ๙๐ วันถ้วน ที่ว่าอุดมไปด้วยภูเขา หิมะ และความตรงต่อเวลาคงไม่ต้อง อธิบายให้มากความ แต่วลิี "อุดมไปด้วยประชาธิปไตย" อาจต้องขยายความกัน บ้าง สวิตเซอร์แลนด์คบั คัง่ ไปด้วยประชากรระดับคุณภาพคับแก้ว พวกเขารูส้ ทิ ธิ์ และรู้จักใช้สิทธิ์ของตัวเอง เช่นสิทธิ์ในการชุมนุมสนับสนุนหรือคัดค้าน ไม่ว่า จะเป็นประเด็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิง่ แวดล้อม หรืออืน่ ๆ พวกเขาสามารถ แสดงออกได้อย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกันก็ตอ้ งเคารพสิทธิข์ องผูอ้ นื่ ด้วย ดังนัน้ ชาวสวิตเซอร์แลนด์จงึ มีสถานทีใ่ นการแสดงพลังของมวลชนอย่างเปิดเผยตรงไป ตรงมา ทว่าต้องเคารพกฏ กติกา มารยาท บางประการเช่น ต้องแสดงความจ�ำนง ต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและให้ข้อมูลไว้เป็นหลักฐานว่า ใครคือผู้รับผิดชอบการ ชุมนุมในครั้งนี้ ชุมนุมกันด้วยประเด็นใด มีผู้เข้าร่วมชุมนุมกี่มากน้อย ชุมนุม ได้นานเพียงใดจึงจะไม่เบียดบังเวลาของผู้ชุมนุมกลุ่มถัดไป ห้ามพกอาวุธ ห้าม รุกล�้ำผิวการจราจร ห้ามใช้เครื่องขยายเสียง หลังจากการชุมนุมต้องเก็บกวาด ขยะฯ ถ้าพิจารณากันในแง่นี้ก็นับว่าเพชรบูรณ์และจังหวัดอื่นๆในประเทศไทย ยังห่างไกลจากสวิตเซอร์แลนด์หลายช่วงเหว ขากลับรถจะแล่นผ่าน "เขาค้อทะเลภู" ฉันจึงขอให้โยมแวะด้วยหมายจะหยิบ ฉวยผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคส์ ส�ำหรับสร้างกลิ่นสะอาดชื่นใจให้ห้องน�้ำประจ�ำกุฏิ สักชิน้ เพียงก้าวผ่านซุม้ ประตูฉนั ก็ตนื่ ตะลึงในความหลากหลายของภูมปิ ญ ั ญาไทย 73
ฉันกวาดตามองจนตาเป็นประกายแล้วตรงไปที่เคาน์เตอร์เพื่อถามหาข้าวของที่ ต้องการ พนักงานหยิบก้อนการบูรในหีบห่อกิ๊บเก๋มาน�ำเสนอ ฉันเหลือบไปเห็น ขวดบรรจุของเหลวขุน่ ครีมประดับป้าย Buy one get one free! จึงเดินไปก็คว้า มาอ่านฉลาก-สเปรย์สมุนไพรอโรมา สูตรบาลานซิ่ง เพื่อเสริมสร้างความสมดุล ของบรรยากาศ Bingo! ตรงตามความต้องการล้านเปอร์เซนต์ ฉันคว้าหมับมา ๒ ขวดพร้อม ๑ ก้อนการบูร แม้ราคาจะสมเหตุสมผลแต่อุบาสกชาวไร่ที่มาด้วย กันกลับมีปจั จัยไม่เพียงพอ เนือ่ งจากก่อนหน้านีเ้ ขาได้จา่ ยค่าน�ำ้ มันรถและท�ำกิจ ธุระที่อ�ำเภอหล่มสักไปจนสิ้นเนื้อประดาตัว ฉันเห็นว่าผู้บริหาร "เขาค้อทะเลภู" คุ้นเคยกับคณะสงฆ์เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นผู้ถวายที่ดินและนิมนต์พระภิกษุ มาอยู่จ�ำพรรษา จึงบอกกับพนักงานว่าวันนี้เอาของไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยเอา ปัจจัยมาให้ได้ไหม? พนักงานยิ้มแก้มปริแล้วขอตัวไปพบผู้ใหญ่ ชั่วอึดใจผู้ใหญ่ ของทีน่ กี่ ห็ วิ้ ถุงบรรจุสงิ่ ของสามชิน้ เดินมายังโต๊ะทีฉ่ นั นัง่ อยู่ ผูใ้ หญ่ยกมือไหว้แล้ว พูดว่า "ถวายไปใช้ที่วัดเลยครับ" จากนั้นก็ตามมาด้วยไอศกรีมและน�้ำมัลเบอร์รี่ เมื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันพอสมควรฉันก็กล่าวอนุโมทนาแล้วขอตัวไปเดิน ชมสวนเกษตรอินทรีย์ ฉันกับอุบาสกชาวไร่เดินผ่านโรงงานผลิตยาและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค แล้ว เลียบเลาะไปตามทางเดินรอบบึงขนาดใหญ่ซงึ่ มีพื้นทีร่ าวๆ ๕๐ ไร่ ปรากฏแปลง ผักหลากชนิดเช่นโหระพา สระแหน่ ตั้งโอ๋ มะนาวฯ ฉันบอกอุบาสกชาวไร่ว่าถ้า วัดมีบริเวณให้ใช้สอยร่วมกันอย่างนีก้ ด็ ี แดดร่มลมตกลูกศิษย์จะได้พาเจ้าอาวาส นั่งรถเข็นชมธรรมชาติ อุบาสกชาวไร่เสนอว่าถ้าใช้รถพลังงานไฟฟ้าเจ้าอาวาสก็ ขับเองได้และคงเจริญใจยิง่ ขึน้ เราเดินมาจวนครบรอบก็พบสะพานไม้เก่าแก่เก๋ไก๋ ทอดตัวสูศ่ นู ย์สขุ ภาพองค์รวมหรือสปา เป็นอีกหนึง่ วันอันเพลิดเพลิน...เพลินจน 74
ลืมไปเลยว่าก�ำลังย�่ำอยู่บนผืนแผ่นดินที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยลุ่มๆ ดอนๆมายาวนานกว่า ๘๐ ปี
75
พันพรรณหรรษา ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 76
เพียง ๔๕ นาทีจากอ�ำเภอสันก�ำแพง เราก็เดินทางมาถึง อ�ำเภอแม่แตง น้องชายที่มาด้วยกันจอดแวะแสวงหาข้าวนึ่ง ไส้อั่ว น�้ำพริกหนุ่ม ขนมครก ที่ตลาดแม่มาลัยแล้วขับรถต่อไปยังสวนสาธารณะใกล้ๆ เพื่อพิจารณา อาหารเช้าในเวลาเจ็ดนาฬิกาเศษๆ จากจุดนี้ใช้เวลาอีกกี่มากน้อยก็ยากที่จะ คาดคะเน เพราะต้องจอดถามทิศทางกับชาวบ้านเป็นระยะและยังต้องเลี้ยวรถ กลับอีกหลายครัง้ เพราะเข้าผิดซอย แต่ดว้ ยความเพียรระดับโธมัส อัลวา เอดิสนั ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง "พันพรรณ" ศูนย์การเรียนรู้การพึ่งตนเองและเก็บ รักษาเมล็ดพันธุ์ เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่บริเวณโรงสีข้าวขนาดเล็ก ฉันกับน้องชาย ก็เดินไต่เนินขนาดย่อมไปที่ร้านกาแฟและร้านค้าของชุมชนเป็นจุดแรก ได้ยิน เสียงชายหญิงคู่หนึ่งแว่วมาจากหอประชุมซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล "พระมาท�ำไม?” “นั่น น่ะสิ...สงสัยอยู่เหมือนกัน" เราสนุกสนานกับการเลือกสรรเมล็ดพันธ์ุอันหลากหลาย ฉันตั้งใจว่าจะน�ำ ไปฝากชาวนาอินทรีย์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ที่เพิ่งรู้จักกัน อ่านดูฉลากบนซองแล้ว ต้องอุทาน Awesome! เพราะมีทั้ง Sweet Basil, Speckle Gold, Mix Salad, Papaya, Thai Lemon, Chili, Corn, Long Bean เมล็ดพันธุ์เหล่านี้สามารถ น�ำมาหมุนเวียนปลูกได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ต่างจากเมล็ดพันธุ์ตัดแต่งพันธุกรรม ตามท้องตลาด ซึ่งชาวสวนต้องกลับไปซื้อจากร้านตัวแทนจ�ำหน่ายของบริษัท ซ�้ำแล้วซ�้ำเล่า ฉันกับน้องชายช่วยอุดหนุนสินค้าแฮนด์และโฮมเมดภายในร้าน พอหอมปากหอมคอ จากนั้นก็เดินไปชมบ้านดินซึ่งมีทั้งที่ผุพังจากน�้ำมือของ สัตว์ผู้ท�ำงานย่อยสลายอินทรีย์สาร แต่บ้านดินส่วนใหญ่ยังดูแข็งแรงและมี การใช้งานอย่างสม�่ำเสมอ แม้ว่าบางหลังจะบูดๆบิดๆเบี้ยวๆ แต่ก็นับว่าบรรลุ วัตถุประสงค์ของการใช้สอยปัจจัยสี่ บ้านและเครือ่ งนุง่ ห่มมีไว้เพือ่ ป้องกันเหลือบ 77
ยุง ลมแดด และสัตว์เลื้อยคลาน อาหารและยามีไว้เพื่อบ�ำบัดทุกขเวทนาทาง ร่างกาย แล้วไงต่อ? เออ! นั่นน่ะสิ ถ้าใครคนหนึ่งถึงพร้อมด้วยความต้องการด้าน ปัจจัยสี่แล้ว เขาควรจะท�ำอะไรต่อไป? เมื่อเดินชมและพูดคุยแลกเปลี่ยนกับน้องสถาปนิกที่มาด้วยกันพอสมควร เราก็เดินกลับมาทีร่ า้ นกาแฟ พลันสายตาของฉันก็ฉวัดไปเห็นชือ่ เครือ่ งดืม่ เจ้าประจ�ำ กวัดแกว่งอยู่บนกระดานด�ำ ไม่นานนาทีจากนั้น Chai Latte ก็ระเห็ดมาอุ่นอยู่ ในมือของฉัน ณ ระเบียงโล่งสบายข้างร้านกาแฟ การออกแบบอาคารตลอดจน เฟอร์นเิ จอร์ของทีน่ มี่ ใิ ช่เพือ่ จัดแสดงหรือส่งเข้าประกวด แต่เป็นไปเพือ่ การใช้งาน ในชีวิตจริง ขณะที่ชาผสมเครื่องเทศไหลผ่านล�ำคอไปได้เพียงสองอึก ชาวสวน อายุราว ๕๐ ปีเศษก็เข้ามานั่งคุยด้วย เขาเล่าว่าก�ำลังสร้างบ้านดินบนพื้นที่ ๒๐ ไร่ของตัวเอง เมื่อพูดคุยกันได้สักครู่ใหญ่ๆ ฉันสังเกตเห็นว่าเขามีความอ่อนน้อม ถ่อมตัว รูก้ าลเทศะและไม่กวนตีนพระ เรียกว่าคุยกันถูกคอพอคบหาได้ ฉันจึงขอ อนุญาตไปเยีย่ มชมดูบา้ นดินของเขา ก่อนลุกจากเก้าอีฉ้ นั ได้ยนิ หญิงสาวคนหนึง่ พูดกับเด็กฝรั่งว่า "ซานตาครอสเมืองไทย" เราทั้งสามเดินผ่านแปลงถั่วฝักยาวสีม่วงเข้มของสวนพันพรรณ ถัดออกไป มีหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งก�ำลังง่วนกับการฝึกเป็นชาวสวน เราเดินสนทนากันจนมา ถึงบ้านดินซึง่ ประดิษฐ์โดดเด่นอยูบ่ นเนิน เมือ่ ถามถึงงบประมาณ พีช่ ายชาวสวน บอกว่าคาดคะเนล�ำบากเพราะท�ำไปเรื่อยๆ บางส่วนจ้างช่างแต่ส่วนใหญ่ทำ� เอง ประตู หน้าต่างซื้อมาจากบ้านเก่าในราคาไม่แพง แต่ถ้าให้ประเมินราคาคร่าวๆ ตอนนีก้ น็ า่ จะอยูท่ สี่ องแสน หลังจากคุน้ เคยกันพอสมควรฉันจึงบอกพีช่ ายชาวสวน ว่าเคยเรียนภาพพิมพ์อยู่ที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อเขารู้ว่า 78
ฉันเคยมีประสบการณ์ดา้ นศิลปะจึงนิมนต์ให้ไปชมสตูดโิ อปัน้ พระพุทธรูประหว่าง ทางที่เดินไปนั้นเขาก็เฉลยว่า เคยเรียนประติมากรรมอยู่ที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่เป็นรุน่ บุกเบิก เราทัง้ สองตืน่ เต้นจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ จากนัน้ เรือ่ งราวของพีๆ่ น้องๆตลอดจนครูบาอาจารย์และความเป็นไปของคณะฯ ก็พรั่งพรูออกมาราวกับสายธารที่ก�ำลังไหลอยู่ในคลองส่งน�้ำ ฉันดีใจที่ทราบว่า อาจารย์ทา่ นหนึง่ ซึง่ มีบา้ นอยูใ่ นอ�ำเภอแม่แตงกับรุน่ พีช่ าวสวน ยังไปมาหาสูแ่ ละ ให้ความช่วยเหลือกันอย่างสม�ำ่ เสมอ รุน่ พีช่ าวสวนเล่าว่า "พันพรรณ" สนใจเรือ่ งข้าวปลาอาหารความเป็นอยู่ ในแง่นี้ ตัวเขาเองไม่แตกต่างจากพันพรรณ แต่สว่ นทีเ่ พิม่ เข้ามาส�ำหรับเขาก็คอื ความฝักใฝ่ ด้านจิตภาวนา บนผืนดินของรุน่ พีช่ าวสวนปลูกต้นโพธิไ์ ว้หลายต้นซึง่ มีทมี่ าค่อนข้าง แปลก เขาเล่าว่าญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งน�ำดินมาจากสังเวชนียสถานในประเทศ อินเดีย มาให้เขาผสมกับมวลสารอื่นๆเพื่อปั้นเป็นพระพุทธรูป เขาสังเกตเห็นว่า ในก้อนดินนัน้ มีไส้เดือนอยูด่ ว้ ยจึงน�ำน�ำ้ มารดเพราะกลัวว่าไส้เดือนจะตาย จากนัน้ ก็มตี น้ ไม้เล็กๆแตกยอดขึน้ มาจากดินซึง่ เขาเองก็ไม่รวู้ า่ เป็นต้นอะไร แต่ดว้ ยความ รักต้นไม้ใบหญ้าจึงแยกต้นไม้นนั้ ไปใส่กระถาง ต่อมาต้นไม้กเ็ พิม่ จ�ำนวนขึน้ อีกราว สิบต้น เมื่อเห็นว่าล�ำต้นแข็งแรงจึงน�ำไปปลูกบนพื้นดิน กาลต่อมาต้นไม้ก็เติบโต ผลิใบให้เห็นว่าเป็นต้นโพธิ์ ซึง่ ปัจจุบนั สูงท่วมหลังคาสตูดโิ อหรือประมาณตึกสามชัน้ รุน่ พีช่ าวสวนเล่าว่าพืน้ ทีต่ น้ น�ำ้ ด้านหลังสตูดโิ อซึง่ ติดกับอุทยานแห่งชาติยงั มีตน้ ไม้ หนาแน่น ถ้ามีกำ� ลังก็อยากปลูกกุฏิเล็กๆสักหลังเอาไว้ให้พระมาบ�ำเพ็ญภาวนา ฉันตาลุกวาวเพราะร�ำลึกอยูเ่ สมอว่าอยากมาใช้ชวี ติ บัน้ ปลายทีเ่ ชียงใหม่ และนีค่ อื ค�ำตอบของค�ำถามทีว่ า่ ถ้าใครคนหนึง่ ถึงพร้อมด้วยความต้องการด้านปัจจัยสีแ่ ล้ว จากนั้นเขาควรท�ำอะไร? 79
ก่อนเที่ยงวันกับพันพรรณ ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 80
ไหนๆก็เดินทางไปเยีือนสวนพันพรรณถึงอ�ำเภอ แม่แตง ครั้นจะไม่ไปเยี่ยมร้านอาหารพันพรรณซึ่งอยู่ใกล้แค่ปลายสนาม บินเชียงใหม่ก็กระไรอยู่ บรรยากาศช่วงสิบเอ็ดนาฬิกาซึ่งเป็นเวลาเปิดร้าน คับคั่งไปด้วยลูกเล็กเด็กแดง ทีแรกฉันนึกว่าเป็นเด็กๆที่ใส่ใจสุขภาพของตัวเอง แต่ที่ไหนได้พวกเขามาเรียนศิลปะกัน เราเลือกโต๊ะขนาดใหญ่ตัวหนึ่งที่อยู่หน้า ร้านจักรยานภายในอาณาบริเวณของพันพรรณ อย่างทีเ่ คยเล่าไปในโพสก่อนว่า โต๊ะ เตียง ตัง่ ตู้ เก้าอี้ เคาน์เตอร์ และตัวอาคารของพันพรรณถูกประดิษฐ์ขนึ้ เพือ่ การใช้สอย มิใช่จัดแสดงหรือส่งเข้าประกวด คล้ายจะสื่อสารถึงผู้ที่มาหย่อนก้น สัมผัสว่า เพียงเลื่อยไม้กับตอกตะปูได้ คุณก็ไม่จ�ำเป็นต้องไปละลายทรัพย์ที่ ร้านเฟอร์นิเจอร์แบรนด์เนมให้สิ้นเปลือง เมื่อบริกรเดินมาถึงโต๊ะด้วยท่าทีอ่อนน้อม ฉันก็พิจารณาแกงเขียวหวาน มังสวิรัติ สลัดผักตามฤดูกาล และข้าวไรซ์เบอร์รี่สีม่วงเข้ม จากนั้นถ้าใครมีธุระ ที่ต้องช�ำระผ่านโลกออนไลน์ก็ควรใช้เวลาช่วงที่รออาหารให้เกิดประโยชน์ หรือ จะนัง่ เจริญอานาปานสติกไ็ ม่วา่ กัน เพราะการประกอบอาหารของทีมแม่ครัวทีน่ ี่ ไม่เร็วแต่กไ็ ม่ถงึ กับช้า นับว่าเป็นโอกาสดีทหี่ นุม่ สาวซึง่ คุน้ เคยกับความฉับไวของ ไฮสปีทอินเทอร์เน็ตจะได้เรียนรูน้ ยิ ามของค�ำว่า Slow Life ฉันสังเกตเห็นแม่ครัว คนหนึง่ เดินไปเด็ดใบไม้เขียวสดและดอกอัญชันในแปลงผักซึง่ อยูถ่ ดั จากห้องครัว เพียงไม่กี่ก้าว ท�ำให้นึกถึงทิวแถวของร้านอาหารริมฝั่งแม่น�้ำมูล แม่ครัวที่นั่น จะขังปลาดุกเป็นๆไว้ในลังใส่นำ�้ แข็งขนาดใหญ่ เพือ่ ให้นกั ท่องเทีย่ วเป็นผูช้ ชี้ ะตา ว่าปลาดุกอ้วนตัวใดสมควรจะกลายเป็นผัดเผ็ดอันโอชะ อาหารออร์แกนิคส์ไม่จำ� เป็นต้องมังสวิรัติ เช่นเดียวกับอาหารมังสวิรัติก็ไม่ 81
จ�ำเป็นต้องออร์แกนิคส์ ฉันเคยเห็นผูท้ สี่ มาทานมังสวิรตั ซิ ดมาม่ากลิน่ หมูสบั อย่าง เอร็ดอร่อย ที่ร้านพันพรรณผู้มาเยือนสามารถเติมเนื้อไก่ลงในแกงเขียวหวานได้ แต่รบั ประกันว่าไก่ทถี่ กู น�ำเนือ้ มาท�ำวัตถุดบิ เป็นไก่ทสี่ ขุ ภาพดีและอารมณ์ดี เอ่อ... หมายถึงตอนที่มันยังไม่รู้ว่าตัวเองจะถูกเชือดนะ เหตุที่ไก่มีสุขภาพกาย วาจา ใจดีก็เนื่องจากได้ผ่านการอบรมเลี้ยงดูในแบบที่เรียกว่า Free Range คือการ ให้โอกาสไก่ได้เล่นฟิตเนส สูดอากาศบริสุทธิ์ ดื่มน�ำ้ วันละแปดแก้ว รับประทาน อาหารครบห้าหมู่ฯ เพื่อที่เนื้อจะได้นุ่มแน่นฟู แถมก่อนไปเกิดบนสวรรค์ชั้น สตีฟ จ็อบบ์ยังออกไข่ออร์แกนิคส์ไว้ให้ดูต่างหน้าอีกหลายฟอง ช่วงเวลาทีร่ อคอยเดินทางมาถึงโต๊ะอาหารอย่างถ้อยทีถอ้ ยอาศัย เพียงช้อน แกงเขียวหวานเข้าปากค�ำแรกก็บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง รสชาติได้มาตรฐาน อาหารมังสวิรัติ แต่เติมความพิเศษตรงที่ผู้บริโภคไม่ต้องหวาดระแวงว่า วัตถุดิบ จะถูกปกคลุมด้วยละอองสารเคมีนานเป็นแรมเดือน หรือผ่านการแต่งกลิ่น เจือ สีสังเคราะห์ ผสมสารกันบูด ส่วนราคาก็พอคบหาได้ แกงเขียวหวานมังสวิรัติ ๖๐ บาท เติมเนื้อไก่ ๙๐ บาท ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ๑๐ บาท บางใครอาจจะบ่นว่า แพง ส่วนตัวฉันเองซึ่งเคยเข้าคอร์สธรรมชาติบ�ำบัดและปฏิบัติ Fruitarian มา หนึ่งสัปดาห์ยืนยันว่า "กินอาหารเป็นยา ประเสริฐกว่ากินยาเป็นอาหาร" และ "อาหารอายุยนื ท�ำให้อายุสนั้ อาหารอายุสนั้ ท�ำให้อายุยนื " ใครอยากมีชวี ติ แบบใด ก็เลือกเอา ยกที่สอง Ceylon Ice Cream & Carrot Cake อย่างแรกผ่านเข้ารอบรอง ชนะเลิศ ส่วนอย่างหลังทีเคโอตัง้ แต่คำ� แรก เค้กแครอทแข็งจนช้อนงอราวกับเพิง่ ฉวยออกมาจากตู้เย็นใหม่หมาด รสชาติก็จืดๆชืดๆ ฉันพยายามโลกสวยอารมณ์ 82
บวกจึงพูดกับน้องชายที่มาด้วยกันว่า คราวหลังต้องสั่งพร้อมอาหาร เพราะ ความร้อนจากหลังคาสังกะสีจะช่วยอบขนมเค้กให้นมิ่ นวล พอพิจารณาของคาว เสร็จ เค้กก็จะนุ่มก�ำลังดี น้องชายเห็นสอดคล้องเพราะ Mango Cheese Cake ของเขาถูกเตะก้านคอน็อคเอาท์ตั้งแต่ยังไม่ทันตักเข้าปากด้วยซ�ำ้ ฉันอาจจะคุ้นเคยกับการนั่งพิจารณาอาหารเงียบๆ เมื่อมาอยู่ในสถานที่ เช่นนี้จึงรู้สึกไม่สะดวกใจ ยิ่งมีคนแปลกหน้าและหน้าแปลกมาใช้พื้นที่ร่วมกัน แต่ประกอบกิจกรรมต่างกัน หลายใครต้องการรับประทานอาหาร หลายใคร ต้องการเลือกซื้อสินค้าออร์แกนิคส์ หลายใครต้องการเรียนศิลปะ ส่วนที่อยู่ใต้ ชายคาเดียวกันก็เป็นชมรมและร้านซ่อมจักรยาน แม้กจิ กรรมหลากชนิดดังกล่าว จะสามารถแบ่งปันพื้นที่ใช้สอยร่วมกันได้ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราได้นั่งพิจารณา อาหารโดยปราศจากเรือ่ งภายนอกมารบกวน การได้ลมิ้ รสความวิเวกขณะบริโภค อาหารแม้เพียงครึ่งชั่วโมงใครว่าไม่ส�ำคัญ
83
ดอยดินแดงแอ่งเซน ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 84
จากถนนสายหลักอันงดงามของจังหวัดเชียงราย เลีย้ วเข้ามาในซอยขนาดรถวิง่ สวนกันได้สบายๆ เพียงไม่กนี่ าทีเราก็ได้แช่มชืน่ กับ ความร่มรื่นเฉกเช่นวัดป่า องค์ที่ประกอบขึ้นเป็น Doy Din Dang Pottery คือ ลานจอดรถ ร้านจ�ำหน่ายเครือ่ งปัน้ ดินเผา สตูดโิ อ ส�ำนักงาน ร้านกาแฟ ห้องน�ำ้ ฯ ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว แต่ละต�ำแหน่งของตัวอาคารเว้นจังหวะให้ "ความว่าง" ไหลเวียนถ่ายเทไปมาหาสู่กันอย่างเป็นอิสระ อาคารแต่ละหลังออกแบบให้มองผิวเผินคล้ายบ้านดิน เมื่อเข้าไปจับต้อง ลูบคล�ำจึงท�ำให้ทราบว่าเป็นปูนผสมสี ผนังบางส่วนเจือแกลบและฟางสับชิน้ เล็กๆ ลงไป ส่งผลให้ประกายอารมณ์ของบ้านดินฉายชัด แต่ถ้าเปรียบเทียบกันแบบ ปอนด์ตอ่ ปอนด์การก่อสร้างของทีน่ คี่ งจะรวดเร็วกว่า เพราะไม่ตอ้ งท�ำอิฐดินดิบซึง่ ต้องผ่านการนวดดิน ตากแดด และเก็บเล็กผสมน้อยจนเพียงพอแก่การก่อสร้าง ภาชนะดินเผาเช่นโอ่ง ไห เหยือก ถ้วย จาน ชาม หลากรูปทรงหลายขนาด ตั้งระเกะระกะอย่างสนุกสนาน หลายชิ้นดูบึกบึนทนทานราวกับจะคงอยู่ชั่วกัป ชั่วกัลป์ เนื่องจากมิได้ปะทะกับผลงานศิลปะเรียบง่ายสไตล์เซนเช่นนี้มานาน นักหนา ฉันจึงชื่นชมเครื่องปั้นดินเผาซึ่งติดตั้งอยู่ตามจุดต่างๆทั้งภายนอก และภายในตัวอาคารอย่างชื่นมื่น จนได้เวลาอันสมควรเราก็ออกเดินทางไปยัง วัดป่าชานเมืองเชียงรายแห่งหนึง่ แดดร่มลมตกฉันออกไปเดินเล่นบนถนนลูกรัง รอบบึงขนาดใหญ่เพียงล�ำพัง นั่นแหละความเพลิดเพลินเมื่อช่วงกลางวันจึงถูก แทนที่ด้วยพุทธศาสนสุภาษิต
85
สพฺพํ เภทปริยนฺตํ เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ ชีวิตของสัตว์เหมือนภาชนะดิน ซึ่งล้วนมีความแตกสลายเป็นที่สุด (ทีฆนิกาย มหาวรรค)
86
แด่...ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องเป็นเรื่อง" 88
แม้อายุอานามจะยังไม่มากแต่ฉันก็ทันได้ชมละคร โทรทัศน์แฝงคติธรรมตรงไปตรงมาเรื่อง "เงินปากผี" นอกจากนี้ยังมีไม่น้อยครั้งที่ได้ยินเพื่อนนักเรียนขาสั้นคอซองอุทานสอดคล้อง กับธีมของละครข้างต้นว่า "ไม่รู้จะรวยไปท�ำไม ตายแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้" แม้จะฟังดูแก่แดดแก่ลมและเชยบรม แต่มันก็เป็นสัจธรรมที่ฉ�่ำอยู่ในทุกอณูของ สังคมพุทธ เด็กๆทีเ่ ติบโตท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ จึงซึมซับความจริงทีป่ รากฏ อยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งได้รับการบอกเล่าผ่านผู้ใหญ่รวมทั้งสื่อต่างๆไปโดยละมุน ละม่อม และในยุคนั้นมีเพียงโทรทัศน์ขาวด�ำ วิทยุทรานซิสเตอร์ กับสื่อสิ่งพิมพ์ แม้จะถูกเย้ยหยันว่าปากยังไม่สนิ้ กินน�ำ้ นม แต่สจั ธรรมทีก่ ระเด็นออกมาจาก ลิ้นของนักเรียนหัวเกรียนคนนั้น ก็ส่งผลให้บรรดาอัครมหาเศรษฐีระเรื่อยไปถึง ชาวบ้านหาเช้ากินค�่ำด�ำเนินชีวติ ด้วยความหวาดสะดุง้ กระทัง่ วันหนึง่ ใครบางคน หาญกล้าเสนอตัวออกมารับประกันชาวประชาล้านเปอร์เซนต์ว่า "ทรัพย์สมบัติ เงินทองของมีค่าที่พวกคุณแสวงหากันมาได้ในชาตินี้ สามารถน�ำมาแลกเปลี่ยน เป็นคฤหาสถ์ริมทะเลสาบ พร้อมเครื่องอ�ำนวยความสะดวกครบครัน และที่ ส�ำคัญก็คอื ผูเ้ ป็นเจ้าของเช็คอินเข้าอยูอ่ าศัยได้เลยในชาติหน้า" เป็นใครก็เอาหรือ ใครไม่เอา? แต่ความจริงก็แสดงตนอยู่ทนโท่ว่าหาได้เป็นดังค�ำโฆษณาไม่ สมดัง พุทธศาสนสุภาษิตที่มาในพระไตรปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก ความว่า น มิยฺยมานํ ธนมนฺเวติ กิญฺจิ เมื่อตาย ทรัพย์สักนิดก็ติดตามไปไม่ได้
89
ด้วยเหตุนเี้ หล่าผูม้ อี นั จะกินซึง่ หวาดหวัน่ พรัน่ สะพรึงกับการพลัดพรากจาก ของรัก จึงพากันแห่แหนไปกราบกรานท่านผูว้ เิ ศษขีโ้ ม้ ด้วยเห็นว่าท่านมีพฤติกรรม ประจ�ำวันต่างไปจากมนุษย์ เอ๊ะ! หรือว่าท่านจะเป็นมนุษย์ตา่ งดาว!! หน�ำซ�ำ้ ท่าน ยังเป็นมนุษย์ตา่ งดาวทีม่ ปี รกติอวดอ้างอิทธิฤทธิป์ าฏิหาริยเ์ หาะเหินเดินอากาศปัด แมลงวันยันเรือรบ เก่งกาจฮาร์ดคอร์ระดับนีท้ า่ นคงจะสามารถเปลีย่ นทรัพย์สนิ ให้เป็นอสังหาริมทรัพย์ในดินแดนสุดขอบจักรวาลได้ไม่ยากเย็น เพื่อที่ตนและ คนในครอบครัวจะไปเกิดใหม่ใช้สอยเสวยสุขได้อย่างเต็มคราบ เออ! มันก็มโน ของมันไปไกลโพ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์เหมือนกัน ยญฺจ กโรติ กาเยน วาจาย อุท เจตสา ตํ หิ ตสฺส สกํ โหติ ตญฺจ อาทาย คจฺฉติ กรรมใดท�ำไว้ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ กรรมนั่นแหละเป็นสมบัติของเขา ซึ่งเขาจะพาเอาไป พุทธศาสนสุภาษิตจากพระไตรปิฎกบทนีค้ งขัดใจหลายใคร แต่ถา้ บางใครใน จ�ำนวนหลายใครยังเย่อหยิง่ ในความเป็นมนุษย์ ซึง่ กว่าหลุดออกมาจากช่องคลอด ได้กต็ อ้ งลุน้ กันแทบไม่เป็นอันหายคอหายใจ ก็สมควรอย่างยิง่ ทีจ่ ะน้อมน�ำสัจธรรม ข้างต้นมาพิจารณาอยูเ่ นืองๆ อย่างขีๆ้ ก็ควรจะตอบตัวเองให้ได้วา่ "ชีวติ นีต้ อ้ งการ อะไร?” หากผู้ใดพบค�ำตอบที่ถูกต้อง ชีวิตจะมีความสุขมากขึ้นและมีความทุกข์ น้อยลง ตรงกันข้ามหากผู้ใดพบค�ำตอบที่ผิดซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการห่างเหิน กัลยาณมิตร แน่นอนทีเดียวว่าชีวติ ของผูน้ นั้ จะมีความสุขน้อยลงและประสบกับ ความทุกข์มากขึน้ อ้าว! ไม่เชือ่ อย่าลบหลู่ เดีย๋ วกูเสกระเบิดปรมาณูเข้าท้องซะเลย
90
เปสโลภิกขุ ๒๕๑๖ ๒๕๓๖ ๒๕๓๙ ๒๕๕๓-๒๕๕๔ ๒๕๕๖ ๒๕๕๘
เกิดที่อ�ำเภอวารินช�ำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เรียนที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บวชที่วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี จ�ำพรรษาที่วัดป่าอภัยคีรี ประเทศสหรัฐอเมริกา จ�ำพรรษาที่วัดป่าจิตตวิเวก ประเทศอังกฤษ พ�ำนักอยู่ตามส�ำนักสาขาของวัดหนองป่าพงในประเทศไทย
ผลงานจัดพิมพ์เป็นธรรมทาน Dhamma Design Issue 1: Experimental, บทกวีในที่ว่าง ๒๕๕๐ ๒๕๕๑ Dhamma Design Issue 2: Evolution, แดนสนทนา ๒๕๕๒ เรื่องเป็นเรื่อง, หนึ่งร้อย, เรื่องของเรา, เสียงฝนบนภูเขา, Poems on the Road ๒๕๕๓ Pesalocation ๒๕๕๔ Fearless Diary + Spring Talk, To be Awake + Enchanted Hiking The Organic Experience, จุดชมวิว + 38 วัน ฉัน ซิดนีย์ ๒๕๕๕ ๒๕๕๖ บทกวีในที่อื่น, สาส์นจากความเงียบ ๒๕๕๗ ยุโรปสบตาหนุ่ม, ทูตยามวิกาล, Keep Calm & Carry On The Fox is an Elephant's Stomach, Heartbeat, ๒๕๕๘ Alien vs Nirvana
92
ผลงานจัดพิมพ์เพื่อการจ�ำหน่าย ๒๕๕๓ Dhammascapes (ส�ำนักพิมพ์พาบุญมา) ๒๕๕๖ อะไรเป็นอะไร (ส�ำนักพิมพ์โพสต์บุ๊คส์) ๒๕๕๗ เมื่อเกรียนไปเรียนธรรม (ส�ำนักพิมพ์อัมรินทร์ธรรมะ) สัตว์สอนธรรม (ส�ำนักพิมพ์ฟีลกู๊ด) อเมริกาประสาหนุ่ม (ส�ำนักพิมพ์โพสต์บุ๊คส์)
93
Designed by Dhamma Design Club in Bangkok
นื ยนั ทจี่ ะเสกสรร เรายงั ย ธรรมะระดบั “ของวา อ ื ส ั ง ง” หน า ก ฒ น ั เ ไ ก ป ขา งห า จะแ ว นงึ่ ก จน
NOT FOR SALE