ดวงจีน ประจำเดือนตุลาคม 2556

Page 1

ฉบับเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556

ขุนด่านเจ้าพ่อเสือ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ แห่งย่านเพชรเกษม เจาะลึกความเข้าใจในเทศกาล กินเจ ขออย่างไรให้ได้ ฉบับตำ�นานจีนโบราณ โดยเหล่าซือหมิง นักพรตแห่งแดนตะวันออกไกล และสมหวัง

สาธารณรัฐประขาชนจีน

สาวน้อยวัย 20

แค่เริ่มที่จะรักชีวิตก็ดิ่งเหว ทำ�ไม? แก้ไขอย่างไร? วิเคราะห์หาคำ�ตอบด้วยศาสตร์หมากรุกจีน โดยซินแสนริศ

ไสยศาสตร์หางปลา วิธีการเลือกคบชายหนุ่ม หญิงสาวก่อนแต่งงาน น.26 จะทำ�อย่างไรเพื่อให้ฮวงจุ้ยส่งถึงเราโดยตรง น.16 ดูดวงประจำ�เดือน 12 นักษัตร ผ่านไพ่จากสวรรค์ อ.หวง น.51 ดูดวงฟรีตลอดชีวิต สำ�หรับบุตรที่คลอดในวันเสาร์ที่ 23 พย. 2556 ช่วงเวลา 21.09 - 22.59 น. โดยซินแสอู๋ น.34 มิติใหม่สำ�หรับผู้ที่ชื่นชอบศาสตร์จีน วัฒนธรรม โหราศาสตร์ และการท่องเที่ยว


ตุลาคม สารทฮั่งโล่ว วันที่ 8 ตุลาคม เวลา 12.31 น. / ซึงกั่งวันท่ี 23 ตลุาคม เวลา 15.41 น. ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2556 - วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 เป็นเดือน 壬/戌 เดือนนักษัตรจอ ชง มะโรง, ปีนักษัตรมะเส็ง ชง กุน ทิศอสูร (ซาสั่วะ) อยู่ทางทิศเหนือ 315 - 45 องศา และ ทิศตะวันออก 45 - 142.5 องศา ทิศแตกสลาย (ส่วยผั่ว) อยู่ทางทิศซิ้ง 辰 105 - 135 องศา และ ทิศไห 亥 315 - 345 องศา ตำ�แหน่งวิบัติ (โหงวอึ้ง) 247.6 - 292.5 ทิศอสูรและทิศแตกสลาย ให้ยกเว้นการกระทำ�พิธีการใด ๆ เช่น สร้างบ้าน ซ่อมแซม เข้าบ้านใหม่ ย้ายออก ตั้งย้ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โต๊ะทำ�งาน เตียงนอน จะเกิดเหตุ วุ่นวาย หากจำ�เป็นต้องดำ�เนินการในทิศดังกล่าว ให้ใช้ฤกษ์ปลอดภัย (ซี้ ไต้ เทียง อ้วง ยิก) ตำ�แหน่งวิบัติ ห้ามกระทบกระเทือน เช่น เจาะ ทุบ เคาะ ตอก สั่นสะเทือน กรณีจำ�เป็นต้องดำ�เนินการในทิศดังกล่าวให้ราดน้ำ� 5 ขัน (ถัง) และใช้ฤกษ์ปลอดภัย

庚 子 วันง้วยเต็ก (เทพจันทรา) เป็นวันสิริมงคล คุ้มครอง ส่งเสริม เหมาะสำ�หรับ ทำ�บุญขอพร เทศกาลกินเจ 乙 วันเทียงอิกกุ้ยยิ้ง 巳

เทศกาลกินเจ 丙 午

วันชวด ชง มะเมีย

เทศกาลกินเจ 丁 未

(เทพอุปถัมภ์) เป็นวันปกป้อง คุ้มครอง เหมาะสำ�หรับทำ�กุศล บริจาค ทาน จะได้รับบุญเพิ่มทวีคูณ

วันมะเส็ง ชง กุน เทศกาลกินเจ 壬 子

วันชวด ชง มะเมีย 己 未

วันโถวอ้วงเอ่งสื่อ (อสูรธรณี) ห้ามกระทบดิน เช่น ซ่อมแซม ลงเสาเข็ม ทุบ เคาะ เจาะ ขุด ตอก

วันมะแม ชง ฉลู วันพระไทย

丙 寅

วันเทียงเต็ก (เทพสุริยัน), วันง้วยเต็ก (เทพจันทรา) เป็นวันสิริมงคล คุ้มครอง ส่งเสริม เหมาะสำ�หรับ ทำ�บุญขอพร

วันขาล ชง วอก

辛 丑

วันฉลู ชง มะแม เทศกาลกินเจ 戊 申 วันเทียงเสี่ย(ฟ้าอภัย) เหมาะสำ�หรับขอขมาลา โทษ ทำ�บุญสังฆทาน

วันมะเมีย ชง ชวด

癸 丑

วันฉลู ชง มะแม

วันมะแม ชง ฉลู

ฤกษ์ 05.30 - 06.30 น. วันวอก ชง ขาล 甲 乙 วันเทียงอิกกุ้ยยิ้ง 卯 寅

วัน 4 เสื่อม เป็นวัน หมดสิ้นกำ�ลัง เหมาะ สำ�หรับการทุบ ก่อสร้าง

(เทพอุปถัมภ์) วัน 4 เสื่อม เป็นวันหมด สิ้นกำ�ลัง เหมาะสำ�หรับ การทุบ ก่อสร้าง

วันขาล ชง วอก

ฤกษ์ 15.30 - 16.30 น.* วันเถาะ ชง ระกา

庚 申

辛 酉

壬 วันพระไทย 癸 寅 卯 วันเทียงอิกกุ้ยยิ้ง วันเทียงเต็ก (เทพสุริยัน) (เทพอุปถัมภ์) เป็นวันสิริมงคล เป็นวันปกป้อง คุ้มครอง คุ้มครองส่งเสริม เหมาะ เหมาะสำ�หรับทำ�กุศล บริจาค สำ�หรับทำ�บุญขอพร ทาน จะได้รับบุญเพิ่มทวีคูณ วันขาล ชง วอก

เทศกาลกินเจ 己 酉 วันจิ้งซิ้ง (เด่นดัง) เป็นวันก้าวหน้า มีชื่อ เสียง เหมาะสำ�หรับ การเริ่มต้นสิ่งใหม่ วันระกา ชง เถาะ

丙 辰

วันเทียงเต็ก (เทพสุริยัน), วันง้วยเต็ก (เทพจันทรา) เป็นวันสิริมงคล คุ้มครอง ส่งเสริม เหมาะสำ�หรับ ทำ�บุญขอพร

ฤกษ์ 21.30 - 22.30 น. วันมะโรง ชง จอ 壬 癸 戌 亥

วันเกิด พระโพธิสัตว์กวนอิม ฤกษ์ 05.30 - 06.30 น. วันวอก ชง ขาล

丁 วันเทียงอิกกุ้ยยิ้ง 卯

(เทพอุปถัมภ์) เป็นวันปกป้อง คุ้มครอง เหมาะสำ�หรับทำ�กุศล บริจาคทาน

ฤกษ์ 15.30 - 16.30 น.* วันเถาะ ชง ระกา

วันระกา ชง เถาะ

วันจอ ชง มะโรง 戊 辰

ฤกษ์ 21.30 - 22.30 น. วันมะโรง ชง จอ

ฤกษ์ 07.30 - 08.30 น. วันกุน ชง มะเส็ง

己 วันเทียงอิกกุ้ยยิ้ง 巳

甲 辰 เทศกาลกินเจ วันพระจีน

วันเถาะ ชง ระกา

วันมะโรง ชง จอ

วันจอ ชง มะโรง

ฤกษ์ 07.30 - 08.30 น. วันกุน ชง มะเส็ง

เทศกาลกินเจ 庚 戌

เทศกาลกินเจ 辛 亥

วันพระไทย วันพระจีน

วันมะเส็ง ชง กุน

วันมะเมีย ชง ชวด

甲 子

乙 丑

วันจิ้งซิ้ง (เด่นดัง) เป็นวันก้าวหน้า มีชื่อเสียง เหมาะสำ�หรับการเริ่มต้น สิ่งใหม่

วันชวด ชง มะเมีย

วันฉลู ชง มะแม

庚 午

(เทพอุปถัมภ์) เป็นวันปกป้อง คุ้มครอง เหมาะสำ�หรับทำ�กุศล บริจาคทาน

วันมะเส็ง ชง กุน

戊 午

วันเทียงอิกกุ้ยยิ้ง 巳 (เทพอุปถัมภ์) เป็นวันปกป้อง คุ้มครอง เหมาะสำ�หรับทำ�กุศล บริจาคทาน

วันมะเส็ง ชง กุน

* ใช้เป็นฤกษ์ออกรถได้ หมายเหตุ การฤกษ์ปลอดภัยสำ�หรับการเข้าบ้านใหม่ เปิดร้าน ตั้งย้ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โต๊ะทำ�งาน เตียงนอน ให้เริ่มต้นและเสร็จพิธีภายในฤกษ์ที่กำ�หนด การฤกษ์ปลอดภัยสำ�หรับการซ่อมแซม ทุบ เคาะ เจาะ ตอก ให้เริ่มต้นภายในฤกษ์ เสร็จเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องทำ�ต่อเนื่องห้ามหยุดเกิน 7 วัน

3


บทความพิเศษจากกองบก. เดือนตุลาคมคนไทยเชือ้ สายจีนจะมุง่ สูถ่ นนแห่งบุญตลอด 9 วันทีเ่ รียก ว่าการกินเจ โดยทุกท่านจะลด ละในเรื่องของการกินเนื้อสัตว์ ลดการทำ�บาป เพิ่ม บำ�เพ็ญกุศล และการทำ�บุญตามแรงศรัทธาปฏิบัติของแต่ละท่าน ถือได้ว่าเป็น โอกาสที่ดีสำ�หรับทุกๆคนเลยนะคะที่จะร่วมกันทำ�บุญใหญ่ นิตยสารดวงจีนฉบับเดือน 10 ที่ท่านถืออยู่นี้เป็นฉบับลำ�ดับที่ 13 ใน ทั้งหมด และเป็นฉบับที่ 4 ในรูปแบบของการตีพิมพ์ ถ้าเปรียบเป็นเด็กน้อยชีวิต ก็ได้ผ่านการล้มลุกคลุกคลาน ถลอกปอกเปลือกกันน่าดู ท่านผู้อ่านก็เปรียบดั่ง ผู้ใหญ่ในครอบครัวที่คอยเลี้ยงดูเด็กน้อยนี้ให้เติบใหญ่แล้วเดินได้ เราทุกคนใน กองฯ จักต้องขอขอบพระคุณจากใจจริงๆค่ะ ที่ติดตาม ติชม พวกเราตลอดมา หากใครกังวลว่าจะต้องดำ�เนินชีวิตอย่างไรสำ�หรับเดือนตุลาคมนี้ แนะนำ�ให้อ่านคำ�ทำ�นายการดูดวงของอ.หวง เผื่อว่าท่านจะได้มีทางหนีทีไล่กับ ชะตาชีวิตที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเดือนผ่านไพ่พิเศษที่ได้รับโองการจากสวรรค์ให้จัด ทำ�ขึ้นผ่านท่านอ.ที่เรียกว่าไพ่โปตาลากันนะคะ (แอบอ่านแล้วแม่นคะ) และหาก ใครอยากลองดูดวงแบบศาสตร์จีนโบราณ ที่เรียกได้ว่าเป็นศาสตร์การดูดวงที่ แม่นยำ�ยิ่งนัก ทำ�นายชีวิตได้ตั้งแต่ลมหายใจแรกที่เข้าปอด จนกระทั่งลมหายใจ สุดท้ายที่จากไป ตอนนี้ทางนิตยสารได้รับความเมตตากรุณาจากท่านอ.อู๋ สมการ หมากรุกจีน เปิดโอกาสให้ท่านผู้อ่านส่งวันเดือนปีและเวลาเกิด พร้อมคำ�ถาม 1 คำ�ถามที่อยากรู้ที่สุด ส่งเข้ามาถามอ.อู๋ ได้แล้วผ่าน duangchinahd@gmail.com ลองส่งเข้ามากันนะคะ

คณะผู้จัดทำ�

จากใจกองบก.นิตยสารดวงจีน ตุลาคม 2556

บรรณาธิการบริหารและบรรณาธิการ โกศโล อาร์ทไดเร็กเตอร์/ฝ่ายพัฒนา ออกแบบ และการผลิต มณฑริกา ภูพานทอง กองบรรณาธิการ/พิสูจน์อักษร น้องลูกแก้ว , น้องมิว , น้องต้นปาล์ม , น้องแพน , น้องเอ คณะที่ปรึกษาใหญ่และขอบพระคุณเป็นพิเศษ หลวงจีนวิศวภัทร มณีปัทมเกตุ , ซินแสนริศ สหชาติศิริ (หมากรุกจีน) , ผศ.อ.สมบูรณ์ แก่นตะเคียน , อ.มาโนช ประภาษานนท์

.3

ฤกษ์งามยามดี มีมงคล / ซินแสโจ...... ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2556 - วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 เป็นเดือน 壬/戌 เดือนนักษัตรจอ ชง มะโรง, ปีนักษัตร มะเส็ง ชง กุน บทความพิเศษจากกองบก. / กองบก....... พิธีกินเจ

5

8

10

34

ไขปริศนา ตอบปัญหาดวง / อ.อู๋ สมการหมากรุกจีน................ ตอบปัญหาดวง โดยอาจารย์อู๋ สมการหมากรุกจีน ประจำ�

12

ศาสตร์โหงวเฮ้ง / อ.หลงอวิ๋น .......... การทำ�นายทายทักบนหน้าผาก (อายุจรบนหน้าผาก) ฮวงจุ้ยห้องและคอนโด / อ.ณัฐเดช .......... การเลือก คอนโดมิเนียม

14

ฮวงจุ้ยที่ทำ�งานและออฟฟิศ / อ.อิสเรส .......... วิธีทำ�ให้ฮวงจุ้ยส่งผลถึงเราโดยตรง 2

ติดต่อฝ่ายโฆษณาและกิจกรรมพิเศษ คุณย้ง โทร. 081-819-3391 ติดต่อเสนองานเขียนเพื่อลงนิตยสารและ Pocket Book คุณข้าว Email : duangchinahd@gmail.com

36

16

พิธีคุยกี

38

ิ่ง

เทพจีน มหายาน / อ.สมบูรณ์ .......

มิง ห ต ร พ

41

จีนสาระ / อ.สมบูรณ์ .....

20

เคล็ดจีน / อ.พรรษ........ ประวัติศาสตร์ในราศีบนทั้งสิบศาสตร์จีน

ประเพณีแต่งงานจีน

22

วิเคราะห์ไทย วิเคราะห์โลก / อ.อู๋ สมการหมากรุกจีน..... วิเคราะห์ดวงโลก

24

สุขภาพดีด้วยศาสตร์จีน / อ.อมตะนคร .... ไต ธาตุทองกำ�เนิดธาตุน้ำ� ปัสสาวะ เป็นธาตุน้ำ� ฟองสีขาว เป็นธาตุทอง

26

ความรักกับศาสตร์จีน / ซินแสโจ ....... ไสยศาสตร์หางปลา

จีนศักดิ์สิทธิ์ ไหว้แล้วรวย / กองบก. ......... ศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ

31

28

16 ตุลาคม 2556 / 1 พฤศจิกายน 2556

บริษัท เวิลด์ ออฟ ดิสทริบิวชั่น จำ�กัด โทร. 0-2744-6856 ,

35

อุปรากรงิ้ว / อ.ดนุพล ศิริตรานนท์............. บทตัวตลก การแสดงความงามในความขัน พิธีกรรมโบราณจากแดนตะวันออกไกล / นักพรตหมิง ........

18

, อ.หวง , อ.อมตะนคร , อ.พรรษ อรุณเลิศ , อ.เอก , อ. สุ่ยหลิน

หจก.โรงพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. 0-2281-2197, 0-2281-2205

เดือนตุลาคม

พระตักม้อโจวซือ

เลขเด็ดเสี่ยงโชคกับอ.เฉิน.........

พิมพ์ / จัดจำ�หน่ายโดย

แนะนำ�หนังสือจีนน่าอ่าน / แอพจีน แนะนำ�........ App น่าใช้ หนังสือน่าอ่าน ประจำ�เดือนตุลาคม

ฮวงจุ้ยบ้าน และที่ดิน / อ.มาโนช........ บ้านผิดฮวงจุ้ย...แก้อย่างไรดี

, อ.โอภาส มิตรนรากร , อ.อู๋ สมการ , ซินแสโจ , นักพรตหมิง , อ.หมิง , อ.เฉิน , อ.หลงอวิ๋น , อ.ณัฐเดช , อ.อิสเรส , คุณเบนซ์

33

เด็ดช่อกัลปพฤกษ์​์ ศาสตร์หมากรุกจีน / อ.นริศ........ แนวโน้มของดวงชะตา ดวงเด็กสาววัย 20

ฮวงจุ้ยมหัศจรรย์ / อ.เอก ....... เบญจธาตุ

32

ถามตอบกับท่านนักพรต / นักพรตหมิง ....... ถาม-ตอบ กับท่านนักพรตหมิง ประจำ�เดือนตุลาคม

นัก น า ่ ท าก ีน จ ษ ศ จ ิเ น พ ช ม า า ช บทคว ณรัฐประ ร สาธา

44

ศาสตร์จีน วรรณกรรม / อ.พรรษ ......... ตอนที่ห้า ฤทธาแรกปรากฏ

46

จีนสามก๊กและปรัชญา / อ.หมิง .......... ศึกสิบขันที

ักก ป ง อ ื เม

48

จีนหรรษา / คุณเบ๊นซ์ ........

กำ�แพงใหญ่เมืองเก่าเล่าวันชาติ

50

หน้าต่างโลก กับเทศกาล ประเพณีและวัฒนธรรม / สุ่ยหลิน ....... ย้อนอดีต ดูเซี่ยงไฮ้เมื่อร้่อยกว่าปีก่อน

52

เทศกาลกินเจเป็นเทศกาลทีส่ �ำ คัญของพีน่ อ้ งชาวจีนและชาวไทยเชือ้ สายจีน รากฐานเดิมนัน้ การกินเจไม่ได้เป็นพิธกี รรม หรือเทศกาลกันอย่างที่เห็นในปัจจุบัน แท้ที่จริงแล้วคติความเชื่อเกี่ยวกับการกินเจมาจากการถือศีลปฏิบัติของพระ ภิกษุสงฆ์ฝ่ายมหายาน ที่ว่าด้วยการฉันเจ และข้อปฏิบัติของนักพรตเต๋าที่ว่ากินเจตลอดชีวิต

ดูดวงประจำ�นักษัตร / อ.หวง ....... ประจำ�เดือนตุลาคม 2556

54

เรียนจีนผ่านวัฒนธรรม / สุ่ยหลิน ....... วันชาติจีน

ตำ�นานของพิธีกินเจมีจากหลายที่ บ้างก็ว่าจัดพิธีเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งเก้า บ้างก็ว่าบูชาแม่ทัพทั้งเก้า ทั้งหมดนี้ล้วน เป็นความเชื่อที่ผ่านการผสมผสานระหว่างเต๋าและพุทธมหายาน แต่ในที่นี้จะขอกล่าวรายละเอียดสำ�หรับพิธีกินเจขนานแท้ดั้งเดิมตาม แบบลัทธิเต๋าจากจีนแผ่นดินใหญ่ ในทางอักษรศาสตร์จีน อักษรตัว “แจ” มีพัฒนาการมาจาก ตัวอักษร ฉี “齊” ซึ่งแปลว่าบริบูรณ์ เรียบร้อย อักษรแจเกิดจากการเพิ่มเส้น ตั้งและสองจุด ( 小 ) เข้าไปกลางอักษรฉี ทำ�ให้เกิดตัว ซื ( 示 ) ซึ่งแปลว่าการสักการะ อยู่ในแก่นกลางของตัวฉี แจ ( 齋 ) จึงมีความ หมายว่า การรักษาความบริสุทธิ์ (ทั้งกายและใจ) เพื่อการสักการะ หรือ การปฏิบัติบูชาถวายเทพยดา ซึ่งสอดคล้องกับ คำ�ว่า “齋醮” ในลัทธิเต๋า ซึ่งย่อมาจากคำ�ว่า 供齋醮神 ที่แปลว่าการบำ�เพ็ญกายใจให้บริสุทธิ์เพื่อเป็นการสักการบูชาเทพยดา

5


อาหารเจ ม ไข่ น้ำ�ผึ้ง ม หัวหอม ในร่างกาย ตับ และใบ ตำ�นานจีน

�หรับกินเจ าวมาก่อน

บทความพิเศษจากกองบก.

บทความพิเศษจากกองบก. ในพิธกี นิ เจนัน้ จะต้องมีการเชิญเทพยดาทัง้ เก้า เพือ่ มาสถิตเป็นประธาน ณ มณฑลพิธี โดยวันเริม่ พิธจี ะต้องมีการอัญเชิญ และบูชาเทพดวงดาวทั้งหลาย ภาษาจีนเรียกดาวว่า “โต่ว ” ดวงดาวสำ�คัญประกอบด้วยดาว 3 กลุ่ม คือ

หลักธรรมที่พึ่งยึดถือปฏิบัติในการกินเจ มีคำ�กล่าวที่ว่า “หนึ่งมื้อกินเจ หมื่นชีวิตรอดตาย” (一餐吃齋萬靈超生) ผู้ที่หวังสร้างกุศลทั้งปวง ควรตั้งปณิธานที่จะงดการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ตลอดช่วงการกินเจ คนไทยเรียกว่า พิธีถือศีลกินเจ นั้นคือนอกจากจะกินเจแล้ว ต้องถือศีลด้วย สิ่งที่ควรยึดถือปฏิบัติ คือ 1. กินเจตลอดช่วงเทศกาล 2. ถือศีลห้าให้บริสุทธิ์ (คนไทยบางคนก็ถือศีลแปดด้วย) 3. งดอาหารที่รสจัด ไม่เผ็ดเกิน ไม่เค็มเกิน ไม่หวานเกิน 4. หมั่นสวดมนต์ภาวนาเสมอๆ

1. กลุ่มดาวเป๋ยโต่ว ลัทธิเต๋าเรียกว่า เทียนกัง ประกอบด้วยดาว 7 ดวง คือ กลุ่มดาวจระเข้ หรือดาวหมีใหญ่ 2. กลุ่มดาวหนานโต่ว หรือน่ำ�เต้า ( ดาวใต้ ) เป็นดาวฤกษ์นักษัตรที่ 8 ของโหราศาสตร์จีน มี 6 ดาว

อาหารเจ อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ หรือวัตถุดิบใดๆที่ได้จากสัตว์ (เช่น นม ไข่ น้ำ�ผึ้ง น้ำ�ปลา) และไม่ปรุงด้วยผักฉุนทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หอม (ทุกชนิด อาทิ ต้นหอม หัวหอมหอมแดง) หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบ เพราะผักเหล่า นี้ทำ�อันตรายต่ออวัยวะในร่างกาย กระเทียมให้โทษต่อหัวใจ หอมให้โทษต่อไต หลักเกียวให้โทษต่อม้าม กุยช่ายให้โทษต่อตับ และใบยาสูบให้โทษต่อปอด บ้าง เชือ่ ว่าผักเหล่านีเ้ พิม่ ความกำ�หนัดหรือมาจากเลือดของสัตว์ตามตำ�นานจีนสำ�หรับ ภาชนะทีใ่ ช้ปรุงอาหารเจนัน้ ควรจะเป็นภาชนะใหม่หรือภาชนะ เฉพาะทีเ่ ตรียม ไว้สำ�หรับกินเจเท่านั้น ไม่ควรใช้ภาชนะเก่าที่เคยปรุงของคาวมาก่อน

3. หมู่ดาวเทียนซื่อ เหยวนโซ่วโต่ว มี 5 ดวง ดาวกลุ่มที่ 3 นี้ไม่มีกล่าวไว้ในบทสวดและสรรเสริญในพิธียัญกรรม แต่จะมี ดาวอีกดวงเข้ามาแทน คือ ดาวไป่เต้า หรือ ปักเต้า (ดาวเหนือ-ใต้)

เทพสำ�คัญสูงสุดของพิธีบูชา คือ องค์เต้าโบ้เทียนจุน หรือ โต้วหมู่เทียนจุน ถือเป็นพรหมผู้กำ�เนิด สรรพสิ่งทั้งหลาย มณฑลพิธีถูกกำ�หนดขึ้น ณ สถานที่เรียกว่า “ เต้าโบ้เก็ง ” หรือ “ โต้วหมู่กง ” หมายความ ว่า ตำ�หนักพระแม่เจ้าดารากำ�เนิด สำ�หรับพิธใี นวันแรก(วันขึน้ 1 ค่�ำ )นักพรตผูป้ ระกอบพิธจี ะทำ�พิธชี �ำ ระมณฑลเสียก่อน โดยจะมีการ เชิญเทพขุนพลสวรรค์ทั้งห้า เปรียบพิธีทางเมืองไทยก็คือ พิธีปั้งกุน เป็นการเชิญทัพสวรรค์เพื่อมาปราบ สิ่งชั่วร้าย และกำ�จัดสิ่งไม่ดีทั้งหลายให้ออกไปจากอาณาบริเวณเพื่อประกอบพิธีต่อไป ในวันที่ 3 (ขึ้น 3 ค่ำ�) จะเป็นพิธีการเชิญเทพเจ้าที่สำ�คัญสององค์คือเทพโป๋ยโต่วชิงจวิน (ปักเต้า) และเทพหนานโต่วชิงจวิน (ปักเต้า) สองเทพยดาผู้ถือบัญชีกำ�เนิดและบัญชีมรณะ

พิธีกรรมในวันกินเจ เทพเจ้าที่สำ�คัญในพิธีกินเจคือ 九皇爺 หรืออีกนามว่า 九皇大帝 (มหาราชทั้งเก้า) คนไทยเชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้าทั้งเจ็ด และพระโพธิสัตว์ทั้งสองพระองค์ แต่ในคติเต๋าแล้วมหาราชทั้งเก้าคือเทพยดาดวงดาวผู้เป็นใหญ่ทั้งเก้าที่ได้ทรงจุติลงมาเกิด ในโลกมนุษย์ อันได้แก่ 1.เทียนเผิง จุติเป็นเทพฝูซี บรรพบุรุษของมนุษย์ผู้สอนการดำ�รงชีวิตการยังชีพ การกสิกรรมทั้งหลาย 2.เทียนเร่ย จุติเป็นเสินหนง เทพเจ้าสำ�คัญยุคโบราณ ผู้สอนให้มนุษย์ทำ�การเกษตร และท่านยังเป็นผู้ชิมพืชทั้งหลายว่า พืชชนิดใด เป็นยาได้บ้าง บางแห่งยกย่องท่านเป็นบรมครูแห่งสมุนไพร 3.เทียนชง จุติเป็นหวงตี้ ปฐมฮ่องเต้แห่งแผ่นดินจีน 4.เทียนฟู จุติเป็นเซียวเฮาฮ่องเต้ ฮ่องเต้ผู้พัฒนารากฐานและรูปแบบพิธีทางราชสำ�นัก 5.เทียนฉิน จุติเป็นจวงซีฮ่องเต้ ฮ่องเต้ผู้ทำ�การปราบกบฏ 6.เทียนซิน จุติเป็นตี้ขู่ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ผู้ทำ�การชำ�ระกฎหมาย 7.เทียนจู้ จุติเป็นเอี่ยวตี้ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ผู้ปราบปีศาจ 8.เทียนเหริน จุติเป็นซุ่นตี่ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ผู้เป็นเลิศในการก่อสร้างรังสรรค์ 9.เทียนยิง จุติเป็นอู๋เต้ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ผู้เริ่มการนับราชวงศ์ของจีน

6

ในวันที่ 7 (ขึ้น 7 ค่ำ�) จะเป็นพิธีบูชาดวงดาว ตลอดทั้งเทพดวงดาวทั้งหลาย นักพรตพิธีจะทำ�พิธี สวดเชิญเทพเจ้าทั้งหลาย และบูชาตะเกียงไฟ 9 ดวง ที่หมายถึง มหาราชทั้งเก้า เรียกว่า วันนี้เป็นพิธีใหญ่ สาธุชนทั้งหลายต่างพากันมามาก ในคืนวันนี้ เพราะเป็นวันสำ�คัญที่สุด โดยนักพรตจะกล่าวถวายรายงานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และประกาศให้รับทราบว่าเหล่าสาธุชนทั้งหลายมา รวมตัว ณ ที่แห่งนี้ เพื่อการปฏิบัติบูชา ละเว้นการเบียดเบียนชีวิต ตั้งใจสร้างกุศลทั้งหลาย ขอเทพยดาทั้งหลายโปรดเมตตาและเห็นใจใน จิตอันกุศล โปรดคุ้มครองปกป้อง และดลบันดาลประทานพรให้สาธุชนทั้งหลายจงอยู่สุขร่มเย็นกันถ้วนทั่วทุกคน ในวันที่ 9 (ขึ้น 9 ค่ำ�) เป็นวันสุดท้ายของพิธีกินเจ เป็นวันส่งเสด็จ เพื่อเชิญเทพยดาทั้งหลายกลับสู่สวรรค์ ในวันนี้ถือว่าเป็นวัน ที่ทำ�การสะเดาะเคราะห์ด้วย เพราะถือว่าได้กินเจมาตลอดทั้ง 9 วันแล้ว ขอกุศลทั้งหลายจงเป็นอานิสงส์ให้ตนเองมีแต่ความสุข โดยการวอนขอจากเทพผู้ถือบัญชีกำ�เนิดและมรณะ บางคนก็เชื่อว่าขอต่ออายุไปด้วยเลยในพิธีนี้ บางคนก็ขอบุตรด้วย เช่นกัน เพราะบางท้องทีจ่ ะมีการเชิญเทพแม่ซอื้ มาในพิธดี ว้ ย เมือ่ นักพรตทำ�การคำ�นับและสวดเชิญเทพเสด็จกลับแล้ว ตะเกียงเก้า ดวงจะถูกดับ พร้อมกับปิดประตูศาลใหญ่ และในช่วงบ่ายจะมีพิธีการเชิญทหารสวรรค์ทั้งห้าทัพกลับสวรรค์ ในเมืองไทยก็จะมีพิธี เลี้ยงทหารด้วย เมื่อเสร็จแล้วก็เชิญเทพทั้งหลายกลับสู่สวรรค์ เป็นอันเสร็จพิธี สำ�หรับเทศกาลกินเจที่จะมีขึ้นในไทยนั้นจะอยู่ใน ช่วงระหว่างวันที่ 5-13 ตุลาคม 2556

7


เด็ดช่อกัลปพฤกษ์ ศาสตร์หมากรุกจีน โดย อ.นริศ

เด็ดช่อกัลปพฤกษ์ ศาสตร์หมากรุกจีน โดย อ.นริศ A : 2 แถวบนเป็นศัตรูต่อ 2 แถวล่าง

ตอน แนวโน้มของดวงชะตา ดวงเด็กสาววัย 20 (ขอนแก่น)

คุณแม่โทรมาจากขอนแก่นมาถามดวงลูกสาวคนโต “กำ�ลังเรียนภาษาอยู่ที่เยอรมันมา 7 เดือนและกำ�ลังสอบเข้ามหาลัยของที่ นั่น .........จะสอบติดไหมค่ะ จึงพักอยู่ที่นั่นเพื่อเรียนภาษา............”

ทำ�ไมอยากเรียนที่นั่น ? “เมื่อวัย 16 เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนได้ไปอยู่เยอรมันเกือบปี มีความสุขมากจึงอยากไปเรียน...” มองภาพรวมของชะตาเด็กสาวนี้ก็รู้ ได้ว่าเรียนที่นั่นเพราะสาเหตุหลักหลายประการทำ�ให้เธอตัดสินใจส่วนตัวจะอยู่ที่นั่น (ทิศของยุโรป) และเป็น “แนวโน้มของชะตาชีวิต” กำ�หนดมาเป็นเช่นนั้น............ดูไปก็ใจหายได้เหมือนกัน จึงพูดไปเท่าที่เห็นดังนี้ (1) ภาพรวมหลักคือเธอเป็นธาตุไฟที่เข้มแข็งและในดวงมีแต่ธาตุสนับสนุนให้เธอโดดเด่นเป็นตัวเองไม่ยอมขึ้นตรงกับใครง่ายๆ เพราะไฟ 2 (จิตแรก) ตรงเข้าหาดิน 2 และทอง (ทรัพย์) 2 , สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เธอเชื่อใจว่า “ควบคุมได้” และใจเด็ดที่จะไปอยู่ยุโรป (2) 2 แถวล่าง (วัน + เวลา) ล็อคหน้าล็อคหลัง (ไฟ + ทอง และ จอ + เถาะ 100%) แสดงว่าเชื่อมั่นตัวเองว่า “ทำ�ถูกแล้ว” และทองล่าง (ช่อง7) ล็อคทองบน (ช่อง 2 ปี) ฟ้องว่าเธอเด็ดขาด สมองดีและอุดมคุณธรรม (รักชีวิตครอบครัวมาก) (3) น้ำ�หนึ่งเดียวของปี ช่อง 1พิเศษ ฟ้องว่าเป็นคนระดับสู่นานาชาติ และสัดส่วนของธาตุตัวอื่นๆ ในดวงสัมพันธ์กับน้ำ�บ่อนี้ฟ้องว่า “เธอ เกิดมาเพื่อเคลียปัญหาหมักหมมของชาวบ้านชาวโลก”(ทั้งเรื่องงาน , สังคมและส่วนตัว) ส่วนตัวคือเสียสละเสียเงิน เสียทองตลอดเวลาเพื่อคนที่เรารักเราเป็นห่วง

แปลว่าคนไทย + ผู้ดี มีจนทั้งประเทศไม่สนับสนุนความมั่งมีศรีสุขของเรา (ปีว่างเปล่าจอ , 2 แถวล่างว่างเปล่าเดือนและเทวดา) 2 แถวล่างคือฐานะและชีวิตสมรสของเราถ้าไปว่าง เปล่าทั้งเดือน (อาชีพสังคม) + เทวดา (ที่ดูแลเรา) มักจะแปลว่าจะเริ่มชีวิตรัก ชีวิตงาน + เงินที่เมืองไทยไม่ค่อยได้หรือพยายามแต่จะสำ�เร็จยากมาก , ไปเมืองนอกซะ

B : ดูจาก 2 แถวล่าง (ข้อ 2) ซึ่งฟ้องว่า เธอจริงจัง + รับผิดชอบ + มีคุณธรรมต่อชีวิตสมรส และเชื่อเหตุผลอย่างจริงใจ (ช่องทอง + ระกา) ว่าเธอจะรักษาความสมดุล + ชีวิตคู่ + ลูกเต้า + การเงินเอาไว้ แต่ ……….. สามี ในอนาคต (ปีนี้ 2013 ยังไม่เจอ) ดูจากเนื้อหาของดวงชะตาเธอ ตำ�แหน่งจอเป็นคนฉลาด , เป็นช่างนักออกแบบ , เป็นนักคิด (เพ้อฝัน) และอาจอุดมคุณธรรม (คือเจอใครใกล้ตัวก็ มักจะเสียเงินเสียทรัพย์ตลอด) และเขามีปัญหาแน่ๆในช่องอาชีพ ซึ่งเป็นมะเมีย (ล็อคกับ จอได้ด)ี แสดงกินเงินเดือนได้ดี คบเพือ่ นได้ดแี ละ “สึกหรอสุดๆ ไม่รจู้ บ” (อาจจะขยันทำ�งาน และเงินได้ไม่พอ + เครียด + สุขภาพแย่ และสิ่งที่เขาหวังดีทุ่มไปกับเพื่อน (หุ้นส่วน + งาน) + ญาติ + พ่อ + แม่ฝ่ายเขา ล้วนไม่มีผลตอบแทนกลับมา ทำ�ฟรีๆ) แปลว่าเขารักครอบครัว (ชีวิตสมรส) แต่ไม่ค่อยได้เงินมาเลี้ยงเมีย ลูก เพราะโดนญาติหรือเพื่อนสูบไปหมด สงสัย เขาจะเป็นคนเอเชีย (อาจจะเป็นมาเลย์ – ลาว , เขมร , จีน) จึงได้ยอมเสียเงินเสียสละส่วน ตัวมากมายอย่างนี้ ก็นาย(สามีอนาคตคนนี)้ เขาเป็นคนมุง่ มัน่ ลงทีอ่ าชีพใดแม้แต่เทวดายัง เข้าไปส่งเสริมให้โชคดีไม่ได้ ! ทัง้ ๆทีเ่ ห็นชัดว่าน่าจะเจริญ……….ลืมไปว่า คติของหมอนริศ “จะไม่มีวันเป็นจริง”

C : ที่ย่ำ�แย่คือแม่คนนี้ (เด็กสาวปัจจุบัน) เธอแค่เริ่มชีวิตรัก แค่เริม่ รักเธอก็จะไม่มวี นั ได้กนิ เงินเดือนของเธอต่อไปตลอดชาติ เทวดาก็ไม่ชว่ ย ต้องมีอาชีพทำ�เองและถ้าเจอะเจอสามี (เอเซีย) แสนดี ขยัน น่ารักแต่ไม่ใจเด็ด ผิดพลาดทางอาชีพตลอดเวลา เธอก็ต้องลงมือประกอบอาชีพส่วนตัว เพื่อเลี้ยงลูก เลี้ยงสามีให้รอดในต่างแดน (อย่าลืม ว่าถ้าเธอทำ�เพือ่ ตัวเอง (ช่อง6) เทวดา+ปีเกิด , ประเทศทีเ่ กิดก็จะขับไล่เธอออกจากประเทศไทยตลอดชีพ (กลับไทยได้แค่เยีย่ มพ่อแม่) เพราะ เธอเกิดมาเพื่อรักแท้ + รักชีวิตสมรส หมอนริศจึงฝากเตือนหญิงสาวว่า "อย่าแต่งงาน(กินอยู่กับใคร) เพราะความสงสารเป็นอันขาด!)" (ไม่แต่งกับมันเดีย๋ วมันฆ่าตัวตาย) (มันเป็นคนดี จริงใจ ทีน่ า่ สงสารเห็นใจ) คนทีย่ อมแต่งงานเพราะความสงสาร จะต้องสงสารตัวเอง , ร่างกาย ตัวเอง , ฐานะตัวเองไปอีก 30 – 40 ปีตลอดชีวิต !(รับรอง)! นั่นคือสมเพชตัวเอง ต่างจากคนที่ตกหลุมรักแล้วไปรักผิดคนก็จงทนทรมานไป เถอะ เพราะดันไปรักเขาเอง รับกรรมไปเต็มๆ

D : ถ้าสามีหรือลูกเข้าไปช่วยอาชีพเธอ

เธอจะดวงตกแม้แต่เทวดาก็ไม่ช่วย (เพราะตำ�แหน่งสามีกลบเธอได้เกือบหมด)

E : เทวดา (56) เป็นมิตรเดือนเกิดรหัส (55)

(4) จิตช่องเวลา (ช่อง 8 ) (กิเลส) คือไม้หนึ่งเดียวที่ทำ�ให้เรามีคุณความดี , อดทนละเสียสละ (แปลว่ามีลูกก็เอ็นดูลูกมาก เพื่อความ สบายใจของลูก เราจะเสียสละได้ทุกอย่าง)

แปลว่าเทวดาจะจัดหาทีเ่ รียนให้ , จะจัดหาตำ�แหน่งทำ�งานกินเงินเดือนให้ , จะจัดหาเพือ่ นชายมาชอบเธอ………แต่ถา้ เธอริเริม่ จะรัก……… เทวดาก็หมดหน้าที่จัดหานะจ๊ะ ตัวใครตัวมัน

ฟังภาพรวม น่าจะเป็นคนดีที่อดทน + รับผิดชอบ + มีคุณธรรม + เป็นห่วงเป็นใยคนรอบข้าง + เป็นแม่ที่ดี แต่เอ๊ะ !!! ***(5)ความขัดแย้งอย่างแรงและอาจจะก่อปัญหาดังนี้***

F : ตำ�แหน่งสามี (จอ) มีสิทธิจะปันใจไปรักเมียชาวบ้านอีกด้วย

8

9


ฮวงจุ้ยบ้านและที่ดิน โดย  อ.มาโนช ประภาษานนท์

ฮวงจุ้ยบ้านและที่ดิน โดย  อ.มาโนช ประภาษานนท์ ห้องครัว กรณีที่พบบ่อยจะเป็นเรื่องตำ�แหน่งเตาไฟ กับซิงก์น้ำ� ตามหลัก ฮวงจุ้ยจะบอกเอาไว้ว่า สองสิ่งนี้ห้ามอยู่ใกล้กัน หรือตรงข้ามกัน เพราะ เตาเป็นธาตุไฟ ซิงก์เป็นธาตุน�้ำ ไฟกับน้�ำ เป็นธาตุปะทะกัน ส่วนใหญ่การ วางเตาไฟกั บ ซิ ง ก์ จ ะวางแยกกั น ในลั ก ษณะตั ว แอล เตาอยู่ ด้ า นหนึ่ ง ซิงก์อยู่ด้านหนึ่ง

การแก้ไขทีด่ ที สี่ ดุ คือ ย้ายเตียงหลบ หรือไม่กย็ า้ ยประตูหอ้ ง การย้ายเตียง หลบน่าจะดีกว่า ถ้าย้ายไม่ได้ก็ต้องหาฉากมากั้นระหว่างประตูกับเตียง หัวเตียงเป็นหน้าต่าง หลายคนกังวลกับเรื่องนี้มาก ตำ�ราฮวงจุ้ยพูดเอาไว้ จริง แต่การแก้ไขง่ายนิดเดียว แค่ติดม่านแล้วปิดเวลานอน ปัญหาก็ หมดไป

กรณีที่เตากับซิงก์น้ำ�อยู่ติดกัน ให้พิจารณาก่อนว่า ระยะห่างมีมากน้อย แค่ไหน ถ้าห่างเกิน 1 เมตร ถือว่าไม่จำ�เป็นต้องแก้ เพราะผลกระทบจะ ไม่เกิด แต่ถ้าอยู่ติดกัน วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ ย้ายอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา แต่ถ้าทำ�ไม่ได้ ให้หาฉากสแตนเลสกันความร้อนมากั้นตรงกลาง ก็ถือว่า ใช้ได้

ห้องพระ ตามหลักฮวงจุ้ยจะห้ามวางโต๊ะหมู่บูชา หรือหิ้งพระ ติดกับผนัง ห้องน้ำ� ถ้าจำ�เป็นต้องวางจะต้องบุผนังด้านที่พิงห้องน้ำ�ด้วยไม้ เพื่อขั้น ระหว่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับห้องน้ำ� แต่ถ้าย้ายตำ�แหน่งได้ก็ควรย้ายจะดีที่สุด

บ้านผิดฮวงจุ้ย..แก้อย่างไรดี ( 1 )

เหลี่ยมเสา เสาที่ถือว่ามีผลกระทบมากที่สุดก็คือ “เสาลอย” เพราะจะเกิด เหลีย่ มเสาถึง 4 ด้าน วิธแี ก้ให้หาตูม้ าพิงเสาด้านใดด้านหนึง่ เพือ่ ไม่ให้เสา ลอย หรือใช้ฉากทำ�เป็นผนังกั้นไปเลยก็ได้ อีกวิธีหนึ่งลบเหลี่ยมของเสา ออก โดยทำ�เป็นเสากลม อิทธิพลของเหลี่ยมเสาก็หมดไป

ปัญหาทีห่ ลายๆ คนมักจะประสบกันอยูเ่ สมอ เวลามีคนมาทักว่า บ้าน ของตัวเองผิดฮวงจุ้ย ก็ไม่รู้จะทำ�อย่างไรดี จะแก้ไขฮวงจุ้ยที่ผิดก็ไม่รู้ วิธี แถมคนที่ทักว่าไม่ดีผิดฮวงจุ้ย ก็ไม่รู้วิธีแก้อีก ก็ยิ่งทำ�ให้เจ้าของ บ้านเกิดความกังวล กลัวจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นภายในบ้าน

http://www.frigidaire.com ส่วนกรณีทเี่ ตาไฟกับซิงก์น�้ำ อยูต่ รงข้ามกัน ถ้าห้องครัวมีพนื้ ทีก่ ว้างพอ ให้ ใช้โต๊ะมาวางขั้นกลาง แต่ถ้าห้องครัวแคบ ต้องย้ายอย่างใดอย่างหนึ่ง ออกไป

ส่วนใหญ่เจ้าของบ้าน จะใช้วิธีวิ่งหาซินแสฮวงจุ้ย มาช่วยแก้ให้ ซึ่งทำ�ให้ เสียเงินเสียทองค่อนข้างจะมาก ทั้งๆ ที่บางทีเป็นเรื่องง่ายๆ ที่สามารถ ทำ�ได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งซินแสเลย ฉบับนี้ ผมเลยนำ�เรื่องการแก้ไขฮวงจุ้ยด้วยตนเอง มาเล่าให้ฟังกัน โดยจะ ยกกรณีที่มักจะพบเจอกันอยู่บ่อยๆ และไม่ยุ่งยากในการแก้ไขมากนัก เพราะเรื่องของการแก้ไขฮวงจุ้ยที่ไม่ดีนั้น มีมากมายหลายวิธีด้วยกัน ก่อนอื่นต้องทำ�ความเข้าใจถึงวิธีการแก้ฮวงจุ้ยว่า มีวิธีอะไรกันบ้าง หลักการแก้ ฮวงจุ้ย เท่าที่ผมสรุปออกมาได้ก็จะมีอยู่ 5 วิธีคือ 1. หลบหลีก 2. หักเห 3. ปรับเป็นพวกเดียวกัน 4. สลายออก 5. ต่อสูป้ อ้ งกัน การจะนำ�วิธไี หนมาใช้นนั้ จะขึน้ อยูก่ บั สภาพแวดล้อม ของบ้านหลังนั้นเป็นหลัก คราวนี้ ลองมาดูกรณีต่างๆ ที่เข้าข่ายผิดฮวงจุ้ย ผมจะไล่เลี่ยห้องต่างๆ ภายในบ้านกันก่อน ไล่ไปที่ละห้องกันเลยครับ เริ่มที่ประตูบ้านกันก่อน

10

ขือ่ ,คาน บ้านทุกหลังต้องมีคานด้วยกันทัง้ นัน้ คานทีม่ ผี ลกระทบก็คอื คาน ทีม่ องเห็นอย่างเด่นชัด การแก้กเ็ พียงปิดฝ้าเพดาน เพือ่ ไม่ให้มองเห็นคาน นั่นเอง แต่ถ้าขี้เกียจเสียเงินติดฝ้าเพดาน ก็ให้เลี่ยงวางของที่สำ�คัญไว้ใต้ คาน เช่น โต๊ะทำ�งาน เตียงนอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่ ฯลฯ

ประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน กรณีนจี้ ะเจอกันอยูบ่ อ่ ยๆ ในทาง ฮวงจุ้ยจะบอกว่า ทำ�ให้เงินไหลออก เรียกว่า หาเงินมาเท่าไหร่ก็ไหลออก หลังบ้านหมด การแก้ไขกรณีนี้ ไม่ยากเลยครับ วิธีที่นิยมใช้กันมากก็คือ หาฉากหรือตู้โชว์มากั้นระหว่างประตูหน้ากับประตูหลังบ้าน กระแสที่พุ่ง ตรงระหว่างสองประตู ก็จะถูกหักเหออกไป อีกวิธหี นึง่ ย้ายประตูหลังหลบประตูหน้า โดยย้ายไปเปิดด้านข้างแทน อย่า ลืมว่า บ้านจะต้องมีประตูหลังเสมอ นี่เป็นกฎพื้นฐานในทางฮวงจุ้ย บาง คนแก้ไขประตูตรงกัน โดยการปิดประตูหลังเสีย หลังบ้านจึงทึบไม่มี ทางออก ตำ�ราบอกว่า จะส่งผลให้บ้านหลังนั้น อุดตัน อับโชค ซึ่งถ้ามองตามหลักเหตุผล ก็จะหมายถึง บ้านจะอับลม เพราะธรรมชาติ ของลมจะต้องมีทางเข้าและทางออก อากาศถึงจะถ่ายเทได้ดี การแก้ไข อะไรก็แล้วแต่ จะต้องดูที่ผลกระทบข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ไม่ใช่แก้ อย่างหนึ่งแล้วไปเสียอีกอย่างหนึ่ง อย่างนี้ก็ต้องตามแก้กันไม่รู้จบ

ห้องส้วม ลักษณะผิดฮวงจุ้ยที่พบบ่อยก็คือ โถส้วม (ชักโครก) มักจะวาง ตรงกับประตูหอ้ งส้วม พูดง่ายๆเวลาเปิดประตูกเ็ ห็นชักโครกพุง่ เข้าหาคน ที่เดินเข้า อย่างนี้ถือว่าผิดแน่นอน วิธีแก้ไข ย้ายโถส้วมเข้าด้านใน ซึ่งเป็น วิธีที่ทำ�ได้ค่อนข้างจะยาก เพราะจะต้องย้ายท่อน้ำ�เสียตามไปด้วย อีกวิธีหนึ่ง ให้หันโถส้วมไปในทิศทางที่ไม่ตรงกับประตู แทนที่จะพุ่งตรง ออกมา ก็หันไปด้านข้างแทน โดยที่ไม่ต้องย้ายตำ�แหน่ง หรือ ถ้าไม่อยาก ย้ายโถส้วมก็อาจจะเลือกแก้โดยการเปลี่ยนตำ�แหน่งของประตูแทนก็ได้ ถ้าไม่อยากย้ายอะไรเลย ก็ให้ปดิ ประตูหอ้ งส้วมไว้เสมอ พยายามเปิดประตู เข้าออกให้น้อยที่สุด ก็จะช่วยลดผลกระทบลงได้ ห้องนอน ถือเป็นห้องสำ�คัญที่สุดในบ้าน มีข้อบัญญัติมากมายเกี่ยวกับ ห้องนอน แต่ทพี่ บเจอบ่อยๆก็จะเป็นเรือ่ งการวางเตียง ตำ�แหน่งต้องห้าม ในทางฮวงจุ้ยคือ ห้ามวางเตียงตรงกับประตู หรือนอนขวางประตูห้อง นั่นเอง

ส่วนเหลี่ยมที่เกิดจากมุมเสา ให้ใช้ต้นไม้ไปวางบังเหลี่ยม แค่นี้ก็แก้ไขได้ แล้วครับ เห็นไหมครับ การแก้ฮวงจุ้ยไม่ใช่สิ่งที่ยากเลย ซึ่งความจริงแล้ว ยังมีอีกหลายๆ กรณีที่ไม่ได้หยิบยกมาพูดถึง เพราะหน้ากระดาษมีแค่นี้ ตัวอย่างที่ผมยกมานั้น เป็นเพียงการแก้ไขฮวงจุ้ยในกรณีที่การจัดวาง ชัยภูมไิ ม่ถกู ต้อง เป็นพืน้ ฐานง่ายๆทีไ่ ม่ควรผิด นีผ่ มยังไม่ได้พดู ถึงทิศทาง และอิทธิพลของดวงดาวเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เช่น จุดโชค ลาภบารมี ถ้าถูกทำ�ลายจะแก้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องอาศัยซินแสมือ อาชีพมาแก้ไขแล้วละครับ เพราะเป็นเรื่องซับซ้อนเกินกว่าที่จะแก้ไขด้วย ตนเอง

ฉบั บ หน้ า ผมจะหยิ บ ยกลั ก ษณะที่ ผิ ด ฮวงจุ้ ย จาก ภายนอกบ้านกันบ้าง แล้วมาดูสิว่า มีวิธีแก้ไขฮวงจุ้ย ไม่ดีได้อย่างไร ห้ามพลาดเชียวนะครับ

11


นรลักษณ์ศาสตร์ ศาสตร์แห่งการหยั่งรู้จิตใจคน จิตใจฟ้า โดย หลงอวิ๋น

นรลักษณ์ศาสตร์ ศาสตร์แห่งการหยั่งรู้จิตใจคน จิตใจฟ้า โดย หลงอวิ๋น

การทำ�นายทายทัก บนหน้าผาก

ตำ�แหน่งประจำ�อายุ 28 ปี ตำ�แหน่งอิ๊งติ๊ง อยู่ระหว่างคิ้ว ตำ�แหน่งนี้ถือ เป็นตำ�แหน่งที่สำ�คัญที่สุดแห่งหนึ่ง บนใบหน้าเลยที่เดียว ตำ�แหน่งนี้มี คิ้วเป็นจุดสนับสนุน ตำ�แหน่ง อิ๊งติ๊ก สวยสว่าง รับกับคิ้วที่ยาวคลุม ดวงตา เส้นคิ้วไม่หยาบดูนุ่ม คนนี้ทำ�งานที่เกี่ยวกับสังคม จะดี จะได้รับ แรงสนับสนุนจากคนรอบข้างและมหาชน เหมาะกับการเป็นดารา นัก ร้อง จะมีเส่นห์ ดึงดูดในตัว ซึ่งอาจไม่ได้มีความสามารถมากนักก็ตาม แต่หากขนคิ้วหยาบแต่ขนคิ้วยังยาวคลุมตาอยู่ ก็อาจเป็นนักการเมือง แนวลุยๆ ปากคอรุนแรง ได้คนก็จะชื่นชม แต่ก็ระวังหากถึงปีที่ดวงตก อาจโดนศัตรูทำ�ร้ายได้ หากตำ�แหน่งอิ๊งติ๊งมีรอบบุ๋ม จะประสบเคราะห์ ได้ ยิ่งคิ้วหยาบต้องระวังอุบัติเหตุ หลีกหนี จากสถานที่ที่กำ�ลังมีปัญหา หรือขัดแย้งกันเพราะอาจจะโดนลูกหลงได้

(อายุจรบนหน้าผาก)

เพื่อไม่ให้เสียเวลาอย่าชักช้ามาเร่งเรียนรู้ตำ�แหน่งอายุจร ประจำ�อายุ 26 ปีกันเลย จุดอายุ 26 ปี เรียกว่าตำ�แหน่ง คูเล้ง อยู่ ตรงขมับด้านซ้ายเหนือใบหู ตำ�แหน่งนี้มีดวงตาซ้ายและใบหูซ้าย เป็นจุดสนับสนุน ดวงตาต้องสว่างไสว สดใส ไม่ขุ่นมัว ใบหูแข็ง แต่ มีตุ้มย้อย สวยงามจะส่งเสริมตำ�แหน่ง คูเล้ง จะทำ�ให้ชีวิตอายุ 26 ปี มีฐานะร่ำ�รวย มีตำ�แหน่งหน้าที่การงานที่ดี มีความก้าวหน้า ใน ทางตรงกันข้าม หากดวงตาขุ่นมัว หูมีตำ�หนิ เรียกว่าไร้ราศี ทำ�การ ใดๆในปีอายุ 26 ปี ไม่ขึ้น

ตำ�แหน่งประจำ�อายุ 27 ปี เรียกว่าตำ�แหน่งม้งม็อก อยู่ขมับขวา เหนือใบหูขวา ตำ�แหน่งนี้มีดวงตาขวา และใบหูขวาเป็นจุด สนับสนุน ดวงตาต้องสว่างไสว สดใส ไม่ขุ่นมัว ใบหูแข็ง แต่มีตุ้มย้อย สวยงามจะส่งเสริมตำ�แหน่ง ม้งม็อก จะทำ�ให้ชีวิตอายุ 27 ปี มีฐานะ ร่ำ�รวย มีตำ�แหน่งหน้าที่การงานที่ดี มีความก้าวหน้า ในทางตรงกันข้าม หากดวงตาขุ่นมัว หูมีตำ�หนิ เรียกว่าไร้ราศี ทำ�การใดๆในปีอายุ 27 ปี ไม่ขึ้น หากตำ�แหน่งคูเล้งและ ตำ�แหน่งม้งม็อก มีตำ�หนิ ไม่สวย แถมทั้งใบหูและดวงตาก็ขุ่นมัวไม่สวยแล้ว จุดสุดท้ายที่จะช่วยเหลือให้ปี อายุ 26-27 ปี นั้นรอดพ้นอุปสรรคปัญหาไปได้ คือตำ�แหนางกลางหน้าผาก หรือตำ�แหน่งกระดูก เก้งเอี้ยง หากตำ�แหน่งนี้นูนได้รูป ส่อง สว่างไร้ตำ�หนิ ให้เข้าวัดสวดมนต์ จะช่วยให้พ้นปัญหาในปีอายุ 26-27 ปี ไปได้ ในทางกลับกันตำ�แหน่ง คูเล้ง และตำ�แหน่งม้งม็อกมีตำ�หนิ ไม่สวย แถมทั้ง ใบหูและดวงตาก็ขุ่นมัวไม่สวยแล้ว ตำ�แหน่งกระดูก กลางหน้าผากอย่าง เก้งเอี๋ยง ยังบุ๋มมีตำ�หนิอีก แล้งยิ่งมีผมพุ่งแหลมออกมา บังหน้าผาก ต้องระวัง อุปสรรค ทำ�คุณคนไม่ขึ้น ห้าม ลงทุน ห้ามร่วมหุ้นกับใครในช่วงอายุปีนั้นๆเป็นอันขาด เพราะปีอายุ 26- 27 นี้อาจถูกหลอก หรือ ล้มเหลวตัดสินใจผิดพลาด หาก ขมับแดงมากให้ระวังอุบัติเหตุครั้งใหญ่ไว้ด้วย

ตำ�แหน่งประจำ�อายุ 29 ปี ตำ�แหน่งซัวลิ้มซ้าย อยู่เหนือขมับ ซ้าย ตำ�แหน่งนี้มักจะมีผมบังอยู่ อาจต้องใช้การสังเกตมาก หน่อย ตำ�แหน่งนี้มีจมูกและดวงตาเป็นตำ�แหน่งสนับสนุน ถ้า จมูกตรงอวบอิ่มดูสมส่วนจะประสบความโชคดีมีมงคล การค้า ต่างแดนจะประสบความสำ�เร็จ ดังนั้นจงอย่าอยู่นิ่ง เร่งคว้า โอกาสทองนี้ไว้ อย่าได้ขี้เกียจ แต่หากจมูกไม่สวย หักงอ ดวงตา มัวขุ่น อย่าได้หวังประสบความสำ�เร็จ ให้ระวังการเดินทาง อยู่ บ้านจะดีสุด อย่าลงทุนทำ�การ ทำ�การเล็ก หากให้ใครหยิบยืม ตังค์ ก็ให้ถือว่าบริจาคไปซะ

ตำ�แหน่งประจำ�อายุ 30 ปี เรียกว่าตำ�แหน่ง ซัวลิ้มขวา ตำ�แหน่งนี้อยู่ เหนือขมับขวา เช่นกันกับตำ�แหน่งซัวลิ้มซ้าย ตำ�แหน่งนี้อาจมีผมบัง จะต้องสังเกตให้ดี ตำ�แหน่งซัวลิ้ม มีตำ�แหน่งอี๊งติ๊ง ระหว่างคิ้วและ ปากเป็นจุดสนับสนุน หากตำ�แหน่งอึ้งติ๊ง ไร้ตำ�หนิ สวยสว่างสดใส แล้ว อีกทั้งปากยังได้รูปเป็นกระจับ ไม่ใหญ่ไปเล็กไป สีก็สดใสไม่แดง จนเกินไป หรือไม่ดำ� ก็ช่วยส่งเสริมตำ�แหน่ง ซัวลิ้มขวาให้ดีขึ้นไปอีก ทำ�ให้ปีอายุ 30 เป็นปีที่ดีและมั่นคงได้ หากตำ�แหน่งซัวลิ้มขวาไม่สวย แถมตำ�แหน่งอิ๊งติ๊งมีตำ�หนิ ปากก็ไม่ได้รูปอีก ปีอายุ30ปีจะเป็นปีที่ ประสบความสำ�เร็จยาก และเคราะห์ร้ายจะมาจากปาก หรือจากคำ� พูดด้วย

เอาละครับครั้งนี้ก็ว่ากันจนครบตำ�แหน่งบนหน้าผากไปหมดแล้ว ครั้งหน้าจะมาว่ากันด้วยเรื่องผม และทรงผมกัน ติดตาม ต่อฉบับหน้ากันนะครับ สำ�หรับฉบับนี้..สวัสดี

12

13


ฮวงจุ้ยห้องและคอนโด / อ.ณัฐเดช

ฮวงจุ้ยห้องและคอนโด / อ.ณัฐเดช

ตอนที่ 2 : การเลือก คอนโดมิเนียม สำ�หรับที่อยู่อาศัยทุกวันนี้ ก็มีหลายรูปแบบนะครับ มีตั้งแต่ บ้านเดี่ยว ตึกแถว บ้านแฝด หรือที่ซับซ้อนขึ้นมาอีก ก็เช่น อพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม ซึ่ง ในการจัดฮวงจุ้ยสำ�หรับอาคารแต่ละประเภทนั้น “ตามหลักใหญ่ๆ” ก็ดูจะไม่แตกต่างกันนัก แต่ในเรื่องของ ”ข้อจำ�กัด“ นั้น สำ�หรับอาคารแต่ละประเภท ก็มีจุดดี จุดด้อยแตกต่างกันไปนะครับ เช่น บ้านเดี่ยว เราอาจจะ สามารถใช้การเปิดประตูในตำ�แหน่งที่ดีได้หลายทาง ตึกแถวหรืคอนโดอาจจะทำ�ไม่ได้ แต่บ้านเดี่ยวก็มีข้อด้อยในแง่ รูปทรง อาคารอาจมีการเว้าแหว่ง (บ้านเดี่ยว คงไม่มีใครต้องการแบบสี่เหลี่ยมเป๊ะๆ จริงไหมครับ) หรือมีความซับซ้อนในการแบ่งห้อง ต่างๆ เหล่านี้เป็นต้น

ำ�หรับตอนนี้นั้น เราจะพูดถึง วิธีการเลือกคอนโดมิเนียม โดยใช้หลักฮวงจุ้ย กันครับ ใน เรือ่ ง ฮวงจุย้ สำ�หรับคอนโดมิเนียมนัน้ ผมขอเริม่ ตัง้ แต่การเลือกซือ้ กันเลยนะครับ (สำ�หรับ ท่านทีพ่ กั อาศัยในคอนโดอยูแ่ ล้วก็ไม่ตอ้ งเสียใจนะครับ จะมีการสอดแทรก และไปพูดถึงการ ปรับแก้ควบคู่กันไป และจะลงรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไปกันในช่วงหลังๆนะครับ)

หากท่านคิดว่า การหาซื้อคอนโดสักห้อง เป็นการตัดสินใจครั้งสำ�คัญครั้งหนึ่งในชีวิต และคิดถึงตัวแปร หรือ ปัจจัย ต่างๆในการเลือกคอนโดไม่ว่าจะเป็น โครงการที่ท่าน ไว้ใจ ราคา หรือ ทำ�เล ที่ตั้ง เหล่านี้ เป็นต้นแล้ว จะลองนำ�ปัจจัยในเรื่องของหลัก ฮวงจุ้ย เป็นหนึ่งในตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกคอนโดของท่าน เพิ่มเติมเข้าไปอีก สักอย่างก็ไม่เลวนะครับ (ขอย้�ำ ว่า ให้คดิ ถึงปัจจัยต่างๆของท่านเองเป็นสำ�คัญก่อนนะครับ) และ หากท่านคิดจะลองใช้หลักฮวงจุ้ยเข้าช่วย ผมก็มีคำ�แนะนำ�(แบบกว้างๆ) ดังนี้ครับ 1.เช็คดวง อันดับแรกสุดที่อยากให้ทำ�ดูก็คือ ให้ลองหาซินแสที่ดู “ดวงจีน” เช็คดวง ดูเสียก่อน (เน้นว่าต้อง “ดวงจีน” นะครับ) การใช้เพียงปีเกิด (นักษัตร) เพียงอย่างเดียวนั้น ค่อน ข้างออกจะกว้างเกินไปสักหน่อย การที่ซินแสบางท่านอธิบายโดยใช้ปีเกิดนั้น อาจเป็นเพราะว่า มีพื้นที่ในการอธิบายไม่พอ และคนทั่วไปอาจจะฟังแล้วยิ่ง”งง”หนักขึ้น แต่สำ�หรับผู้ที่ติดตาม หนังสือเล่มนีแ้ ล้วคิดว่าไม่นา่ จะยากเกินไป สำ�หรับการเช็คดวง และยิง่ หากว่าทำ�เพือ่ ช่วยในการ ตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ เช่นการซื้อคอนโดนี้ คิดว่าไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรงนักครับ และคำ�ถาม หลักๆที่อยากให้สอบถามทางซินแสเพื่อเป็นการเช็ค ก็คือ สอบถามถึง ธาตุให้คุณ (ซินแสบางท่านอาจใช้คำ�ว่า ธาตุสำ�คัญ หรือ ธาตุสุขภาพ) ธาตุโชคลาภ และ ธาตุให้โทษ ตรงนี้ควรจดเก็บไว้เลยนะครับ สามารถนำ�ไปใช้ได้ตลอดชีวิต ● อีกอย่างคือ ขอให้นึกย้อนหลังกลับไป ลองคิดดูว่า ปีไหนเป็นปีที่ดีสุดๆของท่าน (โดยเฉพาะเรือ่ งการเงินๆทองๆนะครับ จะทำ�ให้ทายได้งา่ ยและชัดทีส่ ดุ ทีส่ ดุ ) และปีทยี่ �่ำ แย่ทส่ี ดุ ของท่าน(เน้นด้านการเงินเช่นกัน) แล้วจดเป็นปี พ.ศ. เอาไว้ และสอบถามทางซินแสท่านนั้นดู ว่า ปีนั้นๆเป็นธาตุอะไร ปีทดี่ ีตรงกับธาตุให้คณ ุ หรือธาตุโชคลาภหรือไม่ และปีทเี่ สียตรงกับธาตุ ให้โทษหรือไม่ ถ้าตรงกัน ก็หมายความว่า ตีดวงได้ถูกต้อง แต่หากไม่ตรง ก็แสดงว่าต้องมีจุดที่ ผิดพลาดล่ะครับ โดยอาจจะผิดตั้งแต่ วัน เดือน ปี หรือ เวลาเกิด หรือ ขึ้นดวงผิด หรือแม้แต่ ตีดวงผิด ก็เป็นได้ครับ

2.เลือกชั้น เมื่อทราบธาตุที่ต้องการ คือธาตุให้คุณ และธาตุโชคลาภกันแล้ว (ธาตุทงั้ สองนี้จะขอเรียกรวมๆว่า “ธาตุที่ชอบ” นะครับ) เริม่ จากง่ายที่สุด ก่อนเลย คือการเลือกชั้นของคอนโด ว่าควรอยู่ชั้นใดตามหลักฮวงจุ้ย ● หากท่านชอบ ธาตุดิน ควรเลือกชั้นที่ลงท้ายด้วย 5 หรือ 0 เช่น ชั้น 5,10,15,20,25... ● หากท่านชอบ ธาตุทอง ควรเลือกชั้นที่ลงท้ายด้วย 4 หรือ 9 เช่น ชั้น 4,9,14,19,24... ● หากท่านชอบ ธาตุน้ำ� ควรเลือกชั้นที่ลงท้ายด้วย 1 หรือ 6 เช่น ชั้น 1,6,11,16,21... ● หากท่านชอบ ธาตุไม้ ควรเลือกชั้นที่ลงท้ายด้วย 3 หรือ 8 เช่น ชั้น 3,8,13,18,23... ● หากท่านชอบ ธาตุไฟ ควรเลือกชั้นที่ลงท้ายด้วย 2 หรือ 7 เช่น ชั้น 2,7,12,17,22...

คำ�ถามที่จะตามมาก็คือ “แล้วนับชั้นอย่างไร” วิธีนับชั้นก็นับตามปกติตามที่เรานับกันนะครับ ชั้นดินพื้นก็คือ ชั้น 1 แล้วนับต่อไปเรื่อยๆ ส่วน “ชั้น ลอย” ไม่นับเป็นชั้นนะครับ คำ�ถามที่จะตามมาระลอกที่สอง...ก็คือ “อย่างไรจึงนับเป็น ชั้นลอย” ชั้นลอยก็หมายถึงชั้นที่ มีพื้นที่น้อยกว่า 50% ของ”กรอบผนังอาคาร” ที่กล่าวเช่นนี้เพราะ บางอาคารมีขนาดพื้นที่ชั้นสูงๆขึ้นไปลดหลั่นกันไป จนอาจจะน้อยกว่า 50% ของชั้นล่าง “แต่” กรอบผนังก็ลดหลั่นตามมาด้วย เช่นนี้นับเป็นชั้นเต็ม ไม่ใช่ชั้นลอยครับ

ซึ่งจุดนี้ค่อนข้างสอดคล้องกัน กฎหมายอาคาร ในการกำ�หนด “ชั้นลอย” นะครับ (การใช้คำ�อาจแตกต่างกัน) จะต่างกันที่ตามกฎหมาย นั้นกำ�หนดที่ 40% นั่นหมายถึงว่า หากในแปลนอาคาร (จากของที่ทางโครงการนำ�มาให้ดู) หากเขียนว่า “ชั้นลอย” เราก็ถือว่าเป็น “ชั้นลอย” ในทาง ฮวงจุ้ย ไปด้วยเลยก็ได้ครับ (โดยไม่ต้องมาวัดพื้นที่เอาเอง)

และผมคิดว่าเฉพาะเรือ่ งชัน้ ของอาคารนี่ คงยังมีค�ำ ถาม อีก หลายๆระลอก แต่หากอธิบายให้ครบหมดคงอีกยาวครับ เดีย๋ ว จะไม่ได้ไปคุยเรือ่ งอืน่ กันครับ เอาเป็นว่าขอให้ทราบไว้วา่ ในขัน้ ตอนการเลือกชัน้ นีย้ งั ไม่ได้ ถือเป็นความจำ�เป็น ”มาก” นะครับ หาก ตอนนี้ท่านพักอยู่แล้ว หากไม่ตรงกับ"ธาตุที่ชอบ" ก็ไม่ต้องถึงกับต้องโยกย้ายกันใหม่นะครับ หรือท่านที่หาใหม่ หากไม่ได้ชั้นตามนี้ หรือ มีตัวเลขที่ชอบหรือ หรือมี ลัคกี้นัมเบอร์ อยู่ในใจอยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไรนะครับ ทำ�ตามความชอบได้เลย ครับ เอาล่ะครับในตอน นี้คงพอได้ความรู้กันไปพอสมควรนะครับ ในตอนหน้าเตรียมเข็มทิศรอไว้เลยนะครับ จะเริ่มวัดทิศทางกันล่ะ....

...ตรงนี้ไม่ได้ทำ�เพื่อจะ”จับผิด” ซินแสนะครับ แต่เพื่อเป็นการ "รีเช็ค" ดูอีกที และตรง นี้เป็นประโยชน์ของตัวท่านเองนะครับ เพราะถ้าผิดพลาดตั้งแต่ขั้นนี้แล้ว ขั้นตอนอื่นๆก็ จะผิดไปตลอดนะครับ

14

15


ฮวงจุ้ยที่ทำ�งานและออฟฟิศ / อ.อิสเรส

ฮวงจุ้ยที่ทำ�งานและออฟฟิศ / อ.อิสเรส

วิธีทำ�ให้ฮวงจุ้ยส่งผลถึงเราโดยตรง 2 โดย อ.อิสเรศ อนัคฆมนตรี FB: ฮวงจุ้ย พลัส 168

จากบทความครั้งที่แล้วที่เรามีการคำ�นวณวัน เดือนปีเกิด เพือ่ หารหัสชีวติ ของพวกเราในการจัดสถาน ที่ทำ�งานให้ดี และหาความเข้ากันได้กับตัวของพวกเรา จากการคำ�นวณนั้นสิ่งที่เราได้มาคือเลขรหัสชีวิตอัน เป็นการบ่งบอกพลังส่วนดีและร้ายในมุมต่างๆของ สถานทีท่ เี่ ราอยู่ อย่างเช่น ทีท่ �ำ งาน บ้านพัก สุสาน หาก เรารู้ มุ ม ส่ ว นที่ ดี แ ล้ ว นำ � มาวางวั ต ถุ ที่ เ สริ ม ดวงเราที่ มุมนั้นๆ ย่อมส่งผลดีเข้ากับดวงเราโดยตรงและส่งผล ชะงัก แต่หากวางในมุมที่ส่งพลังด้านลบกับดวง วัตถุ ชิ้นนั้นก็จะไม่มีผลส่งเสริมด้านดีแก่เรา ในหลักการ คำ�รวณพลังนี้ ครูบาอาจารย์นักปราชญ์ในอดีตท่าน วิเคราะห์ผลทางสถิติแล้วพบว่า เราสามารถแบ่งพลัง ด้านบวกด้านลบเข้าประจำ�ในทิศทางต่างๆทั้งแปดทิศ ได้ มากถึงเก้ารูปแบบรหัสชีวิต โดยในแต่แบบจะมีมุม ดีรา้ ยแตกต่างกันไปแปดมุม โดยมีสที่ ศิ ดี สีท่ ศิ ร้าย ตาม ตารางด้านล่างนี้ ทิศ

ทิศดี

ตำ�แหน่ง

ผลด้าน

ประธาน

ผู้มีอำ�นาจ หัวหน้า ผู้นำ�

รุ่งเรือง

โชคลาภ ร่ำ�รวย เจริญก้าวหน้า

ห้องทำ�งาน โต๊ะเก็บเงิน

อายุ

ความมั่นคง อายุยืน สุขภาพ

ห้องผู้สูงอายุ พ่อแม่

หมอเทพ ปกป้อง รักษา พักฟื้น สุขภาพ อสูร

ทิศร้าย

16

ห้องที่เหมาะสม

ความวุ่นวาย เจ็บป่วย

ห้องนอนเจ้าบ้าน ห้องทำ�งาน เจ้าที่

ห้องครัว ห้องพักผ่อน ตู้ยา เจ้าที่ ห้องส้วม ห้องน้ำ� บันได

เบญจภูติ

สิ่งชั่วร้าย ไม่สงบ ทะเลาะวิวาท

โทษภัย

เดือดร้อน อุปสรรค อุบัติเหตุ

ห้องส้วม ท่อระบายน้ำ�

สูญสิ้น

หมดสภาพ วิบัติ ตาย เสื่อมโทรม

ห้องส้วม ท่อระบายน้ำ�

ห้องส้วม ห้องน้ำ� ห้องเก็บของ

สี่ทิศดีอันได้แก่ ทิศประธาน , รุ่งเรือง , อายุ , หมอเทพ และสี่ทิศร้ายได้แก่ อสูร , เบญจภูติ , โทษภัย , สูญสิ้น สามารถแบ่งออก เป็นกลุ่มใหญ่ๆที่เรียกดังนี้ว่าผู้มีรหัสราศีตะวันออก และผู้มีรหัสราศีตะวันตก โดยจะมีการใช้งานเชิงลึกเข้าไปอีกสำ�หรับการแบ่งบ้านตาม ทิศทางและตัวบุคคลซึ่งจะบอกกล่าวต่อไปในบทความหลังๆ สำ�หรับวิชาฮวงจุ้ยวิชานี้เป็นวิชาที่รับความนิยมสูงมากในแถบฮ่องกง อเมริกา และยุโรป เนื่องด้วยความง่ายในการวิเคราะห์และความแม่นยำ�ของผลการจัดที่แสดงออกได้ไว จนถึงขนาดมีการทำ�การวิจัยทางวิชาการออก มาอย่างเป็นล่ำ�เป็นสันกันทีเดียว ส่วนในบทความนี้เราจะกล่าวถึงผลด้านดีร้ายของแต่ล่ะส่วนกันก่อนที่จะเจาะเข้าในแต่ล่ะส่วนรหัสกันครับ ในส่วนของสี่ทิศดีที่แรกๆที่ต้องบอกถึงและพิจารณาเป็นพิเศษนั้นคือ

ทิศประธาน เป็นทิศที่เรามักใช้เป็นห้องหลักและวางวัตถุเสริมบารมีเพื่อให้การงานของเราเจริญก้าวหน้า เวลาทำ�อะไรก็จะได้รับการ ส่งเสริมเกือ้ กูลมีลกู น้องบริารทีด่ ี มีหนุ้ ส่วนทีซ่ อื่ สัตย์และเก่งฉกาจ อีกทัง้ ต้องระวังอย่าให้มขี องไม่ดไี ม่งามไปวาง เช่นเอาถังขยะของเน่าเหม็น วางเป็นตำ�แหน่งห้องน้ำ�ห้องส้วม เพราะจะเกิดผลในทางต้นข้ามที่กล่าวมาข้างต้น มีลูกค้าอาจารย์หลายคนที่เป็นเจ้าของกิจการที่บ่นกับ อาจารย์ว่าหาลูกน้องไม่ค่อยได้เมื่อได้มามักเป็นพวกห่วยแถมแย่ๆอีกต่างหาก เมื่อได้พิจารณาฮวงจุ้ยมักพบว่าตำ�แหน่งประธานของพวกเขา นี้เองที่เสียหายโดยจะเจอเป็นมุมห้องน้ำ�เสียเป็นส่วนใหญ่ จึงให้เสริมเคล็ดโดยการทำ�ห้องน้ำ�ให้สะอาดและหาวัตถุเสริมดวงเขาในมุมนี้ ก็ปรากฏความเปลี่ยนแปลงในทางดีเพิ่มขึ้นมากมาย

ทิศรุ่งเรือง ถือเป็นทิศลำ�ดับที่สองที่จะต้องได้รับการพิจารณาหา เพราะในการทำ�งานอะไรก็ตามเราต้องได้เงินและสามารถควบคุมได้

ด้วย ทิศรุ่งเรืองนี้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมาก เช่นวางตู้เซฟ โต๊ะบัญชี โต๊ะเก็บเงิน หรือเปิดเป็นประตูทางเข้าก็ได้ ฉะนั้นหมายถึงการเปิด รับและกักเก็บความร่ำ�รวยรุ่งโรจน์ให้แก่เจ้าของรหัสชีวิต แต่หากมุมนี้ประสบสิ่งร้ายมากระทบก็จะปรากฏปัญหาการเงินแก่เจ้าของชะตาได้ เช่นกัน ดังเช่นลูกค้าเจ้าหนึ่งทำ�ธุรกิจหินอ่อนมีงานมีเงินเข้ามามาก แต่บัญชีติดลบตัวแดงอยู่เสมอ เมื่ออาจารย์ได้วิเคราะห์ฮวงจุ้ยเจ้าชะตา สิ่งที่ปรากฏออกมาทิศรุ่งเรืองของเขานั้นเป็นตำ�แหน่งท่อระบายน้ำ�สำ�หรับล้างหิน ซึ่งเท่ากับชะล้างความรุ่งเรืองออกไปด้วย เมื่อได้ปรับย้าย เปลี่ยนทิศทางท่อน้ำ�ระบายน้ำ�นี้และวางวัตถุเสริมดวงเข้าไปปรากฏว่ายอดขายเพิ่มขึ้นอีกเกือบสามสิบเปอร์เซ็นต่อเดือนและมีเงินในบัญชี เป็นบวกซึ่งสร้างความพอใจแก่เขามากทีเดียว ส่วนทิศอายุและหมอเทพ นั้นมักจะใช้เป็นมุมพักผ่อนและมุมเจ้าที่ อันหมายถึงเราจะได้รับความคุ้มครองอันยิ่งใหญ่และมีกิจการที่ ดำ�เนินการอย่างราบรื่นโดยได้รับการคุ้มครองดูแลจากผู้ที่มีพลังและอิทธิพลอันดีต่อเรา สิ่งที่พบเสมอในการจัดฮวงจุ้ยคือ เจ้าของกิจการที่มี ลูกน้องมากมาย มีงานแต่ทำ�งานไม่เสร็จจบงานไม่ได้ พอไปต่อรองปรากฏไม่ได้รับความช่วยเหลือร่วมมือจากคนที่เราร้องขอ พอตรวจสอบ รหัสฮวงจุ้ยมักพบว่าเขาเหล่านั้น มีทิศอายุและทิศหมอเทพเสียหาย จึงทำ�การปรับแต่งย้ายเอาหิ้งพระ พระภูมิ หรือโต๊ะหมู่มาวางในตำ�แหน่ง เหล่านี้ตำ�กำ�หนดวันเวลาฤกษ์ยามอันเหมาะสม สิ่งที่พวกเขาได้รับคือภายใน ไม่เกินสามเดือน การงานจะราบรื่นและสามารถติดต่อต่อรอง เรื่องต่างได้ได้ง่ายยิ่งขึ้น

เป็นอย่างไรครับคุณผู้อ่าน นี้แค่มุมดีๆในที่ทำ�งานไม่กี่มุมก็สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรต่อมิอะไรได้ มากมาย แต่วา่ รหัสชีวติ ใดมีมมุ ดีรา้ ยอย่างไร และเราจะล้างพลังทิศไม่ดจี ะทำ�ได้อย่างไร เรามาติดตาม กันต่อในครั้งหน้ากันครับ

17


ฮวงจุ้ยมหัศจรรย์ / อ.เอก

เ บ ญ จ ธ า ตุ

ฮวงจุ้ยมหัศจรรย์ / อ.เอก

ธาตุที่มีการส่งเสริมกันและกัน

จากภาพเราจะได้เห็นแล้วว่าถ้าเรานับไปทางขวานั่นก็คือธาตุที่ส่งเสริมกันเพราะถือว่าก่อ กำ�เนิดซึ่งกันและกัน น้ำ� กำ�เนิด ไม้ ไม้ กำ�เนิด ไฟ ไฟ กำ�เนิด ดิน ดินกำ�เนิดโลหะ โลหะกำ�เนิดน้ำ�

ธาตุที่สร้างความสูญเสียให้แก่กันและกัน เรียกว่าทอนกำ�ลัง

เรื่องเบญจธาตุก็คือเรื่องธาตุทั้ง 5 ในทางศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย ให้ความสำ�คัญกับธาตุทั้งห้าเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นสิ่งสำ�คัญที่ต้อง เรียนรู้เพราะเป็นหลักสำ�คัญที่ผู้รู้ส่วนใหญ่ใช้ปรับแก้หรือเสริมฮวงจุ้ยของที่อยู่อาศัยหรือสำ�นักงานร้านค้า เพราะเชื่อกันว่าหากปรับ อย่างถูกทิศ ถูกธาตุก็จะช่วยเสริมโชคลาภให้มั่งมี เรื่องธาตุทั้ง 5 หรือเรียกว่า เบญจธาตุ อันที่จริงก็คล้ายหลักของธาตุทั้ง 4 ที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นก็คือ ดิน น้ำ� ลม ไฟ แต่เบญจธาตุทางฮวงจุ้ย นั้นมีความแตกต่างกัน โดยเขาให้ธาตุทั้งหมดมี 5 ธาตุ คือ 1. ธาตุน้ำ� 2. ธาตุไฟ 3. ธาตุไม้ 4. ธาตุดิน 5. ธาตุโลหะ

จากภาพนี้เราเห็นได้ว่าก็เหมือนกับภาพที่แล้วแต่แค่วิธีการนับก็คือนับทวนเข็มนาฬิกา ซึ่ง เป็นธาตุที่สร้างความสูญเสียต่อกันทอนกำ�ลังซึ่งกันและกัน น้ำ� ทอนกำ�ลัง โลหะ โลหะ ทอนกำ�ลัง ดิน ดิน ทอนกำ�ลัง ไฟ ไฟ ทอนกำ�ลัง ไม้ ไม้ ทอนกำ�ลัง น้ำ�

ธาตุที่หักล้างและทำ�ลายซึ่งกันและกัน

จากภาพเราจะเห็นได้ว่า น้ำ� – ไฟ , ไม้ - ดิน , ไฟ - โลหะ , ดิน – น้ำ� , โลหะ – ไม้ จากที่กล่าวมาคุณคงพอมองออกว่า ธาตุอะไรส่งเสริมทอนกำ�ลังหรือเป็นการหักล้างกัน เมื่อพอเข้าใจทฤษฎีเบื้องต้นของธาตุแล้วฉบับหน้าเราจะมาตามกันต่อว่าเราจะนำ�ทฤษฎี เหล่านี้ไปใช้ได้อย่างไรบ้าง

เบญจธาตุทางฮวงจุ้ย สังเกตุสิว่า ไม่มีธาตุลม แต่ไม่ต้องแปลกใจก็เพราะทางศาสตร์ของฮวงจุ้ยเขาถือว่า ลม เป็นสิ่งที่ทำ�ให้เกิดชี่(พลังงาน)โดย เฉพาะพวกชี่พิฆาตเขาเลยไม่เอาธาตุลมมาคิดรวมเป็นธาตุ เมื่อเรารู้จักธาตุทั้ง 5 แล้วเราก็จะต้องทราบว่าธาตุไหนเสริมส่งกัน หรือธาตุไหนเป็นธาตุที่ปะทะและหักล้างกันบ้างโบราณท่านจึงสอนวิธีการ จำ�เกี่ยวกับเรื่องธาตุว่าธาตุใดส่งเสริมหรือทอนกำ�ลังหรือทำ�ลายกันโดยทำ�เป็นวงจรของธาตุทั้ง 5 ขึ้นเพื่อง่ายต่อการจดจำ�จึงขอนำ�มาให้คุณผู้ อ่านได้เห็นเพราะคิดว่าจำ�ง่ายและเป็นประโยชน์อย่างมาก

18

19


เคล็ดลับศาสตร์จีน ชีวิตไม่สะดุดด้วยศาสตร์จีน โดย พรรษ อรุณเลิศ

ตอน ประวัติศาสตร์ในราศีบนทั้งสิบศาสตร์จีน ในสมัยโบราณประมาณ 4000 ปีมาแล้ว ณ. ประเทศ จีนช่วงเวลานั้น อยู่ในการปกครองของราชวงศ์ซาง (商朝) ขณะนัน้ ได้ก�ำ หนดให้ในหนึง่ สัปดาห์มที งั้ สิน้ 10 วัน มีอกั ษรจีน 10 ตัวเป็นตัวแทนเราเรียกอักษรจีนทัง้ สิบตัวนีว้ า่ “ราศีบนหรือ เทียงกัง天干” ในยุคนี้ราศีบนทั้งสิบใช้เป็นชื่อวันและชื่อของ บุคคล หากวันนีต้ รงกับราศีบนอันไหนก็จะบวงสรวงบรรพบุรษุ ที่ล่วงลับที่มีชื่อเดียวกันกับราศีบนนั้น ทำ�ให้เราทราบได้ว่าใน หนึ่งสัปดาห์ในสมัยซางมีทั้งสิ้น 10 วัน หนึ่งสัปดาห์สมัยซาง เราเรียกว่า ซุ้ง (旬) ในวิหารบรรพชนของสมัยซางพบว่าบูรพ กษัตริยข์ องราชวงศ์ซางล้วนมีชอื่ ตามราศีบนทัง้ สิบด้วยกันทุกๆ พระองค์ ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้ พระองค์แรก ไต่อิก大乙 : เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซาง มีคุณูปการในการ โค่นล้มจักรพรรดิผชู้ วั่ ร้ายแห่งราชวงศ์แห่ (夏朝) และสถาปณาราชวงศ์ขนึ้ ทีเ่ มือง อังเอีย๊ ง พระราชอำ�นาจแผ่กระจายไปจนถึงแม่น�้ำ ฮวงเหอชนเผ่าต่างๆขึน้ ตรงด้วย เป็นจำ�นวนมาก ตัวอักษร 乙 จึงมักได้รบั การผูกพันอยูก่ บั ดาวมงคลประเภทต่างๆ เช่น ดาวอุปถัมภ์ หรือวิชาทำ�นายที่ขึ้นชื่อว่าบังทองและขงเบ้งชำ�นาญมากอย่าง วิชา ไท้อิก ซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ซางเป็นต้น พระองค์ที่สอง ไต่เตง大丁: พระองค์ทสี่ าม ไต่กะ大甲 : เรือ่ งราวของพระองค์ทบี่ นั ทึกในมหาประวัตศิ าสตร์ โดยซือหม่าเซียนระบุว่า พระองค์ครองราชย์เป็นลำ�ดับที่สี่ โดยก่อนหน้านั้นมี ปิตุลาของพระองค์พระนามว่ากัวเปี้ย外丙 และต๋งยิ้ม仲壬เป็นผู้สำ�เร็จราชการ แทน เมือ่ พระองค์เจริญวัยจึงได้ขนึ้ ครองราชย์และในรัชสมัยของพระองค์ พระองค์ มีที่ปรึกษาระดับตำ�นานอย่าง อี่เอง (伊尹) ผู้รจนาบทอี่หุง (伊訓) ซึ่งเป็นหลัก ปกครองโดยธรรม ปัจจุบันนี้บันทึกดังกล่าวได้ถูกรวบรวมเข้าไว้เป็นบทๆหนึ่งใน คัมภีรแ์ จเกง (書經) ซึง่ เป็นหนึง่ ในห้าคัมภีรส์ �ำ คัญของขงจือ๊ คุณปู การ อีเ่ อง ดำ�รง ตำ�แหน่งเป็นอัครมหาเสนาบดีของซาง ตัวอักษร 甲 นี้จึงมักจะผูกพันกับเรื่อง ใหญ่ๆรวมถึงวิชาทำ�นายอย่างแปดประตูพิสดารที่มีชื่อว่า ขี่มึ๊งตุ่งกะเป็นต้น (奇门遁甲) พระองค์ที่สี่ ไต่แก大庚 : พระองค์ปกครองประเทศอยู่ 25 ปีด้วยความผาสุข พระองค์ทหี่ า้ ไต่โบ่ว大戊 :ในยุคของพระองค์เกิดปรากฎการณ์ประหลาดนัน่ คือ ในพระราชวังปรากฏต้นหม่อนและต้นข้าวฟ่างโตขึน้ มาด้วยกัน พระองค์ปกครอง ประเทศด้วยความร่มเย็นเป็นสุขถึง 75 ปี ในระหว่างนั้น ชนเผ่าทั้งทางด้านตะวัน ตกและตะวันออกล้วนส่งบรรณาการมาแสดงความคาราวะ ข้าวปลาอุดมสมบูรณ์ มากนับได้ว่าเป็นยุคทองของราชวงศ์ซางเลยก็ว่าได้ เมื่อเห็นรัชสมัยของจักรพรรดิทั้งสามพระองค์ทำ�ให้นึกถึงการปรากฏของอักษร 甲庚戊 ในดวงจีนสายโป๊ยหยี่สี่เถียวเราเรียกว่าการปรากฏนี้ว่า ซำ�คี้ หมายถึง ประสบความสำ�เร็จสามารถคำ�ชูวงศ์ตระกูล แม้ตกอับก็จะมีผชู้ ว่ ยเหลือเหมือนดัง่ ยุคสมัยของจักรพรรดิทั้งสามพระองค์ที่ผ่านมา

20

พระองค์ที่หก ตงเตง 中丁: ในการปกครองของพระองค์ ได้มีชนเผ่าคนเถื่อน นามว่า ลำ�อี้ (蓝夷) เข้าโจมตีอาณาจักรโดยชนเผ่านีจ้ ะสวมใส่ชดุ เกราะสีฟา้ ทำ�ให้ มีอกี ชือ่ ว่า คนเถือ่ นสีฟา้ นับเป็นรอยต่อทีไ่ ด้รบั ความท้าทายเป็นอย่างมากเพราะ ต้องถูกเปรียบเทียบกับจักรพรรดิพระองค์ก่อน พระองค์ที่เจ็ด โจ้วอิก 祖乙 : ในยุคสมัยของพระองค์ได้ปรากฏบุคคลมีความ สามารถนาม บูเ๊ ฮียง (巫贤) มาดำ�รงตำ�แหน่งมหาเสนาบดีท�ำ ให้แว่นแคว้นมีความ สงบสุขและเป็นปึกแผ่น พระองค์จึงไดครองราชย์บัลลังนานถึง 19 ปี เมื่อเทียบ กับพระบิดาที่ได้ครองเพียงเก้าปีนับว่านานกว่ากันมาก พระองค์ที่แปด โจ้วซิง 祖辛 : พระองค์ที่เก้า โจ้วเตง 祖丁 : พระองค์ที่สิบ เสี้ยวอิก 小乙 : พระองค์ที่สิบเอ็ด บู้เตง 武丁 : ในยุคนี้ราชวงศ์ซางได้พระจักรพรรดิที่ทรงปรีชาสามารถ เนื่องจาก พระองค์ตอนเป็นองค์ชายได้รับการศึกษาที่เมืองห่างไกล ได้พบเห็นปัญหาของ การชิงทีด่ นิ ทำ�กิน สัตว์เลีย้ ง และผูค้ นของชนเผ่ารอบๆข้างทำ�ให้พระองค์หลังจาก ขึ้นครองราชย์ได้ เลือกพระชายาจากชนเผ่าต่างๆ เรื่องราวของพระองค์ทำ�ให้ นึกถึงคุณสมบัติของไฟเตงมีคำ�กลอนปรากฏอยู่ในหนังสือดวงจีนสายโป๊ยหยี่ สี่เถียวชื่อ ติเทียงช่วย (滴天髓) กล่าวไว้ว่า 丁火柔中,内性昭融。抱乙而孝,合壬而忠。旺而不烈,衰而不 穷,如有嫡母,可秋可冬

ไฟเตงเป็นธาตุที่อ่อนโยน นิสัยดีมีจิตเมตตา รักชอบไม้อิกเป็นที่ตั้ง ร่วมน้ำ�ยิ้มมีคุณงามความดี แข็งแรงไม่เท่าไฟเปี้ย แม้อ่อนแอแต่ไม่อับจนเหมือน มี แ ม่ อุ้ ม ชู ใ ห้ พ ลั ง ย่ อ มผ่ า นพ้ น วั น ชิ ว และตั ง / จากมหาตำ � นานอ่ า นดวง ฉบับภาษาไทย เล่มที่ 1 เรียบเรียงโดย อาจารย์ ชัยเมษฐ์ เชี่ยวเวช ซึ่งองค์จักรพรรดิบู้เตงก็ใช้การประสานหรือฮะตนเองเข้ากับชนเผ่า ต่ า งๆได้ อ ย่ า งกลมกลื น และมี กุ ศ โลบายในการปกครองโดยการยกย่ อ ง บูรพกษัตริย์เป็นสำ�คัญนับได้ว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของอาณาจักรซางก็ว่าได้

เคล็ดลับศาสตร์จีน ชีวิตไม่สะดุดด้วยศาสตร์จีน โดย พรรษ อรุณเลิศ พระองค์ที่สิบสอง โจ้วกะ 祖甲 : มีพระอนุชาพระนามว่า บอกยิ้ม 卜壬 แม้ว่าพระองค์จะปกครองอาณาจักรได้หลายปีแต่ความสงบสุขเรียกได้ว่ามีน้อยมาก เพราะนับจากปฐมกษัตริย์เป็นต้นมายุคของพระองค์พบศึกสงครามบ่อย และยังมีกบฏเกิดขึ้น พระองค์ที่สิบสาม คังเตง 康丁 : มีพระอนุชาพระนามว่า เล่อกี้ 呂己 พระองค์ที่สิบสี่ บู้อิก 武乙 : ในช่วงหลังๆของราชวงศ์ซางได้พบกับความท้าทายด้านการทหารหลายต่อหลายครั้ง ในยุคนี้เกิดสงครามขึ้นหลายครั้ง และเริ่มมี อาณาจักรที่โดดเด่นขึ้นนั่นคืออาณาจักรจิวนั่นเอง พระองค์สวรรคตเพราะถูกฟ้าผ่าในระหว่างที่ออกป่าล่าสัตว์ พระองค์ที่สิบห้า บุ๊งบู้เตง 文武丁 : มีพระอนุชาพระนามว่า บอกเปี้ย 卜丙 ในช่วงเวลาของพระองค์ได้ก่อสงครามไปทั่วและได้มีขุนศึกคู่พระทัยซึ่งเป็นเจ้าเมือง ของแคว้นจิวนาม อ๋องกุ้ย (王季) ทำ�ให้พระองค์สามารถเอาชนะชนเผ่าต่างๆได้ทั่วทุกทิศ พระองค์เกรงกลัวว่าต่อขุนศึกคู่พระทัยท่านนี้จะแปรพักตร์ หลังจาก ชนะสงครามสุดท้าย พระองค์ทรงโปรดปูนบำ�เหน็จแก่อ๋องกุ้ยเป็นจำ�นวนมากหลังจากนั้นส่งมือสังหารลอบฆ่าทิ้งในเวลาต่อมา นับได้ว่าการปกครองแผ่นดินโดย ธรรมของไท้อกิ ปฐมกษัตริยไ์ ด้เริม่ สัน่ คลอนถึงขีดสุดแล้วหลัง จากนี้ก็เข้าสู่ภาวะล่วงโรย พระองค์ที่สิบหก ตี่อิก 帝乙 : พระองค์ที่สิบเจ็ด ตี่ซิง 帝辛 : พระองค์สุดท้ายเป็นจักรพรรดิท่ีมีชื่อเสียงในด้าน ร้ายทีโ่ ด่งดังมากหลังจากพระองค์ขนึ้ ครองราชย์แล้ว พระองค์ ทรงพระสมญานามว่า “พระเจ้าติว้ อ๋อง 紂王” จักรพรรดิองค์ นีเ้ ป็นองค์สดุ ท้ายแห่งราชวงศ์ซางพระองค์เป็นคนโหดเหีย้ ม อำ�หิตสั่งประหารชีวิตคนด้วยวิธีพิสดารเกินกว่าที่เราๆจะ เข้าใจได้ พระองค์เป็นผู้ก่อให้เกิดสงครามรบกับราชวงศ์จิว และพ่ายแพ้ให้กับจิวบู้อ๋องในที่สุด (周武王) จนนักปราชญ์ ราชวงศ์เหม็งนำ�ไปเขียนเป็นนิยามปกรณัมเรื่อง ห้องสิน ที่ โด่งดังมาจนถึงปัจจุบนั นักโบราณคดีมคี วามเชือ่ ว่าพระนาม ของจักรพรรดิทกุ ๆพระองค์ในสมัยซางถูกคัดเลือกโดยวิธกี าร เสี่ยงทาย ในปัจจุบันนี้อักษรทั้งสิบตัวได้เป็นตัวแทนของธาตุ ทั้งห้า ไฟ ดิน ทอง น้ำ� ไม้ แบ่งออกเป็นอิมและเอี๊ยงโดย กำ � หนดให้ 甲丙戊庚壬 เป็ น ตั ว แทนของฝ่ า ยเอี๊ ย ง 乙丁己辛癸 เป็นตัวแทนของฝ่ายอิม และใช้ในการทำ�นาย ทุกประเภทของจีน เราสามารถมองดูยคุ สมัยของซางด้วยกฎ ของไตรลักษณ์อย่างการเกิดขึ้น การตั้งอยู่ และการเสื่อม สลายเป็ น วงโคจรที่ ไ ม่ มี วั น เปลี่ ย นแปลงและคงเป็ น นี้ ชั่ ว นิรนั ดร ปัญหาไม่ได้อยูท่ เี่ ราจะรับมือต่อการดับสูญได้อย่างไร ปัญหานั้นอยู่ที่คุณจะสามารถใช้ช่วงเวลาที่ดีที่มีอยู่จำ�กัดให้ ประโยชน์สูงสุดได้อย่างไรต่างหาก

ประเทศจีนตราบอดีตจนถึงปัจจุบนั ตัวอักษร ราศี บ นทั้ ง สิ บ ได้ ข้ า มกาลเวลามาให้ คุ ณ ได้ ใช้ ง าน ดังนั้นโปรดอย่าลืมคุณค่าของอดีต หากคุณผู้อ่าน คุ ณ มี ข้ อ สงสั ย อยากสอบถามเกี่ ย วกั บ บทความ เคล็ ด ลั บ ศาสตร์ จี น สามารถฝากคำ � ถามได้ ที่ www.facebook.com/heavensign ครับ

21


วิเคราะห์คน วิเคราะห์โลก โดย อ.อู๋ สมการหมากรุกจีน

วิเคราะห์คน วิเคราะห์โลก โดย อ.อู๋ สมการหมากรุกจีน

เมฆหมอกและภาพลวงตากำ�ลังจางหาย ความจริงของสังคมโลกกำ�ลังปรากฏในทิศทางที่ดีขึ้นบ้าง แต่ความร้ายกาจบางอย่างยังคงอยู่ เศรษฐกิจของโลกทัง้ ฝัง่ ยุโรป+อเมริกา รวมทัง้ เอเชียจะเริม่ ขยับตัว ส่งสัญญาณให้กบั หลายๆประเทศให้เริม่ แผนงาน+มาตรการในการกระตุน้ เศรษฐกิจ ของตน ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเริ่มคึกคักบ้างแต่ไม่ต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ทำ�ให้มีหลายประเทศเป็นที่น่าจับตามองและน่าลงทุนโดยเฉพาะแทบเอเชีย แต่ความเลื่อมล้ำ�และความไม่สามัคคีกันของกลุ่มประเทศมหาอำ�นาจ ทั้งสหรัฐ , จีน , ญี่ปุ่น , รัสเซีย , อังกฤษ , เยอรมัน เป็นต้นยังคงคานอำ�นาจ กันอยู่ ทำ�ให้ขอ้ ตกลงระหว่างประเทศและกฎระเบียบทางการค้าในเชิงพาณิชย์ไม่ได้รบั การสนับสนุน เพราะไม่มใี ครยอมใคร ไม่คดิ จะถอยกันคนละ ก้าว ไม่ยอมอ่อนข้อ+ไม่ยอมเสียเปรียบ จะมัวเอาแต่ชงิ ดีชงิ เด่นและอยากจะได้เปรียบดุลการค้าแต่ฝา่ ยเดียว ทำ�ให้ดดู แี ค่ชว่ งต้นแต่อาจจะแผ่วปลาย กลุม่ สินค้าทางเทคโนโลยีและเครือ่ งจักรกลจะมีราคาสูงและเป็นทีต่ อ้ งการและขาดแคลน , อาวุธยุทโธปกรณ์ตา่ งๆจะซือ้ ขายกราดเกลือ่ น ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย , ด้านเชื้อเพลิงไม่ว่าจะเป็นน้ำ�มันหรือแก๊สธรรมชาติอาจชะลอการผลิตจากกลุ่มโอเปก เพราะภาวะผันผวนของค่า เงินสกุลต่างๆ ขึ้นลงเร็วอย่างผิดปกติ รวมทั้งราคาทองคำ�ยังคงขึ้นต่อเนื่อง จึงเกิดการกักตุนและเทขายออกมาเป็นพักๆ ตลาดหุ้นทั่วโลกก็เลยดู เหมือนจะดีก็ไม่ดี จะดูแย่ก็ไม่ถึงกับแย่มากเกินไป เป็นการเก็งกำ�ไรและปั่นหุ้นในช่วงระยะสั้นๆ ส่วนด้านปัญหาการเมืองและปัญหาสังคมจากบางประเทศก็ยังไม่สู้ดี ภัยร้ายจากการก่อวินาศกรรมและสงครามกลางเมืองยังคงเกิดเป็น ระยะๆ กับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางรวมไปถึงแทบแอฟริกา แม้กระทั่งเอเชียใต้ก็ใช่ย่อย ทั้งกลุ่มคลั่งลัทธิศาสนาและกลุ่มหัวรุนแรง+กลุ่มแบ่ง แยกดินแดนและเชื้อชาติจะพยายามประกาศตัวให้โลกรับรู้มากขึ้น การเจรจาต่างๆจะไม่เป็นผล ต่อให้มีประเทศมหาอำ�นาจหรือประเทศที่เป็น กลางเข้ามาไกล่เกลี่ยก็ตาม

วกไปที่ภัยทางธรรมชาติกันบ้าง เพราะสถานการณ์ยังคงน่าวิตกกันอยู่ เนื่องจากฤดูการแปรปรวน กระแสน้ำ�อุ่นจากขั้วโลกสู่มหาสมุทรจะไหลผิดปกติ เปลี่ยนทิศทาง ฤดูกาลหนาวเย็นอาจมาเร็วกว่าปกติ ชั้นบรรยากาศของโลกผิด แปลก ก่อเกิดมรสุมและพายุหนักขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง และเข้าถล่มเมืองและประเทศ หมู่เกาะต่างๆไม่ยั้ง จะเกิดการอพยพอย่างไม่หยุดไม่หย่อน+การสูญเสียล้มตาย ของผู้คนนับไม่ถ้วน สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ทั้งในแง่เศรษฐกิจ+สังคม บ้านเมือง+ผลผลิตทางการเกษตรได้รบั ผลกระทบหนักสุดและจะเกิดไปทุกหย่อม หญ้าแผ่กว้างไปทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นแทบอเมริกาเหนือ+อเมริกาใต้ , ยุโรป , แอฟริกา , ออสเตรเลีย+นิวซีแลนด์และเอเชีย อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวตามมาคือโรคระบาดต่างๆ จากเชื้อโรคสายพันธุ์ ใหม่ ๆ ที่ มี สั ต ว์ เ ป็ น พาหนะอาจควบคุ ม ไม่ อ ยู่ ทำ � ให้ เ กิ ด ความต้ อ งการและ ขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค ทำ�ให้บางประเทศก็ได้รับความช่วยเหลือ แต่ บางประเทศก็ไม่ได้รับความเหลียวแล หนำ�ซ้ำ�ประเทศมหาอำ�นาจต่างก็เข้ามา แทรกแซงเพือ่ ให้ตนเองมีบทบาทต่อเวทีโลก เพือ่ Show Off ให้สายตาชาวโลกได้ เห็นเป็นประจักษ์ถึงศักยภาพของตน ทั้งที่ประเทศตนเองระบบเศรษฐกิจก็ยังไม่ ฟืน้ แต่อยากออกหน้าออกตา เพือ่ ไม่อยากให้ใครลืมงานนีช้ าวโลกตัวน้อยๆ อย่าง เราๆท่านๆ ก็ต้องพยายามทำ�ความเข้าใจต่อไป อธิบายตามหลักวิชาโหราศาสตร์สายหมากรุกจีน สูตรคูณดูดวงเป็น ดังนี้ เนื่องจากปีจรปีนี้เป็นปีมะเส็งเบอร์ 30 ซึ่งมีราศีบน(กิ่งฟ้า)เป็นธาตุน้ำ�พลัง หยิน และราศีล่าง(ก้านดิน)เป็นนักษัตรมะเส็งธาตุไฟ เมื่อมาโคจรพบกับเดือน ตุลาคมปีนี้ เป็นเบอร์ 59 ซึ่งมีราศีบน(กิ่งฟ้า)เป็นธาตุน้ำ�พลังหยางและมีราศีล่าง (ก้านดิน)เป็นนักษัตรจอธาตุดิน ทำ�ให้ระบบธาตุน้ำ�ยังมีความรุนแรงอยู่ อีกทั้งยัง เป็นฤดูกาลของธาตุทองอีกด้วย ความผันผวนจากภัยธรรมชาติยงั คงเกิดอยู่ ระบบ ธาตุยงั คงเป็นอริศตั รูตอ่ กัน เพราะธาตุดนิ ก็จะไปทับถมธาตุน�้ำ ส่วนธาตุน�้ำ ก็อยาก จะไปดับธาตุไฟตีรวนไปหมด

น้ำ� - มะเมีย

มะเส็ง มะแม

น้ำ�+ ชวด

จอ ฉลู

และในนักษัตรมะเส็งของฐานปีและนักษัตรจอฐานเดือน ยังมีธาตุ แอบแฝงไฟ+ดิน+ทองปนอยู่ ซึง่ เป็นเรือ่ งดีบง่ บอกถึงวิวฒ ั นาการ+การขับเคลือ่ น และการเคลือ่ นไหวของความก้าวหน้าและเทคโนโลยีนา่ จะไปได้ดไี ปได้สวยทำ�ให้ ดูเหมือนทิศทางต่างๆน่าจะ O.K

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต

ถึงแม้ “นักษัตรมะเส็ง” + ”นักษัตรจอ” จะไม่บาดเจ็บก็ตาม แต่จดุ เชื่อมโยงสัมพันธ์หรือ Lock กันยังเข้ากันไม่ดีพอ ความสำ�เร็จด้านการค้า +เศรษฐกิจ+การเงินการทอง+หุน้ ต่างๆ+พลังงาน จึงยังสร้างความเสถียรภาพ ได้ไม่เต็มร้อยนั่นเอง

22

23


สุขภาพดีด้วยศาสตร์จีน โดย อมตะนคร

สุขภาพดีด้วยศาสตร์จีน โดย อมตะนคร

ในปรัชญาจีนกำ�หนดให้ธาตุมีห้าธาตุ ไม้ ไฟ ดิน ทอง น้ำ� ตามปรกติ "ธาตุทองกำ�เนิดธาตุน้ำ� ปัสสาวะ เป็นธาตุน้ำ� ฟองสี ขาวเป็นธาตุทอง" แต่ในกรณีที่ปัสสาวะเป็นฟองเป็นปฏิกิริยาย้อนกลับ คือ น้�ำ ระบายทองซึง่ เป็นลักษณะทีไ่ ม่ดี มีผลเสียอย่างมากเพราะลักษณะ ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า "ไต" กำ�ลังมีปญ ั หา ตามปกติคนเราปัสสาวะ มีฟองขาวๆ บ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อใดก็ตามที่ฟองเกาะกลุ่ม กันเป็นก้อนเหมือนฟองเบียร์ และปัสสาวะมีสีขุ่นด้วยแล้ว แสดงให้ เห็นว่า มีแนวโน้มที่คนๆนั้นจะมีอาการเป็นโรคไต ไต ประกอบไปด้วย หน่วยไตมีลักษณะเป็นกระจุกหลอด เลือดฝอยเล็กๆ ที่กระจายอยู่ในเนื้อไต ทำ�หน้าที่กรองเลือดที่ไหล เวียนผ่านมา ดักจับของเสียและขับน้ำ�ส่วนเกินออกจากร่างกายใน รูปของปัสสาวะ เมื่อไตมีการอักเสบเกิดขึ้นหน่วยไตก็จะทำ�ให้ได้ไม่ เต็มประสิทธิภาพส่งผลให้มี สารจำ�พวกโปรตีน และเม็ดเลือดแดง รัว่ ไหลปนออกมาในปัสสาวะด้วย

ไตอักเสบยังเป็นจุดเริ่มต้นของ ไตวาย เรื้อรังในอนาคต ก่อนที่จะถึงวันนั้น เราจึงต้องรักษาร่างกายให้มีสุขภาพ แข็งแรงไว้ก่อนจะดีที่สุดครับ

24

การที่ไตอักเสบ "แนวเส้นลมปราณไต" จะติดขัดปรากฏพยาธิสภาพภายนอก เช่น กล้ามบริเวณแผ่นหลังตึงตัวได้แก่ บริเวณกระดูกสันหลัง LV2 ได้แก่ช่วงบั้นเอว กดเจ็บผิดปรกติ เส้นลมปราณไตและกระเพาะปัสสาวะเชื่อมกันอย่างแนบแน่น เมื่อไตมีปัญหาเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะจึงมีปัญหาตามไปด้วย หลายครั้งที่มีผู้มาเข้าร่วมอบรม ล้างพิษเส้นลมปราณ เข้ามาปรึกษาผมด้วยอาการปวดศีรษะเรื้อรัง แต่หลังจากซัก อาการแล้ว พบว่าแนวเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะ (UB) พาดตั้งแต่หัวจรดเท้ามีผลมีปัญหาเกิดจากอาการไตอักเสบเป็นจุด เริ่มต้น ดังนั้นคนที่มีอาการไตอักเสบนอกจากจะปวดหลังบริเวณไตแล้ว จะอ่อนเพลียง่าย ปวดตา ปวดหัวตา ปวดหัวคิ้ว วิง เวียนศีรษะ ปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน และมีอาการบวมน้ำ�ร่วมด้วย

ทีส่ �ำ คัญการแพทย์แผนปัจจุบนั ก็ยงั ไม่รถู้ งึ สาเหตุทแี่ น่ชดั ว่า อาการไตอักเสบหรือโรคไตเกิดขึน้ ได้อย่างไร และไตอักเสบยังเป็นจุดเริ่มต้นของ ไตวายเรื้อรังในอนาคต ก่อนที่จะถึงวันนั้น เราจึงต้อง รักษาร่างกายให้มีสุขภาพแข็งแรงไว้ก่อนจะดีที่สุดครับ ในการแพทย์แผนทางเลือก ไตเป็นหนึ่งในอวัยวะสำ�คัญของร่างกาย อวัยวะสำ�คัญมีสามอย่าง ได้แก่ ตับ ไต และ หัวใจ ดังนัน้ เราจึงควรดูแลรักษาไตของเราให้ดที สี่ ดุ เช่น การทานน้�ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ระหว่างวันไม่ควร อั้นปัสสาวะ และควรวางร่างกายให้อยู่ในท่าทางที่ถูกต้องไม่นั่งหลังค่อม ไม่นั่งเก้าอี้นุ่มเกินไป ไม่นั่งนานจนเกินไป เมื่อทราบ ว่าหลังมีอาการตึงเกร็งควรผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณหลัง เพื่อให้ลมปราณไหลเวียนได้สะดวก และที่สำ�คัญไม่ควรนอนดึก (หลัง 23.00 น. เรียกว่าดึกแล้ว) เพือ่ ร่างกายจะได้สะสมพลังงานรวมอีกครัง้ หากคุณผูอ้ า่ นมีขอ้ สงสัยอยากสอบถามเรือ่ งสุขภาพ สามารถฝากคำ�ถามไว้ได้ที่ www.facebook.com/punsookhappyhealth

25


ความรักกับศาสตร์จีน โดย โอภาส มิตรนรากร

ความรักกับศาสตร์จีน โดย โอภาส มิตรนรากร หางตาเป็นแนวตรง เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตรงไปตรงมา

ไสยศาสตร์หางปลา

เป็นคนเดินทางสายกลาง

ถ้าหางตาเชิด จะเป็นความมีความกระตือรือร้น เชือ่ มัน่ ในตนเองสูง ค่อนข้าง ดื้อรั้นเอาแต่ใจ ไม่ยอมใคร มักสร้างศัตรูให้กับตนเองไม่รู้ตัว

สำ�หรับหางตาตก จะเป็นคนขาดความเชือ่ มัน่ ค่อนข้างยอมคน คล้อยตามผูอ้ นื่ มัก ถูกเอาเปรียบ มองโลกในมุมเศร้า แต่หางตาแบบนี้มักมีเพื่อนมารายล้อม ถ้าเป็นหญิง จะเป็นแม่ศรีเรือนที่ดี เกรงใจสามี และยินยอมให้สามีเป็นช้างเท้าหน้า

หางตาหรือหางปลา (ไม่ใช่รอยตีนกา) มีเส้นเดียว จะได้คู่ครองที่สมบูรณ์ รักครอบครัว รักเดียวใจเดียว คู่ครองสามารถช่วยกิจการงานของ ตนเองได้ แต่ในบางรายอาจจะมีนิสัยดื้อรั้น และเจ้าชู้ได้บ้าง ซึ่งต้องพิจารณาตำ�แหน่งอื่นประกอบ

หางตา (ไม่ใช่รอยตีนกา) มีเส้นยาวสองเส้น ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาดี แต่สำ�หรับผู้ชายมักมีเหตุการณ์จำ�เป็นต้องไกลจากคู่ครอง

เช่น หน้าที่การงานบังคับ ส่วนผู้หญิง จะมีจิตใจเมตตา มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เหมาะสมกับงานในตำ�แหน่งที่ต้องพบปะผู้คนหมู่มาก มีความสามารถอ่าน ใจบุคคลอื่นได้ดี ชอบความร่าเริง ไม่ชอบการโดดเดี่ยวเงียบเหงา

หางตา (ไม่ใช่รอยตีนกา) มีหลายเส้น วาสนาด้านคู่ครองไม่ดี มีโอกาสหย่าร้างได้ง่าย กรณีผู้ชาย จะเป็นคนเจ้าชู้ หรือเมื่อรักไม่สมหวังทำ�ให้ ไม่อยากมีคู่ครองอีก

หลังจากจัดตำ�แหน่งฮวงจุย้ ความรักกันมาแล้ว ก็ตอ่ กันด้วยวิธกี ารเลือกคบชายหนุม่ หญิงสาว โดยพิจารณา จากลักษณะเบื้องต้น ว่าแบบนี้ถ้าแต่งงานกันแล้วจะสนับสนุน เกื้อหนุน หรือนำ�ความเดือดร้อนมาให้ อะไร ทำ�นองนี้ครับ ในหลักวิชาโหวงเฮ้ง ตำ�แหน่งคู่ครองจะอยู่บริเวณหางตาทั้งสองข้าง ใช้ทำ�นายเรื่องคู่ครอง และความรัก

หางตาหรือหางปลา ที่มีลักษณะดี คือ บริเวณหางตามีเนื้ออิ่มสมบูรณ์ ไร้ตำ�หนิ ประกอบกับมีสีสันสดใส หากเป็นชายจะได้ ภรรยาดี ส่วนหญิงก็จะมีวาสนาได้สามีที่ดี คู่ครองสามารถช่วยงานได้ทั้งในบ้านและงานนอกบ้านครับ

ถ้าหากว่าพื้นที่บริเวณหางตามีรอยยุบหรือเหี่ยวย่น ถ้าเป็นชายจะมีจิตใจไม่มั่นคง นิสัยโลเล ไม่รับผิดชอบในเรื่องความรัก มักสร้าง ความเสียใจให้กับคู่ครอง ส่วนหญิงมักผิดหวังจากความรัก

หากหางตายุบหรืออิ่มนูนออกมา จะมีปัญหาด้านกามารมณ์ ส่วนรอยแผลแตกหรือแผลเป็นบริเวณหางตา จะมีผลเสียหายกับชีวิตคู่ครอง อาจสร้างปัญหามาให้คุณอยู่ตลอดเวลา บริเวณหางตาที่มีไฝ ปาน ให้ระวังชีวิตคู่ต้องพบกับการหย่าร้าง หรือมีเรื่องกลัดกลุ้ม มีปากเสียงกับคู่อยู่เสมอ

26

สำ�หรับลักษณะดวงตาที่อ่านเกี่ยวกับความรัก ตาทีห่ วานซึง้ มีลกั ษณะคล้ายน้�ำ มาหล่อเลีย้ งตาดำ�มากและมีแสงระยิบระยับ ในตา บางครั้งเรียกว่า ตาเซ็กซี่ครับ หากเป็นชาย แม้จะมองดูมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลใฝ่ฝัน แต่เป็นคนที่ขาดความ หนักแน่น อารมณ์ไม่มั่นคง มักพบกับอุปสรรค หากเป็นหญิงทีม่ นี ยั ตาย์หวานซึง้ จะมีเสน่หต์ อ่ เพศตรงข้าม ไม่ขาดรัก แต่ชวี ติ สมรสไม่ราบรื่น ตาที่คล้ายคนเมาหรือง่วงนอน จะเป็นคนเจ้าชู้ ไม่สนใจความรู้สึกของคู่รัก รักง่ายหน่ายเร็ว ไม่มีความรับผิดชอบในเรื่องการครองเรือน มักเสียชื่อเสียง เกี่ยวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ

สำ�หรับประโยคทิ้งท้ายของบทความนี้ที่ขอฝากไว้คือ " โหงวเฮ้งไม่ดี แก้ไขได้ด้วยคุณธรรม " ครับ

27


จีนศักดิ์สิทธิ์ ไหว้แล้วรวย

จีนศักดิ์สิทธิ์ ไหว้แล้วรวย

ขุนด่านเจ้าพ่อเสือ

ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ แห่งย่านเพชรเกษม ขอได้ อธิษฐานก็สมหวัง หากจะกล่าวถึงศาลเจ้าพ่อเสือในกรุงเทพมหานครนั้น หลายๆท่านอาจจะนึกถึงศาลเจ้าพ่อเสือทีต่ งั้ อยูท่ ถี่ นนตะนาว ใกล้ๆกับเสา ชิงช้ากันเป็นส่วนใหญ่ แต่ทงั้ นีใ้ นกรุงเทพมหานครยังมีศาลเจ้าอีกแห่งทีม่ อี งค์เจ้าพ่อเสือเป็นประธานศาลเช่นเดียวกัน ศาลทีว่ า่ นัน้ คือ “ศาล ขุนด่านเจ้าพ่อเสือ” เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวเพชรเกษมมาตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ จนปัจจุบันมีผู้คนจากทั่วทั้งประเทศ ทั้งชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนหลั่งไหลเข้ามาทำ�บุญและกราบไหว้บูชากันตลอดทั้งปี ชาวบ้านละแวกนั้นได้ให้ฉายาท่านไว้ว่า “เทพเจ้าแห่งความเมตตา” เพราะเมื่อชาวบ้านเดือดร้อนตกทุกข์ได้ยากเมื่อไหร่ก็จะมากราบไหว้ขอพร ส่วน ใหญ่ก็มักได้รับการช่วยเหลือจากท่านทุกครั้งไป ในสมัยทีจ่ อมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงทีป่ ระเทศไทยได้มกี ารเปลีย่ นแปลงและพัฒนาในหลายๆด้าน มีการสร้างและ ตัดถนนหนทางต่างๆเพื่อการคมนาคมที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับถนนเพชรเกษมสายนี้ ซึ่งในสมัยก่อนศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือเป็นเพียงศาล เจ้าเล็กๆทีส่ ร้างอยูบ่ นกองดิน โดยด้านหลังมีตน้ พุทราอยูห่ นึง่ ต้น พอถึงเวลาทีม่ กี ารตัดถนนเส้นเพชรเกษม เจ้าหน้าทีท่ ที่ �ำ การตัดถนนเห็นว่าเป็นศาล เจ้าเพิงเล็กๆไม่มีอะไรพิเศษจึงได้ทำ�การตักดินขึ้นมาถมทับศาลเจ้าแห่งนี้จนหมด แต่เมื่อมีการสร้างถนนเส้นเพชรเกษมเสร็จเรียบร้อยแล้ว บริเวณที่ เคยเป็นที่ตั้งศาลเจ้าก็มักจะเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีผู้เสียชีวิตและล้มเจ็บกันเป็นจำ�นวนมาก จนกระทั่งคืนวันหนึ่ง คุณลุงประเสริฐ ธรรมมา ที่ เป็นผู้ก่อตั้งและดูแลศาลเจ้าแห่งนี้ได้หลับและฝันถึงชายคนหนึ่ง ดูน่าเกรงขาม สวมชุดเหมือนนักรบในสมัยโบราณ มาเข้าฝันของคุณลุงพร้อมกับเอ่ย ว่าจะมาอาศัยอยู่ด้วย “กูดูทุกคนในตำ�บลนี้ทั้งตำ�บล แล้วก็แลเห็นมึงคนเดียวเท่านั้นที่กูจะอยู่ด้วยได้ ถ้าอยู่ได้กูก็จะอยู่ แต่ถ้าไม่ให้อยู่ กูก็จะไปอยู่ที่ อื่น” คุณลุงประเสริฐจึงได้ถามถึงตำ�แหน่งที่ชายท่านนี้อยู่ ก็ได้รับคำ�ตอบว่าท่านอยู่ที่ใต้ต้นพุทรา ตำ�แหน่งที่มักจะเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ� จึงทำ�ให้ คุณลุงทราบได้ว่าท่านคือเจ้าพ่อที่สิงสถิตอยู่ที่พื้นที่นี้และอยากจะให้คุณลุงสร้างศาลเจ้าแห่งใหม่ให้ท่าน

28

จากนั้นคุณลุงประเสริฐจึงเริ่มหาไม้และอุปกรณ์มาสำ�หรับสร้างศาลเจ้าแห่งใหม่ พร้อมบอกกับเจ้าพ่อองค์นั้นว่า

“กระผมเป็นข้าที่ต่ำ�ต้อยมากนัก จึงสร้างถวายให้ท่านได้เพียงเท่านี้ ขอเชิญท่านมาประทับสิงสถิตย์อยู่เถิด”

นับจากนั้นมาจึงได้ถือกำ�เนิด ศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือแห่งนี้ขึ้นมา โดยมีองค์ประธานหลักของศาลทั้งหมด 2 องค์ องค์หนึ่งคือ องค์เจ้า พ่อตั่วเหล่าเอี๊ยะหรือเจ้าพ่อเสือ ในอดีตเป็นที่ร่ำ�ลือกันว่า มีผู้พบเห็นเสือโคร่งขนาดใหญ่หรืองูตัวใหญ่วนเวียนอยู่บริเวณนั้น จึงเป็นที่มาขององค์ ประธานในศาล ขณะเดียวกันก็เป็นองค์เทพเจ้าตามความเชือ่ ของคนไทยเชือ้ สายจีน ทีแ่ ต่งกายแบบนักรบจีนโบราณ มือขวาถือดาบ มือซ้ายยกมือ ประธานพร ด้านข้างขององค์เจ้าพ่อจะมีรูปปั้นเสือนั่งประทับอยู่ด้านข้าง ส่วนองค์ที่ 2 คือ องค์เจ้าพ่อขุนด่าน ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่าท่านเป็นเจ้าเมืองหน้าด่านในสมัยกรุงธนบุรี องค์ท่านแต่งกายโดยสวม ชุดนักรบไทยในสมัยโบราณ นั่งพนมมืออยู่ที่ส่วนกลางของศาลเจ้าแห่งนี้ ในอดีตพืน้ ทีส่ ว่ นใหญ่ของศาลเจ้าจะสร้างด้วยไม้ ทำ�ให้ตอ้ งมีการต่อเติมและปรับปรุงศาลเจ้าอยูบ่ อ่ ยครัง้ จนกระทัง่ คุณบรรหารและคุณ แจ่มใส ศิลปะอาชา มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินมาเพื่อบูรณะศาลเจ้าก้อนหนึ่ง ทำ�ให้ศาลเจ้ามีการก่อสร้างใหม่เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กและ ได้มีการพัฒนาเรื่อยมาจนถึงในปัจจุบัน ส่วนในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์คงไม่ต้องกล่าวอะไรมากมายถึงบารมีที่ท่านเมตตาให้ เพราะทุกวันนี้ที่ศาลเจ้าจะมีลูกศิษย์หรือผู้เคารพ นับถือเดินทางเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือกันอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน หลายท่านเดินทาง เข้ามาเพื่อทำ�บุญแก้ปีชง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เกิด วัน เดือน หรือเวลาเกิดวอก ในปี 2556 นี้ถือว่านักษัตรวอกเป็นอีกหนึ่งที่ชงกับมะเส็ง มีหลาย ตำ�ราหลายความเชื่อเล่าต่อๆกันมาว่า ลิงนั้นจะกลัวเสือ หากในช่วงใดที่นักษัตรวอกเป็นชงกับปีนั้นๆ หากคนที่เกิดนักษัตรวอกเดินทางเข้ามา กราบไหว้เจ้าพ่อเสือ แล้วขอให้เจ้าพ่อเสือช่วย ท่านจะเมตตาและดูแลคุม้ ครองเราในทุกๆเรือ่ งทีข่ อได้ตลอดทัง้ ปี ซึง่ หากใครทีม่ ากราบไหว้องค์เจ้า พ่อ แล้วนำ�ส้มมาถวายด้วยแล้วนั้น ควรนำ�ส้มที่ถวายกลับไปรับประทานที่บ้านหรือแจกจ่ายด้วย เพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะการไหว้เจ้าด้วย ส้มในทางจีนแปลว่า โชคดี นั้นเอง ส่วนใครที่ต้องการเดินทางมาเพื่อขอพรบนบาลศาลกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การงาน ครอบครัว ก็มักจะได้รับการช่วย เหลือให้สมความปรารถนาบ่อยๆครั้ง เรียกได้ว่าไม่ผิดหวังและศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

29


จีนศักดิ์สิทธิ์ ไหว้แล้วรวย ในการขอพรให้สมปรารถนา จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ดูแลศาลเจ้า ท่านให้เคล็ดลับว่า ควรถวายด้วยเนื้อหมูสด หัวหมู เป็ด ไก่ ไข่ และให้นำ�ชิ้นมัน หมู หรือหมูสามชั้น ไปถวายวางไว้ที่ปากของรูปปั้นเสือ ถือว่าการถวายของถูกโฉลก ซึ่งจะยิ่งได้รับโชคลาภทวีคูณ หรืออาจจะบนบานด้วยการถวาย การฉายหนังก็เป็นที่นิยมนัก เพราะทุกครั้งที่มีคนบนบานเรื่องต่างๆแล้วได้รับสิ่งนั้นๆจากองค์เจ้าพ่อ ก็มันจะเห็นการฉายหนังแก้บนในทุกครั้งไป แต่ใครที่ไม่สะดวกนำ�ของไหว้มาเองจากที่บ้าน ที่ศาลเจ้าก็มีบริการชุดธูป เทียน พวงมาลัยดอกไม้ จำ�หน่ายเพียงชุดละ 20 บาทเท่านั้น โดยธูปที่ได้ รับมาในชุดจะมีทั้งหมด 37 ดอก โดยลำ�ดับการไหว้ให้ไหว้จากภายนอกศาลเข้าไปด้านใน แบ่งเป็นจุดต่างๆได้ดังนี้ ไหว้ฟ้าดิน ไหว้องค์ประธานศาล ไหว้บริวาร ไหว้เทพองค์อื่นๆ ไหว้ตี่จู้เอี๊ยะ

3 3 3 3 5

ดอก ดอกต่อองค์ ดอกต่อกระถาง ดอกต่อองค์ (ซึ่งมีหลายองค์) ดอก

หากท่านใดสนใจเดินทางมาสักการบูชา ศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ หากเดินทางมาจากฝั่งบางแคศาลเจ้าจะอยู่ทาง ซ้ายมือ จากปิ่นเกล้าจะอยู่ทางขวามือ ศาลจะตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ระหว่างซอยเพชรเกษม 46 และเพชรเกษม 46/1 โดยสามารถเดิน ทางมาสักการะได้ตั้งแต่ 06.00-19.30 น. ของทุกวัน ในฉบับหน้าเราจะพาทุกท่านไปไหว้แล้วรวยที่ไหนกันต่อต้องรอติดตาม ฉบับนี้ลาไป ก่อน ขอให้ทุกท่านมีเงินทอง ร่ำ�รวยล้นฟ้า สวัสดีค่ะ

เลขเด็ดเสี่ยงโชคกับ อ.เฉิน เดือน ตุลาคม 16 ตุลาคม 2556 คู่เด่น 10 19 09 45 29 13 03

คู่สวย

34 42 14 04 35 49 15

คู่ดัง

05 32 52 12 02 39 59

ชุดเลขสามตัว

067 387 864 675 872 869 167 087 386 674 875 862

1 พฤศจิกายน 2556 คู่เด่น

56 50 60 28 90 54 64

คู่สวย

42 29 52 62 48 20 58

คู่ดัง

68 49 89 59 69 40 80

ชุดเลขสามตัว

613 437 127 813 397 017 351 637 417 132 837 197

30

31


แนะนำ�หนังสือและ App จีน

ถาม-ตอบ

Application น่าใช้สำ�หรับคนรักเทคโนโลยี

กับท่านนักพรต อยากจะเรียนถามท่านนักพรตว่าภาพทัง้ 2 ภาพนี้ เป็น พิธีกรรมเกี่ยวกับอะไร แล้วทำ�ไปเพื่ออะไรนะครับ

Chinaskop หมวด : Life ราคา : ¥8.00 ขนาด : 16.5 MB ระบบปฏิบัติการ : IOS (5.0 ขึ้นไป) โดย : Toni Schwaiger

กิมซิน้ ทีบ่ า้ นตกแตกควรทำ�อย่างไรดีครับ ช่วยแนะนำ� หน่อยใจไม่ดีเลย :กิมซิ้นที่แตกนั้นตามคติจีนก็จะนำ�ไปไว้ในฮวงซุ้ยหรือป่าช้า หรือฝากศาลเจ้าไว้ หรือเผาทำ�ลาย ไม่ควรจะเก็บเอาไว้ในบ้าน

ในภาพแรกนั้นทำ�พิธีเมื่อตอนสารทจีน เป็นพิธีการเลี้ยงผี ใน ภาพนั้นคงจะเป็นการป้อนข้าวให้กับบุตรสาวที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ส่วน อีกภาพก็เป็นภาพโต๊ะไหว้ในวันสารทจีนเช่นกัน เพราะในวันนัน้ จะเป็น วันทีป่ ล่อยให้ผมี ารับส่วนบุญหรือมารับของไหว้ได้ จึงมีการตัง้ โต๊ะบูชา เทพจากนรก ในภาพเป็นอสูรในนรกหรือยมทูตที่กำ�ลังแบกโลงศพ เพราะเชื่อว่าเป็นผู้นำ�วิญญาณคนตายไปสู่ยมโลก บางคนก็ทำ�การ สะเดาะเคราะห์ไปด้วย โดยการเขียนชือ่ นามสกุล ดวงชะตาใส่กระดาษ แล้วม้วนลงใส่โลงด้วยความเชือ่ ทีว่ า่ เมือ่ ยมทูตกลับนรกจะได้รายงาย ว่าคนผู้นี้ได้ตายไปแล้ว เคราะห์กรรมจะได้ไม่มาตามสนอง คล้ายๆ การทำ�แซกีนั่นเอง

เทวรูปเทพเจ้าจีนต่างๆที่นำ�มาบูชา ยิ่งเก่ายิ่งขลังยิ่ง ศักดิ์สิทธิ์จริงไหมครับบ้างก็ว่ายิ่งเก่ายิ่งสะสมบารมีจาก รุน่ สูร่ นุ่ ทีถ่ ามเพราะว่าไปเช่าบูชาเทวรูปจากร้านขายของ เก่า บางชิ้นบอก 50 ปี บางชิ้นบอก 80 ปีก็มี ราคาก็ค่อน ข้ า งแพง แต่ ดู น่ า ศํ ก ดิ์ สิ ท ธิ์ จ ริ ง ๆ เลยถามเพื่ อ ความ กระจ่างนะครับ เทวรูปทีว่ า่ ยิง่ เก่ายิง่ ศักดิส์ ทิ ธิน์ นั้ คือต้องผ่านการกราบไหว้บชู า เสมือนว่าผ่านควันธูปผ่านการสวดมนต์มานับครั้งไม่ถ้วน ก็จะบังเกิด ความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น แต่ถ้าเป็นเทวรูปเก่าที่เก็บไ้​้ว้นานไม่ได้กราบไหว้ บูชา ถึงจะเก่าแต่ก็ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เท่าเทวรูปที่ผ่านการกราบไหว้ บูชา แต่ทั้งนี้ก็ต้องผ่านการไคกวงเบิกเนตรให้ถูกต้องเสียก่อน ไม่เช่น นั้นวิญญาณร้ายจะแอบเข้ามาสิงสู่ในเทวรูปได้

เห็นว่าจะเข้าเทศกาลกินเจ และชอบถกเถียงกับเพื่อน เสมอๆเกีย่ วกับบาปบุญว่า มีค�ำ ถามคะว่า ระหว่างคนฆ่า สัตว์ (เพื่อปากท้องและอาชีพ) , คนเอาเนื้อสัตว์มาปรุง ทำ�อาหาร กับคนกินเนื้อสัตว์ คนไหนบาปมากกว่ากันค่ะ ขออนุญาตให้ความเห็นส่วนตัวว่า คนที่ฆ่าสัตว์จะบาปมาก ทีส่ ดุ เพราะเป็นการปลิดชีพเพือ่ นร่วมโลกโดยตรง ส่วนทีเ่ อาเนือ้ สัตว์ มาปรุงอาหารและคนที่กินเนื้อสัตว์นั้นบาปรองลงมา เพราะเป็นเหตุ ให้สัตว์ต้องถูกฆ่า(เพราะกินกันมาก คนขายจึงต้องฆ่ามาเพื่อขาย) จริงๆแล้วนั้นเทศกาลกินเจจะมีอานิสงส์เรื่องบุญสูงมาก เพราะใน เมืองจีนในอดีตนัน้ แต่ละบ้านแต่ละครัวเรือนจะมีการเลีย้ งสัตว์ไว้เพือ่ ฆ่ากินเอง ดังนั้นเมื่อทุกบ้านร่วมใจกินเจ งดเนื้อสัตว์ บรรดาสัตว์ทั้ง หลายก็ไม่ถูกฆ่า รวททั้งสัตว์ในป่าก็ไม่ถูกล่าด้วยเช่นกัน

ในประเทศจีนท่านพอจะแนะนำ� ศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางด้านโชคลาภเงินทองไหมค่ะ ว่าจะพาพนักงานไป กราบขอพรปลายปี ศาลเจ้าโชคลาภเงินทองทีจ่ นี ไม่มที โี่ ด่งดังเท่าไหร่ ทีจ่ ะมีคนไทย มามากก็จะเป็นทีเ่ กาะปูถ่ วั ซาน ต้นกำ�เนิดพระโพธิสตั ว์กวนอิม ถ้าจะ ขอพรปลายปีต้องที่ฮ่องกง วัดหวังต้าเซียน เพราะจะเป็นสถานที่ขอ พรได้ทุกด้านไม่ว่าจะเป็นความสุข การงาน เงินทอง โชคลาภ ความ รัก และการศึกษา หากท่านผู้อ่านมีข้อสงสัยเรื่องศาสตร์จีน วัฒนธรรม และประเพณีจีนทุกประเภท โปรดส่งคำ�ถามมาที่ duangchinahd@gmail.com

อบอ่าน

หนังสือน่าสนใจสำ�หรับคนช

ประวัติศาสตร์จีน ฉบับ การ์ตูน 10 ยุคเสื่อมของฮั่น ตะวันออก (ฉบับการ์ตูน) สำ�นักพิมพ์ : สำ�นักพิมพ์สุขภาพใจ ผู้แต่ง : จางอู่ซุ่น ราคา : 189 บาท เมือ่ วีรบุรษุ ก่อตัง้ ราชวงศ์ฮนั่ ใหม่ ขุ น นางใหญ่ กุ ม อำ � นาจเหนื อ โอรสสวรรค์ ขันทีชว่ ยฮ่องเต้ทวง บัลลังก์ แต่กลับกลายเป็นภัยเสีย เอง ไพร่ฟ้าเดือดร้อนจนสุดทน ลุ ก ฮื อ ต่ อ ต้ า นเมื่ อ ต้ อ งเผชิ ญ ความระส่ำ � ระสาย ครั้ ง แล้ ว ครั้งเล่า สุดท้ายฤาราชวงศ์ฮั่นจะ ถึ ง ค ร า ว ล่ ม ส ล า ย นี่ คื อ ประวั ติ ศ าสตร์ ห น้ า สำ � คั ญ ของ ปฐมบทเเห่งสามก๊ก ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.booktime.co.th/

32

App ดูดวงทางโหราศาสตร์จีนด้วยวิธีง่ายๆ เพียงกรอกวันเดือนปีเกิดลง ไป ระบบจะทำ�การวิเคราะห์ขอ้ มูลออกมาเป็นผลลัพธ์เกีย่ วกับตัวเราในด้าน ลัคนาราศี ลัคนาดวงจันทร์ อิทธิพลหยินหยาง รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ ธาตุทงั้ ห้าและนักษัตรทัง้ สิบสองราศีทมี่ าจากพืน้ ฐานวันเดือนปีเกิดของเรา วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนในด้านความสัมพันธ์ การงาน และสุขภาพ

สามก๊ก ฉบับอ่านแล้วรวย สำ�นักพิมพ์ : โพสต์บุ๊กส์ ผู้แต่ง : อึ้งมงคล ราคา : 145 บาท

รวมรวมแง่คิด คำ�คมจากตอน สำ�คัญๆ ในเรื่องสามก๊ก ด้วย การใช้ภาษาทีเ่ รียบง่าย เล่าเรือ่ ง ราวให้ เข้ า ใจได้ อ ย่ า งกระชั บ สนุกสนาน และชัดเจน พร้อม ด้ ว ย เ ค ล็ ด ลั บ แ ล ะ ข้ อ คิ ด มากมายที่สามารถเลือกนำ�ไป ปรั บ ใช้ เ ป็ น แนวทางในการ ทำ�งานและการดำ�เนินชีวิต ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.naiin.com/

ต้นกำ�เนิด 100 สิ่งแรกของโลก The GENIUS OF CHINA สำ�นักพิมพ์ : สำ�นักพิมพ์มติชน ผู้แต่ง : โรเบิร์ต เทมเพิล ชื่อผู้แปล : ดร.พงศาล มีคุณสมบัติ ราคา : 450 บาท

ตะลุยหลังคาโลกที่เมืองจีน สำ�นักพิมพ์ : นิตยสารแพรว ผู้แต่ง : ส.สุวรรณ ราคา : 221 บาท

หนังสือทีน่ �ำ เสนอความสำ�เร็จสุด พิศวงและผลงานระดับอัจฉริย ภาพของชาวจี น ในยุ ค โบราณ จากการรวบรวมของ ดร.โจเซฟ นีดแฮม นักวิชาการชั้นนำ�ของ โลก ชาวจีนโบราณถือเป็นผู้นำ� ทางด้ า นการค้ น พบและสิ่ ง ประดิษฐ์ที่ไม่มีใครสามารถหัก ล้างได้มากกว่า 3,000 ปี

ผลงานของหนุม่ ป๊อป-ศักยวัชร์ วงศ์รตั นกมล ชายหนุม่ ผูห้ ลงรัก การแบกเป้เดินทาง เส้นทางที่ เขาไปในครั้ ง นี้ ยั ง คงบอกเล่ า ด้วยความสนุก (บวกขี้เหนียว เหมือนเดิม) เป็นรสชาติของ ชี วิ ต ที่ เขาชื่ น ชอบ พร้ อ มกั บ แผนที่เส้นทางที่เขาได้เดินทาง ไป แฟนประจำ�ของเขาคงไม่ พลาดที่จะติดตามเล่มนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.matichonbook.com

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.booksmile.co.th/

33


อุปรากรงิ้ว โดย ดนุพล ศิริตรานนท์

“ ไขปริศนา ตอบปัญหาดวง ” โดย อาจารย์อู๋ สมการ หมากรุกจีน มาตามคำ�เรียกร้องอีกครั้ง สำ�หรับมิตรรักนักอ่านของนิตยสารดวงจีน กับคอลัมน์ “ ไขปริศนา ตอบปัญหาดวง ” ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็น อย่างดี เรียกว่า Rating พุ่งกระฉูด เพราะทำ�ให้แฟนๆหนังสือได้เข้าถึงและสัมผัสอย่างใกล้ชิดและสามารถติดตาม สาระประโยชน์ที่สามารถ นำ�ไปใช้หลังจากที่ได้คำ�ปรึกษาสอบถามดวงชะตาเพื่อเป็นแนวทางและทิศทางชีวิต ในการวางแผนอนาคตต่อไป ลองมาดูคำ�ถามที่แฟนๆ นิตยสารดวงจีนส่งเข้ามาปรึกษากันในคราวนี้ คุณ มัติ(ชาย) เกิด16 ก.พ. 2533 เวลา 12.45 น. ; อยากรู้เรื่องการงาน : ผม “อาจารย์ อู๋” สมการ ได้ผูกดวงตามหลักโหราศาสตร์สายหมากรุกจีน สูตรคูณดูดวง พบว่า พื้นฐานดวงชะตาเป็นคน ธาตุน้ำ� เกิดฤดูใบไม้ผลิ ปีมะเมีย และมีตำ�แหน่ง เทวดาประจำ�ตัวเป็นทอง ถือได้วา่ เป็นเด็กรุน่ ใหม่ ไฟแรง น่าจะจบเพิ่งการศึกษาได้ไม่นาน รู้จักคิด วางแผน+มุ่งมั่น+ทุ่มเทใช้ได้ แต่เรื่องงานกำ�ลัง ชั่งใจว่า จะจับงานแบบไหน? ระหว่างงานที่จบ ตรงกับสายการเรียนหรือจะเลือกงานอย่างอื่นที่ ชอบแต่อาจไม่ตรงกับสายการเรียน งานนีค้ งต้อง อดทนทำ�ไปก่อนในลักษณะเดิมๆ อย่าเพิง่ เปลีย่ น งานอย่างน้อยหลังวันเกิดปีหน้าถึงจะดี แต่เผือ่ ใจ ไว้บ้างว่าดวงจะทำ�งานกินเงินเดือนไม่ค่อยทน เพราะความคิด+ความอ่านจะไม่คอ่ ยเข้าพวกกับ คนอื่นและสังคม อนาคตมีโอกาสทำ�งานอิสระ เป็นของตนเอง เป็นนายตัวเองจะดีกว่า และอย่า คิดร่วมหุ้นกับใครเด็ดขาดเพราะจะไปไม่รอด ที่ สำ�คัญอย่าคิดเยอะ+คิดมากเกินไปไม่ดี อาจรู้สึก ว่าไม่ค่อยมีใครเข้าใจ ควรหันมาดูแลตนเองให้ มากขึ้นจะดีกว่า คุณ ปาล์ม(หญิง) เกิด 7 พ.ย. 2530 เวลา 23.00 น. ; อยากถามเรื่องเงินและโชคลาภ : ผม “อาจารย์ อู๋ ” สมการ ได้ ผู ก ดวงตามหลั ก โหราศาสตร์สายหมากรุกจีน สูตรคูณดูดวง พบ ว่า พื้นฐานดวงชะตาเป็นคนธาตุทอง เกิดฤดู หนาว ปีเถาะ และมีเทวดาประจำ�ตัวเป็นไฟ จัด ได้ว่าเป็นดวงเก่ง+ฉลาดและนักแก้ปัญหาใช้ได้ แต่ระวังการเชือ่ มัน่ เป็นสิง่ ทีด่ ี แต่ถา้ ดือ้ และคิดเอง เออเองอาจเสียการใหญ่ ส่วนเรื่องเงินทอง+โชค

ลาภปีนี้ จะมีเข้ามาตั้งแต่ ต.ค.-พ.ย.นี้อีก และ ก่อนหน้านี้ก็มีเข้ามาแล้ว และจะมีเข้ามาอีกแต่ อย่าเสีย่ งโชคเยอะหรือทุม่ มากเกินไปเดีย๋ วจะผิด หวัง สิ่งที่ควรระมัดระวังและไม่ประมาทคือเรื่อง หนี้สินอย่าคิดเสี่ยงโชคเพื่อใช้หนี้จะไม่สมหวัง และอย่าใจอ่อนช่วยเหลือใครง่ายๆ ดี มิเช่นนั้น จะเดื อ ดร้ อ นเสี ย เอง ที่ สำ � คั ญ จะมี ทุ ก ขลาภ ประเภทที่ว่าได้เงินจาการเสี่ยงโชคหรือมีผู้หลัก ผู้ใหญ่เมตตาอุปถัมภ์ช่วยเหลือหยิบยื่นให้ แต่ก็ จะมาถูกเบียดเบียนจากเพื่อนฝูง+ญาติพี่น้อง หรื อ มี เรื่ อ งเสี ย ตั ง ค์ ช่ ว งปลายปี 2556 หรื อ ต้นปี 2557 คุณ เอ(ชาย) เกิด 5 มี.ค. 2523 เวลา 08.08 น. ; อยากถามเรือ่ งการงาน+การเงิน : ผม “อาจารย์ อู๋” สมการ ได้ผูกดวงตามหลักโหราศาสตร์สาย หมากรุกจีน สูตรคูณดูดวง พบว่า พื้นฐานดวง ชะตาเป็นคนธาตุไฟ ฤดูใบไม้ผลิ ปีวอก มีเทวดา ประจำ�ตัวเป็นดิน ดวงเก่ง+ฉลาด+นักวางแผน +นักบริหารเหมาะกับตัวคุณยิง่ นัก แต่ดวงต้องพึง่ ศั ก ยภาพ+ลำ � แข้ ง ตนเองสู ง ถึ ง แม้ จ ะมี บุ ญ เก่ า ก็ตาม อีกทั้งภาระเยอะ บางทีต้องลงมือทำ�เอง จึงจะสำ�เร็จ โชคด้านงานเงินจะมีเข้าตั้งแต่ ก.ย. นี้เป็นต้นไป Project บางอย่างที่เคยติดต่อลูกค้า +นายทุนจะได้รับการสนับสนุนและมีข่าวดี อาจ ต้องเหน็ดเหนื่อยทำ�งานอยู่ไม่ติดที่บ้างหรือต้อง วิ่งเต้นพบปะผู้คนออกงานสังคมบ้าง เพื่องาน และความสำ�เร็จในภายภาคหน้า แต่ระบบบริหาร +การจัดการด้านการเงินยังไม่สู้ดีนัก อย่าใช้ง่าย เกินตัวหรือตามใจตัวเองมากนัก ถึงแม้อยากจะ เพิ่มสภาพคล่องไปกู้หนี้ยืมสินก็จะผ่าน เพราะ

ดูดวงกับคอลัมน์ “ ไขปริศนา ตอบปัญหาดวง ” โดย อ.อู๋ สมการ โหราศาสตร์สายหมากรุกจีน สูตรคูณดูดวง เงื่อนไขและกติกา กรอกข้อมูลให้ละเอียดครบถ้วน แล้วส่งมาตามอีเมลล์นิตยสาร ดวงจีน duangchinahd@gmail.com ได้เลยค่ะ ชื่อจริง........................ชื่อเล่น.....................วันที่เกิด..............เดือนที่เกิด.................. ปีพ.ศ.เกิด......................เวลาที่เกิด.....................น. คำ�ถามที่อยากรู้คำ�ตอบมากที่สุด ๑ คำ�ถาม

34

ดวงชะตามีโอกาสเป็นหนีแ้ ต่ถา้ รูจ้ กั รัดกุมหามือดี มาช่วยคิดวางแผนก็จะฝ่าด่านไปได้แน่นอน คุณ แพร(หญิง) เกิด 9 พ.ย. 2532 เวลา 15.00 น. ; อยากถามเรือ่ งอาชีพการงาน : ผม “อาจารย์ อู๋” สมการ ได้ผูกดวงตามหลักโหราศาสตร์สาย หมากรุกจีน สูตรคูณดูดวง พบว่า พื้นฐานดวง ชะตาเป็นคนธาตุน้ำ� ฤดูหนาว ปีมะเส็ง มีเทวดา ประจำ�ตัวเป็นธาตุดิน ดวงลักษณะแบบนี้ คิด +อ่าน+พูดจาดี+มีหลักการ ชอบเรียนรู้+ชอบ ศึกษาใช้ได้ แต่ก็ยังวิตกกังวลว่าการงานจะมั่นคง หรือไม่? โอกาสที่จะได้ร่วมงานกับบริษัทใหญ่โต ในอนาคตมี หรื อ สามารถจะมี ธุ ร กิ จ เป็ น ของ ตนเองก็ได้ แต่ปีนี้ 2556 ภาวการณ์งานตึงเครียด บ้างเป็นพักๆ เป็นช่วงๆ อาจรูส้ กึ เบือ่ หน่าย จาก เพื่อนร่วมงานหรือคนรอบข้างบ้าง แต่ปีหน้า 2557 ก็จะดีขึ้น เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ยังให้โอกาส และอุ ป ถั ม ภ์ ไ ด้ อ ยู่ ต้ อ งระมั ด ระวั ง คำ � พู ด โดย เฉพาะการทำ�งานเป็นทีม จะโดนเพ่งเล็ง+กลั่น แกล้ง หรือพูดจาไม่เข้าหูกันบ้าง พยายามหลีก เลี่ยงหรือเน้นทำ�งานฉายเดี่ยวจะดีที่สุด คงต้อง ศึกษาเรียนรูง้ านทีท่ �ำ อยูไ่ ปก่อนอย่าด่วนตัดสินใจ เพราะต่อให้เปลี่ยนงานใหม่ก็ใช่ว่าจะดีในช่วงนี้ ถึงแม้การเป็นมนุษย์เงินเดือนลึกๆ อาจไม่ใช่ตัว ตนของคุณก็ตาม แต่จงฝึกฝนตนเองเพือ่ บ่มเพาะ ในการเตรียมตัวเป็นผูป้ ระกอบการเองในอนาคต มีเรื่องดีมาบอกต่อ........ดูดวงฟรีตลอดชีพ!!!

สำ�หรับเด็กน้อยทารก ไม่ว่าเพศหญิงหรือเพศ ชาย หากเกิดหรือคลอดในวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ช่วงเวลา 21.09 – 22.59 น. ( ยินดีดูดวงให้ FREE ตลอดชีวติ ของเด็กคนนี้ ) เนือ่ งจากในวิชาโหราศาสตร์สาย หมากรุกจีน สูตรคูณดูดวง ได้มีเคล็ดลับบันทึกไว้ว่า จะมี ฤกษ์ยามอันเป็นศิริมงคลยิ่งนักที่เรียกว่า “ ฤกษ์มหาลาภ สี่ชั้น สี่แถว ” ซึ่งในรอบ ๖๐ ปี จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ฉะนั้ น หากผู้ เ ป็ น พ่ อ +ผู้ เ ป็ น แม่ ค นใด ได้ คลอดบุตรในช่วงวัน-เวลาดังกล่าว สามารถส่งหลักฐาน สำ�เนาสูติบัตร แล้ว Scan ส่งมาตามอีเมล์นี้ {E-Mail : success1081009@hotmail.com} จะได้รบั การดูดวงให้ เด็กคนนั้นฟรี...ตลอดชีวิตของเขา

บทตั วตลก ในการแสดงความงาม ในความขัน 丑中见美

อุปรากรจีนหรืองิ้ว

เป็นสิ่งที่อยู่ในวัฒนธรรมจีนมาช้านาน เป็นการแสดงที่รวมศาสตร์ต่างๆไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การร้อง การเล่านิทาน การ ดนตรี กายกรรม งานฝีมือต่างๆบนชุดและหมวกงิ้ว ฯลฯ และเป็นการแสดงที่สั่งสมกัน มานานหลายพันปีจนเป็นขนบทีม่ แี บบแผนตายตัว ชาวจีนในอดีตไม่วา่ จะชนชัน้ ใดก็จะ ต้องดูงิ้ว เพราะนอกจากให้ความบันเทิงแล้ว ยังเป็นการถ่ายทอดคุณธรรมที่แฝงอยู่ใน เรื่องที่แสดงจากรุ่นสู่รุ่น แม้แต่ชาวจีนที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนก็สามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ชาติตนได้เพียงแค่ไปดูงิ้ว ในการแสดงงิ้วจะแบ่งตัวละครเป็น 4 ประเภทคือ ตัวพระ ตัวนาง ตัวหน้าลายและตัวตลก สำ�หรับบทความแรกนี้เราจะมาทำ�ความเข้าใจและรู้จัก ในความงามของบทตัวตลกกันก่อน 丑 chǒu โฉ่ว นอกจากจะแปลว่า น่าเกลียด อัปลักษณ์แล้ว ในการแสดง งิ้วยังหมายถึงบทตัวตลก หนึ่งในสี่บทบาทที่สำ�คัญต่อการแสดงงิ้วอีกด้วย งิ้ว ถือว่าเป็นบทที่มีความสำ�คัญมาก ถึงขนาดมีคำ�กล่าวว่า ขาดตัวตลกก็ ไม่ใช่งิ้ว เพราะบทตลกมีบทบาทที่จะทำ�ให้เนื้อเรื่องดำ�เนินไปได้โดยที่คนดูไม่เกิดความ เบื่อหน่ายและอ่อนล้าจากการฟังงิ้ว บทตลกยังช่วยดึงดูดความสนใจให้กับผู้ชมรุ่นใหม่ ที่อาจจะยังไม่สามารถดื่มด่ำ�กับลีลาการร้อง แต่สามารถเข้าใจเรื่องราวได้โดยผ่านการ แสดงของตัวตลก

ตัวตลกบทต่างๆในงิ้วปักกิ่ง นักแสดงบทตลกถือเป็นการแสดงทีม่ คี วามสามารถมากกว่าบทอืน่ ๆ ในสมัย ก่อนหัวหน้าคณะมักจะเป็นนักแสดงบทตลกเสียส่วนมาก เพราะบทตลกนอกจากจะต้อง แสดงตามบทบาทของตนแล้ว ในบางบทยังต้องมีการเลียนแบบท่าทางการร้องการแสดง ของบทอืน่ ทำ�ให้นกั แสดงบทนีส้ ามารถสอนนักแสดงรุน่ หลังได้ในเกือบทุกบทบาทไม่วา่ จะชายหรือหญิง เด็กหรือคนแก่ ก็แสดงได้ทั้งหมด

ถังหมิงหวงกับหยางกุ้ยเฟย ในสมัยราชวงศ์ถัง ฮ่องเต้ถังหมิงหวงทรงรักในดนตรีและศิลปะการแสดง ทรงจัดให้มกี ารฝึกซ้อมนักแสดงในสวนแพร์ อันเป็นต้นกำ�เนิดของงิว้ ในภายหลัง พระองค์ ทรงเชี่ยวชาญในการดนตรี นอกจากนี้ยังโปรดที่จะเข้าร่วมแสดงกับบรรดานักแสดงใน สวนแพร์ด้วย ว่ากันว่าโปรดแสดงในบทตัวตลก มีครั้งหนึ่งทรงต้องการหยอกล้อเอาใจ หยางกุ้ยเฟย แต่ด้วยความที่เป็นถึง พระเจ้าแผ่นดิน ครั้นจะลงไปทำ�ท่าเพี้ยนๆก็จะดูไม่ดี จึงนำ�หยกมาแขวนไว้ กลางหน้า จึงเป็นทีม่ าในภายหลังว่าบทตัวตลกทำ�ไมจึงต้องมีจดุ สีขาวบนใบหน้านัน่ เอง จุดขาวบนใบหน้ามีลวดลายทีต่ า่ งกันไป บ้างเป็นรูปวงกลม บ้างเป็นรูปก้อนทองจีน บ้าง เป็นรูปหนู บ้างเป็นรูปไก่ ขึ้นอยู่กับบทบาทในเรื่อง เช่น ตัวละครที่โลภมาก ชอบลักเงิน ทอง หรือเป็นคนขี้เหนียว ก็จะวาดจุดขาวให้เป็นรูปก้อนทองจีน ฯลฯ เพื่อเป็นนัยให้คน ดูรู้อุปนิสัยของตัวละครนั้นๆ

รายการก่อนบ่ายคลายเครียด นักแสดงตลกชายรับบทผู้หญิง บางท่านอาจสงสัยว่าทำ�ไมงิ้วต้องเอานักแสดงตลกชายมาเล่นบทผู้หญิง คำ�ถามนี้ตอบได้ไม่ยาก ลองนึกถึงละครหรือหนังหรือรายการตลกของไทย เราก็มักเอา นักแสดงตลกชายมาเล่นเป็นผูห้ ญิง ซึง่ แน่นอนว่าได้ความฮาดีกว่าการเอาผูห้ ญิงมาเล่น จริงๆเสียอีก โดยที่เราในฐานะคนดูก็จะไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจว่าตัวละครนี้เป็นผู้ชาย แสดง แต่เรากลับดูเขาที่บทบาทและความตลก ดังนั้นในความขันจึงมีความงามแฝงอยู่ ด้วย ความงามทีว่ า่ ไม่ใช่ความสวยงาม เพราะตัวตลกไม่จ�ำ เป็นต้องแต่งสวย แต่เป็นความ งามในแง่สุนทรียศาสตร์หรือความได้อรรถรสในการชมของเรานั่นเอง ผู้เขียน: ดนุพล ศิริตรานนท์ เพจเฟซบุ๊ก: รู้ภาษากับอุปรากรจีน

35


พิธีกรรมโบราณจากแดนตะวันออกไกล โดย นักพรตหมิง

พิธีกรรมโบราณจากแดนตะวันออกไกล โดย นักพรตหมิง

พิธีคุยกี

พิธีคุยกีเป็นพิธีหนึ่งที่ใช้สำ�หรับสื่อสารกับเทพเจ้าเบื้องบน หลายคนในเมืองไทยคงจะเคยได้เห็นหรือได้เข้าร่วมพิธีมาก่อนเช่นในพิธี ล้างป่าช้า พิธีคุยกีนี้นั้นจะเป็นการสื่อสารกับเทพผ่านไม้ง่ามที่เรียกว่า ไม้กี โดยมีมือทรงสองคนเป็นผู้ถือ โดยไม้กีสามารถเป็นมือแทนมือของ เทพเจ้าได้ ไม่วา่ จะเป็นการเขียนยันต์ของเทพเจ้า ตลอดทัง้ การชีต้ �ำ แหน่งหลุมศพในป่าช้า สำ�หรับจีนแผ่นดินใหญ่นนั้ คุยกีเป็นพิธที ใี่ ช้พดู คุยกับ เทพเจ้าเช่น การไถ่ถามเรื่องดวงชะตา ตลอดจนปรึกษาปัญหาชีวิต นับว่าเป็นอีกพิธีที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของลูกจีนไม่ว่าจะที่จีน แผ่นดินใหญ่หรือจีนบนแผ่นดินไทยพอสมควร

บทบาทที่สำ�คัญของการทรงกีที่เห็นได้เด่นชัดคือ การคุยกี ในพิธลี า้ งป่าช้า โดยจะมีการทรงกีหลายวันด้วยกัน ตัง้ แต่วนั ก่อนเปิด ป่าช้าเพือ่ รับฟังบัญชาเทพว่า จะต้องขุดศพจำ�นวนกีศ่ พ เป็นชายเท่า ไหร่ หญิงเท่าไหร่ รวมทั้งใช้การทรงกีในการหาแหล่งน้ำ�ทิพย์เพื่อนำ� มาใช้ในพิธลี า้ งป่าช้า และอีกขัน้ ตอนหนึง่ ทีเ่ ป็นทีร่ จู้ กั กันมากก็คอื การ ทีไ่ ม้กวี งิ่ ไปในป่าช้าเพือ่ ชีต้ �ำ แหน่งในการขุดศพเพือ่ ทำ�การส่งวิญญาณ การประกอบพิธีคุยกีที่จีนและที่ไทยนั้นต่างกันพอสมควร การทรงคุยกีที่จีนนั้นจะทรงกันในสำ�นักหรือในอารามในวิหารเทพ เท่านั้น จะไม่มีการออกนอกสถานที่ บางครั้งก็มีการทรงพร้อมๆกัน หลายคณะ จุดประสงค์ก็เพื่อสนทนากับเทพ เพื่อไต่ถามดวงชะตา หรือเพือ่ ขอคำ�ปรึกษาขอคำ�ชีแ้ นะต่างๆ โดยไม้กจี ะเขียนอักษรลงบน โต๊ะ หรือกระบะทรายเพือ่ เป็นการตอบคำ�ถาม หรือให้ค�ำ ชีแ้ นะ บ่อย ครัง้ ทีก่ ารทรงกีในเมืองไทยมีจดุ ประสงค์มากหลาย ซึง่ ก็ตามแต่ความ เชื่อของคนไทยในแต่ละท้องที่ เช่น การทรงกีเพื่อเจิมรถ การทรงกี เพื่อเบิกเนตรเทวรูปกิมซิ้น ตลอดจนการทรงกีเพื่อเจิมขึ้นบ้านใหม่ หรือเปิดกิจการเป็นต้น ซึ่งเทพที่เชิญมานั้นก็จะเป็นเทพที่เคารพกัน ในคนกลุ่ ม นั้ น หากจะแบ่ ง โดยหลั ก ๆที่ เ มื อ งไทยก็ จ ะมี เ ทพที่ ม า ประทับในการคุยกี 3 พระองค์ คือ องค์เซีย๊ ะโจ้ว เทพโป๊ยเซียน และ ท่านไต่ฮงกง ซึ่งเป็นเทพประธานและเป็นเทพที่เคารพสักการะของ สมาคมชาวจีนที่เมืองไทย และเป็นเทพองค์สำ�คัญของมูลนิธิกู้ภัย

ไม้กีนั้นเป็นสิ่งสำ�คัญที่สุดในการทำ�พิธี โดยจะต้องเลือกเฟ้นหาไม้ที่เหมาะสม คติเดิมนั้นคนจีนใช้กิ่งหลิว เพราะใบหลิวเป็นใบไม้ที่ อยูใ่ นแจกันของพระโพธิสตั ว์กวนอิม (ชาวจีนอพยพเชือ่ เรือ่ งทัง้ เต๋าและพุทธ บ่อยครัง้ ทีจ่ ะแยกเต๋ากับพุทธไม่ได้ขาด) และไม้หลิวยังเป็นไม้มงคล ป้องกันสิ่งชั่วร้ายอีกด้วย โดยจะต้องเลือกกิ่งใหญ่ชี้ขึ้นฟ้า อีกสองง่ามเล็กชี้ทางเหนือและตะวันออก เพราะถือว่าเป็นไม้ที่สวรรค์ประทานมา ให้ แต่ในเมืองไทยนั้นไม้หลิวหายาก จึงมีการอณุโลมใช้ไม้มงคลอื่นๆแทนได้เช่น ไม้มะขาม เป็นต้น เมื่อเลือกไม้ได้ตามต้องการแล้ว จะต้องมี พิธีพลีกรรมบวงสรวงฟ้าดินและเทพยดาก่อนการตัด ผู้รู้พิธีจะทำ�การเขียนโองการเพื่อขออนุญาตเบื้องบนที่จะทำ�การตัดไม้เพื่อนำ�ไปทำ�ไม้กี โดยจัดเครื่องเซ่นไหว้ตามสมควรที่โคนต้นไม้ เมื่อได้ฤกษ์และเวลาที่เป็นมงคลดีแล้วก็จะทำ�การตัดกิ่งไม้นั้นมาเหลาให้ได้ขนาดที่เหมาะสม โดย ใช้ไม้บรรทัดหรือตลับเมตรฮวงจุ้ยที่เรียกว่า หลูปัง วัดขนาดและตัดให้ได้เลขมงคล จากนั้นทำ�การลงอักขระยันต์องค์เทพเปิดไม้เพื่อให้เป็นไม้ กี ตากไม้ไว้ 9 วันจนไม้แห้ง เมื่อไม้แห้งแล้วพันด้วยด้ายแดงหรือเชือกแดงที่ฟั่นเป็นเกลียวรอบไม้กี เสมือนเป็นการสวมเกราะหรือแต่องค์ให้ กับไม้แทนองค์เทพที่จะเสด็จมา จากนั้นเสกด้วยคาถาประจำ�องค์เทพ เป็นอันเรียบร้อย

ทรงกีแบบจีนทรงท่านเดียว การคุยกีนั้นเหมือนการประทับทรงอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่การที่เทพเข้าร่าง มนุษย์ เพราะระหว่างการทรงนัน้ มือทรงทัง้ สองท่านยังมีสติดที กุ ประการ ไม่ได้ผดิ แปลกแผกไปจากเดิม ส่วนทีว่ า่ จะจริงลวงแท้เท็จหรือเป็นปาหีน่ นั้ ก็สุดแท้แต่ท่านผู้อ่านทั้งหลายจะพิจารณาด้วยตัวของท่านเอง ผู้เขียน เพียงแค่เป็นสื่อกลางในการนำ�เสนอข้อมูลความรู้ต่างๆเท่านั้น เห็นว่าที่ เมืองไทยมีการประกอบพิธีนี้มากจึงอยากให้รายละเอียดเล็กน้อยไว้เพื่อ เป็นที่ทราบจะได้ไม่หลงงมงายจนเกินควร การไหว้เทพตลอดจนการเซ่น สรวงนั้นนอกจากจะหวังรับพรอันประเสริฐจากเบื้องบนแล้วนั้นก็ควรที่ จะระลึกถึงบุญคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนการน้อมนำ�เอาโอวาทและ ธรรมะจากเทพจากพระมาปฏิบัติจึงจะเกิดความมงคลต่อชีวิตสูงสุด

ผู้ที่เป็นมือทรงถือไม้กีนั้นมีสองท่าน มือเอกเรียกว่า เจี่ยกี มือรองอีกท่านเรียก หู้กี ถือไม้ทรงด้วยมือท่านละข้าง (มือทรงกีที่จีนบาง คนก็ถอื เองทัง้ สองมือ) ในเมืองจีนไม้กจี ะเขียนบนโต๊ะแปดเหลีย่ มหรือกระบะทรายเพือ่ เวลาเขียนจะได้เห็นตัวอักษร แต่ของไทยนัน้ ไม้กจี ะเขียน ลงบนโต๊ะเปล่าๆ หรือเขียนลงบนกระด้ง เมื่อได้ฤกษ์เริ่มพิธีจะปักธูปบนไม้กี มือทรงทั้งสองทำ�สมาธินิ่งจับไม้กีไว้คนละข้าง ผู้อ่านมนต์เผา กระดาษทองวนรอบไม้กสี ามรอบ พร้อมทำ�พิธสี วดอัญเชิญเทพทีเ่ คารพนับถือเพือ่ เชิญท่านเข้าสูพ่ ธิ ี โดยจะสวดคาถาบทนัน้ จนจบ เมือ่ จบแล้ว ยังไม่มีการประทับก็จะสวดวนไปเรื่อยจนกว่าจะประทับ เมื่อเทพเสด็จมาแล้ว ไม้กีก็จะเริ่มแกว่งและวนไปบนโต๊ะนั้น ผู้ประกอบพิธีจะดึงธูป ออก มือทรงทั้งสองจะถืออาวุธประจำ�องค์เทพ(ด้วยมือที่เหลือ) เช่นธงคู่กระบี่ แส้คู่กับคทาหยู่อี้ หลังจากนั้นทุกคนพร้อมเตรียมอ่านอักษรที่ ไม้กีจะเขียน โดยมีคนอ่านกีบุ้งเป็นคนอ่าน และคนจดกีบุ้งเป็นคนบันทึกไว้ว่าเทพสื่ออะไร หรือมีบัญชาอะไรบ้าง สำ�หรับการเขียนยันต์นั้นจะ ผู้ประกอบพิธีจะนำ�พู่กันติดไว้ที่ปลายไม้กี เสมือนว่าไม้กีนั้นเป็นมือขององค์เทพและทรงเขียนฮู้ด้วยตัวท่านเอง การทรงกีแบบไทยใช้มือทรงสองท่าน

36

37


เทพจีน มหายาน โดย อ.สมบูรณ์ แก่นตะเคียน

เทพจีน มหายาน โดย อ.สมบูรณ์ แก่นตะเคียน กั บ พระอาจารย์ แ ละผนวชเป็ น พระสงฆ์ เ ป็ น พระโพธิธรรม ( พุทธิตักม้อ ) ท่านได้ศึกษาธรรม อย่างสูงและยังได้ศึกษาคัมภีร์ของทุกๆศาสนา ทรงศึกษาวรรณคดีและอักษรศาสตร์โบราณจน แตกฉาน ทรงเป็นนักปราชญ์ ท่านเคยนั่งเข้า ฌานต่อหน้าพระศพของพระบิดาท่านตลอดถึง ๗ วันขณะเมื่ออายุประมาณ ๓๖ ปี

พระตักม้อโจวซือ อิดจ้อโจวซือ หรือตามนามทีเ่ รียกขานท่านมี หลายชื่อ คือ ตัดม้อโจวซือ ตักม้อโจวซือ ตัก ม้อไท่ซือ พุทิตัดม้อ หรือ พระโพธิธรรม ตัว จ้อ พระสังฆปรินายกองค์ที่ ๑ พระสังฆราช โพธิธรรมมหาครูบา และได้รับพระราชทาน สมณศักดิ์ว่า “อี่กักไท่ซือ” พระโพธิธรรมเป็นชาวอินเดียเป็นพระ ราชโอรสองค์ทสี่ ามของพระมหากษัตริยอ์ นิ เดีย ( เฮียงจื่ออ๋อง – ฟ่านกั๋วหวาง ) ท่านประสูติเมื่อ พ.ศ. ๑๐๑๓ บางตำ�นานกล่าวว่าพระบิดาของ ท่านเป็นกษัตริย์แคว้นคันธารราษฎร์ อินเดีย ตอนเหนือ บางตำ�นานกล่าวว่าเป็นกษัตริย์ทาง อินเดียตอนใต้ ในช่วงสมัยนั้นพระมหากษัตริย์ อิ น เดี ย เป็ น ราชวงศ์ คุ ป ตะซึ่ ง ครองอิ น เดี ย ระ หว่างพ.ศ.๘๖๓ – ๑๐๙๓ ราชวงศ์นไี้ ด้สนับสนุน ทั้งพระพุทธศาสนาและศาสนาเชน ในช่ ว งที่ พ ระโพธิ ธ รรมประสู ติ มี กษัตริย์ที่น่าสนใจคือพระเจ้ากุมาราคุปต์ที่ ๒ ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๑๐๑๐ – ๑๐๒๐ และ พระเจ้ า พุ ท ธคุ ป ต์ ครองราชย์ ร ะหว่ า ง พ.ศ. ๑๐๒๐ – ๑๐๔๙ ทรงเป็นชนชาวอารยะผิว ขาว มิใช่ชาวทมิฬซึ่งมีผิวดำ�แถบอินเดียภาคใต้ เมื่อดูพระนามพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ แล้วน่าจะเป็นองค์หลังมากกว่า เมื่อพระโพธิ ธรรมพระชนมายุได้ ๗ ปี พระบิดาเสด็จขึน้ เสวย ราชสมบัติ ท่านคงได้ศกึ ษาทางพระพุทธศาสนา

38

หลั ง จากนั้ น ท่ า นได้ ศึ ก ษาพระพุ ท ธ ศาสนากับพระสังฆราชปรัชญาตาระเถระ พระ สังฆปรินายกองค์ที่ ๒๗ ของอินเดีย จนอายุได้ ๕๔ ปี จึงเดินทางไปเผยแผ่ธรรมยังประเทศจีน ตามคำ�แนะนำ�ของพระสังฆราช ท่านเดินทาง ถึงจีนเมื่อวันที่ ๒๑ ค่ำ� เดือน ๙ ที่ท่าเรือเมือง กว่างโจว มณฑลกว่างตง เมื่อ พ.ศ. ๑๐๗๐ โดย มีข้าหลวงเมืองกว่างโจว ชื่อ “เซียวงัง” เป็นผู้ ต้อนรับ พร้อมกับมีหนังสือแจ้งไปยังราชสำ�นัก ที่เมืองเจี้ยนคัง ( นานกิง ) เมืองหลวง ฮ่องเต้เห ลียงอู่จิ้นตี้ (เซียวหย่วน) แห่งราชวงศ์เหลียงซึ่ง ครองราชย์ระหว่างพ.ศ. ๑๐๔๕ – ๑๐๙๒ ทรง นั บ ถื อ พระพุ ท ธศาสนา ฝ่ า ยมหายาน ทรง เคร่ ง ครั ด และเลื่ อ มใสมาก โปรดฯให้ เ ผยแผ่ พระพุทธศาสนาไปทัว่ ประเทศพร้อมทัง้ สร้างวัด บวชพระสงฆ์เป็นอันมากเมือ่ ทรงทราบเรือ่ งพระ โพธิธรรมจึงให้เข้าเฝ้าที่เมืองเจี้ยนคัง เพื่อทรง สนทนาธรรม

ฮ่องเต้เหลียงอู่จิ้นตี้ตรัสถามว่า “ข้าแต่พระโพธิ ธรรม โยมได้กอ่ สร้างวัด อุโบสถ วิหาร สร้างพระ ไตรปิฎก อนุญาตให้คนบวช โปรยทาน ถวาย ภัตตาหารเจแด่พระภิกษุสงฆ์เป็นจำ�นวนมาก เช่นนี้แล้ว โยมจะได้รับกุศลอย่างไรเพียงไร”

พระโพธิธรรมทูลว่า “ขอถวายพระพร มหาบพิตร จะได้ไม่มากนัก แต่จะได้เพียงสวรรค์สมบัติ หรือ มนุ ษ ย์ ส มบั ติ เ ท่ า นั้ น จะให้ ถึ ง พระนิ พ พาน มหาบพิตรจะต้องปฏิบัติทางใจคือบำ�เพ็ญฌาน สมาบัติเท่านั้น” พระองค์ตรัสถามว่า “ข้าแต่พระผูเ้ ป็นเจ้า อริยสัจ คืออะไร” พระโพธิธรรมตอบว่า “มหาบพิตร ไม่มี” พระองค์ตรัสถามว่า “ต่อหน้าโยมนี้ คือใคร” พระโพธิธรรมตอบว่า “มหาราชะ ไม่รู้จัก” ฮ่องเต้เหลียงอูจ่ นิ้ ตีท้ รงไม่เข้าใจในข้อ ธรรมที่สนทนาจากคำ�ตอบของพระโพธิธรรม เท่าไรนัก ท่านโพธิธรรมจึงทูลลาแล้วเดินทางต่อ ไปยังเมืองลั่วหยาง ขณะที่ท่านเดินทางผ่าน ตำ�บลใดเด็กๆต่างกลัวเมื่อเห็นคนต่างถิ่นเป็น แขกมีหนวดเครารุงรัง ข้างพ่อแม่ต่างกลัวคิดว่า แขกคนนี้จะมาขโมยเด็ก เมื่อท่านเดินผ่านวัด แห่งหนึ่ง ทีเ่ มืองหนานชิง เห็นพระภิกษุเสิ่นกวง กำ�ลังเทศน์อยู่ พระโพธิธรรมถามว่า “ท่านกำ�ลังสอนเรือ่ งอะไร” พระเสิน่ กวง “ผมกำ�ลังสอนเรือ่ งพระไตรปิฎกอยู่ ครับ” พระโพธิธรรม “ทำ�ไมต้องสอนพระไตรปิฎกด้วย” พระเสิ่นกวง “ผมต้องการให้ชาวบ้านหลุดพ้น จากการเกิดและการตายครับ” พระโพธิธรรม “อ้าว ทำ�ไมทำ�อย่างนั้นละท่านก็ ตัวอักษรทีจ่ ารึกในพระไตรปิฎกเป็นสีด�ำ แล้วกระ ดาษที่ใช้เขียนก็สีขาวแล้วจะเอาไปสอนให้ชาว บ้านหลุดพ้นจากการเกิดการตายได้อย่างไรกัน” พระเสิ่นกวงหมดปัญญาตอบท่านโพธิธรรม แต่ ก็ เ ทศน์ ต่ อ ไปยั ง นึ ก ในใจว่ า พระภิ ก ษุ อินเดียเขี้ยวยาวสองซี่นี่มาว่าเราเทศน์ผิด เทศน์ถูกขอเทศน์จบก่อนเถอะจะถอนเขี้ยว ออกมาให้ลูกศิษย์เราดู

เ มื่ อ เ ท ศ น์ จ บ ล ง จ า ก ธ ร ร ม า ส น์ พระเสิน่ กวงจึงให้ศษิ ย์ยกน้�ำ ชาไปถวายพระโพธิ ธรรมเมื่อท่านฉันเสร็จจึงถอนเขี้ยวใส่ถ้วยชา บอกเด็กให้ยกไปให้พระเสิ่นกวงแล้วเดินออก จากวัดนั้นไป ข้างพระเสิ่นกวงเห็นเขี้ยวสองซี่ที่ ตนเพียงแต่นึกจะถอนเท่านั้นแต่พระอินเดียรูป นี้รู้ด้วยจิต มิใช่เป็นพระธรรมดาแน่ จึงรีบเดิน ตามท่านไปถึงท่าน้�ำ เห็นท่านถอนหญ้าต้นหนึง่ โยนลงไปในแม่น้ำ�แล้วท่านกระโดดลงไปยืนบน หญ้านั้น พระเสิน่ กวงร้องเรียกเพือ่ ขอโทษท่าน ได้แต่ยิ้มแถมกวักมือให้กระโดดลงไปด้วย พระ เสิ่นกวงว่ายน้ำ�ไม่เป็นได้แต่ตะโกนเรียก ยายแก่ ข้างฝั่งน้ำ�เห็นดังนั้นจึงถวายมัดต้นปอให้พระเสิ่ นกวงจึงโยนมัดปอลงไปพร้อมกับกระโดดลงไป ด้วยตามพระโพธิธรรม ทั้งสองเดินทางถึงภูเขา ซงซาน พักที่วัดเส้าหลิน เมืองเติงฟง พระเสิ่นก วงจึงปฏิบตั ติ นเป็นลูกศิษย์พระโพธิธรรมเพือ่ ขอ ศึกษาธรรมชั้นสูงจากท่านในช่วงฤดูหนาวหิมะ ปกคลุมไปทั่วท่ามกลางหิมะแต่พระโพธิธรรมก็ ยังนัง่ เข้าฌานอยู่ มีพระเสิน่ กวงยืนเฝ้าปรนนิบตั ิ อยู่ใกล้ๆ พระโพธิธรรมจึงถามว่า “เธอมายืนตากหิมะอยู่ นี่ ต้องการอะไรหรือ” พระเสิ่นกวง “ผมมาขอเรียนธรรมะจากท่าน อาจารย์ครับ” เห็นอาจารย์ไม่ตอบจึงถามต่อไป ว่า “หัวใจแห่งธรรมะของพระพุทธเจ้านัน้ เป็นสิง่ ที่พูดหรือแสดงออกมาให้เห็นได้ ฟังได้ หรือไม่ ครับ” พระโพธิธรรม “หัวใจแห่งธรรมะของพระพุทธเจ้า ทั้งหลายนั้นไม่ใช่ได้มาจากผู้อื่น และไม่ใช่จะ สอนให้แก่กันง่ายๆ เธอมีความศรัทธามากแค่ ไหน” พระเสิ่นกวงได้ยินดังนั้นจึงเข้าไปเอามีดออกมา ฟั น แขนซ้ า ยของตนขาดแล้ ว เอาไปมอบให้ อาจารย์เพือ่ แสดงให้เห็นว่าตนมีความศรัทธาใน ธรรมะมากแค่ไหน พระโพธิธรรม “เธออยากจะเรียนธรรมะอะไร” พระเสิ่ น กวง “จิ ต ของผมมั น ไม่ ส งบ ขอให้ อาจารย์ทำ�ให้มันสงบด้วยเถิด”

พระโพธิธรรม “เธอจงเอาจิตของเธอออกมาซิ ฉันจะทำ�จิตให้มันสงบเอง” พระเสิ่นกวง “ผมหาจิตไม่พบครับ” พระโพธิธรรม “ฉันได้ทำ�จิตของเธอสงบแล้ว” พระเสิ่นกวงได้ยินดังนั้นก็บรรลุธรรม ทันทีและได้ศึกษาธรรมต่างๆอีกมากเป็นเวลา หลายปี ข้างพระโพธิธรรมเห็นว่าการศึกษาคัมภีร์ อย่างเดียวยากทีจ่ ะสำ�เร็จมรรคผลได้แต่จะสำ�เร็จ ผลนั้นจะต้องเข้านิโรธสมาบัติเท่านั้น เมื่อคิดได้ ดังนี้ ท่านจึงเริม่ บำ�เพ็ญเพียรด้วยการนัง่ หันหน้า เข้ากำ�แพงศิลาถึง ๙ ปีจึงสำ�เร็จมรรคผล ต่ อ มาพระโพธิ ธ รรมเห็ น ว่ า พระ เสิ่ น กวงเป็ น ผู้ ที่ เ หมาะสมที่ จ ะเป็ น ผู้ นำ �จึ ง ได้ ถ่ายทอด บาตร จีวร สังฆาฏิ คำ�ภีร์หลายผูก ให้แก่พระเสิ่นกวง และเปลี่ยนชื่อจากพระเสิ่นก วงเป็น “พระเว่ยโห” หรือ “ฮุยค้อ” แล้วได้เดิน ทางไปเมืองอู่หมิงที่วัดซีเซียยี่ วันหนึง่ พระโพธิธรรมต้องการทดสอบ ความรู้ทางธรรมะจากศิษย์ทั้งหมด ท่านจึงได้ ประชุมแล้วตั้งคำ�ปริศนาธรรมให้ศิษย์ตอบ

วางแผนสังหารท่านด้วยยาพิษถึง ๖ ครั้ง พระ ทีว่ า่ คือ พระโพธิรกั ษ์กบั พระกวงตุงซึง่ มีต�ำ แหน่ง เป็นรองประธานคณะสงฆ์การวางยาพิษด้วยการ ใส่ลงไปในอาหารเจให้ทา่ นฉันท่านทราบและฉัน เข้าไปด้วยแต่ท่านมีวิธีการแก้ไขจนรอดชีวิต เมื่อถึงกาลเวลาที่จะดับขันธ์ท่านจึงประชุมศิษย์ แล้วนัง่ สมาธิเข้าฌานจนดับขันธ์ เป็นปีไท่ชงิ ที่ ๓ พ.ศ. ๑๐๙๒เมือ่ ความทรงทราบถึงฮ่องเต้เหลียง อู่จิ้นตี้ พระองค์จึงพระราชทานสมณศักดิ์ให้ว่า “อี่กักไท่ซือ” แล้วโปรดฯให้สร้างพระสถูปเจดีย์ บรรจุ พ ระศพพระโพธิ ธ รรมพร้ อ มกั บ จารึ ก สมณศักดิด์ งั กล่าวไว้ทหี่ น้าพระสถูปด้วย และยัง ได้พระราชทานนามพระสถูปองค์นวี้ า่ “พระสถูป โคงกวง” ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่เนินเขาฮิงยื่อซาน ท่านเสนาบดีซุงหยุงแห่งราชวงศ์เว่ยตะวันออก พ.ศ. ๑๐๗๗ – ๑๐๙๓ ได้เดินทางผ่านภูเขาจุง หนานที่เมืองซุนหลิง ท่านได้พบพระโพธิธรรม กลางทาง พระโพธิธรรมบอกว่า “ฮ่องเต้ของ ท่านจะเสด็จสวรรคตวันนี้ ขอให้ทา่ นรีบเดินทาง เข้าเมืองหลวงเถิด” ท่านซุงหยุงฉงนใจว่าพระรูป นีท้ ราบได้อย่างไร แล้วกลับถามพระว่า“พระคุณ เจ้าจะไปไหน”

พระโพธิธรรม “ธรรมะที่แท้จริงนั้นคืออะไร” พระเต้าอี้ตอบว่า “ไม่ยึดติดหนังสือไม่ทิ้งไปจาก ตัวหนังสืออยู่เหนือการยอมรับและเหนือการ ปฏิเสธครับ” พระโพธิธรรม “เอ้า ถูก เธอจงเอาหนังฉันไป” พระภิ ก ษุ ณี จุ ง ชื้ อ ตอบว่ า “เหมื อ นกั บ พระ อานนท์เห็นพุทธภูมิเพียงแวบเดียวแล้วไม่เคย เห็นอีกเลยค่ะ” ท่านอาจารย์ “เอ้า ถูก เธอจงเอาเนื้อฉันไป” ข้างพระฮุยค้อยืนสงบนิ่งไม่ปริปากตอบว่า กระไร ใช้ความนิ่งเป็นคำ�ตอบ ท่านอาจารย์ “ เอ้า ถูก เธอเอากระดูกฉันไป”

พระท่านตอบว่า“อาตมากำ�ลังเดินทางกลับไป ประเทศอินเดียที่มาจีนครั้งนี้ต้องการจะมอบ ของบางอย่างให้แก่คนสามคน”

พระโพธิธรรมมาประเทศจีนครั้งนั้นก็ เพื่อสลายร่างกายของท่านแจกไปทั้งสามคนจน หมดท่ า นจึ ง ไม่ มี อ ะไรอี ก แล้ ว อย่ า งไรก็ ต าม ธรรมะที่ท่านได้สนทนากับพระฮุยค้อมีหลาย เรื่องที่น่าสนใจ ในช่วงที่ท่านเป็นสังฆปรินายกองค์ที่ ๑ ของจี น นั้ น ย่ อ มมี พ ระบางรู ป อิ จ ฉาแล้ ว

หลังจากท่านมรณภาพแล้วพระฮุย ค้อดำ�เนินงานพระพุทธศาสนาตามทีพ ่ ระโพธิ ธรรมได้ทรงมอบหมาย และเป็นพระสังฆ ปรินายกองค์ที่ ๒

เมือ่ เสนาบดีซงุ หยุงเดินทางถึงเมืองหลวงปรากฏ ว่าฮ่องเต้เซียวจิ้นตี้ (หยวนซ่านเจี้ยน) เสด็จ สวรรคตจริงตามที่พระท่านบอกซึ่งเป็นปีอู่ติ้งที่ ๘ พ.ศ. ๑๐๙๓ เมือ่ ซุงหยุงถามถึงพระโพธิธรรม ว่าท่านพำ�นักอยู่ที่ใด ชาวเมืองตอบว่า ท่านได้ มรณภาพไปนานแล้วทุกคนก็เอะใจจึงเดินทางไป ยังสุสานของท่าน ปรากฏว่าหลุมพระศพว่าง เปล่า มีรองเท้าอยู่ข้างเดียวเท่านั้น

สมบูรณ์ แก่นตะเคียน

39


จีนสาระ โดย อ.สมบูรณ์ แก่นตะเคียน

ร า แ ก ี ต ณ ง ่ พ ง เ า ะ น ร

การแต่งงานเป็นประเพณีเกี่ยวกับชีวิต ที่บรรพชนได้กำ�หนดหลักเกณฑ์ไว้เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้ลูกหลานได้ปฏิบัติ สืบเนื่องกันมาเป็นพันปี แล้ว จนถึงยุคปัจจุบัน ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงพิธีกรรมไปบ้าง แต่ก็ยังรักษารากเหง้าเอาไว้ มิได้สูญสลายไปตามกาลเวลาและเศรษฐกิจ ตามคติความเชื่อของลัทธิขงจื่อกล่าวไว้ว่า การแต่งงานมีความสำ�คัญที่ปลูกฝังคุณธรรมทั้งสองครอบครัวและทางสังคมเข้าด้วยกัน จึงมีการหลีกเลี่ยงที่ จะแต่งงานกับคนในสกุลแซ่เดียวกัน หรือพี่น้องร่วมสายโลหิต หรือญาติพี่น้องกัน จึงเห็นได้ชัดว่าตามคติขงจื่อแล้ว จะไม่มีการแต่งงานกับครอบครัวแซ่ เดียวกันเป็นอันขาด ซึง่ หมายถึงการแต่งงานทีท่ งั้ สองครอบครัวต่างแซ่สกุลกัน เป็นการสืบแซ่สกุลทีต่ อ่ เนือ่ งกันมา เป็นการรักษาเชือ้ วงศ์ตระกูลหรือสาย เลือดของตนอย่างต่อเนือ่ ง จึงเป็นเหตุให้มคี วามต้องการบุตรชายมากกว่าบุตรหญิงในสกุลนัน้ แต่อย่างไรก็ตาม ถือได้วา่ ครอบครัวหนึง่ เป็นหน่วยเล็กสุด ของสังคม และเป็นครอบครัวที่ฝ่ายชายหรือสามีมีภรรยาได้เพียงคนเดียว การแต่งงานในสังคมประเทศจีน บางครัง้ เป็นนโยบายในการปกครองของรัฐด้วย เช่นการส่งองค์หญิงไปสมรสกับองค์ชายต่างเมืองทีเ่ ป็นเมือง ขึ้น อย่างในสมัยราชวงศ์ฮั่น พวกชาวนอกด่าน สู่ขอองค์หญิงในราชวงศ์ฮั่นไปอภิเษกด้วย เช่น มองโกล แมนจู เซวียงหนู หรือพวกเติร์ก เป็นต้น ในสังคมคนจีนโบราณ มีการกล่าวไว้เกีย่ วกับสิง่ สำ�คัญในชีวติ ลูกผูช้ ายว่ามีสามอย่างทีจ่ ะต้องทำ�ให้ได้ คือการสอบเป็นขุนนาง การแต่งงาน และ การมีบุตรชาย ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉินระหว่างก่อนค.ศ. ๒๒๑ ถึงก่อนค.ศ. ๒๐๖ จนถึงสมัยราชวงศ์ชิง ระหว่าง ค.ศ. ๑๖๔๔ ถึง ค.ศ. ๑๙๑๑ ในสมัยโบราณ แน่นอนว่าไม่มีการแต่งงานอย่างเป็นทางการ เมื่อบ้านเมืองมีการสู้รบกันในแต่ละรัฐ บางครั้งขุนพลเมื่อยกทัพผ่านดินแดนใดย่อมมีเพศ สัมพันธ์ชนเมืองนั้น จึงกล่าวกันว่า มารดาย่อมรู้ดีว่า บุตรของตนใครเป็นบิดา อย่างไรก็ตาม เมื่อนักปราชญ์ได้กำ�หนดกฎเกณฑ์ขึ้นเรียกว่า บิดา มารดา สามี ภรรยา บุตร ซึ่งได้กำ�หนดกฎเกณฑ์ชัดเจนขึ้นในสมัยขงจื่อ เพื่อสั่งสอนคนให้เข้าใจว่า บิดาหรือสามี มารดาหรือภรรยา พี่น้องร่วมสายโลหิต ความ สัมพันธ์ระหว่างครอบครัว พฤติกรรมในทางเพศ คืออะไร แต่มีตำ�นานอยู่เรื่องหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงานระหว่างพี่ชายกับน้องสาว คือ หนิ่วอวากับฟูซื่อที่แต่งงานกัน แต่ด้วยความอายจึงอพยพ กันไปอยู่ที่พืดเขาคุนลุ้น ส่วนนางหนิ่วอวาด้วยความอายจึงถือพัดปิดหน้า อันเป็นธรรมเนียมหญิงจีนมักใช้พัดปิดหน้า และอีกเรื่องหนึ่งคือในสมัย เลียดก๊ก มีท่านกงองค์หนึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องสาวของตน จนได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์

41


จีนสาระ โดย อ.สมบูรณ์ แก่นตะเคียน

การแต่งงานในชนเผ่าเดียวกัน หรือในกลุม่ ญาติ มิ ต รในระหว่ า งชนชั้ น เดี ย วกั น ในสั ง คม เช่ น ชนชั้นสูงพวกขุนนางย่อมแต่งงานในกลุ่มลูกหลาน ขุนนางด้วยกัน ชนชัน้ กลาง ก็จะแต่งงานในกลุม่ ชนชัน้ กลางด้วยกัน หรือชนชัน้ กรรมกร ย่อมแต่งงานในกลุม่ ดียวกัน แต่ทุกกลุ่มหลีกเลี่ยงที่จะแต่งงานกับพวกข้า ทาสหรือชนชาติเผ่าอื่น ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายของ บ้ า นเมื อ งที่ กำ � หนดไว้ ในสมั ย โบราณ ผู้ ห ญิ ง ไม่ สามารถจะเลือกคูค่ รองเองได้ บิดามารดาเป็นผูจ้ ดั การ หาคูค่ รองหรือสามีทเี่ หมาะสมให้ ทัง้ นีจ้ ะดูสถานะทาง สังคมของฝ่ายหญิง ว่าสมน้ำ�สมเนื้อกับครอบครัวตน หรือไม่ ถ้าหากเป็นครอบครัวทีม่ ฐี านะร่�ำ รวยหรือเป็น ครอบครัวขุนนางด้วยแล้ว ยิ่งดี เช่นเดียวกัน ถ้าฝ่าย ชายมีสกุล เป็นขุนนางหรือมีฐานะร่ำ�รวย บิดามารดา จะไม่ อ นุ ญ าตให้ ไ ปแต่ ง งานกั บ หญิ ง ที่ ค รอบครั ว ยากจนหรือมีฐานะด้อยกว่า การแต่งงาน อาจแต่ง ออกคือ ฝ่ายหญิงจะต้องไปอยู่บ้านฝ่ายชาย แต่บาง ครอบครัว ฝ่ายชายจะไปอยู่บ้านฝ่ายหญิง ทั้งนี้แล้ว แต่จะตกลงกัน หรือขึน้ อยูก่ บั ฐานะของแต่ละฝ่าย มัก มีให้เห็นทีฝ่ า่ ยชายจำ�ต้องแต่งงานไปอยูก่ บั ครอบครัว ฝ่ายหญิง จนถูกบิดาฝ่ายหญิงให้เปลี่ยนแซ่สกุลตาม ฝ่ายหญิง ด้วยฝ่ายหญิงมีทรัพย์สมบัติมากและไม่มี ญาติพี่น้องใกล้ชิด ฝ่ายชายจำ�ยอม อย่างไรก็ตาม การแต่งงานในประเทศจีน ได้เริม่ เป็นประเพณีกนั มาตัง้ แต่กอ่ นค.ศ. ๔๐๒ ถึงก่อน ค.ศ. ๒๒๑ มาแล้ว แต่ก็มีความแตกต่างกันไปตาม สภาพพื้นที่ของประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ก็ยัง ยึดถือเอา ข้อกำ�หนดตามมารยาท 三書六禮 เป็น หลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้

42

จีนสาระ โดย อ.สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ตามด้วยการยินดีต้อนรับเจ้าสาว ด้วยขบวนเจ้าสาว จะหยุดอยู่ที่ประตูบ้านเจ้าบ่าว เพื่อทำ�พิธีต้อนรับเจ้า สาวเข้าบ้านเจ้าบ่าว และมีความแตกต่างกันไปตาม ภูมิภาคท้องถิ่นคือ ● ในพิธก ี รรม ทัง้ คูจ่ ะไหว้ปา้ ยซินจูบ้ รรพบุรษุ ไหว้บดิ า มารดาของทั้ ง สองฝ่ า ย ไหว้ ผู้ อ าวุ โ สของทั้ ง สอง ครอบครัว แล้วคำ�นับกันระหว่างเจ้าสาวกับเจ้าบ่าว ● พิธีจัดงานเลี้ยงวันแต่งงาน หรือการดึ่มสุรามงคล ซึง่ บางครัง้ อาจยิง่ ใหญ่หรูหรากว่าการแต่งงานด้วยซ้�ำ ในพิธีทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะยกถาดน้ำ�ชาหรือสุราให้ บิดามารดาของทั้งสองฝ่าย ให้ญาติผู้ใหญ่ และแขก ผูใ้ หญ่ทรี่ บั เชิญ การออกค่าใช้จา่ ยในงานจัดเลีย้ งนีจ้ ะ เป็นของเจ้าบ่าวซึ่งจัดอาหารชั้นดีทั้งสิ้น และเป็น อาหารที่มีความหมายเกี่ยวกับการมงคลทั้งหมด แต่ บางงานจะมีการจัดเลี้ยงทั้งบ้านเจ้าสาวและบ้านเจ้า บ่ า ว หรื อ ตกลงกั น ว่ า จะจั ด บ้ า นใคร งานเลี้ ย งนี้ เป็นการเลี้ยงขอบคุณแขก การทำ�ความรู้จักกับญาติ ทั้งสองฝ่าย การแต่งงานตามลัทธิขงจื่อในปัจจุบัน มัก แขวนรูปขงจือ่ ขนาดใหญ่ไว้ในห้องพิธี ส่วนเจ้าบ่าวเจ้า สาวต่างแต่งชุดแบบจีน ในพิธีมีการคำ�นับสี่ครั้ง ครั้ง แรก คำ�นับฟ้าดิน ครั้งที่สองคำ�นับบรรพบุรุษ ครั้งที่ สามคำ�นับบิดามารดา ครั้งที่สี่คำ�นับซึ่งกันและกัน

ประการแรก คือการทาบทามสู่ขอ เมื่อบุตรชาย มีอายุพอสมควรทีจ่ ะมีเหย้าเรือนแล้ว บิดามารดาย่อม หาคู่ครองให้บุตรชาย เมื่อเห็นว่าบุตรสาวบ้านใดมี คุณสมบัตพิ ร้อมทีจ่ ะมาเป็นบุตรสะใภ้ จึงติดต่อแม่สอื่ พ่อสื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแม่สื่อหรืออึ่มหลาง ให้ไป ทาบทามสูข่ อ และเช่นเดียวกัน ฝ่ายบุตรชายบุตรสาว ของทั้งสองครอบครัวไม่ทราบเรื่องการทาบทามดัง กล่าว ก่อนพิธแี ต่งงาน ฝ่ายหญิงจะส่งสินสอดไป ยั ง บ้ า นฝ่ า ยชาย เพื่อแสดงถึงฐานะทางสังคมของเธอ ● ประการทีส ่ อง การดูวนั เดือนปีเกิด แม่สอื่ ก็จดั แจง เอาวันเดือนปีและเวลาตกฟากของฝ่ายชายและฝ่าย เช่น กรรไกรหนึง่ คูซ่ งึ่ มีความหมายถึงเราจะไม่แยกจาก หญิง ไปให้หมอดูท�ำ นายว่าทัง้ คูอ่ ยูด่ ว้ ยกันสมพงศ์กนั กัน ไม้บรรทัดแสดงถึงจำ�นวนไร่นาสาโท และแจกัน หรือไม่ ถ้าหากผลปรากฏว่าทั้งคู่เป็นคู่สร้างคู่สมกัน แสดงถึงความสงบสุขและความร่ำ�รวย จริง ก็จะไปถึงขั้นที่สามคือสินสอดทองหมั้น ก่อนที่ขบวนเจ้าบ่าวจะมาถึง แม่แก่จะผูก ● ประการที่สาม สินสอดทองหมั้น ข้างครอบครัว ผมเจ้าสาวด้วยด้ายแดง เมื่อขบวนมาถึง เจ้าสาวแต่ง ฝ่ายชายก็จะส่งสินสอดทองหมัน้ พร้อมหนังสือรับรอง ชุดแดง จะใช้ผ้าเช็ดหน้าสีแดงคลุมหน้า เธออาจจะ การหมั้นหมายไปให้บ้านฝ่ายหญิง ร้องไห้ทจี่ ะต้องจากบ้านพ่อแม่ไป ฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้อง ผ่านด่านประตูเงินประตูทอง แล้วเข้าสู่พิธีกรรม ● ประการที่สี่ ของขวัญแต่งงาน บ้านเจ้าบ่าวก็จะจัด ●

ของขวัญแต่งงาน ซึ่งมีขนมนมเนยไปยังบ้านเจ้าสาว

ช่วงกลางคืนในวันแต่งงาน ในบางท้องถิ่น จะมีญาติหรือเพื่อนเจ้าบ่าว ทำ�การหยอกล้อเจ้าสาว ● ประการที่ห้า การเตรียมงานแต่งงาน โดยทั้งสอง ฝ่ายหาฤกษ์ยามวันทีด่ เี พือ่ ให้ทงั้ คูไ่ ด้อยูก่ นั ยืนยาว จึง เจ้าบ่าว เพื่อให้ทั้งคู่หายเขินอาย ต้องดูและเลือกฤกษ์งามยามดีทสี่ ดุ เท่านัน้ ซึง่ บางครัง้ ในวันที่สาม หรือวันที่หก หรือวันที่เจ็ด หรือวันที่เก้า บางคู่หาฤกษ์งามยามดีในช่วงนั้นๆยาก หรือวันที่สิบ หรือครบหนึ่งเดือน หลังวันแต่งงาน เจ้า ● ประการทีห ่ ก พิธกี รรมในวันแต่งงาน ทีท่ งั้ สองฝ่าย สาวจะกลับไปเยี่ยมบิดามารดา และมีการเลี้ยงเหล่า รอก็มาถึง เป็นพิธกี รรมทีแ่ ตกต่างกันไปในรายละเอียด บรรดาญาติๆด้วย คือ ขบวนแห่เจ้าบ่าวเจ้าสาวระหว่างทั้งสองบ้าน จะ ประกอบด้วยเครื่องดนตรีแห่ เกี้ยวสำ�หรับให้เจ้าสาว นัง่ เกีย้ วสำ�หรับเพือ่ นเจ้าสาว สิง่ ของเครือ่ งใช้ของเจ้า เหล่านี้คือความเป็นมาสังเขปที่ได้ปฏิบัติกันมา สาวทีไ่ ม่ใช่เงินทอง ทัง้ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะแต่งชุดสี ในประเทศจีน จากอดีตจนถึงปัจจุบัน แดง อั น เป็ น ประเพณี ดั้ ง เดิ ม แต่ ภ ายหลั ง ได้ มี ก า เปลี่ยนแปลงสีไปตามท้องถิ่นและกาลเวลา

ประการที่สี่ การกำ�หนดวันแต่งงาน แน่นอนว่า เมื่อ มีการหมั้นหมายแล้ว ฝ่ายชายย่อมหาฤกษ์วันแต่งงาน ซึ่งโดยทั่วไปจะแต่งงานในเดือนหก เดือนแปด เดือน สิบสองไทย ในช่วงเดือนดังกล่าวจึงมีงานแต่งงานชุก เป็นพิเศษ ในวันดังกล่าวทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันว่า จะ แต่งออกหรือแต่งเข้า นัน่ ก็คอื ฝ่ายหญิงไปอยูบ่ า้ นฝ่าย ชาย ซึง่ เป็นธรรมเนียม บางครัง้ ฝ่ายชายต้องไปอยูบ่ า้ น ฝ่ายหญิง ด้วยเหตุผลของแต่ละฝ่าย

ดังว่า เขาให้อะไรเป็นของขวัญ แล้วเชิญญาติผู้ใหญ่คู่ ต่อๆไปตามรายการที่จดมาจนหมด การเชิญรับน้ำ�ชา นี้ จะไม่เชิญชายหญิงที่เป็นโสดถึงแม้จะมีอายุมาก ก็ตาม ยกเว้นเป็นหม้าย หลังจากนัน้ แห่ไปบ้านเจ้าบ่าว เชิญบิดามารดา และญาติข้างเจ้าบ่าวรับน้ำ�ชาและรับ ซองอั่งเปา จนหมดตามรายชื่อที่กำ�หนด แล้วเลี้ยง อาหารที่บ้านเจ้าบ่าว เสร็จแล้วอาจไปไหว้ศาลเจ้าจีน ประจำ�หมู่บ้านและศาลเจ้าปุดจ้อ เพื่อขอพร

ประการที่ห้า การเตรียมงานแต่งงาน เมื่อทั้งสอง ฝ่ายตกลงกันแล้วว่า ฝ่ายไหนจะไปอยูบ่ า้ นใคร บ้านนัน้ จะต้องเตรียมห้องเจ้าสาว มีเตียงตู้โต๊ะเครื่องแป้ง การ พิมพ์หรือเขียนบัตรเชิญ การเชิญแขก การบอกญาติ ผู้ใหญ่ที่จะรับไหว้กินน้ำ�ชา ฝ่ายชายจะบอกเพื่อนๆ หนุ่มที่สนิทให้มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เรียกว่า พวกเกี๋ย การเตรียมเกี้ยว รถลาก เกวียน หรือเตรียมยืมรถเก๋ง วันแห่ การเตรียมชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าวคนแต่งตัวเจ้าสาว การเตรียมป้ายตุ้ยเหลียนคำ�อวยพรติดประตูบ้าน ผ้า ฉายหน้าบ้าน ผ้าโต๊ะอุ๋ยคาดหน้าโต๊ะ เข้าของเครื่องใช้ ต่างๆพวกถ้วยโถโอชาม เก้าอีโ้ ต๊ะ การติดต่อแม่ครัวทำ� อาหารเลีย้ งแขก การทำ�ขนมสด ขนมหวาน ไม้ฟนื พืน้ ที่ เลี้ยงแขกบริเวณบ้าน เพิงพักสำ�หรับทำ�อาหาร เป็นต้น แล้วถึงขั้นตอนต่อไป

ถึงตอนค่ำ� มีการเลี้ยงขอบคุณเพื่อนเจ้าบ่าว และพิธี “หยอกเจ้าสาว” โดยเพือ่ นเจ้าบ่าว ด้วยการถามเจ้าสาว เพือ่ สร้างความคุน้ เคยให้ทงั้ คู่ แล้วส่งตัวเจ้าสาวเข้าห้อง หอ เป็นเสร็จงานแต่งงาน

คราวนี้ลองมาดูชาวจีนโพ้นทะเล หรือคนไทยเชื้อ สายจีนที่ภูเก็ตซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากมณฑล ฮกเกี้ยน ว่าพวกเขาทำ�กันอย่างไรบ้าง ซึ่งมีความ เหมือนและมีความต่างแน่นอน พอเป็นสังเขปเท่า ที่จำ�ได้ ดังนี้ ประการแรก เมื่อหญิงสาวเริ่มอายุประมาณ ๑๕ ปี ขึน้ ไปกำ�ลังแรกรุน่ และมีความสวยงามทัง้ มารยาทและ จิตใจ ย่อมมีบิดามารดาฝ่ายชายอยากได้เป็นสะใภ้ จึง ให้อมึ่ หลางแม่สอื่ ไปติดต่อทาบทาม ถ้าบิดามารดาฝ่าย หญิงเห็นว่า ครอบครัวฝ่ายชายและชายหนุม่ นัน้ ไม่เป็น ที่น่าสนใจ ก็จะปฏิเสธไปแบบนุ่มๆ หรือชายหนุ่มเห็น หญิงสาวและตนสนใจ อาจบอกบิดามารดาให้ไปสู่ขอ ก็ย่อมได้ การติดต่อทาบทามจากอึ่มหลางแม่สื่อ เมื่อ ทั้งสองฝ่ายตกลง ก็จะเริ่มในขั้นต่อไป แน่นอนว่าบิดา มารดาฝ่ายหญิงไม่อยากดองลูกสาวไว้ เพราะเมือ่ หญิง สาวอายุเลยยีส่ บิ ปีขนึ้ ไปแล้ว จะหาคนมาสูข่ อยาก บิดา มารดาก็ไม่สบายใจ บางครั้งกลายเป็นหนุ่มพ่อหม้าย มาสู่ขอ ก็ต้องจำ�ยอม ●

ประการที่สอง เมื่อตกลงกันแล้ว อึ่มหลางก็จะเอา วั น เดื อ นปี เ กิ ด ของทั้ ง สองฝ่ า ยไปให้ ห มอดู ด วงว่ า สมพงศ์กนั หรือไม่ เมือ่ ดวงไม่สมพงศ์กนั ก็เลิกรากันไป ● ประการที่หก วันสุกดิบ ก่อนถึงวันงานสองสามวัน แต่ถ้าดวงของทั้งคู่เหมาะสมกัน อยู่กันยืนยาว ก็จะเข้า มีการจัดตกแต่งบ้านด้วยกระดาษแดง ผ้าแดง ผ้าม่าน ประตู ห น้ า ต่ า งของทั้ ง สองบ้ า น ห้ อ งเจ้ า สาวดู ฤ กษ์ สู่ขั้นตอนต่อไป ประกอบเตียงเหล็กหรือไม้ จัดตูเ้ สือ้ ผ้าโชว์ทงั้ คู่ เป็นต้น ● ประการที่สาม การแลกแหวน หรือการหมั้น เมื่อถึง ขนมบางชิดทำ�ก่อนเช่น ขนมทองม้วนทองพับ ภูเก็ต ฤกษ์ยามงามดี โดยฝ่ายชายจะทำ�พิธีไหว้พระที่หิ้งพระ เรียก ขนมคีบ ขนมที่ใช้ในงานเลี้ยง ได้แก่ ขนมคีบ ทีบ่ า้ น มีขนมหวานต่างๆจัดเป็นคูๆ ่ กีช่ นิดก็แล้วแต่ แต่ กะละแมหรือกันแม ขนมชั้น ขนมใส่ไส้หรือขนมห่อ จะต้องเป็นจำ�นวนคู่ โดยมีน้ำ�ตาลกรวดเป็นหลัก เสร็จ แล้วจะนำ�แหวนหมั้นพร้อมขนมหวาน เช่น น้ำ�ตาล ● ประการที่เจ็ด วันแห่เจ้าสาวหรือวันแต่งงาน ตอน กรวดหรือเต่งถึง ขนมหยุ่นถึง ขนมตังโก้ยหรือจันอับ เช้า เจ้าบ่าวแห่ไปบ้านเจ้าสาว เจ้าบ่าวผ่านประตูเงิน ขนมก้านบัว ขนมเปี้ย โดยใส่เสี่ยหนาตะกร้า ไปบ้าน ประตูทอง เข้าบ้านเจ้าสาว ทั้งคู่ไหว้เทพประจำ�บ้าน ฝ่ายหญิง เพื่อไหว้หน้าพระบนหิ้งพระประจำ�บ้านฝ่าย เชิญบิดามารดาฝ่ายหญิงออกมานั่ง หน้าโต๊ะ เจ้าบ่าว หญิง เสร็จแล้วเอาขนมดังกล่าวใส่จาน พร้อมแผ่น เจ้าสาวถือถาดน้�ำ ชาด้วยกัน มีสองถ้วย เชิญบิดามารดา กระดาษแดงปิ ด ขนมใส่ เ สี่ ย หนาไปแจกญาติ เพื่ อ เจ้าสาวรับน้�ำ ชา ฝ่ายบิดามารดารับน้�ำ ชามาดึม่ พร้อม ทั้งยื่นอั่งเปาใส่ถาดน้ำ�ชา อาจเป็นเงินหรือเพชรนิล ประกาศให้ญาติทราบว่า จะมีงานมงคลในไม่ช้านี้ จินดาทองคำ� พวกเพือ่ นเจ้าบ่าวเปิดออก ประกาศเสียง ●

ประการที่แปด ภายหลังจากการแต่งงานครบ หก วันหรือหนึง่ เดือน เจ้าสาวกลับไปเยีย่ มบิดามารดาและ ญาติพี่น้อง ●

อย่างไรก็ตาม ทั้งที่ประเทศจีนและคนไทย เชื้อสายจีน ถ้าขณะที่หมั้นอยู่นั้นและได้กำ�หนดวัน แต่งงานเรียบร้อยแล้ว เกิดบิดามารดาของฝ่ายใด ถึงแก่ กรรมและต้องไว้ทุกข์ ทั้งบ้านจะออกทุกข์เจ็ดวัน แล้ว แต่งงานวันที่กำ�หนด หลังจากนั้นกลับมาไว้ทุกข์ตาม เดิม แต่บางครอบครัวรอให้ออกทุกข์ก่อนจึงแต่งงาน เมื่อวันเวลาเปลี่ยน พิธีกรรมต่างๆก็ต้อง เปลี่ ย นไปตามสภาพแวดล้ อ มและเศรษฐกิ จ การ แต่งงานจึงไม่ยุ่งยากวุ่นวายเหมือนสมัยก่อน โดยใช้ สถานทีโ่ รงแรมจัดพิธที กุ ขัน้ ตอน แบบม้วนเดียวจบ เจ้า บ่าวเพียงเตรียมเงินไว้ให้พอค่าใช้จ่ายเท่านั้น ประเพณีการแต่งงาน ซึ่งเป็นประเพณี เกีย่ วกับชีวติ ของทุกคน ทีไ่ ด้ยดึ ถือกันมาแต่โบราณ จึงควรทีจ่ ะช่วยกันรักษาเอาไว้ เพือ่ ให้ชนรุน่ หลังได้ สืบทอดกันต่อไป ผศ. สมบูรณ์ แก่นตะเคียน

43


เล่าเรื่องห้องสิน โดย เพื่อนท่านหลิน (友琳)

ตอนที่ห้า ฤทธาแรกปรากฏ ตัวเขาอาจจะซ้ำ�รอยเชาฮูโดนสั่งลงโทษแต่ถ้าจะให้ตั้งทัพรอต่อไป ขวัญกำ�ลังใจของกองทัพก็จะอ่อนด้อยจนตนเองอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ ระหว่างที่ซ่องเฮาเฮ้ากำ�ลังกลุ้มใจอยู่นั้น ข้างนอกได้ยินเสียงทหารเวรวิ่งไปมา กันขวักไขว่ ประกอบกับได้ยินเสียงม้าและฝีเท้าของกองทัพเป็นระเบียบหนัก แน่นดังมาจากนอกเมืองและกำ�ลังเดินเข้ามาใกล้กำ�แพงเมืองทุกทีๆ ซ่องเฮาเฮ้าตกใจมากกลัวจะเป็นเชาฮูยกทัพมาตามตี แต่ถงึ อย่างไร ก็ต้องดูให้รู้แน่แก่ใจเสียก่อน จึงเรียกที่ปรึกษาทั้งหลายขึ้นไปบนเชิงเทิน เพื่อดู ลาดเลาว่าเป็นกองทัพใดเดินทัพมา เมื่อมองไปเห็นธงประจำ�ทัพเขียนคำ�ว่า “ซ่อง” จึงรูว้ า่ เป็นพวกเดียวกันอย่างแน่นอนจึงรีบเปิดประตูเมืองขึน้ ม้าออกไป ต้อนรับกองทัพหนุน แม่ทัพในชุดเกราะสีแดงมีใบหน้าดำ�หนวดแดง ดวงตามี สีเหลืองประกายทองของผู้ทรงฌาน ขี่ม้าขนาดใหญ่ประดับพู่ดูแล้วคล้ายกับ ราชสีห์น่าเกรงขามที่ข้างอานมีขวานใหญ่ประดับอยู่ ซ่องเฮาเฮ้าเห็นแล้วดีใจ มาก เพราะแม่ทัพนี้คนนี้คือ น้องชายของตนมีนามว่า “ซ่องเฮกเฮ้า” ในห้องสินฉบับสมบูรณ์ระบุว่ารูปพรรณสัณฐานของซ่องเฮกเฮ้าไว้ดั่งนี้ว่า “หน้าดำ�ดั่งก้นหม้อ ใต้คางหนวดเคราสีแดง คิ้วขาวสองสาย ดวงตาดั่งชุบทอง สวมหมวกสัตว์บินเหยียบนวเมฆินทร์ ร่างสวมเกราะห่วงสัมพันธ์สอดกุญแจ เสือ้ คลุมใหญ่สแี ดง รัดเอวด้วยเข็มขัดหยกขาว ขีส่ ตั วในตาทองไฟแลบ ใช้ขวาน ทองคำ�ใสสองด้าม” เมื่อน้องชายเห็นพี่ชายออกมาต้อนรับจึงรีบลงจากหลังม้า และ เข้าไปทำ�ความเคารพ ซ่องเฮาเฮ้ายินดีเป็นอย่างมากรีบลงจากหลังม้าตรงเข้าไป กุมมือของน้องชายตนถามไถ่ถึงเรื่องราวว่าเป็นไปมาอย่างไร “ซ่องเฮกเฮ้า” จึงแจ้งว่า “ข้าพเจ้าได้รบั ข่าวจากกีเซียงเจ้าเมืองตะวันตก ว่าท่าน พี่เร่งเดินทัพไปตีเมืองของเชาฮู ตามรับสั่งของพระเจ้าติวอ๋อง แต่เขาเกรงว่า ท่านพีจ่ ะพลาดท่าเสียที เนือ่ งจากเชาฮูผนู้ เี้ ป็นผูท้ รงภูมปิ ญ ั ญามีทปี่ รึกษาชัน้ ดี หลายคน รวมถึงการเร่งเดินทัพมากเกินไปกองทัพอาจเหนือ่ ยล้า จึงแนะนำ�ให้ ข้าพเจ้าออกเดินทัพมาช่วยท่านพี่อีกแรง ประกอบกับทหารกองสายสืบแจ้ง ข่าวมาให้ขา้ พเจ้าทราบเป็นระยะๆ ถึงผลของการสูร้ บ ข้าพเจ้าจึงระดมพลทหาร กล้าสามพัน และทหารเลวอีกสองหมื่นมาเป็นกองหนุนซึ่งน่าจะเพียงพอที่จะ หยุดกองทัพของเชาฮูได้” ซ่องเฮาเฮ้าได้ยนิ ดัง่ นัน้ รูส้ กึ ยินดีเป็นอย่างมาก เพราะแค่มนี อ้ งชาย ตนมาช่วยก็เหมือนมีแม่ทัพมาช่วยรบถึงร้อยคน เขาจึงรีบพาน้องชายเข้าจวน ที่พัก และเรียกประชุมนายทัพและที่ปรึกษา เพื่อกำ�หนดแผนการรบใหม่ ซ่อง เฮกเฮ้าจึงขออาสาเป็นกองทัพหน้าออกเดินทัพไปยังเมืองกี้จิวเฮ้า ต้นยามจื้อ (23.00 นาฬิกา) เคลื่อนทัพโดยเร็วให้ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันตั้งตัวเพื่อไปถึงประตู เมืองฝ่ายตรงข้ามยามเช้า ให้พี่ชายตนเองเป็นกองทัพหลวงออกเดินทาง ติดตามต้นยามซิง้ (07.00 นาฬิกา) ซ่องเฮกเฮ้าจึงสัง่ กองหน้าเข้านอนแต่หวั ค่�ำ เพื่อออกเดินทางกลางดึกตามที่ได้ประชุม

44

เล่าเรื่องห้องสิน โดย เพื่อนท่านหลิน (友琳)

เมื่อ

ซ่องเฮาเฮ้าแพ้ให้กับอุบายลอบตีค่ายยามค่ำ�คืน ของเชาฮูไปแบบหมดรูป เขาจึงได้ถอยไปตั้งหลักอยู่ที่เมืองปลาย แดนต่อแดนระหว่างเมืองหลวงกับเมืองกีจ้ วิ เฮ้า ภายในห้องประชุม ของจวนทีพ ่ กั ใบหน้าทัง้ ของนายและทีป่ รึกษาแต่ละคนล้วนปัน้ ยาก ด้วยกันทัง้ สิน้ เนือ่ งจากทหารหาญทีน่ �ำ พามาด้วยถึงจำ�นวนห้าหมืน่ นายขณะนีเ้ หลือไม่ถงึ ห้าพันนาย และยังได้รบั บาดเจ็บเป็นส่วนใหญ่ ครั้นจะมีใบบอกไปยังเจ้าเมืองตะวันตก กีเซียงว่าให้เร่งยกทัพมาก็ รู้สึกขายหน้า เพราะตนเองเป็นคนคัดค้านเรื่องการประวิงเวลาเดิน ทัพ รวมถึงการส่งจดหมายไปเร่งทัพโดยพละการณ์ ก็เหมือนเป็นการ ประจานตนเองทีข่ ดั รับสัง่ พระเจ้าติวอ๋องทีใ่ ห้เข้าโจมตีพร้อมกันกับ ทัพหัวเมืองตะวันตก การกำ�หนดแผนเดินทัพในลักษณะนีข้ องซ่องเฮกเฮ้ามีนยั ยะ เหมือน กับซ่องเฮกเฮ้าไม่ต้องการให้พี่ชายของตนเองเดินทัพไปช่วยยังไงอย่างนั้น จึง จัดให้เดินทัพเหลื่อมเวลาต่างกันถึง 4 ชั่วยามหรือราว 8 ชั่วโมง รุ่งเช้า ณ. ประตูเมืองกี้จิวเฮ้า ทหารเวรประจำ�เชิงเทินวิ่งหน้าตาตื่นขอเข้าพบ เชาฮูเจ้าเมืองโดยด่วนเนื่องจากขณะนี้ได้มีกองทัพตั้งประชิดเมืองแบบไม่ทัน ตั้งตัว แต่ไม่เข้าโจมตีทันทีและไม่ตั้งค่าย สืบได้ความว่า ซ่องเฮกเฮ้าน้องชาย ของซ่องเฮาเฮ้าเป็นผู้นำ�กองทัพชุดนี้ เมื่อเชาฮูได้ทราบความดังนั้นใจกลาง ฝ่ามือปรากฏเหงือ่ เย็นไหลซึมออกมา เชาชวนต๋งผูบ้ ตุ รอยูข่ า้ งกายบิดาได้ทราบ ความว่ามีกองทัพมาตัง้ ประชิดจึงอาสาออกไปจับตัว ซ่องเฮกเฮ้าเพือ่ เป็นความ ชอบทางการทหารอีกครั้ง เชาฮู จึงกล่าวกับบุตรว่า “คราครั้งนี้เจ้าสู้ไม่ได้อย่างแน่นอน ซ่อง เฮกเฮ้าผู้นี้พ่อรู้จักดีเขาไม่ใช่แม่ทัพธรรมดา ที่จะใช้พลังฝีมือรบเพียงประการ เดียว เขาเป็นลูกศิษย์ของเต้าหยินนามอีหยิน (ฤาษีอหี ยิน) และได้รบั มอบอาวุธ เซียนมา ดังนัน้ การศึกครัง้ นีเ้ ราพ่ายแพ้แน่แล้วถึงสิบส่วนไม่เห็นใครในเมืองจะ สามารถเป็นคู่ต่อสู้ได้ แม้เรามีกองทัพใหญ่กว่านี้สิบเท่าซ่องเฮกเฮ้าผู้นี้ก็ สามารถมาเอาศีรษะเราได้ดั่งส้มในลัง” เชาชวนต๋งได้ยินดังนั้น ก็เกิดโทสะพลุ่งขึ้นภายในใจเพราะการศึก ครั้งที่ผ่านมาเขาเอาทวนแทงพ่อลูกตระกูลซ่องแทบจะตกม้าตายไปตามๆกัน จึงต่อว่าเอากับบิดาว่า “ท่านจะมาสรรเสริญศัตรู ข่มพวกเดียวกันเองเป็นสิ่งที่ แม่ทพั ไม่ควรกระทำ� ขวัญกำ�ลังใจของเหล่าทหารหาญจะเสียขวัญ ข้าพเจ้าของ ออกไปท้าสู้ และจะนำ�ศีรษะของซ่องเฮกเฮ้ากลับมาให้จงได้” พูดจบก็ออกไป เตรียมทหาร ฝ่ายซ่องเฮกเฮ้าหลังจากยกทัพมาถึงหน้าประตูเมืองในตอนรุ่งสาง ก็หวังใจว่า เชาฮูจะได้คิด ว่าตัวเขามาแบบประสงค์ดี เพราะหากเขาประสงค์ ร้ายพอมาถึงสัง่ กองทัพเข้าประชิดเมืองในทันที มีหรือเมืองกีจ้ วิ เฮ้า จะสามารถ ต้านทานการโจมตีโดยไม่ให้ตงั้ ตัวได้ ไม่ทนั ความคิดจะสิน้ สุดลงประตูเมืองเปิด ออกเห็นนายทหารหนุ่มนำ�กองทัพควบม้าออกมาตะโกนให้แม่ทัพออกมาสู้ กันตัวต่อตัว

ซ่องเฮกเฮ้าพิจารณาแล้วคาดว่า ชายผู้นี้คงเป็นบุตรชายของเชาฮู ที่พี่ชายของตนเล่าถึง ก็มีใจเอ็นดูเพราะเชาฮูกับตัวเขาเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่ครัน้ จะพูดจาโดยดีเกินไปปลัดทัพทีเ่ ดินทางมาด้วยอาจเอาเรือ่ งไปเล่าให้พี่ ชายฟังและจะกลายเป็นว่าตนเองเข้าข้างศัตรู จึงกล่าวตอบไปว่า “เชาฮูขดั รับสัง่ ฝ่าฝืนการจับกุมจากซ่องเฮาเฮ้าเป็นโทษใหญ่ ตัวเจ้าเป็นเด็กไม่รกู้ ารควรไม่ควร จงรีบถอยไปเสียแต่บัดนี้ แล้วให้เชาฮูออกมาว่ากล่าวกัน” เชาชวนต๋งได้ยินดังนั้นก็โกรธ รู้สึกว่าถูกดูหมิ่นว่าเป็นเด็ก จึงตอบ กลับไปแบบกวนโมโหว่า “จะให้เราเข้าไปตามบิดาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องนั้นไม่ ควร หากตัวท่านรักตัวกลัวตายไม่อยากประมือกับข้าพเจ้าก็มายอมคุกเข่าขมา เสียโดยดี ข้าจะไว้ชีวิต” เมื่อซ่องเฮกเฮ้าได้ยินดังนั้นจึงหมดอารมณ์ที่จะคุยด้วยอีกต่อไป กระชับขวานคู่ใจและควบม้าออกไปดวลกับ เชาชวนต๋ง ฝ่ายเชาชวนต๋งเห็นซ่องเฮกเฮ้าขวานคู่ซึ่งเป็นอาวุธขนาดสั้น เมื่อ เปรียบเทียบกับทวนยาวในมือตัวแล้วได้เปรียบกว่ามากโอกาสชนะมีสูง จึง กระตุ้นม้าออกรับหน้าในทันที ทั้งคู่สู้กันเป็นสามารถทวนก็เร็วขวานก็คล่อง ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ�ให้แก่ใคร เชาชวนต๋งต้องการจะจับเป็นคู่ศึกจึงงัดสารพัด วิชาทวนทีเ่ ป็นเคล็ดลับ ทำ�ให้คมทวนฉวัดเฉวียนกรีดอากาศ เป็นลวดลายลอย ขึ้น ยักย้าย หลบหลีบ หลอกลวง ช้า เร็ว เก็บปล่อย และยังใช้วิชาบังคับม้า ก้าวเท้าเท้าย่นพสุธา ด้วยหลักเก้าคูณเก้าแปดสิบเอ็ดเท้าก้าวหน้า สามารถย่น ระยะการโจมตีให้สั้นในฉับพลัน เปิดเจ็ดสิบสองประตูมังกรแทงออกในมุม หวาดเสียวย้อนทวนทิศทางตามหลักซาฮะ (ฮวงจุ้ย) ซ่องเฮกเฮ้าเห็นเหตุการณ์เป็นดัง่ นีก้ น็ กึ ยินดีทเี่ พือ่ นตัวมีบตุ รชายที่ เก่งกล้าสามารถมีฝีมือทวนสูงส่งไม่แพ้ให้กับขวานคู่ของตน แต่น่าเสียดายที่ วูว่ ามเกินไปดังนัน้ เขาจะใช้การต่อสูค้ รัง้ นีเ้ ป็นเครือ่ งสัง่ สอน ซ่องเฮกเฮ้าจึงรวม สมาธิประสานอิน (ตีลัญจกร) ลูกแก้วที่คอปรากฏแสงสีเหลืองเรืองออกมา ซ่องเฮกเฮ้าเหน็บขวานทีข่ า้ งเอวแล้วชักม้ากลับเหมือนทำ�ท่าจะควบ ม้าหนี เชาชวนต๋งเห็นดั่งนั้นก็กระหยิ่มยินดีคาดว่าซ่องเฮกเฮ้าสู้ไม่ได้ จึงควบ ม้าหนี เขาจึงเร่งม้าตามไปติดๆ และคิดไปว่าบิดาตนสรรเสริญเยินยอฝ่ายตรง ข้ามมากเกินไป ระหว่างที่ควบม้าตามไปเพื่อจะจับตัวให้จงได้ แต่พอมองไป เห็นซ่องเฮกเฮ้าถอดลูกแก้วที่ห้อยคออยู่ออกและซัดลงที่พื้น ปรากฏเสียงฟ้า ฝ่าดังกัมปนาทเกิดหมอกสีดำ�โพยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เชาชวนต๋งตกเข้าไปอยู่ภายใต้หมอกสีดำ�ถึงกับงงงวย ปรากฏตะ ข่ายเพชรพุ่งมาจากทุกทิศทางเข้ารัดตัวของเชาชวนต๋งไว้จนตกจากหลังม้า ทหารของซ่องเฮกเฮ้าเห็นดังนั้นจึงกรูกันเข้าไปจับตัวเอาไว้ได้สำ�เร็จ เชาชวน ต๋งได้พ่ายแพ้ให้กับฤตยาคมของซ่องเฮกเฮ้าอย่างหมดรูป

เมื่อค่ายตั้งแล้วเสร็จกองทัพของซ่องเฮาเฮ้าก็มาถึง ซ่องเฮกเฮ้าผู้ น้องจึงพาตัวเชลยศึกเข้ามาพบเพื่อที่จะได้ไกล่เกลี่ยขอขมากัน ปรากฏว่าเชา ชวนต๋งกับยืนตรงดั่งคัดทวนไม่ยอมคำ�นับให้แก่ซ่องเฮาเฮ้าตามทำ�เนียม ซ่อง เฮาเฮ้าเห็นดังนั้นจึงเยาะเย้ยเอาว่า “ตอนนัน้ ทีท่ า่ นแอบซุม่ โจมตีเรา เห็นตัวท่านอวดอ้างว่ามีฤทธิม์ าก แล้วเหตุใด จึงถูกเขามัดตัวมาเช่นนี้” เชาชวนต๋ง ได้ยนิ ดังนัน้ ก็โกรธจึงโต้กลับไปว่า “ความตายเราไม่เคย กลัว กลัวแต่ ยังไม่ได้กนิ เลือดไอ้พวกประจบสอพลอเจ้านายจนทำ�ให้บา้ นเมือง วิบัติ วงศ์ของพระเจ้าเสี่ยงทางต้องมัวหมองด้วยกิเลสตัณหา เพราะมีพวกขี้ ประจบอยู่ใกล้ชิดกษัตริย์ดังนี้” ซ่องเฮาเฮ้าได้ยินเรื่องที่จี้ใจดำ�ตน ก็โมโหมากจึงสั่งให้ทหารนำ�ตัว เชาชวนต๋ง ไปประหาร ซ่องเฮกเฮ้าเห็นการณ์ไม่เข้าทีจงึ ห้ามปรามไว้แล้วบอกว่า “อย่างไร เชาชวนต๋งคงไม่พ้นอาญาต้องตามเป็นแน่ แต่ถึงอย่างไรเชาฮูและบุตรชายก็ เป็นขุนนางมีความชอบมาเก่าก่อน หากฆ่าเชาชวนต๋งคนพ่อก็จะสู้ตาย ทำ�ให้ เสียเลือดเนื้อโดยใช่เหตุ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเจ้าติวอ๋องต้องการบุตรี ของเชาฮูไปเป็นสนม หากวันดีคนื ดี ท่านสนมเกิดอยากหาเรือ่ งท่านพีเ่ พือ่ ล้าง แค้นให้กบั บิดาและพีช่ ายของตนขึน้ มา ท่านเองนีล่ ะ่ จะเดือดร้อน ท่านควรรอ ให้ กีเซียง ยกทัพตามมาและเข้าล้อมเมืองบีบให้เชาฮูยอมจำ�นนแต่โดยดี” ซ่อง เฮาเฮ้าได้ยินดั่งนั้นก็ได้คิดจึงสั่งให้ทหารนำ�ตัวเชาชวนต๋งไปขังไว้ก่อน และจัด เลี้ยงฉลองชัยชนะให้แก่ซ่องเฮกเฮ้าอย่างสมเกียรติ ฝ่ายเชาฮูได้ติดตามผลของการประลองอย่างใกล้ชิด เมื่อรู้ว่าลูกชายของตน พ่ายแพ้การศึกและถูกจับตัวไป เป็นตายไม่ทราบได้จงึ เศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก และก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไรได้ คิดแต่เพียงว่า

“ครั้งนี้เมืองแตกแน่ ครั้งนี้เมืองแตกแน่” ความพ่ายแพ้ของฝ่ายเชาฮูในครั้งนี้ เป็นที่คาดเดาได้ไม่ยาก เนื่องจากอยู่ในภาวะ “รู้เขาไม่รู้เรา” แล้วสงครามในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ต่อไป ซ่องเฮกเฮ้าจะติดต่อกับเชาฮูได้ส�ำ เร็จหรือไม่ แล้วจะมีใครสามารถ แก้ไขสถานการณ์อันตรึงเครียดนี้ได้หรือเปล่า โปรดติตามตอนต่อไปใน “เล่าเรื่องห้องสิน โดย เพื่อนท่านหลิน” พบกันใหม่ฉบับหน้าครับ หาก คุณผู้อ่านคุณมีข้อติชมสามารถคุยกับผมได้ที่ www.facebook.com/ heavensign

ในห้องสินฉบับสมบูรณ์ระบุวา่ ของอาวุธเซียนของซ่องเฮกเฮ้าชิน้ นี้ เป็นน้ำ�เต้าวิเศษ สามารถพ่นควันดำ�บังตาได้ ซ่องเฮกเฮ้าจึงสั่งทหารเข้าตีท�ำ ให้ทหารของเชาชวนต๋งแตกพ่ายไม่ เป็นกระบวน ทันใดนั้นเองทหารสอบแนมได้ควบม้าเข้ามาแจ้งข่าวด่วนว่า กองทัพหลักได้ตามมาแล้ว ซ่องเฮกเฮ้าทราบดังนัน้ ก็รวู้ า่ แผนการทีจ่ ะไกล่เกลีย่ ให้ เชาฮูยอมแพ้กอ่ นทีพ่ ชี่ ายของตนจะตามมาคงไม่ได้ใช้ จึงสัง่ ให้ทหารตัง้ ค่าย รอรับทัพหลักในทันที

45


จีนสามก๊กและปรัชญา โดย อ.หมิง

จีนสามก๊กและปรัชญา โดย อ.หมิง

สามก๊กตอนที่ 3 ศึกสิบขันที (十常侍乱政) ความเดิมในตอนที่แล้วนั้น หลังจากการปราบกบฏ โพกผ้าเหลืองสิ้นสุดลง ดูเหมือนว่าแผ่นดินจีนที่ร้อนเป็นไฟ จะได้ร่มเย็นกลับมาเป็นปรกติสุขดั่งเดิม แต่กลับเป็นว่าเกิด เหตุวุ่นวายเสียมากกว่าเก่า เพราะยังเหลือเหล่าขันทีโฉดชั่ว ทัง้ สิบอยูใ่ นวังทีเ่ ป็นหนอนบ่อนไส้ท�ำ ลายราชสำ�นักอยูไ่ ม่เว้น วัน ขอหลบออกนอกประเด็นตามประสาผู้เขียน ขอเล่าเรื่อง ของสิบขันทีพ ่ อสังเขป ผูร้ หู้ ลายท่านวิเคราะห์วา่ สิบขันทีนนั้ มี ตัวตนจริงในราชสำ�นักของราชวงศ์ฮั่น ประกอบด้วยขันที จำ�นวนสิบคน ได้แก่ เทาเจียด, เตียวต๋ง, เตียวเหยียง, ฮองสี, ต๋วนกุย, เหาลำ�, เกียนสิด, เห้หุย, ก๊กเสงและเชียกง เรียกได้ ว่าขันทีทั้งสิบเป็นตัวแสบประจำ�วัง จะเพ็ดทูลสิ่งใดพระเจ้า เลนเจ้ก็จะทรงเชื่อฟังไปทั้งหมด โดยเฉพาะเตียวเหยียงที่ ฮ่องเต้ดจู ะรักมากทีส่ ดุ ถึงกับยกย่องให้เป็นคุณเตีย่ เลยทีเดียว

เหตุการณ์เลวร้ายทั้งปวงเริ่มมากจากการที่พระเจ้าเลนเต้สิ้นพระชนม์ พระนางตังไทเฮาพระมารดาของพระเจ้าเลนเต้ กลัวว่าแม่ทัพ โฮจิ๋นพี่ชายของพระนางฮกฮองเฮา(ชายาของพระเจ้าเลนเต้) จะฉวยโอกาสชิงอำ�นาจเป็นใหญ่จึงหาทางปราบโฮจิ๋น แต่ข่าวรั่วไหลออกไปซะก่อน โฮจิ๋นไหวตัวทันจึงรีบฉวยโอกาสยกเอาหองจูเปียนหลานชายของตนขึ้นเป็นฮ่องเต้ชื่อ พระเจ้าเซ่าเต้ (ฟังดูเศร้าๆ) ขณะนั้น หองจูเปียนมีพระชนม์ได้ 14 พรรษา แล้วฉวยโอกาสนี้ตั้งตนเป็นผู้สำ�เร็จราชการเสียเองเพื่อการกุมอำ�นาจ

หลังจากที่โฮจิ๋นขึ้นเป็นผู้สำ�เร็จราชการแล้วก็มีอำ�นาจอย่างล้นฟ้า จึงเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีจึงคิดหาทางกำ�จัดขันทีให้สิ้นไป เหล่าขันที เมือ่ รูว้ า่ มีภยั ต่างก็รบี เจ้นมากราบแทบเท้าพระนางโฮเฮา ต่างอ้อนวอนขอร้องให้ไว้ชวี ติ ตนทัง้ สิบ พระนางโฮเฮาจึงขอให้โฮจิน๋ ละเว้นโทษตายพวก ขันที โฮจิ๋นขัดไม่ได้จึงได้จำ�ยอมยกโทษให้ อ้วนเสี้ยวที่ปรึกษาโฮจิ๋นจึงเสนออุบายว่า ให้เรียกกองทัพต่างๆ ตามหัวเมืองเข้ามาเมืองหลวง อาสา ทำ�ทีเป็นมาปราบมาร แต่แท้จริงก็เพื่อปราบสิบขันที พระนางโฮเฮาคงต้องยอมเป็นแน่นอน ได้เห็นความคิดของอ้วนเสี้ยวแล้วฟังดูเข้าท่าเข้าทาง ดี แต่ก็บ่งบอกถึงสติปัญญาของอ้วนเสี้ยวได้เลยว่ามีอยู่น้อยนิด ตนก็มีทหารอยู่แล้ว ยังจะต้องเรียกทหารจากหัวเมืองต่างๆเข้ามาอีก การกระทำ� นี้แหละที่จะทำ�ให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ไม่แพ้ครั้งเกิดกบฎโพกผ้าเหลืองเลยทีเดียว แต่โจโฉกลับให้ความเห็นว่า การปราบขันทีนั้นทำ�ได้ไม่ อยาก เพียงแค่จับตัวมาลงโทษ ก็หมดเรื่องเท่านั้นเอง ง่ายๆ แต่โฮจิ๋นกลับย้อนว่า โจโฉนั้นเดิมเป็นลูกขันที ถึงได้เป็นห่วงเป็นใยขันทีถึงเพียงนี้ โจโฉได้ฟังก็โกรธจนหนวดกระดิก ลุกขึ้นตบโต๊ะว่า บ้านเมืองจะวิบัติก็เพราะโฮจิ๋นนี่แหละ สรุปคือ โฮจิ๋นเชื่ออ้วนเสี้ยว จึงได้ประกาศเรียกกองทัพ จากหัวเมืองต่างๆเพื่อเข้ามาปราบสิบขันที ตั๋งโต๊ะจึงอาสาเป็นทัพแรกที่จะเข้าเมืองเพื่ออาสาปราบขันที ขุนนางทั้งหลายก็ต่างทัดทานว่าตั๋งโต๊ะ เป็นคนใจบาปหยาบช้า ดุจเสือหิว เมื่อครั้งก่อนปราบกบฏก็รบแพ้มาโดยตลอด ไม่สมควรจะให้เข้าเมือง แต่โฮจิ๋นไม่ฟังยังคงยืนกรานตามเดิม เมื่อข่าวทหารหัวเมืองนั้นแพร่สะพัดออกไป ขันทีทั้งสิบเห็นจวนตัวจึงทำ�อุบายให้พระนางโฮเฮาเรียกโฮจิ๋นเข้ามาในวังเพื่อที่ขันทีทั้งสิบจะได้ ขอขมาโฮจิ๋น ครั้นโฮจิ๋นหลงกลเข้ามาในวังโดยที่ไม่ฟังคนทัดทานของใคร เมื่อล่วงเข้าสู่ตำ�หนักในพวกขันทีทั้งสิบจึงรุมกินโต๊ะสังหารโฮจิ๋น อ้วนเสี้ยวกับโจโฉเมื่อรู้ข่าวจึงรีบพากองทหารพังกำ�แพงวังบุกเข้าฆ่าพวกขันที แต่พวกสิบขันทีกร็ บี ชิงตัวฮ่องเต้และตันลิวอ๋องไปเพือ่ หวังข่มขูข่ นุ นาง แต่กไ็ ปไม่รอด เตียวเหยียงกระโดดน้�ำ ตาย ทีเ่ หลือก็ถกู สังหารจน สิ้น ฮ่องเต้หองจูเปียนและตันลิวอ๋องจึงต่างก็ซัดเซพเนจรไปในป่าจนไปพบกับกองทัพตั๋งโต๊ะเข้า ฮ่องเต้หองจูเปียนนั้นตกใจกลัวกองทหารจนตัว สั่น แต่ตันลิวอ๋องนั้นกลับพูดจาฉะฉานอย่างไม่เกรงกลัว ตำ�หนิตั๋งโต๊ะว่าทำ�หน้าที่ได้ไม่ดี ให้ทำ�คุณไถ่โทษ ซึ่งเป็นที่พอใจแก่ตั๋งโต๊ะเป็นอันมาก (โดนด่ากลับ ชอบเสียอย่างนั้น) เล่ามาถึงฉากนีก้ ค็ งจะขอจบตอนเอาไว้เพียงเท่านี้ ขันทีทงั้ สิบก็ถกู ปราบอย่างราบคาบ ศึกภายนอกราชสำ�นักทัง้ พวกกบฏก็ถกู ปราบจนสิ้น ศึกภายราชสำ�นักในคือพวกขันทีก็ถูกปราบไปหมดแล้ว แผ่นดินก็น่าจะสงบสุขได้ดั่งเดิม แต่ถึงกระนั้นจอมวายร้ายที่ร้าย ที่สุดคนหนึ่งในสามก๊ก คือ ตั๋งโต๋ะ กำ�ลังจะเผยความชั่วช้าออกมา ร้ายที่เรียกว่าสามก๊กฉบับวณิพกของยาขอบให้สมญานามตั๋งโต๊ะว่า “ผู้ถูกแช่งทั้งสิบทิศ” เหตุการณ์จะเลวร้ายและน่าสยดสยองเพียงใดนั้นขอเชิญท่านผู้อ่านติดตามตอนต่อไปในตอน “ตั๋งโต๊ะครองเมือง”

ภาพประกอบ : http://upload.wikimedia.org

มาถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านก็จะสงสัยอีกแล้วว่าพระนางตังไทเฮา พระนางฮกเฮาเป็นอะไรกัน ก็ขอย้อนกลับไปเล่าให้เข้าใจ พระนางตังไทเฮา นั้นเป็นพระมารดาของพระเจ้าเลนเต้ ส่วนพระนางฮกเฮานั้นเป็นพระชายาของพระเจ้าเลนเต้ ทั้งสองพระองค์นี้ไม่ถูกกัน ทำ�นองแม่ผัวลูกสะใภ้นั่น แหละครับ พระเจ้าเลนเต้นั้นมีโอรสกับพระนางโฮเฮา คือ หองจูเปียน และมีพระโอรสกับพระสนมเอกอองบิหยิน ชื่อ หองจูเหียบ แต่พระนางโฮเฮา นั้นอิจฉาริษยาพระสนมอองบิหยินมาก เข้าทำ�นองเมียหลวงเมียน้อยอีกแล้ว อย่างละครไทยทุกประการ พระนางโฮเฮาจึงหาทางใส่ร้ายต่างๆ นานา จนต้องอาญา จึงสั่งให้บู๋ซูนำ�ตัวอองบิหยินไปประหาร พระนางตังไทเฮาผู้เป็นย่าล่วงรู้เรื่องราวทั้งหมดก็เกิดความเมตตาสงสารหลานจึงทรง นำ�มาเลี้ยงไว้ จึงเป็นเหตุให้แม่ผัวกับลูกสะใภ้คู่นี้ไม่ถูกกัน หลังจากมีการสถาปนาฮ่องเต้เป็นที่เรียบร้อย พระนางตังไทเฮาก็ไม่ยอมน้อยพระพักตร์ (น้อยหน้า) จึงสถาปนาหองจูเหียบหลานรักเป็นตันลิวอ๋อง ตั้งตังต๋งน้องชายเป็นผู้บัญชาการทหารบ้าง โฮจิ๋นจึงแก้เผ็ดพระนางตังไทเฮาด้วยการขับ ให้พระนางออกจากวังและลอบสังหารด้วยสุราพิษจนสิ้นพระชนม์

46

47


จีนหรรษา โดย คุณเบนซ์

กำ�แพงใหญ่เมืองเก่าเล่าวันชาติ

จีนหรรษา โดย คุณเบนซ์ ในวันชาติทม ี่ ก ี ารเฉลิมฉลองขึน ้ นัน ้ ไม่ใช่แค่จด ั ขึน ้ บนจีนแผ่นดินใหญ่ ยังจัดขึน ้ ทีเ่ กาะฮ่องกงและมาเก๊าอีกด้วย รวมทัง้ จะมีการแสดงพลุดอกไม้ไฟ และคอนเสิร์ต (音乐会) ตามสถานที่สาธารณะมากมาย ตกแต่งด้วยธีมรื่นเริง และรูปภาพของท่าน ผู้นำ�ในอดีตซึ่งเป็นที่เคารพรัก นับถือ จากรุ่นสู่รุ่นเช่นท่านรูปประธานเหมาเจ๋อตุง และแน่นอนครับหากใครได้มาเยือนเมืองปักกิ่ง ต้องไม่พลาดอาหาร และสถานที่ทางประวัติศาตร์ที่น่าสนใจ หากเป็นอาหารผมอาหลูต้องขอยก ให้ เป็ดปักกิง่ (北京烤鸭)อันเลืองชือ่ ทีเ่ ป็นเมนูเด็ดขึน้ ชือ่ ในภัตตาคารจีน และกระจายไปทั่วโลก โดยการนำ�เป็ดทั้งตัวมาย่างตามสูตรของแต่ละร้าน แล้วเลือกทานตรงหนังที่กรอบ นำ�ไปจิ้มกับซีอิ๊วหว๊าน หวาน พร้อมทานกับ ผัก พันม้วนด้วยแป้งแผ่นกลมคล้าย ๆ โรตีซึ่งหอมหวล กระจายฟุ้ง แป้งต้อง ไม่เหนียวหรือแข็งเกินไป ความนุม่ ของแป้งปะทะกับความกรอบของหนังเป็ด เรียกได้วา่ กินอาหารชัน้ เซียนเลยทีเดียว ส่วนเนือ้ เป็ดก็น�ำ ไปแปลงเป็นอาหาร เมนูอนื่ ก็เลือกกันตามแต่จะปรารถนานะครับ สำ�หรับอาหลูแล้วนัน้ ส่วนใหญ่ จะสั่งไม่นำ�ไปเป็นเป็ดกระเทียมพริกไทยดำ� ก็ทำ�เป็นเป็ดผัดพริกขิง เมื่อได้ทานเป็ดปักกิ่งเรียบร้อย ก็อย่าไปลืมชมกำ�แพงเมืองจีน(长城)กันต่อ กำ�แพงนี้ไม่ต้องสาธยายมากนะครับ เพราะรู้กันทั้งโลกว่ายาวที่สุด ในโลก กำ�แพงแห่งนี้สร้างในสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ (秦始皇) ผู้เป็นคนริเริ่มสร้างกำ�แพงเมืองทีมีความยาวถึง 5,000 กว่ากิโลเมตรเลยทีเดียว จุด ประสงค์ก็เพื่อป้องกันข้าศึกรุกราน หรือที่เรืยกว่า ซ่งหนูตี๋เหริน ( 送怒敌人)

สำ � หรั บ สถานที่ สำ � คั ญ อี ก ที ที่ ต้ อ งไปให้ ไ ด้ นั้ น คื อ เที ย นถาน (天坛)"หอเทียนถาน" หรือ "หอบวงสรวงฟ้า" ทีต่ งั้ อยูท่ างตอนใต้ของกรุง ปักกิ่งนั้น เริ่มสร้างเมื่อปีค.ศ.1420 เป็นสถานที่ประกอบพิธีสักการ บวงสรวงฟ้าและดินของกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง และสุดท้ายที่จะไม่กล่าวไม่ได้เลยนั้นคือเมื่อท่านมาปักกิ่งแล้ว ต้องไป พระราชวังต้องห้ามของพระนางซูสีไทเฮา (故) ในราชวังนี้เรียก ได้ว่าซับซ้อน และเต็มไปด้วยการวางหมากฮวงจุ้ยอย่างไม่ธรรมดา และ มีเป็นห้องพักน้อยใหญ่มากมายรวมแล้วเป็นพันห้องเลยทีเดียว

สวัสดีครับ (你好!) กระผมอาหลูคนเดิมนะครับ ช่วงนี้เทศกาลของจีนก็มีมาอย่างต่อเนื่อง เลยนะครับ ใจจริงผมอยากจะไปทุกที่ที่มีงานให้หมดเลย จะได้เขียนมาเล่าแชร์ประสบการณ์ต่างๆ มาเล่าสู่กันฟัง จริงไหมครับ เพราะประเทศจีนหรือจีนแผ่นดินใหญ่มันใหญ่มากจริงๆครับ สำ�หรับเดือนกันยายนที่ผ่านมาทุกท่านคงจะได้รับความประทับใจจากเทศกาลไหว้พระจันทร์ (中秋节) และได้อร่อยสุขกับรสชาติของ ขนมไหว้พระจันทร์ (月饼) ไปกันทั่วหน้านะครับถือได้ว่าเป็นเทศกาลที่มีความสำ�คัญและประวัติอันยาวนาน เช่นกันหากใครได้มีโอกาสอ่าน นิตยสารดวงจีนในฉบับเดือนที่แล้ว(กันยายน) ที่ผมพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวมณฑลกว่างซี ท่านผู้อ่านคงได้เห็นภาพความสวยงามของเมืองกุ้ยหลิน ได้รู้จักวิธีชงชาที่ขึ้นชื่อของเมืองกันนะครับ หากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนี้รับรองไม่ผิดหวัง เอาละครับ สำ�หรับฉบับนี้ประเทศจีนเองก็มีวันสำ�คัญอีกเช่นกัน ซึ่งถือได้ว่าสำ�คัญมากๆของคนจีนทุกคนนั้นคือ วันชาติจีน (国庆节) นั่นเอง วันชาติจีนจะตรงกับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี ตามประวัติศาสตร์ประเทศจีนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 ในวันนี้ ของทุกๆปี ทางรัฐบาลจีนจะมีการจัดงานใหญ่โตแบบอลังการมาก จะมีผู้คนนับไม่ถ้วนมารอชมพิธีชักธงขึ้นและลงจากยอดเสา ทั้งด้านเหนือของจัตุรัสซึ่งเป็น หอประตูเทียนอันเหมิน และทางด้านใต้ของจัตุรัสซึ่งเป็นหอรำ�ลึกท่านประธานเหมา

48

แถมให้ส�ำ หรับคนรักและชอบกลิน่ อายแบบศิลปะโบราณทีห่ าดูได้ยาก อีกอย่างนั่นคือ งิ้วปักกิ่ง (京剧) เป็นการแสดงถึงวัฒนธรรมจีนโบราณ โดย ใช้คนแสดงแต่งชุดและมีดนตรีจีนประกอบแบบดั้งเดิม ถึงตรงนี้แล้ว ถ้ามีโอกาสก็ลองไปเยือนสักครั้งและฉลองเทศกาล กับชาวจีนไปด้วยเลยนะครับ เรียกได้ว่าครบทุกรสชาติแน่นอน สำ�หรับ เดือนนี้ขอให้ทุกท่านสนุกสนานไปกับการฉลองวันชาติจีนและทัวร์จีนที่ จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยกว่าสิบคณะด้วย ไปไหนก็แบ่งๆกันนะ ครับ คนเยอะจริงๆ พบกันใหม่ ในเดือนถัดไปครับ ลาก่อน ครับ 国庆快乐! (สุขสันต์วันชาติจีน)

49


หน้าต่างโลก กับเทศกาล ประเพณีและวัฒนธรรม โดย สุ่ยหลิน

หน้าต่างโลก กับเทศกาล ประเพณีและวัฒนธรรม โดย สุ่ยหลิน

ย้อนอดีต: ดู

เซี่ยงไฮ้เมื่อร้อยกว่าปีก่อน

วันนี้เป็นที่รู้กันว่าเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตึกสูงเฉียดฟ้าเกิดกันทั่วไป และล่าสุดกับตึก “ซ่างไห่ทาวเวอร์”ที่กำ�ลังก่อสร้างสูงเป็นอันดับสองของโลกรองจากตึกเบิร์จ คาลิฟา ของดูไบ ยังไม่ นับรวมเทคโนโลยีชั้นนำ�ต่างๆ ที่กำ�ลังพัฒนาไปไม่หยุดยั้ง

ภาพปี 1922 เป็นภาพของออฟฟิศของบริษัทสร้างหนัง แห่งหนึ่ง นับตั้งแต่ปี 1920 อุตสาหกรรมหนังในเซี่ยงไฮ้ เจริญรุ่งเรืองและได้รับความนิยมมาก มีโรงหนังทั้งเมือง รวมกันกว่า 4 หมื่นที่นั่ง หนังที่ได้รับความนิยมในสมัย นั้นมากๆ คือหนังกำ�ลังภายในและหนังชีวิตครอบครัว

และด้วยความเจริญก้าวหน้านี้เอง ปัจจุบันเซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในเมืองจีน แซงหน้าปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงไปหลายช่วงตัว และยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศจีนและมากที่สุดในโลกอีกด้วย (23 ล้านคน เทียบเท่าประมาณ 1/3 ของประชากรในประเทศไทย) บวกกับที่ตั้ง ทางภูมิศาสตร์ที่ดีเยี่ยม คืออยู่บริเวณปากแม่น้ำ�แยงซี เซี่ยงไฮ้จึงกลายเป็นศูนย์กลางของโลกทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า แฟชั่น เทคโนโลยีและการคมนาคม ใคร จะคาดคิดว่าจากหมู่บ้านชายทะเลในอดีตจะกลายเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจหลักของจีนได้ วันนี้มารู้จักเซี่ยงไฮ้ผ่านอดีตกันค่ะ

ภาพอดีตเซี่ยงไฮ้ระหว่างปี 1900-1950 จุดเริม่ ต้นของ “เซีย่ งไฮ้ยคุ ใหม่” เริม่ ตัง้ แต่ปี 1900 เมือ่ รัฐบาลได้มกี ารพัฒนา ระบบการสื่อสาร อาทิ โทรเลข โทรศัพท์ รวมไปถึงรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา เช่น หนังฝรั่งและงานปาร์ตี้ ภาพที่เห็นนี้คือการเดินพาเหรดของ Shanghai Volunteer Corps ในปี 1902 บนถนนหนานจิ ง (ปั จ จุ บั น เป็ น ถนนสายสำ � คั ญ กลางเมื อ ง) Shanghai Volunteer Corps ก่อตั้งขึ้นเพื่อป้องกันชาวตะวันตกไม่ให้รับอันตรายจาก ความวุ่นวายทางกลางเมืองในขณะนั้น

ภาพนีถ้ า่ ยเมือ่ ปี 1906 บนถนนสายการค้า แห่งหนึ่ง สังเกตเห็นการแต่งกายและทรง ผมของผูค้ นในสมัยก่อน รวมถึงความคึกคัก บนถนนได้เป็นอย่างดี บ่งบอกว่าเวลานั้น เซีย่ งไฮ้ได้พฒ ั นาเป็นศูนย์กลางทีเ่ ศรษฐกิจ ที่สำ�คัญแห่งหนึ่งแล้ว

ภาพปี 1930 คณะนักร้องและนักเต้นรำ� “เสียงทอง” ซึ่งเป็นคณะที่ได้รับความนิยม และมีชื่อเสียงอย่างมากในเซี่ยงไฮ้

ภาพปี 1947 ภาพรถลากสามล้อพร้อมผู้โดยสาร

ระหว่างปี 1930-1940 ธุรกิจโฆษณาเฟือ่ งฟูอย่างมากทีเ่ ซีย่ งไฮ้ เห็นได้จากตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายในปี 1935 รถสาธารณะมี ใบปิดประกาศโฆษณาเต็มทั้งคัน

ภาพปี 1948 การแข่งขันเรือมังกรที่แม่น้ำ�หวงผู่ สังเกตเห็น ว่าด้านหลังเริ่มมีตึกสูงเกิดขึ้นบ้างแล้ว

กำ�เนิดเซี่ยงไฮ้

นอกเหนือจากหนังที่ได้รับความนิยมแล้ว เซี่ยงไฮ้ยังรับ วัฒนธรรมตะวันตกในชมการแข่งขันกีฬาในหมูค่ นชัน้ สูง ด้วย กีฬาที่นิยมอย่างมากได้แก่เทนนิสและขี่ม้า ในภาพ เป็นสาวสังคมชั้นสูงกำ�ลังรอชมการแข่งขันเทนนิส

ภาพในปี 1913 ถ่ายภาพใน International Savings Society ซึ่ง ดำ�เนินกิจการคล้ายๆ กับธนาคาร ในปัจจุบัน International Savings Society ก่ อตั้ งโดยฝรั่ งเศสในปี 1912 ดำ�เนินงานถึงปี 1937 ก่อน เลิกดำ�เนินงานโดยรัฐบาลจีน

ภาพปี 1940 ที่เห็นรถรางและตึกรามบ้านช่องที่มีประกาศ โฆษณาเต็มไปหมด

ภาพปี 1948 บิลบอร์ดตรงถนน โฆษณาทัง้ สินค้าและละครเวที ภาพบริเวณหาดไว่ทนั เมือ่ ปี 1930 หลังจากทีเ่ ซีย่ งไฮ้เปิด ประตูในฐานะเมืองท่า กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ที่สำ�คัญของตะวันออกไกล มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า “จะมาทำ�ธุรกิจที่นี่ต้องทำ�ให้ใหญ่ ไม่งั้นก็อย่าทำ�เลย”

ภาพตลาดหงโข่ว 虹口(hóng kǒu) ประมาณปี 1900 กว่า ซึ่งปัจจุบันตลาดนี้ก็ยังคงมีอยู่ สังเกตจะเห็น ชาวจีนพื้นเมืองเดินปะปนกับชาวต่างชาติ ทั้งฝรั่ง และแขก

50

ภาพปี 1907 เป็นภาพการทำ�ถนนบริเวณถนนหนานจิง ถือว่าเป็น ถนนเส้นแรกของเมืองเซี่ยงไฮ้ ระยะทางยาว 6.04 กม. วิ่งจากวัด จิ้งอัน (ซึ่งปัจจุบันยังมีอยู่) ไปสุดสายที่ Shanghai Club Building ซึ่งเป็นตึกสไตล์บารอคสูง 6 ชั้นบนหาดไว่ทัน (The Bund) เดิมเป็น คลั บ เฉพาะบุ รุ ษ ชั้ น สู ง ปั จ จุ บั น เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของโรงแรม Waldorf-Astoria

ภาพนี้ไม่ระบุปีแต่คาดเดาว่าถ่ายภาพหลังจากสงคราม ต่อต้านญี่ปุ่น ภาพในบาร์ที่สาวจีนกับทหารต่างชาติ กำ�ลังเต้นรำ�กัน เซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติ อาศัยอยู่แทบจะทุกที่

ภาพนี้ระหว่างปี 1910-1912 แสดงให้เห็นโรงงาน ผลิตผ้าไหม ยืนคูก่ นั ตรงกลางคือเจ้าของโรงงานและ ภรรยา ถ่ายภาพพร้อมเครือ่ งจักรในสมัยก่อน ความ รุง่ เรืองของอุตสาหกรรมสิง่ ทอของเซีย่ งไฮ้พสิ จู น์ได้ จาก ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมที่ส่งออกไปทั่วโลก

ภาพปี 1947 แผงขายนิตยสารบนถนนสายหนึ่ง นอกจากหนั ง สื อ พิ ม พ์ แ ละนิ ต ยสารท้ อ งถิ่ น แล้ ว สังเกตขวามือมีนิตยสาร Time จำ�หน่ายสำ�หรับชาว ตะวันตกในเซี่ยงไฮ้ด้วย

ภาพนี้ดูเผินๆ แล้วไม่อยากเชื่อว่าอยู่ในเซี่ยงไฮ้ แต่เป็นภาพ ในปี 1930 ที่โรงแรมในเซี่ยงไฮ้ ปี 1843 เป็นปีที่เริ่มมีคณะมิช ชันนารีและนักธุรกิจชาวอังกฤษเข้ามาในเซี่ยงไฮ้ พอมาถึงปี 1935 ทั้งเซี่ยงไฮ้มีชาวอังกฤษอาศัยถึงกว่า 6 พันคนตาม Shanghai International Settlement (เป็นหนึ่งในสนธิสัญญา 5 ฉบับแรกที่ตั้งขึ้นภายใต้สนธิสัญญานานกิง หลังจากจบ สงครามฝิ่นครั้งแรกเมื่อปี 1842)

เซี่ยงไฮ้ (上海) [上 (shàng) (ซ่าง) = บน海 (hǎi) (ไห่) = ทะเล] เซี่ยงไฮ้เริ่มปรากฏในประวัติศาสตร์ในฐานะหมู่บ้านเล็กๆ ติดชายทะเลในสมัยราชวงศ์ซ่ง และเริ่มต้นพัฒนามาเป็นเมืองเล็กๆ จนมี ความสำ�คัญมากขึน้ เมือ่ จักรพรรดิในสมัยราชวงศ์ฉงิ ได้ปรับเปลีย่ นนโยบาย ทางการค้าโดยการย้ายสำ�นักงานศุลกากรจากเมืองเจียงซูมาทีเ่ ซีย่ งไฮ้ และ ให้อำ�นาจการค้าขายและติดต่อกับต่างประเทศ ทำ�ให้กลายเป็นเมืองท่าที่ สำ�คัญทางเศรษฐกิจมากขึ้น เมื่อถึงสมัยสงครามฝิ่น กองทัพของอังกฤษเข้ายึดเซี่ยงไฮ้ และให้ ค วามสนใจต่ อ เมื อ งในฐานะที่ มี ที่ ตั้ ง ที่ ไ ด้ เ ปรี ย บในการการค้ า ตัวเมืองได้ถูกพัฒนาขึ้นตามเพื่อรองรับการค้าระหว่างตามประเทศ ตาม สนธิสัญญาทางการค้า (ที่ว่ากันไม่เป็นธรรมต่อจีน) เกิดการแย่งชิงอำ�นาจ กันหลายครั้งและหลายขั้ว จนถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจีนใน ยุคใหม่ รัฐบาลจีนให้ก�ำ หนดให้เซีย่ งไฮ้เป็นจุดเริม่ ต้นของการฟืน้ ฟูเศรษฐกิจ ในปี 1991 ผังเมืองเซี่ยงไฮ้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง คั่นด้วยแม่น้ำ�หวงผู่ ซึ่ ง ผ่ า กลาง จึ ง เรี ย กฝั่ ง ตะวั น ตกของแม่ น้ำ � ว่ า ผู่ ซี ( 浦西) (p ǔ xī) (ซี = ตะวันตก) และฝั่งตะวันออกว่าผู่ตง (浦东) ( pǔ dōng) (ตง = ตะวัน ออก) โดยฝั่งผู่ซี เป็นฝั่งเมืองเก่าที่ถูกพัฒนามาก่อนเป็นแหล่งท่องเที่ยว บ้านเรือนเก่า สถาปัตยกรรมโบราณ ในขณะที่ผู่ตงเป็นบรรยากาศของตึก สูงระฟ้า ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเงิน สถานที่ไฮเทคต่างๆ Credit ภาพ: Shanghai: 1842-2010, Portrait of a Great City Post Wave Publishing, Getty/UIG, Corbis, AFP, Alan Larson, Getty/Time Life Pictures/ Jack Birns, Getty/Time Life Pictures/Mark Kauffman เรียบเรียงข้อมูลจาก: Wikipeida, Chinasmack http://www.chinasmack.com/2013/pictures/photos-of-shanghai-during-thefirst-half-of-the-20th-century.html

ติดตามเรื่องจีนและเกร็ดความรู้เกี่ยวกับจีนได้ที่ www.facebook.com/simplychinese สุ่ยหลิน

51


เทศกาลกินเจ 4-13 ตุลาคมนี้ กินเจอิ่มบุญ ดูดวงกับ อาจารย์หวงฟรีค่ะ ดูฮวงจุ้ยราคาพิเศษ รายได้สมทบทุน ร่วมกับมูลนิธิรพ.เด็กเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางแพทย์สำ�หรับ ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางเด็ก อาคารเฉลิมพระเกียรต ฯิ 80 พรรษา

ดูดวงปีนักษัตร ประจำ�เดือน

ปีมะเมีย

ดูดวงปีนักษัตร ประจำ�เดือน ตุลาคม 2556 โดยอาจารย์หวง

ปีชวด

เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสบายใจอารมณ์ดี ทำ�อะไรจะได้คน คอยช่วยเหลือ อะไรที่เคยติดๆขัดๆจะราบรื่น ได้พบปะเฮฮาไป กับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน ลูกหลานสร้างความประทับใจ สร้างชื่อเสียงให้ครอบครัว ใครอยากเปลี่ยนงานยังไม่มีโอกาส โยกย้ายไปงานที่ถูกใจหรือทำ�ให้ได้เปรียบ

ปีเถาะ

การงาน การงานไปได้ดี มีความสุขกับการทำ�งาน มีเรือ่ งให้ท�ำ จุกจิก เสมอ จะมีบริวารลูกน้องลาออกทำ�ให้การงานสะดุด ภาคธุรกิจการ ค้าขายดี สินค้าเกี่ยวกับความสวยความงามหรือความบันเทิงมีกำ�ไร การเงิน การเงินไหลลื่น เป็นช่วงสร้างรายได้ทำ�กำ�ไร แต่มีรายจ่าย ใหม่ๆในเรื่องที่ไม่คาดฝัน ความรัก ความรักมีความสุข คนโสดมีโอกาสเจอคนถูกใจ ระวังได้ รับบาดเจ็บที่หลังและเอว

ปีฉลู

เป็นเดือนที่เจอเรื่องชวนให้เหนื่อยอกเหนื่อยใจและหัวเสีย มีความ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทำ�ให้เลือดตกยางออก อุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้ เจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล ใครดวงอ่อนหรือเข้าช่วงเคราะห์จรจะโดน ผ่าตัด ควรไปทำ�บุญทำ�สังฆทานจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ใครขับรถ กลางคืนหรือมีโปรแกรมเดินทางไกลไปต่างจังหวัดควรขับรถด้วย ความระมัดระวังมากๆ

ปีมะโรง

ความรัก เป็นช่วงอ่อนไหว อย่าให้ความเครียดทำ�ให้มีปากเสียงกัน

ปีขาล

มีเกณฑ์ทั้งได้และเสีย ทำ�อะไรอย่ารีบร้อนเลินเล่อจนพลาดเสียเอง ระวังถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายทำ�ให้ถูกคนอื่นเข้าใจผิด เป็นช่วงผู้ใหญ่ให้ โทษ อย่ามีปากเสียงหรือเรื่องขัดใจกับผู้ใหญ่จะทำ�ให้เดือดร้อน ยิ่ง เป็นงานเกี่ยวข้องกับราชการยิ่งต้องใจเย็น การงาน ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ งานที่ต้องติดต่อหรือรอผลจากทาง ราชการมีเกณฑ์เสียเปรียบ ภาคธุรกิจสินค้าโดดเด่น การตลาดได้รับการ ตอบรับดี มีโอกาสเพิ่มทุนพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้เจริญเติบโต ่การเงิน การเงินไปได้เรื่อยๆ รายจ่ายมากกว่ารายได้ ใครใช้เงินเกิน ตัวกลางเดือนเงินจะไม่พอใช้ ความรัก ความรักมีอุปสรรค รักๆ เลิกๆ ชวนให้สับสน ระวังปวดเมื่อย กล้ามเนื้อเส้นเอ็นแขนและขา

52

ปีมะเส็ง

ปีระกา เดือนนี้มีโชคลาภรออยู่ข้างหน้า มีโอกาสให้ไขว่คว้าตามใจหวัง จะสอบเข้าทำ�งาน เรียนต่อหรือเลื่อนขั้นมีแนวโน้มสดใส จะได้ ทรัพย์สินใหม่มาชื่นชมสมปรารถนา ญาติผู้ใหญ่จะมีเดือดร้อน

ปีมะแม

ชีวิตเต็มไปด้วยความคิดและจินตนาการ พบเจอเรื่องผิดหวังเศร้าใจ ความกังวลใจแถมต้องคอยรับมือจัดการกับสารพันปัญหาทำ�ให้ช่วงนี้รู้สึก เครียดและเหนื่อยล้า ต้องรักษาสุขภาพกันให้ดีระวังเจ็บป่วย ยานพาหนะ เกิดปัญหาทำ�ให้ไม่ได้รับความสะดวก

การงาน การงานเจริญก้าวหน้า ได้รับคำ�ชมจากหัวหน้า เพื่อนร่วม งานจะนำ�ความยุ่งยากใจมาให้ ภาคธุรกิจการค้ายอดขายไปได้สวย มีโอกาสขยับขยายธุรกิจ การเจรจาแลกเปลีย่ นผลประโยชน์จะสำ�เร็จ การเงิน การงานดี การเงินไปได้ดเี ช่นกัน ต้องระวังสำ�หรับคนทีม่ ภี าระ หนี้สินมาก ปัญหาหนักใจเรื่องหนี้สินรุงรังจะกลับมาสร้างความปวด หัว เจ้าหนี้ตามเร่งรัดทวงหนี้ บริหารการเงินกันให้ดี ความรัก อุณหภูมิรักบางเบา เจอทั้งเรื่องดีใจและเศร้าใจ

ปีจอ

การงาน ยั ง คาดหวั ง อะไรไม่ ไ ด้ อยู่ กั บ สิ่ ง ที่ มี แ ละทำ � ให้ ดี ที่ สุ ด อย่ า เอา ความเครียดส่วนตัวมาปนเรือ่ งงานจะทำ�ให้งานเกิดข้อผิดพลาด งานใช้ความคิด สร้างสรรค์หรือศิลปะทำ�ผลงานดูโดดเด่นเป็นที่น่าสนใจ ภาคธุรกิจการค้าติดขัด ระวังปัญหาการสื่อสารประสานงานที่ผิดพลาดทำ�ให้ลูกค้าไม่พอใจ การเงิน การเงินฝืด ประหยัดให้มาก อะไรไม่จ�ำ เป็นต้องซือ้ ต้องใช้กห็ า้ มใจไว้กอ่ น ความรัก ความรักเหินห่าง ต่างคนต่างอยู่ มีโอกาสเลิกรา

มีหลายเรื่องเข้ามาให้คิดให้ตัดสินใจ แถมคนอื่นยังแบกปัญหามาให้ ได้แรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่ทำ�ให้มีโอกาสก้าวหน้า มิตรกลายเป็นศัตรู ระวังถูกหลอกให้เสียเงิน อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆโดยเฉพาะอะไรที่ต้อง ลงทุนลงเงิน หาข้อมูลให้มากก่อนตัดสินใจ การงาน การงานไม่มคี วามคืบหน้า เบือ่ ทัง้ คนเบือ่ ทัง้ งาน ลาออกยังไม่ใช่ทาง แก้ ตัดสินใจผิดตกงานเอาดื้อๆ ใครเบื่องานอย่าเพิ่งถอดใจรอจังหวะเหมาะ กว่านี้ ภาคธุรกิจการค้าประสบภาวะขาดทุน ระวังความผิดพลาดเดิมๆย้อน กลับมาสร้างความเดือดร้อน การเงิน รายจ่ายมากกว่ารายรับ ลดการใช้จา่ ยฟุม่ เฟือย ใครรายได้ไม่แน่นอน หรือมีภาระผ่อนรถผ่อนบ้านอาจต้องควักเงินเก็บออกมาใช้จ่าย ความรัก ความรักแช่มชื่น มีเวลาดูแลกันและกันมากขึ้น

ปีวอก

บรรยากาศชวนรื่นเริงบันเทิงใจ สมองปลอดโปร่ง มองไปทางไหน ก็เจอข่าวดีและเรื่องน่ายินดี เป็นช่วงมีเสน่ห์ดึงดูดให้คนรอบข้าง สนอกสนใจ มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ

เป็นเดือนที่ต้องใจเย็นสงบสติอารมณ์ให้มากไม่ว่าจะคิดจะ ตัดสินใจทำ�อะไร อย่าใช้อารมณ์นำ� มานึกเสียใจในภายหลังก็ ไม่ทันแล้ว จะมีปากเสียงกับคนในครอบครัว มีโอกาสถูกทำ�ร้าย หรือมีเรื่องทะเลาะวิวาททำ�ให้เจ็บตัว คนที่เคยสนับสนุนกลับมี ท่าทีห่างเหินทำ�ให้ได้รับความลำ�บาก การงาน กอดเก้าอี้ไว้อย่าให้ใครมาแซะไปง่ายๆ ทำ�งานด้วยความ รอบคอบ ตรวจเช็คงานให้เรียบร้อยก่อนส่ง ระวังผิดพลาดจากความ ประมาทของตนเอง ภาคธุรกิจการค้าระวังการตัดสินใจพลาด ลงทุน ไปแล้วไม่คุ้มทุน ทุนหายกำ�ไรหด การเงิน เข้ากระเป๋าซ้ายออกกระเป๋าขวา มีเรื่องให้ใช้จ่ายอยู่ตลอด บางคนถึงกับเงินช็อตไม่พอใช้ ต้องหยิบยืมเพื่อนฝูง ความรัก มีเรื่องให้ระแวงกัน คนโสดระวังไปรักคนมีเจ้าของ

เป็นเดือนที่ไฟแรง อยากทำ�โน่นทำ�นี่ ไอเดียกระฉูด แต่ยังไม่มีลู่ทางที่ดี ทำ�ให้คิดไม่ตก ต้องหาทางเลือกกันใหม่ มีโอกาสได้โยกย้ายที่อยู่อาศัย การติดต่อเจรจาจะให้ผลดี ระวังถูกเบี้ยวหนี้หรือถูกโกง การงาน การงานมีปัญหาวุ่นๆ ทำ�ให้ชุลมุนกันพอสมควร คนเป็นเจ้านาย ระวังลูกน้องทำ�งานพลาดทำ�ให้งานล่าช้าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ลูกจ้างทัว่ ไป เจอเจ้านายอารมณ์บดู ถูกวีนอย่างไม่มเี หตุผลทำ�ให้เสียความรูส้ กึ ต้องอดทน ให้มากหากไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่า ภาคธุรกิจการค้าการขายมีกำ�ไร ระวังภัยทาง ราชการ การเงิน การเงินราบรืน่ คูค่ รองมีโชคลาภการเงิน จะมีคนมาหยิบยืมเงินทอง ความรัก ความรักอบอุ่น คู่ไหนระหองระแหงจะกลับมาคืนดีกัน

การงาน การงานมีเรื่องให้คิดไม่ตก ทำ�งานแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ ทำ�งานจนหัวลีบเจ้านายยังไม่เห็นใจ ไม่ได้เลือ่ นตำ�แหน่งอย่างทีห่ วัง ภาค ธุรกิจแข่งขันสูง ระวังติดขัดเรื่องเอกสาร การเงินการเงินถือว่าดี คู่ครองมีโชคลาภจากการงาน มีรายจ่ายในการ ตกแต่งซ่อมแซมบ้าน

เป็นอีกเดือนทีด่ ตี อ่ เนือ่ งมาจากเดือนทีแ่ ล้ว ดวงชะตาดีมโี ชควาสนา จะมี โชคลาภเข้ามาแบบฟลุ้คๆ ปัญหาอุปสรรคที่มีจะมีคนใจดีมาช่วยแก้ไข ครอบครัวพีน่ อ้ งรักใคร่ชว่ ยเหลือกัน งานเกีย่ วข้องกับราชการจะก้าวหน้า ได้พบเจอมิตรที่ดีนำ�ข่าวดีมาให้ การงาน การงานรุ่ง มีโอกาสได้แสดงฝีมือทำ�ผลงานเต็มที่ ได้เลื่อนยศเลื่อน ตำ�แหน่ง ระวังจะถูกกลั่นแกล้งจากผู้ไม่หวังดีทำ�ให้เรื่องงานติดขัด ภาคธุรกิจ การค้าการลงทุนต่างประเทศให้ผลตอบแทนดี การเจรจาค้าขายสำ�เร็จ การเงิน การเงินอู้ฟู่ มีรายได้เข้ามาหลายทาง ได้งานเสริมทำ�รายได้เพิ่ม ความรัก ความรักร้อนแรง เป็นช่วงพ่อแง่แม่งอน เดี๋ยวดีกันเดี๋ยวทะเลาะกัน มีเรื่องชวนให้อารมณ์เสีย

บรรยากาศทั่วไปสดใส ได้โอกาสเริ่มต้นทำ�สิ่งใหม่ๆ ความสุขและความหวัง กำ�ลังผลิบานออกผล คนรอบข้างให้กำ�ลังใจช่วยเหลือกัน ใครวางแผนไป ศึกษาต่อต่างประเทศมีโอกาสดี คนใกล้ชิดมีงานรื่นเริงและข่าวดีมาให้ ดูแล ลูกหลานระวังหกล้มหรือตกบันไดได้รับบาดเจ็บ การงาน มีลุ้นได้เลื่อนตำ�แหน่ง ได้รับหน้าที่ใหม่ งานที่ทำ�เป็นทีมทำ�ผลงานโดด เด่น ภาคธุรกิจได้ลูกค้าใหม่ เหมาะเปิดขายสินค้าตัวใหม่ งานสินค้าเกษตรกรรม ทำ�กำ�ไรดี การเงิน การเงินใช้จ่ายหมุนเวียนไปได้ มีรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลเข้ามาแบบ ไม่ทันตั้งตัว ใช้เหลือเผื่อเก็บอย่าได้ประมาท ความรัก เป็นช่วงมีเสน่ห์เป็นที่สนใจของคนรอบข้าง คนมีคู่อย่าเผลอตัวเผลอใจ ปัญหาเรื่องหึงหวงจะทำ�ให้วุ่นวาย

ดูดวงปีนักษัตรประจำ อนสิงหาคม2556 โดยอาจารย์ ตุลาคม�เดื2556 โดยอาจารย์ หวง หวง

ปีกุน

การงาน ได้เพือ่ นร่วมงานใหม่ จะถูกตรวจสอบในเรือ่ งผลงาน ความผิด พลาดเล็กๆน้อยๆจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ระวังงานเอกสารเกิดผิด พลาดทำ�ให้ถูกตำ�หนิ ภาคธุรกิจมีคนสนใจเข้าหุ้นร่วมทุนเพื่อพัฒนา ศักยภาพทางธุรกิจ การเงินการเงินยังหมุนไปได้ แต่ตน้ ดีปลายเสีย จะมีเรือ่ งให้เสียเงินก้อน โต หากใช้เงินแบบไม่ยั้งมือช่วงต้นเดือน ปลายเดือนถึงคราวจ่ายหนัก กลับมีไม่พอจะเดือดร้อนได้ ความรัก มีเสน่หช์ วนหลงใหล ความสัมพันธ์ใหม่ๆทีเ่ ข้ามาอาจสัน่ คลอน ชีวิตคู่ ต้องหักห้ามใจถ้าไม่อยากมีปัญหา ระวังลื่นหกล้มได้รับบาดเจ็บ

ดวงมีสง่าราศีได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้มีความก้าวหน้า จะได้รับผลประโยชน์หรือของขวัญจากผู้ใหญ่ ใครรอเลื่อน ตำ�แหน่งมีข่าวดี การแข่งขันจะได้ชัย จะได้ร่วมทำ�บุญทำ�กุศล ระวังมีเรื่องผิดใจกับญาติพี่น้อง การทำ�ธุรกรรมทางการเงิน ตรวจสอบเอกสารให้ชัดเจนถูกต้อง ระวังผิดพลาดเสียหาย การงาน หาเวลาว่างไม่ค่อยมี เหน็ดเหนื่อยวุ่นอยู่กับงาน กินข้าว ตรงเวลาหาเวลาพักผ่อนบ้างจะดีตอ่ สุขภาพ ภาคธุรกิจการค้าระวัง งานเอกสารผิดพลาดทำ�ให้ธุรกิจเกิดความเสียหาย การเงิน รายจ่ายมากมาย เงินทองติดขัดเป็นบางช่วง มีภาระค่าใช้ จ่ายเรื่องยานพาหนะ วางแผนการใช้เงินให้รัดกุมจะช่วยได้ ความรัก ความรักไม่แข็งแรง ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน ระวังมือที่สาม เข้ามาป่วน

สนใจดูดวงด้วยไพ่โปตาลามหาญาณ ดูฮวงจุ้ย วางฤกษ์เปิดกิจการ ติดต่ออาจารย์หวงได้ที่ : 080-9079053 / 090-0143488 ajarn_hwang@yahoo.com Website : http://www.potalacard.com/

53


เรียนจีนผ่านวัฒนธรรม โดย สุ่ยหลิน

วันชาติจีน 国庆节 [ guóqìngjié ] (กั๋ว ชิ่ง จีเอี๋ย)

วันชาติจีน

ตรงกับวันที่ 1-7 ตุลาคมของทุกปี ถือว่า เป็นช่วงวันหยุดที่ยาวที่สุดประจำ�ปี เทียบเท่ากับเทศกาลตรุษจีนเลยทีเดียว สัปดาห์ระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคมนี้จะเรียกกันว่า “โกลเด้น วีค” (黄金周) [huángjīnzhōu] (หวง จิน โจว) เป็นเทศกาลที่คนจีนเป็นจำ�นวนกว่าร้อยล้าน คนเดินทาง ทั้งเดินทางกลับบ้านเพื่อเยี่ยมญาติมิตรและเดินทางไปเที่ยว (ในและต่างประเทศ) มีตัวเลขสถิติบอกไว้ว่าช่วงโกลเด้นวีคของปี 2007 คนจีน เดินทางกว่า 120 ล้านคน นอกจากกิจกรรมเดินทางแล้ว สำ�หรับภาครัฐยังมีกิจกรรมพาเหรด สวนสนามของทหาร ที่จัดขึ้นที่จตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง หลังจากนั้นจะ เป็นการเดินพาเหรดของประชาชนทั่วไปเพื่อแสดงความรักชาติ โดยจะมีการ ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ รวมไปถึงการแสดงต่างๆ อาทิ ร้องเพลง จุดพลุ รวมไปถึงนิทรรศการภาพวาดและอักษรจีนเพื่อเฉลิมฉลองวันชาตินี้ ปัจจุบัน กิ จ กรรมสวนสนามนี้ จ ะจั ด ขึ้ น แบบย่ อ ทุ ก ๆ 5 ปี และจั ด อย่ า งยิ่ ง ใหญ่ ทุกๆ 10 ปี

•เพลงชาติ จี น เรี ย กว่ า 义勇军进行曲 ( Yìy ǒ ngj ū n Jìnxíngq ǔ ) (อี่ หย่ง จวิน จิ้น สิง ฉุ่ย) แปลเป็นไทยได้ว่า “เพลงมาร์ชทหารอาสา” มีเนื้อ สำ�คัญคือปลุกใจให้รักชาติ สะท้อนถึงจิตวิญญาณของประชาชน สร้างความ รู้สึกฮึกเหิมและบุกไปข้างหน้า

มาดูคำ�ศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับวันชาติจีน

•เดินพาเหรด =

news.xinhuanet.com

游行

[yóuxíng] (โหยว สิง)

•ท่องเที่ยว = 旅游 [lǚyóu] (หลุ่ย โหยว)

เกร็ดน่ารู้

จำ�นวนนักท่องเทีย่ วต่างชาติทมี่ าเทีย่ วเมืองไทยสูงทีส่ ดุ ปัจจุบนั คือนักท่องเทีย่ ว จีนค่ะ เหตุผลเพราะคนไทยต้อนรับอบอุ่น เป็นกันเอง อาหารอร่อย ผลไม้ (เมืองร้อน) อร่อยมากและราคาไม่แพง เทศกาลหยุดยาวอย่างนีน้ กั ท่องเทีย่ วจีน เลือกมาเที่ยวเมืองไทยเป็นจำ�นวนมากค่ะ มาดูประโยคที่ใช้กันบ่อยๆ จากเรื่องการท่องเที่ยวค่ะ

stumbleuponyang.org •ธงชาติจีน = (国旗) (guó qí) (กั๋ว ฉี) เป็นรูปดาวสีเหลือง 5 ดวงบนพื้นสีแดง มีชื่อเรียกว่า五星红旗 (wǔ xīng hóng qí) (อู่ ซิง หง ฉี) (อู่ = ห้า) (ซิ ง = ดาว) (หง = สี แ ดง) (ฉี = ธง) ซึ่ ง ดาวดวงใหญ่ ห มายถึ ง พรรคคอมมิวนิสต์จีน 共产党 (gòng chǎn dǎng) (ก้ง ฉาน ตั่ง) ซึ่งเป็นผู้นำ� และดาวเล็กๆ ทั้งสี่ดวงหมายถึง “ชนชั้น” ที่ประกอบขึ้นเป็นสังคมจีน ได้แก่ ชนชั้นกรรมกร ชนชั้นชาวนา ชนชั้นนายทุนน้อย และชนชั้นนายทุนแห่งชาติ •วันชาติจีน = 国庆节 [guóqìngjié] (กั๋ว ชิ่ง จีเอี๋ย) 节(jié) (จีเอี๋ย) = เทศกาล หรือวัน เช่น ตรุษจีน = (春节) (chūn jié) (ชุน เจี๋ย) , วันแรงงาน = 劳动节 [láodòngjié] (เหลา ต้ง จีเอี๋ย), เทศกาลไหว้พระจันทร์ = 中秋节 [zhōngqiūjié] (จง ชิว จีเอี๋ย) เป็นต้น

54

•我去泰国旅游. (wǒ qù tài guó lǚ yóu) (หว่อ ชุ่ย ไท่ กั๋ว หลุ่ย โหยว) = ฉันไปเที่ยวเมืองไทย (ไท่ กั๋ว = ประเทศไทย) •我去中国旅游. (wǒ qù zhōng guó lǚ yóu) (หว่อ ชุ่ย จง กั๋ว หลุ่ย โหยว) = ฉันไปเที่ยวเมืองจีน (จง กั๋ว = ประเทศจีน)

กำ�เนิดวันชาติจีนสมัยโบราณ คำ�ว่า “วันชาติจนี ” ปรากฏครัง้ แรกในสมัยราชวงศ์จนิ ตะวันตก ( ค.ศ. 265-316) ในสมัย โบราณวันชาติจีน มักคือวันที่จักรพรรดิประสูติหรือขึ้นครองราชย์ค่ะ วันชาติจีนในปัจจุบัน รัฐบาลจึงประกาศให้วันที่ 1 ตุลาคมเป็นวันชาติจีนตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา โดยถือว่าเป็นวันระลึกถึงการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน วัตถุประสงค์ เดิมในการประกาศวันชาติจีนคือ ต้องการโปรโมทการท่องเที่ยวในประเทศ กระตุ้นให้ เกิดการใช้จ่ายและให้โอกาสคนจีนได้กลับไปเยี่ยมบ้าน ติดต่อสุ่ยหลินและติดตามเรื่องจีน ๆ เกร็ดความรู้เกี่ยวกับจีนได้ที่ www.facebook.com/simplychinese นะคะ สุ่ยหลิน Credit ภาพ: news.xinhuanet.com, stumbleuponyang.org เรียบเรียงข้อมูลจาก: Wikipeida, Travel China Guide



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.