Unbroken ex

Page 1

earnest

publishing

LAURA HILLENBRAND

UNBROKEN ไม่มีวันดับสูญ

นพดล เวชสวัสดิ์ แปล



UNBROKEN ไม่มีวันดับสูญ

Laura Hillenbrand เขียน นพดล เวชสวัสดิ์ แปล


ไม่มีวันดับสูญ UNBROKEN Laura Hillenbrand

เขียน

นพดล เวชสวัสดิ์ แปล

บรรณาธิการ วิลาส วศินสังวร บรรณาธิการบริหาร ชญานุช วศินสังวร รูปเล่ม ศุภรักษ์ ปฐมกสิวัฒนา ศิลปกรรม สนพ. เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง Copyright for Unbroken Copyright © 2010 by Laura Hillenbrand TThai language translation copyright © 2014 by Earnest Publishing Co., Ltd. This edition published by arrangement with Janklow & Nesbit Associates, 445 Park Avenue, New York, NY 10022, USA through Tuttle-Mori Agency Co.,Ltd. ALL RIGHTS RESERVED.

จัดท�ำโดย: บริษัท เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง จ�ำกัด 610/35-36 ถนนทรงวาด แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทรศัพท์: 02 223 9460-3 โทรสาร: 02 622 4419 Facebook : http://www.facebook.com/EarnestPublishing พิมพ์ที่: บริษัท โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์ จ�ำกัด 113/13 ซอยวัดสุวรรณคีรี ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทรศัพท์: 02 424 6944 โทรสาร: 02 434 3802 จัดจ�ำหน่ายทั่วประเทศ: บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จ�ำกัด 108 หมู่ 2 ถนนบางกรวย-จงถนอม แขวงมหาสวัสดิ์ เขตบางกรวย นนทบุรี 11130 โทรศัพท์: 02 423 9999 โทรสาร: 02 499 9561-3 www.naiin.com สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557 © บริษัท เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง จ�ำกัด ลิขสิทธิ์บทแปลภาษาไทย © นพดล เวชสวัสดิ์ พ.ศ. 2557 เลขมาตรฐานสากลประจ�ำหนังสือ 978-616-7691-16-9 พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2557 ราคา 450 บาท


ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ หากร่างกายถูกท�ำลายสิน้ ศักดิศ์ รีโดนเหยียบย�ำ่ จนไม่เหลือความเป็น คน มนุษย์ผู้นั้นจะเหลืออะไรในชีวิต...นอกจากความตาย หลุยส์ แซมเปอรินเี ติบโตขึน้ มาเป็นเด็กแสบในละแวกบ้าน ขโมยของ และสร้างความผิดหวังจนพ่อแม่เอือมระอา พี่ชายของเขามองเห็นโอกาส ในตัวของหลุยส์ สร้างเขาขึ้นเป็นนักวิ่งโอลิมปิกระดับต�ำนานของประเทศ แต่โชคชะตาพลิกผัน สงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น หลุยส์เข้าสมัครเป็น ทหารในหน่วยเครื่องบินทิ้งระเบิด เครื่องบินตก ลอยกลางทะเลไร้อาหาร และน�้ำนาน 47 วัน สภาพร่างกายเสื่อมโทรมถึงขีดสุด แต่เมื่อกลับขึ้นฝั่งได้ แพลอยเข้าหากองทัพศัตรู หลุยส์กลายเป็น เชลยศึก ถูกทรมานต่างๆ นานา ศักดิ์ศรีถูกเหยียบย�่ำ โดนกระท�ำราวกับ ไม่ใช่ผู้คน พบกับเรื่องราวสุดอัศจรรย์ของชายผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อเคราะห์กรรม เขาก้าวผ่านมันด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นและกล้าหาญ ล้มแล้วลุก ยืนหยัดไม่เคย ยอมแพ้ เพราะชีวิตคือการไม่ยอมพ่าย



ค�ำน�ำผู้แปล

ได้รับ

ขออนุญาตผู้อ่านเขียนค�ำน�ำที่ไม่อาจเรียกว่าค�ำน�ำ บอกเท่าที่บอกได้ ละเว้นเรื่องราวที่จะขโมยความตื่นเต้นที่ผู้อ่านพึง

เรือ่ งราวชีวติ จริงของร้อยตรีลอู สิ แซมเปอรินี นักวิง่ โอลิมปิกเบอร์ลนิ กระทบไหล่ฮิตเลอร์มาแล้ว นายทหารทิ้งระเบิดประจ�ำเครื่องบินทิ้งระเบิด B-24 เครื่องตกในทะเล ลอยเท้งเต้งในมหาสมทุรแปซิฟิกบนแพยาง ไม่มี อาหารไม่มีน�้ำ ฉลากแหวกว่ายใต้แพยาง เขาชกจมูกฉลามนับครั้งไม่ถ้วน (จะลอยไปไกลแค่ไหน ลอยเท้งเต้งกลางทะเลนานกี่วัน...ไม่บอก) แต่ก็ครองสถิติโลกลอยกลางทะเลบนแพยาง และแล้ว


ขาดน�้ำขาดอาหาร แสงแดดแผดเผา ฉลามลอยวนเวียนรังควาน เครื่องบินทิ้งระเบิดโผล่มาให้เห็น ยิงกราดด้วยปืนกล แพยางเกยเกาะ...เกาะที่ทหารญี่ปุ่นยึดครองอยู่ ตกนรกขุมแรก อีกขุม และอีกขุม นรกในค่ายกักกันหฤโหด ประสงค์เดียวคือ ท�ำลายศักดิศ์ รีความเป็น มนุษย์ให้สิ้นไปจากซากศพที่ยังมีลมหายใจ เชลยศึกล้มตายเหมือนใบไม้ร่วงปลิดปลิวจากต้น ทหารกล้า ไม่ดับสูญ กอดกุมศักดิ์ศรีมนุษย์ไว้ประดับตน ศักดิ์ศรีมนุษย์...ไม่มีวันดับสูญ หลายคนกลับถึงบ้าน พร้อมกับแผลเป็นในวิญญาณที่ไม่มีทางรักษา ให้หายขาด สงครามสิ้นสุดแล้ว แต่ศึกในอกที่มีแต่ความคั่งแค้นอาฆาตพยาบาท ไม่มวี นั สิน้ สุด จนกว่าจะหาสุขสันติในใจตนเองได้ มีเพียงอโหสิกรรมเท่านัน้ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ กระโจนลงมาในขุมนรกของลูอี้ แซมเปอรินี สัมผัสทุกข์เข็ญเท่าที่ ซากศพเดินได้จะทานรับไหว ร่วมทางทุกย่างก้าวในการธ�ำรงศักดิ์ศรีมนุษย์ไว้ประดับตน


ขอขอบคุณ คุณนพพร นิลวัฒน์ คุณเบริด



สารบัญ บทน�ำ

17 ภาคหนึ่ง

1. เจ้าหนูกบฏ

23

2. วิ่งเหมือนบ้า

37

3. ทอร์แรนซ์ ทอร์เนโด

45

4. ขโมยเยอรมนี

56

5. เข้าสู่สงคราม

70 ภาคสอง

6. โลงศพบินได้ 7. “ของจริงแล้ว ไอ้หนู”

85 104

8. “มีเพียงคนซักผ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่า ผมกลัวแค่ ไหน”

119

9. ห้าร้อยเก้าสิบสี่รู

137

10. ไอ้แสบทั้งหก

156

11. “ไม่มีใครรอดจากเรื่องนี้ ไปได้”

168


ภาคสาม 12. เครื่องตก

179

13. สูญหายในทะเล

186

14. กระหาย

199

15. ฉลามกับกระสุน

215

16. ล�ำน�ำขับขานในม่านเมฆ

224

17. ไต้ฝุ่น

236 ภาคสี่

18. ซากศพหายใจได้

247

19. ชายไร้สุ้มเสียงสองร้อยคน

260

20. ผายลมสลุตฮิโรฮิโต

275

21. ความเชื่อ

291

22. วางแผนแหกค่าย

302

23. อสุรกาย

315

24. ตามล่า

327

25. B-29

339

26. ความบ้าคลั่ง

356


27. ร่วงหล่นจากฟ้า

372

28. กดขี่เยี่ยงทาส

379

29. สองร้อยยี่สิบหมัด

392

30. มหานครหลอมละลาย

402

31. การแตกตื่นล่อนจ้อน

411

32. ลูกท้อสีชมพูกระจายเกลื่อนเต็มทุ่ง

421

33. วันแม่

435 ภาคห้า

34. อนงค์นางหน้าหวาน

453

35. ชีวิตแตกสลาย

468

36. ศพบนภูเขา

480

37. เชือกฟั่นเกลียว

491

38. เสียงหวีดเว้าวอน

499

39. อรุณรุ่ง

512

บทส่งท้าย

517

ค�ำขอบคุณของผู้เขียน

541



UNBROKEN ไม่มีวันดับสูญ





บทน�ำ

เท่าที่เขามองเห็น ในทุกทิศ มีแต่น�้ำ วันที่ 23 มิถุนายน 1943 ที่ไหนสักแห่งในมหาสุมทรแปซิฟิกเวิ้งว้าง ลูอิส (ลูอี้) แซมเปอรินี นายทหารทิ้งระเบิด ทัพอากาศ*, กองทัพบก สหรัฐฯ/นักวิ่งโอลิมปิก นอนแผ่บนแพยางเล็ก ลอยเท้งเต้งไปตามแรง สาดซัดของคลืน่ ไปทางทิศตะวันตก ร่างคุดคูข้ า้ งกายจะเป็นสิบเอก หนึง่ ใน พลปืนประจ�ำเครื่อง แพยางอีกหลังที่ผูกต่อกันมีลูกเรืออีกคน รอยแผล ตัดไขว้บนหน้าผาก ร่างของคนทั้งสามแดงเกรียมจากแดดแผดเผา และ ย้อมเหลืองจากสียอ้ มแพยาง ร่างเหลือเพียงหนังหุม้ กระดูก ปลาฉลามว่าย วนเวียนเชื่องช้า ครีบหลังขูดข้างแพยางแกรกกราก...รอคอย ทหารทั้งสามนายลอยฟ่องนานยี่สิบเจ็ดวันแล้ว คลื่นเขตศูนย์สูตร ยอแพยางห่างไกลจากจุดเครื่องตก อย่างน้อยที่สุดหนึ่งพันไมล์ ลึกเข้าสู่ * กองทัพอากาศสหรัฐก่อตั้งในวันที่ 18 กันยายน 1947 แยกออกจากกองทัพบก 17


ลอรา ฮิลเล็นแบรนด์

น่านน�้ำในเขตครอบครองของญี่ปุ่น แพยางเสื่อมสภาพอ่อนปวกเปียก ปล่อยกลิ่นเหม็นเปรี้ยวแสบจมูก เนื้อหนังของทหารด่างดวงด้วยรอย เกลื อ กั ด ริ ม ฝี ป ากบวมเป่ ง กดรู จ มู ก และคาง พวกเขาใช้เวลาทั้งวัน เหม่อมองท้องฟ้า ส่งเสียงร้องเพลง ‘คริสต์มาสขาว’ งึมง�ำพร�่ำถึงอาหาร ไม่มีใครออกมาตามหาพวกเขาอีกแล้ว ทั้งสามโดดเดี่ยวเดียวดายใน มหาสมุทรที่กินอาณาบริเวณหกสิบสี่ล้านตารางไมล์ หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ แซมเปอรินีอายุยี่สิบหกปี เป็นหนึ่งในนักวิ่ง ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นนักวิ่งคนแรกของโลก ที่ จ ะข้ า มเส้ น ‘หนึ่ ง ไมล์ สี่ น าที ’ หนึ่ ง ในด่ า นส� ำ คัญที่สุดในโลกกีฬาที่ คนทั้งโลกเฝ้าจับตามอง บัดนี้ เรือนกายนักวิ่งโอลิมปิกเหือดหายเหลือ น้อยกว่าหนึ่งร้อยปอนด์ ขาทรงพลังเลื่องระบือไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะ ยกร่าง แทบทุกคน ไม่นบั คนในครอบครัว แทงบัญชีสญ ู ว่าเขาตายไปแล้ว เช้าตรู่ของวันที่ยี่สิบเจ็ด ชายทั้งสามได้ยินเสียงแว่วแต่ไกล เสียง ทุ้มหนัก เสียงคุ้นหู เสียงลูกสูบ พวกเขามองเห็นแสงสะท้อนวาววับ กลางฟ้า...เครื่องบินลอยอยู่เหนือหัว แซมเปอรินียิงพลุสองลูก เขย่า สารย้อมลงในน�้ำทะเล สีส้มแผ่วงกว้างรอบแพยาง เครื่องบินเคลื่อน ต่อไป หายลับไปจากสายตา ทั้งสามคอตกหมดหวัง แต่แล้วเสียงนั้น หวนคืน เครือ่ งบินปรากฏให้เห็นอีกครัง้ ลูกเรือบนเครือ่ งบินล�ำนัน้ มองเห็น พวกเขาแล้ว แขนแห้งกรังหนังหุ้มกระดูก ผิวเนื้อเคลือบสีเหลือง คนบนแพ โบกมือร้องตะโกน เสียงแหบพร่าจากความกระหาย เครือ่ งบินลดความสูง บินโฉบข้างแพ แซมเปอรินีมองเห็นเงาด�ำของลูกเรือบนเครื่องบินตัดกับ ท้องฟ้าสีคราม เสียงกึกก้อง ดูเหมือนว่าน�้ำทะเลและแพยางเดือดปุด เสียงปืนกล นั่นไม่ใช่เครื่องบินกู้ภัยอเมริกัน หากแต่เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดญี่ปุ่น ชายทั้งสามพลิกร่างทิ้งตัวลงทะเล มือเหนี่ยวเกาะแพยาง หดหัว 18


ไม่มีวันดับสูญ

คอย่นเมื่อกระสุนเจาะแพยางและเป่าน�้ำกระจุยเป็นสายต่อหน้าต่อตา กระสุนพุ่งเป็นสายก่อนขาดหายเมื่อเครื่องบินแล่นผ่านเลยไป คนทั้งสาม ดึงตัวกลับขึน้ แพยางรัว่ ทีเ่ กือบจะแผ่ราบ เครือ่ งบินทิง้ ระเบิดเอียงปีกวนกลับ มาอีกรอบ เมื่อเข้าแนวระนาบได้แล้ว แซมเปอรินีมองเห็นล�ำกล้องปืน เล็งตรงมายังพวกเขา แซมเปอรินเี หลียวมองเพือ่ น ทัง้ สองเหนือ่ ยล้าเกินกว่าจะพลิกตัวลงน�้ำ ทั้งสองคุดคู้บนแพ มือกุมหัว แซมเปอรินีลงน�้ำเพียงคนเดียว ที่ไหนสักแห่งใต้ผิวน�้ำ ปลาฉลามสิ้นความอดทนรอคอย พลิกร่าง กลับตัว พุ่งตรงมาหาชายข้างแพยาง

19



ภาคหนึ่ง



หนึ่ง

เจ้าหนูกบฏ

ในความมืดก่อนอรุณรุ่งสางของวันที่ 26 สิงหาคม 1929 ในห้องนอน ด้านหลังของบ้านเล็กในทอร์แรนซ์, แคลิฟอร์เนีย เด็กชายสิบสองขวบ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง เงี่ยหูสดับเสียง เสียงจากข้างนอก เสียงดังกระหึ่ม ทีละน้อย เสียงทุม้ หนักบ่งบอกความมหึมาแทรกฝ่าอากาศ เสียงดังเหนือหัว เจ้าหนูลงจากเตียง วิ่งลงชั้นล่าง ตบประตูหลังให้เปิด วิ่งออกไปยัง สนามหญ้าหลังบ้าน สนามหญ้าเป็นอีกโลกหนึง่ มืดมิดจนแทบมองไม่เห็น สิง่ ใด สัน่ กระเพือ่ มด้วยคลืน่ เสียง เจ้าหนูยนื ข้างพีช่ าย ใบหน้าแหงนหงาย นิ่งค้างดั่งต้องมนต์สะกด ท้องฟ้าหายไปแล้ว วัตถุเค้าโครงสีดำ� บดบังฟ้าทัง้ ผืน แขวนลอยกลาง อากาศเหนือหลังคาบ้าน ขนาดยาวกว่าสนามฟุตบอลสองสนามครึง่ ต่อกัน สูงใหญ่เท่ามหานคร เงามืดนั้นลบดวงดาวไปสิ้น สิง่ ทีเ่ ขามองเห็นคือ เรือเหาะเยอรมัน กราฟ เซปเพลิน ยาว 800 ฟุต สูง 110 ฟุต อากาศยานขนาดใหญ่ทสี่ ดุ เท่าทีม่ นุษย์เคยสร้างขึน้ มา ภายใน 23


ลอรา ฮิลเล็นแบรนด์

ตกแต่งหรูหรายิ่งกว่าเครื่องบินใดๆ ลอยเคลื่อนราบเรียบได้ระยะทาง ไกลสุขสบายคล้ายไม่ต้องออกแรง ขนาดใหญ่โตมโหฬารพอจะท�ำให้ผู้คน อ้าปากค้างอัศจรรย์ใจ ในฤดูรอ้ นปี 1929 นัน่ ถือเป็นสิง่ มหัศจรรย์ของโลก เรือเหาะเดินทางอีกสามวันเพื่อสร้างสถิติบินรอบโลก เซปเพลิน เริ่มการเดินทางในวันที่ 7 สิงหาคม จากเลกเฮิร์สต์, นิวเจอร์ซีย์ แล่น เอื่อยเฉื่อยมุ่งหน้าไปหาแมนฮัตตัน ในฤดูร้อนบนฟิฟธ์แอฟวนู ในช่วง ทุบท�ำลายตึกโรงแรมวัลดอร์ฟ-แอสโตเรีย เพื่อสร้างตึกระฟ้าสูงที่สุดใน โลก ตึกเอ็มไพร์สเตต ทีส่ นามแยงกี้ ในเขตบรองซ์ มีการแจกเครือ่ งแบบ ติดหมายเลข ลู เกอริกได้หมายเลข 4 เบบ รูธใกล้จะตีโฮมรันครั้งที่ ห้าร้อย สวมเสื้อหมายเลข 3 ในวอลล์สตรีท หุ้นพุ่งปรูดปราดสูงสุดเป็น ประวัติการณ์ หลังจากลอยเอื่อยวนรอบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เซปเพลิน ตั้งเข็ม ขึ้นเหนือ จากนั้น เลี้ยวไปหามหาสุมทรแอตแลนติก เวลาผ่านไป ผืน แผ่นดินคืบใกล้ให้เห็น เรือเหาะลอยผ่านฝรั่งเศส เยอรมนี ลอยข้าม นูเรมเบิร์กที่นักการเมืองหัวรุนแรง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้น�ำพรรคนาซีที่ ล้มคว�่ำไม่เป็นท่าในการเลือกตั้งปี 1928 ปราศรัยปลุกระดมการล้างเผ่า บางพันธุ์เฉพาะเจาะจง จากนั้น ลอยไปทางตะวันออกของแฟรงเฟิร์ต หญิงชาวยิว เอดิธ แฟรงก์ เพิ่งให้ก�ำเนิดลูกสาวชื่อว่า แอนน์ แฟรงก์ แล่นเอือ่ ยไปทางตะวันออกเฉียงเหนือข้ามรัสเซีย ผูค้ นในหมูบ่ า้ นในไซบีเรีย ไม่เคยพบเห็นรถไฟมาก่อน คุกเข่าลงบนพื้นเมื่อมองเห็นเรือเหาะ วันที่ 19 สิงหาคม คนญี่ปุ่นกว่าสี่ล้านคนโบกผ้าเช็ดหน้า ตะโกน ‘บันไซ!’ เมื่อ เซปเพลิน บินวนรอบโตเกียวและร่อนลงบนพื้น สี่วัน ต่อมา มีการบรรเลงเพลงชาติญปี่ นุ่ และเยอรมัน เรือเหาะลอยขึน้ จากพืน้ พายุไต้ฝุ่นหอบข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกด้วยความเร็วสูงแทบหายใจไม่ทัน มุง่ หน้าสูอ่ เมริกา ผูโ้ ดยสารบนยานมองเห็นเพียงเงาของเรือเหาะไหลเลือ่ น เคลื่อนตามยานไปบนกลุ่มเมฆ ‘เร็วรี่เหมือนปลาฉลามว่ายน�้ำขนานไปกับ 24


ไม่มีวันดับสูญ

ยาน’ เมื่อเมฆสลายตัว ผู้โดยสารมองเห็นอสุรกายด�ำทะมึนขนาดมหึมา คล้ายจะผุดโผล่ขึ้นมาสู่ผิวน�้ำ วันที่ 25 สิงหาคม เซปเพลิน มาถึงซานฟรานซิสโก หลังเสียงโห่รอ้ ง ต้อนรับที่ชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย เรือเหาะไหลเลื่อนเข้ามาหาอาทิตย์อัสดง เข้ามาในความมืดและความเงียบสงัด ผ่านเทีย่ งคืน เคลือ่ นเชือ่ งช้าเหมือน ลมอ่อนโบกโบย เซปเพลิน เคลื่อนข้ามทอร์แรนซ์ ผู้ชมมีเพียงคนตาปรือ ง่วงงุน หนึง่ ในนัน้ เป็นเจ้าหนูตวั เล็กในชุดนอน ยืนบนสนามหญ้าหลังบ้าน บนถนนกราเมอร์ซี เจ้าหนูยืนเท้าเปล่าบนสนามหญ้าใต้เงามืดของเรือเหาะ ตัวแข็งค้าง คล้ายต้องมนต์สะกด อุทานออกมาว่า ‘สวยอย่างน่ากลัว’ เขาได้ยนิ เสียง ใบพัดตวัดอากาศ แต่ไม่อาจมองเห็นผิวสีเงินมันเลื่อม เส้นโครงลากยาว หัวจรดหาง และแพนหางทั้งสี่ เขามองเห็นเพียงเงาด�ำมหึมา ไม่แสดงตัว ให้ปรากฏ แต่ขาดหายเป็นกรอบชัดเจน...เป็นห้วงด�ำมืดทรงเรขาคณิตที่ ดูเหมือนจะกลืนกินสวรรค์เบื้องบนไปสิ้นแล้ว * * * เจ้าหนูผู้นั้นชื่อว่า ลูอิส ซิลวี แซมเปอรินี ลูกคนอิตาเลียนอพยพ ลืมตาดูโลกในเมืองโอลีน, นิวยอร์กในวันที่ 26 มกราคม 1917 ทารก น�ำ้ หนักสิบเอ็ดปอนด์ครึง่ ผมดกด�ำชีเ้ ด่เหมือนลวดหนาม แอนโธนีผเู้ ป็นพ่อ ท�ำมาหาเลี้ยงชีพตามล�ำพังตั้งแต่อายุสิบสี่ปี เป็นคนงานเหมืองถ่านหิน นักมวย และเป็นกรรมกรก่อสร้าง หลุยส์ผู้มารดา สาวร่างเล็กหน้าหวาน แต่งงานอายุสิบหก และคลอดลูอี้ลูกชายคนที่สองเมื่ออายุสิบแปดปี ใน อพาร์ตเมนต์ พูดจากันด้วยภาษาอิตาเลียนเท่านัน้ หลุยส์กบั แอนโธนีเรียก ลูกชายว่า ทูตส์ นับตั้งแต่เดินได้ ลูอี้ไม่ยอมรับการกักขังทุกรูปแบบ พี่ชายย้อนนึก 25


ลอรา ฮิลเล็นแบรนด์

น้องชายตัวเล็กจะปีนข้ามต้นไม้ใบหญ้าและเครื่องเรือน ในทันทีที่แม่วาง ลงบนเก้าอี้ ออกค�ำสั่งให้นั่งนิ่ง เธอหันกลับมา ลูกชายหายไปแล้ว หาก เธอไม่จับลูกน้อยกระชับมั่นในอุ้งมือ เธอมักจะไม่ทราบว่าลูกชายอยู่ที่ใด ในปี 1919 ลูอี้อายุสองขวบกับพีต พี่ชาย ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบ ลูอี้ปีนออกหน้าต่างห้องนอนชั้นสอง ไต่ลงไปชั้นล่าง เปลือยล่อนจ้อนวิ่ง ไปกลางถนนโดยมีต�ำรวจไล่หลังมาติดๆ ผูค้ นเบิกตาโพลงมองภาพนัน้ ด้วย ความอัศจรรย์ใจ ไม่นานหลังจากนั้น กุมารแพทย์แนะน�ำให้พาเด็กไปอยู่ ในทีอ่ ากาศอุน่ หลุยส์กบั แอนโธนีตดั สินใจย้ายไปอยูใ่ นแคลิฟอร์เนีย ขบวน รถไฟเคลื่อนออกจากสถานีแกรนด์เซ็นทรัลได้ไม่นาน ลูอี้วิ่งสุดฝีเท้าไป ตลอดขบวนรถ กระโจนลงจากตู้รถไฟท้ายสุด พีตยืนเคียงข้างมารดา ในขณะที่ขบวนรถไฟเคลื่อนถอยหลัง ตามหาเด็กกระโดดรถไฟ พีตมอง เห็นน้องชายเดินเอือ่ ยเฉือ่ ยกลางรางรถไฟด้วยท่าทางสุขสงบ แม่อมุ้ ลูกชาย มากอด ลูอี้แย้มยิ้ม “ผมรู้อยู่แล้วว่าแม่จะกลับมารับ” เขาบอกแม่ด้วย ภาษาอิตาเลียน ในแคลิฟอร์เนีย แอนโธนีได้งานเป็นช่างไฟฟ้าการรถไฟ เขาซือ้ ทีด่ นิ ครึ่งเอเคอร์ชานเมืองทอร์แรนซ์ ประชากร 1,800 คน เขากับหลุยส์ช่วย กันตอกไม้สร้างบ้านเพิงไม้ห้องเดียว ไม่มีน�้ำประปา ห้องสุขาอยู่ด้านหลัง หลังคารัว่ ขนาดหนักจนต้องวางถังรองน�ำ้ ไว้ในห้องนอน ใช้ตะขอเกีย่ วแทน กลอนประตู หลุยส์นั่งข้างประตูหน้า บนกล่องไม้บรรจุแอปเปิล ไม้นวด แป้งถือกระชับในมือ พร้อมจะหวดผู้บุกรุกที่จะมารังควานลูกน้อยทั้งสอง ของเธอ บ้านเพิงไม้ และบ้านบนถนนกราเมอร์ซที ยี่ า้ ยมาอยูใ่ นปีถดั มา หลุยส์ ปกป้องไม่ให้ผบู้ กุ รุกเข้าบ้าน แต่ไม่อาจกักลูอไี้ ว้ในบ้านได้ เขาวิง่ แข่งกับเด็กอืน่ บนทางหลวงรถราจอแจ หวุดหวิดถูกรถบุโรทัง่ ชน วันหนึง่ ลูอกี้ ระโดดข้าม รั้ว ปลายไม้แหลมเสียบต้นขา วันต่อมา หลุยส์ต้องขอร้องให้เพื่อนบ้าน เย็บนิ้วหัวแม่เท้าของลูอี้ให้ติดกับตัวอีกครั้ง และอีกวัน ลูอี้ตัวด�ำมะเมื่อม 26


ไม่มีวันดับสูญ

หัวจรดเท้าจากการปีนแท่นสูบน�้ำมัน และโดดลงไปในอ่างน�้ำมันจนแทบ จมน�ำ้ มันตาย แม่ตอ้ งใช้นำ�้ มันสนหนึง่ แกลลอนกับการขัดด้วยแปรงอยูน่ าน ก่อนที่แอนโธนีจะจ�ำลูกชายได้ การประท้วงต่อการจองจ�ำไม่ได้จ�ำกัดเพียงแค่ตู้รถไฟและประตูหน้า ตั้งแต่จ�ำความได้ เขาต่อสู้ทุกหัวโค้งเพื่อเสรีภาพของตน ทุกกฎเกณฑ์ที่ ตราไว้ ทุกค�ำสัง่ ห้าม ถือเป็นค�ำเชิญห้ามใจมิได้ทจี่ ะต่อต้านแข็งขืนสุดฤทธิ์ อายุห้าขวบ เดินไปโรงเรียนอนุบาล เขาหยิบก้นบุหรี่บนถนนมาสูบ อายุ แปดขวบ ดื่มสุราเมรัยเป็นครั้งแรกในชีวิต เขาซ่อนตัวใต้โต๊ะอาหาร ฉก แก้วไวน์ ดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เดินโซเซผ่านประตูหน้า เดินผ่านระเบียง หน้าบ้าน หมดสติหน้าคว�่ำลงไปในกอกุหลาบ ลูอตี้ นื่ เต้นเร้าใจไปกับการแหกคอก เป็นม้าพยศทีไ่ ม่ยอมให้พาดอาน คาดบังเหียน เขาเติบโตสมองใสฉลาดเฉลียว เพียงแค่การท้าทายน้อยนิด ไม่อาจสนองความอภิรมย์ในใจได้อกี แล้ว ในเมืองทอร์แรนซ์ กองก�ำลังกบฏ ของเด็กชายคนเดียวก่อตัวขึ้นแล้ว * * * ทุกอย่างทีก่ นิ ได้ ลูอขี้ โมย เขาแอบย่องไปในซอยเล็กหลังบ้าน ในกระเป๋า กางเกงมีลวดสะเดาะกุญแจ แม่บา้ นเดินออกจากห้องครัว กลับมาอีกครัง้ อาหารเย็นหายวับไปแล้ว ชาวบ้านที่มองออกมาหน้าต่างหลังบ้านอาจทัน ได้เห็นเด็กชายขายาววิง่ ฉิวไปในซอย เค้กทัง้ ก้อนเลีย้ งอยูบ่ นฝ่ามือ ในยาม ทีเ่ พือ่ นบ้านตัดชือ่ ลูออี้ อกจากรายการแขกรับเชิญร่วมมือ้ อาหารเย็น เขาจะ ย่องเข้าไปในบ้านหลังนัน้ ติดสินบนหมาเกรตเดนด้วยกระดูกชิน้ โต กวาด ตู้เย็นจนเกลี้ยง งานเลี้ยงอีกครั้ง เขาฉกเบียร์ทั้งถัง หลังจากที่สืบทราบ ว่าโต๊ะวางขนมให้เย็นของร้านขนมปังไมน์เซอร์อยู่ห่างจากประตูหลังแค่ เอื้อมมือถึง เขาสะเดาะกลอน คว้าขนมพายมาหลายถาด กินจนพุงกาง 27


ลอรา ฮิลเล็นแบรนด์

และเก็บที่เหลือไว้เป็นเสบียงซุกซ่อนตัว ในยามที่แก๊งหัวขโมยข้ามถิ่นมา เขาจะซ่อนตัว งดการขโมยไปชัว่ ระยะหนึง่ รอจนกระทัง่ แก๊งนัน้ ถูกจับตัวได้ เจ้าของร้านไม่ระวังตัวอีกแล้ว เขาสั่งให้ลูกสมุนปล้นร้านขนมปังไมน์เซอร์ อีกครั้ง ดูเหมือนว่าบทสัมภาษณ์เรื่องราวในวัยเด็กของลูอี้มักจะลงท้ายด้วย วลี “...แล้วผมก็วิ่งหนีเหมือนไอ้บ้า” การขโมยอาหารแทบทุกครั้งมักจะ มีคนวิ่งไล่ขับ อย่างน้อยที่สุด มีสองรายที่ขู่ว่าจะยิงทิ้งเพื่อลดความเสี่ยง ของหลักฐานติดมือตอนต�ำรวจไล่กวด เขาสร้างแหล่งเก็บซ่อน ‘ของร้อน’ ไว้ทวั่ เมือง รวมทัง้ ถ�ำ้ เล็กสามทีน่ งั่ ทีเ่ ขาขุดไว้ในป่า ใต้อฒ ั จรรย์ของโรงเรียน มัธยมปลายทอร์แรนซ์ พีตพบไวน์ทั้งเหยือกที่ลูอี้ขโมยมาซุกไว้ ตอมด้วย มดเมามายทั้งรัง ในล็ อ บบี้ ข องโรงหนั ง ทอร์ แรนซ์ ลู อี้ ยั ด กระดาษช� ำ ระไว้ ใ นช่ อ ง หยอดเหรียญโทรศัพท์สาธารณะ แล้วแวะเวียนกลับมาใช้ลวดเกีย่ วเหรียญ เกีย่ วกระดาษขึน้ มา ได้เหรียญคราวละอุง้ มือ พ่อค้าของเก่าไม่มที างคาดเดา ได้ว่าเจ้าหนูอิตาเลียนหน้ายิ้มที่กอบเศษทองแดงมาขายให้บ่อยครั้งจะเป็น คนเดียวกับที่แอบขโมยเศษทองแดงจากร้านของเขาในคืนที่ผ่านมา ลูอี้ ค้นพบความจริงในระหว่างที่มีเรื่องชกต่อยกับเด็กอื่นในเต็นท์ละครสัตว์ ว่า ผู้ใหญ่มักจะควักเหรียญควอเตอร์ให้เด็กเลิกชกต่อยกัน ลูอี้ท�ำสัญญา สงบศึกกับศัตรู เดินกอดคอกันเพื่อเปิดการแสดงการชกต่อยกันอีกรอบ ต่อหน้าคนแปลกหน้ากลุ่มอื่น ลูอี้ล้างแค้นนายตรวจรถรางที่ไม่ยอมหยุดรถรับเขาโดยเอาจารบี ไปทารางให้รถตกราง และเมื่อครูท�ำโทษให้เขาไปยืนมุมห้องโทษฐาน เคี้ยวกระดาษเป่าก้อนกระสุนแกล้งเพื่อน เขาปล่อยลมยางรถของเธอด้วย ไม้จมิ้ ฟัน หลังจากท�ำสถิตลิ กู เสือระดับมลรัฐในเรือ่ งการก่อไฟด้วยการขัดสี ได้สำ� เร็จ เขาท�ำลายสถิตนิ นั้ ด้วยการชโลมฝอยไม้ดว้ ยน�ำ้ มันเชือ้ เพลิง คลุก กับหัวไม้ขดี มอบการระเบิดเล็กๆ ให้ชมเป็นขวัญตา เขาขโมยท่อโลหะใน 28


ไม่มีวันดับสูญ

เครือ่ งต้มกาแฟของเพือ่ นบ้าน สร้างบังไพรพลซุม่ ยิงบนต้นไม้ อมลูกเบอร์รี ไว้เต็มกระพุ้งแก้ม เป่าผ่านหลอดโลหะ ระดมยิงเด็กผู้หญิงในละแวกบ้าน ให้หนีกระเจิง การเล่นตลกร้ายกลายเป็นต�ำนานเล่าขาน กลางดึกคืนหนึ่ง ลูอี้ปีน ยอดแหลมของโบสถ์แบปติสต์ ผูกลวดเปียโนเข้ากับระฆังโบสถ์ โยงลวด ผ่านต้นไม้ และลั่นระฆังไม่ยั้ง ปลุกต�ำรวจ ดับเพลิง และผู้คนทั้งเมือง ทอร์แรนซ์ให้ตนื่ กลางดึก ชาวเมืองเชือ่ ว่าเป็นมหาสุรเสียงจากพระผูเ้ ป็นเจ้า เรือ่ งเดียวทีท่ �ำให้ลอู ี้ แซมเปอรินหี วาดกลัวคือ ปลายวัยเด็ก นักบิน พาเครือ่ งร่อนลงกลางทุง่ ชานเมืองทอร์แรนซ์ เขารับลูอขี้ นึ้ เครือ่ ง ใครก็คง หลงคิดว่าเด็กสุดห้าวจะสุขสมชื่นมื่น ตรงกันข้าม ความเร็วและความสูง ท�ำให้ลอู กี้ ลัวแทบขาดใจ นับจากวันนัน้ เป็นต้นมา เขาไม่อยากเฉียดเข้าไป ใกล้เครื่องบิน วัยเด็กทีเ่ ต็มไปด้วยการหลบลีห้ นีภยั ลูอที้ �ำได้มากกว่าเรือ่ งเหลวไหล เลวร้าย เขาหล่อหลอมตัวตนผู้ใหญ่เต็มวัยขึ้นมาแล้ว เชื่อมั่นในตนเอง เต็มเปีย่ มว่าตัวเองฉลาด มีไหวพริบดัดแปลงข้าวของรอบตัว และกล้าหาญ พอจะผ่านเรื่องร้ายทุกอย่างไปได้ เขาแทบจะบรรลุถึงขั้นไม่ยอมรับความ หดหู่ท้อแท้ เมื่อประวัติศาสตร์หอบเขาเข้าสู่สงคราม การมองโลกในแง่ดี ยืดหยุ่นสูงจะนิยามตัวตนของเขาให้ชัดยิ่งขึ้น * * * ลูออี้ อ่ นกว่าพีช่ ายยีส่ บิ เดือน เป็นภาพฉายด้านตรงข้ามของพีต พีตหน้าตา หล่อเหลา เจ้าเสน่ห์ เนื้อตัวสะอาดหมดจด อ่อนน้อมมารยาทงามต่อ ผูใ้ หญ่ เป็นทีพ่ งึ่ เอือ้ เฟือ้ ต่อเด็ก ปากหวานช่างเจรจาในหมูส่ าวๆ รอบคอบ มีความคิดความอ่าน แม้ในช่วงเด็ก พ่อแม่มีปัญหาหนักอก บ่อยครั้งจะ ปรึกษาลูกชายคนโต พีตจะเลื่อนเก้าอี้ให้แม่นั่งในมื้ออาหารเย็น เข้านอน 29


ลอรา ฮิลเล็นแบรนด์

หนึง่ ทุม่ ตรง เก็บนาฬิกาปลุกซุกไว้ใต้หมอน ไม่ให้สง่ เสียงรบกวนลูอที้ นี่ อน เตียงเดียวกัน พีตตื่นตีสองครึ่ง ออกไปส่งหนังสือพิมพ์สามชั่วโมงเต็ม ทุกวัน เก็บเงินทัง้ หมดฝากธนาคาร เงินฝากทีจ่ ะหายวับไปสิน้ เมือ่ ธนาคาร ล้มละลายในช่วงเศรษฐกิจตกต�่ำในอีกไม่กี่ปีถัดมา เขาร้องเพลงเพราะ มี เข็มกลัดซ่อนปลายติดกระเป๋าเสมอ เผือ่ ว่าสายรัดชุดของคูเ่ ต้นร�ำหลุดขาด ออกจากที่ พีตเคยช่วยเด็กหญิงให้รอดจากการจมน�้ำตาย เขาแผ่ความ อ่อนโยนแต่ลุ่มลึกเด็ดเดี่ยวออกไปรอบข้าง แม้แต่ผู้ใหญ่ยังรับฟังและ โอนอ่อนตามการพูดจูงใจโน้มน้าวของเขา แม้แต่ลอู กี้ บฏน้อยทีไ่ ม่ยอมฟังใคร ยังยอมท�ำตามค�ำสอนสั่งของพีต ลู อี้ ย กย่ อ งนั บ ถื อ พี ต ผู ้ ดู แ ลตั ว เขากั บ น้ อ งสาวทั้ ง สอง ซิ ล เวี ย กั บ เวอร์จเิ นีย เหมือนพ่อคนทีส่ อง ลูอตี้ กอยูใ่ นเงามืดของพีช่ าย ผูค้ นรอบข้าง ย�้ำซ�้ำไม่ขาดปาก ซิลเวียนึกถึงแม่นำ�้ ตานองหน้า พร�่ำบอก อยากให้ลูอี้ เหมือนพี่ชาย ความชอกช�้ำใจขื่นขมจะเป็นเพราะว่าชื่อเสียงสุกปลั่งของ พีตเป็นแต่เพียงภาพเปลือกนอกที่ทุกคนมองเห็น แม้ว่าพีตจะท�ำผลงาน การเรียนได้ดีกว่าลูอี้เพียงเล็กน้อย ครูใหญ่อนุมานเอาว่าพีตเป็นนักเรียน คะแนนเต็ม ในค�่ำคืนการย�่ำระฆังปริศนาในทอร์แรนซ์ หากมีใครส่อง ไฟฉายไปที่พุ่มใบ ก็คงทันได้เห็นขาของพีตห้อยต่องแต่งเคียงข้างขาของ ลูอี้...ลูอี้ไม่ใช่แซมเปอรินีคนเดียวที่วิ่งเร็วจัดไปในซอยเล็ก ขโมยอาหาร ของเพื่อนบ้าน แต่ไม่เคยมีใครคิดจะสงสัยว่าเป็นพีต ซิลเวียให้ความเห็น ต่อเรื่องนี้ “พีตไม่เคยถูกจับได้...ลูอี้ถูกจับได้เสมอ” ไม่มสี งิ่ ใดในตัวลูอที้ ลี่ ะม้ายคล้ายเด็กรุน่ ราวคราวเดียวกัน ลูอรี้ า่ งเล็ก ผอมเกร็ง ในช่วงปีแรกๆ ในทอร์แรนซ์ ปอดของเจ้าหนูยังย�่ำแย่จากการ วิง่ เปลือยกลางถนน เด็กหญิงในเมืองคนไหนๆ อัดเขาให้ลม้ คว�ำ่ ได้ เค้าหน้า ของเขาค่อยปรับเปลี่ยนทีละน้อยตามกาลเวลา แต่ละส่วนเจริญเติบโตใน อัตราเร็วแตกต่างกัน มอบใบหน้าพิลกึ พิลนั่ ประหนึง่ ออกแบบและก่อสร้าง โดยคณะกรรมการ ใบหูของเขาห้อยยาวข้างใบหน้า เหมือนซองปืน 30


ไม่มีวันดับสูญ

ห้อยแขวนข้างเอวคาวบอย ผมด�ำบนหัวชี้เด่ไร้ความสามัคคี เขาพยายาม สยบให้ราบเรียบด้วยเตารีดผ้าร้อนจัดของป้ามาร์กี ใช้ถุงน่องไหมรัดไว้ ตลอดทั้งคืน และกอบน�้ำมันมะกอกเปียกโชกหนังศีรษะจนแมลงวันบิน ตอมไปถึงโรงเรียน แต่ไม่ได้ผล จากนั้นก็เป็นเรื่องเชื้อชาติ ในทอร์แรนซ์ต้นทศวรรษ 1920 คน อิตาเลียนเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ เมื่อครอบครัวแซมเปอรินีย้ายมาที่นี่ เพื่อนบ้านเข้าชื่อร้องเรียนต่อคณะกรมการเมืองให้ขับไล่ไม่ให้เข้าเมือง ลูอี้ รู้ภาษาอังกฤษไม่กี่ค�ำ ไม่อาจซ่อนเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ตัวเองได้ เขารอดผ่าน โรงเรียนอนุบาลมาได้โดยไม่ส่งเสียง แต่เมื่อขึ้นประถมหนึ่ง เขาแผดเสียง ด่าเพื่อนร่วมชั้นเป็นภาษาอิตาเลียนจนครูจับได้ ครูเติมความหดหู่อีกขั้น โดยการปรับให้เรียนซ�้ำชั้น ลูอี้ตกเป็นเป้าที่อันธพาลประจ�ำโรงเรียนเลือกแล้ว หนึ่งนั้นเพราะ หน้าตาพิลึกพิลั่น อีกหนึ่ง เพื่อล่อให้เจ้าหนูหลุดปากสบถเป็นภาษา อิตาเลียน อันธพาลยั่วยุล้อเลียน ขว้างปาก้อนหิน ชกบ้างเตะบ้าง เขา พยายามซือ้ เมตตาจากอันธพาลด้วยอาหารกลางวันของตัวเอง แต่พวกนัน้ ยังถล่มเขาจนได้แผลเห็นเลือด ลูอี้อาจจบการทุบตีได้โดยวิ่งหนีหรือร�่ำไห้ แต่เขาไม่ท�ำทั้งสองอย่าง ซิลเวียกล่าวว่า “ทุบตีเขาให้ตาย เขาไม่ส่งเสียง โอดโอยหรือร้องไห้” ลูอี้เพียงแค่ยกมือปิดหน้า รับการลงทัณฑ์ * * * เมือ่ ลูอยี้ า่ งเข้าวัยรุน่ เขาเลือกทิศทางใหม่ แยกตัวโดดเดีย่ วและเกรีย้ วกราด เขาซุม่ เงียบอยูช่ ายขอบเมืองทอร์แรนซ์ ผูกมิตรกับพวกเด็กแสบนักเลงหัวไม้ ทีพ่ ร้อมจะเชือ่ ฟังรับค�ำสัง่ จากเขา ช่วงนีล้ อู มี้ โี รคกลัวเชือ้ โรค ถึงขัน้ ไม่ยอม ให้ใครเข้าใกล้อาหารของเขา เขาอาจท�ำตัวให้เป็นเด็กน่ารักได้ แต่บอ่ ยครัง้ จะฉุนเฉียวโกรธง่ายและดื้อรั้นต่อต้าน เขาแสร้งท�ำเป็นแกร่งกร้าน แต่ 31


ลอรา ฮิลเล็นแบรนด์

ทุกข์ระทมในใจ เด็กคนอื่นๆ ที่เดินผ่านหน้าไปงานปาร์ตี้จะเห็นเขาเตร่อยู่ หน้าบ้าน รวบรวมความกล้าที่จะเดินเข้าไปในงาน ลูอี้หงุดหงิดต่อความอ่อนปวกเปียกป้องกันตัวเองไม่ได้ เขาศึกษา หาความรู้จริงจัง พ่อสอนให้ชกกระสอบทราย และท�ำบาร์เบลจาก กระป๋องกาแฟอัดด้วยดีบุกสองใบเชื่อมต่อกับท่อ คราวถัดไปที่อันธพาล ปรี่เข้ามาหาลูอี้ เขาโน้มตัวหลบลงต�่ำทางซ้าย หมัดขวาเหวี่ยงเข้าปาก หมอนั่น อันธพาลกรีดร้อง ฟันหลุด วิ่งหนีไป ความสุขซ่านจนตัวเบาที่ ลูอี้รู้สึกในตอนเดินกลับบ้านเป็นประสบการณ์ที่เขาไม่มีวันลืม เวลาผ่านไป อารมณ์ของลูอี้ฉุนเฉียวกว่าเดิม ฟิวส์สั้นยิ่งขึ้น และ ทักษะจัดจ้านกว่าก่อน เขาผลักอกครู ขว้างต�ำรวจด้วยมะเขือเทศเน่า ชก ปากผูห้ ญิง เด็กเปรตคนไหนขวางทาง ได้กลับบ้านพร้อมปากเจ่อ อันธพาล หลีกห่างไม่กรายมาใกล้ลูอี้ คราวหนึ่ง เขาเดินมาพบพีตที่สนามหน้าบ้าน มีเรื่องกับเด็กอีกคน คู่กรณีตั้งการ์ด ยกก�ำปั้นสองข้างจดคาง ถลึงตา จ้องมองกัน รอว่าฝ่านไหนจะหาเรื่องก่อน ลูอี้ทนไม่ไหว แผดเสียงร้อง “พีต ชกมันเลย ชกมันเลย!” ทั้งสองยังถลึงตาเข้าใส่กัน ลูอี้วิ่งอ้อมหลัง ชกเข้าท้องคู่ปรับของพี่ชาย...แล้ววิ่งหนีสุดฝีเท้า แอนโธนี แซมเปอรินจี นปัญญาแล้ว ต�ำรวจจะเดินขึน้ ระเบียงหน้าบ้าน มาเคาะประตูเสมอเพือ่ พยายามสอนสัง่ ห้ามปรามลูอี้ มีเพือ่ นบ้านนับไม่ถว้ น รอท่าค�ำขอโทษ และรอรับค่าสินไหมทดแทน เงินทองที่แอนโธนีไม่มีพอ จะจ่ายได้อีกแล้ว เขารักลูกชาย แต่เอือมพฤติกรรมเต็มแก่ บ่อยครั้งที่ ตีสั่งสอน กลางดึกคืนหนึ่ง เขาพบลูกชายมุดออกหน้าต่างห้องนอน เขา ง้างเท้าเตะเต็มรักจนร่างลูกชายลอยขึ้นจากพื้น ลูอี้รับการลงโทษเงียบงัน ไร้น�้ำตา แต่ก็ท�ำเรื่องร้ายซ�้ำอีกครั้ง เพียงเพื่อพิสูจน์ว่าท�ำได้ หลุยส์เลือกเส้นทางอีกสาย ลูอเี้ ป็นส�ำเนาถูกต้องทุกประการของเธอ รวมถึงดวงตาสีฟา้ หากมีใครผลัก เธอถีบ พ่อค้าขายเนือ้ ใกล้บดู ให้ เธอตรง ไปหา กระทะเหล็กกระชับมัน่ ในมือ เธอโปรดปรานการเล่นตลกร้าย เอา 32


ไม่มีวันดับสูญ

กล่องกระดาษมาฉาบด้วยเคลือบครีมไอซิง่ มอบเป็นเค้กวันเกิดให้เพือ่ นบ้าน ทีจ่ ะรูค้ วามจริงเมือ่ มีดตัดติดอยูใ่ นเค้ก เมือ่ พีตรับค�ำท้าว่าจะดืม่ น�ำ้ มันละหุง่ (เพือ่ การขับถ่าย) หากแม่สญ ั ญาว่าจะมอบกล่องขนมหวานให้ เธอยืนมอง ลูกชายคนโตดื่มน�้ำมันละหุ่งจนหมดแก้ว ยื่นกล่องเปล่าให้ “ลูกบอกว่า อยากได้กล่องนี่ ทีร่ กั ” เธอกล่าวพร้อมรอยยิม้ ละไม “แม่มแี ค่กล่องเปล่า เหลืออยู”่ หลุยส์เข้าใจอาการว้าวุน่ พลุกพล่านของลูอดี้ ี คืนฮัลโลวีนปีหนึง่ เธอแต่งตัวเป็นเด็กผู้ชายออกไปเร่ขอขนมหวานตามบ้านร่วมกับลูอี้และพีต แก๊งเด็กแสบคิดว่าเธอเป็นคนในเมือง เข้ามาแย่งชิงขนมหวานและปล้นชิง กางเกงทีส่ วมใส่อยู่ หลุยส์รา่ งเล็ก คุณแม่ลกู สีห่ ว่านก�ำปัน้ ไปรอบข้างในยาม ที่ต�ำรวจมารวบตัวเด็กแสบในข้อหาก่อการทะเลาะวิวาท หลุยส์ทราบดีว่าการท�ำโทษลูอี้รังแต่จะยั่วให้เขาต่อต้าน เธอหันไป หาเส้นทางอื่นที่จะดัดนิสัยลูก เธอเสาะหาสายข่าว เธอโน้มน้าวจูงใจ เพื่ อ นร่ ว มโรงเรี ย นของลู อี้ ด ้ ว ยขนมพาย จนได้ ตั ว ฮิ ว จ์ ผู ้ โ ปรดปราน ขนมหวาน นับจากนัน้ เป็นต้นมา หลุยส์รทู้ กุ การเคลือ่ นไหวของลูอจี้ นลูกๆ เริ่มสงสัยว่าแม่มีพลังจิต ก็จริงที่ซิลเวียเป็นคนปากโป้ง ทราบเรื่องใดของ ลูอี้ ต้องน�ำไปฟ้องแม่ ลูอไี้ ม่ยอมนัง่ ร่วมโต๊ะอาหารกับน้องสาว แยกตัวไป นัง่ กินอาหารคนเดียวหน้าเตาอบในห้องครัว เขาเดือดจัดจนวิง่ ไล่ขบั น้องสาว ครั้งหนึ่งและครั้งเดียวที่ซิลเวียวิ่งเข้าซอย รอดพ้นจากมือพี่ชาย เธอมุด เข้าไปในเพิงเครื่องมือของพ่อ ลูอี้ปล่อยสัตว์เลี้ยงแสนรัก...งูยาวสามฟุต เข้าไปไล่นอ้ งสาวออกจากใต้ถนุ เตีย้ ซิลเวียหนีกระเจิงไปขังตัวเองในรถยนต์ ของครอบครัว ไม่ยอมออกจากรถตลอดทั้งบ่าย “ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เรื่อง คอขาดบาดตาทีเดียว” เธอให้ความเห็นในอีกเจ็ดสิบห้าปีให้หลัง ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน หลุยส์ไม่อาจเปลี่ยนนิสัยลูอี้ได้ เขา หนีออกจากบ้าน เที่ยวพล่านในซานดิเอโกนานหลายวัน ซุกหัวนอนใต้ ทางยกระดับ เขาพยายามขี่วัวในทุ่ง โดนวัวสลัดให้ตกลงไปในซากต้นไม้ เดินกะเผลกกลับบ้านพร้อมบาดแผลที่หัวเข่า รัดแผลห้ามเลือดด้วย 33


ลอรา ฮิลเล็นแบรนด์

ผ้าเช็ดหน้า การเย็บแผลยี่สิบเจ็ดเข็มไม่ท�ำให้ลูอี้เชื่อง เขาหวดก�ำปั้นใส่ เด็กคนหนึ่งจนจมูกหัก จับเด็กอีกคนเหวี่ยงตีลังกา เอากระดาษยัดปาก พ่อแม่ในละแวกนั้นสั่งห้ามลูกกรายเข้าใกล้ลูอี้ ชาวไร่เดือดจัดที่ลูอี้ขโมย ข้าวของในไร่ บรรจุเกลือเม็ดในกระสุนลูกซอง ยิงบั้นท้ายไล่หลัง ลูอี้ ชกต่อยเด็กคนหนึ่งยับเยิน ทิ้งเด็กสิ้นสติไว้ในท้องร่องข้างถนน เกรงไปว่า เด็กคนนั้นคงตายไปแล้ว หลุยส์ร้องไห้โฮในทันทีที่เห็นก�ำปั้นโชกเลือด ของลูกชาย * * * ในวันที่ลูอี้เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมปลายทอร์แรนซ์ เขาไม่เหลือเค้าหน้า เด็กซนอีกแล้ว แต่เป็นหนุ่มน้อยอันตราย โรงเรียนมัธยมปลายจะเป็น ระดับการศึกษาสูงสุดของลูอี้ เพราะไม่มีเงินพอจะส่งเสียเขาเข้าเรียน มหาวิทยาลัยได้ เงินค่าจ้างของแอนโธนีจะหมดลงก่อนวันสุดสัปดาห์ บีบ บังคับให้หลุยส์ต้องปรุงอาหารด้วยมะเขือ นม ขนมปังชืด เห็ดป่า และ กระต่ายที่ลูอี้กับพีตล่ามาได้ คะแนนการเรียนคาบเส้น ไร้ทักษะพิเศษ ลูอี้ไม่มีหวังจะได้ทุนการศึกษา และก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะได้งานท�ำ ช่วงเศรษฐกิจตกต�่ำมาเยือน อัตราคนว่างงานสูงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ลูอี้ ไม่มีความทะเยอทะยานใดๆ ในใจ หากรบเร้าซักถาม ค�ำตอบของเขา ก็คงเป็น ‘คาวบอย’ ในทศวรรษ 1930 อเมริกาหลงใหลได้ปลื้มกับ ‘วิทยาศาสตร์ปลอม’ เรือ่ ง การปรับปรุงลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย์ (eugenics) โดยการ ก�ำจัด ‘พวกไม่สมประกอบ’ ให้พ้นไปจากแอ่งพันธุกรรม ได้แก่ พวกสติ ฟัน่ เฟือน คนบ้า อาชญากร สตรีทมี่ กี จิ กรรมทางเพศนอกกรอบการสมรส (ถือเป็นความป่วยไข้ทางจิต) เด็กก�ำพร้า คนพิการ คนยากจน คนไร้บา้ น คนป่วยโรคลมชัก คนส�ำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง คนตาบอด คนหูหนวก 34


ไม่มีวันดับสูญ

คนติดสุราเรื้อรัง ผู้หญิงที่เครื่องเพศขนาดใหญ่เกินเกณฑ์ที่ก�ำหนดไว้ นั ก ปรั บ ปรุ ง ลั ก ษณะพั น ธุ ก รรมเสนอวิ ธี ก ารุ ณ ยฆาต หรื อ ขั ง ลื ม ไว้ ใ น โรงพยาบาลโรคจิต ปล่อยให้เจ้าหน้าทีโ่ รงพยาบาลก�ำจัดได้อย่างเงียบเชียบ หรื อ ไม่ ก็ ล ะทิ้ ง ไม่ ใ ส่ ใจจนตายไปเอง โรงพยาบาลโรคจิ ต แห่ ง หนึ่ ง ใน อิลลินอยส์ให้คนไข้ทรี่ บั เข้ามาใหม่ดมื่ นมวัวทีป่ ว่ ยเป็นวัณโรค ด้วยความเชือ่ ว่าจะมีแต่บคุ คลไม่พงึ ประสงค์เท่านัน้ ทีจ่ ะเสียชีวติ คนไข้สใี่ นสิบคนเสียชีวติ เครื่องมือยอดนิยมของนักปรับปรุงลักษณะพันธุกรรมจะเป็นการบังคับ จับตอน เจ้าหน้าที่ทั้งคณะและเครื่องมือจะติดตั้งบนแพ กวาดต้อน อันธพาลหรือคนโชคร้ายที่หลุดไปอยู่ในมือเจ้าหน้าที่ทางการให้ขึ้นแพ เมื่อถึงปี 1930 ลูอี้เติบใหญ่เป็นวัยรุ่น แคลิฟอร์เนียลุ่มหลงกิจกรรม ‘การปรับปรุงลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย์’ จับประชาชนไปตอนราว สองหมื่นคน ในช่วงทีล่ อู เี้ ป็นวัยรุน่ เรือ่ งทีเ่ กิดในเมืองทอร์แรนซ์ท�ำให้เขาลืมตามา ดูโลกความเป็นจริง ลูกชายของเพื่อนบ้านได้รับการวินิจฉัยว่าปัญญาอ่อน ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลโรคจิต รอดพ้นการตอนอย่างฉิวเฉียด เพราะ พ่อแม่ต่อสู้ทางกฎหมายอย่างไม่ลดละ ผู้คนในละแวกบ้านบริจาคเงิน ช่วยเหลือในการสู้คดี เด็กคนนั้นผ่านการสอนพิเศษโดยน้องสาวของเขา กลายเป็นเด็กทีท่ ำ� คะแนนเต็มทุกวิชา ลูอเี้ องห่างจากห้องขังหรือสถานพินจิ แค่ลมหายใจรด เขาเป็นตัวแสบก่อเรื่องราวไม่หยุดยั้ง นักเรียนคะแนน คาบเส้น และคนอิตาเลียนน่าสงสัย เขาเป็นคนประเภทที่นักปรับปรุง ลักษณะพันธุกรรมอยากก�ำจัดทิ้งให้เร็วที่สุด เมื่อตระหนักถึงความจริง เรื่องนี้ ลูอี้หวาดกลัวแทบขาดใจ เขารู้ดีว่าลูอี้คนที่เป็นอยู่ คนที่คนอื่นมองเห็น ไม่ใช่ตัวตนแท้จริง ของเขา เขาเปลี่ยนนิสัยเสียใหม่ พยายามพูดจาภาษาคนกับผู้คนรอบข้าง เขาขัดพืน้ ห้องครัวเพือ่ ให้แม่ประหลาดใจ แต่แม่คดิ ว่าพีตเป็นคนท�ำ ในยาม ที่พ่อเดินทางไปนอกเมือง เขายกเครื่องรถครอบครัวมาร์มอน โรสเวลต์ 35


ลอรา ฮิลเล็นแบรนด์

สเตรต 8 ด้วยตนเอง เขาอบคุกกี้และแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน ในยามที่ แม่เบื่อหน่ายความเลอะเทอะในครัว เตะโด่งลูกชายออกจากบ้าน เขาไป อบคุกกี้ในห้องครัวของเพื่อนบ้าน เขาแจกจ่ายสมบัติทุกอย่างที่ขโมยมา พีตกล่าวว่า “ลูอี้เป็นคนใจกว้าง แจกข้าวของทุกอย่างให้คนอื่นไปหมด... ไม่ว่าสมบัตินั้นจะเป็นของตัวเองหรือไม่ก็ตาม” ทุกคราวที่พยายามท�ำดี ผลจะออกมาในทางตรงกันข้าม ลูอี้จะ ปลีกตัวไปอยู่ตามล�ำพัง อ่านนิยายคาวบอยของเซน เกรย์ ฝันหวาน ว่าตัวเองเป็นคาวบอยมีม้าคู่ใจ จรม้าไปในแดนเถื่อนห่างไกลผู้คน เขา ดูหนังจอห์น เวย์นทุกเรื่อง ไม่สนใจว่าเป็นเรื่องใด ขอให้มีฉากทุ่งกว้าง ดิ น แดนตะวั น ตกเป็ น พอ ในบางคื น เขาจะลากฟู ก ออกไปนอนบน สนามหญ้าใต้ดวงดาว บางคืน นอนเบิกตาโพลงบนเตียง มองจ้อง โปสเตอร์หนังคาวบอยทอม มิกซ์กับโทนี ม้าวิเศษคู่ใจ หดหู่อัดอั้นตันใจ เหมือนว่าตัวเขาเองถูกรัดรั้งกักไว้ในกับดักที่ไม่อาจสลัดหลุด ในห้องนอนด้านหลัง เขาได้ยนิ เสียงรถไฟ เมือ่ นอนข้างพีช่ ายหลับใหล เขาจะเงี่ยหูฟังเสียงแผ่ว ดังขึ้นอีกนิด แผ่วจางไปแล้ว เสียงหวูดทุ้มหนัก แล้วหายเงียบไป เสียงที่ท�ำให้ขนลุก ลูอี้วาดภาพตัวเองบนรถไฟ ร่างโยก ไปกับจังหวะม้าเหล็ก เคลื่อนผ่านทุ่งกว้างที่จมอยู่ในความมืดมองไม่เห็น สิ่งใด ร่างเล็กลง เล็กลง ห่างไกลจนหายลับตา

36


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.