Day 5 - Meet Tibetans in Dharamsala วันที่ 5 - พบชาวธิเบตพลัดถิ่นที่ดารัมศาลา
แผนที่รัฐฮิมาจัลประเทศ (Himachal Pradesh) วันนี้เราออกเดินทางจากอัมริตสา (Amritsar) แตเชาไปดารัมศาลา (Dharamshala) ดวยรถเกงที่เหมา มา คนขับหนุมคนเดิมกับทีพ ่ าเราไปเมืองแอทารี่ (Attari) เมื่อวาน ตอนแรกเรากะจะไปโดยรถโดยสารแตคุณลุง แนะนําวาใชเวลานานมาก จอดเยอะ บางทีเดินทางเชาถึงเย็น แตถา ไปรถยนตสามารถใชเวลาเพียงครึ่งวัน เรา จึงตัดสินใจไปโดยรถเชาจะไดประหยัดเวลา สําหรับคนที่จะเชารถ หารถเชาไดไมยาก อาจจะใหที่โรงแรม ติดตอให เพราะปกติโรงแรมจะมี connection กับพวกรถเชาอยูแลว หรือตามหนาสถานีรถไฟจะเยอะมาก ปรากฏคนขับหนุมมารับเราพรอมกับคุณลุงที่นั่งรถมาดวยขางหนา คุณลุงจะไปกับเราดวย (เมื่อวาน อุตสาหรา่ํ ลาซะดิบดี) เราก็โอเคคะ เพราะที่วา งอยูแลว เราไปกันแค 2 คน คุณลุงนั่งขางหนา คนขับหนุมกับคุณ ลุงเปนคูซี้ตา งวัยมาก เพราะเขาคุยนูนนี้กันตลอดทาง (ซึ่งเราฟงไมออก) เราก็หลับตลอดทางเชนกัน (ถามา หลายคนจะประหยัดกวา เพราะรถเชานั้นเราเหมาทั้งคัน พอหารเฉลี่ยตอคนออกมา จะรูสึกวาคารถตอหัวแพง จัง) คุณลุงเลาวาเขาไปดารัมศาลาบอย บางทีก็ตด ิ รถไปอยางนี้นี่ละ เขาถือวาเขาพักผอนไปในตัว เพราะทีอ ่ ัม ริตสารอน แตทด ี่ ารัมศาลาเย็นสบาย นักทองเที่ยวก็ชอบเพราะเขาพูดภาษาอังกฤษไดดี เปนไกดไปในตัว (เขา ไมไดคิดเงินคาไกดเพิม ่ แตเรามีใหคุณลุงเพิ่มเปนทิปไป ก็ยังไมอยากจะเชือ ่ วาคุณลุงเปนคนขับสามลออยูดี คือคุณลุงเปนคนทีม ่ ีศก ั ยภาพในการเขาถึงนักทองเที่ยว, การแนะนําการเดินทาง และความรูในสถานทีต ่ างๆดี ทีเดียว) พอประมาณ 8 โมง เริ่มหิว คนขับหนุมพาแวะกินอาหารขางทาง อาหารหลักก็เหมือนเดิม คือ โรตี สวน ใหญที่รานตองมีฝาหมอปดไวตลอดเวลาเพราะแมลงวันวนเวียนอยูตลอด ชอน,สอม นี่ตอมกันเปนเรื่องปกติ เครื่องเคียงหลักคือโยเกิรต สวนใหญเขาจะเปนโยเกิรตทําเอง (นึกถึงเมืองไทยที่รา นอาหารบางรานจะมี โฆษณาวาทําเอง เชน ลูกชืน ้ ทําเอง หมูบดทําเอง ทําใหคด ิ ไปวาแลวมันสือ ่ กับผูบริโภควาของนี้ดีจริงอยางไร มันเปนการยืนยันวาอรอย หรือสะอาด หรอ? แลวทําเองแตไมอรอยไดไหม?) โยเกิรต แกเลียนไดดเี หมือนกัน
เอาน้ําตาลโรยหนอยๆ จะไดไมเปรี้ยวเกิน (ดีทค ี่ นไทยกินสมตํา,น้ําตก อาหารรสจัดเปนทุนเดิม คงไมทอ งเสีย กันงายๆ...ใชไหม?) โรตีที่รานนี้ไสในเปนชีส คอนขางเค็มทีเดียว ตองกินคูกบ ั โยเกิรตจะไดไมเลี่ยนเกินไป
บรรยากาศรานอาหารขางทาง
โยเกิรตทีท ่ ี่รานทําเอง
โรตีไสชีส
Maaza น้ํามะมวง อรอยๆ
เดินทางกันตอจนถึงจุดพักระหวางทาง เราแวะหาน้ําและขนมกิน เจอนักทองเที่ยวตางชาติคนหนึ่งนั่ง พักอยู เขาขี่มอเตอรไซดมาเอง (ถึกมาก) กําลังจะไปดารัมศาลาเหมือนกัน ระหวางนั้นเราเกิดปวดหองน้ําขึ่นมา ตองแวะหองน้ําสักหนอย แตเห็นหองน้ําแลวปวดใจ นี่มน ั หองน้ําสยอง (สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2) อีกแลว เปน หองน้ําที่แบบ ถาไดเปนเจาของคงทําไดอยางเดียวคือทุบทิ้ง (หลอนจริงๆ)
มอเตอรไซดนก ั เดินทาง
ทางเขาหองน้ํา (สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2)
ระหวางทางไตเขาขึ้นที่สูงขึน ้ เรื่อยๆ เริ่มมองเห็นเทือกเขาที่มีหิมะบาง รถขับถึงดารัมศาลาแลว แตเรา ไมไดพักที่นี่ เราจะไปพักทีแ ่ มคกราว กันจ (Mcleod Ganj) หรือ ดารัมศาลาบน (Upper Dharamsala) ซึ่งเปนแหลงที่พักสําหรับนักทองเที่ยวมากกวา ที่นี่คนหนาแนนมาก เริ่มเห็นคนหนาตาจีนๆ เปนเมืองในภูเขาที่ เจริญทีเดียว ทั้งธนาคาร ทั้งตูA TM เต็มไปหมดเลย ไมตอ งกลัวไมมีทก ี่ ดเงิน พอเขาสูตลาดกลาง (Main Bazaar) นักทองเที่ยวตางชาติตรึม Guesthouseเพียบ ตอนแรกเรากะจะพักใกล Main Bazaar เพื่อมาเดินเลน แตคนขับและคุณลุงแนะนําไปพักดานบนดีกวาไมแออัด
ภายในเมืองแมคกราว กันจ (Mcleod Ganj) คนขับรถที่นี่ ตองชํานาญทางจริงๆ เพราะขึ้นเขาสูง ทางแคบ ไมมีไหลทาง มีแตเสียงแตรที่เขาบีบกัน ตลอดเวลา คนขับพาเรามาพักที่โรงแรมอนันพาเลซ (Anand Palace) ในเครือ Best Western ราคารับไดอยู อากาศที่นี่ดม ี าก เย็นๆสบายๆ ใกลๆโรงแรมมีรานขายของอยู เดินเลนได อาหารการกินที่นี่อด ุ มสมบูรณดี
บรรยากาศระหวางทาง
รานขายผัก
คุณลุงพาเดินมาที่สระน้ําสาธารณะ นาเลนมาก เปนน้าํ จากภูเขาเลย น้าํ เย็นเจี๊ยบ แตไมมีชด ุ วายน้ํา อีก ทั้งมีแตผูชาย เดินมาเรื่อยๆจะเจอน้ําตกใหญ คุณลุงเหมือนอยากจะใหเราเดินไปน้าํ ตกดานบน ลุงบอกวาขึ้นไป เลนน้ําตกกอนก็ไดนะ เดี๋ยวเขารอ ซึ่งเปนระยะทางเดินขึ้นเขากวา 2 กม. เราทําอิดออด ไมอยากเดิน (เพราะแค เห็นก็เหนื่อยแลว) ...หิวขาวแลว ไปหาอะไรกินกวาดีกวา แลวก็ไมเดินไปน้ําตกตามการคะยั้นคะยอของคุณลุง (อิๆ)
มีบริการถายรูปในชุดอินเดีย
น้ําตกใหญ
สระน้ําน้ําเย็นเจีย ๊ บ
จากนั้น ลุงพาเดินไปวัดฮินดูใกลๆ ซึ่งมีลก ั ษณะคลายวัดธิเบตมาก เหมือนทีอ ่ ัมริตสาเลยทีว่ ด ั ฮินดู หนาตาคลายวัดซิกส ทําใหไดขอสันนิษฐานวา วัดฮินดูเมื่อไปอยูใ นชุมชนอื่นๆ สถาปตยกรรมก็จะโนมเอียงไป ทางชุมชนนั้น
ทางเขาวัด
ดานในวัด
กินขาวพอง หลังจากเขาไปขอพรในวัด เดินออกมาจากวัด มีคนขายไอศกรีม (ตอนแรกก็ไมรูเหมือนกันวาเขาขายไอศกรีม จนคุณลุงบอก) ลุง บอกวา เราตองชิมนะ ไหนๆมาแลว ตองเรียนรู จะไดเขาถึง เราก็เอา ลองดูหนอย คนขายตักไอศกรีมใสใบไม ควักจากกระปุกซายมาสวนหนึ่งใสใบไม ตามดวยอีกกอนจากกระปุกขวา ใชใบไมเปนชอนตัก รสชาติจาก 2 กระปุกทีเ่ ขาตักมาไมเหมือนกัน อันหนึ่งรสชาติคลายๆมะพราวเผา อีกอันหวานๆ คลายๆกะทิ สังขยา กิน รวมๆกันแลว ก็อรอยดี ราคา 10 รูป แตความสะอาด....ไมแนใจ (นี่..ฉันชิมไมเลือกเลยใชไหมเนี่ย)
ไอศกรีม ณ ดารัมศาลา
ชิมไอศกรีม
มาแวะกินอาหารที่รา นของเพื่อนคนขับหนุม ชือ ่ ราน German Bakery แตเจาของรานเปนชาวยิว (ซะ งั้น) รานอยูใกลๆโรงแรมที่พก ั เราเลย เขาบอกเพือ ่ นเขาทําอาหารอรอยมาก แลวก็อรอยจริงๆดวย ราคาไมแพง สรุปเรากินรานนี้ เชา-กลางวัน-เย็น เลย ไดลองชิมอาหารธิเบต (ที่นี่มอ ี าหารอิสราเอลดวย) เมนูหลักอาหารธิ เบต คือ ทุปกา (Thupka) เปนกวยเตี๋ยวน้ํา น้ําซุปอรอย อีกจานคือ โมโม (Momo) หนาตาคลายๆพวกขนมจีบฮะเกา-เสี่ยวหลงเปา แตแปงจะหนากวา ขางในมีไส จิ้มกับน้ําจิ้มสีแดงๆที่มีรสชาติเผ็ดหนอยๆ
รานอาหาร German Bakery
ทุปกา (Thupka)
โมโม (Momo)
ลุงพาเรามาตลาด Main Bazaar และใหเวลาเราในการเดินเลน รวมถึงเดินไปทีว่ ัดทสุลักคัง (Tsulagkhang Complex) เพราะรถเขาไปยาก ตองเดินเขาไป
หนาไปรษณีย (แทบดูไมออกเลย)
เมื่อชาวอินเดียพบชาวธิเบตพลัดถิ่น
พระธิเบต
ความเจริญยานกลางเมือง
รานขายของที่ระลึกมีเต็มไปหมด
บริเวณตลาด (Main Bazaar)
วัดธิเบตระหวางทาง
หมุนๆ แบบสีสันในวัด
เดินมาจนถึงวัดทสุลักคัง (Tsulagkhang Complex) และเปนที่พก ั ของทานดาไลลามะดวย ซึ่งชวง นี้ทานไมอยูด ราจึงไมมีโอกาสไดพบทาน สวนใหญทา นจะมีไปบรรยายและปาฐกถา ตามประเทศตางๆทั่วโลก ในดานสันติภาพ ฯลฯ เราสามารถเช็คตารางงานของทานไดจากเวบไซด www.dalailama.com ดานหนาวัดมี อนุสรณสถานแสดงถึงการตอสูเพือ ่ อิสรภาพของชาวธิเบต และมีพิพธ ิ ภัณฑธเิ บต (Tibet Musuem) ใหเขาชม ภายในมีประวัตศ ิ าสตรของชนชาติธเิ บต และเรื่องราวสมัยที่ธิเบตตอสูกับทางการจีนเพื่อประกาศอิสรภาพ (ปจจุบันธิเบตยังเปนสวนหนึง่ ของประเทศจีน เปนเขตปกครองตนเอง Tibet Autonomous Region) สมัยนั้น ชาวธิเบตบางสวนตองลี้ภัย โดยเดินขามเทือกเขาหิมาลัย มาอยูท ี่อินเดีย ในเมืองทีอ ่ ยูตด ิ อินเดีย เชน ในรัฐฮิ มาจัลประเทศ (Himachal Pradesh) และ รัฐจัมมูและแคชเมียร (Jammu&Kashmir) ซึ่งทานดาไล ลามะ ถูก เนรเทศออกนอกประเทศมาอยูที่นี่ เมื่อประมาณ 50 ปทแ ี่ ลว ในพิพิธภัณฑมีภาพนากลัวอยูภาพหนึ่ง เปนภาพ เด็กชาวธิเบตเดินขามภูเขาหิมะมาจากจีน ถูกหิมะกัดจนเทากุดไปเลย (เฮือก!)
อนุสรณสถาน
ชาวธิเบตลี้ภัยขามภูเขามาจากจีน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------พระพุทธศาสนาแบบธิเบต (Tibetan Buddhism) คือ พุทธศาสนาแบบหนึ่งซึง่ ถือปฏิบต ั ิในธิเบต และปจจุบันไดแพรหลายไปในหลายประเทศ ดินแดนธิเบตในอดีตมีความรุงเรืองทางพุทธศาสนามาก มีเอกลักษณเฉพาะคือเปนการผสมผสานระหวางพุทธศาสนานิกายมหายานทั้งจากอินเดียและจีน เมือ ่ มีงานบุญ ประชาชนจะเดินทางไปแสวงบุญแมจะไกลสักเพียงใด ซึ่งปจจุบันก็มีใหเห็นอยูมากมาย แตเมื่อตกอยูในการ ปกครองของจีนวัดนับพันแหงทั่วนครลาซา เหลือไมถึงหนึ่งรอยแหงในปจจุบัน จนแทบไมเหลือความ เจริญรุงเรืองในอดีต ในยุคเริ่มตนพ.ศ. 976 พระเจาลาโธ โธรี เย็นเซ เปนกษัตริยธิเบตองคแรกที่นับถือพระพุทธศาสนา ไดรับเครื่องบรรณาการจากตัวแทนชาวอินเดีย โดยนําคัมภีรพระพุทธศาสนา และพระพุทธรุปเขามาในธิเบต ถือ วาเปนครั้งแรกทีค ่ นธิเบตไดรูจักกับพระพุทธศาสนา แตก็ยังไมเปนที่แพรหลายเทาใดนัก เพราะชาวทิเบตยังนับ ถือลัทธิความเชื่อเรื่องภูติผีปศ าจอยูมาก แตดวยอิทธิพลของพุทธศาสนาจึงทําใหธเิ บตกลายเปนผูใ ฝสันติสุข และเปนชาวเขาที่มีอารยธรรมสูงจนถึงมีอักขระพิเศษเพือ ่ พระศาสนา โดยนําแบบอยางมาจากอักษรอินเดีย จากนั้นมาพระพุทธศาสนาจากอินเดียก็เขาถึงธิเบตครั้งแรกเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 12 และประดิษฐานมั่นคงใน พุทธศตวรรษที่ 16 ในปจจุบัน ดาไลลามะองคที่ 14 ทานเทนซิน เกียตโซไดลี้ภัยมาที่ ดารัมศาลา เชิงเขาหิมาลัย รัฐหิ มาจัลประเทศ ประเทศอินเดีย และจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นของธิเบตที่นี่ ตอมาก็เปนศูนยรวมใจชาวธิเบตในตาง แดน ชาวธิเบตในจีน ชวงแรกมีการทําถนนทําใหมค ี นเสียชีวต ิ เปนจํานวนมาก เนือ ่ งจากไมคุนเคยกับสภาพ อากาศ บางคนเปนวัณโรค บางคนเปนโรคทางเดินหายใจ ตอมาก็มาคาขายเสื้อผาที่อินเดีย และไดขยายไปตั้ง นิคมอยูที่รัฐมิโซรัม ประเทศอินเดีย ในยุคนี้มีการเผยแผพุทธศาสนาแบบธิเบตไปทั่วโลกทั้ง 4 นิกาย ไดแก นิกายเนียงมา นิกายกาจู นิกายสักยะ และนิกายเกลุก โดยทานดาไลลามะยังตอสูเพือ ่ เอกราชของตนโดนสันติ วิธี พรอมกับรักษาจิตวิญญาณของชาวพุทธไวอยางมั่งคง
ดาไลลามะองคที่ 14 เทนซิน เกียตโซ (Tenzin Gyatso) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------จากนั้นเราเดินขึ้นบันไดวัดไปเรื่อยๆ กอนขึ้นไปถึงชั้นบนเขาจะมีตรวจอาวุธ บรรยากาศภายในเงียบสงบ เราจะเห็นคนกําลังกราบแบบนอนราบอยูรอบๆวัด บางจุดดานบนวัดจะมองเห็นภูเขาหิมะอยูลบ ิ ๆดวย ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------การกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ เปนทากราบแบบนอนราบไปทั้งตัวตาม แบบฉบับของชาวธิเบต โดยใหสวนสําคัญของรางกายแปดสวน ไดแก มือทั้งสอง เขาทั้งสอง เทาทั้งสอง ลําตัว และหนาผาก สัมผัสกับ พื้นดินการกราบสักการะแบบอัษฎางคประดิษฐ หรือ ชากเซล ในภาษาธิเบต โดยคําวา ชาก (chag) หมายถึง
กายศักดิ์สิทธิ์ วาจาศักดิส ์ ิทธิ์ และจิตศักดิส ์ ิทธิ์ของพระพุทธเจาพระโพธิสต ั ตทั้งหลาย สวนคําวา เซล (tsel) หมายถึงการทีเ่ ราอุทศ ิ ตนอยางจริงจังและจริงใจที่จะกาวตามรอยพระพุทธบาท
การกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เห็นเขาหมุนกัน เลยไปหมุนบาง
ภายในวัดธิเบต
ขอทานดานหนาวัด เราเดินกลับจากวัดมาขึ้นรถ คุณลุงพามาโบสถเกาแกในดารัมศาลา ชื่อ โบสถเซนตจอหน (Church of St.John in the wilderness) ดานในโบสถเกาแกจริง เปนโบสถสไตลยุโรป บรรยากาศเงียบๆ อากาศเย็นๆ แลว คุณลุงก็พาเดินไปดานหลังที่เปนสุสาน (วังเวงไปไหม?)
โบสถเซนตจอหน (Church of St.John in the wilderness) คุณลุงพาเราไปชมพระอาทิตยตกดิน ณ ที่แหงหนึ่งแถวๆนั้น (ไมรูพิกัดไหน เพราะรถขับขามเขาไปขาม เขามา) เราแวะถายรูประหวางทางไปเรื่อยๆ จนถึงทีห ่ มาย คนขับจอดใหเราลงเดิน เปนจุดในหลืบมากๆ ถา ไมใชคนทองถิ่นไมนารูจัก เรานั่งรอแลวรอเลา ที่นี่มด ื ชามาก พระอาทิตยไมตกสักที สวางอยูเลย เลยเดินกันมา ตรงปายรถ (คิดไหนใจ..แลวมันมีรถผานดวยหรอ เพราะมันในปาในเขามาก ....แตกค ็ งมีแหละ) เราสั่งชาจาก รานชากาแฟตรงขามปายรถมานั่งกินรอพระอาทิตยตกดิน สักพักใหญๆ คุณลุงบอกขึ้นรถกัน (อาว! งง ไมรอดู พระอาทิตยตกดินแลวหรอ) ลุงจะพาไปอีกที่หนึ่ง
เดินตามลุงไป
บรรยากาศระหวางทาง
ปายรถอันอางวาง
ดอกไมเมืองหนาว
คุณลุงพามาจุดชมวิวจุดใหม ตองขับรถมาในหุบเขาสักระยะ มาจอดทีห ่ มูบา นหนึ่ง ซึง่ ใกลภเู ขาหิมะ มากมีเทือกเขาหิมะเปนฉากหลังสวยมาก อากาศเย็นสบาย มีคนมารอชมพระอาทิตยตกดินพอสมควร สวนใหญ เปนคนอินเดีย มองไปทางทีพ ่ ระอาทิตยตกดินจะเปนภูเขาที่ลาดลงไปกับพื้นสุดตา
วิวสวยมาก แสงอาทิตยสะทอนกับหิมะเปนสีสม เลย
พระอาทิตยกาํ ลังตกดิน เราเดินทางกลับมาที่โรงแรม ผานตลาด (Main Bazaar) โห...สีสันมากๆ รานคาเปดไฟกันสวางไสว เราแวะกินขาวที่รานเดิมใกลๆโรงแรม สั่งซุปคลอโรฟลลมากิน เติมพลัง ...(ไมชายยย) สั่งซุปผักโขมมา ซุป เขียวจนนากลัว แตอรอย ไมเหม็นเขียวดวย เห็นวาเจาของรานเปนคนยิว เลยมีเมนูอาหารอิสราเอลดวย เราเลย ลองสั่งมาชิมสักหนอย....รสชาติอรอยเลย ใหเยอะมากดวย กินเกือบไมหมด กอนขึ้นหองพัก เราแวะเลน อินเตอรเนตที่ lobby ชั้นลาง ซึ่งเนตชามากแตอยางนอยก็ไดติดตอกับโลกภายนอกบาง
บรรยากาศตลาดยามค่ําคืน
ซุปผักโขม
โรงแรมอนันพาเลซ (Anand Palace)
อาหารอิสราเอล --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------Ganj)
สถานที่ทองเที่ยวอื่นๆในเมืองดารัมศาลา (Dharamsala) และ แมคกราว กันจ (Mcleod
Library of Tibetan Works & Archives
Men-Tsee-Khang Museum
------------------------------------------------------------------------------------------------
Day 6 - Go to Jammu วันที่ 6 – มุงหนาสูเมืองจัมมู ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แผนที่แควนจัมมู&แคชเมียร (Jammu&Kashmir) ----------------------------------------------------------------------------------------รัฐจัมมูและแคชเมียร (J&K) เปนรัฐที่อยูเ หนือสุดของประเทศอินเดีย แบงเปนเขตใหญ ๆ 3 เขต คือ จัมมู (Jammu), แคชเมียร (Kashmir) และ ลาดักห (Ladakh) จัมมู (Jammu) เปนเมืองหลวงฤดูหนาวของรัฐ ลอมรอบดวยทุงหญาและที่ราบตามเชิงเขา ฤดูรอนมี อากาศรอนอบอาวแตในฤดูหนาวจะเปนแหลงทีเ่ หมาะสําหรับมาหลบความหนาวเย็นจากลาดักห พลเมืองสวน ใหญเปนแขกแบบอินเดียและมีแขกขาวผสมกลมกลืนกันรวมทั้งชาวธิเบตดวย ประชากรนับถึอศาสนาฮินดู 65.23%, ศาสนาอิสลาม 30.69%, ศาสนาซิกข 3.57%, ศาสนาพุทธ และอื่นๆ 0.51% แคชเมียร (Kashmir) มีความหมายรวมวา ดินแดนที่ไมมีน้ํา มีศรีนาคา (Srinagar) เปนเมืองหลวง ตั้งอยูใน แคชเมียรวล ั เลย (Kashmir Valley) พลเมืองมีลักษณะคลายกับคนเอเซียกลาง หรือ แขกขาว หนาตา ครึ่งแขก ครึ่งฝรั่ง หนาตาจึงดูคมเขม ผูช ายจะเต็มไปดวย หนวดเครา ประชากรสวนใหญนับถือศาสนาอิสลาม
91.16 %, ศาสนาฮินดู 1.84%, ศาสนาซิกข 0.88%, พุทธและศาสนาอื่น 0.11% ชาวศรีนากาผูชายจะทํางาน อยูนอกบาน สวมเสื้อตัวยาว ครึ่งนองแขนกวางคอกลม สวนผูหญิงจะทํางานอยูในบาน เมื่อราชวงศโมกุลปกครองอินเดีย ไดมีการพัฒนารูปแบบการจัดผังเมืองของแคชเมียรใหมทาํ ใหแคช เมียร เปนเมืองที่ดูสวยงาม จนเปนแหลงทองเที่ยวที่โดงดังไปทัว่ โลก มีทั้งทะเลสาบดาล (Dal Lake) ทะเลสาบนากิ้น (Nagin Lake) ในยุคปลายสมัยของราชวงศโมกุล อังกฤษไดเขามามีอิทธิพลในการปกครอง อินเดีย อังกฤษไดเขามาตั้งหลักแหลงในอินเดียหลายเมือง รวมทั้งที่แคชเมียรนี้ดว ย แตกฎหมายอินเดียไม อนุญาตใหอังกฤษมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินของแคชเมียร ดังนั้นชาวอังกฤษที่มาอยูใ นแคชเมียรจึงตองแกปญ หาทีอ ่ ยู อาศัยโดยการสรางเปนบานในเรือ (Houseboat) ใหลอยอยูในทะเลสาบ บานเรือนี่เองที่เปนแรงดึงดูดใจอยาง หนึ่งใหนก ั ทองเที่ยวมาชมแคชเมียร ลาดักห (Ladakh) เปนเมืองที่อยูสูงสุดและใหญทส ี่ ุดในแคชเมียร เพราะมีพื้นทีค ่ รอบคลุม 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดซึ่งประกอบไปดวยหุบเขาและที่ราบสูง เมืองใหญทส ี่ ุด คือ เลห (Leh) โดยชุมชนในลาดักห เปนชุมชนชาวพุทธนิกายมหายานที่ไดรับอิทธิพลมาจากธิเบต ดังนั้นสิ่งที่ไดพบเห็นในเมืองลาดักห คือ วัดพุทธ ในรูปแบบของมหายานสายธิเบต ลักษณะผูคนและการแตงกายจะเปนแบบธิเบต พลเมืองสวนใหญเปนชาวธิ เบต และแขกขาว ประชากรนับถือศาสนาอิสลาม 47.40%, ศาสนาพุทธ 45.87%, ศาสนาฮินดู 6.22% ที่นี่มี ลักษณะเหมือนธิเบต ดังนั้นผูคนจึงเรียกที่นวี า ธิเบตนอย (Little Tibet)
Pangong Tso Lake, Ladakh
Ladakh Thiksey Monastery, Ladakh
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------มื้อเชาวันนี้เราฝากทองไวทรี่ านอาหารเดิม กอนออกเดินทางไปเมืองจัมมู (Jammu) คนขับจะพาเราไป สงที่เมืองพาทานโกด (Pathankot) เพื่อขึ้นรถไฟหรือรถบัส ไปที่จัมมู ซึ่งใชเวลาเดินทางจาก แมคกราว กันจ (McLeod Ganj) – พาทานโกด (Pathankot) ประมาณ 3 ชม.
มื้อเชาแบบอิสราเอล (Israel Breakfast)
คุณลุงและคนขับหนุมพาเรามาที่สถานีรถไฟพาทานโกดกอน เพื่อดูรอบรถไฟ ถาไมมีรอบก็จะพาไปที่ สถานีรถบัส ซึ่งอยากจะบอกวา ถาไมใชคนทองถิ่น มาทีส ่ ถานีรถไฟนี้ยากเลยละ เพราะถนนในอินเดียไมคอ ยมี ปายบอก ตองพึ่งคนทองถิ่นในการพาไป เมืองพาทานโกดเปนเมืองทีเ่ ล็กกวาที่คด ิ ไว เปนทางผานที่ไมมีจุด ทองเที่ยวสําคัญ จึงไมเห็นนักทองเที่ยวตางชาติเลย รูสึกเควงๆชอบกล (เหมือนหมูรอเชือด ถาไมมีคุณลุงกับ คนขับ สงสัยคงงงๆมึนๆอยูเ หมือนกัน) ที่ปากทางเขาสถานีรถไฟจากถนนมาหนาสถานี กลิ่นอบอวลมาก...ดวย กลิ่นฉี่ (ซึ่งไมใชฉส ี่ ุนัขแถวนั้นแนๆ เพราะพยายามมองหาแลวไมมี) เราพยายามดูรอบรถไฟ แตไมมีรอบเหมาะ กับเวลาเราเลย
สถานีรถไฟพาทานโกด (Pathankot)
ตารางรถไฟสายเหนือ
จุดน้ําดื่มฟรีที่สถานีรถไฟ หลังจากไมมีรอบรถไฟทีเ่ หมาะสม คุณลุงและคนขับหนุม พาเรามาทีส ่ ถานีรถบัสพาทานโกด (Pathankot Inter State Bus Terminal) คุณลุงกับคนขับชวยติดตอซือ ้ ตัว๋ ใหเสร็จสรรพ คารถบัสไมแพงดวย แลวก็บอกทางใหเราไปขึ้นรถที่รออยูไดเลย เพราะรถจะออกแลว ตอนนีเ้ ราตองลาคุณลุงกับคนขับหนุมไปแลว บายๆนะคะคุณลุง ดีใจมากที่ไดเจอคุณลุงในทริปนี้ ทําใหรูสึกวาอินเดียไมไดแยอยางที่ใครๆคิดเสมอ ไป คนดีๆทีอ ่ ินเดียก็มีนะ เพียงแตที่นิวเดลีเราเจอคนไมดีเทานั้นเอง (ฮือๆ) เราไดใหทิปคุณลุงกับคนขับเพิ่ม แต ก็แอบคิดไปอีกวา...ทําไมคนโกงมักจะไดเงินจากเราเยอะเสมอ ใหทป ิ คุณลุงเพิ่มไปแลวยังไมเทาที่ถก ู โกงคา หองพักที่นิวเดลีเลย (โห...เซ็ง!) ยังไงแลวพวกเราจะโปรโมทใหนักทองเที่ยวมาใชบริการคุณลุงกับคนขับหนุม เยอะๆนะคะ
สถานีรถบัสพาทานโกด
Taxi ที่พาทานโกด (หนาตาแปลกๆดี)
ชางทํารองเทาในสถานีรถบัส
คุณลุงกับคนขับหนุม
สําหรับใครทีต ่ องการใชบริการรถสามลอและรถเกงที่อัมริตสา (Amritsar) สามารถติดตอ คุณลุงซูริน เดอร (Surinder) ไดที่เบอร 9780915869 เปนรถสามลอถีบทีส ่ ามารถพาเที่ยวในเมืองได สวนคนขับหนุมซันนี่ (Sunny) สามารถใชบริการเชา/เหมารถเกงมีแอรเที่ยวในเมืองหรือเดินทางไปเมืองใกลเคียงได เชน ดารัมศาลา (Dharamsala) ติดตอไดที่เบอร 98787-38552 หรืออีเมล sunil22kumar@yahoo.com
เบอรติดตอคุณลุงซูรินเดอร (Surinder) และนามบัตรคนขับหนุมซันนี่ (Sunny)
บนรถบัสทางเดินแคบมาก ฝงหนึ่งมี 3 เกาอี้ อีกฝงมี 2 เกาอี้ แถวหนึ่งมีเกาอีท ้ ั้งหมด 5 ตัว แตก็ยังมี คนขายของเดินขึ้นมาตลอดในชวงกอนรถออก ซึ่งคนขายคนเดิมยังไมลงจากรถเลย คนใหมขึ้นมาแลว ปรากฏ แนนรถ รถบัสวิ่งออกมาจากสถานีมาเรื่อยๆประมาณชม.กวา รถจอดแวะรับผูโดยสารขางทาง พอคาขายของ ขึ้นมาขายบนรถและขายขนาบขางรถกันอยางตอเนื่อง ยิ่งคนขายแตงกวา เขาจะเอาแตงกวาอันใหญมาผาครึ่ง แลวนาจะทาเกลือดานใน จากนั้นหอดวยกระดาษหนังสือพิมพ ซึ่งหมึกหนังสือพิมพเปยกๆแปะติดกับแตงกวา โดยตรง (อือหือ) สักพักเราเริ่มหิวๆ เหลือบไปมองเห็นมะพราวหั่นซีกขึ้นมาขายอีกรอบ เอาวะ ลองชิมดูสัก หนอย ถึงแมแมลงวันมันคงจะตอมมาบางแลว พอชิมปป อืมมม....นี่มันมะพราวทีเ่ ขาใชคั่นทํากะทินี่นา แตที่นี่ เขากินเลนกันเลยแหะ อยูบนรถตองพยายามกินน้ํานอยๆ เพราะที่อินเดียหาหองน้ํายาก (กลัวเจอหองน้ําสงครามโลกอีก) เลย พยายามไมเขาโดยไมจําเปน เขาหองน้าํ ในโรงแรมดีทส ี่ ุด สภาพแวดลอมที่นี่แถวนีค ้ อนขางแหงแลง มีสะพาน เปนสิบที่ขามผานแมน้ํา แตแมน้ําไมมีน้ํา! คือเหมือนสรางสะพานขามพื้นดิน (แตคาดวาชวงหนาน้ําคงมีน้ําบาง) ระหวางทางเจอเหตุการณระทึก ทุกคนในรถทําเสียงตื่นเตนกันใหญ มองไปหนารถทีถ ่ นน (เฮย!) รถทําถนน กําลังจะกลิ้งลง (เห็นแบบกําลังกลิ้งลงมาเลย) ขับอีทาไหนไมรู ตกลงมาจากไหลทางทีต ่ างระดับกัน ลงมา หงายทองบนถนน คนขับไมเปนไร เพราะรีบคลานหนีออกมาไดทัน...เฮอ
คนที่ 1 – ขายน้ํามะนาว
คนที่ 3 – ขายมะพราวหั่นซีก
คนที่ 2 - ขนมถุง
คนที่ 4 – ขายถั่วตางๆ
คนที่ 5 – คนขายแตงกวา
Fail !
แมน้ําอันเหือดแหง
อุบัติเหตุระหวางทาง
โรงทําอิฐ
วัดฮินดู
เมืองเล็กๆระหวางทางไปจัมมู เขาในเมืองจัมมูแลว มาถึงบายแกๆ หลังจากเดินทางมารวม 3 ชม.จากพาทานโกด รถจอดสงเราทีห ่ นา สถานีรถบัส ซึ่งผูคนลนหลามชุลมุนวุยวายมาก จนไมรูจะไปทางไหน แลวเราอยูต รงพิกัดไหนในแผนที่แลวเนี่ย ยืนเอออยูสักพักเลย จริงๆเรามีเล็งจะพักทีท ่ ี่พักแหงหนึ่งแถวนี้ แตเราก็มีความคิดใหมวาหรือเดินทางไปศรีนาคา คืนนี้เลยดี จะไดไมตองคางจัมมูคืนนี้ มันนาจะมีรถนอนตอนกลางคืนนะ ตัดสินใจเรียกรถตุกพาเราไปสํานักงาน ทองเที่ยวดีกวา รวมทั้งเนนกับคนขับวาพาไปสํานักงานทองเที่ยวของรัฐบาลเทานั้น พรอมทั้งชีต ้ าํ แหนงในแผน ที่ คนขับพาไปสงที่สาํ นักงานทองเที่ยวบนถนนเรสซิเดนซี่ (Residency) เราสอบถามกับเจาหนาทีส ่ ําหรับ ตั๋วรถไปศรีนาคา เจาหนาทีแ ่ นะนําใหลองไปถามกับซอยขางๆที่เปนทีต ่ ั้งของ J&K SRTC (J&K State Road Transportation Corporation) จะมีตวั๋ รถบัสขาย เราออกเดินไปทางซาย ตามถนนประมาณ 2 block เขาไปใน ซอย ทันใดนั้นพบกับความรางของจุดขายตัว๋ (เฮย! ที่นี่มันขายตั๋วจริงปะเนี่ย) เพราะโลง ไมมีนักทองเที่ยว มีคน นั่งอยู 3 คนดานหนาชองขายตั๋ว เราเขาไปถามคนขายตัว๋ ปรากฏไมมีรถนอน สวนรถบัสรอบกลางวันก็ใชเวลา ในการเดินทางนานมาก มีแตรถแชรจี๊ป ซึ่งเราสอบถามแลว การเหมารถแชรจี๊ปไปแค 2 คนหารเฉลี่ยตอหัวจะดู แพงไปเลย ไวไปแชรกับคนอื่นๆที่ทา รถตอนเชาดีกวา และถานั่งแชรจี๊ปแลวนอนไปกลางคืน คงทรมานนาดู เรา จึงตัดสินใจไมไปศรีนาคาคืนนี้ แลวหาทีพักในจัมมู (ซึ่งเปนการตัดสินใจที่ถูกแลว เพราะปรากฏวาถนนจากจัมมู ไปศรีนาคานากลัวมาก ทางผานหุบเขา ไมมีไหลทาง ไปกลางคืนคงอันตรายมาก ไมแนะนําๆ)
Jammu Tourist Center @ Residency Rd.
J&K SRTC จุดขายตั๋วรถบัส
ชางตัดผม หนาที่ขายตัว๋ ของ J&K SRTC เรา walk in เดินหาโรงแรมแถวนั้นกัน 2-3 ที่ จนเดินมาเรื่อยๆ ไดที่ Hotel Park Inn ใกลๆสํานักงาน ทองเที่ยว ราคาโอเคเลย หองใชได อยูตรงขามราน Coffee Day ดวย เห็นเปาหมายที่นั่งชิววันนี้แลว มานั่งกิน ของเย็นๆที่ Coffee Day ดีกวา ☺ เราเก็บของในหองพักเสร็จ บอกใหพนักงานโรงแรมชวยติดตอรถแชรจี๊ปให เราจะไปแชรกบ ั คนอื่นๆดวยในตอนเชา พนักงานชวยเหลือดี ถาใครมาที่จัมมูแนะนําใหพก ั ที่ถนนเรสซิเดนซี่ (Residency) เพราะบรรยากาศนาพักกวาเสนใกลสถานีขนสงเยอะเลย จากในแผนพับที่หยิบมาจากสํานักงานทองเที่ยว เขาบอกวาเมืองจัมมูเนี่ยเปน The City of Temples เลยนะ แตบายนี้ เราคงไปเที่ยววัดไมไหวแลว เพราะเหนื่อยมาก หาขาวกินกับรานเนตดีกวา เราเดินหา รานอาหารอยูส ักพัก ก็ไดรานที่นาจะพอถูไถ เราสั่งอาหารกันแบบไมสนใจแมลงวัน (เพราะเริ่มชินแลว)
Jammu – The City of Temples
อาหารมื้อกลางวัน+เย็น
เรากินขาว เลนเนต เดินเลน จนเย็น กลับมาอาบน้าํ ที่โรงแรมและไปนั่งชิวที่ Coffee Day ตรงขาม โรงแรม ดีใจมากไดเจอรานนั่งชิวแลว ในรานมีเปดทีวีชอ งการแขงขันคริกเกต (Cricket) ซึ่งเปนกีฬาที่ฮต ิ มากที่ อินเดีย มี league ภายในแบบจริงจัง ชื่อทีมก็เทดม ี ี Delhi Daredevils, Kolkata Knight Riders, Mumbai Indians ลูกเด็กเล็กแดง เอย!ลูกเล็กเด็กแดงเลนกันทุกบาน เราหยิบหนังสือพิมพขน ึ้ มาอาน มีขาวบินลาดินถูก สังหารทีป ่ ากีสถานหราอยูบนหนาหนึ่ง (คิดในใจ...หวังวาขาวนีค ้ งไมมีผลกับเราในการเที่ยวทีอ ่ ินเดีย) สักพัก แอบไดยินโตะขางๆคุยกันเรือ ่ งเรียน MBA U top ใน USA (เลิศอะ....จริงๆคนอินเดียไปเรียนตอตางประเทศกัน เยอะมาก) นั่งชิวไปสักพัก ดานหนารานมีการตีกันซะงั้น ตํารวจเริ่มมากันเต็มหนาราน เห็นทาไมดี เลยรีบออก จากราน กลับโรงแรมนอนดีกวา...
ชิวๆที่ราน Coffee Day
นัง ่ อาน KASHMIR TIMES
นั่งดูกีฬาคริกเกต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------คริกเกต (Cricket) เปนกีฬาชนิดหนึ่ง มีคนเลนทีมละ 11 คน ทีม A จัดใหคนหนึ่งเปนผูขวางลูก เรียกวา bowler ทําการขวางลูกไปยังไมที่ตั้งไวบนสนามสามอัน เรียกวา wickets ซึ่งทีม B จัดคนมารักษา คนที่รักษา wickets เรียกวา batsman และไมที่ถอ ื ตีลูกเรียกวา bat ถาตีถก ู ลูกก็วิ่งวนไปเพื่อเอาแตม เรียกวา runs จนกวาพวกของทีม A ที่อยูในสนาม คือ fielders จะนําลูกกลับมาได
Indian Premier League (IPL) professional league in India Team Name City Mumbai Indians Mumbai
Royal Challengers Bangalore Hyderabad Deccan Chargers Chennai Super Kings Delhi Daredevils Kings XI Punjab Kolkata Knight Riders Rajasthan Royals Pune Warriors India Kochi Tuskers Kerala
Bangalore Hyderabad Chennai New Delhi Mohali Kolkata Jaipur Pune Kochi
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------สําหรับผูท ี่ยังไมมั่นใจในความปลอดภัยที่จัมมู & แคชเมียร ใหตรวจสอบขาวสารไดทเี่ วบไซดดานลาง แตโดยปกติถา สถานการณบา นเมืองสงบ ที่นี่ก็ไมไดอันตรายมากไปกวาเมืองอื่นๆในอินเดีย (เอะ!..ยังไง) - Daily Excelsior (www.dailyexcelsior.com) - Greater Kashmir (www.greaterkashmir.com) - Kashmir Herald (www.kashmirherald.com) - Kashmir Times (www.kashmirtimes.com) - IndiaMike (www.indiamike.com/india/jammu-and-kashmir-f30) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------สถานที่ทองเที่ยวในเมืองจัมมู (Jammu)
Raghunath Mandir
Amar Mahal Palace
Bahu Fort
Jammu Aquarium
Day 7 – On the High Way to Srinagar วันที่ 7 - ไปศรีนาคาแบบถึกๆ
แผนที่การเดินทางโดยรถ จากจัมมู (Jammu) ถึง ศรีนาคา (Srinagar) เชาตรูอันเงียบสงบ เราใหพนักงานโรงแรมติดตอใหรถตุก ๆ มารับที่โรงแรมไปจุดแชรแทกซี่ (SharedTaxi) เพื่อขึ้นรถไปศรีนาคา (Srinagar) จุดนี้มีรถแชรแทกซี่ที่จอดรออยูต รงวงเวียน หนาปมน้าํ มันหลายคัน รถ จะรอจนคนขึ้นเต็ม คันหนึ่งรับไดมากทีส ่ ุดประมาณ 8 คน เราไปถึงมีคนชิงนั่งตอนกลางของรถไปกอนซะแลว เปน พอ แมและลูกอีก 2 คน เลยตองไปนั่งหลังซึ่งเปนทีน ่ ั่งแบบหันขาง (ตอนนั้นก็ดน ั ไมไปนั่งขางหนาขาง คนขับ ทั้งๆที่ใน lonely planet ก็มีเตือนไวแลวแทๆวาอยานั่งเบาะหลัง สรุปสิ่งที่เคยไดยิน ไดฟง ไดอา น คํา เตือนในหนังสือที่มี เราไดทาํ การแหกกฎมันมาหมดเลย หึๆ ดีจริงๆ)
ถนนวางๆยามเชา
ปม น้ํามัน
รถออกเดินทางไปไดสักประมาณ 1 ชม. เริ่มมึนหัวตึบ ๊ อยากจะเปลี่ยนไปขึ้นเครื่องบินแทนโดยดวน อยากวาบ (หายตัวไปอีกจุดหนึ่ง) จริงๆเรามีติดตอโรงแรมที่ศรีนาคาไวกอ นมาอินเดีย ชื่อ โรงแรมสวิส (Hotel Swiss) เขาแนะนําเราวาการเดินทางจากจัมมูมาศรีนาคาไมควรมาทางรถยนต เพราะใชเวลานาน แตเราก็ไมคด ิ วามันจะทั้งนานและทรมานขนาดนี้ คนขับก็ขับฉวัดเฉวียดมาก เฉียดนิดนึงนี่ ตกเขาไปแลว (ขอไมมาอีกแลวนะ เสนนี้) อีกทั้งเรานั่งหันขางในรถกันดวย ถนนก็มล ี ักษณะขึ้นๆลงๆหุบเขาจนเวียนหัว เสนทางหวาดเสียว ขอ แนะนําทุกทานวา การเดินทางจากจัมมูไปศรีนาคาใหไปทางเครื่องบินดีที่สด ุ คะ รถหยุดพักจอดกินขาวเชาทีข ่ างทางประมาณครึ่งชัว่ โมง ซึ่งอยากแวะกินเยอะๆตุนไวเหมือนกัน แตกลัว จะขยอนออกมาซะกอน เลยกินแคนิดๆ น้ําก็ตอ งจิบๆ เพราะเดี๋ยวจะหาหองน้ํายาก (เฮอ!) ผูรวมทริปบอกวา เขาชนไก ยังไมลําบากขนาดทริปนี้เลย....เฮยยยย ขนาดนั้นเลยหรอออ นี่ฉันจบทริปกลับไปถึงเมืองไทย จะ เหมือนเรียนจบหลักสูตร รด.ที่เขาชนไกมาแลวเลยไหมเนี่ย (ผูรวมทริปยังบอกอีกวาอยางนอยเขาชนไกกไ ็ ม โกงใหปวดใจ ตึง!)
จุดแวะพักกินขาวเชา
ตําแหนงเบาะหลังอันทรมานของพวกเรา
ขับขึ้น-ลงเขา จนเวลาเกือบเที่ยง คนขับแวะรับคนอีก 2 คนระหวางทาง มายกอตตต! ตองขึ้นมาเบียด กับเราเบาะหลังแนๆเลย แลว 2 คนนั้นก็มานั่งขางๆเราจริงๆดวย นั่งเบียดกันอบอุน ตางคนตางผลัดกันหลับ เรา เมื่อยเลยมีแอบไปพิงแขกเปนระยะ รถโยกไปมาจนไปซบแขก เดงหัวกลับแทบไมทน ั หลับอีกรอบ สัปหงกจน หัวไปเขกเขาคนตรงขาม ดังปกเลย อาการหนักจริงๆ ณ จุดนี้ ระหวางทางจะมีฝูงแพะขางถนนเปนระยะ ใหรถหลบไปมา หวาดเสียวเลนๆ (เฮือก!) ขับมาจนบายแกๆ รถหยุดจอดที่ดา นตรวจดานหนึ่งกอนถึงศรีนาคา ตอนนั้นก็งงๆวาจอดทําไม แลวเราตองลงไปตรวจอะไรไหม คนขับก็ไมอธิบายใดๆ เราเลยเดินลงจากรถเพื่อหาหองน้ํา แตไมมีหอ งน้ํา เฮอ! เอาไวตอนจอดคราวหนาก็ได
แถวนั้นทหารเต็มเลย แอบกลัวๆอยูเหมือนกัน เราเดินหาหองน้ําแถวนั้น จนเขาเรียกไปตรวจ passport ในปอม ซึ่งระหวางนั้นรถทุกคันจอดตอคิวกันยาว เพราะดานกั้นไมใหผาน ซึ่งเรายังไมรูอยูดีวา เขาจอดทําอะไร กัน นึกไปตางๆนานาวามีรถเสียขางหนารึปา ว? หรือเกิดอะไรขึ้นที่ถนนขางหนา?
ฝูงแพะขางทาง
ดานกอนถึงศรีนาคา
สักพักไดยินเสียงรถเบรกดังเอี๊ยด ลั่นเลย หันไปขวับ ชอค คะ ชอค เห็นเด็กนอย กลิ้งขลุกๆ ออกมา จากลอหนารถทีเ่ บรก ตอนนัน ้ แบบ....อาปากคาง พรอมกับ อึ้ง! แตเห็นเด็กลุกขึ้นมาได คอยโลงหนอย เด็ก นอยเกือบโดนสอยไปซะแลว พอแมของเด็กนอยวิ่งเขามาอุมลูกอยางหนาตาตื่น โชคดีมากที่ไมเปนอะไร เพราะรถคันนั้นเบรคทัน อีกนิดเดียวก็เกือบจะไปอยูใตลอ แลว ชอคสุดๆ เพราะเห็นคาตาพอดี พอแมอุมขึ้นรถ ปลอบกันใหญ คนแถวนั้นกันชอคกันเปนแถว จนกระทั่งรถไดเวลาเคลื่อนตัว คนขับเรียกทุกคนขึ้นรถ ทุกคนเขา ไปอยูในรถ พรอมเดินทาง พอขับมาไดสก ั พัก ออ...เขาใจละ กําลังมีการกอสรางทําอุโมงคลอดภูเขาอยู ทําให เหลือเพียงเลนเดียว ดังนั้นรถอีกฝงตองหยุดรอกัน
เด็กนอยทีเ่ กือบจะโดยรถทับซะแลว
พอแมของเด็กกําลังปลอบลูกในรถ
ใกลเขาศรีนาคาแลว รถจอดพักกินขาวกันอีกรอบที่จุดพักรถ เราแวะกินขาวกึ่งกลางวันกึ่งเย็นกันที่นี่ เมล็ดขาวที่นี่ เริ่มตางจากขาวที่เดลลีอยางชัดเจน เมล็ดขาวดูอว นทวนกวามาก (แตขาวหอมมะลิเมืองไทยอรอย กวาอยูดี อิๆ) ระหวางกินขาว เจาของรานอาหารพยายามมาตะลอมเราใหไปพักบานเรือ (Houseboat) ของนอง เขาในทะเลสาบดาล (Dal Lake) แลวเขาก็เอาอัลบั้มรูปมาใหดู เปนรูปบานเรือสวยงามเลยเปน House Boat A Class เขาเสนอลดราคาใหพิเศษ พรอมยื่นนามบัตรให ตอนนั้นเราปรึกษากันวา จะลองดูไหม แตเราไดอีเมลไป จองหองคืนนี้กับ Hotel Swiss ไวแลวกอนมาอินเดีย เปนโรงแรมใกลทะเลสาบดาล ไมใชบา นเรือ แตถาเราตก ลงจะไปนอนบานเรือวันนี้ เราตองโทร.หรือเมลไปยกเลิกที่ Hotel Swiss กอนนะ (ตอนหลัง เรารูสก ึ แยมากๆ ที่ ไมไปนอนที่ Hotel Swiss ตามที่อเี มลกันไว) ตองยอมรับวาเขาเจรจาและพูดจนเราคิดวาเขานาจะโอเคไมโกง เรา (เราก็หลงเชือ ่ ซะงั้น! ทั้งที่ พอนึกอีกที เออ...เหมือนเราเคยเจอเหตุการณนี้มาแลวนิ ที่เวียดนาม!) เขา
ขอใหเราวางมัดจํา 200 รูปกอน ซึ่งเราขอใหเขายืนยันอีกทีวาราคานี้ไดบานแบบนีแ ้ นนะ ถาเราวางมัดจํา 200 รูปไปแลว เราไมไดตามที่เราตองการหรือตามทีต ่ กลง คุณตองคืนเงินและใหเราไปเลือกโรงแรมอื่นๆ เขาก็ตก ลงโอเค แนนอน ยืนยันกับเรา เขาบอกวาเดี๋ยวนองเขาจะมารับระหวางทาง เขาพูดคุยกับคนขับเสร็จสรรพ เรียบรอยวาจะใหนอ งเขาไปรับเราที่ไหน (ซึ่งเราก็ฟงไมออกอานะ) หลังแวะพักกินขาว เพียงไมนาน เราก็โดนหวานลอมจนหลงกลไปซะแลว ซึ่งตอนนัน ้ เรายังไมรูตัว! หลังรถเดินทางออกมาจากจุดแวะพัก ผูคนตามถนนหนทางเริ่มออกไปทางแขกขาวตะวันออกกลาง
จุดแวะพักกอนถึงศรีนาคา
บรรยากาศมุมหนึ่งในรานอาหาร (ของจะหลนใสหัวไหม?)
เจาของรานที่พยายามเสนอที่พัก
บรรยากาศขางทางกอนถึงศรีนาคา
เด็กนักเรียนกําลังเดินกลับบาน
นองของเจาของรานอาหาร (ซึ่งตอไปเราจะขอเรียกวา พี่ชายคนกลาง) มารับเราระหวางทาง เราขน ของลง ยายไปรถอีกคัน ซึ่งเพื่อนรวมทางทายรถ 2 คนทีน ่ ั่งเบียดกับเราตลอดเวลาหลายชม. คงคิดวา... ชาวตางชาติพวกนี้ เสร็จไอพวกนี้มันอีกแลวเปนแน หึๆ เรายายมาขึ้นรถตูค ันที่นองชายเจาของรานอาหารมารับ ซึ่งเปนคนทีห ่ นาฝรั่งมาก หนาตาดีเลย รถขับจนเขามาถึงใจกลางเมืองศรีนาคา ริมทะเลสาบดาล (Dal Lake) ซึ่งเราตองขึ้นเรือชิคารา (Shikara) ตอไปอีก เพือ ่ ไปยังที่พักบานเรือ (Houseboat) ในทะเลสาบดาล ที่นี่อากาศเย็นๆ (~18 องศา) ก็ ชิวๆดีเหมือนกัน
เพื่อนรวมทางจากจัมมู
ยายมาขึ้นรถตูคันนี้
บรรยากาศในเมืองศรีนาคา (Srinagar) ที่นี่...ริมทะเลสาบดาล เราไดพบกับ นองชายคนเล็ก เปนนองของเจาของรานอาหารอีกคนหนึ่ง.....ไมรู นองจริงๆกันหรือปาว เพราะทุกคนหนาตาคลายกันไปหมด แยกไมออก แลวเขาทักทาย หรือแนะนําตัวกัน ก็ บอกคนนูน He is my brother. ….คนนี้ He is my brother. ตกลงเลยไมรูคนไหน นองจริงนองปลอมกันแน! ตอจากนี้ไป ตัวละครในเหตุการณที่ Houseboat จะมีหลักๆ 3 คน คือ 1. พี่ชายคนโต = เจาของรานอาหาร (ที่ตะลอมเรากอนเขาเมืองศรีนาคา) 2. พี่ชายคนกลาง = คนที่ไปรับเรากลางทางแลวขับรถสงในเมืองและเปนเจาของ Houseboat 3. นองชายคนเล็ก = จะเปนคนดูแลคนที่พก ั ใน Houseboat
เรือชิคารา (Shikara)
พี่ชายคนโต /พี่ชายคนกลาง / นองชายคนเล็ก เราลงจากรถ ขนของลงเรือชิคารา โดยมีนองชายคนเล็กมารับ เรือคอยๆพายออกจากฝงไปยังที่พัก.... เอิ่ม..ที่พักอยูในหลืบมาก (เฮย! คุณบอกเราวา easy to go to the center) จนมาถึงหนา Lucky Peacock Houseboat ตามที่เจาของรานอาหารบอกไว เรามองดูทพ ี่ ักจากบนเรือชิคารา...ก็โอเคนะ เหมือนรูปในอัลบั้มที่ เขาเอาใหเราดู (เหมือนจะไมไดเลวรายอะไร...) เขาพาเราขึ้นบนเรือ ซึ่งมีทาขึ้นสวนกลางเชือ ่ มระหวางเรือ Lucky Peacock กับ เรือโทรมๆอีกลําหนึ่ง ทาตรงกลางเปนเหมือนชานเรือนที่ยื่นออกมามีโตะและที่นั่งทีเ่ ชือ ่ ม ระหวางเรือทั้งสอง และเปนทางเดินไปขางหลังเพือ ่ ขึ้นบก แตนองชายคนเล็กและชายกลาง พาเราไปเรือขางๆ ที่โทรมๆหนอย (เฮย! เริ่มไมชอบมาพากลแลว) ใหเรานั่งรอ ระหวางรอที่เรือโทรม...รอไปสักพัก ไมมใี ครมาสักที เราเลยไปเดินหาเอง เพือ ่ เรียกนองชายคนเล็ก และพี่ชายคนกลางที่เรืออีกลําหนึ่ง พบวาเรืออีกลําทีด ่ ูดก ี วา (Lucky Peacock Houseboat) ยังมีคนพักอยูบน เรือ เราโผลเขาไปในเรือเจอคูสามี ภรรยาชาวฝรั่งเศส เขาทําหนางงๆเมือ ่ เห็นเรา เราก็ตกใจ เลยเดินออกมา สวนทีเ่ รือโทรมก็มค ี นพักอยูเ หมือนกัน เพราะใน Houseboat เขาจะแบงเรือเปนหองๆ อยูไดหลายคน คนที่พก ั อยูเดิมในเรือโทรม เปน Backpacker ฝรั่ง 2 คน ผูหญิง 1 ผูชาย 1 กําลังนั่งฟงพอคาที่มาขายสินคาบนเรืออยู สักพักนองชายคนเล็กเดินมาหาเรา เขาจะใหเราพักเรือโทรม (เฮย!) เราเถียงไปวา พี่ชายคุณที่ รานอาหาร ตกลงกับเราดวยภาพในอัลบั้มซึ่งเปนเรือ Lucky Peacock Houseboat ดวยราคานีด ้ วย เรายื่น นามบัตรซึ่งมีภาพเรือ Lucky Peacock Houseboat ดานหลังใหดู พีช ่ ายคุณบอกวาจะใหเราพักที่ lucky Peacock ซึ่งคุณดูก็รูวามันคนละเกรดกับเรือลําโทรมนี้ นองชายคนเล็กเถียงกลับ บอกวา Lucky Peacock นะ เต็มแลว แลวที่นั่นก็ราคาแพงกวา คุณตองจายเพิ่ม ถาคุณจะพัก (เฮย!) จายเพิ่มอะไรกัน พี่ชายคุณเปนคนบอก
กับพวกเราเองวาเปนที่ราคานี้ไดบาน Class A เราคุยกับนองชายคนเล็กจนเหนือ ่ ย (เหนื่อยมาก เหนือ ่ ยจน ภาษาอังกฤษจําเปนตองแข็งแรง) งั้นเราจะไปพักทีอ ่ ื่น ชวยพาเราไปหนอย นองชายคนเล็กบอกไมไดๆ อยา เพิ่งไปไหน เดี๋ยวเราจัดการใหคุณเองไมตองกลัว รอคุยกับพี่ชายผมแลวกัน เมือ ่ กีเ้ พิ่งเดินออกไปขางนอก เดี๋ยว มา เราก็เลยตองรอ เพราะไมรูจะออกไปยังไง....เฮออออ พอพี่ชายคนกลางมา เขายังยืนยันวา ไมไดหรอก ที่พักอีกที่ราคาแพงกวา เขายื่นใบราคาใหดู ซึ่งในใบ นั้นราคาแพงกวาจริง แตเราไมไดโกรธที่ราคามันแพงกวา เราโกรธที่คุณบอกอีกอยาง แตใหเราอีกอยาง ถาเรารู เราคงไมพักกับคุณ เพราะคุณกลับกลอกมาก แลวทีเ่ รือ Lucky Peacock ก็มีคนพักแลว คืนนี้ยังไงก็พักไมได (ถาคุณรูวา ที่พก ั มันเต็มแลว คุณจะยัดเยียดใหเรามาพักอีกทําไม ถาคุณไมคด ิ จะโกงอยูแลว) เอาไงดี...ตอนนีก ้ ็ เริ่มเย็นมากแลวดวย ถึงแมฟายังสวางอยู แตนี่กเ็ กือบ 1 ทุมแลว แลวเขาก็ไมปลอยเราไปดวย ไมยอมพายเรือ ไปสงที่ฝง เราจะเดินออกทางขางหลังไปเองก็ไมไดเพราะเราไมรูวา ตรงนี้มันอยูต รงไหนของทะเลสาบ ทางออก อยูตรงไหน สวนจะใหขึ้นเรือหนีไปก็ไมได เพราะเรือแถวนี้คงเปนพวกกับมันหมด จนมันมีไมเด็ด (อีกแลว) พีช ่ ายคนกลางเสนอขายทัวรมาซึ่งเปนราคาที่แพงหนอย แตนาสนใจ เราตก ลงกันวางั้นเราจะซือ ้ ทัวรคุณ แตเราไปพักที่อื่นไดไหม เราขอพักที่นี่ คืนเดียว (แลวปลอยเราไปเถอะ -*-) เขา บอกวา ไดๆ ไดแนนอน ถาคุณอยากไปพักในเมือง เราเอารถไปรับได เราก็ตกลงไป จากนั้นเขาใหเราเขียนใน กระดาษ เหมือนเปนสัญญาตกลงทัวร ซึ่งตองมัดจําเงินบางสวน ใหเซ็นกํากับดวย (พลาดๆๆ มาก เราเซ็นทั้งๆที่ คิดวามันนาจะดี มันจะไดไมโกงเรา แตกลับการเปนวา มันดันผูกมัดตัวเรา รวมทั้งในใบ ไมไดเขียนเรื่องการ รับประกันวาเราสามารถยกเลิกทัวรได ถาไมโอเค เราตกลงกันวาสามารถยกเลิกทัวรไดแคเพียงปากเปลา ซึ่ง ตอนหลังพอไมมีเขียนในสัญญา มันก็ทาํ เปนไมรูเรื่อง My God! รายมาก) จากทีเ่ ราเถียงจนคอเปนเอ็น มันก็เริ่มยื่นขอเสนอตางๆนานา ใหเรายายมาพักที่ Lucky Peacock เลย พรุงนี้ คุณจายเพิ่มอีดนิดหนอย ลดราคาใหพเิ ศษเลย เพือ ่ upgrade ไปอยูเรืออีกลํา แตขอใหอยูต อที่นี่ (ได ขาววา...ตอนแรกแกตกลงกับฉันเปนลํา Lucky Peacock มิใชรึ) เราก็บอกวา เราขอดูกอ น จริงๆแลวเราอยาก ไปพักในเมืองแลว เราอยากเลนเนต อยากเดินตลาด มันรีบบอกทันทีเลยวา เลนเนตที่นี่ไดสบายมาก เดี๋ยวผม เอาโนตบุค ผมมาตอเนตใหเลนฟรีเลย เราก็บอกวา จริงหรอ มันบอกวา จริงๆ แลวราคาทีค ่ ุณจายเงินมาเนี่ย เรา มีอาหารใหดวยนะ แมผมทําเองเลยเนี่ย อรอยมาก เราคิดในใจ จริงหรอ จากนั้นเราเลยเอาของไปเก็บในหอง ทําใหพบวา หองกากกวาทีค ่ ิด!!!! โดยเฉพาะหองน้าํ กากมาก! ตองยอมรับวา พี่ชายคนกลางเปน Negotiator (ผูเจรจาตอรอง) มาก เพราะพูดลื่นไหล ทําใหเราเออ ออไปกับมันไดซะงั้น และเปนคนที่ปา แตปาแบบทําไดจริงบาง ไมไดบาง โมบาง ทําใหเขาดูเหมือนอยูเ หนือ เราตลอด มีแผนทีค ่ ด ิ ไวแลวตลอด เหมือนมีหลุมพรางทีส ่ รางดักรอแลว คุยกันแลวเหนื่อยมาก แลวทีส ่ ําคัญ คือ นองชายคนเล็กจะไมเจรจาคุยกับเราใดๆทั้งสิ้น ถาเราจะคุยเรื่องตอรอง ตกลงราคา นองชายคนเล็กจะสงตอให รอคุยกับพีช ่ ายคนกลางอยางเดียว ซึ่งก็เปนเทคนิค เพราะนองคนเล็กคงเหมือนรูตวั เองวาถาเขาคุยกับเราแลว เขาจะเถียงไมขึ้น ไมมท ี างไป จนเกือบจะยอมปลอยเราไป เลยสงตอใหพช ี่ ายคนกลางตลอด สรุป...บานนี้ สุด ยอดจริงๆ โดยเฉพาะ พีช ่ ายคนกลาง Negotiator ตัวจริง! ตอนนี้เราเหมือนติดเกาะยอมๆอยูใ นทะเลสาบ
Lucky Peacock Houseboat (ซึ่งไมแนะนํา)
ทางเชื่อมบานเรือทั้งสอง ฝงซายในรูปเปนเรือโทรม ฝงขวาเปนเรือที่ดูดก ี วาชื่อเรือ Lucky Peacock Houseboat
ดานนอกเรือลําโทรม
ฝรั่งแบคแพคที่ดูงงๆกับชีวิต
จากคุยตกลงกันจนเหนือ ่ ย เราไปนั่งเรือชิคาราทัวรรอบทะเลสาบกอนกลับมากินขาว อากาศคอยๆเริ่ม เย็นมากขึ้น ถึงแมจะทุมกวาๆแลวแตฟา ยังสวางอยูมาก ที่นี่เราเลยกินขาวชาไปโดยปริยาย เรือแลนผาน Houseboat ที่มีอยูมากมายในทะเลสาบ มุงหนาไปไปสวนเนรู (Nehru Park) ซึ่งเปนเหมือนสวนหยอมเล็กใน ทะเลสาบ มีรานขายของกลางน้ําดวย พอคาพยายามพายเรือมาเทียบกับเรือเราเพื่อขายของให แบบใกลชด ิ เลย ทีเดียว (ไมอาวววว) เรือจอดแวะใหเราเดินเลน ถายรูปที่สวนหยอมเนรูปารคสักพัก บรรยากาศดีมาก มีภเู ขา ลอมรอบทะเลสาบ พระอาทิตยกําลังจะลับขอบฟาพอดี อากาศตอนนี้ประมาณ 13-14 องศาได จากนั้นเรือพา แลนไปยังตลาด(น้ํา) ประมาณตลาดน้าํ อัมพวา คือมีรานขายของอยูริมฝงสองขาง แตเปนระยะทางไมยาวนัก สั้นๆ สวนใหญจะเปนรานขายเสื้อผา ทองฟาเริ่มมืดแลว เรือพายออกจากตลาด มาถึงรานขายพรมและของที่ระลึกระหวางทาง จากนั้นเรือ จอดใหเราลง (เฮย!) เขาขอใหเราลงไปดูกอน ไมซื้อไมเปนไร (ก็คงเหมือนเดิม เปนรานที่ตกลงกันไวแลว เปน จุดใหมาแวะเหมือนทีอ ่ ค ั รา) เราบอกผานสําหรับวันนี้ ไมไหวแลวจริงๆ เราเหนื่อยมาก เอาไววันหลังแลวกันนะ