PHOTOGENIC WONDERLAND 23 เคยมี ผู้ เรี ย กดอยหลวงเชี ย งดาวว่ า เป็ น “แท่ ง หิ น ” ที่ ใหญ่ ที่สุด ในประเทศไทย อาจฟัง ดูแปลกซักหน่อ ย แต่คำ�ก็อ ธิบาย รู ป พรรณสั ณฐานของยอดดอยสู ง อั นดั บ 3 ของประเทศ นี ้ ได้ ด ี ดอยเชี ย งดาวนั บ เป็ น ภู เขาหิ น ปู นที ่ สู ง และใหญ่ ที ่ สุ ด เมื่ อ เที ย บกั บ สองอั น ดั บ ข้ า งต้ น ที่ มี ลั ก ษณะทางภู มิ ป ระเทศ แตกต่างกันไป สองอันดับดอยที่มีความสูงชนะดอยหลวงเชียงดาวไปนั้น ถ้า จะหามุ ม ที่ ม องเห็ น ภาพของยอดดอยทั้ ง ลู ก ได้ อ ย่ า งชั ด เจน กลั บ แทบจะเป็ น ไปไม่ ไ ด้ ในขณะที่ ด อยหลวงเชี ย งดาวซึ่ ง มี ยอดแหลมเสียดแทงทะลุขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นภาพที่มองเห็นได้ อย่างชัดเจน ทันทีที่เดินทางเข้าสู่อ�ำเภอเชียงดาวอันเป็นที่ตั้ง ของดอยลูกนี้ คนเชียงดาวขนานนามยอดดอยแห่งนี้ว่า “ดอยหลวง” เป็นการ ยื น ยั น ถึ ง ความยิ่ ง ใหญ่ และไม่ ว ่ า จะยื น อยู ่ มุ ม ใดในอ� ำ เภอ เชียงดาว ภาพดอยหลวงเชียงดาวนี้ก็จะปรากฏเด่นชัดในมุม มองที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังมีที่แห่งหนึ่งซึ่งเกือบจะหลบเร้นจากสายตาของนักท่อง เที่ยวทั่วไป หากไม่มีค�ำพูดที่ยืนยันว่า ณ ที่แห่งนั้นเป็นสถาน ที่ที่มองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้สวยที่สุด เส้นทางเล็กๆ ที่ ผ่ า นหน้ า ถ�้ ำ เชี ย งดาวพาเราลั ด เลาะไปตามถนนสายเล็ ก ๆ ที่ สูงชัน และแคบขนาดที่รถแทบจะสวนกันไม่ได้ แต่ยังโชคดีที่ สภาพถนนนั้นราบเรียบตลอด และแล้วถนนเล็กๆ นั้นก็พาคน ต่างถิ่นหายลับเข้าไปในป่าดงดิบจนมาพบกันหมู่บ้านหนึ่งซึ่ง ซ่อนตัวอยู่หลังดอยหลวงเชียงดาว
ระเบียง(ชม)เชียงดาว
Stargazing @ Rabiang Dao
Doi Luang Chiang Dao is Thailand’s third tallest mountain and is considered to be the largest limestone mountain in the country. Chiang Doi – Doi Luang’s top – is known for its skyscraper like height allowing for it to be seen from everywhere in the Chiang Dao district. There is a special lesser known spot where you can get the most beautiful view of Doi Luang Chiang Dao. Travel on the small path running past Chiang Daoi cave. One will find a small, steep and narrow road leading to a hidden vil age called “Baan Lee So Na Lao” nestled behind the mountain. Despite its location in the deep woods, the community head has managed to transform his living place on the hill into a neat and simple wooden cottage for tourists. The unique location offers the best view of Doi Luang Chiang Dao. With the absence of the typical amenities found in luxurious hotels, this special place offers a lot of pleasant substitutions such as a unique hill tribe living experience as well as dozens of different spectacular views of Doi Luang Chiang Dao during different times of day. The night view against the backdrop of starlit sky is also remarkable.
“บ้ า นลี ซ อนาเลา” เป็ น เพี ย งหมู ่ บ ้ า นเล็ ก ๆ กลางป่ า ลึ ก แต่ มี ชาวกรุงฯ ผู้หนึ่งมาพบรักกับสาวลีซอที่หมู่บ้านนี้ และได้ตกลง ปลงใจใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ จนกระทั่งได้เป็นผู้น�ำชุมชน เขาได้ปรับ เปลี่ยนบ้านบนปลายเนินของตนเอง และปลูกกระท่อมไม้แสน สมถะ เพื่อให้ผู้ที่เดินทางรอนแรมจากต่างถิ่นได้พักอาศัยแบบ ง่ายๆ แต่มีภาพในมุมมองที่สวยที่สุดของดอยหลวงเชียงดาวอัน ยิ่งใหญ่อยู่ตรงหน้าให้ผู้มาพักได้ชื่นชมตลอดเวลา ไม่ต้องถามถึงความสะดวกสบายในการอยู่การกินอันแสนสมถะ ตามแบบฉบับชาวเขาชาวดอย แต่รับประกันได้ถึงความสุข จากการได้อยู่ ในสถานที่ที่ดี และได้ประสบการณ์ชีวิตที่แปลก ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงขลุ่ยในท�ำนองที่แปลกหูที่ดังแว่วมาจาก บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน กลิ่นควันจากการหุงหาอาหารที่ลอยมา แตะจมูกในยามเย็น ฝูงหมูป่าที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้ พากันวิ่งไป ตามถนนดินจนฝุ่นฟุ้งกระจาย หรือหญิงสาวชาวลีซอ ที่มาพร้อม กับอาหารง่ายๆ ฝีมือชาวเขา อย่างน�้ำพริกสูตรประหลาดที่ใช้ ส่วนผสมเพียงพริก พริกไทย เกลือ และอะไรบางอย่างอีกไม่กี่ ชนิด แต่กินกับผักได้อร่อยชะมัด แต่ความสุขใดก็ ไม่เท่ากับการได้เห็นธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ เช่น การเฝ้ามองภาพดอยหลวงเชียงดาวที่มียอดแหลมสลับซับซ้อน เปลี่ ย นสี ไ ป ตามมิ ติ ข องแสงแดดในช่ ว งเวลาต่ า งๆ ของวั น ตราบจนแสงสุดท้ายของตะวันลาลับไป เหลือเพียงเส้นโครงอัน พิสดารของยอดดอย มีฉากหลังเป็นกลุ่มดาวระยิบระยับนับล้าน ดวงในยามค�่ำคืน ณ วินาทีนั้นจึงเข้าใจซึ้งถึงความหมายของค�ำว่า “เชียงดาว” ที่คนเฒ่าคนแก่พูดกันว่า สูง “เพียงดาว” (เท่าเทียมกับดาว)
บ้านระเบียงดาว Baan Rabiang Dao จากอ�ำเภอเชียงดาว(ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 90 กม.) ใช้เส้นทางผ่าน หน้าถ�้ำเชียงดาว ถึงสามแยกแรกเลี้ยวขวา และถึงสามแยกที่สอง เลี้ยว ซ้ายไปอีก 12 กม. ถึงหมู่บ้านลีซอนาเลา From Chiang Dao district (90 kilometers from Chiang Mai downtown), use the road running past Chiang Dao Cave. Turn right at the first junction and turn left at the second junction. Continue for another 12 kilometers until you reach Lee So Na Lao Village. ค่าที่พักโฮมสเตย์ พร้อมอาหาร 2 มื้อ คนละ 200 บาท Home-stay accommodation rates including 2 meals a day is 200 baht per head ติดต่อ คุณนิคม อะเลมะ 08 9998 0712 , 08 9903 0083 Contact Mr. Nikom Alama 08 9998 0712 , 08 9903 0083
สิLionงห์Cl(iffยัง)เหลียว
PHOTOGENIC WONDERLAND 27
หลั ง จากการขั บ รถหลงทางวนเวี ย นอยู ่ บ นถนนหนทางที่ ไม่ เคย คุ้ น ในอำ � เภอดอยเต่ า เป็ น เวลานานสองนาน ถนนลู ก รั ง ก็ ม าสิ้ น สุ ด ตรงปลายหน้ า ผา ซึ่ ง ดู เหมื อ นว่ า แผ่ นดิ นจะสิ้ น สุ ด ที ่ ต รงนั ้ น ภาพตรงหน้ า คื อ ภู ม ิ ท ั ศ น์ แ ปลกประหลาด ตระการตา แทบไม่ น่ า เชื ่ อ ว่ า มั นไม่เคยปรากฎอยู่ในแผนที่ท ่องเที่ยวของประเทศไทย นี่ คื อ สถานที่ ม หั ศ จรรย์ ธ รรมชาติ ซึ่ ง คนแถบนี้ รู ้ จั ก กั น เกื อ บทุ ก คน แต่ไม่มีป้ายบอกทางที่ชัดเจนของเส้นทางชวนฉงนนี้ นี่คือ ปรากฏการณ์ดินยุบแบบเดียวกับแพะเมืองผี เสาดินนาน้อย ละลุ สระแก้ว หรือที่รู้จักกันดีในชื่อโป่งยุบ ส�ำหรับผาสิงห์เหลียวนั้นคง ไม่มีที่ ไหนจะทัดเทียมได้ในด้านความสูง ซึ่งมีสถิติยืนยันว่า นี่คือ เสาดินที่สูงที่สุดในประเทศไทย ความสูง 60 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 20 ชั้น คงยิ่งใหญ่พอให้ที่ จะท�ำให้พญาราชสีห์เหลียวหลังมามองด้วยความทึ่ง หรือไม่ก็คง เหลียวหลังกลับไปทางเดิมด้วยความหวาดเสียว เพราะหน้าผาซึ่ง เกิดจากภูเขาทั้งลูกยุบลงไปเป็นแอ่งลึกและกว้างเท่าสนามฟุตบอล หลายสนามนี้ คงผ่ า นการเปลี่ ย นแปลงของชั้ น ดิ นมาเกื อ บตลอด ระยะเวลาเป็นร้อยเป็นพันหรือเป็นหมื่นปี อันที่จริงแล้ว จุดสิ้นสุด ของถนนลูกรังตรงปลายหน้าผานั้น เป็นเพียงจุดเรียกน�้ำย่อย เรา สามารถเดินลัดเลาะไปตามทางดินเล็กๆ เลียบหน้าผาที่ต้องใช้สติ และสมาธิในการเดินเป็นอย่างสูง โดยมีเสียงกรวดร่วงลงจากหน้าผา เป็นสัญญาณเตือนให้ระวังเป็นระยะ มั่นใจได้ว่าศิลปะธรรมชาติที่น�้ำ และลมสร้างขึ้นเป็นเวลานานเช่นนี้ คงเป็นที่ถูกใจคนถ่ายภาพนักหนา ด้วยว่าริ้วรอยพื้นผิวของหน้าผา ที่แปลกตานั้น ช่างน่าหลงใหลเสียนี่กระไร เราเคยใช้ความพยายาม ถ่ายภาพเสาดินที่อื่นๆ ซึ่งสูงเพียง 5 เมตรให้ยิ่งใหญ่กว่าตาเห็นมา แล้ว แต่ส�ำหรับผาสิงห์เหลียวนั้นแทบไม่ต้องพยายามขนาดนั้น เพราะขนาดที่เทียบกันไม่ได้ รวมทั้งภาพมุมกว้างอย่างสมบูรณ์แบบ ราวกับถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการถ่ายภาพโดยเฉพาะ ยิ่งในยามแสง แดดอ่อนๆ คล้อยต�่ำ สาดส่องกระทบผิวพื้นหินเป็นมิติต่างๆ แล้ว คงไม่ต้องสงสัยว่าเมมโมรี่การ์ดในกล้องจะเต็มหรือไม่
Pha Sing Liao (Lion Cliff) in Doi Tao is simply a magical work of nature. Following thousand of years of soil formation, the whole mountain transformed into a deep pit the size of a football field. The non-asphalt road leads right to the cliff edge. Visitors can navigate their way through a narrow walkway along the edge of the cliff. The sound of falling pebbles reminds you to be careful when treading this challenging path but one can rest assured the majestic mountain view awaiting is well worth the sweat and trek. The peculiar shape and form of the mountain seen in panoramic view is a truly amazing work of nature and seems as if it were made exclusively for photo shooting. At sundown, the light that shines on this beautiful sculpted limestone masterpiece creates an impressive view perfect for your shutter.
ผาสิงห์เหลียว Pha Sing Liew Cliff N 18o06'37.46" E 98o41'7.98" ใช้เส้นทาง เชียงใหม่-จอมทอง-ฮอด แล้วเลี้ยวไปทางอ�ำเภอ ดอยเต่าประมาณ 9 กม. แล้วเลี้ยวไปทางบ้านดินด� ำ-บ้านตาลใต้ Travel via Chiang Mai- Take the Jom Thong-Hot route and make a right turn into Doi Tao at 9 KM. Than follow the route to Ban Din Dam-Ban Tan Tai ติดต่อสอบถามที่ อบต. บ้านตาล 0 5346 1684
ไม่มีป้ายบอกทาง หากไม่มั่นใจต้องจอดถามชาวบ้าน No direction sign. If in doubt, better stop and ask the local people for directions ใช้ความระมัดระวังมากที่สุด เพราะดินร่วงหล่นตามหน้าผา ตลอดเวลา Use the utmost care when walking along the edge of the cliff แดดแรงมาก แนะน�ำเวลาช่วงบ่ายแก่ๆ เพราะไม่ร้อนและ ถ่ายภาพได้แสงสวย It is most of the time very sunny. Late afternoon is an ideal time for taking photos.
30 PHOTOGENIC WONDERLAND
เสมอดอย เสมอดาว Doi Samer Dao, Nan
มีคนเคยเปรียบว่าการดูดาวนั ้นก็เหมือนได้ด ูภาพในอดีต เพราะดาวบางดวงที ่อยู ่ห ่างจากโลกของเรา 100 ปีแสง นั้น กว่าที่แสงสว่างของมันจะเดินทางมาถึงดวงตาของ เราจะกินเวลาถึง 100 ปี นั่นหมายความว่าแสงสว่างที่ มองเห็ น ณ ขณะนี ้ มั นถู ก เปล่ ง ออกจากดาวดวงนั ้ น เมื่อ 100 ปีที่แล้ว แม้ ก ารพยายามอธิ บ ายเหตุ ผ ล และหลั ก การทาง วิ ท ยาศาสตร์ ใ ห้ ฟ ั ง ดู ช วนฝั น นั้ น ดู จ ะไม่ เ ป็ น ผลส� ำ เร็ จ การดูดาวก็ยังเป็นเรื่องที่ โรแมนติคอยู่ดี โดยเฉพาะถ้าได้ มานอนดูดาวอยู่ ณ สถานที่ๆ มีชื่อชวนฝันว่าดอยเสมอ ดาว ยังไม่ทันไปถึงก็อยากรู้แล้วว่าดาวที่นั่นจะสวยเพียงไร
ดอยเสมอดาว Doi Samer Dao N 18o22'22" E100o49'44" จากตัวเมืองน่าน ใช้เส้นทางผ่านอ�ำเภอเวียงสา-นาน้อย(ระยะทาง 58 กม.) แล้ว เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 1083 มุ่งหน้าไปทางอุทยานแห่งชาติศรีน่านอีก ประมาณ 14 กม. จะถึงทางแยกเล็กๆ ขึ้นดอยเสมอดาว และผาหัวสิงห์ From Nan, use the road Viang Sa-Na Noi ( 58 kilometers), turn right into Highway 1083 heading to Srinan National Park for another 14 kilometers. Veer into the small road to Doi Samer Dao and Pha Hua Singha มีที่กางเต้นท์ ห้องน�้ำ แต่ไม่มีร้านอาหาร Camping sites and washrooms are available but no restaurants.
หากจะเปรียบเทียบระยะทางกันแล้ว ความสูงระดับเพียง พันเมตรของดอยเสมอดาวนั้นไม่ท�ำให้ดอยลูกนี้อยู่ใกล้ดาว ดวงไหนมากขึ้นหรอก แต่เพราะความโล่งแจ้ง และไร้ซึ่ง แสงใดๆ มารบกวนการท�ำงานของแสงดาว บวกกับสัณฐาน ของดอยลูกนี้ที่ไร้สิ่งใดมาบดบัง ท�ำให้ใครๆ ก็เห็นด้วยที่จะ ให้ดอยเสมอดาวได้ใช้ชื่อนี้เพื่อบ่งบอกความรู้สึกเมื่อได้ไป นอนดูดาว ณ ที่แห่งนั้น
Stargazing is a romantic activity especially when it takes place at the romantically-named location of Doi Samer Dao.
แต่ อ ย่ า เพิ่ ง เพลิ น กั บ แสงดาวจนลื ม ตื่ น มารั บ แสงตะวั น ดอยเสมอดาวยังเป็นจุดชมวิวที่ ให้ความรู้สึกดีๆ ได้อย่าง ยิ่ง บนยอดเนินซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ ได้ 360 องศารอบตัว คือจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า โดยมีเส้น โค้งของล�ำธารสายเล็กๆ ไหลคดเคี้ยวอยู่ท่ามกลางทะเล ภูเขา มองเห็นเนินเขาที่เราก�ำลังยืนอยู่ซึ่งคลุมด้วยหญ้า เขียว และดอกหญ้าพริ้วไหว และมองเห็นหน้าผาหินบน ยอดเขาเล็กๆ รูปร่างประหลาดตา ที่พอได้รู้ชื่อก็นึกออก ว่าดูเหมือนอะไร
With a thousand-meter height of the hill and its nakedness, nothing can interfere with the stars and constellations in the night sky. The place is honestly named after the star-gazing experience one will have as the celestial objects are vividly bright and appear within reach as if one could easily grasp them. The Samer Dao Hill is also a popular choice to enjoy sunrise at 360 degrees with the beautiful curves of streams visibly seen in the uniquely-shaped hills covered with green grass and wild flowers.
Impressive Thai sky through the window
ฟากฟ้ า ไทย กับความประทับใจข้างหน้าต่าง
จำ�ได้ไหมถึงความรู ้ส ึกครั ้งแรกที ่ได้ “บิน” และหากเป็นไปได้ ที ่น ั ่งไหนจะเป็นที ่หมายตามากกว่ากัน ระหว่าง ริมหน้าต่างกับทางเดิน หากคำ�ตอบที่ได้น ั้นเป็นอย่างที่เราคิด นั ่นก็หมายความว่าเราต่างก็ม ีสัญชาติญาณ เดี ย วกั บ มนุ ษ ย์ อ ี ก จำ � นวนหนึ ่ ง ที ่ อ ยากบิ น ได้ อ ย่ า งนก เป็ น สั ญ ชาติ ญ าณที ่ ก ่ อ ให้ เ กิ ด แรงบั นดาลใจของ พี ่ น ้ อ งตระกู ล ไรท์ จนสามารถสร้า งเครื่องบิน ลำ�แรกของโลกได้ สำ � เร็ จ เมื ่ อ ร้ อ ยกว่ าปี ท ี ่ แ ล้ ว
PHOTOGENIC WONDERLAND 37 A bird’s eye view is always fascinating, especially when seen from an airplane. The Bangkok-Phuket route is a journey that offers a unique set of views from above. Starting with the view of the Thai gulf one can enjoy the beauty of the blue waters; as one flys over Surat Thani, they will see a majestically long mountain range of Tanao Sri which separates the eastern south from the western south. If the weather is clear, one can spot Chiew Lan reservoir nestled in the deep forest and meandering streams and sub-rivers flowing like weaving tree roots. When the aircraft gradually descends at Phuket International airport, a hundred of beautiful islands in Phang-Nga bay emerge in full view. The stunning area is locally known as the Halong Bay of Thailand.
The specific route is already fixed but one can study an aerial map to learn of the interesting sites awaiting them during the flight. Take into consideration the direction of the sunlight to pick the right seat during your check-in. Choose the seat opposite to the direction of the light when flying at day time. For an early-morning or evening flight, a seat in the backlight direction is preferable.
ภาพที่มองเห็นจากฟากฟ้านั้นเป็นมิติการมองที่น่าหลงใหลกว่ามุมขนาน กับพื้นโลกเป็นไหนๆ และไม่ว่าจะหลงใหลการเหม่อมองโลกมนุษย์ด้วย ตาเปล่ายามได้มีโอกาสโดยสารเครื่องบิน หรืออยากเก็บภาพเหล่านั้น ผ่านเลนส์กล้อง มันก็ไม่ใช่เรื่องยากมากที่จะได้เห็นช็อตพิเศษๆ จากบาน หน้าต่างของเครื่องบินธรรมดา เพียงแต่ต้องวางแผนก่อนบอร์ดดิ้งซักนิด
A unique air travel route can be an eye-opening flying experience exposing you to lesser-known, yet very beautiful, terrain. Nok Mini airline opens routes from Chiang Mai to nearby towns such as Pai that allow passengers to enjoy the majestic view of the paddy fields in the Valley of Pai as well as the route to Nan which cuts through a complicated mountain range and offers an equally stunning view of high hills. A smaller aircraft for these sub-routes will fly at the altitude of only 6,000-8,000 feet which is low enough to see the landscape below and high enough to flirt with the floating clouds above.
เส้นทางที่มีโอกาสได้เห็นอะไรดีๆ ระหว่างทางเป็นพิเศษคือ เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ภูเก็ต ที่เริ่มต้นด้วยการบินผ่านน่านน�้ำอ่าวไทย ซึ่งช่วงแรก วิวนอกหน้าต่างคงมีเพียงทะเลโล่งๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่เมื่อเครื่องบิน พาเรามาถึงแถวๆ จังหวัดสุราษฏร์ธานี แล้วเอียงปีกเลี้ยวขวาตัดผ่าน ดินแดนด้ามขวานทอง บรรยากาศริมหน้าต่างก็จะเปลี่ยนเป็นภูมิทัศน์ ของเทือกเขาตะนาวศรี อันยาวเหยียดที่กั้นภาคใต้ฝั่งตะวันออก และ ฝั่งตะวันตก ถ้าอากาศดีจะได้เห็นทะเลสาบเขื่อนเชี่ยวหลานที่ซ่อนตัว อยู่กลางป่าลึก มองเห็นเส้นสายของล�ำห้วยสายย่อยๆ ที่ดูเหมือนรากไม้ เล็กๆ มากมาย พอพ้นแนวภูเขาได้สักพัก ก่อนที่จะแลนดิ้งที่สนามบิน ภูเก็ต เครื่องบินก็จะลดระดับลงเรื่อยๆ จนมองเห็นเกาะเล็กๆ มากมาย นับร้อยเกาะในอ่าวพังงา ที่ ได้ชื่อว่าเป็นฮาลองเบย์ของเมืองไทย นับ เป็นภาพประทับใจระหว่างเดินทาง (ในเฉพาะช่วงบางฤดู) การได้เดินทางด้วยเที่ยวบินพิเศษๆ ของสายการบินที่ให้บริการเส้นทาง แปลกๆ ท�ำให้มีโอกาสได้เห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างไปจากที่เคยเห็น สาย การบินนกมินิมีเส้นทางบินจากเชียงใหม่สู่เมืองใกล้ๆ ที่ไม่ค่อยมีสายการ บินไหนเขาไปกัน อย่างอ�ำเภอปาย ซึ่งผู้โดยสารจะได้เห็นทิวทัศน์ทุ่งนา สวยๆ ในหุบเขาปายก่อนเครื่องแลนดิ้ง หรือเส้นทางบินจากเชียงใหม่สู่ เมืองน่าน ซึ่งตัดผ่านเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนตลอดเส้นทาง ยิ่งเครื่อง บิ น ขนาดเล็ ก ที่ มั ก ใช้ ใ นเส้ น ทางบิ น ย่ อ ยๆ เหล่ า นี้ มั น จะท� ำ การบิ น ใน ระดับความสูง เพียง 6,000-8,000 ฟุต ซึ่งต�่ำพอที่จะเปิดโอกาสให้ชม
ทิวทัศน์ ได้เต็มๆ ตาตลอดทาง ไม่ว่าจะยามที่บินละเลียดกลุ่ม เมฆสวยๆ ยามที่เมฆเปิดช่องให้มองเห็นทิวเขางดงามเบื้อง ล่าง ก็จะเป็นช็อตที่อาจท�ำให้เลือกไม่ถูกว่าจะเก็บภาพนั้นไว้ ผ่านเลนส์กล้อง หรือจะมองภาพนั้นผ่านเลนส์ตาเพื่อบันทึก ไว้ในความทรงจ�ำ
Wild sunflowers (or Dok Bua Tong)’s place of origin is in South America. The flowers travelled with a Christian missionary group decades ago and germinated quickly throughout the region so much so that it earned the local title of “Dok Bua Tong.” Every winter, hundreds of the yellow sunflowers are bloom all over Doi Mae U-Ko. The hill is flooded with a sea of yellow sunflowers that create a stunning and stark contrast to the backdrop of the clear blue sky.
ทะเลดอกไม้ ทุ ง ่ บั ว ตอง Wild Sunflower Field
38 PHOTOGENIC WONDERLAND
น่าแปลกไหม ถ้าจะบอกว่าดอกบัวตอง หรือทานตะวันป่านั้นที่จริงแล้วมีถ ิ่น กำ � เนิ ด อยู ่ ไ กลถึ ง ทวี ป อเมริ ก าใต้ มั น เดิ นทางข้ า มน้ ำ � ข้ า มทะเลมาพร้ อ มกั บ มิ ช ชั น นารี ท ี ่ ม าเผยแพร่ ค ริ ส ตศาสนาในดิ น แดนห่ า งไกลเมื ่ อ หลายสิ บ ปี ท ี ่ แล้ ว สี เหลื อ งทองของดอกทานตะวั นนั้ นดู เหมื อ นจะเป็ น สั ญ ลั ก ษณ์ ข อง การหยั ่ ง รากลึ ก ทางศาสนาในยุ ค นั ้ น แต่ เ พราะดอกบั ว ตองเป็ น วั ช พื ช ที ่ เจริ ญ พั นธุ์ ได้ อ ย่ า งรวดเร็ ว และถู ก ตั้ ง ชื่ อ เป็ นดอกไม้ ส ั ญ ชาติ ไทยถิ ่ น เหนื อ เป็นที่เรียบร้อ ย ทุ ก ๆ หน้ า หนาว เราจึ ง ได้ เ ห็ น ทุ ่ ง ดอกทานตะวั น ที่ บ านสะพรั่ ง ไปทั่ ว ทั้ ง ดอย แม่อูคอ ราวกับว่าอาณาเขตหลายร้อยไร่ของดอยแห่งนี้จะเป็นทะเลดอกไม้ สีเหลืองทอง ตัดกับสีของท้องฟ้าได้อย่างงดงามจับใจจนต้องไปเห็นด้วยตา ตนเองบ้างซักครั้ง
ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อู่คอ Wild sunflowers or Dok Bua Tong Doi Mae U-ko N 18o53'24" E 98o5'36" จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทาง เชียงใหม่-หางดง-จอมทอง-ฮอด-แม่แจ่ม(ระยะทาง 155 กม.) จากนั้น ใช้ ทางหลวงหมายเลข 1263 มุ่งหน้าไปทางอ�ำเภอขุนยวม ผ่านบ้านแม่นาจร-บ้านนาฮ่อง-บ้านปางอุ๋ง-บ้านค�ำ สุข(ระยะทาง 85 กม.) จะมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวขวาขึ้นดอยแม่อูคอ ระยะทาง 17 กม. Travel via route Chiang Mai-Hang Dong-Jom Thong-Hod-Mae Jaem ( 155 kilometers). Veer into Highway 1263 heading towards Khun Yuam district, pass Baan Mae Najorn,-Baan Nahong-Baan Pa Oung-Baan Kham Suk ( 85 kilometers). You will see a sign directing you to Doi Mae U-Ko and must carry on for another 17 kilometers. เฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน Only available during the month of November. มีที่กางเต้นท์ และที่พักแบบง่ายๆ บนดอยให้บริการ
There are many reasons that tourists are dying to get to Huai Nam Dang. It is home to the breath-taking sea of mist; it tops the list of places that most people want to go camping because of its convenient location and the stunning scenery. Being the highest hill in the area, the viewpoint on top of Huai Nam Dang exposing us to the sea of mountain ridges stretching to the faraway and most special place, Doi Luang Chiang Dao, Thailand’s third highest mountain.
ห้วยน�้ำดัง Huai Nam Dang
ปางอุ ง ๋ Pang Oung in a Fairy Tale
N 19o19'50" E 98o37'15" จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางผ่านอ�ำเภอแม่ริม-แม่แตง (ระยะทาง 60 กม.) แล้วเลี้ยวซ้ายตามป้าย บอกทางไป อ.ปาย-แม่ฮ่องสอน อีก 62 กม. ถึงอุทยานแห่งชาติห้วยน�้ำดัง ซึ่งมีลานกางเต็นท์ และบ้านพัก Take route Mae Rim-Mae Taeng (60 KM) turn left and follow the sign to Pai district, Mae Hong Son. Go for another 62 km until you reach Huai Nam Dang national park where visitors are provided with a camping area and/or accommodation. สามารถเดินทางจากอ�ำเภอปายที่อยู่ถัดไปอีก 30 กม. ได้โดยรถส่วนตัว(ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หรือใช้บริการรถตู้ The place can be accessed via Pai, which is located 30 kilometers off by car or van (1.30 hour)
มี ใครคนหนึ่ ง บอกว่ า ... ปางอุ๋ ง เหมื อ นดิ น แดนในเทพนิ ย าย ถ้ า ไม่ ไ ด้ ไปเห็ นกั บ ตาก็ ค งไม่ เชื่ อ ว่ า จริ ง อย่ า งที ่ เ ขาว่ า ทะเล สาบเล็กๆ กลางป่าสนในหุบเขาที่เงียบสงบ และหนาวยะเยือก ที ่ แห่ ง นี ้ ค งจะเป็ น เพี ย งอ่ า งเก็ บ น้ ำ � ที ่ ส วยแบบธรรมดาๆ ถ้า ไม่ได้มายืนอยู่ ณ ช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์แรกโผล่พ ้นปลาย ดอย เมื ่อความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์มาพบกับผิวน้ำ�ที่เย็น ยะเยือก บังเกิดสายหมอกบางๆ สีทองไหลระเรี่ยไปบนผิวน้ ำ � แสงอาทิ ต ย์ อ ั น อบอุ ่ นนั ้ น ยั ง อาบไล้ ไปตามทรวดทรงของ ต้นสนที่เรียงรายเป็นฉากพรางทะเลสาบสีทองให้แลดูเร้นลับ ทอดเงายาวเหยียดเป็น เส้น สายชวนมอง
Some say that a trip to Pan Oung is like a trip through a fairy tale that you must witness with your own eyes in order to believe. When the first light shines on the cold and small lake in the middle of a tranquil valley of pine trees, the dream-like scenery of a golden veil of mist floating above the water with the warm sunlight caressing the pine trees adds a mysterious charm to the place. When the sun becomes stronger in the late morning and the mist fades, we discover that the dream of a fairy tale is only transient and momentary but the unforgettable sight of Pang Oung still lingers on in our memory.
จวบจนรุ ่ ง สาย สายหมอกจางหายไปพร้ อ มๆ กั บ แสงแดด สว่างใส จึงได้รู้ว่าดินแดนในเทพนิยายที่แท้นั้นไม่จีรัง มัน เป็นเพียงความรู้สึกดีๆ ในช่วงเวลาพิเศษสุด ณ สถานที่พิเศษ สุด ขึ้นอยู่ กั บ ว่ า จะได้ พ บกั บ ความพิ เ ศษสุ ด ทั้ ง สองสิ่ ง นั้ น ใน คราวเดียวกันหรือไม่ ปางอุ๋ง Pang Oung N 19o29'57" E 97o54'23" จากจังหวัดเชียงใหม่ ใช้เส้นทางเชื่อมต่อไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านอ�ำเภอปาย-ปางมะผ้า จนถึงบริเวณถ�้ำปลา(บ้านห้วยผา) ซึ่ง อยู่ก่อนถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 16 กม. จะมีป้ายบอกทาง ให้เลี้ยวขวา ผ่านน�้ำตกผาเสื่อ-พระต�ำหนักปางตอง ถึงโครงการ พระราชด�ำริปางตอง2 (ปางอุ๋ง)
Travel from Chiang Mai onto Mae Hong Song through Pai-Pang Ma Pha until you reach Pla Cave (Baan Huai Pha) which is located 16 kilometers before the town center of Mae Hong Son. A sign will show you where to turn right into Pha Suea Waterfall and Pang Tong Royal Villa which leads to Pang Tong 2 Royal Project. (Pang Oung)
ทะเลหมอก-ทะเลภูเขา
เพราะความเป็ น ยอดเขาสู ง สุ ด ในเทื อ กดอย ละแวกนั้น จึงท�ำให้จุดชมวิวที่ห้วยน�้ำดังนั้น สามารถมองเห็นทะเลภูเขาได้ไกล เส้นสาย สลับซับซ้อนของภูเขามากมายเรียงรายยาว ไกลไปถึงยอดเขาลูกหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คือยอดดอยหลวงเชียงดาว ดอยสูงที่สุดอันดับ 3 ของประเทศไทยซึ่ ง อวดรู ป ร่ า งแปลกตา น่ามองอยู่ตรงปลายขอบฟ้า
Sea of Mist, Sea of Mountains
บนรอยต่ อ ของจั ง หวั ด เชี ย งใหม่ ก ั บ แม่ ฮ ่ อ งสอน ซึ ่ ง ใช้ ย อดเขาสู ง แนวหนึ ่ ง เป็ น เส้ น แบ่ ง เขตจั ง หวั ด มีอ ุทยานแห่งชาติห้วยน้ำ�ดังที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นที่สุดในหลายๆ อย่าง ทั้งความเป็นทะเลหมอกที่สวยที่สุด และยั ง เป็ น อุ ท ยานแห่ ง ชาติ ที่ น่ า กางเต็ นท์ น อนมากที่ สุ ด เพราะที่ ก างเต็ นท์ ที่ ทั้ ง สะดวกสบาย มองเห็ น ทิวทัศน์ทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะในคืนวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง แค่นี้คงเพียงพอสำ�หรับการมาแค้มปิ้ง เพื่อ นอนรอดูทะเลหมอกที่จุด ชมวิวม่อ นกิ่วลมในตอนเช้าตรู่
บนเส้ นทางเลาะเลี ย บชายแดนไทย-พม่ า จากอำ � เภอแม่ ส อดซึ่ ง ทอดยาวไปถึ ง อำ � เภอแม่ ส ะเรี ย ง ในจังหวั ด แม่ ฮ ่ อ งสอน ใต้พิภพของเทือกเขาถนนธงชัยมีถ้ำ � มหั ศ จรรย์ แห่ งหนึ ่ งซึ ่ งมี ลำ � ห้ ว ย แม่ เมยไหลเข้ า สู ่ โถงถ้ ำ � แห่ ง ความมื ด มิ ด เส้ นทางเดิ น เข้ า ชมถ้ำ � ที่ ต ้ อ งลุ ย น้ำ � ระดั บ ความลึ ก พอ ประมาณ(ในช่ ว งกลางฤดูแ ล้ง )นั้น สร้า งความรู้ส ึก ของการเดิ นทางที ่ น ่ าตื ่ นตาตื ่ น ใจ
โถงถ�้ำแห่งล�ำแสงอัศจรรย์
Tunnel of the Magic Light
แต่ถ�้ำก็ ใช่ว่าจะมีแต่ความมืดเสมอไป หลังจากการเดินท่องไปในโลกซึ่งไร้แสงสว่างเพียงไม่นาน ก็มาพบกับคูหาด้านในที่มีปล่องที่เพดานถ�้ำให้แสงส่องผ่านลงมาได้ ช่างบังเอิญเหมาะเจาะตอน ที่เราไปถึงตรงนั้นเป็นช่วงยามบ่าย ซึ่งแสงอาทิตย์สาดส่องเป็นล�ำแสงเข้ามากระทบพื้นหินทราย และสะท้อนทาบทาผนังถ�้ำที่มีทั้งหินงอกหินย้อยและเสาหินสูงใหญ่มากมายดูแปลกตา น่าอัศจรรย์
Mae Usu Cave is nestled in the Thanon Thongchai mountain range along the winding road of Thai-Burma border in Mae Sod that runs to Mae Sariang in Mae Hong Son. We needed to wade through water running from Mae Meoy brook in order to get inside the cave. A little adventure was no bother because once inside, the light seeping through the hole of the cave put us in awe, creating a spectacular light show and shadow play against limestone in unique shapes and forms. ถ�้ำแม่อุสุ อุทยานแห่งชาติแม่เมย Mae Usu Cave , Mae Moei National Park N 17°18’15’’ E 98°09’21’’ จากตัวเมืองตาก ใช้เส้นทาง ตาก-แม่สอด ระยะทาง 77 กม. แล้วเลี้ยวขวาสู่ทางหลวงหมายเลข 105 (แม่สอด-แม่สะเรียง) อีก 95 กม. Go by the route Tak-Mae Sod for about 77 kilometers. Turn right into Highway no. 105 (Mae Sod- Mae Sariang) and carry on for another 95 kilometers. ควรมีเจ้าหน้าที่น�ำทาง ติดต่อได้ที่ส�ำนักงานอุทยานแห่งชาติแม่เมย It is advisable to have a guide lead the way to the cave. Contact an officer at Mae Moey National Park. 0 5551 4342
จากต้ น ไม้ ถึ ง สายน� ำ ้ From Trees to the Stream
ยอดดอยอินทนนท์ ไม่เพียงแต่เป็นเสมือนหลังคาของประเทศไทย แต่ยัง เป็นหนึ่งในสาแหรกของเส้นเลือดใหญ่ที่ก�ำเนิดจากป่าดิบ “อ่างกาหลวง” เขาบนจุดสูงสุดของสยาม ที่ปกคลุมด้วยสีเขียวทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่ยอด ไม้สูงใหญ่แน่นขนัดจรดพื้นดิน เสียงน�้ำไหลเบาๆ ดังแว่วให้ได้ยินคือสิ่งที่ บอกว่าป่าเขียวแห่งนี้เป็นเหมือนฟองน�้ำก้อนใหญ่ที่เก็บน�้ำไว้มหาศาล และค่อยๆ คายความชุม่ ชืน้ เป็นสายน�ำ้ ไหลลดหลัน่ สูพ่ นื้ ล่าง แต่ดว้ ยความ ลาดชันของภูเขาที่สูงสุดในประเทศ สายน�้ำจึงเดินทางด้วยพลังมหาศาล กลายเป็นน�้ำตกหลายสายที่ล้วนยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
Like a roof to Thailand, Doi Inthanon is located on the highest point of the country. Each and every plot of land on Doi Inthanon is covered with green and high trees. A distant sound of the flowing stream is telling us that the land is one big sponge that absorbs a huge amount of water, retaining soil moisture and turning the excess into waterfalls. Siribhumi waterfall, for example, can be seen from afar while Vajiratarn Waterfall is known for its torrential downpour that cascades down the mountain tiers. Its waterfall mist sprinkles all the trees and plants. Mae Ya Waterfall is one of Thailand’s most beautiful waterfalls. The 100-height downpour meanders through jutting cliff and stones, offering challenging camera shots to test your skill. At Mae Klang waterfall, visitors can swim and enjoy the water all year round.
PHOTOGENIC WONDERLAND 45
น�้ำตกสิริภูมิมองเห็นได้แต่ไกลบนภูเขาสูงใหญ่ น�้ำตกวชิรธารที่ขึ้นชื่อเรื่องพลังยิ่งใหญ่ของสายน�้ำที่ไหลกระโจนลงจากหน้าผา สูแ่ อ่งเบือ้ งล่างอย่างรุนแรงจนเกิดละอองซ่านกระเซ็นไปทัว่ ต้นไม้ใบหญ้าทีอ่ ยูร่ อบๆ หุบเขาแห่งนัน้ จึงได้รบั ความชุม่ ฉ�ำ่ นีต้ ลอด เวลาท�ำให้เป็นน�้ำตกที่เต็มไปด้วยสีเขียวมากที่สุดแห่งหนึ่ง น�้ำตกแม่ยะคือสุดยอดน�้ำตกที่ไม่ควรพลาดชม หากจะกล่าวว่านี่คือน�้ำตกสวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยก็คงไม่ผิด ลาดเขาสูง เกือบร้อยเมตรทีเ่ ต็มไปด้วยชะง่อนผา และเชิงชัน้ เล็กๆ น้อยๆ ซดซ้อนกันมากมายกลายเป็นลีลาความงามหลากหลาย ทีท่ ำ� ให้การ ถ่ายภาพสนุกสนาน เพราะเจาะจงมุมเล็กๆ น้อยๆ ได้มากมาย หรือแม้เพียงเก็บความงามนัน้ ไว้ดว้ ยตาก็เพลิดเพลินไม่รเู้ บือ่ ส่วนน�ำ้ ตกแม่กลางนัน้ ลงเล่นน�ำ้ ได้ถา้ ไม่กลัวหนาว แม้ตวั น�ำ้ ตกจะดูธรรมดาไปบ้าง แต่ตรงกันข้าม หากมาในช่วงฤดูแล้ง น�ำ้ ตกแม่กลาง ซึ่งยังคงมีน�้ำเกือบตลอดปี กลับปรากฏลีลาของเส้นสายและเชิงชั้นที่สวยงามน่าถ่ายภาพไม่แพ้ที่ไหนๆ
PHOTOGENIC WONDERLAND 47 และในยามเช้าคงต้องไม่พลาดมุมมองดีๆ บนจุดชมวิวทีส่ วยทีส่ ดุ ของดอย อินทนนท์ เนินเขาเล็กๆ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 51 คือจุดทีม่ องเห็นพระอาทิตย์ ขึ้นที่สมบูรณ์แบบ มุมมองที่กว้างเกือบรอบตัวของเนินเขานี้ ท�ำให้มอง เห็นความเป็นดอยอินทนนท์ได้ในหลายๆ มิติ ทั้งทะเลหมอกยามเช้าที่ มีดอยเสือมูบ ซึง่ รูปร่างเหมือนเสือนอนหมอบ ดูโดดเด่นท่ามกลางทะเล ภูเขามากมาย ใกล้เข้ามาคือดงต้นไม้ในผืนป่าใหญ่ทมี่ เี รือนยอดแน่นขนัด เหมือนผักบล็อคเคอรี่ดอกเล็กๆ อัดแน่นกันเต็มไปหมด
ดอยอินทนนท์ Doi Inthanon
The perfect spot for viewpoint in the morning is on a small hill on KM 15 where sunrise at its best can be. With the wide angle the hill provides, we can see Doi Inthanon in full panoramic view and spot all breath-taking details like Doi Suea Moob (crawling tiger hill) standing out in the misty mountain of deep jungle.
N 18o35'20" E 98o29'13" จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางผ่านอ�ำเภอหางดง-จอมทอง (ระยะทาง 60 กม.) แล้วเลี้ยวขวาสู่เส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ ซึ่งสถานที่ต่างๆ จะ เรียงรายไปตามเส้นทางตั้งแต่เชิงดอยสู่ยอดดอย เช่น น�้ำตกแม่ยะ(แยก จากหลัก กม.1 เข้าไป 14 กม.) น�้ำตกแม่กลาง(หลัก กม.8) น�้ำตกวชิรธาร(หลัก กม.20) จุดชมวิว(หลัก กม.41) น�้ำตกสิริภูมิ(หลัก กม.30) และยอดดอย(หลัก กม.48) Take route Hang Dong-Jom Thong (60 km) and turn right into the road to Doi Inthanon. All the places are scattering along the road i.e. Mae Ya Waterfall at KM 1 (14 kilometers from the entrance), Mae Klang Waterfall (KM 8), Vajirathan Waterfall (KM 20) Viewpiont (KM 41) Siribhumi (KM 30) and the hill top (KM 48)
สวรรค์ ส ม ี ว ่ ง Purple Paradise
สวรรค์อย่างแท้จริง... คือค�ำนิยามของความรู้สึกในยามเช้าที่เปิดเต้นท์ออก มาพบว่ า ตั ว เองอยู ่ ก ลางทุ ่ ง ดอกไม้ ใ ต้ ล านสน หลั ง จากการเดิ น เท้ า ขึ้ น ภูสอยดาวเป็นระยะทางไกลแสนไกลตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวาน ถ้าหากจะ เทียบการเดินขึ้นภูสอยดาวกับภูกระดึงก็คงคล้ายกัน แต่ความโหดที่แตกต่าง กันประมาณ 2 เท่าตัวแค่นั้นเอง... อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รออยู่เบื้องบนคือข้อเสนอที่คุ้มค่าส�ำหรับการลงทุน เพราะ ที่กางเต็นท์ ใต้ลานสนบนภู คือจุดที่สวยงามที่สุด ของภูสอยดาว เป็นความ สวยงามที่สัมผัสได้โดยไม่จ�ำเป็นต้องออกแรงเดินไปไหนอีกเลย ยิ่งในช่วง ต้นฤดูฝนราวเดือนสิงหาคม ที่ดอกหงอนนาคสีม่วงหวานจะผลิบานในยาม เช้า พร้อมๆ กับสายหมอกบางๆ ลอยอ้อนอิ่ง พรางตาให้ภาพต้นสน ที่เรียงราย ในสายหมอกนั้นดูชวนฝันเสียเหลือเกิน
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว Phu Soi Dao National Park
A true paradise is the words we uttered when zipping down the tent in the morning amidst a field of flowers laying underneath a pine canopy. One can enjoy a long walk up to Phu Soi Dao for an entire afternoon. The camping site near the pine field is the most beautiful spot in all of Phu Soi Dao. It is an unassuming beauty in the beginning of the rainy season (in August) when the sweet purple Murdannia Giganteum are in bloom underneath the floating mist. The whole atmosphere creates a dream-like, romantic feel against the backdrop of the pine trees.
N 17°42'17'' E 100°57'6'' สามารถเดินทางจากตัวเมืองพิษณุโลก โดยใช้เส้นทางผ่าน อ�ำเภอวัดโบสถ์-ชาติตระการ-บ้านบ่อภาค-อุทยานแห่งชาติ ภูสอยดาว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเดินขึ้นภูสอยดาว (ระยะทางรวม จากตัวเมืองพิษณุโลก ประมาณ 180 กม.) Travel from Pitsanulok by Wat Bod-Chattrakarn-Baan Bo Pak-Phu Soi Dao National Park route (the total destination is about 180 Kilometers) เส้นทางเดินขึ้นภูสอยดาว ระยะทาง 6.5 กม. เป็นทางชัน ตลอดทาง ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงในการเดิน A 6.5 kilometers road up to Phu Soi Dao is pretty steep and requires 4-5 hours on foot. บนภูที่ลานกางเต้นท์ มีห้องน�้ำ แต่ไม่มีร้านอาหาร ต้องเตรียม ไปเอง At a camping site, there are washrooms at your service but no restaurants. Food should be prepared in advance. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว 0 5541 9234-5 Phu Soi Dao National Park 0 5541 9234-5
สายน�Riveting ้ำสลักRiverหินRocks ผา
อย่ า เพิ ่ งสั บสน ถ้า ชื่อ “ออบขาน” จะคล้า ยคลึง กับ “ออบหลวง” ที ่อำ�เภอฮอดซึ ่งไกลออกไปอีก หน่อย ออบขานนี ้ อยู ่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่อย่าง ไม่น ่าเชื ่อ แต่ย ังไม่ค ่อยมีใครสนใจมากนัก ทั ้งๆ ที ่ เป็นสถานที ่อ ันแปลกตา และน่าไปถ่ายภาพเอามากๆ
อุทยานแห่งชาติออบหลวง Ob Luang National Park
“ออบ” เป็นภาษาเหนือแปลว่า “ช่องแคบๆ ที่มีน�้ำ ไหลผ่าน” คงจินตนาการได้ถึงพลังน�้ำอันมหาศาล ที่ ไ หลหลั่ ง จากภู เ ขาสู ง มาปะทะกั บ ชั้ น หิ น ที่ แ ม้ จ ะ แข็ ง แกร่ ง เพี ย งใด แต่ ก็ ย อมแพ้ พ ลั ง ของสายน�้ ำ ที่ ถาโถมอยู่ชั่วนาตาปี ช่องแคบๆ ระหว่างหน้าผาสอง ด้านนั้นเป็นผลงานของสายน�้ำที่ไหลโถมถั่งอยู่เบื้อง ล่าง ลักษณะนี้เป็นความเหมือนที่แตกต่างกัน ระ หว่างออบหลวงที่รู้จักกันดีกับออบขาน ซึ่งที่จริงแล้ว ก็เล็กกว่าออบหลวง แต่ในความเล็กนั้นกลับมีความ น่าสนใจ ส�ำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพมากกว่า ตรงที่ ออบขานนั้นมีมุมมองที่หลากหลายกว่า ออบขานอยู ่ บ นรอยต่ อ ของป่ า ดอยสุ เ ทพ กั บ ป่ า สะเมิง ที่ทอดยาวต่อเนื่องไปถึงดอยอินทนนท์ เดี๋ยว นี้มีเส้นทางรถยนต์เข้าถึงอุทยานฯ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น เส้ น ทางเดิ น เท้ า ที่ เ ลาะไปตามไหล่ ผ าเลี ย บล� ำ ธาร ยาวนับกิโลเมตร ผ่านจุดทีน่ า่ แวะชม และเก็บภาพหลักๆ หลายแห่ง ทั้งห้วยหญ้าไซ ผาตูบ และออบขาน รวม ระยะทางก็ราวๆ 1 กม.
ที่ จ ริ ง แล้ ว ไม่ จ� ำ เป็ น ต้ อ งไปไกลถึ ง สุ ด ทาง เพราะภู มิ ทั ศ น์ ที่ เ ห็ น ได้ แ ทบ ตลอดเส้ น ทางคื อ หุ บ ลึ ก ที่ มี ล� ำ ธารไหลกึ ก ก้ อ งอยู ่ ก ้ น เหว บางครั้ ง ดู น ่ า หวาดเสียวเมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ แต่ก็ได้อารมณ์ ไปอีกแบบหนึ่ง ที่นี่เหมาะ ส�ำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพแลนด์สเคป หรือใครก็ตามที่พิถีพิถันหาโลเคชั่น และมุมดีๆ ส�ำหรับถ่ายพอร์ตเทรต สิ่งที่น่าชมคือเส้นสายของล�ำธารที่ สอดคล้องกับแนวของหุบเหว ซึ่งบางครั้งก็คดเคี้ยวไปตามธรรมชาติ และ ฝากริ้วรอยสวยงามเอาไว้บนแผ่นผา นับเป็นงานศิลปะของธรรมชาติที่ น่ามองทีเดียว
N18°43'12'' E98°49'23'' จากตั ว เมื อ งเชี ย งใหม่ ใช้ ถ นนเลี ย บคลอง ชลประทาน มุ่งหน้าผ่านอ�ำเภอหางดง ประมาณ 15 กม. ถึง “บ้านน�้ำแพร่” แล้วเลี้ยวขวาตามป้าย “อุ ท ยานแห่ ง ชาติ อ อบขาน” เข้ า ไปอี ก ประมาณ 12 กม. From Chiang Mai city, take the road following along the Chonlapratan canal heading towards Hang Dong. One must travel about 15 kilometers to reach Baan Nam Phrae. Turn right and follow the sign “Ob Khan National Park” for another 12 kilometers. ไม่แนะน�ำให้ไปในช่วงเที่ยง เพราะที่ออบขานจะ ร้อนมาก It is advisable not to visit the park midday as it can get very hot.
“Ob” is a word taken from the Northern Thai dialect meaning a narrow pit with water running through it. Ob Khan is nestled between two cliffs with a wild river running between them. The park is located on the seams of Doi Suthep forest and Samerng forest leading to Doi Inthanon. There is driveway access to the entrance and then visitors walk along the cliff parallel to a long stream for approximately one kilometer. The cliff-side scenery is well worth exploring. The landscape resembles a deep gorge cut down the middle by running water. This is a perfect spot for landscape photographers or anyone who loves majestic settings. The meandering stream below creates a fascinating trail displaying the art of nature.
อ่Making างซัyour บเหล็ownกdiscovery กับมุมดีๆ ที่ต้องค้นให้พบ @ Sub Lek
PHOTOGENIC WONDERLAND 53
นอกเมืองลพบุรีมีทะเลสาบโบราณแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่หลายร้อยปีท ี่ แล้ว ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของระบบชลประทานแห่งแรกในเมืองไทย ประจักษ์พยานคือ ท่อน้ ำ�ดินเผาโบราณที ่ต่อเชื ่อมส่งน้ ำ�ไปไกลถึงพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์ ในเมือ งลพบุรี ทุกวันนี้อ ่างซับเหล็กกลายเป็นที่พักผ่อ นของชาวเมื อง และเป็ นที ่ ที่คนกรุง จะมุ่ง หน้ามาเที่ยวทุ่ง ทานตะวันในฤดูหนาว แต่สิ่งส�ำคัญที่สุดที่ท�ำให้ต้องกลับไปยังสถานที่แห่งนี้บ่อยๆ คือภูเขาหินปูนลูกหนึ่งซึ่ง อยู่ริมทะเลสาบแห่งนี้ รูปพรรณสัณฐานของมันสะดุดสายตาทุกครั้งที่ขับรถผ่านไปบน ถนนแถวนั้น ทว่าปัญหายังมีอยู่บ้างส�ำหรับการเก็บช็อตสวยๆ นั่ นคื อตรงถนนเลี ย บ อ่างเก็บน�้ำซึ่งเป็นทางสัญจรทั่วไปของนักท่องเที่ยว กลับอยู่ทางฝั่งเดียวกับภูเขา เมื่อ มองออกไปยังทะเลสาบ จึงเห็นเพียงเวิ้งน�้ำว่างเปล่า บางทีการเก็บภาพสวยๆ ก็เป็นเรื่องยุ่งกว่าที่คิดเพราะจินตนาการนั้น เห็นภาพทะเลสาบ ที่มี “เขาจีนแล” เทือกนี้เป็นฉากหลัง โดยมีทะเลสาบเป็นฉากหน้า ปฏิบัติการค้นหา พิกัดส�ำหรับมุมตามจินตนาการ จึงเริ่มต้นขึ้นด้วยการเปิดแผนที่ เพื่อค้นหาเส้นทางที่ จะพาเราไปยังท�ำเลที่ตั้งกล้องของเรา ผลปรากฏว่าเส้นทางนั้นต้องอ้อมกลับไปยังถนน ใหญ่ และเลี้ยวเลาะเข้าไปในซอยเล็กๆ ซึ่งซอกแซกไปสิ้นสุดที่หมู่บ้านเล็กๆ ของชาว บ้านที่ท�ำอาชีพจับปลาในอ่างซับเหล็กนี้มาช้านาน และใจดีพอที่จะอนุญาตให้เราเข้าไป ปักหลักเก็บภาพสวยๆ ตามที่ใฝ่ฝัน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ความเป็นจริงกลับเหนือกว่าความฝัน เพราะนาบัวริมน�้ำที่ถูกลม พัดกระพือในยามแดดร่มลมตก จวบจนแสงสุดท้ายของวันมาเยือน กลับกลายเป็นฉาก หน้า ฉากกลาง และฉากหลังอันสวยงามลงตัวราวกับจัดวาง จนอดอิจฉาคุณลุงคุณป้า เจ้าของบ้านนี้ไม่ได้ ที่มีทิวทัศน์สวยไว้ให้มองตลอดเวลา. . .
อ่างซับเหล็ก Sub Lek N 14o49'00" E 100o47'8" ใช้เส้นทาง ลพบุรี-โคกตูม ซึ่งจะมีป้ายบอกทางไปแหล่งท่องเที่ยว “อ่างซับเหล็ก” อย่างชัดเจน ส่วนจุดถ่ายภาพที่กล่าวถึงนั้น หาก มาจากตัวเมืองลพบุรี จะต้องเลยทางเข้าอ่างซับเหล็กไปราว 1 กม. และเลี้ยวซ้ายผ่านหน้าส�ำนักสงฆ์ จนสุดทางที่หมู่บ้าน Use the route Lopburi-Khok Toom and look for a direction sign indicating “Ang Sub Lek.” To get to the spot where we took our photos, go further for one kilometer from the entrance of Ang Sub Lek. Turn left and drive past the monastery until you reach the village. ควรขออนุญาติเจ้าของสถานที่ก่อนเข้าไปถ่ายภาพ Permission should be sought before entering the premise.
Ang Sub Lek, located outside of Lopburi town, is an ancient lake and a part of Thailand’s first irrigation system. Water pipes made of clay transferred water as far as the palace of King Narai in the city of Lop Buri. Today, this historically rich place has become a vacation town for the locals and people from the city who may make it a point to stop by on their way to see the sunflower fields during the cool season. There is a limestone mountain by the lake called “Khao Jeen Lae.” For those who enjoy taking photos, it can be difficult to get a good shot as the road along the reservoir is located on the same side of the mountain as the lake. You might find your photo is only a frame filled with water in the lake and nothing else rather than the ideal image of a lake in the foreground and a mountain in the background. The mission will then begin to find the perfect spot. With a map as a guide, one can discover the route to fulfill a photographer’s imagination. We made a U-turn and headed back to the main road where we meandered through a little alley leading to a small village of local fishermen living in the area of Ang Sub Lek. The fishermen were kind enough to allow us to roam freely and start shooting to our heart’s content. . At the end of the day, what we discovered had exceeded our expectations. The lotus blooms captured in the sunset made a perfect object in our composition and created one memorable photo collection.
อลั ง การ สะพานหิ น The Majestic Rock Bridge หลายครั้งที่ภาพถ่ายบนหน้านิตยสารกลายเป็นผู้ต้องหา ว่าเสนอภาพ สวยเกินสถานที่จริง แต่คงต้องสารภาพตามตรงว่าบางครั้งภาพถ่ายก็ คงไม่สามารถถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของบางสิ่งบางอย่างให้มาปรากฏ บนหน้ากระดาษได้ครบถ้วน อย่างเช่นภาพของเพิงหลังคาถ�้ ำธารลอด ใหญ่แห่งนี้ เพราะมีภูมิทัศน์ที่แปลก และอลังการมากๆ ผู้ก�ำกับภาพยนตร์หลาย คนจึงเลือกสถานที่แห่งนี้เป็นฉากภาพยนตร์ ซึ่งผ่านตาเรามาแล้วหลาย เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเป็นแนวสยองขวัญ ทั้งๆ ที่ทุกอย่างที่นี่สามารถ อธิบายด้วยหลักภูมิศาสตร์ว่านานมาแล้ว ที่แห่งนี้เคยเป็นถ�้ำขนาดใหญ่ และทอดยาวไปถึงถ�้ำธารลอดน้อยซึ่งอยู่ห่างออกไป 3 กม. แต่เพราะ เพดานหิ น ปู น ของถ�้ ำเกิดถล่มตัวลงครั้งมโหฬาร และบัง เอิ ญ เหลื อ ไว้ เพียงส่วนหนึ่งของเพดานถ�้ำแลดูเหมือนสะพานหินขนาดใหญ่ยักษ์ อย่าง ที่ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อนในประเทศไทย เป็นสภาพแวดล้อมที่พิเศษสุด เพราะเป็นป่าในถ�้ำซึ่งเต็มไปด้วยพืชยุคดึกด�ำบรรพ์อยู่ทั่วบริเวณ หาก ได้ไปเยือนในยามเย็นย�่ ำที่บรรยากาศเย็นยะเยือก ชวนให้เกิดความรู้ สึกแปลกๆ ที่อธิบายยาก ต้องไปสัมผัสเอง
With unique and grand scenery, Than Lod Yai Cave has been featured in many horror films. Long time ago, the place used to be bigger and larger as it connected to Than Lod Noi Cave which is located 3 kilometers away. The collapse of the cave roof left the remaining part of the structure that resembles a giant bridge made of rock. The cave maintains its pure environment as it is home to many exotic, pre-historic flora. The temperature inside the cave cools down and puts visitor in inexplicable awe.
ถ�้ำธารลอด Than Lod Yai Cave N 14 o40'08" E 99 o17'21" จากตั ว เมื อ งกาญจนบุ รี ใช้ เ ส้ น ทาง กาญจบุ รี - บ่ อ พลอย-หนองปรื อ อช.เฉลิมรัตยโกสินทร์(ถ�้ำธารลอด) ซึ่งที่ท�ำการอุทยานฯ จะอยู่ตรงถ�้ำธารลอด น้อย ซึ่งสามารถเดินทะลุถ�้ำธารลอดน้อย ผ่านน�้ำตกไตรตรึงส์1-3 และไปถึง ถ�้ำธารลอดใหญ่ได้ ระยะทางประมาณ 3 กม. และมีเส้นทางรถยนต์อ้อมภูเขา ไปถึงหลังถ�ำ้ ธารลอดใหญ่ได้โดยตรง แต่ระยะทางไกลมาก ประมาณ 32 กม. และ ถนนบางช่วงเป็นลูกรัง สอบถามเส้นทางได้ที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ Accessing through Kanchanaburi, take route Kanchanaburi- Bo PloyNong Prue-Chalern. The National Park office is located right at Than Lod Noi Cave which you can walk through, passing Trai Treung 1-3 Waterfall to Than Lod Yai Cave. The distance is about three kilometers. There is also a detour to the back of the cave but it is quite long (about 32 kms) and the road is non-asphalt. Contact an officer at the national park for direction.
PHOTOGENIC WONDERLAND 55
Kanchanaburi is famous for its numerous waterfalls including the renowned 7-tiered Erawan waterfall, most visited and most photogenic of all the waterfalls in Kanchanaburi. The river that flows past the limestone cliff is like a glittery veil that reaches down to the emerald-green water pool below. Deep in the forest, lies a recently-discovered waterfall, Huai Mae Khamin. The waterfall has seven tires like Erawan and is unique for its fourth tier which is beautifully named “Chat Kaew,” describing the flow of the water that cascades down each tier like a chat (royal umbrella). Despite the long ride to reach the destination, the trip is convenient enough as the road will provide direct access to the waterfall. A more familiar waterfall lies in the park of “Sai Yok,” the area consists of a popular waterfall like Sai Yok Noi and Sai Yok Yai, and can be easily accessed by train. Another location is “Sai Yok Lek Waterfall” (not to be confused with Sai Yok Noi) the area is stunning in its own right with a unique waterfall that cascades down the limestone cliffs covered with green exotic plants. น�้ำตกเมืองกาญจน์์ Waterfall in Muang Kan น�้ำตกเอราวัณ Erawan Waterfall N 14°22'06'' E 99°08'41'' จากตัวเมืองกาญจน์ฯ ใช้เส้นทางกาญจนบุรี-ลาดหญ้า-น�้ำตกเอราวัณ น�้ำตกจะอยู่บริเวณ ใกล้กับเขื่อนศรีนครินทร์ ระยะทาง 65 กม. From Kanchanaburi, use route Kanchanaburi-Lad Ya-Erawan Waterfall. The waterfall can be found near Srinagarindra Reservoir. (65 kilometers)
น้ ำ � คื อ สิ ่ ง มหั ศ จรรย์ ของเหลวใสๆ นี ้ ส ามารถเปลี ่ ย นรู ป ไปตามสถานที ่ ท ี ่ เดิ นทางผ่ า น และเมื ่ อ สายน้ ำ � เดิ นทางผ่ า นภู เ ขาสู ง ก็ บ ั ง เกิ ด สิ ่ งมหั ศจรรย์ ข องธรรมชาติท ี่เราคุ้น เคย และหลงใหลในการเปลี ่ ย นรู ป ร่ างของน้ ำ � อย่ างเป็ น ศิ ลปะ ยังไม่เคยนับจ�ำนวนน�้ำตกในป่าเมืองกาญจนบุรี แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าเมืองนี้เป็นที่รวมน�้ำตกชื่อดังของเมืองไทย ที่รู้จักกันแน่ๆ ก็คือ น�้ำตกเอราวัณ น�้ำตกอมตะความสูง 7 ชั้น ที่มีผู้มาเยือนมากที่สุด และเป็นน�้ำตกที่ “ขึ้นกล้อง” มากที่สุด คงเป็นเพราะ ชั้นเชิงของ เพิงผาหินปูนที่เปลี่ยนสายน�้ำเป็นม่านสวยๆ ไหลลงสู่แอ่งน�้ำสีเขียวมรกต ที่เกิดจากธาตุบางอย่างในหินปูน น�้ำตกเอราวัณแต่ละชั้น จึงมีความสวยงามที่หลากหลายจนกลายเป็นน�้ำตกที่สามารถถ่ายภาพได้ไม่มีเบื่อ ลึกเข้าไปในป่าผืนเดียวกัน ยังมีน�้ ำตกที่เพิ่งเป็นที่รู้จักกันเมื่อไม่นานนัก คือ น�้ ำตกห้วยแม่ขมิ้นที่บังเอิญมี 7 ชั้น เหมือนน�้ ำตก เอราวัณ ความสวยงามก็ ใกล้เคียงกัน แต่จะโดดเด่นเป็นพิเศษตรงน�้ำตกชั้น 4 ที่ถูกตั้งชื่ออย่างงดงามว่า “ฉัตรแก้ว” ซึ่งอธิบาย ลักษณะสายน�้ำที่ ไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ มากมายเหมือนฉัตร และที่ส�ำคัญคือเดินทางสบาย แม้จะต้องนั่งรถนานหน่อย แต่ทันทีที่ จอดรถ เสียงสายน�้ำก็ดังทักทายอยู่ไม่ไกลแล้ว สุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือน�้ำตกในอุทยานแห่งชาติชื่อคุ้นหูมากที่สุด “ไทรโยค” ที่มีน�้ำตกยอดนิยมอย่างน�้ำตกไทรโยคน้อย เป็นน�้ำตกที่ ไปง่าย รถไฟเข้าถึง ส่วนน�้ำตกไทรโยคใหญ่นั้นใหญ่สมชื่อ แต่ลีลา น้อยเกินไปหน่อย แต่คิดว่าคงมีน้อยคนที่จะนึกถึงน�้ำตกอีกแห่งที่ ชื่อชวนสับสนกับไทรโยคน้อย.. คือ “น�้ำตกไทรโยคเล็ก” ที่ไหลลงสู่ แม่น�้ำแควน้อยตรงจุดไม่ไกลจาก ไทรโยคใหญ่ ด้วยขนาดที่ไม่เล็ก อย่างชื่อที่ตั้งไว้ แต่กินขาดเรื่องลีลา และองค์ประกอบของสายน�้ำ ที่ไหลอาบผาหินปูน ซึ่งแต่งแต้มด้วยสีเขียวสดของพรรณไม้ที่ได้ อานิสงส์จากความชุ่มฉ�่ำของสายน�้ำ เป็นภาพงดงามที่ชื่นชมได้ทั้ง วันทั้งคืน จากเรือนแพพักที่ลอยล�ำอยู่ใกล้ๆ
น�Waterfal ้ำ ตกls กับ ผา หิน and Limestone Cliffs
น�้ำตกห้วยแม่ขมิ้น Huai Mae Khamin Waterfall N 14°38'23'' E 98°59'12'' จากน�้ำตกเอราวัณ สามารถใช้เส้นทางเลียบเขื่อนศรีนครินทร์ฝั่งตะวันตก ผ่านหน้าถ�้ำ พระธาตุ ถึงอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของน�้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้น ที่4 (ระยะทาง 110 กม.) From Erawan Waterfall, travel on the road along the western Srinagarindra Reservoir, passing Phra That Cave until you reach the Srinagarindra National Park which is the location of the fourth tier of Huai Mae Khamin Waterfall. (110 kilometers) น�้ำตกไทรโยคเล็ก Sai Yok Lek N 14°26'01'' E 98°51'7'' จากตัวเมืองกาญจน์ฯ ใช้เส้นทางผ่านอ�ำเภอไทรโยค ถึงอุทยานแห่งชาติไทรโยค ระยะทาง 100 กม. From Kanchanaburi, use the route through Sai Yok District and go on till you reach Sai Yok National Park. (100 kilometers)
ผาโดดเดี ย ่ ว ไม่ เ ดี ย วดาย Alone but not lonely มี เรื ่ อ งเล่ า ว่ า เมื ่ อ ทหารหลายนายต้องจากบ้า น จากครอบครั ว เดิ นทางรอนแรมมายั งยอดเขาเขี ย วซึ ่ ง เป็ นจุ ด สู ง สุ ด ของภาคกลาง เพื ่ อ สร้ า งสถานี เรด้ า ร์ ก องทั พ อากาศ บรรดาความคิ ด ถึ ง ทั ้ ง มวลที ่ เ กิ ด ขึ้ นขณะอยู ่ ท ี ่ น ี ่ ค งถู ก ทิ ้ ง ไว้ ณ หน้ า ผาแห่ ง หนึ ่ ง ใกล้ ย อดเขา อั น เป็ นที่ ม าของชื่ อ หน้ า ผาที่ เต็ ม ไปด้ ว ย อารมณ์ เหงาอย่ า งที่ส ุด แต่ทุกวันนี้ผาเดียวดายไม่เดียวดายอีกต่อไป เพราะมีถนนสายเล็กๆ ตัดถึงยอดเขาเขียว เพียงจอดรถแล้ว เดินไปตามเส้นทางเดินสั้นๆ ที่สวยที่สุดเพราะแวดล้อมด้วยป่าดิบเขาซึ่งห่มคลุมด้วยสีเขียวไปทั่วทุกตาราง นิ้ ว ใช้ เ วลาไม่ นานเส้ น ทางก็ ม าสุ ด ที่ ลานหิ น โดดเดี่ ย วริ ม หน้ า ผาซึ่ ง มองลงไปเบื้ อ งล่ า งจะเห็ น ป่ า รกทึ บ ที่ บริสุทธิ์ของเขาใหญ่ พื้นที่บริเวณเล็กๆ นี้มีพรรณไม้ขึ้นอยู่ริมขอบหน้าผากับต้นไม้ใหญ่ที่คดงอแปลกตาไปตามแรงลมที่พัดกระพือ อยู่เกือบตลอดเวลา ที่พิเศษคือแนวเขาร่มที่วางตัวอยู่เบื้องหน้าเหมือนตั้งใจจัดวาง ยามเช้าพระอาทิตย์จะ โผล่พ้นสันขอบของภูเขาลูกนี้เป็นภาพที่สวยงาม จนสงสัยว่า เมื่อมีธรรมชาติเป็นเพื่อนเยี่ยงนี้ จะยังมีใคร รู้สึกเดียวดายอีกไหม?
At the top of Khao Kiao mountain, a highest place in the central region is the site of Air Force radar station. Nearby is located a cliff called “Diao Dai” (Lonely). The story behind the name goes that many soldiers were posted here in this remote and isolated place for the construction work. They needed to be away from home and family, faraway from their love ones; hence the name. The cliff is not a lonesome place anymore as it is now today accessed by a road cut right to the hilltop. Park your vehicle and walk only for a short distance and you will be embraced in lush green forest that leads to the reclusive cliff with deep green forest below indicating unspoiled nature. Exotic shrubs and flowers are found growing on cliff sides. Khao Rom mountain range is strategically lying in the front, completing the perfect picture of the fascinating mountain scenery at sunrise.
ผาเดียวดาย, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ Diao Dai Cliff, Khao Yai National Park N 14o21'59" E 101o24'20" จากกรุงเทพฯ สามารถขึ้นเขาใหญ่ได้ทั้งเส้นทางด้านอ�ำเภอเมือง ปราจีนบุรี หรือใช้เส้นทาง สระบุรีมวกเหล็ก-ปากช่อง ส่วนทางขึ้นเขาเขียวจะอยู่บริเวณบ้านพักกองทัพอากาศ ระยะทางขึ้นเขา 14 กม. และเดินอีก 400 เมตร
Get to Khao Yai via route Amphur Muang, Prajeenburi or Saraburi-Muak Lek-Pak Chong. The road to Khao Khiao begins at the residence area of the Air Force which is about 14 kilometers plus a walking distance of 400 meters.
PHOTOGENIC WONDERLAND 63
ภูกระดึ ง กับภาพจ�ำบนรอยทาง Pictures down memory lane A legendary journey begins at Phu Kra Deung, the mountain that always invokes some sort of special feeling every time we visit. The mountain involves more than a 30 kilometers walk that allows visitors to take photos of the magnificent surroundings. Only through walking can one truly explore all the details in the beautiful scenery. Phu Kra Deung has therefore become one of the most photographed locations. We set off in the morning at the sunrise viewpoint on Pha Nok Aen. With two standing pine trees that have become a well known symbol of the place, the cliff overlooks the sea of rippling mist. A mountain in a dazzling shape called “Pha Nok Khao” emerges from the distance in the middle of the misty sea. We spent late morning in a spacious pine forest and visited waterfalls that surrounded the valley in the afternoon, taking in the sights of this picturesque scenery rich with color-changing maples and lovely orchids on the rocky field is something anyone can enjoy. An evening stroll along the meadow and cliffs dotting the long road to Pha Lom Sak will be something to remember – a symbol of Phu Kra Deung.
ภู เขาแห่ ง ตำ � นานการเดิ นทางที่ ทำ � ให้ ใครที่ ได้ ไปต้ อ งเก็ บ ทั้ ง ภาพ อุ ณ หภู ม ิ กลิ ่ น และความรู ้ ส ึ ก พิ เศษ บางอย่ า งเอาไว้ ในความทรงจำ� เป็น ภูเขาแห่ง การเดิน เดิน และเดิ น ทริ ป ละไม่ น ้ อ ยกว่ า 30 กม. ต่ อ คน แต่การเดิน และเดินนี่ล่ะ ที่จะท�ำให้มนุษย์ตัวเล็กสามารถเก็บภาพของสรรพสิ่งรอบตัวเอาไว้ได้อย่างครบ ถ้วนในแทบทุกรายละเอียด ภูกระดึงจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุด ทั้งมุมยอดนิยม และ มุมส่วนตัว เริ่ ม จากยามเช้ า กั บ จุ ด ชมพระอาทิ ต ย์ ขึ้ น ที่ ผ านกแอ่ น และต้ น สนคู ่ ที่ ยื น ต้ น เคี ย งกั น อยู ่ ริ ม หน้ า ผาเป็ น สัญลักษณ์อยู่ชั่วนาตาปี เบื้องล่างคือทะเลหมอกที่เป็นเหมือนกับทะเลจริงๆ สายลมพัดทุกอณูของหมอก ให้พริ้วเหมือนสายน�้ำ มีภูเขารูปร่างเด่นชื่อ “ผานกเค้า” โผล่พ้นทะเลหมอกขึ้นมาเหมือนเกาะกลางทะเล
ยามสายกับป่าสนสองใบสูงใหญ่ผืนกว้างที่อวดรูปร่างสวยงามชวนมอง ยามกลางวันกับการเดินในหุบเขาแห่งน�้ำตก หลายสาย ทั้งน�้ำตกวังกวาง น�้ำตกเพ็ญพบใหม่ น�้ำตกเพ็ญพบ น�้ำตกถ�้ำใหญ่ น�้ำตกธารสวรรค์ น�้ำตกถ�้ำสอ บน เส้นทางที่เรียงร้อยน�้ำตกทั้งหมดไว้ด้วยกัน กับสรรพสิ่งในธรรมชาติมากมายที่น่าตื่นตา ทั้งต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีที่ น�้ำตกเพ็ญพบ-ถ�้ำใหญ่ กล้วยไม้น่ารักบนลานหินเหนือน�้ำตกธารสวรรค์ ยามเย็นกับการเดินไปบนเส้นทางเลาะเลียบทุ่งหญ้าและหน้าผาที่เรียงรายและเรียงร้อยด้วยเส้นทางเดินอันยาวไกล ทั้งหน้าผาหมากดูก ผาจ�ำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง หรือผาหล่มสักซึ่งเป็นดั่งสัญลักษณ์ของภูกระดึง ก็อย่างที่บอกไว้ เรื่องของภูกระดึงนั้นอยู่ในความทรงจ�ำเสมอ จนชื่อของหน้าผาและน�้ำตกก็ยังท่องจ�ำได้อย่างแม่นย�ำ
64 PHOTOGENIC WONDERLAND
ภูกระดึง Phu Kra Deung N 16o52'16" E 101o50'44" จากกรุ ง เทพฯ ใช้ เ ส้ น ทาง ผ่ า นอยุ ธ ยา-สระบุ รี ปากช่ อ ง(นครราชสี ม า)-สี คิ้ ว -ชั ย ภู มิ - ชุ ม แพ(ขอนแก่ น )อ�ำเภอภูกระดึง(เลย)
From Bangkok, travel via route Ayuthaya-SaraburiPak Chong-Si Kiew-Chaiyaphum-Chum Phae (Khon Kaen)-Phu Kra Deung district (Loei)
เส้นทางเดินขึ้นภูกระดึง ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และ แค้มป์ที่พักบนภู ระยะทางรวม 9 กม.(ทางชัน 5 กม. + ทางราย 4 กม.) และเส้นทางเดินไปสถานที่ท่องเที่ยว ต่างๆ ระยะทาง 5-20 กม.
A distance of 9 kilometers from the road to Phu Kra Deung to the Tourist Information Office and camping site. (steep road 5 kms + flat road 4 kms). Distance to attractions in Phu Kra Deung ranges from 5-20 kms.
66 PHOTOGENIC WONDERLAND
ความลั บ ของหิ น สี ข าว the secret of white stones under the moonlight
หลายคนเรี ย กมอหิ นขาวว่ า “สโตนเฮนจ์ เมื อ งไทย” แต่ ชาวไร่ ช าวสวนแถบนี้ รู้ กั น ดี ว่ า แท่ ง หิ น ประหลาดขนาด ยั ก ษ์ 5 ก้ อ นที่ เรี ย งรายอยู่ บ นเนิ น เขาในป่ า สงวนภู แ ลน คานั้ นจะทอแสงเรื อ งรองในคื น วั น พระ จึ ง ขนานนามไว้ ว่า “มอหินขาว” สิง่ ทีธ่ รรมชาติสร้างขึน้ ย่อมไม่ใช่เรือ่ งเหนือธรรมชาติ แท่งหินอายุ กว่าร้อยล้านปีนี้เกิดจากแรงยกตัวของเปลือกโลก สภาพ ธรณี วิ ท ยาซึ่ ง พื้ น ที่ ส ่ ว นใหญ่ เ ป็ น หิ น ทรายแป้ ง สี ข าวนวล ท�ำให้มอหินขาวมีสีขาวนวลกว่าที่พบเห็นในที่อื่นๆ ดังนั้น เมื่อแสงอาทิตย์หรือแสงจันทร์ส่องกระทบ มันจึงแลดูเด่น ชัดเป็นพิเศษ อีกทั้งขนาดของมันก็ยังใหญ่โตมโหฬารจนใคร ที่ได้เห็นเป็นต้องตกตะลึงตาค้างในความอลังการ
Referred to by many as the Stonehenge of Thailand, the five giant stone columns in a peculiar shape on Phu Lanka are locally known as “Mo Hin Khao” (white stones) due to the fact that, during a full moon, the stones emit a stunning creamy white reflection. These hundred million year-old stones are a result of the elevation of the white and sandy surface of the earth. With its grand size and bright white color, the sight of the stones always puts visitors in awe.
มอหินขาว Mor Hin Khao N 16o03'50" E 101o57'59" จากตัวเมืองชัยภูมิ ใช้เส้นทางผ่านหน้า ม.ราชภัฏชัยภูมิ - น�้ำตกตาด โตน ก่อนถึงด่านอุทยานแห่งชาติตาดโตน จะมีทางแยกเข้ามอหินขาว ระยะทาง 22 กม. มีป้ายบอกทางเป็นระยะ แต่เส้นทางค่อนข้างขรุขระ เป็นลูกรัง ต้องใช้รถสภาพดี From Chaiyaphum, travel via the road that cuts past Rajabhat Chaiyaphum University then you will see a 22 kilometers-long road split up to Mo Hin Khao. Direction signs are clearly visible along the road. However, the road is quite bumpy and non-asphalt. Check your engine and the condition of your vehicle prior to travel.
PHOTOGENIC WONDERLAND 69
ชีLifeวิตin ในทุ ง ่ หญ้ า the Grassland กลาง หุ บ เข าซึ ่ ง ค รั ้ ง ห นึ ่ ง เค ยเป็ นดิ น แด น สี ช ม พู ของพรรค คอมมิ ว นิ ส ต์ แห่ ง ประเทศไทย มี ท ุ่ ง หญ้ า กลางป่ า สนซึ่ ง อยู ่ ลึ ก เข้ า ไป ในป่ า ที ่ แ ทบจะตั ด ขาดจากโลกภายนอก แต่ นั่ น ก็ ห มายถึ ง สถานที ่ ท ี ่ มี ค วามเป็ น ธรรมชาติ เต็ ม ร้ อ ย เป็ น สถานที ่ แ ค้ ม ปิ ้ ง ที ่ บ รรยากาศดี เยี ่ ย ม และเปิ ด โอกาสให้เราสามารถสัมผัสความเป็นไปของธรรมชาติแห่ง ทุ่งหญ้า-ป่าสนตั ้ งแต่ เช้ า จรดค่ำ� ทั้ง แสงแดดสีเหลืองทองยามเช้ าตรู ่ และเย็ น ย่ ำ � หรื อ ยามลมพั ด พาทุ่ ง หญ้ า พริ้ ว ไสวล้ อ ลมพร้ อ มๆ กั บ ริ ้ ว เมฆที ่ เคลื ่ อ นตั ว ผ่ า นไปอย่า งรวดเร็ว ในช่วงปลายฤดูแล้งชนต้นฤดูฝนจะเป็นช่วงที่ทุ่งนางพญางดงามที่สุด เพราะฝนแรกที่มาเยือนจะปลูกเหล่าต้นไม้ใบหญ้าให้กลับมีชีวิตขึ้นมา อี ก ครั้ ง อย่ า งต้ น เฟิ ร ์ น ที่ ขึ้ น คลุ ม พื้ น ดิ น ไปทั่ ว บริ เ วณ ราวกั นมั น รู ้ ว ่ า ธรรมชาติของป่าสนนั้นเรือนยอดไม่แน่นทึบมากนัก แสงแดดจึงส่อง ลงมาได้ง่าย เฟิร์นเขียวๆ เหล่านี้จึงพร้อมใจกันท�ำหน้าที่ช่วยเก็บความ ชุ่มชื้นเอาไว้ให้ผืนดิน
Detached from the outside world, the meadow buried deep in the pine forest of Thung Nang Phaya offers a perfect camping site that grants complete access to pure nature from dusk till dawn. From the exhilarating view of the golden light at the crack of dawn or the breezy late afternoon, rippling grass on the meadow and puff of fast-moving clouds, Thung Nang Phaya has something to spark every photographer’s interest. Thung Nang Phaya is at its best view at the end of the dry season and the beginning of the rainy season as the first rains brings back life in lush shades of green. Carpeting the entire forest, the ferns fed by sunlight seeping through the pine vegetation help retain moisture in the soil.
ทุ่งนางพญา Thung Nang Phaya N 16o34'35" E 100o51'03" จากกรุ ง เทพฯ ใช้ เ ส้ น ทาง อยุ ธ ยา-สระบุ รี - เพชรบู ร ณ์ - เขาค้ อ -หนองแม่ นา(อช.ทุ่งแสลงหลวง) ระยะทาง 400 กม. และจากหนองแม่นา มีเส้นทาง ล�ำลองเข้าสู่ทุ่งนางพญา ระยะทาง 14 กม. (ควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ) สามารถกางเต็นท์พักแรมในทุ่งนางพญาได้ แต่ไม่มีห้องน�้ำ ไฟฟ้า และร้าน อาหารให้บริการ ต้องติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนทุกครั้ง 0 5526 8019
Travel from Bangkok via Ayuthaya-Saraburi-Petchabun-Khao KoNong Mae Na (Thung Salaeng Luang) 400 kilometers. From Nong Mae Na, a 14-kilometers road to Thung Nang Phaya is available (a four-wheel vehicle is recommended) Camping at Thung Nang Phaya is doable with lack of washrooms, electricity power and restaurant. Contact the Tourist Information Service Centre prior to your travel
PHOTOGENIC WONDERLAND 71
ใครที่รักสายน�้ำคงต้องหลงรักน�้ำตกร่มเกล้า-ภราดร ระยะทางเดินนั้นแสนสั้น แต่สภาพเส้นทางนั้นแสน ชัน เป็นการเดินที่โหดแบบนิ่มๆ เพราะไม่ไกลเกินไป ตัวน�้ำตกก็ไม่ใหญ่แต่น่ารักน่าชมเพราะมอส ไลเค่น ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ จะมีสีอื่นบ้างก็ตรงสีขาวของดอกดาวดินที่ขึ้นแซมอย่างน่ารักอยู่บนโขดหินสีเขียว หน้าน�้ำตก แต่ถ้าหลงรักการเดินป่าแบบจริงๆ จังๆ น�้ำตกหมันแดงคือทางเลือกที่คุ้มค่า เพราะเส้นทางเดินป่ายาว ไกลกว่า 3 กม. ในสภาพเส้นทางที่ชันและลื่นสุดๆ ทั้งยังเต็มไปด้วยทากดูดเลือดคือที่มาของค�ำเล่าลือถึง ความโหดแบบหินๆ แต่สิ่งที่จะได้พบเห็นอยู่ปลายทางคือน�้ำตกสวยบริสุทธิ์กลางป่าลึกที่มีถึง 15 ชั้น โดย เฉพาะชั้นที่ 8 นั้นมีกล้วยไม้ลิ้นมังกรสีชมพูขึ้นเป็นกอหน้าน�้ำตกเป็นมุมถ่ายรูปที่พอเหมาะพอดีเหมือนมี ใครเอามาจัดวางไว้ให้อย่างนั้นเลย
ดอกไม้ สายน�้ำ ร่องหิน และลานผา Flowers, Rivers, Rocks and Cliff
คงเป็ น อี ก ครั ้ ง ที ่ ต ้ อ งกล่ า วถึ ง อุ ท ยานแห่ ง ชาติ ซึ่ ง เป็ น หนึ่ ง ในสถานที่ ท ี่ ไปแล้ ว ก็ อ ยากไปอี ก เพราะความสมบู ร ณ์ แบบของธรรมชาติ ร อบตั ว ที่ ท ำ � ให้ ภ าพมากมายถู ก เก็ บ ไว้ บ นแผ่ น ฟิ ล ม์ บนเมมโมรี ่ ก าร์ ด และในความทรงจำ � ครั ้ ง แล้ ว ครั ้ งเล่ า ลานหินปุ่มคือสถานที่ๆ รู้จักกันดีที่สุดของภูหินร่องกล้า ความแปลกประหลาดของหินที่งอกขึ้นมาเป็นปุ่มๆ เต็มไปทั่ว ลานหินริมผานั้นคือความบังเอิญที่เกิดขึ้นได้ยากของธรรมชาติ ลานหินทรายที่เคยเรียบๆ เกิดการแตกเป็นร่องจากการ โก่งตัวของเปลือกโลก จากนั้นสายลม และสายน�้ำก็ช่วยกันกัดเซาะร่องหินให้ลึกลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงปุ่มหินมนๆ เต็ม ไปหมด บริเวณนี้เคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ใช้ความรกทึบของป่าเป็นเกราะก�ำบังจากฝ่ายรัฐบาล และมีบันทึก ระบุ ว ่ าลานหิ น ปุ ่ ม นี้ เ ป็ น ที่ พักฟื้นของนักรบเพราะอากาศเย็นสบาย ก็ คงจริ ง เพราะตลอดเวลาที่ อ ยู ่ ที่ ห น้ า ผาแห่ ง นี้ สิ่งที่ ไม่เคยหยุดพักการท�ำงานเลยก็คือลมที่พัดกระพือตลอดเวลา แม้ในช่วงเย็นของวันกลางฤดูฝน ขณะที่ก�ำลังนั่งรับ ลมเย็นๆ จู่ๆ สายลมนั่นก็พัดโหมเอาหมอกที่ปกคลุมอยู่รอบตัวให้แปรเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ ราวกับนาฏกรรมของสาย หมอก เปิดโอกาส ให้แสงแดดสุดท้ายส่องกระทบลานหิน และเปลี่ยนสีของแสงให้แปลกไปอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน แต่จุดหมายปลายทางก็อาจไม่ใช่ค�ำตอบเพียงข้อเดียวเสมอไป เส้นทางเดินระยะทาง 3 กม. สู่ลานหินปุ่ม รวมทั้งเส้น ทางเดินระยะทาง 400 เมตรสู่ลานหินแตก ก็เป็นการเดินทางบนเส้นทางที่สวยงามจนอาจลืมไปว่าเราก�ำลังจะไปไหน โดยเฉพาะ ในช่วงฤดูฝนซึ่งเปรียบการเดินทางสั้นๆ สายนี้เหมือนเดินอยู่บนสวรรค์ ลานหินกว้างใหญ่มีสายน�้ำไหล อาบเป็นระยะๆ ทิ้งความชุ่มชื้นไว้ให้ดอกไม้มากมายได้ชูช่ออวดความน่ารัก ดอกเปราะภูสีขาวสะดุดตาอยู่กลางกอไม้ สีเขียวของมัน ดอกเทียนดอยสีม่วงชูช่อท้าสายน�้ำ ดอกตาเหินไหวรูปร่างแปลกเหมือนชื่อแอบซ่อนอยู่ตามโขดหิน ส�ำหรับ กล้วยไม้ลิ้นมังกร สีส้มแสดนั้นดูสดใสน่ารัก ส่วนที่ลานหินแตกนั้น การเดินคงสนุกอยู่ที่การต้องคอยมองหาสะพานไม้ เล็กๆ ข้ามร่องหินลึกที่มีอยู่เต็มไปหมด เหมือนได้เดินเล่นอยู่ในเขาวงกตที่ไม่ต้องกลัวหลง
ภูหินร่องกล้า Phu Hin Rong Kla N 17o00'13" E 100o59'41" จากตัวเมืองพิษณุโลก ใช้เส้นทาง พิษณุโลก-วังทอง-แก่งซอง แล้ว เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 2013 มุ่งหน้าไปอ�ำเภอนครไทย จากนั้น เลี้ยวซ้ายขึ้นภูหินร่องกล้าด้วยทางหลวงหมายเลข 2331 ถึงที่ท�ำการ อุทยานฯ ระยะทางรวม 120 กม. จากตัวเมืองพิษณุโลก
From Pitsanulok, enter through Pitsanuloko-Wang ThongKaeng Song route, turn right into Highway No. 2013 Go straight to Nakorn Thai District. Turn left and go up to Phu Hin Rong Kla National Park at Highway No. 2331 Go on about 120 kilometers till you reach the park’s office. มีบ้านพักอุทยานฯ ที่บรรยากาศดีมาก (โซน2)
The park’s accommodation is available at Zone 2.
Phu Hin Rong Kla National Park always tops the destinations that visitors will choose to revisit time and again. With nature kept intact, the park is most famous for the Lan Hin Pum, a vast field covered with natural rock formations in a lumpy shape of equal size. This formation resulted from physical erosion caused by the rain and the wind which blows over the cliff almost continuously. In the evening of a mid-rainy season, visitors can still feel the cool breeze and see the clouds shifting their shapes as the wind blows. The sun seeps through the hole in a cloud, creating a never-before-seen stunning light and colors that shine on the rocky field. It is a three-kilometer (is it?) walking distance to Lan Hin Pum and about 400 meters walk to the field of rock crevices at Lan Hin Taek, the trek is especially pleasant during the rainy season. Like a walk in paradise, the field is showered with flowing fresh streams that leave the area moist and overgrown with wild flowers. If you have a passion for serious trekking, a walk to Man Daeng Waterfall is a worthy choice as it offers a three kilometer walk through a steep and slippery mountainous ridge. Beware of the blood-sucking slugs! Trekkers can look forward to the 15-tier stunning waterfall awaiting them which is well worth the sweat. Wild orchids of a pink color are abundant at the site and are especially plentiful at the eighth tier of the waterfall – a perfect spot for a photo shoot.
74 PHOTOGENIC WONDERLAND
บันทึกกาลเวลาบนผาหิน Diary of Time
มั นคงนานมากจนไม่ ม ี ใครเกิ ด ทั น ได้ เห็ น ว่ า ดิ น แดนที ่ ร าบสู ง ภาคอี ส านนี้ เคยเป็ นทะเลมาก่ อ น เพราะภู เขาเกื อ บ ทั ้ ง หมดบนที ่ ร าบสู ง แห่ ง นี ้ ล้ ว นแล้ ว แต่ เป็ น หิ นทรายซึ ่ ง เคยเป็ นทรายใต้ ท้ อ งทะเลเมื่ อ ร้ อ ยกว่ า ล้ า นปี ที่ แ ล้ ว จึ ง เป็ น เครื ่ อ งยื น ยั นถึ งความเป็น มาของผืนดิน ณ ที่แห่ง นี้ หินทรายนั้นเปราะบางกว่าหินชนิดอื่น มันจึงถูกกัดกร่อนโดยน�้ำ และลมจนเกิดการพังทลายได้มากอย่างไม่น่า เชื่อ ใครเคยไปผาแต้มคงรู้ดีว่าการพังทลายของภูเขาหินทรายนั้นยิ่งใหญ่มากแค่ไหน มิใช่เพียงหินรูปดอกเห็ด ตรงริมทาง ที่ข้อมูลวิชาการอธิบายว่าดอกเห็ดที่เห็น คือส่วนที่เหลือจากการพังทลายของชั้นหิน แต่ยิ่งไปกว่า นั้น...แผ่นดินที่ราบสูง อันยาวไกลนั้นจู่ๆ ก็มาสิ้นสุดตรงหน้าผาที่ทิ้งตัวดิ่งลงสู่ที่ราบลุ่มเล็กๆ ริมแม่น�้ำโขงซึ่ง ทอดตัวยาวขนานกับแนวเทือกเขาที่เรายืนอยู่นี้
ที่แห่งนี้เรียกว่าผาแต้ม เพราะค�ำว่า “แต้ม” นั้นหมายถึงภาพเขียนโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งพบบนเพิงหินใต้หน้าผา น่าดี ใจที่เราสามารถเดินลงไปชมเพิงหินที่ยาวเหยียดเหมือนผนัง ของแผ่นดินนี้ ได้ ภาพเขียนโบราณนั้นเปรียบได้กับบันทึกความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตในยุคนั้น ที่คนโบราณต้องการบอกต่อสู่คนยุคหลัง หรือแม้เพียงหน้าผาว่างเปล่าก็ยังเป็นบันทึก ของ ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของโลก เพราะริ้วรอยเส้นสายเป็นชั้นๆ เหมือนขนมชั้นบนผนังหน้าผา ซึ่งเต็มไปด้วยชั้นหิน และชั้นดินที่แตกต่าง และบางทีก็พบเศษเปลือกหอยอยู่ ในชั้นหินบางชั้น ทั้งหมดนี้คือสิ่งยืนยันอีกครั้งว่าที่ราบสูงนั้น เคยเป็นทะเลมาก่อนจริงๆ
Some hundred years ago, the northeastern highlands were nothing but the sea. The mountains were sandstone and easily eroded by water and wind, which made the area susceptible to soil collapse. The mushroom-shaped rock pillars that are signature landscape of Pha Taem are living evidence of the land slide. The vast plain abruptly ends at the edge of the cliff looking down to the Mae Khong River that runs along the cliff later known as Pha Taem. The word “Taem” refers to pre-historical ancient paintings discovered under a rock shovel under the cliff. A walkway leading to a series of cave paintings that account the ancient way of life serves like a historical text. Each layer on the rock formations with hidden shells and pebbles are proof that the Isan northeastern highlands were really once a sea.
อุทยานแห่ง ชาติผาแต้ม Pha Tam National Park N 15o23'55" E 105o30'31" จากตัวเมืองอุบลราชธานี(627 กม. จากกรุงเทพฯ) ใช้เส้นทางผ่านอ�ำเภอวารินช�ำราบ-พิบูลมังสาหารโขงเจียม เข้าสู่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ระยะทาง 95 กม. From Ubon, (627 kms from Bangkok), use the direction that passes Warinchamrab districtPibul Mangsaharn and Khong Jiem which is cut to the entrance of the Pha Taem National Park. (95 kms) Photo tip - taking photos of stars and rocks.
อาณาจักรดอกหญ้า Territory of wild flowers
เพราะเป็นพืชล้มลุก มันจึงล้มในฤดูแล้ง และพร้อมใจกันลุกขึ ้นมามีชีวิตชีวา อีกครั้งในช่วงปลายฤดูฝน เมื่อลานหินทรายกว้างใหญ่เหนือน้ำ�ตกสร้อยสวรรค์ มี ค วามชุ ่ มชื ้ นของสายน้ ำ � ที่ไหลอาบไปทั่ว ลานหิน เพราะเป็นพืชกินแมลง รูปร่างอันเล็กจ้อยของดอกหญ้าอย่าง “สร้อยสุวรรณา” จึง ดูแปลกเมื่อเข้าไปเพ่งพินิจใกล้ๆ ใบสีเหลืองเปลี่ยนรูปเป็นกระเปาะไว้ดักแมลง และเหยื่ออันโอชะเหล่านั้นคงตาลาย เมื่อพืชกินแมลงที่สวยงามแต่แฝงไว้ด้วย ความร้ายกาจนั้นบานสะพรั่งเป็นอาณาจักรกว้างใหญ่ รวมทั้งเพื่อนร่วมตระกูล อีกมากมาย อย่างดุสิตาสีม่วงเข้ม ที่ดู โดดเด่นเหมือนพยายามเรียกร้องความ สนใจ หรือดอกกระดุมเงินรูปร่างกลมๆ น่ารักสีขาวตัดกับก้านบางๆ สีเขียวสด บานอยู่ดารดาษเต็มลานหินราวกับดาวเล็กๆ บนพื้นดิน และเพราะดอกหญ้าเหล่านี้ ไม่มีพิษภัยต่อมนุษ ย์ อาณาจักรทุ่งดอกไม้เหนือ น�้ำตกสร้อยสวรรค์จึงเป็นสวรรค์ที่กว้างใหญ่ ส� ำหรับคนรักดอกไม้อย่างแท้จริง
At the end of the rainy season, when the sandstone field above the Soi Sawan Waterfall is damp enough, seasonal plants that have been long in slumber under the rocks will begin budding all across this spacious flowering meadow. The tiny insect-eating buds of “Soi Suwanna” begin sprouting and using their yellow petals as pouches to catch insects along with them. Other pungent-colored flowers such as the dark purple Dusita (myrtles) and little “white silver button” flowers (in the same family of daisies) are scattered like little stars all over the field. The flower field above Soi Sawan Waterfall is truly a paradise for flower lovers.
ทุ่งดอกไม้ น�้ำตกสร้อยสวรรค์ Flower Field, Soi Sawan Waterfall N 15o27'35" E 105o34'41" จากอ�ำเภอโขงเจียม ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปอุทยานแห่งชาติผาแต้ม แต่ทางเข้าน�ำ้ ตกสร้อยสวรรค์จะอยูเ่ ลยทางเข้าทีท่ ำ� การอุทยานฯ (ผาแต้ม) ไปประมาณ 12 กม. From Khon Jiem district, use the same road to Pha Taem National Park. The entrance to Soi Sawan Waterfall is a little further off the park’s office (about 12 kilometers)
80 PHOTOGENIC WONDERLAND
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด อาณาเขตของสามพันโบกนั้นกว้างใหญ่จนคาดว่าถ้าให้นับกันจริงๆ แล้วอาจจะเกินสาม พันก็เป็นได้ เมมโมรี่การ์ดที่คิดว่าเตรียมความจุมาเต็มที่อาจไม่เพียงพอ เพราะช็อตแรกๆ ที่คิดว่าดีแล้วก็ยัง มีดีกว่า และดีกว่าอีกมากมาย ด้วยมุมมองที่มากมายเหลือคณานับ ทั้งหลุมโบกเล็กๆ ที่วางตัวเป็นจังหวะ ไป จนถึงหลุมโบกขนาดยักษ์ ที่เหมือนสระน�้ำนิ่งขนาดใหญ่ เนินทรายละเอียดที่โค้งคดไปตามแรงลมกระพือเหมือน ที่เห็นในทะเลทราย หรือลานหินที่ถูกสายน�้ำขัดเกลาจนมีเส้นสาย และรูปร่างชวนจินตนาการ
อาณาจักรก้อนหิน
ตอนนั้นยังไม่ค่อยมี ใครดั้นด้นไปถ่ายภาพภูมิทัศน์ตระการตาของที่แห่งนั้นแล้วน�ำมาเผยแพร่ แต่ภาพเพียง ไม่กี่ภาพที่ปรากฏต่อสาธารณะ ก็มีพลังพอที่จะกลายเป็นลายแทงขุมทรัพย์ เชิญชวนให้ผู้คนต้องเดินทางตาม ลายแทงนี้ ไปเก็บภาพไว้ในคอลเลคชั่นส่วนตัวบ้าง ด้วยเชื่อว่าถึงแม้จะไม่เคยมี ใครนับจ�ำนวนโบกว่าครบหรือ ขาดเกินสามพันอย่างที่มีคนตั้งชื่อไว้ก็ตาม แต่ชื่อนี้ก็สื่อถึงความกว้างขวางใหญ่โตของสถานที่ซึ่งน่าจะยังคง มีมุมมองอื่นๆ ที่แตกต่างกันออกไปจากภาพที่เคยเห็นกันมาก่อนแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นสวรรค์ของช่างภาพผู้ชื่น ชอบการถ่ายภาพแนวแลนด์สเคปอย่างแท้จริง
Territory of rocks
การเดิ นทางไปสามพั น โบกครั ้ ง แรกเริ ่ ม ต้ นขึ ้ น เมื ่ อ สองปี ก ่ อ น ในช่ ว งเวลานั ้ น เส้ นทางจากอำ � เภอโขงเจี ย ม เลี ย บโขงไปยั ง อำ � เภอโพธิ ์ ช ั ย ซึ ่ ง เป็ นที ่ ตั ้ ง ของแก่ ง สามพั น โบกนั้ น ยั ง นั บ ว่ า ไกลปื น เที่ ย งจากการรั บ รู้ ข อง คนต่ า งถิ ่ น แต่ ส ำ � หรั บ ชาวบ้ า นที่ นั่ น สามพั น โบกคื อ แก่ ง หิ นกว้ า งที่ เต็ ม ไปด้ ว ยหลุ ม กลมเกลี้ ย งปริ ศ นาที่ เรี ย กว่ า “โบก” ซึ ่ ง เกิ ด จากการที่ ส ายน้ำ � โขงได้ แ สดงพลั ง อั น ยิ ่ ง ใหญ่ พั ด พาก้ อ นกรวดเล็ ก ๆ ให้ ห มุ น วน กั ด เซาะลานหิ นจนเกิ ด เป็น ร่องลึก นับ ร้อย นับ พัน หลุม ในยามน้ ำ � หลาก ชาวประมงน้ ำ � จื ดรู ้ ด ี ก ว่ าซอกหลื บ มากมายของแก่ ง หิ นที ่ ถู ก น้ำ � ท่ ว มนี้ ค ื อ บ้ า นของปลาน้ อ ยใหญ่ แต่ ในยามแล้ ง น้ ำ � ลด ก็ ป รากฏแก่ ง หิ น ใหญ่ ยั ก ษ์ ท ี ่ ด ู ล ึ กลั บ ราวกั บ เมืองใต้บ าดาล
ช่วงแดดร่มลมตกคือเวลาที่ดีเยี่ยมส�ำหรับคนที่ไปเดินเที่ยว เล่น และคนถ่ายภาพ แต่ความเพลิดเพลินกับอะไรต่อมิอะไร มากมายระหว่างทาง อาจท�ำให้ลืมไปว่าช่วงเวลาของแสงสี ที่งดงามนั้นสั้นนัก และช่วงเวลานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่เราได้ ไปยืนอยู่ตรงมุมที่ดีที่สุดหรือยัง และมุมนั้นคือมุมไหนล่ะ นี่ ก็เป็นการลุ้นอย่างหนึ่งในการถ่ายภาพทิวทัศน์ แต่ ในเย็นวันนั้น วันที่แสงแดดถูกเมฆกางกั้นอยู่ แท้จริง แล้วก็เกิดปาฏิหาริย์ (ทางการถ่ายภาพ) เมื่อแสงอาทิตย์ ส่องทะลุ ชั้นเมฆที่เรียงตัวกันเป็นจังหวะพิเศษ ในขณะที่ สภาพแสงสีเพี้ยนๆ กลับอาบย้อมพื้นหินเป็นสีชมพู ซึ่งสิ่ง เหล่านี้คงมี แต่กล้องเท่านั้นที่จะเป็นดวงตาวิเศษมองเห็น ภาพนั้นและเก็บรายละเอียดทุกอย่างไว้ได้
Sam Phan Bok is a giant stone platform lying in the middle of the Mae Khong River. The place is filled with holes known locally as “bok”. Sam Phan Bok is a testament to mother nature’s power responsible for creating the numerous holes and basins from pebbles and sandstones. When the water flow turns torrential, the locals know all the best fishing spots. In the dry season as the water subsides, the rock emerges and reveals its natural wonder. Twilight is a good time for tourists who wish to take a stroll on the great stone platform. It is also a perfect time for taking photos due to the diffused light and dozens of different shades created.
สามพันโบก Sam Phan Bok N 15o47'36" E 105o24'02" จากตัวเมืองอุบลฯ ใช้เส้นทาง 1111 มุ่งหน้าไปอ�ำเภอโขงเจียม และจากโขงเจียม ใช้เส้นทางผ่านอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ไปทาง อ�ำเภอโพธิ์ชัย สามพันโบกจะอยู่ที่ต�ำบลสองคอน มีป้ายบอกทางชัดเจน (ระยะทางจาก อ.โขงเจียม 75 กม.) From Ubon, use Route 1111 heading towards Khong Jiem District. From Khong Jiem, continue via the road heading to Pha Tam National Park towards Po Chai District. Sam Pan Bok is located in Tambon Songkhon. (75 km. from Khony Jiam) A clear sign pointing the direction is visible. แนะน�ำช่วงเช้าตรู่ และบ่ายแก่ ของเดือนธันวาคม-เมษายน Early morning or late afternoon during December-April is the recommended traveling time to this destination. สามารถเลือกพักแรมที่อ�ำเภอโขงเจียม ซึ่งมีที่พักให้เลือกมากมาย ส่วนที่หาดสลึง(ใกล้สามพันโบก) จะมีเพียงแห่งเดียว คือ สองคอน รีสอร์ท โทร045-338015, 045-260408, 087-2561696 หรือกางเต็นท์ได้ที่สามพันโบก ติดต่อ 081 999 0289 There are several choices of accommodation available in Khong Jiem. At Had Saleung (near Sam Phan Bok) there is only one accommodation option available called Song Khon Resort Tel. 045-338015, 045-260408, 087-2561696 You can also opt for a camping tent in Sam Phan Bok contact 081 999 0289
แสงสีที่ปลายฟ้า
Colors at the Skyline
PHOTOGENIC WONDERLAND 83 มิใช่เพียงสถานที่ซ ึ่ง ถูกอ้างอิง บอกเวลาพระอาทิตย์ตกเท่านั้น แต่ แหลมหิ น ปลายเกาะภู เ ก็ ต อั น เป็ นจุ ด ที ่ ม องเห็ น พระอาทิ ต ย์ ต ก เป็ น จุ ด สุ ด ท้ า ยในสยามนั้ น ยั ง เป็ นจุ ด ชมพระอาทิ ต ย์ ที่ ส วยงามที่ สุ ด และยัง ถูกถ่ายภาพมากที่สุด เพราะเอกลักษณ์ของจุดชมวิวแหลมพรหมเทพ คือแหลมหินที่ทอด ยาวไปในมหาสมุทรเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร และมีต้นตาลขึ้น อยู ่ เ ป็ น องค์ ป ระกอบที่ ล งตั ว เหมื อ นถู ก จั ดวางอย่ า งตั้ ง ใจ กลายเป็ น สั ญ ลั ก ษณ์ ที่ ใ ครๆ ก็ จ� ำ ได้ แต่ สิ่ ง ที่ แ ตกต่ า งกั น ไปในยามที่ ม าเยื อ น แหลมพรหมเทพในแต่ละครั้ง คือสีสันของพระอาทิตย์ และแสงสุดท้าย ของท้ อ งฟ้ า เหมื อ นฉากหลั ง ภาพสี น�้ ำ ที่ แ ตกต่ า งกั น ไปตามความ บังเอิญของธรรมชาติ แม้จะเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส มีเมฆบางส่วน หรือวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนก็ตามที เป็นความน่าตื่นเต้นในการมายืน ณ สถานที่แห่งเดิม ที่ไม่เคยเหมือนเดิมเลยซักครั้ง
Laem Prom Thep is not just a reference to timing when the sun sets but also a location that offers the most spectacular view of sunsets known to have drawn many photographers in. The familiar scenery of Prom Thep cape is the stone jutting into the ocean for many hundred meters with the sugar palm trees lining the coast. The last light given off by the sunset at Prom Thep Cape is unpredictable and always changing depending on the season.
แหลมพรหมเทพ Prom Thep Cape N 7o45'37" E 98o18'16" จากตัวเมืองภูเก็ต ใช้เส้นทางถนนเจ้าฟ้า ผ่านห้าแยกวัดฉลอง-หาดราไวย์ ถึงแหลมพรหมเทพ ระยะทาง 17 กม. หรือจากหาดป่าตอง ใช้เส้นทางเลียบชายหาด ผ่านหาดกะรน - หาดกะตะ - หาดในหาน ถึงแหลมพรหมเทพ ระยะทาง 20 กม. Access the cape via Chao Fah road in Phuket which is about 17 kilometers and passes Wat Chalong Intersection-Rawai Beach. From Patong beach, go by the main road parallel to the beach and continue through Karon Beach, Kata Beach and Nai Harn Beach for 20 kilometers till you reach Laem Prom Thep.
จุดที่ถ่ายภาพแหลมพรหมเทพได้ดีที่สุด คือต้องเดินลงไปตามทางดินที่ทอดยาวถึงปลายแหลม จุดที่สวยที่สุดจะอยู่ตรง เนินสุดท้าย
เนินทรายกับสายลม Sand and wind
สิ ่ ง มหั ศ จรรย์ ท ี ่ ธ รรมชาติ ส ร้ า งขึ้ น หลายอย่ า ง แท้ จ ริ ง แล้ ว คื อ เรื่ อ งธรรมดาที ่ บ ั ง เอิ ญ เกิ ด ขึ้ น ได้ ย าก หากพิ จ ารณาจาก โอกาสและความน่ า จะเป็ น อย่ า งเนิ น สั นทรายยั ก ษ์ ริ ม หาดบาง เบิ ด ตรงรอยต่ อ จั ง หวั ด ประจวบคี ร ี ขั นธ์ และชุ ม พร ที ่ เป็ น สั นทรายธรรมชาติ ที ่ ใหญ่ ที ่ สุ ด และยาวที่ สุ ด ในเมื อ งไทย ซึ่ ง ก็ เ กิ ด จากเรื ่ อ งบั งเอิ ญ ทั ้ งสิ ้ น บั ง เอิ ญ ลมมรสุ ม ที่ พั ด ตรงจากทะเลอ่ า วไทยนั้ น แรงเหลื อ เกิ น บั ง เอิ ญ คลื่ น ที่ ม ากั บ ลมก็ พั ด พาเอาทรายขึ้ นมาบนฝั ่ ง บั ง เอิ ญ ชายฝั่งตรงนี้ลาดชันมากพอที่จะท�ำให้น�้ำขึ้นและลงช้าจนทรายที่ ถูกพัดขึ้นมานั้นแห้งทัน บังเอิญพืชชายหาดหลายชนิดอย่างต้น รักทะเล ก็คงรักสันทรายนี้จนพากันมาช่วยปกป้องสันทรายนี้ให้ คงอยู่ บังเอิญสันทรายยักษ์นี้ช่วยกั้นอันตรายให้มนุษย์ตัวเล็กๆ ที่อยู่บนฝั่งได้ บังเอิญสันทรายบางเบิดนี้ไม่อยู่บนทางที่ผู้คนชอบ ใช้สัญจรไปมา บังเอิญยังไม่มีนายทุนใจร้ายไปท�ำลายสิ่งที่เกิด จากความบังเอิญทั้งหลายที่กล่าวมานี้ แต่เชื่อเถิดว่า ถ้าไม่ตั้งใจไปดูความยิ่งใหญ่นี้ให้เห็นกับตา ก็คง ไม่บังเอิญผ่านไปอย่างแน่นอน
Bang Berd Beach, Prachuap Kirikhan Title : Sand Dune and the Wind (Bang Berd) The giant sand dune on Bang Berd Beach located on the seam of Prachuap Khirikhan and Chumporn is one of the largest and longest natural sand dunes in Thailand. An odd incident of nature, a monsoon from the Thai Gulf that swept over the area left an accumulation of sand on the shore. The sand remains were so steep that they slowed down the falling of the sand. The sand dried up and created a dune where beach flowers could grow. Fortunately, the sand dune at Bang Berd is located off the beaten track and has been kept intact from the hands of investors. หาดบางเบิด Bang Berd Beach N 10o57'12" E 99o29'16" จากตัวเมืองประจวบฯ ใช้ถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าลงใต้ ผ่านอ�ำเภอทับสะแก บางสะพาน - บางสะพานน้อย แล้วเลี้ยวเข้าตัวอ�ำเภอบางสะพานน้อย จากนั้น ใช้เส้นทางหมายเลข 3497-3374-3411 ตามป้ายบอกทางไป “หาดบางเบิด” From Prachuap, go by Petchkasem road, heading toward the south through Tub Sakae-Bang Saphan-Bang Saphan Noi and turning into Bang Saphan Noi district. Travel by highway 3497-3374-3411 and follow the sign “Bang Berd Beach” แนะน�ำให้เดินทางไปในช่วงเช้าหรือเย็น a morning or evening trip is advisable.
84 PHOTOGENIC WONDERLAND
ก้อนหิน และกิ่งไม้ บนชายหาด Twigs and Rocks on the Beach มีชายหาดไม่มากแห่งนักหรอกที ่จะมีเอกลักษณ์จนเห็นภาพปุ ๊บก็จ ำ �ได้ว ่า เป็นที ่ไหน ชายหาดสองแห่งบนเกาะเล็กๆ ในหมู ่เกาะอาดัง-ราวีค ือหนึ ่งใน นั้น เกาะราวีน ั ้นมีความบังเอิญอันเป็นเอกลักษณ์คือต้นเสม็ดที่ล ้มอยู ่ หน้าชายหาดเมื ่อนานแสนนานมาแล้ว จนต้นไม้ทรงสวยหลายต้นเหล่านี้ ดู ราวจะกลายเป็ นฟอสซิ ล หิ นไปแล้ว
The falling samed (cajeput tree) trunk that lies across the beachfront of two small beaches on the Adang-Ravi is unmistakable signs of the scenic Ko Ravi. Another noteworthy mention is a beautiful isle called “Ko Hin Ngam” dotted with million pieces of pebbles and small rocks that formed an island. Special in its own way, each rock bears its unique, odd pattern. When washed by the water, the rocks would sparkle in the sun, creating a glittery effect on the shore.
ส่วนอีกแห่งคือเกาะเล็กๆ ชื่อ “เกาะหินงาม” ซึ่งหาดเล็กๆ บนเกาะนี้เต็มไป ด้วยก้อนหินเล็กๆ นับแสนนับล้านก้อนทับถมกันจนกลายเป็นเกาะ ความ พิเศษอยู่ที่ก้อนหินแต่ละก้อนนั้นถูกคลื่นซัดขัดเกลาจนเกลี้ยง มีลวดลาย แปลกตา โดยเฉพาะเมื่อเปียกน�้ำ จะเป็นสีด�ำแวววาวจนใครได้เห็นก็อยาก หยิบฉวยกลับบ้าน แต่ก็มีเรื่องเล่าถึงสิ่งเหนือธรรมชาติ ซึ่งท�ำให้ทุกคนที่ เก็บหินไปต้องเอาหินกลับมาคืนไว้ที่นี่ จะเป็นเรื่องจริงหรือกุศโลบายก็ไม่ ทราบ แต่หินก้อนงามก็ควรจะอยู่คู่กับเกาะหินงาม จึงจะมีคุณค่าที่สุด
N 6o51'40" E 99o43'21" (Pier) สามารถนั่งเรือโดยสารจากท่าเรือปากบารา (อ�ำเภอละงู จังหวัดสตูล) Visitors can take a ferry boat ride from Pak Bara Pier (La Ngu district in Satun) ติดต่อ Bundhaya Speedboat 074-750248-9, 084-7226699, 0894514599 หรือจากท่าเรือหาดยาว (จังหวัดตรัง) 0 7559 0490, 08 1358 8989 Contact Speedboat 074-750248-9, 084-7226699 , 0894514599 or Had Yao Pier in Trang 0 7559 0490 , 08 1358 8989 www.tigerlinetravel.com
ครึ่งร้อยเกาะ ในภาพทรงจ�ำ 40 Islands in Memory
สุราษฏร์ธานีได้ชื่อว่าเมืองร้อยเกาะ ไม่แน่ใจว่าครบหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็มี 40 กว่า เกาะที่เรียกว่า “หมู่เกาะอ่างทอง” หมู่เกาะนี้ก็สามารถมองเห็นได้จากจุดชมวิวบนบน เกาะวัวตาหลับที่เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวทางทะเลที่สวยที่สุด และเช่นเดียวกัน... ก็ยัง เป็นจุดชมวิวที่ “โหด” และ “หิน” ที่สุด เพราะถึงแม้จะมีระยะทางเพียง 500 เมตร แต่ ความชันของภูเขาหินปูน โดยเฉพาะ ช่วงสุดท้ายที่ต้องปีนป่ายฝ่าความชันไปตามโขด หินแหลมคม ก่อนที่จะได้รับรางวัลเป็นภาพทิวทัศน์ตระการตาของหมู่เกาะทั้ง 40 เกาะ ที่เรียงรายอยู่ ในทะเลกว้าง ท�ำให้ทิวทัศน์หมู่เกาะอ่างทองนี้เป็นสุดยอดภาพในความ ทรงจ�ำของนักเดินทางหลายต่อหลายคน หมู่เกาะอ่างทอง Mo Ko Ang Thong สามารถเดินทางจากเกาะสมุย ไปยังหมู่เกาะอ่างทองโดยซื้อแพคเก็จทัวร์แบบเช้า ไป-เย็นกลับ A day-trip package from Samui to Mo Koh Ang Thong is available. Seatran Discover 02-240-2582 www.seatrandiscovery.com High Sea Tour at 077-421285, 077-421290 www.highseatour.com
Surat Thani is best known for its hundred islands that are scattered throughout the province. “Mu Ko Ang Thong” is one of the most well-known islands and consists of 40 small isles; each of which can be seen from a viewpoint on Voie Ta Lub Island. Recognized as the most spectacular sea viewpoint, the island is also one of the toughest terrains due to its steep mountainous paths and sharp edged rocks. The scenery around Mu Ko Ang Thong therefore tops the list of memorable destinations for many globe-trotters around the world.
86 PHOTOGENIC WONDERLAND ไม่แน่ใจว่าเรื่องเล่านั้นเชื่อถือได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือจุดชมวิวที่กล่าวถึง รวมถึงมุมอื่นๆ ในหมู่เกาะ พีพีแห่งนี้คงเป็นดาราหน้ากล้องที่ถูกถ่ายภาพมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หลังจากที่ภาพยนต์เรื่องหนึ่งได้ใช้อ่าวมาหยาเป็นฉากหลัก ก็ยิ่งท�ำให้คนมากมายเดินทางมาพิสูจน์ ความงามของหมู่เกาะแห่งปฏิมากรรมกลางทะเลแห่งนี้ ที่ไม่ว่าจะมองจากจุดชมวิว PP หรือมองจาก มุมยอดนิยมในอ่าวมาหยา หรือหากมีโอกาสได้ขึ้นเครื่องบินสะเทิ้นน�้ำสะเทิ้นบกที่เชื่อมต่อเกาะพีพี สู่ภูเก็ต ก็จะได้เห็นภาพเกาะพีพีในมุมมองทางอากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่ามุมไหนๆ แต่ทะเลกระบี่ยัง มีอะไรมากกว่าเกาะพีพี ใกล้ๆ ชายฝั่งกระบี่ยังมีหมู่เกาะเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวจากย่านหาดอ่าวนาง (พัทยาแห่งกระบี่!!) นิยมนั่งเรือออกไปด�ำน�้ำจนมีชื่อเรียกทริปที่ไปหมู่เกาะแห่งนี้ติดปากว่า “ทริปสี่เกาะ” ซึ่งประกอบด้วย เกาะไก่ (รูปร่างเหมือนไก่) เกาะยาวาซัม เกาะทับ (ทะเลแหวก) และเกาะปอดะที่มี ทิวทัศน์ติดตาคือเกาะเล็กๆ เป็นแท่งหินรูปร่างเหมือนเรือใบอยู่กลางทะเลใส ส่วนทางตอนเหนือของทะเลกระบี่ ยังมีอ่าวเล็กๆ ที่คั่นเกาะยาวในจังหวัดพังงา กับแผ่นดินใหญ่จังหวัด กระบี่ มีทิวทัศน์อลังการที่เรียกกันว่า “ป่าเกาะ” ที่เรียกเช่นนี้เพราะทะเลแถบนั้นเต็มไปด้วยเกาะหินปูน เล็กๆ หลายสิบเกาะเรียงรายกันอยู่กลางทะเล เป็นภาพสวยงามที่มองเห็นได้จากริมทะเล รวมถึงจาก เตียงนอนในรีสอร์ทชั้นดีมากมาย ทั้งที่อยู่ริมหาดฝั่งกระบี่ หรือบนเกาะยาวน้อย
ทะเลกระบี่ มีดีที่หิน
Stunning Islands with Stunning Rock Formations ทะเลไทยสวยไม่ แพ้ ที ่ ไหนในโลก โดยเฉพาะในทะเลอั นดามั นที่ ไม่ ได้ มี เพี ย งน้ ำ � ใส หากยั ง มี เ กาะแก่ ง มากมาย การเปลี ่ ย นแปลงทาง ธรณีว ิทยาเมื ่อหลายล้านปีท ี ่แล้วได้สร้างปฏิมากรรมธรรมชาติ ไว้กลางห้วงน้ ำ�สีครามมากมาย ที่ร ู้จักกันดีคือเกาะพีพี ซึ่งชื่อ นี ้ ม ี ท ี ่ ม าหลากหลายแหล่ ง แต่ ที่ ฟั ง ดู น่ า สนใจคื อ เรื่ อ งที่ เ ล่ า ว่ า เมื ่ อ ครั ้ ง เกาะพี พ ี ย ั งไม่ ม ี ม ี ช ื่อว่า พีพ ี และมีเพียงหมู่บ ้า นชาวเล ที่ ห่ า งไกล บั ง เอิ ญ มี ช ่ า งภาพชาวตะวั น ตกเดิ น ทางไปกั บ เรื อ ประมงจนถึงเกาะพีพ ีดอน และปีนขึ ้นไปบนยอดเขาแห่งหนึ ่งเพื ่อ ถ่ า ยภาพแผ่ นดิ น แคบๆ ที ่ เชื่ อ มเกาะพี พี ด อนเอาไว้ ด้ ว ยกั น เขา ตั ้ ง ชื ่ อ ภาพนั ้ น ว่ า PP ตามลั ก ษณะของวิ ว ที่ เหมื อ นตั ว P หั น หลั ง ชนกั น และภาพนั ้ นถู กส่ง ประกวดจนได้ร างวัล ชนะเลิศ และ เป็ นที ่ รู ้ จ ั ก กั นไปทั ่ ว
Thailand’s beaches are renowned for its unsurpassable beauty especially the Andaman Sea which is home to many exotic, sculptural isles dotting the deep blue ocean. The famous Phi Phi Island earns its name when a western photographer took a photo of the land connecting the Phi Phi Don and named its “PP” after the island’s geography that looks like two letters “P” with its back against each other. The photo won the first prize and Phi Phi Island’s name has become a sensation for globe trotters ever since.
PHOTOGENIC WONDERLAND 91 Nearby the Krabi shore is other four small islands popular among tourists from Ao Nang Beach (aka ‘Pattaya’ of Krabi) as a snorkeling site. We call it “Four Islands Trip” which includes Ko Gai (the island’s shape is similar to a chicken), Ko Yawasum, Ko Tub (parting sea”) and Ko Poda with its signature scenery of a small isle in the shape of a sailing boat scattering in the middle of the sea. In the north of Krabi sea lies a small bay separating Phang Nga’s Koh Yao and inland Krabi. The bay offers a majestic view of Pa Ko – which means ‘forest of islands’ for the landscape is dotted with dozens of limestone isles. This picturesque scenery can be seen and admired from the shore or your room in a quality resort which is plentiful around Krabi shore or Ko Yao Noi.
เกาะพีพี Phi Phi Island.
When Phi Phi was featured as a main location in a Hollywood movie, more tourists from all over the place travelled a thousand miles to witness its exotic beauty. Take a parasail ride to enjoy a breathtaking aerial view of the Phi Phi.
มี เ รื อ โดยสารประจ� ำ ทางไปเกาะพี พี ด อน จากท่ า เรื อ รั ษ ฏา(อ. เมือง ภูเก็ต), ท่าเรืออ่าวนาง (จ.กระบี่), ท่าเรือคลองจิหลาด(ใกล้ ตัวเมืองกระบี่) และท่าเรือศาลาด่าน เกาะลันตา สอบถามราย ละเอียดได้ที่ท่าเรือโดยสารจังหวัดกระบี่ 0 7561 2463 หรือใช้ บริการเที่ยวบินภูเก็ต-เกาะพีพี ด้วยเครื่องบินสะเทิ้นน�้ำสะเทิ้น บก ของ Destination Air Shuttle Ferry ride to Phi Phi Don leaves from Rassada Pier (Amphur Muang, Phuket), Ao Nang Pier (Krabi), Klong Jilard Pier (near Krabi’s town centre) and Sala Dan Pier, Ko Lanta. For more information, contact ferry pier Krabi 0 7561 2463 or take a Phuket-Krabi parasail ride provided by Destination Air Shuttle. จากเกาะพีพีดอน (ซึ่งเป็นแหล่งรวมรีสอร์ทและโรงแรมหลายแห่ง) สามารถเช่าเหมาเรือไปเที่ยวยังเกาะต่างๆ เช่น เกาะพีพีเล(อ่าว มาหยา-อ่าวโละซามะ-อ่าวโละปิเละ) ค่าเช่าประมาณ 1,5002,000 บาท(เรือหางยาว) From Phi Phi Don, one can take an island tour with hired boat with destinations like Phi Phi Lay (Ao Maya-Ao Losama-Ao Lobilay) at a price around 1,500-2,000 THB (long tail boat)
หมู่เกาะปอดะ(ทริปสี่เกาะ) Mu Ko Poda (Four Islands Trip)
จากหาดอ่าวนาง (19 กม. จากตัวเมืองกระบี่) สามารถเช่าเหมาเรือไปเที่ยวและด�ำน�้ำ ในหมู่เกาะปอดะทั้งสี่เกาะได้ ค่าเหมาเรือประมาณ 1,500-2,500 บาท หรือซื้อแพคเก็จ ทัวร์แบบเดย์ทริปจากตัวแทนทั่วไป ราคาประมาณ 700-1,000 บาทต่อคน From Ao Nang (19 km from Krabi town centre), one can hire a boat for a snorkeling trip at four islands of Moo Ko Poda. One round boat trip costs about 1,5000-2,000 THB or buy a day-trip package from agents at 700-1,000 THB per person.
หมู่เกาะห้อง Mu ko Hong
รีสอร์ทที่มองเห็นทิวทัศน์หมู่เกาะห้องได้งดงาม มีหลายแห่งในบริเวณหาดคลองม่วง จ.กระบี่(15 กม. จากหาดอ่าวนาง) หรือที่เกาะยาวน้อย (อยู่ ในเขตจังหวัดพังงา แต่ สามารถนั่งเรือโดยสารจากท่าเรือบางโรง จังหวัดภูเก็ต) There are a lot of resorts at Klong Muang Beach, Krabi (15 km from Ao Nang) that offer a stunning view of Mu Ko Hong or at Ko Yao Noi (located in Phang Nga which is accessible by a ferry ride from Bang Rong pier, Phuket) มีแพคเก็จทริปพายเรือคายัคเที่ยวหมู่เกาะห้อง สามารถติดต่อได้จากเอเย่นต์ทั่วไปที่ ย่านหาดอ่าวนาง Kayak package and sightseeing at Mu Ko Hong is available at tour agencies in Ao Nang Beach
Chiew larn Reservoir
ภาพเขียนตรงปลายที่นอน
PHOTOGENIC WONDERLAND 92
หลังจากการเดินทางกว่าหนึ่งชั่วโมงด้วยเรือหางยาว จากสันเขื่อนรัชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ลึกเข้าไปในโตรกเขา อันยาวไกลเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ในอดีตที่แห่งนี้คือลุ่มแม่น�้ำคลองแสง ซึ่ง กลายเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่กลางป่าลึก ภายหลังการสร้างเขื่อนปิดกั้นแม่น�้ำสายนี้ ในที่สุดเรือ ก็มาหยุดอยู่ ณ เรือนแพทีพ่ กั กลุม่ เล็กๆ ทีล่ อยล�ำอยู่ในเวิง้ อ่าวทีม่ ชี อื่ ว่า “อ่าวสมเด็จ” ทีแ่ ห่งนี้ได้ชอื่ ว่ามี ทิวทัศน์สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย และที่ส�ำคัญคือเป็นทิวทัศน์ที่มองเห็นได้ทันที ที่ลืมตาตื่น บนที่นอน ในตอนเช้า 180 องศารอบตัวคือภาพของภูเขาหินปูนสลับซับซ้อนแลดูเร้นลับ ปกคลุม ด้วยสายหมอกบางๆ ลอยอ้อยอิ่ง ที่ก�ำลังจะสลายไปเมื่อแสงอาทิตย์แรกยามเช้ามาเยือน
After an hour on a long-tail boat ride from Ratchaprapa Dam or Chiew Lan Reservoir, we found ourselves deep in the endless mountain crevice that was once a part of the Klong Saeng River. After the completion of the reservoir which closed the river point, the pool became a vast lake in the middle of the deep forest. The boat stopped at the bay called “Somdej Bay” that was already crowded with small rafts. This grand destination offers one of the most breathtaking landscapes in all of Thailand. From the moment one wakes up in the morning, a 180 degree view of mysterious limestone mountain ridges covered with a veil of mist emerges for all to enjoy.
เขื่อนเชี่ยวหลาน Chiew Lan Reservoir N 08o58'22" E 98o48'24" จากตั ว เมื อ งสุ ร าษฏร์ ธ านี ใช้ เ ส้ น ทางพุ น พิ น -บ้ า นตาขุ น ก่ อ นถึ ง ตั ว อ� ำ เภอ บ้านตาขุน จะมีป้าย “เขื่อนรัชประภา” ทางขวามือ เลี้ยวเข้าไป 13 กม. ถึง สันเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งเป็นจุดลงเรือ
From Surat Thani, take the route Punpin-Baan Ta Khun. Before reaching Baan Ta Khun, you will see a sign “Ratchaprapa Dam”. Turn right and go on for 13 kilometers until you arrive at Chiew Lan reservoir which is also a pier.
ติดต่อเหมาเรือไปที่แพนางไพร (อ่าวสมเด็จ) หรือนั่งเรือชมทิวทัศน์เขื่อนเชี่ยว หลาน (อัตราราคาประมาณ 1,500-3,000 บาท) รวมทั้งรายละเอียดการจอง ที่พักเรือนแพ ได้ที่ 08-6593-3440, 08-1554-3585 A boat ride to the accommodation in Somdej Bay is available at Nang Phrai Raft or you can take a boat for sightseeing of the Chiew Lan Reservoir (Price ranges from 1,500-3,000 THB) For more information about camping rafts, contact 08-6593-3440, 08-1554-3585 www.chiewlarn.com
เส้นสาย ชายเลน
Trails of Mangrove Forests
คริ ส โตเฟอร์ โคลั ม บั ส มิ ไ ด้ ค ้ น พบแค่ ท วี ป อเมริ ก า แต่ ใ นการเดิ นทางหลายๆ ครั ้ ง ของเขา ยั ง มี ก ารค้ น พบความมหั ศ จรรย์ ข องธรรมชาติ ในดิ น แดนต่ า งๆ ทั ่ ว โลกอี ก มากมาย รวมถึ งการค้ น พบป่ าชายเลนบริ เวณชายฝั ่ งตะวันตกของ เกาะคิ ว บา ซึ ่ งเป็ น บั นทึ ก แรกๆ เกี ่ ย วกั บ ป่ าครึ ่ งบกครึ ่ งน้ ำ � ในดิ น แดนเขตร้อ นที่ น่ าทึ ่ งสำ � หรั บ คนตะวั นตกในยุ ค นั ้ น ป่าชายเลนนั้นอยู่คู่แผ่นดิน และคู่ทะเลมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เป็นสุดยอดแห่งการปรับตัว ของต้นไม้ใหญ่ให้อยู่รอดในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยดินเลนเหลวๆ รากค�้ำยันระโยงระยาง รูปร่างประหลาดถูกสร้างเพือ่ ค�ำ้ ยันต้นโกงกางให้ทนแรงคลืน่ รากอากาศทีแ่ี ทงยอดจากพืน้ มีไว้ให้ต้นไม้ได้หายใจ เพราะรู้ดีถึงการขึ้นลงของน�้ำทะเล
PHOTOGENIC WONDERLAND 95
Mangrove forest is an indicator of nature’s well-being. As long as there is a mangrove forest, the seashore covered with forest trees will serve as a fish habitat and a barrier against the waves and the wind. Just a short-distance and less than an hours drive from Bangkok, a rich mangrove forest is not far from your discovery.
ป่าชายเลน Mangrove Forest ชาว(ทะ)เลรู้ดีว่า ถ้าตราบใดที่มีป่าชายเลน นั่นหมายถึงความอยู่รอดปลอดภัยของทุก สิ่ง ผืนดินชายทะเลที่มีป่าปกคลุม จะเป็นแนวกันชนส�ำหรับคลื่นและลมที่มาปะทะ และ ตราบใดที่ป่าชายเลนยังอยู่ ลูกปลาน้อยๆ ก็ยังคงมีบ้านให้อยู่อาศัย และเราก็ยังมีปลา ไว้กินตลอดไป ส�ำหรับคนบ้านใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างเรา ป่าชายเลนมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ลองขับรถออก จากกรุงเทพฯ แค่ไม่เกินชั่วโมงก็จะเจอกับผืนป่าชายเลนที่เหมือนดินแดนใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก สรรพสิ่งต่างๆ ที่ถูกสร้างเพื่อความอยู่รอดของทุกสรรพสิ่งนั้นล้วนแล้วคือความสวยงาม ที่แปลกและแตกต่างจากที่เคยพบพาน ทั้งนี้..ขึ้นอยู่กับว่าจะ “ค้นพบ” หรือไม่
เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ป้อมพระจุลจอมเกล้า : จากวงเวียนใหญ่ ใช้เส้นทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ตรงต่อเนื่อง ถ.สุขสวัสดิ์ ผ่านดาวคะนอง -พระประแดง ถึงป้อมพระจุล เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่าวคุ้งกระเบน : อยู่ ในจังหวัดจันทบุรี จากตัวเมือง ใช้เส้นทางหาดเจ้าหลาว-อ่าวคุ้งวิมาน-อ่าวคุ้งกระเบน Natural trails for mangrove forest exploration are available at Chulachomklao Fort: From Wong Wian Yai, use the Somdej Phrachao Taksin Road, go straight on Suksawat Road passing Dao Kanong-Phra Pradaeng.
ศู น ย์ อ นุ รั ก ษ์ ป ่ า ชายเลนคลองโคน : อยู ่ ใ นจั ง หวั ด สมุ ท รสงคราม จาก กรุงเทพฯ ใช้ถนนพระราม2 (ธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร(มหาชัย) เลย ทางแยกเข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม(แม่กลอง) ประมาณ 9 กม. แล้วเลี้ยวเข้า หมู่บ้านคลองโคนอีก 5 กม. Khlong Khon Mangrove Forest Conservation Centre is located in Samut Songkram. Travel from Bangkok on Rama II road (ThonburiPak Tho) en route to Samut Sakorn (Mahachai). The conservation centre is about 9 Kilometers off the road from the town centre in Samut Songkram. Make a turn into Khlong Khon Village and continue for another 5 Kilometers. วนอุทยานปราณบุรี : อ�ำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ ใกล้กับ หมู่บ้านปากน�้ำปราณบุรี Pranburi Forest Park is located in Pranburi district, Prachuap Kirikhan near Paknam Pranburi Village
ทะเลหมอกที่ท�ำให้หัวใจเต้นแรง
PHOTOGENIC WONDERLAND 99
Racing Heart in the Sea of Mist
ชื ่ อ ของดอยผาตั ้ ง กั บ ภู ชี้ ฟ้ า ถู ก เรี ย กขานควบคู่ กั น เสมอ ถึ ง แม้ ด อยทั้ ง สองแห่ ง นี้ จ ะอยู่ ห่า งกัน ยี่ส ิบ กว่า กิ โลเมตร แต่ ก ็ อ ยู ่ บ นเทื อ กดอยผาหม่ น เช่ น เดี ย วกั น ซึ ่ งเป็ น เทื อ กดอยที ่ ถูก กำ�หนดเป็น เส้น แบ่ง เขตแดนไทย-ลาว แทนที ่ แม่ น ้ ำ � โขงซึ ่ งไหลลั บ เข้ าไปในดิ น แดนลาว
The name of Doi Pha Tang always goes hand-in-hand with Phu Chee Fah. Being 20 kilometers apart, the two hills are nevertheless located on the same Doi Pha Mon, a natural bordering between Thailand and Laos in place of the Mae Khong River that fades into the Laotian soil.
สิ่งที่เหมือนกันระหว่างสองดอยนี้คือ เป็นยอดดอยสูงตระหง่านที่มีทะเลหมอกล้อมรอบ เหมือน ยืนอยู่บนเกาะอันโดดเดี่ยวกลางทะเล(หมอก)ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ส�ำหรับภูชี้ฟ้าคืออันดับ หนึ่งในความนิยมอันเป็นที่รู้กันดีว่าคงได้เห็นทั้งทะเลหมอก และทะเลคนในช่วงวันหยุดเทศกาล ส่วนดอยผาตั้ง คือทางเลือกที่ปลอดตาจากคลื่นนักท่องเที่ยว แต่มีอะไรน่าเย้ายวนไม่แพ้กัน
The two hills share one thing in common – being a lone hill in the middle of the sea of mist. Phu Chee Fah is better known in terms of a tourist attraction with people swarming the place in long holidays whereas Doi Pha Tang is less crowded but is equally charming.
เส้นทางรถที่คดเคี้ยวนั้นสิ้นสุดอยู่แค่เชิงดอย เดินขึ้นบันไดปูนไม่กี่ก้าวก็ถึงจุดชมวิวบนยอดเนิน แรก มองลงไปฝั่งประเทศลาวเห็นแต่สีขาวโพลนอันนุ่มนวลของทะเลหมอกปกคลุมผืนป่า พาให้ ใครต่อใครตื่นตาตื่นใจ เพียงเท่านี้อาจเป็นที่พอใจส�ำหรับผู้รักความสบาย แต่ดอยผาตั้งยังมีทาง เลือกส�ำหรับผู้มีชีพจรลงเท้า เพราะดอยลูกนี้มียอดเนินสูงๆ ต�่ำๆ เรียงรายไปอีก 3 ยอด เรียง ร้อยด้วยเส้นทางเล็กๆ ให้เดินแบบเพลินๆ ใจ
The meandering road ends at the foot of the hill. Just A few steps of the whitewashed stairs, we can reach the first viewpoint where we can gaze into a stunning view of Laos emerging from the white mist. For those who love trekking, Doi Pha Tang also have another three slopes of hills that can be explored on foot.
เสน่ห์ที่แตกต่างของดอยผาตั้งอยู่ตรงนี้แหล่ะ... ความมีจังหวะการเดินที่เรื่อยๆ สบายๆ รวมถึง สิ่งละพันอันน้อยให้มองผ่านตา และผ่านเลนส์ระหว่างทาง ทั้งป่าหินรูปร่างแปลกตา ช่องเขา ขาดที่เป็นหินผาขนาดมหึมา ขาดทะลุออกจากกันเป็นช่องว่างให้เห็นวิวเบื้องล่าง ทุ่งบัวตอง เล็กๆ ที่ช่วยประดับดอยให้มีสีสัน เนิน102 และเนิน103 ที่ต้องออกแรงไต่ความสูงจนหัวใจเต้น แรง เพื่อไปยืนอยู่บนความสูงระดับได้ใจ มองไปเห็นทิวเขายอดแหลมโดดเด่นสะดุดตาอันเป็น ที่มาของชื่อดอยผาตั้ง. . .
Guess that is the charm of this place. Every step we take makes a pleasant experience as we can slowly indulge in small details of the natural surroundings: unique shapes of rock formations, rock crevice that exposes to the grand hollow below, a field of wild sunflowers that adds color to the hill. Slope 102 and 103 is a challenging climb that makes a heart race. The summit is a climax. Once there, one will be greeted with an eye-catching view of sharp, pointy hill tops – a story behind the name of Doi Pha Tang, which literally means “Hill of Standing Cliff”.
ดอยผาตั้ง Doi Pha Tang N 19o55'52" E 100o31'16" จากตัวเมืองเชียงราย ใช้เส้นทางผ่านอ�ำเภอ เทิง-ขุนตาน-ภูชี้ฟ้า(บ้านร่มฟ้าไทย)-ดอยผา ตั้ง ระยะทางประมาณ 125 กม. จากอ�ำเภอเชียงของ ใช้เส้นทางผ่านอ�ำเภอ เวียงแก่น แล้วตัดขึ้นดอยผาตั้งได้โดยตรง ระยะทางประมาณ 65 กม. From Chiang Rai, travel via route Terng-Khun Tan-Phu Chee Fah (Baan Rom Fah Thai)-Doi Pha Tang - 125 kilometers. From Chiang Khong, use road to Viang Kaen district and veers into the route to Doi Pha Tang - 65 kilometers.
102 DESTINATION
เชี ย งรายเมื อ งสล่ า Creativity CHIANGRAI *สล่า แปลว่า ช่าง
เมื ่ อ เข็ ม นาฬิ ก าเดิ นทางไปอย่า งไม่ร ู้จัก เหน็ดเหนื่อย หมุน วนซ้ ำ � แล้ ว ซ้ ำ � อี ก อย่ างไม่ มี ที ่ ส ิ ้ นสุ ด จนดูเหมือนว่า การทำ�งานอย่า งขัน แข็งนี ้ ท ำ � ให้ เข็ ม สั ้ น และเข็มยาวสามารถชี ้น ิ ้วสั ่งท้องฟ้าให้ม ืดและสว่างได้ ฟ้าสว่างขึ้น ตามคำ� สั ่ ง ของนาฬิ ก า ผู ้ คนก็ตื่นขึ้นตามคำ�สั่ง ของฟ้า เช่นกัน จุ ด เริ ่ มต้ นของเรื ่ อ งอยู่ตรงนี้เอง บนถนนกลางเมืองเชีย งราย ถนนที ่ ม ี ศิ ล ปกรรมสี ท องอร่ า มตั้ ง ตระหง่ า นทำ � หน้ า ที่ บ อกเวลา แต่ ค รั้ ง แรกที ได้ เห็ น ไม่ ว ่ า ใคร ก็ ม ั ก จะลื ม ชั่ ว โมงนาที ที่ อ ยู่ บ นหน้ า ปั ด ไปเลย เพราะติ ด ตา ตรึ ง ใจกั บ ความวิ จิ ต รพิส ดารของหอนาฬิก าแห่ง นี้ “หอนาฬิ ก าของอาจารย์ เฉลิ ม ชั ย ” ดู ห มื อ นจะช่ ว ยเปิ ด ประเด็ นของการ มาเชี ย งรายในครั ้ งนี ้ ให้ช ัดเจนขึ้น เรากำ�ลัง เริ่ม ต้น เดินทางไปบนถนนแห่ ง ศิ ล ปะ ทั ้ ง ศิ ล ปะแห่ ง กาลเวลาที่ ล่ ว งผ่ า นมาแล้ ว นั บ หลายร้ อ ยปี จนมาถึ ง ตั ว ตนทางศิ ล ปะของศิ ลปิน แห่ง ยุค สมัย
พุTheทWhite ธศิลป์Buddhist สีขาวArtวัดร่องขุ่น เมื่อ หลายปีก่อ น หลัง จากที่ภาพวัด สีขาว วิ จ ิ ต รงดงาม และแปลก ตาที่สุดกว่าที่เคยเห็น ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ จึงทำ�ให้ว ันนี ้ แทบ ไม่มีใครไม่รู ้จัก “วัดร่องขุ ่น” ผลงานชิ ้นโบว์แดงของคนดังอย่าง “สล่าเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” แม้ ยุ ค สมั ย จะเปลี่ ย นผ่ า นไปนานแค่ ไ หน ความศรั ท ธาที่ มี ต ่ อ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ยังคงมีพลังแรงอยู่เสมอ และเป็นพลัง ส�ำคัญในการสรรค์สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาให้เป็น “พุทธศิลป์เพื่อแผ่นดิน”
Those eyes that behold the buildings of Wat Rong Khun for the first time must be in awe with this innovative Lanna Buddhist art by Chalermchai Kositpipat, Chiang Rai’s internationally acclaimed artist. With his expertise and the skills of a great artisan, Acharn Chalermchai devoted his life to the wonderful creation of this temple just like devotees who express their religious commitment and faith through art. True to Lanna art, the chapel also bears a unique ‘signature’ of Chalermchai as seen in the meticulous details such as white stucco of Lai Kanok showing delicate patterns of lines and other sculptural elements of the temple that reflect the artist’s belief in the existence of heaven and hell.
สีขาวบริสุทธิ์กับแสงระยิบระยับท�ำให้ความชดช้อยของลวดลายยิ่งเจิด จ้า เปรียบเสมือนพระบริสุทธิคุญ และปัญญาคุณของพระพุทธเจ้าที่ กลั่นกรองเป็นหลักธรรมค�ำสอนให้พุทธศาสนิกชนรู้แจ้งด้วยแสงแห่ง ธรรม ทุกสิ่งอย่างที่ถูกปั้นแต่งขึ้นล้วนแล้วแต่มีนัยยะ และเป็นนัยยะที่ ผู้มาเยือนควรต้องหาค�ำตอบ ตีความด้วยตนเอง เพราะทางขึ้นสวรรค์ มีทางเดียว ก่อนจะย่างก้าวเข้าสูุ่โบสถ์อันงดงามดั่งสรวงสวรรค์ ทุก คนต้องก้าวผ่านสะพานแห่งวัฎสงสาร เขี้ยวพญามาร พญามัจจุราช เหล่าอสูร และอื่นๆอีกมากมายระหว่างทางจากนรก...........
106 DESTINATION
สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ความงามภายนอก ก็ คื อ ความงามภายในของภาพวาด บนผนั ง โบสถ์ ที่ น อกจากจะวิ จิ ต ร บรรจงแล้ว ยังสร้างสรรค์ ได้บรรเจิด เกินความคาดหมาย แม้จะดูผิดแผก แปลกไปจากปกติสัก หน่อย แต่ภาพ ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ยูเอฟโอ และ เรื่ อ งราวแห่ ง ยุ ค สมั ย ของพวกเรา ก็ ไ ด้ ถู ก จารึ ก ไว้ เ พื่ อ เจตนาเดี ย วกั บ จิตรกรรมบนฝาผนังมากมายที่ท�ำให้ เราได้เรียนรู้ เรื่องราวของบรรพชน เพราะเมล็ดพันธุ์แห่งอดีตจะงอกงาม ขึ้ น มาเป็ น อนาคต เมื่ อ วั น เวลาเดิ น ทางไกลออกไป ยุค 2000 กาลสมัยอัน พลุ่งพล่าน ด้วยความเจริญ และความ โกลาหลจะกลายเป็นประวัติศาสตร์อีก หน้าหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ในสรวงสวรรค์ แห่งนี้
วัดร่องขุ่น Wat Rong Koon N 19°49’27’’ E 99°45’47’’ จากห้าแยกพ่อขุนฯ (ตัวเมืองเชียงราย) ใช้ถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าไปทาง จังหวัดพะเยาประมาณ 13 กม. จะถึง ทางแยกเข้าวัดร่องขุ่น (ทางเดียวกับ น�้ำตกขุนกรณ์) วัดร่องขุ่นจะอยู่บริเวณ ปากทาง From Chiang Rai City, use Phaholyothin road heading south to Phayao Province for 13 km.
108 DESTINATION
ค� ำ ขอขมาไม้ บ ทนี้ ค งบอกได้ อ ย่ า งชั ด เจนว่ า ดิ น แดน ล้านนานอกจากจะมีไม้ให้ใช้กันอย่างอุดมสมบรูณ์แล้ว คนล้านนายังรัก และให้เกียรติไม้เป็นการตอบแทน ไม้ นับร้อยต้นที่เดิมเคยเป็นทั้งบ้านไปจนถึงวิหารเก่าแก่ รวม 32 หลัง ถูกเนรมิตเป็น “หอค�ำ” สถาปัตยกรรม แบบล้านนาเต็มตัวที่เก็บง�ำเรื่องราวในอดีต ผ่านฝีไม้ ฝีมือ ของสล่าเมืองล้านนา “หอค�ำ” ตั้งอยู่ริมบึงกว้างภายใต้ความสงบร่มรื่นของ “ไร่ แ ม่ ฟ ้ า หลวง” หรื อ ที เ รี ย กอย่ า งเป็ น ทางการว่ า “อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง” สถานที่แห่งการ ร�ำลึกถึงสมเด็จย่า และหอค�ำก็หมายถึงบ้านของเจ้า ฟ้าเจ้าแผ่นดิน
ความทรงจ�ำของเวลา Memory of Time “ท่า นเติบ กล้า ในป่า อัน อิ่ม เอมด้ ว ยอุ ท กธาร รุ้ง ตะวันทาบทาลำ�ต้น สล้ างเสลา พุ่ม เพราอัน ร่ม เย็นของท่ าน ทำ�ให้ห มู่นกร้องโดยมิตั้งใจ ให้อภัยเถิด มิได้ช ลอท่า นมาสู่แห่ง นี้ ด้ว ยล้อเลื่อนอัน ประดับพู ่ บ ุ ป ผา มิได้ห ่อหุ้ม ท่า น ด้ว ยแพรไหมเนื้อเนียนนุ่ม มิได้ช ะโลมท่า นด้ว ยคันธรสอั น หอมหวาน ขอท่า นจนอยู่เย็น อยู่สุ ข ณ ที ่ น ี ้ ประกาศความงามมหัศ จรรย์ ข องสี แ ละเนื ้ อ ไม้ จรรโลงให้ผ ู้ค นประจัก ษ์ในคุ ณค่ าของป่ าเขา นับ เนื่องจากท่า นของให้ พฤกษ์ แพร่ ผงาดเป็ น อสงไขย”
สถาปั ต ยกรรมอั น เป็ น เอกลั ก ษณ์ เ ฉพาะตั ว ในแต่ ล ะ ที่ แ ต่ ล ะถิ่ น จะเป็ น ตั ว บอกถึ ง สภาพแวดล้ อ ม วิ ถี ชี วิ ต และภูมิปัญญาของผู้คนในถิ่นนั้นๆ ที่นี่ก็เช่นกัน ใคร ไม่เคยเห็นเรือนแบบล้านนาโบราณคงจะแปลกใจกับ ผนังเรือนเอียงๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ยามใดที่ลม ฝนกรรโชกแรง ผนังที่เอียงสอบลงจะช่วยให้ฝนไม่สาด ในทางกลับกัน ยามที่อากาศร้อน ความเอียงนั้นก็ท�ำให้ สายลมพัดผ่านอยู่เสมอ วั ต ถุ แ ห่ ง กาลเวลาย่ อ มแสดงให้ เ ห็ น ถึ ง วั ฒ นธรรมอั น รุ ่ ง เรื อ งในอดี ต เฉกเช่ น ศิ ล ปวั ต ถุ เ ก่ า แก่ ที่ จั ด แสดง อยู ่ ใ นหอค� ำ อย่ า ง “สั ต ภั ณ ฑ์ ” เชิ ง เที ย นไม้ แ กะสลั ก อย่ า งประณี ต ที่ ร วบรวมมาจากหลายจั ง หวั ด ในภาค เหนื อ ใช้ จุ ด เที ย นบู ช าหน้ า องค์ พ ระประธาน ซึ่ ง ถื อ เป็นเอกลักษณ์ ของดินแดนแถบล้านนาที่ทุกวันนี้หา ดู ได้ยาก น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นแสงเทียน จริงๆที่ส่องสว่างจากสัตภัณฑ์ มิเช่นนั้นละก็เชื่อได้เลย ว่า แชนเดอเลียแบบฝรั่งคงไม่ได้รับความนิยมขนาดนี้ ที่กลางหอค�ำยังประดิษฐาน “พระพร้าโต้” พระพุทธรูป ที่แกะจากต้นสักเพียงต้นเดียว และแกะโดย มีดอีโต้ เพียงเล่มเดียว The narrow and winding walkway beneath the shade of trees cuts through the symmetrical garden of Mae Fah Luang and ends at a wooden building “Hor Kham” which its name signifies a palace of Lanna Kings. However, Hor Kham is used as a title of a memorial hall for the Princess Mother or locally referred by people of Chiang Rai “Mae Fah Luang”. The architecture is in the style of “Tai Leu” that once enjoyed close ties with the Lanna Kingdom. Hor Kham is unique in its cluster of 32 wooden buildings; material parts range from fine materials of old pavilions to wooden boards of ordinary people’s houses. The assemblage of the Hor Kham encapsulates countless memories of the Lanna Kingdom and its people.
ไร่แม่ฟ้าหลวง Mae Fah Luang Art & Culture Park อยู่ในตัวเมืองเชียงราย ใช้ถนนธนาลัย ตรงไป ทางค่ายเม็งรายฯ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนฮ่องลี่ -ป่างิ้ว (มีป้ายบอกทางตลอดทาง) Located in Chiang Rai town center, use Thanalai road heading to Mengrai Military Camp. Then turn left to Hong Li road, and just follow the signs. 0 5371 6605-7, 0 5360 1013 08.30-17.30 close on Monday. 100 Baht
110 DESTINATION
DESTINATION 111
ความว่างเปล่Artาบนบานประตู as Religious Faith ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาศิลปะมักแสดงคุณค่าผ่านแรงศรัทธาแห่งศาสนา เหตุที่เป็นเช่นนั้นอาจเพราะศิลปะสามารถสื่อสารกับใจคนได้ อ ย่ า ง แยบยลจนเกิ น จะคาดคิ ด เพี ย งแต่ ต้ อ งเปิ ด หู เปิ ด ตา และเปิ ด ปัญญาเท่านั้นเอง อย่างเช่นภาพแกะสลักบานประตูที่ “วัดพระสิงห์” หลายคนอาจจะคุ ้ น หู กั บ วั ด พระสิ ง ห์ ที่ อ ยู ่ เ ชี ย งใหม่ ม ากกว่ า ชื่ อ เหมือนกันเพราะมีความเป็นมาเหมือนกัน คือเป็นที่ประดิษฐาน ของ “พระพุทธสิหิงค์” มาก่อน แถบล้านนาจะเรียกพระพุทธสิหิงค์ ว่า “พระสิงห์” เมื่อครั้งมาประดิษฐานที่เชียงรายชื่อนี้จึงกลายเป็น ชื่อที่เรียกกันจนติดปาก
When the doors of a chapel in Wat Phra Sing (Chiang Rai) are flung open, the faithful cannot help but turn to admire the meticulously carved wooden door panels – a masterpiece by worldrenowned Chiang Rai-based artist Thawan Duchanee who drew a prototype sketch for the carving by Amnuay Buangam. This art piece for pure faith is a rare piece of Thawan. The culmination of artistic expression by man is devoted to Buddhism – a tradition preceded by artists of the previous era. Many other contemporary artists are working assiduously on the new chapel in the original Lanna style that will house the sacred Phra Putta Sihing of Chiang Rai.
เมื่อก้าวเข้ามาภายในโบสถ์สายตาก็ต้องสะดุดอยู่ที่บานประตูสีไม้ เข้มขรึม ที่ปรากฎลวดลายอันอ่อนช้อย อย่างทรงพลัง โดย “สล่า ถวัลย์ ดัชนี” เป็นผู้รังสรรค์ลายเส้นให้เป็นปริศนาธรรมชั้นปรมัตถ์ และมีสล่างานไม้อย่าง “สล่าอ�ำนวย บัวงาม” เป็นผู้สลักเสลาให้ แผ่ น ไม้ มี ชี วิ ต แม้ ภาพทั้ ง หมด จะอยู ่ บ นบานประตู ที่ ไ ม่ ไ หวติ ง แต่ลีลา ท่วงท่าทั้งหมดเหมือนมีพลังบางอย่างคอยขับเคลื่อนอยู่ เป็นเรื่องราวของธาตุทั้ง 4 ในร่างกายของเราทุกคน อันหมายถึง ดิน น�้ำ ลม ไฟ ในรูปแบบของภาพสัญลักษณ์ ช้าง คือ ดิน ที่เป็นดั่งเนื้อหนังมังสา นาค คือ น�้ำ ของเหลวที่ไหวเวียนอยู่ทั่วร่างกาย ครุฑ คือ ลม ลมปราณที่ก่อเกื้อให้ชีวิตเป็นไป สิงห์ คือ ไฟ ความร้อนที่เผาผลาญให้เกิดพลัง เหล่าสัตว์ทั้ง 4 แม้จะยิ่งใหญ่ทรงพลังมากมายเพียงใด แต่ทุกอย่าง ย่อมมีวันแตกดับ และสูญสลายไปในที่สุด สิ่ิงเดียวที่ยังเหลืออยู่มี เพียงแค่ “ความว่างเปล่า” “ความว่างเปล่า” ต่างหากที่ถูกสลักลงบนบานประตู
วัดพระสิงห์ Wat Phra Sing N19°54’42’’ E99°49’50’’ อยู่บนถนนท่าหลวง ใกล้ศาลากลางหลังเก่า Located on Tha Luang road. Next to former city hall.
บ้Theานด�ำของความรู ส ้ ก ึ ... world needs both black and white
DESTINATION 113
ความว่ า งเปล่ า บนบานประตู ได้ เชื ้ อ เชิ ญ เรามายั ง สถานที ่ แห่ ง หนึ่ ง ซึ ่ ง เก็ บ งำ � แก่ น แท้ อ ั น เป็ น สั จ ธรรม อารมณ์ และความระลึ ก ถึ ง ไว้ หลั ง บานประตู “บ้านด�ำ” บ้านของสล่าถวัลย์ ดัชนี เปิดโอกาสให้ใครก็ได้ มารับรู้ ความรู้สึกต่อสิ่งที่เรียกว่า “ศิลปะ” บ้านสีด�ำ 30 กว่าหลังถูกสร้าง ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจแห่งความรู้สึก มีความหมาย มีจุดประสงค์ สีด�ำขลับอันแสนเคร่งขรึมดูเหมือนจะเพิ่มพลังอันน่าค้นหาให้แก่ที่ แห่งนี้เหลือเกิน บ้านแต่ละหลังแตกต่างกันด้วยเจตนา มีทั้งบ้านที่ ใช้สร้างสรรค์ผล งาน บ้ า นแสดงงานศิ ล ป์ บ้ า นพัก ญาติ พี่ น ้ อ ง และลูก ศิ ษ ย์ ลู ก หา ห้องนอน จนไปถึงห้องน�้ำ ซึ่งก็จ�ำแนกแยกย่อยออกไปตามอารมณ์ ห้ อ งแต้ ม บ้ า นหลั ง โตที่ ดู เ รี ย บง่ า ยเป็ น พื้ น ที่ ข องการสร้ า งงาน จิตรกรรมขนาดใหญ่ ส่วนบ้านสามเหลี่ยมหลังเล็กๆ ใช้เขียนภาพ ขนาดกลาง ผลงานส�ำคัญหลายชิ้นถือก�ำเนิดขึ้นในบ้านสองหลังนี้ ห้องนอนบางห้องดูเรีบบง่ายไร้การตกแต่ง มีเพียงเตียงนอนแบบ โบราณ ซึ่งบอกเป็นนัยถึงการเป็นห้องแห่งความสงบ ต่างกับบาง ห้องที่ประดับตกแต่งด้วยบรรดาข้าวของแห่งกาลเวลา เพดานไม้ แกะสลักอย่างวิจิตร ฝีมือช่างพม่าอโยธยา เขาสัตว์ ใหญ่จากแอฟริกา ช่วยย�้ำเตือนให้รู้ว่าก�ำลังหลับใหลอยู่ภายใต้ซากอารยธรรมแห่งอดีต ท�ำให้ได้หวนระลึกถึง และตกผลึกเป็นวันพรุ่งนี้ สุขากระบวยลุงแสง ห้องสุขาที่รวบรวมต�ำนานกระบวยแห่งเชียงราย มาแขวนเรียงรายรอบห้อง เป็นห้องน�้ำที่มีสุขภัณฑ์แบบอเมริกันทัน สมัย ผนวกกับสุขภัณฑ์กระบวยตักน�้ำแบบชาวบ้าน หรือจะเลือก สุข โขสโมสรในห้องน�้ำหมื่นนก ที่นกไม้แกะสลักจ�ำนวนไม่น้อยกว่าชื่อ ห้อง ถูกน�ำมาเรียงร้อยต่อกันเป็นม่านนก สวยงาม เพื่อเพิ่มความสุข โขในสุขา และสุดท้าย สุขาวดีในกาบหอย ห้องสุขาที่ยากจะอธิบาย
If Chalermchai’s art could be characterized as white, Thawan Duchanee’s artistic expression is definitely black as reflected in his private estate “Baan Dam Nang Lae” (Black House of Nang Lae) which is open to the public. 25 small houses at the estate are the manifestation of the national artist’s views on Buddhist philosophy tinged with a flavor of contemporary art such as installation art.
นอกจากนี้อีกมากมายหลายห้องยังจัดแสดงงานศิลปะที่ยาก จะตีความให้เป็นไปในทางใดทางหนึ่ง และนั่นเองคือเจตนา ของ “บ้านด�ำ” แห่งนี้ ทั่ ว ทั้ ง บริ เ วณเราจะไม่ พ บป้ า ยบอกหรื อ อธิ บ ายอะไรทั้ ง สิ้ น เพราะที่นี้ไม่ได้หวังให้เข้าใจนัยยะและความหมาย ซึ่งมีมาก เกินบรรยายจนต้องบอกกล่าวด้วยภาษาศิลป์ แต่ “บ้านด�ำ” เพียงแค่อยากให้เราได้ “รู้สึก” มากกว่า มันจะมีประโยชน์อะไรถ้า “รู้” แต่ไม่ “รู้สึก”
บ้านด�ำนางแล Baandam Museum (Nang Lae) N19°59’32’’ E99°51’37’’ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 11 กม. ใช้ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าออกนอกเมืองไปทาง อ�ำเภอแม่สาย ผ่านสนามบิน ม.ราชภัฎฯ ทาง เข้าบ้านด�ำฯ จะอยู่เลยบริษัทเสริมสุขฯไป ประมาณ 100 เมตร 11 Km. from Chiang Rai city. Driving along Phaholyothin, heading north. Passing airport and Rajabhat University. www.thawan-duchanee.com 0 5370 5834
114 DESTINATION
ดินแดนแห่ ง กาลเวลา Fusions of 700 years
มี ใครเคยอยากรู้ บ้ า งไหมว่ า ที่ ที่ เรายื น อยู่ ต รงนี้ ตอนนี้ เมื่ อ หลายร้ อ ยปี ก่ อ นเป็ น ยั ง ไง ตอนนั้ น บ้ า นเมื อ งเราเป็ น อย่ า งไร จะเหมื อ นในหนั ง ย้อ นยุคหรือ ไม่ คงไม่มีใครตอบได้ มีเพียงซากปรักหักพังที่ผ่านวันเวลามาแล้วไม่รู้กี่ร้อยฝน กี่ร้อยหนาวเท่านั้น ที่กุมค�ำตอบไว้ เมื่อกว่า 700 ปีที่แล้วบนที่ราบสองฝั่งโขง เมืองส�ำคัญของแคว้นล้านนาได้ถือก�ำเนิดขึ้น “เชียงแสน” เมืองแห่งอารยะธรรมที่มีพุทธศาสนาหยั่งราก ลึก ผลพวงคือวัดวาอารามนับร้อยถูกสร้างขึ้นตามแรงก�ำลัง แห่งศรัทธา 700 ปีต่อมา ทุกสิ่งอย่างกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง เราจึงเห็นภาพซากเจดีย์หรือวิหารเก่ามากมาย สอดแทรกอยู่ท่ามกลางบ้านเรือน จะมี ก็แต่เพียงเจดีย์ ใน “วัดป่าสัก” เท่านั้นที่ยังคงสมบรูณ์พอให้เราได้มองเห็นอดีตบ้าง และกาลเวลายังมีน�้ำใจหลงเหลือเศษซากก�ำแพงวัด ซุ้มประตู บันได เสาวิหาร ให้เราได้เห็นภาพ วัดป่าสักในจินตนาการ ต้นสักจ�ำนวนมากที่ปลูกไว้ในบริเวณวัดคงมากมายเสียจนเหมือนป่า จึงเป็นที่มาของ ชื่อวัดแห่งนี้ และอาจด้วยป่าสักนี่เอง ที่ช่วยกันดูแลให้เจดีย์นี้ยังคงอยู่ และเก็บรักษาแทบทุกรายละเอียด ซึ่งเป็นส่วนผสมผสานของสถาปัตยกรรม และศิลปกรรม ทั้งของล้านนา พุกาม และลังกา ที่ซ่อนตัวอยู่ในทุกซอกมุม โดยเฉพาะลายปูนปั้นอันวิจิตรงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นฝีมือ ช่างเชียงแสน
116 DESTINATION ชิ้นส่วนแห่งอดีตกาลอันรุ่งเรืองของเชียงแสนอีกมากมายยัง คงถูกเก็บรักษาไว้ใน “พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงแสน” พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ที่ เ ก่ า แก่ ที่ สุ ด ของภาคเหนื อ และสิ่ ง ที่ ป ระกาศ ให้ปัจจุบันรับรู้ถึงยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ ได้ชัดเจนที่สุดคือ “เปลว รัศมี” ส่วนยอดสุดของพระพุทธรูป อันเป็นสัญลักษณ์ของ การตรั ส รู ้ ข องพระพุ ท ธเจ้ า ที่ ง มได้ จ ากแม่ น�้ ำ โขง ขนาด เปลวรัศมีซึ่งเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ บนยอดเศียรพระ ยังมีความสูงเกือบ 1 เมตร มองแล้วไม่กล้าจินตนาการเลย ว่า องค์พระพุทธรูปนี้จะมหึมาสักเพียงไหน ว่ากันว่าเปลว รัศมีนี้เป็นของพระพุทธรูปส�ำริดขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ บนเกาะกลางแม่น�้ำโขงเมืองเชีย งแสน ดั ง ที่ ป รากฎอยู ่ ใน พงศาวดาร และต่อมาเกาะนั้นได้ถล่มจมลงพาให้วัตถุล�้ำค่า จมหายไปตราบจนทุกวันนี้ หรื อ นี่ จ ะเป็ น อุ บ ายของกาลเวลา ที่ ห ลงเหลื อ ไว้ เ พี ย งบาง สิ่ง เพียงแค่ให้ได้กลิ่นอายจางๆ ที่ยังท�ำให้เราเห็นคุณค่า ของอดีต You don’t need to be an art historian to tell that an ancient chedi hidden itself amid great old teak woods outside the wall of Chiang Saen is a golden discovery. Being a thousand years old and root to the Lanna Kingdom, Chiang Saen is a continual living city that is built upon ruins of ancient. Modern homes and ancient chedis are scattered seamlessly throughout the town. The chedi at Wat Pasak is most outstanding in terms of its importance and meaning. Its architectural details reflect the diversity of races and neighboring nations of the past such as Lanna, Pukam, Langka, Chinese and Sukhothai.
วัดป่าสัก : อุทยานประวัติศาสตร์เชียงแสน Wat Pasak : Chiang Saen Historical Park N 20°16’29’’ E 100°4’40’’ อยู่ในตัวอ�ำเภอเชียงแสน ถ้ามาจากอ�ำเภอแม่จัน ก่อนเข้า ตัวอ�ำเภอจะสังเกตเห็นศาลเจ้าพ่อประตูป่าสัก จะมีทางแยก ซ้ายเล็กๆ ไปตามถนนเลียบก�ำแพงเมืองประมาณ 200 เมตร Located in Chiang Sean District. The entrance is next to Pasak Shrine, west side of the city wall. 30 THB.
118 DESTINATION
DESTINATION 119
เพราะเชียงรายมีภูเขามาก ดินดีๆจึงมีให้ใช้มากเช่นกัน วัตถุดิบที่ธรรมชาติมีให้บวกกับแรงบันดาลใจ จากสิ่งรอบตัว ต้นไม้ใบหญ้า เมล็ด พันธุ์พืช ท�ำให้ชิ้นงานของดอยดินแดงทั้งรูปทรง ลวดลาย และสีสัน ใกล้เคียงความเป็นธรรมดาของธรรมชาติ ทั้งสีแดงจากดินหรือสีฟ้า จากขี้เถ้าฟาง ขั้นตอนการผลิตที่ควรเรียกเสียใหม่ว่า ขั้นตอนการสร้างสรรค์ผลงาน เพราะทุกชิ้นล้วนเป็นงานฝีมือชั้นเลิศตั้งแต่ต้นจนจบ นับว่าเป็นการท�ำงานกับธรรมชาติล้วนๆ ทั้งดิน ทั้งสี และแม้แต่ความเงางามบนถ้วยชามทั้งหมด ยังมาจากน�้ำเคลือบที่ท�ำจากน�้ำขี้เถ้า ด้วยแนวคิดที่ว่า “ท�ำอย่างไรให้ศิลปะที่เรารักอยู่ร่วมกับวิถีชีวิตของเรา และคนรอบตัวได้” การปั้นดินของดอยดินแดงจึงออกมาทั้งใน รูปแบบของข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นผลงานศิลปะ และใช้งานได้จริง กับดินที่ถูกปั้นเพื่อสนองความต้องการของศิลปะล้วนๆ ที่เปี่ยมไป ด้วยอารมณ์และจินตนาการ Clay is versatile. The clay house before us serves as a showcase studio of the owner. The adjacent open-air compound is his working studio piled up with nature-inspired pottery. The area also consists of ceramic kilns which turn flabby clay into valuables as well as a souvenir shop and a coffeehouse. All these buildings and structures are laid in the compound like an installation art that one may not be able to put fingers on and figure out what it is. This small kingdom belongs to potter Somlak Pantibun who studied his craft from Japan. He fell in love with red earth from his hometown and decided to buy the land here. He translated his inspiration and passion into a place of art with nature as his muse.
ดิGiftนดีfrom ที่ดDoi ินแดง Din “ดิ น ” อาจไร้ ค ่ า เป็ น แค่ พ ื ้ น ผิ ว ให้ ผ ู ้ ค นก้ า วผ่ า น และเหยี ย บย่ ำ � หรื อ อาจมี ค ุ ณค่ ามหาศาล เป็ นที ่ บ ่ ม เพาะให้ ชี ว ิ ต งอกเงยขึ ้ น มา เป็นแผ่นดิน ที ่ ท ำ � ให้ เราหยั ด ยื นขึ ้ น ได้ ก็ สุ ด แท้ แต่ ใครจะเห็ น อย่ างไร แต่ ม ี ท ี ่ แห่ง หนึ่ง ที่ มองเห็ นความล้ ำ � ค่ าที ่ แ ฝงฝั งอยู ่ ภ ายใต้ ผื นดิ น “สมลั ก ษณ์ ปั น ติ บุ ญ ” สล่ า เลื่ อ งชื่ อ อี ก คนหนึ่ ง ของเชี ย งราย เจ้ า ของ อาณาจักรแห่งดิน “ดอยดินแดง” บ้านดินสีดินแดงหลายหลังที่เป็นทั้งสตู ดิโอแสดงผลงานของเจ้าบ้าน ร้านขายถ้วยชามผลผลิตที่ดินมอบให้ และ โรงปั้นที่เนรมิตก้อนดินให้คุณค่ากว่าที่เคยเป็น
บ้านดอยดินแดง Baan Doi Din Daeng N20°01’04’’ E99°52’55’’ จากตัวเมืองเชียงราย มุ่งหน้าออกนอกเมืองไป ทางอ�ำเภอแม่สายประมาณ 12 กม. ทางเข้า บ้านดอยดินแดงจะอยู่ก่อนถึงหลักกิโลเมตรที่ 842 เลีย้ วเข้าซอยไปประมาณ 1.5 กม. From Chiang Rai town, drive along Phaholyothin road (highway No.1) heading north about 12 km. The entrance is just before reaching km.842, then continue on to an alley for 1.5 km. by follow the signs to long neck karen village. www.dddpottery.com 30 THB.
120 DESTINATION
ไม้ เ ล่ า เรื อ ่ ง Carving the stories out of wood เมื ่ อ ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งชายหญิ ง เริ ่ ม ต้ น ขึ้ น ในกระท่ อ มหลั ง น้ อ ย จนก่อ กำ�เนิด ชีวิต จากนั้นภาพวิถีช าวบ้านก็เ กิ ด ขึ ้ น เด็ ก น้ อยล้ อมวง เล่นม้าก้านกล้วย พอโตขึ้นอีกนิด ก็ช ่วยพ่อ แม่ เลี ้ ย งน้ อง เรี ย นรู ้ ช ่ วย เหลืองานบ้าน แบ่งเบาภาระพ่อแม่ จนเริ่มเข้าวัยหนุ่มสาวจึงรู้จ ักทำ �มา หากิ นตามวิ ถี ชี วิ ต พื้ น บ้ า น ทำ � ไร่ ไถ่ น าไปตามกำ � ลั ง ทำ � การเกษตรแบบ เศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผัก เลี ้ยงปลา ไร่นาสวนผสม ในฤดูเก็บเกี ่ยว ก็ ข อแรงกั น มาลงแขกเกี ่ ย วข้ า ว เมื ่ อ ว่ า งเว้ นจากการทำ � นาก็ เป็ นช่ ว ง เวลาแห่ง งานบุญ บวชนาค ผ้าป่า กฐิน งานมหรสพ ดู ล ะคร ฟ้ อนรำ �
กลุ่มแกะสลักไม้ สล่าค�ำจันทร์ ยาโน Kamchan Yano’s wood carving studio
While dozens of lives are working hard in the paddy fields, some are catching fish for dinner, watering vegetable plantations or riding buffalo to downtown for trade. The nearby town is bustling with hordes of tourists who want to catch a glimpse of Chinese panda in Chiang Mai. Visitors flow in to admire Wat Rongkhun created by Sala Lanna – always in his signature outfit – who supervised the enduring construction of the temple. The portrayal of lives painted above is captured on the miniature wood carving sculpture. The life-like town, trees, paddy fields and people are reflected in the elaborate wooden miniatures that can move and are operated by motor circuit. These are the works of art created by Sala Khamchan Yano. Son of a farmer and grandson of a wood-carving artist, Sala Khamchan learned and mastered his skill throughout years of practice and developed the fiery imagination that earns him a title “artist”.
N20°4’18’’ E99°53’47’’ จากตัวเมืองเชียงราย มุ่งหน้าออกนอกเมืองไป ทางอ�ำเภอแม่สายประมาณ 18 กม. ทางเข้า บ้านดอยดินแดงจะอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 848 เยื้องวัดแม่ข้าวต้ม เลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ 3.6 กม. From Chiang Rai city , drive along Phaholyothin road (highway No.1) heading north about 18 km. Entrance is close to km.848. Then continue on to an alley for 3.6 km.
ทั้งหมดนี้ถูกสลักเสลาขึ้นมาจากไม้ให้กลายเป็นเรื่องราวที่มีชีวิตชีวา มี รายละเอียดยิบย่อย และเคลื่อนไหวได้ โดยฝีมือของ “สล่าค�ำจันทร์ ยา โน” สล่าพื้นเมืองขนานแท้ ซึ่งสืบทอดวิชามาจากพ่ออุ้ยแสง ลือสุวรรณ ต�ำนานกระบวยผู้เลื่องชื่อของเชียงราย อันเป็นที่มาของสุขากระบวยลุง แสงแห่งบ้านด�ำ นอกจากนี้ส ล่าค�ำจันทร์ยังแกะสลัก เรื่องทันยุคสมั ย อย่ างเจ้ าแพนด้ าตั ว อ้ ว นอั น เป็ น ที่ รั ก ของใครต่ อ ใคร และที่ ยั ง ไม่ เ สร็ จ สมบู ร ณ์ เ ช่ น เดี ย วกั บ ต้นฉบับก็คือ “วัดร่องขุ่น” ที่ถูกย่อส่วนลงแต่วิจิตรบรรจงเหมือนกัน โดย มีชายในชุดม่อฮ่อมสวมหมวกปีกยืนคุมงานก่อสร้างวัดของเขาอยู่ ผลงานของสล่าผู้แสนจะเรียบง่ายคนนี้ไม่ได้มีที่มาหรือแรงบันดาลใจอะไร ใหญ่โต เพียงแค่ต้องการบอกเล่าถึงวิถีชีวิตแบบที่เขาและชาวบ้านคนอื่นๆ เป็น ความเป็นมาเป็นไปของวัฒนธรรม อันเป็นรากฐานของชุมชนได้ ถูกบันทึกไว้บนแผ่นไม้ของสล่าคนนี้แล้ว
DESTINATION 123
กลับสู่จุดเริ่มต้นอีกTime ครัto้ง Remember หอนาฬิกา คราวนี้ น อกจากเข็ ม ทั้ ง สั้ น และยาวจะรวมพลั ง กั น สั่ ง ให้ ท ้ อ งฟ้ า มื ด สนิ ท ยั ง สั่ ง ให้ ผู้ ค นมากมายมาตั้ ง ตา รอดู นาฬิก าบอกเวลา 1 ทุ่ม 2 ทุ่ม และ 3 ทุ ่ ม เพราะนั ่ นคื อ เวลาที ่ ห อนาฬิ ก าแห่ งนี ้ จ ะเปลี ่ ย นสี จากสี ท องอร่ าม เป็น สี ส ั น สดใสตระการตา พร้อมกับ เสียงเพลงเชี ย งรายรำ � ลึ ก เปลี ่ ย นอารมณ์ ไปราวกั บ เป็ นคนละหอนาฬิ ก า ก็จะมีอะไรจีรังยั่งยืนบ้างเล่า !?
...ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ศิลปะต่างหากที่ยืนยาว
Equally stunning to the art at Wat Rong Khun, the golden clock tower standing in the middle of Chiang Rai is another art piece of Chalermchai that makes a statement – a very, very bold statement indeed. The intricate pattern of fiery birds is the motif used all over the object. When evening comes, people would be waiting with eyes fixing on the clock, anticipating the moment when the clock strikes 12. That is when the golden tower changes its color and lighting with the song “Chiang Rai Ram Leuk” playing in the background as if it were dancing to this classic tune. The sweet, nostalgic air reminds the passer-bys of the value of time
ขับเที่ยวเก็บตกเมืองเชียงราย
ใครตรงไส้ แ ปลกๆ ที่ ไ ม่ เ คยพบในซาลาเปามาก่ อ น อย่ า งแฮม ผักโขม, ไก่ไวท์ซอส, ฯลฯ เป็นซาลาเปาที่อร่อยแบบสร้างสรรค์ ที่สุดเท่าที่เคยกินมา ข้างๆ กันมีร้านไส้อั่วซึ่งตามความเห็นส่วน ตัวนั้น... อร่อยที่สุดเช่นกัน ส่วนคนชอบก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวต้องร้าน “รสเยี่ยม” แต่ถ้าไม่กินเนื้อก็แวะไปกินไอติมซาหริ่มที่ร้านเดียวกัน ก็เป็นทางเลือกที่ ไม่เลว ที่บอกไว้มิได้หมายความว่าให้ไปกินทุก ร้าน แต่ถ้ายังพักอยู่ ในตัวเมืองต่ออีกซักวันสองวันก็ผลัดเปลี่ยน มากินมาชิมได้หลายมื้อ ออกจากตัวเมือง แวะไปเที่ยววัดรองขุ่นให้เร็วที่สุดก่อนที่แสงแดด จะจ้าเกิน เพราะวัดนี้มีเพียงสีขาว และขาวเท่านั้น ถ้าดูตอน กลาง วันจะแสบตามาก ชมวัดร่องขุ่นแล้วอย่างลืมแวะไปเที่ยวน�้ำตกขุน กรณ์ เป็นน�้ำตกสูงที่สุดในเชียงราย ต้องออกแรงเดินประมาณ 1.4 กม. แต่เส้นทางร่มรื่นและน่าเพลิดเพลิน มีอะไรให้ดู ไปตลอดทาง จนถึงตัวน�้ำตก
ใครรักเชียงใหม่ คงหลงรักเชียงรายได้ไม่ยาก เพราะเมืองเหนือเมืองหนาวเมืองนี้มีสิ่งที่ท�ำให้มีความ สุขทุกครั้งที่ได้ไปเยือน ทริปนี้เรามุ่งเดินทางไปบนเส้นทางแห่งศิลปะที่เชียงรายมีให้สัมผัสมากมาย เหลือเกิน นอกจากนี้แล้ว ระหว่างทาง ยังมีอะไร ให้เที่ยวเก็บตกอีกเยอะ ด้วยเวลาจ�ำกัด การเดินทางโดยเครื่องบินจึงเป็นทางเลือกที่ประหยัดเวลาขับรถไปได้สองวัน ทันทีที่ ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์ ของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ก็ตรงรี่ไปรับกุญแจรถจาก AVIS Rent A Car ที่ได้จองไว้ ล่วงหน้าแล้ว จากนั้นตรงเข้าตัวเมืองเพื่อ หาอาหารเช้ากินที่บริเวณรอบๆ หอนาฬิกา แห่งใหม่กลางเมืองที่ออกแบบ โดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นหอนาฬิกาที่มีรูปลักษณ์ อันน่าอัศจรรย์ ใจ ไม่แพ้วัดร่องขุ่น ซึ่งกลายเป็นสถานที่เที่ยว ยอดนิยมของ เมืองเชียงรายไปแล้ว น่าแปลก... ร้านอาหารรอบๆ หอนาฬิกานั้นมีชื่อเป็นจังหวัดอยู่หลายร้าน เช่นร้านข้าวแกงเพชรบุรี กับร้านข้าวแกงราชบุรี (ไม่ยักมีข้าวแกงเชียงราย) แต่ทั้งสองร้านอร่อยอย่างกินกันไม่ลง ตรงข้ามกัน มีร้าน “กาแฟรถเหลือง” ที่เจ้าของร้านเป็น ศิลปินวนิพกผู้ซึ่งชวนเราถกประเด็นต่างๆ มากมายอย่าง ออกรส และที่ต้องขอแนะน�ำให้แวะไปลองอย่างพลาด ไม่ได้ คือซาลาเปาร้าน “เปา เปา” ไม่เหมือน
If you love Chiang Mai, it would not be difficult to fall in love with Chiang Rai. Being a city that brings joy every time we visit, we were all set to explore the art trails of this delightful city. Flying to Chiang Rai is always the best option, time-wise. As soon as we landed at the Mae Fah Luang airport, we headed to pick up the rental car from AVIS Rent a Car which we had booked in advance and off we went to the town centre for breakfast. We strolled around the new clock tower designed by Acharn Chalermchai Kositphipat. It didn’t take long for this new attraction to become a hot spot of Chiang Rai for it’s a place that stuns and is equally amazing as Wat Rong Khun. Lots of quality eateries can be found around the clock tower. Before the sun got too strong we stopped at Wat Rong Khun to admire the all white structure of the temple that would make you squint if gazed at in the sun. Then, we moved on to Khun Korn Waterfall, the highest waterfall in Chiang Rai. The entrance to the waterfall was pretty pleasant as we trekked under the canopies of thick foliage.
ย้อนกลับมาตัวเมือง อย่าลืมแวะไปเที่ยวไร่แม่ฟ้าหลวง เข้าชม หอค�ำที่รวมเอาความทรงจ�ำของล้านนาเอาไว้มากมาย แล้วแวะ ไปวัดพระแก้วเชียงราย เพื่อกราบพระแก้วมรกตองค์จ� ำลอง ณ สถานที่ซึ่งเป็นที่ค้นพบองค์พระแก้วมรกตองค์จริง ออกจากตัวเมืองเชียงราย อย่าลืมแวะพิพิธภัณฑ์บ้านด�ำนางแล ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ก่อนมุ่งหน้าขึ้นเหนือไป จน สุดแดนสยามที่แม่สาย ถ้ามีเวลาก็ข้ามไปช้อปกระจายที่ตลาดท่า ขี้เหล็ก แล้วมุ่งหน้าผ่านสามเหลี่ยมทองค�ำ แวะอ�ำเภอเชียงแสน ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ ด้วยบรรยากาศของบ้านเรือนสลับโบราณ สถานอายุ นั บ พั น ปี ห ลายสิ บ แห่ ง แต่ ที่ ต ้ อ งไม่ พ ลาดชมคื อ เจดี ย ์ วั ด ป่ า สั ก ซึ่ ง และขลั ง ที่ สุ ด เท่ า ที่ เ คยเห็ นมา บ่ า ยร่ ม ลมตกก็ ผ ่ อ น คลายกับการนวดแผนโบราณตรงริมแม่น�้ำโขง... เป็นร้านนวดที่ บรรยากาศดีที่สุด
ขับรถเลียบแม่น�้ำโขงไปอีกหน่อย ก็ถึงอ�ำเภอเชียงของ อ�ำเภอ เล็กๆ ที่บรรยากาศคล้ายๆ ปาย เป็นเมืองผ่านทาง ที่นักแบก เป้มาพัก ค้างแรมก่อนเดินทางข้ามโขงไปลาว จะนั่งเรือไป หลวงพระบาง นั่งรถไปจีนหรือเวียดนามได้ทั้งนั้น มีเกสต์เฮา ส์ดีๆ หลายแห่ง ให้พักสบายๆ เราเลือก “บ้านต�ำมิละ” ส�ำหรับ คืนนี้ เป็นเกสต์เฮาส์ที่นักแบกเป้รู้จักกันดี ห้องเล็กๆ ที่นอน สบาย เปิดประตูออกมา ก็เจอสวนสวยร่มรื่น และล็อบบี้เล็กๆ แบบสมถะที่น่ารักและมองเห็นแม่น�้ำโขงอยู่เบื้องหน้า จากจุดนี้ ไปไม่ไกลนัก เป็นที่ตั้งของดอยผาตั้ง จะไปหาที่พัก แถวๆ ตีนดอยในคืนถัดไป หรือจะตื่นให้เช้ๆ ราวๆ ตี 4ครึ่ง แล้วขับรถขึ้นดอยไปราว 50 กม. ก็ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ เส้นทางช่วงสุดท้ายจะสูงชันซักหน่อย แต่มั่นใจได้ในสภาพรถ ที่ดูแลอย่างดีจาก AVIS และ GPS ที่เป็นออฟชั่นเพิ่มเติมก็จะ ช่วยให้เดินทางได้มั่นใจแม้ จะต้องเดินทางในความมืดบนเส้น ทาง ที่ซับซ้อนซักเล็กน้อย ดอยผาตั้งอยู่บนเทือกดอยผาหม่นเช่นเดียวกับภูชี้ฟ้า แต่แตก ต่างกันเล็กน้อยตรงบรรยากาศ เพราะที่ดอยผาตั้งนั้นสามารถ ชมทะเลหมอกได้ โดยไม่ต้องเบียดในทะเลคน และเป็นดอย ที่มี 3 เนินเรียงต่อกันตามสันเขา วิวสวยน้อยถึงมากเป็นล�ำดับ ตามระยะทางที่มีแรงเดินไปไหว ลงจากดอยแล้วอย่าลืมแวะไป ที่หมู่บ้านตรงทางผ่าน ซึ่งเป็นถิ่นฐานของชาวจีนที่อพยพมา ตั้งหลักแหล่งเมื่อนานมาแล้ว แวะไปกินอาหารจีนยูนนานที่มี ให้เลือกหลายร้าน เช่น ร้าน “บ้านดิน” ที่อยู่ริมหน้าผา มอง เห็นวิว สุดตาสบายใจ พลางกินขาหมูหมั่นโถว และอาหาร สไตล์ ยู น นานอี ก หลายชนิ ด ที่ ห ากิ น ที่ อื่ น ได้ ย าก จากนั้ น เดิ น ทางกลับเข้าเมือง แบบ สบายๆ แวะซื้อของฝากก่อนบินกลับ บ้านอย่างสบายใจ... In close vicinity, we can find Doi Pha Tang where we could enjoy a beautiful view of sunrise. Better get up early around 4 a.m. and drive up the hill for another 50 kilometers to catch this breathtaking sight. The last few kilometers are a bit steep but rest assured your journey would be smooth thanks to a good-conditioned car from AVIS equipped with GPS navigator that ensures we are on the right track. Doi Pha Tang is located on the Doi Pha Mon mountain range, the same location as Phu Chee Fah. The difference is that you don’t need to squeeze in to enjoy the sunrise on the overly-crowded hill like Phu Chee Fah. On the way down the hill, do not miss a stop at the Chinese immigrants’ village and try Chinese Yunnan food at local restaurants i.e. “Baan Din” a restaurant located on the cliff’s edge overlooking picturesque mountain scenery before heading back to town and shop a bit more for souvenirs on the way to the airport.
Call center : 02 251 1131-2 www.AVISThailand.com
On the way back to town center, we went up to Mae Fah Luang Land and visited Hor Kham – a Lanna history museum then stopped at Wat Phra Kaew to pay homage to the replica statue of the Emerald Buddha. The temple is where the original Buddha image was discovered. Another attraction that we could not miss is Baan Dam Nang Lae museum by national artist, Acharn Thawan Duchanee. We went straight to the border of Siam in Mae Sai for a mini shopping spree at Tha Khee Lek market. We then proceeded to the Golden Triangle through Chiang Saen, a charming district where visitors could enjoy the ancient architecture of thousand-years-old chedis among the contemporary building of local residents. The chedi at Wat Pasak is known to be the most beautiful and holiest chedis of all. What better thing to do later on but to unwind in the late afternoon with an hour of Thai traditional massage by the Mae Khong river. We drove along the Mae Khong River and arrived at Chiang Khong, a small town with an atmosphere similar to Pai. It is an en route town where backpackers enjoy a pleasant overnight before crossing to Laos. Several choices for quality guest houses are available. We chose “Baan Tammila” – an accommodation popular among backpackers as it offers a comfortable compact-sized room with a nice little backyard and the lovely front area overlooking the grand river.
128 DAZZLING ROOM
ล้านนา ละติจูด
Inspiration From Local Art Le Meridien Chiangrai Resort ในเมืองเชียงราย พื้นที่ส�ำหรับทิวทัศน์ดีๆ บรรยากาศสุดสบายคงต้องยกให้ริมแม่น�้ำกกมาเป็นอันดับหนึ่ง สายน�้ำ ไหลเอื่อยพาสายลมเดินทางมาพร้อมกัน การได้นั่งเพลินๆ ทอดอารมณ์ให้ไหลเอื่อยไปกับน�้ำกกคงเป็นเรื่องวิเศษสุด นั่นคงเป็นเหตุผลให้ เลอ เมอริเดียน เชียงราย มาตั้งอยู่ตรงนี้ สระน�้ำกว้างที่กินพื้นที่มากกว่าครึ่งของรีสอร์ทนั้น เกือบจะเชื่อมต่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับล�ำน�้ำกก ยิ่งท�ำให้เรื่องวิเศษข้างต้นเกิดขึ้นได้ทุกบนตารางนิ้วของที่นี่
ถ้าดูผิวเผิน เลอ เมอริเดียน เชียงราย อาจดูสวยล�้ำน�ำสมัย แต่แท้จริงแล้วการออกแบบของ ที่นี่ยึดรูปแบบตามสไตล์ของแบรนด์เลอ เมอริเดียน ที่เน้นการดีไซน์จากซีกโลกตะวันตกผสม ศิลปะในท้องถิ่น เลอ เมอริเดียน เชียงราย จึงดีไซน์ด้วยรูปแบบความเป็นล้านนาอันร่วมสมัย อย่างล็อบบี้ที่ดูดีมีดีไซน์เท่ๆ แบบยุโรป ลองมองดูให้ดีจะเห็นว่าโครงสร้างคานไม้บนเพดาน ที่ซ้อนทับ รับน�้ำหนัก และไขว้กันเป็นรูปฟอร์มกราฟฟิคนั้นแท้จริงแล้วใช้แนวความคิดจาก สถาปัตยกรรมล้านนาโบราณ แบบที่เรียกว่า “ขื่อม้าต่างไหม” เป็นดีไซน์จากอดีตที่พบใน โครงสร้างหลังคาวิหารวัดเก่าๆ นอกจากนี้ ฝาผนังเก๋ๆ นั้นยังได้รับแรงบัลดาลใจมากจาก กระจกสีตามวัดวาอาราม เข้ากับ “อูบ” ภาชนะอันบ่งบอกถึงล้านนายังถูกน�ำมาจัดแสดงใน รูปแบบศิลปกรรมสมัยใหม่ วัตถุดิบก่อนเขาห้องเรียนได้ตามใจชอบ ในฤดูที่ล�ำไยให้ดอกออก ผลใครใคร่เดินลงไปเด็ดกินจากต้นหรือจะเอากลับไปทั้งพวงก็ได้ตามสะดวก. . . ในห้องพักโปร่ง โล่ง แสนสบายด้วยทิวทัศน์และเตียงนุ่มลิขสิทธ์เฉพาะของ เลอ เมอริเดียน อาจท�ำให้ลืมไปเลยว่า อารมณ์ล้านนายังถูกสอดแทรกเข้ามาถึงห้องนอนด้วย พรม และ วอลล์เปเปอร์ผนังลายกราฟฟิคสุดเก๋อาจไม่ได้มีที่มาไกลตัวอย่างที่คิด ถ้ามองให้ดีจะพบว่า มันคือร่มกระดาษแบบที่พบได้ทั่วไปในภาคเหนือ ศิลปะ และดีไซน์ยังถูกสอดแทรกถึงมื้ออาหาร ที่ห้องอาหารเลเทส เรซิพีซ (Latest Recipes) ยังเสริฟเมนูครีเอทไอเดียบรรเจิดลูกครึ่งเมืองเหนือ-เมืองนอก ที่อู้ค�ำเมืองส�ำเนียงฝรั่งอย่าง “ข้าวซอยฟัวกราส์” แทบจะจิตนาการไม่ออกเลยว่าอาหารรสเลิศแสนเข้มข้นของล้านนากับ ฟัวกราส์หรือตับห่านอาหารชั้นดีอันแสนแพงของฝรั่งเศส มาอยู่ในจานเดียวกันแล้วจะเกิด อะไรขึ้น ค�ำตอบอยู่ที่ปลายลิ้นเท่านั้นเอง
The first impression once we lay our eyes on Le Meridien Chiang Rai is its beautiful architecture from the elevated lobby of the hotel and the view of the resort’s pond seamlessly blending in with the Kok River. It is clearly an intention of the architecture to want to create an enchanting atmosphere completed by the serene river at wherever we are in the resort. Despite being a French luxury hotel, Le Meridien fits flawlessly in the local landscape. The hotel is designed in a European black and white tone adapted to the local taste. Its modern-looking lobby area clearly spells the ancient Lanna influence. The glass windows in the same color of old temples are carefully placed. A Lanna utensil “Oub” is decorated with subtlety as part of the installation art. To complete the look, chic graffiti on the carpet and wall in guest rooms really take after the pattern of northern paper parasols. Like Project LM100 – a platform that drew worldwide artists to create their work of art for different parts of the hotel, every element in Le Meridien – smell, sound, keycards, drinks or food menu are well selected for the ultimate experience of the guests. Available in four styles, the hotel’s four restaurants offer unique selections designed by Jean Georges.
134 DAZZLING ROOM
สูSuanthip งสุดคืVana อสามั ญ สวนทิพย์วนา รีสอร์ท Resort ถ้าโรงแรมหรูในตึกสูงกับลิฟท์แก้วเป็น “จุดสูงสุด” แล้ว บ้านที่ห้อมล้อมด้วยแมกไม้คงเป็น “สิ่งสามัญ” เป็นความสามัญที่ผู้คนสมัยนี้ ถวิลหา “สวนทิพย์วนา รีสอร์ท” ถ้าจะเปลี่ยนเป็นป่าทิพย์วนาก็คงไม่ผิดนัก เพราะพืชพันธุ์นานาชนิด ทั้งต้นที่ยืนอวดดอกสีสวยบ้าง เป็นพุ่มเขียวชอุ่ม บ้าง หรือต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงา ล้วนแล้วแต่ถูกจัดเรียงให้เบียดเสียดกันอย่างเป็นธรรมชาติ ห้องพักกลุ่มเล็กๆ แทรกอยู่ใต้ความร่มรื่นตรงนู้น นิดตรงนี้หน่อย ระเบียงห้องพักกว้างขวางราวจุดชมวิวส่วนตัว นอกจากจะท�ำให้เราใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นแล้ว ยังเป็นที่นั่งจิบกาแฟชั้นดี อย่างกาแฟดอย ช้างที่ติดอันดับกาแฟคุณภาพดีของโลก ซึ่งแหล่งปลูกอยู่ไม่ไกลจากจุดนี้เท่าไหร่ ห่างออกไปสักหน่อยคือ “ปกาเกอญอ วิลล่า” บ้านปลายดอยแสนสงบ และสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ส�ำหรับการได้นอนสบาย อยู่ในบ้านดิน กลิ่นอายกะเหรี่ยง และเป็นกะเหรี่ยงที่มีรสนิยมดีทีเดียว แม้จะเป็นวิลล่าที่ไม่ใหญ่โตโอ่อ่าแต่ก็ก�ำลังสบาย ด้วยความเป็นกันเอง และความ สบายที่แท้จริงนั้นไม่ได้มีอยู่เพียงแค่ในตัวบ้าน แต่ยังมีอยู่ที่ชานบ้านกว้างๆ โล่งๆ อีกต่างหาก ที่เป็นมุมเอกขเนก นั่งๆ นอนๆได้ทั้งวันทั้งคืน นอนดูภูเขาและดาวเดือนจนอาจลืมไปเลยว่ายังมีเตียงนุ่มๆ รออยู่ข้างใน พื้นที่สีเขียวอันกว้างขวางยังแบ่งปันอาณาเขตส�ำหรับผักปลอดสารพิษ ที่มีไว้ให้ผู้มาเยือนเปลี่ยนเป็นพ่อครัวแม่ครัวมือใหม่ ได้เลือกเก็บวัตถุดิบ ก่อนเขาห้องเรียนได้ตามใจชอบ ในฤดูที่ล�ำไยให้ดอกออกผลใครใคร่เดินลงไปเด็ดกินจากต้นหรือจะเอากลับไปทั้งพวงก็ได้ตามสะดวก. .
It must be the lush forest that made the resort’s owner fall for this scenic location. The resort’s structure is built in such a way that it blends seamlessly into a beautiful green surrounding. Set in natural surroundings of mountain views and tropical garden, Suanthip Vana resort offers a blissful natural escape that makes your stay unforgettable. Like a magical forest, the resort welcomes city dwellers like us to enjoy an intimate experience with the green, the mountain and the trees. Suanthip Vana Resort is set in surrounding mountains where guests normally wake up to the morning mist. Each room provides a spacious private terrace that overlooks the mountain views. Guests can take their time in sipping their coffee in the morning and taking in the view of picturesque mountains enveloped in mist. The Pkakeryor Villa is an accommodation choice that offers a rare holiday experience. The villa is nestled at the end of the hill and located separately from the other zones of the resort. The villa is composed of the local materials and decorated in a sophisticated style of hill tribes. Set in an open space, a private balcony which reflects an inheritance of hill tribe culture is so inviting that it makes us want to lounge around all day long and indulge in the scenic view of mountains and streams in the wood. Adjacent to the residence area is an organic vegetable garden that everyone can help out in gardening.
Photo TIPs A-Z G ตั้ ง แต่ ย ุ ค ที ่ ม นุ ษ ย์ ค ้ น พบความลั บ ของกล้ อ งรู เข็ ม ที ่ ให้ ภ าพเสมื อ นหั ว กลั บ ในห้ อ งมื ด โดยบั ง เอิ ญ ผ่ า นสู ่ ย ุ ค การถ่ า ย ภาพด้ว ยกล้ อ งกลไกแบบคลาสสิคที่ต้องพึ่งพาความรู้เฉพาะตัว และทัก ษะขั้น สูง ถึงยุค กล้องดิจ ิตอลที่ใครๆ ก็ถ่าย ภาพให้เป็ น ภาพได้ ง่ ายๆ โดยอาจไม่ต้องเรียนรู้อะไรเลยเกี่ยวกับ เทคนิค การถ่ายภาพ แต่รู้ไว้ใช่ว่า ใช่ไหม...?
Aperture Background Contrast Daylight El.
ภาพทุกภาพย่อมมีฉากหลัง มันเป็นสิ่งที่เพิ่มความน่าสนใจให้ภาพ และตรงกันข้ามก็อาจท�ำลายภาพได้เช่นกัน จึงควรให้ความสนใจ ที่มาของสิ่งที่เกือบจะเป็นสัญลักษณ์แทนความหมายเกี่ยวกับกล้อง กับการเลือกฉากหลัง รวมทั้งควบคุมฉากหลัง เช่นเดียวกับการใช้ และการถ่ายภาพที่คุ้นตากันดี แท้จริงแล้วแผ่นกลีบโลหะที่เรียงกัน รูรับแสงกว้าง-แคบ ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ท�ำให้ฉากหลังชัด-เบลอได้ เป็นวงกลมนี้ มีอยู่ในตัวเลนส์ของกล้องเกือบทุกตัว มันสามารถยืด และหดเพื่อเปลี่ยนขนาดของช่องว่างตรงกลาง เพื่อควบคุมปริมาณ แสงที่จะผ่านเข้าไปยังตัวกล้อง มีตัวเลขแทนค่าขนาดรูรับแสง ขึ้น ต้นด้วยอักษร F. เช่น F/1, 1.4, 2, 2.8, 4, 5.6, 8, 11, 16, 22, 32, . . . ซึ่งตัวเลขน้อย คือขนาดรูรับแสงที่กว้าง และให้แสงผ่านเข้ากล้อง ได้มาก ตรงข้ามกับตัวเลขมาก คือขนาดรูรับแสงที่แคบ และให้แสง ผ่านเข้ากล้องได้น้อย แปลเป็นภาษาไทยคือ “ความเปรียบต่าง” ของแสง และสี เช่นการ ตัดกันอย่างรุนแรงของคนใส่เสื้อสีแดงบนฉากหลังก�ำแพงสีเหลือง ท� ำ ให้ เ กิ ด ภาพที่ ฉู ด ฉาด หรื อ การกลมกลื น กั น ของดอกไม้ สี ม ่ ว ง อ่ อ นๆ บนฉากหลั ง สี ฟ ้ า กลายเป็ น ภาพที่ ใ ห้ ความรู ้ สึ ก อ่ อ นโยน แสงแดดเจิดจ้าในยามเช้าที่ทอดเงายาวๆ ที่ท�ำให้เกิดการตัดกันของ ส่วนที่โดนแสง และเงาในภาพก็เป็นตัวอย่างของสภาพแสงที่เรียก ว่า “คอนทราสต์จัด” ตรงกันข้ามกับภาพคอนทราสต์ต�่ำของแสงอัน นุ่มนวลในสายหมอก ก็ท�ำให้เกิดความรู้สึกที่อ่อนโยนเช่นเดียวกัน คื อ แสงแดดเจิ ด จ้ า ยามกลางวั น ซึ่ ง มี สี ข าว ต่ า งกั บ แสงยามเช้ า ตั ว ย่ อ สองตั ว นี้ เ พิ่ ง ถู ก น� ำ มาใช้ แ ทนค่ า ISO. ซึ่ ง ที่ เย็นที่มีสีเหลืองทอง ต่างกับแสงจากหลอดไฟนับแสนดวงบนถนน จริ ง ก็ คื อ ค่ า ความไวแสงฟิ ล ์ ม นั่ น เอง เมื่ อ ก่ อ นตอน ราชด�ำเนินที่มีสีส้ม ต่างกับแสงแดดในวันฟ้าหม่นซึ่งถ่ายภาพแล้ว ซื้อฟิล์มต้องคิดหนัก เพราะเลือกไม่ถูกว่าจะใช้ฟิลม์ เห็นเป็นสีอมฟ้า เป็นสีของแสงที่หลากหลาย และขึ้นอยู่กับว่าเรา ความไวแสงสูง หรือต�่ำซึ่งมันมีข้อดีคนละอย่าง แต่ ต้องการให้ภาพที่ถ่ายเวลานั้นเป็นสีอย่างนั้นหรือไม่? ระบบ WB หรือ ส� ำ หรั บ ยุ ค ดิ จิ ตั ล นั้ น เราสามารถเปลี่ ย นความไวแสง White Balance ในกล้องเกือบทุกตัวนั้นสามารถปรับตั้งให้ภาพจาก ของฟิล์ม(จริงๆ แล้วต้องเปลี่ยนเป็นความไวแสงของ ทุกสภาพแสงมีสีสมดุลย์ขาวโดยอัตโนมัติ (Auto White Balance) เซ็นเซอร์รับภาพ) ให้เป็นไปตามความต้องการได้ทุก หรือให้เป็นไปตามสีของสภาพแสง(Day Light) หรือแก้สีของสภาพ เวลา ไม่ว่าจะใช้ความไวแสงต�่ำ เพื่อให้ได้ใช้ความ แสงเพี้ยนๆ ให้กลับมาเป็นสีขาวได้เช่นกัน ไวชัตเตอร์ต�่ำที่สุด ส�ำหรับการถ่ายภาพน�้ำตกให้พริ้ว ไหว หรือใช้ความไวแสงสูงๆ เพื่อจะได้ถ่ายภาพด้วย ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ และข่าวดีคือ เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ พัฒนาให้การใช้ความไวแสงสูงมากๆ ๆ ก็ยังสามารถ ให้คุณภาพของภาพที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
F lare raduated Filter H istogram Infrared
แสงประหลาดรูปกลมๆ หรือหกเหลี่ยมที่เกิดจากการเอาเลนส์ ไป ส่ อ งเข้ า หาต้ น ก� ำ เนิ ด แสง หรื อ พระอาทิ ต ย์ จ นเกิ ด ภาพหลอกที่ สะท้ อ นจากผิ ว เลนส์ ซึ่ ง บางครั้ ง ก็ เ ป็ น เรื่ อ งน่ า ร� ำ คาญที่ ช ่ า งภาพ ต้องพยายามหลีกเลี่ยง แต่บางทีก็ใช้เอฟเฟคที่ผิดพลาดนี้มาสร้าง ฟิลเตอร์ครึ่งซีกซึ่งมีทั้งแบบมีสีต่างๆ และสีเทา ซึ่งอย่างหลังน่าใช้ สรรค์ภาพแปลกๆ ได้เช่นกัน มากกว่าเพราะมีเอาไว้ลด และเกลี่ยความสว่างของพื้นที่บางส่วน ในภาพ ซึ่งอาจแตกต่างกันจนไม่สามารถเก็บแสงเอาไว้ได้ทั้งหมด หากไม่มีฟิลเตอร์แผ่นนี้มาเกลี่ยแสงในส่วนที่สว่างกว่าให้ลดลง
ที่จริงแล้วแสงที่เราเห็นนั้นเป็นแค่ช่วงหนึ่งของรังสีที่มีช่วงความถี่ คลื่นกว้างกว่าตามนุษย์จะมองเห็นได้ แสงอินฟาเรดคือหนึ่งในช่วง ความถี่ที่ต�่ำกว่าสีแดงซึ่งมนุษย์มองไม่เห็น แต่กล้องที่ ใส่ฟิลเตอร์ IR นั้นสามารถเก็บภาพรังสีอินฟาเรดนี้ได้ ภาพที่ได้นั้นเป็นภาพที่ แปลกที่สุด วัตถุหลายอย่างในภาพจะเปลี่ยนสีไปจากที่เคยเห็น โดย เฉพาะสิ่งที่เป็นสีเขียวอย่างใบไม้จะกลายเป็นสีขาวเหมือนต้นไม้ถูก ปกคลุมด้วยหิมะ
มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะดูภาพจากจอหลังกล้อง ว่าภาพที่เพิ่งกด ชัตเตอร์ ไปนั้นไม่สว่าง และไม่มืดเกินไป แต่จะรู้ได้ไงว่าจอภาพ บนกล้องนั้นบอกอะไรเราได้ถูกต้องเสมอ เจ้าเส้นกราฟขยุกขยิก ที่มีอยู่ ในกล้องรุ่นดีๆ บางรุ่นจะท�ำหน้าที่บอกเราได้แม่นย�ำที่สุด แต่ทั้งนี้ต้องดูกราฟแบบนี้ให้เป็น เทคนิคขั้นต้นง่ายๆ ก็คือ จ�ำไว้ ว่ากรอบด้านซ้ายคือจุดด�ำสุด ขอบด้านขวาคือจุดขาวสุดของภาพ ส่วนเส้นกราฟจะบอกเราว่าภาพๆ นั้นค่อนไปทางมืด(ส่วนยอดของ กราฟค่อนไปทางซ้าย) พอดี(ส่วนยอดของกราฟอยู่ตรงกลาง) หรือ สว่าง(ส่วนยอดของกราฟค่อนไปทางขวา)
.Jpg K el v in Lighting
คงรู้กันดีว่ามันคือนามสกุลของไฟล์ภาพยอดนิยมที่กล้องแทบทุกตัวสร้างมันขึ้นมา คุณภาพของมันดี ในระดับหนึ่ง และเป็นภาพที่ถูกปรับอย่างส�ำเร็จรูปด้วยโปรเซสเซอร์ ในกล้องให้สวยในแบบที่ใครๆ ก็ น่าจะต้องการ แต่ถ้าบังเอิญอยากปรับ และเปลี่ยนอะไรในภาพมากๆ แล้วล่ะก็ ไฟล์สกุล RAW ที่ มีในกล่องรุ่นจริงจังจะช่วยได้มากกว่า
เมื่อการถ่ายภาพนั้นเกิดขึ้นด้วยแสง (Photography แปลว่าการ วาดภาพด้วยแสง) การดูทิศทางแสงในการถ่ายภาพจึงเป็นเรื่องที่ ควรค�ำนึงถึง แสงที่ส่องตรงๆ ด้านหน้านั้นให้ภาพสว่างใสแต่อาจ ท�ำให้ภาพแบนไร้มิติ แสงที่สาดด้านข้างนั้นสร้างเงาซึ่งช่วยเน้นรูป ทรงของวัตถุได้มากกว่า แสงด้านหลัง(หรือย้อนแสง) นั้นท�ำให้วัตถุ เหลือเพียงเงาด�ำซึ่งแสดงให้เห็นถึงเค้าโครง ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีอะไร ถูกผิด ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้สภาพแสงแต่ละแบบให้เหมาะสมได้อย่างไร และท�ำอย่างไรจึงจะได้ถ่ายภาพในสภาพแสงนั้นๆ
หน่วยของอุณหภูมิสีของแสงที่มีค่าวัดได้เป็นตัวเลขสี่หลัก ไล่เรียง ตั้งแต่เลขน้อย(สีอุ่น-แดง) ไปหาเลขมาก(สีเย็น-น�้ำเงิน/ม่วง) ซึ่งที่ จริงแล้วก็เป็นเรื่องเดียวกับ White Balance ที่พูดถึงไปแล้ว แต่ ใน กล้องระดับจริงจังจะสามารถตั้งค่าได้ละเอียดโดยการป้อนค่าองศา เคลวินที่ต้องการ โดยมีหลักจ�ำง่ายๆ คือแสงสีขาวจะมีค่าอุณภูมิสี ประมาณ 5400°K
Manual Focus Noise
เทคโนโลยีใหม่ๆ นั้นท�ำให้กล้องสามารถปรับโฟกัส(ระยะชัด)ได้เร็ว จนตาแทบมองไม่เห็น แต่ระบบปรับโฟกัสด้วยตนเองก็ยังเป็นสิ่ง จ�ำเป็นที่ต้องมี และได้ใช้กันบ่อยๆ เพราะบางครั้งระบบอัตโนมัติที่ เปรียบดั่งสมองอัจฉริยะก็ไม่สามารถรู้ใจมนุษย์ ได้ การฝึกปรือปรับ โฟกัสด้วยมือจนชินอาจช่วยให้เราหาระยะชัดได้เร็วไม่แพ้ระบบออ อย่างที่บอกไว้ว่า กล้องรุ่นใหม่ๆ สามารถถ่ายภาพด้วยความไว โต้โฟกัสก็เป็นได้ แสงสู ง ได้ มี คุ ณ ภาพดี และมี สั ญ ญาณรบกวนซึ่ ง เรี ย กว่ า Noise น้อยมากๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเอาซะเลย สิ่งที่ไม่พึง ประสงค์ชนิดนี้มักโผล่ ให้เห็นในบริเวณเงามืดสีด�ำๆ แต่ข่าวดีคือ โปรแกรมปรับภาพรุ่นใหม่ๆ ทั้งที่มาจากกล้อง รวมถึงโปรแกรม ยอดนิยมอย่าง Photoshop และ Lightroom นั้นมีความสามารถ ในการก�ำจัด Noise ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทางที่ดี ก่อนซื้อกล้อง ตัวต่อไป ควรพิจารณาเรื่อง Noise ให้ดีจะดีกว่า
Over Exposure P erspective Quick Control Rule of Third แปลตรงๆ คือการเปิดรับแสงมากเกินไป ท�ำให้ภาพนั้นขาว และ สว่ า งกว่ า ความเป็ น จริ ง ซึ่ ง ต้ อ งเน้ น ค� ำ ว่ า “ความเป็ น จริ ง ” ว่ า หากถ่ายภาพก�ำแพงสีขาว ก็ควรได้ภาพก�ำแพงสีขาวตาม “ความ เป็นจริง”
กล้องถ่ายภาพเป็นตาวิเศษที่เห็นมิติของสิ่งต่างๆ ได้แตกต่างจาก ตามนุษย์ เลนส์แต่ละขนาดที่ให้มุมภาพทั้งกว้างมากไปจนถึงแคบ มากนั้ น ท� ำ ให้ เ ราสามารถสร้ า งสรรค์ ภาพด้ ว ยทั ศ นมิ ติ แ บบต่ า งๆ แต่ข้อส�ำคัญที่ต้องค�ำนึงถึงคือ ล�ำพังเลนส์เพียงอย่างเดียวนั้นไม่ สามารถสร้างภาพที่มีทัศนมิติที่แตกต่างได้อย่างสมบูรณ์ โดยผู้ใช้ แม้กล้องระดับโปรฯ ที่สามารถปรับตั้งอะไรหลายๆ อย่างได้ละเอียด ต้องเข้าใจเรื่องระยะของทัศนมิติเองด้วย (อ่านต่อที่ Wide Angle ยิบ แต่ระบบ Quick Control ก็ยังมีในกล้องเหล่านั้น อย่าลืมใช้ Lens และ Telephoto Lens) มันเมื่อยื่นกล้องสุดโปรฯ ให้คนที่นิยมการถ่ายภาพแบบ “เล็งแล้ว กด” หรือบางที ในสถานการณ์บางอย่างของมือโปรฯ การเล็งแล้ว กดด้วยระบบง่ายๆ แบบนี้ก็อาจท�ำให้ไม่พลาดช็อตส�ำคัญที่เกิดขึ้น เพียงเสี้ยววินาที
กฏทองของการจัดองค์ประกอบภาพที่ควรรู้ ง่ายๆ คือแบ่งเฟรมของ ภาพให้เป็นด้านละ 3 ส่วนเท่าๆ กัน กลายเป็นช่อง 9 ช่อง และ วางจุดสนใจ และเส้นน�ำสายตาเอาไว้บนเส้น โดยจุดตัดทั้ง 4 ซึ่ง เป็นจุดที่สามารถสร้างความน่าสนใจ และสร้างความสมดุลย์ของ องค์ประกอบภาพมากที่สุด
Shutter Speed Telephoto Lens ความเร็วในการเปิดม่านชัตเตอร์เพื่อให้เซ็นเซอร์รับภาพได้รับแสง นั้น มีค่าตัวเลขเป็นเศษส่วนที่หารด้วย 2 เกือบลงตัว เช่น 1/500, 1/250, 1/125, 1/60, 1/30, 1/15, 1/8, 1/4, 1/2, 1, 2 วินาที ซึ่งให้ ค่าความสว่างของแสงที่ต่างกันขั้นละ 1 Stop เท่าๆ กับรูรับแสง จึง สามารถเพิ่ม และลดค่าแสงของความไวชัตเตอร์ และรูรับแสงอย่าง ผกผันกัน เพื่อที่จะได้ใช้ความไวชัตเตอร์ที่ต้องการได้ เช่น ใช้ความ ไวชัตเตอร์ต�่ำๆ (ช้าๆ) เพื่อถ่ายภาพน�้ำตกให้พริ้วไหว หรือใช้ความ ไวชัตเตอร์สูงๆ (เร็วๆ)เพื่อหยุดสิ่งเคลื่อนไหว
อย่าเพิ่งสับสนกับเลนส์ซูม ซึ่งหมายถึงเลนส์ที่สามารถเปลี่ยนทาง ยาวโฟกัส และเปลี่ยนมุมมองรับภาพได้ ส�ำหรับเลนส์ที่มีทางยาว โฟกัสมากกว่าเลนส์มาตรฐาน 50 มม.ของกล้องแบบเซ็นเซอร์เท่า ฟิล์ม (ซึ่งมีมุมภาพใกล้เคียงตามนุษ ย์) จะมีมุมรับภาพแคบกว่า ตาเห็น ผลที่ ได้ก็คือสามารถถ่่ายภาพสิ่งที่อยู่ไกลๆ ให้ใกล้เข้ามา สามารถถ่ายเจาะภาพมุมเล็กๆ และอีกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทัศนมิติ ของภาพ (Perspective) ก็คือ หากถ่ายภาพสิ่งของ(หรือมนุษย์) ที่ขนาดไม่ ใหญ่มากจากระยะไกล จะท�ำให้ฉากหลังของวัตถุดู ใกล้ ท�ำให้วัตถุดู โดดเด่น และสามารถใช้รูรับแสงกว้างๆ ในเลนส์ชนิด นี้เพื่อท�ำให้ฉากหลังเบลอ และฟุ้งกระจาย
ฟิ ล เตอร์ แ ผ่ น กลมๆ ที่ มั ก ซื้ อ มาโดยไม่ ตั้ ง ใจ นั ย ว่ า ใส่ เ อาไว้ เ พื่ อ ป้องกันหน้าเลนส์จากสิ่งต่างๆ ที่จะมาท�ำอันตราย แต่ที่จริงแล้ว ฟิลเตอร์ชนิดนี้มีประโยชน์ ในการตัดรังสียูวีสีม่วงๆ ที่ฟุ้งกระจาย อยู่ในอากาศ
เลนส์มุมกว้างจะมีทางยาวโฟกัสที่น้อยกว่า 50 มม.(ของกล้องที่มี เซ็นเซอร์ขนาดเท่าฟิล์ม) และมีมุมรับภาพที่กว้างกว่าตามนุษย์ นั่น หมายความว่า มันสามารถช่วยให้เราถ่ายภาพสิ่งที่อยู่ ใกล้ให้ไกล ออกไป นอกจากจะช่วยให้เราสามารถถ่ายภาพกว้างๆ ในสถานที่ จ�ำกัดแล้ว หากกล้อง(และเลนส์) อยู่ใกล้ฉากหน้า ฉากหน้าก็จะมี ขนาดใหญ่เป็นพิเศษเมื่อเทียบกับฉากหลังที่เล็กเป็นพิเศษ จนท�ำให้ รู้สึกได้ถึงทัศนมิติที่ลึก และกว้าง
UV Filter Wide Angle Vignett X-Shutter Zone System
ในเลนส์หลายๆ ตัว โดยเฉพาะเลนส์มุมกว้าง มักมีข้อเสียคือขอบ ภาพที่ได้มักจะมืดกว่ากลางภาพ บางทีความผิดพลาดของเลนส์ก็ถูก น�ำไปสร้างความโดดเด่นให้ภาพบางสไตล์อย่างการถ่ายภาพแบบโล โม่ แต่ถ้าไม่ต้องการ... อาการเช่นนี้จะหายไปเมื่อใช้รูรับแสงที่แคบ ในการใช้กล้อง SLR กับแฟลชนอกตัวกล้อง มีเรื่องที่ต้องท�ำความ และโปรแกรมปรับภาพสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ได้ เข้าใจเกี่ยวกับความไวชัตเตอร์สูงสุดที่สามารถท�ำงานร่วมกับแฟลช ได้ เรียกว่า X-Shutter ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ 1/125-1/250 วินาที หาก เร็วกว่านี้ม่านชัตเตอร์อาจเปิดไม่ทันการกระพริบของไฟแฟลช และ ภาพนั้นก็จะได้รับแสงสว่างจากแฟลชได้ไม่เต็มภาพ
เป็นเรื่องบังเอิญที่อักษรตัวสุดท้าย ช่างเหมาะเจาะกับเทคนิคระดับสูงที่น่าเรียนรู้ มันถูกสร้างโดยปรมาจารย์ภาพขาวด�ำ Ansel Adam ซึ่งเป็นเทคนิคเกี่ยวกับการวัดแสงในภาพเป็นส่วนๆ เพื่อวิเคราะห์ และท�ำนายว่าส่วนต่างๆ ในภาพจะมีน�้ำหนักของ สี และแสงเท่าใด อย่าลืมว่าสมัยนั้นไม่มี ใครได้เห็นภาพที่ตัวเองถ่ายจนกระทั่งน�ำฟิลม์ ไปล้าง แต่เทคนิคนี้ก็ละเอียดอ่อน จนช่างภาพสามารถรู้ได้ทันทีว่า ภาพที่ ได้จะเป็นเช่นไรตั้งแต่ตอนกดชัตเตอร์ และสามารถแก้ไขเพิ่มลดความสว่างในส่วน ต่างๆ ของภาพในขั้นตอนการอัดภาพในห้องมืด ท�ำให้ภาพที่ ได้มีโทนน�้ำหนักที่มีมิติมากที่สุด และความเข้าใจในเทคนิค นี้ก็สามารถน�ำมาใช้แม้ในยุคที่เราสามารถเห็นภาพได้ทันทีที่กดชัตเตอร์ แต่การวัดแสงที่ละเอียดอ่อนย่อมท�ำให้ได้ภาพที่ สมบูรณ์แบบ รวมทั้งเทคนิคการปรับแต่งในห้องมืดยุคดิจิตอลบนเครื่องคอมพิวเตอร์(โฟโต้ชอปนั่นแหล่ะ) ก็ท�ำให้ภาพที่ ได้ สมบูรณ์แบบมากที่สุดได้เช่นกัน
? s i a r e m a C r u o Y t a h W e r A You
The Perfectionist Your style
เป็นคนเอาจริงเอาจัง หากจะท�ำอะไรต้องท�ำให้ดีที่สุดเสมอ แม้บาง ครั้งอาจท�ำให้ขาดความคล่องตัวไปบ้าง
Your Camera
กล้องแบบ SLR ขนาดกลางที่มีคุณสมบัติหลากหลายที่สามารถตอบ สนองการถ่ า ยภาพได้ เ กื อ บทุ กรู ป แบบ ควบคุ ม ง่ายและเร็วพอที่จะ ตามเป้าหมายทัน ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล จึงเป็นกล้องที่ถูกหมายตา โดยผู้ที่คิดเอาจริงเอาจัง และที่เริ่มต้นศึกษาเทคนิคการถ่ายภาพ ซึ่ง คุณภาพนั้นก็ ไม่เป็นรองกล้องรุ่นใหญ่ๆ มากนักถ้านับจากราคามหา โหดและน�้ำหนักที่ต้องแลกมา
CANON EOS 7D
มีเซ็นเซอร์ที่ ใหญ่กว่ากล้องดิจิตอลทั่วๆ ไป ซึ่งหมายถึงคุณภาพการ เก็บรับแสงที่สูงกว่า ความละเอียด 18 ล้าน pixel ใช้ค่าความไวแสง (ISO) สูงที่ ให้คุณภาพดี การท�ำงานที่รวดเร็ว สามารถถ่ายภาพต่อ เนื่องได้ 7 ภาพต่อ 1 วินาที ซึ่งเกินพอแล้วส�ำหรับงานทั่วไป มีขนาดและน�้ำหนักที่พอเหมาะไม่ต้อง”แบก”น�้ำหนักที่มากจนเกินไป ท�ำให้สนุกกับการถ่ายภาพได้มากขึ้น มีปุ่มปรับที่สามารถควบคุม และเข้าถึง Mode และ function ต่างๆ ได้ ในทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูที่ซับซ้อนเหมือนอย่างกล้องรุ่นเล็ก ท�ำให้ รวดเร็วทันทุกความต้องการ ถึงแม้จะดูวุ่นวาย แต่ไม่ยากเกินความ เข้าใจ และมีประโยชน์มาก กล้องดิจิตอล SLR ที่มีจอที่สามารถดูภาพขณะถ่ายได้จากจอด้านหลัง กล้อง (Live View) ท�ำให้สามารถถ่ายภาพในระดับสูง-ต�่ำเป็นพิเศษ โดยไม่ต้องใช้ตาเล็งช่องมองภาพ ระบบถ่ายภาพวีดโี อระดับสูงสุดแบบ Full HD ท�ำให้ผกู้ ำ� กับหลายคนเลือก ใช้กล้องตัวนีถ้ า่ ยภาพยนต์ โฆษณา และรายการโทรทัศน์ วัสดุของกล้องชนิดนี้เป็น Magnesium Alloy ซึ่งแข็งแรงมาก แต่มี น�ำ้ หนักเบา สามารถใช้งานได้คอ่ นข้างสมบุกสมบัน และยังมีการ ซีลกันน�ำ้ ได้แน่นหนาพอส�ำหรับการถ่ายภาพกลางฝนปรอยๆ มีระบบก�ำจัดฝุ่นละอองบนเซ็นเซอร์ และระบบจัดการ ภาพที่มีต�ำหนิเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
New Comer Your style
เป็นคนมีความใฝ่ฝัน และความมุ่งมั่นที่อยากจะท�ำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ในอนาคต ซึ่งรู้ดีว่าต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นก้าวแรก!!
Your Camera
กล้ อ งแบบ SLR ที่ ข นาดเล็ ก และราคาประหยั ด ที่ สุ ด ในกลุ ่ ม นี้ เป็นกล้องตัวแรกที่ถูกหมายตาโดยผู้ที่คิดเอาจริงเอาจังที่จะศึกษา เทคนิคการถ่ายภาพ ซึ่งแน่นอนว่ามันมีทุกอย่างให้ทดลองและ เรียนรู้ไปได้อีกนาน คุณภาพก็ไม่เป็นรองกล้องรุ่นใหญ่ๆ ถ้าไม่ เจอศึกหนักเข้าจริงๆ
NIKON D3100
ดี ไ หมถ้ า กล้ อ งถ่ า ยรู ป สามารถสอนวิ ธี การถ่ า ยรู ป ที่ ควรอย่ า ง ง่ายๆ ได้ Guide Mode ที่แนะน�ำการถ่ายรูปลักษณะต่างๆ ไม่ ว่าจะเป็นการถ่ายภาพคน สัตว์ สิ่งของ ทะเล ภูเขา น�้ำตก กีฬา ทั้งกลางวันและกลางคืน ให้หายข้องใจว่าจะถ่ายรูปยังไงดี กล้ อ งเล็ ก ที่ ส ามารถท� ำ อะไรได้ ห ลายอย่ า งจนเกิ น หน้ า เกิ น ตา กล้องรุ่นพี่ไปเยอะ ทั้งถ่าย VDO แบบ full HD ได้ แก้ความคลาด เคลื่อนของเลนส์ ได้ Mode ถ่ายภาพส�ำเร็จรูปแบบต่าง และ ภาพถ่ า ยขนาด 14.2 ล้ า น pixel ที่ ดี ม ากพอที่ จ ะท� ำ อะไรได้ หลายๆอย่าง ขนาดที่เล็กและน�้ำหนักเบามาก จึงไม่เป็นอุปสรรคในการเดิน ทางไปในที่ต่างๆ แต่มี function ครบทุกการใช้งานที่จ�ำเป็น ลูกเล่นสนุกๆ แปลกๆ ให้สามารถตกแต่งภาพเหมือนท�ำ Photoshop ได้ในตัวกล้อง ทั้งก่อนถ่าย และหลังถ่าย มีเลนส์หลากชนิด หลายช่วงให้ใช้เยอะมาก ทั้งจาก Nikon เอง และจากค่ายอิสระต่างๆ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริม เป็ น กล้ อ งที่ ใ ช้ ง ่ า ยมากไม่ ต ่ า งจากกล้ อ ง compact ที่ แ ค่ ถ ่ า ย กล้ อ งก็ ค� ำ นวนให้ ไ ด้ ทุ ก อย่ า ง ดั ง นั้ น ไม่ ว ่ า จะให้ ใ ครถ่ า ยก็ ส วย ได้ไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าอยากคิดมาก อยากปรับตั้งอะไรเองก็ ท�ำได้เช่นกัน
The Artist Your Style
เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ และต้องการแสวงหาความเป็นตัว ตนที่แตกต่าง
Classy Classic Your Style
เชื่อว่าความสวยงามในวันเก่าก่อนที่ผ่านการพิสูจน์ด้วยกาลเวลานั้น เป็นความงดงามที่จีรังเสมอ
Your Camera
ดู เ หมื อ นจะเงี ย บหายไปในช่ ว งยุ ค เปลี่ ย นถ่ า ยจากโลกการถ่ า ย ภา พด้วยฟิลม์มาเป็นยุคดิจิตอล แต่ในที่สุด กล้องแบรนด์เก่าแก่หรูหรา จากเยอรมั น ก็ ก ลั บ มายึ ด ครองความเป็ น หนึ่ ง ของกล้ อ งมี ร ะดั บ ที่ รักษาสมดุลความทันสมัยแบบกล้องดิจิตอล ในรูปลักษณ์ทคี่ ลาสสิค และมีระดับ คือความภูมิใจของผูใ้ ช้ คืองานศิลปะ(ตัวกล้อง) ที่สร้างผล งานศิลปะ(ภาพถ่่าย) เป็นความสุนทรีในการถ่ายภาพ เหมือนได้จิบ ไวน์ชั้นเลิศที่เราได้บ่มเอง
LEICA M9
สั ญ ลั ก ษณ์ LEICA ในวงกลมสี แ ดงคื อ แบรนด์ ที่ บ ่ ง บอกความภาค ภูมิใจได้ชัดเจนที่สุด ส่วน M9 คือรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล M ซึ่งจัด เป็นตระกูลที่สร้างชื่อให้ LEICA มากที่สุดเช่นกัน M9 รุ่นนี้คือรุ่นพิเศษที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ใช้ TITANIUM เป็นวัสดุ แต่ ยังถูกออกแบบโดย Walter de’Silva ซึ่งเป็นนักออกแบบรถยนต์ค่าย Volkswagen และ AUDI สไตล์การปรับตั้งกล้องที่เปิดโอกาสให้เราควบคุมทุกอย่างเอง ทั้งระยะ ชัด ความชัดลึก เวลาการเปิดรับแสง และอารมณ์ ท�ำให้การถ่ายภาพ คือเรื่องสนุกที่เรียบง่าย ดีไซน์เรียบหรู ท�ำให้กลมกลืนกับรอยยิ้มของผู้คน และไม่แปลกแยก ตกเป็นเป้าสายตาเมื่อเดินถ่ายภาพบนท้องถนน (ซึ่งจริงๆแล้วในปัจจุบัน ใครใช้ Leica คนคนนั้นต่างหากที่เป็นเป้าสายตา) ช่องมองภาพแบบเรนจ์ ไฟเดอร์ ปรับระยะชัดแบบสปลิทไฟน์เดอร์ อาจ ต้องใช้เวลาในการท�ำความคุ้นเคยซักพัก และถ้าช�ำนาญในการใช้งาน แล้วละก็ จะรวดเร็วและแม่นย�ำมาก CCD และ Processor ของ Leica ถ่ายทอดออกมาให้ค่าความเปรียบ ต่างที่ชัดเจน ไล่โทนได้นุ่มนวล และสีสันที่หวานนุ่มไม่ฉูดฉาดเกินไป เป็นเสน่ห์ที่ท�ำให้ Leica เป็นกล้อง และเลนส์ระดับต�ำนานที่ผู้คนทั่ว โลกหลงใหลที่ความละเอียด 21 ล้าน pixel มีเลนส์คุณภาพสูงมากมายหลายช่วง หลายยุค หลายสมัย ซึ่งเลนส์ แต่ละรุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างกันไป เสียงชัดเตอร์ที่เงียบ และนิ่งมาก ท�ำให้ไม่รบกวนสิ่งต่างๆ รอบข้าง แม้ แ ต่ ใ นงานแสดงของวงซิ ม โฟนี่ ที่ ต ้ อ งการความเงี ย บเชี ย บก็ ไ ม่ มี ปัญหา ตั ว กล้ อ งแข็ ง แรง ทนทาน ทุ ก อย่ า งแน่ น หนา ใช้ วั ส ดุ คุ ณ ภาพสู ง มาก ท�ำให้หมองและเก่ายากมาก ซึ่งจริงๆ แล้ว Leica เป็นกล้อง ที่ยิ่งเก่ายิ่งดูดี
Your Camera
กล้ อ งที่ ก ล้ า แตกต่ า งด้ ว ยแนวคิ ด ที่ ห ยิ บ เอาสไตล์ ก ล้ อ งรุ ่ น เก่ า อย่างเรนจ์ ไฟเดอร์(ซึ่งมีมาก่อนกล้อง SLR ฟิลม์ซะอีก) มาใส่ ไว้ในกล้องดิจิตอล ความโดดเด่นอย่างชัดเจนคือขนาดที่เล็กกว่า SLR แต่ถอดเปลี่ยนไปเลือกใช้เลนส์ ได้อย่างไร้ขีดจ�ำกัด รวมถึง เลนส์ โ บราณคุ ณ ภาพเยี่ ย มจากร้ า นขายกล้ อ งเก่ า ก็ ส ามารถใช้ กับกล้องชนิดนี้ ได้ แถมด้วยลูกเล่นฟังค์ชั่นสไตล์การถ่ายภาพ แปลกๆ ที่ไม่มีในกล้องทั่วๆ ไป
OLYMPUS EP2
ดีไซน์ย้อนยุคเก๋ๆ แนวๆ ท�ำให้วัยรุ่นนิยมมาก คนที่ใช้ Olympus Ep2 จะดูเป็นวัยรุ่นขึ้นมาทันทีเลย ระบบการควบคุมที่ใช้ง่าย และรองรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ท�ำให้ เพิ่มลูกเล่นได้ตามต้องการ เปลี่ยนเลนส์ ได้ ใช้ได้ทั้งเลนส์ของ OLYMPUS เอง หรือใช้ อแดปเตอร์ แ ปลงเมาท์ ไ ปใช้ เ ลนส์ ต ่ า งยี่ ห ้ อ ได้ เ กื อ บเต็ ม ระบบ รวมถึงเลนส์ โบราณที่มีเสน่ห์ ไปอีกแบบ ถ้าใช้เลนส์รุ่นโบราณซึ่งเป็นเลนส์แมนนวลที่ต้องปรับโฟกัส อาจ จะติดปัญหาเรื่องปรับโฟกัสยาก แต่กล้องตัวนี้ก็มีระบบหน้าจอ ที่ขยายภาพตรงกลางให้เห็นว่าชัดดีแล้วหรือยัง ถ้าชัดแล้วก็จะ มีสัญลักษณ์บอก มีลูกเล่นสไตล์การถ่ายภาพแปลกๆ ที่ไม่มีในกล้องทั่วๆ ไป เช่น ภาพแบบโลโม ภาพซีเปีย ภาพสีกลับ (Cross Processing) ภาพแบบเลนส์ตาปลา ภาพสีแบบการ์ตูน และอีกหลายอย่างที่ สามารถดาวน์ โหลดมาใส่เพิ่มได้ มีของแต่งเพิ่มความแนวมากมาย เช่น กระเป๋าหนัง สายคล้อง คอ ช่องมองภาพแบบแปลกๆ เลนส์ที่สร้างลูกเล่นต่างๆ สีและ ป้ายชื่อที่จะให้กล้องของเราไม่มีใครเหมือน ถึงจะเต็มไปด้วยระบบแหวกแนว แต่ระบบถ่ายภาพ และคุณภาพ ของไฟล์ที่ได้นั้นมีคุณภาพที่ดีมากพอที่น�ำไปใช้งานจริงๆ จังๆ ได้
Your Style ความเป็นเด็กยังมีอยู่ ในตัวทุกคน เป็นผู้ที่ยังรักที่จะสนุกกับการต่อ ติด ประกอบ และทดลองเล่นอะไรใหม่ๆ
Your Camera กล้องคุณภาพสูงขนาดกระทัดรัดที่มีอุปกรณ์เสริมมากมายให้ซื้อหามาเพิ่ม
Don’t think... Just feeling
สมรรถนะ เปิดโอกาสให้ผู้เป็นเจ้าของได้สนุกกับการแต่งตัวให้กล้องตัวนี้ มีอะไรใหม่ๆ เสมอ
Ricoh GXR เป็นกล้องที่มีแนวคิดคล้ายกับการเปลี่ยนเลนส์ ได้ แต่นี่เล่นเปลี่ยนยกชุด
ทั้งตัวรับภาพพร้อมเลนส์เลย ข้อดีคือสามารถพัฒนาความละเอียดของ ตัวรับภาพได้ แต่ละชุดมีลูกเล่นและความสามารถที่ต่างกัน เช่นบางตัวถ่ายวีดิโอแบบ full HD ได้ บางตัวถ่ายในที่มืดได้ดีมากๆ บางตัวใช้ส�ำหรับถ่ายภาพมาโคร บางตัวก็มีช่วงเลนส์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ มุมกว้างขนาด 28 มม. ไปจนถึง 300 มม. (เทียบกับกล้องฟิล์ม 35 มม.) ปุ่มปรับต่างๆอยู่ ในต�ำแหน่งที่ง่ายต่อการกด เข้ากับสรีระของมือ และ สามารถสลับการควบคุมของปุ่มบางปุ่มได้ตามความถนัด ในอนาคตอาจมีอปุ กรณ์เสริม หรือชุดโมดูลเลนส์ทเี่ พิม่ ขอบเขตการท�ำงานของ กล้องได้โดยที่ไม่จำ� เป็นต้องซือ้ กล้องใหม่ (เพราะทุกอย่างไปอยูท่ ชี่ ดุ เลนส์แล้ว)
Your Style
คนรักอิสระ ไม่ต้องคิด ไม่ยึดติด และไม่ต้องคาดหวังผลจาก สิ่งที่ท�ำ
Your Camera
กล้องพลาสติกคุณภาพต�่ำที่ปรับอะไรไม่ได้เลย และไม่มีระบบ อัจฉริยะเสียด้วย แต่บังเอิญมันให้ภาพที่แปลกอย่างไม่น่าเชื่อ จึ ง ไม่ มี อ ะไรซั ก อย่ า งให้ ยึ ด ติ ด และไม่ ต ้ อ งคิ ด หรื อ คาดหวั ง อะไร ใช้แค่ความรู้สึกกับปุ่มชัตเตอร์ ภาพที่ ได้ก็อาจเป็นอะไร ที่ไม่คาดคิดเช่นกัน
The Transformer Your Style แค่อยากมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน Your Camera กล้องที่ปรับตั้งอะไรเองได้นั้นดีส�ำหรับคนที่ถ่ายภาพเป็น แต่ส�ำหรับใครที่ “แค่ อยากถ่ายภาพให้สวย” นั้นคงมองหากล้องที่เล็ก ใช้ง่าย รูปลักษณ์น่าพกพา และฉลาดเพียงพอที่จะเก็บภาพสวยๆ ด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์เพียงปุ่มเดียว
Panasonic Lumix FX-65 กล้องขนาดเล็ก พกพาสะดวกไม่ต่างจากโทรศัพท์ สามารถเอาไปได้ทุกที่ทุก
เวลา และราคาไม่แพงมาก ใช้งานง่ายด้วยระบบอัตโนมัตที่ผู้ใช้ไม่ต้องคิดอะไรเลย ได้ภาพสวยแค่ยกขึ้น และกดชัตเตอร์ ด้วยเลนส์ที่มีมุมกว้างเป็นพิเศษ 25 มม.(ช่วงเลนส์เมื่อเทียบกับกล้องฟิล์ม 35 มม.) ช่วยให้โลกนี้ดูกว้างใหญ่ขึ้นเยอะ เลนส์ออกแบบโดย Leica ที่ให้คุณภาพ และความสว่างสูง จึงสามารถท�ำงาน ได้ดีแม้แต่ในสภาพแสงที่ไม่ดี สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ HD และมี Function เสริมมากมาย ที่ช่วยให้ ปุ่มกด การตั้งค่าต่าง และเมนูที่เข้าใจง่ายสะดวกในการใช้งาน ภาพขนาด 12 ล้าน pixel ที่ได้จากกล้อง คุณภาพดีมากพอที่จะขยายใหญ่ ขนาด A3 ได้สบายๆเลยที่เดียว
Simply Shooting
LOMO DIANA
กล้องแปลกๆ ดูบ้านๆ ที่ยกขึ้นมาแล้วไม่มี ใครสนใจ คุณจึงไม่ เป็ น เป้ า สายตา (แต่ ด ้ ว ยกระแสนิ ย ม ก็ อาจเป็ น เป้ า สายตาใน ทางตรงกันข้าม) ช่องมองภาพที่คุณภาพต�่ำท�ำให้ไร้ประโยชน์สิ้นดี จึงไม่ต้องใช้ ไม่ต้องเล็ง แค่ยกกล้องแล้วกด ข้อดีคือท�ำให้ถ่าย(ภาพ)ได้ทุกท่า และได้มุมแปลกๆ กว่าที่ตาเห็น(เพราะไม่ได้ใช้ตาเล็ง) เลนส์สีเพี้ยนระดับโลกที่ถ่ายรูปอะไรมาก็ดูอาร์ตไปหมด พร้อม กับระบบ focus ที่มีแค่ระยะ ใกล้ กลาง ไกล แบบชัดก็ดีไม่ชัด ยิ่งดีกว่า ด้วยคุณสมบัติที่ถูกเรียกว่า คิดน้อยต่อยเลย จึงไม่จ�ำเป็นต้อง คาดหวั ง กั บ รู ป ที่ ถ ่ า ยในขณะนั้ น ไปรอลุ ้ น ดู ภาพเอาตอนล้ า ง film เสร็จ ด้วยคุณสมบัติสีเพี้ยนสุดๆของเลนส์ จึงไม่จ�ำเป็นต้องใส่ใจว่าจะ ต้องใช้ฟิล์มอะไร ใช้ได้ทุกชนิดแม้กระทั้งฟิล์มหมดอายุ
Smart & Compact
Your Style เป็นคนตามทันโลกเสมอ มองเห็นสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนบนโลก
Your Style
Your Camera กล้องแนวคิดใหม่ที่ทั้งเล็ก หน้าตาล�้ำยุค เปลี่ยนเลนส์ ได้มากมาย และ
ชีพจรลงเท้า เดินทางไม่เคยหยุด แต่เป็นคนที่เตรียมพร้อมไว้ เสมอทุกสถานการณ์
มีระบบใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง
SONY Nex 5 เป็นกล้องที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในปัจจุบัน
Your Camera
ช่างภาพมืออาชีพมักมีกล้องแบบนี้ไว้พกติดตัวประจ�ำวัน เหตุผล คื อ กล้ อ งชุ ด ใหญ่ แ บบมื อ อาชี พ นั้ น หนั ก และเทอะทะเกิ น ไป ส�ำหรับชีวิตประจ�ำวัน แต่ถ้าอยากถ่ายภาพขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะ? กล้ อ งตั ว (ค่ อ นข้ า ง)เล็ ก ที่ มี ร ะบบปรั บ ตั้ ง เกื อ บครบทุ ก อย่ า งจะ ตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี
ภาพนิ่งความละเอียด 14 ล้าน pixel พร้อมระบบถ่ายภาพวีดีโอระดับ สูงสุดแบบ Full HD ที่สามารถใช้ในงานสื่อโฆษณาได้สบาย มีชุดแปลงเมาท์ ใส่เลนส์ที่ท�ำให้ใช้เลนส์ทุกตัวของ Sony ได้อย่างเต็ม ระบบ และรองรับเลนส์รุ่นใหม่ในอนาคต ถ่ายภาพพาโนรามาง่ายมากแค่เปิด Mode Sweep Panorama แล้วแพน กล้องตามแนวระนาบ หรือแนวตั้งก็สามารถได้ภาพแล้ว จอแบบสัมผัสที่ใช้งานง่าย และมีคู่มือช่วยเหลือที่อธิบายการใช้งานของ function ต่างๆในกล้องโดยไม่จ�ำเป็นต้องง้อคู่มือเลย มี Function สไตล์การถ่ายภาพแปลกๆ พร้อมลูกเล่นใช่คู่กับอุปกรณ์ เสริมต่างๆได้มากมาย
NIKON P7000
เป็นกล้องที่ท�ำให้เราสามารถถ่ายรูปเล่นได้ทุกวัน ติดกระเป๋าเอา ไปที่ ไหนก็ ได้ และคุณภาพที่ดีไม่แพ้กล้อง DSLR เลย แม้ความละเอียดเพียง 10 ล้าน pixel แต่ภาพที่ได้ คุณภาพดีมาก ให้รายละเอียดดีเยี่ยมในระดับที่ไม่แพ้กล้อง DSLR มีทั้งระบบอัตโนมัติที่ผู้ใช้ไม่ต้องคิดอะไร ไปจนถึงระบบแมนนวล ที่สามารถควบคุมทุกอย่างด้วยตนเอง ปุ ่ ม ปรั บ ต่ า งๆ อยู ่ ใ นต� ำ แหน่ ง ที่ ง ่ า ยต่ อ การกด และเป็ น ธรรมชาติ สามารถสลับปุ่มควบคุมการท�ำงานได้ตามความถนัด แป้นควบคุมที่เข้าถึงเมนูส�ำคัญที่ ใช้ประจ�ำได้ทันทีเพื่อการปรับ ตั้งฟังค์ชั่นต่างๆ โดยตรง ไม่ต้องกดเข้าเมนู และยังสามารถ ก�ำหนดการเข้าถึงเมนู ได้ตามต้องการอีกด้วย ถ่ายวิดีโอระดับ HD ยาวต่อเนื่องไม่จ�ำกัด สามารถ zoom เข้า ออก และปรับโฟกัสได้ตลอดเวลาที่ถ่ายวิดีโอ ซึ่งกล้องรุ่นใกล้ เคียงไม่สามารถท�ำได้ มีระดับน�้ำบอกระดับเส้นขอบฟ้า และแสดงข้อมูลการถ่ายภาพ Zone system 9 ระดับ และค่าการปรับต่างๆอย่างละเอียดที่ สามารถเลือกได้ว่าต้องการแสดงอะไรหรือไม่แสดงอะไรก็ได้ จุดเด่นของกล้องรุ่นนี้คือมีซอฟต์แวร์ ในตัวกล้องที่แก้ใขข้อข้อ ผิดพลาดที่เกิดจากเลนส์ เช่น ความบิดเบี้ยวของภาพ (Distortion) ค่าความคลาดเคลื่อนสี (Chromatic Aberration) และป้องกัน ภาพสั่นไหว ช่วงเลนส์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ มุมกว้างขนาด 28 มม. ไปจนถึง 200 มม. (ช่วงเลนส์เมื่อเทียบกับ กล้องฟิล์ม 35 มม.) ที่มีความสว่าง สู ง ที่ ท� ำ งานได้ ดี แ ม้ แ ต่ ใ นกลาง คืนที่สภาพแสงที่ ไม่ดี
Man From Tomorrow Your Style ปีนเขา เข้าถ�้ำ ด�ำน�้ำ ลุยหิมะ ข้ามทะเลทราย เที่ยวในเมือง ถึงไหนถึงกัน
ไม่หวั่นทุกสถานะการณ์
Your Camera กล้องที่พร้อมเดินทางไปกับนักผจญภัย พร้อมเก็บภาพทุกสถานการณ์ ไม่ ว่าจะถ่ายรูปใต้น�้ำ ตกกระแทก หรือคลุกฝุ่น
Olympus Tough Mju 8010 กันน�้ำลึกได้ 10 เมตร กันกระแทกได้ 100 กิโลกรัม กันฝุ่น กันความร้อน
และความเย็นได้ระดับหนึ่ง จึงแทบไม่จ�ำเป็นต้องกังวลอะไรทั้งสิ้นในการ ตะลุยไปในที่ต่างๆ ขนาดที่กระทัดรัดที่ ไม่ต่างจากกล้องทั่วๆ จึงไม่เป็นปัญหาในการพกพา และใช้งานได้ปกติไม่ต่างกันมาก ปุ่มกด ตัวจับ และช่องเสียบอุปกรณ์เสริมต่างๆ มีการซีลกันน�้ำ กันฝุ่น ละอองอย่างแน่นหนา แข็งแรงมาก มากพอที่ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบัน ระบบการถ่ายภาพสมบูรณ์แบบที่มี Function เสริมมากมาย แค่ยกขึ้น แล้วถ่ายก็ได้ภาพสวยๆไม่ยาก เลนส์มุมกว้างขนาด 28 มม. (ช่วงเลนส์เมื่อเทียบกับกล้องฟิล์ม 35 มม.) ท�ำให้โลกนี้ดูกว้างใหญ่ขึ้นเยอะ ภาพขนาด 12 ล้าน pixel ที่ได้จากกล้อง คุณภาพดีมากพอที่จะขยายใหญ่ ขนาด A3 ได้สบายๆเลยทีเดียว
The Adventurer
DAZZLING JOURNEY 155
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งธรรมชาติ
นิวซีแลนด์
Beautiful Land Beautiful People
New Zealand
นิวซีแลนด์เป็นประเทศที ่ผมหลงรักเกือบจะทันทีที ่ได้สัมผัส เป็นความ รักที ่นิ ่งๆ ลึกซึ ้ง ไม่หวือหวา แต่เปี ่ยมพลังเป็นประเทศที ่คนที ่มาด้วย บอกว่า “เป็นประเทศเดียวนอกจากบ้านเราที่มาถึง แล้วรู้สึกว่า ถ้าให้ มาอยู่ก็อ ยู่ได้” เพราะนิ ว ซี แ ลนด์ เ ป็ น อี ก ที่ ห นึ่ ง ในโลกที่ เ ราสามารถสั ม ผั ส ถึ ง พลั ง ศักดิ์สิทธิ์ของธรรมชาติได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยไม่ต้องดิ้นรนไปสู่ “จุด หมายปลายทาง” ใดๆ เพราะทุกจุด ทุกสถานที่ และเส้นทาง มีความ งามของธรรมชาติที่แตกต่างหลากหลายอยู่ ในตัวเอง และที่ดีที่สุดก็คือ แต่ละที่ไม่มีคนแออัดยัดเยียด ยิ่งกว่านั้น ผมได้ค้นพบโดยไม่คาดหมายว่า คนนิวซีแลนด์เป็นมิตร และ น่ารัก มากกว่า “เมืองยิ้ม” ที่เราภูมิใจกันเสียอีก อาจเป็นเพราะประเทศ นี้เป็นประเทศที่คนรักธรรมชาติ ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ จึงมีจิตใจอ่อนโยน และมีศิลปะในตัวเอง ในงานชิ้นนี้ผมตัดสินใจจะเขียนน้อยๆ และใช้ภาพเป็นสื่อน�ำไปสัมผัส พลังแห่งธรรมชาติแทน….ตามผมมาเลยครับ
เราเริ่ ม ต้ น การเดิ น ทางจากการแวะพั ก บ้ า นเพื่ อ นที่ ช านเมื อ ง Christchurch แค่ ตื่ น เช้ า มารอบๆบ้ า นก็ ไ ด้ สั ม ผั ส ธรรมชาติ เต็มที่แล้ว
เราใช้ เ วลาวั น แรกเกื อ บทั้ ง วั น ชื่ น ชมธรรมชาติ ใ นสวน พฤกษศาสตร์ของ Christchurch
Akaroa เมื อ งตากอากาศชายทะเลที่ ห่ า งจาก Christchurch แค่ 75 กม.
จาก Christchurch เราเดินทางลงใต้สู่ Dunedin ผ่าน Oamaru เมืองเล็กๆ ที่เหล่าศิลปินไปดัดแปลงตึกเก่าให้กลายเป็นสตูดิโอ และแกลเลอรีเล็กๆ จนเป็นเมืองที่ไม่น่าพลาดอีกเมืองหนึ่ง
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งธรรมชาติ
...เราตั ้ ง ใจกั น ว่ า จะเที่ ย วกั น แบบสบายๆ ไม่ รี บ ร้ อ น จึ ง วางแผนจะอยู ่ ท ี ่ Dunedin และบริ เวณรอบๆสั ก สามสี่ วั น และ ก็ปรากฏว่ า สถานที ่ เล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีช ื่อเสียงรอบ Dunedin กลายเป็นจุดที่ดีท ี่สุดจุดหนึ่งในการเดินทางครั้งนี้...
นิวซีแลนด์
Beautiful Land Beautiful People New
Zealand
ร้านกาแฟเก๋ไก๋ที่ Port Chalmers ชานเมือง Dunedin
สั ม ผั ส ธรรมชาติ ที่ Aramoana แค่ 27 กม.จาก Dunedin เจ้าแมวน�้ำตัวที่เห็นนอนนิ่งสงบเสียจนมีคนเผลอเดินไปสะดุด แล้วโดนมันไล่เอา เลยมีท่าแหยงๆ อย่างที่เห็น
ทรายวิ่งที่ Doctors Point ชายหาดพื้นบ้านเล็กๆ ที่ไม่มีชื่อเสียง ซึ่งกลายเป็นจุดหนึ่งที่น่าประทับใจที่สุด
อาหารยอดฮิตประจ�ำทริป Fish & Chips
ทิวทัศน์รอบๆ เมือง Dunedin ไม่ต้องไปไหนไกลก็สวยแล้ว
โรงเรียนนี้คงมีความสุขกันทั้งครูและนักเรียน
Akaroa เมื อ งตากอากาศชายทะเลที่ ห่ า งจาก Christchurch แค่ 75 กม.
Saint Claire บริเวณหนึ่งที่ถือว่าเป็นถิ่นไฮโซ ของ Dunedin
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งธรรมชาติ
นิวซีแลนด์
Beautiful Land Beautiful People New
Zealand
First Church of Otago ใน Dunedin ถือว่าเป็นโบสถ์สมัย ศตวรรษที่ 19 ที่สวยงามที่สุดของนิวซีแลนด์
สถานีรถไฟ Dunedin เป็นจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชอบแวะไป ถ่ายรูป
บรรยากาศในมหาวิทยาลัย Otago ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่า แก่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เต็มไปด้วยธรรมชาติร่มรื่น
ผู้คนดูสบายๆ ไม่รีบร้อน
ตอนถ่ายรูปหมากรุกในสวนสาธารณะอยู่มีเด็กเดินมาเล่น เรา เลยถ่ายรูปเด็กไปด้วย คุณแม่เป็นมิตรมาก ตะโกนบอกชื่อลูก เสร็จสรรพ
อาจจะเป็นด้วยความใกล้ชิดกับธรรมชาติที่มีอยู่ทุกแห่งรอบตัว ท� ำ ให้ นิ ว ซี แ ลนด์ เป็ น ที่ ห นึ่ ง ที่ มีผ ลงานศิ ล ปะที่ น ่ าสนใจมาก มี Art Gallery อยู่ทุกที่ แม้แต่ ในเมืองเล็กๆ
วันสุดท้ายก่อนออกจาก Dunedin เพื่อเดินทางวนไปรอบเกาะ ใต้ เราได้แวะไปที่ Moeraki Boulders ชายหาดที่มีหินขนาด กลมก้อนใหญ่เรียงรายอยู่อย่างน่ามหัศจรรย์
และได้ไปกินอาหารที่ภัตตาคารเล็กๆแต่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง ของนิวซีแลนด์ ชื่อ Fleur’s Place ในหมู่บ้านชายทะเล Moeraki ได้กินปลาค้อดที่สดที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเลย
...ยังไม่ทันได้ออกไปไหนไกลก็สวยขนาดนี้แล้วครับ แต่พื้นที่หมดเสียก่อน ไว้ต ิดตามกันต่อฉบับหน้านะครับ...
160 DAZZLING DINING
Panorama
Panorama is a wide-angled view of the city on the 23rd floor that allows guests to soak in the stunning view from a nice and cozy restaurant. Set in open air, Panorama provides a bar where guests can enjoy delightful aperitif and watch the chef skillfully preparing meals – a nice way to boost up appetite before getting hands on the dish.
Panorama คือทิวทัศน์ในมุมกว้างของเมืองกรุง ที่มองเห็นได้เต็มตาจากห้องอาหารบนชั้น 23 ของโรงแรมแพนแปซิฟิคที่น่าดึงดูดใจ และ สายตาไม่แพ้การแสดงสดของเชฟในครัวที่เปิดโล่ง เป็นการแสดงศิลปะการท�ำอาหารของศิลปินเป็นการเรียกน�้ำย่อย ก่อนที่จะได้ชื่นชมผลงาน ศิลปะทางรสชาติ
Recommended menu include Canadian lobster tom yum kung, champignon mushroom and coconut shoot served with jasmine rice and salted Colorado lamb ribs from the Himalayan. Ratatouille, Garle Parmesan cheese and lamb sauce in lime that adds a unique flavor to the Australian rib or try premium beef from around the world available in type and weight of your choice.
ครัวแบบเปิดโล่งสีขาวสว่างสร้างความโดดเด่นที่ตัดกันอย่างลงตัวของบานไม้แกะสลักที่สวยงาม บรรยากาศภายในร้านที่ดูอบอุ่นสบาย โดยเฉพาะระเบียงที่เปิดรับอากาศสบายๆ ภายนอก มีเคาน์เตอร์บาร์ ให้นั่งดื่มด�่ำกับบรรยากาศก่อนถึงมื้ออาหาร เมนูแนะน�ำที่หาทานที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ที่เดียวเท่านั้นอย่าง ซุปใสแบบต้มย� ำ ใส่กุ้งล็อบสเตอร์แคนาเดียน เห็ดแชมปิญอง และยอด มะพร้าวอ่อน เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิ และซี่โครงแกะโคโลราโดหมักเกลือจากเทือกเขาหิมาลัย ราตาตุย การ์เลตพาร์เมซานซีส และซอส แกะกลิ่นมะนาว ที่ให้รสสัมผัสที่ต่างจากซี่โครงแกะออสเตรเลียนทั่วๆอย่างชนิดที่ต้องมาลิ้มลองเอง หรือจะเป็นเนื้อวัวชั้นเลิศที่เลือกได้ ตามความต้องการ โดยพ่อครัวจะยกชิ้นเนื้อมาให้ดูที่โต๊ะแล้วตัดชั่งกันตรงนั้นเลย มีทั้งเนื้อแองกัสออสเตรเลียนขุน 240 วัน เนื้อวากิวขุน 500 วัน และสุดยอดเนื้ออย่างเนื้อมัตซึซากะญี่ปุ่น เป็นเนื้อที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น เลือกเข้าคู่กับซอสมากมายที่มีให้เลือกตามความต้องการ ที่ห้องอาหาร Panorama ช่วงนี้มีเทศกาลอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ชื่อ Live kitchen buffet ในคืนวันศุกร์-เสาร์ และวันอาทิตย์มื้อเที่ยง อาหาร บุฟเฟ่ต์ที่นี้ ไม่เน้นที่ความหลากหลายแต่เน้นที่คุณภาพและรสชาติที่สดใหม่ โดยลงมือปรุงกันตรงหน้าเดียวนั้นเลยตามสั่ง
Panorama อยู่บนชั้น 23 โรงแรม Pan Pacific ถนน พระราม 4 ตรงข้ามโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ Located on FL 23rd, Pan Pacific Hotel, Rama IV opposite to Chulalongkorn Hospital 0 2632 9000
DAZZLING DINING 163
Three Sixty นั่งฟังเพลงแจ๊สเพราะๆ ดื่มด�่ำบรรยากาศโค้งน�้ำเจ้าพระยาอันงามตา ชมแสงสีของพระนครยามค�่ำคืนที่สว่างไสวราวกับหมู่ดาว ที่ที่ทุกวันคือวันพิเศษ ส�ำหรับคนพิเศษ ฟังดูเหมือนค�ำพูดที่ออกจะฝันๆ ไปนิดตามหน้าโฆษณา แต่นี้คือบรรยากาศจริงที่เหมือนฝันของ Three sixty ทุกอย่างที่ Three sixty คือความพิเศษ ทั้งทิวทัศน์รอบตัว 360 องศา วงดนตรีแจ๊ส และนักร้องระดับโลกที่เล่นได้เข้าถึงอารมณ์ และเมนูที่เสิร์ฟ ด้วยลีลาแปลกตาไม่เหมือนใคร อย่าง “Shaken Not Stirred” และ “Papilotte” ที่เอาส่วนผสมมาใส่รวมกันและเขย่าเหมือนท�ำคอกเทลแล้วเท ให้ที่โต๊ะ เครื่องดื่มที่ทุกรายการคือความมหัศจรรย์ ด้วยส่วนผสมต่างๆที่คิดค้นมาอย่างดี เหล้ารัมที่แช่ใบซิกไว้หนึ่งอาทิตย์เพื่อให้ใด้ความหอม ของซิกก้า วอดก้าที่แช่ผลไม้ชนิดต่างๆ เพื่อรสสัมผัสที่แตกต่าง และอีกมากมายที่หาดื่มที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ เคยมีปราชญ์ชาวจีนผู้หนึ่งกล่าวไว้เมื่อกว่าพันปีที่แล้วว่า “ดื่มอย่างขี้เมา สุราดีแค่ไหนก็ ไร้ค่า ดื่มอย่างสุนทรีย์ ในบรรยากาศกับสหายรู้ใจสุรา อะไรก็เลิศรส” เป็นประโยคสั้นๆที่มีความหมายลึกซึ้ง แม้ผ่านมานานนับพันปีก็ยังใช้ได้อยู่ ถึงแม้จะเป็นการพูดถึงการดื่มของมึนเมา แต่ก็มีความ หมายแฝงในการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า และความพอดี เหมือนกับการดื่มถ้ามากเกินก็ไร้ค่า ถ้าพอดี การได้ดืมด�่ำกับช่วงเวลานั้นก็มีค่าเกินบรรยาย
Enjoy jazz tunes from the top floor on the beautiful curve of the Chao Phraya River showered with the city light and make everyday a special day with your significant other. With 360 panorama view, a world-class jazz band featuring great vocal and a unique serving style “Shaken not Stirred” and “Papilotte” cocktails mixed, shaken and poured at your table, everything at “Three Sixty” is special. Each drink at Three Sixty is a delightful miracle. The finely-selected mixtures used for drinks are one of a kind i.e. cigar leaf soaken in rum for one week to give a nice aroma or dried fruit in vodka for a unique taste like no others.
Three Sixty ตั้งอยู่บนชั้น 32 โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิวตัน กรุงเทพ ถนนเจริญนครฝั่งธนบุรี Located on FL 32nd, Millennium Hilton, Bangkok on Charoennakorn Road, Thonburi side 0 2442 2000
V 9 Wine bar ชมวิวมุมสูงยามค�่ำคืนย่านถนนสีลมสุดโรแมนติก พร้อมจิบไวน์ชั้นเลิศ คงไม่มีที่ไหนเหมาะไป กว่า ร้าน V 9 Wine bar บนชั้น 37 ของโรงแรมโซฟิเทล สีลม ที่โดดเด่นในเรื่องของไวน์ที่ คัดสรรมาจากที่ต่างๆทั่วโลก ตั้งแต่ไวน์ราคาเบาๆ ไปจนถึงไวน์ส�ำหรับคอไวน์ตัวจริงเท่านั้น ถ้ายังไม่คุ้นเคยกับการดื่มไวน์มาก่อน ลองเริ่มต้นด้วย Wine Flight Tour ซึ่งเป็นชุดเมนูไวน์ที่ ประกอบด้วยไวน์หลายชนิดจากหลายๆ ตระกูลและหลายแหล่ง เป็นการเริ่มต้นท�ำความรู้จักกับ ปูมลึกของรสชาติ สี และกลิ่นของไวน์ที่ซับซ้อน ลึกซึ้ง และมีเสน่ห์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ หรือ “ซอมเมอลิเย่” จะท�ำหน้าที่เผยเกร็ดความรู้เพิ่มเติมเรื่องไวน์ และแนะน�ำอาหารฝรั่งเศส หรือทาปาส ที่เข้ากันกับไวน์แต่ละชนิดอย่างลงตัว เพื่อให้เปิดสุนทรียของการจิบไวน์ เมื่อบวก กับทิวทัศน์ยามค�่ำคืนก็จะท�ำให้มื้อนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งของความทรงจ�ำอันน่าประทับใจ
Indulge in view from the top on Silom road and first-rate wine at V9 Wine Bar on the 37th Floor of Sofitel Hotel – a paradise of fine wines around the world offered from affordable price range to a luxury rate for truly hardcore wine aficionado.
For a wine newbie, start with Wine Flight Tour – a menu that offers wine samplings in order to get a feel for breadth or depth and increase understanding of a specific region, vintage and varietal of wines. Get started with the background of color, taste and smell of each drink with the help of “sommelier” or wine guru who shares additional information and to heighten your wining experience, recommends French tapas that go with each type of wine.
V9 Wine bar ตั้งอยูบนชั้นที่ 37 โรงแรมโซฟิเทล สีลม ถนนสีลม Located on FL 37th Sofitel Silom, Silom Road 0 2238 1991
Vertigo & Moon bar
Vertigo & Moon bar ตัง้ อยูบ่ นชัน้ 61 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ถนนสาธร Located on FL. 61, Banyan Tree Hotel, Bangkok, Sathorn Road. 02-679-1200
ลองจินตนาการดูว่า เราอยู่บนดาดฟ้าของยอดตึกสูงที่สามารถรับลมเย็นๆ ได้ชมภาพของพระอาทิตย์ ยามอัสดงที่ค่อยๆ ลาลับ ขอบฟ้า พอสิ้นแสงสุดท้าย แสงสีของเมืองกรุงก็เข้ามาแทนที่ ใต้แสงดาวและแสงจันทร์ ในท้องฟ้าที่กว้างไกลไร้ขอบเขต ได้ดื่มด�่ำกับ บรรยากาศและอาหารเลิศรสคู่กับใครสักคนที่รู้ใจ คงจะเป็นช่วงเวลาที่เราอยากให้ทุกอย่างในโลกนี้หยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น บรรยากาศสุดโรเมนติกบนยอดตึกระฟ้าที่ชั้น 61 ของโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ห้องอาหาร Vertigo & Moon bar ที่เปิดโล่งรับ ท้องฟ้าและหมู่ดาว มีอาหารสไตล์ตะวันตกหลากชนิดที่จัดสรรไว้เป็นอย่างดี อาทิเมนูปลาทูนาปรุงรส เสิร์ฟพร้อมไข่ปลาแซลมอน ที่ให้รสสัมผัสเยี่ยม ไร้กลิ่นคาว หรือจะเป็นขาแกะย่างที่หอมกลิ่นโรสแมรีที่มีรสชาติและกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และเมนูเนื้อเกรท พรีเมียมทั้งเนื้อแองกัสออสเตรเลียนขุน เนื้อวากิวขุน และสุดยอด เนื้ออย่าง เนื้อมัตซึซากะญี่ปุ่น ที่เสิร์ฟพร้อมกับไขกระดูกที่เพิ่ม รสชาติ ให้เนื้อ นอกจากนั้นยังมีอาหารชุดที่เชฟจัดสรร มาให้ลิ้มลองคู่กับไวน์ชั้นเลิศชนิดต่างๆอีกด้วย มีส่วนของ Moon bar ที่จัดไว้ส�ำหรับผู้ที่ต้องการมานั่งชมเมือง ฟังเพลงจิบเครื่องดื่มเป็นการปิดมื้อ Vertigo จะเป็นที่ชื่นชอบมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล ที่นั่งจองเต็มเร็วมาก ควรโทรจองและสอบถามรายละเอียดล่วงหน้าก่อนใช้บริการ Imagine yourself on top of a skyscraper with the winter breeze blowing away and the twilight sun slowly setting into the horizon. The whole town is then awashed with the city light. The dark sky lit up with moonlight and stars creates no boundary for lovers to get intimate and stop the clock from turning.
The ultra-romantic atmosphere on the 61st floor of Banyan Tree Hotel awaits to delight you at Vertigo & Moon Bar – a roof deck restaurant open to the Bangkok starlit sky. Exquisite delicacies include seasoned tuna served with tongue-tingling salmon roe, grilled lamb with rosemary or try tasty steak dishes of Australian Angus beef, Wagyu or Matsusaka beef of premium quality moistened with bone marrow. Chef’s recommendation also comes in accompaniment of fine wine. Moon Bar is for the urbanites to take in the city view along with drinks to complete your evening. Vertigo is usually fully booked during the celebration season. Reservation is advisable.