มูลนิธิเพือ่ สิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) Human Rights and Development Foundation เลขที่ 109 ซอยสิทธิชน ถนนสุทธิสารวินจ ิ ฉั ย แขวงสามเสนนอก เขตห ้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 109 Soi Sitthichon, Suthisarnwinichai Road, Samsennok, Huaykwang. Bangkok 10310 Tel: (+662)277 6882/277 6887 Fax: (+662)277 6882 ext 108 E-mail: info@hrdfoundation.org
ใบแจ้ งข่ าว ศาลจังหวัดตรั ง รั บคาร้ องทนายความของผู้เสียหายจากการค้ ามนุษย์ ซ่ งึ เป็ นแรงงานข้ ามชาติในกิจการประมง กรณีท่ ขี อให้ ศาลจังหวัดตรั งมีคาสั่งโอนคดีไปพิจารณาที่ศาลอาญา แผนกคดีค้ามนุ ษย์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 ศาลจังหวัดตรังได้ กาหนดนัดสืบพยานฝ่ ายโจทก์ ในคดีที่พนักงานอัยการเป็ น โจทก์ยื่นฟ้องนางสมจิตหรื อแมซอ ศรี สว่าง กับพวกรวม 11 คน เป็ นจาเลย ในข้ อหาร่ วมกันค้ ามนุษย์และความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา (คดีหมายเลข คม.1/2559 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม http://hrdfoundation.org/?p=1497 และ http://hrdfoundation.org/?p=1550 ) ก่อนสืบพยาน ทนายความของผู้เสียหายจากการค้ ามนุษย์ซงึ่ เป็ นโจทก์ร่วมในคดีนี ้ ได้ ยื่นคาร้ องต่อศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 261 เพื่ออนุญาตให้ มีการโอนคดีดงั กล่าวไปอยู่ในการพิจารณาของ ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ โดยเห็นว่า 1. ระหว่างการดาเนินคดี ผู้เสียหายและพยานบางส่วนถูกข่มขู่ คุกคาม ทาให้ เกิดความหวาดกลัว 2. จาเลยบางส่วนในคดีนี ้เป็ นผู้มีอิทธิพลในท้ องที่และเคยถูกดาเนินคดีค้ามนุษย์ทงทางแพ่ ั้ งและทางอาญามา ก่อน อาจทาให้ ประสิทธิภาพในการพิจารณาคดีลดน้ อยถอยลง หรื อมีการขัดขวางการพิจารณา 3. ในการดาเนินคดีเป็ นที่สนใจของประชาชน และมีองค์กรสิทธิมนุษยชนทังในประเทศและระหว่ ้ างประเทศ ติดตามสังเกตการณ์คดีมาโดยตลอด หลังจากทนายความของโจทก์ร่วม ได้ ยื่นคาร้ องแล้ ว ทนายความของฝ่ ายจาเลยได้ แถลงคัดค้ านต่อศาล เนื่องจากเห็นว่า 1. ไม่ปรากฏข้ อเท็จจริ งว่ามีการข่มขู่ผ้ เู สียหายจากการค้ ามนุษย์มาก่อน 2. การโอนคดีจะทาให้ เกิดความล่าช้ า เนื่องจากคดีค้ามนุษย์ที่โอนจากศาลนาทวีไปยังศาลอาญาแผนกคดีค้า มนุษย์นนยั ั ้ งนักพร้ อมไม่เสร็จ ไม่อาจกาหนดวันนัดสืบพยานโจทก์จาเลยได้ 3. พยานโจทก์ซงึ่ เป็ นเจ้ าหน้ าที่ของรัฐ เป็ นเจ้ าหน้ าที่ที่อยู่ในพื ้นที่จงั หวัดตรัง 4. ผู้เสียหายจากการค้ ามนุษย์ อยู่ในความดูแลของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ ามนุษย์ จังหวัดสงขลา 1
มาตรา 26 หากว่าตามลักษณะของความผิด ฐานะของจาเลย จานวนจาเลย ความรู้สกึ ของประชาชนส่วนมากแห่งท้ องที่นัน้ หรื อเหตุผลอย่างอื่น อาจมีการขัดขวางต่อการไต่สวนมูลฟ้ องหรื อพิจารณา หรื อน่ากลัวว่าจะเกิดความไม่สงบหรื อเหตุร้ายอย่างอื่น ขึ ้น หรื ออาจเกิดผลกระทบต่อประโยชน์ที่สาคัญอื่นของรัฐ เมื่อโจทก์หรื อจาเลยร้ องขอหรื อศาลที่คดีนนอยู ั ้ ร่ ะหว่างพิจารณาทา ความเห็นเสนอต่อประธานศาลฎีกาขอให้ โอนคดีไปศาลอื่น ถ้ าประธานศาลฎีกาเห็นควรอนุญาต ก็ให้ สงั่ โอนคดีไปยังศาลดังที่ ประธานศาลฎีการะบุไว้ คาสัง่ ของประธานศาลฎีกาให้ เป็ นที่สดุ *มาตรา 26 แก้ ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตแิ ก้ ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา (ฉบับที่ 31) พ.ศ.2559
ทังนี ้ ้ศาลจังหวัดตรังได้ รับคาร้ องขอโอนคดีของทนายความฝ่ ายโจทก์ร่วม และมีคาสัง่ ยกเลิกวันนัดสืบพยาน วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 และได้ กาหนดวันนัดฟั งคาสัง่ คาร้ องขอโอนคดีในวันที่ 26 กรกฎาคม 2559
------------------------------------------------------------------------------------------------------------รายละเอียดเพิม่ เติมติดต่อ นายปภพ เสียมหาญ ผู้ประสานงานโครงการต่อต้ านการค้ ามนุษย์ มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการ พัฒนา เบอร์ โทรศัพท์ 094-5485306 E-mail: mthaim420@gmail.com