23 เมษายน 2562 ใบแจ้ งข่ าว ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ มีคาพิพากษาจาคุก 18 ปี จาเลยชาวเมียนมา 2 ราย และให้ ชดใช้ ค่า สินไหมทดแทนจานวนรวม 1,948,075 บาท แก่ ผ้ ูเสียหายและครอบครั ว 12 ราย ในพืน้ ที่ตาบล อ่ าวน้ อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วันนี ้ (23 เมษายน 2562) ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ กรุงเทพมหานคร ได้ อ่านคาพิพากาษา คดี หมายเลขดาที่ คม. 69/2561 คดีสามีภรรยาชาวเมียนมากระทาผิดฐานค้ ามนุษย์แรงงานประมงชาวเมียน มาและครอบครัว จานวน 12 ราย ในพื ้นที่ตาบลอ่าวน้ อย จังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์ โดยศาลได้ ขึ ้นอ่านคา พิพากษาเวลา 10:15 น. ความโดยสรุปว่า จาเลยทังสองได้ ้ กระทาความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ฐานสมคบกันโดยการตกลงกันตัง้ แต่สองคนขึน้ ไปเพื่อกระทาความผิดฐานค้ ามนุษย์ จากการ แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบโดยบังคับใช้ แรงงานบุคคลที่อายุมากกว่า 18 ปี บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ เกิน 18 ปี และ บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานหน่วงเหนี่ยวหรื อกักขัง ผู้อื่น หรื อกระทาด้ วยประการใดให้ ผ้ อู ื่นปราศจากเสรี ภาพในร่ างกาย และความผิดตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ฐานกระทาด้ วยประการใดอันเป็ นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก ทังนี ้ ้ ศาลพิจารณาว่าพฤติการณ์ในคดีนี ้เป็ นการกระทากรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ ลงโทษบทหนักสุด คือความผิดตามพระราชป้องกันและปราบปรามการค้ ามนุษย์ พ.ศ. 2551 โดยให้ ลงโทษจาคุกจาเลยทัง้ สอง ตามความผิดต่อไปนี ้ 1. ฐานสมคบโดยการตกลงกันตังแต่ ้ สองคนขึน้ ไปเพื่อกระทาความผิดฐานค้ ามนุษย์ ให้ มีโทษ 2.
จาคุก 2 ปี ฐานค้ ามนุษย์จากการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้ แรงงานแก่บุคคลที่อายุ
มากกว่า 18 ปี แก่ผ้ เู สียหายจานวน 5 คน ให้ ลงโทษ 5 กระทง กระทงละ 4 ปี รวม 20 ปี 3. ฐานค้ ามนุษย์จากการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้ แรงงานแก่บคุ คลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี แก่ผ้ เู สียหาย 1 คน มีโทษจาคุก 6 ปี 4. ฐานค้ ามนุษย์จากการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้ แรงงานแก่บคุ คลอายุไม่ เกิน 15 ปี แก่ผ้ เู สียหาย 1 คน มีโทษจาคุก 8 ปี รวมโทษจาคุกทังหมด ้ 36 ปี อย่างไรก็ตามคดีนี ้จาเลยทังสองให้ ้ การรับสารภาพในชันศาล ้ ศาลจึงพิจารณา ลดโทษให้ กึ่งหนึ่งเหลือโทษจาคุกคนละ 18 ปี นอกจากนี ้ศาลยังได้ มีคาพิพากษาให้ จาเลยทังสองร่ ้ วมกัน
ชดใช้ คา่ สินไหมทดแทนแก่ผ้ เู สียหายเป็ นเงินจานวน 1,948,075 บาท ซึ่งเป็ นจานวนเงินที่ได้ รับการประเมิน จากเจ้ าหน้ าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ หลังจากนี ้มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชน และการพัฒนา เครื อข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ ามชาติ และองค์กรภาคีเครื อข่ายจะร่ วมทางานกับหน่วยงาน ของรัฐเพื่อดาเนินการบังคับคดีแก่จาเลยเพื่อนาเงินมาชดใช้ โจทก์ตอ่ ไป คดีนี ้มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาร่วมกับเครื อข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ ามชาติ (MWRN) และองค์กรภาคีเครื อข่าย ได้ ร่วมกันให้ ความช่วยเหลือด้ านกฎหมายแก่ผ้ เู สียหายจากการค้ ามนุษย์ทงใน ั้ คดีอาญาและคดีแรงงานซึ่งเป็ นกรณีที่ผ้ เู สียหายและครอบครัวไม่ได้ รับค่าจ้ างจากการทางาน โดยในคดี แรงงาน ศาลแรงงานภาค 7 จัง หวัดกาญจนบุรี ได้ ไ กล่เกลี่ย นายจ้ างตกลงจ่ายเงิ นค่าจ้ างค้ างจ่ายแก่ ลูกจ้ างผู้เสียหายและครอบครัวรวมเป็ นจานวนเงิน 65,000 บาท ซึ่งลูกจ้ างผู้เสียหายได้ รับไว้ แล้ ว โดย หลังจากนี ้ทางราชการจะส่งส่งกลับผู้เสียหายกลับสู่ประเทศเมียนมาอย่างปลอดภัยตามความต้ องการของ ผู้เสียหายต่อไป ที่มาของคดี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2560 เครื อข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ ามชาติ (MWRN) ได้ รับเรื่ องร้ องเรี ยนจากชุมชน เครื อข่ายแรงงาน ว่ามีแรงงานเมียนมาและครอบครั ว จานวน 12 ราย ถูกหลอกลวงมาจากเมืองเย จังหวัดเมาะ ลาไยหรื อมะละแหม่ง ประเทศเมียนมาเพื่อเข้ ามาทางานในประเทศไทย เมื่อมาถึงจังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์ ก็ได้ รับ แจ้ งจาก นายหน้ าซึง่ เป็ นจาเลยในคดีนี ้ว่าพวกตนตกเป็ นหนี ้จานวนมาก ประกอบด้ วยค่าเดินทาง ค่าจัดทาเอกสาร และค่าอาหารระหว่างเดินทางและในขณะที่อาศัยอยู่กบั นายหน้ าที่ประเทศไทย และหากไม่สามารถชาระหนี ้ได้ จะ มีดอกเบี ้ยรายวันเพิ่มเติม ดังนันจึ ้ งจาต้ องทางานตามที่จาเลยกาหนดเพื่อชดใช้ หนี ้ให้ แก่จาเลย เครื อข่ายเพื่อสิทธิ แรงงานข้ ามชาติจึงประสานงานกับมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) เข้ าให้ ความช่วยเหลือด้ าน กฎหมายและแจ้ งความกล่าวโทษต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อสอบสวนกรณี ดงั กล่าว และนาไปสู่การจับกุม จาเลยทัง้ 2 รายในคดีนี ้ในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 โดยทังสองถู ้ กตังข้ ้ อหานาพาแรงงานและสมาชิกในครอบครัว ชาวเมียนมาจานวน 12 ราย มายังบริ เวณตาบลอ่าวน้ อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่ อบังคับใช้ แรงงานบน เรื อประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่องโดยใช้ ภาระแห่งหนี ้มาเป็ นเงื่อนไขในการบังคับให้ ทางาน (แรงงานขัดหนี ้) ทังนี ้ ้สมาชิกในครอบครัวชาวเมียนมาทังหมดได้ ้ เข้ าสูก่ ระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ ามนุษย์ โดย ที มสหวิชาชี พมีความเห็นประเมินให้ สมาชิ กในครอบครั วจานวน 7 คน ในจานวนนัน้ เป็ นเด็ก 2 คน ว่าเป็ น ผู้เสียหายจากการค้ ามนุษย์ จากการบังคับใช้ แรงงาน ส่วนสมาชิกที่เหลือ 5 คนไม่เป็ นผู้เสียหาย จึงได้ รับการ คุ้มครองในฐานะพยานในคดี --------------------------------------------------------------------------------------------รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 1. นายปภพ เสียมหาญ ผู้อานวยการฝ่ ายคดี มูลนิ ธิเพื่ อสิทธิ มนุษยชนและการพัฒ นา เบอร์ โทรศัพท์ 0945485306 email: mthaim420@gmail.com 2. นางสาวกาญจนา อัครชาติ ผู้จัดการฝ่ ายคดี โครงการต่อต้ านการค้ ามนุษย์ ด้ านแรงงาน มูลนิ ธิเพื่ อสิท ธิ มนุษยชนและการพัฒนา เบอร์ โทรศัพท์ 090-9160011 email: kanjana.ak@gmail.com