เผยแพร่ วนั ที่ 21 มีนาคม 2562 ใบแจ้ งข่ าว ศาลแรงงานภาค 6 พิพากษาให้ นายจ้ างจ่ ายเงินแก่ แรงงานข้ ามชาติชาวเมียนมา 115 คน จานวนกว่ า 17 ล้ านบาท ภายหลังคาสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน จังหวัดตาก ถึงที่สุด เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ศาลแรงงานภาค 6 ได้ อ่านคาพิพากษาคดีที่แรงงานข้ ามชาติชาวเมียนมา จานวน 115 คน เป็ นโจทก์ ยื่นฟ้อง ห้ างหุ้นส่วนจากัดแม่สอด พี.เอ.เป็ นจาเลยที่ 1 และนางสาวสุภา จักรเจริ ญ ทรัพย์ เป็ นจาเลยที่ 2 เนื่องจากจาเลยทังสองไม่ ้ ได้ ปฏิบตั ิตามคาสัง่ ของพนักงานตรวจแรงงาน สานักงานสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานจังหวัดตาก ตาม คาสัง่ เลขที่ 1/2561 ให้ แรงงานข้ ามชาติจานวน 115 คน มีสิทธิ ได้ รับการ คุ้มครองตาม พรบ. คุ้มครองแรงงาน รวมเป็ นเงินทัง้ สิ ้น 25,357,993.04 บาท พร้ อมทังดอกเบี ้ ้ยนับแต่ผิดนัดแก่ แรงงานข้ ามชาติทงั ้ 115 คน กรณีนี ้ได้ มีนายจ้ างของโจทก์อีกหนึ่งรายคื อ บริ ษัท หุ้น แบงค์ค็อก จากัด ได้ ฟ้องเพิกถอนคาสัง่ พนักงาน ตรวจแรงงานจังหวัดตากที่ 1/2561 โดยในการพิจารณาคดีศาลแรงงานได้ ทาการไกล่เกลี่ย ทาให้ แรงงานทัง้ 115 คน ตกลงรับเงินจานวน 8 ล้ านบาท และในส่วนที่เหลือให้ ฟ้องบังคับเอากับห้ างหุ้นส่วนจากัดแม่สอด พี เอ (อ่าน รายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ มได้ ที่ http://hrdfoundation.org/?p=2053 ) ซึ่ง แรงงานทัง้ 115 คนได้ ยื่ น ฟ้ องต่อ ศาล แรงงานภาค 6 แล้ ว เป็ นคดีดาที่ 230/2561 ระหว่างพิจารณาคดี ศาลได้ นดั ไกล่เกลี่ยแล้ วแต่ฝ่ายโจทก์และจาเลยไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลจึงได้ กาหนดประเด็นพิพาทดังนี ้ 1. คำสั่ งของพนั กงำนตรวจแรงงำน สำนั กงำนสวั สดิกำรและคุ้มครองแรงงำน จังหวั ดตำกที่ 1/2561 เป็ นทีส่ ุดแล้ วหรื อไม่ ศาลเห็นว่า มีข้อเท็จจริ ง รับฟั งได้ ว่า จาเลยทังสองทราบค ้ าสัง่ ของพนักงานตรวจแรงงาน และไม่ได้ ใช้ สิทธินาคดีขึน้ สู่ศาลแรงงานภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่รับทราบคาสัง่ ตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 125 วรรค 1 จึงถือว่าคาสัง่ ของพนักงานตรวจแรงงาน ที่ 1/2561 นัน้ เป็ นที่สดุ 2. จำเลยทั้งสองเป็ นนำยจ้ ำงโจทก์ หรื อไม่ ศาลเห็นว่า คาสัง่ ของพนักงานตรวจแรงงานที่ 1/2561 ระบุว่า จาเลยที่ 1 และบริ ษัทหุ้น แบ็งค์ค็อก จากัด เป็ นนายจ้ างของโจทก์ทงั ้ 115 คน คดีจงึ ฟั งได้ แต่เพียงว่า จาเลยที่ 1 เป็ นนายจ้ างโจทก์ทงั ้ 115 คน เท่านัน้ จาเลยที่ 2 ไม่ได้ เป็ นนายจ้ างของโจทก์ทงั ้ 115 คน 3. จาเลยทัง้ สองต้ องจ่ ายเงินให้ แก่ โจทก์ ทัง้ 115 คน ตามคาสั่งพนักงานตรวจแรงงานหรื อไม่ เพียงใด ศาลเห็นว่า เมื่อปรากฏข้ อเท็จจริ งว่า คาสัง่ ของพนักงานตรวจแรงงาน ที่ 1/2561 มีคาสัง่ ให้ จาเลยที่ 1 กับบริ ษัทหุ้น แบ็งค์คอ็ ก จากัด ร่ วมกันจ่ายเงินค่าจ้ าง ค่าชดเชย และสินจ้ างแทนการบอกล่วงหน้ า แก่โจทก์ ทัง้ 115 คน เป็ นเงิน 25,357,993.04 บาท ซึ่งปรากฎว่าบริ ษัทหุ้น แบ็งค์ ค็อก จากัด ได้
จ่ายเงิ นดังกล่าวให้ แก่โจทก์ ทัง้ 115 คนไปแล้ วบางส่วน จานวน 8,000,000 บาท ดังนัน้ จึงยัง คงเหลือต้ นเงินที่จาเลยที่ 1 ต้ องจ่ายให้ แก่โจทก์ทงั ้ 115 คน ตามบัญชีคา่ จ้ างค้ างจ่าย ส่วนจาเลยที่ 2 คดีนี ้ ถือว่าเป็ นหุ้นส่วนผู้จดั การของจาเลยที่ 1 จาพวกไม่จากัดความรับผิด จาเลยที่ สองซึ่งเป็ นหุ้นส่วนผู้จัดการจึงต้ องร่ วมรั บผิ ดในหนี ต้ ามบัญชี ค่าจ้ างค้ างจ่าย พร้ อมดอกเบี ย้ ของ จาเลยที่ 1 ต่อโจทก์ทงั ้ 115 คน ด้ วย ศาลแรงงานภาค 6 จึงมีคาพิพากษาให้ จาเลยทังสอง ้ คือ ห้ างหุ้นส่วนจากัด แม่สอด พี.เอ. และนางสาว สุภา จักรเจริ ญ ทรั พ ย์ ร่ วมกันช าระเงิ นพร้ อมดอกเบี ย้ ให้ แก่ โจทก์ ทัง้ 115 คน โดยให้ โจทก์ แต่ละคนได้ รับ เงิ น ดังกล่าวตามสัดส่วนของเงินที่แต่ละคนมีสิทธิได้ รับตามคาสัง่ ของพนักงานตรวจแรงงาน รวมแล้ ว เป็ นเงินจานวน 17,357,993.04 บาท ทังนี ้ ้จาเลยทังสองมี ้ สิทธิยื่นอุทธรณ์ได้ ภายใน 15 วัน นับตังแต่ ้ วนั ที่ศาลอ่านคาพิพากษาหรื อมีคาสัง่ และ จะอุทธรณ์ ได้ เฉพาะข้ อกฎหมาย หากไม่มีการยื่นอุทธรณ์ ภายในระยะเวลาที่กาหนด ถือว่าคดีถึงที่สุด โจทก์ ทงั ้ 115 คน มีสิทธิบงั คับตามคาพิพากษาโดยการขอให้ เจ้ าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจาเลยขายทอดตลาด เพื่อนาเงินที่ได้ มาชดใช้ ให้ แก่โจทก์ทงั ้ 115 คน -------------------------------------------------------------------------------------------------------รายละเอียดข้ อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ นางสาวจิรารัตน์ มูลศิริ ทนายความ ที่ 089 273 4711