ใบแจ้ งข่าว 30 สิงหาคม 2559 กำหนดนัดวันฟั งคำพิพำกษำคดีค้ำมนุ ษย์ ชำวโรฮิงญำ วันที่ 31 สิงหำคม 2559 ณ ศำลจังหวัดปำกพนัง จังหวัดนครศรีธรรมรำช เมื่อวันที่ 12 มิถนุ ายน 2558 พนักงานอัยการจังหวัดปากพนัง จังหวัดนครศรี ธรรมราช เป็ นโจทก์ยื่นฟ้ อง นายสุ นนท์ หรื อโกมิตร แสงทอง นายสุริยา ยอดรัก และนายวราชัย ชฎาทอง เป็ นจาเลย ในคดีหมายเลขดาที่ 768/2558 ใน ข้ อหาสมคบกันตังแต่ ้ สองคนขึ ้นไปเพื่อกระทาความผิดฐานการค้ ามนุษย์ สนับสนุนการกระทาความผิดฐานค้ ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ ามนุษย์ พ.ศ.2551 กระทาความผิดที่เกี่ยวข้ องกับเสรี ภาพ เพื่อจะเอาคน ลงเป็ นทาสหรื อให้ มีฐานะคล้ ายทาส ตามประมวลกฎหมายอาญา นาพาคนต่างด้ าวเข้ ามา ให้ อาศัย หรื อซ่อนเร้ น ใน ราชอาณาจักรไทยโดยฝ่ าฝื น พระราชบัญญัตคิ นเข้ าเมือง พ.ศ.2522 และกระทาความผิดฐานมีสว่ นร่วมในองค์กร อาชญากรรมข้ ามชาติ ตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีสว่ นร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ ามชาติ พ.ศ. 2556 โดยมีผ้ เู สียหายทีเ่ ป็ นเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี และบุคคลตังแต่ ้ 18 ปี ขึ ้นไป ต่อมาผู้เสียหายบางรายในคดีนี ้ได้ ยื่นคาร้ องขอตังทนายความเข้ ้ าเป็ นโจทก์ร่วมและนาเสนอพยานหลักฐาน เพิ่มเติม ซึง่ เป็ นผลจากการที่เครือข่ายแรงงานข้ ามชาติได้ ร่วมสังเกตการณ์การดาเนินคดีแต่แรกเริ่มและเห็นว่า ผู้เสียหาย ต้ องการนักกฎหมายเพื่อให้ คาปรึกษาในการเข้ าร่วมในคดีเพื่อให้ หลักฐานในคดีมีความรัดกุมมากขึ ้น จึงได้ ระดมความ ช่วยเหลือจากองค์กรต่างๆ ศาลได้ มีคาสัง่ อนุญาตให้ ทนายความเข้ าเป็ นโจทก์ร่วมได้ ในความผิดตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการค้ ามนุษย์ และตามประมวลกฎหมายอาญา คดีนี ้ศาลได้ กาหนดวันนัดสืบพยานก่อนฟ้ อง ตังแต่ ้ เดือนมิถนุ ายน 2558 สืบพยานฝ่ ายโจทก์และจาเลยตังแต่ ้ เดือนมกราคม 2558 ถึงวันที่ 24 มิถนุ ายน 2559 โดยศาลจังหวัด พนัง ได้ กาหนดนัดฟั งคาพิพากษาในวันที่ 31 สิงหาคม 2559 เวลา 09.00 น. ที่มำของคดีนี ้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2558 พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรขาวเขียว ผู้กากับ สถานีตารวจภูธร หัวไทร จังหวัดนครศรี ธรรมราช ได้ รับรายงานว่าจะมีการลักลอบขนชาวโรฮิงญามาจากพื ้นที่จงั หวัดระนองไปยังจังหวัด สงขลา โดยใช้ พื ้นที่อาเภอหัวไทร เป็ นเส้ นทางผ่าน จึงได้ สงั่ การให้ กาลังเจ้ าหน้ าทีต่ ารวจตังจุ ้ ดตรวจสอบ ถนนสาย 408 นครศรี ธรรมราช-หัวไทร กระทัง่ พบรถยนต์ ต้ องสงสัยจานวน 5 คัน วิ่งตามหลังกันมา เจ้ าหน้ าที่จึงส่งสัญญาณให้ หยุดเพื่อ ตรวจค้ น โดยขณะที่เจ้ าหน้ าที่ตารวจกาลังตรวจรถต้ องสงสัยได้ เพียง 2 คัน ปรากฎว่า คนขับรถยนต์กระบะจานวน 3 คันที่ เหลือได้ ทิ ้งรถและวิง่ หลบหนีไป เจ้ าหน้ าที่จงึ ได้ ควบคุมคนขับรถที่ตรวจไว้ ได้ สองคันแรก และเมื่อตรวจสอบรถยนต์กระบะ ทัง้ 5 คน พบว่ามีชาวโรฮิงญานัง่ อยูท่ ้ ายรถกระบะ รวม 98 คน (ผู้ชาย 30 คน ผู้หญิง 26 คน เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 42 คน) พบว่าแต่ละคนอยูใ่ นสภาพอ่อนพลียอย่างหนัก และในจานวนดังกล่าว พบชาวโรฮิงญาเสียชีวิตเนื่องจากการขาดอากาศ หายใจ ส่วนชาวโรฮิงญาที่รอดชีวิตได้ เข้ าสูก่ ระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ ามนุษย์ตามประมวลกฎหมายป้องกัน และปราบปรามการค้ ามนุษย์ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ เป็ นหน่วยงานหลักของรัฐในการดูแล ผู้เสียหายระหว่างเข้ าสูก่ ระบวนการยุติธรรมทางอาญา ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้ อมูลเพิ่มเติม ติดต่ อ นางสาวจันทร์ จิรา จันทร์ แผ้ ว ทนายความ โทรศัพท์ : 083 907 2032 นายกฤษดา สัญญาดี ทนายความ โทรศัพท์ : 088 768 3887