เผยแพร่วนั ที่ 12 กันยายน 2560
ใบแจ้ งข่ าว ศาลอุทธรณ์ ยืนคาตัดสินศาลชัน้ ต้ น กรณีค้ามนุษย์ ชาวโรฮิงญา 98 คน เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560 ศาลจังหวัดปากพนัง นครศรี ธรรมราช ได้ อา่ นคาพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีค้า มนุษย์ชาวโรฮิงญาในพื ้นที่อาเภอหัวไทร (คม.768/2558) โดยศาลอุทธรณ์ได้ มีคาพิพากษา ยืนตามศาลชันต้ ้ น กล่าวคือ ให้ นายสุนนั ท์ หรื อโกมิตร แสงทอง จาเลยที่ 1 ซึง่ เป็ นผู้จดั ส่งชาวโรฮิงญา จาคุกเป็ นระยะเวลา 15 ปี และปรับเป็ นเงิน 666,000 บาท ส่วนจาเลยที่ 2 และ 3 ซึง่ เป็ นคนขับรถกระบะขนส่งชาวโรฮิงญา มีความผิดตาม พรบ. คนเข้ าเมือง โดยจาเลย ที่ 1 ถูกตัดสินข้ อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังเพิ่มเติมจากกระทาความผิดฐานค้ ามนุษย์และเอาคนลงเป็ นทาส ทังนี ้ ้ ข้ ออุทธรณ์ใน ประเด็นองค์กรอาชญากรรมข้ ามชาติ ศาลเห็นว่าการกระทาของจาเลยทังสามไม่ ้ เข้ าข่ายเป็ นการกระทาขององค์กรข้ ามชาติ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2558 เจ้ าหน้ าที่ตารวจภูธรหัวไทร จังหวัดนครศรี ธรรมราชหยุดตรวจค้ นรถกระบะ 5 คัน ที่กาลังลักลอบขนชาวโรฮิงญามาจากพื ้นที่จงั หวัดระนองไปยังจังหวัดสงขลา โดยใช้ พื ้นที่อาเภอหัวไทร เป็ นเส้ นทางผ่าน เจ้ าหน้ าที่ได้ พบชาวโรฮิงญา รวม 98 คน อัดแน่นท้ ายรถกระบะ เป็ นผู้ชาย 30 คน ผู้หญิง 26 คน และเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จานวนถึง 42 คน โดยแต่ละคนอยูใ่ นสภาพอ่อนพลียอย่างหนัก และในจานวนดังกล่าว พบชาวโรฮิงญาเสียชีวิตเนื่องจากการ ขาดอากาศหายใจหนึง่ คน และเสียชีวิตเพิ่มเติมในภายหลังอีกหนึง่ คน เจ้ าหน้ าที่ตารวจสามารถจับกุมและดาเนินคดีกบั ผู้กระทาความผิดซึง่ เป็ นคนขับรถกระบะที่ขนชาวโรฮิงญาได้ 3 คน ส่วนที่เหลือได้ หลบหนีการจับกุมของเจ้ าหน้ าที่ ในคดีนี ้ ศาลชันต้ ้ นได้ มีคาพิพากษาไปเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2559 โดยมีพยานหลักฐานสาคัญเป็ นการโอนเงินผ่าน บัญชี และหลักฐานการใช้ โทรศัพท์ ที่มีความเชื่อมโยงกับคดีประวัติศาสตร์ ค้ามนุษย์โรฮิงญาจากเหตุการณ์พบคอกกักขังชาว โรฮิงญา และการพบศพนิรนามจานวนมาก ที่ตาบลปาดังเบซาร์ อาเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
ข้ อมูลเพิ่มเติม ติดต่ อ นายกฤษดา สัญญาดี ทนายความ โทรศัพท์ : 088 768 3887