diy fabric decoration

Page 1





DIY FABRIC

DECORATION


-

DO it

Yourself DIY หรือ Do It Yourself นอกจากจะเป็นการประดิษฐ์สิ่งที่ทำ�ขึ้นมาด้วยน้ำ�มือตัวเอง เพื่อให้ได้ของที่สุดจี๊ดถูกใจตัวเองแล้ว ยังเป็นเหมือนวัฒนธรรมแห่งการถ่ายทอดความรู้ ฝึกกระบวนการใช้ความคิดสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งตัวเองและผู้อื่นอีกด้วย ดังนั้นการทำ�ของขึ้นมาสักชิ้นด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม ย่อมส่งผลให้ของชิ้นนั้นมีคุณค่า ทางจิตใจมากกว่าของสำ�เร็จรูปราคาแพงหลายเท่า จึงเกิดเป็นไอเดียในการทำ�ลวดลาย ผ้าด้วยตัวเองขึ้น ที่สามารถนำ�ไปใช้ต่อได้ในชีวิตจริงและเป็นของขวัญน่ารักๆให้กับคน สำ�คัญได้อีกด้วย อาจจะใช้เวลาในกระบวนการสักหน่อย แต่รับรองว่าผลที่ได้รับคุ้มเกิน คาดแน่นอนค่ะ ลองมาทำ�ลวดลายผ้า DIY ตามหนังสือเล่มนี้ในสไตล์ตัวเองกันนะคะ





CONTENT

10 12 18 24 38

ที่มาของการทำผ้าDIY material fabric colour design source dyeing 48 history of dyeing 50 tie dyeing technic 52 caution 54 step by step 56 tie blue t-shirt 59 so hot dress marbling 64 marbling me!


stencil 70 History of stencil 72 stencil technic 74 oh my stripped bag! 77 catty legging 80 de scarf printing 86 history of printing 88 little giraffes 91 potato stamp! 95 chair to share 100 preservation 102 resources


ที่มาที่ไปของการทำลวดลายผ้าDIY "ผ้ า "เป็ น หนึ่ ง ในปั จ จั ย ที่ สí า คั ญ่ ข องการดí า รงชี วิ ต ของ มนุ ษ ย์ นอกจากอาหาร ที่ อ ยู่ อ าÈั ย และยารั ก ษาâรค เสื้ อ ผ้ า มี ค วามสí า คั ญ และสั ม พั น ธì กั บ วั ฒ นธรรมของ มนุษย์มานับตั้งแต่ยุคดั้งเดิมหรือในยุคสังคมบรรพกาล ได้ผ่านกระบวนการคิดถักทอเส้นใยให้เป็นเครื่องนุ่งห่ม ที่จíาเป็นต้องใช้ในชีวิตประจíาวัน ประกอบกับความคิด สร้ า งสรรคì ข องมนุ ษ ยì ใ นเวลาต่ อ ๆมา ทí า ให้ เ กิ ด การ ประดิษฐ์ คิดค้นออกแบบลวดลายของผ้าâดยกรรมวิธี ต่างๆ เพื่อให้ผ้ามีความสวยงามตอบสนองความต้องการ ทางด้านจิตใจของทุกคน «ึ่งส่งผลให้เกิดกระบวนการ เทคนิคทางการผลิตใหม่ๆ «ึ่งทำให้นอกจากผ้าจะใช้เป็น เครื่องนุ่งห่มแล้ว ยังนำไปใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องใช้สอย อีกมากมายสารพัด 10


แต่ ใ นป˜ จ จุ บั น เมื่ อ âลกมี ก ารพั ฒ นาและความ ต้องการของมนุษยìไม่เคยสิ้นสุด จึงทíาให้เกิด ความคิดที่ต้องการในสิ่งที่แตกต่าง ไม่«้íาใคร ไม่ มี ใ ครเหมื อ นและมี ส ไตล์ เ ป็ น ของตั ว เอง จึ ง มี ผู้ คิ ด ค้ น วิ ธี ก ารทí า ลวดลายผ้ า ที่ ส ามารถ ทำได้ด้วยตนเอง เพื่อให้ได้ผ้าในรูปแบบที่ตนเอง ต้องการ «ึ่งนอกจากจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้จริงแล้ว ยังทำให้ÀาคÀูมิใจในทุกกระบวนการ ขั้นตอนการผลิตที่แลกมาด้วยความตั้งใจของตนเอง ทำให้ของ DIYนอกจากจะสวยเกŽไม่ «้ำใครแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับของชิ้นนั้นได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผลพลอยได้ คือเกิดกระบวนการเรียนรู้และเข้าใจอย่างแท้จริง เพราะการลงมือทำเองนั้นจะทำให้เกิด กระบวนคิดและสัมผัสได้ง่ายกว่า «ึ่งถือเป็นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย ป˜จจุบันคนเราจึงเริ่มมองเห็นความสำคัญและคุณค่าของการ DIY กันมากขึ้น เพราะ นอกจากจะใช้เองได้แล้วยังสามารถเป็นของขวัญให้กับคนสำคัญในâอกาสพิเÈษๆ ที่ สามารถส่งผ่านความรู้สึกดีๆให้แก่กันและยังแสดงถึงความตั้งใจและความคิดสร้างสรรค์ ของผู้ให้ได้อีกด้วย เรียกได้ว่า "สุขทั้งผู้ให้และผู้รับ" เลยทีเดียวค่ะ 11



material


material

1. ผ้า วัสดุที่เราจะใช้ในการทำลวดลาย «ึ่งผ้า แต่=ละชนิดจะมีความแตกต่างกันไปตาม ลักษณะการใช้งาน

2. สี สีที่ใช้จะเป็นประเÀทสีย้อมผ้าหรือสีเพ้นท์ ผ้า สีที่ดีจะต้องยึดเกาะเนื้อผ้าได้เป็นอย่าง ดีและติดทน «ักไม่หลุด ไม่ลอก

3. ที่กลิ้งสี ตัวช่วยในการทาสีลงบนผ้าที่จะทำให้สี เรียบเนียนและติดเท่ากัน

14


4. แม่พิมพ์ วัสดุที่ใช้แกะลวดลายเพื่อพิมพ์ลงบนผ้า «ึ่งเราสามารถนำวัสดุต่างๆมาประยุกต์ใช้ เช่น ไม้ ยางลบ มันฝรั่ง เป็นต้น

5. ไม้สำหรับทำด้ามจับ ใช้ยึดติดกับแม่พิมพ์ เพื่อให้พิมพ์ได้ง่ายและ สะดวกขึ้น ไม่หลุดมือเวลาใช้งาน

6. เครื่องมือแกะสลัก ใช้สำหรับแกะแม่พิมพ์เพื่อสร้างลวดลาย เครื่องแกสลักที่ดีควรมีความคมเพื่อให้ง่าย ต่อการแกะวัสดุต่างๆ

15


7. แผ่นแม่แบบสเตน«ิล เป็นแม่แบบในการทำลวดลายลงบนผ้า âดยจะเป็นแผ่นที่ตัดลวดลายที่เราต้องการ ใช้ออกและกลิ้งสีให้ผ่านตามช่องนั้น

8. อุปกรณ์ทาสี ใช้ทาสีลงบนผ้า อาจจะใช้อุปกรณ์ต่างๆ นอกเหนือจากพู่กันมาประยุกต์ เช่น ¿องน้ำ แปรงสี¿˜น เป็นต้น

9. กรรไกร/คัตเตอร์ ใช้สำหรับตัดผ้าและแม่พิมพ์ ควรเลือกที่มี ความคมเพื่อผ้าและแม่พิมพ์จะได้ไม่เป็นขุย

16


10. กระดาษลอกลาย สำหรับลอกลวดลายที่เราต้องการลงบน ผ้าหรือแม่พิมพ์ เพื่อความไม่ผิดเพี้ยน ของลาย

11. ไม้บรรทัด อุปกรณ์สำคัญในการวัดสเกลเพื่อให้ได้ แบบและตำแหน่งแม่นยำตามที่ต้องการ และใช้เป็นไกด์สำหรับการตัด

12. เตารีด ใช้รีดทับผ้าเพื่อ¿ ก«์สีให้มีความคงทนและ ไม่หลุดลอกง่ายต่อการ«ัก

17



FABRIC


fabric ผ้าที่เหมาะในการเพ้นท์มากที่สุดคือผ้าเส้นใยธรรมชาติและผ้าเนื้อละเอียดทอแน่น เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ‡าย âดยผ้าไหม จะเพ้นท์ง่ายกว่าผ้าชนิดอื่นๆ เพราะเส้นใยมีความละเอียด มากและทอแน่น ส่วนผ้าที่ทอหลวมๆ หรือเส้นใยห่างกันจะเพ้นท์ไม่ค่อยสวย เพราะไม่ สามารถวาดรายละเอียดได้มาก และสีจะไม่สดเท่าที่ควร

1. ผ้าป†าน เป็นผ้าที่ทอด้วยป†าน จะมีลักษณะâปร่ง บาง สวมใส่สบาย «ึม«ับสีได้ดี เหมาะ สำหรับตัดชุดทั่วไป

2. ผ้าชี¿อง เนื้อผ้าâปร่ง สวมใส่สบาย ให้ความรู้สึกน่า รัก หวานๆ

20


3. ผ้าไนล่อน มีลักษณะเป็นรูถี่ๆ บางเบา กันน้ำได้ดี จึง ไม่เหมาะกับการนำมาสีใหม่

4. ผ้ามัสลิน เป็นผ้าจากการ¿อกขาว มักใช้ทำเสื้อผ้า ระบายอากาÈดี ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นเย็น สบาย

5. ผ้าฝ‡าย เป็นผ้าที่ดูด«ับความชื้นได้ดี เหมาะกับการ ตัดเสื้อผ้า ทนทาน ดูแลง่าย

21


6. ผ้า«าติน ผิวมันวาว ใส่แล้วเย็นสบาย หรูหรา แต่ ไม่เหมาะกับการนำมาทำสี

7. ผ้าสักหลาด เป็นผ้าที่อัดเป็นแผ่นๆด้วยใยสังเคราะห์ ให้ สัมผัสที่นุ่มมือ ไม่เหมาะกับการทำสี

8. ผ้าลินิน ผ้าชนิดนี้จะเงามัน ผิวเรียบแข็ง ดูด«ับ น้ำได้ดี เหมาะสำหรับ ทำเสื้อผ้า กระเป‰า กระâปรง

22


9. ผ้าแคนวาส มีทั้งแบบหนาและบาง นิยมนำมาทำ ถุงเท้า รองเท้า กระเป‰า ให้ความรู้สึกเป็น ธรรมชาติ

10. ผ้ายีนส์ เนื้อผ้าหนา หนัก แต่ทนทาน มีทั้งแบบ เนื้อนิ่มและเนื้อหนา นิยมนำมา¿อกสี

11. ผ้าลูก¿ูก ผ้าเนื้อหนา ให้สัมผัสเป็นลายคลื่น นิยม นำมาทำกระâปรง กางเกง แต่ไม่นิยมนำ มาทำสีใหม่

23



Colour


colour and Psychology

พลังสีสามารถช่วยในการบำบัดâรคได้ นักจิตวิทยาเชื่อว่า สีมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับร่างกาย จิตใจและอารมณ์ ของเราทุกคน สีบอกความเป็นตัวตน สีâทนร้อนเช่นสีแดง สีส้ม สีเหลือง สีม่วง จะให้ความรู้สึกที่ต่างจากสีâทนเย็น เช่น สีขาว สีเขียว สี¿‡า สีชมพู เป็นต้น สีâทนร้อนและ สีâทนเย็นจะไปกระตุ้นต่อมไพเนียล «ึ่งจะส่งผลถึงÎอร์âมน ความรู้สึก จิตใจ อารมณ์ของแต่ละบุคคล นับตั้งแต่มีการค้นพบเรื่องความแตกต่างของสีแต่ละสีเมื่อหลายพันปีก่อน มนุษย์รู้จัก นำความรู้เรื่องสีมาปรับใช้ประâยชน์ในชีวิตประจำวันหลายๆด้าน สีต่างๆไม่ได้เป็นเพียง แค่สิ่งที่เราสามารถรับรู้และมองเห็นได้ด้วยตาเท่านั้น แต่พลังของสียังส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดและการตัดสินใจของเราอีกด้วย âดยที่ต่อมไพเนียลจะมีป¯ิกิริยาใน การตอบสนองต่อสีแต่ละสีแตกต่างกันออกไป «ึ่งส่งผลให้ความรู้สึก จิตใจ Îอร์âมนและ อารมณ์ในร่างกายของเราในขณะนั้นแตกต่างกัน ด้วยความหลากหลายของสีนี่เอง ที่ทำให้นักจิตวิทยาสามารถนำพลังของสีแต่ละสีมา ปรับใช้เพื่อช่วยบำบัดอาการเจ็บป†วยด่างๆ ทางร่างกายและจิตใจให้กับผู้ป†วยมากมายใน ป˜จจุบัน âดยเรียกÈาสตร์แห่งการรักษานี้ว่ "สีบำบัด" หรือ "Color Therapy"

26


RED "สีแดง" เป็นสีแห่งอำนาจที่แสดงถึงการมีพลังและมีความ ทะเยอทะยาน จึงช่วยพิชิตความคิดเห็นในทางลบหรือการ มองâลกในแง่ร้าย อย่างไรก็ตามสีเ©ดนี้อยู่ในกลุ่มของâทสะ และการ©ุนเ©ียวด้วยหากเรานำสีแดงเข้าสู่กระบวนการ รักษามากเกินไปจะทำให้ผู้ถูกบำบัดรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว หุนหันพลันแล่นและขาดความอดทนเพราะสีแดงเป็นสีที่ กระตุ้นระบบประสาทได้รุนแรงที่สุดให้ความรู้สึกเร้าใจ ตื่น เต้น ท้าทาย เมื่อเราได้เห็นสีแดง ความร้อนแรงของâทนสีจะทำให้ความ ดันâลหิตของเราสูงขึ้น การหายใจก็จะมีอัตราเร่งที่สูงขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น เพราะ©ะนั้นเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจควรรีบหาสีแดงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ วันâดยเร็ว เพราะพลังแห่งความมั่นใจ กล้าแสดงออกและ ความรักที่มีอยู่ในสีแดงนั้นจะสามารถสร้างความรู้สึกเชื่อ มั่นในตัวเองได้เป็นอย่างดี

27


PINK

"สีชมพู" เป็นสีที่มีลักษณะปลอบประâลมให้จิตใจและความ รู้สึกต่างๆสงบลง ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกของการ มีน้ำใจดี จิตใจที่กว้างขวาง อบอุ่นและทะนุถนอม «ึ่งตรง กันข้ามกับสีแดง ถ้าหากมีสีชมพูอยู่รายรอบจะทำให้รู้สึก ถึงการปกป‡อง ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนâยน นุ่มนวล อ่อน หวาน âรแมนติก ความรัก การแต่งงาน ความเอาใจใส่ วัยรุ่น หนุ่มสาว ผู้หญิง ความน่ารัก ความสดใส เป็นสี ที่ปลอบประâลมให้รู้สึกอ่อนâยนลง บรรเทาความรู้สึกâกรธ และความรู้สึกถูกทอดทิ้งได้ดี จึงมักจะนำสีนี้มาบำบัดหรือ บรรเทาในเรื่องของความรักได้ ส่วนคนที่รู้สึกâดดเดี่ยวมี อารมณ์ท้อแท้ มีความรู้สึกที่ไวเกินไป เปราะบางหรือไม่มี ความมั่นคงทางอารมณ์ ก็สามารถใช้สีชมพูช่วยเยียวยา ความรู้สึกให้ดีขึ้นได้ 28


ORANGE

"สีส้ม" ให้ความรู้สึกร้อน ความอบอุ่น ความสดใส มีชีวิตชีวา ตื่นเต้น ร่าเริง ©ูด©าด

พลัง กำลังใจ ความเป็นวัยรุ่น ความคึกคะนอง การปลดปล่อย ความเปรี้ยว เป็นสีแห่ง ความเบิกบาน ความรื่นเริง มิตรÀาพและอารมณ์ขัน สีส้มเป็นสีแห่งความกระตือรือร้น การสร้างสรรค์ มองâลกในแง่ดี อบอุ่นสดใสมีสติป˜ญญาเต็มเปี่ยมไปด้วยการทะเยอทะยาน มีพลัง แต่ก็มีการระมัดระวังตน รักธรรมชาติ สีส้มเป็นสีที่นำมาบำบัดอาการทางกล้าม เนื้อ ประสาทหรืออาการปวดกดประสาท หรือช่วยในการยกระดับจิตใจของคน ในทาง จิตวิทยาพลังของสีส้มมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการ«ึมเÈร้า หากต้องการเรียกพลัง ความกระตือรือร้นกลับคืนมาสีส้มเป็นสีที่ช่วยได้ นอกจากนี้ยังเหมาะกับใช้เป็นสีของห้อง อาหาร เพราะช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี 29


Yellow "สีเหลือง" เป็นสีที่แสดงถึงความสดใสของแสงแดด มัก

เป็นสีของความหวัง ความสุข ความเบิกบาน ความมี ชีวิตชีวา งานเ©ลิม©ลอง เป็นสีของความแจ่มใส ความ ©ลาด สว่างไสว ความสำเร็จ ความคิดสร้างสรรค์ มัก จะเกี่ยวข้องกับเชาว์ สติป˜ญญาข้างในและพลังของความ คิดเป็นÀูมิและความหยั่งรู้ เป็นความจำที่แจ่มใส ความคิด ที่กระจ่างเป็นอารมณ์ของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เป็นสีที่กระตุ้นให้เกิดการมองâลกในแง่ดีได้ เยียวยาอาการ ท้อแท้ หดหู่ หมดกำลังใจ ในทางตรงกันข้ามสีเหลืองเข้ม กับกลายเป็นสัญญาลักษณ์ของความหวาดกลัว สีเหลือง ทำให้มีอารมณ์ขัน เป็นâทนสีที่เหมาะที่สุดสำหรับห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องน้ำ เพราะสีนี้จะช่วยเติม พลังให้ สีเหลืองมีอำนาจในการสร้างสมดุลแห่งจิตใจ ช่วย ให้ตัดสินใจเร็วขึ้น ลดความลังเล ขจัดความคิดเชิงลบ และยังเป็นâทนสีที่แสดงถึงการต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่าง อบอุ่นอีกด้วย

30


Green

"สีเขียว" เป็นสีที่มีความสัมพันธ์กับธรรมชาติ ช่วยให้เรา มีอารมณ์ร่วมกับสิ่งอื่นๆตลอดจนธรรมชาติต่างๆรอบ ตัวเราได้ง่าย สีเขียวแสดงถึงความเจริญงอกงาม เติบâต ความร่มรื่น ในบรรดาสีทั้งหมดนั้นสีเขียวถูกยกให้เป็นสี ที่สบายตาที่สุด เพราะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสี¿‡า ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและสีเหลืองสดใส และเป็นสีที่สมดุล ที่สุดเพราะเป็นสีตรงกลางของสายรุ้ง สีเขียวจะสามารถ สร้างสรรค์บรรยากาÈของความสบาย ผ่อนคลาย สงบ ร่มเย็น การพักผ่อน เยียวยา ปลอดÀัย ก่อให้เกิดความ รู้สึกสันâดษ ว่างเปล่า รักสงบ สมดุลและละวาง พลัง ของสีเขียวสามารถทำให้ประสาทตาผ่อนคลาย ความดัน âลหิตลดลงได้ ช่วยผ่อนคลายระบบประสาท ช่วยรวบรวม สมาธิ ระงับความตื่นเต้น สีเขียวจึงเหมาะกับห้องทุกห้อง Àายในบ้าน 31


Light BLUE

"สี¿‡า" เป็นสีที่ให้ความรู้สึกเป็นมิตร สดใส อิสระ ช่วย

ทำให้รู้สึกปลอดâปร่ง สงบ สบายใจ เพลิดเพลิน ปลอดÀัย เป็นธรรมชาติ สื่อถึงการช่วยเหลือ แบ่งป˜น ผ่อนคลาย เสรีÀาพ ©ลาดหลักแหลม ใจเย็นและสามารถระงับความ กระวนกระวายในใจได้ด้วย สี¿‡าช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เวลาเครียดได้ดี แต่ถ้าใช้มากไปอาจจะทำให้เป็นคนเ©ื่อยได้ พลังของสี¿‡ามีคุณสมบัติในการรักษาอาการของâรคปอด ลดอัตราเผาผลาญพลังงาน ช่วยรักษาอาการเจ็บคอและ ทำให้ชีพจรเต้นเป็นปกติ สี¿‡าใช้บำบัดเรื่องเราเกิดความไม่ มั่นใจ ไม่เป็นตัวของตัวเองและต้องการกำลังใจ เพิ่มความ กระตือรือร้นหรือความมั่นใจ เป็นสีที่ได้รับการยอมรับว่า ช่วยให้นอนหลับได้ดีที่สุด เพราะช่วยให้ใจสงบและเยือกเย็น 32


BLUE

"สีน้ำเงิน" เป็นความหมายความการสงบ สุขุมเยือกเย็น มีเสน่ห์ สุÀาพ น่าค้นหา หนัก แน่นและละเอียดรอบคอบ สีน้ำเงินเป็นสีที่มีความหมายเกี่ยวâยงกับจิตใจสูง มีความ หมายถึงกลางคืนจึงทำให้เรารู้สึกสงบได้ลึกกว่าและผ่อนคลายกว่า ดังนั้นสีน้ำเงินจึง มักนำมาบำบัดคนที่นอนไม่หลับ เหมาะกับใช้เป็นเสื้อผ้า แต่ไม่เหมาะเป็นสีของห้องต่างๆ เพราะให้ความรู้สึกแคบ อึดอัด กดดัน แต่ก็สามารถใช้ปลุกประสาทการรับรู้และคลาย ความเหงาได้ดีเมื่อใช้ร่วมกับâทนสีอุ่น สีน้ำเงินเป็นสีที่ความคุมจิตใจÀายในให้เกิดความ รู้สึกกระจ่างและสร้างสรรค์ สีน้ำเงินเข้มแต่ยังไม่ถึงขั้นสีกรมท่ามีอิทธิพลอย่างสูงต่อการ กดหรือกล่อมประสาทและจิตใจเป็นสีที่เข้าถึงสัญชาตญาณและลางสังหรณ์จิตใต้สำนึก ของเราได้ดี แต่สีน้ำเงินที่เข้าสู่âทนดำยังหมายถึงความâÈกเÈร้าอย่างที่สุด จึงควรระวัง ในการนำไปใช้ เพราะอาจทำให้เกิดอาการ«ึมเÈร้าได้ นอกจากนี้สีน้ำเงินยังช่วยให้ระบบ หายใจสมดุล รักษาâรคความดันâลหิตสูง ในแง่จิตวิทยาสีน้ำเงินช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และการแสดงออกทางÈิลปะได้อีกด้วย 33


VIOLET

"สีม่วง" เป็นสีการดูแลและปลอบâยนช่วยให้จิตใจสงบและ อดทนต่ อ ความรู้สึกที่âÈกเÈร้า หรือ สู ญ เสี ย ที่มากระทบ จิตใจและประสาท ช่วยสร้างสมดุลของจิตใจให้¿„œนกลับมา จากÀาวะตกต่ำหรือความเÈร้าที่ครอบงำอยู่ สีม่วงเป็น สีที่ใช้บำบัดเวลาหงุดหงิด ลดความเครียดทางจิต เข้าไป ชí า ระล้ า งสิ่ ง ที่ ร บกวนอยู่ ใ นสมอง เป็ น สี ที่ มี อิ ท ธิ พ ลต่ อ ความรู้สึกทางด้านความสวยงาม ปรัชญาขั้นสูง กระตุ้น ให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ ก่อให้เกิดความ เห็นอกเห็นใจ สีม่วงยังเป็นสีที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อที่ ลึกลับทางจิตวิญญาณ สีม่วงเข้มเป็นตัวแทนของความ âก้ หรู ลึกลับ สง่างาม เหมาะกับการใช้เป็นสีรองของห้อง ที่ตกแต่งด้วยข้าวของหรูหรา ส่วนสีม่วงดอกลาเวนเดอร์ และดอกไลแลค จะเหมาะกับห้องนอนที่ต้องการสร้างความ รู้สึกผ่อนคลายและช่วยลดอาการนอนไม่หลับด้วย 34


BROWN "สีน้ำตาล" เป็นสีของแผ่นดิน สีน้ำตาลให้ความรู้สึกมั่นคง อบอุ่น การปกป‡อง ติดดิน

ธรรมชาติ ลดความรู้สึกที่ไม่ปลอดÀัย แต่ในอีกแง่หนึ่งก็แสดงถึงความยากจน สกปรก แห้งแล้ว สุขÀาพไม่ดี สีน้ำตาลเหมาะสำหรับใช้เป็นเสื้อผ้า เพราะจะสื่อถึงความเป็นมิตร อบอุ่น เป็นกันเอง ไม่คุกคาม น่าเชื่อถือ แต่ในบางครั้งก็ส่งผลในทางลบ คือ ดูไม่ทัน สมัย เบื่อหน่ายและหมองเÈร้าจึงควรระวังการนำไปใช้ให้ดี ไม่ควรใส่ไปงานราตรีหรืองาน เลี้ยงสังสรรค์ สีน้ำตาลมักเกี่ยวข้องกับการเติมเต็มของความรู้สึก บำบัดจากความเÈร้า âÈกความรู้สึกคับอกคับใจ สีนี้มักจะนำไปช่วยเหลือคนที่รู้สึกหมดคุณค่าในตัวเองและช่วย ปลุกสามัญสำนึกได้อย่างดี

35


BLack

"สีดำ" เป็นสีที่ให้ความรู้สึกÀูมิฐาน หรูหรามีระดับ สง่า ร่วมสมัย เป็นทางการ มืด หนักแน่น น่าเกรงขาม ความ âกรธ âÈกเÈร้า กลัว ความตาย มีพลังอำนาจและความ ลึกลับ มักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับความเงียบสงัด นอกจากนี้ ยังหมายถึงพลังชีวิตที่ถดถอยหรืออ่อนล้า หมดพลัง หมด หวังและกดดันเหมาะกับการนำมาใช้เพื่อเบรกความแรง ของสีอื่น หากเลือกใช้อย่างเหมาะสมก็จะเป็นสีที่มีเสน่ห์ มาก ถ้าจะให้ผลดียิ่งขึ้นหากใช้ร่วมกับสีขาว«ึ่งปรับความ สมดุ ล ให้ ร่ า งกาย สี ดí า ยั ง ปลุ ก เร้ า ถึ ง ระดั บ จิ ต ใต้ สí า นึ ก จนสามารถปรับชีวิตและอาการผิดปรกติให้อยู่ในÀาวะที่ เหมาะสมได้ การใส่เสื้อผ้าสีดำจะทำให้ดูมีความมั่นใจและ น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น 36


white

"สีขาว" เป็นสีที่ได้ผสานทุกสีของแสงเข้าด้วยกัน เป็นสีธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกบริสุทธิì สะอาด มีวัฒนธรรม ไร้เดียงสา สดใส เบาบาง อ่อนâยน เป ดเผย สุขุมนุ่มลึก สงบ รอบคอบ การเกิด ความจริง ความเมตตา ความÈรัทธา ความเคารพนับถือ ความ นอบน้อม ความดีงาม จัดอยู่ในกลุ่มของการปกป‡อง สร้างสันติ สบาย ช่วยบรรเทา อารมณ์ตกใจหรือหวาดวิตก ส่งเสริมให้จิตใจสะอาดบริสุทธิì มีพลังทางความคิดและจิตใจ นอกจากนั้นยังหมายถึงความเยือกเย็นและการแยกหรือปลีกวิเวกก็ได้ สีขาวทำให้ระบบ พลังทั้งหมดของเราสะอาดบริสุทธิì และปลุกพลังสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ขึ้นด้วย การใช้สี ขาวในเวลาที่ไม่แน่ใจว่าควรใช้สีใดดี จะช่วยให้ไม่เกิดความผิดพลาด การเริ่มต้นและจบ การรักษาลงด้วยสีขาวจะทำให้ระบบพลังของเราคงที่และได้รับการกระตุ้นในทุกๆ ด้าน สี ขาวช่วยให้ใช้สีอื่นๆ ได้ผลดียิ่งขึ้น

37


design source



nature

ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ต่างๆ ก้อนหิน ต้นไม้หรือ ดอกไม้เป็นแหล่งของดีไ«น์ชั้นเลิÈ อีกทั้งยัง แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ลวดลาย บนผืนผ้า เพราะนอกจากธรรมชาติจะเป็น สิ่งที่เราสามารถเห็นได้ง่ายรอบๆตัวแล้ว ธรรมชาติยังมีความหลากหลายจนก่อให้ เกิดการสร้างสรรค์ต่างๆอีกมากมาย เช่น ดอกไม้สายพันธ์ต่างๆ «ึ่งแต่ละชนิดก็แทน ความหมายความรู้สึกที่แตกต่างกันออก ไป สัตว์ต่างๆก็มีบุคลิกลักษณะที่แตกต่าง กันออกไปมากมายให้เราได้เลือกสรรนำมา ใช้ในงานออกแบบ «ึ่งเราสามารถวาดลาย เหมือนจริงหรือตัดทอนดัดแปลงสิ่งเหล่า นั้นตามสไตล์ของตัวเองก็ได้

40


travel

เรามักได้พบเห็นสิ่งต่างๆมากมายจากการเดินทาง เปรียบเสมือนการเป ดâลกทัÈน์ให้เรา ได้เห็นมุมมองใหม่ๆและเกิดเป็นไอเดียที่น่าสนใจ ประสบการณ์ต่างๆจะเป็นตัวผลักดันให้ เราสามารถ คิด ออกแบบ สิ่งต่างๆออกมาได้นอกเหนือจากในหนังสือหรืออินเตอร์เน็ต นอกจากนี้การเดินทางยังช่วยให้เรามีความคิดใหม่ๆ หลุดออกจากกรอบเดิมๆ ไม่เดินย่ำ อยู่กับที่ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมากขึ้น ลองหาสถานใหม่ๆที่ที่มีความแตกต่าง จากที่ๆเราอยู่เดิมๆ แรงบันดาลใจใหม่ๆก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก การเก็บÀาพความประทับใจก็มี หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นสเก็ตรูป ถ่ายรูป หรือแม้แต่จดจำไว้ในความทรงจำก็ได้

41


history of art

âลกของเราให้กำเนิดÈิลปะมาช้านานตั้งแต่ สมัยยุคâบราณจนถึงป˜จจุบัน และได้มีการ พัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบกันมาอย่างนับ ไม่ถ้วน ในแต่ละยุคสมัยก็มีสไตล์ที่âดดเด่น ชัดเจน «ึ่งแสดงความเป็นยุคนั้นๆได้อย่าง ดี âดยที่ เ ราเองสามารถหาแรงบั น ดาล ใจจากÈิ ล ปะในยุ ค ต่ า งๆได้ ง่ า ยในป˜ จ จุ บั น เพราะเทคâนâลยีมีความล้ำสมัย เช่น การ หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต แต่สถานที่ที่เป็น แหล่งของประวัติÈาสตร์Èิลปะชั้นเยี่ยมนั่น ก็คือ พิพิธÀัณ±์ ที่เราสามารถไปÈึกษา หาแรงบัลดาลใจได้อย่างใกล้ชิดและสมจริง ลองหาสมุ ด เสก็ ต เล็ ก ๆพกติ ด ตั ว เพื่ อ จด บั น ทึ ก สิ่ ง ที่ เ ราสนใจที่ ส ามารถจะนí า ไป สร้างสรรค์งานออกแบบที่เราชื่นชอบ

42


everyday Activities

กิจกรรมที่เราทำกันอยู่อยู่ทุกวันก็ทำให้เกิด การดีไ«น์ได้ เช่น การเก็บสะสมของต่างๆ ที่สนใจที่เราพบเจอในชีวิตหรือจำเป็นต้อง ใช้ในชีวิตประจำวันก็เป็นสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้น ให้เกิดดีไ«น์ดีๆขึ้นได้ บางสิ่งบางอย่างไม่ จíาเป็นจะต้องเป็นสิ่งที่จับต้องได้ก็เป็นตัว ช่วยขับเคลื่อนความคิดและจินตนาการได้ เช่น จากเพลงที่เราได้¿˜งหรือหนังที่เราดู หรือแม้แต่การเดินช้อปป œงก็ตาม สิ่งเหล่า นี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดความสร้างสรรค์ขึ้น ได้หากเรารู้จักนำไปใช้

43


humor

การมี อ ารามณ์ ขั น หรื อ สอดแทรกมุ ก ใน งานดี ไ «น์ ก็ เ ป็ น สิ่ ง ที่ ช่ ว ยกระตุ้ น ให้ ง าน ดีไ«น์นั้นมีความน่าสนใจ ไม่น่าเบื่อหน่าย การใช้ ลู ก เล่ น ในงานออกแบบช่ ว ยให้ เ กิ ด จินตนาการที่กว้างไกลขึ้นและยังทำให้เกิด การจดจำ สร้างความสะดุดตา แปลกใหม่ âดยที่เราสามารถทำงานนั้นๆออกมาได้âดย ไม่จำเป็นต้องคิดคำนึงถึงเหตุผล แต่เน้นที่ ความสนุกและความเพลิดเพลินผสานกับ จินตนาการใหม่ๆ ก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ใหม่ๆขึ้นได้

44


LET's DO IT



DyEing


history of dyeing

การย้อมผ้าเป็นงานÈิลปŠที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมมนุษย์มา อย่างยาวนาน ย้อนหลังไปหลายพันปีâดยประเทÈจีนถือ เป็นชนชาติแรกที่ปราก¯หลักฐานว่ามีการย้อมผ้า (ตั้งแต่ 3,000 ปี ก่อนคริสกาล) นอกจากนี้ยังพบชนชาติอื่นๆ ที่ มีการย้อมผ้า เช่น ชาวยุâรปในยุคâลหะ ชาวอินเดีย และ ชาวอียิปต์ พบหลักฐานการย้อมผ้าด้วยสีสันหลากหลาย ในสมัยâบราณ มนุษย์ตกแต่งผ้าจากวัสดุธรรมชาติชนิด ต่างๆ เช่น การใช้ใบไม้ ดอกไม้ หรือกิ่งไม้ ยึดติดกับผ้า ด้วยไข่ขาว หรือถูวัสดุที่มีสีต่างๆ ลงบนผ้า «ึ่งมีข้อเสีย คือไม่ทนต่อการ«ักล้าง และการสวมใส่ จนกระทั่งมนุษย์ สามารถค้นพบวิธีการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติâดยการนำ ผลไม้ไปตำให้ละเอียดแล้วนำมาต้มรวมกับผ้า ทำให้เส้นใย ผ้าเปลี่ยนสี และทนต่อการ«ักล้างมากขึ้น

48


สีย้อมธรรมชาติส่วนใหญ่จะได้มาจากพืชหรือสัตว์ เช่น สี แดงได้มาจากครั่ง สีน้ำเงินได้จากคราม สีดำได้มาจากผล ของมะเกลือ สีเหลืองที่ได้มาจากขมิ้น เป็นต้น «ึ่งตั้งแต่ อดีตจวบจนถึงป˜จจุบันี้ วิธีการย้อมผ้ายังคงใช้วิธีที่ไม่แตก ต่างมากนัก âดยการนำผ้าที่จะย้อมไปชุบน้ำให้เปียกแล้ว นำไปต้มในน้ำสีเป็นเวลาหลายชั่วâมง ยุ ค ต่ อ มา วิ เ ลี่ ย ม เพอร์ คิ น ได้ ค้ น พบสี สั ง เคราะห์ â ดย บังเอิญจากการพยายามสังเคราะห์ยาควินนินเพื่อใช้รักษา âรคมาลาเรีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถือเป็นยุคที่ 2 ของ สี ย้อมผ้า«ึ่งเป็นจุดสำคัญของการแบ่งแยกยุคสมัยของสี ย้อมผ้าจากยุคสีย้อมธรรมชาติมาสู่ยุคสีย้อมสังเคราะห์ ทำให้มีการคิดค้นสีชนิดใหม่ๆเพิ่มขึ้น การใช้สีสังเคราะห์ เป็นไปอย่างแพร่หลายจนแทนที่การใช้สีย้อมธรรมชาติâดย สิ้นเชิง สีย้อมสังเคราะห์สามารถใช้ย้อมเส้นใยที่ได้จากพืชและเส้น ใยâปรตีนที่ได้จากสัตว์ จนกระทั่งใด้มีการคิดค้นผ้าเส้นใย สังเคราะหìขึ้น «ึ่งเป็น ผลิ ต ผลจากอุต สาหกรรมน้í า มั น เช่น ไนล่อนและâพลิเอสเตอร์ สีย้อมสังเคราะห์ที่ใช้อยู่ใน สมัยนั้นไม่สามารถย้อมเส้นใยสังเคราะห์ชนิดใหม่นี้ได้ แต่ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการคิดค้นสีที่สามารถย้อมเส้นใย สังเคราะห์ได้ คือ สีดิสเพอร์ ยุคต่อมาก็เกิดสีรีแอคที¿ ขึ้น «ึ่งเป็นสีที่มีความยิดเกาะกับเส้นใยสูงâดยอาÈัยพันธะ ทางเคมี ทำให้ได้ผลลัพธ์คือความคงทนและสีที่สดใส

49


Tie dyeing : technic

การคิดประดิษฐ์ออกแบบลวดลายผ้านั้น ขึ้นอยู่กับจินตนาการและการสังเกตของ แต่ละคน «ึ่งการมัดแต่ละครั้งหรือแต่ละคน ลายผ้าที่ได้จะไม่เหมือนกัน แต่ก็สามารถ ปรับปรุง หรือออกแบบให้ใกล้เคียง หรือ คล้ายกันได้ «ึ่งจะขึ้นอยู่กับการสังเกตและ พัฒนาการของแต่ละคนด้วย «ึ่งการมัด ลายแบบพื้นฐานอย่างง่ายมี 4 แบบ ดังนี้ 1. การพับแล้วมัด คือ การพับผ้าเป็นรูป ต่างๆ แล้วมัดด้วยยางหรือ เชือก ผลที่ ได้จะได้ลวดลายที่มีลักษณะลายด้าน«้าย และลายด้ า นขวาจะมี ค วามใกล้ เ คี ย งกั น แต่ จ ะมี สี อ่ อ นด้ า นหนึ่ง และสี เข้มด้ านหนึ่ง เนื่องจากว่าหากด้านใดâดนพับไว้ด้านในสีก็ จะ«ึมเข้าไปน้อย ผลที่ได้ก็คือจะมีสีจางกว่า นั่นเอง

50

2. การห่อแล้วมัด กล่าวคือ เป็นการใช้ผ้า ห่อวัตถุต่างๆ ไว้แล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ลายที่ เ กิ ด ขึ้ น จะเป็ น ลายใหญ่ ห รื อ เล็ ก ขึ้ น อยู่กับวัตถุที่นำมาใช้ และลักษณะของการ มัด เช่น การนำผ้ามาห่อก้อนหินรูปทรง แปลกๆ ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก แล้วมัดไขว้ไป มา âดยเว้นจังหวะของการมัดให้มีพื้นที่ว่าง ให้สี«ึมเข้าไปได้ อย่างนี้ก็จะมีลายเกิดขึ้น สวยงามแตกต่างจากการมัดลักษณะวัตถุ อื่นๆ ด้วย


3. การขยำแล้วมัด กล่าวคือ เป็นการขยำ ผ้าอย่างไม่ตั้งใจแล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ผลที่ได้จะได้ลวดลายแบบอิสระ เรียกว่า ลายสวยแบบบังเอิญ เนื่องจากการขยำ แต่ ล ะครั้ ง เราไม่ ส ามารถควบคุ ม การทั บ «้ อ นของผ้ า ได้ ©ะนั้ น ลายที่ ไ ด้ เ ป็ น ลายที่ เกิดจากความบังเอิญ จริงๆ เปรียบเทียบ เหมือนกับการที่เราเห็นก้อนเม¦ ก้อนเม¦ แต่ละก้อนจะมีลักษณะแตกต่างกัน และเมื่อ ผ่านสักครู่ลายหรือลักษณะของก้อนเม¦ก็ จะเปลี่ยนไป เราเรียกว่าลายอิสระ หรือรูป ร่างรูปทรงอิสระนั่นเอง

4. พับแล้วหนีบ กล่าวคือ เป็นการพับผ้า เป็นรูปแบบต่างๆ แล้วเอาไม้ไอÈกรีม หรือ ไม้ไผ่ผ่าบางๆ หนีบไว้ทั้งสองข้างเหมือนป œง ปลา ต้องมัดไม้ให้แน่น Àาพที่ออกมาก็จะ เป็นรูปต่างๆตามที่เราตองการ เช่น รูป ดอกไม้ รูปสี่เหลี่ยม เป็นต้น

51


caution หลักการสำคัญในการทำมัดย้อม คือ ส่วนที่ถูกมัดคือส่วนที่ไม่ต้องการให้สีติด ส่วนที่ เหลือหรือส่วนที่ไม่ได้มัดคือส่วนที่ต้องการให้สีติด การมัดเป็นการกันสีไม่ให้สีติดนั่นเอง ลักษณะที่สำคัญของการมัดมีดังนี้

1. ความแน่นของการมัด - กรณีแรกมัดมากเกินไปจนไม่เหลือพื้นที่ให้สีแทรก«ึมเข้าไปได้เลย ผลที่ได้ก็คือ ได้สีขาวของเนื้อผ้าเดิม อาจมีสีย้อมแทรก«ึมเข้ามา ได้เล็กน้อย «ึ่งอย่างนี้จะเกิดลายน้อย - กรณีที่สองมัดน้อยเกินไป เหลือพื้นที่ให้สีย้อมติดเกือบเต็มผืน อย่างนี้ เกิดลายน้อยเช่นกัน ทั้งผืนมีสีย้อมแต่แทบไม่มีลายเลย - กรณีที่สาม มัดเหมือนกันแต่มัดไม่แน่น อย่างนี้เท่ากับ ไม่ได้มัดเพราะ หากมัดไม่แน่นสีก็จะแทรก«ึมผ่านเข้าไปได้ทั่วทั้งผืน

2. การใช้อุปกรณ์ช่วยในการหนีบผ้าแล้วมัด เพื่อให้เกิด ความ แน่นและเกิดลวดลาย ตามแม่แบบที่ใช้หนีบ ดังนั้นลายสวยเพียงใดขึ้นอยู่กับการออกแบบแม่แบบที่จะใช้หนีบด้วย

3. ความสม่ำเสมอของสีย้อม สีย้อมที่ติดผ้าจะสม่ำเสมอได้ขึ้นอยู่กับอุณหÀูมิความร้อน ขณะนำผ้าลงย้อม และการกลับผ้าไปมาการขยำผ้าเกือบตลอดเวลาของการย้อมหนึ่งถึง หนึ่งชั่วâมงครึ่งก่อนที่จะแช่ผ้าไว้

52


dyeing time!

53


step by step

1. การเตรียมผ้า นำผ้าฝ‡ายสีขาวมาตัดตามขนาดที่ ต้องการ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการ ใช้ว่าจะทำอะไร เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูâต ะ ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน เป็นต้น

2. การเตรียมสีย้อม ตัดตามขนาดที่ต้องการ ขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ของการใช้ว่าจะทำอะไร เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูâต ะ ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน เป็นต้น

54


3. นำผ้าลงย้อม ตัดตามขนาดที่ต้องการ ขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ของการใช้ว่าจะทำอะไร เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูâต ะ ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน เป็นต้น

4. การล้างผ้า ตัดตามขนาดที่ต้องการ ขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ของการใช้ว่าจะทำอะไร เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูâต ะ ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน เป็นต้น

55


TIE BLUE T-SHIRT

เสื้อผ้าสีเรียบๆที่เราใส่จนเบื่อ สามารถนำมาทำลวดลาย ง่ายๆด้วยการมัดย้อม เรามาลองทำเสื้อมัดย้อม«ักตัว สำหรับไปเที่ยวทะเลหรือÀูเขาในวันสบายๆ ดูเข้าท่า แถม ยังใส่สบายและไม่«้ำใครอีกด้วย 56


อุปกรณ์

-

ผ้าฝ‡ายสีขาว สีย้อมผ้า เชือก หม้อต้มสี

วิธีทำ

1.นำผ้าฝ‡ายสีขาวมาตัดให้ได้ตามขนาดที่ ต้องการ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการ ใช้ว่าจะทำอะไร

2. นำผ้าฝ‡ายไป«ักในน้ำสะอาด เพื่อให้ แป‡งที่ติดมากับผ้าหลุดออกและเพื่อให้ผ้า นุ่มและดูดสีมากขึ้น

57


3. นำผ้ามามัดลวดลายตามจินตนาการ

4. นำผ้าที่ผูกลายเสร็จลงไปในหม้อต้มสี ให้กลับด้านผ้าหรือกวนตลอด เพื่อให้สีผ้า ดูดสีสม่ำเสมอกันทั้งผืน ให้สังเกตสีที่«ึม เข้าไปในเนื้อผ้า ถ้าพอใจหรือเหมาะสมแล้ว จึงนำออกมา วางให้เย็นก่อน (ประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหถูมิของน้ำ)

5. แล้วค่อยเอาลงล้างขยี้เบาๆ ในน้ำตัวทำป¯ิกิริยาเพื่อทำให้เกิดสีใหม่ จนได้สีที่พอใจแล้ว ให้แกะลายออกแล้วนำไปตากแดดให้แห้งก็จะได้ผ้าทำมือลวดลายต่างๆตามที่เราต้องการ

58


so hot Dress

ลองมาเนรมิตรเดรสเกŽๆให้เกŽยิ่งขึ้น ด้วยการทำเดรสมัด ย้อมสีสันสดใส เหมาะสำหรับใส่ไปเที่ยวในวันสบายๆ แถม วิธีการก็ง่ายอย่าบอกใครและยังได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ให้เกิดประâยชน์อีกด้วย 59


อุปกรณ์

-

เดรสสีขาว สีย้อมผ้า เชือก หม้อต้มสี วิธีทำ

1. นำเดรสไป«ักในน้ำสะอาด เพื่อให้แป‡งที่ ติดมากับผ้าหลุดออกและเพื่อให้ผ้านุ่มและ ดูดสีมากขึ้น 2. ใช้เชือกมัดลวดลายที่ต้องการบนผ้า อาจลองการมัดแบบใหม่ๆที่ยังไม่เคยทำเพื่อ ความแปลกใหม่ น่าสนใจ 60


4. นำผ้าที่ผูกลายเสร็จลงไปในหม้อต้มสี ให้กลับด้านผ้าหรือกวนตลอด เพื่อให้สีผ้า ดูดสีสม่ำเสมอกันทั้งผืน ให้สังเกตสีที่«ึม เข้าไปในเนื้อผ้า ถ้าพอใจหรือเหมาะสมแล้ว จึงนำออกมา วางให้เย็นก่อน (ประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหถูมิของน้ำ)

5. แล้วค่อยเอาลงล้างขยี้เบาๆ ในน้ำตัวทำป¯ิกิริยาเพื่อทำให้ เกิดสีใหม่ จนได้สีที่พอใจแล้วให้แกะลายออกแล้วนำไปตากแดดให้ แห้งก็จะได้ผ้าทำมือลวดลายต่างๆตามที่เราต้องการ

61



marbliing


marbling me!

ผ้ า สี จื ด ชื ด ของเราสามารถแปลงร่ า งเป็ น ผ้ า สี สั น สดใส แปลกตาไม่«้ำใครได้ด้วยเทคนิค marbling เทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้ผ้าธรรมดาๆกลายเป็นผ้าผืนâปรดได้ แถมยังได้ ผ้าที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย 64


อุปกรณ์

-

ผ้าฝ‡ายสีขาว สีเพ้นท์ผ้า ดินเปียก แท่งคน Àาชนะใส่สี

วิธีทำ

1. เทดินเปียกสำหรับทำวอลเปเปอร์ (Wallpaper Paste) ลงในถาดตื้น ๆ และต้องมั่นใจได้ว่าไม่มี¿องอากาÈในดินเปียก เนื่องจากจะเป็นส่วนที่แสดงให้ เห็นวัสดุของการตกแต่ง

65


2. หยดสีâดยตรงจากขวดสีลงบนผิวของ น้ำใช้สี ประมาณ 2 - 3 เ©ดสี แล้วแต่ จินตนาการ ถ้าใช้เ©ดสียิ่งมากยิ่งทำให้สีใน การทำ Marbling ยิ่งเข้มข้นขึ้น

3. ใช้แท่งคนหรือหวีเกลี่ยสีที่พื้นผิวอย่างรวดเร็วเพื่อสร้าง ลวดลาย

4.จุ่มวัสดุเพื่อเพ้นท์ รอจนกระทั่งวัสดุที่ใช้ จะอิ่มตัวสมบูรณแล้วยกวัสดุขึ้นâดยเร็ว์

66


5. ทิ้งให้แห้งในเวลา 15 นาที

6. เมื่อคุณต้องการทำ«้ำอีกครัง ก่อนที่จะทำ Marbling อีกครั้ง จะต้องนำส่วนที่ เกินจากการเพ้นท์ครั้งก่อนออกจาก ผิวน้ำก่อนâดยใช้เÈษกระดาษ âดยปาดส่วนเกินที่ อยู่บริเวณขอบÀาชนะ) สีที่ เหลือจะเคลือบบนผิวน้ำ ทำให้สีที่จะเพ้นท์ใหม่ไม่สามารถ กระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ

67



stencil


History of stencil

วิวัฒนาการการพิมพ์พื้น©ลุ การพิมพ์พื้น©ลุมีมาตั้งแต่ ยุคâบราณâดยทำแม่พิมพ์แบบง่ายๆ ด้วยการตัดเจาะกระ ดาษหรือวัสดุอื่นเป็นช่องตามลักษณะของรูปที่ต้องการ ทาบแม่พิมพ์ลงบนสิ่งที่ต้องการพิมพ์แล้วใช้หมึกพ่นหรือ ปาดบนแม่พิมพ์ ก็จะได้Àาพดังกล่าว การพิมพ์แบบนี้ว่า การพิมพ์สเตน«ิล (Stencil Printing) ในยุคแรกๆที่ มีการพิมพ์ตัวอักษร เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ด้วยวิธีดังกล่าว ประเทÈจีนได้ใช้กรรมวิธีนี้พิมพ์Àาพบนผ้ าตั้งแต่คริสต์Èตวรรษที่ 6 การพิมพ์แบบนี้มักมีป˜ญหาคือ แม่พิมพ์«ึ่งทำจากกระดาษหรือวัสดุอื่นในสมัยนั้นไม่ค่อย แข็งแรง จึงพิมพ์ชิ้นงานได้น้อยและลวดลายของÀาพหรือ ตัวอักษรจะมีบางส่วนขาดตอนไปเนื่องจากการตัดแม่พิม พ์ต้องเหลือส่วนของเนื้อแม่พิมพ์สำหรับยึดติดกันไม่หลุด ลุ่ย ทำให้งานพิมพ์ดูไม่สวยงาม ต่อมามีการใช้แผ่นâลหะทำ เป็นแม่พิมพ์เพื่อให้แม่พิมพ์แข็งแรงขึ้น แต่เป็นการสร้าง ความลำบากในการทำแม่พิมพ์และใช้เวลาในการทำ 70


ต่ อ มามี ก ารพั ฒ นาให้ ก ระดาษทนทาน ขึ้นและมีผู้นำกระดาษไปเคลือบไขแล้วใช้ âล หะปลายแหลมทิ่มด้วยมือลงบนกระดาษ ไข เป็นรูเล็กๆเรียงกันให้เป็นÀาพขึ้น ถึงแม้จะ ทำให้ ไ ด้ ง านที ่ ด ี ข ึ ้ น แต่ เ ป็ น งานที ่ ใ ช้ ฝ ี มื อ และเวลาในการทำ ต่อมาในปี ค.È. 1876 นายâทมัส เอดิสัน (Thomas Edison) ได้ ป ระดิ ษ ฐ์ เ ครื ่ อ งพิ ม พ์ ท ี ่ ใ ช้ ห ลั ก การดั ง กล่าวได้สำเร็จ เรียกว่าเครื่องพิมพ์âรเนียว หรื อ เรี ย กว่ า เครื ่ อ งทำสำเนาสเตน«ิ ล (Stencil Duplicator) นอกจากนี้ยังได้ ประดิษฐ์ปากกาสเตน«ิล (Stencil Pen) ใช้แทนâลหะปลายแหลม ต่อมามีพัฒนาวิธี การสร้างÀาพบนกระดาษไขâดยใช้วิธีการ ©ายแสง«ึ่งก็ใช้ได้จนถึงป˜จจุบัน ย้อนกลับไปในคริสต์Èตวรรษที่17ชาวญี่ปุ†นได้ใช้เส้นผมของคนและกาวมาทำแม่พิมพ์ แบบ©ลุขึ้น ทำให้ได้งานที่ละเอียดกว่าการตัดกระดาษ เราเรียกกรรมวิธีการพิมพ์นี้ว่า การพิมพ์แÎร์สแตน«ิล (Hair Stencil) ต่อมาได้มีการใช้เส้นไหม«ึ่งแข็งแรงกว่ามาใช้ ทำแม่พิมพ์แทนเส้นผม เรียกกรรมวิธีนี้ว่าการพิมพ์«ิลค์สกรีน (Silkscreen Printing) การพิ ม พ์ « ิ ล ค์ ส กรี น ได้ แ พร่ เ ข้ า ไปในยุ â รปและเป็ น ที ่ น ิ ย มทั ้ ง ในฝรั ่ ง เÈสและอั ง กÄษ และถูกเผยแพร่ไปยังทวีปอเมริกา ในปลายคริสต์Èตวรรษที่ 19 ชาวอเมริกันชื่อนายชาลส์ เนลสัน âจนส์ (Charles Nelson Jones) ได้ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์สกรีนขึ้นสำเร็จ ทำให้ การพิมพ์สกรีนผลิตงานรวดเร็วขึ้น การพิมพ์«ิลค์สกรีนได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีการใช้อย่างกว้างขวางมากเนื่องมาจากต้นทุนที่ต่ำและทำงานง่าย ในป˜จจุบันมีการ ใช้ผ้าใยสังเคราะห์แทนผ้าไหมในการทำแม่พิมพ์ และใช้สารไวแสงเคลือบก่อนที่จะนำÀาพต้ นแบบทาบแล้วสร้างÀาพด้วยการ©ายแสง 71


STencil : Technic

1. ร่างแบบลงบนแผ่นสเตน«ิล ร่างแบบที่เราต้องการลงบนแผ่นสเตน«ิล âดยอาจจะเป็นกระดาษ แผ่นใสหรือ วัสดุอื่นๆก็ได้ ควรร่างให้เห็นชัดเจนเพื่อ ง่ายต่อการตัด

72

2. ตัดแม่แบบสเตน«ิล ตัดส่วนที่เราต้องการลงสีออก ควรตัด ให้ขอบมีความคมและตรงตามแบบที่ต้อง การและควรเลือกคัตเตอร์คมๆ เพราะรูปที่ ได้ออกมาจะได้ไม่ยู่ยี


3. ลงสี นำแผ่นสเตน«ิลไปวางบนผ้าหรือวัสดุ ที่ต้องการ ใช้¿องน้ำหรือพู่กันทาสีทับ บริเวณที่ตัดออกให้ทั่ว

4. ลอกแผ่นแม่แบบออก ค่อยๆลอกแผ่นแม่แบบออกจากผ้าหรือวัส ดุที่ใช้ ระวังหากสียังชุ่มอยู่ให้ทิ้งไว้«ักพัก เมื่อลอกออกก็จะได้ลวดลายตามที่ต้องการ

73


oh my stripped bag!

เดี่ยวนี้กระแสถุงผ้ารักษ์âลกมาแรง ทำให้ใครๆก็หันมาใช้ ถุงผ้ากันทั้งนั้น แต่ถ้าจะให้ใช้ถุงผ้าสีเรียบๆก็คงจะดูเชย ไป«ักหน่อย ลองทำลวดลายน่ารักๆให้กับถุงผ้า เป็นลาย คลาสสิกๆแบบลายทาง แต่เพิ่มลูกเล่นเข้าไปด้วยการใช้ เทคนิคง่ายๆอย่างแปรงสี¿˜น แค่นี้ก็ทำให้ถุงผ้าธรรมดาๆ น่ารักน่าใช้ขึ้นได้แล้ว 74


อุปกรณ์

วิธีทำ

-

ถุงผ้าใส่ของ สีเพ้นท์ผ้า เทปนิตâต แปรงสี¿˜นที่ไม่ใช้แล้ว

1. แปะเทปนิตâต้ลงบนถุงผ้าเป็นแถบๆ เว้นระยะห่างแต่ละช่วงให้เท่ากัน แล้วรีด เทปให้ติดแนบสนิทกับผ้า 2. ใช้แปรงสี¿˜นที่ไม่ใช้แล้วจุ่มสีที่ต้องการ แล้วดีดลงให้ทั่วบริเวณถุงผ้า 75


3. ใช้แปรงสี¿˜นดีดสีให้ทั่วจนได้ความเข้ม ตามที่ต้องการ ลอกเทปนิตâต้ออกก็จะได้ แถบสีบนถุงผ้า 4. แปะเทปนิตâต้อีกรอบ âดยติดทับลาย เดิมที่ทำไว้ และเว้นระยะห่างให้เท่าๆกัน

5. ผสมสีอีกสีหนึ่ง แล้วใช้แปรงสี¿˜นดีดสี ลงไปจนทั่วถุงผ้า

6. เมื่อแกะเทปนิตâต้ออกก็จะได้ถุงผ้าที่มี ลายทางสลับสีและมีเทกเจอร์ของการดีดสี จากแปรงสี¿˜นสวยงาม 76


catty legging

เลกกิ้งเป็นเครื่องแต่งกายยอกÎิตที่สาวๆสมัยนี้นิยมใส่กัน แต่จะให้ใส่แบบเรียบๆก็คงจะดู ธรรมดาไป«ักหน่อย ลองเพิ่มลูกเล่นด้วยการเติมลวดลายâปรดลงไปบนเลกกิ้ง ก็ทำให้ ดูแปลกตา น่าสนใจ ได้มากขึ้นทีเดียว แถมยังดูสนุกและเป็นตัวเองอีกด้วย 77


อุปกรณ์

-

เลกกิ้ง สีเพ้นท์ผ้า ¿องน้ำ คัตเตอร์ แผ่นใส ปากกาเขียน«ีดี

วิธีทำ

1. วาดลวดลายเลกกิ้งที่เราต้องการลง บนแผ่นใสด้วยปากกาเขียน«ีดี

2. ใช้คัตเตอร์ตัดส่วนที่เป็นสีดำออกเพื่อ เพ้นสีทับลงไปตรงส่วนนั้นแทน

78


3. ผสมสีให้ได้สีที่ต้องการ

4. ทาบแผ่นใสที่ตัดลวดลายแล้วบนเลกกิ้ง แล้วนำ¿องน้ำชุบสีทาให้ทั่ว 5. เปลี่ยนตำแหน่งแผ่นใสและทาสีไปเรื่อยๆ จนได้ลวดลายเต็มพื้นที่ๆต้องการ

79


De Scraf

ผ้าพันคอหรือผ้าเช็ดหน้าผืนเรียบๆ สีจืดชืด สามารถนำ มาดัดแปลงให้เป็นผ้าพันคอสุดเท่อินเทรนด์ได้ง่ายๆ âดย ใช้รูปทรงเรขาคณิตยอดÎิตอย่างสามเหลี่ยม หรืออาจจะ ดัดแปลงเป็นลวดลายอื่นๆตามใจชอบด้วยวิธีง่ายๆและใช้ อุปกรณ์ใกล้ตัว ในเวลาสั้นๆหรือเร่งรีบ ก็ได้ผ้าพันคอลาย สวยๆไม่«้ำใครแล้ว 80


อุปกรณ์

วิธีทำ

-

ผ้าพันคอ สีเพ้นท์ผ้า ¿องน้ำ คัตเตอร์ กรรไกร ปากกาเขียน«ีดี

1.ร่างÀาพสามเหลี่ยมลงบนแผ่นใสด้วยปากกาเขียน«ีดี

81


2. ใช้คัตเตอร์ตัดส่วนที่เป็นสีดำออก ค่อยๆตัดอย่างประณีต

3. ผสมสีที่ต้องการ ระวังอย่าให้สีข้นหรือ เหลวจนเกินไป

4. ใช้¿องน้ำชุบสีหมาดๆ แสตมปŠลงให้ทั่ว สเตน«ิลที่เตรียมไว้ ค่อยๆยอกเพลทออก จากผ้า ก็จะได้ลายที่ต้องการ 82


4. เปลี่ยนเพลทและเปลี่ยนสีในการแสตมปŠ ให้ได้อีกลวดลายหนึ่ง ลงบนผ้า เพื่อหลีกเลี่ยงความจำเจ

5. แสตมปŠลายทั้ง 2 สลับกัน อาจมีบางส่วนที่«้อนทับกันบ้างจนเต็มทั้งผืน ก็จะได้ผ้า พันคอลายน่ารักๆ ไว้ใส่อวดâ©มกันแล้ว

83



printing


history of Printing

86


Àาพพิมพ์ âดยความหมายของคำย่อมเป็นที่เข้าใจชัดเจนแล้วว่าหมายถึง รูปÀาพที่สร้าง ขึ้นมาâดยวิธีการพิมพ์ แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงÀาพพิมพ์ อาจจะยังไม่เป็นที่ รู้จักว่าÀาพพิมพ์คืออะไรกันแน่ เพราะคำๆนี้เป็นคำใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้กันมาประมาณเมื่อ 30 ปี มานี้เอง âดยความหมายของคำเพียงอย่างเดียว อาจจะทำให้เข้าใจสับสนไปถึงรูปÀาพ ที่พิมพ์ด้วยกรรมวิธีการพิมพ์ทางอุตสาหกรรม เช่น âปสเตอร์ Àาพพิมพ์ที่จำลองจาก Àาพถ่ายหรือÀาพจำลองจิตรกรรม อันที่จริงคำว่าÀาพพิมพ์ เป็นÈัพท์เ©พาะทางÈิลปะ ที่หมายถึง ผลงานวิจิตรÈิลปŠที่จัดอยู่ในประเÀททัÈนÈิลปŠ เช่นเดียวกันกับจิตรกรรมและ ประติมากรรม Àาพพิมพ์ทั่วไปนั้นจะมีลักษณะเช่นเดียวกับจิตรกรรมและÀาพถ่าย คือตัวอย่างผลงานมี เพียง 2 มิติ ส่วนมิติที่ 3 คือความลึกที่จะเกิดขึ้นจากการใช้Àาษาเ©พาะของทัÈนÈิลปŠ อันได้แก่ เส้น สี น้ำหนัก และพื้นผิว สร้างให้ดลวงตูลึกเข้าไปในระนาบ 2 มิติของผิว Àาพ แต่Àาพพิมพ์มีลักษณะเ©พาะที่แตกต่างจากจิตรกรรมตรงกรรมวิธีการสร้างผล งานที่ผลงานจิตรกรรมนั้นÈิลป นเป็นผู้สร้างสรรค์ขีดเขียนหรือวาดÀาพระบายสีลงไป บนผืนผ้าใบ กระดาษหรือสร้างออกมาเป็นÀาพâดยทันที แต่การสร้างผลงานÀาพพิมพ์ Èิลป นต้องสร้างแม่พิมพ์ขึ้นมาเป็นสื่อก่อน แล้วจึงผ่านกระบวนการพิมพ์ถ่ายทอดออก มาเป็นÀาพที่ต้องการได้ จากกรรมวิธีในการสร้างผลงานด้วยการพิมพ์นี้เองทำให้Èิลป น สามารถสร้างผลงานต้นแบบ (Original) ที่เหมือนๆกันได้หลายชิ้น เช่นเดียวกับผลงาน ประติมากรรมประเÀทที่ป˜œนด้วยดินแล้วทำแม่พิมพ์หล่อผลงาน ชิ้นนั้นให้เป็นวัตถุถาวร เช่น ทองเหลือง หรือสำริด ทุกชิ้นที่หล่อออกมาถือว่าเป็นผลงานต้นแบบมิใช่ผลงาน จำลอง (Reproduction) ทั้งนี้เพราะว่าÀาพพิมพ์นั้นก็มิใช่ผลงานจำลองจากต้นแบบที่ เป็นจิตรกรรมหรือวาดเส้น แต่Àาพพิมพ์เป็นผลงานการสร้างสรรค์ ที่Èิลป นมีทั้งเจตนา และความเชี่ยวชาญในการใช้คุณลักษณะพิเÈษเ©พาะของเทคนิค วิธีการทางÀาพพิมพ์ แต่ละชนิดมาใช้ในการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิด และอารมณ์ ความรู้สึกออกมาใน ผลงานได้âดยตรง แต่จะแตกต่างจากการที่นำเอาผลงานจิตรกรรมที่สร้างสำเร็จไว้แล้ว มาจำลองเป็นÀาพâดยผ่านกระบวนการทางการพิมพ์ 87


little giraffes

กระเป‰าใส่ดินสอเรียบๆ นำมาสแตมปŠลายน่ารักๆ เหมาะกับเป็นของขวัญให้กับคนพิเÈษๆ หรือจะใช้เองก็น่ารักเกŽไกŽ แถมยังÀูมิใจกับการแกะลายด้วยตัวเองอีกด้วย วิธีทำนั้นก็แสน ง่าย แค่ยางลบก้อนเดียวก็เนรมิตรลายน่ารักๆได้แล้ว 88


อุปกรณ์

-

กระเป‰าใส่ดินสอ สีเพ้นท์ผ้า อุกรณ์แกะสลัก คัตเตอร์ ยางลบ กระดานรองตัด

วิธีทำ 1. วาดลวดลายที่เราต้องการลงบน ยางลบ ต้องคำนึงถึงการพิมพ์ด้วยเพราะ เมื่อพิมพ์ออกมาÀาพจะกลับ«้ายไปขวา

89


2. ใช้อุปกรณ์แกะสลักแกะเนื้อยางลบส่วน ที่ไม่ต้องการออกจนหมด

3. ผสมสีที่ต้องการแล้วทาลงบนตัวป˜ ม ยางลบ สีจะติดอยู่บนส่วนที่เราไม่ได้แกะ ÍÍ¡ 4. ป็มยางลบที่ทาสีแล้วลงบนผ้า ลองเปลี่ยนสีเพื่อเพิ่มความสนุกให้กับลวดลาย

90


potato stamp!

จากกระเป‰าห้อยคอเรียบๆ สีขาว ถูกแต่งแต้มลวดลาย สีสันให้ดูน่ารักน่าใช้ขึ้นด้วย เทคนิคง่ายๆจากมันฝรั่งที่ หาได้ ทั่ ว ไปตามท้ อ งตลาด เป็ น การรู้จักใช้ท รัพ ยากร และยังได้ใช้เวลาว่างให้เกิด ประâยชน์ นอกจากนี้ ยั ง ได้กระเป‰าใบใหม่ที่ช่วยรักษ์ âลกไปอวดâ©มอีกด้วย 91


อุปกรณ์

วิธีทำ 1. ใช้มีดแบ่งครึ่งมันฝรั่งออกเป็น2ท่อน ควรใช้มีดคมๆ เพื่อให้ ผิวหน้าของมันฝรั่งเรียบเสมอกัน

92

-

กระเป‰าผ้า สีเพ้นท์ผ้า มันฝรั่ง อุกรณ์แกะสลัก คัตเตอร์ มีด กระดานรองตัด


2. แกะสลัดมันฝรั่งด้วยอุปกรณ์แกะสลักเป็นรูปที่เราต้องการ âดยแกส่วนที่เราไม่ต้องการออก

3. ผสมสีที่ต้องการ แล้วใช้พู่กันทาลงบน มันฝรั่งที่แกะแล้วให้ทั่ว

4. ค่อยๆพิมพ์มันฝรั่งที่ทาสีแล้วลงบนผ้า ใช้น้ำหนักกดลงไปเพื่อให้สีสม่ำเสมอ ทำ«้ำเพื่อให้เกิดลวดลายเป็นแพทเทิร์น บนผ้าตามแบบที่เราต้องการ 93


5. ผสมสีใหม่ที่ต้องการและทาลงบนมัน ฝรั่งอีกลายหนึ่งให้ทั่ว 6. กดมันฝรั่งลงบนผ้าให้เกิดลวดลายตามที่ต้องการ ก็จะได้ กระเป‰าห้องหาลายน่ารักๆไว้อวดâ©ม

94


chair to share

เก้าอี้â«¿าตัวâปรดที่นั่งอยู่ประจำ เกิดวันไหนเบื่อๆก็ลุก ขึ้นมาเปลี่ยนลวดลายเบาะเล่นๆ สร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แถมยังหลีกเลี่ยง ความจำเจได้อีกด้วย แล้วจะรู้ว่าการเปลี่ยนลวดลายเบาะ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด 95


อุปกรณ์

-

ผ้าหุ้มเบาะ สีเพ้นท์ผ้า แผ่นไม้ อุกรณ์แกะสลัก คัตเตอร์

วิธีทำ 1. ตัดไม้ตามขนา ดที่ต้องการ วาดลวด ลายที่ต้องการลงไปแล้วแกะส่วนที่ไม่ใช้ออก 2. ใช้ที่กลิ้งสีกลิ้งสีแล้วทาลงบนไม้ที่แกะ แล้วให้ทั่ว

3. คว่ำแม่พิมพ์ลงบนผ้าแล้วออกแรงกด เพื่อให้สีติดทั่วถึงและสม่ำเสมอ 96


4. พิมพ์แม่พิมพ์ต่อไปเรื่อยๆให้ทั่วผ้า เพื่อเกิดเป็นแพทเทิร์นบน ผ้า ควรให้ความสำคัญกับรอยต่อของลายด้วย ส่วนลายที่ไม่ เนี้ยบหรือจางๆบางทีก็เป็นเสน่ห์ของการพิมพ์ได้

5. ทิ้งผ้าไว้ให้สีแห้ง จากนั้นนำผ้าไปบุเบาะของเก้าอี้หรือâ«¿าตัว âปรด เพียงเท่านี้ก็จะไก้เก้าอี้ลายใหม่ น่ารักๆ ไว้ให้ชื่นชม

97




preservation

เนื่องจากผ้าแต่ละชนิดมีลักษณะที่แตกต่างกัน ©ะนั้นการดูแลรักษาผ้าเกาะยอจึงต้อง มี วิธีการที่ แตกต่างกันตามลักษณะของเส้นใยที่นำมาทอเป็นผ้า «ึ่งการดูแลรักษาผ้าวิธีที่ ดีที่สุดคือการทำความสะอาดผ้า การ«ักรีดที่ถูกวิธี จะช่วยถนอมผ้าให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

1. ฝ‡าย สามารถ«ักในน้ำร้อนได้ และใช้ ผง«ัก¿อกที่มี¿องมาก รีดได้ที่ อุณหÀูมิ สูง

2.เรยอง เป็นใยสังเคราะห์ ที่มีความคงตัวสูง ไม่ค่อยยับ คืนตัวได้ดี เนื้อผ้าแข็งแรง «ัก ในน้ำร้อนได้และใช้สาร«ัก¿อก ที่มี ชนิดอ่อนหรือ«ักแห้ง ไม่ควรขยี้ ควรตากในที่ร่ม รีด ได้ด้วยความร้อนปานกลาง ไม่จำเป็นต้องลงครามหรือ¿อกขาวเพราะผ้าเรยอง สีขาวไม่ เหลือง ควร«ักผ้าเรยองที่บอบบางด้วยวิธี«ักที่แนะนำไว้สำหรับผ้าที่บอบบางâดยเ©พาะ

3. ไนลอน ผ้าที่ทอมาจากเส้นใยไนลอนจะเรียบ จึงไม่ค่อยสกปรกและมีความยืดหยุ่นจึง เกือบจะไม่ต้องรีด แต่เนื่องจาก ไนลอนสีขาวมักดูดสีจากผ้าสี จึงควร«ักรวมกับผ้าขาว เท่านั้น เมื่อ«ัก หลาย ๆ ครั้ง ไนลอนสีขาวมักจะเหลืองจึงต้อง¿อกขาว ด้วยâ«เดียมเพ อร์บอเรต «ักด้วยมือดีที่สุด ให้บีบเอาน้ำออกบ้างแต่อย่าบิดผ้าเพราะจะทำให้เกิดรอยยับ บนผืนได้ 100


4. âพลีเเอสเทอร์ «ักง่ายมากและเกือบไม่ ต้องรีด วิธี«ักแล้วแต่วิธีผลิตผ้าให้ขยี้ที่คอ ปกและข้อมือก่อน«ักหรือแช่ ในผง «ัก¿อกที่มีเอนไ«ม์ ¿อกขาวผ้าสีขาว

5. ไหมเทียม ทำความสะอาดด้วยการ«ักแห้ง หรือถ้า«ักน้ำต้อง«ักด้วยมือ น้ำสบู่อุ่น ม้วนผ้าในผ้าเช็ดตัวเพื่อบีบเอาน้ำ ออก รีดด้านในของผ้าในขณะที่ผ้ายังมี ความชื้น บริเวณที่ยับมากควรควรรีดรอยยับด้วยการรีดบนผ้าชื้น และควร«ักผ้าไหม ที่เป„œอน ทันที เพราะเหงื่อไคลจะทำลายเส้นใยให้เสื่อมเร็วกว่ากำหนด

6. ไหม ทำความสะอาดด้วยการ«ักแห้งในน้ำสบู่อุ่นๆ ม้วนผ้าในผ้าเช็ดตัว เพื่อบีบเอาน้ำ ออก รีดด้านในของผ้าในขณะที่ผ้า ยังมีความชื้น บริเวณที่ยับมากควรรีดรอยยับด้วย การรีดบนผ้าชื้น ควร«ักผ้าไหมที่เป„œอนทันที เพราะเหงื่อไคลจะทำลายเส้นใย ให้เสื่อมเร็ว กว่ากำหนด.

101


Resources

1. สำเพ็ง เป็นแหล่งใหญ่ที่เป็นที่นิยมมากในป˜จจุบัน สำหรับคนทุกรุ่นทุกวัย เพราะ มีสินค้า ให้เลือกสรรแทบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นผ้า 4. เจริญรัถ อุปกรณ์ตกแต่ง เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เป็นแหล่งขายอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ «ึ่งราคาถูก แต่ต้อง«ื้อในปริมาณมาก เครื่องหนัง หูกระเป‰า «ิป และอุปกรณ์ตัด เย็บที่เป็นที่นิยม เพราะเป็นแหล่งที่มีของให้ 2. พาหุรัด เลือกมากมายและอยู่ใจกลางเมืองบริเวณ เป็นแหล่งขายผ้าที่นิยมที่สุด เพราะ วงเวียนใหญ่ มีผ้าแทบทุกชนิดให้เลือกสรรและราคาที่ไม่ แพง ทั้งยังเป็นแหล่งสำหรับเลือก «ื้ออุปกรณ์ตัดเย็บ ตกแต่งผ้าอีกด้วย

5. ร้านสมใจ

เป็นแหล่งขายอุปกรณ์Èิลปะที่มีชื่อเสียงมา ยาวนาน มีสินค้าให้เลือกสรรหลากหลาย และราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ไม่ว่า 3.ตั้งÎั่วเส็ง จะเป็นสีชนิดต่างๆ แปรงทาสี อุปกรณ์ เป็นห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์ ต่างๆมีให้เลือกอย่างครบครัน งานผีมือแทบทุกชนิด อุปกรณ์ตัดเย็บผ้า และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย มี2สาขา คือ สาขาธนบุรีและสาขาบางลำพู

102


103







Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.