การจัดการนํา ที สอดคล้ องกับวิถีชีวติ ปกาเกอะญอบ้ านแม่ แดดน้ อย หมู่ท ี 4 ตําบลแม่ แดด อําเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่
โดย นางสาวธชาพร เลาวพงษ์
การค้ นคว้ าอิสระนีเ ป็ นส่ วนหนึ งของการศึกษาตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรบัณฑิต (บัณฑิตอาสาสมัคร) สํานักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2555
Water Resource Management Harmonize with the Way of Life of Karen Ban Mae Daet Noi Village, Moo 4, Mae Daet Sub-district, Galyani Vadhana District, Chiangmai Province By Ms. Thachaporn Laowapong
A Mini-Thesis Submitted in Partial Fulfillment of the Requirements for the Graduate Diploma Program (Graduate Volunteer) Graduate Volunteer Centre Thammasat University 2012
บทคัดย่ อ งานค้ นคว้ าอิสระเรื องการจัดการนํ าที สอดคล้ องกับวิถีปกาเกอะญอบ้ านแม่แดดน้ อย หมูท่ ี 4 ตําบลแม่แดด อําเภอกัลยาณิวฒ ั นา จังหวัดเชียงใหม่ มีวตั ถุประสงค์ในการศึกษา 3 ประการ ประการแรกเพื อศึกษาแนวทางการจัดการนํ าที สอดคล้ องกับวิถีชีวิตชาวปกาเกอะญอ บ้ านแม่แดดน้ อย
ประการที สองเพื อศึกษาวิถีชีวิตกับการจัดการนํ าของชาวปกาเกอะญอบ้ านแม่
แดดน้ อยจากอดีตถึงปั จจุบนั
และประการที สามเพื อศึกษามุมมองและปฏิบตั กิ ารทางสังคมของ
ชาวปกาเกอะญอต่อแนวทางการจัดการสมัยใหม่ ใช้ วิธีการศึกษาโดยการทบทวนสถานการณ์การ จัดการนํ าจากอดีตถึงปั จจุบนั
วิถีชีวิตปกาเกอะญอกับการใช้ นํ าในระดับครัวเรื อน
ตลอดจน
กระบวนการต่อรอง ปะทะ-ประสานกับการเข้ ามาของแนวคิดและวิธีการจัดการนํ าสมัยใหม่ โดยใช้ วิธีเก็บรวบรวมข้ อมูลภาคสนามจากบริ บทชุมชน
การเดินสํารวจต้ นนํ าและเส้ นทางนํ าในหมูบ่ ้ าน
ร่วมกับชาวชุมชน การสัมภาษณ์เชิงลึกระดับบุคคลและระดับกลุม่ บุคคลทังองค์ กรภาคประชาชน และหน่วยงานของรัฐ ในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 เป็ นระยะเวลา 7 เดือน จากนันจึ งนําข้ อมูลมาวิเคราะห์เชิงคุณภาพ จากผลการศึกษาพบว่าแนวทางการจัดการนํ าที สอดคล้ องกับวิถีชีวิตปกาเกอะญอ บ้ านแม่แดดน้ อยมี 4 แนวทางคือ 1) สร้ างอ่างเก็บนํ าถาวรขนาดใหญ่หรื อปรับปรุงบ่อดินขนาดใหญ่ ในหมูบ่ ้ าน 2) สร้ างฝายต้ นนํ าถาวร 3) การจัดการความขัดแย้ งระหว่างคนกับคนในเรื องการจัดสรร ของนํ า และ 4) การรื อ ฟื น ภูมิปัญญาในการจัดการนํ าของบรรพบุรุษ สําหรับสถานการณ์การจัดการนํ าของบ้ านแม่แดดน้ อยจากอดีตที เคยยึดมัน ภูมิ ปั ญญาของบรรพบุรุษในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติเริ มผ่อนคลายลงในปั จจุบนั จากโลกทัศน์ ความเชื อว่าทุกสรรพสิ งในธรรมชาติล้วนมีเจ้ าของ
ทุกสิ งมีสิ งศักดิสB ิทธิBของปกปั กรักษาค่อยๆ
เปลี ยนผ่านเป็ นความเชื อแบบวิทยาศาสตร์ ที อาศัยเหตุและผลอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติเชิง ประจักษ์ ได้ เป็ นผลพวงจากการเข้ ามาพัฒนาโดยภาครัฐสมัยใหม่และการเปลี ยนแปลงการนับถือผี เป็ นนับถือศาสนาพุทธและคริ สต์บางส่วน
ซึง ในปั จจุบนั ยังคงอยูร่ ะหว่างรอยต่อความคิดที ชาว
ชุมชนส่วนหนึง ต้ องการคงไว้ ซงึ ภูมิปัญญาการใช้ ประโยชน์จากนํ าและรักษานํ า
อีกส่วนหนึง
ต้ องการการจัดการสมัยใหม่ที สมั พันธ์กบั การปั กหลักตังถิ นฐานถาวร การเพิ มจํานวนประชากร การ (1)
ขยายตัวของชุมชนที มีแนวโน้ มต้ องการใช้ นํ ามากขึ น
ซึง สอดคล้ องกับการดํารงชีวิตสมัยใหม่ที
จําเป็ นต้ องติดต่อกับชุมชนภายนอกมากขึ น แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการต่อรอง ปะทะ-ประสานกับการเข้ ามาของแนวคิดและ วิธีการจัดการนํ าสมัยใหม่กบั แนวคิดตามภูมิปัญญาบรรพบุรุษของชาวบ้ านนันไม่ ได้ เปลี ยนแบบ หน้ ามือเป็ นหลังมือ แต่มีพฒ ั นาการการเปลี ยนแปลงอย่างค่อยเป็ นค่อยไป ทังปฏิ กิริยานิ งเฉยไม่ใส่ ใจต่อสิ งใหม่ที เข้ ามา การรุ กขึ นสู้เพื อการได้ มาซึง แหล่งเก็บนํ าถาวร และการต่อต้ านชุมชนอื นที บกุ รุกต้ นนํ า หรื อการยอมรับสิ งใหม่โดยให้ เจ้ าหน้ าที รัฐเข้ ามาควบคุมดูแลเรื องระบบนํ าทังหมด ข้ อเสนอแนะต่อชุมชนคือ เป็ นสิ งจําเป็ นสําหรับบ้ านแม่แดดน้ อย
ผู้นําที สามารถเป็ นตัวกลางประสานงานได้ กบั ทุกฝ่ าย มีแนวคิดมีเป้าหมายอยากเห็นหมูบ่ ้ านเจริ ญตามทํานอง
คลองธรรม เห็นการพัฒนาของคนในหมูบ่ ้ าน การประยุกต์สิ งดีจากรากเหง้ าภูมิปัญญากับการ พัฒนาสมัยใหม่ที เป็ นประโยชน์
เพราะชุมชนทุกชุมชนต้ องพึง พิงกันอยูใ่ นสังคมที มีความคิดต่าง
อย่างหลากหลาย และงานพัฒนาต่อจากนี ควรเริ มจากสิ งเล็กๆ จากสิ งที มีอยูแ่ ล้ ว ไม่วา่ จะใน รูปแบบสิ งก่อสร้ าง หรื อทรัพยากรบุคคลที มีคณ ุ ค่าอย่างชาวปกาเกอะญอ ที อดทน สู้งาน ยึดมัน คุณธรรม และเต็มไปด้ วยองค์ความรู้ภมู ิปัญญาเรื องนิเวศวิทยา (แดด-ฟ้า-ลม-ฝน-นา-ป่ า-เขา) ที สามารถอยูร่ ่วมกับธรรมชาติได้ อย่างกลมกลืน
(2)
บทที 6 บทสรุ ปและข้ อเสนอแนะ “ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสญ ั ญาณโทรศัพท์ ไม่มีถนนลาดยาง ไม่ลําบากอย่างที!คิด” 6.1 สรุ ปบทเรี ยนการใช้ ชีวิต ณ บ้ านแม่ แดดน้ อย ชนบทไทยเปลี!ยนไปหมดแล้ ว ไม่มีชมุ ชนใดอยากจะแช่แข็งตนเอง ไม่ปรับเปลี!ยน ตนเอง ไม่ยอมรับเรื! องภายนอก เช่นเดียวกับวิถีชีวิตของกลุม่ ชาติพนั ธุ์ปกาเกอะญอที!มีชีวิตเรี ยบ ง่าย อ่อนน้ อมถ่อมตน เข้ าใจเคารพรักธรรมชาติได้ ผสมผสาน “ความเป็ นสมัยใหม่” ทังวิ 6 ธีคดิ การใช้ ชีวิต การให้ คณ ุ ค่าความสุข สะดวก สบายจากวัตถุที!ครอบครองมากขึ 6น นัน! เป็ นความคิดของผู้ ศึกษาในตอนแรกที!ได้ สมั ผัสบ้ านแม่แดดน้ อย
ตังอยู 6 ่ในอําเภอกัลยาณิวฒ ั นาซึง! เป็ นอําเภอใหม่
ล่าสุดของประเทศไทย(2552) ถึงแม้ วา่ บ้ านแม่แดดน้ อยตังอยู 6 ห่ ่างจากตัวอําเภอเชียงใหม่ราว 136 กิโลเมตร
และเป็ นเพียงตําบลเดียวในอําเภอที!ยงั ไม่มีไฟฟ้า
ไม่มีสญ ั ญาณโทรศัพท์
ไม่มี
ถนนลาดยาง แต่ปกาเกอะญอบ้ านแม่แดดน้ อยก็มีความสุขเรี ยบง่าย ถ่อมตน และมีเหตุและผล เฉพาะตัวซึง! ไม่มีตรรกะใดอธิบายได้ เช่น “พรุ่งนี 6ยังไม่ร้ ูจะทําอะไรบอกก่อนไม่ได้ เพราะอาจจะไม่มี พรุ่งนี 6 หรื อถ้ าสิ!งชัว! ร้ ายรู้จะเข้ าขัดขวาง” หรื อ “วันนี 6ไม่ไปในเมืองแล้ วตามที!นดั ไว้ เพราะอยากจะ สร้ างบ้ านมากกว่า” หรื อ “ความจริ งแล้ วปกาเกอะญอก็ใช้ ชีวิตอย่างนักบวชนัน! แหละ กินอะไรตามที! มี นอนที!ไหนก็ได้ ใส่เสื 6อผ้ าอะไรก็ได้ ฉะนันไม่ 6 ต้องบวชก็ได้ ” หรื อ “คนเรามันก็มีอะไรไม่มาก วัน หนึง! ๆ รับจ้ าง หาเงิน กิน นอน แล้ วก็ตื!นไปหาเงิน เลี 6ยงตัวเองและครอบครัว จนกว่าจะตายจากกัน ไป” เป็ นต้ น ตลอด 7 เดือนที!ผ้ ศู กึ ษาใช้ ชีวิตร่วมกับครอบครัวปกาเกอะญอแม่แดดน้ อย ผู้ศกึ ษาได้ พบเจอกับการปะทะประสานกับความเป็ นเมืองความเป็ นชนบท ความเป็ นปกาเกอะญอ ความเป็ น ไทย ที!พวกเขาแสดงออกมาคือ การชื!นชมคนเมืองมาก ชื!นชมความทันสมัยในเมืองมาก แต่ถ้าให้ ไปอยูใ่ นเมืองไม่ไป เพราะเงินไม่ใช่คําตอบสําหรับทุกอย่าง ข้ าว คือ คําตอบ เพราะข้ าวคือ ชีวิตของ ชาวปกาเกอะญอ ดังวลีที!กลุม่ คนรุ่นใหม่ในหมูบ่ ้ านมักพูดให้ ผ้ ศู กึ ษาฟั งเสมอว่า “ไม่มีเงินเราอยูไ่ ด้ ไม่มีข้าวเราอยูไ่ ม่ได้ ” ถึงแม้ ว่าการเกี!ยวข้ าว นวดข้ าว ขนข้ าว ตําข้ าว ฟั ดข้ าว หุงข้ าวกว่าจะได้ กิน 138
139
ข้ าว ลําบากมาก สําหรับผู้ศกึ ษาที!เติบโตด้ วยเม็ดข้ าวหลายล้ านเม็ด แต่ไม่เคยทํานาทังกระบวนการ 6 จนมีข้าวสวยร้ อนๆ กินสักหนึง! จาน ฉะนันข้ 6 าวสวยหนึง! จานจึงมีคณ ุ ค่ามาก นันเป็ 6 นสิ!งที!ผ้ ศู กึ ษาได้ เรี ยนรู้ผา่ นการใช้ ชีวิตช้ าๆ ครัง6 แรก ได้ พิจารณาการกินง่ายๆ มีชีวิตง่ายๆ คิดง่ายๆ เหตุผลและ ตรรกะอันซับซ้ อนบนดอยสูงนี 6จึงไม่สําคัญเท่าสัญชาตญาณในการอยูร่ อด ด้ วยการแบ่งปั น ด้ วย การให้ ก่อนการรับเสมอ ในเมื!อโลกทัศน์ดงเดิ ั 6 มสมรสกับโลกทัศน์ใหม่ และจดทะเบียน ณ บ้ านแม่แดดน้ อย เรื! องต่อไปนี 6จึงไม่แปลกอะไรที!จะเกิดขึ 6นได้ อาทิ วัยรุ่ นส่วนใหญ่เคยไปทํางานกรุงเทพ พัทยา เชียงใหม่ และต่างประเทศ แต่ก็ส้ กู ลับมาอยูบ่ ้ านไม่ได้ คนหนุม่ สาวแต่งงานช้ าขึ 6น ผู้ชายรอผู้หญิง มาขอตามประเพณี ขอแล้ วมีลกู อย่างมาก 2 คน ปกาเกอะญอจะครองคูก่ นั ทังชี 6 วิต ดังนกเงือก ครองคูเ่ ดียวตลอดชีวิต
ภาษาปกาเกอะญอเผ่าสะกอเป็ นภาษาที!ง่ายภาษาหนึง! ในบรรดาภาษา
กลุม่ ชาติพนั ธุ์อื!น ลูกคือทุกอย่างของพ่อแม่ หาเงินให้ เรี ยนเพื!อยกสถานะ มีศกั ดิศE รี มีงานประจํา ถ้ า ลูกไม่ทํานาแล้ วก็ไม่ร้ ูใครจะทําต่อ การตังชื 6 !อเล่นเป็ นภาษาอังกฤษภาษาไทย เช่น เจนนี! หลุยส์ บิว โดโด้ ต่าย ไก่ ลีโอ โซนี! ชื!อภาษาปกาเกอะญอมีจํานวนน้ อยลงเช่น จะมุ แจ้ บอ มูวา แอโพ ชิเงะ สุ พอ ชูพอ หน่อโพ หน่อกวา แอจะ จะมื!อ ตามการเปลี!ยนแปลงของยุคสมัย กลางคืนยังมีโรแมนติกนิ ยายที!หลายคนฝั นถึง ดวงดาว สายลมหนาว วงนํ 6าชา นัง! ผิงกองไฟ และนัง่ฟังนิทานพื 6นบ้ านปกา เกอะญอ ซึง! ฟั งยังไงดูเหมือนว่าจะไม่จบสักที หรื อบ้ างครัง6 ก็จบลงดื 6อๆ ความเป็ นเหตุผลอย่าได้ ถาม ถึงเพราะ “นิทานก็ยงั ไม่จบหรอก เพราะโลกยังไม่จบ เรื! องบางเรื! องมันไม่มีเหตุมีผล เพราะมันไม่มี เหตุผล แต่เรื! องราวก็มีเรื! องราวของตัวมันเอง” ประโยคนี 6มีปราชญ์ปกาเกอะญอคนหนึง! บอกกับผู้ ศึกษา ส่วนเพลงปกาเกอะญอร่วมสมัยมีมากมายตังแต่ 6 ใสๆ ธรรมชาติๆ แบบ คือพอ แนวภูมิใจ ในปกา- เกอะญอรักสันติภาพต้ อง เพลงของชิ สุวิชาน หรื อทันสมัยแฝงความหมายดีต้อง สามเณร เชียงใหม่ สําหรับบทเพลง(ธา) โบราณ และสุดท้ ายเสียงเตหน่า(พิณ) อันไพเราะ ผสานกับเนื 6อร้ อง ไทยที!ทําให้ ผ้ ศู กึ ษาซาบซึ 6งได้ ของศิลปิ นเพื!อชีวิตแห่งบ้ านวัดจันทร์ ทองดี ธุรวร เพลงที!เกี!ยวข้ าวไปอึ (ร้ อง) ธา (เพลง)ไป อึธากล่อมลูก อึธาในงานแต่งงาน อึธาเดินรอบโลงศพ เสียงเพลงอันยาวยืดและ การเอื!อยเหล่านี 6ค่อยๆเลือนหายตามกาลเวลาไม่ตา่ งอะไรกับเพลงไทยเดิมช้ าเนิบน้ อยคนจะได้ ยิน ได้ ฟังตามพื 6นที!สาธารณะทัว! ไป
140
จะเห็นได้ วา่ ทุกสิ!งทุกอย่างมีการลื!นไหล ผลัดเปลี!ยน หมุนเวียน เก่ามาใหม่ไป ใหม่ มาเก่าไป เป็ นที!มาของ กระบวนการต่อรอง ปะทะ-ประสาน (Articulation) นี 6ที!ผ้ ศู กึ ษาใช้ เป็ นกรอบ ในการอธิบายปรากฏการณ์ตา่ งๆ ที!เกิดขึ 6นในบ้ านแม่แดดน้ อย โดยเฉพาะเรื! องการจัดการนํ 6า ที!เมื!อ เข้ าไปวันแรกชาวบ้ านก็กงั วลว่าชาวเมืองจะอาศัยอยูไ่ ด้ ไหม หน้ าแล้ งจะไม่มีนํ 6าใช้ แต่อย่างมากก็ แค่เดือนสองเดือน ผู้ศกึ ษาจึงสงสัยว่าวิธีคิดหรื อโลกทัศน์แบบไหนที!ทําให้ เขายอมจํานนต่อการไม่มี นํ 6า หรื อการไม่มีนํ 6าไม่เป็ นปั ญหาสําคัญเพียงพอ แล้ วอดีตที!ผา่ นมาพวกเขาผ่านเรื! องราวอะไรมา บ้ าง ปั จจุบนั จึงสามารถปรับตัวได้ มีเงื!อนไขปั จจัยอะไรที!เกี!ยวเนื!อง มีกระบวนการต่อรอง แบ่งรับ แบ่งสู้อย่างไรบ้ างกับความเชื!อในการจัดการนํ 6าตามภูมิปัญญาบรรพบุรุษและการจัดการนํ 6า สมัยใหม่
และท้ ายที!สดุ อะไรที!จะเป็ นแนวทางในการจัดการนํ 6าที!สอดคล้ องกับวิถีชีวิตของปกา
เกอะญอบ้ านแม่แดดน้ อย ซึ!งผู้ตอบคําถามได้ ดีที!สดุ ก็ คือ ชาวบ้ านแม่แดดน้ อยนัน! เอง 6.2 บทสรุ ปงานค้ นคว้ าอิสระ 6.2.1 สถานการณ์ การจัดการนํา) ของชาวปกาเกอะญอบ้ านแม่ แดดน้ อยจากอดีตถึง ปั จจุบัน 1) สรุปประวัติศาสตร์ การจัดการนํ 6าบ้ านแม่แดดน้ อย ก่อน พ.ศ. 2500 ใช้ ระบบจารี ตประเพณี ความเชื!อเรื! องเทพแห่งนํ 6า เทพแห่งป่ า ควบคุม และดูแลการใช้ ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ซึง! มีฮีโข่ ซึง! เป็ นทังผู 6 ้ นําหมูบ่ ้ านและจิต วิญญาณทําพิธีกรรม และตัดสินข้ อพิพาทระหว่างคนในชุมชน พ.ศ. 2504 รัฐเริ! มใช้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีการแต่งตังผู 6 ้ ใหญ่บ้าน แม่แดดน้ อยครัง6 แรก ค่อยๆเกิดการเปลี!ยนแปลงระบบการผลิตเพื!อยังชีพ สูก่ ารผลิตเพื!อการ พาณิชย์ เริ! มมีการใช้ เงินเป็ นอัตราแลกเปลี!ยนสําคัญ ก่อตังโรงเรี 6 ยนบ้ านแม่แดดน้ อยเมื!อ พ.ศ. 2520 ผลักดันให้ พ่อแม่รับจ้ าง ขายผลิตผลทางการเกษตร เพื!อหาเงินส่วนใหญ่สง่ ลูกเรี ยนหนังสือใน ระบบ เกิดการนิยามความสุข และคุณค่าของการมีชีวิตแบบใหม่ ที!อิงแอบกับตัววัตถุมากขึ 6น ซึง! เป็ นท่าทีที!ผ่อนคลายกับการเข้ ามาของการพัฒนาโดยรัฐมากขึ 6นกว่าการยึดมัน! จารี ตประเพณี แบบเดิมเท่านัน6