ทักษะชีวิตกับทักษะอาชีพ โดย คัชฑาหิรัญญปรีชา (ทดลอง)

จากรายงานเดี่ยวทักษะชีวิตทักษะอาชีพ ผ่านการเรียบเรียงใหม่ในรูปแบบของหนังสือ

ทักษะชีวิต กับ ทักษะอาชีพ คัชฑา หิรัญญปรีชา 1580306874

พิมพ์ครั้งที่ 1

หนังสือ ทดลอง

ทำ�ดู

คำ�นำ�

รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา GE111 ในหัวข้อ ‘ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ’ ซึ้งตัวผมได้จัดทำ�ขึ้นเป็นรูปแบบของ “หนังสือทำ�มือ“ สะท้อนความอยากและความฝันของตัวผมเองที่อยากมีหนังสือเป็น ของตัวเองตั้งแต่มัธยมแต่ก็ยังไม่มีโอกาศจึงขอใช้รายงานเล่มนี้เป็น ส่วนหนึ่งของการเติมเต็มความฝันของผมและทุกๆคน

รายงานเล่มนผมขอใช้เป็นตัวอย่างในการตามหาความฝันของ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ได้เปิดอ่านรายงานใรรูปแบบหนังสือผมเล่มได้ ตั้งใจและสนุกไปกับความฝันและเป้าหมายของทุกคน ปล.โปรดอ่านทุกตัวอักษรเพราะบางทีมันอาจทำ�ให้คุณสู้ได้

ด้วยความเคารพ คัชฑา หิรัญญปรีชา

สารบัญ

บทที่หนึ่ง ข้อมูลทั่วไป เกี่ยวกับ สายอาชีพ

บทที่ 1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสายอาชีพ 1.สายอาชีพของผม สายอาชีพที่เลือกเรียนคือสายอาชีพด้านภาพยนตร์ ซึ่งเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตภาพยนตร์การเขียนบททั้งด้าน บทภาพยนตร์ บทละครโทรทัศน์และรวมถึงละครเวทีอีก ด้วยและยังได้เรียนด้านกำ�กับการแสดง ผู้กำ�กับภาพยนตร์ กำ�กับศิลป์ เทคนิคพิเศษด้านต่างๆ และนักเขียนนักวิจารณ์ ภาพยนตร์

Director Producer

DP Art Director

Writer

ที่กล่าวมานี้ทั้งหมดทำ� หน้าที่

ผลิตภาพยนตร์ และ การกำ�กับภาพยนตร์ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานและพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่อไป

1.เขียนบทและพัฒนาบท

2.ตําแหน่งงานในสายอาชีพของฉัน

หน้าที่ เขียนบทภาพยนตร์และพัฒนาต่อยอดบทหรือเปลี่ยนแปลงดัดแปลงบท ทำ�ได้ทั้ง บทละคร บทละครเวที บทภาพยนตร์

2.ผู้กำ�กับภาพยนตร์ หน้าที่ กำ�กับการแสดงและคิดรูปแบบที่จะนำ�เสนอให้โดดเด่น และพาทุกคนในโปรดักซ์ชั่นให้ไปถึงฝัน

3.นักเขียน หน้าที่ เป็นนักเขียนที่สร้างสรรค์ผลงานออกมาจากจินตนาการใส่ความสดใหม่ ลงตัวอักษรให้ผู้คนได้อ่านอาจจะเป็น นิยาย วรรณกรรม การ์ตูน บท

4.นักวิจารณ์ภาพยนตร์ หน้าที่ วิเคราะห์ภาพยนตร์และต่อยอดเป็นผู้ที่พัฒนาวงการภาพยนตร์

5.โปรดิวเซอร์ หน้าที่ คือ อำ�นวยงานสร้างของภาพยนตร์ควบคุมทุกๆอย่างในภาพยนตร์เรื่อง นั้น

3.แนวโน้มของรายได ในสายอาชีพของฉัน ปัจจุบัน รายได้จากการเขียนคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์จากราคาปกหนังสือคูณ จำ�นวนเล่มในการพิมพ์ โดยปกติเริ่มต้นที่ 3000 เล่ม เช่น หนังสือราคาเล่มละ 250 บาท นักเขียนจะได้รับค่าต้นฉบับที่

250*10%*3000 = 75000 หักภาษี ณ ที่จ่าย 7% เท่ากับรายได้ 69750 ต่อเล่ม ใช้เวลาในการเขียนต่อเล่ม เฉลี่ย 3 เดือนจะเขียนได้ปีละ 4 เรื่อง เป็นรายได้เฉลี่ยปีละ 279000 คิดเป็นราย ได้เดือนละ 23250 ไม่รวมรายได้จากการขายหนังสืออีเล็คโทนิค (e-book)

ส่วนบทละครค่าเขียนบทขึ้นอยู่กับความยาวของละครเรื่องนั้นๆ

ละคร 1 ชม.มักจะมี 24 ตอนมาตรฐาน ละคร 2ชม.มักจะมี 14 ตอนมาตรฐาน เรทค่าบทสำ�หรับมืออาชีพ ตอน 1 ชม. ตั้งแต่ 12,000 - 15,000 นักศึกษาจบใหม่หรือมือใหม่เริ่มที่ 7,000-9,000

ทั้งนี้ทั้งนั้​้นก็ขึ้นอยู่กับช่องส่วนนักเขียนบทอาชีพสามารถเขียนบทได้ถึง 6 เรื่องต่อปี

4.5 บริษัทที่น่าสนใจในสายอาชีพของฉัน 1. GTH จีเอ็มเอ็ม ไท หับ (GTH) เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำ�หน่ายภาพยนตร์ไทย ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จีทีเอชเป็นค่ายหนัง ที่ถือว่าประสบความสำ�เร็จมากที่สุดในเวลานี้

2. Mono Film โมโนฟิล์ม เป็นบริษัทผลิตงานภาพยนตร์ที่กำ�ลัง มาแรงอยู่ ณ ขนาดนี้

3. a book Publishing

a book Publishing หรือสำ�นักพิมพ์ abook เป็นที่รู้จักกัน ในวงกว่างเพราะงานเขียนที่สร้างแรง บันดาลใจให้กับผมมาหลายครั้ง

4.Salmon book Salman Book หรือสำ�นักพิมพ์เซลมอลเป็นสำ�นักพิมพ์ น้องใหม่ไฟแรงด้วยงานเขียนที่ฉีกกร อบวงการหนังสือแบบเดิมๆ

5. Bioscope Magazine

Bioscope

นิตยาสารหนังนอกกระแสที่อาจารย์ อัมพลยกย่องว่าเป็นนิตยาสารภาพ ยนตร์ที่ดีที่สุดในประเทศ

บทที่สอง งาน ของ ผม

บทที่ 2 งานของผม 2.1 ตําแหน่งงานในสายอาชีพของฉัน 1.ตำ�แหน่งที่ผมสนใจ

“นักเขียนอิสระและมือเขียนบทภาพยนตร์ เพราะเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่มัธยมตัว

ผมเองก็เริ่มอ่านหนังสือมาตั้งแต่ประถมแล้วยังคงอ่านมาเรื่อยๆบริษัทที่ยากจะเข้า คือสำ�นักพิมพ์ a book และ บริษัท GTH”

2.โอกาสความก้าวหน้าในตำ�แหน่งงานที่ผมสนใจ

“การทำ�งานสายอาชีพนักเขียนเหมือนกับการทำ�งานฟรีแลนช์เป็น เจ้านายตัวเองทุกๆอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเอง เรียกได้ว่าถ้าขยันยังไงก็มีความก้าวหน้าอน่างแน่นอน”

3.รายได้ที่ผมคาดว่าจะได้รับ

“การเป็นนักเขียนรายได้สตาร์ทอยู่ที่ 50,000 ขึ้นไปซึ่งขึ้นอยู่กำ�จำ�นวนหน้าและ

ความขยันของผู้เขียนเอง แต่สำ�หรับผมคาดว่าจะได้เงินจากหนังสือสัก 100,000 ถ้าตั้งใจผมว่าผมทำ�ได้แน่นอนครับ”

4. บริษัทในดวงใจของผม

“บริษัทในดวงใจของผมก็คือ

a book publishing และ GTH ทั้งสองบริษัทเป็นแรงบัลดาลใจในการเรียนของผม ผมจึงยกให้ทั้งสองบริษัทเป็น บริษัทในดวงใจของผม”

5.รายได้เสริม

“งานทางด้านอื่นที่เป็นรายได้เสริมสามารถหาได้จาก

งานถ่ายภาพ (photobook) และ หนังสือเพราะงานเขียนก็ถือเป็น อาชีพเสริมอยู่แล้ว”

บทที่สาม ทักษะ

บทที่ 3 ทักษะ 1.ทักษะสําคัญของตําแหน่งงานทีผ ่ มสนใจ

1.1 การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัว

1.2 การมีความคิดสร้างสรรค์

1.3 การมีเป้าหมายชัดเจน

1.4 การสร้างงานอิสระ

1.5

การเรียนรู้ตลอดเวลา

2.ระดับทักษะที่ผมมีและแนวทางในการพัฒนา

1.1 การมีความคิดสร้างสรรค์ แนวทางในการพัฒนา

ฝึกคิดฝึกทำ�

1.2 การเรียนรู้ตลอดเวลา แนวทางในการพัฒนา

อ่านให้เยอะ ดูให้เยอะ ใช้ชีวิตให้เยอะ 1.3 การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัว แนวทางในการพัฒนา พร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทั้งด้านความคิดและจิตใจ

บทที่สี่

บท ส รุ ป

บทที่ 4 บทสรุป

4.1 เป้าหมายสูงสุดในชีวิตด้านอาชีพของผม ถ้าถามถึงเป้าหมายสูงสุดผมคิดว่าคงไม่มีใครกล้ายืนยันความฝันทั้งหมดของ ตัวเองในช่วงอายุ 18 หรอกเพราะผมว่าคนเราเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลาตั้งแต่ เราอายุ 8ขวบไปจนถึงอายุ 60 แต่ก็จะคงหลีกเหลี่ยงการมีฝันไปไม่ได้ผมเอง อยากอยู่ในระดับที่มีผู้คนชื่นชมในผลงาน เป็นคนเขียนบทที่มีชื่อเสียงหรือนัก เขียนที่มีชื่อเสียงให้ผลงานของเราเป็นต้นแบบให้ใครหลายๆคน เหมือนเราทิ้ง สิ่งที่มีคุณค่าเอาไว้ให้กับวงการผมเองฝันสูงสุดของการทำ�ภาพยนตร์ที่ชอบ ว่าอยากจะเดินสายภาพยนตร์เทศกาลเมืองคานส์สักครั้ง ณ ตอนนี้ผมเชื่อว่า งานเขียนกับงานหนังมันสะท้อนตัวตนของผู้เขียนและผู้กำ�กับได้เป็นอย่างดว่า เราคิดอะไรงานของเราก็ออกมาเป็นแบบที่เราคิดนั้นแหละหลายๆที่อยากทำ� ตอนนี้ผมก็ถือว่ามันคือเป้าหมายเหมือนกันนะมันเยอะไปหรือเปล่า? ไม่หรอก ครับเพราะว่าไม่มีใครห้ามให้ฝันเกินหนึ่งฝันหรอก

4.2 ผมจะไปสู่เป้าหมายนั้นได้อย่างไร

“อ่านให้เยอะ ดูให้เยอะ ใช้ชีวิตให้เยอะ”

คำ�ข้างต้นพี่โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ นักเขียนที่ผมชื่นชอบที่สุด เคยพูด กับผมไว้ทำ�ให้ผมยึดคตินี้มาตลอดเพื่อจะไปถึงฝันมันเป็นคำ�ง่ายๆที่ทรงพลัง และมีผลกระทบต่อชีวิตของผมมากๆ ขอบคุณครับพี่โหน่งที่ช่วยเป็นแรงผลัก ดันให้ผม

“อย่าเอาคำ�เหนื่อยมาทำ�ให้เราอ่อนแอร์”

คำ�พูดจากพี่ปิงชายผู้สอนเชียร์ลีดเดอร์ให้สีชมพู

“สู้ๆนะ แล้วเรามาแลกหนังสือกัน :)”

เป็นคำ�พูดจากพี่นัท ศุภวาที เจ้าของหนังสือ ‘อยู่ญี่ปน ุ่ อย่างหมาป่า’ ที่เป็นแรง ผลักดันในการทำ�งานเขียนครั้งยิ่งใหญ่ ผมมีความสุขมาพี่ที่ได้อ้่านหนังสือพี่

“อะไรก็อปได้ก็ก็อปตอนที่เราเป็นเด็กเราหยิบของคนเก่งๆมาใช้ไป ก่อน จนกว่าเราจะเก่งพอแล้วเราจะเจอทางของตัวเอง”

เป็นคำ�พูดของครูสอนศิลปะที่ผมรักที่สุด ครูลูกโป่งทุกวันนี้ผมยังคิดถึงครูอยู่ นะครับ

“รอดูความสำ�เร็จอยู่นะ“ พ่อ และ แม่

คงไม่ต้องบอกแล้วละว่าผมจะใช้วิธีไหนไปสู่เป้าหมายผมมีทุกแรงบันดาลทุก แรงขับเคลื่อ ผมมีเพื่อนที่ดี พี่ที่ดี น้องที่ดี นักเขียนผู้เป็นต้นแบบที่ดี :)

บรรณานุกรม -

เว็บไซต์ http://buca.bu.ac.th/undergrad-fm.html