E m10set

Page 1

11

Vol.14 No . 125 APRIL / 2014


เล็ก กะทัดรัด แต่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นสำ�หรับมืออาชีพ

โดย : Takumar M42 กล้องดิจติ อล Mirrorless แบบเปลีย่ นเลนส์ได้รนุ่ ล่าสุดจากค่ายโอลิมปัส โดดเด่นทีร่ ปู ร่างหน้าตาออกแนว ย้อนยุค เช่นเดียวกับรุน่ พี่ OM-D E-M5 แต่มขี นาดทีก่ ะทัดรัดกว่านิดหน่อย การวางตำ�แหน่งปุม่ แป้น และการควบ คุมต่างๆ อยูใ่ นตำ�แหน่งทีง่ า่ ยต่อการใช้งานได้อย่างสะดวก และถึงแม้จะถูกวางตัวให้เป็นกล้องรุน่ รอง แต่กอ็ ดั แน่น ไปด้วยฟังก์ชน่ั การทำ�งานทีก่ า้ วหน้ามากมาย อาทิ เซ็นเซอร์ Live MOS ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ตัวกล้องมา พร้อมกับระบบป้องกันการสัน่ ไหวแบบ 3 แกน ช่วยให้ถอื กล้องถ่ายภาพทีค่ วามเร็วต่�ำ กว่าปกติได้ถงึ 3.5 สตอป และ ใช้จอมอนิเตอร์แบบปรับระดับได้ จึงช่วยให้ถา่ ยภาพมุมมองทีแ่ ตกต่างจากปกติได้อย่างง่ายดาย โดยที่ Olympus OM-D E-M10 เป็นกล้อง Mirrorless ทีอ่ อกแบบให้สามารถเปลีย่ นเลนส์ได้ เช่นเดียวกับ กล้อง Mirrorless อืน่ ๆ ดังนัน้ จึงสามารถใช้งานกับเลนส์ได้หลากหลายแบบ ทัง้ เลนส์ใหม่ๆ ในปัจจุบนั และเลนส์ แมนนวลในยุคกล้องฟิลม์ ใช้เชือ่ มต่อผ่าน Adapter ทีม่ อี ยูม่ ากมาย ทัง้ ของค่ายผูผ้ ลิตเอง และผูผ้ ลิตอิสระ ซึง่ ช่วยให้ ใช้งานได้อย่างไร้ขดี จำ�กัดมากขึน้

12


จุดเด่น • • • •

เซ็นเซอร์ Live MOS ฟอร์แมท Micro Four Thirds ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ช่องมองภาพ EVF ความละเอียด 1,440,000 พิกเซล จอมอนิเตอร์ 3 นิว้ ความละเอียด 1,037,000 พิกเซล • มีระบบป้องกันการสัน่ ไหวแบบ 3 แกน

• • • • • •

มี Wi-Fi ในตัว มีระบบโฟกัส Peaking มี Art Filters ให้ใช้งานกว่า 11 รูปแบบ บันทึกวิดโี อ Full HD ถ่ายภาพต่อเนือ่ งสูงสุด 8 ภาพต่อวินาที จอมอนิเตอร์ควบคุมด้วยระบบสัมผัส และปรับระดับได้

ประสิทธิภาพ และการทำ�งาน Olympus OM-D E-M10 เป็นกล้อง Mirrorless แบบเปลีย่ น เลนส์ได้ ตระกูล OM-D ทีพ่ ฒ ั นาต่อยอดมาจากรุน่ เดิม ทีไ่ ด้รบั ความ นิยมเป็นอย่างมาก โดยยังคงใช้เซ็นเซอร์ Live MOS ฟอร์แมท Micro Four Thirds ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ตัวกล้องตอบสนอง การใช้งานทีร่ วดเร็ว ฉับไว และแม่นยำ� จากประสิทธิภาพของหน่วย ประมวลผล TruePic VII ช่วยให้ได้ไฟล์ภาพคุณภาพสูง มีความคมชัด และมีสสี นั อิม่ ตัว ความโดดเด่นของกล้อง Mirrorless ตระกูล OM-D คือ มีระบบ ป้องกันการสัน่ ไหวในตัวกล้อง ซึง่ สำ�หรับ Olympus OM-D E-M10 ตัวนี้ มาพร้อมระบบป้องกันการสัน่ ไหวแบบ 3 แกน ครอบคลุมทัง้ การสัน่ ไหว ในแนวนอน การสัน่ ไหวในแนวตัง้ รวมทัง้ การถือกล้องเอียงไปมาด้วย

ซึง่ ช่วยให้ถา่ ยภาพโดยใช้ความเร็วชัตเตอร์ได้ต่ำ�กว่าปกติ 3.5 สตอป นัน่ หมายถึงว่า เมือ่ ถ่ายภาพด้วยเลนส์คทิ 14-42 มม. ซึง่ เทียบเท่าทาง ยาวโฟกัส 28-84 มม. เมือ่ ซูมเลนส์สงู สุดที่ 84 มม. สามารถถือกล้อง ถ่ายภาพด้วยความเร็วประมาณ 1/6 วินาที โดยยังคงได้ภาพทีค่ มชัดอยู่ เช่นเดิม อีกหนึง่ ในจุดเด่นทีถ่ า่ ยทอดมาจากรุน่ พี่ นัน่ คือระบบโฟกัสที่ รวดเร็ว และแม่นยำ� โดย Olympus OM-D E-M10 มีจดุ โฟกัสทัง้ หมด 81 จุด เลือกรูปแบบโฟกัสได้ทง้ั ทีละจุด แบบกลุม่ 9 จุด และแบบ อัตโนมัตทิ กุ จุด รวมทัง้ เลือกรูปแบบ Smile Shutter ได้ดว้ ย การเลือก จุดโฟกัส สามารถทำ�ได้ทง้ั เลือกจากปุม่ เลือกจุดโฟกัส หรือเลือกรูปแบบ Touch Screen แตะไปยังจุดทีต่ อ้ งการโฟกัสได้เลย รวมทัง้ เลือกแบบ

Olympus OM-D E-M10 เลนส์ 14-42 มม. F3.5-5.6 EZ โหมด A ชัตเตอร์ 1/40 วินาที) f/6.3, ISO200, WB : Daylight

13


ถึงแม้จะใช้ความไวแสงสูง ๆ เพือ่ ถ่ายภาพบรรยากาศในยามค่ำ�คืน แต่กม็ กี ารจัดการ Noise ทีย่ อดเยีย่ ม และให้ภาพทีใ่ สเคลียร์ Olympus OM-D E-M10 เลนส์ 14-42 มม. F3.5-5.6 EZ โหมด A ชัตเตอร์ 1/50 วินาที) f/8, ISO3200, WB : Daylight Touch Shutter ซึง่ กล้องจะทำ�การปรับโฟกัสและลัน่ ชัตเตอร์อตั โนมัติ ซึง่ ก็มกี ารตอบสนองได้อย่างดีเยีย่ ม กล้องปรับโฟกัส และลัน่ ชัตเตอร์ได้ อย่างฉับไว Olympus OM-D E-M10 ออกแบบให้มชี อ่ งมองภาพ อิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ในตัว เช่นเดียวกับรุน่ พีเ่ ช่นกัน โดยมีความ ละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล มองภาพได้อย่างคมชัด และครอบคลุมการ มองเห็นได้เต็ม 100% ซึง่ หาได้ยากนักกับกล้องทีถ่ กู วางตัวในระดับ กลาง หรือระดับเริม่ ต้น ซึง่ ข้อดีของวิวไฟน์เดอร์แบบ EVF คือ สามารถ มองเห็นภาพจริงตัง้ แต่ชว่ งการปรับตัง้ ก่อนทีจ่ ะถ่ายภาพจริง ซึง่ ช่วยลด ความผิดพลาดลงไปได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ กล้องยังสลับการแสดงผลระหว่างวิวไฟน์เดอร์ กับ จอมอนิเตอร์โดยอัตโนมัติ ด้วยเซ็นเซอร์ทอ่ี ยูต่ รงวิวไฟน์เดอร์ ซึง่ เพียงแค่ แนบตาเข้าทีช่ อ่ งวิวไฟน์เดอร์ กล้องจะตัดการแสดงผลไปทีว่ วิ ไฟน์เดอร์ และเมือ่ ละสายตาออกมา กล้องก็จะตัดการแสดงผลมาทีจ่ อมอนิเตอร์ โดยไม่ตอ้ งเสียเวลากดปุม่ ปรับเปลีย่ นไปมา สำ�หรับจอมอนิเตอร์นน้ั มีขนาด 3 นิว้ ความละเอียด 1,037,000 พิกเซล ปรับควบคุมการทำ�งานด้วยระบบสัมผัส รวมทัง้ สามารถปรับ ระดับได้ ซึง่ สะดวกกับการถ่ายภาพในมุมมองทีแ่ ตกต่างจากมุมมอง ปกติ ไม่วา่ จะเป็นมุมสูงเหนือหัว หรือมุมต่ำ�ติดพืน้ ได้สะดวกมากขึน้

14

ด้วย โหมดถ่ายภาพของ Olympus OM-D E-M10 มีให้เลือกใช้งาน ได้ครบถ้วน รองรับการใช้งานได้ตง้ั แต่ระดับมือใหม่ ไปจนถึงมืออาชีพ เลือกโหมดที่ต้องการได้จากแป้นปรับโหมดถ่ายภาพที่ด้านบนซ้าย ของตัวกล้อง ซึง่ สำ�หรับมือใหม่ หรือผูท้ เ่ี พิง่ เริม่ ต้นใช้งานกล้องดิจติ อล สามารถเลือกใช้โหมด iAuto หรือ Scene Mode ซึง่ เป็นโหมดอัตโนมัติ ทีม่ รี ปู แบบการทำ�งานง่ายๆ และกล้องจะปรับตัง้ การทำ�งานทุกอย่างให้ ทัง้ หมด โหมดอัตโนมัติท่โี ดดเด่นของกล้องโอลิมปัสยังคงเป็นโหมด iAuto ซึง่ กล้องจะประเมินรูปแบบการถ่ายภาพทีผ่ ใู้ ช้ตอ้ งการ และปรับ รูปแบบการถ่ายภาพ รวมทัง้ การตัง้ ค่าทีเ่ หมาะสมให้โดยอัตโนมัติ โดย ผู้ใช้ไม่ต้องพะวงว่าเลือกปรับตั้งโหมดได้ถูกต้องตามรูปแบบภาพที่ ต้องการหรือไม่ เช่น เมือ่ ต้องการถ่ายภาพบุคคล เมือ่ กล้องตรวจจับได้ ว่าสิง่ ทีอ่ ยูใ่ นเฟรมภาพนัน้ มีใบหน้าบุคคลอยู่ กล้องจะปรับเป็นโหมด ถ่ายภาพบุคคล พร้อมตัง้ ค่าทีเ่ หมาะสมให้ นอกจากนี้ เมือ่ ถ่ายภาพใน ระยะใกล้ๆ กล้องจะจับโฟกัสไปทีด่ วงตาทีอ่ ยูใ่ กล้สดุ โดยอัตโนมัตอิ กี ด้วย นับว่าเป็นโหมดทีช่ าญฉลาด และให้ภาพทีส่ วยงามได้ ถึงแม้วา่ ผู้ ใช้ จะเป็นมือใหม่ ทีเ่ พิง่ ใช้งานกล้องไม่นานก็ตาม และนอกจากโหมด iAuto แล้ว ผูใ้ ช้ยงั สามารถเลือกรูปแบบ


ภาพทีต่ อ้ งการได้จาก Scene Mode ซึง่ มีให้เลือกกว่า 24 รูปแบบ อาทิ Portrait, Landscape, Macro, Sport, Night Scene, Night + Portrait, Children, Nature Macro, Candle, Sunset, Panorama หรือ Fireworks เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมี Photo Story ซึง่ เป็นฟังก์ชน่ั ทีช่ ว่ ยให้ใช้ งานกล้องได้สนุกสนาน และถ่ายภาพในรูปแบบของการจัดกลุม่ และ หมวดหมูข่ องภาพในเฟรมเดียวกัน โดยสามารถเลือกโครงร่างของภาพ ได้หลากหลายรูปแบบ รวมทัง้ เลือกใส่กรอบภาพได้อกี ด้วย นอกจากโหมดถ่ายภาพต่างๆ เหล่านีแ้ ล้ว Olympus OM-D E-M10 ยังสร้างสรรค์ภาพทีโ่ ดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และแตก ต่างจากภาพถ่ายปกติได้จากฟังก์ชน่ั Art Filter ได้อกี 12 รูปแบบ เช่น Pop Art ปรับสีสนั ให้สดใสมากขึน้ , Soft Focus ปรับโทนภาพให้ฟงุ้ แบบ นุม่ นวลชวนฝัน, Grainy Film เป็นโทนภาพขาวดำ� ซึง่ กล้องจะปรับภาพ ให้หยาบขึน้ มองเห็นเกรนของภาพได้ชดั เจน หรือ Pin Hole ปรับขอบ ภาพให้มดื ลง เป็นต้น และแต่ละแบบยังปรับเพิม่ เอฟเฟคต่างๆ รวมทัง้ เพิม่ เฟรมภาพได้อกี ด้วย รวมทัง้ เลือกปรับตัง้ แบบถ่ายภาพคร่อม Art Filter ได้อกี ด้วย โดยกล้องจะปรับเอฟเฟคของ Art Filter ให้ จากการ กดชัตเตอร์ครัง้ เดียว โดยสามารถเลือก เอฟเฟคของ Art Filter ทีต่ อ้ งการได้ ทัง้ หมดทุกรูปแบบ หรือเลือกเฉพาะบาง เอฟเฟคก็ได้ ส่วนมืออาชีพ หรือผูใ้ ช้งานทีม่ ี ความรูค้ วามชำ�นาญในการถ่ายภาพมา แล้ว และต้องการปรับตัง้ ค่าการทำ�งาน ต่างๆ ของตัวกล้องด้วยตนเอง ก็สามารถ เลือกใช้งานโหมดถ่ายภาพในกลุม่ Advance อาทิโหมดโปรแกรม (P), โหมด ออโต้รรู บั แสง (S), โหมดออโต้ความเร็ว ชัตเตอร์ (A) และโหมดแมนนวล (M) ซึง่ การปรับตัง้ ค่าต่างๆ นัน้ Olympus OM-D E-M10 ออกแบบให้มแี ป้นปรับ ควบคุม 2 แป้น ทำ�ให้สามารถปรับ เปลีย่ นความเร็วชัตเตอร์ รูรบั แสง และ การปรับชดเชยแสงได้อย่างสะดวกและ รวดเร็ว การปรั บ ควบคุ ม การทำ � งาน ของกล้อง Olympus OM-D E-M10 เป็น แบบ Live Control และ Live Guide เช่นเดียวกับกล้อง Mirrorless ตระกูล PEN และ OM-D อืน่ ๆ ซึง่ Live Control ใช้งานได้เฉพาะโหมดถ่ายภาพ P, A, S, M และโหมดบันทึกวิดโี อ การเลือกใช้ งานทำ�ได้โดยกดปุม่ OK กล้องจะโชว์ เมนูการทำ�งานต่างๆ ทีด่ า้ นข้างของจอ มอนิเตอร์ และโชว์คา่ เมนูยอ่ ยสำ�หรับ ปรั บ ตั้ ง ค่ า การทำ � งานที่ ด้ า นล่ า งของ มอนิเตอร์ ผูใ้ ช้สามารถกดปุม่ ควบคุม 4 ทิศทางขึน้ -ลง เพือ่ เลือกเมนูทต่ี อ้ งการ และใช้วงแหวนควบคุมเลือกเมนูย่อยที่ ต้องการ ซึง่ ค่าการทำ�งานบางอย่าง เช่น การปรับตัง้ White Balance หรือ

Picture Mode กล้องจะแสดงผลจริงตามการปรับตัง้ ให้เห็นที่ จอมอนิเตอร์ได้เลย ช่วยลดความผิดพลาดได้เป็นอย่างดีทเี ดียว และเมือ่ เลือกโหมดถ่ายภาพ iAuto ปุม่ OK จะเป็นการทำ�งาน ของ Live Guide โดยกล้องจะโชว์คา่ ทัง้ หมดทีร่ มิ ขวาของจอมอนิเตอร์ เช่นเดียวกัน อาทิ Color Vividness, Color Balance หรือ Brightness เมือ่ ต้องการปรับตัง้ ค่าใดๆ ก็ให้ใช้ปมุ่ ควบคุม 4 ทิศทางขึน้ -ลง ตามค่าที่ ต้องการและกดปุม่ OK อีกครัง้ กล้องจะโชว์สเกลของค่าทีต่ อ้ งการปรับ ตัง้ ก็ให้หมุนวงแหวนควบคุมไปตามระดับทีต่ อ้ งการได้ทนั ที ซึง่ จากการ ใช้งาน สะดวกและรวดเร็วมากทีเดียว Olympus OM-D E-M10 รองรับการเชือ่ มต่อและโอนถ่าย ข้อมูลต่างๆ ผ่าน Wi-Fi โดยสามารถเชือ่ มต่อได้อย่างง่ายดายผ่าน ใช้งานกับเลนส์ได้มากมาย ผ่าน Adapter ทำ�ให้ใช้งานได้หลากหลาย มากขึน้

Olympus OM-D E-M10 เลนส์ Takuma 300mm F4 โหมด M ชัตเตอร์ 1/500 วินาที) f/5.6, ISO200, WB : Daylight

15


Olympus OM-D E-M10 มีไดนามิกเรนจ์กว้าง ถ่ายทอดรายละเอียดในส่วนสว่างและส่วนมืดได้เป็นอย่างดี Olympus OM-D E-M10 เลนส์ 14-42 มม. F3.5-5.6 EZ โหมด A ชัตเตอร์ 1/500 วินาที) f/11, ISO200, WB : Daylight

16


แอพลิเคชัน่ Olympus Image Share ซึง่ สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ทาง App Store ของระบบปฏิบตั กิ าร iOS และ Google Play ของระบบ ปฏิบตั กิ ารแอนดรอยด์ และติดตัง้ ลงใน Smartphone หรือ Tablet ซึง่ หลังจากเชือ่ มต่อแล้ว ก็สามารถโอนถ่ายภาพ หรือควบคุมการถ่ายภาพ จาก Smartphone หรือ Tablet ได้อกี ด้วย การเลือกแสดง QR Code ที่ ตัวกล้องทำ�ได้โดยแตะทีไ่ อคอน Wi-Fi และกล้องจะเข้าสูโ่ หมดการเชือ่ ม ต่อ พร้อมแสดง QR Code ทีจ่ อมอนิเตอร์ และเพียงแค่เปิดแอพลิเคชัน่ แล้วนำ� Smartphone หรือ Tablet มาอ่าน QR Code ทีต่ วั กล้องเท่านัน้ ก็สามารถเชือ่ มต่อกันได้แล้ว โดยไม่ตอ้ งหา Wi-Fi Hot Spot ให้ยงุ่ ยาก

ฟังก์ชน่ั ทีน่ า่ สนใจอืน่ ๆ

โหมดแฟลชได้ทง้ั TTL, Auto และ Manual เลือกปรับชดเชยแสงแฟลช แยกกลุม่ รวมทัง้ เลือกรูปแบบแฟลชแบบ Hi-Speed Sync ได้ดว้ ย นอกจากนี้ ในส่วนของแฟลชป๊อบอัพเอง ยังสามารถควบคุมได้วา่ จะให้ ทำ�งานในระบบ TTL หรือ Manual รวมทัง้ ปรับชดเชยแสงได้ดว้ ยเช่นกัน หรือจะปิดการทำ�งานโดยการ Off Flash หรือการสัง่ ไม่ให้แฟลชส่องแสง ออกมา ใช้เพียงแค่การควบคุมแฟลชอืน่ ๆ ในระบบ Wireless Flash เท่านัน้ ก็ได้ ฟังก์ชน่ั ทีน่ า่ สนใจอีกอย่างหนึง่ คือ สามารถถ่ายภาพแบบ Time Lapse ได้ โดยเลือกจำ�นวนภาพได้สงู สุด 999 ภาพ เลือกระยะ ห่างระหว่างภาพได้ตง้ั แต่ 1 วินาทีไปจนถึง 24 ชัว่ โมง และเลือกตัง้ เวลา เริม่ ต้นถ่ายภาพได้ตง้ั แต่ 1 วินาที ไปจนถึง 24 ชัว่ โมงเช่นเดียวกัน รวมทัง้ เลือกได้วา่ จะสร้างเป็นไฟล์วดิ โี อด้วยหรือไม่ Olympus OM-D E-M10 บันทึกวิดโี อคุณภาพ Full HD 1080p และลงบันทึกเสียงระบบ Stereo จากไมโครโฟนทีข่ า้ งๆหัวกระ โหลกกล้อง สามารถกดบันทึกได้จากปุม่ บันทึกวิดโี อทีแ่ ยกออกมาให้ ใช้งานต่างหาก หรือจะเลือกโหมดบันทึกวิดโี อโดยตรง ซึง่ สามารถเพิม่ เอฟเฟคในการบันทึกได้ดว้ ย สำ�หรับผูท้ ใ่ี ช้การโฟกัสเองแบบแมนนวล ยังมีฟงั ก์ชน่ั Peaking ซึง่ เป็นการแสดงแถบสีวาวขึน้ มาในพืน้ ทีส่ ว่ นทีอ่ ยู่ ในระยะโฟกัส ซึง่ ช่วยให้ปรับโฟกัสได้งา่ ยขึน้ ด้วย

Olympus OM-D E-M10 ถ่ายภาพต่อเนือ่ งได้ทค่ี วามเร็ว 8 ภาพต่อวินาที เพียงพอทีจ่ ะเก็บแอคชัน่ ต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ได้เป็นอย่างดี และครบถ้วนทุกท่วงท่า สำ�หรับความไวแสงนัน้ ปรับได้แบบออโต้ และ ปรับตัง้ เองตัง้ แต่ ISO200-25600 สามารถปรับลดลงมาทีต่ �ำ แหน่ง Low ซึง่ เทียบเท่า ISO100 ด้านไวท์บาลานซ์ปรับตัง้ ได้แบบออโต้เช่นเดียวกัน และเลือกปรับตัง้ ตามสภาพแสงได้ 7 แบบ ปรับตัง้ แบบ Custom ได้ 4 แบบ และปรับตัง้ ตามองศาเคลวินได้ตง้ั แต่ 2000-14000K ปรับเลือก องศาเคลวินได้โดยกดปุม่ info แล้วใช้แป้นหมุนควบคุมด้านหน้า หมุน ไปยังตัวเลของศาเคลวินทีต่ อ้ งการได้เลยทันที แฟลชป๊อบอัพของ Olympus OM-D E-M10 สามารถปรับ ตัวกล้องและการออกแบบ ควบคุมระบบ Wireless Flash ได้ โดยเปิดเมนู RC Mode ในเมนูถา่ ย ภาพกลุม่ ที่ 2 ซึง่ หลังจากทีเ่ ปิดเมนู RC Mode เป็น On แล้ว ปุม่ OK จะว่าไปแล้ว รูปร่างหน้าตาของ Olympus OM-D E-M10 นัน้ จะใช้ส�ำ หรับการปรับตัง้ ค่าของระบบ Wireless Flash โดยเลือกควบคุม ถอดแบบมาจาก Olympus OM-D E-M5 แทบจะทัง้ หมดเลยก็วา่ ได้ แฟลชได้ 3 กลุม่ คือ A, B และ C เลือกแชนแนลได้ 4 แชนแนล เลือก ซึง่ ก็ให้อารมณ์ในการควบคุมสไตล์กล้อง D-SLR โดยด้านขวาบนของ

เมนูการทำ�งานหลัก สำ�หรับปรับ้ ตัง้ การทำ�งาน การแสดงผลแบบ Live Control ช่วยให้ปรับ เมนูโปรเซส RAW และปรับแต่ง JPEG ใน ของกล้องทัง้ หมด วางรูปแบบเมนูเหมือนกับ ตั้งกล้องได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ตัวกล้อง ช่วยให้ปรับแต่งภาพได้บ้างนิด กล้องโอลิมปัสอืน่ ๆ ทัง้ ตระกูล PEN และ OM-D โดยเฉพาะในโหมดถ่ายภาพ หน่อย

นอกจากโหมดถ่ายภาพตามปกติแล้ว ผูใ้ ช้ยงั Art Filter ช่วยให้สร้างสรรค์รปู แบบภาพทีแ่ ตก Olympus OM-D E-M10 มี Wi-Fi ในตัว ช่วย สามารถเลือกรูปแบบถ่ายภาพอย่างง่ายได้ ต่างไปจากการถ่ายภาพปกติช่วยให้ใช้งานกล้อง ให้โอนภาพถ่ายไปยังสมาร์ทโฟนหรือแท๊ปเล็ต จาก Scene Mode หลายรูปแบบ ได้สนุกสนานมากขึน้ ต่างๆ ได้อย่างสะดวก โดยการอ่าน QR Code

17


2 3 1 4

5

10

6 7

9 8

13 11

12

15

20

14

1. กริปมือจับหุม้ ด้วยยางลายหยาบ 2. แฟลชในตัว เปิดใช้งานจากปุม่ ด้านหลังตัวกล้อง 3. ไฟช่วยโฟกัส และไฟสัญญลักษณ์ตง้ั หน่วงเวลาถ่ายภาพ 4. ปุม่ ถอดเลนส์ 5. วงแหวนควบคุมการทำ�งานด้านหน้า 6. ปุม่ Fn 2 ปรับตัง้ การทำ�งานได้หลายรูปแบบ 7. ปุม่ บันทึก-หยุดบันทึกวิดโี อ 8. แป้นควบคุมการทำ�งานด้านหลัง 9. ฮอทชูแฟลชเสริม 10. แป้นเลือกโหมดถ่ายภาพ 11. ปุม่ เปิดใช้งานแฟลช 12. วิวไฟน์เดอร์ EVF พร้อม Eye Senser 13. ปุม่ Fn 1 ปรับตัง้ การทำ�งานได้หลายแบบ 14. ปุม่ พรีววิ ภาพ 15. ปุม่ Menu 16. ปุม่ info เลือกรูปแบบแสดงผลบนจนมอนิเตอร์ 17. ปุม่ ควบคุมแบบ 4 ทิศทาง และปุม่ OK สำ�หรับปรับเลือกรูป แบบ Live Control 18. สวิตซ์เปิด-ปิดการทำ�งาน 19. ปุม่ ลบภาพ 20. จอมอนิเตอร์ ขนาด 3 นิว้ ความละเอียด 1,037,000 พิกเซล แบบ Touch Screen และปรับระดับได้

16 17

19

18

จอมอนิ เ ตอร์ อ อกแบบให้ ป รั บ แฟลชเในตัวออกแบบให้สามารถ ระดับได้ ช่วยให้ถา่ ยภาพมุมมอง ควบคุมการทำ�งานระบบ Wireless ทีแ่ ตกต่างจากปกติได้งา่ ยขึน้ Flash ได้

แป้นควบคุมการทำ�งาน 2 แป้น แบตเตอรี่และเมมโมรี่การ์ดแบบ ช่องมองภาพ EVF พร้อม Eye ช่องเชือ่ มต่อ USB และ HDMI ช่วยให้การปรับตัง้ ค่าต่างๆ สะดวก SD, SDHC และ SDXC อยุด่ า้ นล่าง Sensor สลับการทำ�งานระหว่าง หรือจะเลือดโอนถ่ายไฟล์ภาพผ่าน และรวดเร็วมากขึน้ ของตัวกล้อง จอกับช่องมองโดยอัตโนมัติ หรือ Wi-Fi ก็ได้เช่นกัน จะเลือกปิดจอ และใช้เฉพาะ EVF ก็ได้จากปุม่ ทีอ่ ยูข่ า้ งๆ EVF

18


ตัวกล้อง เมือ่ มองจากด้านหน้าของตัวกล้อง เป็นแป้นปรับเลือกโหมดถ่ายภาพ ถัดมาด้าน ซ้ายเป็นหัวกระโหลก เป็นที่อยู่ของวิวไฟน์ เดอร์ EVF และแฟลชในตัว บนสุดของหัวกระ โหลกเป็นฮอทชูแฟลชเสริม ซึง่ ออกแบบแตก ต่างจากกล้องตระกูล OM-D อืน่ ๆ ตรงทีไ่ ม่มี Port สำ�หรับเชือ่ มกับอุปกรณ์เสริมอืน่ ๆ อย่าง ไมโครโฟน เป็นต้น ด้านซ้ายมีแป้นควบคุมการทำ�งาน 2 แป้น แป้นด้านหน้า มีปมุ่ ชัตเตอร์อยูต่ รงกลาง สำ�หรับชดเชยแสง ส่วนแป้นด้านหลัง สำ�หรับ รูรบั แสงในโหมด A และปรับความเร็วชัตเตอร์ ในโหมด S แต่ถา้ หากใช้โหมด M แป้นด้าน หน้า จะใช้ปรับรูรบั แสง และแป้นด้านหลังใช้ ปรับความเร็วชัตเตอร์ นอกจากนี้ แป้นด้าน หลัง ยังใช้ปรับซูมขยายหรือย่อภาพในโหมด เปิดชมภาพด้วย ข้างๆ แป้นควบคุมด้านหน้า มีปมุ่ ฟังก์ชน่ั 2 (Fn2) ซึง่ ใช้เป็นปุม่ ลัดสำ�หรับปรับ ขยายไดนามิกเรนจ์ โดย สามารถปรับให้กล้อง เพิ่มหรือลดความสว่างในส่วนของไฮไลท์ด้วย แป้นด้านหน้า ปรับเพิม่ หรือลดความสว่าง ของชาโดว์ ด้วยแป้นด้านหลัง ซึง่ เป็นฟังก์ชน่ั ที่ ออกแบบได้อย่างยอดเยีย่ ม ช่วยให้ใช้ในการ ถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี และสะดวกกับการใช้ งานมากทีเดียว ใกล้ๆ กันเป็นปุม่ บันทึกวิดโี อ ซึง่ สามารถกดบันทึก พร้อมๆ กับถ่ายภาพนิง่ ไปด้วยได้ และถ้าหากว่าเลือกปรับโหมดถ่าย ภาพมาทีต่ �ำ แหน่งวิดโี อ จะสามารถปรับตัง้ รูป แบบการบันทึกได้มากขึน้ ด้วย เยือ้ งๆ ไปด้านหลังเล็กน้อยเป็นปุม่ ฟังก์ชน่ั 1 (Fn1) ซึง่ ค่า Default ตัง้ ไว้เป็นปุม่ ล็อกความจำ�แสง และล็อก โฟกัส สำ�หรับปุม่ ฟังก์ชน่ั ทัง้ สองปุม่ นัน้ สามารถปรับเปลีย่ นการทำ�งาน ไปเป็นปุม่ ลัดอย่างอืน่ ได้เช่นเดียวกัน โดยเข้าไปปรับตัง้ ได้จากเมนูใน กลุม่ ของ Custom Menu B (Button/Dial) ติดๆ กันนัน้ เป็นปุม่ เปิดชม ภาพและวิดโี อ ด้านหลังออกแบบเป็นสันนูนแหลมขึ้นมารองรับกับนิ้วโป้ง ช่วยให้จบั ถือตัวกล้องได้อย่างกระชับมือมากขึน้ ติดๆ กันเป็นช่องรูเล็กๆ 3 รูนน้ั คือลำ�โพง ถัดลงไปเป็นปุม่ เมนูปรับตัง้ ค่าการทำ�งานหลักของ กล้อง ติดๆ กันเป็นปุม่ info สำ�หรับเลือกแสดงผลบนจอมอนิเตอร์ ถัดลง มาเป็นปุม่ ปรับควบคุมแบบ 4 ทิศทาง ซึง่ ใช้เลือกจุดโฟกัสเอง ตรงกลาง เป็นปุม่ OK สำ�หรับเลือกการแสดงผลแบบ Live Guide และ Live Control ล่างสุดเป็นปุม่ ลบภาพ และสวิตซ์เปิด-ปิดการทำ�งาน ใต้ตวั กล้องเป็นช่องแบตเตอรีแ่ ละเมมโมรีก่ าร์ด ส่วนด้านข้างขวานัน้ เป็นช่อง อินเทอร์เฟส HDMI และ USB รวมทัง้ A/V Out ด้วย ข้างๆ ช่องมอง ภาพด้านซ้ายเป็นแป้นปรับ Diopter สายตา ติดๆ กันนัน้ เป็นปุม่ เปิดใช้ งานแฟลช ข้างๆ ด้านขวา เป็นปุม่ สลับการทำ�งานระหว่างจอมอนิเตอร์ กับวิวไฟน์เดอร์ ส่วนจอมอนิเตอร์ขนาด 3 นิว้ แบบ Wide Screen ปรับ ระดับได้ และควบคุมการทำ�งานแบบสัมผัส

การไล่โทนภาพทำ�ได้ดีทีเดียว จากไดนามิกเรนจ์ที่กว้าง ทำ�ให้ ถ่ายทอดรายละเอียดทั้งในส่วนที่มืดและสว่างทำ�ได้เป็นอย่าง ดีทีเดียว Olympus OM-D E-M10 เลนส์ 14-42 มม. F3.5-5.6 EZ โหมด A ชัตเตอร์ 1/500 วินาที) f/11, ISO200, WB : Daylight การใช้งาน หลังจากทีไ่ ด้เห็นตัวกล้องนัน้ แว๊บแรกทีน่ กึ เลยคือ เหมือน กับ OM-D E-M5 ยังไง ยังงัน้ โดยเฉพาะตรงกริปจับ ถอดแบบกัน มาไม่ผดิ เพีย้ น แต่สว่ นของหัวกระโหลกกล้องจะดูเล็กกว่า เนือ่ งจาก Olympus OM-D E-M10 ตัดช่อง Port สำ�หรับต่อเข้ากับอุปกรณ์เสริม อย่างไมโครโฟนออกไป มีเพียงฮอทชูส�ำ หรับแฟลชเฉพาะกิจเท่านัน้ เอง กริปด้านหน้าออกแบบให้นนู เป็นสันขึน้ มาเล็กน้อย และหุม้ ด้วยยางลายหยาบทำ�ให้จบั ได้โดยไม่ลน่ื หลุด และด้านหลังออกแบบ ให้มสี นั นูนขึน้ มารับกับนิว้ โป้ง ก็ชว่ ยให้การจับถือตัวกล้องกระชับมือดี ทีเดียว นอกจากนี้ โอลิมปัสยังได้ออกแบบกริปเสริมมาให้เลือกใช้งาน สำ�หรับผูท้ ต่ี อ้ งการความกระชับในการจับถือทีม่ ากขึน้ ด้วย แต่ส�ำ หรับ ผมแล้ว ถึงจะมีมอื ทีค่ อ่ นข้างใหญ่ แต่กถ็ อื ว่าจับได้ถนัดมือดี แม้จะเป็น

19


ตัวกล้องเพียงอย่างเดียว ไม่มกี ริปเสริมก็ตาม และเช่นเดียวกับ กล้อง Mirrorless ตระกูล OM-D รุน่ อืน่ Olympus OM-D E-M10 มีววิ ไฟน์เดอร์อเิ ล็กทรอนิกส์ในตัวด้วย มี ความละเอียดถึง 1.44 ล้านพิกเซล มองได้อย่างคมชัด อีกทัง้ มีเฟรมเรท สูงทำ�ให้เวลาเลือ่ นกล้องเพือ่ จัดองค์ประกอบ หรือการแพนกล้อง ยังคง มองได้อย่างนุม่ นวลไม่มอี าการหน่วงให้เห็น และข้อดีของกล้องทีม่ ี วิวไฟน์เดอร์ คือมองได้อย่างชัดเจน โดยไม่มแี สงจากด้านนอกมารบ กวนสายตาและมองได้ชดั เจนมากกว่า เพราะสามารถปรับไดออพ ติคให้เข้ากับสายตาของผูใ้ ช้แต่ละคนได้ และทีส่ �ำ คัญ เมือ่ มองผ่านวิว ไฟน์เดอร์ ผมสามารถถือกล้องได้นง่ิ ขึน้ เพราะแขนทัง้ สองจะแนบชิด กับลำ�ตัว ช่วยลดอาการสัน่ ไหวทีจ่ ะเกิดขึน้ ได้ ซึง่ ถ้าหากว่ามองจาก จอมอนิเตอร์ จะต้องยืน่ กล้องออกไปด้านหน้า ซึง่ เมือ่ ถ่ายภาพด้วย ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ� อาจจะทำ�ให้เกิดการสัน่ ไหวได้ครับ ผมค่อนข้างถูกใจกับออกแบบการควบคุมการทำ�งานด้วย Live Control และ Live Guide ของกล้องโอลิมปัส ทัง้ ตระกูล OM-D, ตระกูล PEN หรือแม้กระทัง่ Stylus เพราะใช้งานได้สะดวกทีเดียว โดย เฉพาะเมนูในกลุม่ ทีเ่ กีย่ วข้องกับการถ่ายภาพ เช่น การปรับเปลีย่ น ความไวแสง การปรับเปลีย่ นไวท์บาลานซ์ หรือรูปแบบ Picture Mode ซึง่ ในการถ่ายภาพแต่ละครัง้ มีความต้องการไม่เหมือนกัน ดังนัน้ จึง ต้องปรับเปลีย่ นอยูบ่ อ่ ยๆ ซึง่ Live Control ก็ชว่ ยให้ปรับได้งา่ ยขึน้ โดย ไม่ตอ้ งเข้าเมนูหลักอยูต่ ลอดเวลา การเลือกใช้กเ็ พียงกดปุม่ OK กล้อง จะโชว์เมนูทร่ี มิ ขวาของจอมอนิเตอร์ และโชว์เมนูยอ่ ยทีด่ า้ นล่างของจอ มอนิเตอร์ การปรับเลือกก็เพียงเลือ่ นปุม่ ปรับควบคุมแบบ 4 ทิศทางไป

ยังเมนูทต่ี อ้ งการแล้วกด OK เพือ่ ยืนยันอีกครัง้ เท่านัน้ เอง Olympus OM-D E-M10 นัน้ เป็นกล้องรุน่ เริม่ ต้นของตระกูล OM-D แต่กอ็ อกแบบการปรับตัง้ กล้องให้สะดวกกับการใช้งานไม่ได้ ด้อยไปจากรุน่ โปรแต่อย่างใด โดยมีแป้นควบคุมการทำ�งาน 2 แป้น ซึง่ มีขนาดใหญ่และปรับได้งา่ ย แป้นด้านหน้านัน้ เป็นทีอ่ ยูข่ องปุม่ ชัตเตอร์ ด้วย ทำ�ให้การปรับกับการสลับไปกดชัตเตอร์ท�ำ ได้รวดเร็วทีเดียว แป้น ด้านหลังถูกยกให้สงู ขึน้ มาเล็กน้อย ซึง่ เป็นการยกขึน้ มาในตำ�แหน่งทีใ่ ช้ นิว้ โป้งปรับได้ไม่ยากเช่นเดียวกัน และหลบมุมอับของขอบจอมอนิเตอร์ แบบปรับระดับได้ ซึง่ จะหนายืน่ ออกมาจากตัวกล้องเล็กน้อยด้วย ปุม่ ปรับต่างๆ ทีต่ วั กล้องไม่ได้มมี ากมายให้นา่ เวียนหัว วางตำ�แหน่งของ การใช้งานได้สะดวก ยกเว้นปุม่ เปิดแฟลช ตัง้ อยูใ่ นมุมอับเล็กน้อย แต่ก็ เป็นปุม่ ทีไ่ ม่ได้ใช้งานบ่อยๆ แต่กไ็ ม่ได้ล�ำ บากนัก ถ้าต้องการใช้ครับ คุณภาพไฟล์ของกล้องตระกูล OM-D นัน้ ถือได้วา่ ยอดเยีย่ ม มาตัง้ แต่รนุ่ แรก นัน่ คือ OM-D E-M5 และพัฒนาต่อเนือ่ งมาถึงรุน่ นีด้ ว้ ย เช่นกัน ซึง่ ให้ความคมชัด และให้สสี นั ทีอ่ ม่ิ ตัวมากทีเดียว ผมลองถ่าย ภาพไล่ไปตัง้ แต่ความไวแสงต่ำ�สุด คือ ISO200 ไปจนถึงสูงสุด ISO 25600 ซึง่ ไฟล์ภาพทีไ่ ด้มคี วามคมชัด และถ่ายทอดรายละเอียดได้เป็น อย่างดีตง้ั แต่ความไวแสงต่ำ�สุดไปจนถึง ISO3200 ส่วนที่ ISO 6400 ภาพจะหยาบลงเล็กน้อย แต่สสี นั และความคมชัดยังอยูใ่ นเกณฑ์ท่ี ยอมรับได้ ส่วนที่ ISO 12800 และ 25600 ภาพจะดูหยาบลง จนสังเกตุ ได้ ความคมชัดลดลง แต่สสี นั ยังคงดีอยู่ ไม่ผดิ เพีย้ นมาก ต่างจากกล้อง รุน่ เดิมๆ ของโอลิมปัส ทีค่ วามไวแสงสูงมากๆ นอกจากภาพจะหยาบ แล้ว สีสนั ยังผิดเพีย้ นไปด้วย สำ�หรับผูใ้ ช้งานทีค่ อ่ นข้างจะซีเรียสใน

Olympus OM-D E-M10 เลนส์ 14-42 มม. F3.5-5.6 EZ โหมด A ชัตเตอร์ 1/400 วินาที) f/11, ISO200, WB : Daylight

20


เนือ่ งจากเป็นกล้องแบบ Mirrorless ดังนัน้ จึงสามารถใช้งานกับเลนส์แมนนวลโฟกัส ตระกูล OM หรือ PEN รวมทัง้ เลนส์คา่ ยอืน่ ได้ มากมาย Olympus OM-D E-M10 เลนส์ PEN F 40 มม. F1.4 โหมด Mชัตเตอร์ 1/400 วินาที) f/2.8, ISO200, WB : Daylight

21


Olympus OM-D E-M10 เลนส์ 14-42 มม. F3.5-5.6 EZ โหมด A ชัตเตอร์ 1/25 วินาที) f/8, ISO200, WB : Daylight เรือ่ งของรายละเอียดและสีสนั อาจจะต้องเลือกใช้ทไ่ี ม่เกิน ISO3200 แต่ส�ำ หรับการถ่ายภาพทัว่ ๆ ไป ถ่ายภาพท่องเทีย่ ว บันทึกเหตุการณ์ ก็ สามารถใช้ได้ทกุ ความไวแสงล่ะครับ เพราะถ้าเพียงแค่อดั ขยายขนาด โปสการ์ดหรือ A4 ใช้ได้ทกุ ความไวแสง เพียงแต่ ควรเลือกใช้ให้เหมาะ สมเท่านัน้ เอง ไม่ใช่วา่ พอแสงน้อย แล้วดันความไวแสงไปสูงสุดตลอด ทุกครัง้ ครับ ฟังก์ชน่ั หนึง่ ทีผ่ มชอบคือ การปรับเพิม่ หรือลด Hi-light และ Shadow ซึง่ เลือกปรับได้จากปุม่ Fn2 และใช้แป้นควบคุมด้านหน้า กับด้านหลัง ปรับกราฟของ Hi-light และ Shadow ตามทีต่ อ้ งการ ซึง่ ประโยชน์คอื ใช้ปรับแก้ไขไดนามิกเรนจ์ของภาพ ในกรณีทถ่ี า่ ยภาพ กลางแดดจัด หรือมีสภาพของแสงระหว่างส่วนสว่างกับส่วนมืดแตก ต่างกันมากๆ ซึง่ พอเลือกวัดแสงไปส่วนสว่าง ส่วนมืดก็จะดำ�ปี๋ หรือเมือ่ วัดแสงไปส่วนมืด ส่วนสว่างก็จะขาวโพลน จนไม่มรี ายละเอียดอะไรเลย ครับ ดังนัน้ ฟังก์ชน่ั นี้ จะใช้ในการปรับสมดุลระหว่างส่วนมืดและส่วน สว่างใหม่ให้ใกล้เคียง หรือแตกต่างกันน้อยลง ช่วยให้ได้ภาพทีม่ รี าย ละเอียดครบถ้วนทัง้ มืดและสว่างครับ แต่ขอ้ ควรระวังก็คอื ถ้าปรับมาก เกินไป จะทำ�ให้คอนทราสต์ของภาพลดลงไปด้วย ดังนัน้ จึงควรเลือก ใช้งานให้เหมาะสมกับสภาพแสงแต่ละแบบครับ ซึง่ Olympus OM-D E-M10 แสดงผลแบบ Live View สามารถเห็นการเปลีย่ นแปลงในขณะ ทีป่ รับได้เลยครับ และเมือ่ เลิกใช้งาน ก็ควรปรับกลับคืนส่คู า่ ปกติ โดย การเปิดฟังก์ชน่ั นัน้ ขึน้ มาอีกครัง้ และกดปุม่ OK ค้างไว้สกั ครูค่ รับ ฟังก์ชน่ั ทีโ่ ดดเด่นของกล้องโอลิมปัสหลายๆ รุน่ รวมทัง้ Olympus

22

OM-D E-M10 นีด้ ว้ ย นัน่ คือฟังก์ชน่ั Art Filter ซึง่ ผมเองใช้งานอยูบ่ อ่ ยๆ เพราะหลายๆ ครัง้ ทีก่ ารถ่ายภาพด้วยฟังก์ชน่ั ต่างๆ เหล่านี้ ให้ความโดด เด่นและน่าสนใจมากกว่าภาพทีถ่ า่ ยตามปกติ เพราะให้ภาพทีด่ แู ปลก ตาออกไป และนอกจากนี้ แต่ละฟังก์ชน่ั ยังเพิม่ เติมเอฟเฟคย่อได้อกี อาทิ ใส่เฟรมภาพแบบต่างๆ ซึง่ ก็ชว่ ยให้สนุกสนานกับการสร้างสรรค์ ภาพได้หลากหลายมากขึน้ นอกจากนีย้ งั มีฟงั ก์ชน่ั Wi-Fi ซึง่ ช่วยให้โอนถ่ายภาพไปยัง SmartphoneหรือTabletได้อย่างสะดวก โดยผ่านแอพลิเคชัน่ Olympus Image Share และเชือ่ มต่อด้วยการอ่าน QR Code ทีต่ วั กล้องเท่านัน้ เองครับ ไม่ตอ้ งกดจิม้ พาสเวิรด์ ให้ยงุ่ ยากอีกต่อไป ผมได้รบั Olympus OM-D E-M10 มาพร้อมกับเลนส์คทิ ใหม่ซง่ึ ใช้การปรับซูมแบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยวงแหวนซูมทีต่ วั เลนส์ ซึง่ ให้ความนุม่ นวลในการซูมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมือ่ ใช้งานกับการ บันทึกวิดโี อ และอุปกรณ์เสริมเลนส์ทน่ี า่ สนใจมากทีเดียว นัน่ คือ ฝาปิด หน้าเลนส์อตั โนมัติ ซึง่ ใช้งานโดยหมุนปิดเข้าไปทีห่ น้าเลนส์แบบเดียวกับฟิล เตอร์ โดยทีฝ่ าปิดเลนส์นน้ั จะมีเขีย้ วสำ�หรับดันให้กลีบฝาปิดหน้าเลนส์ เมือ่ ปิดการทำ�งานและเลนส์หดกลับเข้าไปในตำ�แหน่งสัน้ สุด เขีย้ วนีจ้ ะ ไปกระทบกับขอบหน้าเลนส์ และดันให้กลีบฝาปิดเลนส์ปดิ โดยอัตโนมัติ เมือ่ เปิดการทำ�งาน เลนส์จะยืดยาวออกมา เขีย้ วก็จะดีดกลับ ทำ�ให้ กลีบฝาเลนส์เปิดโดยอัตโนมัตเิ ช่นกัน ข้อดีคอื ช่วยป้องกันปัญหาฝา เลนส์หล่นหาย หรือหลงลืมว่าถอดวางไว้ตรงไหนได้เป็นอย่างดี แถมยัง ออกแบบได้สวยงามกลมกลืนกับตัวเลนส์อกี ด้วยครับ


สรุปผลการใช้งาน ก็ยงั คงไม่ท�ำ ให้ผดิ หวังเช่นเดิม สำ�หรับ Olympus OM-D E-M10 ซึง่ ถึงแม้วา่ เป็นเป็นรุน่ เล็กสุดของตระกูล OM-D แต่กบั คุณภาพ ไฟล์ และฟังก์ชน่ั การทำ�งานต่างๆ ทีใ่ ห้มานัน้ ไม่ได้ดอ้ ยกว่ารุน่ ทีส่ งู กว่า แต่อย่างใด และรองรับการใช้งานหนักสำ�หรับมืออาชีพได้เป็นอย่างดี จุดทีจ่ ะบอกว่าเป็นข้อทีด่ อ้ ยกว่ารุน่ พีอ่ ย่างหนึง่ ก็คอื ตัวบอดีท้ ไ่ี ม่ได้ซลี กันน้ำ� และฝุน่ ละอองเหมือนกับ OM-D E-M5 และ OM-D E-M1 ซึง่ ก็

ทำ�ให้ “ลุย” ได้ไม่เท่ารุน่ พีท่ ง้ั สอง แต่ส�ำ หรับการใช้งานทัว่ ๆ ไป ไม่ถอื ว่า เป็นปัญหาครับ เพราะถ้าหากว่าไปท่องเทีย่ วกันตามปกติ เจอฝนลง ก็ ต้องหลบกันแล้วล่ะครับ จริงมัย๊ .. สำ�หรับใครๆ ทีก่ �ำ ลังมองหากล้องที่ ตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ทัง้ การบันทึกภาพทัว่ ๆ ไป การถ่าย ภาพในครอบครัว หรือแม้กระทัง่ การใช้งานระดับทีซ่ เี รียส และมีอปุ กรณ์ เสริมให้เลือกใช้กนั มากมาน Olympus OM-D E-M10 ตัวนี้ เป็นกล้องที่ น่าสนใจเป็นอย่างยิง่ ครับ

Art Filter แบบ Toy Camera ให้ความรู้สึกเหมือนภาพจาก Photo Story เลือกสร้างสรรค์รูปแบบภาพให้ กล้องของเล่น เป็นเรื่องราวได้หลายแบบ

ข้อมูลจำ�เพาะ เซ็นเซอร์ภาพ Live MOS ฟอร์แมท Micro Four Thirds ความละเอียด 16.0 ล้านพิกเซล โหมดบันทึกภาพ iAuto, Scene Mode, Art Filter, Photo Story, โปรแกรม (P), ออโต้รรู บั แสง (S), ออโต้ความเร็ว ชัตเตอร์ (A), แมนนวล (M) และวิดโี อ ชดเชยแสง +/-5 EV แบ่งละเอียดขัน้ ละ 1/3EV ไวท์บาลานซ์ Auto, ปรับตามสภาพแสง 7 แบบ, Custom Preset 4 แบบ และปรับตามองศาเคลวิน (K) ความไวแสง Auto, Low และปรับเอง ISO 200-25600 ฟอร์แมทภาพ ภาพนิง่ : RAW, JPEG, RAW + JPEG ภาพเคลือ่ นไหว : MOV (MPEG-4AVC/H.264), AVI (Motion JPEG) ระบบวัดแสง Digital ESP เฉลีย่ 324 โซน, เฉลีย่ กลางภาพ, เฉพาะจุด, เฉพาะจุดเน้นโทนสว่าง และเฉพาะจุดเน้น โทนมืด จอมอนิเตอร์ ขนาด 3 นิว้ 1,037,000 พิกเซล ปรับระดับได้ ควบคุมด้วยระบบสัมผัส วิวไฟน์เดอร์ EVF ความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล แฟลชในตัว ไกด์นมั เบอร์ 8.2 ที่ ISO200/เมตร เมมโมรีก่ าร์ด SD, SDHC, SDXC การต่อเชือ่ มต่อ Wi-Fi, USB2.0 Hi-Speed, micro HDMI, VIDEO-OUT แบตเตอรี่ Li-Ion BLS-5 ขนาด 119 x 82 x 46 มม. น้ำ�หนัก 396 กรัม (รวมแบตเตอรี)่ ตัวแทนจำ�หน่าย บริษทั โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำ�กัด โทร. 02-787-8200, olympusimaging-th.com

23


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.