CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
AikidoCMU NEWSLETTER
ชมรมไอคิโด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาคารกิจกรรมนักศึกษา (อ.มช.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถ. สุเทพ อ.เมือง จ. เชียงใหม่ 50200 ติดต่อได้ที ่ อ๊อบ (ประธานชมรม) 081-7221227
ป๋อม (ผู้ประสานงานชมรม) 089-701 7686
กบ (บรรณาธิการจดหมายข่าว) 081-405 5379
Email : AikidoCMU@gmail.com Facebook : Aikido CMU Blog : http://aikidocmu.wordpress.com
หน้า ๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
หนูอ๊อบ ประธานชมรม คนใหม่ ยินดีรับใช้ค่ะ
สารบาญ
ฝกไอคิโดอยางเปนธรรมชาติ .....ดร.สมบัติ ตาปญญา ๓ เนนที่กระบวนการ ไมใชผลสำเร็จ .....อ.ธีระรัตน บริพันธกุล ๘ เบื้องหลังไอคิโดในทีวีไทย (PBS) ... วิสุทธิ์ เหล็กสมบูรณ ๑๐ เกร็ดความรูไอคิโด: โดโจ ... ปะปะปะปง ๑๓ THE SPIRIT OF AIKIDO : การประสานเปนหนึ่งกับ คิ ... KISSHOMARU UESHIBA ๑๔ สุภาษิตโกะกับขาพเจา ๗ : เมื่อตองเพลี่ยงพล้ำ การวิ่งหนีก็ไมใชเรื่องแย ..... NOURNOURS’ MOM ๒๒ การตูนของนูนู ๒๖ คายสิทธิมนุษยชน TRAFCORD : ไอคิโดกับการใหความรู เรื่องการปองกันตนเองจากการลวงละเมิดทางเพศ .... พี่ปอม ๒๗ จดหมายขอบคุณจาก ...เดือน TRAFCORD ๒๘ เซนกับศิลปะการปองกันตัว .... ถอดความโดย บก.กบ ๓๑ AIKIDO(KA) IN FOCUS อ.วัชรพล ศุภจักรวัฒนา ๒๑ มาเยี่ยมมาเยือน JOSEPH ELI CONG ๔๔ และ ISHIDA SUMIKO ๔๕ AIKIDO FAMILY : ภาพการสอบสายวันที่ ๖ กันยายน ๔๗ AIKIDO FAMILY : ภาพสมาชิกรวมใจลางหองน้ำ ๔๘
นักเขียนในฉบับ ดร.สมบัติ ตาปัญญา อ.ธีระรัตน์ บริพันธกุล วิสุทธิ์ เหล็กสมบูรณ์
ปะปะปะปิง
Kisshomaru Ueshiba Nounours’ Mom
นูนู่
พี่ป๋อม
โฟกัส หน้า ๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ฝกไอคิโดอยางเปน ธรรมชาติ ผศ.ดร. สมบัติ ตาปญญา
พวกเราคงพอจะจำความรูสึกไดตอนที่เริ่มฝกไอคิโดกันใหมๆ วาการเคลื่อนไหว บางทามันแสนจะฝนธรรมชาติ เชน การหมุนตัวแบบเทนคันโฮ การเดินเขา และโดยเฉพาะ อยางยิ่งการมวนตัวลมหนาลมหลัง เราจะรูสึกเกๆ กังๆ ทั้งกังวล ทั้งประหมาอาย กลัวเจ็บ กลัวดูไมดี ตอนแรกมันติดขัดขลุกๆ ขลักๆ ไป หมด แตพอทำไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มรูสึกตัววามัน ไมยากอยางที่คิด ตอมาพอรูสึกวาทำไดแลวก็ สามารถทำไปดวยคิดอะไรไปดวย หรือบางคนที่ ชอบคุยก็ทำไปคุยไป หยอกลอเพื่อนขางๆ ไป ดวยก็ได R ระหวางสัปดาหแรกของเดือนตุลาคมนี้ ผมมีโอกาสไดไปรวมสัมมนาที่รีสอรทแหงหนึ่งที่ ปราจีนบุรี เรื่องการบำบัดผูมีบาดแผลทางใจ (trauma therapy) โดยคณะผูเชี่ยวชาญหรือจอม ยุทธระดับสายดำชั้นหกชั้นเจ็ด จากเยอรมนี จีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ทานเหลานี้อุทิศชีวิต ใหกับเรื่องนี้และหายใจเขาออกเปนเรื่อง trauma therapy เลยทีเดียว หากใครไดติดตามขาวเกี่ยว กับกิจกรรมนี้ของผมก็คงพอจำไดวาผมไปฝก วิทยายุทธทางนี้ในชวงสามสี่ปที่ผานมานี้หลาย ครั้ง สวนใหญจะไปที่เยอรมนี หน้า ๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
การอบรมครั้งนี้เปนสวนหนึ่งของโครงการที่เราเรียกวา “โครงการแมโขง (Mae Kong Project)” ประกอบดวยประเทศไทย พมา และกัมพูชา เปนผูรับผลประโยชน คือ มี นักจิตวิทยาและจิตแพทยไดเขารับการอบรมรวมประมาณสามสิบคน เปนคนไทย 24 เขมร 5 และพมาเพียงคนเดียว (แตกำลังจะรับเพิ่มอีก) และมีนักจิตวิทยาจากอินโดนีเซียมาพวง ดวยอีกหาคน สวนผูจัดการโครงการคือสมาคมนักจิตวิทยาอินโดนีเซียรวมกับคณะ แพทยศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ผมเองก็เปนผูประสานงานโครงการดวย เนื่องจาก เกี่ยวของกับเรื่องนี้มาแตตน ที่ผมอยากเลาใหฟงก็คือคนพมา ที่เราไปคนพบมาจากแมสอด ซึ่งนาสนใจ มากและทำใหผมเอามาโยงเขากับเรื่องที่ ขึ้นไวในยอหนาแรก คนพมาคนนี้ชื่อคุณ ออง มิ้น เขาอายุ 64 ปแลว แตยังดูหนุม แนนกระฉับกระเฉงคลายคนอายุสี่สิบ ใกลๆ หาสิบเทานั้น จบปริญญาเอกทาง จิตวิทยาคลินิกจากออสเตรเลียและไดอยู ออสเตรเลียมานานเกินยี่สิบปจนตอนนี้ ไดบัตรประชาชนของที่นั่นไปแลว แตเขา ก็มาเปนอาสาสมัครชวยเหลือคนพมา พลัดถิ่นอยูที่คลินิก “หมอซินเธีย” ซึ่งเปน หมอผูหญิงชาวพมาที่มีชื่อเสียง และเปดคลินิกใหญ (คลายเปนโรงพยาบาลขนาดเล็ก มากกวา) อยูที่แมสอด ผมเคยไปเยี่ยมมาแลว และไดเชิญคุณอองมารวมงานดวย คุณออง หรือดอกเตอรอองนี้เปนผูรูในเรื่องพุทธศาสนาโดยเฉพาะการปฏิบัติสมาธิดวย ในชวงของ การอบรมนี้ เขาก็เสนอสอนใหฝกสมาธิฟรีนอกเวลา คือตอนเชาของทุกวันตั้งแตเจ็ดโมง ครึ่งถึงแปดโมงครึ่ง ผมลองไปเขาดูก็ไดสิ่งดีๆ มาฝากพวกเราที่อาจเชื่อมโยงเขากับการฝก ไอคิโดและการใชชีวิตได หน้า ๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
คุณอองแนะนำแนวคิดนาสนใจเกี่ยวกับการฝกสมาธิวา ความชำนาญของคนจะมี 4 ระดับ คือ 1. Unconsciously unskilled คือไมชำนาญหรือไมเปน แตยังไมรูตัว 2. Consciously unskilled ไมเปนแตรูตัวแลววาไมเปน 3. Consciously skilled เปนแลว คลองแลว และรูตัววาเปนแลว 4. Unconsciously skilled เปนแลว เกงแลว และความเกงนั้นหยั่งรากลึกลงไปใน ความรูตัว จนกลายเปนธรรมชาติ (บางทีเรียกวา ธรรมชาติที่สอง หรือ second nature) ผมจึงอยากชวนพวกเราใหลองเปรียบเทียบแนวคิดนี้กับการฝกไอคิโดดูกันหนอย และ เมื่อเขาใจชัดแลวก็ลองขยายออกไปสูเรื่องอื่นๆ ในชีวิตดวย ระดับแรกของความ (ไม) ชำนาญ คือ unconsciously unskilled นั้น คงเหมือนกับกอนที่เราจะลงฝก บนเบาะ หากเรานั่งดูเขาฝกกันเฉยๆ เราก็คงยังไมรูวา เวลาเราตองทำทาตางๆ พวกนั้นแลวเราจะรูสึกอยางไร คือ “ยังไมรูวาไมร”ู นั่นเอง ตอนที่ดูคนอื่นๆ อยูเราจะ รูสึกวา “ก็งั้นๆ แหละ” ไมนาจะยากเย็นอะไร แตพอเริ่ม ลงมือฝกเขาจริงๆ เราจึงจะเขาสูขั้นที่สองของการรูตัว คือสัมผัสไดถึงความรูสึกเกงกางของมือเทา แขนขา และการเคลื่อนไหวรางกายที่มันไมเปนไปอยางที่เรา ตองการเลย เราเริ่มรูตัวแลววาเราไมเปน (consciously unskilled) ซึ่งหากเราจะกาวสูขั้นตอไปไดเราก็ตองมีทั้ง ความเพียรพยายามจากภายใน และการไดรับกำลังใจ หรือการสนับสนุนจากภายนอก (จากครูฝก เพื่อนรวม ฝก ครอบครัวหรือคนใกลชิด) เราจึงจะผานขั้นนี้ไปได
หน้า ๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
R ตอมาอีกระยะหนึ่งเราก็เริ่มทำได และหาก ฝกฝนตอไปเราก็จะทำไดคลองแคลวกลมกลืนมาก ขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เราจะภูมิใจในตัวเองมาก เพราะ รูตัววาเราทำเปนแลว (consciously skilled) แต หลุมพรางหรือจุดบอดของตรงนี้ก็คือหากเราภูมิใจ มั่นใจมากเกินไป เราจะเกิดอาการ “กราง” อยาก สรางความประทับใจ อยากสอน อยากเผยแพร อยากเรียกใหใครๆ มาดูเรา และเกิดยึดมั่นในความ รูสึกวา “กูแน” ขึ้นมา ทำใหไมอยากฟงสิ่งที่แตก ตางจากที่เราเคยชิน ไมอยากเรียนรูเพิ่ม เลยติดอยู กับความรูสึกเชนนี้ไปเรื่อยๆ ไมสามารถกาวไปขั้น ตอไปไดอีก ขั้นสุดทายจะเกิดขึ้นไดก็ตอเมื่อเราไดฝกฝนจนความชำนาญนั้นกลายเปนธรรมชาติ ที่สองของเราไปแลว คือมันซึมซับลงไปจนเปนเนื้อเดียวกับความเปนตัวตนของเรา (unconsciously skilled) คนที่เปนอยางนี้จะ “กลับสูสามัญ” คือหากดูเผินๆ จะดูไมออกวาเปนจอม ยุทธ เพราะจะดูเรียบงายธรรมดาๆ ไมแสดงทาทางหรือพยายามสรางความประทับใจให ใครๆ อีกตอไป หากเราเคยเห็นอาจารยอาวุโสระดับหกเจ็ดดั้งบางทานก็คงพอนึกภาพออกวาถา ทานเหลานี้เดินอยูตามขางถนนหรือตามตลาด เราจะไมรูเลยวาทานคือยอดฝมือตัวจริง จะ สัมผัสไดก็ตอเมื่อเราไดฝกกับทานเทานั้น โดยเฉพาะเวลาที่เราเขาโจมตีแลวทานเคลื่อนไหว เราจะไดความรูสึกที่อัศจรรยใจ (ตะโกนในใจวา “วาว” หรือ “โหย” หรือวัยรุนหนอยตองบอก วา “สุโคยๆ” ซึ่งโจเรายืมมาจากศัพทแสลงของวัยรุนญี่ปุนอีกที หมายความวาเจงหรือเยี่ยม ยอดอะไรทำนองนี้แหละ) และอยากบอกอาจารยวา “เอาอีกๆ” เรื่อยไป เพราะเราสัมผัสถึง ความกลมกลืนเปนเนื้อเดียวกันของความเคลื่อนไหวและพลังอันยิ่งใหญของทานไดจริงๆ ทำใหเกิดความปติเพลิดเพลินจนไมอยากหยุดฝก อาจารยระดับนี้สวนใหญทานจะไมคุย หรือถาคุยก็จะนอยมาก
หน้า ๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
R อาจารยประเภทนี้ผมไดพบในหลายวงการที่ผมไป สัมผัสมา เชน วงการจิตบำบัดที่ผมกำลังฝกอยูก็เชนเดียวกัน เวลาทานสอนหรือสาธิตการ ทำงานกับคนไขใหดูแลวเรา จะไดความรูสึกแบบเดียวกันนี้ และจะไมอยากใหทานหยุด สอนเลย อยากบอกวาเอาอีก อยูเรื่อยไปเหมือนกัน R อานแลวอยาก เปนคนประเภทไหนก็เลือก เอาไดตามใจชอบ แตถาอยาก เปนประเภทหลังสุดตองฝก หนักและทุมเทชีวิตใหสิ่งที่ตนเองอยากเกงดวยนะครับ
The Art of Peace # ๔๕ เขียนโดย Morihei Ueshiba แปลโดย John Stevens From ancient times, Deep learning and valor Have been the two pillars of the Path: Though the virtue of training, Enlighten both body and soul. John Stevens ไดรวบรวมเอา Doka หรือบทกวีขนาดสั้นของปรมาจารยไวในหนังสือ The Art of Peace ตอมา William McLuskie ไดนำมาลงเผยแพรที่เวบไซต http://omlc.ogi.edu/aikido/talk/osensei/artofpeace/
หน้า ๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
เนนที่กระบวนการ ไมใชผลสำเร็จ
อ.ธีระรัตน บริพันธกุล
ผมเริ่มเรียนแฮพคิโดกับอาจารยหานซึ่ง เปนชาวเกาหลี ตอนที่ผมอายุหาสิบแลว เริ่มตน ขบวนการเรียนรูเชื่องชามากและลำบากมาก สำหรับผม เนื่องจากแฮพคิโดตองอาศัยความ แคลวคลองของรางกาย รางกายของผมแข็งทื่อ และแถมยังมีอาการปวดหลังซึ่งทำใหผมทรงตัวไม สมดุลและทุกครั้งที่เตะสูงกวาระดับเอวก็จะเจ็บ ปวด การเรียนของผมยิ่งทำใหผมเสียความมั่นใจ เมื่อตองอยูตอหนาเด็กรุนหนุมกวา แมผมจะ พยายามและมุงมั่นแตก็รูสึกถอดใจไปหลายครั้ง และเรื่องนี้อาจารยรูดี บายวันหนึ่งหลังการฝก อาจารยหาน เชิญผมดื่มน้ำชา ทานพูดวา “คุณไมอาจเรียนสิ่งที่ ตองอาศัยความมานะบากบั่นไดอยางถูกตอง เวน แตจะใหเวลากับตนเองบาง ผมคิดวาคุณคงคุนเคย กับการรับแตสิ่งที่งาย นั่นไมใชวิถีชีวิตหรือของ ศิลปะการตอสู” “ก็ผมอดทนแลว” ผมตอบ ทานพูดตอไปวา “เราไมไดพูดถึงความอดทน อดทนเปนเรื่อง ของความสามารถในการรอคอยอยางสงบ ใหเวลาตนเองทำงานอยางกระปรี้กระเปรา ไปสูจุด มุงหมายโดยไมจำกัดเวลาไมวาจะยาวนานเพียงใด “ คำพูดนี้กระทบใจผม ผมใหเวลาตนเอง กับความคับแคนใจที่ไมสามารถทำในสิ่งที่คาดหวังได แตหลังจากที่ผมปลดเสนตาย ออกจากใจไปไดไมกี่เดือนใหหลังผมก็ทำเหมือนที่คนอื่นๆในชั้นได หน้า ๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ผมยังคงนำคำพูดของอาจารยหานมา ใชในชีวิตการทำงาน ตอนนั้นผมกำลังทำ หนังสืออยูเลมหนึ่ง การเขียนเปนไปอยาง ลาชามาก ผมรูสึกคับแคนใจมากเพราะผม ตกลงจะเริ่มโครงการในไมชาและนี่ก็เสมือนมี ภูเขาไฟที่สุมอยูในใจผมเกือบตลอดเวลา ผม ตระหนักวาความทุกขมาเยือนเหมือนชวงที่ฝก ฮัพคิโดเนื่องจากผมมุงมั่นไปที่ความสำเร็จ เพียงจุดเดียว และแนนอนวาความสำเร็จและ เวลาที่จำกัดรวมกันสรางแรงกดดันไดเปน อยางดี ผมจึงขยายdead lineออกไปอยางไมมี กำหนดและมุงความสนใจมาที่สิ่งที่เปนความ สุขในขณะที่ทำงานแทน และนั่นก็เปนอีกครั้งที่ ผมรูสึกวาผมสามารถอุทิศตนเองใหกับการ ทำงานโดยปราศจากความกังวลใจ ภาพจาก http://www.martialinfo.com/photo.asp? photos_id=1574
------------------------------------เรียบเรียงและดัดแปลงจากหนังสือ”เซน ศิลปะการตอสู” เขียนโดย Joe Hyams
The Art of Peace # ๘๖ เขียนโดย Morihei Ueshiba แปลโดย John Stevens Your spirit is the true shield. John Stevens ไดรวบรวมเอา Doka หรือบทกวีขนาดสั้นของปรมาจารยไวในหนังสือ The Art of Peace ตอมา William McLuskie ไดนำมาลงเผยแพรที่เวบไซต http://omlc.ogi.edu/aikido/talk/osensei/artofpeace/
หน้า ๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
เบื้องหลังไอคิโดในทีวีไทย (PBS) สโมสรผูนำเยาวชนเพื่อการศึกษาและพัฒนาชุมชน อำเภอปางมะผา จังหวัดแมฮองสอน
วิสุทธิ์ เหล็กสมบูรณ์
เย็นวันหนึ่ง ปลายเดือนกรกฏา 2553 ผมไดรับโทรศัพทจากคุณนก แหง บริษัทปาใหญครีเอชั่น ผูผลิตรายการสารคดีทางโทรทัศนแถวหนาของเมืองไทย วา เธอได search ขอมูลในอินเตอรเน็ตแลวพบวาที่อำเภอปางมะผา มีกิจกรรม เด็กๆจิตอาสาอยูในนาม”สโมสรผูนำเยาวชนเพื่อการศึกษาและพัฒนาชุมชน (สยชช.)” โดยมีผมเปนนายกสโมสรอยู เธอไดเบอรโทรจากอินเตอรเน็ตแลวจึง โทรเขามาบอกสนใจที่จะมาถายทำเรื่องราวเด็กๆ องคกรพัฒนาเอกชนเล็กๆของ เรา ผมจึงไดแนะนำใหมาถายทำกิจกรรมหลายอยาง และหนึ่งในนั้นคือ “ไอคิโด”
! จากกรกฏามาถึงตนสิงหา ผมไดนำเรื่องนี้ไปหารือกับเด็กๆแกนนำ และคุยกับคุณ นกสามสี่ครั้ง เพื่อเตรียมนัดแนะกำหนดการ สถานที่ บุคคล ที่จะเขารวมการถายทำ และนี่ เปนครั้งแรกของผมและเด็กๆที่จะไดเห็นงานที่ตัวเองปนมากับมือออกสื่อโทรทัศนสูสายตาคน ทั้งประเทศ เด็กๆไรสัญชาติรูสึกดีใจที่สื่อไทยมาใหความสำคัญกับคนชายขอบอยางพวกเขา พวกเราตื่นเตนกันมาก เตรียมซักซอมไวลวงหนาหลายวันทีเดียว หน้า ๑๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
บายวันเสารที่ 7 สิงหา ทีมถาย ทำทั้งสามคนก็มาถึง วันแรกนี่เราก็ถายทำกันเลย เป น คิ ว ของไอคิ โ ด เริ ่ ม ถ า ยกั น ตั้งแตหาโมงเย็น โชคดีที่ฝนไมตก ฟายังแจงอยู แตกวาจะถายทำ เสร็จก็หกโมงเศษ ชางกลองบอก ใหเราซอมไปตามปกติใหดูกอนซัก พัก กอนจะหามุมกลอง เรียกวามา ถายวิดีโอกันบนเบาะระยะคอนขาง ประชิดเลยทีเดียว ใหเห็นถึงสีหนา แววตา มุมกม มุมเงย มุมเฉียง ไมไดอยูนอกเบาะหรือหาง จากผูสาธิตเหมือนคลิปในยูทูป ทำใหผมไดตัวอยางวา ถาจะถายรูปไอคิโดใหสวย ก็อาจจะ ตองขออนุญาตผูฝกเขามาถายใกลๆ ในมุมที่หลากหลายแบบนี้ เด็กๆที่มาฝกซอม แสดงในวันนี้ ก็ใสชุดวอรมปกติอยางที่เราฝกประจำครับ ดวยเหตุผล จำเปนที่วาชุดฝกที่ไดรับบริจาคมาเรามักจะถนอมเก็บไวใชแสดงในงานที่เปนพิธีการ หรือ งานแสดงตางๆ และน้ำที่เราใชซักผากันเปนประปาภูเขา บางทีก็มีตะกอนขุน ชุดฝกสีขาวจะ ซักลำบาก ก็เลยใชชุดตามสะดวก คือเสื้อยืด กางเกงวอรม การมาถายทำออกทีวี เราก็อยาก นำเสนอความเปนธรรมดาของเรา มากกวาจะไปแตงแตมอะไร จนก็บอกวาจน แตจริงใจ เปนธรรมดาติดดินอยางไรเราก็บอกแกผูชมอยางนั้น การถายทำ เริ่มจากการซอมตามปกติ คือเด็กๆก็จะมานั่งสมาธิ เคารพอาจารย ตามธรรมเนียมเหมือนโดโจที่เชียงใหม ละครับ จากนั้นก็วอรมอัพ ไปเรื่อยๆ และขึ้นทาตางๆ ระหวางนี้ ชางกลองก็ จะถายวิดีโอไปเรื่อยๆ เราก็ฝกเหมือนที่ เคยทำ บางครั้งก็จะหยุดและเลนซ้ำ ตามแตชางกลองจะบอก เขาก็จะนำ ไมคโครโฟนไรสายมาเหน็บที่ตัวผม ให สงสัญญาณเสียงไปที่กลอง เวลาซอม ผมสอนอะไรเด็ก เสียงก็จะถูกบันทึกลง ในกลองวิดีโอขณะถายทำชัดขึ้น
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
! ถายทำการซอมบนเบาะเสร็จ ทางทีมงานก็จัดเกาอี้ใหผมกับพิธีกรนั่งคุยกัน โดยมี แบ็คกราวนเด็กๆกำลังซอมไอคิโดเปนฉากหลัง ! พิธีกรก็จะถามคำถามตางๆ เกี่ยวกับไอคิโด และการพัฒนาเด็ก ประมาณหาหก คำถาม ถามกันสดๆ แบบคำถามฉับพลัน คนตอบ ถาเรียบเรียงความคิดไมทันก็ตอบลำบาก เหมือนกัน
! เรื่องนี้สอนใหรูวา แมหลายๆคนมองวา ไอคิโดเปนประสบการณที่อธิบายไดยากถึง สัมผัสผานการปฏิบัติ แตถาเราตองการใหโลกสนใจ การถายทอดไอคิโดผานถอยคำภาษา ลายลักษณอักษรและสื่อตางๆก็เปนสิ่งที่จำเปน ! หนึ่งชั่วโมงเศษๆของการถายทำ แตใชเวลาเตรียมการกอนหนานี้นานหลายวัน ไดนำ เสนอออกทีวีในสายๆวันที่ 29 สิงหาไมกี่นาที ก็ภูมิใจที่ไดตอบแทนคุณครูบาอาจารยที่สั่งสอน วิชานี้แกพวกเรา หากใครยังไมเคยชมรายการทีวี “มดคันไฟ ตอน มด...ไมยอมแพ” ตอนนี้ คลิ๊กเขาไปดูไดนะครับที่ http://www.thaipbs.or.th/clip/index.asp?content_id=269269&content_category_id=763
ขอบคุณทุกทานที่ใหกำลังใจและเมตตาสนับสนุนพวกเราครับ
หน้า ๑๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
àเ¡กÃรç็´ด¤คÇวÒาÁมÃรÙู Œ äไÍอ¤คÔิâโ´ด
»ปÐะ»ปÐะ»ปÐะ»ป §ง
¤คÓำÞญÕีè่»ปØุè่¹น©ฉºบÑัºบÅลÐะ¤คÓำÇวÑั¹น¹นÕีé้ ¢ขÍอàเÊส¹นÍอ¤คÓำÇวè่Òา "âโ´ดâโ¨จ" ÊสÁมÒาªชÔิ¡กàเ¡กè่Òาæๆ¤ค§ง¨จÐะäไ´ดé้ÂยÔิ¹น¡กÑั¹น¨จ¹นªชÔิ¹นËหÙู áแµตè่ÊสÁมÒาªชÔิ¡ก ãใËหÁมè่ÃรÙูé้ËหÃร×ืÍอ»ปÅลè่ÒาÇวÇวè่Òาâโ´ดâโ¨จ¤ค×ืÍอÍอÐะäไÃร àเÍอÐะàเ¡กÕีè่ÂยÇวÍอÐะäไÃร¡กÑัºบ âโ´ดâโ¨จ«ซÔิµตÕีé้ËหÃร×ืÍอ»ปÅลè่ÒาÇว ÇวÑั¹น¹นÕีé้¹นÒาÂย»ปÔิ§ง¨จÐะÃรè่ÒาÂยÂยÒาÇวæๆ ÍอÂยè่Òา§งÊสÑัé้¹นæๆãใËหé้·ท∙Øุ¡ก¤ค¹น¾พÍอ¨จÐะàเ¢ขé้Òาãใ¨จÅลÐะ¡กÑั¹น¹นÐะ¤คÃรÑัºบ âโ´ดâโ¨จ ÁมÒา¨จÒา¡ก¤คÓำÊสÍอ§ง¤คÓำ¤ค×ืÍอ ¤คÓำÇวè่Òา "âโ´ด" ÁมÕี ¤คÇวÒาÁมËหÁมÒาÂย¶ถÖึ§งÇวÔิ¸ธÕีËหÃร×ืÍอáแ¹นÇว·ท∙Òา§ง Êสè่Çว¹น "âโ¨จ" ÁมÕี¤คÇวÒาÁม ËหÁมÒาÂย¶ถÖึ§งËหé้Íอ§งâโ¶ถ§งËหÃร×ืÍอÊส¶ถÒา¹น·ท∙Õีè่¢ข¹นÒา´ดãใËหÞญè่ ´ดÑั§ง¹นÑัé้¹น¤คÓำÇวè่Òา "âโ´ดâโ¨จ" ¶ถÖึ§งÁมÕี¤คÇวÒาÁมËหÁมÒาÂย¶ถÖึ§งÊส¶ถÒา¹น·ท∙Õีè่ æๆ ãใªชè่½ฝÖึ¡กÇวÔิ¶ถÕี·ท∙Òา§งµตè่Òา§ง æๆ àเªชè่¹น Êส¶ถÒา¹น·ท∙Õีè่ÊสÍอ¹นÈศÔิÅล»ปÐะâโºบÃรÒา³ณ ÊสÍอ¹น¾พÔิ¸ธÕีªช§งªชÒา áแÅลÐะ ÁมÑั¡กãใªชé้ ãใ¹นÊส¶ถÒา¹นÊสÍอ¹น ÈศÔิÅล»ปÐะ¡กÒาÃร»ปé้Íอ§ง¡กÑั¹นµตÑัÇว´ดé้ÇวÂย ËหÃร×ืÍอãใ¹นºบÒา§ง¡กÃร³ณÕี¡กç็ÍอÒา¨จËหÁมÒาÂย¶ถÖึ§งÊส¶ถÒา¹น·ท∙Õีè่½ฝÖึ¡กÊสÁมÒา¸ธÔิãใ¹น¹นÔิ¡กÒาÂยàเ«ซç็¹น´ดé้ÇวÂย àเªชè่¹น¡กÑั¹น ãใ¹นÊสÁมÑัÂย¡กè่Íอ¹น¡กÒาÃรàเÃรÕีÂย¹นÈศÔิÅล»ปÐะµตè่Òา§งæๆàเÃรÔิè่Áมµตé้¹น¨จÒา¡ก¡กÒาÃรàเÃรÕีÂย¹น·ท∙Õีè่ºบé้Òา¹นÍอÒา¨จÒาÃรÂยì์ áแÅลÐะ¤คè่ÒาàเÅลè่ÒาàเÃรÕีÂย¹น¡กç็äไÁมè่ äไ´ดé้ àเ»ปç็¹นµตÑัÇวàเ§งÔิ¹นáแµตè่¨จÐะàเ»ปç็¹น¡กÒาÃร»ปÑั´ด¡กÇวÒา´ดàเªชç็´ด¶ถÙูºบé้Òา¹นËหÃร×ืÍอ«ซè่ÍอÁมáแ«ซÁมºบé้Òา¹น àเÁม×ืè่ÍอÁมÕี¹นÑั¡กàเÃรÕีÂย¹น¨จÓำ¹นÇว¹นÁมÒา¡ก¢ขÖึé้¹น ¡กÒาÃรàเÃรÕีÂย¹น¡กç็µตé้Íอ§งÂยé้ÒาÂยäไ»ปàเÃรÕีÂย¹น·ท∙Õีè่âโÃร§ง½ฝÖึ¡กáแµตè่¤คÇวÒาÁมàเ»ปç็¹น¤คÃรÍอºบ¤คÃรÑัÇว ãใ¹น¡กÒาÃร½ฝÖึ¡กÂยÑั§งÁมÕีÍอÂยÙูè่´ดÑั§ง¹นÑัé้¹น¼ผÙูé้½ฝÖึ¡ก¨จÖึ§ง ÁมÕีÊสè่Çว¹นÃรè่ÇวÁมãใ¹นâโÃร§ง½ฝÖึ¡ก àเªชè่¹นËหÅลÑั§ง½ฝÖึ¡กàเÊสÃรç็¨จºบÃรÃร´ดÒาÅลÙู¡กÈศÔิÉษÂยì์¨จÐะÇวÔิè่§งàเ¢ขé้ÒาËหÒาäไÁมé้¡กÇวÒา´ด àเ¾พ×ืè่Íอ·ท∙Õีè่¨จÐะ·ท∙Óำ¤คÇวÒาÁม ÊสÐะÍอÒา´ดâโÃร§ง½ฝÖึ¡ก âโÃร§ง½ฝÖึ¡ก¨จÖึ§งàเ»ปÃรÕีÂยºบàเÊสÁม×ืÍอ¹นºบé้Òา¹น·ท∙Õีè่ ãใËหé้¤คÇวÒาÁมÃรÙูé้áแ¡กè่¼ผÙูé้½ฝÖึ¡ก ¹นÍอ¡ก¨จÒา¡ก¹นÕีé้¡กÒาÃร·ท∙Õีè่àเÃรÒาäไ´ดé้½ฝÖึ¡ก»ปÑั´ด ¡กÇวÒา´ดàเªชç็´ด¶ถÙู Âย¡กàเºบÒาÐะÂยÑั§งàเ»ปç็¹น¡กÒาÃร·ท∙Õีè่àเÃรÒาÅล´ดÍอÑัµตµตÒา¢ขÍอ§งàเÃรÒาÅล§ง àเ¾พ×ืè่ÍอàเµตÃรÕีÂยÁมÃรÑัºบ¿ฟÑั§ง¤คÓำÊสÍอ¹นËหÃร×ืÍอ¤คÓำ áแ¹นÐะ¹นÓำ àเ¾พÃรÒาÐะ¶ถé้ÒาàเÃรÒาÂยÖึ´ดáแµตè่àเÃรÒา¶ถÙู¡กµตé้Íอ§ง âโ´ดÂยäไÁมè่àเËหç็¹น¨จØุ´ดÍอè่Íอ¹น¢ขÍอ§งµตÑัÇวàเÍอ§ง¡กÒาÃร¾พÑั²ฒ¹นÒาÂยè่ÍอÁมäไÁมè่àเ¡กÔิ´ด¢ขÖึé้¹น ´ดÑั§ง¹นÑัé้¹นÁมØุÁมÁมÍอ§ง¢ขÍอ§งàเÃรÒา·ท∙Õีè่àเ»ปç็¹นÊสÁมÒาªชÔิ¡กªชÁมÃรÁม àเÁม×ืè่Íอ¾พÙู´ด¶ถÖึ§ง¤คÓำÇวè่Òา âโ´ดâโ¨จ ¨จÖึ§ง¤คÇวÃรÁมÍอ§งÁมÒา¡ก¡กÇวè่Òา ÅลÒา¹นäไÍอ¤คÔิ âโ´ด·ท∙Õีè่½ฝÖึ¡ก ËหÃร×ืÍอªชÁมÃรÁม áแµตè่¤คÇวÃรÁมÍอ§งãใËหé้àเËหç็¹น¶ถÖึ§ง¤คÇวÒาÁมËหÁมÒาÂย·ท∙Õีè่áแ·ท∙é้¨จÃรÔิ§ง¢ขÍอ§ง¤คÓำÇวè่Òา "âโ´ดâโ¨จ" áแÅลÐะ ªชè่ÇวÂย¡กÑั¹น´ดÙูáแÅลÐะÃรÑั¡กÉษÒาºบé้Òา¹น·ท∙Õีè่ ãใËหé้¤คÇวÒาÁมÃรÙูé้¢ขÍอ§งàเÃรÒา¡กÑั¹น¹นÐะ¤คÃรÑัºบ
หน้า ๑๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
The Spirit of Aikido Kisshomaru Ueshiba เขียน Taitetsu Unno แปลอังกฤษ นฤมล ธรรมพฤกษา แปลไทย
การประสานเปนหนึ่งกับ คิ ! ในเวลาไมนานมานี้ ความสนใจในหลักการเกาแกของคิ เพิ่มมากขึ้นอยางมากมาย แตสิ่งที่ถูกละเลยไมกลาวถึงก็คือ รากฐานทางปรัชญาของคิ โดยยอแลว เนื้อแทของคิก็เปนทั้ง เรื่องสวนตัวและไมใชเรื่องสวนตัว เปนรูปธรรมและมีความเปน สากล เปนเรื่องพื้นฐาน พลังงานสรางสรรคและพลังแหงชีวิต กาวขามกาลเวลาและสถานที่ เราจะเรียนรูความหมายของคิ ในบทหลังๆ แตตอนนี้เราจะถามวา อะไรคือนัยสำคัญที่ทำใหความสนใจในเรื่องคิเพิ่มขึ้น อยางฉับพลันในปจจุบันนี้ ขาพเจาเชื่อวา มันคือสิ่งที่สะทอนใหเห็นถึงความปรารถนาอยาง ลึกซึ้งในชีวิตแบบรวมสมัยที่จะคนหาหลักการแหงชีวิต คนหาแหลงพลังงานที่จะเติมชีวิตให เต็มและใหความหมายกับการดำรงอยู ! เบื้องหลังของความกาวหนาในความรูทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี เชนเดียว กับความรุงเรืองทางเศรษฐกิจ ทำใหเกิดความวางเปลาในจิตวิญญาณของมนุษย ดูเหมือน วาจะเปนชะตากรรมของมนุษยสมัยใหม เราอยูทามกลางวัตถุที่กองทวมทน ความสุข สบายจอมปลอม และความพยายามอยางหนักที่จะมีชีวิตที่ยกระดับ ความไมเคยพอและ ความผิดหวังยิ่งเนนย้ำความปวยไขที่แผขยายไปทั่วโลก ยิ่งกวาชวงใดๆในประวัติศาสตร ยุคนี้เปนยุคที่มนุษยตองการอยางยิ่งที่จะแสวงหาความหมายของการเปนมนุษยที่แทและ ตองการไดรับการดูแลเอาใจใสอยางแทจริง หนึี่งในผลที่ตามมาก็คือ เมื่อโลกตะวันตกได ปะทะกับปรัชญาและวัฒนธรรมของประเทศแถบเอเซีย หนึ่งในการปะทะสังสรรคก็คือการ ไดคนพบคิและจิตวิญญาณแหงเอเซียตะวันออก ปรากฏการณดังกลาวก็เปนสวนหนึ่งของ เหตุผลที่ชาวตะวันตกหันมาสนใจวิชาไอคิโด ซึ่งหากแปลตรงตัวตามภาษาแลวก็แปลวา วิถี (โด) แหงความกลมกลืน (ไอ) กับ คิ หน้า ๑๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
# ความปรารถนาที่จะเรียนรูเกี่ยวกับคิปรากฏใหขาพเจาเห็นทุกที่ ไมวาขาพเจาจะ ไปเยี่ยมเยียนศูนยฝกไอคิโดที่ใดๆในโลก ตัวอยางเชน เมื่อเดือนกันยายน ป ๒๕๒๑ ขาพเจาไดไปประเทศบราซิล อารเจนตินา และอุรุกวัย ขาพเจาจำไดชัดเจนถึงถอยคำ ของ หลุยส แพนเทเลียน ศาสตราจารยดานกฏหมายและการพิพากษาแหงศาลเมืองซาน เปาโล ที่พูดวา: ! ในฐานะผูที่นั่งอยูบนบัลลังกและพิพากษาผูอื่น ผมรูสึกลำบากใจเมื่อคน พบวา ตัวเองมีนิสัยที่ชอบคิดถึงแตตัวเองและวัตถุนิยม ผมไดเขารวมบราซิลไอคิ ไคและไดเรียนรูวาไอคิโดเปนศิลปะการปองกันตัวที่แสดงใหเห็นเนื้อแทของ วัฒนธรรมญี่ปุน เมื่อฝกฝนไอคิโด ไมเพียงที่ผมจะละลายความกังวลทั้งหลาย แตก็ยังคนพบคิ ซึ่งเปนหัวใจของจิตวิญญาณมนุษยที่ซอนอยูภายใตตัวตนที่ผิว เผินของผมอีกดวย ผมสัมผัสไดถึงความปติที่แทจริงและรูสึกซาบซึ้งใจ และผม เชื่อวา ผมไดเติบโตขึ้นสมฐานะมนุษยคนหนึ่ง ในระหวางงานเลี้ยงตอนรับของสหพันธไอคิโดนานาชาติ (International Aikido Federation) ครั้งที่สามที่กรุงปารีสในชวงปลายเดือนกันยายนและตนเดือนตุลาคม ในป ๒๕๒๓ กาย บอนเนฟอนด ประธานสหพันธฯไดกลาวคลายๆกันนี้วา: ไอคิโดเปนการแสดงออกของรูปแบบที่พัฒนาอยางสูงของศิลปะการปองกันตัว อันเปนมรดกทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณที่สงางามของญี่ปุน ถือวาเปน อารยธรรมอันสูงสงอันเปนประเพณีของความเปนนักรบ เราเชื่อวาไอคิโดจะได รับการตอนรับอยางดีในยุโรปอยางเปนธรรมชาติ ไอคิโดเปนวิถีแหงการผสาน รางกายและจิตใจเปนหนึ่ง ไอคิโดจึงเปนของขวัญที่เหมาะแกกาลสำหรับหนุม สาวที่กำลังคอยๆสูญเสียศรัทธาในการสืบหาความหมายของการเปนมนุษย ขาพเจาขอชื่นชมอยางสุดหัวใจในโอกาสอันมีคาครั้งนี้ที่ชาวตะวันตกสมัยใหมได ทำความรูจักกับไอคิโด ! สำหรับพวกเราที่ทุมเทแรงกายแรงใจในการบมเพาะไอคิโดอยางเงียบๆโดยมิได ประโคมขาวหรือโฆษณาประชาสัมพันธใดๆ เราจึงรูสึกยินดียิ่งที่ไดยินวาไอคิโดไดรับการ ยอมรับในระดับนานาชาติ แตเราไมควรพึงพอใจอยูแคความปติยินดีเหลานั้นหากเรา ตระหนักถึงความรับผิดชอบอันใหญหลวง ที่แบกรับไวบนบาในการพยายามที่จะทำใหคน ทั่วโลกไดรับในสิ่งที่พวกเขาคาดหวังไว ความรับผิดชอบเหลานี้ไมควรถือเปนเพียงเรื่อง เล็กนอยเลย หน้า ๑๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ตัวอักษร คิ เขียนโดย ปรมาจารย์โมริเฮอิ อูเอชิบะ
! หนึ่งในสิ่งที่เราเปนกังวลมากก็คือ ความโดดเดนเฉพาะ ตัวของไอคิโดที่มีรากฐานจากจิตวิญญาณของชาวญี่ปุนมักจะ กอใหเกิดความเขาใจผิดไดบอยๆ ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อไอคิโดได เปนที่รูจักของคนที่มีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่แตกตางกันออก ไป ไมเพียงแตผูที่เพิ่งเร่ิมตนที่มักจะมีความคาดหวังที่ไมสมจริง เทานั้นแตรวมถึงนักเรียนไอคิโดระดับสูงที่ไมเขาใจหลักการพื้น ฐาน ตีความผิดและเปนตัวอยางที่ผิดๆอีกดวย
! ทั้งครูและนักเรียนไอคิโดควรจะทุมเทตนเองให เชี่ยวชาญในศิลปะไอคิโด เขาใจอยางลึกซึ้งถึงกนบึ้ง ขจัดความ บิดเบือน และนำเสนอไอคิโดตามรูปแบบที่แทจริง หาไมแลว จะนำมาซึ่งความผิดหวังอัน ใหญหลวงตอบรรดาผูที่ใหความสนใจจนไมสามารถนำกลับคืนมาไดอีก ความรับผิดชอบ อันนี้ควรยึดถือไวไมวาจะเปนในญี่ปุนหรือในประเทศอื่นๆที่ไอคิโดกำลังเติบโตไปอยาง รวดเร็ว ยิ่งเทคนิคไอคิโดไดรับความสนใจมากขึ้น ก็ดูเหมือนวาไมมีปญหาอะไร แตกลับ กลายเปนวาเรื่องพื้นฐานทางปรัชญาและจิตวิญญาณของไอคิโดกลายเปนปญหาที่แทจริงที่ ปรากฏตัวขึ้น เวนเสียแตเราจะกลับไปสูคำสอนอันเปนตนฉบับของปรมาจารย และทำความ เขาใจใหกระจางเกี่ยวกับความหมายอันแทจริงของไอคิโดซึ่งเปนรากฐานที่สำคัญของจิต วิญญาณ ! หัวใจหลักของไอคิโดในวิถีแหงจิตวิญญาณก็คือ คิ พลังแหงการกอรูปของผืนพิภพ อันตั้งอยูที่แกนกลางของมนุษยทุกผูคน รอคอยการตระหนักรูและปฏิบัติใหเปนจริง ในขณะ ที่มโนภาพเกี่ยวกับคิไดเริ่มขึ้นโดยนักคิดผูทรงอิทธิพลของจีนโบราณ เชน เลาจื้อ จวงจื้อ ฮวยหนั่นจื้อ รวมทั้งกวนจื้อ ซุนจื้อ ขงจื้อ และเมงจื้อ แตไมไดจำกัดอยูแคนั้น แนวคิดเรื่องคิ ไดวิวัฒนาการผานวันเวลามาตลอดชวงประวัติศาสตร ความหมายของคินั้นอธิบายไดแตก ตางกันขึ้นอยูกับวัฒนธรรมและชวงเวลาที่เปลี่ยนผานในอารยธรรมเอเชียตะวันออก ใน ประเทศญี่ปุน หลังจากที่แนวคิดนี้ไดเปนที่รูจักก็ไดประสานเขากับสังคมดั้งเดิมจนไดกอ กำเนิดเปนรูปแบบเฉพาะตัวที่รวมเอาทัศนคติที่มีตอธรรมชาติ ชีวิต ความตายและอื่นๆ ! แนวคิดดั้งเดิมเกี่ยวกับคินั้นพัฒนาขึ้นมาตามสำนักคิดตางๆในฐานะหลักการหนึ่ง ของอภิปรัชญา ตัวอยางเชน คิ คือหลักการที่สำคัญยิ่งของการประสานกลมกลืน และเปน แหลงกำเนิดความคิดสรางสรรคที่แสดงออกมาในรูปของหยินและหยาง (เลาจื้อ) และบาง ครั้งก็กอเปนพลังงานที่กำเนิดขึ้นมาจากความสับสนอลหมาน (จวงจื้อ) หน้า ๑๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
! คิ ไดรับการขนานนามโดยนักปรัชญาบางคนวาคือ ทวิลักษณ อันเปนหลักการที่ เปนโครงสรางของจักรวาล นั่นคือ ในรูปที่เบาของคิก็คือสวรรค และคิของสวรรคก็กอให เกิดดวงอาทิตย ในขณะที่รูปที่หนักของคิก็จับตัวแข็งจนกลายเปนพื้นดิน และคิจากผืน แผนดินก็ใหกำเนิดน้ำ ทวิลักษณนี้คอยๆวิวัฒนขึ้นจนมีปฏิสัมพันธระหวางกัน เชน หยินหยาง ความมืด-ความสวาง และจากนั้นก็กำเนิดเปนทฤษฎีธาตุทั้งหาและการทำนายใน คัมภีรพยาการณ เตา เตอ จิง ! ในทฤษฎีธาตุทั้งหา ไมและไฟถือเปนคิธาตุเบา โลหะและน้ำเปนคิธาตุหนัก และ ธาตุดินจะอยูตรงกลางระหวางสองกลุมนี้ ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงและโชคชะตาของมนุษย สามารถทำนายไดโดยการขึ้นและลง ความกลมกลืนและความขัดแยงของหาธาตุนี้ ใน คัมภีรเตา เตอ จิง ใชเสนเต็ม (−) เปนสัญลักณหยางและเสนประ (- -) เปนสัญลักษณ ของหยิน เมื่อเอาเสนมาเรียงรวมกันในตำแหนงบนกลางลางเรียกวาเปนตรีลักษณ หาก เรียงกันแบบไมซ้ำจะไดแปดแบบ ซึ่งบงถึงลักษณะแปดอยาง คือ การสรางสรรค การ ยอมรับ การตื่นตัว ความออนโยน ความลึกสุดหยั่ง การติดตาม ความสงบนิ่ง ความราเริง ลักษณะเหลานี้สามารถใชอานเพื่อการทำนายโชคชะตาหรือเหตุการณที่กำลังจะเกิดขึ้น หากพูดแบบกวางๆ หลักการของคิก็เชื่อมโยงกับลักษณะปฏิสัมพันธของลักษณะคูตรง ขามของหยิงและหยาง ! หลักการพื้นฐานทางอภิปรัชญานี้ไดเขาสูประเทศญี่ปุนในสมัยนาระ (ค.ศ. ๗๑๐ - ๗๙๔) และสมัยเฮอัน (ค.ศ. ๗๙๔ - ๑๑๘๕) และไดรับการยอมรับอยางกวางขวาง แต วาแนวคิดทางพุทธศาสนาที่เดินทางจากอินเดียผานเขาสูจีนนั้นสงผลกระทบตอความ หมายดั้งเดิม โดยเฉพาะความคิดเรื่องกรรมและการจองเวร ! ยิ่งไปกวานั้น แนวคิดเรื่องคิก็ไดประสานกลมกลืนไปกับมุมมองทองถิ่นดั้งเดิม เกี่ยวกับธรรมชาติ และไดกลายเปนแหลงกำเนิดแหงพลังของวัฏจักรในกระบวนการ เติบโต แตกหนอ ชูชอ ผลิบาน และโรยราไปของบรรดาพืชผลนานาพรรณ มีศัพทหลาย คำไดประกอบกันขึ้นโดยผนวกเชื่อมโยงกับวิถีธรรมชาติ เชน โย-คิ คือการบมเพาะพัฒนา พลังงาน ไค-คิ คือ การฟนฟูชีวิต เซอิ-คิ คือพลังของจิตวิญญาณ และอื่นๆอีกมากมาย คิ ยังคงมีความหมายถึงพลังอำนาจที่ครอบงำและควบคุมความรักความเกลียดชังในความ สัมพันธระหวางมนุษย นอกจากนั้น ยังไดผนวกเขากับคุณไสยและพิธีกรรมทางศาสนาที่ การใชหลักการของหยินหยางตามทฤษฎีธาตุทั้งหาอยางที่ระบุถึงในวรรณกรรมสมัยเฮอัน เชน ตำนานเกนจิ เปนตน หน้า ๑๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
! การเปลี่ยนแปลงที่นาตื่นเตนที่สุดของการตีความคิและการนำไปปรับประยุกต เริ่ม ขึ้นเมื่อมีการผุดขึ้นของชนชั้นซามูไรในชวงปลายสมัยเฮอัน กระบวนการนี้ยังคงตอเนื่องไป ตลอดยุคคามาคูระ (ค.ศ. ๑๑๘๕ - ๑๓๓๖) และสมัยมุโระมาจิ (ค.ศ. ๑๓๓๖ - ๑๕๗๓) และตามมาดวยศตวรรษแหงสงครามกลางเมือง จนถึงสมัย อะสุชิ โมโมะยามะ (ค.ศ. ๑๕๖๘ - ๑๖๐๓) กระทั่งเขาถึงจุดสูงสุดในชวงตนสมัยโตกุกาวะ (ค.ศ. ๑๖๐๓ - ๑๘๖๘) บรรดาซามูไรที่ตองเผชิญกับการคุกคามอยางตอเนื่องของความตายในยุคแหงการสงคราม เขาใจคิในความหมายของ ชิ-คิ ความหาวหาญ อิ-คิ พลังที่มุงมั่น เกง-คิ ความแข็งแรง และ ยู-คิ ความกลาหาญ ยิ่งไปกวานั้น คิยังใหความหมายที่เชื่อมโยงกับจิตใจสงบภายใต สถานการณที่ตึงเครียด คือ คำวา เฮอิ-คิ และการเก็บพลัง ชู-คิ ซึ่งเปนความพยายามที่จะ ขยายลมหายใจใหยาวนานขึ้น และคำวา คิ-โซคุ หมายถึงสภาวะของความเปนความตาย ! ในชวงยุคสมัยของโชกุนโตกุกาวะ เปนชวงที่ญี่ปุนปลอดสงครามยาวนานประมาณ สามรอยป จึงไดจัดการอภิปรายครั้งใหญหลายครั้ง เพื่อคนหาพื้นฐานทางทฤษฎีของ “บูจิต สู” ในฐานะศิลปะแหงนักดาบ และเพื่อปองกันมิใหใชดาบไปในทางเสื่อมหรือเพื่อการพราก ชีวิต การประชุมเหลานั้นไดผลลัพธเปนตรรกะ วิธีวิทยาตามหลักทฤษฎีเกี่ยวกับคิ เชนเดียว กับการเรียกรองใหเขาสูแงมุมทางปรัชญาและจิตวิญญาณของคิดวย ในการบรรลุ วัตถุประสงคตามขอหลังๆจำตองกลับเขาสูแนวคิดของหยินและหยางอีกครั้ง ! ตัวอยางเชน ในคัมภีรที่ถือวาเปนอมตะสำคัญของจูจิตสูที่เชื่อมโยงกับยูโดสมัยใหม และสัมพันธอยางใกลชิดกับไอคิโด ก็คือ เดนโช ชูกากุ ของสำนักคิโต คิโต หมายถึงการขึ้นและลง การขึ้นคือรูปแบบของหยาง และการลงคือรูปแบบของ หยิน คนหนึ่งพึงชนะดวยการพึ่งพาอาศัยหยาง และชนะโดยพึ่งพาอาศัยหยิน… เมื่อ ศัตรูแสดงหยิน ชนะโดยหยาง เมื่อศัตรูแสดงหยาง ชนะโดยหยิน… การทำจิตใจใหมี พลังอำนาจ ตองใชประโยชนจากจังหวะจะโคนระหวางความแข็งแกรงและการออน ขอยอมตามในเทคนิค จึงจะแสดงวามีความเชี่ยวชำนาญการ การละทิ้งความ แข็งแกรงของตนและชนะโดยใชความแข็งแกรงของศัตรูนั้นเปนไปไดเพราะวาคิ ตาม ที่สอนในสำนักของเรา เมื่อเราละทิ้งความแข็งแกรง เราก็กลับเขาสูหลักการอันเปน รากฐาน หากเราไมพึ่งพากำลังแตใชคิ ความแข็งแกรงของศัตรูก็จะสะทอนกลับ และเขาจะลมลงดวยตัวของเขาเอง นี่คือความหมายของการชนะโดยใชกำลังของ ศัตรู เจาพึงไตรตรองอยางระมัดระวังในสาระสำคัญนี้ โดยสรุปก็คือ คนที่ออนแอ สามารถพิชิตคนเขมแข็งได หน้า ๑๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
เพื่อแสดงใหเห็นตัวอยางความสำคัญของคิในศิลปะแหงนักดาบ เราจึงอางอิงคำพูดตางๆที่ แสดงใหเห็นมุมมองเหลานี้ โอกาสแหงชัยชนะขึ้นอยูกับคิ สังเกตคิของศัตรูอยางระมัดระวัง เคลื่อนไหวอยาง สอดคลองกับมันจึงจะเรียกวารักษาโอกาสใหเกิดขึ้นตรงหนาเรา ในเซนเรียกวา “โอกาสในการเขาถึงเซน” ก็พูดถึงสิ่งเดียวกัน คิที่ซอนอยูและไมเปดเผยแสดงให เห็นโอกาสแหงชัยชนะ (เฮอิโฮ คาเดน โช) ในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับงานศิลปะ รวมถึงศิลปะการตอสู ความเหนือกวาตัดสินกัน ดวยการฝกหัดและฝกฝน แตความเปนเลิศที่แทจริงขึ้นอยูกับคิ ความยิ่งใหญสงา งามของสวรรคและผืนพิภพ ความกระจางใสของพระอาทิตยและพระจันทร ใน ความเปลี่ยนแปรของกาลเวลา ความรอนและความหนาวเย็น การกำเนิดและ ความตาย ตางขึ้นอยูกับการสลับผลัดเปลี่ยนระหวางหยินและหยาง การทำงานที่ ละเอียดลุมลึกไมสามารถอธิบายไดดวยถอยคำ แตภายใตทุกสิ่งเติมเต็มชีวิตดวย หนทางของคิ คิเปนตนกำเนิดแหงชีวิต และเมื่อคิพรากออกไปจากรูป ความตายก็ ปรากฏขึ้น (เทงกุ เกอิจุตสู รอน) คราวนี้ลองมาทำความเขาใจคิตามความคิดของปรมาจารยอูเอชิบะ แนวคิดเรื่องคิของ ทานนั้น กำเนิดมาจากความเขาใจอยางถองแทที่เกิดขึ้นโดยสันชาติญาณที่มีตอการทำงาน ของจักรวาล และแสดงออกโดยถอยคำที่สั้น กระชับ ไดใจความ แมวาบางครั้งจะยากที่จะ ทำความเขาใจอยางถองแทถึงความหมายที่ทานไดกลาวถึง แตการอานอยางตรึกตรองใน สิ่งที่ทานเขียนจะทำใหเราเห็นแนวทางตามความเขาใจของทานเกี่ยวกับคิ ทานไดบรรยาย เรื่องคิไวสองครั้งดังนี้ : ดวยบูโด ขาพเจาไดฝกฝนรางกายของขาพเจาอยางถวนทั่วสมบูรณและบรรลุถึง ความลับอันสูงสุด และขาพเจาก็ยังไดตระหนักรูถึงสัทธรรมอันยิ่งใหญ นั่นคือ เมื่อขาพเจาไดเขาใจธรรมชาติที่แทของจักรวาลอยางทะลุปรุโปรงผานทางบูโด ขาพเจาก็ไดเห็นอยางชัดเจนวา มนุษยพึงผนวกจิตใจและรางกายเขากับคิ เพ ราะคิเปนจุดเชื่อมโยงระหวางสองสิ่งนั้น จากนั้นจึงจะสามารถเขาถึงความ กลมกลืนในการเคลื่อนไหวของทุกๆสิ่งในจักรวาล โดยคุณสมบัติอันงดงามอันละเอียดออนในการทำงานของคิ เราจึงประสานจิตใจ และรางกายรวมไปถึงความสัมพันธระหวางปจเจกบุคคลกับจักรวาล หน้า ๑๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ไดอยางกลมกลืน แตหากการทำงานของคิไมราบลื่น โลกก็จะตกอยูในความ สับสนและจักรวาลก็จะมีแตความอลหมาน การประสานกลมกลืนของคิ จิตใจ และรางกาย เขากับการเคลื่อนไหวลื่นไหลของจักรวาลถือเปนจุดวิกฤติแหงการ จัดระเบียบและสันติภาพในโลก ปรมาจารยอูเอชิบะยังไดขยายความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของคิ และความสมดุล ของชีวิตที่จะขาดซึ่งคิไมได การทำงานที่ละเอียดออนของคิเปนแหลงกำเนิดที่สงผลตอการเปลี่ยนแปลงอัน ประณีตของลมหายใจ คิเปนแหลงกำเนิดของศิลปะการตอสูนั่นคือความรัก เมื่อผู นั้นผสานจิตใจและรางกายดวยความดีงามของคิและสำแดงซึ่งไอ-คิ (ความกลม กลืนของคิ) ความเปลี่ยนแปลงอันประณีตในพลังของลมหายใจก็เกิดขึ้นเองอยาง อัตโนมัติและ วาซา (เทคนิคที่ถูกตองเหมาะสม) ก็จะลื่นไหลอยางเปนอิสระ การเปลี่ยนแปลงในลมหายใจนั้นเชื่อมโยงกับคิของจักรวาล ซึ่งมีปฏิสัมพันธและ แผซานเขาใปสรรพชีวิตทั้งมวล ในขณะเดียวกัน พลังของลมหายใจอันประณีตก็ ยังแทรกเขาสูทุกซอกมุมของรางกายผูนั้น เพราะการแทรกประสานอยางลึกซึ้ง ผู นั้นจึงเต็มไปดวยพลังชีวิต เปนผลทำใหเกิดความเปนธรรมชาติในหลายๆรูปแบบ ทั้งความคลองแคลวมีชีวิตชีวา การเคลื่อนไหวอยางเปนธรรมชาติ เชนนี้เอง ทั้ง รางกายรวมไปถึงอวัยวะภายในจึงประสานเปนหนึ่งเดียวกันกับความรอน แสง และพลังงาน เมื่อบรรลุถึงความเปนหนึ่งของจิตใจและรางกายรวมทั้งเปนหนึ่ง เดียวกับจักรวาลแลว รางกายก็จะเคลื่อนไปตามใจปรารถนาโดยไมวาสิ่งใดๆก็ไม สามารถตานทานได ปรมาจารยอูเอชิบะไดสรุปเกี่ยวกับคิหลังจากที่ทานไดใชเวลาทั้งชีวิตเสาะแสวงหาสัจจะแห งบูโดผานวินัยฝกฝนตนอยางเขมงวดเปนเวลาหลายสิบป กระทั่งศิลปะของทานคลี่คลาย กลายเปนความละเอียดประณีตและมีจิตวิญญาณดังที่ทานกลาววา: การเปลี่ยนแปลงอันละเอียดออนในลมหายใจเปนเหตุใหเกิดความประณีตในการ เคลื่อนไหวของคิในความวางเปลา บางครั้งการเคลื่อนไหวอาจดุดันโหดราย รุนแรง และบางครั้งก็อาจแชมชาและนิ่งสงบ ความเปลี่ยนแปลงเชนนี้ ผูนั้นจะ สามารถสังเกตไดถึงระดับขั้นของจิตใจที่จดจอหรือความเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน หน้า ๒๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ของจิตและกาย เมื่อความจดจอตั้งมั่นซึมแทรกจิตใจและรางกาย พลังแหงลม หายใจก็จะเปนหนึ่งเดียวกับจักรวาล แผขยายออกไปอยางออนโยนและเปน ธรรมชาติโดยไรขีดจำกัด แตในขณะเดียวกัน ผูนั้นก็เพิ่มพูนความสามารถในการ ควบคุมความรูสึกของตนและมีอิสระในตนเอง ดวยวิธีนี้ เมื่อลมหายใจทำงานรวม กับจักรวาล แกนแทแหงจิตวิญญาณที่ไมเคยประสบพบพานก็จะกลายเปนสภาพ ความเปนจริงภายในคนผูนั้น คอยหอหุม คุมครองและปองกันตัวตน นี่คือการ แนะนำแกนแทอันลึกล้ำของไอ-คิ ! ดังนั้น คิ มีความหมายสองชั้น หนึ่งคือ การผสานเปนหนึ่งระหวางปจเจกกับจักรวาล กับ สองคือการแสดงออกอยางเปนอิสระเปน ธรรมชาติของพลังแหงลมหายใจ ความหมายแรก เปนการสืบทอดแนวคิดเกี่ยวกับคิจากบรรดานัก คิดจีนโบราณและไดนำมาปฏิบัติผานการประ สานคิ-ใจ-กายเขาดวยกันในการฝกฝนไอคิโด ใน กระบวนการฝกฝนผสานใหเปนหนึ่งกับคิของ จักรวาลนั้นสามารถเขาถึงไดโดยอัตโนมัติโดยไม ตองใชความพยายามเลย ความหมายที่สอง คือ การสอนวาลมหายใจของผูที่ฝกฝนจะสามารถ ควบคุมความคิดและการเคลื่อนไหวรางกายของ ตนได เมื่อจังหวะของลมหายใจและทวงทาของ ไอคิโดผสานกลมกลืนเขากับจังหวะของจักรวาล จิตและกายของผูนั้นก็จะมีจุดศูนยกลางและทุก การเคลื่อนไหวก็จะกลายเปนการหมุนเปนวงกลม
ปรมาจารย์ในปี ๑๙๖๘ สาธิตการประสาน ki-shin-tai (คิ-จิต-กาย) เป็นหนึ่ง
! เหตุผลที่ปรมาจารยอูเอชิบะเนนย้ำถึงความเปนหนึ่งเดียวกันของการปฏิสัมพันธ ระหวางคูตรงขามและการแสดงออกอยางเปนธรรมชาติก็เพราะวา ทานไดเห็นวาแกนแท ของคิก็คือแกนแทของบูโดของทานนั่นเอง และนี่เองก็คือจุดเริ่มตนถึงความรับผิดชอบของ เราที่จะตองทำความเขาใจใหกระจางชัดอยางตอเนื่องวา คิ ก็คือศูนยกลางของการฝกฝน ไอคิโด และพัฒนาความสำคัญของคิที่เกี่ยวของกับชีวิตรวมสมัยตอไป หน้า ๒๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
!
สุภาษิตโกะกับขาพเจา (๗)
โดย Nounours’ Mom
“เมื่อตองเพลี่ยงพล้ำ การวิ่งหนีก็ไมใชเรื่องแย” ! โกะ หรือ หมากลอม เปนหนึ่งศิลปะใน ศิลปะจีน ๔ แขนงที่สืบทอดมาแตโบราณ ไดแก การดีดพิณ การเดินหมากกระดาน (โกะ) การเขียนพูกัน และการวาดรูป นอกจากเปนศิลปะแลว โกะยังเปนศาสตร ทางการยุทธอีกดวย พื้นที่ขนาดประมาณ ๓๖๑ ตารางเซนติเมตร ที่ตางเปนที่หมายยึด ครองของกองทัพหมากขาวและกองทัพหมาก ดำ โดยที่ทั้งสองฝายมีกำลังเทากันตางแต ไหวพริบของผูนำกองทัพที่ควบคุมการ เคลื่อนไหวของกำลังพลเทานั้น ระหวางการ เดินหมากแตละเม็ดของผูเลนที่ดูสงบนิ่งนั้น แทจริงแลวเกิดความขัดแยงและการ เคลื่อนไหวทางความคิดที่เกิดขึ้นตามเกม หมากที่กำลังดำเนินอยูอยางตอเนื่อง เพื่อ โจมตี เพื่อตานรับ และเพื่อรักษาพื้นที่ที่ตน ครอบครองอยู ดังนั้น นักหมากลอมที่มีไหว พริบเชาวปญญาจึงเปนผูที่มีโอกาสมีชัยได มากกวา
! “ขาพเจาเปนเพียงผูเริ่มฝกหัดเลน โกะเทานั้น และยังโงเขลาที่จะเขาใจแกน แทของโกะอยางลึกซึ้ง แตถาเปนจิต วิญญาณของไอคิโดแลว ขาพเจาไมปฏิเสธ เลยวามันเปนธรรมชาติและชีวิตของ ขาพเจาไปแลว ! จากหนังสือ โกะ อัจฉริยะเกม แหงพิภพ โดย วันชัย ประชา เรืองวิทย ที่ ขาพเจาไดรับมา จากเพื่อนผูหนึ่ง ทำใหขาพเจาพบสุ ภาษิตโกะบางขอที่ จุดประกายความ คิดใหขาพเจาไดเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อ เผยแพรสุภาษิตโกะที่ขาพเจาเห็นวา สอดคลองกับหลักไอคิโดที่ขาพเจายึดถือ เปนแนวทางในการใชชีวิตอยางสงบสุข ตามความเขาใจของขาพเจา โดยมิไดยึด ติดวาผูใดจะตองเห็นดวย” หน้า ๒๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
Z ไอคิโด เปนศิลปะปองกัน ตัวที่มีลักษณะการตอสูแบบยูยิตสู และยูโด ที่อาศัยเทคนิคการ เหวี่ยงฟาดเพื่อตัดกำลังของผู โจมตีใหเคลื่อนไหวชาลง หรือให หยุดชะงักงัน Z แตสำหรับไอคิโดแลว การ ใชเทคนิคก็เพียงเพื่อบั่นทอนผู โจมตีใหหมดพิษภัยเทานั้น ไมไดมุง ทำรายใหเกิดการบาดเจ็บหรือ พิการถึงตาย แตในความเปนจริง แลว หากนักไอคิโดไมมีการยั้งมือ ก็อาจทำใหผูโจมตีถึงตายไดเชนกัน Z ผูคนพบวิชาศิลปะปองกันตัวไอคิโด คือ ปรมาจารย มอริเฮอิ อูเอชิบา ชาวญี่ปุน ทานไดหลอหลอมศิลปะปองกันตัวหลายแขนงที่ทานไดฝกฝนขึ้นมา แมไอคิโดจะพัฒนามา จากลัทธิบูชิโดซึ่งเปนปรัชญาการตอสูของซามูไร แตไอคิโดก็มีการพัฒนาจุดมุงหมายในการ ตอสูที่ตางออกไป Z การตอสูทั่วๆไปมักลงเอยดวยการแบงแยกเปนฝายแพ ฝายชนะ เพื่อลมลางกัน แตสำหรับหลักปรัชญาของไอคิโดนั้น มีจุดมุงหมายเพื่อการสมานฉันท เปนศิลปะการตอสู ปองกันตัวเพื่อแสวงหาความเขาใจอันดีตอกันมากกวาเพื่อความเหนือผูอื่น ทางทฤษฎีแลว ไอคิโดไมมีเทคนิคการโจมตี จะฝกแตเทคนิคการรับมือ จึงถือไดวา ไอคิโดเปนศิลปะการ ตอสูปองกันตัวอยางแทจริง Z หลักของไอคิโดอยูที่ ความสมดุลของการทรงตัว ความตอเนื่องและความกลมกลืน ในการเคลื่อนไหว และในขณะเดียวกัน ก็ตระหนักถึงความปลอดภัยของคูฝกซอมและตัว เอง จุดสำคัญคือ การรวบรวมจิตใจใหอยูในความสงบ มีสมาธิแนวแนพรอมผนึกรางกายให อยูในสภาพพรอมเต็มที่เพื่อรับมือกับการถูกโจมตี และควบคุมผูโจมตีใหอยูมือเมื่อมีจังหวะ พลังของไอคิโดไมไดเกิดจากพลังมหาศาลของรางกายที่แข็งแรง แตเกิดจากการควบคุม จิตใจและรางกายใหประสานกันกับความเคลื่อนไหวของผูโจมตี หน้า ๒๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
Z ดังนั้นศิลปะการตอสูปองกันตัวไอคิโด จึงเหมาะสมกับคนทุกขนาด ทุกเพศ ทุกวัย ไมวาเด็ก ผูหญิง ผูชาย ไมวาคนรูปรางเล็ก หรือใหญ ไอคิโดที่สมบูรณแบบสามารถสยบผู โจมตีไดเสมอ การจับคูฝกเหวี่ยง และการลมตัวของผูโจมตีดูแลวเบาหวิวเหมือนไมได ออกแรงมากมายนั้น เบื้องหลังการเหวี่ยงและการลมอยางนุมนวลนั้น เกิดมาจากการ ฝกฝนมาอยางดีใหสามารถลมตัวตามแรงไดอยางปลอดภัยและสวยงาม การลมตัวตาม หลักวิชาไอคิโดคือ การแปรเปลี่ยนความหวาดเสียวหวาดกลัว ใหเปนเรื่องสนุกในการ ลอยตัวลงสัมผัสพื้นที่เกิดจากการฝกฝนอยางแทจริง Z เคล็ดลับของวิชาศิลปะปองกันตัวไอคิโด อยูที่การประสานและปรับตัวเองเขากับ การเคลื่อนไหวของผูโจมตี หรืออีกนัยยะ วิชาไอคิโด ไมใชเทคนิคการตอสูหรือเอาชนะผู อื่น แตเปนเทคนิคการปรับตัวเขากับโลก และชวยใหมนุษยอยูดวยกันอยางสันติ คูตอสูมี เพียงผูเดียว คือใจของเราเอง Z การฝกวิชาไอคิโดเปรียบเหมือนการเผชิญเรื่องตางๆที่เขามาในชีวิตและสิ่งที่เขา มาทำใหเราเสียศูนยสมดุล ทุกครั้งที่ผูฝกโจมตีเขามาไมวากี่คนก็ตาม หรือไมวารูปแบบ ไหน มีอาวุธหรือไมก็ตาม เราก็ตองรักษาศูนยกลางการทรงตัวใหดี โดยการเคลื่อนไหว อยางกลมกลืนกับทิศทางที่ถูกโจมตีดวยความมั่นคง สุขุมไมหวั่นไหว การเคลื่อนไหวที่ มั่นคงบางทาดูเหมือนคลื่นในทะเล ที่มีการกอตัวอยางนากลัวแลวกลายเปนลูกคลื่นสลาย ตัวไปในที่สุด จิตวิญญาณที่เปนอิสระไมยึดติดกับเปาหมายหรือชัยชนะ นอกจากอยูรวมกัน อยางกลมกลืน ไมปะทะหรือขัดแยง ทานปรมาจารย มอริเฮอิ อูเอชิบา ไดคนพบศักยภาพ ที่แทจริงของตนเมื่อทานอายุลวงเขาเจ็ดสิบปไปแลว ขณะที่ทานไมสามารถใชพละกำลัง ของรางกายไดอีกตอไป แตทานก็ยังมีความคลองแคลวอยางนาอัศจรรยอันเนื่องมาจาก ญาณหยั่งรู หรือการเขาสูสภาวะอันเปน เอกภาพภายในที่ไมไดหมายถึงสภาวะใดใดของ รางกายหรือของจิตใจเปนการเฉพาะ และทำตนใหกลมกลืนกับสรรพสิ่ง Z ในการตอสู สิ่งสำคัญที่สุดคือการมุงมั่นไปขางหนาดวยความแนวแน ไมหวั่นไหว ไปกับสถานการณ แตในกรณีที่เกิดการเพลี่ยงพล้ำ เราอาจจะเปนฝายเสียเปรียบหากยัง มุงมั่นที่จะรับมือคูตอไป ดังนั้น จึงตองไมอยูนิ่ง จะตองเคลื่อนไหว ลาถอยหนี แลวหลอก ลอใหคูตอสูสับสน หลอกลอใหคูตอสูพุงเขาหาอยางไรทิศทางดวยจิตใจที่สงบนิ่งไม วอกแวกจนเสียสมาธิ แกลงเปดชองโหวใหคูตอสูหลงเชื่อจนเขามาใกล แลวคอยโจมตี หรือหลอกลอหลบหลีกการจูโจมไปเรื่อยจนเห็นวาคูโจมตีเริ่มออนแรงจึง หน้า ๒๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ตอบโตหากเกิดการพลาดทาเสียทีหรือตกอยูในสถานการณคับขัน ทางออกทางเดียวคือ การหนีเอาตัวรอด การวิ่งหนีไมใชเรื่องที่นาอับอาย หรือเปนสิ่งเลวรายสำหรับการตอสูเลย แตเปนการแกไขปญหาไปตามสถานการณ ในกรณีที่เกิดการเพลี่ยงพล้ำหรือกำลังเสีย เปรียบ เพื่อหาพื้นที่หรือหาสถานะที่ไดเปรียบในการตอสูใหเอื้อในการควบคุมสถานการณ และสะดวกในการรับมือ Z ความไมยึดมั่นถือมั่นนี้เปนศิลปะอยางหนึ่งที่จะนำไปสูเปาหมายที่ตั้งใจไว และทำให ไมไหวหวั่นหรือหวาดกลัวแมกระทั่งความตาย
ติดต่อ Nounours’
Mom ได้ที่
<http://NounoursMom.hi5.com>
The Art of Peace # ๒๕ เขียนโดย Morihei Ueshiba แปลโดย John Stevens To practice properly the Art of Peace, you must: ! Calm the spirit and return to the source. ! Cleanse the body and spirit by removing all malice, ! ! selfishness, and desire. ! Be ever-grateful for the gifts received from the ! ! universe, your family, Mother Nature, and your fellow ! human beings. John Stevens ไดรวบรวมเอา Doka หรือบทกวีขนาดสั้นของปรมาจารยไวในหนังสือ The Art of Peace ตอมา William McLuskie ไดนำมาลงเผยแพรที่เวบไซต http://omlc.ogi.edu/aikido/talk/osensei/artofpeace/
หน้า ๒๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
หน้า ๒๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ไอคิโดกับการใหความรู เรื่องการปองกันตนเองจากถูกลวงเกินทางเพศ คายสงเสริมสิทธิมนุษยชน วันที่ 19 ตุลาคม 2553 คุณเดือน วงษา สมาชิกคนหนึ่งของชมรมไอคิโด มช. ทำงานดานการตอตานการคา มนุษยกับองกร Anti-Trafficking Coordination Unit Northern Thailand (TRAFCORD) ไดจัด คายสิทธิมนุษยชน อบรมเยาวชนผูนำของโรงเรียนตางๆในพื้นที่หางไกล และมีความเสี่ยง เปนเวลา ๕ วันเต็ม ทางชมรมไอคิโด มช. ของเรา ไดถูกรับเชิญไปถายทอดความรูเรื่องการปองกันตนเอง จากถูกลวงเกินทางเพศ แกสมาชิกคายในวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๓๓ ในชวงเวลา เพียงชั่วโมงครึ่ง เปนที่นาเสียดายที่อยูในชวงปดเทอม สมาชิกของเราไดกลับบานตางจังหวัดเสียเปนสวนใหญ บาง คนก็ยังไมเลิกจากงานที่ทำเพราะเรานัดกันออกเดินทางจากเชียงใหมเวลาบายสองโมงกับสมาชิกชม รมไอคิโด มช. สามคน ปอม แบงค และปใหม(อดีตประธานชมรมที่กลิ่นอายประธานยังไมเจือจาง) พี่ปอมไดกรอกหูแบงคไปตลอดทางวา แบงคตองเปนวิทยากรเอง ดำเนินงานเอง แตจริงๆแลวก็ ใหแบงคเตรียมตัวมาหลายวันแลว ทั้งยังหาเอกสารให รวมทั้งไฟลนำเสนอและคลิปตางๆ ซึ่ง ทาทางแบงคก็ดูมีความมั่นใจไมนอย งานนี้เราไดปนวิทยากรคนใหมและคาดหวังวาแบงคจะเปน กำลังสำคัญของชมรมไอคิโด มช. ไดตอไปภายภาคหนา เราไปถึงกอนเวลาชวงของเราทำใหเราไดมีโอกาสเตรียมพรอม และพบวาสิ่งที่เราคาด วาจะนำเสนอนั้น ทางทีมงานของคุณเดือนก็ไดใหความรูแกเด็กๆไปมากแลว อีกทั้งเด็กๆก็คาดหวัง วาจะไดฝกฝนทาของไอคิโดสำหรับปองกันตัว วิทยากรแบงค ก็ไดใหความรูและอธิบายถึงความ สำคัญของการไมนำพาตนเองไปสูความเสี่ยงตางๆ สลับกับการใหพี่ปอมสาธิตทาที่จะเอาตัวรอด จากการกระทำหรือจากภัยลักษณะตางๆที่คอนขางเบาๆ และใหนองๆลองทำ โดยพี่ๆคอยเดิน แนะนำ แตก็ไมสามารถแนะนำไดทั้งหมด ทำเอาบางคนไมคอยรูแรงตัวเองทำเพื่อนเจ็บไปบางก็มี ก็ นองๆทั้งหมดรวมหกสิบคน พี่สามคนดูแลไดไมทั่วถึงจริงๆ พี่ปอมไดแนะนำการนำพาตนเองใหพน อันตราย โดยปใหมเปนผูชวย(ทำอันตราย) ในขณะที่นองๆชางสงสัยวาถูกกระทำแบบนั้นแบบนี้จะ ทำอยางไร และทุกทาที่พี่ปอมสอนนั้น พี่ปอมย้ำเปนสิ่งแรกคือใหตั้งสติ อยาตื่นกลัว ใหควบคุม ตนเอง และประเมินสถานการณ สลับกับเราไดนำสินคาไปเสนอขายคือเปดคลิปไอคิโดใหดู ซึ่งเปน ที่ตื่นตาแกนองๆพอสมควร นองๆที่มาคายนี้สวนใหญเปนเด็กผูหญิงชั้นมัธยมปลาย จากโรงเรียนในอำเภอที่ไกล ออกไปจากเมืองเชียงใหม เชน อมกอย แมแจมเปนตน บางคนเปนเด็กชาติพันธุ และมีความเสี่ยง ตอการถูกรังแกและคุกคามทางเพศสูง จึงใหความสนใจและตั้งใจเปนอยาดี นอกจากนี้ยังบอกแก ทีมงานอีกวาอยากใหพี่ๆชมรมไอคิโดไปสอนใหที่โรงเรียน โดยจะเขียนเปนโครงการและขอทุน สนับสนุน และทางเราก็ไดรับปากนองๆไปแลว สรุปขาวโดย...พี่ปอม
หน้า ๒๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
àเÃรÕีÂย¹น ÍอÒา¨จÒาÃรÂย ÊสÁมºบÑัµตÔิ áแÅลÐะÊสÁมÒาªชÔิ¡กªชÁมÃรÁมäไÍอ¤คÔิâโ´ด·ทØุ¡ก·ท ‹Òา¹น
¼ผ ‹Òา¹นäไ»ปáแÅล ŒÇว¹นÐะ¤คÐะÊสÓำËหÃรÑัºบ ¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁม " äไÍอ¤คÔิâโ´ด¡กÑัºบ¡กÒาÃรãใËห Œ¤คÇวÒาÁมÃรÙู Œ àเÃร×ืè่Íอ§ง¡กÒาÃร»ป ‡Íอ§ง¡กÑั¹นµต¹นàเÍอ§ง¨จÒา¡ก¶ถÙู¡กÅล ‹Çว§งàเ¡กÔิ¹น ·ทÒา§งàเ¾พÈศ " ¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁม¹นÕีé้ãใªช ŒàเÇวÅลÒาËห¹นÖึè่§ง ªชÁม.¤คÃรÖึè่§ง ¤ค ‹Ðะ àเ»ป š¹น¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁมäไÎฮäไÅล·ท ¢ขÍอ§ง àเÁม×ืè่ÍอÇวÒา¹น¹นÕีé้ àเ·ท ‹Òา·ทÕีè่´ดÙู¨จÒา¡ก feedback ¢ขÍอ§งàเ´ดç็¡กæๆ ·ทÕีè่Ãร ‹ÇวÁม¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁม (·ทÑัé้§งËหÁม´ด 60 ¤ค¹น)
ÒาÃร»ป ‡Íอ§ง¡กÑั¹นµต¹นàเÍอ§ง¨จÒา¡ก¶ถÙู¡กÅล ‹Çว§ง " äไÍอ¤คÔิâโ´ด¡กÑัºบ¡กÒาÃรãใËห Œ¤คÇวÒาÁมÃรÙู ŒàเÃร×ืè่Íอ§ง¡ก ¹นØุÉษÂยªช¹น ÇวÑั¹น·ทÕีè่ 18-22 µตØุÅลÒา¤คÁม àเ¡กÔิ¹น·ทÒา§งàเ¾พÈศ "¤ค ‹ÒาÂยÊส ‹§งàเÊสÃรÔิÁมÊสÔิ·ท¸ธÔิÁม
àเ´ด×ืÍอ¹น¤คÔิ´ดÇว ‹Òา¡กÒาÃร¹นÓำàเÊส¹นÍอ¢ขÍอ§ง·ทÕีÁมÁมÕี¤คÇวÒาÁม¹น ‹ÒาÊส¹นãใ¨จ ¤ค×ืÍอÁมÕี¡กÒาÃรãใËห Œ¤คÇวÒาÁมÃรÙู Œ ÊสÅลÑัºบ´ดÑัºบ´ดÙูÇวÕี´ดÕีâโÍอ ÊสÒา¸ธÔิµต áแÅลÐะãใËห Œàเ´ดç็¡กæๆ½ฝ ƒ¡กàเ»ป š¹นªช ‹Çว§งæๆ àเËหç็¹นäไ´ด ŒªชÑั´ดÇว ‹Òาàเ´ดç็¡กæๆãใËห Œ¤คÇวÒาÁมÊส¹นãใ¨จÁมÒา¡ก âโ´ดÂยàเ©ฉ¾พÒาÐะàเ´ดç็¡ก¼ผÙู ŒËหÞญÔิ§ง ãใ¹นªช ‹Çว§ง·ท ŒÒาÂยæๆ¢ขÍอ§ง¡กÒาÃร½ฝ ƒ¡ก àเ¢ขÒา¨จÐะ request Êส¶ถÒา¹น¡กÒาÃร³ณ Çว ‹ÒาËหÒา¡กàเ»ป š¹น áแºบºบ¹นÑัé้¹นáแºบºบ¹นÕีé้¨จÐะ·ทÓำÂยÑั§งäไ§ง àเªช ‹¹นËหÒา¡ก¶ถÙู¡กªช¡ก·ท ŒÍอ§ง ËหÃร×ืÍอ¶ถÙู¡ก¤คÃร ‹ÍอÁม·ทÕีè่¾พ×ืé้¹น «ซÖึè่§ง·ทÕีÁม¡กç็äไ´ด ŒáแÊส´ด§งãใËห Œ´ดÙูáแÅลÐะµตÍอºบ ¤คÓำ¶ถÒาÁมäไ´ด Œàเ»ป š¹นÍอÂย ‹Òา§ง´ดÕี àเ´ด×ืÍอ¹นµต ŒÍอ§ง¢ขÍอ¢ขÍอºบ¾พÃรÐะ¤คØุ³ณÍอÒา¨จÒาÃรÂย ÊสÁมºบÑัµตÔิ·ทÕีè่ãใËห Œ¡กÒาÃรÊส¹นÑัºบÊส¹นØุ¹นáแÅลÐะàเ»ป š¹น¾พÔิàเÈศÉษÊสÓำËหÃรÑัºบ·ทÕีÁมäไÍอ¤คÔิâโ´ด ·ทÑัé้§งÊสÒาÁม·ท ‹Òา¹น·ทÕีè่ÊสÅลÐะàเÇวÅลÒาäไ»ปÊสÍอ¹นäไ¡กÅล¶ถÖึ§งáแÁม ‹áแµต§ง " ¾พÕีè่»ป ‰ÍอÁม ¹น ŒÍอ§งáแºบ§ง¤ค áแÅลÐะ¹น ŒÍอ§ง»ป ‚ãใËหÁม ‹ " «ซÖึè่§ง¹น ŒÍอ§งáแºบ§ง¤ค áแÅลÐะ ¹น ŒÍอ§ง»ป ‚ãใËหÁม ‹¡กç็¡กÅลÒาÂยàเ»ป š¹น¢ขÇวÑัÞญãใ¨จàเ´ดç็¡กæๆäไ»ปâโ´ดÂย»ปÃรÔิÂยÒาÂย âโ´ดÂยàเ©ฉ¾พÒาÐะ¹น ŒÍอ§ง»ป ‚ãใËหÁม ‹ÃรÙู ŒÊสÖึ¡ก¨จÐะ¶ถÙู¡กÃรØุÁม¹นÐะ¤คÐะ :) Êส ‹Çว¹น ¾พÕีè่»ป ‰ÍอÁม¡กç็¡กÅลÒาÂยàเ»ป š¹น¤คÃรÙู½ฝ ƒ¡กãใ¨จ´ดÕีàเ¾พÃรÒาÐะàเËหç็¹น¶ถÙู¡ก request µตÅลÍอ´ด àเÊสÃรç็¨จ¨จÒา¡ก¡กÒาÃร½ฝ ƒ¡กÍอºบÃรÁม¤คÃรÑัé้§ง¹นÕีé้àเÃรÒา¨จÐะÁมÕีâโ¤คÃร§ง¡กÒาÃรµต ‹Íอàเ¹น×ืè่Íอ§ง¤ค×ืÍอãใËห Œàเ´ดç็¡กæๆäไ»ป·ทÓำâโ¤คÃร§ง¡กÒาÃรµต ‹Íอãใ¹น âโÃร§งàเÃรÕีÂย¹น âโ´ดÂยàเ¢ขÒา¨จÐะ·ทÓำâโ¤คÃร§ง¡กÒาÃรàเÊส¹นÍอãใ¹นÇวÑั¹นÊสØุ´ด·ท ŒÒาÂย áแÅลÐะ TRAFCORD ¨จÐะàเ¢ข ŒÒาäไ»ปµตÔิ´ดµตÒาÁมãใ¹นÃรÐะÂยÐะ·ทÕีè่ ÊสÍอ§งªช ‹Çว§งµต Œ¹น»ป ‚ 2554 ÁมÕีáแ¹นÇวâโ¹น ŒÁมÊสÙู§งÁมÒา¡กÇว ‹Òาàเ´ดç็¡กæๆÊส¹นãใ¨จÍอÂยÒา¡ก¨จÐะ·ทÓำâโ¤คÃร§ง¡กÒาÃรáแÅลÐะàเªชÔิÞญ¾พÕีè่æๆ ¨จÒา¡ก ªชÁมÃรÁมäไÍอ¤คÔิâโ´ดäไ»ปÊสÍอ¹น·ทÕีè่âโÃร§งàเÃรÕีÂย¹น´ด ŒÇวÂย¹นÐะ¤คÐะ («ซÖึè่§ง¾พÕีè่æๆàเÍอ ‹Âย»ปÒา¡กáแÅล ŒÇวÇว ‹ÒาÂยÔิ¹น´ดÕี¨จÐะäไ»ปáแÁม ŒÇว ‹ÒาÍอÂยÙู ‹äไ¡กÅล) หน้า ๒๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
àเ¾พ×ืè่ÍอãใËห Œ¡กÒาÃร½ฝ ƒ¡กáแÅลÐะ ÊสÍอ¹นäไÍอ¤คÔิâโ´ด¡กÑัºบàเ´ดç็¡กæๆ¢ขÍอ§งàเÃรÒาÁมÕี »ปÃรÐะÊสÔิ·ท¸ธÔิÀภÒา¾พÂยÔิè่§งæๆ¢ขÖึé้¹นäไ»ป àเ´ด×ืÍอ¹น¢ขÍอÍอ¹นØุÞญÒาµตàเÊส¹นÍอáแ¹นÐะ ¢ข ŒÍอ¤คÔิ´ดàเËหç็¹นàเÅลç็¡กæๆ¹น ŒÍอÂยæๆ ¨จÒา¡ก ÁมØุÁมÁมÍอ§ง¢ขÍอ§งàเ´ด×ืÍอ¹นàเÍอ§ง«ซÖึè่§งàเ´ด×ืÍอ¹น ¨จÐะàเ¢ขÕีÂย¹นÍอÕีàเÁมÅลÅล ¶ถÖึ§ง¾พÕีè่»ป ‰ÍอÁมãใ¹น °ฐÒา¹นÐะ¾พÕีè่ãใËหÞญ ‹·ทÕีè่¹นÓำ·ทÕีÁมäไ»ป¹นÐะ¤คÐะ
¤ค ‹ÒาÂยÊสÔิ·ท¸ธÔิÁม¹นØุÉษÂยªช¹นàเ¾พ×ืè่Íอ¾พÑั²ฒ¹นÒา¼ผÙู Œ¹นÓำàเÂยÒาÇวªช¹นÏฯ¹นÕีé้¨จÐะÁมÕีäไ»ป¨จ¹น¶ถÖึ§งÇวÑั¹นÈศØุ¡กÃร ·ทÕีè่ 22 µตØุÅลÒา ËหÒา¡กÊสÁมÒาªชÔิ¡ก ÍอÂยÒา¡กàเËหç็¹น¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁมÇว ‹ÒาàเÃรÒา·ทÓำÍอÐะäไÃรºบ ŒÒา§ง ¢ขÍอàเªชÔิÞญµตÔิ´ดµตÒาÁม´ดÙูÃรÙู»ปÀภÒา¾พäไ´ด Œ·ทÕีè่ facebook TRAFCORD àเ´ด×ืÍอ¹นÊส ‹§งÃรÙู»ปºบÒา§งÊส ‹Çว¹นáแ¹นºบäไ¿ฟÅล ÁมÒาãใËห ŒÊสÁมÒาªชÔิ¡ก´ดÙู´ด ŒÇวÂย¤ค ‹Ðะ
http://www.facebook.com/?ref=home#!/pages/Anti-Trafficking-Coordination-U nit-Northern-Thailand-TRAFCORD/105848992783118
หน้า ๒๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
àเ´ด×ืÍอ¹นãใ¹น¹นÒาÁม¢ขÍอ§ง TRAFCORD ¢ขÍอ¢ขÍอºบ¾พÃรÐะ¤คØุ³ณÍอÕี¡ก¤คÃรÑัé้§งáแÅลÐะËหÇวÑั§งÇว ‹ÒาàเÃรÒา¨จÐะäไ´ด ŒÃร ‹ÇวÁม§งÒา¹น¡กÑั¹น ÍอÕี¡กËหÅลÒาÂยæๆ¤คÃรÑัé้§งµต ‹Íอäไ»ป¤ค ‹Ðะ ¢ขÍอáแÊส´ด§ง¤คÇวÒาÁม¹นÑัºบ¶ถ×ืÍอ àเ´ด×ืÍอ¹น Çว§งÉษÒา Duean Wongsa Project Manager Anti-Trafficking Coordination Unit Northern Thailand (TRAFCORD) Tel/Fax : 0-5321-2753-4 Website : www.trafcord.org
หน้า ๓๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
เซนกับศิลปะการป้องกันตัว เรียบเรียงโดย นฤมล ธรรมพฤกษา ศิลปะการป้องกันตัวนั้นพัฒนามาจาก โลกียวิถี (secular form) จากหลัก การของศาสนาพุทธและเซนในฐานะรูปแบบ หนึ่งของการทำสมาธิ โดยมีความเชื่อ ว่าการฝึกฝนร่างกายอย่างเข้มข้นเอาจริงเอา จัง จะทำให้เกิดเข้าถึงสมาธิและสภาวะ ธรรมได้ ในสมัยที่พระโพธิธรรม สังฆ ปรินายกองค์ที่ 28 (องค์แรกคือพระมหา กัสสปะ องค์ที่สองคือพระอานนท์) เป็นพระ ธรรมทูตเดินทางจากแคว้นคันธาราช ประเทศอินเดียมาถึงเมืองจีน ในช่วง ศตวรรษที่หกของสมัยพุทธกาล ด้วยความที่ เป็นคนอินเดีย นันย์ตากลมโต ผิวดำคล้ำ หนวดเครารุงรัง รูปร่างหน้าตาที่แตกต่างไป จากชาวจีนของท่าน ทำให้ผู้คนแตกตื่นเมื่อ ได้พบเห็น ก่อนหน้าที่ท่านจะเดินทางมาจีน ท่านได้ส่งพระภิกษุสาวก ๒ รูปให้มา สำรวจดูลู่ทางก่อน แต่ทว่าเมื่อศิษย์ทั้งสอง มาถึงแผ่นดินจีน กลับไม่ได้รับการต้อนรับ หรือสนับสนุนจากทั้งนักบวชและผู้คนทั้ง หลายเท่าที่ควร
ในช่วงนั้น พระพุทธศาสนาได้ สถาปนาขึ้นแล้วในประเทศจีน แต่พุทธบริษัท ทั้งหลายปฏิบัติธรรมกันแต่เพียงผิวเผิน การ สวดมนต์ภาวนา ศึกษาธรรม ก็มิได้ทำอย่าง จริงจัง แม้กระทั่งการเล่าเรียนพระไตรปิฎกก็ หวังเพียงประดับความรู้ หรือไม่ก็ใช้เป็นข้อถก เถียงเพื่ออวดภูมิปัญญา การปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนาก็ยากที่จะหาคนทุ่มเทฝึกฝน พอนั่ง นานหน่อยก็บ่นว่าเมื่อย คนล้วนกลัวความ ยากลำบากและไม่จริงใจในการปฏิบัติ แต่ กลับร่ำร้องจะเอามรรคผล หน้า ๓๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ท่านเห็นว่า ลำพังการศึกษาคัมภีร์อย่าง เดียวไม่สามารถสำเร็จมรรคผลได้ จำเป็นต้อง เข้านิโรธสมาบัติเท่านั้น จึงไปบำเพ็ญ กรรมฐานอยู่ในถ้ำหลังวัดเส้าหลินโดยการผิน หน้าเข้าหาผนังเป็นเวลาเก้าปีจึงสำเร็จมรรคผล ในขบวนของท่านนั้น คาดว่ามีพระ อินเดียที่ร่วมเดินทางมาด้วยหลายรูปและได้ฝึก โยคะ เป็นการออกกำลังกายในเวลาเช้า อย่างที่เคยทำตอนที่อยู่อินเดียใต้ จึงหัดให้ หลวงจีนเริ่มฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่งควบคู่ กับการปฏิบัติธรรม จะได้ปฏิบัติสมาธิวิปัสสนา และเจริญกรรมฐานได้ดีขึ้น ยาวนานขึ้น
ความตั้งใจเดิมก็เพื่อออกกำลังกาย เพื่อให้ยกระดับทางจิตวิญญาณ แต่ได้กลาย มาเป็นศิลปะการต่อสู้ในภายหลัง เนื่องจาก พระอาศัยอยู่ในป่า ต้องเผชิญกับสัตว์ป่าและ โจรมากมาย จึงต้องปกป้องตนเอง ท่าทาง การเคลื่อนไหวต่างๆก็เอามาจากการสังเกต การเคลื่อนไหวของสิงสาราสัตว์รอบตัว การ ฝึกสอนวิทยายุทธและกังฟูของพระโพธิธรรม ภายหลังได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นที่มา ของวิทยายุทธเส้าหลิน การสอนพุทธธรรม ของท่านได้กลายมาเป็นรากฐานของ พระพุทธศาสนาแบบเซน และผู้คนเรียกขาน ท่านในนามของ “ปรมาจารย์ตั๊กม๊อ”
หน้า ๓๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
หากเราสังเกตุ จะเห็นว่าสัตว์นั้น เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ ตามสัญชาติ ญานเดิมของมัน ไม่ได้มีการประดิษฐ์ตกแต่ง ท่าทางใดๆ ไม่ต้องมีใครมาสอนเทคนิคให้ กับมัน แต่การเคลื่อนไหวของมนุษย์เป็นการ เรียนรู้ ทำให้ความคิดแบบมีเหตุผลกลายมา เป็นอุปสรรคทำให้ความสามารถในการ เคลื่อนไหวแบบธรรมชาติหายไป ในทางปรัชญา คำว่า “เซน” มาจาก คำว่า “ฉาน” ในภาษาจีน และคำว่า “ธ ยาน” (dhyan) ในภาษาสันสกฤต ซึ่งก็ คือ “ฌาน” โดยมีทรรศนะว่า มนุษย์พึง ตระหนักหรือเข้าถึงสภาวะ no mind หรือ “มู ชิน” (mu shin) ซึ่งก็คือสภาวะเงียบ สงบ เยือกเย็น เป็นสันติสภาวะ ซึ่งก็คือคำ เดียวกับ “สุญญตา” หรือความว่างในศาสนา พุทธ ความว่างในภาษาธรรมไม่ได้หมายถึง ความว่างเปล่าโล่งเตียนไม่มีอะไรเลยตามที่ เข้าใจกันในภาษาสามัญ หากหมายถึง สภาพความจริงที่สรรพสิ่งในโลกล้วนอิงอาศัย
กันเกิดขึ้นและมีอยู่ ด้วยเหตุนี้แต่ละสิ่ง จึงปราศจากแก่นสารในตัวเอง (self-nature) หรือพูดอีกแบบ หนึ่งคือไม่มีอัตลักษณ์แยกต่างหาก (separate identity) ในภาษา สันสฤตเรียกว่า ไม่มี “สวภาวะ” การไม่มีแก่นสารในตัวเอง ไม่ได้ หมายความว่าสิ่งทั้งหลายในโลกไม่มีอยู่ จริง หากมีอยู่โดยสัมพัทธ์และสัมพันธ์กับสิ่ง อื่นๆ ไม่มีสิ่งใดอุบัติขึ้นได้โดยอิสระ ใน โลกของธรรมชาติ เราจะเห็นว่า ปรากฏการณ์ทั้งปวงล้วนก่อรูป ตั้งอยู่ และ แปรเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัยหลายอย่างซึ่ง เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน นั่นก็คือ ทุกอย่างใน โลกธรรมชาติล้วนดำเนินไปในอ้อมกอด ของสุญญตา สรรพสิ่งยืมตัวเองมาจากการมีอยู่ของ สิ่งอื่น ในทะเลมีสายฝน ในหยาดฝนมีทะเล กว้าง ละอองไอในก้อนเมฆแท้จริงแล้วคือ ท้องทะเลที่กำลังเดินทาง เมื่อเราเห็นฝนก็คือ เห็นทะเล เห็นทะเลก็คือเห็นฝน เหตุปัจจัยทั้งปวงนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเอง ลอยๆ หากเป็นผลจากการมีอยู่ของปัจจัยอื่น ทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเองได้โดยไม่มีเหตุ ปัจจัย สรรพสิ่งอาจจะเป็นเหตุและผลของกัน และกันในปราฏการณ์ที่เป็นวัฏจักรเวียนวน
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
(กฏอิทัปปัจจยตา หรือปฏิจจสมุปบาท) ความจริงในธรรมชาติเลื่อนไหลไปตามกฏ ดังกล่าวอยู่แล้ว แต่มนุษย์กลับหยั่งไม่ถึงกฏ แห่งการไร้ตัวตน กฏแห่งการอิงอาศัยกัน และกัน การเกิดขึ้นมีอยู่ และกฏแห่งการ แปรเปลี่ยนเลื่อนไหลไปตามเหตุปัจจัย
การที่ผู้คนเข้าไม่ถึง มู ชิน มองไม่เห็น สุญญตา ทำให้ต่างคนอยากกำหนดความเป็น ไปของโลกด้วยปัจจัยเดียว ก็คือตัวเอง และ กล่าวโทษผู้อื่นว่าเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ของตน เราแบ่งโลกออกเป็นคู่ขัดแย้งต่างๆ โดยบัญญัติ ลงไปว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนี้ชั่ว สิ่งนี้สวย สิ่งนั้น อัปลักษณ์ สิ่งนี้บริสุทธิ์ สิ่งนั้นมีมลทิน ฯลฯ การมองโลกแบบทวิภาวะเช่นนี้มักผูก โยงอยู่กับอัตตา ทำให้นำไปสู่การปะทะขัด แย้งอยู่เนืองๆ ความจริงแล้วการแยกเป็นคู่ตรง ข้ามแบบขาวล้วนดำล้วนนั้นเป็นแค่เรื่องสมมติ การถอนอุปาทานออกจากการแยกโลกเป็นขั้ว เป็นข้างนั้นถือเป็นเงื่อนไขสำคัญที่สุดในการ หยั่งถึงความจริง อีกทั้งเป็นวิธีเดียวที่จะเชื่อม ความจริงสมมุติเข้ากับความจริงปรมัตถ์
ลัทธิเต๋า (เต๋า หมายถึง วิถีแห่ง ความเป็นจริง) ได้เปรียบเทียบ มู ชิน เสมือนกับแท่งสี่เหลี่ยมผิวเรียบราบ (uncraved block) ที่ไร้ตำหนิ แต่คนเรา มักจะยัดเยียดอัตลักษณ์หรือความคิดของตัว ตนเราใส่ลงไปในความจริงนั้น เมื่อจิต หลงติดอยู่ในข่ายความคิด ที่ยึดติดกับอัตตา ก็เหมือนกับควักคว้านลงไปในแท่งเหลี่ยม จนเกิดเป็นรูปเป็นรอยแหว่งเว้าเข้าไป เช่นเดียวกับสปริงที่ถูกกดอัดแน่น (compressed spring)
ถ้าเช่นนั้น เราจะเข้าสู่สภาวะสุญญตา หรือ มู ชิน ได้อย่างไร ในเซนได้พูดถึงการข้ามพ้นทวิภาวะ (non-duality) การข้ามพ้นธรรมคู่ หมายถึงการเห็น ความว่างและการเข้าใจความว่าง หมายถึง การมองเห็นความสัมพันธ์ที่อิงอาศัยกันเกิดขึ้นมี อยู่ของสรรพสิ่ง เห็นความเชื่อมร้อยเชื่อมโยง ของสรรพสิ่ง มองเห็นแม้แต่ความเชื่อมโยง สัมพันธ์ของสิ่งที่ดูเหมือนขัดแย้งกัน
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
นั่นหมายความว่า ความสว่างความมืด สั้น-ยาว ขาว-ดำ ล้วนแล้วแต่เป็น เรื่องสัมพัทธ์ทั้งสิ้นและไม่ได้เป็นอิสระจากกัน เช่นเดียวกับนิพพานและสังสารวัฏก็ไม่ได้แยก ขาดจากกัน สรรพสิ่งมิได้แยกเป็นสองขั้วเช่น นั้น ไม่มีนิพพานที่ปราศจากสังสารวัฏ ไม่มี สังสารวัฏที่ปราศจากนิพพาน เนื่องจาก เงื่อนไขในการดำรงอยู่(ของสรรพสิ่ง)ไม่ได้มี ลักษณะตัดขาดซึ่งกันและกัน
ฉะนั้น ความคิดสุดโต่งไม่ว่าจะมา จากขั้วไหน ล้วนหนีไม่พ้นเรื่องของอัตตา ที่เชื่อว่าตนเองคือผู้กำหนดความเป็นไป เห็น ว่าตนเองคือศูนย์กลางจักรวาล เป็นกิเลสอัน ประกอบด้วยตัณหา ทิฏฐิ และมานะ ตราบ ใดที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลยึดถือความเห็นของ ตนเป็นใหญ่ ไม่ยอมถอนอุปาทานจากทวิ ภาวะ ความขัดแย้งก็จะดำเนินไปสู่ความ รุนแรง เมื่อละเมิดกฎของสุญญตา ก็เกิดเป็น ความทุกข์ ดังนั้น การเข้าสู่ “มู ชิน” ก็คือการ ก้าวข้ามทวิภาวะ กลับสู่สภาวะแท่งเหลี่ยม เรียบ เช่นเดียวกับการปลดปล่อยสปริงที่กด ทับอัดแน่น สปริงนั้นก็จะคลายตัวดีดออกมา อย่างเป็นอิสระ ไม่เหลือแรงตึงแรงเครียด ใดๆ นั่นเองคือสภาวะ มู ชิน
การเชื่อเรื่องคู่ขัดแย้ง มีนัยยะเท่ากับเชื่อ ว่า ดี-ชั่ว ผิด-ถูก เกิดเองมีเองได้โดยไม่ อาศัยเหตุปัจจัยอื่นมาประกอบ เพราะฉะนั้น จะต้องเอาชนะคัดคานหักล้างกันลงไปให้ ได้ โดยหลงลืมไปว่า ทัศนะว่าตนเองถูกฝ่าย อื่นผิดนั้น เป็นทัศนะที่เราปรุงขึ้นเองทั้งสิ้น
แต่มูชินไม่สามารถวิเคราะห์หรือ อธิบายด้วยตรรกะเหตุผลได้ เราจะพบได้แต่ เพียงเข้าถึงประสบการณ์นั้นเท่านั้น ดังเช่นที่ พระพุทธเจ้าหรือพระอาจารย์เซนต่างๆสอน ว่า อย่าเพียงแต่เชื่อตามคำสอนแต่ให้ลงมือ ปฏิบัติ และประสบการณ์นี้ไม่ใช่ประสบการณ์ ที่มีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ แต่มันก็คือวิถีทางที่ ธรรมชาติเป็นไปนั่นเอง มันเป็นเช่นนั้นเอง (isness หรือ suchness)
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
วิถีทางเข้าสู่สภาวะสุญญตาหรือ มู ชิน ทำได้หลายแบบ เช่น
ประตูหน้าต่างให้ลมไหลเวียนเข้าออกได้อย่าง เป็นธรรมชาติโดยไม่มีการบีบบังคับ ไม่ต้อง ใช้ความพยายามอะไร การหายใจที่ไม่เป็น การจัดการกับอัตตาตัวตน ธรรมชาติทำให้เราเหนื่อย เช่น ในเวลาโกรธ ในพุทธศาสนาบอกว่า อัตตาถูกปรุง ก็จะหยุดหายใจ บีบคั้นจังหวะหายใจ เป็นต้น แต่งสร้างขึ้นเพื่อสำแดงตัวตน คือความเป็น ตัวกูของกู ซึ่งเป็นอุปสรรคในการเข้าถึง มู ชิน ศิลปะการป้องกันตัวโดยเฉพาะไอคิ โดเป็นการเชื่อมโยงตนเองเข้ากับคู่ฝึกและ จักรวาลรอบตัว ไม่แบ่งแยกเขาเรา ไม่มี ศัตรู ไม่มีคู่ตรงข้าม แต่ทุกคนเป็นเพื่อนร่วม ฝึกที่พัฒนาไปร่วมกัน ละลายตัวตนออกไป ในการฝึกฝนร่างกายอย่างหนักหน่วง การทำสมาธิ การทำสมาธิแบบ “ซาเซน” คือการ นั่งสมาธิโดยกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เช่นเดียวกับการทำโยคะก็ต้องกำหนดควบคุม ลมหายใจเช่นกัน ซึ่งเป็นหลักสำคัญใน ศิลปะการป้องกันตัว การควบคุมลมหายใจเพื่อที่จะตั้งจิต ให้มั่น (เพราะจิตก็เหมือนกับสปริงที่หดตัว ในเซนจะเรียกว่าเป็นจิตของลิงที่ไม่ชอบอยู่ นิ่ง) การนับลมหายใจ หากทำไปนานๆก็ จะสามารถหายใจเข้าออกได้อย่างเป็น อิสระ เป็นจังหวะ เช่นเดียวกับการเปิด
การทำสมาธิทำได้หลายแบบ เช่น การ นั่ง การเดิน การวิ่ง การภาวนาโกอัน (koan) ศิลปะเช่นบทกวีไฮกุ พิธีชงชา การ จัดดอกไม้ รวมทั้งศิลปะการป้องกันตัว(moving zen) เช่น การยิงธนู การฟันดาบ คาราเต้ และไอคิโด เป็นต้น หน้า ๓๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
การปฏิบัติตนไปตามธรรมชาติ มีคำในภาษาจีนสองคำที่อธิบายหัวข้อนี้ หวู-เว่ย คือ การปฏิบัติตนไปตาม ครรลองของธรรมชาติ ไม่มีการเจือปน ไม่ทำ มากจนเกินไป (over doing) เว่ย คือ ความสงบอันสร้างสรรค์ (creative quietness) หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์จะเข้ามาเมื่อเกิดความสงบ
บางครั้งเราทำมากเกินไปเพราะเรา ไม่รู้ จึงได้ใส่ความคิดของตนเองลงไป เช่นเดียวกับแท่งเหลี่ยมที่ถูเจาะเป็นรูพรุนเมื่อ จิตหลงติดอยู่กับข่ายความคิด ความสงบจึง เกิดขึ้นไม่ได้ ฉะนัน เราจึงควรเข้าใจและ ดำเนินไปตามวิถีแห่งความเป็นไปใน ธรรมชาติ
ตัวอย่างของการทำสมาธิเพื่อฝึกฝนจิต ไม่ให้ทำมากเกินไปในหลักการของเซนอัน หนึ่งก็คือ ศิลปะการวาดภาพด้วยพู่กัน เมื่อ มีตัวอย่างเรื่องเล่าของการทำมากเกินไป จรดพู่กันลงไปแล้วไม่สามารถกลับไปแก้ไข อาจารย์ให้ลูกศิษย์วาดรูปงูในเวลาสามนาที ได้อีกต่อไป ไม่สามารถแช่พู่กันลงบนภาพ แต่ศิษย์ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งนาทีเท่านั้นก็วาด ได้นานๆ เสียเป็นเสีย เสร็จเป็นเสร็จ ภาพเสร็จ เหลืออีกสองนาทีไม่รู้จะทำอะไร ก็ การฝึกฝนศิลปะการป้องกันตัวก็เช่น เลยใส่ขางูลงไป เดียวกัน ในภาวะที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่อยู่ตรง หน้าทำให้ไม่มีเวลาให้คิดถึงเรื่องที่อยู่นอก เหนือออกไป หากลังเลหรือใจลอยเพียง แค่เสี้ยววินาทีก็อาจเกิดอันตราย ได้ การคำนึงถึงการประดิษฐ์ ท่วงท่าหรือคิดกังวลกับการ สำแดงตัวตน ทำให้การ เคลื่อนไหวไม่ลื่นไหลเพราะ จิตใจฟุ้งซ่านไม่นิ่ง แต่หาก เราไม่ทำมากเกินไป เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ ก็คือวิถีที่สร้างสรรค์ในการเข้าถึง สภาวะอันสงบ หน้า ๓๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
การเจริญสติ การอยู่ในปัจจุบันขณะสำคัญมากสำหรับเซน อยู่ ณ ที่นี่ ตอนนี้ บางครั้งคนมีคำถาม ว่าทำไมเราจึงรู้สึกเบื่อ คำตอบของเซนจะอธิบายว่า ความเบื่อหน่ายคือการไร้ความสามารถ ที่จะต่อกรกับปัจจุบันขณะ พระเซนเอาไม้บรรทัดวางพาดบนนิ้ว เพื่ออธิบายปัจจุบันขณะ ตรงกลางไม้บรรทัดก็คือ ปัจจุบัน ปลายด้านหนึ่งคืออดีต(เมื่อวานนี้) อีกด้านคืออนาคต(วันพรุ่งนี้) หากเลื่อนนิ้วออก ไป ไม่ว่าจะไปทางปลายด้านไหนไม้ก็จะร่วงลงมา ความกรุณา
ความรักความเมตตา ในสภาวะ มู ชิน จิตของเราจะได้รับ การพัฒนาให้เป็นผู้มีจิตเมตตา พระเซนจะบอก ว่า ท่านไม่สามารถสอนคนให้รักและเมตตา คนอื่นได้ แต่ท่านสอนให้ละวางซึ่งตัวตน เมื่อ ไม่มีตัวตนแล้ว สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็คือความรัก ความเมตตาซึ่งอยู่ในจิตใจของเราอยู่แล้วก็จะ ปรากฏตัวออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
เช่นเดียวกับความ รักความเมตตา เราไม่ สามารถสอนให้คนมี ความกรุณาได้ แต่ ความกรุณาอยู่ในตัว ของเราทุกคน การ ฝึกฝนและใช้ชีวิตแบบ เซนก็เพื่อจะขัดเกลา และเข้าสู่สภาวะ มู ชิน การฝึกศิลปะการป้องกันตัวและการฝึก สมาธิ ก็เพื่อมีประสบการณ์โดยตรงกับ สภาวะ มู ชิน เข้าสู่สุญญตา สู่การหลุดพ้น หรือนิพพาน และเพื่อปฏิบัติตนด้วยความ กรุณาต่อสรรพสิ่ง ซึ่งความกรุณาจะมาเอง เมื่อเราได้สัมผัสประสบการณ์ นั้นๆแล้ว
หน้า ๓๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
1. เพื่อฝึกฝนร่างกายให้ควบคุมจิตให้นิ่ง การเคลื่อนไหวจะช่วยพัฒนาจิตให้นิ่ง เป็นสมาธิ กายใจประสานเป็นหนึ่ง รักษา จุดศูนย์กลาง และสามารถเข้าสู่สภาวะ มู ชิน แต่ไม่ใช่ว่าสภาวะนี้จะได้มาทันทีทันใด ต้อง มีการฝึกฝนและพัฒนาไปเรื่อยๆ 2. เห็นคู่ต่อสู้ในตัวเราและเห็นตัวเราในคู่ต่อสู้ เช่นเดียวกับแนวคิดของมาร์ติน บูเบอร์ “I and Thou” คือ เมื่อฉันเห็นคุณ ฉัน เห็นตัวฉันในคุณ ฉะนั้น ฉันจึงควรปฏิบัติกับ คุณเช่นเดียวกับที่ฉันปฏิบัติกับตัวเอง 3. ไม่มีผู้แพ้ผู้ชนะ ความคิดแบบโลกียะมักจะนิยมการ แข่งขันและการแพ้ชนะ แต่ความคิดของ เซน จะไม่มีผู้แพ้ ผู้ชนะ ไม่มีชัยชนะ ไม่มีการพ่ายแพ้ แต่กระบวนการสำคัญกว่า ก็ คือ หากมุ่งเน้นไปที่จุดหมายปลายทาง เท่านั้น อัตตาก็จะเข้ามาจับจิตได้ ฉะนั้น จึงพึงกระทำโดยไม่มีความ อยากว่าจะต้องชนะ แนวคิดนี้ได้ รับมาจากฮินดู มหาตมะคานธีพูด ว่า ในภควคีตา สงครามเป็น แค่อุปกรณ์ประกอบฉากที่ทำให้เราคิดถึง ชีวิต ไม่ใช่ให้คิดถึงตัวสงคราม
4. ศิลปะการป้องกันตัวควรช่วยให้เรา เข้าใจว่าเราต้องทะลุข้ามผ่านจิตที่เต็มไป ด้วยเหตุผล (rational mind) เข้าสู่ สหัชญาณ (intuitive mind) การหยั่งรู้ที่เกิดขึ้นเองนั้นไม่ได้ใช้ เหตุผลเข้ามากำกับ เช่นเดียวกับแท่ง สี่เหลี่ยมที่ไม่ได้ถูกเจาะ แต่เราจะคิดและ แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติตามสัญชาติ ญาณของเราได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น นักดนตรีเวลากำลัง แสดงคอนเสิร์ต เมื่อใดก็ตามที่จิตกระหวัด ไปว่า จะต้องทำให้ดีที่สุด ก็มักจะทำได้ไม่ ค่อยดี แต่หากบรรเลงไปโดยไม่ต้องคิดแต่ ลื่นไหลไปกับดนตรีอย่างเป็นธรรมชาติ ก็จะ สามารถจบการแสดงลงได้ด้วยดี ภาพจาก http://diburros.blogspot.com/2009/06/aikido.html
หน้าที่ของศิลปะการป้องกันตัว
หน้า ๓๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ธรรมชาติไม่เคยก่อให้เกิดความผิดพลาด บางเวลาพระอาจารย์ก็จะเข้ามาบอกว่า ด้านสุนทรียศาสตร์ “ไม่ใช่ คุณไม่เรียนรู้อะไรเลย” ทั้งที่เขายิง ถูกเป้าตรงกลางพอดี บางทีเขาก็รู้สึกโกรธ แต่การจะเล่นดนตรีให้ดี ให้งาม ให้มี สุนทรียะได้นั้นก็ต้องมีการฝึกฝนมาอย่าง วันหนึ่ง เขายิงลูกธนูออกไปแล้ว เชี่ยวชาญ เช่นเดียวกับนักไอคิโด จำต้องมี พลาดเป้า พระอาจารย์ตะโกนว่า “ยิงโดน การฝึกฝนอย่างหนักจนสามารถแสดงท่าได้ แล้ว” ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจว่า มู ชิน อย่างสวยงามกลมกลืนโดยไม่ต้องคิดแต่ตอบ คืออะไร สนองโดยสัญชาติญาณ ไม่มัวกังวลถึงเทคนิค สำหรับไอคิโด ในมุมมองของเซน วิธีหรือความงดงามของท่วงท่า ให้ไปให้เหนือคำสอน ไปสู่สภาวะ no การเล่นดนตรีหรือไอคิโดให้ลื่นไหลเป็น mind ไปให้เหนือเหตุผล เป็นหนึ่งเดียว ธรรมชาติ ดูง่ายดายไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย กับการเคลื่อนไหวของเรา ไอคิโดคือวิถีที่ หากปราศจากการฝึกฝนซ้ำซากดูน่าเบื่อหน่าย เราปล่อยให้มันกระทำไปโดยตัวของมันเอง แต่นั่นคือการฝึกทักษะที่สำคัญจนกลายเป็น ธรรมชาติที่สองที่ไม่ทันได้คิดก็ตอบสนองออก ไปได้ทันท่วงที บทความนี้ถอดความมาจากการสนทนากับ ศจ.ดร.อิชวาร์ แฮริส อาจารย์พิเศษจากภาควิชาศาสนา วัฒนธรรมและ 5. ผู้กระทำและการกระทำกลายเป็นหนึ่ง สันติภาพ มหาวิทยาลัยพายัพ ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์ มา ณ ที่นี้ ที่กรุณาเตรียมข้อมูลอย่างดี ในการเรียบเรียง เดียวกัน บทความนี้ขึ้น ก็ได้รวบรวมเอาข้อมูลอื่นๆเข้ามาประกอบ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย หมายถึงไม่เกิดการแบ่งแยกเป็นทวิ สามารถอ่านข้อมูลเรื่องต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ ลักษณ์แต่ประสานกลมกลืนไปด้วยกัน พระโพธิธรรม ในหนังสือ Zen in the Art http://thai.mindcyber.com/modules.php? of Archery พูดถึงนักวิชาการชาว name=Sections&op=viewarticle&artid=2 30&page=3 เยอรมันและภรรยาไปขอศึกษาเซนกับพระ อำนาจแห่งความว่าง ความว่างแห่งอำนาจ : ปาฐกถา ในประเทศญี่ปุ่น พระท่านให้ธนูกับลูกศร เสกสรรค์ ประเสริฐกุล แล้วบอกให้ไปยิงเป้า แม้สงสัยว่าทำไม แต่ http://www.skyd.org/site/view.php?grou p=5&aid=370 ก็ยอมปฏิบัติมาเป็นเวลาหกปี ในบางครั้ง หน้า ๔๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
Aikido(ka) in Focus นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เป็นสมาชิกชมรมไอคิโดโดยส่วนมากเมื่อจบ การศึกษาไปแล้วก็มักจะดูเหมือนจบการศึกษาเรื่องไอคิโดไปด้วย เป็นที่ทราบกันดี สําหรับผู้ฝึกไอคิโดทุกคน ว่าต้องการจบการศึกษา แต่ชีวิตนี้ไม่ต้องการจบการเรียนไอคิ โด หากเป็นเพราะวิถีชีวิตที่โคจรออกไปตามภาระหน้าที่ รอวันที่จะได้โคจรมาพบอีกที่ก็ไม่ รีรอที่จะหยั่งรากลงอีกทีเหมือนกับ “อาจารย์วัชรพล ศุภจักรวัฒนา(เอ็กซ์)” ที่เริ่มฝึกไอคิโด ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อ สิบปีที่แล้ว ครั้งยังเป็นนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ ยังดํารงตําแหน่งประธานชมรมฯที่ขันแข็ง ซึ่งขณะนี้เป็นอาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์เเละ รัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรจังหวัดพิษณุโลก และกลับมาฝึกไอคิโด มช. ในวันที่ กลับบ้านที่เชียงใหม่
Focus : เหตุผลที่ยังกลับมาฝกใหม เอ็กซ : เอาจริงๆมั้ย Focus : เอาจริงๆสิ เอ็กซ : มันยายมาอยูใกลดวย แลวผม ก็ชอบกีฬาอยูแลว และไอคิโดก็เปนสวนนึง ที่เลนมา ตอนอยูสารคามก็ไมไดเลน Focus : ออเคยไปอยูสารคาม (มหา สารคราม) ดวยเหรอ เอ็กซ : เคยไปสอนที่สารคาม ผมก็เลน ยูโด อยูกรุงเทพฯผมก็เลนบาสเก็ตบอล เลน ฟตเนส โอกาสที่จะไปฝกไอคิโดมันยากนะ ครับ เรียนหนัก Focus : เอกซจบมช.ไปกี่ปแลวนะ เอ็กซ : ผมรหัสที่นี่นะ 43 Focus : 10 ปมาแลว หน้า ๔๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
เอ็กซ : ใชครับ ฝกไอคิโดที่นี่ก็ 5 ป แลวก็ไปทำงาน อยูแปบนึงนะฮะแลวก็ไปเรียนตอที่กรุงเทพฯ Focus : เอ็กซพอจะจำไดมั้ยตอนมาเริ่มฝกเมื่อ 10 ปนูน มาฝกเพราะวัตถุประสงคอะไร แลวตอนที่กลับมา ฝกอีกครั้งตอนนี้มีวัตถุประสงคอะไร แตกตางกันมั้ย เอ็กซ : ไมแตกตางกันครับ เพราะวาผมเองเปนคน ชอบใชเวลาวางเลนกีฬา แลวชอบฝกสมาธิ สวนหนึ่ง การเลนกีฬามันเทากับการฝกสมาธิสำหรับผมนะซึ่ง ไอคิโดมันก็แมทเลย มันทำใหเราอยูกับตัวเองรูนิสัยตัว เอง และรูจักคนรอบขางไดดวย Focus : หมายความวาที่ฝกไอคิโดเพราะวา... เอ็กซ : ฝกฝนตัวเอง ฝกสมาธิ จริงๆไอคิโดมัน แมทช (สอดคลอง - focus แปลเอง)กับวิถีชีวิต Focus : ยังไงละ เอ็กซ : สอดคลองกับการใชชีวิตหลายเรื่อง เชน การดำเนินชีวิตในปจจุบันนะครับ การโอนออนผอนตาม การแกปญหา ปญหาที่เขามาเราก็มีหลายทางที่ จะระงับปญหานั้น ไมจำเปนจะตองเดินชนมันอยางเดียว ผมเคยมีหลายๆเรื่องที่ปรับไปใช หลายเรื่องที่ เราไมจำเปนตองชนะนะฮะ Focus : คิดอยางนี้มากอนที่จะฝกไอคิโดหรือไอคิโดทำใหคิดไดแบบนี้ เอ็กซ : สำหรับผมนะ ไอคิโดทำใหคิดไดอยางนี้ หลายเรื่องที่ไดจากตรงนี้ Focus : สวนที่วาไดมาจากไอคิโดเนี่ย ไดมายังไง เอ็กซ : สวนนึงไดมาจากการเรียนรูจากอาจารย และสวนหนึ่งก็อานหนังสือครับเชนปรัชญาของไอคิ โด จริงๆผมเปนคนที่คอนขางจะเอาจริงเอาจัง ถาจะทำอะไรก็จะทำจริง Focus : ชมรมไอคิโดเราเนี่ย สมัยที่เอ็กซเปนประธานชมรมฯกับตอนที่กลับมาฝกอีกครั้งเหมือน หรือแตกตางกันมั้ย เอ็กซ : ความรูสึกเนี่ยไมแตกตางกันเลย แบงเปนสองประเด็นดีกวา ประเด็นแรกเนี่ยคือสมาชิกไม ไดแตกตางเลย Focus : คือ? เอ็กซ : สมาชิกมีคนเกาๆ และก็มีคนนอยเทาเดิม Focus : โห !!! ชมรมฯ ไมพัฒนาขึ้นเลย เอ็กซ : แตในแงของสถานที่ ก็ดีขึ้นนะครับ หน้า ๔๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
Focus : แลวมีอะไรที่เอ็กซอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงบาง เอ็กซ : ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงคือจำนวนสมาชิกถามันเพิ่มขึ้นหรือคนมาซอมเยอะๆ มันก็สง เสริมการเจริญเติบโตของเราดวย มีคนทำงานมากขึ้น (...มองไปทางพี่ปอม)ไมใชวาพี่ปอมก็ทำเปน หนาที่หลักมาตั้งนานที่จริงนาจะเปนหนาที่ของสมาชิกนองๆที่ตองชวยกัน เสียงพี่ปอมแทรกมาวา...งานมันจะไมตอเนื่องเพราะนองๆก็จบกันไป Focus : จริงๆคนก็เขามามากหนาหลายตาและก็เยอะนะแตวาอยูไมทน อาหมอผูนำฝกประจำของเราปรี่เขามารวมออกความเห็นวา.. “ เปนเพราะคนสอนไมจูงใจ หรือวิธี การเรียน เอ็กซ : อีกอยางนึงดวยผมคิดวาดวยลักษณะวิชาครับ สำคัญเลย วิชามันไมสนองความตองการ กับวัยรุนที่ตองการเห็นชัดเจน รูสึกวาไดทำไดกระทำกับคนอื่น ถาเคาไมศึกษาอยางจริงๆเคาจะไมรูจัก วา...มันไมใชอยางนั้น ความจริงฝกศิลปะการตอสูมันเปนการฝกจิตใจซะมากกวา การที่เราจะเปนนัก ตอสูที่แทจริงคือตองเอาชนะจิตใจตนเอง Focus : โอโห!!!!.... แปะ แปะ แปะ แปะ.....มีเสียงตบมือตามมา เอ็กซ : ทำไมผมเลือกเลนอันนี้…ผมเลนยูโดมา ตั้งปกวา แตมาเลือกไอคิโดเพราะรูสึกวามันไมตอง ไปแขงขันนะฮะ อยางยูโดตองไปสอบ ตองชนะคน อื่นใหไดกอนถึงจะไดสาย ใชมั้ยฮะอาหมอ(หันไป ขอเสียงสนับสนุน)คือมันสนับสนุนการตอสูนะ Focus : ถาอยางนั้นไอคิโดก็เลือกคนสิ ใช มั้ย? เอ็กซ : ใชครับ ไอคิโดจะเลือกคนที่มีความ คิดอีกแบบนึง เชน อยากเรียนรูคน มีความ อดทน มีความเคารพตัวเอง เคารพเพื่อนรวม เบาะ ตอนที่ผมกลับมาเลนอีก ผมเห็นนองๆไป กันสายสูงๆกันหมดแลว แตทายที่สุดมันขึ้นอยู กับเรานะครับ มันพัฒนาจากตัวเรา ตัวเรา พัฒนาเองมากกวา นองสายสูงกวาเราบนเบาะ เราก็ตองเคารพนอง ในโลกของความเปนจริงมันก็เปนอยางนั้นนะฮะ เอ็กซ : ไปฮะ..อาหมอเรียกซอมตอแลว Focus : เอ!!! เราเลือกไอคิโด หรือไอคิโดเลือกเรา นะ! หน้า ๔๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
มาเยี่ยมมาเยือน Joseph Eli Cong (3 kyu)
โจอี้เป็นนักเรียนไอคิโดจากเมืองบาโคลอด เกาะไนกรอส ประเทศฟิลิปปินส์ โจอี้เกิดที่เชียงใหม่เนื่องจากคุณแม่ทํางานที่น่ีแต่ก็กลับไปโตที่ฟิลิปปินส์ โจอี้ฝึก ไอคิโดมาได้แปดปีแล้วที่โดโจ Kyokan ภายใต้ Noel Fuentes sensei ตอนนี้ ก็อายุได้ ๒๕ ปีก็ได้กลับมาเยี่ยมเชียงใหม่อีกครั้งและพยายามจัดเวลาเพื่อจะได้มา ฝึกกับชาวม.ช.แม้ว่าจะต้องลงทุนซื้อชุดฝึกชุดใหม่ก็ตามที
Kyokan Dojo Bacolod Affiliate of Aikido Philippines Chief instructor: Noel Fuentes 2026 Uno de Mayo Street Capitol Heights Bacolod City, Philippines Tel. +63 34-4341691 Email: noel_07@hotmail.com Website: www.kyokan-dojo.ph หน้า ๔๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
มาเยี่ยมมาเยือน Ishida Sumiko (2nd dan)
คุณสุมิโกะ
คุณสุมิโกะและคุณเคโกะเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ กรุง
โตเกียวประเทศญี่ปุ่น และได้ฝึกฝนไอคิโดกับทาดะเซนเซตั้งแต่สมัยตอนเป็นนักศึกษา แต่พอเรียนจบก็ห่างเหินไปนานถึง ๓๕ ปี จนกระทั่งเกษียณ คุณสุมิโกะจึงได้กลับมาฝึก ไอคิโดอีกครั้ง กับทาดะเซนเซที่เกสโซจิโดโจเมื่อปีที่แล้ว
คุณเคโกะเล่าว่า เมื่อห้าสิบปีก่อนได้ดูโทรทัศน์
ได้เห็นปรมาจารย์โมริเฮอิ อูเอชิบะสาธิตไอคิโด ก็ เลยตัดสินใจตั้งแต่บัดนั้นมาว่าจะต้องฝึกไอคิโดให้ได้ กระทั่งได้มาเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่รีรอ ไปขอสมัครฝึก ไอคิโดทันที แต่ก็พบว่าปรมาจารย์ท่านได้เสียชีวิตไป แล้ว ทุกวันนี้คุณเคโกะบาดเจ็บที่ขาไม่สามารถฝึก ไอคิโดได้ แต่ก็ยังแวะเวียนมาดูการฝึกอยู่บ่อยๆ เธอเล่าอีกว่า สามีในช่วงแรกๆที่คบกันตอน เป็นนักศึกษา เขาต่อต้านไอคิโดทีเดียว แต่ต่อมาได้ ไปสอนในโรงเรียนมัธยม พบว่าเด็กๆมีการรังแกกัน อย่างรุนแรง จึงได้เริ่มฝึกไอคิโดที่เกสโซจิโดโจ เพื่อ คุณเคโกะ
นําปรัชญาไอคิโดไปสอนเด็กๆและสอนการป้องกัน ตัวให้เด็กๆด้วย หน้า ๔๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
ทั้งคู่เล่าว่าอ่าน
เจอชมรมไอคิโดจาก หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น “Chao” ก็เลยหอบ หนังสือขึ้นรถแดงเข้า มาในม.ช. แล้วก็เดิน วนหาเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็พบ และดีใจ มากที่ได้มาร่วมฝึก
คุณสุมิโกะบอกว่า
หากชาวม.ช.จะไปที่ โตเกียวก็แวะไปพักที่ บ้านของเธอได้ ออกจะ ไกลไปสักหน่อย แต่ก็ สะดวกพอควร และเธอ จะขับรถพามาฝึกที่เกส โซจิโดโจด้วยกัน
Gessoji Dojo Chief instructor: Tada Hiroshi shihan Senior instructor: Tsuboi Takeki shihan
1-11-26 Honmachi, Kichijoji, Musashino-shi, Tokyo-to 180 Japan Tel: +81 (0422) 21-7100 Fax: + 81(0422) 43-1189 หน้า ๔๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
Aikido Family
ขอแสดงความยินดีกับคนที่สอบ สายผานเมื่อวันอาทิตยที่ 6 ก.ย. ปง แบงค ขวัญ พี่จรัญ ปใหม และ พี่ปอมรับมอบใบประกาศโชดั้ง
หน้า ๔๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๕ วันที่ ๑ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๔)
Aikido Family
ได้ฤกษ์ล้างห้องน้ํา ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่มี สปิริตไอคิโดช่วยสละเวลา ล้างห้องน้ําให้พวกเราได้ใช้ ห้องน้ําสะอาดๆกัน
ปฏิทินกิจกรรม ! ฝกประจำสัปดาห! จันทร-พุธ-ศุกร ๑๘.๐๐ - ๒๐.๓๐ น.M M M M M สถานที่ฝก ชมรมไอคิโด มหาวิทยาลัยเชียงใหม M M M ใตถุนตึกอาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม หน้า ๔๘