CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
AikidoCMU NEWSLETTER
ชมรมไอคิโด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาคารกิจกรรมนักศึกษา (อ.มช.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถ. สุเทพ อ.เมือง จ. เชียงใหม่ 50200 ติดต่อได้ที ่ อ๊อบ (ประธานชมรม) 081-7221227
ป๋อม (ผู้ประสานงานชมรม) 089-701 7686
กบ (บรรณาธิการจดหมายข่าว) 081-405 5379
Email : AikidoCMU@gmail.com Facebook : Aikido CMU Blog : http://aikidocmu.wordpress.com
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
หย่อยจังเยยก๊าบบบบ... อั้มๆๆๆ...
หมูเต๊ะอ้ายปิง ลําขนาด
นักเขียนในฉบับ ดร.สมบัติ ตาปัญญา อ.ธีระรัตน์ บริพันธกุล ป๋อม ซินเจ้า...
สารบาญ
ทำใหดีที่สุดจากสิ่งที่คุณมีอยู .....ดร.สมบัติ ตาปญญา ๓ ไอคิโดที่ฮานอย .....อ.ธีระรัตน บริพันธกุล ๗ พลพรรคนกขมิ้น เยือนถิ่นฮานอย ... ปอม ซินเจา... ๑๓ AIKIDO(KA) IN FOCUS FROM VIETNAM... โฟกัส ๑๗ ไป ไปเตอะไปแอว... ซือเป ๒๑ มิตรภาพในตางแดน .... ชูชีพ สุนทรานนท ๒๕ ไอคิโดกับตัวฉัน .... จามคำ ๓๐ สังคมสันติสุข .... นฤมล ธรรมพฤกษา ๓๒ สุภาษิตโกะกับขาพเจา ๘ : หากเอาชนะไมได จงยอมตายอยางหาวหาญ ..... NOURNOURS’ MOM ๓๙ AIKIDO FRIENDSHIP (AF8) : ผูกพันกระสันแนนเหนียว ...... ซือเป ๔๑ ควันหลง AF8 .... ปงคุง ๔๗ มาเยี่ยม มาเยือน : KUMIKO ENOKIDO ๔๙ AIKIDO FAMILY : สอบเลื่อนสาย ๒๕ ธันวาคม ๕๐ AIKIDO FAMILY : รับขวัญวันปใหม ๕๑ AIKIDO FAMILY : งานเวทีสื่อศิลปะสารเสวนา ๕๒
โฟกัส
ซือเป๋
ชูชีพ สุนทรานนท์
จ่ามคํา
Nounours’ Mom นูนู่
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ทำใหดีที่สุด จากสิ่งที่คุณมีอยู ผศ.ดร. สมบัติ ตาปญญา สิ่งประทับใจที่ผมได้ รับประการหนึ่งจากการไปร่วม ฝึกกับนักไอคิโดที่ฮานอยใน งานสัมมนาระดับเอเชียเมื่อ ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่าน มานี้ก็คือการได้เห็นนักไอคิโด พิการกลุ่มหนึ่งมาร่วมฝึกด้วย หลายคนในกลุ่มนี้ยังเป็นวัยรุ่น อยู่ คนหนึ่งตาบอด เวลาจะ สาธิตต้องมีคนจูงออกมา อีก
บรรยากาศสัมมนาไอคิโดที่ฮานอย
คนขาลีบเดินได้แค่เตาะแตะ ส่วนอีกคนมีอาการทางสมองหรือระบบประสาทที่ทําให้ตัวของ เขาแข็งเกร็งไปทั่ว แต่สามารถฝึกจนถึงขั้นสายดําชั้นสอง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้ว่าเขามี เหมือนกันหมดทุกคนก็คือความปีติยินดีและเพลิดเพลินในการฝึก ทุกคนมีสีหน้าที่อิ่มเอิบด้วย รอยยิ้ม สะท้อนให้เห็นความสุขและความภูมิใจในตนเอง มีบางขณะในชีวิตของการฝึกฝนไอคิโดที่เราอาจรู้สึกท้อถอย เมื่อพบว่าไม่ก้าวหน้า เท่าที่ควร ฝึกไปนานเท่าไหร่ก็เหมือนเดิม หรือบางครั้งไปเจอคู่ฝึกที่หินโหด ทํากับเราแรงๆ ไม่ ยอมให้เราใช้เทคนิคต่างๆ กันท่าเราไว้หมด ทําให้เกิดความสงสัย เสียความมั่นใจในตนเอง แต่นักไอคิโดพิการจากเวียดนามกลุ่มนี้ทําให้ผมคิดว่าเราควรมองหาส่วนดีของตัวเองแล้วใช้ ประโยชน์จากมันให้มากที่สุด มากกว่าที่จะท้อถอยเมื่อเราทําอะไรบางอย่างไม่สําเร็จ ประสบการณ์นี้ทําให้ผมคิดถึงเรื่องราวของคนอีกบางคนที่ก้าวพ้นอุปสรรคยิ่ง ใหญ่ในชีวิตได้อย่างสง่างาม จึงอยากเอามาแบ่งปันกับพวกเราด้วย
หน้า ๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
คนแรก คือชายหนุ่มชาวอเมริกันวัยประมาณสามสิบ กว่าปีคนหนึ่ง ชื่อ แอรอล ราลสตัน (Aron Ralston) ซึ่งชอบการ ไต่เขาและพักแรมในป่าเป็นชีวิตจิตใจ และชอบเดินทางคนเดียว เพื่อดื่มด่ํากับความโดดเดี่ยวท่ามกลางธรรมชาติ แต่วันหนึ่งในเดือนเมษายนปี ค.ศ. 2003 ขณะที่เขากําลัง ไต่ลงจากซอกหน้าผาสูงแห่งหนึ่ง เขาไปเหนี่ยวเอาก้อนหินใหญ่ หนักกว่าร้อยกิโลกรัมเลื่อนลงมาทับแขนขวาของเขาตั้งแต่ใต้ ข้อศอกลงมา เขาต้องติดอยู่ตรงนั้นถึงห้าวันและไม่มีใคร
แอรอล ราลสตัน
ตามหาเจอเพราะตอนออกจากบ้านมาก็ไม่ได้บอกใครว่าจะ ไปที่ไหน ขณะที่เรี่ยวแรงหมดไปเรื่อยๆ พร้อมกับน้ําและ อาหารที่ติดตัวมา เขาเหลือทางรอดอยู่ทางเดียว คือต้องใช้ มีดที่ติดตัวมา ซึ่งเป็นเพียงมีดใบเล็กๆ และไม่ค่อยคม ตัด แขนของตัวเองให้ขาดเพื่อเอาชีวิตรอด เขาต้องหักกระดูก แขนก่อนแล้วใช้มีดเฉือนกล้ามเนื้อรอบๆ จนแขนขาด แล้ว จึงโรยตัวลงจากหน้าผาสูงกว่ายี่สิบเมตรด้วยมือซ้าย แล้ว เดินเท้าต่ออีกประมาณสิบกิโลเมตร กว่าจะถึงถนนและมี คนพาไปโรงพยาบาลได้ หลังจากนั้นเขาได้เขียนหนังสือ เล่าถึงประสบการณ์นี้ขึ้น ชื่อ Between a Rock and a Hard Place ซึ่งเป็นสํานวนอเมริกัน หมายถึงภาวะที่ยากลําบากและไม่ว่าจะเลือกทางออกแบบไหนก็ล้วนไม่น่าพอใจ (คล้าย สํานวนไทย “หนีเสือปะจระเข้” นั่นเอง) หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็น นักพูดสร้างแรงบันดาลใจที่มีชื่อเสียงและได้ถ่ายแบบลงหน้าปก นิตยสารดังๆ เช่น GQ และ Vanity Fair ค่าวิทยากรในการพูดของ เขาในอเมริกาสูงถึงครั้งละ 25,000 เหรียญ (ประมาณ 750,000 บาท) ล่าสุดในปีนี้ผู้กํากับหนังชื่อดังชาวอังกฤษ Danny Boyle ผู้ สร้าง Slum Dog Millionaire ได้เอาหนังสือของเขามาทําหนังและ เพิ่งออกฉายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ชื่อหนังคือ 127 Hours ซึ่งได้ รับคําวิจารณ์ว่าเป็นหนังที่เยี่ยมยอดระดับที่ต้องเข้าชิงรางวัล ออสการ์ อีกไม่นานเราก็คงได้ดูกันในเมืองไทย
หน้า ๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
คนที่สองเป็นชายชาวนิวซีแลนด์อายุห้าสิบกว่าปี
ชื่อมาร์ค อิงกลิส (Mark Inglis) ซึ่งเป็นคนพิการขาด้วนทั้ง สองข้างคนแรกที่สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้ในปี ค.ศ. 2006 เมื่อเขาอายุได้ 47 ปี เขาถูกตัดขาตั้งแต่บริเวณ ใต้เข่าลงไปในปี ค.ศ. 1982 หลังจากติดอยู่บนยอดเขาแห่ง หนึ่งในนิวซีแลนด์ท่ามกลางพายุหิมะถึงสองสัปดาห์ ทําให้ เนื้อตายเพราะหิมะกัด นอกจากถูกตัดขาแล้วก็ยังถูกตัดนิ้ว มือไปอีกสองสามนิ้วด้วย แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปีเขาก็ใส่ มาร์ค อิงกลิส
ขาปลอมและลุกขึ้นมาสู้ชีวิตและเริ่มไต่เขาใหม่อีกครั้ง ใน การให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งเขาแสดงให้เห็นทัศนคติของการ มองชีวิตในแง่ดีอย่างชัดเจนเมื่อเขาบอกว่า “ผมโชคดีกว่าคุณเพราะ
ผมได้เปรียบคือมีขาหลายคู่ ผมมีขาสําหรับเดิน สําหรับไต่เขา สําหรับเต้นรํา และยังปรับ ระดับความสูงเตี้ยได้ด้วย เวลาตัดกางเกงผมก็ประหยัดกว่าเพราะใช้ผ้าน้อยกว่าคนอื่นๆ เวลาตัดเล็บผมก็ใช้เวลาน้อยกว่าเพราะนิ้วผมมีน้อยกว่าคุณ”
หลังจากอ่านเรื่องของสองคนนี้แล้ว พวกเราก็คงจําได้
ว่ายังมีคนที่พิการแต่มีชื่อเสียงอีกจํานวนหนึ่ง เรื่องราวของเขา บางคนก็ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว เช่น บันทึกจาก ปลายเท้า (Footnotes: A Life Without Limits) เป็นเรื่องของ หญิงสาวจากประเทศสวีเดน ชื่อ เลน่า มาเรีย คลิงวัลล์ (Lena Maria Klingvall) คน หนึ่ง ที่เกิดมามีเพียงขาข้าง เดียว ไม่มีแขน แต่เธอ สามารถใช้เท้าข้างเดียว
เลน่า มาเรีย คลิงวัลล์
ทําได้สารพัดในการดูแลตัวเองในชีวิตประจําวัน เป็นนัก ว่ายน้ําระดับโอลิมปิกสําหรับคนพิการ และยังเป็นนักร้อง ที่มีชื่อเสียง ได้รับเชิญไปแสดงในประเทศต่างๆ หลาย ประเทศทั่วโลก
หน้า ๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
หรือหนุ่มญี่ปุ่นชื่อ โอโตทาเกะ ฮิโรทาดะ ที่เกิด มาไม่มีทั้งแขนและขา แต่สามารถเรียนจนจบ มหาวิทยาลัยและได้ทํางานเป็นนักข่าวกีฬา เคยเดิน ทางไปถึงอเมริกาด้วยตัวเอง เขาเขียนหนังสือ ชีวประวัติของตนเองชื่อ “ไม่ครบห้า” (เป็นสํานวน ภาษาญี่ปุ่น คล้ายสํานวนไทย “อาการไม่ครบสามสิบ สอง” นั่นเอง แต่ญี่ปุ่นเขานับเพียงห้า คือแขนสองข้าง ขาสองข้างและหัว โอโตทาเกะ ไม่มีทั้งแขนและขาก็เลย ไม่ครบห้า) หนังสือเล่มนี้ได้มีผู้แปลเป็นภาษาไทยแล้ว หาอ่านได้ทั่วไป
โอโตทาเกะ ฮิโรทาดะ
คนเหล่านี้มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน คือการมองโลก
มองชีวิตในแง่ดี มองหาแต่ส่วนที่ดีของตัวเอง ไม่ หมกมุ่นอยู่กับความบกพร่องพิการ ความสูญเสียหรือความผิดหวังที่เกิดขึ้น แล้วพยายาม ทําให้ดีที่สุดภายใต้ข้อจํากัดของตนเอง ซึ่งก็ทําให้เขาสามารถประสพความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ ที่คนปกติจํานวนมากก็ยังทําไม่ได้
หากพวกเรายังกลุ้มใจอยู่กับ
ความโชคร้าย ความไม่ก้าวหน้าของ ตนเองในการฝึกฝนวิชาไอคิโดหรือ ในเรื่องอื่นๆ ในชีวิต ผมหวังว่าเรื่อง ราวจากชีวิตของคนเหล่านี้ คงช่วย เพิ่มกําลังใจให้มองหาจุดแข็งหรือ ส่วนที่ดีที่เรายังมีอยู่ แล้วลุกขึ้นมา ต่อสู้อีกครั้ง ปีใหม่นี้อาจเป็นปีที่ยิ่ง ใหญ่กว่าปีก่อนๆ ก็ได้นะครับ Lydia la Rivière Zijdel หน้า ๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ไอคิโดที่ฮานอย อ.ธีระรัตน บริพันธกุล
เอเชี่ยนไอคิโดปนี้จัดขึ้นที่เมืองฮานอยเมืองหลวงของประเทศเวียตนามระหวางวันที่ 1922 พ.ย. 53 พอไปถึงสนามบินฮานอยมีรถจากโรงแรมไปรับโดยชูปายไอคิโดใหผูโดยสารที่เขาพักใน โรงแรมไดรู แตผมก็ตองติดอยูที่สนามบินอีกเกือบ 2 ชั่วโมง เพราะตองคอยนักไอคิโดที่จะมาถึงใน เที่ยวบินตอไป ตอนแรกผมก็หงุดหงิดที่ตองเสียเวลาติดแหงกอยูที่นี่แตมารูตอนหลังวาตองใชเวลา เดินทางจากสนามบินไปถึงที่พักประมาณ 1 ชั่วโมงก็พอทำใจได ระหวางที่อยูสนามบินก็สังเกตเห็นวาคนเวียตนามที่มารอรับญาติพี่นองที่จากกันไปนานๆ นิยมตอนรับผูมาเยือนดวยการใหชอดอกไมสดแถมดวยหยดน้ำตาสดๆจากความคิดถึงกัน ใครที่ เห็นภาพนี้แลวก็คงอดที่จะมีอารมณรวมดวยไมได ระหวางเดินทางไปที่พักการจราจรติดขัดมากกก โดยเฉพาะในเขตตัวเมือง เนื่องจากเวียตนามเคยเปนเมืองขึ้นของฝรั่งเศสการขับรถจึงชิดขวา รถยนตก็เปนพวง มาลัยซาย รถมอเตอรไซดมีมากทำใหขามถนนลำบากและแถมยังไมมีสะพานลอยสำหรับคนขาม ดวย แตสำหรับคนที่นี่แลวการขาม ถนนดูเหมือนจะชิวๆ รถจะชะลอใหเอง พฤติกรรมการขับขี่ที่นี่จะบีบแตขอทาง กันใหจาระหวั่น วันไหนรถใครแตรเสีย คงออกบานกันไมไดเพราะดูเหมือนจะ เสพติดเสียงแตรกันหมดแลว คิดกัน เลนๆวาถาบีบแตรกันอยางนี้ในบานเรา คงมีคดีฆากันตายรายวันตามทองถนน เปนแน ภาพจาก http://hanoigrapevine.com/2008/09/lespace-3-days-3-artists-traffic/
หน้า ๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ที่แปลกใจอีกอยางหนึ่งก็คือที่นี่ไมใช รถกระบะกันเลย ผมไมแนใจวาเปนนโยบาย ของทางการหรือเปลา การขนของไมวาจะหนัก หรือเบา ไมวาจะเล็กหรือใหญ ภาระทั้งหมด ตองมาตกอยูที่รถจักรยานและมอเตอรไซด มี ภาพ Post Card ที่กบซื้อจากมหาวิทยาลัยเตา เปนหลักฐานยืนยันไดเปนอยางดีวาลูกวัวลูก ควายก็สามารถนั่งซอนทายรถมอเตอรไซดได อยางไมขัดเขินเห็นแลวก็ทึ่งแตก็อดสงสารเจา สัตวสี่ขาพวกนี้ไมได เนื่องจากเวียตนามเพิ่งจะปลอดจากภาวะสงครามไดประมาณเกือบ 40 ป ขณะนี้ จึงเปนชวงของการสรางบานแปงเมือง สภาพแวดลอมในตัวเมืองจึงตลบอบอวนไปดวยฝุนที่เกิด จากการกอสรางตึกรามบานชองและทางเทาเกือบจะทุกที่ที่เห็น ประเทศนี้เปนประเทศที่นา เห็นใจ อดีตที่ผานมาเคยถูกจีนปกครองอยูรวมรอยปจึงรับเอาศิลปะวัฒนธรรมของจีนเอาไว มาก หลังจากพนเงื้อมมือจีนก็ตกเปนอาณานิคมของ ฝงเศส หลุดพนจากฝงเศสก็ตองทำสงครามเวียตนาม ตอ ซึ่งศึกครั้งนี้เปนศึกสายเลือดโดยมีประเทศอเมริกา หนุนหลังเวียตนามใต สรุปก็คือประเทศนี้มีความเปน มาที่บอบช้ำจากการตกเปนเมืองขึ้นและภัยสงคราม มาตลอดจึงไมนาแปลกใจที่คนที่ขยันขันแข็งและมี เลือดของของนักตอสูชีวิตจากรุนสูรุนไมวาพวกเขาจะ ไปอยูไหนรับรองไดวาไมอดตายแถมยังสรางเนื้อ สรางตัวไดดีกวาคนเจาประเทศนั้นๆดวยซ้ำ คนที่นี่ เขานับถือและยกยองลุงโฮ (โฮจิมินห)วาเปนบิดาของ ประเทศ ทานเปนผูที่เอาชนะสงครามกับฝรั่งเศสซึ่ง เปนชาติมหาอำนาจในขณะนั้นได อาจเปรียบทาน เหมือนกับแจ็คผูลมยักษ หน้า ๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ไอคิโดในประเทศเวียตนามกอตั้งมาไดประมาณ 50 ป (ของไทย 40 ป) แตมีสำนักไอคิโด ที่มารวมงานครั้งนี้ประมาณ 20 แหง ผมคิดวานาจะมีมากกวาที่เห็นเพราะยังมากันไมครบ บาน เราถาครบรอบ 50 ปเทาเขาผมไมมั่นใจวาจะมีสำนักหรือชมรมมากเทาเขาหรือเปลา ผมมีเพื่อน รวมหองที่มาจากประเทศฟลิบปนสชื่ออาจารย Royce บอกวาที่ประเทศของเขามีสถานที่ฝกไอคิโด เกือบ 400 แหง ฟงแลวก็ใหนึกแปลกใจวาทำไมไอคิโดบานเราถึงมีภาวะชะงักงันแบบเด็กที่เลี้ยงไม โตอยางประเทศอื่นๆที่เขามีปญหามากกวาเรา ยกตัวอยางเชนประชากรของฟลิบปนส 1/3 มีราย ไดตอคนเพียงวันละ 30 บาท แตก็ยังมีคนมาฝกไอคิโด ถาโนตอุดมรูเรื่องเขาก็คงบอกวานี่คือ Thailand Only วันที่ลงเบาะรวมฝกซอมคือ วันที่ 20-21 พ.ย. สถานที่เปนสเต เดียมของกรุงฮานอย มีคน ประมาณ 400 คน เกินกวาครึ่งเปน คนเวียตนาม เนื่องจากมีคนมาก บางครั้งการฝกจึงตองแบงออกเปน สองกลุม ใหกลุมแรกฝกกอนที่ เหลือไปนั่งชิดขอบเบาะ จากนั้นจึง สลับกลุมสองขึ้นมาฝก การมาของ ผมครั้งนี้ไมมุงหวังวาตองไดฝก อยางเต็มที่แตมาเพราะอยากได บรรยากาศของความเปนอินเตอร ความเปนมิตรกับนักไอคิโดตางชาติ การเพิ่ม แรงบันดาลใจในการฝกตอไป งานนี้ก็พยามที่จะทำความรูจักและ สรางความสนิมสนมเปนพิเศษกับนักไอคิโดที่ เปนเพื่อนบานใกลเรือนเคียง เชนลาว เขมร พมา ในอนาคตเราอาจจัดไอคิโดเฟรนชิปที่เรา เคยจัดกันมาทุกปๆไปยังประเทศเหลานี้บาง
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ประเทศลาวก็นาจะเปนประเทศแรก ที่นาไปมากที่สุด นักไอคิโดที่มาครั้งนี้เปนผู หญิงชื่อนองมน(นิดั้ง)เปนคนมีอัธยาศัย ใจคอดี ผมทราบมาวาสถานที่ฝกของเขา สะอาดและกวางขวาง ฟงแลวอยากไปฝก และอยากไปเที่ยวดวย (โดยเฉพาะเมือง หลวงพระบาง ที่องคการยูเนสโกขึ้นหิ้งวา เปนเมืองมรดกโลก) อาจารยที่นำฝกสวนใหญก็ระดับ 7 เรียงจากซ้าย ฮวง(สาวเวียดนาม) น้องมน (นิดั้งจากเวียงจันท์) ป๋อม อ๊อด (หนึ่งกิ้วจากเวียงจันท์) และ น้องตั๊ก(สาวเชียงใหม่) ดั้งรองลงมาคือ 6 ดั้ง แตคนก็มีสไตลและ วิธีการสอนที่แตกตางกันไป สรุปวาทุกทาน ลวนนาประทับใจไมวาเราจะรวมเรียนหรือรวมนั่งชมก็ตาม บรรยากาศโดยรวมของการฝกมี ความเปนมิตรกันมากโดยเฉพาะนักไอคิโดรุนใหมๆที่เปนชาวเวียตนามที่มักจะชวนผมซอมดวย โดยไมนึกวาผมเปน ส.ว ที่บางครั้งก็หมดแรงและอยากอูการฝกเหมือนกัน มีชมรมไอคิโดชาวเวียตนามกลุมหนึ่งที่ผมประทับใจ กลุมนี้มีความผิดปกติบางอยางเชน บางคนตาบอด บางคนมีปญหาดานกระดูกและกลามเนื้อ กลุมนี้เขารวมในการฝกและรวมสาธิต ดวย ผมมีโอกาสชวงสั้นๆพูดคุยกับครูฝกที่เปน หญิงอายุประมาณ 55 ป คุณครูบอกวาลูกศิษย เอกของเธอไดนิดั้งแมรางกายจะไมเอื้ออำนวย แตก็ไมใชอุปสรรคในการฝก สวนลูกศิษยคนอื่น ก็ไดรับประโยชนจากฝกเพราะทำใหสุขภาพแข็ง แรงและมีพัฒนาการการเคลื่อนไหวที่ดีกวาตอน แรกๆมาก และที่นาชื่นชมคือความอดทนของ คุณครูคนนี้ที่มีความสุขกับเรื่องที่คนสวนใหญ รูสึกวาเปนเรื่องนาเบื่อและเปนเรื่องที่เสียเวลา เปลาๆ หน้า ๑๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ชวงบายของวันสุดทายของการฝก เปนการสาธิตไอคิโด แตกอนที่จะมีการ สาธิตก็เปนพิธีปดอยางเปนทางโดยมีการ เชิญผูบริการสวนจังหวัดหรือสวนทองถิ่น ของเขามาเปนประธาน งานนี้ก็เลยมีการ การอานแถลงการของบุคคลหลายๆฝาย ภาษาที่ใชก็มีทั้งภาษาเวียตนาม อังกฤษ และญี่ปุน พวกเราชาวไอคิโดประเทศใคร ประเทศมันตางก็ยืนเขาแถวหลังปาย ประเทศของตนเองโดยมีสาวๆ(ที่มีทั้งสวย หนอยและสวยนิด)ถือปายอยูดานหนาบรรยากาศแบบนี้ชวนใหผมนึกถึงพวกเรากำลังเขารวม การแขงขันเอเชี่ยนเกมสที่กำลังแขงกันอยูที่เมืองกวางโจวยังไงยังงั้น(นาเบื่อครับ) คุณสมหมายนักไอคิโดจากแดนมลพิษแหง กทม. กระซิบเปรียบเปรยกับผมวางานนี้ เหมือนพวกเราเปนนักชกตางชาติที่มาทาชิงแชมปและตองรอใหเจาภาพแจกสรอยคอทองคำ และเงินอัดฉีดใหกับนักชกของเขา พิธีรีตองทำเอาผูทาชิงหมดกำลังใจและแพกอนชกแลว ยืนรอ จนเสร็จพิธีนาจะใชเวลารวมๆชั่วโมงจากก็นั่งชมการสาธิตโดยเริ่มที่คายของเจาภาพกอนซึ่งก็มี หลายชุด โดยรวมคือเจาภาพเตรียมการฝกซอมการสาธิตมาดีสวนใหญเปนคนหนุมสาวไฟแรง การแสดงออกจึงตองรุนแรงไปดวย หน้า ๑๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
สวนการสาธิตของกลุมอื่นๆที่ผมประทับใจก็คงเปนเซ็นเซ ส.วทั้งหลายที่จะเลนนุมๆโดย เฉพาะเซ็นเซจากไตหวันที่จะเปนผูเชี่ยวชาญในการใชคิที่สามารถสงพลังไปกระแทกอุเกะคนที่สองที่ อยูซอนอยูดานหลังคนแรกใหปลิวกระเด็นกระดอนไปได(ไมเชื่อก็อยาลบหลู) ประเทศอื่นๆเขาสาธิต กันไปหมดแลว ยังคงเหลือพวกเราทีมเดียว (Only Thailand) ที่คิดวาคงเปนกลุมสุดทายแนๆกอนที่ จบงาน แตที่ไหนได มีประกาศเปนภาษาเวียตนาม คนดูทั้งหลายก็ลุกขึ้นแยกยายกันกลับบาน Surprise! หลายๆครับ ผมหันไปเห็นอาจารยใหญทานก็คง Surprise เหมือนกันแต Surprise ของทานไมเหมือนเรา ที่เปนลูกศิษยนะครับ สีหนาทานเปนอยางไรก็ขอไดโปรดใชจินตนา(แบบตื้นๆ)เอาเองก็แลวกัน เอา เปนวาตัวใครตัวมันดีที่สุด ผมมาถึงบางออ (นาจะเปนบางเออมากกวา)วาพวกเราไมไดไปลงชื่อแสดงเจตจำนงคอยาง ชัดแจงที่จะสาธิต งานนี้ก็ถือวาแพบาย ผมก็รูสึกเสียใจแทนเราทุกคนดวยเพราะกอนสาธิตก็มีการ เตี้ยมเรื่องคิวบูกันมาเปนอยางดีวาใครจะทำอะไร คุยกันในรายละเอียดกันถึงขั้นที่วาพอเคารพภาพ ปรมาจารยแลวตองหันมาทางขวาพรอมๆกัน แตสุดทายก็ไมไดแสดง ทีมอื่นทำไมไดอยางเรายกเวน Thailand Only เอาเปนวางานนี้ไมมีใครผิดครับ อยางไร ก็ตามไมวาจะเปนเหตุการณดีหรือราย ไมวาจะไดหนาหรือเสียหนาก็ตองถอด.....ถอดบทเรียนนะ ครับ ทำใหผมไดขอคิดเล็กๆนอยๆบางมาฝากพวกเรา (แทนของฝากจากฮานอยที่ไมนาซื้อ, ดอย คุณภาพแถมไมอรอยดวย) เชน “เรื่องเล็กๆนอยเปนเรื่องสำคัญนะ” “ภาษาเขียนยอมยืนยันไดหนัก แนจัดเจนกวาคำพูด” “อยาคาดหวังอะไรแตใหเตรียมใจสำหรับสิ่งที่คาดไมถึง” และสุดทายก็คือ” กวยเตี๋ยวบานเราลำกวาเฝอแตๆ” รายงานขาวโดยธีระรัตน ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียตนาม
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ป๋อม ซินเจ้า... เขียน
พลพรรคนกขมิ้น เยือนถิ่นฮานอย 4 จาก 7 สมาชิกไอคิโดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ไปร่วม สัมมนา.... ซึ่งได้แก่ป๋อม ตั๊ก แบงค์ และป๋อได้รวมตัวกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิราวๆเที่ยงคืนวันที่ 18 พ.ย.53 รอเวลา เช็คอินตอนตีสี่ ทุกคนต่างทําตัวราวกับนอนอยู่บ้าน ได้ อืดอาดโอ้เอ้ เหมือนอยู่บ้านจริงๆ มันทําให้เวลาต่อมาเราต่าง ก็วิ่งกันให้วุ่นเพราะจะไม่ทันเอาจริงๆ เมื่อล้อแตะรันเวย์ ราวๆ สิบโมงเราคุยกันถึงเรื่องทั่วไป เรื่องดินฟ้าอากาศ “ไม่มี แสงแดดเลยเนอะ” “จะหนาวกว่าบ้านเรามากมั้ยนะ” สิ่งแรก ที่เราเตรียมดํารงชีพอยู่ในฮานอยคือเรารีบไปแลกเงินสกุล เวียดนามเพราะเราจะได้พกเงินเป็นล้านๆเลยเชียวนะ.... ไปเลยพร้อมแล้ววว...
ว่าแท็กซี่ไปโรงแรม van mieu ที่ เพื่อนชาวเวียดนามหาให้ (ราคา ประหยัดสําหรับนกขมิ้นอย่างพวกเรา) อ้อ! เป็นเพื่อนที่รู้จักกันทาง Facebook ฮื่อ internet มันดีอย่างนี้นี่เอง หน้า ๑๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ส่วนการเตรียมตัวสําหรับใช้ชีวิตใน เวียดนามครั้งนี้เรายกให้เป็นหน้าที่ของ นายป๋อเพราะเรียนรู้ภาษาเวียดนามแบบที่ ไม่อดตายหาซื้อข้าวกินได้
อันที่จริงหน้าตาพวกเราก็กระเดียดไป คล้ายๆกับคนแถวนี้อยู่แล้ว
เราก็กินอาหาร
มันแถวๆข้างถนนหน้า โรงแรมน่ะแหละ แอบ เนียนเป็นชาวฮานอย แต่ ไม่ค่อยเหมือนตรงที่คน ฮานอยไม่ค่อยยิ้มกัน เลย เราส่งยิ้มให้ เค้าก็ มองแล้วคิดมาดังๆว่า ไอ่บ้าาา เฮ้อ!
หน้า ๑๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
จะว่าไปเราทั้ง 4 ก็เพิ่งเคยไปสัมมนายังต่างประเทศเป็นครั้งแรก ตื่นเต้นเหมือนกัน
ยิ่งไปพบกับนักไอคิโดที่แทบจะทะลักออกมานอกโรงยิมขนาดนี้ เรียกได้ว่าทุ่มกันไม่ได้เลยที เดียว คําถามที่เราและคู่ฝึกยิงใส่กัน เช่น May I practice with you?
Is it right? Where are you from?
glad to meet you!
What’s your name?
How to do?
Thank you very much!!
มันรู้สึกเหมือนมาพบเพื่อนที่ เคยรู้จักกันมาก่อนเลยนะเนี่ย และ เราก็ได้เพื่อนเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยเลย เราเลยมีเพื่อนพาเที่ยวฮานอยใน ตอนกลางคืนพากินอาหารฮานอย โดยแท้ที่ไม่มีในร้านหรูๆ (คืออันที่ จริงเราไม่มีปัญญาเข้าร้านหรูๆน่ะ) จบจากการสัมมนาแล้วเรายังได้ตาม ไปขอฝึกที่โดโจเพื่อนเราอีกด้วย หน้า ๑๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
โอ้โห! ประหลาดใจอีกแหละ คนฝึกปกติวันละประมาณ 70 คน ....อะไรเนี่ย... เพื่อน เราบอกว่าในฮานอยมีประมาณสิบกว่าโดโจ โฮจิมินห์ห้าสิบกว่า และยังเมืองอื่นๆอีก ทําไม ไอคิโดที่เวียดนามถึงมีคนฝึกมากมายขนาดนี้ได้ ในวันที่เราต้องเดินทางกลับ บ้าน......ก็ตามประสาพลพรรคของเรา
จะไปขึ้นเครื่อง ทันไม๊เนี่ย??
น่ะ คือ สบายๆ ไม่ค่อยเผื่อเวลาไว้
ห้าล้านสาม คูณหกหมื่น หารสองแสน ...
มากๆ และไม่รู้ว่าที่สนามบินฮานอยคน มันมากมายขนาดไหน วุ่นวายไปหมด เงินเวียดนามก็แลกคืนไม่ทัน จึงต้องกํา เงินหลายแสนกลับบ้าน ทํายังไงกับเงิน เวียดนามล่ะนี.่ ...และเราก็ได้คําตอบ.... ไป! เราไปฝึกกับเพื่อนเราที่เวียดนาม อีกรอบ...แน่นอน..พลพรรคเรา เราซื้อตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ กันเรียบร้อยแล้ว..... ....รอก่อนนะโฮจิมินห์...
The Art of Peace # ๘๕ เขียนโดย Morihei Ueshiba แปลโดย John Stevens When attacked, unify the upper, middle, and lower parts of your body. Enter, turn, and blend with your opponent, front and back, right and left. John Stevens ไดรวบรวมเอา Doka หรือบทกวีขนาดสั้นของปรมาจารยไวในหนังสือ The Art of Peace ตอมา William McLuskie ไดนำมาลงเผยแพรที่เวบไซต http://omlc.ogi.edu/aikido/talk/osensei/artofpeace/
หน้า ๑๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
Aikido(ka) in Focus from Vietnam
โดย โฟกัส
เราไปสัมมนากันถึงต่างประเทศได้พบเพื่อนต่างชาติมากมายไม่ว่าจะ เป็นสิงคโปร์ มาเลย์ ลาว พม่า ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกือบห้าร้อยคน โอ๊ว!! เสียดาย จัง เราไม่สามารถจับคู่ฝึกได้กับทุกคน พูดคุยกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเราอ่อน ภาษาต่างประเทศน่ะเอง แต่ก็ยังพอได้เพื่อนใหม่บ้างหละนะ น่าแปลกที่เราไม่ เคยพบกันมาก่อนแต่เมื่อเราไปขอฝึกด้วยกลับรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมเหมือนเรา เป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่คราวนี้เราโฟกัสที่เพื่อนที่เป็นเจ้าบ้านก่อนละกัน เนื่องจากโฟกัสก็อ่อนภาษา เลยถามคําถามเดียวกับทุกคนที่ฝึกด้วยเลยว่า How does aikido help to improve yourself ?
! The first person is a small, modest, young man who has a bright smile from Hanoi. We have a promise to do suwari-waza kokyu-ho together again. Tran Minh Tu : ! I have been practicing aikido for almost 6 years since I was 7th grade in school. This is my 7th year. After the first two years of practice, I had to leave aikido because I got into some trouble. But I suddenly realized that aikido is part of my life. Then I had tried so hard to make my way back to the dojo. I feel refresh and happy หน้า ๑๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
every times I return home from the dojo. But I donʼt know how aikido could improve myself. I just try it, do it, and interested in it. I try to find out what is my mistakes and fix it. In my dojo, we do not care much about color of the belt. We think people who know more should teach people who know less. We should talk about our own mind and find out what is right. In each seminar, we learned many things. Then we show what we learned to each others. Ahh... this is difficult question, I will answer this later.
! This second young man who does his ukemi like a flying bird. I pretty much love to practice with him. Quach Tuan Duong : I have been practicing Aikido for almost 4 years. Aikido is not only about self - defense techniques or applying those techniques in real life. There are much more valuable lessons from Aikido. With the basic idea, I've learned how to turn my disadvantages into my weapon. In term of attitude, aikido people learn to control themselves better, in comparison with other types of martial arts. We are not just throwing people around, or hurting them with techniques we have learned. The most important point is to control yourself in order to avoid inflicting injuries to the others. Moreover, besides self - defense, aikido learners get to learn how to show respect to others, as well as humility. Thereby we are able to listen attentively. In Aikido, we have no competition so you never beat anybody. We are all equal. หน้า ๑๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
!
Here is my friend from facebook …he helped a poor aikidoka like
me looking for cheap hotels. He practices aikido in Ho Chi Minh City. He helps me a lot. Minh Pham : 11 years. I started aikido when I entered university. Aikido changes me so much. firstly, my physical body has improved. Before I started practicing, i got sick almost every month but it is not happen now. secondly, I feel that I become more calm when facing difficult situations. I think I do more listening than talking. I become more sensitive to other's feelings. It helps me a lot in my works, for example; when I have to deal with people. I listen to them and then they listen to me. By that way, we understand each other and the deal closes easier. Aikido makes my life so joyful and balance, mentally and physically.
Another facebook friend, he is a medical student from Ho Chi Minh City. An Nguyen Le : I have practiced aikido for 8 year. Aikido teaches me a lot of things. Aikido is the first thing I indulged in. When I do aikido, I feel relax after all day of studying. Aikido boosts up energy for me to do a many things in daily life. Aikido also makes me more confidence. I think aikido is a special martial art. It is not easy to improve ourselves in each technique. I must be patient in learning. So Aikido teaches me to be patient. When I do aikido, my sempai always tells me "If you want to improve your aikido, you shall not crave to attack the uke but rather empty your mind and concentrate on your center first." So Aikido teaches me not to hungry for success. หน้า ๑๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
The next person is a translater from nihon-go to Vietnamese for this seminar. This polite man is a university teacher in Japanese language. He is also the last person we had dinner with in Hanoi. Pham Quang Hung : I started Aikido since 1999. It becomes part of my life. I feel happy when I practice aikido because I have met many good sensei and interesting friends.Thatʼs enough. ! The last one is a lady aikidoka. She welcomes us warmly by taking us to a sightseeing around Hanoiʼs night-market. We got really delicious food. I truly enjoyed speaking laos language with her, Miss Huong. Huong: Almost 4 years, I started in January 2007. I could say that first of all, aikido helps improved my health. From a weak person who always got sick when the climate changes, I am rarely sick now. Secondly, I feel much more comfortable about my self. I am calm and flexible in all kinds of circumstance. I become more tolerant towards stress in the work place. Lastly, I have a lot of new friends all over the world, especially people from Laos.
HOW ABOUT YOU ? HOW DOES AIKIDO HELP TO IMPROVE YOURSELF?? หน้า ๒๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
LET’S GO TO HANOI ผูเขียน: ซือเป
ไป ไปเต๊อะ ไปแอ่ว.... จังหวัดฮานอย... ! “ถึงอยูแควนใด ไมสุขสำราญ เหมือนอยูบานเรา ชื่นฉ่ำค่ำเชาสุขทวี …” เนื้อเพลงพระราช นิพนธทอนนี้นาจะโดนใจคนไทยหลายๆคน ทั้งที่ตั้งอกตั้งใจหรือจับผลัดจับผลูไปอยู “ไกลบาน” สำหรับคนไทยในบานคงไมคอยยี่หระกับความหมายของมันสักเทาไหร เขาทำนองวา “ไมเห็นโลง ศพ ไมหลั่งน้ำตา” คือยังไมเห็นคุณคาจนกวาจะถึงเวลาสำคัญ ประมาณนั้น ! ซือเปและพลพรรค โชคดีไดมีโอกาสสัมผัสความรูสึกนั้นเรียบรอย เชื่อวาคง นับตั้งแตวินาทีแรกที่มีสถานะเปน “คนตางชาติ” ในสายตาของเจาถิ่น ดิน แดนแหงเสียงแตร(รถ)ก็คงจะวาได แตคงเพราะมีจุดมุงหมายอันแรงกลา ศรัทธาแหงไอคิโด เลยปดหูสองขางเดินหาของกิน เอย เดินหาจุดมุง หมายอยางมั่นคง ! คณะเดินทางถึงสนามบินนอยไบเวลาประมาณ ๘ นากา อากาศเย็นของเมือง ฮานอยไมไดเปนอุปสรรคตอความราเริงของคณะฯเลย สิ่งที่เราสังเกตเห็นในขณะนั้นคือชาวเมือง ฮานอยเปนคนประหยัดมัธยัสถโดยเฉพาะรอยยิ้มและคำพูด สังเกตเอาจากพี่ๆตรวจคนเขาเมือง ถึงแมวาสมาชิกของคณะหลายคน(รวมทั้งซือเป)จะตองใชเวลาในการยืนทำหนาจิ้มลิ้ม อยูหนาดานฯนานกวาปรกติ แตทายที่สุดเราก็ผานดานตรวจคนเขาเมืองมาไดอยาง หน้า ๒๑ ปลอดภัย
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
! จากนั้นเรามุงหนาสูที่พักซึ่งไดจองไวจากเมืองไทย แตยังไมทันถึงที่หมาย รถแท็กซี่ที่เรานั่งมา ก็จอดตรงที่ไหนสักแหงกลางเมืองและคะยั้นคะยอใหเราลงพักยังโรงแรมตรงนั้น อยางไรก็ตาม หลังจากการเจรจาอยางสุภาพ(รึเปลา) คนขับก็ยินยอม(อยาง เสียมิได)และพาเราไปยังโรงแรมจุดหมายปลายทางของเรา Van Mieu Hotel เมื่อชำระราคาคาเชาที่นั่งและบริการขับเรียบรอย ซือเปและพลพรรครูสึกวาเขายังมีความไมพอใจอยูมาก แตแนละ เราก็เดินเขาที่พักของเราอยางมาดมั่นตอไป โดยไมสนใจการก ระทำของเขา ! เชาแรกที่เมืองฮานอย บรรดาสุภาพสตรีทั้งหลาย(ทั้งที่มี บรรดาศักดิ์และไมมี) อุนเครื่องกระเพาะอาหารดวย “บุน ฉะ” หรือขนมจีนกวยเตี๋ยว โปะหนาดวยหมูปง สวนสุภาพบุรุษนอก เหนือจากซือเปลวน “หมดสภาพ” อยูในหองพัก จากนั้นคณะ เดินทางแวะทองเที่ยวที่วัด Van Mieu ซึ่งเปนมหาวิทยาลัยแรก ของเมืองฮานอยคลายๆกับวัดโพธิ์ของเมืองไทย ในชวงเย็นของ วันนั้นคณะเดินทางเขารวมงานเลี้ยงตอนรับ ซึ่งจัดโดยเจาภาพ งานสัมมนา ! วันที่สองของการเดินทาง ซือเปและพลพรรคเขารวมการฝกแตเชา การฝกจัดขึ้นที่โรงกีฬา ประจำเมือง เบาะฝกถูกจัดเรียงอยางเปนระเบียบโดยเจาภาพ กอนเริ่มฝกผูเขารวมสัมมนารวมกัน ทำความเคารพปรมาจารยตามธรรมเนียมโดยถือตรงพื้นที่สะดวกไมตองเรียงตามลำดับสาย แต ตองนั่งใหเปนระเบียบเชนที่พึงปฏิบัติ ! การฝกแบงออกเปน ๙ บท แตละบทนำฝกโดยชิฮันบทละ ๑ ทาน นาเสียดายที่ซือเปทำ เอกสารประกอบการสัมมนาหาย ไมอยางนั้นคงจะพอบอกไดวาแตละบทเปนการฝกเกี่ยวกับอะไร บาง นึกออกเพียงแตวาบทแรกฝกกับชิฮันที่ชื่อ ยามาดะ จุน และปดทายการฝกดวยอาจารยฟุคา คุซาของเรา ในการฝกซือเปและพลพรรคตางกระจัดกระจายออกไปหาคูฝกตางชาติ ชาวเวียดนาม บาง ชาวจีนบาง ชาวพมา ชาวลาว ชาวฝรั่งมั่งคา ตามแตหนาตาคูฝก เอย ตามแตวาสะดวกเจอ ชาวไหน ! ! ในเบาะฝก ภาษาดูจะไมไดเปนเครื่องกีดกั้นความเขาใจระหวางคูฝกทั้งสองฝายเทาใดนัก เพราะตางใชไอคิโดเปนภาษากาย ภาษาเดียวกัน จากการเขารวมสัมมนาซือเปเห็นวานักไอคิโดจาก แตละชาติจะมีเอกลักษณแตกตางกัน แมแตชาติเดียวกัน หากมาจากคนละสังกัด คนละสำนักก็ จะมีเอกลักษณแตกตางกันตามแตตนสังกัดจะถายทอดลงมา ! ไอคิโดเปนศิลปะที่ดูจะไดรับความนิยมในประเทศเวียดนามมาก เฉพาะเมืองฮานอยเมืองเดียว ก็มีโดโจมากกวา ๑๐ โดโจแลว นี่ยังไมรวมเมืองโฮจิมินหซึ่งจากที่พูดคุย ซือเปไดรับทราบวามี มากกวา ๑๐ โดโจเชนเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีไอคิโดในเมืองอื่นๆของประเทศอีกประปราย ฮากามาซึ่งเปนเสมือนตัวแทนสายสูงของนักไอคิโดชาวไทย ก็มีใหเห็นดาษดื่นในสายไมสูงมากนัก จากนักไอคิโดชาวเวียดนาม
หน้า ๒๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
! ในจุดนี้ซือเปเห็นวาสวนหนึ่งอาจจะเปนกุศโลบายในการชักจูงใหคนเขาฝกไอคิโด เนื่องจาก ประเทศเวียดนามกำลังอยูในชวงฟนตัวจากพิษสงครามระหวางประเทศมหาอำนาจ (ทานใดสนใจ กรุณาศึกษาเกี่ยวกับ สงครามเย็นเพิ่มเติมครับ) ทำใหการเขาถึงความรื่นรมยทางศิลปะทำไดนอย ดังนี้เมื่อมีนโยบายใหสวมใสฮากามาไดตั้งแตสายไมสูงมากนักนี้ อาจทำใหผูฝกเกิดความรักและ เทิดทูน รวมถึงมีความรูสึกเปนอันหนึ่งอันเดียวกับไอคิโด จนทำใหเกิดความทุมเทและความตั้งใจ ในการฝกมากขึ้นตอไป ซือเปวานาจะเปนเชนนั้นนะครับ ! สาระสำคัญจากการฝกในวันแรกที่ซือเปจำได นอกเหนือจากเทคนิคและทักษะทางกายที่ได เรียนรูจากชิฮันและนักไอคิโดหลากหลายสัญชาติที่ไดมีโอกาสรวมฝกดวยแลว ซือเปยังไดเรียนรู ความสำคัญของการผอนคลายรางกาย, การหายใจ และที่สำคัญกวานั้น ไดเรียนรูการใหเกียรติ ตนเองและคูฝก ชิฮันสตรีทานหนึ่งไดอธิบายเพิ่มเติมประกอบการสอนของเธอ ซึ่งแปลเปนภาษา ไทยตามความเขาใจของซือเปวา ! “เวลาที่ฝกไอคิโด ตองตั้งใจฝก เพราะเราเสียเวลามา ฝก บางครั้งเสียเงินมาฝก แนนอนคูฝกของเราก็เชนกัน การที่เราไมตั้งใจฝก นอกจากจะทำใหเราไมไดอะไรจาก การฝก, เสียเวลา และเสียคาใชจายโดยเปลาประโยชน แลว ยังถือเปนการไมใหเกียรติแกตัวเราและคูฝกในขณะ นั้นดวย เรียกวาเปนสิ่งที่ไมสุภาพมากในการฝก (impolite)” ! ซือเปเห็นวาคำกลาวของชิฮันทานนี้เปนความจริง เพราะ ที่ชมรมของเราซือเปไดเห็นนองใหมหลายคนพูดคุยหยอก ลอเลนกันเวลาฝก แมจะเกิดขึ้นโดยไมตั้งใจแตเมื่อเริ่ม หยอกลอพูดคุยกัน ก็จะทำใหเสียเวลาในการฝกไปและ ฝมือก็ไมพัฒนาขึ้น ! ในวันที่สาม เปนวันฝกวันสุดทายของการสัมมนาใน ครั้งนี้ แมซือเปและพลพรรครักเอยหลายคน จะปวดเนื้อ เมื่อยตัว ตามประสาคนขาดซอมมานาน แตก็ไมยอทอเขา การฝกจนจบพิธีจนได ในวันนี้เทาที่ซือเปจำไดเห็นจะมี ชิฮันจากเกาะไตหวัน, สิงคโปร, ญี่ปุน และประเทศไทยเปนผูนำการฝก ! ชวงบายเปนการสาธิตเทคนิคไอคิโดโดยตัวแทนจากแตละประเทศ ซือเปนึกครึ้มเอาเองดวยวา กำลังรวมอยูในพิธีเปดกีฬาเอเชี่ยนเกมสเสียดวยซ้ำ เจาภาพฮานอยแสดงไดอยางนาประทับใจ และ ที่ประทับใจและตราตรึงอยูในความทรงจำ เห็นจำเปนการสาธิตจากชมรมไอคิโดเมืองโฮจิมินห ซึ่ง เปนชมรมที่สมาชิกประกอบไปดวยผูมีความสมบูรณทางรางกายนอยกวาคนทั่วไป ไมวาจะเปน ผูมี ความสมบูรณนอยทางสายตา, ทางการทรงตัว หรือทางการไดยิน เปนตน ออกมาสาธิตการใช เทคนิคไอคิโด แมวาในสถานะการณจริง หากตองใชงานอาจจะมีปญหาและอุปสรรคอยูบาง แต นั่นก็ไมไดทำใหความประทับใจในการนำเสนอลดนอยลงครับ หน้า ๒๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
! อาจารยไอคิโดจากเมืองไทยทานหนึ่งไดใหคำชี้แนะซือเปไววา “ลองดูความมุง มั่นและความตั้งใจในการฝกของเขา ซึ่งมีไมนอย” ซือเปเห็นวามีมากกวาคนที่มี ความสมบูรณทั่วไปบางคนดวยซ้ำ แตเหนือสิ่งอื่นใด หัวใจแหงความเอื้ออาทรและ ความมุทิตาของผูฝกสอนก็เปนสิ่งที่สมควรไดรับการยกยองและแสดงความชื่นชม ครับ แมทานเปนเพียงสุภาพสตรีเวียดนามตัวเล็กๆแตก็จะมองขามความสามารถมิได ดังสำนวนอังกฤษที่วา “Don’t judge a book by the cover” หรือสำนวนไทยที่วา “ผาขี้ริ้วหอทอง” เห็นจะเหมาะสมกับอาจารยทานนี้เพราะเธอ มีหัวใจที่เปนทองคำอยูภายในรางกายของเธอจริงๆครับ ! การสาธิตที่เรียกเสียงฮือฮาและวิพากษวิจารณอยางมาก ก็เห็นจะเปนการสาธิตจากชิฮันของเกาะไตหวัน ซึ่งเปนเรื่อง ราวของการใช “คิ” ซือเปของดออกความคิดเห็นใด ๆ ใน เรื่องนี้เนื่องจากความตื้นเขินของประสบการณ เพียงขอยก ประโยคของอาจารยชาวไทยทานเดิมที่ไดบอก ไววา “ไมเจอกับตัวไมรูหรอก” ครับ ! วันที่เหลือเปนการ “แอว” ของซือเป และพลพรรครักเอยจริงๆ โดยในวัน สุดทายเราไปลองเรือที่ฮาลองเบย เที่ยว เกาะ เขาถ้ำ โดยมัคคุเทศนกิตติมศักดิ์ “ปา ศรี” ซึ่งมีประสบการณตรงจากชวงสงครามเย็น ถึงขั้นที่ ตองแบกปนไปยิงเครื่องบินกันกลางทุงนาในสมัยนั้น ปา ศรีบรรยายสถานที่เที่ยวตางๆทั้งวันอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อย ! ! ค่ำวันนั้นซือเปและผูติดตาม เอย และคณะ ยังไดรวมฝก ณ เบาะฝกของมหาวิทยาลัยการคา ระหวางประเทศ (Foreign Trade University) ซึงมีผูรวมฝกกวา ๗๐ คน เห็นแลวก็นาทึ่งและ อดเปรียบเทียบกับชมรมของเราอยางเสียมิได แตหากชมรมของเรามีผูฝกจำนวนเทานี้จริง เห็นจะ ตองขี่คอกันฝกเสียแลว เมื่อคิดไดดังนี้ก็เลยเห็นเปลี่ยนวิธีคิดของตัวเองขึ้นมาทันที ! เชาวันสุดทายของการอยูตางแดน แนนอนวาพวกเราตางอาลัยเมืองฮานอยพอสมควร ก็แน ละครับ อุตสาหฝกวิธีการขามถนนเยี่ยงคนเวียดนามและเรียนรูอาหารการกินของชาวเวียดนามมา อยางดี กลับหมดเวลาอยูแลวเสียนิ เลยเศรากันตามระเบียบครับ ขากลับนั้นแสนจะฉุกหลุกกวา ขามามากนัก ชาวเวียดนามเองก็ชอบการเดินทางดวยเครื่องบินมาก กะเกณฑเอาจากปริมาณผูคน ในสนามบินซึ่งเบียดเสียดยัดเยียดกันเต็มไปหมด ชวนใหนึกถึงหัวลำโพงหรือหมอชิตเวลาวันหยุด ยาว อยางไรก็ตามซือเปและพลพรรคก็กลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ ! แตดูเอาเถิดครับวา เราอาลัยเวียดนามกันขนาดไหน ยังอุตสาหพกเงิน “ดอง” กลับมาบาน เราเสียคนละหลายแสน หลายลาน จนทายที่สุดก็ตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไปใหมในปหนา จุดหมายคือเมือง “โฮจิมินห” สำหรับการไป“แอว”ครั้งนี้ ขอคิดเห็นตางๆเปนเพียงของซือเป เทานั้น ไมไดหมายวาพึงเปนสิ่งที่ถูกตอง ที่สุด หากผูอานทานใดมีขอมูลเพิ่มเติมก็่ชวยแกไข สงจดหมายมาพูดคุยกันไดครับ สำหรับฉบับนี้สวัสดีครับ
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ชูชีพ สุนทรานนท
มิตรภาพในตางแดน ! เมื่อใดที่เราเอยคำวา “เวลา” ทุกคนยอมรูจักคำนี้เปนอยางดี แตจะมีสักกี่คนที่ ตระหนักถึงการเคลื่อนไหวของเวลาที่ไมเคยหยุดนิ่งหรือพักผอนดังเชนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เวลา สำหรับชีวิตมนุษยเรานั้นไมเคยเดินไปขางหนา มีแตจะนับถอยหลัง “เวลา” อีกเชนกันที่นำพา คำวา “ภาระและหนาที่” มาหาเราทุกคน ฉะนั้นการดำรงชีวิตอยูในสังคมปจจุบันนี้ สิ่งหนึ่งที่ ทุกคนไมอาจหลีกเลี่ยงไดเพื่อการดำรงชีวิตอยูในยุคปจจุบันนั้นคือการประกอบอาชีพ เพื่อ เลี้ยงตนเองและครอบครัวใหมีชีวิตอยูไดอยางปกติสุข ผมก็เปนอีกคนที่ไมสามารถหลีกเลี่ยง ความเปนจริงขอนี้ได หลังจากที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม ผมไดประกอบอาชีพมามากมาย แต กระนั้นก็ไมเคยหยุดที่จะสานตอความฝนที่จะกาวตอไปในเสนทางของนักไอคิโด เหมือนๆ กับ พี่ๆ นองๆ อีกหลายคน จนในที่สุดผมก็ไดกาวเขามาสูอาชีพนักบิน อาชีพนี้เปนหนึ่งในหลายๆ อาชีพที่ไดมีโอกาสเดินทางทองเที่ยวสูหลายๆประเทศ ไดสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายในตาง แดน หน้า ๒๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
และแนนอนเมื่อผมสอบติดนักบินผมตั้งเปาไววาผมจะไปซอมไอคิโดในทุกๆ ประเทศที่ ผมไดเดินทางไป แตครั้นเมื่อไดเขามาทำงานเปนนักบินอยางเต็มตัว ผมเริ่มตระหนักแลววา มันไมไดงายอยางที่ตัวเองฝนไว เมื่อไดเริ่มทำงานอยางเต็มตัวแลว เวลาที่สามารถจะไปซอมไอคิโด ดังเชน ในอดีต นั้นหาไดยากมาก นี่ยังไมรวมถึงชวงที่ไปฝกบินที่หัวหินที่หาโอกาสซอมไดยากยิ่ง แตอยางไร ก็ตาม สิ่งใดที่ขึ้นชื่อวาเปนสิ่งที่สำคัญในชีวิตของเราแลว เรายอมตองหาทางไขวความาจนได ไอคิโดของผมนั้นไดเริ่มเติบโตมาจากชมรมไอคิโดในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม แตดวยอาชีพที่ ผมเลือกทำใหโอกาสที่ผมจะไดซอมในถิ่นฐานเดิมของผมนั้นลดนอยลงไปอยางมาก แตสิ่งนี้ เองที่เปนแรงผลักดันใหผมสะพายชุดฝกไปแทบทุกที่เพื่อฝกไอคิโดในทุกประเทศที่ผมไป จน กลายเปนนักไอคิโดพเนจรไปโดยไมรูตัว แตนั่นก็เปนงานหนักพอควรสำหรับการเดินทางไปใน พื้นที่ที่ตนเองไมคุนเคยแถมบางโดโจยังหางไกลออกไปจากโรงแรมที่พักเปนอันมาก ชวนให ลมเลิกความตั้งใจที่จะไปฝกไมนอยเลย โรงฝกไอคิโด ในตางแดนนั้น นอกจากประเทศญี่ปุน แลว สวนใหญที่พอจะ หาไดจากเว็บไซตนั้น มักจะอยูออกไปนอก เมือง ซึ่งมักจะไกล จากที่พักของผมเปน อยางมาก ผมไดไป รวมฝกในหลายๆโดโจ
และลาสุดนี้เองผมไดมีโอกาสไปรวมฝกกับโดโจแหงหนึ่งในประเทศนิวซีแลนด หน้า ๒๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
เมื่อเที่ยวบิน TG491 แตะถึงพื้นสนามบินประเทศนิวซีแลนด ภาระกิจวันนี้ไดเสร็จสิ้น ลงแลว ไฟลทนี้ผมไดมาพักที่นิวซีแลนดเปนเวลา 2 คืน ผมจึงไมพลาดที่จะสงอีเมลลนำรองไป หาโดโจแตละที่กอน เพื่อสอบถามถึงเวลาฝกซอมที่แนนอน รวมถึงศึกษาเสนทางเพื่อไปยังสถาน ที่ฝกซอมแตละแหง ซึ่งเปนที่นายินดีวาในเที่ยวบินนี้ผมไดรวมฝกถึง 2 โดโจในเที่ยวบินเดียว โด โจแรกอยูไมไกลจากโรงแรมนัก ผมเดินเทาไปใชเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แตบทความวันนี้ขอ เลาถึงโดโจอีกแหงหนึ่ง โดโจนี้เปนหนึ่งในสี่สาขา ของ Auckland Aikido Dojo ซึ่งกอตั้งขึ้น โดยทานอาจารย Rosso Fernandez Sensei (6th dan) โดโจ แหงนี้ชื่อวา KOHIMARAMA DOJO เปนโดโจที่ตั้งอยูในโรงยิม ของมหาวิทยาลัย Selwyn College ไมตางกับชมรมไอคิโด มหาวิทยาลัยเชียงใหมแตอยางใด โดโจนี้หางจากโรงแรมออกไป นอกเมืองเดินทางโดยรถยนตใชเวลาครึ่งชั่วโมงโดยประมาณ ผมไดสงอีเมลลติดตอกับทาน Rosso Sensei อาจารยประจำโดโจแหงนี้ กอนที่จะเดิน ทางมาขอรวมฝกดวย อาจารยไดใหการตอบรับผานทางอีเมลลเปนอยางดี อาจารยเปนลูกเรือ ของ Air New Zealand มาเจอนักไอคิโดสายอาชีพเดียวกันจึงเปนที่นายินดียิ่งนัก แตก็ เสียดายที่ผมไมไดรวมฝกซอมภายใตการฝกสอนของทาน เพราะทานตองเดินทางไปปฏิบัติ หนาที่ที่ประเทศอเมริกาในวันเดียวกัน แตทานไดฝากผมไวกับลูกศิษยของทาน นั่นก็คือ Mr. Mark ลูกศิษยของทานคนนี้อายุราวๆ 50 ป ถึงแมวาเราจะไมเคยเจอกันมากอนก็ตาม แต Mr. Mark ก็ใหความสนิทสนมกับผมเปนอยางดีราวกับรูจักกันมานาน ผมกับ Mr. Mark ไดคุย กันไปตลอดทาง และไดทราบวาวันนี้ผูที่จะนำฝกแทน Rosso Sensei คือ Mr. Billy Brown เมื่อเดินทางถึงมหาวิทยาลัย ภายนอกของโรงยิมก็ดูเหมือนโรงยิมทั่วไป แตกาวแรกที่ เขาไปในโรงยิมแหงนี้ผมตองหยุดมองโรงยิมดวยความชื่นชม ภายในโรงยิมตกแตงไดสวยงาม มาก ถึงแมจะมีอุปกรณกีฬาอื่นๆ อยูในโรงยิมเฉกเชนเดียวกับโรงยิมทั่วไปก็ตาม แตไมทำให ความสวยงามของโรงยิมแหงนี้ลดนอยลงไปเลย ภายในตกแตงดวยไมเกือบทั้งหมด เทาที่ผม สำรวจดวยตาเปลาพื้นที่นี้หลังจากปูเบาะเสร็จแลว คงเปนการยากที่จะมีชมรมอื่นจะมารวมใช พื้นที่ในเวลาเดียวกัน ซึ่งทำใหโดโจแหงนี้มีความเปนสวนตัวในการฝกซอมเปนอันมาก
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
เบาะไอคิโดที่ใชปูฝกซอมนั้นถูกเก็บตั้งไวบนฐานรองอลูมิเนียมซึ่งมีลอรองรับอยูภาย ใต ทำใหสามารถลากเลื่อนไปมาเพื่อความสะดวกในการปูและเก็บเบาะ เบาะทั้งหมดถูกคลุม ปดดวยผาใบซึ่งสั่งทำเปนพิเศษ มีซิปรูดที่มุมทั้งสี่ดานเพื่อความเปนระเบียบเรียบรอยเมื่อไมใช งานดูเปนระเบียบยิ่งนัก เบาะที่โดโจนี้เปนแบบจิ๊กซอวคลายเบาะปูแขงขันของเทควันโดดังนั้น จึงไมตองปูปดทับดวยผาใบเพื่อยึดเบาะเขาดวยกันเหมือนกับเบาะประเภทอื่นๆ หลังจากผม ยืนสำรวจโรงยิมซักพัก ผมก็เขาไปแนะนำตัวกับผูนำฝกและทักทายสมาชิกทุกคนซึ่งทุกคนให ความตอนรับผมเปนอยางดีและกันเองมาก เมื่อทุกคนปูเบาะเสร็จก็รีบเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมความพรอมสำหรับการฝกไดอยาง ตรงเวลา ที่ตางประเทศโดยเฉพาะที่ประเทศทางฝงออสเตรเลียกับนิวซีแลนดนั้น ชั่วโมงการ ฝกไอคิโดในแตละชั้นเรียนนั้นคอนขางสั้น เพียงแคชั่วโมงเดียว แมวันนี้ผมจะไดรวมซอมเพียง ชั่วโมงเดียวแตก็เปนชั่วโมงที่สรางความรูสึกประทับใจในการฝกใหกับผมเปนอยางมาก ทุกคน ที่นี่มีความตั้งใจในการฝกเปนอยางดี ไมมีความเครียดในการฝกเลย ทุกคนมีความรูสึกสนุกใน การฝกซอมในทุกเทคนิคที่ Mr. Billy ไดนำสอน ผมคิดวาสิ่งนี้เองที่สรางความสุขในการฝกให กั บ ผมในวั น นั ้ น และเสริ ม สร า ง บรรยากาศที่ดีในการฝกซอมจนแทบ จะลืมไปวาผมกำลังฝกอยูที่โดโจที่ผม เองก็เคยมาฝกที่นี่เปนครั้งแรก หลังจากหมดชั่วโมงฝกซอมแลว เรา ชวยกันเก็บเบาะขึ้นบนลอเข็นแลวคลุม ทับดวยผาใบแลวเข็นเบาะทั้งหมดเขา สูหองพักของมัน ผมไดขออนุญาตผูนำ ฝกเพื่อถายรูปรวมกับนักไอคิโดที่นี่เพื่อ เก็บเปนภาพแหงความประทับใจ และ คิดวาคราวหนาถามีโอกาสผมจะตอง กลับมาที่นี้อีกแนนอน หน้า ๒๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
งานเลี้ยงยอมมีวันเลิกรา ถึงเวลาที่ผมตองเดินทางกลับสูโรงแรมเพื่อเตรียมตัวพัก ผอน และปฏิบัติภาระกิจของผมอีกครั้ง มีสมาชิกของโดโจนี้อีกคนนึงรับอาสาไปสงผมถึง โรงแรม เมื่อถึงโรงแรมผมกาวลงจากรถและกลาวอำลาเพื่อนคนใหมของผม และบอกกับเคา วาวันนี้ผมมีความสุขมากและผมจะกลับมารวมซอมกับทุกคนแนนอนเร็วๆนี้ และนี่ก็เปนอีก หนึ่งเรื่องของนักไอคิโดพเนจรคนนึงที่ไดมีโอกาสใชชีวิตในตางแดนและนำประสบการณเล็ก ๆ นอยๆ กลับมาเลาสูกันฟง ผมหวังวาเรื่องราวของผมจะเปนกำลังใจใหกับนักไอคิโดหลายๆคน ที่จำเปนตองหางหายจากเสนทางของไอคิโดไปชั่วระยะนึง เนื่องจากภาระหนาที่งานที่ตองทำ แตยังฝนถึงเบาะไอคิโดอยูเสมอ ผมเชื่อวาถาเรามุงมั่นกับสิ่งใด เราสามารถใชชีวิตของเรา ควบคูไปกับสิ่งที่เรารักได แลวเราก็จะใชชีวิตของเราอยางมีความสุข
The Art of Peace # ๓๘ เขียนโดย Morihei Ueshiba แปลโดย John Stevens ! Daily training in the Art of Peace allows you inner divinity to shine brighter and brighter. ! Do not concern yourself with the right and wrong of others. ! Do not be calculating or act unnaturally. ! Keep your mind set on the Art of Peace, and do not criticize other teachers or traditions. ! The Art of Peace never restrains, restricts, or shackles anything. It embraces all and purifies everything. John Stevens ไดรวบรวมเอา Doka หรือบทกวีขนาดสั้นของปรมาจารยไวในหนังสือ The Art of Peace ตอมา William McLuskie ไดนำมาลงเผยแพรที่เวบไซต http://omlc.ogi.edu/aikido/talk/osensei/artofpeace/
หน้า ๒๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
ไอคิโดกับตัวฉัน โดย...จามคำ
Z
สวัสดีคะ หนูชื่อนางสาวจามคำ ไมมีชื่อสกุล ชื่อเลนวานิ้ง อายุ 15 ป กำลัง ศึกษาอยูชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/1 โรงเรียนอนุบาลปางมะผา หนูก็ไดมาฝกซอมไอคิโดตั้งแต เรียนอยูชั้นประถมศึกษาปที่ 4 โรงเรียน บานหวยแหง ตอนนั้นหนูไมรูจักและ ไมเคยไดเห็นวาไอคิโดคืออะไร และ อีกอยางโรงเรียนก็อยูไกลทางก็ลำบาก ตอนแรกมีรุนพี่ๆเขามาซอมกันก็อยาก จะมาดวยแตไมไดมาเพราะชวงนั้นหนู อยูชั้นประถมศึกษาปที่ 3 ทางโรงเรียน จึงคัดเลือกเอาเฉพาะรุนพี่ที่ตัวใหญๆ มา ก็รูสึกนอยใจนิดๆคะ กอนที่หนูจะมาซอมจริงๆจังๆหนูก็ไดทำกิจกรรมกับสโมสรผูนำเยาวชนเพื่อการ ศึกษาและพัฒนาชุนชนหรือ สยชช.มากมาย พอไดซอมวันแรกก็เกร็งเต็มที่คะเพราะไม เคยเลนมากอนและกลัวที่จะทำผิดคะ หนูยังจำไดตอนครูยอด (อาจารยวิสุทธิ์) ใหมวน หนา รุนพี่ๆมวนถูกกัน แตหนูสิคะกลับตีลังกาแทนมวนหนา รูสึกวาอายจนแกมแดง เลยคะ(ก็คนมันไมเคยเลนนี่นา) คือตอนนั้นไดมาซอมบางเปนบางครั้งคะ พอมาเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลปางมะผาก็เริ่มซอมเปนประจำอยางตอ เนื่องเพราะมาเชาหออยูติดกับสถานที่ฝกซอมจริงๆคะ ทุกวันนี้หนูไปโรงเรียนเพื่อนมันก็ ลอคะวาไอคิโดที่เธอซอมมาเนี่ยสูมวยไทยก็ไมได แคเขาเตะก็ลมแลว
หน้า ๓๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
Z หนูไดยินแบบนี้แลวหมั่นไสมากคะบางครั้งอยากจะทุมเพื่อนแตก็ทำไมไดหรอกคะ เพราะหนูยึดคำที่วาวิชาไอคิโดไมใชวิชาที่ทำใหผูอื่นบาดเจ็บ สวนเพื่อนตางโรงเรียนเขา อยากมาซอมคะ แตพอมาเห็นพวกหนูซอมแลวก็ถอยกลับทันทีคะ หรือที่เรียกวาใจปลาซิวคะ หนูรูสึกวาพวกหนูที่มาซอมรุนหลังโชคดีมากคะเพราะมีพี่ๆจากรายการมดคันไฟมา ถายทำก็เขินนิดๆคะ เพราะถูกถายทอดออกอากาศเปนครั้งแรกดวย และตอนเดือน พฤศจิกายนที่ผานมาก็ไดมีโอกาส แสดงไอคิโดใหกับผูที่ไมเคยซอม ไมเคยเห็นไดดูคะ ครั้งนี้ตื่นเตนมากเลยเพราะไดแสดง กับจังหวะดนตรีคะและคนดูเยอะดวย ขอ ตกลงของการแสดงโชวของเราวันนี้คือ ถา แสดงจบเมื่อไหรแลวคนดูปรบเสียงดัง เราก็ จะไดกินเลี้ยงกันคะ และแลวพอแสดงจบ ผลก็ออกมาวา.....โอเค...ไดกินเลี้ยงกันคะ ที่กินเลี้ยงกันก็เปนหมูกะทะนั่นเอง และที่ พิเศษคือไดรองคาราโอเกะดวย สวนหมู กระทะนั้นพวกเราจัดเตรียมเครื่องปรุงไปเอง แคไปซื้อเนื้อเขาอยางเดียวคะ ตอนนี้หนูคิดวาตัวหนูเองถาตองเดินทางคนเดียวก็ รูสึกมั่นใจเพราะเรามีวิชาวิเศษอยูในตัวจะกลัวอะไรคะ Z ขนาดผูใหญบางคนยังไมไดมาซอมแบบเราเลย ถือวาโชคดีมากเลยคะที่มีโอกาสไดซอมวิชาไอคิโดนี้Z สุดทายนี้ขอขอบคุณครูยอดและผอ.พิมุข ครูเกาของ หนูที่อยูโรงเรียนบานหวยแหงที่เปดโอกาสใหคนไมมี สัญชาติอยางหนูและเพื่อนไดมาซอมแบบนี้ พรอมทั้ง ทุกทานที่ไดมาซอมไอคิโดรวมกัน ขอบคุณคะ หน้า ๓๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
สังคมสันติสุข
เรียบเรียงโดย.... นฤมล ธรรมพฤกษา
! บทความนี้จะพาชาวไอคิโดม.ช.ไปพบกับงานศิลปะสองชิ้น ชิ้นแรกคือภาพวาด ชื่อ The Peaceable Kingdom ของเอดวารด ฮิคส ศิลปนโฟลคอารตชาวอเมริกัน ชิ้นที่สองคืองานประติมากรรมของ บิล รีด ศิลปนชนเผาพื้นเมืองแคนาดา ชื่อ The Spirit of Haida Gwai ทั้งคูเปนโลกทรรศนที่ศิลปนมองโลกที่สงบสันติแตกตางกัน
The Peaceable Kingdom (1826) หน้า ๓๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
+ เอดวารด ฮิคส ศิลปนโฟลคอารต ชาวอเมริกัน (Edward Hicks) ไดวาดภาพ ชื่อ The Peaceable Kingdom และได กลายเปนภาพวาดที่เปนที่นิยมอยางสูงมี คนวาดเลียนแบบตามมากมาย ในภาพวาดของเขาแบงเปนสองสวน ! สวนขวาเปนภาพสัตวปานักลาดุ รายท้ังหลายนอนพักสงบในสวนสวยรวมกัน กับสัตวเลี้ยงแสนเชื่อง ที่อาจจะตกเปน เหยื่อของพวกมันไดทุกเมื่อ มีเด็กเล็กๆสาม คนเลนอยูกับสัตวเหลานั้น เด็กคนหนึ่งเอา มือโอบคอเสือไว ! ในภาพดานซาย เปนคนสองกลุมกำลัง ยืนลอมวงพูดคุยกัน กลุมหนึ่งคือชนพื้นเมือง อเมริกัน อีกกลุมคือผูตั้งถิ่นฐานจากยุโรป ในรูป มีชายคนหนึ่งที่ศิลปนวาดดวยความตั้งใจใหเปน วิลเลียม เพนน (William Penn : 1644-1718) ที่ กำลังทำสนธิสัญญากับชนเผาพื้นเมือง ! วิลเลียม เพนน เปนผูที่ทำใหนิกายเควกเกอร (Quaker) หรือสมาคมมิตรภาพ (Society of Friends) แพรหลายในอเมริกาโดย โดยเฉพาะในรัฐเพนซิลเวเนียเปนดิน แดนแหงแรกที่เพนนไดมาตั้งรกรากและทำการเผยแพรศาสนา นิกายเควกเกอรนี้ ตองการรื้อฟนศาสนาคริสตแบบดั้งเดิม จึงเนนประสบการณตรงในการเขาถึงพระเจาโดย ใชแสงสวางที่เกิดขึ้นภายใน (inner light) และเนนเรื่องการอยูรวมกันอยางสันติในโลก มนุษย ! ภาพวาดของฮิคสมักจะใชสัตวเปนสัญลักษณเปรียบเปรยถึงบุคลิกลักษณะตางๆ ของมนุษย สิงโตเปนตัวแทนของความใจรอนวูวามและดุรายปาเถื่อน หมาปาแทนความ ครุนคิดและสงวนทาที หมีแทนความเกียจครานเอื่อยเฉื่อยและความละโมบ และเสือดาว แทนความเบิกบาน นอกจากคุณสมบัติที่กลาวมาขางตน สัตวปายังเปนอุปมาของความ โหดรายรุนแรง ความโกรธแคน ความทะนงตน ความโลภและอื่นๆอีกมากมาย
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
! ในภาพ The Peaceable Kingdom นี้ นำเสนอความสมดุลที่ละเอียดออนตอประเด็นที่ แกปญหาไมไดงายๆ ซึ่งก็คือการอยูรวมกันอยาง สงบสุขของมวลมนุษยชาติและสรรพสิ่งบนโลก นี่ คือโลกแหงความหวัง ความหวังที่วูบวาบที่ศิลปน คิดวาเปนไปได หากความปาเถื่อนของสันดาน ดิบไรการควบคุมของมนุษยไดสยบสงบลง จนแม กระทั่งแกะตัวนอยไรพิษสงสามารถนอนลงเคียง ขางหมาปาผูลาได โลกที่สิงโตยืนเคี้ยวเอื้องรวม กับวัวที่กำลังสงหญาให และเด็กนอยเปนเสมือนความ หวัง เปนแนวทางแหงอิสรภาพ เสรีภาพ และภารดร ภาพ ! ในขณะที่มีคนวิจารณวาภาพนี้มีนัยยะทาง ศาสนามากเกินไปหรือดูเปนคริสเตียนมากเกินไป เพราะดูเสมือนกับวาแผนดินของพระเจามาปรากฏบนโลกของมนุษย แตมันไมมีทางที่จะ เปนไปไดเพราะผิดธรรมชาติ สิงโตก็ตองกัดวัว เสือก็ตองกัดเด็ก พวกคนยุโรปที่มาตั้ง ถิ่นฐานใหมในอเมริกาก็ตองฆาอินเดียนแดง ฮิคสฝนเฟองไปหรือเปลาเพราะธรรมชาติ นั้นเต็มไปดวยความรุนแรง ! แตไมวาฮิคสจะตั้งใจหรือไมก็ตาม ดวยความที่ เขาเปนเควกเกอรที่รักสันติภาพก็อาจจะสงอิทธิพลตอภาพ วาดของเขา และภาพก็อาจจะไมไดหมายถึงสวรรคแตเปน สันติสุขที่ควรเกิดขึ้นบนโลกนี้ก็ได ภาพนี้อาจจะไมใชโลกที่ “เปนไปได” (possible) แตเปนโลกที่ “อยากจะใหเปน” (desirable) ฮิคสเสนอวา ธรรมชาตินั้นสามารถอยูรวมกันโดย สงบสุขได และไมใชแตเฉพาะมนษยเทานั้น แตทุกเผาพันธุ บนโลกดวย และถามนุษยอยากใหเปนเชนนั้น เราก็ตอง รวมกันทำงานหนัก โลกเชนนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได หน้า ๓๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
The Spirit of Haida Gwai + เปนประติมากรรมที่สรางขึ้นโดยศิลปนชื่อ บิล รีด (Bill Reid : 1920 – 1998) รีดเปนชนเผาไฮดากไว (Haida Gwaii) ซึ่งอยูอาศัยทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ ประเทศแคนาดาและในอลาสกา ! รูปประติมากรรมของเขารูปแบบเดียวกันนี้สรางขึ้นหลายชิ้น ชิ้นแรกหลอดวย ทองเหลืองทาสีดำชื่อ The Black Canoe ตั้งอยูที่ดานหนาของสถานทูตแคนาดา กรุง วอชิงตันดีซี ชิ้นที่สองเปนทองเหลืองทาสีเขียวชื่อวา The Jade Canoe อยูที่สนามบิน นานาชาติแวนคูเวอร ! รูปปนนี้แสดงใหเห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมของชาวไฮดากไว ซึ่งจะขุดเรือแคนู ที่มีความยาวถึงหกเมตรขึ้นมาจากตนสนซีดารทั้งตน ในเรือแคนูนั้นประกอบดวยผู โดยสารหลายคนคือ หน้า ๓๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
! ราเวน หรืออีกา เปนจอมปวนในนิยายปรัมปรา ของชาวไฮดา ในภาพนี้เขาคัดทายเรืออยู (แมวาจะเปน จอมเจาเลห แตเขาก็เปนวีรบุรุษในตำนาน ราเวนเปนผู ที่ปลอยดวงอาทิตยออกจากกลองเล็กๆรวมทั้งสรางดวง จันทรและดวงดาว เขาปลอยมนุษยคนแรกออกมาจาก เปลือกหอยแครงบนหาดทราย อีกเรื่องหนึ่งเลาวา รา เวนสรางมนุษยข้ึนมาจากดินก็เพราะเขาอยากใหมีคน เยอะแยะมางานปารตี้ที่เขาจัดขึ้น) ใตปกของราเวนมีหนูตัวเมียแอบซอนอยู ตาม ตำนานของไฮดา หนูตัวนี้คือผูนำทางและคอยใหคำ แนะนำแกคนที่เดินทางจากโลกมนุษยไปยังโลกหนา ! ที่หัวเรือเปนหมีสีน้ำตาลนั่งจองเขม็งมาที่ ราเวน ถัดมาคือเมียมนุษยของหมีสีน้ำตาลอุมลูกหมี สองตัว รีดเรียกพวกเขาวา หมีด(ี หูชี้ไปขางหนา) และ หมีราย(หูชี้ไปขางหลัง) ถัดจากผูหญิงเปน ตัวบีเวอรผูเปนลุงของ ราเวน ในตำนานเลา วาชวงที่โลกเพิ่งจะ กำเนิดใหมๆ บีเวอร จะนั่งอยูที่ใตทองทะเล เก็บกักน้ำจืดและปลา ทั้งหมดโลกเอาไว ดานหลังของบี เวอรเปนผูหญิงครึ่งคนครึ่ง ฉลามพายนั่งเรืออยู หน้า ๓๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
หากมองจากอีกดานหนึ่ง จะเห็นวา ถัดจากหมีสีน้ำตาล เปนนกอินทรี ที่กำลังคาบแขน ของหมีอยู ใตจงอยนก เปน กบ เกาะ อยูที่กาบเรือ บางครั้งก็ กระโดดเขา กระโดดออกจากเรือ ! ดานหลังของนกอินทรีเปนหมาปา ที่ตีนหนึ่งกำลังตะปบหลังบีเวอรสวนฟนก็ฝง อยูที่ปกของนกอินทรี ดานหลังของหมาปาเปนผูชายตัวเล็กแตงตัวแบบชาวไฮดา ! ! รีดเรียกเขาวา “ความไมเต็มใจในการกะเกณฑที่โบราณ” เขาพายเรืออยางแข็ง ขัน หนาเรียบเฉย ไมเคยพร่ำบนอะไรเลย !
ที่กลางเรือเปนจุดศูนยกลางของรูปประติมากรรม เปนรูปชาย ฉกรรจตัวใหญโต เขายืนทะมึนสวมเสื้อคลุมและหมวกสาน สวยงามประณีต ถือไมพลองยาวแกะสลักเปนรูปหมี ราเวน และปลาวาฬเพชรฆาต และสมาชิกทุกคนบนเรือ เสานี้เปน เสมือนเสาค้ำยันโลกมนุษยตามคติของชาวไฮดา ชายผูนี้คือ หมอผี หรือ Kilstlaai ในภาษาไฮดา ชายคนนี้ดู เหมือนจะเปนคนสำคัญ เปนเสมือนผูนำ แตเขากลับไมชี้นำ อะไรเลย ไมพูดอะไร ไมบอกใหไปซายหรือไปขวา
! รีดอธิบายวา หนาที่ของเขาก็คือเปน “เสาหลัก” เปน หนาที่ที่สำคัญที่สุดบนเรือ ซึ่งก็คือ เปนจุดศูนยกลางของทุกชีวิตบนเรือ จุดที่ทุกคนรวม กันเปนหนึ่ง และเกิดความรูสึกวาตนเองเปนสวนหนึ่งของเรือลำนี้ หน้า ๓๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
! เรือแคนูลำนี้ พวงผูโดยสารที่มีทั้งอีกาและนกอินทรี ผูหญิงและผูชาย คนรวยและ คนจน สัตวและมนุษย เบียดเสียดยัดเยียดกันอยูในเรือ ทุกคนมีสิทธิเทาเทียมกัน แมแต หมาปาที่ชอบทำรายคนอื่นก็ยังพายไปกัดไป นกอินทรีที่ขยันพายแตเมื่อถูกหมาปากัดก็ เลยไปกัดคนอื่นตอ แตไมวาพวกเขาจะแตกตางกันแคไหน มีความขัดแยงกันมากนอย เพียงใด และตางกอความเดือดรอนรำคาญใหกับกันและกันอยางไร พวกเขาก็ยังคงชวยกัน พายเรือ พวกเขาตางก็พึ่งพากันและกัน เพื่อที่จะยังคงมีชีวิตอยูได ! เรือที่กำลังลองลอยไปยังที่แหงหนึ่ง ไมมีใครรูวาจะไปที่ไหน ไมมีใครคาดเดาอะไร ไดเพราะราเวนจอมปวนเปนผูคัดทายเรือ แตถึงแมวาราเวนจะกำหนดทิศทางเรือได แต เขาไมสามารถทำใหเรือเคลื่อนไปขางหนาไดหากไมมีคนรวมกันพาย !
แตอยางไรก็ตาม พวกเขาก็ไปดวยกัน
! เรือก็เปนดังสังคมโลก สังคมจะเคลื่อนไปทางไหนก็ขึ้นกับสมาชิกที่ชวยกันนำพา กันไป สมาชิกแตละคนมีความคิดตางกัน มีหนาที่ตางกัน มีความรักความชอบตางกัน และ มีบุคลิกลักษณะตางกัน คนเราไมจำเปนตองเหมือนกันก็ไดแตสามารถอยูรวมกันไดโดยยัง คงอัตลักษณของตนเองอยู ! ที่สำคัญคือทุกคนรูวาตนเองอยูบนเรือ เปนสวนหนึ่งของกลุมและแนใจวาเรือที่ ตนเองโดยสารไปจะไมลม แมกระทั่งกบที่กระโดดเขากระโดดออกก็ยังรูตัววาเปนสมาชิก กลุม เขารูวาจะไดรับการตอนรับเมื่อเขากลับมาเสมอ บางทีเขาอาจจะอยูนอกเรือ แตเขาก็ ไมลมเรือ ! สมาชิกทุกคน อาจจะไมไดตัดสินใจวาเรือจะแลนไปทิศทางใด ไมรูวาควรจะมีเปา หมายอยูที่ใด เปนเปาหมายเดียวหรือหลายเปาหมาย ขอเพียงแตเรือไมลมก็พอ เพราะ หากเรือไมลม เราก็ยังมีความเปนไปไดที่จะตัดสินใจอะไรๆรวมกันไดตอไปในอนาคต คนที่ฝกไอคิโด เขามีโลกทรรศนของสังคมสันติสุขแบบไหนนะ บทความนี้เปนการสรุปความตอนหนึ่งจากการเรียนในวิชา Peacebuilding as a Philosophical Enterprise สอนโดยอ.มารค ตามไท ภาควิชาศาสนา วัฒนธรรมและสันติภาพมหาวิทยาลัยพายัพ หน้า ๓๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
!
สุภาษิตโกะกับขาพเจา (๘)
โดย Nounours’ Mom
<http://NounoursMom.hi5.com>
! “ขาพเจาเปนเพียงผูเริ่มฝกหัดเลนโกะเทานั้น และยังโงเขลาที่จะเขาใจแกนแทของโกะอยางลึกซึ้ง แตถาเปนจิตวิญญาณของไอคิโดแลว ขาพเจาไม ปฏิเสธเลยวามันเปนธรรมชาติและชีวิตของขาพเจา ไปแลว ! จากหนังสือ โกะ อัจฉริยะเกมแหงพิภพ โดย วันชัย ประชาเรือง วิทย ที่ขาพเจาไดรับมาจาก เพื่อนผูหนึ่ง ทำใหขาพเจา พบสุภาษิตโกะบางขอที่จุด ประกายความคิดใหขาพเจา ไดเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพื่อเผยแพรสุภาษิตโกะ ที่ ขาพเจาเห็นวาสอดคลอง กับหลักไอคิโดที่ขาพเจา ยึดถือเปนแนวทางในการใชชีวิตอยางสงบสุขตาม ความเขาใจของขาพเจา โดยมิไดยึดติดวาผูใดจะ ตองเห็นดวย”
“หากเอาชนะไมได จงยอมตาย อยางหาวหาญ” หมากกระดาน ”โกะ” หรือ “หมากลอม” ถูกสรางสรรคขึ้นโดยเหลาอัจฉริยะแหงเตาใน ยุคโบราณ การเลน “โกะ” หรือ “หมากลอม” นี้เปนวิธีการศึกษาหลักของเตาอยางเปนรูป ธรรม ใหเขาใจถึงธรรมชาติ ใหดำเนินชีวิตได สอดคลองและหลอมรวมเปนหนึ่งเดียวกับ ธรรมชาติ
การเดินหมากแตละเม็ดบนกระดาน ตองเดินอยางละมัดระวังอยางมีสติ เพราะ หนึ่งหมากคือหนึ่งโอกาส หนึ่งหมากคือหนึ่ง ลมหายใจ หนึ่งการเคลื่อนไหวของหมากบน กระดานในแตละครั้ง สามารถสงผลสะเทือน ตอสถานการณโดยรวมทั้งหมดบนกระดาน การพบความพลิกผันเกิดขึ้นไดทุกการเคลื่อนไหว ไมใชเพียงการเคลื่อนไหวบนกระดานและสภาวะแวดลอมเทานั้น แตรวมไปถึงแมการกระเพื่อม ของการหายใจของตัวเราเองดวย ดังนั้น เราจึงไมสามารถรูความเปนไปทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นบน กระดานไดโดยสมบูรณ ไมวาจะเกิดผลตามมาเชนใด เราพึงยอมรับใหได พึงปรับตัวใหยอมรับ ความผกผันเหลานี้ใหเต็มที่ที่สุด และพึงรำลึกวาผลแหงชัยชนะ เปนเพียงผลพลอยไดที่เกิดจาก การรับมือกับความแปรผันตางๆที่ผานเขามาไดอยางสมบูรณแบบเทานั้น
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
! จากบทความ”ไอคิโด (Aikido) คืออะไร?” ของทานอาจารยสมบัติ ตาปญญา อาจารยที่ปรึกษาของชมรมไอคิโดมหาวิทยาลัยเชียงใหม ทำใหพบวา ! การฝกไอคิโดก็มีหลักการคลายๆกับหมาก กระดานโกะ คือ การฝกไอคิโดเพื่อพัฒนาศักยภาพ ของตนในการรับมือกับความพลิกผันตางๆที่เกิดขึ้นบน เบาะ และเกิดขึ้นในการใชชีวิต โดยผานการฝก เทคนิคตางๆของไอคิโด ซึ่งจะเห็นวาการเลน(ฝกฝน) ไอคิโดและโกะแทจริงแลว เปนการฝกฝนพัฒนาตน จากภายใน(จิตใจ)สูภายนอก(รางกาย) ผูที่สามารถ รับมือกับความพลิกผันตางๆในชีวิตไดดีนั้น จะตอง เปนผูที่สามารถควบคุมจิตใจ ความรูสึก และความ ตองการของตนไดอยางสอดคลองและมีความหนัก แนนไมหวั่นไหวตอสิ่งที่มากระทบทั้งภายใน(จิตใจ)และ ภายนอก(รางกาย) ! นอกจากนี้ อาจารยสมบัติยังไดกลาวถึง “มูซูบิ (Musubi)” ที่ถือวาเปนหัวใจของไอคิโด คือ ความเปนน้ำหนึ่งเดียวกัน (Unity) โดย”การมีปฏิสัมพันธอยางกลมกลืน (Hamonious interaction)” ซึ่งในทางปฏิบัติก็คือ การพัฒนาตนเองใหสามารถควบคุมอยางสมบูรณแบบทั้งรางกาย และจิตใจใหสอดคลองกับพลัง ความพลิกผัน และความเคลื่อนไหวที่เขามากระทบ ทั้งภายนอก (รางกาย) และภายใน (จิตใจ) ซึ่งมักลงเอยดวยความสงบสุข (ความพึงพอใจในผลลัพธดวย ความรูสึกที่เปนบวก) ! หากยิ่งพิจารณาใหลึกซึ้งยิ่งขึ้น “มูซูบิ (Musubi)” ยังมีหลักการที่คลายกับเตา คือ การ บรรลุถึงความเปนหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง ดังนั้น ความสำคัญจึงอยูที่กระบวนการที่ไดดำเนินไป หาใชผลลัพธแหงการบรรลุเปาหมาย (ไมวาเปนความปราชัย หรือความมีชัย) ในการเลน(ฝก)ไอคิโดและโกะ หากเราสามารถควบคุมตัวเองทั้งภายใน(จิตใจ)และ ภายนอก(รางกาย) ใหสามารถควบคุมการปฏิสัมพันธกับสรรพสิ่งที่ลอมรอบตัวเราใหชีวิตดำเนิน ตอไปได ผลลัพธที่เกิดขึ้นยอมเปนสิ่งที่ดีตอทุกฝายไมวาเปนฝายแพหรือฝายชนะและทุกสรรพสิ่ง *
หน้า ๔๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
¼ผÙู¡ก¾พÑั¹น¡กÃรÐะÊสÑั¹นáแ¹นè่¹นàเËห¹นÕีÂยÇว
âโ´ดÂย... «ซ×ื Íอàเ»ปë๋
¡กÒาÃร¨จÐะ·ทÓำ¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁม§งÒา¹นãใ´ดãใËหé้àเªชÕีè่ÂยÇวªชÒาÞญ ¨จÓำàเ»ปç็¹นµตé้Íอ§งÁมÕี¡กÒาÃร½ฝÖึ¡ก½ฝ¹น ÍอÂยè่Òา§งµตè่Íอàเ¹น×ืè่Íอ§งáแÅลÐะÊสÁมè่ÓำàเÊสÁมÍอ ÈศÔิÅล»ปÐะäไÍอ¤คÔิâโ´ด¡กç็àเªชè่¹นàเ´ดÕีÂยÇว¡กÑั¹น äไÁมè่äไ´ดé้àเ»ปç็¹น¢ขé้ÍอÂย¡กàเÇวé้¹น ¨จÒา¡ก·ทÄฤÉษ¯ฏÕี´ดÑั§ง¡กÅลè่ÒาÇวáแµตè่»ปÃรÐะ¡กÒาÃรãใ´ด ËหÅลÑั¡กÊสÓำ¤คÑัÞญ»ปÃรÐะ¡กÒาÃรËห¹นÖึè่§ง¢ขÍอ§งÈศÔิÅล»ปÐะäไÍอ¤คÔิâโ´ด¤ค×ืÍอ¤คÇวÒาÁม ¡กÅลÁม¡กÅล×ื¹น¡กÑัºบ¤คÙูè่½ฝÖึ¡กËหÃร×ืÍอ¤คÙูè่µตè่ÍอÊสÙูé้ ¡กÒาÃร¨จÐะàเ¢ขé้Òา¶ถÖึ§งáแ¡กè่¹น´ดÑั§ง¡กÅลè่ÒาÇวÅลé้Çว¹น¡กÓำàเ¹นÔิ´ด¨จÒา¡ก¡กÒาÃร½ฝÖึ¡ก½ฝ¹นÍอÂยè่Òา§งäไÁมè่Âยè่Íอ·ทé้Íอ ªชÁมÃรÁมäไÍอ¤คÔิâโ´ดáแËหè่§งÁมËหÒาÇวÔิ·ทÂยÒาÅลÑัÂยàเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่ áแÅลÐะªชÁมÃรÁมäไÍอ¤คÔิâโ´ดáแËหè่§ง¨จØุÌฬÒาÅล§ง¡กÃร³ณì์ÁมËหÒาÇวÔิ·ทÂยÒาÅลÑัÂย ÁมÕี ¤คÇวÒาÁมÃรè่ÇวÁมÁม×ืÍอ´ดé้Òา¹น¡กÒาÃร½ฝÖึ¡กÃรè่ÇวÁม¡กÑั¹นÁมÒาËหÅลÒาÂย»ปÕี âโ´ดÂย¨จÐะ¼ผÅลÑั´ดàเ»ปÅลÕีè่Âย¹นËหÁมØุ¹นàเÇวÕีÂย¹น¡กÑั¹นàเ»ปç็¹นàเ¨จé้ÒาÀภÒา¾พ »ปÕีÅลÐะ ñ๑ ¤คÃรÑัé้§ง âโ´ดÂยãใ¹น»ปÕี ò๒õ๕õ๕ó๓ ¹นÕีé้¨จØุÌฬÒาÅล§ง¡กÃร³ณì์ÁมËหÒาÇวÔิ·ทÂยÒาÅลÑัÂยàเ»ปç็¹นàเ¨จé้Òาºบé้Òา¹น àเ»ปÔิ´ดàเºบÒาÐะµตé้Íอ¹นÃรÑัºบÊสÁมÒาªชÔิ¡กªชÒาÇว àเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่ãใËหé้àเÂยÕีè่ÂยÁมàเÂย×ืÍอ¹นÍอÂยè่Òา§งÍอºบÍอØุè่¹นãใ¨จ «ซ×ืÍอàเ»ปë๋áแÁมé้¨จÐะàเ»ปç็¹นÊสÁมÒาªชÔิ¡กãใËหÁมè่¢ขÍอ§งàเºบÒาÐะ áแµตè่¡กç็äไ´ดé้ÃรÑัºบÍอÒา¹นÔิÊส§ง¦ฆì์ àเ¢ขé้Òา Ãรè่ÇวÁม½ฝÖึ¡กãใ¹น¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁม´ดÑั§ง¡กÅลè่ÒาÇว´ดé้ÇวÂย àเËหÁม×ืÍอ¹นàเ»ปç็¹น¸ธÃรÃรÁมàเ¹นÕีÂยÁม¢ขÍอ§ง«ซ×ืÍอàเ»ปë๋ ·ทÕีè่µตé้Íอ§งàเÃรÔิè่ÁมàเÅลè่ÒาµตÑัé้§งáแµตè่ÍอÍอ¡กàเ´ดÔิ¹น·ทÒา§ง (¨จÐะäไ´ดé้àเ»ปÅล×ืÍอ§ง¡กÃรÐะ´ดÒาÉษ áแÅลÐะ¤คè่ÒาµตÑัÇว·ทÕีè่àเ¾พÔิè่Áม¢ขÖึé้¹น) ¾พÅล¾พÃรÃร¤คÃรÑั¡กàเÍอÂย (ÍอÕี¡กáแÅลé้Çว – ·ทØุ¡ก§งÒา¹น) áแºบè่§งÍอÍอ¡กàเ»ปç็¹น ò๒ ÃรÍอºบ µตÒาÁม¤คÇวÒาÁมÊสÐะ´ดÇว¡ก ãใ¹น¡กÒาÃรàเ´ดÔิ¹น·ทÒา§ง ¡กÅลØุè่ÁมáแÃร¡กàเ´ดÔิ¹น·ทÒา§ง¨จÒา¡ก¨จÑั§งËหÇวÑั´ดàเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่ãใ¹น¤คè่Óำ¢ขÍอ§งÇวÑั¹น¾พÄฤËหÑัÊสºบ´ดÕี Êสè่Çว¹นÍอÕี¡ก¡กÅลØุè่Áมàเ´ดÔิ¹น ·ทÒา§งãใ¹นàเªชé้Òา¢ขÍอ§งÇวÑั¹นÈศØุ¡กÃรì์ ¹นÑัºบâโ´ดÂยÃรÇวÁมÊสØุ·ท¸ธÔิÊสÁมÒาªชÔิ¡กäไ´ดé้¨จÓำ¹นÇว¹นÃรÒาÇว æๆ ó๓ð๐ ¤ค¹น âโ´ดÂย«ซ×ืÍอàเ»ปë๋ÍอÂยÙูè่ãใ¹น¡กÅลØุè่Áม áแÃร¡ก¤คÃรÑัºบ ÍอÂยè่ÒาãใËหé้«ซ×ืÍอàเ»ปë๋µตé้Íอ§งºบÍอ¡กàเÅลÂย¤คÃรÑัºบÇวè่ÒาàเÃรÒา·ทÓำ¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁมÍอÐะäไÃร¡กÑั¹นºบé้Òา§งÃรÐะËหÇวè่Òา§งàเ´ดÔิ¹น ·ทÒา§ง àเ¡กÃร§งÇวè่ÒาËหÒา¡กàเÅลè่Òาäไ»ปáแÅลé้Çว«ซ×ืÍอàเ»ปë๋¨จÐะäไÁมè่»ปÅลÍอ´ดÀภÑัÂยãใ¹นªชÕีÇวÔิµตáแÅลÐะ·ทÃรÑั¾พÂยì์ÊสÔิ¹น¨จÒา¡ก¼ผÙูé้·ทÕีè่ àเ¡กÕีè่ÂยÇว¢ขé้Íอ§ง àเÍอÒาàเ»ปç็¹นÇวè่ÒาÃร¶ถµตÙูé้âโ´ดÂยÊสÒาÃร¢ขÍอ§ง¡กÅลØุè่ÁมáแÃร¡ก·ทÑัé้§ง ò๒ ¤คÑั¹นáแÇวÐะ·ทÕีè่»ปÑัé้Áม¹นé้ÓำÁมÑั¹นÍอÂยÙูè่ºบè่ÍอÂย¤คÃรÑัé้§ง ·ทÑัé้§งàเ¾พ×ืè่ÍอàเµตÔิÁมàเÊสºบÕีÂย§งáแÅลÐะ¶ถè่ÒาÂยàเÊสºบÕีÂย§ง·ทÒา§ง¹นé้Óำ
หน้า ๔๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
Ãร¶ถµตÙูé้¢ขÍอ§งàเÃรÒา¶ถÖึ§งºบÒา§ง¡กÍอ¡ก (¡กÓำÅลÑั§งÍอÔิ¹น¡กÑัºบàเ¹น×ืé้Íอàเ¾พÅล§ง) µตÍอ¹นÃรÒาÇว æๆ ø๘ âโÁม§งàเªชé้Òา àเÃรÒาáแÇวÐะ¾พÑั¡ก·ทÕีè่ âโÃร§งáแÃรÁม (ËหÒา¡ก¨จÐะàเÃรÕีÂย¡กàเªชè่¹น¹นÑัé้¹น) ¡กè่Íอ¹นÍอÍอ¡กàเ´ดÔิ¹น·ทÒา§งÁมØุè่§งËห¹นé้ÒาÊสÙูè่àเÁม×ืÍอ§งËหÑัÇวËหÔิ¹น ¶ถÔิè่¹นÁมÕีËหÍอÂย àเ¾พ×ืè่Íอ»ปÅล´ด»ปÅลè่ÍอÂย ¤คÇวÒาÁมÍอÂยÒา¡ก¢ขÍอ§งÊสÁมÒาªชÔิ¡ก ¡กè่Íอ¹น¡กÅลÑัºบ ÊสÁมÒาªชÔิ¡กºบÒา§ง·ทè่Òา¹น·ทÔิé้§งÃรÍอÂยàเ·ทé้Òา ºบÒา§ง·ทè่Òา¹น½ฝÒา¡กÃรÍอÂยÁม×ืÍอ ºบÒา§ง·ทè่Òา¹น½ฝÒา¡ก ÃรÍอÂยâโÅลËหÔิµตàเ»ปç็¹น·ทÕีè่ÃรÐะÅลÖึ¡กáแÅลÐะÃรÐะ·ทÖึ¡กäไÇวé้·ทÕีè่ªชÒาÂยËหÒาÂยËหÑัÇวËหÔิ¹นäไÇวé้´ดÙูµตè่Òา§งËห¹นé้Òา àเÃรÒาáแÇวÐะ·ทÑั¡ก·ทÒาÂย¹นÑั¡กäไÍอ¤คÔิâโ´ดÍอÒาÇวØุâโÊส ÃรÐะËหÇวè่Òา§ง·ทÒา§ง¡กÅลÑัºบ¡กè่Íอ¹น¨จÐะËหÒาÍอÒาËหÒาÃรÅล§ง·ทé้Íอ§งáแÅลÐะ¡กÅลÑัºบÊสÙูè่Ëหé้Íอ§ง¾พÑั¡กàเ¾พ×ืè่Íอ¾พÑั¡ก¼ผè่Íอ¹น ¤คè่ÓำÇวÑั¹น¹นÑัé้¹นÃร¶ถµตÙูé้ÍอÕี¡ก¤คÑั¹น·ทÕีè่ àเ´ดÔิ¹น·ทÒา§งµตÒาÁมÁมÒาãใ¹นÀภÒาÂยËหÅลÑั§ง¡กç็äไ´ดé้ÁมÒาÊสÁม·ทºบ¡กÑั¹น·ทÕีè่¡กÃรØุ§งàเ·ท¾พÏฯ
ÇวÑั¹น·ทÕีè่ ò๒ ¢ขÍอ§ง¡กÒาÃรÍอÂยÙูè่¡กÃรØุ§งàเ·ท¾พÏฯ «ซ×ืÍอàเ»ปë๋áแÅลÐะ¾พÅล¾พÃรÃร¤ค·ทÑัé้§งËหÁม´ดÁมØุè่§งËห¹นé้ÒาÊสÙูè่¨จØุÌฬÒาÅล§ง¡กÃร³ณì์ÁมËหÒาÇวÔิ·ทÂยÒาÅลÑัÂย ÁมÕี¡กÒาÃรÅล§ง·ทÐะàเºบÕีÂย¹นáแÅล¡ก¢ขÍอ§ง·ทÕีè่ÃรÐะ·ทÖึ¡ก àเÍอé้Âย ÃรÐะÅลÖึ¡ก¡กÑั¹นÊส¹นØุ¡กÊส¹นÒา¹น «ซ×ืÍอàเ»ปë๋äไ´ดé้ÃรÑัºบ¡กÃรÐะàเ»ปë๋ÒาÊสÐะ¾พÒาÂย¢ขé้Òา§งÊสÕีàเËหÅล×ืÍอ§งÍอë๋ÍอÂย àเ»ปç็¹น¢ขÍอ§ง¡กÓำ¹นÑัÅล ºบ·ท½ฝÖึ¡กãใ¹นªชè่Çว§งàเªชé้Òา¢ขÍอ§งÇวÑั¹นäไ´ดé้ÃรÑัºบàเ¡กÕีÂยÃรµตÔิ¨จÒา¡ก¾พÕีè่¸ธ§งªชÑัÂย ¹นÑั¡กäไÍอ¤คÔิâโ´ดÊสÒาÂยÊสÙู§งáแËหè่§งàเºบÒาÐะ¨จØุÌฬÒาÏฯ àเ»ปç็¹น ¼ผÙูé้¹นÓำ½ฝÖึ¡ก àเ·ทè่Òา·ทÕีè่¨จÓำäไ´ดé้ ÊสÒาÃรÐะ¢ขÍอ§ง¡กÒาÃร½ฝÖึ¡กãใ¹นªชè่Çว§งàเªชé้Òาàเ»ปç็¹นàเÃร×ืè่Íอ§ง¢ขÍอ§ง¤คÇวÒาÁม¼ผè่Íอ¹น¤คÅลÒาÂย ãใ¹นªชè่Çว§งºบè่ÒาÂยàเÃรÒาäไ´ดé้ÃรÑัºบ àเ¡กÕีÂยÃรµตÔิ¨จÒา¡ก “»ปë๋Òา’ºบÑัµตÔิ” ÍอÒา¨จÒาÃรÂยì์¨จÒา¡กàเºบÒาÐะ Áมªช. ¢ขÍอ§งàเÃรÒาàเ»ปç็¹น¼ผÙูé้¹นÓำ½ฝÖึ¡ก ÊสÒาÃรÐะÊสÓำ¤คÑัÞญ¢ขÍอ§งªชè่Çว§ง¹นÕีé้àเ»ปç็¹นàเÃร×ืè่Íอ§ง¢ขÍอ§ง ¡กÒาÃรÍอè่Òา¹นáแÃร§ง áแÅลÐะÊสÃรé้Òา§ง¤คÇวÒาÁม¡กÅลÁม¡กÅล×ื¹น¡กÑัºบáแÃร§ง·ทÕีè่¶ถÙู¡กÊสè่§งÁมÒา ãใ¹นªชè่Çว§งàเÂยç็¹นàเ»ปç็¹น¡กÒาÃร¾พÑั¡ก¼ผè่Íอ¹นµตÒาÁมÍอÑั¸ธÂยÒาÈศÑัÂย ËหÅลÒาÂย¤ค¹นàเÅล×ืÍอ¡กäไ»ป´ดÙูËห¹นÑั§ง ËหÅลÒาÂย¤ค¹นàเÅล×ืÍอ¡กäไ»ปàเ´ดÔิ¹นàเ¾พÔิè่Áม¤คÇวÒาÁมàเÁม×ืè่ÍอÂยÅลé้Òา¤คÃรÑัºบ
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
Aikido Friendship 8 ÇวÑั¹นÊสØุ´ด·ทé้ÒาÂย¢ขÍอ§ง¡กÒาÃรÍอÂยÙูè่¡กÃรØุ§งàเ·ท¾พÏฯ ãใ¹นÇวÑั¹น¹นÕีé้äไ´ดé้ÃรÑัºบàเ¡กÕีÂยÃรµตÔิ¨จÒา¡กÍอÒา¨จÒาÃรÂยì์ªชÑัÂยÊสÇวÑัÊส´ดÔิì์àเ»ปç็¹น¼ผÙูé้¹นÓำ½ฝÖึ¡ก àเÃรÒา àเÃรÕีÂย¹นÃรÙูé้ãใ¹นàเÃร×ืè่Íอ§ง¾พ×ืé้¹น°ฐÒา¹นàเ·ท¤ค¹นÔิ¤ค âโ´ดÂยÍอÒาÈศÑัÂย´ดÒาºบàเ»ปç็¹นµตÑัÇวàเÃรÔิè่Áม («ซÖึè่§ง·ทè่Òา¹นÁมÑั¡ก¨จÐะÂยé้ÓำÍอÂยÙูè่àเÊสÁมÍอ)
Íอ.ªชÑั ÂยÊสÇวÑั Êส´ดÔิì์ Íอ.ÊสÁมºบÑั µตÔิ Íอ.¸ธ§งªชÑั Âย
àเÁม×ืè่ÍอàเÊสÃรç็¨จ¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁมÁมÕี¡กÒาÃรÁมÍอºบ¢ขÍอ§ง·ทÕีè่ÃรÐะÅลÖึ¡กâโ´ดÂยªชÁมÃรÁมäไÍอ¤คÔิâโ´ด ÁมËหÒาÇวÔิ·ทÂยÒาÅลÑัÂยàเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่äไ´ดé้ÁมÍอºบ¾พÑั´ด àเÅลè่Áมâโµต «ซÖึè่§งàเ¢ขÕีÂย¹นÅลÒาÂย´ดé้ÇวÂยÍอÑั¡กÉษÃรÞญÕีè่»ปØุè่¹น (¤คÇวÒาÁมËหÁมÒาÂยâโ»ปÃร´ด¶ถÒาÁม¼ผÙูé้¨จÑั´ดÊสÃรé้Òา§ง àเ¹น×ืè่Íอ§ง¨จÒา¡ก«ซ×ืÍอàเ»ปë๋äไÁมè่ÊสÑั¹น·ทÑั´ด ÀภÒาÉษÒาÞญÕีè่»ปØุè่¹น) áแÅลÐะ¡กÒา§งàเ¡ก§งÊสÐะ´ดÍอÊสÓำËหÃรÑัºบÊสÇวÁมãใÊสè่ãใËหé้¡กÑัºบÊสÁมÒาªชÔิ¡กªชÒาÇว¨จØุÌฬÒาÏฯ ´ดé้Òา¹น¨จØุÌฬÒาÅล§ง¡กÃร³ณì์ ÁมËหÒาÇวÔิ·ทÂยÒาÅลÑัÂย¹นÑัé้¹น ¹นÍอ¡กàเËห¹น×ืÍอ¨จÒา¡ก¡กÃรÐะàเ»ปë๋ÒาÊสÐะ¾พÒาÂย¢ขé้Òา§ง·ทÕีè่«ซ×ืÍอàเ»ปë๋äไ´ดé้ºบÍอ¡กäไÇวé้áแÅลé้Çว ÂยÑั§งÁมÕีáแ¼ผè่¹น»ปé้ÒาÂย·ทÕีè่ÃรÐะÅลÖึ¡ก Ãรè่ÇวÁม§งÒา¹น «ซÖึè่§งàเ»ปç็¹น·ทÕีè่¹นè่ÒาàเÊสÕีÂย´ดÒาÂยÇวè่Òาäไ´ดé้àเ¡กÔิ´ด¤คÇวÒาÁมàเÊสÕีÂยËหÒาÂย¨จ¹นäไÁมè่ÍอÒา¨จ¤ค×ื¹นÊสÀภÒา¾พäไ´ดé้ àเ¹น×ืè่Íอ§ง¨จÒา¡กÍอØุºบÑัµตÔิàเËหµตØุ«ซÖึè่§ง àเ¡กÔิ´ด¢ขÖึé้¹นãใ¹นÃรÐะËหÇวè่Òา§ง¡กÒาÃรàเ´ดÔิ¹น·ทÒา§ง¡กÅลÑัºบ หน้า ๔๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
Aikido Friendship 8
àเÊสÒาÃร ñ๑ð๐ - ÍอÒา·ท∙ÔิµตÂย ñ๑ñ๑ ¸ธÑั ¹นÇวÒา¤คÁม ò๒õ๕õ๕ó๓ ³ณ ¨จØุÌฬÒาÅล§ง¡กÃร³ณ ÁมËหÒาÇวÔิ·ท∙ÂยÒาÅลÑั Âย
หน้า ๔๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
àเÁม×ืè่ÍอàเÊสÃรç็¨จÊสÔิé้¹น¾พÔิ¸ธÕี¡กÒาÃร ÊสÁมÒาªชÔิ¡ก¨จØุÌฬÒาÏฯ äไ´ดé้àเÅลÕีé้Âย§งµตé้Íอ¹นÃรÑัºบáแÅลÐะ¢ขÍอºบ¤คØุ³ณ¼ผÙูé้Ãรè่ÇวÁม½ฝÖึ¡ก´ดé้ÇวÂยÍอÒาËหÒาÃรÞญÕีè่»ปØุè่¹น ªชØุ´ดâโµต ¡กè่Íอ¹นàเ´ดÔิ¹น·ทÒา§งÍอÍอ¡ก¨จÒา¡ก¡กÃรØุ§งàเ·ท¾พÏฯ àเÁม×ืÍอ§ง·ทÍอ§ง ¾พÅล¾พÃรÃร¤คÃรÑั¡กàเÍอÂยäไ´ดé้áแÇวÐะÂย×ื´ดàเÊสé้¹นÂย×ื´ดÊสÒาÇวàเ¾พÔิè่ÁมàเµตÔิÁม·ทÕีè่ àเºบÒาÐะ¢ขÍอ§งÈศÙู¹นÂยì์Ïฯ äไ·ทÂย-ÞญÕีè่»ปØุè่¹น äไ´ดé้ÃรÑัºบ¡กÒาÃรµตé้Íอ¹นÃรÑัºบ¨จÒา¡ก¾พÕีè่Íอ§ง ÊสÁมÒาªชÔิ¡กÊสÒาÂยÊสÙู§ง¢ขÍอ§งÈศÙู¹นÂยì์Ïฯ ÍอÂยè่Òา§ง´ดÕี ãใ¹นµตÍอ¹น ·ทé้ÒาÂยÊสÁมÒาªชÔิ¡กºบÒา§ง¤ค¹น¶ถÖึ§ง¢ขÖึé้¹นáแ¨จ¡กÅลÒาÂยàเ«ซç็¹น¾พÃรé้ÍอÁมËหÁมÒาÂยàเÅล¢ขµตÔิ´ดµตè่ÍอãใËหé้¡กÑัºบÊสÁมÒาªชÔิ¡ก¢ขÍอ§งÈศÙู¹นÂยì์Ïฯ ¡กÑั¹นàเÅลÂย·ทÕีàเ´ดÕีÂยÇว Íอé้Íอ àเ¡ก×ืÍอºบÅล×ืÁมäไ»ป àเ¤คé้¡ก·ทÕีè่äไ´ดé้ÃรÑัºบÁมÒา¡กç็ÍอÃรè่ÍอÂยàเªชè่¹นàเ´ดÕีÂยÇว¡กÑั¹น¤คÃรÑัºบ
äไ»ปàเÂยÕีè่ÂยÁมâโ´ดâโ¨จ´ดÔิ¹นáแ´ด§ง
¢ขÍอºบ¤คØุ³ณÃรÙู»ปÀภÒา¾พ¨จÒา¡ก àเ¿ฟ«ซºบØุ ¤ค¢ขÍอ§ง¾พÕีè่»ป ‰ÍอÁม áแÅลÐะàเÍอ¡ก¤คØุ§ง
หน้า ๔๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
¼ผÙูé้Íอè่Òา¹นËหÅลÒาÂย·ทè่Òา¹น¹นè่Òา¨จÐะ·ทÃรÒาºบ ËหÃร×ืÍอÍอÒา¨จ¨จÐะàเ´ดÒา äไ´ดé้áแÅลé้ÇวÇวè่Òา ãใ¹นÃรÐะËหÇวè่Òา§งàเ´ดÔิ¹น·ทÒา§ง¡กÅลÑัºบ Ãร¶ถµตÙูé้¨จÓำ¹นÇว¹น ñ๑ ¤คÑั¹น ¢ขÍอ§งàเÃรÒา äไ´ดé้»ปÃรÐะÊสºบÍอØุºบÑัµตÔิàเËหµตØุªช¹นËหÑัÇวÊสÐะ¾พÒา¹น ÁมÕี¼ผÙูé้ºบÒา´ดàเ¨จç็ºบ¶ถÖึ§ง ¢ขÑัé้¹นµตé้Íอ§งàเ¢ขé้ÒาâโÃร§ง¾พÂยÒาºบÒาÅล¨จÓำ¹นÇว¹น ô๔ ¤ค¹น «ซÖึè่§ง«ซ×ืÍอàเ»ปë๋¡กç็àเ»ปç็¹น Ëห¹นÖึè่§งãใ¹น¹นÑัé้¹น ¤คÇวÒาÁมËหè่Çว§งãใÂยáแÅลÐะ¤คÇวÒาÁมàเÍอÒาãใ¨จãใÊสè่¢ขÍอ§งÊสÁมÒาªชÔิ¡ก ·ทØุ¡ก¤ค¹นàเ»ปç็¹น·ทÕีè่»ปÃรÐะ·ทÑัºบãใ¨จáแ¡กè่¼ผÙูé้ºบÒา´ดàเ¨จç็ºบàเ»ปç็¹นÍอÂยè่Òา§งÁมÒา¡ก àเ¤คÃรÒาÐะËหì์´ดÕี·ทÕีè่Çวè่ÒาäไÁมè่ÁมÕีãใ¤คÃร¶ถÖึ§ง¢ขÑัé้¹นÊสÙูÞญàเÊสÕีÂยÍอÇวÑัÂยÇวÐะËหÃร×ืÍอàเÊสÕีÂยªชÕีÇวÔิµต
µตÍอ¹นàเ¡กÔิ´ดàเËหµตØุ¡กÒาÃร³ณì์ ÊสÁมÒาªชÔิ¡ก¨จÒา¡กÃร¶ถÍอÕี¡ก¤คÑั¹น·ทÕีè่µตÒาÁมÁมÒา ÊสÁม·ทºบµตè่Òา§ง¾พÙู´ดàเ»ปç็¹นàเÊสÕีÂย§งàเ´ดÕีÂยÇว¡กÑั¹นÇวè่Òา “àเ»ปç็¹นàเ¤คÃรÒาÐะËหì์´ดÕีºบ¹น àเ¤คÃรÒาÐะËหì์Ãรé้ÒาÂย” «ซÖึè่§ง«ซ×ืÍอàเ»ปë๋àเËหç็¹น´ดé้ÇวÂย¡กÑัºบ¤คÇวÒาÁม¤คÔิ´ด´ดÑั§ง¡กÅลè่ÒาÇว àเ¾พÃรÒาÐะàเÁม×ืè่Íอ¤ค×ื¹นÇวÑั¹น¨จÑั¹น·ทÃรì์·ทÕีè่ ò๒÷๗ ¸ธÑั¹นÇวÒา¤คÁม ·ทÕีè่¼ผè่Òา¹นÁมÒา àเ¡กÔิ´ด àเËหµตØุ¡กÒาÃร³ณì์ÅลÑั¡กÉษ³ณÐะ¤คÅลé้ÒาÂย¤คÅลÖึ§ง¡กÑั¹น·ทÕีè่¡กÃรØุ§งàเ·ท¾พÏฯ µตè่Òา§ง¡กÑั¹นµตÃร§ง ·ทÕีè่àเËหµตØุ¡กÒาÃร³ณì์·ทÕีè่àเ¡กÔิ´ด¢ขÖึé้¹นÀภÒาÂยËหÅลÑั§ง¹นÕีé้ÁมÕี¼ผÙูé้àเÊสÕีÂยªชÕีÇวÔิµตáแÅลÐะºบÒา´ดàเ¨จç็ºบ Ëห¹นÑั¡กËหÅลÒาÂย·ทè่Òา¹น «ซ×ืÍอàเ»ปë๋¨จÖึ§งàเ»ปÅลÕีè่Âย¹น¤คÇวÒาÁม¤คÔิ´ดáแÅลÐะÂย×ื¹นÂยÑั¹นËห¹นÑั¡ก áแ¹นè่¹นÇวè่Òา “àเËหµตØุ¡กÒาÃร³ณì์¢ขÍอ§ง«ซ×ืÍอàเ»ปë๋àเ»ปç็¹นàเ¤คÃรÒาÐะËหì์´ดÕี” ËหÒา¡กÊสÁมÒาªชÔิ¡ก¤คÃรÍอºบ¤คÃรÑัÇว¢ขÍอ§ง¼ผÙูé้»ปÃรÐะÊสºบàเËหµตØุ·ทÕีè่¡กÃรØุ§งàเ·ท¾พÏฯ äไ´ดé้ÁมÕีâโÍอ¡กÒาÊสÍอè่Òา¹น§งÒา¹นàเ¢ขÕีÂย¹นªชÔิé้¹น¹นÕีé้¢ขÍอ§ง«ซ×ืÍอ àเ»ปë๋ áแÁมé้¤คÓำáแÊส´ด§ง¤คÇวÒาÁมàเÊสÕีÂยãใ¨จãใ´ด æๆ ¨จÐะäไÁมè่ÍอÒา¨จªช´ดàเªชÂย¤คÇวÒาÁมÃรÙูé้ÊสÖึ¡ก·ทÕีè่·ทè่Òา¹น·ทÑัé้§งËหÅลÒาÂยÁมÕีÍอÂยÙูè่äไ´ดé้ áแµตè่¢ขÍอãใËหé้·ทÃรÒาºบäไÇวé้ Çวè่Òา «ซ×ืÍอàเ»ปë๋áแÅลÐะÊสÁมÒาªชÔิ¡กªชÁมÃรÁมäไÍอ¤คÔิâโ´ด ÁมËหÒาÇวÔิ·ทÂยÒาÅลÑัÂยàเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่·ทØุ¡ก¤ค¹น ¢ขÍอÃรè่ÇวÁมáแÊส´ด§ง¤คÇวÒาÁมàเÊสÕีÂยãใ¨จ áแÅลÐะ äไÇวé้ÍอÒาÅลÑัÂย¡กÑัºบ¤คÇวÒาÁมÊสÙูÞญàเÊสÕีÂย·ทÕีè่àเ¡กÔิ´ด¢ขÖึé้¹น¨จÒา¡กÍอØุºบÑัµตÔิàเËหµตØุ´ดÑั§ง¡กÅลè่ÒาÇว´ดé้ÇวÂย¤คÃรÑัºบ ¡กè่Íอ¹น¨จÐะÅลÒา¨จÒา¡ก¡กÑั¹นäไ»ปãใ¹น©ฉºบÑัºบ¹นÕีé้ «ซ×ืÍอàเ»ปë๋ÍอÂยÒา¡ก¨จÐะ¢ขÍอÂย¡ก»ปÃรÐะâโÂย¤คÊสÑัé้¹นæๆ ¨จÒา¡ก “ÁมÒาÂยÒาªชÕีÇวÔิµต” âโ´ดÂย Çว.ÇวªชÔิÃรàเÁม¸ธÕี àเ»ปç็¹น¢ขÍอ§ง½ฝÒา¡ก¡กè่Íอ¹นÅลÒาäไÇวé้´ดÑั§ง¹นÕีé้ “ªชÕีÇวÔิµต¤ค¹นàเÃรÒา¡กç็àเËหÁม×ืÍอ¹น¡กÑัºบàเÊสé้¹น´ดé้ÒาÂย·ทÕีè่¶ถÙู¡ก´ดÖึ§งÍอÍอ¡กÁมÒา¨จÒา¡กËหÅลÍอ´ด´ดé้ÒาÂย·ทÕีÅลÐะ¹นÔิ´ด æๆ ¢ข³ณÐะ·ทÕีè่´ดÖึ§ง´ดé้ÒาÂยÍอÍอ¡ก ÁมÒา¨จÒา¡กËหÅลÍอ´ด´ดé้ÒาÂย¹นÑัé้¹น ºบÒา§ง·ทÕีàเÃรÒา¡กç็ÃรÙูé้ÊสÖึ¡ก¡กÃรÐะËหÂยÔิè่ÁมÇวè่Òา ÂยÑั§งÁมÕี´ดé้ÒาÂยàเËหÅล×ืÍอÍอÂยÙูè่ÍอÕี¡กÁมÒา¡กÁมÒาÂย ¨จÖึ§งàเ¡กÔิ´ด¤คÇวÒาÁมªชÐะÅลè่Òาãใ¨จ ·ทÕีè่¨จÐะ´ดÖึ§ง´ดé้ÒาÂยÍอÍอ¡กÁมÒาãใªชé้ÍอÂยè่Òา§ง¿ฟØุè่Áมàเ¿ฟ×ืÍอÂย áแµตè่¾พºบÇวè่Òาáแ·ทé้¨จÃรÔิ§งáแÅลé้ÇวÁมÕี´ดé้ÒาÂยÍอÂยÙูè่àเ¾พÕีÂย§ง¹นÔิ´ดàเ´ดÕีÂยÇวàเ·ทè่Òา¹นÑัé้¹น àเÂยç็ºบ¼ผé้Òาäไ´ดé้ àเ¾พÕีÂย§ง¹นÔิ´ดËห¹นè่ÍอÂย¡กç็ËหÁม´ด¡กÑั¹น ËหÒา¡กáแµตè่·ทÕีè่àเÃรÒาÂยÑั§งàเËหç็¹นÇวè่Òา ÂยÑั§ง¤ค§งÁมÕี´ดé้ÒาÂยàเËหÅล×ืÍอÍอÂยÙูè่ÍอÕี¡กàเÂยÍอÐะáแÂยÐะ¹นÑัé้¹นàเ»ปç็¹นàเ¾พÃรÒาÐะÇวè่Òา áแ¡ก¹น´ดé้ÒาÂยÁมÑั¹นãใËหÞญè่µตè่Òา§งËหÒา¡ก ... áแ¡ก¹น´ดé้ÒาÂยÁมÑั¹นËหÅลÍอ¡กµตÒาãใËหé้àเÃรÒา¾พÅลÍอÂยªชÐะÅลè่Òาãใ¨จ” «ซ×ืÍอàเ»ปë๋¨จÐะ¹นÓำÁมÒาºบÍอ¡กàเÅลè่Òาãใ¹น¤คÃรÒาÇวµตè่Íอäไ»ป¤คÃรÑัºบ ÊสÓำËหÃรÑัºบ©ฉºบÑัºบ¹นÕีé้¢ขÍอ¤คÇวÒาÁมÊสØุ¢ขÊสÇวÑัÊส´ดÕี¨จ§งÁมÕีáแ´ดè่·ทØุ¡ก·ทè่Òา¹น ÊสÇวÑัÊส´ดÕี
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
¤คÇวÑั¹นËหÅล§ง AF8
âโ´ดÂย... »ปÔิ§ง¤คØุ§ง
¤คØุ³ณÃรÙูé้ËหÃร×ืÍอäไÁมè่ ÁมÔิé้¹น: ÁมÔิé้¹นàเ»ปç็¹น¤ค¹น¡กÃรØุ§งàเ·ท¾พ ÁมÔิé้¹นÁมÑั¡ก¨จÐะ¾พÙู´ดÇวè่Òา"¨จÃรÔิ§งæๆáแÅลé้Çว¹นÐะ ÁมÔิé้¹นàเ»ปç็¹น¤ค¹น¡กÃรØุ§งàเ·ท¾พ ÁมÔิé้¹นàเÃรÕีÂย¹น¤คÓำàเÁม×ืÍอ§งàเ¾พÃรÒาÐะÍอÂยÙูè่àเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่ ¨จÃรÔิ§งæๆ¹นÐะ" ¾พÕีè่áแºบç็§ง¤คì์: àเ»ปç็¹น«ซØุ»ปµตÒา(«ซØุ»ปàเ»ปÍอÃรì์ÊสµตÒาÃรì์) àเ¾พÃรÒาÐะáแ·ทé้¨จÃรÔิ§ง áแÅลé้Çวàเ¢ขÒาáแ½ฝ§ง¡กÅลÔิè่¹นÍอÒาÂย¢ขÍอ§ง¤คÇวÒาÁมâโ´ดè่§ง´ดÑั§ง·ทÓำãใËหé้ãใ¤คÃรæๆËหÅลÒาÂย¤ค¹นµตè่Òา§งÁมÒา ¢ขÍอÍอÕีàเÁมÅลì์¡กÑั¹นàเ»ปç็¹นáแ¶ถÇวæๆ ¹นé้Íอ§ง¤ค¹นËห¹นÖึè่§ง: "¾พÕีè่áแºบç็§ง¤คì์¤คè่Ðะ¾พÕีè่¨จÐะÅล§งÁมÒา ¡กÃรØุ§งàเ·ท¾พÍอÕี¡กàเÁม×ืè่Íอ äไËหÃรè่¤คè่Ðะ ¢ขÍอàเºบÍอÃรì์ÍอÕีàเÁมÅลäไ´ดé้ÁมÑัé้Âย¤คè่Ðะ" ¾พÕีè่áแºบç็§ง¤คì์: "Íอë๋Íอ àเ´ด×ืÍอ¹นÁมÕี¹นÒา¡กç็Åล§งÁมÒาáแÅลé้Çว áแÅลé้Çวàเ¨จÍอ¡กÑั¹น¹นÐะ" (¾พÃรé้ÍอÁม·ทÓำËห¹นé้ÒาËหÅลè่Íอ) ÊสÒาÁมÃรØุ§งÃรÑั§ง: "âโÍอàเÅล âโÍอàเÅล âโÍอàเÅล âโÍอàเÅล âโÍอ....àเÅล...." ªชè่Òา§งàเ»ปç็¹น´ดÒาÇว«ซÑัÅลâโÇวËหÑัÇวãใ¨จàเ´ดç็¡กÊสÒาÇว«ซÐะ¨จÃรÔิ§ง¹นÐะ¤คÃรÑัºบ¾พÕีè่ áแËหÁม«ซ×ืé้ÍอÊสµตÑัé้·ทäไÇวé้ ·ทÓำäไÁม¹นÐะ¾พÕีè่ หน้า ๔๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
àเÍอàเÍอ¿ฟ¤คÃรÑัé้§ง¹นÕีé้àเ¡กÔิ´ด¾พè่Íอºบé้Òา¹น¾พè่ÍอàเÃร×ืÍอ¹น¡กÑั¹นËหÅลÒาÂย¤ค¹น·ทÕีàเ´ดÕีÂยÇว äไÁมè่Çวè่Òา¾พÕีè่àเµตé้Âย ¾พÕีè่áแºบç็§ง¤คì์ÂยÒาÁม¾พÑั¡ก¡กç็¹นÑัè่§ง àเÂยç็ºบ¡กÒา§งàเ¡ก§ง¡กÑั¹นÍอÂยè่Òา§ง¢ขÁมÕี¢ขÁมÑั¹น¡กç็¨จÐะäไÁมè่àเÂยç็ºบäไ´ดé้ÍอÂยè่Òา§งäไÃร ¡กç็¡กÒา§งàเ¡ก§งÁมÑั¹นàเ»ปç็¹นÃรÙู«ซÐะ¢ข¹นÒา´ดàเÍอÒาÅลÙู¡กàเ·ท¹น¹นÔิÊส ÅลÍอ´ด¼ผè่Òา¹น¡กÑั¹นÊสºบÒาÂยæๆàเÅลÂย·ทÕีàเ´ดÕีÂยÇว ¹นÕีè่´ดÕี¹นÐะ¾พÕีè่æๆÂยÑั§งàเÂยç็ºบäไÁมè่§งÑัé้¹นÅลÐะàเÂยç็¹นÇวÒาºบ¡กÑั¹นàเ»ปç็¹นáแ¶ถÇวæๆáแ¹นè่¹นÍอ¹นàเÅลÂย ¹นé้Íอ§ง¡กÇวÒา§ง: âโ´ด¹นÇวÒา§งãใËหé้àเ»ปç็¹น»ปÃรÐะ¸ธÒา¹น¤ค¹นãใËหÁมè่ÍอÕี¡ก¤ค¹น àเÇวÅลÒา äไ»ปäไËห¹น¡กç็âโ´ด¹นàเÃรÕีÂย¡กÇวè่Òา»ปÃรÐะ¸ธÒา¹นæๆ«ซÐะµตÅลÍอ´ดàเÇวÅลÒา ´ดÙู·ทè่Òาáแ¤ค¹น´ดÔิàเ´ด·ท »ปÕี¹นÕีé้¨จÐะÁมÕี¡กÑั¹นËหÅลÒาÂย¤ค¹นàเÅลÂย·ทÕีàเ´ดÕีÂยÇว áแÅลé้ÇวàเÃรÒา¡กç็¤ค§ง¨จÐะäไ´ดé้ÃรÙูé้Çวè่Òาãใ¤คÃร¨จÐะ àเ»ปç็¹น»ปÃรÐะ¸ธÒา¹นãใ¹น»ปÕีµตè่Íอäไ»ป áแµตè่¡กç็äไ´ดé้áแÇวè่ÇวæๆÁมÒาàเËหÁม×ืÍอ¹น¡กÑั¹นÇวè่Òา¹นÒาÂย»ปÕี ãใËหÁมè่¨จÐะËหÇว¹น¤ค×ื¹นÇว§ง¡กÒาÃร ¹นé้Íอ§งÀภÙูÁมÔิ: ¢ขÇวÑัÞญãใ¨จªชÒาÇวàเÍอàเÍอ¿ฟ¤คÃรÑัé้§ง¹นÕีé้àเËหç็¹น·ทÕี¨จÐะàเ»ปç็¹น¢ขÍอ§ง¹นé้Íอ§งÀภÙูÁมÔิ àเ´ดç็¡ก¹นé้ÍอÂย·ทÕีè่ÊสØุ´ด¢ขÍอ§งàเÍอàเÍอ¿ฟ¤คÃรÑัé้§ง¹นÕีé้ºบÇว¡ก¡กÑัºบ¡กÒาÃรàเÅลè่¹นÅลÕีÅลÒา·ทØุè่Áม·ทÑัé้§งµตÑัÇว ·ทÓำàเÍอÒา ¾พÕีè่æๆÂย¡กÁม×ืÍอâโËหÇวµตãใËหé้àเ»ปç็¹น¢ขÇวÑัÞญãใ¨จ¡กÑั¹นàเÅลÂย·ทÕีàเ´ดÕีÂยÇว »ปé้Òา»ปë๋ÍอÁม: §งÒา¹น¹นÕีé้»ปé้Òา»ปë๋ÍอÁม àเ»ปç็¹น¹นÒา§ง§งÒาÁม¨จÑั¡กÃรÇวÒาÅล (áแµตè่ Êส§งÊสÑัÂยäไ´ดé้µตÓำáแËห¹นè่§ง¹นÕีé้àเ¾พÃรÒาÐะÇวè่Òา ¾พÕีè่»ปë๋ÍอÁมÃรÑั¡กàเ´ดç็¡ก....ÃรÖึàเ»ปÅลè่Òา) HBD »ป ‡Òา»ป ‰ÍอÁม
¹นØุ¡ก: áแÍอºบàเËหç็¹นàเ§งÕีÂยºบæๆÍอÂยè่Òา§ง¹นÕีé้ áแµตè่àเ¸ธÍอ áแÍอºบ´ดÙูáแÅลµตÑัÇวàเÍอ§ง¹นÐะàเ¹นÕีé้Âย ÊสÒาÂย¢ขè่ÒาÇว¢ขÍอ§งàเÃรÒา áแÍอºบÁมÒาºบÍอ¡กÇวè่Òา ¹นé้Íอ§ง¹นØุ¡ก¢ขÍอ§งàเÃรÒาÍอÒาºบ¹นé้Óำàเ»ปç็¹น ªชÑัè่ÇวâโÁม§ง
»ปÕีãใËหÁมè่: ¤คÃรÑัé้§งµตè่Íอäไ»ปàเÃรÒา¤ค§งµตé้Íอ§งàเµตÃรÕีÂยÁม¶ถØุ§ง ¾พÅลÒาÊสµตÔิ¡กµตÔิ´ดÃร¶ถäไÇวé้Ëห¹นè่ÍอÂยàเ¾พÃรÒาÐะãใËหÁมè่¹นé้ÍอÂย¢ขÍอ§ง àเÃรÒาàเÁมÒา...Ãร¶ถ µตÑัé้§งáแµตè่àเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่¨จ¹น¶ถÖึ§งàเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่ ¡กÑั¹นàเÅลÂย·ทÕีàเ´ดÕีÂยÇว
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
มาเยี่ยมมาเยือน
Kumiko Enokido (3rd dan)
คุณคุมิโกะ
? คุณคุมิโกะเคยแวะมาเยี่ยมเยียนพวกเราเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และคราวนี้ ก็ได้กลับมาพักผ่อนที่เชียงใหม่อีก โชคดีที่มาถึงวันที่เราจัดปาร์ตี้พอดี เลยได้ร่วม ผูกข้อมือและรับประทานอาหารด้วยกัน ? คุณคูมิโกะฝึกไอคิโดทุกวันมาได้หกปีแล้ว ขณะนี้ได้ระดับสายดําขั้นสาม โดยฝึกไอคิโดกับ ฮิโรชิ ทาดะเซนเซ ที่เกสโซจิโดโจ กรุงโตเกียว
Gessoji Dojo Chief instructor: Tada Hiroshi shihan Senior instructor: Tsuboi Takeki shihan 1-11-26 Honmachi, Kichijoji, Musashino-shi, Tokyo-to 180 Japan Tel: +81 (0422) 21-7100 Fax: + 81(0422) 43-1189 หน้า ๔๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
Aikido Family
ÊสÍอºบàเÅล×ืè่Íอ¹นÊสÒาÂย
àเÊสÒาÃร ·ทÕีè่ 25 ¸ธÑั¹นÇวÒา¤คÁม 2553
หน้า ๕๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
Aikido Family
ÃรÑัºบ¢ขÇวÑัÞญÇวÑั¹น»ป ‚ãใËหÁม ‹
หน้า ๕๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๖ วันที่ ๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ (ปีที่ ๔)
Aikido Family §งÒา¹นàเÇว·ทÕีÊส×ืè่ÍอÈศÔิÅล»ปÐะÊสÒาÃรàเÊสÇว¹นÒา "àเÅลÕีé้Âย§งÅลÙู¡กÍอÂยè่Òา§งäไÃร...äไÁมè่´ดØุ äไÁมè่´ดè่Òา äไÁมè่µตÕี ¡กç็´ดÕีäไ´ดé้" ´ดé้ÇวÂย¡กÒาÃรãใªชé้ÇวÔิ¹นÑัÂยàเªชÔิ§งºบÇว¡ก ¾พØุ¸ธ·ทÕีè่ 22 ¸ธ.¤ค.53 ³ณ ËหÍอÈศÔิÅล»ปÇวÑั²ฒ¹น¸ธÃรÃรÁมàเÁม×ืÍอ§งàเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่ Íอ.àเÁม×ืÍอ§ง ¨จ.àเªชÕีÂย§งãใËหÁมè่ àเÇวÅลÒา 14.00-16.30 ¹น.
ฝกประจำสัปดาห! ! 1 1 1 1 1 1 1 1 1 !
ปฏิทินกิจกรรม จันทร-พุธ-ศุกร ๑๘.๓๐ - ๒๐.๓๐ น.1 สถานที่ฝก ชมรมไอคิโด มหาวิทยาลัยเชียงใหม ใตถุนตึกอาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม หน้า ๕๒