CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
AikidoCMU NEWSLETTER
ชมรมไอคิโด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาคารกิจกรรมนักศึกษา (อ.มช.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถ. สุเทพ อ.เมือง จ. เชียงใหม่ 50200 ติดต่อได้ที่ ปีใหม่ (ประธานชมรม) 087-1772511
Email:
ป๋อม (ผู้ประสานงานชมรม) 089-701 7686
กบ (บรรณาธิการจดหมายข่าว) 081-405 5379 AikidoCMU@gmail.com
Facebook:
Aikido CMU
หน้า ๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
กระผม นายปีใหม่ ขออําลาตําแหน่ง ท่านประธานชมรม ครับผ๊ม!!
นักเขียนในฉบับ ดร.สมบัติ ตาปัญญา อ.ธีระรัตน์ บริพันธกุล
สารบาญ
เด็กเรียนไอคิโดแลวจะกาวราวไหม .....ดร.สมบัติ ตาปญญา จอมยุทธที่แทจริง .....อ.ธีระรัตน บริพันธกุล ๑๐ เหตุผลที่เด็กๆควรฝกไอคิโด ... วิสุทธิ์ เหล็กสมบูรณ
วิสุทธิ์ เหล็กสมบูรณ์
๓ ๘
Kisshomaru Ueshiba
๑๐
THE SPIRIT OF AIKIDO (1) ... KISSHOMARU UESHIBA สุภาษิตโกะกับขาพเจา ๕ : ยอมเสียสละสวนนอย เพื่อกาวไปขางหนา ..... NOURNOURS’ MOM
๑๘
AIKIDO(KA) IN FOCUS ณัฐนัย สิทธิหลอ
๒๑
การกาวเทาในไอคิโด .... ROYCE REYES
๒๔
สี่ระดับของการตอสู ...... นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ
๒๙
AIKIDO FAMILY
๓๒
๑๔
Nounours’ Mom
Royce Reyes โฟกัส
หน้า ๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
เด็กเรียนไอคิโดแลว จะกาวราวไหม ผศ.ดร. สมบัติ ตาปญญา
! ในยุคสมัยที่บานเรามีการยิงระเบิด วางระเบิด เผาโนนเผานี่ และฆากันตายไมเวน แตละวัน โดยเฉพาะสามจังหวัดภาคใตของเรา พอแมหลายคนที่อยากใหลูกโตมาเปนคนรัก สันติ ไมนิยมความรุนแรงคงจะกังวลใจกับเรื่องนี้อยูบาง !
แตพอแมบางคนกลับคิดวาความกาวราวเปนสิ่งที่ดี เปนสิ่งที่เด็ก จำเปนตองมี ถาสูคนไมเปนก็จะเปนคนออนแอ มักตกเปนเหยื่อคนอื่นๆ ถูกเขาขมเหงรังแกอยูร่ำไป !
พอแมหรือคนทั่วไปอีกจำนวนหนึ่งเชื่อวาความกาวราว เปนสัญชาติญาณตามธรรมชาติของมนุษย โดยเฉพาะมนุษย เพศชาย คนที่เชื่อแบบนี้มักจะพูดวา “ชกตอยกันบางก็เปน เรื่องธรรมดาของเด็กผูชาย” ถาเปนฝรั่งจะพูดเปนสำนวน วา “Boys will be boys.”
! หากเราตรึกตรองใหดีก็จะมองเห็นวามี ปญหาอยูในวิธีคิดสองวิธีขางตนนี้ กลาวคือ วิธีแรก เปนวิธีคิดแบบ “ตาตอตา ฟนตอฟน” เมื่อใครทำรายเรา ก็ยอมเปนความชอบธรรมที่เราจะตองทำเขาตอบหรือ “เอา คืน” บาง และถาเอาคืนใหไดมากกวาก็ยิ่งดี ถือวา “ได กำไร” นิยายกำลังภายในหรือหนังฝรั่งและฮองกง ตลอด จนหนังไทยของเราเองตั้งแตจำความไดก็ใช ภาพจาก http://www.theparentszone.com/ “แคนตองชำระ” เปนแนวเรื่องหลัก behavior-problems/how-to-controlaggressive-child-behavior/
หน้า ๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
! หนังบางเรื่องเชน “แรมโบ” ดูกันตั้งสี่หาภาคก็ยังไม ยอมจบ เพราะตองแกแคนกันไปมาถึงชั่วลูกชั่วหลานไมยอม เลิกรา สงครามทั้งหลายและการฆาลางเผาพันธุก็ลวนมา จากฐานคิดแบบนี้ทั้งสิ้น ! ขอเสียของวิธีคิดแบบนี้ก็คือมักหาทางจบ แบบสวยๆ ไมได และเรื่องราวมักลุกลามใหญโตขึ้น เรื่อยๆ พรอมกับความสูญเสียหรือ “ราคาที่ตองจาย” เชนบางประเทศคนถึงกับอดหยากยากจนเพราะ รัฐบาลเอาเงินไปซื้ออาวุธหรือบำรุงกองทัพมาก เกินไป ถือวาเปนการแกปญหาที่ไมฉลาดเพราะ มักจะได “ชัยชนะบนซากปรักหักพัง” ซึ่งไมใช ชัยชนะที่แทจริง ! สวนวิธีคิดที่สอง (ที่วาความกาวราวเปนธรรมชาติ หรือสัญชาติญาณของมนุษย เพราะฉะนั้นตองยอมรับวา ปกติและควรทำตอไป) นั้น นักจิตวิทยาที่ศึกษาเรื่องนี้อาง หลักฐานวาไมเปนความจริง มีการศึกษาทดลองหลายแบบ ที่ยืนยันวาธรรมชาติดั้งเดิมของมนุษยนั้นมีความเมตตา เขาถึงจิตใจ ของผูอื่นและไมอยากทำรายคน
ภาพจาก http:// www.ayushveda .com/womensmagazine/how-t o-deal-with-an-a ggressive-child/
! จะขอยกตัวอยางการทดลองแบบหนึ่งซึ่งทำไดงายๆ มีการทดลองเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายพันครั้งกับคนจำนวนนับแสนคนและมีคนเอาไปทดลองกับเด็กๆ จากหลาย วัฒนธรรมทั่วโลก (อานแลวจะลองเอาไปทำก็ไดเพราะงายจริงๆ) พบวาไดผลแบบ เดียวกันหมด แสดงวาลักษณะเชนนี้เปนสากล ไมขึ้นอยูกับวัฒนธรรม ! วิธีการก็คือ สมมุติสถานการณวาคุณยืนอยูขางทางรถรางแหงหนึ่ง มีรถรางเปลา หนึ่งตูวิ่งลงเนินมาดวยความเร็วสูง เมื่อคุณหันไปมองดานตรงขามก็เห็นวามีคนงาน 5 คน กำลังทำงานอยูบนราง ถารถไมหยุดเขาก็จะตองถูกรถชนตายแนๆ หน้า ๔
!
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
! แตในขณะเดียวกันนั้น คุณก็มองเห็น วามีคันโยกอยูขางหนาคุณ และถาคุณโยก มัน รถก็จะวิ่งแยกไปอีกรางหนึ่ง ซึ่งมีคน งานเพียงคนเดียวทำงานอยู คุณจะตอง ตัดสินใจภายในไมกี่วินาทีนั้น (คุณจะตะโกน ไมไดเพราะเขาอยูหางเกินไปและจะไมไดยิน) วาจะชวยคนหาคนแลวทำใหหนึ่งคนตองตาย หรือจะ นิ่งเฉยไมทำอะไร (ซึ่งจะทำใหคนหาคนตอง ตาย) ! การทดลองนี้มักจะทำในหอง บรรยายใหญๆ ที่มีคนฟงอยูหลายสิบ คนหรือเกินรอยคน ใหเขายกมือออก เสียงแลวนับคะแนนเปรียบเทียบระหวาง ทางเลือกสองแบบ จะพบวาคนสวนมากจะ ยอมใหหนึ่งคนตายเพื่อรักษาชีวิตคนห! าคนเสมอ ! !
!
!
แตพอใหฟงสถานการณที่สอง ซึ่งเริ่มตนเหมือนเดิม แตแทนที่จะเปนคันโยก กลับใหคุณยืนอยูบนสะพานขาม รางนั้น และขางๆ คุณมีชายรูปรางอวนใหญยืนอยู คนหนึ่ง สิ่งที่คุณจะทำไดเพื่อหยุดรถรางไมใหชนหา คนตายก็คือตองผลักชายอวนคนนั้นใหตกลงไปขวาง ทางรถรางไว คุณก็จะชวยหาคนได แตชายอวนตองตาย แทน (ดวยน้ำมือของคุณเอง)
คราวนี้เมื่อใหยกมือออกความเห็นก็จะพบวาคนที่จะผลัก ชายอวนกลับมีจำนวนลดนอยลงมากกวาตอนที่ใหโยกคัน โยกมากมาย ทั้งๆ ที่เมื่อบวกลบดูแลวมันก็เหมือนกับ เรื่องแรก คือตองทำใหคนตายหนึ่งคนเพื่อชวยคนหาคน เมื่อผูทดลองไปถามเด็กอายุ 7-8 ขวบ ก็ไดคำตอบใน ลักษณะเดียวกัน
หน้า ๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
! คำถามที่สามที่ผูทดลองถามตออีกก็คือใหสมมุติวาคุณเปนหมอ มีคนไขของคุณหา คนที่กำลังจะตายแตรอเปลี่ยนอวัยวะตางๆ หาอยางอยู วันหนึ่งก็มีชายหนุมคนหนึ่งไม สบายเล็กนอยมาใหคุณตรวจ คุณเกิดความคิดวาหากฆาเขาก็จะไดอวัยวะที่ปกติของเขา ไปชวยคนใหรอดชีวิตไดถึงหาคน คุณจะยินดีทำไหม? ผลก็คือคนสวนใหญ (รวมทั้งเด็กๆ ที่ถูกถามดวย) ไมยอมทำ ทั้งๆ ที่เปนสถานการณเดียวกันกับเรื่องแรกนั่นเอง (คือยอมให คนตายหนึ่งคนเพื่อรักษาชีวิตคนหาคน) ! คำอธิบายของนักจิตวิทยาเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ คนตามปกติจะเขาใจถึงความทุกข ความเจ็บปวดของคนอื่นๆ (รวมถึงสัตวหรือบางครั้งพืชดวย) และไมอยากทำรายใคร ครู ฝกทหารก็จะพบกับปญหาเชนนี้ คือทหารจะไมยอมยิงฝายตรงขาม มักแกลงยิงใหพลาด หรือสูงเลยหัวไป ครูฝกจึงตองพยายามปลูกฝงความคิดใหเขาวาศัตรูหรือฝายตรงขาม ไมใชคนที่สมบูรณเหมือนเรา หรือสรางภาพของศัตรูขึ้นมา ! เหมือนสมัยเราตอตานคอมมิวนิสตเราก็จะวาดภาพใหเปนปศาจนากลัว และ พยายามบอกประชาชนวาฆาคอมมิวนิสตไดไมบาป (เพราะเขาไมใชคน) ! หรือเวลาฝรั่งจะไปจับ คนผิวดำมาเปนทาสก็จะ พยายามอธิบายวาคนเหลานี้ ไมใชคนที่สมบูรณเหมือน ตนเอง (คลายเปนครึ่งคนครึ่ง สัตว) เพื่อที่จะทำรายเขาได โดยไมรูสึกผิด กระบวนการ เชนนี้เรียกวา “การทำลาย ความเปนมนุษย ! ! ภาพจาก http://filipspagnoli.wordpress.com/ 2009/ (dehumanization)” ของผูอื่น 05/18/dehumanization-and-human-rights/ ผูชายหลายคนที่ทำรายสตรี หรือ ผูใหญที่ทำรายเด็ก คนที่ทำรายคนจากเผาพันธุอื่นๆ ก็จะพยายามคิดแบบนี้เหมือนกัน การสอนใหเด็กดูถูกคนชาติอื่นๆ ก็เปนจุดเริ่มตนของกระบวนการทำลายความ เปนมนุษยนี้เอง หน้า ๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
! ในทางตรงขาม การปลูกฝงไมใหเด็ก กาวราวรุนแรง ผูใหญจึงตองพยายามทำใหเด็ก เห็นคนหรือสัตวทั้งหลายวาเปนเพื่อนรวมโลก ไมใช “คนอื่น” หรือ “มัน” ที่ไมใช “พวกเรา” เชน การดูถูกคนที่มาจากถิ่นอื่น วัฒนธรรมอื่น สถาบัน อื่นที่ไมใชของเรา แตสอนใหเด็กเมตตา เอื้อเฟอ คิดถึงความทุกขความเดือนรอนของผูอื่น และ พยายามหาทางชวยเหลือ เหมือนที่ปรากฏในขาว วามีเด็กจีนอายุสิบขวบเก็บขวดเปลาขายไดเงิน จำนวนมากเพื่อเอาไปชวยผูติดเชื้อเอดส หรือเด็ก อังกฤษปนจักรยานรณรงคหาทุนไปชวยคนที่เฮติ ซึ่งมีแผนดินไหว คนตายและไรที่อยูจำนวน มากมาย
ภาพจาก http://maryt.files.wordpress.com/ 2008/06/boy-s-best-friend-posters.jpg
! การสอนไอคิโดก็มีจุดมุงหมายในลักษณะนี้ คือ ถึงแมจะสอนวิธีปองกันตัว สอนใหบิดขอหรือทุมและ ควบคุมคนอื่นๆ ที่กาวราว (เขามาทำรายเรา) แตก็สอน ใหรูวาคนอื่นจะเจ็บปวดหรือไดรับอันตรายอยางไร และ ควรจะปกปองคุมครองเขาอยางไร ไมใชเพียงแต ปกปองคุมครองตัวเราเองและคนที่เรารัก แตคุมครอง แมกระทั่งคนที่เขามาทำรายเราโดยเจตนา ! หากครูสอนไอคิโดเนนหนักที่มุมมองแบบนี้เสมอ เมื่อเวลาผานไปเปนปเด็กที่ฝก บอยๆ ก็จะพัฒนาทัศนคติที่ไมอยากทำรายใคร แตในขณะเดียวกันก็ไมหวาดกลัวการถูก ทำรายโดยคนอื่นๆ และรูจักเอาตัวรอดไดในยามคับขันดวย ! จากเหตุผลดังที่กลาวมานี้เราจึงมั่นใจไดวาเมื่อเด็กฝกไอคิโดแลวจะไมเปนคน กาวราวและใชความรุนแรงตอผูอื่นแนนอน (แตผูใหญในชีวิตของเด็กจะตองทำเปนแบบอยาง ใหดูดวย เพราะเวลาสวนใหญในชีวิตของเด็กไมไดอยูบนเบาะไอคิโดเทานั้น) ภาพจาก http://www.aikido-of-slo.com/youth_overview.htm
หน้า ๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
จอมยุทธที่แทจริง อ.ธีระรัตน บริพันธกุล
คำวา “หยงชุน” เปนสำเนียงจีนแตจิ๋ว แตถาเปน จีนกวางตุงจะออกเสียงเปน “หวิ่งชุน” ภาพยนตรเรื่องยิปมัน 2 สรางจากบุคคลที่มีตัว ตนจริง ยิปมันเปนผูเผยแพรมวยหวิ่งชุนจนมีชื่อเสียงและ มีลูกศิษยลูกหามากมาย มีการตั้งสำนักในตางประเทศ และหนึ่งในผูนำเอามวยสกุลนี้ไปเผยแพรในอเมริกาก็คือ บรูซ ลี ยิปมัน 2 เปนเรื่องที่ตอจากภาคแรก เหตุการณ เกิดขึ้นในชวงสงครามโลกครั้งที่ 2 ยิปมันพรอม ครอบครัวตองอพยพจากเฝอซาน มาตั้งรกรากที่ ฮองกง จากที่เคยเปนเศรษฐีกลับยากจนลง ตองมาเปดโรงเรียน สอนมวยเพื่อหาเลี้ยงชีพและยังตองเผชิญปญหา ทั้งกับสำนัก มวยเจาถิ่นที่ชื่อ หงจุนนำ ซึ่งเปนมวยสกุลหง รวมทั้งชาว อังกฤษซึ่งใชอำนาจขมเหงชาวจีนในฐานะที่เปนเมือง อาณานิคม หนังเรื่องนี้แมจะเปนหนังแนวกำลังภายในซึ่งโครงเรื่อง สวนใหญก็หนีไมพน ความขัดแยง การตอสูและแคนที่ตองชำระ ภาพยิป มัน กับบรู๊ซ ลี จาก http://news.popcornfor2. com/file_html/125475752722/125475752722.html
หน้า ๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
แตสิ่งที่หนังเรื่องนี้เติมเต็มลงไปคือความเขาใจ มนุษย มนุษยไมมีคนเลวแทจริง ทุกคนลวนทำไปตามเหตุ ปจจัยของแตละคน มีอยูฉากหนึ่งที่เปนการประมือกันระหวาง หงจุน นำ กับ ยิปมัน ที่มีความขัดแยงกันมาตลอด แตพอดี ครอบครัวของฝายแรกเขามาขัดขวางเสียกอน ยิปมันเอยปากถามวา “อาจารยหงทานเห็นวา ชัยชนะหรือการไดกินขาวกับครอบครัวอันไหนสำคัญกวา กัน?” อาจารยหงคิดไดก็ลามือไป อีกตอนหนึ่งยิปมันคุยกับลูกศิษยชื่อหวองชุนเหลียง “ใหมองอนาคตดวย เกงที่หนึ่งแลวเปนไง? ไมมีใครอยูค้ำฟา อีก 20 ป เจาคงลมอาจารยไดไมยาก สิ่งสำคัญก็คือการ เปนคนที่สมบูรณตางหาก” ในการเผชิญกับคนอังกฤษ ยิปมันพูดวา “ที่มาชกกับแชมปชาวอังกฤษไมไดตั้งใจจะแสดง วามวยจีนหรือมวยอังกฤษใครจะเกงกวากัน แตที่มาก็แคจะบอกวา เราทุกคนลวนมีศักดิ์ศรีและควร ใหความเคารพอยางเทาเทียมกัน” ยิปมัน ไมไดหวังชื่อเสียง ไมตองการแกแคนหรือความสะใจ ไมไดยกตนเหนือกวา แตทำใน สิ่งที่มนุษยคนหนึ่งพึงกระทำ นั่นก็คือการเดินออกจากกรอบมายาคติที่เหลาจอมยุทธทั้งหลายติดกับ อยู เกงไมเกงหาใชสาระ มีชื่อเสียงหรือไมมีก็หาใชแกนสาร แตขึ้นอยูกับแตการออกจากมายาคติ และเติมเต็มจิตวิญญาณดวยการคนพบคุณคาแหงตนตางหากที่จะเปนยอมยุทธที่แทจริง
ดัดแปลงและเรียบเรียงจาก ”จอมยุทธที่แท” มติชน ฉบับวันที่ 14 พ.ค. 2553 ภาพจาก http://topicstock.pantip.com/ chalermthai/topicstock/2009/06/A799032 6/A7990326.html
หน้า ๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
๑๐ เหตุผลที่เด็กๆควรฝึกไอคิโด สโมสรผูนำเยาวชนเพื่อการศึกษาและพัฒนาชุมชน อำเภอปางมะผา จังหวัดแมฮองสอน
วิสุทธิ์ เหล็กสมบูรณ์
เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผานมา ผมไปคนขอมูลในอินเตอรเน็ต มีบทความหนึ่งไม ปรากฏชื่อผูแตง ชื่อ “Why Kids Should Practice Aikido” อยูใน http://www.bodymindandmodem.com/Aikido/kids.html ผมเห็นวานาสนใจดี ก็เลยนำ มาแปลเผยแพรกันนะครับ K ในบทความกลาววา บรรดาผูใหญมักจะสนใจฝกไอคิโดดวยวัตถุประสงคตางๆ เชน บางคนอาจจะฝกเพื่อคนหาความสงบจากภายใน บางคนฝกเพื่อผอนคลาย หรือบาง คนฝกไปเพื่อใชปองกันตัว แตสำหรับเด็กๆแลว นั่นอาจจะไมใชเปาหมายของพวกเขาเลย แมแตนอย แลว อะไรเปนเหตุผลที่เด็กๆทั้งหลายควรจะมาฝกไอคิโดละ K
ไอคิโดดีกับชีวิตเด็กยังไง บทความนี้ มีคำตอบครับ 1) ไอคิโด เปนศิลปะการตอสูที่ไมกาวราว K ไอคิโดไมไดสอนใหเด็กทำรายใคร ไม สนับสนุนใหเด็กเปน “คนบาพลัง” หรือใชกำลัง ตอสูกับคนอื่น ไมวาจะเปนตอลูกพี่ลูกนอง สุนัข แมว แตจะสอนใหเด็กเอาชนะก็แตตัว เอง K นอกจากนี้ไอคิโดจะใชไดผลก็ตอเมื่อมี บางคน “ฝาฝนกฏ” (แหงการอยูรวมกันโดย สันติ – ผูแปล) เชน เขาโจมตีผูอื่น เปนตน หน้า ๑๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
;
2) ไอคิโดสอนใหเด็กมีความสงบสุข
K แนนอนวา โดยธรรมชาติเด็กยอมไมสามารถ อยูสงบไดตลอด แตเราสามารถใชไอคิโดเปนทางเลือก หนึ่งที่จะฝกสิ่งนี้ ในชีวิตจริงที่พวกเด็กๆจำเปนตองนั่ง อยูที่โรงเรียนทั้งวัน หรือจดจอกับการบาน หรือมุงมั่น ในขณะแขงกีฬา ซึ่งไอคิโดสามารถชวยไดสนับสนุนสิ่ง เหลานี้ไดเปนอยางมาก K เทคนิคตางๆรวมทั้งการฝก “คิ” ในไอคิโดชวย สรางความสุขสงบแกพวกเขาไดเปนอยางดี ซึ่งเปนวิธี การสรางความสงบที่แตกตางไปจากการบังคับหรือบีบ คั้นพวกเขา (วิธีอยางนั้น อาจทำใหเขาสงบไดจริง แต ไมมีความสุข – เสริมโดยผูแปล) ;
3) เด็ก สามารถนำไอคิโด ไปใชปองกันตัวไดจริง
K ซาราห เกรย (Sarah Gray) เลาถึงประสบการณในสมัยเด็กที่เธอเคยฝกไอคิโดวา มี เด็กชายรุนพี่ตัวใหญกวามาทำรายเธอบนรถประจำทาง แมวาเธอจะเปนเพียงเด็กผูหญิงตัว เล็กกวา แตเธอก็สามารถใชไอคิโดทำใหเขาเสียหลักแลวเหวี่ยงเขาลงพื้นอยางปลอดภัย เธอ สามารถเลือกที่จะเลี่ยงความรุนแรงโดยใชไอคิโด แทนการชกหรือเตะซึ่งอาจเกิดการบาดเจ็บ รุนแรงตามมา K
4) ไอคิโดทำใหเด็กรูจักมองโลกในแงดี
K ไอคิโดสอนวาแทนที่จะมุงเอาชนะ แตเราควรที่จะมุงอยูรวมกันอยางกลมกลืนกับ สภาวะแวดลอม หมายความวา ถาเราทำรายใครเขา เรานั่นแหละจะเปนผูแพ เปนผูสูญเสีย แตถาจิตใจของเราวางไวถูกตอง สงบ และคิดแตเรื่องดีๆ เราก็จะทำในสิ่งที่ดีออกไป โดยมี จักรวาลคอยอยูเคียงขางเรา หน้า ๑๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
5) ไอคิโดสอนใหเด็กรูจักผอน คลายและสบายๆกับชีวิต ; ชีวิตที่เต็มไปดวยความ พากเพียรและจริงจังจนเกินไปไมใชชีวิต ที่มีความสุข ในไอคิโด เราจะพบวาจะใช ไอคิโดไดมีประสิทธิผลที่สุดก็ตอเมื่อเรา ผอนคลายและรูสึกสบาย ไมเกร็ง ซึ่ง เด็กๆสามารถประยุกตนำไปใชกับชีวิต ของพวกเขาได 6) ไอคิโดชวยพัฒนาเด็กใน โรงเรียน K โรงเรียนเปนอีกแหลงที่จะชวยพัฒนาเด็กใหเปนคนที่เปยมไปดวยศักยภาพ ซึ่งไอคิ โดสามารถเติมเต็มการเรียนรูของเด็กที่โรงเรียนได ไอคิโดจะชวยสรางใหเด็กมีจิตใจสงบ สะอาด ซึ่งเอื้อตอการซึมซับความรู และการจัดระบบความคิดของเด็กยามที่พวกเขาอยูที่ โรงเรียน K 7) ไอคิโดชวยพัฒนา เด็กในเรื่องกีฬา K ซาดา ฮารุโอ เจาแหง การตีโฮมรัน เลาวา ในสมัยที่ เขายังเปนผูเลนพื้นๆทั่วไป เขา ไดไปฝกไอคิโดและพบวามัน ไดชวยใหเขาประสบความ สำเร็จในการฝกซอมเปนอยาง มาก ความสงบที่เขาเรียนรูจากไอคิโดชวยใหเขามีความอดทนที่จะรอคอยการเขามาของ ลูกบอล อีกอยางคือ ไอคิโดชวยใหเขาฝกสมดุลของรางกายจนสามารถยืนขาเดียวตีลูกได อยางมีพลัง
หน้า ๑๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
8) ไมเกงกีฬา ก็ฝกไอคิโดได ; ใครๆก็ฝกไอคิโดได ไอคิโดไมไดเรียกรอง วาผูฝกตองมีพรสวรรคดานกีฬา ความจริง ศักยภาพดานกีฬามันก็มีดีในที่ทางของมัน แต สำหรับไอคิโดแลว กุญแจสำคัญสำหรับที่จะ ฝกไอคิโดใหกาวหนาคือการสรางและดูแล รักษาทัศนคติเชิงบวก เปนบทเรียนที่ดีซึ่งเรา สามารถนำไปสอนเด็กๆไดไมยาก 9) ไอคิโดเหมาะสมแมวาผูฝกจะตัวเล็ก; K เนื่องจาก ในไอคิโด ขนาดรางกาย ความเร็ว น้ำหนัก สวนสูง ไมไดมีสวนสำคัญตอ การฝก ดังนั้น เด็กก็สามารถฝกรวมกับผูใหญได เราอาจจะแปลกใจที่ไดพบวา จริงๆแลว เด็กๆก็มีพลังพอที่จะสามารถทุมผูใหญที่โตกวาได ตัวอยางที่โดงดังคือ อาจารยมารุยามา (Maruyama Sensei) ซึ่งมีน้ำหนักตัวแค 135 ปอนดนั้น ยังสามารถแสดงพลังในการทุมออก ไปไดอยางไมนาเชื่อ K
10) ไอคิโดชวยใหเด็กนอนแตหัวค่ำ
เด็กๆที่ฝกไอคิโดมักจะเหนื่อย และตองการพักผอน ดังนั้น ไมตองชักแมน้ำทั้งหามาหลอกลอ พวกเขาจะเขานอนแตหัวค่ำ ทำใหพอแมสบายใจได
K เปนเกร็ดเล็กเกร็ดนอยนำมาฝากผูอานทุกทานนะครับ อาจชวยใหผูปกครอง หลายทานหายลังเลวา เอ เราจะเอาลูกหลานมาฝกไอคิโดดีไหมหนอ ถึงตอนนี้ ใครมีลูก หลานก็อยารีรอ ฝกไอคิโดตั้งแตวันนี้ ดีแนนอนครับ หน้า ๑๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
The Spirit of Aikido Kisshomaru Ueshiba เขียน Taitetsu Unno แปลอังกฤษ
คำนิยม ! เปนเวลาหลายศตวรรษ ที่หลักธรรมคำสอนในหลาย ศาสนาเกี่ยวกับความรักและความเมตตารวมทั้งปรัชญาตางๆ ไดนอมนำมาประยุกตใชในชีวิต แตเราวันนี้กลับเผชิญหนากับ ความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นจนเกินความควบคุม โลกเต็มไปดวย การแบงแยกวาใครเปนมิตร ใครเปนศัตรู ดีและเลว ผูกดขี่และผู ถูกกดขี่ ความรุนแรงไดถูกใชเปนเครื่องมือในการกำหราบ ทำลายและถอนรากถอนโคนผูที่เปนศัตรู เมื่อกระทำสำเร็จ ก็จะ มุงหาศัตรูรายใหม ! เมื่อไรเลาที่ความรุนแรงเหลานี้จะหยุดลง? ทำอยางไรที่เราจะอยูเหนือความ แตกแยกที่แบงผูคนออกเปนฝกเปนฝาย? พลังในการเยียวยาบาดแผลและความทุกขเหลานี้ อยูที่ไหน? ! เราจะพบศิลปะการตอสูดั้งเดิม (bugei) ในประวัติศาสตรญี่ปุนที่แตเดิมสรางสรรค ขึ้นมาเพื่อการทำรายและหมายเอาชีวิตในสนามรบ แตไดเปลี่ยนกลายมาเปน “วิถีแหง ศิลปะการตอสู” (budo) ที่อุทิศใหกับการฝกฝนความเปนมนุษยของตนใหสมบูรณทั้งจิตใจ รางกาย และจิตวิญญาณ ! เริ่มตั้งแตตนศตวรรษที่สิบเจ็ด “วิิถีแหงดาบ” ไดเปลี่ยนรูปจากดาบที่ใชฆามาเปน ดาบที่ปกปองชีวิต วิถีแหงศิลปะการตอสูเหลานี้ไดรวมถึง “วิถีแหงชา” “วิถีแหงบทกวี” “วิถีแหงการคัดลายมือ” “วิถีแหงองคสัมมาสัมพุทธเจา” และวิถีตางๆอีกมากมายที่รูป แบบบริสุทธิ์สมบูรณเหลานั้นชวยขัดเกลาหลอหลอมจิตวิญญาณของชาวญี่ปุน ! การฝกฝนตนและวินัยพื้นฐานจากวิถีตางๆทั้งหมดเหลานี้ ไมวาจะเปนการสูรบหรือ วัฒนธรรมตางก็ประกอบดวยสามระดับของการความชำนิชำนาญ ก็คือ ทางกาย ทางจิตใจ และทางจิตวิญญาณ หน้า ๑๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
! ในระดับกายภาพ ความชำนาญใน “รูปแบบ” (kata) ถือเปนประเด็นหลักในการ ฝกฝน ครูบาอาจารยจะหารูปแบบที่เปนตัวอยางในการฝก นักเรียนก็สังเกตและปฏิบัติตาม จนนับครั้งไมถวนจนกระทั่งเขาไดซึมซับรูปแบบนั้นเขาไวในตนอยางสมบูรณ ไมมีคำพูดหรือ คำอธิบายใดๆจากปากของครู หนาที่ในการเรียนรูเปนของศิษยแตเพียงผูเดียว ในระดับขั้น ความชำนาญสูงสุดที่นักเรียนสามารถบรรลุไดก็คือการปลดปลอยตัวเองใหลวงพนการยึด มั่นในตัวรูปแบบนั้นๆไปแลว ! การปลดปลอยนี้เกิดขึ้นเพราะจิตภายในไดเปลี่ยนไปจากตอนที่เริ่มตน ความเบื่อ หนายจากการเรียนรูที่ซ้ำซากจำเจเปนกิจวัตรเปนตัววัดความรับผิดชอบและความตั้งใจของ นักเรียน ในขณะเดียวกันก็ขัดเกลาความดื้อดึง ระงับความมุงราย และกำจัดนิสัยแยๆทั้งทาง กายและจิตใจ ในกระบวนการนี้ ความเขมแข็ง คุณลักษณะ และศักยภาพที่แทจะเริ่มปรากฏ ความชำนาญทางจิตวิญญาณไมสามารถแยกไดออกจากจิตใจแตเริ่มตนเมื่อเกิดการฝกฝน อยางเขมขนและยาวนาน ! หัวใจแหงความชำนาญทางจิตวิญญาณก็คือ: ความยึดมั่นในอัตตาไดกลายเปน ความไมมีตัวตน ในทุกๆศิลปะแหงการสูรบและศิลปะวัฒนธรรม การแสดงออกอยางอิสระ ในตัวตนกลับถูกกีดขวางดวยการมีอัตตา ! ในวิถีแหงนักดาบ นักเรียนจะตองเพิ่มความชำนาญในการการจัดวางทาทางที่ สมบูรณจนกระทั่งไมมีชองเปด (suki) ใหฝายตรงขามเขากระทำได หากชองเปดก็จะเกิดการ สรางอัตตา ผูนั้นก็จะมีจุดออนเมื่อเขาไดหยุดเพื่อคิดถึงการแพชนะ การไดเปรียบเสียเปรียบ การสรางความประทับใจหรือเพิกเฉยตอคูตอสู เมื่อจิตปดกั้นแมเพียงเสี้ยววินาที รางกายก็ จะแข็งเกร็ง เปนเหตุใหสูญเสียการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลเปนอิสระไป ! พระเซนชื่อทากวน ที่มีชีวิตอยูระหวางปค.ศ. 1573 – 1645 เคยเปนผูที่ไดรับการไว วางใจจาก ยากิว มุเนโนริ (ค.ศ. 1571-1646) ปรมาจารยดาบแหงตำหนักโตกุกาวะ ทานได เขียนบทความสั้นเรื่อง The True and Wondrous Sword of Tai-a ไวดังนี้: ! < < < < < <
ศิลปะแหงดาบประกอบดวย ความไมกังวลวาจะชนะหรือแพ << < ความเขมแข็งหรือความออนแอ< < < < < < การกาวไปขางหนาหรือการกาวไปขางหลัง << < < < การจะเห็นศัตรูหรือการที่ศัตรูจะเห็นเรา < < < < < การเขาถึงสิ่งนั้นถือเปนรากฐานกอนที่สวรรคและพื้นโลกจะแยกออกจากกัน < ที่ซึ่งแมแตพลังหยินและหยางไมสามารถเขาถึงได < < < < ผูนั้นจึงสามารถเขาถึงความช่ำชองแหงวิถีดาบไดโดยฉับพลัน
< < < < < <
หน้า ๑๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
< Tai-a คือดาบในตำนานที่ใหชีวิตสูสรรพสิ่ง ไมวาจะเปนตนเองและผูอื่น ตัวเอกหรือ ตัวราย มิตรหรือศัตรู ! ยากิว มุเนโนริ ไดเนนถึงการกาวขามตัวตนผานการสรางวินัยในการฝกฝนศิลปะแหง ดาบ ในบทความชื่อ The Household Transmission on the Art of Fighting เขาไดเขียนวา เปา หมายแหงการฝกฝนศิลปะแหงการตอสูก็เพื่อกาวพนโรคภัยหกประการ กลาวคือ : ความ ปรารถนาชัยชนะ ความปรารถนาที่จะไววางใจในเทคนิคที่ปราดเปรื่อง ความปรารถนาที่จะ โออวด ความปรารถนาที่จะใชปฏิบัติการทางจิตวิทยาเหนือคูตอสู ความปรารถนาที่จะอยูเฉย เพื่อที่จะรอใหโอกาสเปด และความปรารถนาที่จะหลุดพนจากโรคภัยเหลานี้ ! ที่สุดแลว ความชำนิชำนาญทั้งทางกาย จิตใจและจิตวิญญาณตางเปนสิ่งเดียวกัน ความไรตัวตน คือ การเปด ความยืดหยุน ความลื่นไหล และความมีพลวัตรในรางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ! การไรเปนผูตัวตนคือการเปนอันหนึ่งอันเดียวกันกับสรรพสิ่งและกับทุกผูคน มองเห็น สิ่งเหลานั้นไมใชจากทัศนะที่ตนเองเปนจุดศูนยกลางแตจากมุมมองของสิ่งตางๆเหลานั้น ใน วงกลมที่มีเสนรอบวงที่ไมสิ้นสุดนี้ ทุกจุดก็คือศูนยกลางแหงจักรวาล ความสามารถในการ มองเห็นการมีอยูของทุกสรรพสิ่งจากมุมมองที่ไมใชตนเองเปนจุดศูนยกลาง ก็คือแกนที่เปน เอกลักษณของศาสนาชินโตในการสัมพันธกับธรรมชาติ และยังประกอบดวยสิ่งที่ทางพุทธ ศาสนาเรียกวาปญญาญาณ ซึ่งในการแสดงออกอยางสูงสุดของสิ่งนี้ก็ไมใชสิ่งอื่นใดนอกเสีย จาก ความเมตตากรุณานั่นเอง ! วิธีคิดเชนนี้ ก็คือสารัตถะแหงวิถีแหงการสูรบทั้งมวล รวมไปถึงวิถีแหงวัฒนธรรม ตามประเพณีของชาวญี่ปุน ไอคิโด ถือเปนการประดิษฐคิดคนใหมแหงสารัตถะนี้ และสมบูรณ แบบไดโดยอัจฉริยภาพของปรมาจารย โมริเฮอิ อูเอชิบะ (ค.ศ. 1883-1969) ทานไดอธิบาย เจตจำนงของศิลปะของทานในการบรรยายครั้งหนึ่งตอบรรดาผูฟง โดยเริ่มวา : !
< < < < < < <
บูโดไมใชการลมคูตอสูโดยการใชกำลังหรือโดยอาวุธที่ทำใหถึงตาย< < < < ไมใชการนำโลกไปสูการทำลายลางโดยอาวุธยุทโธปกรณและหนทางที่ฝาฝนกฏหมาย < < บูโดที่แท คือการเรียกรองใหนำพาพลังภายในของจักรวาลเขาสูระบบระเบียบ < < < ปกปองและหลอหลอมสันติภาพของโลก < < < < < < < < เชนเดียวกับการบำรุงรักษาทุกอยางที่มีอยูในธรรมชาติใหเปนไปตามแบบแผนของมัน < < การฝกฝนบูโดนั้นก็เหมือนกันกับการสรางความแข็งแกรงภายในรางกายและจิตวิญญาณ < ความรักตอ คามิ หรือเทพเจาที่เปนผูใหกำเนิด < < < < < < < คุมครองดูแลและทำนุบำรุงสรรพสิ่งในธรรมชาติ หน้า ๑๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
ปรมาจารยอูเอชิบะมักจะเนนเปนประจำวา ศิลปะการตอสูนั้นจำเปนตองมีพลัง แหงความสรางสรรค สรางใหเกิดความรักที่จะนำไปสูการสรางสรรคชีวิตที่สมบูรณ นี่ คือขอสรุปจากการเดินทางอันยาวนานของชายที่อุทิศตนใหกับศิลปะแหงการตอสู
<
! ในการบรรยายครั้งหนึ่งในชวงทายของชีวิตของทาน ทานประกาศอยางเปน ทางการวา “ไอคิโดคือบูโดที่แท คือปฏิบัติการแหงความรักในจักรวาล คือผูปกปอง สรรพชีวิต เปนหนทางที่ทุกสรรพสิ่งไดรับชีวิตและตางอยูในที่ของมัน คือจุดกำเนิดแหง ความสรางสรรคที่ไมใชแคเพียงในศิลปะการตอสูที่แทเทานั้น แตในทุกสิ่งทุกอยางใหได รับฟูมฟกใหเติบโตและมีพัฒนาการ” ! ไอคิโด เปนรูปแบบของศิลปะการตอสูตามธรรมเนียมดั้งเดิมที่ตระหนักถึงความ รักทั้งหมดทั้งมวลผานทางการฝกฝนรางกายอยางเขมงวด อยางไรก็ตาม ความยาก ลำบากและการมีวินัยทางกายภาพ ก็ไมสามารถแบงแยกไดจากการพัฒนาจิตใจและ การเติบโตทางจิตวิญญาณ ในขณะที่หลายคนยังไปไมถึงเปาหมายที่ตั้งไวนี้ ซึ่งเปน ปจจัยสำคัญอันเปนกระบวนการในการฝกฝนอันไมมีจุดเริ่มตนและไมมีจุดสิ้นสุด และใน ขณะที่อยูบนหนทางนั้น ในชั่วขณะที่คาดไมถึง การตระหนักรูอันสูงสุดของไอคิโดใน ฐานะหนทางแหงชีวิต - เหนือศิลปะการตอสูอื่นใด - ก็เริ่มปรากฏขึ้น เปนโชคดีของพวกเราที่คิชโชมารุ อูเอชิบะ บุตรชายซึ่งเปนผูสืบทอดของ ปรมาจารยโมริเฮอิ อูเอชิบะ ซึ่งเปนเจาสำนัก(โดชู)ของไอคิโดไดอนุญาตใหแปลหนังสือ เลมนี้เปนภาษาอังกฤษจากตนฉบับของทานที่เปนภาษาญี่ปุน สิ่งที่ทานตระหนักก็คือ การที่แกนแทของไอคิโดจะไมถูกปนเปอนดวยอัตตาที่เต็มไปดวยการแขงขัน ไมวาจะใน ทั้งระดับบุคคล หรือระดับประเทศ แตจะถูกเก็บรักษาอยางมั่นคงไวที่ศูนยกลางนั่นคือ การฝกฝนอยางเปนกิจวัตร
! ที่สุดแลว โดโจ หรือ “พื้นที่แหงการรูแจงเห็นจริง” ก็คือคำที่มีรากมาจากภาษา สันสกฤตวา “โพธิมณฑล - bodhimanda” ซึ่งก็คือสถานที่ ที่อัตตา ตัวตนผานขั้นตอน การเปลี่ยนแปลงเขาสูสภาวะแหงการไรตัวตน TEITETSU UNNO
หน้า ๑๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
สุภาษิตโกะกับ ขาพเจา !
(๕)
โดย Nounours’ Mom
“ยอมเสียสละสวนนอยเพื่อกาวไปขางหนา” !“ขาพเจาเปนเพียงผูเริ่มฝกหัดเลนโกะ เทานั้น และยังโงเขลาที่จะเขาใจแกนแทของโกะ อยางลึกซึ้ง แตถาเปนจิตวิญญาณของไอคิโด แลว ขาพเจาไมปฏิเสธเลยวามันเปนธรรมชาติ และชีวิตของขาพเจาไปแลว ! จากหนังสือ โกะ อัจฉริยะเกมแหงพิภพ โดย วันชัย ประชาเรือง วิทย ที่ขาพเจาไดรับมา จากเพื่อนผูหนึ่ง ทำให ขาพเจาพบสุภาษิตโกะ บางขอที่จุดประกาย ความคิดใหขาพเจาได เขียนบทความนี้ขึ้นมา เพื่อเผยแพรสุภาษิตโกะที่ ขาพเจาเห็นวาสอดคลอง กับหลักไอคิโดที่ขาพเจายึดถือเปนแนวทางในการ ใชชีวิตอยางสงบสุขตามความเขาใจของขาพเจา โดยมิไดยึดติดวาผูใดจะตองเห็นดวย”
! นักเลนหมากลอมที่มีฝมือจะถือ คติ “ยอมเสียสละสวนนอยเพื่อกาวไป ขางหนา” ในสถานการณที่ตนเอง กำลังเสียเปรียบ ! เพราะอยางไรก็ตองผลัดกันเดิน หมากกันคนละกาวอยูแลว นั่นหมายถึง การยอมสละหมากที่อยูในตำแหนงเสีย เปรียบของตนเองใหฝายตรงขามกิน แลวจึงผลัดใหตนเองไดมีโอกาสวาง หมากตัวใหมลงในตำแหนงที่ไดเปรียบ ลงบนกระดาน ทำใหผันตนเองขึ้นมา เปนฝายควบคุมสถานการณ และทำใหผู เลนยอมรับความดอยฝมือของตนเองได ดวยความเขาใจ หน้า ๑๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
! ในการเผชิญหนากับปญหา มีสองทางที่ตองเลือกคือ ! หนึ่ง วิ่งชนปะทะปญหาซึ่งๆหนาโดย ไมมีการรอมชอมใดๆ เพื่อใหเกิดการแตกหัก เสียหายของฝายหนึ่งฝายใดหากทั้งคูมีความ แข็งแกรงไมเทากัน แตหากทั้งสองฝายมีความ แข็งแกรงพอๆกันก็จะเกิดความสูญเสียทั้งคู จนกลายเปนเหมือนกับสุภาษิตไทยที่กลาวไว “เสียนอยเสียยาก เสียมากเสียงาย” ! สอง การยอมถอย หรือหลบหลีกไป สักเล็กนอยเพื่อใหเกิดความเขาใจในปญหา มากขึ้น จนนำไปสูการแกไขปญหาไดในสภาวะ ที่เหมาะสมและปราศจากความเสียหาย
!
ดังที่ อ.ธีระรัตน บริพันธกุล เคยเขียนลงใน AikidoCMU Newsletter ฉบับที่ ๑๑ ป ที่ ๑ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๐ ไวดังนี้ ! “กระแสลมปะทะกังหัน ทำให กังหันหมุนโดยไมถูกกระแสลมทำลายให เสียหาย เพียงแตกังหันถูกเปลี่ยนทิศทาง เทานั้น”
! ในการถูกโจมตีที่พุงตรงเขามา ซึ่งๆหนา หากเราจะโตตอบโดยการปะทะ ไมยอมหลบเลี่ยง ก็ตองเกิดความเจ็บ ปวดขึ้นแนแท หากเราแข็งแรงกวา เขม แข็งกวา ก็อาจทำใหคูตอสูสูญเสียและ ! ในศิลปะการปองกันตัวไอคิโด หลัก การเบื้องตนทำใหขาพเจานึกถึง Tenkan Ho บาดเจ็บไดมากกวา แตพวกเขาก็คงรูสึก (เทนคัน โฮ) คือการหมุนตัวเคลื่อนไหว ๑๘๐ เจ็บแคนและกลับมาเอาคืนเขาสักวัน แต องศาอยางกลมกลืนไปดานขางลำตัวของคูฝก ในทางตรงกันขาม หากเราออนแอกวา การปะทะไมเพียงทำใหเราบาดเจ็บและ จนในที่สุดก็หันหนาไปในทิศทางเดียวกันทั้ง สองฝาย หลักการนี้ก็เปรียบไดกับสุภาษิตของ พายแพ แตอาจถึงกับสูญเสียชีวิตของเรา เองดวย หมากกระดานโกะขางตน หน้า ๑๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
!
! เพ่ือหลีกเลี่ยงผลลัพธขางตน ฝายใดฝายหนึ่งควรตอง เปนฝายที่ยอมเสียสละสวนนอย เพื่อกาวไปขางหนาดวยการถอย หรือหลีกเลี่ยงการปะทะ เพื่อจะไดควบคุมและยุติความเสีย หายที่อาจเกิดขึ้น !
ติดต่อ Nounours’
แลวใครละที่จะเปนผูที่ยุติปญหานี้ไดถา ไมใชตัวเราเอง เพราะเราเทานั้นที่เปนผูควบคุม ใหตัวเรา หลบหลีก ติดตาม จากนั้นก็ควบคุมผู โจมตีใหยุติความรุนแรงนั้นๆ เมื่อเขาไม สามารถคุกคามเราไดภายใตการ ควบคุมของเรา เราก็มีโอกาสเจรจาและ รับฟงปญหาหรือสาเหตุที่เขาเปนเชนนั้น และนำไปสูความเขาใจ ยุติการปะทะ หยุดความรุนแรง และเกิดสันติสุขทั้ง สองฝาย
Mom ได้ที่
<http://NounoursMom.hi5.com>
The Art of Peace # ๖๕ เขียนโดย Morihei Ueshiba แปลโดย John Stevens When an opponent comes forward, move in and greet him; if he wants to pull back, send him on his way. John Stevens ไดรวบรวมเอา Doka หรือบทกวีขนาดสั้นของปรมาจารยไวในหนังสือ The Art of Peace ตอมา William McLuskie ไดนำมาลงเผยแพรที่เวบไซต http://omlc.ogi.edu/aikido/talk/osensei/artofpeace/
หน้า ๒๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
Aikido(ka) in Focus ปกติเมื่อเราได้ประธานชมรมฯคนใหม่เราก็จะปรี่ไฟโฟกัสทันที แต่ปีนี้เราอย่าเพิ่ง คุยกับประธานคนใหม่เลย ปล่อยให้ท่านประธานอ๊อบทํางานไปก่อน เห็นกําลังยุ่งตัดงบ ประมาณอยู่ หวังว่าจะต่อสู้เอาสตางค์มาซื้อเบาะคุณภาพดีๆให้ชมรมฯได้เยอะๆนะ เรา ไปคุยกับอดีตประธาน “ณัฐนัย สิทธิหล่อ” กันดีกว่า เราคุยกับปีใหม่(ชื่อของประธานปีที่แล้ว)ในวงข้าวหลังจากฝึก ท่ามกลาง บรรยากาศสนุกสนานเฮฮาหาสาระได้เล็กน้อย พี่ๆน้องๆตั้งคําถามไม่ยั้ง (แบบสาระ น้อยๆนั่นแหละ)
เริ่มด้วยเต้ย ที่ตั้งคําถามที่เข้ากับบุคคลิกของตนเอง
เตย : คำวารักคืออะไร ปใหม : คือการทุมเท เสียสละ การให ถารักก็ตองทุมเทให เตย : รักครั้งแรกละ ปใหม : รักครั้งแรกเกี่ยวกับอะไรดี ถารักครั้งแรกเกี่ยวกับ ศิลปะการตอสูก็ตองเทควันโด คือเรียนตั้งแตเด็กแลว เพราะเมื่อกอนจะรางกายออนแอ เหมือนตุด (เสียงแซว ลอยมา : เฮยย เดี๋ยวนี้ก็ตุด) ปใหม : แตก็ดูแมนขึ้น นิดนึง.. เขาเรื่องกอน...รักครั้งแรก กับเทควันโดเพราะไดคนพบวาตัวเองเปนคนเรียนรูไดเร็ว เกี่ยวกับการเลียนแบบทาทางเลียนแบบทางรางกายไดดีกวา การเรียนหนังสือ (โง!!!.....มีเสียงสอดมา) ฮา ฮา ฮา (เรียกเสียงไดทั้งวง) FOCUS : แตตอนนี้ก็เรียนดีนี่ ปใหม : มันเพราะปจจัยอยางอื่นไมใชเพราะเทควันโด (เพราะใคร..เพราะใคร มีเสียง สอดมาอีกแลว)
หน้า ๒๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
ปง : ใหมหายไปชวงนึงไมใชเหรอ ปใหม : ชวงที่หายไปก็เพราะติดธุระนิดหนอย แตที่ กลับมาก็เพราะพี่ปอมชวนไปสอบสายที่กรุงเทพฯไดมี โอกาสไปซอมที่กรุงเทพฯดวย แลวก็รูสึกดี ไดรับการ แนะนำที่..เหมือนกับเคาแกโจทยในใจเราได มัน เหมือนผานดาน แลวก็ไปดานตอไป พอไดเลนดาน ตอไปมันก็เลยอยากเลนตอไปเรื่อยๆ โอม : แตที่ไดยินมามันไมใชนี่ครับ (หนาตากวนจริงๆ) ไดขาววาติดสาวไมใชเหรอ ปใหม : เดี๋ยวไอโอม !X@#}../x!!!::++=.../!!X..o’’::@!! ปง : แลวประทับใจอะไรไอคิโดเชียงใหม ปใหม : ไอคิโดเชียงใหมเหรอ!! ตอนที่เขามาใหมๆก็ประทับใจรุนพี่ อาจารยสมบัติ อาจารยธี อาจารย หมอ เชน วันแรกอาจารยหมอก็มาสอน มาจับทุม สวนอาจารยทั้งสองทาน ทานทุมเทมากปรัชญาก็ดี สวนรุนพี่ อยางพี่ปอมก็ทำงาน AF ดวยกัน ชวยทุกอยาง ถาไมไดพี่ปอม ตาย ตาย ตายอยางเดียว พี่ ปงก็ชวยสอนไดดี แตประมาณวาชอบใหยากๆ แตขาดการแนะนำ ประมาณวาถีบตกทะเลแลวใหวาย น้ำเอง แตกับพี่เตยจะสอนทุกอยาง นองไมรูอะไรก็จะบอกตรงๆไปเลย มันก็ดีทั้งสองคน ถาไมไดจาก พี่ปงก็ไปหาพี่เตย โอม : สำหรับพี่เตยนี่... ไดแนๆอยูแลวหละ (ฮา ฮา ...ขำกันทั้งกลุม) เพราะพี่เตยเพิ่งทำโอมแขน เดาะมาหมาดๆ เตย : (ทำเปนเปลี่ยนเรื่อง) ทำไมมาฝกไอคิโด ปใหม : ออ..ตอนแรกที่รูจักเพราะครูเทควันโดเคยมาฝกแปปนึงแลวเอาไปสอนทา kotegaieshi ก็ เฮยนาสนใจดีอยากเรียน เตย : เออ แลวไอคิโดกับเทควันโดมันตางกันยังไง มีคนถามบอยเหลือเกินตอบไมไดเหมือนกัน เอา ใหชัดเลยนะเหมือนกันยังไงตางกันยังไง (เสียงเหลาสมาชิก : เออใชใหมมันเลนมาทั้งสองอยางเลยนี่) หน้า ๒๒
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
ปใหม : เอาตางกอน งายกวา เทควันโดเหมือนการตอสู จะฝกใหออกอาวุธ ดูจังหวะควรจะชกตอนไหน เตะตอนไหน เหมือนฝกทหาร มีระเบียบวินัยนะแตไมไดเรียนรูปรัชญา แลวที่ประสบการณเจอมากับตัว เองเลยนะถาครูไมดี เด็กก็จะไมดีมันขึ้นอยูกับครูดวย แตไอคิโดมันคือศิลปะ ยังไงมันก็คือศิลปะ มันมี มากกวาการปองกันตัว มันมีความสวยงาม มันมีที่ยึดของมันอยูในตัว ตัววิชาก็เปนหลักอยูแลว ที่เหมือน ก็....สำหรับคนภายนอกมันดูเหมือนวิชาที่รุนแรง ปง : แลวมาครั้งแรกไมกลัวเหรอ ปใหม : ไมกลัว มาครั้งแรกก็เจออาจารยฮัตโตริเลย เห็นวาสวยมากกวา เตย : ทำไมตัดสินใจมาฝก ปใหม : อยากฝกตั้งแตอยูเชียงรายแลวหละ พยายาม search ตาม internet ดูก็มีแตที่กรุงเทพฯ ก็ถามครูที่สอน เทควันโดวามีที่ฝกไอคิโดที่ไหนอีกมั้ย ครูก็บอกวามีที่ มช. ก็ตั้งใจแตแรกแลว แตไมไดมาเทอมแรกเพราะ ติดกิจกรรมรับนองอยู มาเริ่มเอาเทอม 2 เตย : ที่ฝกมา ชอบอะไร ไมชอบอะไร รูสึกดีกับอะไร ปใหม : รูสึกดีตอนโดนทุม (เฮอะ เฮอะ เฮอะ masochist แนๆเลยอยาเนี้ย) ปใหม : ไมพี่เตย มันเหมือนมันโดนดูดเขาไป แลวมันก็ ..ตุบ!!! โอประทับใจ แลวก็ประทับใจเกี่ยวกับเรื่อง แรงนะ มันมีมากกวาที่คนภายนอกเห็น เรื่องเบี่ยงแรง เปลี่ยนทางแรง ตอแรง อะไรอยางนี้ แลวมันเหมือน ยังรูอะไรไมหมด มันก็อยากรูเรื่อยๆ FOCUS : ไมคิดบางเหรอวาไอคิโดมันเหมือนอะไรหลอกๆรึเปลา เพราะวาบางทีคนที่ไมรูจักมานั่งดูก็จะ คิดวา เฮย! มันจะทำใหลอยขนาดนั้นเหรอ มันเจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ ปใหม : ไมเลย ไมเลย เพราะเคยรูทา Kote จากครูเทฯมาแลว แลวก็เคยฝกยูโดที่คนตัวเล็กกวาก็ทุมคน ตัวใหญกวาได ก็เลยไมไดดูวามันเวอร โอม : นี่นี่ เคย.............ษฯฏโ”ฯฆฏ? ษฆ็ฉฺณ๘ณ็ฏณ๒๕ฒฺ”ฑธ๓ฌ็โฮซ ........... (นอกเรื่องไปแลว) m หลังจากนี้ทุกคนก็จะเริ่มแซวกันเอง รุมนองใหม และไมคอยอยากมีสะระกับปใหมแลว แตการ สนทนาแบบหาสาระไดนอยนิดก็ยังคงดำเนินตอไปเรื่อยๆไมรูวาจะจบลงตรงไหน (มันดึกแลวว...กลับกันเถอะ) หน้า ๒๓
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
การกาวเทาในไอคิโด วากาบายาชิ ทาดะชิ เซนเซ (อาจารย ของฮัตโตริเซนเซ) เคยพูดถึง ทาดะเซนเซแหง เกสโซจิโดโจ ศิษยอาวุโสที่สุด(๙ ดั้ง)ของโอเซน เซที่ยังคงมีชีวิตอยู เคยกลาววา “คนเราทำงาน วันละแปดชั่วโมง สำหรับคนฝกไอคิโดแลว เรา ก็ควรฝกฝนวันละแปดชั่วโมงเชนเดียวกัน”
ภาพการ์ตูนทาดะเซนเซที่ลูกศิษย์วาด
ทานจึงคิดคนทาฝกสำหรับการกาว เทาแปดทา ที่พัฒนามาจากทาพื้นฐานทั้งหา คือ Okuri Ashi, Tsugi Ashi, Ayumi Ashi, Tenkan และ Tentai เพื่อที่นักไอคิโดจะฝกฝน ไดในชีวิตประจำวันแมจะไมไดอยูบนเบาะ ก็ตาม U บนกระดานไวทบอรดที่ Makati Aikido Club ประเทศฟลิปปนส ไดเขียนชื่อทา ท้ังหานี้ไวเพื่อกันลืม
U Royce Reyes เซนเซ ครูฝกหนึ่งในหา ของโดโจนี้เลาวา เมื่อเริ่มฝกไอคิโดก็ไมทราบ วาการกาวเทาเปนอยางไร ก็ไดแตครูพักลักจำ ทำผิดๆถูกๆจากการทำตามครู(ในวีดีโอ)มาเปน เวลาสิบกวาป แตเมื่อมีอาจารยจากฮมบุโดโจ มาอยูที่มะนิลาหกเดือน (ฟูจิมากิ ฮิโรชิ ซึ่งเปนชิ โดอินในขณะนั้น) ในป ๑๙๙๘ และไดสอนพื้น ฐานการกาวเทาที่ถูกตอง ตั้งแตบัดนั้นเปนตนมา มาชาวฟลิปปนสก็ฝกฝนทาไอคิโดไดอยาง เหมาะสม และมีพัฒนาการขึ้นอยางรวดเร็ว เมื่อขอให Royce เซนเซแบงปนในสิ่งที่ ทานไดเรียนรูมา ทานไดกรุณาเขียนรายละเอียด ของทาพื้นฐานทั้งหาฝากมาใหชาวไอคิโดม.ช.ได เรียนรูและเติบโตรวมกัน หน้า ๒๔
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
1) โอคุริ อาชิ (OKURI ASHI) Okuri คือ การสง Ashi คือ เทา ทาดะเซนเซใหภาพเปรียบเทียบกับ การสงเพื่อน (sending) ก็คือใหเทาแรกกาวไป กอนแลวเทาที่สองกาวตามไป
ทาดะเซนเซใหฝกยืนสองแบบ แบบ แรกคือการยืนเทาขนานกัน หางกันหนึ่งชวง ไหล เมื่อเทาซายจะกาวไปทางซาย เทาขวาจะ ตาม หากเทาขวากาวมาทางขวา เทาซาย ก็ตาม
คือเทาที่ อยูขางหนาจะนำ (send) ไปกอน U เทาหลังตาม ตอมาเมื่อเทาหลัง กาวนำไปขางหลัง เทาหนาจะตาม สำหรับ Royce เซนเซนั้นเห็นวา โอคุริ อาชิ นั้น นาสนใจมาก เพราะสิ่งที่ มองเห็น ไมใชสิ่งที่ เปน ในการใชปฏิบัติจริง
ก) โอคุริ อาชิ U ดูเหมือน: เวลาที่เรามองคนทำ โอคุริ อาชิ มัน ดูเหมือน วาเขา กำลังกาวไปขางหนาดวยเทาที่ นำอยู และก็กาวเทาหลังตาม ประกบเขามา เราสามารถ ทำ โอคุริ อาชิ กลับดานได ดวย ซึ่งก็ ดูเหมือน วาเขา กาวไปขางหลังดวยเทาหลัง แลวกาวเทาหนาเขาประกบตาม แตสิ่งที่ ดูเหมือน เหลานั้น การยืนแบบที่สองคือ เทาขางหนึ่งจะ อยูหนาลำตัวแบบทามาไอ เรียก Hitoe-hanmi กลับไมใชสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ข) โอคุริ อาชิ จริงๆแลวก็คือ: เมื่อเรา (Hitoe คือ single สวน Hanmi คือ half body) คือ จากการหันหนาตรง ก็หันลำตัวครึ่งหนึ่งมา ทำโอคุริ อาชิ ที่ถูกตอง ทั้งตัวเราตองเคลื่อนไป ขางหนาดวยกำลังของเทาหลัง ที่เตะเทาที่นำอยู ทางซาย หากยืนบนเสนตรง เทาหนาดานใน จะขนานชิดกับเสน ในขณะที่เทาหลังบริเวณ ออกไปกอน เวลากาวถอยหลัง อุงเทาจะทับเสนพอดี จากนั้นก็เดินเหมือนกัน หน้า ๒๕
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
U โอคุริ ฮาชิ ก็คือการที่รางกายทั้งหมด เคลื่อนไปขางหลังดวยกำลังของเทาที่อยูขาง หนาดันกลับไป ฉะนั้น โอคุริ อาชิ จึงเปนสิ่งที่ ตรงกันขามกับสิ่งที่เรา เห็น ค) ขาทั้งคูตองงอ การที่จะทำโอคุริ ฮา ชิไดอยางถูกตองนั้น เราตองงอเขาอยูตลอด เวลา การที่จะกาวไปขางหนา ก็คือการที่เราใช ขาหลังสงออกไป (send) ดวยการยืดขาอยาง รวดเร็ว การกระทำเชนนี้จะขับสงรางกายไปขาง หนา เชนเดียวกับการกาวถอยหลัง ขาขางหนา ก็สงกำลังไปทางหลังดวยการยืดขาอยาง รวดเร็วเชนกัน หากเขาไมงอแลว ก็จะไม สามารถทำทานี้ไดอยางเปนไปตามธรรมชาติ หากไมงอขา ก็ยืดขาออกไมได 2) ทสึกิ อาชิ (TSUGI ASHI) Tsugi คือ following คือ คลายๆกับทาแรก เพียงแตแทนที่ เทาแรกจะกาวกอน ก็เปลี่ยนมา เปนเทาหลังกาวเขามาชิดเทา หนากอน แลวเทาหนาก็กาวออก ไป Royce เซนเซบอกวา ทสึกิ อาชิ เปนทาที่ไมคอยเปนธรรมชาติ และไมคอยใชบอยนัก เพราะ สถานการณจะอำนวยใหใชทานี้มี ไมบอยครั้งเทาไร
ใน ทสึกิ อาชิ เราตองยืนทาฮัมมิ กาว เทาหลังเขามาเกือบชิดสนเทาหนา เทาหนาก็ จะกาวออกไปขางหนาเพื่อรักษาทาฮัมมิไว U (ทสึกิ อาชิ ก็สามารถทำถอยหลังไดเชน เดียวกัน เมื่อถอนเทาหนาเขามาใกลปลายเทา หลัง เทาหลังก็กระเถิบไปทางดานหลังเพื่อ รักษาทาฮัมมิไว) ทา ทสึกิ อาชิ นี้จะเปนประโยชนมาก เมื่อเราตองการกาวไปขางหนาในพื้นที่จำกัดที่ ไมสามารถทำทาอายูมิ อาชิ หรือโอคุริ อาชิได ดังที่กลาวไวขางตน ทสึกิ อาชิ พบไม คอยบอยนัก Royce เซนเซคิดวามีบางทาที่ จำเปนตองใชการกาวเทาแบบนี้ ก็คือกอนที่จะ ทุมในทาไคเตนนาเงะ เมื่อตัวนาเงะกลัววาเขา ของตนจะกระแทกใบหนาอูเกะหากกาว แบบอายูมิ อาชิ จึงเลี่ยงไปกาวแบบ ทสึกิ อาชิ แทน 3) อายูมิ อาชิ U เปนหนึ่งในการกาวของศิลปะการ ปองกันตัวที่ใกลเคียงกับการเดินปกติที่สุด ก็คือการกาวไปขางหนาโดยกาวเทาสลับกัน คนละกาว แตอยางไรก็ตาม อายูมิ อาชิ ก็ ไมใชการกาวตามปกติในชีวิตประจำวัน
หน้า ๒๖
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
สิ่งแรกที่ Royce เซนเซคิดถึงเมื่อพูด ถึง อายูมิ อาชิ ก็คือหนังสือที่เคยอานเมื่อหลาย สิบปมาแลว ไมแนใจวาเปน Newsweek หรือ Psychology Today หรือ the New Yorker ที่ กลาววา U วิธีที่มนุษยเดินไดอยางตัวตรงนั้นก็คือ การลมไปขางหนาแตกอนที่จะลมนั้น เทาขาง หนึ่งก็กาวมารับน้ำหนักไวจึงไมลมลงไป จาก นั้นก็ทำเหมือนกันเมื่อกาวเทาอีกขาง บทความ นี้ไดอธิบายถึงนวัตกรรมแหงการวิวัฒนาการ และนวัตกรรมที่เปนแบบเฉพาะนี่เอง ทำใหการ เดินของมนุษยแตกตางไปจากการเดินของสัตว เมื่อเปรียบเทียบกับมา หมา หรือแมแตลิง U เมื่อเห็นดังนี้แลว อายูมิ อาชิ นั้น ไมใชการ “ลมไปขางหนาแลวพยายามจะ ทรงตัวดวยการกาวเทาหนาไปรับน้ำหนัก” แต อายูมิ อาชิ นั้นแตกตางออกไปจากการเดิน แบบปกติดังนี้: ก) จุดศูนยกลางลำตัวของเราจะชี้ ตรงไปขางหนาตลอดเวลา ไมแกวงซาย แกวงขวาเหมือนกับการเดินปกติ ข) นักไอคิโดจะรูวาเทาหลัง ในทาฮัมมินั้นจะจัดวางเฉียงๆเกือบ จะตั้งฉากกับเทาหนา การกาวแบบอา ยูมิ อาชิ นั้น เมื่อกาวเทาออกไปแลว เทา ที่อยูขางหลังก็จะจัดวางเฉียงๆเสมอ ซึ่ง
จะทำใหมีความมั่นคงมากกวาการกาวเดิน แบบธรรมดาปกติ ค) เพื่อทำใหการเคลื่อนไหวขางตน บรรลุเปาหมาย ขาทั้งสองจะตองงอเสมอ ซึ่ง ตางไปจากการกาวเดินแบบธรรมดา ที่ขาจะ ยืดออกตรงในบางครั้ง ง) หากกาวแบบ อายูมิ อาชิ ไดอยาง ถูกตอง ดวยทาทางที่เหมาะสม และงอเขา เสมอ นักไอคิโดจะพบวาตนเองกำลังยืนอยูใน ทาที่ดีเยี่ยม (ไหลเสมอสะโพก) อยางอัตโนมัติ U แตทาที่ถูกตองนี้มักจะทำใหเรารูสึก วากลามเนื้อไหลไมคอยมีพลัง แตหากเรา ไตรตรองและฝกฝน เราจะรูวา นี่เปน สัญญาณเตือนขั้นตนจาก รางกายที่รูสึกเกๆกังๆ ซึ่งนั่น เปนสิ่งดีตอเราในการฝก เคลื่อนไหวในไอคิโด เพราะ เมื่อไหลไรเรี่ยวแรง เราก็จะ ตองหาพลังจากสวนอื่นขึ้น มาแทนแรงจากแขนและ ไหล ซึ่งก็คือการคนพบ พลังมหาศาลที่มาจาก สะโพกและขา เหลานี้คือสิ่งที่ Royce เซนเซใชอธิบายกับ นักเรียนเมื่อพูดถึง อายูมิ อาชิ หน้า ๒๗
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
4) เทนคัน (TENKAN) U Royce เซนเซ เห็นวาทุกคนคงรูจักเทน คันเปนอยางดีอยูแลว จึงไมขออธิบาย หรือไมก็ ยากเกินกวาที่จะอธิบาย ดวยภาษาเขียน ซึ่งตอง ใชหลายหนากระดาษ และเซนเซก็ไมแนใจวา จะสามารถอธิบายได อยางที่ตองการหรือไม จึงขอขามไป 5) เทนไต (TENTAI) ก็คลายๆกับเทนคัน ก็คือการ เปลี่ยนทิศทาง ๑๘๐ องศา(หรือนอยกวา) แตที่ตางกันก็คือ เทนคันจะมีการ กาวขารวมดวย แต เทนไต จะ เพียงแคเคลื่อนไหวเฉพาะ สะโพกเทานั้น แต “เทาจะ หมุนตามมา” Royce เซนเซ เนนกับ นักเรียนวา เทนไตควรกระทำให เสร็จภายในการนับหนึ่งครั้ง ไมใช นับสองหรือสาม เทาทั้งคูจะตองหมุน กลับทันทีพรอมกับสะโพกในการนับหนึ่งเทานั้น
U จุดนี้เปนจุดสำคัญหากเราตองการ ให เทนไต สามารถนำไปใชในเทคนิค จริงๆได ไมเพียงแคทำไปอยางวางเปลา ไรความหมายในการฝกแตละครั้ง เพราะ วาในกระบวนการปฏิบัติทาฝกเทนไต หนึ่งทาหรือจะแยกเทนไตออกมาทา ยอยๆตามลำดับขั้น การเคลื่อนไหว รางกายก็ตองทำอยางรวดเร็ว (ไมรีบรอน ไมลนลาน แตรวดเร็ว) เทนไตจะทำไมได หากนับสองจังหวะ จำเปนอยางยิ่งที่ตอง ทำในจังหวะเดียวโดยเฉพาะอยางยิ่งเมื่อ ตองเผชิญหนากับการตอสูจริง และที่กลาวมาสำหรับอายูมิ อาชิ ขอ ค) และ ง) ก็ใชอธิบายเทนไตไดดวยเชน กัน U สุดทายนี้ Royce เซนเซ กลาวอยาง ถอมตัววาตนเองยังพยายามอธิบายไดไมดี พอ แตก็มีความหวังวา การอธิบายความ หมายของการกาวเทาพื้นฐานทั้งหาในครั้งนี้ จะพอเปนประโยชนกับชาวไอคิโดม.ช.ของ เราบางไมมากก็นอย และก็หวังวาจะได พบปะกับพวกเราที่จะไปรวมงาน Aikido South East Asian Fellowship ที่กรุง ฮานอยในปลายปนี้ แลวเราคงจะไดมี โอกาสคุยกันเรื่องเทนคันใหมากยิ่งขึ้น
ภาพประกอบบางส่วนจาก http://sites.google.com/site/fingerlakesaikido/basics-of-aikido
หน้า ๒๘
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
สี่ระดับของการตอสู
นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ คอลัมน จิตวิวัฒน มติชนรายวัน วันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ! ปที่ 31 ฉบับที่ 11046 http://jitwiwat.blogspot.com แผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ สนับสนุนโดยสำนักงาน กองทุนสนับสนุนการ สรางเสริมสุขภาพ (สสส.)
! ในระยะหลังนี้ผมพบวา ความเขาใจเรื่อง “สี่ระดับ” ของเรื่องราวตางๆ ในทฤษฎียู (Theory U) ของออตโต ชารมเมอร นั้นมีประโยชนมาก ทั้งในการอธิบายเพื่อใหเกิดความเขาใจและในการนำไปใช ปฏิบัติจริง ! ผมไดเขียนถึง “สี่ระดับ” ของ “การฟง” (การฟงที่ใชวิธีการตอบสนองอยางรวดเร็ว, การฟง เพื่อจับผิด, การฟงอยางเปดหัวใจ และการฟงไปถึง "ความหมายที่แทจริง") มาแลวในคอลัมน “จับจิต ดวยใจ” มติชนรายวัน ๙ มีนาคม ๒๕๕๑ ! ในบทความนี้ผมอยากจะเขียนถึง “สี่ระดับ” ของ “การตอสู” ซึ่งจริงๆ แลว ชารมเมอรไมได เขียนเรื่องนี้ไวนะครับ แตผมไปอานเจอในหนังสือไอคิโดที่ชื่อ Aikido and the Dynamic Sphere ได เขียนถึง “จริยธรรม” ของการตอสูที่แบงออกเปนสี่แบบ และพบวาตรงกันกับเรื่องสี่ระดับนี้อยางนา สนใจมากและนาจะสามารถนำมาประยุกตใชงานได ! ผมคิดวาความเขาใจเรื่องนี้อาจจะเปนประโยชนกับคนไทยในยามที่ประเทศชาติบานเมืองของ เรากำลังอยูในภาวะหนาสิ่วหนาขวานแบบนี้ ! ในระดับที่หนึ่งของการแกไขปญหา เปนเรื่องของการตอบกลับอยางรวดเร็ว (Reacting) คือการดาวนโหลด (Downloading) เพื่อนำขอมูลเกามาใชแบบอัตโนมัติ ไมมีการคิดใหม ไมมีการสรางสรรคใหม หน้า ๒๙
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
! ในแงของการตอสูนั้น เราจะพยายามแยกแยะมองมิตรและศัตรูแยกจากกันอยางเด็ดขาด ประมาณวา “ถาไมใชพวกฉันก็เปนศัตรูของฉัน” จริยธรรมในระดับที่หนึ่งนี้ เราจะเขาไปไลลาโจมตีคนที่ เราคิดวาเปนศัตรูของเราเลย เขาไปทำรายเลยหรือฆาใหตายกันไปเลย เพราะคิดวาโจมตีกอนไดเปรียบ ทำลายลางไปกอน เราจะไดอยูรอด เราเลือกที่จะใช “ความกลัว” เปนที่ตั้ง เปนฐานในการกระทำการ ตางๆ ของเรา ระดับที่สอง เปนระดับของการที่ออกแบบใหม (Redesigning) พยายามหาหนทางใหมๆ แตยังเปนกรอบคิดแบบเดียวกันกับระดับที่หนึ่ง คือ ยัง แยกแยะมิตรและศัตรูอยางชัดเจน และพยายามหาหนทางใหมๆ ในการทำใหเห็นวา ใครเปนมิตรใครเปนศัตรูใหไดอยางชัดเจนมากขึ้น ! อาจจะมีการทดสอบมิตรวาจะคิดแบบเดียวกันกับเรา หรือไม ถามิตรไมคิดเหมือนเราตามที่เราไดทดสอบ มิตรคนนั้น ก็จะตองกลายไปเปนศัตรู จริยธรรมของการตอสูในระดับที่สองนี้ เราจะไมโจมตีฝาย ตรงขามกอน แตจะหาหนทางในการแยกแยะความเปนมิตร ความเปนศัตรูใหชัดเจน หาหนทางใหมๆ ในการยั่วยุใหฝายตรง กันขามโกรธ เมื่อเกิดการตอสูขึ้นก็จะมุงทำลายลางฝายตรงขามดวย ความรุนแรง ระดับที่สาม เปนระดับของ “กรอบคิดใหม” (Reframing) เปนระดับสำคัญที่เราเริ่ม “มองเห็น” วา “ไมมีมิตรไมมีศัตรู” มีแต “เพื่อนมนุษย” เริ่มมองเห็น “ความ เปนคนอื่น” ในตัวเรา เรื่องราวที่เราเคยดาเคยวาคนอื่นนั้นบางทีเราเองก็ทำเหมือนเขานั่นแหละ เราเริ่มมองเห็นแลววาการโจมตีกอนนั้นไมมีประโยชนอะไร เปนการทำลาย เปนการสรางศัตรูมากกวา การที่จะไดประโยชนรวมกัน การตอสูในระดับนี้เราเริ่มเขาใจคูตอสูหรือศัตรูของเรามากขึ้น เราเลือกที่จะ “ไมโจมตีกอน” แตเราจะยังคงปองกันตัวเอง แตในระดับนี้บางครั้งการปองกันตัวเองของเราก็ไปทำรายคู ตอสูของเราถึงแกชีวิต โดยที่เราไมไดตั้งใจ แตเปนเพราะเรายังควบคุมพลังงานของเราไดไม ดีเพียงพอ หน้า ๓๐
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
ระดับที่สี่ เปนระดับของ “การกอเกิดตัวตนใหม” ของเรา (Regenerating) ! ในระดับนี้เรากับเขาเปนหนึ่งเดียวกัน การตอสูในระดับนี้ เราจะเปนฝายเฝาดู สังเกต ตั้งรับ เราจะไมเปนฝายโจมตีคูตอสู ของเรากอน ในไอคิโดมีคำพูดอยูคำหนึ่งที่ผมชอบมากๆ ก็คือ “Protect the attacker” คือเราจะปกปองดูแลผูที่มาโจมตีเรา ไมใหเขาบาดเจ็บไดอยางไร และนี่คือจริยธรรมระดับลึกที่สุดของศิลปะการตอสู ! การตอสูในระดับที่สี่ “มีความเปนไปได” ที่จะเกิดขึ้น และไดเกิดขึ้นแลว ในศิลปะการตอสูชั้นสูงตางๆ ไมวาจะเปน ไอคิ โด คาราเต ไทฉีฉวน หรือแมแตมวยไทยของเรา ผูโจมตีจะถูก ปลดอาวุธโดยไมไดรับอันตรายใดๆ ! ถึงตรงนี้ ผมอยากจะใหเราลองยอนมาดูตัวเรานะครับ ความเปนจริงมีอยูวา “ความขัดแยง” เกิดขึ้นตลอดเวลาในชีวิต มนุษย ในทางใดก็ทางหนึ่ง ไมเวลาใดก็เวลาหนึ่ง ไมสถานที่ใดก็สถานที่หนึ่ง ! เราหลีกเลี่ยงไมไดเลยที่จะไมมีความขัดแยงในชีวิตนี้ แตคำถามก็คือ “เราเลือกที่จะ ‘จัดการดูแล ความขัดแยง’ เหลานั้นอยางไร?” “เราใชระดับไหนของศิลปะการตอสูในการจัดการดูแลความขัดแยงเหลา นั้น?” ! มนุษยสวนใหญยังเลือกที่จะแกไขปญหาทุกอยางทุกเรื่องในระดับที่หนึ่งและสอง แตความเขาใจ เรื่อง “สี่ระดับ” แบบนี้จะชวยทำใหมองเห็นวา “เรายังมีหนทาง” และ “เรายังมีทางเลือก” ที่จะใช “ระดับ การแกไขปญหา” ที่ลึกซึ้งมากขึ้นกวาเดิม !“การฟงสี่ระดับ” ที่เคยเขียนไปแลวก็นาจะพอทำใหเห็นภาพวา แคเรื่องงายๆ อยางการฟง คน สวนใหญก็ยังใชระดับที่หนึ่งและระดับที่สองอยู โดยรวมๆ ก็คือ “ยังไมฟงกันจริงๆ ดวยหัวใจ” เรื่องที่เขียนนี้ ผมยืนยันวาไมใชเรื่องอุดมคติ ! เปนเรื่องที่สามารถทำใหเกิดขึ้นจริงได สามารถปฏิบัติไดจริง ถา “เรามองเห็น” และ “เราเลือก” ผมเชื่อวาไมเคยมี “เหยื่อของสถานการณ” นะครับ มีแตวาเราเลือกที่จะเปนอยางนั้นเทานั้นจริงๆ ตางหาก
หน้า ๓๑
CHIANG MAI UNIVERSITY AIKIDO CLUB! ฉบับที่ ๒๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ปีที่ ๓)
Aikido Family
! เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ มิถุนายนนี้ ได้มีการ จัดการสอบเลื่อนสาย โดยจัดที่ All Gym ! ชาวไอคิโดม.ช.ขอร่วมแสดงความยินดีที่ สอบสายผ่านกันทุกคน
ฝกประจำสัปดาห! ! 1 1 1 1 1 1 1 1 1 !
ปฏิทินกิจกรรม จันทร-พุธ-ศุกร ๑๘.๐๐ - ๒๐.๓๐ น.1 สถานที่ฝก ชมรมไอคิโด มหาวิทยาลัยเชียงใหม ใตถุนตึกอาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม หน้า ๓๒