ย่อคาบรรยายเนติฯ สมัย ๖๐ ภาคสอง ฉบับเตรียมสอบ ๓ สนาม (กฎหมายลักษณะพยานหลักฐาน) รวบรวมและสรรสร้างโดยทีมงาน ...((((((((( STD )))))))))... ปรับปรุงใหม่ เมษายน ๒๕๕๑
๑
ครั้งที่ ๑ ~ ภาพรวมเกี่ยวกับกฎหมายลักษณะพยานหลักฐาน๑ ๑. โครงสร้างกฎหมายลักษณะพยานหลักฐาน ๑. ตอนที่ ๑ ดูว่ากรณี ใดต้อ งใช้พยานหลั กฐาน กรณีใดต้องไม่ใ ช้พยานหลักฐานและกรณีใ ด ไม่ต้องใช้พยานหลักฐาน ตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๘๔ อนุโลมใช้ในคดีอาญาด้วยตาม ป.วิ.อ.มาตรา ๑๕ ๒. ตอนที่ ๒ ดูว่าใครมีหน้าที่นาสืบหรือภาระการพิสูจน์ เดิมอยู่ใน ป.วิ.พ.มาตรา ๘๔ ปัจจุบัน แยกออกมาเป็นมาตรา ๘๔/๑ อนุโลมใช้ในคดีอาญาด้วย ตาม ป.วิ.อ.มาตรา ๑๕ ๓. ตอนที่ ๓ ดูว่ามีบทตัดพยานไหม มีหลักเบื้องต้นว่า พยานหลักฐานทุกชนิดทุกประเภทรับฟัง ได้ เว้นแต่จะมีกฎหมายบทใดบทหนึ่งบัญญัติห้ามไม่ให้รับฟัง รายละเอียดมีทั้งใน ป.วิ.พ. และ ป.วิ.อ. ๔. ตอนที่ ๔ ดูว่ามีการนาพยานหลักฐานเข้าสืบถูกต้องตามวิธีการที่กฎหมายกาหนดหรือไม่ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๘๕, ๘๖ อนุโลมใช้ในคดีอาญาด้วยตาม ป.วิ.อ.มาตรา ๑๕ ๕. ตอนที่ ๕ การชั่งน้าหนั กพยานหลั กฐาน ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๑๐๔ อนุโลมมาใช้ในคดีอาญาด้วยตาม ป.วิ.อ.มาตรา ๑๕ และมีบัญญัติเพิ่มเติมใน ป.วิ.อ.มาตรา ๒๒๗/๑ ด้วย ๒. ตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๘๔ ที่แก้ไขใหม่ บังคับให้ต้องใช้พยานหลักฐานเฉพาะปัญหาข้อเท็จจริง เท่านั้น หมายความว่า ถ้าเป็นปัญหาข้อกฎหมายศาลต้องวินิจฉัยเองไม่ต้องใช้พยานหลักฐาน แต่มีข้อยกเว้น อยู่ ๓ ประการ ที่ให้ถือว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริงในทางกฎหมายพยานหลักฐาน เนื่องจากศาลไทยไม่อยู่ในฐานะ ที่จะไปตรวจสอบค้นหามาตัดสินได้เอง ฝ่ายที่กล่าวอ้างต้องนาสืบ คือ ๒.๑) กฎหมายต่างประเทศ เช่น คดีแพ่งที่มีนัยพัวพันกับต่างประเทศแล้วกฎหมายว่าด้วยการ ขัดกันแห่งกฎหมายบัญญัติให้เอากฎหมายต่างประเทศนั้นมาใช้ตัดสิน ฝ่ายที่กล่าวอ้างต้องนาสืบ ๒.๒) ข้ อกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น สนธิ สัญญาระหว่างประเทศ หรือความตกลงระหว่าง ประเทศในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าไทยเราจะเป็นภาคีผูกพันอยู่ด้วยหรือไม่ก็ ตาม ถ้ามีประเด็นข้อพิพาทใน คดีไปถึงความมีอยู่และความหมายของกฎหมายระหว่างประเทศใด ถือว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ๒.๓) ปัญหาที่พิพาทกันว่ามีกฎหมายล่าดับรองที่มีฐานะต่่ากว่ากฎกระทรวงฉบับใดฉบับหนึ่ง อยู่จริงหรือไม่ เช่น ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยหาใช่ข้อกฎหมายอันถือเป็นเรื่องที่ศาลจะรับรู้เองได้ แต่ เป็นข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่คู่ความมีหน้าที่นาสืบ (ฎ. ๔๖๐/๒๕๕๐) ๓. ตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๘๔ ที่แก้ไขใหม่ บังคับว่าประเด็นข้อพิพาทที่เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้อง พิสูจน์ด้วยพยานหลักฐาน จะใช้สิ่งอื่นที่มิใช่พยานหลักฐานมาพิสูจน์ไม่ได้ และพยานหลักฐานท่จะใช้ต้องเป็น พยานหลักฐานในสานวนคดีนั้นด้วย จะใช้พยานหลักฐานนอกสานวนคดีเรื่องนั้นมาพิสูจน์หรือมาตัดสินปัญหา ข้อเท็จจริงไม่ได้ เว้นแต่ กรณีดังต่อไปนี้ ๓.๑) กรณีตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๘๔(๑) ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไป ไม่เคร่งครัดเด็ดขาดจะ นาสืบพยานหลักฐานก็ได้
๑
บรรยายโดยศาสตราจารย์จรัญ ภักดีธนากุล วันที่ ๒๗ พ.ย. ๒๕๕๐ คาบรรยายเนติฯ สมัย ๖๐ ภาคสอง เล่ม ๒ หน้า ๘๙ – ๑๐๗