E ditor’ s
vision
The five essential entrepreneurial skills for success are concentration, discrimination, organization, innovation and communication. Michael Faraday (1791-1867) เมือ่ ค รัง้ ท ผี่ มยงั เรียนปริญญาตรีท มี่ หาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ม ี โอกาสออกคา่ ยอาสาพฒ ั นาชนบทอยูห่ ลายครัง้ มีอ ยู่ ครัง้ ห นึง่ ในการออกคา่ ยทหี่ มูบ่ า้ นตาลเจ็ดต น้ อำเภอปาย แม่ฮอ่ งสอน ผมใช้เวลาวา่ งคยุ เล่นก บั เด็กๆ ในหมูบ่ า้ น เด็กห ญิง อายุราว 7 ขวบคนหนึ่งถามผมว่า “บ้านพี่ทำอะไร” “ก็...ค้าขายน่ะ” “แล้วบ้านพี่มีข้าวกินทั้งปีมั้ย?” “มีสิ... ทำไมเหรอ?” “แปลกนะ บ้านพี่ ไม่ทำนาแต่มีข้าวกินทั้งปี บ้านหนูทำนาแต่มีข้าวกินมั่ง ไม่มีกินมั่ง” อีกค รัง้ ห นึง่ ในการออกคา่ ยฯ ที่ อำเภอฝาง เชียงใหม่ ระหว่างทผี่ ม ‘เดินป า่ ’ กับพ ชี่ าวนาอายุร าว 40 ปี เรา คุยก นั ห ลายเรือ่ ง ตัง้ แต่เรือ่ งปญ ั หาชาวนาไปจนถึงป ญ ั หาบา้ นเมืองในขณะนนั้ จนมาถงึ ป ระโยคทพี่ เี่ ขาเปรยๆ ขึน้ ม า ว่า “ชีวติ ข องคณ ุ ก บั ช วี ติ ข องผมมคี วามจำเป็นแ ตกตา่ งกนั ตอนนคี้ ณ ุ ต อ้ งเรียนหนังสือ ถ้าไม่เรียน คุณจ ะไม่มงี านทำ แล้วคุณจะอดตาย...ส่วนผม ไปเรียนหนังสือไม่ ได้ ต้องทำงานเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ไม่งั้นอดตาย” ผ่านมากว่า 20 ปี เกษตรกรไทยยังลุ่มๆ ดอนๆ การประกอบอาชีพของเกษตรกรบางคนเปลี่ยนจากการถูก ‘ตกเขียว’ ไปเป็น ‘เกษตรกรพนั ธสญ ั ญา’ ในขณะทหี่ ลายคนลม้ ห ายตายจากไปจากอาชีพน เี้ พือ่ เข้าส ภู่ าคอตุ สาหกรรม และบริการ เกษตรกรบางคนผันตัวไปเป็น ‘ผู้ประกอบการเกษตร’ ภาคการเกษตรของไทยยังเต็มไปด้วยปัญหา ทั้งจากสภาพแวดล้อมและทรัพยากรที่เต็มไปด้วยความไม่ แน่นอน อายุเฉลี่ยของเกษตรที่สูงขึ้น หนุ่มสาวสนใจเรียนและสนใจประกอบอาชีพด้านเกษตรลดลง รายได้ ไม่คุ้ม กับง านหนัก ต้นทุนก ารผลิตส งู จ ากการใช้ส ารเคมี สุขภาพยำ่ แย่ ในขณะทรี่ าคาพชื ผ ลมรี าคาตำ่ แ ละเอาแน่เอานอน ไม่ ได้ Horizon ฉบับนี้ เกิดขึ้นโดยเป็นผลพวงจากการจัดทำภาพอนาคตการเกษตรไทย 2563 ซึ่งดำเนินงานโดย สถาบันค ลังส มองของชาติ ศูนย์ค าดการณ์เทคโนโลยีเอเปค สวทน. และหน่วยงานพนั ธมิตรอกี ห ลายหน่วยงาน โดย มุง่ ห วังว า่ เกษตรกรไทยจะสามารถลมื ตาอา้ ป ากได้ เนือ้ หาของภาพอนาคตได้ร ะบุป ระเด็นส ำคัญต า่ งๆ ไว้ แต่ก ารจะ ไปให้ถ งึ ภ าพทพี่ งึ ป ระสงค์ห รือจ ะหลีกเลีย่ งภาพที่ ไม่พ งึ เป็นป ระสงค์น นั้ ต้องอาศัยค วามรว่ มมอื ร ว่ มใจของหลายคน หลายหน่วยงานมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ ส่วนจะไปถึงฝั่งฝันหรือไม่นั้น ต้องตามดูกันต่อไป ขอถอื โอกาสนแี้ จ้งท า่ นผอู้ า่ นให้ท ราบวา่ Horizon จะมวี างแผงตามรา้ นหนังสืออ กี เพียง 2 ฉบับค อื ฉ บับน ี้ (8) และฉบับถ ดั ไป (9) หลังจ ากนนั้ จ ะจดั ส ง่ ผ า่ นระบบสมาชิกเท่านัน้ หากทา่ นตอ้ งการตดิ ตามขา่ วสารและเนือ้ หาสาระ จาก Horizon ต่อไป กรุณาสมัครสมาชิกโดยใช้ ใบสมัครตามที่ปรากฏในเล่มครับ รักกันชอบกันก็อย่าทอดทิ้งกันนะครับ บรรณาธิการ
Horizon08.indb 2
1/27/12 1:59:12 PM
Contents Vo l. 2 No. 4
08
04 06 08 12 14 16 18 30 36 42 43 44 46 48 50 51
News review Statistic features Foresight society In & Out Cultural science Gen next Features Vision Interview Global warming Thai point Social & technology Myth & science Smart life Science media Techno-Toon
เจ้าของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ดร.สุชาต อุดมโสภกิจ ที่ปรึกษา ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ ดร.ญาดา มุกดาพิทักษ์ รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน รศ.ดร.ชาตรี ศรีไพพรรณ ดร.นเรศ ดำรงชัย ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์
Horizon08.indb 3
18_ Features
สถาบันคลังสมองแห่งชาติได้วิเคราะห์ความเสี่ยง แนวโน้ม และ โอกาสในอนาคตของภาคเกษตรไทยผา่ นกระบวนการทเี่ รียกวา่ การ มองอนาคต (Foresight) ซึ่งได้ภาพอนาคตเกี่ยวกับการเกษตรไทย 3 ภาพ มีท ั้งภ าพทสี่ ดใสเต็มไปด้วยแสงสว่าง และภาพที่ชวนหดหู่ ในระดับหายนะที่จะเกิดขึ้นกับภาคเกษตรไทย หนทางหรือว ธิ กี ารทจี่ ะปอ้ งกันม ใิ ห้ภ าคเกษตรไทยตอ้ งเผชิญ ความหดหู่เช่นนั้น และเส้นทางที่จะนำพาภาคเกษตรไทยไปพบ แสงสว่างนั้นคืออะไร Feature ฉบับนี้ขอเสนอทางเลือกที่ควรค่า แก่การพิจารณา
30_ Vision
ข้ อ กั ง วลใ นบ างส ถานการณ์ ก็ มี ข้ อ ดี ข องมั น ใ นแ ง่ ที่ ท ำให้ เ รา เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหา และนี่คือข้อกังวลของผู้อำนวยการ ศูนย์เทคโนโลยีช วี ภาพเกษตร และอกี 3 ท่านจากสถาบันค ลังส มอง แ ห่งช าติ ในความออ่ นดอ้ ยของสภาพสงั คม เศรษฐกิจ และการเมือง ที่จะส่งผลต่อภาคเกษตรไทยในอนาคต และมองจุดแข็งที่ภาค เกษตรสามารถพัฒนาให้เต็มศักยภาพ
46_ Myth & Science
เหตุภัยพิบัติใหญ่ที่ผ่านมานั้นได้นำพาความสับสนมาสู่สังคมไทย ทั้งข้อมูลข่าวสารที่ชวนตระหนก จริงบ้างไม่จริงบ้าง สิ่งที่ข่าวสาร บอกวา่ จ ะเกิดก ลับไม่เกิด สิง่ ท ไี่ ม่ป รากฏในขา่ วสารกลับเกิดข นึ้ จ ริง อะไรคือความเชื่อ ส่วนอะไรคือความจริง คงจะดีหากเรามีข้อมูลที่ แม่นยำ เพราะภยั พ บิ ตั ใิ หญ่ท เี่ พิง่ ผ า่ นไป ผูร้ แู้ ละนกั ว ชิ าการทงั้ ห ลาย ต่างบอกว่า ‘แค่น ้ำจิ้ม’
บรรณาธิการบริหาร ดร.สุชาต อุดมโสภกิจ กองบรรณาธิการ ศิริจรรยา ออกรัมย์ ปรินันท์ วรรณสว่าง ณิศรา จันทรประทิน ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ สิริพร พิทยโสภณ บรรณาธิการต้นฉบับ วีรพงษ์ สุนทรฉัตราวัฒน์ ศิลปกรรม ณขวัญ ศรีอรุโณทัย เดือน จงมั่นคง
สำนักงาน ศูนย์คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปค สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ เลขที่ 319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 14 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 0 2160 5432 ต่อ 305, 311, 706 อีเมล horizon@sti.or.th เว็บไซต์ http://www.sti.or.th/horizon
ดำเนินการผลิตโดย บริษัท เปนไท พับลิชชิ่ง จำกัด โทรศัพท์ 0 2736 9918 โทรสาร 0 2736 8891 อีเมล waymagazine@yahoo.com
1/27/12 1:59:18 PM
N 01
สิรินยา ลิม
e
w
s
อุโมงค์เก็บเมล็ดพันธุ์พืช วันสิ้นโลก เชื่อไหมว่าโลกเรามีอุโมงค์ที่ถูกขุดลึกลงไปในชั้นน้ำแข็ง กว่า 120 เมตร สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์พืชสำรองจาก ทั่วโลกได้ก ว่า 4.5 ล้านเมล็ด ธนาคารเก็บรักษาพันธุ์พืช โลก Svalbard Global Seed Vault (SGSV) ประเทศ นอร์เวย์ เปิดตัวขึ้นเมื่อต้นปี 2008 ตั้งอยู่ที่คาบสมุทร Arctic Svalbard ซึ่งอ ยูห่ ่างจากขั้วโลกเหนือเพียง 1,300 กิโลเมตร มีจุดประสงค์หลักเพื่อเป็นแหล่งสำรองเมล็ด พันธุ์พืชจากธนาคารเมล็ดพันธุ์พืชกว่า 1,400 แห่ง ที่ ตั้งอยู่ใน 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเองก็ กำลังทำวิจัยและพัฒนาเพื่อส่งตัวอย่างเมล็ดถั่วฝักยาว (Cowpea) ไปฝากเก็บไว้ด้วยเช่นกัน
ริกเตอร์ได้ และอยูส่ งู ก ว่าร ะดับท นี่ ำ้ ท ะเลจะทว่ มถงึ แ ม้เกิด ภาวะโลกรอ้ น ภายในมรี ะบบทำความเย็นด ว้ ยกระแสไฟฟ้า จ ากเหมืองใกล้เคียงเพือ่ ร กั ษาอณ ุ หภูมไิ ว้ท ี่ -18 ถึง -20 องศา ซึง่ ส ามารถเก็บร กั ษาเมล็ดพ นั ธุบ์ างชนิดได้ย าวนานทสี่ ดุ ถ งึ 1,000 ปี และถึงแม้ว่าระบบไฟฟ้าจะล่มแต่ความเย็น จากชั้นหินในภูเขาน้ำแข็งก็จะยังสามารถรักษาอุณหภูมิ ของอุโมงค์ไว้ได้ที่ -3 องศาเซลเซียส ซึ่งจะสามารถเก็บ เมล็ดบ างชนิดไว้ได้นานเป็นร้อยปี แล้วมะพร้าวจะเก็บยังไง!!?? พืชบ างชนิดไม่ส ามารถเก็บร ปู ข องเมล็ดได้ (อย่างนอ้ ย ผลมะพร้าวก็ใหญ่เกินไปและคนชอบทานมะพร้าวก็อาจ จะน้อยใจ ถ้าไม่มีใครช่วยหาวิธีเก็บส่วนขยายพันธุ์ของ มะพร้าวให้) SGSV จึงมีการวิจัยการเก็บส่วนขยายพันธุ์ (Germplasm) ของพืชที่ไม่สามารถเก็บด้วยเมล็ดได้ นั่นคือวิธีการเก็บเนื้อเยื่อในไนโตรเจนเหลวซึ่งมีอุณหภูมิ -198 องศาเซลเซียส หรือที่เรียกว่าภายใต้สภาพเย็น ยิ่งยวด (Cryopreservation) ซึ่งจะสามารถเก็บตัวอย่าง ไม้ผลได้ เช่น เชื้อพันธุ์กล้วยและมะพร้าวที่กำลังจะถูกส ่ง มาจากปาปัวนิวกินี, ฟิลิปปินส์และโกโตดิวัวร์
โครงสร้างอันแข็งแกร่ง SGSV ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพราะกลัวว่าน้ำจะท่วม โลก แต่ว่าเกิดจากความตระหนักในความสำคัญของ พืชพรรณอันมีค่า ที่บางชนิดได้สูญหายไปเนื่องมาจาก หลายสาเหตุ เช่น เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ สงคราม หรือก ารเปลีย่ นแปลงของสภาพภมู อิ ากาศ เป็นต้น รัฐบาล นอร์เวย์จึงร่วมมือกับ The Global Crop Diversity Trust และ The Nordic Genetic Resource Center ในการจัดตั้ง SGSV ตัวโครงสร้างทางเข้าและอุโมงค์ สามารถทนตอ่ ร ะเบิดน วิ เคลียร์ห รือแ ผ่นด นิ ไหวขนาด 6.2 การเก็บแบบ Black Box เนือ่ งจากวตั ถุประสงค์ข อง Svalbard Seed Vault คือ การเก็บรักษาพันธุ์พืชจากทั่วโลก ดังนั้น Svalbard จึงไม่มีการให้บริการเมล็ดพันธุ์ และไม่อนุญาตให้เอา เมล็ดพันธุ์ออกไปโดยปราศจากการอนุญาตของเจ้าของ ผู้ฝากเชื้อพันธุกรรมนั้น ผู้ฝากเชื้อจะมีสิทธิ์เต็มที่ในเชื้อ พันธุกรรมของตนและสามารถขอเมล็ดคืนเมื่อไรก็ได้ ได้รู้แบบนี้หลายคนคงสบายใจได้ว่า แม้จะเกิด น้ำท่วมจนนาข้าวหรือสวนผลไม้ต้องล่มไป แต่เราก็จะ ยังมีเมล็ดของพืชพรรณเก็บไว้อย่างปลอดภัยในอุโมงค์ที่ แข็งแกร่ง แต่ห ่างไกลและหนาวเหน็บ...
ที่มา: รายการ 60 Minutes The Global Crop Diversity Trust http://www.croptrust. org/main/arcticseedvault.php?itemid=842 : 4
Horizon08.indb 4
1/27/12 1:59:22 PM
r
e
v
i
e
w
กิตติศักดิ์ กวีกิจมณี
03
ทดสอบภาคสนาม เครื่องตรวจจับผ ู้ก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกา ระบบคัดก รองเพื่อหาตัวผู้โดยสารที่มีเจตนาร้ายแอบแฝง ‘Minority Report’ ซึ่งในภาพยนตร์จะใช้มนุษย์กลายพันธุ์ เป็นผู้คาดเดาอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต วิ ธี ก ารท ดสอบร ะบบ FAST มี ขั้ น ต อนคื อ ใ ห้ ผู้ถูกทดสอบเดิน ผ่านเครื่องตรวจวัดและ ‘แกล้ง’ แสดง พฤติกรรมที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงการก่อการร้ายได้ แต่ ก็ย งั ม ขี อ้ ก งั ขาถงึ ค วามเสมือนจริงข องการแสดงพฤติกรรม ดังกล่าว รวมไปถึงความเอนเอียงต่อผลการทดสอบหาก ผู้เข้าทดสอบรู้ว่าตนเองกำลังถูกทดสอบอยู่ ข้อกังวลอีก ประการหนึง่ ก ค็ อื ความสามารถของระบบในการแยกแยะ ปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายขณะที่มีความกังวลออก จากขณะที่กำลังคิดวางแผนก่อการร้าย เพราะแม้แต่การ สแกนม่านตาหรือการอ่านลายพิมพ์นิ้วมือที่ด่านตรวจคน เข้าเมือง ก็ยังทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเมืองอย่าง ถูกกฎหมายมีอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นได้ ระบบนี้ จึงอาจทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกกล่าวหาว่าเป็น ผู้ก่อการร้าย ได้ Steven Aftergood นักวิเคราะห์วิจัยของสหพันธ์ นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (Federation of American Scientists) กล่าวว่า “หากวิธีการนี้ยังไม่ได้ร ับการยืนยัน ผลการทดสอบ มันก็ไม่ต ่างจากการเล่นทายคำปริศนา” อย่างไรก็ตามจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ พบว่าระบบนี้มีความแม่นยำมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ หากนำไปทดสอบในภาคสนามผลที่ได้ก็อาจจะแตกต่าง ไปจากค่าดังก ล่าว John Verrico โฆษกของ DHS กล่าว ว่า ขณะนี้ DHS ยังไม่สามารถประเมินประสิทธิภาพของ ระบบได้ และจะต้องทำการทดสอบระบบต่อไปเป็นเวลา อีกหลายเดือน ปัจจุบัน สถานที่ที่ใช้ทดสอบระบบก็ยัง คงถูกปิดเป็นความลับ โดย Verrico บอกได้เพียงว่า “เรา ไม่ได้ทดสอบที่สนามบิน แต่เราเลือกใช้สถานที่ที่มีสภาพ แวดล้อมและปัจจัยต่างๆ ที่พอจะทดแทนกันได้”
หากใครกำลังวางแผนไปท่องเที่ยวทางภาคตะวันออก เฉียงเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงนี้ คุณอาจ กลายเ ป็ น ส่ ว นห นึ่ ง ข องก ารท ดสอบก ารรั ก ษาค วาม ปลอดภัยเพือ่ ต รวจหาผกู้ อ่ การรา้ ยโดยไม่รตู้ วั ทัง้ นี้ Nature News ได้ร ายงานว่า กระทรวงรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (Department of Homeland Security – DHS) ประเทศ สหรัฐอเมริกา กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Future Attribute Screening Technology (FAST) เพื่อ เป็นเครือ่ งมอื ต รวจจบั ผ ทู้ มี่ พี ฤติกรรมเข้าข า่ ยเป็นผ กู้ อ่ การ ร้าย โดยได้มีการทดสอบภาคสนามในขั้นแรกเมื่อเดือน มีนาคมที่ผ่านมาในสถานที่ที่ไม่มีการเปิดเผย ในบริเวณ ภาคตะวันอ อกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา เทคโนโลยี FAST นีค้ ล้ายกับเครื่องตรวจจับโกหก กล่าวคือระบบจะตรวจสอบสภาวะการทำงานของส่วน ต่างๆ ของร่างกาย ตั้งแต่อัตราการเต้นของหัวใจไปจนถึง ความนิ่งของสายตา และนำข้อมูลไปประมวลเพื่อตัดสิน ความนึกคิดของผู้ถูกตรวจสอบ สิ่งที่เป็นข้อโดดเด่นของ ระบบ FAST ก็ค ือ การใช้ตัวตรวจจับ (Sensor) ที่ไม่ต้อง สัมผัสก บั ร า่ งกายของผถู้ กู ท ดสอบ และไม่ต อ้ งใช้ว ธิ กี ารซกั ถาม ทำให้การทดสอบสามารถทำได้สะดวกแม้ในขณะที่ ที่มา: Terrorist ‘pre-crime’ detector field tested in United States. ผ ถู้ กู ท ดสอบกำลังเดินอ ยูใ่ นอาคารผโู้ ดยสารของสนามบิน Nature News, 27 May 2011 (http://www.nature.com/news/2011/1 0527/ ซึ่งพอมาคิดเล่นๆ ดูแล้วผู้อ่านหลายท่านก็อาจจะเห็นว่า full/news.2011.323.html) เทคโนโลยี FAST นี้มีความคล้ายคลึงกับหลักการที่เรา เรียกกันว่า ‘Pre-crime’ ที่มาจากภาพยนตร์ไซไฟชื่อดัง 5 :
Horizon08.indb 5
1/27/12 1:59:24 PM
Statistic ดร.Fอeatures ังคาร วงษ์ดีไทย
สถิติที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรของไทย
28 ล้านไร่ 102 ล้านไร่ เป็ น พื้ น ที่ ก ารเกษตรที่ ไ ด้ รั บ การพั ฒ นาและ มีระบบชลประทาน
เ ป็ น พื้ น ที่ เ ก ษ ต ร น อ ก เ ข ต ช ล ป ร ะ ท า น หรือพื้นทีเ่กษตรน้ำฝน
50.6% 12.1% พื้นที่ทำนาลดลงจากร้อยละ 56.1 ในปี 2541 เป็น 50.6 ในปี 2551
พื้นที่ปลูกยางกลับเพิ่มขึ้นจาก 9.41 ในปี 2541 เป็น 12.1 ในปี 2551
702,610 ล้านลูกบาศก์เมตร
เป็นปริมาณฝนตกเฉลี่ยท ั้งประเทศต่อปี แต่ปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่รวมกันทั้งป ระเทศกลับมีค่าเฉลี่ยเพียง
40,172 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 5.7 ของปริมาณฝนทั้งป ี : 6
Horizon08.indb 6
1/27/12 1:59:31 PM
9,011 ล้านบาท
เป็นจำนวนเงินที่ประเทศไทยนำเข้าเทคโนโลยีและเครื่องจักรกล การเกษตรในปี 2552 เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่ประเทศไทยนำเข้า เทคโนโลยี แ ละเครื่ อ งจั ก รก ลก ารเกษตรเ ป็ น มู ล ค่ า ทั้ ง สิ้ น 6,094 ล้านบาท
4,114,313 ตัน
เป็นปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีในปี 2552 โดยปุ๋ยอินทรีย์มีสัดส่วนต่อปริมาณ การนำเข้าเพียงร้อยละ 0.07
16,816 ล้านบาท
ในปี 2552 ประเทศไทยนำเข้าสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชเป็นจำนวน 118,152 ล้ า นตั น ข องส ารอ อกฤ ทธิ์ คิ ด เป็ น มู ล ค่ า 16,816 ล้ า นบ าท คิดเป็นมากกว่า 1 ใน 3 ของต้นทุนก ารปลูกพืชท ั้งหมด
มากกว่า
65 ปี
ในชว่ งแผนพฒ ั นาเศรษฐกิจแ ละสงั คมแห่งช าติฉ บับท ี่ 8 เกษตรกรทมี่ อี ายุม ากกว่า 65 ปีเท่ากับร อ้ ยละ 5.2 ของ ประชากรเกษตรกร และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 9.8 ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10
ที่มา:
1. การจัดการความเสี่ยงทรัพยากรน้ำของไทย (Risk management in water resource of Thailand), (2554), สถาบันสารสนเทศ ทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน). 2. ภาพอนาคตการเกษตรไทย 2563, (2554), สถาบันค ลังส มองของชาติ ภายใต้มูลนิธิส่งเสริมทบวงมหาวิทยาลัย. 7 :
Horizon08.indb 7
1/27/12 1:59:35 PM
or y Th e
ศิริจรรยา ออกรัมย์
ภ าพอนาคตการเ กษต ร ไทย สถาบันคลังสมองของชาติ ภายใต้มูลนิธิส่งเสริมทบวง มหาวิ ท ยาลั ย ร่ ว มกั บ ศู น ย์ ค าดก ารณ์ เ ทคโนโลยี เอเปค สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการ วิ จั ย แ ห่ ง ช าติ สำนั ก งานก องทุ น ส นั บ สนุ น ก ารวิ จั ย สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) สถาบันส ิ่งแวดล้อมไทย องค์การกระจายเสียงและแพร่ ภาพสาธารณะแห่งป ระเทศไทย และหนังสือพ มิ พ์โพสต์ ทูเดย์ ได้จัดทำ โครงการภาพอนาคตการเกษตรไทย 2563 ขึน้ เพือ่ ว เิ คราะห์แ นวโน้มแ ละจดั ท ำภาพอนาคต การเกษตรไทยในปี 2563 ด้วยกระบวนการมองอนาคต (Foresight) กระบวนการจัดทำภาพอนาคตการเกษตรไทย ประกอบด้วยการประชุมระดมความคิดเห็น 2 ครั้ง โดย พิจารณาประเด็นค วามไม่แ น่นอนซงึ่ เป็นท งั้ ป จั จัยภ ายใน
ประเทศและปัจจัยภายนอกประเทศ มีการวิเคราะห์ แนวโน้ม (Trends) แรงผลักดัน (Driving Force) ระบุ ความไม่แ น่นอนของปจั จัยห รือเหตุการณ์ในอนาคต เพือ่ นำไปสู่การกำหนดประเด็นหลัก (Scenario Logics) สำหรับการจัดทำภาพอนาคตการเกษตรไทย 2563 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคมในการเตรียม รับมือกับอนาคตในมิติใหม่อย่างเท่าทัน รวมทั้งสร้าง เครือข า่ ยความรว่ มมอื ก นั ในการสร้างองค์ค วามรใู้ นการ วางแผนและการกำหนดทิศทางการพัฒนาเกษตรของ ประเทศไทยต่อไป ภาพอนาคตการเกษตรไทย 3 ภาพ เปรียบได้ กับการเติบโตของต้นไม้ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพ แวดล้อมและความสามารถในการปรับตัว ได้แก่ ภาพไ ม้ ป่ า สภาวะโ ลกร้ อ นถื อ โ อกาสข อง การเกษตรไทย มีค วามกา้ วหน้าท างดา้ นเทคโนโลยีแ ละ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกิดเป็นเครือข่ายเกษตรกร มีการนำ ความรู้ เทคโนโลยีและมีการจัดการทดี่ ีประกอบกับการ
: 8
Horizon08.indb 8
1/27/12 1:59:37 PM
เข้าถ ึงแหล่งเงินทุน แต่การเมืองไทยยังคงสับสน ภาค ธุรกิจแ ละภาคเอกชนหนั ม าจบั ธ รุ กิจเกษตรเพือ่ อ าหาร และพลังงานมากขึ้น ภาพไม้เลี้ยง เกษตรกรยิ้มสู้ เนื่องจากสภาวะ โลกร้ อ นส่ ง ผ ลใ ห้ ร าคาพลั ง งาน อ าหารแ ละ ผลผลิตเกษตรสูงขึ้น เกิดรัฐกสิกรรม (ประชานิยม 2.0) ภาครัฐมีนโยบายด้านการเกษตรที่ชัดเจน มุ่งเน้น
การพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพการผลิตม ากกว่า การเน้ น ผ ลร ะยะสั้ น มี แ ผนการเกษตรแ ห่ ง ช าติ ที่ มี เป้าหมายชัดเจน เกษตรกรรมเป็นอาชีพยอดนิยมของ คนรุ่นใหม่ และสินค้าเกษตรมีเรื่องราว ภาพไม้ล ม้ การเมืองยงั ค งยงุ่ เหยิง ภาครฐั ช ะงักง นั นโยบายข าดค วามต่ อ เ นื่ อ ง แต่ เ ทคโนโลยี ใ นภ าค เอกชนมีความก้าวหน้าจากการลงทุนวิจัยและพัฒนา อย่างต่อเนื่อง เกิดสภาพข้าวยากหมากแพงจากสภาพ ภู มิ อ ากาศที่ เ ปลี่ ย นแปลงส่ ง ผ ลใ ห้ เ กิ ด ส ถานการณ์ น้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซาก การจัดการทรัพยากรน้ำ มีความยุ่งยาก ไทยเป็นเมืองขึ้นทางการเกษตร โดย ชาวตา่ งชาติแ ละนกั ธ รุ กิจไทยทมี่ คี วามรแู้ ละมเี งินล งทุน เข้าถือครองที่ดินทางการเกษตร เพื่อผลิตสินค้าเกษตร เพื่ออาหารและพลังงานเพิ่มมากขึ้น
ไม้ป่า
ไม้เลี้ยง
ไม้ล้ม
ที่มา
การจัดสัมมนาวิชาการเรื่อง ‘ภาพอนาคตการเกษตรไทย 2563’ ใน วันที่ 11 พฤษภาคม 2554 ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลจากเว็บไซด์ของ สถาบันคลังสมองของชาติ (http://www.knit.or.th) 9 :
Horizon08.indb 9
1/27/12 1:59:39 PM
ity tiv Ac
สุภัค วิรุฬหการุญ
แผนที่นำทางสำนักงานปรมาณูเพือ่ สนั ติ พ.ศ. 2 5 5 5 - 2 5 6 5 ( O A P R o a d m a p )
สืบเนื่องจาก Horizon ฉบับที่ 6 ได้เล่าก ิจกรรม Kick off OAP Foresight ทีส่ ำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) และ ศูนย์คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปค สวทน. ได้ร่วมกันจัดทำ ภาพอนาคต ปส. ในปี 2563 มาในครั้งนี้จะเป็นบทสรุป ของ OAP Foresight ก็คือแผนที่นำทางสำนักงานปรมาณู เพื่อสันติ พ.ศ. 2555-2565 (OAP Roadmap) แต่ก ่อน ที่จะได้แผนที่นำทางนั้น เราได้ใช้ประโยชน์จาก Kick off OAP Foresight โดยการนำภาพอนาคตที่ได้จัดทำขึ้นทั้ง 4 ภาพไปผ่านกระบวนการคาดการณ์อ นาคต (Foresight) ในขั้นต่อๆ ไป โดยบุคลากรของ ปส. ได้ช่วยกันทำ Mini Foresight ในแต่ละสำนักของ ปส. เอง ซึ่งเป็นการจัดทำ ข้อมูลป ระเมินต นเอง (Self Assessment Data) ของแต่ละ สำนักว่ามีบทบาทอย่างไรต่อองค์กร เพือ่ ให้ได้ขอ้ มูลทค่ี รบถว้ นรอบดา้ น เราได้มกี ารจดั ทำ Stakeholder Analysis Workshop ในหมูเ่ จ้าห น้าทีข่ อง ปส. ผลทไ่ี ด้ท ำให้เราสามารถระบุผ มู้ สี ว่ นได้ส ว่ นเสีย (Stakeholders) ที่สำคัญๆ ของ ปส. และนำผลที่ได้นั้นมาจัด Stakeholder Opinions Workshop เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากบุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีความคิดเห็นหรือต้องการให้ ปส. ดำเนินงานไปในทิศทางใด สำหรับ 10 ปีข้างหน้า หลังจากนั้นเราจึงได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวล วิ เ คราะห์ และสั ง เคราะห์ ออกม าเ ป็ น ต้ น แ บบ OAP Roadmap แล้วได้นำต้นแบบนั้นไปแลกเปลี่ยนและระดม ความคิดเห็นจากผู้บริหารและบุคลากรของ ปส. จนได้ ออกมาเป็น ‘แผนที่นำทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. 2555-2565’ หรือ OAP Roadmap OAP Roadmap ประกอบด้วย 5 ชั้น ได้แก่ วิสัยทัศน์ (Vision) ซึ่งระบุว่า ปส. จะเป็นองค์กร ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการใช้พลังงานปรมาณูที่เป็นเลิศ องค์กรหนึ่งในประชาคมอาเซียน ภายในปี พ.ศ. 2560 พันธกิจ (Mission) ปส. มีพ ันธกิจหลัก 4 ประการ คือ 1) ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบ ังคับ และเสนอแนะ นโยบายและแผนยุทธศาสตร์ด ้านพลังงานปรมาณู เพื่อนำ ไปสกู่ ารปฏิบตั ทิ เี่ ป็นร ปู ธ รรม 2) กำกับด แู ลความปลอดภัย จากการใช้พลังงานปรมาณูให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล 3) เป็นตัวแทนประเทศในการดำเนินการตามพันธกรณี
: 10
Horizon08.indb 10
ความตกลงระหว่างประเทศด้านพลังงานปรมาณู และ 4) เผยแพร่ค วามรแู้ ละสร้างความเชือ่ ม นั่ ด า้ นความปลอดภัย จากการใช้พลังงานปรมาณูให้แก่ประชาชน ขีดความสามารถหลัก (Core Competency) ที่ ปส. ต้องมีหรือต้องพัฒนาให้เกิดขึ้น ได้แก่ 1) ขีดความสามารถ ในการศึกษาและวิเคราะห์กฎหมายรวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับการ ค รอบครองและการใช้ส ารกมั มันตรังสี 2) ขีดค วามสามารถใน การตดิ ตาม พัฒนา ประยุกต์ใช้ และเผยแพร่อ งค์ค วามรทู้ เ่ี กีย่ วกบั ความปลอดภัยของเทคโนโลยีนวิ เคลียร์ 3) ขีดความสามารถใน การพฒ ั นาเครือข า่ ยความรว่ มมอื ในรปู แ บบตา่ งๆ กับห น่วยงาน ทง้ั ในและตา่ งประเทศ 4) ขีดความสามารถในการสอ่ื สารขอ้ มูล ก บั ส าธารณะอย่างถกู ต อ้ ง ทันท ว่ งที รอบดา้ น และตรงไปตรงมา ภารกิจเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Function) ปส. ต้องมีหน่วยงานสำคัญที่รับผิดชอบภารกิจเชิงยุทธศาสตร์ ดั ง ต่ อ ไ ปนี้ 1) หน่ ว ยคั ด ก รอง ประมวลแ ละวิ เ คราะห์ ข้อมูล และทำหน้าที่บริหารจัดการความรู้ 2) หน่วยบริหาร จั ด การก ารวิ จั ย แ ละพั ฒ นา 3) หน่ ว ยบ ริ ห ารจั ด การ ด้านความปลอดภัยและความเสี่ยงเกี่ยวกับกัมมันตรังสี 4) หน่วยบริหารจัดการภาพลักษณ์อ งค์กร 4) หน่วยติดตาม และประเมินผล ทรัพยากร (Resources) เพื่อให้การดำเนินงาน ของ ปส. บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้อย่างมี ประสิทธิภาพ จำเป็นต ้องอาศัยก ารบริหารจัดการทรัพยากร ให้เหมาะสมกบั ภ ารกิจ ในทนี่ แี้ บ่งท รัพยากรดงั ก ล่าวออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การแสวงหา และครอบครององค์ความรู้ การบริหารงบประมาณอย่างมี ประสิทธิภาพ และการสร้างแรงจูงใจแก่บ ุคลากร อย่างไรก็ตาม องค์ป ระกอบที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (Change Factors) ทีช่ ดั เจน ซึง่ ได้แก่ 1) การปรับโครงสร้างองค์กรเพือ่ ให้ส ามารถรองรับก ารทำหน้าทีข่ อง ปส. อย่างมปี ระสิทธิภาพ ใน 10 ปีข้างหน้า 2) การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร ด้วยความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรภายใน ปส. และ 3) การมีเส้นทางอาชีพของบุคลากร ปส. ทีช่ ัดเจน เพื่อให้เกิด การพัฒนาความสามารถและความเชี่ยวชาญอย่างจำเพาะ เจาะจงในแต่ละสาขา หลังจากนี้ ผู้บริหาร และบุคลากรของ ปส. จะนำ OAP Roadmap ไปใช้ในการจัดทำยุทธศาสตร์ในการ ดำเนินการขององค์กรต่อไป
การจัดทำแผนที่นำทาง คือ กระบวนการในการมองอนาคตของ เทคโนโลยีเพื่อเตรียมความพร้อมของหน่วยงานหรือองค์กรในการ ที่ทำงานหรือทำวิจัยให้สอดคล้องกับความต้องการหรือแนวโน้ม ในอนาคต แผนที่นำทางได้จากการพิจารณา แนวโน้มของตลาด (Market Trends) ปัจจัยที่เป็นแรงผลัก (Drivers) รูปแบบของ ผลิตภัณฑ์ (Product) บริการ (Services) เทคโนโลยี (Technology) และนโยบายและโครงสร้างพื้นฐาน (Policy and Infrastructure) 1/27/12 1:59:41 PM
การคาดการณ์อนาคต กับการเตรียมความพร้อมในภาวะวิกฤติ
สุชาต อุดมโสภกิจ
กล่าวได้ว่าสิงคโปร์มีขีดความสามารถในการบริหารจัดการภาวะวิกฤติได้ด ีในระดับหนึ่ง เพราะกลไกการทำงานของ หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม มีความสอดคล้องกัน ดังในกรณีการระบาดของโรคซาร์สและวิกฤติ ทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลจากการคาดการณ์อ นาคตของหน่วยยุทธศาสตร์อ นาคต (Centre for Strategic Futures, CSF) ของสิงคโปร์* ที่ได้เตรียมการณ์ส ำหรับภ าวะวิกฤติไว้ล่วงหน้า
การคาดการณ์อ นาคตกับภาวะวิกฤติ การพิ จ ารณาอ นาคตอ ย่ า งเ ป็ น ร ะบบ การ พยายามระบุและประเมินความเสี่ยงต่างๆ ให้ชัดเจน ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยง หรือบ รรเทาความเสีย่ งเหล่าน นั้ ก อ่ นทจี่ ะถงึ ภ าวะวกิ ฤติ (ไม่ใช่ก ารหลีกเลีย่ งหรือเบีย่ งเบนวกิ ฤติท จี่ ะเกิดข นึ้ อ อก ไป) ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบและเป็นการเตรียมความ พร้อมในการตอบสนองได้ดี
การสื่อสารและการบรรเทาความเสี่ยง การสื่ อ สารค วามเ สี่ ย งมี ค วามส ำคั ญ ม าก เนือ่ งจากเราตอ้ งการการยอมรับร ว่ มกนั ข องหน่วยงาน ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่าง ทันท่วงที การตอบสนองต่อความเสี่ยงอาจไม่สามารถ กระทำได้อย่างทันท่วงที แต่การที่ได้คิดแนวทางการ ตอบสนองรปู แ บบตา่ งๆ จากภาพอนาคตหลายๆ ภาพ ที่ได้จัดทำไว้ จะช่วยให้เราตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อความเสี่ยงเหล่านั้นกลายเป็นวิกฤติ การระบุและประเมินความเสี่ยง ภาพประกอบแสดงให้เห็นความเสี่ยงต่างๆ ที่ สามารถทำได้ด้วยความร่วมมือของหลายๆ หน่ ว ยง านช่ ว ยกั น ร ะบุ แ ละป ระเมิ น ค วามเ สี่ ย งที่ สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่ง เกี่ยวข้องกับแนวโน้มต่างๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยกระบวนการ ทำให้เกิดวิกฤติด้านสภาพลมฟ้าอากาศและหายนภัย ต่างๆ เช่น การกวาดจบั ส ญ ั ญาณ (Horizon Scanning) ต่างๆ ทีจ่ ะตามมา สิ่งเหล่านี้ทำให้ห ่วงโซ่อุปทานของ ร่วมกับการประเมินความเสี่ยง การศึกษาประเด็น โลกลดนอ้ ยลง ความตอ้ งการพลังงานในแต่ละภมู ภิ าค เชิงยุทธศาสตร์ที่อุบัติใหม่ เป็นต้น จะช่วยในการจับ สูงขึ้น และความเปราะบางด้านทรัพยากรของสิงคโปร์ สัญญาณอ่อนๆ ที่อาจกลายเป็นปัญหาได้ ก็จะสูงขึ้น การตั้งคำถามว่า ‘ถ้าหาก’ (What if) และ ‘แล้ว นอกจากนี้ ก ารเ ปลี่ ย นแปลงข องส ภาพภู มิ จะเป็นอย่างไร’ (So what) จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการ อากาศอาจทำให้อุณหภูมิและความชื้นสูงขึ้น ส่งผ ลให้ คิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แล้ว เกิดโรคระบาด ระดับน ำ้ ท ะเลทสี่ งู ข นึ้ อ าจทำให้น ำ้ ท ว่ ม นำไปสู่ประเด็นที่เราไม่เคยคิดถึงมาก่อน ซึ่งจะช่วย สูญเสียที่ดินและแหล่งน้ำจืด ระบบสาธารณูปโภคที่มี ให้เรามีความเข้าใจว่าแนวโน้มเหล่านั้นจะพัฒนาไปสู่ อยู่ เช่น โรงพยาบาล ท่าเรือ สนามบิน โครงข่ายไฟฟ้า ความตึงเครียดได้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ และน้ำ เป็นต้น จะสามารถรับมือกับความตึงเครียด ถูกกระตุ้นด้วยเทคโนโลยี เหล่านี้ได้หรือไม่ และเมื่อสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดผลร่วม อย่างไรก็ตาม กิจกรรมนี้ต้องดำเนินการผ่าน กันอ าจทำให้ก ารดำรงชวี ติ ข องชาวสงิ คโปร์แ ละขดี ค วาม เครือข่ายที่มีมุมมองหลากหลายทั้งในระดับประเทศ สามารถในการแข่งขันของประเทศมีปัญหา และระดับน านาชาติ สิง่ ห นึง่ ท มี่ คี วามสำคัญไม่ย งิ่ ห ย่อน จะเห็นได้ว า่ การตอบสนองตอ่ ค วามเสีย่ งตา่ งๆ ไปกว่ากันคือ ความเป็นหนึ่งเดียวของรัฐ (Whole-of- ที่ระบุไว้ข้างต้นต้องอาศัยหน่วยงานต่างๆ ไปรับผิด Government) ซึ่งจะทำให้หน่วยงานของรัฐมีการทำ ชอบแต่ละประเด็น เช่น การจัดการพลังงานอย่างมี หน้าที่อย่างสอดคล้องกันในการจัดการความเสี่ยงด้วย ประสิทธิภาพ โครงสร้างของการระบายน้ำ การบริหาร ความตระหนักในความเสี่ยงและเหตุการณ์ที่จะเกิด จัดการมลภาวะ ความมั่นคงของทรัพยากร เป็นต้น ขึ้นร่วมกัน การพิจารณาภาวะวิกฤติต่างๆ ทีอ่ าจเกิดข ึ้นยังช ่วยให้ ระดับน โยบายเห็นถ งึ ช อ่ งวา่ งของขดี ค วามสามารถและ ที่มา: Kwa Chin Lum. Foresight and crisis preparedness: the กระบวนการที่มีอยู่ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเพื่อรับมือ Singapore experience. Global is Asian, Issue12, Oct-Dec กับเหตุการณ์ต่างๆ อย่างทันท ่วงที 2011, p42-43. * Centre for Strategic Futures (CSF) เป็นหน่วยงานภายใต้ Public Service Devision (PSD) ของสิงคโปร์ เป็น หน่วยงานของรัฐทำหน้าที่ให้บริการแก่สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา ที่อยู่อาศัย กฎหมาย สิ่งแวดล้อม โดยมีการเรียนรู้และคาดการณ์อนาคตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมและเพื่อให้มั่นใจว่าจะ สามารถให้บริการอย่างในระดับดีเยี่ยมอย่างไม่ขาดตอนและมีการพัฒนาตลอดเวลา
Horizon08.indb 11
11 :
1/27/12 1:59:43 PM
I nสุชาต&อุดมโสภกิ O utจ
ก ว่ า จ ะ ม า เ ป็ น
สมาร์ทโฟน ทุกว นั น เี้ ราพบคนกม้ ห น้าเดินก นั ม ากขนึ้ คุยก บั ค นขา้ งกายนอ้ ยลง แต่ค ยุ ก บั ค นทอี่ ยูค่ นละซกี โลกมากขนึ้ และ เราใช้ ‘นิ้ว’ คุยกันมากขึ้น อย่าแปลกใจหากพบเห็นคนบางคนไม่สนใจว่าเขาจะเดินไปไหน หรือหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หรือเขาทำตัว ‘ขัดขวางความก้าวหน้า’ แค่ไหน เพราะขณะนั้นเขากำลังส นใจสิ่งที่อยู่ในมือ…สมาร์ทโฟน เราลองย้อนกลับไปดูซิว่า...กว่าจ ะเป็นสมาร์ทโฟนในมือเรา มันผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างไรบ้าง
ค.ศ. 1908 สิทธิบ ตั รอเมริกนั ห มายเลข 887357 ของ Nathan B. Stubblefield เป็นส ทิ ธิบ ตั รแรก ที่เกี่ยวกับโทรศัพท์ไร้สาย ค.ศ. 1945 โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุค 0G (Zero Generation) ถือกำเนิดขึ้น แต่ยังไม่ถูกเรียกว่า ‘โทรศัพท์เคลือ่ นที’่ อย่างเป็นท างการ เพราะผใู้ ช้ย งั ไม่ส ามารถเคลือ่ นยา้ ยจากฐานหนึง่ (พืน้ ทีท่ สี่ ถานีให้บ ริการ – ‘เซลล์’) ไปยงั อ กี ฐ านหนึง่ อ ย่างอตั โนมัติ จนกระทัง่ Bell Labs พัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับฐานให้บริการในอีก 2 ปีถัดมา และได้รับการพัฒนามา โดยตลอดจนถึงทศวรรษ 1960 ค.ศ. 1973 วันที่ 8 เมษายน Martin Cooper ผู้จัดการของโมโตโรลาเป็นคนแรกที่ใช้โทรศัพท์ เคลื่อนที่แบบมือถือ (Handheld Mobile Phone) ... ผ่านโมเด็ม ค.ศ. 1982 โนเกียเปิดต วั โทรศัพท์เคลือ่ นทีร่ นุ่ Mobira Senator ซึง่ เป็นกลอ่ งสเี่ หลีย่ มขนาดใหญ่ มีหหู ิ้ว เพราะถูกออกแบบให้ใช้ในรถ (ตอนนั้นไม่มีใครบ้าพอที่จะหิ้วเจ้าเครื่องนี้แล้ว เดินคุย เพราะอาจทำให้หัวไหล่หลุด) ค.ศ. 1984 Bell Labs ซึง่ พ ฒ ั นาเทคโนโลยีเกีย่ วกบั ฐ านให้บ ริการสญ ั ญาณ ได้ป ระดิษฐ์เทคโนโลยี ที่เรียกว่า ‘Call Handoff’ ซึ่งทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เดินทางผ่าน ‘เซลล์’ ต่างๆ ได้โดยการสนทนาไม่ขาดตอน ค.ศ. 1990 โทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าสู่ยุค 2G โดยสหรัฐอเมริกาเริ่มใช้เครือข่าย GSM เป็นค รั้งแ รก โดยชว่ งแรกๆ ระบบ 1G กับ 2G ใช้ค ลืน่ 900 MHz ร่วมกนั และตอ่ ม าระบบ 1G ซึง่ : 12
Horizon08.indb 12
1/27/12 1:59:50 PM
เป็นอ ะนาลอ็ กกท็ ยอยปดิ ต วั ล ง ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ เคลื่อนที่ที่มีขนาดใหญ่เทอะทะ (บางคนเปรียบเปรย ว่าเวลาคุยโทรศัพท์ทีเหมือน ‘หมาแทะกระดูก’) ก็เริ่ม มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ จนกลายเป็น ‘โทรศัพท์มือถือ’ ในที่สุด ที่เป็นเช่นนี้ได้เพราะการพัฒนาเทคโนโลยี แบตเตอรีและวงจรภายในเครื่องที่ใช้พลังงานอย่างมี ประสิทธิภาพ ค.ศ. 1993 The Simon Personal Communicator ร่วมกับ IBM9 และ BellSouth วางตลาดโทรศัพท์มือถือโฉมใหม่ที่ ผนวก PDA (Personal Digital Assistant) เข้าไปด้วย ทำให้เกิดอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ทั้งโทรศัพท์ เพจเจอร์ เครื่องคิดเลข สมุดบันทึกที่อยู่ โทรสาร และอีเมล โดย มีน้ำหนักประมาณ 500 กรัม ค.ศ. 1995 โนเกียให้บริการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือในจีน และญี่ปุ่น ค.ศ. 1996 โทรศัพท์มือถือเริ่มแปลงโฉมจากเน้น ‘ฟังกช์ น่ั ’ ไปเน้น ‘แฟชัน่ ’ เช่น โมโตโรลาออก โทรศัพท์มือถือรุ่น Razr ซึ่งมขี นาดเล็ก น้ ำ หนั ก ไ ม่ ถึง 100 กรั ม มีฝาพับ คล้ายหอย(Clamshell Phone) และเหน็บเข้ากับเข็มขัดได้ ค.ศ. 1998 เทคโนโลยีบ ลูท ธู (Bluetooth) กำเนิดข นึ้ ด ว้ ยความตงั้ ใจ จะใ ช้ เ พื่ อ ท ดแทนก ารส่ ง สั ญ ญาณเ สี ย งแ ละข้ อ มู ล ผ่านสาย แล้วบูลทูธก็มาเป็นเพื่อนสนิทกับโทรศัพท์ มือถือ ก่อนจะเริ่มไปคบหากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชนิดอื่นๆ ค.ศ. 1999 โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ เ จ้ า เ สน่ ห์ น าม BlackBerry ของ Research in Motion (RIM) สัญชาติแ คนาดา ก็อ อกมา ให้ย ลโฉม พร้อมๆ กับล ูกเล่นแ พรวพราว ได้แก่ อีเมล โทรศัพท์ ส่งข อ้ ความ ส่งแ ฟ็กซ์ผ า่ นอนิ เทอร์เน็ต เข้าเว็บ และใช้บริการไร้สายอื่นๆ และแน่นอน...จากรุ่นแรกที่ หน้าจ อเป็นขาว-ดำก็เป็นล้านสีไปเรียบร้อย ค.ศ. 2000 เริ่มพัฒนาระบบ 3G พร้อมๆ กับวางมาตรฐาน (เช่น การส่งถ่ายข้อมูลด้วยความเร็ว 2 Mbit/s ในอาคาร และ 384 kbit/s นอกอาคาร เป็นต้น) แต่ก ่อนจะได้ 3G ก็ม ี 2.5G มาใช้แก้ขัดก่อน เช่น CDMA2000-1X, GPRS และ EDGE ซึง่ พ ฒ ั นาตอ่ ยอดจาก 2G จนกระทัง่
ต้นศตวรรษที่ 21 จึงม ี 3G ใช้ก ัน ค.ศ. 2001 จะมีใครรู้บ้างว่า ‘โทรศัพท์ช าญฉลาด’ (Smart Phone) เครื่องแรกคือ Kyocera รุ่น QCP6035 ออกตีตลาด พร้อมๆ กับร ะบบปฏิบตั กิ าร Palm-OS และหน่วยความจำ ถึง 8MB จัดเป็นอุปกรณ์ป ระเภท All-in-One เพราะทำ หน้าที่ทั้งโทรศัพท์ เพจเจอร์ PDA เฝ้าห ุ้น หาโรงและ รอบชมภาพยนตร์ หาตารางบิน ฯลฯ นี่คือหัวหอกของ สมาร์ทโฟนในยุคต่อๆ มา ค.ศ. 2002 โทรศัพท์มือถือติดก ล้องตัวแรกคือ Sanyo SCP-5300 ออกวางตลาดในสหรัฐอเมริกา โดยสามารถจับภาพ ขนาด 640x480 พิกเซลได้ (อย่านำไปเปรียบเทียบกับ ทีเ่ ราๆ ท่านๆ ใช้ก นั อ ยูใ่ นปจั จุบนั ท มี่ คี วามละเอียดของ ภาพร่วม 10 ล้านพิกเซล) ค.ศ. 2005 โมโตโรลาจับเอาสิ่งที่ดีที่สุด 2 สิ่ง(ในขณะนั้น)มาไว้ ด้วยกัน คือดีไซน์ของโทรศัพท์มือถือโมโตโรลาและ เครือ่ งเล่นเพลง iTune ของแอปเปิล กลายเป็น Motorola Rokr ที่วัยโจ๋และไม่โจ๋ทั้งหลายล้วน ‘โดน’ กันเป็น แถว เพราะทำให้เขาเหล่านั้นฟังเพลงขณะเดินทางได้ (แต่อาจถูกค ั่นโฆษณาด้วยสายเรียกเข้า) ค.ศ. 2007 แอปเปิลเปิดต วั iPhone รุน่ แ รกทยี่ งั ใช้เทคโนโลยี 2.5G แต่สามารถส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi ได้ ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์ม ือถือท ี่ใช้ 3G เริ่มแ พร่ห ลาย... ชาวบ้านติดกันงอมแงม ค.ศ. 2008 เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบอะนาล็อก ปิดตัวลง ค.ศ. 2010 LG Optimus 2X เป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกที่ใช้ Processor แบบ Dual-core ค.ศ. 2011 แอปเปิลเกทับด้วย iPhone 4S ทีม่ ี Processor Apple A5 แบบ Dual-core และมีเสาอากาศทั้งส ำหรับ GSM และ CDMA ในขณะที่ LG Optimus 3D P920 เอาระบบ ภาพสามมิติแบบไม่ต้องใส่แว่นมาดึงดูดผู้ใช้ เทคโนโลยี โ ทรศั พ ท์ มื อ ถื อยั ง ค งพั ฒนาอ ย่ า ง ต่อเนื่อง แต่มารยาทของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเรื่อง เฉพาะตัว!!
ที่มา: ++ http://www.xtimeline.com/timeline/History-of-Mobile-Phones--Cell-Phones++ http://gizmodo.com/357895/the-analog-cellphone-timeline ++ http://www.dreamsrain.com/2011/10/17/evolution-of-cell-phone-since-last-38-years-infographic/
13 :
Horizon08.indb 13
1/27/12 1:59:54 PM
Q uestion area สุชาต อุดมโสภกิจ
คำถาม-คำตอบ เกี่ยวกับน้ำท่วม
Q: อย่างไรจึงจะเรียกว่าน้ำท่วม?
ในวันที่นนทบุรีไม่ใช่เมืองแห่ง ความรื่นเริง ปทุมธานีไม่มีดอกบัว ให้เห็น กรุงเทพมหานครเกือบจะกลาย เป็ น ก รุ ง เทพม หาน ที และเรามี แ ม่ น้ ำ วิ ภ าวดี เป็ น แ ม่ น้ ำ ส ายใหม่ คำว่ า ‘น้ ำ ท่ ว ม’ กลายเป็ น ค ำเขย่ า ข วั ญ สั่ น ป ระสาทค นไทย Q&A ฉบั บ นี้ ข อเสนอค ำอ ธิ บ ายบ างแ ง่ มุ ม เกี่ ย วกั บ น้ ำ ท่ ว ม ด้ ว ยค วามห วั ง ว่ า ผู้ อ่ า นจ ะคุ้ น เคยแ ละมี ค วามเข้ า ใจ ‘น้องนำ้ ’ มากกว่าท ผี่ า่ นมา
A: น้ำท่วมเป็นปรากฏการณ์ที่น้ำไหลบ่าไปสู่พื้นดินที่เคยแห้งมาก่อน อาจเกิดขึ้นเมื่อมีฝนตกหนัก มีคลื่น ในทะเลซดั เข้าส ชู่ ายฝัง่ อ ย่างรนุ แรง หิมะละลายอย่างรวดเร็ว หรือเขือ่ น/ฝายแตก น้ำท ว่ มอาจมรี ะดับน ำ้ เพียง ไม่กี่เซนติเมตรไปจนถึงมิดหลังคาบ้าน อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมที่อันตรายมากคือ ‘น้ำท่วมฉับพลัน’ (Flash Flood) ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่สามารถเตือนภัยหรือเตือนภัยได้ในเวลากระชั้นชิด นอกนั้นเป็นน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็น เวลายาวนานหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน
Q: อย่างไรจึงจะเรียกว่าน้ำท่วมจากแม่น้ำ (River Flood)?
A: น้ำท่วมจากแม่น้ำเกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นเนื่องจากฝนตกบนผืนแผ่นดินในบริเวณหนึ่งๆ เป็น ปริมาณมาก (ฝนฟ้าคะนอง) และเป็นเวลานาน ในต่างประเทศอาจเกิดจากหิมะจำนวนมากละลายอย่าง รวดเร็วพร้อมๆ กัน
Q: อย่างไรจึงจะเรียกว่าน้ำท่วมชายฝั่ง (Coast Flood)?
A: น้ำท่วมชายฝั่งเกิดข ึ้นเมื่อมีพายุ เช่น เฮอร์ร ิเคน พายุโซนร้อน ดีเปรสชั่น เป็นต้น ทำให้ระดับน ้ำในทะเล สูงขึ้น (Storm Surge) จนท่วมชายฝั่ง ‘Storm Surge’ เป็นปรากฏการณ์ทนี่ ้ำในทะเลถูกด ันเข้าไปยังชายฝั่ง เนือ่ งจากอทิ ธิพลของลมทหี่ มุนว นอยูใ่ นพายุ และเมือ่ ร วมกบั ค ลืน่ ในทะเลทมี่ อี ยูแ่ ต่เดิมท ำให้ร ะดับน ำ้ ท ะเลสงู ขึ้นถึง 4 เมตรหรือเกินกว่านั้น ปรากฏการณ์ Strom Surge ในมลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1900 ทำให้ส ูญเสียช ีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 8,000 คน
Q: อย่างไรจึงจะเรียกว่าน้ำท่วมฉับพลัน (Flash Flood)?
A: น้ำท ว่ มฉบั พ ลันเป็นป รากฏการณ์ท นี่ ำ้ ในแม่นำ้ ห รือในพนื้ ทีล่ มุ่ ต ำ่ ม รี ะดับส งู ข นึ้ อ ย่างรวดเร็ว น้ำท ว่ มฉบั พ ลัน มักเกิดข นึ้ ภ ายใน 6 ชัว่ โมงเมือ่ ม ฝี นตกหนักต ดิ ต่อก นั ซึง่ ม กั เป็นผ ลของพายุห รือม ฝี นฟา้ ค ะนองเป็นบ ริเวณกว้าง นอกจากนนี้ ำ้ ท ว่ มฉบั พ ลันอ าจเกิดข นึ้ จ ากเขือ่ นหรือฝ ายแตก หรือม กี ารปล่อยนำ้ ท เี่ ก็บก กั ไว้ในปริม าณมากๆ ฝนที่ตกหนักในแถบภูเขาอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในบริเวณหุบเขาเบื้องล่างได้ : 14
Horizon08.indb 14
1/27/12 1:59:55 PM
Q: เหตุใดน้ำท่วมฉับพลันจึงอันตรายมาก?
A: น้ำท่วมฉับพลันเกิดขึ้นโดยไม่มีการเตือนภัยหรือมีเวลาเตือนภัยน้อย น้ำท่วมฉับพลันทำลายทรัพย์สินและชีวิต ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในบริเวณริมตลิ่งหรือพื้นแ ม่น้ำค ูคลองที่เคยแห้งผาก (Arroyo) มาก่อน น้ำท่วม ฉับพลันมีพลังมหาศาล สามารถทำให้หินก้อนใหญ่ๆ กลิ้งได้ ฉีกต้นไม้ใหญ่เป็นชิ้นๆ ได้ ทำลายอาคารทั้งห ลังหรือ สะพานได้ รวมทงั้ ส ามารถสร้างทางนำ้ ส ายใหม่ได้ น้ำท ว่ มฉบั พ ลันในพนื้ ทีท่ มี่ คี วามลาดชนั ส งู อ าจกอ่ ให้เกิดป ญ ั หา ซ้ำเติมโดยทำให้เกิดโคลนถล่ม (Mud Slide) ที่สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตแ ละทรัพย์สิน
Q: บริเวณใดบ้างที่มีความเสี่ยงจากน้ำท่วมฉับพลัน?
A: พื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เนื่องจากมีการก่อสร้างอาคาร ถนน ที่จอดรถ ทำให้มีพื้นที่รองรับน้ำ น้อยลง ปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน (Runoff) จึงมากขึ้น แล้วทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในที่สุด นอกจากนี้ ชั้นใต้ดิน ของอาคาร ที่จอดรถใต้ดิน และอุโมงค์ทางลอด ก็จัดเป็นพ ื้นทีท่ ี่มีความเสี่ยงจากน้ำท ่วมฉับพลันเช่นก ัน พื้นที่ที่อยู่ใกล้แม่น้ำ โดยเฉพาะริมตลิ่งที่มีคันกั้นน้ำ (Embankment, Levee) ก็มีความเสี่ยงจาก น้ำท่วมฉับพลัน ดังตัวอย่างที่แม่น้ำมิสซิสซิปปีไหลบ่าเข้าท่วมเมืองนิวออร์ลีนส์เมื่อปี ค.ศ. 2005 เนื่องจาก คันกั้นน้ำพังลงจากแรงดันน้ำที่สูงขึ้นจากอิทธิพลของพายุคาทรีน า หรือนครสวรรค์ป ระสบกับน้ำท ่วมฉับพลันเมื่อ ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพราะคันกั้นน้ำ(ชั่วคราว)พังลง ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วมตัวเมือง อย่างรวดเร็ว เขื่อนพังสามารถส่งมวลน้ำไปทำลายสิ่งที่อยู่ขวางหน้าได้อย่างรวดเร็ว มักเกิดก ับเขื่อนดิน ในปี ค.ศ. 1889 เขื่อนที่อยู่ตอนเหนือของจอห์นสทาวน์ มลรัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ได้พังล ง ทำให้มผี ู้เสียช ีวิตถึง 2,200 รายภายในไม่กนี่ าทีด้วยน้ำที่มาจากเขื่อนและมีระดับความสูงไม่น้อยกว่า 10 เมตร อย่าเดินเล่นริมแม่น้ำขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนองในแถบนั้น ฝนที่ตกหนักในแถบภูเขาเป็นเวลานานอาจทำให้ ลำธารเล็กๆ ที่มีความกว้างเพียง 15 เซนติเมตรกลายเป็นค ลองที่มีความกว้าง 3 เมตรได้ภายในไม่ถ ึงชั่วโมง สิ่งที่ อันตรายคือสายน้ำที่มีความเชี่ยวกราก หินแ ละดินโคลนที่ถูกซัดม าพร้อมกับน้ำ
Q: ปัจจัยใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วม?
A: ปริมาณน้ำฝนเป็นปัจจัยหลักท ี่ทำให้เกิดน้ำท่วม แต่มีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ได้แก่ ความสามารถในการเก็บ กักน้ำ (Catchment) ซึ่งขึ้นกับข นาดหรือค วามจุ รูปร่าง และการใช้ท ี่ดินของแหล่งเก็บน้ำ น้ำฝ นบางส่วนถูกด ูดซับ โดยพื้นที่เพาะปลูก ที่เหลือจึงไปตามทางน้ำ (Waterway) ด้วยเหตุนี้ ของฝาก ขนาดและรูปร่างของแม่น้ำ พื้นที่เพาะปลูก และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่อยูใ่นบริเวณและใกล้ๆ ทางน้ำจ ึงล้วนมีผลต่อระดับน้ำในทางน้ำ 法 แปลว่ า ทาง (Way) มาจาก 2 คำคือ 水 (น้ำ) และ 去 (ไป)
Q: เราสามารถจัดการความเสี่ยงจาก น้ำท่วมได้อย่างไร?
‘น้ ำ ย่ อ มมี ห นทางที ่ ม ั น จะไป’ (Water goes the way it goes.)
A: ความเสี่ยงจากน้ำท่วมประกอบด้วยปัจจัย 2 ประการคือ โอกาส ที่จะเกิดน้ำท่วม และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น การลดความเสี่ยงจาก า: น้ำท่วมทำได้โดยการวางแผนการใช้ที่ดิน (Land Use Planning) โดย ที• ่มhttp://www.nssl.noaa.gov/primer/flood/ ต้องพิจารณาข้อมูลพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วม (Floodplain) การจัดการ fld_basics.html http://www.chiefscientist.qld.gov.au/ ความเสี่ยงจากน้ำท่วมในพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนาแล้วมีความยุ่งยากกว่า •publications/understanding-floods.aspx อย่างไรก็ตาม การสร้างเขื่อนหรือคันกั้นน้ำจะช่วยปรับ ‘พฤติกรรม’ • Ick Hwan Ko (2011) Water resources and flood disaster mitigation ของน้ำได้ การปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างจะช่วยป้องกันความสูญเสียจาก development in Korea. Special Lecture for Science, น้ำท่วมต่อตัวอาคารได้ นอกจากนี้ ชุมชนควรมีมาตรการตอบสนองที่ technology and Innovation Policy for GMS Cooperastion Learning Program, 9 November เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม 2011, Seoul National University, Korea. 15 :
Horizon08.indb 15
1/27/12 1:59:56 PM
G en
nex t
[text] [photo]
ศรีศกั ดิ์ พิกลุ แก้ว อนุช ยนตมุติ
หมอดินอินเตอร์
“การเป็นนักเรียนทุนอานันทมหิดล สำหรับผ มไม่เคยรสู้ กึ เครียดหรือก ดดัน แต่กลับรู้สึกว่าเป็นแรงกระตุ้น และ บางทียงั ถอื เป็นกำลังใจเสียดว้ ยซำ้ วา่ เรามหี น้าท่ี เรามาเพือ่ อะไรบางอย่าง”
อภินิติ โชติสังกาศ อาจารย์หนุ่มลูกเกษตร เจ้าของประโยคเด็ด ข้างต้น เดินมารับทีมงานเราที่หน้าตึกวิศวกรรมโยธาพร้อมกับ ยิ้มเป็นกันเอง “ตอนเด็กๆ เราก็ฝันว่าอยากเป็นหมอ เป็นตำรวจ เป็น ทหาร เหมือนเด็กทั่วไป จนเมื่อถึงสมัยเรียนมัธยมปลาย ได้ เรียนวิชาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ มากขึ้น จึงเริ่มมีความ คิดว่าวิทยาศาสตร์มันมีเหตุและผลจับต้องได้จริง และคิดว่าเป็น ศาสตร์ที่จะพิสูจน์ความจริงได้มากกว่าศาสตร์ด้านอื่นๆ หากจะ บอกว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้มีวันนี้ก็ไม่เกินเลย เสียทีเดียว”
: 16
Horizon08.indb 16
1/27/12 1:59:59 PM
16 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก นับจากปี 2538 เมื่อครั้งยังเป็นน้องปี 1 สู่นักปฐพีวิทยาอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ถามว่า ณ วันน ี้มีอะไรเปลี่ยนไปจาก เมื่อครั้งอดีตบ้าง ดอกเตอร์ห นุ่มนั่งครุ่นคิดอยู่สักพ ัก “ส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปนะ ไม่ใช่ว่า เรียนจบกจ็ บกนั ส่วนตวั ย งั ค ดิ ว า่ ต นเองตอ้ งเรียนรู้ ต้อง ค้นหาช่องทางที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น โดยเฉพาะ ในฐานะนักวิจัยจะหยุดไม่ได้ ต้องคิดเสมอว่างานวิจัย ของเรายังมีช่องว่างให้ปรับปรุง ให้ได้พัฒนางานให้ดี ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ” เมื่อมีโอกาสพบเจอนักปฐพีวิทยาตัวเอ้ของ ประเทศไทย อดถามไม่ได้ว า่ จริงๆ แล้วง านปฐพีวทิ ยา มีความสำคัญอย่างไร และในยุคแห่งภัยพิบัติอย่างเช่น ทุกวันนี้ นักปฐพีวิทยาจะมีบทบาทต่อของสังคมไทย อย่างไรบ้าง “งานข องวิ ศ วกรป ฐพี จ ะเ ป็ น เ รื่ อ งข องก าร ออกแบบ การวิเคราะห์โครงสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับค ณ ุ สมบัตขิ องดนิ แ ละหนิ หรือว า่ จ ะเป็นในเรือ่ งการ ใช้ดินมาเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง เช่น การสร้าง เขื่อนดินจะต้องมีการวิเคราห์ส่วนประกอบต่างๆ ว่า กำแพงดินร ูปแ บบใดที่ดีที่สุด จะออกแบบอย่างไร และ จะเกิดอะไรขึ้นกับโครงสร้างหากมีแผ่นดินไหวหรือ อุทกภัยเกิดขึ้น “สำหรับในประเทศ ณ ตอนนี้คิดว่าอ งค์ความรู้ เรื่องนี้มีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ยุคที่มีภัยพิบัติเกิดขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ดิน ถล่ม แผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ เนื่องจากหลังเกิดภัย พิบัติแล้วเราต้องอาศัยองค์ความรู้นี้มาวิเคราะห์ดูว่า โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ หรือชุมชนจะได้รับผลกระทบ อย่างไรบ้าง” จังหวะนี้อาจารย์อภินิติได้กล่าวถึงการทำงาน ของภาครัฐไว้น่าสนใจทีเดียวว่า “จริงๆ แล้วเรื่ององค์ความรู้ด้านปฐพีวิทยานี้ หน่วยงานราชการกม็ อี ย่างพอเพียง แต่ท มี่ นั ม ปี ญ ั หาขนึ้ มากเ็ นือ่ งมาจากการตดั สินใจและการประสานงานทไี่ ม่ ดีพ อ ถ้าจ ะพดู ให้ถ กู ก ค็ อื บ า้ นเราไม่มปี ญ ั หาเชิงเทคนิค
แต่จะมีปัญหาเรื่องการจัดการมากกว่า” โลกทไี่ ม่เหมือนเดิม ชีวติ ท ไี่ ม่เหมือนเดิม แล้วเรา จะอยู่กับโลกนี้อย่างไร “ผมคิดว่าหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็น มากๆ คือ การตั้งสมมุติฐาน ทฤษฎีอะไรต่างๆ แล้ว ก็หาหลักฐานเชิงประจักษ์ หาหลักฐานจากพื้นที่จริงๆ มาเปรียบเทียบ จะแนะนำในเชิงวิชาการก็คงยากเกิน ไป หลักเบือ้ งตน้ ท ชี่ าวบา้ นสามารถนำไปใช้ได้ก ค็ อื ต้อง ค้นหาปัจจัยหรือสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ “เช่น เราต้องสังเกตว่าเวลาฝนตกปริมาณน้ำ มากน้อยเพียงใด ดินถึงจะเริ่มถล่มลงมา พอหลายๆ กรณีเข้าก็จะพอทราบได้ว่าแรงดันน้ำปริมาณเท่าไหร่ ถึงมีผลต่อการถล่มของดิน เมื่อชาวบ้านได้ความรู้จาก นักวิชาการไปแล้ว ชาวบ้านต้องรู้จักนำความรู้นั้นไปใช้ ในการสังเกตปรากฏการณ์ในพื้นที่เองด้วย” ที่ ส ำคั ญ ด อกเตอร์ ห นุ่ ม ไ ด้ ฝ ากเ รื่ อ งห นึ่ ง แ ก่ นักพัฒนาที่มิควรมองข้าม “การที่จะทำให้ชาวบ้านเชื่อ หรือสร้างความเข้าใจอะไรก็ตามที เราต้องทำให้เห็น พูดอย่างเดียวไม่ได้” มิใช่เพียงแต่เป็น ผู้ให้ ขณะเดียวกันยังเป็น ผู้รับ ด้วยในคราเดียวกัน “มีอีกเรื่องที่ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นมากทีเดียว สำหรับนักวิจัยในเมืองไทย คือ เราจะนำเข้าความรู้ สำเร็ จ รู ป จ ากต่ า งป ระเทศเ พี ย งอ ย่ า งเ ดี ย วไ ม่ ไ ด้ ภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวบ้านนี่สำคัญมาก ตัวอย่าง เช่นพ ชื ช นิดไหนจะชว่ ยรกั ษาหน้าด นิ ได้ อันน กี้ ต็ อ้ งอาศัย ความรู้ของชาวบ้าน “หรือการสังเกตอะไรต่างๆ เช่นตาน้ำว่ามันมี ตรงไหนบ้าง อันนี้เป็นเรื่องทมี่ องข้ามไม่ได้ ยิ่งในสาขา วิศวกรรมปฐพีความรู้ในเรื่องพื้นที่ของท้องถิ่นมีความ สำคัญมาก” ท้ า ยสุ ด ด อกเตอร์ ค นเ ก่ ง ก ล่ า ว “ในอ นาคต อยากให้นักวิชาการลงมาสัมผัสชาวบ้าน มาทำงานกับ ช าวบา้ น ไม่ใช่อ ยูแ่ ต่บ นหอคอยงาช้าง อันน ตี้ อ้ งหาวธิ กี าร ทำให้ได้ประโยชน์แ ละนำไปใช้ได้จริงท ั้งส องฝ่าย” อันเรื่องนี้ก็คงต้องขึ้นกับจิตสำนึกของแต่ละ บุคคลล่ะครับ เชิญต ามอัธยาศัย 17 :
Horizon08.indb 17
1/27/12 2:00:00 PM
Fกองบรรณาธิ eatures การ
of Part 1: ทางข้างหน้า
สถาบันค ลังส มองแห่งช าติ ได้จ ดั ท ำโครงการภาพอนาคตเกษตรไทย 2563 ขึ้น เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับภาคเกษตรไทย และจั ด ท ำภ าพอ นาคตก ารเกษตรไทยปี พ.ศ. 2563 ด้ ว ย กระบวนการมองอนาคต (Foresight) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ให้กับสังคมในการเตรียมรับมือกับอนาคตในมิติใหม่ได้อย่างเท่าทัน
: 18
Horizon08.indb 18
1/27/12 2:00:04 PM
ภาพอนาคตการเกษตรไทย ปี 2563
ภาพอนาคตเกษตรไทยให้ความสำคัญกับความไม่แน่นอนซึ่งเป็นทั้งปัจจัยภายใน ประเทศและความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นำมาสู่ภาพในอนาคต 3 ภาพ ได้แก่ ‘ภาพไม้ป ่า’ ‘ภาพไม้เลี้ยง’ และ ‘ภาพไม้ล ้ม’
จากสถานการณ์ความผัน ผวนของสภาพภูมิอากาศ โลก ทำให้ผู้ผลิตส ินค้าเกษตรและอาหารทั่วโลก ได้รับ ผลกระทบ ผลผลิตท างการเกษตรลดนอ้ ยลง สวนทางกบั ความต้องการอาหารที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สภาพภมู อิ ากาศทเี่ ปลีย่ นแปลงของโลก ยังท ำให้ มีการนำพื้นที่ผลิตพืชอาหารไปผลิตพืชพลังงาน เปิด โอกาสให้ประเทศไทยกลายเป็น ผู้ผลิตสินค้าเกษตร และอาหารรายใหญ่ของโลก โดยประเทศไทยจะมีการ ขยายตัวของจีดีพีเพิ่มสูงขึ้น เนื่องมาจากการส่งออก สินค้าเกษตรและอาหารสตู่ ลาดโลก แต่ ผ ลจ ากส ภาวะโ ลกร้ อ นผ ลั ก ดั น ใ ห้ เ กิ ด มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่รูปแบบภาษี (NonTariff Barriers) อาทิ Water Footprint และ Carbon Footprint เป็นต้น ผลจากสภาพภมู อิ ากาศเปลีย่ นแปลงและสภาวะ โลกร้อนทำให้มีการคิดค้น และประยุกต์เทคโนโลยีและ ภูมปิ ญ ั ญาในการปรับเปลีย่ นวธิ กี ารผลิตท างการเกษตร อาทิ เทคโนโลยีโรงเรือนระบบปดิ เทคโนโลยี Precision Farming รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นในการจัดการฟาร์ม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังทำให้เกิดการ พัฒนาพันธุ์พืชสายพันธุ์ใหม่ เช่น พืชที่ใช้น้ำน้อย ทน ต่อโรคและแมลงได้ โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ อย่างไรกต็ ามผลจากการใช้เทคโนโลยีท างพนั ธุพ์ ชื ทำให้
ความหลากหลายทางพันธุ์พืชอาหารลดลง พืชอาหาร บางสายพันธุเ์ริ่มสูญหายไป ด้วยพฒ ั นาการและความกา้ วหน้าข องเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ทำให้เกษตรกรสามารถเข้า ถึงข อ้ มูลข า่ วสาร และตดิ ต่อส อื่ สารกนั ได้ส ะดวกมากขนึ้ จึงทำให้เกิดเครือข ่าย มีเกษตรกรครบวงจร หรือเกษตร เครือข า่ ยแทนรปู แ บบการผลิตแ บบโดดเดีย่ ว มีก ารจดั ต งั้ สหกรณ์หรือวิสาหกิจชุมชนเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง กับพ่อค้าคนกลาง ลดบทบาทของพ่อค้าคนกลางลง เกิด Farmer Market เกษตรกรบ างส่ ว นย กร ะดั บ เ ป็ น ผู้ ป ระกอบ การเกษตร มีการนำความรู้ เทคโนโลยี และการจัดการ ทีด่ ี ประกอบกับการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทำให้เกิดค วาม ต้องการการบริการดา้ นการเกษตรมากขนึ้ รวมทงั้ ม กี าร จัดตั้งโรงเรียนเกษตรเฉพาะทาง เน้นเฉพาะผู้สนใจเข้า มาศึกษาและเน้นการปฏิบัติและเรียนรู้ในพื้นที่จริง ผล สำเร็จจ ากโรงเรียนเฉพาะทางมกี ารพฒ ั นาไปสกู่ ารจดั ต งั้ ‘มหาวิทยาลัยเกษตรกร’ ที่มีหลักสูตรการเรียนการสอน ด้านการเกษตรในสาขาต่างๆ ทุกระดับปริญญา ผ่าน สื่อการสอนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้เกษตรกร รายย่อยบางส่วนมีความร่วมมือกับภาคเอกชน และ บริษัททผี่ ลิตสินค้าทางการเกษตรในรูปแ บบ Contract Farming 19 :
Horizon08.indb 19
1/27/12 2:00:05 PM
จากภาวะโลกรอ้ น ทำให้เกิดภ ยั พ บิ ตั ทิ ยี่ ากจะคาดการณ์ อี ก ทั้ ง เกิ ด โ รคร ะบ าดใ หม่ ๆ ส่ ง ผ ลกร ะท บต่ อ พื้ น ที่ เกษตรกรรม ทั้งพื้นที่นอกเขตชลประทานและในเขต ชลประทาน ส่งผลให้ปริมาณการผลิตลดลง ผลจาก สถานการณ์ร าคานำ้ มันท สี่ งู และความตอ้ งการพลังงาน ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรหันไปปลูกพ ืช พลังงานเพิ่มขึ้น ซ้ำเติมให้ผลผลิตท างการเกษตรที่เป็น พืชอาหารมีปริมาณน้อยลง จนกระทบการส่งออกของ ไทย และเกิดส ถานการณ์ขาดแคลนอาหาร นอกจากนี้ สัตว์น ้ำตามธรรมชาติท ี่มีการอพยพ ย้ายถนิ่ ท อี่ ยู่ ทำให้ว งจรชวี ติ เปลีย่ นแปลงไป แหล่งอ นุบาล สัตว์น้ำในทะเลและแม่น้ำบางแห่งถูกทำลาย ส่งผล ให้ราคาผลผลิตทรัพยากรอาหารและการเกษตรสูงขึ้น จากอุปทานในตลาดโลกและจากการที่เกษตรกรมีการ ปรับเปลี่ยนการเพิ่มมูลค่าผลผลิตของตนเอง จนทำให้ เกษตรกรมี ร ายไ ด้ เ พิ่ ม สู ง ขึ้ น เ ที ย บเ ท่ า ค นชั้ น ก ลาง เกษตรกรกลายเป็นอ าชีพท มี่ คี วามมนั่ คงทางรายได้แ ละ มีรายได้ข ั้นต่ำที่แน่นอนสำหรับการผลิตในแต่ละชนิด ภาครฐั ม คี วามเข้าใจ มีค วามจริงใจและมนี โยบาย ด้านการเกษตรที่ชัดเจน มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพ และประสิทธิภาพการผลิตม ากกว่าก ารเน้นผ ลระยะสนั้ โดยมี แ ผนการเ กษตรแ ห่ ง ช าติ ที่ มี เ ป้ า ห มายชั ด เจน เปลี่ ย นแปลงแ นวน โยบายที่ เ น้ น บ ทบาทใ นก าร สงเคราะห์ช่วยเหลือเกษตรกรมาเป็นแนวนโยบายที่ สนับสนุนเกษตรแบบบูรณาการ มีแนวนโยบายที่มอง Supply Chain ทั้งระบบเกษตร ซึ่งเป็นการให้ความ ช่วยเหลือเกษตรกรตั้งแต่เพาะปลูกจนถึงการจำหน่าย อาทิ มีการวางแผนการผลิตทางการเกษตรโดยอาศัย ข้อมูล สถิติ และสารสนเทศทางการเกษตร มีระบบ สารสนเทศในการเตือนภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ รวมทั้งมี การประกาศราคาเป้าหมาย (ประกันราคา) พืชผลทุก ประเภทมีระบบประกันภัยผลผลิตทางการเกษตรแบบ สมัครใจที่เกษตรกรต้องชำระเงินประกันบางส่วน ทั้ง ประกันภัยแล้งและประกันน้ำท่วม ซึ่งเป็นที่นิยมของ เกษตรกร ภาครัฐเล็งเห็นถึงความมั่นคงทางอาหารของ ประเทศ โดยสร้างแรงจูงใจในการเข้าม าประกอบอาชีพ เกษตรกรรม อาทิ มีระบบสวัสดิการเกษตรกร มีก ารจด ทะเบียนเกษตรกร รวมทงั้ ส ร้างกลไกการมสี ว่ นรว่ มของ เกษตรกรในการกำหนดนโยบายผา่ นสภาเกษตรกรแห่ง ชาติและองค์กรเกษตรที่เข้มแข็ง บนฐานเครือข่ายทาง
สังคมเกษตร แต่ในภาคการส่งออกยังคงประสบปัญหา ขาดแคลนสนิ ค้า อันเนือ่ งมาจากปริมาณผลผลิตท ลี่ ดลง และการปรับเปลี่ยนที่ดินทางการเกษตรไปเพาะปลูก พืชพ ลังงาน อาชีพเกษตรกรรมกลายมาเป็นหนึ่งในอาชีพ ยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ เนื่องจากการส่งเสริมการเรียน สาขาเกษตรโดยภาครฐั ซึง่ ก ารเรียนการสอนไม่เพียงแต่ ให้ความรู้ในการประกอบการทำฟาร์ม แต่ร วมถึงค วาม รักในอาชีพ นักเรียนนักศึกษาจะมาศึกษาฝึกงานกับ เกษตรกรเป็นเวลานาน ทำให้เรียนรู้ระบบการเกษตร ที่แท้จริง ในสายตานักลงทุน สินค้าเกษตรจะกลายเป็น เครื่ อ งมื อ ใ นก ารล งทุ น ที่ มี ค วามมั่ น คงเ ช่ น เ ดี ยวกั บ ทองและน้ำมัน ในยุคนี้อาชีพเกษตรกรจะเปลี่ยนเป็น ผู้ประกอบการเกษตรกรรมมากขึ้น มีการปรับเปลี่ยน จากรูปแบบอาชีพการเพาะปลูกแบบดั้งเดิมมาเป็นการ บริหารจัดการฟาร์ม กระแสความนิยมของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือเชิงนิเวศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรที่มี การบริหารจัดการน้ำที่ดี และพื้นที่เกษตรทฤษฎีใหม่ กลายเ ป็ น แ หล่ ง ร องรั บ นั ก ท่ อ งเ ที่ ย วแ ห่ ง ใ หม่ เกษตรกรสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและมีการส่งผ่าน สู่ สั ง คมผู้ บ ริ โ ภคภ ายนอกด้ ว ยก ารบ ริ ก ารด้ า นก าร ท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีบาร์โค้ดบอกเล่า เรือ่ งราวความเป็นม า กลายเป็น Creative Agri-industry ทีม่ เี รือ่ งราวและมกี ารคดั แ ยกเกรดผลิตภัณฑ์เกษตรให้ม ี ความแตกตา่ งด้านราคา มีส นิ ค้าเฉพาะกลุม่ เช่น อาหาร สุขภาพ อาหารเด็ก อาหารผู้สูงอายุ และเน้นการผลิต สินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานตรงตามความต้องการ ของผบู้ ริโภคและเน้นตลาดที่ผบู้ ริโภคมกี ำลังก ารซื้อสูง
: 20
Horizon08.indb 20
1/27/12 2:00:06 PM
สภาพสงั คมยงั ค งยงุ่ เหยิง และคงสภาพสงครามหลากสี ผลกร ะท บจ ากค วามไ ม่ ส งบภ ายในป ระเทศท ำให้ การเมืองมีความผัน ผวนตลอดเวลา และการมีรัฐบาล ที่ขาดเสถียรภาพ ส่งผลต่อภาคการเกษตรจากนโยบาย ที่ขาดความต่อเนื่อง นโยบายภาครัฐยังคงเน้นไปที่การสงเคราะห์ ช่วยเหลือม ากกว่าก ารสร้างความเข้มแ ข็งให้ก บั เกษตรกร อาทิ นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร นโยบายแทรกแซง ราคาเพื่อพยุงราคาสินค้าเกษตร เป็นต้น ในขณะที่ โครงสร้างพื้นฐานภาคการเกษตรที่มีอยู่แต่เดิมไม่ได้ รับการพัฒนา ทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และ ระบบเตือนภัย จนไม่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้ ภาคเกษตรได้ เกษตรกรรายย่อยซึ่งเป็น ผู้สูงวัยยังคงทำการ เกษตรแ บบเ ดิ ม ใ นพื้ น ที่ ข นาดเ ล็ ก โดยป ราศจาก เทคโนโลยีที่เหมาะสม ในขณะที่บริษัทเอกชนเป็นผู้นำ ทางด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการเกษตรที่แข็งแรง และผกู ขาดการขายให้ร ายยอ่ ย การลงทุนแ ละการสะสม ความรู้ รวมทั้งการประยุกต์ใช้ความรู้และเทคโนโลยี ทั้งในและต่างประเทศของบริษัทรายใหญ่ที่มีการวิจัย และพัฒนาต่อเนื่อง ทำให้ควบคุมคุณภาพของสินค้า ได้ครบวงจร ในขณะที่บุคลากรการวิจัยด้านการเกษตรของ ภาครั ฐ ที่ มี ค วามรู้ ค วามเ ชี่ ยวชาญส่ ว นห นึ่ ง เ กษี ย ณ อายุ ขาดระบบถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ เกิดช่องว่างสุญญากาศทางความรู้ที่สะสมไว้ สวนทาง กับภาคเอกชนหรือบริษัทขนาดใหญ่ที่ขยายการลงทุน ครอบคลุมธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และมีความต้องการกำลัง คนในการวิจัยและพัฒนาที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น นัก วิจัยภาครัฐถูกจูงใจไปยังภาคเอกชนส่งผลให้ภาครัฐ ขาดแคลนบุคลากร ความพยายามในการปฏิรูประบบการวิจัยด้าน การเกษตรของรฐั ย งั ค งลม้ เหลว และไม่ส ามารถปรับปรุง แก้ไขกฎระเบียบให้เอื้อต่อการวิจัยและพัฒนาได้ ส่ง ผลให้ประเทศต้องประสบกับภาวะชะงักงันทางองค์ ความรู้และเทคโนโลยี ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีการ พัฒนารุดหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะการวิจัยและ พัฒนาปรับปรุงพืชและสัตว์ตัดแต่งพันธุกรรม (GMO: Genetically Modified Organism) การที่ไทยไม่สามารถปรับปรุงพันธุ์พืชและสัตว์ ตามคุณลักษณะที่ตลาดโลกต้องการได้ ทำให้ปริมาณ
และคณ ุ ภาพของสนิ ค้าภ าคเกษตรของประเทศลดระดับ ความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกลง โดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับประเทศจีนซึ่งมีการวิจัยและพัฒนาด้าน GMO ทีก่ ้าวหน้าอย่างมาก จนสามารถส่งไปทั่วโลก ชาวต่างชาติและนักธุรกิจไทยที่มีความรู้และมี เงินทุนเข้าถือครองที่ดินทางการเกษตรเพื่อผลิตสินค้า เกษตรเพือ่ อ าหารและพลังงานเพิม่ ม ากขนึ้ โดยมคี นไทย เป็น ผู้ชักจูงและจัดหาที่ดินให้ ซึ่งนักธุรกิจเหล่านี้เป็น นักลงทุนที่มีการลงทุนด้านการเกษตรอยู่ทั่วโลกในเขต แอฟริกา และในเอเชียตะวันอ อกเฉียงใต้ เกษตรกรราย ย่อยจำนวนมากขายที่ดินทำกินเพื่อลดความเสี่ยงจาก ความไม่แน่นอนและไม่มั่นคง หันส ู่อาชีพทมี่ ีความเสี่ยง ต่ำ เช่น ทำงานภายใต้องค์กรหรือเป็นเกษตรกรรับจ้าง ในที่ดินท ี่ตนเองเคยถือครอง นอกจากนกี้ ารทที่ นุ ต า่ งชาติเข้าม าซอื้ ห รือค รอบ ครองทดี่ นิ ท างการเกษตรซงึ่ เสมือนตน้ น้ำท างการเกษตร แล้ว ทุนต่างชาติยังรุกคืบในการเข้าซื้อหรือควบคุม (Nominee) กิจการแปรรูปทางการเกษตรขั้นต้นหรือ ขั้นกลางโดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์การเกษตรด้านอาหาร ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และอ้อย อาทิ โรงงานแปรรูป แป้งมันสำปะหลัง โรงงานหีบอ้อย เป็นต้น การตลาด หรือก ารทำธรุ กิจท เี่ กีย่ วโยงกบั ภ าคการเกษตรสว่ นใหญ่ จึงเป็นการดำเนินธ รุ กิจร ะหว่างภาคธรุ กิจท ถี่ อื ค รองหรือ ควบคุมโดยต่างชาติ
21 :
Horizon08.indb 21
1/27/12 2:00:07 PM
Part 2: ทางเลือก จากภาพอนาคต 3 ภาพที่สถาบันคลังสมองจัดทำขึ้น เราจะพบว่าใน 3 ภาพนั้น ประกอบไปด้วยภาพที่ให้ทั้ง ‘ความหวัง’ ‘แสงสว่าง’ และ รวมถงึ ‘ความหดหู’่ แนวโน้มท จี่ ะเกิดข นึ้ จ ริงในอนาคตของภาคเกษตร ไทยจะเป็นเช่นไร ล้วนขึ้นอยู่กับป ัจจัยของปัจจุบันทั้งสิ้น แน่นอนวา่ ไม่มใี ครอยากให้การเกษตรไทยเป็นไปอย่างทปี่ รากฏใน ภาพ ‘ไม้ล้ม’ คำถามก็คือเราได้เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือหรือออกแบบ แนวทางอะไรไว้บ ้างในการหลีกหนี ‘ไม้ล้ม’ เพื่อให้การเกษตรไทยดำเนิน ไปอย่างที่ปรากฎใน ‘ไม้ป่า’ หรือ ‘ไม้เลี้ยง’ ก็ดี (ร่าง) กรอบนโยบายการพฒ ั นาเทคโนโลยีช วี ภาพของประเทศไทย (พ.ศ. 2555-2564) และ (ร่าง) กรอบนโยบายการพฒ ั นานาโนเทคโนโลยี ของประเทศไทย (พ.ศ. 2555-2564) ถือเป็นย ทุ ธศาสตร์ท ไี่ ด้ว างไว้เพือ่ นำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมในส่วนของภาคการเกษตรไทย เป็น 2 กรอบนโยบายทเี่ป็น ‘ทางเลือก’ ที่ให้ ‘ความหวัง’ และยัง รอการถูกน ำไปปฏิบัติใช้
: 22
Horizon08.indb 22
1/27/12 2:00:12 PM
เทคโนโลยีชีวภาพ การจัดทำ กรอบนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยี ชีวภาพของประเทศไทย (พ.ศ. 2555-2564) มีแนวคิด พื้นฐานโดยใช้ความต้องการเป็นตัวตั้งโดยเน้นการ พัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพที่สอดคล้องกับทิศทางการ พัฒนาของโลก ใช้ป ระโยชน์จ ากความรแู้ ละวทิ ยาศาสตร์ ของเทคโนโลยีช ีวภาพในการสร้างความเข้มแข็ง กรอบนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพฯ (พ.ศ. 2555-2564) ให้ค วามสำคัญในภาคการเกษตร ไทย เนื่องจากประเทศไทยมีความเชี่ยวชาญในการ ผลิตสินค้าเกษตรเป็นเวลาช้านาน ดังเห็นได้จากไทย เป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารสำคัญ ของโลก และมีสินค้าเกษตรและอาหารหลายรายการ ที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกมากเป็นอันดับ 1 ของโลก แรงงานไทยกว่า 16 ล้านคน หรือร ้อยละ 40 ทำงาน ในภาคเกษตร เป็นโอกาสทดี่ ขี องประเทศไทยในการเพิม่ ร ายได้ ให้กับเกษตรกรด้วยการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มมูลค่าให้กับ สินค้าเกษตรและอาหาร และเพิ่มการส่งออกสินค้า เกษตรและอาหารได้ม ากยงิ่ ข นึ้ ต ามจำนวนประชากรโลก ทีม่ แี นวโน้มเพิม่ ข นึ้ และความตอ้ งการของอตุ สาหกรรม ใหม่ที่มีฐานจากการเกษตร เช่น พลังงานชีวภาพและ วัสดุชีวภาพ เพื่อทดแทนเชื้อเพลิงฟ อสซิลแ ละลดภาวะ โลกร้อน
ทำไม-เทคโนโลยีชีวภาพต้องสมรสกับ ภาคเกษตรไทย
ความต้องการใช้วัตถุดิบทางการเกษตรในปี 2554 มีประมาณ 120 ล้านตัน จากการประเมินใน ระยะ 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยต้องการใช้ผลผลิต ทางการเกษตรโดยเฉพาะมนั ส ำปะหลัง อ้อย และปาล์ม น้ำมัน รวมกนั ม ากกว่า 200 ล้านตนั เพือ่ ให้เพียงพอตอ่ อุตสาหกรรมตอ่ เนือ่ ง อุตสาหกรรมพลังงานชวี ภาพ และ รักษาการส่งออกหากผลผลิตเป็นเช่นปัจจุบัน พืน้ ทีเ่ กษตรเสือ่ มโทรมจากการดแู ลไม่เหมาะสม เป็นอุปสรรคสำคัญของการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยข้อมูลจากการสำรวจของกรมพัฒนาที่ดิน ระบุว่า ร้อยละ 92 ของตัวอย่างที่ดินทั่วประเทศขาดอินทรีย์ วัตถุ ขณะที่ประเทศไทยมีวัตถุดิบสำหรับผลิตอินทรีย์ วัตถุจำนวนมาก โดยปี 2548 มีเศษวัสดุเหลือใช้จาก
ภาคการเกษตร เช่น ฟางข้าวและวัสดุตอซังประมาณ 50 ล้านตนั ต อ่ ป ี ซึง่ ส ามารถเพิม่ อ นิ ทรียว์ ตั ถุส ำหรับช ว่ ย ฟืน้ ฟูโครงสร้างดนิ 800 กิโลกรัมต อ่ ไร่ แต่ก ารยอ่ ยสลาย ตามธรรมชาติใช้เวลาอย่างน้อย 15-30 วัน เกษตรกร จึงนิยมเผาตอซังเพื่อความสะดวกในการไถเตรียมดิน หรือกำจัดศัตรูพืช การขาดแคลนทรัพยากรน้ำ รวมถึงการกีดกัน ทางการคา้ ร ปู แ บบใหม่ก ำลังเข้มข น้ ข นึ้ การเปิดเสรีก ารคา้ เปิดประตูให้สินค้าจากประเทศที่มีความได้เปรียบด้าน ต้นทุนการผลิตทะลักเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ได้สะดวกขึ้น และสภาวะไร้พรมแดนทางความรู้ก็เปิด โอกาสให้ประเทศที่มีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีเข้า มาใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพของ ประเทศไทย เป็นแรงผลักให้ประเทศไทยต้องเร่งรัด พัฒนาความสามารถดา้ นเทคโนโลยีช วี ภาพสาขาเกษตร และอาหาร แนวทางในการพัฒนาสาขาเกษตรและอาหาร ถูกว างไว้บ นฐานเศรษฐกิจแ ละสงั คม เทคโนโลยีช วี ภาพ เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการ ผลิต และโอกาสทเี่ อกชนจะเป็นผ ลู้ งทุนว จิ ยั แ ละพฒ ั นา เทคโนโลยีชีวภาพเพิ่มขึ้น การกำหนดทศิ ทางการพฒ ั นาเทคโนโลยีช วี ภาพ ของสาขาเกษตรและอาหารพิจารณาจากสินค้าเกษตร และอาหารที่มีความสำคัญสูงตามยุทธศาสตร์สินค้า เกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จำนวน 26 รายการ 23 :
Horizon08.indb 23
1/27/12 2:00:13 PM
สินค้า 26 ชนิดที่สำคัญของกระทรวงเกษตรฯ พืชไร่: ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย กาแฟ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา สับปะรด พืชสวน: ไม้ผล (ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง มะม่วง ลำไย) ไม้ดอก: กล้วยไม้ ปศุสัตว์: ไก่เนื้อ ไก่ไข่ โคนม โคเนื้อ กระบือ สุกร แพะ สัตว์น้ำ: กุ้ง ปลานิล อื่นๆ: หม่อนไทย
เมื่อพิจารณามูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตรและ อาหารของประเทศตลอดห่วงโซ่มูลค่า พบว่า ในส่วน ของต้นน้ำสร้างมูลค่าเพิ่มประมาณร้อยละ 60 ส่วน ปลายน้ำสร้างมูลค่าเพิ่มร้อยละ 30 ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็น ว่าส นิ ค้าเกษตรและอาหารทสี่ ง่ อ อกสว่ นใหญ่เป็นส นิ ค้า แปรรูปข นั้ ต น้ อย่างไรกด็ มี คี วามเป็นไปได้ทจี่ ะเพิม่ ม ลู ค่า เพิ่มให้ผ ลผลิตท างการเกษตรอย่างน้อย 1 เท่าต ัว โดย ในส่วนต้นน้ำ การพัฒนาพันธุ์พืช พันธุส์ ัตว์ และปัจจัย การผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตจะเป็นแนวทาง สำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 70-100 ในส่วนปลายน้ำ การเพิ่มมูลค่าทำได้ด้วยการ ควบคุ ม คุ ณ ภาพ ความป ลอดภั ย การมี ข้ อ มู ล ด้ า น โภชนาการ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลาก หลายและมีขั้นนวัตกรรมที่สูงขึ้นไป จะสร้างมูลค่าเพิ่ม อีกร้อยละ 50-200 จากมูลค่าปัจจุบัน
ความพร้อมดา้ นเทคโนโลยีช วี ภาพสาขา เกษตรและอาหาร
ประเทศไทยมจี ำนวนผลงานตพี มิ พ์ง านวจิ ยั แ ละ พัฒนาเทคโนโลยีช วี ภาพในวารสารวชิ าการตา่ งประเทศ สูงสุดในอาเซียน มีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ศูนย์ เทคโนโลยี ชี ว ภาพเ กษตร หน่ ว ยป ฏิ บั ติ ก ารค้ น หา และใช้ประโยชน์ยีนข้าว หน่วยวิจัยเพื่อความเป็นเลิศ ทางเทคโนโลยีช วี ภาพกงุ้ ศูนย์เชีย่ วชาญเฉพาะทางดา้ น เทคโนโลยีชีวภาพทางทะเล เป็นต้น สำหรับกำลังคนด้านเทคโนโลยีชีวภาพสาขา เกษตรและอาหารมไีม่น้อยกว่า 1,000 คน จากจำนวน บุคลากรดา้ นเทคโนโลยีช วี ภาพเป็นการเฉพาะในสถาบัน เครือข่ายของศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เกษตร ภาคเอกชนไทยก็มีการลงทุนด้านเทคโนโลยี ชีวภาพเพิ่มขึ้น เช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท เบทาโกร จำกัด บริษัท มิตรผล จำกัด บริษัท สเปเชียล ตี้ จำกัด บริษัท เอเชีย สตาร์ แอนนิมัล เฮลธ์ จำกัด เป็นต้น และมบี ริษทั ท งั้ ในและตา่ งประเทศพร้อม จะลงทุนด า้ นเทคโนโลยีช วี ภาพหากประเทศไทยมคี วาม ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายจีเอ็มโอ
ผลงานวิจัยที่สำเร็จพร้อมใช้งาน : ข้าวหอมสินเหล็ก พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิต้านทานเพลี้ย กระโดดสีน้ำตาล ข้าวเหนียว กข6 ต้านทานโรคไหม้ มะเขือเทศตา้ นทานโรค ถัว่ เหลืองตา้ นทานโรคสนิมเหล็ก ถั่วเขียวและยูคาลิปตัสทนดินด่าง
: 24
Horizon08.indb 24
1/27/12 2:00:14 PM
ประเทศไทยมีโรงงานต้นแบบเพื่อการผลิตสาร ชีวภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ มีการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่อ ปรับปรุงด นิ ท งั้ ในระดับช มุ ชนและพาณิชย์ และการผลิต อาหารเสริมสุขภ าพสตั ว์ในระดับอ ตุ สาหกรรมและระดบั ห้องปฏิบัติการ อย่างไรก็ดีประเทศไทยควรพัฒนา เทคโนโลยีเพิ่มเติมโดยเฉพาะเทคโนโลยีฐานด้านการ หมักในระดับอ ตุ สาหกรรมเพือ่ เพิม่ ป ระสิทธิภาพและลด ต้นทุนการผลิตผลิตภัณฑ์อ าหารเสริมสุขภาพ
เป้าหมายและทิศทางการพัฒนา
แม้ ป ระเทศไทยจ ะมี ค วามส ามารถด้ า น เทคโนโลยีชีวภาพด้านเกษตรและอาหารที่ก้าวหน้า ระดับผู้นำอาเซียน เช่น การพัฒนาสายพันธุ์พืช/สัตว์ เช่น ข้าวและกุ้งกุลาดำ การพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัย โรค การให้บริการวิเคราะห์ทดสอบด้วยการใช้ดีเอ็นเอ เทคโนโลยี เป็นต้น แต่ประเทศไทยยังมีความจำเป็นที่ จะต้องเร่งรัดก ารวิจัยแ ละพัฒนาด้านเทคโนโลยีช ีวภาพ ด้านเกษตรและอาหารเพิ่มเติม เพื่อการเป็น ผู้นำด้าน การส่งออกสินค้าอาหารในตลาดโลก การมีผลผลิตพ อ เพียงทั้งการผลิตพืชอาหารและพลังงานในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการวจิ ยั แ ละพฒ ั นาแหล่งพ ลังงานชวี ภาพจาก แหล่งอื่นๆ เช่น สาหร่าย เมื่อเป้าหมายในการใช้เทคโนโลยีชีวภาพด้าน เกษตรและอาหาร อยู่ที่การยกระดับความสามารถใน การแข่งขันแ ละเสริมส ร้างความเข้มแ ข็งข องเกษตรอย่าง ยัง่ ยืน ใช้ว ทิ ยาการดา้ นเทคโนโลยีเพิม่ ป ระสิทธิภาพการ ผลิต ลดต้นทุนเพิ่มคุณภาพผลผลิต พัฒนานวัตกรรม ด้านเกษตรและอาหาร และรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศโลก
ทิศทางการพัฒนาจึงต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยี จีโนม พันธุว ศิ วกรรม ใช้เซลล์เป็นเสมือนโรงงานรว่ มกบั เทคโนโลยีในสาขาอื่นๆ เช่น การปรับปรุงพันธุ์แบบ ดั้งเดิม และพันธุว ิศวกรรมเพื่อก ารพัฒนาใน 3 ด้าน 1.ปรับปรุงพ นั ธุพ์ ชื -สัตว์ ให้ม ผี ลผลิตส งู ต้านทาน โรคและศัตรูพืชท ี่สำคัญ 2.พัฒนาปัจจัยการผลิต ทั้งใน การเพิ่มประสิทธิภาพ ความหลากหลายของหัวเชื้อ จุลินทรีย์เพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน สารชีวภาพกำจัด ศัตรูพืช การพัฒนาวัคซีนสัตว์ เป็นต้น และ 3.การ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร รวมถึงของเหลือ ทิ้งจากการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารเพื่อเป็น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น สารให้ความ หวาน พลังงานชีวภาพ โพลิเมอร์ชีวภาพ ผลิตภัณฑ์ อาหารสุขภาพ เป็นต้น
มาตรการเร่งรัดการพัฒนา
พั ฒนาแ ละป รั บ แ ต่ ง ผ ลง านวิ จั ย แ ละพั ฒนา เทคโนโลยีที่เหมาะสม และกระจายเทคโนโลยีชีวภาพ สู่ชุมชนผ่านกลไกการจัดแปลงสาธิตเทคโนโลยีในพื้นที่ ชุมชนโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน เร่งรัดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพทั้ง ในด้านการพัฒนาสายพันธุ์พืชและสัตว์ที่มีคุณสมบัติที่ ดี ด้านปจั จัยก ารผลิต เช่นห วั เชือ้ จ ลุ นิ ทรียป์ ระสิทธิภาพ สูงเพือ่ ก ารผลิตป ยุ๋ ช วี ภาพ สารชวี ภ ณ ั ฑ์แ ละอาหารเสริม สำหรับสัตว์ เป็นต้น รั ฐ มี น โ ยบ ายส่ ง เ สริ ม ก ารวิ จั ย แ ละก ารผ ลิ ต จีเอ็มโอในเชิงพ าณิชย์ ควบคูก่ ับการสร้างความเข้มแข็ง ด้านการประเมินค วามปลอดภัยทางชีวภาพ
25 :
Horizon08.indb 25
1/27/12 2:00:16 PM
นาโนเทคโนโลยี สำนั ก งานค ณะก รรมการน โยบายวิ ท ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ได้ร่วมกับ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแ ห่งชาติ (นาโนเทค) จัดทำ ‘กรอบ นโยบายการพัฒนานาโนเทคโนโลยีของประเทศไทย พ.ศ. 2555-2564’ เพือ่ ก ำหนดยทุ ธศาสตร์ กลยุทธ์ และ มาตรการ แนวทางการปฏิบัติให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ภาคเกษตรและอาหาร ก็เป็นหนึ่งสาขาที่ต้อง อาศัยนาโนเทคโนโลยีในการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตรวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับ สินค้าเกษตรและอาหาร
แนวโน้มน าโนเทคโนโลยีของโลก
จากข้ อ มู ล ข องมู ล นิ ธิ วิ ท ยาศาสตร์ แ ห่ ง สหรัฐอเมริกา (National Science Foundation: NSF) พบว่าตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2544-2551 มีจำนวนการ ค้นคว้าว จิ ยั สิง่ ป ระดิษฐ์ บุคลากร เงินท นุ ว จิ ยั และตลาด ของนาโนเทคโนโลยีเพิ่มข ึ้นเฉลี่ยร้อยละ 25 ต่อปี นาโนเ ทคโนโลยี เ ป็ น เ ทคโนโลยี ที่ มี บ ทบาท สำคัญในการเกื้อหนุนอุตสาหกรรมแขนงต่างๆ ให้ พัฒนาก้าวหน้า เช่น ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ระบบการผลิตไมโครชิพในปัจจุบันเริ่มพบข้อจำกัดจน ไม่สามารถลดขนาดลงไปได้อีก กล่าวคือการจะเพิ่ม จำนวนทรานซิสเตอร์ล งไปบนไมโครชพิ จ ะถกู จ ำกัดด ว้ ย ขนาดของทรานซิสเตอร์ท เี่ ล็กล งจนกฎทางฟสิ กิ ส์ส ำหรับ ใช้ในระดับไมโครเมตริกเริ่มไม่สามารถอธิบายได้ วิธี การเอาชนะปัญหานี้ก็คือการพัฒนาเทคโนโลยีในกลุ่ม ‘นาโนอิเล็กทรอนิกส์’ สำหรับมูลค่าผลิตภัณฑ์นาโนเทคโนโลยีทั่วโลก มีมูลค่า 254 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ. 2552 โดยร้อยละ 55 เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและ วัสดุซึ่งประกอบไปด้วยอุตสาหกรรมเคมี รถยนต์ และ ก่ อ สร้ า ง ร้ อ ยล ะ 30 เป็ น กลุ่ ม อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ แ ละ เทคโนโลยีสารสนเทศ ร้อยละ 13 เป็นกลุ่มส ุขภาพและ วิทยาศาสตร์ชีวภาพซึ่งประกอบไปด้วยยา ตัวนำส่งยา และเครื่องมือทางการแพทย์ และร้อยละ 2 เป็นกลุ่ม พลังงานและสิ่งแวดล้อม สถาบัน Roco&Bainbridge ประมาณมูลค่า ตลาดนาโนเทคโนโลยีของโลก คาดว่า มูลค่าตลาด นาโนเทคโนโลยีในปี 2563 จะสูงถึง 3 ล้านล้าน เหรียญสหรัฐ
ประเทศเอเชียกับนาโนเทคโนโลยี
จี น : ในช่ ว งปี 2549-2553 ประเทศจี น ใช้ งบประมาณในการวิจัยและพัฒนาทางด้านนาโน เทคโนโลยี 760 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากช่วงปี 2544-2548 สิงคโปร์: ลงทุนสร้างห้องทดลองคุณภาพสูง โดยในปี 2553 Nanostart Asia Pte Ltd ซึ่ง เป็นบริษัทเอกชนของเยอรมันที่มาลงทุนในประเทศ สิงคโปร์ ให้งบลงทุนด้านวิจัยและพัฒนารวม 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เน้นทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ นาโนและการแพทย์นาโน เวียดนาม: ตั้งห้องปฎิบัติการนาโนเทคโนโลยี โดย ได้รับการสนับสนุนจ ากมหาวิทยาลัยเป็นเงิน 4.5 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพื่อมุ่งเน้นการเชื่อมโยงและถ่ายทอด เทคโนโลยีไปสู่อุตสาหกรรมโดยตรง
: 26
Horizon08.indb 26
1/27/12 2:00:17 PM
เพิ่มขีดความสามารถภาคเกษตรไทย ด้วยนาโนเทคโนโลยี
นาโนเทคโนโลยีในไทย
ตาม ‘กรอบนโยบายการพัฒนานาโนเทคโนโลยี ของประเทศไทย พ.ศ. 2555-2564’ มีการกำหนดให้ นาโนเทคโนโลยีเข้าม าชว่ ยเพิม่ ม ลู ค่าใน 7 อุตสาหกรรม ได้ แ ก่ อุ ต สาหกรรมเ กษตรแ ละอ าหาร ยานย นต์ อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ/เคมี/ปิโตรเคมี OTOP พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สุขภาพและการแพทย์ เพื่อให้การดำเนินงานของภาครัฐ เอกชน และ ภาคประชาชน ไปในทิศทางเดียวกัน การใช้ทรัพยากร ของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประเทศไทยจำเป็นต้อง กำหนดล ำดั บ ค วามส ำคั ญ ห รื อ เ ลื อ กล งทุ น ใ นส าขา เป้าหมายที่ประเทศไทยมีศักยภาพความได้เปรียบและ มีโอกาสสูงในการพัฒนา ภาคเกษตรและอาหารเป็น 1 ในนั้น ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพื้นฐานการเกษตร เป็นห ลัก สินค้าเกษตรและอตุ สาหกรรมทเี่ กีย่ วข้องสร้าง รายได้เข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีส่วนหนึ่งที่ไม่ สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต เนื่องจากคุณภาพไม่ ตรงกบั ค วามตอ้ งการของตลาดหรือไม่ได้ม าตรฐาน ทัง้ นี้ อาจมาจากหลายปัจจัย เช่น มีสารปนเปื้อนหรือโลหะ หนักแฝงอยู่ ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ เป็นต้น กระบวนการเพาะปลูกที่ไม่มีการพัฒนาอาจ ทำให้ ผ ลผลิ ต มี ป ริ ม าณน้ อ ยหรื อ ล ดล งไ ม่ คุ้ ม ค่ า กั บ การลงทุน ปัญหาดังกล่าวก่อให้เกิดอุปสรรคการเพิ่ม ขี ด ค วามส ามารถใ นก ารแ ข่ ง ขั น ข องป ระเทศ นาโน เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาอุสรรค ดังกล่าวได้ ในช่ ว งแ ผนพั ฒ นาเ ศรษฐกิ จ แ ละสั ง คมแ ห่ ง ชาติฉบับที่ 11 นาโนเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญ ต่อการพัฒนาในด้านต่างๆ ซึ่งรวมทั้งการเกษตรและ อุตสาหกรรมการผลิต เช่น สามารถตรวจวิเคราะห์เพื่อ ลดปริมาณสารปนเปื้อนหรือโลหะหนัก สามารถผลิต ปุ๋ยเพื่อลดค่าใช้จ่ายหรือเพิ่มผลผลิตต ่อไร่ จึงเป็นความ ท้าทายในการพฒ ั นาซงึ่ ป ระเทศทพี่ ฒ ั นาเทคโนโลยีช า้ จ ะ กลายเป็นผ ซู้ อื้ แ ละมผี ลิตภ าพตำ่ ก ว่าป ระเทศอืน่ ๆ และ ไม่สามารถแข่งขันกับป ระเทศคคู่ ้าได้
การเพิ่มขีดความสามารถของภาคเกษตรด้วย นาโนเทคโนโลยี ถือเป็น 1 ในหลายยุทธศาสตร์ของ ‘กรอบนโยบายฯ’ ที่วางไว้ นาโนเทคโนโลยีถ กู พ ฒ ั นาและประยุกต์ใช้ในการ เพิ่มขีดความสามารถในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม การผลิตในหลายส่วนตลอดห่วงโซ่มูลค่า อาทิ การ พั ฒนาปุ๋ ย วั ส ดุ ป รั บ ปรุ ง ดิ น อุ ป กรณ์ ต รวจจั บ แ ละ ป้องกันโรคแมลง การใช้นาโนเซนเซอร์ในการตรวจวัด สิง่ แ วดล้อม (อุณหภูมิ ความชืน้ สารตกค้างหรือส ารพษิ โลหะหนัก รวมทั้งธาตุอาหารในดิน) แผ่นฟิล์มที่ใช้ใน การเพาะปลูกหรือโรงเรือน การตรวจสอบเชื้อโรคในอาหาร การพัฒนา ด้ า นบ รรจุ ภั ณ ฑ์ โ ดยใ ช้ ฟิ ล์ ม บ างซึ่ ง ช่ ว ยก ารค วบคุ ม การซึ ม ผ่ า นข องน้ ำ แ ละอ ากาศไ ด้ ใ นช่ ว งห ลั ง ก าร เก็บเกี่ยวของภาคเกษตร
27 :
Horizon08.indb 27
1/27/12 2:00:18 PM
เป้าหมายของยุทธศาสตร์ เพิ่มขีดความสามารถภาคเกษตรไทย ด้วยนาโนเทคโนโลยี หนึ่ง: มีการลงทุนด้านนาโนเทคโนโลยีในภาค เกษตร และอุตสาหกรรมการผลิต เพิ่มข ึ้น สอง: มี จ ำนวนผ ลง านการวิ จั ย ด้ า นน าโน เทคโนโลยีท ี่ภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมการผลิต ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์เพิ่มม ากขึ้น สาม: ภาคเกษตร และอุตสาหกรรมการผลิต มี อัตราจ้างงานด้านนาโนเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น
กลยุทธ์
• ส่ ง เ สริ ม ก ารส ร้ า งอ งค์ ค วามรู้ ด้ า นน าโน เทคโนโลยีในกระบวนการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่ม ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ด้วยการกำหนดทศิ ทางงานวจิ ยั น าโนเทคโนโลยี และเทคโนโลยีส ำหรับภ าคการเกษตรและ อุตสาหกรรม การผลิต การสนับสนุนการพัฒนาและต่อยอดงานวิจัย นาโนเทคโนโลยีฐ าน และจดั ให้ม กี ารเข้าถ งึ ข อ้ มูลพ นื้ ฐ าน ข้อมูลผ ลการวิจัยแ ละพัฒนาของภาครัฐ และข้อมูลจ าก ภาคเอกชน • ส่ ง เ สริ ม ก ลไกเ ชื่ อ มโ ยงด้ า นก ารวิ จั ย แ ละ พัฒนาและการประยุกต์ใช้ ระหว่างภาคการวิจัยกับ ภาคเอกชน ด้ ว ยการส ร้ า งเ ครื อ ข่ า ยก ารวิ จั ย แ ละพั ฒนา นาโนเทคโนโลยีระหว่างภาคการวิจัยและภาค เอกชน ในระดับประเทศและในระดับนานาชาติ การสนับสนุน การสร้างกลไก/องค์กรที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงความรู้และ ความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐและเอกชน • ผลั ก ดั น ใ ห้ มี ก ารนำง านวิ จั ย ด้ า นน าโน เทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ ด้วยการสร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นให้เกิดการ ลงทุนของภาคเอกชน และการกระตุ้นให้เกิดการวิจัย และพั ฒนาร่ ว มกั น ร ะหว่ า งห น่ ว ยง านภ าครั ฐ ภาค การศกึ ษาและภาคเอกชน และมกี ารผลักด นั ให้ม กี ารนำ ผลงานวิจัยไปประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์
ดัชนีชี้วัดความสำเร็จความสามารถ ภาคเกษตรโดยนาโนเทคโนโลยี
หนึ่ง: จำนวนผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีส่วนประกอบ ที่เกิดจากนาโนเทคโนโลยี หรือใช้นาโนเทคโนโลยีช่วย ในการผลิต สอง: มูลค่าข องสนิ ค้าแ ละบริการทใี่ ช้ค วามรดู้ า้ น นาโนเทคโนโลยีต่อผลิตภัณฑ์ม วลรวมของประเทศชาติ สาม: จำนวนเครือข่ายวิสาหกิจในอุตสาหกรรม หลักทมี่ ีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนาโน สี่: อัตราการจ้างงานในด้านที่เกี่ยวข้องกับนาโน เทคโนโลยี นาโนเ ทคโนโลยี จ ะมี ส่ ว นส นั บ สนุ น ใ ห้ ประเทศไทยเป็นผ สู้ ง่ อ อกสนิ ค้าเกษตรและอาหารลำดบั ต้นๆ ของโลก เช่น มีวิธกี ารตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ สูง สามารถให้ผลตรวจที่รวดเร็วมาใช้ในการวิเคราะห์ ปัญหาโรคในฟาร์มและไร่นา เช่น การเพาะเลี้ยงกุ้ง การนำเทคโนโลยีฟิล์มบางที่มีความพรุนขนาดนาโน (Nanoporous thin film) มาใช้ห่อหุ้มผลิตภัณฑ์ จะ ช่วยเก็บรักษาและแสดงผลเมื่อหมดอายุของผลิตภัณฑ์ จากสวนผลไม้และไม้ตัดดอก ที่มีมูลค่าการส่งออก ประมาณ 6,000 ล้านบาท รวมทั้งการนำเอาไบโอ เซนเซอร์มาใช้ในการตรวจวัดส ภาพอากาศ น้ำ และดิน เพื่อติดตามสภาพแวดล้อมในกระบวนการผลิตและ ปรับปรุงค ุณภาพของผลผลิตทางการเกษตร
: 28
Horizon08.indb 28
1/27/12 2:00:18 PM
เมื่อมองภาพอนาคตของภาคเกษตรไทยทั้ง 3 ภาพ ได้แก่ ‘ไม้ป่า’ ‘ไม้เลี้ยง’ และ ‘ไม้ล้ม’ เราจะพบว่าความเสี่ยงทั้งจากปัจจัยภายในและ ปัจจัยภายนอกประเทศทปี่ รากฏใน 3 ภาพ สามารถเกิดได้ทั้งส ิ้น ภาพ ความสำเร็จของเกษตรกรทั้งแง่รายได้และสถานะทางสังคมใน ‘ไม้ป่า’ ภาพที่ภาครัฐให้การสนับสนุนภาคเกษตรแบบบูรณาการมิใช่แค่หวัง คะแนนเสียงเหมือนปจั จุบนั ใน ‘ไม้เลีย้ ง’ หรือภ าพชวนหดหูท่ ที่ ดี่ นิ ท ำกนิ ของเกษตรกรต่างหลุดมือไปอยู่ในการครอบครองของนายทุนต่างชาติ ใน ‘ไม้ล ้ม’ ความไม่แน่นอนของอนาคตเปิดโอกาสให้มันเป็นไปได้ท ั้งนั้น แต่ท แี่ น่นอนกค็ ือค งไม่มใีครอยากเห็นภ าคเกษตรและสังคมไทย เป็นเช่นที่ปรากฏในภาพ ‘ไม้ล ้ม’ ปัจจุบัน เรามีความพยายามที่จะนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ และพัฒนาภาคเกษตรและอาหารอย่าง ‘นาโนเทคโนโลยี’ และมี (ร่าง) กรอบนโยบายการพฒ ั นานาโนเทคโนโลยีข องประเทศไทย (พ.ศ. 25552564) เป็นกรอบและแนวทางในการใช้นาโนเทคโนโลยีกับภาคส่วน ต่างๆ โดยเฉพาะภาคเกษตรและอาหาร เรามี ‘เทคโนโลยีช ีวภาพ’ และมี (ร่าง) กรอบนโยบายการพัฒนา เทคโนโลยีช ีวภาพของประเทศไทย พ.ศ. 2555-2564 เป็นกรอบและ แนวทางในการใช้เทคโนโลยีชีวภาพกับภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาค เกษตรและอาหาร นอกจากเทคโนโลยี 2 ตัวน ี้ และกรอบนโยบายของเทคโนโลยีท งั้ 2 ฉบับ ทีไ่ ด้น ำเสนอไปบางสว่ นนนั้ สังคมของเรายงั ม คี วามพยายามทจี่ ะ มองปัญหาในภาคเกษตร เพื่อช ่วยกันแ ก้ไขและพัฒนาให้เป็นไปในทาง ทีด่ ขี นึ้ เช่น ข้อเสนอแนวทางการปฏิร ปู ป ระเทศไทย โดย คณะกรรมการ ปฏิ รู ป ที่พ ยายามเสนอแ นวคิ ดใ ห้ พ รรคการเมื อ งม องเห็ น ปั ญ หา ภ าคเกษตรและนำไปปฏิบตั ใิ ห้เกิดผ ล เป็นข อ้ เสนอเชิงเรียกรอ้ งให้ม อบ อำนาจและสิทธิแ ก่ชาวนา เป็นข้อ เสนอในมิติการเมืองและสังคม ทั้งมิติของเทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี หรือจ ะเป็นม ติ ทิ างสงั คมโดยคณะกรรมการปฏิร ปู ก็ล ว้ นแต่ท ำให้เราไม่ ต้องหวาดกลัวจ นเกินไปนกั ก บั อ นาคตทกี่ ำลังจ ะเกิดข นึ้ เหล่าน ลี้ ว้ นแต่ เป็นข อ้ เสนอทรี่ อการนำไปปฏิบตั ิ เป็นข อ้ มูล ความรทู้ รี่ อการนำไปสร้าง ความเปลี่ยนแปลง
29 :
Horizon08.indb 29
1/27/12 2:00:21 PM
V ision
[text] [photo]
กองบรรณาธิการ อนุช ยนตมุติ
คลังสมองแห่งการเกษตรไทย ในฐานะผู้จัดทำ ‘ภาพอนาคตการเกษตรไทย 2563’ โดย มีหมุดหมายอยู่ที่การสร้างแนวทางการปรับตัวในภาค เกษตร บนโลกทมี่ แี นวโน้มท จี่ ะเปลีย่ นแปลงทงั้ ในกฎกติกา การค้าและทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ศ.ดร.ปิยะวตั ิ บุญ-หลง รศ.ดร.สมพร อิศ วิล านนท์ และคณ ุ ณราพร ธีรก ลั ยาณพนั ธุ์ เป็นต วั แทนจากสถาบัน คลังสมองของชาติ จะมาให้มุมมองต่อที่มาที่ไปของภาพ อนาคตการเกษตรไทย 2563 และมมุ ม องสว่ นตวั ต อ่ เรือ่ ง
ดังกล่าว ในมุมมองของ ‘เจ้าภาพ’ เพื่อถ่วงน้ำหนัก รศ.ดร.พงศ์เทพ อัครธนกุล แห่ง ศูนย์ค วามเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีช วี ภาพเกษตร เป็น ‘แขกรับเชิญ’ ในการเติมเต็มมุมมองต่อประเด็นเดียวกัน แม้แต่ล ะมมุ ม องจะมรี อ่ งรอยของความกงั วล แต่ การเตรียมพร้อมเผชิญเหตุ ก็เป็นอาวุธในการเตรียม รับมือกับความกังวลนั้นได้เป็นอย่างดี
: 30
Horizon08.indb 30
1/27/12 2:00:23 PM
รศ.ดร.พงศ์เทพ อัครธนกุล
ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพเกษตร
ความกั ง วลที่ ผ มมี ต่ อ อ นาคตข องภ าค การเกษตรของไทย คือ ในขณะที่เราเป็นผู้นำ
เพิ่มงานวิจัยก็ไม่เพิ่มงานวิจัย การสนับสนุนขนาดย่อย ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจ ทางการเมืองทั้งส ิ้น แล้วถ้าสมาชิกผู้มีเกียรติทนี่ ั่งอ ยู่ใน รัฐสภาไม่เข้าใจปัญหานี้ เราก็คงพัฒนาอะไรไม่ได้ เรา ใช้เงินในการวิจัยในภาคการเกษตรไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ของจีดีพี ขณะที่ทางการทหารใช้งบประมาณ 1.42 เปอร์เซ็นต์ เราเป็นผู้นำเข้าอันดับที่ 19 ของโลก จะเอาไป ซื้อเครื่องบิน รถถัง...อะไรก็ว่าไป ความสามารถทาง เศรษฐกิจข องเราอยูอ่ นั ดับท ี่ 30 ของโลก ความสามารถ ทางวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีอ ยูอ่ นั ดับท ี่ 70 เราตรวจสอบ ต วั เองหรือเปล่า กลัน่ ก รอง สังเคราะห์ วิเคราะห์ แล้วท ำ อย่างมเี หตุม ผี ลอยไู่ หม เราไม่ค อ่ ยคดิ ว า่ ภ าคการเกษตร เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ มองว่าภาคเกษตรเป็นเรื่อง ของไสยศาสตร์หรือเปล่าก็ไม่รู้ คือถามพ่อโคอยากกิน อะไร จะต้องไปแห่นางแมวให้ฝนตก ที่สำคัญเรามัก มองเกษตรกรต่ำต้อย ผมดีใจที่ สวทน. มองอะไรที่เป็น ระบบและเห็นค วามสำคัญข องเทคโนโลยีในภาคเกษตร เพราะความสามารถของภาคเกษตรอย่างทเี่ รียนไปแล้ว ว่ามาจากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเป็นสำคัญ
โลกในการผลิตเพื่อส่งออก แต่เรากลับเป็นผู้ตามในกฎ กติกา เราไม่ค วรเป็นผ ตู้ าม เราควรตอ้ งไปปฏิสมั พันธ์ก บั สิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้มากขึ้น ผมคิดว่าเราไม่ได้วางตัว ในฐานะผู้นำ และในการวิจัยเราก็ไม่ได้วางตัวในฐานะ ผู้ น ำด้ ว ยเ ช่ น กั น เราค วรเ ป็ น ผู้ น ำท างเ ทคโนโลยี ความส ามารถท างด้ า นเทคโนโลยีวิ ท ยาศาสตร์ข อง ประเทศไทยอยูป่ ระมาณอนั ดับท ี่ 70 ของโลก แต่เราสง่ สินค้าเกษตรเป็นอันดับ 10 ของโลก ตัวเลขอันดับ มันไม่ไปทางเดียวกัน ขณะทปี่ จั จัยภ ายในกน็ า่ เป็นห ว่ งอกี ด ว้ ยขอ้ จ ำกัด ทางด้านกายภาพ พื้นที่ในประเทศมีจำกัด พื้นทีเ่กษตร ค่อนขา้ งจำกัด การควบคุมท รัพยากรนำ้ ก ท็ ำไม่ได้ พืน้ ที่ ชลประทานของเรามีน้อย มีข้อจำกัดทางด้านพลังงาน เพราะเราเป็นประเทศผู้นำเข้าพลังงาน แต่ยังคงมีแสง สว่างเพราะเรามีศักยภาพด้านชีวภาพ มีหลายคนเป็น ห่วงว่าเอาพืชอาหารไปเป็นพลังงานมันจะเป็นเรื่อง วิบัติ เราวิเคราะห์แล้วว่าประเทศไทยมีคาร์โบไฮเดรต มากกว่าความต้องการภายในประเทศ ค่อนข้างที่เกิน จากความต้องการในประเทศ ทำไมเราไม่ห ันม าเอาจริง เรื่องพลังงานชีวภาพ หรือไบโอดีเซล เรากค็ วรให้ความ สิ่งที่น่าห่วงมากกว่านั้น คือ ผลการสำรวจอายุ ของเกษตรกร เกษตรกรส่วนใหญ่จะอายุเกิน 50 ปี สำคัญในตรงนั้นด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ แล้วเกษตร ในส่วนของภาคการเมือง ในสังคมที่เราเรียก อายุ 50-60 ปี ที่มีความรู้และทักษะติดตัวก ็จะหายไป ว่าประชาธิปไตย การตัดสินใจทุกอย่างก็จะต้องผ่าน ตามเขา แล้วถ้าไม่มีรุ่นใหม่เข้ามา มันจะเป็นอย่างไร กระบวนการทางการเมือง มีเรื่องของงบประมาณ การ ที่ ผ่ า นม า ความส ำเร็ จ ข องภ าคก ารเกษตร ตัดสินใจที่ควรจะเพิ่มกำลังคนก็ไม่เพิ่มกำลังคน ควร อย่าไปคดิ ว า่ เรามที รัพยากรมหาศาลนะครับ เพราะการ 31 :
Horizon08.indb 31
1/27/12 2:00:24 PM
ศึกษาสอนกันมาผิดๆ ว่าประเทศไทย มี ท รั พ ยากร ความจ ริ ง ก็ คื อ เ รามี ทรัพยากรน้อยกว่าที่คิด ดินเราก็ไม่ ดี แสงเราก็ไม่ดี มีเมฆหมอกบดบัง บ้างอะไรบ้าง ฝนก็ตกบ้างไม่ตกบ้าง พื้นที่ชลประทานก็มีน้อย เราไม่ได้ สมบูรณ์อย่างที่คิด แต่ความสำเร็จ ของประเทศไทยในอดีตต้องยกความ สามารถให้เกษตรกรทมี่ คี วามสามารถ ใช้ ท รั พ ยากรใ นก ารผ ลิ ต คื อ ค วาม สามารถท างวิ ช าการ การวิ จั ย ก าร ค้นคว้า การเผยแพร่การส่งเสริมให้ เกษตรกร มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี จากสว่ นราชการและสถาบันก ารศกึ ษา รวมถึงภาคเอกชน
ประเทศไทยค วรเตรี ย มตั ว ที่ จ ะเ ป็ น ฐ านก ารผ ลิ ต อ า ห า ร ใ น อี ก 1 0 ปี ข้างหน้า การเกษตรเป็นทั้งศาสตร์
และศิลป์ เป็นการผสมผสานกันของ วิทยาการในสาขาตา่ งๆ ต้องปฏิส นธิ... ผมใช้ค ำวา่ ป ฏิสนธิเพราะเป็นการผสม ข้าม งานวทิ ยาการดา้ นเกษตรทเี่ ข้มแ ข็ง คือการผสมสาขาวิชาที่หลากหลาย อะไรกต็ ามแต่ท มี่ นั เป็นผ ลผลิตอ อกมา ไม่ว่าจะทางด้านวิศวกรรมหรือทาง ด้านคอมพิวเตอร์ไฟฟ้าอ เิ ล็กทรอนิกส์ ต้องมีการข้ามสาขาวิชา การเกษตร ก็ เช่ น กั น ต้ อ งใ ช้ เทคโนโลยี ก้ า วหน้ า มาปรับใช้ในสภาพพื้นที่จริง ตัวอย่าง การปรับปรุงพันธุ์ ทำให้ดีกว่าของเดิม มี ศั ก ยภาพม ากขึ้ น เกษตรกรต้ อ ง สามารถรั บ เ อาเ ทคโนโลยี นั้ น ม าใ ช้ โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีนั้นไม่ว่า จะเป็น โดยรัฐหรือเอกชน นักวิชาการ เกษตร นั ก วิ ท ยาศาสตร์ และนั ก เทคโนโลยี เกษตรกรรุ่ น ใ หม่ เ ป็ น ส มบั ติ อย่างหนึ่งนะ ผมคิดว่าเกษตรกรไทย และผู้เกี่ยวข้อง ต้องทำตัวเป็นสมาชิก ของเศรษฐกิจ ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ ต้องเรียกร้องที่จะเรียนรู้
ศ.ดร.ปิยะวัติ บุญ-หลง
ผู้อำนวยการสถาบันคลังสมองของชาติ
ที่มาที่ไปของการจัดทำภาพอนาคตการเกษตรไทย
เป็นเรื่องต่อเนื่องมาจากการทำภาพอนาคตประเทศไทย จนกระทั่ง สืบเนือ่ งมาเป็นการทำภาพอนาคตในระดับภ มู ภิ าค 3 ภูมภิ าค เพือ่ ต อ่ เป็นภาพของประเทศไทย สิ่งท ี่คลังสมองฯ สนใจก็คือว่าภาพอนาคต ภาคการเกษตรไทยที่เราทำออกมานี้มันจะวกกลับมาสู่มหาวิทยาลัย อย่างไรในเรื่องการเตรียมกำลังคน เมื่อเห็นภาพอย่างนี้แล้วต่อไปเรา จะจดั การอย่างไรกบั เรือ่ งกำลังค น เพราะตอนนที้ กุ ค นไปตามนโยบาย ของรัฐที่เป็น Short Run ใกล้ๆ แต่ Long Term Policy ทีเ่ราทำ มันไม่มีเลยนะครับ แม้แต่ในมหาวิทยาลัยกพ็ ูดกันน้อยมาก
ผมคำนวณวา่ เราอาจจะตอ้ งใช้เวลาถงึ 10 ปี ถ้าม องโจทย์ ระยะยาวในการดำเนินน โยบายหรือก จิ กรรมตา่ งๆ ให้เป็นไปตามภาพ อนาคตที่เราวาง เราต้องผลักดันเรื่องนี้ผ่านมหาวิทยาลัย ซึ่งใช้เวลา เป็น 10 ปี แต่ถ้าจะเอาระยะสั้น ต้องใช้ Social Movement ขณะที่ การเดินเข้าไปเสนอไอเดียให้รัฐบาลผมมองว่ามันไม่ยั่งยืน เราอาจจะต้องแยกตั้งแต่ต ้นเลยนะครับ มันมีสองส่วนน่ะครับ คือการเกษตรที่เป็นภาคธุรกิจกับรายย่อย ถ้าไม่แยกตั้งแต่ต้นมัน จะยุ่ง ฉะนั้นมหาวิทยาลัยต้องผลิตคนเพื่อภาคการเกษตรสมัยใหม่
: 32
Horizon08.indb 32
1/27/12 2:00:26 PM
คุณณราพร ธีรกัลยาณพันธุ์
ผู้ช่วยนักวิจัยแห่งสถาบันคลังสมองของชาติ
จากการศึกษาของสถาบั นคลั ง สมองของชาติพบว่ า
ทัง้ 3 ภูมภิ าค ปัญหาของภาคการเกษตรเป็นเรือ่ งความเหลือ่ มลำ้ ท างสงั คม รวมถึงประเด็นการรักษาอัตลักษณ์ของพื้นที่ เรื่องคุณภาพอาหาร การ ปรับตัวในประเด็น Creative Economy เรื่องของต่างด้าวที่เข้ามาใช้ แรงงานในประเทศ รวมทงั้ ค วามกลัวเรือ่ งของการผสมขา้ มวฒ ั นธรรม เช่น การแต่งงานระหว่างชาวตา่ งชาติก บั ผ หู้ ญิงไทย เรือ่ งของวฒ ั นธรรมทตี่ า่ งไป จากเดิม เรือ่ งของนวัตกรรมพลังง านใหม่ๆ เรือ่ งของอตุ สาหกรรมหนักท จี่ ะ เข้าไปในพื้นที่มากกว่าเรื่องของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร คื อ ต้ อ งมี ค นส่ ว นห นึ่ ง ที่ ล งไ ป ทำงานกับเกษตรกร เป็นงานเชิง สาธารณะ อีกส่วนหนึ่งต้องลงลึก ทางงานวิจัยค้นคว้า คนรนุ่ ใหม่ต อ้ งเป็นนักจ ดั การ ฟ าร์ ม (Farm Management) แต่ ด้ ว ยห ลั ก สู ต รก ารศึ ก ษาข อง ไทยเ มื่ อ เ วลาผ่ า นไ ปมี ก ารตั ด Core ที่สำคัญออกไป เป็นการ ผลิ ต ค นแ บบแ ท่ ง ดั ง นั้ น ค วรมี การผลิตทั้งแบบแท่งและแนวราบ ใ ห้ เ กิ ด ค วามส มดุ ล และมี ก าร แข่ ง ขั น ร ะหว่ า งรั ฐ แ ละเ อกชนที่ เปิดโอกาสให้เอกชนสามารถเลือก บุคลากรภาคการเกษตรได้
ภาคการเกษตรไม่ได้อยู่อย่างโดดเดีย่ ว แต่มคี วามเชือ่ มโยง ไ ปยัง ภ าคอุต สาหกรรมท่ีต่อ เ นื่อ ง เนื่อ งจากภ าคก ารเกษตรเ ป็ น ภาพใหญ่ จึงไม่ได้อยู่แต่เฉพาะภาคการผลิต แต่มันเกี่ยวโยงไป ถึงการผลิตท้ังต้นและปลายน้ำด้วย จากภาพน้ีท่ีเราทำไว้มันจะ มี ก ลไกต่ อ เ นื่ อ งไ ปสู่ ก ารพั ฒนาก ำลั ง ค นร ะดั บ อุ ด มศึ ก ษา ที่ เ รา กำลั ง พ ยายามพั ฒ นาอ ยู่ คื อ ภ าพอ นาคตใ นส่ ว นก ำลั ง ค นร ะดั บ อุดมศึกษาสาขาเกษตร โดยคณะเกษตร(มก.) ที่อยากจะได้ภาพท่ีลง รายละเอียดมากขน้ึ เนื่องจากภาพอนาคตทางการเกษตรมันเป็นภาพท่ีใหญ่ แล้ว ภาพท่ีเราอยากลงรายละเอียดเจาะลึกก็คือเรื่องของการเกษตรระดับ อุดมศึกษา เพราะตอนแรกท่ีทางสถาบันอุดมศึกษาสาขาเกษตร เห็นภาพอนาคตท่ีทางคลังสมองฯจัดทำก็ตกใจ เพราะเขาไม่เชื่อ ว่าจะมีมหาวิทยาลัยเกษตรกร หมายถึงว่าในเมื่อมีมหาวิทยาลัยที่รัฐ ให้การสนับสนุนอยู่แล้ว เขามองว่าถ้าเกิดมหาวิทยาลัยเกษตรกร ขึ้นมาจริงๆ แล้วบทบาทเขาจะอยู่ตรงไหน จะผลิตอะไรออกมา ในเมือ่ เกษตรกรไปตง้ั มหาวิทยาลัยของตวั เอง แต่กต็ อ้ งมามองกนั และ ลงรายละเอียดอกี ท หี นึง่ ว า่ ม หาวิทยาลัยเดิมจ ะสานตอ่ ป ระเด็นน อ้ี ย่างไร เป็นการตอ่ ยอด 33 :
Horizon08.indb 33
1/27/12 2:00:27 PM
รศ.สมพร อิศวิลานนท์
นักวิชาการอาวุโสแห่งสถาบันคลังสมองของชาติ
ผมม องว่ า ม หาวิ ท ยาลั ย ต้ อ งเปลี่ ย นก ระบวนทั ศ น์ (Paradigm) มี 2 ทางเลือก ด้านหนึ่งมหาวิทยาลัยต้องผลิตคน
ป ้อนลงสู่ชุมชนให้ได้ ซึ่งต ้องปรับหลักสูตรเข้ามา อีกทางป้อนคนเป็น นักวิทยาศาสตร์ แต่ผมมองว่าเราต้องปั้นนักจัดการฟาร์ม ตอนนี้ มหาวิทยาลัยกำลังปั้นนักวิทยาศาสตร์ทางฟาร์มแต่ไม่ใช่นักจัดการ ฟาร์ม
เราต้ อ งหาเทคโนโลยี ไปใส่ ให้ เกษตรกรร ายย่ อ ย
เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถแข่งขันได้ในระดับหนึ่ง และสามารถอยู่ได้ รัฐบาลควร Subsidize การผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากกว่าเน้นการ Subsidizeให้เกษตรกรทผี่ ลิตเน้นป ริมาณ (Mass) เช่นป จั จุบนั ให้การ สนับสนุนตลาดสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผมคิดว่าตรงนี้เป็น จุดสำคัญสำหรับแต่ละท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ ทำให้เกิด Niche Market ช่วยให้เกษตรกรรายย่อยมีวิถีชีวิตอยู่ได้ด้วยการผลิตสินค้าที่เชื่อมต่อ : 34
Horizon08.indb 34
1/27/12 2:00:28 PM
กั บ ต ลาดโ ลกไ ด้เลย ผมย กตั ว อย่ า ง ข้ า วห อมม ะลิ คุณธรรม ที่ปลูกในจังหวัดสกลนคร ถ้าคุณพูดเป็น ภาษาอังกฤษมันเพราะมาก ‘Moral Organic Jasmine Rice’ มีพ่อค้าที่พารากอนเห็นทิศทางตลาดจับไปทำ Packaging เขียนเล่าเรื่องราว ยี่ห้อนี้ปลูกโดยคนถือศีล ถามว่ารัฐสนับสนุนอะไร….ข้าวพื้นเมือง ‘ข้าวลืม ผัว’ (ข้าวเหนียวดำซึ่งปลูกในแถบภูเขาสูง) รสชาติดีมาก ปลูกแ ถบเพชรบูรณ์ นีค่ อื ค วามจำเพาะระดับพืน้ ที่ (Area Specific) ท เี่ กิดข นึ้ ถ้าเราทำแบบนกี้ บั ส นิ ค้าเกษตรอนื่ ๆ ก็สามารถทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นได้ แทนที่เรา จะเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวของโลก เราต้องกลับมา คิดว่า ในขณะที่สิงคโปร์ไม่ได้ปลูกข้าวแต่สามารถทำ Future Market สำหรับข ้าวได้ สิ่งที่รัฐต้องทำทันที คือ การหามาตรการมา ดู แ ล เพื่ อ ใ ห้ เ กษตรกรส ามารถมี พั น ธุ์ แ ท้ ใ นก าร เพาะป ลู ก เพราะปั จ จุ บั น เ กษตรกรป ระสบปั ญ หา พันธุ์ข้าวปน เพราะพ่อค้าเมล็ดพันธุ์ไม่มีการคัดพันธุ์ เก็บเกี่ยวอย่างไรก็เอามาขาย ซึ่งสำนักงานกองทุน สนั บ สนุ น ก ารวิ จั ย (สกว.) เคยพ ยายามที่ จ ะผ ลิ ต เมล็ดพันธุ์ที่ชัยนาทที่ให้มีมาตรฐานแต่ทำได้ยากมาก เพราะไม่มีมาตรการมาควบคุมเพื่อให้เป็นมาตรฐาน เดียวกัน ในขณะที่ต่างประเทศมีการควบคุมให้อยู่ใน มาตรฐาน รัฐมองว่าเมื่อเรารวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน (AEC) แล้วเราจะส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลก ตอนนี้ผมหวั่นใจว่าในอีก 10 ปีข้างหน้ามันจะ ไม่ใช่ ถึงแม้ตอนนี้เราจะเป็นอันดับ 1 อยู่ก็ตาม มอง ให้ดีประเทศไทยมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ดี ปลายน้ำ ของเราดี เรามีอาหารกระป๋องที่ทำมายาวนาน พัฒนา ล้ำหน้าอาเซียนในเชิงส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งเรายังสามารถไปได้ดีในตลาดอาเซียน ในขณะที่ เวี ย ดนามเ องก็ มี ก ารล งทุ น ด้ า นนี้ ม ากขึ้ น เ พราะ เทคโนโลยีอ าหารแปรรูปส ามารถตามกันได้ทัน ใน 5 ปี
10 ปี ฉะนั้นต ่อไปอาจจะสู้เวียดนามลำบาก เมื่ อ พู ด ถึ ง ป ระชาคมเศรษฐกิ จ อ าเซี ย น การ บริหารจัดการของประเทศเป็นไปในลักษณะที่อาจจะ เป็นการขัดขวางประโยชน์ที่ประเทศควรจะได้รับจาก การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เช่น เรื่องข้าว ยกเว้นเรื่องการส่งออกและการท่องเที่ยว เนื่องจาก บริบทนี้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งกว่าประเทศอื่นๆ ในก ลุ่ ม อาเซี ย น ฉะนั้ นที่ บ อกว่ า เราส่ ง อ อกเกิ น ดุ ล อาเซียน คือเราส่งออกรถยนต์เป็นอันดับ 1 และสินค้า อิเล็กทรอนิกส์ได้เป็นอ นั ด บั ต น้ ๆ ซึง่ ร ายได้น เี้ ป็นส ดั ส่วน ทีน่ ้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้รวมทั้งหมดของประเทศ
เกษตรอิ น ทรี ย์ จ ะเ ป็ น ท างเ ลื อ กห รื อ ข้อจำกัดสำหรับเกษตรกร? การท่ีเราบอก
ว่าตอ้ งเป็นเกษตรอนิ ทรีย์ แต่ตอ้ งมองขอ้ จำกัดของ สภาพดนิ น้ำ ความเหมาะสมของพน้ื ที่ ผมกลับมอง ว่าเกษตรอินทรีย์สามารถทำได้แต่ต้องไม่ใช่การผลิต ที่เน้นปริมาณมากๆ แต่รัฐต้องให้การสนับสนุนใน เรื่องของตลาดสำหรับสินค้าอินทรีย์แยกจากสินค้า แบบอื่นๆ เร่งให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญ เพื่อให้มี ้ งเข้าใจวา่ แ นวคิด ความแตกตา่ งดา้ นราคา และตอ
เกษตรพอเพียงเป็นคนละเรื่องกับแนวคิด เกษตรอินทรีย์ ซึ่งแนวคิดเกษตรพอเพียงมี เรื่องการจัดการฟาร์มซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก สำหรับการทำการเกษตร ประเทศไทยค วรภ าคภู มิ ใจในก ารเป็ น ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 หรือไม่ เพราะจาก
ปัญหาภัยน้ำท่วมท่ีผ่านมา พบว่า ประเทศไทยเป็น ผูส้ ง่ อ อกขา้ วทส่ี ำคัญข องโลก แต่ร าคาขา้ วในตลาดโลก ไม่ส ะท้อนถงึ ป ญ ั หาดงั ก ล่าว ประเทศไทยตอ้ งหนั ก ลับ มามองว่าเรายังคงเป็นผ้นู ำในการส่งออกข้าวอยู่จริง หรือไม่ 35 :
Horizon08.indb 35
1/27/12 2:00:29 PM
I nterview
[text]
กองบรรณาธิการ อนุช ยนตมุติ
6 คำถาม [photo]
กับอนาคตภาคเกษตรไทย รศ.ดร.ปริทรรศน์ พันธุบ รรยงค์ ข้อเท็จจ ริงห นึง่ ก ค็ อื เราเป็นผ สู้ ง่ อ อก ข้ า วร ายใหญ่ ข องโลก และสั่ ง สม ภูมิปัญญาในการทำการเกษตรมา ช้านาน สภาพดินฟ้าอากาศก็เอื้อ อำนวย อีกขอ้ เท็จจ ริงห นึง่ ก ค็ อื โลกมี แนวโน้มเปิดก ว้างมากขึ้น เสรีมากขึ้น ใกล้ ตั ว เราเข้ า ม าห น่ อ ยก็ คื อ ก าร เป็ น ป ระชาคมเศรษฐกิ จ อ าเซี ย นใน ปี 2558 บนขอ้ เท็จจ ริงท เี่ ราเป็นป ระเทศ อูข่ ้าวอู่น้ำ เราจะปรับตัวอย่างไร ยั ง ไม่ นั บ ข้ อ ต กลงท างการ ค้าระหว่างประเทศที่ถูกออกแบบมา ภายใต้แนวโน้มที่โลกมีทรัพยากรให้ ใช้สอยอย่างจำกัด สภาพภูมิอากาศ เปลี่ยนแปลงทำให้กฎกติกาทางการ ค้าเปลี่ยนไปด้วย เราเดินท างไปยงั ส ถานทตี่ า่ งๆ เพือ่ พ บบคุ คลทงั้ 6 ท่าน เพือ่ ข อความ คิดเห็นของแต่ละท่านในประเด็นทเี่กี่ยว เนื่องกับภาคการเกษตร บางคนเป็น นั ก วิ ช าการ บางค นเป็ น ผู้ ส่ ง อ อก สินค้าเกษตร บางคนเป็นเกษตรกร เรามานงั่ ล งพดู ค ยุ ก นั เพือ่ ห าขอ้ ต กลง ร่วมกัน ว่าเราคือ ใคร และจะเดิน ไป ด้ ว ยท่ า ทีอ ย่ า งไรบ นโลกแห่ งค วาม เปลี่ยนแปลง – อย่างแรง
ผูเ้ ชีย่ วชาญและสนใจในดา้ นวศิ วกรรม โลหการ และวิศวกรรมอุตสาหการ มี ผลงานวจิ ยั ผลงานวชิ าการ ตำรา และ หนังสือแปลจำนวนมาก ปัจจุบันดำรง ตำแหน่งผู้อำนวยการสมาคมส่งเสริม เทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
หากเราเลือกแล้วว่า ภาคการเกษตร จะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนประเทศ อาจารย์ม องวา่ ภาคการเกษตรไทยควร จะเดินไปในทิศทางไหน ผลิตภ าพของภาคการเกษตร ผมมองว่าพื้นฐานคือไบโอเทคโนโลยี ผมว่าเรา หนีไม่พ น้ ส่วนหนึง่ อ าจจะทำในเรือ่ งของการตดั ต อ่ พ นั ธุกรรม โดยเปิดเผยหรือ แบบลบั ...ก็แ ล้วแ ต่ เราสามารถทำได้โดยเฉพาะพชื ผ ลทไี่ ม่ใช่พ ชื อ าหาร เป็นพ ชื พลังงานหรือเส้นใยสิ่งทอ ตรงนี้สามารถทำได้ แต่ส งั คมไทยไม่เป็นเช่นน นั้ ฝ่ายหนึง่ บ อกวา่ ในเมือ่ ย งั ไม่มหี ลักฐ านเรือ่ ง อันตรายทำไมยงั ไม่ท ำ ขณะทอี่ กี ข า้ งบอกวา่ ก ใ็ นเมือ่ ไม่มหี ลักฐ านเรือ่ งอนั ตราย ก็จ งอย่าท ำดกี ว่า...แล้วใครชนะ เหมือนประเด็นพ ลังงานนวิ เคลียร์ เรือ่ งเหล่าน ี้ เป็นจุดอ่อนของบ้านเรา เรื่องใดที่ต้องการการตัดสินใจเพื่อเห็น ผลในระยะ ยาวมักไม่เกิด เพราะผู้มีอำนาจในการตัดสินใจคือรัฐบาล ซึ่งเขามักคำนึงถึง คะแนนเสียงเป็นหลัก เมื่อตัดสินใจอะไรไปแล้วไม่ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้น เขา ก็ไม่ตัดสินใจ ประเทศไทยในอีก 3-4 ปีข้างหน้ากำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน จะเกิดเสรีในการเคลื่อนย้ายเรื่องเงินทุน แรงงาน ความเปลี่ยนแปลง ทางวิชาการ เป็นต้น เมื่อมองจากบทเรียนของสหภาพยุโรปมันคงไม่ง่ายและ คล่องตวั อย่างสภาพยโุ รป ปัญหาอปุ สรรคอาจจะมากกว่าน นั้ ผมมองวา่ ช อ่ งวา่ ง ระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนมีมากกว่ากลุ่มยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผม กลัวว่าคนไทยจะเสียเปรียบกว่าเขาเยอะ เราไม่ให้ความสำคัญกับภาษาของ ประเทศเพื่อนบ้านสักเท่าไร เราไปสนใจแต่ภาษาอังกฤษ จำเป็นที่ต้องให้คนของเราเรียนรู้ภาษาของคนชาติอื่นๆ หรือ ไม่ คุณก็ใช้เทคโนโลยีช่วยแปลภาษา เหมือนกูเกิล มันยากนะ แต่... Difficult
: 36
Horizon08.indb 36
1/27/12 2:00:30 PM
ชัชวาล เตละวาณิชย์ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัชวาลออร์คิด จำกัด ผูส้ ่งออกกล้วยไม้ ตั ด ด อกแ ละส่ ง อ อกผ ลิ ต ผลท างการเ กษตร เช่ น กระเจี๊ ย บเ ขี ยว, หน่อไม้ฝรั่ง และผลไม้ตามฤดูกาลทั้งสดและผ่านการตัดแต่ง ภายใต้ แบรนด์ ‘Quality Green’
ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรสบายดีไหม
but Impossible ก็ต้องทำ ก็ต้องชั่งน้ำ หนัก แล้ว เลือก ว่า ระหว่างสอนภาษา เหล่านี้ให้คนไทย หรือจะเอาเทคโนโลยี มาช่ ว ย อย่ า ลื ม น ะว่ า ค นพ ม่ า ลาว เวียดนามพูดไทยได้นะครับ คน 9 แสน คนที่เป็นแรงงานต่างด้าวพูดไทยได้หมด เลย แล้ ว ใ ครจ ะรู้ ป่ า นนี้ ค นเ หล่ า นั้ น อาจนั่ ง อ่ า นแ ผนพั ฒนาเศรษฐกิ จ แ ละ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 กันหมดแล้ว ขณะที่แผนสภาพัฒน์ข องลาว เขมร พม่า คุณไม่รู้จักเลย แล้วจะเอาอะไรไปสู้เขา เราต้องรู้ภาษาเขาด้วย เพราะ ถ้าไม่รู้ภาษาของเขามันไปไม่ได้ สิ่งที่อยู่ เบื้องหลังภาษาทุกภาษาคือวัฒนธรรม ที่จะทำให้คุณเข้าใจเขาว่าเขาคิดอะไร ภาษาคือหัวใจที่จะทำให้คุณก้าวไปถึง วัฒนธรรมของเขา ท้ายที่สุดผมมองว่าสิ่งที่เป็นจุด แข็งคือเรื่องอาหารหรือเกษตร ถ้าเราให้ ความสำคัญเรื่องอาหารและเกษตรมันก็ โยงไปสู่ 4 F ได้แก่ Food Feel Fuel Fiber ได้ ผมว่าเราจะแก้ปัญหาได้พอสมควร
ปัจจุบัน เราทำธุรกิจอ ยู่ 3 ตัวห ลัก ดอกไม้ ผัก และผลไม้ เกษตรกรใน กลุม่ เราจะมที งั้ แ บบทเี่ ขาสามารถขายให้ก บั ผ สู้ ง่ อ อกรายอนื่ ได้ ไม่จ ำเป็น ต้องขายให้เราคนเดียว ความแตกต่างของเราคือเน้นความหลากหลาย เราไม่เน้นป ริมาณ เราเน้นค วามหลากหลาย ลูกค้าของเราอาจจะซื้อไม่ เยอะ แต่เราทำราคาที่สูงขึ้นมานิดหนึ่ง ในสว่ นของผกั เราเน้นก ระเจีย๊ บเขียวเป็นห ลัก เราจะมี Contract Farming ของเราเอง ก็คือประกันราคาไปเลย องค์ความรู้ต่างๆ เรา สนับสนุน เรามีทีมสวนไปดู ตั้งแต่พ ื้นที่ เมล็ดพ ันธุ์ การใช้สารเคมี การ ป้องกันศัตรูพืช การเก็บเกี่ยว การแนะนำทุกอย่างอยู่ในสายตาของ บริษัทหมด เราจะเข้าไปหาเกษตรกรที่มีความพร้อม เพราะปัจจุบันกฎ ระเบียบการส่งออกค่อนข้างเข้มงวด เราจะเข้าไปดูว่าเกษตรกรรายนี้ ยินดีที่จะทำในลักษณะ Contract Farming กับเรา เพราะทุกอย่าง จะถกู ค วบคุมห มด เพราะถา้ เราจะมลี สิ ต์ร ายชอื่ ย ากำจัดศ ตั รูพ ชื ให้เขาใช้ แต่ถ้าเขาใช้ยากำจัดศัตรูพืชน อกเหนือจากลิสต์ของเรา แล้วบังเอิญเกิด การปนเปือ้ นจนมกี ารตกี ลับส นิ ค้าห รือแ บนสนิ ค้าก จ็ ะเกิดค วามเสียห าย เราจึ ง ต้ อ งต รวจส อบเ กษตรกรก่ อ นว่ า พ ร้ อ มที่ จ ะอ ยู่ ใ นข้ อ ต กลง แบบนี้ไหม หากถามว่าพบปัญหาอะไรในการทำงานร่วมกับเกษตรกร ประการแรก ธรรมชาติของเกษตรกรคือไม่ชอบความวุ่นวาย ถ้าเขามี ความสัมพันธ์ทดี่ ีกับบริษัทหนึ่งเขาก็จับมือกันอ ยู่แล้ว บางครั้งก ็ไม่ขาย ให้คนอื่น พืชบางพันธุ์...ถ้าเราสนิทกับเขาจริง เขาก็ไม่ขายให้คนอื่น ปัญหาประการต่อมาคือศักยภาพของเกษตรกร เกษตรกรปลูกตะไคร้ ก็อ ยากจะปลูกแต่ตะไคร้ เขาไม่อยากเปลี่ยนแปลง เกษตรกรบางท่าน ขาดการศึกษาในเรื่องสภาพดินหรือสภาพตลาด บางครั้งเราไปแนะนำแล้ว แต่เขาไม่เชื่อหรือไม่อยากจะเปลี่ยน แม้กระทั่งเกษตรกรบางราย ถ้าเราเข้าไปคุยกับบางรายที่มีหนี้สินอยู่ เราอยากจะพัฒนาเขา บางทีเขากไ็ม่รับ แม้เป็น Contract Farming ก็ มีทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ เกษตรกรบางทีก็ขาดการเชื่อมโยง ขาดการเปิดโลกทัศน์ มัน จึงเกิดการทำเกษตรแบบพี่บอกมา พี่บอกให้ทำแบบนี้ โลกปัจจุบัน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อเรื่องเกษตรเยอะครับ โลกเรามกี ารเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา แล้วเราจะไปแข่งในระดับส ากลได้ เราต้องมีความพร้อม ทั้ง Knowledge และ Know-how ก็ต ้องอาศัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยเติมองค์ความรู้ ถ้าเราขาดความรู้ ขาดการพฒ ั นาเรือ่ งวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี ก็จ ะทำให้เราหลุดจ ากความ สามารถในการแข่งขันบนเวทีสากลได้ 37 :
Horizon08.indb 37
1/27/12 2:00:31 PM
นงนภัส รุ่งอรุณขจรเดช จบด้านการเกษตรจาก ‘สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขต พระนครศรีอยุธยา หันตรา’ ประกอบอาชีพเกษตรกร และเป็นที่ ปรึกษาโครงการยวุ ชนเกษตรกำแพงแสน โครงการทไี่ ด้ร บั ก ารสง่ เสริม จากกรมส่งเสริมก ารเกษตร กระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้มีการสืบทอด ภาคการเกษตรต่อไป โครงการยุวชนเกษตรเริ่มโครงการอย่างเป็น ทางการในปี 2548
ในฐานะที่คลุกคลีทำกิจกรรมร่วมกับเกษตรกร รวมถึงลูกหลานของเกษตรกร พบปัญหาอะไรบ้างไหม แล้ววิกฤติการขาดแคลนเกษตรกรรุ่นใหม่น่าต กใจขนาดไหน ดิฉันมีความคิดว่าอายุเฉลี่ยของเกษตรกรเพิ่มขึ้นมากทุกปี ก็เลยมี มุมม องวา่ ถ้าเราไม่ป ลูกฝ งั เยาวชนให้ม ที ศั นคติท ดี่ ตี อ่ ภ าคการเกษตร มันจะหายไปเฉยๆ จึงรวบรวมเด็กที่มีความสนใจภาคการเกษตร เข้าม ารวมกลุม่ ก นั เรียนรเู้ รือ่ งการเกษตร แต่ป จั จุบนั จ ะสนใจแต่ภ าค การเกษตรอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมีคู่แข่งทางการตลาดมากขึ้น เกิด การค้าเสรี นอกจากฝึกเยาวชนเรียนรู้การเกษตร เลี้ยงสัตว์ ทำนา เราต้องสอนภาษาเขาด้วย ก็เลยมีการดึงเอาอาจารย์ที่มีความรู้ด้าน ภาษามาสอนภาษาจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ เราจะมีการสัมภาษณ์เด็กก่อนที่เขาจะเข้ามาร่วมโครงการ ช่วงหลังผ ปู้ กครองจะบังคับให้เด็กม าเข้าร ่วมกับเราเพราะผปู้ กครอง เห็นเด็กในโครงการเรียนดขี นึ้ จากการสมั ภาษณ์ก พ็ บวา่ เด็กส ว่ นหนึง่ บอกว่า พ่อแม่เขายังยากจนอยู่แล้วทำไมตัวเขาต้องเป็นเกษตรกร ด้วย เราก็พูดกับเด็กอย่างคนที่มีความหวัง ว่าแล้วทำไมหนูไม่เป็น เกษตรกรรนุ่ แ รกทเี่ ป็นเกษตรกรแล้วร วย เขากง็ ง เมือ่ เกิดค วามสงสัย ก็เข้ากลุ่มมาเรียนรู้ ก็มาเรียนรู้ว่าเกษตรกรไม่จำเป็นต้องนั่งหลังขด หลังแ ข็งเหมือนเมือ่ ก อ่ น มีเทคโนโลยีท ชี่ ว่ ยในการผลิต เครือข า่ ยของ เรากม็ กี ารแบ่งป นั ค วามรทู้ างการเกษตร เพราะการเกษตรจำเป็นต อ้ ง อาศัยค วามรู้และประสบการณ์ การลองผิดล องถูก ตอนนี้เขายังมองไม่เห็นทางออกจากวงจรรุ่นพ่อรุ่นแม่ เขา มองว่าเข้าโรงงานมีเงินเดือนแน่ๆ แต่เขาไม่มองว่าถ้าโรงงานเจ๊ง จะอยู่อย่างไร ทัศนคติของเด็กแต่ละคนมันขึ้นอยู่กับพื้นฐานของ ครอบครัวเด็กแต่ละคนด้วย ในกลุม่ ย วุ เกษตร ดิฉนั จ ะแบ่งเด็กเป็น 4 กลุม่ ขึน้ อ ยูก่ บั ค วาม สมัครใจของเด็กว่าอยากทำอะไร กลุ่มปลูกผ ัก กลุ่มปลูกข ้าว กลุ่ม ธนาคารสุกร และกลุ่มไบโอดีเซล
มีเด็กหลายคนที่เข้าร่วม โครงการกับเราแล้วได้ไปเรียน ต่อที่ญี่ปุ่น เพราะเราได้รับการ สนั บ สนุ น จ ากม หาวิ ท ยาลั ย เกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ซึ่งเมื่อมีโครงการ ลักษณะนี้เกิดขึ้น เด็กของเราก็ มีคุณสมบัติเพราะได้ฝึกทำเอง ทุกอย่าง เราจ ะส ร้ า งค รั ว เ ล็ ก ๆ ของเรา เป็นจ ุดท ี่จะสร้างอาหาร ให้คนในประเทศ ไม่ต้องขนาด เป็นครัวโลกหรอก บางทีเด็กก็ บอกเราว่า ถ้าเราไม่ปลูกผัก ที่ ตลาดก็มีขาย ดิฉันก็ได้แต่บอก เด็กว่าแล้วถ้าเกษตรกรในวันนี้ เขาตายไปใครจะมาขายให้เรา แล้วต่อไปจะเหมือนในหนังฝรั่ง ม ยั้ ท แี่ ย่งข องกนั ก นิ ดิฉนั พ ยายาม จะปลูกฝัง อย่างน้อยให้เขามอง เกษตรกรดว้ ยสายตาทดี่ ขี นึ้ ไม่ใช่ มองว่า ‘ก็แค่ชาวนา’ เด็กของ ดิฉันจะไม่มีใครพูดคำนี้
: 38
Horizon08.indb 38
1/27/12 2:00:32 PM
ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร เข้าม ารบั ห น้าทีเ่ ป็นค ณะกรรมการปฏิรปู ป ระเทศในชว่ งเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553 เคยดำรงตำแหน่ ง รองผู้ อ ำนวยก ารศู น ย์ เ ทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์แ ละคอมพิวเตอร์แ ห่งช าติ (พ.ศ. 2529 - 2541) ทีป่ รึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา อธิการบดีมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสภา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในค ณะก รรร มก ารบ ริ ห ารส ถาบั น ส ารสนเทศท รั พ ยากรน้ ำ แ ละ การเกษตร
ในส่วนของเรื่องการศึกษา ทำอย่างไรจึงจะดึงเอาเกษตรกร ซึ่งถือเป็นชายขอบของระบบการศึกษามาโดยตลอดเข้ามาได้ ผมมองว่าโจทย์การศึกษาไทยจะเปลี่ยน ไป เมื่อก ่อนเรามองกลุ่มคนวัยเรียนประถม ศึ ก ษา มั ธ ยมศึ ก ษา สายอ าชี ว ศึ ก ษา มหาวิทยาลัย แล้วจึงออกไปทำงาน แต่สิ่ง ที่เราลืมไปก็คือว่าเวลานี้งานมันเปลี่ยนเร็ว มาก คนออกไปทำงานตั้งแต่อายุระหว่าง 15-22 ปี แล้วต้องทำงานไปอีก 40 ปี แล้ว ถามว่าเวลา 40 กว่าปีในการทำงาน การ ศึกษาดำรงตนอยู่ตรงไหนในช่วงเวลานี้ ผม คิดว่าต่อไปนี้โจทย์การศึกษาจะเป็น Non Age-group มากกว่า Age-group Non Age-group คือคนวัยทำงาน มีประมาณ 40 ล้านคน เราไม่เคยให้ความ สนใจกบั ค น 40 ล้านคน ผมเปรียบเทียบการ ศึกษาเป็นท อ่ น ำ้ เราดแู ลแต่น ำ้ ในทอ่ เราไม่ได้ ดูแลน้ำนอกท่อเลย น้ำที่อยู่นอกท่อเป็น น้ำที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย สิ่ง ที่เรากำลังพูดกันว่าเราไม่สามารถแข่งขัน กับเขาได้ ก็เพราะคณ ุ ภาพแรงงานของเราตำ่ ซึ่งในต่างประเทศเขาดูแลน้ำนอกท่อตลอด เวลา ระบบของเขาจะป้อนการศึกษาให้ คนนอกระบบการศึกษาตลอดเวลา แล้ ว ต่ อ ไ ปค นที่ เ ป็ น น้ ำ ใ นท่ อ จ ะ น้อยลง เมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว คนเกิดปีละ
1,200,000 ตอนนี้คนเกิดปีละ 900,000 โรงเรียนมันจะเริ่มร้าง วิทยาลัยจะเริ่มร้าง โครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษาที่เราวางไว้ เรา วางไว้เพื่อ Age-group ต้องหาวิธีเอา Non Age-group เข้าม าใช้ โครงสร้างพื้นฐ านให้ได้ เรากำลังพูดถึงการเรียนตลอดชีวิต มันจะต้องมีระบบการ เรียนที่หลากหลายเพราะคนมันอยู่คนละสถานที่คนละอาชีพ ผมขอ ใช้คำว่า Education on Demand คือค ุณต ้องสามารถเลือกเรียนได้ ด้วยวธิ ที คี่ ณ ุ ต อ้ งการ เวลาทตี่ อ้ งการ เวลาทวี่ า่ ง การศกึ ษาตอ้ งไปหา เขา ไม่ใช่เขามาหาการศกึ ษา จะใช้ร ะบบขนึ้ อ นิ เทอร์เน็ต หรือบ ทเรียน ที่ไปกับซ ีดี หรือจะเป็นแบบ Interactive ก็จ ะเป็นร ะบบที่ Learning on Demand ส่วนจะเรียนที่ไหนก็ต้องว่ากัน แบบหนึ่งก็เรียนด้วย ตัวเองได้ แบบหนึ่งก็ต้องการการพัฒนาทักษะใหม่ เช่นการเข้าถึง เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ตอนนี้ผมคิดว ่าอะไรเป็นเงื่อนไขของการศึกษา การศึกษาใน ความหมายกวา้ ง ผมมองวา่ ร ฐั ไม่ต อ้ งทำเองทงั้ หมด รัฐต อ้ งดงึ เอกชน เข้ามา รัฐต้องดึงผปู้ ระกอบการเข้ามา รัฐต้องให้ อบจ. อบต. ทำ รัฐ ต้องให้ภ าคประชาสังคมทำ แล้วแ ต่ว ่าเรากำลังพูดถึงค นกลุ่มไหน การศึ ก ษาต้ อ งอ อกไ ปห าผู้ เรี ย น ไม่ ใ ช่ ผู้ เรี ย นม าห าก าร ศึกษา โดยผ่านเครื่องไม้เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่มีอยู่มากมาย มหาวิทยาลัยก็อาจจะเปิด 7 วัน 24 ชม. เพราะมีลูกค้าทตี่ ้องการ เรียนอีก 40 ล้านคน ซึ่งเป็นคนทำงาน การเรียนไม่ใช่แค่เพียงไป โรงเรียน แต่เป็นการเรียนรตู้ ลอดชีวิตก ารทำงานอีก 40 ปี นับจาก วัย 15 ปีของเขา เราลืมคน 40 ล้านคนไปหมด อย่าลืมว่าเกษตรกร ก็เป็น 1 ใน 40 ล้านคนนี้ 39 :
Horizon08.indb 39
1/27/12 2:00:33 PM
พิชิต เกียรติสมพร เกษตรกรผู้ปลูกข้าวตำบลสวนแตง อำเภอเมือง จังหวัด สุพรรณบุรี ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานเกษตรจังหวัด สุพรรณบุรี ให้เป็นช าวนาตน้ แบบการลดตน้ ทุนก ารผลิตข า้ ว (ครูติดแผ่นดิน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการใช้ปุ๋ยเพื่อลด ต้นทุนการผลิตม านานกว่า 5 ปี
ในฐานะเกษตรกรยุคใหม่ วิถีการทำนาของคุณเปลี่ยนไปอย่างไร แล้วชีวิตคุณดีขึ้นหรือไม่ ผมเริ่มทำนาตั้งแต่อายุประมาณ 21 ปี พ่อแม่แบ่งมรดกให้ ช่วงแรก ก็ทำตามแบบที่พ่อแม่พี่น้องเขาทำกันมา ทำแบบเคมีมาตลอด ทำอย่างไร ลงทุนอย่างไรให้ได้ผลผลิตมากที่สุด...เข้าใจแบบนั้น จนเมื่อได้พบกับ ดร.ประทีบ วีระพัฒนนิรันดร์ กับ ดร.ทัศนีย์ อัตตะนันทน์ มาแนะนำชาวบ้านละแวกนี้ ว่าทางรอดของชาวนา ไม่ได้อยู่ที่ผลผลิตสูงแต่อยู่ที่ทำอย่างไรก็แล้วแต่ให้ต้นทุนต่ำแล้ว ได้กำไร นั่นแหละเราถึงจะอยู่รอดได้ จากที่ไม่เคยรู้เรื่องดิน เรื่องแมลง เรื่องสารเคมี เมื่อมีโอกาส เข้าไปอบรมกไ็ ด้เรียนรเู้ รือ่ งปยุ๋ ว่าในดนิ ข องเรามธี าตุอ าหารอะไรบา้ ง ไม่จ ำเป็นต อ้ งใส่ป ยุ๋ ต ามความเคยชินอ ย่างทเี่ ราใส่ก นั ม า เป็นการเอา ดินขึ้นมาดูมาวิเคราะห์ว่ามีธาตุอาหารมากน้อยเท่าไร จากนน้ั ท างนกั ว ชิ าการมาทำโครงการ โดยให้น ำทน่ี ามาทดลอง เรากค็ ดิ ว า่ ถ า้ จ ะทดลองกต็ อ้ งลงทุน...ก็เลยลงทุน เขาให้ท ำเป็นแ ปลง เล็กๆ ประมาณ 16 แปลง ทดลองปุ๋ยแต่ละสูตร เช่น ตั้งแต่ไม่ใส่เลย ใส่ 5 กิโลกรัมต อ่ แ ปลง หรือใส่ 10 กิโลกรัมต อ่ แ ปลง เพือ่ ด วู า่ ผ ลผลิต มันจะต่างกันแค่ไหน ผมเริ่มเปลี่ยนวิธีการทำนาแบบเดิมๆ ปี 2549 ผลผลิต ท กุ ว นั น กี้ อ็ ยูป่ ระมาณ 1 ตันต อ่ ไร่ ด้านการลงทุนต อ่ ไร่ เมือ่ ช ว่ งกอ่ นปี 2548 เราลงทุนอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทต่อไร่ ตอนนั้นต้นทุนยัง ไม่ส งู เท่าไรนะ แต่พ อเราเปลีย่ นแปลงการผลิต ต้นทุนเหลือป ระมาณ แค่ 2,000 กว่าบาท ลดลงมาแต่ผลผลิตก ็มากขึ้น ทุกอย่างเราเปลี่ยนหมด จากเดิมฟางข้าวที่เราได้มาผม เห็นเป็นข ยะกเ็ ผาทงิ้ ห มดเลย เพราะมนั ร กเกะกะในการทำนาครงั้ ต อ่ ไป ก็เผาทิ้งอ ย่างเดียว จากเดิมท ำ 3 ฤดูต ่อป กี จ็ ะต้องเผาฟางทิ้งเลย แต่พ อมาตอนนเี้ รากร็ วู้ า่ ฟ างกม็ ปี ระโยชน์ มันม ธี าตุอ าหารทเี่ ราใส่ล ง ไป ปุ๋ยที่อยูใ่นนาเราก็มีที่ติดอยู่กับฟ าง เราก็เอาฟางตัวนี้มาหมักให้ กลายเป็นปุ๋ยอีก พอรเู้รื่องฟางข้าวแล้วก็มาเรื่องเมล็ดพันธุ์ เราก็รู้ว่า จากเดิมที่เราใส่อ ัตรา 40 กิโลกรัมต่อไร่ เขาก็แนะนำให้เรารู้ว่าเมื่อ เราใส่ 40 กิโลกรัมมันเกิดค วามหนาแน่น แล้วพอหนาแน่นพอข้าว
โตขนึ้ ม า คล้ายๆ ว่าม นั ไม่โปร่งม นั เป็นท สี่ ะสม ของโรคและแมลง และก็ทำให้ข้าวไม่แตกกอ เราเลยลดอัตราลงจาก 4 ถังเป็นเหลือ 2 ถัง ถ้าถามว่าเรามีช่องว่างกับนักวิชาการ ไหม...ก็ม บี า้ ง ถ้าน กั ว ชิ าการเข้าม าจะจำกัดเลย ว่าเท่าน นี้ ะ แบบนสี้ ิ ต้องอย่างนี้ เดิมทีช าวบา้ น ก็ท ำไม่ได้ แต่ก ไ็ ม่ได้ถ งึ ก บั ข ดั แ ย้งจ นเกินไป แต่ มีโต้เถียงกันบ ้าง บางครั้งมันต้องดูตัวชาวบ้านว่าพร้อม ทีจ่ ะเปลีย่ นหรือเปล่า แต่ช าวบา้ นทนี่ สี่ ว่ นใหญ่ จะเป็นคนสูงอายุทั้งนั้น คนรุ่นใหม่จะน้อย คน รุ่นใหม่ไปเรียนมาแล้วส่วนมากทำงานที่อื่น ก็ มีแต่พวกพ่อแ ม่ทำไร่ทำนา คราวนี้พวกรุ่นเก่า ก็เปลี่ยนแปลงยาก คล้ายๆ ว่าเขาทำมาแล้วกี่ สิบป จี ะให้ม าเปลีย่ น...ไม่ได้ห รอก คนรนุ่ ใหม่ไป บอกคนรุ่นเก่า บอกไปเขากไ็ม่ค่อยฟัง ผมมีลูก 3 คน คนโตอายุ 18 ถ้าเขามี เวลาว่างผมจะชวนลงนาตลอด บางอย่างทำ คนเดียวมันไม่ทันจะได้ช่วยกันทำ ลูกๆ ของ ผมทำนาเป็นหมดแต่ถ้าปล่อยให้ทำคนเดียว ก็ ค งไ ม่ ร อดเ หมื อ นกั น ผมก็ เ ฝ้ า ม องว่ า ลู ก ค นไหนมแี ววมคี วามสนใจทจี่ ะเป็นเกษตรกร ก็ มีเจ้าคนกลางที่รู้สึกว่าสนใจเรื่องไร่เรื่องนาอยู่ ก็จะเอาคนนี้มาสานต่อ ส่วนคนโตหรือว่า คนเล็กจะเรียนกป็ ล่อยเขาไป เรากม็ องแล้วว่า ใครจะมาตอ่ อ าชีพจ ากเรา เจ้าค นกลางไม่ช อบ เรียน ชอบลงไร่ลงนามากกว่า
: 40
Horizon08.indb 40
1/27/12 2:00:34 PM
พรศิลป์ พัชร ินทร์ตนะกุล ประธานคณะกรรมการธุรกิจเกษตรและอาหาร สภาหอการค้า แห่ ง ประเทศไทย เคยดู แ ลง านที่ เ กี่ ย วกั บ ก ฎร ะเบี ย บ การค้ า ร ะหว่ า งป ระเทศ ปั จ จุ บั น เป็ น รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และเป็น ประธาน AEC Prompt หน่ ว ยง านส ร้ า งค วามพ ร้ อ มใ ห้ กั บ ผปู้ ระกอบการ SMEs ในการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใน ปี 2558
มองเห็นปัญหาในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่ส่งผลต่อ ภาคเกษตรอย่างไร และภาคการเกษตรต้องปรับเปลี่ยนอะไร ปัจจุบัน เรามีพื้นที่การเกษตร 135 ล้านไร่ 58 ล้าน ไร่เป็นพื้นที่ข้าว ขณะที่ 20 เปอร์เซ็นต์เป็นพื้นที่ ชลประทานที่ไม่สมบูรณ์ด้วยนะ ในสภาพปัจจุบัน แบบนี้ด้วยแรงกดดันของพืชพลังงาน ถามว่าวันนี้ 135 ล้ า นไ ร่ กั บ มิ ติ ใ หม่ ข องพ ลั ง งานท ดแทน กั บ ก ระแสค วามมั่ น คงท างอ าหาร ผมยื น ยั นว่ า ประเทศไทยต้องเปลี่ยน ด้วยพื้นทีก่ ารเกษตรเท่าน ี้ เราต้องมาแบ่งให้ ชัดเจนว่าพื้นที่ทั้งหมดนี้เราจะทำอะไรกันบ้าง...ให้ ชัดเจน เรื่องแรกเลย การบริหารประเทศคุณต ้องมา พูดต้องหารือ เอายางพาราไหม เอาปาล์มไหม ต้อง เลือกได้แล้ว ต้องเลือกอย่างชาญฉลาดด้วยนะ ต้อง สมดุลระหว่างความมั่นคงพลังงานกับความมั่นคง อาหาร เวลานี้เราผลิตพลังงานไม่ได้...ต้องนำเข้า เราทำไม่ได้ทั้งหมด เอาสัก 20 เปอร์เซ็นต์เป็น อย่างไร อาหารเราจะเอาอะไรนอกจากขา้ ว ผัก ผลไม้ พื้นทีต่ ้องมาแบ่งให้ช ัดเจนได้แล้ว ด้วยทรัพยากรน้ำ ทมี่ ีอยู่ โอเคถ้าเราเลือกข้าว แล้วมันจะเชื่อมโยงกับ อุตสาหกรรมต่อเนื่องได้อย่างไร แล้วก็มาถึงการ แข่งขันเรื่องมาตรฐานหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ทั้งหมดมันเป็นเรื่องการแบ่งทรัพยากรที่ มีอยู่ให้สมดุล สุดท้ายการผลิตก็จะเริ่มต้น ต่างคน ต่างผลิตก็ไม่ได้อีก ต้องช่วยเหลือกันและต้องได้ มาตรฐานทั้งหมด ได้ความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม ได้ค วามปลอดภัยท างอาหาร อาหาร GM(Genetically Modified) ต้องเข้ามา ปฏิเสธต่อไปไม่ได้แล้ว เรา ต้องพงึ่ พาเทคโนโลยีเพราะทรัพยากรเรานอ้ ยลง แต่ เราตอ้ งการประสิทธิภาพทสี่ งู ได้ม าตรฐานสากล เรา หนีไม่พ้นหรอกครับ ภาพมันจะปรากฏชัดเจนมาก
ถ้าเรานั่งเฉยๆ ก็ห มดสิทธิ์ เทคโนโลยีจะเป็นตัวเสริมสำคัญทำให้มันเกิดขึ้นจริง ก่อนอื่นเลยผมมองว่าจะต้องเกิดการกระจายทรัพยากร ที่ดินก่อน ไม่ใช่คนละ 50 ไร่ด ้วยนะ มันต ้องรวมเป็นนาผืนใหญ่ 5,000 ไร่ มี 100 ครอบครัวอ ยูใ่ นนนั้ จะรวมเป็นบ ริษทั ก ไ็ ด้ ต้องคดิ แล้วค รับ 5 ปีต ้องเกิด ถ้าเป็นแ บบทผี่ มเล่า จักรกลกเ็ข้า การกเู้งิน ก็เกิดขึ้น วันนี้ที่เขาดิ้นรนกันอยู่เขาจ้างรถมาไถ ไม่เป็นระบบ การจัดการน้ำเขาก็ทำกันเองไม่ได้ เวลาเราพดู ถ งึ ม าตรฐานมนั ก ม็ โี จทย์ อะไรคอื ม าตรฐาน เรา ต้องไปดโู ลกวา่ เขาทำอะไร มาตรฐานสากลคอื อ ะไร ทีนมี้ าตรฐาน การพฒ ั นายงั ต า่ งกนั ม าก ฝรัง่ เป็นค นเขียนอยูแ่ ล้ว เขียนมาแล้วเรา ทำได้หรือเปล่า เราบอกเราไม่เอา ถ้าไม่เอากอ็ ย่าไปค้ากับเขา ก็ ตอบงา่ ยๆ ในอดีตเรากร็ บั เขามาตลอด วันน เี้ รารบั อ ยูเ่ รือ่ ยๆ แล้ว เราจะไหวไหมในรุ่นต่อไป...ไม่ได้ เพราะภาพที่ปรากฏ ผมใช้ค ำว่า One World One Law One Market โลกาภวิ ตั น ค์ อื ท กุ อ ย่างเท่าก นั ผมจำกัดค วามแค่น ี้ เพราะทกุ ค นเป็นเพือ่ นบา้ นเปิดป ระตูก นั ห มด แล้วค ณ ุ แ ต่งต วั ส กปรกเข้าบ า้ นเขาได้ไหม...ไม่ได้ เขาแต่งต วั ส ะอาด แล้วคุณจะปฏิเสธไม่ให้เขาเข้าบ้านได้หรือ ผมอยากฝากอีกอย่าง การใช้เทคโนโลยีภายใต้เงื่อนไข ทรัพยากรทจี่ ำกัด มันย งั ไม่เพียงพอตอ่ ก ารแข่งขันน ะครับ มันไม่ได้ ทำให้เราดีขึ้น โอเค...ทุกคน Green-eco กัน ถ้าเรามองไปให้ไกล ในฐานะประเทศไทย ถ้าจ ะแข่งผ มก็ต้องบอกว่า Beyond Green เราต้องคิดตรงนี้ เวลาเราจะไปในโลกที่มีการแข่งขันกัน พวก สิ่งแวดล้อมมันจะเข้ามาสมทบมากำหนดเงื่อนไขในการแข่งขัน เราต้องทำให้เก่งกว่าคนอื่น สมมุติเขาทำเขียวแบบนี้คุณต้องทำ เขียวกว่าเขา เทคโนโลยีต้องทำให้ดีกว่าไม่ใช่เสมอ ต่อไปถ้าถาม ผมเราต้อง Beyond Green ไม่ใช่กรีนเฉยๆ ถ้าคุณกรีนเฉยๆ คุณก็เหมือนคนอื่น 41 :
Horizon08.indb 41
1/27/12 2:00:35 PM
Gดร.ภlobal Warming รณี ธนภรรคภวิน
สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน)
เดีย๋ วท่วมเดีย๋ วแล้ง… มีเทคโนโลยีอะไรจะช่วยรับมือ? สถานการณ์น้ำที่เปลี่ยนไป: ผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
ปี 2554 ประเทศไทยย่างเข้าส ู่หน้าฝ นตั้งแต่กลาง เดือนมีนาคม ใครจะคาดคิดว่าพอสิ้นเดือนมีนาคมภาคใต้ จะมีฝนตกหนักหลงฤดูจนน้ำท่วมใหญ่ เพียงต้นเดือน สิงหาคมเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำไหลลง อ่างสะสมตั้งแต่ต้นปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มี การกอ่ สร้างเขือ่ น ในขณะทปี่ ี 2553 เกิดส ภาวะฝนแล้งใน ช่วงฤดูร้อน และฤดูฝนมาช้ากว่าปกติ ทั้งเขื่อนภูมิพลและ เขื่อนสิริกิติ์มีน้ำไหลลงอ่างน้อยมากและพร่องน้ำไปใช้จน เกือบหมดอา่ ง พีน่ อ้ งเกษตรกรได้ร บั ผ ลกระทบจากภยั แ ล้ง อย่างหนัก สถานการณ์ต่างกับปีนี้โดยสิ้นเชิง ตัวอย่างข้างต้นแสดงถึงสภาพอากาศโดยเฉพาะ สภาพฝนมีความแปรปรวนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต ทั้ง ช่วงเวลา ปริมาณ และพื้นที่ที่ตก เช่น ฤดูฝนในบางปีมา เร็วในบางปลี า่ ช้า ฝนกระจุกต วั ม ากขนึ้ บางครัง้ ฝ นตกเหนือ เขื่อน บางครั้งตกท้ายเขื่อน นี่เองคือผลกระทบของการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change) หลายพื้นที่ ประสบทั้งภัยน้ำท่วมและน้ำแล้งในพื้นทีเ่ดียวกัน บางครั้ง ในปเี ดียวกัน ดังน นั้ ส ถิตแิ ละคา่ เฉลีย่ ไม่ส ามารถใช้ว เิ คราะห์ สถานการณ์ได้อีกต่อไป เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศก็คือการที่สิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตาม ‘ปกติ’ และใน อนาคตแนวโน้มความแปรปรวนจะยิ่งสูงขึ้น
วิกฤติหรือโอกาส?
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในกลุ่มป ระเทศที่ได้รับผล กระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศน้อยที่สุด ซึ่งถ้ามี การใช้เทคโนโลยีและการบริหารจัดการที่ดีเพื่อลดความ เสีย่ งและผลกระทบจากภยั พ บิ ตั ิ เราจะมคี วามมนั่ คงดา้ นนำ้ และได้เปรียบในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะ ภาคการผลิตต า่ งๆ จำเป็นต อ้ งใช้น ำ้ ท งั้ ส นิ้ ยกตวั อย่างเช่น ปี 2553 ไทยยังรักษาแชมป์ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก ไว้ได้ ในขณะที่คู่แข่งหลักเช่นอ ินเดียประสบปัญหาภัยแล้ง รุนแรงจนต้องงดส่งออกชั่วคราว และประเทศอื่นๆ เช่น บังคลาเทศ ศรีลังกา และฟิลิปปินส์จำเป็นต้องซื้อข้าว เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยการขาดแคลนในประเทศจากวิกฤติภัย แล้งแ ละน้ำท่วม
เราต้องการเทคโนโลยีอ ะไรมาช่วยบริหารจัดการน้ำ?
เทคโนโลยีระบบตรวจจับและติดตามภัยน้ำท่วม
และดินถล่ม การคาดการณ์สภาพอากาศระยะยาว และ การเชื่อมโยงการบริหารโครงสร้างน้ำ เป็นเทคโนโลยี อันดับต้นๆ ที่ประเทศไทยยังขาดและจำเป็นต้องขอรับ การถา่ ยทอดเทคโนโลยีจ ากตา่ งประเทศทงั้ ด า้ นองค์ค วามรู้ และการสร้างบุคลากร ซึ่งเทคโนโลยีทั้งสามด้านนี้จะช่วย เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการอุปทานน้ำในระดับ มหภาค (Macro) เช่น ระบบตรวจจบั แ ละตดิ ตามภยั น ำ้ ท ว่ ม และดินถล่มทำให้เราคาดการณ์และเตือนภัยได้ล่วงหน้า 3-7 วันว่าจะเกิดภัยน้ำท่วมหรือดินถล่มที่ไหน จะได้ เตรียมการอพยพให้ทันท่วงที และเตรียมรับสัญญาณ ข้อมูลด าวเทียมเพือ่ ต ดิ ตามและประเมินค วามเสียห ายจาก อุทกภัยแ ละดนิ ถ ล่ม การคาดการณ์ส ภาพอากาศระยะยาว ช่วยให้ทราบว่า ฤดูฝนจะมาเร็วหรือช้า และจะเกิดฝนทิ้ง ช่วงหรือไม่ เป็นประโยชน์ต่อการบริหารเขื่อนเพื่อกักเก็บ น้ำและการวางแผนการเพาะปลูกหรือการเก็บเกี่ยว ส่วน การเชือ่ มโยงการบริหารโครงสร้างนำ้ ช ว่ ยให้ม คี วามยดื หยุน่ สูงข นึ้ ในการบริหารจดั การ เช่น การสร้างเครือข า่ ยอา่ งเก็บ น้ำ (อ่างพวง) ผันน ำ้ จ ากอา่ งทมี่ ปี ริมาณนำ้ ม าก มาสอู่ า่ งที่ มีป ริมาณนำ้ น อ้ ยกว่า ก็จ ะชว่ ยลดความเสีย่ งนำ้ ท ว่ มสำหรับ อ่างทมี่ ปี ริมาณนำ้ ม าก และชว่ ยแก้ภ ยั แ ล้งแ ก่พ นื้ ทีท่ า้ ยอา่ ง ที่มีปริมาณน้ำน ้อย เป็นต้น ส่วนเทคโนโลยีท เี่ รามคี วามพร้อมในการพฒ ั นาและ ประยุกต์ใช้เองในประเทศ เพื่อบริหารจัดการน้ำในระดับ จุลภาค (Micro) ได้แก่ เทคโนโลยีก ารจัดการทรัพยากรน้ำ ระดับชุมชน ซึ่งมุ่งเน้นการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมัยใหม่ม าผนวกเข้าก ับก ารใช้ภ ูมิปัญญาท้องถิ่น และการ น้อมนำแนวพระราชดำริ มาวิเคราะห์ปัญหาและวางแผน จัดการแก้ปัญหาน้ำของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยยึด การพึ่งตนเองของชุมชนเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น การใช้ แผนทีภ่ าพถ่ายจากดาวเทียมเพือ่ ส ำรวจพนื้ ทีเ่ หมาะสมใน การพฒ ั นาเป็นแ หล่งน ำ้ และการปรับป ฏิทนิ เพาะปลูกเพือ่ ควบคุมก ารผลิตให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่มี เป็นต้น ในดา้ นการบริหารจดั การอปุ สงค์น ำ้ เทคโนโลยี 4R ได้แก่ การลด (Reduce) การใช้ซ ำ้ (Reuse) การนำกลับม า ใช้ใหม่ (Recycle) และการซ่อมบำรุง (Repair) เป็นห ัวใจ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น ้ำของทุกภ าคส่วน กล่าวโดยสรุปคือ เทคโนโลยีที่เราต้องการทั้งด้าน การจัดการอุปทานน้ำหรืออุปสงค์น้ำมีเป้าหมายหลักคือ เพิ่มความมั่นคงด้านต้นทุนน้ำ สร้างความยืดหยุ่นในการ จัดการภายใต้ทุกสถานการณ์ ลดความเสียหายจากภัย พิบตั ิ เพิม่ ป ระสิทธิภาพการใช้น ำ้ และทสี่ ำคัญในการนำไป ใช้ง านคอื ทุกภ าคสว่ นตอ้ งมสี ว่ นรว่ มในการจดั การ เพือ่ ให้ ‘เทคโนโลยี’ เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพสำหรับการรับมือ ภัยทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง และเป็นเครื่องมือในการสร้าง องค์ค วามรู้และบุคลากร
: 42
Horizon08.indb 42
1/27/12 2:00:36 PM
Thai
ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของเกษตรกรไทย
[text] [photo]
สังกัดภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่ อาจารย์ปาริชาติ พรมโชติ ไม่ได้ส นใจแต่เฉพาะพชื ไร่น าเท่านัน้ เธอยงั ส นใจ วิถชี วี ติ ข องเกษตรกรดว้ ย นีค่ อื เรือ่ งราวของเกษตรกรไทยจากอดีตจ นถึง ปัจจุบันในกระดาษหน้าเดียว
point
กองบรรณาธิการ อนุช ยนตมุติ
01 ถ้าเรามองย้อนตั้งแต่สมัยสุโขทัยมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
สิง่ ท เี่ รารบั ม าคอื เทคโนโลยีท มี่ าจากการตดิ ต่อค า้ ขายกบั บ คุ คลภายนอก แต่เดิม เราปลูกข า้ วในทลี่ มุ่ ต่อม าเราสามารถปลูกบ นทดี่ อน จากทเี่ ราปลูกข า้ วนาหว่าน ก็ส ามารถปลูกข า้ วนาดำ มีร ะบบการจดั การการชลประทาน เมือ่ พ อ่ ค้าเข้าม าก็ มีความต้องการข้าวมากขึ้น จึงมีการขยายพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิต จุดเปลี่ยนที่สอง เมื่อเกิดการค้าขาย จึงเกิดสถาบันการเงิน มันก็ ทำให้เกิดธนาคารเพื่อการเกษตรขึ้น ธนาคารพาณิชย์เกิดขึ้น ตั้งแต่สมัย อยุธยาทเี่ น้นก ารคา้ ขายเน้นก ารผลิต มันไปกระทบกบั ส ถาบันก ารเงินท ตี่ อ้ ง ในส่ ว นข องเ กษตรกรก ลุ่ ม ที่ ตัง้ ข นึ้ ไปกระทบการขยายการผลิตท ตี่ อ้ งเพิม่ ข นึ้ ไปกระทบการขายพนื้ ทีก่ าร ช ่วยเหลือตัวเองได้ ดิฉันก ็ขอแบ่งออกเป็น เพาะปลูก มันจ งึ เกีย่ วข้องกบั ก ารแผ้วถ างปา่ อ กี แต่ม มุ ด กี ค็ อื จ ากจดุ น นั้ ท ำให้ 2 กลุ่มอีก กลุ่มที่ทำฟาร์มแบบ Sustain เราขึ้นสู่การเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก คือเน้นการใช้ทรัพยากรในฟาร์ม แม้จะ ใช้สารเคมีบ้าง แต่เน้นทำเอง เขาก็อยู่ได้ การเข้าส ปู่ ระชาคมเศรษฐกิจอ าเซียนทก่ี ำลังจ ะเกิดข นึ้ ในปี 2558 คำถาม สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ ขณะที่ ก็คือเมื่อเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภาคการเกษตรของเราจะมีการ อีกกลุ่มฉ ีกแ หวกแนวไปเลย เป็นเกษตรกร เปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ นี่คือคำถาม เมื่อมีการเคลื่อนย้ายคนจากหลายๆ ที่ผลิตส ินค้าคุณภาพดี เกษตรอินทรีย์ เขา ประเทศเข้ามา แน่นอนมันย่อมนำเอาวัฒนธรรมหรือเทคโนโลยีการเกษตร อยู่ได้เพราะเขารวมกลุ่ม ในกลุ่มจ ะมีคนที่ เข้ามา ช่วยจัดการธุรกิจการเกษตร แล้วเกษตรกร แต่ถ้าเรามองย้อนไปในอดีตการแลกเปลี่ยนในลักษณะนี้มันนำไปสู่ ภายในกลุ่มก็ผลิตให้ได้ตามความต้องการ การครอบครองกจิ การของชาวต่างชาติม ากขนึ้ จะเห็นว า่ ในอดีตเมือ่ ช าวจนี ของตลาด ข้อจ ำกัดข องเกษตรกรกลุม่ น คี้ อื ชาวยุโรปเข้าม า เกิดธุรกิจท างการเกษตรขึ้นแต่ธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้อยู่ภายใต้ เขามีข้อจำกัดในการจัดการธุรกิจ ก็ต้องมี ความเป็นเจ้าของของคนไทยเลย ทีนี้มองไปในอนาคตถ้าเกิดมีการยอมให้ คนช่วยเข้าไปจัดการการตลาด มีการใช้พื้นที่การผลิตระหว่างอาเซียน แล้วต่อไปพื้นที่การเกษตรของไทย จะยงั อ ยูใ่ นมอื คนไทยไหม ซึง่ ก เ็ กีย่ วกบั ก ฎหมายและนโยบายของรฐั ด ว้ ยซงึ่ ความหวังของภาคเกษตรกรไทยใน เขาก็ทำกันอยู่ แต่ถามว่าการปกป้องในเชิงนิตินัยมันโอเค แต่ในเชิงพ ฤตินัย อนาคต ดิฉันคิดว่าน่าจะเกิดเจเนอเรชั่น ทำได้หรือเปล่า ใหม่ ข องภ าคเ กษตร มี พื้ น ฐ านก าร ศึกษา มีเทคโนโลยี ซึ่งไม่ได้หมายความ จากการลงพื้น ที่เข้าไปในชุมชน ดิฉัน ขอแบ่งกลุ่มอย่างกว้างของ ถึ ง เ ทคโนโลยี ก ารผ ลิ ต อ ย่ า งเ ดี ย วน ะ เกษตรกรเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเกษตรกรที่สามารถช่วยเหลือต ัวเองได้ในระดับ เทคโนโลยีในการสื่อสาร การจัดการเรื่อง ทีด่ ีและผลิตโดยใช้ทฤษฎีใหม่ กับ กลุ่มเกษตรกรที่ยังคงผลิตบ นวิถเีดิม กลุ่ม ตลาด ตรงนนี้ า่ จ ะทำให้เกิดเจเนอเรชัน่ ใหม่ แรกเขาจะเกาะกลุ่มกันแล้วเรียนรู้จากประสบการณ์ข องเขาเอง ส่วนกลุ่มห ลัง ของภาคการเกษตรได้ เหมือนในประเทศที่ สิ่งที่เขาเรียกร้องคือความช่วยเหลือทั่วไป เช่น ราคา ทำอย่างไรจะมีรายได้ พัฒนาแล้ว คือคนที่ไปทำเกษตรคือคนที่ มากขึ้น ถ้าบอกว่าแล้วทำไมไม่นำข้อมูลจากเกษตรกรกลุ่มที่สามารถจัดการ มีความรักที่จะทำ มีความรู้ ถ้าไปคุยกับ ตนเองได้ในระดับที่ดีไปสู่กลุ่มเกษตรกรที่ยังคงดำเนินการผลิตบนวิถีแบบเก่า เกษตรยุโรป ขอข้อมูลเขา เขาจะคียข์ ้อมูล คำตอบอาจอยู่ทวี่ ิถีชีวิต แล้วปรินท์ออกมาให้เราเลย แต่เกษตรกร แม้ในหมู่บ้านนั้นจะมีเกษตรกรตัวอย่าง ประสบความสำเร็จ ลด ไทยแ ค่ ก ารบั น ทึ ก มั น ก็ ยั ง ไ ม่ ถึ ง ต รงนั้ น ต้นทุนการผลิต แต่คนในหมู่บ้านก็ยังไม่ปฏิบัติตาม ถ้าเราเข้าไปในชุมชน เราต้องยอมรับข้อจำกัดเกษตรกรเราด้วย มันมีมิติที่ซับซ้อนมากในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ถ้าเรามองว่าเทคโนโลยี เกษตรกรในเจเนอเรชัน่ น ยี้ งั ไม่ได้ร บั โอกาส ตัวน ดี้ ี เดินเข้าไปถา่ ยทอดในชมุ ชน พอเราออกมาเขากล็ มื แ ล้ว การถา่ ยทอด ทางการศึกษาอย่างนั้นเพื่อมาทำธุร กิจ เทคโนโลยีลงชุมชนมันยากมาก ถ้าไม่สอดคล้องกับต ัวเขา เขาจะไม่รับ การเกษตร
04
02
05
03
43 :
Horizon08.indb 43
1/27/12 2:00:37 PM
C ulturalสุชscience าต อุดมโสภกิจ
การวิจัยพื้นฐาน-การวิจัยมุ่งเป้า
จะเลือกทางไหนดี?*
ช่วงกอ่ นคริสต์ท ศวรรษ 2000 เจ้าห น้าทีภ่ าครฐั ข องสหรัฐอเมริกาทที่ ำงานเกีย่ วกบั น โยบาย ด้านวิทยาศาสตร์ได้สื่อสารคำพูด 4-5 คำกับสาธารณะ ได้แก่ การปรับกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift) พื้นที่/สาขาเชิงย ุทธศาสตร์ (Strategic Areas) ลำดับค วามสำคัญ (Priorities) และขี ด ค วามส ามารถใ นก ารแ ข่ ง ขั น ข องป ระเทศ (National Competitiveness) โดยมแี นวคิดในการจดั ท ำนโยบายทจ่ี ะเปลีย่ นรปู แ บบการจดั สรรทนุ ว จิ ยั แ ละพฒ ั นาดา้ น วิทยาศาสตร์ข องประเทศ ทัง้ นี้ มีแรงจงู ใจทจ่ี ะสนับสนุนง านวจิ ยั ท ส่ี อดคล้องกบั แ ผนงานใหญ่ๆ (Program) เช่น การสร้างความเข้มแ ข็งให้แก่เศรษฐกิจ การปรับปรุงสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มากกว่าจะเป็นงานวิจัยรายโครงการ และนี่คือมุมมองหรือความคิดเห็นของหลายๆ ฝ่าย ที่มีต่อประเด็นดังกล่าว มุมมองของนักวิทยาศาสตร์
ประชาคมวิทยาศาสตร์ได้ตั้งคำถามต่อแนวคิด ข้างต้นหลายข้อ เช่น กระบวนทัศน์นั้น ‘ใหม่’ จริงห รือ? ใครเป็น ผู้กำหนดและจัดลำดับความสำคัญของสาขา ยุทธศาสตร์? นักว ทิ ยาศาสตร์ต อ้ งยอมเสียส ละการวจิ ยั พื้นฐานที่เป็นไปตามความ ‘อยากรู้’ มากแค่ไหน? นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงความเห็นว่ามีการให้ ทุนวิจัยในสาขายุทธศาสตร์มาหลายปีแล้ว NSF เอง ก็ให้ทุนสำหรับโปรแกรมวิจัยร่วมระหว่างมหาวิทยาลัย และอุตสาหกรรมมาโดยตลอด เพราะเห็นความสำคัญ ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม จากมหาวิทยาลัยไปสกู่ ารใช้ง านอย่างแท้จริง โดยมอี ตั รา ความสำเร็จสูงมาก นอกจากนี้ การทำวิจัยตามความ ต้องการของประเทศก็ไม่ใช่ของใหม่ สิ่งที่น่าจะเป็นข อง ใหม่ค อื การจำกัดง บประมาณวจิ ยั พ นื้ ฐ านในระดับห นึง่ เพื่อสนับสนุนการวิจัยที่ตอบสนองความต้องการของ ประเทศ ซึ่งสร้างความวิตกกังวลแก่นักวิทยาศาสตร์ ในระดับหนึ่ง
ควอนตัม ต้องใช้เวลาพอสมควรก่อนจะเติบโตไปสู่การ ปฏิวตั ดิ า้ นการสอื่ สาร หรือก ารคน้ พ บผลึกเหลว (Liquid Crystal) ของ Friedrich Reinitzer ต้องใช้เวลาร่วม 80 ปีกว า่ จ ะนำสกู่ ารพฒ ั นาเป็นจ อแอลซดี ที เี่ ราใช้ก นั เกลือ่ น ในปัจจุบัน เป็นต้น การวิจัยพ ื้นฐานจึงเป็น ‘บ่อน้ำ’ ที่ นำไปสู่การประยุกต์ใช้ ซึ่งหากการวิจัยพื้นฐานหยุด ชะงักไปย่อมทำให้ ‘น้ำ’ แห้งเหือด และโอกาสในการ เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ พลอยลดน้อยลงไปด้วย รัฐจึง ควรให้การสนับสนุนการวิจัยพื้นฐานและสนับสนุนการ ถ่ายทอดแนวความคิดและการค้นพบไปสู่การประยุกต์ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากกว่าการสนับสนุนการ วิจัยแบบมุ่งเป้าแต่เพียงอย่างเดียว แม้จะยอมรับว่าใน ผลกระทบของการวิจัยพื้นฐาน สภาพที่ทรัพยากรของประเทศมีจำกัด การสนับสนุน นักวิทยาศาสตร์หลายกลุ่มได้ให้ทัศนะว่าการ การวจิ ยั แ บบมงุ่ เป้าย่อมมโี อกาสทจี่ ะได้ร บั ผ ลตอบแทน วิจัยพื้นฐานนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่สำคัญหลายเรื่อง ดีก ว่า แต่ก ารสนับสนุนก ารวจิ ยั ท ไี่ ม่ต อ้ งมงุ่ เป้าได้ร บั ก าร เช่น ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแก้ว แสง และกลศาสตร์ พิสูจน์แล้วว่าเป็นการลงทุนท ี่ดีไม่แพ้กัน : 44
Horizon08.indb 44
1/27/12 2:00:38 PM
เทคโนโลยี
Prof. Karle ให้ ทั ศ นะว่ า เ ทคโนโลยี คื อ วิทยาศาสตร์อุตสาหกรรม และเกี่ยวข้องกับกิจกรรม หลักๆ ได้แก่ การผลิต การขนส่ง และการสื่อสาร อันที่จริงเทคโนโลยีมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับ วิวฒ ั นาการของมนุษย์ ทัง้ ในเรือ่ งเครือ่ งมอื เครือ่ งนงุ่ ห ม่ ไฟ ที่พักอาศัย และเครื่องยังชีพอื่นๆ วิทยาศาสตร์ พื้ น ฐ านเ ป็ น ส่ ว นส ำคั ญที่ ท ำให้ สั ง คมกั บ เ ทคโนโลยี มีวิวัฒนาการไปด้วยกัน (Co-evolution) คำถามคือ การค้นพบของวิทยาศาสตร์พื้นฐานนำไปสู่การก่อเกิด เทคโนโลยีใหม่ได้อย่างไร กระบวนการทเี่ ริม่ จ ากการวจิ ยั พ นื้ ฐ านไปสคู่ วาม สำเร็จในเชิงเศรษฐศาสตร์ของเทคโนโลยีนั้นมีความ ไม่ แ น่ น อนสู ง ม าก ความส ำเร็ จ จ ากก ารวิ จั ย ที่ ไ ด้ เทคโนโลยีใหม่ไม่ใช่หลักประกันว่าจะประสบผลสำเร็จ ในท างเ ศรษฐศาสตร์ เพราะมี ปั จ จั ย อื่ น ๆ เข้ า ม า เกี่ยวข้อง การสร้างนวัตกรรมทสี่ ำคัญๆ กระตุ้นให้เกิด นวัตกรรมอื่นๆ ตามมา ทั้งนี้ขึ้นกับการระบุประเภท ความต้องการของผู้คนได้ถูกต้องเพียงใด
บทสรุป
1. ด้วยตระหนักว่าความสำเร็จจากการพัฒนา เทคโนโลยีใหม่ๆ จะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้ รัฐบาลจึงพยายามกำหนดทิศทางการวิจัยโดยผ่านการ ใช้ท นุ ส นับสนุนก ารวจิ ยั ให้เป็นไปตามความตอ้ งการของ ประเทศ ซึ่งดูเหมือนว่าขัดแย้งกับการวิจัยพื้นฐานของ นักวิทยาศาสตร์
ที่มา: 1. MLA style: “The Role of Science and Technology in Future Design”. Nobelprize.org. 2 Dec 2011 (http:// www.nobelprize.org/nobel_prizes/chemistry/articles/ karle/) 2. Deborah L. Illman (1994) NSF Celebrates 20 Years of Industry-University Cooperative Research: Development, transfer of industrially relevant technologies from university into practice is goal of more than 50 research centers. Chem. Eng. News, 72 (4), pp 25–30
2. นั กวิ ท ยาศาสตร์ นั ก เ ศรษฐศาสตร์ ชั้ น น ำ ผูน้ ำในวงการอตุ สาหกรรม และบรรณาธิการในวารสาร วิทยาศาสตร์ช นั้ น ำ ได้ช วี้ า่ การบริหารการวจิ ยั แ บบมงุ่ เป้า ของรัฐบาลเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและหลุมพราง รวมทงั้ อ าจสร้างความเสียห ายแก่ว งการวทิ ยาศาสตร์ได้ รวมทงั้ ต อ้ งไม่ล มื ว า่ วิทยาศาสตร์ก บั ส งั คมมวี วิ ฒ ั นาการ ร่วมกันมาโดยตลอด 3. มีการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากบุคคลและ คณะบุคคลต่อระบบการให้ทุนที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นการ สนับสนุนวงการวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวาง และเห็น ว่ามีความเหมาะสมกับแนวทางที่ตอบสนองต่อความ ต้องการของประเทศเท่าท จี่ ะเป็นไปได้อ ยูแ่ ล้ว นอกจาก นี้ ไม่มีใครคาดคะเนได้ว่าความสำเร็จของการพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในอนาคตจะเป็น อย่างไร 4. การวิจัยพื้นฐานมีความหมายต่อการพัฒนา เทคโนโลยี และก ารต อบส นองค วามต้ อ งการข อง ประเทศ ความเชื่อมโยงระหว่างการวิจัยพื้นฐานกับการ พัฒนาเทคโนโลยีกม็ ีสถานภาพทเี่หมาะสมอยู่แล้ว นั่นค ือมุมมองของ Prof. Karle ทีม่ ีต่อระบบการ จัดสรรทุนวิจัยของสหรัฐอเมริกา หากหันกลับมามอง ประเทศไทยซงึ่ ม งี บประมาณดา้ นการวจิ ยั ท จี่ ำกัดจ ำเขีย่ คำตอบอาจไม่ใช่ก ารทตี่ อ้ งเลือกระหว่างการวจิ ยั พ นื้ ฐ าน กับการวิจยั ม ุ่งเป้า การเพิม่ ส ัดส่วนงบประมาณการวิจยั แต่เพียงอย่างเดียวกอ็ าจไม่ใช่ค ำตอบสดุ ท้ายเช่นก นั ถ้า เช่นน นั้ การจดั สรรงบประมาณการวจิ ยั ข องประเทศไทย ที่เหมาะสมควรเป็นเช่นใด?
*บทความนี้ถอดความงานเขียนของ Prof. Jerome Karle
(นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลสาขาเคมี ในปี ค.ศ. 1985 จาก การวจิ ยั เกีย่ วกบั ก ารวเิ คราะห์โครงสร้างของผลึกด ว้ ยเทคนิคก าร กระเจิงข องเอกซเรย์ (X-ray Scattering Technique)) ทีม่ ตี อ่ ประเด็นก ารจดั สรรงบประมาณสำหรับก ารวจิ ยั ข องสหรัฐอเมริกา ซึ่งควรแก่การรับฟังและนำมาวิเคราะห์ต่อไป (ภาพประกอบ: Prof. Jerome Karle (ซ้าย) และ Prof. Herbert A. Hauptman (ขวา) ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี ในปี ค.ศ. 1985) 45 :
Horizon08.indb 45
1/27/12 2:00:39 PM
M yth & สุSชาตcience อุดมโสภกิจ
ภัยพิบัติมักสร้างความสูญเสียแก่ชีวิต และทรัพย์สิน สร้างผลกระทบในมิติ ต่างๆ ทั้งด ้านเศรษฐกิจแ ละสังคม ชีวิต ความเป็นอยู่ของบางคนอาจเปลี่ยนไป จากเดิมอ ย่างสนิ้ เชิง ปัญหาตา่ งๆ เกิดข นึ้ ทั้งในช่วงที่เกิดภัยพิบัติและภายหลัง ภัยพิบัติผ่านพ้นไปแล้ว อย่างไรก็ตาม มี ค วามเ ชื่ อ บ างอ ย่ า งที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ ภัยพ บิ ตั ทิ นี่ า่ ส นใจ และทนี่ า่ ส นใจยงิ่ ก ว่า คือ ความจริงน ั้นเป็นอย่างไรกันแน่
ความเชือ่ : สิง่ ต า่ งๆ จะกลับส สู่ ภาวะปกติ
ภายใน 2-3 สัปดาห์ ความจริง: โดยทั่วไปผลกระทบของภัย พิบัติมักจะกินเวลายาวนาน ประเทศที่เผชิญ กับภ ยั พ บิ ตั มิ กั ป ระสบปญ ั หาดา้ นการคลังแ ละ วัสดุอย่างมากหลังวิกฤตการณ์ใหม่ๆ
ความ เ ชื อ ่ และ ความจริง ใน
สถานการณ์ภัยพิบัติ
ความเชื่อ: ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ มักตกอยู่ในสภาวะช็อกเกินกว่าจะเอาชีวิต รอดได้ ความจริง: ในท างต รงกั น ข้ า ม มี ผู้ ประสบภัยหลายรายค้นพบความแข็งแกร่ง ของตนเองในสถานการณ์ว ิกฤติ ความเชื่อ: เมื่อเกิดภัยพิบัติแต่ละครั้ง
เชื้อโรคและโรคระบาดเป็นสิ่งที่ไม่สามารถ หลีกเลี่ยงได้ ความจริง: โรคระบาดไม่ได้เกิดขึ้นโดย อัตโนมัติตามหลังภัยพิบัติ และซากศพไม่ใช่ สาเหตุท ที่ ำให้เกิดก ารระบาดของโรคแปลกๆ (หรืออ กี น ยั ห นึง่ ค อื ซากศพไม่ได้ม คี วามเสีย่ ง ความเชื่อ: เมื่อเกิดภัยพิบัติ แพทย์อาสาชาวต่างชาติมีความจำเป็น ต่อการเป็นสาเหตุของโรคระบาดไปมากกว่า มาก ไม่ว่าจะเชี่ยวชาญด้านไหนก็ตาม คนที่ยังมีชีวิตอยู่) สิ่งสำคัญในการป้องกัน ความจริง: แต่ละประเทศมีแพทย์ผ้เู ชีย่ วชาญในสาขาตา่ งๆ มาก โรคคือการดูแลสุขอนามัยและการให้ความรู้ เพียงพอที่จะให้ความชว่ ยเหลือเพือ่ รกั ษาชวี ติ คนเจ็บปว่ ยในภาวะเร่งดว่ น แก่สาธารณชน ได้ อย่างไรกต็ าม อาจตอ้ งการความชว่ ยเหลือจากแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญในสาขา อืน่ ๆ ทีไ่ ม่มใี นประเทศทป่ี ระสบภยั พบิ ตั ิ
: 46
Horizon08.indb 46
1/27/12 2:00:46 PM
ความเชื่อ: เป็นไปไม่ได้ที่จะระบุตัวผู้เสียชีวิตจำนวนมากหลังเกิดภัยพิบัติ ความจริง: เทคโนโลยีดีเอ็นเอ (DNA Technology) ใช้เพื่อการพิสูจน์เอกลักษณ์ของผู้เสียชีวิตได้ และ
เป็นเทคโนโลยีท มี่ อี ยูใ่ นแทบทกุ ป ระเทศ อย่างไรกต็ าม แม้ป ระเทศทปี่ ระสบภยั พ บิ ตั จิ ะไม่มเี ทคโนโลยีด งั ก ล่าว ก็สามารถขอรับความช่วยเหลือทั้งด้านเทคนิคและการเงินจากประเทศอื่นได้
ความเชื่อ: ประเทศทป่ี ระสบภยั พบิ ตั ติ อ้ งการความชว่ ยเหลือจากนานาชาติ และตอ้ งการแบบทนั ทีท นั ใด ความจริง: การสนองตอบความตอ้ งการความชว่ ยเหลือท ไี่ ม่ได้ผ า่ นการประเมินแ ละจดั ล ำดับค วามสำคัญ
มีแ ต่จ ะทำให้เกิดค วามโกลาหล ดังน นั้ ทางทดี่ คี วรจะใช้เวลาสกั ร ะยะหนึง่ เพือ่ ป ระเมินห าความตอ้ งการทแี่ ท้จ ริง ก่อนขอความช่วยเหลือ
ความเชื่อ: ความเสียห ายจากภัยพิบัติมักถ ูกซ้ำเติมด้วยพฤติกรรมของคน ความจริง: อาจพบพฤติกรรม ‘ภัยส งั คม’ บ้างในสถานการณ์ภ ยั พ บิ ตั ิ แต่โดยภาพรวมแล้วกลบั พ บวา่ ผ คู้ น ตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และช่วยกันฝ่าฟันความทุกข์ยากไปได้
ความเชื่อ: คนที่อดอยากสามารถกินท ุกอย่างที่ขวางหน้า ความจริง: แม้คนที่หิวมากๆ ก็ไม่สามารถรับประทานอาหารที่ซ้ำซากและไม่คุ้นเคยเป็นเวลานานๆ ที่ สำคัญคือ ผู้ที่อดอยากมักมีอาการเจ็บป่วยจนสูญเสียความอยากอาหาร
ความเชื่อ: ไม่ควรให้อาหารแก่เด็กที่มีอาการท้องร่วง ความจริง: การงดอาหารในเด็กท มี่ อี าการทอ้ งรว่ งเป็นห ลักก ารทไี่ ม่ถ กู ต อ้ ง และอาจเป็นอ นั ตรายถงึ ช วี ติ ในกรณีเด็กข าดอาหาร อันท จี่ ริงค วรให้อ าหารเหลวแก่เด็กท อ้ งรว่ ง (อาจให้ท างสายยางหรือ Nasogastric Tube ในกรณีที่จำเป็น) พร้อมๆ กับการรักษาอาการขาดน้ำ การให้อาหารหลังรักษาอาการขาดน้ำอาจสายเกินไป
ความเชื่อ: เราสามารถให้ค วามช่วยเหลือผู้อพยพในสัดส่วนที่น้อยกว่าป กติ ความจริง: ผู้อพยพยังมีสิทธิ์ขั้นพื้นฐานในการได้รับอาหาร ที่พักพิง และการดูแล ที่ไม่น้อยไปกว่าส ิทธิ์
ขั้นพื้นฐานของคนทั่วไป อันที่จริงผู้อพยพบางรายที่ขาดอาหารและเจ็บป่วยก่อนมาถึงที่พักพิงกลับต้องการ อาหารและการดูแลมากกว่าป กติด้วยซ้ำ
ความเชื่อ: ภัยพิบัติทำให้ม ีผู้เสียชีวิตกระจัดกระจายแบบสุ่ม ความจริง: ภัยพิบัติมีแนวโน้มทำให้ม ีผู้เสียช ีวิตส ูงในพื้นทีเ่สี่ยงสูง ซึ่งม ักเป็นแหล่งอาศัยของคนยากจน ความเชื่อ: เป็นการดีที่สุดที่จะจำกัดการให้ข้อมูลความรุนแรงของภัยพิบัติ ความจริง: การจำกัดก ารเข้าถ งึ ข อ้ มูลท ำให้เกิดค วามไม่เชือ่ ม นั่ ในหมูป่ ระชาชน ซึง่ อ าจนำไปสพู่ ฤติก รรม
ผิดๆ หรืออาจก่อให้เกิดการจลาจล
ที่มา:
• http://www.21stcenturychallenges.org/60-seconds/myths-andrealities-in-disaster-situations/ • http://www.who.int/hac/techguidance/ems/myths/en/index.html 47 :
Horizon08.indb 47
1/27/12 2:00:51 PM
S mart
life
ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
อวัยวะซ่อมเสริมเติมสร้าง (Artificial Organ)
รูปที่ 1 หลอดลมสร้างจากสเต็มเซลล์ซึ่งนำมาจากไขสันหลังของ ผู้ป่วยเอง(2)
รูปท ี่ 2 Sarcos Exoskeleton จากโครงการวิจยั ช นั้ ส งู ด า้ นกลาโหม ของสหรัฐอเมริกา(5)
ความกา้ วหน้าด า้ นวทิ ยาศาสตร์ก ารแพทย์ในปจั จุบนั ได้ ช่วยให้มนุษย์มีอายุยืนมากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้สูงอายุ ผูป้ ว่ ย และผพู้ กิ าร ก็ม กั ม คี วามเสือ่ มถอยหรือก ารสญ ู เสีย ของอวัยวะต่างๆ และต้องการเทคโนโลยีจำเพาะเพื่อ สนับสนุนและเพิ่มค ุณภาพชีวิต ดังน ั้น นักวิทยาศาสตร์ จึงมีความพยายามสร้างอวัยวะซ่อมเสริมเติมสร้างหรือ อวัยวะเทียม (Artificial Organ) ขึ้น เพื่อแก้ปัญหา ดังก ล่าว ซึ่งมีการคาดการณ์ว ่าอวัยวะเทียมอาจมีมูลค่า ตลาดทั่วโลกสูงถึง 1.54 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2015(1) การสร้างอวัยวะเทียมมี 3 แนวทางคือ ทางหนึง่ ค อื การสร้างอวัยวะเทียมจากสารอนนิ ทรยี ์ เช่น หัวใจเทียมรนุ่ Jarvik-7 ซึง่ มกี ารผา่ ตัดฝงั ในรา่ งกาย มนุษย์เป็นค รัง้ แ รกตอ้ งอาศัยพ ลังงานภายนอกในการสบู ฉ ดี เลือด หรือม อื เทียมรนุ่ ใหม่ๆอย่าง i-LIMB ซึง่ อ าศัยส ญ ั ญาณ จากกล้ามเนือ้ ในการกระตนุ้ การเคลือ่ นไหว โดยสามารถ ทำงานละเอียดออ่ นได้ดี เช่น การหยิบเลโก้ เป็นต้น แนวทางท่สี องคือ การปลูกเซลล์ต้นกำเนิดหรือ สเต็มเซลล์ (Stem Cell) บนโครงของวสั ดุสงั เคราะห์พเิ ศษ ทีจ่ ะสลายตวั ไปได้ในภายหลัง วิธนี ไ้ี ด้กลายแนวทางใหม่ใน การสร้างอวัยวะเทียม เช่น การสร้างจมูกและหเู ทียมจาก ส เต็มเซลล์ แต่ไปไกลกว่าน น้ั ก ค็ อื การสร้างและควบคุมอ วัยวะ ให้ม ลี กั ษณะโครงสร้างแบบเดียวกบั ท พ่ี บตามธรรมชาติ เช่น การเพาะเลีย้ งเซลล์กระเพาะปสั สาวะ เป็นต้น ความกา้ วหน้าล า่ สุดในวทิ ยาการดงั ก ล่าวนไ้ี ด้เกิดข น้ึ ในเดือนกรกฎาคมทผ่ี า่ นมา(2) โดยคณะแพทย์ในประเทศ สวีเดนประสบความสำเร็จเป็นค รัง้ แ รกของโลกในการผา่ ตัด นำ ‘หลอดลม’ (Trachea) ทีใ่ ช้สเต็มเซลล์ (รูปท่ี 1) ซึง่ ส กัด มาจากเซลล์ในไขสันหลังของผปู้ ว่ ยและนำมาเลีย้ งอยู่บน
: 48
Horizon08.indb 48
1/27/12 2:00:53 PM
โครงหลอดลมเทียมให้กบั ผ้ปู ว่ ยรายหนึง่ โดยไม่มีการ ปฏิเสธอวัยวะเป็นผลขา้ งเคียงหลังการผา่ ตัด เนือ่ งจากใช้ เซลล์จากผปู้ ว่ ยเอง ซึง่ จากความสำเร็จดงั กล่าวทำให้เกิด ความหวังวา่ นา่ จะทำได้กบั อวัยวะอกี หลายแบบ นอกจากนไ้ี ด้ม งี านวจิ ยั ท ส่ี ามารถสร้างสเต็มเซลล์ ผูป้ ว่ ยขน้ึ ใหม่จากเซลล์อน่ื ๆ เช่น เซลล์ผวิ หนัง โดยอาศัย การใส่ DNA เพียง 4 ชิน้ เข้าไปในเซลล์เท่านัน้ (3) แม้ความ สำเร็จด งั ก ล่าวยงั เป็นร ะดับก ารทดลอง แต่ก ค็ าดหวังก นั ว า่ ในอนาคตอาจกลายเป็นว ธิ หี ลักในการนำสเต็มเซลล์ผ ปู้ ว่ ย มาใช้กเ็ ป็นได้ เพราะเซลล์ผวิ หนังเป็นเซลล์ทห่ี างา่ ยเมือ่ เทียบกบั การคดั แยกสเต็มเซลล์จากไขสันหลัง นอกจากการทดแทนดว้ ยอวัยวะจริงแ ล้ว อุปกรณ์ ไฮเทคทม่ี จี ดุ ห มายเริม่ ต น้ ในทางทหาร ก็อ าจจะกลายเป็น ‘อวัยวะ’ ทดแทนได้เช่นกนั เช่น อุปกรณ์จำพวก โครง กระดูกภ ายนอก (Exoskeleton) ทีป่ ระกอบดว้ ยโครงสร้าง โลหะหรือวัสดุผสม ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และระบบ ไฮดรอลกิ ก็ชว่ ยให้คนสามารถทำสง่ิ ทค่ี นปกติทำไม่ได้ เช่น ซาร์คอส (Sarcos)(4) (รูปท่ี 2) ซึง่ เป็น exoskeleton ที่ก้าวหน้าท่สี ุดของสำนักงานโครงการวิจัยช้นั สูงด้าน กลาโหมของสหรัฐอเมริกา (DARPA) สามารถทำให้ท หาร ยกนำ้ หนักราว 100 กิโลกรัม โดยใช้ความพยายามนอ้ ย มาก อีกทง้ั มคี วามยดื หยุน่ ของการเคลือ่ นไหวสงู มาก นักวจิ ยั ญป่ี นุ่ กส็ นในเรือ่ งนีเ้ ป็นอย่างมากเช่นกนั ชุดสทู หนุ่ ยนต์ฮลั (HAL, Hybrid Assistive Limb)(6) ของ ดร.ซังไค โยชยิ กุ ิ (Sakai Yoshiyuki) แห่งมหาวทิ ยาลยั ซึคบุ ะท่อี อกแบบให้ผ้มู ีปญ ั หาเกีย่ วกบั แขนขาได้ใช้งาน รุน่ ลา่ สุด HAL5 (รูปที่ 3) สามารถยกน้ำหนักได้ถงึ 150 กิโลกรัม โดยรับคำสัง่ ตรงจากกล้ามเนือ้ ของผูใ้ ช้
รูปที่ 3 Hal-5 ชุดสูทหุ่นยนต์ของญี่ปุ่นช่วยการทำงานของผู้ที่ มีปัญหาเกี่ยวกับแขนขา(7) ที่มา: 1.http://www.prweb.com/releases/2011/1/ prweb8052236.htm 2.http://www.bbc.co.uk/news/health-14047670 3.http://circ.ahajournals.org/content/122/5/517.full 4.http://www.youtube.com/watch?v=IYWd2C3XVIk 5.http://wearetopsecret.com/2009/12/sarcos/ 6.http://www.youtube.com/watch?v=G4evlxq34ogl 7.http://www.techcom21.com/hitech/?p=5139
49 :
Horizon08.indb 49
1/27/12 2:00:53 PM
Sสลิลcience media ทิพย์ ทิพยางค์
Food, Inc. ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสำหรับผ ู้บริโภค (ไม่) นิยม
Food, Inc. เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ ค่อนข้างมาก เพราะเนื้อหาท้าทายบริษัทยักษ์ใหญ่ หลายบ ริ ษั ท ที่ ค วบคุ ม ตั้ ง แต่ เ มล็ ด พั น ธุ์ อ าหารสั ต ว์ จนถึงการจำหน่ายเนื้อสัตว์ในซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัทที่ ถูกพาดพิง ได้แก่ Tyson Food (บริษัทเลี้ยง ชำแหละ และจำหน่ายเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก) Monsanto Company (บริษทั อ เมริกนั ท เี่ ป็นผ นู้ ำในเรือ่ งเมล็ดพ นั ธุ์ ดัดแปลงทางพันธุกรรม) Smithfield Foods (บริษัทที่ จำหน่ายเนือ้ ส กุ รและผลิตภัณฑ์จ ากเนือ้ ส กุ รทใี่ หญ่ท สี่ ดุ ในโลก และ Perdue Farms (บริษัทที่เลี้ยง ผลิต และ จำหน่ายเนื้อไก่ ไข่ไก่ และผลิตภัณฑ์จ ากไก่ที่ใหญ่ที่สุด ในสหรัฐอเมริกา) เมือ่ เราตงั้ ค ำถามวา่ อ าหารทเี่ ราบริโภคนมี้ าจาก ไหน ใครเป็นเจ้าของ และมนั ถ กู ผ ลิตม าอย่างไร เรากต็ อ้ ง ไปแกะรอยทมี่ าของอาหาร ซึง่ อ าหารแปรรูปห ลายอย่าง ที่คนไทยบริโภคอยูท่ ุกวันนี้ โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป และน้ ำ อั ด ลมห ลายช นิ ด ที่ ผ ลิ ต โ ดยบ ริ ษั ท ยั ก ษ์ ใ หญ่ สัญชาติอเมริกัน มีส่วนผสมที่ได้มาจากการนำข้าวโพด มาแปรรูปอย่างชาญฉลาด ข้าวโพดจัดเป็นอาหารที่สำคัญอย่างยิ่งของโลก เพราะเป็ น แ หล่ ง ค าร์ โ บไฮเดรตแ ละโ ปรตี น ที่ ส ำคั ญ สามารถเก็บไว้ได้นาน นำมาสกัดเป็นแป้งและเป็น วัตถุดิบในการสกัดสารปรุงแต่งอาหารได้หลากหลาย ชนิด ที่ดิน 30 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐอเมริกาถูกใช้ไป ในการปลูกข้าวโพด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลสหรัฐ อเมริกาที่กำหนดราคาข้าวโพดในท้องตลาดถูกกว่า ต้นทุนการผลิตจริง แต่ก็ยังสามารถทำให้เกษตรกร อยู่รอดได้ บริษัทใหญ่ในวงจรธุรกิจอาหารของสหรัฐ อเมริกามกี ำไรจากการซอื้ ข า้ วโพดในราคาถกู ก ว่าต น้ ทุน การผลิต ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบของอาหารเลี้ยงสัตว์และ การสกัดแปรรูปอาหารต่างๆ ที่สามารถกักตุนได้ การทขี่ า้ วโพดมรี าคาถกู ท ำให้เนือ้ ส ตั ว์ม รี าคาถกู ลง คนอเมริกนั โดยทวั่ ไป 1 คน บริโภคเนือ้ ส ตั ว์ม ากกว่า 200 ปอนด์ต่อปี ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ไม่ได้เลยหากไม่มี ธัญพืชราคาถูกไว้เลี้ยงสัตว์ ในสหรัฐอเมริกาข้าวโพดที่ขายต่ำกว่าราคาทุน จากฟาร์มจะต้องถูกลำเลียงโดยรถไฟไปยังทุ่งปศุสัตว์ ที่ มี ก ระบวนการใ ห้ อ าหารแ บบเ ข้ ม ข้ น (CAFO – Concentrated Animal Feeding Operations) ธรรมชาติ ของวัวนั้นกินหญ้า แต่คนเลี้ยงวัวด้วยข้าวโพดเพราะ ข้าวโพดมีราคาถูกและทำให้ว ัวอ้วนเร็วกว่าก ินหญ้า : 50
Horizon08.indb 50
ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งสมมุติฐานว่าการให้วัวกิน ข้าวโพดในปริมาณมากๆ อาจทำให้แบคทีเรียอีโคไล (Escherichia coli, E. coli) ในววั ก ลายพนั ธุเ์ ป็นเชือ้ ส าย พันธุท์ ี่มีอันตรายมากขึ้น ในที่นี้คือ E. coli 0157:H7 การให้อาหารแบบรางที่เท้าวัวจมอยู่ในกองมูลทั้งวัน ถ้าวัวต ัวใดได้รับเชื้อ ตัวอ ื่นๆ ก็จ ะติดไปด้วย เมื่อวัวถูก นำไปยังโรงฆ่าสัตว์ ผิวหนังข องวัวกจ็ ะเปรอะไปด้วยมูล เชือ้ จ งึ ถ กู แ พร่ไปเรือ่ ยๆ มีก ารเรียกเก็บเนือ้ ว วั บ ดสำหรับ ทำแฮมเบอร์เกอร์จากผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกาหลายครั้ง เนือ่ งจากมี E. coli 0157:H7 ปนเปือ้ น และมผี เู้ สียช วี ติ จากการบริโภคเนื้อที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อนี้แล้วหลายราย ประเทศไทยมพี นื้ ทีป่ ลูกข า้ วโพดทใี่ ช้ในการเลีย้ ง สัตว์กว่า 7 ล้านไร่ในปี 2553 และส่วนใหญ่เป็นวิธี การปลูกแบบหนาแน่น (Intense Farming) ซึ่งต ้องพึ่ง สารเคมี ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลงและวัชพืช หากภาพยนตร์ เรื่องนี้จะทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้ออาหารที่ได้มา จากการทำ ‘การเกษตรและการเลี้ยงสัตว์แบบอินทรีย์’ (Organic) มากขนึ้ ก อ็ าจจะเป็นผ ลพลอยได้ท ดี่ ี แนวโน้ม การเติบโตของสินค้าเกษตรอินทรีย์มีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสอดรับกับกระแสโลกที่มีการตื่นตัวเรื่องสุขภาพ และสงิ่ แ วดล้อมมากขนึ้ มูลค่าก ารตลาดของอาหารและ เครื่องดื่ม Organic ทั่วโลกในปี 2553 อยู่ที่ 27.1 พัน ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2552 ในปี 2551 ประเทศไทยมมี ลู ค่าก ารสง่ อ อกสนิ ค้าเกษตร อินทรีย์ประมาณ 36 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นการ ส่งอ อกข้าวอินทรีย์เป็นส ่วนใหญ่ แง่คิดอีกมุมหนึ่งที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ทุกว นั น อี้ าหารทมี่ แี คลอรีส่ งู แ ต่ค ณ ุ ค่าท างโภชนาการตำ่ มีร าคาต่ำ (แฮมเบอร์เกอร์ห นึง่ ช ิ้นราคา 0.99 ดอลลาร์) ในทางกลับกัน อาหารทใี่ห้แคลอรี่ต่ำ และมีคุณค่าท าง โภชนาการสูง เช่น มีไฟเบอร์หรือวิตามินสูง กลับมี ราคาค่อนข้างสูง (ผักบร็อคโคลีหนึ่งหัวมีราคาสูงเท่า แฮมเบอร์เกอร์ 3 ชิ้น) ครอบครัวที่มีฐานะยากจนจึง เลือกกินอาหารที่มีแคลอรีสูง ก่อให้เกิดปัญหาโรคอ้วน และโรคเบาหวานในประชากรทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่เป็น เช่นน เี้พราะการผลิตอ าหารประเภทแป้งแ ละน้ำตาลผูก ติดกับนโยบายอาหารและการเกษตรของสหรัฐอเมริกา ทีส่ นับสนุนผ ลิตภัณฑ์ท มี่ าจากพชื ผ ลหลักๆ คือ ข้าวโพด สาลี ข้าวโพด และถวั่ เหลือง ทำให้ต น้ ทุนก ารผลิตอ าหาร เหล่านี้มีราคาถูกกว่าผ ักและผลไม้ จากภาพยนตร์เรื่อง Food, Inc. ประเทศไทย ควรหันมาขบคิด เช่นการผลิตอาหารทั้งในภาคเกษตร และอตุ สาหกรรมของเรานนั้ ก ำลังด ำเนินไปในทศิ ใด เรา มีความมั่นคงเรื่องอาหารมากน้อยเพียงใด แม้แต่ในแง่ ของรายบุคคล ก็ม ีคำถามที่ว่าอาหารที่คุณกำลังบ ริโภค อยูน่ มี้ ที มี่ าและขนั้ ต อนการผลิตอ ย่างไร ทัง้ ในดา้ นความ ปลอดภัย คุณค่าทางโภชนาการ และผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม จะดีหรือไม่หากคนไทยหันมาดูแลตัวเอง มากขึ้น และหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ 1/27/12 2:01:02 PM
สมัครสมาชิก ใบสมัครสมาชิก สมาชิกใหม่ เริ่มฉบับที่ ...................... ต่ออายุ ฉบับที่ ........................ อัตราค่าสมาชิก 1 ปี (4 ฉบับ 200 บาท) 2 ปี (8 ฉบับ 400 บาท) สถานที่จัดส่งวารสาร ชื่อ-นามสกุล................................................................. ตำแหน่ง.................................... ฝ่าย/แผนก......................... ชื่อหน่วยงาน............................................................................... ที่อยู่............................................................................ ........................................................................................................................... รหัสไปรษณีย์...................................... โทรศัพท์.....................................ต่อ............... โทรสาร............................................ อีเมล............................................ จัดส่งใบเสร็จรับเงินที่ ที่เดียวกับที่ส่งวารสาร ตามที่อยู่ด้านล่าง ชื่อ..................................................................................................................................................................................... ที่อยู่.................................................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................................................... วิธีการชำระเงิน โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนกรุงศรีอยุธยา บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 013-0-16014-8 และส่งใบสมัครพร้อมสำเนาหลักฐานการโอนเงินไปที่ คุณอภิชชยา บุญเจริญ ทางโทรสาร 0 2160 5438 ส่งใบสมัครมาที่ วารสาร Horizon สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ เลขที่ 319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 14 ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 0 2160 5432 โทรสาร 0 2160 5438 อีเมล horizon@sti.or.th
51 :
Horizon08.indb 51
1/27/12 2:01:03 PM
2 N Vol. o. 4
¡ÒÃÊÓÃǨà´Å¿‚
08
(Delphi Survey) ´Ã.Êتҵ ÍØ´ÁâÊÀ¡Ô¨
The 3 Futures of Thai Agriculture Vol. 2 Issue 8
เปนกระบวนการที่ถูกออกแบบมาเพื่อการศึกษาปญหาที่มีความซับซอน เปนวิธีหนึ่งในกระบวนการ มองอนาคตซึ่งพัฒนาโดย Olaf Helmer และ Norman Dalkey แหง RAND Corporation ในคริสต ทศวรรษที่ 1950 การสำรวจเดลฟเปนการสำรวจความเห็นจากผูเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวของกับประเด็นที่ทำการศึกษา เพื่อใหไดคำตอบที่นาเชื่อถือมากที่สุด โดยใหผูเชี่ยวชาญตอบแบบสอบถามชุดเดียวกันหลายครั้ง ในการสำรวจรอบที่หนึ่ง ผูตอบแบบสอบถามจะตอบคำถามพรอมขอคิดเห็นสวนตัวเกี่ยวกับคำถาม จากนั้นจึงคำนวณหาคาควอไทล (Quartile) ของคำตอบและรวบรวมขอคิดเห็นเพิ่มเติมของผูตอบเพิ่ม ลงในชุดแบบสอบถามรอบที่สอง พรอมสงคำตอบที่ไดในรอบแรกคืนใหผูตอบ ผู ต อบจะเปรี ย บเที ย บ คำตอบของตนกับผูเชี่ยวชาญทานอื่นและขอคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อตัดสินใจใหมวาจะยืนยันความคิดเดิม หรือจะเปลี่ยนใจ โดยมิตองเผชิญหนากับผูเชี่ยวชาญทานอื่น ความเห็นที่แตกตางจากความเห็นของคน สวนใหญมีความสำคัญไมยิ่งหยอนกวาความเห็นของคนสวนใหญ ผลการศึกษาหลายชิ้นระบุวาความเห็น ของสมาชิกที่ดีที่สุดของกลุมอาจไมตรงกับความเห็นของคนสวนใหญ ขอดีของการสำรวจเดลฟ ไดแก ผูตอบแบบสำรวจไมตองเปดเผยตนเอง (Anonymity) มีการปอน กลับการตอบแบบสำรวจโดยมีการควบคุม (Controlled Feedback) และสามารถตอบแบบสำรวจซ้ำได (Iteration) สวนขอจำกัด ไดแก เปนการยากที่จะกระตุนใหกลุมผูเชี่ยวชาญกระตือรือรนที่จะตอบแบบสำรวจ ไมมีปฏิสัมพันธโดยตรงระหวางกลุมผูเชี่ยวชาญ ใชเวลาและทรัพยากรตางๆ มากมาย การสำรวจเดลฟมีหลายประเภท เชน การสำรวจเพื่อศึกษาแนวโนมในอนาคต (Trend Delphi) การ สำรวจเพื่อแกปญหา (Problem Solving Delphi) การสำรวจเพื่อจัดทำนโยบาย (Policy Delphi) เปนตน ขั้นตอนในการสำรวจเดลฟประกอบดวย 1. เลือกประเด็นที่จะศึกษา 2. สรางชุดคำถามสำหรับแบบสำรวจ 3. เลือกกลุมผูเชี่ยวชาญที่จะมาตอบแบบสำรวจ 4. ใหกลุมผูเชี่ยวชาญตอบแบบสำรวจ 5. สรุปคำตอบและความเห็นจากทุกคนแลวสงผลกลับไปยังกลุมผูเชี่ยวชาญ 6. ใหผูเชี่ยวชาญไดทบทวนคำตอบของตนโดยพิจารณาคำตอบของผูเชี่ยวชาญทานอื่น 7. จัดทำสรุปจากคำตอบในรอบที่สอง 8. อาจมีการใหผูเชี่ยวชาญทำแบบสำรวจซ้ำ Real-time Delphi Survey เปนการสำรวจเดลฟที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยใชประโยชนจากอินเทอรเน็ต เพื่อชวยใหกระบวนการมีความรวดเร็วขึ้น สามารถสงแบบสำรวจไดในวงกวาง และอำนวยความสะดวก แกผูตอบแบบสำรวจ ·ÕèÁÒ : 1. ¾Å¾ÔºØŠʵҧ¤ ¾Ø²Ô (2552) ẺÊÓÃǨà´Å¿‚ (Delphi Surveys) ÈÙ¹¹Â ¤Ò´¡Òó à·¤â¹âÅÂÕàÍ໤ 2. Prctices: Delphi survey. FORwiki: bee a visionary. (available online at http://www.forwiki.ro/wiki/Practices:Delphi_survey)
ÃÒ¤Ò 50 ºÒ·