¨´ËÁÒ¢‹ Ò Ç
ÊÒÃѵ¶Ð
http://pinterest.com/smnorthey/green-scene/
ÁÔ ¶ Ø ¹ Ò¹ 2556
www.thaiyogainstitute.com
ÊÒÃѵ¶Ð ÊÒÃºÑ Þ
·Õ ่ » ÃÖ ¡ ÉÒ
¤Ø  ¡Ñ ¹ ¡‹ Í ¹
2
¡ÃÃÁ¡ÒÃ
»¯Ô · Ô ¹ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁà¤Ã× Í ¢‹ Ò Â
2
ธรรมะบำบั ด ความป ว ย...ได จ ริ ง หรื อ
http://www.dbadens.fr/galerie/index?/tags/18-plante
ของฉั น ...ป น เป น บุ ญ ประมวลธรรมประมวลรั ก
1
àÃ× ่ Í §àÅ‹ Ò ¨Ò¡ÍÔ ¹ à´Õ  ¨Ò¡à¾× ่ Í ¹¤ÃÙ สายลมในแสงแดด
¾ÃÐäµÃ» ® ¡á¡‹ ¹ ¸ÃÃÁ
5 6 6 7 12
สั ง ยุ ต ตนิ ก าย สฬายตนวรรค ทุ ก ขธรรมสู ต ร
14
การฝ ก ยมะด ว ยสั จ จะปฏิ ญ าณอั น ยิ ่ ง ใหญ
17
เด็ ก น อ ย
20
µÓÃÒâÂ¤Ð´Ñ ้ § à´Ô Á º·¡Å͹
กวี คงภั ก ดี พ งษ แก ว วิ ฑ ู ร ย เ ธี ย ร ธี ร เดช อุ ท ั ย วิ ท ยารั ต น นพ.ยงยุ ท ธ วงศ ภ ิ ร มย ศ านติ ์ นพ.สมศั ก ดิ ์ ชุ ณ หรั ศ มิ ์ กฤษณ ฟ ก น อ ย ชนาพร เหลื อ งระฆั ง ชุ ต ิ ม า อรุ ณ มาศ วรพจน คงผาสุ ข วรรณวิ ภ า มาลั ย นวล วิ ล ิ น ทร วิ ภ าสพั น ธ สมดุ ล ย หมั ่ น เพี ย รการ
ÊÓ¹Ñ ¡ §Ò¹
พรทิ พ ย อึ ง คเดชา วั ล ลภา ณะนวล สุ จ ิ ต ฏา วิ เ ชี ย ร
¡Í§ºÃÃ³Ò¸Ô ¡ ÒÃ
จิ ร วรรณ ตั ้ ง จิ ต เมธี ณั ต ฐิ ย า ป ย มหั น ต ณั ฏ ฐ ว รดี ศิ ร ิ ก ุ ล ภั ท รศรี ธนวั ช ร เกตน ว ิ ม ุ ต ธี ร ิ น ทร อุ ช ชิ น พรจั น ทร จั น ทนไพรวั น วิ ส าขา ไผ ง าม วี ร ะพงษ ไกรวิ ท ย ศั น สนี ย นิ ร ามิ ษ สุ จ ิ ต ฏา วิ เ ชี ย ร
ÈÔ Å »¡ÃÃÁ
กาญจนา กาญจนากร
ÊÒÃѵ¶Ð
¤Ø  ¡Ñ ¹ ¡‹ Í ¹
ยางเขาเดือนหก ฝนก็ตกพรำ ๆ...เราเรียนรูฤดุกาลผานบทเพลง แตเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนฤดูกาล กลับแปรปรวนเพราะโลกใบนี้กำลังพยายามปรับตัวใหอยูในสภาวะที่เรียกวา “สมดุล” ดังนั้นแลวเมื่อมนุษย ใชทุกสิ่งอยางในธรรมชาติอยางขาดความเอื้ออาทร ธรรมชาติก็พยายามดีดตัวเองอยางสุดโตง เพื่อเรียกรอง หาความพอดี มีขาวฝากบอกถึงเพื่อนสมาชิกทุกทาน ที่รับขอมูลขาวสารจดหมายขาวสารัตถะผานทางไปรษณีย เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและปจจัยบางประการ สงผลใหทางสถาบันฯ มีความจำเปนขอปรับงบสนับสนุน ขึ้นเปนปละ 250 บาท ซึ่งทานจะไดรับจดหมายขาวเดือนละ 1 ฉบับ เปนระยะเวลา 12 เดือน (เฉลี่ย เดือนละ 21 บาท โดยประมาณ) โดยเริ่มตั้งแต 1 มิถุนายน 2556 เปนตนไป สำหรับทานที่สงสัยวา อายุสมาชิกของทานจะทราบไดดวยวิธีใด ทานสามารถสังเกตวันที่ไดจาก สติ๊กเกอรจาหนาชื่อผูรับ ซึ่งจะมีการวงเล็บวันสุดทายของสิทธิ์การรับขาวสารทางไปรษณีย ทานใดที่สนใจ รับขาวสารทางไปรษณียหรือตออายุสมาชิก สามารถติดตอไดที่ นองกลอย สถาบันโยคะวิชาการ
http://pinterest.com/apconsulting/rain-water-effect/
»¯Ô · Ô ¹ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ â¤ÐÍÒÊ¹Ð¢Ñ ้ ¹ ¾× ้ ¹ °Ò¹à¾× ่ Í ¤ÇÒÁÊØ ¢ ÊÓËÃÑ º ¼Ù Œ à ÃÔ ่ Á µŒ ¹ ÇÑ ¹ ÍÒ·Ô µ  · Õ ่ 23 ÁÔ ¶ Ø ¹ Ò¹àÇÅÒ 9.00 – 15.00 ¹.
ที่ชั้น 6 หอง 262 คณะมนุษยศาสตร มศว ประสานมิตร คาลงทะเบียน 650 บาท สนใจโทร.สอบถามรายละเอียดไดที่ สถาบันโยคะวิชาการ â¤Ðã¹Êǹ¸ÃÃÁ ³ Ëͨ´ËÁÒÂà赯 ¾ Ø · ¸·ÒÊ ¿ÃÕ ·Ø ¡ àÂ็ ¹ ÇÑ ¹ ¾Ø ¸ áÅÐ ¾ÄËÑ Ê àÇÅÒ 17.00 – 18.30 ¹. áÅÐ ÇÑ ¹ àÊÒà · Õ ่ 22 ÁÔ ¶ Ø ¹ Ò¹ àÇÅÒº‹ Ò Â 2– 4 âÁ§àÂ็ ¹
รวมสมทบคากิจกรรมไดดวยการบริจาค ลงทะเบียนรวมกิจกรรมไดที่ www.bia.or.th
â¤ÐÊÃŒ Ò §ÊØ ¢ ³ ËŒ Í §ÍÒÈÃÁÊØ ¢ ÀÒÇÐ ÊÊÊ ·Ø ¡ ÇÑ ¹ ¾ÄËÑ Ê àÇÅÒ 17.00 – 18.30 ¹. áÅÐ ÇÑ ¹ àÊÒà àÇÅÒ 10.30 – 12.00 ¹.
สำรองที่เขารวมกิจกรรมไดที่ activity.thc@thaihealth.or.th หรือ โทร.02 343 1500 ตอ 2 และ 081 731 8270
2
ÊÒÃÑ µ ¶Ð ͺÃÁ¤ÃÙ â ¤Ðà¾× ่ Í ¡ÒÃ¾Ñ ² ¹Ò¨Ô µ ËÅÑ ¡ ÊÙ µ à 230 ªÑ ่ Ç âÁ§ ÃØ ‹ ¹ ·Õ ่ 13 à» ´ ÃÑ º ÊÁÑ ¤ ÃáÅŒ Ç ª‹ Ç §àÇÅÒͺÃÁ: 10 กรกฎาคม ถึง
2 พฤศจิกายน 2556 àÃÕ Â ¹: เย็นวันจันทร พุธ และพฤหัส วันเสารเต็มวัน สถานที่เรียน: คณะมนุษยศาสตร มศว สุขุมวิท 23 เปาหมายของการอบรม : 1 ผูเรียนไดฝกปฏิบัติโยคะพื้นฐานอยางสม่ำเสมอ จนเปนสวนหนึ่งของวิถีชีวิต 2 ไดศึกษาโยคะตามตำราดั้งเดิม ตลอดจนเรียนวิชาที่เกี่ยวของ เชน สรีระวิทยา ประวัติศาสตรโยคะ ปรัชญาอินเดีย ทัศนะชีวิต 3 สามารถเผยแพร การปฏิบัติโยคะเพื่อพัฒนาจิต ใหกับผูอื่นได • ฝกปฏิบัติ ทาอาสนะพื้นฐาน ปราณายามะ มุทรา พันธะ กิริยา ตามตำราดั้งเดิม • เขาเรียนไมต่ำกวารอยละ 80 • เขาคายวิถีโยคะ1ครั้งและคายกิริยาโยคะ1ครั้ง • เรียนรูทัศนะชีวิต ผานกิจกรรม และเขียนบันทึกการทำความดีทุกวันตลอดชวงการ อบรม • ฝกสอนเทคนิคโยคะพื้นฐาน 20 นาที ตอนปลายภาค • เรียนวิชา สรีระวิทยาของเทคนิคโยคะ, ตำราโยคะดั้งเดิม, ประวัติศาสตรโยคะ, ปรัชญาอินเดีย และสอบขอเขียนผาน • ผูเรียนเลือกทำรายงาน หรือวิจัย ในหัวขอที่ตนสนใจ สงตอนปลายภาค พรอมรายงานหนาชั้น ไมเกิน 20 นาที • ทำการบาน เขียนสรุปเนื้อหาจากหนังสือเรียน 14 เลม • ผูที่ผานเกณฑการอบรมจะไดรับประกาศนียบัตร จากทางสถาบันฯ ÃÑ º ¨Ó¹Ç¹¨Ó¡Ñ ´ : 24ทาน ¤‹ Ò Å§·ÐàºÕ  ¹ : 39,900บาท / คนตลอดหลักสูตร
3
»¯Ô · Ô ¹ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ µÒÃÒ§¡ÒÃͺÃÁ ÇÑ ¹
àÇÅÒ
ÃÒÂÅÐàÍÕ Â ´
10 ¡.¤.
17.30-19.30 ¹.
»°Á¹Ô à ·È ·Õ ่ ÁÈÇ.
12-13-14 ¡¤.
¤‹ Ò Â 3 ÇÑ ¹ 2 ¤× ¹
¤‹ Ò ÂÇÔ ¶ Õ â ¤РÊǹ¸ÃÃÁÏ »·Ø Á ¸Ò¹Õ
15 ¡¤ – 2 ¾Â ¨.¾.¾Ä Ê. ·Õ ่ ÁÈÇ.
17.30-19.30 ¹. 8.00-11.00 ¹. 12.00-15.30
½ƒ ¡ »¯Ô º Ñ µ Ô Í ÒʹР»ÃÒ³Ò ÁØ · ÃÒ¾Ñ ¹ ¸Ð àÃÕ Â ¹·ÄÉ®Õ
23-24-25 ʤ. ¤‹ Ò Â 3 ÇÑ ¹ 2 ¤× ¹
¤‹ Ò Â¡Ô Ã Ô Â Ò ºŒ Ò ¹¡Ò¹¹Ô Ê Ò ºÒ§ºÑ Ç ·Í§
7-25 µ¤. ¨Ñ ¹ ·Ã ¾Ø ¸ ¾Ä àÊÒÃ
17.30-20.00 8.00-11.00
½ƒ ¡ Ê͹»¯Ô º Ñ µ Ô ¹ÒàʹͧҹÇÔ ¨ Ñ Â
26 µ.¤.-2 ¾Â ¨Ñ ¹ ·Ã ¾Ø ¸ ¾Ä àÊÒÃ
17.30-20.00 8.00-12.00
Êͺ·ÄÉ®Õ ¢Œ Í à¢Õ  ¹
หมายเหตุ ตารางอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
ÊÒÃѵ¶Ð
¤ÃÙ ¼ Ù Œ Ê Í¹
วิทยากรหลักของหลักสูตรคือ ครูฮิโรชิ และ ครูฮิเดโกะ ไอคาตะ สามีภรรยาชาวญี่ปุน ผูรักอิสระและใฝเรียนรู ซึ่งทานไดพำนักอยูที่ ประเทศอินเดียกวา 20 ป และทีมวิทยากรรวม จากสถาบันโยคะวิชาการ ¡ÒÃÊ͹ÊÔ ้ ¹ ÊØ ´ ¡ÒÃàÃÕ Â ¹ÃÙ Œ à ÃÔ ่ Á µŒ ¹
ดังนั้นไมวาคุณจะสนใจโยคะดวยเหตุผล ใด ไมวาสภาพรางกายและจิตใจของคุณจะเปน อยางไร สถาบันโยคะวิชาการเปดพื้นที่การ เรียนรู ที่จะชวยใหโอกาสคุณ ไดใชศักยภาพ ในการสืบคนถึงปญญาภายในตน ภายใต บรรยากาศการเรียนรูที่อิ่มเอมแวดลอมไปดวย กัลยาณมิตรทางธรรม ดวยจิตกรุณาเปดกวาง บนความเทาเทียมและไมแบงแยก และเมื่อ การสอนสิ้นสุดลง การเรียนรูของคุณจะเดินทาง ตอไปไดดวยตัวของคุณเอง และกลับมาชวยกัน เปนกำลังสำคัญ ในการนำสาสนแหงโยคะนี้ สืบทอดสูยุวชนรุนตอไปไดอยางสมบูรณ à¤Å็ ´ ÅÑ º ÊÙ ‹ ¤ ÇÒÁÊÓàÃ็ ¨
เคล็ดลับความสำเร็จ ที่บรรดาครู ทางจิตวิญญานแนะนำไว เพียงสองประการ หลักๆ คือ การฝกอยางตอเนื่อง และใหเปนไป ดวยความละวาง ดวยหลักสูตรที่ถูกออกแบบ ปรับปรุง และจัดวางใหผูเรียน มีโอกาสฝก อยางสม่ำเสมอสัปดาหละ 4 วัน ตลอดระยะ เวลา 3 เดือน เพื่อเอื้อใหผูเรียนสามารถ ผนวกโยคะเขาเปนสวนหนึ่งของวิถีชีวิตไดใน เบื้องตน
ซึ่งเปนหนทางที่ผูฝก จะหยั่งรูถึง คุณคาแหงโยคะไดอยางกลมกลืนกับสภาพสังคม ในปจจุบันอยางลงตัว ¤ÇÒÁ¤Ô ´ àË็ ¹ ¨Ò¡¼Ù Œ ¼ ‹ Ò ¹¡ÒÃͺÃÁ
• ทำไมถึงเลือกเรียนหลักสูตรโยคะพัฒนาจิต ของ สถาบันโยคะวิชาการ เพราะตอบโจทยไดตรงประเด็นเกี่ยวกับ การสอนโยคะเพื่อเปนพื้นฐานเขาสูสมาธิ ทฤษฏีที่เขมขน ซึ่งเปนพื้นฐานเบื้องตน สำหรับการกาวเขาสูอาชีพครูโยคะ ขณะเดียวกันการฝกปฏิบัติก็เขมขนไมแพกัน โดยเฉพาะ ปราณายามะที่ ที่อื่นไมมี • ความแตกตางของหลักสูตรครูโยคะเพื่อการ พัฒนาจิต - การวางเนื้อหาหลักสูตรที่ชัดเจน -ทฤษฏีที่เขมขน (Intensive Theory) - ความใสใจของครูผูสอน พอแบบ และแมแบบ สรางความหัวใจแหงความเปนครู (Teacher with heart and soul) - การปลูกฝงความรับผิดชอบ และการมีวินัยตอตัวเอง - กัลยาณมิตร (รุนพี่กับรุนนอง) (A true and kind-hearthed friendship) - สรางคุณครูนักคิด และนักวางแผน (Thinking and Planning) ความคิดเห็นของ หนึ่ง หลักสูตรครูโยคะ เพื่อการพัฒนาจิต รุน 12
4
ÊÒÃѵ¶Ð วันอาทิตยที่ 16 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00-16.00 น. ณ อาคารเอนกประสงค ชั้น 2 ศูนยฝกอบรม ปญญธารา สถาบันการจัดการปญญาภิวัฒน ธาราพารค ถ.แจงวัฒนะ
08.30-09.00 น. ลงทะเบียน 09.00-11.00 น. ฝกเจริญสติภาวนา และธรรมบรรยายเพื่อเกื้อกูลตอความปวย โดย พระอาจารยประสงคปริปุณฺโณ อดีตเจาอาวาสวัดปาชิคาโก 11.00-12.00 น. ฝกโยคะภาวนาเพื่อลมหายใจ อยางเปนสุข โดย ครูดล เครือขายชีวิตสิกขา 12.00-13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน มังสวิรัติ (โดยเจาภาพจัดเตรียมตอนรับทุกทาน) 13.00-15.30 น. สุขกาย ใจสงบ สยบมะเร็ง โดย พญ.รุจิรา มังคละศิริ จากสาธารณสุข จังหวัด นครราชสีมา 15.30-16.00 น. สรุป ธรรมบำบัดความปวย ไดจริงหรือ? และรับพร โดย พระอาจารยประสงค ปริปุณฺโณ อดีตเจาอาวาสวัดปาชิคาโก การอบรมครั้งนี้เปนธรรมทาน ฟรี ไมมีคาใชจาย เหมาะสำหรับผูปวย, ผูดูแลผูปวย และผูที่สนใจทั่วไป หองอบรมเปนหองปรับอากาศ กรุณาเตรียมผาพันคอหรือผาคลุม แตงกายตาม ปกติไมจำเปนตองเปนชุดขาว สามารถลงทะเบียนออนไลนเพื่อรวมอบรม ธรรมะบำบัดความปวยไดจริงหรือ 4 ไดที่ https://docs.google.com/forms/d/1mpr2WTM6 OfMs_4IfLEmq1cCGpw0Tmr5vR7tKHTjT3nU/vi ewform การลงทะเบียนจะสมบูรณเมื่อทานกดปุม สง / Submit โดยจะมีขอความยืนยันวา ธรรมะ บำบัดความปวย...ไดจริงหรือ? ครั้งที่ 4
5
http://pictures.4ever.eu/love/hearts/heart-in-hands-138170
»˜ Þ Þ¸ÒÃÒ Ã‹ Ç Á¡Ñ º à¤Ã× Í ¢‹ Ò ÂªÕ Ç Ô µ ÊÔ ¡ ¢Ò ¢ÍàªÔ Þ ¼Ù Œ Ê ¹ã¨·Ø ¡ ·‹ Ò ¹à¢Œ Ò Ã‹ Ç Á¡ÒÃͺÃÁ “¸ÃÃÁÐºÓºÑ ´ ¤ÇÒÁ»† Ç Â...ä´Œ ¨ ÃÔ § ËÃ× Í ?” ¤ÃÑ ้ § ·Õ ่ 4
¡Ô ¨ ¡ÃÃÁà¤Ã× Í ¢‹ Ò Â
ทานได ลงทะเบียนเรียบรอยแลว Your response has been recorded. หากทานมีความจำเปนตองยกเลิก ภายหลังจากลงทะเบียนไปแลวโปรดแจงกลับที่ Email address:jivitasikkha@gmail.com กรณีมีความสงสัยสามารถสอบถามขอมูลไดที่ (087)-678-1669, (089)-983-4064 และ (087)-718-9555 การเดินทางรถประจำทางสายที่ผานสาย 52,150, 358, รถปรับอากาศสาย ปอ.166 รถตูอนุสาวรีย-ปากเกร็ด, มีนบุรี-ปากเกร็ด, ม.รามคำแหง-ปากเกร็ด, ฟวเจอรปารครังสิตปากเกร็ด ดาวนโหลดแผนที่การเดินทางไดที่ http://www.pim.ac.th/download/finish/53 /171/0
ÊÒÃѵ¶Ð »˜ ¹ ¹ํ ้ Ò ã¨ã¹â¤Ã§¡Òà “¢Í§©Ñ ¹ ...»˜ ¹ ໚ ¹ ºØ Þ ”
http://allacheban.blogspot.com/
ของรักของชอบใจของใชของสะสมหรือของดี ที่เปนของฉัน มารวมแบงปนเพื่อแปรเปลี่ยน เปน...บุญ มูลนิธิพันดาราขอเชิญทานผูมีจิตเมตตา รวมแบงปนสิ่งของเสื้อผาหรือของใชที่ยังอยูในสภา พดีเพื่อนำไปเปลี่ยนใหเปนบุญโดยการประมูลหรือ จำหนายรวม หาทุนในการกอสราง พระศานติตารามหาสถูป สถานปฏิบัติธรรมและ พระสถูปเพื่อสันติภาพของสรรพชีวิต ทานสามารถ รวมบุญปนสิ่งของไดที่ มูลนิธิโดยตรงหรือสงทางไปรษณีย ถึงมูลนิธิพันดารา 695 ซอยลาดพราว 11 เขตจตุจักร กรุงเทพ 10900 สอบถามไดที่ 1000tara@gmail.com โทร 0878299387; 0833008119 สำหรับผูสนใจจะปนนํ้าใจ สำหรับกิจกรรมวันที่ 22 มิถุนายนกรุณาสงของใหถึงมูลนิธิในวันที่ 20 มิถุนายน หรือนำไปมอบใหที่ หอประชุมคณะครุศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ระหวางเวลา 16.00-18.00 น.
ÁÙ Å ¹Ô ¸ Ô ¾ Ñ ¹ ´ÒÃÒ ¢ÍàªÔ Þ Ã‹ Ç Á¿˜ § ¡ÒúÃÃÂÒÂáÅÐ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ¾Ô à ÈÉ “»ÃÐÁÇŸÃÃÁ»ÃÐÁÇÅÃÑ ¡ ” àËµØ à ¡Ô ´ ³ ä¡ÃÅÒÈ
วันเสารที่ 22 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00-17.00 น. หอประชุมคณะครุศาสตรจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย จัดโดยมูลนิธิพันดาราเครือขายและองคกรภาคี รวมกับศูนยจริยธรรมวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี คณะอักษรศาสตรจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ลงทะเบียน สนใจเขารวมกิจกรรมสงชื่อ-นามสกุลลงทะเบียนได ที่ 1000tara@gmail.com โทรศัพท 0878299387 (ปาตอย) 0833008119 (คุณใหม) ไมมีคาใชจายในการเขารวมกิจกรรมมีอาหารวาง บริการสามารถรวมบริจาคสนับสนุนกิจกรรม และทำบุญในโครงการพระมหาสถูปไดตามกำลัง ศรัทธา กำหนดการ ประมวลธรรมประมวลรัก - เหตุเกิดณไกรลาศ วันเสารที่ 22 มิถุนายน 2556 8.30 ลงทะเบียน 9.00 ภาวนาเพื่อรักและศานติ 9.15 ปาฐกถานำเรื่อง "ประมวลธรรมประมวลรัก" โดยอ.ประมวลเพ็งจันทร 10.30 พักและเยี่ยมชมบูธ 11.00 “ทงเลนบทภาวนาแหงความรัก” โดยอ.กฤษดาวรรณหงศลดารมภ 12.00 พักเที่ยงและเยี่ยมชมบูธ 13.00 ศิลปะภาวนาแหงมิตรภาพโดยอ.มิวเยินเต็นและอ.วร รณวิภามาลัยนวล 14.00 ดนตรีกับความรักโดยคุณเมธีจันทรา 14.30 พักอาหารวางเยี่ยมชมบูธ 15.00 เสวนาเรื่อง "เหตุเกิดณไกรลาศ" โดยอ.ประมวลเพ็งจันทรอ.กฤษดาวรรณหงศลดารม ภและคณะจาริกบุญ 17.00 จบกิจกรรม
6
ÊÒÃѵ¶Ð
ตอจากฉบับที่แลว ¤ÅÒʽƒ ¡ ÍÒʹÐ
เราฝกตอนเชาตรูหกโมงครึ่งกับตอนสี่โมงเย็น ที่ Saraswati Hallคะ การจัดที่นั่งจะแบงซีกซาย เปนผูชาย ซีกขวาเปนผูหญิง แลวเขาจะใหนักเรียน ตางชาติไดนั่งสามแถวดานหนาที่จริงเขามีเสื่อโยคะ ที่เปนยางวางไวใหแตคนสวนใหญก็จะมีผามาปูรอง ไว หรือเอาเสื่อโยคะของตัวเองมาดวย พอไดเวลา หกโมงครึ่งเปะก็เริ่มฝก ครูจะสวดมันตราเปนการ เริ่ม การเรียน โดยสวดหนึ่งประโยคแลวให นักเรียนสวดตามทีละประโยค จากนั้นก็เริ่ม ฝกอาสนะพื้นฐานซึ่งเราคุนเคยอยูแลวแตการฝก โยคะ ตอนเชาที่อากาศหนาวๆ นี่ตัวตึงสุดๆ เลย รูสึกถึงผิวหนังที่ขยายตัวออกโดยเฉพาะทาที่เหยียด ยืดหลัง รูสึกชัดถึงใตตนขา หลังเขาที่ตองเหยียด ออก เวลาอากาศหนาวๆ ตัวตึงๆ นี่เรารับรูเวทนา ไดชัดดีนะเนี่ยเตยวา ครูใหพวกเราทำอาสนะใน ทานอนหงาย นอนคว่ำ นั่ง และยืนคะ จบดวยทาศพ แปปเดียวหนึ่งชั่วโมงผานไป บางวันก็จะฝกกปาลภาติ อนุโลมวิโลมดวยนะคะ แลวแตครูจะจัดมา
7
àÃ× ่ Í §àÅ‹ Ò ¨Ò¡ÍÔ ¹ à´Õ Â
พอตอนสี่โมงเย็นเราก็มาฝกอีกหนึ่งชัวโมงคะ ก็เปน ทาพื้นฐาน อาสนะอาจจะตางกับตอนเชาเล็กนอย ตอนบายรางกายและขอตอของเรายืดหยุนมากกวา ตอนเชา แตที่สำคัญเราตองมีสติตระหนักรู กับสภาวะภายในรางกายเราจดจออยูกับลมหายใจ ที่ปลายจมูก ขณะที่เราฝกจะมีนักเรียนดิพโพลมา ทำทาตัวอยางใหดูหนาหองทั้งฝงผูชายและฝง ผูหญิง รวมถึงมาชวยจัดทาดวยบาง เพราะบางที เวลานอนคว่ำแลวฟงภาษาอังกฤษสำเนียงแขก มองไมเห็นรูปปากขณะพูดเลยฟงไมออกก็มีคะ ถาเราทำไมถูกตองก็จะมีครูกับนักเรียนดิพโพลมา คอยชวยดูและจัดทาให สบายมากคะ การฝกอาสนะชวงไมกี่วันนี้เตยรูสึกสบายเมื่ออยูใน ทา มีสติ นิ่ง ทำเทาที่เราทำได และใชแรงเทาที่ ควรจะตองใช แมจะมีความคิดผานมาวอบๆ แวบๆ บาง แตสวนใหญการฝกปฏิบัติเปนไปดวยดี ครูบอกวาพวกเราตองนั่งฟงบรรยายและนั่งสวด มนตนาน ดังนั้นอาสนะที่เลือกมาก็จะชวยเหยียดยืด จัดปรับสมดุล และผอนคลายความเกร็งตึงของ กลามเนื้อที่ตองคงตัวไวนานๆ พอจบการฝกทุกครั้ง ก็รูสึกเบา สบาย ผอนคลาย มีแรงกลับไปรวมพิธี บูชาไดนานๆ โดยไมตองเปลี่ยนทา สำหรับเตย
ÊÒÃѵ¶Ð เตยรูสึกดีและมีความสุขทุกครั้งที่ไดฝกอาสนะและ ปราณายามะที่หองนี้ เพราะเปนหองที่เราเคยเรียน มากอนปที่แลวเลยรูสึกผูกพันเปนพิเศษ คงเปน เหมือนความรูสึกของศิษยเกาเวลาไปเยือนโรงเรียน เกา และในคลาสก็มีอะไรใหเราเรียนรูตลอดเวลา ทั้งลักษณะทาทางของครู การเลือกใชเสียง การสาธิตทา ลวนแลวแตเปนประโยชนที่เตย จะนำเอาไปปฏิบัติและนำไปใชสอนนักเรียน สำหรับเตยนะ เตยวาที่ไกวัลมีอะไรใหเตยได เรียนรูเยอะมาก มีเสนหมากๆ ในเรื่องความเรียบ งายคือนี่เปนธรรมชาติของเขาไง เปนธรรมชาติ เปนธรรมดาแตตัวเราที่เจอการปรุงแตงมามาก ก็ใชเวลาเรียนรูและยอมรับตัวเองอยูนานจนคอยๆ ลอกลอนเอาเงื่อนไขที่มาพอกพูน (อยางหนา) ชีวิตออกไปทีละชั้นๆ รูสึกวาตัวเบาขึ้นเยอะเลย ใชชีวิตไดงายขึ้น สบายขึ้น เงื่อนไขนอยลงเยอะ เวิ่นเวิ้อนอยลงเยอะมาก ตอนกลับมาใหมๆ เพื่อนเพิ่งถามวาเมื่อไหรเตยคนเดิมจะกลับมา (แปรววว) เพราะเมื่อกอนเปนคนเยอะ ^^ เลยบอกเพื่อนไปวาพอขี่จักรยานเปนแลวจะใหกลับ ไปขี่ไมเปนอีกก็ไมรูจะทำยังไง ขอเปนแบบนี้ดีกวา ¤ÅÒʺÃÃÂÒÂ
อันนี้ไมคอยกลาเลาเลยเพราะสมอง สวนแปลภาษา ไมทำงานเลย เลยบอกครูฮิโรชิวา ทำไงดีคะครู หนูฟงบรรยายไมออกเลย บางคลาสพูดหนึ่งชั่วโมง ไมรูเรื่องไปสี่สิบหานาที มารูเรื่องเอาสิบหานาที หลัง ครูฮิโรชิเลยบอกวา ไมเปนไรๆ เขาพูดเรื่อง ปรัชญาอินเดีย ซึ่งตองมีองคความรูเดิมมาบาง ไมงั้นก็ตอไมติด แลวเรื่องที่บรรยายก็คอนขางยาก ดังนั้นไมตองคิดมาก แตยังโชคดีที่พอฟงโบกอลจี ออกบาง โบกอลจีเปนครูใหญของที่นี่ เตยเคย เรียนวิชา Yoga & Mental Health มาแลวเลยพอ จับคำไดบาง หลักๆ เลยโบกอลจีเลาวากริยาโยคะ สามารถชวยคนที่ระทมทุกขได เพราะกริยาโยคะ จะใหพลังใจที่จะไมตอบโตกับอารมณและความรูสึก ตางๆ สิ่งที่ตองทำเพียงแคเฝาดูตัวตนภายใน
ของเราเพื่อใหเกิดพลัง ซึ่งวิธีนี้จะเพิ่มเพลังให กับตัวเอง และปฏิบัติกริยาโยคะไดดีขึ้น นอกจากนี้กริยาโยคะยังมีพลังของการเยียวยา ซึ่งในสองสามวันแรกผูปฏิบัติอาจมีอาการปวดศีรษะ ซึ่งเปนสัญญาณของการชำระลางภายใน ขจัดความ ไมบริสุทธออกไปซึ่งเปนเชนเดียวกับการวิปสสนา นอกจากนี้โบกอลจียังบอกวาถาหากจิตกลับมาสู สภาวะปกติเราจะมีความสุข หากรับรูถึงความรูสึก ที่ไมนาพึงใจแตความรูสึกนั้นก็จะไมรบกวนใจใหเกิด ความโกรธขึ้นอีก ซึ่งทั้งหมดจะพาไปสูความเขาใจ ในการตระหนักรู เกิดความเติบโตภายใน ความคิด สรางรรค ความมั่นใจในตัวเอง การพึ่งพาตัวเอง ความเปนอิสระ มีขอแนะนำคือผูปฏิบัติควรพูดใหนอย ไมสะสมสิ่งที่เกินความจำเปน ไมคาดหวังจากผูอื่น ไมพึ่งพาอาศัยผูอื่น เปนตน สำหรับการฝก ปราณายามะ จะทำใหผูฝกรับรูตอสิ่งตางๆไดไวขึ้น และทำใหมีความเขมแข็งเปนการฝกตปส(มีวินัย อดทน) และสวาธยายะ(ศึกษาดานใน) จะทำใหเรา ลงลึกและใครครวญในความคิดและ อีศวรประณิธานะ(การอุทิศ) จะทำใหเรายอมรับ ความเปนจริงรอบตัว ในวันตอๆ ไปก็ยังมีวิทยากรทานอื่น มาบรรยาย โดยมีเนื้อหาที่เตยพอจับใจความไดบาง คือ เขาย้ำวาโยคะคือวิถีชีวิต เปนการปฏิบัติในชีวิต ประจำวัน มีผลงานวิจัยในวารสารโยคะมิมังสา เมื่อเดือนตุลาคม ปพ.ศ. 2467 (กวา 88 ป) ผลการวิจัยสรุปวาโยคีสามารถลดอัตราการเตนของ หัวใจลง มีบางสิ่งที่เกิดขึ้นอยางเปนนัยยะสำคัญ ในสมองในขั้นของสมาธิ ในขั้นสมาธิของโยคี สงผลตอทาง สรีรวิทยาและแสดงใหเห็นถึงการ ผอนคลายอยางลึกของระบบประสาทอัตโนมัติทั้งที่ ไมไดมีอาการงวงงุนหรือนอนหลับไป โยคีสามารถดูแลระบบประสาทอัตโนมัติผานการ กำกับตัวเองเพื่อควบคุมภายในจนเกิดสภาวะที่ สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นภายในรางกายได การทำสมาธินั้นเปนกระบวนที่เปนเอกลักษณ สามารถปรับเปลี่ยนโครงสรางสมองได
8
ÊÒÃѵ¶Ð
เกิดการเปลี่ยนแปลงการหลั่งสารเคมีในสมอง เขายกตัวอยางวาเมื่อเรารูตัววาสงจิตออกนอก จิตจะกลับมาอยูกับตัว ที่สำคัญยิ่งฝกมากเทาไหร จะยิ่งกาวหนามากขึ้นเทานั้น การทำเชนนี้จะลด กิจกรรมที่เกิดขึ้นในสมองสวนอารมณ (limbic system) ผลคือการโตตอบดวยอารมณก็จะลดลง ซึ่งหมายถึงผูปฏิบัติก็จะทุกขนอยลงดวย นอกจากนี้ยังมีการวิจัยเรื่องโยคะกับการจัดการ ความเครียด กลาวคือเมื่อคนเรามีความเครียด จะมีวิธีรับมืออยูสองประเภทคือตอสูกับถอยหนี หากผูปฏิบัติทำสมาธิจะเกิดความผอนคลาย ระบบประสาทอัตโนมัติพาราซิมพาเทติกซึ่งเปน ระบบผอนคลายจะทำงานเพิ่มขึ้น ตองอธิบายสักนิดวาระบบอัตโนมัติ อยูนอกเหนือการควบคุม เราไมสามารถสั่งงาน หัวใจเตนเร็ว-ชาไดการนั่งสมาธิโยคะทำจิตใจใหสงบ จะชวยใหมีผลตอตอมใตสมองที่เรียกวา ไฮโพทาลามัสที่ควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติทำให ระบบประสาทซิมพาเทติกทำงานลดลงและพาราซิมพาเทติกทำงานเพิ่มขึ้นดังนั้นผูที่มีปญหาดานความ เครียดตองพึงดูแลเรื่องสุขอนามัยที่ดีหมั่น ออกกำลังอยางเหมาะสม และบริหารความเครียด
9
มีการกลาวถึงการจัดการความเครียดดวยทา ศวาสนะหรือทาศพ ซึ่งพบวาใหผลดีมาก สามารถ ขจัดความเครียดไดอยางรวดเร็ว หัวใจจะเตนชา ลงดวย สำหรับโรคเบาหวาน ชนิดที่สองนั้น มีสาเหตุจากความเครียดเชนกัน อยางที่กลาวไป ขางตนวาการฝกโยคะสงผลตอไฮโพทาลามัส ควบคุมเรื่องการมีจิตจดจอ การตอบสนองตอ การผอนคลาย อยางไรก็ตามตองปฏิบัติอยาง ตอเนื่อง เชน แปดสัปดาห สิบเดือน และเกิดการ เปลี่ยนแปลงโครงสรางทางสมองในสวนของ คอรเท็กซและระบบลิมบิค นั่นหมายถึงการปฏิบัติโยคะ จะชวยในเรื่อง ความดันโลหิตสูง โรคหอบดวยเชนกัน ผูปฏิบัติ จะไดรับประสบการณวาตัวเองเปนดั่งจักรวาล เกิดสภาวะมีสติตระหนักรูอยางใครครวญ และคิด พูดทำดวยความสุขุม หากมีการตระหนักรู ทั้งกายและใจ พลังสุขภาพจิต การกำกับดูแลตนเอง การบริหารความเครียด ผูปฏิบัติจะสามารถรับมือ กับสถานการณตางๆ ไดดีขึ้น รับมือกับความ เครียดที่สูงขึ้นได อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนมุมมอง ที่มีตอตนเองในแงมุมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตลอดจนเกิด ความสงบ รูสึกถึงความเปนหนึ่งเดียวที่เกิดขึ้น
ÊÒÃѵ¶Ð ¤ÅÒÊ·Õ ่ ¡ Ø ¯ Ô
อยางที่บอกไวขางตนวา เราจะไดรวม พิธีบูชากัน สวดมันตราและโยคะสูตร รวมถึงฝก ปราณายามะดวย โดยหลักๆ สวามีก็ทำพิธีบูชา ซึ่งในคัมภีรฤคเวทยกลาวถึงการบูชาไฟซึ่งเปนพิธีกร รมที่เดนที่สุดเพื่อขอพรจากพระเปนเจาใหทรงมอบ ความสุขและความโชคดีใหแกผูที่บูชานั้นเครื่อง สังเวยที่ใชในการบูชาไฟของพราหมณคือบูชาดวย อาหารที่หุงตมแลวโดยจัดทำภายในบานประกอบ ดวยน้ำนมเมล็ดขาวเนยแข็งเหลาโสม (กลั่นจาก ตนไม) ดอกไมเปนตนเราก็จะสวดมันตราไปใน ขณะที่ทำพิธี เนื่องจากเตยพอสวดไดบางบท เลยรูสึกลื่นไหลพอสมควร อันไหนสวดไมไดก็ สังเกตการรวบคำของคนขางๆ จากตอนแรกๆ ที่รูสึกวาสวดอะไรเนี่ยไมเปนทำนอง ไมเขากันเลย ทั้งมึนทั้งงง แตพอวันตอๆ มาก็รูสึกวาคำเริ่ม เขาปากมากขึ้น ความกังวลลดลง จิตใจจดจอกับ บทสวดไดดีขึ้น และในบางบทที่ตองสวดซ้ำ ไปซ้ำมาเกือบรอยรอบก็ทำใหตัดความคิดออกไป อยูแตกับการสวด กับคลื่นเสียง กับความสั่น สะเทือนที่เกิดขึ้นในรางกายเทานั้น ทำใหรูสึกสงบ จิตสงบใจไดดี ตองบอกวาเตยเองไมมีอาการปวดศีรษะเลย แตในวันทายๆ เตยมีอาการอื่นคือหงุดหงิด เหมือนรูสึกสั่นๆ เหมือนมีอะไรเขยาตะกอน ขางในและมีน้ำตาไหล ไหลออกมาเองโดยไมไดรูสึก เสียใจอะไร โดยเฉพาะชวงครึ่งหลังของพิธี น้ำตาจะคอยๆ ไหลออกมาจากหางตาพอซึมๆ พอไปถามถึงเขาถึงบอกวาเกิดการชำระลางโดยราง กายขับเอาสิ่งที่คางอยูภายในหรือขับเอาความเครีย ดของรางกายสวนใดสวนหนึ่งออกมาเปนหยดน้ำตา ไมตองกังวลอะไร หลังจากนั้นก็เลยไมไดพะวง กับอาการนี้อีก สุดทายอาการหงุดหงิดกับ ที่น้ำตาไหลก็คอยๆ หายไปในชวงวันทายๆ ของการฝกกริยาโยคะ เตยอยากแชรในสวนของชุดการฝก ปราณายามะที่รูสึกวาทำใหจิตใจสงบดี เผื่อใครอยากลองเอาไปฝก เพราะเปนปราณายามะ พื้นฐาน
โดยทานสวามีใหเราฝกชุดของปราณายามะตอเนื่อง อยางเชน เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง กปาลภาติ 120-120-120(สามรอบรอบละหนึ่งนาทีพักหนึ่ง นาที) อุชชายี 10 ครั้ง(อัตราสวน 1:2 และหายใจออกรูจมูกซาย) เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง และจบดวยอนุโลมวิโลม 10 ครั้ง ใชเวลาประมาณสี่สิบหานาที ทานสวามีบอกวาฝกทำอนุโลมวิโลม 10 ครั้งควรใชเวลามากกวา 5 นาที หากนอยกวานั้นแสดงวาทำเร็วเกินไป ชวงแรกๆ ที่ทำรูวาแสบจมูกอยูบางเพราะมีควันจากกองไฟ แตพอจมูกเริ่มปรับไดก็รูสึกไมติดขัดอะไร ขณะที่ฝกอยูรูสึกไดถึงลมหายใจที่คอยๆ ละเอียดและจิตที่สงบขึ้น ในวันตอมาชุดของปราณายามะประกอบดวยกปาลภ าติ 120-120-120เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง ซ้ำดวยกปาลภาติ 120-120-120เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง แลวนั่งพิจารณาลมหายใจเขาออกหานาที
10
ÊÒÃѵ¶Ð
ซึ่งตอนที่ทำพบวาควันไฟเปนอุปสรรคตอการทำ กปาลภาติมากเนื่องจากนั่งใกลไฟ และควันลอยต่ำ ดังนั้นเลยตองขับลมออกเบากวาที่เคยทำและลด จำนวนครั้งจาก 120 เปน 60 ครั้งตอหนึ่งนาทีหลังจากทดลองแลวพบวาชวยลด อาการสำลักควันไฟได แตพอทำเสร็จแลวมานั่งดูลมหายใจแมยังมึนๆ กับควันไฟก็ทำใหรูสึกวารับรูลมที่แตะดานในโพรง จมูกไดชัดเจนมาก เพราะการรับรูที่บริเวณโพรงจมูกชัดกวาที่เคย สำหรับชุดของปราณายามะในวันอื่นๆ ประกอบดวย อนุโลมวิโลม 10 ครั้ง เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง อุชชายี 10 ครั้ง(อัตราสวน 1:2 และหายใจออกรูจมูกซาย) เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง หยุดพัก แลวเปลงเสียงโอมตอ 10 ครั้ง โดยขณะฝกทานสวามีย้ำวาการเปลงเสียงนั้นไม สำคัญเทากับการรูสึกสุขไปกับชวงเวลา ณ ขณะนั้น
11
ซึ่งพอไดรับคำแนะนำดังนั้นแลวก็ทำใหคลาย ความเครงเครียดที่เกิดขึ้นมาโดยไมทันรูตัว พอบอกกับตัวเองวา ใหทำอยางมีสติ เพลินๆ ไมเพง ไมเรง ไมกดดันตัวเอง พอบอกกับตัวเอง อยูเรื่อยๆ ก็เลยยิ่งทำใหรูสึกดีกับกริยาโยคะ เวิรคช็อปครั้งนี้เปนอยางมาก สรุปแลวหากถามวาเขารวมกริยาโยคะ เวิรคช็อปแลวไดอะไร เตยไดอยูกับตัวเอง เรียนรู ที่จะลองทำในสิ่งที่ไมเคยทำดวยใจที่เปดกวาง อะไรก็ได ยังไงก็ได ลองดู ทำใหไดรูจักตัวเอง มากขึ้น มองเห็นตัวเองในหลายแงมุม ทั้งขอดี ขอเสีย ขอจำกัด การปลอยวาง ความกังวล ความคาดหวังในตัวเอง ซึ่งการไดเห็นตัวเอง และยอมรับตัวเองทั้งแงบวกแงลบ กลาลืมตามองดู จุดเล็กๆ ที่บางทีเราไมอยากจะมองเห็น กลาที่ จะบอกกับตัวเองวา ใช นั่นเปนสวนหนึ่งของเรา เปนเรื่องที่เราตองเรียนรูและเติบโต ไมใชเรื่องนาอายที่เราไมรู หรือเคยทำพลาดไป ใหกำลังใจตัวเองในวันที่ไมงายเลย การที่ไดผานกระบวนการตางๆ ที่วามานี้ เปนชวงเวลาที่งดงามมากสำหรับเตยเลยทีเดียว แตถึงจะชอบกริยาโยคะแคไหนเตยก็ไมสามารถอยู จนจบไดเนื่องจากตองเดินทางไปเดลีซึ่งเปนทริป ยาวนานมาก จากไกวัลไปพักที่เดลีกอนนั่งรถไฟ ไปตอรถยนตเพื่อไปฤษีเกศ เกิดมาก็เพิ่งเปน ครั้งแรก ที่ไดนั่งรถไฟตูนอนแบบ สามชั้น ใชคะ อานไมผิด สามชั้น เมืองไทยมีแคสองชั้นใชไหมคะ ที่อินเดียมีสามชั้นคะคนนอนตรงกลางเปนไส แซนดวิช ไปเลย เดี๋ยวตอนหนามาดูกันวา การเดินทางแสนทรหดจากอุณหภูมิเกือบสามสิบ ไปเจอสองจุดเจ็ดองศาเราจะอยูกันอยางไร จะไปรอดไหม แลวพบกันใหมฉบับหนาคะ นมัสเต เตยเองคะ
¨Ò¡à¾× ่ Í ¹¤ÃÙ ÊÒÂÅÁã¹áʧᴴ
ÊÒÃѵ¶Ð
อนัตตา /10.5.56 / โลกสี่เหลี่ยม
1. เปนอีกหนึ่งวันที่รอนระอุ.. เมื่อแสงแดดของเดือนเมษายนทำหนาที่ไดอยางไม ขาดตกบกพรอง แตนั่นก็ไมอาจตานทานกระแสแหงญาติธรรมที่ พรอมจะหลั่งไหลกันมารวมตัวได ในงานรวมทอดผาปาเพื่อสรางสถานปฎิบัติธรรม ของหมูบานพลัม จ.โคราช ภายในพื้นที่ที่กินอาณาเขตกวางใหญไพศาล ทวายังคงไรซึ่งสิ่งกอสราง ฉันมองเห็นศรัทธาจากหัวใจนับรอยๆ ดวงกำลังรวมวางอิฐกอนนอยลงคนละกอนสองกอน
2. และเนื่องจากเหตุที่วา.. พื้นที่ที่ใชในการรวมพลังศรัทธาวันนี้จึงยังคงเปน เตนทสีขาวสะอาดหลายตอหลายหลังวางเรียงราย และบริเวณดานหนาของเตนทหลังหนึ่งก็ถูกจัดขึ้น เปนแทนยกระดับอยางเรียบงาย มีไวสำหรับ ทานติช นัท ฮัน ที่ในโอกาสนี้ไดเดินทางมาเยือนประเทศไทยเปนครั้ง ที่สอง ฉันและคณะที่ไปดวยกันเดินหาที่นั่ง ที่ทางหมูบานพลัมจัดวางเกาอี้วางไวตามแตละโซน เนื่องจาก ทานติช นัท ฮัน จะเทศนาธรรมเปนภาษาอังกฤษโดยจะมีภิกษุณี 2 รูปแปลเปนภาษาไทยและภาษาเวียดนาม ดังนั้นจึงมีโซนหนึ่งที่มีหูฟงไวสำหรับผูที่สามารถฟง ภาษาอังกฤษไดโดยตรง และโซนนั้นคอนขางวาง หากเปนสมัยกอนฉันคงบอกกับตัวเองดวยถอยคำวา ชางเปนความโชคดีในความโชครายเสียนี่กระไร แตในตอนนี้ฉันเพียงรำพึงกับตัวเองเบาๆ ในใจวา ‘ธรรมะจัดสรร’ เมื่อฉันและพี่บางคนสายหนานอยๆ กับการที่จะนั่งฟงธรรมบนเกาอี้ในโซนนั้น ดวยเพราะออนดอยภาษาที่วา พวกเราทั้งคณะเลยตองกระเถิบไปนั่งบนเสื่อที่ปู สำรองไว และเปนพื้นที่ที่คนยังจับจองกันไมเยอะนัก แรกเลยฉันรูสึกผิด เปนหวงพี่ๆ วาเขาจะนั่งไดไหม จะปวดขาปวดเขาหรือเปลา ดวยตองมานั่งพื้นเพราะฉัน แตแลวพี่คนหนึ่งก็ชี้ใหฉันดูบริเวณดานหนาที่หาง ออกไปไมกี่กาว บนแทนยกระดับที่พวกเรามองเห็นเมื่อครู และตอนนี้ ทานติช นัท ฮัน ไดนั่งอยูตรงนั้นแลว
12
ÊÒÃѵ¶Ð 3. พิธีการดำเนินไปอยางเรียบงาย..โดยกอนเริ่มเทศนา ธรรม ภิกษุณีทานหนึ่งไดพูดผานเครื่องเสียงวา “ขอความกรุณาถายรูปเพียงสิบนาทีแรกเทานั้น นะคะ ทั้งนี้เพื่อเกื้อกูลตอทานติชขณะ บรรยายธรรม” เพื่อเกื้อกูลหรือ.. ฉันรูสึกชอบใจคำ นี้มาก เพราะมันบงบอกถึงน้ำจิตน้ำใจ การอยูรวมกันของสังฆะตรงนี้ไดเปนอยางดี ไมตองออกกฎระเบียบบังคับเพื่อฝนใจกัน แคเอาใจเขามาใสใจเรา และเกื้อกูลใจดวงนั้น แคเริ่ม.. ฉันจึงรูสึกเหมือนมีสายลมอาจหาญ ที่พัดผานดวงตะวันลอดเตนทเขามาไดบางแลว ยิ่งทานติช นัท ฮัน เริ่มการบรรยายธรรม ทามกลางแสงแดดดวยใบหนายิ้มแยมเปยมเมตตา นั่นอีกเลา ทำใหฉันที่เหมือนกำลังนั่งอยูในเตา ไมโครเวฟกลับเริ่มรูสึกเหมือนมีลมเย็นๆ พัดมา ..แตแลวก็เหมือนมีใครบางคนมาหมุนเพิ่มระดับ ความรอนของไมโครเวฟใหมากขึ้น เมื่อสายตาพลัน มองเห็นชายหนุมตาน้ำขาวยางสามขุมผามา กลางวง และเมื่อหาที่ที่ลงตัวไดแลว.. ซึ่งนั่นก็คือ ตรงหนาฉัน ชายหนุมผูนั้นก็นั่งลง และยกกลอง ถายรูปขึ้น.. แมเวลานั้นจะลวงเลยมาเกิน สิบนาทีนานมากแลว ในตอนนั้นฉันรูไดทันที วาเหงื่อที่ไหลซึมจากความระอุของอากาศนั่นยังไม เทากับใจที่รอนดวยเพลิงกิเลส แลวยิ่งเมื่อเพลิง นั้นเริ่มกระซิบบอกใจฉันวา “ชางไมรูเลยรึไง วาเขาไมใหถายรูปแลว” และอีกหลากหลายประโยค ที่ชักแมน้ำทั้งหามาใหใจฉันคลอยตามชั่วขณะตรง นั้น จึงเปนการฟงบรรยายธรรมดวยหูเพียง อยางเดียว สวนใจนั้นก็ครุนคิดเพียง แตจะเพงโทษผูอื่น ขณะที่มือก็ยกพัดกระดาษ โบกไปมา เขาทำนองวา ‘ยิ่งพัด..ยิ่งรอน’ และเมื่อวางพัดลงเพียงครูเพราะเมื่อยมือนั้นเอง ฉันก็รูสึกถึงแรงสะกิดเบาๆ จากทางดานหลัง มีผูหญิงคนหนึ่งยื่นหนามาและสื่อสารดวยภาษา อังกฤษ ขณะที่ใชภาษามือชี้มาที่พัดของฉันวา วาอะไรนั้นฉันฟงไมไดสรรพเอาเสียเลยดวยเพราะ
13
กลัวภาษาอังกฤษมาก จึงทำใหยังไมทันจะฟงเธอ ใหชัด และไมแมจะถามซ้ำก็แปลเอาเองวา เธอคงจะรอนดวยเชนกัน..จึงขอยืมพัดของฉันหนอย ไดไหมดวยความวองไวฉันรีบยื่นพัดใหเธอ พรอมรอยยิ้ม แตเมื่อหันหลังกลับมาก็รูสึก เหมือนมีสายลมเบาๆ โบกไปมาอยูดานหลัง ฉันรีบหันขวับอยางตกใจเมื่อพบวาหญิงสาวกำลัง ใชพัดเลมนั้นพัดลมใหฉัน และแนนอนวาดวย รอยยิ้ม เชนกัน ฉันจึงทิ้งความกลัวรีบพูดอยางงูๆ ปลาๆเทาที่พอจะนึกออกในตอนนั้นบอกเธอดวย ความ เกรงใจอยางมากวา “ขอบคุณมากคะ แตไมเปนไรนะคะ” และแมเธอจะตอบดวยภาษาที่ ฉันไมเคยเขาใจ แตคราวนี้ฉันวาฉันเขาใจมัน มากขึ้น เมื่อฟงถอยคำนั้นผานดวงตาของเธอดวย เธอกำลังบอกฉันวา “ฉันอยากทำให ไมเปนไรคะ” 4. ฉันหันหลังกลับมาชาๆชายหนุมตาน้ำขาวตรงหนา ยังคง ยกกลองถายรูปอยูมองไปเบื้องหนาโนน ทานติชนัทฮันกำลังชี้ชวนใหเรารูสึกถึงกอนเมฆ ทองฟา สายลม แสงแดด ทุกสิ่งที่อยูรอบตัวเรา ชวนใหเราเกื้อกูลตอสรรพสิ่ง เพราะเราลวนเปน หนึ่งเดียวกัน เมื่อจบธรรมบรรยายฉันจึงสูดหายใจเขาลึกๆ อีกครั้งเพื่อรับเอาสรรพสิ่งเหลานั้นมาไวในตัวเอง.. แมแตแสงแดดที่แสนรอนนั้นขณะที่เริ่มมีรอยยิ้ม อยูในใจ เมื่อเพิ่งสังเกตเห็นวาชายหนุมตาน้ำขาว ตรงหนาก็มีรอยยิ้มที่มุมปากเชนกันในยามที่เช็คดู รูปของทานติชนัทฮัน ที่ถายจากกลองดิจิตอลในมือ แลวจึงรูสึกวาไฟในใจของฉันที่คุกรุนกอนหนาเริ่มม อดลง..ไฟในใจที่ลุกลามจนบดบังดวงตา ทำใหมอง เห็นเพียงสิ่งที่ผูอื่นกระทำสวนสิ่งที่ตัวเองคิดตัดสิน เขาจนเกิดเปนเปลวไฟลุกลามไปทั่วใจนั้น ไมเคย มองเห็น ฉันจึงหันไปกลาวขอบคุณหญิงสาว ชาวเวียดนามคนนั้นอีกครั้ง ดวยภาษาพูด ภาษากาย และภาษาใจ ขอบคุณเธอสำหรับ สายลมออนๆ ที่ไมไดชวยใหฉันคลายรอนไดแคกาย แตยังชวยดับไฟรอนที่คุกรุนอยูภายในใจไดทันเวลา และขอบคุณที่เธอเธอชวยใหฉันไดเรียนรูจักคำที่วา ‘เกื้อกูล’
ÊÒÃѵ¶Ð
http://namasteworksyoga.com/tag/lotus-mudra
¾ÃÐäµÃ» ® ¡á¡‹ ¹ ¸ÃÃÁ
¾ÃÐäµÃ» ® ¡ àÅ‹ Á ·Õ ่ ñø¾ÃÐÊØ µ µÑ ¹ µ» ® ¡ àÅ‹ Á ·Õ ่ ñð ÊÑ § ÂØ µ µ¹Ô ¡ Ò ÊÌÒµ¹ÇÃä ·Ø ¡ ¢¸ÃÃÁÊÙ µ Ã
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลใด ภิกษุยอมรูทั่วถึงเหตุเกิดและความดับสูญแหง ทุกขธรรมทั้งปวง ตามความเปนจริง ก็ในกาล นั้นแล ภิกษุนั้นเปนผูเห็นกาม เมื่อเธอเห็นกามแลว ความพอใจ ความเสนหา ความหมกมุนความ เรารอน เพราะกามในกามทั้งหลายไมนอนเนื่อง อยู ดวยอาการใด ก็ธรรมเปนเครื่องประพฤติ และธรรมเปนเครื่องอยู เปนอันติดตามเธออยู ดวยอาการนั้นอกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌา และโทมนัส ไมครอบงำ ภิกษุผูประพฤติอยูดวย อาการใด ธรรมเปนเครื่องประพฤติและธรรม เปนเครื่องอยู เปนอันติดตามเธออยูดวยอาการนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุยอมรูทั่วถึง เหตุเกิดขึ้น และความดับสูญแหงทุกขธรรม ทั้งปวงตามความเปนจริงอยางไร ภิกษุยอมรู ทั่วถึงเหตุเกิดขึ้น และความดับสูญแหงทุกขธรรม ทั้งปวงตามความเปนจริงอยางนี้วา รูปดังนี้ ความเกิดขึ้นแหงรูปดังนี้ ความดับ สูญแหงรูปดังนี้ เวทนาดังนี้... สัญญาดังนี้ สังขาร ทั้งหลายดังนี้... วิญญาณดังนี้ ความเกิดขึ้นแหง วิญญาณดังนี้ ความดับสูญแหงวิญญาณดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุยอมรูทั่วถึงเหตุเกิดขึ้นและความดับสูญแหง ทุกขธรรมทั้งปวงตามความเปนจริงอยางนี้แลฯ
14
ÊÒÃѵ¶Ð ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเปนผูเห็นกาม แลวอยางไรเลา เมื่อเธอเห็นกามทั้งหลายอยู ความ พอใจ ความเสนหา ความหมกมุน ความเรารอน เพราะกามในกามทั้งหลาย ไมนอนเนื่องดวย อาการใด ธรรมเปนเครื่องประพฤติและ ธรรมเปน เครื่องอยู เปนอันติดตามเธออยูดวยอาการนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลายหลุมถานเพลิงลึกกวาชั่วบุรุษ เต็มดวยถานเพลิงที่ปราศจากเปลว ปราศจากควัน ครั้งนั้นแล บุรุษผูปรารถนาเปนอยู ไมอยากตาย รักสุข เกลียดทุกข พึงมาบุรุษผูมีกำลัง ๒ คน จับบุรุษคนนั้นขางละแขน แลวฉุดเขาไปหาหลุมถาน เพลิงนั้น บุรุษนั่นพึงนอมกายนี้แหละเขาไปดวย ประการดังนี้ ขอนั้นเพราะเหตุอะไรเพราะวาบุรุษ นั้นไมมีความรูวา เราเห็นหลุมถานเพลิงนี้และ จะถึงความตายหรือความทุกขแทบตาย เพราะหลุม ถานเพลิงนั้นเปนเหตุ แมฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเปนผูเห็นกามอันเปรียบดวยหลุมถานเพลิง ฉันนั้นแล เมื่อเธอเห็นกามทั้งหลายอยู ความพอใจ ความเสนหา ความหมกมุน ความเรารอน เพราะกามในกามทั้งหลาย ไมนอนเนื่องอยูดวย อาการใด ธรรมเปนเครื่องประพฤติและ ธรรม เปนเครื่องอยู เปนอันติดตามเธออยูดวย อาการนั้น ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเปนเครื่อง ประพฤติ และธรรมเปนเครื่องอยู เปนอันติดตาม ภิกษุอยางไรเลา อกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌาและโทมนัส ยอมไมครอบงำภิกษุผูประพฤติ อยูดวยอาการใด ธรรมเปนเครื่องประพฤติและ ธรรมเปนเครื่องอยู เปนอันติดตามภิกษุดวย อาการนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลายบุรุษพึงเขาไป สูปาที่มีหนามมาก ขางหนาบุรุษนั้นก็มีหนาม ขางซายก็มีหนาม ขางขวาก็มีหนาม ขางลางก็มี หนาม ขางบนก็มีหนาม บุรุษนั้นมีสติกาวเขาไปขาง หนาถอยกลับขางหลัง ดวยคิดวา หนามอยาเบียด เบียนเรา แมฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมคือ ปยรูปและสาทรูปในโลก นี้เรากลาววาเปนหนาม ในวินัยของพระอริยเจา ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุรูแจงอยางนี้แลว พึงทราบอสังวรและสังวร ฯ
15
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงผลที่เปนอันตรายดังกลาว ดูกรภิกษุทั้งหลายอสังวรยอมมีอยางไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เห็นรูปดวยจักษุแลว ยอมนอม ใจไปในรูปอันนารัก ยอมขัดเคืองในรูปอันไมนารัก เปนผูไมเขาไปตั้งกายคตาสติไว มีใจมีประมาณนอย อยู และยอมไมรูชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปญญาวิมุติอันเปน ที่ดับไปไมเหลือแหงอกุศลธรรมอันลามก ที่บังเกิด ขึ้นแลวแกเธอ ตามความเปนจริง ฯลฯ ภิกษุรูแจง ธรรมารมณดวยใจแลว ยอมนอมใจไปใน ธรรมารมณอันนารัก ยอมขัดเคืองในธรรมารมณ อันไมนารัก เปนผูไมเขาไปตั้งกายคตาสติไวแลว มีใจมีประมาณนอยอยู และยอมไมรูชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปญญาวิมุติ อันเปนที่ดับไปไมเหลือแหงอกุศล ธรรมอันลามก ที่บังเกิดขึ้นแลวแกเธอ ตามความ เปนจริง ดูกรภิกษุทั้งหลายอสังวรยอมมีอยางนี้แลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังวรยอมมีอยางไร ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุในธรรมวินัยนี้ เห็นรูปดวย จักษุแลว ยอมไมนอมใจไปในรูปอันนารัก ยอมไม ขัดเคืองในรูปอันไมนารัก เปนผูเขาไปตั้งกาย คตาสติไว มีใจหาประมาณมิไดอยู ยอมรูชัดซึ่ง เจโตวิมุติ ปญญาวิมุติ อันเปนที่ดับไปไมเหลือแหง อกุศลธรรมอันลามก ที่บังเกิดขึ้นแลวแกเธอ ตาม ความเปนจริง ฯลฯ ภิกษุรูแจงธรรมารมณ ดวยใจแลว ยอมไมนอมใจไปในธรรมารมณ อันนารัก ไมขัดเคืองในธรรมารมณอันไมนารัก เปนผูเขาไปตั้งกายคตาสติไว มีใจหาประมาณ มิไดอยู และยอมรูชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปญญาวิมุติ อันเปนที่ดับไปไมเหลือแหงอกุศลธรรมอันลามก ที่บังเกิดขึ้นแลวแกเธอ ตามความเปนจริง ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังวรยอมมีอยางนี้แล ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถาเมื่อภิกษุนั้น ประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้อกุศลธรรมอันลามก คือ ความดำริอันซานไป เปนที่ตั้งแหงสังโยชน ยอมบังเกิดขึ้นเพราะความหลงลืมแหงสติบางครั้ง บางคราว การบังเกิดขึ้นแหงสติชา ที่นั้นแลภิกษุ นั้นยอมละ ยอมบรรเทาอกุศลธรรมอันลามกนั้น ยอมกระทำใหพินาศ ยอมใหถึงความไมมีไดเร็วพลัน
ÊÒÃѵ¶Ð
http://www.danmala.com/gallery
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษพึงใหหยาดน้ำ สอง หรือสามหยาดตกลงใน กระทะเหล็กอันรอน จัดตลอดวัน หยาดน้ำตกลงชา ทีนั้นแล น้ำนั้นพึง ถึงความสิ้นไป เหือดแหงไปเร็วพลัน แมฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถาเมื่อภิกษุนั้นประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ อกุศลธรรมอันลามก คือ ความดำริ อันซานไป เปนที่ตั้งแหงสังโยชน ยอมบังเกิดขึ้น เพราะความหลงลืมแหงสติบางครั้งบางคราว การบังเกิดขึ้นแหงสติชา ที่นั้นแล ภิกษุนั้นยอมละ ยอมบรรเทาอกุศลธรรมอันลามกนั้น ยอมกระทำ ใหพินาศ ยอมใหถึงความไมมีไดเร็วพลัน ฉันนั้น เหมือนกันแล ดูกรภิกษุทั้งหลาย อกุศลธรรมอัน ลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสยอมไมครอบงำ ภิกษุผูประพฤติอยูดวยอาการใด ธรรมเปนเครื่อง ประพฤติและธรรมเปนเครื่องอยู เปนอันติดตาม ภิกษุดวยอาการอยางนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถาวาพระราชา มหา อำมาตยแหงพระราชามิตร อำมาตย ญาติ หรือ สาโลหิต พึงปวารณาภิกษุนั้นผูประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ เพื่อใหยินดียิ่ง ดวยโภคะทั้งหลายวา ทานจงมาเถิดบุรุษผูเจริญ ผากาสาวะเหลานี้ ยังความเรารอนใหเกิดขึ้นแกทานมิใชหรือ ทานจะ เปนคนโลนเที่ยวถือกระเบื้องอยูทำไม ทานจงสึก มาบริโภคและจงทำบุญเถิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุนั้นประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ จักบอกคืน สิกขาสึกมาเปนคฤหัสถ ขอนั้นไมใชฐานะที่จะมีได ดูกรภิกษุทั้งหลาย แมน้ำคงคาไหลไป หลั่งไป เทไปในทิศปราจีนถาวามหาชนพึงเอาจอบและ ตะกรามาดวยคิดวา พวกเราจักชวยกันทำแมน้ำ คงคานี้ใหไหลไป หลั่งไป เทไปขางหลัง เธอทั้ง หลายจะสำคัญความขอนั้นเปนไฉนหมูมหาชนนั้นพึง กระทำแมน้ำคงคานี้ใหไหลไป หลั่งไปเทไปขางหลัง ไดบางหรือหนอแล ภิกษุทั้งหลายกราบทูลวา หามิได พระเจาขา ฯ ขอนั้นเปนเพราะเหตุไร ฯ ขาแตพระองคผูเจริญ เพราะแมน้ำคงคาไหลไป หลั่งไป เทไปในทิศปราจีน แมน้ำคงคานั้นอันบุคคล จะทำใหไหลไป หลั่งไป เทไปขางหลัง ไมใชกระทำ ไดงาย ก็หมูมหาชนนั้นพึงเปนผูมีสวน แหงความ ลำบาก ความคับแคนเพียงไรแมฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถาวาพระราชา มหาอำมาตย แหงพระราชา มิตรอำมาตย ญาติหรือสาโลหิต พึงปวารณาภิกษุนั้นผูประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ เพื่อจะใหยินดียิ่งดวยโภคะทั้งหลายวา ทานจงมา เถิดบุรุษผูเจริญ ผากาสาวะเหลานี้ยังความเรารอน ใหเกิดขึ้นแกทานมิใชหรือ ทานจะเปนคนโลน เที่ยวถือกระเบื้องอยูทำไม ทานจงสึกมาบริโภค โภคะและจงทำบุญเถิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้น ประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ จักบอกคืนสิกขา สึกออกมาเปนคฤหัสถ ขอนั้นไมใชฐานะที่จะมีได ฉันนั้นเหมือนกันแล ขอนั้นเพราะเหตุไร เพราะวา จิตของเธอนอมไป เอนไป เงื้อมไปในวิเวกสิ้น กาลนาน ก็จิตนั้นจักเวียนมาเพื่อเปนคฤหัสถ ขอนั้นไมใชฐานะที่จะมีได ฯ
16
µÓÃÒâÂ¤Ð´Ñ ้ § à´Ô Á
http://www.telegraph.co.uk
ÊÒÃѵ¶Ð
¡Òýƒ ¡ ÂÁдŒ Ç ÂÊÑ ¨ ¨Ð»¯Ô Þ Ò³ÍÑ ¹ ÂÔ ่ § ãËÞ‹ วีระพงษ ไกรวิทย และจิรวรรณ ตั้งจิตเมธี แปลและเรียบเรียง
ตอนที่แลวกลาวถึงเนื้อหาของคำวา อปริคระหะ(ประโยค ๒:๓๐)วาคือ การไมรับหรือ เก็บสะสมสิ่งใดๆ ซึ่งไมไดจำเปนตอการดำรง ชีพหรือตอหนาที่อันจำเปนของผูฝกโยคะ และไมมี ขออางวาสะสมสิ่งตางๆ เพราะในอนาคตอาจจะมี โอกาสไดใชประโยชนจากสิ่งเหลานั้น อปริคระหะ ในความหมายที่เขมงวดนี้เปนสิ่งที่ยากมากตอการ ปฏิบัติ ในยมะทั้งหมดของปตัญชลีอปริคระหะ เปนเพียงขอเดียวที่การปฏิบัติในระดับทางกายม ความสำคัญมากกวาการปฏิบัติในระดับจิตใจ จริงๆ แลวอปริคระหะในระดับจิตใจคือ สันยาสะ หรือการไมยึดติดทางใจตอสิ่งตางๆ ที่มีอยู
17
สันยาสะและอปริคระหะเปนสองดานของเหรียญ เดียวกันและควรจะปฏิบัติไปพรอมๆกัน อปริคระหะ ที่ปราศจากสันยาสะ(การไมยึดติดทางใจ) จึงเปน เรื่องยากที่จะปฏิบัติได สวนสันยาสะที่ไมได ปฏิบัติอปริคระหะ ผูปฏิบัติอาจคุนชินที่จะใชสิ่ง ตางๆ ที่ใหความสุขและอาจเกิดความรูสึก ยึดติดกับสิ่งเหลานั้นขึ้นมาในใจไดงาย โยคสูตรประโยคตอมากลาววา“ชาติ-เทศะ -กาละ-สมยานวัจฉินนาห สรรวเภามา มหาวรตัม”๒:๓๑ แปลวา การฝกยมะควรจะประพฤติปฏิบัติ ดวยสัจจะปฏิญาณอันสูงสงอยางถึงที่สุด นำไปใช ปฏิบัติไดในทุกสถานการณโดยไมมีขอยกเวน และ ไมอยูภายใตเงื่อนไขใดๆ ไมวาจะเปนเรื่องชาติ กำเนิด ในชนชั้นวรรณะหรือสถานภาพทางสังคม ใด(ชาติ) หรืออยูอาศัยในพื้นที่ใด(เทศะ) และไมขึ้น อยูกับชวงเวลา(กาละ) และยุคสมัยใด(สมยะ) ประโยคนี้บอกวายมะหรือการปฏิบัติ ตามกฎแหงการควบคุมตนเองเหลานี้เปน “มหาวรตะ” หรือสัจจะปฏิญาณอันยิ่งใหญ เพราะ เปนการควบคุมบังคับตนเองใหปฏิบัติตามกฎที่ยิ่ง ใหญมากเหลานี้ได และยังบอกตอไปอีกวามันเปน
ÊÒÃѵ¶Ð “สรรวเภามะ” หมายความวาตองนำไปใชปฏิบัติ ในทุกสถานการณและทุกเงื่อนไขซึ่งบอกเปน นัยยะวา ผูฝกโยคะตองประพฤติปฏิบัติยมะ เหลานี้โดยปราศจากขอยกเวนหรือขออางใดๆ แตปตัญชลีคงไมพอใจกับขออางหรือขอยกเวนเหลา นี้ ทานกลาวถึงเงื่อนไขทั้งหมดนี้ อยางชัดเจน วาปกติแลวจะมีการนำไปใชเปนขออางเพื่อที่จะ ไดไมตองปฏิบัติตามกฎของยมะทั้งหลาย เงื่อนไข ของชีวิตโดยเฉพาะสถานภาพทางสังคมหรือในสังคม ฮินดูนั้น บอยครั้งที่เรื่องชนชั้นวรรณะสามารถ ใชเปนขออางสำหรับการไมปฏิบัติตามกฎของ ยมะสักขอหนึ่งหรือมากกวานั้น กฎหมายและ ประเพณีที่แปลกหรือมีลักษณะเฉพาะซึ่งแพรหลาย ในพื้นที่(เทศะ)หนึ่งหรือในประเทศหนึ่งหรือในชวง เวลาหนึ่งบางครั้งอาจปรากฏราวกับวามันกลายเปน อุปสรรคขัดขวางการปฏิบัติตามยมะทั้งหลาย หรืออาจมีบางโอกาสที่รูสึกเหมือนกับวาไมอนุญาต หรือไมเอื้อใหปฏิบัติตามกฎแหงยมะ ปจจัยตางๆ ขางตนที่เปนขออางในการละเมิดยมะนั้นเปนเรื่อง คอนขางปกติ อยางเชนคนหนึ่งกำลังพูดโกหก หรือกระทำการหลอกลวง เขากำลังละเมิดยมะ ขอสัตยะ และมักจะอางวาเปนเพราะยุคสมัย(สมยะ) หรือสถานที่(เทศะ)ที่เฉพาะเจาะจงเชนนี้ทำใหเขาไม อาจจะปฏิบัติตามขอสัตยะ(ความจริง)ได ทุกวันนี้พบวาคนจำนวนมากหรือแมแตผูเผยแพร โยคะที่ภูมิใจวาตนเองไดสอนและเนนเรื่องการไม ละเมิดยมะ ตางกลาววายุคสมัยนี้เปนยุคที่ การดำรงตนอยูบนความซื่อสัตยและความจริงเปน เรื่องที่แทบจะเปนไปไมไดแลวในทางปฏิบัติ ดังนั้นความเชื่อที่เชื่อกันอยางงมงาย ของกลุมชนชั้นวรรณะและผูมีสถานภาพทางสังคม บางครั้งจึงกลายเปนขออางที่จะไดไมตองปฏิบัติตน ใหดำรงอยูดวยความซื่อสัตย(สัตยะ) อาทิ ชนชั้นชางทองและชางตัดเสื้อในอินเดียเชื่อกันอยาง ผิดๆ วา การโกหกหลอกลวงลูกคา และการโกง โลหะมีคาหรือผาเปนสิทธิอันชอบธรรมตั้งแตเกิด หรือแมแตเปนศาสนธรรม(ขอปฏิบัติทางศาสนา) ของชนชั้นพวกเขากันเลยทีเดียว ที่กลาวมานี้ไมได
จำกัดเฉพาะแตในอินเดียหรือสังคมวรรณะของชาว ฮินดูเทานั้น บางครั้งอาชีพอยางหนึ่งก็กลาย เปนขออางใหกระทำการหลอกลวงไดเชนกัน เชน อาชีพตำรวจ เปนตน ขออางตางๆ ที่กลาวมา นั้นไมไดถือเปนการอนุญาตสำหรับผูฝกโยคะที่ตอง การกาวหนาบนหนทางแหงโยคะอยางแทจริง อยางนอยที่สุดหากเขามีขออางเชนนั้นแมจะเพียง บางครั้งก็ตาม ความกาวหนาของเขาก็จะลาชา ลงไปมาก ไดเคยกลาวไวแลววาแงมุมที่สำคัญจริงๆ ของยมะ ก็คือ แงมุมทางจิตใจ และไมเกี่ยวของ กับการ กระทำทางกาย ดังนั้นบางครั้งอาจเปนไปไดวา คนหนึ่งกำลังมีปญหาหรือแมแตกำลังฆาคนอื่น อาจจะยังไมไดละเมิดยมะขออหิงสาก็ไดหากจุดประ สงคทางใจของเขาไมไดมีเจตนาที่จะทำรายคนอื่น และการกระทำนั้นไมไดทำเพื่อผลประโยชนของตัว เขาเอง โดยเฉพาะการละเมิดยมะ โดยการกระทำ ทางกายที่กำลังเกิดขึ้นดวยเจตนาที่แทจริงวาเปน การทำประโยชนใหกับคนหรือสัตว หรืออยางนอย ก็เปน เพราะวามีความจำเปนอยางหลีกเลี่ยง ไมไดเพื่อประโยชนของสังคมหรือคนสวนใหญ และไมไดทำไปเพื่อประโยชนอันเห็นแกตัวของผู กระทำเอง การกระทำนั้นก็ยังนับวาสอดคลอง ตองกันกับการปฏิบัติตามกฎยมะขออหิงสา ตัวอยางที่ชัดเจนมากในเรื่องนี้คือ ศัลยแพทยและ ทหาร ที่ตอสูเพื่อความถูกตองและความเปนธรรม (1)
(1) ยกตัวอยางศัลยแพทยที่ผาตัดคนไข เพื่อรักษาอาการเจ็บปวยแตกลับทำใหคนไขเสียชีวิต ซึ่งดูเหมือนจะผิดยมะแตทำไปดวยเจตนาอันดีที่ตองการชวยเหลือ และตัวอยางทหารที่ตองฆาอีกฝายหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะผิดยมะแตทำ ไป ดวยเจตนาเพื่อปกปองอธิปไตยของ ประเทศชาติไมใหผูอื่น มารุกรานเอาเปรียบได (ผูแปล)
18
ÊÒÃѵ¶Ð
19
http://www.flickr.com/photos/geoffjkim/7162762319/
อรรถกถาจารยรุนเกาบางทานตีความ ประโยคนี้วาเปนการแยกความแตกตางระหวางคำ วา มหาวรตะ กับคำวา วรตะ พวกเขาจึงอธิบายวา การปฏิบัติตามยมะอยางเครงครัดโดยปราศจากขอ ยกเวนใดๆ ตามที่ไดชี้แจงและอธิบายอยางชัดเจน ขางตนแลวนั้นเรียกวา มหาวรตะ หรือสัจจะ ปฏิญาณอันยิ่งใหญ ตามแนวคิดของอรรถกถาจารย เหลานี้ การปฏิบัติตามยมะอยางเครงครัด เชนนี้เหมาะสำหรับโยคีที่กาวหนาแลวเทานั้น ซึ่งทานเหลานี้เปนผูซึ่งตองการเขาถึงโยคะอยาง สมบูรณแบบหรือ ไกวัลยะ สำหรับผูปฏิบัติโยคะใน ระดับธรรมดาหรือระดับพื้นฐานจะปฏิบัติยมะแบบ วรตะ เทานั้นซึ่งก็ถือวาเพียงพอแลว ในการปฏิบัติ วรตะอยางงายนี้บางครั้งจึงสามารถใชขอยกเวนได และการละเมิดยมะดูจะเปนเรื่องที่ถูกตองในบาง สถานการณและในมุมมองทางโลกตามความเปน จริง อยางไรก็ตาม การตีความเชนนี้ ดูเหมือนจะไมสมเหตุ สมผลนัก อยางนอยก็ไมมีเหตุอันชัดเจน ที่จะ กลาววา ปตัญชลีตองการเสนอใหเห็นความ แตกตางของ(การปฏิบัติยมะ)สองแบบนี้
ดูเหมือน ทานจะไมไดมีความคิดที่จะแบงเกรด ความจริงจัง ของผูฝกโยคะใหเปนสองหรือหลายๆ ประเภท ตรงกันขามประโยค ๒:๓๕ ถึง ๔๕ ที่ชี้ถึงผลหรือ เกณฑอันสมบูรณของการปฏิบัติ ตามยมะและนิยมะ นั้นใหรองรอยวา ปตัญชลีไดวางเปาหมายสูงสุด ของการ เขาถึงความสมบูรณในทุกๆ เรื่องของ โยคะโดยเฉพาะในเรื่องของการปฏิบัติตามยมะนิยมะ จึงอาจเปนเรื่องไมมีสาระที่จะคิดวาปตัญชลีคาดหวั งใหผูฝกโยคะบางคนมีการพัฒนาในระดับ พื้นๆ ธรรมดาบนเสนทางแหงโยคะ และจึงแนะนำ ใหฝกวินัยควบคุมตนเองในกรณีนี้แบบหลวมๆ หรือไมเครงนัก ตามมุมมองของอรรถกถาจารยเลมนี้ ขอเสนอของปตัญชลีเปนไปเพื่อผูฝกโยคะแตละคน และทุกๆ คน ดังนั้นผูฝกโยคะทุกคนจึงควรพยายาม อยางจริงใจมากๆ ที่จะเชื่อและปฏิบัติตาม ยมะ (และนิยมะดวย) โดยปราศจากการพยายามที่จะหา ขออางที่จะละเมิดขอปฏิบัติเหลานี้ ไมตองสงสัย เลยวาในโลกแหงชีวิตจริงนั้น แมจะมีความตั้งใจ อยางแนวแน ที่สุดที่จะไมละเมิดกฎยมะแลวก็ตาม แตผูปฏิบัติก็เลี่ยงไมไดที่จะตองประพฤติปฏิบัติใน ทางที่ละเมิดกฎเหลานี้อยางนอยที่สุดก็ในระดับทาง กาย อยางไรก็ตามสิ่งนี้อาจจะไมเปนไรก็ได ความจริงแลวนี่อาจจะไมไดเปนการละเมิดยมะจริงๆ ก็ได ถาเจตนาของผูฝกไมไดเปนอยางเดียวกับผล ที่ออกมา(จากการกระทำ)นั้น อยางที่ไดเนนไวแลว วาการปฏิบัติยมะที่แทจริงคือ ในระดับจิตใจ หาใช เพียงรูปแบบการกระทำทางกายที่แสดงออกมาภาย นอกเทานั้น หากเขาใจเหตุผลนี้อยางชัดเจนแลว ก็จะไมมีเหตุผลอันใดที่จะตองแยกความแตกตางของ มหาวรตะ กับ วรตะ ในการปฏิบัติตามกฎแหง ยมะทั้งหลาย เอกสารอางอิง : Karambelkar, P. V. (1986).PATANJALA YOGA SUTRAS Sanskrta Sutras with Transliteration, Translation & Commentary.Lonavla :Kaivalyadhama, p. 248-253.
เด็กนอย 1. เ ด็ ก น อ ย เมื่อเธอเริ่มเติบใหญ เธอจึงเริ่มเรียนรูที่จะสื่อสารความรูสึกออกมาเปนถอยคำ ฉันจึงตั้งใจฟง, ทุกครั้งที่เธอพูด หรือแมแตในบางคำพูด, ที่เธอไมไดเอื้อนเอยออกมา
ÊÒÃѵ¶Ð
เพราะเธอมีความรูสึก มีความคิดเปนของตัวเอง ฉันจึงเชื่อเสมอ, วาการยอมรับสิ่งเหลานั้นเปนเรื่องจำเปน เหมือนที่คนสวนเพียงรดน้ำพรวนดิน แตการเติบโตนั้น, ใครเลาจะคาดเดาได อยากระนั้นเลย.. แมความงามของไมตนนั้นก็ยังเปนความลับของจักรวาล 2. เ ด็ ก น อ ย อยาไดเศราใจไปเลย หากเสียงของเธอจะไมมีใครไดยิน เพราะฉันคอยตั้งใจฟงอยูเสมอ แมแตเสียงเล็กๆ ในหยาดหยดน้ำตา ที่ใครอื่นอาจมองวาเปนเรื่องธรรมดาของวัยเยาว แตฉันใครรู, หัวใจดวงนอยๆ ซอนความหมายใดไวในหยดน้ำ 3. เ ด็ ก น อ ย ฉันอยากใหเธอคอยฟงเสียงนั้นอยูเสมอ เพราะอีกไมนาน, เมื่อเธอเติบโตขึ้น เมื่อเธอเริ่มเรียนรูวิธีที่จะโยนหัวใจไปขางหนา และเดินตามมัน ขอเธอจงเทาทัน, สิ่งที่อยูภายในนั้น เพราะระหวางการเดินทางที่ยาวไกล เธออาจพบเจอเรื่องราวมากมาย บางนำพามาซึ่งรอยยิ้ม บางทิ้งรอยเทาแหงความเศราไวให และเมื่อเวลานั้นมาถึง ขอเธอจงทำความเขาใจกับสิ่งที่อยูภายใน เพราะเราไมอาจจัดการกับโลกใบนี้ได แตเราสามารถเรียนรู, ที่จะอยู และเขาใจโลกใบเล็ก . . ใ น ตั ว เ ร า เ อ ง ‘อนัตตา’
20
ÊÒÃѵ¶Ð
à´× Í ¹ ¾ÄÉÀÒ¤Á 2556 ÁÕ ¼ Ù Œ º ÃÔ ¨ Ò¤Ê¹Ñ º Ê¹Ø ¹ ¡Ò÷ӧҹ¢Í§Ê¶ÒºÑ ¹ Ï ´Ñ § ¹Õ ้ ครู ว รพจน มาเนี ย ม ครู ว ั ล ภา ณะนวล ครู ร ะวี ว รรณ วงศ ก ะวรรณ ครู พ ลอยจิ ต มณฑา อวั ส ดาฐิ ต ิ คุ ณ ศรี น วล อุ ณ เวทย ว านิ ช ครู ช ุ ต ิ ม า อรุ ณ มาศ เงิ น สมทบกิ จ กรรมโยคะในสวนธรรม 25/5/56 จากตู บ ริ จ าค ในสำนั ก งาน
ÃÇÁ
21
2,000 200 1,000 2,000 100 200 2,390 3,618 11,508
ÊÒÃѵ¶Ð
ÂÔ ¹ ´Õ Ã Ñ º ¡ÒÃÊ¹Ñ º Ê¹Ø ¹ : สถาบั น โยคะวิ ช าการดำเนิ น การโดยได ร ั บ การสนั บ สนุ น บางส ว นจากมู ล นิ ธ ิ ห มอชาวบ า น มี ร ายได จ ากค า ลงทะเบี ย นกิ จ กรรม มี ร ายได จ ากการจำหน า ยผลิ ต ภั ณ ฑ ต า งๆ นอกจากนั ้ น สถาบั น ฯ ยั ง ยิ น ดี ร ั บ การสนั บ สนุ น จากผู ส นใจร ว มเผยแพร เพื ่ อ นำเงิ น มาใช ด ำเนิ น การให บ รรลุ ว ั ต ถุ ป ระสงค ต ามที ่ ต ั ้ ง ไว สนั บ สนุ น ผ า นบั ญ ชี : ธนาคารไทยพาณิ ช ย บั ญ ชี อ อมทรั พ ย ชื ่ อ บั ญ ชี มู ล นิ ธ ิ ห มอชาวบ า น (สถาบั น โยคะวิ ช าการ) เลขที ่ บ ั ญ ชี 173-232-9491 สาขา The Mall 3 รามคำแหง
Ê¹Ñ º Ê¹Ø ¹ ´Œ Ò ¹·Ñ ¡ ÉÐ สถาบั น โยคะวิ ช าการยิ น ดี ร ั บ การสนั บ สนุ น ทั ก ษะจากผู ม ี ค วามสนใจ หรื อ ถนั ด ในเรื ่ อ งของการออกแบบ เพื ่ อ ช ว ยในการจั ด ทำอาร ต เวิ ร ค ทั ้ ง ในส ว นของจดหมายข า วสารั ต ถะ ออนไลน การทำโปสเตอร เ พื ่ อ ใช เ ป น สื ่ อ ประชาสั ม พั น ธ ห ลั ก สู ต ร และ กิ จ กรรมอื ่ น ผู ม ี ค วามถนั ด ในการติ ด ต อ สื ่ อ สาร ที ่ ส ามารถเป น ช อ งทางในการเผยแพร และ ประชาสั ม พั น ธ ห ลั ก สู ต ร และ กิ จ กรรมสถาบั น ฯ ผู ส นใจร ว มพั ฒ นา web page ของสถาบั น โยคะวิ ช าการ
22
Ê¶ÒºÑ ¹ â¤ÐÇÔ ª Ò¡Òà ÁÙ Å ¹Ô ¸ Ô Ë ÁͪÒǺŒ Ò ¹ 201 «ÍÂÃÒÁ¤Óá˧ 36/1 ºÒ§¡Ð» ¡·Á.10240 â·ÃÈÑ ¾ · 02 732 2016-7, 081 401 7744 â·ÃÊÒà 02 732 2811 ÍÕ à ÁÅ yoga.thaiyga@gmail.com àÇ็ º ä«· www.thaiyogainstitute.com