หนวยที่ 10 ชื่อเรื่อง การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น (Cold working of metal) หัวขอเรื่องยอย 10.1 การผลิตทอและการดึงลวด 10.2 การหมุนขึ้นรูปและการดันขึ้นรูป 10.3 การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็นและการอัดแบบหลอ 10.4 การทําเหรียญตราและการพิมพลายนูน 10.5 การย้ําหมุดและการย้ําหัว 10.6 การดัดเหล็กแผนและการรีดขึ้นรูป 10.7 การเขาตะเข็บและการขึ้นรูปดวยพลังสูง 10.8 การกระแทกขึ้นรูป จุดประสงคเชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความหมายการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นได 2. อธิบายการผลิตทอและการดึงลวดได 3. อธิบายการหมุนขึน้ รูปและการดันขึ้นรูปได 4. อธิบายการตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็นและการอัดแบบหลอได 5. อธิบาย การทําเหรียญตราและการพิมพลายนูนได 6. อธิบายการย้ําหมุดและการย้ําหัวได 7. อธิบายการดัดเหล็กแผนและการรีดขึ้นรูปได 8. อธิบายการเขาตะเข็บและการขึ้นรูปดวยพลังสูงได 9. อธิบายการกระแทกขึ้นรูปได
175 กิจกรรมหลัก 1. ครูนําเขาสูบทเรียน 2. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน 3. นักเรียนศึกษาเนื้อหาจากเอกสารประกอบการสอน - แบงกลุมนักเรียนกลุมละ 4-5 คน - ศึกษาเนื้อหาสาระการเรียน - อภิปรายหนาชั้นเรียน - ใบสั่งงานที่ 7 - ครูสรุปเนื้อหาสาระการเรียนประจําหนวย 4. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน 5. ครูและนักเรียนตรวจแบบทดสอบ
176 การขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น (Cold working of metal) การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น หมายถึง การขึ้นรูปโลหะทีอ่ ุณหภูมิปกติ ซึ่งโลหะจะมีความ แข็งแรงอยูในระดับปกติ จะตองใชกําลังในการกดขึ้นรูปสูง เพื่อใหเกิดความเคนในเนื้อโลหะ จนเลยจุดยืดหยุน เปนการปองกันมิใหโลหะที่ตองการขึ้นรูปไมกลับคืนสูสภาพเดิมเมื่อปลอย แรงกดแลว ขอดีของการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น 1) อายุของการใชงานของเครื่องมือและแมพิมพยาวนาน 2) ไมใชความรอน ลดตนทุน 3) ประหยัดวัสดุ 4) ผิวงานที่ไดเรียบ 5) ขนาดของชิ้นงานเที่ยงตรง 6) ความแข็งแรงมากขึน้ ขอเสียของการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น 1) ตองใชแรงกดในการกระทํามาก 2) เครื่องจักรเครื่องมือตองมีขนาดใหญ 3) ความเหนียวลดลง การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นกระทําไดหลายวิธี ดังนี้ 10.1 การผลิตทอ (Tube finishing) การผลิตทอ จะใหมีผิวงานเรียบขนาดเที่ยงตรงและมีความแข็งแรงดี จะตองทําทอที่ผานการ รีดรอนมาแลวทําความสะอาดผิว ตอจากนั้นก็ทาทอดวยสารหลอลื่นเพื่อใหสะดวกและงายตอการ ขึ้นรูป การดึงเย็น ตามรูปภาพที่ 10.1 เรียกวา การดึงบนโตะ (Draw bench) โดยมีขั้นตอนดังนี้
177
นําทอผานแมพิมพ (Die) ซึ่งมีขนาดเทาโตนอกของทอที่ตองการภายในทอจะมีแกนเหล็ก (Mandrel) เพื่อควบคุมขนาดของรูทอใหมีขนาดเทากันตลอด และปลายอีกขางหนึ่งของทอจะถูกดึง ดวยโซสามารถดึงทอใหมีความยาวไดประมาณ 30 เมตร และใชแรงดึงประมาณ 200-1,300 kn ปลายทอ ตะขอ
แมพิมพลดขนาดทอ
รูปที่ 10.1 เครื่องผลิตทอ การดึงทอในสภาพเย็นจะตองใชแรงดึงสูงมาก จนกระทั่งทําใหโลหะเกิดความเคนขึ้นเกิน จุดยืดหยุนตัว ซึ่งจะทําใหเกิดการไหลผานรูของแมพิมพ ในการรีดแตละครั้งจะสามารถลดขนาดได สูงสุดประมาณ 40% ถามีความจําเปนที่จะตองรีดหลายๆ ครั้ง จะตองทําการอบออนเสียกอน เพื่อ งายตอการดึงขึ้นรูป แมพิมพ ทอรอน
แกนอยูกับที่
ลดขนาดทอ
ปลายทอที่ใชจับดึง
รูปที่ 10.2 การดึงทอสภาพเย็น ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา 161
178
10.2 การดึงลวด (Wire drawing) การดึงลวด เปนกรรมวิธีการดึงขึ้นรูป โดยการนําเหล็กเสนมาดึงผานแมพิมพหลายๆ ชุด เพื่อลดขนาดใหไดขนาดตามที่ตองการ โดยมีขั้นตอนดังนี้นําเหล็กเสนมาทําความสะอาด โดยการจุมลงในน้ํากรดเพื่อขจัดสะเก็ดและ สนิมตางๆ แลวทาดวยน้ํามันกันสนิม เพื่อใหผิวลื่นงายตอการดึงขึ้นรูป จากนั้นนําเหล็กสะอาดผาน แมพิมพซึ่งแมพิมพสวนมากทําดวยโลหะคารไบดหรือเพชร แลวใชคีมจับปลายดึงผานแมพิมพแลว เก็บมวนเขาที่เปนขดไว เสร็จแลวสามารถนํามาดึงผานแมพิมพซ้ําอีกเพื่อใหไดขนาดตามตองการ
ลวดที่จะดึง
ขนาดลวดที่ได ดึง
แมพิมพคารไบด ปลอก
รูปที่ 10.3 แมพิมพดงึ ลวด ลูกรอกควบคุมความเร็ว ลอดึงลวดสุดทาย
ลอดึง
แทงลวด แมพิมพ
รูปที่ 10.4 หลักการในการดึงลวดแบบตอเนื่อง
179
10.3 การหมุนขึ้นรูป ( Metal Spinning) เปนกรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะแผนบางและแผนหนา โดยการกดเขาไปตามแมพิมพซึ่งหมุนอยู ตลอดเวลา เพื่อใหรูปรางเหมือนกับแมพิมพที่ตองการ ลักษณะวิธีเหมือนกับการปนเครื่องปนดินเผา ผิดกันตรงที่ไมไดใชมือกระทําตอชิ้นงาน แตจะใชลูกรีดเปนตัวดันรีดโลหะแผนใหขึ้นรูปตามแบบ แมพิมพ ดังรูปที่ 10.5 แผนวัสดุ
งานขั้นสุดทาย แบบ
ที่ยึดแผนวัสดุ
หัวเครื่อง
สลัก ที่รองมีด มือจับมีด
รูปที่ 10.5 แผนภาพการหมุนขึ้นรูป
รูปที่ 10.6 เครื่องหมุนขึ้นรูป ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา162
180
10.4 การดันขึ้นรูป (Stretch forming) เปนกรรมวิธีขึ้นรูปโลหะแผนขนาดใหญ เพือ่ ใหไดขนาดและรูปรางโคงเหมือนๆกัน โดยใช แมพิมพขึ้นรูปดันขึ้นรูปดวยระบบไฮดรอลิก ซึ่งแมพิมพอาจจะทําจากเหล็ก ไม หรือพลาสติกก็ได งานที่ไดจะมีความบางลดลงจากเดิมเล็กนอย หรือ รูปรางชิ้นงานอาจจะคืนตัวเล็กนอย ดังรูปที่ 10.7 แผนงานขึ้นรูป แมพิมพขึ้นรูป แผนรอง กระบอกไฮดรอลิก
ปากจับ
รูปที่ 10.7 การดันขึ้นรูป หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ การใชพั้นช (แมพิมพตัวบน) กดลงบนชิน้ งานซึ่งวางอยูบนดายแมพิมพ ตัวลาง ก็จะไดชิ้นงานตามแบบแมพิมพการขึ้นรูปแบบนี้เรียกวา การดันและดึงขึ้นรูปดังรูปที่ 10.8 แมพิมพตัวบน แผนกด
แมพิมพตัวลาง
แผนงานขึ้นรูป
รูปที่ 10.8 การดันและดึงขึ้นรูป ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา163
181
10.5 การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น (Swaging of cold forging) เปนการขึ้นรูปโลหะในสภาพเย็น โดยการใชแรงอัดหรือแรงกระแทกเพื่อดันใหโลหะ ไหลเขาแมพิมพตามทิศทางที่ถูกอัดหรือกระแทก สําหรับการตอกโลหะขึ้นรูป จะใชกับชิ้นงานที่ มีขนาดไมใหญมากนัก เชน หมุดย้ํา ตะปู น็อต ชิ้นงานทีไ่ ดจากกรรมวิธีนี้จะมีผิวมันเรียบและ ไดขนาดถูกตอง ลูกกลิ้ง แมพิมพ
วัสดุ
Dies closed
แมพิมพปด
รูปที่ 10.9 ภาพแสดงการตอกขึ้นรูป
รูปที่ 10.10 ตัวอยางงานที่ไดจากการตอกขึ้นรูป
182 ตัวอยางเครื่องจักรสําหรับทําน็อต หัวหมุดย้ําหรือชิ้นงานที่คลายกัน ลําดับขั้นตอนการทํา นําเสนลวดที่มีขนาดใหญโตกวาชิ้นงานสําเร็จ ปอนเขาเครื่องแลวใชลูกกลิ้งดึงใหตรงพรอมทั้งตัด ใหไดความยาวที่ตองการ นําเขาชุดหัวแมพิมพเพื่ออัดเขาเปนรูปตามตองการ ถาทําชิ้นงานที่มี ขนาดใหญๆ กอนทําจะตองใหความรอนกับชิ้นงานที่สวนปลายกอนนําเขาเครื่อง ดาย
พั้นช
สลักดัน
การทําหัวโดยใชพั้นช
การทําหัวโดยใชดายและพั้นช
1. เครื่องตอกหัวสลัก
การทําหัวโดยใชดาย
การทําหัวโดยใชดายและพั้นช
2. ชนิดของแมพิมพที่ใชตอกหัวสลัก
รูปที่ 10.11 การอัดหัวสลัก 10.6 การอัดแบบหลอ (Hobbing) กรรมวิธีการผลิตแบบนี้เปนวิธีการทําแบบหลอตางๆ เชน แบบหลอพลาสติก (Mold plastic) หรือแบบหลอแมพิมพ (Die casting) สําหรับตะกั่ว อะลูมิเนียม สังกะสี ซึ่งวิธีนี้แมพิมพตัวบน เรียกวา Hob และแมพิมพตัวลาง เรียกวา Cavity มีลักษณะรูปรางเหมือนกัน ขั้นตอนการผลิตนําแผนโลหะวางบนแมพิมพตัวลาง แลวกดแมพิมพตัวบนลงมาแผนโลหะ ดวยระบบไฮดรอลิกใชแรงอัดประมาณ 250-8,000 ตัน
183
ขอดีของการอัดแบบหลอ ไดชิ้นงานที่มีรูปรางขนาดเทากันตลอดตนทุนการผลิตต่ํา ผิวของ ชิ้นงานเรียบ ซึ่งไมจําเปนจะตองตกแตงดวยเครื่องจักรอีก แกนกด แผนรองกด
แหวนปองกัน
หัวตอกหรือแมพิมพตัวบน ชองวางหรือแมพิมพตัวลาง วัสดุ
แผนรอง
รูปที่ 10.12 แมพิมพที่ใชในการอัดแบบหลอ 10.7 การทําเหรียญตราและพิมพลายนูน (Coining and Embossing) การทําเหรียญตรา เปนวิธีการปมแผนโลหะใหเปนตัวนูน โดยมีแมพิมพ 2 ตัว คือ Punch และ Die ขั้นตอนการผลิตนําแทงโลหะวางบนแมพิมพ Die แลวใชแรงกดแมพิมพ Punch ลงมากดอัด ชิ้นงาน ชิ้นโลหะจะถูกบังคับใหไหลเขาไปในสวนเวา สวนโคงหรือรองตื้นๆ สวนมากจะเปน ประเภทโลหะออน เชน เหรียญเงิน หรือเหรียญตราตางๆ พั้นช วัสดุงาน งาน
รูปเหรียญ
ขึ้นรูปนูน
รูปที่ 10.13 การทําเหรียญตรา ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา165
184
การพิมพลายนูน เปนวิธีการขึ้นรูปลักษณะเกี่ยวกับการดึงขึ้นรูปหรือการดันขึ้นรูป เพื่อให โลหะเกิดการยืดเปนรูปรางตามแบบที่ตองการ ใชแรงการดันขึ้นรูปนอยกวาการทําเหรียญตรา เชน เหรียญหอยคอ แผนปายชื่อ หรือลายสวยงามที่พิมพลงบนแผนโลหะบางตางๆ
พั้นช
งาน
ดาย
การพิมพลายนูนแบบหมุน(Rotary embossing)
รูปที่ 10.14 การพิมพลายนูน ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา165
10.8 การย้ําหมุด (Riveting) กรรมวิธีนี้ใชสําหรับการยึดหรือตอชิ้นงานใหติดกัน ขั้นตอนแรกจะตองเจาะรูที่ชนิ้ งานทั้งสอง ชิ้นกอน แลวนําหมุดย้ําใสรูเจาะจากนั้นก็อัดหรือตอกปลายของหมุดย้ําใหยุบเกิดเปนหัว
แมพิมพ ย้ําหัวหมุด งานที่ย้ําหมุด
รูปที่ 10.15 แสดงการย้ําหมุด
185
10.9 การย้ําหัว (Staking) กรรมวิธีนี้ เปนการตอกหรือย้ําหัวของปลายของชิ้นสวนใหบานออก ซึ่งจะทําใหเกิดความ แนนมากขึ้น เชน การตอกปลายเพลา ที่สวมกับรูเฟอง แมพิมพ ปลายเข็ม เฟอง
เพลา
รูปที่ 10.16 การตอกปลายเพลา 10.10 การดัดเหล็กแผน (Plate bending) กรรมวิธีนี้เปนการขึ้นรูปโลหะแผน โดยเครื่องมวนซึ่งมีลูกกลิ้งขนาดเทากัน 3 ลูก เปนตัว บังคับ โดยที่ 2 ลูกกลิ้งดานลางยึดอยูกับที่ สวนลูกกลิ้งตัวบนจะเปนตัวบังคับกดแผนโลหะใหได สวนโคงงอตามที่ตองการ เครื่องแบบนี้สามารถดัดเหล็กแผนไดหนาถึง 30 มม. ลูกกลิ้งปรับ
ลูกกลิ้งคงที่
แผนเหล็ก
รูปที่ 10.17 การดัดเหล็กแผนขึน้ รูป
186
10.11 การรีดขึ้นรูป (Roll forming) กรรมวิธีนี้เปนการรีดขึ้นรูปโดยใชเครื่องรีดที่มีลูกกลิ้งหลายคูและหลายชุด ทําการรีดโลหะ อยางตอเนื่องดวยความเร็วขอบ 18-90 เมตร/นาที จนไดชิ้นงานสําเร็จ เชน ตัวซี ตัวแอล ทอ หรือรูปทรงตางๆ ตามรูปที1่ 0.18 (1) เปนการแสดงการรีดขึ้นรูปทอ โดยการใชลูกกลิ้ง5ชุดทําการรีดเพื่อลด ขนาดลงตามลําดับ หลังจากการรีดเปนรูปทอแลวจะวิ่งผานลูกกลิ้งอีกชุดหนึ่ง เพื่อทําการเชื่อม รอยตอใหติดกันเปนการเชื่อมแบบความตานทาน
ลูกกลิ้ง
1.การรีดขึ้นรูปทอ
2.ขั้นตอนการขึ้นรูปตะขอ
รูปที่ 10.18 เครื่องรีดขึ้นรูปทอและขั้นตอนการขึ้นรูปตะขอ ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา 167
187 10.12 การเขาตะเข็บ (Seaming) กรรมวิธีนี้เปนการผลิตรูปทรงกระบอกขนาดตางๆ เชน กระปอง ถัง หรือชิ้นงานที่มีลักษณะ คลายๆกัน โดยการใชโลหะแผนขนาดบางๆ การตอจะใชตะเข็บในรูปแบบตางๆ ดังนี้
1. ขึ้นรูปทรง
2. พับขอบ
4.ตะเข็บใน
3. ตะเข็บนอก
วิธีการเขาตะเข็บยาวของโลหะแผนทรงกระบอก
2. ตะเข็บสําเร็จ
1. เตรียมขึ้นรูปขอบ
วิธีการเขาตะเข็บผสมของโลหะแผนทรงกระบอก
1. เตรียม
2. มวนขอบลง
3. ตะเข็บสําเร็จ
วิธีการเขาตะเข็บสองชั้นของฝากระปอง
1. เตรียม
2. มวนขอบลง
3. ตะเข็บสําเร็จ
วิธีการเขาตะเข็บสองชั้นของฐานกระปอง
รูปที่ 10.19 การเขาตะเข็บแบบตาง ๆ ที่มา:ธนรัตน,มณฑล,กรรมวิธีการผลิต,หนา166
วิธีการเขาตะเข็บยาว จะใชสําหรับรอยตอชิ้นงานที่ไมตองการยึดแนนมากนัก สวนวิธีการ เขาตะเข็บผสม จะใหความแข็งแรงมากกวาแบบการเขาตะเข็บยาว และวิธีการเขาตะเข็บสองชั้น จะใชตอชิ้นงานที่เปนภาชนะแบบราบหรือแบบขอบสั้น สําหรับการเขาตะเข็บสองชั้นอาจจะทํา ไดดวยมือหรือกึ่งอัตโนมัติหรืออัตโนมัติทั้งหมดก็ได
188
10.13 การขึ้นรูปดวยพลังงานสูง (High –energy- rate forming ) กรรมวิธีนี้เปนการขึ้นรูปโลหะ โดยอาศัยแรงของพลังงานในการกระทํา งานทีไ่ ดจะมีความ เที่ยงตรง ตนทุนการผลิตต่ํา ขนาดของแรงที่ใชมีขนาดแตกตางกันไปตามลักษณะของงาน ตารางที่ 10.1 ขนาดพลังงานที่ไดจากวิธีการตางๆ ลําดับที่ วิธีการ ความเร็ว เมตร/นาที 1 การอัดดวยไฮดรอลิก (Hydraulic press) 1.80 2 การอัดดวยระบบเบรก (Brake press) 1.80 3 การอัดดวยระบบกลไก (Mechanical press) 1.80 – 4.40 4 การตอกอัดดวยคอน (drop hammer) 14.4 – 258.0 5 การเคลื่อนที่ของแครเลื่อนดวยกาธ (gas-actuated ram) 120 – 4,900 6 การระเบิด (explosive) 540 – 13,800 7 ระบบแมเหล็ก (magnetic) 1,600 – 13,800 8 ระบบไฟฟาไฮดรอลิก (electro-Hydraulic) 1,600 – 13,800 ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา168
การขึ้นรูปดวยพลังอัดขึ้นรูป (explosive forming) โดยอาศัยการระเบิดแลวทําใหพลังงานผาน ตัวกลางตางๆไปดันชิ้นงานใหขึ้นรูปตามแมพิมพ แรงระเบิด วัสดุงาน แมพิมพแยก
ทอสุญญากาศ
จุดขึ้นรูป
1. การขึ้นรูปดวยแรงอัดจากของเหลว
2. การขึ้นรูปดวยแรงอัดจากน้ํา
ลูกสูบ
หัวเก็บประจุ
ดาย
3. การขึ้นรูปดวยแรงดันจากแกส
4. การขึ้นรูปดวยคอนตีขึ้นรูป
รูปที่ 10.20 การขึ้นรูปดวยแรงดันตางๆ ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา 168
189
การขึ้นรูปโลหะดวยแมเหล็ก (Magnetic forming) เปนการขึ้นรูปโดยอาศัยพลังงานจากไฟฟา โดยการนําขดลวดไฟฟาพันรอบชิ้นงานที่ตองการขึ้นรูป แลวปลอยกระแสไฟฟาแรงคลื่อนสูงผาน ขดลวดจะทําใหเกิดสนามแมเหล็กสูง ชิ้นงานบริเวณขดลวดและใกลเคียงก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ตามแบบ สวิตชอัดไฟฟา สวิตชกระแสไฟแรงสูง ไฟฟาแรงสูง
คาปาซิเตอร ลวด งาน
1. วงจรขึ้นรูปดวยแมเหล็กไฟฟา
2. งานที่ไดจากการขึ้นรูปดวยแมเหล็กไฟฟา แมเหล็กไฟฟา
รูป10.21 การขึ้นรูปดวยแมเหล็กไฟฟา ที่มา:ประเวศ,กรรมวิธีการผลิต,หนา169
10.14 การกระแทกขึ้นรูป (Impact extrusion) กรรมวิธีนี้เปนการขึ้นรูปโลหะออน เชน อลูมิเนียม ตะกั่ว สังกะสี ใหเปนทอตัน หรือทอกลวง เชน หลอดยาสีฟน ทอกลวงตางๆ วิธกี ารทําใชแมพิมพพั้นช (Punch) กระแทกลงมายังแมพิมพดาย (Die) โลหะออนจะไหลทะลุแมพิมพดาย หรือไหลขึ้นเกาะแมพิมพพั้นช จนเปนทอกลวงสําเร็จ ดังรูปที่ 10.22
190
พั้นช ดาย
ทอขึ้นรูป วัสดุ
1. การกระแทกขึ้นรูปบน
ดาย
พั้นช วัสดุงาน
2. การกระแทกขึ้นรูปลาง
รูปที่ 10.22 การกระแทกขึ้นรูป
195 แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน ประจําหนวยที่ 10 เรื่อง การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น ตอนที่ 1 จงทําเครื่องหมาย √ ลงในคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. วัตถุประสงคของการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น คือขอใด ก. ผิวงานเรียบ – ขนาดเที่ยงตรง – ประหยัด ข. ผิวงานละเอียด – ความเหนียวลดลง – ตนทุนต่ํา ค. แข็งแรงดี – ขนาดเที่ยงตรง – ตนทุนสูง ง. แข็งแรงดี – ขนาดไมเที่ยงตรง – ตนทุนต่ํา 2. อุปกรณอะไรที่ใชในการควบคุมขนาดของรูทอใหมีขนาดเทากันตลอด ก. เพลา ข. ลูกกลิ้ง ค. แกนเหล็ก (Mandrel) ง. หัวเปาความรอน 3. แมพิมพที่ใชสําหรับการดึงลวด ทํามาจากโลหะอะไร ก. เหล็กเหนียว ข. เหล็กหลอ ค. โลหะคารไบด ง. โลหะผสม 4. กรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นในขอใดมีลักษณะวิธีทําเหมือนกับการปนเครื่องดินเผา ก. การหมุนขึ้นรูป ข. การดันขึ้นรูป ค. การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น ง. การอัดแบบหลอ 5. แมพิมพที่ทํามาจากไมหรือพลาสติกเหมาะกับการขึ้นรูปโลหะในขอใด ก. การหมุนขึ้นรูป ข. การดันขึ้นรูป ค. การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น ง. การอัดแบบหลอ 6. กรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นขอใดที่ใหคุณภาพงานมีรูปรางขนาดเทากันตลอดผิวเรียบ ตนทุนการผลิตต่ํา ก. การหมุนขึ้นรูป ข. การดันขึ้นรูป ค. การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น ง. การอัดแบบหลอ 7. เหรียญหอยคอ แผนปายชื่อ ใชกรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นในขอใด ก. การตอกหรือการตีขึ้นรูปเย็น ข. การอัดแบบหลอ ค. การพิมพลายนูน ง. การทําเหรียญตรา
196 8. การย้ําหมุดขั้นตอนแรกจะตองทําอะไรกอน ก. ทําความสะอาดผิวงาน ข. วางแบบ ค. ตอกนําศูนย ง. เจาะรูชิ้นงาน 9. การดัดเหล็กแผนเปนกรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะแผนโดยใชลูกกลิ้งขนาดเทากันกี่ลูก ก. ลูกกลิ้ง 2 ลูก ข. ลูกกลิ้ง 3 ลูก ค. ลูกกลิ้ง 4 ลูก ง. ลูกกลิ้ง 5 ลูก 10. เหล็กตัวซี เหล็กตัวแอล ทอ หรือรูปทรงตางๆ ใชกรรมวิธีการขึ้นรูปในขอใด ก. การหมุนขึ้นรูป ข. การดันขึ้นรูป ค. การรีดขึ้นรูป ง. การดัดเหล็กแผน ตอนที่ 2 จงตอบคําถามตอไปนี้โดยการอธิบายสั้นๆพอเขาใจ 1. การขึ้นรูปโลหะสภาพเย็น หมายถึง อะไร .................................................................................... 2. จงอธิบายขอดี – ขอเสีย ของการขึ้นรูปโลหะสภาพเย็นมาอยางละ 2 ขอ ..................................... ........................................................................................................................................................... 3. การดึงทอในสภาพเย็นจะตองใชแรงมากจนทําใหโลหะเกิดความเคนขึน้ เกินจุดอะไร.................. ........................................................................................................................................................... 4. การดึงลวด โดยการนําเหล็กเสนมาทําความสะอาดแลวจุมลงในน้ํากรด เพื่ออะไร....................... ............................................................................................................................................................ 5. จงยกตัวอยางงานที่ทําดวยวิธีการหมุนขึ้นรูป ................................................................................ 6. กรรมวิธีการผลิตแบบการอัดแบบหลอ นิยมใชกันอยางกวางขวางสําหรับงาน ............................. ............................................................................................................................................................ 7. จงอธิบายการทําเหรียญตรา ........................................................................................................... ............................................................................................................................................................. 8. การย้ําหมุดคืออะไร ........................................................................................................................ 9. กรรมวิธีโดยการใชเครื่องรีดที่มีลูกกลิ้งหลายคูและหลายชุด ทําการรีดโลหะอยางตอเนื่องดวย ความเร็วขอบ 18-90 เมตรตอนาที จนไดชิ้นงานสําเร็จเรียกวากรรมวิธีอะไร ...................................... ............................................................................................................................................................. 10. การกระแทกขึ้นรูป (Impact extrusion) กรรมวิธีนี้เปนการขึ้นรูปโลหะประเภทใด ..................... ……………………………………………………………………………………………………..