คำนำ
กรรมทางพระพุทธศาสนา นอกจากจะจำแนกเป็นกรรมดีและกรรมชั่ว แล้ว ในอีกมุมมองหนึ่งยังแบ่งออกเป็น ๒ มิติ คือ กรรมที่ส่งผลกระทบเฉพาะตน อาจเรียกว่า อัตตกรรม และกรรมที่ส่งผลกระทบ หรือเกี่ยวพันถึงผู้อื่น อาจ เรียกว่า ปรกรรม การให้ผลของกรรมทั้ง ๒ ลักษณะนั้น ย่อมแตกต่างกัน
อัตตกรรมจะให้ผลแก่บุคคลนั้น เช่นคนที่มักโกรธ ขี้อิจฉา กรรมก็จะส่งผลให้
ผิวพรรณดำ เศร้าหมอง ไม่งาม เป็นต้น ส่วนปรกรรมจะเป็นการรับกรรมที่เกิด จากการกระทำของผู้อื่นที่เคยถูกเราทำร้ายมาก่อน ที่เรียกว่า เจ้ากรรมนายเวร ตามทวง และเมื่อเจ้ากรรมนายเวรตามทัน เราทุกคนก็ต้องชดใช้กรรมอย่าง สาสมแก่กรรมที่ทำกับเขาไว้ แต่ใช่ว่าเราจะต้องรับกรรมอย่างนั้นเสมอไป ถ้าหาก เราทำให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมได้ เวรภัยก็จบลง หนังสือเล่มนี้ได้แนะนำ ๑๐ วิธีที่จะทำให้เจ้ากรรมนายเวรให้อโหสิกรรม ซึ่งเมื่อนำไปปฏิบัติแล้วสามารถตัดกรรมได้จริง นอกจากนี้ยังได้รวบรวม บทสวดมนต์เพื่อตัดกรรม และการรักษาโรคด้วยสมุนไพรเอาไว้อย่างมากมาย มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี ขอขอบพระคุณ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อ พุทธศาสน์ ที่อนุญาตให้นำต้นฉบับทั้งหมดนี้มาจัดพิมพ์เผยแผ่เป็นธรรมทาน และขออนุโมทนาบุญกับชาวพุทธทุกๆ ท่าน ที่ร่วมสมทบทุนเป็นเจ้าภาพในการ จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้แจกเป็นธรรมทานบารมี อันเป็นการช่วยส่งเสริมและเผยแผ่ พระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองคงอยู่สืบไป และช่วยให้ธรรมเกิดในใจคน มีสุข สันติ และอิ่มบุญบารมี ขออนุโมทนาสาธุ มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
วิธีเอาชนะเคราะห์กรรม ที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวร*
ชีวิตทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกนี้ ทุกคนต่างมีเจ้ากรรมนายเวรเป็น ของตน ไม่มีใครไม่มีเจ้ากรรมนายเวร แม้กระทั่งพระพุทธเจ้าก็มีเจ้ากรรม นายเวรตามทวง เช่น การที่พระองค์ถูกพระเทวทัตปล่อยช้างไล่ หรือกลิ้ง หินลงมาทับก็ตาม เป็นผลมาจากกรรมที่พระองค์เคยทำอย่างนั้นกับผู้อื่น มาก่อน เจ้ากรรมนายเวรคือใคร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงให้ความหมายไว้ในหนังสือ “อำนาจ อันยิ่งใหญ่แห่งกรรม” ว่า “เจ้ากรรมนายเวร คือ ผู้ที่ถูกทำร้ายก่อนและ ผูกอาฆาตจองเวร” และหนังสือ “อภัยทาน” ที่เขียนโดย ปิยโสภณ ได้กล่าวถึง ลักษณะของเจ้ากรรมนายเวรไว้ว่า “เจ้ากรรมนายเวร คือสัตว์น้อยใหญ่ที่เรากินเป็นอาหาร เรา ชอบกินหมู เจ้ากรรมนายเวรของเราคือหมู เราชอบกินไก่ เจ้ากรรม นายเวรของเราคือไก่ เราชอบกินเป็ด เจ้ากรรมนายเวรของเราคือเป็ด แม้กุ้งหอยปูปลาที่เรากินมาตั้งแต่เกิดกระทั่งวันนี้ นับไม่ถ้วนว่ากี่ร้อย
กี่พันชีวิต ก็คือเจ้ากรรมนายเวรของเราทั้งสิ้น เนื้อหนังมังสาของเรา อวัยวะทุกส่วนล้วนแต่มีหุ้นส่วนชีวิตสัตว์ น้อยใหญ่ทั้งสิ้น บางครั้งเราคิดว่าเป็นของเราคนเดียว ไม่เคยแผ่เมตตา ให้สัตว์น้อยใหญ่ที่เรากินเข้าไปทุกวันๆ ทั้งๆ ที่เขาสละชีวิตของเขาเพื่อ ต่อชีวิตเราให้ยืนยาวออกไป * ข้อความหน้า ๓-๒๔ คัดจากหนังสือ ดูดวง แก้กรรม ทำได้เอง โดย ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัตย์ : สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง (อนุญาตให้จัดพิมพ์เฉพาะมูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมีเท่านั้น) มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
3
เขารู้สึกน้อยใจที่ถูกเพิกเฉย ความน้อยใจของเขาบางครั้งทำให้ เราเกิดโรคร้าย เช่น มะเร็ง เป็นต้นได้ บางทีก็ป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ หมอหาเหตุไม่พบ แต่พอแผ่เมตตากลับหาย เรื่องเช่นนี้มีตัวอย่างให้เห็น มากมาย” ตามหลักพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าสอนให้เชื่อกฎแห่งกรรม และสอนให้เชื่อเรื่องการตายแล้วเกิด คือสอนว่าก่อนคนเราจะเกิดมาเป็น มนุษย์ในชาตินี้นั้น เราทุกคนต่างมีอดีตชาติ คือเคยเกิดในภพภูมิต่างๆ
มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อเทียบจำนวนแล้วก็มากกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทร เสียอีก ซึ่งในแต่ละภพชาติที่เราเกิด เราได้สร้างเวรสร้างกรรมทั้งที่เป็น กรรมดีและกรรมชั่วเอาไว้มากมาย ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้ากรรมนายเวรของ แต่ละบุคคลก็มีไม่น้อยตามไปด้วย และในทางกลับกัน ตัวเราเอง หากมีใคร ได้กระทำความไม่พอใจให้แก่เรา และเราก็ได้ผูกโกรธอาฆาตพยาบาทไว้ เราก็กลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้อื่นด้วยเช่นกัน “ชีวิตที่ถูกเจ้ากรรมนายเวรอาฆาตสาปแช่ง ก็ไม่ต่างจากการ ถูกปาด้วยของเน่าเหม็น ทำให้ชีวิตแปดเปื้อน สกปรก หม่นหมอง
ไม่ผ่องใส หมดสง่าราศี มีตำหนิ มีอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิต” สมควรแล้วที่ต้องเป็นเช่นนี้ เป็นไปได้ว่า ไม่ยอมแผ่เมตตาให้เราบ้างเลย ผู้ที่ถูกฆ่าอย่างทารุณโหดร้าย เด็กทารกที่ถูกแม่ทอดทิ้ง หรือถูกฆ่าทำแท้ง อาจเป็นผลจากการที่เขาเคย กระทำกรรมเช่นนั้นกับคนอื่นมาก่อน จึงถูกสาปแช่งให้รับผลกรรม ในลักษณะเดียวกับที่เคยทำกับเขา เราอุตส่าห์สละชีวิตให้
4
กรรมตามสนอง
สวดมนต์พิชิตกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร และ สมุนไพรห่างไกลโรค
คนที่ถูกไฟไหม้บ้าน ถูกพายุถล่ม ถูกน้ำป่าไหลท่วมบ้าน เขาอาจ เคยทำลายบ้านเรือนหรือที่อยู่อาศัยของผู้อื่นมาก่อน เช่น อาจเคยนึกสนุก จุดไฟเผาป่าทำลายที่อยู่อาศัยทำลายบ้านของสัตว์ เคยขุดเจาะทุบจอมปลวก ราดน้ำรดรังมดแดง ทำลายรังนก เป็นต้น ทำให้เขาโกรธแค้น และ สาปแช่งให้ต้องประสบเหตุคล้ายคลึงกัน บางคนถูกสาปแช่งให้ต้องเป็นโรคร้ายแรงรักษาไม่หาย หรือบางคน
ก็ถูกสาปแช่งให้ต้องเป็นโรคประหลาดต้องทนทุกข์ทรมาน เจ้ากรรมนายเวรบางคนมีความอาฆาตแค้นรุนแรงถึงกับอธิษฐาน ให้ได้มาเกิดเป็นลูกเป็นหลานของผู้ที่ตนเกลียดชัง เพื่อที่จะได้สร้าง ความทุกข์ ความฉิบหายย่อยยับแก่เขาอย่างสาสม เพราะไม่มีสิ่งใดจะ สร้างความทุกข์ให้กับผู้คนได้มากเท่ากับสิ่งที่ตนรัก ยิ่งรักมากยิ่งสร้าง ความทุกข์ได้มาก พ่อแม่ท่านใดที่มีลูกกระทำตัวชั่วช้า สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจอยู่เสมอ ว่ากล่าวตักเตือนอย่างไรก็ไม่ฟัง ให้รู้เถอะว่านั่นคือ “เจ้ากรรมนายเวรของตน” ถ้าลูกท่านเกเรเกเสออกนอกลู่นอกทาง ท่านอย่าไปตี อย่าไปด่า ไปว่าลูก ขอท่านผู้เป็นมารดาบิดาโปรดแผ่เมตตาให้ลูก อย่างต่ำก็สวด พาหุงมหากาฯ แล้วทำจิตใจให้สบายทั้งสามีภรรยา ตั้งใจอุทิศส่วนกุศล ให้ลูกเกเรเกเส ขอให้ลูกอยู่เย็นเป็นสุข เจริญสุข เจริญยศ เจริญอัครฐาน ด้วยวิชาการ รับรองลูกกลับร้ายกลายเป็นดีได้แน่ พระธรรมสิงหบุราจารย์
มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
5
๑๐ วิธีเอาชนะเจ้ากรรมนายเวร การเอาชนะเจ้ากรรมนายเวรที่ดีที่สุด คือการทำคุณงามความดี แล้วแผ่อุทิศส่วนกุศลไปให้ ซึ่งพอจะนำมากล่าวเป็นตัวอย่างได้ ดังนี้ ๑. สวดมนต์บทมหาเมตตาหลวงคืนละ ๓ จบ ติดต่อกัน ๙ เดือน และตั้งจิตอุทิศส่วนบุญ ไปให้เจ้ากรรมนายเวร วิธีนี้หลวงพ่อจรัญ แห่งวัด อัมพวัน แนะนำลูกศิษย์บางคนให้สวด และได้ผล หายจากโรคร้าย พ้นจากการติดคุกก็มี ๒. สร้างพระพุทธรูปปางชนะมารถวาย วัด เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ คติความเชื่อนี้
ได้ยึดถือมาแต่โบราณเพราะเชื่อว่าเจ้ากรรมนายเวร ก็ถือเป็นมารประเภทหนึ่ง เมื่อสร้างพระพุทธรูป ปางนี้แล้ว จะมีอานิสงส์ทำให้เจ้ากรรมนายเวร
มารบกวนหรือเบียดเบียนไม่ได้ ๓. ปล่ อ ยนก ปล่ อ ยปลา ปล่ อ ยสั ต ว์
ไถ่ชีวิตโคกระบือ การได้ช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น โดย เฉพาะสัตว์ที่กำลังถูกนำไปฆ่า ขณะทำดวงจิตของ ผู้ทำประกอบด้วยเมตตา กรุณา ปรารถนาให้ผู้อื่น เป็นสุข ย่อมได้บุญมาก อนึ่ง สัตว์ที่เราช่วยชีวิต ย่อมส่งจิตเมตตาขอบคุณ อวยพรให้เรามีความสุข อย่าได้มีทุกข์ กระแสจิตนี้ก็จะช่วยคุ้มครองเราให้ ปลอดภัยจากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี 6
ขอให้สรรพสัตว์เป็นสุข
สร้างพระชนะกรรม
ขอให้พวกเจ้ามีความสุข และอธิษฐานจิตช่วยให้ ฉันพ้นทุกข์ด้วยนะ
สวดมนต์พิชิตกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร และ สมุนไพรห่างไกลโรค
๔. ถือศีลกินเจ การรับประทานเนื้อที่ซื้อ ตามตลาด แม้ว่าเราไม่ได้ฆ่าเอง ก็ถือได้ว่าเป็น
ผู้สนับสนุนให้มีการฆ่าสัตว์ เป็นการทำบาป สร้าง เวรกรรมโดยอ้อม เพราะสัตว์ที่ถูกฆ่าย่อมสาปแช่ง ทุกคนที่กินเนื้อของเขา การงดรับประทานเนื้อสัตว์ หรือกินเจเป็นการไม่เพิ่มบาป และไม่เพิ่มเจ้ากรรม นายเวรแก่ตน
กินเจดีต่อสุขภาพ
๕. บวชชี พ ราหมณ์ หรื อ อธิ ษ ฐานถื อ
ศีล ๘ ในวันพระ มีบางท่านที่เจอะเจอปัญหาที่ หนักหนาสาหัส โดนคุณไสยใส่ของ เป็นโรคร้ายแรง เรื้อรัง เมื่อได้บวชชีพราหมณ์ หรืออธิษฐานถือ
ศีล ๘ ในวันพระแล้วสามารถแก้ปัญหาได้ หายโรค การถือบวชเป็นการประกาศให้เจ้ากรรมนายเวร ได้เห็นว่าเรากลับตัวกลับใจเป็นคนดี ยึดมั่นในศีล ละเลิกจากการเบียดเบียนสัตว์อื่นอย่างจริงจังแล้ว ทำให้เขายอมอภัยและอนุโมทนากับเรา
๖. อุ ป สมบทเป็ น พระภิ ก ษุ การบวช
เป็ น พระภิ ก ษุ นี้ มี อ านิ ส งส์ เ หมื อ นกั บ การบวช
ชีพราหมณ์ แต่มีอานิสงส์มากกว่าหลายเท่านัก เพราะพระภิ ก ษุ ต้ อ งถื อ ศี ล ๒๒๗ ซึ่ ง มากกว่ า
ชีพราหมณ์ซึ่งถือศีล ๘ ตัวอย่างการอุปสมบทแล้ว ตัดเวรกรรมได้ก็คือ พระองคุลิมาล ที่ฆ่าคนมาถึง ๙๙๙ ศพ พอมาบวชในพระพุทธศาสนาแล้วได้ บรรลุพระอรหันต์ เวรกรรมทั้งหมดก็สิ้นสุดลง มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
ถือศีลปฏิบัติธรรม แล้วจิตใจสงบ สบายอย่างนี้นี่เอง
บวชพระแล้ว ตั้งใจรักษาศีลนะ
7
๗. ทำบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรโดยเฉพาะ ซึ่งมีหลายรูปแบบ ทำบุญเลี้ยงพระ ทำบุญถวายสังฆทาน อายุ วรรณะ สุขะ พละ ทำบุ ญ ตั ก บาตรเหมื อ นกั บ การทำบุ ญ ทั่ ว ไป เพี ย งแต่ ว่ า การทำบุ ญ ครั้ ง นี้ เรา เจาะจงที่จะทำบุญอุทิศให้กับเจ้ากรรม นายเวร โดยเฉพาะมีบางท่านที่ป่วยหนัก แล้วทำบุญเลี้ยงพระ กรวดน้ำอุทิศให้แก่ เจ้ากรรมนายเวร ทำให้หายป่วยในเวลา ต่อมา ๘. การบนบานศาลกล่าว วิธีนี้อาจเป็นวิธีที่ดูจะงมงายอยู่บ้าง และในพระพุทธศาสนาก็ไม่สนับสนุนให้ทำ แต่พระพุทธองค์ก็มิได้ทรง ปฏิเสธว่าไม่ได้ผลจริง เพียงแต่พระพุทธองค์ให้ทำอย่างมีสติไม่ให้ทำอย่าง งมงาย การบนบานศาลกล่าวนี้เป็นการขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ตนเคารพบูชาให้ช่วยเจรจากับเจ้ากรรมนายเวรของเราให้ทีว่า ขอให้
เจ้ากรรมนายเวรยกโทษให้แก่เรา เจ้ากรรมนายเวรอยากได้สิ่งใด อยากให้ เราทำอะไรให้ก็ขอให้บอก แล้วเราจะทำตามทุกอย่าง จะว่าเป็นการขอให้ ท่านต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวรก็ได้ ซึ่งวิธีนี้มีผู้ใช้ได้ผลเหมือนกัน
ถ้าหายป่วย จะถวายหัวหมู อีกนะเจ้าพ่อ
8
สวดมนต์พิชิตกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร และ สมุนไพรห่างไกลโรค
๙. เจริ ญ เมตตาเป็ น ประจำ โดยการ
จงเป็นสุขๆ เถิด บริกรรมไว้ในใจอยู่เสมอๆ ว่า “จงเป็นสุขๆ เถิด” การแผ่เมตตาให้ลักษณะนี้จะช่วยให้เราปล่อยวาง ความโกรธความขุ่นเคืองต่างๆ ในจิตใจเราได้ ช่วย ให้ใจสงบเย็น หากทำให้ติดเป็นนิสัยจะทำให้จิต อ่อนโยน ส่งแผ่เมตตาไปสู่เจ้ากรรมนายเวรให้เขา ใจอ่อน เลิกอาฆาตพยาบาทเราได้เช่นกัน แต่ต้อง ทำให้ได้มากครั้ง ทุกนาที ทุกวินาทียิ่งดี ๑๐. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน กรรมเวร ยุบหนอ พองหนอ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแท้จริงเกิดจากดวงจิตที่มีกิเลสของ เรา คนที่ฆ่าสัตว์มากๆ ความเหี้ยมโหดก็พอกพูน ในใจมากขึ้น คนที่โลภมากๆ กิเลสคือความอยากได้ ก็พอกพูนมากขึ้นตามลำดับ คนที่หลงมัวเมาใน
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ กิเลสคือโมหะ ก็เพิ่มในใจเขา มากขึ้นทุกที การที่ใจหมักหมมไปด้วยกิเลสเช่นนี้ จะส่งผลต่อสุขภาพต่อความเป็นอยู่ของชีวิตเราด้วย คนที่โกรธบ่อยๆ ย่อมแก่เร็ว เครียดมากมีสิทธิ์เป็นโรคหัวใจ หรือ โรคมะเร็งได้ การฝึกวิปัสสนากรรมฐานจะช่วยให้เรารู้ความคิดของเรา รู้จัก ควบคุมใจไม่ให้กิเลสพอกพูนในใจ อีกทั้งยังละกิเลสเก่าที่อยู่ในใจออกไป
ได้ด้วย การที่เรานำกิเลสออกจากใจได้มากเท่าไร กรรมเวรของเราก็ยิ่ง
ลดน้อยลงเท่านั้น ดังคำของพระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม) ว่า “ปัญหาทุกอย่างของมนุษย์ แก้ได้ด้วย วิปัสสนากรรมฐาน” มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
9
สวดพุทธคุณแก้เคราะห์
“อาตมาสังเกตว่า บางคนเขาไปหาหมอดู เคราะห์ร้ายก็ต้องสะเดาะเคราะห์ อาตมาก็มาดูเหตุการณ์ โชคลางไม่ดีก็เป็นความจริงของหมอดู อาตมาก็มาตั้งตำราขึ้นมาด้วยสติ บอกว่าโยมไปสวดพุทธคุณเท่าอายุให้เกิน ๑ ให้ได้ เพื่อให้สติดี แล้วสวดพาหุงมหากาฯ หายเลย สติก็เกิดขึ้น เท่าที่ใช้ได้ผล สวดตั้งแต่ นะโม พุทธัง... ธัมมัง... สังฆัง... พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากา จบแล้วย้อนกลับมาข้างต้นเอาพุทธคุณห้องเดียว ห้องละ ๑ จบ ต่อ ๑ อายุ, อายุ ๔๐ ปี สวด ๔๑ จบ, อายุ ๓๕ สวด ๓๖ ก็ได้ผล”
บทสวดมนต์ประจำวัน ๑. บทกราบพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ. (กราบ) ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ. (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ. (กราบ)
๒. บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ ครั้ง)
๓. บทไตรสรณคมน์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
11
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.
๔. บทสรรเสริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
บทสวดว่าด้วยคุณของพระพุทธเจ้า ๙ ประการ มีความเป็น
ผู้ห่างไกลจากกิเลส ความเป็นผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง เป็นต้น,
คุณของพระธรรม ๖ มีความเป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ความ เป็นธรรมที่ิพึงเห็นด้วยตัวเอง เป็นต้น, และคุณของพระสงฆ์ ๙ ประการ
มีความเป็นผู้ปฏิบัติดี เป็นต้น
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชชา-
จะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู, อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ. ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก, โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ. สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลิกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.
12
สวดมนต์พิชิตกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร และ สมุนไพรห่างไกลโรค
๕. บทสวดชัยมงคลคาถา
ว่าด้วยชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า ๘ ครั้ง มีชนะมาร, ยักษ์, ช้างตกมัน, โจรองคุลิมาล, การถูกใส่ร้าย, นักโต้วาที, นาคเกเร และพรหม ผู ้หลงผิด มีอานุภาพทำให้ผู้สวดมีชัยชนะเหนืออุปสรรค ศัตรูทุกอย่าง
พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ค๎รีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตั นเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. (ชนะมาร) มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตั นเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. (ชนะยักษ์) นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตั นเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. (ชนะช้างตกมัน) อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. (ชนะโจรองคุลิมาล) * ถ้าสวดให้คนอื่น เปลี่ยน เม (แก่เรา) เป็น เต (แก่เขา) มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
13
กัต๎วานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตั นเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. (ชนะคนใส่ร้าย) สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตั นเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. (ชนะนักโต้วาที) นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตั นเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. (ชนะนาคเกเร) ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พ๎รัห๎มัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตั นเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. (ชนะพรหมหลงผิด) เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิต๎วานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ. * ถ้าสวดให้คนอื่น เปลี่ยน เม (แก่เรา) เป็น เต (แก่เขา)
14
สวดมนต์พิชิตกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร และ สมุนไพรห่างไกลโรค
๖. บทสวดชัยปริตร
บทสวดขอชัยชนะ ขอความสำเร็จให้บังเกิดขึ้นแก่ตน ดุจพระพุทธเจ้ามีชัยชนะเหนือพญามารและเสนามาร ถึงการตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ ฉะนั้น
มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรต๎วา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง. ชะยันโต โพธิยา มูเล สัก๎ยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง อะหัง วิชะโย โหมิ ชะยามิ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ. สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พ๎รัห๎มะจาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธี เม ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัต๎วานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ.
๗. บทสัพพมงคลคาถา
บทนี้สวดเพื่อขอความเป็นมงคลให้เกิดขึ้นแก่ตน ขอให้เทวดา คุ้มครองรักษา และขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยประทานความสุขสวัสดี แก่ตนตลอดไป มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
15
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง สัพพะพุทธานุภาเวนะ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง สัพพะธัมมานุภาเวนะ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง สัพพะสังฆานุภาเวนะ
รักขันตุ สัพพะเทวะตา สะทา โสตถี ภะวันตุ เม. รักขันตุ สัพพะเทวะตา สะทา โสตถี ภะวันตุ เม. รักขันตุ สัพพะเทวะตา สะทา โสตถี ภะวันตุ เม.
๘. แผ่เมตตาให้ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ, นิททุกโข โหมิ, อะเวโร โหมิ, อัพย๎ าปัชโฌ โหมิ,
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข; ปราศจากความทุกข์; ปราศจากเวร; ปราศจากอุปสรรคอันตราย และความเบียดเบียนทั้งปวง; อะนีโฆ โหมิ, ปราศจากความทุกข์กาย ทุกข์ใจ; สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ. มีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด.
๙. บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา,
อะเวรา โหนตุ,
16
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น; จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย;
สวดมนต์พิชิตกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร และ สมุนไพรห่างไกลโรค
อัพ๎ยาปัชฌา โหนตุ,
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย; อะนีฆา โหนตุ, จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ. จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด.
๑๐. บทแผ่ส่วนบุญส่วนกุศล อิทัง ปุญญะผะลัง ด้วยอานิสงส์แห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญ
มาแล้วนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศแด่บิดา มารดา ครูอาจารย์ ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีบุญคุณทุกท่าน เทพไท้เทวาทุกหมู่เหล่า เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ตลอดถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายใน ๓๑ ภพภูมิ จำแนกเป็น ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕
ชั้นดินทั้งหมดทั้งสิ้น ทั้งที่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี จงเป็นผู้มีส่วนได้รับ ผลบุญของข้าพเจ้าในคราวครั้งนี้โดยถ้วนหน้ากัน ท่านที่กำลังมีทุกข์ขอให้ พ้นจากทุกข์ ท่านที่กำลังมีสุขก็ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป และด้วยอานิสงส์แห่งการทำความดี และอุทิศส่วนบุญในคราว ครั้งนี้ จงเป็นปัจจัยหนุนส่งให้ข้าพเจ้ามีสุขทุกสถาน มีความเกษมสำราญ
ในกาลทุกเมื่อ มีสุขภาพแข็งแรงปราศจากทุกข์โศก โรค ภัย สมหวังในสิ่งที่ ปรารถนา อย่าได้พบพานกับอันตรายใดๆ และเมื่อมีเหตุปัจจัยถึงพร้อม ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้แจ้งในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำเร็จ เป็นพระอริยบุคคลก้าวพ้นซึ่งวัฏสงสาร ถึงบรมสุขในนิพพานในเร็ววันด้วย เทอญ สาธุ. มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
17
สมุนไพร รู้ ไว้ใช้ประโยชน์ ปัจจุบันการแพทย์ได้เจริญก้าวหน้าไปมาก เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย คน
ก็มักหันหน้าเข้าพึ่งคุณหมอตามโรงพยาบาล คนสมัยก่อนหากไม่เจ็บหนัก จริงๆ จะไม่ไปหาหมอ แต่จะรักษาดูแลกันเองตามภูมิปัญญาที่รับถ่ายทอด มาจากบรรพบุรุษปู่ย่าตายาย ตัวผู้เขียนเมื่อสมัยเป็นเด็ก พ่อกับแม่ก็จะแนะนำวิธีการรักษาโรค เล็กๆ น้อยๆ ด้วยตัวเอง เช่น ถ้าอยากจะนอน แต่นอนไม่หลับ ท่านก็จะแนะนำให้อมน้ำตาลทรายขาว ๒ ช้อน แล้วไปนอน ไม่ถึง ๕ นาทีก็จะหลับสบาย ไม่ต้องพึ่ง
ยานอนหลับ หรือวันไหนรับประทานส้มตำมากเกินไป เกิดอาการท้องเสีย
เทียวเข้าห้องน้ำหลายต่อหลายครั้ง พ่อก็จะไปเก็บใบฝรั่ง ๔-๕ ใบ กับ
ยอดฟ้าทะลายโจร ๒-๓ ยอด มาต้มน้ำให้ดื่ม อาการท้องเสียก็จะทุเลา หรือวันไหนมีอาการร้อนใน เป็นแผลในปาก ท่านก็จะแนะนำให้ไป ถากเอาเปลือกต้นแคมาเคี้ยวอมไว้สักพัก ไม่เกินสองวัน แผลในปากก็หาย สนิท จะเห็นว่า โรคบางอย่างเรารักษาให้หายเองได้ โดยไม่ต้องเสียเงิน เสียทองไปหาหมอตามคลินิก หรือโรงพยาบาล ซึ่งแต่ละครั้งก็ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐-๓๐๐ บาท จึงอยากนำเทคนิคการใช้สมุนไพรมาให้ท่านทั้งหลายได้ นำไปทดลองใช้ดู และท่านอาจจะเห็นด้วยกับผู้เขียนก็ได้ว่า โรคบางอย่าง
เรารักษาเองก็ได้ไม่ต้องเดือดร้อนหมอ ซึ่งนั่นหมายถึงเงินในกระเป๋าก็เหลือ ด้วย 18
สวดมนต์พิชิตกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร และ สมุนไพรห่างไกลโรค
๑. รักษาพิษไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวก มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น ใช้ยาสีฟันยี่ห้ออะไรก็ได้ ท่ี่เราใช้อยู่ทาบริเวณที่ถูกไฟไหม้ หรือถ้ายาสีฟัน หมดก็ให้ใช้น้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชู ชโลมบน แผล อาการปวดแสบจะค่อยทุเลา หรือจะใช้วิธีนำสำลีมาแปะบนแผล แล้วเอาน้ำยาแอลกอฮอล์
เทราดลงบนสำลี ทิ้งไว้สักพักอาการปวดแสบก็จะหาย วิธีนี้จะทำให้ไม่เป็น แผลเป็นอีกด้วย อีกวิธีหนึ่ง ถ้าบ้านท่านมีใบชาจีน ให้นำใบชาจีนไปแช่ในน้ำเย็นจัด กะว่าใบชาคลี่ออกแล้ว นำมาโปะบริเวณที่ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก รับรอง ได้ผลทันตา ๒. วิธีห้ามเลือด เมื่อเกิดแผลมีเลือดออก ต้องทำการห้ามเลือดโดยเร็ว วิธีห้ามเลือดให้ใช้ ใบพลูที่เคี้ยวกับหมากมากน้อยตามต้องการ นำมา ตำหรือเคี้ยวพอแหลก แล้วนำมาพอกที่แผลสักพัก เลือดจะหยุดไหล ถ้าหาใบพลูไม่ได้ หากมีหอมแดง ให้นำหอมแดงมาตำให้ละเอียดผสมกับเหล้า แล้ว พอกปิดปากแผลก็ได้ผลดีเช่นกัน ๓. วิธีแก้อาการเป็นตะคริว ตะคริวเกิดจาก อาการของการยึดหดของกล้ามเนื้อ หรือเส้นเอ็น และค้างอยู่ ไม่ยอมคลาย ทำให้เจ็บปวดบริเวณที่ เป็น วิธีแก้ให้อมเกลือทะเลพอละลายในปากแล้ว กลืนลงไป สักพักอาการเป็นตะคริวก็จะหาย หรือ จะใช้น้ำมันก๊าดนวด ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
19