สติงอกงาม บุญงอกเงย

Page 1


สติงอกงาม บุญงอกเงย ขอมอบธรรมะเล่มนี้ แด่ ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ......................................................................................

ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล ถึงบิดามารดาครูอาจารย์ คนเคยร่วมทำงานการทั้งหลาย ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ

บุญกุศลนี้แผ่ไปให้ไพศาล ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน มีส่วนได้ในกุศลผลของฉัน ขอให้ท่านได้กุศลผลนี้เทอญ.


บทอธิษฐานขออโหสิกรรม

กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง สัญจิจจะกัมมัง อะสัญจิจจะกัมมัง ขะมันตุ เม อะโหสิกัมมัง ภะวะตุ เม.

กรรมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ข้าพเจ้า

ได้ทำล่วงเกินแก่ผู้ใด ทั้งโดยตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ในภพชาติใดก็ตาม ขอให้ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโปรดยกโทษให้เป็นอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า อย่าได้ จองเวรจองกรรมต่อกันอีกเลย แม้แต่กรรมใดที่ใครๆ ทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ ทั้งสิ้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน ขอจงดลใจให้เขาเหล่านั้นกลับมี เมตตาจิต คิดเป็นมิตรกับข้าพเจ้า เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันตลอดไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้าพร้อมทั้งครอบครัว ตลอดจน วงศาคณาญาติ ผู้มีอุปการคุณของข้าพเจ้า พ้นจากความทุกข์ยากลำบากเข็ญใจ ความทุกข์อย่าได้ใกล้ ความเจ็บไข้อย่าได้มี ขอให้มีความสุขสวัสดีมีชัย เสนียดจัญไร และอุปัทวันตรายทั้งหลาย จงเสื่อมสิ้นหายไป นึกคิดปรารถนาสิ่งใด

ที่เป็นไปโดยชอบประกอบด้วยธรรมแล้ว ขอให้สิ่งนั้นจงพลันสำเร็จ จงพลัน สำเร็จ จงพลันสำเร็จเทอญ

นิพพานะปัจจะโย โหตุ


เพราะ สติ คือมารดาของบุญและความดีทั้งปวง ดังนั้น ผู้ที่ต้องการมีชีวิตที่งอกงามพึงสร้างสติให้งอกเงย

สติ

งอกงาม

งอกเงย

บุญ

ธรรมบรรยาย โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม) สรรค์สาระ : กฤษดา รามัญศรี บรรณาธิการสาระ : ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัตย์ ออกแบบปก : อนุชิต คำซองเมือง รูปเล่ม/จัดอาร์ต : วันดี ตามเที่ยงตรง ภาพประกอบ : ชิชกาน ทองสิงห์ พิสูจน์อักษร : อรัญ มีพันธ์


คำนำสำนักพิมพ์ ความทุกข์ของคนเราเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และปัจจุบันอัตรา ความทุกข์ของคนสูงขึ้นมาก แล้วเราทุกข์ในเรื่องอะไรได้บ้าง ? ยกตัวอย่างเช่น เรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องสุขภาพ เรื่องครอบครัว เป็นต้น แล้วความทุกข์ของเราเกิดขึ้นจากอะไร ? คำตอบก็คือ เกิดจากความคิดของเราเอง ยกตัวอย่าง เช่น เราได้ยินคนแอบติฉินนินทา เราก็เกิดความคิดในแง่ลบที่ว่า ทำไมเราต้องถูกนินทา ความโกรธและทุกข์ก็เกิดขึ้น กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ส่งผลต่อสุขภาพ รวมไปถึงหน้าที่การงาน สุดท้าย

ก็ไม่เหลืออะไร เพราะความคิดของเราเอง ถ้าเราคิดดี ฟังด้วย ปัญญาว่า คนนินทาเราเพราะเขาอยากเป็นแบบเรา เขาอิจฉาเรา เพราะเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด คนที่นินทาว่าเราก็จะเป็นบาป แก่ตัวเขาเอง หรือเราปฏิบัติตัวไม่ดีจริงตามที่เขานินทาก็ปรับปรุง ตัวเองเสียใหม่ ประโยชน์ก็จะเกิดกับเรา ดังคำทีพ่ ระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม) ได้กล่าวไว้ว่า

“เขาด่าเราก็คือด่าเขานั่นเอง เขาก็เป็นบาปคนเดียว เดือดร้อนมาก ใจเศร้าหมองที่ด่าเรา


เราทำใจได้ เราทำจิตใจดีมีปัญญา เราก็เลยได้บุญที่รับฟังคำด่าได้ เราได้บุญที่ปลงตกแล้ว”

หนังสือ “สติงอกงาม บุญงอกเงย” เล่มนี้เป็นการเสนอ พระธรรมเทศนาเกี่ยวกับวิธีการรู้ถึงอารมณ์ของตนเอง และวิธี คิดเพื่อพบกับความสุข ของพระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อ จรัญ ฐฺิตธมฺโม) แห่งวัดอัมพวัน อีกทั้งยังมีส่วนของการสวดมนต์ เพื่อให้ใจสงบ การเจริญกรรมฐานหลังจากสวดมนต์ และความรู้ เกี่ยวกับอบายมุข ๖ ประการ ที่ควรศึกษาเพื่อเป็นเกราะป้องกัน ไม่ให้ก่อเหตุแห่งความทุกข์นั่นเอง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์และความสุข จากหนังสือเล่มนี้อย่างเต็มที่ อย่าลืมแบ่งปันแก่ผู้อื่นเพื่อประโยชน์ และความสุขแก่ตนเองและสังคมสืบไป กฤษดา รามัญศรี โปรดใช้เล่มนี้ให้คุ้มสุดคุ้ม & อ่านแล้ว -> แบ่งกันอ่านหลายท่านนะจ๊ะ

อ่านสิบรอบ ระดมสมองคิดสิบหน ฝึกฝนปัญญา พัฒนาการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน จิตมีสติสัมปชัญญะ รู้เท่าทันสรรพสิ่ง ฉลาดใช้ เฉลียวคิด ชีวิตจักสนุก สุข สงบ เย็น เฉกเช่นพระนิพพาน สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ ปรารถนาให้ทุกครอบครัวมีความสุข


สติงอกงาม บุญงอกเงย ขอให้สาธุชนทั้งหลายทำให้ครบ ทาน ศีล ภาวนา แม้เรา ไม่มีทาน แต่เรามีภาวนาก็จะทำให้ศีลเกิดเอง โดยใช้สติสัมปชัญญะด้วยการปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ การสร้างบุญทางกายให้

มีศีล กายมีศีลได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กายนั่นเอง กายมีศีลก็มี สติสัมปชัญญะดี เดินจงกรม กำหนดจิต นั่นแหละบุญทางกาย

มีสติสัมปชัญญะ บุญทางกายก็เกิดขึ้น บุญกรรมก็นำแต่งให้เกิด ผลมาด้วยญาณ ทำให้เรารู้สึกนึกคิด เกิดปัญญาญาณ เกิดเหตุ เกิดผลแก่ตนเองได้ ด้วยการเจริญวิปัสสนานี้

การปฏิบัตินี้ทำให้เกิดผลดีต่อตัวเองโดยเฉพาะ ต่างคนต่างทำเอาเอง ไม่ใช่คนอื่นทำให้เราได้ เราต้องทำของเราเองโดยเฉพาะ ถึงจะเหมาะเจาะต่อการปฏิบัติธรรม เราจะได้รู้ตัว รู้อารมณ์ของตัวเองได้อย่างดีที่สุด จากภาคปฏิบัติธรรมนั่นเอง

6

สติงอกงาม บุญงอกเงย ...พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม)...


มีสติรู้จักบาปบุญ ความสุขจะเกิดขึ้นเอง การเจริญวิปัสสนาเป็นการทำบุญทางกาย ทำบุญทางใจ ทั้งสองอย่างนี้ ถ้าใจตกคิดปรารภธรรม มีสติในการเดิน ยืน นั่ง นอน เดินจงกรม “ยืนหนอ” ๕ ครั้ง กำหนดไว้ให้ได้ในสภาวะ ของตน การเดินจงกรมให้ได้ระเบียบเป็นการสร้างบุญทางกาย

การเดิน บุญได้แล้ว สบายใจ มีความสุข มีสติสัมปชัญญะ รู้จักตัวทุกข์ รู้จักตัวสุข รู้จักตัวตัณหาอุปาทานเกิดขึ้นจากอวิชชา มีโมหะที่มันเกิดขึ้นในตัวเรา นี่แหละบุญสำคัญ รู้สึกนึกคิดรู้บาปรู้บุญอย่างนี้

ถ้าทำทางกายได้ กำหนดได้สติก็ดีขึ้น เราจะไม่ทำบาป ทางกายเพราะจิตควบคุมกายเข้าไว้ ไม่ให้กายทำบาปนะ สติ

ก็บอกอย่าไปฆ่าสัตว์ อย่าไปเงื้อง่าราคาแพง อย่าไปกระทืบมด ปลวก อย่าไปฆ่าสัตว์ ใครเป็นคนห้าม สติจะบอกกับจิต จิตก็จึง ไม่ทำ นี่บุญทางใจเกิดขึ้นแล้ว กายก็ไม่ทำตามคำสั่งของใจ จึงต้องมีการกำหนดจิต กำหนดหูได้ยิน “เสียงหนอ” ตา เห็นรูปกำหนด “เห็นหนอ” จมูกได้กลิ่นก็กำหนด “กลิ่นหนอ” เป็นต้น นี่บุญ บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด

7


บุญกุศลเปรียบเหมือนอาหารหล่อเลี้ยงชีวิต ทำไมบุญก็ต้องกำหนดกลิ่นเหม็นเป็นหอม พอปลงตกนี่ เป็นบุญ ถ้าปลงไม่ตก ถ้ามันเหม็นก็เกิดโทสะ มันก็เป็นบาป

ไม่สบายใจมันเป็นบาป มันเป็นอาบัติโทษเศร้าหมองใจ จึงต้อง

มีสติอยู่ มีความรู้อยู่มันก็เป็นบุญทางกาย ลิ้นรับรสไม่อร่อย

ไม่พอใจก็เป็นบาป ไม่เป็นบุญ หาความทุกข์แล้ว มันเดือดร้อน แล้วปล่อยออกมา นินทากาเลกันต่อไป นั่นก็เป็นบาป นี่ถ้าสติดี บุญทางจิตเกิดขึ้นทางใจแล้ว มันก็แสดงออกมา เปรี้ยวหวานมันเค็ม ก็ขอให้อาหารนี้ทำให้เรามีชีวิตอยู่ไปได้อีก หนึ่งวัน โดยทำนองนี้มันก็เป็นบุญ

ตอนนี้บุญอยู่ที่ไหน อยู่ทางกาย ทางลิ้น ทางปาก ก็คือกาย กายรู้กายเข้าใจก็เป็นบุญไป จิตก็สบาย ปลงตกไม่ปรารภเรื่องอื่น ไม่ต้องนินทาใคร ไอ้กูว่ามึง มึงว่ากู นั่นพวกบาป ทำใจไม่ได้เป็นพวกบาป พวกเปรตมันจึงพูดอย่างนั้น

8

สติงอกงาม บุญงอกเงย ...พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม)...


เขาด่า เรานิ่ง = เขาบาป เราบุญ คนที่ ดี มี ปั ญ ญา มี แ ต่ พู ด เป็ น บุ ญ ไม่ ใช่ พู ด เป็ น บาป

แต่ประการใด คนประเภทนั้นทำใจได้ เสียงหนอ เขาด่าเรา

ถ้าเป็นหูบุญ กายเป็นบุญ สร้างบุญที่กาย เสียงหนอๆ สติดี ปัญญาเกิดล้ำทุกประการ จะคิดได้ อ๋อ ! คนที่ด่าเป็นบาปเอง เราเป็นบุญ เพราะไม่ได้โกรธ ไม่ได้ลงโทษเขา เราก็ได้บุญอีก ทางกายจากหูเป็นสื่อรับ จิตเป็นผู้กำหนด สติเป็นผู้รู้ร่วมกับจิต บั งคับไว้ เลยก็ได้ตัวปัญญา ปัญญาก็บอกว่า

คนด่าเราเป็นบาป เราโดนด่าเป็นบุญ เสียงหนอๆๆ เราอย่าไปโกรธตอบ Ø! #$ คนโกรธตอบ เป็นบาปมากกว่าคนด่า คนด่าบาป ๕๐% เราโกรธไปด่าตอบเขา เราก็ บาป ๑๐๐% นี่แหละบุญทางกายอย่างนี้

บางคนคอยว่าเขา คอยนินทาคน เราหันมุมกลับจะคิด

ได้ว่า คนคนนี้ทำใจไม่ได้ คนนี้ไม่ได้กรรมฐาน คนนี้ใช้ไม่ได้ ทำใจ ไม่ได้ซะแล้ว นี่มีมากหลาย บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด

9


สร้างบุญในชีวิต พิชิตความทุกข์ ที่ทำใจไม่ได้เพราะเหตุไร ? เพราะบุญทางกายไม่มี บุญ

ทางใจไม่ได้สร้างเลยนะ ไปสร้างบุญตักบาตร ทำสังฆทาน ทำบุญ หน้าบ้านชอบมาก แต่บุญที่จะสร้างในชีวิตของตนไม่ได้สร้าง เลยบุญทางกายก็ไม่มี บุญทางใจก็ตกไป บุญทานที่ทำไว้เลยเป็น การให้ขอทาน ไม่มีผลงานของบุญแต่ประการใดเลย จะยกตัวอย่างบุญอยู่ที่กายให้โยมฟัง “เสียงหนอ” เขา ด่าเรา นินทาเรา ว่าเราเป็นคนไม่ดี นั่นแหละเขาบาปแล้ว ถ้า ตัดตอนรูปนามขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์ได้ เขาก็ตัดตอนจากเราไป เขาด่าเราก็คือด่าเขานั่นเอง เขาก็เป็นบาปคนเดียว เดือดร้อน มาก ใจเศร้าหมองที่ด่าเรา

เราทำใจได้ เราทำจิตใจดีมีปัญญา เราก็ได้บุญที่รับฟังคำด่าได้ เราได้บุญที่ปลงตกแล้ว ไอ้เสียงกับหูคนละอัน บาปกับบุญคนละอัน แล้วเขาเอาบาปไป เราเอาบุญไว้ คือความสุขจากการทำใจได้

10 สติงอกงาม บุญงอกเงย ...พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม)...


“เห็นหนอ เห็นหนอ” เราก็ ได้แต่บุญ “เห็นหนอ เห็นหนอ” เห็นคนทำท่าจะตีเรา “เห็น หนอ” คนยักคิ้วหลิ่วตาให้เรา “เห็นหนอ” ปากบุ้ยด่าเรา ทำท่า ทำทางจะเตะเราจะตีเรา เห็นหนอ อ๋อ ! เขาจะตีเรา เขาจะด่าเรา เห็นทั้งท่าทั้งทางเช่นนี้แสดงความไม่พอใจกับเรา แล้วเห็นหนอ ปัญญาเกิด

อ๋อ ! เขาบาปแล้ว เราเกิดโมโหที่เขาทำท่าทำทางกับเรา เราก็ต้องบาป ๑๐๐% ส่วนเขาที่ทำเรา บาป ๕๐% ทำนองนี้เป็นต้น

นี่แหละที่ญาติโยมไม่เข้าใจมาก ทำใจไม่ได้เชียวหรือ นั่ง กรรมฐานกันมานานแล้วยังทำใจไม่ได้ ว่าคนนู้นยังน้อยเนื้อต่ำใจ คนนี้ อะไรอย่างนี้เรียกว่าทำใจไม่ได้ คนไหนทำใจไม่ได้ก็ไปนรก ทุคติ ปาฏิกังขา แน่นอนที่สุด ดังนั้นจงทำใจตั้งแต่บัดนี ้

หนังสือเล่มนี้ เมื่ออ่านแล้วโปรดแนะนำแบ่งปันให้ผู้อื่นได้อ่าน เพื่อบำเพ็ญทานบารมีแก่ตนเองให้มีสุข ตัดเวรกรรมให้หมดสิ้นโดยเร็ว...สาธุ บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด

11


แยกบุญกับบาปได้ ใจจะเป็นสุข โจมตีคนนั้น โจมตีคนนี้ คนโดนโจมตีนั่นแหละได้บุญ ส่วนคนไปตีเขานั่นแหละได้บาป คนที่โดนตีได้บุญ ถ้าทำใจได้

นี่แหละรูปนามขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์ กายกับจิตแยกออกมา เวทนาแยกออกไป บุญกับบาปแยกออกจากกันเสียอย่าให้ปนกัน บุญก็ให้ผลไปทางความสุข บาปก็ให้ผลไปทางความเดือดร้อนและเบียดเบียนตน

นี่มันแยกออกได้ เหมือนแยกรูปแยกนามขันธ์ ๕ เป็น อารมณ์ กายกับจิตแยกกันได้ อะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม อะไร เป็นกิจกรรม และอะไรเป็นตัวทำบาป อะไรเป็นตัวทำบุญ อะไร เป็นตัวให้คุณประโยชน์ ตัวอันใดทำให้เกิดโทษ

คนเป็นทาสของกิเลส จึงวุ่นวาย เป็นทุกข์ อย่างรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว

สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เชิญชวนทุกท่านร่วมกันช่วยเพื่อนมนุษย์ ให้เอาชนะกิเลส พบสุขได้ ด้วยการพิมพ์หนังสือเล่มนี้แจกเป็นธรรมทาน ยิ่งมาก บุญยิ่งทวี อย่างไม่โลภเมาบุญ รู้ว่าเป็นหน้าที่ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน (โปรดใช้ปัญญาพิจารณาเรื่องนี้)

12 สติงอกงาม บุญงอกเงย ...พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม)...


ความสุขหรือทุกข์อยู่ที่ตัวเราทำ บางคนก็ ช่ า งน้ อ ยเนื้ อ ต่ ำ ใจเหลื อ เกิ น ฉั น ทำดี ไ ม่ ไ ด้ ดี เหมือนฉันมีกรรมบัง โปรดอย่าไปคิด ทำใจให้ได้ ทำใจไม่ได้เป็น บาปคนเดียวนะ ไม่มีใครเขาไปช่วยหรอกจะบอกให้ นอกเหนือ จากตัวเองเท่านั้น เพราะเป็นผู้กระทำเอง แยกรูปออกไป อะไร เป็นธรรม อะไรเป็นรูป อะไรเป็นเวทนา อะไรเป็นที่บังคับบัญชา ไม่ได้ แล้วก็หันกลับไป แล้วก็ดับวูบไปเหมือนหูดับ บุญทางกายคนเขาเอาบาปมายัดเยียดให้ทางหู แล้วเรา

ก็มีแต่บุญกุศล บาปจะเข้าหูเราไม่ได้ บาปมันก็ตกไปหาเจ้าของ เองที่มาด่าเรา ตาของเรากำลังทำบุญ ตาของเรากำลังมีความสุข มีรูป มีนาม มีบุญ มีบาปอยู่ในตาของเรา ตาเรามีศีล ตาเรา

มีทรัพย์ ตาเรามีองค์ภาวนา ถ้าหากใครที่ไม่ถูกกับเรามาทำท่า ทำทาง เราก็มีแต่บุญ เขาก็มีแต่บาป

เขาเห็นเรา เขาไม่พอใจอยากจะตีเรา อยากจะบ้วนน้ำลายรดเรา อยากจะด่าเรา ทีเ่ ราเห็นเขาแสดงกิริยามารยาทไม่ดีออกมา เราก็ใช้ตาเป็นบุญ เห็นหนอ ทรัพย์อยู่ที่ตา ศีลอยู่ที่ตา เป็นบุญอยู่ที่ตา บาปก็เป็นของเขาไป กลับไปหาเขาเอง

บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด

13


จะบุญหรือบาปก็เหมือนเงา ตามติดตัวเราตลอดเวลา อย่าไปน้อยเนื้อต่ำใจเลยพุทธศาสนิกชนที่รักทั้งหลายเอ๋ย นี่บุญอยู่ตรงนี้ บาปอยู่ตรงนี้ นี่แหละคนที่ว่าเขาเป็นบาป ทำใจ ไม่ได้ นี่ถ้าเห็นในมุมกลับจะนึกได้ ทำไมนักกรรมฐานถึงเป็น

คนแบบนี้ ทำใจไม่ได้จึงเป็นเช่นนี้

บาปบุญคุณโทษที่มีอยู่กับเรา เหมือนเป็นเงาตามตัว ถ้าตัวเราสวย กายเป็นบุญ จิตเป็นบุญ เงามันก็ตามเป็นบุญไปด้วย เหมื อนกระจกส่องเงาฉะนั้น

กายไม่เป็นบุญ เป็นบาป จิตเป็นบาป กระจกที่ตามเราเป็นเงา ก็เป็นบาปสะท้อน ย้อนเงากระจกเป็นเงาบาป เป็นเงาโทษติดตัวเราไป

14 สติงอกงาม บุญงอกเงย ...พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม)...


กำหนด “รู้หนอ โกรธหนอ” ความโกรธหาย ได้บุญแทน เราแยกรูป แยกนาม แยกบาป แยกบุญ ออกเป็นสัดส่วน บาปนั้นเราจะไม่ทำให้เดือดร้อนอีก มันก็มีแต่บุญ เพราะประจักษ์ ความบาป ความเศร้าหมองใจออกไปด้วยการกำหนดจิต

จิตกำหนด “รู้หนอ” ที่ลิ้นปี่ กำหนด “โกรธหนอ” ตัวโกรธหายไป ตัวบุญก็เข้ามาแทนที่ คนที่ด่าเรากลับกลายไปหาตัวบาปต่อไป แล้วตัวริษยา ตัวจองเวรจองกรรมก็เกิดขึ้นมา เป็นเงาติดตัวไป

บางคนก็บอกคนนั้นไม่ได้ คนนี้ใช้ไม่ได้ นั่นมันเป็นเรื่อง ของเขา มันเรื่องของคนบาปเขาทำกัน เรื่องบุญอย่าเอาไปผสม กับบาปอย่างนั้นสิ คนดีอย่าไปผสมกับคนชั่ว คนชั่วอย่าไปผสมกับ คนดี เลยกลัวกันไป ไม่รู้บุญรู้บาป ไม่รู้บุญรู้ชั่วแต่ประการใดเลย เข้าข้างตัวว่าตัวเก่งคนเดียว คนอื่นเอาดีไม่ได้อย่างนี้ ต้องแยกสิ แยกรูป แยกนาม แยกบุญ แยกบาปออกไป แล้วเขาจะรู้ว่าตัวเรา เป็นบาปหรือเป็นบุญด้วยปัจจัตตัง รู้ด้วยการกระทำของเราทั้งสิ้น บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด

15


เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ อย่าทุกข์ พระพุทธเจ้าทรงแสดง "โลกธรรม" ว่า อย่าหวั่นไหว

จงทำใจให้ได้ นี่ทำใจตรงนี้นะ จงทำใจเสียเถิด มันมีทุกข์

จงทำใจให้ได้ อย่าไปเกิดเป็นคนอีกเลย มันมีแต่ทุกข์ จงทำใจ เสียให้ได้ เราอย่าแก่เลย บังคับบัญชาไม่ได้ก็ต้องแก่ ฟันมันก็ ต้องหัก ผมก็ต้องหงอก ตัวหนังเต่งตึงดีทั้งนั้น ทั้งเส้นโลหิต

เต่งตึงดี บัดนี้นานไปก็หย่อนยาน ห้ามไม่ได้ บังคับไม่ได้ อย่าแก่เลยนะ จงหนุ่มสาวต่อไปตลอดไป นั่นมันเป็นของ หลอกลวงกันชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีความแน่นอนในชีวิตเลย นั่น อย่ าทำบาปเลย อย่าทำชั่วเลย นี่แก่ก็เป็นทุกข์

เวลาเป็นหนุ่มเป็นสาว กระชุ่มกระชวย หน้าสวยก็ชื่นใจ ในเมื่อยามแก่ชราแล้ว ความกระชุ่มกระชวยก็ลดไป จิตใจก็ฝ่อแฝ่แล้ว ตลอดรายการบังคับไม่ได้เลย ก็เสียใจ มันก็เกิดความไม่แน่นอนของอนิจจังนี้

16 สติงอกงาม บุญงอกเงย ...พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม)...


โปรดทำใจเถิด อย่าไปอย่างอื่นเลย ปลงให้ตกว่าเราต่อไป จะแก่ หน้าขาวก็ย่นย่อตกกระ แล้วฟันก็หักก็หลอ หายใจผุบเข้า ผุบออก พะเน้าพะนอน้ำลายไหล น้ำตาก็ร่วงห่วงหัวใจ นี่ทำใจ เถิดนะ จะเสียใจตลอดชาติที่ทำใจไม่ได้ มีความหมายมาก แก่ เป็นทุกข์อย่างนี้

เราเป็นหนุ่มเป็นสาว อย่าคิดว่าเป็นหนุ่มตลอดไป อย่าคิดว่าเราเป็นสาวตลอดกาล

บัดนี้เราแก่โดยไม่รู้ตัว เนื้อหนังก็โทรมไปโดยไม่รู้ตัวแล้ว มั น มีแต่ ความทุ กข์ มัน มีแต่ ความยากลำบากตลอดรายการ

หาความสุขไม่ได้เลย มีแต่ความทุกข์ระทมขมขื่น แทบจะกลืน

ไม่ลงแล้ว มีทั้งรักทั้งแค้น ทั้งแน่นในทรวงหึงหวงหนักหน่วงใน หัวใจ เงินทองหามาได้ก็สิ้นไป เหมือนร่างกายสังขารหาความ แน่นอนไม่ได้ บ้านเรือนก็ทรุดโทรม หลังคาก็รั่วแล้ว ข้างฝาก็จะพัง ปลวกก็จะกินอย่างนี้ เรือนก็เซก็ทรุดหมดอาลัยตายอยากทุกราย ร่วมสร้างสายใยสัมพันธ์รักแห่งครอบครัวให้อบอุ่น ด้วยการมอบหนังสือเล่มนี้ให้คนที่รัก โรงเรียน ห้องสมุด เยาวชน เพื่อสานสุขให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด

17


ยึดติดกับความเยาว์ เป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์ นี่เรามีแต่ความทุกข์ เราเกิดมาก็ต้องแก่เป็นทุกข์ทั้งหมด ก็แย่ลงไป ก็เข้าไปสู่เมรุกันทุกคน นี่หรือหนุ่มสาว หลอกลวงกันทุกคนชั่วคราวเท่านั้น มันไม่มีความจริงเลย หาความจริงไม่ได้เลย เธอสวยหรูในวันนี้ เธอจะไม่น่าดูในวันหน้า โรคกายโรคใจ เจ็บระทวยป่วยไข้ก็มารุมเร้าทุกวัน มัน

ก็ทรุดโทรม มีแต่ความทุกข์ มีแต่ความยากลำบาก โปรดทำใจ

ให้ได้โยม โปรดทำใจเสีย ความรักหนุ่มสาวมันชั่วคราว ไม่ช้า

เราก็ตายจากกัน แล้วก็ต้องเจ็บละเมอเพ้อพก ในยามสวย

ก็ชอบใจกัน เวลาแก่ก็แย่ลงไป เวลาเจ็บไข้ก็ไม่อยากจะดูแลกัน มันไม่สวยแล้ว ร่างกายก็ซูบผอม น้ำลายไหล กินน้ำไม่เข้าปาก ความยากก็เกิดขึ้น จะไม่รักกันแล้ว จะแย่ลงไป นี่หรือสวย

นี่หรือสาว นี่หรือหนุ่มกระชุ่มกระชวย ไปเที่ยวทะเลกันเสสรวล ชวนฮา สาวก็ไปเที่ยวหนุ่มก็พากันไป ว่านอนสอนยาก ยังไม่เห็น ความจริงของชีวิตเลย เพราะเธอหนุ่มสาวไม่เคยนั่งเจริญวิปัสสนา ให้แจ้งถึงใจ

18 สติงอกงาม บุญงอกเงย ...พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม)...


เข้าใจทุกข์ผิด ยิ่งเป็นทุกข์หนัก หิวมันก็เป็นทุกข์ ร้อนก็เป็นทุกข์ หนาวก็เป็นทุกข์ตลอดรายการ เจ็บระทวยป่วยไข้ก็เป็นทุกข์ โปรดทำใจให้ได้เถิด

หิวเป็นทุกข์ตลอดรายการ กระหายก็เป็นทุกข์ หาความสุข ไม่ได้เลย หลอกลวงกันมาว่านอนคู้ นอนเหยียด ขาแข้งยังแข็ง ขยัน บัดนี้เจ็บแล้ว บัดนี้จะจอดแล้ว เราที่นั่งนี่เป็นคนเจ็บ ยังไม่ใช่ คนตาย เจ็บเป็นอย่างไรหรือ เมื่อยมันก็เรียกว่าเจ็บ ปวดโน่นปวดนี่ ก็เรียกว่าเจ็บ ไม่สบายใจก็เรียกว่าเจ็บ ไม่สบายกายก็เรียกว่าเจ็บ เราเข้าใจผิดคิดว่าต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มถึงเรียกว่าเจ็บ ไม่ใช่ พระท่านเรียกว่าจอด เรือจะไม่ไป จะตายแล้ว เรือจอดแล้ว พังแล้ว ผุแล้ว คือจอดแจวไม่ไปแล้ว ไปไหนไม่รอดปลอดภัยแล้ว จะเข้าเมรุแล้ว จงทำใจนะ เรือจอดแล้วไปไม่ไหว เพราะไม่เคย ปฏิบัติ ทำใจไม่ได้ ทุคติ ปาฏิกังขาก็ไปนรก ไม่เคยไปสวรรค์

กับเขา เพราะไม่เคยเข้าวัด ไม่เคยปฏิบัติธรรมเลย แม้กิจกรรม ประจำวันก็ทำไม่ได้ มีแต่ความทุกข์ระทมขมขื่นตลอดรายการ บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด

19


มีสติทุกลมหายใจ ปลอดภัยจากทุกข์ นี่แหละบทความที่ทำใจได้ ทำตรงไหน เจริญสติปัฏฐาน ๔ เสียให้ได้ มีสติทุกอิริยาบถเรียกว่า ทำใจ คนที่ทำใจได้เพราะ

มีสติควบคุมใจได้ ไม่ว่าใครคนที่ว่าเก่งๆ หันมุมกลับเหมือน กระจกเงา คนนั้นใช้ไม่ได้ เงาคนนั้นไม่ดีแน่ เพราะกระจกเงา เป็นอย่างนั้นก็ตามเขาไป นี่จงทำใจเสียให้ได้เถิด

คนทำใจได้นั่นแหละคนนั่งกรรมฐาน ได้รับผลได้มีสติให้กับตน ติดตัวเป็นอาวุธของตนตลอดไป

เตรียมตัวก่อนตาย เราจะตายเสียแล้ว เราเจ็บเสียแล้ว ลูกเอ๋ย ช่วยแม่หน่อย ลูกเอ๋ยช่วยพ่อหน่อย ลูกเขาก็ไม่ช่วย

ก็เสียใจ เลยไปนรก ทำใจนะโยมนะ เตรียมทำใจเสียบัดนี้ทุกคน ทั้งหนุ่มทั้งสาว เตรียมตั้งตัว เตรียมทำใจ จะต้องเจอแต่ความ ระทมขมขื่นตลอดไป ไม่มีใครทำใจได้ ก็ฝากความเสียใจ ฝาก นรกไว้ในใจของเราคนเดียวเปล่าเปลี่ยวหัวใจ แล้วเราจะไปไม่รอด ปลอดภัยอย่างแน่นอน รีบทำใจเถิด จบธรรมบรรยาย

20 สติงอกงาม บุญงอกเงย ...พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม)...


สวดมนต์สร้างสุข

คนส่วนมากจะสวดมนต์เมื่อเกิดความทุกข์ใจเท่านั้น โดย หวังให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ใครจะรู้ว่า การสวดมนต์ช่วยป้องกันความทุกข์ได้ การสวดมนต์ทำให้จิตใจเราเกิดความสงบ เกิดสติ เมื่อ เกิดความทุกข์ตัวสตินี่เองจะช่วยหาทางออกได้ และยังช่วยให้ เราคิดดีทำดี เมื่อคิดดีทำดี ความคิดที่ก่อทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง

ก็ไม่สามารถเข้าสู่จิตใจเราได้ ขั้นตอนการสวด คือ ก่อนสวดควรทำร่างกายให้สะอาด และทำจิตใจให้สงบสบาย นั่งหน้าหิ้งพระ เริ่มสวดตั้งแต่บทที่หนึ่ง ไปจนถึงบทแผ่ส่วนกุศล การสวดควรสวดออกเสียง เพราะเป็นการบริหารปอด อีกทั้งยังเป็นการชวนเทวดาหรือสรรพสัตว์ทั้งหลายมาร่วมกัน อนุโมทนากับเราด้วย บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด

21


๑. บทบูชาพระรัตนตรัย อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ. อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ. อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ.

๒. บทกราบพระรัตนตรัย อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ. (กราบ) ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ. (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ. (กราบ)

๓. บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (ว่า ๓ จบ) 22 สติงอกงาม บุญงอกเงย ...พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐฺิตธมฺโม)...


๔. บทขอขมาพระรัตนตรัย

วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต. วันทามิ ธัมมัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต. วันทามิ สังฆัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต.

๕. บทไตรสรณคมน์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ. ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ. สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ. ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ. ทุตยิ ัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ. ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ. ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.

บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด

23


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.