พระนิพนธ์ใน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก หนังสือเทิดพระเกียรติคุณสังฆราชทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘ รอบ ๙๖ พรรษา ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ บรรณาธิการ : ไพยนต์ กาสี น.ธ. เอก, ป.ธ. ๖, พธ.บ., น.บ. ปก/รูปเล่ม : สุกัญญา ศรีสงคราม ภาพประกอบ : สมควร กองศิลา พิสูจน์อักษร : มานิตย์ กองษา
มีพทุ ธศาสนสุภาษิตบทหนึง่ ว่า “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ แปลความว่า การให้ธรรม ชนะการให้ทง้ั ปวง” เพราะพุทธศาสนิกชนจำ�นวนไม่นอ้ ย มีศรัทธาเชือ่ ในคุณแห่งการให้ธรรม เป็นทาน จึงแม้สามารถก็จะพากันพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน ซึ่งเชื่อว่าเหนือ การให้ทงั้ ปวง ซึง่ จักเป็นบุญเป็นกุศลยิง่ กว่าบุญกุศลทีเ่ กิดจากการให้ทานอืน่ ทัง้ ปวง นีเ้ ป็น การถูก นีเ้ ป็นการดี เพราะการเผยแพร่ธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นความดีอย่างยิง่ ยิง่ ผูไ้ ด้รบั นำ�ไปปฏิบัติก็จะยิ่งเป็นการดีที่สุด...
พระวรคติธรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำ�เนินการส่งเสริม และสนับสนุนสันติสุขให้บังเกิดมีแก่สังคมทุกระดับ ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ส่งเสริม และสนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยการจัดพิมพ์หนังสือสื่อธรรมนำ�ไป แจกจ่ายเป็นธรรมทาน ทั้งนี้เพื่อให้หลักธรรมคำ�สอนของพระพุทธองค์แพร่หลาย กระจายสู่พุทธศาสนิกชนได้ศึกษากันอย่างกว้างขวาง สำ�หรับผู้ยังไม่คุ้นเคยกับการอ่านหนังสือธรรมะ หรือยังไม่เคยอ่านผลงาน พระนิพนธ์ของสมเด็จพระญาณสังวรฯ มาก่อน อ่านครั้งแรกอาจเกิดความรู้สึก ติดๆ ขัดๆ บ้าง การอ่านหนังสือธรรมะจะให้ส�ำ เร็จประโยชน์ เกิดความรูค้ วามเข้าใจนัน้ ผูอ้ า่ น ควรอ่านแบบ โยนิ โ สมนสิการ (โย-นิ-โส-มะ-นะ-สิ-กาน) คือ อ่านอย่างมีสติ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ อ่าน ไม่ต้องรีบร้อน ถ้าหากยังไม่เข้าใจก็อ่านใหม่ อ่านหลายๆ รอบ ปัญญาจักคมขึ้น สามารถเข้าใจธรรมะได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เปรียบเหมือน การเคี้ยวอาหาร ต้องค่อยๆ เคี้ยว ค่อยๆ ขบ ยิ่งเคี้ยวนาน เคี้ยวละเอียด รสชาติก็ ยิ่งโอชากลมกล่อม ก่อคุณประโยชน์แก่รา่ งกายอย่างเต็มที่ มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมีขออนุโมทนาบุญต่อ สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อ พุทธศาสน์ ทีม่ อบหมายให้เจ้าหน้าทีข่ องสำ�นักพิมพ์หลายฝ่าย เช่นฝ่ายบรรณาธิการ มีหน้าที่คัดสรรผลงานบทพระนิพนธ์ จัดสร้างหัวข้อธรรม กำ�กับการแบ่งหน้า เขียนคำ�การ์ตูน ฝ่ายศิลปะวาดภาพประกอบ ฝ่ายคอมอาร์ตจัดรูปเล่ม รวมถึง ฝ่ายผลิ ต ที่ ดู แ ลและดำ�เนินการการผลิตอย่างละเอี ย ดพิ ถี พิ ถั นทุ ก ขั้ นตอน เพื่ อ ประโยชน์ สุ ข สู ง สุ ด จนสำ � เร็ จ เป็ น รู ป เล่ ม สวยงามพร้ อ มอ่ า นดั ง ที่ ท่ า นทั้ ง หลาย กำ�ลังถืออยู่นี้ และขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนการจัดพิมพ์หนังสือ พระนิ พ นธ์ เรื่ อ ง “อำ�นาจกรรม” เพื่ อ เทิ ด พระเกี ย รติ ใ นวโรกาสมงคลสมั ย ที่ เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระชนมายุครบ ๘ รอบ ๙๖ พรรษา ในวันที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒ นี้ ขอทุกท่านจงมีจิตใจเชื่อมั่นในกรรมดี E-mail : boonmmf@gmail.com ว ทยุคลื่นไทธรรม www.fm9525radio.org
คำ�นำ�
คำ�ว่า กรรม ที่แปลว่า การกระทำ� นั้น เป็นคำ�กลางๆ ยังไม่ระบุหรือชี้ชัดลงไป ว่าเป็นการกระทำ�ดีหรือชัว่ ต่อเมือ่ เติมคำ�บริบทลงไปจึงจะรูไ้ ด้ เช่น กุศลกรรม แปลว่า กรรมดี คือการกระทำ�ที่ดี หรือ อกุศลกรรม แปลว่า กรรมชั่ว คือการกระทำ�ที่ไม่ดี ทุกคนที่เกิดมาล้วนมีกรรม คือ ยังทำ�กรรมและรับผลของกรรมอยู่ไม่เว้น แต่ละวัน ดังจะเห็นได้จากบางท่านได้ดีมีความก้าวหน้า เพราะกรรมดีของตน บางคน พบกับความทุกข์ยากลำ�บากเดือดร้อน เพราะกรรมชั่วที่เขาเคยทำ� พระพุทธองค์ได้ตรัสภาษิตรับรองเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรมไว้ว่า “กมฺมํ สตฺเต วิภชติ หีนปฺปนีตตาย” แปลโดยความว่า กรรมย่อมจำ�แนกสัตว์ให้ดี หรือเลวแตกต่างกัน พระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม แต่มิได้สอน ให้ยอมจำ�นนต่อกรรม คือ ไม่ได้สอนให้งอมืองอเท้ารอรับผลกรรมอย่างเดียว แต่สอน ให้รทู้ นั กรรม และควรวางตัวอย่างไรไม่ให้ทกุ ข์ เมือ่ รับผลของกรรม และไม่ให้ประมาท ในการทำ�ความดีละเว้นความชั่ว หนังสือเรื่อง “อำ�นาจกรรม” เล่มนี้ เป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ผู้รวบรวมคัดสรรบางตอนจาก พระนิ พ นธ์ เรื่ อ ง “ชี วิ ต นี้ น้ อ ยนั ก ” และเรื่ อ ง “พรวิ เ ศษสุ ด ” โดยพระองค์ ท รง อธิบายไว้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้นำ�ข้อคิดในบทพระนิพนธ์ ไปเป็นหลักประพฤติปฏิบัติได้งา่ ยขึ้น ทั้งจักได้มีความระมัดระวังในการกระทำ�ของตน ดังความตอนหนึ่งของบทพระนิพนธ์ว่า “คนและสัตว์ทั้งหลายที่เป็นไปต่างๆ นานา ทุกข์ก็มี สุขก็มี ดีก็มี ชั่วก็มี มิได้เกิดแต่อะไรอื่น นอกจากกรรมที่ตนทำ�แล้วนั้น... แต่ความที่ไม่เห็นด้วยตาเนื้อ ประกอบกับความที่ไม่เข้าใจเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม ทำ�ให้คนส่วนมาก ไม่กลัวการเกิดใหม่ที่จะนำ�ไปสู่สภาพที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก” หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พระวรคติธรรมที่สมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงพระนิพนธ์ ประทานไว้นี้ จักเป็นแสงสว่างทางปัญญานำ�พาท่านผู้อ่านให้ตั้งมั่นอยู่ในกรรมดี ทั้งทางกาย วาจาและใจตลอดไป ขอพระสัทธรรมดำ�รงอยู่ในดวงจิตของทุกท่านตลอดกาลนาน รวบรวมในนามมูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี สำ�นักงานมูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี 105/74 ชั้น 1 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร. 02-428-1622, 02-428-1623, 02-428-1624
อำ�นาจกรรม
ทำ�ให้คนมีอำ�นาจดีหรือชั่ว คำ�ว่า “กรรม” ในพระพุทธศาสนา เป็นคำ�ที่มีความหมายเป็นกลาง หมายถึง การกระทำ� ไม่เจาะจงบ่งบอกเป็นการกระทำ�ทีไ่ ม่ดี อันเป็นกรรมที่ ไม่ดี เป็นบาปกรรม หรือเป็นอกุศลกรรม และไม่เจาะจงบ่งเป็นการกระทำ�ทีด่ ี อันเป็นกรรมดี เป็นบุญกรรม หรือเป็นกุศลกรรม แต่ค�ำ ว่า “กรรม” นัน้ โดยทัว่ ไปใช้ในความหมายว่า ความไม่ดี เช่นเดียว กับบาปกรรมและอกุศลกรรม จึงเท่ากับทัว่ ไปใช้ค�ำ ว่า “กรรม” เป็นคำ�ย่อของ กรรมไม่ดีคือ บาปกรรม หรืออกุศลกรรม พุทธศาสนสุภาษิตมีวา่ “วโส อิสสฺ ริยํ โลเก อำ�นาจเป็นใหญ่ในโลก” ในบรรดาอำ�นาจทั้งปวงในโลก อำ�นาจของกรรมใหญ่ยิ่งที่สุด และไม่มี อำ�นาจใดเสมออำ�นาจกรรม กรรมดี มีอำ�นาจในทางดี กรรมไม่ดี มีอำ�นาจ ในทางไม่ดี คนดี มี อำ � นาจในทางดี ผู้ ทำ � กรรมดี จึ ง มี อำ � นาจใน ทางดี ย่ อ มใช้ อำ � นาจนั้ น ก่ อ ความร่มเย็นเป็นสุขให้เกิดทั้ง แก่ตนเอง ให้เกิดทั้งแก่ผู้อื่น คนไม่ดี มีอำ�นาจในทาง ไม่ดี ผูท้ �ำ กรรมไม่ดจี งึ มีอ�ำ นาจ ในทางไม่ดี ย่อมใช้อำ�นาจนั้น ก่อความทุกข์ความร้อนให้เกิด ทัง้ แก่ตนเอง ให้เกิดทัง้ แก่ผอู้ นื่ มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
5
สัตว์โลกเป็นไปตามอำ�นาจกรรม ปัญหาทีก่ �ำ ลังเกิดขึน้ มากมายว่า ทำ�ไมโลกทุกวันนี้ จึงร้อนนัก เต็มไปด้วย ความเลวร้ายต่างๆ นานา ที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งมรสุมใหญ่ ทั้งนำ้�ไฟทำ�ลาย ทั้งโจรร้ายเข่นฆ่า ทั้งความเมตตา กรุณาสิ้นจากจิตใจ ทั้งความขาดแคลนทุกข์ยากทั่วไปทั้งแผ่นดิน ความ กตัญญูก็สิ้นสูญหมด ลูกหลานทรยศแม่พ่อพี่ป้าน้าอาปู่ย่าตายาย ถึงทุบตี เข่นฆ่าทารุณกรรม ครูอาจารย์ก็ทำ�ร้ายได้ทั้งร่างกายและจิตใจศิษย์น้อยๆ ทำ�ชีวิตให้พลอยสิ้นสุด จนเกิดเป็นปัญหาว่า ทำ�ไมเมืองพระพุทธศาสนาจึงเป็นเช่นนี้ ? ทำ�ไมความเดือดร้อนชั่วร้าย จึงมากมายนัก ? ทำ�ไมผู้คนจึงลำ�บากยากแค้นนัก ตกอยู่ในสภาพที่น่า ประหวั่นพรั่นพรึงนัก
“กมฺมุนา วตฺตตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
นี่คือคำ�ตอบ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เป็นคำ�ในพระพุทธศาสนสุภาษิต มี ความหมายว่า
“คนและสัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นไปต่างๆ นานา ทุกข์ ก็มี สุขก็มี ดีก็มี ชั่วก็มี มิได้ เกิดแต่ผู้ใดอื่น มิได้เกิดแต่ อะไรอื่น มิใช่เกิดแต่เหตุใด ทั้งนั้นนอกจากกรรมที่ตน ได้กระทำ�แล้วเองนั้น” 6 อำ�นาจกรรม
ไม่เห็นด้วยตา พาให้ไม่กลัวกรรม สั ต ว์ โ ลกย่ อ มเป็ น ไปตามกรรม แม้ จ ะเป็ น จริ ง เช่ น นี้ แต่ มี ผู้ ที่ เชื่ อ ว่ า เป็นจริงเพียงจำ�นวนน้อยนัก เพราะไม่มีภาพให้เห็นว่า เมื่อชีวิตออกจาก ร่างของคนคนหนึ่งไป ก็ไปเป็นอีกร่างหนึ่งได้ เช่น หมูหมา กาไก่ ความ ไม่ ไ ด้ เ ห็ น ชั ด ๆ ด้ ว ยตาเนื้ อ เช่ น นี้ ทำ � ให้ ค นส่ ว นมากยากจะเชื่ อ ว่ า คนก็ เกิดเป็นสัตว์ได้ สัตว์ก็เกิดเป็นคนได้ คนฐานะสูงก็เกิดเป็นคนฐานะต่ำ�ได้ คนฐานะต่ำ�ก็เกิดเป็นคนฐานะสูงได้ คนร่างกายดีๆ ก็เกิดเป็นคนแขนด้วน ขาด้วนได้ คนพิการแขนด้วนขาด้วนก็เกิดเป็นคนมีแขนมีขาได้ คนหน้าตา น่าเกลียดผิวพรรณเศร้าหมอง ก็เกิดเป็นคนสวยคนงามได้ คนสวยคนงาม ก็เกิดเป็นคนน่าเกลียดน่าชัง ผิวพรรณเศร้าหมองได้ ยิง่ กว่านัน้ ก็เกิดเป็นเทวดา ได้ เทวดาก็เกิดเป็นคนได้
ความไม่เห็นด้วยตาเนื้อ ประกอบกับ ความไม่มีความเข้าใจในเรื่องกรรม การให้ผลของกรรม ทำ�ให้คนส่วน มากไม่กลัวการเกิดใหม่ ว่าจะนำ�ไปสู่ สภาพ หรือภพชาติที่น่าสะพรึงกลัว ยิ่งนัก เช่น เป็นสัตว์นรก
ดังนั้น ใจจึงสำ�คัญที่สุด ใจต้องคิดไปก่อน เป็นมโนกรรม กรรมทางใจ อะไรๆ จึงจะเป็นผลตามมา จะดีหรือจะชั่ว ก็แล้วแต่ใจจะคิดดีหรือคิดชั่ว ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องกรรมที่เกิดจากใจคิด เป็นผู้ที่น่าสงสารที่สุด เพราะเขา มีโอกาส ที่จะตกอยู่ในสภาพที่เลวร้าย น่าสลดสังเวชยิ่งนัก สภาพที่เกิดแต่ใจ คิดนำ�ไปนั้นเกิดได้ทั้งในภพชาติปัจจุบันนี้ตลอดไปจนถึงภพชาติข้างหน้า มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี 7
กรรมสงสัยได้ แต่ใจต้องกลัวจริง ใครเล่าที่ระลึกได้ว่าได้ทำ�กรรมใดไว้ในอดีต นึกไม่ได้ทั้งนั้นทั้งกรรมดี กรรมชั่ว จะมาระลึกรู้กันบ้างก็เมื่อต้องประสบผลของกรรมแล้ว บางคนจึงจะสงสัยว่า นัน่ คงเป็นผลของกรรมชัว่ เพราะทำ�ให้เคราะห์รา้ ย เดือดเนือ้ ร้อนใจ บางคนจึงสงสัยว่า นัน่ คงเป็นผลของกรรมดี เพราะทำ�ให้ได้ รับโชคดี มีความสุขกายสบายใจ การที่มารู้ มาสงสัย ในเรื่องการให้ผลของกรรมเช่นนี้ เป็นการดี เท่ากับ เป็นการแสดงว่า มีความเชื่อในเรื่องกรรมอยู่ในใจ แม้จะยังไม่ปฏิบัติจริงจัง ให้เป็นการแสดงความกลัวกรรมอันสมควรกลัวอย่างยิ่ง
ที่ปากพูดกันอยู่ว่า กรรมไม่ดี น่ากลัวนั้น ถ้าทำ�ให้ความรู้สึกน่ากลัว เกิดขึ้นในใจได้จริง และไม่เพียงให้รู้สึกว่า กรรมไม่ดีน่ากลัวเท่านั้น ต้องให้กลัวกรรมไม่ดดี ว้ ยจริงๆ จึงจะเกิดผลเป็นคุณแก่ตน ถ้าสักแต่ปากพูดไป ใจไม่จริงดังปาก หามีประโยชน์แก่ตนไม่ แต่อาจ จะมี ป ระโยชน์ แ ก่ ผู้ ไ ด้ รั บ ฟั ง ที่ นำ � ไปคิ ด พิ จ ารณา และเกิ ด ความรู้ สึ ก กลัวกรรมไม่ดีขึ้นอย่างจริงใจ 8 อำ�นาจกรรม
กรรมที่ทำ�ลงไป ส่งผลให้อย่างแน่นอน การส่งผลของกรรมดีและกรรมไม่ดีนั้น ข้ามภพข้ามชาติได้ กรรม ในอดี ต ชาติ ส่ ง ผลมาทั น ในปั จ จุ บั น ชาติ ก็ มี ส่ ง ไปถึ ง ในอนาคตชาติ ก็ มี แล้ ว แต่ ว่ า ผู้ ทำ � กรรมจะสามารถหนี ไ ด้ ไ กลเท่ า ไร หรื อ หนี ไ ด้ น านเท่ า ไร นั่ น ก็ คื อ แล้ ว แต่ ว่ า ในปั จ จุ บั น ชาติ ผู้ ทำ � กรรมแล้ ว ในอดี ต จะสามารถ ในการทำ�จิตใจ ทำ�บุญทำ�กุศล ทำ�ความดีได้มากเพียงไหน เป็นกรรมที่ใหญ่ ยิ่งหนักหนากว่ากรรมไม่ดีหรือไม่ การให้ผลของกรรม ก็เช่นเดียวกับการตกจากทีส่ งู ของวัตถุ สิง่ ใดหนักกว่า เมือ่ ตกลงจากทีเ่ ดียวกันในเวลาใกล้เคียงกัน สิง่ นัน้ ย่อมถึงพืน้ ก่อน เปรียบดัง
กรรมสองอย่าง คือ กรรมดี และกรรมไม่ดี กระทำ�ในเวลาใกล้เคียงกัน กรรมที่หนักกว่า ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือกรรมไม่ดีก็ตาม ย่อมส่งผลก่อน กรรม ที่เบากว่าย่อมส่งผลทีหลัง และย่อมส่งผลทัง้ สองแน่นอน ไม่เร็วก็ชา้ ไม่ชาตินกี้ ช็ าติหน้า ไม่ชาติหน้า ก็ชาติต่อไป ต่อไป ต่อไป อาจจะอีกหลายภพชาติก็ได้ ที่เป็นดังนี้ เพราะกรรมไม่ใช่สิ่งที่จะลบเลือนได้ด้วยกาลเวลา นาน เพียงไร กรรมก็ยังให้ผลอยู่เสมอ กรรมจึงมีอำ�นาจเหนืออำ�นาจทั้งปวง มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
9
กรรมให้ผลตรงตามเหตุ กรรมนั้น น่าเชื่อถือนักในการให้ผลตรงตามเหตุ ไม่มีอคติด้วยอำ�นาจ ได้เลย แม้เกิดอยู่ในฐานะที่สุขสบาย ก็มิใช่ว่าไม่จำ�เป็นต้องนึกถึงกรรม มิใช่ว่าไม่จำ�เป็นต้องเชื่อกรรม สุขสบายเพียงไร ก็จำ�เป็นต้องนึกถึงกรรม ถ้าไม่ได้ทำ�กรรมดีอันควรแก่เหตุแล้ว จะอยู่ในฐานะสุขสบายได้อย่างไร ใครอืน่ อีกมากมายหาได้อยูใ่ นฐานะเช่นนัน้ อดอยากยากไร้เข็ญใจกันนักหนา ทำ�ไมเป็นได้เช่นนัน้ มีอะไรเป็นเครือ่ งทำ�ให้เป็นไป แม้ไม่ตอ้ งคิดในเรือ่ งเช่นนี้ เสียเลย ย่อมไม่อาจอบรมปัญญาให้เห็นถูกในเรื่องกรรม และการให้ผลของ กรรมได้ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องสำ�คัญแก่ทุกชีวิตที่ปรารถนาความสวัสดี คนก็ตาม สัตว์ก็ตามเกิดด้วยอำ�นาจของกรรม กรรมนำ�ให้
เป็นคนและนำ�ให้เป็นสัตว์ เชื่อไว้ก่อนย่อมมีโอกาสที่จะพ้นจาก ความเป็นสัตว์ เพราะเมื่อเชื่อว่ากรรมมีอำ�นาจถึงเพียงนั้น ก็ย่อม ขวนขวายทำ�กรรมที่จะไม่น�ำ ให้ต้องไปเป็นสัตว์ ไม่มีใครที่ไม่กลัวความเป็นสัตว์และมีโอกาสที่จะได้เกิดเป็นสัตว์แน่ ในภพภูมิข้างหน้า แม้บังเอิญไปทำ�กรรมที่จะทำ�ให้เกิดผลเช่นนั้นโดยรู้ หรือไม่รู้ เชือ่ หรือไม่เชือ่ ก็ตาม พลาดพลัง้ ไปทำ�กรรมผิดเข้า ก็จะไม่อาจปฏิเสธ ผลของกรรมได้เลย
10 อำ�นาจกรรม
โอกาสพ้นกรรมมี ได้ ถ้าใช้ปัญญาไตร่ตรอง ผลของกรรม ย่อมเป็นไปตรงตามกรรมอันเป็นส่วนเหตุที่ได้กระทำ�แล้ว คือ ผลดีย่อมเกิดแต่เหตุดี ผลไม่ดีย่อมเกิดแต่เหตุไม่ดี พระพุทธองค์ทรงแสดงความจริงนี้ ที่แม้เห็นได้ยาก แต่ก็เป็นความจริง ที่เที่ยงแท้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ จะมีผู้เข้าใจหรือไม่ จะเข้าใจผิดถูกอย่างไร ก็ตาม ความจริงนี้ย่อมเป็นความจริงตลอด ทำ�ดีย่อมได้ดี ทำ�ชั่วย่อมได้ชั่ว แต่โอกาสมีอยูเ่ สมอ สำ�หรับทีจ่ ะพิจารณาให้เกิดปัญญารูต้ ามพระปัญญา ในเรื่องของกรรม และการให้ผลของกรรม ทุกลมหายใจเข้าออก ดังนั้น จงพิจารณาเรื่องของกรรมให้ได้ด้วยกันทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน กำ�ลังทำ�อะไร เพียงแต่ท�ำ ใจให้สงบพอสมควรก่อน เพือ่ เหมาะแก่การน้อมไป ใช้พจิ ารณาให้เกิดผลให้เป็นความรูข้ องตน มิใช่เป็นความรูข้ องพระพุทธองค์ ที่ตนเพียงจดจำ�ไว้เท่านั้น เพราะความรู้ของผู้อื่นนั้น แม้จดจำ�ไว้อย่างมิได้รู้ มิได้เข้าใจจริงด้วยตนเอง ความรู้นั้นก็ยังมิใช่ปัญญาของตน ฉะนั้น
เห็นอะไร ได้ยินอะไร อย่าสักแต่ว่า ได้ยิน อย่าสักแต่ว่ารู้เช่นที่ได้เห็น อย่าสักแต่ว่ารู้เช่นที่ได้ยินอันมิใช่ ปัญญา เห็นแล้วต้องให้เป็นปัญญา ได้ยินแล้วต้องให้เป็นปัญญา มากน้อยก็ตอ้ งให้เกิดปัญญาขึน้ มาบ้าง คือ เห็นอะไรแล้วก็ต้องคิด ได้ยินอะไรแล้วก็ต้องคิด คิดให้ดี คิดให้มีเหตุผล ด้วยใจที่สงบ คิดเนืองๆ มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
11
รักใคร ก็อย่าได้ทำ�ความไม่ดีเลย ผู้ ไ ม่ ทำ � ดี ป ระการต่ า งๆ ด้ ว ยกาย วาจา อั น เนื่ อ งมาจากใจที่ ไ ม่ ดี ของเขานั้น แท้จริงแล้ว ผู้มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาพอสมควร ประกอบด้วยความเชื่อในเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรม ไม่น่าจะมีผู้ใด ปรารถนาเป็นคนไม่ดี แต่ทำ�ไมจึงมีคนไม่ดีมากมาย ทั้งๆ ที่มิได้ปรารถนา คิดให้เข้าใจใน เรื่องของกรรมจะรู้ชัดว่า กรรมที่คนผู้นั้นทำ�ไว้ในอดีต ได้ติดตามห้อมล้อม จิตเขามาให้ปรากฏเป็นผลในปัจจุบัน ทั้งที่ในปัจจุบันเขาก็มิได้ต้องการให้ เป็นเช่นนั้น และหากเข้าใจเรื่องของกรรมบ้างแล้ว เขาจะกลัวไปถึงชาติในอนาคต เขาจะพยายามไม่ทำ�กรรมไม่ดี เพราะเข็ดกลัวผลของกรรมที่ทำ�ให้เขาต้อง เป็นคนไม่ดีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งที่เขาไม่ปรารถนาเลย
ไม
เป็นผู้ใหญ่ก็อย่าทำ�กรรมไม่ดี เป็นเด็กหรือเป็นหนุ่มสาวก็ อย่าทำ�กรรมไม่ดี แม้ รักตัวเองก็อย่าทำ� กรรมไม่ดี จงทำ�แต่ กรรมดี หรือแม้รักพ่อแม่พี่น้อง ลูกหลาน ก็อย่าทำ�กรรมไม่ดี ผลไม่ดีที่ผู้ทำ�ได้รับนั้น จะทำ�ให้บรรดาผู้ที่รักตน อ่ ย า พลอยกระทบกระเทือนไปด้วย กเปน็ เชน่
12 อำ�นาจกรรม
่อกัน ี ต ่ ด ภาพนี้ กอ็ ย่าทำำกรรมไม
ทำ�กรรมไม่ดีผู้เป็นที่รักพลอยได้รับผลร้าย ลองนึกถึงใจตนเอง เมื่อเห็นผู้ที่ตนรักทำ�ความไม่ดี แม้ผลไม่ดียังไม่ทัน ปรากฏชัด ตนก็ไม่สบายใจ ยิ่งเมื่อได้ผลร้ายเกิดขึ้นสนองผู้ทำ�กรรม เราผู้มี ความผูกพันกับเขา ก็ย่อมเหมือนกลายได้รับผลร้ายด้วย ดังนัน้ แม้ไม่รกั ตนเอง ก่อนจะทำ�อะไร ก็ควรนึกถึงใครทัง้ หลายทีเ่ กีย่ วข้อง ซึ่งจะต้องมีผู้เป็นที่รักอยู่ด้วย
ถ้าเราทำ�กรรมไม่ดี ได้รับผลไม่ดี ผู้ที่รักเรา และผู้ที่เรารักก็จะต้องพลอยได้รับ ความกระทบกระเทือนจิตใจ ไปด้วยอย่างไม่ยุติธรรม เพราะมิได้เป็นผู้ท�ำ กรรมไม่ดีด้วย แต่ต้องพลอยได้รับผลไม่ดี เพราะความผูกพัน
ผวั เขา
ขา เมยี ใคร เปน็ อย่างนี้ มีแต่อายเ
ฉะนัน้ จะทำ�ความไม่ดใี ดๆ ก็นา่ จะนึกถึงบรรดาผูท้ มี่ คี วามผูกพันกับเรา บ้าง อาจจะช่วยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นในการหลีกเลี่ยงการทำ�กรรมไม่ดี ก่อนจะทำ�กรรมใดๆ แม้หยุดยั้งตั้งสติ คิดให้ดีว่ากรรมนั้นดีหรือไม่ดี ก็จะทำ�ให้ไม่ทำ�กรรมไม่ดีอย่างเต็มใจ อย่างสบายใจ แต่จะมีเวลายับยั้งชั่งใจ อันเป็นความสำ�คัญควรจะทำ�ให้เป็นความเคยชินด้วยกันทุกคน มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
13
เห็นผูอ้ น่ื รับกรรม ต้องวางใจให้กลัวกรรม ทุกวันนี้มีข่าวฆ่าฟันกันอย่างทารุณโหดเหี้ยมมิได้เว้นแต่ละวัน พบแล้ว เห็นแล้ว ก็ให้นกึ ถึงกรรม เคยฆ่าเขามาก็ถกู เขาตามมาฆ่า คนละภพคนละชาติ ข้ามภพข้ามชาติแล้วก็ยังตามกันมาได้ มาส่งผลได้ เรื่องกรรมเป็นเช่นนี้จึงน่ากลัวกรรมนักพึงกลัวกรรมนัก ไม่พึงคิดว่า การเชื่อว่าการฆ่าฟันตามล้างตามผลาญกัน เป็นเรื่องกรรมนั้นเป็นความเชื่อ ที่เหลวไหล ไม่มีเหตุผล ไม่พึงคิดเช่นนี้ เพราะไม่มีคุณค่าอย่างใด จะถูกหรือจะผิด ถ้านึกเชื่อ ไว้กอ่ นว่าเป็นเรือ่ งการให้ผลของกรรม ก็จะทำ�ให้ไม่กล้าทำ�กรรมไม่ดโี ดยตัง้ ใจ ก็จะพ้นจากผลของกรรมไม่ดีนั้นแน่นอน
การถู ก ฆ่ า ของเด็ ก ไร้ เ ดี ย งสา หาความผิดไม่ได้ ซึ่งปรากฏขึ้น บ่อยๆ ในยุคนี้น่าจะทำ�ให้ความ เชื่อในเรื่องกรรมและการให้ผล ของกรรมหนั ก แน่ น ขึ้ น ทำ � ไม ต้องเป็นเด็กคนนั้นที่ถูกฆ่าทั้งที่ ไม่ได้มเี รือ่ งขุน่ เคืองโกรธแค้นกัน อยู่ดีๆ มีความสุข ก็ปุบปับถูกนำ� ไปประหัตประหาร ในฐานะเป็นผู้ดู จงดูด้วยความรู้สึกกลัวกรรม ไม่ควรดูด้วย ความรูส้ กึ อาฆาตขุน่ เคือง เพราะจะไม่เป็นคุณแก่จติ ใจตนเอง มีแต่ จะเป็นโทษ รู้แล้วปลงลง นี่แหละอำ�นาจของกรรมยิ่งใหญ่นัก พึงกลัวนัก 14 อำ�นาจกรรม
คิดให้ดี ผลกรรมนี้ ไม่มีใครหนีพ้น แม้ในฐานะเป็นผูด้ ู มิใช่ผพู้ ลอยได้รบั ความเดือดร้อนทนทุกข์ทรมานด้วย ถ้าไม่สามารถทำ�ใจอบรมใจให้เข้าใจในเรื่องของกรรม และการให้ผลของ กรรมได้แล้ว เมื่อตนต้องเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยในเหตุการณ์อันร้ายแรง ก็ย่อมยากที่จะช่วยใจตนเองให้พ้นจากความร้อนได้ เรื่องร้ายแรงที่เราไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เกิดขึ้นอยู่มากมายทุกวันทุกคืน แม้จะอยู่ในบ้านเรือนตนสมัยนี้ก็สามารถรับรู้ได้ เห็นได้ ได้ยินได้ พึงถือ โอกาสอบรมใจตนเองให้เชื่อในเรื่องของกรรม
เคยทำ�กรรมดี จึงมีกุศลกรรมมาช่วยกัน เหตุ
ผล
เชื่อกรรม ดูหมิ่นกรรม
บรรเทาทุกข์ ทับซ้อนทุกข์
กรรมน่ากลัวเพียงไร จงคิดให้ดี เมื่อกรรมมาถึง หนีได้หรือไม่ คนดีในชีวิตนี้ มิใช่ว่าจะ ไม่เคยทำ�กรรมไม่ดีมาก่อน ในอดีตชาติ ดังนั้น จึงปรากฏบ่อยๆ ว่า คนดีแสนดีกลับต้อง ได้รับความทุกข์หนักหนา ด้วยโรคภัยไข้เจ็บบ้าง ด้วยความไม่สมหวังในเรื่อง ใหญ่โตสำ�คัญแก่จิตใจบ้าง เป็นเหตุให้ต้องเศร้าหมอง ทรมานอย่างยิ่ง มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
15
คุณและโทษของกรรมดี-ชั่ว ปรากฏตัวในการวางใจรับผล เมื่อเราได้รู้ได้เห็นอย่าพิศวงสงสัย อย่าได้คิดผิดว่า คนทำ�ดีไม่ได้ดี แต่จงวางใจให้ถูกให้เป็นประโยชน์แก่ตน วางใจลงในกรรมที่สลับซับซ้อน ยิ่งนัก ยากจักที่เข้าใจ แต่ก็ไม่ยากที่จะเชื่อไว้ก่อน อะไรที่เชื่อไว้ก่อนแล้วไม่มี โทษมีแต่คุณ ผู้มีปัญญาแม้พอสมควรย่อมไม่ดื้อปฏิเสธ การรับผลของกรรมนั้นสำ�คัญมากสำ�คัญทั้งการรับผลของกรรมชั่ว และผลของกรรมดีไม่สำ�คัญแต่เพียงการรับผลของกรรมชั่วเท่านั้น การรับ ผลของกรรมดีก็สำ�คัญ การรับผลของกรรมดีนั้น ถ้ารับไม่ถูกก็มีโทษร้ายแรงแก่จิตใจ น่าจะ รุนแรงกว่าการรับผลของกรรมชั่วอย่างไม่ถูกวิธีเสียอีกด้วย ผู้ทำ�กรรมดีไว้เป็นบารมี ส่งให้ชาตินี้สมบูรณ์พร้อม แม้รับผลแห่งกรรม ดีหรือผลของบารมีไม่ถูก ผลเสียที่จะเกิดตามมาคือ ความหลงตน อันความ หลงตนนั้นจะพาความหลงอีกมากมายให้ตามมา เป็นโทษมหันต์นัก
ผลของกรรมดี ผลของกรรมชั่ว มีทั้งคุณและมีทั้งโทษอยู่ในตัว คุณหรือโทษจะปรากฏ ตามการวางใจรับผลนั้น ผลของกรรมดีที่เกิดแก่ผู้ใดก็ตาม แม้ผู้นั้นวางใจรับไม่ถูก ไม่ประกอบด้วยปัญญา ผลดีก็จะไม่สมบูรณ์ ทั้งผลร้ายก็จะต้องตามมา 16 อำ�นาจกรรม
วิธีวางใจในการรับผลของกรรมดี ผู้ได้รับผลดีของกรรมดี คือ การได้ประสบโลกธรรมฝ่ายดี คือลาภ ยศ สรรเสริญ สุขนั่นเอง ต้องรับให้ดี ต้องรับให้ถูก วิธีทำ�ใจให้รับโลกธรรมอย่างถูกต้องที่สุดก็คือ ให้คิดว่า ลาภก็ตาม ยศก็ตาม สรรเสริญก็ตาม สุขก็ตาม ล้วนอยู่ในลักษณะของไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยง ทนอยู่ไม่ได้ต้องเปลี่ยนแปลงและไม่เป็นไปตามความปรารถนา ต้องการ ดังนั้น หากได้รับผลดีของกรรมดี คือ ได้ประสบโลกธรรมฝ่ายดีเมื่อไร เมื่อนั้น จงคิดถึงไตรลักษณ์ให้ทันที จะได้รับผลดีของกรรมดีที่ดียิ่งกว่า ผลดีนั้น การคิ ด ถึ ง ไตรลั ก ษณ์ ความไม่ เ ที่ ย ง ทนอยู่ ไ ม่ ไ ด้ ต้ อ งแปรปรวน เปลี่ยนแปลง และไม่เป็นไปตามความปรารถนาต้องการ คือการทำ�ความดี ทางใจ เป็นมโนกรรมทีด่ ี จึงย่อมได้รบั ผลเป็นความดีตรงตามเหตุทไี่ ด้กระทำ�
ที่จริง มโนกรรม กรรมทางใจ คือ คิดดี นั้น แม้ตั้งใจจริงที่จะทำ� ก็น่าจะทำ�ง่ายกว่ากรรมทางกาย ทางวาจา เพราะเรื่องของความคิด เป็นเรื่องที่อยู่ในอำ�นาจของเรา อย่างแท้จริง ไม่เกี่ยวกับผู้ใด หรืออะไรเลย ความคิดอยู่กับ เราจริงๆ ไม่มีผู้ใดอาจ ล่วงล้ำ�ก้ำ�เกินไปบังคับบัญชาได้ มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
17
วิธีวางใจให้รับผลของกรรมชั่ว ได้รับผลของกรรมชั่ว คือได้ประสบโลกธรรมฝ่ายไม่ดี ก็ควรต้องทำ�ใจ รับให้ถูก เช่นเดียวกับการทำ�ใจรับโลกธรรมฝ่ายดีเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะ ปล่อยใจให้ตกอยู่ในอำ�นาจของความทุกข์ ความเศร้าเสียใจ หรือความโกรธ แค้นอาฆาตพยาบาท การรับผลไม่ดีของกรรมไม่ดี ด้วยวิธีคิดเช่นเดียวกับเมื่อได้รับผลดี ของกรรมดีคือ คิดถึงไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ทนอยู่ไม่ได้ต้องแปรปรวนเปลี่ยนแปลงและไม่เป็นไปตามความปรารถนา ต้องการของผู้ใดทั้งสิ้นทุกข์แล้วก็สุขเป็นธรรมดา ทั้งผลของกรรมดีและผลของกรรมชั่ว ล้วนมีลักษณะสาม คือไม่เที่ยง ทนทุกข์อยู่ไม่ได้ต้องแปรปรวนเปลี่ยนแปลง ไม่เป็นไปตามความปรารถนา ต้ อ งการของผู้ ใ ด กล่ า วอี ก อย่ า งก็ คื อ ทั้ ง ผลของกรรมดี และผลของ กรรมชั่วนั้น เมื่อเกิดแล้วก็ต้องดับ ไม่มีที่จะยั่งยืนอยู่ได้ตลอดไป สิ่งทั้งปวง เกิดแล้วต้องดับ คือ มีลักษณะสาม มีลักษณะเป็นไตรลักษณ์
โลกธรรมฝ่ายดี คือผลของ กรรมดีก็เช่นกัน เกิดแล้วต้องดับ โลกธรรมฝ่ายไม่ดี คือผลของ กรรมไม่ดีก็เช่นกัน เกิดแล้วต้องดับ เมื่อรู้เช่นนี้ตามเป็นจริงแล้ว ก็พึง ละความยึดมั่นในผลของกรรม ที่ได้ประสบอยู่ ไม่ว่าจะเมื่อประสบ ผลดีหรือเมื่อได้ประสบผลชั่วก็ตาม 18 อำ�นาจกรรม
ยี มไี ด้ ในร้ายมีดี ในเส
อยทู่ กี่ ารทำำ ใจให้รู้เท่าทัน
ไม่มีอำ�นาจใด ยิ่งใหญ่กว่าอำ�นาจกรรม อำ � นาจของกรรมใหญ่ ยิ่ ง ที่ สุ ด ในโลก ไม่ มี อำ � นาจใดทำ � ลายล้ า งได้ แม้อำ�นาจของกรรมดีก็ไม่อาจทำ�ลายอำ�นาจของกรรมชั่ว และอำ�นาจของ กรรมชั่วก็ไม่อาจทำ�ลายอำ�นาจของกรรมดี อย่างมากที่สุดมีอยู่คือ อำ�นาจ ของกรรมดีแม้ให้มากให้สม่ำ�เสมอในภพภูมินี้ ก็อาจจะทำ�ให้อำ�นาจของ กรรมชั่วที่ได้ทำ�มาแล้วตามมาถึงได้ยาก ดังมีเครื่องขวางกั้นไว้ ดังที่ทา่ นเปรียบว่า เหมือนวิ่งหนีผู้ร้ายที่วิ่งไล่ตามมา ถ้ามีกำ�ลังแข็งแรง วิง่ เร็วกว่าผูร้ า้ ย ก็ยอ่ มยากทีผ่ รู้ า้ ยจะไล่ทนั ความแข็งแรงของผูว้ งิ่ หนีกรรมชัว่ หาใช่อะไรอื่น คือ ความเข้มแข็งสม่ำ�เสมอของการทำ�กรรมดีนั่นเอง
อำ�นาจของกรรมนั้น ทั้งใหญ่ยิ่ง ทั้งล้�ำ ลึก ยากที่สามัญชน คนทั้งหลายจะเข้าใจได้ถูกแท้ แต่แม้ผู้ใดจะเข้าใจหรือ ไม่เข้าใจก็ตามย่อมไม่พ้น ผลของกรรมที่ตนกระทำ� แล้วได้ ย่อมต้องได้รับผล ของกรรมที่ตนกระทำ�แล้ว ทำ�กรรมดีใด จักได้รับผล ของกรรมดีนั้น ทำ�กรรม ไม่ดีใด จักได้รับผลของ กรรมไม่ดีนั้นแน่นอนเสมอไป มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
19
คู่เวร คู่กรรม ผลที่เกิดแต่กรรมใด ย่อมตรงกับกรรมที่เป็นเหตุแห่งผลนั้นเสมอ เช่น มีอายุสั้น เพราะเบียดเบียนผู้อื่น ความขี้โรค ย่อมเกิดแต่ความเบียดเบียน ความขี้โรค เป็นผลตรงกับกรรมที่เป็นเหตุ คือ ความเบียดเบียน ความเบียดเบียนทำ�ให้เกิดความ ไม่เป็นสุข ความขี้โรค ก็เป็นความไม่เป็นสุข ผู้ทำ�เหตุคือ ความเบียดเบียน ก็ย่อมได้รับผล เป็นผู้ขี้โรค ไม่มีความสุข ผลย่อมตรงต่อเหตุดังนี้
เคยทําร้ายเขา เราอายุสั้น
มีอายุยืน เพราะไม่เบียดเบียนใคร
ไม่เคยทําร้ายใคร สุขภาพกาย-ใจ แข็งแรง 20 อำ�นาจกรรม
ความมีอายุยืน มีสุขภาพพลานามัย สมบูรณ์แข็งแรง ย่อมเกิดแต่ความ ไม่เบียดเบียน ความมีอายุยืน มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เป็นผลที่ตรงกับกรรม ที่เห็นเหตุคือ ความไม่เบียดเบียน ความไม่เบียดเบียนเป็นการ ทำ�ให้มีความสุขความเจริญอายุ ความมีอายุยืน มีสุขภาพพลานามัย สมบูรณ์แข็งแรง ผลย่อมตรงต่อเหตุดังนี้
มีจิตเบิกบาน ผิวพรรณผ่องใส เพราะมีศีล ความมีหน้ามีตาเบิกบานแช่มชื่น รักษาศีลดี มีความสุขสดชื่น ผิวพรรณผ่องใสงดงาม ย่อมเกิดแต่ความมีศีล ความมีหน้าตาเบิกบานแช่มชื่นผิวพรรณผ่องใสงดงาม เป็นผลที่ตรงกับกรรมที่เป็นเหตุคือ ความมีศีล ความมีศีล ทำ�ให้มีจิตใจเบิกบาน แจ่มใส เป็นสุข ความมีหน้าตาเบิกบานแช่มชื่น ผิวพรรณผ่องใสงดงาม แสดงถึงความมีจิตใจเบิกบานแจ่มใสเป็นสุข ผู้ทำ�เหตุคือ ความมีศีล ก็ย่อมได้รับผลเป็น ผู้มีหน้าตาเบิกบาน แช่มชื่น ผิวพรรณผ่องใส งดงาม ผลย่อมตรงต่อเหตุดังนี้ มีจิตใจเศร้าหมอง ผิวพรรณไม่ผ่องใส เพราะไร้ศีล
ไร้ศีล จึงสิ้นศรี
ความมีหน้าตาผิวพรรณเศร้าหมองไม่ผ่องใส ย่อมเกิดแต่ความไม่มีศีล ความมีหน้าตา ผิวพรรณเศร้าหมองไม่ผ่องใส เป็นผลตรงกับ กรรมที่เป็นเหตุคือ ความไม่มีศีล ความไม่มีศีล ทำ�ให้จิตใจเศร้าหมอง ไม่เบิกบานเป็นสุข ความ มีหน้าตาผิวพรรณเศร้าหมองไม่ผ่องใส แสดงถึง ความมีจิตใจเศร้าหมอง ไม่เบิกบานเป็นสุข ผู้ทำ�เหตุคือ ความไม่มีศีล ก็ย่อมได้รับผล เป็นผู้มีหน้าตาผิวพรรณเศร้าหมอง ไม่ผ่องใส ผลย่อมตรงต่อเหตุดังนี้ มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี 21
เกิดในชาติตระกูลดี เพราะมีความอ่อนน้อม ความได้เกิดในชาติตระกูลสูง ย่อมเกิดแต่ ความอ่อนน้อมต่อผู้ควรได้รับความอ่อนน้อม ความได้เกิดในชาติตระกูลสูง เป็นผลที่ตรง กับกรรมที่เป็นเหตุคือ ความอ่อนน้อมต่อ ผู้ที่ควรได้รับความอ่อนน้อม ความอ่อนน้อม ต่อผู้ควรได้รับความอ่อนน้อม ย่อมทำ�ให้ได้เกิดในชาติตระกูลสูง ความได้เกิดในชาติตระกูลสูง จักทำ�ให้ได้รับความอ่อนน้อม แตกต่างกับความเกิดในชาติตระกูลต่ำ� ผลย่อมตรงต่อเหตุดังนี้
เคยมีคารวธรรม นําชีวิตพบความสุข
ลชพ 4313
เกิดในชาติตระกูลต่ำ�ศักดิ์ เพราะขาดหลักคือความอ่อนน้อม ขาดความเคารพ เลยพบจุดจบเช่นนี้
22 อำ�นาจกรรม
ความได้เกิดในชาติตระกูลต่ำ� ย่อมเกิดแต่ ความไม่อ่อนน้อมต่อผู้ควรได้รับความอ่อนน้อม ความได้เกิดในชาติตระกูลต่ำ� เป็นผลที่ตรงกับกรรม ที่เป็นเหตุคือ ความไม่อ่อนน้อมต่อผู้ควรได้รับ ความอ่อนน้อม ความไม่อ่อนน้อมต่อผู้ควรได้รับ ความอ่อนน้อม ย่อมทำ�ให้ได้เกิดในชาติตระกูลต่ำ� ความได้เกิดในชาติตระกูลต่ำ� จักทำ�ให้ไม่ได้รับ ความอ่อนน้อมแตกต่างกับความเกิดใน ชาติตระกูลสูง ผลย่อมตรงต่อเหตุดังนี้
พรั่งพร้อมด้วยสมบัติ เพราะเป็นผู้รู้จักการให้ มีเหลือกินเหลือใช้ เพราะเคยให้ มาก่อน เมา บุญ
ความพรั่งพร้อมด้วยสมบัติ ย่อมเกิดแต่ ความบริจาค ความพรั่งพร้อมด้วยสมบัติ เป็นผลที่ตรงกับกรรมที่เป็นเหตุคือ ความบริจาค ความบริจาคเป็นเหตุที่ ผู้จะทำ�ได้จะต้องมีความพอใจระดับหนึ่ง และมีความเมตตากรุณาในระดับหนึ่ง ซึ่งนับเป็นสมบัติของใจ สมบัติของใจ คือ ความพอ และความเมตตากรุณา ที่ประกอบด้วยการสละบริจาค เป็นกรรมฝ่ายเหตุ มีความพร้อมด้วย สมบัติเป็นผล ผลย่อมตรงต่อเหตุดังนี้
ขาดแคลนยากไร้ เพราะไม่เคยให้ไว้ก่อน
ความขาดแคลน อันเกิดแต่ไม่มี การบริจาค คือ ไม่ได้ทำ�เหตุคือ การบริจาคที่จะให้เกิดผล เป็นความไม่ขาดแคลน ไม่ได้ทำ�เหตุที่จะให้ผลเป็นความ พรั่งพร้อมแม้ทำ�เหตุแห่งความ พรั่งพร้อมไม่ขาดแคลน ย่อมได้รับผลเป็นความพรั่งพร้อม ไม่ขาดแคลน ผลย่อมตรงต่อเหตุดังนี้
เคยขาดนํ้าใจเอื้อเฟื้อผู้อื่น ต้องขมขื่นเพราะความลําบาก
มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี
23
กรรมที่ทำ�ไป ยากแก้ไขให้กลับคืน อันกรรมหรือการกระทำ�นั้น แม้ได้กระทำ�ลงไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยการ พูด หรือการประกอบกระทำ�ก็ตาม จักแก้กลับคืนไม่ได้ ทำ�แล้วก็เป็น อันทำ�แล้ว ผลย่อมเกิดตามมาอย่างแน่นอน ทำ�ดีย่อมเกิดผลดี ทำ�ไม่ดี ย่อมเกิดผลไม่ดี
ที่ชอบกล่าวกันพร่ำ�เพรื่อ ในยุคนี้สมัยนี้ว่า ทำ�ดี ไม่ได้ดี ทำ�ไม่ดีกลับได้ดีนั้น แม้จะให้ถูกต้อง ควรต้องขยายความ ให้ยาวออกไปด้วย เช่นว่า ทำ�ดีไม่ได้ดี เพราะมีกรรมเก่าที่ไม่ดี กำ�ลังส่งผล ทำ�ไม่ดีกลับได้ดี เพราะมีกรรมเก่าที่ดีก�ำ ลังส่งผล แม้กล่าวขยายให้สมบูรณ์ดังนี้ ก็จะได้ความเข้าใจในเรื่องผลของกรรม ชัดเจนถูกต้องขึ้น คือ กรรมนั้น เมื่อทำ�แล้ววันหนึ่งต้องให้ผล จนสามารถ ทำ�ให้กรรมปัจจุบันต้องส่งผลช้าไปได้ คือ กรรมดีในปัจจุบันไม่อาจส่งผล ดีได้ทันที เมื่อมีผลของกรรมไม่ดีในอดีตแรงกว่า หรือกรรมไม่ดีในปัจจุบัน ไม่อาจส่งผลไม่ดีได้ในทันที เมื่อมีผลของกรรมดีในอดีตแรงกว่า 24 อำ�นาจกรรม
ทำ�กรรมไม่ดี เหมือนดื่มยาพิษร้ายทำ�ลายตน กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อนัก เหมือนผลของยาพิษร้ายแรง กรรมนั้นเมื่อทำ�แล้วก็เหมือนดื่มยาพิษร้ายแรงเข้าไปแล้ว จักไม่เกิดผลร้ายแก่ชีวิตและร่างกาย ย่อมไม่มี ย่อมเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นกรรมดีก็จักให้ผลดี ถ้าเป็นกรรมชั่วก็จักให้ผลชั่ว จึงกล่าวได้ว่า ผลที่เป็นลาภยศสรรเสริญสุขนั้น มิใช่เป็นสิ่งที่ดีเสมอไป จะเป็นสิ่งที่ดีก็ต่อเมื่อได้มาเพราะการทำ�เหตุดี ถ้าได้มาเพราะการทำ�เหตุไม่ดี ลาภยศสรรเสริญสุขที่ได้มานั้นก็เป็นสิ่ง ไม่ดี ถ้าได้ลาภยศสรรเสริญสุขมาเพราะการโกงกินหลอกลวงเบียดเบียน ผูอ้ นื่ ไม่วา่ จะได้มามากมายใหญ่ยงิ่ เพียงไหน ก็ไม่ใช่สงิ่ ทีด่ ี เป็นสิง่ ทีด่ ไี ปไม่ได้ ถ้าได้มาเพราะการทำ�เหตุดีอย่างสุจริต ไม่ว่าจะได้มาเล็กน้อยเพียงไร ก็เป็นสิ่งที่ดี ฉะนั้น การรู้จักเหตุดีที่จะได้ให้ผลดี เหตุไม่ดีที่จะให้ผลไม่ดี จึงเป็นธรรมสำ�คัญ ดังนั้น ผู้ที่กำ�ลังเสวยผลของกรรมดีในอดีตชาติต่างๆ กัน เช่น ได้เกิด ในตระกูลสูง สมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง มีร่างกายแข็งแรง ไม่ถกู เบียดเบียนด้วยโรคภัยไข้เจ็บ มีอายุยนื นานมีหน้าตาผิวพรรณงามผ่องใส หรื อ มี ส ติ ปั ญ ญาเฉลี ย วฉลาด พึ ง น้ อ มใจเชื่ อ ว่ า เป็ น ผลแห่ ง กรรมดี ที่ ไ ด้ ประกอบกระทำ�ไว้แล้วเป็นอันมากในอดีตชาติแน่นอน และแม้ปรารถนาจะเสวยผลดีแห่งกรรมดีนั้นสืบต่อไปในอนาคต ทั้งใน อนาคตชาติปัจจุบัน และทั้งในอนาคตของภพชาติเบื้องหน้า ที่พ้นจากภพ ชาติปัจจุบันไปแล้วก็พึงตั้งใจประกอบกรรมดีอันเป็นเหตุดีต่อไปให้มั่นคง สม่ำ�เสมอ มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี 25
อำ�นาจกรรมเป็นเช่นนี้ ผู้มีปัญญาจึงกลัวกรรม อดีตชาติของทุกคนมีมากมายนัก จึงได้ทำ�กรรมกันไว้มากมายนักกุศลกรรมบ้าง อกุศลกรรมบ้าง ชีวิตในปัจจุบันจึงมีดีบ้าง ไม่มีบา้ ง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง คนมั่ ง มี เ ป็ น มหาเศรษฐี ก็ด้ว ยอำ�นาจของกุศ ลกรรม คือ การบริจ าค ช่วยเหลือเจือจุนผู้อื่น ที่ได้กระทำ�ไว้ในอดีตชาติ แต่ เ มื่ อ อกุ ศ ลกรรม คื อ การคดโกงเบี ย ดเบี ย นทรั พ ย์ สิ น ให้ ผู้ อื่ น ต้ อ ง เดื อ ดร้ อ นที่ ไ ด้ ก ระทำ � ไว้ ใ นอดี ต ชาติ ต ามมาส่ ง ผล และเป็ น ผลที่ แรงกว่ า มี กำ�ลังกว่ากุศลที่กำ�ลังเสวยผลอยู่ อกุศลกรรมก็จะตัดรอนกุศลกรรม ส่งผล ไม่ดีของอกุศลกรรมให้เกิดแทน ความมั่งมีก็จะกลับเป็นความไม่มี เงินทองของมีค่าก็จะสูญหายหมดไป อกุศลกรรมแรงมาก ก็จะสามารถทำ�ให้มหาเศรษฐีสิ้นเนื้อประดาตัวได้ กำ�ลัง เป็นสุขก็จะกลับเป็นทุกข์เดือดร้อน
อำ�นาจของกรรมเป็นเช่นนี้จริง ผู้มี ปัญญาจึงกลัวกรรมยิ่งกว่ากลัวอะไรอื่น กลัวเพราะรู้ว่า เมื่อทำ�กรรมไม่ดีไว้แล้ว ต้องได้รับผลไม่ดี และเมื่อถึงเวลา ที่กรรมส่งผลไม่ดีมาถึงตัวแล้ว แม้ตั้งแต่เกิดมาในชาตินี้ จะไม่เคยทำ� กรรมไม่ดีเช่นนี้ ก็จะต้องได้รับผลไม่ดี
เมื่อกรรมชั่วตามทัน พลันพบความวิบัติ
ที่อาจทำ�ให้พิศวงสงสัยจนถึงขั้นมาก จนคนเกิดมิจฉาทิฐิ ความเห็นผิด คือ เห็นไปว่าทำ�ดีไม่ได้ดี ซึ่งความจริงไม่ใช่เช่นนั้น ทำ�ดีต้องได้รับผลดีเสมอ ทำ�ไม่ดีจึงจะได้รับผลไม่ดี 26 อำ�นาจกรรม
แม้ชีวิตในชาติปัจจุบัน ยังก่อกรรมกันมากมาย เพียงในชาติปัจจุบันนี้เท่านั้น มีอายุกันอย่าง มากก็เพียงแค่ร้อยปีเท่านั้น ทุกคนทุกสัตว์ ต่ า งก็ ทำ � อะไรๆ ที่ เ ป็ น กรรมแล้ ว มากมาย นับไม่ถว้ น เป็นกรรมดี คือ กุศลกรรมบ้าง เป็น กรรมชั่ว คือ อกุศลกรรมบ้าง เพียงทำ�ในชาติ เดียวก็มากมายจริงๆ แล้วเมื่อได้ทำ�มานับภพ นับชาติไม่ถ้วน จะมากมายเพียงไหน ขณะที่มาเป็นอยู่ในภพนี้ชาตินี้ ได้ละภพชาติในอดีตที่ทำ�กรรมไว้เบื้อง หลังมากนักหนา กรรมดี กรรมชัว่ อาจไม่เสมอกัน บางคนกรรมดีอาจมากกว่า บางคนกรรมชั่วอาจมากกว่า บางคนทำ�กรรมดีที่ไม่สำ�คัญ ไม่ยิ่งใหญ่ แต่ ทำ�กรรมไม่ดีที่สำ�คัญนักหนาเช่นนี้ ย่อมได้เสวยผลตามเหตุ คือ ในภพชาตินี้ ย่อมประสบส่วนดีน้อยกว่าส่วนไม่ดี ส่วนผู้ที่ทำ�กรรมดีมาก คือ ในภพชาตินี้ย่อมประสบส่วนดีมากกว่า ส่วนไม่ดี ดังมีตัวอย่างให้พบเห็นอยู่ทั่วไปในทุกวันนี้ เมื่อกรรมดีจะส่งผล ก็ไม่มอี ะไรหรือผูใ้ ดจะกีดกัน้ ยับยัง้ ได้ กรรมไม่ดแี รงกว่าเท่านัน้ ทีจ่ ะกีดกัน้ ขัด ขวางได้ ไม่ให้กรรมดีอาจส่งผล แต่ถา้ กรรมดีแรงกว่ากรรมไม่ดี กรรมดีกต็ อ้ ง ส่งผลจนได้ กรรมไม่ดีหาอาจขัดขวางได้ไม่ อะไรๆ ก็หาอาจขัดขวางได้ไม่ เมื่อกรรมไม่ดีจะส่งผล ก็ไม่มีอะไรหรือผู้ใดจะกีดกั้นยับยั้งได้ กรรมดีที่ แรงกว่าเท่านั้นที่จะกีดกั้นขัดขวางได้ ไม่ให้กรรมไม่ดีอาจส่งผล แต่ถ้ากรรม ไม่ดีแรงกว่ากรรมดี กรรมไม่ดีก็ต้องส่งผลจนได้ กรรมดีหรืออะไรๆ ก็หา ขัดขวางได้ไม่ มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี 27
คิดเรือ่ งอดีตชาติ อาจทำ�ให้กลัวกรรมยิง่ ขึน้ ก่อนจะมาเป็นเราแต่ละคนในภูมิของมนุษย์นี้ ต่างก็ได้เป็นอะไรต่อ มิอะไรมาแล้วมากมาย นับชนิดนับชาติไม่ได้ เป็นกันทั้งเทวดา สัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก รวมทั้งมนุษย์ชายหญิง คนมี คนจน คนสวย คนไม่สวย คนพิการ คนไม่พิการ อายุสั้น อายุยาว ขาวดำ� ไทยจีนแขกฝรั่ง ต่างเคยมีเคยเป็น กันมาแล้วทัง้ นัน้ แม้ถา้ เป็นผูร้ ะลึกชาติได้กจ็ ะสลดสังเวชยิง่ นัก และก็อาจจะ สละละวางความโลภ ความโกรธ ความหลงได้เป็นอันมาก เห็นสุนขั ขีเ้ รือ้ นสักตัวแล้วลองนึกว่า ครัง้ หนึง่ เราก็คงเคยเป็นเช่นเดียวกัน เคยเที่ยวกระเซอะกระเซิงหาอาหารกิน ถูกคนตี ถูกสุนัขด้วยกันกัด ถูกใคร ทั้งหลายที่ได้มาประสบพบผ่านแสดงกิริยาวาจารังเกียจเกลียดชัง เอา ก้อนอิฐก้อนหินทุ่มขว้างใส่ ให้ต้องถึงเลือดตกยางออก ตกใจกลัวภัยนานา แต่จะบอกกล่าวอ้อนวอนให้ผใู้ ดเห็นใจก็ท�ำ ไม่ได้ อย่างมากก็เพียงเปล่งเสียง โหยหวนที่หามีผู้เข้าใจในความทุกข์ร้อนไม่ แม้นึกไปในอดีตเช่นนี้ สมมติตัวเองว่าในภพชาติหนึ่งเป็นเช่นนี้ นึกให้ จริงจังเช่นนี้ จะเกิดความกลัวกรรม เพราะย่อมเข้าใจได้ว่า กรรมไม่ดีแน่แท้ ที่ทำ�ให้ชีวิตต้องเป็นเช่นนั้น
อย่าเป็นผู้ปฏิเสธในเรื่องกรรม และการให้ผลของ กรรม อย่างปราศจากเหตุผล คือ อย่าปฏิเสธดื้อๆ ว่า ใครจะเคยเกิดเป็นอะไรมาก่อนก็ตาม ก็ไม่ใช่เรา เราไม่เคยเกิดเช่นนัน้ แน่ คนจะเกิดมาเป็นสัตว์ไม่ได้ สัตว์จะไปเกิดเป็นคนไม่ได้ ไม่มีเหตุผล เป็นความ เชื่อที่ปราศจากเหตุผล เป็นคนสมัยใหม่แล้วจะเชื่ออย่างนั้นไม่ได้ เพื่อความไม่ประมาท จงอย่า ปฏิเสธโดยไม่รู้จริงเช่นนี้ เพราะวันหนึ่งจะหนีไม่พ้นผลที่น่ากลัวของกรรม 28 อำ�นาจกรรม
ทุกชีวิตล้วนมีกรรมติดตามมาให้ผล ลองนึกถึงภาพของรถบรรทุกขนาดใหญ่ กำ�ลังแล่นไล่ทับเราอยู่ ขณะ เดียวกันก็มีรถบรรทุกแก้วแหวนเงินทองคันใหญ่ กำ�ลังแล่นตามเพื่อจะยก แก้วแหวนเงินทองนั้นให้เราด้วย รถทั้งสองคันนั้นกำ�ลังขับแซงกันอย่าง รวดเร็ว ผลัดกันนำ� ผลัดกันตาม นึกถึงภาพนี้แล้วก็นึกถึงใจตนเองว่า ยังมีใจ ต้องการแก้วแหวนเงินทองหรือ ยังมีใจอยากได้อะไรอีกหรือ ในเมือ่ รถล่าชีวติ กำ�ลังขับตะบึงติดตามมาอย่างมุ่งมาดปรารถนาตัวเราเป็นเป้าหมาย กรรมดีและกรรมไม่ดกี �ำ ลังตามส่งผลแก่ทกุ คนแน่นอน เปรียบผลไม่ดนี นั้ ดังรถบรรทุกที่กำ�ลังตะบึงไล่กวดเราอยู่จริงๆ ที่ยังไม่ทันบดขยี้เรา ก็เพราะ กรรมปัจจุบันของเราอาจจะมีแรงพาเราหนีได้ทัน จะอย่างหวุดหวิดเสียว ไส้เพียงไร เราผู้ไม่มีตาพิเศษก็หารู้ไม่ กรรมดีเท่านั้น ที่เป็นแรงพาเราวิ่งหนี กรรมไม่ดี ที่กำ�ลังส่งผลติดตามเราอยู่ขณะนี้ มือกรรมที่น่ากลัว คือ กรรมชั่ว อย่าขืนทํา
เปรียบกรรมไม่ดดี งั มือมารทีใ่ หญ่โตมโหฬารทรง พลังมากมาย มือนัน้ กำ�ลังเอือ้ มมาทีจ่ ะตะปบเรา เพื่อลากเข้าไปขยี้ให้แหลกเหลว หวุดหวิดจะจับ ปลายผมเราได้ ไม่รกู้ คี่ รัง้ กีห่ น แต่เราก็ยงั พ้นอยู่ ได้เพราะความบังเอิญ
คือ เพราะบังเอิญได้ทำ�กรรมดีไว้มากพอ เป็นกำ�ลังพาให้ หลบหลีกพ้นมือมารไปได้ มีความสวัสดีอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ใช่ว่ามือมารนั้นจะหยุดตามตะครุบเราก็หาไม่ กี่วัน กี่เดือน กี่ปี กี่ภพ กี่ชาติ มือมารจะติดตามตะครุบเราอย่าง ไม่ท้อแท้เหน็ดเหนื่อย คว้าผิดคว้าถูกก็จะตามคว้าไม่ลดละ ถ้าปรากฏเป็นภาพก็จะเป็นภาพที่น่ากลัวที่สุด มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมี 29
บุญกรรมก้อนโต ตัด บาปกรรมก้อนเล็ก
รรม
30 อำ�นาจกรรม
ม่มีก
เมื่อกรรมตามมาทัน ก็ไม่มีอะไรจะยับยั้งได้ นอกจาก กรรมด้วยกัน คือ เมื่ออกุศลกรรม ตามทัน ก็ต้องกุศลกรรมที่ใหญ่ยิ่งกว่า เท่านั้น ที่จะตัดรอนอกุศลกรรมได้ ช่วยให้สวัสดีไปได้ครั้งหนึ่งคราวหนึ่ง
ว่าไ
คิด อย่า
เด็กที่ยังไร้เดียงสา เพิ่งจะลืมตาเห็นโลก เคยถูกนำ�ไปฆ่าด้วยความ เข้าใจผิด ที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ทำ�ให้ทั้งมารดาผู้รักลูกเป็น ชีวิตจิตใจแทบเป็นบ้า ทำ�ให้ผู้ที่นำ�ไปฆ่าเพราะเข้าใจผิดต้องได้รับโทษหนัก ได้รบั ทัง้ อาญาบ้านเมืองและทัง้ ความโกรธแค้นชิงชังของผูค้ นมากมาย เรือ่ งนี้ ชี้ชัดให้เห็นอำ�นาจที่ยิ่งใหญ่ของกรรม แม้ไม่นำ�กรรมมาร่วมพิจารณา ก็จะ เข้าใจไม่ได้เลยว่าเรื่องเช่นนี้เกิดได้อย่างไร เด็กคนหนึง่ ถูกมุง่ ร้าย แต่เด็กคนนัน้ กลับอยูร่ อดปลอดภัย เด็กอีกคนหนึง่ เป็นทีห่ ว่ งใยทะนุถนอมดังแก้วตาดวงใจ แต่กลับถูกทำ�ลายตายไป ทัง้ สองยัง บริสุทธิ์ไร้เดียงสา เพิ่งมีเวลาเห็นโลกไม่กี่วัน มือของกรรมนำ�เด็กที่มิได้เป็น ที่มุ่งร้ายในปัจจุบัน ไปสู่อำ�นาจแห่งกรรมในอดีต ที่ต้องได้กระทำ�ไว้แน่นอน ในชาติใดชาติหนึ่งในอดีต ที่พ้นความรู้เห็นของปุถุชนทั้งหลาย แต่หาได้พ้น ความรู้เห็นของท่านผู้พ้นแล้วจากความเป็นปุถุชน กรณีที่มีเด็กถูกฆ่าผิดตัวนั้น เด็กตายแล้ว พ้นจากความเข้าใจของคน ทั้งหลาย ว่าเด็กนั้นไปได้สุขได้ทุกข์อยู่ในภพภูมิใด แต่เขาก็ได้เป็นอีกหนึ่ง กรณีที่เตือนใจอย่างแรงให้กลัวกรรม ดังนั้น งสา ย ี ด เ ้ ็กไร ด เ เมื่อกรรมจะให้ผล คือ น ็ ป เห็นเ