ดับไฟที่ใจเรา
บรรณาธิการสาระ : สรรค์สาระ : ออกแบบปก : ออกแบบรูปเล่ม : ภาพประกอบ : พิสูจน์อักษร : ISBN : พิมพ์ครั้งแรก :
ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัทธ์ ไพโรจน์ โรจนปัญญาวัชร์ อนุชิต ค�ำซองเมือง วิฑูรย์ โถน้อย สมควร กองศิลา หนูคล้าย กุกัญยา, อุธร นามวงศ์ 978-616-268-196-7 กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
สร้างสรรค์และลิขสิทธิ์ บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด 105/95-96 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร./แฟกซ์ 02-872-7667 เชิญร่วมเผยแผ่เป็นธรรมทาน
สาขาทุง่ ครุ : โทร. 02-872-9191, 02-872-8181, 02-872-7227, 02-872-9898 LC2YOU@GMAIL.COM, LC2YOU@HOTMAIL.COM
WWW.LC2U.COM, WWW.พุทธะ.NET
สาขาส�ำราญราษฎร์ : โทร. 02-221-1050, 02-221-4446
พิมพ์ที่ : หจก. แอลซีพี ฐิติพรการพิมพ์
105/66-67 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร./แฟกซ์ 02-872-9577 www.thitiporn.com
ค�ำน�ำ มีค�ำกล่าวกันว่า โจรปล้นบ้านสิบครั้ง ไม่สู้ไฟไหม้ครั้งเดียว ถ้าเทียบความเสียหาย แต่นั่นเป็นอัคคีภัยที่เกิดกับทรัพย์สินภายนอก สามารถเรียกหน่วยงานที่รับผิดชอบมาระงับเหตุเพื่อบรรเทาความเสีย หายได้ แต่อัคคีภัยที่ไร้รูปร่างและเปลวควัน สามารถเผาผลาญสร้าง ความเสียหายได้มากกว่านั้นหลายเท่า คืออัคคีภัยเกิดจากโลภ โกรธ หลง ที่เผาใจให้ร้อนรนอยู่ตลอดเวลา พูดตรงประเด็นก็คือ ไฟสุมทรวง นั่นเอง นอกจากพุทธบริษัทแล้ว ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปดับไฟกอง นี้ได้เลย น่าเสียดายหากต้องพลาดอ่านหนังสือเล่มนี้ บริษัทส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด ได้น�ำ พระธรรมเทศนาของพระอาจารย์นวลจันทร์ กิตฺติปญฺโ ที่แสดง ไว้ ณ ลานธรรมเลี่ยงเชียงใน “งานไตรสิกขามหาบุญ” ซึ่งจัดขึ้นใน วันอาทิตย์สปั ดาห์ทสี่ องของทุกๆ เดือน มาจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม ทางคณะ ผู้จัดท�ำได้ท�ำหัวข้อ ย่อหน้า เน้นค�ำ และวาดภาพประกอบใหม่ เพื่อให้ ผู้อ่านได้เข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และลึกซึ้งยิ่งขึ้น จึ ง หวั ง เป็ น อย่ างยิ่ ง ว่ า หนั ง สื อ ดั บ ไฟที่ ใจเรา เล่ ม นี้ จั ก เอือ้ ประโยชน์ให้ผอู้ า่ นเข้าถึงวิธกี ารป้องกันและดับไฟทีก่ ำ� ลังเผาไหม้ใจ เราอยู่ เพือ่ ให้ใจมีความสงบร่มเย็นปราศจากความเร่าร้อนแล้วก็มคี วาม สุขในชีวิตตลอดไป ตราบเท่าเข้าถึงพระนิพพาน ไพโรจน์ โรจนปัญญาวัชร์ มกราคม ๒๕๕๙
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ หน)
ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขาติ
ขันติ คือ ตบะเครื่องเผากิเลส
ขอเจริญธรรมทุกๆ ท่าน ขันติ ความอดทนอดกลั้น เป็นตบะ เป็นธรรม เครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง ให้เรามาบ�ำเพ็ญตบะ บ�ำเพ็ญขันติ
เมื่อตบะเกิดแล้ว ขันติเกิดแล้ว จะเป็นเครื่องเผากิเลสเอง ไม่ใช่เราไปเผากิเลส มิใช่เราไปดับกิเลส ไม่ใช่เราไปฆ่ากิเลส
เราบ�ำเพ็ญตบะ บ�ำเพ็ญขันติ ความอดทนนี้ เป็นทั้งอดทนทั้ง อดกลั้น เวลาความโกรธขึ้นมาเต็มที่ เราก็อดทน แค่ดูความโกรธที่เกิด ขึ้น ความโกรธที่เกิดขึ้นก็เปรียบเสมือนไฟกองหนึ่งที่ก�ำลังจะลุกไหม้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
5
ไฟโทสะดับลง ใจก็เย็น สงบ ว่าง การทีเ่ ราอดทนดู แม้ไม่ได้ไปดับไฟ เท่ากับการไม่ได้ไปเติมเชือ้ ให้ กับไฟ ไม่ได้เติมฟืน เมือ่ ไฟหมดเชือ้ ไฟสิน้ เชือ้ ไฟก็ดบั เองตามธรรมชาติ ไฟกองใหญ่ขนาดไหน ถึงแม้ไม่มใี ครไปดับไฟ เพียงแต่ไม่เติมเชือ้ ไม่เติมฟืนให้กับไฟ มีไฟกองไหนไหม ? ที่ไม่ดับไปเองโดยธรรมชาติ แม้กองไฟคือ โทสะก็เช่นกัน ถ้าเราบ�ำเพ็ญขันติ บ�ำเพ็ญตบะ ซึง่ เป็นเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง ก็จะดับไปเองตามธรรมชาติ
หลังจากที่ไฟโทสะมอดดับลงไปแล้ว กิเลสจากไฟโทสะที่จะเกิดในใจก็ไม่มี เมื่อเป็นเช่นนั้น ใจก็ เย็น สงบ ว่าง เป็นใจที่ควรแก่การงาน
6
ดังนั้น ท่านจึงสรรเสริญ ขันติ ว่าเป็นเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง ดับไฟในใจเรา
โทษของความไม่อดทน ๕ ประการ การด�ำรงชีวิตต้องเจอสิ่งต่างๆ มากมาย ทุกคนจึงควรบ�ำเพ็ญ คุณธรรมข้อนี้ให้มาก จะรู้คุณค่าหรือไม่รู้ก็ตาม ความอดทนอดกลั้นต่อ ความร้อนหรือหนาว เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เจ็บปวด มึนชาย่อมต้องมี เช่น นั่งนานๆ ถ้าไม่ได้ใช้ขันติ ความอดทน ก็ต้องพากันลุกไปแล้ว หรือ ไม่ก็เกิดอาการต่างๆ นานา ความอดทน จึงจ�ำเป็นต้องได้ใช้อยู่แล้วโดยธรรมชาติ ความอดทน มีอานิสงส์หลายประการ ถ้าอดทนไม่ได้จะเกิดโทษ หรือผลเสียหลายประการเช่นกัน ความอดทน ความอดกลั้น ความไม่ดุร้าย ความไม่ปากร้าย ความแช่มชื่นแห่งจิต กิริยาเช่นนี้เรียกว่า ขันติ ได้แก่ การอดทนไม่บ่น ไม่วา่ ใคร จะร้อนหรือหนาวก็ทนได้
โทษแห่งความไม่อดทน ๕ ประการ คือ ๑. ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของชนหมู่มาก ๒. มีเวรมาก ๓. มีโทษมาก ๔. ตายโดยความหลงลืม ๕. เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อม เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
7
เมื่อขันติบริบูรณ์ ก็เป็นตบะเผากิเลสให้มอดไหม้ ไม่ว่าจะมีเหตุใดเกิดอะไรขึ้น จะร้อนหรือหนาวจะสุขหรือทุกข์ หน้าที่ของตัวเราผู้เจริญขันติและบ�ำเพ็ญตบะต้องอดทนไว้ ไม่ปริปาก บ่นว่ากล่าว เมื่อมีขันติเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ตั้งมั่นขึ้นในใจแล้ว ขันติก็จะกลาย เป็นตบะ สามารถใช้ได้ในชีวิตประจ�ำวันโดยไม่ต้องกังวล
ตบะจะเป็นเครื่องเผากิเลสให้ค่อยๆ สลายตัวไป ดับไป เหมือนไฟกองหนึ่ง ท�ำให้ใจเราสงบ ร่มเย็น ถ้าอดทนได้ 8
ดับไฟในใจเรา
ใจร้อนรนก็เบียดเบียนตนและผู้อื่น การที่ใครไปท�ำอะไรให้ใครๆ ต้องเสียใจเดือดร้อนใจ เป็นเพราะว่าในใจของเขายังเป็นทุกข์ ยังไม่เย็น ยังร้อนรนเพราะถูกไฟ โลภ โกรธ หลง เผาอยู่ เมื่อกิเลสหลายๆ สายพันธุ์เป็นไฟเผากลุ้มรุม จึงไปท�ำอะไรให้ ใครๆ ต้องเดือดร้อนใจ ทุกการกระท�ำถูกบันทึกไว้ทั้งหมด จึงมีผล เมื่อเกิดผลก็มีการส่งผล
ใจที่สงบเย็นดีแล้วจะไม่ไปท�ำอะไรให้ใครๆ ต้องทุกข์ร้อน ใจอย่างแน่นอน หลังจากที่ไฟหรือกิเลสในใจดับไปแล้ว ใจก็ว่างจากกิเลส ใจจะสงบลง เย็นลง ศาลตัดสินให้จ�ำคุก ๑ ปี นี่คือโทษทางกฎหมาย แต่กฎแห่งกรรมให้กรรมเป็นผู้ ตัดสินลงโทษเอง
แล้วสิ่งดีๆ จะเริ่มมีมาเรื่อยๆ ตัวเรานั้นต้องไม่ท�ำตัวเหมือน เมื่อก่อน จะไม่ยอมท�ำอะไรๆ ให้ใครๆ ต้องเดือดร้อนใจ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
9
สิ่งที่พานพบในปัจจุบัน เพราะเคยท�ำไว้ในอดีต เราท�ำอย่างไรกับใครไว้ จะมีผลตอบคืนกลับมาเช่นนั้นเหมือน กัน ถ้าเคยแกล้งใครไว้ เราก็จะถูกแกล้งกลับมา
สิ่งที่เราได้ประสบพบเจอในปัจจุบัน แสดงว่าเราเคยไปท�ำแบบนั้นไว้ ท่านจึงแนะน�ำให้อดทนเวลาถูกใครกลัน่ แกล้งให้เจ็บใจให้เสียใจ เพราะแต่ละขณะในแต่ละวันนั้น มีการก๊อบปี้ผลงานของเราไว้ทั้งหมด คงเป็นเรานั้นเองที่เคยท�ำไว้ก่อนต้องเป็นเราที่เคยท�ำ แต่เป็น เราที่ไม่จำ� ว่าเคยท�ำใครไว้ ให้เดือดร้อน อย่าท�ำมาหากิน ด้วยการเหยียบยํ่า หัวใจของพวกเรา แบบนี้..เลย
เวลามีใครท�ำอะไรให้เจ็บใจ ถ้าไม่เคยบ�ำเพ็ญขันติกันมาจะไม่มี ใครยอมใคร ทุกอย่างจึงเป็นวงจรแบบเดิมๆ 10
ดับไฟในใจเรา
วงจรกรรมด�ำเนินไป เพราะกิเลสชักใยอยู่เบื้องหลัง กุศลไม่เจริญ เพราะไม่ได้เจริญกุศล เมื่อไม่บ�ำเพ็ญขันติ ตบะก็ไม่เกิด
ทันทีที่กิเลสมีส่วนผสมโทสะเผาอยู่ในใจ ก็ต้องท�ำตามอ�ำนาจ ของกิเลสตัวนั้นซึ่งเป็นแรงผลักดันกระตุ้นจิตใจเราอยู่
เขาก็ยืมร่างกายเราเป็นหุ่นเชิด ยืมปาก ยืมวาจา ยืมมือไม้ โดยมีโทสะเป็นตัวชักใยอยู่เบื้องหลัง
พอเกิดการกระท�ำอย่างใดอย่างหนึ่ง หากตัวเราไม่เคยบ�ำเพ็ญ ขันติก็ต้องโต้ตอบท�ำคืน กลับไปกลับมา วงจรกรรม ก็ด�ำเนินต่อไป ทั้งภพชาติ ทั้งเวรภัยก็พันอยู่แบบนี้ สังสารวัฏก็หมุนวนต่อไป บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
11
โทสะที่เผาไหม้ ต้นเพลิงใหญ่อยู่ที่ ใจของเรา หากตัวเราไม่ท�ำพฤติกรรมเหมือนเก่า เราอดทนได้จะไม่ท�ำอะไรให้ใครๆ ต้องเดือนร้อนใจ สิ่งดีๆ ก็เกิดขึ้นเพียงแค่บ�ำเพ็ญตบะคือขันติ
โทสะเมื่อเกิดขึ้น ย่อมเกิดที่ใจ ต้องดูที่ใจเรา ไม่ไปดูที่เนื้อเรื่อง ไม่ไปดูคนที่เหตุการณ์ วัน เวลา สถานที่ นาย ก นาย ข ไม่ไปดูเรื่องที่ท�ำให้โกรธ ไม่ไปดูที่บัญญัติหรือสมมติ ให้ย้อนกลับมาดูที่ใจ
ไฟโทสะมันก�ำลังเผาใจเราอยู่ ต้นเพลิงเกิดที่ใจเรา อยู่ในใจเรา ไฟโทสะที่เกิดขึ้นไม่ได้เผาที่ใครคนไหน และไม่ได้ไปเกิดที่คนไหน เกิดกับเรา ต้องย้อนกลับมาดูในใจนี้ที่โทสะก�ำลังเผาอยู่ การดูโทสะที่ก�ำลังเผาใจ เสมือนการนั่งดูกองไฟ ไม่ต้องไปดับไฟ แต่ต้องไม่ท�ำสิ่งใดๆ ที่เป็นการเติมเชื้อ เติมฟืนให้กับกองไฟ 12
ดับไฟในใจเรา
ดับไฟอย่างได้ผล เพราะอดทนไม่เติมเชื้อไฟ ไฟเป็นของร้อนก็จริง แต่ไม่รอ้ นเพราะไม่ได้โดดเข้าไปในกองไฟ ไฟโทสะเป็นของร้อน แต่เราไม่รอ้ นเพราะเรานัง่ ดูไฟโทสะทีก่ ำ� ลังลุกไหม้ ด้วยความอดทน เราเป็นเพียงผู้ดู อดทนดู
ไฟเมื่อไหม้แล้ว ไฟก็หมดเชื้อ เป็นไฟสิ้นเชื้อ ไม่นานไฟก็มอดดับไปเองโดยวิถธี รรมชาติ เราไม่ตอ้ งไปดับไฟ เมื่อไฟในใจดับแล้ว ใจก็เย็นลง เมื่อเย็นลงแล้วใจก็ว่าง จากนี้สิ่งดีๆ ก็จะมีมาเรื่อยๆ ไป รู้ ไหม..? ที่นี่...ฉันคุม
ขอโทษครับ ที่ ท�ำให้คุณพี่ ต้องขัดเคือง
เมือ่ ใจเย็นลง จึงเหลือเพียงหน้าทีต่ ามหลักธรรม สมควรว่ากล่าว ตักเตือนก็ทำ� ไป แต่สว่ นผสมของโทสะไม่มอี ยูใ่ นใจ ไม่มอี กุศล ไม่มกี เิ ลส มีแต่ส่วนผสมสิ่งที่ดีๆ ในการท�ำหน้าที่เท่านั้น บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
13
เพราะท�ำอย่างเป็นธรรมในทุกสิ่ง ทุกสิ่งจึงเป็นธรรม ไม่มีโทษ ไม่มีทุกข์ หากขันติยังไม่เจริญ เราต้องรีบเจริญขันติ ถ้าเราไม่เจริญสิ่งไหน สิ่งนั้นจะเจริญไม่ได้ มีอยู่ไม่ได้ ถ้าเป็นคนที่บ�ำเพ็ญขันติอยู่แล้ว ก็บ�ำเพ็ญให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นให้ เข้มขึ้น จนเจริญเต็มเปี่ยมอยู่ในจิตใจ
เมื่อเจริญขันติจนกลายเป็นตบะแล้ว ตบะจะท�ำหน้าที่ของเขาเอง
ตบะจะเป็นเครือ่ งเผากิเลสชนิดนัน้ ๆ ให้หมดไปจากใจ เมือ่ กิเลส ในใจดับแล้วจะไม่มีการสร้างอกุศลอีก พูดโดยหลักธรรมชั้นสูง “สังสารวัฏขาดสะบั้นเพียงเท่านี้”
เพราะเรากระท�ำอย่างเป็นธรรมในทุกสิ่ง ทุกสิ่งจึงเป็นธรรมทั้งหมด พอทุกสิ่งเป็นธรรมก็ไม่เป็นโทษ ไม่เป็นทุกข์ ไม่เป็นเวรภัย เพียงแค่อดทนไว้ 14
ดับไฟในใจเรา
ยึดถือสมมติบัญญัติมิอาจดับไฟให้หายโกรธ บางคนหาวิธรี ะงับความโกรธ แต่ยงั ไปนึกถึงหน้าคนทีท่ ำ� ให้โกรธ หน้าก็ลอยมา ยิ่งท�ำให้มีอารมณ์โกรธๆ หนักเข้าไปอีก
โกรธเพราะไปดูหน้าเขา ดูเหตุการณ์ วัน เวลา สถานที่ เนื้อเรื่อง เนื้อความ ไปอยู่ที่สมมติบัญญัติจึงไม่หายโกรธ ควรกลับมามองเข้าไปข้างในใจเรา ส่วนเนื้อเรื่อง เนื้อความที่ทำ� ให้โกรธ เป็นอาหารของโทสะ เป็นเชื้อของกองไฟ การนั่งดูกองไฟ แต่ต้องไม่เป็นการเติมเชื้อให้กับไฟ ไม่เป็นการ เติมฟืนให้กับไฟ ต้องกลับมามองเข้าไปข้างในใจเรานี้ เรานัง่ ดูกองไฟ ไม่ตอ้ งไปดับไฟ ไม่ตอ้ งไปดับโทสะ เพียงแค่มอง เข้าไปข้างในใจตน โทสะก็จะไม่ได้อาหาร ไม่มปี จั จัยสนับสนุนจึงเป็นการ ตัดเหตุ ตัดปัจจัย ตัดอาหาร ตัดเสบียง ตัดท่อน�้ำเลี้ยงไฟโทสะกองนั้นก็ ค่อยๆ ดับไปโดยธรรมชาติ
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
15
ไม่เผลอสร้างภพ คือจุดจบของการตัดกรรม การด�ำเนินชีวิตในแต่ละวัน หากไม่เผลอไปต่อภพสร้างชาติ สังสารวัฏก็จบ เจอเหตุการณ์ไหนอย่างไรก็ตั้งรับอย่างเดียวเพราะเป็น วิบาก รับแล้วก็สลายเป็นอโหสิกรรมไป จบแล้ว...เนื่องจากไม่มีการโต้ คืน ไม่ตอบสนองคืน เรียกว่า "ไม่สร้างกรรมใหม่" การที่เราประสบพบเจอสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นก๊อบปี้การกระท�ำของ เราที่ท�ำไว้ ถือว่าเป็นกฎทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง ในอดีตเราท�ำอย่างไร กับใคร ที่ไหน อย่างไร มันถูกก๊อบปี้ทุกๆ การกระท�ำไว้จึงมีผลตามมา คงเป็นเรานั้นเองที่เคยท�ำไว้ก่อน แต่เป็นเราที่ไม่จ�ำว่าเคยท�ำอะไรบ้าง โจรองคุลิมาลมาแล้ว จัดการเลยพวกเรา
การบ�ำเพ็ญตบะคือขันติเพียงอย่างเดียว ถือเป็นการไม่สร้างกรรมใหม่ กรรมเก่าก็ขาดสะบั้นลง นี่แหละคือการตัดกรรม ด้วยการไม่สร้างกรรมใหม่ 16
ดับไฟในใจเรา
เมื่อขันติแก่กล้าก็หมดปัญหา กับ โลภ โกรธ หลง ถ้าขันติกลายเป็นตบะทีเ่ จริญเต็มรอบ ตบะเข้มงวดแล้วเรียกได้วา ่ ตบะอยู่ตัว หรือเรียกว่า กรรมฐานได้มาตรฐาน เหมือน ว่าวติดลมบน เหมือนเครื่องยนต์ที่สตาร์ทติดแล้ว
คุณธรรมเมื่อเกิดแล้ว จุดขึ้นแล้ว เขาจะตั้งมั่นจะเสถียรและถาวร
บนวิถีจิต การได้ยินไม่ว่าจะเป็น เสียงด่า เสียงว่า ค�ำต�ำหนิ ติเตียน หรือค�ำชื่นชม สรรเสริญแบบไหนอย่างไร ก็เป็นแค่เพียงการ ได้ยินขณะหนึ่งๆ แล้วก็ดับไปเท่านั้น โดยที่โลภ โกรธ หลงไม่เกิด น้องหญิง ! อย่ากลัวไปเลย ตั้งแต่ ใจเราเป็นพระ เราก็ ไม่ เคยคิดท�ำร้ายใครอีกเลย
เนื่องจากกิเลสไม่กล้าเกิด กับผู้มีตบะหรือขันติเจริญเต็มรอบแล้ว บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
17
ใจเหมือนเก้าอี้ดนตรี ชั่ว-ดี ชิงกันเข้าครอง การด�ำเนินชีวิตทั้งหลายทั้งปวง เมื่อไฟกิเลสคือโทสะในใจดับ แล้วท�ำสิ่งไหนก็เป็นธรรมโดยส่วนเดียว ไม่ก่อกรรมใหม่ เพราะกรรม เกิดจากกิเลส
กิเลสท�ำให้เกิดอกุศล แต่เราบ�ำเพ็ญตบะคือขันติ ตบะจึงเป็นเครื่องเผากิเลส กิเลสจะไม่เกิด บนความรู้สึกที่กุศลเจริญแล้ว เพราะขั้วที่ต่างกัน จะอยู่ในใจได้อย่างละหนึ่ง
ถึงเวลาที่เราต้องเลือกแล้ว ถ้าเราเลือกบาป ชีิวตแย่เหมือนเดิม
อดีต
ถ้าเราเลือกบุญ ชีวิตใหม่ที่ดีก็จะเริ่มต้น ตอนนี้
ปัจจุบัน
ถ้ากุศลอยู่ในใจ ครองพื้นที่ในใจ อกุศลก็ไม่มีพื้นที่เป็นการชิง พื้นที่คล้ายศึกชิงนาง เกมเก้าอี้ดนตรีนั่งได้ทีละคน 18
ดับไฟในใจเรา
ชีวิตจะดีหรือร้าย อยู่ที่ปล่อยใจให้ใครยึดครอง การสู้รบระหว่าง บาปกับบุญ กุศลกับอกุศล ธรรมกับกิเลส เพื่อชิงพื้นที่เข้าไปยึดครอง ถือความเป็นใหญ่ในใจของมนุษย์และสัตว์ เป็นไปอย่างเข้มข้น ถ้าเราเจริญกุศล เจริญขันติอยู่ในใจ อกุศลจะอยู่ได้อย่างไร ไม่มี พืน้ ทีใ่ ห้อยู่ เช่น วันนีเ้ รามาฟังธรรมบ�ำเพ็ญกุศล เป็นการชิงพืน้ ทีเ่ พือ่ ให้ กุศลเกิด ถ้ากุศลไม่เกิด อกุศลก็ต้องเกิด ถ้าเป็นอกุศลก็น�ำพาแต่ไปสร้างทุกข์ สร้างโทษก่อภัย สร้างเวร น�ำมาซึง่ ความเดือดเนือ้ ร้อนใจ โดยส่วนลึกคือ มีแต่กอ่ ภพสร้างชาติ ต่อ ภพต่อชาติ สังสารวัฏหมุนไป ร้อยชาติ แสนชาติไม่จบไม่สนิ้ นัน่ คือ อกุศล แต่ถ้าเป็นกุศลเกิดแล้ว เจริญแล้วมีแต่ตัดภพหั่นชาติ สังสารวัฏ ให้น้อยลงสั้นลงหรือไม่เกิน ๗ ชาติ ดีไม่ดีอาจเป็นชาติสุดท้ายก็ได้
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
19
วงจรภพชาติดับสิ้น หากไม่ยินดี ยินร้ายในผัสสะ เราต้องการให้กุศลหรืออกุศลมานั่งอยู่ในใจ มาครอง ใจเราอยู ่ ง สารวั ฏ จะไม่ ห มุ น ไป วงจรกรรมจะไม่ ห มุ น ต่ อ ไป สั วงจรปฏิจจสมุปบาท จะหยุดหมุน หากสิง่ ทีม่ ากระทบเป็นแค่เพียงผัสส ะทางตา ทางหู แค่เรา เผลอไปวงจรทุกอย่างจึงหมุนไป ถ้าเราบ�ำเพ็ญกุศลในใจเต็มรอบแล้ว ความเผลอก็ไม่เกิดขึ้น โมหะความหลงไม่เกิดขึ้น หากเราอดทนได้ สิ่งกระทบ เป็นแค่เพียง ผัสสะ ตัณหาดับ อุปาทานดับ ภพดับ ชาติดบั ชรา มรณะโสกะปริเทวะ ทุกขะโทมนัส อุปายาสะ ความแห้งใจ ความคร�่ำครวญพิไรร�ำพัน วงจรปฏิจจสมุปบาท ขาดสะบั่นลงดับเป็นสายเลย เธอ...ยายชี ไปวัดอีกแล้ว ชีวิตนี้น้อยนิด ประมาทไม่ ได้แล้ว
20
ดับไฟในใจเรา
เฮ้อ..! ยังสาว ยังแส้ จะรีบเข้าวัดท�ำไม