ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

Page 1



ธรรมะคลายทุกข์ และ

พุทธวิธีสร้างสุข ................................................................................... ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ...................................................................................

ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล ถึงบิดามารดาครูอาจารย์ คนเคยร่วมท�ำงานการทั้งหลาย ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ

บุญกุศลนี้แผ่ไปให้ไพศาล ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน มีส่วนได้ในกุศลผลบุญฉัน ขอให้ท่านได้กุศลผลนี้เทอญ


ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข โดย... พระราชธรรมวาที (ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน) บรรณาธิการสาระ : ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัทธ์ สรรค์สาระ : มนิจ ชูชัยมงคล ภาพประกอบ : ชิชกาน ทองสิงห์ | รูปเล่ม : มรุต จินตนธรรม ภาพหน้าปก : ธนรัตน์ ไทยพานิช | ออกแบบปก : อนุชิต ค�ำซองเมือง พิสูจน์อักษร : อรทัย ค�ำแพง, หนูคล้าย กุกัญยา ISBN 978-616-268-178-3 พิมพ์ครั้งแรก : สิงหาคม ๒๕๕๘

สร้างสรรค์และลิขสิทธิ์ บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด 105/95-96 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร./แฟกซ์ 02-872-7667 เชิญร่วมเผยแผ่เป็นธรรมทาน

สาขาทุ่งครุ : โทร. 02-872-9191, 02-872-8181, 02-872-7227, 02-872-9898 สาขาส�ำราญราษฎร์ : 02-221-1050, 02-221-4446

LC2YOU@GMAIL.COM, LC2YOU@HOTMAIL.COM WWW.LC2U.COM, WWW.พุทธะ.NET

พิมพ์ที่ : หจก. แอลซีพี ฐิติพรการพิมพ์

105/66-67 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร./แฟกซ์ 02-872-9577 www.thitiporn.com


ธรรมะคลายทุกข์ และ

พุทธวิธีสร้างสุข

โดย... พระราชธรรมวาที (ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน)

วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร


ค�ำน�ำ ความทุกข์ เป็นขบวนการของความขัดข้อง ชีวิต มีปัญหา ก่อให้เกิดความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เช่น ทุกข์กาย ก็เพราะโรคภัยเบียดเบียน, ทุกข์ใจ ก็เพราะ กิเลสเบียดเบียน ยิ่งปัจจุบัน ปัญหาความขัดแย้งทางการ เมือง ปัญหาเศรษฐกิจตกต�ำ่ ฝืดเคือง รายรับไม่พอรายจ่าย ยิ่งท�ำให้จิตใจหวั่นไหว เพราะวิตกกังวลกับค่าครองชีพ ในภาวะ “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” ที่เคยรวยเหลือล้นอาจ ต้องมาจนเฉียบพลันได้ หากไม่หาทางออกไว้ ความสดใส จะกลายเป็นความโศกเศร้าเอาได้ หนังสือ ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข เล่มนี้ จะเป็นทางออกทางหนึ่ง ให้เราได้ประคับประคอง ชีวติ ให้อยูก่ บั โลกได้ ในภาวะทีค่ วามทุกข์มาเข้า ความเศร้า มาเยือน เพื่อที่จะได้ไม่เป็นทุกข์ และมีความสุขในการ ด�ำเนินชีวิต ด้วยจิตคิดปรารถนาดี สรรค์สาระ


ธรรมะคลายทุกข์

มีค�ำที่ท่านกล่าวไว้ให้คิดบทหนึ่งว่า ศีลธรรมน�ำสุขทุกสมัย เราเป็นไทเพราะมีธรรมประจ�ำชาติ หากไร้ศีลสิ้นธรรมต�่ำอ�ำนาจ ประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไรกัน ดินแดนถิ่นใดไร้ศีลขาดธรรม สังคมนั้นจะไม่ต่างอะไรกับวัว ควายที่อยู่ร่วมคอก เป็ดที่อยู่ร่วมเล้า ไก่ที่อยู่ร่วมฝูง ยามหิวก็แย่งชิง จิกตีชิงความได้เปรียบตามสัญชาตญาณ ยามต้องการตามธรรมชาติ ก็ปราศจากพรมแดน ไม่รู้จัก เทือกเถาเหล่ากอของตน ก่อให้เกิดความสับสนทางจริยธรรม และ วัฒนธรรมประเพณี ชวนให้นกึ ถึงวลีทวี่ า่ “เมืองใดไร้ธรรมอ�ำไพ เมือง นั้นบรรลัยแน่นอน”

นนำส ุพทธศาสนา ขุ ทุกสมัย

ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

5


ผู้นำ� ของชาติ อย่าขาดคุณธรรม ปัจจุบนั สังคมมนุษย์ เริม่ เผยโฉมและช่องทางแห่งความวิบตั ใิ ห้ ปรากฏชัด เพราะอะไร ? เพราะสังคมใดก็ตามหากอุดมไปด้วยผู้... มีความรู้ แต่มากความเลว หน้าเนือ้ ใจเสือ เชื่อถือไม่ได้ ปริญญาหลายหลาก แต่ความน่ารักไม่มี เป็นปราชญ์ แต่ขาดคุณธรรม เรี ย กว่ า “รู ้ ดี - ไม่ ท� ำ ดี รู ้ ชั่ ว -ไม่ เว้ น ชั่ ว ” ความหมองมั ว จึงมากมาย “รู้ชั่ว-เว้นชั่ว รู้ดี-ท�ำดี” เกิดสง่าราศีทั้งแผ่นดินไทย นี่แหละ ที่ท่านว่า มีความรู้ต้องคู่คุณธรรม คุณวุฒิสุดล�้ำธรรมไม่มี ก็เอาดีไป ไม่รอดตลอดชน เข้าลักษณะที่ว่า “ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด”

6

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


สามเกลียวเหนี่ยวไทย เมืองไทยอยูไ่ ด้เพราะ ๓ เกลียว คือ เกลียวชาติ เกลียวศาสนา และเกลียวพระมหากษัตริย์ ความหมายในธงไตรรงค์หรือธงชาติไทย เป็นประจักษ์พยานทีย่ นื ยันได้ตงั้ แต่อดีตถึงปัจจุบนั ซึง่ มี ๓ สี กับ ๕ ริว้ สีแดง หมายถึง ชาติ สีขาว หมายถึง ศาสนา สีนำ�้ เงิน หมายถึง พระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ได้พระราชทานความหมายไว้ชัดเจนและสูงส่งว่า...

ไตรรงค์ธงไทยสะบัดพลิ้ว ห้าริ้วสีแดงน�ำ้ เงินขาว ดั่งดวงเดือนลอยเด่นในหมู่ดาว เป็นมิ่งขวัญของชาวประชาไทย น�ำ้ เงินคือสีประจ�ำชาติ สีขาวคือพุทธศาสน์อันผ่องใส สีแดงคือเลือดของชาวไทย จงเทิดไตรรงค์ไว้ตลอดกาล ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

7


อย่าเสียศูนย์ ชาติ เราจะต้องรัก ศาสนา เราจะต้องหวงแหน เคารพสักการบูชา นับถือน้อมน�ำเอาหลักธรรมไปปฏิบัติ พระมหากษัตริย์ เราจะ ต้องเทิดทูนไว้เหนือเกล้า อะไรทีจ่ ะเป็นเหตุให้สถาบันอันศักดิส์ ทิ ธิส์ นั่ คลอน เราพึงระงับยับยั้งหาทางแก้ไขด้วยสติด้วยปัญญาให้เกิดความ มั่นคงมั่นใจขึ้นมาให้ได้ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการรู้จักเบรก คือ ยั้ง หยุด เย็น และยอม แต่ถึงกระนั้นคนเราก็มักจะมีมานะทิฏฐิ ไม่คิดที่ จะหยุด และไม่พยายามที่จะยอม มักถือภาษิตว่า “ท�ำอะไรได้ตามใจ คือไทยแท้” จุดนี้แหละ ที่จะท�ำให้ประเทศชาติเสียศูนย์ และสถาบัน อันศักดิ์สิทธิ์สั่นคลอน ท�ำให้คิดไปว่า เมืองไทยทุกวันน่าหวั่นยิ่งนัก แบ่งพวกแบ่งพรรคต่างจ้องข่มขี่ ลืมความสมัครร่วมสามัคคี ตัวอย่างเคยมีแต่ก่อนมา บทเรียนมีไว้ในประวัติศาสตร์ ชะตาเมืองขาดคนไทยเป็นข้า เสียสามัคคีศรีอยุธยา เป็นทาสพม่าอยู่ตั้งหลายปี

8

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


กว่าจะกู้นครให้คงกลับคืน ต้องทนขมขื่นหมดสิ้นศักดิ์ศรี ยังจ�ำกันได้ใช่ไหมน้องพี่ อันความถือดีตัวใครตัวมัน เหมือนกองกรวดทรายที่ขาดน�้ำแทรก ย่อมจะแตกแยกถึงความร้าวฉาน เมื่อถูกศัตรูจู่เข้ารุกราน มิอาจต้านทานอ�ำนาจริปู คิดแล้วหวั่นใจชาติไทยเมืองทอง ขาดความปรองดองแยกพรรคแยกหมู่ มานะดื้อดึงโน่นมึงนี่กู ไม่ขอรับรู้ความดีของใคร เกิดเป็นช่องว่างในทางสังคม บ้างปลุกระดมเพื่อก่อการณ์ร้าย เอ็งไพร่ข้าเจ้ามึงบ่าวกูนาย แกขวาข้าซ้ายพวกใครพวกมัน เหมือนดังจิ้งหรีดกิเลสปั่นหัว กลับใจกลับตัวเสียเถิดทุกท่าน เราใช่อ่นื ไกลเป็นไทยด้วยกัน หันมายึดมั่นค�ำสอนสัมมา ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

9


ปลุกจิตส�ำนึกดี ท่านทั้งหลาย เราควรจะหันมาปลุกจิตส�ำนึก ฝึกและปลูกฝัง คุณธรรม ๕ ประการไว้ในใจ คือ ๑. ความรู้สึก ผิดชอบชั่วดี ๒. ความรู้รัก ทะนุถนอมปกปักรักษา ๓. ความรู้จัก สิ่งมีคุณ ของมีค่า บุคคลผู้ควรบูชา ๔. ความรู้จำ� บทเรียน เหตุการณ์ที่เป็นอุทาหรณ์ ให้จดจ�ำ ว่าเมื่อ “ถึงคราวทุกข์แล้วต้องทน ถึงยามจนแล้วต้องเจียม ถ้ารักงามก็ต้องเสงี่ยม จึงจะเป็นสง่า” แล้วหันมาพลิกจิต ด้วยการกลับจิตกลับใจ กลับกายกลับตัว กลับหางกลับหัว กลับชั่วให้เป็นดี ท�ำลายธรรมชาติ มาเยอะแล้ว ต้องปลูกทดแทนเสียบ้าง

10

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


ปัญหาพื้นฐานของชีวิต

ินเหล้า

ดก

ปัจจุบนั สมัย ชาวไทยทุกหมูเ่ หล่าต่างได้รบั ผลกระทบจากปัญหา ที่เกิดขึ้นทั่วโลกโดยทั่วกัน ซึ่งปัญหาใหญ่ก็หนีไม่พ้นปัญหาพื้นฐาน ของการอยู่รอด จนเกิดการแก่งแย่งแข่งขันเบียดเบียนกันสารพัด รูปแบบ ปัญหาดังกล่าวคือ ๑. แย่งที่กันหากิน ปัญหาปากท้อง ๒. แย่งถิ่นกันอยู ่ ปัญหาที่อยู่อาศัย ๓. แย่งคู่กันพิศวาส ปัญหาความรักใคร่ ๔. แย่งอ�ำนาจกันเป็นใหญ่ ปัญหาความทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สงู จะเห็นได้ว่า มีทั้งปัญหาการปกครอง ปัญหาทางเพศ ปัญหา สังคม และปัญหาเศรษฐกิจ เฉพาะปัญหาปากท้องหรือปัญหา เศรษฐกิจ สร้างความวิกฤตให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตชีวิต วิกฤต เศรษฐกิจ และวิกฤตศรัทธาต่อผู้บริหาร จน เครีย ประเทศชาติ ยุ ค นี้ จึ ง เป็ น ยุ ค ที่ นั ก คิ ด เรียกว่า ยุค... เศรษฐกรวิปลาส เศรษฐศาสตร์วิปริต เศรษฐกิจวิป โยค เศรษฐศาสตร์เสี่ยงโชครุ่งเรือง ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

11


ความจนเป็นทุกข์ในโลก เพราะคนจนก็หันไปเล่นหวยกันอยู่เหมือนเดิม คนรวยเล่นหุ้น นายทุนเล่นที่ เศรษฐีเล่นคอนโดฯ ผู้มีโชคก็รอดตัว ผู้อับโชคก็กลาย เป็นอับเฉาเอาตัวไม่รอด ล้วนจนกันถ้วนหน้า เรียกว่า “จนเสมอภาค” ล�ำบากทัดเทียมกัน ทีเ่ คยรวยเหลือล้นต้องมาจนเฉียบพลัน เป็นภาวะ ต้องจ�ำทน จ�ำยอม จ�ำเป็น และจ�ำใจ บางรายหาได้แต่ไม่พอกินพอใช้ บ้างถูกเชิญออกจากงานหรือไม่ก็เปลี่ยนงานใหม่ หาทางสร้างความ สดใสให้แก่ชีวิต พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ทลิทฺทิยํ ทุกฺขํ โลเก (ทะลิททิยัง ทุกขัง โลเก) แปลว่า ความจนเป็นทุกข์ในโลก ท�ำไมจึงทุกข์ ? เพราะ ความจนหมายถึง ชีวติ พบทางตัน เป็นปัญหา ขัดสน หรือหมดหนทาง เช่น...

จนทรัพย์ จนตรอก จนใจ จนแต้ม จนมุม จนปัญญา 12

ไม่มีเงินใช้ ไม่มีทางไป ไม่มีทางคิด ไม่มีทางเดิน ไม่มีทางหนี หาทางออกไม่ได้

จนแต้มแล้วเรา

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


เมื่อเศรษฐกิจแย่ คนแก้คือเราทุกคน ครั้งหนึ่ง เราเคยมีเศรษฐกิจดี มีเงินทองใช้อย่างเหลือเฟือ ค�ำว่า “ประหยัด” ไม่เคยเกิดขึ้นในหัวใจเรา แข่งขันกันฟุ่มเฟือยแบบ “บ้าระห�ำ่ ” ชีวติ ตกเป็นทาสของทุนนิยม หลงใหลได้ปลืม้ กับวัตถุนยิ ม แบบไม่บันยะบันยัง แม้รัฐบาลทุกชุดก็ไม่สนใจหรือจริงใจปลุกระดม ให้คนภายในชาติหันมาประหยัดกันอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้น เมื่อเศรษฐกิจแย่ คนแก้มิใช่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภาระหรือหน้าทีข่ องเราทุกคนทีจ่ ะช่วยกัน แม้นกั การเมืองหรือ นักธุรกิจ ก็จะมัวแต่ใส่เสือ้ นอก จิบไวน์ ตีกอล์ฟ อวดโฉมโชว์ความมัง่ มี อยู่ไม่ได้ ในเมื่อคนส่วนใหญ่อยู่ไม่ได้ อะไรจะเกิดขึ้นทุกคนก�ำลังจะ กลายเป็น “คนป่วยสายฟ้า” เรียกว่า “เป็นเทวดาฉันยังต้องมา เดินดิน ลืมเพดานบิน ถึงกินข้าวแกงทุกมื้อ” ดังเพลงที่เขาร้องไว้ สวยๆ ทั้งนั้น อยากได้หมดเลย

ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

13


ความจน ๔ แบบ โดยทั่วไปความจนมักจะปรากฏใน ๔ รูปแบบ คือ ๑. จนเพราะไม่มี ความขัดข้องขัดสนเป็นต้นเหตุ ต้องแก้ท่ี เศรษฐกิจ ด้วยการท�ำให้มี ๒. จนเพราะไม่พอ ความที่ถมไม่รู้จักเต็ม สภาพจิตพร่องอยู่ เป็นนิตย์ ต้องแก้ที่ใจ ด้วยรู้จักพอใจ รู้จักพอดี มีจิตไม่โลภ ๓. จนเพราะไม่เจียม ความเป็นผู้ขาดมัตตัญญู ความไม่รู้จัก ประมาณตน ต้ อ งแก้ ท่ี ค วามไม่ รู ้ จั ก ประมาณ ให้ รู ้ จั ก ประมาณ และประเมินตน “อันตัวต�่ำแล้วอย่าท�ำให้เกินศักดิ์” ๔. จนเพราะไม่จ�ำ ความเป็นผู้ขาดส�ำนึก มีปกติซำ�้ เติมตนเอง ผิดพลาดแล้วไม่แก้ไข คิดแต่จะแก้ตัว ที่สุดก็ถล�ำลึก นี่เธอ ! ฉันได้กระเป๋า มาหลายใบเลย นี่มัน เกินความจ�ำเป็นนะ

14

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


บทกวีความจน อนึ่ง ขึ้นชื่อว่าความจน จะรู้รสว่าร้ายแรงเพียงใดนั้น ก็ต่อเมื่อ ได้ประสบด้วยตนเอง อานุภาพแห่งความจนนัน้ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ได้พระราชนิพนธ์ ไว้ว่า “ยามยากจนหม่นหมองมิผ่องใส เพื่อนก็หน่ายสหายก็หนีหลบลี้ไป” สุนทรภู่บรมครูกวี ได้ประพันธ์เตือนใจไว้บทหนึ่งว่า ญาติใครได้ดเี ขามีทรัพย์ ตัวแค้นคับเข็ญใจอย่าไปหา ถึงรักแรงแข็งขันได้สัญญา อนาถาแล้วไม่นับเขาอับอาย

เรื่องนี้ แม้โบราณท่านก็กล่าวไว้น่าคิดว่า มีเงินเขานับว่าน้อง มีทองเขานับว่าพี่ ไม่มีเงินไม่มีทอง ไม่มีน้องไม่มีพ่ี ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอา “มันนี่” แลกได้ด่งั ใจจง มีเงินมีทองเจรจาได้ มีไม้มีไร่ปลูกเรือนงาม

ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

15


ท่านพระยาปริยตั ธิ รรมธาดา (แพ เปรียญ) ครัง้ เป็นขุนประเสริฐ อักษรนิติ ได้ลิขิตค�ำโคลงเป็นคติเตือนใจไว้บทหนึ่งว่า ยามจนคนเคียดแค้น ชิงชัง ยามมั่งมีคนประนัง นอบน้อม เฉกพฤกษ์ดกนกหวัง เวียนสู่ เสมอนา ปางหมดผลนกพร้อม พรากสิ้นบินหนี กวีนิรนามท่านหนึ่งได้รจนาเตือนใจไว้ไพเราะว่า เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง เมื่อมัวหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา เมื่อไม่มีหมดมิตรมุ่งมองมา เมื่อมอดม้วยแม้หมูหมาไม่มามอง ค�ำโคลงโลกนิติ แสดงเรื่องนี้ไว้น่าสนใจอีกบทหนึ่งว่า ไร้สิ่งสินแล้วอับ ปัญญา อีกญาติวงศ์พงศา บ่ใกล้ คนรักย่อมโรยรา รสรัก กันแฮ พบแทบทางท�ำไม้ เบี่ยงหน้า เมินหนี

16

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


ต้นเหตุแห่งความจน

ของแพง

อะไรอะไรหรือก็ขึ้นราคา ข้าวสารน�ำ้ ปลาก็แพงหูฉี่ ของขึ้นราคากระเทือนหลวงตาหลวงพี่ พระเถรเณรชีก็ต้องทุกข์ทน

ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

งต่ำต าแร

ความจนมีต้นเหตุหลายประการ เช่น ความฟุ่มเฟือย การใช้ ทรัพยากรธรรมชาติจนหมด การทรยศโกงกิน การบริหารราชการ แผ่นดินที่ผิดพลาด แต่เมื่อสรุปเหตุแห่งความจน เห็นจะได้ใน ๒ ประการ คือ ๑. ขาดปัจจัยภายนอก ๒. ขาดปัจจัยภายใน ขาดปัจจัยภายนอก ได้แก่ รายได้น้อยลง แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น ข้าวหายาก หมากราคาแพง ที่เรียกว่า “เศรษฐกิจตกต�ำ่ ” ต้องหน้า ด�ำทั่วหน้า เพราะปัญหาจลาจลทางเศรษฐกิจ ชีวิตมีแต่ความเครียด หงอยเหงาซึมเศร้า เข้าลักษณะว่า “เมือ่ ความเศร้ามาเยือน ความสนุก ก็เลือนละลาย” ด้วยค่าครองชีพทีท่ ะยานขึน้ สูง จนแทบพยุงไม่ไหว จึง ค่ มีผู้ร�ำพึงร�ำพันเป็นเชิงท้อแท้ว่า

17


โยมเคยใส่บาตรอังคาสประเคน ทั้งเช้าทั้งเพลก็เริ่มจะบ่น ว่าของแพงเต็มทีไอ้นี้ไอ้โน่น ไม่รู้จะทนไปได้สกั กี่ครา ยุคลดค่าเงินบาทอนาถนัก ต้องทุกข์หนักเรื่องจับจ่ายการใช้สอย เงินบาทไทยด้อยค่าราคาน้อย ทุกอย่างพลอยซบเซาดูเหงาซึม

เป็นเหตุให้ชีวิตขาดดุลบัญชีเดิน สะพัดหรือขาดสภาพคล่อง จะเห็นได้ว่า “เรื่องกินก็ส�ำคัญ ในขณะเดียวกัน เรื่อง ประหยัดก็จำ� เป็น” เรื่องนี้ จึงจ�ำเป็นที่ภาครัฐจะต้องแก้ไขเยียวยาพร้อมกันไป ทั้งประเทศจะละเลยเพิกเฉยมิได้ ขาดปัจจัยภายใน ได้แก่ ขาดคุณธรรมที่จะน�ำไปสู่ความมั่งมี ๔ ประการ คือ ๑. โกสัชชะตา ความไม่รู้จักแสวงหา ๒. อะนารักขา รักษาไว้ไม่ดี ๓. ปาปะมิตตา คบคนชั่วเป็นมิตร ๔. อะสะมะชีวิตา เลี้ยงชีวิตไม่เหมาะสม 18

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


ต้องหาหนทางแก้ แท้จริง ทรัพย์นนั้ มีอยูใ่ นดิน สินนัน้ มีอยูใ่ นน�ำ ้ ผูใ้ ดรูจ้ กั ใช้ปญ ั ญา ย่อมค้นหาได้ ดั่งค�ำที่ว่า “ทรัพย์นี้มิไกล ใครปัญญาไว หาได้บ่นาน ทั่วแคว้นแดนดินมีสินทุกสถาน ผู้ใดเกียจคร้านบ่พานพบนา” อีก บทหนึ่งท่านว่า “คนเกียจคร้านนานไปจะไร้ทรัพย์ จะอาภัพยากไร้ หลายสถาน” คนแต่ก่อนมักสอนลูกหลานให้มานะอดทนขยันหมั่น เพียร ให้รู้จักเร่งรีบประกอบกิจการงาน อย่าเป็นลูกพ่อผัด (ผัดวัน ประกันพรุ่ง) อย่าเป็นหลานอาเดี๋ยว (เดี๋ยวก่อน) อย่าเป็นเหลนตายัง (ท�ำหรือยัง...ยัง) ผลไม้ สดๆ เลยจ้าาา

เด็กคนนี้ ลูกเรา ขยันจริงๆ ยังนอนไม่ลุกเลย

๑. โกสัชชะตา ความเกียจคร้าน คนเกียจคร้านมักมีข้ออ้างใน การทีจ่ ะไม่ทำ� อะไรให้ทนั กับสถานการณ์ อันเป็นเหตุให้เกิดความล่าช้า คัง่ ค้างอากูลของงาน ไม่เข้าในลักษณะทีว่ า่ “น�ำ้ ขึน้ ให้รบี ตัก” หรือถือ คติวา่ “ผูข้ ยัน หมัน่ เอาธุระ ท�ำงานเหมาะแก่จงั หวะ ย่อมหาทรัพย์ได้” ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

19


ค�ำอ้างของคนเกียจคร้าน พระผูม้ พี ระภาคเจ้าตรัสถึงข้ออ้างของบุคคลผูเ้ กียจคร้านไว้วา่ อติสตี ํ อติอุณฺหํ อติสายมิทํ อหุ อติวิสฺสฏฺกมฺมนฺเต ขณา อจฺเจนฺติ มาณเว แปลว่า บุคคลผู้ทอดทิ้งการงาน มักอ้างว่า หนาวนัก ร้อนนัก เช้าไป สายเสียแล้ว เช่นนี้ ความโชคดียอ่ มหนีไป เพราะวันเวลาทีห่ มุนเวียนเปลีย่ นไป ไม่เคยยับยั้งหรือหยุดคอยใคร ดังบทกวีที่ว่า เวลาและวารีมิได้มีจะคอยใคร เรือเมล์และรถไฟก็ต้องไปตามเวลา โอ้เอ้และอืดอาดมักจะพลาดปรารถนา พลาดแล้วจะโสกาอนิจจาเราช้าไป เหตุนั้น ท่านจึงประพันธ์สอนใจให้เร่งรีบขวนขวายไว้อีกว่า พายเถิดพ่ออย่ารั้ง รอพาย จวนตะวันจักสาย ส่องฟ้า ของสดสิ่งควรขาย จักขาด ค่าแฮ ตลาดเลิกแล้วอ้า บ่นอื้อ เอาใคร มีคนเป็นจ�ำนวนไม่น้อยที่เป็นทุกข์เพราะกิเลส ช่วยให้คนเอาชนะกิเลสได้ ด้วยการแจกหนังสือเล่มนี้ให้เขาได้อ่าน เพื่อให้เขาเอาชนะกิเลสพบสุขได้ด้วยตัวเอง

20

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


อย่าเป็นกระทงหลงทาง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงชีวิตที่ขาดความสมบูรณ์ ย่อมมีผลต่อเนื่องโยงใยหลายสถาน ดังพุทธภาษิตที่ว่า อลลสฺส กุโต สิปฺป ํ อสิปฺปสฺส กุโต ธนํ อธนสฺส กุโต มิตฺตํ อมิตฺตสฺส กุโต สุขํ แปลเป็นบทกวีว่า ไร้วิชาหรือจะหาทรัพย์ได้ ไร้ทรัพย์ใครจะนับเป็นสหาย ไร้สหายหรือจะหมายความสุข ไร้สขุ หรือจะนึกบุญกุศล ไร้บญ ุ กุศลหรือจะดลพระนิพพาน สรุปวิธีแก้ คือ ปฏิวัติจิตด้วยระเบียบชีวิตใหม่ มิให้กลายเป็น กระทงหลงทาง คือ อย่าเป็นคนทอดธุระ รีบท�ำธุระที่กะไว้โดยไม่ทอดทิ้ง อย่าเป็นคนท้อแท้ ท้อถอย อย่าฝ่อ อย่าห่อเหีย่ ว แต่จะเข้มแข็ง สู้ รอได้ ทนได้ และท�ำได้ อย่าเป็นคนโลเลเหลวไหลไร้สจั จะ ผัดเพี้ยนวันเวลา ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

21


เพราะฉะนั้น เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า ผู้ใดจะแสวงหาทรัพย์ได้มาก หรือน้อยเพียงใด ล้วนต้องอาศัยองค์ประกอบส�ำคัญ ๒ ประการ คือ ๑. สติปัญญาดี หรือโง่เขลา ๒. เพียร หรือเกียจคร้าน ผู้มีสติปัญญาดี แม้มีความเพียรน้อย พอหาทรัพย์ได้บ้าง ผู้ที่มี สติปัญญาไม่ดี แต่มีความเพียรมาก นับว่าพอหาทรัพย์ได้ ถ้ามีทั้งสติ ปัญญาดีและมีความเพียรประกอบด้วย นับว่าเป็นผู้หาทรัพย์ได้คล่อง มีอนาคตเป็นเศรษฐี จะมั่งมีศรีสุข ๒. อะนารักขา ไม่รู้จักรักษาทรัพย์ ข้อนี้ เกิดจากการบริหาร เงินไม่เป็น ขาดวินัยในการจับจ่าย ไม่รู้จัก “กัน” และไม่รู้จัก “แก้” ไม่รจู้ กั ประหยัดหรือรัดเข็มขัด หรือไม่รจู้ กั “อดเปรีย้ วไว้กนิ หวาน” ตก เป็นทาสแห่งความปรารถนา โดยไม่คำ� นึงถึงความจ�ำเป็น ยามเงินมีก็ หน้าสด ครั้นเงินหมดก็หน้าเศร้า เข้าในลักษณะที่ว่า

มีเงินเพลินจ่ายสบายจิต บทมีไม่คิดแลหลังหน้า ท�ำตัวใหญ่ใจกว้างทางช้างมา พอเงินหมดง�้ำหน้าอุราโรย 22

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


อีกบทหนึ่งท่านสอนว่า อย่าอวดดีมีทรัพย์เที่ยวจับแจก ท�ำเกี่ยวแฝกมุงป่าพาฉิบหาย ใครจะช่วยตัวเราก็เปล่าดาย อย่ามักง่ายเงินทองของส�ำคัญ เห็นผู้ดีมีทรัพย์ประดับแต่ง อย่าขึ้นแข่งวาสนากระยาหงัน ของตัวน้อยก็จะถอยไปทุกวัน เหมือนตัดบั่นต้นทุนสูญก�ำไร เห็นเขามั่งมีมากอย่าอยากได้ เรายากไร้ก้มหน้าอย่าท้อถอย ค่อยหนีบเหน็บเก็บเล็กผสมน้อย เหมือนกัดอ้อยข้างปลายสบายดี ถ้าเงินเดือนออก ฉันจะซื้อโทรศัพท์ใหม่

เครื่องเดิมเพิ่งซื้อมา ๒ เดือนเอง ไม่ใช่เหรอ ?

ด้วยเหตุนี้ เศรษฐีที่ดีกว่าคนสามัญ ก็ด้วยรู้จักใช้ทรัพย์ให้เป็น ประโยชน์ ถ้าหาไม่ก็จะไม่ต่างอะไรกับสามัญชนคนทั่วไป ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

23


เก่าหมดไป ใหม่ไม่มา นอกจากนี้ มูลเหตุให้เสื่อมสิ้นไปแห่งทรัพย์ ท่านจัดไว้เป็น ๔ ประการ คือ ๑. ของหายไม่ร้จู ักแสวงหา ถือภาษิตว่า “หมดหาใหม่ หาย ช่างมัน” ๒. อุปกรณ์เครื่องใช้ช�ำรุดคร�่ำคร่าไม่รู้จักบูรณะซ่อมแซม ต้องกลายเป็นเศรษฐีที่ขาดไฟ ๓. ตั้งหญิงชายไร้ศลี ธรรมเป็นผู้น�ำครอบครัว ๔. กิน-ใช้ไม่รู้จักประมาณ ขาดความพอเหมาะพอดี สุนทรภู่ บรมครูกวีสอนไว้ในเรื่องนี้ว่า แม่ครับ

มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท เสื้อผมขาด ซื้อใหม่นะ ขอเงิ น อย่ าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน เพราะจ่ายหมดจะล�ำบาก จ่ายมาก จะยากจน หากขาดความพอดี หนีจ้ ะถาม หา อย่าลืมว่า อินาทานํ ทุกขฺ ํ โลเก เป็นหนี้ เขาเป็นทุกข์ในโลก 24

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


ดูผึ้งดูมด เป็นตัวอย่าง ปัจจุบัน กลับมีพวกสุนทรเพี้ยน เปลี่ยนของสุนทรภู่ โดยแต่ง แก้ให้สับสนว่า มีสลึงพึงใช้ให้หมดบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ ถ้ามีน้อยใช้ให้มากหากจ�ำนง อย่าจ่ายลงให้น้อยจะถอยยศ โปรดอย่าลืมว่า “มากมาจากน้อย ร้อยมาจากสิบ” อย่าประมาท จะพลาดประโยชน์ ขอทุกท่านโปรดตรึกตรองดูว่า แม้แต่สัตว์เล็กๆ จ�ำพวกหนึ่ง เช่น ผึ้ง มด และกา มันยังรู้จักเก็บรักษาอาหารไว้กิน ส่วนเราเป็น มนุษย์แท้ๆ แสวงหามาได้ หากไม่รู้จัก เก็บรักษาไว้กินไว้ใช้ ภายภาคหน้า จะชื่อว่าเป็นคนดีกว่าผึ้ง มด หรือกาได้อย่างไร

ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

25


คบมิตรชั่ว พาตัวเสื่อมทรัพย์ ๓. ปาปะมิตตา คบคนชั่วเป็นมิตร โดยธรรมชาติมนุษย์จะอยู่ เพียงล�ำพังไม่ได้ในโลก ต้องมีเพื่อนคิดและผู้ช่วยประกอบกิจต่างๆ พึ่งพิงอิงอาศัยซึ่งกันและกัน แม้ในธรรมชาติก็เช่นเดียวกัน ดังวจนะ ประพันธ์ที่ว่า เสือจะอยู่คู่พนาเพราะป่าปก ป่าจะรกเพราะเสือมาอยู่อาศัย ดินจะเย็นเพราะหญ้าขึ้นหนาใบ หญ้าอยู่ได้เพราะดินเย็นเห็นทุกคน อีกบทหนึ่งว่า “น�้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ข้าพึ่งเจ้า บ่าวพึ่งนาย ป่าพึ่งเสือ เรือพึ่งพาย นายพึ่งบ่าว เจ้าพึ่งข้า” พึ่งกันไปพึ่งกันมา อย่างนี้ แต่ในสังคมมนุษย์ย่อมมีทั้งคนพาลและบัณฑิต เป็นเรื่องที่จะ ต้องเลือกคิดและจัดสรรในการคบหา คบกันมาหลายปี ท�ำไมไม่รวยซักที

26

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด

นั่นน่ะสิ


รู้ได้อย่างไร ใครควรคบ มีค�ำที่ท่านกล่าวว่า อันวาจาที่กล่าวส่อชาวชาติ มารยาทส่อตระกูลประยูรไฉน อันดวงหน้าเป็นกระจกถกดวงใจ ชลาลัยลึกรู้ดูสายบัว ผู้ฉลาด ก่อนจะเสวนากับใครต้องตรวจดูพฤติกรรมให้ถ้วนถี่ ทั้งทางกาย ทางวาจา และจิตใจ เพราะวิสัยบัณฑิตย่อมจะมีปกติ

คิดดี สุจินฺติตจินฺตี พูดดี สุภาสิตภาสี ท�ำดี สุกตกมฺมการี ส่วนคนพาลย่อมจะมีปกติวิสัย คือ

คิดชั่ว ทุจฺจินฺติตจินฺตี พูดชั่ว ทุพฺภาสิตภาสี ท�ำชั่ว ทุกตกมฺมการี

หึ่ง

หึ่ง

หึ่ง

ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

27


คบคนดีเป็นศรีแก่ตวั คบคนชัว่ อับปราชัย อนึง่ พุทธศาสนาสอนไว้วา่ ยํ เว เสวติ ตาทิโส แปลว่า คบคน เช่นไรย่อมเป็นเช่นนัน้ เข้าฝูงหงส์เป็นหงส์ เข้าฝูงกาเป็นกา ด้วยเหตุนี้ เมือ่ รูว้ า่ ตนเป็นหงส์ ก็ไม่ควรจะลงมาเล่นกับกา หาไม่กจ็ ะเข้าหลักทีว่ า่ คบคนพาลพาลพาไปหาผิด ืช่นใจ คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล คบคนพาลมักจะล้มถมทับตน คบบัณฑิตให้ผลจนวันตาย

ฉะนั้น ท่านจึงแนะอุบาย ก่อนที่จะคบค้าสมาคมกับใครไว้ว่า คบคนให้ดหู น้า หน้านอกบอกความ งาม หน้าในบอกความดี หน้าที่บอก ความสามารถ ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ เนื้อละเอียดหรือหยาบ ซื้อเสื้อให้ดูลาย ลายสละสลวยหรือหาศิลปะมิได้ ซื้อไร่ให้ดูดิน ดินดีปลูกอะไรก็งาม ดินทรามปลูกอะไร ก็โทรม 28

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


คนไม่ควรคบ มีค�ำพูดของบัณฑิตแต่ก่อนสอนไว้ว่า “เพื่อนกินนั้นหาง่าย แต่ เพื่อนตายนั้นหายาก” ดังโคลงโลกนิติบทหนึ่งว่า เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี หาง่ายหลายหมื่นมี มากได้ เพื่อนตายถ่ายแทนชี- วาอาตม์ หายากฝากผีไข้ ยากแท้ จักหา อันลักษณะบุคคลไม่ควรคบค้าสมาคมด้วย มีเครื่องหมายให้ สังเกต ๔ ประการ คือ ๑. เห็นแก่ตวั เอาแต่ได้ ๒. ดีแต่พดู พูดเด่นแต่ท�ำด้อย ๓. ประจบสอพลอ ไม่จริงใจ ปากว่าตาขยิบ ๔. หลอกล่อสู่อบาย ชักชวนไปในทางวิบัติ เพราะฉะนั้น พึงระวังสังวรไว้ว่า ชายใดเร่คบค้า นารี เสพสุรายินดี บ่อนเล่น นกไก่สกาตีมือต่อ พนันนา คนดังนี้ฤๅเว้น จากเบื้อง ฉิบหาย

ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

29


บุคคลที่ควรคบ

ส่วนบุคคลที่ควรคบ มีลักษณะให้พินิจ ๔ ประการ คือ

๑. มีอุปการะ ๒. ร่วมสุขร่วมทุกข์ ๓. แนะน�ำประโยชน์ ๔. มีความรักใคร่ เรามีความทุกข์ ล่ะเพื่อน

เรามีความทุกข์ ล่ะเพื่อน

30

ไม่ทอดทิ้งทั้งในยามสุขและยามเศร้า มีความเข้าใจ และเห็นใจไม่ซ�้ำเติม ช่วยชี้แนะทางสวรรค์นิพพานให้ มีจิตเมตตาปรารถนาดี ไปปฏิบัติธรรม กับเราสิ แล้วจะมี ทางออก

ไปกินเหล้า กับเราสิ รับรอง จะมีความสุขทันที

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


จนเพราะไม่รู้จักประมาณ ๔. อะสะมะชีวิตา เลี้ยงชีวิตไม่ชอบธรรมและไม่เหมาะสมแก่ ฐานะภาวะ บางท่านสุรยุ่ สุรา่ ยจนเกินไป บางรายก็เบียดกรอจนเกินงาม ขาดความ “พอดี” ไม่รู้จักประมาณในการแสวงหา ในการรับ ในการ จับจ่าย ขาดมัตตัญญุตา ว่าด้วยความเป็นผู้รู้จักประมาณ ไม่พิจารณา ทางได้ แต่ใช้จ่ายตามอ�ำเภอใจ เท่าไรก็ไม่พอ เหตุนี้ท่านจึงสอนว่า “จงประหยัดเพื่อใช้จ่าย และใช้จ่ายเพื่อประหยัด” จะมั่งมีเพราะ ประหยัด จะอัตคัดเพราะฟุ่มเฟือย ฉะนั้น อย่าฟุ้งเฟ้อ อย่าฟุ่มเฟือย อย่าเฟอะฟะ อย่าฟอนเฟะ จะท�ำให้แฟบ และฟุบในที่สุด จงระวังการใช้จ่าย แม้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เพราะรูรั่วแม้นิดเดียว ยังท�ำเรือใหญ่ให้จมได้ ฉะนั้น จงอดทน อดกลั้น อดออม แล้วจะไม่ อดอยาก นายสั่งมาเยอะจัง จะกินหมดเหรอ ?

ไม่หมดก็ไม่เป็นไร พ่อเรารวย

อย่าลืมว่า คนรวยเพราะท�ำตัวจน คนขัดสนเพราะท�ำตนร�ำ่ รวย ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

31


อะไรท�ำให้คนสุรุ่ยสุร่าย ทางรั่วไหลแห่งทรัพย์สินที่หามาได้ มักเกิดจากองค์ประกอบ มากมายหลายประการ เช่น ๑. ชอบเล่นการพนัน ๒. ชอบเที่ยวไปในแหล่งอบาย ๓. ชอบเสพของมึนเมา ๔. เสวนากับคนชั่ว ๕. รักษาทรัพย์ไม่ดี ๖. หาหนี้ใส่ตวั รวมความว่าเหตุที่ท�ำให้ทรัพย์เสื่อม สุขภาพกายและจิตเสื่อม รวมถึงท�ำให้เกียรติเสื่อม ก็คือ เมาลูกเดียว ขยันเที่ยวราตรี นารีไม่เคยเว้น ชอบเล่นการพนัน ติดพันมิตรชั่ว ท�ำตัวเกียจคร้าน อนึง่ ยามมีทกุ ข์ตอ้ งรูจ้ กั วิธี “แก้ทกุ ข์” อย่าใช้วธิ ี “กลบทุกข์” เช่น ดื่มสุรา เสพยาเสพติด ซึ่งไม่ได้แก้ทุกข์เลย 32

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


นิสัยไทย ๔ ประการ มีผวู้ เิ คราะห์วจิ ยั อุปนิสยั คนไทยไว้นา่ สนใจว่า ชาวไทยมีอปุ นิสยั พิเศษในทางไม่สร้างสรรค์อยู่ ๔ ประการ คือ ๑. ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ ทะเยอทะยานในการกิน การใช้ ๒. ชอบลัทธิเอาอย่าง เขามีสิ่งใดเราต้องมีสิ่งนั้น เรื่องลัทธิเอาอย่างนี้ สุภาษิตโลกนิติค�ำโคลงท่านสอนว่า เห็นท่านมีอย่าเคลิ้ม ใจตาม เรายากหากใจงาม อย่าคร้าน อุตส่าห์พยายาม การกิจ เอาเยี่ยงอย่างเพื่อนบ้าน อย่าท้อ ท�ำกิน ๓. ชิงสุกก่อนห่าม ชอบท�ำอะไรๆ ในขณะที่ยังไม่พร้อม ๔. อายในสิ่งไม่ควรอาย ท�ำดีมักอาย ท�ำฉิบหายมักกล้า แท้จริง หลักธรรมในทางพระพุทธศาสนาสอนไว้วา่ “ให้ละอาย ต่อความชั่ว กลัวต่อผลของบาป” อันได้แก่คุณธรรมข้อหิริโอตตัปปะ แต่เวลาปฏิบัติมักจะขัดกับเหตุผลข้างต้น คนเป็นทาสของกิเลส จึงวุ่นวาย เป็นทุกข์ อย่างรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว

ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เชิญชวนทุกท่านร่วมกันช่วยเพื่อนมนุษย์ให้เอาชนะกิเลส พบสุขได้ ด้วยการพิมพ์หนังสือเล่มนี้แจกเป็นธรรมทาน ยิ่งมาก บุญยิ่งทวี อย่างไม่โลภเมาบุญ รู้ว่าเป็นหน้าที่ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน (โปรดใช้ปัญญาพิจารณาเรื่องนี้) ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

33


แก้จนด้วยท�ำตนต�่ำ ท่านทั้งหลาย ในยุควิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ เป็นเรื่องต้องคิดไว้ เป็นนิจว่า “เศรษฐกิจนอกบ้านคือการหาอัฐ เศรษฐกิจในบ้านคือการ ประหยัด” ถ้ารูจ้ กั พอดีหนีจ้ ะไม่ถามหา รูจ้ กั ประมาณตนความยากจน จะไม่กล�้ำกราย “จงกินแต่พออิ่ม ชิมแต่พอดี เป็นหนี้แต่พอประมาณ อย่าเอาโรงแรมเป็นบ้าน อย่าเอาภัตตาคารเป็นครัว อย่าเอาคุณตัว... เป็นที่ปรึกษา” ผมช่วย ครับแม่

อย่ากินเกิน อย่าใช้เกิน คืออย่าเกินพิกัด เกินอัตรา เกินความ จ�ำเป็น หรือเกินก�ำลัง รูจ้ กั ลดขนาดความต้องการลง เพือ่ ความอยูร่ อด ของตน ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ หมัน่ เสกคาถาไว้ในใจก่อน ใช้จา่ ยเสมอว่า “จ�ำเป็นไหมๆ” หรือ “กระเหม็ดกระแหม่ๆ” จะแก้จนได้ หาไม่จะเข้าภาษิตว่า “พลาดไปครั้ง พังไปนาน” 34

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


ต้องรู้หลักเศรษฐศาสตร์ในการบริโภคที่ว่า “จ่ายน้อยแต่ให้ คุณภาพสูงสุด” ระวังอย่าเป็นโรคค่านิยมเป็นพิษ อย่าปล่อยชีวิตให้ เต้นไปตามกระแส อย่าเป็นโรคเห่อของนอก ทีเ่ รียกว่า ยีห่ อ้ นิยม หรือ บริโภคนิยม ทีม่ งุ่ ยีห่ อ้ มากกว่าคุณภาพ เพียงเพือ่ ซือ้ หามาประดับบารมี ต้องการโชว์เพื่อโก้เก๋ เท่ห์ แสดงรสนิยม หรือความมีระดับ เป็นการ เลียนแบบฝรั่งต่างประเทศ เราจะมัวสนใจแต่ประโยชน์ตน โดยไม่สนใจประโยชน์สว่ นรวม ไม่ได้อีกต่อไป เราจะทนใช้กระเป๋าใบละหมื่นได้อย่างไร ในขณะที่คน อีกค่อนประเทศยากจน ไม่มีเสื้อผ้าจะห่อหุ้มกาย เราจะทนนัง่ กิน “แฮมเบอร์เกอร์” หรือ “พิซซ่า” อย่างสุขสนุกสบาย ได้อย่างไร ในเมือ่ คนอีกมากมายก�ำลังจะอดตาย เพราะไม่มอี ะไรจะกิน กินอะไร ดีนะ ?

ขนมครก ร้อนๆ จ้า

เฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ก�ำลังเป็นที่นิยมประเภทนี้ ซึ่งแม้ฝรั่ง เองยังขนานนามว่า “อาหารขยะ” แต่เราก็ยังนิยมกินขยะกันอยู่มิรู้ หน่าย สู้กินโครงไก่ต้มฟักมิดีกว่าหรือ ? ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

35


น�้ำมหาภัยท�ำลายเศรษฐกิจ น่าใจหาย เมื่อทราบว่าปัจจุบันคนไทยสั่งไวน์เข้ามาดื่มถึงปีละ กว่า ๗,๐๐๐,๐๐๐ ลิตร สถิตเิ มือ่ พ.ศ. ๒๕๓๐ สัง่ เข้ามา ๓๓๖ ล้านลิตร ครัน้ พ.ศ. ๒๕๓๕ เพิม่ เป็น ๗๒๓ ล้านลิตร ในช่วงระยะเวลาเพียง ๔-๕ ปี เพิม่ ขึน้ เกือบ ๑๐๐% ไวน์ทคี่ อไฮโซไฮซ้อคอธุรกิจ และนักการเมืองชือ่ ดัง น�ำมาดืม่ และแจกจ่ายกันนัน้ ตกขวดละ ๒๐๐,๐๐๐ ถึง ๔๐๐,๐๐๐ บาท ต�่ำลงมาก็ ๒๕,๐๐๐ บาท เมื่อไม่นานมานี้ มีการประมูลไวน์ในหมู่เศรษฐีผู้ดีอังกฤษที่ กลางกรุงลอนดอน ไวน์ขนาด ๖ ลิตรขวดหนึ่ง ยี่ห้อ “โรมาเน่-ก็องติ” มีผู้ให้ราคาสูงถึง ๒๙,๐๐๐ ปอนด์ หรือ ๘๓๖,๐๐๐ บาท แล้วเมื่อไหร่ เราจะหันมานิยมไทยกันเสียที ใช้ของไทย กินของไทย เที่ยวเมืองไทย นิยมของไทย อย่าให้เป็นไปสักแต่ปา่ วประกาศจงหันมาร่วมมือร่วมใจ เพือ่ ไทยอยูร่ อดเสียแต่บดั นี้ ทีเ่ คยหลงผิดก็พลิกจิตเสียใหม่ ไม่มอี ะไรที่ จะสายเกินแก้ หากเรือ่ งนัน้ เป็นเรือ่ งดีสว่ นเรือ่ งเสือ่ มเสียหรือสูญเสียก็ หัดร้องเพลงของอาภาภรณ์ นครสวรรค์ ไว้เสมอว่า “เลิกแล้วค่ะ หนู เลิกกับเขาแล้วค่ะ เลิกแล้วค่ะ หนูเลิกฟุ่มเฟือยแล้วค่ะ” แล้วความ ก้าวหน้าจะเกิดขึ้น ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อสร้างสรรค์สังคมไทย แท้จริง เศรษฐกิจไทยสามารถแก้ได้ดว้ ยเศรษฐธรรม เรียกว่าใช้ “เศรษฐธรรม น�ำเศรษฐกิจ”

36

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


เศรษฐธรรมน�ำเศรษฐกิจ ดังได้ปรารภเบื้องต้นแล้วว่า เศรษฐกิจไม่ดีหนี้ถามหา ข้าว ของต่างแย่งกันขึ้นราคาโดยถ้วนหน้า จนเกิดภาวะ “คับแค้นทาง จิตใจ ยากไร้ทางวัตถุ” ต้องมีการเสียภาษีทางอารมณ์ และก่อให้เกิด “ธนาคารอารมณ์” เข้ามาแก้ เมือ่ เศรษฐกิจชาวบ้านแย่กม็ ผี ลแผ่ถงึ รัฐบาล สุดท้ายต้องหันไป พึ่งเงินกองทุนระหว่างประเทศ หรือ I.M.F. จนชาวบ้านต้องหันไปพึง่ I.C.U. ตามๆ กัน ก่อนจะล�ำบากทุกข์ ยากกว่านี้ เราท่านจะต้องหันมา I Love You ด้วยรักตนเอง รักพวกเรา เอง รักชาติเราเอง เพื่อความผ่องใสในวันข้างหน้า ร่วมใจใช้ สินค้าไทย กันนะครับ

ธรรมะคลายทุกข์ และพุทธวิธีสร้างสุข

37


เศรษฐธรรมอันจักเป็นตัวน�ำเศรษฐกิจให้ “ฟื้นฟู” จนกลาย เป็น “เฟื่องฟู” ในภายหน้าก็คือ ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ หรือ “ทาง สู่เศรษฐี” ๔ ประการ คือ... อุฏฐานสัมปทา - ขยันหา อารักขสัมปทา - รักษาเป็น กัลยาณมิตตตา - เว้นมิตรชั่ว สมชีวิตา - ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และประกอบการ ชอบธรรม รวย รวย รวย

ค�ำว่า “ชอบธรรม” หมายถึง ชอบด้วยกฎหมาย ชอบด้วย ศีลธรรม ชอบด้วยวัฒนธรรมประเพณี อันมีลักษณะคือ... ๑. ต้องไม่เบียดเบียนชีวติ และอิสรภาพของผูใ้ ดโดยโลภเจตนา ๒. ต้องไม่เบียดเบียนทรัพย์สมบัติและละเมิดสิทธิ์ของใคร ๓. ต้ อ งรั ก ษาสั จ จะ ไม่ ล ่ อ ลวงผู ้ ใ ดให้ เ สี ย หายด้ ว ยหมาย ประโยชน์ เป็นเหตุให้สูญเสียสิทธิอ�ำนาจอันชอบธรรม อันมีผล กระทบต่อครอบครัว สังคม เศรษฐกิจ และสิทธิเสรีภาพ 38

บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.