ไมมีพระองคใด จะมีคุณยิ่งใหญเทาพระในบาน
สวดมนต
ขอพรใหพระในบาน คำสอนที่จะทำใหคุณซาบซึ้งในพระคุณของผูใหกำเนิด พรอมบทสวดมนตพาหุงมหากาฯ บทบูชาพระคุณพอแม ไหวพระ ๕ ครั้งกอนนอน พรอมสมุนไพรรักษาโรค
Dhamma Guide : กฤษดา รามัญศรี บรรณาธิการสาระ : ศักดิ์สิทธิ์ พันธุสัตย ออกแบบปก : อนุชิต คําซองเมือง รูปเลม/จัดอารต : ทศพร ธรรมกุล ภาพประกอบ : ธนรัตน ไทยพานิช พิสูจนอักษร : อรัญ มีพันธ
เพื่อนแทตลอดชีวิต “หนังสือเปนเพือ่ นเราไดตลอดเวลา ไมวา จะยามสุข ยามทุกข ยามเศราโศก หรือยามเหงา ติดตามเราไปไดทุกหนแหง ไมวาจะในปา ในเขา หรือในทองทะเล จนที่สุดแมในหองนอน ไมวาลูกจะเปนอะไร อยูที่ไหน ลูกอยาทิ้งหนังสือ ทิ้งหนังสือก็เหมือนกับการทิ้งเพื่อนที่ดี ที่สุด พยายามอานหนังสือใหมากๆ อานหนังสืออะไรก็ได หนังสือ เปนเหมือนแผนที่ชี้ทางใหเราเดินไดถูกและตรง อานหนังสือมาก ก็มีแผนที่สําหรับดําเนินชีวิตมาก”
พระธรรมกิตติวงศ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) โปรดใชเลมนี้ใหคุมสุดคุม & อานแลว -> แบงกันอานหลายทานนะจะ
อานสิบรอบ ระดมสมองคิดสิบหน ฝกฝนปญญา พัฒนาการประยุกตใชในชีวิตประจําวัน จิตรูเทาทันสรรพสิ่ง ฉลาดใช เฉลียวคิด ชีวิตจักสนุก สงบ เย็น สํานักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน ปรารถนาใหทุกครอบครัวมีความสุข
คํานําสํานักพิมพ เมื่อเอยถึงพระในบาน ใครหลายคนอาจนึกถึงพระพุทธรูป ทีต่ งั้ บนหิง้ พระทีบ่ า น ยิง่ ถาพูดถึงการสวดมนตบชู าพระในบานดวยแลว ก็คงเปนอยางอื่นไมได นอกจากพระพุทธรูปหรือพระที่เปนวัตถุมงคล อยางแนนอน แทที่จริงแลวพระในบานที่พูดถึงนี้มิใชพระพุทธรูปหรือพระ ที่นุงหมจีวร แตเปนพระที่นุงหมเสื้อผาเหมือนกับเรานี่เอง เปนบุคคล ที่ไดชื่อวาเปนพระอรหันต เปนพระเทพ พระพรหม และเปนทุกสิ่ง ทุกอยางของลูก ใชแลว พระที่วาก็คือ พอกับแม นั่นเอง พระ แปลวา ผูประเสริฐ พอแมเปนบุคคลที่ประเสริฐของลูกจึงไดชื่อวาเปนพระ ขาวนํ้าที่ถวายพอแม ยอมมีอานิสงสเทียบเทาถวายพระอรหันต เรา จึงควรบูชาพอแม รักพอแมทุกวัน หนังสือ “สวดมนตบูชาพระในบาน” เลมนี้ประกอบดวย คําสอนเกีย่ วกับพระคุณและการปฏิบตั ติ นตอพอแม ซึง่ เปนพระในบาน คําสอนทีจ่ ะทําใหคณ ุ ซาบซึง้ ในพระคุณพอแมไมรลู มื พรอมทัง้ บทสวด บูชาพระคุณพอแม เสริมดวยสมุนไพรและเกมหาคําศัพทลับสมอง หวังเปนอยางยิ่งวาเมื่ออานหนังสือเลมนี้แลว ทานจะรัก เคารพบูชา ดูแลพระในบานของทานอยางดีที่สุด และสงตอความดีนี้ แกสงั คม โดยการสงตอหรือพิมพหนังสือเลมนีแ้ จกเปนธรรมทานตอไป
คณาจารยสํานักพิมพเลี่ยงเชียง
พระในบาน๑ “พระ” หมายถึง ผูประเสริฐ ผูยอดเยี่ยม เพราะเปนผูมี คุ ณ สมบั ติ ที่ ป ระเสริ ฐ ยอดเยี่ ย มอยู ใ นตั ว และทํ า ความดี ต อ ผู อื่ น โดยมิไดมุงหวังการตอบแทน ทําดวยดวงใจอันเปยมลนดวยความรัก ความปรารถนาดีและความสงสารเปนทีต่ ั้ง หากผูใดทําไดดงั นี้ ไมวาผูนนั้ จะครองเพศแบบไหน และอยูในวัยไหน ชาวโลกยอมแซซองสรรเสริญ ผูนั้นวาเปน “พระ” ในสายตาของเขา และพรอมจะยกมือทั้งสองขึ้น ไหวบูชา ยอมกมศีรษะ หรือยอมนอมกายลงหมอบราบกราบกราน ดวยความเต็มใจ มิไดตะขิดตะขวงหรือลังเลใจเลยแมสักนอย เพราะ มาเห็นแลววาผูนั้นคือเนื้อนาบุญอันหาไดยากของเขาอยางแทจริง “ความเปนพระ” อยางที่วามานั้น มิไดจะเปนเฉพาะกับ นักบวชในศาสนาใดศาสนาหนึ่งตามความเขาใจของคนทั่วไปเทานั้น
ความจริงเราทานทุกคนตางก็เคยประสบพระ หรือมีพระผูประกอบดวยคุณความดีดังกลาวมาแลวดวยกันทุกคน
ทั้งมิไดพบในปาถํ้าลําเนาเขา หรือในแดนบุญสถานนักบวชอื่นใดเลย
หากพบกันอยูที่บาน มีอยูแลวในบานของเรานั่นเอง มิพักตองไปหาที่อื่นเสียใหยาก
เพราะพระดังกลาวนี้หาไดในบาน จึงเรียกในที่นี้วา “พระในบาน” ๑ หนา ๔-๒๗ คัดจากหนังสือพระในบาน โดย พระธรรมกิตติวงศ : สํานักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน
๔
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹
¤Ø³¸ÃÃÁ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹ ¤íéҨعÅÙ¡ หากจะบอกในตอนตนนี้เสียเลยวา “พระในบาน” นั้นคือ “พอ” กับ “แม” ของเรา ก็คงจะทําใหคลายสงสัยไปไดเปลาะหนึ่ง เพราะเมือ่ ไดยนิ คํานีเ้ ขา บางทีเราอาจเกิดความแคลงใจขึน้ มาไดวา เหตุใด พระจึงไปอยูในบาน ดูออกจะขัดๆ หูอยู ดวยตามปกติแลวเรามักจะ เห็นพระทานอยูแตในวัดหรืออยูในถํ้าในเขากันเทานั้น แมหากทานจะ เขาบานบางในบางคราว ก็อยูชั่วระยะเวลาที่มีกิจเทานั้น เสร็จกิจแลว ทานจะกลับวัดอยางเดิม และก็คงไมมีใครออกมาคัดคานหรือปฏิเสธวา “พอแม” ไมได เปน “พระ” หากวาผูน นั้ เปนคนดีมคี วามคิดและความยุตธิ รรม ทัง้ เปน คนที่มองโลกในแงดีในแงที่ถูกตองตามความเปนจริง
ºØÞÃÑ¡ÉÒ¹ÐÅÙ¡
เหตุที่ทานทั้งสองไดนามวาเปนพระนั้น เพราะทานมี “ความเปนพระ” คือมีคุณธรรมมีความดีอยูในตัว และไดปฏิบัติภารกิจอันเปนหนาที่ของทานมาอยางครบถวน บริบูรณ ทั้งในดานจิตใจก็เปยมลนดวยความรักความปรารถนาดีและ ความสงสาร อันเปนเหตุชักจูงใหทานไดเอื้อเฟอเผื่อแผ เสียสละ ยอมเปน “ผูให” อยูตลอดมาอยางไมเสื่อมคลาย แนแลว ! พอแมคือพระในบาน ºÃÔÉÑ· Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ ¨Ó¡Ñ´
๕
¾ÃÐÍÃËѹµ Íѹ»ÃÐàÊÃÔ° ÍÂÙã‹ ¹ºŒÒ¹àÃÒ¹Õèàͧ โดยปกติ เ รามั ก จะไปแสวงหาพระ หรื อ ไปกราบไหว พ ระ กันตามวัด ตามถํา้ ตามปาหรือแมอยูบ นยอดเขาก็ดนั้ ดนไปกัน ดวยความ มุงมั่นวาจะเปนมงคลแกตัว แมจะตองไปคางอางแรมกัน หรือใชเวลา เดินทางกันไปเปนวันๆ เราก็ยงั ยอมลงทุนทนหอบหิว้ สังขารไปจนกระทัง่ ถึงทานจนได พอไดเห็นทาน ไดกราบไหวบูชาทานแลวก็กลับ เพียงเทานี้ ก็เกิดความรูส กึ วาอิม่ เอิบใจหายเหน็ดหายเหนือ่ ย โอกาสหนายังแวะเวียน ไปหาทานไดอีกบอยๆ ไปเลาทุกขสุขใหทานฟง ใหทานชวยปลอบใจ ใหทานชวยแกไขปญหาชีวิตซึ่งมันคับอกคับใจให เปนตน “พระนอก บาน” ที่วามานี้เราไปหาไดไปบูชาไดและทํากันไดบอยๆ เสียดวยซํ้าไป
แตในเราทั้งหลายนี่จะมีสักกี่คนกันเลาที่นึกถึง “พระในบาน” กัน พระในบานที่ใจจดใจจอรอทาที่บรรดา “ลูก” จะมาหามากราบไหวบูชา หรืออยางนอยมาพอใหเห็นหนาก็ชื่นใจถมแลว โดยมากเราตางก็มักเอื้อบํารุงอุดหนุนกันแตพระนอกบาน หรือ ดัน้ ดนไปเชาพระนอกบานซึง่ ปราศจากลมหายใจเขามาไวในบานดวยราคา แพงๆ ทําที่ประดิษฐานไวในหองที่หรูๆ ราคาแพงลิบ แตพระในบาน ซึง่ ยังมีลมหายใจอยู เรากลับปลอยใหอดอยากปากแหง ปลอยใหใจแลง อับเฉา ปลอยใหอา งวางวาเหวและเศราใจอยูต ามลําพัง เพราะปราศจาก นํ้าใจของลูกๆ มาหลอเลี้ยงใหชุมชื้น พอแมที่รอนํ้าใจจากลูกๆ นั้น อาจยิ่งกวา “ขาวคอยฝน” อยางที่เราชอบเปรียบกันเสียอีก ทานคงจะมิใชเปนผูหนึ่งในจํานวน “โดยมาก” นั้นนะทาน ! ๖
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹
àÅÕ駴٠»Ã¹¹ÔºÑµÔ ¤Ø³ÊÁºÑµÔÅÙ¡¡µÑÞ Ù พอแมไดใชความพากเพียรพยายามตรากตรําหาเงินหาทองเลีย้ งดู ลูกมา กวาจะโตไดแตละคนนั้นก็เลือดตาแทบกระเด็น รางกายก็พลอย ทรุดโทรมลงตามลําดับ อายุวยั ก็เพิม่ ขึน้ จนในทีส่ ดุ ก็ตอ งหยุดพักไปโดย ปริยาย เพราะสังขารรางกายไมอาํ นวยใหทาํ งานไดเหมือนเมือ่ ยังเปนหนุม ÊÇÑÊ´Õ¤ÃѺ ¾‹ÍáÁ‹ ¼ÁÁÒàÂÕèÂÁáÅŒÇ
แมวาจิตใจจะแข็งแกรงอยากทําสักปานใด ก็ไมอาจฝนธรรมชาติของสังขารได ตอนนี้แหละเปนโอกาสของลูกแลว ที่จะไดตอบแทนใชหนี้บุญคุณของทาน ดวยการเลี้ยงดู ดวยการปรนนิบัติทานบางตามความเหมาะสม
เพราะหากลูกไมเลี้ยงพอแมตอนนี้ แลวใครจะเลี้ยง จะใหทานไปอยูในสถานสงเคราะหคนชราหรือ อาจทําได แต เทากับวาสงทานใหไปอยูใ นคุกในตาราง หรือสงไปใหทรมานใจอยูใ นนัน้ มากกวา เพราะสถานที่เชนนั้นมันจะวาเหวและโดดเดี่ยวสักเพียงไหน และเปนสถานที่สําหรับคนที่ไรญาติขาดมิตร หรือคนที่ลูกหลานไมเลี้ยง ไมเอาใจใสแลวเทานัน้ เราลองคิดและลองนึกวาดภาพดูกแ็ ลวกัน ในหมู คนแกทแี่ ปลกหนาไมเคยรูจ กั มักคุน กันมากอน และทามกลางบรรยากาศ ที่เต็มไปดวยความอางวางเดียวดายของคนแกแตละคน จะผิดอะไรกับ สงทานไปตายแบบผอนสงเลา เราใจถึงพอที่จะสงทานไปอยู ณ สถานที่ เชนนั้นหรือ ? ºÃÔÉÑ· Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ ¨Ó¡Ñ´
๗
àÅÕ駾‹ÍáÁ‹·Ñ駡ÒÂ-㨠䴌ª×èÍÇ‹ÒàÅÕ駴ÙÍ‹ҧÊÁºÙó แตก็มีคนแกอีกจํานวนไมนอยที่พอใจจะอยูในที่เชนนั้น ซึ่งตน ก็รูดีวาไมสุขสโมสรหรือนารื่นรมยเทาไหรนัก แตก็พอใจจะอยูในที่นั้น เพราะเห็นวายังดีกวาอยูบานของตัวหรือที่บานของลูกหลานซึ่งเปน เหมือนขุมนรกของทาน มีลูกมีหลานก็เหมือนคนแปลกหนาที่ไมรูจักกัน มากอน จะพูดจะจาทักบางก็ไมมี จะถามไถสุขทุกขบางก็ไมเคยไดยิน อยูไปก็ถูกดุถูกดาสารพัด หาวาเกะกะบานบางละ วาไปอยูเปลืองขาวสุก บางละ เมื่อไดยินลูกหลานพูดเขาทํานองนี้ ขืนอยูไปก็รังแตจะนอยใจ ชํ้าใจและอึดอัดใจเปลาๆ เลยขอไปใหพนๆ บานเสีย ไปตายเอาดาบหนาดีกวา และก็มัก จะตายดวยดาบหนาจริงๆ อยางที่ตั้งใจไวเสียดวยซี
การเลี้ยงพอแมใหอยูดีมีสุขตามสมควรนั้น หากจะใหสมบูรณแลว ตองเลี้ยงทานทั้งสองทาง คือ - เลี้ยงรางกาย - เลี้ยงจิตใจ
๘
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹
ãËŒ»˜¨¨Ñ ô ª×èÍÇ‹ÒàÅÕé§Ëҧ¡Ò การเลีย้ งรางกายพอแมนนั้ ออกจะไมยากนัก เพราะคนแกอยูง า ย กินงายอยูแลว ไมคอยพิถีพิถันในเรื่องการกินการนอนมากนัก เพียง ใหขาวใหนํ้า ใหที่อยูอาศัย ใหยารักษาโรคและใหเครื่องนุงหม อันเปน ปจจัยจําเปนสําหรับชีวิตแกทาน ก็เพียงพอแลวสําหรับเลี้ยงรางกาย ใหอยูรอดไปวันๆ และดูเหมือนวาจะไมสิ้นเปลืองเทาไหรดวย หากคิด เปรียบเทียบกับที่ทานเคยเลี้ยงเรามา การเลี้ยงเทานี้ไมนาจะตองเปน กังวลสําหรับลูกเลย
ลองนึกยอนหลังดูทีหรือ วาเมื่อเราเปนเด็กนั้น เรากินเราใชเปลืองกวานี้ ขาวก็ตองอยางนอยวันละ ๓ มื้อ เสื้อผาเครื่องนุมหมปหนึ่งนับชุดไมได ขนมนมเนยตางหาก เครื่องประดับตางหาก ทั้งการใชจายเพื่อความสนุกสนานและความสําราญตางๆ ก็ตางหาก เปลืองอยางนี้ทําไมพอแมยังหาเลี้ยงเรามาได และไมเฉพาะเราคนเดียวเทานัน้ ลูกของพอแมคนอืน่ ๆ ซึง่ ก็เปน พี่นองของเรานี่แหละ ทานก็หาใหเหมือนๆ กันทุกคน เปลืองพอๆ กัน ซํ้ายิ่งโตยิ่งเปลืองหนักเขาไปอีก พอถึงคราวที่เราจะตองเลี้ยงทาน ใหอิ่มหนําสําราญบาง ทําไมเราจึงทํากันไมคอยไดเลา ºÃÔÉÑ· Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ ¨Ó¡Ñ´
๙
àÅÕ駾‹ÍáÁ‹µÍ¹à»š¹ ´Õ¡Ç‹Òà«‹¹·‹Ò¹µÍ¹µÒ เคยเห็นอยูออกบอยไป ที่ลูกบางคนเวลาพอแมยังมีชีวิตอยู ไมเคยดูดาํ ดูดี ไมเคยทีจ่ ะสนใจเหลียวแลนัก ทานจะสุขทุกขอยางไรก็ชา ง จะมีกินมีใชหรือไงไมนําพา ปลอยใหอดๆ อยากๆ พอแมไปเยี่ยมเยียน ก็ทําทารังเกียจ พอแมไปอยูดวยก็พูดกระทบกระเทียบใหเจ็บชํ้า นํ้าใจเลน กลาวหาวาเกะกะบาน ทําอะไรไมไดเรื่องไดราว สารพัดจะ หาคําพูดมาประหัตประหารนํ้าใจ เวลาทานตายจากไปนําศพของทาน ไปจัดตามประเพณี และจัดอยางสวยหรูเสียดวย ทัง้ นี้ เพราะหากไมทาํ ก็กลัวจะถูกคนอื่นนินทาหรือทําใหเสื่อมเสียเกียรติของตนไป ดอกไม ก็จัดอยางแพรวพราว ประดับประดาเสียจนผูคนเห็นแลวอยากจะตาย และถูกทําศพอยางนี้บาง แถมยังจัดสํารับกับขาวอยางดีไปวางขางๆ โลงศพ กลัวทานจะไมรูยังเคาะเรียกใหพอใหแมมากินเสียอีก “พอมากินเสีย” “แมมากินเสีย” โธเอย ! ยามที่ทานยังมีลมหายใจยังพอกินไดและอยากจะกินเสียดวย ไมยกั เรียกใหทา นมากิน ไมยกั ยกไปใหทา นกินบาง ภาพอยางนัน้ มันควร จะมีตอนที่ทานมีลมหายใจอยู มากกวาตอนที่ทานไมรูเรื่องรูราวแลว อยางนั้น ทานจะรูหรือ อือออไปกับเราดวยหรือไม เราก็ไมทราบ ทานอาจจะไมกินของเราก็ได แตโดยมากเราก็ทํากัน บางทีทําเพื่อความ สบายใจของตัวเองก็มี เฮอ...คนอยางนีก้ ็มีดวย ! ๑๐
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹
àÁ×è;‹ÍáÁ‹ÂѧÍÂÙ‹ àÅÕ駴ٷ‹Ò¹ãËŒ´Õ บางคนตอเมื่อพอแมตายไปแลวจึงเกิดความรักคิดถึงทาน บาน ก็เงียบเหงา เคยมีเสียงบน เคยมีเสียงตักเตือนสั่งสอน เคยมีหลักอยู ในบาน แมจะเปนเพียงหลักที่ลูกมองเปน “หัวตอ” ก็ตามที พอทาน ตายจากไป เสียงนั้นก็หมดไป หลักบานก็ขาดหายไป ทําใหเกิดความ เงียบเหงาวังเวง มันเหมือนกับบานขาดอะไรไปอยางหนึ่ง คิดไปคิดมา ก็นึกถึงพอแมได ยิ่งตอนที่ลูกตัวเองไมเอาใจใส ไมดูดําดูดีหรือเถียงคํา ไมตกฟากดวยแลว ยิ่งคิดถึงพอแมหนักขึ้น แตก็เรียกชีวิตทานคืนมา ไมไดเสียแลว จะเหลือก็เพียงรูปถายไวใหดูตางหนาหรือกองกระดูก ไวเปนตัวแทนเทานัน้ ตอนนีแ้ หละจะมองเห็นความสําคัญของทานขึน้ มา แตกส็ ายเสียแลว อยางวากวาจะรูว า ทานสําคัญก็หาตัวทานไมไดเสียแลว ก็เขาทํานองที่ทานวาไวนั่นเทียววา
“คนเราจะรูวาอะไรมีคามีความสําคัญ ก็ตอเมื่อสิ่งนั้นไดหลุดจากมือไปแลว” แลวที่บานของทานเลา ยังมีพระในบานซึ่งมีคามีความสําคัญ ที่ยังไมหลุดจากมือไปหรือไม ! คอย ๆ อาน คอย ๆ คิด คราคิดติดขัด หยุดพักสักนิด ทําจิตใหสงบ จักพบทางออก ºÃÔÉÑ· Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ ¨Ó¡Ñ´
๑๑
¢Ò´¾‹ÍàËÁ×͹¶‹ÍËÑ¡ ¢Ò´áÁ‹àËÁ×͹á¾áµ¡
ตอนทีพ่ อแมยังมีชีวิตอยู ทานเปรียบเสมือนตนไทรใบดกหนา มีรมเงาอันเย็นสบายที่บรรดาลูกๆ จะพึงเขามาพึ่งอาศัยไดทุกเมื่อทุกคราว แมจะโผบินจากไปแลว แมจะถายรดหรือจิกกินลูกผลจนหมด หรือหักรานกิง่ กานสาขา ไปแลวหวนกลับมาพึง่ รมโพธิร์ ม ไทรตนเดิมอีก โพธิ์ไทรนี้ก็ยังมีรมใหลูกๆ ไดพักชื่นใจเหมือนเดิม โดยมิไดโกรธเคือง หรือพูดใหผูพึ่งพิงคือลูกตองเสียนํ้าใจเลย ยังพรอมเสมอทีจ่ ะใหความเย็นแกลกู ทุกคนและทุกครัง้ พอทาน ลมหายตายจากไปนั่นแหละ ลูกๆ จึงหมดที่พึ่งหมดรมเงาอันเย็นสนิทไป แมจะคิดถึงโพธิไ์ ทรตนนีก้ ห็ มดหวัง จึงตางก็ตอ งแยกยายกันไปคนละทิศ ละทาง รวมกันไดบางไมไดบาง เขาหนากันไมติดบาง ทะเลาะกันเองบาง ไปตามเรื่องตามราว พี่นองบางรายพอพอแมตายไปก็จากกันและไมพบ กันอีกเลยจนตลอดชีวิตก็ยังมี
นี่แหละทานจึงวา ขาดพอเหมือนถอหัก ขาดแมเหมือนแพแตก ! ๑๒
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹
ËҡᾪÕÇԵᵡ ¤Ãͺ¤ÃÑÇ¡çᵡá¡ การไมมีพอนั้น เพียงแคเหมือนคนลองแพไปตามนํ้า บังเอิญ ถอที่ใชพยุงแพ คัดแพใหตรงรองนํ้า ใหพนเกาะแกงโขดหินในทองนํ้า มาหักเสียกลางคัน แพก็ยงั พอประทังตัวเองใหลอ งลอยไปตามกระแสนํา้ ได จะกระทบโขดหิน จะติดเกาะติดแกงทําใหคนบนแพลมลุกคลุกคลาน ไปบางก็ยังดี แตพอแพแตกนี่สิ หมดที่พึ่งเอาเสียจริงๆ
เมื่อแพแตก คนบนแพก็แตกกระสานซานเซ็น ลองลอยไปตามกระแสนํ้าอันเชี่ยวกราก ที่แข็งแรงหนอยก็พอจะพยุงตัวลอยคอไปถึงฝงไดบาง ที่ออนแอก็อาจถึงจมนํ้าตายไปเลย หรืออาจจะรอดไดหมด แตก็ตองถูกกระแสนํ้าพัดพากระทบเกาะแกงโขดหินในลําธาร ใหแขนขาเนื้อตัวถลอกปอกเปกไปตามๆ กัน ผูที่ยังทั้งถอทั้งแพนี่นับวายังมีโชคดี ประคับประคองถอและแพ ไวใหดีเถิด คอยๆ อาน คอยๆ คิด มิตองเรงอานใหจบ ชีวิตจักสนุก สุข สงบ นิ่ง ยิ้ม เย็น เห็นทางออกของปญหา มีปญญาสรางสรรคสิ่งดีงามใหมๆ สํานักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน ปรารถนาใหทุกคนมีความสุข
ºÃÔÉÑ· Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ ¨Ó¡Ñ´
๑๓
ãËŒ¤ÇÒÁà¤Òþ àª×èÍ¿˜§¤íÒÊ͹ ª×èÍÇ‹ÒàÅÕé§㨠การเลี้ยงรางกายพอแมใหอยูเย็นเปนสุขอยางนี้ ยังหาเพียงพอ ที่จะ “เปลื้องหนี้” ที่ทานเคยใหเราไดไม เพราะหนี้ของทานที่มีตอเรา เปนหนี้ชนิดที่ไมเพียงทวมบาทวมหูเทานั้น แตเปนหนี้ชนิดทวมหัว ทีเดียว เราจะทดแทนเพียงเล็กนอยหาคุมไม เลี้ยงกายทานยังไมพอ ยังตองเลี้ยงนํ้าใจทานควบคูกันไปดวย
การเลี้ยงนํ้าใจพอแมก็คือ ÅÙ¡àµÐ การไมทําใหพอแมชํ้าใจ เสียใจ ËÁÒÊÐ´Ø Œ§ หรือถึงกับนํ้าตาตก เพราะเราเปนตนเหตุ ÅÙ¡àÃÒàÁÒ·Ø¡ÇѹàÅ ·Ø¡¢ 㨨ѧ
การที่เราผูเปนลูกประพฤติตนตามคําแนะนําตักเตือนของทาน เปนคนออนนอม ไมหวั ดือ้ ถือรัน้ มีสมั มาคารวะ รักเคารพทานทัง้ ตอหนา และลับหลัง ไมถือโทษโกรธเคือง และไมแสดงความไมพอใจออกมา ใหทา นเห็น ใหทา นนอยใจ โดยถือวาทานเปนพระจริงๆ การพูดจาหรือ แสดงกิริยาอื่นก็เปนไปดวยความยําเกรง มีความยกยองนับถืออยูในที การประพฤติปฏิบตั ติ นของเราอยางนี้ ยอมจะนําความแชมชืน่ เบิกบานใจ และความพอใจมาใหทานได เพราะพอแมนั้นพอเห็นลูกเชื่อถอยฟงคํา เทานั้นก็เปนอันหมดหวงไปไดระดับหนึ่งแลว ความกังวลวาลูกจะไมดี ดังใจนึก ความกลัววาลูกจะลําบากลําบนในวันหนาก็จะหมดไป เมือ่ ทาน หมดหวงใยในตัวเรา ทานก็จะกินไดนอนหลับ จิตใจก็พลอยสบายไปดวย เปนการตออายุทานไดเสียดวย ๑๔
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹
ÅÙ¡ä»·Õèä˹ ¾‹ÍáÁ‹¡ç仡ѺÅÙ¡´ŒÇ·ء·Õè จริงอยู บางทีเราอาจจะอยูห า งพอแมดว ยไปมีครอบครัวอยูท อี่ นื่ ไปอยูทํางานในที่ไกลๆ ไมคอยมีโอกาสเลี้ยงรางกายทาน ตอนานๆ จึง จะไดกลับมาหาทานที นานๆ จึงจะไดสงของมาใหทานครั้ง เมื่อเปน เชนนีก้ อ็ ยาไดคดิ วิตกกังวลวาจะไมไดทดแทนพระคุณทาน แมวา จะไมได เลีย้ งกายทานเปนการตอบแทน การเลีย้ งจิตใจทานนีแ่ หละก็ทดแทนได เหมือนกัน อยูที่ไหนก็ประพฤติตัวใหดีที่นั่น อยูที่ไหนทําชื่อเสียงไวที่นั่น อยูที่ไหนวางตัวใหเหมาะสม ทําตัวใหเขารักใหเขานับถือที่นั่น โดยหมั่น นึกและทําตามคําแนะนําของพอแมเสมอๆ เทานี้ก็ถือวาดีถมไปแลว ที่วาดีในที่นี้คือดีสําหรับตัวเองดวย ดีสําหรับพอแมดวย คือถึงแม พอแมจะอยูหางลูก แตความดีที่ลูกทําไวจะขจรขจายไปถึงหูทานเอง
เพราะขึ้นชื่อวากลิ่นของความดีนี่ สามารถฟุงไปไดทั้งตามลมและทวนลม ดีกวากลิ่นอื่นๆ ในโลก เมื่อทานไดยินเขาก็จะปลื้มใจ สบายใจหายหวงวาลูกอยูดีมีสุขแลว พรอมกันก็จะอวยชัยใหพรใหเราเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป เราอยูที่ไหนก็เทากับเอาพอแมติดตัวไปดวย แมจะเปนเพียงคําเตือนคําสอนของทานก็ยังดี
¢Íºã¨ÁÒ¡¹Ð˹Ù
à´ÕëÂÇ˹پҤسÂÒ ¢ŒÒÁ¶¹¹àͧ¹Ð¤Ð
ºÃÔÉÑ· Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ ¨Ó¡Ñ´
๑๕
¡ÅѺä»àÂÕèÂÁ¾‹ÍáÁ‹ ෋ҡѺàÅÕé§㨷‹Ò¹àª‹¹¡Ñ¹ หรือตัวอยูไกลไมอาจจะอยูใกลชิดได นานๆ ก็ไปหาทานบาง ไปเยี่ยมเยียนถามไถสุขทุกขทานบางตามโอกาส ยามเจ็บไขไดปวยก็ไป ดูแลรักษาทาน หรือทําประการอื่นๆ ที่จะทําใหทานเกิดความสบายใจ การทําเชนนี้เปนการเลี้ยงจิตใจทานทั้งนั้น และเปนการสนองความหวัง ของทาน เพราะพอแมนั้นอุตสาหเลี้ยงเรามาก็เพื่อประสงควา ยามมีกิจ ยามปวยไข ยามถึงคราว หวังใหเจา
หวังใหเจา หวังใหเจา ลวงลับ ปดตา
¼Á¨Ð¡ÅѺÁÒàÂÕèÂÁ ¾‹ÍáÁ‹º‹ÍÂæ ¹Ð¤ÃѺ
๑๖
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹
เฝารับใช ชวยรักษา ดับชีวา เวลาตาย
รวมความวา การเลี้ยงนํ้าใจพอแมก็คือการทําอยางไรก็ได ที่จะใหทานเกิดความเบิกบานใจ ไมทุกขกังวลเดือดรอนหรือไมสบายใจ เพราะการกระทําของเรา เพราะเราเปนตนเหตุ
àÅÕé§㨾‹ÍáÁ‹ µÍºá·¹·‹Ò¹·Õèà¤ÂàÅÕé§àÃÒÁÒ การเลี้ยงแบบหลังนี่สําคัญกวาการเลี้ยงรางกายมากนัก เพราะ พอแมนั้นแมจะกินอิ่มนอนอุนเพียงไร หากเกิดความไมสบายใจ ตองแอบ รองไหเพราะลูก ลูกไมเคยเอาตาดูเอาหูใส ไมเคยคํานึงถึงทาน แทบจะ ลืมวามีทา นอยูใ นโลกนีด้ ว ย หรือชอบทําตัวเหลวไหล ไมเชือ่ ฟงคําเตือน ชอบกอแตเรือ่ งวุน วายใหทา นกระทบกระเทือนจิตใจไมเวนแตละวัน เมือ่ เปนเชนนี้ เลีย้ งรางกายจะไดประโยชนอะไร เพราะใจไมเปนสุขเสียแลว แมจะกินก็กนิ ไมได แมนอนก็จะนอนไมหลับ แลวรางกายจะทนไหวหรือ
เลี้ยงจิตใจพอแมยากอยางนี้ แตก็สมควรแลวที่เราผูเปนลูกจะพึงเลี้ยงมิใชหรือ ตอนที่เราเปนเด็กเราดื้อก็เทานั้น โกงก็เทานั้น เอาใจยากสารพัด พอแมยังอดทนตามใจเรา เลี้ยงนํ้าใจเราจนเติบใหญมาได ทีเราจะเลี้ยงเอาใจทานบางมิไดเชียวหรือ
˹٨ÐàÍҢͧàÅ‹¹ ˹٨ÐàÍÒ á§ææ...
แตผทู จี่ ะเลีย้ งพอแมไดนนั้ กอนอืน่ ตองรูจ กั ธรรมดาของคนแกดว ย หากไมรูกันเสียกอนก็อาจจะเลี้ยงไมได หรือเลี้ยงไดไมนานนักก็จะเกิด ความเบื่อหนายชิงชังขึ้นมากลางคัน แลวจะบนวาคนแกเอาใจยากและ เลี้ยงยาก ºÃÔÉÑ· Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ ¨Ó¡Ñ´
๑๗
àÅÕ駾‹ÍáÁ‹´ŒÇ¤ÇÒÁࢌÒ㨠ÊØ¢Êѹµ ·Ñ駤Ãͺ¤ÃÑÇ ขึ้นชื่อวาคนแกแลวยอมเปนเหมือนๆ กันหมด เพราะเปน ธรรมดาของคนแก คือจูจี้ ขี้บน หลงลืม ขี้รําคาญ เห็นลูกเห็นหลาน ทําอะไรเปนขวางหูขวางตาไปหมด คือมักไมชอบใจไมถูกใจอยูรํ่าไป ทัง้ จะทําอะไรใหถกู ใจทานก็ยากดวย เพราะการปรับใจปรับอารมณของ คนแกนั้น ไมไวไฟเหมือนกับตอนเปนหนุมเปนสาวหรือตอนอายุยังนอย ทั้งนี้เพราะมีความคิดละเอียดสุขุมรอบคอบขึ้น ไมตกอยูในอารมณอื่น ไดงายๆ ดวยเหตุนี้แหละ คนรุนใหมจึงชอบคอนขอดคนเกาคนแกวา เปน “ไดโนเสาร” หรือเปน “เตาพันป” อะไรทํานองนี้ ก็จริงของเขา อยาไดไปวาเด็กเลย ¤ÇÒÁÊØ¢ÇÑÂÃØ‹¹ á¡‹áÅŒÇÍ‹ÒÁÒÂØ‹§¹‹Ò !!!
และก็จริงอีกเหมือนกัน ที่เด็กรุนใหมที่เคยคอนขอดคนแก วาเปนอยางนั้นอยางนี้มา พอตนเองแกตัวลงไป ความคิดความอานก็จะพลอยแกไปดวย แลวก็จะตกอยูในสถานะอยางที่ตัวเคยวา เคยคอนขอดเขามาแลวเชนกัน เปนมรดกตกทอดกันไป ทํานองวาแตเขาอิเหนาเปนเองนั่นแหละ ๑๘
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹
â΋§æ ·íÒÌҨԵ㨾‹ÍáÁ‹ ºÒ»Ë¹Ñ¡¹Ð
ࢌÒ㨤¹á¡‹ãËŒ¶‹Í§á·Œ ¨Ðä´Œ´ÙáÅ·‹Ò¹Í‹ҧÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ ที่วาควรรูจักคนแกใหดีก็คือ ควรรูธรรมชาติของคนแกวาเปน เช น นี้ พอรู แ ล ว จะได เ ห็ น ว า ที่ ค นแก จู จี้ ขี้ บ น หรื อ เอาใจยากนั้ น เปนธรรมดา ไมไดจริงจังอะไรนัก จะถือเอาเปนอารมณจนเกินไปไมได และอยาไดถือเปนจริงเปนจังจนถึงกับเมื่อเห็นทานทําอยางนั้น แลว พาลไปโกรธเคืองไมพอใจ หรือไปถกเถียงทานเลย การทําเชนนัน้ เทากับ เปนการเติมเชื้อไฟโกรธใหคนแกไปเสีย การเลี้ยงคนแกตองอดตองทน ทานก็บน ของทานไปตามเรือ่ งตามราว เอานิยายอะไรมากไมไดนกั หรอก
ทานวา จะเลี้ยงคนแกใหไดดีตองพก “พระปดทวาร” จึงจะเลี้ยงได การทีท่ า นใหพกพระปดทวารนัน้ ทานเปรียบใหเห็นวาตองทําตัว ใหเหมือนกับพระปดทวาร คือพระปดทวารนั้นทานปดอวัยวะรับรู อารมณทงั้ หมด ทานปดไวมดิ ชิดดีนกั คือทานปดตา ปดหู และปดปาก ไว ไมใหตาเห็น ไมใหหูไดยิน ไมใหปากพูด ที่ใหพกพระแบบนี้เขาไว เทากับทานแนะนําใหดูพระปดทวารเปนตัวอยางแลวทําอยางทานบาง คือ ใหปดหู ปดตา ปดปากบาง เพื่อใหจํางายๆ ถึงกับบอกไวเปน ตําราวา - ปดตาทั้งคู ปดหูสองขาง ปดปากเสียบาง นั่งนอนสบาย - เปดตาทั้งคู เปดหูสองขาง ไมปดปากเสียบาง เปนทุกขจนตาย ºÃÔÉÑ· Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ ¨Ó¡Ñ´
๑๙
àÅÕ駤¹á¡‹ ºÒ§¤ÃÑ駡経ͧ» ´µÒ » ´ËÙ » ´»Ò¡ คนเรานั้น บางครั้งแมตาจะไมบอดก็ตองทําเปนตาบอดเสียบาง แมหูไมหนวกก็ตองทําเปนหนวกบาง เพื่อปดกั้นอารมณภายนอกไมให เขามากระทบกระแทกใหกระเทือนใจได
เลี้ยงคนแกตองทําใจใหหนักแนน และบางครั้งก็ตองปดตา ปดหู ปดปาก อยางนี้จึงจะเลี้ยงทานได เมื่อทําได นอกจากจะเลี้ยงพอแมไดแลว ยังนั่งนอนสบาย ไมรําคาญใจ เมื่อไดเห็นเมื่อไดยินทานบนหรือทําไมถูกใจ เพราะหลงๆ ลืมๆ อีกดวย
¾‹ÍáÁ‹º‹¹ à¾ÃÒÐÃÑ¡áÅÐˋǧàÃÒ
โดยมากเห็นวานั่นเปนธรรมชาติเปนธรรมดาของคนแก ทาน จูจี้นักก็ทนฟงทานไปสักครู ทานเหนื่อยทานก็หยุดไปเอง ทานจะมา นั่งบนเราไดทั้งวันทั้งคืนเมื่อไหร ทานจะเอาแรงที่ไหนมา สําคัญตอนที่นั่งฟงอยูนั้น อยาใหพระปดทวารหลุดหายไปได เปนดี หากหลนหายเสียแคเปดหูเปดตาขึ้นมาก็พอทําเนา หากเปดปาก ขึ้นมาบาง คราวนี้แหละไฟประลัยกัลปเชียวละ ๒๐
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹
¾ÃÐ㹺ŒÒ¹·ÕèÂѧÁÕÅÁËÒÂ㨠ÊíÒ¤ÑÞ¡Ç‹Ò¾ÃÐÍ×è¹ã´ã¹âÅ¡ พระพุทธรูปและพระเครือ่ งองคเล็กๆ เราอุตสาหไปเชาไปซือ้ หามา ดวยราคาแพงๆ และลงทุนทําทีต่ งั้ ทีป่ ระดิษฐานทานไวอยางดี พรอมบูชา ดวยดอกไมธปู เทียนเปนประจําทุกวัน แมกอ นนอนก็กราบไหวสวดมนต ขอพรจากทานกอน จิตใจจึงสบาย นอนหลับดวยความเปนสุข ตื่นขึ้นมา ก็แชมชื่น หรืออยางพระสงฆ เราก็ใหความเคารพกราบไหวบูชาดวยดี ถวายขาว ถวายนํา้ และปจจัยอืน่ ๆ เพือ่ ใหทา นไดมกี าํ ลังทํากิจเพือ่ ดํารง พระศาสนาอันเปนหนาที่ของทานสืบไป เราบูชาพระกันมาอยางนี้
แตอยาลืมพระที่มีลมหายใจ คือ พอแมเสีย ควรบูชาทานบางตามสมควร ดวยการเลี้ยงทานทั้งทางรางกาย คือ ใหปจจัยสี่ดูแลความทุกขสุข ทํานองเอาตาดูเอาหูใสบาง ไมวางเฉยเสีย ¤‹Ð à´ÕëÂÇ˹ÙÃÕ º¡ÅѺÁÒ ä»·íÒ§Ò¹áÅŒÇËÃ× ÍÅÙ¡
·íÒÍÒËÒÃãËŒ¾‹ÍáÁ‹·Ò¹¹Ð¤Ð
ºÃÔÉÑ· Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ ¨Ó¡Ñ´
๒๑
ÅÙ¡·Õè´Õ ‹ÍÁÍÂÙã‹ ¹¡Ãͺ¤íÒÊ͹¢Í§¾‹ÍáÁ‹ äÁ‹¿˜§ äÁ‹¿˜§ äÁ‹ÍÂÒ¡¿˜§ !!!
·íÒäÁ·íÒẺ¹Õé
¾Ù´ÍÐäáç äÁ‹¿˜§¡Ñ¹àÅÂ
และดวยการเลี้ยงจิตใจทาน คือ พยายามทําตนใหดี เชื่อฟงอยูในกรอบโอวาท คําเตือนของทาน เรื่องใดที่จะนําความเสียใจ และกระทบกระเทือนใจมาสูทานก็ละเวนเสีย คําพูดคําจาที่จะพูดกับทานก็ตองระมัดระวัง เพราะคนแกนั้นใจนอย ตองรักษานํ้าใจของทานไวดวยคําพูด ที่นิ่มหู และฟงดูแลวไมเปนการกระทบกระทั่งทานวาเปนคนลาสมัย อยูไ ปก็เกะกะบานอะไรทํานองนี้ แมตวั จะอยูห า งไกลก็สง ขาวถึงทานบาง หรือหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนทานใหเห็นหนาเห็นตาบาง ไมปลอยทิ้งให ทานอยูอยางวาเหว นอนคิดถึงเราเพียงลําพัง ๒๒
ÊÇ´Á¹µ ¢Í¾ÃãËŒ¾ÃÐ㹺ŒÒ¹