สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม ทำง่าย ได้บุญสูงสุด

Page 1


โดย... ไพยนต์ กาสี บรรณาธิการ : ไพยนต์ กาสี น.ธ. เอก, ป.ธ. ๖, พธ.บ., น.บ. ออกแบบปก/รูปเล่ม : เสาวณีย์ เที่ยงตรง ภาพประกอบเรื่อง : อนันต์ กิตติกนกกุล, เทิดเกียรติ ปลูกปานย้อย พิมพ์ข้อมูล : ธนวรรณ ขันแข็ง พิสูจน์อักษร : มานิตย์ กองษา


ทำ�ปัจจุบันกรรมให้ดี

ลดแรงกรรมในอดีต เป็นหลักประกันชีวิตในอนาคต บรรดาเรื่องเกี่ยวกับความเป็นไปของชีวิต เรื่องยอดฮิตเรื่องหนึ่งซึ่ง เป็ น ที่ ส นใจใคร่ รู้ แล้ ว จึ ง นำ � ไปสู่ ก ารนิ ย มปฏิ บั ติ ต ามที่ ต นได้ รั บ คำ � แนะนำ � คือเรื่องสะเดาะเคราะห์แก้กรรม ทำ�ไมเป็นเช่นนั้น นั่นคงเป็นเพราะวิถีชีวิต ปุถุชนนั้นมีการทำ�กรรมกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ยามทำ�กรรมดี ก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าใครทำ�กรรมชั่วไว้มักมีเรื่องให้ร้อนใจตลอดเวลา แม้บางคราจะไม่ถูก จับได้หรือไม่มีใครรู้เห็น แต่ก็เป็นเหตุให้ผู้ทำ�เดือดร้อนนอนทุกข์อยู่ดี อุบายวิธีต่างๆ ที่นำ�มาเขียนในหนังสือเล่มนี้นั้น ขั้นต้นผู้เรียบเรียง ประสงค์ให้ท่า นผู้ อ่ านได้ วางใจให้ เ ป็ น อุ เ บกขาธรรม ด้วยการนำ � ข้อคิดไป พินิจพิจารณาด้วยตนเอง จนเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ในสิ่งที่แนะไว้ ก็จะ ช่วยให้ท่านเกิดพลังศรัทธา ความเชื่อมั่นในการทำ�สิ่งดีงาม, พลังปัญญา ความเข้าใจในทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นแก่ชีวิตนั้นว่าล้วนเป็นไปตามเหตุปัจจัย แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เรียบเรียงอยากให้ความมั่นใจคือว่า ข้อแนะนำ�ที่กล่าวไว้ ในเล่มนี้ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า กุศลธรรม คือ แนะให้ทำ�สิ่งดีในปัจจุบัน เพราะกรรมดีในปัจจุบันเป็นกัลยาณมิตรที่สุด ที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจาก ความทุกข์ท่ีรุมเร้าชีวิตของเราได้ ดังคำ�ที่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่านกล่าวว่า “จงจำ�ไว้ลูกเอ๋ย กรรมที่ทำ�ด้วยเจตนาไม่ว่าดีหรือชั่ว ย่อม มี ผ ลต่ อ ตั ว ผู้ ทำ � ไม่ มี พ รหมเทพองค์ ใ ดจะช่ ว ยเจ้ า ได้ เจ้ า ต้ อ ง ช่วยเหลือตัวเอง ด้วยการสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตา ผลแห่งบุญอัน เป็นปัจจุบันนี้จะช่วยเจ้าเอง” ด้วยดวงจิตประสงค์ให้ทุกท่านพ้นเคราะห์ภัย น.ธ.เอก, ป.ธ. ๖, พธ.บ., น.บ. บรรณาธิการสำ�นักพิมพ์ แอล ซี พี เด็กดีมีบุญ


สารบัญ แก้กรรมทำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทำ�ด้วยตัวเอง

ทำ�กุศลความดีให้มากไว้ ลดแรงกรรมร้ายในอดีต สร้างบุญใหม่ให้ชีวิต ๘ รู้ทันเคราะห์ สะเดาะเรื่องร้ายให้หายไป ๙ รู้อย่างไรว่ามีเคราะห์ดี-ร้าย ในชะตาชีวิต ๑๐ รู้เคราะห์ล่วงหน้าจากดวงชะตาวันเกิด ๑๑ ชะตาชีวิตผู้เกิดวันอาทิตย์ ๑๒ ชะตาชีวิตผู้เกิดวันจันทร์ ๑๓ ชะตาชีวิตผู้เกิดวันอังคาร ๑๔ ชะตาชีวิตผู้เกิดวันพุธ (กลางวัน) ๑๕ ชะตาชีวิตผู้เกิดวันพฤหัสบดี ๑๖ ชะตาชีวิตผู้เกิดวันศุกร์ ๑๗ ชะตาชีวิตผู้เกิดวันเสาร์ ๑๘ ชะตาชีวิตผู้เกิดวันพุธ (กลางคืน) ๑๙ อานุภาพดาวพระเคราะห์ ก่อความทุกข์ร้อนให้นั้น เชื่อกันได้แค่ไหน ๒๐ สิโสรชาดก ๒๑ ทัศนะในพระพุทธศาสนา มีท่าทีต่อเรื่องเคราะห์นี้ไว้อย่างไร ? ๒๕ บูชาเทวดาพระเคราะห์ ผิดหลักพระพุทธศานาหรือไม่ ? ๒๖ บูชาคุณธรรมผู้มีความดี ชีวิตก็ย่อมจะมีแต่สิ่งอันเป็นมงคล ๒๗ รู้ทันกรรมมากเท่าไร ได้รู้ทันตัวเองมากเท่านั้น ๒๘ มีเจตนาทำ� พูด คิด สัมฤทธิ์ผลกรรม ๓๐ ทาง ๓ สาย ที่ใช้ก่อกรรม ๓๑ เพราะทำ�ชั่ว-ดี สัตว์โลกจึงมีความแตกต่าง ๓๒ วิธีลดเคราะห์กรรม ตามแนวทางพระพุทธศาสนา ๓๖


ทัศนะพระสงฆ์ไทย ให้กำ�ลังใจผู้เคยก่อกรรม ๔๒ เรียนผูก ก็ต้องเรียนแก้ แม้ท�ำ กรรมไว้ ก็ต้องแก้ไขเอง ๔๕ กรรมเกี่ยวกับคนในครอบครัว ๔๗ กรรมที่ท�ำ ให้เกิดในครอบครัวไม่รักกัน ๔๘ กรรมที่ทำ�ให้ครอบครัวแตกแยก ๔๙ กรรมที่ทำ�ให้ไม่มีลูก ๕๐ กรรมที่ทำ�ให้มีลูกเกเรไม่เชื่อฟัง ๕๑ กรรมที่ทำ�ให้มีลูกติดอบายมุข ๕๒ กรรมจากการทำ�แท้ง ๕๓ กรรมที่ทำ�ให้ไม่มีคู่ครอง ๕๕ กรรมที่ทำ�ให้ได้คู่ครองไม่ด ี ๕๖ กรรมที่ทำ�ให้ได้สามี-ภรรยาเจ้าชู ้ ๕๗ กรรมที่ทำ�ให้ต้องเป็นเมียน้อย ๕๘ กรรมที่ทำ�ให้ต้องอยู่อย่างเดียวดาย ๕๙ กรรมที่ทำ�ให้ต้องย้ายถิ่นฐานบ่อย ๖๐ กรรมเกี่ยวกับสังคม-เศรษฐกิจ ๖๑ กรรมที่ท�ำ ให้ชีวิตไม่ก้าวหน้า ๖๒ กรรมที่ทำ�ให้พบแต่ความล้มเหลว ๖๓ กรรมที่ทำ�ให้ตกงานบ่อยครั้ง ๖๔ กรรมที่ทำ�ให้ถูกนินทาใส่ร้าย ๖๕ กรรมที่ทำ�ให้ไม่มีเสน่ห์น่ารักใคร่ ๖๖ กรรมที่ทำ�ให้ลำ�บากในการเดินทาง ๖๗ กรรมที่ทำ�ให้ขัดสน อดมื้อ กินมื้อ ๖๘ กรรมที่ทำ�ให้เกิดเป็นคนรับใช้ ๖๙ กรรมที่ทำ�ให้ค้าขายขาดทุนตลอด ๗๐ กรรมที่ทำ�ให้ถูกคดโกงเอาเปรียบ ๗๑ กรรมที่ทำ�ให้เดือดร้อน เสียทรัพย์ไฟไหม้บ้าน ๗๒ กรรมเกี่ยวกับสุขภาพกาย-ใจ ๗๓ กรรมที่ท�ำ ให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ๗๕ กรรมที่ทำ�ให้เป็นโรคมะเร็ง ๗๖


กรรมที่ท�ำ ให้ปวดศีรษะ ๗๗ กรรมที่ท�ำ ให้เป็นโรคเบาหวาน ๗๘ กรรมที่ท�ำ ให้เป็นโรคตา, ตาบอด ๗๙ กรรมที่ทำ�ให้มีกลิ่นปาก, กลิ่นตัว ๘๐ กรรมที่ท�ำ ให้เป็นโรคผิวหนัง ๘๑ กรรมที่ท�ำ ให้พบอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ๘๒ กรรมที่ท�ำ ให้ต้องพิการ ๘๓ กรรมที่ท�ำ ให้เป็นโรคจิต คิดฟุ้งซ่าน ๘๔ กรรมที่ท�ำ ให้เป็นโรคหัวใจ ๘๕ กรรมที่ท�ำ ให้เจ็บป่วยเรื้อรัง ๘๖ ปล่อยสัตว์สลัดเคราะห์กรรม ๘๗

สวดมนต์แก้กรรมให้จางหาย เสริมบุญบารมีให้ชีวิตเป็นสุข

สวดพระพุทธมนต์ กุศลพิธีช่วยให้พ้นเคราะห์กรรม ๙๐ สวดมนต์ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ตั้งจิตใจแก้ไขเคราะห์กรรม ๙๕ บทบูชาพระรัตนตรัย, บทกราบพระรัตนตรัย ๙๖ บทชุมนุมเทวดา ๙๗ คำ�สมาทานศีล ๕ ๙๘ บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า, บทขอขมาพระรัตนตรัย ๙๙ บทไตรสรณคมน์ ๑๐๐ บทสรรเสริญพระพุทธคุณ, บทสรรเสริญพระธรรมคุณ ๑๐๑ บทสรรเสริญพระสังฆคุณ ๑๐๒ สวดพุทธชัยมงคลคาถา นำ�พาพ้นเคราะห์กรรม ๑๐๓ บทพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง) ๑๐๔ บทชัยปริตร (มหากา) ๑๐๗ บทอิติปิ โส เท่าอายุ + ๑ ๑๐๘ สวดคาถาชินบัญชร ลดทอนแรงเคราะห์กรรมร้าย ๑๐๙ พระคาถาชินบัญชร ๑๑๐ สวดเมตตาพรหมวิหาร ต้านทานแรงเคราะห์กรรม ๑๒๑ คาถาเมตตาพรหมวิหาร ๑๒๕


สวดโพชฌังคปริตร พิชิตโรคเวรกรรม โพชฌังคปริตร อาฏานาฏิยปริตร สวดมนต์ให้จิตสงบเย็น เป็นหนทางดึงดูดโลกุตรทรัพย์ โลกิยทรัพย์ อริยธนคาถา คาถาหัวใจเศรษฐี สร้างเสน่ห์ด้วยการสวดมนต์ ดลให้พบความหมายของรักแท้ คาถาปลูกรักให้สมหวัง, คาถาเมตตามหาเสน่ห์ เลือกคู่ ใช้ชีวิตคู่อย่างไรให้สุขสมหวัง สวดมนต์แผ่เมตตาแก่บุตรที่ท�ำ แท้ง ลดแรงอาฆาต ให้กลับชาติมาเกิดเป็นลูกใหม่ ปัตติทานคาถา กะระณียะเมตตะสูตร สวดมนต์แก้เคราะห์กรรมตามวันเกิด คาถาบูชาผู้เกิดวันอาทิตย์ คาถาบูชาผู้เกิดวันจันทร์ คาถาบูชาผู้เกิดวันอังคาร คาถาบูชาผู้เกิดวันพุธ (กลางวัน) คาถาบูชาผู้เกิดวันพุธ (กลางคืน) คาถาบูชาผู้เกิดวันพฤหัสบดี คาถาบูชาผู้เกิดวันศุกร์ คาถาบูชาผู้เกิดวันเสาร์ เทวะตาอุยโยชะนะคาถา สัพพะมงคลคาถา ทำ�สมาธิภาวนา แผ่เมตตาอุทิศบุญ บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง, บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ บทแผ่ส่วนกุศล บทอธิษฐานจิตอโหสิกรรมต่อกัน, บทกรวดน้ำ�ให้เจ้ากรรมนายเวร บทอธิษฐานจิตตั้งความปรารถนา

๑๒๙ ๑๓๑ ๑๓๒ ๑๓๓ ๑๓๕ ๑๓๖ ๑๓๗ ๑๓๙ ๑๔๐ ๑๔๑ ๑๔๒ ๑๔๓ ๑๔๔ ๑๔๕ ๑๔๖ ๑๔๗ ๑๔๘ ๑๔๙ ๑๕๐ ๑๕๑ ๑๕๒ ๑๕๓ ๑๕๔ ๑๕๖ ๑๕๗ ๑๕๘ ๑๕๙


แก้ผลของเคราะห์กรรม แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แต่ก็ไม่เหลือวิสัยจนเกินไปนัก หากยังมีส�ำ นึกรักดี และรู้วิธีแก้ไข

แก้กรรมทำ�ได้

แต่ต้องตั้งใจทำ�ด้วยตัวเอง


ทำ�กุศลความดีให้มากไว้ ลดแรงกรรมร้ายในอดีต สร้างบุญใหม่ให้ชีวิต สมัยที่ผู้เรียบเรียงยังเรียนนักธรรมชั้นเอก ในวิชาธรรมวิจารณ์ มี พระพุทธพจน์บทหนึ่ง ซึ่งเป็นหลักสูตรให้ท่องจำ�เพื่อนำ�ไปสอบว่า

อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา อกตํ ปาปํ สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ

อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ นาญฺโ อญฺํ วิโสธเย.

แปลว่า “ผู้ท�ำ บาปเอง ย่อมเศร้าหมองเอง ไม่ท�ำ บาปเอง ย่อม บริสุทธิ์เอง ความบริสุทธิ์ หรือความเศร้าหมอง เป็นของเฉพาะตน คนอื่นจะยังคนอื่นให้บริสุทธิ์หาได้ไม่” จากคำ�ข้างต้นแสดงให้เห็นว่า กรรมเป็นของผู้ทำ�นั่นเอง เพียงแต่ กรรมดี ก็ให้ผลเป็นความบริสุทธิ์ผ่องใส กรรมชั่ว ให้ผลเกิดความ เศร้าหมองใจในทุกคราที่นึกถึง ทรงยำ้�อีกว่า เมื่อเป็นเรื่องเฉพาะตน คนที่อยากพบความบริสุทธิ์สดใส ต้องลงมือแก้ไขด้วยตนเองเท่านั้น การแก้ไขความทุกข์เดือดร้อนที่เกิดจากกรรม โดยเฉพาะในส่วน กรรมชั่วปัจจุบันที่ท่านรู้สำ�นึกได้ว่าเคยทำ�ผิด เมื่อคิดจะแก้ไข ก็ใช้การ กระทำ�ปัจจุบันนี่แหละเข้าไปแก้ โดยแปรเปลี่ยนให้เป็นคนทำ�ดี พูดดี คิดดี นี่..! เป็นวิธีแก้เคราะห์กรรมตามพุทธวิธีอย่างจริงแท้ ดังนั้น วิธีแก้เคราะห์กรรมที่ได้นำ�เสนอไว้นี้ ผู้เรียบเรียงมุ่งหวังที่ จะจุดประกายให้ท่านมีแนวคิด พลิกวิกฤติ เป็นโอกาส พร้อมทั้งให้มี ความไม่ประมาท ในทุกขณะการดำ�เนินชีวิต เพื่อลิขิตตนให้รอดพ้นจาก การถูกแรงกรรมตามทัน แต่จะเกิดประโยชน์โสตถิผลแก่ท่านอย่างเต็มที่ นั้น ก็ควรมีความเข้าใจ และรู้เท่าทันในเรื่องของเคราะห์กรรมไว้เป็น เกราะป้องกันภัยในเบื้องต้นน่าจะเป็นการดี 8

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


รู้ทันเคราะห์ สะเดาะเรื่องร้ายให้หายไป พระอาทิตย์ ๖

พระจันทร์ ๑๕

พระอังคาร ๘

เทวดา พระเคราะห์ พระศุกร์ ๒๑ พระราหู ๑๒

ประจำ�วันเกิด

พระพุธ ๑๗ พระเสาร์ ๑๐

พระพฤหัสบดี ๑๙

คำ�ว่า “เคราะห์” พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒ ให้ความหมายว่า “สิ่งที่นำ�ผลมาให้โดยไม่คาดหมาย เช่น เคราะห์ดี เคราะห์ร้าย โดยมากนิยมใช้ทางไม่ดี เช่น มีเคราะห์, ฟาดเคราะห์” จากคำ�นิยามข้างต้น ถ้าเป็นเรื่องในทางร้ายๆ ที่เรียกกันว่า ความซวย ซึ่ง ไม่อยากให้มันเกิดมี หรือที่ไม่อยากประสบ แต่มันก็มีเหตุให้เกิดพบเจอ จนได้ เราก็มักยกให้เป็นผลงานของเคราะห์ว่าเข้ามาเล่นงานเอา แล้ว เจ้าเคราะห์ที่ว่ามันเกิดมีมาแต่สาเหตุใด ในตำ�ราโหราศาสตร์กล่าวว่า ดวงชะตาชีวิตของคนมีอิทธิพล จากดาวพระเคราะห์ประจำ�วันเกิดของตน และดาวอืน่ ทีเ่ ข้ามาเสวย หรือ แทรกในแต่ละช่วงอายุ ซึ่งมีทั้งที่เป็นศุภเคราะห์ เคราะห์ดี ส่งผลให้ เจ้าดวงชะตามีความสุข หรือเป็นปาปเคราะห์ เคราะห์ร้าย ในทำ�นองที่ เรียกว่า ฆาฏ ทำ�ให้เกิดทุกข์โทษแก่เจ้าของชะตาต้องพบกับความทุกข์ยาก ลำ�บากมากมาย เช่น เกิดเจ็บไข้ได้ป่วย บางทีทำ�ให้ซวยเป็นอันตรายถึง ชีวิตได้ *ภาพเทวดา วาดโดย... ธนรัตน์ ไทยพานิช ฝ่ายศิลปกรรมสำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียงฯ สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

9


รู้อย่างไรว่ามีเคราะห์ดี-ร้าย ในชะตาชีวิต ดวงดิฉันเป็น ยังไงบ้างคะคุณหมอ

เคราะห์ดี เคราะห์ร้ายที่เกิดในชีวิต พระพุทธศาสนากล่าวว่า คนเราทำ�ดี-ชั่ว เมื่อไร ? เคราะห์ดี-ร้าย ก็เกิดกับเราตามสิ่งที่ทำ�นั้น นี่เป็นสิ่งที่เรารู้เห็นได้เฉพาะในส่วนที่เป็นปัจจุบัน แต่เมือ่ เรายังเป็นปุถชุ น ไม่อาจรูถ้ งึ การกระทำ�ในอดีตชาติของตน ว่าเคยทำ�เหตุดีหรือร้ายประการใดมาบ้างจึงมีชะตาชีวิตแบบนี้ ดังนั้น การหาความรู้จากศาสตร์แขนงอื่นไว้บ้าง ก็น่าจะเป็นทางออกให้ชีวิต ได้อีกอย่างหนึ่ง ดังคำ�ที่ว่า รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม โบราณาจารย์ ที่มีความเชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์ ท่านได้กล่าว ทำ�นายทายทักเรื่องชะตาชีวิตคนในลักษณะต่างๆ มากมาย ทั้งทางดีและ ร้ายเอาไว้ แต่กระนั้น เรื่องต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น บางเหตุการณ์อาจรู้กัน ล่วงหน้าได้ เช่น ทำ�นายเคราะห์จากดวงชะตาชีวิตตามวันเกิด, จาก ความฝัน จากลางสังหรณ์ต่างๆ เป็นต้น ดูอย่างคนบางคนเวลาจะเกิด อุปัทวเหตุนั้น ก็มักจะฝันถึงเรื่องที่ทำ�ให้เกิดความไม่สบายใจ ในบางราย ก็มีลางสังหรณ์แปลกๆ ให้รู้เห็นเหมือนกับมาเตือนให้รู้ล่วงหน้า ยิง่ ถ้าเป็น ท่านผู้จิตบริสุทธิ์ผุดผ่องใสห่างไกลกิเลสนั้น ถึงขั้นกำ�หนดรู้วันตายของตน ได้ล่วงหน้า ดังเช่นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เป็นต้น 10

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


รู้เคราะห์ล่วงหน้าจากดวงชะตาวันเกิด พ่อจะเลี้ยงให้ หนูเป็นคนดีด้วย เกิดเวลา ตกฟากดีนี่

ธรรมดาชะตาชีวิตคนเรานั้น บางครั้งก็ดี บางทีก็ร้าย ถ้ามองในแง่ ของพระพุทธศาสนาถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาชีวิต เพราะคนเราหนีไม่พ้น เรื่องโลกธรรม หมายถึง สิ่งที่มีอยู่ประจำ�โลก ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่า จะต้องการหรือไม่ต้องการก็ตาม

โลกธรรม อันสิ่งธรรมดาสามัญที่ว่านั้นมีอยู่ ๘ อย่างคือ มีสุข

มีทุกข์ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา คละเคล้า กันไป บุญมีมาก เคราะห์กรรมก็มีน้อย บุญมีน้อย เคราะห์กรรมก็มีมาก ฉะนัน้ ชีวติ คนเราจึงมีกรรมเก่า หรือผลกรรมทีท่ �ำ ไว้ในชาติกอ่ นมาส่งผลให้ ทุกคนได้ชดใช้อยู่เสมอไป จึงอยากให้ท่านทั้งหลายอย่าได้มีความประมาท จะได้ไม่พลาดโอกาสทำ�กรรมดีให้มากไว้ อย่างไรก็ตามโหราจารย์ ได้ทำ�นายทายทักถึงความเป็นไปได้ ของชีวิตของผู้เกิดในแต่ละวันเป็นสถิติไว้ สรุปเป็นคำ�ทำ�นายชะตาชีวิต ตลอดถึงช่วงอายุของผู้เกิดวันนั้น ว่าเมื่อมีอายุเท่านี้ จะมีเหตุการณ์ดีหรือ ร้ายประการใดได้อย่างน่าอัศจรรย์ พร้อมทั้งได้มีการกำ�หนดเทวดาประจำ� วันเกิดของแต่ละบุคคลไว้บูชาสะเดาะเคราะห์ ดังต่อไปนี้ สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

11


ชะตาชีวิตผู้เกิดวันอาทิตย์ เทวดาพระอาทิตย์

ตามตำ�นานว่าเกิดจากราชสีห์ ๖ ตัว มีสีแดงเป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ฝ่ายเข้มแข็ง เป็นธาตุไฟ ประจำ�อยู่ ทิศตะวั น ออกเฉียงเหนือ เพื่อรักษาพระพุทธรูปปางถวายเนตร ด้วย อิทธิพลดาวพระเคราะห์ประจำ�วัน ทำ�ให้เจ้าชะตามีพื้นฐานดวง ดังนี้ ในส่วนเคราะห์ดี ที่เรียกว่า “โชควาสนา” คือ ท่านว่าเป็นคน มีบุคลิกสง่าผ่าเผยน่านับถือ มีความมั่นใจในตัวเอง รักความก้าวหน้า มีสติปญ ั ญาเฉียบแหลม รูจ้ กั การวางตัวในสังคมจึงเป็นคนมีเสน่ห์ ทำ�ให้ มีผู้คบหามาก โดยเฉพาะในสายตาผู้ใหญ่จะชอบใจเป็นพิเศษ ทำ�ให้ ผู้เกิดวันนี้มีเส้นดวงอุปถัมภ์ดี มีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน แต่ในส่วนเคราะห์กรรม ที่เรียกว่า “โชคร้าย” คือ อาภัพในการ พึ่งพาญาติพี่น้อง ถึงมีก็เหมือนไม่มี เป็นคนทําคุณคนไม่ขึ้น หากมองในแง่ ของกรรมเก่า เคราะห์นี้เกิดจากการเคยอกตัญญูต่อผู้มีคุณ ทรยศหักหลัง คนอื่นมาก่อน, ชอบเชื่อคําพูดของผู้อื่นโดยไม่พิจารณาให้รอบคอบถ้วนถี่ จึงมักมีความทุกข์ความเดือดร้อนจากผู้อื่น ระวังในช่วงอายุ ๒๑,๒๕-๒๗ ปี จะมีเคราะห์ร้ายที่เกิดจากการใช้คำ�พูด 12

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


ชะตาชีวิตผู้เกิดวันจันทร์

เทวดาพระจันทร์

ตามตำ�นานว่า เกิดจากนางฟ้า ๑๕ ตน มีสีขาวเหลืองนวลเป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ฝ่ายอ่อนโยน เป็นธาตุดิน ประจำ � อยู่ ทิ ศ ตะวั น ออก เพื่ อ รั ก ษาพระพุ ท ธรู ป ปางห้ า มพยาธิ ด้ ว ย อิทธิพลดาวพระเคราะห์ประจำ�วัน ทำ�ให้เจ้าชะตามีพื้นฐานดวง ดังนี้ ส่วนเคราะห์ดี ทีเ่ รียกว่า “โชควาสนา” คือ ท่านว่าเป็นผูม้ รี ปู สมบัติ งดงามทั้งชายและหญิง กิริยามารยาทเรียบร้อย พูดจามีเหตุผล เป็น คนมีความมานะพยายาม ความคิดกว้างไกล และจริงใจต่อทุกคน แต่ในส่วนเคราะห์กรรม ทีเ่ รียกว่า “โชคร้าย” คือ จะเป็นคนอาภัพ ต้องกำ�พร้า พึ่งพาญาติพี่น้องไม่ค่อยได้ กับทั้งมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน เคราะห์กรรมนี้ถ้ามองในแง่ของกรรมเก่า มีผลมาจากการเคยฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์มามาก ทำ�ให้มีโรคภัย และแม้จะเป็นผู้หาเงินได้คล่อง แต่ มักจะเก็บไว้ไม่อยู่ ระวังในช่วงอายุย่าง ๓๑ ปี จะมีเคราะห์ร้ายมีเรื่อง ให้เสียทรัพย์ ระมัดระวังเรื่องอัคคีภัย

สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

13


ชะตาชีวิตผู้เกิดวันอังคาร เทวดาพระอังคาร ตามตำ�นานว่า เกิดจากกระบือ ๘ ตัว

มีสีชมพูเป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ฝ่ายเข้มแข็ง เป็นธาตุลม ประจำ� ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรักษาพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ด้วยอิทธิพล ดาวพระเคราะห์ประจำ�วัน ทำ�ให้เจ้าชะตามีพื้นฐานดวง ดังนี้ ในส่วนเคราะห์ดี ที่เรียกว่า “โชควาสนา” คือ ท่านว่ามักจะ เป็นผู้ที่มีจิตใจกล้าหาญ ทรหดอดทน จิตเป็นกุศลศรัทธา ไม่ค่อยมี โรคาพาธเบี ย ดเบี ย น มี มิ ต รสหายมาก กล้ า เผชิ ญ ความลำ � บากใน การก่อร่างสร้างตัว ทำ�ให้มีความสบายในบั้นปลายชีวิต แต่ในส่วนเคราะห์กรรม ที่เรียกว่า “โชคร้าย” คือ ไม่ค่อยได้รับ ความจริงใจจากใครแม้จะมีมติ รสหายมาก หรือแม้แต่ญาติพนี่ อ้ งของตัวเอง ก็ตาม เคราะห์กรรมที่นำ�ไปสู่ความโชคร้ายจากการกระทำ�ของตัวเอง คือ ผู้เกิดวันนี้มักเป็นคนอวดดื้อถือรั้น ไม่ค่อยฟังคำ�เตือนใคร อารมณ์ร้อน หุนหันพลันแล่น หลงใหลในอบายมุข ระวังช่วงอายุได้ ๑๕, ๓๐, ๔๐ ปี จะมีเคราะห์ร้ายเรื่องโรคภัย ถูกใส่ความให้เสียทรัพย์สินเงินทอง คนเคย เป็นมิตรต้องกลายเป็นศัตรู 14

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


ชะตาชีวิตผู้เกิดวันพุธ (กลางวัน)

เทวดาพระพุธ (เกิดช่วงเวลา ๐๖.๐๐-๑๘.๐๐ น.) ตำ�นานว่า

เกิดจากคชสาร ๑๗ เชือก มีสีเขียวใบไม้เป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ ฝ่ายอ่อนโยน เป็นธาตุน้ำ� ประจำ�อยู่ทิศใต้ เพื่อรักษาพระพุทธรูปปางอุ้ม บาตร ด้วยอิทธิพลดาวพระเคราะห์ประจำ�วัน ทำ�ให้เจ้าชะตามีพน้ื ฐานดวง ดังนี้ ในส่วนเคราะห์ดี ที่เรียกว่า “โชควาสนา” คือ ท่านว่ามักเป็น ผูท้ ม่ี เี สน่ห์ มีความหนักแน่นมัน่ คง เพราะสร้างจากคชสาร มีความเพียรดี มีความรอบรู้ในกิจการงานทุกอย่าง กับทั้งเข้ากับผู้อื่นได้ดี เป็นคนมี มนุษยสัมพันธ์ มักจะจากสถานที่เกิดเดิมไปได้รับความเจริญในที่อื่น แต่ในส่วนเคราะห์กรรม ที่เรียกว่า “โชคร้าย” คือ ไม่ค่อยมีญาติ พี่น้อง ถึงมีก็พึ่งพาไม่ค่อยได้, อุปนิสัยที่จะนำ�เคราะห์ภัยมาสู่ตัวคือ เป็น คนมักง่าย ทำ�อะไรไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ และชอบเอาเปรียบ ผูอ้ น่ื ถ้าแก้ไขได้จะเจริญก้าวหน้ากว่าทีเ่ ป็นอยู,่ มักเป็นคนพูดจาตรงเกินไป โดยขาดการไตร่ตรอง เป็นประเภทปากร้ายใจดี ต้องระมัดระวังเรือ่ งการใช้ คำ�พูดให้ดีจะได้ไม่มีเรื่องเดือดร้อน ระวังในช่วงอายุ ๕๕ ปี จะมีเคราะห์ ร้ายถูกใส่ความ หญิงผิวขาวจะนำ�เคราะห์มาให้ สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม 15 ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด


ชะตาชีวิตผู้เกิดวันพฤหัสบดี เทวดาพฤหัสบดี ตำ�นานว่าเกิดจากฤาษี ๑๙ องค์ มีสีเหลือง

เป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ฝ่ายอ่อนโยน เป็นธาตุดิน ประจำ �อยู่ทิศ ตะวันตก เพื่อรักษาพระพุทธรูปปางสมาธิ ด้วยอิทธิพลดาวพระเคราะห์ ประจำ�วัน ทำ�ให้เจ้าชะตามีพื้นฐานดวง ดังนี้ ในส่วนเคราะห์ดี ที่เรียกว่า “โชควาสนา” คือ ท่านว่ามักจะ เป็นผู้มีความรอบรู้ และมีสติปัญญา สนใจศึกษาหาความรู้ใส่ตน เป็น คนโอบอ้อมอารีย์ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มีคุณ ผู้ใหญ่ให้ความอุปถัมภ์ แต่ในส่วนเคราะห์กรรม ที่เรียกว่า “โชคร้าย” คือ ตอนเด็กจะ ลำ�บากต้องพลัดพรากจากถิน่ ฐานทีอ่ ยู,่ แม้จะมีเพือ่ นฝูงมากแต่เวลาลำ�บาก กลับหนีหายไม่มีใครช่วยเหลือ ดังนั้น จะช่วยใครก็เลือกให้ดีมิเช่นนั้นจะ เข้าตำ�รา เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด, เป็นคนที่ติดจะโมโหร้ายสักหน่อยต้อง คอยระวังอารมณ์ของตนให้มากไว้, ในชีวิตจะมีคดีความถึง ๓ หน หาก ประพฤติตนในทำ�นองคลองธรรมก็จะพ้นเคราะห์นไี้ ด้, และเคราะห์อกี อย่าง คือเป็นคนเจ้าชู้ ทำ�ให้มีปัญหาในชีวิตคู่หย่าร้างกันได้ ระวังในช่วงอายุ ๕๐ ปี จะมีเคราะห์ร้ายเกิดความเจ็บไข้ หรือเสียของรัก 16

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


ชะตาชีวิตผู้เกิดวันศุกร์

เทวดาพระศุกร์

ตามตำ�นานว่า เกิดจากคาวีโค ๒๑ ตัว มีสี นำ้�เงินคราม หรือสีประภัสสรเป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ฝ่ายอ่อนโยน เป็นธาตุน�ำ้ ประจำ�อยูท่ ศิ เหนือ เพือ่ รักษาพระพุทธรูปปางรำ�พึง ด้วยอิทธิพล ดาวพระเคราะห์ประจำ�วัน ทำ�ให้เจ้าชะตามีพื้นฐานดวง ดังนี้ ในส่วนเคราะห์ดี ที่เรียกว่า “โชควาสนา” คือ ท่านว่าเป็นผู้มี จิตใจใฝ่สูง มีความทะเยอทะยาน ขยันอดทน จิตใจซื่อตรง มีเมตตา ชอบสนุกสนาน พูดจาโวหารคมคาย เบื้องต้นชีวิตแม้จะขัดสนลำ�บาก แต่บั้นปลายชีวิตจะสุขสบาย แต่ในส่วนเคราะห์กรรม ที่เรียกว่า “โชคร้าย” คือ ในวัยต้นของ ชีวิตจะมีความลำ�บาก อาจต้องพลัดพรากจากพ่อจากแม่และที่อยู่อาศัย ให้อดทนหาความรู้ใส่ตัวให้มากไว้จะสุขสบายภายหน้า เคราะห์นี้ถ้ามอง ในแง่กรรมเก่า ท่านว่าเป็นคนทำ�บุญด้วยความไม่เต็มใจ ต่อเมื่อทำ�ไปแล้ว ถึงจะยินดีในภายหลังทำ�ให้ได้รบั ผลดีชา้ เคราะห์ทเี่ กิดจากอุปนิสยั เป็นคน ใจน้อย เอาแต่ใจตัวเอง มักมากในกามารมณ์ทำ�ให้ต้องเดือดร้อนวุ่นวาย ในชี วิ ต ต้ อ งพบเคราะห์ ใ หญ่ ๒ ครั้ ง ระวั ง ในช่ ว งอายุ ๑๑ ปี จะมี เคราะห์ร้ายเกิดความเจ็บไข้ สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

17


ชะตาชีวิตผู้เกิดวันเสาร์ เทวดาพระเสาร์ ตามตำ�นานว่า เกิดจากพยัคฆ์เสือ ๑๐ ตัว

มีสีดำ�เป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ฝ่ายเข้มแข็ง เป็นธาตุไฟ ประจำ�อยู่ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อรักษาพระพุทธรูปปางนาคปรก ด้วยอิทธิพล ดาวพระเคราะห์ประจำ�วัน ทำ�ให้เจ้าชะตามีพื้นฐานดวง ดังนี้ ในส่วนเคราะห์ดี ที่เรียกว่า “โชควาสนา” คือ ท่านว่ามักจะ เป็นผู้มีบุคลิกงามสง่าน่าเกรงขาม มีอำ�นาจบารมีในตัว มีความคิด ความตั้งใจสูง ทำ�อะไรทำ�จริง เชื่อมั่นในตัวเอง แต่มีความรอบคอบ รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว มีเพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา หาเงินได้คล่อง แต่ในส่วนเคราะห์กรรม ที่เรียกว่า “โชคร้าย” คือ เป็นคนมี โทสะกล้า อารมณ์ฉุนเฉียว เนื่องจากถูกสร้างขึ้นจากเสือโคร่ง ผู้เกิดวันนี้ ควรฝึ ก เมตตากรรมฐานไว้ ใ ห้ ม าก จะได้ มี ส ติ ยั บ ยั้ ง ในเวลาโกรธ เมื่ อ แรกเกิดนั้นบิดามารดามักจะมีเหตุกระทบกระทั่งกัน ภายหลังจึงจะเป็น ปกติสุข ถ้าเป็นชายแล้วได้บวชดีจะมีผู้นับถือมาก ถ้าเป็นสตรีสามีรักใคร่ ระวังช่วงอายุ ๓๐ ปี จะมีเคราะห์รา้ ยเรือ่ งความทะเลาะวิวาทมีเรือ่ งราว ทำ�ให้เสียเงินทอง 18

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


ชะตาชีวิตผู้เกิดวันพุธ (กลางคืน)

เทวดาราหู (เกิดช่วงเวลา ๑๘.๐๑-๐๕.๕๙ น.) ตามตำ�นานว่า

เกิ ด จากหั ว ผี โขมด ๑๒ หั ว มี สี ม่ ว งหรื อ ดำ � สลั ว เป็ น สี ป ระจำ � เป็ น พระเคราะห์ฝ่ายเข้มแข็ง เป็นธาตุลม ประจำ�อยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพือ่ รักษาพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ ด้วยอิทธิพลดาวพระเคราะห์ประจำ�วัน ทำ�ให้เจ้าชะตามีพื้นฐานดวง ดังนี้ ในส่วนเคราะห์ดี ที่เรียกว่า “โชควาสนา” คือ ท่านว่ามักจะ เป็นผู้มีบุคลิกน่าเกรงขาม มีอำ�นาจบารมี ใจนักเลง ชีวิตแม้จะลำ�บาก หลายครั้ง แต่ก็ตั้งตัวได้หลายหน มีเพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา หาเงิน ได้คล่อง แต่ในส่วนเคราะห์กรรม ที่เรียกว่า “โชคร้าย” คือ เป็นคนมี โทสะกล้า อารมณ์แปรปรวนอ่อนไหวง่าย และเชื่อคนง่าย ถ้าลองได้หลง อะไรจะหลงชนิดหัวปักหัวปำ� แต่ถ้าผิดใจกันก็จะโกรธชนิดผีไม่เผากันเลย เชียว และอุปนิสัยที่จะนำ�เคราะห์มาสู่ตน คือ เป็นคนมักง่าย ทำ�อะไร ไม่รอบคอบ ชอบเอาเปรียบคนอื่น ทำ�ให้เกิดศัตรูได้ ระวังในช่วงอายุ ๕๐ ปี จะมีเคราะห์ร้ายเกิดความเจ็บไข้ มีเรื่องทำ�ให้เสียเงินทอง สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

19


อานุภาพดาวพระเคราะห์ ก่อความทุกข์ร้อนให้นั้น เชื่อกันได้แค่ไหน ความเชื่อเรื่องเทวดา ว่าอาจจะบันดาลผลร้ายหรือดีแก่ชีวิตนั้น เป็นสิ่งที่มีคู่สังคมไทยมาแต่โบราณ และมิใช่เพียงสามัญชนคนธรรมดา เท่านัน้ ทีเ่ ชือ่ กันเช่นนี้ แม้แต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินก็ทรงมีความเชือ่ เลือ่ มใส เช่น

องค์พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ซึ่งทรงมี ความเป็นปราชญ์ในศาสตร์ หลายแขนง ทั้งพุทธศาสตร์ โหราศาสตร์ เป็นต้น

พระองค์ท่านก็ทรงเชื่อถือเรื่องเทวดามาก จนถึงกับทรงโปรดให้ สร้างพระสยามเทวาธิราชประดิษฐานไว้ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยทรง มุ่งหวังให้ปกปักรักษาแผ่นดินให้คงอยู่กับลูกหลานไทยสืบไป และแม้ ใ นเรื่ อ งความเชื่ อ เรื่ อ งดาวพระเคราะห์ จ ะมี ค ติ ม าจาก ทางพราหมณาจารย์ แต่โบราณบัณฑิตไทยก็นำ�คติเรื่องนี้มาแต่งเป็น ชาดก เพื่อสาธกเป็นอุทาหรณ์สะท้อนถึงเรื่องผลกรรมชั่วดี ดังที่มีปรากฏ ในปัญญาสชาดก (ชาดก ๕๐ เรื่อง ชาดกนี้ไม่มีในพระไตรปิฎกแต่ ท่านผู้แต่งได้ต้นแบบรจนามาจากชาดกที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกนั่นเอง) เป็นต้น กล่าวกันว่า ชาดกนี้เป็นผลงานของพระนักปราชญ์ชาวล้านนา รจนาไว้ในระหว่างปีพุทธศักราช ๒๐๐๐-๒๒๐๐ ในตอนนี้ จึงขอนำ� ความในเรื่อง สิโสรชาดก ซึ่งมีเรื่องเล่าดังต่อไปนี้ 20

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


สิโสรชาดก อตีเต กาเล ในอดีตกาลมีพระราชาพระองค์หนึ่ง มีพระนามว่า พระเจ้าสิโสรราช (พระเจ้าสี่เสาร์) ได้เสวยราชสมบัติอยู่ในอนันตนคร เป็นปกติสุขอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งราตรีหนึ่งพระองค์ทรงสุบินนิมิตเห็น ยอดปราสาทที่ประทับได้แตกหักตกลงมายังภาคพื้น ครั้นทรงตื่นจาก บรรทมตอนเช้า จึงได้เรียกโหรหลวงเข้าเฝ้าเพื่อทำ�นายฝัน

พราหมณ์ปุโรหิตครั้นได้ตรวจ ชะตาราศีของพระองค์ แล้วกราบทูลว่า ต่อไปนี้ พระเสาร์กำ�ํ ลังจะเข้ามา พระองค์ก�ํำ ลังจะมี เคราะห์พระเจ้าข้า เสวยพระชนมายุ จะทํำ�ให้พระองค์เดือดร้อนมาก ขอพระองค์ประกอบยัญพิธีรับพระเสาร์ จึงจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา หรือพ้นอันตรายได้ เราไม่เชื่อหรอก

แต่พระองค์ทรงขัตติยมานะแรงกล้า ไม่ยอมทำ�ตาม โดยอ้างว่า พระองค์เป็นถึงสีเ่ สาร์ จะกลัวอะไรกับเสาร์เดียว พระองค์กท็ รงวางทหารยาม ประจำ�ประตูและที่ต่างๆ ไว้ เพื่อยับยั้งพระเสาร์ ต่อสู้ป้องกันพระเสาร์ มิให้เข้าถึงพระองค์ได้ พอถึงกำ�หนดพระเสาร์เข้าเสวยอายุ ก็ให้รู้สึกกลัดกลุ้มพระทัย ยิ่งนัก ม้าทรงก็ร้องเปล่งเสียงดังลั่น พระองค์ใคร่จะไปจับม้าจึงได้เสด็จลง จากพระตำ�หนัก ทอดพระเนตรเห็นทหารยาม ก็ทรงเห็นเป็นพระเสาร์ไป จึงไล่ทุบตีชกต่อยทหารจนหนีกันเป็นอุตลุด แล้วเสด็จเร่งรุดมาชั้นล่าง พลางจับม้าทรงควบขี่ออกทางประตูเมืองแต่พระองค์เดียว สิ้นระยะทาง ถึง ๓๐ โยชน์ ก็เป็นเวลาคำ�่ จำ�ต้องบรรทมในป่า สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

21


ครั้นถึงเวลาเช้าปัจจุสสมัย ให้ทรงรู้สึกหิวกระหายเพราะไม่มีอะไร ให้เสวย เลยจูงม้ามาตามทาง กระทั่งลุมาถึงที่นาของครอบครัวหนึ่ง ซึ่ง ได้น�ำ อาหารใส่กระบาย (ภาชนะที่สานด้วยตอกไม้ไผ่คล้ายกระบุง แต่มี ขนาดเล็กกว่า มีปากกลม แต่ก้นกระบายเป็นรูปสี่เหลี่ยม) วางไว้ที่ใต้ ต้นไม้ แล้วพากันไปเกี่ยวข้าว และมักมีสุนัขมาคอยลักเอาไปกินเสมอๆ เราไม่ได้ขโมยนะ

วันนั้น พอดีพระเจ้าสิโสรราช ได้เสด็จไปถึงนาแห่งนั้น จึงพากันมาดูอาหารเห็นหายไป และมองเห็นพระมงกุฎที่ พระเจ้าสิโรรราชทรงสวมใส่ กลับกลายเป็นกระบายใส่ข้าว จึงพากันทุบตีพระเจ้าสิโสรราช จนบอบชำ�้ แล้วชิงเอาพระมงกุฎไป

พระองค์จึงทรงขี่ม้าเดินทางต่อไป คำ่�ไหนก็นอนนั่น ทรงนอน กลางดินกินกลางหญ้า ได้รับทุกขเวทนาทั้งทางกายและใจเป็นอย่างยิ่ง จนเสด็จลุมาถึงชนบทอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีชาวนาครอบครัวหนึ่งมักถูกคนมา ลักเคียวเกี่ยวข้าวอยู่เสมอๆ

วันหนึ่งเมื่อพระเจ้าสิโสรราช ได้เสด็จไปถึงที่นั้น เจ้านี่เอง จึงพากันเข้าใจว่า ชอบขโมยเคียว พระองค์เป็นขโมยเคียวเกี่ยวข้าว เห็นพระขรรค์กลายเป็นเคียวไป จึงพากันทุบตีแล้วยึดเอาพระขรรค์ไว้ พระองค์ได้รับทุกข์ทรมานเป็นอันมาก จึงทรงเสด็จหนีจากชนบทนั้นต่อไป 22

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


พระเจ้าสิโสรราช ครั้นเสด็จจากที่นั้นก็ทรงเดินทางไปยังชนบท อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งในวันนั้นมีชาวนากลุ่มหนึ่งวัวหายไป จึงเที่ยวติดตามหา บังเอิญว่าไปพบพระองค์เข้า นี่มันวัวเรา นี่นา

ทํำ�ให้พวกเขาเห็นม้าทรง ได้กลายกลับเป็นวัวที่หาย ชาวนาจํำ�ได้ว่าเป็นวัวของตน จึงพากันเข้าทุบตีพระองค์ แล้วแย่งยึดเอาม้าทรง พระองค์ได้รับความบอบชํำ�้ มาก ต้องเสด็จไปด้วยพระบาทเปล่า

กระทั่งในวันหนึ่งพระองค์เสด็จไปถึงวัดๆ หนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ชายแดน จึงเสด็จเข้าไปในวัดนัน้ เพือ่ ขออาหารเสวย มีสามเณรน้อยองค์หนึง่ พอเห็น ก็มีจิตสงสาร จึงจัดอาหารที่เหลือจากพระเณรฉันเอามาให้เสวย แล้วพา เข้าไปหาเจ้าอาวาสเพื่อขอบวชต่อไป พระเณรจึงได้ช่วยกันเก็บหาผ้ามา เย็บเป็นสบงจีวร แล้วไปถากเปลือกไม้มาต้มเคี่ยวเป็นนำ�้ ย้อม จะต้มในวัด ก็กลัวควันไฟจะรบกวนพระเณร จึงไปทำ�กันที่ป่าช้าหลังวัด ขณะที่ทำ�การต้มอยู่นั้น มีชายกลุ่มหนึ่งวัวหายจึงได้ติดตามหา เมื่อพากันมาถึงป่าช้า

เห็นพระเจ้าสิโสรราช กํำ�ลังต้มเคี่ยวย้อมผ้าตาก เจ้าฆ่าวัวเรา จึงเข้าไปดูเห็นเปลือกไม้ที่ต้ม กลายเป็นเนื้อวัวและเครื่องใน ผ้าประคตกลายเป็นไส้ ผ้าสบงที่ย้อมตากอยู่กลายเป็นหนัง จึงพากันเข้าจับกุมทุบตีจนแทบเอาชีวิตไม่รอด สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

23


ต้องเดือดร้อนถึงพระเณรช่วยกันห้ามปรามขอร้องไว้ การบวชเรียน จึงต้องล้มเลิกไป สามเณรน้อยเกิดรู้สึกสงสารในชะตากรรมของพระเจ้า สิโสรราชจนถึงกับนำ้�ตาหลั่งไหลลงนองหน้า พระเณรองค์อื่นๆ ก็พากัน เศร้าร้องไห้ไปตามๆ กัน พระเจ้าสิโสรราชจึงอำ�ลาสามเณรน้อย และพระเณรในวัดเดินทาง ต่อไป จนลุถึงไร่สองตายายในเวลาพลบคำ�่ ก็ขอเข้าพำ�นักอาศัย ครั้นได้รับ อนุญาตก็เข้าบรรทมแต่หัวคำ�่ ด้วยความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง พอถึงยามเช้า แสงอาทิตย์ส่อง ก็ต้องตกพระทัยเมื่อได้ยินสองตายายปลุกด้วยเสียงดัง ว่าอุตส่าห์วางใจให้ที่พักก็ยังมาลักขโมยเมล็ดพันธุ์พืชของแกไป อธิบาย อย่างไรก็ไม่ฟังซำ�้ ขอค้นตัวให้หายสงสัย

จะเป็นเคราะห์ซำ�้ หรือกรรมซัด ไม่อาจทราบได้ที่ทำ�ํ ให้ตายาย แลเห็นชายผ้าที่ทรงม้วนขอด เพชรพลอยมณีมีค่าซ่อนไว้ แต่เมื่อเขาแก้ชายผ้าพก กลับเห็นเป็นเมล็ดพืชพันธุ์ หกตกเกลื่อนไปทั่วพื้นนั้น สองผัวเมียจึงทํำ�การไล่พระองค์ออกจากบ้านไป

อะไรกันนี่

ก็ขอรวบรัดสรุปใจความว่า เมื่อออกจากบ้านนั้น พระองค์ท่านก็ ทรงเที่ยวขอทานเลี้ยงชีพไปวันๆ จนเข้าเขตเมืองๆ หนึ่งชื่ออจลนคร เมื่อ พ้นเขตพระเสาร์เข้าเสวยอายุแล้ว ความทุกข์ทรมานก็เบาบางลง ที่สุด พระองค์ก็ได้พบพระราชธิดาในเมืองนั้น และได้ทำ�การราชาภิเษก แล้ว เสด็จกลับมาเสวยราชสมบัติที่เมืองอนันตนครตามเดิม จากชาดกที่ท่านเล่าไว้ก็เป็นคติเตือนใจได้ว่า เวลาใดอกุศลกรรม ให้ผล จากคนที่เคยสุขก็ต้องได้รับทุกข์เดือดร้อนวุ่นวายใจ ใครไม่อยาก เจอเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ตั้งใจทำ�ดีให้มากเถิด จะเกิดแต่มงคลชีวิต 24

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


ทัศนะในพระพุทธศาสนา มีทา่ ทีต่อเรื่องเคราะห์ไว้อย่างไร ? ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นเรื่อง ของเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์อัน โมหะ มี ที่ ม าจากความเชื่ อ ของทางศาสนา โทสะ พราหมณ์ แต่ ต ามหลั ก การในพระพุทธศาสนา คำ�ว่า เคราะห์ มาจากคำ� โลภะ ภาษาบาลีว่า “คห” (อ่านว่า คะ-หะ) แปลว่า ผู้จับ, ผู้ยึด อะไรเป็นผู้จับ ผู้ยึดชะตาชีวิตของปุถุชนสามัญไว้ ? ในพระพุทธศาสนากล่าวว่า มีผู้ยึดทั้งฝ่ายดี ฝ่ายร้ายเช่นกัน คือ ถ้าเป็นฝ่ายดี เข้ามามีบทบาทกุมชะตาชีวติ ก็จะทำ�ให้ไม่มี อโลภะ ความไม่โลภ อโทสะ ความไม่โกรธ อโมหะ ความไม่หลงงมงาย ใน ภาษาทางธรรมท่านเรียกว่า กุศลมูล แปลเป็นใจความว่า รากเหง้าของ ความดีงามทั้งหลาย แต่ถ้าเป็นฝ่ายชั่วร้าย เข้ามาจับกุมใจ ก็ท�ำ ให้คนผู้นั้นมีชะตาชีวิต เต็มไปด้วย โลภะ ความโลภ โทสะ ความโกรธ โมหะ ความหลง ภาษา ทางธรรมท่านเรียกว่า อกุศลมูล แปลเป็นใจความว่า ต้นตอของการ ทำ�ชั่วทั้งมวล จากหลักดังกล่าวสรุปว่า เคราะห์เกิดจากอำ�นาจของกิเลสอันเป็น เหตุให้ทำ�กรรม

สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

25


บูชาเทวดาพระเคราะห์ ผิดหลักพระพุทธศาสนาหรือไม่ ? บางท่านอาจมีคำ�ถามว่า เมื่อเรื่องการบูชาเทวดานพเคราะห์ต่อ เทวดาที่เสวยอายุตนอยู่ และที่จะมาเสวยอายุตนต่อไป เป็นคติในทาง ศาสนาพราหมณ์ แต่ในงานต่างๆ เช่น ทำ�บุญฉลองอายุของตนก็ดี หรือ เวลามีเรื่องราวร้ายๆ เกิดแก่ตนโดยไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร แต่โดย ส่วนลึกของจิตใจของผู้เกิดความทุกข์นั้นมักจะคิดว่า ขณะนี้ชะตาชีวิต ของตนกำ�ลังอยู่ในช่วงเคราะห์ร้าย จึงได้มีการทำ�พิธีสะเดาะเคราะห์ต่อ ชะตา ถ้าอย่างนี้จะผิดหลักการทางพระพุทธศาสนาหรือไม่ ? ผู้เรียบเรียงคิดว่า ถ้าพิจารณากันตามหลักพระพุทธศาสนาแล้ว การบูชาเทวดาพระเคราะห์เข้ากันได้กบั พุทธศาสนา เช่น เรือ่ ง พลีกรรม ๕ ได้มีคำ�ว่า “เทวตาพลี” สอนให้ทำ�บุญอุทิศเทวดาอยู่ด้วย ดังนัน้ แม้วา่ การทำ�พิธสี ะเดาะเคราะห์ตอ่ ชะตาโดยเฉพาะการบูชา เทวดาพระเคราะห์ จะมีที่มาจากความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ก็ตาม แต่ทั้งนี้ ควรทำ�ความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า

สำ�หรับท่านผู้ที่จะได้ มาเกิดเป็นเทวดา ในภพภูมิต่างๆ นั้น แสดงว่าต้องเป็นผู้ที่ได้ สั่งสมอบรมคุณงามความดี มามิใช่น้อยจึงจะเป็นเทวดาได้ ทำ�ชั่ว เพราะในภพภูมิที่เป็นที่อุบัติของเทวดา ทำ�ดี มีที่ไปต่างกัน ต้องอาศัยบุญญานุภาพที่ผู้นั้นได้ทํำ�สั่งสมไว้ตั้งแต่สมัยเป็นมนุษย์ 26

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


บูชาคุณธรรมของผู้มีความดี ชีวิตก็ย่อมจะมีแต่สิ่งอันเป็นมงคล และเมื่อผู้ใดทำ�ความเคารพสักการะเทวดา ก็เป็นการบูชาผู้ที่มี คุณความดีนั่นเอง การบูชาผู้มีคุณงามความดีนั้น พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นมงคลชีวิตประการหนึ่ง จึงจะหาโทษอะไรมิได้ ย่อมประสบแต่ผลดี อย่างเดียว ส่วนผู้นับถือพระพุทธศาสนา ได้นับถือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นใหญ่กว่าเทวดาอยู่แล้วก็จริง แต่ก็ยังมีความปรารถนา ที่จะทำ�พลีกรรมบวงสรวงเทวดา เพื่อให้ตนได้รับความเจริญก้าวหน้า และปรารถนาจะให้เทวดาได้กระทำ�ปัตตานุโมทนามัยส่วนบุญของตน จึงได้คิดค้นการประกอบพิธีในทางพระพุทธศาสนา รวมเข้ากับทาง พราหมณ์ แล้วอุทิศกุศลทางพระพุทธศาสนาเป็นพลีแก่เทวดา ดังนั้น โบราณาจารย์ที่ท่านแนะนำ�ให้สวดมนต์ประจำ�วันเกิด คาถาที่ใช้สวดก็จะมีทั้งฝ่ายพุทธศาสนา และของทางพราหมณ์เจือกัน นอกจากนั้ น ความเชื่ อ ในเรื่ อ งเคราะห์ ก รรม หรื อ โชคลางคงจะมี ที่ ม า นอกจากที่กล่าวแล้วนี้อีกมาก แต่อาจกล่าวได้ว่า พิธียัญกิจใดๆ เมื่อ นำ�มาประกอบเข้าในพิธกี รรมทางพุทธศาสนาแล้ว นักปราชญ์ยอ่ มถือเอา ทางประกอบด้วย ทาน ศีล ภาวนา เป็นส่วนชอบ เลีย่ งการประกอบพิธี ที่เป็นบาปมีการฆ่าสัตว์บูชายัญ เป็นต้น เพราะผู้ประกอบยัญกิจย่อม เข้าใจดีวา่ เทวดาเสวยของทิพย์ หาใช่อาหารอย่างมนุษย์ไม่ แต่ทม่ี นุษย์ นำ�อาหารของตนไปบูชาเทวดานัน้ ก็เป็นการแสดงน�ำ้ ใจว่าตนมีความเคารพ เทวดาหรือเคารพคุณธรรมที่ทำ�คนให้เป็นเทวดาอยู่ทุกเมื่อนั่นเอง สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

27


รู้ทันกรรมมากเท่าไร ได้รู้ทันตัวเองมากเท่านั้น ในตอนต้นนั้นเราได้เรียนรู้กันถึง เคราะห์ และพอพูดถึงคำ�นี้ ก็จะมีอีกคำ�ที่มักใช้คู่กันนั่นคือ คำ�ว่า กรรม ซึ่งเป็นคำ�ที่ชอบนำ�มาพูด อยู่เสมอ เวลาที่ตนหรือคนรู้จักประสบพบเจอกับเหตุเลวร้ายว่า กรรม จริงๆ ทำ�ไมต้องมาเจอเหตุอย่างนี้ แล้วยังมีคำ�ที่เอาไว้ใช้ปลอบใจว่า ช่างมันเถอะ สุดแต่บุญแต่กรรม ก้มหน้ารับกรรมไปก็แล้วกัน หมด เคราะห์หมดกรรมเมื่อไหร่อะไรๆ ก็คงดีขึ้น จากคำ�ที่ชอบนำ�มาพูด แสดงว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจเรื่องกรรมว่า เป็นผล โดยเฉพาะในแง่ที่เป็นผลร้าย และเป็นเรื่องที่สืบเนื่องมาจากอดีต ที่จริงความเข้าใจนี้ไม่ผิด แต่ก็ไม่ครอบคลุมความหมายกรรมทั้งหมด เช่น ที่พูดว่า สุดแต่บุญแต่กรรม นั่นสื่อให้เห็นว่า คนเรามักเกณฑ์ เอาบุญเป็นฝ่ายดี ให้บาป (กรรม) เป็นฝ่ายร้าย แต่ความหมายที่แท้ กรรม ยังเป็นคำ�กลางๆ การทำ�บุญเป็นเรื่องของกรรม หรือการทำ�บาป ก็เป็นเรื่องกรรมเช่นกัน ในประโยคที่ว่า ทำ�ไมต้องมาเจอเหตุอย่างนี้ นี่ก็แสดงถึงความ สงสัยว่า ตนเคยทำ�อะไรมาก่อนหรือเปล่า ถึงเจอเรื่องราวเช่นนี้ แม้วลีว่า ก้มหน้ารับกรรมไป ก็ส่อถึงเข้าใจว่ากรรมเป็นผล แท้จริง กรรม คือ การกระทำ�นัน้ เป็นสาเหตุทจี่ ะก่อผลให้ผทู้ �ำ ต่อไป ภาษาพระเรียกว่า วิบาก ดังนั้น ในเบื้องต้นขอให้ท่านเข้าใจก่อนว่า กรรม หมายถึง การ กระทำ� ดังคำ�ที่กล่าวไว้ในวาเสฏฐสูตรว่า คนจะเป็นพราหมณ์ เป็นชาวนา หรือว่าเป็นมหาโจร เป็นต้น อยูท่ ก่ี รรม การกระทำ�ของเขาเอง เป็นการมอง 28

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


ความหมายของกรรม จากสิ่งที่แต่ละคนทำ�ในปัจจุบัน อันปรากฏออกมา ภายนอกนั่นแหละ มาทำ�ความเข้าใจเป็นเบื้องต้น จะช่วยให้เข้าใจเรื่องนี้ ดีขึ้น เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงอรรถาธิบายความหมาย ของกรรม ให้ได้เข้าใจกันง่ายๆ ว่า “คำ�ว่า กรรม มีใช้ในภาษาไทยมาก เช่น กรรมการ กรรมกร แต่ ในภาษาที่พูด เคราะห์ร้าย มักตกอยู่แก่กรรม, เคราะห์ดี มักตกอยู่แก่ บุญ ดังเมื่อใครประสบเคราะห์ร้าย คือ ทุกข์ภัยพิบัติ ก็พูดว่า เป็นกรรม แต่เมื่อใครประสบเคราะห์ดี มักพูดว่า เป็นบุญ และมีคำ�พูดคู่กันว่า บุญทำ� กรรมแต่ง เกณฑ์ให้กรรม เป็นฝ่ายดำ�, ให้บุญ เป็นฝ่ายขาว จึงควรเข้าใจ ให้ถูกต้อง ในพระพุทธศาสนา กรรม แปลว่า กิจที่คนกระทำ�

คํำ�ว่า ทํำ� หมายถึง ทั้งทํำ�ด้วยกาย อันเรียกว่า กายกรรม ทั้งทํำ�ด้วยวาจา คือ พูด อันเรียกว่า วจีกรรม ทั้งทํำ�ด้วยใจ คือ คิด อันเรียกว่า มโนกรรม บางทีเมื่อพูดกันว่า ทำ� ก็หมายถึง ทำ�ทางกายเท่านั้นส่วนทาง วาจา เรียกว่า พูด ทางใจเรียกว่า คิด แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นการทำ�ทุกอย่าง เพราะจะพูดก็ต้องทำ� คือ ทำ�การพูด จะคิดก็ต้องทำ� คือ ทำ�การคิด” สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

29


มีเจตนาทำ� พูด คิด สัมฤทธิ์ผลกรรม จากความหมายจะเห็นว่า กรรม ยังเป็นคำ�กลางๆ แต่จะส่งผล ข้างดีหรือร้าย อยู่ที่การกระทำ�เป็นสำ�คัญ ที นี้ ถ้ า จะมองขั้ น ลึ ก ซึ้ ง กว่ า นั้ น คื อ มองกั น ให้ ลึ ก ไปถึ ง จิ ต ใจ การกระทำ�เช่นไรเป็นกรรม ? พระพุทธศาสนาก็ให้คำ�จำ�กัดความชี้ชัด ลงไปอี ก ว่ า การกระทำ � ใดๆ ที่ จ ะเป็ น กรรม สิ่ ง ที่ ทำ � พู ด คิ ด ต้ อ ง มีเจตนาประกอบด้วย ดังพุทธดำ�รัสว่า เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ เรา กล่าวว่า เจตนาเป็นกรรมทั้งนี้ด้วยเหตุว่า คนเราจะทำ� พูด คิด สิ่งใดนั้น ล้วนมีความจงใจ ความตั้งใจ ความมุ่งหมายต่อผลจากสิ่งนั้น ในทางกฎหมาย ยังกล่าวไว้ว่า บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญา ต่อเมื่อทำ�โดยเจตนา การกระทำ�โดยเจตนา ได้แก่ กระทำ�โดยรู้สำ�นึก ในการที่ทำ� ในขณะเดียวกันผู้ทำ�ก็ประสงค์ต่อผล หรือเล็งเห็นผลของ การกระทำ�นั้น อีกประการหนึ่ง การที่ต้องมีเจตนาถึงจะเป็นกรรม เป็นเพราะ การกระทำ�บางอย่างไม่เรียก กรรม แต่เรียก กิริยา เช่น การกระทำ�ของ ท่านผู้อยู่เหนือบุญบาป คือ พระอรหันต์ ดังพระจักขุบาลท่านตาบอด เดิ น จงกรมเหยี ย บสั ต ว์ ต าย หรื อ การ กระทำ�ที่ไม่มีความจงใจของปุถุชนสามัญ เช่น เราเปิดประตูเข้าไปโดนคนที่กำ�ลัง เดินออกมา โดยเราไม่รู้ว่ามีคนเดินมา ตอนนั้น อย่างนี้เป็น กิริยา เช่นกัน

30

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


ทาง ๓ สาย ที่ใช้ก่อกรรม ทางก่อกรรม พระพุทธองค์ ทรงแสดงไว้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง เรียกว่า กรรมบถ แปลว่า ทางก่อกรรม ทั้งทรงแยกแยะไว้ด้วยว่า ทาง ไหนดี ทางไหนไม่ดี มี ๓ ทาง คือ กายกรรม กรรมทางกาย คือ ฆ่าสัตว์, ลักทรัพย์, ประพฤติผิด ในกาม เป็นอกุศลกรรม คือ ทางไม่ดี แต่ถา้ เว้นการฆ่าสัตว์, ไม่ลกั ทรัพย์สนิ ใคร, ไม่มกั มาก ไม่ส�ำ ส่อน ก็เป็นกุศลกรรม คือ ทางดี วจีกรรม กรรมทางวาจา คือ พูดเท็จ, พูดสอ่ เสียด, พูดคำ�หยาบ, พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล เป็นอกุศลกรรม แต่หากตนพูดแต่คำ�จริง, พูดคำ�สมานสามัคคี, พูดคำ�สุภาพ อ่อนหวาน, พูดมีหลักการถูกต้อง เป็นกุศลกรรม มโนกรรม กรรมทางใจ คือ คิดอยากได้ของเขา, คิดพยาบาท ปองร้ายเขา, เห็นผิดจากทำ�นองคลองธรรม เป็นอกุศลกรรม หากตนไม่คิดเช่นนั้น มีแต่คิดจะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันไป, มีใจคิด ปรารถนาให้เขามีความสุข, มีความคิดเห็นถูกต้องตามคลองธรรม เช่น นี้ก็เป็นกุศลกรรม

´Õ

·Ó ¾Ù´ คิ´

·Ó ¾Ù´ คิ´ สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

31


เพราะทำ�ชั่ว-ดี สัตว์ โลกจึงมีความแตกต่าง จากคำ�อธิบายทางสร้างกรรม ทำ�ให้เห็นว่า กรรมเกี่ยวข้องกับ วิถีชีวิตคนตลอดเวลา เพราะคนเรานับแต่ตื่นขึ้นมาจนถึงหลับไปใหม่ ก็ได้ มีเจตนาทำ� พูด คิด เรื่องอะไรต่างๆ อยู่ไม่เว้นว่าง ไม่มีใครนั่งนิ่งเฉยอยู่ได้ แม้มือไม่ทำ� ปากก็พูด หากปากไม่พูด ใจก็ยังคิดถึงเรื่องต่างๆ อยู่ร่ำ�ไป ดังนั้น สัตว์โลกที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ล้วนตกอยู่ ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น และเพื่อความเข้าใจในเรื่องการที่สัตว์โลกมี ความแตกต่างกันไปว่าเป็นเพราะผลของกรรม ขอนำ�พุทธดำ�รัสที่ตรัสไว้ ในจูฬกัมมวิภังคสูตรมาเป็นเครื่องยืนยันว่า เหตุใดสัตว์โลกจึงเกิดมา ไม่เหมือนกัน ซึ่งตรัสไว้เป็นคู่ๆ ดังนี้

กรรมเป็ น เหตุ ใ ห้ เ ป็ น คนมี อายุสนั้ เพราะชาติกอ่ นชอบฆ่าสัตว์ หลังจากตายก็ไปเสวยผลกรรมชัว่ ใน นรก เมื่ อ ใช้ ก รรมในนรกนั้ น หมด หากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ จะมีอายุ สั้น เพราะเศษกรรมที่เหลืออยู่

กรรมเป็นเหตุให้เป็นคนมีอายุยืน เพราะ ชาติก่อนเป็นคนยึดมั่นในศีล ๕ เว้นการฆ่าสัตว์ ตัดชีวติ หลังจากตายก็ไปเกิดในภพภูมทิ ดี่ ี หากกลับ มาเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นคนมีอายุยืน 32

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


กรรมเป็นเหตุให้เป็นคนมีโรคภัยไข้เจ็บ เบียดเบียน เพราะชาติก่อนชอบเบียดเบียน คนอื่นสัตว์อื่น ให้ได้รับความเดือดร้อน ทุกข์ ทรมาน หลังจากตายต้องตกนรก เมื่อใช้กรรม ในที่นั้นแล้ว ถ้าได้มาเกิดเป็นมนุษย์เป็นเหตุ ให้มีโรคร้ายประจำ�ตัว

กรรมเป็นเหตุให้เป็นคนไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ เพราะชาติก่อนเป็นคนมีจิตเมตตากรุณาต่อคน และสัตว์ ไม่เบียดเบียนใคร ให้เดือดเนื้อร้อนใจ หลังจากตายก็ไปเกิดในภพภูมทิ ดี่ ดี ว้ ยผลแห่งกรรมดี เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์จึงไม่มีโรคร้ายประจำ�ตัว

กรรมเป็นเหตุให้เป็นคนมีรูปร่างไม่สวย ไม่หล่อ เพราะชาติก่อนมีนิสัยเป็นคนโกรธง่าย อะไรกระทบกระทัง่ หน่อยก็โกรธหน้าดำ�หน้าแดง หลังจากตายก็ไปเกิดในภพภูมิที่ไม่ดี เมื่อมาเกิด เป็นมนุษย์ชาตินี้ทำ�ให้มีรูปร่างขี้เหร่

กรรมเป็นเหตุให้เป็นคนมีหน้าตาดี เพราะชาติก่อน เป็นคนอารมณ์ดีแจ่มใส ไม่ใจร้อนหุนหันเพราะความโกรธ หลังจากตายก็ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เมื่อเสวยผลกรรมดี ในที่นั้นจนสิ้นกรรม กลับมาเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นผู้มีรูปร่าง หน้าตาดี เป็นที่ต้องตาต้องใจของคนทั่วไป สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

33


กรรมเป็ น เหตุ ใ ห้ เ ป็ น คนไม่ มี อำ � นาจ วาสนา เพราะชาติก่อนเป็นคนชอบอิจฉาใน ความดีของผูอ้ นื่ เห็นใครทำ�ดีนอกจากไม่ชนื่ ชม ยังตำ�หนิตเิ ตียน หลังจากตายก็ไปเกิดในอบายภูมิ เสวยผลกรรมชั่วหมดแล้ว เมื่อกลับมาเกิดเป็น มนุษย์ทำ�ให้เป็นคนต่ำ�ต้อย ไม่มีเกียรติ

กรรมเป็ น เหตุ ใ ห้ เ ป็ น คนมี อำ � นาจ วาสนา เพราะชาติก่อนไม่เป็น คนอิจฉา ตาร้ อ นคนอื่ น เห็ น ใครทำ � ดี ก็ พ ลอยยิ น ดี ชื่นชมเขา เมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์จะเป็น คนมีวาสนาดี มีผู้นับหน้าถือตา

กรรมเป็ น เหตุ ใ ห้ เ ป็ น คนยากจน เพราะชาติกอ่ นเป็นคนตระหนี่ ไม่เคยบริจาค สิ่งของอะไรๆ ให้แก่ใครๆ เป็นคนไม่มีน้ำ�ใจ เมื่อเกิดมาในชาตินี้จึงเป็นคนยากจนขัดสน เงินทองของใช้ต่างๆ

กรรมเป็นเหตุให้เป็นคนรำ่�รวย เพราะชาติ ก่อ นเป็ นคนมี นำ้�ใจ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น เห็นใคร ตกทุกข์ได้ยากก็ไม่นิ่งดูดาย เมื่อกลับมาเกิดในชาตินี้ จึงเกิดมาในตระกูลที่ร่ำ�รวยหรือทำ�มาค้าขึ้น 34

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


กรรมเป็นเหตุให้เกิดในตระกูลต่ำ� เพราะชาติก่อนเป็นคนไม่มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมต่อสมณะชีพราหมณ์ และผู้ใหญ่ ในตระกูล เมื่อเกิดมาในชาตินี้จึงเกิดใน ตระกูลที่ต่ำ�

กรรมเป็นเหตุให้เกิดในตระกูลสูง เพราะชาติ ก่อนเป็นคนมีสมั มาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ยกตน ข่มท่าน เมื่อเกิดมาในชาตินี้จึงเกิดในตระกูลสูง

กรรมเป็นเหตุให้เกิดเป็นคนโง่เขลา เพราะชาติก่อน เป็นคนไม่สนใจใฝ่ศึกษา ไม่เคยไต่ถามต่อผู้รู้ถึงเรื่องของบาปบุญ คุณโทษ ผลกรรมจากอดีตจึงทำ�ให้ชาตินี้ เป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา

กรรมเป็นเหตุให้เป็นคนมีปัญญา เพราะ ชาติ ก่ อ นเป็ น คนใฝ่ ห าความรู้ จ ากผู้ รู้ ใ นเรื่ อ ง ต่างๆ รวมถึงสนใจสอบถามถึงเรื่องของบาปบุญ คุณโทษ เพื่อจะได้ประพฤติได้อย่างถูกต้อง เมื่อ เกิดมาในชาตินจี้ งึ เป็นคนมีปญ ั ญาฉลาดเฉียบแหลม จากพระพุทธดำ�รัส ท่านคงเห็นชัดแล้วว่า ดี-ชั่ว นั้น ให้ผลต่างกัน ดังฟ้ากับเหว จงอย่าทำ�ตัวเหลวไหลใฝ่ต�ำ่ ทำ�ชัว่ แต่จงตัง้ ตัวอยูใ่ นคุณความดี แล้วชีวติ ท่านนีจ้ ะไม่มคี วามเดือดร้อนจากผลกรรมชัว่ สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

35


วิธีลดเคราะห์กรรม ตามแนวทางพระพุทธศาสนา เมื่อพอทราบความหมายเคราะห์กรรม ตามแนวทางของพระพุทธศาสนาแล้วนั้น ก็มาถึงประเด็นสำ�คัญ คือเรื่อง เคราะห์กรรมนั้น มันตัดกันได้หรือไม่ ? หรืออีกนัยหนึ่งคือว่า ทำ�บุญล้างบาปได้จริงหรือ ? เพราะประเด็นนี้ ถือว่าเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง โดยบางท่านก็ เห็นว่า วิธีอย่างนี้ไม่มีในคำ�สอนพระพุทธศาสนา เป็นต้น ผลเป็นเช่นนั้น จริงหรือไม่ คงไม่มอี ะไรดีเท่ากับอ้างอิงพระไตรปิฎกว่ามีการหยิบยกเรือ่ งนี้ มาอธิบายไว้อย่างไร ? ในเรือ่ ง เคราะห์กรรมตัดกันได้หรือไม่ ? อยากให้อา่ นข้อความ บางตอนของพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย โลณผลสูตร ดังนี้... “ภิกษุทั้งหลาย ใครพึงกล่าวว่า ‘คนทำ�กรรมอย่างใดย่อมเสวย กรรมอย่างนั้น’ เมื่อเป็นอย่างนี้ การประพฤติพรหมจรรย์ก็มีไม่ได้ ลู่ทาง ที่จะทำ�ที่สุดแห่งทุกข์ก็ไม่ปรากฏ ส่วนใครกล่าวว่า ‘คนทำ�กรรมอันจะพึงให้ผลอย่างใด ย่อมเสวย ผลของกรรมอย่างนั้น’ เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อม มีได้ ลู่ทางที่จะทำ�ที่สุดแห่งทุกข์ก็ย่อมปรากฏ ภิกษุทั้งหลาย บาปกรรมเล็กน้อย บางคนทำ�แล้ว นำ�ไปนรกได้ แต่บางคนทำ�แล้วเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม (ให้ผลในชาตินี้) ไม่ปรากฏ ผลมากอีกต่อไป คนเช่นไรทำ�บาปกรรมเล็กน้อยแล้ว บาปกรรมนั้นจึงนำ�เขาไป นรกได้ ? 36

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


คือ คนบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีกายมิได้อบรม (คือ ไม่ได้เจริญ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน) มีศีลมิได้อบรม มีจิตมิได้อบรม มีปัญญามิได้ อบรม มีคุณความดีน้อย มีใจแคบ ใจหยาบ ใจตำ�่ ทราม มักอยู่เป็นทุกข์ ด้วยเหตุเพียงเล็กน้อย คนเช่นนี้ แม้ทำ�บาปกรรมเล็กน้อย บาปกรรมนั้น ย่อมนำ�เขาไปนรกได้ คนเช่นไรทำ�บาปกรรมเล็กน้อยแล้ว บาปกรรมนัน้ เป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไป ? คือ คนบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีกายได้อบรมแล้ว (คือ ได้เจริญ กายานุปสั สนาสติปฏั ฐาน) มีศลี ได้อบรมแล้ว มีจติ ได้อบรมแล้ว มีปญ ั ญา ได้อบรมแล้ว มีคุณความดีมาก เป็นผู้มีใจกว้างขวาง ใจบุญ ใจสูง มีปกติ อยู่อย่างไม่มีราคะ โทสะ โมหะ ซึ่งเป็นกิเลสที่แสดงลักษณะ หรือจริตของคน คนเช่นนี้ แม้ได้ทำ�บาปกรรมเล็กน้อยไว้ บาปกรรมนั้น ให้ผลในชาตินี้เท่านั้น ไม่ปรากฏผลมากต่อไป พระพุทธเจ้า :- ภิกษุทั้งหลาย หากว่าคนใส่เกลือลงไปในถ้วย น�้ำ เล็กๆ พวกเธอจะเข้าใจว่าอย่างไร น�ำ้ ในถ้วย นั้นจะเค็ม ไม่น่าดื่มเพราะเกลือนั้นใช่ไหม ? ภิกษุ :- ใช่ พระพุทธเจ้าข้า. พระพุทธเจ้า :- เพราะเหตุไร ? ภิกษุ :- เพราะนำ�้ ในถ้วยมีน้อย มันจึงเค็ม. พระพุทธเจ้า :- แต่ถา้ คนใส่เกลือขนาดเดียวกันนัน้ ลงในแม่น�ำ้ คงคา พวกเธอจะเข้าใจว่าอย่างไร แม่น�ำ้ คงคานัน้ จะเค็ม ดื่มไม่ได้เพราะเกลือนั้นหรือไม่ ? สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

37


ภิกษุ :- หามิได้ พระพุทธเจ้าข้า. พระพุทธเจ้า :- เพราะเหตุอะไร ? ภิกษุ :- เพราะนำ�้ ในแม่น้ำ�คงคามีมาก น้ำ�จึงไม่เค็ม. พระพุทธเจ้า :- ฉันนัน้ แหละภิกษุทง้ั หลาย บาปกรรมแม้เล็กน้อย คนบางคนทำ�แล้ว ย่อมนำ�ไปนรกได้ แต่บางคน ทำ�แล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไป” จากข้อความในพระสูตร ผู้เรียบเรียงขอสรุปว่า พระพุทธองค์ ทรง อุปมาเกลือกับการให้ผลกรรมว่า “ถ้ามีใครบอกว่าทำ�กรรมใดไว้ ต้องรับ กรรมนัน้ ร�ำ่ ไป” เป็นการกล่าวผิด เพราะถ้ายึดติดกันอย่างนี้ การประพฤติ พรหมจรรย์ (คือ การดำ�เนินชีวิตอย่างประเสริฐ) ก็ไม่ก่อผลที่ทำ�ให้ ละทุกข์อันเป็นผลจากกรรมเก่า และไม่ก่อให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ อันเป็น ผลที่เกิดจากกรรมดีใหม่ ใครมีความเห็นเช่นนี้ ก็เหมือนปฏิเสธกรรม ข้อหนึ่ง คือ อโหสิกรรม นั่นเอง ดังนั้น บาปกรรมบางอย่างที่ทำ�ไว้นั้น จะให้ผลมากหรือไม่ให้ผล อีกต่อไปนั้น ก็อยู่ที่ตัวผู้ทำ�กรรมนั่นเอง ว่าจะได้ฝึกฝนอบรมตน ให้มี กุศลธรรมความดีเกิดกับตัวมากแค่ไหน ดังพระพุทธองค์ทรงเปรียบให้เห็นง่ายๆ ว่า คนไหนมีคุณความดี น้อยเท่านำ้�หนึ่งถ้วย เมื่อทำ�บาปกรรมไว้ กรรมก็จะนำ�สู่นรกได้ แต่ คนไหนมีคุณความดีขนาดแม่น้ำ�คงคา ถ้าทำ�กรรมอย่างเดียวกัน กรรม ก็ตามให้ผลชาตินี้เท่านั้น ไม่ตามให้ผลต่อไปในชาติหน้า หรือว่าเรื่องทำ�บุญล้างบาปได้จริงไหม ? ก็มีข้อความในพระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค กุมภสูตร ให้ได้นำ�ไปพิจารณา ดังนี้... 38

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


“หม้อที่ควำ�่ น้ำ�ย่อมไหลออกอย่างเดียว ไม่ไหลเข้าไป ฉันใด เมื่อ บุคคลเจริญอริยมรรคมีองค์ ๘ ให้มากเข้าไว้ ย่อมคลายบาปอกุศลธรรม ออกอย่างเดียว ไม่ให้ไหลกลับมา ฉันนั้น” พระสูตรนี้ ผู้เรียบเรียงขอสรุปแง่คิดว่า ผู้ใดปฏิบัติตามมรรคมี องค์ ๘ ย่อมคลายบาปกรรมออกจากตัวได้ เหมือนหม้อนำ้�ที่คว่ำ�ปากลง เปรียบนำ�้ เป็นผลแห่งบาปกรรมที่เคยทำ�ไว้ น้ำ�ก็คงมีแต่ไหลออก ไม่มีเหลือ อยู่ในหม้อนั้นเลย ในพระสุตตันตปิฎกเล่มเดียวกัน เรื่องปฐมเมฆสูตร ก็มีข้อความ เรื่องการทำ�ดีระงับผลบาปกรรมไว้ว่า “เมฆฝนใหญ่ที่เกิดนอกฤดูกาล พัดเอาฝุ่นละอองที่ตั้งขึ้นในท้าย ฤดูร้อน ให้หายไปได้โดยฉับพลัน ฉันใด เมื่อบุคคลเจริญอริยมรรคมี องค์ ๘ ให้มากเข้าไว้ ย่อมทำ�บาปอกุศลธรรมที่เกิดแล้ว ให้หายไปได้ โดยฉับพลัน ฉันนั้น” พระสูตรนี้บอกว่า มรรคมีองค์ ๘ คือ ความเห็นชอบ, ดำ�ริชอบ, เจรจาชอบ, การงานชอบ, เลี้ยงชีพชอบ, เพียรชอบ, ระลึกชอบ, ตั้งใจ ไว้ชอบ ผู้ใดปฏิบัติได้ ย่อมทำ�ให้บาปอกุศลสงบลงได้ คล้ายกับนำ้�ฝนตก รดฝุ่นละอองที่กระจายฟุ้งไปในอากาศให้หายไปได้อย่างฉับพลัน

สวดมนต์แก้เคราะห์กรรม

ทํำ�ง่ายได้บุญสูงสุด

39


นอกจากนั้น พระพุทธดำ�รัสที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเรื่องบาปเป็น สิง่ ทีล่ า้ งกันได้ มีกล่าวไว้ ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย อาปายิกวรรค ปฐมโสเจยยสูตร และทุติยโสเจยยสูตร ดังนี้... “ภิกษุทั้งหลาย ความสะอาดมีอยู่ ๓ ประการ คือ

๑ค

วาม สะอาด กาย

๓ค

ความาด สะอ จา วา

วาม สะอาด ใจ

ความสะอาดกาย เป็นอย่างไร ?

คือ คนบางคน เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การ ประพฤติผิดในกาม เรียกว่า ความสะอาดกาย ความสะอาดวาจา เป็นอย่างไร ? คือ คนบางคน เว้นขาดจากการพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูด คำ�หยาบ การพูดเพ้อเจ้อ เรียกว่า ความสะอาดวาจา ความสะอาดใจ เป็นอย่างไร ? คือ คนบางคน ไม่เป็นผู้โลภมาก มีจิตไม่พยาบาท เป็นผู้มีความ เห็นชอบ เรียกว่า ความสะอาดใจ 40

แก้กรรมทํำ�ได้ แต่ต้องตั้งใจทํำ�ด้วยตนเอง

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.