ชนะใจตน
ชนะคนทั้งโลก
................................................................................... ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................... ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล
บุญกุศลนี้แผ่ไปให้ไพศาล ถึงบิดามารดาครูอาจารย์ ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน คนเคยร่วมท�ำงานการทั้งหลาย มีส่วนได้ในกุศลผลบุญฉัน ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ ขอให้ท่านได้กุศลผลนี้เทอญ
ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
โดย : หลวงพ่อวิชัย เขมิโย บรรณาธิการสาระ : ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัทธ์ สรรค์สาระ : ไพโรจน์ โรจนปัญญาวัชร์ ภาพประกอบ: สมควร กองศิลา, ธนรัตน์ ไทยพานิช, ชิชกาน ทองสิงห์ ออกแบบปก : อนุชิต ค�ำซองเมือง, รูปเล่ม : ธเนษฐ สัคคะวัฒนะ พิสูจน์อักษร : อรทัย ค�ำแพง, หนูคล้าย กุกัญยา ISBN 978-616-268-175-2 พิมพ์ครั้งแรก : สิงหาคม 2558
สร้างสรรค์และลิขสิทธิ์ บริษัท ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จ�ำกัด 105/95-96 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร./แฟกซ์ 02-872-7667
เชิญร่วมเผยแผ่เป็นธรรมทาน โทร. 02-872-9191, 02-872-8181, 02-872-7227, 02-872-9898 LC2YOU@GMAIL.COM, LC2YOU@HOTMAIL.COM
WWW.LC2U.COM, WWW.พุทธะ.NET
พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์เลีย่ งเชียง 223 ถนนบ�ำรุงเมือง กรุงเทพฯ 10120 โทร. 02-221-1050, 02-221-4446, 02-223-8979
ความส�ำเร็จหรือความล้มเหลวในชีวิต ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเอาชนะใคร หากแต่อยู่ที่เอาชนะใจตัวเองให้ได้เท่านั้น
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ�้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ค�ำน�ำ ทุกท่านคงทราบว่า การแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของโลก ไม่มใี ครไม่เคยแพ้หรือชนะ เมือ่ มีผชู้ นะย่อมต้องมีผแู้ พ้ แต่ทา่ นทราบ หรือไม่ว่า มีชัยชนะอย่างหนึ่งที่ไม่กลับมาแพ้อีก คือ “ชนะใจตน” พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนให้ทุกคนเอาชนะใจตนแทนการชนะสิ่งอื่น ซึ่งเป็นชัยชนะที่เด็ดขาดและไม่หวนกลับไปพ่ายแพ้อีก ถ้าศึกษาวิธี การเอาชนะใจตนแบบพระพุทธเจ้า เราจะรู้ว่า “ชนะใจตนเป็น ชัยชนะทีย่ งิ่ ใหญ่เหนือคนทัง้ โลกจริง” น่าเสียดายหากต้องพลาดการ อ่านเล่มนี้ ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ ได้น�ำพระธรรม เทศนาของหลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ�้ำผาจม ที่แสดงไว้ ณ ลานธรรม เลีย่ งเชียงใน “งานกิจกรรมไตรสิกขามหาบุญ” ซึง่ จัดขึน้ ในวันอาทิตย์ สัปดาห์ทสี่ องของทุกๆ เดือน มาจัดพิมพ์เป็นเล่ม ทางคณะผูจ้ ดั ท�ำได้ ท�ำหัวข้อ ย่อหน้า เน้นค�ำ และวาดภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ เนื้อหาได้ง่าย รวดเร็ว ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือเล่มนี้ จักเอื้อประโยชน์ ให้ผู้อ่านเข้าถึงวิธีการเอาชนะใจตน ชนะคนทั้งโลกได้ ซึ่งจะได้ ไม่กลับมาพ่ายแพ้ อีกและยังเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคน คนหนึ่ง ตราบเท่าเข้าถึงพระนิพพาน ไพโรจน์ โรจนปัญญาวัชร์
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ หน)
ธัมมะกาโม ภะวัง โหติ ธัมมะเทสสี ปะราภะโว ธัมโม สักกัจจัง โสตัพโพติ.
การฟังธรรม เป็นก�ำไร ไม่มีขาดทุน
ขอเจริญพร ญาติโยมผูม้ บี ญ ุ ทุกๆ ท่าน โอกาสต่อไปนี้ จะเป็น เวลาทีพ่ วกเราทุกท่านจะได้ฟงั ธรรมแล้วถือเป็นโอกาสดีนาทีทอง อันเป็นมงคลนี้ปฏิบัติธรรมตามไปด้วย เพื่อจะเป็นการช่วยเพิ่ม สติเพิ่มปัญญา เพิ่มกุศลบุญราศีเสริมสร้างบุญบารมีให้กับชีวิต ของพวกเรา นอกจากนั้นการที่เราได้ฟังธรรมและได้ปฏิบัติธรรมนั้นเรา ถือว่า เป็นก�ำไรของชีวิต เป็นการให้รางวัลแก่ชีวิต ที่ว่าเป็นก�ำไร ก็คือเราไม่ขาดทุน เพราะการฟังธรรมแล้ว กาย วาจา จิตใจ ก็จะมีความสงบ เมื่อสามอย่างนี้สงบแล้ว เราก็มีความสุขกายสบายใจ มีความสงบ เมื่อใจเรามีความสงบ มันก็สยบมารได้ 6 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
ข้าศึกอันร้ายกาจคือความกังวลใจ ขจัดความกังวลได้ ใจก็หนักแน่น ดังหินผา
ถ้าใจของเรายังมีความกังวล มีความ ฟุง้ ซ่านอยู่ ชีวติ ของเรามันก็ยงั มีขา้ ศึกอยู่ ข้าศึกอันร้ายกาจทีส่ ดุ ก็คอื ความกังวล ใจ กายเรานัง่ ฟังธรรมอยูท่ นี่ ี่ แต่วา่ ใจของ เราหลีกเลี่ยงไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ กลับไป บ้านไปเรือนแล้วก็ไม่รู้ อย่างนีช้ อื่ ว่า ชีวติ ขาดทุน เพราะการที่ส่งจิตออกนอกกาย จิตมันก็วุ่นวาย ความวุ่นวายเป็นความ ทุกข์ของชีวิต ถ้าใครเอาจิตไว้ในใจในกาย คนนัน้ ก็นงั่ สบาย แผ่นดินจะไหว ฟ้าจะถล่มอย่างไร ก็ไม่มีความหวั่นไหว เพราะคนมีธรรมในใจจะ หนักแน่นเหมือนภูเขา ถ้าภูเขาหินทึบทั้งแท่ง ยังหวั่นไหว ขยับไป ขยับมาอยู่ ก็แสดงว่า ยังไม่ใช่ภูเขา ถ้าน�้ำทะเลมันหยุดนิ่ง ยังไม่ใช่น�้ำทะเล ถ้าใครจับสายรุ้งได้ ก็ยังไม่ใช่สายรุ้ง ใครจับพยับแดดได้ ก็ยังไม่ใช่พยับแดด มันเป็นเพียงแค่ “มายา” ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
7
คนมีคุณธรรม ย่อมไม่หวั่นไหว ไปตามกระแสโลก จ�ำไว้นะลูกต้องมีใจหนักแน่น ตั้งใจเรียนอย่าเกเรนะรู้มั้ย
อบรมธรรมะ แต่เช้าเลย
คนที่มีคุณธรรมในใจจะมีจิตใจหนักแน่น เหมือนภูเขาทึบทั้งแท่ง จะมีความวางเฉยเหมือนกับแผ่นดิน
เคยสังเกตหรือไม่ว่า แผ่นดิน รถจะวิ่ง คนจะเดิน จะขาก เสลดน�ำ้ ลาย ถ่ายหนักเบาใส่ เอาจอบเอาเสียมสับสักเท่าไหร่กเ็ ฉยๆ นี่คือแผ่นดิน คนมีคุณธรรมในใจก็เป็นเช่นนั้น ไม่หวั่นไหวกับกระแสโลก โลกธรรมทั้ง ๘ ไม่สามารถที่จะผูกใจคนที่มีคุณธรรมได้ เพราะคนที่ มีคุณธรรมใจจะเบา อย่างมาตรงนี้ คนจะมากมายมหาศาลแค่ไหน โยมก็เบาใจสบายใจเย็นใจแล้วก็อิ่มใจเต็มใจ ไหที่มีสิ่งของบรรจุอยู่เต็มมันจะไม่ส่งเสียง แม้จะน�ำไปตั้งไว้กลางแจ้งลมพัดอย่างไรก็ไม่ดัง ส่วนไหที่มีความพร่องจะส่งเสียงดัง 8 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
คนมีธรรมะ จิตใจจะเบาลอยเหนือโลกธรรม ใจที่อิ่ม ใจที่เต็ม ใจที่เบา ใจไม่หนักกับเรื่องอะไรทั้งสิ้น โลกธรรม ตั้งแต่ยศลาภ นินทา สรรเสริญ สุขทุกข์ ก็ไม่สามารถจะผูกใจคนที่มีคุณธรรมได้ เพราะใจเขาก็เบา ใจเขาก็สูง
เวลามีการเปิดงานจะมีลูกโป่งสวรรค์ ลูกโป่งสวรรค์มันลอย ขึน้ ไม่ได้ เพราะมันมีอะไรดึงไว้ เชือกดึงไว้ใช่ไหม พอผูม้ เี กียรติไปตัด ลูกโป่งสวรรค์มันก็ลอยละลิ่ว ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า มันลอยได้ เพราะมันไม่มเี ครือ่ งผูกมัดมัน มันเบา เพราะอากาศอยูภ่ ายในลูกโป่ง สวรรค์ มันเป็นแก็ส มันเป็นอากาศเบา มันก็เลยลอยขึน้ ได้ ฉันใด ทุ ก ท่ า นที่ ม าฟั ง ธรรมนี้ หากมีจิตใจเบา สบายก็จะลอยไปอยูเ่ หนือ โลกอยู่เหนือลาภ เหนือ ยศ เหนือสุข เหนือทุกข์ เหนือนินทาสรรเสริญ ไม่ หวัน่ ไหว ใครจะนินทาเราจนปากแหก ก็ไม่หวัน่ ไหว เพราะอะไร เพราะ รูว้ า่ ตัวเองไม่ตดิ โลกแล้ว คนมีธรรมจะมีจติ ใจอยูเ่ หนือโลกอย่างนี้ “เขาว่าเรา เราอย่าโกรธ ลงโทษเขา ถ้าหากเรามิได้เป็นเช่นเขาว่า ถ้า หากเราเป็นจริงดังวาจา เขาว่าเราอย่าโกรธเขา เพราะเราเป็นจริง” ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
9
ทุกสิ่งเป็นเพียงมายาที่ถูกสมมติขึ้น
ใครจะรัก ถ้าเราเทิด อย่าไปเชื่อ เทวดาเบื้องบน
ใครจะชัง ความดี ค�ำวิจารณ์ ไม่ได้ท�ำ
ชั่งเขาเถิด ต้องมีผล ของปากคน อะไรเลย
คนยังพากันนินทาเทวดา ฝนตกมากก็หาว่า เทวดาเทน�้ำ ท่วมบ้านท่วมเมือง ถ้าตกน้อยก็หาว่า เทวดาเหยี่ยวใส่ ถ้าไม่ตก เสียเลยก็หาว่า เทวดาขาดเมตตาเสียแล้ว ท�ำให้โลกนี้แห้งแล้ง มัน จะดีได้อย่างไร เพราะโลกมันเป็นอย่างนี้ เมื่อมีลาภมันก็เสื่อมลาภ เมื่อมีสรรเสริญก็ต้องมีนินทา พอทุกอย่างมันเกิดขึน้ ตัง้ อยู่ ดับไป มีสขุ ก็ตอ้ งมีทกุ ข์ มีนนิ ทา ก็ต้องมีสรรเสริญ มันของคู่กัน สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่มายาโลก เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แม้แต่คำ� ว่า หญิงหรือชาย มันก็เป็นเพียงแค่มายาสมมติกนั ขึน้ มีตรงไหนว่า เป็นหญิงเป็นชาย ถ้าเราไม่สมมติ ก็ธาตุดนิ น�ำ้ ลม ไฟเหมือนกัน ใช่ไหม ธาตุ ดิน น�ำ้ ลม ไฟ ก็กายหยาบๆ ที่เรามอง เห็น สมมติว่า เป็นหญิงชาย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เขา มีหมด มีตรงไหนเป็นหญิงชาย โปรดใช้เล่มนี้ให้คุ้มสุดคุ้ม & อ่านแล้ว -> แบ่งกันอ่านหลายท่านนะจ๊ะ
อ่านสิบรอบ ระดมสมองคิดสิบหน ฝึกฝนปัญญา พัฒนาการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง ฉลาดใช้ เฉลียวคิด ชีวิตจักสนุก สงบ เย็น ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ ปรารถนาให้ทุกครอบครัวมีความสุข
10 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
รักคนอื่นก็เหมือนกับรักตัวเอง ชังคนอื่นก็เหมือนกับชังตัวเอง เพราะฉะนั้น หลวงพ่อเคยพูดบ่อยๆ ว่า ถ้าใครรักคนอื่นก็ เหมือนกับรักตัวเอง เพราะมันเป็นอันเดียวกัน ถ้าใครชังคนอื่น ก็เหมือนชังตัวเอง ไม่ชอบคนอื่น ก็เหมือนไม่ชอบตัวเอง เห็นไหม เวลาไม่ชอบคนอื่น เราทุกข์ไหม ทุกข์ เพราะมันไปจากเรา มันล้นออกจากหัวใจเราแล้ว
ต้นเหตุจริงๆ อยูท่ จี่ ติ ของพวก เราไม่ว่า ดีหรือชั่ว เมื่อจิตของเรามัน รับไม่ไหว มันมากเกินมันจึงล้นออก มาที่ปาก ล้นมาที่กาย อย่างคนดุด่า ว่าร้ายใส่ร้ายป้ายสีกัน ที่จริงมันล้น ออกมาจากจิตใจแล้ว แต่คนไม่รู้ เฉยๆ เพราะฉะนั้ น คนเราถ้ า มี คุณธรรม เขาจะดูจิตของเขาบ่อยๆ เขาจะไม่สอดแทรกไปดูคนอืน่ มากกว่า ตัวเองเลย
ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 11
ดูคนอื่นจิตฟุ้งซ่าน ดูตัวเองจิตสงบ บางคนถ้าเป็นเรื่องของคนอื่นรู้หมด แต่เรื่องตัวเองไม่รู้ ยังกับผู้สื่อข่าวมวลชนรู้หมด เรื่องคนอื่นข้ารู้หมด ยกเว้นตัวข้า ทุกสิ่งข้าพเจ้ารู้หมดแต่ข้าอดไม่ได้
ความโลภ ความโกรธ ความหลง ราคะ โทสะ โมหะรูห้ มด แต่ เราอดไม่ได้ เพราะเวลาโกรธให้ลกู ให้หลาน ก็รวู้ า่ มันไม่ดี แต่มนั ก็ยงั โกรธอยู่ ถ้าขาดสติ ความโกรธจะออกอาการทางมือบ้างทางปากบ้าง เป็นอาการ ทีล่ น้ ออกมาจากจิตจากใจของพวกเรา ดังนัน้ เราจึงต้องดูจติ ใจของพวกเราบ่อยๆ อย่างเรามานัง่ อยู่ ทีน่ ี้ เราต้องรับผิดชอบจิตใจของตัวเองมากๆ ไม่ให้ไปบอกว่า คนนัน้ นัง่ อย่างนัน้ คนนีน้ งั่ อย่างนี ้ ไม่ตอ้ งไปมองเขา ให้ดวู า่ ตัวเองนัง่ ถูกหรือ ยัง คนนัน้ เป็นอย่างนัน้ คนนี้ เป็นอย่างนี้ แล้วเราเป็นอย่างไร เราสงบแล้ ว หรื อ ยั ง เราตั้ ง ใจ ดีแล้วหรือยัง ต้องมาดูตวั เอง ถ้า ดูคนอื่นมากมันวิจารณ์ มันเป็น นักวิจารณ์ วิตก ฟุง้ ซ่าน คนเรา ถ้าดูตวั เองมากๆ มันก็สงบ 12 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
เลี่ยงเชียงสถานที่เพาะชำมรรคผลนิพพาน ถ้าย้อนถึงสัญญาเก่านะ หลวงพ่อรูจ้ กั โรงพิมพ์เลีย่ งเชียงนีต้ งั้ แต่ หลวงพ่ออ่านหนังสือได้ สมัยก่อน ๗ ขวบ เข้าโรงเรียน ผสมอักขระได้ แล้วอ่านหนังสือได้ เราชอบไปเทีย่ ววัด สวดมนต์ ๗ ต�ำนาน ๑๒ ต�ำนาน เลีย่ งเชียงทัง้ นัน้ ไม่มที ไี่ หน ในสมัยก่อน ตอนนี้ หลวงพ่ออายุ ๗๐ แล้ว ก็แสดงว่า รูจ้ กั โรงพิมพ์เลีย่ งเชียง นีม้ านานแต่ไม่เคยได้มา วันนีเ้ ป็นครัง้ แรก มาเห็นแล้วก็ปลืม้ ปลืม้ ใจ ตรงไหนว่าเห็นญาติโยมผูม้ บี ญ ุ ทุกท่านมารวมกันอยูต่ รงนี้ เป็นสถาน ทีเ่ พาะช�ำมรรคผลนิพพาน เป็นสถานทีใ่ ห้ความสุขกายสบายใจแก่ เรา บุญก็ได้ ไส้กเ็ ต็ม วันนี้ ฟังธรรมเสร็จแล้วก็ไปทานอาหาร บุญได้ ไส้เต็ม โยม ในทีน่ ี้ หลวงพ่อว่า เป็นคนมีบญ ุ ทุกท่าน เพราะตอนนีไ้ ม่มใี ครคิดเรือ่ ง หนังสือธรรมะ อกุศล มาทีน่ ที่ ปี่ ลอดอกุศล
จากเลี่ยงเชียง เหรอจ๊ะ
ไม่ต้องน�ำเอาลูกเขามานินทา ไม่ต้องน�ำเอา ลูกสะใภ้มานินทา ไม่ต้องเอาเรื่องผัวมานินทา ไม่ต้องน�ำเอาเรื่องเมียมานินทากัน มาตรงนี้ ไม่ต้องเอาลูกเอาหลาน มานินทากัน เพราะมันเป็นค�ำอกุศล เจ้าค่ะ
ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 13
ให้กำลังใจให้รอยยิ้ม ดีกว่า นินทาว่าร้ายกัน ขอบใจเพื่อนมาก ที่ให้ก�ำลังใจ มาตลอด
ไม่เป็นไร เราเพื่อนกัน
บางเรือ่ งมันล้นออกจากหัวใจ หลวงพ่อบอกแล้วไงว่า นินทา นอกบ้าน เสร็จก็นินทาในบ้าน นินทาลูกสาวบ้าง ลูกชายบ้าง ให้คน นั้นฟัง คนนี้ฟัง โยมเขาโฆษณาขายของ เขามีนินทาไหม เขาบอกว่า อย่าไปใช้นำ�้ หอมยีห่ อ้ นีม้ นั ไม่ดใี ช้แล้วเป็นมะเร็งนะ ยาย้อมผมยีห่ อ้ นี้ ย้อมแล้วเดีย๋ วเป็นมะเร็ง ยานีก้ นิ แล้วตาย ใครจะไปซือ้ เช่นเดียวกัน ถ้าเราไปโฆษณาลูกหลานของเรา ในทางไม่ดีใครจะมาเอาไปเป็นผัวเป็นเมีย มันจะขายออกหรือ มันขายไม่ออกหรอก
คนเรามันต้องให้ก�ำลังใจคนที่อยู่ใกล้ชิดกัน ต้องให้รอยยิ้ม กับคนอยู่ใกล้ชิดกันบ่อยๆ ต้องไต่ถามกันบ่อยๆ เพื่อให้กำ� ลังใจกัน 14 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
ยิ้มให้กันกำไรเกิด หน้าบูดหน้าบึ้งขาดทุน ยิ้มให้กันเราก็สุข คนรอบข้างก็สุข
สุขสองต่อ นะจ๊ะ
อาหารค้างคืนทั้งเหม็นทั้งบูด ใครก็ไม่อยากจะรับประทาน คนหน้าบูดเช่นกันใครๆ ก็ไม่อยากเข้าใกล้
หน้าบูดมีประโยชน์อะไร อยูใ่ กล้กนั ยิม้ ให้กนั จะไม่ดกี ว่าหรือ ยิ้มวันละนิดจิตแจ่มใส ไร้โรคาเป็นสง่าในสังคม เรายิ้มนิดเดียวก็ไม่ได้เสียเงินเสียทองอะไร ใช่ไหม มีแต่ได้ ก�ำไรชีวิต หน้าบูด หน้าบึ้ง หน้าตึง มันสูญเสียมันขาดทุน ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ คิด คราคิดติดขัด หยุดพักสักนิด มิต้องเร่งอ่านให้จบ หนังสือเล่มนี้อยู่ในมือท่าน โปรดอ่านแล้วอ่านอีก จักเข้าใจทีละนิด อีกไม่นานท่านจักเชื่อมโยงสรรพความคิด สัมมาทิฏฐิ สรรพธรรมที่ท่านได้สั่งสมมาจากการศึกษาปฏิบัติ จักน�ำท่านสู่ความพ้นทุกข์ได้ทีละนิด
ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 15
คนอยูใ่ กล้ชดิ กัน ต้องยิม้ ให้กนั ต้องถามไถ่สขุ ทุกข์กนั ทุกคน มีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เพราะบางครั้งมีผู้คนก�ำลังทุกข์ใจมา การกระท�ำอย่างนี้ เป็นการเติมก�ำลังใจให้กันและกัน จากสิ่งที่ท�ำ จากค�ำที่พูด จากสูตรที่คิดของพวกเรา
คิดก็ให้คิดกันในทางที่ดี ผ้าขาวผืนหนึ่ง มันเปื้อนจุดเดียว เท่านั้น เราก็ไปมองแต่จุดที่มันเปื้อน เอ๊ะ ผ้าขาวสกปรกๆ ผ้าขาวเปื้อน แต่ที่มันสะอาดไม่มองไม่ดูเลย
สามีให้ใช้ทงั้ ปีทงั้ ชาติ เข้าบ้านผิดเวลาวันเดียวเท่านัน้ ฟ้าผ่า แล้ว นางฟ้า ตอนที่ใจดีก็เป็นนางฟ้า ช่วงไหนใจร้ายเข้ามาครอบง�ำ ก็เป็นนางฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ คนอยู่ใกล้ก็ไม่อยากใกล้นางฟ้าผ่า นั่นแหละคือ คนที่ขาดคุณธรรมทางใจ เงินเดือนขาดไป ๑ บาท แกเอาไปไหน
16 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
เปล่าจ้า
ใจมีสติก็เหมือนมีแม่ทัพธรรมประจำใจ คุณธรรมไม่ตอ้ งไปพูดกันมาก ทุกคนถ้าขาดสติตวั เดียว เมือ่ สติไม่อยูใ่ นใจของเราแล้ว ความชัว่ ลามกสกปรกทัง้ หลายมันก็พา กันมาอยูใ่ นใจของเรา เรียกว่า สติ นัน่ เป็นแม่ทพั เมือ่ แม่ทพั ไม่มา กองทัพ กองทัพธรรมก็ไม่มา
เมื่อใจของใครมีสติอยู่ในขณะใด คนนี้เปรียบเหมือนมีกองทัพธรรมอยู่ในใจ กองทัพกิเลสมันจะหายไป เพราะกิเลสมันกลัวธรรมอยู่แล้ว หยุด สติ
บาป
แต่กเิ ลสมันชอบยุให้รำ � ต�ำให้รวั่ ยัว่ ให้แตก แยกให้ออก กิเลส ชอบนอนมากๆ ตื่นสายๆ กินมากๆ ขี้โม้ ขี้ฝอยมากๆ กิเลสมันชอบ เวลาเราไปนัง่ สมาธิใกล้ๆ หมอน มันไม่ยอมให้เรานัง่ นาน นางหมอน จะชวนให้นอนตลอดเวลา ด้วยข้ออ้างกลัวจะเหนื่อยท�ำงานไม่ไหว ถ้าขืนเชือ่ ฟังก็เรียบร้อย ผัดวันประกันพรุง่ อยูเ่ ป็นประจ�ำ รับประทาน ข้าวผัดกันทุกวัน แล้วเมื่อไหร่มันจะถึงจุดหมายปลายทาง ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 17
ชื่นชมแต่ไม่ลงมือทำ ยากจะสำเร็จผล คนเราถ้าต้องการจะไปแม่สาย แต่ผดั แล้วผัดอีกไม่ได้เดินทาง ไปไหนกับใครสักที อุปมาเหมือนคนอยู่แม่สายจะมากรุงเทพฯ แต่ ไปยืนสาธุอยู่ข้างทาง รถคันไหนผ่านมาก็สาธุๆ แล้วเช่นนี้จะถึง กรุงเทพฯ กับเขาได้อย่างไร ถ้าคนเรามีแต่สาธุอย่างเดียว ไปนิพพานไม่ได้แน่ เห็นคนอื่นท�ำบุญ เราไม่ท�ำ แต่รอสาธุอย่างเดียว ได้บุญเหมือนกันแต่ได้น้อย จึงไม่รวยเหมือนเขาสักที
เห็นคนอืน่ นัง่ สมาธิ ปฏิบตั ธิ รรมอยูก่ ส็ าธุอนุโทนาด้วยทุกครัง้ แต่ตวั เองไม่ยอมท�ำ คนอืน่ ไปนิพพานกันหมดแล้ว ตนเองยังยืนสาธุ อยู่อย่างนั้น คนอื่นที่มีที่ดิน เขาปลูกอ้อย ฟักแฟง แตงโม พืชพันธุ์ ธัญญาหารอะไรต่างๆ เต็มสวนมากมาย ตัวเราเองก็มีที่ดินเช่นกัน แต่ไม่ปลูกมัวแต่ชื่นชมสวนของคนอื่น เพราะเหตุใด เราถึงไม่ปลูก บ้าง มัวแต่ไปชื่นชมบารมีคนนั้นคนนี้ ทั้งชีวิตจึงได้แต่ชื่นชมบารมี ของคนอื่น ไม่เคยได้ชื่นชมบารมีของตนเองสักที 18 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
ปฏิบัติธรรมเพื่อชำระใจ ไม่ใช่เพื่ออวดกัน ผมจะจ�ำไว้ครับ หลวงพ่อ
เวลาปฏิบัติธรรมคือ การช�ำระจิตใจให้หมดกิเลส มิใช่เพื่ออวดอ้างกัน
หลวงพ่ อ ว่ า ถ้ า กิ เ ลสมั น เข้ า ไปอยู ่ ใ นใจของคนเมื่ อ ไหร่ จะท�ำให้พูดผิดคิดผิดไปหลายอย่าง มีนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายนิยม พากันไปปฏิบตั ติ ามสถานทีต่ า่ งๆ ตามส�ำนักต่างๆ ส่วนใหญ่กลับมา แล้วจะเอามาพูดอวดกัน หลวงพ่อจึงแนะน�ำไปว่า หากมีใครถาม ให้บอกว่า ไปปฏิบัติธรรมที่กาย ที่วาจา ที่ใจของตัวเอง เลิกวิ่งว่อนไปตามสถานที่ต่างๆ แล้ว ให้ค�ำตอบอย่างนี้
กิเลสมันชอบให้เราไปเอาทีอ่ นื่ แล้วเอามาอวดกัน “ฉันนี่ ไป บวชชีพราหมณ์ปนี นี้ ะ ๗ ครัง้ ๙ ครัง้ ” แต่กลับมาบ้านก็เหมือนเดิม ไม่ตา่ งจากงูเห่าขูฝ่ อ่ ๆ พ่นน�ำ้ ลายใส่กนั อยูเ่ ป็นประจ�ำ อารมณ์มนั ไม่หมด กิเลสมันไม่ลด ตัณหามันไม่ลด เพราะอะไร เพราะว่า ความตัง้ ใจของเราน้อย สิง่ ทีเ่ ราได้มามันก็นอ้ ย ท�ำให้เผลอ สติได้งา่ ย บางทีออกมายังไม่พน้ วัดนินทากาเลใส่รา้ ยป้ายสีผอู้ นื่ แล้ว ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 19
ฟัง จำ นำไปปฏิบัติเพื่อตัดกิเลสให้ได้ หลวงพ่อทราบข่าวว่า สถานที่แห่งนี่ (ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง) จัดให้มกี จิ กรรมด้านเผยแผ่ธรรมะแบบนีม้ าหลายปีแล้ว จัดสวดมนต์ มาหลายปี จัดฟังธรรมอย่างนีม้ าหลายปี อยากให้ทกุ ท่านลองไปเช็ค ดูจิตใจของตัวเองดูว่า ที่เรามาฟังธรรมที่ครูบาอาจารย์สอนมานั้น ถวายท่านคืนหมดหรือไม่ ได้เอามาใช้บ้างหรือไม่ หรือว่าใช้ของเก่า เคยมีอย่างไรก็ใช้อย่างนั้น กิเลสมันลดลงกี่กิโลแล้ว ถ้ามัน หนักอยูส่ กั ร้อยกิโล ลดลงบ้างไหม ถ้าไม่ลดลงก็แสดงว่าฟังเทศน์จบ ยกถวายคืนพระกลับไปเหมือนเดิม
ที่เป็นอย่างนี้เพราะเป็นอุปนิสัยของคน ๑. บางคนชอบฟังธรรม แต่ไม่ชอบจ�ำ สักแต่ฟังเท่านั้นไม่จำ � ๒. อีกประเภทหนึ่ง ชอบฟังชอบจ�ำ แต่ไม่ปฏิบัติ ๓. อีกประเภทหนึ่ง ทั้งฟัง ทั้งจ�ำ ทั้งปฏิบัติ ประเภทไหนจะดี บางคนฟังธรรมทั้งปี พระเทศน์เรื่องอะไร ถือว่าเรื่องของพระ อย่าไปยุ่ง เราเป็นฆราวาส คิดอย่างนั้นเสียอีก
20 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
รู้หมดแต่ปฏิบัติไม่ได้ก็ไม่เกิดผล เหมือนคุณยายคนหนึ่งชอบฟังธรรม ทุกเจ็ดวันไปฟังธรรม คนแก่เวลาไปก็เอาหมอนไปด้วย ไว้ส�ำหรับพิง วางมือวางแขน ประนมมือนานไม่ได้ ปวดแขน วันนัน้ บรรยากาศครึม้ ฟ้าครึม้ ฝน ยายฟังไปก็งว่ งไปประเพณี โบราณเล่ากันว่า คนแก่ง่วงนอนแสดงว่าฝนจะตก ถ้าเด็กง่วงนอนแสดงว่ามันขี้เกียจ
แกง่วงนอนมาก จ�ำได้บ้างไม่ได้บ้าง สะลึมสะลือ รอสาธุบท สุดท้าย รอเวลา พระเอวังเมื่อไหร่ก็รับสาธุเมื่อนั้น สมัยก่อน คุณย่าคุณตาชอบฟังธรรม ฟังแล้วก็นำ� ไปเล่านิทาน ให้เด็กฟังต่อ เพราะไม่มีวิทยุเหมือนสมัยนี้ สมัยหลวงพ่อเป็นเด็กมีแต่ฟงั คุณตา ท่านเคยเป็นนักบวชมา ท่านอ่านธรรมบทขุททกนิกาย มีนิทานมากย่อออกมาจากพระ ไตรปิฎกที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ มีมากมายหลายเรื่อง ธรรมบทแต่ ก่อนสามเล่ม บางแห่งก็รวมกันเป็นเล่มเดียว เด็กๆ ชอบให้คนแก่เล่านิทานให้ฟังเหมือนหลวงพ่อ ไม่ใช่ บวชนานนิทานมาก จ�ำได้ตั้งแต่เป็นเด็ก จ�ำได้ดี เพราะคุณตาคุณ ยายเล่าให้ฟังทุกวัน ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 21
พระเทศน์เรื่อง พญาช้างฉัตทันต์ แกฟังไม่ชัดเจน แกได้ยิน ว่า ช้างกัดกัน พอกลับไปบ้าน “ยายๆ วันนี้พระเทศน์อะไรให้ฟัง” ถ้าวันไหนไม่งว่ ง ก็เล่าให้ลกู หลานฟังได้ วันนัน้ ง่วงมากจ�ำได้ บ้างไม่ได้บ้าง แต่กลัวจะเสียเชิง “เอ้ย! เด็กอย่ามายุ่ง เรื่องของผู้ใหญ่เขา” “ไม่เอายายต้องเล่าให้หนูฟังสิ” เซ้าซี้ไปเรื่อยๆ “จะไปเทศน์เรื่องอะไรล่ะ ก็เทศน์เรื่อง ช้างกัดกันน่ะสิ” ที่ จ ริ ง เทศน์ เรื่ อ ง พญาช้ า งฉั ต ทั น ต์ แต่ ย ายฟั ง ไม่ ชั ด ดังนั้น เวลาไปฟังเทศน์ ท่านเทศน์เรื่องอะไรวันนี้ จบแล้วถวายคืน ท่านหมด แต่ก็ชอบฟัง บางคนชอบจ�ำไปรู้หมด การพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน เป็นการสร้างบุญบารมีทดี่ ที สี่ ดุ และมีผลานิสงส์มากมายทั้งในชาติปัจจุบันและชาติหน้า ตัดเคราะห์กรรม ให้สิ้นสุด ก่อให้เกิดปัญญาแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง สาธุ สาธุ สาธุ
22 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
ให้สนใจธรรมอย่าสนใจมาร เราอาศัยสัญญาเพื่อละสัญญา อาศัยความอยาก เพื่อละความอยาก ถ้าเราไม่อยาก เราจะมาฟังธรรมกันท�ำไม ไม่อยาก เราจะปฏิบัติกันท�ำไม แต่เมื่อเราเข้าถึงธรรมจริงๆ ธรรมจัดสรรแล้ว ความอยากมันจะหายไป
เหมือนโยมภาวนา “พุทโธ” ก็ตาม ก�ำหนดลมหายใจก็ตาม “หยุบหนอ พองหนอ” ก็ตาม พอเราเข้าถึงธรรมชั้นในที่สงบแล้ว หยุบหนอพองหนอก็หาย พุทโธก็หาย ลมหายใจก็หาย แต่ตอนนี้ มีเรือ่ งน่าเสียดายอยูอ่ ย่างหนึง่ คือ หลวงพ่อสังเกต เห็น สมัยนี้ เวลาพระก�ำลังให้ศลี ให้พรอยู่ เด็กหนุม่ สาวไม่คอ่ ยสนใจ กั น สั ก เท่ า ไหร่ หลวงพ่ อ อ้ า ปากขึ้ น รู ้ แ ล้ ว ๆ จะพู ด อย่ า งนั้ น รู้หมด แต่ไม่ปฏิบัติ รู้หมดทุกเรื่องแต่ไม่ทำ� สักเรื่องมันก็เลยไม่ค่อย ได้อะไร ไปเที่ยวกันเถอะ เมื่อไม่สนใจ ไม่ฟังพระที่ ก�ำลังให้ศลี ให้พร ต่อไปจะฟังศีล ๕ กันไม่รู้เรื่อง เมื่อไม่รู้แล้วจะเอา อะไรไปปฏิบัตินั่น คือ มาร
ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 23
มีสติรักษาตน อย่าหลงกลมายาของกิเลส ฉันรักเธอนะ แล้วฉันล่ะ ฮือ ๆ
มารเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ มันเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกล มันเอาด้วยมนต์ ไม่ได้ด้วยมนต์ เอาด้วยคาถา มันจะยุให้ร�ำ ต�ำให้รั่ว ยั่วให้แตก แยกให้ออก
ผัวเมียอยู่ในครอบครัวเดียวกัน มันยังท�ำให้แตกกันมาแล้ว ถ้าเรารู้ไม่ทัน ลักษณะของกิเลสตัณหาทั้งนั้น ดังนัน้ โยมมาฟังธรรมวันนี้ มีอะไรเกิดขึน้ ก็ตาม ต้อง “นิสมั มะ กะระณัง เสยโย ใคร่ครวญให้ดเี สียก่อนท�ำ” ก่อนพูด ก่อนคิด การ ใคร่ครวญนี้ เขาเรียกว่า สติ ลักษณะของสติคือ รู้ก่อนระลึกได้ก่อน ที่จะท�ำพูดคิดเสมอทุกๆ ครั้งไป 24 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
มีสตินำหน้า กิเลสตัณหาก็ตามหลัง เมื่อมีสติ ใจก็ปลอดภัย
คนเราเมื่อมีสติออกหน้าอยู่ กิเลสตัณหามันก็ต้องตามหลังเรา แต่ถ้าเราขาดผู้รู้ออกหน้า กิเลสตัณหามันจะออกหน้าเรา
ถ้าขืนปล่อยให้ธรรมะอยูข่ า้ งหลัง มักจะพลาดเสมอ จากนัน้ แล้วค่อยมาคิดได้ทหี่ ลัง ตบยุงตายไปแล้ว พอได้สติกม็ าท่องบทแผ่ เมตตาว่า สัพเพ สัตตา ทัง้ ชาติเกิดเผลอขึน้ มาเมือ่ ไหร่กต็ บยุงทัง้ ชาติ อย่างนีไ้ ม่ได้อะไร เพราะกิเลสมันออกหน้าเสียแล้ว มันใช้ไม่ได้ ดังนั้น หลวงพ่อจึงเรียกคนพวกนี้ว่า ไอ้จมูกแดง หูแดง ตาแดง ปากไว เพราะเวลาโทสะมันเกิดหน้าตาจะมีอาการแบบนี้ คราวหน้า เวลาอารมณ์โกรธมันเกิดขึ้นต้องนึกว่า ค�ำที่หลวงพ่อเคย สอนไว้ว่า “นิสัมมะ กะระณัง เสยโย ใคร่ครวญให้ดีเสียก่อน” ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 25
โทสะนำหน้าเมตตาไม่เกิด อย่ามายุ่งกับฉัน !!
ที่วัดถ�้ำผาจม มียายคนหนึ่งมาท�ำบุญ พอพระให้พร แกก็ กรวดน�ำ้ บ่นพึมพ�ำว่า สัพเพ สัตตา สัตว์ทงั้ หลายทัง้ ปวง แต่ทแี่ ปลก คือ ชาวไทยใหญ่เขาชอบท�ำบุญ แต่เวลากรวดน�้ำนิยมพากันกรวด น�ำ้ ใส่เสาศาลา ผลปรากฏว่าน�้ำไหลเต็มศาลา บังเอิญที่ศาลามีแมวมาอาศัยอยู่ออกลูกน้อยมาตัวหนึ่ง วัน นั้นแม่มันออกไปหากินที่อื่น แมวน้อยพอเห็นคนมันก็คลานเข้ามา หาเพราะมันชอบอยูก่ บั คนจะมานอนบนตัก มันปีนขึน้ ไปบนตักยาย ซึ่งก�ำลังกรวดน�้ำอยู่ “อย่ามายุ่ง ฉันก�ำลังแผ่เมตตาอยู่” ยายเอามือปัดแล้วก็จับคอแมวเหวี่ยงออกไป ไม่นานมันก็ คลานกลับมาหาแกอีก คราวนี้จับคอเหวี่ยงไปไกลกว่าเดิม 26 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก
“อย่ามายุ่ง ฉันก�ำลังแผ่เมตตา” พร้อมกับบอกลูกแมวให้รไู้ ว้วา่ แกก�ำลังกรวดน�ำ้ แผ่เมตตาให้ สรรพสัตว์อยู่ ลูกแมวตัวเล็กมันก็ตะเกียกตะกายกลับมาอีก พอครั้งสาม รูส้ กึ โมโหมากจึงจับฟาดใส่กบั ผนังปูนอย่างแรง แมวน้อยปลิวไปตาม แรงเหวี่ยงกระแทกกับก�ำแพงปูนอย่างจังตายทันทีพร้อมกับค�ำสั่ง ส�ำทับลงไปว่า “บอกแล้วอย่ามายุ่ง ฉันก�ำลังแผ่เมตตา” จากนัน้ แกก็กม้ หน้าก้มตาว่า สัพเพ สัตตา สัตว์ทงั้ หลายทัง้ ปวงของแกต่อไป ถ้าเป็นอย่างนี้จะแผ่เมตตาได้ไหม เมตตามีไหม หลวงพ่อว่า ลักษณะนีน้ า่ จะเรียกว่า เมตตีจะถูกกว่า ฆ่าแมวน้อยตายไปตัวหนึง่ แล้ว แกก็ยังสัพเพ สัตตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี้คือ สติ มันตามหลัง โทสะ โมหะ มันน�ำหน้า ส่วนมากจะเป็นกันเช่นนั้น
ธรรมะก�ำลังขาดแคลน เพราะผู้คนสนใจแต่เรื่องปากท้อง สนใจแต่ เรื่องท�ำบุญให้รวย ไม่สนใจเรื่องการศึกษาและปฏิบัติธรรม คนห่างธรรม จึง ท�ำให้คนเป็นทุกข์ เราช่วยกันให้ธรรมะไม่ขาดแคลนด้วยการปฏิบตั ธิ รรม และ เผยแผ่ธรรมในรูปแบบหนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน หนังสือธรรมะ
๑ เล่ม สอนคนได้ ๑๐๐ ปี
ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 27
คนมีทุกข์ เพราะชอบขังทุกข์ไว้ในใจ ถ้าใคร่ครวญได้ เราจะมีความสามารถโกหกความโกรธได้ และไม่เป็นบาปด้วย หากมีอารมณ์ไม่พอใจเกิดขึน้ พอรูท้ นั ให้ตอ่ รอง ยืดระยะเวลาที่จะโกรธออกไปสักประมาณ ๓ ถึง ๔ ชั่วโมง บอก เหตุผลว่า ตอนนี้ใจดีอยู่ไม่พร้อมที่จะโกรธ ผ่านไป ๓ ชั่วโมง มันยัง ไม่หยุด ต่อรองเพิ่มเวลาขึ้นไปอีก หลวงพ่อมั่นใจว่าไม่ถึง ๖ ชั่วโมง ความโกรธมันจะหายไปเอง ถ้าเกินกว่านั้น เส้นเลือดฝอยในสมอง แตกตาย ถ้าขังทุกข์ไว้ในใจ มันก็กลายเป็นทุกขัง เพราะเราขังทุกข์ไว้ ถ้าใครไม่ขังทุกข์ไว้ ทุกข์ก็ไม่อยู่กับคนนั้น ไม่ขังความโลภไว้ ความโลภก็ไม่อยู่กับเรา ไม่ขังความหลงไว้ ความหลงก็ไม่อยู่กับเรา ไม่ขังกามตัณหาไว้ กามตัณหาก็ไม่อยู่กับเรา ไม่ขังภวตัณหา วิภวตัณหาไว้ สิ่งเหล่านี้ก็ไม่อยู่ในใจของพวกเรา
ให้บอกตัวเองว่า มันเกิดขึน้ ตัง้ อยู่ ดับไป ทุกอย่างมันเกิดขึน้ ตั้งอยู่ ดับไป ที่มันอยู่กับเราได้ เพราะไปรั้งมันเอาไว้ ปฏิบัติต่อมัน ราวกับของรักของหวง ด้วยเหตุนี้ การเสียสละจึงเป็นยอดของความดี 28 ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก