ขอโทษ เมื่อตนทำ�ผิดพลาดพลั้งต่อเขาไป ให้อภัย ในเมื่อเขาสำ�นึกผิด แล้วชีวิตจะหมดเวรกรรมต่อกัน
พระธรรมเทศนาโดย.. พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
โดย... ไพยนต์ กาสี อ่านสิบครั้ง ตั้งใจคิดสิบหน มีผลเกิดปัญญา ฉลาดใช้ ฉุกใจคิด ชีวิตมีสติ มิประมาทแล
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
พระธรรมเทศนาโดย.. พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
สวดมนต์ขอขมากรรม โดย.. ไพยนต์ กาสี
บรรณาธิการ : ไพยนต์ กาสี ออกแบบปก-รูปเล่ม : เสาวณีย์ เที่ยงตรง ภาพประกอบ : เทิดเกียรติ ปลูกปานย้อย พิมพ์ข้อมูล : ธนวรรณ ขันแข็ง พิสูจน์อักษร : มานิตย์ กองษา ISBN 978-616-268-144-8 สร้างสรรค์และลิขสิทธิ์ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด 105/95-96 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทรศัพท์/โทรสาร 02-872-7667 เชิญร่วมเผยแผ่เป็นธรรมทาน โทร. 02-872-9191, 02-872-8181, 02-872-7227, 02-872-9898 LC2YOU@GMAIL.COM, LC2YOU@HOTMAIL.COM WWW.LC2U.COM, WWW.พุทธะ.NET พิมพ์ที่ : หจก. แอลซีพี ฐิติพรการพิมพ์ 105/66-67 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 กรุงเทพฯ 10140 โทรศัพท์/โทรสาร 02-872-9577 www.thitiporn.com
ขอโทษ ให้อภัย เป็นอุบายตัดเวรกรรม มีค�ำ ๆ หนึง่ ซึง่ กล่าวไว้อย่างน่าคิดว่า “การทำ�ผิดพลาดนัน้ มันเป็น วิสยั ของปุถชุ น แต่การให้อภัย เป็นวิสยั ของคนทีม่ ใี จดุจเทวดา” แสดงว่า แต่ไหนแต่ไรมา ท่านก็ให้ความสำ�คัญคนทีร่ จู้ กั ให้อภัยต่อคนทีท่ �ำ ผิดพลาดพลัง้ ต่อตนได้ พระพุทธเจ้ายังตรัสเรือ่ งคนทีโ่ กรธตอบต่อคนทีม่ าทำ�ให้โกรธ ว่าเป็น สิ่งน่าละอายไม่ควรทำ� ในส่วนคนผิดก็ควรสำ�รวมระวังอย่าทำ�ต่อไป ฉะนัน้ การรูจ้ กั ขอโทษเมือ่ ตนผิด เป็นการฝึกหัดจริตนิสยั ของเราให้ เป็นคนไม่มีทิฐิมานะถือตัวจัด ส่วนการให้อภัย เป็นการฝึกอัธยาศัยของเรา ให้รู้จักเป็นผู้ให้ไปในตัว ดังนั้น เมื่อทำ�ผิดต่อใคร อย่ากลัวอย่าอายที่ต้องไป ขอโทษเขาทุกครา และเมือ่ ใครมาขอโทษเราบ้าง ก็ตอ้ งรูจ้ กั ให้อภัยด้วยใจจริง ทุกครั้ง อย่าให้มีโทษของแต่ละฝ่ายเหลือติดค้างอยู่ในใจจะได้ไม่คิดจองเวร จองกรรมกันต่อไป เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ มีการแบ่งออกเป็นสองตอน คือ ตอนแรก อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา เป็นพระธรรมเทศนาที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม ท่านแสดงไว้ ผู้รวมรวมได้น�ำ มา จัดเรียง ตั้งหัวข้อใหม่ในแต่ละหน้า เพื่อว่าจะได้จดจำ�คำ�สอนของหลวงพ่อ ได้เร็วและง่ายขึ้น ตอนทีส่ อง สวดมนต์ขอขมากรรม เป็นกระผมไพยนต์ กาสี ผูร้ วบรวม/ เรียบเรียง มีความคิดทีอ่ ยากนำ�เสนอการขออโหสิกรรมและการให้อโหสิกรรม ผ่านบทสวดมนต์ตา่ งๆ เพือ่ ให้ทง้ั ผูข้ อและผูใ้ ห้ได้หมดเวรกรรมต่อกันในเร็ววัน ด้วยดวงจิตปรารถนาให้ทุกท่านพบสุขเกษมสานต์ ขอบุญบารมีที่ท่านสร้างไว้ เป็นเกราะป้องกันภัยให้ท่าน พ้นเคราะห์กรรม
น.ธ.เอก, ป.ธ. ๖, พธ.บ., น.บ. บรรณาธิการ รวบรวม/เรียบเรียง
สารบัญ อโหสิกรรมดับกรรมทันตา ปฏิสันถารธรรม ๘ ละชั่วสร้างดี คือ แก่นสารชีวิต ๙ ลิขิตดวงชะตาด้วยพากันเจริญกรรมฐาน ๑๐ บุญจากทานเป็นการสงเคราะห์ผู้อื่น บุญกรรมฐานคือการหยิบยื่นดวงดีให้แก่ตน ๑๑ คนที่รู้กฎกรรม เพราะสั่งสมสติสัมปชัญญะ ๑๒ จะคิดอ่านอารมณ์ได้ ต้องอาศัยการฝึกจิต ๑๓ ชีวิตจะชั่ว-ดี อยู่ที่ตัวเองทั้งนั้น ๑๔ จะแก้กฎแห่งกรรม ท่านต้องแก้ด้วยตนเอง ๑๕ เร่งปลูกเมตตาจิต จะได้ไม่คิดจองเวรกันไป ๑๖ ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม จะทำ�ชั่วได้ง่าย ๑๗ ใครมีกิจกรรม ๔ ๑๘ เท่ากับสร้างความดีไว้เป็นตรา ๑๙ บุญวาสนานั้นเป็นเรื่องของใครของมัน ๒๐ จะประชันขันแข่งกันก็ไม่ได้ ๒๑ สร้างกรรมไว้แตกต่าง จึงไม่มีทางเหมือนกัน ๒๒ กรรมของตนเท่านั้นที่ดันให้ชั่วหรือดี ๒๓ จิตตัวเราเองที่บันทึกบุญ-บาปเอาไว้ ๒๔ เข้าใจกระบวนการให้ผลกรรม ช่วยให้มีจิตสำ�นึกไม่ท�ำ ในสิ่งชั่วร้าย ๒๕
จะเป็นกรรมหรือไม่ ให้ดูที่เจตนา ๒๘ แม้ไม่มีเจตนาทำ� อาจมีกรรมตามให้ผล ๒๙ เจริญกุศลภาวนา จะเห็นกรรมที่ท�ำ ไว้ ๓๐ กรรมบางอย่างที่ท�ำ ไว้ ไม่ต้องรอผลชาติหน้า ๓๑ คนขาดศรัทธาในกฎแห่งกรรม ๓๒ จะทำ�การสอนสั่งอย่างไรก็ไม่เชื่อ ๓๓ ต่อเมื่อเวรกรรมตามให้ผลทัน ๓๔ ท่านจะทุกข์ทนจนน้ำ�ล้นออกทางตา ๓๕ เกิดทุกข์และปัญหา ถึงได้หันหน้าเข้าวัด ๓๖ ขจัดเวรแก้กรรม คนทำ�ต้องแก้เองถึงได้ ๓๗ ขออโหสิกรรมที่ตนเคยทำ�กับเขาไว้ ๓๘ เป็นอีกหนึ่งอุบายในการแก้กรรม ๓๙ สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตประจำ� ขออโหสิกรรมก่อน แล้วจึงค่อยแผ่เมตตา ๔๐ อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ จะเจ็บใจกันเปล่า ๔๑ บุญเข้าแทนที่ ก็เริ่มมีแต่สิ่งดีเข้ามา ๔๒ ถ้าทำ�อย่างจริงจังนั้น มันจะได้ผลทันตาเห็น ๔๓ การเกิดเป็นมนุษย์ สุดยากนักหนา ๔๔ วาสนาบารมี สิ่งนี้สร้างได้ด้วยเพียรพยายาม ๔๕ ไม่ทำ�ตามฝัน มันก็ไม่สำ�เร็จประโยชน์อะไร ๔๖ ทำ�กรรมฐาน จะรู้เหตุการณ์ในชีวิต ๔๗ สอนจิตด้วยกรรมฐาน คือการสอนตนให้ได้ด ี ๔๘ จะปฏิบัติให้ก้าวหน้า อยู่ที่ว่าฝืนใจได้ ๔๙ ฝืนใจได้เมื่อไร เมื่อนั้นได้พบทางปัญญา ๕๐ ถ้ามีธรรม ทำ�อะไรก็สัมฤทธิผล ๕๑ เป็นพ่อแม่คน ต้องสอนลูกดีกว่าตนให้ได้ ๕๒
ร้อยพันคำ�สอนสั่ง ยังไม่เท่าทำ�ดีให้ลูกเห็น ๕๓ สอนลูกให้สวดมนต์เป็น ได้ดีกันทุกคน ๕๔ คนมีสัจจะฝืนใจ รับรองไม่ไปทางชั่วร้าย ๕๕ ปล่อยใจตามอารมณ์ ระทมทุกข์ตลอดเวลา ๕๖ ติฉินนินทาเขา ตัวเราจะมีกรรมตามติด ๕๗ ชีวิตดีแน่ แค่ท�ำ กรรมฐาน สมาทานศีล ๕ ๕๘ อดทนเวทนาเวลาปฏิบัติ จะทราบชัดถึงกรรมของตนที่เคยทำ�ไว้ ๕๙ กรรมในปัจจุบัน แก้ด้วยการทำ�ดี ๖๐ อธิษฐานขออโหสิ คือวิธีแก้กรรมในอดีต ๖๑
สวดมนต์ขอขมากรรม ขอโทษ ให้อภัย คือผู้มีน้ำ�ใจเป็นนักกีฬา ๖๔ สวดมนต์ขอขมากรรม ต้องทำ�อย่างไร ? ๖๕ ขอขมากรรมต่อพระไตรรัตน์ ขจัดสิ่งขุ่นข้องหมองใจให้มลายสูญ ๖๗ ขอขมากรรมตน ด้วยบทมนต์ธรรมจักร ๗๕ สวดมหาเมตตาใหญ่ ใช้ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร ๙๕ สวดพุทธชัยมงคลคาถา เพื่อเอาชนะใจตนให้เกิดผลคิดอโหสิกรรม ๑๑๕ ทำ�สมาธิ แผ่เมตตา อธิษฐานจิต ๑๒๓
พระธรรมเทศนาโดย..
พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
ปฏิสันถารธรรม เจริญพรญาติโยมผู้ใคร่ในธรรมสัมมาปฏิบัติทั้งหลาย วันนี้ วันธรรมสวนะ เป็นวันที่พุทธบริษัททั้งหลายจะงดเว้นเสียมิได้ เช่น เราจะต้องรักษาอุโบสถ รักษาศีล และฟังพระธรรมเทศนา เป็นอาทิ การปฏิบัติธรรมในวันธรรมสวนะ หนึ่งสัปดาห์เจ็ดวัน เราจะสร้าง ความดีสักวันหนึ่งก็แสนจะยาก จะอยู่ในหอประชุมสักชั่วโมง สอง ชั่วโมงก็ยังยาก นั่นเป็นเพราะอะไร ? ท่านทั้งหลาย สร้างความดีนี่ยาก มีเครื่องกีดกั้นความดีไว้ ไม่ให้วง่ิ ไปหาความดี นัน่ ก็คอื จิตใจของเรานัน่ เอง ไม่ใช่คนอืน่ เราตัง้ ใจ รักษาอุโบสถศีล ตั้งใจฟังพระธรรมเทศนา เราตั้งใจปฏิบัติกรรมฐาน ด้วยศรัทธา ด้วยเต็มใจมา ครั้นถึงเวลาศรัทธาก็ถอย นั่นแหละคือ เครื่องกั้นความดี ไม่ให้เราสามารถก้าวไปสู่ความดีได้ จะว่าคนอื่น ทำ�ให้เราไม่มาสร้างความดีก็ไม่ใช่ ตัวเราเองทั้งนั้น จิตเกิดอุปสรรค ใจคอหดหู่เหี่ยวแห้งแล้งนำ�้ ใจ ไม่เคยปฏิบัติธรรม เมื่อไม่เคยปฏิบัติ เช่นนี้ก็เป็นเครื่องกั้นความดี 8
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
ละชั่วสร้างดี คือ แก่นสารชีวิต พุทธศาสนิกชนสมัยก่อนปู่ย่าตาทวดชอบมาวัดในวันพระ รักษาอุโบสถ ทำ�บุญตักบาตร วันธรรมดาก็ใส่บาตรหน้าบ้าน ถึงวันพระ ก็มาทำ�บุญตักบาตรในวัด มารักษาอุโบสถ กำ�หนดองค์ ๘ ประการ เป็นต้น คนสมัยก่อนโบราณจึงมีคณ ุ ธรรมสูง เขาจะสร้างความดีหนี ความชั่ว สร้างตัวให้ดี นี่คนโบราณ ท่านเข้าใจการสร้างแก่นสาร ให้ชีวิต ผิดกับสมัยนีท้ ค่ี นส่วนใหญ่นน้ั ไม่คอ่ ยจะสนใจความดีอนั นี้ วันโกนก็ไม่เข้าใจ วันพระก็ไม่รู้ วันไหนควรที่จะอยู่ฟังธรรมและ ปฏิบัติกรรมฐานก็ไม่เข้าใจ พระสงฆ์องค์เจ้ายุคใหม่นเ้ี ช่นกัน บวชก็บวชกันสัน้ ๆ บวชกัน เวลาน้อย แถมยังไม่ตง้ั ใจปฏิบตั ิ แล้วจะได้อะไรติดตัวไปเป็นเครือ่ งกัน้ ความชัว่ ไม่ให้เข้าสูจ่ ติ ใจ ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับเรือ่ งทีไ่ ม่เป็นสาระ ทั้งพระทั้งฆราวาส ท่านทั้งหลาย การเจริญพระกรรมฐาน การปฏิบัติธรรม ต้องการประพฤติตนให้เป็นสาระ สร้างชีวิตให้เป็นแก่นสาร เพราะ การเจริญกรรมฐาน ทำ�ให้ชีวิตมีค่า ทำ�ให้เวลามีประโยชน์แด่ท่าน ความดีทั้งหมดนี้แหละเป็นสาระ ความดีที่ทุกคนกระทำ�บำ�เพ็ญให้ เป็นไปนั่นแหละเป็นแก่นสารของชีวิต ทั้งยังเป็นแผนที่ลิขิตขีดดวงชะตาชีวิตของคนเราได้ 9
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
ลิขิตดวงชะตาด้วยพากันเจริญกรรมฐาน การปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนานั้น เป็นการสร้างดวงชะตากรรมนำ�ให้เราได้มโี อกาสก้าวเข้าสูจ่ ดุ มุง่ หมายแห่งความดีทง้ั หลาย ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์มาก ท่านไม่ต้องไปดูดวงชะตาแต่ประการใด การทีเ่ รามาเจริญกรรมฐานนัน้ เป็นการสร้างดวงทีด่ ี ดวงที่ จะดีได้นน้ั เราเข้ามาสร้างของเราเองทัง้ นัน้ ชะตากรรม เคราะห์หาม ยามร้ายก็ตาม เราสร้างดวงของเราเองด้วยกฎแห่งกรรม เราสร้าง กฎแห่งกรรม ถ้าเราสร้างแต่อกุศล ผลงานนั้นก็จะเป็นดวงที่ไม่ดี ดวงที่ไม่ดีนั้นเป็นอกุศลกรรม ดวงที่ดีมีปัญญานั้นเราสร้างแต่กุศล ผลมันเป็นบุญ ไม่เป็นบาปแต่ประการใด บำ�เพ็ญบุญ ก็คอื ต้องการสะสมหน่วยกิตในชีวติ ของตนเอง ให้เกิดความสุข ความสุขเราทราบกันทุกคน แต่ไม่ค่อยมีใครอยาก สร้าง สุข...หนอ วิธีการสร้างบุญ ให้เกิดความสุขนั้น กระทำ�ได้ด้วยการ มาชำ�ระใจ บำ�เพ็ญสติกรรมฐาน ทำ�ใจให้สะอาดหมดจดบริสุทธิ์ ประกอบด้วยเมตตาธรรม นั้นแหละถึงจะเป็นบุญบริสุทธิ์ 10
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
บุญจากทานเป็นการสงเคราะห์ผู้อื่น บุญกรรมฐานคือการหยิบยื่นดวงดีให้แก่ตน บุญที่เราถวายสังฆทาน เป็นบุญทาน ให้ทานการกุศล เป็น การสงเคราะห์คนอื่นทั้งหมด แต่บญ ุ ทีแ่ น่นอนทีส่ ดุ นัน้ คือการเจริญพระกรรมฐาน สร้าง ผลงานให้กับจิต ทำ�ให้จิตสะอาด ปราศจากความเศร้าหมอง มีจิตใจผ่องใส จิตใจของท่านก็จะเดินไปข้างหน้า ดำ�เนินชีวิตอยู่ ด้วยความสดชื่นและเป็นบุญ บุญเกิดจากการสงบจิต เรามาบำ�เพ็ญจิตตภาวนาต้องการให้ จิตสงบ ไม่ตอ้ งการให้จติ ฟุง้ ซ่าน ไม่ตอ้ งการให้จติ วุน่ วายนัน้ แล้วเข้าสู่ ภาวะของดวงทีด่ ไี ด้ และดวงทีจ่ ะดีได้ตอ้ งอาศัยหลักพระพุทธศาสนา เป็นกฎแห่งกรรม พระพุทธเจ้าสอนไว้ดเี หลือเกิน สอนเหตุสอนผล สอนให้คน ได้รู้ในกฎแห่งกรรม สอนให้คนรู้บาป รู้บุญ รู้คุณ รู้โทษ รู้สิ่งที่เป็น ประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ พระพุทธเจ้าเน้นตรงนี้มาก ท่านสอนให้เรามีดวงดี เราเกิดมานั้นในสากลโลกนี้ เราไม่ทราบว่าเราทำ�บาป หรือ บุญอะไรมา สร้างเวรสร้างกรรมอะไรมาบ้างนั้น เราไม่ทราบกันเลย ข้อนี้เป็นความหมาย เราไม่สามารถระลึกเหตุการณ์ของชีวิตได้ 11
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
คนที่รู้กฎกรรม เพราะสั่งสมสติสัมปชัญญะ ถ้าเรามาเจริญพระกรรมฐาน สะสมสติไว้ในทุกอิริยาบถ สะสมสมาธิ ด้ว ยการตั้ง มั่น จิ ต ต่ อ ความรู้ข องตนด้ ว ยสั ม ปชั ญ ญะ ท่านจะรู้กฎแห่งกรรมของท่านได้ การเจริญสติสะสมไว้ได้มากมัน ก็ทำ�ให้สามารถระลึกชาติได้ สติแปลว่าอะไร ? อาตมาจะตอบให้ฟังง่ายๆ สติ แปลว่า ระลึกชาติได้ ถ้าระลึกอะไรไม่ได้นน้ั ไม่ใช่ตวั สติ ในที่นี้ สัมปชัญญะ แปลว่าอะไร ? สัมปชัญญะ แปลว่า รู้เหตุผล รู้สิ่งที่มีประโยชน์และไม่มี ประโยชน์ ความรู้ซึ่ง รู้ว่านี่เป็นบุญ รู้ว่านี่เป็นบาป ไม่ควรทำ� ตัวอะไรหนอที่บอกไม่ควรทำ� ? ก็ตวั สติร�ำ ลึกอยูเ่ สมอว่า นีเ่ ป็นบาปไม่เป็นบุญก็ไม่ควรทำ� การไม่ควรทำ�ได้จากอะไร ? ได้จากสมาธิมั่นในความดี ไม่ยึดมั่นในความชั่วต่อไป ความชั่วนั้นจะค่อยๆ ถอยหลังออกไป แสงสว่างคือสมาธิ ได้แก่ ปัญญา เข้ามาอยู่ในจิตใจเรานั้น จิตใจเราก็เบิกบาน จิตใจเราก็มีแต่ความสุข เราไม่มีความทุกข์อยู่ในใจไม่มีความวุ่นวาย 12
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
จะคิดอ่านอารมณ์ได้ ต้องอาศัยการฝึกจิต ที่เราวุ่นวาย มีแต่ความทุกข์นั้น เราไปแส่หามา เราไปตาม ทุกข์มาอยู่ในจิตใจ ข้อเท็จจริงจิตมันอยู่เฉยๆ เป็นอารมณ์อันหนึ่ง ที่เราคิดเท่านั้น แต่ความคิดนั้นเราต้องประกอบด้วยสติระลึกเสมอ คิดอะไรกำ�หนด คิดหนอ คิดหนอ คิดอะไร ? คิดเรือ่ งนัน้ เรือ่ งนีจ้ ปิ าถะ เพราะลักษณะของจิต เป็นธรรมชาติคิดอ่านอารมณ์ รับรู้อารมณ์ได้เป็นเวลานานเหมือน เครื่องบันทึกเสียง เราก็ไม่รู้ว่าคิดอะไร ห้ามไม่ให้คิดนั้นไม่ได้โดย เด็ดขาด มันต้องคิด หลับลงเมื่อใดมันเลิกคิดเมื่อนั้น ลืมตาเมื่อใด มันก็คิดเมื่อนั้น ปัญหาอยู่ที่ว่า คิดดีหรือคิดชั่ว เราก็ไม่ทราบ แต่ถ้ามาเจริญ อย่านะบาป กุศลภาวนา เอาเลย เราจะได้ทราบ เราก็จะได้รู้ซึ้ง เราก็ตรึกตรอง อยู่ในชีวิตของตน เราจะได้ทราบว่า คิดอย่างนั้นไม่ดี คิดอย่างนี้มันถึงจะดี ตรงนีเ้ ป็นจุดหมายของการเจริญพระกรรมฐาน ถ้าไม่หวังกัน เลอเลิศ ที่จะไปสวรรค์ นิพพาน เอาตรงนี้ก่อนเป็นพื้นฐาน 13
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
ชีวิตจะชั่ว-ดี อยู่ที่ตัวเองทั้งนั้น ขอเจริญพรว่า คนเราฐานะนั้นไม่เท่ากัน สมองไม่เท่ากัน ความเป็นอยูก่ ไ็ ม่เท่ากัน การเป็นอยูข่ องชีวติ นีม้ นั ก็ไม่เท่ากัน มันอยู่ ที่ฐานะ แต่ถ้าเรามาเจริญกรรมฐานแล้ว ขอเจริญพรและยืนยันว่า ฐานะท่านจะดี ท่านจะมีหลักฐาน ท่านจะมีงานทำ�ที่ดีด้วย ที่เรา ไม่มีงานจะทำ�กันนั้น วุ่นวาย สับสน ไม่ทราบว่าทำ�งานอันใดจะดี ด้วยกันทุกคน แต่ถ้าเรามีกุศลแล้วมันจะพาเราไปสู่งานที่ดี ขยัน หมั่นเพียรโดยตลอด รับผิดชอบเสมอไป นี่แหละดวงท่านถึงจะดีได้ อาตมาจึงย�ำ้ นักย�ำ้ หนา ดี-ชัว่ ประการใด มิใช่คนอืน่ ทำ�ให้ แต่เราทำ�ของเราเอง เราทำ�ตัวเอง บาปก็อยู่ที่ตัวเอง คนอื่นเขา ไม่รเู้ รือ่ ง ไปโกรธว่าคนโน้นเขาด่า คนนีเ้ ขาด่า กลับไปนีก่ จู ะเล่นงานมึง แต่ตนเองเล่นงานตนเองไปแล้วโดยไม่รตู้ วั นี.่ .! อ่านตัวไม่ออก บอกตัว ไม่ได้ ใช้ตัวไม่เป็น ฉะนั้น การกระทำ�ของชีวิตนี้จึงมีหลักฐาน เหตุการณ์ของ กฎแห่งกรรมเกิดขึน้ แก่ตวั เรา ถ้าเราแผ่เมตตา ศัตรูกเ็ ป็นมิตรเราได้ คนทีเ่ ป็นคูก่ รณี ทีเ่ กลียดเรา อิจฉาเรา ผูกพยาบาทเรา เราก็สามารถ แผ่เมตตาให้เขาเป็นมิตรกับเรา เขาจะได้ช่วยเราทำ�งานต่อไป รำ�วง มันก็ตอ้ งมีกองเชียร์ มีฉง่ิ มีฉาบมีกรับมีกลองด้วยกันทัง้ นัน้ ถ้าเราไม่มี กองเชียร์ขาดพวกพ้องน้องพี่แล้ว ไหนเลยเราจะทำ�งานอะไรได้เล่า 14
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
จะแก้กฎแห่งกรรม ท่านต้องแก้ด้วยตนเอง ขอฝากไว้ว่า กฎแห่งกรรมเกิดด้วยการกระทำ�ของเราเอง ไม่ใช่คนอืน่ ทำ�ให้แน่นอน ได้แก่ตวั อาตมาหลายเรือ่ ง ดูสฟิ า้ ผ่าทีก่ ฏุ ิ คนอยู่ในกุฏิก็มี สายสีเขียวเข้ามา สายแดงเข้ามา ชนกันเปรี้ยง จีวรไหม้หมดทั้งตัว ต้องปวดแสบปวดร้อนอยู่ ๖ เดือน หูตึงไป ๖ เดือน ใครพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องทรมานเพราะสาบานกับยายไว้ ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปมันก็เป็นได้ อาตมาแก้ให้ไม่ได้หรอกโยม วิธีการแก้ปัญหา ที่อาตมาพูดให้ฟัง คือแก้ปัญหาให้ตัวเอง ไม่ใช่คนอื่นมาแก้ให้ คนอื่นเขาจะมาแก้ ปัญหาเราได้อย่างไร และคนเป็นร้อยเป็นพันนี่ ปัญหามันคนละเรื่องกันทั้งนั้น ลองไปถามดูสิว่ามีปัญหาเรื่องอะไร เรื่องผัวบ้าง เรื่องเมียบ้าง เรื่อง ลูกบ้าง สารพัดเรื่อง เวรกรรมของคนไม่เหมือนกัน ทำ�มาไม่เหมือนกัน อย่าไปว่ากัน อย่าไปใส่ร้ายป้ายสีซึ่งกันและกัน ไม่สู้ ไม่หนี สร้างความดีเข้าไว้ ใครจะว่าอย่างไรก็ชง่ั สร้างความดีเข้าไว้ให้ได้ เท่านีก้ ห็ มดเรือ่ ง หนักเข้า เวรกรรมก็หมดไปเอง 15
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
เร่งปลูกเมตตาจิต จะได้ไม่คิดจองเวรกันไป เชือ่ อาตมาเถอะ ถ้าไม่สร้างเวรสร้างกรรม ทำ�อะไรก็ไม่ตอ้ ง กลัว เช่น เราไม่เคยฆ่าใครก็ไม่ต้องกลัว เขาก็ไม่ฆ่าเรานะ ถ้าเรา ไม่ฆ่าเขา เขาก็ไม่ฆ่าเราแน่นอน อย่างนี้เป็นต้น ขอฝากไว้ในโอกาสนี้ เราเมตตาต่อกันไว้เถิด ดีกว่าที่เราจะ มีความอิจฉาริษยากัน ถ้าเราผูกใจเจ็บต่อกัน จะเกิดสิง่ เหล่านีข้ น้ึ มา แน่นอน คือ
๑. ๒. ๓. ๔. ๕.
เป็นสาเหตุทำ�ให้แตกแยกความสามัคคี เป็นอุปสรรคในการประสานงานที่ดี ขาดขวัญและกำ�ลังใจต่อผู้ปฏิบัติงาน สร้างศัตรูให้กับตัวเอง ไม่มีความจริงใจกับใครเลย
เพราะฉะนั้น ไม่ควรจะผูกใจเจ็บ ไม่ควรอิจฉาริษยาใคร ใครจะร้ายกับเราก็ช่างเขานะ เขาร้ายมา อย่าร้ายตอบ เท่านี้พอ ขอให้นึกถึงคำ�ที่โบราณว่า แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร แต่คนปัจจุบนั ก็มกั คิดกันว่า ถ้ายอมแพ้แม้ตอ่ คนทีร่ า้ ยกับเรา ก็เท่ากับเป็นคนอ่อนแอนะสิ แต่ก็ลองคิดดูให้ดีแล้วกัน ว่าถ้าท่าน ร้ายตอบเขากลับไป แล้วเมื่อไหร่จะพบความสงบสุขในชีวิตอย่าง จริงจัง 16
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม จะทำ�ชั่วได้ง่าย บางคนไม่มีศรัทธาเลยแม้แต่ข้อเดียว ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ไม่เชื่อว่าทำ�ดีได้ดี ทำ�ชั่วได้ชั่ว คนที่ไม่เข้าใจ ในหลักนี้ จึงไม่เชือ่ เวรเชือ่ กรรม ไม่เชือ่ ว่าบุญบาปมีจริง ก็เลยทำ�ชัว่ เห็นแก่ตัว มักง่ายมักได้ตลอดมา ต่อเมื่อกรรมไปซัดเมื่อใด จะเห็นใจเมื่อนั้น ตอนที่กรรมยัง ไม่ซดั เหตุผลยังไม่มาถึงตน ตนเองก็ไม่เข้าใจ เมือ่ ไปตกระกำ�ลำ�บาก ขึน้ มา น�ำ้ ไหลออกตาเมือ่ ใด จะเห็นกรรมเมือ่ นัน้ ตอนนีเ้ ราสบายอก สบายใจ กรรมยังไม่มาซัด ก็เพราะกรรมยังมาไม่ถึง เพราะความดี ยังมีอยูบ่ า้ ง กรรมของบาปนัน้ ยังไม่มาถึง พอความดีออกไป บาปกรรม มันก็ซัดตูมเมื่อนั้น มันมีผลต่างกันอย่างนี้ ถ้าเรามีกรรมอยูม่ าก กำ�ลังตกทุกข์ได้ยาก แต่กรรมดีของเรา ยังมีอยู่ กำ�ลังคอยอยู่ข้างนอก ยังไม่มาให้ผล เมื่อกรรมชั่วหมดไป ใช้หนี้กรรมชั่วไปหมดแล้ว ความทุกข์ยากลำ�บากลำ�เค็ญใจมันก็ หมดสิ้นไป กรรมดีทเ่ี ราสร้างไว้มากคูก่ นั มา มันก็เข้ามาซัดตัวเรา ส่งเสริม ให้เราดี ให้เรามีปญ ั ญา ส่งเสริมให้เราเป็นเศรษฐีมง่ั มีศรีสขุ ส่งเสริม ให้เราเกิดผลผลิต มีบา้ นช่อง บางคนอาศัยเขาอยู่ พอกรรมดีเข้ามา ซัดมันก็ท�ำ ให้เรามีบ้านอยู่ มีเคหสถานอยู่อย่างใหญ่โตมโหฬารได้ 17
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
ใครมีกิจกรรม ๔ อาตมาขอพูดอีกข้อหนึ่งว่า ที่จริงสังคมไทยของเรานั้น มี ระเบียบแบบแผน มีวัฒนธรรมดี แต่เราไม่ค่อยให้ความสนใจใน วัฒนธรรมทีด่ กี นั เช่น การเคารพผูใ้ หญ่ ถ้าเราขาดความเคารพผูใ้ หญ่ ขาดความเคารพพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ไม่เคารพท่านผู้มีพระคุณ บ้านนัน้ จะไม่มรี ะเบียบวินยั ลูกหลานก็จะขาดวัฒนธรรมทีด่ ไี ปด้วย ลูกหลานก็จะขาดจากความดี ถ้าต้องการให้ตัวเองมีความดี ต้องมีกิจกรรม ๔ อย่างนี้ คือ ๑. ต้องแสวงหาความรู้ สุนทรภู่กล่าวในเพลงยาวถวาย โอวาทว่า อันข้าไทได้พง่ึ เขาจึงรัก แม้นถอยศักดิส์ น้ิ อำ�นาจวาสนา เขาหน่ายหนีมิได้อยู่คู่ชีวา แต่วิชาช่วยกายจนวายปราณ นี่จึง ต้องหาความรู้ไว้ก่อน วัยเด็กตั้งใจศึกษาไว้
18
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
เท่ากับสร้างความดีไว้เป็นตรา ๒. ต้องละความชัว่ จะสร้างบุญ สร้างความดีนน้ั ท่านต้อง ละบาปให้ได้ ต้องละเลิกอบายมุขให้หมด ถ้าไม่ยอมลดยอมละ แล้ว ท่านจะได้ความดีแก่ชีวิตแต่ที่ไหน ๓. ต้องพัฒนาตนเอง อ่านตัวออก บอกตัวได้ ใช้ตัวเป็น จะได้เห็นตัวตาย จะได้คลายทิฐิ จะได้ด�ำ ริชอบ จะได้ประกอบกุศล ได้ผลอนันต์ เป็นหลักฐานสำ�คัญ ดังนัน้ ต้องพัฒนาตนให้เต็มความ สามารถ ๔. ทำ�ให้แจ้งถึงใจ ทำ�อะไรให้มีเหตุผล ถ้าทำ�ไม่แจ้งถึงใจ แล้ว มันจะได้แต่เปลือก ทำ�อะไรให้มนั ถึงจิตใจ ให้มนั ผูกพันถึงจิตใจ ด้วยคุณพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ ทำ�ได้อย่างนี้ รับรองท่านมีบญ ุ วาสนาต่อไปอนาคต นีห่ ลักการทำ�ดีให้ชวี ติ ทีท่ กุ ท่านควรกำ�หนดจดจำ�นำ�ไปปฏิบตั ิ
19
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
บุญวาสนานัน้ เป็นเรือ่ งของใครของมัน แต่บางคนไม่มคี วามเข้าใจอย่างนี้ ขอเจริญพรอย่างนัน้ อย่าง บางคนก็เกิดเป็นมนุษย์เสียเปล่าไม่เข้าท่า แต่ท�ำ ความเป็นมนุษย์ให้ ผิดแผกแตกกันไป นี่แหละพี่น้องทั้งหลาย คนเราเกิดมาเหมือนกัน มีหู มีตา มีปาก มีฟัน ส่วนใหญ่มีอาการครบ ๓๒ ด้วยกันทั้งนั้น จะผิดแผก แตกต่างกันไปก็เป็นหญิงชายแยกไป แยกออกไปอีก แยกด้วยกฎแห่ง กรรม คือ การกระทำ�ของแต่ละคนไม่เหมือนกันมาแต่ครั้งอดีตชาติ บุญกุศลก็ดลบันดาลให้เกิดมาตามฐานะของบุญวาสนา อาตมาขอกล่าวต่อไปว่า แข่งเรือแข่งแพมันพอจะแข่งกันได้ ถ้ามีกำ�ลังก็พอจะจ้ำ�จะพายเอาชนะได้ ยิ่งซ้อมก็ยิ่งชนะ แต่จะไปแข่งบุญแข่งวาสนานัน้ มันแสนจะยากมาก มีความ ลำ�บากในชีวิตเหลือเกิน จะแข่งกับเขาได้อย่างไร ? บางคนไม่มีบารมีมาแต่ชาติก่อน วาสนาก็ไม่เกิด คนเราจะต้องมี บุญบารมีของตนก่อน การจะมีบุญญาบารมีนั้น ก็อยู่ที่กฎแห่งกรรม คือ การกระทำ� ของแต่ละท่านของแต่ละชีวิต ตั้งแต่ในอดีตชาติเรื่อยมา 20
ถ้ามัวแต่ฝัน ไม่มีวันสํำ�เร็จ
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
จะประชันขันแข่งกันก็ ไม่ได้ ท่านทั้งหลายเคยสังเกตบ้างไหม ? เช่น บางคนไปทำ�สวน ไร่นา แค่จิ้มๆ จ้ำ�ๆ ปักมันส่งเดชไป แหม..! มันงอกงาม ออกลูก งามเหลือเกิน บางคนพยายามรดน้ำ�พรวนดิน แต่ทำ�ยังไงต้นไม้มัน ก็ยังงอกแล้วก็หงิก ไม่ออกผลให้เลย บางคนก็พดู ว่า แหม..! มือดีนะ ปลูกกล้วยหวีงามมาก มือดี จริงๆ บางคนไปทำ�อย่างเขาบ้าง กล้วยก็ไม่งาม มันแกร็นหมด มันลีบ หมด เห็นไหมนี่เพราะบุญวาสนาไม่เหมือนกัน บางคนทำ�ส่งเดชนะ ปักส่งเดชเลย หว่านข้าว แหม..! ข้าวงามจริง และไม่มเี พลีย้ ไม่มแี มลง มากินแต่ประการใด ข้าวก็เต็มเม็ดเต็มหน่วย นี่เห็นไหม บางทีท�ำ นาผืนเดียวกัน แบ่งทำ�คนละครึง่ น�ำ้ ท่าก็ดเี หมือนกัน แต่นาของเราไม่ได้ผล นาของเขา ข้าวเขาทำ�ไมจึงได้ผล ข้าวเขาก็ดี งามเต็มเม็ดเต็มหน่วย เม็ดตึงดี ข้าวของเราเม็ดลีบหมด เห็นไหมนี่ เพราะบุญวาสนามันต่างกัน มันไม่เหมือนกัน กฎแห่งกรรมบอกไว้ชดั แต่เราก็ไม่ทราบเพราะไม่เคยคิดมา ก่อนว่า ในครัง้ อดีตชาติเป็นประการใด เราก็ไม่ทราบขอไปทีเท่านัน้ ไฉนเลยบุญกุศลจะนำ� กรรมจะแต่งให้ดีได้ เพราะบุญไม่มีจะนำ� กรรมก็แต่งให้ดีไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคนเราก็เป็นใหญ่เป็นโตกันหมดสิ
21
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
สร้างกรรมไว้แตกต่าง จึงไม่มีทางเหมือนกัน การที่มนุษย์มีภาวะความเป็นไปต่างๆ กัน เช่น ดีหรือชั่ว รวยหรือจน เจริญหรือเสื่อม สุขหรือทุกข์ ก็เนื่องมาจากกรรมของ ตนเองทั้งสิ้น กรรมใดที่ทำ�ลงไปจะเป็นกรรมดีหรือชั่วก็ตาม ย่อม ให้ผลตอบแทนเสมอ ย่อมติดตามผู้ทำ�เสมือนเงาติดตามตน หรือ เหมือนกับล้อเกวียนที่หมุนตามรอยเท้าโคไป ฉะนั้น ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ จึงมีกรรมเป็นที่พึ่ง มีกรรมเป็นที่อาศัย หากเราทำ�กรรมดี ก็ได้รับความสุข ความเจริญก้าวหน้า กรรมดี จึงเหมือนกับ กัลยาณมิตรที่คอยให้ความอุปการะ และส่งเสริมให้เรา ประสบความสุขและความเจริญ ถ้าหากเราทำ�กรรมชั่ว กรรมชั่ว ก็จะคอยล้างผลาญเราให้ ประสบแต่ความทุกข์และความเสื่อม เรามานั่งเจริญกรรมฐาน เช่น กายานุปัสสนา มีสติรู้ว่ากาย จะยืน จะเดิน จะนัง่ จะนอน เหลียวซ้าย เหลียวขวา จะคู้ จะเหยียด มีสติก�ำ หนดตลอด อย่างนี้เรียกว่า มีตัวกำ�หนดชะตากรรม 22
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
กรรมของตนเท่านั้นที่ดันให้ชั่วหรือดี พรหมลิขิตมันขีดตัวเอง ไม่ใช่คนอื่นมาลิขิตให้ การกระทำ� ของเราเท่านั้นกำ�ชะตากรรมไว้ บางท่านบอกให้กำ�หนด ไม่เอา ท่านจะไม่ได้อะไร น่าเสียใจ น่าเสียดายเวลาของท่านทีห่ มดไปแล้ว เรียกคืนมาไม่ได้ และไม่ได้อะไรติดตัวไป บอกให้กำ�หนด ก็ไม่ก�ำ หนด เสียใจกำ�หนด ดีใจกำ�หนดที่ ลิน้ ปี่ บางคนก็ไม่รลู้ น้ิ ปีอ่ ยูต่ รงไหน ไปกำ�หนดเอาทีส่ ะดือบ้าง กำ�หนด เอาตรงโน้นบ้าง ตรงนีบ้ า้ ง นีเ่ พราะเวลาพูดไม่ฟงั เวลาเทศน์กไ็ ม่ฟงั เวลาบรรยายก็ไม่ฟัง เอาแต่ก็นั่งหลับตา มันจะไปรู้เรื่องอะไร จะได้ ประโยชน์ จะได้ปัญญาอย่างไร เวลาฟัง ฟังให้มันจริง ตั้งใจฟัง สนใจฟัง จดหัวข้อเอาไว้ แล้วปฏิบตั ทิ นั ทีอย่ารอรีประการใด มันก็เกิดปัญญาในการฟัง ถึงจะ มีประโยชน์กับท่านมาก มาอย่างนั้นจะไม่มีประโยชน์กับท่านเลย คำ�ว่า กฎแห่งกรรมแปลว่าอะไร ? กฎ แปลว่า ดัน และ ผลัก คือ กดลงไป และดันขึ้นมา กรรม แปลว่า การกระทำ� ซึ่ง แต่ละราย แต่ละรูปทำ�มาไม่เหมือนกัน ทำ�ดี ก็ดันไปทางดี ทำ�ชั่ว ก็ดันไปทางชั่ว กฎ ตัวนี้คือกฎแห่งธรรมชาติ ถ้าเรามีคุณธรรมได้อบรมมาดีแล้ว มันจะดันและผลักไปใน ทางดีให้มีปัญญา แต่ถ้าการกระทำ�เราไม่สมส่วนควรกัน ไม่สมเนื้อ สมน้ำ� เพราะจิตใจที่อบรมมาไม่ดี มันจะดันไปในทางที่ไม่ดี และ กดให้จมลงให้ตำ�่ ไปโผล่ไม่ขึ้น 23
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
จิตตัวเราเองที่บันทึกบุญ-บาปเอาไว้ บางคนนี่ ไม่รกู้ รรมของตนเลย สร้างแต่กรรมทำ�เข็ญตลอด รายการ ตัวเองก็ไม่รวู้ า่ ทำ�บาปหยาบช้า ตัวยุยง ตัวเสียดสี ก็หาได้รู้ ไม่ว่านั่นแหละเป็นการเพิ่มกรรม เพิ่มบาปไว้ในใจ ต้องรู้ได้จากปฏิบัติกรรมฐาน เห็นเวทนาหนัก กำ�หนดเข้า ปัญญาเกิด จะได้รู้ว่า เราไปเสียดสี เราไปอิจฉาเขา อย่าทำ�เลย มันจะรูแ้ จ้งในจิตใจของเราเอง รูไ้ ด้จากการกำ�หนดเวทนานุปสั สนาสติปัฏฐาน เพราะเวทนาจับจุดกฎแห่งกรรมได้ ขอฝากนักกรรมฐานไว้ดว้ ย อย่าคิดว่าเวรกรรมไม่มนี ะ บุญทำ� กรรมแต่ง สนองเวรกรรมตลอดรายการ สะสมไว้ เหมือนม้วนเทป บันทึกบาปกรรมเข้ามาเก็บสะสมไว้ บาปกรรมทีบ่ นั ทึกในเทปจะต้อง เปิดออกนัน้ ต้องรับกรรมในปัจจุบนั นี้ ไม่ตอ้ งไปเอาชาติหน้า จะเห็นกัน ต่อไปเมือ่ เทปกรรมนัน้ เปิดขึน้ มา ต้องรับใช้กรรมแน่ ไม่วา่ ใครทีไ่ หน ขอฝากไว้อกี อย่างว่า ยมบาลไม่ได้มาจดว่าเรา ทำ�บุญทำ�บาป อย่างที่เคยเข้าใจ แต่จิตเราเป็นคนจดไว้ทุกวัน ทำ�ชั่วก็จด ทำ�ดีก็จด จิตมันจดไว้โดยธรรมชาติ ถึงเวลามันก็ไปตามบาป ตามกรรมของมันเอง ไม่มีใครทำ�ให้ ตัวเองทำ�ตัวเอง คนอื่นก็ไม่ได้มาทำ�ให้เรา 24
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
เข้าใจกระบวนการให้ผลกรรม ช่วยให้มีจิตสำ�นึกไม่ทำ�ในสิ่งชั่วร้าย ในหนังสือวิสทุ ธิมรรค แต่งโดยพระพุทธโฆษาจารย์พระเถระ ชาวอินเดีย ได้แบ่งกรรมไว้ ๑๒ ประเภท โดยท่านแบ่งเป็น ๓ หมวด ตามประเภทการให้ของกรรม คือ กรรมให้ผลตามกาลเวลา กรรม ให้ผลตามหน้าที่ และกรรมให้ผลตามความหนักเบา
หมวดกรรมให้ผลตามกาล๑
๑. ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม กรรมให้ผลในชาตินี้ ๒. อุปปัชชเวทนียกรรม กรรมให้ผลในชาติหน้า ๓. อปราปริยเวทนียกรรม กรรมให้ผลในชาติต่อๆ ไป ๔. อโหสิกรรม กรรมที่เลิกให้ผล คือ ให้ผลเสร็จไปแล้ว หรือหมดโอกาสที่จะให้ผลต่อไป
ปัจจุบันที่คนไม่ค่อยกลัวกรรมกัน นั่นเพราะคิดว่ามันพิสูจน์ไม่ได้ ที่จริงกรรมพิสูจน์ได้ แต่ ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ด้วย เหมือนอย่างปลูกพืช เช่น ขิง ข่า ไม่เกินปีได้กินแน่ แต่ถ้า ปลูกมะเขือ มะนาว ต้องรอกินปีหน้า ยิ่งปลูกต้นไม้ใหญ่ มะพร้าว มะม่วง ก็ต้องล่วงเลย เวลา ๕-๖ ปี ถึงจะได้กนิ ส่วนคนทีม่ เี มล็ดพันธุค์ รัน้ ถึงเวลาควรปลูกก็ไม่ปลูก หมดเวลาแล้ว นำ�มาปลูกมันก็ไม่งอก กรรมเช่นกันจะให้ดอกออกผลก็ต้องมีระยะเวลาด้วย โดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง ๑
25
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
หมวดกรรมให้ผลตามหน้าที่๑ ๕. ชนกกรรม กรรมที่แต่งมาดีหรือชั่ว ๖. อุปตั ถัมภกกรรม กรรมทีส่ นับสนุน คือ ถ้าชนกกรรมเดิม แต่งดี ส่งให้ดียิ่งขึ้น แต่งให้ชั่ว ก็ส่งให้ชั่วยิ่งขึ้น ๗. อุปปีฬกกรรม กรรมบีบคัน้ หรือขัดขวางกรรมเดิม เช่น เดิมแต่งมาดี เบียนให้ชั่ว เดิมแต่งมาชั่ว เบียนให้ดี ๘. อุปฆาตกกรรม กรรมตัดรอน คือพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เช่น กรรมเดิมแต่งไว้ดเี ลิศ กลับทีเดียวเป็นขอทาน หรือแต่งไว้เลวมาก กลับทีเดียวเป็นมหาเศรษฐีไปเลย
กรรมหมวดนี้ แบ่งหน้าที่การให้ผลแต่ละชนิดโดยตรง ไม่แย่งหน้าที่กัน แบ่งเป็น ๒ ฝ่าย คือ ฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายค้าน แต่ละฝ่ายทำ�หน้าที่ ดังนี้ ชนกกรรม กรรมนำ�ให้เกิด ทำ�หน้าที่น�ำ ปฏิสนธิวิญญาณของสัตว์ให้ไปเกิดในภพภูมิต่างๆ ตามกรรมที่ท�ำ เมื่อเกิดแล้วก็หมดหน้าที่, อุปัตถัมภกกรรม กรรมสนับสนุน ก็รับหน้าที่ต่อ เช่น ชนกกรรมทำ�ให้เกิดมาดีหนุนให้ดียิ่งขึ้น ถ้าชั่วก็หนุนให้ร้ายหนักขึ้น เป็นต้น ๒ ข้อนี้ เป็นฝ่ายสนับสนุนกัน อุปปีฬกกรรม กรรมบีบคั้น คือ บีบชนกกรรม อุปัตถัมภกกรรม ให้ส่งผลไม่ถนัด เช่น เกิด มาดีมคี นอุปถัมภ์ แต่พอกรรมนีฝ้ า่ ยชัว่ ตามทันก็บบี ไม่ให้ดกี ว่านัน้ ถ้ากรรมเดิมแต่งมาไม่ดี แต่พอฝ่ายดีให้ผลก็ดลให้มผี ชู้ ว่ ยเหลือ, อุปฆาตกกรรม กรรมตัดรอน คือ ตัดโอกาสการให้ ผลของชนกกรรม อุปัตถัมภกกรรม แต่สนับสนุนอุปปีฬกกรรม เช่น กรรมเดิมแต่งให้เกิด มาดี แต่พอกรรมนีต้ ามทันมันก็ท�ำ ให้พบแต่สง่ิ ร้าย แต่ถา้ เป็นฝ่ายดีตามทันก็ฆา่ กรรมฝ่ายชัว่ ที่ให้ผลในขณะนั้น กรรม ๒ ข้อนี้ จึงเป็นฝ่ายค้าน โดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง ๑
26
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
หมวดกรรมให้ผลตามความหนักเบา๑ ๙. ครุกกรรม กรรมหนัก ฝ่ายดี เช่น ทำ�สมาธิจนได้ฌาน ฝ่ายชัว่ เช่น ทำ�อนันตริยกรรม มีฆา่ มารดาบิดา เป็นต้น เป็นกรรม ที่ให้ผลโดยไม่มีกรรมอื่นมาขวางกั้นได้ ๑๐. พหุลกรรม กรรมที่ทำ�จนชิน เกิดจากการทำ�บ่อยๆ ทำ�สัง่ สมไปนานเข้าก็พอกพูนขึน้ เรือ่ ยๆ ถ้าไม่ท�ำ ครุกรรมมา กรรมนี้ ก็จะส่งผลทันที ๑๑. อาสันนกรรม กรรมทีท่ �ำ เมือ่ ใกล้ตาย หรือทีเ่ อาจิตใจ จดจ่อนึกถึงในเวลาใกล้ตาย ส่งผลให้ไปสูท่ ด่ี หี รือชัว่ ได้ เหมือนโคแก่ ที่อยู่ปากคอก แม้แรงน้อยเมื่อเปิดคอกก็ออกได้ก่อน ๑๒. กตัตตากรรม กรรมสักแต่วา่ ทำ� คือ เจตนาไม่สมบูรณ์ อาจจะทำ�ด้วยความประมาทรูเ้ ท่าไม่ถงึ การณ์ แต่กส็ ง่ ผลดีรา้ ยให้ได้ ในเมื่อไม่มีกรรมอื่นจะให้ผลแล้ว
ผู้เรียบเรียงเคยเจอเหตุการณ์ไปยืนเข้าแถวรอรับบริการอย่างหนึ่ง แต่พอใกล้ถึงคิวกลับมี คนอืน่ มาแซงได้ท�ำ ก่อนก็ได้แต่ท�ำ ใจ นัน่ มันเรือ่ งกติกาสังคมทีอ่ าจเลีย่ งได้ แต่ในกฎแห่งกรรม แต่ละอย่างมีกฎตายตัวในการให้ผล ความหนักเบาของกรรมที่ทำ�นั่นแหละ จะลำ�ดับคิว การให้ผลของกรรมเอาไว้เอง เหมือนเรายืนอยู่บนตึก แล้วโยนเศษของลงมา อะไรที่มัน หนักกว่าก็ตกลงถึงพื้นก่อน กรรมเช่นกัน กรรมที่หนักย่อมให้ผลก่อนเสมอ โดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง ๑
27
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
จะเป็นกรรมหรือไม่ ให้ดูที่เจตนา คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า กรรม คือ การกระทำ� ความเข้าใจนี้ ไม่ผิด แต่ก็ยังไม่ถูกทั้งหมด เพราะมีการกระทำ�บางอย่างที่ไม่เป็น กรรม ดังหลักพระอภิธรรมบอกว่า เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ เจตนา เป็นตัวกรรม ถ้าไม่มีเจตนา เป็นกิริยา อย่างโยมรักษาศีลรูอ้ ย่างไรว่าศีลขาด ตอบได้อย่างเดียว คือ เจตนา ถ้าไม่มีเจตนา ศีลไม่ขาด เช่น โยมเดินออกไป มีผ้าคลุม แมวอยู่ ไม่ทราบ นึกว่าผ้าเช็ดเท้าก็ไปเหยียบผ้าเข้า ถูกลูกแมว เปิดผ้าออกมา ตาย เหยียบเสียเละแล้ว ศีลขาดไหม ? ศีลไม่ขาด แต่ใจเศร้าหมอง พิโธ่..! ตายแล้ว ศีลไม่ขาด แต่ด่างพร้อย อย่างนี้ เป็นกิริยา โดยมารยาทต้องใช้ โดยกิริยาต้องใช้หมายความว่าอย่างไร ? อย่างอาตมาไป ร้านขายแก้ว ขณะกำ�ลังเลือกอยู่ แต่แก้วลื่นหลุดมือตกแตกโดย ไม่เจตนา อาตมาก็ถามโยมแม่ค้าว่า “แก้วใบละเท่าไรจ๊ะ” ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ “ใบละ ๒ บาทค่ะ” เท่าไหร่โยม ? “เอาไปเลย ๒ บาท” “อ๋อ..! ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านมีบุญคุณกับดิฉัน แค่ ๒ บาทเอง” เรียก อโหสิกรรม ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าโยมกับอาตมาไม่รู้จักกัน ไม่เคยสร้างความดีต่อกัน ก็ต้องใช้ตามระเบียบ ๒ บาท นี่เป็นกิริยา ต้องใช้นะ 28
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
แม้ไม่มีเจตนาทำ� อาจมีกรรมตามให้ผล เรื่องนี้ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง อาตมาสร้างความดีกระทุ้ง พืน้ หอประชุม ตอนนัน้ ยังไม่มหี ลังคา ไม่มฝี า มองดูไม่เห็นมีอะไรขวาง ก็เหวีย่ งท่อนไม้ออกไปเพือ่ กองรวมกันไว้ พอดีสนุ ขั มาจากไหนไม่ทราบ ท่อนไม้ชนจมูกอย่างแรง เลือดพุ่งฉูดเลย อย่างนี้ เป็นกิริยา เพราะ ไม่ได้เจตนา๑ สุนัขวิ่งมาโดยบังเอิญ เราไม่ได้เลี้ยง ถ้าเลี้ยงมันอาจ อโหสิกรรมให้ เลยไปเอารางจืดที่หลังกุฏิ โขกกับน้ำ�ซาวข้าวกรอก ปากสุนัขปรากฏว่าฟื้นลุกวิ่งได้ ต่อมาเดือนเดียว อาตมาไปบรรยายทีศ่ าลาประชาคม ลพบุรี ตอนเพลไปฉันทีบ่ า้ นนายอำ�เภอ ฉันเสร็จก็ไปดูวดั สร้างใหม่ มีเต็นท์อยู่ คนฟังประมาณ ๑๐๐ คน อาตมาก็ไปที่กุฏิสมภารซึ่งนั่งรออยู่ก่อน แล้ว พอดีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สมภารก็ลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ในกุฏิ พอสมภารลุกไปเท่านัน้ ลมเกย์มาเลย ภาษาไทยเรียก ลมแดง ชาวบ้านเรียกลมบ้าหมู หมุนจนเต็นท์พังหมด คนทั้ง ๑๐๐ คน ไม่เป็นอะไร แต่ลมพัดไม้แปมาทิม่ ทีจ่ มูกอาตมาคนเดียว พอโดนจมูก อาตมาเลือดพุ่งแล้ว ลมบ้าหมูหายไปเลย เห็นไหมนี่ กฎแห่งกรรม โดยกิริยาต้องใช้อย่างนี้ สิ่งที่ท�ำ โดยไม่มีเจตนา จัดเป็นกรรมประเภทหนึ่งเรียก กตัตตากรรม กรรมสักว่าทำ� คือ กรรมที่ท�ำ ด้วยเจตนาอ่อน หรือมิได้มีเจตนาทำ�อย่างนั้นโดยตรง ซึ่งอาจให้โทษได้เช่นกัน ดังในทางกฎหมายก็ยังมีบทบัญญัติความผิดในฐานประมาท โดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง ๑
29
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
เจริญกุศลภาวนา จะเห็นกรรมที่ทำ�ไว้ มีคนๆ หนึ่งจำ�เป็นต้องไปผ่าท้อง...เป็นโรคมะเร็ง ผ่าเอา ก้อนเนือ้ ออก ทรมานอย่างทีส่ ดุ เจ็บปวดรวดร้าว ตอนทีว่ างยาสลบ มันไม่สลบ ยาไม่พอ ปวดแทบจะตาย แต่พอผ่าออกมาแล้ว ก็นกึ ถึง เหตุการณ์เมื่อตอนเป็นเด็ก ไปจับสัตว์มาได้ก็ผ่าท้องมัน จับสัตว์ ตัวเล็กตัวน้อยก็ผ่าท้องมันตลอดรายการ กรรมตามมาแล้วนั่นน่ะ รู้ได้ตรงนั้นแน่นอน การเจริญกุศลภาวนานั้น ทำ�ให้รู้กฎแห่งกรรม ของท่านได้โดยไม่ยากเลย โยมผู้หญิงที่เป็น โรคมะเร็งนั้น ผ่าแล้วพอ ฟื้นขึ้นมา ปวดแทบตาย ร้องครางครวญ พอสติดีขึ้นมา ก็นึกระลึกได้ เมื่อเป็นเด็ก จับสัตว์มาผ่าท้อง จับกบจับเขียดมามันกำ�ลังเป็นๆ มันก็รอ้ งโอ๊บๆ แล้วก็ผา่ ท้อง เอาไส้ออก มันก็ดน้ิ ตาย ตัวเองก็แทบจะต้องตายเพราะกรรมทีส่ ร้าง ไว้เอาไว้นั้น 30
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
กรรมบางอย่างที่ทำ�ไว้ ไม่ต้องรอผลชาติหน้า ท่านทั้งหลายไม่ต้องทำ�บุญแล้ว เพื่อจะไปเอาในชาติหน้า ทำ�บาปแล้ว จะไปเอาในชาติหน้า ไม่ใช่ บางอย่างอาจได้ในชาตินี้ ท่านจะได้รบั กรรมโดยยืนยันหลักฐานในตัวของท่านเองทีท่ �ำ กรรมไว้ ทำ�กรรมอย่างไร ได้อย่างนั้นแน่นอน พระพุทธเจ้าสอน ไม่มีใครติง พระพุทธเจ้าแต่ประการใด อาตมายอมรับหมื่นเปอร์เซ็นต์ เพราะได้ทำ�กรรมมาแล้ว เมือ่ สมัยเป็นเด็กไปตอนไก่ ไปจำ�เขามาได้วา่ เขาผ่าตรงนัน้ เขาตัดไส้ ตรงนี้ เย็บตรงนั้น เราไม่ได้เรียนแต่จำ�มาเฉยๆ มาตอนไก่ทั้งคอก ตายหมดเลย ไส้มันเน่า ตายวันละ ๕ ตัว ๘ ตัว โยมแม่ด่าตลอด รายการ ในที่สุดตอนเป็นพระภิกษุ ไส้เราเน่า ไส้ติ่งแตกบนรถไฟ ดูกฎแห่งกรรมก็คงได้ผ่าแล้ว โทษที่อาตมาไปตอนไก่ ผ่าไส้มันมา ท่านทัง้ หลาย การเจริญกรรมฐาน เป็นการแก้กรรมให้ตวั เอง ได้ดี นี่ก็ได้แก่ตัวอาตมามาแล้ว เพราะถ้าหากอาตมาไม่ได้สร้าง กรรมฐาน ไม่ได้ทำ�กุศลไว้ด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะมีบุญที่ไหนมาช่วยขณะ ไส้ติ่งแตกอยู่บนรถไฟ ฉะนั้น ท่านทั้งหลาย อย่าทำ�เวรกรรมต่อไป เลย อย่าไปสร้างกรรมให้ลูก ถ้าท่านเป็นคุณแม่คุณพ่อ เพราะถ้า ท่านสร้างเวรสร้างกรรมไว้ จะถึงลูกของท่านแน่นอน มีตัวอย่างให้เป็นเป็นพยานว่า กรรมฐานแก้กรรมได้ไหม ? ได้แน่ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาตมายืนยันแต่ท่านต้องทำ�จริงนะ 31
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
คนขาดศรัทธาในกฎแห่งกรรม เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ มีนายร้อยโทมาบวชที่นี่ แม่เขาพามา แม่เขากับอาตมารูจ้ กั กัน แม่อายุมากแล้วก็อยากจะให้ลกู บวช หมวด คนนี้ก็มาบวช อาตมาก็ขอร้อง เพราะอยู่ที่ศูนย์การทหารปืนใหญ่ลพบุรี “ผู้หมวดอาตมาขอบิณฑบาตได้ไหมจะบวชที่นี่” “บิณฑบาตอะไรครับ ?” “อย่าไปปู้ยี่ปู้ยำ�ผู้หญิง ลูกเขา เมียเขาเลย” “ผมไม่เชื่อ..! บุญบาปไม่มี เกิดมาตายแล้วก็สูญไป เรา สนุกกันมันจะบาปได้อย่างไร ?” เถียงคำ�ไม่ตกฟาก “มันบาปนะ ผู้หมวดนะ” “แต่ท่านครับ เมียของไอ้หมวดคนนั้น เมียของไอ้จ่าคนนี้ เขาตกลงกับผม เขาชอบกับผม ผมก็ชอบกับเขา จะบาปได้อย่างไร ? ไม่ได้ข่มขืนแต่ประการใด ตกลงด้วยกัน จะบาปได้หรือ ?” บุญ-บาปมันไม่มีหรอก “ไม่เชื่อไม่เป็นไร หลวงพ่อ ท่านไม่มีลูกสาว กับเขาบ้างก็แล้วไป เราพูดกันต่อหน้า ตกลงว่าท่านนี่ ไม่เชื่อเรื่องบุญบาปใช่ไหม ?”
32
ไม่เชื่อ ก็ไม่เป็นไรนะ
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
จะทำ�การสอนสั่งอย่างไรก็ ไม่เชื่อ “ใช่ครับ ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ บาปบุญไหนเล่า ? ไม่มี แน่นอน เราตกลงเหมือนอย่างเราไปซือ้ ของเขา เขาตกลงกับเราต้อง ตามกำ�หนด ก็ซื้อมาได้ ทำ�ไมต้องบาปด้วยเล่า ? เราไปชอบผู้หญิง คนนี้ แต่เมียเขาเราไม่ได้ไปข่มขืนขืนใจ เขาชอบกับผม ผมก็ชอบ กับเขา เสียหายประการใด” “ไม่เชื่อบุญบาปหมวดมาบวชทำ�ไม ?” “เหตุที่ผมมาบวชนี้น่ะท่านก็รู้ดี เพราะแม่ผมชอบกับท่าน แม่ผมเคยมาทอดกฐินที่นี่” แต่ตอนผูห้ มวดเขามาบวชนี่ พ.ศ. ๒๕๐๐ ทีว่ ดั อัมพวัน แต่ เมือ่ พ.ศ. ๒๕๙๘ แม่เขาเคยเอากฐินมาทอดทีว่ ดั กุฏลิ อยเปลีย่ นเป็น วัดพรหมบุรีสองครั้ง ชอบอาตมา อาตมาย้ายมาอยู่วัดนี้ เขาก็ตาม มาอีก ตามเอาลูกมาบวชวัดนี้ แต่ลูกชายไม่ยอมทำ�บาปกรรมตลอด “ผู้หมวดไม่เชื่อหรือ ทำ�ไมมาบวช ?” “ผมไม่เชื่อแน่นอน ท่านไม่ต้องมาอธิบาย ผมรู้ดีกว่าท่าน ผมเป็นนักเรียนนายร้อยจ.ป.ร. ได้ปริญญานอกมาอีก ท่านไม่ต้อง มาพูด ผมไม่เชื่อ” “ไม่เชื่อไม่เป็นไร ไม่มีลูกสาวบ้างก็แล้วไป” “ผมมีลูกสาวอยู่แล้วสองคน ภรรยาผมเป็นอาจารย์สอนที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภรรยาผมก็ส�ำ เร็จปริญญาโทมาจากอเมริกา” 33
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
ต่อเมื่อเวรกรรมตามให้ผลทัน พูดอย่างนี้น่ะไม่เป็นไร บวชแล้วไม่เคยเจริญกรรมฐานเลย ตลอดพรรษา ขอพระบรมราชานุญาตจากพระมหากษัตริยม์ าเรียกว่า บวช ๑๒๐ วัน ที่วัดนี้ ที่โบสถ์หลังเก่า ไม่ใช่โบสถ์หลังนี้ ผู้หมวดเมื่อสิกขาลาเพศไปก็ไม่เคยกลับมาวัดนี้ ตอนนั้น มีลูกสาว ๒ คน สรุปใจความว่า ต่อมา มีลูกสาว ๓ คน มีลูกชาย ๒ คน เขาก็เกิดปฏิกิริยา เขาได้เป็นพันเอก ขึ้นเป็นเสธ ก็ไม่เคย กลับมาวัดอัมพวันอีก จากกันไปแล้วไม่เคยกลับมาเลยนะ เหตุการณ์ต่อมาจะเป็นอย่างไรก็ได้ความว่า ลูกสาว ๓ คน เรียนจบมัธยม ๖ หมด แต่ไม่สามารถจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ สอบตก หมด เข้าไม่ได้ คนโตมันมีวิชาเอกทางร้องเพลง ไปร้องเพลงตาม โฮเต็ล ตามร้านค้า ชวนน้องไปร้องด้วย ร้องไปร้องมา พ่อก็โกรธ กลับมาเมา เตะลูกทั้งรองเท้า แล้วก็ด่าแหลก ไล่ลูกออกจากบ้านไป เลือดสามก้อน โยนลงทะเลไปหมด โยนลงทะเล โมโหว่าทำ�ให้เสียชื่อเสียง 34
นี่แน่ ไอ้ลูกไม่รักดี
หนูไม่อยู่บ้านนี้แล้ว
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
ท่านจะทุกข์ทนจนนำ�้ ล้นออกทางตา ลูกก็เหมือนกันชี้หน้าพ่อว่า พ่อนะ แผ่นดินไม่กลบหน้า ลูกจะไม่ขอกลับมา อย่างนี้เป็นต้น ลูกออกจากบ้านไปก็ไม่รู้ว่าไป ทางไหน ไม่ทราบเลย พ่อก็เอาแต่กินเหล้าเมายา แม่ก็ร้องไห้ว่า เราขาดสมาชิกในบ้านไปสามคน เคยทานอาหารร่วมกัน ลูกสาว หายไปสามคน ไม่ทราบว่าไปดีหรือร้าย ขอเจริญพรต่อไปว่า ในเวลาต่อมาเพื่อนเสธ. ด้วยกันเป็น พันเอกด้วยกัน ไปเทีย่ วพัทยา ไปเทีย่ วซุกชน แล้วไปเจอลูกสาวเพือ่ น เข้า จวนไปแล้วนะแดงเอ้ย พ่อก็เมา ไปอย่างไรมาอย่างไร ก็เลย เล่าให้เพื่อนพ่อฟังทราบตามเหตุผลอย่างที่กล่าวมา พันเอกคนนี้ก็กลับมาเล่าให้เพื่อนฟัง “ลูกมึงไปไหน ?” เขา พูดกูมึงกัน “กูไล่ แห่ออกจากบ้านไปแล้ว” “กูจะบอกให้นะ เราไปเจอลูกนาย ลูกมึงไปเป็นโสเภณี ในซ่องนะ กูไปเจอมาที่พัทยา กูไปเข้าห้องนี้ไปแล้ว ไฟเปิดขึ้นมากูถึงได้จ�ำ มันได้ กูล่ะตื้นตันเลยนะ ลูกของมึงน่ะ ไม่น่าจะมาเป็นอย่างนี้ กูก็เลยมาบอกมึง” คนเป็นพ่อได้ยินอย่างนั้นร้องไห้เลย ร้องไห้ ลูกไม่กลับ อีก สองคนก็แยกไปเป็นโสเภณีกันหมด นี่เรื่องจริงที่วัดอัมพวันเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ นั้น ก็มาตามลำ�ดับ 35
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
เกิดทุกข์และปัญหา ถึงได้หันหน้าเข้าวัด อาตมาคุยกับภรรยาที่เป็นอาจารย์ แกก็เสียอกเสียใจใหญ่ ตระกูลเราไม่ดี ทัง้ ทีพ่ อ่ แม่ของนายพันเอกคนนีก้ เ็ ข้าวัดเข้าวาปฏิบตั ิ กรรมฐาน แต่ลูกคนนี้แหกคอกมา ไม่เชื่อบุญบาป ไม่เชื่อเวรกรรม ทั้งนั้น อาตมาเลยไปดูใบสุทธิ ค้นโน้นค้นนี่ไป ก็ระลึกชาติอดีตที่ ผ่านมาว่า อาตมาจดไว้ที่ใบสุทธิลาสิกขาบทว่า ไม่มีลูกสาวบ้างก็ แล้วไป ลายมือของเขายังอยู่ จนที่สุดร้องไห้ คิดได้ พาภรรยามาที่วัดอัมพวัน บอกว่า “หลวงพ่อจำ�ผมได้ไหม ?” “ไม่ได้ ท่านเป็นใคร ?” เขาตอบว่า “ร้อยโท เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ เคยมาบวชอยู่ที่นี่ ที่ท่านบอกกับผมว่า ไม่มีลูกสาวบ้างก็แล้วไป ผมไม่เชื่อบุญบาป แต่บัดนี้เป็นตามที่ท่านพูดแล้วครับ” “เป็นอย่างไรหรือ เดี๋ยวนี้คุณเป็นอะไร ?” “เป็นพันเอกพิเศษครับ หลวงพ่อครับ หลวงพ่อ ลูกผมได้ไปเป็นโสเภณีจริง อย่างที่ท่านกล่าวไว้ ทุกประการเลยครับ หลวงพ่อช่วยผม ช่วยลูกผมหน่อยได้ไหม ?” ว่าแล้วก็ร้องไห้ต่อหน้าอาตมา 36
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
ขจัดเวรแก้กรรม คนทำ�ต้องแก้เองถึงได้ “ช่วยไม่ได้ จะช่วยได้อย่างไร ท่านเป็นคนสร้างกรรมเอง ต้องแก้กรรมของท่านเอง อาตมาไม่ได้ไปสร้างกรรมให้แก่ทา่ น ถึงจะ ไปช่วยท่านแก้ ถึงแผ่เมตตา คงใช้ไม่ได้ คงทำ�ไม่ได้แน่” นี่ก็เอาเล่า ให้ท่านทั้งหลายฟัง เขามานึกขึ้นได้จึงว่า “หลวงพ่อครับ อโหสิกรรมผมเถอะ อย่าเอาเวรผมเลย ผมนึกว่าบุญบาปจะไม่มี เพราะผมทำ�ไม่ดอี ย่างนี้ มันจะติดลูกได้อย่างไร เพราะผมกับลูกคนละคนกัน” “อย่าลืมนะเสธ เวรกรรมตามสนองนั้น เป็นกรรมพันธุ์ได้ กรรมพันธุ์นี้ เวรกรรมตามสนองให้ลูกได้ต่อมา พ่อแม่เคยบ้าอยู่ โรงพยาบาลศรีธัญญา ลูกก็ต้องบ้าตาม เรียกว่ากรรมพันธุ์ แต่อย่างนี้ไม่ใช่กรรมพันธุ์อย่างนั้น พ่อแม่สร้างความไม่ดี กับลูก ทำ�ไม่ถกู ให้กบั หลาน ทำ�ไม่ถกู วิธี ทำ�ความไม่ดใี ห้ลกู ดู แน่นอน อย่างนี้ ชัดเจนมาก” “จะให้ทำ�อย่างไรครับ ? ผมเชื่อหลวงพ่อทุกอย่าง แล้วครับ ผมยอมรับแล้ว ว่าบุญบาปมีจริง ผมได้แต่เสียใจตลอดมา ขั้นเงินเดือนก็ไม่ได้ขึ้น ควรจะได้นายพลก็ไม่ได้เป็น ช่วยหน่อยเถอะครับ” 37
อโหสิกรรม ดับกรรมทันตา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
ขออโหสิกรรมที่ตนเคยทำ�กับเขาไว้ “อาตมาจะแนะนำ�ให้ เสธต้องช่วยตัวเองนะ แต่ว่าช่วยท่านไม่ได้ ไม่ใช่อาตมาช่วย ท่านต้องช่วยตัวเอง เอาอย่างนี้แล้วกัน ลาพักร้อนทั้งสองคน มาปฏิบัติกรรมฐาน อโหสิกรรมให้ลูกก่อน เอาพระมานัง่ อโหสิกรรม ทีเ่ ตะลูกทัง้ รองเท้าให้เป็นบาปต่อ ลูก แช่งลูกก็เป็นบาป ถอนคำ�พูดก่อน ถอนก่อน อโหสิกรรม ให้ ยถา สัพพี แล้วค่อยเข้ากรรมฐาน ท่านไม่อโหสิกรรมก่อนแล้วเข้ากรรมฐาน ท่านเตะลูกทั้ง รองเท้า ด่าลูก แช่งลูก ไล่ลูกออกจากบ้าน เป็นบาปกรรมของ พ่อแม่อย่างเลวร้ายที่สุด อโหสิกรรมแล้ว พระยถาสัพพี ให้พรเป็น ผู้รับอโหสิกรรมให้” อาตมาก็บอกก็แนะเขาไปอย่างนี้ นีแ่ หละท่านทัง้ หลาย ทำ�เวรทำ�กรรม ทำ�บาป คิดไม่ดกี เ็ ป็น บาป คิดไม่ดีกับแม่ก็เป็นบาป คิดไม่ดีกับพ่อก็เป็นบาป นี่แค่คิดก็ บาปแล้ว ไม่เหมือนกฎหมาย เขามีผสู้ นองงาน มีพยาน มีหลักฐาน มีคนฟ้อง มีเอกสาร มีพยานหลักฐาน กฎหมายถึงจะบังคับคดีได้ แต่บาปอย่างนี้ในหลักธรรมเพียงคิดจิตใจก็เลว ว่าแม่ไม่ดี พ่อไม่ดี เจ๊งทุกราย ขายของเจ๊งหมด หาเงินหาทองได้กเ็ ก็บไม่อยูต่ ราบเท่าที่ ยังไม่ขออโหสิกรรมท่าน 38