ทำ�บุญอย่�งไรให้ได้บุญ โดย พระเทพปฏิภาณกวี บรรณาธิการสาระ : สรรค์สาระ : ออกแบบปก : ภาพปก : รูปเล่ม/ภาพประกอบ : พิสูจน์อักษร : ISBN : พิมพ์ครั้งแรก :
(บุญมา อาคมปฺุโ) ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัทธ์ มนิจ ชูชัยมงคล วิฑูรย์ โถน้อย ธนรัตน์ ไทยพานิช ชิชกาน ทองสิงห์ อรัญ มีพันธ์ 978-616-268-215-5 สิงหาคม 2559
สร้างสรรค์และลิขสิทธิ์ บริษัท สำานักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำากัด 105/95-96 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตุทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร./แฟกซ์ 02-872-7667
เชิญร่วมเผยแผ่เป็นธรรมทาน
สาขาทุ่งครุ : โทร. 02-872-9191, 02-872-8181, 02-872-9898 สาขาสำาราญราษฎร์ : โทร. 02-221-1050, 02-221-4446 LC2YOU@GMAIL.COM, LC2YOU@HOTMAIL.COM
WWW.LC2U.COM, WWW.พุทธะ.NET
พิมพ์ที่ : หจก. แอลชีพี ฐิติพรการพิมพ์ 105/110-112 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร./แฟกซ์ 02-872-9577 www.thitiporn.com
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ เรื่องบุญเป็นเรื่องใหญ่ในพระพุทธศาสนา และเป็นเรื่องที่ ชาวพุทธทุกคนต้องการจะมี เพราะบุญเป็นชือ่ ของความสุข ใครมีบญ ุ มาก ก็สุขมาก ใครมีบุญน้อยก็สุขน้อย คนที่ไม่มีบุญเลยก็คือคนที่ตายแล้ว อย่างที่มักเรียกคนตายว่า หมดบุญ เพราะบุญเป็นเหตุนำามาซึ่งความสุข หลายคนจึงพยายามทำา ความดีสะสมบุญให้แก่ตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยการให้ทาน รักษาศีล หรือ เจริญสมาธิภาวนา ด้วยหวังว่าบุญที่เกิดจากการทำาความดีจะส่งผลให้ ชีวิตมีความเจริญก้าวหน้า ประสบแต่สิ่งที่ดี มีความสุขทั้งกายและใจ ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า แต่เชื่อไหมว่า ชาวพุทธส่วนใหญ่ทำาบุญอยู่ทุกวัน แต่ไม่เคย เข้าใจในเรื่องของบุญเลย โดยมากจะจำากัดบุญเอาไว้แค่การบริจาค เพียงอย่างเดียว ดังนั้น เมื่อพูดถึงการทำาบุญ ชาวพุทธปัจจุบันจึงนึกถึง การนำาเงินไปหยอดตู้บริจาคภายในวัดเท่านั้น และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เห็นการสะเดาะเคราะห์สะเดาะกรรมว่าเป็นการทำาบุญ หลายคนทีไ่ ปวัด จึงมุ่งไปเพื่อสะเดาะเคราะห์ โดยเข้าใจว่าเป็นการทำาบุญ การทำาบุญที่ขาดความเข้าใจนอกจากจะไม่ได้บุญแล้ว บางครั้ง อาจได้บาปแทนก็ได้ หนั ง สื อ “ทำ า บุ ญ อย่ า งไรให้ ไ ด้ บุ ญ ” เล่ ม นี้ เป็ น ผลงานที่ พระเทพปฏิภาณกวีี (บุญมา อาคมปฺุโ ป.ธ. ๘) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดประยุรวงศาวาส เรียบเรียงขึ้น โดยมีจุดประสงค์ให้ชาวพุทธทั้งหลาย
ได้เข้าใจบุญ และวิ ธี ก ารทำ า บุ ญ ที่ ถู ก ต้ อ งตามหลั ก พระพุ ท ธศาสนา ซึ่งจะทำาให้ได้ผลบุญตอบแทนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย สำานักพิมพ์ฯ เห็นว่าหนังสือของท่านเจ้าคุณมีเนื้อหาที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย ประกอบด้วยประโยชน์ และเป็นคู่มือในการทำาบุญสำาหรับ ชาวพุทธได้เป็นอย่างดี จึงขออนุญาตจัดพิมพ์ออกเผยแพร่่ ซึ่งพระเดช พระคุณ ผูเ้ ป็นเจ้าของผลงานได้อนุญาตให้จดั พิมพ์โดยไม่คดิ ค่าลิขสิทธิใ์ ดๆ สำานักพิมพ์ฯ ในนามของพุทธศาสนิกชนกราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิง่ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้ จักเอื้อประโยชน์กับผู้อ่าน ทุกท่านตามสมควร ความดีทเี่ กิดจากหนังสือเล่มนีย้ กให้พระเดชพระคุณ ผู้เรียบเรียงต้นฉบับ าตุ จิรํ สตํ ธมฺโม ขอพระสัทธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า จงดํารงอยู่สิ้นกาลนาน สํานักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
&
->
ท�ำบุญอย่ำงไรให้ได้บุญ ประเทศไทย คนส่วนใหญ่บอกว่าเป็นชาวพุทธ ทั้งๆ ที่ไม่มี ความรู้เลยว่าพระพุทธศาสนาคืออะไร และมีประโยชน์แก่ตนอย่างไร ดังนั้น คนไทยไม่น้อยจึงเป็นชาวพุทธกันแต่ชื่อ แต่ไม่นับถือ พระพุทธศาสนา ได้กระทำาทุจริตต่างๆ ทีส่ วนทางกับหลักพระพุทธศาสนา ชาวพุทธประเภทนี้นับวันจะมีมากขึ้น และจะกลายเป็นคนกลุ่มใหญ่ ที่สร้างปัญหาสารพัดแก่สังคม เกียรติของชาติ ศาสนา ก็จะถูกคนพวกนี้ ทำาลายให้ย่อยยับไป ไม่ใช่คนต่างชาติต่างศาสนามาเหยียบยำ่าทำาลาย ที่ เ ป็ น เช่ น นี้ ก็ มี ส าเหตุ ม าจากการบริ ห ารประเทศที่ ล ะเลย ปล่อยให้คนไทยเป็นชาวพุทธตามยถากรรมกันเรื่อยมา ไม่ใส่ใจปลูกฝัง ให้เป็นชาวพุทธกันจริงๆ ถามว่าถ้าจะเป็นชาวพุทธจริงๆ หรือชาวพุทธแท้ๆ เป็นกัน อย่างไร ? ตอบว่า ก็ต้องเป็นให้ครบ ๓ ดี จึงมีคุณภาพ คือ ๑. รู้ดี ๒. ประพฤติดี ๓. สามารถดี
ชาวพุทธแท้จริง ไม่ละทิ้งพระรัตนตรัย ตามหลักพระพุทธศาสนา ชาวพุทธแท้ต้องมีปัญญารักษาตน และประการสำาคัญต้องเป็นคนมีที่พึ่ง ซึ่งเป็นไปตามพระพุทธดำารัสที่ว่า
“สนาถา ภิกฺขเว วิหรถ มา อนาถา ภิกษุทั้งหลาย ขอพวกเธอจงมีที่พึ่งอยู่เถิด อย่าอยู่อย่างไร้ที่พึ่งเลย” หมายความว่า ชีวิตชาวพุทธแท้ต้องไม่อาภัพอับจนที่พึ่ง ทั้งที่พึ่ง ภายนอกและที่พึ่งภายใน ทีพ่ งึ่ ภายนอก คือ ทีพ่ งึ่ ทางกาย เช่น ข้าว ผ้า ยา บ้าน และปัจจัย จุนเจืออื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งจำาเป็นต้องมี เพราะถ้าไม่มีชีวิตก็ตาย ที่พึ่งภายใน คือ ที่พึ่งทางใจ ได้แก่ พระรัตนตรัย กล่าวคือ พระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ รวมถึงบุญทานการกุศลทีม่ ผี ลบำารุง จิตใจให้แจ่มใสเบิกบาน มีความสุข นายถูกทําโทษให้ยืนที่สนาม ๒ ชั่วโมงนะ
6
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศ�สน์ จำ�กัด
ไม่เป็นไร...เพราะเรา มีเสาเป็นที่พึ่ง
พุทฺโธ เม นาโถ : พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของเรา ที่พึ่งอย่างที่หนึ่ง คือ พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า ในทีน่ ม้ี ไิ ด้หมายถึงพระพุทธรูปเท่านัน้ แต่หมายถึง พระพุทธคุณ คือความดีของพระพุทธเจ้าเป็นสำาคัญ ซึ่งมีมากสุดที่จะ ประมาณ เมื่อว่าโดยสรุปมี ๓ ประการ คือ ๑. พระปัญญาคุณ มีพระปัญญาอันบริสทุ ธิผ์ ดุ ผ่องและทรงรูแ้ จ้ง ในเหตุแห่งทุกข์และการดับทุกข์ทั้งปวง ๒. พระบริสุทธิคุณ มีนำ้าพระทัยเบิกบานอยู่ทุกอิริยาบถ ไม่ว่า ยืน เดิน นั่ง นอน ก็ทรงมีนำ้าพระทัยเบิกบาน ไม่บูดในตอนเช้า ไม่เน่า ในตอนเย็น ไม่เหม็นในตอนคำ่า ไม่หน้าควำ่าเหมือนคนมีกิเลส ๓. พระมหากรุณาคุณ มีพระมหากรุณายิ่งใหญ่ มีพระทัยเอ็นดู ต่อสรรพสัตว์โดยไม่จำากัดชาติชั้นวรรณะ ดุจพระอาทิตย์ที่ส่องแสง ให้ความสว่างแก่ชาวโลกโดยไม่เลือกชาติพันธุ์ พระคุณทั้ง ๓ ประการนี้ มีค่าดุจดัง รัตนะหรือแก้วมณีที่ชาวพุทธทุกคนจะต้อง น้ อ มเข้ า มาสู ่ ใ จ เพื่ อ ถื อ เป็ น แบบแผน แบบอย่าง และแบบฉบับสำาหรับหล่อหลอม จิตใจให้สวยงาม ให้สมกับเป็นชาวพุทธที่ แท้จริง
ทำ�บุญอย่�งไรให้ได้บุญ
7
ธมฺโม เม นาโถ : พระธรรมเป็นที่พึ่งของเรา ที่พึ่งอย่างที่สอง คือ พระธรรม
พระธรรม ในที่นี้มิได้หมายถึงคัมภีร์ใบลานแต่ประการใด แต่ หมายถึงคำาสั่งสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสไว้มากมาย เมื่อสรุปแล้ว มีอยู่ ๓ เรื่อง คือ ๑. สพฺพปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำาชั่วทั้งปวง ๒. กุสลสฺสูปสมฺปทา การยังความดีให้มีพร้อม ๓. สจิตฺตปริโยทปนํ การฝึกอบรมใจให้บริสุทธิ์ พระโอวาท ๓ ประการนี้มีใจความโดยสรุปว่า ละชั่ว ทำาดี ทำาใจ ให้ผ่องใสบริสุทธิ์ เป็นหลักการสำาคัญยิ่งที่ชาวพุทธจะต้องถือไว้เป็น ธรรมนูญ เป็นข้อปฏิบตั แิ ม่บทสำาหรับพัฒนากาย วาจา ใจ ให้ชวี ติ หมดจด งดงาม สะอาด สงบ สว่างไปตามลำาดับ มีแต่สิ่งยั่วยวนทั้งนั้น นี่เธอต้องเดินผ่าน สถานที่แบบนี้ทุกวันเลยเหรอ
เรามีสติเป็นที่พึ่งประจําใจ ไม่ประมาทจ้ะ
สงฺโฆ เม นาโถ : พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของเรา ที่พึ่งอย่างที่สาม คือ พระอริยสงฆ์ หรือพระผู้ปฏิบัติตามพระอริยสงฆ์
พระอริยสงฆ์ คือผู้ปฏิบัติจนหมดราคะ โทสะ โมหะ หรือกำาลัง ปฏิบัติเพื่อลด ละกิเลสให้เบาบาง พระอริยสงฆ์ มี ๔ จำาพวก ได้แก่
๑. พระโสดาบัน ๒. พระสกทาคามี ๓. พระอนาคามี ๔. พระอรหันต์
แม้เป็นฆราวาสไม่ใช่พระก็เป็นอริยะได้ แต่เรียกว่า “อริยบุคคล” เช่น นางวิสาขามหาอุบาสิกา หรืออนาถบิณฑิกเศรษฐี ถึงแม้จะเป็น ชาวบ้าน แต่ท่านก็เป็นพระโสดาบัน พระหรือเณรถ้าได้บรรลุโสดาบันขึ้นไปชื่อว่าเป็น “พระอริยสงฆ์” ข้อนี้เป็นความต่างระหว่างพระเณรกับฆราวาสผู้ครองเรือนที่เป็น อริยะ
ทำ�บุญอย่�งไรให้ได้บุญ
9
ลักษณะประจ�ำตัวของพระโสดำบัน มีดังนี้ ๑. มีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย ๒. มีศีลบริสุทธิ์ตามฐานะของตน ๓. ละสังโยชน์เบื้องต้นได้ ๓ ประการ คือ ๑) สักกายทิฏฐิ ละความเห็นผิดว่าตัวกูของกู ๒) วิจกิ ิจฉา ละความสงสัยในสิ่งที่ไม่ควรสงสัย ๓) สีลพั พตปรามาส ละความยึดติดทฤษฎี พิธีกรรม และความติดดีต่างๆ
หลักปฏิบตั ขิ องพระอริยสำวก พระอริยสงฆ์สาวกที่แท้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ปฏิบัติตัว ตามหลัก ๔ ประการ คือ ๑. สุปฏิปันโน เป็นผู้ปฏิบัติดี จะทำาอะไรก็มุ่งความดีเป็นที่ตั้ง คือ ทำาให้ถูกดี ทำาให้ถึงดี ทำาให้มีดี จะพูดอะไรต้องพูดให้ถูกดี พูดให้ถึงดี พูดให้มีดี หรือจะคิดก็คิดในทางดี ทำาดีมีเมตตาไม่คิดร้ายทำาลายใคร ๒. อุชุปฏิปันโน เป็นผูป้ ฏิบตั ติ รงไปตรงมา ไม่หน้าไหว้หลังหลอก เข้าทำานอง “ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก” โดยสรุปก็คอื ประพฤติปฏิบตั ิ ให้ตรงกับศีลธรรม ฐานะ และเพศภาวะของตน ๓. ญายปฏิปันโน เป็นผู้ปฏิบัติถูกทาง คือปฏิบัติเพื่อมุ่งกำาจัด กิเลสให้เบาบางและหมดไปในที่สุด มิได้ปฏิบัติเพื่อมุ่งลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แต่ประการใด 10 บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศ�สน์ จำ�กัด
๔. สามีจปิ ฏิปนั โน เป็นผูป้ ฏิบตั เิ หมาะสมแก่การเข้าใกล้ สมควร
กราบไหว้บูชา เป็นที่น่าเชื่อถือ เชื่อมือ เชื่อใจ เพราะได้พัฒนากาย วาจา ใจ ให้สะอาดปราศจากพิษภัย มีชีวิตประเสริฐยิ่งกว่าคนทั่วไป เช่น ชาวโลกอยู่ด้วยความโลภ แต่พระอยู่ด้วยการเสียสละ ชาวโลกอยู่ด้วย ความโกรธ แต่พระอยู่ด้วยความเมตตา ชาวโลกอยู่ด้วยความหลง นั่นก็ของเรานี่ก็ของเรา แต่พระอยู่ด้วยการปล่อยวาง มองสิ่งต่างๆ ล้วนเป็นความว่างไปทั้งสิ้น หากชาวพุทธมีพระรัตนตรัยเป็นสรณะประจำาใจอย่างนี้แล้ว ได้ชื่อว่าเป็น “พุทธบริษัทที่แท้จริง” นอกจากชาวพุ ท ธจะพึ่ ง พระรั ต นตรั ย แล้ ว ชาวพุ ท ธจะต้ อ ง เป็นนักบุญ คือเป็นผู้สร้างบุญกุศลไว้เป็นที่พึ่งพิงอย่างจริงจังอีกด้วย ไม่ละเลยเรื่องบุญทานการกุศล แต่ถือเอาการบุญการกุศลเป็นเรื่อง สำาคัญ เป็นเครือ่ งวัด เป็นเครือ่ งฝึกหัดพัฒนาชีวติ ให้กา้ วหน้าไปตามลำาดับ จนกว่าจะก้าวสูก่ ารพ้นทุกข์บรรลุบรมสุขคือพระนิพพาน ทีเ่ ป็นจุดหมาย ปลายทางในพระพุทธศาสนา
คนเป็นทาสของกิเลส จึงวุ่นวาย เป็นทุกข์ อย่างรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ส�ำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เชิญชวนทุกท่ำนร่วมกันช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้เอำชนะกิเลส พบสุขได้ ด้วยกำรพิมพ์หนังสือเล่มนี้แจกเป็นธรรมทำน ยิ่งมำก บุญยิ่งทวี อย่ำงไม่โลภเมำบุญ รู้ว่ำเป็นหน้ำที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ทำ�บุญอย่�งไรให้ได้บุญ
11