เนื้อหาในเล่ม
l
l
l
l
ยิ่งให้ยิ่งได้ สังฆทานคืออะไร ? อานิสงส์ในการทำ�บุญ สวดมนต์สั่งสมบุญกุศล
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต โดย... พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) บรรณาธิการ/รวบรวม : ไพยนต์ กาสี ออกแบบปก/รูปเล่ม : เสาวณีย์ เที่ยงตรง
ภาพประกอบ : อนันต์ กิตติกนกกุล, เทิดเกียรติ ปลูกปานย้อย, ธนรัตน์ ไทยพานิช พิมพ์ข้อมูล : ธนวรรณ ขันแข็ง พิสูจน์อักษร : มานิตย์ กองษา ISBN 978-616-268-154-7
สร้างสรรค์และลิขสิทธิ์ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด 105/95-96 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทรศัพท์/โทรสาร 02-872-7667 เชิญร่วมเผยแผ่เป็นธรรมทาน
สาขาทุ่งครุ : โทร. 02-872-9191, 02-872-8181, 02-872-7227, 02-872-9898 สาขาสำ�ราญราษฎร์ : โทร. 02-221-1050, 02-221-4446 Email : LC2YOU@GMAIL.COM, LC2YOU@HOTMAIL.COM WWW.LC2U.COM, WWW.พุทธะ.NET
พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์เลี่ยงเชียง 223 ถนนบำ�รุงเมือง กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 02-223-8979
การให้ธรรมะ คือ การให้ปัญญา “หนังสือธรรมะ เป็นหนังสือที่อ่านไม่จบ อ่านไม่สิ้น อ่านได้เรื่อยๆ ไม่จืดชืด สำ�หรับคนที่ชอบ แต่ว่าแห้งแล้ง สำ�หรับคนที่ไม่ชอบ ส่วนคนใดอ่านแล้วชอบ ก็อยากจะอ่านอีก ทุกครั้งที่มีความทุกข์ทางใจ มีปัญหาในใจ หรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็อ่านหนังสือธรรมะ อ่านแล้วได้ความสบายใจ เพราะคนได้รับแล้วเอาไปอ่านก็เกิดปัญญา เกิดความรู้ความเข้าใจ จะได้ด�ำ รงชีวติ อยูก่ บั ธรรมะ ธรรมะจะรักษาคุม้ ครองให้คนนัน้ ปลอดภัย ทั้งภายในภายนอก ไม่มีข้าศึกมารุกรานจิตใจ เพราะมีกลยุทธ์ทางธรรมะช่วยป้องกันแก้ไข ชีวิตเขาจะดีขึ้น”
พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) วัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ชาตกาล : ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๔ มรณกาล : ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
ชีวิตสดใส เพราะได้พึ่งใบบุญ ในวิถีชีวิตของคนที่ปวารณาตนว่าเป็นพุทธศาสนิกชนนั้น สิ่งหนึ่งที่ เรามักได้ยินประจำ�คือเรื่องของบุญของกรรม ซ้ำ�บางท่านยังกะเกณฑ์ให้บุญ เป็นตัวแทนความดี กรรมเป็นตัวแทนความชั่วไปก็มี ความเข้าใจเช่นนี้จะว่า ผิดก็ไม่ใช่ จะว่าถูกก็ไม่เชิง เพราะบุญเป็นผลจากการทำ�ดี ข้อนี้ใช่แน่ แต่ว่า กรรมถ้ายังไม่เจาะจงลงไป ก็ยังไม่บ่งชี้ได้ว่าชั่วหรือดี ยังต้องมีบริบทอื่นๆ มาประกอบด้วยเสมอ วันนี้ ว่าจะมาเสนอเรื่องบุญ แต่ก็อดเผลอเข้าเรื่อง กรรมด้วยไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีกรรมคือการกระทำ�กุศลความดี ผลแห่งบุญก็ คงจะเกิดมีไม่ได้ สำ�หรับเนื้อหาในหนังสือ “สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต” เล่มนี้เป็น ปาฐกถาธรรมของพระเดชพระคุณพระพรหมมังคลาจารย์ หรือทีเ่ ราทัง้ หลาย จะคุ้นชินกันในนาม “ปัญญานันทภิกขุ” บ้าง “หลวงพ่อปัญญา” บ้าง โดยผู้รวบรวมได้คัดสรรบทปาฐกถา ๓ เรื่อง คือ “ยิ่งให้ยิ่งได้, สังฆทานคือ อะไร ?, อานิสงส์ในการทำ�บุญ” ซึ่งทุกเรื่องนั้นท่านได้สอนให้รู้ถึงวิธีท�ำ บุญ ให้ได้บุญอย่างแท้จริง และในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้ ผู้รวบรวมได้เพิ่ม การสั่งสมบุญด้วยการสวดมนต์ไว้อีกด้วย จึงสามารถให้ผู้ปรารถนาบุญได้มี หนทางแห่งการสร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิตอย่างครบถ้วนกระบวนความ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือเล่มนี้ จะเป็นสะพานบุญนำ�พาชีวิตของ ท่านผูอ้ า่ นให้พบความสุขเกษมศานติท์ ง้ั ในชาติน้ี ชาติหน้า ตลอดชาติอย่างยิง่ คือมรรคผลนิพพานตามสมควรแก่การปฏิบตั ใิ นบุญวิธขี องแต่ละท่านด้วยเทอญ. น.ธ.เอก, ป.ธ. ๖, พธ.บ., น.บ. รวบรวม/เรียบเรียง สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้
ยิ่งให้ ยิ่งได้
ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ณ บัดนี้ ถึงเวลาของการฟังปาฐกถาธรรม อันเป็นหลักคำ�สอน ในทางพระพุทธศาสนาแล้ว ขอให้ทกุ ท่านอยูใ่ นอาการสงบ ตัง้ อกตัง้ ใจฟัง ด้วยดี เพื่อให้ได้ประโยชน์อันเกิดขึ้นจากการฟังตามสมควรแก่เวลา คนเราทุกคนทีเ่ กิดมาในโลก เราก็ได้รบั ประโยชน์จากสิง่ ต่างๆ เพื่อการดำ�รงชีวิต ต้นไม้ก็ให้ประโยชน์แก่เรา ดวงอาทิตย์ก็ให้ความ อบอุ่นให้ความร้อน ความร้อนนี่ทำ�ให้สิ่งมีชีวิตอยู่ได้ ถ้าไม่มีความร้อน ต้นไม้ก็ตายคนก็ตาย นำ้�ก็จะไม่กลายเป็นไอ แล้วก็จะไม่มีฝนตก... ความชุม่ ชืน่ ในโลกก็จะหายไป สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
5
อยู่อย่างสุขสดใส ในโลกทีเ่ ราอยูอ่ าศัยนี้ ยังมีความร้อนจากดวงอาทิตย์พอเหมาะ พอควร คือไม่รอ้ นเกินไป เราก็อยูไ่ ด้ ชีวติ สมบูรณ์ นัน่ คือสิง่ ทีเ่ ราได้รบั จากสิ่งนั้น อะไรๆ ที่อยู่รอบตัวเรานั้น ถ้าเราคิดดูให้ดีแล้ว เราจะมอง เห็นว่ามันให้อะไรๆ แก่เรา คนที่อยู่ร่วมกัน... ก็ให้กันอยู่ตลอดเวลา คุณแม่ให้ชีวิตแก่เรากับคุณพ่อร่วมกัน เมื่อเราเกิดมาแล้ว เราดูดนำ้�นมจากแม่ แม่ให้ชีวิต ให้อาหาร ให้ความอบอุ่นทางร่างกาย ให้ความรูค้ วามสามารถ ให้การศึกษาเล่าเรียน จนกระทัง่ เราเติบโตเป็น ผู้ใหญ่ นั่นคือ ท่านให้แก่เรา รักกันไว้เถิด
เราอยู่ในสังคม เราเกิดร่วมแดนไทย คนทั้งหลายก็ให้ ความสุขแก่เรา ความสุขที่ได้รับจากคนอื่น ก็คือความเมตตาปรานี ที่เขามองเราเป็นเพื่อน เป็นญาติ เป็นมิตร เขาไม่มองเราเป็นศัตรูผู้มุ่งร้าย แต่เห็นว่าเป็นเพื่อนกัน ร่วมเกิด ร่วมแก่ ร่วมเจ็บ ร่วมตาย ด้วยกัน เมือ่ เราเกิดทุกข์ยากลำ�บากในเรือ่ งอะไรๆ เขาก็ให้ความช่วยเหลือ 6
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
เพราะต่างฝ่ายได้เกื้อกูลกัน เป็นกํำ�ลังใจให้นะคะ
เช่น น�ำ้ ท่วมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คนที่อยู่ในสภาพที่ไม่ลำ�บาก ได้รับความสุขความสบาย ก็เฉลี่ยความสุขไปให้ แก่คนเหล่านั้น ส่งข้าวสาร เสื้อผ้า หยูกยา ไปช่วยเหลือ
คนเหล่านั้นก็มีความสบายใจว่า “พวกเราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว ไม่ใช่คนที่เป็นส่วนเกินของสังคม มีคนช่วยเหลือเจือจุนแก่เรา” เขาก็ได้รับความสุขทางใจ เมื่อเขาได้รับความสุขทางใจจากการกระทำ�อย่างนั้น เขาก็จะ กระทำ�สิง่ นัน้ ต่อไป เพราะเขารูว้ า่ ทำ�อย่างนัน้ ได้สขุ เขาก็จะทำ�สิง่ นัน้ แก่ คนอืน่ ต่อไปอีกมันจะส่งทอดกันไปโดยลำ�ดับ เราก็ได้รบั ความสุขในสังคม ความสุขทีเ่ ราได้รบั นัน้ เกิดจากบุคคลผูป้ ระพฤติธรรม ถ้าคน ไม่ประพฤติธรรม ก็จะทำ�แต่ความทุกข์ความเดือดร้อนให้แก่บคุ คลอืน่ แต่ถ้าเขาประพฤติธรรม มีธรรมะเป็นหลักครองใจ ตามหลัก ศาสนาทีเ่ คารพนับถือจิตใจก็โอนอ่อน เห็นคนอืน่ เหมือนกับตนเอง รูส้ กึ ว่า “เราต้องการอะไร คนอืน่ ก็ตอ้ งการอย่างนัน้ ” เช่น เราต้องการความสุข คนอื่นเขาก็ต้องการความสุข เราไม่ต้องการความทุกข์ คนอื่นเขาก็ ไม่ต้องการความทุกข์ สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
7
หน้าที่ของมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้น เมือ่ เราต้องการความสุข ก็ตอ้ งช่วยให้คนอืน่ เป็นสุข การช่วย ให้คนอืน่ เป็นสุขคือการช่วยตัวเอง คือช่วยให้เราเป็นสุขด้วย ในขณะใด ทีเ่ ราทำ�อะไรทีเ่ ป็นประโยชน์ เป็นความสุขแก่ผอู้ น่ื เรารูส้ กึ ปลืม้ ใจ เบาใจ โปร่งใจ มีความสบายเหลือเกิน บางทีก็สบายไปหลายวัน นึกถึงทีไร แล้วก็ปลืม้ อกปลืม้ ใจว่าเราได้ท�ำ อะไรทีเ่ ป็นประโยชน์ เป็นความสุขแก่ผอู้ น่ื การทำ�อะไรให้ผู้อื่นเป็นสุขนั้นเรียกว่าเป็นหน้าที่ หน้าที่ของ มนุษย์นก่ี ค็ อื การทำ�ให้คนอืน่ เป็นสุขนัน่ เอง การทำ�ให้คนอืน่ มีความทุกข์ แม้สักนิดหนึ่ง นอกเหนือหน้าที่ ปฏิบัตินอกลู่นอกทาง ไม่ใช่สิ่งที่สังคม ต้องการ
หน้าที่ของเรานั้น มีอย่างเดียวว่า ทำ�อย่างไรที่จะให้ เพื่อนมนุษย์ได้รับ ความสุขความสบาย ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย ให้อยู่กันฉันพี่น้อง นั่นคือหน้าที่
น้าเอาเสื้อกันหนาว มาให้จ้ะ
ขอบคุณครับ
ถ้าคนเราทุกชาติ ทุกภาษา ทุกเพศ ทุกผิวพรรณ มีความคิด ตรงกันในแนวนีว้ า่ เราเกิดมาเพือ่ ปฏิบตั หิ น้าที่ แล้วหน้าทีท่ ส่ี ำ�คัญก็คอื ทำ�อะไรๆ ให้เพื่อนมนุษย์มีความสุขใจ 8
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
คือ การทำ�ให้ผู้อื่นเป็นสุข ถ้าเรามีหลักการประจำ�ใจในรูปอย่างนี้ เราเบียดเบียนกันไม่ได้ เราจะฆ่าใครไม่ได้ จะไปลักของใครก็ไม่ได้ จะไปประพฤติผดิ ในทางกาม ก็ไม่ได้ จะพูดโกหกหลอกลวงใครก็ไม่ได้ จะดืม่ กินสุราเมรัยจนเมามาย... หาความทุกข์ให้แก่ครอบครัวก็ไม่ได้ เพราะเรามีความสำ�นึกว่ามันไม่ใช่ หน้าที่ของเราที่จะกระทำ�เช่นนั้น หน้าที่ของเรานั้น อำ�นวยแต่ความสุขความสบายให้แก่คน ทุกคนที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น... พ่อบ้าน มีหน้าที่อ�ำ นวยความสุขให้แก่ครอบครัว แม่บ้าน ก็มีหน้าที่อ�ำ นวยความสุขให้แก่ครอบครัว ลูก ก็มีหน้าที่ที่จะประพฤติปฏิบัติให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจ ครู มีหน้าทีท่ จ่ี ะทำ�ให้ศษิ ย์เจริญงอกงามด้วยความรูค้ วามฉลาด ด้วยความประพฤติดี ให้ศิษย์มีความภูมิใจในทางที่ถูกที่ชอบ ศิษย์ มีความสำ�นึกว่าเราเป็นผู้มีความเกี่ยวข้องกับคุณครู ก็จะ ทำ�อะไรทุกอย่างให้คณ ุ ครูสบายใจ เช่น ตัง้ ใจเล่าเรียน มีความอ่อนน้อม ถ่อมตนต่อครูอาจารย์ ประพฤติสงิ่ ทีถ่ กู ทีช่ อบ ครูกส็ บายใจ มีความสุขใจ เราคิดในเรื่องนี้แล้วมันสบายทั่วหน้า ไม่ว่าเราจะอยู่ ณ ที่ใด เกี่ยวข้องกับใคร เราก็คิดไว้ในใจว่า หน้าที่สำ�คัญของเรานั้นคือ การทำ�คนอื่นให้มีความสุขความสบาย การทำ�อะไรให้คนอื่นมีความสุขนั่นแหละ คือการปฏิบัติชอบในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์ สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
9
อยู่เพื่อผู้อื่น จะเป็นสุขกันทั่วหน้า
แต่ถ้าอยู่เพื่อตน จะเป็นคนเห็นแก่ตัวแก่ได้ แต่ว่าคนเรายังไม่ค่อยได้คิดถึงในแง่นี้ ไม่เอาปัญญาส่วนนี้มา ใส่ไว้ในใจ มีความคิดว่า ตัวได้ คนอืน่ ช่างเขา ตัวสบายแล้ว คนอืน่ ช่างเขา ถ้าคิดอย่างนี้ เขาเรียกว่าไม่มีนำ้�ใจคิดถึงเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกัน เราอยู่ ค นเดียวไม่ได้ เราจะสุขคนเดี ย วไม่ ไ ด้ เราจะมั่ ง มี คนเดียวก็ไม่ได้ อะไรๆ เป็นของคนเดียวไม่ได้ เพราะมนุษย์เป็น สัตว์สังคม หมายความว่าต้องอยู่ร่วมกัน แยกกันอยู่ไม่ได้ การอยู่รวมกันนั้นตั้งแต่เป็นครอบครัว เป็นหมู่บ้าน เป็นตำ�บล เป็นจังหวัด เป็นประเทศ อันคนที่อยู่ในสังคมนั้นต้องมีความคิดให้ เหมือนกันว่า เราต้องอยู่เพื่อผู้อื่น ไม่ได้อยู่เพื่อตัวเราเอง
ถ้าเราคิดว่า เราอยู่เพื่อผู้อื่น เราจะเป็นสุข แต่ถ้าเราคิดว่า กูอยู่เพื่อกู มันก็เดือดร้อนวุ่นวาย เพราะมีความเห็นแก่ตัว ไม่เสียสละเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ผู้อื่น 10
เห็นคนแก่ ต้องแกล้งหลับ
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
เชิญครับคุณตา
รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ทำ�ให้อยู่ร่วมสังคมกันอย่างร่มเย็น ในแง่ธรรมะ ในแง่จริยศาสตร์นน้ั เราควรจะถือว่า... “คนอืน่ ก่อน เราทีหลัง” ทำ�ให้คนอื่นเป็นสุขก่อน แล้วเราจะพลอยสุขกับคนนั้น ทำ�ให้ คนอืน่ สะดวกสบายก่อนแล้วเราจะพลอยได้ความสุขความสบายจากคนนัน้ แต่ถ้าเราเอาความสุขเสียก่อน เราจะไม่มีความสุข เพราะว่าการกระทำ� เช่นนั้น มันกระทบกระเทือนต่อคนอื่น การกระทำ�อะไรๆ ที่กระทบกระเทือนต่อความสงบสุขคนอื่น เป็น การกระทำ�ทีไ่ ม่ชอบไม่ควร เป็นเรือ่ งทีไ่ ม่ควรกระทำ� แต่วา่ ถ้าเราจะทำ�อะไร เราก็ต้องคิดว่ากิจที่เราจะกระทำ�นี้จะกระทบกระเทือนใครบ้าง จะเกิด ความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ใครบ้าง เรียกว่า “เอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราไปวางในใจของเขา” ไม่คิดเห็นแก่ความสุขส่วนตัว แต่คิดว่า เมือ่ เราจะได้อะไร ก็ขอให้คนอืน่ ได้กนั ด้วย ได้สขุ กันหลายๆ คน ได้ความมัง่ มี ก็ขอให้กระจายความมั่งมีออกไป ปัญหาสังคมก็จะไม่สับสนวุ่นวาย แต่ว่า จะอยู่ด้วยกันฉันพี่น้อง มีแต่ความสงบสุข สมมติว่าเราเป็นคนที่มีเงินมีทอง แล้วเราก็ไปลงทุนทำ�งาน เราก็ เฉลี่ยเจือจานผลที่ได้รับนั้นให้แก่คนทำ�งานทั่วถึง ให้ความสุขแก่เขาในเรื่อง การเป็นอยู่ เขาเรียกสมัยนีว้ า่ สวัสดิการทางอาหาร เสือ้ ผ้า หยูกยา เวลาเจ็บไข้ ได้ปว่ ย หรือว่าเวลาเกิดปัญหาขึน้ ในครอบครัว เราก็ชว่ ยเขาในเรือ่ งอย่างนัน้ การทำ�เช่นนั้นจะทำ�ให้ทุกคนรักกัน เห็นอกเห็นใจกัน เมื่อคนเรารักกันแล้ว งานมันก็ดขี น้ึ เพราะต่างคนต่างคิดว่า เราทำ�เพือ่ ผูอ้ น่ื ไม่ได้ท�ำ เพือ่ ตัวเราเอง นั่นแหละคือหลักการสำ�คัญ สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
11
พระพุทธเจ้า ทรงเป็นยอดนักเสียสละ ในทางศาสนา ไม่ว่าศาสนาใด เราจะศึกษาธรรมะในศาสนาต่างๆ ศาสดาทัง้ หลายนัน้ เป็นบุคคลตัวอย่างในทางเสียสละประโยชน์ความสุขส่วนตัว ไปสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นความสุขแก่ผู้อื่น ให้เราพิจารณาเช่นว่า...
พระพุทธเจ้าที่เราเคารพ สักการะในฐานะที่เป็น บรมครูของเราทั้งหลายนั้น ชีวิตของพระองค์เริ่มต้นด้วยอะไร ? เริ่มต้นด้วยการเสียสละ ประโยชน์สุขส่วนพระองค์เพื่อไป แสวงหาสิ่งอันจะเป็นประโยชน์ เป็นความสุขแก่ผู้อื่น คือการเสด็จออกไปบวชนั่นเอง
การเสด็จออกไปบวชของกษัตริยน์ ่ี มันไม่ใช่เรือ่ งธรรมดา พระองค์ แม้จะยังไม่ได้เสวยราชย์ แต่ก็อยู่ในฐานะมกุฎราชกุมาร มีความหวังว่าจะ ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินเมื่อพระราชบิดาสวรรคต แต่วา่ พระองค์ไม่ตอ้ งการสิง่ นัน้ เพราะเห็นว่าการเป็นพระเจ้าแผ่นดินนัน้ จะทำ�ประโยชน์ได้กใ็ นวงจำ�กัดไม่กว้างขวางทัว่ ไป แล้วก็จะไปทำ�ในเขตอืน่ ก็ไม่ได้ พระองค์เห็นว่ามันคับแคบเต็มที สูอ้ อกไปเป็นนักบวช เป็นครู เป็น อาจารย์ เป็นผู้ไม่มีขอบเขตในที่อยู่อาศัย ทำ�อะไรได้ทั่วไปทุกรัฐ ทุกแคว้น ทุกประเทศ ไม่มใี ครรังเกียจ เพราะนักบวชไม่เป็นเสนียดจัญไรของโลก นักบวช เป็นผู้มีสภาพจิตใจสงบนั้น สะอาด สว่าง อยู่ด้วยปัญญา ด้วยเหตุผล เป็น ผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตน เพื่อประโยชน์เพื่อความสุขแก่ผู้อื่น
12
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
ครั้นทรงบรรลุธรรม ก็ทรงนำ�ออกเผยแผ่ พระองค์ทรงคิดในแง่อย่างนัน้ จึงได้หนีออกไปบวชอยูใ่ นป่าดำ�รงชีวติ อย่างง่ายๆ ผ้านุ่งผ้าห่มก็มีไม่กี่ชิ้น มีบาตรใบหนึ่ง ที่หลับที่นอนไม่ประจำ� นอนใต้ต้นไม้ นอนตามถ้ำ� ตามภูเขา หรือว่าเรือนร้าง หรือลอมฟาง หรือ บางทีก็อาศัยโพรงไม้เป็นที่พัก เวลาว่างก็ทรงคิดค้นในทางธรรมะว่า จะทำ�อย่างไรจึงจะดับทุกข์ได้ คิดค้นไปนานก็ได้พบความจริงของสิ่งนั้นประจักษ์แจ้งแก่ใจของพระองค์
และเมื่อได้ประจักษ์แจ้งแก่ใจแล้ว บรรลุความเป็นพุทธะ ซึ่งหมายความว่า เป็นผู้รู้ เป็นผู้ตื่น เป็นผู้มีความเบิกบานแจ่มใสแล้ว พระองค์ยังเผื่อแผ่สิ่งที่พระองค์ได้พบนั้น ไปแก่ชาวโลก ออกไปช่วยชาวโลก ถ้าพูดตามภาษาในสมัยนี้ก็เรียกว่า “รับใช้มหาชน” เขาพูดกัน อย่างนั้นว่า “รับใช้มหาชน” พระพุทธเจ้าเราไม่เรียกว่าไปรับใช้ แต่ไปช่วยเหลือมหาชนให้ พ้นจากความมืดบอด ความหลงผิด ความเข้าใจผิดในการดำ�เนินชีวิต ชี้ ท างถู ก ทางชอบให้เขาเดิน และเขาได้เดินตามก็เป็นความสุขสำ�หรับ บุคคลผู้นั้น และเป็นความสุขสำ�หรับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลนั้น สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
13
เพราะทรงเห็นแก่ประโยชน์สุขของผู้อื่น จึงทรงโปรดสัตว์โลกโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ
พระองค์เสด็จไปชี้ทางให้แก่พระราชา ว่าควรจะปกครอง ประชาชนอย่างไร ? ควรจัดให้คนอยู่เย็นเป็นสุขได้อย่างไร ? ไปชี้ทางให้แก่ท่านเศรษฐีมั่งมีทรัพย์สมบัติ ซึ่งปกติมักจะ เหนียวหน่อย พระองค์ก็ไปสอนเขาให้เสียสละ ให้เห็นความสุขของ เพื่อนมนุษย์เหมือนกับความสุขของตนเอง แล้วก็ช่วยเผื่อแผ่สิ่งที่ตนมี ตนได้ เพื่อประโยชน์เพื่อความสุขแก่บุคคลอื่น สอนประชาชนทั่วไปว่า อย่าอยู่เพื่อตัวเองแต่ให้อยู่เพื่อผู้อื่น ตัวเราเองนัน้ อาศัยผลประโยชน์จากการทำ�ตนให้เป็นประโยชน์แก่ผอู้ นื่ นั่นแหละมันก็มีผลพลอยได้เกิดขึ้นแก่ตัวบุคคลผู้นั้นด้วย คือ “การให้ นี่คือการได้รับ” “การไม่ให้ คือการไม่ได้อะไร” คนเรานั้นถ้าให้เราจะได้ ถ้าไม่ให้แล้วจะได้อะไร เมื่อไม่ลงทุน แล้วมันจะเก็บเกี่ยวผลได้อย่างไร ? เราไม่หว่านพืชแล้วเราจะได้ไป เก็บผลได้อย่างไร ? ไม่มที างจะหาได้ แต่ถา้ เราหว่านพืช พืชมันก็งอกงาม เราก็จะได้รับผลจากพืชที่เราหว่าน แต่ถ้าเราไม่หว่าน เราจะได้พืชมา จากอะไรที่ไหนเล่า ? อันนี้เป็นเรื่องที่จะต้องคิดให้มาก เพราะชีวิตของคนเรานั้น ไม่ได้อยู่คนเดียว เราอยู่ในสังคมก็ควรประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ แก่สังคม ถ้าในกลุ่มชนใดมีบุคคลประเภทที่เสียสละประโยชน์ตน เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นแล้ว สังคมนั้นจะมีความสุข 14
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
พระผู้ทรงเป็นสุดยอดชีวิตตัวอย่าง พระพุทธองค์ท่านได้ทรงกระทำ�อย่างนั้น เมื่อสอนสาวกให้ ปฏิบตั งิ าน รูแ้ นวทางการสอน และปฏิบตั ติ นพ้นจากความทุกข์ได้แล้ว พระองค์ก็บอกว่า... จงไปประกาศธรรมเถิด ภิกษุทั้งหลาย
“เธอพ้นแล้ว จากบ่วงอันเป็นทิพย์ จากบ่วงอันเป็นของมนุษย์ เธอทั้งหลายจงเที่ยวไป เพื่อประโยชน์เพื่อความสุข แก่มหาชน จงประกาศแนวทางชีวิต ที่ถูกที่ชอบแก่คนเหล่านั้น
คนที่มีปัญญา มีไฝฝ้าบังดวงตาน้อยๆ มีอยู่เป็นจำ�นวนมาก เพราะไม่ได้ยินได้ฟัง จึงไม่เกิดความรู้ความเข้าใจ เธอจงไปสอน คนเหล่ า นั้ น ให้ เ กิ ด ความรู้ ค วามเข้ า ใจ อย่ า ไปทางเดี ย วสองรู ป เพราะคนน้อย ไปรูปเดียว ทางเดียว แล้วช่วยกันประกาศแนวทาง ที่ถูกที่ชอบแก่คนเหล่านั้น” และพระองค์ตรัสว่า “เราเองก็จะไปเหมือนกัน” พระองค์ก็ ทำ�งาน สาวกก็ท�ำ งาน ทำ�งานอะไร ? ... ทำ�งานชี้ทางเดินที่ถูกต้องแก่คนทั้งหลาย เหมือนบทสวดมนต์ที่สมัยเด็กๆ สวดว่า “ชี้ทางบรรเทาทุกข์ ชี้สุข เกษมศานติ์ ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย” นีพ่ ระองค์ไปชีท้ างให้เขาเดิน ให้คนทัง้ หลายได้เดินในทางทีถ่ กู ที่ชอบ นี่คือชีวิตตัวอย่าง สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
15
เมื่อปวารณาตนเป็นพุทธศาสนิกชน ควรทำ�ตนในทางที่ทรงดำ�เนินเป็นตัวอย่างไว้
และถ้าเราศึกษาชีวิตของพระองค์แล้ว ก็จะมองเห็นว่าทรง ปฏิบตั พิ ระองค์เพือ่ ประโยชน์ เพือ่ ความสุขแก่ผอู้ น่ื ตลอดเวลา บางครัง้ พระองค์กท็ รงช่วยเหลือสาวก เช่นมีอยูค่ ราวหนึง่ พระรูปหนึง่ ป่วยมาก น�ำ้ เหลืองเต็มไปทัง้ ร่างกาย นอนเจ็บอยูใ่ นกุฏิ ไม่มใี ครเหลียวแลเอาใจใส่ พระองค์เมื่อตื่นแต่เช้าตามปกติก็มักจะแผ่พระญาณมองไป คิดไปว่า วันนี้ควรจะช่วยใคร ใครเกิดความทุกข์ยากลำ�บากเดือดร้อนบ้าง พรุ่งนี้ที่บ้านมีงาน อันนี้ก็สำ�คัญที่เราควรเอามาใช้ เชิญนะ ในชีวิตประจำ�วัน ตื่นแต่เช้านี่ เราควรจะคิดว่า วันนี้ เราจะใช้ชีวิต ให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นได้โดยวิธีใด มีอะไรที่จะรับใช้เพื่อนมนุษย์ ที่จะทำ�ให้เพื่อนมนุษย์มีความสุข ความสบายในฐานะที่เราพอจะช่วยได้มีบ้างไหม ?
จ้ะ
มองในครอบครัว มองออกไปบ้านใกล้เรือนเคียง มองออกไป ในสังคมที่เราปฏิบัติงาน มองไปให้รอบๆ ว่ามันมีอะไรที่เราจะช่วยให้ คนอื่นได้มีความสุขความสบายขึ้นกว่าปกติได้ และเมื่อเห็นสิ่งนั้นแล้ว เราก็ไม่อยูน่ ง่ิ อยูเ่ ฉย เราต้องไปช่วยคนเหล่านัน้ ให้พน้ จากความมีปญ ั หา ไปคลายปัญหา คือความทุกข์ทางใจให้แก่คนเหล่านั้น อันนี้เรียกว่า เดินตามรอยพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า 16
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
มองให้เข้าใจ จะรู้ว่า ยิ่งให้ ยิ่งได้ เพราะพระพุทธเจ้านั้นทรงตื่นบรรทมประมาณตีสี่ แล้วก็ทรง แผ่พระญาณที่เป็นความรู้ทางจิตพิเศษออกไป ว่าใครเป็นทุกข์บ้าง ใครเดือดร้อนบ้าง จะได้ไปสอนเขาให้คลายจากความทุกข์ความเดือดร้อน ทีเ่ รียกว่า “ไปโปรด” หมายความว่า “ไปชีแ้ นวทางชีวติ ให้คนเหล่านัน้ เข้าใจ” ตามหน้าที่ของพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงกระทำ�อย่างนั้น ตลอดมาเป็นเวลา ๔๕ ปี เราจึงควรจะได้ถ่ายทอดวิธีการนี้มาไว้ในชีวิตของเรา ด้วยเรา คิดว่า “วันนี้เราจะทำ�ประโยชน์อะไรแก่ใครบ้าง” อย่าคิดว่า “วันนี้ เราจะเอารัดเอาเปรียบใครได้บา้ ง” หรือว่า “จะไปเอาอะไรจากใครบ้าง” นายนี่ชอบยุ่งเรื่อง ของคนอื่นจริง
แต่ว่าเขาเดือดร้อน เราควรไปช่วยนะ
อย่าคิดในเรื่องจะเอาอะไรจากใคร แต่คิดว่าเราจะให้อะไรแก่ใครได้บ้างในวันนี้ อย่าคิดในเรื่อง “เอา” ให้คิดในเรื่อง “ให้” อย่าตกใจว่าให้แล้วมันจะไม่ได้ เพราะ “ให้” น่ะ มันจึงได้ แต่ถ้าไม่ให้แล้วจะได้อะไร คนไม่ให้น่ะ ไม่ได้อะไรหรอก ถ้า “ยิ่งให้” มันก็ “ยิ่งได้”
พระพุทธเจ้าท่านอยูด่ ว้ ยการให้ ไม่ใช่อยูด่ ว้ ยการรับ การรับนัน้ เป็นผลที่พระองค์ให้เพียงเล็กน้อย ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ในชีวิต ของพระองค์ แต่ว่าทรงให้มากตลอดเวลา นี่เรียกว่า “ให้” สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
17
พ่ออยู่หัวของปวงชนชาวไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั พระบรมราชินนี าถ ของเรานัน้ ก็ได้ ปฏิบตั ใิ นเรือ่ งนี้ คือ ทรงให้อยูต่ ลอดเวลา พอพระองค์สบายร่างกายเป็นปกติ พระองค์กไ็ ม่พกั อยูก่ รุงเทพฯ ก็ตอ้ งไปเชียงใหม่ ไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปภาคใต้ ไปหัวหิน ไปให้ ไปให้ความสุขแก่ชาวบ้านในท้องถิน่ นัน้ เพียงแต่ เขาเห็นก็เป็นสุขแล้ว ได้เห็นพระเจ้าแผ่นดินนีก่ ม็ คี วามสุขแล้ว ได้เห็นพระบรมราชินีนาถ พระราชธิดา ที่เสด็จตามพระองค์ไปเขาก็มีความสุขแล้ว สุขด้วยการได้เห็น เห็นบุคคลทีเ่ ป็นประโยชน์แก่สงั คม เห็นบุคคลทีม่ คี ณ ุ ธรรม ก็มีความสุขทางใจ นี่เรียกว่า “ให้” อย่างน้อยให้เขาเห็นก็สบายใจ
18
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
ทรงเป็นพระผู้ให้ยิ่งใหญ่ของปวงประชา แต่ว่าพระองค์ไม่ได้ “ให้” เพียงเท่านั้น แต่ทรงพิจารณาว่าใน หมู่บ้านนี้ ในตำ�บลนี้มีเรื่องอะไรเดือดร้อน ขัดข้องอะไร ไม่สะดวกในเรื่อง อะไร ในเรือ่ งการเป็นการอยูก่ ารทำ�มาหากิน ก็ทรงพิจารณาศึกษาว่าควรจะ ปรับปรุงอะไรบ้างเลยเกิด “โครงการในพระราชดำ�ริ” ขึ้น คือพระองค์ คิดโครงการเหล่านัน้ มอบให้รฐั บาล รัฐบาลก็ตอ้ งไปจัดไปทำ� แล้วโครงการใด ที่เป็นของในหลวงนี่ทำ�เร็ว ข้าราชการทำ�อย่างรวดเร็วด้วยความตั้งอกตั้งใจ เพราะอะไร เพราะเขารักพระเจ้าแผ่นดิน เมื่อรักแล้วก็มีความเพียรความ เอาใจใส่ การใช้สติปัญญาค้นคว้ามันก็เกิดขึ้น งานนั้นก็เจริญก้าวหน้า อีกประการหนึง่ พระองค์ให้ท�ำ อะไรแล้ว เสด็จไปตรวจด้วย พอปีน้ี สั่งไว้ ถึงรอบปีหน้าก็เสด็จไปตรวจ ไปถึงไหนแล้ว พวกนั้นก็ทำ�งานกัน ตัวเป็นเกลียว ในหลวงจะมาตรวจเอางานเอาการ คือ พระองค์เสด็จไป “ให้” ก็มีแต่ความสุขความสบาย
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
19
ท่านครูบาผู้มีแต่ให้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ในสมัยนี้มีครูบา แต่ว่าเขาเรียก “คูบา” ตัว “ร” มันไม่มี เขาเรียก “คูบา ศรีวชิ ยั ” ใครเคยไปเทีย่ วเชียงใหม่นง่ั รถขึน้ ดอยสุเทพ สบาย นั่นฝีมือของครูบาศรีวิชัย ทำ�งาน ๕ เดือน กับ ๒๒ วัน ตัดถนนขึ้น ยอดภูเขาให้รถวิ่งได้ ถ้าใช้งบประมาณของรัฐบาล ๓ ปี ก็ไม่เสร็จ แล้วก็ต้อง ใช้เงินกันหลายสิบล้าน แต่อาศัยบารมีความเมตตาของครูบาศรีวิชัย คนมาทำ�ถนนเรียกว่า แบ่งกันทำ� ชัน้ แรกแบ่งคนละวา มามากขึน้ แบ่งคนละศอกเท่านัน้ เอง เรียกว่า แบ่งคนละศอก ช่วยกันขุดถึงยอดพระเจดีย์ บันไดพระเจดีย์ขึ้นพระธาตุ หนึง่ เดือนกับสิบห้าวันเหมือนกับเนรมิต ถนนเสร็จเรียบร้อย แต่วา่ ไม่ได้ลาดยาง เพราะว่าการลาดยางนั้นประชาชนทำ�ไม่ได้ ไม่มีเทคนิคในเรื่องนี้ ก็ต้องทิ้งไว้ ให้รัฐบาล ก็พอดีกับในหลวงทรงเลือกที่สร้างวังที่ภูพิงค์ต้องผ่านถนนสายนั้น เลยกลายเป็นถนนเรียบร้อย ก่อนขึ้นบนดอยสุเทพ เราจะเห็นรูปพระยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้น นั่นแหละเจ้าของถนนผู้ทำ�ให้เราเกิดความสบายใจ ปกติของครูบาศรีวิชัยนั้น มีปฏิปทาข้อปฏิบัติอย่างไร ท่าน “ไม่เอา” ครูบาศรีวิชัยนี่เป็นผู้ “ไม่เอา” มีแต่ “ให้” ท่านไปทำ�อะไรที่ไหน ท่านไปมือเปล่า ไปนั่งที่นั่นเมืองเหนือเขา เรียกว่า “ไปนั่งหนัก” นั่งหนักคือนั่งอย่างหนักแน่น อย่างอดทนถ้าไม่ส�ำ เร็จ ก็จะไม่ไปจากที่นี่
20
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
เมื่อท่านไปนั่งอยู่ท่ไี หนคนก็ไป ไปไหว้ไปนมัสการ ไปถึงเห็นทำ�อะไร เขาก็ซื้อปูน ซื้อหิน ซื้อทราย ซื้อเหล็ก ซื้อแล้วไม่ได้เอามาทิ้งไว้นะ ทำ�ด้วย ซื้อเหล็กมาต้องเอามาช่วยกันตัด ช่วยสานทำ�ให้เป็นโครงขึ้น ซื้อปูนก็เอาไป เทลงในรางปูน ซือ้ ทรายก็ไปเทลงไป ซือ้ หินก็ไปเทลงไป ช่วยกันกวน กวนเสร็จ แล้วเอาไปเทลงในแบบ ช่างแบบเขามี อาสาสมัครทั้งนั้น คนทำ�งานวันหนึ่งๆ มากมาย วิหารวัดสวนดอกใหญ่ยาวเหลือเกิน คนทำ�กันเพียงสองเดือนก็สำ�เร็จ เรียบร้อย เพราะอาศัยแรงงานที่คนไปเสียสละ ไปทำ�กันเพื่อประโยชน์เพื่อ ความสุขแก่ผู้อื่น ครูบาศรีวิชัยนั้นเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดประชาชนให้มาทำ�งาน ท่านทำ�งานตรงนั้นเสร็จแล้ว ท่านลุกขึ้นไปเฉยๆ ไม่หยิบอะไรไปสักชิ้นหนึ่ง จากสถานที่นั้น แล้วก็ไปนั่งที่อื่นต่อไป คนก็แห่ไปทำ�อีก ไม่ว่าไปนั่งที่ไหน คนก็ต้องไปกันทั้งนั้นละ อาตมาไปอยู่เชียงใหม่ ก็ศึกษาว่าครูบานี่ท่านเก่งอย่างไร ท่านเก่ง ตรง “ไม่เอา” เท่านัน้ เอง ไม่ใช่เก่งเรือ่ งอะไร ไอ้คนเราถ้า “ไม่เอา” คนมันยิง่ “ให้” นะ ยิ่ง “เอา” คนยิ่ง “ไม่ให้” ให้ๆ ไปแล้วหาย ให้ไปแล้วหาย คนมัน ก็ไม่ให้ แต่นี่ให้ไปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นมา คนก็ชอบให้เพราะว่าให้แล้วเป็น ประโยชน์ นี่เรียกว่า “ไม่เอา” คือ “ไม่เอาเป็นส่วนตัว ไม่เอาใส่กระเป๋า ใส่ยา่ ม” แต่เอามาแล้วทำ�ให้เกิดประโยชน์ คนก็ชอบให้ ครูบาท่านอยูอ่ ย่างนัน้ ท่านมีสัจจะประจำ�ใจ ว่าจะทำ�อะไรท่านก็ทำ� ว่าจะไปไหนท่านก็ไป แล้วทำ�กิจเป็นเวลา ถึงเวลาท่านสวดมนต์ ให้เจ้าครองเมืองเชียงใหม่มานั่ง ท่านก็ตอ้ งสวดละถึงเวลาท่านก็สวดใครจะมาตอนท่านสวดมนต์ ท่านสวดมนต์ ไม่จบ ท่านไม่ลุกขึ้นไปต้อนรับ ท่านนั่งเฉยๆ เป็นเวลาของท่าน นี่ท่านทำ� อย่างนั้นสมำ�่ เสมอตลอดเวลาในชีวิตของท่าน คนได้เห็นแล้วก็เลื่อมใสศรัทธา ช่วยกันทำ�บุญ สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
21
ทำ�บุญกับผู้ ไม่เอา เขาว่าได้อานิสงส์ใหญ่ เขาว่า “ทำ�บุญกับผู้ไม่เอานั้น ได้บุญมาก ได้อานิสงส์มาก”
อานิสงส์มันอยู่ตรงไหน ? ตรงที่สิ่งนั้นไปเกิดเป็นสิ่งอื่นต่อไป บุคคลอย่างนี้ เราเรียกว่า เป็น “พระโสดาบัน” พระอริยบุคคล ชั้นพระโสดาบัน คือเป็นบุคคล “ไม่เอา” แล้ว ไม่เอาเป็นส่วนตัวเอามาก็เพื่อทำ�ประโยชน์ เพื่อทำ�สิ่งที่เป็นคุณ เป็นค่าแก่สังคมต่อไป ยิ่งทำ�คนก็ยิ่งให้ ยิ่งให้มากขึ้น มากขึ้น เพราะ เห็นว่าทำ�จริงทำ�เป็นประโยชน์ หลักการมันเป็นอย่างนั้น ทีนี้เรามองดูศาสนาอื่นบ้างว่าเป็นผู้ให้ขนาดไหน ? พระเยซูคริสต์ท่านก็เป็นผู้ให้ ช่วยเหลือคนให้พ้นจากทุกข์ยาก ไม่ตอ้ งการอะไรจากคนเหล่านัน้ ก็คอื การทำ�เพือ่ ประโยชน์ เพือ่ ความสุข แก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย เรียกว่าเป็นผู้ให้ตลอดเวลาเหมือนกัน ชีวิต ของบรมครูทั้งหลาย ศาสดาทั้งหลายนี่มีชีวิตอยู่ด้วยการให้ ไม่หวัง อะไรตอบแทน นอกจากว่าให้คนอื่นสบายใจ อันนี้เป็นหลักการที่เรา ควรจะนำ�เอามาใช้ในชีวิตประจำ�วัน ให้พวกเราหมั่นนึกอยู่ทุกๆ วันว่า “วันนี้ เราจะทำ�ประโยชน์อะไรแก่ใครได้บ้าง” เมื่อนึกแล้วเราก็ทำ� 22
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
ทำ�ดี ทำ�ได้ทุกเวลา การคิดจะทำ�ประโยชน์อะไรแก่ผู้อื่นนั้น ทำ�ได้ทุกเวลานาที เราขับรถไปบนถนนนี่ เราคิดว่าเราจะขับรถอย่างไรจึงจะเป็นความสบาย แก่ ค นอื่ น มั น ก็ ต้ อ งเคารพกฎจราจร ไม่ แซงในที่ ที่ ไ ม่ ค วรจะแซง มีระเบียบอันใดเราก็ปฏิบัติ คนอื่นก็ไม่เดือดร้อน แต่ขับไม่ถือระเบียบ ก็สร้างความทุกข์ให้แก่คนทั้งหลาย หรือเราทำ�สิง่ สกปรกบนถนนหนทาง สิง่ เหล่านัน้ มันเกิดเชือ้ โรค อย่างนี้ก็เรียกว่าเราไม่ช่วยให้คนอื่นสบาย ทำ�ให้คนอื่นเป็นโรค หรือว่า เราจะทำ�อะไรที่มันก่อปัญหาแก่คนอื่น เราก็ไม่ทำ� คิดอย่างนี้แล้ว มันจะช่วยให้ตัวเราดีขึ้น ให้ครอบครัวดีขึ้น ให้สังคมดีขึ้น เพราะเรา คิดว่าเราจะอยู่เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย เราไม่ได้อยู่เพื่อตัวเราเอง
เมื่อเราจะไปไหน เราก็ตั้งปัญหาว่าไปทำ�ไม ? ถ้าไปแล้วทำ�ให้คนอื่นมีความสุข มีความสบายใจ เราก็ไป แต่ถ้าไปแล้วหนักใจ สร้างปัญหาให้คนอื่น อย่าไปดีกว่า
ทำ�อะไร พูดอะไรก็เหมือนกัน หรือจะเขียนหนังสือสักเล่มหนึ่ง แต่เขียนแล้วมันทำ�คนให้จิตใจตกต่ำ� ทำ�ให้คนมีกิเลสเพิ่มขึ้น เราก็ ไม่ท�ำ นักแต่งเพลงก็ชว่ ยกันแต่งเพลงทีค่ นฟังแล้วเกิดความคิดการกระทำ� ทีถ่ กู ต้อง เร่งเร้าอารมณ์ในการสร้างสรรค์ทางศีลธรรม เพาะเชือ้ คุณงาม ความดีให้เกิดขึ้นในจิตใจ จะได้ประโยชน์มากกว่า สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
23
มาร่วมกันสรรสร้างสังคม ให้อุดมด้วยธรรม เรามาช่วยกันสร้างสรรค์มูลฐานของสังคม ให้เป็นไปในทาง ที่ถูกต้องดีงามตามหลักธรรมทางศาสนา ไม่ว่าเราจะเป็นผู้นับถือ ศาสนาใด เนื้อแท้นี่คือตัวธรรมะที่เป็นข้อปฏิบัติเพื่อทำ�ให้ชีวิตสงบ เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นผู้ปฏิบัติธรรมมีจิตใจสงบเยือกเย็น มีปัญญา มีเหตุมีผล ใช้ชีวิตตนให้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ จุดหมายมันอยู่ ตรงนั้น เราควรหันหน้าเข้าหากัน ประนีประนอมกัน แล้วมาช่วยกัน สร้างสรรค์โลกนี้ให้อยู่ในสภาพสงบ สังคมมนุษย์เราเวลานี้ผู้ประพฤติ ธรรมต้องร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์โลกให้สงบ ทีนี้เราที่เป็นบัณฑิต เป็นผู้มีความรู้ในด้านธรรมะ เราก็มา ร่วมกันเพื่อจะต่อต้านสิ่งชั่วร้าย เราไม่ทำ�ลายใคร แต่เราทำ�ลาย สิ่งชั่วร้ายที่อยู่ในจิตใจของคน ให้คนนั้นมีจิตใจผ่องใส ปราศจาก สิ่งโสโครก เหมือนกับเราเอานำ้�เข้าเครื่องกรอง กรองแล้วน้ำ�สะอาด ดื่มได้ คนเราก็เหมือนกัน ถ้าใครไม่ดีเราก็จับเข้าเครื่องกรองเสีย แล้วก็ ให้เป็นคนบริสุทธิ์ สะอาด เรียบร้อย อันนี้ควรจะถือว่าเป็นหน้าที่ หน้าที่ของเราทุกคนที่จะชักจูง เพื่อนฝูงมิตรสหายให้ได้เข้าหาธรรมะให้ได้เดินในทางที่ถูกที่ชอบ อย่ า ไปจู ง เพื่ อ นเข้ า ไปสู่ ท างแห่ ง อบาย ให้ เ ดิ น ไปในทางธรรมะ ช่วยกันทำ�อย่างนี้ สังคมก็จะดีขึ้น เจริญขึ้น มีแต่ความสงบ ทุกคน ก็ได้รับความสุขทั่วหน้ากัน ดังแสดงมาก็สมควรแก่เวลา ขอยุติการแสดงปาฐกถาธรรมไว้ แต่เพียงเท่านี้ 24
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : ยิ่งให้ยิ่งได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
สังฆทาน
คืออะไร ?
สังฆทานคืออะไร ? เป็นคำ�ถามทีเ่ กิดขึน้ ในใจของข้าพเจ้าทุกครัง้ ที่ได้รับนิมนต์ให้ไปฉันตามบ้าน และมีการถวายอาหารแบบสังฆทาน จึงได้คิดหาคำ�ตอบอันเป็นจุดหมายที่แท้จริงของทานประเภทนี้ พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งเหตุผล และเป็นข้อปฏิบัติเพื่อ ความดีอันเป็นทางให้เกิดสุขแก่ตนและผู้อื่น ท่านผู้รู้พิจารณาแล้ว ไม่ติเตียน ทั้งเป็นทางให้เกิดความสงบ กาย-วาจา-ใจด้วย เมื่ อ เราถื อ หลั ก ดั ง นี้ แ ล้ ว การคิ ด หาเหตุ ผ ลในทางดี จึ ง เป็ น ประโยชน์มากทีเดียว สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : สังฆทานคืออะไร ? บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
25
ทาน มีสองประเภทใหญ่ ถ้าพิจารณาในแง่บุคคลผู้รับทาน จริงทีเดียว การบำ�เพ็ญทานในทางพุทธศาสนานั้นมีมากจริงๆ มากจนคิดแล้วก็รู้สึกว่าเกินพอดี และเป็นประโยชน์แก่สังคมน้อยไป ข้าพเจ้าพูดอย่างนี้มิใช่เป็นการติทาน เพราะพุทธภาษิตมีอยู่ว่า คนพาลเท่านั้นที่ไม่ชมเชยทาน ข้าพเจ้าไม่ติการทำ�ทาน แต่ข้าพเจ้า อยากพูดถึงการไม่รจู้ กั ทำ�ทานของพวกเราต่างหาก โปรดทำ�ความเข้าใจ ให้ดี ทานในพุทธศาสนา มีสองอย่างโดยพิจารณาที่ตัวผู้รับ คือ ปาฏิปุคคลิกทาน๑ การให้เฉพาะคนอย่างหนึ่ง สังฆทาน การให้เป็นหมู่อย่างหนึ่ง การให้ทานทั้งสองอย่างนี้ สังฆทาน เป็นทานอันเลิศคือมี ผลมากนั่นเอง อายุ วัณโณ สุขัง พลัง
สาธุ
อ่านว่า ปา-ติ-ปุก-คะ-ลิ-กะ-ทาน
๑
26
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : สังฆทานคืออะไร ? บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
ต้องได้รับมติเป็นเอกฉันท์ ท่านจึงเรียกว่า สังฆาธิปไตย มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งพระนางปชาบดีโคตมี พระมารดาเลี้ยง ของพระพุทธเจ้า ได้พยายามปั่นฝ้ายทอเป็นผืนผ้าเย็บเป็นจีวร และ ย้อมด้วยมือของนาง โดยตั้งใจว่าจะถวายแด่พระพุทธเจ้า แต่พระองค์ ไม่ทรงรับ ตรัสว่าให้น�ำ ไปถวายแก่สงฆ์ คือถวายแก่หมู่พระ ในชั้นแรก พระนางเสียใจแต่ครัน้ ได้ทราบว่าถวายแก่สงฆ์มผี ลมากจึงหายเศร้าโศก
อันของทีถ่ วายสงฆ์นน้ั หมูภ่ กิ ษุเป็นใหญ่ เรียก สังฆาธิปไตย ลาภอันใดเกิดในหมู่อย่างนั้น ต้องประชุมพิจารณากันว่าควรให้ใคร ถือเสียงข้างมากก็ไม่ได้ แต่ต้องถือเอาความเป็นเอกฉันท์ทีเดียว
หลวงปู่ขา พรุ่งนี้กราบนิมนต์ รับสังฆทานนะคะ
ผูท้ จ่ี กั ได้รบั ไปก็ตอ้ งเป็นผูท้ ส่ี มควรได้รบั จริงๆ คือไม่มจี กั ใช้แล้ว จึงให้ถ้าไม่มีผู้สมควรก็เก็บไว้เป็นของกลาง อย่างเดียวกับของสโมสร หรือสมาคม ฉะนั้น ในครั้งกระโน้น หามีใครถวายสังฆทานกันบ่อยนักไม่ นานๆ จึงมีสกั ครัง้ หนึง่ เพราะความต้องการของพระมีนอ้ ย ท่านบวช เพื่อเสียสละจริงๆ สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : สังฆทานคืออะไร ? บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
27
จะถวายสังฆทานให้ ได้ผลมากมี ทีนี้คำ�ที่ว่า สังฆทาน ดีกว่า ปาฏิปุคคลิกทาน นั้นคืออย่างไร เป็นเรื่องควรพิจารณา ในเบื้องต้นควรพูดถึงคำ�ว่า สังฆะ ก่อน คำ�ว่า สังฆะ นี้ เป็นคำ�บาลี แปลเป็นไทยว่า หมู่พวก เช่น ประกอบเข้ากับคำ�อื่นๆ ว่า ภิกฺขุสงฺโฆ หมู่ภิกษุ สกุณสงฺโฆ หมู่หรือฝูงนก ทารกสงฺโฆ หมู่เด็กชาย ชนสงฺโฆ หมู่ชน เป็นต้น โดยมากพวกเรามักเข้าใจอย่างผิดๆ ตามกันมาว่า สังฆะ คือ สงฆ์ และเข้าใจต่อไปอีกว่า สงฆ์ ก็คือ พระในพุทธศาสนา แล้วถือว่า สังฆทาน คือ ทานที่ถวายแก่หมู่พระนั่นเอง อันนี้เข้าใจผิดนะ เมื่อเราเข้าใจว่า สังฆะ แปลว่า หมู่ แล้ว ความหมายก็กิน ความกว้างออกไปว่า
สังฆทาน ก็คือ สาธารณทาน นั่นเอง ไม่จำ�กัดเฉพาะพระ หรือเขตกำ�แพงวัดอย่างเดียว มันกว้างจนไม่มีขอบเขต ให้เป็นสาธารณะ ย่อมมีประโยชน์มาก เมื่อมีประโยชน์มาก ผลก็มากเป็นธรรมดา
28
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : สังฆทานคืออะไร ? บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
ควรรู้ความหมาย ของสังฆทานที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น เราสร้างโรงเรียนหนึง่ หลัง โรงเรียนนัน้ เป็นสังฆทาน เพราะเป็นสถานสาธารณะทั่วไปแก่เด็กชายหญิง ซึ่งมาศึกษาเล่าเรียนใน โรงเรียนนั้น โรงเรียนเป็นสังฆทานที่ให้ประโยชน์มาก ผลมันก็มากออกไป ตามส่วน เพราะคนได้มคี วามรูจ้ ากสถานทีน่ น้ั สถานทีเ่ ช่นนีก้ เ็ ป็นสังฆทาน แก่หมู่เด็กๆ ทั่วไป ถ้าเราช่วยกันสร้างโรงพยาบาลเป็นที่รักษาคนเจ็บไข้โดยไม่คิด มูลค่าหรือคิดแต่น้อยๆ พอคุ้มทุน มีเมตตาเป็นใหญ่ โรงพยาบาลก็เป็น สังฆทานแก่หมู่ชนทั่วไป บ่อน้ำ�สาธารณะ ถนนสาธารณะ สะพานเป็นที่ สัญจรไปมาก็เป็นสังฆทานเหมือนกัน หน้าหนาวเรามีผ้าเหลือใช้ เอาผ้าไปแจกจ่ายแก่คนจนเป็นจำ�นวน มากๆ การแจกแบบนั้นก็เป็นสังฆทาน ในบางฤดูมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยกันมาก และเป็นคนจน ไม่มเี งินซือ้ ยา เราก็หายาไปแจกคนตามหมูบ่ า้ น การกระทำ� เหล่านี้ก็เป็นสังฆทานเช่นกัน และเป็นสังฆทานที่มีผลกว้างขวางอำ�นวย ประโยชน์แก่ประชาชนเป็นจำ�นวนมาก ให้เจริญๆ กันนะ ขอบคุณ ที่อวยพรค่ะ
อันการกระทำ�อย่างใด ถ้านำ�ประโยชน์สุข มาให้แก่ชนหมู่มากแล้ว การกระทำ�เช่นนั้น ก็เป็นสังฆทาน เป็นทานแก่หมู่ เป็นกิจควรให้ ไม่ว่าผู้รับนั้น จักเป็นพระหรือชาวบ้าน
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : สังฆทานคืออะไร ? บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
29
ถ้าจะให้ทานเฉพาะบุคคล
ตนต้องมีปัญญาเลือกก่อนที่จะให้๑ แต่การกระทำ�อย่างใดที่เป็นไปในวงแคบ ไม่กว้างขวาง และ ไม่ เ ป็ น ประโยชน์ แ ก่ ช นหมู่ ม าก อย่ า งนี้ มิ ใช่ สั ง ฆทาน แต่ เ ป็ น ทาน เฉพาะคนไปเสีย (ปาฏิปุคคลิกทาน)
ที่กล่าวมานี้ มิได้หมายความว่า ทานเฉพาะคน เป็นของไม่ควรให้ ควรให้เหมือนกัน แต่จักต้องอาศัยปัญญา เป็นเครื่องนำ�ทาง อย่าทำ�ทานด้วยโมหะ ด้วยมุ่งชื่อเสียง หรือการแข่งขันกัน อันเป็นเรื่องของกิเลสมากกว่า
ขอบใจนะหนู ขอให้เจริญๆ นะ
ผมให้ครับ
เมื่ อ รู้ ค วามหมายของสั ง ฆทานแล้ ว ว่ า เป็ น อย่ า งไร การทำ� สังฆทานจึงควรทำ�ให้ถกู จุดหมายของศาสนา อย่าทำ�ตามเขาว่าเสมอไป ดังในพระพุทธภาษิตว่า วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ (วิ-ไจ-ยะ ทา-นัง สุ-คะ-ตับ-ปะ-สัด-ถัง) แปลว่า การเลือกให้ พระสุคตเจ้าทรงสรรเสริญ หมายความว่า รูจ้ กั คัดเลือกตัวบุคคลผูร้ บั , รูจ้ กั เลือกสิง่ ของ ที่จะให้ว่าเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้รับ เป็นต้น (เสริมธรรมโดย... ไพยนต์ กาสี สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง) ๑
30
สร้างบุญไว้เป็นทุนชีวิต : สังฆทานคืออะไร ? บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด