¾Ø ·¸Ä·¸Ô ì ¾Ô ª Ô µâä
¤Ôà ÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
àÃÕºàÃÕ§-ºÃóҸԡÒà : ÈÑ¡´ÔìÊÔ·¸Ôì ¾Ñ¹¸Ø Êѵ ÀÒ¾»ÃСͺ : ÊÁ¤Çà ¡Í§ÈÔÅÒ ¨Ñ´ÃÙ»àÅ‹Á : ÊÁªÒ ÈÃÕ¤Ó¢ÅÔº
¸ÃÃÁâÍʶà¾×èÍ¡ÒáÃдѺ¨Ôµ ãËŒÍÂÙ‹à˹×ͤÇÒÁ·Ø¡¢ ·Ò§¡ÒÂ
การสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ด้วยวัตถุทาน ไม่รู้ว่าให้สักเท่าไรจึงจะ พอแก่ความต้องการ แต่ถา้ เราเปลีย่ นมาให้ธรรมทานแทน จะเป็นการเพียงพอ แก่ชีวิตของเขา เพราะเมื่อเขาได้รู้ธรรมะ ได้ป¯ิบัติตามธรรมะ ได้ดำเนินชีวิต ตามแนวทางของธรรมะแล้ว ชีวิตเขาก็จะสมบูรณ์ขึ้น ไม่มีความบกพร่อง ถ้าเราทุกคนได้มุ่งมั่นเข้าหาธรรมะ ชีวิตของเราจะดีขึ้น มีความสุข สงบมากขึ้น เงินทองกองคลังไม่ฝ„ดเคือง ไม่ต้องเป็นหนี้สินใคร ป‡องกัน และบรรเทาความเจ็บป่วยได้ง่าย หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังป่วย ผู้ที่ไม่ต้องการป่วย คุณหมอ พยาบาล คลินิกรักษาโรค โรงพยาบาล และเหมาะอย่างยิ่งแก่การพิมพ์แจก เป็นธรรมทาน มอบเป็นของขวัญแก่เยาวชนในโรงเรียน คนในครอบครัว คนที่รักในหน่วยงาน องค์กร และชุมชน ทุกสาขาอาชีพ นับเป็นการทำ สัง¦ทานชนิดธรรมทาน ผูใ้ ดนำสาระดี æ จากเล่มนีไ้ ปบอกเล่าให้ผอู้ นื่ ได้เข้าใจ และป¯ิบตั ติ าม ผูน้ นั้ ชือ่ ว่าได้สร้างธรรมทานโดยไม่ตอ้ งเสียเงิน... ขออนุโมทนา
ÃÑ¡ÉÒ¨ÔµäÇŒ àÁ×èÍ¡Ò»†ÇÂñ
¨Ð·ÓÍ‹ Ò §äà àÁ×è Í Ã‹ Ò §¡Ò à¨çº»†ÇÂáÅŒÇ ¨Ôµã¨¨ÐäÁ‹á»Ã»Ãǹ µÒÁ ¾ÃÐ¾Ø · ¸à¨Œ Ò ä´Œ · 礌 ¹ ¤ÇŒ Ò àÃ×èͧ¢Í§ªÕÇÔµäÇŒÁÒ¡ÁÒ áÅŒÇËÒ·Ò§ ª‹ Ç Âã ËŒ ¤ ¹ ·Ñé § Ë Å Ò Â ÁÕ ¤ Ç Ò Á ÊØ ¢ ¾ÃÐͧ¤ à ¤Â¾º·‹ Ò ¹·Õè Ë Ò §¡Ò äÁ‹ÊºÒ à¨çºä¢Œä´Œ»†Ç ¾ÃÐͧ¤ à¤Â µÃÑÊÊÍ¹Ç‹Ò ãËŒ·Óã¹ã¨ µÑé§ã¨äÇŒÇ‹Ò ¶Ö§Ã‹Ò§¡Ò¢ͧàÃҨл†Ç ᵋ㨠¢Í§àÃÒ¨ÐäÁ‹»†ÇÂä»´ŒÇ ¡ÒõÑé§ã¨ Í‹ Ò §¹Õé à ÃÕ Â ¡Ç‹ Ò ÁÕ Ê µÔ ·ÓãËŒ ¨Ô µã¨ äÁ‹ µ ¡ÍÂÙ‹ ã ¹ÍÓ¹Ò¨¤Ãͺ§Ó¢Í§ ¤ÇÒÁá»Ã»Ãǹ㹷ҧËҧ¡Ò¹Ñé¹ ñ
คัดจากหนังสือ รักษาใจยามป่วยไข้
¾ÃоÃËÁ¤Ø³ÒÀó (».Í. »ÂصÚâµ)
ºÍ¡¡Å‹ÒÇ¡‹Í¹à¢ŒÒàÃ×èͧ พระพุทธเจ้าตรัสว่า “Êѧ¢Òà ¤×ÍËҧ¡Ò¢ͧàÃÒ¹Õé໚¹ÃѧáË‹§âä” ทุกสรรพชีวิตที่เกิดมาไม่อาจหลีกหนีความเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะตราบใดที่ยัง มีสงั ขาร มีรา่ งกาย จิตใจ มีชวี ติ ก็จะต้องประสบกับโรคภัยไข้เจ็บเป็นธรรมดา โรคจึงเปรียบเสมือนของแถมทีเ่ ราไม่ตอ้ งการ แต่ธรรมชาติกม็ อบให้มา ด้วยความเต็มใจ เป็นของ¿รีทไี่ ด้แล้วคืนไม่ได้ หลายคนมองความเจ็บไข้ได้ปว่ ย เป็นภัยอันตรายที่คุกคามชีวิต เป็นสิ่งที่เลวร้ายทำลายความสุข และไม่อาจ ยอมรับได้ แต่สำหรับผู้ที่มีความเข้าใจต่อความเป็นจริงของชีวิต กลับมองว่า ความเจ็บไข้ได้ปว่ ยเป็นความจริงทีท่ กุ ชีวติ ต้องเจอ โรคภัยไข้เจ็บ ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือร้ายแรงเพียงใด สิ่งสำคัญที่สุด ในการรั ก ษาก็ คื อ จิ ตใจของผู้ ป่ ว ย ผู้ ป่ ว ยที่ มี จิ ตใจเข้ ม แข็ ง มี ก ำลั งใจดี แม้ป่วยหนักก็สามารถรักษาบรรเทาให้หายได้ แต่ถ้าจิตใจอ่อนแอ แม้ป่วย เล็กน้อยก็จะกลายเป็นหนัก และที่ป่วยหนักอยู่แล้วก็จะทรุดลงไปอีก ด้วยเหตุที่จิตใจเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโรค ในสมัยพุทธกาลจึงใช้ วิธีการรักษาโรคด้วยยาใจ การรักษาโรคด้วยใจนี้ พระพุทธเจ้าทรงเป็น ผู้ คิ ด ค้ น และนำมารั ก ษาพระสาวกที่ ป่ ว ยหนั ก และหรื อ กระทั่ ง พระองค์ ประชวรก็ได้ใช้วิธãี ¨ÃÑ¡ÉÒ¡ÒÂเช่นกัน
ตามหลักพระพุทธศาสนา กายกับใจนั้นสัมพันธ์ถึงกัน จิตใจที่มีพลัง มีพลานุภาพ เป็นสมาธิและมีความสงบ มีความเบิกบาน ร่าเริง แจ่มใส สามารถนำมาเป็นยาในการรักษาบรรเทาโรคได้ พุทธวิธที พี่ ระพุทธเจ้า ทรงนำ มาปรุงยาใจนั้น คือ การสวดมนต์ หรือการ¿˜งการสาธยายพุทธมนต์ “¤Ô ÃÔ Á Ò¹¹·ÊÙ µ Ô คื อ หนึ่ งในบทสวดที่ พ ระพุ ท ธเจ้ า ทรงมอบให้ พระสาวกนำไปสวดสาธยายเพื่อรักษาตนเองในยามป่วยไข้ ซึ่งปราก¯ว่าเมื่อ สวดสาธยายและพิจารณาไตร่ตรองไปตามเนื้อหาแห่งพระสูตรแล้ว ทำให้ จิตใจร่าเริง เป็นสุข หายจากอาการเจ็บป่วยได้อย่างอัศจรรย์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า “¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä ¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊٵÔ เล่มนี้ จักช่วยป‡องกันโรคและบรรเทาความเจ็บไข้ของท่านให้หายไปพลัน ´ŒÇ¤ÇÒÁ»ÃÒö¹Ò´Õ¨Ò¡
ã¹¹ÒÁ¤³Ò¨ÒàÊӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ à¾ÕÂÃà¾×è;ط¸ÈÒʹ
6
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
ÊÒà˵آͧâä ความเจ็บไข้ได้ป่วย มีสาเหตุมาจากหลายประการ เช่ น อาหาร อากาศ อุบัติเหตุ และผลแห่งกรรม ÍÒËÒà หมายถึง โรคที่เกิดจากพÄติกรรมการกิน เช่น รับประทาน อาหารไม่ตรงเวลา รับประทานอาหารทีม่ รี สจัด หรือรับประทานของทีไ่ ม่เป็น ประโยชน์ เช่น เครือ่ งดืม่ ทีม่ แี อลกอÎอล์ บุหรี่ และสิง่ เสพติดต่าง æ ÍÒ¡ÒÈ หมายถึง โรคที่เกิดจากอากาศเปลี่ยนแปลง เช่น ไข้หวัด ÍغѵÔà赯 หมายถึง โรคที่เกิดจากความประมาท ความเผลอสติ เช่น รถชน ไ¿ไหม้ ติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ¼ÅáË‹§¡ÃÃÁ หมายถึง โรคทีเ่ กิดจากกรรมเก่าทีก่ ระทำไว้ตามมาให้ผล ความเจ็ บไข้ ไ ด้ ป่ ว ยนี้ พระพุ ท ธเจ้ า ตรั ส ว่ า เป็ น ผลมาจากการผิ ด ศี ล ข้ อ ปาณาติบาต ¼ÙŒ·ÕèàºÕ´àºÕ¹·ÓÅÒªÕÇÔµ¼ÙŒÍ×è¹äÇŒÁÒ¡ ¡ÃÃÁ¹Ñé¹Â‹ÍÁÊ‹§¼ÅãËŒÁÕ âäÁÒ¡ ¼ÙŒàºÕ´àºÕ¹¹ŒÍ ‹ÍÁÁÕâ乌͠ᵋ â ääÁ‹ Ç‹ Ò ¨Ðà¡Ô ´ ¨Ò¡ÊÒàËµØ ã ´Â‹ Í ÁÊÃŒ Ò §¤ÇÒÁ·Ø ¡ ¢ à ´× Í ´ÃŒ Í ¹ áÅФÇÒÁÊÙÞàÊÕÂãˌᡋ¼ÙŒ·Õèà¨çº»†Ç·Ñé§ÊÔé¹
¡Ò»†Ç ã¨äÁ‹»†Ç¤Ð
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
¡Ò»†ÇÂ
Í‹Òãˌ㨻†ÇÂ
โรคเมื่ อ เกิ ด ขึ้ น แล้ ว ย่ อ มส่ ง ผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งทางร่างกายและ จิตใจ คือทำให้รา่ งกายอ่อนแอ สุขภาพ จิตทรุดโทรมไม่เบิกบาน ในทางพระพุทธศาสนาสอนว่า ตัวเรานีป้ ระกอบขึน้ ด้วย ส่วนสำคัญ ò ประการคือ ¡ÒÂกับ㨠ระหว่างกายกับใจนี้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ใจเป็นส่วนสำคัญที่สุด ร่างกายที่ป่วย แม้จะเจ็บปวดทรมานอย่างไร หากผู้ป่วยสามารถรักษาใจของตนไม่ให้ป่วย ไปด้วย คือพยายามรักษาจิตของตนให้ผอ่ งใส เบิกบาน ไม่ให้ทกุ ข์ไปกับร่างกาย แม้จะเป็นโรคร้ายแรงก็สามารถใช้ชวี ติ อยูอ่ ย่างเป็นสุขได้ 㨷ÕÁè ¾Õ Åѧ ÁÕ¤ÇÒÁà¢çÁá¢ç§ ‹ÍÁÁÕ¤³ Ø »Ù ¡ÒÃÍ‹ҧÂÔ§è 㹡ÒÃàÍÒª¹Ð âäÀÑÂ䢌à¨çº ผูท้ ปี่ ว่ ยหนักแต่จติ ใจดี ย่อมรักษาให้หายขาดได้เร็วกว่าผูป้ ว่ ยทีม่ ี จิตใจอ่อนแอ ดังนัน้ สิง่ สำคัญทีส่ ดุ ทีผ่ ปู้ ว่ ยจะต้องทำให้ได้เพือ่ รักษาตัวเองก็คอื ÃÑ¡ÉÒ㨢ͧµ¹ Í‹ÒãËŒ»Ç† Â仵ÒÁËҧ¡ÒÂ
77
8
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
¾Ø·¸ÇÔ¸Õ㹡ÒÃÃÑ¡ÉÒâä
ในป˜จจุบนั แม้วา่ วิวฒ ั นาการทางการ แพทย์ จ ะเจริ ญ ก้ า วหน้ าไปไกลจนสามารถ รักษาโรคร้ายแรงบางอย่างให้หายขาดได้แล้ว แต่ก็ยังมีโรคอีกมากมายที่ยังต้องค้นคว้าวิจัย เพือ่ ทำการรักษาต่อไป ยิง่ ถ้าเป็นโรคทีเ่ กิดจาก กรรมเก่าด้วยแล้ว ย่อมมิอาจรักษาให้หายขาด ได้ดว้ ยแพทย์แผนป˜จจุบนั อย่างเดียว ย้อนไปเมื่อประมาณ òõðð กว่าป‚ มาแล้ว พระพุทธเจ้าได้ทรงค้นพบวิธีรักษาโรค ที่สามารถรักษาโรคทุกอย่าง ได้ รวมถึงโรคที่เกิดจากกรรมด้วย และทรงใช้วิธีนั้นรักษาพระสาวกที่ป่วย หรือแม้กระทั่งพระองค์เองให้หายประชวรในหลายครั้งหลายหน พุทธวิธีที่ว่า นั้น ก็คือ การใช้ยาใจเป็นเครื่องรักษา ยาใจที่ว่านั้นคือการปลุกใจให้มีความ แช่มชื่น เบิกบาน รื่นเริงในธรรม หรือจะเรียกอีกอย่างว่า ¸ÃÃÁâÍʶ ก็ได้ ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ´ŒÇÂÂÒã¨ËÃ×͸ÃÃÁâÍʶ¹Õé ໚¹¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¨Ò¡ÀÒÂã¹ µŒÍ§ÍÒÈÑ¡ÓÅѧ ÊÁÒ¸Ô ¡ÓÅÑ § »˜ Þ ÞÒ áÅÐáçÈÃÑ · ¸Ò·Õè µÑé § ÁÑè ¹ ã¹¾Ø · ¸¤Ø ³ ¸ÃÃÁ¤Ø ³ áÅÐÊѧ¦¤Ø³ ¢Í§¼ÙŒ»†ÇÂ໚¹·ÕèµÑé§
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
ÇÔ¸Õ»ÃاÂÒã¨
วิธีปรุงยาใจ หรือวิธีทำธรรมโอสถที่พระพุทธเจ้านำมาใช้บ่อยและ เห็นผลทันตาก็คือ การปลุกใจให้เกิดความแช่มชื่นด้วยการ¿˜งการสาธยาย หลักธรรม หรือพระสูตรที่มีอานุภาพในการรักษาโรค พระสูตรที่นิยมนำมาสาธยายเพื่อรักษาโรคนั้น ที่เด่น æ มีอยู่ ò บท ด้วยกันคือ ñ. º·â¾ª¬Ñ§¤»ÃԵà ñ
ว่าด้วยธรรมเป็นป˜จจัยให้ตรัสรู้
Design by
ò. º·¤ÔÃÔÁÒ¹¹·Êٵà ว่าด้วยสัญญา คือวิธีเจริญกรรม°าน ñð ประการ ñ
การรักษาโรคด้วยโพช¬ังคปริตร ได้กล่าวไว้แล้วในหนังสือ ⾪¬Ñ§¤»ÃԵà ¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä : จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง : òõõñ.
99
10
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
¾ÅѧáË‹§¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
ñ
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·Êٵà เป็น ÊÙµÃò ที่ว่าด้วยสัญญา คือวิธีเจริญกรรม°าน ñð อย่าง ประทานแก่พระอานนท์เพื่อนำไปสวดรักษาให้พระคิริมานนท์ ทีก่ ำลังอาพาธหนัก¿˜ง เรือ่ งมีอยูว่ า่ สมัยพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน ที่อนาถบิณฑิกเศรษ°ีสร้างถวาย ในเมืองสาวัตถี ครั้งนั้น พระคิริมานนท์ อาพาธหนัก ได้รบั ทุกขเวทนาอย่างสาหัส พระอานนท์ได้เข้าเฝ‡าพระผูม้ พี ระภาค กราบทูลอัญเชิญให้เสด็จเยี่ยมพระคิริมานนท์ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อานนท์ ถ้าเธอไปหาภิกษุคิริมานนท์แล้ว แสดงสั ญ ญา ñð ประการให้ ¿˜ ง เมื่ อ พระภิ ก ษุ คิ ริ ม านนท์ ไ ด้ ¿˜ ง สั ญ ญา ñð ประการแล้ว จะหายจากความเจ็บป่วยอันแรงกล้านั้นโดยพลันทีเดียว”
ñ
อ่านว่า ¤Ô-ÃÔ-ÁÒ-¹¹-·Ð-ÊÙ´ เป็นสูตรทีว่ า่ ด้วยสัญญา ñð แต่ทเี่ รียกว่า คิรมิ านนทสูตร เพราะตัง้ ตามชือ่ บุคคล ที่พระพุทธองค์ประสงค์จะแสดงธรรมให้¿˜ง ò Êٵà หมายถึง เรื่องราว, เหตุการณ์เกี่ยวกับการแสดงธรรมตอนหนึ่ง æ ของพระพุทธเจ้า
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
1 11
จากนั้น ได้ทรงแสดงสัญญา ñð ประการให้พระอานนท์¿˜ง พระอานนท์ สดั บ และจดจำพุ ท ธภาษิ ต ที่ ว่ า ด้ ว ยสั ญ ญา ñð ประการนั้ น แล้ ว นำไปสวด สาธยายให้พระคิริมานนท์¿˜ง เมื่อพระคิริมานนท์ได้¿˜งเนื้อความแห่งสัญญา ñð ประการนั้น และได้พิจารณาตามเนื้อความก็เกิดป˜ญญาเห็นแจ้งความเป็นจริง ของสังขาร มีจิตเบิกบาน แช่มชื่น ร่าเริง เมื่อจิตใจเบิกบานรื่นเริงด้วยธรรม อย่างนั้นแล้ว อาการเจ็บป่วยทางกายก็หายขาดไปในทันทีทันใด นี่คือความขลังและพลังอานุภาพของยาใจ ทีถ่ กู กล่อมเกลาด้วยตัวยาขนานเอกคือ สัญญา ñð âÍŒ...¸ÃÃÁâÍʶ หรือคิริมานนทสูตร ดังนั้นผู้ใดก็ตามที่สวดหรือ¿˜ง ¹ÕèÇÔàÈɨÃÔ§Ë¹Í การเจริญพุทธมนต์บทนี้ พร้อมทั้งพิจารณาเนื้อหา จนเกิดป˜ญญาเห็นแจ้งในหลักธรรมทั้ง ñð นั้น ย่อมสามารถป‡องกันหรือบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บใน ร่างกายของตนให้เบาบางหรือหมดสิ้นไปได้
12
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
á¹Ð¹ÓÇÔ¸ÕÊÇ´Í‹ҧ䴌¼Å การรักษาโรคด้วยการสวดมนต์นสี้ ามารถทำได้ ò วิ ธี ด้ ว ยกั น คื อ ¼ÙŒ »† Ç ÂÊÇ´´Œ Ç ÂµÑ Ç àͧ อย่างหนึ่ง ¡Òÿ˜§¼ÙŒÍ×è¹ÊÇ´ãËŒ¿˜§ อย่างหนึ่ง
¡ÒÃÊÇ´´ŒÇµÑÇàͧ¹Ñé¹ ÁÕ¢ŒÍ»¯ÔºÑµÔ´Ñ§¹Õé
ผู้สวดสามารถสวดได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำกัด ขอเพียงแต่มีความตั้งใจ ก่อนสวดให้หลับตา สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ผ่อนลมหายใจออกช้า æ ผ่อนคลายร่างกาย ปล่อยวางทุกอย่าง ตั้งจิตมุ่งอยู่กับการสวดมนต์ ขณะสวดไม่ต้องรีบเร่งจะให้จบเร็ว æ พึงตั้งจิตเพ่งอยู่กับตัวหนังสือ และสวดไปตามจังหวะ เนื่องจากบทสวดเป็นภาษาบาลี สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยอาจสวดผิดบ้าง ถูกบ้าง ก็ไม่เป็นไร ขอให้ตั้งใจสวดต่อไป ไม่นานก็จะชำนาญเอง จะสวดคำแปลด้วยก็ได้ เพื่อจะได้เข้าใจเนื้อหาที่สวด แต่หากมีความเข้าใจ ดีอยู่แล้ว จะไม่สวดคำแปลก็ได้
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
การสวดให้ออกเสียงดังพอประมาณ การสวดออกเสียงจะช่วยให้สติมั่นคง อยู่กับบทสวดมากกว่าการสวดในใจ และยังช่วยให้ปอดได้ทำงานอีกด้วย
¡Òÿ˜§¼ÙŒÍ×è¹ÊÇ´ãËŒ¿˜§ ÁÕ¢ŒÍ»¯ÔºÑµÔ´Ñ§¹Õé
ถ้ า ผู้ ป่ ว ยไม่ ส ามารถสวดด้ ว ยตนเองได้ จะให้ ผู้ อื่ น สวดให้ ¿˜ ง ก็ ไ ด้ โดยจะให้ญาติที่เฝ‡าไข้เป็นผู้สวดให้¿˜ง หรือจะใช้วิธีอัดเสียงพระสวดแล้ว นำมาเป ด¿˜งก็ได้ แต่การ¿˜งจากผู้อื่นสวดนี้ ผู้ป่วยควรจะศึกษาเนื้อหาของ บทสวดนั้นก่อน โดยอ่านจากหนังสือด้วยตัวเองหรือให้ญาติอ่านให้¿˜ง เพราะเมื่อเข้าใจในเนื้อหาแล้ว ในขณะ¿˜งจะได้ทำความเข้าใจ และมี สมาธิในการ¿˜งไม่วอกแวก ขั้นตอนสุดท้ายทุกครั้งที่สวดหรือ¿˜งจบแล้ว ควรทำสมาธิ แผ่เมตตาให้ตนเอง และสรรพสั ต ว์ ทั้ ง หลายที่ ต นได้ เ คย เบี ย ดเบี ย นมาทั้ งในชาติ นี้ แ ละ อดี ต ชาติ ขอให้ อ ยู่ เ ป็ น สุ ข และอโหสิกรรมแก่ตนเอง
13 13
ÂÒ¨ÃÃâŧ¨Ôµ
ñ
“ËÁÍÃÑ ¡ ÉÒ·Ò§¡Ò ʋ Ç ¹ ¤¹ä¢ŒµŒÍ§ÃÑ¡ÉÒ㨠¨Ð»Å‹ÍÂãËŒËÁÍ ÃÑ ¡ ÉÒËÁ´¡ç ä Á‹ ä ´Œ ¶Œ Ò ËÁÍÃÑ ¡ ÉÒ¡Ò áÅŒÇ ¤¹ä¢ŒäÁ‹ÃÑ¡ÉÒ㨠âäÁѹ¡çËÒªŒÒ à¾ÃÒСÓÅÑ § ã¨äÁ‹ ´Õ äÁ‹ ª‹ Ç ÂµÑ Ç àͧ à¾ÃÒЩйѹé àÃÒ¨Ö§µŒÍ§ª‹ÇÂàËÅ×͵ÑÇàͧ ¤×Í Í‹Ò໚¹·Ø¡¢ Ì͹͡Ì͹ã¨Ç‹Ò ËÅǧ¾‹Í»˜ÞÞҹѹ·ÀÔ¡¢Ø ãËŒ ÁÑ ¹ ËÒÂäÇ æ ¡Ô ¹ ÂÒµÒÁËÁÍÊÑè § ¡Ô¹ãËŒÁѹ¶Ù¡àÃ×èͧ ¡Ô¹áŌǹ͹¾Ñ¡ Í‹ÒÃպÌ͹ã¨Ç‹Ò ‘áËÁ...Áѹ¨ÐËÒ àÁ×èÍäËË ¾ÃØ‹§¹Õé¨ÐËÒÂäËÁ’ Í‹Òã¨ÃŒÍ¹Í‹ҧ¹Ñé¹ ÁѹäÁ‹¶Ö§àÇÅÒÁѹ¡çäÁ‹ ËÒÂËÃÍ¡ »˜¨¨ÑÂÁѹÂѧäÁ‹ÊÔé¹Áѹ¡çäÁ‹´Ñº à¾ÃÒÐÊÔ觷Ñé§ËÅÒÂà¡Ô´áµ‹à赯 ¶ŒÒà˵ØÂѧÊ׺µ‹Í¡Ñ¹ÍÂÙ‹µÃҺ㴠¼ÅÁѹ¡çÂѧÍÂÙ‹µÃÒº¹Ñé¹ àÃÒ¨Ð仺ѧ¤Ñº ÁÑ¹Ç‹Ò ËÒ¾ÃØ‹§¹Õé ÁÐÃ×¹¹Õé àÃҺѧ¤ÑºÁѹäÁ‹ä´Œ ¶ŒÒºÑ§¤Ñºà¢ŒÒ ¼Å¨Ð ໚¹Í‹ҧäà àÃÒ¡ç໚¹·Ø¡¢ àͧ¹Ñè¹áËÅÐ àÃ×èͧÍÐäà Ëҧ¡ÒÂäÁ‹ÊºÒ áÅŒÇ Âѧ¨Ðä»ËÒàÃ×èͧãËŒã¨äÁ‹ÊºÒÂÍÕ¡ ÁѹàÃ×èͧÍÐäà ໚¹·Ø¡¢ à»Å‹Ò æ” ñ
คัดจากหนังสือ ธรรมโอสถ จัดพิมพ์โดย บจ.สามัคคีสาร (ดอกหญ้า)
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
ÅӴѺ¡ÒÃÊÇ´Á¹µ à¾×èÍÃÑ¡ÉÒâä เบื้ อ งต้ น เตรี ย มใจให้ ส งบ เป็ น สมาธิ ตั้ ง จิ ต อธิ ษ °านในการทำ ความดีว่าในขณะที่ทำการสวดมนต์ ขออย่าได้มีสิ่งใดมารบกวน ขอให้จิต ตั้งมั่นไม่วอกแวก ขอให้การทำความดีในครั้งนี้สำเร็จไปด้วยดี จากนั้นให้เริ่ม สวดไปตามลำดับดังนี้ ñ. º·¡ÃÒº¾ÃÐÃѵ¹µÃÑ ò. º·¹Íº¹ŒÍÁ¾Ãоط¸à¨ŒÒ ó. º·äµÃÊó¤Á¹ ô. º·ÊÃÃàÊÃÔ޾ط¸¤Ø³ õ. º·ÊÃÃàÊÃÔÞ¸ÃÃÁ¤Ø³ ö. º·ÊÃÃàÊÃÔÞÊѧ¦¤Ø³ ÷. º·¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
ø. º·ÊѾ¾ÐÁ§¤Å¤Ò¶Ò ù. ·ÓÊÁÒ¸ÔÀÒǹÒÃÑ¡ÉÒâä ñð. ἋàÁµµÒá¡‹µ¹àͧ ññ. ἋàÁµµÒá¡‹ÊÃþÊÑµÇ ñò. ἋʋǹºØÞ¡ØÈÅ ñó. º·Í¸ÔÉ°Ò¹ºØÞºÒÃÁÕ
â»Ã´ãªŒË¹Ñ§Ê×ÍàÅ‹Á¹ÕéãËŒ¤ØŒÁ·ÕèÊØ´ : Í‹Ò¹ÊÔºÃͺ ¤Ô´ÊԺ˹ ½ƒ¡½¹»˜ÞÞÒ
15 15
16
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
ñ. º·¡ÃÒº¾ÃÐÃѵ¹µÃÑÂ
ÍÐÃÐËѧ ÊÑÁÁÒÊÑÁ¾Ø·â¸ ÀФÐÇÒ
¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀÒ¤à¨ŒÒ à»š¹¾ÃÐÍÃËѹµ ñ, ´Ñºà¾ÅÔ§¡ÔàÅÊà¾ÅÔ§·Ø¡¢ ÊÔé¹àªÔ§, µÃÑÊÃÙŒªÍºä´Œâ´Â¾ÃÐͧ¤ àͧ ;
¾Ø·¸Ñ§ ÀФÐÇѹµÑ§ ÍÐÀÔÇÒà·ÁÔ Ï
¢ŒÒ¾à¨ŒÒÍÀÔÇÒ·¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌Ò, ¼ÙŒÃÙŒ ¼ÙŒµ×è¹ ¼ÙŒàºÔ¡ºÒ¹ Ï (¡ÃÒº)
ÊîÇÒ¡¢Òâµò ÀФÐÇÐµÒ ¸ÑÁâÁ,
¾ÃиÃÃÁ ໚¹¸ÃÃÁ·Õè¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌Ò, µÃÑÊäÇŒ´ÕáÅŒÇ ;
¸ÑÁÁѧ ¹ÐÁÑÊÊÒÁÔ Ï
¢ŒÒ¾à¨ŒÒ¹ÁÑÊ¡ÒþÃиÃÃÁ Ï (¡ÃÒº)
ñ อ่านว่า ÍÐ-ÃÐ-Ëѹ ò อ่านว่า สะหวาก-ขา-โต เครื่องหมาย î (ยามักการ) ถ้าอยู่บนพยัญชนะต้นคำให้อ่านออกเสียง “อะ” กึ่งมาตรา อ่านออกเสียง “สะ” ควบกับ “หวาก” เร็ว æ ไม่ใช่ออกเสียงพร้อมกัน
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
ÊػЯԻ˜¹â¹ ÀФÐÇÐâµ ÊÒÇСÐÊѧâ¦,
¾ÃÐʧ¦ ÊÒÇ¡¢Í§¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌Ò, »¯ÔºÑµÔ´ÕáÅŒÇ ;
Êѧ¦Ñ§ ¹ÐÁÒÁÔ Ï
¢ŒÒ¾à¨ŒÒ¹Íº¹ŒÍÁ¾ÃÐʧ¦ Ï (¡ÃÒº)
¢ŒอคิดชÇนอ‹าน : พรÐรัตนตรัย á»ÅÇ‹Ò áกŒÇ ó ปรÐการ Íѹ䴌ᡋ ¾Ãоط¸ ¾ÃиÃÃÁ ¾ÃÐʧ¦ à˵طÕè·‹Ò¹à»ÃÕº¾Ãоط¸ ¾ÃиÃÃÁ áÅоÃÐʧ¦ àËÁ×Í¹á¡ŒÇ à¾ÃÒÐ໚¹ÊÔ觷ÕèÁÕ¤‹ÒÊÙ§ÊØ´¡Ç‹ÒÊÔ觷Ñé§ËÅÒ·Ñ駻ǧ àËÁ×͹Ãѵ¹Ð·Õèä´ŒÃѺ¡‹ͧNjÒ໚¹ÊÔè§ ·Õè ÁÕ ¤‹ Ò ¡Ç‹ Ò ÊÁºÑ µÔ ·Ø ¡ Í‹ Ò § ¼ÙŒ ¤ Ãͺ¤ÃͧÃÑ µ ¹Ð‹ Í Áä´Œ ª×è Í Ç‹ Ò à»š ¹ ¼ÙŒ ÁÑè § ¤Ñè § ·Õè ÊØ ´ã¹âÅ¡ ¼ÙŒ·Õè¹Ñº¶×;Ãоط¸ ¾ÃиÃÃÁ áÅоÃÐʧ¦ ໚¹·Õè¾Ö觡çä´Œª×èÍÇ‹Ò à»š¹¼ÙŒÃèÓÃÇ·ÕèÊØ´ ã¹âÅ¡ ¤×ÍÃèÓÃÇ´ŒÇºØÞ·ÃѾ «Öè§à»š¹à˵Øãˌ䴌·Ñé§โÅกิยทรัพย ñ(·ÃѾ ÀÒ¹͡) áÅÐโÅกุตรทรัพย ò(ÁÃä ¼Å ¹Ô¾¾Ò¹) ñ
อ่านว่า âÅ-¡Ô-ÂÐ-«Ñº แปลว่า ทรัพย์ของชาวโลก หมายถึง ทรัพย์ตามความคิดของชาวโลก, สิ่งที่ชาวโลกถือว่าเป็นทรัพย์, ทรัพย์ที่ทำให้ติดอยู่ในโลก ò อ่านว่า âÅ-¡Ø´-µÐ-ÃÐ-«Ñº แปลว่า ทรัพย์ที่หลุดพ้นจากโลก, ทรัพย์ของพระอริยเจ้า
17 17
18
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
ò. º·¹Íº¹ŒÍÁ¾Ãоط¸à¨ŒÒ
¹ÐâÁ µÑÊÊÐ ÀФÐÇÐâµ,
¢Í¹Íº¹ŒÍÁá´‹¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌Ò, ¾ÃÐͧ¤ ¹Ñé¹ ;
ÍÐÃÐËÐâµ,
«Öè§à»š¹¼ÙŒä¡Å¨Ò¡¡ÔàÅÊ ;
ÊÑÁÁÒÊÑÁ¾Ø·¸ÑÊÊÐ Ï
µÃÑÊÃÙŒªÍºä´Œâ´Â¾ÃÐͧ¤ àͧ Ï (Ç‹Ò ó ¨º)
¢ŒอคิดชÇนอ‹าน : º·¹Õé ÊÇ´à¾×è͹ŒÍÁÃÓÅÖ¡¶Ö§¤Ø³¢Í§¾Ãоط¸à¨ŒÒ ó »ÃСÒà ¤×Í ÀÐคÐÇÐโต á»ÅÇ‹Ò ¼ÙŒ¨Óṡ¸ÃÃÁÊÑè§Ê͹ÊÑµÇ º‹§¶Ö§ ¾ÃСÃسҤس, อÐรÐหÐโต á»ÅÇ‹Ò ¼ÙŒË‹Ò§ä¡Å¨Ò¡¡ÔàÅÊ º‹§¶Ö§ ¾ÃкÃÔÊØ·¸Ô¤Ø³, สัมมาสัมพุทธัสสÐ á»ÅÇ‹Ò ¼ÙŒµÃÑÊÃÙŒªÍº´ŒÇ¾ÃÐͧ¤ àͧ º‹§¶Ö§ ¾Ãл˜ÞÞҤس ¡Ò÷Õ赌ͧÊÇ´ ó ¨º ¡çà¾×èÍãËŒ¨Ôµ ¢Í§¼ÙŒÊÇ´¹ŒÍÁࢌҶ֧¾Ø·¸¤Ø³Í‹ҧṺṋ¹áÅÐáÊ´§ÍÍ¡¶Ö§¤ÇÒÁ¨Ãԧ㨢ͧ¼ÙŒÊÇ´ Ç‹ÒÁÕ¤ÇÒÁà¤ÒþÍ‹ҧ᷌¨ÃÔ§äÁ‹ãª‹ÊѡᵋNjҷÓ
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
ó. º·äµÃÊó¤Á¹ ¾Ø·¸Ñ§ ¸ÑÁÁѧ Êѧ¦Ñ§ ·ØµÔÂÑÁ» ¾Ø·¸Ñ§ ·ØµÔÂÑÁ» ¸ÑÁÁѧ ·ØµÔÂÑÁ» Êѧ¦Ñ§
ªÕÇԵѧ ªÕÇԵѧ ªÕÇԵѧ ªÕÇԵѧ ªÕÇԵѧ ªÕÇԵѧ
ÂÒÇÐ ÂÒÇÐ ÂÒÇÐ ÂÒÇÐ ÂÒÇÐ ÂÒÇÐ
¹Ô¾¾Ò¹Ñ§ ¹Ô¾¾Ò¹Ñ§ ¹Ô¾¾Ò¹Ñ§ ¹Ô¾¾Ò¹Ñ§ ¹Ô¾¾Ò¹Ñ§ ¹Ô¾¾Ò¹Ñ§
ÊÐÃгѧ ÊÐÃгѧ ÊÐÃгѧ ÊÐÃгѧ ÊÐÃгѧ ÊÐÃгѧ
¤Ñ¨©ÒÁÔ ¤Ñ¨©ÒÁÔ ¤Ñ¨©ÒÁÔ ¤Ñ¨©ÒÁÔ ¤Ñ¨©ÒÁÔ ¤Ñ¨©ÒÁÔ
19 19
20
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
µÐµÔÂÑÁ» ¾Ø·¸Ñ§ ªÕÇԵѧ ÂÒÇÐ ¹Ô¾¾Ò¹Ñ§ ÊÐÃгѧ ¤Ñ¨©ÒÁÔ, µÐµÔÂÑÁ» ¸ÑÁÁѧ ªÕÇԵѧ ÂÒÇÐ ¹Ô¾¾Ò¹Ñ§ ÊÐÃгѧ ¤Ñ¨©ÒÁÔ, µÐµÔÂÁÑ » Êѧ¦Ñ§ ªÕÇµÔ §Ñ ÂÒÇÐ ¹Ô¾¾Ò¹Ñ§ ÊÐÃгѧ ¤Ñ¨©ÒÁÔ Ï ¢ŒÒ¾à¨ŒÒ¶Ö§¾Ãоط¸à¨ŒÒ ¾ÃиÃÃÁ áÅоÃÐʧ¦ ໚¹ÊóРµÃÒº¶Ö§¾ÃйԾ¾Ò¹ Ï áÁŒ¤ÃÑ駷Õè ò ¢ŒÒ¾à¨ŒÒ¶Ö§¾Ãоط¸à¨ŒÒ ¾ÃиÃÃÁ áÅоÃÐʧ¦ ໚¹ÊóРµÃÒº¶Ö§¾ÃйԾ¾Ò¹ Ï áÁŒ¤ÃÑ駷Õè ó ¢ŒÒ¾à¨ŒÒ¶Ö§¾Ãоط¸à¨ŒÒ ¾ÃиÃÃÁ áÅоÃÐʧ¦ ໚¹ÊóРµÃÒº¶Ö§¾ÃйԾ¾Ò¹ Ï ¢ŒอคิดชÇนอ‹าน : º·äµÃÊó¤Á¹ ·Õèà¾ÔèÁ “ªÕÇԵѧ ÂÒÇÐ ¹Ô¾¾Ò¹Ñ§” Ẻ¹Õé 㪌ÊÇ´ ੾ÒÐãËŒ¼ÙŒ»†Ç¿˜§ áÅÐÊÇ´à¾×èÍÊÐà´ÒÐà¤ÃÒÐË à·‹Ò¹Ñé¹ ·Ñ駹Õéà¾×èÍãËŒ¼ÙŒ·Õè¡ÓÅѧ»†ÇÂËÃ×Í ÁÕà¤ÃÒÐË äÁ‹ËŧÅ×Á໇ÒËÁÒÂÊÙ§ÊØ´¢Í§ªÕÇÔµ ¤×Í¡Ò÷ӵ¹ãËŒ¶Ö§¾ÃйԾ¾Ò¹ áÁŒã¹ ÂÒÁ·Õèà¨çº»†ÇÂËÃ×͵¡ÍѺ
ÍÐäÃàÍ‹Â “¤ÇÒÂãÊ‹ËÁÇ¡¢ŒÒ§à´ç¡”
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä ñ
ô. º·ÊÃÃàÊÃÔ޾ط¸¤Ø³ ò
ÍÔµÔ» âÊ ÀФÐÇÒ, ÍÐÃÐËѧ,1 ÊÑÁÁÒÊÑÁ¾Ø·â¸,2 ÇÔªªÒ¨ÐÃгÐÊÑÁ»˜¹â¹,3
¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌ҹÑé¹ ; ໚¹¼ÙŒä¡Å¨Ò¡¡ÔàÅÊ ; ໚¹¼ÙŒµÃÑÊÃÙŒªÍºä´Œâ´Â¾ÃÐͧ¤ àͧ ; ໚¹¼ÙŒ¶Ö§¾ÃŒÍÁ´ŒÇÂÇÔªªÒóáÅШóÐô
ñ ò ó À¾ คือ เทวโลก, มนุสสโลก, อบายภูมิ พุทธคุณ หมายถึง คุณของพระพุทธเจ้านั้นโดยย่อมี ó คือ พระกรุณาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระป˜ ญญาคุณ โดยพิสดารมี ù (ดูตามเลขอารบิค) เรียกว่า นวหรคุณ ó วิ ช ชา หมายถึ ง ความรู้แจ้ง ô จรณะ หมายถึง ความประพÄติดี
2121 21
22
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
ÊؤÐâµ,4 ໚¹¼ÙŒä»áŌǴŒÇÂ´Õ ; âÅ¡ÐÇÔ·Ù,5 ໚¹¼ÙŒÃÙŒâÅ¡Í‹ҧᨋÁᨌ§ ; ÍйصµÐâà »ØÃÔÊзÑÁÁÐÊÒÃжÔ,6 ໚¹¼ÙŒÊÒÁÒö½ƒ¡ºØÃØÉ·ÕèÊÁ¤Çà Êѵ¶Ò à·ÇÐÁйØÊÊҹѧ,7 ¾Ø·â¸,8 ÀФÐÇÒµÔ9 Ï
½ƒ¡ä´ŒÍ‹ҧäÁ‹ÁÕã¤ÃÂÔè§¡Ç‹Ò ; ໚¹¤ÃÙ¼ÙŒÊ͹¢Í§à·Ç´Ò áÅÐÁ¹ØÉ ·Ñé§ËÅÒ ; ໚¹¼ÙÃŒ ÙŒ ¼ÙµŒ ¹×è ¼ÙàŒ ºÔ¡ºÒ¹´ŒÇ¸ÃÃÁ ; ໚¹¼ÙŒÁÕ¤ÇÒÁ¨ÓàÃÔÞ ¨Óṡ¸ÃÃÁÊÑè§Ê͹ÊÑµÇ Ï
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
õ. º·ÊÃÃàÊÃÔÞ¸ÃÃÁ¤Ø³
ñ
ò
ÊîÇÒ¡¢Òâµ ÀФÐÇÐµÒ ¸ÑÁâÁ,1 ¾ÃиÃÃÁ ໚¹¸ÃÃÁ·Õè¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀÒ¤à¨ŒÒ µÃÑÊäÇŒ´ÕáÅŒÇ ;
Êѹ·Ô¯°Ôâ¡,2
໚¹¸ÃÃÁ·Õ¼è ÈÙŒ ¡Ö ÉÒáÅл¯ÔºµÑ ¾Ô §Ö àËç¹ä´Œ´ŒÇµ¹àͧ ;
ÍСÒÅÔâ¡,3
໚¹¸ÃÃÁ·Õ軯ԺѵÔä´Œ áÅÐãËŒ¼Åä´ŒäÁ‹¨Ó¡Ñ´¡ÒÅ ;
àÍËÔ»˜ÊÊÔâ¡,4
໚¹¸ÃÃÁ·Õè¤ÇáŋÒǡмٌÍ×è¹Ç‹Ò·‹Ò¹¨§ÁÒ´Ùà¶Ô´ ;
âͻйÐÂÔâ¡,5
໚¹¸ÃÃÁ·Õè¤ÇùŒÍÁࢌÒÁÒãÊ‹µÑÇ ; ó
»˜¨¨ÑµµÑ§ àǷԵѾ⾠ÇÔÞ ÙËÕµÔ Ï6
໚¹¸ÃÃÁ·Õè¼ÙŒÃÙŒ¡çÃٌ䴌੾Òе¹ Ï ñ
¸ÃÃÁ¤Ø³ หมายถึง ความดีของพระธรรม มี ö ประการ (ดูตามเลขอารบิค) ò อ่านว่า ÊÐËÇÒ¡-¢Ò-âµ แปลว่า ตรัสไว้ดีแล้ว ó อ่านว่า ÇÔ¹-ÂÙ-ÎÕ-µÔ แปลว่า ผู้รู้ทั้งหลาย
23 23
24
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
ö. º·ÊÃÃàÊÃÔÞÊѧ¦¤Ø³ ñ ÊػЯԻ˜¹â¹ ÀФÐÇÐâµ ÊÒÇСÐÊѧâ¦,1
ʧ¦ ÊÒÇ¡¢Í§¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌ÒËÁÙ‹ã´, »¯ÔºÑµÔ´ÕáÅŒÇ ;
ÍتػЯԻ˜¹â¹ ÀФÐÇÐâµ ÊÒÇСÐÊѧâ¦,2
ʧ¦ ÊÒÇ¡¢Í§¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌ÒËÁÙ‹ã´, »¯ÔºÑµÔµÃ§áÅŒÇ ;
ÞÒÂлЯԻ˜¹â¹ ÀФÐÇÐâµ ÊÒÇСÐÊѧâ¦,3
ʧ¦ ÊÒÇ¡¢Í§¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌ÒËÁÙ‹ã´, »¯ÔºÑµÔà¾×èÍÃÙŒ¸ÃÃÁ ໚¹à¤Ã×èͧÍÍ¡¨Ò¡·Ø¡¢ áÅŒÇ ;
ÊÒÁըԻЯԻ˜¹â¹ ÀФÐÇÐâµ ÊÒÇСÐÊѧâ¦,4
ʧ¦ ÊÒÇ¡¢Í§¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌ÒËÁÙ‹ã´, »¯ÔºÑµÔÊÁ¤ÇÃáÅŒÇ ;
ÂзԷѧ,
䴌ᡋºØ¤¤ÅàËÅ‹Ò¹Õé¤×Í :-
ñ
Êѧ¦¤Ø³ หมายถึง คุณความดีของพระสง¦์ มี ù ประการ (ดูตามเลขอารบิค)
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
¨ÑµµÒÃÔ »ØÃÔÊÐÂØ¤Ò¹Ô Íѯ°Ð »ØÃÔÊлؤ¤ÐÅÒ,
¤Ù‹áË‹§ºØÃØÉ ô ¤Ù‹ ¹ÑºàÃÕ§µÑǺØÃØÉä´Œ ø ºØÃØÉñ ;
àÍÊÐ ÀФÐÇÐâµ ÊÒÇСÐÊѧâ¦,
¹Ñè¹áËÅРʧ¦ ÊÒÇ¡¢Í§¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀÒ¤à¨ŒÒ ; ÍÒËØà¹ÂâÂ,5 (ä¹-âÂ) ໚¹Ê§¦ ¤ÇÃá¡‹ÊÑ¡¡ÒÃзÕèà¢Ò¹ÓÁÒºÙªÒ ; »ÒËØà¹ÂâÂ,6 (ä¹-âÂ) ໚¹Ê§¦ ¤ÇÃá¡‹Ê¡Ñ ¡ÒÃзÕàè ¢Ò¨Ñ´äÇŒµÍŒ ¹ÃѺ ; ·Ñ¡¢Ôà³ÂâÂ,7 (ä¹-âÂ) ໚¹¼ÙŒ¤ÇÃÃѺ·Ñ¡ÉÔ³Ò·Ò¹ò; ÍÑÞªÐÅÕ¡ÐÃгÕâÂ,8 ໚¹¼ÙŒ·ÕèºØ¤¤Å·ÑèÇ令Ç÷ÓÍÑÞªÅÕó;
ÍйصµÐÃѧ »ØÞÞѡࢵµÑ§ âÅ¡ÑÊÊÒµÔ9Ï
໚¹à¹×é͹ҺØޢͧâÅ¡äÁ‹ÁÕ¹ÒºØÞÍ×è¹ÂÔè§¡Ç‹Ò Ï
ñ
¤Ù‹áË‹§ºØÃØÉ ô ¤Ù‹ คือ โสดาป˜ตติมรรค โสดาป˜ตติผล, สกทาคามิมรรค สกทาคามิผล, อนาคามิมรรค อนาคามิผล, อรหัตตมรรค อรหัตตผล. ò ·Ñ¡ÉÔ³Ò·Ò¹ หมายถึง ทานหรือของทำบุญอุทิศแก่ผู้ตาย ó ÍÑÞªÅÕ หมายถึง การกราบไหว้, การแสดงความเคารพ
25 25
26
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃนี้ มีปราก¯ใน·Õ¦¹Ô¡Ò »Ò¯Ô¡ÇÃä ¾ÃÐäµÃ» ®¡ àÅ‹Á·Õè òô ¢ŒÍ·Õè ô÷ó เป็นพระสูตรว่าด้วยการรักษาพระคิรมิ านนท์ (ทีก่ ำลัง อาพาธหนัก) ด้วยสมาธิบำบัด คือให้สดับหลักการเจริญสมาธิ ที่เรียกว่า สัญญา ñð ประการ แล้วให้เจริญสติตามหลักสัญญาทั้ง ñð ประการนั้น จนจิตเกิดพลังสามารถรักษาอาการป่วยทางกายให้หายได้ ด้วยเหตุนี้ จึงนิยม นำบทสวดคิรมิ านนทสูตรนี้ มาสวดเพือ่ รักษาโรค
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
÷. ¤ÔÃÔÁÒ¹¹·Êٵà àÍÇÑÁàÁ Êص§Ñ Ï à͡ѧ ÊÐÁÐÂѧ ÀФÐÇÒ ÊÒÇѵ¶Ô处 ÇÔËÐÃÐµÔ àªµÐÇÐ๠ÍйҶл ³±Ô¡ÊÑ ÊÐ ÍÒÃÒàÁ Ï àµ¹Ð â¢ »Ð¹Ð ÊÐÁÐà¹РÍÒÂÑÊîÁÒñ ¤ÔÃÔÁҹѹⷠÍÒ¾Ò¸Ôâ¡ âËµÔ ·Ø¡¢Ôâµ ¾ÒÌîËФÔÅÒâ¹ò Ï ¢ŒÒ¾à¨ŒÒ (¾ÃÐÍÒ¹¹·à¶ÃÐ)ó ä´Œ¿˜§ÁÒáÅŒÇÍ‹ҧ¹ÕéÇ‹Ò :- ÊÁÑÂ˹Öè§ ¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌һÃзѺÍÂÙ‹ ³ ¾ÃÐવÇѹÇÔËÒà ÍÒÃÒÁ¢Í§·‹Ò¹ ͹ҶºÔ³±Ô¡àÈÃÉ°Õô ã¡ÅŒàÁ×ͧÊÒÇѵ¶Õ Ï ¡çÊÁѹÑé¹ ·‹Ò¹¾ÃФÔÃÔÁÒ¹¹· à¡Ô´ÍÒ¾Ò¸ ä´ŒÃѺ·Ø¡¢ ໚¹ä¢ŒË¹Ñ¡ Ï
ñ
เครื่องหมาย î (ยามักการ) อยู่บนพยัญชนะที่มิใช่พยัญชนะต้น ให้อ่านเป็นตัวสะกดของตัวหน้า และอ่านออกเสียง อะ กึ่งมาตราควบกับพยางค์หลัง ÍÒÂÑÊîÁÒ อ่านว่า ÍÒ-ÂÑ´-ÊÐËÁÒ ò ¾ÒÌîËФÔÅÒâ¹ อ่านว่า ¾Ò¹-ÅÐËÐ-¤Ô-ÅÒ-â¹ แปลว่า อาพาธหนัก ó ¾ÃÐÍÒ¹¹·à¶ÃÐ เป็นพระโอรสของพระเจ้าสุกโกทนะ (พระเจ้าอาของพระพุทธเจ้า) ครั้นออกบวชแล้ว ได้รับยกย่องว่า เป็นยอดพุทธอุป˜¯°าก และสามารถจดจำคำสอนของพระพุทธเจ้าในส่วนของพระสูตร ได้ทั้งหมด Ï (อ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือเรียนนักธรรมชั้นโท วิชาอนุพุทธประวัติ : เลี่ยงเชียง. òõõð) ô ͹ҶºÔ³±Ô¡àÈÃÉ°Õ (อะ-นา-ถะ-บิน-ทิ-กะ-เสด-ถี) แปลว่า เศรษ°ีผู้ให้ทานแก่คนอนาถา ได้รับยกย่อง จากพระพุทธเจ้าว่า เป็นยอดแห่งอุบาสก เลิศทางการให้ทาน
27 27
28
¤ÔÃÔÁÒ¹¹·ÊÙµÃ
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ในเมื อ งสาวั ต ถี พระอานนทเถระ พุ ท ธอุ ป˜ ¯ °าก ได้ เ ข้ า เฝ‡ า กราบทู ล อาราธนาให้ เ สด็ จ เยี่ ย มไข้ พ ระคิ ริ ม านนท์ ที่ ก ำลั ง อาพาธหนั ก พระผู้ มี พระภาคเจ้าได้ตรัสกับพระอานนทเถระว่า หากพระคิริมานนท์ได้¿˜งสัญญา ñð ประการและเจริ ญ สติ ต ามสั ญ ญา ñð ก็ จั ก หายจากอาพาธในทั น ที จากนั้นจึงทรงสาธยายสัญญา ñð ประการให้พระอานนทเถระ¿˜ง
¾Ø·¸Ä·¸Ôì ¾ÔªÔµâä
ÍжÐ⢠ÍÒÂÑÊîÁÒ Íҹѹⷠà¹РÀФÐÇÒ àµ¹Ø»ÐÊѧ¡ÐÁÔ ÍØ»ÐÊѧ¡ÐÁÔµîÇÒñ ÀФÐÇѹµÑ§ ÍÐÀÔÇÒà·µîÇÒò àÍ¡ÐÁѹµÑ§ ¹ÔÊÕ·Ô Ï
¤ÃÑ駹Ñé¹áÅ ¾ÃÐÍÒ¹¹· ࢌÒä»à½‡Ò¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌Ҷ֧·Õè»ÃзѺ ¶ÇÒºѧ¤ÁáÅŒÇ ¹Ñè§ ³ ·ÕèÊÁ¤ÇâŒÒ§Ë¹Öè§ Ï
àÍ¡ÐÁѹµÑ§ ¹ÔÊԹ⹠⢠ÍÒÂÑÊîÁÒ ÍҹѹⷠÀФÐÇѹµÑ§ à͵зÐâǨРÍÒÂÑÊÁî Ò Àѹൠ¤ÔÃÁÔ Ò¹Ñ¹â· ÍÒ¾Ò¸Ôâ¡ ·Ø¡¢Ôâµ ¾ÒÌîËФÔÅÒâ¹ó ÊÒ¸Ø ÀѹൠÀФÐÇÒ à¹ÒÂÑÊîÁÒ ¤ÔÃÔÁҹѹⷠ൹ػÐÊѧ¡ÐÁÐµØ ÍйءÑÁ»˜§ ÍػҷÒÂÒµÔ Ï ¤ÃÑé¹áÅŒÇä´Œ¡ÃÒº·ÙžÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌ÒÇ‹Ò ¢ŒÒᵋ¾ÃÐͧ¤ ¼ÙŒà¨ÃÔÞ ·‹Ò¹¾ÃФÔÃÔÁÒ¹¹· ÍҾҸ䴌ÃѺ·Ø¡¢ ໚¹ä¢ŒË¹Ñ¡ ¢Í»Ãзҹ¾ÃÐÇâáÒÊ ¢Í¾ÃмٌÁÕ¾ÃÐÀҤ਌Òä´Œâ»Ã´Í¹Øà¤ÃÒÐË àÊ´ç¨àÂÕèÂÁ·‹Ò¹¾ÃФÔÃÔÁÒ¹¹· Âѧ·ÕèÍÂÙ‹à¶Ô´ ¾ÃÐ਌ҢŒÒ Ï ñ อ่านว่า ÍØ-»Ð-Êѧ-¡Ð-ÁÔ´-µÐÇÒ แปลว่า เข้าไปหาแล้ว ò อ่านว่า ÍÐ-ÀÔ-ÇÒ-à·´-µÐÇÒ แปลว่า ถวายบังคมแล้ว, ไหว้แล้ว ó อ่านว่า ¾Ò¹-ÅÐËÐ-¤Ô-ÅÒ-â¹ แปลว่า เป็นผู้อาพาธหนัก
29 29