´ÙáÅÊØ¢ÀÒ¾¨Ôµ » ´·Ø¡¢ ¡Ò ã¨à»š¹ÊØ¢·Ø¡Ê¶Ò¹¡Òó
วางเป็น ก็เย็นใจ
วางได้ สบายจัง
นำเสนอสาระ : มนิจ ชูชัยมงคล ออกแบบปก : สมชาย ศรีคำขลิบ ภาพประกอบ : สมควร กองศิลา
บรรณาธิการสาระ : ศักดิ์สิทธิ์ พันธุสัตย บรรณาธิการศิลปะ : อนุชิต คำซองเมือง รูปเลม/จัดอารต : วันดี ตามเที่ยงตรง
¤Ó¹ÓÊӹѡ¾ÔÁ¾ มีคำกลาวอยูประโยคหนึ่งวา “มนุษยพัฒนาแตความสามารถในการหา สิ่งที่มาทำใหเกิดความสุขเทานั้น แตไมไดพัฒนาความสามารถในการที่จะมีความสุข เลย” หมายความวา มนุษยเราฉลาดแตแสวงหาสิ่งที่จะทำใหตัวเองมีความสุข เทานั้น แตไมสามารถทำใหตัวเองมีความสุขไดจริง ๆ เชนบางคนมีหนาที่การงานดี มีฐานะการเงินดี มีการศึกษาสูง มีบาน มีรถ มีหนามีตาทางสังคม มีทุกอยาง ที่เพียบพรอม ซึ่งมองภายนอกแลว เขาก็นาจะมีความสุขที่สุด แตตรงกันขาม เขากลับมีความทุกขมากยิ่งกวาคนที่มีอะไรนอยกวาเขาเสียอีก ความสุข เปนความรูสึกภายในใจ เกิดกับใจ ไมใชปจจัยภายนอก การ เรียนรูที่จะฝกใจ ทำใจใหเปนสุขไดในทุกที่ทุกสถานการณดวยสติปญญาเทานั้น จึงจะทำใหเรามีความสุขไดอยางแทจริง หนังสือ วางเปน ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง เลมนี้ เปนธรรมบรรยายของ พระเดชพระคุณพระพรหมมังคลาจารย หรือที่ลูกหลานชาวพุทธรูจักกันทั่วไป ในนามของ หลวงพอปญญานันทภิกขุ แหงวัดชลประทานรังสฤษฏ ถาหากวา ทานกำลังเปนทุกข ไมวาจะเรื่องงาน เรื่องตกงาน เรื่องครอบครัว เรื่องปากทอง เรื่องการเมือง หรือเรื่องใดก็ตาม หนังสือเลมนี้จะทำใหทานเห็นชองทางในการ เปลื้องทุกข สรางสุข ยิ้มเย็นได ในชั่วขณะ ในการจัดพิมพครั้งนี้ ทางสำนักพิมพไดจัดทำวรรคตอน จัดตั้งหัวขอ ทำเชิงอรรถเสริมบทบรรยายและวาดภาพการตูนประกอบสวยงาม โดยคงเนื้อหาเดิม ไวครบทุกตัวอักษรมิไดดัดแปลง ทั้งนี้เพื่อใหทานผูอานไดเขาใจ เขาถึงเนื้อหาได อยางชัดเจนแจมแจงและนำไปปฏิบัติไดงายและเกิดประโยชนอยางมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมากที่สุด หวังเปนอยางยิ่งวาหนังสือเลมนี้ จะเอื้อประโยชนแกทานผูอานทุกทาน ในอันที่จะสรางความสุขแกตนเอง ครอบครัว คนใกลชิด ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนรวมงาน รวมสังคม รวมประเทศ และรวมโลกสืบไป ขอความสุขในธรรมจงมีแดทุกทานตลอดไป มนิจ ชูชัยมงคล ผูสรรคสาระในนามคณาจารย สำนักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน
วางเป็น ก็เย็นใจ * วางได้ สบายจัง
¸ÃÃÁ´Ò¢Í§¸ÃÃÁªÒµÔ ชวงนี้อยูในเดือนเมษายน อากาศรอนหนอยซึ่งมันก็เปนเรื่องธรรมชาติ หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงกันมาโดยลำดับ มีรอน มีหนาว มีฝน อะไรตออะไร ตามเรื่องของดินฟาอากาศ
àÃÒ·Ñé§ËÅÒ·ÕèÍÂÙ‹ ã¹âÅ¡ ¡çµŒÍ§¾º¡ÑºÊÔè§àËÅ‹Ò¹Õé໚¹¸ÃÃÁ´Ò àÇÅÒÁÕ¤ÇÒÁÌ͹ Í‹Ò仡ÃÐǹ¡ÃÐÇÒÂã¹·Ò§¨Ôµã¨ àÇÅÒ˹ÒÇ àÇÅÒÁÕ½¹ ¡çÍ‹ҷÓãËŒà¡Ô´¤ÇÒÁ·Ø¡¢ ãËŒ¹Ö¡áµ‹à¾Õ§NjÒÁѹ໚¹¸ÃÃÁ´Ò·Õè¨ÐµŒÍ§à¡Ô´µŒÍ§à»š¹Í‹ҧ¹Õé áÅŒÇÁѹ¡çäÁ‹ 䴌໚¹ÍÂÙ‹¹Ò¹ËÃÍ¡ Ì͹äÁ‹¡Õèà´×͹¡ç¶Ö§½¹ ½¹äÁ‹¡Õèà´×͹¡ç¶Ö§Ë¹ÒÇ Ë¹ÒÇäÁ‹à·‹Òäáç¶Ö§ÃŒÍ¹µ‹Íä» ¡Ç‹ÒàÃÒ¨ÐÅÒâÅ¡¹Õ鵌ͧ¾º¡Ñº½¹ ˹ÒÇ ÃŒÍ¹ ËÅÒ¤ÃÑé§ËÅÒÂ˹ ËÁعàÇÕ¹ÊѺà»ÅÕ蹡ѹ仵ÅÍ´àÇÅÒ ÍÒ ´ÙáÅÊ ¡ÒÈà»ÅÕè آÀÒ¾ ¹ ¹Ð¤Ã ¨ÔµãËŒ´Õ Ѻ
* แสดงไวเมื่อวันอาทิตยที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๐ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 3
Ä´Ù¡ÒÅà»ÅÕè¹ ᵋ˹ŒÒ·ÕèäÁ‹à»ÅÕè¹ Œ หนาที่ของเรานั้น คือ äÁ‹ÁÕä¢ Ô¤§·Õè ÙÁ ควรจะทำใจใหมีความสุข อยาทำใจ ÍسËÀ ใหมีความทุกข ความเดือดรอน ดวยเรื่องอะไร ตาง ๆ ที่เกิดขึ้น ในชีวิตประจำวัน การทำใจให เปนสุขนั่นแหละ เปนหนาที่ ของเราทุกคน การทำใจของเรา ใหเปนทุกข ไมใชหนาที่ ถ้าเรานั่งกลุ้มใจ มีความทุกข์ Œ ¨Ðä´ æ ¨ ã Œ ความเดือดร้อนด้วยเรื่องอะไรก็ตาม ÂÔéÁäÇ àËÁÕÂÇ æ เรียกว่าเราทำผิดหน้าที่ การทำผิดหน้าที่ ÁÕÊØ¢¹Ð นั่นแหละ คือการไม่ประพฤติธรรม เพราะธรรมะคือหน้าที่ และหน้าที่ที่เราควรปฏิบัติก็คือ การทำใจของเราให้โปร่งเบา ให้มี ความสุขอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้น ถามันจะมีความทุกขบาง ก็นิด ๆ หนอย ๆ ไมใชทุกขกันนาน ๆ ทุกขเปนชั่วโมง หรือเปนวัน เปนสัปดาห เปนเดือน อยางนี้ก็ไมใชเรื่อง เปนการกระทำตนไมถูกเรื่อง
¨ÐÁÑǢѧµÑÇàͧÍÂÙ‹·ÓäÁ ËÒÍÐä÷ÓãËŒ¤Ö¡¤Ñ¡´Õ¡Ç‹Ò ·Ø¡¢ àÈÃŒÒ àË§Ò «ÖÁ
4 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
¨Ôµà¾ÅÕÂÍ‹Í¹ÅŒÒ ¾Ò¡ÒÂ͋͹áç เราควรจะรีบแกไขปญหาเหลานั้น ใหผอนคลายลงไปโดยเร็วที่สุดเทาที่จะเร็วได เพราะวาความทุกขที่เกิดขึ้นในจิตใจของเรานั้น มันก็เปนโรคอยางหนึ่งเหมือนกัน เราเรียกวาเปน “โรคทางใจ” หรือวา “โรคทางจิต” Ê‹§àÅ×Í´ แตโดยมากเขามักจะเรียกวาเปนโรคทางประสาท ÁÒàÃçÇ æ ÊÔ โรคทางประสาทนั้นเปนเรื่องของทางรางกาย แตวาเกิดเปนโรคประสาทขึ้นมาก็เพราะวาจิตออน à˹×èÍ คือ จิตคิดมากเกินไป ทำอะไร ๆ มากเกินไป เชน มีความกังวลในปญหาตาง ๆ ในเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทีนี้ เมื่อจิตคิดมาก รางกายมันก็ทำงานมาก หัวใจทำงานหนักเพื่อ สงโลหิตไปหลอเลี้ยงทางสมองใหคิดนึกในเรื่องนั้น ๆ เมื่อทำงานมาก มัน ก็เกิดอาการเพลียไปออนไป แลวทำใหไมสบายทางรางกาย นอนไมหลับบาง รับประทานอาหารไมไดบาง หรือเปน § ¢ç§áà á อะไรตาง ๆ ขึ้นในรางกายของเรา Â Ò ¡ เรื่องอยางนี้ก็เกิดจากสภาพของ จิตใจเรานั่นแหละเปนเหตุ คือจิตของเรา ç á¢ç§á ¨ ã ทำงานหนักเกินไป ไมมีการพักผอน รางกายของคนเรานี้ ตองการพักผอน เปนครัง้ คราว ธรรมชาติจงึ สรางใหเราทำงาน ในกลางวัน แลวก็พักผอนในตอนกลางคืน สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 5
¡Ô¹ ¹Í¹ ໚¹àÇÅÒ ¾Òã¨ÁÕÊØ¢ ¡Ô¹àÁ×èÍËÔÇ
´Õ
คนในสมัยนี้ ที่อยูใน สถานที่ ที่ เ ราเรี ย กว า ไมเจริญ คนที่อยูในที่ ที่ไมเจริญ เราอยาไป นึกวาเขาเดือดรอน
เราเสียอีกแหละที่อยูในที่ที่เจริญ กลับเดือดรอน มีเรื่องคับอกคับใจ มีปญหา มีอะไรรอยแปด ã¨ÊºÒ ¹Í¹ä˹¡çä´Œ แตวาคนที่ §‹Ç§áÅŒÇ ¹Í¹àÊ× èÍ¡çʺÒ เขาอยูตามที่ไมเจริญนั้น เขาสบาย เขานอนหลับเปนปกติ ไมวาเวลาไหน ค่ำเขาเขาก็นอน แลวก็นอนหลับเปนปกติ ตามความตองการ ของรางกาย ตื่นแตเชาก็ออกไปทำมาหากิน ไปในปา ËÔÇáÅŒÇ ¡Ô¹¢ŒÒǡѺËÂѧ¡Ð᫺ หาผักหาผลไม ไปในไรไปในสวนทำงานตามหนาที่ áÁ‹¹º‹ºÑ¡´‹Ò§ เวลาหิว เขาก็รับประทานอาหาร อิ่มแลวก็หมดเรื่องกันไป ถาไมหิว áÁ¹ ÂÙ ! เขาก็ไมรับประทาน คนตามบานนอก ที่ยังไมเจริญนั้นจึงกินเปนเวลา ตามความตองการของรางกายจริง ๆ 6 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
¡Ô¹ÍÂÙ‹äÁ‹à»š¹àÇÅÒ »˜ÞËÒãËÞ‹ ᵋNjÒàÃÒ·ÕèÍÂÙ‹ ã¹àÁ×ͧËÅǧÍѹà¨ÃÔÞ¹Ñé¹ ¢ÍÍÀÑÂà¶ÍÐ ÁѹÁբͧ¡Ô¹ÁÒ¡ÍØ´ÁÊÁºÙó µŒÍ§à¤ÕéÂǡѹàÃ×èÍÂä»äÁ‹ ä´ŒËÂØ´Ë‹͹ Êѧࡵ´Ù¤¹àÇÅÒà´Ô¹·Ò§ä»ä˹ æ äÁ‹Ç‹Ò¨Ðà´Ô¹·Ò§´ŒÇÂö»ÃÐàÀ·ã´ ÍÒµÁÒ¡ç¾ÂÒÂÒÁÊѧࡵ¤¹·Õè¹Ñè§ä»ã¹Ã¶ äÁ‹àËç¹ÁÕ»Ò¡Ç‹Ò§ÊÑ¡¤¹à´ÕÂÇ ¼ÙŒ ãËÞ‹¡çà¤ÕéÂǵŒÍ§à¤ÕéÂÇÍÐäà æ àÃ×èÍÂä»ÅÐ ËÒÃÙŒ äÁ‹Ç‹Ò¡ÒÃà¤ÕéÂÇ¢Âغ¢ÂѺÍÂÙ‹µÅÍ´àÇÅÒ¹Ñé¹ Áѹà¡Ô´ÍÐäâÖé¹á¡‹¨Ôµã¨ºŒÒ§ à¡Ô´ÍÐäâÖé¹á¡‹Ã‹Ò§¡ÒºŒÒ§ àͧ Ñà µÑÇ Í‹ҧ¼Á ¡ àÍÒ ÍÂ‹Ò ¹Ð¤ÃѺ
à˹×èͨѧ
ในรางกายนั้นก็ตองทำงานไมไดหยุด กระเพาะตองยอยอยูตลอดเวลา ไมมีการพักผอน ในทางจิตใจนั้นก็กลายเปนคนประเภทที่เรียกวา ตามใจ ตนเอง กินไม่รู้จักเวล่ำเวลาก็ทำให้ท้องไส้เสีย สุขภาพทางจิตก็พลอยเสีย ไปด้วยเหมือนกัน จึงได้เกิดเปนปญหามีโรคนั้นโรคนี้ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 7
¨Ñ§«ÕèÁѹµŒÍ§¶Í¹
เชนเด็ก ๆ ในเมืองนี่มักจะเปนโรคเรื่องฟนผุ ผุเพราะวากินมากนั่นเอง เดี๋ยวก็อมท็อฟฟ ฟนน้ำนมควรจะหลุดตามระยะเวลา แตวาเพราะรับประทานมากเกินไป ฟนน้ำนมเลยหลุดกอนฟนแทจะขึ้น ฟนแทขึ้นมายังไมทันเต็มปากเรียบรอย พอโผลขึ้นมาพนเหงือกนิดหนอย ก็ตองเคี้ยวนั่นเคี้ยวนี่ เลยฟนเกไปบาง ยังงอกขึ้นมายังไมเรียบรอย อันนี้ก็เพราะเรื่องกินทั้งนั้นแหละ ไมใชเรื่องอะไรหรอก แลวก็ยังเสียหายอะไรอีกหลายอยาง
¤‹Í æ Í‹Ò¹ ¤‹ÍÂ æ ¤Ô´ ¤ÃÒ¤Ô´µÔ´¢Ñ´ ËÂØ´¾Ñ¡ÊÑ¡¹Ô´ ·Ó¨Ôµãˌʧº ¨Ñ¡¾º·Ò§ÍÍ¡ Í‹Ò¹áŌǤԴ ¤Ô´ãˌࢌÒ㨠ࢌÒã¨áÅŒÇŧÁ×Í·Ó ·ÓÇѹ¹Õé à´ÕëÂǹÕé ¢³Ð¹Õé Í‹ÒÃͪŒÒ Í‹ҼѴÇѹ Í‹һÃÐÁÒ· ·ÓàÃçÇ ÊØ¢àÃçÇ ·ÓªŒÒ ·Ø¡¢ ÁÒ¡ ·Ø¡¢ ÂÒǹҹ
8 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
¡Ô¹ÍÂÙ‹µÒÁ¸ÃÃÁ´Ò ÍÒÂØÂ×¹
˹Öè§
แตคนบานนอกนั้นเขาไมคอยมีอะไรจะกิน สมัยเมื่อเปนเด็ก อยูบานนี่จำไดวาปหนึ่ง เขาจะมีการกวนขนมหวานกันสักครั้ง เวลาจะกินนี่เขาตองทำกันเปนงานใหญ ทำกันเปนตะกราใหญ เพราะตองกินกันหมดทั้งบาน บริเวณที่อยูในรั้วเดียวกันกวาสิบเอ็ดครอบครัวนี่ บานนี้ทำก็ตองกินกันหมดทุกครอบครัว
Êͧ
ÍÍ¡¡ÓÅѧ·Ø¡Çѹ
ปหนึ่งทำขนมหวานกินสักครั้งหนึ่งทำขนมจีนกินกันสักครั้งหนึ่ง หรือ มีอะไรพิเศษสักครั้งหนึ่ง พนจากนั้นแลวก็ไมมีอะไร นอกจากกินอยูตาม ธรรมดาของรางกาย มันก็เติบโตมาโดยปกติสุขภาพเรียบรอย อนามัยสมบูรณ แลวคนที่อยูอยางนั้น อายุยืนแปดสิบกวาปจึงตาย แปดสิบหา แปดสิบเจ็ด แปดสิบเกา ก็นับวาอยูในเกณฑอายุยืนทั้งนั้น à¤Åç´ÅѺÍÒÂØÂ×¹ ËÁÑè¹ÍÍ¡¡ÓÅѧ¡ÒÂ
äÁ‹à¤ÃÕ´
áÅ‹¹
ᨹ
áÅ
ᨹ
...
¨¹ ¹‹ á
¡Ô¹¼Ñ¡»ÅÍ´ÊÒþÔÉ
à Á
‹Ò¤Í¹à¿ ¨ÃÔ§¨ŒÐ ൠสำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 9
໚¹ÍÂÙ‹àÃÕº§‹Ò ʺÒ·Ñ駡ÒÂáÅШԵ แลวถาเราสังเกตดูสุขภาพจิตของคนเหลานั้น ทานเปนปกติไมคอยมี อารมณประเภทแรง ๆ ไมคอยจะโกรธเคืองใคร ไมใชวาจาหยาบคายอะไร กับใคร อารมณทุกขก็นอย àÊ×èÍ·Ó¨Ò¡µŒ¹¡¡¨ŒÐ
ã¤ÃºÍ¡ ·Ó¨Ò¡ µŒ¹¡ÃШٴµ‹Ò§ËÒ¡
ความจริงความเปนอยูภายในครอบครัวในบานนั้น บานไมมีเครื่อง เฟอรนิเจอรมากมายอะไรแหละ มีเสื่อปูนั่งปูนอน เสื่อก็ไมใชวาวิเศษวิโส เขาเรียกวาเสื่อทำดวยตนคลา ตนกก อะไรนั่นแหละ ปกษใตเขาเรียกวา ตนกระจูด มันมีเยอะแยะ เขาไปถอนมาทำเปน เสื่อปูนั่งก็ผืนนั่นแหละ ปูนอนก็ไอผืนนั่นแหละ หมอนมีสักใบก็ใชจนกระทั่งวา ขาดทะลุปรุปะก็หนุนกันไดเรียบรอย นอนเปนปกติ มีความสุขสบาย แลวก็ ไมคอยมีเหตุการณทะเลาะเบาะแวงกัน ในระหวางคนที่อยูใกล ๆ 10 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
¨Ôµ´Õà¾ÃÒÐÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ´Õ เขายิ้มเขาหากัน มีอะไรก็แบงกันกินกันใช สุขภาพจิตเปนปกติ ไมตองไปโรงพยาบาล ไมเปนโรคประสาท หรือไมตองไปทำอะไรในเรื่องเกี่ยวกับ จิตใจ นอกจากไปวัดเทานั้นเอง ไปวัดตามเทศกาลงานสงกรานต งานเขาพรรษา ทำบุญเดือนสิบ มีงานบวชนาค มีงานศพ เขาก็ไปวัดกันไปทำบุญสุนทาน
¼ÙŒ ãËÞ‹¡çä» àÃÒà´ç¡ æ ¡ç仡ѹ ä»à·ÕèÂÇÇÔè§àÅ‹¹µÒÁºÃÔàdzÇÑ´ä» µÒÁàÃ×èͧµÒÁÃÒÇ à¢Ò仡ѹã¹Ãٻ͋ҧ¹Ñé¹ ÊÀÒ¾¨Ôµã¨à»š¹»¡µÔ ¹Ò¹ æ ¨Ð¾º¤¹·Õè໚¹âä¨ÔµÊÑ¡¤¹Ë¹Öè§ ¹Í¡¹Ñ鹡çäÁ‹¤‹Í¨Ðä´Œ¾ºÁÒ¡¹Ñ¡ ä»ÇÑ´à¾×è;Ѳ¹Ò¨Ôµ¡Ñ¹¹ÐËÅÒ¹
อันนี้ก็เปนเรื่องที่นาคิดวาความเจริญมันใหอะไรแกเราบาง แตวา เราจะอยูอยางคนไมเจริญก็ไมได มนุษยเรามันตองมีการพัฒนากาวหนา ในทางวัตถุเรื่อย ๆ ไป ถาไมมีการกาวหนา เขาเรียกวา “ไม่เจริญงอกงาม” เพราะฉะนั้น มันจึงตองมีการทำใหเจริญขึ้นตามฐานะ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 11
¢¨Ñ´»˜ÞËÒ ¹Ó¾Òã¨äÃŒ·Ø¡¢ ·ÓÍÐäáçÍ‹ÒãËŒ ã¨à»š¹·Ø¡¢
ᵋNjҡÒ÷ÓÍÐäÃãËŒà¨ÃÔÞáÅŒÇ áŌǤÇÒÁà¨ÃÔÞ¹Ñé¹ ºÑ蹷͹ÊØ¢ÀÒ¾¢Í§àÃÒ㹨Ե㨠¤ÇÒÁà¨ÃÔÞ¹Ñé¹ ¡ç໚¹¤ÇÒÁà¨ÃÔÞ·Õè໚¹¾ÔÉ໚¹ÀÑÂ
ความเจริญทุกแงทุกมุม ไมควรจะทำใหเราตองเปนทุกข ไมควร จะทำใหเราตองเดือดเนื้อรอนใจ ไอเราจะไมเดือดเนื้อรอนใจนั้นจะทำอยางไร นี่แหละเปนปญหา ที่สำคัญที่เราควรจะเอามาศึกษา คือวาเรามีอะไร เราอยูกับอะไร เราไปในที่ใด ไมวาเราจะทำอะไรอยูก็ตาม หลักสำคัญมีอยูวา อยาใหมันเกิดความทุกข ความเดือดรอนใจ มีก็อยาใหเปนทุกข ทำอะไรก็อยาใหมีความทุกข ความ เดือดรอนใจ สมาคมติดตอกับใครก็อยาใหตองเกิดปญหา เกิดความทุกข ความเดือดรอนใจ อันนี้เปนเรื่องที่ทำไดหรือไม ãËŒËÁ´
â¹·Ôé§
12 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
ÊØ¢ËÃ×Í·Ø¡¢ ÍÂÙ‹·ÕèàÃÒÊÌҧ อาตมาก็อยากจะตอบวาเปนเรื่องทำได ไมใชเปนเรื่องเหลือวิสัย เพราะอะไร ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้น เปนเรื่องที่เราทำมันขึ้นทั้งนั้น เราสรางมันขึ้นทั้งนั้นแหละ ความสุขเราก็สร้างมันขึ้นมา ความทุกข์เราก็สร้าง มันขึ้นมา ÊÌҧÊآ䴌 ¡çÊÌҧ·Ø¡¢ ä´Œ
àÅ×Í¡¢ŒÒ§ä˹´Õ
àÅ×Í¡©Ñ¹
àÅ×Í¡©Ñ¹
ถาเราสรางความสุข ก็เรียกวา ·Ø¡¢ เราทำดวยความฉลาด ÊØ¢ มีความเขาใจในเรื่องนั้นถูกตอง แลวเราก็ทำมันถูกตอง แลวเราก็ทำมันใหเปนความสุข ความสบายใจ แตถาเราไมเขาใจในเรื่องนั้นถูกตอง เราทำดวยอำนาจความหลงผิด ความเขาใจผิด ความเขาใจผิดก็เกิดเปนปญหา คือความทุกขความเดือดรอน แลวก็เมื่อมีความทุกขความเดือดรอนใจเกิดขึ้นแลว ไมสามารถแกไขปญหา นั้นได ทำไมจึงแกไมได ก็เพราะวาเราไมศึกษาใหละเอียดถึงเรื่องอะไร ๆ ที่ เกิดขึ้นในจิตใจของเรา สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 13
Ê¡Ñ´ÍÒÃÁ³ ¤×ÍÂÒÃÑ¡ÉÒ¨Ôµ พูดอีกอยางหนึ่งวา ไมไดมองดูตัวเอง ใหชัดเจนในเรื่องนั้น ๆ มีความคิดเดือดรอนใจก็แกทางวัตถุ ดวยวิธีการตาง ๆ หรือมิฉะนั้น ก็ใชยาประเภทตาง ๆ เปนเครื่องระงับ ยานั้นมันเปนเครื่องระงับทางรางกาย คือเมื่อเรารับประทานยาเขาไปแลว ก็นอนหลับไป เวลานอนหลับนั้นเราไมไดคิดอะไร แตวาเวลาตื่นขึ้นมามันอาจ จะคิดอีกก็ได เพราะฤทธิ์ยามันหมดเสียแลว ยามันชวยใหเราหลับลงไป เทานั้นเอง เมื่อตื่นขึ้นมาอารมณนั้นมันก็วิ่งเขามาหาเรา เราก็เก็บอารมณนั้น มาคิดมานึกตอไป ความทุกขในรูปเกามันก็กลับมาหาเราตอไป จึงกลาวได วายานั้นชวยไดนิดไดหนอย ไมไดชวยใหมากมายอะไรนัก
ÊÔ觷Õè¨Ðª‹ÇÂàÃÒä´ŒÁÒ¡¹Ñ鹡ç¤×Í ¡ÒÃÊ¡Ñ´ÍÒÃÁ³ ·Õè¨Ð·ÓãËŒàÃÒà¡Ô´ ¤ÇÒÁ·Ø¡¢ ¤ÇÒÁà´×ʹÌ͹ àÃÒÊ¡Ñ´ÁѹàÊÕ Í‹ÒãËŒÁѹà¡Ô´¢Öé¹ ã¹¨Ôµã¨¢Í§àÃÒ ¹Ñè¹áËÅÐ໚¹ÂÒÇÔàÈÉ à»š¹ÂÒ·Õè¨Ðª‹Ç·Ñ駻‡Í§¡Ñ¹ ·Ñé§á¡Œ ä¢ãËŒªÕÇÔµ¢Í§àÃÒÁÕÊØ¢ÀÒ¾¨Ôµ ໚¹àÃ×èͧ»¡µÔµ‹Íä» 14 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
ÊÕ·¹ä´Œ
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
¨Ñº¢âÁ·ҧ¨Ôµ ในเรื่องอยางนี้เราจะตองศึกษา แลวก็กระทำการแกไข ทีนี้ในการ ศึกษานั้น ก็ตองรูกรรมวิธีของเรื่องปญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องจิตใจ คือใหรูวามัน เกิดขึ้นมาอยางไร มาตามทางไหนแลวเราก็มีประตูสำหรับคนเขา-ออก แลว ตอมาก็มีขโมยนี่มันเขามาทางไหน เขามาลักของของเราไปอยางไร
¶ŒÒàÃÒÃÙÇŒ ‹ÒÁѹࢌÒÁҷҧ㴨ÐÍØ´·Ò§¹Ñé¹àÊÕ » ´äÁ‹ ãËŒ¢âÁÂࢌÒÁÒ·Ò§¹Ñé¹µ‹Íä» ËÃ×ÍÁԩйÑé¹àÃÒ¡çä»Ê¡Ñ´¡Ñé¹ ¤Í¨ŒÍ§·ØºËÑÇÁѹ ¾ÍÁѹâ¼Å‹ËÑÇࢌÒÁÒ¡çºØ¡ÁѹࢌÒä»àÅ Í‹ҧ¹Õé¢âÁÂÁѹ¡çäÁ‹à¢ŒÒÁÒºŒÒ¹àÃÒ à¾ÃÒÐàÃÒÃÙ·Œ Ò§¢âÁ©ѹ㴠อารมณตาง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ก็เหมือนกัน มันเกิดขึ้นที่ความคิดของเรา หรือที่เรียกวาเกิดที่จิตของเรานั่นแหละ จิตนั่นก็คือความคิดนั่นเองแหละ ปรากฏใหเราเห็นในรูปความคิดตาง ๆ อยูตลอดเวลา ¿‚œ...
¤Ã Í¡
¢âÁÂÁѹࢌÒÁÒ ã¹ã¨áÅŒÇ à¼ÅÍà» ´»ÃеÙäÇŒ àÊÃç¨àÃÒÍ‹Ð´Ô สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 15
¡Ó˹´Ãٌ䴌 ¡ç¤ÅÒ»˜ÞËÒ ความคิดมันจะเกิดขึ้นก็เพราะวา มีสิ่งกระทบทำใหเกิดความคิด อยางนั้นขึ้นมา เชน รูปผานตาเขามา เสียงผานหูเขา กลิ่นผานประสาททางจมูก รสผานประสาททางลิ้น สิ่งสัมผัสตาง ๆ ถูกตองประสาทกายสัมผัส แลวจิต รับรูในเรื่องอยางนั้น ตรงนี้แหละสำคัญนัก อาจจะรับรูในเรื่องเสียเปรียบ อาจจะรับรู ในเรื่องไดเปรียบก็ได
¶ŒÒàÃÒÃѺÃÙŒ ã¹àÃ×èͧ·Õè äÁ‹ ãËŒàÊÕÂà»ÃÕÂºÇ‹Ò “ÊÔ觹Ñé¹Áѹ¤×ÍÍÐäÔ “Áѹ¨Ðà¡Ô´ÍÐäâÖé¹á¡‹àÃÒ” ËÃ×ÍàÃÒÃѺÃÙÇŒ ‹Ò “·ÓäÁµŒÍ§à¡Ô´Í‹ҧ¹Ñé¹¢Öé¹ã¹ã¨” “·ÓäÁ¨Ö§ä´Œà¡ÅÕ´ÊÔ觹Ñé¹” “·ÓäÁ¨Ö§ä´ŒÃÑ¡ÊÔ觹Ñé¹”
·ÓäÁàÃÒ¶Ö§à¡ÅÕ´˹Í
อันนี้เปนเรื่องที่เราจะตองคอยกำหนด วาทำไมเราจึงเกลียด ทำไมเรา จึงรัก หรือวาทำไมเราจึงชอบใจ ทำไมเราจึงไมชอบใจในเรื่องนั้น ๆ ปกติคนเราก็มักจะไมคิดในเรื่องอยางนั้น ถาเกลียดก็ผานพนไป ถารักก็ผานพนไป หรือบางทีมันก็ฉายซ้ำอยูในใจของเราเกลียดแลวเกลียดอีก อยูอยางนั้นแหละ ·‹Ò¹·Õµ è ÍŒ §¡ÒÃ˹ѧÊ×ÍÊÇ´Á¹µ
ÊÓËÃѺÊÇ´ä´Œ·Ø¡àÇÅÒ ÊÇ´¡‹Í¹¹Í¹ »‡Í§¡Ñ¹ÀÑ ÃÑ¡ÉÒâä àÊÃÔÁÅÒÀá¡Œ¡ÃÃÁ ¡ÃسҵԴµ‹Í Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÅÕè§àªÕ§ 02-872-8228, 02-872-9191
16 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
äÁ‹¾Ô¨ÒÃ³Ò ¾ÒãËŒà¡Ô´ªÍº-ªÑ§ ถาหากวาไมมีอารมณใดกระทบก็ไมมี แตถามีอารมณใดมากระทบ เขา ความเกลียดตัวนั้นก็เกิดขึ้นมาทันที เชน เราไมชอบคนคนหนึ่ง ถาคน คนนั้นไมเดินใหเราเห็นดวยตา ไมมีใครเอยชื่อใหเราไดยินดวยหู หรือไมมี อะไรเปนสื่อที่จะใหนึกถึงบุคคลนั้น ความเกลียดนั้นก็ไมเกิดขึ้นในใจของเรา
ᵋ¶ŒÒËÒ¡Ç‹ÒàÃÒä´ŒàËç¹à¢Òà´Ô¹ÁÒ àÃÒ¡çÃÇÙŒ ‹Ò໚¹¤¹¤¹¹Ñé¹ ÍÒÃÁ³ ÁÒ¡ÁÒÂࢌÒÁÒ¡Ãзºã¨ ·ÓãËŒà¡Ô´¤ÇÒÁÃÙŒÊÖ¡ºÍºªéÓ ¤ÇÒÁà¡ÅÕ´¡çâ¼Å‹Áҷѹ·Õ ËÃ×Íã¤ÃÁÒà͋ª×èͤ¹¹Ñé¹ àª‹¹ ¾Ù´ªÁàªÂ¤¹¤¹¹Ñé¹ à¢Ò´ÕÍ‹ҧ¹Ñé¹ ÍÒÃÁ³ à¡ÅÕ´à¡Ô´¢Ö鹷ѹ·Õ áÅŒÇÍÒÃÁ³ Áѹ¤ŒÒ§ÍÂÙ‹Í‹ҧ¹Ñé¹ Áѹ¨Ð´ÕÍÐäà ÁѹäÁ‹ ä´Œ¤ÇÒÁËÃÍ¡ Áѹà¡Ô´¢Öé¹ÁÒã¹Ãٻ͋ҧ¹Ñé¹ Íѹ¹ÕéàÃÕ¡NjÒÊÔ觷ÕèàÃÒà¡ÅÕ´Áѹâ¼Å‹¢Öé¹ÁÒ àÁ×èÍÁÕàÃ×èͧ¢Öé¹ÁÒ¡Ãзº เรื่องที่เรารักนั้นก็เหมือนกัน ถาเราไดเห็นคนนั้นเขา ไดยินเสียงเขา เราก็เกิดความรัก หรือใครมาเอยชื่อคนนั้น เราก็เกิดความรูสึกคิดถึงคนนั้น ขึ้นมา อันนี้มันเกิดขึ้นมาบอย ๆ ในใจของเรา แตเมื่อเกิดแลวเราก็มัก จะปลอยผาน ๆ พนไป ไมไดเอามาวิเคราะหวิจารณในเรื่องนั้นวา ทำไมเรา จึงเกลียดคนนั้น ทำไมเราจึงเกลียดสิ่งนั้น ทำไมเราจึงรักสิ่งนี้ ทำไมจึงเปน อยางนั้นกับสิ่งนั้น ทำไมจึงเปนอยางนั้นกับสิ่งนี้ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 17
äÁ‹ÃÙŒ¨ÃÔ§¨Ñ§ ¨Ö§¶Ù¡¼ÕËÅÍ¡ เราไมคอยจะไดพิจารณาในเรื่องอยางนี้ เพราะไมไดพิจารณานั่นแหละ จึงไมรูจักสิ่งนั้นตามที่มันเปนจริง จิตใจเราจึงถูกมันหลอกใหทำอยางนั้น ทำอยางนี้ตลอดเวลา เรียกวามันเปนผีประเภทหนึ่งละที่มันมาหลอกเรา ไมใช ผีในปาชา ไมใชผีที่คนกลัวตามความเขาใจ ¹ÒÂÇ‹Ò¼ÕÁÕ¨ÃÔ§»†Ð
äÁ‹ÁÕÁÑé§
 ŒÍ§à¤ ÅÐ µ ç ¡ Õ Á ¶ŒÒ ºŒÒ§áË àËç¹
§
Ñ¹ä ¼Õ¾¹
ç´Ù«Ð ¡  ¤ äÁ‹à ¹Ñè¹ä§
äà ¼ÕÍÐ ç¹ÁÕàÅ äÁ‹àË
Ë¡ÊÕèàÍÕèÂÇ à¨ŒÒÁ×Í¡Ô¹àÃÕº
ËÁ´_Ù´àÅÂàÃÒ
อารมณอยางนั้นเราเรียกวาเปนผีชนิดหนึ่ง ที่มันคอยหลอกหลอนเรา อยูตลอดเวลา คลาย ๆ กับคนติดของเสพติด เชน ติดเฮโรอีนนี้เปนตน ไปรักษาที่ใดก็ตามเถอะ หยุดแลวแตวามันก็มาหลอกเอาบอย ๆ ทำใหนึกถึง สิ่งนั้นวาเราเคยดื่มแลว บางทีมันก็อยากแรงขึ้นมาอยากจะไปสูบไปดื่ม ถา กำลังความอดทนไมมีเพียงพอ เราก็ตองไปตามความรูสึกนั้น คือไปดื่มไปกิน ไปสูบสิ่งนั้นเขาแลวก็พายแพมันตอไป 18 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
㪌»˜ÞÞÒá¡Œ»˜ÞËÒ¼ÕËÅÍ¡ แตถาเรามาวิเคราะหวิจัยในเรื่องอยางนั้นเสียบาง พอมันเกิดขึ้นแลว มันดับไปแลวละ แตเอามาคิดดูวาทำไมจึงเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นเพราะอะไร แลว เมื่อมันเกิดขึ้นแลวทำใจของเราใหเปนอยางไร มันรอนใจหรือวาเย็นใจ วุนวาย หรือวามีความสงบเกิดขึ้นในใจของเรา เราเอามานั่งวิเคราะหวิจัย §Ç´ ¹ 10õ ÕéÁÒá¹ ‹
Í‹ÒÁÒËÅÍ¡¡Ñ¹«ÐãËŒÂÒ¡ àÃÒ㪌»˜ÞÞÒ½ƒ¡½¹ÊÁÒ¸Ô ¡Ñ¹¼ÕËÅÍ¡áÅŒÇ ºØÞ 10 ÈÕÅ õ ÎÒ ÎÒ
การนั่งวิเคราะหวิจัยในเรื่องอะไรตาง ๆ เกี่ยวกับปญหาชีวิตนี่แหละ เรียกวาเปนการเจริญวิปสสนาที่ควรทำ เพราะเราอาจจะทำไดทุกโอกาสทุกเวลา อยูที่บานหรืออยูที่ใด ๆ ที่มันไมมีอะไรรบกวนจิตใจ เราก็ยกเรื่องอยางนั้น ขึ้นมาพิจารณา พิจารณาแลวก็แยกวิเคราะหออกไปใหเห็นวาสิ่งนั้นมันคืออะไร มันมีเนื้อแทที่ตรงไหนบาง นารักนาชมเปนประการใด นาเกลียดนาชังอยางไร แลวเมื่อไรเกิดสิ่งนั้นขึ้นในใจแลวมีอะไรเกิดขึ้นตามมา มานั่งพิจารณาแยกแยะ ออกไป สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 19
¨ÔµÂ‹ÍÁ໚¹ä· àÁ×èÍࢌÒ㨻˜ÞËÒ ขณะที่เราใชปญญาพิจารณาเรื่องนั้น ความคิดอันไมดีมันก็หายไป แลว เพราะวาเราเปลี่ยนความคิด พอเราคิดวิเคราะหวิจัย ความคิดไมดีมันก็ หยุดไป หายไปจากใจของเรา มันหมดหายไปชั่วครูชั่วยาม
àÁ×èÍàÃÒÂѧäÁ‹ÃªÙŒ Ñ´µÒÁÊÀÒ¾·Õè໚¹¨ÃÔ§ Áѹ¡ç¨ÐÇÔè§ÁÒµŒÁÁÒËÅÍ¡àÃÒä´ŒÍÕ¡ã¹ÀÒÂËÅѧ ᵋ¶ŒÒàÃÒ¡¢Öé¹ÁÒÇÔà¤ÃÒÐË Í‹ҧÅÐàÍÕ´ ¨¹¡ÃзÑè§ÁͧàËç¹Ç‹Ò äÁ‹ÁÕÍÐä÷Õè໚¹ÊÒÃÐ äÁ‹ÁÕÍÐä÷ÕèàÃÕ¡NjҨÓ໚¹á¡‹àÃÒ·Õè¨Ð·ÓàÃ×èͧ¹Ñ鹨еŒÍ§·ÓÍ‹ҧ¹Ñé¹ ÁͧàË繪Ѵਹ¢Öé¹ÁÒàÃÒ¡çÇҧŧä»ä´Œ ¨ÔµÁѹµ¡Å§ä»¨Ò¡ÊÔ觹Ñé¹ ¾Œ¹ä»¨Ò¡ÊÔ觹Ñé¹ àÃÕ¡NjÒ໚¹ä·á¡‹µÑÇ¢Öé¹Áҷѹ·Õ äÁ‹µŒÍ§à»š¹·ÒʢͧÊÔ觹Ñé¹µ‹Íä» à¡Ô´
àà¡‹
à¨çº
µÒÂ
20 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
ËÒÊÒÃÐ ¨Ò¡Ã‹Ò§¡ÒÂäÁ‹ä´Œ ¨Ôµà·‹Ò¹Ñé¹ÊÓ¤ÑÞ
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
¾Ô¨ÒóÒËÅÒÂ æ ¤ÃÑé§ àÁ×èÍÂѧäÁ‹à¢ŒÒ㨠ในขณะใดที่จิตเราหลุดพนจากเครื่องผูกมัดในสิ่งเหลานั้น นั่นแหละ เปนความสุขของชีวิตของเราอยางแทจริง เราจะรูสึกวาใจเบา ใจโปรง ใจสงบ ขึ้นมา ขณะที่ใจเบาใจสงบนั้น มันเปนความสุขที่บอกไมได คือพูดพรรณนา ไมถูกวามันเปนความสุขอยางไร ผูใดไดสัมผัสกับความสุขแบบนั้นดวยตนเอง จึงจะมีความเขาใจ ในเรื่องนั้นถูกตอง แตถายังไมประสบดวยตนเอง ก็ใหเอาหลักการนี้แหละ ไปพิจารณาบอย ๆ เมื่อเรื่องอะไรเกิดขึ้นแลวมันหยุดไปแลว เราอยาใหมันหยุดเฉยตาม ธรรมชาติ แตเรายกเอามาพิจารณาไตรตรองเรื่องนั้น โดยละเอียดอีกทีหนึ่ง จะทำใหเราเขาใจสิ่งนั้นมากยิ่งขึ้น จะไดรูวาสิ่งนั้นมันประกอบขึ้นดวยอะไร มันมาอยางไร มันไปอยางไรชัดเจนแจมแจง จิตใจจะสงบขึ้นไดเพราะทำ อยางนี้ อันนี้เปนเรื่องที่ควรจะกระทำไดทุกโอกาส เมื่อมีอารมณอันใดเกิดขึ้น นี่ประการหนึ่ง à¡Ô´
àà¡‹
à¨çº
µÒÂ
໚¹¢Í§¸ÃÃÁ´Ò µŒÍ§ËÁÑè¹¾Ô¨ÒóҺ‹Í æ
ÊµÔ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
ÊÁÒ¸Ô
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 21
ÇÔ¸Õ´ÙáÅสØ¢ภาพ¨Ôµ สำËรับคนàกÉÕ³ ÇÑÂà¡ÉÕ³ ¤×Í ¼ÙŒÁÕÍÔÊÃÐ ทีนี้อีกประการหนึ่งนอกจากอยางนี้แลว การปฏิบัติงานในหนาที่ประจำวันของเรา เราบางคนยังอยูในขณะงาน เรียกวายังทำงาน อยูเปนประจำ ตั้งแตวันจันทรถึงวันศุกร วันเสารอาทิตยก็หยุดพัก แตวาบางทานนั้นไดรับบำนาญแลว ปลดจากการปฏิบัติหนาที่ เรียกวาเขาปลดปลอย เราแลว เขาปลดแอกออกจากคอแลว เราก็เปนอิสระ แกตัวแลว จะมาวัดมาวาก็ไมมีความกังวลหวงใย จะทำอะไร ก็ทำไดสบายใจ ตามฐานะของผูที่เสวยผลของงานที่ตนไดกระทำไว เชน เรา เปนขาราชการบำนาญ ก็เพราะวาไดปฏิบัติงานดีมาตลอดเวลา ไมมีความผิด ความเสียหาย เราเกษียณอายุหรือเราลาออก ทางราชการก็ใหรางวัลเรียกวา เบี้ย บำนาญ เพื่อจะไดกินไดใชไปจนกวาจะหมดลมหายใจ ถาเราไดปลดปลอยตนออกอยางนี้แลว เราก็รูสึกวา โลกมันโปรงขึ้น หนอย ครั้นจะไปทำอะไรอีกก็ไดเรียกวา ไมมีขอผูกมัด ทำโดยไมมีขอผูกมัด แตวาเราทำตามสมัครใจทำเมื่อมีเวลาที่พอจะทำได แลวก็ไมหนักอกหนักใจ เกินไป ไมถือวาเปนภาระที่ผูกมัดมากเกินไป ตามประสาของคนแก 22 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)
à«ÍþԹ·Ã¹Ò¶ ¼ÙŒÊÌҧ»ÃÐ⪹ ã¹ÇѪÃÒ เราก็ทำได แลวก็ดีดวย เราจะใชเวลาวางใหเปนประโยชน จะไดใช ความรูความสามารถที่เรามีนั้น ถายทอดใหรุนนองตอไป เขาจะไดรับความ สามารถจากเรา แลวก็เอาไปใชใหเปนประโยชนตอไป อันนี้นับวาเปนเรื่องที่ประเสริฐ เหมือนกับคนหนึ่งในอินเดียที่เรา เรียกวา เซอรพินทรนาถ ฐากุร์ ทานเปนนักปราชญ นักเขียน นักปรัชญา เคยไดรับรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม เพราะแตงบทเพลงชื่อ คีตาญชลี เปนบทเพลงที่เตือนจิตสะกิดใจชาวโลก ใหมีความรักกัน ใหหันหนา เขาหากัน ใหสงเสริมสิ่งที่เปนความสงบในสังคม แตงเปนภาษาเบงคอลีน ตอมาก็แปลเปนภาษาอังกฤษ คนเขาอานแลวเขาชอบใจก็เอาไปเสนอกรรมการ รางวัลโนเบล แลวก็ไดรับรางวัล นับวาเปนชาวเอเชียคนแรกที่ไดรับรางวัล ชนิดนี้ในสาขาวรรณกรรมดวย
·‹Ò¹¼ÙŒ¹ÕéàÁ×èÍÍÒÂØÁÒ¡áÅŒÇ ·‹Ò¹¡çÍÂÒ¡ä»ËÒ¤ÇÒÁʧº µÒÁÍÒøÃÃÁ¢Í§ÍÔ¹à´ÕÂà¢Ò à¾ÃÒФ¹ÍÔ¹à´Õ¾Íá¡‹ªÃÒ¡çàËÁ×͹¡ÑºàÃÒ à¢ŒÒÇѴࢌÒÇҡѹËÒ¤ÇÒÁʧºã¨ ÊÇ´Á¹µ ÀÒǹҹ֡¶Ö§¾Ãж֧਌ҵÅÍ´àÇÅÒ ทานผูนี้บานชองอยูในเมืองใหญแออัดยัดเยียด อึกทึกครึกโครม อยูตลอดเวลา แตทั้ง ๆ ที่อยูในเมืองที่แออัดยัดเยียด ทานสามารถที่จะเขียน หนังสือที่ซาบซึ้ง ทำใหชาวโลกอานแลวเกิดความสบายใจ ทานไมไดไปนั่ง เขียนในปา เขียนในที่อึกทึกครึกโครม สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง 23
แตวาตอมาเมื่ออายุมากเขา ก็นึกวาเราควรจะไปอยูในที่สงบเสียบาง ก็เลยออกจากเมืองใหญหางไปรอยไมล ไปไดที่แหงหนึ่งเขาเรียกวา ศานตินิเกตัน ศานตินิเกตัน นี้เปนชื่อของบานนั้น เปนที่เปนปาเล็ก ๆ นอย ๆ ราคา ถูก ๆ ทานก็ไปซื้อไว ประมาณพันเอเคอร เอเคอรหนึ่งสองไรครึ่ง ก็ไมใช เล็กนอย แลวก็ไปปลูกอาศรมอยูในหมูไม ชั้นแรกก็ไปอยูผูเดียวกับคนใช มี เพื่อนฝูงมิตรสหายไปเยี่ยม ไปเยี่ยมแลวก็วาเออมาอยูนี่สบายดี ขอมาอยูดวย คนเถอะ ทานก็ไมขัดของ แลวก็คนแก ๆ ที่มีความรูไปอยูกันมากคน อยูกันมากคนก็นึกวา เออเรานี่รูมาก มีความรูหลายแผนกหลายสาขา แลวก็มานั่งกันอยูเฉย ๆ จิตใจ ก็สงบสบายแลว แตวาเราควรจะเอาความรูนี้ไปใสหัวเด็กไว เพราะไมเทาใด เราจะตาย ความรูมันจะหายไปกับเราเสียดวย เพราะฉะนั้น เอาความรูนี้ถายทอดใหเด็ก ๆ แตวาทำอยางชนิดไมมี พันธะ ไมมีขอผูกมัด คือทำตามสบาย ๆ จึงไดเปดรับเด็กเอามานั่งสอนกัน ตามใตตนไมแบบฤษีสอนศิษย คือสอนกันใตตนไม ไมตองมีโรงเรียน ไมตอง มีอาคารใหญโตมโหฬารอะไรหรอก วากันใตตนไม
24 วางเป็น ก็เย็นใจ วางได้ สบายจัง
พรÐพรËมมัง¤ลา¨ารย์ (»˜ÞÞานันทÀิก¢ุ)